Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือมาตรการโควิด19-โรงเรียนประทาย

คู่มือมาตรการโควิด19-โรงเรียนประทาย

Published by Khampeerapan Wongsuwan, 2021-11-04 14:27:24

Description: คู่มือมาตรการโควิด19-โรงเรียนประทาย

Search

Read the Text Version

คำนำ โรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019 : COVID-19) มีการ ระบาด ในวงกว้าง โดยเมือ่ วนั ที่ 30 มกราคม พ.ศ.2563 องคก์ ารอนามยั โลก ได้ประเมินสถานการณ์ และประกาศให้ โรค COVID-19 เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern) โดยแนะนาํ ใหท้ กุ ประเทศเร่งรัด การเฝ้าระวังและป้องกัน ความเส่ียงจากเชื้อ COVID-19 และสําหรับในประเทศไทยนั้น ได้มีการพบผู้ป่วยติดเชื้อจํานวนหนึ่ง ซึง่ ถึงแม้ว่าตัวเลขผู้ปว่ ยตดิ เชื้อในแต่ละวนั จะมีจํานวนลดน้อยลง แต่ก็ยังคงอยู่ในสภาวการณ์ที่ไม่อาจ วางใจได้ ดังน้ันเพ่ือลดความเส่ียงของประชาชนทุกคนต่อการสัมผัสเชื้อโรค และป้องกันไม่ให้ ประชาชนได้รับผลกระทบต่อสุขภาพ ต้องให้ความสําคัญต้ังแต่การรักษาสุขวิทยาส่วนบุคคล โดยเฉพาะในประชาชน กลุ่มเส่ียง ทั้งเด็ก ผู้สูงอายุและผู้ท่ีมีโรคประจําตัว รวมถึงการจัดการ ดา้ นอนามยั ส่ิงแวดล้อม อย่างถูกสขุ ลักษณะและเหมาะสมในทกุ พ้นื ท่ี โดยเฉพาะพน้ื ทสี่ าธารณะ องค์การบริการส่วนจังหวัดนครราชสีมา ตระหนักถึงความสําคัญในการดูแลนักเรียน ผู้ปกครอง ครูและบุคลากรทางการศึกษา จึงได้ให้โรงเรียนสังกัดองค์การบริการส่วนจังหวัด นครราชสมี า จดั ทําแนวทางการจัดการเรียนการสอนและมาตรการป้องกันในสถานการณ์การระบาด ของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ปีการศึกษา 2564 สถานศึกษาเป็นสถานท่ีที่มี นกั เรียนอยู่รวมกันจํานวนมาก มักจะมีความเสี่ยงสูงหากมีระบบการจัดการที่ไม่ดี อาจจะมีการแพร่ ระบาดของเชอ้ื COVID-19 ไดใ้ นกลมุ่ เดก็ เน่อื งจากพบวา่ การตดิ เช้อื COVID-19 สว่ นใหญ่จะไม่ค่อยมี อาการหรอื มีอาการแสดงค่อนข้างน้อย ความรุนแรงจะน้อยมาก แต่เด็กนักเรียนจะเอาเช้ือกลับบ้าน อาจทําให้การแพร่ระบาดเกิดข้ึนได้อย่างรวดเร็ว (Super spread) ไปยังบุคคลในบ้าน หากมี การระบาดในกลุ่มเด็กข้ึนจะมีผลกระทบในสังคมหรือผู้ใกล้ชิด เช่น ครูพ่อแม่ ผู้สูงอายุท่ีติดเช้ือจาก เด็ก ดังนัน้ หากมีการเปิดเรยี นมโี อกาสสูงทจ่ี ะเกดิ การตดิ เชื้อในกลมุ่ เดก็ เพ่ิมมากข้ึน ซ่ึงเด็กเป็นกลุ่มที่ ต้องได้รับการดูแลและระมัดระวังในการกระจายเช้ือเป็นอย่างมาก มาตรการในการเปิดเทอมจึง มีความสําคัญมากในการควบคุมการระบาด โรงเรียนประทายจึงได้จัดทําคู่มือการจัดการเรียน การสอนและมาตรการป้องกันในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID- 19) ปกี ารศึกษา 2564 เพ่ือเปน็ การปอ้ งกันและควบคุมไม่ให้เกิดการระบาดของโรคได้ และเพื่อเป็น แนวทางในการจดั การเรียนการสอนของโรงเรยี นอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ นายสรุ ชาติ คา้ํ ชู ผ้อู าํ นวยการสถานศกึ ษาโรงเรียนประทาย องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวัดนครราชสมี า หน้า ก

สำรบญั หนำ้ ความรู้เกี่ยวกบั โรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)………………………………………. 1 ข้อมูลพน้ื ฐานของโรงเรยี น……………………………………………………………………………………. 3 คูม่ ือการจัดการเรียนการสอนและมาตรการป้องกันของสถานศึกษา ในสถานการณ์ การระบาดของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ปกี ารศกึ ษา 2564 โรงเรยี นประทาย องค์การบริหารสว่ นจงั หวัดนครราชสมี า................................................. 12 1. การเตรียมความพร้อมการจัดการเรยี นการสอนในวนั เปดิ ภาคเรยี น....................... 14 2. รปู แบบการจัดการเรียนการสอนของโรงเรยี น...................................................... 28 3. บทบาทครแู ละนักเรยี น......................................................................................... 30 4. มาตรการและแนวทางในการดแู ลนกั เรยี นของผู้ปกครอง..................................... 36 5. บทบาทของผปู้ กครอง.......................................................................................... 37 6. มาตรการและแนวทางในการดแู ลด้านอนามัยและส่งิ แวดล้อมของโรงเรียน......... 38 การจดั การดา้ นสุขภาพจติ ในสถานการณ์โควดิ -19…………………………………………………. 48 การป้องกนั การแพรร่ ะบาดของโรค COVID-19 ในสถานศึกษา...................................... 50 หนา้ ข

คคววามามรู้เรก้เู กย่ี ่ียววกกบั บัโรโครคตตดิ ดิเชเชือ้ อื้ไวไวรสัรัสโคโคโรโนรนาา22001199(C(COOVVIDID-1-199) ) มารจู ักโรคโควิด 19 โรคโควิด 19 คืออะไร โรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด 19 (Coronavirus Disesse 2019 (COVID-19)) เปนตระกลู ของไวรสั ทีก่ อใหอาการปวยตัง้ แตโรคไขหวดั ธรรมดาไปจนถึง โรคทมี่ ีความรุนแรงมาก เชน โรคระบบทางเดนิ หายใจตะวันออกกลาง (MERS-CoV) โรคระบบทางเดนิ หายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS- CoV) เปนสายพันธุใหมที่ไมเคยพบมากอนในมนุษย กอใหเกิดอาการปวยระบบทางเดินหายใจในคนและ สามารถแพรเชื้อจากคนสูคนได โดยเช้ือไวรัสน้ีพบการระบาดครั้งแรกในเมืองอูฮ่ัน มณฑลหูเปย สาธารณรัฐประชาชนจนี ในชวงปลายป 2019 หลังจากน้ันไดมีการระบาดไปท่ัวโลก องคการอนามัยโลก จงึ ต้ังช่อื การติดเชื้อไวรสั โคโรนาสายพันธุใหมนี้วา โรคโควิด 19 อาการของผูปวยโรคโควิด 19 มีอาการอยางไร อาการท่ัวไป ไดแก อาการระบบทางเดินหายใจ มีไข ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ หายใจล้าบาก เหนื่อย หอบ ไมไดกล่ิน ไมรูรส ในกรณีที่อาการรุนแรงมาก อาจท้าใหเกิดภาวะแทรกซอน เชน ปอดบวม ปอด อักเสบ ไตวาย หรืออาจเสียชวี ิต โรคโควิด 19 แพรกระจายเช้ือไดอยางไร โรคชนิดนีม้ คี วามเปนไปไดที่มีสตั วเปนแหลงรังโรค สวนใหญแพรกระจายผานการสัมผัสกับผูติด เชอ้ื ผานทางละอองเสมหะจากการไอ น้ามูก น้าลาย ปจจุบันยังไมมีหลักฐาน สนับสนุนการแพรกระจาย เช้ือผานทางการพ้ืนผิวสัมผัสที่มีไวรัสแลวมาสัมผัส ปาก จมูกและ ตา สามารถแพรเชื้อผานทางเช้ือที่ถูก ขบั ถายออกมากับอจุ จาระเขาสูอกี คนหนึง่ โดยผาน เขาทางปาก (Feco-oral route) ไดดวย หน้า 1

โรคโควิด 19 รักษาไดอยางไร ยังไมมียาส้าหรับปองกันหรือรักษาโรคโควิด 19 ผูท่ีติดเชื้ออาจตองไดรับการรักษาแบบ ประคับประคองตามอาการ โดยอาการท่ีมีแตกตางกัน บางคนรุนแรงไมมาก ลักษณะเหมือนไขหวัดทั่วไป บางคนรุนแรงมาก ท้าให เกิดปอดอักเสบได ต องสังเกตอาการใกล ชิดร วมกับการรักษาด วย การประคับประคองอาการจนกวาจะพนอาการชวงนัน้ และยังไมมียาตัวใดทม่ี ีหลกั ฐานชดั เจนวา รกั ษาโรค โควดิ 19 ไดโดยตรง ใครบางท่ีเสี่ยงสงู ตอการติดโรคโควดิ 19 กลุมเสยี่ งโดยตรงท่ีอาจสัมผัสกับเชื้อ ไดแก ผูที่เพิ่งกลับจากพ้ืนท่ีเส่ียง สัมผัสใกลชิดผูปวยสงสัย ติดเชื้อ กลุมเสย่ี งท่ีตองระวงั หากติดเชื้ออาจมีอาการรุนแรง ไดแก ผูสูงอายุ 70 ปข้ึนไป ผูปวยโรคเร้ือรัง เชน เบาหวาน ความดันโลหติ สูง หลอดเลือดหวั ใจ ภมู แิ พ เด็กเลก็ อายุต่า้ กวา 5 ปี การป้องกนั การติดโรคโควิด 19 - ออกกา้ ลังกายสม่า้ เสมอและพกั ผอ่ นใหเ้ พียงพอ - รบั ประทานอาหารทม่ี ีประโยชน์และครบ 5 หมู่ - ไม่คลกุ คลใี กลช้ ิดกบั ผู้ปุวย - แนะนา้ ให้ผปู้ วุ ยใสห่ น้ากากอนามัย ปิดปากปิดจมกู เวลา ไอ หรือจาม - ควรลา้ งมอื บอ่ ยๆ ด้วยน้าและสบู่ โดยเฉพาะเมือ่ สัมผสั กับสารคัดหลัง่ จากผปู้ วุ ย กอ่ น รับประทานอาหาร และหลังขับถา่ ย - ควรหลีกเลี่ยงการเขา้ ไปในพ้นื ทแ่ี ออดั หรอื ที่ชมุ ชนสาธารณะที่มคี นอยเู่ ป็นจ้านวนมาก เพ่ือลด ความเส่ียงในการติดโรค หน้า 2

ข้อขมอ้ ูลมพลู พ้นื ้ืนฐฐาานนขขอองงโโรรงงเเรรยี ยี นน ขอ้ มูลทวั่ ไป โรงเรยี นประทาย ต้งั อยเู่ ลขท่ี 230 หมทู่ ี่ 13 ถนนเจนจบทิศ ต้าบลประทาย อ้าเภอประทาย จงั หวัดนครราชสมี า รหสั ไปรษณยี ์ 30180 โทรศัพท์ 044-479270 โทรสาร 044-489301 Website: http://www.prathai.ac.th/ E-mail : [email protected] สังกดั องคก์ ารบริหารส่วนจงั หวัด นครราชสีมา อ้าเภอเมืองนครราชสมี า จังหวดั นครราชสมี า เปดิ สอนระดบั ชน้ั ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 ถึงระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 จ้านวน 72 หอ้ งเรียน โรงเรยี นมีเนือ้ ที่ 64 ไร่ 2 งาน 18 ตารางวา วสิ ัยทัศน์ “วินัยดี มีความพรอ้ ม นอบนอ้ มคุณธรรม นา้ วิชาการ สรรค์สร้างสงั คมรจู้ กั ใช้เทคโนโลยี มีบรรยากาศเออ้ื ตอ่ การเรียนรู้ ม่งุ สทู่ ักษะชวี ติ ปลอดสง่ิ เสพติด รว่ มกิจกรรม น้าชมุ ชน” พนั ธกจิ 1. พฒั นาผ้เู รยี นใหม้ ีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน โดยเนน้ การปลกู ฝังคุณธรรม จรยิ ธรรม และ คุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ 2. ส่งเสรมิ สนบั สนุน การอนรุ กั ษ์และสืบสานเอกลกั ษณ์ วฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาท้องถิน่ 3. สง่ เสริม สนับสนนุ การน้าสอ่ื เทคโนโลยี ภูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ และแหลง่ เรยี นรู้มาใช้ในการ จดั การเรยี นการสอน 4. ส่งเสรมิ สนับสนนุ ให้ครูและบุคลากรไดร้ บั การพัฒนาอย่างต่อเนอื่ ง 5. เพ่ิมประสทิ ธิภาพระบบการบรหิ ารจัดการโรงเรียน 6. พฒั นาส่ิงแวดล้อมให้เอือ้ ต่อการจัดการศกึ ษา 7. ระดมสรรพก้าลงั จากทุกภาคสว่ นเข้ามามีสว่ นร่วมในการจดั การศกึ ษา 8. บริหารโดยใช้โรงเรยี นเปน็ ฐานในการพัฒนาทอ้ งถน่ิ ด้วยการจดั การศึกษาตลอดชีวิต (SBMLD) หนา้ 3

