Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคอมพิวเตอร์กับการบำรุงรักษา

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคอมพิวเตอร์กับการบำรุงรักษา

Published by sompongpok, 2018-10-26 10:06:21

Description: แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคอมพิวเตอร์กับการบำรุงรักษา

Search

Read the Text Version

สมรรถนะการสร้างคา่ นยิ ม การปลกู ฝงั ใหม้ คี วามรับผดิ ชอบ มีความคิดริเร่ิมสรา้ งสรรค์ และมีความซ่ือสตั ย์ในอาชีพของตนสมรรถนะการปฏบิ ัติงานอาชีพ 1. นาํ ความรเู้ กย่ี วกับแนะนาํ ความรูเ้ บ้ืองตน้ เก่ียวกับการติดตงั้ โปรแกรมตามลกั ษณะงานประยกุ ตใ์ ช้ในการดาํ เนินชีวิตประจําวนัสมรรถนะการขยายผลความสอดคลอ้ ง แนะนาํ ความรู้เบ้อื งตน้ เกย่ี วกบั การติดตงั้ โปรแกรมตามลกั ษณะงาน ทาํ ใหผ้ ู้เรยี นมคี วามรู้เพมิ่ ข้นึ เมื่อผ้เู รยี นได้เรียนร้ทู าํ ใหม้ คี วามรใู้ นเรอื่ งการตดิ ตงั้ โปรแกรมตามลักษณะงานมากข้นึสอ่ื การเรียนการสอน/การเรยี นรู้สอ่ื สิ่งพมิ พ์ 1. เอกสารประกอบการสอนวชิ า คอมพวิ เตอรแ์ ละการบาํ รุงรักษา (ใชป้ ระกอบการเรียนการสอนจดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมข้อที่ 1-9) 2. ใบความรู้และใบงานสอื่ โสตทัศน์ (ถ้าม)ี 1. บทเรยี นคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรอ่ื งการติดต้ังโปรแกรมตามลกั ษณะงาน 2. สอ่ื ของจริงแหลง่ การเรียนรู้ในสถานศกึ ษา 1. หอ้ งสมดุ วิทยาลัย 2. ห้องปฏบิ ตั กิ ารคอมพวิ เตอร์ ศึกษาหาขอ้ มูลทางอนิ เทอรเ์ น็ตนอกสถานศึกษา ผู้ประกอบการ สถานประกอบการ ในท้องถน่ิการบรู ณาการ/ความสมั พันธ์กบั วชิ าอืน่ 1. บูรณาการกบั วิชาชีวิตและวฒั นธรรมไทย ดา้ นการพดู การอ่าน การเขียนและการฝึกปฏิบตั ิตนทางสงั คมดา้ นการเตรียมความพร้อม ความรบั ผิดชอบ และความสนใจใฝร่ ู้ 2. บูรณาการกับวชิ าภาษาองั กฤษ การใช้คําศัพท์ ความหมาย การสบื ค้นข้อมลู 3. บรู ณาการกบั วิชากฬี าเพอื่ พฒั นาสุขภาพและบุคลกิ ภาพ ดา้ นบุคลกิ ภาพในการนําเสนอหน้าช้นั เรยี นการประเมินผลการเรยี นรู้

• หลักการประเมินผลการเรียนรู้ กอ่ นเรยี น 1.ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น ขณะเรียน 1.สังเกตการทาํ งานกลุม่ หลังเรียน 1.ตรวจแบบฝกึ หัดทา้ ยบท 2.ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน 3.สรปุ ผลการรายงานหน้าชน้ั เรยี น ผลงาน/ชิน้ งาน/ผลสาเร็จของผูเ้ รยี น ตรวจผลงาน กจิ กรรม - กิจกรรม ให้ผู้เรียนดาวนโ์ หลดไฟลโ์ ปรแกรม ประเภทฟรีแวร์ ทเี่ ป็นโปรแกรมจาํ เป็นพืน้ ฐาน ของเครื่องคอมพิวเตอร์ มาจากอินเทอร์เนต็ จากน้ันให้นํามาติดต้ังลงในเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ แลว้ สรุปผลรว่ มกันอภปิ รายรูปแบบโปรแกรม การติดตงั้ และการใชง้ าน รายละเอียดการประเมนิ ผลการเรียนรู้ • จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ขอ้ ท่ี 1 บอกความหมาย และความตอ้ งการของระบบปฏบิ ตั กิ าร Windows 7 ได้ 1.วิธกี ารประเมิน : ทดสอบ 2.เคร่อื งมือ : แบบทดสอบ 3.เกณฑก์ ารให้คะแนน:บอกองคป์ ระกอบระบบคอมพิวเตอร์ไดจ้ ะได้ 1 คะแนน •จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ข้อท่ี 2 อธบิ ายข้นั ตอนการติดต้งั ระบบปฏบิ ตั ิการ Windows 7 ได้ 1.วิธกี ารประเมิน : ทดสอบ 2.เครอ่ื งมอื : แบบทดสอบ 3.เกณฑ์การให้คะแนน : บอกความหมาย Hardware ในระบบคอมพวิ เตอรไ์ ด้ จะได้ 3 คะแนน •จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ขอ้ ท่ี 3 อธิบายวิธีการตงั้ คา่ ป่มุ สลับภาษาได้ 1.วธิ ีการประเมนิ : ทดสอบ 2.เครอื่ งมือ: แบบทดสอบ 3.เกณฑ์การใหค้ ะแนน: บอกหนา้ ท่ี และสว่ นประกอบหลักของแผงวงจรหลกั ได้ จะ ได้ 3 คะแนน •จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ข้อท่ี 4 อธิบายวิธกี ารจัดการไดร์ฟได้ 1.วิธกี ารประเมิน : ทดสอบ 2.เครื่องมอื : แบบทดสอบ 3.เกณฑ์การใหค้ ะแนน: อธิบายหนา้ ทหี่ น่วยรับข้อมลู ได้ จะได้ 3 คะแนน •จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม ขอ้ ที่ 5 อธบิ ายวิธีการ Activate ได้

1.วิธีการประเมนิ : ทดสอบ 2.เครือ่ งมือ: แบบทดสอบ 3.เกณฑ์การใหค้ ะแนน: บอกคุณลักษณะทวั่ ไปของอุปกรณร์ ับข้อมูลได้ จะได้ 3คะแนน •จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ข้อที่ 6 อธบิ ายวิธีการติดต้ัง Driver ใหก้ ับอปุ กรณ์ได้ 1.วิธกี ารประเมนิ : ทดสอบ 2.เครื่องมอื : แบบทดสอบ 3.เกณฑ์การใหค้ ะแนน: อธิบายหนา้ ท่หี น่วยประมวลผลกลางได้ จะได้ 3 คะแนน •จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม ข้อท่ี 7 อธบิ ายวธิ กี ารตดิ ตงั้ โปรแกรม Microsoft Office 2010ได้ 1.วิธีการประเมนิ : ทดสอบ 2.เครือ่ งมือ: แบบทดสอบ 3.เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน: อธิบายหน้าท่หี นว่ ยความจาํ ได้ จะได้ 3 คะแนน

แบบฝกึ หดั หน่วยท่ี 3 การตดิ ตง้ั โปรแกรมตามลกั ษณะงานจงตอบคาถามตอ่ ไปน้ิใหม้ ใี จความสมบรู ณ์1. จงบอกความหมาย และความตอ้ งการของระบบปฏิบัตกิ าร Windows 7………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………2. จงบอกส่งิ ท่ตี ้องเตรียมก่อนการติดตั้งระบบปฏิบตั กิ าร Windows 7………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………3. จงบอกถึงความหมายของโปรแกรม BIOS………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………4. จงอธิบายขั้นตอนการตดิ ตง้ั ระบบปฏิบัตกิ าร Windows 7………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………5. จงอธิบายวธิ กี ารต้ังค่าปุ่มสลบั ภาษา………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………6. จงอธบิ ายวธิ กี ารจดั การไดร์ฟ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………7. จงอธบิ ายวธิ กี าร Activate………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………8. จงอธบิ ายวธิ กี ารติดตัง้ Driver ให้กบั อปุ กรณ์………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

9. จงบอกถึงประโยชนแ์ ละหน้าที่ของโปรแกรม Device Manager………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………10. อธบิ ายวธิ กี ารตดิ ต้งั โปรแกรม Microsoft Office 2010 ได้………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แบบประเมนิ ผลการนาเสนอผลงาน ช่อื กล่มุ ………………………………………………………………………ชน้ั ………………………หอ้ ง................รายชือ่ สมาชิก 1……………………………………………………………….……………………………………………………………………เลขท…่ี …..…. 2……………………………………………………………….……………………………………………………………………เลขท…ี่ …..…. 3……………………………………………………………….……………………………………………………………………เลขท…่ี …..…. 4……………………………………………………………….……………………………………………………………………เลขท…่ี …..….ท่ี รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น1 ความรู้เกย่ี วกับเนื้อหา ความถูกตอ้ ง ปฏภิ าณในการตอบ และการแกไ้ ข 32 1 ปญั หาเฉพาะหน้า2 รปู แบบการนาํ เสนอ3 การมีสว่ นร่วมของสมาชิกในกลุม่4 บุคลิกลักษณะ กริ ิยา ท่าทางในการพดู น้ําเสียง ซ่ึงทาํ ให้ผฟู้ ังมคี วาม สนใจ รวมผู้ประเมิน…………………………………………………เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน1. เน้ือหาสาระครอบคลมุ ชดั เจนถูกตอ้ ง 3 คะแนน = มีสาระสาํ คญั ครบถว้ นถกู ตอ้ ง ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระสาํ คัญไมค่ รบถว้ น แตต่ รงตามจดุ ประสงค์ 1 คะแนน = สาระสําคัญไม่ถูกตอ้ ง ไม่ตรงตามจุดประสงค์2. รูปแบบการนําเสนอ 3 คะแนน = มีรูปแบบการนําเสนอที่เหมาะสม มีการใช้เทคนิคที่แปลกใหม่ ใช้ส่ือและเทคโนโลยี ประกอบการ นาํ เสนอท่นี ่าสนใจนําวัสดใุ นทอ้ งถนิ่ มาประยกุ ตใ์ ช้อย่างคุม้ ค่าและประหยัด 2 คะแนน = มเี ทคนคิ การนาํ เสนอท่แี ปลกใหม่ ใช้สอื่ และเทคโนโลยีประกอบการนาํ เสนอท่นี า่ สน ใจแต่ ขาดการประยุกต์ใช้ วสั ดใุ นทอ้ งถ่ิน 1 คะแนน = เทคนิคการนาํ เสนอไมเ่ หมาะสม และไมน่ า่ สนใจ3. การมสี ่วนร่วมของสมาชกิ ในกลมุ่ 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมบี ทบาทและมสี ่วนร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีบทบาทและมสี ว่ นร่วมกิจกรรมกล่มุ 1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมีบทบาทและมสี ว่ นรว่ มกิจกรรมกล่มุ4. ความสนใจของผ้ฟู งั 3 คะแนน = ผู้ฟังมากกวา่ ร้อยละ 90 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมอื 2 คะแนน = ผฟู้ ังร้อยละ 70-90 สนใจ และใหค้ วามร่วมมือ 1 คะแนน = ผฟู้ งั นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 70 สนใจ และให้ความรว่ มมอื

บนั ทึกหลังการสอน หนว่ ยที่ 3 การติดตงั้ โปรแกรมตามลกั ษณะงานผลการใชแ้ ผนการเรยี นรู้ 1. เนื้อหาสอดคล้องกับจุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 2. สามารถนําไปใช้ปฏิบัติการสอนได้ครบตามกระบวนการเรยี นการสอน 3. เวลาทีก่ าํ หนดไวใ้ นแผนการสอนมีความเหมาะสมผลการเรยี นของนกั เรียน 1. นกั ศกึ ษาสว่ นใหญม่ คี วามสนใจใฝ่รู้ เข้าใจในบทเรยี น อภิปรายตอบคําถามในกลมุ่ และ ร่วมกนั ปฏบิ ัตใิ บงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย 2. นักศึกษากระตือรอื ร้นและรับผดิ ชอบในการทํางานกลุม่ เพื่อให้งานสาํ เร็จทนั เวลาท่ี กาํ หนด 3. นกั ศกึ ษาเลือกสามารถนําความรไู้ ปใช้ไดจ้ รงิ ในชวี ิตประจําวนัผลการสอนของครู 1. สอนเนือ้ หาได้ครบตามหลักสูตร 2. แผนการสอนและวธิ กี ารสอนครอบคลุมเนอื้ หาการสอนทําให้ผู้สอนสอนไดอ้ ย่างมนั่ ใจ 3. สอนได้ทนั ตามเวลาทก่ี ําหนดลงช่ือ............................................... ลงชอ่ื ....................................................... (นายวเิ ศษ ฟองตา) (วา่ ทร่ี ้อยตรสี มพงษ์ ตระการศุภกร) รองผอู้ าํ นวยการฝ่ายวิชาการ ครูผ้สู อน

แผนการสอน/แผนการเรยี นรู้ภาคทฤษฎีแผนการสอน/การเรียนรภู้ าคทฤษฎี หน่วยท่ี 4ชอ่ื วิชา คอมพิวเตอรแ์ ละการบํารุงรักษา สัปดาห์ที่ 8-9ช่ือหนว่ ย การบํารุงรักษาอปุ กรณค์ อมพิวเตอร์ 8 ช่ัวโมงชอื่ เร่ือง การบํารงุ รักษาอปุ กรณค์ อมพิวเตอร์หัวขอ้ เร่อื ง ด้านความรู้ 1. การดูแลรักษา ตรวจสอบเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ 2. โปรแกรมบํารงุ รักษาเครอื่ งคอมพิวเตอร์ 2.1 Disk cleanup 2.2 Disk defragmenter 2.3 Action center 2.4 Administrative tools 2.5 การสรา้ งพาร์ทชิ ั่นใน Windows 7 ดา้ นทักษะ 1. ใชโ้ ปรแกรม Disk Cleanup 2. ใชโ้ ปรแกรม Disk defragmenter 3. ใช้โปรแกรม Action center 4. ใช้โปรแกรม Administrative tools 5. สรา้ งพาร์ทิชนั่ ใน Windows 7 ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม 1.ปฏิบตั ิงานได้อยา่ งถกู ตอ้ ง รอบคอบ 2.ส่งงานตรงตามเวลาท่ีกําหนด 3.มคี วามซือ่ สัตย์ อดทน ไมค่ ดั ลอกผลงานผอู้ ่ืน 4.ใช้เวลาอยา่ งเหมาะสมกับงานที่ปฏิบัติสาระสาคญั การดูแลรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นวิธที ี่ช่วยให้สามารถใช้งานเคร่ืองคอมพิวเตอร์ได้นานข้ึน จึงจําเป็นต้องรู้ถึงปัจจัยต่างๆ ที่ทําให้เคร่ืองคอมพิวเตอร์เกดิ การขัดขอ้ งหรือเสียหาย และวิธีการบํารุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอรเ์ บื้องต้นเน้ือหาในหน่วยนี้จะกล่าวถึงวิธีดูแลรักษา ตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์ข้ันพื้นฐาน และการใช้โปรแกรมบํารุงรักษาเคร่ืองคอมพิวเตอร์ เช่นโปรแกรม Disk Cleanup โปรแกรม Diskdefragmenter โปรแกรม Action center โปรแกรม Administrative tools และการสรา้ งพาร์ทิชั่นใน Windows 7

สมรรถนะอาชีพประจาหน่วย 1. ดูแลรกั ษา ตรวจสอบเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ 2. ใช้โปรแกรมบํารงุ รกั ษาเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์จุดประสงค์การสอน/การเรียนรู้ • จดุ ประสงคท์ ่วั ไป / บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1.เพื่อให้มีความรู้พื้นฐานเก่ียวการบํารุงรักษาเคร่ืองคอมพิวเตอร์และมีทัศนคติที่ดี (ด้านความรู้) 2.เพ่อื ให้มที กั ษะการใช้โปรแกรมบาํ รงุ รกั ษาเคร่อื งคอมพิวเตอร์ (ด้านทกั ษะ) 3.เพื่อให้มีเจตคติท่ีดีต่อการเตรียมความพร้อมด้าน วัสดุ อุปกรณ์ และการปฏิบัติงานอย่างถูกต้อง สําเร็จภายในเวลาที่กําหนด มีเหตุและผลตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม) •จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม / บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง 1. บอกถึงวิธกี ารดูแลรกั ษา ตรวจสอบเครอ่ื งคอมพวิ เตอรข์ ัน้ พนื้ ฐาน ได้ (ดา้ นความรู)้ 2. อธบิ ายวิธกี ารใช้โปรแกรม Disk Cleanup ได้ (ด้านความรู)้ 3. อธบิ ายวิธีการใชโ้ ปรแกรม Disk defragmenter ได้ (ด้านความรู้) 4. อธิบายวิธกี ารใชโ้ ปรแกรม Action center ได้ (ดา้ นความรู้) 5. อธิบายวธิ ีการใชโ้ ปรแกรม Administrative tools ได้ (ด้านความรู)้ 6. อธบิ ายวธิ กี ารสรา้ งพาร์ทชิ ัน่ ใน Windows 7 ได้ (ดา้ นความรู้) 7. การเตรียมความพร้อมด้านการเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ ผู้เรียนจะต้องกระจายงานได้ท่ัวถึงและตรงตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจัดเตรียมสถานท่ี ส่ือ วัสดุ อุปกรณ์ไวอ้ ยา่ งพร้อมเพรียง (ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง) 8. ความมเี หตมุ ีผลในการปฏิบัติงาน ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผเู้ รยี นจะต้องมีการใช้หลักการเรียนรู้และเวลาที่เหมาะสมกับการเรียนรู้ (ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง)เนอ้ื หาสาระการสอน/การเรียนรู้• ดา้ นความรู้ (ทฤษฎ)ี การดูแลรักษาเคร่ืองคอมพิวเตอร์ เป็นวิธที ่ีช่วยให้สามารถใช้งานเคร่ืองคอมพิวเตอร์ได้นานขึ้น จึงจําเป็นต้องรู้ถึงปัจจัยต่างๆ ท่ีทําให้เคร่ืองคอมพิวเตอร์เกิดการขัดข้องหรอื เสียหาย และวิธีการบาํ รุงรกั ษาเคร่อื งคอมพิวเตอรเ์ บ้ืองตน้1. การดูแลรักษา ตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์ (จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมข้อที่ 1) เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ เปน็ เครอื่ งคํานวณทีป่ ระกอบด้วยชน้ิ สว่ นอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ และอปุ กรณ์ทางไฟฟ้ามากมาย ซึ่งจะตอ้ งดูแลรกั ษา ทําความสะอาด ใหอ้ ยู่ในสภาพพรอ้ มใช้ตลอดเวลา ดังนี้ 1) การดูแลรกั ษาดา้ นระบบไฟฟ้า

-สายไฟ สายสัญญาณต่างๆ ที่หลวมหรือหกั ชํารุด เสียบปล๊ักแล้วไฟติดๆ ดับๆ บ่อยใหร้ ีบแก้ไขซอ่ มแซมหรอื ซื้อเปลี่ยน เพราะอาจจะสร้างความเสยี หายใหก้ ับคอมพวิ เตอร์ได้ -กระแสไฟฟา้ ตก ไฟรั่ว ไฟเกิน สามารถสรา้ งความเสียหายให้กับเครือ่ งคอมพิวเตอร์ได้ ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ไฟดับหรือไฟกระชาก จะทําให้ฮาร์ดแวร์หยุดทํางานช่ัวคราวจนกว่าจะมีกระแสไฟฟ้ากลบั มาหลอ่ เล้ียงอีกครง้ั หนึ่ง ซึง่ ในชว่ งเวลาที่ฮาร์ดแวร์หยดุ ทาํ งานอยา่ งฉบั พลันนีอ้ าจจะเปน็ สาเหตทุ ําใหฮ้ าร์ดแวรเ์ สยี หายได้ ในพ้นื ท่ีทีม่ ปี ญั หาไฟดบั ไฟตก ไฟเกิน ไฟกระชากอยู่บอ่ ยๆ ควรซื้อ UPS มาใช้งานซ่ึงนอกจากช่วยรักษาระดับแรงดันไฟฟ้าใหค้ งท่ีและกรองสัญญาณไฟฟ้าได้แลว้ ยังจ่ายไฟฟา้ สํารองได้อกี ดว้ ยสามารถใช้เคร่ืองคอมพวิ เตอรต์ อ่ ไปได้อีก 10-15 นาที ทาํ ให้บนั ทกึ ขอ้ มลู ได้ทัน -สายดิน ควรต่อสายดินจากเคสส่วนที่เป็นโลหะแล้วนําไปตอ่ กับโลหะช้ินอน่ื ท่ีตงั้ อยู่บนพนื้ เชน่ ท่อนํา้ เหลก็ ประตูโครงฝ้า ที่เปน็ อลมู เิ นียมเพื่อใหส้ ามารถระบายกระแสไฟฟ้าลงดินได้การต่อสายดินนี้จะช่วยแก้ปัญหาจากตัวเคร่ืองคอมพิวเตอร์ทําให้ไม่ถูกไฟดูดเวลาเผลอไปแตะตัวเคร่ืองรวมท้งั ยงั ชว่ ยลดความรนุ แรงปญั หาไฟกระชากไดอ้ ีกดว้ ย -การต่อพ่วงอปุ กรณ์กับเต้ารับ ไม่ควรเช่ือมต่ออุปกรณ์หลายอย่างกับปล๊ักพ่วงเพยี งอันเดียว ควรใชร้ างเตา้ รับสําหรับใชก้ บั เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ที่มีขายอยโู่ ดยทว่ั ไปแทน ซง่ึ รางเต้ารับนี้จะช่องเสียบหลายช่องและมีเต้ารับแบบใช้กับปลั๊กแบบ 3 ขาได้ เพราะถ้าใช้เต้ารับแบบรวมหรือไม่ได้มาตรฐานอาจจะทําใหเ้ กิดการอาร์กท่ีเต้ารับ ทําให้เกดิ สญั ญาณรบกวนระบบไฟฟ้าและเกิดความร้อนสะสมจนอาจเกดิ ไฟไหมไ้ ด้ 2) การดูแลรักษาเครื่องคอมพวิ เตอรแ์ ละฮาร์ดแวร์ชิน้ อน่ื ๆ ก่อนการซ่อมบํารุงเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกคร้ังต้องปิดสวิตซ์เครื่องและดึงปล๊ักไฟออก จากเต้าเสียบเพ่ือป้องกันอันตรายท่ีเกิดจากกระแสไฟฟ้า และสิ่งต่อไปนี้เป็นส่ิงท่ีควรปฏิบัติเพ่ือไม่ให้เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์และฮาร์ดแวร์ชิน้ ต่าง ๆ เสียหายควรปดิ เครอื่ งให้สนิทอยูเ่ สมอเพ่ือป้องกนั ไม่ให้หนูหรือแมลงสาบเข้าไปทําความเสยี หายภายในเคร่อื งในกรณีท่ีดึงแผ่นเหลก็ ปิดสลอ็ ตด้านหลังเครอ่ื งออกเพ่ือใส่การ์ดต่างๆ เข้าไปก็ควรเก็บแผ่นเหล็กน้ันเองด้วยเพ่ือเวลาท่ีไม่ได้ใช้การด์ นั้นแล้วจะได้นาํ แผน่เหล็กมาปิดกลับคืน -พ้ืนท่ีว่างบนฮาร์ดดิสก์ หลังจากเปิด Windows มาแล้ว ลองตรวจสอบพ้ืนท่ีในฮารด์ ดิสก์ วา่ เหลือพ้นื ทเี่ ท่าใด ถ้าเหลอื นอ้ ยกว่า 500 MB ก็ควรพจิ ารณาเพ่มื พน้ื ท่วี ่าง โดยเฉพาะกับDrive C ซึ่งเปน็ ทเ่ี กบ็ โปรแกรม ดว้ ยการสาํ รองข้อมูล โดยเฉพาะไฟล์ตา่ งๆ ทีอยใู่ น My Documentsหรือสํารองลง Drive อน่ื ๆ -ตรวจสอบสภาพฮาร์ดดิสก์ นอกเหนอื เรอ่ื งพน้ื ทว่ี ่างแลว้ สิง่ สาํ คัญอกี อย่างหน่งึ ก็คือการตรวจสอบฮาร์ดดิสก์ว่ามีจุดไหนเสียหรือไม่ โดยใช้โปรแกรมช่วยตรวจสอบประเภท DiskDefragment เพ่ือตรวจสอบพ้ืนท่ีฮาร์ดดิสก์ว่ามจี ุดเสียหรือ Bad Sector ของฮาร์ดดิสก์หรือไม่ ถ้ามีใหส้ ํารองข้อมูลและเปลี่ยนฮาร์ดดสิ ก์ -ตรวจสอบไวรัส ถึงแม้ว่าเราจะมีโปรแกรม Antivirus แล้วก็ตาม เราก็ยังคงจําเป็นต้องมีการตรวจสอบไวรัสอย่างสมํ่าเสมอ อย่างน้อยอาทิตย์ละคร้ัง และควรอัปเดทโปรแกรมแบบออนไลน์ให้ทันสมัยอยู่เสมอด้วยเช่นกัน นอกจากน้ันให้ Scan Virus ทุกวัน โดยเฉพาะช่วงพักกลางวันจะได้ตรวจสอบไวรัสอย่างเต็มท่ีไม่ขัดจังหวะเวลาทํางาน เพราะระหว่างการ scan virus จะทาํ ใหเ้ ครือ่ งคอมพวิ เตอรท์ าํ งานชา้ ลงไปบา้ ง ระหว่างน้สี ามารถปิดหน้าจอไดด้ ้วย

-ลบขยะภายในเครือ่ งคอมพิวเตอร์ ควรมีการตรวจสอบและลบไฟล์ใน Recycle Binเพื่อเพ่ิมพ้ืนท่ี และป้องกันแหล่งสะสมของปญั หา รวมทงั้ ไวรสั ดว้ ยโปรแกรม Disk Cleanup-การเปิดปิดเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ไม่ควรปิดแล้วเปิดเคร่ืองทันที เพราะจะทําให้ Power Supplyแบบสวทิ ชง่ิ ของเครอื่ งคอมพวิ เตอร์มอี ายกุ ารใชง้ านส้นั ลง แต่หากตอ้ งการปิดแล้วเปดิ เคร่ืองใหม่ให้ปิดเครื่องแล้วรออย่างน้อย 10 วินาที เพื่อให้กระแสไฟฟ้าไหลออกจากตัวเคร่อื งให้หมดก่อนแล้วจึงเปิดเครื่องใหม่จึงจะไม่สร้างความเสียหายให้กับฮาร์ดแวร์ แต่ในกรณีท่ีเคร่ืองแฮงก์ให้ลองบูทเครื่องใหม่โดยการวอรม์ ลูทคือกดปุ่ม Ctrl + Alt + Del เสยี กอ่ นแตถ่ า้ ไม่ได้ผลให้ กดปุม่ รีเซตที่ด้านหน้าเครื่องแทนซ่ึงจะได้ผลเท่ากับการปิดเคร่ืองและเปิดเคร่ืองใหม่ โดยไม่ทําให้ Power Supply มีอายุการใช้งานส้ันลง และที่สําคัญควรปิดเครื่องหรือ Shutdown Windows ให้ถูกวิธี โดยคลิก Start /Shutdown และห้ามปิดดว้ ยปุ่ม Power -การทํางานของพัดลมระบายอากาศ ควรตรวจสอบการทํางานของพัดลมระบายอากาศด้านหลังเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ ซึ่งควรจะทํางานปกติตลอดเวลา ไม่ควรมีส่ิงใดไปปิดก้ัน มิฉะนน้ัทาํ ใหอ้ ณุ หภูมิในเครอ่ื งคอมพิวเตอตส์ งู เกนิ ไปและมีผลเสยี ตอ่ ตัวเครอ่ื ง-การดูแลคีย์บอรด์ ควรนําคีย์บอร์ดมาควํา่ แล้วเคาะฝุ่นละอองท่ีติดตามซอกออก หรือใช้น้ํายาเช็ดทําความสะอาดเพ่ือให้สามารถใชง้ านได้ปกติ 3) การดูแลรักษาเรอ่ื งความรอ้ น ค ว า ม ร้ อ น ที่ เ กิ ด ข้ึ น ภ า ย ใ น เ ค รื่ อ ง ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ เ กิ ด ม า จ า ก ก า ร ทํ า ง า น ข อ ง อุ ป ก ร ณ์อิเล็กทรอนิกส์แต่ละชิ้น ซึ่งความร้อนน้ีหากสูงเกินขอบเขตที่ฮาร์ดแวร์ทนได้ก็จะทําให้เกิดการเส่ือมของฮาร์ดแวร์ชิ้นนั้น ดังนั้นจึงต้องมีวิธีท่ีใช้ในการระบายความร้อนออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่นการระบายความร้อนด้วยการติดต้ังพัดลมที่มีขนาดใหญ่หรือการติดต้ังพัดลมเพิ่มเข้าไปการใช้งานเคร่อื ง คอมพวิ เตอรใ์ นช่วงเวลาท่ีมอี ุณหภมู ิเหมาะสม การใชเ้ คสท่ีมีระบบระบายความร้อนทด่ี ี การจัดวางเครื่องคอมพิวเตอร์ให้สามารถถ่ายเทอากาศไดอ้ ย่างสะดวกเป็นอีกทางหนง่ึ ท่ีจะช่วยแก้ปญั หาเร่ืองความร้อนได้ โดยในการจัดวางเครอื่ งคอมพวิ เตอรค์ วรจะจัดให้ตาํ แหนง่ ด้านหลงั ของเคร่ืองอยหู่ ่างจากผนงั หรอื กาํ แพงพอสมควรเพอื่ ให้สามารถถ่ายเทอาศได้อย่างสะดวก แสงแดดก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งท่ีทําให้เกิดความร้อนขึ้นได้ ซึ่งโดยปกติแล้วอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกช้ินไม่ควรถูกจัดวางให้สัมผัสกับแสงแดด เครือ่ งคอมพิวเตอร์กเ็ ชน่ กนั ไม่ควรจัดวางให้สมั ผัสกับแสงแดดโดยตรง 4) การดูแลรกั ษาเร่อื งฝ่นุ ละออง ฝุ่นละอองเป็นอกี สาเหตหุ น่งึ ที่ทําให้ฮาร์ดแวร์ต่างๆ เสียหายไดเ้ ร็วขน้ึ เน่อื งจากฝุน่ ละอองจะเข้าไปขัดขวางทางเดินของกระแสไฟฟ้าบนแผงวงจร ทําให้ฮาร์ดแวร์ชิ้นนั้นทํางานได้ไม่เต็มที่หรือทํางานติดขดั นอกจากน้ีฝุ่นละอองยงั เป็นอปุ สรรคในการระบายความรอ้ น โดยเฉพาะเครื่องพมิ พ์แบบพ่นหมึก (Inkjet Printer) หากฝุ่นละอองจะเข้าไปขวางกั้นการทํางานของเครื่องพิมพ์ทําให้การพิมพ์ภาพหรอื ตัวอกั ษรบนกระดาษเลอะเลือนได้ ควรเปดิ ฝาครอบเครื่องออกมาเป่าฝุน่ ท่เี กาะอยู่ตามแผงวงจร ถ้าไมม่ เี ครื่องเป่าลมให้ใช้แปรงทาสีทีม่ ีขนนมุ่ ๆ มาทาํ ความสะอาดฝุน่ ละอองที่เกาะบนแผงวงจรภายในเครอ่ื งซึ่งจะชว่ ยใหก้ ระระบายความรอ้ นดีขน้ึ 5) การดูแลรักษาเรอ่ื งนํา้นํ้าหรือของเหลวเปน็ สาเหตสุ ําคญั ท่สี ุดท่ีทําใหฮ้ าร์ดแวรช์ น้ิ ต่างๆ เสยี หายได้ เนือ่ งจากฮารด์ แวรท์ กุ ช้ินต้องใช้ไฟฟ้าในการทาํ งานและนา้ํ กเ็ ปน็ ตัวการท่ีทําให้กระแสไฟฟ้าลัดวงจร ดังนนั้ จงึ ไม่ควรนาํ น้ําหรือ

ของเหลวใดๆ เข้าใกลฮ้ าร์ดแวร์ทกุ ช้ิน แตถ่ า้ มคี วามจาํ เป็นต้องใชน้ ํ้าในการทําความสะอาดก็ควรถอดปลก๊ั ไฟออกก่อน และใช้ผา้ ชุบนํ้าหมาดๆ เชด็ ทาํ ความสะอาด แลว้ ใชผ้ ้าแหง้ เชด็ อกี ครั้ง2. โปรแกรมบารงุ รกั ษาเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ นอกเหนือจากการดูแลรักษาภายนอกหรือส่วยประกอบต่างๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วควรจะต้องมีหรอื ใช้โปรแกรมเพ่ือการบาํ รุงรักษาเคร่ืองคอมพวิ เตอรด์ ้วย ดังน้ี 2.1 Disk cleanup (จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรมขอ้ ที่ 2) การสรา้ งประสิทธภิ าพของการใช้ระบบประการหนึง่ คอื การกําจัดข้อมูลท่ีไม่ถูกใชง้ าน ซึง่ อาจเป็นข้อมูลท่ีสร้างขึ้นช่ัวคราวระหว่างการใช้โปรแกรมแล้วไม่ได้ถูกลบท้ิงเม่ือเลิกใช้ หรือข้อมูลท่ีมีอยู่ซ้ําซอ้ นกนั แต่เก็บในต่างตาํ แหนง่ กนั ไฟล์ขอ้ มลู ของระบบปฏิบัติการที่อาจไม่ได้ใชแ้ ล้ว ซ่งึ เม่ือมีข้อมูลที่ไรป้ ระโยชนเ์ ก็บอยูน่ อกจากจะทาํ ใหเ้ ปลืองเน้ือทบ่ี ันทกึ ในดสิ ก์โดยเปล่าประโยชน์แล้วยังอาจกระทบต่อการสร้างประสิทธิภาพอื่นๆ เช่น การกระจายของข้อมูลท่ีเก็บในดิสก์ (fragmented file) การเลอื่ นของหวั อ่านดิสก์ที่จะตอ้ งเล่อื นไปในแทรกตา่ งๆ หากมีการเก็บข้อมูลมากจํานวนแทรกท่ีมขี อ้ มูลก็จะมากทาํ ให้หัวอ่านมโี อกาสทจ่ี ะต้องเลื่อนไปมาไกลขึน้ โปรแกรมกวาดล้างข้อมูลส่วนเกิน (disk cleanup utility) จะตรวจสอบข้อมูลไฟล์ประเภทต่างและให้ผู้ใช้ได้เลือกวา่ ต้องการลบข้อมลู กลุ่มใดออกจากระบบ หรือให้เลือกแยกเป็นไฟล์ไปว่าไฟล์ใดตอ้ งการลบออกบา้ ง โดยจะแสดงช่อื ไฟลท์ น่ี า่ จะไม่ไดถ้ กู ใช้งานออกมาใหเ้ ลือก 2.2 Disk defragmenter (จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรมขอ้ ที่ 3) โปรแกรมช่วยจัดระเบียบข้อมูลในดิสก์ (Disk defragmentation) หากเป็นฮาร์ดดิสก์ท่ีเริ่มใช้งานใหม่หลังจากถูกฟอร์แมต ระบบปฏิบัติการจะจัดเก็บข้อมูลของไฟล์ไว้อย่างต่อเนื่องบนเนื้อดิสก์แต่หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลท่ีอยู่ในไฟล์ เช่นมีการลบไฟล์ เพ่ิมข้อมูล ฯลฯ ข้อมูลใหม่ของไฟล์จะถูกกระจายไปยังเนื้อที่ว่างท่ียังไม่ได้ถูกใช้งาน ทําให้ข้อมูลในไฟล์ไม่ต่อเน่ืองกัน การท่ีเนื้อหาของไฟล์เดียวกันถูกจัดเก็บกระโดข้ามตําแหนง่ กนั ไม่อยู่ต่อเนอ่ื งทําให้ประสิทธิภาพในการอ่านข้อมูลไฟลน์ ั้นลดลงเนอ่ื งจากตอ้ งใช้เวลาในการเลอ่ื นหัวอ่านข้อมูลของดิสก์ข้ามไปมาในระหว่างอ่านชุดของขอ้ มลู การจัดเก็บไฟล์ที่กระโดดข้ามไปมานั้นเป็นผลที่เกิดข้ึนจากการทํางานตามปกติ ซ่ึงเรียกว่าไฟล์ที่แบ่งแยกออกเป็นช้ินเล็กน้อย หรือ Fragmented file คือส่วนต่างๆ ของไฟล์กระจัดกระจายไม่ตอ่ เนอ่ื งกันอยูบ่ นดิสก์ ซ่งึ มผี ลทําใหก้ ารเขา้ ถึงข้อมูลต้องใช้เวลามากข้นึโปรแกรมรวมรวมจดั ระเบยี บการจดั เกบ็ ไฟลใ์ หม่ (File defragmentation utility) เป็นโปรแกรมยูทิลิต้ีท่ีทําการจัดตําแหน่งเนื้อท่ีในแต่ละไฟล์ให้มาอยูต่ ่อเนื่องกนั เพื่อจะเพิ่มความเร็วในการเข้าถึงข้อมลู ในดิสก์ และบางโปรแกรมยังทําการจัดตําแหน่งไฟล์ให้อยู่ในตําแหน่งในดิสก์ให้เหมาะสมกับการใชง้ านโดยดูจากโอกาสในการถูกใช้งานมากน้อยเพียงใด หากเป็นกลุ่มไฟล์ท่ีจะถูกเรียกใช้งานบ่อยก็อาจนาํ มาวางเรยี งกันในตําแหนง่ ใกล้กัน เพ่ือไมใ่ หห้ ัวอ่านดิสก์ต้องเลื่อนตําแหนง่ ไปไกลมาก เปน็ ต้นตัวอย่างเช่น โปรแกรมในชุดโปรแกรม Norton Utility ได้แก่ Speed Disk, Optimization Wizard คําส่ังDisk Defragmenter ในกลมุ่ คาํ สงั่ Accessory ของวินโดว์ เปน็ ต้น 2.3 Action center (จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมข้อที่ 4) Action Center คือหน้าต่างที่แสดงตอนเข้าสู่ระบบ Windows เพื่อแแสดงให้เห็นว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ทํางานได้มีประสิทธิภาพหรือไม่ ตัวอย่างเช่น Action Center จะแสดงโปรแกรมแอนต้ี

ไวรัสทีไ่ ม่ได้อัปเดท หรืออาจเป็นเรื่องการสํารองขอ้ มลู (Backup) เปน็ ตน้ ซ่ึงจะมีการแสดงสตี า่ งๆ เพ่อืเตอื นใหท้ ราบ Action Center เปน็ คุณสมบตั ิหน่งึ ของระบบปฏบิ ัตกิ าร Windows ทีถ่ กู ออกแบบใหร้ วมการตั้งค่าต่างๆ สําหรับความปลอดภัย เช่น Windows Update, ตรวจสอบโปรแกรมแอนต้ีไวรัส, การสํารองข้อมูล อาจจะเรียกว่าเปน็ โปรแกรมทร่ี วมการเตือนความผิดปกติต่างๆ ไว้ หากมสี ิ่งผดิ ปกติเกิดขึ้นบนระบบจะสามารถตรวจเช็คจากจุดดังกล่าวได้ทันที โดยเฉพาะต้ังค่าเก่ียวกับความปลอดภัยทั้งหมดโดยไอคอนของ Action Center จะเป็นรูปธงสีขาวอยู่ที่ System Tray เมื่อมีการแจ้งเตือนต่างๆ ไอคอนน้ีจะมเี คร่ืองหมาย X สีแดงอยทู่ ธี่ งเพอ่ื เตือนให้ผูใ้ ชท้ ราบ ส่วนการจะเขา้ ไปใช้งาน Action Center ในระบบปฏบิ ัติการน้ัน ใหส้ งั เกตใน System Tray ว่ามีเครื่องหมายเตือนใดๆ เกิดขึ้นมาหรือไม่ หากมีสามารถเข้าไปคลิกเพ่ือให้แสดงผลการรายงานสิ่งผดิ ปกตเิ หล่านนั้ ออกมาใหไ้ ดท้ ราบ ด้วยการเลือกคลิกที่ Open Action Center 2.4 Administrative tools (จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมข้อท่ี 5) Administrative tools เป็นเครื่องมือในการติดตั้ง แก้ไขและเพ่ิม service ต่างๆ เปรียบได้เหมอื น control panel ใน windows กล่มุ โปรแกรมสาํ หรบั ผดู้ ูแลระบบ หรือเจา้ ของเครื่องคอมพวิ เตอร์ทต่ี ิดต้งั Windows จะตอ้ งมีผู้ดูแลระบบท่ีเรียกว่า Admin เป็นผู้มีอํานาจสูงสุดในการจัดการกับคอมพิวเตอร์เครื่องน้ันๆ ส่วนใหญ่จะเป็นการตั้งค่าโดยผู้ดูแลคอมพิวเตอร์ในบริษัทมากกว่า กรณีบริษัทแจกคอมพิวเตอร์ให้พนักงานนาํ ไปใชง้ านและมปี ดิ การทํางานบางอยา่ งไวไ้ ม่ใหใ้ ชง้ านโดยเฉพาะการติดต้งั โปรแกรมเพ่ิมลงในระบบปฏิบัติการ Windows โดยเฉพาะโปรแกรมทผี่ ิดกฏหมาย 2.5 การสร้างพาร์ทชิ ่นั ใน Windows (จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมข้อที่ 6) พาร์ติช่ัน (Partition) เป็นการแบ่งพ้ืนท่ีของฮาร์ดดิสก์เป็นส่วนๆ หรือแบ่งเป็นหลายไดร์ฟเพ่ือความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลและโปรแกรม โดยปกติเราควรแบ่งพาร์ติช่ันอย่างน้อยเป็น 2ไดร์ฟ คือ C: และ D: โดยปกตไิ ดร์ฟ C: จะมีไว้สําหรบั ติดตงั้ โปรแกรมตา่ งๆ สว่ นไดร์ฟ D: สาํ หรบั เก็บข้อมูลหรอื เพ่อื สาํ รองขอ้ มูล เมอื่ มกี ารใช้งานระบบปฏบิ ัตกิ าร windows ไปสักระยะหนงึ่ มีการตดิ ตั้งโปรแกรมใหม่ๆ และยกเลิกการติดตั้งบ่อยๆ จะทําให้ระบบปฏิบัติการ windows มีปัญหา ทางแก้ไขที่ดีท่ีสุดคือการFormat ฮาร์ดดิสก์และติดตั้งโปรแกรมใหม่ ดังนั้นถ้ามีไดร์ฟเดียวจะทําให้มีปัญหาของข้อมูลท่ีเราต้องการสาํ รองก่อนตดิ ตง้ั ระบบปฏบิ ตั ิการใหม่ การสร้างพารท์ ชิ ัน่ ใหมใ่ นพ้ืนทีฮ่ าร์ดสิ กข์ องระบบปฏบิ ตั กิ าร Windows สามารถคลิก Start /Control Panel คลิกเลือกเมนู System and Security และคลิกเมนู Administrative Tools จากนัน้ดับเบ้ิลคลิกท่ี Computer Management จะปรากฏหน้าต่าง Computer Management ให้คลิกเลือก Disk Management ท่ีอยู่ภายใต้เมนู Storage จะปรากฏรายการไดร์ฟและรายละเอียดของไดรฟ์ ตา่ งๆ ของคอมพิวเตอร์ ซง่ึ เราสามารถสรา้ งพาร์ทชิ ่ันใหม่ได้ที่นี้ เชน่ เดียวกบั การคลกิ Start แล้วพิมพ์ท่ีช่องค้นหาด้วยข้อความ disk ma หรือจะพิมพ์ disk management ก็ได้ จะปรากฏรายช่ือโปรแกรมขนึ้ มา ให้คลิกเลอื กท่ี Create and format hard disk partitions 2.5.1 การลบพารท์ ิชั่น หลงั จากทส่ี รา้ งไดร์ฟพาร์ทิชัน่ ใหม่ขึน้ มาใชง้ านแลว้ เมอื ใดท่ีเห็นวา่ พ้ืนที่ไม่พอใช้งานหรือต้องการลบไดรฟ์ หรอื พารท์ ชิ น่ั ทสี่ ร้างขนึ้ ออกไปก็สามารถทําได้ ซ่ึงเมอ่ื ลบพาร์ทิชนั่ แลว้ ไดร์ฟหรือ

พารท์ ชิ นั่ น้ันๆ จะถูกรวมกบั พาร์ทิชั่นอ่ืน โดยการคลกิ ท่ไี ดร์หรือพาร์ทิชั่น แลว้ คลกิ คําสั่ง Delete หรอืคลิกขวาท่ีไดร์ฟหรือพาร์ทิชั่นที่ต้องการลบ แล้วคลิกคําส่ัง Delete Volume… จากน้ันให้คลิกขวาท่ีไดรฟ์ หรอื พาร์ทิชั่นท่ี Delete Volume ไปแล้วอกี คร้ัง เพอื่ เลือกคาํ สง่ั Delete Partition… อกี ครงั้ แล้วทําการรวมพ้ืนท่ีว่างกับพาร์ทิช่ันท่ีต้องการ โดยคลิกขวาท่ีไดร์ฟหรือพาร์ทิช่ันท่ีต้องการรวมกับพ้ืนท่วี า่ งแลว้ คลกิ คําส่ัง Extend Volume…• ด้านทักษะ (ปฏบิ ัต)ิ (จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมขอ้ ที่ 1-8) 1.แบบฝึกหัดท้ายบทท่ี 4 2.กิจกรรมการเรียนรู้• ดา้ นคุณธรรม/จรยิ ธรรม/จรรยาบรรณ/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง 1.การเตรยี มความพร้อมดา้ นวัสดุ อปุ กรณน์ กั ศึกษาจะตอ้ งทาํ ความสะอาดหอ้ งเรียนจัดเตรียมอุปกรณ์ในการเรยี นรู้ ให้มคี วามพร้อมเพียงและเหมาะสมกับเวลาทใ่ี ชใ้ นการเรยี น 2.ความมีเหตุมีผลในการปฏบิ ัติงาน ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงนักศกึ ษาจะตอ้ งมีการใชเ้ ทคนิคการจดบนั ทึกงาน การสบื ค้นข้อมูล กอ่ นการเรยี นรแู้ ละหลังเรียนร้เู พอื่ ให้การเรียนรู้เหมาะสมกับเวลา คมุ้ ค่าและประหยัด กิจกรรมการเรยี นการสอนหรอื การเรียนรู้ขั้นตอนการสอนหรือกิจกรรมของครู ขน้ั ตอนการเรียนรู้หรือกจิ กรรมของนักเรยี น1. ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรียน (60 นาท)ี 1. ข้นั นาเขา้ สบู่ ทเรียน (60 นาท)ี1. ผู้สอนจัดเตรยี มเอกสาร 1. ผู้เรียนทําแบบทดสอบกอ่ นเรยี น2. ผู้สอนแจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นของหน่วย 2. ผเู้ รยี นทาํ ความเข้าใจเก่ยี วกับจดุ ประสงคก์ ารเรยี นที่ 4 และขอใหผ้ เู้ รยี นรว่ มกันทํากิจกรรมการเรยี น เรยี นของหน่วยเรยี นที่ 4 และการใหค้ วามรว่ มมือในการการสอน ทํากจิ กรรม3. ผสู้ อนให้ผู้เรยี นแสดงความรู้ โดยต้งั คาํ ถาม 3. ผเู้ รยี นแสดงความรู้วา่ การบาํ รงุ รักษาอปุ กรณ์ว่าการตดิ ตง้ั โปรแกรมตามลกั ษณะงานมีหลกั การ คอมพวิ เตอร์ มหี ลกั การอยา่ งไรพรอ้ มใหเ้ หตุผลประกอบทาํ งานอยา่ งไรพรอ้ มให้เหตผุ ลประกอบ2. ข้ันใหค้ วามรู้ (240 นาท)ี 2. ขั้นให้ความรู้ (240 นาท)ี 1. ผสู้ อนทดสอบความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกับ 1. ผ้เู รียนทาํ แบบทดสอบก่อนเรียนเพ่ือแสดงความรู้เบื้องตน้ เกีย่ วกับการบาํ รุงรักษาอปุ กรณ์ ความร้แู ละความเข้าใจก่อนการเรียน เรือ่ งการ บาํ รุงรกั ษาอปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ ผูเ้ รยี นศึกษาบทเรยี นคอมพวิ เตอร์ โดยให้ผ้เู รยี นทําแบบทดสอบก่อนเรยี น วชิ าคอมพวิ เตอร์และการบาํ รุงรักษา หนว่ ยที่ 4 เร่อื ง 2. ผู้สอนอธิบายเน้อื หาเกี่ยวกับบทเรยี นวชิ า การบํารุงรกั ษาอุปกรณค์ อมพวิ เตอร์ และศึกษาเอกสาร ประกอบการสอน หนว่ ยที่ 4คอมพวิ เตอร์และการบาํ รงุ รักษา หน่วยที่ 4 เรอื่ งการบาํ รุงรักษาอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ และให้ผ้เู รียนศกึ ษาเอกสารประกอบการสอน หน่วยท่ี 4

3. ผสู้ อนและผเู้ รยี นร่วมกันอธิบายการ 2. ผเู้ รียนอธบิ ายหลกั การบํารงุ รักษาอปุ กรณ์บํารงุ รกั ษาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ตามท่ีได้ศกึ ษาจาก คอมพวิ เตอร์ ตามท่ีได้ศึกษาจากบทเรยี นคอมพวิ เตอร์บทเรยี นคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน ชว่ ยสอน3. ข้นั ประยุกต์ใช้ (120 นาที) 3. ขัน้ ประยุกตใ์ ช้ (120 นาที) 1. ผเู้ รยี นทาํ แบบฝกึ หดั ท้ายบทท่ี 4 1. ผสู้ อนใหผ้ ู้เรยี นทาํ แบบฝกึ หดั ทา้ ยบทที่ 4 2. ผู้สอนให้ผ้เู รียนแบง่ กลมุ่ ๆ ละ 3 คน ร่วมกนั 2. ใหผ้ ู้เรยี นแบง่ กลุ่มๆ ละ 3 คน รว่ มกนั เสนอ วธิ กี ารดูแลรกั ษาเคร่ืองคอมพวิ เตอรท์ ั้งภายนอกและเสนอวธิ กี ารดแู ลรกั ษาเครื่องคอมพิวเตอรท์ ัง้ ภายนอก วิธีการใชง้ านทั่วไป อยา่ งน้อย 5 วิธีการ แล้วรว่ มกนัและวธิ ีการใช้งานท่ัวไป อย่างนอ้ ย 5 วธิ ีการ แล้วร่วมกันนาํ เสนออภิปรายในชน้ั เรยี น นาํ เสนออภิปรายในชัน้ เรียน 3. ให้ผเู้ รยี นแบ่งกลุ่มๆ ละ 5 คน ร่วมกันคน้ หา 3. ให้ผู้เรยี นแบง่ กลุม่ ๆ ละ 5 คน ร่วมกันคน้ หาโปรแกรมท่ใี ชใ้ นการบาํ รุงรกั ษาเครอื่ งคอมพิวเตอร์ โปรแกรมทใ่ี ช้ในการบาํ รุงรักษาเคร่อื งคอมพิวเตอร์ จาก อนิ เทอร์เน็ต แล้วร่วมกนั นาํ เสนอพร้อมท้ังสาธิตการใช้จากอินเทอร์เนต็ แลว้ ร่วมกนั นําเสนอพรอ้ มท้ังสาธติ งานในชัน้ เรียนการใช้งานในชั้นเรียน ตวั อย่างโปรแกรม • Windows Repair • Free Windows Registry Cleaner • AVG PC TuneUp4. ขน้ั สรปุ และประเมนิ ผล (60 นาที) 4. ขนั้ สรปุ และประเมินผล (60 นาท)ี1. ผู้สอนและผูเ้ รียนรว่ มกนั สรุปเนอื้ หาท่ไี ด้ 1. ผู้สอนและผเู้ รียนรว่ มกันสรปุ เนื้อหาที่ไดเ้ รยี นเรียนใหม้ ีความเขา้ ใจในทิศทางเดยี วกัน เพอ่ื ให้มคี วามเข้าใจในทศิ ทางเดยี วกนั2. ผสู้ อนใหผ้ ู้เรยี นศึกษาเพ่มิ เตมิ นอกห้องเรยี น 2. ผู้เรยี นศึกษาเพ่ิมเตมิ นอกห้องเรยี น ด้วยดว้ ยบทเรียนคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอนที่จดั ทาํ ข้นึ บทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอนทจี่ ัดทําขนึ้3. ผสู้ อนใหผ้ ูเ้ รยี นทําแบบทดสอบหลงั เรียน 3. ผูเ้ รยี นทาํ แบบทดสอบหลงั เรียน (บรรลจุ ุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมข้อท่ี 1-8) (บรรลจุ ดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมข้อที่ 1-8)(รวม 480 นาที หรอื 8 ชวั่ โมงเรียน)งานทีม่ อบหมายหรือกิจกรรมการวัดผลและประเมินผล กอ่ นเรียน 1. จัดเตรยี มเอกสาร ส่ือการเรยี นการสอนหนว่ ยท่ี 4 2. ทาํ ความเข้าใจเกี่ยวกบั จดุ ประสงค์การเรียนของหนว่ ยท่ี 4 และให้ความรว่ มมือในการทาํ กจิ กรรมในหน่วยท่ี 4 3. ตอบคําถามก่อนเรียน โดยการถาม – ตอบ หน่วยท่ี 4 ขณะเรียน

1.ปฏิบัตติ ามใบความรู้ที่ 4 เรอ่ื งการบํารุงรักษาอปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ 2. ร่วมกันสรุป “การบํารงุ รกั ษาอปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์” 3. ร่วมกนั ทาํ กิจกรรมการเรยี นรู้ หลงั เรยี น 1.ทาํ แบบฝกึ หัดท้ายบทที่ 4 2.ทําแบบประเมินการเรียนรู้ คาถาม 1. จงบอกถงึ วธิ ีดแู ลรกั ษา และตรวจสอบเครือ่ งคอมพวิ เตอร์เกยี่ วกับการใชง้ านฮารด์ ดสิ ก์ 2. จงบอกถงึ วิธีการดูแลรักษา และตรวจสอบเคร่ืองคอมพวิ เตอร์เกี่ยวกับระบบไฟฟา้ 3. จงบอกถงึ วธิ กี ารดูแลรักษา และตรวจสอบเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ให้ปลอดภยั จากไวรัส 4. จงอธบิ ายวิธีการใชโ้ ปรแกรม Disk Cleanup 5. จงอธิบายวธิ กี ารใช้โปรแกรม Disk defragmenter 6. จงอธิบายวิธกี ารใช้โปรแกรม Action center 7. จงอธบิ ายวธิ กี ารใช้โปรแกรม Administrative tools 8. จงอธบิ ายวิธีการแบง่ พาร์ทชิ ่นั ใน Windows 7 9. จงบอกวธิ ีการปิดเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ทีถ่ กู ตอ้ ง 10. จงบอกถงึ โปรแกรมดแู ลรักษา และตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์ ทีน่ ักเรยี นร้จู กันอกเหนอื จากท่เี รียนมาแลว้ผลงาน/ช้ินงาน/ความสาเร็จของผเู้ รยี นกจิ กรรมท่ี 1 ให้ผู้เรียนแบง่ กลมุ่ ๆ ละ 3 คน รว่ มกันเสนอวิธีการดแู ลรักษาเครือ่ งคอมพิวเตอรท์ ัง้ ภายนอกและวธิ ีการใช้งานทวั่ ไป อย่างนอ้ ย 5 วิธกี าร แล้วร่วมกันนําเสนออภปิ รายในชั้นเรยี น กิจกรรมที่ 2 ใหผ้ เู้ รียนแบ่งกลมุ่ ๆ ละ 5 คน ร่วมกันคน้ หาโปรแกรมที่ใช้ในการบํารงุ รกั ษาเคร่อื งคอมพิวเตอร์ จากอินเทอร์เนต็ แล้วร่วมกนั นําเสนอพร้อมทั้งสาธติ การใชง้ านในชัน้ เรยี น ตวั อยา่ งโปรแกรม • Windows Repair • Free Windows Registry Cleaner • AVG PC TuneUpสมรรถนะทีพ่ ึงประสงค์ ผู้เรยี นสรา้ งความเข้าใจเกี่ยวกับการบํารุงรักษาอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ 1.วเิ คราะหแ์ ละตคี วามหมาย 2.ต้งั คําถาม 3.ลงมอื ปฏิบัติ 4.การประยุกตค์ วามรูส้ งู่ านอาชพี

สมรรถนะการสรา้ งค่านิยม การปลูกฝงั ให้มคี วามรบั ผิดชอบ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และมคี วามซอื่ สัตย์ในอาชพี ของตนสมรรถนะการปฏบิ ัติงานอาชีพ 1. นาํ ความรูเ้ กย่ี วกับแนะนาํ ความรู้เบอ้ื งต้นเกี่ยวกบั การบํารงุ รกั ษาอปุ กรณค์ อมพิวเตอร์ประยกุ ตใ์ ช้ในการดาํ เนินชีวติ ประจําวนัสมรรถนะการขยายผลความสอดคลอ้ ง แนะนาํ ความรเู้ บือ้ งต้นเกยี่ วกับการบํารงุ รกั ษาอุปกรณค์ อมพวิ เตอร์ ทําใหผ้ ้เู รยี นมีความรู้เพม่ิ ขึน้ เม่อื ผู้เรยี นได้เรียนรู้ทาํ ใหม้ คี วามรู้ในเร่ืองการบาํ รงุ รักษาอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ มากข้นึสื่อการเรียนการสอน/การเรยี นรู้สื่อส่ิงพิมพ์ 1. เอกสารประกอบการสอนวิชา คอมพิวเตอร์และการบาํ รุงรกั ษา (ใชป้ ระกอบการเรียนการสอนจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 1-8) 2. ใบความรู้และใบงานสือ่ โสตทศั น์ (ถ้าม)ี 1. บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน เรอ่ื งการบํารงุ รกั ษาอุปกรณค์ อมพิวเตอร์ 2. สือ่ ของจริงแหลง่ การเรยี นรู้ในสถานศกึ ษา 1. หอ้ งสมุดวิทยาลยั 2. หอ้ งปฏิบตั กิ ารคอมพิวเตอร์ ศกึ ษาหาขอ้ มูลทางอินเทอรเ์ น็ตนอกสถานศึกษา ผ้ปู ระกอบการ สถานประกอบการ ในทอ้ งถิ่นการบูรณาการ/ความสัมพนั ธ์กบั วชิ าอื่น 1. บูรณาการกบั วชิ าชีวิตและวฒั นธรรมไทย ด้านการพดู การอา่ น การเขียนและการฝึกปฏบิ ัตติ นทางสังคมด้านการเตรียมความพร้อม ความรับผิดชอบ และความสนใจใฝ่รู้ 2. บูรณาการกับวิชาภาษาองั กฤษ การใชค้ ําศพั ท์ ความหมาย การสบื ค้นขอ้ มลู 3. บูรณาการกับวชิ ากฬี าเพื่อพฒั นาสุขภาพและบุคลกิ ภาพ ด้านบคุ ลกิ ภาพในการนําเสนอหนา้ ช้นั เรยี นการประเมินผลการเรียนรู้

• หลักการประเมนิ ผลการเรียนรู้ ก่อนเรียน 1.ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน ขณะเรยี น 1.สังเกตการทาํ งานกลุ่ม หลังเรียน 1.ตรวจแบบฝึกหัดทา้ ยบท 2.ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น 3.สรปุ ผลการรายงานหนา้ ชนั้ เรยี นผลงาน/ช้นิ งาน/ผลสาเร็จของผูเ้ รียน ตรวจผลงาน กิจกรรม กจิ กรรมที่ 1 ใหผ้ เู้ รียนแบ่งกลุ่มๆ ละ 3 คน รว่ มกนั เสนอวิธกี ารดแู ลรกั ษาเคร่อื งคอมพิวเตอร์ทง้ั ภายนอกและวธิ ีการใชง้ านทัว่ ไป อยา่ งนอ้ ย 5 วธิ กี าร แล้วรว่ มกนั นําเสนออภิปรายในชั้นเรยี น กิจกรรมท่ี 2 ให้ผเู้ รียนแบ่งกลุ่มๆ ละ 5 คน รว่ มกันคน้ หาโปรแกรมท่ใี ชใ้ นการบํารงุ รักษาเครื่องคอมพวิ เตอร์ จากอนิ เทอรเ์ น็ต แล้วร่วมกันนาํ เสนอพรอ้ มทง้ั สาธติ การใชง้ านในชน้ั เรียนรายละเอียดการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ • จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม ข้อที่ 1 บอกถงึ วิธีการดแู ลรกั ษา ตรวจสอบเครื่องคอมพวิ เตอร์ข้ันพ้ืนฐาน ได้ 1.วิธกี ารประเมิน : ทดสอบ 2.เครื่องมือ : แบบทดสอบ 3.เกณฑ์การใหค้ ะแนน:บอกองค์ประกอบระบบคอมพิวเตอร์ได้จะได้ 3 คะแนน •จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ข้อท่ี 2 อธิบายวธิ กี ารใชโ้ ปรแกรม Disk Cleanup ได้ 1.วิธกี ารประเมิน : ทดสอบ 2.เครอื่ งมือ : แบบทดสอบ 3.เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : บอกความหมาย Hardware ในระบบคอมพิวเตอรไ์ ด้ จะ ได้ 3 คะแนน •จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ข้อที่ 3 อธิบายวิธีการใชโ้ ปรแกรม Disk defragmenter ได้ 1.วธิ ีการประเมนิ : ทดสอบ 2.เครื่องมือ: แบบทดสอบ 3.เกณฑ์การใหค้ ะแนน: บอกหนา้ ที่ และสว่ นประกอบหลักของแผงวงจรหลกั ได้ จะ ได้ 3 คะแนน •จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ข้อท่ี 4 อธิบายวธิ ีการใชโ้ ปรแกรม Action center ได้ 1.วิธีการประเมิน : ทดสอบ 2.เคร่ืองมอื : แบบทดสอบ

3.เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน: อธบิ ายหนา้ ที่หน่วยรับขอ้ มูลได้ จะได้ 3 คะแนน•จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม ขอ้ ท่ี 5 อธบิ ายวิธีการใชโ้ ปรแกรม Administrative tools ได้ 1.วธิ ีการประเมนิ : ทดสอบ 2.เครอ่ื งมือ: แบบทดสอบ 3.เกณฑ์การใหค้ ะแนน: บอกคุณลักษณะทั่วไปของอุปกรณร์ ับขอ้ มลู ได้ จะได้ 3คะแนน•จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ขอ้ ท่ี 6 อธบิ ายวิธกี ารสร้างพาร์ทชิ ั่นใน Windows 7 ได้ 1.วิธกี ารประเมิน : ทดสอบ 2.เครอื่ งมือ : แบบทดสอบ 3.เกณฑ์การให้คะแนน: อธบิ ายหน้าที่หน่วยประมวลผลกลางได้ จะได้ 5 คะแนน

แบบฝึกหดั หนว่ ยที่ 4 การบารงุ รกั ษาอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์จงตอบคาถามต่อไปน้ใิ ห้มใี จความสมบูรณ์1. จงบอกถึงวิธีดูแลรักษา และตรวจสอบเครือ่ งคอมพวิ เตอรเ์ กย่ี วกับการใช้งานฮาร์ดดสิ ก์………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………2. จงบอกถงึ วิธกี ารดแู ลรักษา และตรวจสอบเคร่ืองคอมพวิ เตอรเ์ กยี่ วกบั ระบบไฟฟ้า………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………3. จงบอกถงึ วิธกี ารดูแลรักษา และตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์ใหป้ ลอดภยั จากไวรสั………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………4. จงอธิบายวธิ ีการใชโ้ ปรแกรม Disk Cleanup………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………5. จงอธบิ ายวิธีการใช้โปรแกรม Disk defragmenter………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………6. จงอธิบายวธิ ีการใชโ้ ปรแกรม Action center………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………7. จงอธบิ ายวิธกี ารใช้โปรแกรม Administrative tools………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………8. จงอธบิ ายวธิ ีการแบง่ พาร์ทชิ ั่นใน Windows 7………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

9. จงบอกวิธกี ารปิดเครื่องคอมพวิ เตอรท์ ีถ่ กู ต้อง………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………10. จงบอกถงึ โปรแกรมดูแลรักษา และตรวจสอบเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ ทนี่ ักเรยี นรจู้ ักนอกเหนอื จากที่เรียนมาแล้ว………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แบบประเมนิ ผลการนาเสนอผลงาน ชื่อกล่มุ ………………………………………………………………………ช้ัน………………………หอ้ ง................รายชอื่ สมาชิก 1……………………………………………………………….……………………………………………………………………เลขท…ี่ …..…. 2……………………………………………………………….……………………………………………………………………เลขท…ี่ …..…. 3……………………………………………………………….……………………………………………………………………เลขท…่ี …..…. 4……………………………………………………………….……………………………………………………………………เลขท…่ี …..….ท่ี รายการประเมนิ คะแนน ขอ้ คิดเหน็1 ความรู้เกย่ี วกบั เนื้อหา ความถกู ต้อง ปฏิภาณในการตอบ และการแก้ไข 32 1 ปญั หาเฉพาะหนา้2 รปู แบบการนาํ เสนอ3 การมสี ่วนร่วมของสมาชิกในกลุม่4 บุคลกิ ลักษณะ กริ ยิ า ทา่ ทางในการพูด นา้ํ เสียง ซึ่งทาํ ใหผ้ ู้ฟงั มีความ สนใจ รวมผูป้ ระเมนิ …………………………………………………เกณฑก์ ารให้คะแนน1. เนอ้ื หาสาระครอบคลุมชัดเจนถกู ตอ้ ง 3 คะแนน = มสี าระสาํ คัญครบถ้วนถกู ต้อง ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระสาํ คญั ไม่ครบถ้วน แตต่ รงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระสําคัญไมถ่ ูกตอ้ ง ไมต่ รงตามจดุ ประสงค์2. รปู แบบการนําเสนอ 3 คะแนน = มีรูปแบบการนําเสนอท่ีเหมาะสม มีการใช้เทคนิคที่แปลกใหม่ ใช้ส่ือและเทคโนโลยี ประกอบการ นาํ เสนอทน่ี า่ สนใจนําวัสดใุ นท้องถน่ิ มาประยกุ ตใ์ ช้อยา่ งคุ้มคา่ และประหยัด 2 คะแนน = มีเทคนคิ การนาํ เสนอท่แี ปลกใหม่ ใช้สอื่ และเทคโนโลยีประกอบการนําเสนอท่ีนา่ สน ใจแต่ ขาดการประยุกตใ์ ช้ วสั ดใุ นท้องถ่นิ 1 คะแนน = เทคนคิ การนาํ เสนอไมเ่ หมาะสม และไม่น่าสนใจ3. การมีส่วนร่วมของสมาชกิ ในกลมุ่ 3 คะแนน = สมาชกิ ทกุ คนมีบทบาทและมสี ่วนรว่ มกิจกรรมกลุ่ม 2 คะแนน = สมาชกิ ส่วนใหญม่ ีบทบาทและมสี ว่ นรว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 1 คะแนน = สมาชกิ สว่ นน้อยมีบทบาทและมีส่วนรว่ มกิจกรรมกลุม่4. ความสนใจของผู้ฟัง 3 คะแนน = ผฟู้ ังมากกวา่ รอ้ ยละ 90 สนใจ และให้ความรว่ มมอื 2 คะแนน = ผู้ฟงั รอ้ ยละ 70-90 สนใจ และให้ความรว่ มมือ 1 คะแนน = ผ้ฟู ังนอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 70 สนใจ และใหค้ วามร่วมมือ

บนั ทึกหลังการสอน หน่วยท่ี 4 การบารงุ รักษาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ผลการใช้แผนการเรียนรู้ 1. เน้ือหาสอดคลอ้ งกับจุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม 2. สามารถนาํ ไปใชป้ ฏบิ ัติการสอนไดค้ รบตามกระบวนการเรียนการสอน 3. เวลาทกี่ ําหนดไว้ในแผนการสอนมีความเหมาะสมผลการเรยี นของนักเรียน 1. นกั ศกึ ษาส่วนใหญ่มีความสนใจใฝร่ ู้ เขา้ ใจในบทเรยี น อภปิ รายตอบคําถามในกลมุ่ และ รว่ มกนั ปฏบิ ตั ใิ บงานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 2. นกั ศกึ ษากระตอื รือรน้ และรบั ผิดชอบในการทํางานกลุ่มเพ่อื ใหง้ านสาํ เรจ็ ทนั เวลาท่ี กาํ หนด 3. นกั ศกึ ษาเลอื กสามารถนาํ ความรู้ไปใชไ้ ดจ้ รงิ ในชีวิตประจาํ วนัผลการสอนของครู 1. สอนเนอื้ หาได้ครบตามหลักสูตร 2. แผนการสอนและวิธีการสอนครอบคลุมเน้ือหาการสอนทําให้ผสู้ อนสอนไดอ้ ย่างมนั่ ใจ 3. สอนได้ทนั ตามเวลาที่กาํ หนดลงชือ่ ............................................... ลงชือ่ ....................................................... (นายวเิ ศษ ฟองตา) (ว่าที่ร้อยตรสี มพงษ์ ตระการศุภกร) รองผู้อํานวยการฝ่ายวิชาการ ครูผสู้ อน

แผนการสอน/แผนการเรยี นรภู้ าคทฤษฎีแผนการสอน/การเรียนรูภ้ าคทฤษฎี หนว่ ยท่ี 5ชือ่ วิชา คอมพวิ เตอร์และการบาํ รุงรักษา สัปดาห์ท่ี 10-11ชอื่ หน่วย การตรวจและกาํ จดั ไวรสั 8 ชั่วโมงชื่อเรื่อง การตรวจและกําจัดไวรสัหัวข้อเรื่อง ดา้ นความรู้ 1. ไวรัสคอมพวิ เตอร์ 2. การปอ้ งกนั ไวรสั คอมพิวเตอร์ 3. การกําจัดไวรัสคอมพิวเตอร์ 4. การใชโ้ ปรแกรม MS Security Essentials ดา้ นทกั ษะ 1. ใชโ้ ปรแกรมตรวจและกําจดั ไวรัสคอมพิวเตอร์ ด้านคุณธรรม จริยธรรม 1.ปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง รอบคอบ 2.ส่งงานตรงตามเวลาท่ีกําหนด 3.มีความซอ่ื สัตย์ อดทน ไม่คดั ลอกผลงานผ้อู ่ืน 4.ใช้เวลาอยา่ งเหมาะสมกับงานทปี่ ฏบิ ัติสาระสาคญั ไวรัสคอมพิวเตอร์ (Computer Virus) เป็นการเรียกช่ือเลียนแบบไวรัสท่ีเป็นส่ิงมีชีวิตท่ีหมายถึงโปรแกรมชนิดหนง่ึ ทมี่ ีความสามารถในการสําเนาตวั เองเข้าไปติดอย่ใู นระบบคอมพิวเตอร์ได้และถา้ มีโอกาสก็สามารถแทรกเขา้ ไประบาดในระบบคอมพิวเตอร์อ่นื การป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ และการกําจัดไวรัสออกจากเคร่ืองคอมพิวเตอร์ เพ่ือให้คอมพิวเตอร์สามารถกลบั มาใช้งานไดเ้ ป็นปกตนิ ัน้ จะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนวา่ เครอ่ื งนนั้ ติดไวรัสจริงหรือไม่ ด้วยการใช้โปรแกรมเพื่อตรวจหาและทําลายไวรัส และควรคัดลอกหรือสํารองข้อมูลหรือโปรแกรมท่ีติดไวรัสเสียก่อนท่ีจะกําจัดไวรัส เพ่ือการรักษาข้อมูลให้ยังคงสามารถใช้งานได้อยู่ โดยเน้ือหาในหนว่ ยนีจ้ ะกลา่ วถึงการตรวจและกําจดั ไวรสั ด้วยโปรแกรม MS Security Essentialsสมรรถนะอาชพี ประจาหนว่ ย 1. แสดงความร้เู ก่ียวกับการกาํ จดั ไวรัสคอมพิวเตอร์ 2. ใชโ้ ปรแกรมตรวจและกําจดั ไวรัสคอมพิวเตอร์จุดประสงคก์ ารสอน/การเรยี นรู้

• จุดประสงคท์ ั่วไป / บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง 1.เพ่ือใหม้ คี วามร้พู ้นื ฐานเก่ียวการตรวจและกําจดั ไวรัส และมที ศั นคตทิ ่ดี ี (ด้านความรู)้ 2.เพอื่ ใหม้ ีทกั ษะการใชโ้ ปรแกรมตรวจและกําจดั ไวรัสคอมพวิ เตอร์ (ดา้ นทักษะ) 3.เพ่ือให้มีเจตคติที่ดีต่อการเตรียมความพร้อมด้านวัสดุ อุปกรณ์ และการปฏิบัติงานอย่างถูกต้อง สําเร็จภายในเวลาท่ีกําหนด มีเหตุและผลตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ด้านคุณธรรม จริยธรรม) •จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม / บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง 1. บอกความหมายของไวรัสคอมพิวเตอร์ ได้ (ดา้ นความรู)้ 2. บอกถึงวิธีการป้องกันไวรัสคอมพวิ เตอร์ ได้ (ดา้ นความร)ู้ 3. บอกถึงวิธีการกาํ จัดไวรสั คอมพิวเตอร์ ได้ (ด้านความรู้) 4. อธิบายการใช้โปรแกรม MS Security Essentials ได้ (ด้านความรู้) 5. การเตรียมความพร้อมด้านการเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ ผู้เรียนจะต้องกระจายงานได้ท่ัวถึงและตรงตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจัดเตรียมสถานท่ี สื่อ วัสดุ อุปกรณ์ไวอ้ ยา่ งพร้อมเพรยี ง (ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม/บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง) 6. ความมีเหตุมีผลในการปฏิบัตงิ าน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผเู้ รยี นจะต้องมีการใช้หลักการเรียนรู้และเวลาที่เหมาะสมกับการเรียนรู้ (ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง)เน้อื หาสาระการสอน/การเรยี นรู้• ดา้ นความรู้ (ทฤษฎี) โปรแกรมหรือซอฟท์แวร์อีกประเภทหนึ่งที่สร้างความเสียหายให้กับคอมพิวเตอร์ ทําให้ไม่สามารถใช้งานได้ หรือทําลายข้อมูลที่มีค่าของเรา เรียกว่าไวรสั คอมพวิ เตอร์ เราจึงต้องเรียนรวู้ ิธกี ารตรวจและกาํ จดั ไวรัสเหลา่ นนั้ เพ่อื ป้องกันขอ้ มูลในคอมพิวเตอร์1. ไวรสั คอมพวิ เตอร์ (จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมข้อที่ 1) ไวรัสคอมพิวเตอร์ (Computer Virus) เป็นการเรียกช่ือเลียนแบบไวรัสท่ีเป็นสิ่งมีชีวิต ซึ่งหมายถึงโปรแกรมชนิดหนึ่งท่มี ีความสามารถในการสําเนาตัวเองเข้าไปติดอย่ใู นระบบคอมพิวเตอร์ได้และสามารถแทรกเข้าไประบาดในเคร่ืองคอมพวิ เตอร์อืน่ ซ่งึ อาจเกิดจากการนาํ เอาสื่อบันทึกข้อมูลที่ติดไวรัสจากเครื่องหนึ่งไปใช้อีกเคร่ืองหนึง่ หรือติดต่อผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งส่วนมากไวรัสคอมพวิ เตอร์มกั จะประสงค์ร้ายและสร้างความเสยี หายใหก้ บั เครอ่ื งคอมพิวเตอร์แทบทั้งส้ินไวรัสคอมพิวเตอร์ เปน็ โปรแกรมประเภทมัลแวร์ (Malware) หรือโปรแกรมประสงค์ร้าย โดยท่ัวไปจะไม่ส่งผลก่อให้เกิดความเสียหายต่อฮาร์ดแวร์โดยตรง แต่จะทําความเสียหายต่อซอฟต์แวร์ ซึ่งในปัจจุบันการกระจายตัวของไวรสั จะอาศัยบริการเครือข่ายบนเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ เช่น www, e-Mailและระบบแฟ้มข้อมลู ที่ใชร้ ว่ มกนั มีลักษณะต่างๆ ดงั น้ี 1) Boot Sector Virus เป็นไวรัสที่เก็บตัวเองอยู่ใน Boot Sector ของดิสก์ เม่ือเคร่ืองคอมพิวเตอร์เริ่มทํางานและเข้าไปอ่าน Boot Sector ที่มีโปรแกรมเล็กๆ ไว้ใช้เรียกระบบปฏิบัติการขนึ้ มาทํางานอกี ทหี นง่ึ Boot Sector Viruses จะเข้าไปแทนท่โี ปรแกรมดังกลา่ วทันที

2) Program Virus หรอื File Virus เป็นไวรัสท่ตี ดิ อยู่กับโปรแกรมหรือไฟล์ ดว้ ยการแทรกตวัเข้าไปอยู่ในโปรแกรม หลังจากนั้นโปรแกรมจะมีขนาดใหญ่ข้ึน หรืออาจมีการสําเนาตัวเองเข้าไปทับส่วนต่างๆ ของโปรแกรมที่มีอยู่เดิม ทําให้ขนาดของโปรแกรมไม่เปล่ียนแปลง เมื่อเปิดใช้โปรแกรมที่ตดิ ไวรัสอยู่ ตัวไวรสั จะเขา้ ไปหาโปรแกรมตวั อ่ืนทอ่ี ย่ใู นดิสกเ์ พอื่ ทําสําเนาตัวเองลงไปทันที 3) Worm เป็นโปรแกรมไวรัสที่แพร่กระจายผ่านเครือข่ายไปยังคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เครื่องตา่ งๆ ที่เช่อื มตอ่ อยู่บนเครอื ขา่ ยดว้ ยกัน ลักษณะการแพร่กระจายคลา้ ยตัวหนอนที่เจาะไชไปยังเครือ่ งคอมพิวเตอร์ตา่ งๆ กระจายตัวด้วยการคัดลอกตวั เองออกเปน็ หลายๆ โปรแกรม และสง่ ตอ่ ผ่านเครือขา่ ยออกไป และสามารถแพรก่ ระจายผา่ นทางอีเมลไ์ ด้ดว้ ย 4) Trojan เป็นโปรแกรมท่แี อบแฝงเพือ่ กระทําการบางอย่างในเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ จากผ้ทู ่ไี ม่หวังดี ชื่อเรยี กของโปรแกรม Trojan นม้ี าจากตาํ นานม้าไม้แห่งเมืองทรอย ซง่ึ การติดน้ันไมเ่ หมอื นกับไวรัสและหนอนทจ่ี ะกระจายตัวได้ด้วยตวั มนั เอง แตโ่ ทรจนั จะถกู แนบมากับอเี มล์หรือโปรแกรมท่ีมีให้ดาวน์โหลดตามอินเทอรเ์ นต็ ในเว็บไซต์ 5) Polymorphic Virus เปน็ ช่อื เรยี กไวรัสทีม่ คี วามสามารถในการเปล่ียนตวั เองได้ เมอื่ มกี ารสร้างสําเนาตัวเองเกิดข้ึนซ่ึงอาจเปล่ียนได้ถึงหลายร้อยรูปแบบ ทําให้ไวรัสเหล่านี้ยากต่อการถูกตรวจจับ โดยโปรแกรมตรวจหาไวรัสทใ่ี ช้วธิ กี ารสแกนอย่างเดยี ว 6) Stealth Virus เป็นชอื่ เรียกไวรัสท่ีมีความสามารถในการพรางตวั ตอ่ การตรวจจับได้ ไวรสัประเภทท่ไี ปติดโปรแกรมใดแลว้ จะทาํ ใหข้ นาดของโปรแกรมนน้ั ใหญข่ น้ึ และไม่สามารถตรวจดูขนาดที่แทจ้ ริงของโปรแกรมที่เพมิ่ ขน้ึ ได้2. การป้องกันไวรัสคอมพวิ เตอร์ (จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรมขอ้ ท่ี 2) การป้องกนั ไวรัสคอมพวิ เตอร์ไม่ให้ติดต่อและสร้างความเสียหายให้กับเคร่อื งคอมพิวเตอร์ได้มเี ทคนิคและการป้องกันหลายวธิ ี เชน่ 1) การสํารองข้อมูล เป็นวิธีการที่ดีเพ่ือลดความเส่ียงต่อการติดไวรัสของข้อมูลแล้วทําให้ข้อมูลเหล่าน้ันเสียหาย ถึงแม้ข้อมูลถูกไวรัสทําลายเสียหายแต่ยังมีข้อมูลสํารองที่สามารถทดแทนได้อยู่ หรอื ใช้วิธสี ร้างแผ่นบตู Emergency disk หรอื Rescue disk เพ่ือใช้ในการกขู้ อ้ มลู และกําจัดไวรัสออกจากเคร่อื งจนทาํ ใหบ้ ตู เครอื่ งได้ตามปกติ 2) การใช้งานซอฟท์แวร์หรอื โปรแกรมต่างๆ ต้องตรวจสอบแหล่งที่มาหรือลิขสิทธ์ิเพ่ือความแนใ่ จกอ่ นนาํ ไปใช้ เพอื่ ป้องกันภยั คกุ คามจากภายนอกโดยผ่านทางซอฟต์แวร์ท่เี ราใช้งาน 3) ตรวจสอบฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์อย่างสม่ําเสมอ เพ่ือสํารวจส่ิงผิดปกติต่างๆ เช่นการทาํ งานที่ชา้ ลง ขนาดไฟลท์ ี่เปลยี่ นแปลงไป หนา้ จอแสดงผลผิดปกติ หรอื ไดรฟ์มเี สยี งผิดปกติ 4) ไม่ควรใช้ส่ือบันทึกข้อมูลกับเคร่ืองหลายๆ เครื่อง หรือใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่รู้จัก หรือเคร่ืองท่ีมีความเสี่ยง โดยเฉพาะการแชร์ไฟล์ ควรจะแชร์ไฟล์เป็นประเภทอ่านอย่างเดียวและควรตั้งรหสั ผา่ นด้วย 5) ใช้โปรแกรมป้องกันและกําจัดไวรัส โดยเลือกใช้โปรแกรมป้องกันและกําจัดไวรัสที่เหมาะสมกับความสามารถของเครื่องคอมพิวเตอร์หรือตามท่ีองค์กรกําหนด โดยจะต้องปรับปรุงฐานข้อมูลไวรสั (Update) ทุกวันหรืออย่างนอ้ ยอาทิตย์ละคร้ัง เน่ืองจากไวรัสคอมพิวเตอร์ถูกพัฒนาออกมาใหม่ทุกวัน ดังนั้นจึงควรที่จะต้องทําให้โปรแกรมป้องกันและกําจัดไวรัสรู้จักไวรัสชนิดใหม่ๆดว้ ย และต้องกาํ หนดให้โปรแกรมทําการป้องกนั แบบอัตโนมตั ิด้วย ส่วนการใชง้ านควรจะใชโ้ ปรแกรม

ปอ้ งกันและกําจัดไวรัสตรวจหาไวรสั ทุกสัปดาห์ โดยการสแกนหาทัง้ ระบบ ซงึ่ อาจจะกาํ หนดให้เป็นทุกเย็นของวันศกุ ร์กอ่ นกลับบา้ น หรือในชว่ งเวลาพักเทยี่ งของทกุ วันกไ็ ด้ 6) ติดตามข่าวสาร เนื่องจากมีไวรัสคอมพิวเตอร์ออกมาใหม่เป็นจํานวนมาก ดังน้ันการรับรู้ข้อมูลข่าวสารท่ีรวดเร็วและหาทางป้องกันจึงนับเป็นหนทางท่ีดีท่ีสุดวิธีหนึ่งในการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้ทั่วไปหรือแมก้ ระท่ังผู้ดูแลระบบเอง จึงควรท่ีจะหาช่องทางในการรบั รู้ข่าวสารเกีย่ วกบั ไวรัสคอมพวิ เตอร์และขา่ วสารเกย่ี วกับความมนั่ คงปลอดภยั ทางคอมพิวเตอร์ดว้ ย3. การกาจดั ไวรัสคอมพวิ เตอร์ (จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมขอ้ ท่ี 3) การกาํ จัดไวรัสออกจากเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ เพือ่ ให้คอมพิวเตอร์สามารถกลับมาใชง้ านได้เป็นปกติน้ัน จะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเคร่ืองน้ันติดไวรัสจริง ด้วยการใช้โปรแกรมเพ่ือตรวจหาและทาํ ลายไวรสั และควรจะตอ้ งคัดลอกหรือสํารองข้อมูลหรือโปรแกรมท่ีตดิ ไวรัสเสยี ก่อนที่จะกําจดั ไวรัสเพ่ือการรักษาข้อมูลให้ยังคงสามารถใช้งานได้อยู่ ซ่ึงโปรแกรมป้องกันและกําจัดไวรัสในปัจจุบันมอี ยู่หลายแบบหลายชนิดมีทั้งฟรีและมีค่าใช้จ่าย โปรแกรมป้องกันและกําจัดไวรัสแบบใช้ฟรีส่วนใหญ่ความสามารถในการกําจัดไวรัสจะไม่เทียบเท่าแบบมีค่าใช้จ่ายแน่นอน เช่นอาจจะใช้วิธีการกักเก็บไวรสั ไม่ให้แพร่กระจายหรอื ไปทาํ ลายซอฟทแ์ วร์ โดยไม่สามารถกาํ จดั ออกได้ การสํารองข้อมูล เป็นวิธีการหน่ึงท่ีช่วยป้องกันความเสียหายของข้อมูล เน่ืองจากการใช้โปรแกรมป้องกันและกําจัดไวรัสออกไป โปรแกรมหรือข้อมูลนัน้ อาจจะไม่สามารถทํางานได้ตามปกติหรือทํางานไม่ได้ วิธกี ารตรวจข้ันตน้ ให้ลองเปรยี บเทียบขนาดของโปรแกรมหลงั จากทถี่ กู กําจัดไวรัสไปแล้วกับขนาดเดิม ถ้ามีขนาดน้อยกว่าแสดงว่าโปรแกรมนั้นไม่สมบูรณ์ ให้นําโปรแกรมท่ีติดไวรัสที่สาํ รองไว้ไปหาโปรแกรมปอ้ งกันและกําจัดไวรัสตวั อ่นื มาใช้แทน และถ้าการใช้โปรแกรมตรวจหาไม่พบไวรัสในโปรแกรมใดๆ อยู่ให้ทดลองเปิดโปรแกรมน้ันข้ึนมาทดสอบการทํางานอย่างละเอียดว่าเป็นปกติดีอย่หู รือไม่ โปรแกรมปอ้ งกันและกาํ จดั ไวรัส (Anti-virus Software) เป็นโปรแกรมที่ใชใ้ นการตรวจสอบสื่อบันทึกข้อมูลและหน่วยความจําเพ่อื ตรวจหาไวรัส โดยโปรแกรมจะแจ้งให้ผู้ใช้ทราบหากตรวจพบพฤติกรรมของไวรัสและบางโปรแกรมจะทําลายไวรัสให้ทันที ดังตัวอย่างโปรแกรมตรวจและกําจัดไวรสั ต่อไปน้ี 1. Microsoft Security Essentials โปรแกรมปอ้ งกันและกาํ จัดไวรัสฟรีจากค่าย Microsoftและเป็นโปรแกรมป้องกันและกําจัดไวรัสยอดนิยม เพราะเป็นฟรีแวร์ที่แจกฟรีไม่มีข้อผูกมัด มีคุณสมบัติต่างๆ ครบถ้วน สามารถปกป้องคอมพิวเตอร์จากไวรัส สปายแวร์ มัลแวร์และอ่ืนๆ ท่ีเป็นอนั ตรายดว้ ยการรกั ษาความปลอดภัยและการทํางานท่ีมีประสทิ ธิภาพ 2. avast Free Antivirus โปรแกรมป้องกันและกําจัดไวรัสจากค่าย avast เป็นโปรแกรมท่ีได้รับความนิยมจากผู้ใช้งาน มีรปู แบบการใช้งานที่ครบถว้ น สามารถปอ้ งกนั ไวรัสพร้อมเครือ่ งมอื ตา่ งๆป้องกันสปายแวร์ และป้องกันคอมพิวเตอร์จากภัยคุกคามท่ีมาจากอินเทอร์เน็ต ไฟล์ และอีเมล์ เป็นตน้ 3. AVG Anti-Virus Free เป็นโปรแกรมป้องกันและกําจัดไวรัสท่ีมีเครื่องมือป้องกันไวรัส,สปายแวร์, อเี มลสแกนเนอร์ มรี ปู แบบการใชง้ านพ้นื ฐาน และมีการสแกนไวรสั อัตโนมัติ

4. Bit defender เปน็ โปรแกรมปอ้ งกนั และกาํ จดั ไวรสั ที่มีคุณสมบัติครอบคลุมและทาํ งานได้ดี มีโปรแกรม Bit defender Antivirus Free Edition เป็นโปรแกรมป้องกันและกําจัดไวรัสแบบฟรีแวร์ ทีม่ คี ณุ สมบตั กิ ารทาํ งานและป้องกันไวรสั ข้นั พน้ื ฐานและมปี ระสิทธิภาพป้องกันในระดบั หนงึ่ 5. Avira Free Antivirus หรือท่ีรู้จักกันในช่ือร่มแดง เนื่องจากโปรแกรมนี้ใช้สัญลักษณ์ร่มสีแดง และถือวา่ เป็นโปรแกรมป้องกันและกาํ จัดไวรัสท่ีนิยมใช้งานกนั อยา่ งแพรห่ ลาย ด้วยประสทิ ธิภาพการทํางานและเทคโนโลยีช้นั สงู พร้อมความสามารถปอ้ งกนั ไวรัสได้มากกว่า 300,000 ชนดิ และมีการอัพเดทข้อมูลอยู่ตลอดเวลา การใช้งานที่ง่ายรวมไปถึงใช้ทรัพยากรของคอมพิวเตอร์น้อย เหมาะสาํ หรับผใู้ ช้งานทีม่ ีคอมพวิ เตอรร์ ุน่ เก่าๆ 6. Comodo Antivirus เป็นโปรแกรมป้องกันและกําจัดไวรัสที่มีคุณภาพ นอกจากน้ียังมีComodo Antivirus Free เป็นโปรแกรมฟรแี วร์ท่ีมีคุณภาพและคุณสมบัติการป้องกนั ไวรัส ไม่ว่าจะเปน็ ไวรัส โทรจนั สปายแวร์ และ Firewall ท่แี ข็งแกรง่ การรกั ษาความปลอดภยั ทแ่ี ขง็ แรง 7. Immunet FREE Antivirus เป็นโปรแกรมป้องกันและกําจัดไวรัสทํางานแบบ Cloudbased เหมือนกับ Panda Cloud Antivirus และ King soft Antivirus สําหรับ Immunet FreeAntivirus สามารถปกป้องคอมพิวเตอร์จากบอท เวิร์ม ไวรัส โทรจัน key loggers และสปายแวร์ข้อดีของโปรแกรมป้องกันและกาํ จดั ไวรสั แบบ Cloud ไม่กนิ ทรัพยากรเครื่องและมกี ารอพั เดทรวดเร็วแต่ตอ้ งเช่ือมต่อกบั อินเทอรเ์ น็ตตลอดเวลา 8. King soft Antivirus เป็นโปรแกรมป้องกันและกําจัดไวรัสทํางานแบบ Cloud basedความสามารถปอ้ งกันไวรสั มลั แวร์ ตรวจสอบไฟลท์ ่ีดาวนโ์ หลดจากโปรแกรมต่างๆ รวมไปถงึ เครอื่ งมอืปรบั แตง่ ตา่ งๆ 9. Panda Cloud Antivirus Free เป็นโปรแกรมป้องกันและกําจัดไวรัสทํางานแบบ Cloudbased สามารถปกปอ้ งคอมพวิ เตอร์จากบอท เวิร์ม ไวรัส โทรจัน key logger สปายแวรแ์ ละแอดแวร์เปน็ ตน้ 10. Rising Antivirus Free Edition เป็นโปรแกรมป้องกันและกําจัดไวรัสฟรีจากผู้ผลิตโปรแกรมป้องกันและกําจัดไวรัสรายใหญ่ที่สุดจากจีน สามารถป้องกันไวรัส โทรจัน หนอน และโปรแกรมทเ่ี ป็นอันตรายอืน่ ๆ พร้อมการปอ้ งกนั พืน้ ฐาน4. การใช้โปรแกรม MS Security Essentials (จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมขอ้ ที่ 4) Microsoft Security Essentials เป็นโปรแกรมป้องกันและกําจัดไวรัสคอมพิวเตอร์ท่ีให้บริการฟรีสําหรับเคร่ืองคอมพิวเตอร์บนระบบปฏิบัติการ Windows XP (Service Pack 3)Windows Vista, Windows 7 และ Windows 8 สามารถปกป้องเครือ่ งคอมพวิ เตอร์จากไวรัส สปายแวร์ และซอฟตแ์ วรท์ ่ีเป็นอันตรายอ่ืนๆ โดยทโี่ ปรแกรมจะทาํ งานตลอดเวลาขณะที่เราใช้คอมพวิ เตอร์และจะตรวจหาการปรับปรุงฐานข้อมูลไวรัสต่างๆ จากอินเทอร์เน็ตทุกวัน โปรแกรมจะสแกนคอมพิวเตอร์ตรวจหาซอฟต์แวร์ท่ีเป็นอันตรายต่างๆ และปิดก้ันการคุกคามตามที่ได้กําหนดค่าไว้โดยรวมแลว้ โปรแกรม Microsoft Security Essentials มคี ณุ สมบัตติ า่ งๆ ดงั นี้ 1) การป้องกันแบบ Real time หมายถึงการแจ้งเตือนเมื่อสปายแวร์ ไวรัส หรือซอฟต์แวรท์ ่ีเปน็ อันตรายพยายามจะทํางานหรอื ติดตั้งในเครือ่ งคอมพิวเตอร์ รวมถึงโปรแกรมและแฟ้มทนี่ ่าสงสัย 2) การสแกนระบบ ซึ่งสามารถสแกนท้ังระบบท่ีมีตัวเลือกการสแกนตามกําหนดเวลาและตามความต้องการ 3 รปู แบบคือ

• การสแกนแบบเร่งด่วน โดยจะตรวจสอบส่วนที่มักจะติดมัลแวร์อย่างรวดเร็วรวมถงึ โปรแกรมท่เี รยี กใชใ้ นหน่วยความจาํ แฟม้ ระบบ และคา่ รีจิสทรี • การสแกนท้งั หมด โดยจะสแกนแฟ้มท้งั หมดบนเครือ่ งคอมพิวเตอร์ คา่ รีจิสทรี และโปรแกรมทง้ั หมดทกี่ ําลงั ทาํ งานอยู่ • การสแกนแบบกําหนดเอง สามารถสแกนเฉพาะส่วนท่เี ลือกได้ 3) การรวมระบบเข้ากับ Windows Firewall ที่เปิดใช้งานเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาความปลอดภัยในการใช้งานคอมพิวเตอร์ ซึ่งในระหว่างการติดต้ังโปรแกรม Microsoft SecurityEssentials จะมีกระบวนการสแกนคอมพิวเตอร์ เพื่อตรวจสอบว่าไฟร์วอลล์ทํางานบนคอมพิวเตอร์หรือไม่ 4) การป้องกันการคุกคามและซอฟต์แวร์ที่ไม่ปลอดภัย และเก็บรายชื่อการดาวน์โหลดและเว็บไซต์ยอดนิยมไว้บนอินเทอร์เน็ต เพ่ือใช้ในการทดสอบข้อกําหนดและการปรับปรุงการปอ้ งกนั มัลแวรข์ องเรา กอ่ นทจ่ี ะดาวนโ์ หลดและใชง้ านเวบ็ ไซต์ 5) การสแกนไดร์ฟอ่นื นอกเหนือจากฮาร์ดไดรฟ์ เราสามารถสแกนไดรฟภ์ ายนอกและ USBDrive ท่ีเสียหายเน่ืองจากติดไวรัสได้เช่นเดียวกัน และสามารถส่ังให้สแกนอัตโนมัติเม่ือมีการเสียบไดรฟ์ภายนอก ทําให้การใชง้ านคอมพวิ เตอรม์ ีความปลอดภัยมากยิง่ ขึน้ การตดิ ตั้งโปรแกรม 4.1Microsoft Security Essentials โปรแกรม Microsoft Security Essentials สามารถดาวน์โหลดและการติดตั้งได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยเข้าไปท่ี http://windows.microsoft.com/th-th/windows/security-essentials-download แล้วคลิกปมุ่ ดาวน์โหลดทนั ที สถานะความปลอดภยั ของ 4.2Microsoft Security Essentials โปรแกรม Microsoft Security Essentials จะใช้ไอคอนใน Task Bar แสดงสถานะความปลอดภัยด้วยสัญลักษณ์สีต่างๆ และเม่ือคอมพิวเตอร์มีปัญหา รูปลักษณ์ของ Microsoft SecurityEssentials จะเปลี่ยนแปลงตามปัญหา รวมท้ังหน้าต่างโปรแกรมจะเปล่ียนสีข้ึนอยู่กับสถานการณ์ดังนี้ ไอคอนสีเขียว หมายถึงสถานะความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ โปรแกรมได้รับการอัพเดทแล้ว และทํางานตลอดเวลา เพ่ือช่วยป้องกันคอมพิวเตอร์จากภัยคุกคามท่ีเป็นอันตรายจากมัลแวรแ์ ละอืน่ ๆ ไอคอนสีเหลือง หมายถึงสถานะท่ีอาจจะไม่มีการป้องกัน ควรดําเนินการบางอย่างเช่นเปดิ การป้องกนั แบบ real-time ใชก้ ารสแกนระบบหรอื สแกนสอื่ ทเ่ี ปน็ ภยั คกุ คาม ไอคอนสีแดง หมายถึงคอมพิวเตอร์มีความเสี่ยงและเป็นภัยคุกคามที่รุนแรง ควรดาํ เนนิ การตามคําแนะนาํ ทําความสะอาดไฟลท์ ี่ตรวจพบแลว้ สแกนซอฟตแ์ วร์ท่เี ปน็ อนั ตรายเพ่ิมเติม 4.3 การใช้งานโปรแกรม Microsoft Security Essentials โปรแกรม Microsoft Security Essentials เปน็ โปรแกรมป้องกันและกาํ จัดไวรสั ท่ใี ชง้ ่าย ที่ทาํ งานตลอดเวลา มีสว่ นประกอบต่างๆ ของโปรแกรมไมซ่ บั ซ้อน ซ่งึ ประกอบไปดว้ ย 4 ส่วน ดงั น้ี 1) แทบ็ หน้าแรก เป็นสว่ นแสดงรายงานต่างๆ เช่น มกี ารอัพเดทฐานข้อมลู ไวรัสหรอื ไม่ มีการสแกนล่าสดุ เมื่อใด และรปู แบบการส่งั สแกนไวรสั แบบต่างๆ เชน่ - เร็ว หมายถงึ การสแกนไวรสั เฉพาะไฟล์ท่ีจําเป็นของระบบ Windows - เตม็ หมายถงึ สแกนไวรัสทุกไฟล์ทุก Folder ในเครอ่ื งคอมพิวเตอร์

- กาํ หนดเอง หมายถงึ การสแกนไวรสั เฉพาะไฟล์หรอื Folder ท่เี รากําหนดl 2) แท็บปรับปรุง เป็นเมนูคําสั่งเหมือนกับโปรแกรมป้องกันและกําจัดไวรัสอื่นๆ ที่ต้องมกี ารอัพเดท ซึ่งสว่ นนีจ้ ะแสดงเวอร์ชนั่ ของการปอ้ งกนั ไวรัสและสปายแวร์ พรอ้ มทง้ั แสดงวันเวลาการอัพเดทล่าสุด และสามารถสั่งอัพเดทไดท้ นั ทีโดยคลิกปุม่ ปรบั ปรุง 3) แท็บประวัติ แสดงประวัติการตรวจพบไรวรัส มัลแวร์ สปายแวร์หรืออื่นๆ ท่ีโปรแกรมแจ้งเตือนว่าไมป่ ลอดภัย พร้อมท้ังแสดงข้อมูลคร่าวๆ ของไวรัสที่ตรวจพบว่าทํางานอยา่ งไรมีระดับความอันตรายระดบั ใด เปน็ ต้น 4) แท็บการตัง้ ค่า สว่ นนีเ้ ปน็ การตัง้ ค่าการใช้งานโปรแกรม เช่น การกําหนดเวลาสแกน การกําหนดสแกน flash drive การต้ังคา่ เร่มิ ตน้ เปน็ ต้น การถอนการตดิ ตั้งโปรแกรม 4.4 นอกจากการใช้งานตามปกติแล้ว เม่ือต้องการถอนการติดต้ังโปรแกรมตามจุดประสงค์การใช้งานใดๆ ก็ตาม สามารถทําได้โดยเปิดหนา้ ต่าง Uninstall or change a programโดยคลิก Start / Control panel แล้วคลิกเลือก Uninstall a program แล้วคลิกเลือกโปรแกรมท่ีต้องการ แลว้ คลิกคําส่งั Uninstall• ดา้ นทักษะ (ปฏบิ ตั )ิ (จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อท่ี 1-6) 1.แบบฝกึ หดั ทา้ ยบทท่ี 5 2.กจิ กรรมการเรียนรู้• ด้านคุณธรรม/จริยธรรม/จรรยาบรรณ/บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1.การเตรียมความพร้อมด้านวสั ดุ อปุ กรณน์ ักศกึ ษาจะต้องทําความสะอาดห้องเรียนจดั เตรียมอุปกรณ์ในการเรียนรู้ ใหม้ คี วามพรอ้ มเพยี งและเหมาะสมกบั เวลาท่ใี ชใ้ นการเรียน 2.ความมีเหตุมีผลในการปฏบิ ัตงิ าน ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งนกั ศกึ ษาจะต้องมีการใชเ้ ทคนคิ การจดบนั ทึกงาน การสืบคน้ ข้อมลู กอ่ นการเรยี นรแู้ ละหลงั เรียนรู้เพ่ือใหก้ ารเรยี นรู้เหมาะสมกับเวลา คมุ้ ค่าและประหยัด กจิ กรรมการเรียนการสอนหรอื การเรียนรู้ขน้ั ตอนการสอนหรอื กจิ กรรมของครู ขั้นตอนการเรียนรู้หรอื กิจกรรมของนกั เรียน1. ขัน้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น (60 นาท)ี 1. ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรียน (60 นาท)ี1. ผสู้ อนจัดเตรียมเอกสาร 1. ผ้เู รยี นทาํ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น2. ผ้สู อนแจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นของหนว่ ย 2. ผู้เรียนทาํ ความเข้าใจเก่ียวกับจดุ ประสงคก์ ารเรียนท่ี 5 และขอใหผ้ ูเ้ รยี นร่วมกันทาํ กจิ กรรมการเรยี น เรยี นของหน่วยเรียนที่ 5 และการใหค้ วามร่วมมือในการการสอน ทาํ กิจกรรม3. ผสู้ อนใหผ้ ้เู รยี นแสดงความรู้ โดยตงั้ คําถาม 3. ผู้เรยี นแสดงความรู้ว่าการตรวจและกําจดั ไวรัสว่าการตรวจและกาํ จดั ไวรสั มีหลกั การทาํ งานอยา่ งไร มีหลักการอย่างไรพร้อมให้เหตุผลประกอบพร้อมให้เหตุผลประกอบ

2. ข้นั ให้ความรู้ (240 นาท)ี 2. ข้ันใหค้ วามรู้ (240 นาท)ี1. ผสู้ อนทดสอบความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกับ 1. ผ้เู รยี นทําแบบทดสอบกอ่ นเรียนเพือ่ แสดงความรู้เบือ้ งตน้ เก่ยี วกบั การตรวจและกําจัดไวรัส โดย ความรูแ้ ละความเข้าใจกอ่ นการเรยี น เรือ่ งการตรวจและใหผ้ เู้ รียนทาํ แบบทดสอบก่อนเรยี น กาํ จดั ไวรัส ผเู้ รยี นศกึ ษาบทเรียนวิชาคอมพวิ เตอร์และ2. ผสู้ อนอธิบายเนือ้ หาเก่ยี วกบั บทเรยี นวชิ า การบํารุงรักษา หน่วยที่ 5 เร่ืองการตรวจและกาํ จัดไวรสัคอมพวิ เตอรแ์ ละการบาํ รงุ รกั ษา หนว่ ยท่ี 5 เรอ่ื งการ และศกึ ษาเอกสารประกอบการสอน หนว่ ยที่ 5ตรวจและกําจัดไวรัส และให้ผเู้ รียนศกึ ษาเอกสาร 2. ผูเ้ รียนอธิบายหลกั การตรวจและกําจัดไวรสัประกอบการสอน หน่วยที่ 5 ตามทีไ่ ด้ศึกษาจากบทเรียนคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน3. ผูส้ อนและผ้เู รียนร่วมกนั อธิบายการตรวจและกาํ จัดไวรสั ตามท่ไี ด้ศึกษาจากบทเรียนคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน3. ข้นั ประยกุ ต์ใช้ (120 นาท)ี 3. ขนั้ ประยกุ ต์ใช้ (120 นาที) 1. ผูส้ อนให้ผู้เรียนทาํ แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 5 1. ผู้เรียนทาํ แบบฝกึ หัดท้ายบทท่ี 5 2. ผู้สอนให้ผู้เรยี นแบง่ กลุม่ ๆ ละ 5 คน ร่วมกัน 2. ให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่มๆ ละ 5 คน รว่ มกนั ค้นหาค้นหาโปรแกรมปอ้ งกนั ไวรัสคอมพิวเตอร์ จากนนั้ โปรแกรมปอ้ งกันไวรสั คอมพวิ เตอร์ จากนัน้ นํามาศึกษานาํ มาศึกษา ทดลองใช้ แล้วรว่ มกันนําเสนออภิปราย ทดลองใช้ แลว้ ร่วมกนั นาํ เสนออภปิ รายการใชง้ าน และการใชง้ าน และสาธติ การใช้งานในช้นั เรียนนาํ เสนอ สาธิตการใชง้ านในชั้นเรยี นพรอ้ มทัง้ สาธติ การใช้งานในชนั้ เรียน ตวั อย่างโปรแกรม • Avast Free Antivirus • Avira Free Antivirus • AVG Free Antivirus4. ขั้นสรปุ และประเมินผล (60 นาท)ี 4. ข้ันสรุปและประเมนิ ผล (60 นาท)ี1. ผู้สอนและผูเ้ รยี นร่วมกนั สรปุ เนอื้ หาทไี่ ด้ 1. ผสู้ อนและผเู้ รยี นร่วมกันสรุปเน้อื หาทไ่ี ดเ้ รียนเรียนใหม้ คี วามเข้าใจในทิศทางเดียวกัน เพือ่ ให้มีความเข้าใจในทศิ ทางเดียวกัน2. ผู้สอนให้ผู้เรียนศึกษาเพ่มิ เติมนอกห้องเรยี น 2. ผเู้ รียนศึกษาเพม่ิ เตมิ นอกหอ้ งเรียน ดว้ ยดว้ ยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่จดั ทาํ ข้นึ บทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอนทจ่ี ัดทําข้นึ3. ผู้สอนใหผ้ เู้ รยี นทําแบบทดสอบหลังเรยี น 3. ผ้เู รยี นทําแบบทดสอบหลังเรยี น (บรรลจุ ดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมข้อที่ 1-6) (บรรลุจดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมขอ้ ที่ 1-6)(รวม 480 นาที หรือ 8 ชัว่ โมงเรียน)งานทมี่ อบหมายหรือกิจกรรมการวดั ผลและประเมนิ ผล กอ่ นเรียน 1. จัดเตรียมเอกสาร ส่อื การเรียนการสอนหนว่ ยท่ี 5

2. ทําความเข้าใจเกย่ี วกบั จุดประสงค์การเรยี นของหน่วยท่ี 5 และให้ความรว่ มมอื ในการทาํ กจิ กรรมในหน่วยท่ี 5 3. ตอบคําถามก่อนเรียน โดยการถาม – ตอบ หนว่ ยท่ี 5 ขณะเรียน 1.ปฏิบัตติ ามใบความรู้ท่ี 5 เรอื่ งการตรวจและกาํ จัดไวรัส 2. ร่วมกนั สรุป “การตรวจและกําจัดไวรสั ” 3. ร่วมกนั ทํากิจกรรมการเรียนรู้ หลังเรยี น 1.ทําแบบฝกึ หดั ท้ายบทที่ 5 2.ทําแบบประเมนิ การเรยี นรู้ คาถาม 1. จงบอกความหมายของไวรสั คอมพวิ เตอร์ 2. จงอธบิ ายถึงลักษณะของไวรัสประเภท Worm 3. จงอธบิ ายถึงลักษณะของไวรัสประเภท Trojan 4. จงบอกถึงวธิ กี ารปอ้ งกนั ไวรสั คอมพิวเตอร์ จากการรบั ส่งไฟล์ตา่ งๆ 5. จงบอกถงึ วิธกี ารป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ จากการใชโ้ ปรแกรม 6. จงบอกถงึ ความหมายของโปรแกรมประเภท Anti-virus มาพอเขา้ ใจ 7. การสาํ รองขอ้ มูล เปน็ วธิ กี ารหนง่ึ ที่ช่วยป้องกันความเสยี หายของข้อมูลจากไวรสัคอมพวิ เตอร์ ได้อยา่ งไร 8. จงบอกชื่อโปรแกรมปอ้ งกันและกําจัดไวรัสคอมพวิ เตอร์ ที่นักเรียนรู้จักมา 5 โปรแกรม 9. จงบอกถงึ คุณสมบัติของโปรแกรม MS Security Essentials 10. จงบอกถึงขน้ั ตอนการตรวจหาไวรสั ของโปรแกรม MS Security Essentials แบบตามกาํ หนดการผลงาน/ชน้ิ งาน/ความสาเรจ็ ของผเู้ รียน กิจกรรม ให้ผูเ้ รียนแบง่ กลมุ่ ๆ ละ 5 คน ร่วมกนั คน้ หาโปรแกรมปอ้ งกันไวรัสคอมพวิ เตอร์ จากนั้นนาํ มาศกึ ษา ทดลองใช้ แลว้ รว่ มกันนําเสนออภิปรายการใชง้ าน และสาธิตการใชง้ านในช้นั เรียน ตวั อยา่ งโปรแกรม • Avast Free Antivirus • Avira Free Antivirus • AVG Free Antivirusสมรรถนะท่ีพงึ ประสงค์ ผู้เรียนสร้างความเขา้ ใจเก่ียวกบั การตรวจและกาํ จัดไวรสั 1.วเิ คราะห์และตคี วามหมาย 2.ต้งั คําถาม 3.ลงมอื ปฏิบตั ิ

4.การประยุกตค์ วามรสู้ ่งู านอาชีพสมรรถนะการสร้างค่านยิ ม การปลูกฝังใหม้ คี วามรับผิดชอบ มีความคดิ ริเรม่ิ สร้างสรรค์ และมีความซื่อสตั ย์ในอาชีพของตนสมรรถนะการปฏิบัตงิ านอาชีพ 1. นาํ ความรู้เกย่ี วกบั แนะนําความรเู้ บ้ืองตน้ เกยี่ วกบั การตรวจและกําจัดไวรสั ประยกุ ต์ใช้ในการดาํ เนินชวี ติ ประจาํ วนัสมรรถนะการขยายผลความสอดคล้อง แนะนาํ ความรู้เบื้องต้นเกีย่ วกบั การตรวจและกําจัดไวรัส ทําให้ผ้เู รยี นมีความรเู้ พ่มิ ข้ึน เมอื่ผ้เู รียนได้เรยี นร้ทู าํ ให้มีความรใู้ นเร่ืองการตรวจและกําจดั ไวรสั มากข้ึนส่อื การเรียนการสอน/การเรียนรู้สอ่ื สิ่งพมิ พ์ 1. เอกสารประกอบการสอนวชิ า คอมพิวเตอร์และการบาํ รงุ รักษา (ใชป้ ระกอบการเรียนการสอนจุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมข้อที่ 1-6) 2. ใบความรูแ้ ละใบงานสือ่ โสตทัศน์ (ถา้ มี) 1. บทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ่วยสอน เรอื่ งการตรวจและกําจัดไวรัส 2. สือ่ ของจริงแหล่งการเรียนรู้ในสถานศกึ ษา 1. หอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั 2. หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารคอมพิวเตอร์ ศึกษาหาข้อมูลทางอนิ เทอร์เน็ตนอกสถานศึกษา ผปู้ ระกอบการ สถานประกอบการ ในทอ้ งถนิ่การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธก์ บั วชิ าอนื่ 1. บูรณาการกบั วชิ าชีวิตและวัฒนธรรมไทย ดา้ นการพูด การอ่าน การเขยี นและการฝกึปฏิบัติตนทางสังคมด้านการเตรียมความพร้อม ความรับผดิ ชอบ และความสนใจใฝ่รู้ 2. บูรณาการกบั วิชาภาษาอังกฤษ การใชค้ ําศพั ท์ ความหมาย การสืบคน้ ข้อมูล 3. บรู ณาการกับวชิ ากฬี าเพอ่ื พัฒนาสุขภาพและบคุ ลิกภาพ ด้านบคุ ลิกภาพในการนําเสนอหนา้ ช้ันเรยี น

การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ • หลกั การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ก่อนเรียน 1.ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น ขณะเรียน 1.สงั เกตการทํางานกลุ่ม หลงั เรยี น 1.ตรวจแบบฝึกหัดทา้ ยบท 2.ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น 3.สรุปผลการรายงานหน้าชนั้ เรียนผลงาน/ช้นิ งาน/ผลสาเร็จของผ้เู รียน ตรวจผลงาน กจิ กรรม กจิ กรรม ใหผ้ ู้เรียนแบ่งกลุ่มๆ ละ 5 คน รว่ มกนั ค้นหาโปรแกรมป้องกนั ไวรัสคอมพวิ เตอร์ จากน้ันนาํ มาศึกษา ทดลองใช้ แล้วรว่ มกันนาํ เสนออภิปรายการใชง้ าน และสาธติ การใชง้ านในชน้ั เรยี น ตวั อยา่ งโปรแกรม • Avast Free Antivirus • Avira Free Antivirus • AVG Free Antivirusรายละเอยี ดการประเมนิ ผลการเรียนรู้ • จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ข้อที่ 1 บอกความหมายของไวรัสคอมพวิ เตอร์ ได้ 1.วธิ ีการประเมนิ : ทดสอบ 2.เครอ่ื งมอื : แบบทดสอบ 3.เกณฑ์การให้คะแนน : บอกความหมายของไวรสั คอมพิวเตอร์ ได้ 2 คะแนน •จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม ขอ้ ที่ 2 บอกถึงวธิ กี ารปอ้ งกันไวรัสคอมพิวเตอร์ ได้ 1.วิธกี ารประเมนิ : ทดสอบ 2.เคร่อื งมือ : แบบทดสอบ 3.เกณฑ์การให้คะแนน : บอกถงึ วิธกี ารป้องกันไวรสั คอมพิวเตอร์ ได้จะได้ 2 คะแนน •จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม ข้อท่ี 3 บอกถึงวธิ ีการกําจัดไวรัสคอมพิวเตอร์ ได้ 1.วิธีการประเมนิ : ทดสอบ 2.เครอ่ื งมอื : แบบทดสอบ 3.เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : บอกถึงวิธกี ารกาํ จัดไวรัสคอมพิวเตอร์ ได้ จะได้ 2 คะแนน •จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม ขอ้ ที่ 4 อธบิ ายการใชโ้ ปรแกรม MS Security Essentials ได้ 1.วธิ กี ารประเมิน : ทดสอบ 2.เครอ่ื งมอื : แบบทดสอบ

3.เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : อธิบายการใชโ้ ปรแกรม MS Security Essentials ได้ จะได้ 4 คะแนน

แบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 5 การตรวจและกาจัดไวรัสจงตอบคาถามตอ่ ไปนใ้ิ หม้ ใี จความสมบรู ณ์1. จงบอกความหมายของไวรัสคอมพิวเตอร์………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………2. จงอธบิ ายถงึ ลักษณะของไวรัสประเภท Worm………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………3. จงอธบิ ายถึงลกั ษณะของไวรัสประเภท Trojan………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………4. จงบอกถึงวิธกี ารปอ้ งกนั ไวรสั คอมพวิ เตอร์ จากการรับส่งไฟลต์ ่างๆ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………5. จงบอกถงึ วิธกี ารปอ้ งกันไวรัสคอมพิวเตอร์ จากการใชโ้ ปรแกรม………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………6. จงบอกถงึ ความหมายของโปรแกรมประเภท Anti-virus มาพอเขา้ ใจ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………7. การสาํ รองข้อมลู เป็นวธิ กี ารหนึ่งทชี่ ่วยป้องกันความเสยี หายของขอ้ มูลจากไวรัสคอมพิวเตอร์ ได้อย่างไร………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………8. จงบอกช่อื โปรแกรมปอ้ งกนั และกําจัดไวรสั คอมพวิ เตอร์ ท่นี ักเรยี นรู้จกั มา 5 โปรแกรม………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

9. จงบอกถึงคุณสมบัตขิ องโปรแกรม MS Security Essentials………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………10. จงบอกถึงขนั้ ตอนการตรวจหาไวรสั ของโปรแกรม MS Security Essentials แบบตามกําหนดการ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แบบประเมนิ ผลการนาเสนอผลงาน ชื่อกล่มุ ………………………………………………………………………ชัน้ ………………………หอ้ ง................รายชอื่ สมาชิก 1……………………………………………………………….……………………………………………………………………เลขท…ี่ …..…. 2……………………………………………………………….……………………………………………………………………เลขท…ี่ …..…. 3……………………………………………………………….……………………………………………………………………เลขท…่ี …..…. 4……………………………………………………………….……………………………………………………………………เลขท…่ี …..….ท่ี รายการประเมนิ คะแนน ขอ้ คิดเหน็1 ความรู้เกย่ี วกบั เนื้อหา ความถกู ต้อง ปฏิภาณในการตอบ และการแก้ไข 32 1 ปญั หาเฉพาะหนา้2 รปู แบบการนาํ เสนอ3 การมสี ่วนร่วมของสมาชิกในกลุม่4 บุคลกิ ลักษณะ กริ ยิ า ทา่ ทางในการพูด นา้ํ เสียง ซึง่ ทาํ ใหผ้ ู้ฟงั มีความ สนใจ รวมผูป้ ระเมนิ …………………………………………………เกณฑก์ ารให้คะแนน1. เนอ้ื หาสาระครอบคลุมชัดเจนถกู ตอ้ ง 3 คะแนน = มสี าระสาํ คัญครบถ้วนถกู ต้อง ตรงตามจดุ ประสงค์ 2 คะแนน = สาระสาํ คญั ไม่ครบถ้วน แตต่ รงตามจดุ ประสงค์ 1 คะแนน = สาระสําคัญไมถ่ ูกตอ้ ง ไมต่ รงตามจุดประสงค์2. รปู แบบการนําเสนอ 3 คะแนน = มีรูปแบบการนําเสนอท่ีเหมาะสม มีการใช้เทคนิคที่แปลกใหม่ ใช้ส่ือและเทคโนโลยี ประกอบการ นาํ เสนอทน่ี า่ สนใจนาํ วสั ดุในทอ้ งถน่ิ มาประยกุ ตใ์ ช้อย่างคุ้มคา่ และประหยัด 2 คะแนน = มีเทคนคิ การนาํ เสนอท่แี ปลกใหม่ ใชส้ ือ่ และเทคโนโลยีประกอบการนําเสนอท่ีนา่ สน ใจแต่ ขาดการประยุกตใ์ ช้ วสั ดใุ นท้องถ่นิ 1 คะแนน = เทคนคิ การนาํ เสนอไมเ่ หมาะสม และไมน่ า่ สนใจ3. การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลมุ่ 3 คะแนน = สมาชกิ ทกุ คนมีบทบาทและมีส่วนรว่ มกิจกรรมกลุม่ 2 คะแนน = สมาชกิ ส่วนใหญม่ ีบทบาทและมสี ว่ นร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 1 คะแนน = สมาชกิ สว่ นน้อยมีบทบาทและมีสว่ นรว่ มกจิ กรรมกลุม่4. ความสนใจของผู้ฟัง 3 คะแนน = ผฟู้ ังมากกวา่ รอ้ ยละ 90 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมอื 2 คะแนน = ผู้ฟงั รอ้ ยละ 70-90 สนใจ และให้ความร่วมมอื 1 คะแนน = ผ้ฟู ังนอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 70 สนใจ และให้ความร่วมมอื

บันทกึ หลังการสอน หนว่ ยที่ 5 การตรวจและกาจัดไวรสัผลการใช้แผนการเรียนรู้ 1. เนอ้ื หาสอดคล้องกบั จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 2. สามารถนาํ ไปใชป้ ฏิบัตกิ ารสอนไดค้ รบตามกระบวนการเรียนการสอน 3. เวลาท่กี าํ หนดไว้ในแผนการสอนมคี วามเหมาะสมผลการเรยี นของนกั เรียน 1. นักศึกษาสว่ นใหญม่ ีความสนใจใฝร่ ู้ เข้าใจในบทเรียน อภปิ รายตอบคําถามในกลุ่ม และ ร่วมกนั ปฏบิ ัติใบงานทไี่ ด้รบั มอบหมาย 2. นกั ศึกษากระตือรอื ร้นและรบั ผิดชอบในการทํางานกลมุ่ เพือ่ ใหง้ านสําเรจ็ ทนั เวลาที่ กาํ หนด 3. นักศกึ ษาเลือกสามารถนําความร้ไู ปใช้ไดจ้ ริงในชวี ิตประจําวนัผลการสอนของครู 1. สอนเน้อื หาได้ครบตามหลักสูตร 2. แผนการสอนและวธิ กี ารสอนครอบคลมุ เนือ้ หาการสอนทําให้ผสู้ อนสอนไดอ้ ยา่ งม่นั ใจ 3. สอนได้ทนั ตามเวลาทก่ี ําหนดลงช่อื ............................................... ลงชือ่ ....................................................... (นายวิเศษ ฟองตา) (ว่าทีร่ ้อยตรีสมพงษ์ ตระการศภุ กร) รองผู้อํานวยการฝ่ายวิชาการ ครูผู้สอน