Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ผลการศึกษาการประกันคุณภาพการศึกษา

ผลการศึกษาการประกันคุณภาพการศึกษา

Published by georgepitiyan, 2021-09-10 09:22:20

Description: ผลการศึกษาการประกันคุณภาพการศึกษา นำเสนอต่อ ดร.ละมุล รอดขวัญ อาจารย์ผู้สอนรายวิชา EAD 614 การประกันคุณภาพการศึกษา สาขาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์และสังคมศาสตร์ วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคใต้

Search

Read the Text Version

วารมสหาารวิกทายราบ ัลริยหราารชกภัาฏรสศึกกลษนาแครละภาวะผู้ ํนาวารสารการบริหารการศกึ ษาและภาวะผนู้ ำ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร JOURNAL OF EDUCATIONAL ADMINISTRATION AND LEADERSHIP _________________________________________________________________________________________________________________ 3. การประเมินนวตั กรรมการบริหารและการจัดการศกึ ษาเพอ่ื การประกันคุณภาพของโรงเรียนปงพัฒนา วทิ ยาคม และตรวจสอบยนื ยนั ความสอดคล้องโดยผู้เชยี วชาญ พบว่ามีความเหมาะสมของวิธีการดำเนนิ การอยใู่ นระดับ ดีเลิศ และมีคุณภาพอยใู่ นระดับ ดีมาก ABSTRACT The objectives of this research were: 1) to study the state of education administration and management for quality assurance of Pongpattanawittayakhom School. The study recruited 45 population involving administrators, teachers and educational personnel of Pongpattanawittayakhom School. The questionnaire was used in collecting the data and the statistics used for data analysis were mean and standard deviation; 2) to develop innovation for education administration and management for quality assurance of Pongpattanawittayakhom School. The data collection deployed interviewing with 8 best practice schools. The validation of the draft of innovation for education administration and management recruited 11 experts in the focus-group discussion; and 3) to evaluate the innovation for education administration and management for quality assurance of Pongpattanawittayakhom School to evaluate the draft of innovation for education administration and management by means of quantitative research, and validate the congruence and quality of the innovation for education administration and management by 10 experts in the focus-group discussion. The results showed that: 1. The state of education administration and management for development of quality assurance of Pongpattanawittayakhom School based on the needs index revealed that the administration and management processes needed for development in descending order were education quality assurance, administration and management process for school administrators, teachers and instructional approach based on learner-centeredness, and administrators. 2. The administration Innovation and Education Provision for Educational Quality Assurance of Pongpattanawittayakhom School comprises 6 systems: 1) Leadership 2) Strategic Administration and Management 3) Persanal Administration and management 4) Information and Information Technology Administration and Management 5) Teaching Administration and Management 6) Education Quality Management. Each system involves 5 operational processes: 1) Needs and conduct assessment 2) Actuation and build internal capacity 3) Planning 4) Implement plan 5) Measure results and continous improvement. 3. The evaluation results of the innovation for education administration and management for quality assurance of Pongpattanawittayakhom School based on the congruence validation by the experts revealed the appropriateness of the procedure at the excellence level and the quality at the very good level. Keywords: Administration Innovation and Educational Provision, Educational Quality Assurance ภูมหิ ลงั จากนโยบายการดำเนนิ งานประกนั คุณภาพภายใน ซึง่ ถอื วา่ เปน็ สว่ นหนึ่งของการบริหารการศึกษาท่ตี อ้ ง ดำเนนิ การอยา่ งต่อเน่อื ง แตใ่ นทางปฏิบัตกิ บั พบว่าสถานศกึ ษาสว่ นใหญย่ งั แยกสว่ นกนั ดำเนินการและไมด่ ำเนินการ วารสารการบริหารการศกึ ษาและภาวะผูน้ ำ ฉบับออนไลน์ https://jeal.snru.ac.th 254

วารมสหาารวิกทายราบ ัลริยหราารชกภัาฏรสศึกกลษนาแครละภาวะผู้ ํนาวารสารการบริหารการศกึ ษาและภาวะผู้นำ มหาวิทยาลยั ราชภฏั สกลนคร JOURNAL OF EDUCATIONAL ADMINISTRATION AND LEADERSHIP _________________________________________________________________________________________________________________ อย่างต่อเน่อื ง มกี ารเตรียมการเฉพาะชว่ งจะรองรับการประเมินคุณภาพการศึกษาภายนอก ซึง่ เปน็ ส่วนหนึง่ ของการ ประกนั คุณภาพภายนอก การดำเนนิ การท้ังสองเรือ่ งน้เี ป็นไปแบบแยกสว่ น ดังจะเห็นได้จากกระบวนการบริหารจะใช้ แนวการดำเนนิ งานวงจรคณุ ภาพของเดมมงิ ที่รู้จักกนั ดีคอื PDCA (ร่งุ แก้วแดง, 2544, หนา้ 48 - 50) ส่วนกระบวนการ ดำเนนิ งานประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษาดำเนินตามขน้ั ตอนท้ัง 8 ทีก่ ำหนดไวใ้ นกฎกระทรวงวา่ ดว้ ยระบบหลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2553 (ราชกิจจานเุ บกษา, 2553) และปรับแก้ตามกฎกระทรวงการประกัน คณุ ภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 (ราชกิจจานุเบกษา 2561) ประเด็นปญั หาคือจะทำอย่างไรให้การดำเนนิ การท้ังสองเรื่องน้ี เปน็ กระบวนการเดียวกนั จากสภาพปัญหาและแนวโน้มในการดำเนินงานประกนั คุณภาพภายในดังกล่าว สง่ ผลให้ผลการประเมินคุณภาพ การศึกษารอบที่ 3 ของสถานศกึ ษาทีเ่ ปิดสอนระดับประถมศึกษาและมธั ยมศึกษา จำนวนท้ังสน้ิ 32,834 แห่ง ได้รับการ รับรองมาตรฐาน 20,369 แหง่ คิดเปน็ ร้อยละ 62.04 ไมร่ บั รองมาตรฐาน 12,465 แหง่ คิดเปน็ ร้อยละ 37.96 โดยร้อยละ 54.20 มผี ลการประเมินระดบั ดีและรอ้ ยละ 7.83 มผี ลการประเมินระดบั ดีมาก จากการสังเคราะห์ข้อเสนอแนะสำหรับ สถานศกึ ษาทวั่ ไป มีขอ้ เสนอแนะท่นี ำเสนอตามกฎกระทรวงศึกษาธกิ าร ปรากฏผลตามมาตรฐานที่ 1 ด้านการจดั การศึกษา ควรมกี ารส่งเสริมใหน้ ักเรียนมพี ฤตกิ รรมที่ดี มีการพัฒนาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนทกุ กลุ่มสาระ โดยเฉพาะ การพฒั นาทักษะการคิดอยา่ งเป็นระบบ จดั การเรียนการสอนโดยมีแหล่งเรียนรู้ทีห่ ลากหลายท้ังทีเ่ ป็นสอ่ื การเรียนรู้ หรือภมู ิปญั ญาทอ้ งถน่ิ และควรมกี ารวเิ คราะห์ผลการประเมินเพอ่ื นำไปพัฒนาผู้เรียน มาตรฐานที่ 2 ด้านการบริหารจดั การศึกษา ควรมสี ่วนร่วมกับคณะกรรมการสถานศึกษาในการร่วมมือกันทำงาน โดยให้มสี ว่ นรว่ มในการบริหารจดั การ การกำหนดเปน็ นโยบาย/แผน นอกจากนนั้ ควรบริหารจัดการศกึ ษาในลักษณะทีเ่ ปน็ กิจกรรม โครงการหรืองานวจิ ยั และ สถานศกึ ษาควรบริหารจดั การศกึ ษาในเรือ่ งสิง่ แวดลอ้ มหรือควรจัดสภาพแวดลอ้ มภายในสถานศึกษาให้เอ้ือตอ่ การเรียนรู้ มาตรฐานที่ 3 ด้านการจดั การเรียนการสอน ควรจัดกิจกรรมจดั แบบบูรณาการ หรอื จัดกิจกรรมที่หลากหลายหรือมกี าร วางแผนพัฒนาผู้เรียนตามความแตกต่างของบุคคล สถานศกึ ษา และควรออกแบบการวัดและประเมินผลการเรียน การสอนดว้ ยวธิ ีการที่หลากหลายตามสภาพจรงิ ด้วยเคร่อื งมือทีม่ ีคุณภาพ มาตรฐานที่ 4 ด้านการประกนั คุณภาพภายใน ควรให้ความรู้เกี่ยวกบั การประกนั คณุ ภาพภายในกับบคุ ลากรทกุ คนในสถานศกึ ษา และควรส่งเสริมระบบการประกนั คณุ ภาพภายในอย่างเป็นระบบและตอ่ เนอ่ื ง สถานศกึ ษาควรประเมินคณุ ภาพภายในทกุ มาตรฐานตามสภาพจรงิ อย่างสม่ำเสมอด้วยเครอ่ื งมือที่มคี ุณภาพ ทง้ั น้ีควรพัฒนาระบบสารสนเทศให้เป็นระบบและเป็นปัจจบุ ันพร้อมใช้งาน นอกจากนั้นควรนำผลการประเมินไปใชใ้ นการพัฒนาสถานศกึ ษา (รายงานการสงั เคราะห์ผลการประเมินคุณภาพ ภายนอกรอบสาม (พ.ศ. 2554 - 2558) ของสถานศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน, 2560, หนา้ ก, ง - จ) โรงเรียนปงพัฒนาวทิ ยาคมเป็นโรงเรียนประจำตำบลที่ดำเนนิ งานตามแนวนโยบายของกระทรวงศึกษาธกิ ารและ เข้าร่วมโครงการ 1 อำเภอ 1 โรงเรียนในฝนั และมุง่ มนั่ พัฒนาใหเ้ ปน็ โรงเรียนมาตรฐานสากลทีด่ ำเนนิ งานตามเกณฑ์รางวลั คุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน OBECQA และจากบทสรุปสำหรับผู้บริหารในการประเมิน คุณภาพภายนอกรอบสามของโรงเรียนปงพฒั นาวทิ ยาคม (สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมิณคณุ ภาพการศึกษา (สมศ.), 2555, หนา้ 1 - 5) จงั หวดั พะเยา สงั กัดสำนกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 36 กลา่ วถึง การบริหารงานจดั การศกึ ษาของโรงเรียนทีย่ ังไมไ่ ด้ดำเนนิ การแตง่ ตงั้ ท้ังทีป่ รึกษา และคณะอนกุ รรมการเพ่อื ดำเนนิ งาน ตามระเบียบ สว่ นดา้ นการจดั การเรียนการสอนที่เนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ โรงเรียนขาดการนำผลการประเมินท้ังการประเมิน แผนการจัดการเรียนรู้การประเมนิ ทกั ษะกระบวนการสอน และประเมินแบบวัดไปพฒั นาทกุ คนอยา่ งเปน็ ระบบ และการ จัดกระบวนการเรียนรู้ของครยู งั ไม่ครบทุกข้อ ดา้ นการประกนั คณุ ภาพภายใน สถานศกึ ษายังตอ้ งสง่ เสริมพฒั นาแผนงาน โครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ใหค้ งสภาพมาตรฐานดยี ง่ิ ขนึ้ ตั้งแต่บีการศึกษา 2555 เปน็ ต้นมาทางโรงเรียนดำเนินการ วารสารการบริหารการศกึ ษาและภาวะผู้นำ ฉบับออนไลน์ https://jeal.snru.ac.th 255

วารมสหาารวิกทายราบ ัลริยหราารชก ัภาฏรสศึกกลษนาแครละภาวะผู้ ํนาวารสารการบริหารการศกึ ษาและภาวะผู้นำ มหาวิทยาลยั ราชภัฏสกลนคร JOURNAL OF EDUCATIONAL ADMINISTRATION AND LEADERSHIP _________________________________________________________________________________________________________________ ตามขอ้ เสนอแนะดังกล่าว และจากการรายงานการประเมินตนเองของโรงเรียนปงพฒั นาวทิ ยาคม (รายงานผลการ ประเมินตนเอง, 2556 - 2560) พบวา่ ในแต่ละปกี ารศึกษาคะแนนหรือ รอ้ ยละท่ไี ด้บางปกี ารศึกษามีคะแนนสงู ขนึ้ แตบ่ างปกี ารศึกษามีคะแนนนอ้ ยลงไม่แนน่ อน ทำให้ตอ้ งมีการทบทวนปรับเปลี่ยนกระบวนการในการบริหารและการจดั การศึกษาตลอดเวลา ผู้วจิ ยั เห็นว่าหากได้มกี ารศึกษาสภาพและปญั หาในการดำเนินงานดา้ นน้ใี ห้ชัดเจนย่งิ ขนึ้ และมีการ พฒั นากระบวนการบริหารและการจดั การศกึ ษาโดยยึดนวัตกรรมการบริหารของผู้บริหารพัฒนาระบบประกันคณุ ภาพ ภายในกบั กระบวนการบรหิ ารสถานศกึ ษาให้สอดรับกบั แนวนโยบายของกระทรวงศึกษาธกิ าร รวมถึงกระบวนการบริหาร และการจัดการศึกษาตามเกณฑร์ างวัลคุณภาพแหง่ สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน OBECQA เพ่อื พัฒนา ท้ังการประกนั คณุ ภาพภายในและการประเมินคณุ ภาพการศึกษา โดยให้การดำเนนิ งานประกนั คุณภาพการศึกษาเป็น วฒั นธรรมของการบริหารงานปกติของสถานศกึ ษา ซึ่งการบริหารงานแบบน้จี ะทำให้การพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาดำเนิน ไปอย่างตอ่ เน่อื งและยง่ั ยืน และถือเปน็ นวตั กรรมการบริหารและการจัดการศึกษาเพือ่ พัฒนาการประกันคุณภาพ ของโรงเรียนปงพฒั นาวทิ ยาคม คำถามการวิจยั 1. การบริหารและการจัดการศกึ ษาเพ่อื การประกันคุณภาพของโรงเรียนปงพฒั นาวทิ ยาคม มีสภาพเปน็ อยา่ งไร และมีคณุ ภาพในการปฏบิ ัตงิ านอยใู่ นระดับใด 2. นวัตกรรมการบริหารและการจัดการเพอ่ื พัฒนาการประกันคุณภาพของโรงเรียนปงพัฒนาวทิ ยาคม ควรเป็นอย่างไร 3. นวตั กรรมการบริหารและการจดั การศกึ ษาสำหรบั การประกนั คุณภาพของโรงเรียนปงพฒั นาวทิ ยาคม มคี วามเหมาะสมความเปน็ ไปไดแ้ ละและมีคณุ ภาพอยใู่ นระดบั ใด ความมุ่งหมายของการวิจัย 1. เพอ่ื ศึกษาสภาพการบริหารและการจัดการศึกษา ทีพ่ ฒั นาการประกนั คุณภาพของโรงเรียนปงพัฒนาวทิ ยาคม 2. เพ่อื พฒั นานวตั กรรมการบริหารและการจดั การศึกษาสำหรบั การประกนั คณุ ภาพของโรงเรียนปงพัฒนา วทิ ยาคม 3. เพ่อื ประเมินนวัตกรรมการบริหารและการจัดการศกึ ษาสำหรับการประกนั คณุ ภาพของโรงเรียนปงพฒั นา วทิ ยาคม กรอบแนวคดิ การวิจัย จากการศกึ ษาเอกสาร หลกั การ แนวคิด ทฤษฎีงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ผู้วิจัยสามารถกำหนดเปน็ กรอบแนวคิดการ วจิ ัย (Conceptual framework) เรือ่ ง นวัตกรรมการบริหารและการจัดศกึ ษาเพอ่ื การประกันคณุ ภาพของโรงเรียนปงพัฒนา วทิ ยาคม โดยการสังเคราะหค์ วามหมาย กระบวนและหลกั การรวมถึงทฤษฎีการบริหารและการจดั การเกี่ยวกบั การ ประกันคุณภาพการศึกษา ได้แก่ การบริหารแบบมงุ่ ผลสัมฤทธิ์ การจัดการเชงิ กลยทุ ธ์ การบริหารแบบดุลยภาพและการ บริหารโดยใชโ้ รงเรียนเป็นฐาน สงั เคราะห์การบริหารและการจดั การตามเกณฑร์ างวลั คุณภาพ ได้แก่เกณฑ์รางวลั คณุ ภาพแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา (MBNQA) เกณฑร์ างวัลคุณภาพแหง่ ชาติ (TQA) เกณฑร์ างวัลคณุ ภาพแหง่ สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน OBECQA ปี 2559 – 2560 มาตรฐานการปฏบิ ัตงิ านโรงเรียนมธั ยมศกึ ษา วารสารการบริหารการศกึ ษาและภาวะผู้นำ ฉบบั ออนไลน์ https://jeal.snru.ac.th 256

วารสารการบริหารการศกึ ษาและภาวะผู้นำ มหาวิทยาลยั ราชภัฏสกลนคร JOURNAL OF EDUCATIONAL ADMINISTRATION AND LEADERSHIP _________________________________________________________________________________________________________________ พ.ศ. 2552 (ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) รายงานผลการประเมินตนเองของโรงเรียนปงพฒั นาวทิ ยาคม และสงั เคราะห์ปัจจยั ทีส่ นบั สนนุ การบริหารและการจัดการของโรงเรียนปงพฒั นาวทิ ยาคม ทง้ั ปจั จัยภายใน ได้แก่ โครงสร้างการบริหารงาน การสร้างบรรยากาศ การมอบหมายงาน การให้โอกาสครูและบคุ ลากร แผนและนโยบาย มีการจดั ทำแผนพัฒนาฯ/ แผนปฏิบตั กิ าร การนำเทคโนโลยไี ปใช้ สง่ เสริมความเปน็ เลิศ กระแสนยิ ม บคุ ลากรให้ความรว่ มมือในการดำเนินงาน และระบบดแู ลช่วยเหลอื นักเรียน สว่ นปัจจยั ภายนอก ได้แก่ เครือขา่ ยความรว่ มมือ การสนบั สนนุ และมีสว่ นร่วมในการ จดั การศกึ ษา และทนุ การศึกษา ทงั้ ยังสงั เคราะหส์ ภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์เพื่อการประกนั คุณภาพ ตามกฎกระทรวงว่าดว้ ยระบบ หลกั เกณฑ์ และวิธีการประกนั คณุ ภาพการศึกษา พ.ศ. 2553 กฎกระทรวงการประกนั คณุ ภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 มาตรฐานการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน เพอ่ื การประกันคณุ ภาพภายในของสถานศึกษา พ.ศ. 2559 และ พ.ศ. 2561 รวมถึงสังเคราะหส์ ภาพบริหารและการจดั การเพ่อื การประกนั คณุ ภาพของโรงเรียนที่เปน็ Best Practice โดยพิจารณา ดา้ นกระบวนการ การบริหารและการจดั การศกึ ษา ดา้ นกระบวนการดำเนนิ งานประกัน คณุ ภาพการศึกษา ดา้ นปัญหาในการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษา เพ่อื พัฒนาเปน็ นวตั กรรมการบริหารและการ จดั ศกึ ษาสำหรับการประกนั คุณภาพของโรงเรียนปงพัฒนาวทิ ยาคม โดยประเมินตรวจสอบยนื ยนั ความเหมาะสม ความเปน็ ไปได้ และประเมินคุณภาพของนวัตกรรมการบริหารและการจัดการศึกษา เพ่อื ใหไ๎ ดผ๎ ลการประเมินทีถ่ ูกต้อง นา่ เชอ่ื ถอื สำหรบั พัฒนาการประกนั คณุ ภาพของโรงเรียนปงพัฒนาวิทยาคม ได้ดังน้ี วารมสหาารวิกทายราบ ัลริยหราารชก ัภาฏรสศึกกลษนาแครละภาวะผู้นํา ทฤษฎีการบริหารและการจดั การ ปจั จยั ทีส่ นบั สนนุ การ การศึกษาสภาพปจั จบุ ันและ บริหารและการจัดการของ เกีย่ วกับการประกนั คุณภาพ โรงเรยี น ปงพัฒนาวิทยาคม สภาพที่พึงประสงค์เพอื่ การประกนั ➢ ปจั จัยภายใน การศึกษา ➢ ปัจจัยภายนอก คณุ ภาพตาม ➢การบรหิ ารแบบมงุ่ ผลสัมฤทธิ์ ➢ กฎกระทรวงวา่ ด้วยระบบ ➢การจัดการเชิงกลยทุ ธ์ ➢การบรหิ ารแบบดลุ ยภาพ หลักเกณฑ์ และวธิ ีการประกนั ➢การบรหิ ารโดยใชโ้ รงเรียนเปน็ ฐาน คณุ ภาพการศึกษา ➢ กฎกระทรวงการประกนั คุณภาพ การศึกษาการสภาพ การบริหารและการจัดการ การศึกษา บริหารและการจดั การเพอื่ การ ➢ มาตรฐานการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ประกนั คุณภาพของโรงเรียนที่ ตามเกณฑร์ างวัลคณุ ภาพ เพื่อการประกนั คณุ ภาพภายใน เปน็ Best Practice โดย ➢ รางวลั คุณภาพแห่งชาติของ ของสถานศึกษา พิจารณา ดงั นี้ ➢ เกณฑ์รางวัลคุณภาพแหง่ สำนกั งาน ➢ ด้านกระบวนการ การบรหิ าร ประเทศสหรัฐอเมริกา(MBNQA) คณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน ➢ รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (TQA) OBECQA และการจัดการศึกษา ➢ เกณฑ์รางวัลคณุ ภาพแหง่ ➢ มาตรฐานการปฏิบัติงานโรงเรียน ➢ ด้านกระบวนการดำเนินงาน มัธยมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการ ➢ รายงานผลการประเมินตนเอง ประกันคณุ ภาพการศึกษา การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน (OBECQA) ของโรงเรียนปงพฒั นาวิทยาคม ➢ ด้านปญั หาในการดำเนินงาน ประกันคุณภาพการศึกษา นวัตกรรมการบริหารและการจดั ศกึ ษาเพื่อพัฒนาการประกนั คุณภาพของโรงเรยี นปงพฒั นาวทิ ยาคม ภาพประกอบ 1 กรอบแนวคิดการวิจัย วารสารการบริหารการศกึ ษาและภาวะผูน้ ำ ฉบบั ออนไลน์ https://jeal.snru.ac.th 257

วารมสหาารวิกทายราบ ัลริยหราารชก ัภาฏรสศึกกลษนาแครละภาวะผู้นําวารสารการบริหารการศกึ ษาและภาวะผนู้ ำ มหาวิทยาลยั ราชภฏั สกลนคร JOURNAL OF EDUCATIONAL ADMINISTRATION AND LEADERSHIP _________________________________________________________________________________________________________________ วิธีดำเนนิ การวิจัย ประชากรและกล่มุ ตวั อยา่ ง กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วยผู้ให้ขอ้ มูลท้ังหมด 3 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 ระยะท่ี 1 คือ คณะครู ครูผู้รบั ผิดชอบ งานประกนั คุณภาพการศึกษา ฝ่ายบริหารของโรงเรียนปงพฒั นาวทิ ยาคม ตอนที่ 2 ระยะที่ 1 ได้แก่ ครูผู้รบั ผิดชอบงาน ประกันคณุ ภาพกรศึกษา ผู้บริหารของโรงเรียนที่เปน็ Best Practice จำนวน 8 โรงเรียน ตอนที่ 2 ระยะที่ 2 ได้แก่ ผู้ทรงคุณวฒุ ดิ ้านต่าง ๆ ของโรงเรียนปงพัฒนาวทิ ยาคมจำนวน 11 คน ประกอบด้วย หวั หน้างาน 6 คน ฝา่ ยบริหาร 5 คน ตอนที่ 3 ระยะที่ 1 ได้แก่ ผู้บริหาร คณะครแู ละบคุ ลากรของโรงเรียนปงพัฒนาวทิ ยาคม จำนวน 45 คน ตอนที่ 3 ระยะท่ี 2 ได้แก่ ผู้เชย่ี วชาญดา้ นการบริหาร และผู้เชย่ี วชาญดา้ นการประกนั คุณภาพการศึกษา จำนวน 10 คน เครื่องมอื ทใี่ ชใ้ นการเก็บรวมรวมข้อมูล เคร่อื งมือการวจิ ัยตอนที่ 1 ระยะท่ี 1 มดี งั น้ี 1. แบบสอบถามโดยมีประเด็นสอบถามเกีย่ วกับ สภาพปจั จบุ นั และสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารจัดการเพอ่ื พัฒนาการประกนั คณุ ภาพของโรงเรียนปงพัฒนาวทิ ยาคม ซึง่ พจิ ารณา รายละเอยี ดในแต่ละด้าน ได้แก่ 1) ด้านผู้บริหาร 2) ด้านกระบวนการบริหารและการจดั การของผู้บริหารสถานศกึ ษา 3) ด้านครผู ู้สอนและกระบวนการจดั การเรียนการสอนทีเ่ นน้ ผู้เรียนเป็นสำคญั และ 4) ด้านระบบประกนั คุณภาพภายใน ที่มีประสิทธิผล เครอ่ื งมือการวจิ ยั ตอนที่ 2 ระยะท่ี 1 มดี ังน้ี 1. แบบสมั ภาษณเ์ พ่อื สอบถามรายละเอียดในแต่ละด้าน ได้แก่ 1) ด้านกระบวนการ การบริหารและการจัดการศึกษา 2) ด้านกระบวนการดำเนินงานประกันคณุ ภาพการศึกษา และ 3) ดา้ นปญั หาในการดำเนนิ งานประกันคุณภาพการศึกษา ของโรงเรียนทีเ่ ปน็ Best Practice ระยะท่ี 2 เป็นคมู่ อื และแบบบนั ทึกการสนทนากลมุ่ (Focus Group) เพอ่ื ยกรา่ งและวเิ คราะหข์ ้อมลู จากการยืนยันรา่ งการบริหารและการจัด การศึกษาเพือ่ การประกนั คุณภาพของโรงเรียนปงพัฒนาวทิ ยาคม เคร่อื งมือการวจิ ยั ตอนที่ 3 ระยะที่ 1 มดี งั น้ี 1. แบบประเมินความเหมาะสมและความเปน็ ไปไดข้ องร่าง นวตั กรรมการบริหารและการจัดการศกึ ษาเพอ่ื การประกันคุณภาพของโรงเรียนปงพัฒนาวทิ ยาคม ระยะท่ี 2 ได้แก่ คมู่ อื และแบบบันทึกการสนทนากลมุ่ (Focus Group) รวมถึงแบบตรวจสอบยนื ยันความสอดคล้องและแบบประเมินคณุ ภาพ ของนวตั กรรมการบริหารและการจดั การศกึ ษาเพอ่ื การประกันคณุ ภาพของโรงเรียนปงพัฒนาวทิ ยาคม โดยผู้เชยี วชาญ การเก็บรวบรวมขอ้ มูล ผู้วิจยั ดำเนนิ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลดว้ ยตนเอง และประชุมชแี้ จงผู้ร่วมวิจัยให้เข้าใจกระบวนการวจิ ยั ทุกขั้นตอน สถิตทิ ใี่ ช้ในการวิเคราะห์ขอ้ มลู ค่าเฉลี่ย (Mean) คา่ เบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) คา่ รอ้ ยละ (Percentage) การวิเคราะห์เน้ือหา (Content Analysis) และสังเคราะหเ์ ป็นความเรียง สรุปผลการวิจัย 1. สภาพการบริหารและการจัดการศึกษาท่พี ฒั นาการประกนั คณุ ภาพของโรงเรียนปงพัฒนาวทิ ยาคม ผลการศึกษาสภาพการบริหารและการจัดการศึกษาท่พี ัฒนาการประกนั คณุ ภาพของโรงเรียนปงพฒั นาวทิ ยาคมพจิ ารณา วารสารการบริหารการศกึ ษาและภาวะผู้นำ ฉบบั ออนไลน์ https://jeal.snru.ac.th 258