ประเด็นการพจิ ารณามาตรฐานการศึกษา ระดบั การศึกษาขน้ั พื้นฐาน ของ สถานศกึ ษา ปีการศกึ ษา 2563 ประเดน็ การพิจารณามาตรฐานที่ 1 คณุ ภาพของผู้เรยี น 1.1 ผลสัมฤทธ์ทิ างวิชาการของผ้เู รียน 1) มีความสามารถในการอา่ น การเขียน การสอ่ื สาร และการคิดค้านวณ 2) มีความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภปิ รายแลกเปล่ยี นความ คิดเห็น และแกป้ ัญหา 3) มีความสามารถในการสรา้ งนวตั กรรม 4) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร 5) มผี ลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นตามหลักสตู รสถานศึกษา 6) มีความรู้ ทักษะพ้ืนฐาน และเจตคติทด่ี ีต่องานอาชีพ 1.2 คุณลักษณะทพี่ งึ ประสงคข์ องผเู้ รียน 1) การมีคุณลกั ษณะและคา่ นิยมท่ีดีตามที่สถานศึกษาก้าหนด 2) ความภูมิใจในท้องถ่นิ และความเป็นไทย 3) การยอมรบั ท่จี ะอย่รู ว่ มกันบนความแตกต่างและหลากหลาย 4) สขุ ภาวะทางร่างกาย และจติ สงั คม ประเดน็ การพิจารณามาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ 2.1 มเี ปาู หมายวสิ ยั ทัศน์และพนั ธกิจท่ีสถานศึกษาก้าหนดชัดเจน 2.2 มีระบบบรหิ ารจัดการคุณภาพของสถานศกึ ษา 2.3 ด้าเนินงานพฒั นาวิชาการทเี่ น้นคณุ ภาพผู้เรยี นรอบด้านตามหลักสูตรสถานศกึ ษา และทุก กล่มุ เปูาหมาย 2.4 พัฒนาครูและบคุ ลากรให้มคี วามเช่ยี วชาญทางวชิ าชีพ 2.5 จัดสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพและสังคมทเี่ อ้ือต่อการจัดการเรียนรู้อยา่ งมคี ุณภาพ 2.6 จดั ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื สนบั สนนุ การบรหิ ารจัดการและการจัดการเรยี นรู้ ประเดน็ การพิจารณามาตรฐานที่ 3 กระบวนการจดั การเรยี นการสอนที่เน้นผเู้ รียนเปน็ สาคัญ 3.1 จัดการเรียนรผู้ า่ นกระบวนการคดิ และปฏิบตั ิจริง และสามารถนา้ ไปประยุกต์ใช้ในชีวติ ได้ 3.2 ใช้สอื่ เทคโนโลยสี ารสนเทศและแหลง่ เรยี นรู้ท่เี ออ้ื ตอ่ การเรยี นรู้ 3.3 มกี ารบรหิ ารจัดการชนั้ เรียนเชิงบวก 3.4 ตรวจสอบและประเมนิ ผเู้ รยี นอยา่ งเปน็ ระบบและนา้ ผลมาพัฒนาผู้เรียน 3.5 มีการแลกเปล่ียนเรยี นรูแ้ ละใหข้ ้อมลู สะท้อนกลบั เพื่อพฒั นาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ หน้า 4

สญั ลักษณ์ประจาโรงเรยี น ตราสญั ลักษณป์ ระจา้ โรงเรียน  ตราประจาโรงเรียน เป็นรูปปอู มปราการครอบด้วยเสมา หมายถึง ประทายเจริญได้ด้วย การศึกษา (ประทาย แปลว่า ปูอมปราการ)  คติธรรมประจาโรงเรยี น ทนโฺ ต เสฏฺโฐ มนสุ เฺ สสุ แปลวา่ ในหมูม่ นษุ ย์ ผฝู้ ึกดีแลว้ เปน็ ผู้ ประเสริฐ  ปรชั ญาประจาโรงเรยี น สุขภาพสมบรู ณ์ เพ่ิมพนู ความรู้ เชดิ ชูคุณธรรม น้อมนา้ พระราชด้าริ  แสด - ดา คอื สีประจา้ โรงเรยี น ที่มคี วามหมายถงึ ความกลา้ หาญ ความอดทน น้ามาซงึ่ ความย่งิ ใหญ่ชัว่ นจิ นิรันดร์  สีแสด เปน็ สีประจา้ จงั หวัดนครราชสมี า แสดงถึงความกล้าหาญ  สดี า้ เปน็ สีของปูอมปราการและสขี องผลหมากเค็ง (นางด้า) ซงึ่ เปน็ ต้นไม้ท่ีเปน็ ช่ือชมุ ชน ท่ีโรงเรียนต้งั อยู่ (ชมุ ชนหัวดงเค็ง) แสดงถึงความอดทน และความย่งิ ใหญ่  ตน้ ไมป้ ระจาโรงเรยี น ต้นหมากเคง็ (นางดา้ ) หมายถงึ ความเขม้ แข็ง ความอดทนต่อ อุปสรรคตา่ งๆ จดุ มุ่งหมายเพ่ือการพฒั นา 1. ผเู้ รียนมีคณุ ภาพตามเกณฑม์ าตรฐาน 2. นักเรยี นและชุมชนเหน็ คุณค่าและสืบสานเอกลักษณว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาท้องถนิ่ 3. โรงเรียนมีสือ่ และมีนวัตกรรมเทคโนโลยีทนั สมัยมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน 4. ครมู ีศักยภาพ มีสมรรถนะและทกั ษะตามมาตรฐานวิชาชีพ 5. โรงเรียนมคี วามเข้มแขง็ และบรหิ ารจดั การได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ 6. โรงเรียนมบี รรยากาศและสภาพที่เออื้ ต่อการเรียนรู้ 7. โรงเรยี นไดร้ บั ความเชื่อม่ันในศกั ยภาพการจัดการศึกษามคี วามศรทั ธาสูงข้นึ หน้า 5

อัตลกั ษณ์ของสถานศกึ ษา “ยิม้ ไหว้ ทายทัก รักษส์ ะอาด” เอกลกั ษณข์ องสถานศกึ ษา “คณุ ธรรมนา้ ชีวติ พฒั นาศษิ ย์ด้วยจรยิ ธรรม” แผนการเรยี น ตาราง แสดงการจัดกลมุ่ แผนการเรยี น มที ัง้ หมด 72 หอ้ งเรยี น แยกเป็นแผนการเรียนดงั น้ี แผนการเรียนปีการศกึ ษา 2564 ท่ี แผนการเรยี น ม.1 ห้อง จานวน (หอ้ ง) 1 หอ้ งพเิ ศษวิทยาศาสตรแ์ ละคณติ ศาสตร์ ม.1/1 1 2 วิทยาศาสตรแ์ ละคณติ ศาสตร์ ม.1/2-5 4 3 เทคโนโลยี ม.1/6 1 4 ภาษาองั กฤษ ม.1/7 1 5 ภาษาไทย ม.1/8-9 2 6 ศลิ ปะ ดนตรี นาฏศิลป์ ม.1/10 1 7 การงานอาชพี (เกษตรกรรม+คหกรรม) ม.1/11 1 8 พลศึกษา ม.1/12 1 รวม 12 ท่ี แผนการเรยี น ม.2 หอ้ ง จานวน (หอ้ ง) 1 หอ้ งพเิ ศษวิทยาศาสตร์และคณติ ศาสตร์ ม.2/1 1 2 วิทยาศาสตร์และคณติ ศาสตร์ ม.2/2-4 3 3 เทคโนโลยี ม.2/5 1 4 ภาษาอังกฤษ ม.2/6 1 5 ภาษาไทย ม.2/7-8 2 6 ศลิ ปะ ดนตรี นาฏศลิ ป์ ม.2/9 1 7 การงานอาชพี (เกษตรกรรม+คหกรรม) ม.2/10 1 8 พลศกึ ษา ม.2/11-12 2 12 รวม หน้า 6

การจัดวิชาเพ่มิ เติมช้นั ม.3 (12ห้อง) หอ้ ง จานวน (หอ้ ง) ภาษาไทยเพ่ิมเตมิ (2หอ้ ง) ม.4/1 1 วทิ ยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ (2 หอ้ ง) ม.4/2-5 4 พลศึกษาเพ่มิ เตมิ (2ห้อง) ม.4/6-7 2 ดนตรไี ทยเพมิ่ เตมิ ม.4/8 1 นาฏศลิ ป์เพิ่มเติม ม.4/9 1 ดนตรีสากลเพม่ิ เติม ม.4/10 1 คหกรรม ม.4/11-12 2 เกษตรกรรม 12 เทคโนโลยีเพม่ิ เติม ภาษาองั กฤษเพ่ิมเติม ห้อง จานวน (ห้อง) ห้องเรียนพเิ ศษวทิ ยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ ม.5/1 1 ม.5/2-5 4 ท่ี แผนการเรียน ม.4 ม.5/6-7 2 1 ห้องพิเศษวทิ ยาศาสตรแ์ ละคณิตศาสตร์ ม.5/8-9 2 2 วิทยาศาสตร์และคณติ ศาสตร์ ม.5/10 1 3 ภาษาต่างประเทศ ม.5/11 1 4 ธุรกิจการคา้ สมยั ใหม่ ม.5/12 1 5 อตุ สาหกรรม สาขาชา่ งยนต์ 12 6 อุตสาหกรรม สาขาชา่ งไฟฟูา 7 วชิ าการทัว่ ไป รวม ท่ี แผนการเรียน ม.5 1 หอ้ งพิเศษวิทยาศาสตรแ์ ละคณิตศาสตร์ 2 วทิ ยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ 3 ภาษาตา่ งประเทศ 4 ธรุ กจิ การคา้ สมยั ใหม่ 5 การจัดการเกษตรสมัยใหม่ 6 ชา่ งอุตสาหกรรม 7 วทิ ยาศาสตรก์ ารกฬี า รวม หน้า 7

ท่ี แผนการเรียน ม.6 หอ้ ง จานวน (หอ้ ง) 1 ห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์-คณติ ศาสตร์ ม.6/1 1 2 วทิ ย-์ คณิต ม.6/2-5 4 3 คณิต-ภาษา ม.6/6-7 2 4 สงั คม-ภาษาไทย ม.6/8-12 5 12 รวม แหลง่ เรียนรู้ 1. ห้องสมุดมพี น้ื ทข่ี นาด 120 ตารางเมตร หนังสือในห้องสมุดมีจ้านวน 34,046 เล่ม มีวารสาร/ หนังสือพิมพ์ให้บริการจ้านวน 20 ฉบับ/เดือน การสืบค้นหนังสือและการยืม-คืน ใช้ระบบห้องสมุด อตั โนมัติ Library2001 มเี คร่ืองคอมพิวเตอร์ให้บริการสืบค้นเทคโนโลยีสารสนเทศในห้องสมุด จ้านวน 8 เคร่ือง มจี า้ นวนนกั เรียนที่ใช้หอ้ งสมดุ (ในปกี ารศึกษาท่ีรายงาน) เฉลี่ย 450 คน ต่อวัน คิดเป็นร้อยละ 18 ของนกั เรยี นทั้งหมด 2. หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารท้ังหมด 10 ห้อง จ้าแนกเป็น 1) หอ้ งปฏบิ ตั ิการวทิ ยาศาสตร์ จ้านวน 4 ห้อง 2) หอ้ งปฏิบตั กิ ารคอมพวิ เตอร์ จ้านวน 5 หอ้ ง 3) หอ้ งปฏบิ ัติการทางภาษา จา้ นวน 1 หอ้ ง 3. เครอ่ื งคอมพิวเตอรท์ ง้ั หมด จา้ นวน เครอื่ ง จา้ แนกเปน็ 1) ใช้เพื่อการเรียนการสอน จา้ นวน 329 เครือ่ ง 2) ใช้เพ่ือให้บริการสืบค้นข้อมูลทางอนิ เทอรเ์ น็ต จา้ นวน 329 เครอื่ ง โดยมีจา้ นวนนกั เรยี นทใ่ี ช้บรกิ ารสบื ค้นขอ้ มูลทางอนิ เตอร์เนต็ (ในปีการศึกษาทรี่ ายงาน) เฉล่ยี 2,423 คน ต่อสัปดาห์ คิดเป็นร้อยละ 100 ของนกั เรยี นทั้งหมด 3) ใช้เพื่อสนับสนุนการบรหิ ารสถานศึกษา(ส้านกั งาน) จ้านวน 25 เคร่ือง 4. แหล่งเรียนร้ภู ายในโรงเรยี น ท่ี ชื่อแหล่งเรียนรู้ สถติ กิ ารใชจ้ านวนครั้ง/ปี 1. ศนู ยแ์ หล่งเรียนร้ตู ามแนวปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง 1,200 2. สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น โรงเรยี นประทาย 1,900 3. ศนู ยศ์ ิลป์ 1,000 4. หอ้ งสมดุ 500 5. ห้องคอมพวิ เตอร์ 2,200 6. หอ้ งพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน 2,080 ลักษณะโดยรวมของบคุ ลากร หนา้ 8

ขอ้ มลู ขา้ ราชการครู ตารางแสดงจา้ นวนขา้ ราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา จา้ แนกตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ เพศ วิทยฐานะ และวฒุ ิทางการศกึ ษา ปีการศกึ ษา 2563 จานวนบุคลากร (คน) ประเภท/ตาแหน่ง ตา่ กว่า ปริญญาตรี ปรญิ ญาโท ปริญญา รวม ปรญิ ญาตรี เอก 1. ผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา - - - -- - ผอู้ ้านวยการ - - 1 -1 - รองผู้อา้ นวยการ - - 3 -3 รวม - - 4 -4 2. สายงานการสอน - - - -- - ข้าราชการ/ - 36 83 - 119 พนกั งานครู - พนกั งานจ้าง(สอน) - - - -- - อื่นๆ (ระบ)ุ - - - -- รวม - 36 83 - 119 3. สายงานสนับสนุน - - - -- การสอน - พนักงานจา้ งตาม 1 1 - -- ภารกิจ - พนักงานจา้ งทั่วไป 19 - - -- - ลกู จา้ งประจา้ - 4 - - - - อนื่ ๆ (ระบุ) - - - -- รวม 20 5 - - 25 รวมทงั้ ส้นิ 20 41 87 - 148 คดิ เป็นร้อยละ 13.51 27.70 58.78 - 100 หน้า 9

ตารางแสดงจา้ นวนขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา จ้าแนกตามกลุ่มสาระการเรยี นรู้ เพศ วทิ ยฐานะ และวฒุ ิทางการศึกษา ปีการศกึ ษา 2564 หน้า 10

โครงสรา้ งองคก์ ร โครงสรา้ งการบรหิ ารงานโรงเรียนประทาย ปีงบประมาณ 2563 คณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน ผอู้ านวยการสถานศกึ ษา คณะกรรมการทีป่ รกึ ษาการบริหาร (นายสรุ ชาติ คา้ ช)ู ฝ่ายบริหารงานวิชาการ ฝา่ ยบริหารงานทวั่ ไป (รอง ผอ. นายอัมนาฎจ์ เออ้ื กิจรตั น)์ (รอง ผอ. นายราวี โม้ลา) ฝ่ายบรหิ ารงานกิจการนักเรียน ฝา่ ยบริหารงานส่งเสริมและบริการ (รอง ผอ. นายอทุ ัย ทัศนไพร) (รอง ผอ. นายอมั นาฎจ์ เออ้ื กิจรตั น์) หนา้ 11

