1
คำนำ ชุดการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปญั หาเปน็ ฐานแบบมสี ่วนรว่ ม เรือ่ ง พลเมืองดีในระบอบ ประชาธิปไตย สาหรบั นกั เรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 โรงเรียนกะเปอรว์ ิทยา จังหวัดระนอง ได้ พัฒนาขนึ้ เพือ่ พฒั นาคุณสมบตั ิของพลเมอื งตามระบอบประชาธิปไตย โดยใช้ข้ันตอนการจดั การ เรียนรูโ้ ดยใช้ปัญหาเปน็ ฐานของสานักงานมาตรฐานการศกึ ษาและพฒั นาการเรียนรู้ (2550 : 8) ได้แบง่ ขนั้ ตอนการจดั การเรียนรแู้ บบใชป้ ัญหาเป็นฐานไว้ ดงั น้ี ขน้ั ท่ี 1 เชือ่ มโยงปัญหาและระบปุ ัญหา เปน็ ข้นั ทค่ี รูนาเสนอสถานการณป์ ญั หา เพื่อกระตนุ้ ใหน้ ักเรียนเกิดความสนใจและมองเห็นปญั หา สามารถระบุสิ่งทเ่ี ปน็ ปญั หาที่นกั เรยี น อยากรอู้ ยากเรยี นและเกดิ ความสนใจที่จะค้นหาคาตอบ ข้นั ท่ี 2 กาหนดแนวทางที่เป็นไปได้ นกั เรียนแต่ละกลุ่มวางแผนการศกึ ษา คน้ ควา้ ทาความเข้าใจ อภิปรายปญั หา ระดมสมอง คดิ วิเคราะห์ เพอ่ื หาวธิ ีการหาคาตอบ ครูคอย ช่วยเหลอื กระตุน้ ใหเ้ กิดการอภปิ รายในกลมุ่ ใหน้ ักเรียนเขา้ ใจวิเคราะหป์ ญั หาแหล่งขอ้ มลู ขน้ั ที่ 3 ดาเนินการศึกษาคน้ ควา้ นกั เรยี นกาหนดสิง่ ทตี่ ้องเรยี น ดาเนินการศึกษา คน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง ดว้ ยวธิ กี ารหลากหลาย ขนั้ ที่ 4 สงั เคราะห์ความรู้ นกั เรยี นนาขอ้ คน้ พบ ความรู้ท่ีไดค้ น้ ควา้ มาแลกเปลยี่ น เรียนรรู้ ว่ มกัน อภิปรายผลและสงั เคราะหค์ วามรู้ทีไ่ ด้มาว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ขน้ั ท่ี 5 สรปุ และประเมนิ คา่ ของคาตอบ นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ สรปุ ผลงานของกลุม่ ตนเอง และประเมินผลงานวา่ ข้อมูลที่ศึกษาคน้ ควา้ มีความเหมาะสมหรอื ไมเ่ พียงใด โดย พยายามตรวจสอบแนวคิดภายในกล่มุ ของตนเองอยา่ งอสิ ระ ทุกกลมุ่ ช่วยกันสรุปองคค์ วามรใู้ น ภาพรวมของปัญหาอีกครั้ง ขั้นท่ี 6 นาเสนอและประเมนิ ผลงาน นกั เรยี นนาขอ้ มลู ท่ไี ดม้ าจดั ระบบองค์ความรู้ และนาเสนอเป็นผลงานในรูปแบบที่หลากหลาย ครปู ระเมนิ ผลการเรียนรู้และทกั ษะกระบวนการ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูโ้ ดยใช้ปญั หาเป็นฐาน เรอื่ ง พลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตย สาหรบั นกั เรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 มีทั้งหมด จานวน 3 ชดุ ได้แก่ ชุดที่ 1 เคารพกตกิ า ชุดที่ 2 คนเทา่ เทยี ม ชดุ ที่ 3 รบั ผิดชอบต่อสังคม ผจู้ ดั ทาหวงั ว่าชดุ กิจการจดั การเรียนรู้โดยใชป้ ญั หาเปน็ ฐานชดุ น้ี จะเป็นรปู แบบการ สอนที่จะกอ่ ให้เกิดการพัฒนาคุณสมบตั ิของพลเมอื งตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจะเป็น ประโยชน์ต่อการศกึ ษาในระดับสูงต่อไป ของผ้เู รยี นและนาขอ้ คิดไปประยกุ ต์ใช้ในการดาเนนิ ชวี ิต ได้อยา่ งเหมาะสม พติ ยิ ันต์ รักษ์พงศ์ 2
สำรบญั หนำ้ 2 เรอื่ ง 3 คานา 4 สารบญั 5 แผนผงั แสดงขนั้ ตอนการศึกษาชดุ การจัดการเรียนรู้ 6 คาชีแ้ จงสาหรับชุดการจดั การเรยี นรู้ 7 คาแนะนาสาหรับครู 13 แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 1 15 แบบบันทึกการศึกษาค้นควา้ และการแกป้ ัญหา 16 คาแนะนาสาหรับนกั เรยี น 17 บตั รคาสงั่ 19 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 20 เฉลย แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 34 ใบความรทู้ ่ี 1 35 ใบกิจกรรมท่ี 1 ขอ้ มลู ท่ีตอ้ งมีในบตั รประจาตวั ประชาชน 36 ใบกิจกรรมท่ี 2 การขอบัตรประชาชนเมอื่ อายุครบ 15 ปี ตอ้ งทาอย่างไร 38 แบบทดสอบหลังเรียน 39 เฉลย แบบทดสอบหลังเรยี น บรรณานกุ รม 3
แผนผังแสดงข้นั ตอนกำรศึกษำชดุ กำรจัดกำรเรยี นรู้ ดังน้ี อ่ำนคำช้ีแจง และคำแนะนำ ศกึ ษำสำระสำคญั ศกึ ษำจดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ ทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ศึกษำบัตรคำสง่ั บัตรเนื้อหำ และบัตรแบบฝกึ หดั ทำแบบทดสอบหลังเรียน ผำ่ นเกณฑ์ ไมผ่ ำ่ นเกณฑ์ ศึกษำชุดกำรจดั กำรเรยี นรูช้ ดุ ต่อไป 4
คำช้แี จงสำหรบั ชดุ กำรจดั กำรเรยี นรู้ 1. เอกสารชดุ น้ีเป็นชุดการจัดการเรียนรโู้ ดยใช้ปัญหาเปน็ ฐานแบบมีสว่ น ร่วม เรื่อง พลเมืองดใี นระบอบประชาธิปไตย สาหรับนักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรยี นกะเปอร์วทิ ยา จงั หวัดระนอง เล่มท่ี 1 เร่อื ง เคารพกติกา 2. ชุดการจัดการเรียนรู้ชดุ น้ี ประกอบดว้ ย - คาชี้แจงเก่ยี วกบั ชุดการจดั การเรยี นรู้ - คาแนะนาสาหรบั ครู - คาแนะนาสาหรบั นักเรียน - แผนผังแสดงขน้ั ตอนการศกึ ษาชดุ การจัดการเรียนรู้ - มาตรฐานการเรยี นรู้ และตวั ชี้วัด - สาระสาคญั / จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - แบบทดสอบก่อนเรยี น - กระดาษแบบทดสอบก่อนเรียน - บตั รเนอื้ หา - บัตรแบบฝึกหัด - แบบทดสอบหลงั เรียน - กระดาษแบบทดสอบหลังเรียน - เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน - เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น - บตั รเฉลยแบบฝกึ หดั 3. ชุดการจัดการเรียนรู้ ชุดนีใ้ ช้เวลาในการเรียน 2 ช่ัวโมง 5
คำแนะนำสำหรบั ครู คู่มอื สาหรับครู ประกอบการใชช้ ุดการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปญั หาเปน็ ฐานแบบมีส่วน รว่ ม เรอื่ ง พลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตย สาหรับนกั เรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 โรงเรียน กะเปอรว์ ิทยา จังหวดั ระนอง บทบำทของครผู ู้สอน ครูผสู้ อนเตรียมตวั ให้พร้อมโดยศกึ ษาละเอียดเกย่ี วกับการใช้ชุดการจัดการเรียนรู้ การ จดั ชน้ั เรยี น และการเตรยี มส่อื การเรียนรทู้ ่ใี ชป้ ระกอบการจดั การเรยี นรู้ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ครูจะตอ้ งจดั กจิ กรรมใหเ้ ขาตามท่ีระบไุ วใ้ นแผนการจดั การ เรียนรู้ เพอ่ื ใหก้ ิจกรรมเปน็ ไปอยา่ งตอ่ เน่ืองและบรรลจุ ุดประสงค์ กอ่ นทากจิ กรรมทุกคร้ัง ครตู ้องใหน้ ักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน เพอ่ื ใชส้ าหรบั ประเมินผลการเรยี นรู้ ครจู ะต้องอธบิ าย ชแ้ี จงวธิ ีปฏบิ ตั ิกิจกรรมให้ชัดเจนเพื่อให้นกั เรียนเข้าใจตรงกนั จึง จะทาใหก้ ารจัดกิจกรรมการเรียนรบู้ รรลเุ ป้าหมายและมีประสทิ ธภิ าพ ครูควรเน้นให้นกั เรยี นทกุ คนมีส่วนรว่ มในการปฏบิ ัติกจิ กรรมเพือ่ เปน็ การใหน้ ักเรียน รจู้ กั การทางานร่วมกัน ช่วยเหลือซงึ่ กันและกัน รับผิดชอบต่อหนา้ ทแ่ี ละกล้าแสดงออก ขณะดาเนินกิจกรรมและก่อนส้ินสุดกิจกรรม ครูต้องสังเกตกระบวนการทางานกลุ่ม ของนักเรยี นแตล่ ะกล่มุ และบันทกึ ผลในแบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ ของนักเรียน หลังจากการจัดกจิ กรรมการเรยี นรเู้ สร็จสน้ิ ลงในแตล่ ะชดุ การจดั การเรียนรู้ ครเู ป็นผู้ ประเมนิ ผลการเรียนของนกั เรียนโดยใหน้ กั เรียนทาแบบฝกึ หดั สิ่งทค่ี รตู ้องเตรยี ม 1. แผนการจดั การเรยี นรู้ 2. ส่ือการเรยี นร้ทู ่ีใช้ในกจิ กรรม 3. ใบความรู้ 4. ใบกิจกรรม 5. แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น 6. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ ของนักเรียน 7. แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ กำรประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้ 1. ประเมนิ ผลด้านความรู้ 2. ประเมินผลดา้ นทกั ษะการทางานกลุ่ม 3. ประเมินผลด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 6
แผนกำรจัดกำรเรียนรูท้ ่ี 1 แผนการจดั การเรียนรโู้ ดยใช้ปญั หาเปน็ ฐาน รายวิชาหนา้ ท่พี ลเมืองฯ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 เรอ่ื ง เคารพกตกิ า เวลา 2 ชวั่ โมง 1. ชื่อเร่ือง เคำรพกตกิ ำ 2. เปำ้ หมำยกำรเรียนรู้ 2.1 มำตรฐำนกำรเรียนรู้ สาระที่ 2 หน้าท่พี ลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนินชีวติ มาตรฐาน ส 2.1 ปฏบิ ัติตนตามหนา้ ท่ีของการเปน็ พลเมอื งดี ตามกฎหมาย ประเพณแี ละวฒั นธรรมไทย ดารงชวี ติ อยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมไทย และสังคมโลกอยา่ งสันติสุข 2.2 ผลกำรเรยี นรู้ 6) ปฏิบตั ติ นเปน็ พลเมอื งดีตามวิถีประชาธปิ ไตย 10) ปฏิบัติตนเป็นผมู้ ีวินัยในตนเอง 2.3 จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ ด้ำนควำมรู้ (K) นักเรียนสำมำรถ 1. อธิบายความสาคัญและวิวฒั นาการของบตั รประจาตวั ประชาชนได้ 2. สรุปขั้นตอนการขอมบี ตั รประจาตวั ประชาชนกรณอี ายคุ รบ 15 ปีได้ 3. นาความรูก้ ฎหมายบตั รประจาตัวประชาชนไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ ดำ้ นทักษะกระบวนกำร (P) นกั เรยี นมี 1. ทกั ษะกระบวนการทางานกลมุ่ ดำ้ นคุณธรรมลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) นักเรียนมี ซ่อื สัตยส์ จุ ริต มวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มั่นในการทางาน 7
แผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 1 แผนการจัดการเรยี นรโู้ ดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน รายวิชาหนา้ ทีพ่ ลเมืองฯ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 เรอ่ื ง เคารพกตกิ า เวลา 2 ชว่ั โมง 3. สำระสำคัญ บตั รประจาตัวประชาชน เปน็ หลักฐานทางราชการทแ่ี สดงความเปน็ คนไทยของผ้ถู อื บตั ร กฎหมายที่ใช้บังคบั เก่ียวกับบตั รประจาตัวประชาชนใน ปัจจุบัน คือ พระราชบญั ญัติบัตรประจาตวั ประชาชน พ.ศ. 2526 และ พระราชบญั ญตั บิ ัตรประจาตวั ประชาชน พ.ศ. 2542 ระบวุ า่ ผู้มสี ญั ชาตไิ ทยเมื่อ มีอายุครบ 15 ปบี รบิ รู ณ์ ต้องมบี ัตรประจาตัวประชาชน ซึง่ การถือปฏิบตั ิ กฎหมายและเคารพกตกิ า จะทาใหส้ ังคมไทยดารงอยูอ่ ย่างมคี วามสุข 4. สำระกำรเรยี นรู้ การดาเนนิ ชวี ิตตามวิถปี ระชาธิปไตย 5. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ ชัว่ โมงท่ี 1 5.1 ขัน้ กำหนดปัญหำ 1. ครูพดู คุยและซกั ถามนักเรยี นเกีย่ วกบั ความสาคัญและววิ ัฒนาการ ของบัตรประจาตัวประชาชน โดยครอู าจใช้คาถามตอ่ ไปน้ี - นักเรียนคิดวา่ บัตรประจาตวั ประชาชนมีความสาคัญอย่างไร - นักเรยี นคิดว่าบตั รประจาตวั ประชาชนสามารถใชน้ าไปทาอะไรได้ บา้ ง 8
แผนกำรจัดกำรเรยี นรทู้ ่ี 1 แผนการจัดการเรยี นรู้โดยใชป้ ญั หาเปน็ ฐาน รายวชิ าหนา้ ท่ีพลเมอื งฯ กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3 เรือ่ ง เคารพกตกิ า เวลา 2 ชว่ั โมง 2. นกั เรียนช่วยกันอภปิ รายและแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกับการทาบัตรประจาตวั ประชาชน 3. ให้นกั เรยี นแบ่งกลุ่มกลมุ่ ละ 5 คน 4. ครูใชค้ าถามเพ่ือให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกันแสดงความคดิ เห็น ดังนี้ - นักเรียนคดิ วา่ การระบุตัวตนของบคุ คลสามารถใชส้ ิ่งใดในการแสดงได้บา้ ง (แนวตอบ หลกั ฐานตา่ ง ๆ ที่ราชการออกให้ รวมทงั้ บตั รประจาตวั ประชาชน สามารถระบุ ไดอ้ ยา่ งไร) - นกั เรียนคดิ วา่ บตั รประจาตวั ประชาชนตอ้ งระบขุ อ้ มูลใดบา้ ง ((แนวตอบ เลขประจาตวั ประชาชน คานาหน้าช่ือ ชอื่ ตัว และชือ่ สกลุ วนั เกดิ ที่อยู่ (ตามฐานขอ้ มลู ทะเบียนราษฎร) วันออกบัตร วนั บัตรหมดอายุ และรูปถ่ายผ้ถู อื บัตร)) 5.2 ข้ันทำควำมเข้ำใจกับปญั หำ 5. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกันอภิปรายประเดน็ ปัญหาท่ีตั้งข้นึ ว่ามปี ระเด็นใดบา้ งท่ี น่าสนใจและหาคาตอบได้จากที่ใดโดยวธิ กี ารใด 6. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั วางแผนการดาเนินการศกึ ษาคน้ ควา้ ตามประเดน็ ปญั หาท่ีครูตง้ั ขึน้ และประเด็นปญั หาอืน่ ท่ตี อ้ งการศึกษา 5.3 ขัน้ กำรดำเนินกำรศึกษำค้นควำ้ 7. ตัวแทนกลมุ่ ออกมารบั ใบความรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง บัตรประจาตวั ประชาชน 8. ดาเนนิ การศึกษาคน้ ควา้ ตามประเด็นทีต่ ้องการเช่น ความสาคญั ของบตั ร ประจาตัวประชาชน วิวฒั นาการของบัตรประจาตวั ประชาชนและการขอมีบตั รประจาตัว ประชาชน รวมถงึ ประเด็นอน่ื ๆท่ีนักเรยี นต้องการศกึ ษาจากใบความรู้ที่ 1 9. นกั เรยี นบันทึกขอ้ มูลและผลการดาเนินการศกึ ษาค้นคว้าลงแบบบนั ทึกข้อมูล การศกึ ษาคน้ ควา้ 9
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี 1 แผนการจดั การเรียนรู้โดยใช้ปญั หาเป็นฐาน รายวิชาหนา้ ท่พี ลเมอื งฯ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 เรอื่ ง เคารพกติกา เวลา 2 ช่วั โมง ชว่ั โมงที่ 2 5.4 ขนั้ สงั เครำะหค์ วำมรู้ 10. นกั เรียนแต่ละคนนาขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากการศึกษาค้นควา้ มาแลกเปลี่ยนเรยี นรกู้ ัน ในกล่มุ 11. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ รว่ มกนั คิดพิจารณาต่อไปวา่ ความรทู้ ไ่ี ด้มามีความถกู ต้อง สมบรู ณแ์ ละครบถ้วนตามประเดน็ ทต่ี อ้ งการศกึ ษาแลว้ หรือยังถา้ ขอ้ มูลยังไม่เพียงพอให้ ร่วมกันอภิปรายได้ศกึ ษาคน้ ควา้ เพมิ่ เติม 12. เมื่อไดข้ อ้ มูลทเ่ี พยี งพอแลว้ ให้นักเรยี นทาใบกจิ กรรมท่ี 1 ข้อมูลทตี่ อ้ งมีใน บตั รประจาตวั ประชาชน และใบกจิ กรรมท่ี 2 การขอบตั รประชาชนเมอ่ื อายุครบ 15 ปี ต้องทาอย่างไร 5.5 ขั้นสรปุ และประเมนิ คำ่ ของคำตอบ 13. ทุกคนร่วมกันนาเสนอขอ้ มลู ที่สังเคราะหไ์ ด้และร่วมกันอภิปรายว่าขอ้ มูลของ แตล่ ะกลมุ่ ทีไ่ ด้ศึกษาค้นคว้ามาครบถ้วนถูกต้องสมบรู ณ์หรือไม่โดยครูผสู้ อนช่วยตรวจสอบ และแนะนาเพ่มิ เติม 14. นักเรียนทกุ คนช่วยกันสรปุ องคค์ วามรู้ในภาพรวมของปญั หาอีกครั้ง 5.6 ขัน้ นำเสนอและประเมินผลงำน 15. ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มการออกแบบการสรปุ ผลการดาเนินการศึกษา ค้นคว้าของกลุ่มเพื่อนาเสนอหน้าช้ันเรียนตามรูปแบบท่นี ักเรียนสนใจ 16. ให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ส่งตวั แทนกลุ่มออกมานาเสนอผลการดาเนินการศึกษา คน้ ควา้ หน้าชน้ั เรียน 17. นกั เรียนร่วมกันประเมินท้งั งานของกลุม่ ตนเองและของเพ่ือน 10
แผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 1 แผนการจดั การเรียนรู้โดยใชป้ ญั หาเป็นฐาน รายวิชาหน้าท่พี ลเมืองฯ กลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 เร่อื ง เคารพกติกา เวลา 2 ช่ัวโมง 6. สอ่ื /อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้ 6.1 ใบความรทู้ ่ี 1 เร่อื งบตั รประจาตวั ประชาชน 6.2 ใบกจิ กรรมที่ 1 ขอ้ มูลท่ีต้องมใี นบตั รประจาตัวประชาชน 6.3 ใบกิจกรรมท่ี 2 การขอบตั รประชาชนเมือ่ อายุครบ 15 ปี ต้องทาอย่างไร 6.4 แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรยี น เรอื่ ง บตั รประจาตวั ประชาชน 7. กำรวัดผลและประเมินผล ส่งิ ทวี่ ดั วิธกี ำรวดั เคร่อื งมือ เกณฑก์ ำรวัด ดา้ นความรู้ ทดสอบ ผ่านรอ้ ยละ 80 แบบทดสอบ เรือ่ ง ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรม บตั รประจาตัว เปอร์เซ็นต์ ประเมินทกั ษะ ประชาชน ผา่ นระดบั ดี ขึน้ ไป ด้านคุณลักษณะอัน กระบวนการ พึงประสงค์ แบบสังเกต ผา่ นระดับ ดี ข้ึนไป สงั เกตพฤตกิ รรม พฤตกิ รรมการ ทางานกลมุ่ ของ นักเรยี น แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 11
แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ี่ 1 แผนการจดั การเรยี นรู้โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน รายวชิ าหน้าทพ่ี ลเมืองฯ กล่มุ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 เร่อื ง เคารพกตกิ า เวลา 2 ชัว่ โมง 8. สรปุ ผลกำรสอน 8.1 ผลกำรสอน 1. สรปุ จานวนและคะแนนเฉลีย่ ของนักเรียนทท่ี ดสอบ เรอ่ื ง บัตรประจาตัวประชาชน 2. สรุปจานวนผผู้ ่านเกณฑ์ประเมินและคะแนนเฉลี่ยจากการสังเกตพฤติกรรมนกั เรยี น ดา้ นทักษะกระบวนการ 3. สรุปจานวนผผู้ ่านเกณฑป์ ระเมินและคะแนนเฉลี่ยจากการสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 8.2 ปญั หำ/อุปสรรค 8.3 ข้อเสนอแนะ/แนวทำงกำรแก้ไข 12
แบบบนั ทึกกำรศกึ ษำคน้ ควำ้ และกำรแก้ปัญหำ เร่ือง………………………………………………………….. กลมุ่ ที่..........................................สมาชิก ประกอบด้วย 1. …………………………………………………………………………………….ประธาน 2. …………………………………………………………………………………….เลขานกุ าร 3. ……………………………………………………………………………………. 4. ……………………………………………………………………………………. 5. ……………………………………………………………………………………. 6. ……………………………………………………………………………………. ตอนท่ี 1 หัวขอ้ ปัญหำ................................................................................................ ทำควำมเขำ้ ใจปญั หำ • สง่ิ ท่ตี อ้ งการรู้............................................................................ • วิธีการหาคาตอบ....................................................................... • แหลง่ ขอ้ มลู ............................................................................... กำรศกึ ษำค้นควำ้ และแกป้ ญั หำ ชอ่ื สมำชิก กำรแบ่งหนำ้ ท่ี แหลง่ ข้อมลู ผลกำรศกึ ษำ 13
ตอนที่ 2 สรุปผลกำรศึกษำคน้ ควำ้ และแกป้ ญั หำ .................................................................................................................................. ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... 14
คำแนะนำสำหรับนักเรยี น คู่มอื สาหรับนักเรยี นประกอบการใชช้ ุดการจัดการเรียนรู้โดยใชป้ ญั หาเปน็ ฐานแบบมีส่วนรว่ ม เรื่อง พลเมอื งดใี นระบอบประชาธปิ ไตย สาหรบั นักเรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 โรงเรียนกะเปอร์วทิ ยา จงั หวัดระนอง 1. คำแนะนำในกำรปฏิบัติ การใช้ชดุ การจดั การเรยี นรโู้ ดยใช้ปญั หาเปน็ ฐานแบบมสี ่วนรว่ ม เรอ่ื ง พลเมอื งดใี นระบอบประชาธิปไตย สาหรับนักเรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 โรงเรียนกะเปอร์วิทยา จังหวดั ระนอง ให้บรรลจุ ดุ ประสงคแ์ ละมปี ระสทิ ธภิ าพ ให้ นักเรยี นปฏิบตั ดิ งั ต่อไปนี้ 1. ก่อนดาเนนิ กิจกรรมการเรยี นการสอน ให้นักเรียนปฏบิ ัติตามใบ กจิ กรรม และถ้ามีการแบ่งกลมุ่ ให้นกั เรียนคดั เลือกประธาน เลขานกุ าร บันทึก รายช่อื สมาชกิ กลมุ่ ลงในใบกิจกรรม 2. เตรยี มความพร้อมทางด้านรา่ งกายและอารมณข์ องตนเองใหพ้ ร้อม สาหรบั การปฏิบตั ิกิจกรรมรว่ มกับเพ่อื นในห้องเรียนหรือภายในกลมุ่ กบั เพื่อนรว่ มชั้น เรยี น เพอื่ ใหเ้ รียนได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 3. ให้ความรว่ มมือในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมกบั ครูและเพื่อนภายในกลุ่มหรือ เพื่อนร่วมช้นั เรียนโดยปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆอย่างต้งั ใจ 2. กจิ กรรมทนี่ กั เรียนต้องปฏิบตั ิ 1. ปฏบิ ัติกจิ กรรมตามลาดับขน้ั ตอน อา่ นคาชี้แจงจากใบกิจกรรม ใบ ความรู้ และบนั ทึกผลการปฏบิ ัติงาน เพ่อื ให้ทราบความกา้ วหน้าในการเรียนแตล่ ะ ครง้ั 2. มคี วามกระตือรอื ร้นในการปฏบิ ัติกจิ กรรม เมื่อมปี ัญหาให้ปรึกษา เพือ่ นรว่ มกล่มุ หรอื ครู ร่วมกนั อภปิ รายและแสดงความคดิ เหน็ กับทกุ คนอยา่ งมี เหตผุ ล 3. กำรประเมนิ ผล นกั เรยี นบนั ทึกใบกิจกรรมและทาแบบทดสอบเพื่อประเมินผลทางการ เรยี น 15
บตั รคำส่งั ให้นกั เรยี นปฏิบัติตำมขัน้ ตอนตอ่ ไปนี้ 1. เลขานกุ ารแต่ละกล่มุ สง่ ตวั แทนออกมารบั ชุดการจดั การ เรยี นรโู้ ดยใช้ปญั หาเป็นฐานแบบมสี ่วนร่วม เรอ่ื ง พลเมอื งดใี นระบอบ ประชาธิปไตย สาหรับนักเรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 โรงเรียนกะเปอร์ วิทยา จังหวดั ระนอง ชุดที่ 1 เร่อื ง เคารพกติกา จากครู 2. ใหน้ กั เรยี นแต่ละคนศึกษาสาระสาคัญ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ และทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นจานวน 10 ข้อ 3. ให้นกั เรยี นศึกษาใบความรู้ ทากิจกรรมกลุ่มตามใบกิจกรรมที่ ครกู าหนดให้ 4. ถ้าไม่เข้าใจให้ศกึ ษาจากบัตรเนือ้ หาอกี ครงั้ หนง่ึ 5. นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียนจานวน 10 ข้อ 16
แบบทดสอบกอ่ นเรียน เรื่อง เคารพกติกา คาช้ีแจง (จงเลือกคาตอบทถี่ กู ต้องเพยี งขอ้ เดยี ว) 1. ประเทศไทยมีการจัดทาบัตรประจาตวั ประชาชนครัง้ แรกใน พ.ศ. ใด ก. พ.ศ. 2505 ข. พ.ศ. 2500 ค. พ.ศ. 2486 ง. พ.ศ. 2499 2. บัตรประจาตวั ประชาชนท่ีทางราชการออกให้ มีอายุการใช้งานได้นานเทา่ ไร ก. 5 ปี ข. 6 ปี ค. 7 ปี ง. 8 ปี 3. บัตรหมดอายุ สญู หาย หรอื ถูกทาลายไม่ไปแจ้งทาให้ทนั ตามเวลาที่ กาหนดจะถดู ปรับเป็นเงินเทา่ ไร ก. 20 บาท ข. 50 บาท ค. 100 บาท ง. 200 บาท 4. รัตนา เกิดทจี่ งั หวัดสุโขทยั แตม่ ชี ือ่ ในทะเบียนทจ่ี งั หวดั พษิ ณโุ ลก ปจั จุบัน ทางานท่ีจังหวดั พิจิตร กรณีน้ี รัตนา ตอ้ งไปทาบตั รประจาตวั ประชาชนท่ี จังหวดั ใด ก. จงั หวดั พิจิตร ข. จงั หวดั สโุ ขทัย ค. จังหวดั พิษณโุ ลก ง. ได้ทั้ง 3 จงั หวัด 5. บุคคลในขอ้ ใดที่สามารถมบี ตั รประจาตวั ประชาชนได้ ก. นายกิมฮวย มีภรรยาเป็นคนไทย ข. นายอาคม ดีพรอ้ ม มสี ัญชาติไทย ค. นายปรชี า ยอดขา มอี าชีพรบั ซอื้ ของเกา่ ง. นายประกอบ ดงี าม เป็นคนไทยเกดิ ในจนี 17
แบบทดสอบก่อนเรยี น (ต่อ) เรือ่ ง เคารพกติกา คาชีแ้ จง (จงเลอื กคาตอบทถี่ ูกตอ้ งเพียงขอ้ เดยี ว) 6. ถ้าบัตรประจาตัวประชาชน หาย ถกู ทาลาย หรือชารุด หรอื เมื่อเปลย่ี น ช่อื ตวั – ช่ือสกุล ต้องขอเปลยี่ นบัตรใหม่ภายในเวลาก่ีวัน ก. 60 วัน ข. 80 วนั ค. 90 วนั ง. 100 วัน 7. บคุ คลสญั ชาตไิ ทยอายุเท่าใดตอ้ งมบี ัตรประจาตัวประชาชนตามกฎหมาย ก. 15-70 ปี ข. 15-60 ปี ค. 7-70 ปี ง. 6-60 ปี 8. ข้อใดไม่ใชห่ ลักเกณฑข์ องผทู้ ่จี ะขอมีบตั รประจาตัวประชาชน ก. เปน็ ผู้ท่มี สี ญั ชาติไทย ข. ตอ้ งมอี ายคุ รบ 7 ปีบรบิ ูรณ์ ค. ตอ้ งยน่ื เรอื่ งขอบัตรประจาตวั ประชาชนภายใน 15 วนั ง. ต้องมภี ูมิลาเนาหรือชอื่ ในทะเบียนบ้านในท้องถน่ิ น้นั 9. นายวิชยั กลน่ิ เกสร แสดงเอกสารแสดงความเปน็ คนไทยให้เจ้าหนา้ ทีด่ จู งึ พ้นจากขอ้ กลา่ วหาวา่ เปน็ คนตา่ งดา้ ว เอกสารฉบบั น้นั คือข้อใด ก. บตั รชมภาพยนตร์ ข. บตั รพนกั งานราชการ ค. บัตร ATM ง. บัตรประจาตวั ประชาชน 10. การย่ืนขอทาบตั รประจาตัวประชาชนตอ้ งยน่ื ภายในก่ีวนั นับต้ังแตม่ อี ายคุ รบ 15 ปบี ริบรู ณ์ ก. 90 วนั ข. 60 วนั ค. 45 วนั ง. 30 วนั 18
เฉลย แบบทดสอบก่อนเรยี น เรือ่ ง เคารพกตกิ า ข้อ 1 ค ข้อ 6 ก ขอ้ 2 ค ขอ้ 7 ค ขอ้ 3 ค ขอ้ 8 ค ขอ้ 4 ง ขอ้ 9 ง ขอ้ 5 ข ขอ้ 10 ข 19
ใบควำมรู้ท่ี 1 เรือ่ ง เคารพกตกิ า 1. ควำมสำคญั ของบตั รประจำตัวประชำชน กฎหมายบังคบั ใหป้ ระชาชนไทยทุกคนตอ้ งมีบัตรประจาตวั ประชาชน เพื่อความสะดวกในการบ่งชี้ว่าคนนน้ั คอื ใคร อายเุ ท่าไหร่ ภูมิลาเนาอยทู่ ี่ไหน และเพอ่ื ความสะดวกในการคน้ หาตวั บคุ คลและ ประวัติบคุ คลน้นั รวมถงึ การใชเ้ ปน็ หลักฐานสาคญั ในการตดิ ต่อสัมพันธ์ ระหวา่ งกันเพือ่ ดาเนนิ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ทง้ั ดา้ นการเมือง เศรษฐกจิ และ สงั คม เชน่ การเลอื กต้ัง การไปเปิดบัญชฝี ากเงนิ ทธี่ นาคาร การสมัคร และสอบเข้าศึกษาตอ่ การติดตอ่ หนว่ ยงานราชการต่าง ๆ เปน็ ตน้ ดงั น้นั บัตรประจาตวั ประชาชนจงึ มคี วามจาเป็นต้องอาศยั ขอ้ มลู สถิติ ด้านประชากรศาสตร์ เช่น จานวนประชากรจาแนกเพศ และอายุของ คนไทยทส่ี ามารถวิเคราะหไ์ ดจ้ ากหน่วยงานทางทะเบยี นราษฎร และกอง บตั รประจาตัวประชาชน 20
2. ประโยชน์ของบตั รประจำตัวประชำชน การมีบัตรประจาตัวประชาชนนนั้ เป็นประโยชน์ตอ่ ตนเองมาก ในดา้ นการตดิ ตอ่ กบั ทางราชการและธุรกิจอ่ืนที่ต้องการหลกั ฐานการ แสดงตน อายุ และภูมลิ าเนาของผถู้ อื บัตร จะยกตวั อยา่ งประโยชนข์ อง บตั รประจาตวั ประชาชน ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. การฝากเงินธนาคาร ผเู้ ปิดบญั ชีคร้ังแรกตอ้ งมบี ัตรประจาตวั ประชาชนแสดงตอ่ พนกั งานธนาคารผมู้ หี นา้ ทร่ี ับฝาก 21
2. การใชส้ ทิ ธิเลอื กต้ัง ในการใช้สทิ ธิเลือกต้ังท้งั ในระดบั ประเทศ และระดบั ท้องถ่ิน เช่น การใชส้ ิทธิเลอื กตงั้ สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร การเลอื กตง้ั สมาชกิ วุฒิสภา การลงประชามตติ ่าง ๆ เป็นต้น การ เลือกตั้งสมาชิกสภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวัด การเลือกตั้งสมาชกิ สภา องคก์ ารบริหารส่วนตาบล การเลือกต้ังสมาชิกสภาเทศบาล เปน็ ตน้ ซง่ึ ไปใช้สิทธลิ งคะแนนเสยี งดงั กลา่ ว ผูใ้ ชส้ ทิ ธิจะต้องแสดงบัตรประจาตวั ประชาชนต่อเจ้าหนา้ ทีป่ ระจาหน่วยเลอื กต้ังทุกครั้ง กอ่ นลงคะแนนเสยี ง เลือก เพ่ือเปน็ การตรวจสอบความถูกต้อง ที่มา : https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2318598 สบื คน้ เมื่อวนั ท่ี 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 22
3. การซื้อขายท่ีดิน ผูซ้ อ้ื และผขู้ ายตอ้ งนาบตั รประจาตวั ประชาชนแสดงตอ่ เจ้าพนักงานทด่ี ินท่ปี ฏิบัตหิ น้าท่ี ทีม่ า : https://www.prachachat.net/economy/news-407808 สบื คน้ เมอื่ วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 4. การแจ้งความยังสถานีตารวจ เม่อื เรามเี รอ่ื งท่ีจะตอ้ งไปแจ้ง ความในเรอ่ื งใดก็ตามต้องแสดงบัตรประจาตวั ประชาชนตอ่ เจ้าหน้าที่ ตารวจ ทม่ี า : https://www.nationtv.tv/main/content/378809388 สืบค้นเมอื่ วนั ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 23
6. การสมคั รงานตามสถานท่ตี ่าง ๆ ไม่ว่าจะเปน็ หนว่ ยงานของ ราชการหรือเอกชนผู้สมัครต้องแสดงบตั รประจาตวั ประชาชนเพอื่ เป็น หลกั ฐาน ที่มา : https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1858708 สบื คน้ เม่ือวันท่ี 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 นอกจากน้ันในเวลาเดนิ ทางไปในท่ใี ดก็ตาม ถ้าเกิดอบุ ตั เิ หตุข้ึน ได้รบั บาดเจ็บ หมดสติไปหรอื ไมร่ สู้ ึกตัว จาความไม่ได้ชวั่ ขณะหน่งึ ผู้ที่ ประสบเหตเุ ขา้ ชว่ ยเหลอื สง่ โรงพยาบาลจะไดร้ ้ขู ้อมูลของบคุ คลนั้น ๆ จาก บัตรประจาตัวประชาชน และสามารถแจ้งใหญ้ าติทราบได้ หรือถ้าเปน็ อันตรายถึงแก่ชวี ิต ก็สามารถตดิ ต่อให้ญาติหรอื ผู้เก่ยี วขอ้ งทราบได้ เช่นกัน ตวั อยา่ งดังกล่าวข้างต้นเปน็ เพยี งส่วนหน่ึงเทา่ น้ัน ใน ชีวติ ประจาวันของคนเรา จาเป็นต้องมบี ตั รเพ่อื ใชเ้ ป็นการแสดงหลกั ฐาน ต่าง ๆ อย่เู สมอ นอกจากนี้การมบี ัตรประจาตวั ประชาชนก็จะเป็นการ สะดวกในด้านการสบื สวน สอบสวน ปราบปรามอาชญากรรมต่าง ๆ เปน็ ตน้ 24
3. ววิ ฒั นำกำรของบตั รประจำตวั ประชำชน ประเทศไทยมกี ารจดั ทาบัตรประจาตวั ประชาชนครั้งแรก พ.ศ. 2486 ลกั ษณะคลา้ ยแผน่ พบั 4 ตอน ท่ีมา : https://stat.bora.dopa.go.th/card/card1.htm สืบค้นเม่ือวนั ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 พ.ศ. 2505 รปู ถ่าย ขาว-ดา ทม่ี า : https://stat.bora.dopa.go.th/card/card2.htm สืบคน้ เม่ือวนั ท่ี 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 25
พ.ศ. 2531 รปู ถา่ ยสี ท่มี า : https://stat.bora.dopa.go.th/card/card3.htm สืบคน้ เม่ือวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 พ.ศ. 2539 แบบแถบแม่เหลก็ ที่มา : https://stat.bora.dopa.go.th/card/smartcard1.htm สบื คน้ เม่อื วนั ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 พ.ศ. 2548 แบบอเนกประสงค์ ทม่ี า : https://stat.bora.dopa.go.th/card/smartcard3.htm สืบคน้ เมื่อวันท่ี 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 26
พ.ศ. 2555 จนถึงปัจจุบนั ที่มา : https://www.rd-comp.com/product/tfk2700rb-duoset/ สืบคน้ เม่ือวนั ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 27
4. กำรขอมีบตั รประจำตวั ประชำชน 4.1 คุณสมบตั ขิ องผู้ท่ีต้องมบี ัตรประจำตวั ประชำชน 1. มสี ัญชาตไิ ทย 2. ต้องมีชื่ออยูใ่ นทะเบียนบา้ น (ท.ร.14) 3. มีอายตุ ั้งแต่ 7 ปี แต่ไมเ่ กิน 70 ปี 4. สาหรับผ้มู ีอายุเกนิ 70 ปี และผู้ไดร้ ับการยกเว้น จะขอมบี ตั ร ประจาตวั ประชาชนได้ 4.2 บุคคลท่กี ฎหมำยยกเวน้ ไม่ตอ้ งมีบตั รประจำตวั ประชำชน 1. สมเด็จพระบรมราชินี 2. พระบรมวงศานวุ งศต์ งั้ แต่ชน้ั พระองค์เจ้าขึ้นไป 3. ภกิ ษุ สามเณร นักพรต และนักบวช 4. ผ้มู ีกายพิการเดินไม่ได้ หรือเปน็ ใบ้ หรอื ตาบอดทง้ั สองข้าง หรอื จติ ฟนั่ เฟือน ไม่สมประกอบ 5. ผูอ้ ย่ใู นทีค่ ุมขังโดยชอบดว้ ยกฎหมาย 6. บุคคลซง่ึ กาลงั ศกึ ษาวิชา ณ ตา่ งประเทศ และไมส่ ามารถย่ืน คาขอมีบตั รประจาตวั ประชาชนได้ 28
4.3 ทำบัตรประชำชนครั้งแรก ตอ้ งทำยงั ไง ทาได้ทนั ทีเมอื่ มีอายุ 7 ปบี รบิ ูรณ์ และมชี ือ่ ในทะเบยี นบา้ น (ท.ร.14) ต้องทาบัตรประจาตัวประชาชนภายใน 60 วนั หากพ้นกาหนด จะเสยี ค่าปรับ ไม่เกิน 100 บาท เอกสำรท่ตี ้องใชท้ ำบัตรประชำชน กรณที ำบตั รครั้งแรก 1. สตู ิบตั ร หรอื หลักฐานอ่นื ท่รี าชการออกให้ เช่น ใบสุทธิ สาเนา ทะเบียนนักเรียน หนงั สอื เดนิ ทาง เป็นตน้ เพอ่ื แสดงวา่ เป็นบคุ คลเดียวกับ ผ้มู ชี ่อื ในทะเบียนบา้ น 2. หากเดก็ เคยเปล่ยี นชื่อตัว ชอื่ สกลุ ตอ้ งนาใบสาคัญมาแสดง ดว้ ย และหากบิดา มารดาของเดก็ เคยเปลยี่ นชือ่ ตัว ชื่อสกุล ตอ้ งนา ใบสาคญั มาแสดงดว้ ย 3. หากไมม่ เี อกสารตามข้อ 2 ใหน้ าเจ้าบา้ นหรือบคุ คลผู้ นา่ เชื่อถอื มาใหก้ ารรับรอง 4. กรณบี ดิ ามารดาเปน็ คนตา่ งด้าว ใหน้ าใบสาคญั ประจาตัวคน ตา่ งดา้ วของบิดา มารดามาแสดงด้วย หรอื นาใบมรณบตั รของฝ่ายใดฝา่ ย หน่ึงที่ถงึ แก่กรรมไปแสดง 5. การขอมีบตั รครั้งแรกเม่ืออายตุ ั้งแต่ 16 ปขี ้ึนไป ต้องนา เอกสารหลกั ฐานทก่ี าหนดตามขอ้ 1,2,3,4 และให้นาเจ้าบ้านและบคุ คลที่ น่าเช่อื ถืออยา่ งน้อย 2 คน ไปพบเจ้าหน้าท่ีเพื่อสอบสวนและใหก้ ารรบั รอง ไม่เสยี คำ่ ธรรมเนียม 29
4.4 กรณีบตั รประชำชนเดิมหมดอำยุ ต้องทำยังไง เมื่อบัตรเดิมหมดอายใุ หท้ าบตั รใหมภ่ ายใน 60 วนั นบั แต่วนั ท่ี บัตรเดิมหมดอายุ หากพน้ กาหนดจะตอ้ งเสียคา่ ปรับไมเ่ กนิ 100 บาท ผู้ ถอื บัตรสามารถขอทาบัตรใหมก่ อ่ นวนั ท่ีบัตรเดิมหมดอายุก็ได้ โดยใหย้ น่ื คาขอภายใน 60 วนั ก่อนวนั ทีบ่ ัตรเดิมหมดอายุ เอกสำรท่ีต้องใชท้ ำบตั รประชำชน กรณบี ัตรประชำชนหมดอำยุ 1. บตั รประจาตวั ประชาชนเดมิ ทห่ี มดอายุ 2. หากบตั รเดิมหมดอายุเปน็ เวลานาน ต้องนาเจา้ บ้านหรือพยาน บุคคลทีน่ า่ เช่อื ถือมารบั รองดว้ ย ไม่เสยี ค่ำธรรมเนยี ม 4.5 กรณีบัตรประชำชนหำย บัตรถกู ทำลำย ตอ้ งทำยงั ไง เมอ่ื บตั รประจาตวั ประชาชนหาย หรือถูกทาลายใหไ้ ปแจง้ ความ ไว้เปน็ หลักฐาน ณ ท่ีวา่ การอาเภอ สานักงานเขตเทศบาลหรอื เมืองพัทยา แลว้ แต่กรณี และขอทาบัตรใหม่ภายใน 60 วนั นบั แตว่ นั ที่บัตรหายหรือ ถูกทาลาย หากพ้นกาหนดจะตอ้ งเสยี คา่ ปรับไม่เกนิ 100 บาท เอกสำรท่ีต้องใช้ทำบตั รประชำชน กรณบี ตั รประชำชนหำย 1. เอกสารที่มรี ปู ถา่ ยของผขู้ อมบี ตั รใหม่ทท่ี างราชการออกให้ เช่น ใบอนุญาตขับข่ี หลักฐานการศึกษา หรือหนงั สือเดนิ ทาง เป็นต้น 2. หากไมม่ ีหลักฐานตามข้อ 2 ให้นาเจา้ บ้านหรอื บคุ คลผู้ นา่ เช่อื ถือมาใหก้ ารรบั รอง เสียคำ่ ธรรมเนียม 20 บำท 30
4.6 กรณีเปล่ยี นช่อื ตัวหรอื ช่อื สกุลแลว้ ตอ้ งเปล่ียนบตั ร ประชำชน ตอ้ งทำยงั ไง เมอ่ื ผถู้ ือบตั รเปล่ยี นชอ่ื ตวั /ชอ่ื สกลุ ต้องเปล่ยี นบตั รภายใน 60 วัน นบั แตว่ นั ที่แกไ้ ขช่อื ตวั ชื่อสกุล ในทะเบียนบ้าน หากพ้นกาหนด จะต้องเสยี ค่าปรบั ไมเ่ กนิ 100 บาท เอกสำรทต่ี ้องใชท้ ำบตั รประชำชน กรณเี ปล่ยี นชื่อ-สกลุ 1. บัตรประจาตวั ประชาชนเดิมท่ตี อ้ งการเปล่ยี น 2. หลกั ฐานการเปล่ียนชอ่ื ตัวหรอื ชอ่ื สกลุ แลว้ แต่กรณี เสยี ค่ำธรรมเนยี ม 20 บำท 4.7 กรณบี ัตรเดมิ ชำรดุ ในสำระสำคญั บัตรถูกทำลำย ตอ้ งทำยงั ไง หากบัตรเดิมชารุดในสาระสาคญั บัตรถกู ทาลาย เชน่ บัตรถูกไฟ ไหม้บางส่วน บตั รชารดุ เลอะเลอื น เป็นตน้ ต้องเปลยี่ นบตั รภายใน 60 วัน นับแต่วนั ทบี่ ัตรเดิมชารุดหรอื ถกู ทาลาย หากพน้ กาหนดจะตอ้ งเสยี ค่าปรับไมเ่ กนิ 100 บาท เอกสำรท่ีต้องใช้ทำบัตรประชำชน กรณีบัตรเดิมชำรุด 1.บตั รประจาตวั ประชาชนเดมิ ทช่ี ารุดหรอื ถกู ทาลาย 2. เอกสารทีม่ รี ปู ถ่ายของผู้ขอมบี ตั รใหมท่ ่ที างราชการออกให้ เชน่ ใบอนุญาตขับขี่ หลักฐานการศกึ ษา หรอื หนงั สือเดนิ ทาง เปน็ ต้น 3. หากไมม่ ีเอกสารตามขอ้ 2 ให้นาเจา้ บ้านหรือบคุ คลผู้ นา่ เช่อื ถือมาให้การรับรอง เสียค่ำธรรมเนียม 20 บำท 31
4.8 กรณผี ถู้ อื บัตรยำ้ ยท่อี ยู่ เพอ่ื ให้รายการทอี่ ยูท่ ปี่ รากฏในบัตรประจาตวั ประชาชนตรงกบั รายการในทะเบียนบ้านผถู้ ือบัตรผูใ้ ดยา้ ยทอ่ี ยจู่ ะขอเปล่ียนบัตรโดยทบี่ ตั ร เดมิ ยงั ไมห่ มดอายสุ ามารถทาได้แตห่ ากไม่ขอเปล่ยี นบัตรกส็ ามารถใช้บตั ร นัน้ ได้ต่อไปจนกว่าบัตรจะหมดอายุ เอกสำรทต่ี ้องใช้ทำบัตรประชำชน กรณผี ู้ถอื บตั รย้ำยท่อี ยู่ 1.บัตรประจาตวั ประชาชนเดมิ เสยี ค่ำธรรมเนียม 20 บำท 4.9 กำรขอมีบตั รกรณเี ปน็ บคุ คลไดร้ บั กำรเพิ่มช่ือในทะเบยี น บ้ำน ตอ้ งยื่นขอมีบัตรประจาตัวประชาชนภายใน 60 วัน นบั แต่วันที่ เพิ่มช่อื ในทะเบียนบา้ น หากพ้นกาหนดมีโทษปรับไม่เกนิ 100 บาท เอกสำรท่ตี ้องใช้ทำบัตรประชำชน กรณเี ปน็ บุคคลไดร้ บั กำรเพม่ิ ชอื่ ใน ทะเบยี นบำ้ น 1. เพมิ่ ชือ่ กรณแี จง้ เกิดเกนิ กาหนด ใช้หลักฐานสูตบิ ตั ร และ สอบสวนเจา้ บา้ นหรอื บุคคลนา่ เชือ่ ถอื 2. เพม่ิ ช่อื กรณชี ื่อตกสารวจให้สาเนาทะเบยี นบา้ นทีผ่ นู้ ้นั เคยมีช่ือ อยกู่ ่อน หลกั ฐานการเพ่มิ ชื่อหรอื หลกั ฐานที่ทางราชการออกให้ และ สอบสวนเจา้ บา้ นหรือบคุ คลผนู้ ่าเชือ่ ถือ ไม่เสยี ค่ำธรรมเนยี ม 32
4.10 สถำนท่ีแจง้ การทาบตั รประชาชน สามารถไปติดตอ่ ณ สถานทรี่ าชการ เชน่ สานักงานเขต, สานักงานเทศบาล, สานักบริหารการทะเบยี น กรมการปกครอง, ทีว่ ่าการอาเภอในพื้นท่ีทอ่ี าศัยอยู่ ปจั จบุ ันสามารถทาบตั รประชาชนนอกเขตได้ แล้ว โดยย่นื ขอทาบตั รประจาตวั ประชาชนไดท้ ุกจังหวดั ทั่วประเทศ นอกจากน้ี ก็ยังมจี ุดบรกิ ารด่วนมหานคร (BMA Express Service) ที่ เปดิ ใหไ้ ปตดิ ตอ่ ทาบตั รประชาชน ณ สถานีรถไฟฟ้า BTS ในกรงุ เทพฯ (ยกเว้น กรณบี ัตรหาย ไมส่ ามารถติดตอ่ ทาท่ี BTS ได้) ก่อนไปอาเภอ ตอ้ งลงทะเบยี นออนไลน์จองควิ ล่วงหน้าผ่านทางแอป พลเิ คชัน BMAQ หรือทางเวบ็ ไซต์ https://Q-online.bora.dopa.go.th โดยวิธีลงทะเบยี น มดี งั นี้ 1. เขา้ ไปท่ี https://Q-online.bora.dopa.go.th 2. ลงทะเบียนขอรบั บริการล่วงหน้า 3. กรอกเลขทบ่ี ัตรประจาตวั ประชาชน 13 หลกั 4.วนั เดอื น ปี เกิด 5. เบอรโ์ ทร 10 หลกั 33
ใบกจิ กรรมท่ี 1 ข้อมูลทตี่ ้องมใี นบตั รประจำตัว ประชำชน กลมุ่ ท.ี่ ................... สมำชกิ 1……………………………….…. 4………………………………….... 2………………………….......... 5………………………………….... 3…………………………………. 6……………………………………. วสั ดอุ ปุ กรณก์ ล่มุ 1. แผนผงั ข้อมลู บตั รประจาตัวประชาชน 34
ใบกิจกรรมที่ 2 108 คำถำมเกีย่ วกับกำรทำบัตร ประชำชนใหม่ กลุม่ ท.ี่ ................... สมำชกิ 1……………………………….…. 4………………………………….... 2………………………….......... 5………………………………….... 3…………………………………. 6……………………………………. วสั ดุอุปกรณ์กลมุ่ 1. กระดาษบรู๊ฟ 2. ปากกาเคมี 3. ประเด็นทตี่ ้องศกึ ษา ประเดน็ ทต่ี อ้ งศกึ ษา มีดังนี้ 1. คุณสมบตั ขิ องผทู้ ข่ี อมีบัตรประจาตัวประชาชน 2. เอกสารของผู้ทีข่ อมบี ตั รประจาตวั ประชาชน 3. ผ้ทู ่ไี ดร้ บั การยกเว้นไมต่ อ้ งมบี ตั รประจาตัวประชาชน 4. สถานทต่ี ดิ ตอ่ ขอทาบัตรประชาชนใหม่ 5. ข้ันตอนการทาบตั รประชาชนออนไลน์ 6. สถานรี ถไฟฟา้ BTS ท่ีทาบัตรได้ 7. การทาบตั รประชาชนในห้างสรรพสนิ ค้า 35
แบบทดสอบหลงั เรยี น เร่ือง เคารพกตกิ า คาช้แี จง (จงเลอื กคาตอบทถ่ี ูกตอ้ งเพียงข้อเดยี ว) 1. ประเทศไทยมีการจัดทาบัตรประจาตวั ประชาชนครั้งแรกใน พ.ศ. ใด ก. พ.ศ. 2505 ข. พ.ศ. 2500 ค. พ.ศ. 2486 ง. พ.ศ. 2499 2. บตั รประจาตวั ประชาชนที่ทางราชการออกให้ มีอายุการใชง้ านไดน้ านเท่าไร ก. 5 ปี ข. 6 ปี ค. 7 ปี ง. 8 ปี 3. บตั รหมดอายุ สูญหาย หรอื ถกู ทาลายไมไ่ ปแจง้ ทาใหท้ ัน ตามเวลาท่ี กาหนดจะถดู ปรบั เป็นเงินเท่าไร ก. 20 บาท ข. 50 บาท ค. 100 บาท ง. 200 บาท 4. รัตนา เกิดท่จี งั หวดั สโุ ขทยั แต่มีช่ือในทะเบยี นที่จังหวัดพิษณโุ ลก ปัจจุบนั ทางานที่จงั หวัดพิจิตร กรณนี ี้ รัตนา ตอ้ งไปทาบัตรประจาตวั ประชาชนท่ี จังหวัดใด ก. จงั หวัดพิจิตร ข. จงั หวดั สุโขทยั ค. จังหวดั พิษณโุ ลก ง. ได้ทง้ั 3 จงั หวัด 5. บคุ คลในขอ้ ใดทส่ี ามารถมบี ัตรประจาตวั ประชาชนได้ ก. นายกิมฮวย มภี รรยาเป็นคนไทย ข. นายอาคม ดีพรอ้ ม มสี ญั ชาตไิ ทย ค. นายปรีชา ยอดขา มีอาชพี รับซื้อของเก่า ง. นายประกอบ ดีงาม เปน็ คนไทยเกิดในจนี 36
แบบทดสอบหลังเรียน (ต่อ) เรื่อง เคารพกตกิ า คาชแี้ จง (จงเลอื กคาตอบทีถ่ ูกต้องเพยี งขอ้ เดียว) 6. ถ้าบัตรประจาตัวประชาชน หาย ถกู ทาลาย หรือชารดุ หรอื เมอ่ื เปลยี่ น ชอ่ื ตัว – ช่ือสกุล ตอ้ งขอเปลยี่ นบตั รใหมภ่ ายในเวลากี่วนั ก. 60 วนั ข. 80 วนั ค. 90 วัน ง. 100 วัน 7. บคุ คลสญั ชาตไิ ทยอายเุ ท่าใดตอ้ งมบี ัตรประจาตัวประชาชนตามกฎหมาย ก. 15-70 ปี ข. 15-60 ปี ค. 7-70 ปี ง. 6-60 ปี 8. ข้อใดไม่ใชห่ ลักเกณฑข์ องผูท้ จ่ี ะขอมีบตั รประจาตัวประชาชน ก. เปน็ ผูท้ ่ีมีสัญชาตไิ ทย ข. ตอ้ งมีอายคุ รบ 7 ปีบรบิ รู ณ์ ค. ตอ้ งยื่นเรือ่ งขอบตั รประจาตวั ประชาชนภายใน 15 วัน ง. ต้องมีภูมลิ าเนาหรือชื่อในทะเบียนบา้ นในทอ้ งถนิ่ นั้น 9. นายวิชยั กล่นิ เกสร แสดงเอกสารแสดงความเปน็ คนไทยให้เจา้ หนา้ ทีด่ ูจึง พ้นจากขอ้ กล่าวหาวา่ เป็นคนตา่ งด้าว เอกสารฉบบั นัน้ คือข้อใด ก. บตั รชมภาพยนตร์ ข. บตั รพนักงานราชการ ค. บัตร ATM ง. บัตรประจาตัวประชาชน 10. การย่ืนขอทาบตั รประจาตัวประชาชนตอ้ งยนื่ ภายในกี่วนั นับต้ังแต่มอี ายุครบ 15 ปบี ริบรู ณ์ ก. 90 วนั ข. 60 วัน ค. 45 วนั ง. 30 วัน 37
เฉลย แบบทดสอบหลงั เรยี น เรอื่ ง เคารพกตกิ า ขอ้ 1 ค ขอ้ 6 ก ขอ้ 2 ข ข้อ 7 ค ข้อ 3 ค ขอ้ 8 ค ขอ้ 4 ง ข้อ 9 ง ข้อ 5 ข ข้อ 10 ข 38
บรรณำนกุ รม กรงุ เทพมหานคร. 2564. วิวัฒนาการบตั รประจาตัวประชาชน. สบื ค้นเมื่อ 12 พฤษภาคม 2654 จาก https://stat.bora.dopa.go.th/card/card.htm สานกั งานพัฒนารัฐบาลดิจทิ ัล. 2557. องค์ความรภู้ าครฐั . สบื ค้นเม่ือ 12 พฤษภาคม 2654 จาก https://www.egov.go.th/th/content/817/79/ สานักงานเขตวฒั นา. 2564. การทาบัตรประชาชนใหม่. สบื คน้ เมอื่ 12 พฤษภาคม 2564 จาก https://www.sanook.com/campus/1404076/ 39
1
คำนำ ชุดการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปญั หาเปน็ ฐานแบบมสี ่วนรว่ ม เรือ่ ง พลเมืองดีในระบอบ ประชาธิปไตย สาหรบั นกั เรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 โรงเรียนกะเปอรว์ ิทยา จังหวัดระนอง ได้ พัฒนาขนึ้ เพือ่ พฒั นาคุณสมบตั ิของพลเมอื งตามระบอบประชาธิปไตย โดยใช้ข้ันตอนการจดั การ เรียนรูโ้ ดยใช้ปัญหาเปน็ ฐานของสานักงานมาตรฐานการศกึ ษาและพฒั นาการเรียนรู้ (2550 : 8) ได้แบง่ ขนั้ ตอนการจดั การเรียนรแู้ บบใชป้ ัญหาเป็นฐานไว้ ดงั น้ี ขน้ั ท่ี 1 เชือ่ มโยงปัญหาและระบปุ ัญหา เปน็ ข้นั ทค่ี รูนาเสนอสถานการณป์ ญั หา เพื่อกระตนุ้ ใหน้ ักเรียนเกิดความสนใจและมองเห็นปญั หา สามารถระบุสิ่งทเ่ี ปน็ ปญั หาที่นกั เรยี น อยากรอู้ ยากเรยี นและเกดิ ความสนใจที่จะค้นหาคาตอบ ข้นั ท่ี 2 กาหนดแนวทางที่เป็นไปได้ นกั เรียนแต่ละกลุ่มวางแผนการศกึ ษา คน้ ควา้ ทาความเข้าใจ อภิปรายปญั หา ระดมสมอง คดิ วิเคราะห์ เพอ่ื หาวธิ ีการหาคาตอบ ครูคอย ช่วยเหลอื กระตุน้ ใหเ้ กิดการอภปิ รายในกลมุ่ ใหน้ ักเรียนเขา้ ใจวิเคราะหป์ ญั หาแหล่งขอ้ มลู ขน้ั ที่ 3 ดาเนินการศึกษาคน้ ควา้ นกั เรยี นกาหนดสิง่ ทตี่ ้องเรยี น ดาเนินการศึกษา คน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง ดว้ ยวธิ กี ารหลากหลาย ขนั้ ที่ 4 สงั เคราะห์ความรู้ นกั เรยี นนาขอ้ คน้ พบ ความรู้ท่ีไดค้ น้ ควา้ มาแลกเปลยี่ น เรียนรรู้ ว่ มกัน อภิปรายผลและสงั เคราะหค์ วามรู้ทีไ่ ด้มาว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ขน้ั ท่ี 5 สรปุ และประเมนิ คา่ ของคาตอบ นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ สรปุ ผลงานของกลุม่ ตนเอง และประเมินผลงานวา่ ข้อมูลที่ศึกษาคน้ ควา้ มีความเหมาะสมหรอื ไมเ่ พียงใด โดย พยายามตรวจสอบแนวคิดภายในกล่มุ ของตนเองอยา่ งอสิ ระ ทุกกลมุ่ ช่วยกันสรุปองคค์ วามรใู้ น ภาพรวมของปัญหาอีกครั้ง ขั้นท่ี 6 นาเสนอและประเมนิ ผลงาน นกั เรยี นนาขอ้ มลู ท่ไี ดม้ าจดั ระบบองค์ความรู้ และนาเสนอเป็นผลงานในรูปแบบที่หลากหลาย ครปู ระเมนิ ผลการเรียนรู้และทกั ษะกระบวนการ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูโ้ ดยใช้ปญั หาเป็นฐาน เรอื่ ง พลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตย สาหรบั นกั เรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 มีทั้งหมด จานวน 3 ชดุ ได้แก่ ชุดที่ 1 เคารพกตกิ า ชุดที่ 2 คนเทา่ เทยี ม ชดุ ที่ 3 รบั ผิดชอบต่อสังคม ผจู้ ดั ทาหวงั ว่าชดุ กิจการจดั การเรียนรู้โดยใชป้ ญั หาเปน็ ฐานชดุ น้ี จะเป็นรปู แบบการ สอนที่จะกอ่ ให้เกิดการพัฒนาคุณสมบตั ิของพลเมอื งตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจะเป็น ประโยชน์ต่อการศกึ ษาในระดับสูงต่อไป ของผ้เู รยี นและนาขอ้ คิดไปประยกุ ต์ใช้ในการดาเนนิ ชวี ิต ได้อยา่ งเหมาะสม พติ ยิ ันต์ รักษ์พงศ์ 2
สำรบัญ หนำ้ 2 เรือ่ ง 3 คานา 4 สารบญั 5 แผนผงั แสดงขัน้ ตอนการศกึ ษาชุดการจัดการเรียนรู้ 6 คาชแี้ จงสาหรับชดุ การจัดการเรียนรู้ 7 คาแนะนาสาหรบั ครู 13 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 15 แบบบันทกึ การศกึ ษาคน้ คว้าและการแก้ปัญหา 16 คาแนะนาสาหรับนักเรียน 17 บตั รคาส่งั 19 แบบทดสอบก่อนเรียน 20 เฉลย แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 38 ใบความร้ทู ่ี 1 39 ใบกิจกรรมที่ 1 สิทธิ เสรีภาพตามรฐั ธรรมนญู 40 ใบกิจกรรมท่ี 2 กระดานสิทธิ์ 42 แบบทดสอบหลงั เรยี น 43 เฉลย แบบทดสอบหลงั เรียน บรรณานกุ รม 3
แผนผังแสดงข้นั ตอนกำรศึกษำชดุ กำรจัดกำรเรยี นรู้ ดังน้ี อ่ำนคำช้ีแจง และคำแนะนำ ศกึ ษำสำระสำคญั ศกึ ษำจดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ ทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ศึกษำบัตรคำสง่ั บัตรเนื้อหำ และบัตรแบบฝกึ หดั ทำแบบทดสอบหลังเรียน ผำ่ นเกณฑ์ ไมผ่ ำ่ นเกณฑ์ ศึกษำชุดกำรจดั กำรเรยี นรูช้ ดุ ต่อไป 4
คำชี้แจงสำหรับชุดกำรจดั กำรเรียนรู้ 1. เอกสารชุดนเ้ี ปน็ ชดุ การจดั การเรียนรู้โดยใช้ปญั หาเปน็ ฐานแบบมีส่วน ร่วม เรอ่ื ง พลเมอื งดีในระบอบประชาธปิ ไตย สาหรับนกั เรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 โรงเรียนกะเปอร์วทิ ยา จังหวัดระนอง เล่มท่ี 2 เรอ่ื ง คนเทา่ เทยี ม 2. ชดุ การจดั การเรียนรชู้ ุดน้ี ประกอบด้วย - คาชแี้ จงเกี่ยวกบั ชดุ การจดั การเรยี นรู้ - คาแนะนาสาหรับครู - คาแนะนาสาหรับนักเรียน - แผนผงั แสดงขั้นตอนการศึกษาชุดการจัดการเรยี นรู้ - มาตรฐานการเรยี นรู้ และตัวชว้ี ดั - สาระสาคญั / จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น - กระดาษแบบทดสอบกอ่ นเรยี น - บัตรเนอ้ื หา - บตั รแบบฝึกหัด - แบบทดสอบหลงั เรียน - กระดาษแบบทดสอบหลังเรียน - เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน - เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น - บัตรเฉลยแบบฝึกหดั 3. ชุดการจดั การเรียนรู้ ชุดน้ใี ชเ้ วลาในการเรยี น 2 ช่ัวโมง 5
คำแนะนำสำหรบั ครู คู่มอื สาหรับครู ประกอบการใชช้ ุดการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปญั หาเปน็ ฐานแบบมีส่วน รว่ ม เรอื่ ง พลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตย สาหรับนกั เรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 โรงเรียน กะเปอรว์ ิทยา จังหวดั ระนอง บทบำทของครผู ู้สอน ครูผสู้ อนเตรียมตวั ให้พร้อมโดยศกึ ษาละเอียดเกย่ี วกับการใช้ชุดการจัดการเรียนรู้ การ จดั ชน้ั เรยี น และการเตรยี มส่อื การเรียนรทู้ ่ใี ชป้ ระกอบการจดั การเรยี นรู้ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ครูจะตอ้ งจดั กจิ กรรมใหเ้ ขาตามท่ีระบไุ วใ้ นแผนการจดั การ เรียนรู้ เพอ่ื ใหก้ ิจกรรมเปน็ ไปอยา่ งตอ่ เน่ืองและบรรลจุ ุดประสงค์ กอ่ นทากจิ กรรมทุกคร้ัง ครตู ้องใหน้ ักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน เพอ่ื ใชส้ าหรบั ประเมินผลการเรยี นรู้ ครจู ะต้องอธบิ าย ชแ้ี จงวธิ ีปฏบิ ตั ิกิจกรรมให้ชัดเจนเพื่อให้นกั เรียนเข้าใจตรงกนั จึง จะทาใหก้ ารจัดกิจกรรมการเรียนรบู้ รรลเุ ป้าหมายและมีประสทิ ธภิ าพ ครูควรเน้นให้นกั เรยี นทกุ คนมีส่วนรว่ มในการปฏบิ ัติกจิ กรรมเพือ่ เปน็ การใหน้ ักเรียน รจู้ กั การทางานร่วมกัน ช่วยเหลือซงึ่ กันและกัน รับผิดชอบต่อหนา้ ทแ่ี ละกล้าแสดงออก ขณะดาเนินกิจกรรมและก่อนส้ินสุดกิจกรรม ครูต้องสังเกตกระบวนการทางานกลุ่ม ของนักเรยี นแตล่ ะกล่มุ และบันทกึ ผลในแบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ ของนักเรียน หลังจากการจัดกจิ กรรมการเรยี นรเู้ สร็จสน้ิ ลงในแตล่ ะชดุ การจดั การเรียนรู้ ครเู ป็นผู้ ประเมนิ ผลการเรียนของนกั เรียนโดยใหน้ กั เรียนทาแบบฝกึ หดั สิ่งทค่ี รตู ้องเตรยี ม 1. แผนการจดั การเรยี นรู้ 2. ส่ือการเรยี นร้ทู ่ีใช้ในกจิ กรรม 3. ใบความรู้ 4. ใบกิจกรรม 5. แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น 6. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ ของนักเรียน 7. แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ กำรประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้ 1. ประเมนิ ผลด้านความรู้ 2. ประเมินผลดา้ นทกั ษะการทางานกลุ่ม 3. ประเมินผลด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 6
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ 2 แผนการจดั การเรยี นรโู้ ดยใชป้ ัญหาเปน็ ฐาน รายวิชาหน้าทีพ่ ลเมืองฯ กลุ่มสาระการเรียนร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 เร่ือง คนเท่าเทยี ม เวลา 2 ช่วั โมง 1. ชอ่ื เรอ่ื ง คนเท่ำเทยี ม 2. เปำ้ หมำยกำรเรยี นรู้ 2.1 มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ สาระที่ 2 หนา้ ทพ่ี ลเมือง วฒั นธรรม และการดาเนนิ ชวี ิต มาตรฐาน ส 2.1 ปฏบิ ัติตนตามหนา้ ทข่ี องการเปน็ พลเมืองดี ตาม กฎหมาย ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชีวิตอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมไทย และ สงั คมโลกอย่างสันตสิ ขุ 2.2 ผลกำรเรยี นรู้ 6) ปฏบิ ัตติ นเปน็ พลเมืองดีตามวถิ ีประชาธปิ ไตย 2.3 จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ ด้ำนควำมรู้ (K) 1. นกั เรียนสามารถอธบิ ายการปฏิบัติตนตามสทิ ธิเสรีภาพและหนา้ ท่ี ตามรัฐธรรมนูญได้ ด้ำนทกั ษะกระบวนกำร (P) นักเรียนมี 1. ทักษะกระบวนการทางานกลมุ่ ดำ้ นคุณธรรมลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) นักเรยี นมี ซือ่ สัตยส์ จุ รติ มวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน 7
แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ 2 แผนการจัดการเรยี นรโู้ ดยใชป้ ัญหาเปน็ ฐาน รายวชิ าหนา้ ทพี่ ลเมืองฯ กลุม่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 เรอื่ ง คนเทา่ เทยี ม เวลา 2 ช่วั โมง 3. สำระสำคญั รฐั ธรรมนญู เป็นกฎหมายสงู สุดในการปกครองประเทศการปฏบิ ัตติ าม บทบญั ญตั ขิ องรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทยฉบบั ปัจจุบนั เก่ยี วกบั สทิ ธเิ สรภี าพ และหน้าท่ีนน้ั ตอ้ งไมก่ ระทบกระเทือนหรือเปน็ อนั ตรายตอ่ ความม่นั คงของรฐั ความ สงบเรยี บร้อยหรอื ศลี ธรรมอันดขี องประชาชนและต้องไมล่ ะเมดิ สทิ ธิเสรีภาพของ ผู้อื่น 4. สำระกำรเรียนรู้ การดาเนนิ ชวี ิตตามวถิ ีประชาธิปไตย 5. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ ช่ัวโมงท่ี 1 5.1 ขัน้ กำหนดปญั หำ 1. ครูพดู คยุ และซกั ถามนักเรียนเกี่ยวกบั สิทธขิ องนกั เรยี นมอี ะไรบา้ ง โดยครูอาจใชค้ าถามตอ่ ไปนี้ - นักเรียนมสี ิทธใิ นโรงเรยี นอะไรบ้าง - แลว้ สทิ ธมิ คี วามสาคัญอย่างไรกับการใชช้ ีวติ ของนกั เรยี นอยา่ งไร 2. นกั เรยี นช่วยกนั อภิปรายและแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับสทิ ธิ เสรีภาพ 3. ให้นักเรยี นแบ่งกล่มุ กลมุ่ ละ 5 คน 8
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 2 แผนการจดั การเรยี นรู้โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน รายวิชาหนา้ ทพ่ี ลเมืองฯ กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 เร่ือง คนเทา่ เทยี ม เวลา 2 ชว่ั โมง 4. ครูใชค้ าถามเพือ่ ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกันแสดงความคิดเห็น ดงั น้ี - สิทธิ เสรภี าพ และหน้าที่ของปวงชนชาวไทยถูกบัญญัตไิ ว้ หรือตราเปน็ กฎหมายไว้ เราจะสามารถศกึ ษาไดจ้ ากกฎหมายฉบบั ใด หมวดใด (แนวตอบ รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย หมวด 3 และหมวด 4) - การลงโทษหรอื ทาร้ายรา่ งกายนักเรยี นเป็นสิ่งที่ควรเกดิ ข้ึนในโรงเรียน หรอื ไม่ เพราะเหตุใด (แนวการตอบ ไม่ควร เพราะนักเรยี นก็มีสทิ ธิ เสรีภาพ ควรให้ ความสาคญั กบั คณุ คา่ และศักดศ์ิ รีความเป็นมนุษย์) - นกั เรียนคิดว่าสทิ ธิเหมือนหรอื แตกตา่ งกนั เสรีภาพ และสทิ ธคิ วร ประกอบดว้ ยสิทธอิ ะไรบา้ ง (แนวการตอบ สทิ ธิในชวี ิตและรา่ งกาย สิทธิไดร้ ับบรกิ าร สาธารณสขุ สทิ ธขิ องประชาชนในการรบั รู้ข้อมลู ขา่ วสาร สทิ ธใิ นการรอ้ งทกุ ขต์ ่อหน่วยงาน ของรฐั เสรภี าพในการชมุ นุม เสรภี าพในการนับถอื ศาสนา สิทธิของผู้บริโภค สทิ ธขิ อง ผูส้ งู อายุ ชายและหญงิ มีสิทธเิ์ ท่าเทียมกัน) 5.2 ข้นั ทำควำมเขำ้ ใจกบั ปญั หำ 5. นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ร่วมกนั อภปิ รายประเด็นปัญหาทต่ี ั้งข้ึนวา่ มีประเด็นใดบา้ งท่ี นา่ สนใจและหาคาตอบไดจ้ ากท่ีใด โดยวธิ กี ารใด 6. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั วางแผนการดาเนินการศึกษาค้นควา้ ตามประเด็น ปัญหาทคี่ รูต้ังขึ้นและประเดน็ ปญั หาอืน่ ที่ตอ้ งการศึกษา 5.3 ขน้ั กำรดำเนนิ กำรศึกษำคน้ ควำ้ 7. ตัวแทนกลุม่ ออกมารับใบความรทู้ ี่ 1 เรอื่ ง คนเทา่ เทยี ม 8. ดาเนินการศกึ ษาค้นคว้าตามประเดน็ ท่ีต้องการเช่น ความสาคญั ของสิทธิ เสรภี าพ และหนา้ ทข่ี องปวงชนชาวไทย รวมถึงประเด็นอ่ืนๆที่นกั เรียนต้องการศกึ ษาจากใบ ความรทู้ ี่ 1 9. นักเรียนบนั ทกึ ข้อมลู และผลการดาเนินการศกึ ษาค้นควา้ ลงแบบบันทึกข้อมลู การศกึ ษาค้นควา้ 9
แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี 2 แผนการจัดการเรียนรโู้ ดยใช้ปญั หาเปน็ ฐาน รายวชิ าหนา้ ทพ่ี ลเมอื งฯ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 เรอ่ื ง คนเทา่ เทียม เวลา 2 ชวั่ โมง ชว่ั โมงที่ 2 5.4 ขน้ั สงั เครำะห์ควำมรู้ 10. นกั เรียนแตล่ ะคนนาข้อมูลทไี่ ดจ้ ากการศึกษาค้นควา้ มาแลกเปล่ียนเรยี นรู้กัน ในกล่มุ 11. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั คิดพจิ ารณาต่อไปวา่ ความรทู้ ี่ได้มามีความถูกต้อง สมบูรณ์และครบถว้ นตามประเด็นท่ีตอ้ งการศึกษาแลว้ หรือยังถ้าข้อมลู ยังไม่เพียงพอให้ ร่วมกันอภิปรายไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ เพ่มิ เติม 12. เมื่อไดข้ ้อมลู ที่เพยี งพอแล้วใหน้ กั เรียนทาใบกจิ กรรมท่ี 1 เรอื่ ง สทิ ธิ เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ และใบกิจกรรมท่ี 2 เรอ่ื ง กระดานสิทธ์ิ 5.5 ข้นั สรุปและประเมินคำ่ ของคำตอบ 13. ทกุ คนรว่ มกนั นาเสนอข้อมลู ท่ีสังเคราะห์ได้และร่วมกันอภิปรายวา่ ข้อมูลของ แตล่ ะกลุม่ ท่ไี ด้ศึกษาคน้ ควา้ มาครบถว้ นถกู ต้องสมบูรณ์หรอื ไม่ โดยครผู ู้สอนชว่ ยตรวจสอบ และแนะนาเพ่มิ เติม 14. นกั เรียนทุกคนชว่ ยกันสรปุ องค์ความรู้ในภาพรวมของปัญหาอีกคร้ัง 5.6 ขั้นนำเสนอและประเมินผลงำน 15. ให้นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ร่วมการออกแบบการสรุปผลการดาเนินการศึกษา ค้นคว้าของกลมุ่ เพือ่ นาเสนอหนา้ ชน้ั เรียนตามรูปแบบทน่ี กั เรยี นสนใจ 16. ครูผ้สู อนสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่มระหว่างการทากจิ กรรมของนักเรียน 17. ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนกลุ่มออกมานาเสนอผลการดาเนินการศึกษา ค้นควา้ หนา้ ชั้นเรยี น 18. ครูผสู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่มก่อนส้ินสุดกจิ กรรม และประเมิน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคข์ องนักเรียน 10
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 2 แผนการจดั การเรยี นรโู้ ดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน รายวชิ าหน้าทพ่ี ลเมืองฯ กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 เรอ่ื ง คนเทา่ เทยี ม เวลา 2 ช่วั โมง 6. สอ่ื /อุปกรณ์/แหลง่ เรยี นรู้ 6.1 ใบความรูท้ ่ี 1 เรอ่ื ง คนเทา่ เทียม 6.2 ใบกจิ กรรมที่ 1 เร่อื ง สิทธิ เสรีภาพตามรฐั ธรรมนูญ 6.3 ใบกจิ กรรมที่ 2 เรอื่ ง กระดานสิทธิ 6.4 แบบทดสอบก่อนเรยี น-หลงั เรยี น เรอื่ ง คนเท่าเทยี ม 7. กำรวดั ผลและประเมนิ ผล ส่งิ ที่วัด วธิ กี ำรวดั เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ำรวดั ด้านความรู้ ทดสอบ ผ่านรอ้ ยละ 80 ดา้ นทกั ษะ แบบทดสอบ เรอื่ ง สังเกตพฤตกิ รรม คนเทา่ เทียม เปอรเ์ ซ็นต์ ด้านคุณลกั ษณะอัน ประเมนิ ทักษะ ผา่ นระดบั ดี ขึ้นไป พึงประสงค์ กระบวนการ แบบสงั เกต พฤติกรรมการ ผ่านระดับ ดี ขึน้ ไป สงั เกตพฤตกิ รรม ทางานกลุ่มของ นกั เรยี น แบบประเมิน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 11
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115