วารมสหาารวิกทายราบ ัลริยหราารชก ัภาฏรสศึกกลษนาแครละภาวะผู้นําวารสารการบริหารการศกึ ษาและภาวะผนู้ ำ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร JOURNAL OF EDUCATIONAL ADMINISTRATION AND LEADERSHIP _________________________________________________________________________________________________________________ ค่าดัชนคี วามตอ้ งการจำเปน็ พบว่ากระบวนการบริหารและการจัดการที่ควรดำเนนิ การพัฒนา เรียงตามลำดับ ได้แก่ การประกันคุณภาพการศึกษา กระบวนการบริหารและการจัดการของผู้บริหารสถานศกึ ษา ครผู ู้สอนและกระบวนการ จดั การเรียนการสอนที่เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคญั และด้านผู้บริหาร เมอ่ื พิจารณาการประกันคุณภาพการศึกษา ควรมี มาตรฐานการศึกษาของสถานศกึ ษามคี วามสอดคล้อง และครอบคลุมประเดน็ ตา่ ง ๆ ตามมาตรฐานการศึกษาชาติ มาตรฐานการศึกษาข้ันพืน้ ฐานและมาตรฐานการประกนั คณุ ภาพการศึกษาของกระทรวงศึกษาธกิ ารและสำนักงานรบั รอง มาตรฐานและทกุ ฝ่ายมสี ่วนร่วมในการดำเนนิ งานดา้ นตา่ ง ๆ มกี ารวิเคราะห์สภาพปจั จุบันจากผลการประเมินภายใน โดยต้นสังกดั และผลการประเมินภายนอก มีแผนการนิเทศ และมกี ารนเิ ทศ กำกับ ติดตาม การดำเนนิ งานตามแผนพัฒนา คุณภาพการศกึ ษาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง สมำ่ เสมอ มีการประชุมชีแ้ จงเกย่ี วกับการพฒั นาระบบการประกันคณุ ภาพภายใน มกี ารจัดเกบ็ ขอ้ มลู สารสนเทศอยา่ งเปน็ ระบบ เป็นปจั จบุ นั นำไปใชไ้ ด้ทนั ที แตง่ ต้ังคณะกรรมการจดั ทำรายงานคณุ ภาพ การศึกษาประจำปแี ละจดั ทำเอกสารประจำปี จัดทำรายงานคณุ ภาพการศึกษาประจำปี เป็นรายงานเชงิ คุณภาพทีส่ ะท้อน สภาพการดำเนนิ งาน สรุปผลการดำเนนิ งานและแนวทางการพฒั นาในปีถดั ไป 2. นวัตกรรมการบริหารและการจดั การศกึ ษาเพ่อื พฒั นาการประกันคณุ ภาพของโรงเรียนปงพฒั นาวทิ ยาคม นวัตกรรมการบริหารและการจัดการศกึ ษาเพอ่ื พฒั นาการประกันคุณภาพของโรงเรียนปงพัฒนาวทิ ยาคม มี 6 ระบบ ได้แก่ 1) ระบบการนำองค์กร 2) ระบบการบริหารและการจดั การเชงิ กลยุทธ์ 3) ระบบบริหารและการจดั การบุคลากร 4) ระบบบริหารและการจัดการสารสนเทศ และเทคโนโลยสี ารสนเทศ 5) ระบบบริหารและการจัดการ การเรียนการสอน 6) ระบบการจัดการคณุ ภาพการศกึ ษา ซึ่งแตล่ ะระบบมกี ระบวนการในการดำเนินงาน 5 กระบวนการ ได้แก่ 1) การหา ความตอ้ งการและประเมินสภาพโรงเรียนในปัจจุบนั 2) การกระตุ้นให้เกิดการปรับปรงุ และเสริมศักยภาพภายในโรงเรียน 3) การวางแผนการดำเนินงาน 4) การปฏบิ ตั ติ ามแผนการดำเนนิ งาน 5) การวัด ประเมินผลการดำเนนิ งานและการ ปรบั ปรุงงานอย่างตอ่ เนื่อง โดยแตล่ ะกระบวนการจะมีแนวทางในการดำเนินงานที่แตกตา่ งกนั ออกไป ดงั นี้ กระบวนการที่ 1) การหาความตอ้ งการและประเมินสภาพโรงเรียนในปจั จบุ นั แนวทางในการดำเนินงาน ได้แก่ 1. การออกแบบเครอ่ื งมือ และวิธีการดำเนินการ 2. การเก็บรวบรวมขอ้ มูล 3. การวเิ คราะห์ข้อมูล 4. การจัดเก็บขอ้ มูลและการนำไปใช้ กระบวนการที่ 2) การกระตุ้นให้เกิดการปรบั ปรงุ และเสริมศักยภาพภายในโรงเรียน แนวทางในการดำเนินงาน ได้แก่ 1. การตรวจสอบทบทวน 2. การสร้างความเข้าใจ 3. การส่งเสริมศักยภาพ 4. การสร้างแรงจงู ใจ กระบวนการที่ 3) การวางแผนการดำเนินงาน แนวทางในการดำเนินงาน ได้แก่ 1. การแต่งตงั้ คณะกรรมการ 2. การกำหนดนโยบาย 3. การทบทวนงาน 4. การวางแผนงาน กระบวนการที่ 4. การปฏบิ ัตติ ามแผนการดำเนนิ งาน แนวทางในการดำเนินงาน ได้แก่ 1. การดำเนนิ การตามแผนงาน 2. การรายงานผลระหวา่ งการดำเนนิ งาน กระบวนการที่ 5. การวัด ประเมินผลการ ดำเนนิ งานและการปรับปรงุ งานอย่างตอ่ เน่อื ง แนวทางในการดำเนินงาน ได้แก่ 1. การแตง่ ตง้ั คณะกรรมการ 2. การกำหนดกรอบและออกแบบเคร่อื งมือ 3. การนเิ ทศ กำกบั ติดตาม 4. การประเมินผลการดำเนนิ งาน 5. การวเิ คราะหแ์ ละรายงานผล 3. การประเมินนวัตกรรมการบริหารและการจัดการศกึ ษาสำหรบั การประกนั คุณภาพของโรงเรียนปงพัฒนา วทิ ยาคม นวตั กรรมการบริหารและการจัดการศึกษาสำหรับการประกนั คณุ ภาพของโรงเรียนปงพัฒนาวทิ ยาคมมคี วาม เหมาะสมของวิธีการดำเนินการโดยรวมอยู่ในระดับ ดเี ลิศ เมอ่ื พิจารณารายข้อของวิธีการดำเนนิ การพบวา่ งานประกัน คุณภาพการศึกษาของทางโรงเรียน และคณะกรรมการในการดำเนนิ งานรวบรวมผลการประเมนิ คุณภาพภายในและ ภายนอกคร้ังสดุ ท้าย และการวิเคราะหข์ ้อมูลและครผู ู้รบั ผิดชอบแผนงานโครงการต่าง ๆ ดำเนนิ งานตามแผนปฏบิ ตั กิ าร ประจำปที ีส่ อดคลอ้ งกับแผนพฒั นาการจดั การศกึ ษาของสถานศึกษา มคี ่าเฉลี่ยสูงที่สุด อยใู่ นระดับ ยอดเยย่ี ม การประเมินความเปน็ ไปได้ของแต่และวิธีการดำเนินการโดยรวมอยู่ในระดับ ดเี ลิศ มีคา่ เฉลย่ี เมอ่ื พิจารณารายข้อของ วารสารการบริหารการศกึ ษาและภาวะผู้นำ ฉบับออนไลน์ https://jeal.snru.ac.th 259

วารมสหาารวิกทายราบ ัลริยหราารชก ัภาฏรสศึกกลษนาแครละภาวะผู้นําวารสารการบริหารการศกึ ษาและภาวะผ้นู ำ มหาวิทยาลัยราชภฏั สกลนคร JOURNAL OF EDUCATIONAL ADMINISTRATION AND LEADERSHIP _________________________________________________________________________________________________________________ วธิ ีการดำเนินการพบว่า วิธีการที่ คณะกรรมการสถานศึกษารว่ มกบั สถานศกึ ษาและผู้ทรงคณุ วุฒดิ ำเนนิ การประเมิน คณุ ภาพภายในปลี ะ 1 ครง้ั มีค่าเฉลี่ยสูงทีส่ ุด อยู่ในระดับ ยอดเย่ยี ม ส่วนการประเมินคุณภาพของนวัตกรรมการบริหาร และการจัดการศึกษาเพือ่ การประกันคุณภาพของโรงเรียนปงพฒั นาวทิ ยาคมและการประเมินคุณภาพ มีคุณภาพในอยใู่ น ระดบั มาก พบว่ามีเกณฑ์/วิธีการประเมินในแต่ละระบบที่ชดั เจน เหมาะสม สามารถปฏบิ ตั ไิ ด้ในระดบั มาก แตค่ วร ปรับปรงุ ให้มีความประณีตในการจดั วรรคตอนและชอ่ งไฟ มีค่าเฉลี่ยตำ่ ที่สดุ อยใู่ นระดับ ปานกลาง อภปิ รายผลการวิจัย 1. ผลจากการศึกษาสภาพการบริหารและการจัดการศกึ ษาทีพ่ ฒั นาการประกันคณุ ภาพของโรงเรียนปงพัฒนา วทิ ยาคม พิจารณาคา่ ดัชนีความตอ้ งการจำเปน็ พบวา่ กระบวนการบริหารและการจัดการทีค่ วรดำเนนิ การพัฒนากอ่ น เปน็ อนั ดบั แรก คือ การประกนั คณุ ภาพการศึกษา รองลงมา คอื กระบวนการบริหารและการจดั การของผู้บริหาร สถานศกึ ษา ครผู ู้สอนและกระบวนการจดั การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคญั และด้านผู้บริหาร ตามลำดบั ซึ่งสอดต ล้องกบั งานวิจยั ของเกจ็ กนก เอือ้ วงศ์ (2547, บทคดั ยอ่ ) กลา่ วถึง สภาพการดำเนนิ การประกันคุณภาพดำเนนิ การใหค้ รบ ระบวนการ ปจั จยั ภายใน ได้แก่ การที่ผู้บริหารมคี วามมุ่งม่ันทุ่มเท สนใจใฝเ่ รียนรู้ ใชท้ ังการบริหารแบบมสี ่วนรว่ มและ แบบเข็มงวด การมวี ฒั นธรรมองคก์ ารที่ดี มีแบบแผนการทำงานเป็นทีม มีตวั แบบการเปน็ ครทู ี่ดี ยอมรับการเปลีย่ นเปลง และเห็นคณุ ค่าของการประเมิน รวมท้ังการทีค่ รูมคี วามรบั ผิดชอบและเอาใจใส่ต่อการสอน สนใจใฝ่เรียนรู้และเชือ่ วา่ การประกันคณุ ภาพการศึกษานำไปสกู่ ารพัฒนาการประกนั คณุ ภาพการศึกษา นอกจากนั้นโครงสร้างการประสานงาน ที่คล่องตวั และมบี ุคลากรหรือคณะทำงานรบั ผิดชอบงานประกนั คุณภาพ ปัจจยั ภายนอก ได้แก่ การที่ชมุ ชนและ กรรมการสถานศึกษาใหค้ วามสำคัญและสนับสนนุ ชว่ ยเหลอื และการทีก่ ฎหมาย/นโยบายตน้ สงั กัดผลกั ดันให้โรงเรียน ดำเนนิ การประกันคุณภาพ รวมท้ังหนว่ ยงานตน้ สงั กัดนิเทศช่วยเหลอื โรงเรียน สรุ เสน ทง่ั ทอง (2552, หนา้ 132 - 140) กล่าวถึง รูปแบบการประเมินคณุ ภาพสถานศึกษาทงั้ ระบบ ประกอบด้วย 6 ด้าน คือ ด้านที่ 1 คุณภาพนกั เรียน ด้านที่ 2 การบริหารหลกั สูตรและงานวชิ าการ ด้านที่ 3 การบริหารการจัดการ ด้านที่ 4 ความสมั พันธร์ ะหวา่ งสถานศึกษากบั ผู้ปกครองและชมุ ชน ด้านที่ 5 บคุ ลากรและการบริหารงานบุคลากร และด้านที่ 6 ความดเี ด่นของสถานศึกษา สอดคล้อง กับการบริหารการเปลีย่ นแปลงที่มีคณุ ภาพ ซึ่งครอบคลุมองคป์ ระกอบหลัก 8 ด้านของ ธนิก คณุ เมธีกุล (2552, หนา้ 153 - 165) ได้แก่ ด้านภาวะผู้นำของผู้บริหาร ด้านวางแผนเชงิ กลยทุ ธ์ ด้านการบริหารจดั การทรัพยากรมนุษย์ ด้านการบริหารความสมั พนั ธก์ บั ผู้รบั บริการ ด้านการจัดการสารสนเทศ ด้านการบริหารงานวชิ าการ ด้านการจัดการ เครอื ข่ายการเรียนรู้ภายนอก และด้านการจัดการทางการเงินและงานวิจยั ของ ชัยรตั น์ ต.เจรญิ (2560, หนา้ 432 – 439) กวา่ วว่าปจั จัยทีส่ ่งผลต่อการดำเนนิ การประกนั คณุ ภาพภายใน คือ การบริหารจดั การ ลกั ษณะวฒั นธรรมองค์กร และลักษณะทรพั ยากร เนื่องจากมีการกำหนดโครงสร้างหนา้ ท่ี และความรบั ผิดชอบของบคุ ลากรไว้ชดั เจน บคุ ลากร ยอมรับและเห็นคณุ คา่ ของการประเมินเพ่อื พฒั นางาน และมีลกั ษณะยอมรับการเปลี่ยนแปลงทีเ่ กิดข้ึน อีกท้ังมีบรรยากาศ แสะภาพแวดลอ้ มทีส่ ง่ เสริมการเรียนรู้ 2. นวตั กรรมการบริหารและการจดั การศกึ ษาเพอ่ื การประกันคณุ ภาพของโรงเรียนปงพัฒนาวทิ ยาคมมี 6 ระบบ ได้แก่ 1) ระบบการนำองคก์ ร 2) ระบบการบริหารและการจดั การเชงิ กลยทุ ธ์ 3) ระบบบริหารและการจัดการบุคลากร 4) ระบบบริหารและการจัดการสารสนเทศ และเทคโนโลยสี ารสนเทศ 5) ระบบบริหารและการจัดการ การเรียนการสอน 6) ระบบการจดั การคุณภาพการศกึ ษา มกี ระบวนการ การดำเนนิ งาน 5 กระบวนการ ซึ่งสอดคล้องกบั งานวิจัยของ มยรุ ีย์ แพรห่ ลาย (2554, หนา้ 176 – 194) และศรีจริน สิมมาลี (2558, หนา้ 108 - 116) กลา่ ววา่ แนวทางการดำเนนิ งาน ผู้บริหารตอ้ งกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัตทิ ีช่ ดั เจน การจัดหา การแบง่ งานการมอบหมายงานให้บคุ ลากร รวมถึงสาร วารสารการบริหารการศกึ ษาและภาวะผู้นำ ฉบบั ออนไลน์ https://jeal.snru.ac.th 260

วารสารการบริหารการศกึ ษาและภาวะผ้นู ำ มหาวิทยาลยั ราชภัฏสกลนคร JOURNAL OF EDUCATIONAL ADMINISTRATION AND LEADERSHIP _________________________________________________________________________________________________________________ สนแทศทีเ่ ปน็ ปัจจุบัน มีการนเิ ทศติดตามอย่างตอ่ เน่อื ง โดยการใชภ้ าวะผู้นำของผู้บริหารรวมถึงการพัฒนารปู แบบการ บริหารโรงเรียนในฝนั ให้มคี ณุ ภาพยัง่ ยืน ของธัญนนั ท์ แก้วเกิด (2556, หนา้ 161 - 184) และสอดคลอ้ งกับรูปแบบการ จดั การคุณภาพโดยรวมในสถานศึกษาของนราวัลย์ สุรงั ค์สุริยกุล (2555, หนา้ 25 - 37) กล่าวถึง องค์ประกอบท้ังหมด 7 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านการมีส่วนรว่ มของทีมงาน 2. ด้านการปรับปรงุ อย่างต่อเน่อื ง 3. ด้านการพฒั นาบุคลากร 4. ด้านการ สร้างความพงึ พอใจแกผ่ ู้รบั บริการ 5. ด้านนวตั กรรมและเทคโนโลยี 6. ดา้ นการวางแผน กลยทุ ธ์ และ 7. ด้านการจัดการศกึ ษาสู่ความเปน็ สากล และสอดคล้องกับรปู แบบการบรู ณาการระบบการประกัน คุณภาพภายในกับการบริหารสถานศกึ ษาของสมาน อศั วภูมิ (255, หนา้ 167 - 178) ณฐั พล รกั ไทย (2558, หนา้ 52 - 53) รวมถึงสอดคล้องกบั งานวิจยั ของศศิธร บวั ทอง (2556, หนา้ 204 - 209) กล่าวถึง องค์ประกอบหลกั ของรปู แบบมี สามองค์ประกอบ คือ 1) ความรู้พนื้ ฐานของบคุ ลากรในการดำเนนิ งานตามรปู แบบประกอบด้วยทฤษฎีพืน้ ฐานในการ บรู ณาการ มาตรฐานและตัวบง่ ชีค้ ุณภาพการศึกษาและสภาพปญั หาและความต้องการของสถานศกึ ษา 2) ขั้นตอนการ ดำเนนิ งานตามรูปแบบนนั้ ประกอบด้วยการวางแผน ซงึ่ มกี ารจดั ระบบการบริหารและและระบบสาระสนเทศ การกำหนด มาตรฐานการศึกษาของสถานศกึ ษาและการจดั ทำ แผนพัฒนาการจดั การศกึ ษา ส่วนการดำเนนิ งานตามแผนน้ันเป็น ข้ันตอนการนำแผนไปสู่การปฏบิ ัตสิ ำหรบั การตรวจสอบผล ประกอบด้วย การตดิ ตาม ตรวจสอบคณุ ภาพ การประเมิน คุณภาพภายใน และการจดั ทำรายงานประจำปี และการดำเนนิ การตอ่ เนอ่ื งเป็นพฒั นางานตอ่ เนือ่ งและเริ่มวงจร การบริหารรอบต่อไป 3. การประเมินนวัตกรรมการบริหารและการจดั การศกึ ษาเพ่อื การประกนั คุณภาพของโรงเรียนปงพัฒนา วทิ ยาคม และตรวจสอบยนื ยันความสอดคล้องโดยผู้เชยี วชาญ พบว่ามีความเหมาะสมของวิธีการดำเนนิ การอยใู่ นระดบั ดีเลิศ และมีคณุ ภาพอยใู่ นระดบั ดีมาก สอดคล้องกบั การพฒั นานวตั กรรมของสกุ ญั ญา แชม่ ช้อย (2555, หนา้ 117 - 128) และรูปแบบการพัฒนาโรงเรียนเอกชนสู่ความเป็นองคก์ ารแหง่ นวตั กรรม ของวชิน อ่อนอา้ ย (2558, หนา้ 74 - 84) และชวน ภารงั กูล (2553, หนา้ 201 - 208) ท้ังยังสอดคล้องกับ ปัญญา เลิศไกร (2562, หนา้ 3745 - 3757) กล่าววา่ การจดั การนวตั กรรมการพฒั นาองค์กร เปน็ สง่ิ ที่คนในองคก์ รตอ้ งให้ความสำคญั สมบตั ิ นามบุรี (2562, หนา้ 121 - 133) กลา่ ววา่ องคก์ ารทีส่ ามารถสรา้ งสรรค์นวัตกรรมได้ตอ้ งมีผู้บริหารทีค่ วามมงุ่ มน่ั ในการสร้างนวตั กรรม วารมสหาารวิกทายราบ ัลริยหราารชก ัภาฏรสศึกกลษนาแครละภาวะผู้นํา ข้อเสนอแนะ 1. ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้ 1.1 โรงเรียนควรมกี ารบริหารและการจัดการคุณภาพองค์ความรู้ของข้อมลู สารสนเทศ ทีท่ ำให้แน่ใจได้วา่ ข้อมูลสารสนเทศ และความรู้ขององค์กร มีคุณสมบัติ ถกู ต้อง แมน่ ยำ มีความปลอดภยั เปน็ ความลับ ทนั ต่อเหตกุ ารณ์ น่าเช่อื ถอื และสามารถนำไปใชใ้ นการพฒั นาตา่ ง ๆ ได้ 1.2 โรงเรียนควรมกี ารกำหนดนโยบายในการกำกับ ติดตาม ตรวจสอบ ทบทวน ปรบั ปรงุ และแก้ไขขั้นตอน การดำเนนิ งานให้ครบถ้วนทุกกระบวนการทำงาน มผี ู้รบั ผิดชอบในการดำเนินงานตามวธิ ีการทกี่ ำหนดไวอ้ ย่างครบถ้วน เหมาะสม และสอดคลอ้ งกบั สถานการณท์ ้ังปจั จบุ ัน และอนาคต 1.3 โรงเรียนควรมกี ารเตรียมความพร้อมในด้านตา่ ง ๆ เพอ่ื รองรบั การประเมินคุณภาพภายนอกในรอบที่ 4 และรอบต่อ ๆ ไป รวมถึงการเตรียมความพร้อม ในเรื่องการนำแผนงานด้านการประกนั คณุ ภาพ ไปปฏบิ ตั จิ นกลายเปน็ วัฒนธรรมขององคก์ รที่เปน็ ปกติ 1.4 โรงเรียนควรมกี ารเตรียมความพรอมในดา้ นระเบียบ วิธีปฏิบตั ติ ่าง ๆ จดั ทำคูม่ อื การดำเนนิ งาน การประกันคณุ ภาพให้เป็นมาตรฐานเดียวกันท้ังองคก์ ร วารสารการบริหารการศกึ ษาและภาวะผู้นำ ฉบบั ออนไลน์ https://jeal.snru.ac.th 261

วารมสหาารวิกทายราบ ัลริยหราารชก ัภาฏรสศึกกลษนาแครละภาวะผู้ ํนาวารสารการบริหารการศกึ ษาและภาวะผนู้ ำ มหาวิทยาลัยราชภฏั สกลนคร JOURNAL OF EDUCATIONAL ADMINISTRATION AND LEADERSHIP _________________________________________________________________________________________________________________ 2. ขอ้ เสนอแนะสำหรับการทำวิจยั ครั้งตอ่ ไป 2.1 ควรมกี ารศึกษาวิจยั เชงิ ทดลองใชน้ วตั กรรมการบริหารและการจดั การการการศกึ ษา เพือ่ สรุปเป็นองค์ ความรู้ทีไ่ ด้จากนวตั กรรมและความถกู ต้องเหมาะสม 2.2 ควรมกี ารศึกษาวิจยั ในดา้ นการนำผลการประเมินไปใช้ เพื่อสรุปเปน็ องค์ความรใู้ ชเ้ ป็นแนวทางในการ พัฒนาตอ่ ไป 2.3 ควรมกี ารศึกษาวจิ ัยในด้านข้อจำกัด สภาพปัญหาและอุปสรรคในการใชน้ วัตกรรมการบริหารและการ จดั การศกึ ษา เพือ่ สรุปเป็นองค์ความรใู้ ชเ้ ปน็ แนวทางในการพฒั นาต่อไป 2.4 ควรเพม่ิ จำนวนโรงเรียนที่เปน็ Best Practice ในการศึกษาสภาพการบริหารและการจัดการศกึ ษา ที่พัฒนาการประกันคณุ ภาพของโรงเรียนทีผ่ ่านเกณฑ์รางวัล OBECQA 2.5 ควรมกี ารนำเคร่อื งมือไปทดลองใชก้ ับกลมุ่ ตวั อยา่ งที่มีบริบทใกล้เคียงกบั โรงเรียนปงพัฒนาวทิ ยาคมก่อน เอกสารอา้ งองิ เกจ็ กนก เอ้ือวงศ์. (2547). การวเิ คราะห์ปัจจยั ที่สง่ เสริมและปจั จัยอปุ สรรคต่อการดำเนนิ การในระบบการประกนั คณุ ภาพการศึกษาของสถานศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน. วิทยานพิ นธ์ ค.ด. กรงุ เทพฯ: จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. ชวน ภารงั กลู . นวตั กรรมการบริหารโรงเรียนชายแดนภมู ิภาคตะวันตก. วารสารการบริหารการศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยศลิ ปกร. 1(1), 201 - 208. ธนกิ คุณเมธีกุล. (2552). การพฒั นาตวั บ่งชีค้ ณุ ภาพการบริหารการศึกษาเพือ่ ความเปน็ เลิศของสถานศกึ ษาเอกชน. วทิ ยานพิ นธ์ ค.ด. กรงุ เทพฯ: จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั . ธญั นันท์ แก้วเกิด. (2556). การพัฒนารูปแบบการบริหารโรงเรียนในฝันให้มคี ณุ ภาพย่ังยนื . วทิ ยานพิ นธ์ ปร.ด.กรงุ เทพฯ : มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร. นราวัลย์ สุรังคส์ รุ ิยกุล. รปู แบบการจัดการคุณภาพโดยรวมในสถานศกึ ษาสังกดั สานักงานเขตพน้ื ที่การศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 6. วารสารบริหารการศึกษา มศว. 12, 25 - 37. ปญั ญา เลิศไกร. (2562). การจดั การนวตั กรรมการพัฒนาองคก์ ร, วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 6(8), 3745 - 3757. พระราชบญั ญัติการศกึ ษาแหง่ ชาต.ิ (ฉบบั ที่ 4) พ.ศ. 2562. ราชกิจจานเุ บกษา. เล่ม 136 ตอนที่ 57 ก หน้าที่ 49 – 53 รุ่ง แก้วแดง. (2544). ประกนั คณุ ภาพการศึกษาทกุ คนทาํ ได้ไมย่ าก. กรงุ เทพฯ : วฒั นพาณิชย์ วชิน อ่อนอา้ ย. (2558). รปู แบบการพฒั นาโรงเรียนเอกชนสคู่ วามเป็นองค์การแห่งนวัตกรรม, วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร, 17(2), 74 – 84. ศศิธร บัวทอง. (2556). การพัฒนารปู แบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาระดบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้ของโรงเรียน ระดับการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน. วทิ ยานพิ นธ์ กศ.ด. กรงุ เทพฯ: มหาวทิ ยาลัยศรีนครนิ ทรวโิ รฒ. ศรีจริน สิมมาลี .การบริหารการเปลีย่ นแปลงทีม่ ีคณุ ภาพ. วารสารบริหารการศึกษา มศว 12(23), 108 - 116. สริต วิจิตรโชติ. (2550). การจัดระบบสารสนเทศเพอ่ื ประกนั คุณภาพการศึกษาของสถานศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน สังกัดสำนกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษากาญจนบุรี เขต 1. วทิ ยานพิ นธ์ ปร.ด. กรงุ เทพฯ: มหาวทิ ยาลัยศิลปากร. สมาน อศั วภูม.ิ (2558) .รปู แบบการบรู ณาการระบบการประกนั คณุ ภาพภายในกบั การบริหารสถานศกึ ษาสาหรบั สถานศกึ ษา ขั้นพ้ืนฐานขนาดกลาง. วารสารบริหารการศึกษาบวั บณั ฑิต. 15(3), 167 - 168. สมบตั ิ นามบรุ ี. (2562). นวัตกรรมและการบริหารจัดการ, วารสารวิจยวิชาการ, 2(2), 121 - 133. วารสารการบริหารการศกึ ษาและภาวะผู้นำ ฉบับออนไลน์ https://jeal.snru.ac.th 262

แนวทางการด�ำ เนนิ การประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา สงั กดั องคก์ ารบรหิ าร ส่วนจงั หวดั ชัยภมู ิ Guidelines of internal educational quality assurance implementation in schools under chaiyaphum provincial administrative organization นุจนาจ ขุนาพรม1, มณเฑียร พวั ไพบลู ย2์ Nuchjanart Khunaphrom1, Montien Phuapaiboon2 บทคัดย่อ การวิจัยคร้งั น้มี ีความม่งุ หมายเพ่อื 1) ศึกษาสภาพปัจจบุ นั สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ การดำ�เนินการ ประกันคุณภาพภายในสถานศกึ ษา สงั กัดองคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวัดชยั ภมู ิ 2) สรา้ งแนวทางการด�ำ เนิน การประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษา สังกดั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวัดชยั ภมู ิ มีวธิ ีดำ�เนินการการวจิ ยั และพัฒนา (Research and Development) โดยดำ�เนนิ การเป็น 2 ระยะ ระยะท่ี 1 การศึกษาสภาพ ปัจจุบนั และสภาพท่ีพงึ ประสงค์ ขัน้ ตอนที่ 1 กลุ่มตวั อยา่ งได้แก่ ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา ครูผ้รู ับผดิ ชอบงานประกันคณุ ภาพการศึกษา และหวั หน้ากลุ่มสาระการ เรยี นร้ทู ัง้ 8 กลุ่มสาระฯ จ�ำ นวน 286 คน เครื่องมอื ที่ใช้ คือแบบสอบถาม สถติ ท่ีใช้คา่ เฉล่ยี สว่ นเบ่ยี ง เบนมาตรฐาน ดัชนีลำ�ดับความตอ้ งการจำ�เปน็ ขั้นตอนท่ี 2 ศกึ ษาดูงานโรงเรียนท่ีมกี ารปฏิบตั ทิ ่ีเปน็ เลิศ (Best practice) จ�ำ นวน 3 โรงเรียน กลุม่ เป้าหมาย ไดแ้ ก่ ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา หัวหนา้ กลุม่ สาระการ เรียนรู้ ครูผูร้ บั ผดิ ชอบงานประกนั คุณภาพการศึกษา จ�ำ นวน 9 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมอื ทใี่ ช้ คือ แบบสมั ภาษณ์แบบมโี ครงสร้าง วเิ คราะห์ขอ้ มูลโดยการพรรณนาสงั เคราะหเ์ น้อื หา ระยะท่ี 2 สรา้ งแนวทางการดำ�เนินงานการประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษา ขนั้ ตอนท่ี 1 สัมภาษณ์เชิงลกึ กลมุ่ เปา้ หมาย ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ จ�ำ นวน 5 คน โดยเลอื กแบบเจาะจง เครอ่ื งมอื ทใ่ี ช้ คอื แบบประเมนิ สถติ ทิ ใี่ ช้ คอื ดัชนคี วามสอดคลอ้ ง คา่ เฉลี่ย คา่ ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ขัน้ ตอนที่ 2 การประเมินแนวทางการดำ�เนิน งานการประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา สงั กดั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ชยั ภมู ิ กลมุ่ เปา้ หมาย ไดแ้ ก่ ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ครผู รู้ บั ผดิ ชอบงานประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา จ�ำ นวน 30 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครือ่ งมอื ท่ีใช้ คอื แบบประเมนิ สถติ ทิ ใี่ ช้ ค่าเฉลี่ย สว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน ผลการวิจยั ปรากฏดงั นี้ 1. สภาพปจั จบุ นั สภาพท่ีพงึ ประสงค์ การดำ�เนนิ การประกันคณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา สงั กดั องค์การบริหารส่วนจงั หวดั ชัยภูมิ พบว่า สภาพปจั จบุ ันโดยรวมอย่ใู นระดับมาก สภาพทีพ่ งึ ประสงคโ์ ดย รวมอยใู่ นระดับ มากทีส่ ุด 1 นสิ ิตระดับปริญญาโท สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 2 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม 1 M.Ed. Candidate in Educational Administration, Faculty of Education, Mahasarakham University 2 Faculty of Education, Mahasarakham University

122 Journal of Educational Administration and Supervisor, Mahasarakham University Volume 9 Number 1 January-April 2018 2. ความต้องการจำ�เป็นในสร้างแนวการดำ�เนินการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา สังกัด องค์การบริหารส่วนจังหวดั ชัยภูมิ เรียงลำ�ดับความตอ้ งการจำ�เปน็ จากมากไปหานอ้ ย ได้แก่ ดา้ นการจดั ให้มีการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ด้านการดำ�เนินงานตามแผน พัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ด้านการจัดทำ�แผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่ มุ่งคณุ ภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ดา้ นการจดั ระบบบรหิ ารและสาระสนเทศ ด้านการ กำ�หนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศกึ ษา ดา้ นการจดั ใหม้ ีการพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาอยา่ งต่อเนอื่ ง ด้านการจัดให้มกี ารตดิ ตามตรวจสอบคณุ ภาพการศกึ ษา ดา้ นการจดั ท�ำ รายงานประจ�ำ ปีท่เี ป็นรายงงาน ประเมินคุณภาพภายใน ตามลำ�ดับ 3. แนวทางการดำ�เนนิ การประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา สังกัดองคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวดั ชัยภมู ิ มีวธิ กี ารด�ำ เนินการ ประกอบด้วย 8 ดา้ น 72 ตวั บ่งชี้ 4. ผลการประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ แนวทางการด�ำ เนินการประกันคณุ ภาพ ภายในสถานศึกษา สังกัดองค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ชยั ภมู ิ พบวา่ มคี วามเหมาะสม โดยรวมอยใู่ นระดับ มาก ความเปน็ ไปได้ โดยรวมอย่ใู นระดบั มาก ค�ำ สำ�คัญ: แนวทางการด�ำ เนินการ, การประกนั คุณภาพภายในสถานศกึ ษา Abstract The objectives of this research were 1) to study current conditions and desirable conditions of conducting internal educational quality assurance of schools under Chaiyaphum Provincial Administrative Organization 2) to set up guidelines on internal educational quality assurance. There were 2 stages of research and development. The first stage was to study current conditions and desirable conditions by separating into 2 parts: part 1 was to use questionnaires with 286 samples including chairmen of the board of directors of the basic education, school executives, teachers who were in charge of educational quality assur- ance, and chiefs of 8 learning areas and data were analyzed by mean, standard deviation, and requisition indexes ; part 2 was to take the study trips in 3 schools that obtained Best Practice Appreciation. The target group consisted of 9 people - school executive, chiefs of learning areas and concerned teachers, chosen by purposive sampling. Collecting data was conducted by using structured questionnaires and then analyzed by content analysis description. The second stage was to set up guidelines of internal educational quality assur- ance. There were two steps: Step 1: In-depth interview, the target group was 5 educational experts chosen by purposive sampling. The tools used for collecting data was evaluation form. The statistics used for analyzing were Index of Item Objective Congruence, mean, and standard deviation. Step 2: Evaluation: the target group consisted of 30 people, including school executives, chiefs of 8 learning areas, and teachers who were in charge of educational assurance, chosen by purposive sampling. The collecting data tool was questionnaire, and statistics used for analyzing were mean and standard deviation.