คมู่ อื การจดั การเรยี นการสอนและมาตรการป้องกันของสถานศึกษา ในสถานการณ์ การระบาดของโรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ปีการศกึ ษา 2564 โรงเรยี นประทาย องค์การบริหารส่วนจงั หวดั นครราชสีมา จากหนังสอื ที่ มท 0816.3/ว2375 กรมส่งเสรมิ การปกครองทอ้ งถน่ิ พจิ ารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้ การเปดิ สถานศกึ ษา สงั กดั องค์กรปกครองทอ้ งถิน่ ในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรน่า 2019 (Covid-19) เป็นไปดว้ ยความเรียบร้อย และเป็นไปตามข้อก้าหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชก้าหนดการบรหิ ารราชการในสถานการณฉ์ กุ เฉนิ พ.ศ.2548 (ฉบบั ที่ 34) ประกาศ ณ วนั ท่ี 28 กนั ยายน 2564 ขอความร่วมมอื จังหวัดแจ้งองค์กรปกครองทอ้ งถ่ินท่ีมีสถานศกึ ษาในสงั กดั จัดการศึกษาระดับการศึกษาขน้ั พื้นฐานและระดบั อาชีวศึกษาด้าเนนิ การ ดงั น้ี 1. โรงเรียนประทายเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ตามแนวทางการ เปิดสถานศึกษา (โรงเรียน/วิทยาลัย) ของสถานศึกษาสังกัดองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ในสถานการณ์ แพร่ระบาดของโรคติดเช้ือ ไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19) และได้ผ่านมาตรฐาน Thai Stop Covid สถานประกอบการสถานศึกษา สะอาดปลอดภัย ปูองกันโรค COVID-19 ประเภท กรมส่งเสริมการ ปกครองทอ้ งถ่ิน (สถ.) หนา้ 12

2. ตรวจสอบและด้าเนินให้ นกั เรียน ครู และบคุ ลากรทางการศกึ ษาท่ยี งั ไดร้ บั การฉีดวคั ซีน ขอ้ มลู ณ วนั ที่ 31 ตุลาคม 2564 ข้อมลู ณ วนั ท่ี 31 ตุลาคม 2564 หน้า 13

1. การเตรียมความพร้อมการจัดการสอนในวนั เปดิ ภาคเรียน (Preparation before reopening) จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อทุกภาคส่วน เม่ือ สถานการณ์ เป็นไปในทางท่ีดีข้ึน การเปิดสถานศึกษาหลังจากปิด จากสถานการณ์ โควิด 19 มีความ จา้ เปน็ อย่างยิ่งในการเตรียมความพร้อมของสถานศึกษา การปฏิบัติตนของครู นักเรียนและบุคลากรใน สถานศึกษา เพ่อื ลดโอกาสการติดเชื้อและปูองกันไม่ให้เกิดการติดเช้ือโรคโควิด 19 ให้เกิดความปลอดภัย แก่ทุกคน จึงควรมีการประเมินความพร้อมในการเปิดภาคเรียนของสถานศึกษา ซึ่งองค์การเพื่อเด็กแห่ง สหประชาชาติและ องค์กรภาคี ได้เสนอกรอบแนวทาง 6 มิติ ได้แก่ การด้าเนินงานเพื่อความปลอดภัย การเรยี นรู้ การครอบคลมุ ถึงเด็กด้อยโอกาส สวัสดิภาพและการคมุ้ ครอง นโยบาย และการบริหารการเงิน จึงมีแนวคิดในการสร้างความเชื่อมโยงกับมาตรการปูองกันโรค เพื่อปูองกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 ของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) อันจะ เปน็ การวางแผนทจ่ี ะช่วยสรา้ งเสริมความเขม้ แข็งดา้ นการค้มุ ครองสขุ ภาพและความปลอดภัยของนักเรยี น โดยมีมาตรการควบคมุ หลกั ในมิติการด้าเนินงาน เพือ่ ความปลอดภัยจากการลดการแพร่เชื้อโรค 6 ข้อปฏิบตั ิในสถานศกึ ษา ได้แก่ 1. คัดกรอง (Screening) ผู้ท่ีเข้ามาในสถานศึกษาทุกคนต้องได้รับการคัดกรอง วดั อณุ หภูมิรา่ งกาย 2. สวมหนา้ กาก (Mask Wearing) ทกุ คนต้องสวมหนา้ กากผา้ หรอื หนา้ กาก อนามยั ตลอดเวลาทอี่ ย่ใู น สถานศกึ ษา 3. ล้างมอื (Hand Washing) ล้างมือบอ่ ย ๆ ดว้ ยสบแู่ ละนา้ นานอยา่ งนอ้ ย 20 วินาทหี รือใชเ้ จล แอลกอฮอล์ หลีกเลย่ี งการสมั ผัสบรเิ วณจดุ เสี่ยง รวมทงั้ ไม่ใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมกู โดยไมจ่ า้ เปน็ 4. เว้นระยะห่าง (Social Distancing) เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1.5 - 2 เมตร รวมถึงการจัดเว้นระยะหา่ งของสถานท่ี 5. ทาความสะอาด (Cleaning) เปิดประตู หน้าต่าง ให้อากาศถ่ายเท ท้าความสะอาด ห้องเรยี น และบรเิ วณตา่ ง ๆ โดยเชด็ ท้าความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของโตะ๊ เก้าอี้ และวัสดุอุปกรณ์ ก่อนเข้า หน้า 14

เรียน ช่วงพักเท่ียง และหลังเลิกเรียนทุกวัน รวมถึงจัดให้มีถังขยะมูลฝอยแบบมีฝาปิด และรวบรวมขยะ ออก จากห้องเรยี น เพือ่ น้าไปก้าจัดทุกวนั 6. ลดแออัด (Reducing) ลดระยะเวลาการท้ากิจกรรมให้สั้นลงเท่าที่จ้าเป็นหรือเหลื่อม เวลา ทา้ กจิ กรรมและหลีกเลย่ี ง การท้ากิจกรรมรวมตวั กันเป็นกลมุ่ ลดแออัด มีมาตรการควบคุมหลักในมิติการด้าเนินงาน เพ่ือความปลอดภัยจากการลดการแพร่เชื้อโรค 6 มาตรการเสรมิ ปฏบิ ตั ิในสถานศึกษา ไดแ้ ก่ 1. ดูแลตนเอง (Self care) ดูแล ใส่ใจ ปฏิบัติตน มีวินัย รับผิดชอบ ตัวเอง ปฏิบัติตามมาตรการ อยา่ งเครง่ ครดั 2. ใช้ช้อนกลางส่วนตัว (Spoon) ใช้ช้อน กลางของตนเองทุกครั้ง เม่ือต้องกินอาหารร่วมกัน ลด สัมผสั ร่วมกบั ผู้อืน่ 3. กินอาหารปรุงสุกใหม่ (Eating) กิน อาหารปรุงสุกใหม่ร้อน ๆ กรณีอาหารเก็บเกิน 2 ช่ัวโมง ควรน้ามาอุ่นให้ร้อนท่ัวถึง กอ่ นกินอีกคร้งั 4. ไทยชนะ (Thai chana) ลงทะเบียนตามท่ีรัฐก้าหนดด้วย app ไทยชนะ หรือ ลงทะเบยี นบันทกึ การเขา้ – ออก อยา่ งชดั เจน 5. สารวจตรวจสอบ (Check) ส้ารวจบุคคล นกั เรยี นกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางมาจากพื้นท่ีเส่ียง เพื่อเข้าส่กู ระบวนการคัดกรอง 6. กักกันตัวเอง (Quarantine) 14 วัน เม่ือเข้าไปสัมผัสหรืออยู่ในพื้นท่ีเสี่ยงที่มี การระบาดของโรค หนา้ 15

การเตรียมความพร้อม การเตรยี มความพร้อมของโรงเรียนประทาย เนน้ ความร่วมมอื 8 แนวทาง ดงั น้ี 1. มีมาตรการคัดกรอง ครู นักเรียน บุคลากรและผู้มาติดต่อราชการทุกคน เช่น การวัดไข้ สวมใส่หน้ากาก ผ้า/หน้ากากอนามัยก่อนเข้าโรงเรียน ผู้ปกครองร่วมให้ประวัติ หากนักเรียนมี ความเสี่ยง เมอื่ นกั เรียนมีอาการ ไข้ ไม่สบายต้องหยุดเรียนทันทีและแจง้ หนว่ ยงานสาธารณสขุ ในพ้ืนท่ี หนา้ 16

วธิ ีการตรวจคัดกรอง การตรวจคัดกรองสขุ ภาพเบอื้ งต้นช่วงสถานการณโ์ รคโควิด-19 โรงเรียนประทายได้วางแผน ด้าเนินการตามข้ันตอนท่ีส้าคัญ ได้แก่ การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายหรือวัดไข้ การซักประวัติ การสัมผสั ในพ้ืนทีเ่ สยี่ ง การสังเกตอาการเส่ียงต่อการติดเช้ือ โดยมวี ิธปี ฏิบตั ทิ ีส่ า้ คัญพอสงั เขป ดงั น้ี 1) จัดต้ังจุดคัดกรองบริเวณทางเข้าของสถานศึกษา โรงเรียนประทายได้ก้าหนด จดุ คดั กรองบคุ ลากร นกั เรียนและผูม้ าตดิ ต่อราชการโดยยึดหลัก Social distancing ดังนี้ 1.1) ครู บคุ ลากรโรงเรียน กา้ หนดใหค้ รแู ละบุคลากรเขา้ สถานศกึ ษาโดยใช้ประตทู ี่ 1 1.2) นักเรยี น มกี ารกา้ หนดใหน้ กั เรียนเข้าสถานศึกษาโดยใช้ประตูที่ 1 เดินตามช่องทาง จา้ นวน 4 ชอ่ งทาง และมรี ะยะห่างระหว่างคน 1.5 - 2 เมตร 1.3) ผู้มาติดตอ่ ราชการ มีการกา้ หนดใหน้ กั เรียนเขา้ สถานศกึ ษาโดยใชป้ ระตูท่ี 1 หนา้ 17

2) ตรวจวัดอุณหภมู ิร่างกายหรือวัดไข้ โดยใช้เคร่อื งวัดอณุ หภูมิทางหน้าผาก เน่อื งจาก จ้านวนนักเรียนมีเป็นจ้านวนมาก คนท่ัวไปจะมีอุณหภูมิร่างกายอยู่ระหว่าง 36.1 - 37.2 องศา เซลเซยี ส ส้าหรบั ผทู้ เ่ี รมิ่ มไี ข้หรอื สงสัยวา่ ตดิ เชอื้ จะมีอุณหภมู ทิ ่มี ากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส 2.1) ครู บุคลากรโรงเรียน จะมีเจา้ หน้าทที่ า้ หน้าท่ีตรวจวัดอุณหภมู ิร่างกายบรเิ วณ สแกน ลายนิว้ มอื ลงชอ่ื ปฏิบัตริ าชการ โดยเน้นระยะหา่ งระหว่างคน 1.5 - 2 เมตร 2.2) นกั เรียน ในชว่ งเช้า จะมีคุณครเู วรประจ้าวันท้าหนา้ ทตี่ อ้ นรบั นกั เรยี นและ ทา้ หนา้ ที่ ตรวจวดั อณุ หภมู ริ ่างกายแต่ละแถว โดยเนน้ ระยะหา่ งระหว่างคน 1.5 - 2 เมตร หนา้ 18

2.3) ผ้มู าตดิ ตอ่ ราชการ จะมีเจา้ หน้าที่ทา้ หนา้ ท่ีตรวจวัดอณุ หภมู ริ ่างกายบรเิ วณทางขน้ึ อาคารส้านักงานโดยเนน้ ระยะหา่ งระหว่างคน 1.5 - 2 เมตร จะตอ้ งลงเบยี นการเช็คอิน “ไทยชนะ” หรือ ลงชอื่ เขา้ ใช้บรกิ าร กา้ หนดใหส้ ้านักงานและห้องพักครตู ้องติดต้งั ปูาย QR Code “ไทยชนะ” หรือสมดุ ลงชือ่ ไวท้ ่หี นา้ หอ้ งใหเ้ รยี บรอ้ ย *** หากตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายคร้ังแรก บุคลากร นักเรียนหรือผู้มาติดต่อราชการ มีอุณหภูมิ ร่างกายมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ให้พักคอยหรือควรอยู่ในบริเวณจุดตรวจ วัดอย่างน้อย 5 นาที ก่อนท้าการวัดอีกครั้ง ถ้าอุณหภูมิไม่ลดลงให้คัดกรองหาเชื้อโควิด 19 ดว้ ยเครื่องตรวจ ATK *** กรณี วัดอุณหภูมิร่างกายได้ ไม'เกิน 37.5 องศาเซลเซียส และไม่มี อาการทางเดินหายใจ อาทิ ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ หายใจล้าบาก เหนื่อยหอบ ไม่ได้กล่ิน ไม่รู้รส ไม่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ปุวย ยืนยัน ในช่วง 14 วัน ก่อนมีอาการ ถือว่า ผ่านการคัดกรอง จะติด สัญลักษณ์หรือสติ๊กเกอร์ ให้เข้าเรียน ปฏิบัติงานหรือ ติดต่อได้ ตามปกติ หนา้ 19

- กรณี วดั อุณหภมู ิรา่ งกาย ต้ังแต่ 37.5 องศาเซลเซียสข้ึนไป หรอื มไี ข้ ร่วมกับอาการ ทางเดนิ หายใจ อย่างใดอย่างหนง่ึ อาทิ ไอ มนี า้ มกู เจบ็ คอ หายใจล้าบาก เหนื่อยหอบ ไม่ได้กล่ิน ไม่รู้ รส ให้ปฏิบตั ิ ดงั น้ี >แยกนักเรยี นไปไวท้ หี่ ้องแยก ซงึ่ ทางงานอนามัยโรงเรยี นไดจ้ ัดเตรยี มไว้ >บันทึกรายชอ่ื และอาการปวุ ย >ซักประวัติและสังเกตอาการเสี่ยง >แจง้ ผู้ปกครอง 3) มกี ารสุ่มตรวจ ATK นกั เรียน ครู และบคุ ลากรทีเ่ กยี่ วขอ้ งกับโรงเรียนเพ่อื เฝูาระวงั ทกุ 14 วนั หน้า 20

4) สอบถามและซักประวตั ิการสัมผัสในพ้ืนทีเ่ ส่ียงและบันทกึ ผล ลงในแบบบนั ทกึ การตรวจคัดกรอง สขุ ภาพส้าหรับนักเรยี น บคุ ลากรหรอื ผู้ มา ตดิ ตอ่ ในสถานศกึ ษา 4.1) หากไม่มปี ระวตั เิ ส่ียง ใหพ้ านักเรยี นไปพบแพทย์ และให้ หยดุ พักจนกว่าจะหายเป็นปกติ 4.2) หากตรวจพบวา่ มปี ระวตั ิเส่ยี ง และ/หรือมีประวตั ิสัมผสั ใกลช้ ดิ กับผู้ปุวยยืนยันหรือ สงสัย มปี ระวตั ิ เดินทางไปในพน้ื ทเ่ี สย่ี งหรอื พ้นื ที่เกิดโรค ไปในพน้ื ทีท่ ี่มคี นแออดั จา้ นวนมาก ในชว่ ง 14 วนั ก่อนมอี าการ ถอื วา่ เปน็ ผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยง หรอื เป็นกลมุ่ เสี่ยง โดยจ้าแนกเปน็ กลมุ่ เสี่ยง มีประวัติเสี่ยงสูง และกลุ่มเสยี่ ง มปี ระวัตเิ ส่ยี งตา้่ ให้ปฏิบัติ ดงั นี้ กลุ่มเส่ียงมปี ระวัตเิ สยี่ งสงู - แยกนักเรียนไปไว้ทห่ี อ้ งแยกซึ่งงานอนามยั โรงเรียนจัดเตรยี มไว้ -บันทึกรายชือ่ และอาการปวุ ย -แจง้ ผู้ปกครอง ให้มารับนกั เรียน แลว้ พาไปพบแพทย์ -แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ประเมินสถานการณ์ การสอบสวนโรค -ท้าความสะอาดจุดเส่ยี งและบริเวณโดยรอบ -เก็บตวั อย่าง -กกั ตวั อยู่บา้ น -ติดตามอาการใหค้ รบ 14 วัน -ครูรวบรวมขอ้ มูลและรายงานผลให้ผู้บริหารสถานศกึ ษา ผเู้ ก่ยี วขอ้ ง กลุม่ เส่ยี งมปี ระวัติเส่ียงต่า -แยกนักเรียนไปไว้ทีห่ อ้ งแยกซ่ึงงานอนามยั โรงเรยี น จัดเตรยี มไว้ -บันทึกรายชื่อและอาการปวุ ย -แจง้ ผปู้ กครอง ให้มารบั นกั เรียน แลว้ พาไปพบแพทย์ -แจง้ องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น -แจง้ ทอ้ งถ่ินทา้ ความสะอาด จุดเสีย่ งและบรเิ วณโดยรอบ -ติดตามอาการใหค้ รบ 14 วนั -ครูรวบรวมข้อมูลและรายงานผลให้ผู้บริหารสถานศกึ ษา ผูเ้ กย่ี วข้อง โรงเรยี นมีการก้าหนดแนวทางปฏบิ ัตติ ามระเบยี บส้าหรับบคุ ลากรและนักเรียนที่สงสัยติดเช้ือ หรอื ปุวยดว้ ยโรคโควิด – 19 โดยไมถ่ ือเปน็ วนั ลาหรอื วนั หยุดเรียน โดยน้าหลักฐาน ใบรบั รองแพทย์มา หน้า 21

ยืนยัน เพื่อกลับเข้าเรียนตามปกติ โดยไม่ถือว่าขาดเรียนหรือขาดงาน และมีการกักตัวผู้ใกล้ชิดกับ ผูป้ ุวยตามเกณฑ์ ควบคมุ โรคและดา้ เนินการชว่ ยเหลือ เช่นเดียวกบั ผู้ปวุ ย 2. ตรวจสอบการสวมหน้ากาก (Check mask) ของบุคคลทุกคนที่เข้ามาในสถานศึกษา ครู นักเรยี น บคุ ลากรและผู้มาตดิ ต่อราชการสวมใสห่ น้ากากผา้ หรือหน้ากากอนามยั ตลอดเวลาท่ีอยู่ใน โรงเรียน และครู จะต้องใส่เฟสชิลด์ (Face Sheild) ขณะปฏิบัติการสอน โดยจะต้องน้าหน้ากากผ้า หรอื หนา้ กากอนามัยมา โรงเรียนอย่างน้อย 2 ชิ้น หากนักเรียนหรือผู้มาติดต่อราชการที่โรงเรียนลืม หรือไม่ได้เอามา สามารถขอจากทางโรงเรียนได้ ซ่ึงโรงเรียนจัดหน้ากากผ้าและหน้ากากอนามัยไว้ ส้ารองให้ หนา้ 22

3. จัดให้มีจุดล้างมือด้วยสบู่เหลวล้างมือแอลกอฮอล์เจลอย่างเพียงพอ ให้ผู้รับการตรวจ คัดกรองลา้ งมือ ด้วยสบู่และน้าหรือใช้เจลแอลกอฮอล์ท้าความสะอาดมือ โรงเรียนได้จัดให้มีอ่างล้าง มอื จ้านวนมากเพ่ืออ้านวยความสะดวกและสุขอนามัยที่ดี คือการล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้าหรือ เจลแอลกอฮอล์ท้า ความสะอาดมือ และในแต่ละจุดจะมีปูายแสดงการล้างมือที่ถูกวิธี อย่างน้อย 20 วนิ าที หรอื ใชเ้ วลาเท่ากับการรอ้ งเพลงชา้ งหรอื เพลงแฮปปเี บริ ธ์ เดย์ 2 รอบ ดังนี้ -บรเิ วณทางเข้าสถานศกึ ษา บริเวณทางขึน้ อาคารสา้ นักงาน และบรเิ วณตา่ ง ๆ ของโรงเรยี น จา้ นวน 20 จดุ -อาคารเรยี น หอประชุม โรงอาหาร จ้านวน อาคาร จา้ นวนท้งั ลนิ้ 41 จดุ -บรเิ วณหอ้ งนา้ จ้านวน 9 หลงั จา้ นวน 37 จดุ รวมทง้ั สนิ้ 98 จุด นอกจากน้ยี ังมีเจลแอลกอฮอล์ในหอ้ งเรียน หนา้ ห้องส้านกั งาน หอ้ งพกั ครู ห้องประชุม และทางขึ้นอาคารอย่างน้อยห้องละ 1 ขวด หน้า 23

4. การเวน้ ระยะห่างในห้องเรียน เน้นจดั การเรียนการสอนในห้องเรียนเดียวกันตลอดท้ังวัน เน่ืองจาก โรงเรียนประทายเป็นขนาดใหญ่พิเศษที่มีจ้านวนนักเรียนมาก ห้องเรียนและพ้ืนที่จ้ากัด และโรงเรียนที่มีการจัดการเรียน การสอนโครงการห้องเรียนพิเศษ จึงใช้รูปแบบการจัดการเรียน การสอนแบบผสมผสาน (Blended Learning) รูปแบบที่ 4 : การสลับกลุ่มนักเรียน แบ่งนักเรียน ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย แล้วสลับวันมาเรียน โดยกลุ่ม นักเรยี นท่มี าเรียน นักเรียนจะเรียนประจ้าช้ันเรียน แต่ละห้องเรียนจะแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 20 - 25 คน และภายในห้องเรียนมีการจัดห้องเรียนแบบเว้นระยะห่าง 1.5 - 2 เมตร ส่วนกลมุ่ ทเ่ี รียนที่บา้ น เรยี นผา่ นระบบออนไลน์ (On-line) 5. เน้นการทาความสะอาดพ้นื ผิวสมั ผัสต่าง ๆ ทีใ่ ชร้ ่วมกัน อาทิ สนามเด็กเล่นลูกบิดประตู ห้องน้า ร่วมกับการจัดกลุ่มสลับกันใช้งานเพ่ือช่วยลดการสัมผัสร่วมกันจ้านวนมาก จัดให้มีการดูแล อาคารสถานท่ีและยานพาหนะ ดังนี้ >ท้าความสะอาดห้องและบริเวณทมี่ กี ารใช้บริการ ร่วมกันทกุ วนั ด้วยนา้ ผสมผงซกั ฟอกหรือนา้ ยา ทา้ ความสะอาด ทั่วไป ได้แก่ หอ้ งเรยี น ส้านกั งาน โรงอาหาร หอ้ งประชมุ โรงยิม สนามเดก็ เลน่ หอ้ งสมดุ หอ้ งคอมพวิ เตอร์ หอ้ งดนตรหี ้องเก็บ อปุ กรณ์กฬี า ราวบนั ได ลกู บิดประตโู ต๊ะ เกา้ อ้พี นักพิง อุปกรณ์ ดนตรี กฬี า คอมพวิ เตอร์ >รถโรงเรียนกอ่ นและหลงั ให้บริการแตล่ ะรอบ ให้เปิดหน้าต่างและประตู เพ่ือถ่ายเท ระบาย อากาศภายในรถ และท้าสม้่าเสมอความสะอาดในจุดท่ีมีการสัมผัสบ่อย ได้แก่ ราวจับ ท่ีเปิดประตู เบาะนั่ง ที่วางแขน ด้วยน้าผสมผงซักฟอกหรือน้ายาท้าความสะอาดที่มีส่วนผสมของโซเดียม ไร่โปคลอไรท์(นา้ ยาฟอกขาว) และปฏบิ ตั ติ ามค้าแนะน้าบนฉลาก หนา้ 24

• เปิดประตู หน้าต่าง เพ่ือระบายอากาศห้องที่มีการใช้ งานร่วมกัน เช่น ห้องเรียน ส้านักงาน โรงอาหาร ห้องประชุม ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ ห้อง ดนตรีห้องเก็บอุปกรณ์กีฬา หากมเี คร่ืองปรับอากาศใหท้ ้าความสะอาดอย่าง • หอ้ งสขุ าท้าความสะอาดบริเวณท่ีมีการสัมผัสบ่อย ๆ ท้า ความสะอาด อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ด้วยน้ายาท้าความสะอาด หรือ นา้ ยาท่ีมสี ่วนผสมของ โซเดยี มไร่โปคลอไรท์ (น้ายาฟอกขาว) ไดแ้ ก่ พื้นห้องสว้ ม โถส้วม ทก่ี ดชกั โครก หรือโถปัสสาวะ สายฉีดช้าระ กลอนหรือลูกบิดประตู ฝารอง น่ัง ฝาปดิ ซกั โครก กอ๊ กน้า อา่ งลา้ งมอื และปฏบิ ัตติ ามค้าแนะนา้ บนฉลาก • ซักผ้าส้าหรับเช็ดท้าความสะอาด และไม้ถูพื้น ด้วยน้า ผสมผงซักฟอก หรือนา้ ยาฆา่ เชือ้ ซักดว้ ยน้าสะอาดอีกคร้ัง และน้าไปผึ่งตากแดดใหแ้ ห้ง 6. ลดความแออัด ไม่จัดกิจกรรมที่เกิดการรวมกลุ่มของนักเรียน ได้มีการจัดเว้นระยะห่าง ระหว่าง บคุ คล อย่างน้อย 1.5 - 2 เมตร เช่น ระหวา่ งโต๊ะเรียน ที่น่ังเรียน ท่ีน่ังในโรงอาหาร ท่ีน่ังพัก ทางเดนิ จุดพกั คอย เน่ืองจากโรงเรียนประทายเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษจึงมีการจัดให้มีการสลับ วันเรียนโดยสลับช้ันเรียนระหว่างชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและช้ันมัธยมศึกษาตอนปลาย การแบ่ง จ้านวนนักเรียนเป็น 2 กลุ่ม การควบคุมจ้านวนนักเรียน ที่มาร่วมกิจกรรม ลดแออัด ลดเวลาท้า กิจกรรมให้ส้ันลงมกี ารจดั การเหล่อื มเวลาทา้ กจิ กรรม โดยถอื หลักหลีกเลี่ยง การติดต่อ สัมผัสระหว่าง กัน และการใช้พื้นที่ใช้สอยบริเวณสถานศึกษา โดยยึดหลัก Social distancing และมีการท้า สัญลกั ษณ์แสดงจุดต้าแหน่งชัดเจนในการจัดเวน้ ระยะห่างระหว่างกนั หนา้ 25

ท้าสัญลกั ษณเ์ วน้ ระยะหา่ งระหว่างบุคคลบนที่นั่ง เกา้ อแ้ี ละทางเดนิ 7. จัดอบรมครู “รอบรู้สุขอนามัย” อนามัยในโรงเรียนเพื่อรองรับสถานการณ์โควิด-19 โดยบคุ ลากร สาธารณสุข • โรงเรียนมีการสื่อสารประชาสัมพันธ์แก่ครูและบุคลากรในสถานศึกษาให้มีความรู้ ความเข้าใจ เบ้ืองด้น เก่ียวกับ โรคโควิด-19 ทักษะการล้างมือ การสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากาก อนามยั สุขลกั ษณะสว่ นบุคคลทดี่ ี รวมทง้ั การท้าความสะอาดอยา่ งถกู วิธี • มีการประชมุ ชี้แจงคณะกรรมการสถาน ศึกษาข้ันพื้นฐาน • มีแผนงาน โครงการ และกิจกรรม รองรับนโยบายและแนวทางการปูองกันโรคโควิด-19 ของ สถานศกึ ษา • แต่งต้ังคณะท้างานรับผิดชอบ เกี่ยวกับโรคโควิด-19 ในสถานศึกษา ประกอบด้วย ครู บุคลากร สถานศกึ ษา นักเรียน ผู้ปกครอง เจ้าหน้าทส่ี าธารณสุขและผู้เกี่ยวข้อง • ก้าหนดบทบาทหน้าท่ี โดยมอบหมายครู ครอู นามัยหรือ บุคลากรของสถานศึกษาท้าหน้าท่ี คัด กรอง วดั ไข้นักเรียน สงั เกต สอบถามอาการเสยี่ ง และประสาน งานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ ให้บรกิ าร ในห้องพยาบาลดแู ล ทา้ ความสะอาดในบริเวณสถานศกึ ษา และบรเิ วณจุดเส่ียง • โรงเรียนได้ท้าประชาสัมพันธ์สื่อสารท้าความเข้าใจกับนักเรียน บุคลากรทุกฝุาย ให้ข้อมูล ที่ให้ความเช่ือมั่นในมาตรการปูองกันและการดูแล ตามระบบการดูแลช่วยเหลือ ในสถานศึกษา โดยเฉพาะการ ระมดั ระวงั การส่อื สารและค้าพูดที่มีผลต่อทัศนคติ เพ่ือลดการรังเกียจ การตีตราทาง สงั คม (Social stigma) กรณีที่อาจพบบคุ ลากรในสถานศึกษา นักเรียน ผู้ปกครองตดิ โรคโควิด 19 หน้า 26

8. ขอความร่วมมอื กบั ผู้ปกครองใหเ้ ข้ามามสี ่วนรว่ มกับโรงเรียน ในการปูองกนั โรคและการปฏบิ ัติตัว เพ่อื ปอู งกนั การแพร่กระจายเชอ้ื โรงเรยี นได้จัดโครงการเย่ียมบ้านนักเรียน ก่อนเปิด เรียน เพื่อประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้และขอความร่วมมือใน การดูแลนักเรียนที่อยู่ ในการปกครองเพ่อื รว่ มปูองกันและแพร่เชื้อโรคไวรัส โคโรนา 2019 เมื่อถึง วันเปิดเรียน พร้อมท้ังมอบเอกสารการปฏิบัติ ตัว มาตรการและหน้าท่ีบทบาท ของผู้ปกครอง การรับ - ส่ง การเรียน ออนไลนท์ ี่บา้ น การตดิ ตามขอ้ มูลข่าวสาร สถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคโควดิ 19 และสังเกตอาการปวุ ยของบตุ รหลาน เปน็ ต้น หน้า 27

2. รูปแบบการจัดการเรียนการการสอนของโรงเรยี น 2.1) เนอื่ งจากโรงเรยี นประทายเปน็ ขนาดใหญ่พิเศษที่มีจ้านวนนักเรียน 2,636 คน ห้องเรียน จ้านวน 72 ห้อง และพื้นท่ีจ้ากัด และโรงเรียนมีการจัดการเรียนการสอนโครงการห้องเรียนพิเศษ จึงใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน (Blended Learning) รูปแบบที่ 4 : การสลับ กลุ่มนักเรียน ระดบั ช้นั จ้านวนนักเรยี น ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 487 ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 451 ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 3 440 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 481 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 422 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 6 355 2,636 รวมทั้งสนิ้ ขอ้ มูล ณ วนั ท่ี 29 ต.ค. 2564 2.2) มกี ารแบ่งนกั เรียนในแต่ละห้องเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม การแบ่งกล่มุ นกั เรยี นเป็นกลุ่ม มธั ยมศึกษาตอนต้น และกลุม่ มัธยมศึกษาตอนปลาย โดยสลับวนั มาเรยี น แบบ On-site และ แบบ Online ทีบ่ า้ น มกี ารมอบหมายภาระงานในวันทมี่ าเรยี นที่โรงเรยี น On-site ผ่านช่องทางสอ่ื สารต่าง ๆ อาทิ กลมุ่ Line/Facebook/Google site, Google Classroom, Google Meet เป็นต้น หนา้ 28

การจดั การเรียนการสอนของโรงเรยี น โรงเรียนได้จดั การเรยี นการสอนให้ครบหลักสูตร ตามความเหมาะสม เช่น - กรณมี าเรียนทโ่ี รงเรยี น เน้นกจิ กรรมการเรียนรู้ท่ีมีเนื้อหาซับซ้อน และภาคปฏิบัติท่ีต้องใช้ อปุ กรณแ์ ละมีครูดแู ล - กรณีเรียนอยู่ท่ีบ้าน เน้นเนื้อหาที่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง และปฏิบัติงานตามท่ีครู มอบหมาย เช่น เรียนรู้จากแบบเรียน ใบความรู้ Line/Facebook/Google site, Google Classroom, Google Meet - กลุ่มสาระการเรียนรู้ท่ีเน้นการปฏิบัติ เช่น กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ครูช้ีแจง วัตถุประสงค์การเรียนรกู้ บั ผปู้ กครองและนกั เรยี น อาจเรียนรู้จากการช่วย ผู้ปกครองท้างานบ้านหรือ ประกอบอาชีพเท่าท่ีท้าได้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา อาจให้นักเรียนดูแลสุขภาพ และออกกา้ ลังกายทบ่ี ้าน แลว้ บนั ทึกการปฏิบัติสง่ ครู และกลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ บางภาระงานให้ นักเรยี นปฏิบัตทิ ่ีบ้าน เปน็ ต้น - กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ได้แก่ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน และกิจกรรมเพ่ือสังคม และสาธารณประโยชน์ มีวิธีการจัดกิจกรรมหรือบูรณาการกับกิจกรรมการเรียนการสอน ทั้งนี้ การเรียนรู้นอกห้องเรียนเช่น การเรียนรู้จากแบบเรียน ใบความรู้ Line/Facebook/Google site, Google Classroom, Google Meet หรือช่องทางการเรียนอื่น ๆ เช่น Online การศึกษาจาก แบบเรียน หรือใบความรู้ สามารถน้ามานบั เวลาเรยี นได้ การจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน มีการน้ากระบวนการจัดการเรียนรู้ ที่ เน้นฝึก กระบวนการคิด ให้นักเรียนเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติมากกว่าการฟัง บรรยายเพียงอย่างเดียว จากเดิมเริม่ ทค่ี รูสอนในหอ้ งเรียน แลว้ มอบการบ้านใหไ้ ปท้าทีบ่ า้ น เปล่ียนเป็นครูก้าหนดประเด็นหรือ หัวขอ้ พร้อมท้ังให้แหล่งข้อมูล นักเรียนไปศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองล่วงหน้า เม่ือมาเรียนในห้องเป็น การอภปิ ราย ถกแถลงและแลกเปล่ียนความคิดเหน็ โดยครเู ปน็ ผู้อ้านวยความสะดวกให้เกิดการเรียนรู้ การตรวจสอบความเข้าใจการเรยี นรู้ของนกั เรยี น เป็นส่ิงส้าคญั มกี ารด้าเนนิ การเป็นระยะ โดยสังเกต ดูจากการแสดงความคิดเห็น การท้ากิจกรรม ระหว่างเรียน การท้าแบบฝึก การสรุปการเรียนรู้ เช่น Mind Map เป็นต้น การจัดประสบการณ์ส้าหรับนักเรียน โดยเลือกใช้เทคโนโลยีในการจัดกิจกรรม หรือผสมผสานกิจกรรมแบบบูรณาการเพื่อส่งเสริม พัฒนาการนักเรียนทุกด้าน โดยมีครูผู้สอนเป็น ผสู้ นับสนนุ และอา้ นวยความสะดวก สา้ หรับการก้าหนดตารางหรือกิจวัตรประจ้าวันและส่ิงแวดล้อม ในหอ้ งเรยี น ให้คา้ นงึ ถงึ การรกั ษาความปลอดภัยของนกั เรียนเป็นส้าคญั หนา้ 29

3. บทบาทของครูและนกั เรียน 3.1 บทบาทของครู 3.1.1 บทบาทของครใู นกิจกรรมการเรยี นการสอน มดี ังน้ี 1) การปฏบิ ตั ิงานสอน วันท่ีนักเรยี นมาเรยี น ครูปฏิบัติหน้าทจ่ี ัดการเรยี นการสอน ตามตารางสอนที่โรงเรียนก้าหนด วนั ท่นี กั เรียนไมม่ าเรียนหรอื คาบวา่ ง 1. ทา้ หนา้ ที่เป็นครูชว่ ยสอนใหก้ ับครูที่ท้าการสอนปกติ 2. ประสานกับนักเรยี นและผู้ปกครองเพอ่ื ตดิ ตาม การเรียน การทา้ งาน หรอื ภาระงานท่คี รูมอบหมาย 2) การจัดตารางเรยี นตารางสอนด้าเนนิ การจดั ตารางเรยี นตามปกติ โดยตารางสอนของครแู ละตารางเรียนของนักเรยี น เปน็ ตารางชดุ เดยี วกนั 3) การจดั กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น มีการวางแผนแบง่ นักเรียนเป็นกลุ่มยอ่ ยกลุ่มละ 20 คน หรือไม่เกนิ 25 คน ต่อครผู ้สู อน 1 ทา่ น 4) การช่วยเหลือนักเรียนท่ีไม่มีความพร้อมหรือไม่สามารถเข้าถึงการจัดการเรียนการสอน ทางไกลโรงเรียนก้าหนดให้มีการออกเยี่ยมบ้านนักเรียนเพ่ือส้ารวจสภาพปัจจุบัน ปัญหา/อุปสรรค ในการเรียนการสอนทางไกล ครทู ป่ี รึกษาจัดทา้ ข้อมูลนักเรียนและส่งข้อมูลให้กับกลุ่มบริหารวิชาการ สรปุ ขอ้ มูล ให้ความช่วยเหลือเป็นรายกรณี แนวทางการใหค้ วามช่วยเหลือ 1. ประสาน อบต. เทศบาล ขอความอนุเคราะห์ใหน้ ักเรียนได้ใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตใน การเรยี นออนไลน์ แนวทางการจดั การเรียนการสอน 1. ครจู ัดทา้ ขอ้ มูลนกั เรยี นเป็นรายบุคคล 2. ครูจดั ทา้ ชดุ การสอน ใบกิจกรรม ใบความรู้ ใบงาน ฯลฯ มอบหมายให้ในวันท่ีมาเรียน ท่โี รงเรียน (On-Site) 3. ครูใช้ช่องทางการสื่อสารกับนักเรียนและผู้ปกครองผ่าน Line/Facebook โทรศัพท์ หรอื ชอ่ งทางอ่นื ๆ อธบิ ายเพ่ิมเติมหรอื ตอบคา้ ถามนกั เรียน 4. ครผู ู้สอนมอบหมายใหเ้ พ่ือนทอ่ี ยู่หมบู่ า้ นเดยี วกนั หรือใกลเ้ คยี งใหค้ วามชว่ ยเหลอื 5. ครูวัดผลและประเมินผลตามสภาพจริง ตามความพรอ้ มและบรบิ ทของนกั เรียน หนา้ 30

5) การจัดการเรียนการสอนส้าหรับนักเรียนท่ีปุวย กักตัว ทางโรงเรียนใช้วิธีการออกเยี่ยม บ้านส่งมอบใบงาน/ใบความรู้/บทเรียนส้าเร็จรูป มีการติดตามและขอความร่วมมือจากผู้ปกครองใน การกา้ กบั ดแู ล แนวทางการจดั การเรยี นการสอน 1. ครูผูส้ อนทา้ ความเข้าใจกับผู้ปกครองและนกั เรียน การนับช่ัวโมงเรียน การวัดผลและ ประเมินผลในระหว่างพักรกั ษาตวั ช่วงกักตวั 2. ครูจัดมอบหมายภาระงาน ชุดการเรียน ใบงาน ใบกิจกรรม แบบฝึกหัดฯ ให้กับ นักเรียน 3. ก้าหนดช่องทางการส่ือสารกับผู้ปกครองและนักเรียน เพ่ืออธิบายเพิ่มเติม ตอบค้าถามนกั เรียนและผปู้ กครอง 3.1.2 แนวปฏบิ ัตสิ าหรบั ครู ผูด้ แู ลนกั เรียน 1. ติดตามข้อมูลข่าวสาร สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค พื้นที่เส่ียง ค้าแนะน้า การปูองกันตนเองและลดความเสี่ยงจากการแพร่กระจายของเช้ือโรคโควิด-19 จากแหล่งข้อมูลท่ี เชอ่ื ถือได้ 2. สังเกตอาการปุวยของตนเอง หากมีอาการไข้ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ หายใจล้าบาก เหน่ือย หอบ ไม่ได้กล่ิน ไม่รู้รส ให้หยุดปฏิบัติงานและรีบไปพบแพทย์ทันที กรณีมีคนในครอบครัวปุวย ด้วยโรคโควิด19 หรือกลับจากพื้นท่ีเส่ียงและอยู่ในช่วงกักตัว ให้ปฏิบัติตามค้าแนะน้าของเจ้าหน้าท่ี สาธารณสขุ อย่างเคร่งครดั 3. แจ้งผปู้ กครองและนักเรียน ให้น้าของใช้ส่วนตัวและอุปกรณ์ปูองกันมาใช้เป็นของตนเอง พร้อมใช้เช่น ช้อน ส้อม แก้วน้า แปรงสีฟัน ยาสีฟันผ้าเช็ดหน้า หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย เป็นต้น 4. ส่ือสารความรู้ค้าแนะน้าหรือจัดหาสื่อประชาสัมพันธ์ในการปูองกันและลดความเสี่ยง จากการแพรก่ ระจาย โรคโควดิ -19 ใหแ้ ก่นกั เรียน เช่น สอนวิธีการล้างมือที่ถูกต้อง การสวมหน้ากาก ผ้าหรือหน้ากากอนามัยค้าแนะน้าการปฏิบัติตัว การเว้นระยะห่างทางสังคม การท้าความสะอาด หลีกเลี่ยงการทา้ กิจกรรมร่วมกันจ้านวนมากเพื่อลดความแออดั 5. ท้าความสะอาดสื่อการเรียนการสอนหรืออุปกรณ์ของใช้ร่วมที่เป็นจุดสัมผัสเสี่ยงทุกคร้ัง หลงั ใช้งาน 6. ควบคุมดูแลการจัดท่ีนั่งในห้องเรียน ระหว่างโต๊ะเรียน ที่นั่งในโรงอาหาร การจัดเว้น ระยะห่างระหวา่ งบุคคลอยา่ งนอ้ ย 1.5 - 2 เมตร และเหลือ่ มเวลาพักทานอาหารกลางวันและก้ากับให้ นักเรียนสวมหน้ากากผา้ หรอื หน้ากากอนามัยตลอดเวลา และลา้ งมือบอ่ ย ๆ หนา้ 31

7. ตรวจสอบ กา้ กบั ติดตามการมาเรียนของนักเรียนขาดเรียน ถูกกักตัวหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง ต่อการติดโรค โควดิ -19 และรายงานตอ่ ผู้บริหาร 8. ท้าการตรวจคัดกรองสุขภาพทุกคนที่เข้ามาในสถานศึกษาในตอนเช้าให้กับนักเรียน ครู บุคลากรและผ้มู าตดิ ตอ่ โดยใชเ้ คร่อื งวดั อณุ หภมู ิทางหนา้ ผาก พรอ้ มสังเกตอาการและสอบถามอาการ ของระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ หายใจล้าบาก เหนื่อยหอบ ไม่ได้กล่ิน ไม่รู้รส โดยติดสญั ลกั ษณส์ ติกเกอรห์ รอื ตราปม๊ั แสดงให้เหน็ ชัดเจนว่า ผ่านการคดั กรองแลว้ - กรณีพบนักเรียนหรือผู้มีอาการมีไข้อุณหภูมิร่างกายต้ังแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป รว่ มกับ อาการระบบทางเดนิ หายใจอยา่ งใดอยา่ งหนึ่ง จัดให้อยู่ในพ้ืนที่แยกส่วน ให้รีบแจ้งผู้ปกครอง มารับและ พาไปพบแพทย์ให้หยุดพักที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าท่ีสาธารณสุข เพ่ื อ ป ร ะ เ มิ น ส ถ า น ก า ร ณ์ แ ล ะ ด้า เ นิ น ก า ร ส อ บ ส ว น โ ร ค แ ล ะ แ จ้ง ผู้ บ ริ ห า ร เ พื่ อ พิ จ า ร ณ า ก า ร ปิ ด สถานศกึ ษาตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสขุ - บนั ทกึ ผลการคัดกรองและสง่ ตอ่ ประวตั กิ ารปุวย ตามแบบบันทึกการตรวจสขุ ภาพ - จัดอุปกรณ์การล้างมือ พร้อมใช้งานอย่างเพียงพอ เช่น เจลแอลกอฮอล์วางไว้บริเวณ ทางเขา้ สบูล่ ้างมือบริเวณอา่ งลา้ งมอื 9. กรณคี รสู งั เกตพบนักเรียนท่ีมีปัญหาพฤติกรรม เช่น เด็กสมาธิสั้น เด็กท่ีมีความวิตกกังวล สูงอาจมีพฤติกรรม ดูดน้ิวหรือกัดเล็บ ครูสามารถติดตามอาการและน้าเข้าข้อมูลท่ีสังเกตพบใน ฐานข้อมูล ด้านพฤติกรรมอารมณ์สังคมของนักเรียน (หรือฐานข้อมูล HERO) เพื่อให้เกิดการดูแล ชว่ ยเหลอื ร่วมกบั ผู้เช่ยี วชาญด้านสขุ ภาพจติ ต่อไป 10. วิธีการปรับพฤติกรรมส้าหรับนักเรียนท่ีไม่ร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการที่ครูก้าหนด ด้วยการแก้ปัญหาการเรียนรู้ใหม่ให้ถูกต้อง นั่นคือ “สร้างพฤติกรรมที่พึงประสงค์” หรือ “ลดพฤติกรรมทีไ่ ม่พงึ ประสงค์” 11. ครสู ื่อสารความรู้เกยี่ วกับความเครียด ว่าเป็นปฏิกิริยาปกติท่ีเกิดขึ้นได้ในภาวะวิกฤติท่ีมี การแพรร่ ะบาด ของโรคโควิด-19 และน้ากระบวนการการจัดการความเครียด การฝึกสติให้กลมกลืน และเหมาะสมกับ นักเรียนและวัยร่วมกับการฝึกทักษะชีวิตที่เสริมสร้างค วามเข้มแข็งทางใจ (Resilience) ให้กบั นักเรียน ได้แก่ ทักษะชวี ติ ด้านอารมณ์สงั คมและความคิด เป็นต้น 12. ครูสังเกตอารมณ์ความเครียดของตัวท่านเอง เนื่องจากภาระหน้าท่ีการดูแลนักเรียน จา้ นวนมาก และ กา้ กับให้ปฏบิ ัตติ ามมาตรการปูองกนั การติดโรคโควดิ 19 เป็นบทบาทส้าคัญ อาจจะ สรา้ งความเครียด วติ กกงั วล ทั้งจากการเฝูาระวงั นกั เรียนและการปอู งกันตัวท่านเองจากการสัมผัสกับ เชือ้ โรคดังน้นั เม่อื ครูมีความเครียดจากสาเหตุต่าง ๆ มีขอ้ เสนอแนะ ดังนี้ 1) ความสบั สนมาตรการของสถานศกึ ษาท่ีไม่กระจ่างชัดเจน แนะน้าให้สอบทานกับผู้บริหาร หรือเพอ่ื น ร่วมงาน เพ่ือใหเ้ ขา้ ใจบทบาทหนา้ ที่และข้อปฏบิ ัตทิ ีต่ รงกัน หน้า 32

2) ความวติ กกงั วล กลัวการตดิ เช้ือในสถานศึกษา พูดคุยสื่อสารถึงความไม่สบายใจ ร้องขอ สิ่งจ้าเป็น ส้าหรับการเรียนการสอนที่เพียงพอต่อการปูองกันการติดโรคโควิด-19 เช่น สถานท่ี สื่อการสอนกระบวนการเรียนรู้การส่งงานหรือตรวจการบ้าน เป็นต้น หากท่านเป็นกลุ่มเสี่ยง มีโรค ประจ้าตวั สามารถเข้าสู่แนวทางดูแลบคุ ลากรของสถานศึกษา 3) จัดให้มีการจดั การความเครียด การฝึกสติเป็นกิจวัตรก่อนเริ่มการเรียนการสอน เพ่ือลด ความวติ กกังวลตอ่ สถานการณ์ที่ตึงเครยี ดนี้ 3.2 บทบาทของนกั เรยี น 3.2.1 บทบาทของนักเรยี นในกจิ กรรมการเรียนรูม้ ดี ังน้ี วนั ที่นักเรียนมาเรียน เข้าเรยี นตามวันเวลา ตามตารางสอนท่โี รงเรยี นก้าหนด วันทนี่ กั เรยี นไม่มาเรียนหรือคาบวา่ ง การเรียนรู้จากแบบเรียน ใบความรู้ Line/Facebook/Google site, Google Classroom, Google Meet หรือชอ่ งทางการเรียนอนื่ ๆ เช่น Online การศึกษาจากแบบเรียน หรือ ใบความรู้ สามารถน้ามานับเวลาเรียนได้ และท้าใบกิจกรรมใบงาน และการบ้าน ที่ครูมอบหมายใน วันมาเรยี น โดยมธั ยมศึกษาตอนต้น เรียนผ่านระบบการเรียนทางไกล(On-Air) ระดับชั้นมัธยมศึกษา ตอนปลาย เรียนผา่ นระบบออนไลน์ (Online) 3.2.2 แนวปฏบิ ตั สิ าหรบั นักเรียน 1. ติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พ้ืนท่ีเสี่ยง ค้าแนะน้าการปอู งกนั ตนเอง และลดความเสย่ี งจากการแพร่กระจายของโรคโควดิ -19 จากแหลง่ ข้อมูลทีเ่ ชือ่ ถือได้ 2. สังเกตอาการปุวยของตนเอง หากมีอาการไข้ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ หายใจล้าบาก เหนอื่ ยหอบ ไมไ่ ด้กลน่ิ ไม่รู้รสรีบแจ้งครูหรือผู้ปกครองให้พาไปพบแพทย์กรณีมีคนในครอบครัวปุวย ดว้ ยโรคโควิด-19 หรือ กลับจากพน้ื ทเ่ี สี่ยงและอยูใ่ นช่วงกักตัว ให้ปฏิบัติตามค้าแนะน้าของเจ้าหน้าท่ี สาธารณสุขอยา่ งเครง่ ครดั 3. มีและใช้ของใช้ส่วนตวั ไม่ใชร้ ่วมกบั ผูอ้ ่ืน เช่น ช้อน ส้อม แก้วน้า หน้ากากผ้า หรือ หนา้ กากอนามัยและทา้ ความสะอาดหรอื เก็บให้เรยี บรอ้ ยทกุ คร้งั หลงั ใช้งาน 4. สวมหนา้ กากผา้ หรือหนา้ กากอนามัยตลอดเวลาทีอ่ ยู่ในสถานศกึ ษา หนา้ 33

5. หมน่ั ลา้ งมือบอ่ ย ๆ ดว้ ยวิธลี ้างมือ 7 ขั้นตอน อย่างน้อย 20 วินาที ก่อนกินอาหาร หลังใช้ส้วม หลีกเล่ียง ใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก โดยไม่จ้าเป็น รวมถึงสร้างสุขนิสัยท่ีดี หลัง เลน่ กบั เพือ่ นเมือ่ กลบั มาถึงบ้าน ต้องรีบอาบนา้ สระผม และเปลี่ยนเส้อื ผา้ ใหมท่ ันที 6. เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1.5 - 2 เมตร ในการท้ากิจกรรมระหว่าง เรยี น ช่วงพกั และหลงั เลกิ เรยี น เช่น นง่ั กินอาหาร เล่นกบั เพื่อน เขาแถวตอ่ คิว ระหว่างเดินทางอยู่บน รถ 7. หลีกเลี่ยงการไปในสถานทที่ แ่ี ออดั หรอื แหล่งชุมชนทีเ่ สี่ยงต่อการติดโรคโควดิ -19 8. กรณีนักเรียนดื่มน้าบรรจุขวด ควรแยกเฉพาะตนเอง และท้าเครื่องหมายหรือ สญั ลักษณ์เฉพาะ ไม่ให้ปะปนกับของคนอนื่ 9. ดแู ลสุขภาพให้แข็งแรง ด้วยการกินอาหารปรุงสุก ร้อน สะอาด อาหารครบ 5 หมู่ และผักผลไม5้ สเี สริมสรา้ งภูมิคุ้มกัน ควรเสริมอาหารเช้าจากบ้านหรือให้ผู้ปกครองจัดเตรียมอาหาร กลอ่ ง (Box set) กินทโี่ รงเรียนแทน รวมถึงออกก้าลังกาย อย่างน้อย 60 นาที ทุกวัน และนอนหลับ อยา่ งเพียงพอ 9 - 11 ชัว่ โมงตอ่ วนั 10. กรณีนักเรียนขาดเรียนหรือถูกกักตัว ควรติดตามความคืบหน้าการเรียนอย่าง สม้่าเสมอ ปรึกษาครู เช่น การเรียนการสอน ส่ือออนไลน์อ่านหนังสือ ทบทวนบทเรียน และท้า แบบฝึกหัดทีบ่ ้าน 11. หลีกเล่ียงการล้อเลียนความผิดปกติหรืออาการไม่สบายของเพื่อน เนื่องจาก อาจจะกอ่ ใหเ้ กิดความหวาดกลัวมากเกินไปตอ่ การปุวยหรือการตดิ โรคโควิด-19 และเกิดการแบ่งแยก กดี กนั ในหมนู่ กั เรียน 3.2.3 บทบาทหน้าท่ขี องนักเรยี นแกนนาด้านสขุ ภาพ นักเรียนท่ีมีจิตอาสาและสารวัตรนักเรียน ท้าหน้าที่เป็นอาสาสมัครช่วยดูแลสุขภาพ เพื่อนนักเรียนดว้ ยกนั หรอื ดแู ลรนุ่ น้องดว้ ย โดยมีบทบาทหน้าทด่ี งั นี้ 1. ติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค พื้นที่เส่ียง ค้าแนะน้า การปอู งกนั ตนเองและลดความเสี่ยงจากการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 จากแหล่งข้อมูลที่เช่ือถือ ได้ 2. ช่วยครูตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกายของนักเรียนทุกคนท่ีมาเรียนในตอนเช้า บริเวณทางเข้าโดยมีครูดูแลให้ค้าแนะน้าอย่างใกล้ชิด เน้นการจัดเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่าง นอ้ ย 1.5 – 2 เมตร หนา้ 34

3. ตรวจดูความเรียบร้อยของนักเรียนทุกคนท่ีมาเรียน ต้องสวมหน้ากากผ้าหรือ หนา้ กากอนามยั หากพบนกั เรยี นไมไ่ ดส้ วม ให้แจ้งครูผู้รับผิดชอบเพื่อจัดหาหน้ากากผ้าหรือหน้ากาก อนามยั สา้ รองให้ 4. เฝูาระวังสังเกตอาการของนักเรียน หากมีอาการไข้ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ หายใจ ลา้ บากเหนือ่ ยหอบ ไม่ไดก้ ล่นิ ไมร่ รู้ ส ให้รบี แจ้งครทู ันที 5. จัดกิจกรรมสื่อสารให้ความรู้ค้าแนะน้าการปูองกันและลดความเส่ียงจาก การแพร่กระจายโรคโควิด-19 แก่เพื่อนนักเรียน เช่น สอนวิธีการล้างมือท่ีถูกต้อง การท้าหน้ากากผ้า การสวมหน้ากากการถอดหน้ากากผ้ากรณีเก็บไว้ใช้ต่อการท้าความสะอาดหน้ากากผ้า การเว้น ระยะห่างระหว่างบุคคล จดั ท้าปาู ยแนะนา้ ตา่ ง ๆ 6. ตรวจอุปกรณ์ของใส่วนตัวของเพ่ือนนักเรียนและรุ่นน้องให้พร้อมใช้งาน เน้นไม่ใช้ รว่ มกบั ผ้อู ื่น เช่น จาน ชอ้ น สอ้ ม แกว้ น้า ผา้ เช็ดมือของตนเอง 7. จดั เวรทา้ ความสะอาดห้องเรียน ห้องเรยี นร่วม และบริเวณจุดสมั ผสั เส่ียงทุกวัน เช่น ลกู บิดประตกู ลอนประตู ราวบันได สนามเดก็ เลน่ อปุ กรณ์กีฬา เครือ่ งดนตรี คอมพวิ เตอร์ 8. เป็นแบบอยา่ งที่ดีในการปฏิบัติตวั เพ่ือปอู งกนั โรคโควิด-19 ด้วยการสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามยั ล้างมอื บอ่ ย ๆ กนิ อาหารใช้จาน ช้อน สอ้ ม แก้วน้าของตนเอง การเว้นระยะห่าง เป็นต้น โดยถอื ปฏิบตั ิเปน็ สขุ นิสยั กจิ วัตรประจ้าวนั อย่างสมา่้ เสมอ . หนา้ 35

4. มาตรการและแนวทางในการดูแลนักเรยี นและผ้ปู กครอง 1. เตรยี มอาหารเชา้ ให้นักเรียนรบั ประทานกอ่ นมาโรงเรยี น 2. จัดเตรียมอุปกรณก์ ารเรยี นส่วนตัวและหน้ากากผา้ หรอื หนา้ กากอนามัย ใหน้ กั เรียน 3. การเดนิ ทางมาโรงเรยี นของนักเรียน - กรณีนักเรียนเดินทางโดยรถตู้โดยสาร โรงเรียนต้องมีมาตรการขอความร่วมมือกับ คนขับรถ ในการใส่หน้ากากอนามัยทุกคร้ังขณะขับรถ ทาความสะอาดรถ เบาะ ที่นั่ง ก่อนรับนักเรียนในช่วงตอนเช้า และส่งนักเรียนในช่วงตอนเย็นอย่างเคร่งครัด โดยทางโรงเรียนกา้ ชบั การใช้น้ายาฆ่าเช้ือในสัดส่วนที่สามารถฆ่าเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 ได้ - กรณีผู้ปกครองมาส่งด้วยตัวเอง โรงเรียนก้าหนดมาตรการขอความร่วมมือจาก ผู้ปกครอง ในการใส่หน้ากากอนามัยทุกคร้ังที่มาส่งนักเรียน และท้าตามกฎระเบียบ ของโรงเรยี นอยา่ งเคร่งครัด - เม่อื นกั เรียนเดินทางถงึ โรงเรยี น กรณที ีผ่ ูป้ กครองมาส่งที่โรงเรียนและมีความประสงค์ ขอเข้าบรเิ วณโรงเรียน โรงเรียนจะจัดพ้ืนท่ีส้าหรับผู้ปกครองบริเวณหน้าโรงเรียน ให้ เป็นสัดส่วน มีการคัดกรอง ตรวจเช็คอุณหภูมิ และใช้แอลกอฮอล์เจล โดยเน้น มาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครดั 4. ปฏิบัติตามกฎระเบยี บของโรงเรยี นอยา่ งเคร่งครดั หนา้ 36

5. บทบาทของผู้ปกครอง 1. ตดิ ตามขอ้ มูลข่าวสารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พ้ืนที่เส่ียง ค้าแนะน้า การปอู งกนั ตนเอง และลดความเส่ียงจากการแพรก่ ระจายของโรค จากแหล่งข้อมลู ท่เี ชอ่ื ถอื ได้ 2. สังเกตอาการปุวยของบุตรหลาน หากมีอาการไข้ ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ หายใจล้าบาก เหนอื่ ยหอบ ไม่ไดก้ ล่ิน ไม่รู้รส ใหร้ บั พาไปพบแพทย์ ควรแยกเด็กไม่ให้ไปเล่นกับคนอื่น ให้พักผ่อนอยู่ ที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ กรณีมีคนในครอบครัวปุวยด้วยโรคโควิค-19 หรือกลับจากพ้ืนที่เส่ียง อยใู่ นช่วงกกั ตัว ใหป้ ฏบิ ตั ิตามค้าแนะน้าของเจ้าหน้าทีส่ าธารณสุขอยา่ งเคร่งครัด 3. จัดหาของใช้ส่วนตัวให้บุตรหลานอย่างเพียงพอในแต่ละวัน ท้าความสะอาดทุกวัน เช่น หนา้ กากผา้ ช้อน ส้อม แก้วนา้ 4. จัดหาสบ่หู รือเจลแอลกอฮอล์ และก้ากับดูแลบุตรหลานให้ล้างมือบ่อย ๆ ก่อนกินอาหาร และหลงั ใช้หอ้ งสุขา หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก โดยไม่จ้าเป็น และสร้างสุขนิสัย ที่ดี หลังเล่นกับเพื่อนและเมื่อกลบั มาถึงบ้าน ควรอาบน้า สระผม และเปล่ยี นชุดเสือ้ ผา้ ใหม่ทนั ที 5. หลีกเลี่ยงการพาบุตรหลานไปในสถานเส่ียงต่อการติดโรคโควิด-19 สถานท่ีแออัดที่มี การรวมกันของคนจ้านวนมาก หากจ้าเป็นต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยวิธกี าร 7 ข้นั ตอนด้วยสบู่และน้านาน 20 วนิ าที 6. ดูแลสุขภาพบุตรหลาน จัดเตรียมอาหารปรุงสุกใหม่ ส่งเสริมให้กินอาหารร้อน สะอาด อาหารครบ 5 หม่แู ละผักผลไม้ 5 สี และควรจดั อาหารกล่อง (Box set) ใหแ้ กน่ ักเรยี นในชว่ งเช้า แทน การซื้อจากโรงเรียน (กรณีท่ีไม่ได้กินอาหารเช้าจากที่บ้าน) เพ่ือเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ออกก้าลังกาย อยา่ งนอ้ ย 60 นาทีทกุ วัน และนอนหลบั อย่างเพยี งพอ 9 – 11 ชว่ั โมงต่อวัน 7. กรณีมีการจัดการเรียนการสอนทางไกลออนไลน์ ผู้ปกครองควรให้ความร่วมมือกับครู ในการดแู ลจัดการเรียนการสอนแก่นกั เรียน เชน่ การส่งการบ้าน การร่วมทา้ กจิ กรรม เปน็ ต้น หน้า 37

6. มาตรการและแนวทางในการดแู ลด้านอนามยั และส่ิงแวดลอ้ มของโรงเรยี น 6.1 เมื่อมาถึงโรงเรียนนักเรียนตอ้ งใส่หน้ากากอนามัย ตรวจวดั อุณหภมู ิ มกี ารเวน้ ระยะห่าง 6.2 จัดกจิ กรรมหน้าเสาธงแบบเว้นระยะหา่ ง 6.3 ในหอ้ งเรียนจดั โต๊ะ-เก้าอี้ จ้านวนไมเ่ กิน 25 ชุด เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร มฉี ากกั้น 6.4 ทา้ ความสะอาดหอ้ งเรียน โตะ๊ เรยี น และเกา้ อ้ีด้วยน้ายาฆา่ เชอื้ มีการบนั ทกึ ข้อมูลอย่าง เครง่ ครัด 6.5 จัดหว้ งเวลาการพกั รับประทานอาหารของนกั เรยี นให้มคี วามเหมาะสม มฉี ากกน้ั บนโต๊ะ อาหาร 6.6 กา้ หนดจุดให้นกั เรยี นรอควิ เข้าห้องน้า/การใชอ้ ่างล้างมอื ใหม้ รี ะยะหา่ งอย่างชดั เจน 6.7 ความสะอาดของโรงอาหาร ร้านค้า แม่ค้า มรี ะยะหา่ งระหวา่ งร้านคา้ กับนกั เรยี น 6.8 ทา้ ความสะอาดเคร่ืองกรองนา้ ดม่ื ของโรงเรียนใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐานความสะอาดและ ปลอดภัย หน้า 38

แนวปฏบิ ัตดิ ้านอนามัยส่งิ แวดล้อม สถานศึกษาเป็นสถานที่ท่ีมีคนอยู่รวมกันจ้านวนมาก ทั้งนักเรียน ครู ผู้ปกครอง บุคลากร ผู้ที่มาติดต่อและผู้ประกอบการร้านค้า กรณีท่ีนักเรียนต้องท้ากิจกรรมร่วมกับเพื่อน ท้าให้มีโอกาส ใกล้ชิดกันมาก ท้าให้เกิด ความเส่ียงต่อการแพร่กระจายของเช้ือโรคได้ง่าย จึงมีแนวปฏิบัติการ จดั อาคารสถานที่ ดงั น้ี 1.หอ้ งเรียน หอ้ งเรียนรวม ห้องคอมพวิ เตอร์ หอ้ งดนตรี 1) จัดโต๊ะ เก้าอ้หี รอื ที่นง่ั ใหม้ กี ารเวน้ ระยะหา่ งระหวา่ งบุคคล อย่างนอ้ ย 1.5 - 2 เมตร และ จดั ทา้ สัญลกั ษณ์แสดงจดุ ต้าแหนง่ ชดั เจน จัดให้ มีการสลับวันเรยี นแตล่ ะช้ันเรียน การใช้พ้ืนที่ สอยบรเิ วณสถานศึกษา ได้ยึดหลกั Social distancing 2) จัดให้มกี ารเหลือ่ มเวลาเรียน การเรียนกลมุ่ ย่อยและเน้นใหน้ กั เรยี นสวม หน้ากากผ้าหรอื หน้ากากอนามัยขณะเรียนตลอดเวลา 3) จดั ให้มกี ารระบายอากาศทีดี ให้อากาศถา่ ยเท เช่น เปิดประตู หน้าตา่ ง กรณใี ช้ เครื่องปรับอากาศ ก้าหนดเวลาเปดิ - ปดิ เครือ่ งปรับอากาศและเปดิ ประตู หน้าต่างให้ระบายอากาศ และท้า ความสะอาดอยา่ งสม้่าเสมอ 4) จัดใหม้ ีเจลแอลกอฮอล์ใชท้ ้าความสะอาดมอื ส้าหรับนกั เรียนและครูใช้ประจ้าทกุ หอ้ งเรียน มกี ารทา้ ความสะอาดโตะ๊ เก้าอี้ อุปกรณ์และจุดสัมผสั เสย่ี ง เชน่ ลูกบิดประตู ของใช้รว่ มทุกวนั อย่าง นอ้ ยวนั ละ 2 ครงั้ เช้ากอ่ นเรยี นและพักเทีย่ งหรอื กรณีมกี ารยา้ ยหอ้ งเรยี น ตอ้ งทา้ ความสะอาดโต๊ะ เกา้ อ้ี ก่อนและหลงั ใช้งานทุกครัง้ หน้า 39

2. ห้องสมดุ 1) จัดโตะ๊ เก้าอห้ี รือทนี่ ่ัง ใหม้ ีการเว้นระยะห่างระหว่างบคุ คล อย่างนอ้ ย 1.5 - 2 เมตร และ ท้าสญั ลักษณแ์ สดงจุดต้าแหน่งชัดเจน 2) มกี ารระบายอากาศท่ีดี ใหอ้ ากาศถา่ ยเท เช่น เปิดประตู หน้าต่าง กรณีใช้ เคร่อื งปรบั อากาศ ก้าหนดเวลาเปิด - ปดิ เคร่อื งปรบั อากาศ ควรเปดิ ประตู หนา้ ต่างใหร้ ะบายอากาศ และท้าความสะอาดอยา่ งสมา่้ เสมอ 3) มเี จลแอลกอฮอล์ใช้ท้าความสะอาดมือสา้ หรับครู บรรณารกั ษ์ นกั เรียน และผู้ใช้บรกิ าร บรเิ วณ ทางเข้าดา้ นหนา้ และภายในห้องสมุดอย่างเพยี งพอ 4) ทา้ ความสะอาดโตะ๊ เก้าอี้ อปุ กรณ์ และจดุ สัมผัสเส่ียง เช่น ลูกบดิ ประตู ช้ันวางหนังสือ ทกุ วัน วันละ 2 ครั้ง เช่น เช้ากอ่ นให้บรกิ าร พักเท่ียง 5) จา้ กดั จา้ นวนคนจา้ กดั เวลาในการเข้าใชบ้ รกิ ารหอ้ งสมุด และใหน้ กั เรยี นและผู้ใช้บริการ ทุกคน สวมหน้ากากผ้าหรอื หน้ากากอนามัยขณะใช้บรกิ ารหอ้ งสมุดตลอดเวลา 3. หอ้ งประชมุ หอประชมุ 1) จัดใหม้ ีการคดั กรองตรวจวัดอุณหภมู ิรา่ งกายก่อนเขา้ ห้องประชุม หอประชุม หากพบ ผูม้ อี าการ ไข้ ไอ มีน้า เจ็บคอ หายใจล้าบาก เหนื่อยหอบไม่ไดก้ ลิ่นไมร่ รู้ ส แจง้ งดร่วมประชุมและ แนะน้าใหไ้ ปพบ แพทย์ทันที 2) จดั โตะ๊ เก้าอ้ี หรือทนี่ ัง่ ใหม้ ีการเว้นระยะห่าง ระหวา่ งบคุ คล 1.5 - 2 เมตร และจดั ท้าสญั ลักษณ์ แสดงจดุ ตา้ แหน่งซัดเจน 4) ผเู้ ข้าประชมุ ทกุ คนสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามยั ขณะประชุมตลอดเวลา 4) จัดใหม้ เี จลแอลกอฮอล์ใชท้ ้าความสะอาดมือส้าหรบั ผเู้ ขา้ ประชมุ บริเวณทางเข้าภายใน อาคาร หอประชุม บรเิ วณทางเขา้ ดา้ นหนา้ และดา้ นในของห้องประชุม อยา่ งเพียงพอและท่ัวถึง 5) งดหรือหลีกเลีย่ งการให้บรกิ ารอาหารและเครือ่ งดืม่ ภายในหอ้ งประชุม 6) ท้าความสะอาดโตะ๊ เก้าอ้ี อุปกรณ์ และจดุ สมั ผัสเสยี่ งรว่ ม เช่น ลูกบดิ ประตู รโี มท อปุ กรณส์ อื่ กอ่ นและหลังใชห้ ้องประชุมทกุ คร้งั 7) มกี ารระบายอากาศท่ีดี ใหอ้ ากาศถ่ายเท เชน่ เปดิ ประตู หนา้ ต่าง กอ่ นและหลงั ใช้หอ้ ง ประชมุ ทกุ คร้ัง ควรใช้เคร่อื งปรบั อากาศ กา้ หนดเวลาเปิด - ปิดเครอื่ งปรับอากาศ ควรเปิดประตู หน้าต่างใหร้ ะบาย อากาศ และท้าความสะอาดอย่างสมา้่ เสมอ หนา้ 40

4. โรงยมิ สนามกีฬา 1) จดั พืน้ ที่ท้ากิจกรรมและเล่นกีฬา ลดความแออัด อาจจัดให้เลน่ กีฬาเป็นรอบ หรอื ใหม้ ี การเว้น ระยะห่างระหวา่ งบคุ คล อย่างนอ้ ย 1.5 - 2 เมตร 2) จัดให้มเี จลแอลกอฮอล์ใชท้ ้าความสะอาดมอื ส้าหรบั นกั กฬี าและผูม้ าใชบ้ รกิ าร บรเิ วณ ทางเขา้ และบริเวณด้านในอาคารอย่างเพียงพอและทว่ั ถงึ 3) ทา้ ความสะอาดอปุ กรณ์และเคร่อื งเล่นแต่ละชนิด กอ่ นหรือหลงั เล่นทกุ วัน อย่างน้อยวัน ละ 1 คร้ัง 4) จดั ใหม้ ีการระบายอากาศ ให้อากาศถ่ายเท เช่น เปดิ ประตู หนา้ ตา่ ง เปดิ พัดลม 5) จา้ กดั จา้ นวนคนจา้ นวนเวลาในการเลน่ กฬี าหรือกิจกรรมภายในอาคารโรงยิมหรือสนาม กฬี า 6) หลีกเลีย่ งการจดั กจิ กรรมหรอื เล่นกีฬาประเภทแชง่ ขนั เป็นทมี หรือมกี ารปะทะกนั อย่าง รนุ แรง เช่น วอลเลย์บอล ฟุตบอล ฟตุ ซอล บาสเกตบอล เป็นตน้ 5. ห้องสขุ า 1) จัดเตรียมอุปกรณ์ท้าความสะอาดอย่างเพียงพอ ได้แก่ น้ายาท้าความสะอาดหรือน้ายา ฟอกขาว อปุ กรณ์การตวง ถงุ ขยะ ถังน้า ไม้ถูพ้ืน คีบด้ามยาวส้าหรับเก็บขยะ ผ้าเช็ดท้าความสะอาด และอปุ กรณ์ ปูองกันอนั ตรายส่วนบคุ คลท่ีเหมาะสมกบั การปฏิบัติงาน เช่น ถุงมือ หน้ากากผ้า เส้ือผ้า ทีจ่ ะนา้ มาเปลย่ี น หลังทา้ ความสะอาด 2) การท้าความสะอาดหอ้ งสุขา อยา่ งน้อยวันละ 2 คร้ัง ดว้ ยน้ายาทา้ ความสะอาดท่ัวไป พื้นหอ้ งสขุ า ใหฆ้ ่าเชือ้ โดยใชผ้ ลติ ภัณฑฆ์ า่ เช้ือที่มีสว่ นผสมของโซเดยี มไฮโปคลอไรท (รู้จักกนั ใน ช่ือ “นา้ ยาฟอกขาว”) โดยนา้ มาผสมกบั นา้ เพื่อใหไ้ ดค้ วามเขม้ ข้น 0.1% หรือ 1,000 ส่วนในล้านส่วน หรือผลติ ภัณฑ์ฆ่าเชื้อทม่ี ีส่วนผสมของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ โดยนา้ มาผสมกบั น้าเพื่อให้ได้ หน้า 41

ความเข้มข้น 0.5% หรือ 5,000 ส่วนในล้านส่วน ราดน้ายาฆ่าเชื้อทิ้งไว้อย่างน้อย 10 นาที เน้นเช็ด บริเวณรองน่ังโถส้วม ฝาปิดโถส้วม ที่กดชักโครก สายช้าระ ราวจับ ลูกบิดหรือกลอนประตู ท่ีแขวน กระดาษช้าระ อา่ งล้างมอื ขันนา้ กอกนา้ ทวี่ างสบู่ ผนัง ซอกประตู ด้วยผ้าชุบน้ายาฟอกขาว หรือใช้ แอลกอฮอล์ 70 หรอื ไฮโดรเจนเปอรออกไซด์ 0.5% 3) หลงั ทา้ ความสะอาด ควรซักผา้ เชด็ ทา้ ความสะอาดและไม้ถพู ื้น ดว้ ยน้าผสมผงซักฟอกหรือ น้ายาฆา่ เชือ้ แลว้ ซักดว้ ยนา้ สะอาดอกี ครง้ั และน้าไปผงึ่ แดดให้แห้ง 4) ผู้ปฏิบัติงานที่ดูแลความสะอาดและผู้ปฏิบัติงานเก็บขยะ ให้สวมถุงมือยาง หน้ากากผ้า เสื้อกันฝนหรือผ้ายางกนั เปื้อน รองเท้ายางหุ้มสูงถึงหน้าแข้ง และใช้อุปกรณ์ปากคีบด้ามยาวเก็บขยะ ใส่ถุงขยะ ปิดปากถุงให้มิดชิด น้าไปรวบรวมไว้ที่พักขยะ แล้วล้างมือให้สะอาดทุกครั้งภายหลัง ปฏิบัติงาน และเมือ่ ปฏิบัติงานเสร็จในแต่ละวัน หากเป็นไปไดค้ วรอาบน้าและเปลีย่ นเสื้อผา้ ทันที 6. ห้องพักครู 1) จัดโต๊ะ เก้าอห้ี รอื ท่นี ่งั ให้มีการเว้นระยะหา่ งระหว่างบคุ คล อยา่ งน้อย 1.5 - 2 เมตร ค้านึงถงึ สภาพห้องและขนาดพ้นื ท่ี และจัดทา้ สญั ลกั ษณ์แสดงจุดตา้ แหนง่ ซดั เจน โดยถือปฏบิ ัตติ าม หลกั Social distancing อย่างเคร่งครัด 2) ใหค้ รูสวมหนา้ กากผ้าหรือหน้ากากอนามยั ตลอดเวลาทีอ่ ยู่ในสถานศกึ ษา 3) จัดให้มกี ารระบายอากาศที่ดใี ห้อากาศถ่ายเท เชน่ เปิดประตู หน้าต่าง กรณใี ช้ หนา้ 42

เครือ่ งปรบั อากาศ กา้ หนดเวลาเปิด - ปดิ เคร่ืองปรับอากาศ ควรเปิดประตู หน้าต่างใหร้ ะบายอากาศ และท้าความสะอาดอย่างสมา่้ เสมอ 4) มีการท้าความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ อุปกรณ์ และจุดสัมผัสเสีย่ ง เช่น ลูกบิดประตู โทรศพั ท์ อุปกรณค์ อมพวิ เตอร์ เปน็ ต้น เป็นประจา้ ทกุ วัน อย่างนอ้ ยวันละ 2 คร้งั 5) จดั เตรียมเจลแอลกอฮอล์ใชท้ ้าความสะอาดมือส้าหรับครูและผูม้ าติดตอ่ บรเิ วณทางเข้า ด้านหนา้ ประตูและภายในห้องอย่างเพยี งพอและท่วั ถงึ 7. ห้องพยาบาล 1) มคี รูหรอื เจ้าหนา้ ทเ่ี พอ่ื ดูแลนกั เรียน ในกรณีทีม่ ีนกั เรียนปุวยมา นอนพกั รอผู้ปกครองมา รบั 2) มพี ้นื ท่หี รือห้องแยกอย่างชัดเจน ระหวา่ งนกั เรยี นปวุ ยจากอาการ ไขห้ วดั กบั นักเรียนปวุ ย จากสาเหตอุ ื่น ๆ เพอ่ื ปูองกันการแพรกระจายเช้ือโรค 3) ทา้ ความสะอาดเตียงและอปุ กรณข์ องใช้ทุกวัน 4) จัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ใช้ท้าความสะอาดมอื บรเิ วณทางเข้าหน้าประตูและภายในห้อง พยาบาลอยา่ งเพียงพอ หน้า 43

8. โรงอาหาร การจัดบรกิ ารภายในโรงอาหาร การนง่ั กินอาหารร่วมกันของผู้ใชบ้ ริการ รวมถึงอาหาร ภาชนะ อปุ กรณ์ ตูก้ ดนา้ ดม่ื ระบบกรองน้าและผสู้ มั ผัสอาหาร อาจ เปน็ แหล่งแพรก่ ระจายเช้ือโรค กลุ่มงานโภชนาการโรงเรยี นมกี ารดูแลเพือ่ ลดและ ปอู งกันการแพร่กระจายเชือ้ โรค ดังนี้ 1) มีการกาหนดมาตรการการปฏิบัตใิ หส้ ถานท่สี ะอาด ถกู สขุ ลกั ษณะ ดังนี้ (1) จัดให้มีอ่างล้างมือพร้อมสบู่ ส้าหรับให้บริการแก่ผู้เข้ามาใช้บริการโรงอาหาร บริเวณกอ่ น ทางเขา้ โรงอาหาร (2) ทกุ คนที่จะเข้ามาในโรงอาหาร ตอ้ งสวมหนา้ กากผา้ หรอื หนา้ กากอนามัย (3) จดั ให้มกี ารเวน้ ระยะหา่ งระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1.5 - 2 เมตร ในพื้นท่ีต่าง ๆ เช่นที่น่ังกิน อาหาร จุดรับอาหาร จุดชื้ออาหาร จุดรอกดน้าด่ืม จุดปฏิบัติงานร่วมกันของผู้สัมผัส อาหาร (4) จัดเหลือ่ มช่วงเวลาช้ือและกินอาหาร เพื่อลดความแออัดพื้นที่ภายในโรงอาหาร โดยจดั ให้ ม.ตน้ รับประทานชว่ ง 11.00 น. - 11.50 น. และ ม.ปลาย 11.50 น. - 12.40 น. (5) ท้าความสะอาดสถานท่ีปรุง ประกอบอาหาร พื้นท่ีตั้งตู้กดน้าดื่ม และพื้นที่ บริเวณทีน่ ง่ั กนิ อาหารใหส้ ะอาดดว้ ยน้ายาท้าความสะอาดหรอื ผงซักฟอกและจัดใหม้ ีการฆ่าเชอ้ื (6) ท้าความสะอาดโต๊ะและที่นั่งให้สะอาด ส้าหรับนั่งกินอาหารด้วยน้ายาท้า ความสะอาด และ จัดใหม้ ีการฆา่ เช้ือ (7) ท้าความสะอาดภาชนะ อุปกรณ์และเครื่องใช้ให้สะอาดด้วยน้ายาล้างจาน และ ใหม้ ีการฆา่ เช้อื ด้วยการแช่ในน้าร้อน 80 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 วินาที (8) ท้าความสะอาดตู้กดน้าดื่ม ภายในตู้ถังน้าเย็น อย่างน้อยเดือนละ 1 คร้ัง เช็ด ภายนอกตู้ และกอ๊ กนา้ ด่ืมใหส้ ะอาดทกุ วนั (9) จัดบรกิ ารอาหาร เน้นปอู งกนั การปนเปื้อนของเชอื้ โรค เชน่ อาหารปรุงส้าเรจ็ สกุ (10) ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ภายในโรงอาหาร เช่น การสวมหน้ากากท่ีถูกวิธี ขั้นตอน การล้างมือท่ีถูกต้อง การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล การเลือกอาหารปรุงสุกใหม่สะอาด เป็นตน้ (11) กรณีมีการใช้บริการร้านอาหารจากภายนอก จัดส่งอาหารให้กับสถานศึกษา ควรใหค้ รูหรือผ้รู บั ผิดชอบ ตรวจประเมินระบบสุขาภิบาลอาหารของร้านอาหาร โดยก้าหนดข้อตกลง การจัดสง่ อาหารปรุงสุกพรอ้ มกนิ ภายใน 2 ชว่ั โมง หลังปรุงเสร็จและมีการปกปิดอาหาร เพ่ือปูองกัน การปนเปื้อนสง่ิ สกปรกลงในอาหาร (12) พจิ ารณาทางเลือกให้ผูป้ กครองสามารถเตรยี มอาหารกลางวนั (Lunch box) หน้า 44

ใหน้ กั เรียนมารบั ประทานเอง เพ่อื ปอู งกนั เชอ้ื และลดการแพร่ 2) ผสู้ ัมผสั อาหาร ต้องดูแลสุขลักษณะส่วนบคุ คล มกี ารปอู งกนั ตนเองและปูองกันการแพร่ กระจายเชือ้ โรค ดังน้ี (1) กรณีมอี าการปุวย ไข้ ไอ มีน้ามูก เจ็บคอ หายใจ ลา้ บาก เหนือ่ ยหอบ ไม่ได้กลิ่น ไม่รู้รส ใหห้ ยดุ ปฏิบัตงิ านและแนะนา้ ให้ไปพบแพทย์ทันที (2) ดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล มีการปูองกันตนเอง แต่งกายให้สะอาด สวมใส่ผ้า กนั เป้ือน และอุปกรณ์ปอู งกันการปนเป้ือนสู่อาหารในขณะปฏิบัติงาน เตรียมอาหารประกอบอาหาร และจ้าหน่ายอาหาร รวมถึงหลังจากการจับเหรียญหรือธนบัตร หรือสัมผัสสิ่งสกปรก อาจใช้เจล แอลกอฮอลท์ ้าความสะอาดมอื ร่วมดว้ ย หลกี เลี่ยงการใช้มือสมั ผัส ใบหนา้ ตา ปาก จมูก โดยไม่จา้ เปน็ (4) สวมใสห่ น้ากากผา้ หรอื หนา้ กากอนามัย ตลอดเวลาขณะปฏบิ ัตงิ าน (5) มีพฤตกิ รรมขณะปฏิบตั ิงานปูองกันการปนเป้ือนของเช้ือโรค เช่น ใช้อุปกรณ์ใน การปรงุ ประกอบอาหาร เช่น เขียง มีด การหยิบจับอาหาร แยกระหว่างอาหารสุก อาหารประเภท เนอ้ื สัตว์สด ผกั และผลไม้ และไมเ่ ตรียมปรุงประกอบอาหารบนพื้นโดยตรง (6) จัดเมนูอาหารท่ีจ้าหน่าย โดยเน้นอาหารปรุงสุกด้วยความร้อนโดยเฉพาะ เนือ้ สตั วป์ รุงใหส้ ุกด้วยความรอ้ นไมน่ ้อยกวา่ 70 องศาเซลเซยี ส (7)อาหารปรงุ ส้าเรจ็ จดั เก็บในภาชนะสะอาด มีการปกปิดอาหารจัด เก็บสูงจากพื้น ไม่นอ้ ยกวา่ 60 เซนติเมตร กรณอี าหารปรุงสา้ เรจ็ รอการจา้ หน่ายให้นา้ มาอุ่นทุก 2 ช่ัวโมง (8) ระหว่างการปฏิบัติงาน ให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1.5 - 2 เมตร 3) ผู้ที่เข้ามาใช้บริการโรงอาหาร ต้องปูองกันตนเองและปูองกันการแพร่กระจายเชื้อโรค ดงั น้ี (1) ล้างมอื บ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้าหรือใช้เจลแอลกอฮอล์ท้าความสะอาดมือทุกครั้ง ก่อนเข้าไปในโรงอาหาร ก่อนกินอาหาร ภายหลังชื้ออาหารหลังจากจับเหรียญหรือธนบัตร หลังจาก สัมผสั สงิ่ สกปรก หรือหลังออกจากหอ้ งสขุ า (2) ทุกคนต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ตลอดเวลาท่ีอยู่ในโรงอาหาร หรอื เขา้ ไปในสถานท่จี ้าหน่ายอาหาร (3) เลือกช้ืออาหารปรุงส้าเร็จสุกใหม่ หลีกเลี่ยงการกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ ทป่ี รงุ ไม่สกุ และตรวจสอบคณุ ภาพของอาหารทันที หนา้ 45

หนา้ 46

9. รถโรงเรียน 1) ท้าความสะอาดรถโรงเรยี นและบรเิ วณจุดสมั ผสั เสี่ยง เชน่ ราวจบั ที่เปิดประตู เบาะนงั่ ท่ีวางแขน ด้วยน้าผสมผงซกั ฟอกหรอื น้ายาทา้ ความสะอาด 2) บุคลากร นกั เรยี นที่ใชบ้ ริการรถโรงเรียน ต้องสวมหนา้ กากผา้ หรอื หน้ากากอนามยั ตลอดเวลา ที่อย่บู นรถ ลดการพูดคุยกัน เล่นหยอกลอ้ กนั 3) จัดท่ีน่ังบนรถ จัดให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1 - 2 เมตร ทั้งนี้ควร คา้ นงึ ถึงขนาดพ้นื ที่ของรถ จ้านวนที่น่ังพิจารณาตามคุณลักษณะของรถและความเหมาะสม ยึดหลัก Social distancing อยา่ งเครง่ ครดั 4) ก่อนและหลังให้บริการแต่ละรอบ ท้าความสะอาดภายในและภายนอกรถทุกครั้ง เปดิ หนา้ ตา่ ง ประตู ระบายอากาศใหอ้ ากาศถ่ายเทได้สะดวก 5) จัดใหม้ ีเจลแอลกอฮอล์สา้ หรบั ใช้ท้าความสะอาดมือบ่อย ๆ บนรถ 10. การเข้าแถวเคารพธงชาติ 1. การจัดกิจกรรมหน้าเสาธง ให้นักเรียนเข้าแถวเว้นระยะห่าง 1.5 เมตร มีกิจกรรมหน้า เสาธงผา่ นทางเสยี งตามสาย ประชาสัมพันธโ์ รงเรียน 2. ครแู ละนักเรียนทกุ คนต้องสวมหนา้ กากผา้ หรอื หนา้ กากอนามยั ตลอดเวลาท้ากจิ กรรม 3. ลดระยะเวลาการจัดกจิ กรรมหนา้ เสาธง กรณมี ีการส่ือสารประชาสัมพันธ์ ใช้ชอ่ งทางอ่ืน ๆ เชน่ เสยี งตามสาย ผา่ นออนไลน์ Line Facebook E-mail แจง้ ในหอ้ งเรียน เปน็ ตน้ 4. ท้าความสะอาดอปุ กรณข์ องใชห้ รอื จดุ สัมผัสเส่ียง ภายหลังการใช้งานทุกคร้ัง เช่น เชือกท่ี ใช้ชักธงชาติ ไมโครโฟน เปน็ ตน้ หนา้ 47


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook