Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคอมพิวเตอร์กับการบำรุงรักษา

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคอมพิวเตอร์กับการบำรุงรักษา

Published by sompongpok, 2018-10-26 10:06:21

Description: แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคอมพิวเตอร์กับการบำรุงรักษา

Search

Read the Text Version

วช-ร 03 การออกแบบการจัดการเรยี นรูรายวิชา คอมพิวเตอรและการบํารุงรักษา รหสั วชิ า ง 2204-2005 ระดับชน้ั ชั้นมธั ยมศึกษาปที่ 5 (คอมพวิ เตอรเ พิ่มเติ่ม) กลุมสาระการเรยี นรู การงานอาชพี และเทคโนโลยี จดั ทําโดย วา ท่ีรอ ยตรีสมพงษ ตระการศุภกร ตาํ แหนง พนกั งานราชการ โรงเรียนราชประชานุเคราะห 31 ตาํ บลชา งเคงิ่ อําเภอแมแจม จงั หวัดเชยี งใหม สํานักบริหารงานการศึกษาพเิ ศษ สํานกั งานการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

คาอธิบายรายวชิ า รายวชิ า คอมพิวเตอรแ์ ละการบารงุ รักษา ช้ัน มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นที่ 5 เวลา 1 ชว่ั โมง จานวน 40.หนว่ ยกติ 5คาอธบิ ายรายวิชา ศกึ ษาและปฏบิ ัตเิ ก่ยี วกบั องคป์ ระกอบของเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ หลักการทางานของคอมพิวเตอร์อปุ กรณ์ต่อพ่วง ส่อื บนั ทกึ ขอ้ มูล ความหมายหน้าทีแ่ ละความสาคัญของระบบปฏิบัตกิ าร ประเภทของโปรแกรมระบบปฏิบตั กิ าร การเลือกใชแ้ ละตดิ ตั้งระบบปฏิบัติการต่างๆ ท้ังระบบที่เป็นมาตรฐานปิด(Proprietary) และระบบท่เี ป็นมาตรฐานเปดิ (Open Standard) บนเครอ่ื งแมข่ า่ ย ลกู ข่ายและอุปกรณ์พกพา การใชง้ านโปรแกรมระบบปฏบิ ัติการเบื้องต้นและโปรแกรมยทู ิลิตี้ตัวชวี้ ัด้ลการเรียนรู้/ 1. สามารถอธิบายหลกั การพน้ื ฐานของระบบคอมพวิ เตอร์และระบบปฏิบัตกิ าร 2. สามารถอธิบายเก่ยี วกับการทางานของโปรแกรมระบบปฏิบัติการบนเครื่องแม่ขา่ ย เครือ่ งลกูข่าย และ อปุ กรณพ์ กพา 3ติดตง้ั และใช้ระบบปฏบิ ัติการทั .้งระบบท่เี ปน็ มาตรฐานปิด (Proprietary ) และระบบทีเ่ ป็นมาตรฐานเปิด (Open Standard )รวมทง้ั หมด 3 ้ลการเรยี นรู้ คานา

แผนการสอนวิชาคอมพิวเตอร์และการบารุงรักษา รหัส 2204-2005 จดั ทาขึน้ เพอื่ ใช้เปน็ แนวทางในการจัดการเรยี นการสอน วิชาคอมพิวเตอร์และการบารุงรักษา ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ)ปวช.( พุทธศักราช 2556 ของสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยจัดการเรียนการสอนทั้งหมด18 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 4 ช่ัวโมง เน้ือหาภายในแบ่งออกเป็น 8 หน่วย ประกอบด้วยเน้ือหาเก่ียวกับหลักการทางานของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง การประกอบเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ การตดิ ตั้งโปรแกรมตามลักษณะงาน การบารงุ รักษาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ การตรวจและกาจดั ไวรัส การแกป้ ัญหาคอมพิวเตอร์ด้วยโปรแกรมอรรถประโยชน์ สารองและป้องกันความเสียหายของข้อมูล และการกู้คืนข้อมลู ในการจัดทาแผนการสอนนี้ผู้จัดทาได้จดั การรียนการสอนตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจแบบพอเพียง และท้ายท่สี ุดน้ี ผู้จัดทาขอขอบคุณผู้ที่สร้างแหล่งความรู้ และผู้ที่มีส่วนเก่ียวข้องต่าง ๆ ซ่ึงเป็นส่วนสาคัญที่ทาให้แผนการสอนวิชาคอมพิวเตอร์และการบารุงรักษา เล่มน้ีเสร็จสมบูรณ์เป็นท่ีเรยี บร้อย หากมีข้อบกพรอ่ งประการใด ใคร่ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ ว่าทรี่ ้อยตรีสมพงษ์ ตระการศภุ กร

แ้น้งั ความคิดบรู ณาการหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง วชิ า คอมพิวเตอรแ์ ละการบารงุ รกั ษา พอประมาณ1. จานวนผเู้ รยี น2. ระยะเวลาในการเรียนการสอน3. การใช้ทรัพทยากรรว่ มกัน มเี หตุ้ล มภี ูมิคมุ้ กนั4. ลดเวลาในการปฏบิ ัติงาน 8. ประหยัดคา่ ใช้จา่ ย5. ประมาณการเหตกุ ารณ์ต่าง ๆ 9. มคี วามรอบคอบในการ6. ลดขน้ั ตอนในการทางาน ทางาน7. เข้าใจงานและระบบการทางาน

แ้นการสอน/แ้นการเรยี นรรู้ ายวชิ าชือ่ รายวชิ า คอมพิวเตอรแ์ ละการบารุงรักษา รหัสวิชา 2204-2005 (ท-ป-น) 2-2-3ระดับชัน้ ปวช. สาขาวิชา/กลุม่ วชิ า/แ้นกวิชาคอมพวิ เตอร์ธุรกิจทฤษฏี 2 ชวั่ โมง/สัปดาห์ ปฏบิ ตั ิ 2 ชั่วโมง/สปั ดาห์ จานวน 3 หนว่ ยกิต รวม 72 ชว่ั โมงภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2561จดุ ประสงคร์ ายวิชา 1. มคี วามรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลกั การทางานและการใช้งานอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ 2. ประกอบ และบารงุ รักษาคอมพวิ เตอร์ 3. ตรวจสอบและแก้ปญั หาคอมพิวเตอรด์ ้วยโปรแกรมอรรถประโยชน์ 4. มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยมท่ดี ีในการใช้คอมพวิ เตอร์สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรูเ้ กย่ี วกบั หลักการทางานของคอมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณ์ต่อพ่วง 2. ประกอบเครอื่ งคอมพิวเตอร์และตดิ ต้ังโปรแกรมตามลกั ษณะงาน 3. บารุงรักษาอปุ กรณ์ และแกป้ ญั หาคอมพวิ เตอรโ์ ดยใชโ้ ปรแกรมอรรถประโยชน์คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับหลักการทางานของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง ประกอบเคร่ืองคอมพิวเตอร์และติดต้ังโปรแกรมตามลักษณะงาน การบารุงรักษาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ตรวจและกาจัดไวรัสแกป้ ญั หาคอมพิวเตอรด์ ว้ ยโปรแกรมอรรถประโยชน์ สารองและปอ้ งกันความเสียหายของขอ้ มลู การก้คู นื ขอ้ มลู

โครงการจัดการเรียนร้แู บบมงุ่ เนน้ สมรรถนะอาชพีและบูรณาการตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง / ้ล 5 มิติ / นโยบาย 3 D และ 11 ดี 11 เกง่รหสั วชิ า 2204-2005 วิชาคอมพิวเตอรแ์ ละการบารงุ รักษา 2-2-3ระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชพี (ปวช.) สาขางาน คอมพวิ เตอร์ธุรกจิหน่วยท่ี สัปดาห์ท่ี ช่ือหนว่ ยการสอน/รายการสอน จานวนช่วั โมง1 1 หลกั การทางานของอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์และอปุ กรณ์ต่อพว่ ง ทฤษฎี ปฏบิ ัติ 222 2-4 การประกอบเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ 663 5-7 การตดิ ตั้งโปรแกรมตามลกั ษณะงาน 664 8-9 การบารงุ รกั ษาอปุ กรณค์ อมพวิ เตอร์ 445 10-11 การตรวจและกาจดั ไวรสั 446 12-13 การแกป้ ัญหาคอมพวิ เตอรด์ ้วยโปรแกรมอรรถประโยชน์ 447 14-15 สารองและปอ้ งกันความเสยี หายของข้อมูล 448 16-17 การกูค้ ืนข้อมูล 4418 ทดสอบวดั และประเมนิ ้ลปลายภาคเรยี น 40 รวม 38 34 รวมทัง้ สิ้น 72

ตารางวิเคราะหห์ ลกั สตู รรหสั วชิ า 2204-2005 วิชาคอมพิวเตอรแ์ ละการบารุงรักษา 2-2-3จานวน 4 ชว่ั โมง/สัปดาห์ รวม 72 ช่ัวโมง พฤติกรรม พุทธพิสยั ความรู้ชื่อหน่วย ความเข้าใจ นาไปใ ้ช ิวเคราะห์ สังเคราะห์ ประเ ิมน ่คา ทักษะพิสัย ิจตพิ ัสย รวม ลาดับความสา ัคญ จานวนคาบ.1หลกั การทางานของอุปกรณ์ 311 13 984คอมพวิ เตอร์และอปุ กรณ์ต่อพว่ ง 3 3 14 1 12 3 3 14 2 12.2การประกอบเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ 2 3 3 2 3 13 3 8 3 3 13 4 8.3การตดิ ตั้งโปรแกรมตามลักษณะงาน 2 3 3 3 3 13 5 8.4การบารงุ รกั ษาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ 2 3 3 3 3 13 6 8 3 3 12 7 8.5การตรวจและกาจดั ไวรัส 233 4.6การแก้ปญั หาคอมพวิ เตอรด์ ว้ ย 323โปรแกรมอรรถประโยชน์ 20 100 - 72 2 - --.7สารองและปอ้ งกนั ความเสยี หายของ 3 3 3ข้อมลู8.การกคู้ นื ข้อมลู 133 สอบปลายภาค รวม 18 19 22 ความสาคญั 431

แผนการสอน/แผนการเรยี นรูภ้ าคทฤษฎีแผนการสอน/การเรยี นรภู้ าคทฤษฎี หนว่ ยที่ 1ชอ่ื วชิ า คอมพิวเตอร์และการบํารงุ รกั ษา สัปดาห์ที่ 1ชื่อหนว่ ย หลักการทํางานของอุปกรณค์ อมพวิ เตอร์ และอปุ กรณต์ อ่ พ่วง 4 ช่วั โมงช่อื เรือ่ ง หลักการทาํ งานของอุปกรณ์คอมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณ์ตอ่ พว่ งหัวขอ้ เรื่อง ด้านความรู้ 1. ระบบคอมพวิ เตอร์ 1.1 ฮารด์ แวร์ 1.1.1 แผงวงจรหลกั 1.1.2 หน่วยรับข้อมูล 1.1.3 หน่วยประมวลผลกลาง 1.1.4 หน่วยความจาํ 1.1.5 หน่วยแสดงผล 1.2 ซอฟท์แวร์ 1.3 พีเพลิ แวร์ 1.4 ขอ้ มูล 2. ประเภทของคอมพวิ เตอร์ ดา้ นทักษะ - ด้านคุณธรรม จริยธรรม 1. ความรับผิดชอบ 2. ความสนใจใฝ่รู้สาระสาคัญ คอมพิวเตอร์ เป็นอุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ทีม่ นุษย์ใช้เปน็ เครอ่ื งมอื ชว่ ยในการจัดการกับข้อมูลที่เปน็ เลข ตวั อกั ษร หรือสญั ลกั ษณท์ ี่ใช้แทนความหมายในสิ่งตา่ งๆ ท่ีสามารถกําหนดโปรแกรมได้ ทําให้คอมพวิ เตอร์ทาํ งานไดห้ ลากหลายรูปแบบ ซึง่ การทาํ ความเขา้ ในหลักการทํางานของคอมพิวเตอร์ควรจะต้องเริ่มจากระบบคอมพิวเตอร์ท่ีประกอบด้วย ฮารด์ แวร์ ซอฟท์แวร์ พเี พลิ แวร์ และข้อมูล โดยจะเห็นวา่ ท้ัง 4 ส่วนจะต้องทาํ งานประสานกนั จึงจะเปน็ ระบบที่สามารถทาํ งานไดอ้ ย่างสมบรู ณ์ ในหนว่ ยน้ีจะกล่าวถึงรายละเอียดของหลักการทํางานของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง ท่ีเป็นสว่ นประกอบของระบบคอมพิวเตอร์นั่นเอง

สมรรถนะอาชพี ประจาหน่วย แสดงความรเู้ ก่ียวกบั หลักการทํางานของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอปุ กรณต์ อ่ พ่วงจดุ ประสงคก์ ารสอน/การเรยี นรู้ • จดุ ประสงคท์ ัว่ ไป / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง 1.เพื่อให้มีความรู้พื้นฐานเก่ียวหลักการทํางานของอุปกรณ์คอมพิวเตอรแ์ ละอุปกรณ์ต่อพว่ งและมที ัศนคตทิ ่ีดี (ดา้ นความร)ู้ 2.เพ่ือให้มีเจตคติท่ีดีต่อการเตรียมความพร้อมด้าน วัสดุ อุปกรณ์ และการปฏิบัติงานอย่างถูกต้อง สําเร็จภายในเวลาท่ีกําหนด มีเหตุและผลตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ด้านคุณธรรม จริยธรรม) •จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม / บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง 1. บอกองค์ประกอบระบบคอมพวิ เตอร์ได้ (ดา้ นความรู)้ 2. บอกความหมาย Hardware ในระบบคอมพวิ เตอรไ์ ด้ (ดา้ นความร้)ู 3. บอกหนา้ ที่ และส่วนประกอบหลกั ของแผงวงจรหลกั ได้ (ดา้ นความร)ู้ 4. อธบิ ายหนา้ ทห่ี น่วยรับขอ้ มูลได้ (ดา้ นความร)ู้ 5. บอกคุณลกั ษณะทว่ั ไปของอปุ กรณ์รบั ขอ้ มลู ได้ (ด้านความร)ู้ 6. อธิบายหนา้ ทีห่ นว่ ยประมวลผลกลางได้ (ด้านความร้)ู 7. อธิบายหนา้ ที่หน่วยความจําได้ (ด้านความร)ู้ 8. บอกคุณลกั ษณะทั่วไปของหนว่ ยความจาํ แบบต่างๆ ได้ (ดา้ นความรู้) 9.อธิบายหนา้ ทหี่ นว่ ยแสดงผลได้ (ดา้ นความร)ู้ 10.บอกคุณลกั ษณะทัว่ ไปของหนว่ ยแสดงผลแบบต่างๆ ได้ (ด้านความร)ู้ 11.บอกความหมายซอฟทแ์ วรไ์ ด้ (ดา้ นความรู้) 12.บอกความหมายของพเี พิลแวรไ์ ด้ (ดา้ นความรู้) 13.บอกความหมายของขอ้ มูลได้ (ดา้ นความรู้) 14.จําแนกประเภทของคอมพิวเตอร์ ได้ (ดา้ นความร้)ู 15. การเตรียมความพร้อมด้านการเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ ผู้เรียนจะต้องกระจายงานได้ทั่วถงึและตรงตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจัดเตรียมสถานท่ี สื่อ วัสดุ อุปกรณ์ไวอ้ ย่างพร้อมเพรยี ง (ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพียง) 16. ความมเี หตุมีผลในการปฏิบัตงิ าน ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผู้เรียนจะต้องมีการใช้หลักการเรียนรู้และเวลาท่ีเหมาะสมกับการเรียนรู้ (ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง)เน้ือหาสาระการสอน/การเรียนรู้• ดา้ นความรู้ (ทฤษฎ)ี ระบบคอมพิวเตอร์ (Computer System) (จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมข้อที่ 1) ระบบคอมพวิ เตอร์ หมายถึงองคป์ ระกอบหลกั ที่จะทําใหเ้ ครือ่ งคอมพิวเตอร์สามารถทํางานไดอ้ ย่างสมบูรณ์ ถา้ ขาดองค์ประกอบสว่ นใดสว่ นหนึง่ คอมพิวเตอรไ์ มส่ ามารถท่ีจะทาํ งานได้ ระบบของคอมพิวเตอร์น้ีประกอบดว้ ย 4 สว่ น คือ

1) ฮารด์ แวร์ (Hardware) อปุ กรณแ์ ละช้นิ สว่ นของคอมพวิ เตอร์ 2) ซอฟต์แวร์ (Software) โปรแกรมหรอื ชดุ คาํ สง่ั 3) บุคลากร (People ware) บคุ ลากรในงานด้านคอมพวิ เตอร์ 4) ขอ้ มลู (Data) ตัวของขอ้ เท็จจริงทีป่ อ้ นใหค้ อมพวิ เตอรท์ ํางาน 1.1 ฮาร์ดแวร์ (Hardware) (จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อท่ี 2) หมายถึงอุปกรณ์ต่างๆ ท่ีประกอบขึ้นเป็นเครื่องคอมพวิ เตอร์ มีลักษณะเป็นโครงรา่ งสามารถมองเห็นด้วยตาและสัมผัสไดเ้ ช่นจอภาพ คีย์บอร์ด เครื่องพิมพ์ เมาส์ เป็นต้น ซ่ึงสามารถแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ตามลักษณะการทํางาน ได้ 4 หน่วย คือหน่วยรับข้อมูล (Input Unit) หน่วยประมวลผลกลาง หรือ CPU (CentralProcessing Unit) หน่วยแสดงผล (Output Unit) หน่วยความจํา (Memory Unit) ซ่ึงรวมไปถึงหนว่ ยเกบ็ข้อมลู สํารอง (Secondary Storage) โดยอปุ กรณ์แตล่ ะหน่วยมหี น้าที่การทํางานแตกตา่ งกนั 1.1.1 แผงวงจรหลกั (Main Board) (จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมขอ้ ที่ 3) แผงวงจรหลัก (Main Board) เปน็ แผงวงจรขนาดใหญ่ท่สี ดุ ในเคร่อื งทาํ หน้าท่ีเช่ือมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เช่น หน่วยประมวลผลกลางหรือ CPU RAM การ์ดเสียง การ์ดจอภาพและอืน่ ๆเข้าด้วยกนั แผงวงจรหลักจะมีช่องเสียบอุปกรณ์เรียกว่าสล็อต (Slot) และช่องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆเรียกว่าพอร์ต (Port) ดังนั้นควรเลือกแผงวงจรหลักที่สามารถประสานการทํางานรว่ มกับอุปกรณ์และรองรับอุปกรณ์ที่สนับสนุนกับเทคโนโลยีใหม่ในอนาคตได้ ซ่ึงส่วนประกอบต่างๆ ท่ีสําคัญของแผงวงจรหลัก มดี ังนี้ 1) ชปิ เซต็ (Chipset) 2) CPU socket 3) สลอ็ ตสาํ หรบั ตดิ ตง้ั RAM 1.1.2 หนว่ ยรบั ขอ้ มลู (Input unit) (จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมข้อที่ 4-5) หน่วยรับข้อมูล (Input unit) เป็นหน่วยที่รับสัญญาณเข้ามาจากอุปกรณ์รับข้อมูลเข้า แล้วแปลงให้เป็นสัญญาณท่ีเหมาะสมเพ่ือส่งให้หน่วยประมวลผลกลางทําการประมวลผลอุปกรณ์รับข้อมูลท่ีใช้กันส่วนใหญ่ ได้แก่แป้นพิมพ์ (Keyboard) และเมาส์ (Mouse) นอกจากนี้ยังมีอุปกรณร์ ับข้อมลู เขา้ อื่นๆ ดงั นี้ 1.1.2.1 แป้นพิมพ์ (Keyboard) 1.1.2.2 เมาส์ (Mouse) 1.1.2.3 Track ball, Track point และTouch pad 1.1.2.4 Joystick 1.1.2.5 จอภาพระบบสัมผัส (Touch Screen) 1.1.2.6 อุปกรณ์กวาดข้อมูล 1.1.2.7 กล้องถ่ายภาพดิจิตอล หรือ Digital Camera 1.1.2.8 กล้องวีดโี อดิจิตอล หรือ Digital Video Camera 1.1.3 หนว่ ยประมวลผลกลาง (จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรมข้อที่ 6) หน่วยประมวลผลกลางหรือ CPU ย่อมาจาก Central Processing Unit เป็นอุปกรณ์ที่มีความสําคัญเสมือนสมองของคอมพิวเตอร์ มีหน้าท่ีหลักในการประมวลผลข้อมูล โดยรับข้อมูลจากผู้ใช้ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เมาส์ และคีย์บอร์ด จากน้ันจึงทําการประมวลผลและส่งผลลัพธ์ออกมา

ทางอุปกรณ์แสดงผล เช่นทางจอภาพ ลําโพง หรือเคร่ืองพิมพ์ หน่วยประมวลผลกลางประกอบด้วยสว่ นประสําคัญ 3 สว่ น คอื 1) หน่วยคํานวณและตรรกะ หรือ ALU (Arithmetic & Logical Unit) ทําหน้าท่ีเกี่ยวข้องกับการคํานวณทางคณิตศาสตร์ เช่น บวก ลบ คูณ หาร นอกจากนี้ยังสามารถเปรียบเทียบตามเง่ือนไข เพ่ือให้ได้คําตอบตามเงื่อนไข เช่นเปรียบเทียบมากว่า น้อยกว่า เท่ากัน ไม่เท่ากันของจาํ นวน 2 จํานวน เป็นตน้ 2) หน่วยควบคุม หรือ CU (Control Unit) ทําหน้าที่ควบคุมลําดับขั้นตอนการการประมวลผลและการทํางานของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในหน่วยประมวลผลกลางและรวมไปถึงการประสานงานในการทํางานร่วมกันระหว่างหน่วยประมวลผลกลางกับอุปกรณ์นําเข้าข้อมูล อุปกรณ์แสดงผล และหนว่ ยความจําสํารองดว้ ย 3) หน่วยความจํา Cache เป็นระบบหน่วยความจําความเร็วสูงท่ีเก็บข้อมูลบางสว่ นของ Main Memory ในทางกายภาพแล้ว Cache จะอยู่ตรงกลางระหว่าง Main Memory กับหน่วยประมวลผลกลาง เพราะวา่ Cache มคี วามเร็วสูงกว่า Main Memory ทาํ ให้เปน็ การเพิ่มประสิทธิภาพในการทํางานของระบบ เพราะถ้าไม่มีหนว่ ยความจํา Cache แล้ว หน่วยประมวลผลกลางจะเสียเวลาในการหยดุ รอข้อมลู จาก RAM ซึง่ ทํางานชา้ กวา่ Cache มาก 1.1.4 หน่วยความจาํ (จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมข้อท่ี 7-8) เพือ่ ใช้ในการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ หรือใช้เกบ็ ข้อมลู เพอ่ื ใชง้ านภายหลัง แบง่ ออกเปน็ ประเภทตา่ งๆ ดงั น้ี 1.1.4.1 หน่วยความจําภายใน เป็นหน่วยความจําท่ีติดตั้งอยู่บนแผงวงจรหลักในเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ ทงั้ แบบท่ีตดิ อยกู่ ับแผงวงจรหลักและแบบถอดประกอบได้ ประกอบดว้ ย 1.1.4.1.1 หน่วยความจําแบบ RAM (Random Access Memory) 1.1.4.1.2 หน่วยความจําแบบ ROM (Read Only Memory) 1.1.4.2 หน่วยความจําสํารอง หมายถึงหน่วยความจําท่ีใช้เก็บบันทึกข้อมูลเอาไว้อย่างถาวร เพ่ือใช้งานภายหลัง นําส่ง หรือแลกเปล่ียนข้อมูลกับผู้อื่น ซึ่งสามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงขอ้ มูลทเ่ี กบ็ ไดต้ ลอดเวลา ไดแ้ กเ่ ทปแมเ่ หล็ก จานแม่เหลก็ และแผ่นจานแสง 1.1.5หนว่ ยแสดงผล (Output Unit) (จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมข้อที่ 9-10) ทําหนา้ ที่นําผลจากการประมวลผลมาแปลงเปน็ สญั ญาณท่ีเหมาะสมเพือ่ ใช้แสดงผลแก่ผู้ใช้ทางอุปกรณแ์ สดงผล โดยมีอุปกรณ์ต่างๆ ดังน้ี 1.1.5.1 จอแสดงผล จอแสดงผล หรือ Monitor ทําหน้าที่รับข้อมูลที่ส่งมาจากหน่วยประมวลผลกลางเพื่อนํามาแสดงบนจอภาพให้ผูใ้ ชเ้ ห็นและทํางานได้ มีรปู แบบและการทาํ งานทีต่ ่างกนั ดังนี้ 1) จอภาพแบบ CRT หรอื Cathode Ray Tube 2) จอภาพแบบ LCD (Liquid Crystal Display) 3) จอภาพแบบ LED (Light Emitting Diode) 1.1.5.2 เครือ่ งพิมพ์ (Printer)

เคร่ืองพิมพ์เป็นอุปกรณ์ที่ทําหน้าท่ีแสดงผลท่ีได้จากการประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในรูปของอกั ษร หรือรูปภาพที่จะไปปรากฏอยู่บนกระดาษ โดยเคร่ืองพิมพ์แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้ 1) เครือ่ งพมิ พแ์ บบดอตแมทรกิ ซ์ (Dot Matrix Printer) 2) เครอ่ื งพมิ พ์แบบพน่ หมกึ (Ink-Jet Printer) 3) เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ (Laser Printer) 4) พลอ็ ตเตอร์ (Plotter) 1.1.5.3 การ์ดแสดงผล การ์ดแสดงผล หรือ Graphic Card หรือ Display Card หรือ VGA Card เป็นอุปกรณ์ท่ีใช้แปลงสัญญาณทางดิจิตอลให้เปลี่ยนเป็นสัญญาณภาพที่ใช้แสดงผลบนจอคอมพิวเตอร์ ชนิดของการด์ แสดงผลจะเปน็ ตวั กาํ หนดความเร็วในการแสดงผล ความละเอียดและความคมชัด ของกราฟฟิกรวมทัง้ จาํ นวนสที ่ีสามารถแสดงผลด้วย 1.1.5.4 การ์ดเสียง การ์ดเสียง หรือ Sound Card เป็นอุปกรณ์ที่ใช้แปลงสัญญาณจากการประมวลผลเพอื่ ส่งใหอ้ ปุ กรณแ์ สดงผลประเภทเสียง เชน่ ลาํ โพง ขบั เปน็ เสียงออกมา 1.1.5.5 ลําโพง (Speaker) ลําโพง (Speaker) เป็นอุปกรณ์แสดงผลข้อมูลเสียงท่ีต้องใช้งานคู่กับการ์ดเสียง(Sound Card) ลาํ โพงจึงเปน็ อุปกรณแ์ สดงผลในรูปของเสยี ง 1.2 ซอฟแวร์ (Software) (จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรมข้อท่ี 11) หมายถึงโปรแกรมหรือชุดคําส่ังทีเ่ ขียนขึ้นเพ่อื ใหเ้ คร่ืองคอมพวิ เตอรป์ ฏบิ ัตติ าม แบง่ ออกเป็น 2 ประเภทคอื 1.2.1 ซอฟแวร์ระบบ (System Software) หมายถึงโปรแกรมหรือชุดคําส่ังท่ีควบคุมการทํางานของคอมพิวเตอร์ เป็นสื่อกลางที่ประสานการทํางานระหว่างโปรแกรมประยุกต์กับเครือ่ งคอมพิวเตอร์ เพ่ือช่วยในการจัดการทรัพยากรของคอมพิวเตอร์ ได้แก่ระบบปฏิบัติการ เช่น DOS,Windows, MAC และUNIX 1.2.2 ซอฟแวร์ประยุกต์ (Application Software) หมายถึงโปรแกรมหรือชุดคําสั่งท่ีเขียนข้ึนมาเพื่อให้เคร่ืองคอมพิวเตอร์ทํางานตามท่ีผู้ใช้ต้องการ ซ่ึงจะต้องทํางานอยู่บนระบบปฏบิ ัตกิ ารอีกทีหนงึ่ เชน่ โปรแกรมสาํ เร็จรูปตา่ งๆ แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท คอื 1) โปรแกรมสําเร็จรูป (Package Program) เป็นโปรแกรมหรือชุดคําสั่งที่เขียนหือพัฒนาขึ้นมาโดยบริษัท หน่วยงาน ท่ีมีวางขายตามท้องตลาดทั่วไป เช่น MS-Office 2013,Adobe CS6 หรือ Kaspersky Anti-virus เป็นตน้ 2) โปรแกรมเฉพาะงาน (User Program) เป็นโปรแกรมหรือชุดคําส่ังท่ีเขยี นหรือพัฒนาขึ้นโดยผู้ใช้ เพ่ือสนองการใช้งานเฉพาะอย่าง เช่นโปรแกรมระบบเงินเดือน โปรแกรมระบบงานพัสดุ เปน็ ตน้ 1.3 บุคลากร (People ware) (จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 12) หมายถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องคอมพิวเตอร์ด้านต่างๆ ที่มีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งาน ส่ังงานเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทํางานตามทต่ี ้องการ People Ware ประกอบดว้ ยบุคคลตา่ งๆ ดังน้ี 1.3.1 ผู้จัดการระบบ (System Manager) เป็นผู้วางนโยบายการใช้คอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามเป้าหมายของหน่วยงาน

1.3.2 นกั วเิ คราะห์ระบบ (System Analyst) เป็นผทู้ ี่ศกึ ษาระบบงานเดมิ หรืองานใหม่ความเปน็ ไปไดใ้ นการใช้คอมพิวเตอรก์ ับระบบงาน เพ่อื ใหโ้ ปรแกรมเมอร์เปน็ ผทู้ ี่เขียนโปรแกรมให้กับระบบงานนนั้ ๆ 1.3.3 โปรแกรมเมอร์ (Programmer) เปน็ ผเู้ ขียนโปรแกรมสัง่ งานเครื่องคอมพิวเตอร์เพ่ือใหท้ าํ งานตามความต้องการของผใู้ ช้ ตามแผนผังหรือรูปแบบท่นี กั วเิ คราะห์ระบบได้ออกแบบไว้ 1.3.4 ผู้ใช้ (User) เป็นผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป ท่ีต้องเรียนรู้วิธีการใช้เคร่ืองและวธิ กี ารใช้งานโปรแกรม เพ่อื ใหโ้ ปรแกรมท่ีมอี ยสู่ ามารถทาํ งานได้ตามทต่ี ้องการ 1.4 ข้อมลู (Data) (จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมข้อท่ี 13) เปน็ องคป์ ระกอบท่ีสําคัญอย่างหน่ึงในระบบคอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งท่ีต้องป้อนเข้าไปในคอมพิวเตอร์พร้อมกับโปรแกรม เพ่ือผลิตผลลัพธ์ที่ตอ้ งการออกมา ข้อมลู ทสี่ ามารถนํามาใชก้ ับคอมพิวเตอรไ์ ด้ประกอบดว้ ยขอ้ มูลตัวเลข (Numeric Data)ข้อมูลตัวอักษร (Text Data) ข้อมูลเสียง (Audio Data) ข้อมูลภาพ (Images Data) และข้อมูลภาพเคลื่อนไหว (Video Data) 2. ประเภทของคอมพิวเตอร์ (จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรมขอ้ ที่ 14) เทคโนโลยีทางด้านคอมพวิ เตอร์มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปอยา่ งรวดเรว็ ตามความกา้ วหนา้ทางด้านอิเล็กทรอนกิ ส์ ทําให้ปจั จบุ นั มีเครอ่ื งคอมพิวเตอรใ์ ห้เลือกใชม้ ากมายหลายรปู แบบตามความต้องการของผู้ใช้ การแบ่งประเภทของคอมพิวเตอร์นั้นสามารถจําแนกตามหลักการประมวลผลและความสามารถของระบบได้ดังน้ี 2.1 ประเภทของคอมพิวเตอร์ตามหลักการประมวลผล เป็นการแบ่งประเภทคอมพิวเตอร์ตามสัญญาณขอ้ มลู ที่ใชใ้ นการประมวลผล ได้แก่ 2.1.1 คอมพิวเตอรแ์ บบแอนะลอ็ ก (Analog Computer) 2.1.2 คอมพิวเตอร์แบบดจิ ทิ ัล (Digital Computer) 2.1.3 คอมพวิ เตอรแ์ บบลกู ผสม (Hybrid Computer) 2.2 ประเภทของคอมพวิ เตอรต์ ามความสามารถของระบบ โดยพจิ ารณาจากความสามารถในการเก็บขอ้ มลู และความเร็วในการประมวลผลเปน็ หลัก ดงั น้ี 2.2.1 ซุปเปอรค์ อมพวิ เตอร์ (Super Computer) 2.2.2 เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframe Computer) 2.2.3 มินิคอมพิวเตอร์ (Mini Computer) 2.2.4 ไมโครคอมพิวเตอร์ (Micro Computer)• ด้านทกั ษะ (ปฏิบัติ) (จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมข้อท่ี 1-16) 1.แบบฝกึ หดั ท้ายบทที่ 1 2.กจิ กรรมการเรยี นรู้• ดา้ นคณุ ธรรม/จริยธรรม/จรรยาบรรณ/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1.การเตรยี มความพรอ้ มด้าน วสั ดุ อุปกรณน์ กั ศึกษาจะต้องทาํ ความสะอาดห้องเรียนจดั เตรยี มอุปกรณ์ในการเรียนรู้ ใหม้ ีความพร้อมเพยี งและเหมาะสมกบั เวลาท่ีใชใ้ นการเรียน

2.ความมีเหตมุ ีผลในการปฏิบัติงาน ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งนกั ศึกษาจะต้องมีการใชเ้ ทคนคิ การจดบนั ทกึ งาน การสบื คน้ ข้อมลู ก่อนการเรยี นรแู้ ละหลังเรียนรเู้ พ่ือให้การเรยี นรู้เหมาะสมกบั เวลา คมุ้ คา่ และประหยดั กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้ข้ันตอนการสอนหรือกิจกรรมของครู ข้ันตอนการเรยี นรู้หรือกจิ กรรมของนกั เรียน1. ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรียน (20 นาท)ี 1. ขัน้ นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น (20 นาที)1. ผสู้ อนจัดเตรียมเอกสาร พรอ้ มกับแนะนํา 1. ผู้เรยี นเตรียมอุปกรณ์และ ฟงั ครูผสู้ อนแนะนํารายวิชา วิธกี ารใหค้ ะแนนและวิธกี ารเรยี นเร่อื ง รายวิชา วธิ กี ารให้คะแนนและวิธกี ารเรยี นเรอ่ื ง หลกั การหลกั การทาํ งานของอุปกรณค์ อมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณ์ ทํางานของอปุ กรณค์ อมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณต์ อ่ พ่วงต่อพ่วง 2. ผเู้ รยี นทําความเข้าใจเก่ยี วกบั จดุ ประสงคก์ าร2. ผสู้ อนแจ้งจุดประสงค์การเรียนของหนว่ ย เรียนของหน่วยเรียนที่ 1 และการใหค้ วามร่วมมือในการเรยี นท่ี 1 และขอให้ผูเ้ รยี นร่วมกนั ทาํ กิจกรรมการเรยี น ทํากจิ กรรมการสอน 3. ผู้เรียนแสดงความร้วู ่า อปุ กรณค์ อมพวิ เตอร์3. ผสู้ อนให้ผเู้ รยี นแสดงความรู้ โดยตั้งคําถาม และอุปกรณต์ ่อพ่วงมีหลักการอย่างไร พรอ้ มใหเ้ หตุผลวา่ อปุ กรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพว่ งมีหลกั การ ประกอบทาํ งานอย่างไรพร้อมใหเ้ หตุผลประกอบ2. ข้ันให้ความรู้ (100 นาท)ี 2. ข้นั ให้ความรู้ (100 นาที) 1. ผู้สอนทดสอบความรู้ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั 1. ผู้เรียนตอบคาํ ถามจากผสู้ อน เพื่อแสดงความรู้ความรู้เบอ้ื งตน้ เกี่ยวกับหลักการทํางานของอปุ กรณ์ และความเขา้ ใจก่อนการเรยี น เรอ่ื งหลักการทาํ งานของคอมพวิ เตอร์และอุปกรณ์ตอ่ พ่วง โดยการถาม – ตอบ อุปกรณค์ อมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณ์ตอ่ พ่วง ผเู้ รียนศกึ ษา บทเรยี นวิชาคอมพวิ เตอร์และการบาํ รุงรกั ษา หน่วยท่ี 1 2. ผู้สอนอธบิ ายเนื้อหาเก่ยี วกบั บทเรยี นวิชา เรื่องหลักการทํางานของอปุ กรณ์คอมพวิ เตอรแ์ ละคอมพิวเตอร์และการบํารงุ รักษา หนว่ ยที่ 1 เร่ือง อปุ กรณต์ อ่ พว่ ง และศึกษาเอกสารประกอบการสอนหลกั การทาํ งานของอปุ กรณ์คอมพิวเตอรแ์ ละอุปกรณ์ หน่วยที่ 1ต่อพ่วง และใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาเอกสารประกอบการสอน 2. ผู้เรยี นอธบิ ายและยกตัวอยา่ งถงึ หลกั การหนว่ ยท่ี 1 ทํางานของอปุ กรณค์ อมพิวเตอร์และอปุ กรณ์ต่อพ่วง 3. ผสู้ อนและผู้เรียนร่วมกันอธิบายพรอ้ ม ตามที่ได้ศึกษาจากบทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอนยกตัวอย่างถงึ องค์ประกอบของคอมพวิ เตอร์ ตามทีไ่ ด้ศึกษาจากบทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ่วยสอน3. ข้นั ประยกุ ต์ใช้ (90 นาที) 3. ขน้ั ประยกุ ตใ์ ช้ (90 นาท)ี 1. ผสู้ อนใหผ้ ูเ้ รียนทําแบบฝกึ หัดท้ายบทท่ี 1 1. ผู้เรยี นทาํ แบบฝกึ หดั ทา้ ยบทท่ี 1 2. ผู้สอนให้ผเู้ รยี นแบง่ กล่มุ ๆ ละเท่าๆ กนั 2. ผ้เู รียนแบง่ กล่มุ ๆ ละเทา่ ๆ กนั ทําการศกึ ษาทาํ การศกึ ษาเรอื่ งคุณลกั ษณะเคร่อื งและอุปกรณ์ เร่อื ง คณุ ลกั ษณะของเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ (Computerคอมพิวเตอร์ แลว้ นาํ เสนอหน้าช้ันเรยี น Specification) ทชี่ ื่นชอบแลว้ นาํ เสนอหนา้ ชนั้ เรยี น4. ขนั้ สรุปและประเมินผล (30 นาที) 4. ขั้นสรุปและประเมินผล (30 นาท)ี

1. ผ้สู อนและผู้เรียนรว่ มกันสรุปเน้ือหาทไ่ี ด้ 1. ผสู้ อนและผ้เู รยี นร่วมกนั สรปุ เน้อื หาท่ไี ด้เรยี นเรียนใหม้ คี วามเขา้ ใจในทิศทางเดียวกัน เพ่อื ให้มคี วามเข้าใจในทศิ ทางเดียวกัน2. ผ้สู อนใหผ้ ้เู รยี นศกึ ษาเพมิ่ เติมนอกหอ้ งเรียน 2. ผเู้ รียนศกึ ษาเพ่ิมเติมนอกหอ้ งเรยี น ด้วยด้วยบทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ่วยสอนท่ีจัดทาํ ขนึ้ บทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอนที่จัดทําข้นึ (บรรลจุ ุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมข้อท่ี 1-16) (บรรลุจุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมข้อที่ 1-16)(รวม 240 นาที หรือ 4 ชั่วโมงเรียน)งานทมี่ อบหมายหรอื กิจกรรมการวดั ผลและประเมนิ ผล ก่อนเรียน 1. จัดเตรียมเอกสาร สอื่ การเรยี นการสอนหน่วยท่ี 1 2. ทาํ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั จดุ ประสงค์การเรียนของหน่วยที่ 1 และให้ความรว่ มมือในการทํากิจกรรมในหนว่ ยที่ 1 3. ตอบคําถามก่อนเรียน โดยการถาม – ตอบ หน่วยท่ี 1 ขณะเรยี น 1.ปฏิบัตติ ามใบความรู้ท่ี 1 เร่ือง หลกั การทํางานของอุปกรณค์ อมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณ์ตอ่พว่ ง 2. รว่ มกนั สรปุ “หลกั การทาํ งานของอปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์และอปุ กรณต์ ่อพว่ ง” 3. รว่ มกันทาํ กิจกรรมการเรียนรู้ หลังเรยี น 1.ทําแบบฝึกหดั ท้ายบทที่ 1 2.ทําแบบประเมนิ การเรยี นรู้ คาถาม 1. จงบอกองคป์ ระกอบระบบคอมพิวเตอร์ 2. จงบอกความหมายฮารด์ แวร์ ในระบบคอมพิวเตอร์ 3. จงบอกหนา้ ที่ และส่วนประกอบกลักของแผงวงจรหลัก 3. จงอธบิ ายหนา้ ท่หี น่วยรับขอ้ มูล 4. จงอธบิ ายหนา้ ท่ีหนว่ ยประมวลผลกลาง 5. จงบอกคณุ ลกั ษณะทวั่ ไปของหน่วยความจําแบบต่างๆ 6. จงบอกคณุ ลักษณะท่ัวไปของหน่วยแสดงผลแบบตา่ งๆ 7. จงบอกความหมายซอฟท์แวร์ 8. จงบอกความหมายของพีเพิลแวร์ 9. จงบอกความหมายของขอ้ มูล 10.จงอธิบายวธิ กี ารจาํ แนกประเภทของคอมพวิ เตอร์

ผลงาน/ชน้ิ งาน/ความสาเรจ็ ของผ้เู รยี น กิจกรรม ใหผ้ ู้เรยี นหารายการคุณสมบัตเิ ครื่องคอมพวิ เตอร์ (Computer Specification) ที่ผู้เรยี นสนใจมาคนละรายการ จากน้ันให้ผเู้ รียนบอกความหมายของแต่ละรายการคุณสมบตั ิ โดยการนําเสนอต่อผ้สู อนและเพื่อนร่วมชนั้ เรียนสมรรถนะทพ่ี งึ ประสงค์ ผเู้ รียนสรา้ งความเขา้ ใจเก่ียวกับความรเู้ บ้อื งต้นเกย่ี วกับหลกั การทํางานของอปุ กรณ์คอมพิวเตอรแ์ ละอุปกรณต์ ่อพว่ ง 1.วเิ คราะห์และตีความหมาย 2.ตัง้ คาํ ถาม 3.อภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ ระดมสมอง 4.การประยุกตค์ วามรสู้ งู่ านอาชพีสมรรถนะการสรา้ งค่านยิ ม การปลูกฝังใหม้ ีความรับผดิ ชอบ มีความคิดรเิ ริม่ สรา้ งสรรค์ และมีความซือ่ สัตย์ในอาชพี ของตนสมรรถนะการปฏิบตั งิ านอาชพี 1. นําความรเู้ ก่ียวกับแนะนําความรเู้ บื้องตน้ เกยี่ วกบั หลักการทํางานของอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์และอปุ กรณต์ ่อพว่ งไปประยุกต์ใชใ้ นการดาํ เนนิ ชวี ติ ประจาํ วนัสมรรถนะการขยายผลความสอดคล้อง แนะนําความรู้เบอ้ื งตน้ เกีย่ วกับหลกั การทํางานของอุปกรณ์คอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณต์ อ่ พ่วงทําให้ผูเ้ รียนมีความร้เู พ่มิ ขนึ้ เมอื่ ผู้เรียนไดเ้ รียนรทู้ ําใหม้ ีความรู้ในเร่ืองหลกั การทาํ งานของอปุ กรณ์คอมพิวเตอรแ์ ละอุปกรณต์ อ่ พ่วงมากขนึ้สอื่ การเรียนการสอน/การเรียนรู้สอื่ ส่ิงพมิ พ์ 1. เอกสารประกอบการสอนวิชา คอมพิวเตอร์และการบาํ รุงรกั ษา (ใช้ประกอบการเรียนการสอนจดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรมขอ้ ที่ 1-16) 2. ใบความรแู้ ละใบงานสอื่ โสตทศั น์ (ถา้ ม)ี 1. บทเรียนคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน เรื่องความรเู้ บ้อื งต้นเกย่ี วกับหลกั การทาํ งานของอปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์และอุปกรณ์ตอ่ พ่วง 2. สอ่ื ของจริง

แหล่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา 1. ห้องสมดุ วิทยาลัย 2. หอ้ งปฏบิ ตั ิการคอมพวิ เตอร์ ศึกษาหาขอ้ มูลทางอนิ เทอร์เน็ตนอกสถานศกึ ษา ผปู้ ระกอบการ สถานประกอบการ ในทอ้ งถนิ่การบูรณาการ/ความสมั พันธ์กบั วชิ าอ่นื 1. บรู ณาการกบั วชิ าชวี ิตและวัฒนธรรมไทย ด้านการพูด การอ่าน การเขียนและการฝกึปฏบิ ตั ติ นทางสงั คมด้านการเตรียมความพรอ้ ม ความรบั ผดิ ชอบ และความสนใจใฝ่รู้ 2. บรู ณาการกบั วิชาภาษาองั กฤษ การใชค้ ําศัพท์ ความหมาย การสบื คน้ ขอ้ มูล 3. บูรณาการกบั วชิ ากฬี าเพอ่ื พฒั นาสุขภาพและบคุ ลกิ ภาพ ด้านบุคลกิ ภาพในการนาํ เสนอหน้าชัน้ เรียนการประเมินผลการเรียนรู้ • หลกั การประเมินผลการเรยี นรู้ ก่อนเรียน 1.ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน ขณะเรียน 1.สงั เกตการทํางานกลุ่ม หลงั เรียน 1.ตรวจแบบฝึกหัดท้ายบท 2.ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน 3.สรปุ ผลการรายงานหน้าชัน้ เรยี นผลงาน/ชน้ิ งาน/ผลสาเร็จของผู้เรียน ตรวจผลงาน กิจกรรม - กิจกรรม “คณุ ลักษณะของเครือ่ งคอมพิวเตอร์ (Computer Specification) ท่ชี นื่ ชอบแลว้นาํ เสนอหน้าชัน้ เรยี น”รายละเอียดการประเมินผลการเรียนรู้ • จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม ขอ้ ท่ี 1 บอกองค์ประกอบระบบคอมพิวเตอรไ์ ด้ 1.วิธกี ารประเมิน : ทดสอบ 2.เครือ่ งมอื : แบบทดสอบ 3.เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน:บอกองคป์ ระกอบระบบคอมพวิ เตอร์ได้จะได้ 1 คะแนน •จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม ขอ้ ท่ี 2 บอกความหมาย Hardware ในระบบคอมพวิ เตอร์ได้ 1.วิธกี ารประเมิน : ทดสอบ 2.เคร่อื งมือ : แบบทดสอบ

3.เกณฑ์การใหค้ ะแนน : บอกความหมาย Hardware ในระบบคอมพวิ เตอร์ได้ จะได้ 1 คะแนน •จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ขอ้ ที่ 3 บอกหนา้ ที่ และส่วนประกอบหลักของแผงวงจรหลกั ได้ 1.วธิ กี ารประเมิน : ทดสอบ 2.เครื่องมือ: แบบทดสอบ 3.เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน: บอกหน้าท่ี และส่วนประกอบหลักของแผงวงจรหลัก ได้ จะได้ 1 คะแนน •จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ข้อที่ 4 อธบิ ายหนา้ ที่หน่วยรับข้อมูลได้ 1.วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ 2.เครื่องมอื : แบบทดสอบ 3.เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน: อธิบายหนา้ ทีห่ น่วยรับข้อมลู ได้ จะได้ 1 คะแนน •จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ข้อท่ี 5 บอกคุณลกั ษณะท่ัวไปของอปุ กรณ์รับขอ้ มูลได้ 1.วิธกี ารประเมนิ : ทดสอบ 2.เครื่องมือ: แบบทดสอบ 3.เกณฑ์การใหค้ ะแนน: บอกคุณลักษณะท่วั ไปของอุปกรณ์รบั ข้อมูลได้ จะได้ 1คะแนน •จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ข้อที่ 6 อธบิ ายหน้าทห่ี นว่ ยประมวลผลกลางได้ 1.วธิ ีการประเมนิ : ทดสอบ 2.เคร่ืองมือ : แบบทดสอบ 3.เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน: อธบิ ายหนา้ ทีห่ นว่ ยประมวลผลกลางได้ จะได้ 1 คะแนน •จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม ข้อท่ี 7 อธบิ ายหนา้ ท่หี น่วยความจาํ ได้ 1.วธิ กี ารประเมนิ : ทดสอบ 2.เครื่องมือ: แบบทดสอบ 3.เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน: อธิบายหนา้ ท่ีหน่วยความจาํ ได้ จะได้ 1 คะแนน •จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ข้อท่ี 8 บอกคุณลักษณะทว่ั ไปของหน่วยความจาํ แบบตา่ งๆ ได้ 1.วธิ กี ารประเมนิ : ทดสอบ 2.เครอ่ื งมือ: แบบทดสอบ 3.เกณฑ์การให้คะแนน: บอกคณุ ลักษณะทวั่ ไปของหนว่ ยความจาํ แบบตา่ งๆ ได้ จะได้ 1 คะแนน •จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 9 อธิบายหน้าที่หน่วยแสดงผลได้ 1.วธิ ีการประเมนิ : ทดสอบ 2.เครอ่ื งมอื : แบบทดสอบ 3.เกณฑก์ ารให้คะแนน: อธิบายหน้าที่หนว่ ยแสดงผลได้ จะได้ 1 คะแนน •จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ขอ้ ที่ 10 บอกคุณลักษณะทัว่ ไปของหนว่ ยแสดงผลแบบตา่ งๆ ได้ 1.วิธีการประเมนิ : ทดสอบ 2.เครอ่ื งมอื : แบบทดสอบ 3.เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน: บอกคณุ ลักษณะทั่วไปของหน่วยแสดงผลแบบต่างๆ ได้ จะ ได้ 1 คะแนน

•จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ข้อท่ี 11 บอกความหมายซอฟท์แวร์ได้ 1.วิธีการประเมิน: ทดสอบ 2.เครื่องมือ: แบบทดสอบ 3.เกณฑก์ ารให้คะแนน: บอกความหมายซอฟทแ์ วรไ์ ด้ จะได้ 1 คะแนน•จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม ขอ้ ที่ 12 บอกความหมายของพเี พิลแวร์ได้ 1.วธิ กี ารประเมิน : ทดสอบ 2.เครอ่ื งมือ: แบบทดสอบ 3.เกณฑก์ ารให้คะแนน: บอกความหมายของพีเพิลแวรไ์ ด้ จะได้ 1 คะแนน•จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ขอ้ ที่ 13 บอกความหมายของข้อมลู ได้ 1.วธิ กี ารประเมนิ : ทดสอบ 2.เครื่องมือ: แบบทดสอบ 3.เกณฑ์การให้คะแนน: บอกความหมายของข้อมลู ได้ จะได้ 1 คะแนน•จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม ขอ้ ที่ 14 จําแนกประเภทของคอมพิวเตอร์ ได้ 1.วิธกี ารประเมนิ : ทดสอบ 2.เครอื่ งมือ: แบบทดสอบ 3.เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน: จาํ แนกประเภทของคอมพิวเตอร์ ได้ จะได้ 2 คะแนน

แบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 1 หลกั การทางานของอปุ กรณ์คอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณต์ อ่ พว่ งจงตอบคาถามต่อไปนใ้ิ หม้ ีใจความสมบรู ณ์1.จงบอกองคป์ ระกอบระบบคอมพวิ เตอร์………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………2. จงบอกความหมายฮารด์ แวร์ ในระบบคอมพวิ เตอร์………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………3.จงบอกหนา้ ที่ และส่วนประกอบกลักของแผงวงจรหลกั………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………4. จงอธิบายหนา้ ท่ีหน่วยรับขอ้ มูล………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………5. จงอธบิ ายหนา้ ทหี่ น่วยประมวลผลกลาง………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………6. จงบอกคณุ ลักษณะทว่ั ไปของหน่วยความจําแบบต่างๆ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………7. จงบอกคณุ ลกั ษณะท่วั ไปของหน่วยแสดงผลแบบตา่ งๆ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………8. จงบอกความหมายของพเี พลิ แวร์………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

9. จงบอกความหมายของขอ้ มูล………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………10. จงอธิบายวธิ ีการจาํ แนกประเภทของคอมพวิ เตอร์………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แบบประเมนิ ผลการนาเสนอผลงาน ช่อื กล่มุ ………………………………………………………………………ชน้ั ………………………หอ้ ง................รายชือ่ สมาชิก 1……………………………………………………………….……………………………………………………………………เลขท…่ี …..…. 2……………………………………………………………….……………………………………………………………………เลขท…ี่ …..…. 3……………………………………………………………….……………………………………………………………………เลขท…่ี …..…. 4……………………………………………………………….……………………………………………………………………เลขท…่ี …..…. ท่ี รายการประเมนิ คะแนน ขอ้ คิดเห็น 1 ความรู้เกย่ี วกับเนื้อหา ความถูกตอ้ ง ปฏภิ าณในการตอบ และการแกไ้ ข 32 1 ปญั หาเฉพาะหน้า 2 รปู แบบการนาํ เสนอ 3 การมีสว่ นร่วมของสมาชิกในกลมุ่ 4 บุคลิกลักษณะ กริ ิยา ท่าทางในการพดู นํ้าเสยี ง ซ่ึงทาํ ให้ผฟู้ ังมคี วาม สนใจ รวมผู้ประเมิน…………………………………………………เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน1. เน้ือหาสาระครอบคลมุ ชดั เจนถกู ตอ้ ง 3 คะแนน = มีสาระสาํ คญั ครบถว้ นถูกตอ้ ง ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระสาํ คัญไม่ครบถว้ น แตต่ รงตามจดุ ประสงค์ 1 คะแนน = สาระสําคัญไมถ่ กู ตอ้ ง ไมต่ รงตามจดุ ประสงค์2. รูปแบบการนําเสนอ 3 คะแนน = มีรูปแบบการนําเสนอท่ีเหมาะสม มีการใช้เทคนิคที่แปลกใหม่ ใช้ส่ือและเทคโนโลยี ประกอบการ นําเสนอท่ีนา่ สนใจนาํ วัสดใุ นทอ้ งถนิ่ มาประยกุ ตใ์ ช้อย่างคุม้ ค่าและประหยัด 2 คะแนน = มเี ทคนคิ การนาํ เสนอทแ่ี ปลกใหม่ ใช้สอื่ และเทคโนโลยีประกอบการนาํ เสนอท่นี า่ สน ใจแต่ ขาดการประยกุ ตใ์ ช้ วสั ดุในท้องถิน่ 1 คะแนน = เทคนิคการนาํ เสนอไมเ่ หมาะสม และไมน่ า่ สนใจ3. การมสี ่วนร่วมของสมาชกิ ในกลมุ่ 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีบทบาทและมสี ่วนร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญม่ บี ทบาทและมสี ่วนร่วมกิจกรรมกล่มุ 1 คะแนน = สมาชิกส่วนนอ้ ยมบี ทบาทและมสี ่วนรว่ มกิจกรรมกล่มุ4. ความสนใจของผ้ฟู งั 3 คะแนน = ผู้ฟังมากกว่ารอ้ ยละ 90 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมอื 2 คะแนน = ผฟู้ ังร้อยละ 70-90 สนใจ และใหค้ วามร่วมมือ 1 คะแนน = ผฟู้ งั นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 70 สนใจ และให้ความรว่ มมอื

บนั ทึกหลงั การสอน หนว่ ยที่ 1 หลักการทางานของอุปกรณ์คอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณต์ ่อพว่ งผลการใช้แผนการเรยี นรู้ 1. เนอ้ื หาสอดคลอ้ งกับจุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 2. สามารถนําไปใชป้ ฏิบัติการสอนไดค้ รบตามกระบวนการเรียนการสอน 3. เวลาทีก่ าํ หนดไว้ในแผนการสอนมีความเหมาะสมผลการเรยี นของนักเรยี น 1. นักศึกษาสว่ นใหญ่มีความสนใจใฝร่ ู้ เขา้ ใจในบทเรียน อภปิ รายตอบคําถามในกล่มุ และ รว่ มกันปฏิบัติใบงานที่ได้รับมอบหมาย 2. นกั ศึกษากระตอื รอื ร้นและรับผิดชอบในการทํางานกลมุ่ เพอ่ื ให้งานสําเรจ็ ทนั เวลาที่ กําหนด 3. นักศึกษาเลอื กสามารถนําความรูไ้ ปใชไ้ ดจ้ ริงในชวี ติ ประจําวนัผลการสอนของครู 1. สอนเน้อื หาไดค้ รบตามหลกั สตู ร 2. แผนการสอนและวธิ ีการสอนครอบคลมุ เนือ้ หาการสอนทําให้ผสู้ อนสอนได้อยา่ งม่นั ใจ 3. สอนไดท้ ันตามเวลาทก่ี าํ หนดลงชอ่ื ............................................... ลงช่ือ....................................................... (.....................................) (ว่าท่ีรอ้ ยตรสี มพงษ์ ตระการศภุ กร) รองผอู้ าํ นวยการฝ่ายวชิ าการ ครูผูส้ อน

แผนการสอน/แผนการเรยี นรภู้ าคทฤษฎี หนว่ ยท่ี 2 สปั ดาหท์ ี่ 2-4 แผนการสอน/การเรียนร้ภู าคทฤษฎี 12 ชั่วโมง ชือ่ วิชา คอมพิวเตอรแ์ ละการบํารุงรกั ษา ช่ือหนว่ ย การประกอบเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ชื่อเร่อื ง การประกอบเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์หัวข้อเรื่อง ดา้ นความรู้ 1.ขน้ั เตรียมเครอ่ื งมือและอุปกรณ์ 2.การตดิ ตง้ั แผงวงจรหลกั (Main Board) 3.การตดิ ตั้งหนว่ ยประมวลผลกลาง (CPU) 4.การตดิ ตงั้ RAM 5.การตอ่ สายสญั ญาณ 6.การติดต้งั ฮารด์ ดิสก์ 7.การติดตงั้ Disk Drive 8.การตดิ ตง้ั Extension Card 9.การติดตง้ั อุปกรณ์ตอ่ พว่ ง ด้านทักษะ 1.เตรียมเครอ่ื งมือและอุปกรณ์ 2.ติดตั้งแผงวงจรหลกั (Main Board) 3.ติดตั้งหนว่ ยประมวลผลกลาง (CPU) 4.ตดิ ตั้ง RAM 5.ตอ่ สายสัญญาณ 6.ติดต้งั ฮาร์ดดิสก์ 7.ตดิ ตง้ั Disk Drive 8.ตดิ ตง้ั Extension Card 9.ติดตง้ั อุปกรณต์ อ่ พว่ ง ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม 1.ปฏิบัติงานไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง รอบคอบ 2.สง่ งานตรงตามเวลาทก่ี ําหนด 3.มีความซอื่ สตั ย์ อดทน ไม่คัดลอกผลงานผอู้ ื่น 4.ใช้เวลาอยา่ งเหมาะสมกับงานท่ีปฏบิ ตั ิสาระสาคัญ

เครอื่ งคอมพวิ เตอรเ์ กดิ จากการประกอบกนั ของอุปกรณต์ า่ งๆ ท้ังในสว่ นภายในเครื่อง และในส่วนท่ีอย่ภู ายนอกเครอ่ื ง ซึ่งประกอบดว้ ยขัน้ ตอนตา่ งๆ เช่นข้นั เตรยี มเคร่ืองมือและอปุ กรณ์ การตดิ ตง้ัแผงวงจรหลัก (Main Board) การติดต้ังหน่วยประมวลผลกลางหรือ CPU การติดตั้ง RAM การต่อสายสัญญาณ การติดต้ังฮารด์ ดิสก์ การติดต้ัง Disk Drive การติดต้ัง Extension Card และการติดตัง้อปุ กรณต์ อ่ พ่วง ในการเลือกซ้ืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์เพื่อมาประกอบเป็นเคร่ืองคอมพิวเตอร์นั้น จะทําให้ผู้ใชไ้ ด้เลอื กอุปกรณ์ทต่ี รงกบั ความตอ้ งการในการใช้งาน แต่ผ้ใู ช้จะตอ้ งมีความรู้และความเข้าใจในการที่จะประกอบชิ้นส่วนที่ซื้อมา เพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพในการประมวลผลข้อมูล ซึ่งการประกอบเครื่องคอมพิวเตอรม์ ีขน้ั ตอนต่างๆสมรรถนะอาชีพประจาหน่วย 1. แสดงความรู้เกย่ี วกับการประกอบเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ 2. ประกอบเครอ่ื งคอมพวิ เตอรต์ ามการใช้งานจดุ ประสงคก์ ารสอน/การเรียนรู้ • จุดประสงคท์ ว่ั ไป / บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง 1.เพือ่ ให้มีความร้พู น้ื ฐานเกีย่ วการประกอบเครอื่ งคอมพวิ เตอร์และมที ศั นคตทิ ด่ี ี (ดา้ นความรู้) 2.เพือ่ ให้มที ักษะการประกอบเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ (ด้านทกั ษะ) 3.เพื่อให้มีเจตคติท่ีดีต่อการเตรียมความพร้อมด้าน วัสดุ อุปกรณ์ และการปฏิบัติงานอย่างถูกต้อง สําเร็จภายในเวลาที่กําหนด มีเหตุและผลตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม) •จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม / บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพียง 1. บอกถงึ เคร่อื งมอื และอปุ กรณ์ท่ีใช้ประกอบเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ได้ (ด้านความร)ู้ 2. อธิบายวิธีการติดต้ังแผงวงจรหลัก (Main Board) ได้ (ด้านความรู)้ 3. อธิบายวธิ ีการติดตั้งหนว่ ยประมวลผลกลาง (CPU) ได้ (ด้านความรู้) 4. อธบิ ายวิธกี ารติดต้ัง RAM ได้ (ดา้ นความร)ู้ 5. อธบิ ายวิธีการตอ่ สายสญั ญาณตา่ งๆ ได้ (ด้านความร้)ู 6. อธิบายวิธกี ารตดิ ตงั้ ฮาร์ดดสิ ก์ได้ (ด้านความรู้) 7. อธิบายวธิ กี ารตดิ ตง้ั Disk Drive ได้ (ดา้ นความรู้) 8. อธิบายวิธกี ารตดิ ตั้ง Extension Card ได้ (ดา้ นความร)ู้ 9. อธิบายวธิ กี ารตดิ ตง้ั อุปกรณต์ อ่ พ่วง ได้ (ดา้ นความรู้) 10. การเตรียมความพร้อมด้านการเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ ผู้เรียนจะต้องกระจายงานได้ทั่วถึงและตรงตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจัดเตรียมสถานท่ี สื่อ วัสดุ อุปกรณ์ไวอ้ ยา่ งพรอ้ มเพรยี ง (ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพียง) 11. ความมีเหตมุ ีผลในการปฏิบัติงาน ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ผู้เรียนจะต้องมีการใช้หลักการเรียนรู้และเวลาที่เหมาะสมกับการเรียนรู้ (ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง)

เน้ือหาสาระการสอน/การเรยี นรู้• ด้านความรู้ (ทฤษฎี)1. ขัน้ เตรยี มเคร่อื งมอื และอปุ กรณ์ (จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมข้อท่ี 1) เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบเคร่ืองคอมพิวเตอร์ทุกอย่าง จําเป็นจะต้องจัดเตรยี มใหพ้ ร้อมสําหรบั การใชง้ าน เพอื่ การประกอบเครอื่ งทีร่ าบรน่ื ไม่ตอ้ งรอของหรอื อปุ กรณ์ใดอยู่เครอื่ งมือและอุปกรณท์ ั่วไปประกอบดว้ ย -ไขควงปากแบนและไขควงแฉกขนาดกลาง ใช้ขันนอ็ ตยดึ แผงวงจรหลกั เขา้ กับตวั เคส ยึดการ์ดเพ่ิมเติม ติดตัง้ ฟล็อบปด้ี ิสก์ ซดี ีรอมไดรวแ์ ละฮารด์ ดสิ ก์ ตลอดจนการปดิ ฝาเคส -คีมใช้คบี น็อตใส่ในช่องเกลียวสาํ หรับน็อตในที่คับแคบทไี่ ม่สามารถใช้มือจับได้ -ตัวถอดชิปในเคร่อื งรนุ่ เกา่ ตวั ชิปมักจะตดิ ตัง้ อยใู่ น Socket ในลักษณะถอดเปล่ยี นได้ ซึง่ ตวัถอดชิปจะชว่ ยได้มากแตใ่ นปัจจบุ นั ชิปมักจะถูกฝังบนตวั การ์ดหรอื แผงวงจรหลักตง้ั แตผ่ ลิตออกมาจากโรงงานแล้ว การถอดตอ้ งใช้เครื่องมอื พิเศษทผ่ี ลติ มาโดยเฉพาะ -หลอดเก็บสกรูและ Jumper ท่เี หลือจากการประกอบเครอื่ งไว้ใชใ้ นยามจําเป็น -ปากคีบ สาํ หรับคีบจบั สกรหู รอื อุปกรณ์ชนิ้ เล็กๆ ท่ีใชม้ อื ท่หี ยิบไมไ่ ด้ -บลอ็ กหกเหล่ียมขนาดเล็กใชส้ ําหรบั ขนั นอ็ ตหกเหลีย่ มตวั เมียกบั แผงเหลก็ ของเคส เพอ่ื ยึดแผงวงจรหลักเขา้ กบั ตัวเคส จากน้ันเตรียมเคสสําหรับติดต้ังแผงวงจรหลัก ข้ันตอนน้ีเป็นข้ันเร่ิมต้นสําหรับประกอบเคร่ืองมือ ให้ใช้ไขควงขันคลายน็อตยึดตัวเคสและเปิดฝาก้ันออกมา โดยภายในเคสจะมีสาย Powerในกรณีท่ีซื้อตัวเครื่องหรือเคสที่มีแหล่งจ่ายไฟหรือ Power Supply มาด้วย ชุดน๊อตสําหรับสําหรับประกอบเคร่ือง ให้ตรวจสอบและทาํ ตามข้ันตอนดงั น้ี 1) แกะกล่องแผงวงจรหลกั ตรวจสอบคู่มือ และอุปกรณต์ า่ งๆ 2) ภายในตัวเครอ่ื งหรอื เคสทกุ ตวั จะมนี ๊อตประกอบเครอ่ื ง สาย Power และใหจ้ ัดเตรยี มไว้ ใหพ้ ร้อม2. การติดตั้งแผงวงจรหลัก (จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมขอ้ ท่ี 2) การติดต้ังแผงวงจรหลักหรือ Mainboard เข้ากับตัวเครื่องหรือเคส ขั้นตอนน้ีให้แกะกล่องบรรจุแผงวงจรหลัก ซึ่งจะมีสายข้อมูล SATA คู่มือแผงวงจรหลัก และแผ่นซีดีไดรว์เวอร์ของแผงวงจรหลักมาด้วย เม่ือติดต้ังแผงวงจรหลักเข้ากับตัวเคร่ืองหรือเคสแล้ว ให้กําหนด Jumper บนแผงวงจรหลกั เปน็ Normal ซงึ่ ปกติแผงวงจรหลักจะถูกกําหนด Jumper เป็น Clear CMOS เพ่อื ป้องกันแบตเตอรี่หมดเพราะหากไม่กําหนด Jumper ให้ถูกต้อง หลังประกอบเครื่องแล้วจะบู๊ตเครื่องไม่ได้สาํ หรับการตดิ ตง้ั แผงวงจรหลักมีขั้นตอนดังน้ี 1) วางทาบแผงวงจรหลักลงบนตัวเคร่ืองหรือเคส ให้รูยึดน็อตตรงกับรูแท่นรองน๊อตที่ขันยดึกบั แผงเคส โดยสงั เกตดูใหแ้ ทน่ รองนอ็ ตตรงกบั แผงวงจรหลักทุกชอ่ ง 2) ขนั นอ๊ ตลงบนแทน่ รองน๊อต เพือ่ ยึดแผงวงจรหลักเข้ากับตัวเครื่องหรือเคส3. การติดต้ังหนว่ ยประมวลผลกลางหรือ CPU (จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมข้อที่ 3) การติดต้ังหน่วยประมวลผลกลางหรือ CPU ในตัวอย่างเป็นหน่วยประมวลผลกลางตระกูลCore i ยี่หอ้ Intel ที่ใช้ Socket LGA1156 จะตอ้ งระวงั ขาเข็มท่ีตวั Socket ที่มขี นาดเลก็ เพียง 2 มิลลิเมตร

หากนิ้วไปกระทบอาจหักงอเสียหายได้ Socket แบบ LGA มีลักษณะพิเศษตรงที่ขาของ หน่วยประมวลผลกลางจะเปน็ หน้าสมั ผัสกลมเล็กๆ ตวั Socket หนว่ ยประมวลผลกลางจะมีแผ่นเหลก็ ครอบตัว Socket อกี ชน้ั หนงึ่ มีวธิ กี ารตามขนั้ ตอนต่อไปน้ี 1) ยกคานล็อคข้ึนเพื่อปลดล็อคเปิดฝาครอบตัว Socket และเตรียมติดต้ังหน่วยประมวลผลกลาง 2) ยกฝาครอบ Socket ขน้ึ 3) วางหน่วยประมวลผลกลาง หรอื CPU ลงใน Socket 4) สังเกตตําแหน่งขาที่ 1 ของตัว หน่วยประมวลผลกลาง หรือ CPU ที่เป็นรูปสามเหล่ียมสีเหลืองตรงมมุ ของหนว่ ยประมวลผลกลาง หรอื CPU 5) วางหน่วยประมวลผลกลาง หรือ CPU ลงบน Socket โดยสังเกตขาท่ี 1 อย่างระมัดระวังเนื่องจากขาเข็มของ Socket มีขนาดเลก็ และเสียหายไดง้ า่ ย 6) ปิดฝาครอบตัวหน่วยประมวลผลกลางหรือ CPU ให้เรียบร้อย โดยไม่ต้องออกแรงกดป้องกนั ความเสียหาย 7) ดันคานล็อคของตัว Socket เพ่ือยึดตัว หน่วยประมวลผลกลางหรือ CPU ให้แน่นกับตัวSocket หากผู้ใชต้ ดิ ตงั้ หนว่ ยประมวลผลกลางอยา่ งเหมาะสม ตวั ล็อคจะยึดกับ Socket ไดพ้ อดี 8) ทาซิลิโคนบางๆ บนตัวหน่วยประมวลผลกลาง เพื่อเป็นสารช่วยนําความร้อนจาก หน่วยประมวลผลกลางไปยังฮีตซิงค์ ส่วนใหญ่ในปัจจุบันสารซิลิโคนจะติดมาพร้อมพดั ลมระบายความร้อนหน่วยประมวลผลกลาง 9) เตรยี มตดิ ตั้งพัดลมระบายความร้อนหน่วยประมวลผลกลาง สงั เกตตาํ แหน่งช่องท้งั 4 มุมสําหรับติดต้ังฮีตซงิ คบ์ นแผงวงจรหลกั 10) นําพัดลมระบายความรอ้ นหนว่ ยประมวลผลกลาง วางลงไปบนแผงวงจรหลัก โดยสงั เกตทัง้ 4 มุมให้พอดกี ับชอ่ งบนแผงวงจรหลกั 11) กดตัวล็อคให้กด 2 มุมตรงข้ามพร้อมกันเพ่ือป้องกันไม่ให้พัดลมระบายความร้อนหนว่ ยประมวลผลกลางเอยี ง ซงึ่ อาจทาํ ให้วงจรบนแผงวงจรหลักเสยี หาย 12) เปิดคู่มือที่มากับแผงวงจรหลัก เพื่อดูตําแหน่งท่ีติดตั้งสายไฟพัดลมระบายความร้อนหน่วยประมวลผลกลาง ซึ่งปกติจะอยู่บริเวณโดยรอบ Socket ของหน่วยประมวลผลกลาง และมีข้อความ CPU FAN กํากับอยู่ แล้วเสียบสายไฟพัดลมเข้ากับตัวแผงวงจรหลัก เพื่อจ่ายไฟให้กับพดั ลมระบายความร้อนหนว่ ยประมวลผลกลาง4. การตดิ ตง้ั RAM (จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรมขอ้ ท่ี 4) หนว่ ยความจํา RAM มหี ลายชนิดตามที่ไดก้ ลา่ วไปแล้ว และแต่ละชนดิ กจ็ ะมคี วามแตกตา่ งกันในรูปร่าง หรือจํานวนขาสัญญาณ ฉะนั้นในการติดต้ังหน่วยความจํา RAM ในแผงวงจรหลักจะต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ของหน่วยความจํา RAM กบั Socket ท่ใี ช้ติดต้ัง ซ่งึ สว่ นใหญใ่ นแผงวงจรหลักหรอื ในคมู่ อื แผงวงจรหลกั จะเขียนบอกไว้ว่าเป็น Socket ที่ใชต้ ิดต้ัง RAM ประเภทใด ดังตัวอย่างจะเปน็DDR3 DIMM sockets ทใ่ี ช้ตดิ ต้งั หนว่ ยความจาํ RAM ประเภท DDR3 ในการติดต้ังหนว่ ยความจํา RAM ให้หันด้านที่มีรอยเว้าให้ตรงกับเส้นของ Sockets แล้วกดลงไปจนขาล็อคด้านข้างดีดขึ้นมาล็อคแผงหน่วยความจํา RAM ดังภาพที่ 2.18 สังเกตว่าถ้าวางหน่วยความจาํ RAM ผดิ ด้านจะไมส่ ามารถกดลงได้ อย่าฝนื กดเพราะจะทําให้ RAM เสียหายได้

5. การต่อสายสญั ญาณ (จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมขอ้ ท่ี 5) สายสัญญาณและสายไฟภายในตัวเครื่อง มีอยู่หลายแบบหลายสัญญาณท่ีใช้เชื่อมต่อเพ่ือให้สามารถใชง้ านไดค้ รบสมบูรณ์ มีวิธกี ารเช่อื มต่อดงั น้ี 5.1 การต่อสายไฟเลี้ยงแผงวงจรหลัก หรือสายเพาเวอร์สําหรับแผงวงจรหลัก ในที่น้ีจะเป็นการต่อสายไฟจาก Power Supply ไปยังแผงวงจรหลกั ตามขน้ั ตอนต่อไปนี้ 1) หาตําแหน่งของข้ัวต่อสาย Power Supply ในแผงวงจรหลัก โดยจะมีข้อความEATXPWR กาํ กับ 2) เสยี บหัวสาย Power โดยหันด้านท่ีมีหัวลอ็ คให้ตรงกนั 5.2 การต่อสายสัญญาณเข้ากับ Front Panel Connector บนแผงวงจรหลัก มีลักษณะเป็นหัวเสียบสายสีดําและมีตวั อักษรกํากบั ดังน้ี POWER SW เป็นสายไฟของสวิทช์ท่ีใช้ในการเปิดปิดเครื่อง ซึ่งจะต่อมาจากสวิทช์ที่อยดู่ ้านหน้าตวั เครือ่ งหรือเคส RESET SW เป็นสายไฟท่ีต่อมาจากปุ่ม Reset Switch ท่ีอยู่ทางด้านหนา้ ตัวเครื่องหรอืเคส ซง่ึ จะเป็นปุม่ ที่ใช้รเี ซต็ เครอ่ื งใหม่ ใชแ้ ทนการกดป่มุ Power เพื่อปดิ และเปิดเครือ่ งใหม่ POWER LED เป็น Connector ที่จะส่งไฟเล้ียงไปยังหลอด LED ท่ีอยู่ทางด้านหน้าของเคส เพ่ือแสดงสถานะของเครื่องว่าเปิดหรอื ปิด ถ้าเคร่ืองเปิดอยู่หลอด LED จะแสดงไฟสีเขียว ถ้าปิดเคร่ืองไฟจะดับ H.D.D LED เป็นสายไฟของหลอด LED ท่ีต่อมาจากด้านหน้าของเคส ใช้แสดงสถานะการอา่ นหรอื เขียนขอ้ มลู ของอปุ กรณ์ท่ตี อ่ กบั ฮารด์ ดสิ ก์ SPEAKER เป็น Connector ท่ีต่อไปยังลําโพงของเครื่อง ใช้แสดงเสียง Beep Codeเท่านั้นจะใชเ้ สยี งในรูปแบบอน่ื ไม่ได้โดยสายสัญญาณต่างๆ มีวิธกี ารตอ่ กับแผงวงจรหลกั ดงั น้ี 1) เสยี บสาย HDD LED ท่ขี า IDE LED โดยนาํ ด้านทมี่ ีสายสีแดงเสียบท่ีขั้วบวก โดยหนั คอนเน็กเตอรด์ า้ นท่ีมีตัวหนงั สือ HDD LED เข้าทางด้านในของแผงวงจรหลกั 2) เสียบสาย POWER LED ที่ขา LED โดยนาํ ด้านท่ีมสี ายสเี ขยี วเสยี บท่ี +5V โดยหัน Connectorดา้ นทม่ี ตี ัวหนังสอื Power LED เข้าทางด้านในของแผงวงจรหลกั 3) เสียบสาย POWER SW ทีข่ า ATX Power Switch 4) เสยี บสาย SPEAKER ทีข่ า SPEAKER Connector 5) เสยี บสาย RESET SW ที่ขา RESET SW 5.3 การตอ่ สายไฟกบั พัดลมระบายความรอ้ น การต่อสายไฟกับพัดลมระบายความร้อน เป็นการต่อไฟเลี้ยงจาก Power Supplyให้กับพัดลมระบายความร้อนท่ีติดต้ังในตําแหน่งต่างๆ ของตัวเคร่ืองหรือเคส ดังในตัวอย่างเป็นการเชื่อมตอ่ สายไฟให้กบั พดั ลมระบายความร้อนด้านหลังเครอ่ื ง ดังน้ี 1) หาหัวต่อของสายไฟของพัดลมระบายความร้อน โดยมากแล้วจะมีลักษณะเป็นปลั๊กสวม 2) เสียบสาย Power Supply เข้ากับสายพัดลม และสายที่เชื่อมต่อระหว่างพัดลมตัวหน้าและตัวหลัง

6. การติดตั้งฮาร์ดดสิ ก์ (จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมข้อท่ี 6) ฮาร์ดดิสก์เป็นหน่วยสํารองข้อมูลหลักของเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ ที่ส่วนใหญ่จะติดต้ังไว้ภายในเครือ่ ง โดยการเสียบตวั ฮาร์ดดิสกเ์ ขา้ ไปในช่องสําหรับติดตัง้ ฮาร์ดดิสก์ แล้วยดึ นอ็ ตด้านข้างฮาร์ดดิสก์กบั เคส จากนั้นเสียบสายไฟเลี้ยง หรอื สาย Power ของฮารด์ ดสิ ก์จาก Power Supply7. การติดตัง้ Disk Drive (จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมขอ้ ท่ี 7) Disk Drive ที่นิยมติดตั้งไว้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จะเป็น Optical Disk Drive ต่างๆเพ่ือให้ในการอ่านเขียนแผ่น CD หรือ DVD ดังในตัวอย่างจะเป็นการติดตั้ง DVD-RW Drive โดยจะต้องแกะฝาครอบชอ่ ง Disk Drive ด้านหน้าออกเสียก่อน แล้วเสียบ DVD-RW Drive เขา้ ไปจนด้านหน้าเรียบสนิท จากนั้นยึดน็อต DVD-RW Drive เข้ากับเคสให้แน่นท้ัง 4 ตัว จากนั้นเสียบสายข้อมูล SATA จากDVD-RW Drive เข้ากับชอ่ งตอ่ SATA2 ของแผงวงจรหลกั จากนั้นเสียบสายไฟเลย้ี ง DVD-RW Drive หรือสาย Power จาก Power Supply8. การติดต้งั Extension Card (จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมข้อที่ 8) Extension Card หรือการ์ดต่อขยายเพ่ือการใช้งานเฉพาะอย่าง เช่นการต่อการ์ดแสดงผลเพอ่ืการแสดงที่ดีและมีประสิทธิภาพกว่าที่แผงวงจรหลักมีให้ จะต้องเลือกการ์ดที่มีส่วนเชื่อมต่อตามที่แผงวงจรหลักมี ดังตัวอย่างเป็นการติดต้ัง Display Card ในช่อง PCIEX16 โดยจะต้องทดลองวางทาบDisplay Card กับ PCIEX16 slot เพ่ือดตู าํ แหนง่ ทจี่ ะต้องแกะฝาหลังออก จากน้นั เสียบ Display Card กับPCIEX16 slot แล้วกดลงให้แน่น สังเกตจะมีส่วนเช่ือมต่องของ Display Card โผล่ออกไปนอกเคสตามช่องฝาหลงั ท่เี ราแกะออก แลว้ ยึดน็อตระหว่าง Display Card กบั เคสใหแ้ น่น9. การติดต้ังอปุ กรณต์ ่อพ่วง (จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมขอ้ ท่ี 9) อุปกรณ์ต่อพ่วง หรืออปุ กรณท์ ีส่ ามารถตอ่ เข้ากับคอมพวิ เตอร์เพ่ือใช้งาน โดยก่อนที่จะติดตั้งสายไฟหรือสายสัญญาณใดๆ ให้ตรวจสอบก่อนว่าอุปกรณ์แต่ละชนิดมีสายใดให้มาบ้าง และต้องต่อสายใดเข้าท่ีพอร์ต (Port) ใด โดยตรวจสอบจากคู่มือหรือดูจากสัญลักษณ์ที่กํากับมากับพอร์ต (Port)เสียก่อน หลงั จากนั้นเริ่มตดิ ตัง้ สายของอุปกรณ์ทีละเส้นจนครบทกุ อุปกรณ์ อุปกรณ์ที่จะเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์จะมีสายเคเบิลพร้อมกับหัวต่อหรือ Connector ติดอยู่แล้วนําหัวต่อหรือ Connector ของอุปกรณ์น้ันมาเสียบเข้ากับหัวต่อหรือ Connector ของเคร่ืองคอมพิวเตอร์เพ่ือใช้งาน หัวต่อหรือ Connector ที่มีหัวเข็มเรียกว่า Male Connector ส่วนหัวต่อหรือConnector มีรเู ขม็ เรียกวา่ Female Connector หัวต่อหรือ Connector ท่ีอยู่ภายนอกส่วนใหญ่จะอยู่ด้านหลังของตัวเคร่ืองคอมพิวเตอร์หัวต่อหรือ Connector ของอุปกรณ์บางตัวอาจจะมีน็อตขันหรือคลิปหนีบเพ่ือให้ติดแน่น ซ่ึงพอร์ตเชื่อมตอ่ ตา่ งๆ มีดงั นี้ 1) พอรต์ (Port) เชื่อมต่อคยี ์บอร์ด เปน็ Female Connector มี 6 รู ซงึ่ ร้จู กั กนั ในช่ือของ mini-DIN หรอื PS/2 connecter โดยใชส้ ญั ลักษณ์สมี ว่ ง 2) พอร์ต (Port) ต่อเมาส์ เป็น Female Connector มี 6 รู พอร์ต (Port) ต่อเมาส์นี้มีลักษณะเหมอื นกบั พอรต์ (Port) เชอื่ มต่อคียบ์ อร์ด แตจ่ ะต่างกนั ท่ีเป็นสีเขยี ว

3) พอร์ตอนุกรม (Serial port) เป็นได้ทั้งคอนเน็กเตอร์ตัวผู้ 9 หรือ 25 เข็ม พอร์ตอนุกรมเช่อื มตอ่ กับสายเคเบิลที่มคี อนเน็คเตอร์ตวั เมยี 9 หรอื 25 รู ส่วนใหญ่จะใชพ้ อร์ตนเ้ี ช่ือมต่อเมาส์ หรอืโมเดม็ ตดิ ตั้งภายนอก 4) พอร์ต USB (Universal Serial Bus) เป็นพอร์ตรุ่นใหม่ท่ีสามารถต่ออุปกรณ์พ่วงได้ถึง 127ตัว พอร์ต USB จะเป็นหัวต่อหรือ Connector ส่ีเหล่ียมเล็กๆ ใช้ในการเช่ือมต่อเม้าส์ คีย์บอร์ดเคร่ืองพิมพ์ กลอ้ งดจิ ิตอล โมเด็ม และอปุ กรณ์อ่ืนๆ ที่เปน็ หัวต่อหรือ Connector แบบ USB 5) พอร์ต (Port) เช่ือมต่อเครือข่าย พอร์ตเช่ือมต่อเครือข่ายแบบท่ีนิยมใช้เป็นแบบพอร์ต RJ-45 มลี กั ษณะคล้ายกับพอร์ตเชือ่ มต่อสายโทรศพั ท์ 6) พอร์ต (Port) ต่อจอภาพ เป็นหัวต่อหรือ Connector ท่ีมีทั้งแบบ Video Graphics Adapter(VGA) port หัวตอ่ หรือ Connector แบบ Female Connector มี 15 รู และแบบ DVI-D port ซงึ่ เปน็ หวั ต่อหรือ Connector แบบ Female Connector เช่นกัน 7) การเชื่อมต่อกับพอร์ตท่ีเกี่ยวกับเสียง ซึ่งปกติจะเคร่ืองคอมพิวเตอร์ทั่วไปจะมีพอร์ตที่ใช้เชื่อมตอ่ เสียงมาให้ประกอบด้วย - Line In port สัญลักษณ์สีฟา้ ใช้เช่ือมตอ่ เคร่ืองเลน่ เสยี งจากภายนอก - Line Out port สญั ลักษณ์สเี ขียว ใชเ้ ชอ่ื มต่อลาํ โพงหรือหฟู ัง - Microphone port สัญลักษณ์สชี มพู ใช้เชอื่ มต่อไมโครโฟน• ดา้ นทกั ษะ (ปฏบิ ตั )ิ (จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมขอ้ ท่ี 1-11) 1.แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 2 2.กจิ กรรมการเรียนรู้• ดา้ นคณุ ธรรม/จริยธรรม/จรรยาบรรณ/บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1.การเตรยี มความพรอ้ มดา้ น วสั ดุ อุปกรณน์ ักศึกษาจะตอ้ งทาํ ความสะอาดห้องเรยี นจดั เตรยี มอุปกรณ์ในการเรียนรู้ ให้มคี วามพรอ้ มเพยี งและเหมาะสมกับเวลาทใ่ี ช้ในการเรยี น 2.ความมีเหตุมีผลในการปฏิบัตงิ าน ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงนักศึกษาจะต้องมีการใชเ้ ทคนคิ การจดบนั ทึกงาน การสืบค้นข้อมลู กอ่ นการเรยี นรแู้ ละหลังเรยี นร้เู พือ่ ให้การเรยี นรู้เหมาะสมกับเวลา คมุ้ ค่าและประหยัด กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรยี นรู้ขนั้ ตอนการสอนหรอื กจิ กรรมของครู ขั้นตอนการเรียนรหู้ รอื กจิ กรรมของนักเรียน1. ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน (90 นาท)ี 1. ขั้นนาเขา้ สู่บทเรียน (90 นาที)1. ผู้สอนจัดเตรยี มเอกสาร 1. ผเู้ รียนทาํ แบบทดสอบกอ่ นเรียน2. ผสู้ อนแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนของหน่วย 2. ผ้เู รียนทําความเข้าใจเกย่ี วกับจดุ ประสงคก์ ารเรียนที่ 2 และขอใหผ้ เู้ รียนร่วมกันทํากจิ กรรมการเรยี น เรยี นของหนว่ ยเรยี นท่ี 2 และการใหค้ วามรว่ มมือในการการสอน ทํากิจกรรม3. ผู้สอนให้ผ้เู รยี นแสดงความรู้ โดยตงั้ คําถาม 3. ผู้เรียนแสดงความรู้ว่าการประกอบเครื่องว่าการประกอบเครอ่ื งคอมพิวเตอร์มีหลักการทํางาน คอมพิวเตอร์มหี ลักการทาํ งานอย่างไรพรอ้ มให้เหตุผลอย่างไรพร้อมใหเ้ หตุผลประกอบ ประกอบ

2. ขั้นใหค้ วามรู้ (450 นาท)ี 2. ข้ันให้ความรู้ (450 นาท)ี1. ผ้สู อนทดสอบความรู้ความเขา้ ใจเกยี่ วกับ 1. ผู้เรยี นทาํ แบบทดสอบก่อนเรยี นเพื่อแสดงความรู้เบอ้ื งต้นเกย่ี วกับการประกอบเคร่อื ง ความรแู้ ละความเข้าใจกอ่ นการเรียน เรื่องการประกอบคอมพิวเตอร์โดยให้ผู้เรยี นทําแบบทดสอบก่อนเรยี น เคร่อื งคอมพิวเตอร์ ผู้เรยี นศึกษาบทเรียนวชิ า2. ผู้สอนอธบิ ายเน้ือหาเกี่ยวกับบทเรยี นวิชา คอมพวิ เตอรแ์ ละการบาํ รงุ รกั ษา หน่วยท่ี 2 เร่ืองการคอมพวิ เตอร์และการบาํ รงุ รกั ษา หน่วยที่ 2 เรอื่ ง การ ประกอบเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ และศกึ ษาเอกสารประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ และให้ผูเ้ รยี นศึกษา ประกอบการสอน หน่วยที่ 2เอกสารประกอบการสอน หน่วยท่ี 2 2. ผเู้ รยี นอธิบายหลกั การประกอบเครอ่ื ง3. ผสู้ อนและผเู้ รียนร่วมกันอธิบายการประกอบ คอมพวิ เตอร์ตามทีไ่ ดศ้ ึกษาจากบทเรยี นคอมพิวเตอร์เครอื่ งคอมพิวเตอร์ตามท่ไี ด้ศกึ ษาจากบทเรียน ชว่ ยสอนคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน3. ขน้ั ประยกุ ตใ์ ช้ (90 นาที) 3. ข้นั ประยุกต์ใช้ (90 นาท)ี1. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นทําแบบฝกึ หัดทา้ ยบทที่ 2 1. ผู้เรยี นทาํ แบบฝกึ หดั ท้ายบทท่ี 22. ผสู้ อนแบ่งกล่มุ การฝกึ ปฏิบัตอิ อกเป็นสถานี 2. ผู้เรียนแบ่งกลมุ่ การฝกึ ปฏิบัติออกเป็นสถานี โดยโดยทแี่ ต่ละสถานีใช้เครือ่ งคอมพิวเตอรท์ ่ีแตกต่างกัน ทแี่ ต่ละสถานใี ชเ้ ครื่องคอมพิวเตอร์ท่ีแตกต่างกนั จากน้นัจากน้นั ให้ผูเ้ รยี นเข้าฝึกปฏิบตั ิประกอบเครือ่ ง ให้ผูเ้ รยี นเข้าฝกึ ปฏิบตั ิประกอบเคร่ืองคอมพิวเตอรแ์ บบคอมพวิ เตอรแ์ บบวนสลับกัน แลว้ ให้ผเู้ รยี นร่วมกนั วนสลับกนั แล้วให้ผู้เรยี นรว่ มกนั สรปุ อภิปรายการฝกึสรุปอภปิ รายการฝึกปฏิบัติประกอบเครอ่ื งแตล่ ะสถานี ปฏบิ ัติประกอบเครือ่ งแตล่ ะสถานี4. ขัน้ สรุปและประเมินผล (90 นาท)ี 4. ขั้นสรปุ และประเมนิ ผล (90 นาที)1. ผู้สอนและผ้เู รียนรว่ มกันสรุปเนอ้ื หาที่ได้ 1. ผู้สอนและผเู้ รียนรว่ มกันสรปุ เนื้อหาท่ีไดเ้ รียนเรียนใหม้ คี วามเข้าใจในทิศทางเดยี วกนั เพือ่ ให้มคี วามเข้าใจในทศิ ทางเดียวกนั2. ผู้สอนให้ผู้เรียนศึกษาเพ่ิมเติมนอกหอ้ งเรยี น 2. ผู้เรยี นศึกษาเพมิ่ เติมนอกห้องเรียน ดว้ ยด้วยบทเรียนคอมพวิ เตอร์ช่วยสอนที่จัดทําขึน้ บทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอนท่จี ัดทําข้ึน3. ผู้สอนให้ผู้เรียนทาํ แบบทดสอบหลังเรียน 3. ผู้เรียนทําแบบทดสอบหลังเรียน (บรรลจุ ดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรมข้อที่ 1-11) (บรรลุจุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมข้อท่ี 1-11)(รวม 720 นาที หรือ 12 ชว่ั โมงเรียน)งานท่ีมอบหมายหรอื กิจกรรมการวดั ผลและประเมนิ ผล กอ่ นเรียน 1. จัดเตรียมเอกสาร สอ่ื การเรยี นการสอนหนว่ ยท่ี 2 2. ทาํ ความเข้าใจเกี่ยวกับจดุ ประสงค์การเรียนของหนว่ ยที่ 2 และให้ความร่วมมือในการทํากจิ กรรมในหนว่ ยท่ี 2 3. ตอบคําถามก่อนเรียน โดยการถาม – ตอบ หน่วยท่ี 2

ขณะเรยี น 1.ปฏิบตั ิตามใบความรู้ท่ี 2 เร่ืองการประกอบเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ 2. ร่วมกนั สรปุ “หลกั การประกอบเคร่อื งคอมพวิ เตอร์” 3. รว่ มกนั ทํากิจกรรมการเรียนรู้ หลังเรยี น 1.ทําแบบฝกึ หดั ท้ายบทที่ 2 2.ทําแบบประเมินการเรยี นรู้ คาถาม 1. จงบอกถงึ เคร่อื งมือและอปุ กรณ์ทีใ่ ช้ประกอบเคร่ืองคอมพิวเตอร์ 2. จงบอกถงึ ขน้ั ตอนการประกอบเครื่อง 3. จงอธบิ ายวธิ ีการตดิ ต้ังแผงวงจรหลกั (Main Board) 4. จงอธบิ ายวิธีการตดิ ตง้ั หนว่ ยประมวลผลกลาง (CPU) 5. จงอธบิ ายวิธีการตดิ ตั้ง RAM 6. จงอธิบายวธิ กี ารต่อสายสัญญาณต่างๆ 7. จงอธบิ ายวธิ กี ารติดตงั้ ฮาร์ดดสิ ก์ 8. จงอธิบายวธิ ีการติดตง้ั Disk Drive 9. จงอธิบายวิธีการตดิ ตงั้ Extension Card 10. จงอธิบายวิธีการตดิ ตงั้ อปุ กรณ์ต่อพ่วงผลงาน/ช้นิ งาน/ความสาเรจ็ ของผู้เรียน กิจกรรม ใหผ้ ู้สอนแบง่ กล่มุ การฝึกปฏิบัตอิ อกเป็นสถานี โดยทแี่ ต่ละสถานใี ช้เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ทแ่ี ตกต่างกัน จากน้นั ใหผ้ ู้เรยี นเขา้ ฝึกปฏิบัตปิ ระกอบเคร่ืองคอมพวิ เตอรแ์ บบวนสลับกนัแล้วให้ผู้เรียนรว่ มกันสรุปอภิปรายการฝึกปฏิบัตปิ ระกอบเครือ่ งแต่ละสถานีสมรรถนะทีพ่ ึงประสงค์ ผูเ้ รยี นสร้างความเขา้ ใจเกย่ี วกบั การประกอบเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ 1.วิเคราะหแ์ ละตคี วามหมาย 2.ตั้งคาํ ถาม 3.ลงมอื ปฏบิ ตั ิ 4.การประยุกตค์ วามรสู้ ู่งานอาชพีสมรรถนะการสร้างค่านยิ ม การปลูกฝงั ให้มคี วามรบั ผดิ ชอบ มีความคิดริเริ่มสรา้ งสรรค์ และมีความซ่ือสัตย์ในอาชีพของตนสมรรถนะการปฏิบตั งิ านอาชพี 1. นาํ ความรู้เกีย่ วกับแนะนําความรู้เบอ้ื งตน้ เกี่ยวกบั การประกอบเครอื่ งคอมพิวเตอร์ประยุกต์ใชใ้ นการดาํ เนินชีวติ ประจําวัน

สมรรถนะการขยายผลความสอดคลอ้ ง แนะนาํ ความรูเ้ บื้องตน้ เกีย่ วกับการประกอบเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ทําใหผ้ ู้เรยี นมีความรู้เพ่ิมขึ้นเมอ่ื ผู้เรียนได้เรยี นรทู้ ําใหม้ คี วามร้ใู นเร่อื งการประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์มากข้นึส่อื การเรยี นการสอน/การเรียนรู้ส่ือสงิ่ พิมพ์ 1. เอกสารประกอบการสอนวิชา คอมพวิ เตอร์และการบํารงุ รักษา (ใชป้ ระกอบการเรียนการสอนจุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมขอ้ ที่ 1-11) 2. ใบความรแู้ ละใบงานส่ือโสตทัศน์ (ถา้ ม)ี 1. บทเรียนคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน เรอื่ งการประกอบเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ 2. สือ่ ของจริงแหล่งการเรยี นรู้ในสถานศึกษา 1. หอ้ งสมุดวทิ ยาลยั 2. หอ้ งปฏบิ ตั ิการคอมพวิ เตอร์ ศกึ ษาหาขอ้ มูลทางอินเทอรเ์ น็ตนอกสถานศึกษา ผ้ปู ระกอบการ สถานประกอบการ ในท้องถนิ่การบรู ณาการ/ความสมั พันธก์ บั วิชาอน่ื 1. บรู ณาการกับวชิ าชีวติ และวฒั นธรรมไทย ด้านการพูด การอ่าน การเขยี นและการฝกึปฏบิ ัตติ นทางสงั คมด้านการเตรยี มความพร้อม ความรบั ผิดชอบ และความสนใจใฝ่รู้ 2. บรู ณาการกบั วชิ าภาษาอังกฤษ การใชค้ ําศพั ท์ ความหมาย การสืบค้นข้อมูล 3. บูรณาการกบั วิชากีฬาเพอื่ พัฒนาสขุ ภาพและบคุ ลกิ ภาพ ดา้ นบุคลกิ ภาพในการนาํ เสนอหนา้ ช้นั เรียนการประเมินผลการเรียนรู้ • หลักการประเมินผลการเรยี นรู้ กอ่ นเรยี น 1.ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น ขณะเรียน 1.สงั เกตการทํางานกลุ่ม หลงั เรยี น 1.ตรวจแบบฝกึ หัดทา้ ยบท

2.ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น 3.สรุปผลการรายงานหน้าชั้นเรียนผลงาน/ชิน้ งาน/ผลสาเร็จของผูเ้ รยี น ตรวจผลงาน กิจกรรม - กจิ กรรม ใหผ้ ู้สอนแบ่งกล่มุ การฝึกปฏิบตั อิ อกเป็นสถานี โดยท่ีแต่ละสถานีใช้เคร่ืองคอมพวิ เตอรท์ ี่แตกตา่ งกัน จากน้ันใหผ้ ู้เรียนเข้าฝึกปฏบิ ตั ิประกอบเครอ่ื งคอมพิวเตอร์แบบวนสลับกันแล้วให้ผู้เรยี นรว่ มกนั สรปุ อภิปรายการฝกึ ปฏิบัติประกอบเครือ่ งแต่ละสถานีรายละเอยี ดการประเมินผลการเรยี นรู้ • จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ขอ้ ที่ 1 บอกถงึ เครอ่ื งมือและอปุ กรณ์ที่ใช้ประกอบเคร่ืองคอมพิวเตอร์ได้ 1.วธิ ีการประเมนิ : ทดสอบ 2.เครอ่ื งมือ : แบบทดสอบ 3.เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน:บอกองค์ประกอบระบบคอมพวิ เตอรไ์ ด้จะได้ 1 คะแนน •จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ขอ้ ท่ี 2 อธบิ ายวิธกี ารติดตั้งแผงวงจรหลกั (Main Board) ได้ 1.วธิ กี ารประเมิน : ทดสอบ 2.เคร่อื งมอื : แบบทดสอบ 3.เกณฑก์ ารให้คะแนน : บอกความหมาย Hardware ในระบบคอมพวิ เตอรไ์ ด้ จะได้ 3 คะแนน •จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ข้อที่ 3 อธิบายวิธกี ารติดตั้งหนว่ ยประมวลผลกลาง (CPU) ได้ 1.วิธกี ารประเมิน : ทดสอบ 2.เครื่องมือ: แบบทดสอบ 3.เกณฑก์ ารให้คะแนน: บอกหนา้ ที่และส่วนประกอบหลกั ของแผงวงจรหลัก ได้ จะ ได้ 3 คะแนน •จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ขอ้ ท่ี 4 อธิบายวธิ ีการตดิ ตง้ั RAM ได้ 1.วธิ ีการประเมนิ : ทดสอบ 2.เครือ่ งมือ: แบบทดสอบ 3.เกณฑ์การให้คะแนน: อธิบายหนา้ ที่หนว่ ยรบั ขอ้ มลู ได้ จะได้ 3 คะแนน •จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม ข้อที่ 5 อธิบายวิธีการต่อสายสญั ญาณต่างๆ ได้ 1.วิธกี ารประเมนิ : ทดสอบ 2.เคร่ืองมือ: แบบทดสอบ 3.เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน: บอกคุณลกั ษณะท่ัวไปของอุปกรณ์รับขอ้ มลู ได้ จะได้ 3 คะแนน •จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม ข้อท่ี 6 อธบิ ายวิธีการติดตั้งฮาร์ดดิสก์ได้ 1.วิธีการประเมนิ : ทดสอบ 2.เครื่องมอื : แบบทดสอบ 3.เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน: อธิบายหนา้ ท่หี นว่ ยประมวลผลกลางได้ จะได้ 3 คะแนน

•จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ข้อที่ 7 อธิบายวิธกี ารติดตั้ง Disk Drive ได้ 1.วธิ กี ารประเมนิ : ทดสอบ 2.เครื่องมือ: แบบทดสอบ 3.เกณฑ์การใหค้ ะแนน: อธิบายหนา้ ทีห่ นว่ ยความจาํ ได้ จะได้ 3 คะแนน•จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ขอ้ ที่ 8 อธิบายวิธกี ารติดต้ัง Extension Card ได้ 1.วิธกี ารประเมนิ : ทดสอบ 2.เครื่องมือ: แบบทดสอบ 3.เกณฑ์การใหค้ ะแนน: บอกคณุ ลกั ษณะท่ัวไปของหน่วยความจําแบบต่างๆ ได้ จะได้ 3 คะแนน•จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม ข้อท่ี 9 อธิบายวธิ ีการตดิ ตั้งอุปกรณ์ต่อพว่ ง ได้ 1.วิธกี ารประเมิน: ทดสอบ 2.เครอ่ื งมือ: แบบทดสอบ 3.เกณฑ์การให้คะแนน: อธิบายหน้าที่หน่วยแสดงผลได้ จะได้ 3 คะแนน

แบบฝกึ หดั หน่วยท่ี 2 การประกอบเครื่องคอมพวิ เตอร์จงตอบคาถามตอ่ ไปนิ้ใหม้ ใี จความสมบรู ณ์1.จงบอกถึงเครอ่ื งมอื และอปุ กรณท์ ่ีใชป้ ระกอบเครอื่ งคอมพิวเตอร์………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………2. จงบอกถงึ ข้นั ตอนการประกอบเคร่ือง………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………3.จงอธิบายวิธีการติดตงั้ แผงวงจรหลกั (Main Board)………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………4. จงอธบิ ายวิธกี ารติดตงั้ หน่วยประมวลผลกลาง (CPU)………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………5. จงอธบิ ายวธิ กี ารตดิ ต้ัง RAM………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………6. จงอธบิ ายวิธีการตอ่ สายสญั ญาณต่างๆ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………7. จงอธบิ ายวิธีการตดิ ตั้งฮารด์ ดิสก์………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………8. จงอธบิ ายวิธีการติดตง้ั Disk Drive………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

9. จงอธิบายวิธกี ารตดิ ตัง้ Extension Card………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………10. จงอธิบายวิธกี ารตดิ ต้ังอุปกรณ์ตอ่ พว่ ง………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แบบประเมนิ ผลการนาเสนอผลงาน ชื่อกล่มุ ………………………………………………………………………ชัน้ ………………………หอ้ ง................รายชอื่ สมาชิก 1……………………………………………………………….……………………………………………………………………เลขท…ี่ …..…. 2……………………………………………………………….……………………………………………………………………เลขท…ี่ …..…. 3……………………………………………………………….……………………………………………………………………เลขท…่ี …..…. 4……………………………………………………………….……………………………………………………………………เลขท…่ี …..….ท่ี รายการประเมนิ คะแนน ขอ้ คิดเหน็1 ความรู้เกย่ี วกบั เนื้อหา ความถกู ต้อง ปฏิภาณในการตอบ และการแก้ไข 32 1 ปญั หาเฉพาะหนา้2 รปู แบบการนาํ เสนอ3 การมสี ่วนร่วมของสมาชิกในกลุม่4 บุคลกิ ลักษณะ กริ ยิ า ทา่ ทางในการพูด นา้ํ เสียง ซึง่ ทาํ ใหผ้ ู้ฟงั มีความ สนใจ รวมผูป้ ระเมนิ …………………………………………………เกณฑก์ ารให้คะแนน1. เนอ้ื หาสาระครอบคลุมชัดเจนถกู ตอ้ ง 3 คะแนน = มสี าระสาํ คัญครบถ้วนถกู ต้อง ตรงตามจดุ ประสงค์ 2 คะแนน = สาระสาํ คญั ไม่ครบถ้วน แตต่ รงตามจดุ ประสงค์ 1 คะแนน = สาระสําคัญไมถ่ ูกตอ้ ง ไมต่ รงตามจุดประสงค์2. รปู แบบการนําเสนอ 3 คะแนน = มีรูปแบบการนําเสนอท่ีเหมาะสม มีการใช้เทคนิคที่แปลกใหม่ ใช้ส่ือและเทคโนโลยี ประกอบการ นาํ เสนอทน่ี า่ สนใจนาํ วสั ดุในทอ้ งถน่ิ มาประยกุ ตใ์ ช้อยา่ งคุ้มคา่ และประหยัด 2 คะแนน = มีเทคนคิ การนาํ เสนอท่แี ปลกใหม่ ใชส้ ือ่ และเทคโนโลยีประกอบการนําเสนอท่ีนา่ สน ใจแต่ ขาดการประยุกตใ์ ช้ วสั ดใุ นท้องถ่นิ 1 คะแนน = เทคนคิ การนาํ เสนอไมเ่ หมาะสม และไมน่ า่ สนใจ3. การมีส่วนร่วมของสมาชกิ ในกลมุ่ 3 คะแนน = สมาชกิ ทกุ คนมีบทบาทและมีส่วนรว่ มกิจกรรมกลุม่ 2 คะแนน = สมาชกิ ส่วนใหญม่ ีบทบาทและมสี ว่ นร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 1 คะแนน = สมาชกิ สว่ นน้อยมีบทบาทและมีสว่ นรว่ มกจิ กรรมกลุม่4. ความสนใจของผู้ฟัง 3 คะแนน = ผฟู้ ังมากกวา่ รอ้ ยละ 90 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมอื 2 คะแนน = ผู้ฟงั รอ้ ยละ 70-90 สนใจ และให้ความร่วมมอื 1 คะแนน = ผ้ฟู ังนอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 70 สนใจ และให้ความร่วมมอื

บันทึกหลงั การสอน หนว่ ยท่ี 2 การประกอบเครื่องคอมพวิ เตอร์ผลการใช้แผนการเรียนรู้ 1. เนอ้ื หาสอดคล้องกับจุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 2. สามารถนําไปใชป้ ฏบิ ัตกิ ารสอนได้ครบตามกระบวนการเรียนการสอน 3. เวลาทกี่ ําหนดไวใ้ นแผนการสอนมีความเหมาะสมผลการเรียนของนักเรียน 1. นักศกึ ษาสว่ นใหญ่มคี วามสนใจใฝ่รู้ เขา้ ใจในบทเรียน อภิปรายตอบคําถามในกลุม่ และ ร่วมกนั ปฏบิ ตั ใิ บงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 2. นักศึกษากระตอื รอื ร้นและรับผดิ ชอบในการทํางานกลมุ่ เพ่ือให้งานสาํ เร็จทนั เวลาท่ี กําหนด 3. นกั ศึกษาเลอื กสามารถนําความรไู้ ปใช้ได้จริงในชีวติ ประจําวันผลการสอนของครู 1. สอนเนอื้ หาได้ครบตามหลักสูตร 2. แผนการสอนและวธิ ีการสอนครอบคลมุ เน้ือหาการสอนทาํ ให้ผูส้ อนสอนไดอ้ ย่างมัน่ ใจ 3. สอนไดท้ ันตามเวลาทก่ี ําหนดลงชื่อ............................................... ลงชอื่ ....................................................... (.....................................) (ว่าท่ีร้อยตรีสมพงษ์ ตระการศุกร) รองผู้อาํ นวยการฝ่ายวิชาการ ครผู สู้ อน

แผนการสอน/แผนการเรยี นรภู้ าคทฤษฎีแผนการสอน/การเรยี นร้ภู าคทฤษฎี หน่วยที่ 3ชื่อวิชา คอมพวิ เตอร์และการบํารงุ รกั ษา สปั ดาห์ที่ 5-7ชือ่ หนว่ ย การตดิ ตั้งโปรแกรมตามลกั ษณะงาน 12 ชัว่ โมงชอื่ เรื่อง การติดต้งั โปรแกรมตามลกั ษณะงานหวั ข้อเรื่อง ด้านความรู้ 1.การติดตั้งระบบปฏบิ ตั ิการ Windows 7 1.1 ส่ิงทตี่ ้องเตรียมก่อนการตดิ ตงั้ ระบบปฏบิ ตั ิการ Windows 7 1.2 โปรแกรม BIOS 1.3 ขนั้ ตอนการตดิ ตง้ั ระบบปฏบิ ตั กิ าร Windows 7 1.4 การต้ังคา่ ปุ่มสลบั ภาษา 1.5 การจัดการไดรฟ์ 1.6 การ Activate 1.7 การตดิ ตง้ั Driver ใหก้ บั อปุ กรณ์ 1.8 Device Manager 2.การติดตง้ั โปรแกรมประยกุ ต์ 2.1 การติดตง้ั โปรแกรม Microsoft Office 2010 ดา้ นทกั ษะ 1.ตดิ ต้ังระบบปฏบิ ตั กิ าร Windows 7 2.ตดิ ตง้ั โปรแกรมประยกุ ต์ ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม 1.ปฏิบตั ิงานได้อยา่ งถูกตอ้ ง รอบคอบ 2.ส่งงานตรงตามเวลาทก่ี ําหนด 3.มคี วามซอ่ื สัตย์ อดทน ไม่คัดลอกผลงานผอู้ ืน่ 4.ใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสมกับงานท่ปี ฏบิ ัติสาระสาคัญ คอมพิวเตอร์นน้ั ทํางานตามโปรแกรมหรอื ชุดคําสั่ง การติดตั้งโปรแกรมจึงเป็นการกําหนดให้เครอ่ื งคอมพวิ เตอรส์ ามารถทําสง่ิ ใดไดบ้ ้าง ซึ่งโดยท่ัวไปกอ่ นทจี่ ะตดิ ตง้ั โปรแกรมใดๆ ลงไป จะต้องทําการติดตั้งโปรแกรมระบบปฏิบัติการที่ทําหน้าที่ประสานการทํางานของโปรแกรมประยุกต์อื่นๆ กับเคร่ืองคอมพิวเตอร์เสียก่อน ในท่ีนี้จะกล่าวถึงการติดต้ังระบบปฏิบัติการ Windows 7 และการกําหนดค่าพ้ืนฐานต่างๆ ของระบบปฏิบัติการ เช่นการต้ังค่าปุ่มสลับภาษา การจัดการไดร์ฟ การ

Activate และการติดตั้ง Driver ให้กับอุปกรณ์ จากนั้นจึงติดตั้งโปรแกรมประยุกต์อื่นๆ ที่ต้องการใช้งานลงไป ซึง่ เน้ือหาในหนว่ ยน้ีจะกล่าวถงึ การตดิ ตัง้ โปรแกรมสาํ นกั งาน หรือ Microsoft Office 2010สมรรถนะอาชพี ประจาหน่วย 1. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั การติดตัง้ โปรแกรมตามลกั ษณะงาน 2. การติดตง้ั โปรแกรมตามลักษณะงานจุดประสงค์การสอน/การเรยี นรู้ • จุดประสงคท์ วั่ ไป / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง 1.เพื่อให้มีความรู้พื้นฐานเก่ียวการติดตั้งโปรแกรมตามลักษณะงานและมีทัศนคติท่ีดี (ด้านความรู้) 2.เพื่อใหม้ ที กั ษะการตดิ ตงั้ โปรแกรมตามลักษณะงาน (ดา้ นทักษะ) 3.เพื่อให้มีเจตคติท่ีดีต่อการเตรียมความพร้อมด้าน วัสดุ อุปกรณ์ และการปฏิบัติงานอย่างถูกต้อง สําเร็จภายในเวลาที่กําหนด มีเหตุและผลตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม) •จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม / บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพียง 1. บอกความหมาย และความต้องการของระบบปฏบิ ัตกิ าร Windows 7 ได้ (ดา้ นความรู้) 2. อธิบายขนั้ ตอนการตดิ ตงั้ ระบบปฏบิ ัติการ Windows 7 ได้ (ด้านความร)ู้ 3. อธิบายวิธกี ารตงั้ คา่ ปุม่ สลบั ภาษา ได้ (ด้านความร)ู้ 4. อธบิ ายวิธีการจดั การไดร์ฟได้ (ด้านความรู้) 5. อธบิ ายวธิ กี าร Activate ได้ (ด้านความรู)้ 6. อธิบายวธิ กี ารตดิ ตง้ั Driver ให้กับอุปกรณ์ ได้ (ดา้ นความรู้) 7. อธิบายวิธกี ารติดตงั้ โปรแกรม Microsoft Office 2010 ได้ (ด้านความร้)ู 8. การเตรียมความพร้อมด้านการเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ ผู้เรียนจะต้องกระจายงานได้ท่ัวถึงและตรงตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจัดเตรียมสถานที่ สื่อ วัสดุ อุปกรณ์ไวอ้ ย่างพรอ้ มเพรยี ง (ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง) 9. ความมีเหตุมีผลในการปฏิบัติงาน ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ผเู้ รยี นจะต้องมีการใช้หลักการเรียนรู้และเวลาที่เหมาะสมกับการเรียนรู้ (ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง)เนือ้ หาสาระการสอน/การเรียนรู้• ด้านความรู้ (ทฤษฎ)ี ระบบปฏิบัติการ (Operating System) เป็นซอฟต์แวร์ระบบ (System Software) ที่ทําหน้าท่ีควบคุมการทํางานของระบบ ช่วยเสริมการทํางานของฮาร์ดแวร์ ใช้เป็นตัวเช่ือมโยงระหว่างเคร่ืองคอมพิวเตอร์และผู้ใช้ เพ่ืออํานวยความสะดวกในการใช้งานโปรแกรมต่างๆ รวมถึงการจัดสรรทรัพยากรต่างๆ ในระบบใหม้ ีประสิทธิภาพ โดยผูใ้ ชไ้ มจ่ าํ เปน็ ตอ้ งรูก้ ลไกการทาํ งานหรือฮาร์ดแวร์ของระบบ

1.การติดตั้งระบบปฏบิ ตั ิการ Windows 7 (จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมข้อท่ี 1) ระบบปฏิบัติการ Windows 7 เป็นระบบปฎิบัติการ (Operating System) ของ Microsoftทไี่ ดพ้ ัฒนาตอ่ เน่อื งมากจาก Windows 98, Me, 2000, XP และVista จนมาถงึ Windows 7 สําหรับบุคคลทั่วไปท่ีใช้คอมพิวเตอร์ มีความง่าย รวดเร็ว สะดวกในการใช้งาน พร้อมรุ่นอื่นๆ เพ่ือให้เหมาะสมกับการใชง้ านของผู้ใชง้ านแต่ละคน ดงั นี้ 1. Windows 7 Starter Windows 7 Starter เป็นรุ่นเล็กสุดของ Windows 7 ออกแบบมาเพื่อรองรับ Net Bookหรือ Note Book ขนาดเล็กโดยเฉพาะ Windows 7 Starter เป็นรุ่นที่ตัดความสามารถพิเศษต่างๆเช่น Aero การเล่นดีวีดี Personalize และบางอย่างออกไป ทําให้ Windows 7 มีราคาถูกท่ีสุด ไม่มีวางจําหน่ายแต่จะถูกติดต้ังมาพร้อมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ประเภท Net Book รุ่นใหม่ๆ โดยจะสนับสนุนเฉพาะ 32 บติ เทา่ น้ัน ไม่มีความสามารถในการสร้างหรือจดั การกบั Home Group สามารถเขา้ รว่ มไดอ้ ย่างเดยี ว และเปดิ โปรแกรมพรอ้ มกันได้ไมจ่ ํากดั 2. Windows 7 Home Premium Windows 7 Home Premium เป็นรุ่นรองข้ึนมาที่สามารถรองรับ 32 บิต และ 64 บิต มีWindows Aero มี Windows Mobility Center มีความสามารถในการจัดการ Home Groupสนบั สนุน Multi touch ชว่ ยอํานวยความสะดวกในการใช้งานมากข้ึน 3. Windows 7 Professional Windows 7 Professional นีจ้ ะมีความสามารถท้ังหมดที่มีในรุ่น Home Premium และยังเพิม่ ความสามารถพเิ ศษเขา้ ไปอีก ร่นุ นจี้ ะเหมาะกับผูใ้ ช้ท่วั ๆ ไป รวมถึงผู้ใชส้ ําหรับธุรกจิ ขนาดเลก็ ทม่ี ีWindows Server Domain ช่วยให้สามารถเช่ือมต่อไปยังเครือข่ายท่ีใช้ Windows Server มีLocation aware printing สามารถเลือกเครื่องพิมพ์ได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือท่ีทํางาน สามารถเข้ารหัสไฟล์ระบบของ Windows เพ่ือความปลอดภัย สามารถปรับเปล่ียนภาพพื้นหลังให้อัตโนมัติและปิด Screen Saver สามารถรัน Windows XP บน Windows 7 และยังสามารถนําโปรแกรมที่ติดตั้งอยู่บน Windows XP Mode มารันบน Windows 7 ได้อีกด้วย ช่วยลดปัญหาความเข้ากันได้กับโปรแกรมเกา่ ๆ ซ่งึ คอมพวิ เตอรท์ ีจ่ ะรนั XP mode 4. Windows 7 Ultimate Windows 7 Ultimate เป็นรุ่นท่ีมีฟังก์ช่ันสมบูรณ์ท่ีสุด เป็นการรวมความสามารถของรุ่นอ่ืนๆ มา และเพิ่มความสามารถเข้าไปอีก โดยมี App Locker ให้ผู้ดูแลระบบสามารถกําหนดรายชอ่ืโปรแกรมที่สามารถเปิดได้ มี BitLocker การเข้ารหัสไดร์ฟ รวมถึงอุปกรณ์พวก USB ต่างๆ เหมาะสําหรบั การทาํ งานในองคก์ ร เป็นความสามารถในการเข้าใชง้ านไฟลข์ ององคก์ ร จากที่บา้ นหรือที่อืน่ มีBranch Cache Distributed Cache ชว่ ยใหโ้ หลดข้อมลู บนเน็ตเวริ ์คได้เรว็ ขน้ึ สนบั สนุนอนิ เทอรเ์ ฟสภาษาต่างๆ นอกจากภาษาอังกฤษ โดยผู้ใช้สามารถเลือกเปลี่ยนได้ 35 ภาษาทั่วโลก และมีความสามารถในการบตู OS จาก virtual hard disk หรือไดรฟ์ ท่ีสร้างจาํ ลองขนึ้ มา การติดต้ังระบบปฏิบัติการ เป็นการติดตั้งโปรแกรมที่ทํางานเป็นตัวกลางระหว่างผู้ใช้เครื่องและฮาร์ดแวร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดสภาพแวดล้อมให้ผู้ใช้ระบบสามารถปฏิบัติงานบนเคร่ืองคอมพิวเตอร์ได้ เพื่อเอื้ออํานวยการพัฒนาและการใช้โปรแกรมต่างๆ รวมถึงการจัดสรรทรัพยากรต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ซ่ึงการติดต้ังระบบปฏิบัติการ Windows 7 จะสามารถทําได้ท้ังแบบอัพเกรดจาก Windows Vista เดิม และติดต้ัง Windows 7 ใหม่ ในที่นี้จะนําเสนอการติดตั้ง

ระบบปฏิบตั ิการ Windows 7 Professional จากแผน่ DVD ซึ่งเปน็ การติดต้ังระบบปฏบิ ัติการใหม่ต้ังเรมิ่ ต้นจนเสร็จสนิ้ กระบวนการ 1.1 สิง่ ที่ตอ้ งเตรียมก่อนการติดต้ังระบบปฏบิ ตั ิการ Windows 7 การติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 7 นั้นมีหลายขั้นตอนต้ังแต่เริ่มต้นจนเสร็จส้ินกระบวนการ สงิ่ สําคญั คอื การจัดเตรียมเคร่ืองมือ อปุ กรณใ์ ห้พร้อมในการดําเนนิ การเพือ่ ใก้การติดตั้งเสรจ็ ส้นิ ในครั้งเดียวไม่ตอ้ งเสยี เวลาวิง่ ไปว่งิ มา หรอื ตอ้ งรอจนต้องใช้เวลาอีกวันจงึ เสรจ็ ดังน้ี 1.เคร่ืองคอมพิวเตอร์ ส่ิงที่สําคัญท่ีสุดในการติดต้ังระบบปฏิบัติการ Windows 7และต้องเป็นเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ที่ตรวจสอบแล้วว่าสามารถใช้งานได้และมีคุณสมบัติพ้ืนฐานตรงตามความต้องการของระบบ 2. DVD Drive หรือเครื่องอ่านแผ่น DVD เพื่อใช้ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows7 จากแผ่น ซึง่ อาจจะเป็น DVD Drive แบบติดต้งั ภายในเครื่องหรอื แบบตอ่ ใช้ภายนอกกไ็ ด้ 3.แผ่นโปรแกรม Windows7 ซ่ึงจะเป็น DVD ที่บรรจุโปรแกรมระบบปฏิบัติการWindows 7 การเลอื กรุน่ นน้ั ข้นึ อย่กู ับการใชง้ านตามคุณสมบัตทิ ่กี ลา่ วมา และควรถูกลขิ สทิ ธ์ิดว้ ย 4. Product key เปน็ หมายเลขชดุ ท่ีมาพรอ้ มกบั แผ่นโปรแกรม 5. Driver อุปกรณ์ต่างๆ เป็นโปรแกรมที่จะช่วยให้อุปกรณ์ต่างๆ ที่นํามาประกอบเป็นคอมพิวเตอร์ สามารถทํางานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับอุปกรณ์ที่ซื้อมาเช่นMain Board, Display Card, Sound Card เป็นต้น หรืออาจจะใช้วิธีการโหลดจากเว็บไซต์ของผูผ้ ลิตอุปกรณ์นั้นๆ มาเก็บไวก้ ่อนกไ็ ด้ ในการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 7 กับเครื่องคอมพวิ เตอร์ใดน้ัน ระบบจะมีข้อจํากดัหรือความต้องการในความสามารถของอุปกรณ์ขั้นต่ํา เพื่อการใช้งานท่ีราบรื่นและมีประสิทธิภาพดังต่อไปนี้ หน่วยประมวลผลกลาง หรือ CPU 1 GHz ขนึ้ ไป แบบ 32 บิต (x86) หรอื 64 บติ (x64) หน่วยความจํา RAM สําหรับการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 7 แบบ 32 บิต ขนาด 1GBหรือ RAM สําหรับการตดิ ตัง้ ระบบปฏบิ ัตกิ าร Windows 7 แบบ 64 บติ ขนาด 2 GB เนือ้ ที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์ 16 GB สาํ หรบั การตดิ ตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 7 แบบ 32 บติหรือ 20 GB สาํ หรบั การติดตงั้ ระบบปฏบิ ตั ิการ Windows 7 แบบ 64 บิต อปุ กรณ์แสดงผล DirectX 9 พร้อมโปรแกรมควบคมุ WDDM 1.0 หรอื สงู กวา่ 1.2 โปรแกรม BIOS BIOS ยอ่ มาจาก Basic Input/output System เป็นโปรแกรมเล็กๆ ทถี่ กู เกบ็ ไวใ้ นชิป ROMทําหน้าทีในการตรวจสอบและควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ บนเมนบอร์ด และมีส่วนสําคัญมากในการบูตเครอ่ื งเพราะ BIOS จะคอยตรวจสอบอุปกรณท์ งั้ หมด หากอุปกรณต์ วั ไหนมีการทาํ งานผิดพลาด BIOSจะรายงานหรอื สง่ สญั ญาณเสียงให้ทราบทันที BIOS จะทาํ งานหลังจากมีการเปดิ สวิทซ์ทนั ทีที่มกี ารใช้งานคอมพิวเตอร์ โดยจะทําการตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ ทต่ี ดิ ตั้งในคอมพวิ เตอร์ เช่น Hard Disk, DiskDrive และ RAM เปน็ ตน้ การติดต้ังระบบปฏิบัติการ Windows 7 มีความเกี่ยวข้องกับโปรแกรม BIOS โดยตรงท่ีจะต้องเข้าไปกําหนดให้โปรแกรม BIOS ทําการบูตเครื่องจาก DVD drive ก่อน เพื่อรันโปรแกรมสําหรับการติดต้ังระบบปฏิบัติการ Windows 7 จากแผ่น DVD จนกระบวนการติดต้ังสําเร็จจึงจะกาํ หนดในโปรแกรม BIOS ใหเ้ คร่ืองบูตจาก Hard disk ต่อไป

1.3 ข้นั ตอนการตดิ ตัง้ ระบบปฏิบัติการ Windows 7 (จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมขอ้ ที่ 2) 1. เริ่มจากการเปิดเครือ่ งเพื่อต้ังค่า BIOS เพอ่ื เลอื กให้บูตจากไดรว์ CD/DVD เป็นอันดับแรกก่อน โดยการกดปุ่ม Del หรือ Delete สําหรับเมนบอร์ดย่ีห้อ Asus, ECS, Gigabyte และกดปุ่ม F2สําหรับเมนบอร์ดย่ีห้อ Asrock แล้วใช้ปุ่มลูกศรเล่ือนซ้ายขวา เพื่อเลือกไปท่ีหัวข้อ Boot / BootDevice Priority แลว้ ตั้งค่า 1st Boot Device เป็น CDROM โดยการกดปมุ่ + หรอื – เพอ่ื เลอื ก Option จากน้ันกดปุ่ม F10 แล้วกดปุ่ม OK ยืนยันการบันทึกค่าแล้วออกจากหน้าต่าง BIOSนอกจากน้ันเรายังสามารถใช้คีย์ลัดบนคีย์บอร์ดเพื่อเข้าไปเลือกอุปกรณ์การบูต โดยการกดปุ่ม F8สําหรับเมนบอร์ดย่หี อ้ Asus กดปมุ่ F11 สาํ หรับเมนบอรด์ ย่ีห้อ ECS, Asrock และกดปุ่ม F12 สาํ หรบัเมนบอร์ดยห่ี อ้ Gigabyte 2. ใสแ่ ผน่ DVD สาํ หรบั ติดตั้งระบบปฏิบัตกิ าร Windows 7 Professional ให้กดปมุ่ ใดๆ บนคยี ์บอรด์ เพ่ือใหเ้ ครอ่ื งบูตจากแผน่ DVD รอสักครู่จนปรากฏหน้าต่างการติดตั้ง Windows ให้คลิกเลือกภาษาที่ใช้ในการติดต้ัง และรูปแบบเวลา ซ่ึงควรจะเปน็ ประเทศไทย Thai แลว้ คลิกปมุ่ Next ถ้าเปน็ การตดิ ตงั้ ปกติ ใหค้ ลิก Install now เพอ่ื เร่ิมเขา้ สขู่ ้นั ตอนตอ่ ไป จากนั้นจะปรากฏหน้าต่างแสดงข้อความลิขสิทธิ์ ให้อ่านข้อตกลงการใช้งานต่างๆ แล้วคลิกทําเครื่องหมาย / หน้าข้อ I accept the license terms เพ่ือยอมรับเง่ือนไขการใช้งาน แล้วกดปุ่มNext เพอื่ ทาํ งานต่อไป 6. ปรากฏหน้าต่างรูปแบบการติดตั้ง ในกรณีที่ต้องการอัพเกรดจากระบบปฏิบัติการWindows ตัวเก่าเพื่อเก็บไฟล์และโปรแกรมไว้ให้เลือก Upgrade แต่ในที่น้ีให้คลิกเลือก Custom(advanced) เพอ่ื ติดตงั้ ระบบปฏบิ ัติการ Windows 7 Professional ใหม่ 7. จากนัน้ จะปรากฎหนา้ ต่างเพ่ือให้กําหนดพ้ืนท่ีที่ใช้ตดิ ต้งั ระบบปฏบิ ัติการ Windows 7 ซึ่งในกรณีท่ี ฮาร์ดดสิ ก์ยงั ไม่เคยถกู ใช้งานมาเลย กจ็ ะไมย่ ังไม่ไดฟ้ อรแ์ มตฮาร์ดดิสก์และยังไมไ่ ด้แบ่งพาร์ทิช่นั สงั เกตจากจะเหน็ เปน็ ไดร์ฟ C: ไดรฟ์ D: ในกรณที ฮ่ี ารด์ ดสิ กไ์ ดม้ กี ารแบง่ พารท์ ิช่นั ไวแ้ ลว้ ใหค้ ลกิ เลือก Disk 0 Unallocated Space เพ่ือใช้เป็นทีต่ ิดตัง้ ระบบปฏิบัตกิ าร Windows 7แต่จะตอ้ งแบง่ พารท์ ิชั่นก่อน โดยคลกิ ที่ Drive options (advanced) จากนั้นให้กําหนดขนาดของไดรว์ C ตามต้องการ ในช่อง Size ซึ่งมีหน่วยเป็น MB จากรูปเปน็ การกาํ หนดขนาดไดรว์ C ไว้ประมาณ 40,000 MB หรอื ประมาณ 39 GB แลว้ คลิกปมุ่ Apply จากนั้นจะทาํ การแบง่ พาร์ทิชั่นแรก คอื ไดรฟ์ C: ตามขนาดทีก่ าํ หนด นอกจากนน้ั Windowsจะแบ่งพาร์ทิช่ัน System Reserved เพ่ือใช้ในการเก็บ System Files ขนาด 100 MB ให้คลิกปุ่มOK จากน้ันจะปรากฏไดร์ฟต่างๆ ขึ้นมา 3 ไดร์ฟ คือ Disk 0 Partition 1: System Reservedขนาด 100 MB ซ่ึงเป็นไดร์ฟท่ีใช้ในการเก็บ System Files ตามที่กล่าวมาแล้ว Disk 0 Partition 2ขนาด 39 GB ทเี่ ปน็ ไดร์ฟท่ีเราสรา้ งขน้ึ มาและ Disk 0 Unallocated space ขนาด 39 GB เปน็ พน้ื ที่ที่เหลือจากการแบ่งพาร์ทิชั่น ซึ่งเราจะกําหนดให้เป็นไดร์ฟ D: โดยจะจัดการภายหลัง ในที่น้ีให้คลิกเลอื ก Disk 0 Partition 2 เพ่อื ใช้เป็นทตี่ ิดตั้งระบบปฏบิ ตั ิการ Windows 7 จากนนั้ คลิกปมุ่ Next จากนนั้ จะเข้าสกู่ ระบวนการตา่ งๆ ของการติดต้ังให้รอ

8. เม่ือระบบทําการติดต้ังระบบปฏิบัติการ Windows 7 เรียบร้อย ให้กําหนดช่ือเพื่อสร้างบัญชีผู้ใช้ และช่อื ของคอมพิวเตอร์ 9. จากนั้นให้กําหนดรหสั ผ่านสําหรบั บัญชผี ูใ้ ช้ของเราที่สร้างขึ้น 10. จากน้ันจะปรากฏหน้าต่างเพ่ือให้กรอก Product key ให้นํา Product Key ท่ีติดอยู่ข้างกล่องโปรแกรมมากรอกลงไป แล้วคลิกปมุ่ Next จากนั้นจะปรากฏหน้าต่างกําหนดรูปแบบการป้องกันและการปรับปรุงระบบ Windows 7ใหค้ ลิกเลอื ก Use Recommended settings 11. กําหนดวัน เวลาให้ถูกต้อง ต้ังระบบเวลาให้ตรงกับประเทศไทย โดยเลือก Time zoneเปน็ UTC+07:00 แลว้ คลกิ ปมุ่ Next เลือกพน้ื ทท่ี เ่ี ครือ่ งคอมพวิ เตอรเ์ ช่ือมตอ่ กบั เครือข่าย ระบบจะทาํ การติดตง้ั ตอ่ และใชข้ ้อกาํ หนดต่างๆ ทีเ่ รากาํ หนดไว้จนเสร็จส้ิน 1.4 การตง้ั ค่าปมุ่ สลับภาษา (จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมขอ้ ที่ 3) เม่ือตดิ ตั้งระบบปฏิบัตกิ าร Windows 7 Professional เสรจ็ แลว้ ยงั ไม่สามารถใช้ปุ่มสลับภาษาไทยเป็นอังกฤษและอักฤษเป็นไทยได้ ให้ดําเนินการโดยเปิด Control Panel จากนั้นให้คลิกเลือกClock, Language, and Region จะปรากฏหน้าต่าง Region and Language ให้คลิกแท็บ Keyboards andLanguages แล้วคลิกปมุ่ Change keyboards...จะปรากฎหน้าต่าง Text Services and Input Languages ให้คลิกแท็บ Advanced Key Settings แล้วเลอื ก between input languages แล้วคลกิ ป่มุ Change Key Sequence...จะปรากฎหน้าต่าง Change Key Sequence ท่หี ัวขอ้ Switch Input Language ให้เลอื ก Grave Accent ( `) แล้วคลกิ OK 1.5 การจัดการไดร์ฟ (Partition) (จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมขอ้ ท่ี 4) เม่ือติดตั้งวินโดวส์เสร็จแล้ว ถ้าเปิดดูไดรว์ต่างๆใน My Computer จะพบว่าจะมีพียงไดรว์ Cซ่ึงเป็นเพียงไดรว์เดียว ซึ่งเราจะต้องสร้างไดรว์ D ข้ึนมา สําหรับพื้นท่ีท่ีเหลือของฮาร์ดดิสก์ โดยคลิกStart แล้วคลิกขวาท่ี Computer จากน้ันให้เลือก Manage แล้วจะปรากฏหน้าต่าง ComputerManagement ซึ่งในแถบของ Disk 0 จะปรากฏส่วนที่เป็น System Reserved ขนาด 100 MB ไดร์ฟ C:ขนาด 38.96 MB และส่วนพื้นท่ีสีดําจางๆ อยู่ ซึ่งเป็นพ้ืนท่ีที่ยังไม่ได้จัดการให้สามารถใช้ได้ ให้คลิกขวาที่ไดรว์ Disk 0 Unallocated Space แลว้ เลอื ก New Simple Volume... ใหค้ ลิก Next เพ่ือดาํ เนินการต่อ กําหนดขนาดให้กับไดรว์ D ซ่ึงก็คือพื้นที่ท้ังหมดที่เหลือ แล้วคลิก Next แล้วกําหนดชื่อให้ไดร์ฟแล้วคลิก Next จากน้ันกําหนดรูปแบบไฟล์เป็น NTFS แล้วคลิก Next แล้วคลิกปุ่ม Finish จะปรากฏแถบพน้ื ทีเ่ ปลย่ี นเปน็ สนี ้ําเงินและรายละเอียดตา่ งๆ ของไดรฟ์ 1.6 การ Activate (จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 5) เม่อื ตดิ ตัง้ ระบบปฏบิ ัติการ Windows 7 เสรจ็ เรยี บรอ้ ยแล้ว และถ้าไม่ไดท้ ําการลงทะเบียนกับMicrosoft ระบบปฏิบตั กิ าร Windows 7 น้ีจะใช้งานไดแ้ ค่ 30 วนั เท่าน้ัน ให้ดําเนนิ การลงทะเบียนเพ่ือการใช้งานท่ีสมบูรณ์ โดยเปิด Control Panel ข้ึนมา จากนั้นคลิกเลือก System and Security และคลิกเลอื ก System

ในขั้นตอนการลงทะเบียนนี้จะเป็นการลงทะเบียนผ่านทางระบบเครือข่าย ให้คลิกเลือกActivate Windows online now จากน้ันให้กรอก Product key ลงไปแล้วคลิกปุ่ม Next เม่ือเสร็จเรยี บรอ้ ยแลว้ จะปรากฏขอ้ ความ Windows is activated 1.7 การตดิ ตั้ง Driver ใหก้ ับอุปกรณ์ (จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรมขอ้ ท่ี 6) Driver เป็นโปรแกรมหนึ่งที่จะช่วยให้อุปกรณ์ต่างๆ ท่ีนํามาประกอบเป็นคอมพิวเตอร์สามารถทํางานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยจะเป็นตัวขับเคลื่อนหรือเช่ือมต่อระหว่างอุปกรณ์ท้ังเมนบอร์ด การ์ดแสดงผล เม้าส์ เครืองพิมพ์และชิ้นส่วนต่างๆ ของคอมพิวเตอร์กับระบบปฏิบัติการเพื่อให้ระบบปฏิบัติการสามารถใช้งานอุปกรณ์เหล่าน้ันได้ หากไม่มีไดรเวอร์อุปกรณ์คอมพิวเตอร์เหล่าน้นั อาจไมส่ ามารถใช้งานได้ หรอื อาจใชไ้ ดแ้ ตไ่ ม่ดเี ท่าที่ควร ดังนัน้ ทุกครง้ั ทีเ่ พม่ิ อปุ กรณเ์ ขา้ ไปใหม่จะต้องติดต้ังโปรแกรม Driver เพ่ือบอกให้คอมพิวเตอร์ทราบถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ รวมท้ังวิธีใช้งานอุปกรณ์เหล่านน้ั ด้วย ถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ท่ีมีอยู่เป็นแบบรนุ่ เก่าๆ อาจจะไม่ต้องทําอะไรเลยเพราะว่า Windows 7 จะจัดการกับ Driver ต่างๆ ให้เรียบร้อยแล้วหรือท่ีเรียกกันว่าPlug and Play นั่นเอง แต่ถ้าหากอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้งานเป็นรุ่นใหม่ก็ต้องมาทําการติดตั้ง Driver ของอุปกรณ์ต่างๆ เอง เพ่อื ใหส้ ามารถใชง้ านอปุ กรณเ์ หลา่ นั้นได้สมบรู ณ์ ดังนี้ 1.การตดิ ต้ัง Chipset Driver Chipset เป็นชุดหรือกลุ่มของไมโครชิปที่ได้รับการออกแบบให้เป็นหน่วยทํางานที่เกี่ยวข้องกัน ได้แก่ การควบคุมและเป็นทางผ่านของข้อมูลจากอุปกรณ์ต่างๆ เช่น การส่งข้อมูลจากหน่วยความจําหลักไปยงั ซีพียู การส่งผ่านข้อมูลจากฮาร์ดดิสก์ จากไดรฟ์ซีดีรอม รวมถึงการส่งข้อมลูของแผงวงจร (Card) ต่างๆ เช่น VGA Card, AGP Card, Sound Card งานเหล่าน้ีเกิดขึ้นโดยการควบคมุของ Chipset ทั้งสิ้น จะเห็นได้ว่าข้อมูลทั้งหมดที่ผ่านเข้าออกจากซีพียูจะต้องผ่าน Chipset และให้Chipset เปน็ ผูจ้ ดั การทงั้ สิ้น 2.การตดิ ต้งั Sound Driver Sound Driver เป็นโปรแกรมท่ีใช้เป็นตัวกลางประสานระหว่าง Sound Card กับระบบปฏบิ ตั กิ าร เพอ่ื ให้ระบบปฏิบตั กิ ารสามารถใชง้ าน Sound Card ได้ ซ่งึ มีวธิ ีการดังตอ่ ไปนี้1. เปิดโปรแกรม Driver ต่างๆ ที่มีให้ในแผ่น Mainboard Support CD หรือเปิดผ่านโปรแกรมในแผ่นดว้ ยการ Double Click ท่ไี ฟล์ Setup 3.การติดตง้ั LAN Driver LAN Card เป็นอปุ กรณส์ าํ คญั ในการเชอื่ มตอ่ เขา้ ระบบเครือข่าย การตดิ ตง้ั LAN CardDriver จึงเป็นการติดตั้งโปรแกรมตัวกลางประสานการทํางานระหวา่ ง LAN Card กับระบบปฏิบัติการเพือ่ ใหร้ ะบบปฏบิ ตั กิ ารสามารถใช้งาน LAN Card เพอ่ื การเช่อื มต่อเครือขา่ ยได้ ซ่ึงมวี ธิ ีการดงั ตอ่ ไปนี้1. เปิดโปรแกรม Driver ท่ีมีให้ในแผ่น Mainboard Support CD หรือเปิดผ่านโปรแกรมในแผ่นด้วยการDouble Click ทไ่ี ฟล์ Setup ซึ่งจะปรากฏหน้าตา่ งของโปรแกรมดังภาพ ให้ Click เลอื ก LAN Driver เพอื่ตดิ ต้ัง 4.การติดตงั้ Driver ของการแ์ สดงผล การ์ดแสดงผลหรือการ์ดจอ (VGA card หรือ Display card) เป็นอุปกรณ์ท่ีรับข้อมูลเก่ียวกับการแสดงผลจากหน่วยความจํามาคํานวณและประมวลผล จากนั้นจึงส่งข้อมูลในรูปแบบ

สัญญาณเพ่ือนาํ ไปแสดงผลยังอปุ กรณ์แสดงผล การ์ดแสดงผลมีหน้าท่ีหลักในการนําขอ้ มูลดิจิตอลมาแปลงเปน็ สญั ญาณอนาล็อกเพ่ือนําไปแสดงผลบนจอคอมพวิ เตอร์ ดังนั้นเพ่ือการใช้งานการ์ดแสดงผล หรือการ์ดจอจึงต้องทําการติดต้ังโปรแกรมท่ีทําหน้าที่ประสานการทํางานของการ์ดแสดงผลน้กี บั ระบบปฏิบัตกิ าร โดยสว่ นใหญ่โปรแกรมของการ์ดแสดงผลหรือ Driver น้ีจะให้มาพร้อมกับการ์ดแสดงผลท่ีซื้อมา ให้ใส่แผ่น CD นี้เข้าไป ซ่ึงจะเป็นแผ่นที่เล่นอัตโนมัติ 1.8 Device Manager ในระบบปฏิบัติการ Windows 7 สามารถแสดงรายการอุปกรณ์ต่างๆ ให้ทราบว่ามีอะไรอยู่ในเคร่ืองบ้าง อุปกรณ์ใดที่ Windows รู้จักและสามารถใช้งานได้ รวมทั้งถ้ามีอุปกรณ์ใดที่มีปญั หาหรอืขาดไดรเวอร์ใช้งานไม่ได้ก็สามารถตรวจสอบได้ที่ Device Manager น้ี ซ่ึงทําได้โดยการเปิด ControlPanel ขึ้นมาแล้วคลิกท่ี System and Security และคลิกเลือก System จากนั้นคลิกเลือก DeviceManager จากเมนูด้านซ้าย หรือใช้วิธีการคลิกขวาที่ไอคอน Computer คลิกเลือกเมนู Properties แล้วคลกิ เลอื ก Device Manager จากเมนดู า้ นซา้ ยกไ็ ดเ้ ช่นกนั ในหน้าต่าง Device Manager ของ Windows 7 มีการแสดงรายการอุปกรณ์ที่จัดไว้เป็นหมวดหมู่ ถ้าต้องการดูรายการอุปกรณ์ในหมวดใดกด็ ับเบิลคลิกท่ีหมวดน้ันๆ หรือคลิกที่เคร่ืองหมายสามเหลีย่ มสีขาวด้านหนา้ ก็ได้ และเราสามารถจดั การอุปกรณ์ต่างๆ นีไ้ ดโ้ ดยงา่ ยจากหน้าต่าง DeviceManager นี้เช่นการดูรายละเอียดของอุปกรณ์ การติดตั้ง Driver ของอุปกรณ์ใหม่ ปิดการใช้งานอุปกรณ์ หรือยกเลิกการติดต้ัง Driver ของอุปกรณ์นั้นๆ จากรายการของอุปกรณ์ใน Device Managerนี้ เราสามารถตรวจสอบการใช้งานเบ้ืองต้นได้จากเคร่ืองหมายท่ีปรากฎทับสัญลักษณ์อุปกรณ์ด้านหน้า เช่นเคร่ืองหมายกากบาทสีแดงหมายถึงอปุ กรณ์น้ันถูกปิด (Disable) ไม่ให้ใช้งาน หรือแสดงเครอื่ งหมายตกใจดําบนพื้นสีเหลืองหมายถึงอปุ กรณน์ นั ขดั แย้งกับรายการอื่น หรือไมไ่ ด้ตดิ ต้งั ไดรเวอร์และไม่สามารถทาํ งานได้ เป็นตน้2. การติดตงั้ โปรแกรมประยุกต์ (จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมขอ้ ท่ี 7) โปรแกรมประยุกต์ (Application Software) เป็นซอฟต์แวร์ประเภทหน่งึ สําหรับใช้งานสําหรับงานเฉพาะทาง เปน็ โปรแกรมที่มีความสามารถจัดการกับงานเฉพาะด้านโดยตัวโปรแกรมจะเหมาะสมและใช้งานไดด้ กี บั งานเฉพาะน้ันๆ เทา่ น้นั เชน่ โปรแกรม MS-Word โปรแกม MS-Excel โปรแกรม MS-PowerPoint และโปรแกรมประเภทเกมส์ต่างๆ เปน็ ตน้ การติดตั้งโปรแกรมประยุกต์ตามลักษณะการใช้งานในเครื่องคอมพิวเตอร์ จึงเป็นความต้องการของแต่ละบุคคล แต่ส่วนมากแล้วจะต้องมีโปรแกรมสํานักงานเพื่อใช้จัดการงานหรือเอกสารเป็นพนื้ ฐาน 2.1 การติดตง้ั โปรแกรม Microsoft Office 2010 Microsoft Office เป็นชุดโปรแกรมสํานักงาน พัฒนาโดย Microsoft ซ่ึงสามารถใช้งานได้ในระบบปฏิบัติการ Windows และระบบปฏิบัติการ Mac นอกจากน้ัน Microsoft Office ยังมีการส่งเสริมให้ใช้บริการผ่านระบบเครื่องแม่ข่ายและบริการผ่านหน้าเว็บ การติดตั้งโปรแกรม Microsoft Office2010 น้ัน สามารถทาํ ได้โดยใส่แผน่ โปรแกรมในเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ จากน้ันจะปรากฏไดอะล็อก AutoPlay ขึ้นมาให้เลือกเลือก Run SETUP.EXE เพื่อเร่ิมการติดตั้ง ซึ่งถ้าเคร่ืองไม่สามารถเปิด Auto Play ได้

เราสามารถเปดิ หน้าต่าง Window Explorer เพอ่ื เปิดดูไฟล์ในแผ่น แลว้ ดบั เบิ้ลคลิกทีไ่ ฟล์ Setup.exe ได้เหมอื นกัน จากน้ันจะปรากฏไดอะล็อก Enter your Product Key ให้ใส่หมายเลขคีย์ที่ให้มากั บแผ่นโปรแกรม แล้วคลิกปุ่ม Continue จากน้นั จะเริ่มทาํ การตดิ ตั้งโปรแกรมและขอ้ ความลิขสิทธ์ิ ข้อตกลงการใช้งาน ให้คลกิ หนา้ ขอ้ ความ “ฉันยอมรบั ขอ้ กาํ หนดของขอ้ ตกลงน้ี”แล้วคลกิ ปมุ่ ทําตอ่ ไป หลงั จากน้นั เลือกรูปแบบการติดต้ัง ถ้าตอ้ งการติดตัง้ ตามท่ีโปรแกรมกําหนดไว้สามารถคลิกเลือก ติดตั้งเดี๋ยวนี้ได้เลย หรือถ้าต้องการกําหนดรูปแบบการติดต้ังเองให้คลิกเลือกกาํ หนดเอง จากน้นั ให้คลกิ เลอื กภาษาทีต่ ิดต้ังในโปรแกรม แลว้ คลิกปุ่ม ตดิ ต้ังเดี๋ยวน้ีจากนั้นจะปรากฏตัวเลือกการตดิ ตั้ง ให้เลอื กสว่ นประกอบที่ตอ้ งการตดิ ต้งั แลว้ คลกิ ป่มุ ติดต้งั เดย๋ี วนี้จากนน้ั จะเริม่ ตดิ ตั้งโปรแกรม สงั เกตความคบื หนา้ การตดิ ต้ังจากแถบสีเขยี วรอสักครู่จนติดต้ังเสร็จ จะปรากฏไดอะล็อกขอบคุณและการเข้าร่วมใช้งานแบบออนไลน์ ให้คลิกปุ่มปิด หลังจากน้ัน ให้คลิก Start / All Programs จะมีเมนูเปิดโปรแกรม Microsoft Office และรายช่ือโปรแกรมในชดุ Microsoft Office ทเ่ี ลอื กติดตงั้ ไว้ ซ่งึ สามารถเปดิ ใชโ้ ปรแกรมได้ทนั ที• ดา้ นทกั ษะ (ปฏิบัติ) (จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมข้อที่ 1-9) 1.แบบฝึกหดั ท้ายบทท่ี 3 2.กจิ กรรมการเรยี นรู้• ดา้ นคุณธรรม/จรยิ ธรรม/จรรยาบรรณ/บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1.การเตรียมความพรอ้ มดา้ นวสั ดุ อปุ กรณ์นักศกึ ษาจะตอ้ งทําความสะอาดหอ้ งเรียนจัดเตรยี มอปุ กรณ์ในการเรยี นรู้ ให้มีความพร้อมเพยี งและเหมาะสมกบั เวลาที่ใช้ในการเรียน 2.ความมีเหตมุ ีผลในการปฏิบัตงิ าน ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงนกั ศึกษาจะตอ้ งมีการใชเ้ ทคนคิ การจดบนั ทกึ งาน การสืบคน้ ข้อมูล กอ่ นการเรยี นรู้และหลังเรียนร้เู พอื่ ใหก้ ารเรียนรู้เหมาะสมกบั เวลา คุ้มคา่ และประหยัด กิจกรรมการเรยี นการสอนหรือการเรียนรู้ขั้นตอนการสอนหรือกิจกรรมของครู ขัน้ ตอนการเรยี นรู้หรอื กจิ กรรมของนกั เรียน1. ข้นั นาเข้าสบู่ ทเรยี น (90 นาท)ี 1. ขั้นนาเข้าส่บู ทเรยี น (90 นาที)1. ผู้สอนจัดเตรียมเอกสาร 1. ผเู้ รยี นทําแบบทดสอบกอ่ นเรียน2. ผสู้ อนแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนของหน่วย 2. ผเู้ รียนทําความเข้าใจเกี่ยวกับจดุ ประสงคก์ ารเรยี นท่ี 3 และขอให้ผู้เรียนร่วมกันทาํ กจิ กรรมการเรียน เรียนของหน่วยเรียนท่ี 3 และการใหค้ วามรว่ มมอื ในการการสอน ทํากจิ กรรม3. ผู้สอนให้ผูเ้ รียนแสดงความรู้ โดยตั้งคาํ ถาม 3. ผูเ้ รยี นแสดงความรู้ว่าการติดตงั้ โปรแกรมตามวา่ การตดิ ต้ังโปรแกรมตามลกั ษณะงานมีหลกั การ ลกั ษณะงานมหี ลกั การทาํ งานอย่างไรพรอ้ มให้เหตุผลทํางานอย่างไรพร้อมใหเ้ หตุผลประกอบ ประกอบ2. ขนั้ ใหค้ วามรู้ (450 นาท)ี 2. ขน้ั ใหค้ วามรู้ (450 นาที)

1. ผูส้ อนทดสอบความรู้ความเขา้ ใจเกย่ี วกับ 1. ผู้เรียนทําแบบทดสอบกอ่ นเรยี นเพื่อแสดงความรเู้ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกับการตดิ ตัง้ โปรแกรมตาม ความรแู้ ละความเข้าใจก่อนการเรียน เรอ่ื งการตดิ ตงั้ลักษณะงานโดยใหผ้ เู้ รียนทําแบบทดสอบก่อนเรียน โปรแกรมตามลักษณะงาน ผู้เรยี นศึกษาบทเรยี นวชิ า 2. ผสู้ อนอธิบายเนอ้ื หาเกีย่ วกบั บทเรียนวชิ า คอมพิวเตอร์และการบํารุงรกั ษา หน่วยท่ี 3 เรือ่ งการ ตดิ ตัง้ โปรแกรมตามลกั ษณะงานและศึกษาเอกสารคอมพิวเตอรแ์ ละการบาํ รงุ รักษา หน่วยที่ 3 เรื่องการ ประกอบการสอน หน่วยที่ 3ติดตัง้ โปรแกรมตามลกั ษณะงานและใหผ้ ู้เรียนศกึ ษา 2. ผูเ้ รียนอธบิ ายหลักการตดิ ตงั้ โปรแกรมตามเอกสารประกอบการสอน หนว่ ยท่ี 3 ลักษณะงานตามท่ไี ด้ศกึ ษาจากบทเรยี นคอมพวิ เตอร์ 3. ผ้สู อนและผู้เรียนรว่ มกันอธบิ ายการติดตั้ง ช่วยสอนโปรแกรมตามลกั ษณะงานตามทไ่ี ด้ศึกษาจากบทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอน3. ขนั้ ประยุกต์ใช้ (90 นาที) 3. ขัน้ ประยุกต์ใช้ (90 นาที) 1. ผูส้ อนใหผ้ ู้เรยี นทาํ แบบฝึกหัดท้ายบทท่ี 3 1. ผู้เรยี นทาํ แบบฝึกหัดทา้ ยบทท่ี 3 2. ผ้สู อนให้ผเู้ รียนดาวนโ์ หลดไฟล์โปรแกรม 2. ให้ผู้เรียนดาวนโ์ หลดไฟลโ์ ปรแกรม ประเภทฟรีประเภทฟรีแวร์ ทีเ่ ปน็ โปรแกรมจาํ เป็นพน้ื ฐานของ แวร์ ทีเ่ ปน็ โปรแกรมจําเป็นพื้นฐานของเครอื่ ง คอมพวิ เตอร์ มาจากอินเทอร์เนต็ จากน้นั ให้นํามาตดิ ตัง้เคร่อื งคอมพิวเตอร์ มาจากอนิ เทอร์เน็ต จากน้นั ให้ ลงในเครื่องคอมพวิ เตอร์ แลว้ สรุปผลรว่ มกนั อภปิ รายนํามาติดต้ังลงในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ แล้วสรุปผล รปู แบบโปรแกรม การติดตัง้ และการใชง้ านรว่ มกันอภิปรายรูปแบบโปรแกรม การติดต้งั และการใชง้ าน4. ขัน้ สรุปและประเมนิ ผล (90 นาที) 4. ขน้ั สรุปและประเมนิ ผล (90 นาที)1. ผ้สู อนและผู้เรยี นรว่ มกันสรุปเน้อื หาทไ่ี ด้ 1. ผูส้ อนและผ้เู รยี นรว่ มกนั สรุปเน้ือหาที่ไดเ้ รยี นเรียนใหม้ ีความเขา้ ใจในทิศทางเดียวกนั เพอ่ื ใหม้ คี วามเข้าใจในทิศทางเดียวกนั2. ผ้สู อนให้ผเู้ รียนศกึ ษาเพ่ิมเติมนอกห้องเรียน 2. ผู้เรียนศึกษาเพิ่มเตมิ นอกห้องเรียน ด้วยด้วยบทเรยี นคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอนท่ีจัดทําขึน้ บทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอนทจ่ี ัดทําข้ึน3. ผู้สอนให้ผเู้ รยี นทําแบบทดสอบหลงั เรยี น 3. ผู้เรยี นทําแบบทดสอบหลังเรียน (บรรลุจดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมข้อที่ 1-9) (บรรลุจดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมขอ้ ที่ 1-9)(รวม 720 นาที หรอื 12 ชวั่ โมงเรียน)งานทม่ี อบหมายหรือกจิ กรรมการวดั ผลและประเมินผล กอ่ นเรียน 1. จัดเตรียมเอกสาร ส่ือการเรียนการสอนหนว่ ยที่ 3 2. ทําความเข้าใจเก่ยี วกบั จุดประสงคก์ ารเรยี นของหนว่ ยที่ 3 และให้ความร่วมมอื ในการทํากิจกรรมในหนว่ ยที่ 3 3. ตอบคําถามก่อนเรียน โดยการถาม – ตอบ หน่วยท่ี 3 ขณะเรียน

1.ปฏบิ ัตติ ามใบความรู้ท่ี 3 เรื่องการติดต้งั โปรแกรมตามลักษณะงาน 2. รว่ มกันสรุป “การตดิ ตั้งโปรแกรมตามลกั ษณะงาน” 3. รว่ มกนั ทํากจิ กรรมการเรียนรู้ หลังเรยี น 1.ทําแบบฝกึ หัดท้ายบทท่ี 3 2.ทาํ แบบประเมินการเรียนรู้ คาถาม 1. จงบอกความหมาย และความต้องการของระบบปฏิบตั กิ าร Windows 7 2. จงบอกสิ่งทีต่ ้องเตรยี มกอ่ นการตดิ ต้งั ระบบปฏิบตั กิ าร Windows 7 3. จงบอกถงึ ความหมายของโปรแกรม BIOS 4. จงอธิบายขัน้ ตอนการตดิ ตัง้ ระบบปฏบิ ัติการ Windows 7 5. จงอธบิ ายวิธกี ารตง้ั คา่ ปมุ่ สลบั ภาษา 6. จงอธบิ ายวิธีการจดั การไดร์ฟ 7. จงอธิบายวธิ กี าร Activate 8. จงอธิบายวิธีการตดิ ตัง้ Driver ให้กบั อุปกรณ์ 9. จงบอกถึงประโยชน์และหน้าท่ขี องโปรแกรม Device Manager 10. อธิบายวิธีการตดิ ตัง้ โปรแกรม Microsoft Office 2010 ได้ผลงาน/ชน้ิ งาน/ความสาเรจ็ ของผเู้ รยี น กิจกรรม ใหผ้ เู้ รียนดาวนโ์ หลดไฟลโ์ ปรแกรม ประเภทฟรีแวร์ ทเ่ี ปน็ โปรแกรมจาํ เป็นพื้นฐานของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ มาจากอินเทอรเ์ น็ต จากนัน้ ให้นํามาตดิ ต้ังลงในเคร่อื งคอมพิวเตอร์ แล้วสรุปผลร่วมกนั อภิปรายรปู แบบโปรแกรม การตดิ ต้งั และการใช้งาน ตัวอย่างโปรแกรม • 7-zip • Foxit Reader • MS Security Essentials • Recuva • PhotoScapeสมรรถนะที่พึงประสงค์ ผู้เรียนสร้างความเขา้ ใจเกย่ี วกับการติดตง้ั โปรแกรมตามลกั ษณะงาน 1.วเิ คราะหแ์ ละตีความหมาย 2.ตัง้ คําถาม 3.ลงมือปฏบิ ตั ิ 4.การประยกุ ต์ความรสู้ งู่ านอาชพี