วารสารการบรหิ ารและนเิ ทศการศึกษา มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม ปที ี่ 9 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - เมษายน 2561 123 The study found that: 1. The current conditions of internal educational quality assurance of schools under Chaiyaphum Provincial Administrative Organization was in high level, while desirable condi- tions was in considerably high. 2. Requisite of setting up the guidelines on internal educational quality assurance used in schools under Chaiyaphum Provincial Administrative Organization arranged from the highest level to the lowest level were shown as follows: internal educational assurance arrangement following the educational standard, implementation on school development plan, administrative and informative management, setting up educational standard, continuous improvement on educational quality, following up and monitoring educational quality, and writing an annual self-assessment report (SAR). 3. Guidelines on internal educational assurance contained 8 ways, consisting of 72 indicators. 4. The evaluation of guidelines on internal educational assurance showed that their suitability was in high level, and their possibility was also in high level. Keywords: guidelines of internal educational quality, Assurance Implementation in School บทนำ� ความตระหนกั รบั รูแ้ ละเห็นคณุ คา่ ของการท�ำ งาน เปน็ ระบบมคี ณุ ภาพผเู้ รยี นตามมาตรฐานการศกึ ษา ระบบการประกันคุณภาพการศึกษาเป็น ของสถานศกึ ษามกี ารก�ำ หนดเปา้ หมายและด�ำ เนนิ กลไกสำ�คัญประการหน่ึงที่สามารถขับเคลื่อนการ กิจกรรม/โครงการที่ใช้ผลการประเมินตนเองผล พัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ดำ�เนินไปอย่างต่อ การประเมินคุณภาพจากองค์กรภายนอกหรือผล เนอ่ื งปฏบิ ตั งิ านได้อยา่ งเป็นระบบ มคี ุณภาพตาม การวิจัยที่สถานศึกษาจัดทำ�ข้ึนเพื่อแก้ปัญหาหรือ มาตรฐาน ผทู้ จ่ี บการศกึ ษามคี ณุ ภาพตามทม่ี งุ่ หวงั พัฒนาผู้เรียนของสถานศึกษาเองตลอดจนใช้ผล ผู้ปกครอง ชุมชน และองค์กร/สถานประกอบการ การวิจัยอื่นๆ ที่เก่ียวข้องเป็นฐานในการกำ�หนด ที่รับช่วงผู้จบการศึกษาเข้าศึกษาต่อหรือรับเข้า เป้าหมายคุณภาพผู้เรียน การติดตามตรวจสอบ ท�ำ งาน มคี วามมน่ั ใจวา่ การจดั การศกึ ษาของสถาน และปรับปรุงงานเป็นระยะจะช่วยให้งานบรรลุผล ศึกษาแต่ละแห่งมีคุณภาพได้มาตรฐานแม้จะไม่ ได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพ ผลท่ีเกิดกับผู้เรียน เท่ากันแต่ก็แตกต่างกันไม่มากนัก นักเรียนท่ีจบ กจ็ ะเปน็ ทพี่ งึ พอใจกบั ผปู้ กครอง ชมุ ชนและองคก์ ร การศึกษาจากสถานศึกษาทุกแห่งมีความรู้ความ หรอื สถานประกอบการทรี่ บั ชว่ งตอ่ จากสถานศกึ ษา สามารถ มีทักษะและมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ดว้ ยการด�ำ เนนิ งานทท่ี กุ คนมจี ติ ส�ำ นกึ และความรบั ตามทห่ี ลกั สตู รสถานศึกษาก�ำ หนด ในการพฒั นา ผิดชอบร่วมกัน เช่นนี้ ระบบการประกันคุณภาพ ระบบการประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษาให้ ภายในของสถานศึกษาจะเป็นส่วนหนึ่งของการ เขม้ แขง็ มปี ระสทิ ธภิ าพ และดำ�เนนิ การอยา่ งยง่ั ยนื บริหารการศึกษาท่ีแท้จริงและมีการพัฒนาอย่าง ผเู้ กย่ี วขอ้ งทกุ ฝา่ ยในสถานศกึ ษาตอ้ งมกี ารท�ำ งาน ตอ่ เนอื่ งจนเปน็ วถิ ชี วี ติ ในการท�ำ งานของทกุ คนเปน็ ที่มงุ่ ประโยชน์ทจี่ ะเกิดแก่ผู้เรียนเปน็ สำ�คัญ โดยมี วัฒนธรรมขององค์กรท่ียึดคุณภาพผู้เรียนฝังแน่น

124 Journal of Educational Administration and Supervisor, Mahasarakham University Volume 9 Number 1 January-April 2018 อยูใ่ นจิตใจตลอดเวลา สำ�หรบั ระดับเขตพ้นื ทีก่ าร ความมงุ่ หมายและหลกั การของการจดั การศกึ ษาที่ ศึกษาและหน่วยงานตน้ สงั กัดจะทำ�หน้าทส่ี ่งเสริม มงุ่ เนน้ คณุ ภาพและมาตรฐาน โดยก�ำ หนดไวใ้ นหมวด สนับสนุนและร่วมพัฒนาสถานศึกษาให้สามารถ ท่ี 6 มาตรฐานและการประกันคุณภาพการศกึ ษา ดำ�เนินการได้อย่างราบร่ืนตลอดท้ังเสริมสร้างให้ มาตรา 47 ระบใุ หม้ รี ะบบการประกนั คณุ ภาพการ สถานศึกษาเป็นองค์กรท่ีได้รับการยอมรับตาม ศกึ ษาเพอื่ พัฒนาคุณภาพ และศึกษาในการศึกษา มาตรฐานการศึกษาอย่างแท้จริง ดังน้ัน ผู้เรียน ทุกระดับ ประกอบด้วยระบบการประกนั คณุ ภาพ จึงเป็นบุคคลสำ�คัญท่ีสุดที่สถานศึกษา (ซึ่งหมาย ภายใน และระบบการประกันคุณภาพภายนอก ถึงผู้บริหาร ครู และบุคลากรสนับสนุนทุกคนใน ระบบหลกั เกณฑ์ และวิธกี ารประกนั คณุ ภาพการ สถานศึกษา) ต้องคำ�นึงถึงตลอดเวลาไม่ว่าจะคิด ศึกษา ใหเ้ ป็นไปตามกฎกระทรวง และมาตรา 48 ทำ�กจิ กรรมใดหรอื โครงการใดกต็ ามผเู้ รยี นจะตอ้ ง ระบใุ หห้ นว่ ยงานตน้ สงั กดั และสถานศกึ ษา จดั ใหม้ ี ไดร้ บั ผลหรอื ประโยชนท์ เ่ี กดิ ขนึ้ ทงั้ โดยตรงและโดย ระบบการประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาและให้ ออ้ มนอกจากนใ้ี นการจดั การศกึ ษาจ�ำ เปน็ ตอ้ งอาศยั ถอื วา่ การประกนั คณุ ภาพภายในเปน็ สว่ นหนงึ่ ของ การมสี ว่ นรว่ มของบคุ คลทกุ ฝา่ ยทเี่ กยี่ วขอ้ งเพอื่ ให้ กระบวนการบรหิ ารการศกึ ษาทต่ี อ้ งด�ำ เนนิ การอยา่ ง ผเู้ รยี นเกดิ การเรยี นรอู้ ยา่ งมคี ณุ ภาพตามทคี่ าดหวงั ต่อเน่ืองโดยมีการจัดทำ�รายงานประจำ�ปีเสนอต่อ กระบวนการประกนั คณุ ภาพการศกึ ษาจงึ เปน็ เครอ่ื ง หนว่ ยงานตน้ สงั กดั หนว่ ยงานทเี่ กย่ี วขอ้ ง และเปดิ มือท่ีมีความสำ�คัญอย่างยิ่งในการจัดการศึกษาใน เผยตอ่ สาธารณชน เพอ่ื น�ำ ไปสกู่ ารพฒั นาคณุ ภาพ ปจั จุบนั และต้องดำ�เนินการอย่างต่อเนื่อง และใน มาตรฐานการศึกษา และเพ่ือรองรับการประเมิน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช คณุ ภาพภายนอก (ส�ำ นกั งานรบั รองมาตรฐานและ 2550 ไดก้ �ำ หนดสทิ ธเิ สรภี าพของปวงชน ชาวไทย ประเมนิ คุณภาพการศึกษา. 2549: 29-30) พระ เกยี่ วกบั การศกึ ษา ใหบ้ คุ คลยอ่ มมสี ทิ ธเิ สมอกนั ใน ราชบัญญัติดงั กล่าวยังไดม้ ่งุ เน้นใหส้ ถานศึกษาทุก การไดร้ บั การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานไมน่ อ้ ยกวา่ สบิ สองปี แหง่ มกี ารประเมนิ คณุ ภาพภายในหรอื การประเมนิ ทรี่ ฐั ตอ้ งจดั ใหอ้ ยา่ งทว่ั ถงึ และมคี ณุ ภาพ ซงึ่ ในการ ตนเองทุกปี โดยดำ�เนินการเป็นส่วนหน่ึงของการ จดั การศกึ ษาเพอ่ื พฒั นาคนใหม้ คี ณุ ภาพจงึ เปน็ เรอื่ ง บรหิ ารตามปกติ ซง่ึ จะต้องเปิดเผยตอ่ สาธารณชน ท่ีมีความจำ�เป็นอย่างย่ิง โดยจะต้องเริ่มจากการ พรอ้ มจะถกู ตรวจสอบจากคณะกรรมการประเมนิ ศึกษาที่มคี ณุ ภาพ เพ่อื ท�ำ ให้ศักยภาพทีม่ อี ยใู่ นตวั ผลภายในตน้ สงั กดั ทกุ 3 ปแี ละพรอ้ มทจ่ี ะถกู ตรวจ คนได้รับการพัฒนาอยา่ งเตม็ ท่แี ละท�ำ ให้บุคคลได้ สอบจากคณะกรรมการประเมินภายนอกทกุ 5 ปี ร้จู กั คิด วเิ คราะห์ รจู้ กั แก้ปญั หา มคี วามคิดรเิ ริ่ม นบั ตง้ั แตก่ ารประเมนิ ครงั้ สดุ ทา้ ยและเสนอผลการ สรา้ งสรรค์ รูจ้ กั ตนเอง สามารถปรับตัวให้ทนั ต่อ ประเมินต่อหน่วยงานที่เก่ียวข้องและสาธารณชน การเปลยี่ นแปลงทเี่ กดิ ขน้ึ อยา่ งรวดเรว็ มจี รยิ ธรรม และเพอ่ื ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายเจตนารมณใ์ นการพฒั นา คณุ ธรรม สามารถพ่งึ ตนเองและด�ำ รงอยูใ่ นสงั คม คุณภาพการศึกษา อันจะสรา้ งความม่นั ใจใหก้ บั ผู้ ได้อย่างเป็นสุข (สำ�นักงานรับรองมาตรฐานและ ปกครองและประชาชนว่า ลูกหลานจะได้รับการ ประเมินคุณภาพการศึกษา. 2545) จึงได้มีการ ศึกษาที่มีคุณภาพ ฉะน้ันสถานศึกษาต้องจัดการ ออกพระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 พฒั นาการจดั การศกึ ษาของตนเองและแสดงภาระ เพอื่ ใชเ้ ปน็ แนวทางในการพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา ความรบั ผดิ ชอบใหป้ ระจกั ษแ์ กส่ งั คมวา่ สถานศกึ ษา ของประเทศไทย มปี ระสทิ ธผิ ลใน 2 ประเด็นหลกั คอื 1) ผเู้ รียนทกุ คนมีความรู้ความสามารถและคุณลักษณะที่พึง พระราชบัญญตั ิการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. ประสงค์ตามมาตรฐานหลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืน 2542 และทแ่ี กไ้ ขเพม่ิ เตมิ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2545 ฐานอย่างแทจ้ ริง 2)สถานศกึ ษามีศักยภาพในการ (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2553 ได้กำ�หนดอย่างชดั เจนถงึ

วารสารการบริหารและนิเทศการศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม ปที ี่ 9 ฉบับที่ 1 มกราคม - เมษายน 2561 125 จัดการศึกษาให้ผู้เรียนผู้เรียนบรรลุตามมาตรฐาน 1.1 ประชากรท่ใี ช้ในการวิจัยคร้งั น้ี ไดแ้ ก่ อยา่ งแทจ้ รงิ (กรมวิชาการ. 2546) ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษา ผบู้ รหิ ารสถาน ศกึ ษา และหวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ครทู ร่ี บั ผดิ องค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ มีกอง ชอบงานดา้ นการประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา โรงเรยี น การศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม เปน็ หน่วยงาน ในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ปีการ ทรี่ บั ผดิ ชอบงานจดั การศกึ ษาของโรงเรยี นในสงั กดั ศกึ ษา 2558 จ�ำ นวน 26 โรงเรียน รวมประชากร องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ชยั ภมู ิ ซง่ึ ประกอบดว้ ย ทงั้ สิน้ 286 คน สถานศกึ ษาข้นั พื้นฐาน จำ�นวน 26 โรงเรยี น ได้ เห็นความสำ�คัญของการพัฒนา จึงได้บรรจุลงใน 1.2 กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในการวิจัยคร้ังน้ี ยุทธศาสตร์และแนวทางการพัฒนา ท่ี 6 ข้อที่ ไดแ้ ก่ ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษา ผบู้ รหิ าร 6.1.2 ยกระดับคุณภาพการศกึ ษาให้ได้มาตรฐาน สถานศึกษา และหัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ครู โดยพฒั นาระบบประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา ทรี่ บั ผดิ ชอบงานดา้ นการประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา โรงเรยี นในสงั กดั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ชยั ภมู ิ ดงั นนั้ ผวู้ จิ ยั จงึ มคี วามเชอื่ มน่ั วา่ แนวทาง ปีการศึกษา 2558 โดยการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่ง การดำ�เนินการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน ช้ัน (Stratified Random Sampling) (บุญชม สถานศึกษา ที่มีความชัดเจนได้มาตรฐานจะเป็น ศรสี ะอาด. 2545: 43-46) จ�ำ แนกตามสถานภาพ ตัวบ่งชี้ถึงการบริหารจัดการการศึกษาในส่วนของ โดยการใชต้ ารางกำ�หนดขนาดของเครจซีแ่ ละมอร์ การประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาน้ันๆ แกน (Krejcie and Morgan. 1970: 608) ไดก้ ลมุ่ ไดแ้ ละเพอื่ เตรยี มรบั การประเมนิ คณุ ภาพการศกึ ษา ตัวอยา่ งจำ�นวน 208 คน รอบท่ี 3 และรบั การประเมนิ คณุ ภาพการศกึ ษารอบ ตอ่ ไป จากส�ำ นกั งานรบั รองมาตรฐานและประเมนิ 2. เครอื่ งมอื ทใ่ี ชใ้ นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู คณุ ภาพการศกึ ษา (องคก์ ารมหาชน): สมศ ทงั้ นผี้ ล 1. แบบสอบถาม เปน็ แบบสอบถามท่ใี ช้ การวจิ ยั สามารถน�ำ มาใชเ้ ปน็ ขอ้ มลู ส�ำ หรบั องคก์ าร ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสภาพปัจจุบัน บรหิ ารสว่ นจงั หวดั ชัยภมู ิ เพ่ือเป็นแนวทางในการ สภาพทพี่ งึ ประสงค์ การด�ำ เนนิ การประกนั คณุ ภาพ ปรบั ปรงุ และพฒั นาการด�ำ เนนิ การประกนั คณุ ภาพ ภายในสถานศกึ ษา สงั กดั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ภายในสถานศกึ ษาใหม้ คี ณุ ภาพและมปี ระสทิ ธภิ าพ ชยั ภมู ิ ซง่ึ แบบสอบถามมลี กั ษณะเปน็ แบบตรวจสอบ ตามเกณฑ์มาตรฐานต่อไป รายการ (Check list) และแบบมาตราสว่ นประมาณ ค่า 5 ระดับ ตามวธิ ขี อง (Likert’ Rating Scale) ความมุ่งหมายของการวิจัย 2. สมั ภาษณ์แบบมีโครงสรา้ ง ผวู้ ิจยั สรา้ ง ข้ึนตามกรอบแนวคดิ กฎกระทรวงศกึ ษาธิการด้วย 1. เพ่ือศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพท่ีพึง ระบบ หลักเกณฑ์และวิธกี ารประกนั คณุ ภาพการ ประสงค์ ในการดำ�เนนิ การประกนั คณุ ภาพภายใน ศกึ ษาระดบั การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พ.ศ. 2553 และ สถานศกึ ษา สงั กดั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ชยั ภมู ิ จากขอ้ มูลสภาพปจั จบุ ัน สภาพท่ีพงึ ประสงค์ การ ด�ำ เนนิ การประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา สงั กดั 2. เพอื่ สรา้ งแนวทางการด�ำ เนนิ การประกนั องคก์ ารบริหารสว่ นจังหวดั ชัยภูมิ คุณภาพภายในสถานศกึ ษา สงั กัดองค์การบริหาร 3. แบบประเมนิ ส่วนจงั หวดั ชัยภูมิ เพ่ือตรวจสอบความเหมาะสมและความ เป็นไปได้แนวทางการทางการดำ�เนินการประกัน วิธดี ำ�เนินการวิจยั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา สงั กดั องคก์ ารบรหิ ารสว่ น 1. ประชากรและกล่มุ ตวั อยา่ ง

126 Journal of Educational Administration and Supervisor, Mahasarakham University Volume 9 Number 1 January-April 2018 จงั หวดั ชัยภมู ิ และใหข้ อ้ เสนอแนะ ในการปรบั ปรงุ มาวิเคราะห์ข้อมูลโดยการพรรณนาสังเคราะห์ เพอื่ ใหไ้ ดก้ ารพฒั นาแนวทางทมี่ คี วามสมบรู ณ์ เปน็ แนวทางการดำ�เนินการประกันคุณภาพภายใน แบบมาตราสว่ นประมาณค่า (Rating Scale) มี 5 สถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด ระดบั มเี กณฑก์ ารประเมนิ คอื ชยั ภูมิ โดยเปรียบเทยี บกบั กรอบแนวคดิ เชงิ ทฤษฎี และผลงานวจิ ยั ทเี่ กย่ี วขอ้ ง และการน�ำ เสนอขอ้ มลู การวเิ คราะห์ข้อมลู ในรปู แบบความเรียง 1. แบบสอบถามตอนที่ 1 ข้อมูลท่ัวไป ของผูต้ อบแบบสอบถาม ใชก้ ารวิเคราะห์ ความถี่ 4. การวเิ คราะหข์ ้อมลู แบบประเมินความ และร้อยละ เหมาะสมและความเปน็ ไปไดแ้ นวทางการด�ำ เนนิ การ 2. แบบสอบถามตอนที่ 2 ขอ้ มลู เกี่ยวกับ ประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา สงั กดั องคก์ าร การศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ ใน บรหิ ารสว่ นจงั หวัดชยั ภมู ิ โดยนำ�แบบประเมนิ ท่ีได้ การด�ำ เนนิ การประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา รับคืนทั้งหมดมาตรวจสอบความสมบูรณ์ของการ ใช้การวิเคราะห์ค่าเฉล่ีย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ตอบ จากนน้ั น�ำ มาวเิ คราะหข์ อ้ มลู โดยใชโ้ ปรแกรม นำ�ค่าเฉล่ียมาแปลความหมายโดยใช้เกณฑ์ คอมพิวเตอรส์ ำ�เรจ็ รปู โดยการหาค่าเฉล่ีย และคา่ (บญุ ชม ศรีสะอาด. 2545: 49) สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน โดยก�ำ หนดเกณฑก์ ารแปล คา่ เฉลยี่ 4.51 - 5.00 หมายถงึ สภาพ ความหมาย ค่าเฉล่ีย (บุญชม ศรีสะอาด. 2545: ปัจจุบันและสภาพท่ีพึงประสงค์ในการดำ�เนินการ 103) ประกันคุณภาพภายในสถานศกึ ษา อยูร่ ะดบั มาก ที่สุด คา่ เฉลยี่ 4.51-5.00 หมายถงึ รปู แบบ คา่ เฉลยี่ 3.51 - 4.50 หมายถงึ สภาพ มคี วามเหมาะสม/ ความเปน็ ไปได้ อยใู่ นระดบั มาก ปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ในการดำ�เนินการ ทส่ี ุด ประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา อยู่ในระดับ มาก คา่ เฉลยี่ 3.51-4.50 หมายถงึ รปู แบบ คา่ เฉลย่ี 2.51 - 3.50 หมายถงึ สภาพ มคี วามเหมาะสม/ ความเปน็ ไปได้ อยใู่ นระดบั มาก ปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ในการดำ�เนินการ ประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา อยู่ในระดับ คา่ เฉลยี่ 2.51-3.50 หมายถงึ รปู แบบ ปานกลาง มคี วามเหมาะสม/ ความเปน็ ไปได้ อยใู่ นระดบั ปาน คา่ เฉลย่ี 1.51 - 2.50 หมายถงึ สภาพ กลาง ปัจจุบันและสภาพท่ีพึงประสงค์ในการดำ�เนินการ ประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา อยู่ในระดับ คา่ เฉลยี่ 1.51-2.50 หมายถงึ รปู แบบ นอ้ ย มคี วามเหมาะสม/ ความเปน็ ไปได้ อยใู่ นระดบั นอ้ ย คา่ เฉลยี่ 1.00 - 1.50 หมายถงึ สภาพ ปัจจุบันและสภาพท่ีพึงประสงค์ในการดำ�เนินการ คา่ เฉลยี่ 1.00 -1.50 หมายถงึ รปู ประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา อยู่ในระดับ แบบมคี วามเหมาะสม/ ความเปน็ ไปได้ อยใู่ นระดบั นอ้ ยท่สี ดุ น้อยท่สี ดุ 3. แบบสมั ภาษณ์ ผวู้ จิ ยั นำ�ขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ าก การสมั ภาษณ์ สงั เกตการณด์ �ำ เนนิ งาน ศกึ ษาเอกสาร ซงึ่ ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ความเหมาะสม และความเป็นไปได้พบว่าแนวทางการดำ�เนินการ ประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา สงั กดั องคก์ าร บรหิ ารสว่ นจงั หวดั ชยั ภมู ิ ความเหมาะสม โดยรวม อยใู่ นระดับมาก คา่ เฉลย่ี เท่ากบั 4.43 ส่วนความ เปน็ ไปได้ โดยรวมอย่ใู นระดับมาก คา่ เฉลยี่ 4.30

วารสารการบริหารและนิเทศการศกึ ษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ปีที่ 9 ฉบับที่ 1 มกราคม - เมษายน 2561 127 ผลการวจิ ัย สนเทศ ด้านการกำ�หนดมาตรฐานการศึกษาของ สถานศึกษา ด้านการจัดให้มีการพัฒนาคุณภาพ 1. ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล สภาพปัจจบุ นั การศกึ ษาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ดา้ นการจดั ใหม้ กี ารตดิ ตาม สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ การด�ำ เนนิ การประกนั คณุ ภาพ ตรวจสอบคณุ ภาพการศกึ ษา ดา้ นการจดั ท�ำ รายงาน ภายในของสถานศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน สังกัดองคก์ าร ประจำ�ปที เ่ี ปน็ รายงงานประเมินคุณภาพภายใน บรหิ ารสว่ นจังหวดั ชยั ภูมิ 1.4 ผลสรปุ ประเดน็ ส�ำ คญั จากแบบสมั ภาษณ์ 1.1 สภาพปจั จบุ นั การด�ำ เนนิ การประกนั โรงเรียน Best Practice ไดข้ อ้ เสนอแนะแนวทาง คณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน สงั กดั ทางการด�ำ เนนิ การประกนั คณุ ภาพภายในของสถาน องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ชยั ภมู ิ โดยรวมอยรู่ ะดบั ศึกษา ประกอบดว้ ย 8 ด้าน มาก และเมื่อพิจารณารายด้านพบว่าทุกด้านอยู่ ระดบั มาก เมอ่ื เรยี งล�ำ ดบั คา่ เฉลยี่ จากมากไปนอ้ ย 1. ด้านการกำ�หนดมาตรฐานการศึกษา 3 อนั ดบั แรกคอื ด้านการจดั ท�ำ รายงานประจ�ำ ปีท่ี ของสถานศึกษา สถานศึกษามีการแต่งตั้งคณะ เปน็ รายงงานประเมนิ คุณภาพภายใน ด้านการจัด กรรม การรบั ผดิ ชอบ จดั ประชมุ วางแผนเพอื่ ก�ำ หนด ให้มีการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเน่ือง มาตรฐานการศกึ ษาแลว้ น�ำ มาปรบั ใหเ้ ขา้ กบั บรบิ ท และดา้ นการจดั ใหม้ กี ารตดิ ตามตรวจสอบคณุ ภาพ ของสถานศกึ ษาโดยใหผ้ มู้ สี ว่ นเกย่ี วขอ้ งทกุ ฝา่ ยรบั การศกึ ษา รู้รว่ มกนั แลว้ มีการตรวจสอบ ทบทวน มาตรฐาน ของสถานศึกษาเสมอ 1.2 สภาพทีพ่ ึงประสงค์ การดำ�เนนิ การ ประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน 2. ด้านการจัดทำ�แผนพัฒนาการจัดการ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ โดยรวม ศกึ ษาของสถานศึกษาทม่ี ่งุ คณุ ภาพตามมาตรฐาน อยรู่ ะดับมากทีส่ ดุ และเมื่อพิจารณารายดา้ น พบ การศึกษาของสถานศึกษา แต่งต้ังคณะกรรมการ วา่ ทกุ ดา้ นอยใู่ นระดบั มากทสี่ ดุ เมอื่ เรยี งลำ�ดบั คา่ จัดทำ�แผนพัฒนา มีการวิเคราะห์เช้งกลยุทธ์โดย เฉล่ยี จากมากไปน้อย 3 อนั ดับแรกคอื ด้านการจัด การใช้วิธี SWOT Analysis เพ่ือวเิ คราะห์ จดุ แขง็ ทำ�แผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จุดด้อย โอกาส และอุปสรรคอย่างรอบด้าน ใน ท่ีมุ่งคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถาน การจัดทำ�แผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถาน ศกึ ษา ดา้ นการจดั ใหม้ กี ารประเมนิ คณุ ภาพภายใน ศึกษา งบประมาณ ทรัพยากรน้ันต้องตรงตาม ตามมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศกึ ษา และดา้ น โครงการ กิจกรรมและให้มีความสอดคล้องกับ การดำ�เนินงานตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษา มาตรฐานการศกึ ษา ของสถานศึกษา 3. ดา้ นการจดั ระบบบรหิ ารและสารสนเทศ 1.3 ความต้องการจำ�เปน็ ในแนวทางการ แต่งตั้งบุคลากรรับผิดชอบให้ชัดเจนและจัดระบบ ด�ำ เนนิ การประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษา สารสนเทศใหเ้ ปน็ หมวดหมู่ คลอบคลมุ เปน็ ปจั จบุ นั สงั กดั องค์การบริหารสว่ นจงั หวัดชัยภูมิเรยี งลำ�ดบั สะดวกตอ่ การเขา้ ถงึ และใหบ้ ริการ คลอบคลมุ กบั ความตอ้ งการจ�ำ เปน็ จากมากไปหานอ้ ย ไดแ้ ก่ ดา้ น ภารกิจในการบริหารสถานศึกษา โครงสร้างหรือ การจดั ใหม้ กี ารประเมนิ คณุ ภาพภายในตามมาตรฐาน ระบบบริหารงานของสถานศึกษาท่ีเอื้อต่อการ การศกึ ษาของสถานศกึ ษา ดา้ นการด�ำ เนนิ งานตาม พฒั นาระบบประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษา แผนพฒั นาการจดั การศกึ ษาของสถานศกึ ษา ดา้ น การจัดทำ�แผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถาน 4. ดา้ นการด�ำ เนนิ งานตามแผนพฒั นาการ ศึกษาท่ีมุ่งคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของ จดั การศกึ ษาของสถานศกึ ษา แตง่ ตงั้ คณะกรรมการ สถานศึกษา ด้านการจัดระบบบริหารและสาระ กำ�กับ ติดตาม ดูแลบุคลากรทุกคนในการดำ�เนนิ งานตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถาน

128 Journal of Educational Administration and Supervisor, Mahasarakham University Volume 9 Number 1 January-April 2018 ศึกษานำ�ผลการดำ�เนินงานตามแผนพัฒนาการ การศกึ ษาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง มกี ารปรบั ปรงุ รปู แบบการ จดั การของสถานศึกษามาปรบั ปรงุ อย่างตอ่ เนอ่ื ง พัฒนาการศกึ ษาใหส้ อดคลอ้ งกบั บรบิ ทของสถาน ศึกษา มีการพัฒนาบุคลากรโดยส่งเข้าร่วมอบรม 5. ด้านการจัดให้มีการติดตามตรวจสอบ การจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ มีการประสาน คุณภาพการศึกษา แต่งต้ังคณะกรรมการในการ งานระหวา่ งกนั ดว้ ยเทคนคิ ตา่ งๆ ใหค้ รตู น้ แบบเปน็ ตรวจสอบคุณภาพการศึกษา จัดทำ�ปฏิทินการ แกนน�ำ ในการแลกเปลยี่ นเรยี นรรู้ ะหวา่ งกนั และกนั ติดตาม มีเครอื่ งมอื ในการนเิ ทศ ติดตามประเมิน จัดทำ�คู่มือการปฏิบัติงานในสถานศึกษาเพื่อเป็น ผลในการตรวจสอบตามตวั ชีว้ ดั ของมาตรฐานการ แนวทางในการปฏิบัตมิ ที ิศทางอยา่ งชดั เจน มกี าร ศึกษาของสถานศึกษา สรุปผลในการตรวจสอบ จดั ท�ำ หลกั ฐานขอ้ มลู สบื คน้ ของสถานศกึ ษา โดยมี คุณภาพการศึกษาให้ทุกฝ่ายได้รับรู้และวิเคราะห์ ขอ้ มูลท่ีเป็นปัจจบุ ัน ร่วมกนั เพอื่ นำ�ไปพฒั นาต่อไป 2. แนวทางการด�ำ เนนิ การประกนั คณุ ภาพ 6. ด้านการจัดให้มีการประเมินคุณภาพ ภายในสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วน ภายในตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา จงั หวัดชยั ภมู ิ แต่งต้ังคณะกรรมการหรือคณะทำ�งาน ให้มีการ อบรมพัฒนาความรู้ ทักษะเก่ียวกับการประเมิน 2.1 แนวทางการดำ�เนนิ การประกนั คณุ ภาพ คุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาและตัว ภายในสถานศกึ ษา สงั กดั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั บ่งช้ี นำ�ขั้นตอนการดำ�เนินงานเป็นกระบวนการ ชยั ภมู ิ ไดก้ ารด�ำ เนนิ การประกนั คณุ ภาพภายในสถาน บริหารงานอย่างมีคุณภาพครบวงจร (PDCA) มา ศกึ ษา ประกอบดว้ ย 8 ดา้ น 72 ตวั บง่ ชี้ ไดแ้ ก่ ดา้ น ใช้ นำ�ข้อมูลที่ได้จากการประเมินมามาสรุปรวม การกำ�หนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา วิเคราะห์ และจัดทำ�เป็นสารสนเทศ เพ่ือพัฒนา 9 ตัวบ่งช้ี ด้านการจัดทำ�แผนพัฒนาการจัดการ เคร่ืองมอื ใหม้ ีประสิทธิภาพในการประเมนิ ครั้งตอ่ ศึกษาของสถานศกึ ษาที่มุ่งคุณภาพตามมาตรฐาน ไป น�ำ ผลการประเมิน ประชาสมั พันธใ์ หผ้ ้ทู ม่ี สี ว่ น การศึกษาของสถานศึกษา 11 ตัวบ่งชี้ ด้านการ เกย่ี วขอ้ งทราบเพอื่ การสนบั สนนุ รวมทงั้ การมสี ว่ น จัดระบบบริหารและสารสนเทศ 10 ตวั บ่งชี้ ดา้ น ร่วมในการพฒั นาคร้ังตอ่ ไป การดำ�เนินงานตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษา ของสถานศกึ ษา 8 ตวั บง่ ชี้ ด้านการตดิ ตามตรวจ 7. ด้านการจัดทำ�รายงานประจำ�ปีท่ีเป็น สอบคณุ ภาพการศกึ ษา 7 ตวั บง่ ชี้ ดา้ นการประเมนิ รายงานประเมนิ คณุ ภาพภายใน แตง่ ตงั้ คณะท�ำ งาน คณุ ภาพภายในตามมาตรฐานการศกึ ษาของสถาน ทปี่ ะกอบดว้ ยบคุ ลากรจากทกุ ฝา่ ยทป่ี ฏบิ ตั งิ าน เพอื่ ศกึ ษา 9 ตวั บง่ ช้ี ด้านการจดั ทำ�รายงานประจ�ำ ปี ให้ทุกฝ่ายร่วมรับรู้และนำ�ข้อมูลท่ีรวบรวมในการ ท่ีเปน็ รายงานประเมินคุณภาพภายใน 10 ตวั บง่ ชี้ ประเมินตามตัวบ่งชี้ของมาตรฐานการศึกษา มา ดา้ นการพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง 8 วเิ คราะหร์ ว่ มกนั เพอ่ื จดั ท�ำ เอกสารรายงานคณุ ภาพ ตวั บง่ ชี้ พรอ้ มกบั คมู่ อื แนวทางการด�ำ เนนิ การประกนั การศกึ ษาอยา่ งถกู ตอ้ ง ครบถว้ น ท�ำ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง คณุ ภาพภายในสถานศึกษา สังกัดองคก์ ารบริหาร และเป็นระยะตามปฏิทินแผนพัฒนาคุณภาพการ ส่วนจงั หวัดชยั ภูมิ ศึกษา น�ำ ข้อมลู ย้อนกลบั ไปใชพ้ ัฒนาและสง่ เสรมิ พัฒนาการดำ�เนินงานในแผนปฏิบัติการประจำ�ปี 2.2 ผลการประเมินความเหมาะสมและ สง่ รายงานการประเมนิ ตนเองประจ�ำ ปตี อ่ ตน้ สงั กดั ความเป็นไปได้ แนวทางการดำ�เนินการประกัน เผยแพรร่ ายงานการประเมนิ ตนเองประจ�ำ ปตี อ่ ผทู้ ี่ คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา สงั กดั องคก์ ารบรหิ าร มสี ่วนเกีย่ วขอ้ งท้งั หมด ส่วนจงั หวัดชยั ภมู ิ โดยผู้ทรงคณุ วุฒิ 9 คนมีความ เหมาะสมของแนวทางการด�ำ เนนิ การประกนั คณุ ภาพ 8. ด้านการจัดให้มีการพัฒนาคุณภาพ

วารสารการบริหารและนเิ ทศการศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม ปีท่ี 9 ฉบับที่ 1 มกราคม - เมษายน 2561 129 ภายในสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วน อภปิ รายผล จงั หวัดชยั ภูมิ โดยรวมอยใู่ นระดบั มาก และ เมือ่ พจิ ารณารายขอ้ พบว่า ข้อทีอ่ ยใู่ นระดับมากท่สี ุด 1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลสภาพปัจจุบัน 3 ขอ้ ระดบั มาก 3 ขอ้ เมือ่ เรยี งลำ�ดบั คา่ เฉลย่ี จาก สภาพท่ีพึงประสงค์ ในการดำ�เนินการประกัน มากไปน้อย 3 ล�ำ ดับแรก คือ ขอบขา่ ยของเน้อื หา คุณภาพภายในของสถานศึกษา สังกัดองค์การ อยู่ในระดับมากที่สุด วัตถุประสงค์ อยู่ในระดับ บริหารสว่ นจังหวัดชยั ภมู ิ มากทสี่ ดุ และวธิ กี ารด�ำ เนินการ อย่ใู นระดับมาก ท่ีสุด มีความเป็นไปไดข้ องแนวทางการดำ�เนนิ การ 1.1 สภาพปจั จบุ นั การด�ำ เนนิ การประกนั ประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา สงั กดั องคก์ าร คณุ ภาพภายในสถานศึกษา สงั กดั องคก์ ารบรหิ าร บรหิ ารส่วนจงั หวัดชัยภูมิ โดยรวมอยู่ในระดับมาก ส่วนจงั หวัดชัยภมู ิ พบวา่ โดยรวมอยู่ในระดบั มาก และ เม่ือพิจารณารายขอ้ พบว่า ขอ้ ท่ีอย่ใู นระดับ ดา้ นที่มรี ะดบั การปฏบิ ตั สิ งู สุด คือ จัดท�ำ รายงาน มากทีส่ ุด 1 ขอ้ ระดบั มาก 5 ข้อ เมื่อเรียงลำ�ดับ ประจ�ำ ปที เ่ี ปน็ รายงานประเมนิ คณุ ภาพภายใน ทงั้ น้ี ค่าเฉลีย่ จากมากไปน้อย 3 ล�ำ ดบั แรก คอื เงอื่ นไข เพราะ สถาบนั ทุกแห่งตอ้ งจดั ทำ�และการประเมิน ของแนวทางอยใู่ นระดบั มาก รองลงมา คอื วธิ กี าร คุณภาพการศึกษามีการดำ�เนินการมากที่สุดอาจ ด�ำ เนินการ อย่ใู นระดบั มาก หลกั การและเหตุผล เน่ืองมาจาก พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ วตั ถปุ ระสงคข์ อบขา่ ยของเนอ้ื หา และแนวทางการ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพ่ิมเตมิ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2545 ประเมนิ อยู่ในระดบั มาก และแกไ้ ชเพ่ิมเตมิ (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2553 บญั ญัติ ไวใ้ นหมวด 6 มาตราที่ 48 ก�ำ หนดใหโ้ รงเรยี นมกี าร 2.3 ผลการประเมินความเหมาะสมและ จัดทำ�รายงานประจ�ำ ปเี สนอตอ่ ตน้ สังกดั โรงเรยี น ความเปน็ ไปได้ คมู่ อื แนวทางการดำ�เนนิ การประกนั จึงต้องมีการประเมินคุณภาพการศึกษาเพ่ือสรุป คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา จาก 26 โรงเรยี น รวม ประเมนิ ผลในการจดั ท�ำ รายงานการประเมนิ ตนเอง จ�ำ นวน 30 คน มคี วามเหมาะสมของแนวทางการ ประจำ�ปี สอดคล้องกับผลการศึกษาของสหชาติ ด�ำ เนนิ การประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาสงั กดั จนี วัฒนะ (2550) องค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ โดยรวมอยู่ใน ระดับมาก และเมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อท่ี 1.2 สภาพท่ีพึงประสงค์การดำ�เนินการ อยใู่ นระดับมากทีส่ ุด 3 ข้อ ระดับมาก 3 ข้อ เม่ือ ประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา สงั กดั องคก์ าร เรยี งล�ำ ดบั ค่าเฉลีย่ จากมากไปนอ้ ย 3 ล�ำ ดับแรก บรหิ ารสว่ นจงั หวดั ชยั ภมู ิ พบวา่ โดยรวมอยใู่ นระดบั คอื หลกั การและเหตผุ ล ขอบขา่ ยของเนอื้ หา อยใู่ น มากทส่ี ดุ ดา้ นทมี่ สี ภาพทพี่ งึ ประสงคส์ งู สดุ คอื จดั ระดับมากท่ีสุด และวตั ถุประสงค์ อยใู่ นระดบั มาก ใหม้ กี ารประเมนิ คณุ ภาพในตามมาตรฐานการศกึ ษา ทีส่ ุด มคี วามเปน็ ไปไดข้ องแนวทางการดำ�เนินการ ของสถานศกึ ษา ทงั้ นี้ เพราะ ยงั ขาดการวางแผนใน ประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาสังกัดองค์การ การประเมนิ คณุ ภาพศกึ ษาอยา่ งชดั เจน ขาดการจดั บริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ โดยรวม อยู่ในระดับ ท�ำ เครอื่ งมอื ในการประเมนิ ผลตามแผนการประเมนิ มาก และเม่อื พจิ ารณารายขอ้ พบวา่ ทุกด้านอยู่ โดยทกุ คนมสี ว่ นรว่ ม ขาดเครอื่ งมอื ในการเกบ็ รวบรวม ในระดับมาก เมอื่ เรียงลำ�ดับค่าเฉลย่ี จากมากไป ขอ้ มลู ท่ีมีประสทิ ธภิ าพดว้ ยเหตุนี้ พระราชบัญญัติ น้อย 3 ลำ�ดบั แรก คอื วัตถปุ ระสงค์ อยูใ่ นระดับ การศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 แกไ้ ชเพม่ิ เตมิ (ฉบบั มาก ขอบข่ายของเนื้อหา อยู่ในระดับมาก และ ท่ี 2) พ.ศ. 2545 และแกไ้ ชเพมิ่ เตมิ (ฉบับท่ี 3) หลักการและเหตผุ ล อยู่ในระดับมาก พ.ศ. 2553 ได้ก�ำ หนดใหห้ น่วยงานตน้ สงั กัดและ สถานศึกษาจัดให้มีระบบประกันคุณภาพภายใน ของสถานศึกษาและให้ถือว่าการประกันคุณภาพ

130 Journal of Educational Administration and Supervisor, Mahasarakham University Volume 9 Number 1 January-April 2018 ภายในเป็นส่วนหน่ึงของกระบวนการบริหารการ ปฏิบัติการประจำ�ปี เช่น ครู ผู้ปกครอง ผู้เรียน ศกึ ษาทต่ี อ้ งด�ำ เนนิ การอยา่ งตอ่ เนอื่ ง สอดคลอ้ งกบั สถานศึกษาขาดการวเิ คราะห์มาตรฐานการศกึ ษา ผลการศึกษาของ นวิ ตั ิ เชยี งแรง (2555: 65-78) และบรบิ ทของสถานศกึ ษา ขาดกระบวนการในการ ปฏบิ ตั งิ านอยา่ งเปน็ ระบบ และขาดการมสี ว่ นรว่ ม 1.3 ความต้องการจ�ำ เป็นในแนวทางการ ในการดำ�เนินงานตามโครงการและกจิ กรรม ขาด ดำ�เนินการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา การวเิ คราะหจ์ ดุ แขง็ จดุ ออ่ น โอกาส และอปุ สรรค สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ด้านท่ีมี ทเ่ี กี่ยวข้องกบั การจดั การศึกษาและวางแผนความ ความต้องการมากที่สุด คือด้านการจัดให้มีการ ต้องการ ความจำ�เป็นของสถานศึกษาอย่างเป็น ประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษา ระบบ สอดคลอ้ งกบั ผลการศกึ ษาของวรรณภา พดุ ของสถานศกึ ษา ทง้ั นเี้ พราะพบวา่ ขาดการวางแผน สี (2554: 113-119) ในการประเมนิ คณุ ภาพการศกึ ษาอยา่ งชดั เจน ขาด การจดั ท�ำ เครอื่ งมอื ในการประเมนิ ผลคณุ ภาพการ 2. แนวทางการด�ำ เนนิ การประกนั คณุ ภาพ ศึกษา ขาดเครื่องมือในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลทมี่ ี ภายในของสถานศึกษา สังกดั องคก์ ารบริหารส่วน ประสทิ ธิภาพ และสอดคล้องกบั ผลการศกึ ษาของ จงั หวดั ชยั ภมู ิ จลุ รตั น์ วุฒวิ รรณ (2552) ลำ�ดับท่ี 2 คอื ด้าน ดำ�เนินงานตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของ 2.1 แนวทางการดำ�เนนิ การประกนั คณุ ภาพ สถานศึกษาท้ังน้ีเป็นเพราะว่า สถานศึกษาขาด ภายในของสถานศึกษา สงั กัดองคก์ ารบรหิ ารส่วน การก�ำ กบั และตดิ ตามการด�ำ เนนิ งานอยา่ งตอ่ เนอื่ ง จังหวัดชัยภูมิ ได้การดำ�เนินการประกันคุณภาพ เนื่องจากว่าภาระงานของครูเยอะเกินไป คณะ ภายในของสถานศึกษาประกอบด้วย 8 ด้าน 72 กรรมการก�ำ กบั ตดิ ตามยงั ขาดมาตรการในการกำ�กบั ตวั บง่ ชี้ ไดแ้ ก่ ดา้ นการก�ำ หนดมาตรฐานการศกึ ษา ติดตามอย่างจริงจัง ขาดปฏิทินการกำ�กับติดตาม ของสถานศึกษา 9 ตัวบ่งช้ี ด้านการจัดทำ�แผน อยา่ งชดั เจน บคุ ลากรไมใ่ หค้ วามรว่ มมอื ในการรบั พฒั นาการจดั การศกึ ษาของสถานศกึ ษาทม่ี งุ่ คณุ ภาพ การก�ำ กบั ตดิ ตามผลการด�ำ เนนิ งาน สถานศกึ ษามี ตามมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศกึ ษา 11 ตวั บง่ การรายงานผลการดำ�เนินงานตามโครงการและ ช้ี ด้านการจัดระบบบริหารและสารสนเทศ 10 ตวั กิจกรรมไม่ชัดเจน การรายงานผลการปฏิบัติงาน บง่ ช้ี ดา้ นการด�ำ เนนิ งานตามแผนพฒั นาการจดั การ ตามโครงการ/กิจกรรมเป็นไปอย่างล่าช้า ผลการ ศกึ ษาของสถานศกึ ษา 8 ตวั บ่งช้ี ดา้ นการติดตาม รายงานการดำ�เนนิ การตามโครงการ/กจิ กรรมไมม่ ี ตรวจสอบคณุ ภาพการศกึ ษา 7 ตวั บ่งชี้ ดา้ นการ ความน่าเช่ือถือและไม่เป็นไปตามแผนพัฒนาการ ประเมนิ คณุ ภาพภายในตามมาตรฐานการศกึ ษาของ จัดการศึกษาของสถานศึกษาและสอดคล้องกับ สถานศกึ ษา 9 ตวั บง่ ชี้ ดา้ นการจดั ท�ำ รายงานประจ�ำ ผลการศกึ ษาของอสิ ระ เวยี งสมุทร (2552: 104- ปีที่เป็นรายงานประเมนิ คณุ ภาพภายใน 10 ตวั บง่ 107) ล�ำ ดับท่ี 3 คอื จดั ท�ำ แผนพัฒนาการจัดการ ชี้ ดา้ นการพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาอยา่ งตอ่ เน่ือง ศึกษาของสถานศึกษาท่มี งุ่ คณุ ภาพตามมาตรฐาน 8 ตัวบ่งช้ี ท้งั นีเ้ ปน็ เพราะวา่ ผู้วจิ ยั ไดแ้ นวทางการ การศกึ ษาของสถานศกึ ษาทง้ั นเี้ พราะบคุ ลากรขาด ด�ำ เนนิ การประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษา การมสี ว่ นรว่ มในการจดั ทำ�แผนปฏบิ ตั กิ ารประจ�ำ ปี โดย ศึกษาหลักการ แนวคดิ ทฤษฎี เอกสาร ตา ของโรงเรยี น บคุ ลากรขาดความตระหนกั และไมใ่ ห้ รา และงานวจิ ยั ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั ทางการด�ำ เนินการ ความร่วมมือในการจัดทำ�แผนปฏิบัติการประจำ� ประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษา สอดคลอ้ ง ปี มีการจัดทำ�แผนปฏิบัติการประจำ�ปีไว้อย่างดี กบั งานวจิ ยั ของ (กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. 2553: 22- แตข่ าดการนำ�ไปปฏิบตั ิอย่างจริงจังและขาดการมี 35) ตามกรอบแนวคดิ ของประกาศกฎกระทรวงวา่ ส่วนร่วมจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดทำ�แผน ดว้ ยระบบ หลักเกณฑ์และวิธีการประกันคุณภาพ การศกึ ษา พ.ศ. 2553 แลว้ น�ำ มาผา่ นกระบวนการ

วารสารการบริหารและนเิ ทศการศกึ ษา มหาวิทยาลยั มหาสารคาม ปที ี่ 9 ฉบับที่ 1 มกราคม - เมษายน 2561 131 สมั ภาษณเ์ ชงิ ลึกจากผูท้ รงคุณวุฒิ จำ�นวน 9 คน ขอ้ เสนอแนะ โดยแตล่ ะทา่ นไดป้ ระเมินความสอดคล้องของการ ด�ำ เนนิ การประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษา 1. ขอ้ เสนอแนะท่วั ไป ทัง้ 8 ดา้ น 72 ตัวบ่งช้ี ทีผ่ วู้ ิจยั ได้จดั ทำ�ข้ึน ว่ามี 1.1 องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ชยั ภมู ิ ควร ความสอดคล้องและมีความเหมาะสมและได้ข้อ มกี ารสง่ เสรมิ สนบั สนนุ การประกนั คณุ ภาพภายใน เสนอแนะแนวคดิ ในการปรบั ปรุงพัฒนาจนได้ตัวชี้ สถานศึกษา โดยการจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ วดั แนวทางการด�ำ เนนิ การประกนั คณุ ภาพภายใน เก่ียวกับแนวทางการดำ�เนินการประกันคุณภาพ ของสถานศึกษา สงั กดั องค์การบริหารสว่ นจังหวัด ภายในสถานศึกษา เพื่อพฒั นาคุณภาพการศึกษา ชยั ภมู ิ ทม่ี คี วามเหมาะสมโดยรวมอยใู่ นระดบั มาก และจดั ท�ำ เอกสารท่เี ก่ียวขอ้ งเผยแพร่ และความเป็นไปได้โดยรวมอยูใ่ นระดบั มาก 1.2 องค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ควรกำ�หนดระยะเวลาในการนิเทศ ติดตามตรวจ 2.2 ผลการประเมินความเหมาะสมและ สอบคุณภาพการศกึ ษาอย่างต่อเนอื่ ง เพอื่ สะท้อน ความเปน็ ไปได้ ด�ำ เนินการประกันคุณภาพภายใน ผลให้สถานศึกษานำ�ไปปรับปรุงและพัฒนาการ ของสถานศกึ ษา สังกัดองค์การบรหิ ารสว่ นจังหวัด ด�ำ เนินการประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษา ให้ ชยั ภูมิ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ จ�ำ นวน 9 คน พบวา่ โดย มปี ระสิทธภิ าพ รวม มคี วามเหมาะสมอยู่ในระดบั มาก และความ 1.3 ผู้บริหารควรสร้างความตระหนักให้ เปน็ ไปไดอ้ ยใู่ นระดบั มาก ทง้ั นเ้ี ปน็ เพราะวา่ แนวทาง กบั บคุ ลากรภายในสถานศกึ ษาเกย่ี วกบั การประกนั การดำ�เนินการประกันคุณภาพภายในของสถาน คุณภาพภายในสถานศกึ ษา โดยการประชุมช้แี จง ศกึ ษา สงั กดั องค์การบริหารสว่ นจงั หวัดชยั ภมู โิ ดย และกำ�หนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ผ่านกระบวนการศึกษา วิเคราะห์ สร้างพัฒนา กำ�หนดบทบาทและหน้าที่ให้ชัดเจน ตลอดจนส่ง อยา่ งตอ่ เนอื่ งและเปน็ ขนั้ ตอนอยา่ งเปน็ ระบบซง่ึ มี เสริมสนบั สนุนให้บุคลากรเพม่ิ พนู ความรู้ การศกึ ษาแนวคดิ หลกั การ ทฤษฎี มกี ารสอบถาม 1.4 ครแู ละบุคลากรในสถานศกึ ษาควรมี สมั ภาษณข์ อ้ มลู ผมู้ สี ว่ นเกย่ี วขอ้ งของสถานศกึ ษาท่ี การศกึ ษาแนวคดิ ระเบยี บและกฎหมายทเ่ี กยี่ วขอ้ ง มีการปฏบิ ตั ทิ ีเ่ ป็นเลศิ (Best Practice) กับการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา และ ตระหนักถึงความสำ�คัญของการประกันคุณภาพ 2.3 ผลการประเมินความเหมาะสมและ ภายในสถานศกึ ษาเพ่อื พฒั นาองค์กร ความเป็นไปได้ แนวทางการดำ�เนินการประกัน 2. ขอ้ เสนอแนะในการศกึ ษาวจิ ยั ตอ่ ไป คุณภาพภายในของสถานศึกษา สังกัดองค์การ 2.1 ควรมกี ารศกึ ษาปจั จยั ทสี่ ง่ ผลตอ่ ความ บรหิ ารสว่ นจงั หวดั ชยั ภมู ิ โดยผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา ส�ำ เรจ็ ในการด�ำ เนนิ การประกนั คณุ ภาพภายในสถาน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ครูผู้มีส่วนเก่ียวข้อง ศกึ ษา เพอ่ื ใชเ้ ปน็ ขอ้ มลู สารสนเทศในการด�ำ เนนิ การ โรงเรยี นในสงั กดั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ชยั ภมู ิ ประกนั คณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศกึ ษานนั้ ใหเ้ กดิ จาก 26 โรงเรยี น รวมทัง้ ส้ิน จำ�นวน 30 คน พบ คณุ ภาพตามมาตรฐานการศึกษาต่อไป ว่าโดยรวม มคี วามเหมาะสมอย่ใู นระดบั มาก และ 2.2 ควรมกี ารศกึ ษาวจิ ยั การพฒั นาแนวทาง ความเปน็ ไปไดอ้ ยูใ่ นระดบั มาก ทั้งนเี้ ป็นเพราะว่า การด�ำ เนนิ การประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา แนวทางการด�ำ เนนิ การประกนั คณุ ภาพภายในของ สงั กัดองคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั ชัยภมู ิ เพ่ือไมใ่ ห้ สถานศกึ ษา สงั กดั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ชยั ภมู ิ สถานศกึ ษายดึ แนวทางเดยี ว เพราะอาจมแี นวทาง โดยผา่ นการสมั ภาษณเ์ ชงิ ลกึ จากผทู้ รงคณุ วฒุ แิ ลว้ น�ำ อ่นื ๆ ที่ดีหรอื ดกี ว่า ดงั นั้น จงึ ควรมกี ารศกึ ษาและ มาปรบั ปรงุ ไขจนไดร้ ปู แบบทมี่ คี วามถกู ตอ้ งเหมาะ การท�ำ วจิ ยั เพอ่ื พฒั นาแนวทางอยา่ งหลากหลายตอ่ ไป สมและสามารถนาไปใช้ไดจ้ รงิ

132 Journal of Educational Administration and Supervisor, Mahasarakham University Volume 9 Number 1 January-April 2018 เอกสารอ้างอิง กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2553). กฎกระทรวงวา่ ดว้ ยระบบ หลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา พ.ศ. 2553. ราชกจิ จานุเบกษา เลม่ 127 วันที่ 2 เมษายน 2553. กรมวชิ าการ. (2546). หลกั สตู รการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพ่มิ เตมิ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2545. กรุงเทพฯ: องคก์ ารรบั สง่ สนิ คา้ และพัสดภุ ัณฑ.์ นิวตั ิ เชยี งแรง. (2555). การดำ�เนินงานการประกันคุณภาพภายในสถานศกึ ษาสงั กดั ส�ำ นักงาน เขตพนื้ ที่ การศึกษา มธั ยมศกึ ษา เขต 36. วทิ ยานพิ นธ์.กศ.ม. พะเยา: มหาวิทยาลัยพะเยา. บญุ ชม ศรสี ะอาด. (2545). การวิจยั เบ้ืองตน้ . พิมพ์ครงั้ ท่ี 7. กรงเทพฯ: สุวรี ยิ าสาสน . วราพร ชยั อาษา. (2554). ความตอ้ งการจ�ำ เปน็ ในการด�ำ เนนิ การประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษา โรงเรยี นขยายโอกาสทางการศกึ ษาในอ�ำ เภออบุ ลรตั น์ สงั กดั ส�ำ นกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาประถม ศึกษา ขอนแกน่ เขต 4. รายงานการศึกษาอิสระ ศศ.ม. ขอนแกน่ : มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ . วรรณภา พดุ ส.ี (2554). การพฒั นาการด�ำ เนนิ งานการประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาโรงเรยี นอนบุ าล เทศบาลตำ�บลร่องคำ� อำ�เภอร่องคำ� จังหวัดกาฬสินธ์ุ. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. มหาสารคาม: มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม. ส�ำ นกั งานรบั รองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศกึ ษา (องค์การมหาชน). (2549). คมู่ อื การประเมนิ คุณภาพ ภายนอกระดบั อดุ มศึกษา. กรงุ เทพฯ: จดุ ทอง. สำ�นักงานรบั รองมาตรฐานและประเมนิ คุณภาพการศึกษา (องคก์ ารมหาชน). (2545). หลกั เกณฑแ์ ละ วิธีการประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน. กรุงเทพฯ: สำ�นักงานรับรอง มาตรฐานและประเมนิ คุณภาพการศึกษา. อิสระ เวียงสมุทร. (2552). การพัฒนาการดำ�เนินงานการประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนนำ้�พอง พฒั นศกึ ษารชั มงั คลาภเิ ษก อ�ำ เภอน�้ำ พอง จงั หวดั ขอนแกน่ . วทิ ยานพิ นธ์ กศ.ม. มหาสารคาม: มหาวิทยาลยั มหาสารคาม. Krejcie, R.V. and D.W. Morgan. (1970). “Determining Sample Size for Research Activities,” Educational and Psychological Measurement. 30(3): 607-610 ; March.

การพฒั นารูปแบบการนาผลการประเมนิ คุณภาพการศึกษาไปใช้ สานักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาร้อยเอด็ เขต 1 Model Development for Using the Educational Quality Assessment Results, Office of Rio-et Primary Education Area 1 สุวฒั นพงษ์ ร่มศรี1 เพ่ิมพลู ร่มศรี2 สญั ญา เคณาภมู ิ3 บทคัดย่อ วิเคราะห์โดยการวิเคราะห์เน้ือหา ผลการวิจยั การวิจัยคร้ังน้ีมีจุดมุ่งหมาย (1) เพื่อ ปรากฏดงั น้ี พฒั นารูปแบบการนาผลการประเมินคุณภาพไป 1. รูปแบบการนาผลการประเมิน ใช้ในการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพ คุณภาพภายนอกไปใช้ในการพฒั นาระบบ ภายในของสถานศึกษา และ (2) เพ่ือทดลองใช้ การประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษา ที่ รูปแบบการนาผลการประเมินคุณภาพการศึกษา ได้รับการพัฒนา คือ การนิเทศแบบสาเกต ไปใช้ในการพฒั นาระบบการประกันคุณภาพ (SAKET Model) ประกอบด้วย 5 ข้ันตอน ภายในของสถานศึกษา กลุ่มเป้ าหมายที่ใช้ใน ดงั น้ี (1) S : Survey (สารวจ) (2) A : Analysis การวิจยั ไดแ้ ก่ (1) โรงเรียนในสังกดั สานกั งาน (วเิ คราะห์) (3) K : Knowledge (ใหค้ วามรู้) (4) เขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 E : E-Supervision (นิเทศ) และ (5) T : Test – จานวน 236 แห่ง (2) โรงเรียนที่ใชใ้ นการทดลอง Evaluation (ประเมิน) ใช้รูปแบบ จานวน 3 โรงเรียน ไดแ้ ก่ โรงเรียน บ้านบากหนองแดง โรงเรี ยนบ้านมะอึ และ 2. ผลการทดลองใช้รูปแบบการนา โรงเรียนจตุรพกั ตรพิมาน โดยกาหนดช่วงเวลา ผลการประเมินคุณภาพการศึกษาไปใชใ้ นการ การวิจยั ระหว่าง มีนาคม-กนั ยายน 2558 ขอ้ มูล พฒั นาระบบการประกนั คุณภาพภายในของ เชิงปริมาณวิเคราะห์โดยการหาค่าเฉล่ีย และ สถานศึกษา สรุปเป็ นกรอบแนวคิด 2 ระดบั ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนขอ้ มูลเชิงคุณภาพ ไดแ้ ก่ (1) การใชใ้ นเชิงความคิด เพอื่ ทาใหเ้ กิด ความกระจ่าง ความเข้าใจ มีการเรี ยนรู้ 1 (การบริหารการศึกษา) ศึกษานิเทศกเ์ ชี่ยวชาญ สานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอด็ เขต 1 2 (การบริหารจดั การการศึกษา) ศึกษานิเทศกช์ านาญการพเิ ศษ สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอด็ เขต 1 3 (รัฐประศาสนศาสตร์) รองศาสตราจารย์ คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั มหาสารคาม Email : [email protected]

324 JOURNAL OF NAKHONRATCHASIMA COLLEGE Vol.10 No.2 July – December 2016 .. เก่ียวกบั สิ่งท่ีประเมิน และ (2) การใช้ในเชิง conceptual using and (2) the operational ปฏิบตั ิการ ซ่ึงนาไปใช้ไดใ้ น 3 ลกั ษณะ คือ using which consist of the Legitimate, the การใช้ในเชิงตรวจสอบยืนยนั การใช้ในเชิง symbolic, and the instrumental respectively. สัญลกั ษณ์ และ การใชใ้ นเชิงปฏิบตั ิ Keyword: Model of Using the Educational คาสาคัญ : รูปแบบการนาผลการประเมิน Quality Assessment Results, คุณภาพการศึกษาไปใช้ บทนา ABSTRACT พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ This research aimed to (1) develop พ.ศ. 2542 แกไ้ ขเพิ่มเติม (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2545 the model of using the educational quality ว่ า ด้ว ย ม า ต ร ฐ า น แ ล ะ ก า ร ป ร ะ กัน คุ ณ ภ า พ assessment results, (2) examine the model of การศึกษา ให้มีระบบการประกันคุณภาพ using the educational quality assessment การศึกษาเพ่ือพฒั นาคุณภาพและมาตรฐาน results. The target population was 236 การศึกษาทุกระดับ ได้แก่ ระบบการประกนั schools under the Office of Rio-et Primary คุณภาพภายในสถานศึกษา ซ่ึงเป็ นส่วนหน่ึง Education Area 1, and the experiment ของกระบวนการบริ หารการศึกษาท่ีต้อง schools were; Banbaknongdeang School, ดาเนินการประเมินตนเองต่อเนื่องทุกปี โดย Banma-aue school, and Jaturapakpimarn สถานศึกษา และอยา่ งน้อยหน่ึงคร้ังทุกสามปี School. The studying held during March to โดยหน่วยงานตน้ สังกดั เพื่อนาไปสู่การพฒั นา September 2015. The quantitative data was คุณภาพการศึกษา และระบบการประเมิน analyzed by descriptive statistics, the คุณภาพภายนอก เพื่อให้มีการตรวจสอบ qualitative data by the content analysis, the คุณภาพของสถานศึกษา โดยคานึงถึงความมุ่ง research results were found as follows; หมาย หลกั การ และแนวทางการจดั การศึกษา ในแต่ละระดบั ท่ีสานกั งานรับรองมาตรฐาน 1. Model Development for Using the และประกันคุณภาพการศึกษา (องค์การ Educational Quality Assessment Results was มหาชน) หรือ สมศ. ดาเนินการอยา่ งนอ้ ยหน่ึง “SAKET Model” consist of (1) S: Survey, (2) คร้ังในทุกห้าปี และมาตรา 51 (สานักงาน A: Analysis, (3) K: Knowledge, (4) E: E- รับรองมาตรฐานและประเมิ นคุ ณภาพ Supervision, and (5) T: Test – Evaluation. การศึกษา (องคก์ ารมหาชน). 2553) กาหนดไว้ ว่าใ นก รณี ท่ี ผล การ ปร ะเมิ นภ ายน อก ขอ ง 2. The results of experiment of the สถานศึกษาใดไม่ได้ตามมาตรฐานท่ีกาหนด model using of the educational quality assessment results were 2 concepts; (1) the

JOURNAL OF NAKHONRATCHASIMA COLLEGE Vol.10 No.2 July – December 2016 325.. ให้ สมศ. จัดทาข้อเสนอแนะการปรับปรุ ง และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. แกไ้ ขต่อหน่วยงานตน้ สังกดั เพ่ือให้สถานศึกษา 2553 และประกาศกาหนดหลกั เกณฑแ์ ละแนว ปรับปรุงแกไ้ ขภายในระยะเวลาที่กาหนด หาก ปฏิบัติเก่ียวกับการประกันคุณภาพภายใน มิได้ดาเนินการดังกล่าว ให้ สมศ. รายงาน ระดบั การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พ.ศ. 2554 ขา้ งตน้ ต่ อ ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ก า ร ศึ ก ษ า ข้ ัน พ้ื น ฐ า น ต่างให้ความสาคัญกับกระบวนการติดตาม ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ก า ร อ า ชี ว ศึ ก ษ า ห รื อ ตรวจสอบและการประเมินคุณภาพการศึกษา คณะกรรมการการอุดมศึกษาเพื่อดาเนินการให้ มุ่งเน้นให้มีการนาผลจากการติดตามและ มีการปรับปรุงแกไ้ ข กฎกระทรวงวา่ ดว้ ยระบบ ประเมินคุณภาพการศึกษามาใช้เป็ นฐานเพ่ือ หลักเกณฑ์ และวิธี การประกันคุ ณภาพ การพฒั นาคุณภาพการศึกษาอยา่ งต่อเน่ือง โดย การศึกษา พ.ศ. 2553 ยงั กาหนดให้สถานศึกษา สถานศึกษา หน่วยงานตน้ สงั กดั และผเู้ ก่ียวขอ้ ง ข้นั พ้ืนฐานจดั ให้มีระบบการประกนั คุณภาพ ทุกฝ่ ายตอ้ งให้ความสาคญั และให้มีการนาผล ภายในโดยการส่งเสริม สนบั สนุน และกากบั การประเมินคุณภาพท้งั ภายในและภายนอกสู่ ดูแลของหน่วยงานตน้ สังกดั ตามหลกั เกณฑ์ การวางแผนและพฒั นาคุณภาพการศึกษาอย่าง และแนวปฏิบตั ิท่ีให้สถานศึกษายึดหลกั การมี ต่อเน่ือง (กระทรวงศึกษาธิการ. 2545) ส่วนร่วมของชุมชนและหน่วยงานท่ีเกี่ยวขอ้ ง ท้งั ภาครัฐและภาคเอกชน โดยดาเนินการดงั น้ี อย่างไรก็ตาม ผลจากการติดตามของ คือกาหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา สมศ. (ปี 2555) เก่ียวกบั การนาผลการประเมิน จัดทาแผนพัฒนาการจัดการศึ กษาของ ไ ป ใ ช้ ใ นก า ร พ ัฒนา คุ ณภา พ ก า รศึ ก ษ า ข อ ง สถานศึกษาที่มุ่งคุ ณภาพตามมาตรฐาน สถานศึกษาในระยะที่ผ่านมา พบว่า ปัจจัย การศึกษาของสถานศึกษา จัดระบบบริหาร สาคญั ท่ีสถานศึกษายงั ไม่มีการนาผลประเมิน และสารสนเทศ ดาเนินงานตามแผนพฒั นาการ ไปใชเ้ พื่อการพฒั นาคุณภาพการศึกษาแต่อยา่ ง จัดการศึกษาของสถานศึกษา จัดให้มีการ ใด สืบเนื่องมาจากสถานศึกษาไม่ทราบว่าจะ ติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา จดั ให้มี นาผลประเมินไปใช้อย่างไร รวมถึงไม่ทราบ การประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐาน รูปแบบวิธีการนาผลประเมินไปใช้ หรือไม่ การศึกษาของสถานศึกษา จัดทารายงาน ทราบว่าจะต้องนาไปใช้ คณะกรรมการ ประจาปี ท่ีเป็ นรายงานประเมินคุณภาพภายใน สถานศึกษาและหน่วยงานตน้ สังกัดขาดการ และจดั ให้มีการพฒั นาคุณภาพการศึกษาอยา่ ง กากบั ติดตามการดาเนินงานของสถานศึกษา ต่อเนื่องจากพระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ ร ว ม ถึ ง บุ ค ล า ก ร ข อ ง ส ถ า น ศึ ก ษ า ไ ม่ เ ห็ น พ.ศ. 2542 แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ.2545 ความสาคญั หรือไม่ให้ความร่วมมือในการนา ว่ า ด้ว ย ม า ต ร ฐ า น แ ล ะ ก า ร ป ร ะ กัน คุ ณ ภ า พ ผลการประเมินไปใช้ปรั บปรุ งหรื อทา การศึกษา กฎกระทรวงวา่ ดว้ ยระบบ หลกั เกณฑ์ แผนพฒั นาคุณภาพการศึกษา

326 JOURNAL OF NAKHONRATCHASIMA COLLEGE Vol.10 No.2 July – December 2016 .. จากสภาพปัญหาและความจาเป็ น 1.2 ตัวแปรตาม ได้แก่ คุณภาพ ดงั กล่าวขา้ งตน้ สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษา ของระบบการประกันคุณภาพภายในของ ประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 จึงได้จัดทา สถานศึกษา โครงการวิจยั การพฒั นารูปแบบการนาผลการ ประเมินคุณภาพการศึกษาไปใช้ในการพฒั นา 2. กลุ่มเป้ าหมายทใ่ี ช้ในการวจิ ัย ระบบการประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษา 2.1 โรงเรียนในสังกดั สานกั งาน เพ่ือให้สถานศึกษาในสังกัด ได้นาผลการ ประเมิ นคุ ณภาพไปใช้ปรั บปรุ งและพัฒนา เขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา โดยมุ่งเนน้ 1 จานวน 236 แห่ง ไ ป ท่ี ก า รพ ัฒ นา ร ะ บ บ ก า ร ป ร ะ กัน คุ ณภ า พ ภายในของสถานศึกษา ผลจากการวิจยั คร้ังน้ี 2.2 โรงเรียนที่ใช้ในการทดลอง จะทาให้สถานศึกษามีการพฒั นาคุณภาพท่ี ใช้รูปแบบ จานวน 3 โรงเรียน คือ โรงเรียน สูงข้ึน รวมท้งั บุคลากรของสถานศึกษามีความ ขนาดเล็ก ไดแ้ ก่ โรงเรียนบา้ นบากหนองแดง ตร ะ หนัก แ ล ะ เ ห็ นค ว า ม ส า คัญข อ ง ผล ก า ร โรงเรียนขนาดกลาง ไดแ้ ก่ โรงเรียนบา้ นมะอึ ประเมินท่ีมีอยู่และให้ความร่วมมือในการนา โรงเรี ยนขนาดใหญ่ ได้แก่ โรงเรี ยนจตุร ผลการประเมินไปใช้ปรั บปรุ งหรื อทา พกั ตรพิมาน แผนพฒั นาคุณภาพการศึกษาต่อไป 3. ช่วงเวลาดาเนินการ ระหวา่ งวนั ที่ วตั ถุประสงค์การวจิ ัย 1 มีนาคม- กนั ยายน 2558 1. เพ่ือพฒั นารูปแบบการนาผลการ วธิ ีดาเนินการวจิ ัย ประเมินคุณภาพไปใช้ในการพฒั นาระบบ กลุ่มเป้ าหมาย การประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษา 1. สถานศึกษาในสังกัดสานักงาน 2. เพื่อทดลองใช้รูปแบบการนาผล เขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต การประเมินคุณภาพการศึกษาไปใช้ในการ 1 จานวน 236 โรงเรียน พฒั นาระบบการประกนั คุณภาพภายในของ สถานศึกษา 2. สถานศึกษาในสังกัดสานักงาน เขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอด็ เขต ขอบเขตของการวจิ ัย 1 ที่ทดลองใชร้ ูปแบบการนาผลการประเมิน 1. ตวั แปรทใ่ี ช้ในการวจิ ัย ไดแ้ ก่ คุณภาพการศึกษาไปใช้ในการพฒั นาระบบ 1.1 ตวั แปรตน้ ไดแ้ ก่ รูปแบบการ การประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษา ซ่ึงเลือกมาแบบเจาะจง จานวน 3 โรงเรียน นาผลการประเมินคุณภาพการศึกษาไปใช้ คือ โรงเรียนขนาดเล็ก ได้แก่ โรงเรียนบา้ น บากหนองแดง โรงเรียนขนาดกลาง ได้แก่ โรงเรียนบา้ นมะอึ โรงเรียนขนาดใหญ่ ไดแ้ ก่ โรงเรียนจตุรพกั ตรพมิ าน

JOURNAL OF NAKHONRATCHASIMA COLLEGE Vol.10 No.2 July – December 2016 327.. เคร่ืองมอื ทใ่ี ช้ในการวจิ ัย ระยะท่ี 1 ผลการพฒั นารูปแบบการ ระยะที่ 1 พฒั นารูปแบบการนาผล นาผลการประเมินคุณภาพภายนอกไปใช้ใน การประเมินคุณภาพการศึกษาไปใช้ในการ การพฒั นาระบบการประกนั คุณภาพภายใน พฒั นาระบบการประกนั คุณภาพภายในของ ของสถานศึกษา พบว่า ได้รูปแบบท่ีเรียกว่า สถานศึกษา ใชเ้ คร่ืองมือเก็บรวบรวมขอ้ มูล “การนิเทศแบบสาเกต (SAKET Model)” ไดแ้ ก่ 1) แบบประเมินรูปแบบการนาผลการ การนิเทศแบบสาเกต (SAKET Model) เป็ น ประเมินคุณภาพการศึกษาไปใช้ 2) คู่มือการ กระบวนการนิเทศท่ีศึกษานิเทศก์ ผูบ้ ริหาร ใ ช้รู ป แบ บ ก า รนา ผล ก า รป ระ เมิ นคุ ณภา พ ครูและผูม้ ีส่วนเกี่ยวขอ้ ง มีส่วนร่วมในการ การศึกษาไปใช้ และ 3) แผนการส่งเสริม พฒั นาคุณภาพการจดั การศึกษา ส นับ ส นุ น ก า ร น า ผ ล ก า ร ป ร ะ เ มิ น คุ ณ ภ า พ ดว้ ยยุทธศาสตร์การมีส่วนร่วม และการเสริม การศึกษาไปใช้ พลงั ความร่วมมือ โดยใช้กระบวนการวิจยั ระยะที่ 2 ทดลองใช้และประเมินผล ปฏิบตั ิการ P-A-O-R ในการดาเนินการนิเทศ การใชร้ ูปแบบการนาผลการประเมินคุณภาพ ติดตามและประเมินผล เพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพ ก า ร ศึ ก ษ า ไ ป ใ ช้ ใ น ก า ร พ ัฒ น า ร ะ บ บ ก า ร แ ล ะ พ ัฒ น า คุ ณ ภ า พ ก า ร จัด ก า ร ศึ ก ษ า ข อ ง ประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ใช้ สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษา เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล ดังน้ี 1) แบบ ร้อยเอ็ด เขต 1 ซ่ึงมีที่มาจากช่ือเดิมของ ประเมินการประชุมช้ีแจง 2) แบบสัมภาษณ์ จงั หวดั ร้อยเอ็ด คือ สาเกตนครโดยการนิเทศ 3) แบบสารวจ 4) แบบสังเกต แ บ บ ส า เ ก ต เ กิ ด ข้ึ น ด้ว ย ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ข อ ง การวเิ คราะห์ข้อมูล ศึกษานิเทศกท์ ุกคน มีข้นั ตอนการสร้าง ดงั น้ี 1. ขอ้ มูลเชิงปริมาณ วิเคราะห์โดยการ หาคา่ เฉลี่ย และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ข้นั ตอนท่ี 1 ศึกษาสภาพปัญหาการ 2. ขอ้ มูลเชิงคุณภาพ วิเคราะห์โดยการ นิเทศ โดยดาเนินการดงั น้ี วเิ คราะห์เน้ือหา (Content Analysis) 1.1 ศึกษาสภาพปัญหาการนิเทศ สรุปผลการวจิ ัยและอภปิ รายผล ท่ีผ่านมาของสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา ในการพัฒนารู ปแบบการนาผล ประถมศึกษาร้อยเอด็ เขต 1 ก า ร ป ร ะ เ มิ น คุ ณ ภ า พ ก า ร ศึ ก ษ า ไ ป ใ ช้ ใ น 1.2 ศึกษาแนวคิด ทฤษฎีเกี่ยวกบั การพฒั นาระบบการประกนั คุณภาพภายใน การนิเทศการศึกษา ของสถานศึกษา ก่อนนาไปทดลองใช้ใน โรงเรียนกลุ่มเป้ าหมาย ไดด้ าเนินการดงั น้ี 1.3 ศึกษาประวตั ิความเป็ นมา ของจงั หวดั ร้อยเอด็ 1.4 สังเคราะห์ขอ้ มูลที่ไดจ้ ากขอ้ 1.1, 1.2 และ 1.3 เพื่อจดั ทาร่างแนวทางการ

328 JOURNAL OF NAKHONRATCHASIMA COLLEGE Vol.10 No.2 July – December 2016 .. นิ เ ท ศ ข อ ง ส า นัก ง า น เ ข ต พ้ื น ท่ี ก า ร ศึ ก ษ า ผรู้ ับการนิเทศในประเด็นปัญหาท่ีสาคญั ท่ีจะ ประถมศึกษาร้อยเอด็ เขต 1 ส่งเสริมใหก้ ารจดั การศึกษามีคุณภาพ ข้นั ตอนที่ 2 พฒั นาการนิเทศแบบสา 4) Reflection คือ การสะทอ้ นผล เกต (SAKET Model) โดยการนาร่ างแนว จากการจากการสารวจ สังเกต หรือสัมภาษณ์ ทางการนิ เทศของสานักงานเขตพ้ืนที่ และวิเคราะห์ผลเพ่ือให้ไดเ้ รื่องหรือประเด็น การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 จาก เร่งด่วนและสาคญั ที่สุดท่ีจะใช้ในการนิเทศ ข้ันตอนที่ 1 มาวิพากษ์ โดยศึกษานิเทศก์ เพ่อื ใหก้ ารจดั การศึกษามีประสิทธิภาพ ส่งผล สานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศึกษา ใหผ้ ลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสูงข้ึนตอ่ ไป ร้อยเอ็ด เขต 1 ทุกคน ทาให้ได้ “การนิเทศ แบบสาเกต (SAKET Model)” ซ่ึงประกอบดว้ ย ข้นั ที่ 2 A : Analysis เป็ น ข้ันการ 5 ข้นั ตอน ดงั น้ี วเิ คราะห์ขอ้ มูลจากสภาพปัจจุบนั ปัญหา และ ความตอ้ งการของผูร้ ับการนิเทศ เพื่อใช้ใน ข้นั ที่ 1 S : Survey เป็น ข้นั การสารวจ การวางแผนและกาหนดแนวทางในการนิเทศ ศึกษาสภาพปัจจุบนั ปัญหา และความตอ้ งการ ซ่ึงไดม้ าโดยใชก้ ระบวนการ P-A-O-R ดงั น้ี ของผรู้ ับการนิเทศเพ่ือให้เร่ืองน้นั ๆไดร้ ับการ พฒั นาได้บรรลุเป้ าหมายตามความตอ้ งการ 1) Plan คือการวางแผนการ ซ่ึงไดม้ าโดยใชก้ ระบวนการ P-A-O-R ดงั น้ี วเิ คราะห์ขอ้ มูลจากสภาพปัจจุบนั ปัญหา และ ความตอ้ งการของผรู้ ับการนิเทศ เพ่ือนามาใช้ 1) Plan คือ การวางแผนเพื่อ ในการวางแผนและกาหนดแนวทางในการ สารวจสภาพปัจจุบนั ปัญหาและความตอ้ งการ นิเทศ ของผรู้ ับการนิเทศเพ่ือให้ไดร้ ับการพฒั นาได้ บรรลุเป้ าหมายตามความตอ้ งการ 2) Action คือการปฏิ บัติตาม แผน การ วิเค ราะ ห์ ข้อมูล ที่ วา งไว้จา ก 2) Action คือ การปฏิบัติตาม การศึกษาสภาพปัจจุบันปัญหา และความ แผนท่ีวางไว้ในการสารวจ ศึกษาสภาพ ตอ้ งการของผูร้ ับการนิเทศ เพ่ือนามาใช้ใน ปัจจุบนั ปัญหา และความตอ้ งการของผูร้ ับ การวางแผนและกาหนดแนวทางในการนิเทศ การนิเทศ เพ่ือให้เรื่องน้นั ๆ ไดร้ ับการพฒั นา ได้บรรลุเป้ าหมายตามความต้องการ ด้วย 3) Observation คือการรวบรวม รู ปแบบที่หลากหลาย เช่น แบบสารวจ ขอ้ มูลจากการสารวจ สังเกต หรือสัมภาษณ์ แบบสอบถาม และแบบสมั ภาษณ์ เพ่ือนามาวิเคราะห์ผล เพื่อนามาใช้ในการ วางแผนและกาหนดแนวทางในการนิเทศ 3) Observation คือ การรวบรวม ขอ้ มูล จากการสารวจ สังเกต หรือสัมภาษณ์ 4) Reflection คือ การสะทอ้ นผล สภาพปัจจุบนั ปัญหา และความตอ้ งการของ ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ ข้อ มู ล ที่ ไ ด้ จ า ก ก า ร ส า ร ว จ สังเกตหรื อสัมภาษณ์ เพื่อนามาใช้ในการ วางแผนและกาหนดแนวทางในการนิเทศ

JOURNAL OF NAKHONRATCHASIMA COLLEGE Vol.10 No.2 July – December 2016 329.. ข้นั ที่ 3 K : Knowledge เป็นข้นั การ ข้ันที่ 4 E : E – Supervision เป็ น เรี ยนรู้สู่ การพัฒนาท่ีย่ังยืนด้วยวิธี การที่ ข้นั การนิเทศแบบมีส่วนร่วม โดยการใช้ส่ือ หลากหลาย เช่น การอบรม ประชุม สัมมนา electronic เ พื่ อ ส่ ง เ ส ริ ม แ ล ะ พัฒ น า ก า ร การประชุมปฏิบตั ิการ การปฏิบตั ิกิจกรรม จัดการศึก ษ าใ ห้มี ประ สิ ทธิ ภาพยิ่งข้ึ น การศึกษาความรู้ดว้ นตนเอง การช้ีแนะ การ ซ่ึงไดม้ าโดยใชก้ ระบวนการ P-A-O-R ดงั น้ี เป็ นพี่เล้ียง ฯลฯ เพื่อให้เร่ืองน้นั ๆ ไดร้ ับการ พฒั นาได้บรรลุเป้ าหมายตามความตอ้ งการ 1) Plan คือ การวางแผนนาส่ือ ซ่ึงไดม้ าโดยใชก้ ระบวนการ P-A-O-R ดงั น้ี Electronic มาเป็ นเครื่องมือในการนิเทศให้ เข้ากับสภาพบริ บทของโรงเรี ยนในสังกัด 1) Plan คือ การวางแผนนาการ สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษา เรี ยนรู้สู่ การพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยวิธี การที่ ร้อยเอ็ด เขต 1 เช่น Internet, Website, Facebook หลากหลาย เช่ น การพัฒนาหลักสู ตร ฯลฯ ซ่ึงมีกิจกรรมการวางแผนดาเนินการ คือ ฝึ กอบรม คู่มือครู รูปแบบการสอน เอกสาร การกาหนดเน้ือหาท่ีจะนิเทศ การกาหนด ประกอบการประชุม การจดั กิจกรรมวชิ าการ ประเภทของส่ือท่ีจะใช้ การเตรียมการใชส้ ื่อ ตา่ งๆ ฯลฯ เพือ่ ให้เรื่องน้นั ๆ ไดร้ ับการพฒั นา แ ล ะ ก า ร แ จ้ง ป ร ะ ส า น กับ ผู้รั บ ก า ร นิ เ ท ศ ไดบ้ รรลุเป้ าหมายตามความตอ้ งการ เพ่ือให้เร่ืองน้ันๆ ได้รับการพฒั นาได้บรรลุ เป้ าหมายตามความตอ้ งการ 2) Action คือ การปฏิบัติตาม แผนนาการเรียนรู้สู่การพฒั นาท่ียง่ั ยืนด้วย 2) Action คือ การปฏิบัติตาม วธิ ีการที่หลากหลาย เช่น การพฒั นาหลกั สูตร แผนโดยการสร้ างส่ื อ Electronic และหา ฝึ กอบรม คู่มือครู รูปแบบการสอน เอกสาร ประสิทธิภาพส่ือ Electronic แล้วนาไปสู่การ การประชุม การจดั กิจกรรมวชิ าการตา่ งๆ ฯลฯ ปฏิบตั ิการนิเทศ เพ่ือให้เร่ืองน้นั ๆ ได้รับการ เพื่อให้ได้รับการพฒั นาได้บรรลุเป้ าหมาย พฒั นาไดบ้ รรลุเป้ าหมายตามความตอ้ งการของ ตามความตอ้ งการของผรู้ ับการนิเทศ ผรู้ ับการนิเทศ 3) Observation คือ การรวบรวม 3) Observation คือ การรวบรวม ข้อมูล และสังเกตผลจากการเรียนรู้สู่การ ขอ้ มูล จากการกากบั ดูแล ให้มีการนิเทศโดย พฒั นาที่ยงั่ ยืนด้วยวิธีการที่หลากหลายจาก ส่ือ Electronic ดาเนินไปควบคู่กับการนิเทศ การปฏิบตั ิกิจกรรมของผรู้ ับการนิเทศ ตามปกติ รวมท้งั การแกป้ ัญหาท่ีอาจจะเกิดข้ึน ระหวา่ งการดาเนินการนิเทศโดยสื่อ Electronic 4) Reflection คือ การสะทอ้ นผล จากการเรียนรู้สู่การพฒั นาที่ยง่ั ยืนดว้ ยวิธีการ 4) Reflection คือ การสะท้อนผล ท่ีหลากหลายจากการปฏิบตั ิกิจกรรมของผรู้ ับ การเก็บรวบรวมขอ้ มูลผลการดาเนินงานนิเทศ การนิเทศ โดยสื่ อ E-supervision และสรุ ปประเด็นที่ นาไปสู่การพฒั นาวธิ ีดาเนินการในรอบต่อไป

330 JOURNAL OF NAKHONRATCHASIMA COLLEGE Vol.10 No.2 July – December 2016 .. ข้นั ที่ 5 T : Test – Evaluation ดาเนินการ และผูเ้ กี่ยวข้องร่วมกนั ประเมิน เป็ น ข้นั การตรวจสอบและการประเมินผล การนิเทศวา่ มีความเหมาะสมหรือไม่ ซ่ึงเป็ นกระบวนการที่เน้นการเปิ ดโอกาสให้ ทุกฝ่ ายที่เกี่ยวขอ้ ง มีส่วนร่วมในการตรวจสอบ 4) Reflection คือ การสะทอ้ นผล และประเมินผล ดว้ ยวิธีการท่ีหลากหลายและ การเก็บรวบรวมข้อมูลผลเป็ นการดาเนินการ เหมาะสมเพื่อการพฒั นาคุณภาพการศึกษา ซ่ึง ปรับปรุงการนิเทศการประเมินผลและปรับปรุง ไดม้ าโดยใชก้ ระบวนการ P-A-O-R ดงั น้ี การนิเทศ หลังจากร่วมกันตรวจสอบผลจาก การประเมิน ขอ้ เสนอแนะ และขอ้ คิดเห็นของ 1) Plan คือ การวางแผนเตรียม ผเู้กี่ยวขอ้ งในการพฒั นาการนิเทศ เครื่องมือท่ีใชใ้ นการประเมิน แนวทางในการ ประเมิน และระยะเวลาท่ีใช้ในการประเมิน ระยะที่ 2 ทดลองใช้รูปแบบการนา ซ่ึงประเมินโดยวิธีการหลากหลาย เช่น การ ผลการประเมินคุณภาพไปใช้ในการพฒั นา สัมภาษณ์ การสอบถามหรือการสงั เกต โดยมี ระบบการประกันคุ ณภาพภายในของ ผทู้ ี่เก่ียวขอ้ ง ไดแ้ ก่ ศึกษานิเทศก์ ผบู้ ริหาร ครู สถานศึกษา กับโรงเรี ยนกลุ่มเป้ าหมาย และผูเ้ ก่ียวขอ้ งอื่นๆ และร่วมวางแผนสร้าง คณะผู้วิ จัยได้ส ารวจสภาพการด าเนิ นงาน แบบประเมิน ดงั น้ี พฒั นาระบบการประกันคุณภาพภายในของ สถานศึกษา และแนวทางดาเนินงานเพื่อนาผล 1.1) ศึกษาแนวทางการสร้าง การประเมินไปใชพ้ ฒั นาคุณภาพการศึกษาของ แบบประเมินต่างๆ และประเด็นการประเมิน สถานศึกษา และได้สัมภาษณ์กลุ่มผู้บริหาร ท่ีเกี่ยวกบั การดาเนินการใชก้ ารนิเทศ และนา โรงเรียน หัวหน้างานประกันคุณภาพภายใน ผลการนิเทศไปใช้ ของโรงเรียน ครูผูส้ อน และศึกษานิเทศก์ นา ข้อ มู ล ท่ี ได้ จ า ก ก าร ศึ ก ษ าเ อ ก ส า รเ กี่ ย ว กับ 1.2) สร้างเครื่องมือประเมิน แนวคิดการนาผลการประเมินไปใช้ การสารวจ ตามประเดน็ ท่ีกาหนดข้ึน และการสัมภาษณ์ มาตรวจสอบแบบสามเส้า สรุปผลในระยะท่ี 1 จากน้นั เขา้ สู่ระยะท่ี 2 คือ 1.3) การนาแบบประเมินให้ นาผลสรุปในระยะท่ี 1 มาจดั ทาร่างรูปแบบการ ผเู้ ชี่ยวชาญตรวจสอบ และ นาผลการประเมินไปใช้ แลว้ เสนอผทู้ รงคุณวฒุ ิ เพ่ือประเมินยืนยนั รูปแบบดงั กล่าว คณะผวู้ ิจยั 1.4) นาผลการตรวจสอบ นากลับมาปรับปรุ งแล้วจัดทาคู่มือการใช้ จากผเู้ ชี่ยวชาญมาปรับปรุงแกไ้ ขใหส้ มบรู ณ์ รู ปแบบการนาผลการประเมิ นคุ ณภาพ การศึกษาไปใช้ เพื่อให้โรงเรียนนาไปเป็ นแนว 2) Action คือ การปฏิบัติตาม ทางการพฒั นาระบบการประกนั คุณภาพภายใน วางแผน โดยผูน้ ิเทศและผูเ้ ก่ียวขอ้ งในการ ของสถานศึกษาต่อไป ซ่ึงรูปแบบการนาผลการ นิเทศใชว้ ธิ ีการหรือ แบบประเมินที่สร้างข้ึน 3) Observation คือ การรวบรวม ข้อมูล จากการกากับ ดูแล โดยใช้แบบ ประเมินท่ีสร้างข้ึน เป็ นตัวตรวจสอบการ

JOURNAL OF NAKHONRATCHASIMA COLLEGE Vol.10 No.2 July – December 2016 331.. ประเมินคุณภาพการศึกษาไปใช้ มี 2 ระดบั ที่มี แนวคิดของ ศิริชยั กาญจนวาสี (2545: 156-167) ความสัมพนั ธ์กนั คือ การใช้ในระยะแรกเป็ น ไดใ้ ห้รายละเอียดในการนาผลการประเมินไป การใช้ในเชิงความคิด ทาให้เกิดความกระจ่าง ใช้ ว่า ผลการประเมินอาจนาไปสู่การใช้ผล ความเข้าใจ การเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งท่ีประเมิน หรื อไม่ใช้ผลการประเมินก็ได้ ในกรณีที่มี การใช้ในระยะต่อมาเป็ นการใช้ในเชิ ง การนาผลการประเมินไปใชป้ ระโยชน์ สามารถ ปฏิบตั ิการ ดงั รายละเอียดต่อไปน้ี เกิดการใช้ได้ 2 ระดบั ท่ีมีความสัมพนั ธ์กนั คือ การใชใ้ นระยะแรก เป็ นการใช้ในเชิงความคิด 1. การใชใ้ นเชิงแนวคิด เป็ นการใช้ ทาให้เกิดความกระจ่าง ความเขา้ ใจการเรียนรู้ ในข้นั แรกที่ผลการประเมินใหข้ อ้ มูลข่าวสารท่ี เก่ียวกบั ส่ิงที่ประเมิน การใชใ้ นระยะต่อมาเป็ น มีอิทธิพลต่อความคิดของผู้บริหารหรื อผู้ท่ี การใช้ในเชิงปฏิบัติการ คือ การใช้ในเชิง เกี่ยวข้อง แต่ไม่ได้นาไปสู่ การตัดสิ นใจ ความคิด (Conceptual use) เป็ นการใช้ในข้ัน โดยตรงต่อแผนงาน/โครงการ/งาน หรือเป็ น แรกที่ผลการประเมินให้ข้อมูลข่าวสารท่ีมี การใช้ผลทางออ้ ม โดยการนาผลมาสอดแทรก อิทธิพลต่อความคิดของผู้บริ หารหรื อผู้ท่ี ในแนวคิดของผบู้ ริหารหรือผทู้ ่ีเก่ียวขอ้ ง ทาให้ เกี่ยวขอ้ ง แต่ไมไ่ ดน้ าไปสู่การตดั สินใจโดยตรง ผูบ้ ริหารรับรู้ข้อมูลการปฏิบัติงาน รู้สภาพ ต่อแผนงาน/โครงการ/งาน เช่น ทาให้ผูบ้ ริหาร ปัญหา ทาให้เขา้ ใจในสิ่งท่ีประเมิน เช่น สภาพ รับรู้ขอ้ มูลการปฏิบตั ิงาน รู้สภาพปัญหา ทาให้ การจดั กิจกรรมการเรียนการสอน การบริหาร เข้าใจในสิ่ งท่ีประเมิน ซ่ึงสามารถสะสม นาผลประเมิ นมาร่ วมกันวิเคราะห์ หาสาเหตุ สาหรับนาไปใชใ้ นการตดั สินใจเชิงนโยบายที่ และวิธีแก้ปัญหา ช่วยให้เกิดความกระจ่าง เก่ียวขอ้ ง เป็ นตน้ ผลการประเมินจึงสามารถทา ความเข้าใจและการเรี ยนรู้ จึงไม่ควรถูก ให้เกิดผลในเชิงความคิด สร้างความคิดใหม่ มองข้าม แต่ส่วนใหญ่การใช้ลักษณะน้ีจะ เมื่อสะสมมากๆ เขา้ อาจนาไปสู่ผลในเชิงปฏิบตั ิ เกิ ด ข้ ึ น ไ ด้ ง่ า ย เ พ ร า ะ ส า ม า รถ น า ผล ก า รใ ช้ (Instrumental Impact) เ กี่ ย ว กั บ แ ผ น ง า น สอดแทรกอยู่ในแนวคิดได้ตลอดเวลาโดยไม่ โครงการ งาน อนั อาจนาไปสู่การเปลี่ยนแปลง จาเป็ นตอ้ งมีเอกสารมาอา้ งอิง เป็ นการใชใ้ นข้นั นโยบาย การจัดลาดับความสาคัญใหม่ การ แรกที่อาจนาไปสู่การใช้ในข้นั ต่อไป คือ การ ประเมินโครงการทางสังคมสามารถช่วยให้ ใชใ้ นเชิงปฏิบตั ิ มีการดาเนินงานดงั น้ี ผบู้ ริหารหรือผเู้ ก่ียวขอ้ งเขา้ ใจปรากฏการณ์ทาง สังคมดีข้ึน การใชส้ ารสนเทศจากการประเมิน 1.1 การนาผลการประเมินแจ้ง ในลักษณะน้ี ทาให้เกิดความกระจ่าง ความ ทุกฝ่ ายท่ีเก่ียวขอ้ ง เขา้ ใจและการเรียนรู้ จึงไม่ควรถูกมองขา้ มการ ใชผ้ ลการประเมินในเชิงความคิด เป็ นการใชใ้ น 1.2 การศึกษาผลการประเมิน ข้นั แรกท่ีอาจนาไปสู่การใช้ในข้ันต่อไป คือ 1.3 การนาผลการประเมินมา ประชุมและอภิปรายร่ วมกันของทุกฝ่ ายที่ เก่ียวข้องเพ่ือทาความเข้าใจ สอดคล้องกับ

332 JOURNAL OF NAKHONRATCHASIMA COLLEGE Vol.10 No.2 July – December 2016 .. การใชใ้ นเชิงปฏิบตั ิ ซ่ึงจะเกิดข้ึนเม่ือผเู้ ก่ียวขอ้ ง ใช้ลักษณะน้ีอาจจะส่ งผลกระทบต่อการ สามารถเช่ือมโยงสารสนเทศจากการประเมิน เปล่ียนแปลงปรัชญา วิสัยทัศน์ขององค์กร ไปยงั สถานการณ์จริงของแผนงานโครงการ หลกั การ ทฤษฎีของโครงการ ทรัพยากร การ ดาเนินงานและอนาคตของแผนงาน โครงการ 2. การใชใ้ นเชิงปฏิบตั ิการ ในระยะ งาน ซ่ึงสามารถเกิดข้ึนได้ 3 ลกั ษณะ ดงั น้ี เริ่มแรก การนาผลการประเมินไปใช้ หมายถึง การใช้อย่างเป็ นรูปธรรมที่สามารถสังเกตได้ 2.1 การใช้ในเชิงตรวจสอบยืนยนั ซ่ึงเป็ นปฏิกิริยาที่เกิดข้ึนโดยตรงทนั ทีที่ทราบ (Legitimate use) เป็ นการใช้ผลการประเมินเพ่ือ ผลการประเมินสารสนเทศ จากการประเมิน เป็ นเหตุผลสนับสนุ นหรื อยืนยันผลการ เสมื อนเป็ นเคร่ื องมื อการเปลี่ ยนแปลง ตดั สินใจท่ีกาหนดไวล้ ่วงหน้าของผูบ้ ริหาร/ (Instrumental Use) ซ่ึ งมีผลโดยตรงต่อการ ผูว้ างนโยบาย/ผูท้ ่ีมีหน้าท่ีเก่ียวขอ้ ง ส่วนการ ตัดสิ นใจของผู้บริ หารเก่ียวกับแผนงาน บริหารโดยทว่ั ไปจะใชใ้ นการตรวจสอบผลงาน โครงการ งานท่ีจะทาต่อไป เช่น ผลการประเมิน ในรอบปี ท่ีผ่านมาว่ามีโครงการใดบา้ งควรให้ ทาให้เกิดการตดั สินใจ เปล่ียนแปลงนโยบาย การสนับสนุนต่อไป โครงการใดควรยกเลิก ปรับเปล่ียนวิธีดาเนินการ ยุติ ยกเลิกโครงการ มีการดาเนินงาน ดังน้ี 1)ใช้เป็ นเหตุผล พฒั นาโครงการข้ึนใหม่ตามขอ้ เสนอแนะ เป็ น สนบั สนุนหรือยนื ยนั ผลการตดั สินใจ 2) ตน้ หลกั ฐานท่ีแสดงถึงการใช้ผลการประเมิน ใชใ้ นการตรวจสอบผลงานในรอบปี ท่ีผา่ นมา ในลกั ษณะน้ีสามารถสังเกตไดจ้ ากรายงานผล วา่ ควรสนบั สนุนโครงการใดตอ่ ไป 3) การตดั สินใจ และการสั่งการให้ดาเนินการอนั ใชเ้ ปรียบเทียบกบั ผลการประเมินในรอบปี ที่ เป็ นผลมาจากการประเมินโดยการใช้ผลการ ผ่า น ม า 4)ใ ช้ พิ จ า ร ณ า ส นับ ส นุ น ก า ร ประเมินในเชิงปฏิบตั ิจะเกิดข้ึนเม่ือผูเ้ ก่ียวขอ้ ง ดาเนินงานพัฒนาเพ่ือปรับปรุ งคุณภาพ สามารถเช่ือมโยงสารสนเทศจากการประเมิน 5)ใชอ้ า้ งอิงประกอบการจดั ทาแผนพฒั นา ไปยงั สถานการณ์จริงของแผน โครงการ งาน สอดคล้องกบั แนวคิดของ วราภรณ์ บุญเจียม 2.2 ก า ร ใ ช้ ใ น เ ชิ ง สั ญ ลั ก ษ ณ์ (2546: 32-33) ได้ศึกษารูปแบบการใช้ผลการ (Symbolic use) หรื อการใช้ในเชิงชวนเช่ือ ประเมินภายนอกท่ีไดร้ ับรายงานจากสานกั งาน (Persuasive use) เป็ นการใช้ผลการประเมิน รับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา เป็ นเคร่ืองช่วยติดตาม กากบั หรือควบคุมการ 4. การใช้ในเชิงปฏิบัติ (Instrumental use) เป็ น ประเมินเพ่ือแสดงวา่ การดาเนินการประเมิน การใชผ้ ลการประเมินในการแกป้ ัญหาโดยตรง น้ันเป็ นไปตามแนวทางและมีระเบียบ และมีหลักฐานสาหรับการอ้างอิง เช่น เป็ น ข้ันตอนที่เหมาะสม และยงั เป็ นหลักฐาน เครื่องช่วยในการตดั สินใจออกแบบโครงการ สนบั สนุนหรือเสริมนโยบายการบริหารงาน ปรับเปล่ียนวิธีดาเนินงาน ขยายโครงการ การ ของหน่วยงาน เพื่อโนม้ นา้ วชวนเชื่อให้ผูอ้ ื่น เกิดความเชื่ อถือและคล้อยตามให้การ

JOURNAL OF NAKHONRATCHASIMA COLLEGE Vol.10 No.2 July – December 2016 333.. สนบั สนุนความคิดของตน ถือว่าเป็ นการใช้ ยนื ยนั ใชใ้ นเชิงสัญลกั ษณ์และใชใ้ นเชิงปฏิบตั ิ ผลแบบการเมือง มีการดาเนินงาน ได้แก่ ดงั น้ี (1) การใชใ้ นเชิงแนวคิด (Conceptual use) 1)ใช้ในการกาหนดแนวทางการพัฒนา เป็ นการใช้โดยการนาผลมาสอดแทรกใน 2 ) ใ ช้ ต ร ว จ ส อ บ ผลการด าเนิ นงานขณะจัด แนวคิดของผูบ้ ริหารหรือผูร้ ับผิดชอบเป็ นการ กิจกรรม 3)ใชต้ รวจสอบผลการดาเนินงานหลงั รับรู้ขอ้ มูลในการปฏิบตั ิงาน ทาให้เขา้ ใจส่ิงท่ี จัดกิจกรรม 4)ใช้ปรับปรุ งเปลี่ยนแปลง ประเมิ นและสามารถนาไปใช้ตัดสิ นใจเชิ ง กิจกรรมในการจดั คร้ังตอ่ ไป สภาพนโยบายท่ีเกี่ยวขอ้ ง เมื่อมีข้อมูลในเชิง แนวคิดสะสมมากๆ ข้ึนอาจนาไปสู่การใช้ใน 2.3 การใช้ในเชิงปฏิบตั ิ (Instrumental เชิงปฏิบตั ิได้ (2) การใชใ้ นเชิงตรวจสอบยืนยนั Use) เป็ นการใช้ผลการประเมินเป็ นเคร่ืองช่วย (Legitimate use) เป็ นการใชผ้ ลการประเมิน เพ่ือ ในการลงมือปฏิบตั ิ หรือแกป้ ัญหาโดยตรงและ เป็ นเหตุสนบั สนุนหรือยืนยนั ผลการตดั สินใจ มีหลักฐานสาหรับการอ้างอิง ซ่ึงเป็ นไปได้ ท่ีกาหนดไว้ล่วงหน้า ผลการประเมินท่ีได้ หลายลกั ษณะ เช่น นาผลประเมินมาปรับเปลี่ยน สามารถนามาใช้ในการตดั สินใจของผบู้ ริหาร วิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์ แผนหรื อกิจกรรม หรือผูท้ ี่มีหน้าที่ท่ีเก่ียวขอ้ ง (3) การใช้ในเชิง โครงการต่างๆ ปรับวัตถุประสงค์ ปรับวิธี สัญลักษณ์ (Symbolic use) เป็ นการใช้ผลการ ดาเนิ นงาน ปฏิบัติการแก้ไขปั ญหายุติ / ประเมินเป็ นเคร่ื องช่วยติดตาม กากับหรื อ ปรับเปล่ียน/ขยายโครงการ หรือเป็ นเครื่องมือ ควบคุมการประเมินเพื่อแสดงวา่ การดาเนินการ ในการช่วยตดั สินใจออกแบบการปฏิบตั ิงาน ประเมินน้นั เป็ นไปตามแนวทางและมีระเบียบ ซ่ึงการใชใ้ นลกั ษณะน้ีอาจจะส่งผลกระทบต่อ ข้ันตอนท่ีเหมาะสม ซ่ึงการใช้ในลักษณะน้ี การเปลี่ยนแปลงการปฏิบตั ิงานในอนาคต มี ไม่ได้สนใจนาผลการประเมินไปใช้ปฏิบัติ การดาเนินงาน คือ ใช้ปรับเปล่ียนวิสัยทัศน์ โดยตรง แต่เป็ นการใช้ในการควบคุมคุณภาพ ยทุ ธศาสตร์ แผนหรือกิจกรรมโครงการ และใช้ ของการประเมิน จึงอาจไม่ส่งผลกระทบต่อการ ในการดาเนินงานพฒั นาปรับปรุง สอดคล้อง เปล่ียนแปลงการปฏิบัติงาน เช่น การใช้ กบั แนวคิดของ ปรีชา รอดมณี (2550 : 30-31) สารสนเทศของการประเมินโดยผูต้ รวจสอบ สรุ ปไว้ว่า รู ปแบบการใช้ผลการประเมิน หรือคณะกรรมการกากบั การประเมิน และ (4) ภายนอก หมายถึง การนาสารสนเทศจากการ การใชใ้ นเชิงปฏิบตั ิ (Instrumental use) เป็ นการ ประเมินภายนอกไปใช้เพ่ือการบริหาร การ ใชผ้ ลการประเมินในการแกป้ ัญหาโดยตรงและ ตดั สินใจ การพฒั นา และการปรับปรุงงาน ซ่ึง มีหลกั ฐานสาหรับการอา้ งอิง เช่น เป็นเคร่ืองมือ นามาใช้ใหม้ ีความสัมพนั ธ์กนั คือในระยะแรก ในการช่วยตดั สินใจออกแบบการปฏิบตั ิงาน เป็ นการใช้ในเชิงแนวคิดทาให้เกิดความ การใช้ในลกั ษณะน้ีอาจจะส่งผลกระทบต่อการ กระจ่าง ความเข้าใจ การเรียนรู้เก่ียวกับสิ่งท่ี เปล่ียนแปลงการปฏิบตั ิงานในอนาคต ประเมิน หลงั จากน้นั นามาใช้ในเชิงตรวจสอบ

334 JOURNAL OF NAKHONRATCHASIMA COLLEGE Vol.10 No.2 July – December 2016 .. ข้อเสนอแนะ ผลงานในรอบปี ที่ผ่านมาว่ามีโครงการใดบา้ ง การพัฒนารู ปแบบการนาผลการ ควรให้การสนับสนุนต่อไป โครงการใดควร ยกเลิก 2) การใชใ้ นเชิงสญั ลกั ษณ์หรือการใชใ้ น ประเมินคุณภาพการศึกษาไปใชใ้ นการพฒั นา เชิงชวนเช่ือ เป็ นการใช้ผลการประเมินเป็ น ระบบการประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษา เคร่ืองช่วยติดตาม กากับ ควบคุมการประเมิน สามารถสรุปเป็ นกรอบแนวคิดของรูปแบบการ เพื่อแสดงวา่ การดาเนินการประเมินน้นั เป็ นไป นาผลการประเมินคุณภาพการศึกษาไปใช้ ไดว้ า่ ตามแนวทางและมีระเบียบข้นั ตอนท่ีเหมาะสม “มี 2 ระดบั ที่มีความสัมพนั ธ์กนั คือ การใชใ้ น และยังเป็ นหลักฐานสนับสนุนหรื อเสริ ม ระยะแรกเป็ นการใชใ้ นเชิงความคิด ทาให้เกิด นโยบายการบริหารงานของหน่วยงาน เพอ่ื โนม้ ความกระจ่าง ความเขา้ ใจ มีการเรียนรู้เก่ียวกบั นา้ วชวนเช่ือให้ผอู้ ื่นเกิดความเช่ือถือและคลอ้ ย ส่ิงท่ีประเมินการใชใ้ นระยะต่อมาเป็นการใชใ้ น ตามใหก้ ารสนบั สนุนความคิดของตน 3) การใช้ เชิงปฏิบตั ิการ ซ่ึงนาไปใชไ้ ดใ้ น 3 ลกั ษณะ คือ ในเชิงปฏิบัติเป็ นการใช้ผลการประเมินเป็ น 1) การใชใ้ นเชิงตรวจสอบยืนยนั เป็ นการใชผ้ ล เครื่องช่วยในการลงมือปฏิบตั ิ หรือแก้ปัญหา การประเมินเพ่ือเป็ นเหตุผลสนับสนุนหรื อ โดยตรงและมีหลกั ฐานสาหรับการอา้ งอิง ซ่ึงจะ ยนื ยนั ผลการตดั สินใจท่ีกาหนดไวล้ ่วงหนา้ ของ ส่งผลให้ระบบการประกนั คุณภาพภายในของ ผูบ้ ริหาร/ผูว้ างนโยบาย/ผูท้ ่ีมีหน้าที่เก่ียวขอ้ ง สถานศึกษามีคุณภาพ” แสดงไดด้ งั ภาพประกอบ ส่วนการบริหารโดยทว่ั ไปจะใชใ้ นการตรวจสอบ การใช้ในเชิงแนวคดิ 1. กาหนดผรู้ ับผดิ ชอบในการนาผลการประเมินคุณภาพไปใชใ้ หช้ ดั เจน 2. การนาผลการประเมินเผยแพร่/แจง้ ทุกฝ่ ายท่ีเก่ียวขอ้ ง 3. การศึกษาผลการประเมิน 4. การนาผลการประเมินมาประชุมและอภิปรายร่วมกนั ของทุกฝ่ ายที่เก่ียวขอ้ งเพอื่ ทาความเขา้ ใจ 5. จดั ทาพนั ธะสญั ญาร่วมกนั ระหวา่ งบุคลากรในสถานศึกษา การใช้ในเชิงปฏิบัตกิ าร การใชใ้ นเชิงตรวจสอบยนื ยนั การใชใ้ นเชิงสญั ลกั ษณ์ การใชใ้ นเชิงปฏิบตั ิ ระบบการประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศึกษามคี ณุ ภาพ แผนภาพ กรอบแนวคิดของรูปแบบการนาผลการประเมินคุณภาพการศึกษา ไปใชใ้ นการพฒั นาระบบการประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษา

JOURNAL OF NAKHONRATCHASIMA COLLEGE Vol.10 No.2 July – December 2016 335.. บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ. (2545). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ.พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบบั ท2่ี ) พ.ศ. 2545. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พค์ ุรุสภาลาดพร้าว ปรีชา รอดมณี (2550). การนาผลการประเมินภายนอกไปใช้ในการพัฒนาโรงเรียนของเครือข่าย โรงเรียนท่ี 40 สานักเขตหนองจอก กรงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษา มหาบณั ฑิต สาขาวชิ าการบริหารการศึกษา มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒิ วราภรณ์ บุญเจียม. 2546. ปัจจัยท่ีส่งผลต่อการใช้ผลการประเมินภายนอกเพื่อพัฒนาคุณภาพของ สถานศึกษาข้นั พนื้ ฐาน. กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ศิริชยั กาญจนวาสี. (2545). ทฤษฏีการประเมิน. พมิ พค์ ร้ังท่ี 3. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . สัญญา เคณาภูมิ. (2556) . “การสร้างกรอบแนวคิดการวจิ ยั เชิงสารวจทางรัฐประศาสนศาสตร์” วารสารว ไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, 3 (2) : กรกฎาคม-ธนั วาคม 2556. หนา้ 169-185 สญั ญา เคณาภูมิ. (2557ก) . “ปรัชญาการวจิ ยั : ปริมาณ : คุณภาพ” วารสารรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏกาฬสินธ์ุ, 3 (2) : ก.ค.-ธ.ค. 2557 หนา้ 49-51 สัญญา เคณาภูมิ. (2557ข) . “การสร้างกรอบแนวคิดการวจิ ยั ทางรัฐประศาสนศาสตร์โดยการคิดเชิง เหตุผล” ราชภัฏเพชรบูรณ์สาร สถาบนั วจิ ยั และพฒั นา มหาวิทยาลยั ราชภฏั เพชรบูรณ์, 16 (1) ; มกราคม-มิถุนายน 2557 หนา้ 1-19 สัญญา เคณาภูมิ. (2557ค) . “การสร้างกรอบแนวคิดการวิจยั ทางรัฐประศาสนศาสตร์โดยวิธีการ จดั การความรู้” วารสารมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั อุบลราชธานี, 5 (2) ; กรกฎาคม – ธนั วาคม 2557 หนา้ 13-32 สญั ญา เคณาภูมิ. (2557ง) . “การสร้างกรอบแนวคิดการวจิ ยั เชิงปริมาณทางรัฐประศาสนศาสตร์จาก การทบทวนวรรณกรรม” วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั อุดรธานี, 3 (1) ; มกราคม-มิถุนายน 2557. สัญญา เคณาภูมิ. (2558) . “การสร้างกรอบแนวคิดการวจิ ยั ดว้ ยทฤษฎีจากฐานราก” วารสารวจิ ัยและ พฒั นา วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 10 (3) : กนั ยายน-ธนั วาคม 2558 สานักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน). (2553). คู่มือการ ประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม (2554-2558) ระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน ฉบับ สถานศึกษา พ.ศ. 2554. (พมิ พค์ ร้ังที่3). กรุงเทพฯ : สานกั งานรับรองมาตรฐานและประเมิน คุณภาพการศึกษา (องคก์ ารมหาชน)

วารสารครศุ าสตร์ปริทรรศนฯ์ - 375 – ปที ่ี 8 ฉบับที่ 1 (มกราคม-เมษายน) 2564 การประกันคณุ ภาพการศึกษา* EDUCATION QUALITY ASSURANCE 1พระเมธีปริยตั ิธาดา (บญุ พรม จารปุ ญโฺ ) Phrametheepariyatthada (Boonprom Carupuñño), 2พระมหาสิรวิ ฒั นา สิริวชั รวรกลุ PhramhaSiriwattana Siriwatcharaworakun, 3สิรกิ าญจน์ ธนวุฒพิ รพนิ ติ SiriKarn Tanawutpornpinit, 4ชมพูนชุ ช้างเจรญิ Chompoonuch Changcharoen 1,3,4มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั วทิ ยาเขตหนองคาย Mahachulalongkornrajavidyalaya University, Nongkhai Campus, Thailand 2วทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษาสิริวฒั น์ Siriwat Vocational College, Thailand E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอเรื่องการประกันคุณภาพการศึกษา เพื่อสร้างความรู้ความ เข้าใจแก่ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษานำไปปฏิบตั ิการจัดการศึกษาสู่เป้าหมายที่พึงประสงค์ในการ พัฒนาคุณภาพการศึกษาของประเทศ ในปัจจุบันทรัพยากรมนุษย์ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการพัฒนา ประเทศ คุณภาพการศึกษาจึงสะท้อนถึงคุณภาพของคนที่เป็นผลิตผลของการจัดการศึกษา สถานศึกษา สามารถจัดการศกึ ษาได้อย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาและบรรลเุ ป้าหมายของหน่วยงานต้นสังกัดหรือ หน่วยงานที่กำกับดูแล โดยสถานศึกษาต้องมีกระบวนการดำเนินงานให้เกิดความเชื่อมั่น มีการวางแผน ปฏิบัติงาน มีการกำหนดมาตรฐานกระบวนการดำเนินการตามวางแผนและมาตรฐานที่กำหนดไว้ มีการ ตรวจสอบ เพื่อสร้างความมั่นใจและเป็นหลักประกันได้ว่าผลผลติ และบริการขององค์การทำให้ผู้รับบริการ พึง พอใจ และเปน็ ไปตามมาตรฐานคณุ ภาพทก่ี ำหนดไว้ ทง้ั ในเชงิ ความเปน็ เลิศทางการศึกษาและประสทิ ธภิ าพของ การบริหารระบบการศึกษาที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันพัฒนาอย่างเต็มที่ด้วยความราบรื่นมีประสิทธิภาพและเกิด ประสทิ ธผิ ล คำสำคัญ: การประกันคุณภาพการศึกษา, การจดั การศกึ ษา, สถานศึกษา *Received: March 31, 2021, Revised: April 20, 2021, Accepted: April 24, 2021.

วารสารครุศาสตรป์ ริทรรศน์ฯ - 376 – ปที ี่ 8 ฉบับท่ี 1 (มกราคม-เมษายน) 2564 Abstract This article aims to propose the subject of educational quality assurance, and to create knowledge and understanding for school administrators, teacher and educational personnel lead the practice of educational management towards desirable goals of improving educational quality of the country. At present, human resources are the most important factor in the development of the country. The quality of education therefore reflects the quality of the people who are the product of education management.Educational institutions can provide educational quality according to educational standards and achieve the goals of the agency or regulatory agency. Educational institutions must have operational processes to generate confidence, operational planning process standards are set for implementation according to planned plans and established standards. It is also reviewed to ensure that the organization's products and services satisfy to meet the specified quality standards both in terms of educational excellence and in terms of efficiency of educational system administration that all parties must help each other to develop smoothly, efficiently and effectively. Keywords: Education Quality Assurance, Educational Management, School. บทนำ การศึกษาเป็นกระบวนการทางสงั คมที่นำบุคคลเข้าสู่การดำรงชีวิตในสังคมด้วยการอบรม บ่มนิสยั กล่อมเกลาทางสังคม การเตรียมตัวเพื่อให้บุคคลมีทักษะ ความรู้ ความสามารถใน การดำรงชีวิตและสามารถ ประพฤติปฏิบัติตนรวมทั้งประกอบอาชีพในอนาคตได้อย่างเหมาะสม เป้าหมายของการศึกษาจึงมิใช่เพื่อ ประโยชน์ของกลมุ่ บคุ คลและบุคคลเทา่ นั้น แตต่ อ้ งนำไปส่สู งั คมทเี่ ข้มแข็งมเี อกภาพ อันเนื่องมาจากสมาชิกของ สังคมมีคณุ ภาพและร่วมสรา้ งประโยชน์ให้กบั สงั คมท่ีตนอาศัย สถานศกึ ษาเปน็ สว่ นสำคัญในการสร้างเยาวชนท่ี ดีและสร้างอนาคตของประเทศ หากสถานศึกษามีผลผลิตทางการศึกษาไม่มีคุณภาพสถานศึกษาต้องมีส่วน รับผิดชอบด้วย ดังนั้น การจัดการศึกษาของสถานศึกษาให้มีคุณภาพจึงเป็นกระบวนการที่เป็นระบบ มอี งคป์ ระกอบหลายประการ เพอ่ื นำไปสูเ่ ป้าหมายท่ีพงึ ปรารถนาในการพัฒนาเยาวชน คอื การพัฒนาคุณภาพ ทุกด้านไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา คุณธรรม ค่านิยม ความคิด การประพฤติปฏิบัติที่ดี โดยคาดหวังว่าคนที่มีคุณภาพจะทำให้สังคมมีความมั่นคง สงบสุข เจริญก้าวหน้า แข่งขันกับสังคมอื่นในเวที ระหว่างประเทศได้ คนในสงั คมมคี วามสุข มคี วามสามารถประกอบอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพและอยู่ร่วมกัน อย่างสมานฉันท์ สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 ที่กำหนดให้การจัดการศึกษาของชาติเป็นกระบวนการพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่สำคัญ ทั้งน้ี เนื่องจากการเรียนรู้ของคนในชาติช่วยส่งเสริมความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคมโดยอาศั ยการถ่ายทอด ความรู้ การอบรม การสืบสานทางวัฒนธรรม การสร้างสรรค์จรรโลงความก้าวหน้าทางวิชาการ การสร้างองค์ ความรู้อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อมสังคมการเรียนรู้ และปัจจัยเกื้อหนุนให้บุคคลเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตลอดชวี ิต โดยเฉพาะในปัจจุบันทรัพยากรมนุษย์ถือเป็นปัจจัยทีส่ ำคัญท่ีสุดในการพัฒนาประเทศ เพราะบุคคล

วารสารครศุ าสตร์ปรทิ รรศนฯ์ - 377 – ปีท่ี 8 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม-เมษายน) 2564 ทมี่ คี วามรคู้ วามสามารถย่อมดำเนินกิจกรรมตา่ งๆ ท่เี ปน็ ประโยชนส์ ามารถแข่งขันกบั ต่างประเทศไดด้ ี บคุ ลากร ในชาติจะมีความรู้ความสามารถได้ดีก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการการจัดการศึกษาเป็นหลัก (ปรัชญา เวสารัชช์ , 2547) ดังนั้น การศึกษาจึงเป็นกระบวนการที่ทำให้คนมีความรู้และคุณสมบัติต่างๆ ที่ช่วยให้คนนั้นอยู่รอดใน โลกได้ เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว และสังคมส่วนรวม (สำนักงานโครงการสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี, 2545) คุณภาพการศึกษาจึงสะท้อนถึงคุณภาพของคนที่เป็นผลิตผลของ การจัดการศึกษานั่นเอง อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ปัจจุบันสถานศึกษาส่วนใหญ่ยังมีความเหลื่อมล้ำและ แตกต่างกันทั้งในด้านงบประมาณ คุณภาพ บุคลากร หรือแม้แต่ปัจจัยด้านผู้เรียน รวมทั้งปัจจัยเอื้ออื่นๆ เช่น ความร่วมมือของกรรมการสถานศึกษา การสนับสนุนจากชุมชน หน่วยงานหรือองค์กร การดำเนินการการจัด การศึกษาใหเ้ กิดคุณภาพจำเป็นต้องมีการประกันคุณภาพ และประเมินมาตรฐานการศึกษา เพื่อให้เกิดกลไกใน การตรวจสอบและกระตุ้นให้หน่วยงานที่จัดการศึกษามีการควบคุมคุณภาพและการประเมินมาตรฐาน การศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องที่มีนัยทั้งในเชิงความเป็นเลิศทางการศึกษาและประสิทธิภาพของการบริหารระบบ การศึกษาที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันพัฒนาอย่างเต็มที่ (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ , 2544) ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเกิดความมั่นใจในคุณภาพของผู้สำเร็จการศึก ษาและเชื่อถือคุณภาพของโรงเรียน ระบบการบริหารที่ให้ความสำคัญกับการวางแผนเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา มีการกำกับ ควบคุม ตรวจสอบ การดำเนนิ การทุกข้ันตอน มกี ารรักษา ปรับปรุง พฒั นากระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพ่อื ใหง้ านในทุกส่วน ของโรงเรยี นดำเนินไปด้วยความราบรนื่ มีประสทิ ธภิ าพและเกดิ ประสิทธิผล จากความสำคญั ของการประกันคุณภาพที่กลา่ วมา สรุปไดว้ า่ การประกันคุณภาพเปน็ กระบวนการ ดำเนินการที่ให้เกิดความเชื่อมั่นโดยมีการวางแผนปฏิบัติงาน มีการกำหนดมาตรฐานกระบวนการดำเนินการ ตามวางแผนและมาตรฐานที่กำหนดไว้ให้มีการตรวจสอบ การดำเนินการ เพื่อสร้างความมั่นใจและเป็น หลักประกันได้ว่าผลผลิตและบริการขององค์การทำให้ผูร้ ับบริการพึงพอใจและเป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพที่ กำหนดไว้ โดยผู้เขียนขอนำเสนอสาระของการประกันคุณภาพการศึกษา 3 ประเด็น เพื่อสร้างความรู้ความ เข้าใจแก่ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาที่เกี่ยวข้องในการนำไปปฏิบัติ ได้แก่ 1) การประกันคุณภาพ การศึกษา 2) หลักการที่นำไปสู่การประกันคุณภาพการศึกษา 3) กฎหมายที่เกี่ยวกับการประกันคุณภาพ การศึกษา 4) แนวทางการดำเนินงานประกันคุณภาพการศกึ ษาแนวใหม่ 5) มาตรฐานและการประกันคุณภาพ การศึกษา และบทสรปุ การประกันคณุ ภาพการศกึ ษา การประกันคุณภาพ (Quality Assurance) เป็นวิธีบริหารจัดการเพื่อเป็นหลักประกันหรือสร้าง ความมั่นใจว่ากระบวนการหรือการดำเนินงานจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพตรงตามที่กำหนด การประกัน คุณภาพเปน็ การบริหารจดั การเพอื่ ให้เกิดประสิทธผิ ล และสรา้ งความพงึ พอใจใหผ้ ู้ใช้ถือวา่ ผลลพั ธ์นนั้ มคี ณุ ภาพ การประกันคุณภาพภายในเป็นการสร้างระบบและกลไกในการพัฒนาติดตาม ตรวจสอบ และ ประเมินการดำเนินงานของสถาบัน/องค์กร ให้เปน็ ไปตามนโยบายเป้าหมายและระดับคณุ ภาพตามมาตรฐานท่ี กำหนด โดยสถานศึกษาและหรือหน่วยงานต้นสังกดั โดยหน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษากำหนดให้มีระบบ การประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาและให้ถือว่าการประกันคุณภาพภายในเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ บริหารการศึกษาที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง มีการจัดทำรายงานประจำปีที่เป็นรายงานประเมินคุณภาพ

วารสารครศุ าสตรป์ ริทรรศน์ฯ - 378 – ปที ี่ 8 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม-เมษายน) 2564 ภายในเสนอตอบสถาบนั /หน่วยงานต้นสังกดั และหน่วยงานท่ีเกีย่ วขอ้ งเพื่อพจิ ารณาและเปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อนำไปสู่การพฒั นาคณุ ภาพและมาตรฐานการศึกษาและเพ่ือรองรับการประกันคุณภาพภายนอก การประกันคุณภาพภายนอกเป็นการประเมินผลและการติดตามตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษาจากภายนอก โดยสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือสมศ. หรือบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกที่สำนักงานดังกลา่ วรับรองเพ่ือเป็นการประกนั คุณภาพให้มีการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษามีหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินที่ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพ่ือให้การประเมินมีความสมดุลระหว่างเกณฑ์ที่กำหนดกับงานที่สถานศึกษา ดำเนินการ (กรมยทุ ธศึกษาทหารเรอื , 2564) ดงั ภาพที่ 1 ภาพท1่ี ความสัมพนั ธ์ระหว่างการประกนั คุณภาพการศกึ ษาภายในและภายนอก หลักการทนี่ ำไปสกู่ ารประกนั คุณภาพการศกึ ษา การดำเนินการประกันคุณภาพเปน็ กระบวนการดำเนินการอย่างต่อเน่ืองมีการทบทวน การติดตาม กระบวนการผลติ อย่างใกล้ชิด ดงั น้ี 1. หลักการเกี่ยวกับการจัดการให้ความบกพร่องมีค่าเป็นศูนย์ (Zero Defects Concept) โดย Philip Crosby ไดก้ ล่าวไว้ว่า ความบกพร่องเป็นศนู ย์เป็นโปรแกรมที่เน้นมาตรฐานในการปฏิบตั งิ าน โดยเชอ่ื ว่า ความผิดพลาดทงั้ หลายเกิดจากสาเหตุสำคัญ 2 ประการ คอื 1) ขาดความรู้ 2) ขาดความเอาใจใส่ และเสนอว่า จำเปน็ เริม่ พฒั นาสาเหตุ โดยต้องทำให้เกดิ ข้อตกลงในผู้ปฏิบตั ิงานเพ่ือปรับปรุงการปฏิบัติงาน นัน่ คอื ต้องสร้าง ทัศนะคติที่มีต่อการนำหลักการเกี่ยวกับความบกพร่องเป็นศูนย์ไปใช้เพื่อให้เกิดมาตรฐานเสียก่อน (Crosby, 1979)

วารสารครศุ าสตร์ปรทิ รรศนฯ์ - 379 – ปที ี่ 8 ฉบับท่ี 1 (มกราคม-เมษายน) 2564 2. โปรแกรมการปรับปรุงคุณภาพตามแนวคิดของ Crosby (Crosby’s Quality Improvement Program) ได้เสนอแนะขั้นตอนในการปรับปรุงคุณภาพไว้ 11 ขั้นตอน ดังนี้ 1) การให้คำมั่นสัญญาโดยฝ่าย บริหาร 2) การสร้างทีมงานเพื่อการปรับปรุงคุณภาพ 3) การสร้างเครื่องมือตรวจวัดคุณภาพ 4) การกำหนด ค่าใช้จ่ายเพื่อการปรับปรุงคุณภาพ 5) สร้างความตระหนักเรื่องคุณภาพให้เกิดขึ้นกับบุคคลทุกกลุ่ม 6) การ แก้ไขปัญหาด้วยคุณภาพที่ได้แยกแยะไว้แล้ว 7) เตรียมการให้มีวันแห่งการปลอดความบกพร่อง (Zero defects day) 8) การฝึกอบรมหัวหน้างาน 9) รักษาสภาพของการเป็นวนั ปลอดความบกพรอ่ งต่อไป 10) การ ตั้งเป้าหมายด้านคุณภาพ 11) สร้างกระบวนการแก้ไขความผิดพลาด 12) ให้การยอมรับและเห็นคุณค่าของ ความสำเร็จ 13) ก่อตั้งคณะที่ปรึกษาด้านคุณภาพ 14) ทบทวนกระบวนการ (Crosby, 1979; Sallis, 1993; Dale and Michelon, 1994; Goetsch and Davis, 1994) 3. การปรบั ปรงุ คณุ ภาพตามแนวคดิ ของ Juran (Juran’sTon Stops to Quality Improvement) ดังนี้ 1) สร้างความตระหนักได้เห็นความจำเป็นและโอกาสในการปรับปรงุ คุณภาพ 2) ตั้งเป้าหมายสำหรับการ ปรับปรุง 3) จัดองค์การเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 4) จัดให้มีการฝึกอบรม 5) สร้างโครงการที่จะนำไปสู่การ แก้ปัญหา 6) รายงานความก้าวหน้าในการปฏิบัติงาน 7) ให้การยกย่องผู้ปฏิบัติงานรวมทั้งให้ความสำคัญและ ให้การยอมรับว่าปรับปรุงคุณภาพเป็นสิ่งจำเป็น 8) เผยแพร่ผลการปฏิบัติงานให้ได้รับทราบโดยทั่วกัน 9) บันทึกผลการปฏิบัติงาน 10) การพัฒนาระบบการทำงานและกระบวนการทำงานปกติในหน่วยงานเป็น ประจำในแตล่ ะปีเพื่อใหเ้ กิดการพฒั นาอย่างต่อเน่อื ง 4. แนวคดิ เก่ียวกับการปรับปรุงคณุ ภาพครบวงจร PDCA วงจร PDCA โดย W. Edwards Deming (1986) ได้เสนอแนวคิดบนพื้นฐานของการทำงานที่มีความคงเส้นคงวา (Stable) และสามารถทำนายได้ (Predictable) เพอื่ ใหเ้ กดิ การปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเน่ือง โดยการใช้วงจร PDCA มีดงั ต่อไปนี้ คอื การวางแผน (Plan P) ขั้นตอนการศึกษาปัญหา กำหนดเป้าหมาย การแก้ปัญหา และการวาง แผนการแกป้ ัญหาในการปฏบิ ัติงาน การปฏิบัตติ ามแผน (Do-D) ขั้นตอนการดำเนินการแก้ปญั หาหรือการนำวิธกี ารแกป้ ัญหาไปปฏิบตั ิ ซง่ึ ต้องออกแบบวธิ กี ารดำเนนิ การเพ่อื แก้ปัญหา การตรวจสอบ (Check-C) การตรวจสอบประเมินว่าการดำเนินการบรรลุผลตามความต้องการ หรือไม่ การตรวจสอบประเมนิ อย่างตอ่ เนือ่ งจะสร้างความมนั่ ใจว่าคุณภาพของผลผลิตจะมีอยู่ตลอดเวลา การกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหา (Act - A) ข้นั ตอนการนำวธิ ีการแก้ปัญหาท่ีไดจ้ ากการตรวจสอบ แล้วว่าได้ผลอย่างไรมากำหนดเป็นมาตรฐานการทำงานเพื่อยึดถือเป็นแนวปฏิบัติต่อไป หากพบว่าเกิด ข้อบกพร่องขั้นใด ให้ปฏิบัติการแก้ไขตามลักษณะของปัญหาที่ค้นพบ สรุปการหมุนวัฏจักร PDCA (วีรพจน์ ลือประสิทธิส์ กุล, 2540) ดังภาพท่ี 2

วารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ฯ - 380 – ปที ่ี 8 ฉบบั ที่ 1 (มกราคม-เมษายน) 2564 AD P AD มาตรฐาน C A DC ปรับปรงุ อย่าง C ต่อเน่อื ง มาตรฐาน มาตรฐาน ปรับปรงุ ยกระดบั มาตรฐานใหส้ ูงขึน้ ภาพที่ 2 การบรหิ ารงานคณุ ภาพ แบบ PDCA หรอื การหมุนวฏั จักร PDCA 5. หลักความรับผดิ ชอบทตี่ รวจสอบได้ (Accountability) Milliken (1971) กล่าวว่า ความรับผิดชอบที่ตรวจสอบได้นี้เป็นการตรวจสอบอย่างเข้มงวด โดยนักการศึกษาหรือครูผู้สอบ เพื่อจะแสวงหาวิธีการให้โรงเรียนได้ใช้งบประมาณหรือวิธีการต่างๆ ในการ ทดสอบทจ่ี ะยืนยนั ได้วา่ ครูสอนนักเรียนอยา่ งมีประสิทธภิ าพ ดงั น้นั จึงมีการเนน้ ให้มกี ารปรับปรุงทงั้ ในด้านการ เรียนการสอน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ทัศนะคติและพฤติกรรมของนักเรียน รวมทั้งเน้นให้มีการ รายงานความก้าวหน้าของนักเรียนเพอื่ จะเป็นส่ือสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน ในการดำเนินการเพ่ือแสดง ความรับผิดชอบนั้น สิ่งที่สำคัญประการแรกคือการวางแผน เพราะการวางแผนจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติรู้เป้าหมาย การดำเนินงานต่างๆ และสามารถจะวัดความสำเร็จของการดำเนินการตามเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม แผน จะต้องแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงที่ชัดเจนระหว่างเป้าหมายกับผลที่คาดหวังจะได้รับ วิธีการนี้ Lessinger (1971) กล่าวว่า จะเป็นวิธีการสร้างให้เกิดความรับผิดชอบที่ตรวจสอบได้ ซึ่งจะพิจารณาทั้งในส่วนของ กระบวนการ และผลท่ไี ด้รับในการจดั การศกึ ษา ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า แนวคิดเกี่ยวกับการประกันคุณภาพการศึกษาและหลักการสำคัญที่จะนำไปสู่ การประกันคุณภาพการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นหลักการเกี่ยวความบกพร่องเป็นศูนย์ หลักการในการวางแผน คุณภาพ การควบคุมคุณภาพ และการปรับปรุงคุณภาพ วงจร PCDA รวมทั้งหลักการเกี่ยวกับการแสดงความ รบั ผิดชอบที่ตรวจสอบได้ เป็นหลักการที่รู้จกั กันดีในวงการธุรกิจ และอตุ สาหกรรมเพื่อใช้การปฏิบัติและพัฒนา งานอย่างต่อเนื่องเป็นแนวคิดที่มีคุณค่าและจะเป็นประโยชน์อย่างสูงต่อการพัฒนาการปฏิบัติงานซึ่งสามารถ นำมาประยุกต์ใชใ้ นการศกึ ษาได้ กฎหมายท่ีเกย่ี วกับการประกันคณุ ภาพการศึกษา พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 ว่าด้วย ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาคุณภาพ และมาตรฐานการศึกษา เพราะได้กำหนดสาระบญั ญัตฉิ บบั น้ีไว้หมวดใน หมวดท่ี 6 มาตรฐาน และการประเมินคุณภาพการศึกษา เพื่อใหผ้ ู้เก่ียวข้องได้ตระหนักและดำเนินการในเร่ือง

วารสารครศุ าสตร์ปริทรรศนฯ์ - 381 – ปีท่ี 8 ฉบับท่ี 1 (มกราคม-เมษายน) 2564 นี้ครบถ้วน ถูกต้อง ปรากฏไว้ในมาตรา 47 ถึงมาตรา 51 แต่ละมาตราแสดงให้เห็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการ ปฏบิ ตั ขิ องสถานศึกษาได้ ดงั นี้ (สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา, 2547, หนา้ 29-31) มาตรา 47 ใหม้ ีระบบการประกันคุณภาพการศึกษาเพื่อพฒั นาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาทุก ระดบั ประกอบด้วยระบบการประกันคุณภาพภายในและระบบการประกันคุณภาพภายนอก ระบบหลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง โดยสาระในมาตรานี้กล่าวถึง ความสำคัญของระบบการประกันคุณภาพที่จะนำมาใช้ในการพัฒนาคุณภาพ และมาตรฐานของสถานศึกษา ระบบการประกันคุณภาพมีสองลักษณะ คือ การประกันคุณภาพภายใน และการประกันคุณภาพภายนอกซึ่ง รายละเอียดในเรื่องระบบ หลักเกณฑ์และวิธีการประกนั คุณภาพการศึกษาเปน็ ไปตามท่กี ำหนดในกฎกระทรวง มาตรา 48 ให้หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษาจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพภายใน สถานศึกษา และให้ถือว่า การประกันคุณภาพภายในเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหารการศึกษาที่ต้อง ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดทำรายงานประจำปีเสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเปดิ เผยตอ่ สาธารณชน เพ่ือนำไปสูก่ ารพัฒนาคณุ ภาพ และมาตรฐานการศกึ ษา และเพอื่ รองรับการประกัน คุณภาพภายนอก โดยสาระในมาตรานี้ กลา่ วถงึ หนา้ ทีข่ องสถานศึกษา คอื การประกนั คุณภาพภายในเป็นเรื่อง ของสถานศึกษา และหน่วยงานต้นสังกัดการดำเนินงานของสถานการศึกษาตามแนวทางที่กำหนดในมาต รานี้ ต้องดำเนนิ การดังนี้ ต้องจัดใหม้ ีระบบการประกันคณุ ภาพ ตอ้ งดำเนินการต่อเน่ืองเป็นส่วนหนึ่งของการบริหาร ปกติ ต้องจัดทำรายงานประจำปีเสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและการเตรยี มรับการประเมินภายนอก มาตรา 49 ให้มีสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษามีฐานะเป็นองค์การ มหาชนทำหน้าที่พัฒนาเกณฑว์ ิธีการประเมินคุณภาพภายนอก และทำการประเมินผลการจัดการศึกษา เพื่อให้ มีการตรวจสอบคุณภาพของสถานศึกษา โดยคำนึงถึงความมุ่งหมาย หลักการ และแนวการจัดการศึกษาใน แต่ละระดับตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ ให้มีการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษาทุกแห่งอย่าง นอ้ ยหนึ่งครง้ั ในทกุ ห้าปี นบั ตง้ั แตก่ ารประเมนิ ครง้ั สุดท้ายและเสนอผลการประเมินต่อหนว่ ยงานที่เกี่ยวข้องและ สาธารณชน การประเมินคุณภาพสถานศกึ ษาจากองค์กรภายนอก จะดำเนนิ การโดยสำนักงานรบั รองมาตรฐาน และประเมินคุณภาพการศึกษาซึ่งเป็นองค์การมหาชน สำนักงานนี้มีหน้าที่พัฒนาเกณฑ์วิธีการปฏิบัติ และ ดำเนินการให้มีการตรวจสอบคุณภาพของสถานศึกษา ซึ่งสถานศึกษาทุกแห่งจะต้องได้รับการประเมินอย่าง น้อยหนึ่งครั้งในรอบห้าปี สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษาจะต้องทำรายงานผลการ ประเมินสถานศึกษาเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสถานศึกษาที่ถูกประเมิน รวมทั้งจะต้องเปิดเผย รายงานให้สาธารณชนทราบด้วย รายงานการประเมินนี้จะต้องเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการปรับปรุงพัฒนา สถานศึกษา กล่าวคือ สถานศึกษาจะได้ทราบข้อมูลว่า ของตัวเองเด่นด้อยในเรื่องไหน ควรปรับปรุงอย่างไร ตน้ สงั กดั ไดท้ ราบว่าสถานศกึ ษาในความรับผดิ ชอบอยู่ในสภาพเชน่ ไร ตอ้ งส่งเสริมสนบั สนนุ ในเรื่องอะไรบา้ ง มาตรา 50 ให้สถานศึกษาให้ความร่วมมือในการจัดเตรียมเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่มีข้อมูล เกี่ยวข้องกับสถานศึกษา ตลอดจนให้บุคลากร คณะกรรมการของสถานศึกษา รวมทั้งผู้ปกครอง และผู้ที่มีสว่ น เก่ียวข้องกับการปฏบิ ัตภิ ารกจิ ของสถานศกึ ษา ให้ข้อมูลเพ่มิ เติมในส่วนทพ่ี จิ ารณาเห็นวา่ เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติ ภารกิจของสถานศึกษา ตามคำร้องขอของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือบุคคล หรือหน่วยงานภายนอกที่สำนักงานดังกล่าวรับรองท่ีทำการประเมินคุณภาพภายนอกของ

วารสารครศุ าสตรป์ ริทรรศนฯ์ - 382 – ปที ี่ 8 ฉบบั ที่ 1 (มกราคม-เมษายน) 2564 สถานศึกษานัน้ โดยสาระในมาตรานี้ เป็นบทบังคบั ให้สถานศึกษาสนับสนุนการดำเนนิ งานของสำนักงานรับรอง มาตรฐานและประเมนิ คณุ ภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) เกี่ยวกับการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษา จะปฏิเสธการปฏิบัติงานของผู้ประเมินภายนอก ตามที่สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพ การศึกษา (องค์การมหาชน) กำหนดไม่ได้แต่จะต้องอำนวยความสะดวกในการดำเนินงานกิจกรรมต่างๆ ให้ครบถว้ นตามกระบวนการประกนั คุณภาพภายนอก มาตรา 51 ในกรณีที่ผลการประเมินภายนอกของสถานศึกษาใดไม่ได้ตามมาตรฐานที่กำหนดให้ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษาจัดทำข้อเสนอแนะการปรับปรุงแก้ไขต่อหน่วยงาน ต้นสงั กดั เพอ่ื ใหส้ ถานศึกษาปรับปรุงแก้ไขภายในระยะเวลาท่ีกำหนด หากมิไดด้ ำเนนิ การดังกล่าวให้สำนักงาน รับรองมาตรฐาน และประเมินคุณภาพการศึกษารายงานต่อคณะกรรมการการศึกษาขึ้นพื้นฐาน หรอื คณะกรรมการอุดมศกึ ษา เพ่ือดำเนินการให้มกี ารปรบั ปรงุ แกไ้ ข การประเมินผลการดำเนินงานของสถานศึกษา โดยสำนักงานรบั รองมาตรฐานและประเมินคุณภาพ การศึกษา (องค์การมหาชน) ในแต่ละมาตรฐานจะมีเกณฑ์เพ่ือพิจารณาว่าคุณภาพอยูใ่ นระดับใด หากประเมิน แล้วเรื่องไหนยังไม่ผ่านเกณฑ์ผู้ประเมินก็จะเสนอแนะให้สถานศึกษานั้นปรับแก้ และจะกำหนดระยะเวลาให้ ดำเนนิ การปรับแกไ้ ว้ด้วย แนวทางการดำเนนิ งานประกันคุณภาพการศกึ ษาแนวใหม่ จากประกาศกฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 ได้ประกาศในราชกิจจา นเุ บกษา เล่ม 135 ตอนท่ี 11 ก หนา้ 3 เมื่อวนั ท่ี 23 กมุ ภาพนั ธ์ 2561 กลา่ วถึง การประกนั คุณภาพการศึกษา หมายความวา่ การประเมนิ ผลและการติดตามตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาแต่ละ ระดับและประเภทการศึกษา โดยมีกลไกในการควบคุมตรวจสอบระบบการบริหารคุณภาพการศึกษาท่ี สถานศึกษาจัดขึ้น เพื่อให้เกิดการพัฒนาและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและสาธารณชนว่า สถานศึกษานั้นสามารถจัดการศึกษาได้อย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา และบรรลุเป้าประสงค์ของ หน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานที่กำกับดูแล โดยให้สถานศึกษาแต่ละแห่งจัดให้มีระบบการประกันคุ ณภาพ การศึกษาภายในสถานศึกษา โดยการกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาให้เป็นไปตามมาตรฐาน การศึกษาแต่ละระดับ และประเภทการศึกษาที่รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงศกึ ษาธิการประกาศกำหนด พร้อมท้ัง จัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่มุ่งคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา และดำเนินการตาม แผนที่กำหนดไว้ จัดให้มีการประเมินผลและตรวจสอบคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาติดตามผลการ ดำเนนิ การเพือ่ พฒั นาสถานศึกษาให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา และจัดส่งรายงานผลการประเมนิ ตนเอง ให้แก่หน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานที่กำกับดูแลสถานศึกษาเป็นประจำ ทุกปีให้หน่วยงานต้นสังกัดหรือ หน่วยงานที่กำกับดูแลสถานศึกษามีหน้าที่ในการให้คำปรึกษา ช่วยเหลือ และแนะนำสถานศึกษา เพื่อให้การ ประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และจัดส่งรายงานการประเมนตนเองของ สถานศึกษา พร้อมกับประเด็นต่างๆ ที่ต้องการให้มีการประเมินผล และการติดตามตรวจสอบ ซึ่งรวบรวมได้ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับสถานศึกษาแห่งนั้นให้แก่ สมศ. เพื่อใช้เป็นข้อมูลและ แนวทางในการประเมินคุณภาพภายนอก สมศ. ดำเนินการประเมินผลและติดตามตรวจสอบคุณภาพและ มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา และจัดส่งรายงานผลการประเมินและการติดตามตรวจสอบดังกล่าว พรอ้ มขอ้ เสนอแนะใหแ้ ก่สถานศกึ ษาและหน่วยงานต้นสงั กัดหรือหน่วยงานท่ีกำกบั ดูแลสถานศกึ ษานนั้ ๆ เพ่ือให้

วารสารครุศาสตรป์ รทิ รรศน์ฯ - 383 – ปที ี่ 8 ฉบบั ที่ 1 (มกราคม-เมษายน) 2564 สถานศึกษาใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการศึกษาต่อไป สมศ. อาจจัดให้บุคคลหรือ หน่วยงานที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานดำเนินการประเมินผล และติดตามตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษาได้ เพื่อให้การดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาเป็นไปตามกฎกระทรวงการ ประกนั คุณภาพใหส้ ถานศึกษาระดับการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน ดำเนินการดงั ตอ่ ไปนี้ (กระทรวงศึกษาธกิ าร, 2561) 1. ให้สถานศึกษาแตล่ ะแห่งจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศกึ ษาภายในสถานศึกษาเพือ่ เปน็ กลไกในการควบคุม ตรวจสอบคณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศึกษา ให้เกิดการพฒั นาและสร้างความเช่ือมั่นให้แก่ สงั คม ชมุ ชน และผมู้ ีส่วนเกยี่ วข้อง 2. การจดั ใหม้ รี ะบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา ดังนี้ 2.1 กำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษา ระดับ การศกึ ษาปฐมวัยและระดบั การศึกษาขั้นพนื้ ฐาน โดยให้สถานศึกษาและผ้เู กี่ยวข้องดำเนนิ การและถอื เป็นความ รับผิดชอบร่วมกัน ทั้งนี้ สถานศึกษาอาจกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารประกาศใช้ได้ 2.2 จดั ทำแผนพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศกึ ษา ทีส่ อดคล้องกบั สภาพปัญหาและความ ต้องการจำเป็นของสถานศึกษาอย่างเป็นระบบ โดยสะท้อนคุณภาพความสำเร็จอย่างชัดเจนตามมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษา 2.3 ดำเนนิ การตามแผนพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศึกษา 2.4 ประเมินผลและตรวจสอบคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา โดยกำหนดผู้รับผิดชอบ ในการประเมินผลและตรวจสอบคุณภาพการศึกษา ทั้งระดับบุคคลและระดับสถานศึกษา และกำหนดการ ประเมินผลและตรวจสอบคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง โดยวิธีการและ เครื่องมือท่ีหลากหลายและเหมาะสม 2.5 ติดตามผลการดำเนินการเพื่อพัฒนาสถานศึกษาให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา และนำผลการติดตามไปใชป้ ระโยชน์ในการปรับปรงุ พฒั นา 2.6 จัดทำรายงานผลการประเมินตนเอง (Self-Assessment Report : SAR) ตามมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษา นำเสนอรายงานผลการประเมินตนเองต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้ ความเหน็ ชอบและจัดส่งรายงานดังกล่าวต่อสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาเป็นประจำทุกปี 2.7 พัฒนาสถานศึกษาให้มีคุณภาพโดยพิจารณาจากรายงานผลการประเมินตนเอง (SelfAssessment Report : SAR) และตามคำแนะนำของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน เพ่อื ให้การประกนั คณุ ภาพการศึกษาเปน็ ไปอยา่ งมีประสิทธภิ าพและพัฒนา อยา่ งต่อเนื่อง 3. สถานศึกษาแต่ละแห่งให้ความร่วมมือกับสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพ การศึกษา (สมศ.) เพื่อปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาตามข้อเสนอแนะของสำนักงาน รับรองมาตรฐานและประเมนิ คุณภาพการศึกษา (สมศ.) และหน่วยงานตน้ สงั กัดหรือหนว่ ยงานท่กี ำกับดูแลเพื่อ นำไปสกู่ ารพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศกึ ษา

วารสารครศุ าสตรป์ ริทรรศนฯ์ - 384 – ปีที่ 8 ฉบับท่ี 1 (มกราคม-เมษายน) 2564 มาตรฐานและการประกนั คณุ ภาพการศึกษา มาตรฐานการศึกษาของชาติ หมายถึง ข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะ คุณภาพ ที่พึงประสงค์ของ คนไทย เพื่อให้สถานศึกษาทุกแห่งยึดเป็นกรอบสำหรับสร้างคนไทย 4.0 ที่แม้แตกต่างตามบริบทของท้องถ่ิน และของสถานศึกษา แต่มีจุดหมายร่วมคือ “ธำรงความเป็นไทยและแข่งขันได้ในเวทีโลก” สามารถเป็นกำลัง สำคัญในการพัฒนาประเทศทั้งในมิติเศรษฐกิจ มิติสังคม และมิติการเมือง ต่อไปได้ (สำนักงานเลขาธิการสภา การศกึ ษา, 2560) ผลลัพธ์ที่พึงประสงค์ของการศึกษา (Desired Outcomes of Education, DOE Thailand) หมายถึง คุณลักษณะของคนไทย 4.0 ที่ตอบสนองวิสัยทัศนก์ ารพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน โดย คนไทย 4.0 จะต้อง ธำรงความเป็นไทยและแข่งขนั ได้ในเวทโี ลก นน่ั คือเป็นคนดี มีคณุ ธรรมยึดค่านิยมร่วมของ สังคมเป็นฐานในการพัฒนาตนใหเ้ ป็นบคุ คลทม่ี ีคณุ ลักษณะ 3 ด้าน โดยเปน็ คณุ ลักษณะข้นั ต่ำ ได้แก่ 1. ผู้เรยี นรู้ เปน็ ผมู้ คี วามเพียร ใฝเ่ รยี นรู้ และมที ักษะการเรยี นร้ตู ลอดชวี ิตเพื่อก้าวทันโลกยุคดิจิทัล และโลกในอนาคต และมีสมรรถนะ (competency) ที่เกิดจากความรู้ ความรอบรู้ด้านต่างๆ มีสุนทรียะ รักษ์ และประยกุ ต์ใชภ้ มู ปิ ัญญาไทย มที กั ษะชีวิต เพอ่ื สรา้ งงานสัมมนาอาชีพ บนพืน้ ของความพอเพียงความมั่นคงใน ชวี ติ และคุณภาพชีวติ ที่ดี ตอ่ ตนเอง ครอบครัว และสังคม 2. ผู้ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรม เป็นผู้มีทักษะทางปัญญา ทักษะศตวรรษที่ 21 ความฉลาดดิจิทัล (digital intelligence) ทักษะการคิดสร้างสรรค์ ทักษะข้ามวัฒนธรรม สมรรถนะการบูรณาการข้ามศาสตร์ และมีคุณลักษณะของความเป็นผู้ประกอบการ เพื่อร่วมสร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีหรือ สงั คม เพิม่ โอกาสและมูลคา่ ให้กับตนเอง และสงั คม 3. พลเมืองที่เข้มแข็ง เป็นผู้มีความรักชาติ รักท้องถิ่น รู้ถูกผิด มีจิตสำนึกเป็นพลเมืองไทยและ พล โลก มีจิตอาสามีอุดมการณ์และมีส่วนร่วมในการพัฒนาชาติ บนหลักการประชาธิปไตย ความยุติธรรม ความ เทา่ เทยี มเสมอภาค เพ่อื การจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมท่ีย่ังยืน และการอยรู่ ่วมกันในสังคมไทย และประชาคมโลกอย่างสันติ โดยผลลัพธ์ที่พึงประสงค์ 3 ด้าน ที่เหมาะสมตามช่วงวัยที่มีความต่อเนื่อง เช่ือมโยงและสะสมต้ังแต่ระดบั การศกึ ษาปฐมวัย การศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน การอาชวี ศกึ ษา จนถงึ ระดับอดุ มศึกษา พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่2) พ.ศ. 2545 กำหนดให้หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษาจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา อัน นำไปสู่การกำหนดให้มีมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานขึ้น ประกอบกับได้มีการประกาศได้มีการประกาศใช้ กฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 และกระทรวงศกึ ษาธิการมีการประกาศให้ใชม้ าตรฐาน การศึกษา ระดับการศึกษาระดับปฐมวัย ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์ การศึกษาพิเศษ พ.ศ. 2561 ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2561 สำหรับให้สถานศึกษารับการประเมินคุณภาพภายนอก ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นใจแก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายว่าการจัดการศึกษาของสถานศึกษามีคุณภาพ ได้ มาตรฐาน และคงรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานจากการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาตามประกาศ กระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับ การศึกษาขั้นพน้ื ฐานศูนย์การศกึ ษาพิเศษ ฉบบั ลงวันที่ 6 สงิ หาคม พ.ศ. 2561 โดยที่มีประกาศใช้กฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 นโยบายการปฏิรูป การศึกษาในทศวรรษท่ีสองที่กำหนดเปา้ หมายและยุทธศาสตรใ์ นการพัฒนาคุณภาพคนไทยและการศึกษาไทย ในอนาคต ประกอบกับมีนโยบายให้ปฏิรูประบบการประเมิน และการประกันคุณภาพทั้งภายในและภายนอก

วารสารครุศาสตรป์ ริทรรศนฯ์ - 385 – ปีที่ 8 ฉบับท่ี 1 (มกราคม-เมษายน) 2564 ของทุกระดับก่อนจะมีการประเมินคุณภาพในรอบต่อไปจำเป็นต้องปรับปรุงมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ สอดคล้องกนั โดยมรี ายละเอยี ดดังนี้ 1. มาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2561 มีจำนวน 3 มาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ และมาตรฐานที่ 3 กระบวนการจดั การเรยี นการสอนท่ีเน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั แต่ละมาตรฐานมีรายละเอียดดงั น้ี มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพของผเู้ รียน 1.1 ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน 1) มีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคำนวณ 2) มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยนความ คิดเห็น และแก้ปัญหา 3) มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม 4) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร 5) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา 6) มีความรู้ ทักษะพื้นฐาน และเจตคตทิ ดี่ ีตอ่ งานอาชพี 1.2 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน 1) การมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่ สถานศึกษากำหนด 2) ความภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย 3) การยอมรบั ทจ่ี ะอย่รู ่วมกันบนความแตกต่าง และหลากหลาย 4) สขุ ภาวะทางรา่ งกาย และจติ สังคม มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจดั การ 2.1 มเี ป้าหมายวิสัยทัศน์และพันธกจิ ท่ีสถานศกึ ษากำหนดชดั เจน 2.2 มีระบบบรหิ ารจดั การคณุ ภาพของสถานศกึ ษา 2.3 ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผูเ้ รียนรอบดา้ นตามหลักสูตรสถานศึกษาและทกุ กลุ่มเป้าหมาย 2.4 พฒั นาครูและบคุ ลากรให้มคี วามเชย่ี วชาญทางวิชาชีพ 2.5 จดั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพและสงั คมทเ่ี อ้ือตอ่ การจดั การเรียนรูอ้ ยา่ งมีคณุ ภาพ 2.6 จดั ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบรหิ ารจัดการและการจดั การเรยี นรู้ มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจดั การเรยี นการสอนที่เนน้ ผเู้ รียนเป็นสำคญั 3.1 จัดการเรยี นรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัตจิ ริง และสามารถนำไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตได้ 3.2 ใชส้ ือ่ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรยี นรู้ท่เี ออื้ ต่อการเรียนรู้ 3.3 มกี ารบริหารจัดการชั้นเรียนเชงิ บวก 3.4 ตรวจสอบและประเมินผเู้ รยี นอยา่ งเป็นระบบ และนำผลมาพฒั นาผู้เรียน 3.5 มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการ เรยี นรู้ 2. มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย พ.ศ. 2561 มีจำนวน 3 มาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ และมาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ท่ี เน้นเด็กเป็นสำคญั แตล่ ะมาตรฐานมีรายละเอียดดงั น้ี มาตรฐานที่ 1 คณุ ภาพของเดก็ 1.1 มพี ฒั นาการดา้ นรา่ งกาย แขง็ แรง มสี ุขนสิ ัยทดี่ ี และดูแลความปลอดภัยของตนเองได้ 1.2 มีพัฒนาการด้านอารมณ์ จติ ใจ ควบคมุ และแสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 1.3 มพี ัฒนาการด้านสังคม ช่วยเหลือตนเอง และเปน็ สมาชกิ ท่ีดขี องสงั คม

วารสารครศุ าสตรป์ ริทรรศนฯ์ - 386 – ปีที่ 8 ฉบบั ที่ 1 (มกราคม-เมษายน) 2564 1.4 มีพฒั นาการดา้ นสตปิ ญั ญา ส่อื สารได้ มีทกั ษะการคิดพน้ื ฐาน และแสวงหาความรไู้ ด้ มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ 2.1 มหี ลักสูตรครอบคลมุ พัฒนาการท้งั ๔ ด้าน สอดคล้องกับบรบิ ทของทอ้ งถนิ่ 2.2 จดั ครใู หเ้ พียงพอกับช้นั เรยี น 2.3 สง่ เสริมใหค้ รูมคี วามเชีย่ วชาญด้านการจัดประสบการณ์ 2.4 จัดสภาพแวดลอ้ มและสอ่ื เพอ่ื การเรียนรู้ อยา่ งปลอดภัย และเพยี งพอ 2.5 ใหบ้ ริการส่ือเทคโนโลยสี ารสนเทศและส่อื การเรียนรเู้ พอ่ื สนบั สนนุ การจัดประสบการณ์ 2.6 มรี ะบบบรหิ ารคุณภาพทเี่ ปดิ โอกาสให้ผเู้ กี่ยวข้องทกุ ฝ่ายมสี ว่ นรว่ ม มาตรฐานที่ 3 การจดั ประสบการณ์ที่เนน้ เดก็ เป็นสำคัญ 3.1 จัดประสบการณ์ท่ีส่งเสรมิ ใหเ้ ด็กมพี ัฒนาการทกุ ด้านอย่างสมดลุ เต็มศักยภาพ 3.2 สร้างโอกาสใหเ้ ด็กไดร้ บั ประสบการณ์ตรง เลน่ และปฏิบัติอย่างมีความสขุ 3.3 จดั บรรยากาศที่เออ้ื ต่อการเรยี นรู้ใช้ส่อื และเทคโนโลยที เ่ี หมาะสมกบั วัย 3.4 ประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริงและนำผลการประเมินพัฒนาการเด็กไปปรับปรุง การจดั ประสบการณแ์ ละพฒั นาเดก็ 3. มาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษาศูนย์การศึกษาพิเศษ มีจำนวน 3 มาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ และมาตรฐานที่ 3 กระบวนการจดั การเรียนการสอนทเ่ี น้นผู้เรียนเป็นสำคญั แต่ละมาตรฐานมรี ายละเอยี ดดงั น้ี มาตรฐานที่ 1 คณุ ภาพของผูเ้ รียน 1.1 ผลการพัฒนาผูเ้ รียน 1) มีพฒั นาการตามศักยภาพของแตล่ ะบุคคล ท่แี สดงออกถึงความรู้ ความสามารถ ทักษะ ตามที่ระบุไว้ในแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล หรือ แผนการให้บริการ ช่วยเหลือ เฉพาะครอบครัว 2) มีความพร้อมสามารถเข้าสู่บริการช่วงเชื่อมต่อหรือการส่งต่อเข้าสู่การศึกษาในระดับท่ี สูงข้ึน หรือการอาชีพหรือการดำเนนิ ชวี ิตในสงั คมได้ตามศกั ยภาพของแตล่ ะบุคคล 1.2 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน 1) มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่สถานศึกษา กำหนด 2) มีความภมู ิใจในทอ้ งถนิ่ และความเปน็ ไทย ตามศกั ยภาพของผู้เรยี นแต่ละบุคคล มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบรหิ ารและการจดั การ 2.1 มีเป้าหมายวิสยั ทัศนแ์ ละพนั ธกิจทีส่ ถานศกึ ษากำหนดชดั เจน 2.2 มีระบบบรหิ ารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา 2.3 ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผูเ้ รียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษาและทกุ กลมุ่ เปา้ หมาย 2.4 พฒั นาครูและบุคลากรให้มคี วามเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ 2.5 จดั สภาพแวดล้อมทางกายภาพและสงั คมทเี่ อื้อต่อการจัดการเรยี นรอู้ ยา่ งมคี ณุ ภาพ 2.6 จดั ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ สนบั สนุนการบรหิ ารจดั การและการจัดการเรียนรู้ มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจดั การเรยี นการสอนท่เี น้นผเู้ รยี นเปน็ สำคญั 3.1 จดั การเรียนร้ผู า่ นกระบวนการคิดและปฏิบัตจิ รงิ และสามารถนำไปประยกุ ต์ใช้ในชีวิตได้ 3.2 ใช้สอ่ื เทคโนโลยสี ารสนเทศ และแหล่งเรียนรูท้ ี่เออื้ ตอ่ การเรียนรู้ 3.3 มีการบริหารจัดการช้นั เรยี นเชงิ บวก

วารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ฯ - 387 – ปีที่ 8 ฉบับท่ี 1 (มกราคม-เมษายน) 2564 3.4 ตรวจสอบและประเมนิ ผเู้ รียนอยา่ งเปน็ ระบบ และนำผลมาพัฒนาผเู้ รยี น 3.5 มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการ เรียนรู้ ดงั นนั้ การพฒั นามาตรฐานการศึกษา จงึ มแี นวคิดวา่ ตอ้ งเป็นมาตรฐานท่สี ถานศกึ ษาปฏิบัติได้ จริง ประเมินได้จริง กระซับ และจำนวนน้อย แต่สามารถสะท้อนบริบทของสถานศึกษาและคุณภาพการศึกษา ได้จริง ข้อมูลที่ได้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาการศึกษาทุกระดับ ตั้งแต่ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นท่ี การศึกษา ระดับหน่วยงานต้นสังกัด และระดับชาติ ดังนั้น การกำหนดมาตรฐานการศึกษาจึงเน้นที่คุณภาพ ผู้เรียน คุณภาพผู้บริหารสถานศึกษา และคุณภาพครู มีความสอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาชาติ และ ข้อกำหนดในกฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 บทสรปุ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 ว่าด้วย ความสำคัญในเร่อื งการพฒั นาคุณภาพ และมาตรฐานการศึกษา เพราะได้กำหนดสาระบญั ญตั ฉิ บับนี้ไว้หมวดใน หมวดที่ 6 มาตรฐาน และการประเมินคุณภาพการศึกษา เพอื่ ให้ผเู้ กี่ยวข้องได้ตระหนักและดำเนินการในเรื่อง นี้ครบถ้วน ถูกต้อง ปรากฏไว้ในมาตรา 47 ถึงมาตรา 51 ซึ่งมีหลักการที่นำไปสู่การประกันคุณภาพ ได้แก่ 1) หลักการเกี่ยวกับการจัดการให้ความบกพร่องมีค่าเป็นศูนย์ (Zero Defects Concept) 2) โปรแกรมการ ปรับปรุงคุณภาพตามแนวคิดของCrosby (Crosby’s Quality Improvement Program) 3) การปรับปรุง คุณภาพตามแนวคิดของ Juran (Juran’sTon Stops to Quality Improvement) 4) แนวคิดเกี่ยวกับการ ปรับปรุงคณุ ภาพครบวงจร PDCA 5) หลักความรับผิดชอบทตี่ รวจสอบได้ (Accountability) ความหมายของการประกันคุณภาพการศึกษา หมายถึง กระบวนการบริหารจัดการ และกระบวนการปฏิบัติงานของสถานศึกษาที่มีการวางแผนระบบการจัดการในด้านต่างๆ ตามแนวปฏิบัติ เกี่ยวกับการกำหนดมาตรฐาน และกระบวนการตรวจสอบคุณภาพการศึกษาที่สถานศึกษากำหนดข้ึน โดยระบบการประกันคุณภาพภายใน (Internal Quality Assurance) เปน็ ระบบที่สถานศกึ ษาสรา้ งความม่ันใจ (Assure) แก่ผู้รับบริการ ทั้งผู้เรียน ผู้ปกครอง ชุมชน ตลอดจนองค์กรหรือสถานประกอบการที่ผู้รับเรียน เข้าศึกษาต่อหรือทำงานว่าสถานศึกษาสามารจัดการศึกษาให้มีคุณภาพได้ตามมาตรฐานที่สถานศึกษากำหนด การพัฒนาระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในของสถานศึกษาจึงยึดหลักการ 3 ประการ คือ 1) การ กระจายอำนาจ (Decentralization) 2) การเปิดโอกาสการมีส่วนร่วมในการทำงาน (Participation) 3) การ แสดงภาระรับผิดชอบที่ตรวจสอบได้ (Accountability) ส่วนการประกันคุณภาพภายนอก (External Quality Assurance) เป็นการประเมินคุณภาพการจัดการศึกษาเพื่อให้มีการติดตามและตรวจสอบคุณภาพและ มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา โดยคำนึงถึงความมุ่งหมาย หลักการ และแนวการจัดการศึกษาในแต่ละ ระดับ ซึ่งประเมนิ โดยสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมนิ คุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) กฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 และกระทรวงศึกษาธิการมกี ารประกาศให้ ใช้มาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษาระดับปฐมวัย ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับการศึกษาขั้น พนื้ ฐานศูนยก์ ารศึกษาพเิ ศษ พ.ศ. 2561 เพ่อื การประเมินคณุ ภาพการประกันคุณภาพการศึกษา คอื มาตรฐาน การศึกษา ระดบั ปฐมวัย พ.ศ. 2561 มาตรฐานการศกึ ษา ระดบั การศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พ.ศ.2561 และมาตรฐาน การศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพเิ ศษ พ.ศ.2561 โดยมีการดำเนินการจัดทำระบบประกนั

วารสารครศุ าสตรป์ รทิ รรศนฯ์ - 388 – ปที ี่ 8 ฉบับที่ 1 (มกราคม-เมษายน) 2564 คุณภาพการศึกษา 7 เรื่อง ประกอบด้วย 1) กำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา 2) จัดทำแผนพัฒนา การจัดการศึกษาของสถานศึกษา 3) ดำเนินการตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา 4) ประเมินผล ตรวจสอบคณุ ภาพภายในของสถานศึกษา 5) ติดตามผลการดำเนินงานของสถานศึกษา 6) รายงาน ผลการดำเนนิ งานของสถานศกึ ษา 7) การพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษาอย่างต่อเน่ือง โดยสรุปองค์ความรู้การ ประกนั คณุ ภาพการศึกษา ดงั ภาพท่ี 3 Plan (P) 1. กำหนดมาตรฐาน การศึกษา 2. จดั ทำแผนพัฒนา 3. ดำเนนิ การตามแผน Do Act 4. ประเมินผล ตรวจสอบ (D) (A) 5. ติดตามผลการดำเนินงาน 6. รายงานผลการดำเนนิ งาน 7. การพฒั นาคุณภาพอยา่ ง ตอ่ เนื่อง Check (C) ภาพที่ 3 องค์ความร้กู ารประกันคณุ ภาพการศกึ ษา

วารสารครุศาสตร์ปรทิ รรศนฯ์ - 389 – ปที ่ี 8 ฉบับที่ 1 (มกราคม-เมษายน) 2564 เอกสารอ้างองิ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ. (2564). การประกันคุณภาพภายนอก. แหล่งที่มา http://www.navedu.navy.mi.th/qedu/book59-63/manual_4-59/manual4_pdf/03-chapter_01_P1-13.pdf สืบคน้ เมือ่ 23 ก.พ. 2564 กระทรวงศึกษาธิการ. (2545). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2545. กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พค์ รุ สุ ภาลาดพร้าว. กระทรวงศึกษาธกิ าร. (2561). กฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษาพ.ศ. 2561. กรุงเทพมหานคร: โรง พมิ พค์ รุ สุ ภาลาดพร้าว. กระทรวงศึกษาธิการ. (2561). มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ ฉบับลงวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2561. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรสุ ภาลาดพร้าว. ปรัชญา เวสารชั ช.์ (2545). หลักการจัดการศกึ ษา. กรงุ เทพมหานคร: สำนกั งานปฏิรปู การศึกษา. วีรพจน์ ลือประสิทธิ์สกุล. (2540). TQM living handbook: An Executive summary. พิมพ์ครั้งท่ี 2. กรุงเทพมหานคร: บพี ีอารแ์ อนด์ทคี ิวเอ็มคอนซลั แทนท์. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2544). แนวทางการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา: เพื่อ พร้อมรบั การประเมนิ ภายนอก. กรงุ เทพมหานคร: สกายบุ๊คส์. สำนักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมาร.ี (2545). แผนพฒั นาเด็กและเยาวชนใน ถิ่นทุรกันดารในพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีระยะที่ 3 พ.ศ. 2545-2549. กรงุ เทพมหานคร: สายธุรกจิ โรงพมิ พ.์ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา. (2547). หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินคุณภาพ ภายนอกของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมิน คณุ ภาพการศกึ ษา. สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรงุ เทพมหานคร: สำนักงานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา. Crosby, P.B. (1979). Quality Is Free: The Art of Making Quality Certain.NewYork: McGraw-Hill. Dale, E. and Michelon, L.C. (1994). Managing quality. 2nd ed. New York: Prentice-Hall. Dale, H. S. (2004). Learning theories: An educational perspective. 4nd ed. Publisher: KevinM. Davis. Goetsch and Davis. (1994) . Quality Management Introduction to Total Quality Management for Production, Processing, and Service. New York: Prentice Hall. Lessinger, L. M. (1971). Accountability for Results : A Basic Challenge for American’ schools. in L.N. Lessinger and R.W. Tyler (eds.). Accountability in Education. Worthington: Charles A. Publishing. Milliken, W.G. ( 1971) . Making the School System Accountable. in L.N. Lessinger and R.W. Tyler (eds.) Accountability in Education. Worthington: Charles A. Publishing. Sallis, E. (1993). Total Quality Management in Education. London: Kogan page. W. Edwards Deming. (1986). Out of the Crisis. Massachusetts: MIT Press.

วารสารบัณฑติ ศึกษามหาวิทยาลัยฟารอ์ สี เทอร์น ปีท่ี 3 ฉบบั ท่ี 1 มถิ ุนายน 2557 – พฤษภาคม 2558 การปฏิบตั งิ านการประกนั คณุ ภาพการศึกษาภายใน ตามกระบวนการวงจรคุณภาพ (PDCA) ของโรงเรียนปายวิทยาคาร อาเภอปาย จงั หวดั แม่ฮ่องสอน Performance of the Quality Assurance Process in the Quality Cycle (PDCA) of Paiwittayakarn School, Pai District, Mae Hong Son Province วทิ ยา วงอินทร์* ดร. ฉตั รทพิ ย์ สุวรรณชนิ ** บทคัดย่อ การวิจัยครั้งน้ีมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการปฏิบัติงานการประกันคุณภาพการศึกษาภายในตาม กระบวนการวงจรคุณภาพ (PDCA) เพ่ือศึกษาปัญหา และข้อเสนอแนะการปฏิบัติงานการประกันคุณภาพ การศึกษาภายในตามกระบวนการวงจรคุณภาพ (PDCA) ประชากรที่ใช้ในการทาวิจัย ประกอบด้วยผู้บริหาร สถานศึกษา จานวน 2 คน และคณะกรรมการจัดทาแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาเพ่ือรองรับการประเมินภายใน (งานประกันคุณภาพการศึกษา) จานวน 46 คน รวมทั้งสิ้น จานวน 48 คน เคร่ืองมือท่ีใช้ในการวิจัยมี 2 ชุด ชุดที่ 1 เป็นแบบสอบถามเก่ียวกับการปฏิบัติงานการประกันคุณภาพการศึกษาภายในตามกระบวนการวงจร คุณภาพ (PDCA) ของโรงเรียนปายวิทยาคาร อาเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ชุดท่ี 2 เป็นการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลแบบสอบถามโดยใช้ความถี่ ร้อยละ ส่วนการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เทคนิคการ วิเคราะหข์ ้อมูลเชิงคณุ ภาพ ผลการวจิ ัยสรุปได้ดังน้ี โรงเรียนปายวิทยาคาร อาเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีสภาพการปฏิบัติงานการ ประกันคุณภาพการศึกษาภายใน ตามกระบวนการวงจรคุณภาพ (PDCA) ท้ัง 15 มาตรฐาน โดยมาตรฐานท่ีปฏิบัติ มากท่สี ดุ ทุกข้ันตอน คอื มาตรฐานที่ 12 สถานศึกษามีการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาตามท่ีกาหนดใน กฎกระทรวงเป็นเพราะว่า มาตรฐานที่ 12 มีการกาหนดโครงสร้าง และคาส่ังการแต่งต้ังคณะกรรมการจัดทา แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาเพ่ือรองรับการประเมินภายใน เพื่อปฏิบัติกิจกรรม หรือโครงการพัฒนาผู้เรียน ตอบสนองมาตรฐานการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน โดยแต่ละกิจกรรม หรือโครงการได้รับการสนับสนุน * นกั ศึกษาระดับบณั ฑติ ศกึ ษา หลกั สูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศกึ ษา มหาวิทยาลยั ฟาร์อสี เทอร์น E-mail: [email protected] ** อาจารย์ประจาหลักสตู รศกึ ษาศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาวชิ าการบริหารการศกึ ษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ฟาร์อสี เทอรน์ [429]


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook