แนวข้อสอบ เรื่อง ระบบเศรษฐกิจและกลไกราคา

1 หน่วยที่ 1 ระบบเศรษฐกจิ และกลไกรำคำ จงวง  ล้อมรอบตวั อกั ษร ก, ข, ค หรือ ง ทเ่ี ป็ นคำตอบทถ่ี ูกต้อง 1. ระบบเศรษฐกจิ แบบใดทร่ี ัฐเข้ำควบคุมกำรจัดสรรทรัพยำกรและกำหนดรำคำ หรือผลตอบแทนของ กำรแลกเปลย่ี นสินค้ำและบริกำร ก. ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม ข. ระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม ค. ระบบเศรษฐกิจแบบผสม ง. ระบบเศรษฐกิจแบบสงั คมนิยม 2. ในระบบเศรษฐกจิ ของประเทศไทย ผู้ทม่ี บี ทบำทในกำรดำเนินกจิ กรรมทำงเศรษฐกจิ มำกทสี่ ุด คือ หน่วยงำนใด ก. เอกชน ข. รัฐบาล ค. รัฐวสิ าหกิจ ง. องคก์ รระหวา่ งประเทศ 3. ประเทศไทยใช้ระบบเศรษฐกิจแบบใด ข. ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม ก. ระบบเศรษฐกิจแบบผสม ง. ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม ค. ระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม 4. ข้อใดเป็ นข้อเสียของระบบเศรษฐกจิ แบบทุนนิยม ก. ขาดแรงจูงใจในการทางาน ข. เกิดความไมเ่ ทา่ เทียมกนั ในดา้ นการกระจายรายได้ ค. เกิดความเหลื่อมล้าระหวา่ งภาคเอกชนกบั ภาครัฐบาล ง. ทาใหก้ ารทางานเกิดความล่าชา้ และไม่สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการ 5. ระบบเศรษฐกจิ แบบผสมมลี กั ษณะอย่ำงไร ก. เอกชนมีสิทธิดาเนินการผลิตและการทางานของกลไกราคา ข. การจดั สรรทรัพยากรระหวา่ งรัฐและเอกชนอยา่ งละเทา่ ๆ กนั ค. รัฐเป็ นผวู้ างแผนปัจจยั การผลิตและการทางานของกลไกราคา ง. รัฐควบคุมกิจการบางอยา่ งที่เกี่ยวกบั สาธารณูปโภค เอกชนมีเสรีภาพในการดาเนินธุรกิจ 6. เพรำะเหตุใดระบบเศรษฐกจิ ของประเทศไทยจึงมกี ำรควบคุมจำกรัฐ ก. เพ่ือป้องกนั การแขง่ ขนั ข. เพอื่ ควบคุมประโยชน์ส่วนรวม ค. เพ่อื สร้างความมนั่ คงใหก้ บั ประเทศ ง. เพอื่ ใหไ้ ดป้ ริมาณสินคา้ ท่ีเพียงพอต่อความตอ้ งการ

7. ข้อใดกล่ำวถูกต้องทส่ี ุด 2 ก. เป้าหมายหลกั ของหน่วยผลิต คือ ผลิตสินคา้ ใหม้ ีคุณภาพดีที่สุด ข. เป้าหมายหลกั ของหน่วยครัวเรือน คือ การแสวงหาความพอใจสูงสุด ค. เป้าหมายหลกั ของหน่วยรัฐบาล คือ ใหร้ ัฐบาลเกิดความมน่ั คงมากท่ีสุด ง. เป้าหมายหลกั ของหน่วยเศรษฐกิจ คือ สร้างหน่วยเศรษฐกิจเล็กๆ หลายหน่วยรวมกนั 8. หน่วยครัวเรือนทำหน้ำทอี่ ะไรในวงจรเศรษฐกจิ ก. ใหเ้ ทคโนโลยแี ก่หน่วยผลิต ข. ใหป้ ัจจยั การผลิตแก่หน่วยผลิต ค. ใหส้ ินคา้ และบริการแก่หน่วยผลิต ง. ใหป้ ัจจยั การผลิตและเป็ นเจา้ ของปัจจยั การผลิต 9. กำรดำเนินกจิ กำรทำงเศรษฐกจิ ผู้ประกอบกำรต้องคำนึงถึงปัญหำตำมข้อใด ก. ตดั สินใจผลิตสินคา้ อะไร ผลิตท่ีไหน เพ่ือใคร ข. กลุ่มลูกคา้ เพอ่ื ใครเร่ิมผลิตเม่ือใด และไดร้ ับประโยชน์เท่าใด ค. จดั สรรทรัพยากรในการผลิตอยา่ งไร ผลิตอยา่ งไรและผลิตเพอื่ ใคร ง. เลือกกรรมวธิ ีการผลิตอยา่ งไร ปริมาณมากนอ้ ยเทา่ ใด และผลิตสถานท่ีใด 10. ข้อใดต่อไปนีส้ อดคล้องกบั กลไกรำคำมำกทสี่ ุด ก. ผลิตอะไร ผลิตเท่าใด ผลิตเม่ือใด ข. ผลิตอะไร ผลิตอยา่ งไร ผลิตเม่ือใด ค. ผลิตอะไร ผลิตอยา่ งไร ผลิตเทา่ ใด ง. ผลิตอะไร ผลิตอยา่ งไร ผลิตเพ่ือใคร 11. ข้อควำมใดเป็ นไปตำมกฎของอุปสงค์ ก. ถา้ เคร่ืองด่ืมน้าผลไมร้ วมราคาสูงข้ึน จานวนผบู้ ริโภคจะมากข้ึน ข. ถา้ เคร่ืองด่ืมน้าผลไมร้ วมราคาลดต่าลง จานวนผบู้ ริโภคจะลดนอ้ ยลง ค. ถา้ เครื่องด่ืมน้าผลไมร้ วมมีราคาลดต่าลง ผบู้ ริโภคจะซ้ือเครื่องด่ืมน้าผลไมร้ วมมากข้ึน ง. ถา้ เครื่องดื่มน้าผลไมร้ วมมีราคาสูงข้ึน ผบู้ ริโภคจะซ้ือเคร่ืองด่ืมน้าผลไมร้ วมมากข้ึน 12. ข้อใดเป็ นไปตำมกฎของอุปทำน ก. ผผู้ ลิตจะผลิตสินคา้ เพิ่มข้ึน ถา้ ราคาสินคา้ สูงข้ึน ข. ผผู้ ลิตจะผลิตสินคา้ เพ่มิ ข้ึน ถา้ ราคาปัจจยั การผลิตลดลง ค. ผผู้ ลิตจะผลิตสินคา้ ลดลง ถา้ ผบู้ ริโภคมีความตอ้ งการสูงข้ึน ง. ผผู้ ลิตจะผลิตสินคา้ เพ่ิมข้ึน ถา้ ผบู้ ริโภคมีความตอ้ งการสูงข้ึน

13. สินค้ำหรือบริกำรชนิดใดชนิดหนึ่งทผ่ี ู้ขำยต้องกำรหรือเต็มใจจะขำย ณ ระดบั รำคำหนึ่งๆ น้ันเป็ น 3 ข้อควำมทบี่ ่งบอกเร่ืองอะไร ก. อุปสงค์ ข. อุปทาน ค. อุปสงคส์ ินคา้ เฉพาะอยา่ ง ง. ผขู้ ายพอใจจะขายใหแ้ ก่ผซู้ ้ือ เมื่อตกลงราคาซ้ือขายกนั แลว้ 14. ในกรณที สี่ ินค้ำทข่ี ำยรำคำสูงขึน้ จะทำให้ผู้ขำยเตม็ ใจจะขำยสินค้ำในปริมำณมำกขึน้ เป็ นกำรกล่ำวที่ เกย่ี วข้องกบั ข้อใด ก. กฎของอุปทาน ข. กฎของอุปสงค์ ค. กฎธรรมชาติ ง. ผขู้ ายไดร้ าคาดีจึงขายมากข้ึน 15. ถ้ำปริมำณควำมต้องกำรหรือปริมำณอุปสงค์ต่อสินค้ำในตลำดมมี ำกเกนิ กว่ำปริมำณสินค้ำทผี่ ู้ผลติ ยนิ ดีจะขำยให้จะมีผลในข้อใด ก. ราคาสินคา้ จะตรึงอยใู่ นระดบั เดิม ข. ราคาสินคา้ มีแนวโนม้ จะปรับตวั ลดลง ค. ราคาสินคา้ มีแนวโนม้ จะปรับตวั สูงข้ึน ง. ราคาสินคา้ จะปรับตวั ข้ึนๆ ลงๆ ไม่แน่นอน 16. ปี นีผ้ ลผลติ ลองกองออกสู่ท้องตลำดมำกกว่ำทุกปี แต่ผู้ซื้อลองกองมีควำมต้องกำรลองกองเท่ำเดิม ผล ทเี่ กดิ ขนึ้ จะเป็ นอย่ำงไร ก. ราคาลองกองถูกลง ข. ราคาลองกองเทา่ เดิม ค. ราคาลองกองแพงข้ึน ง. ราคาลองกองแพงข้ึนกวา่ เดิม 17. เม่ือปริมำณอุปสงค์และปริมำณอปุ ทำนเท่ำกัน รำคำสินคำจะมลี กั ษณะเช่นใด ก. ราคาสินคา้ ถูกลง ข. ราคาสินคา้ แพงข้ึน ค. ราคาสินคา้ จะอยนู่ ่ิง ง. ราคาสินคา้ แปรปรวนไมแ่ น่นอน 18. ปริมำณอุปสงค์ต่อสินค้ำใดๆ มกั มคี วำมสัมพนั ธ์กบั รำคำของสินค้ำน้ันในลกั ษณะใด ก. ทิศทางเดียวกนั ข. ทางตรงกนั ขา้ ม ค. ทางใกลเ้ คียงกนั ง. แปรปรวนตามปัจจยั เส่ียง 19. รำคำดุลยภำพ หมำยควำมว่ำอย่ำงไร ก. ระดบั ราคาสินคา้ ท่ีอยใู่ นระดบั ทว่ั ไป ข. ระดบั ราคาสินคา้ ที่ปริมาณอุปสงคเ์ ท่ากบั ปริมาณอุปทาน ค. ระดบั ราคาสินคา้ ท่ีปริมาณอุปสงคน์ อ้ ยกวา่ ปริมาณอุปทาน ง. ระดบั ราคาสินคา้ ท่ีปริมาณอุปสงคม์ ากกวา่ ปริมาณอุปทาน

20. ระดับปริมำณสินค้ำ ณ ระดับรำคำดุลยภำพเรียกว่ำอะไร 4 ก. สมดุล ข. ดุลยภาพ ค. กลไกราคา ง. ปริมาณดุลยภาพ ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็ 20

5 1. ง 2. ก 3. ก 4. ข 5. ง 6. ข 7. ก 8. ง 9. ก 10. ง 11. ง 12. ก 13. ข 14. ก 15. ค 16. ก 17. ค 18. ข 19. ข 20. ง