ผลการดำำ�เนิินงาน ของกระทรวงกลาโหม ๒๕๖๓ประจำำ�ปีี
“กลาโหมเทิดราชา รกั ษร์ าษฎร์ ชาติมนั่ คง”
ค�ำนำ� กระทรวงกลาโหม มีบทบาทและภารกิจตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายท่ีเกี่ยวข้อง ซ่ึงก�ำหนดให้ กระทรวงกลาโหมมหี นา้ ทใ่ี นการพทิ กั ษร์ กั ษาไวซ้ งึ่ สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ เอกราช อธปิ ไตย ความมนั่ คงของ รฐั ความสงบเรยี บรอ้ ย สนบั สนนุ งานดา้ นการพฒั นาประเทศ ปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หาภยั พบิ ตั ิ และชว่ ยเหลอื ประชาชน สมดงั กับปณธิ านของกระทรวงกลาโหมท่วี า่ “เทดิ ราชา รักษ์ราษฎร์ ชาตมิ นั่ คง” จากปณธิ านดงั กลา่ ว กระทรวงกลาโหม จงึ ไดท้ มุ่ เททง้ั กำ� ลงั กายและใจในการปฏบิ ตั งิ านตามบทบาท และหน้าท่ี รวมถึงภารกิจที่ได้รับมอบหมายอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความส�ำคัญในการเทิดทูนและการพิทักษ์ สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ การปกป้องเอกราชและบรู ณภาพแหง่ ดินแดน รวมทง้ั การช่วยเหลือประชาชนและ การพฒั นาประเทศ นอกจากนีก้ ระทรวงกลาโหมไดม้ สี ่วนส�ำคญั ในการเข้าไปดูแลและช่วยแกไ้ ขปญั หาความ เดืือดร้อ้ นต่า่ งๆ ของพี่่�น้้องประชาชน โดยเฉพาะผู้้�ที่�ได้้รับั ผลกระทบจากการแพร่่ระบาดของโรคติิดเชื้�อไวรััส โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) การเปลี่�ยนแปลงสภาพภููมิิอากาศและภััยธรรมชาติิซึ่�งมีีแนวโน้้มที่�เกิิดขึ้�น บ่่อยครั้�งและรุุนแรงมากขึ้�น รวมทั้�งได้้ร่่วมกัับทุุกภาคส่่วน ทั้้�งภาครััฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสัังคม ในการขบั เคลอ่ื นแผนงาน/โครงการพฒั นาตา่ งๆ ทส่ี ำ� คญั ตามนโยบายของรฐั บาล ตลอดจนการแกไ้ ขปญั หาทส่ี ำ� คญั ของชาติอย่างเต็มศักยภาพ ซ่ึงการท�ำงานทั้งหมดของกระทรวงกลาโหมเพื่อให้พ่ีน้องประชาชนมีชีวิต ความเป็นอยทู่ ่ดี ีขึ้นและมคี วามสขุ อนั ส่งผลให้ประเทศชาติเกดิ ความมัน่ คง หนงั สอื เลม่ นมี้ เี จตนาเพอื่ สรา้ งการรบั รแู้ กพ่ น่ี อ้ งประชาชนไดร้ บั ทราบถงึ การทมุ่ เททำ� งานอยา่ งหนกั ของกระทรวงกลาโหม เพื่อประเทศชาติ เพ่ือสถาบันพระมหากษัตริย์ และเพื่อพี่น้องประชาชนทุกคน โดยมุ่งหวังนำ� พาประเทศไทยไปสคู่ วามมน่ั คง มงั่ คง่ั และยัง่ ยนื กระทรวงกลาโหม “เพราะเรา คอื ทหารของพระราชาและประชาชน”
สารบัญ เทดิ ราชา สถาบนั พระมหากษัตริย์กบั ประเทศไทยและกิจการทหารไทย ๖ การเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย ์ ๖ การจััดพิิธีสี วนสนามถวายสัตั ย์์ปฏิญิ าณของทหาร-ตำำ�รวจ เนื่�อ่ งในโอกาสพระราชพิธิ ีีบรมราชาภิเิ ษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ และวนั กองทัพไทย ๗ การสนับสนุนโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชด�ำริพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ๑๒ การจััดกิจิ กรรมเฉลิิมพระเกีียรติิ พระบาทสมเด็็จพระเจ้้าอยู่่�หััว เนื่่อ� งในโอกาสวันั เฉลิมิ พระชนมพรรษา วัันที่่� ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ๑๖ การจััดกิิจกรรมน้้อมสำำ�นึึกในพระมหากรุณุ าธิคิ ุณุ พระบาทสมเด็จ็ พระบรมชนกาธิเิ บศร มหาภููมิพิ ลอดุุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิติ ร ๑๙ การจัดั กิจิ กรรมเฉลิิมพระเกียี รติิ สมเด็จ็ พระนางเจ้า้ สิริ ิกิ ิิติ์์� พระบรมราชิินีีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๒๑ การพทิ ักษส์ ถาบนั พระมหากษัตริย ์ ๒๓ ระบบเฝา้ ระวงั การหมน่ิ สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ในส่อื สงั คมออนไลน ์ ๒๔ รกั ษ์ราษฎร์ ๒๖ ๒๗ การบรรเทาสาธารณภยั ๒๙ การชว่ ยเหลอื ประชาชนที่ไดร้ บั ผลกระทบจากพายุ “โนอึล (NOUL)” ๓๓ การช่วยเหลอื ประชาชนที่ไดร้ ับผลกระทบจากพายรุ ะดบั ๒ (ดเี ปรสชัน) ๓๗ การชว่ ยเหลอื ประชาชนท่ีประสบอทุ กภัยในพ้ืนท่ี ภาคใต้ ๓๘ การช่วยเหลอื ประชาชนท่ีประสบภยั แล้ง ๔๒ การบรรเทาผลกระทบจากปญั หาไฟป่า หมอกควัน และฝุน่ ละออง ๔๒ การพฒั นาคณุ ภาพชีวิตประชาชน การพัฒั นาโดยยึึดหลักั เศรษฐกิจิ พอเพียี ง สร้้างความเจริิญอย่่างยั่่ง� ยืืน
ชาติมน่ั คง ๕๐ ๕๑ การปอ้ งกนั ประเทศ ๕๕ ด้านการปอ้ งกนั ชายแดน ๕๗ การแก้ไขปัญหาจังหวดั ชายแดนภาคใต้ ๕๙ ด้านการรักษาความสงบเรยี บร้อยภายในประเทศ ๕๙ ด้านการสนับสนนุ รฐั บาลในการแก้ไขปัญหาทีส่ �ำคัญของชาติ ๖๖ การแก้ไขปญั หาการแพรร่ ะบาดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด-19) ๗๑ การรกั ษาความมั่นคงและผลประโยชนข์ องชาตทิ างทะเล ๗๘ การสง่ เสรมิ ความรว่ มมือกบั มิตรประเทศและประเทศสมาชกิ อาเซยี น ๗๘ การฝึกึ ร่ว่ ม/ผสมกัับมิิตรประเทศ ๘๓ การฝึกึ Cobra Gold ๘๕ การฝึกึ ผสม Lightning Forge ๘๗ การฝึกึ COPE TIGER ๙๐ การสนับั สนุุนโครงการเขตพััฒนาพิเิ ศษภาคตะวันั ออก ๙๔ การพัฒั นาอุุตสาหกรรมป้อ้ งกัันประเทศของกระทรวงกลาโหมในอนาคต ปััจฉิมิ บท
เทดิ ราชา
6 สถาบันพระมหากษตั รยิ ก์ ับประเทศไทยและกิจการทหารไทย ประวัติศาสตร์ชาติไทย เร่ิมต้นเป็นราชอาณาจักรและมีการจัดการปกครองด้วยอ�ำนาจรัฐตั้งแต่ ปี พ.ศ.๑๗๙๒ เป็นต้นมา โดยสถาปนาเป็นราชอาณาจักรสุโขทัย หรือกรุงสุโขทัยท่ีมีพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ทรงเปน็ ปฐมกษตั รยิ ์แห่งราชวงศพ์ ระร่วง หลงั จากนนั้ ชาติไทยได้มวี วิ ัฒนาการทรี่ ุง่ เรอื ง เปน็ ยุคสมยั ตา่ งๆ สบื ตอ่ กันมา กล่าวคือ ราชอาณาจักรสุโขทัย ราชอาณาจักรศรีอยุธยา ราชอาณาจักรธนบุรี และราชอาณาจักร รตั นโกสนิ ทร์ ตราบจนปัจจุบัน องค์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์จอมทัพไทย น�ำกองทัพเพ่ือปกป้องราชอาณาจักรให้รอดพ้นจาก ภยั คกุ คามกองทพั และทรงดำ� เนนิ พระราชกรณยี กจิ ทำ� นบุ ำ� รงุ และสนบั สนนุ การพฒั นากจิ การทหารของไทย ให้มีความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมนานาอารยประเทศ เพ่ือก่อให้เกิดศักย์ทางสงครามในการปกป้องอธิปไตย และเอกราชของประเทศเสมอมา จงึ กล่าวได้ว่า สถาบันพระมหากษตั ริย์ และกิจการทหารของไทย คงอยเู่ คียงคู่ กบั ประวตั ิศาสตรช์ าตไิ ทยตง้ั แต่อดีตสืบเนื่องตลอดมา สถาบนั พระมหากษตั ริย์ จงึ เป็นสถาบนั หลกั ทรงเป็นศนู ยร์ วมจิตใจของคนไทยท้ังชาติ ดว้ ยพระมหา กรุณาธิคุณท่ีทรงมีต่อประเทศชาติ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานต่างๆ จึงได้สนองพระราชด�ำริของ พระมหากษัตรยิ ์ทกุ พระองค์กบั พร้อมทจี่ ะถวายงานดว้ ยความมงุ่ ม่นั และจงรกั ภกั ดี ตลอดไป การเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษตั ริย์ กระทรวงกลาโหมได้ริเร่ิมจัดกิจกรรมท่ีส�ำคัญต่างๆ และรณรงค์ให้สังคมไทย เกิดความรัก ความสามคั คี ปลกู ฝงั อดุ มการณค์ วามรกั ชาติ สรา้ งจติ สำ� นกึ ในการเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ และยดึ มนั่ ในเจตนารมณ์อยา่ งมัน่ คง แนว่ แน่ในการสนองพระราชปณธิ าน ของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู วั ดงั พระปฐมบรมราชโองการ ความว่า “เราจะสบื สาน รักษา และตอ่ ยอด และครองแผน่ ดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแหง่ อาณาราษฎรตลอดไป” ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
7 การจดั พธิ ีสวนสนามถวายสัตยป์ ฏญิ าณของทหาร-ต�ำรวจ เน่ืองในโอกาสพระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ และวันกองทพั ไทย โดยเมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ในพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ และทรงดำ� รงต�ำแหน่งจอมทัพไทย ตามมาตรา ๘ แหง่ รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย กองทัพไทยจึงไดก้ ำ� หนดจัดพธิ สี วนสนามถวายสตั ยป์ ฏญิ าณอยา่ งย่งิ ใหญ่ สมพระเกยี รติ โดยไดข้ อพระราชทานกราบบงั คมทลู เชญิ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชด�ำเนินมาทรงเป็นองค์ประธานในพิธีสวนสนามถวายสัตย์ปฏิญาณของทหาร- ตำ� รวจเนอื่ งในพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ และวนั กองทพั ไทย เมอื่ วนั เสารท์ ่ี ๑๘ มกราคม ๒๕๖๓ ณ ศนู ย์การทหารม้า จ.สระบุรี ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
8 นับเป็นครั้งแรกในรัชสมัย ที่ �ทหาร-ตำำ�รวจทุุกหมู่ �เหล่่าได้้ร่่วมใน พิิธีีสวนสนามถวายสััตย์์ปฏิิญาณ โดยพร้อ้ มเพรียี งกันั เพื่�อแสดงออกถึงึ ความจงรักภกั ดี ความสามัคคี ความ สามารถ ความเข้มแข็ง และความ พร้อมเพรียงของเหล่าทัพ และ เป็นการถวายพระเกียรติแด่พระบาท สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ซงึ่ ดำ� รงพระราช สถานะเป็น ‘องค์จอมทพั ไทย’ สำ� หรบั การจดั กำ� ลงั สวนสนามฯ ในคร้งั นี้ มจี ำ� นวนทัง้ สิ้น ๓๙ กองพนั กำ� ลงั พลรวม ๖,๘๑๒ นาย ประกอบดว้ ย กรมเดนิ เทา้ สวนสนาม จำ� นวน ๗ กรม (รวม ๒๘ กองพัน) กรมวงิ่ สวนสนาม จ�ำนวน ๑ กรม (๔ กองพัน) กองพนั ทหารม้ารักษาพระองค์ จ�ำนวน ๑ กองพัน กรมยานยนต์ จ�ำนวน ๒ กรม (รวม ๖ กองพัน) นอกจากน้ี ยงั จดั ใหม้ กี ารสวนสนามทางอากาศโดยหมบู่ นิ เฮลคิ อปเตอร์ จาก ๔ เหลา่ ทพั และการแสดงการบนิ ของหมบู่ นิ เครอื่ งบนิ ขบั ไล่ของกองทัพอากาศ โดยยทุ โธปกรณ์ท่ีน�ำมาสวนสนามจากเหล่าทัพ มีดังน้ี กองทัพบก เชน่ ยานเกราะล้อยาง Stryker BTR-3E1 รถถัง M60A3 รถถังแบบ OPLOT รถถงั แบบ VT-4 ปนื ใหญข่ นาด ๑๐๕ มลิ ลเิ มตร และขนาด ๑๕๕ มลิ ลเิ มตร ปนื ใหญต่ อ่ สอู้ ากาศยานขนาด ๓๕ มลิ ลเิ มตร รถบรรทุกจรวด และจรวดหลายล�ำกลอ้ ง ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
9 กองทัพเรือ เช่น รถสะเทินน�้ำสะเทินบก AAVP ยานเกราะล้อยาง BTR-3E1 จรวด TOW และ ปืนใหญข่ นาด ๑๕๕ มิลลิเมตร กองทพั อากาศ เชน่ เคร่อื งบิน F-5, F-16, T-50 และ Gripen JAS-39 รวมถึง เฮลิคอปเตอร์ แบบ EC 725 F-5 F-16 T-50 EC 725 ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
10 การจดั พธิ สี วนสนามถวายสตั ยป์ ฏญิ าณของทหาร-ตำ� รวจในครง้ั น้ี กองทพั ไทยและสำ� นกั งานตำ� รวจ แหง่ ชาติ ได้เปล่งเสยี งถวายสตั ยป์ ฏิญาณตอ่ หน้าพระพกั ตร์อย่างพร้อมเพรียงทวั่ ประเทศ แสดงถงึ ความ เปน็ ปกึ แผน่ ในการผนกึ กำ� ลงั ของทหาร-ตำ� รวจ เพอื่ เทดิ พระเกยี รตแิ ละแสดงความจงรกั ภกั ดแี ดพ่ ระบาท สมเด็จพระเจ้าอย่หู วั โดย พลเอก พรพิิพััฒน์์ เบญญศรีี ผู้้�บััญชาการทหารสููงสุุด ได้้กราบบัังคมทููลถวายรายงานความ เป็น็ มาของการจัดั พิธิ ีีสวนสนาม และถวายสัตั ย์ป์ ฏิญิ าณฯ กล่่าวคำำ�ถวายพระพรชััยมงคล ความว่่า “ขอเดชะฝ่าละอองธลุ พี ระบาทปกเกลา้ ปกกระหมอ่ ม ข้าพระพทุ ธเจ้า พลเอก พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบู้ ญั ชาการทหารสงู สดุ พรอ้ มดว้ ยผบู้ ญั ชาการทหารทกุ เหลา่ ทพั ผบู้ ญั ชาการตำ� รวจแหง่ ชาติ และทหาร-ตำ� รวจ ทุกนาย ล้วนมีความปลาบปล้ืมและส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันหาท่ีสุดมิได้ ท่ีใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชด�ำเนินมาในพิธีสวนสนามถวายสัตย์ปฏิญาณของ ทหาร-ตำ� รวจ เนอื่ งในพระราชพธิ บี รมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ และวันกองทัพไทย เป็นการบ�ำรุงขวัญ และยังความปลื้มปีตแิ ก่เหล่าทหาร-ต�ำรวจท่วั ราชอาณาจกั รเปน็ ล้นพน้ วนั กองทพั ไทย ๑๘ มกราคมของทกุ ปี เปน็ วนั สำ� คญั ทางประวตั ศิ าสตรช์ าตไิ ทย ทสี่ มเดจ็ พระนเรศวร มหาราช กระทำ� ยุทธหัตถีมชี ยั เหนอื ขา้ ศกึ รกั ษาราชอาณาจกั รให้ธ�ำรงความเปน็ ชาติจนถงึ ปจั จุบัน และเนอ่ื ง ในโอกาสมหามงคลท่ีใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงรับบรมราชาภิเษก และทรงด�ำรงต�ำแหน่งจอมทัพไทย กองทัพไทยและส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติ จึงน้อมใจจัดการสวนสนามถวายสัตย์ปฏิญาณเฉพาะพระพักตร์ อย่างพร้อมเพรียงท่วั ประเทศ เพือ่ เทิดพระเกยี รติ และแสดงความจงรักภักดี พรอ้ มทัง้ แสดงถงึ แสนยานุภาพ ความเป็นปึกแผ่นของทหารท้ัง ๓ เหล่าทัพ และต�ำรวจ ภายใต้เบ้ืองพระยุคลบาทและพระบารมีของ ใตฝ้ ่าละอองธลุ พี ระบาท ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
11 นัับแต่่ใต้้ฝ่่าละอองธุุลีีพระบาท เสด็็จเถลิิงถวััลยราชสมบััติิ สืืบพระบรมราชสัันตติิวงศ์์ ได้้ทรงอุุทิิศ เวลา กำำ�ลัังพระวรกาย กำำ�ลัังพระสติิปััญญา และกำำ�ลัังพระราชทรััพย์์ บำำ�เพ็ญ็ พระราชกรณียี กิิจนานััปการเพื่�อ ความผาสกุ รม่ เยน็ ของอาณาประชาราษฎร์ ดว้ ยพระปรชี าสามารถและสายพระเนตรอนั กวา้ งไกล ทรงบม่ เพาะ ใหพ้ สกนกิ รมีจิตอาสา จติ แห่งความดีงาม เสียสละเวลา แรงกาย แรงสตปิ ญั ญา เพื่อสาธารณประโยชน์โดยไม่ หวงั ผลตอบแทน สง่ ผลใหค้ นในชาตสิ มคั รสมานสามคั คี บา้ นเมอื งเจรญิ รงุ่ เรอื ง ยงั ความผาสกุ รม่ เยน็ และมน่ั คง ภายใต้รม่ พระบารมแี หง่ ใตฝ้ ่าละอองธลุ พี ระบาท ผทู้ รงพระคุณอนั ประเสรฐิ ปวงขา้ พระพทุ ธเจา้ ตา่ งสำ� นกึ ในพระมหากรณุ าธคิ ณุ ลน้ เกลา้ ลน้ กระหมอ่ ม และขอพระราชทานถวาย สัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าท้ังหลาย จักปฏิบัติหน้าที่สนองพระมหากรุณาธิคุณ เจริญรอยตามเบื้อง พระยุคลบาท ดว้ ยความจงรกั ภกั ดี ดว้ ยความซอื่ สตั ยส์ จุ รติ ปกป้องราชอาณาจกั รไทย และขอพระราชทานถวาย พระพรชยั มงคล ขออญั เชญิ อานภุ าพแหง่ คณุ พระศรรี ตั นตรยั พระสยามเทวาธริ าช สรรพสง่ิ ศกั ดสิ์ ทิ ธใิ์ นสากล ตลอดจนพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า โปรดอภิบาลรักษาใต้ฝ่าละอองธุลี พระบาท และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ ี ตลอดจนพระบรมวงศานวุ งศ์ ทกุ พระองค์ ใหท้ รงพระเจรญิ ด้วยพิพธิ พรชัย ทรงพระเกษมส�ำราญ ปราศจากโรคาพาธและอปุ ทั วันตรายใดๆ ใหพ้ ระเกยี รตคิ ณุ แผไ่ พศาล สถติ เปน็ มงิ่ ขวญั รม่ เกลา้ ปวงขา้ พระพทุ ธเจา้ และเหลา่ พสกนกิ รชาวไทย ตราบจริ ฐั ติ กิ าลเทอญ พระพทุ ธเจา้ ขา้ ขอรับ ดว้ ยเกลา้ ด้วยกระหม่อม ขอเดชะ” ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
12 การสนบั สนนุ โครงการจติ อาสาพระราชทานตามแนวพระราชด�ำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัว พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงมพี ระราชปณธิ านพระราชทานโครงการจติ อาสาพระราชทาน “เราทำ� ความดี เพอื่ ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ”์ โดยมงุ่ หวงั ใหป้ ระชาชนมคี วามสมคั รสมานสามคั คี มคี วามสขุ และ ประเทศชาติมคี วามม่ันคงอยา่ งยั่งยนื ด้วยการเสียสละความสขุ ส่วนตน มุ่งม่ันในการมีส่วนรว่ มในการบำ� เพ็ญ สาธารณประโยชน์ โดยไม่หวงั ส่ิงใดตอบแทน เพ่ือเป็นการสนองแนวพระราชด�ำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสานความรัก และความ สามัคคีของประชาชนชาวไทย ตลอดจนเป็นการถ่ายทอดศักยภาพและรวมพลังของประชาชนด้วยการสร้าง ความสามคั คี สรา้ งความเอ้ือเฟือ้ เผ่ือแผแ่ ละความเสยี สละใหแ้ กส่ ว่ นรวมดว้ ยการพฒั นาสังคม รวมท้งั บำ� เพญ็ ประโยชน์ โดยให้นายทหารราชองครักษ์ เป็นแกนน�ำให้กับก�ำลังพลจิตอาสาและประชาชนจิตอาสาในพื้นที่ ตา่ งๆ ทว่ั ประเทศ ทำ� กจิ กรรมตา่ งๆ ทเ่ี ปน็ ประโยชนต์ อ่ สงั คมใหเ้ ปน็ รปู ธรรมมคี วามตอ่ เนอื่ งตามพระบรมราโชบาย โดย สำ� นักงานปลดั กระทรวงกลาโหม กองบญั ชาการกองทัพไทย กองทพั บก กองทพั เรือ และกองทพั อากาศ ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
13 ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานและสนับสนุนโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชด�ำริของหน่วย และ ได้้ดำำ�เนิินการจััดกิิจกรรมจิิตอาสาฯ ทั้้�ง ๓ ประเภท ได้้แก่่ จิิตอาสาพััฒนา จิิตอาสาภััยพิิบััติิ และจิิตอาสา เฉพาะกิิจ พร้้อมเชิิญชวนหน่่วยงานภาครััฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสัังคม ร่่วมกิิจกรรมจิิตอาสาอย่่าง ตอ่ เนือ่ ง ยกตวั อย่างเช่น การพฒั นาทำ� ความสะอาดพนื้ ทส่ี าธารณะ เชน่ วดั โรงเรยี น สถานรี ถไฟ แหลง่ ชมุ ชน สวนสาธารณะ และทางสาธารณะ ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
14 การพฒั นาท�ำความสะอาดพนื้ ท่ีสาธารณะ การพฒั นาทำ� ความสะอาดเกบ็ ขยะและผกั ตบชวาในแม่นำ้� และลำ� คลอง ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
15 การบริการต่างๆ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เช่น การตรวจสุขภาพเบื้องต้น การตัดผม และการซ่อม เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ สง่ ผลใหป้ ระชาชนทรี่ ว่ มกจิ กรรม เกดิ ความรกั ความสามคั คเี ปน็ หมคู่ ณะ กระทำ� ความดี สรา้ งสรรค์ เพ่ือสังคมส่วนรวม เป็นแบบอย่างใหป้ ระชาชนในพื้นท่ี ร่วมแรงร่วมใจ รักษาสถานทีส่ าธารณะดงั กล่าว เพอื่ ประโยชน์ของชมุ ชนตอ่ ไป ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
16 การจัดกิจกรรมเฉลมิ พระเกยี รติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัว เน่อื งในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วนั ที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓ รฐั บาลไดก้ ำ� หนดจดั กจิ กรรมเฉลมิ พระเกยี รตเิ นอื่ งในโอกาสวนั เฉลมิ พระชนมพรรษา พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓ โดยการจัดกิจกรรมจิตอาสา “ชีวิตวิถีใหม่ใต้ร่มพระบารมี เราสร้างไปด้วยกัน” เพ่ือถวายเป็นพระราชกุศลและน้อมส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ท่ีพระองค์ทรงมีต่อ พสกนกิ รชาวไทย ระหวา่ งวันท่ี ๒๘ - ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓ รวม ๔ วนั ณ มณฑลพิธีทอ้ งสนามหลวง ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
17 กระทรวงกลาโหม โดยส�ำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทพั อากาศ ไดร้ ว่ มจัดกจิ กรรมเฉลมิ พระเกยี รตฯิ ซึ่งแบ่งเปน็ ๒ สว่ น ได้แก่ ๑. การจัดกิจกรรมจิตอาสา “ชีวิตใหม่ใต้ร่มพระบารมี เราสร้างไปด้วยกัน” โดยด�ำเนินการ เป็นภาพรวมของกระทรวงกลาโหม ภายใต้ช่ือ “จากนภา ผ่านภผู า สู่มหานท.ี ..ชวี ิตวิถีใหม่ใตร้ ม่ พระบารมี เราสรา้ งไปดว้ ยกนั ” ซง่ึ จะแบง่ การด�ำเนินกิจกรรมเป็น ๒ ส่วน คอื เตน็ ท์ ๑ นำ� เสนอโครงการพระราชด�ำรขิ องพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู ิพลอดลุ ยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร ในรูปแบบโมเดลจ�ำลอง ภายใต้ชื่อ “จากนภา ผ่านภูผา สู่มหานที...ชีวิตวิถีใหม่ ใต้ร่มพระบารมี เราสร้างไปดว้ ยกนั ” เต็นท์ ๒ น�ำเสนอกจิ กรรมการพฒั นา คู คลอง ของส�ำนักงานปลดั กระทรวงกลาโหม กองบญั ชาการ กองทัพไทย และเหล่าทัพ ในรูปแบบวีดิทัศน์แสดงผลการด�ำเนินงาน และการน�ำเสนอถ่ายทอดความรู้ โดยวิทยากรประจ�ำบธู ของแต่ละหน่วย รวมท้งั การแจกสิ่งของมอบให้กบั ผ้เู ข้ารว่ มกิจกรรม ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
18 ๒. การจดั อาหารและเครอื่ งดม่ื บรกิ ารประชาชนทมี่ ารว่ มงาน โดยใชร้ ถครวั สนามของกองบญั ชาการ กองทัพไทยและกองทัพบก ท�ำอาหารแจกจ่ายวันละ ๔ รอบ พร้อมจัดก�ำลังพลจิตอาสาจากทุกหน่วย ร่วมแจกจา่ ยอาหารและเคร่อื งด่ืมให้แกผ่ ูร้ ่วมงาน ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
19 การจดั กจิ กรรมนอ้ มส�ำนกึ ในพระมหากรณุ าธิคณุ พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รฐั บาลไดก้ ำ� หนดจดั กจิ กรรมเนอ่ื งในวนั คลา้ ยวนั พระบรมราชสมภพ พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภูมพิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร วันชาติ และวันพอ่ แหง่ ชาติ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๓ ระหว่างวนั ท่ี ๑ - ๖ ธนั วาคม ๒๕๖๓ ณ บรเิ วณตลอดแนวถนนสนามไชย ต้ังแต่บรเิ วณหน้าศาลาว่าการกลาโหม จนถงึ สถาบนั พิพิธภณั ฑ์การเรยี นร้แู หง่ ชาติ (มิวเซยี มสยาม) โดยแบ่งพน้ื ทีก่ ารจดั กจิ กรรมเปน็ ๕ โซน ได้แก่ โซนท่ี ๑ โซนพิเศษนิทรรศการ “ไตรโครงการ” และการออกร้านของโครงการก�ำลังใจในพระด�ำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจา้ ฟา้ พัชรกิติยาภา นเรนทริ าเทพยวดี กรมหลวงราชสารณิ สี ริ พิ ัชร มหาวชั รราชธิดา มลู นิธิเพอื่ นพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย สโมสรกีฬา BBG (BBG Club) โซนที่ ๒ นิทรรศการ “ความสุขท่ีพ่อให้” และ “ความดีทแ่ี บง่ ปัน” โซนที่ ๓ การแสดง “รู้รักสามคั คี เพราะพระบริบาล” โซนท่ี ๔ “กจิ กรรมวยั ใสปล่อยพลงั ปงั สดุ ใจ” และโซนท่ี ๕ การออกร้าน “เลศิ ลม้ิ ชมิ รส เหนอื จรดใต”้ และ “เดินชมิ ริมทาง” ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
20 กระทรวงกลาโหม โดยส�ำนกั งานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทพั ไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก รวมถึงส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมกันสนับสนุนการจัดนิทรรศการในโซน “ความสุขที่พ่อให้” และพื้นที่จัดการแสดง “รู้รักสามัคคี เพราะพระบรบิ าล” โดยรว่ มกนั จดั นทิ รรศการภายใตช้ อื่ “ใตร้ ม่ พระบารมี ทศราชา บรมมหาราชจกั รวี งศ”์ บริเวณหน้าหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ถนนสนามไชย ซ่ึงได้น�ำเสนอเก่ียวกับพระราชกรณียกิจท่ีส�ำคัญของ พระมหากษััตริิย์์แห่่งพระบรมราชจัักรีีวงศ์์ ทั้้�ง ๑๐ พระองค์์ ที่่�ทรงมีีพระราชหฤทััยมุ่�งมั่�นที่�จะขจััดความทุุกข์์ยาก ของอาณาประชาราษฎร์์ ตลอดระยะเวลา ๒๓๘ ปีที ี่่�ผ่า่ นมา และแนวพระราชดำำ�ริขิ องพระบาทสมเด็จ็ พระบรม ชนกาธเิ บศร มหาภูมพิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทีพ่ ระราชทานใหแ้ ก่พสกนกิ รชาวไทย มผี เู้ ข้ารว่ ม ชมนทิ รรศการ ประมาณ ๒๘,๕๐๐ คน และเขา้ รว่ มชมการแสดงชดุ “รรู้ กั สามคั คี เพราะพระบรบิ าล” ประมาณ ๔,๐๐๐ คน ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
21 การจัดกจิ กรรมเฉลิมพระเกยี รติ สมเดจ็ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินนี าถ พระบรมราชชนนีพนั ปีหลวง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรง บ�ำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ ด้วยความ ตรากตร�ำพระวรกาย ในการสร้างความเจริญ รงุ่ เรอื งแกป่ ระเทศและสงั คมไทย อาทิ การสง่ เสรมิ อาชีพ และด้านการศึกษาในถิ่นทุรกันดาร การสนับสนุนให้พสกนิกรมีรายได้เพ่ิมจาก อาชพี เสรมิ การจดั ตงั้ มลู นธิ สิ ง่ เสรมิ ศลิ ปาชพี พเิ ศษ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ การฟน้ื ฟูสภาพป่าเสอื่ มโทรมและการปลูกปา่ ขน้ึ ใหม่ ในโครงการป่ารกั ษ์นำ�้ และการเผยแพร่เอกลักษณ์และ วฒั นธรรมไทย รัฐบาลได้ก�ำหนดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ ซึ่งจัดกิจกรรม จิตอาสา “วันแมแ่ ห่งชาติ ๑๒ สงิ หาคม ๒๕๖๓ รกั เอยรักลกู ” ระหว่างวันที่ ๑๒ - ๑๔ สงิ หาคม ๒๕๖๓ ณ มณฑลพธิ ีทอ้ งสนามหลวง ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
22 กระทรวงกลาโหม โดยส�ำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทพั เรอื และกองทพั อากาศ ไดแ้ สดงความจงรกั ภกั ดี โดยการจดั กจิ กรรมจติ อาสาในภาพรวมของกระทรวง กลาโหม เป็นการจัดนิทรรศการท่ีน�ำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของสมเด็จ พระนางเจ้าสริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ ีนาถ พระบรมราชชนนีพนั ปหี ลวง รวมทัง้ โครงการพระราชดำ� ริ และการจดั แสดงงานฝีมือจากศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทอง เช่น หัวโขน ผ้าปัก และงานเซรามิก เป็นต้น โดยได้จัดก�ำลังพล ร่วมเป็นวิทยากรจิตอาสาบรรยายให้ความรู้และเผยแพร่พระเกียรติคุณท่ีทรงมีคุณูปการต่อปวงชนชาวไทย และประเทศชาติ รวมท้ังมีการสาธิต/ฝึกอาชีพ และแจกของที่ระลึกให้กับกลุ่มเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และ กล่มุ เปราะบาง ตลอดจนการบริการอาหารและเครือ่ งด่มื ใหก้ บั ประชาชนที่มารว่ มกจิ กรรม ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
23 การพิทกั ษส์ ถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ การถวายความปลอดภัย ทหารทกุ นายตา่ งมจี ติ นอ้ มสำ� นกึ ในพระมหากรณุ าธคิ ณุ ตอ่ สถาบนั พระมหากษตั รยิ ซ์ ง่ึ เปน็ สถาบนั หลกั ของชาติ โดยตระหนักในหน้าที่ส�ำคัญคือ การพิทักษ์รักษา และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ถือเป็น ภารกิจที่ทรงเกียรติและมีความส�ำคัญเป็นอย่างยิ่ง ท่ีจะได้มีโอกาสสนองพระเดชพระคุณ ด้วยการจัดก�ำลัง ถวายความปลอดภัยั ต่อ่ องค์พ์ ระมหากษัตั ริยิ ์์ และพระบรมวงศานุวุ งศ์์ โดยหน่ว่ ยทหารรักั ษาพระองค์ท์ ี่่�ผ่า่ น การฝึึกอบรม ทำำ�หน้้าที่�ถวายความปลอดภััยและถวายพระเกีียรติิอย่่างใกล้้ชิิด ไม่่ว่่าจะเสด็็จไปยัังที่�แห่่งใด ทั้�งในประเทศและต่า่ งประเทศ กระทรวงกลาโหม มุง่ เนน้ การปฏิบตั เิ พอื่ ถวายความปลอดภยั ต่อองค์พระมหากษัตริย์ และพระบรม วงศานวุ งศ์อยา่ งเตม็ ขีดความสามารถและศักยภาพท่มี ีอยู่ รวมท้ังในเรอื่ งการแจ้งเตอื นทางด้านการขา่ ว การ ตอบโตแ้ ละชแ้ี จงขอ้ เทจ็ จรงิ เพอื่ สรา้ งความเขา้ ใจในทางทถี่ กู ตอ้ งตอ่ สาธารณชน การประสานงานและแจง้ เตอื น ใหส้ ่วนราชการ และหนว่ ยงานทีเ่ ก่ียวข้องรบั ทราบ เพ่ือด�ำเนนิ การใหถ้ ูกตอ้ ง และเป็นไปตามเจตนารมณข์ อง กฎหมาย ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
24 ระบบเฝ้ าระวังการหมิน่ สถาบนั พระมหากษัตรยิ ใ์ นส่ือสังคมออนไลน์ การตรวจสอบ ติดตาม เฝ้าระวัง และรวบรวมข้อมูลผู้กระท�ำผิดที่เก่ียวข้องกับการหม่ินสถาบัน พระมหากษตั รยิ ์ การลว่ งละเมดิ สถาบนั พระมหากษตั รยิ ท์ พี่ บบอ่ ยคอื การนำ� เสนอขอ้ มลู ผา่ นสอื่ สงั คมออนไลน์ ทง้ั ในลกั ษณะทเ่ี สนอขอ้ มลู อนั คลาดเคลอ่ื นจากความเปน็ จรงิ หรอื ลกั ษณะอน่ื ทเี่ ปน็ การจาบจว้ งสถาบนั พระมหา กษัตริย์ ซึ่งทำ� ให้สงั คมเข้าใจไปในทางทผี่ ดิ หรอื มีลักษณะหม่ินหรือล่วงละเมดิ ตอ่ สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ กระทรวงกลาโหม จึงึ กำำ�หนดมาตรการป้อ้ งกันั การล่ว่ งละเมิดิ สถาบันั พระมหากษัตั ริยิ ์์ โดยการปฏิบิ ัตั ิิ การเฝ้าตรวจพฤตกิ รรมของผูไ้ มห่ วังดอี ย่างตอ่ เนื่อง ดว้ ยการดำ� เนนิ การร่วมกับส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติ ตลอดจน ส่่วนราชการและหน่่วยงานที่�เกี่�ยวข้้องทั้�งภาครััฐและเอกชน ในการเฝ้้าระวัังติิดตาม การเผยแพร่่ข้้อมููล และการกระจายข่่าวสารอัันบิิดเบืือน ที่่�เป็็นการหมิ่�นพระเกีียรติิยศแห่่งองค์์พระมหากษััตริิย์์ และพระบรม วงศานุวงศ์ ผา่ นสื่อสงั คมออนไลนจ์ ากกลุม่ ผูไ้ ม่หวังดตี ่าง ๆ เพื่อปอ้ งกนั ไม่ให้เกดิ ความแตกแยก และท�ำลาย ความสงบสุขในสังคมไทย อันจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศ และความมั่นคงของชาติในภาพรวม โดยด�ำเนินการดังน้ี ๑) การแลกเปล่ียนข้อมลู ข่าวสารกบั ส่วนราชการ และหน่วยงานตา่ งๆ เพ่ือการประสานการปฏบิ ัติ ในการป้องกันการล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ใหม้ คี วามต่อเนื่องอย่างมปี ระสิทธภิ าพ ๒) การจัดประชุมเครือข่ายเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อให้เกิดการประสานงานระหว่าง หน่วยงานด้านความม่ันคง และการข่าวในการด�ำเนินการตรวจสอบ ติดตาม เฝ้าระวัง และรวบรวมข้อมูล ผกู้ ระทำ� ผดิ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การหมนิ่ สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ ซงึ่ จะนำ� มาสกู่ ารปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั ไดอ้ ยา่ งตอ่ เนอื่ ง การรว่ มตรวจสอบขอ้ มูลและแหล่งเผยแพรข่ อ้ มูล และป้องกนั ปัญหาการแพร่กระจายขอ้ มูลอนั คลาดเคลอ่ื น จากความเป็นจรงิ ทีจ่ ะสร้างความสับสนให้แก่สงั คม ๓) การแลกเปลี่ยนด้านการข่าว เพื่อให้เกิดการแจ้งเตือนทางด้านการข่าว การตอบโต้ และช้ีแจง ข้อเท็จจริงเพ่ือสร้างความเข้าใจในทางที่ถูกต้องต่อสาธารณชน รวมถึง การประสานงานด้านข้อมูลข่าวสาร และการแจ้งเตือนให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เก่ียวข้องรับทราบเพื่อด�ำเนินการให้ถูกต้อง และเป็นไป ตามเจตนารมณข์ องกฎหมายท่ีเกีย่ วข้อง และสร้างความเขา้ ใจต่อสาธารณชนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยในปี ๒๕๖๓ ทผ่ี า่ นมา ไดม้ กี ารรวบรวมขอ้ มลู การลว่ งละเมดิ สถาบนั พระมหากษตั รยิ ฯ์ เพอ่ื ดำ� เนนิ การปกป้องและยับย้ังการเผยแพร่สารสนเทศเชิงลบ จาก ๒ ช่องทาง ทั้งโดยการค้นหาและเฝ้าระวัง และ การรับแจ้งจากพี่น้องประชาชน พบว่า มีการล่วงละเมิดสถาบันฯ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์รวมมากกว่า ๔,๘๐๐ รายการ โดยไดด้ ำ� เนนิ การสง่ ขอ้ มลู ดงั กลา่ วใหก้ ระทรวงดจิ ทิ ลั เพอ่ื เศรษฐกจิ และสงั คม เพอ่ื ดำ� เนนิ การ ในสว่ นทเ่ี กย่ี วขอ้ งตอ่ ไป ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
รกั ษ์ราษฎร์
26 การบรรเทาสาธารณภัย ท.ทหาร พร้อมช่วยเหลอื ประชาชน พายุ...น้�ำท่วม...ภัยแล้ง...ภัยหนาว...แผ่นดินไหว...ไฟป่า...มลพิษ รวมท้ังสาธารณภัยต่างๆ เราจะท�ำอย่างไรใหพ้ ีน่ อ้ งประชาชนมีความปลอดภยั และเกิดความสูญเสียน้อยทส่ี ุด? กระทรวงกลาโหมได้จัดต้ังศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกระทรวงกลาโหม เพื่อขับเคลื่อน ก�ำกับดูแล ประสานงาน และอำ� นวยการ ใหก้ ารสนับสนนุ หน่วยงานภาครัฐอ่นื ๆ ภาคประชาชน และภาคเอกชน ในการ ปอ้ งกนั และลดผลกระทบจากภยั พิบัติ และให้ความช่วยเหลือแกผ่ ู้ประสบภยั อยา่ งทันท่วงที โดยได้แบง่ มอบ พนื้ ทร่ี บั ผดิ ชอบใหแ้ ก่ หนว่ ยงานทหารในพนื้ ที่ ซงึ่ สนบั สนนุ งานของศนู ยบ์ รรเทาสาธารณภยั กระทรวงกลาโหม ประกอบด้วย ศนู ย์บรรเทาสาธารณภัย สำ� นกั งานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทพั ไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ เพื่อรับผิดชอบการปฏิบัติอย่างครอบคลุมท่ัวประเทศ ต้ังแต่ก่อนเกิดภัย ขณะเกดิ ภัย และภายหลังเกิดภยั โดยกระทรวงกลาโหมไดม้ สี ว่ นสำ� คญั ในการ สนับสนุนก�ำลังพลและยุทโธปกรณ์ในภารกิจช่วยเหลือ ผปู้ ระสบภยั และสนบั สนนุ รฐั บาลในการแกไ้ ขปญั หา ภัยพิบตั ใิ นเหตกุ ารณส์ �ำคญั ดังนี้ ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
27 การช่วยเหลอื ประชาชนทไี่ ดร้ ับผลกระทบจากพายุ “โนอลึ (NOUL)” เม่ือวันท่ี ๑๕ กันยายน ๒๕๖๓ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้แจ้งเตือนพายุระดับ ๒ (ดีเปรสชัน) “โนอึล (NOUL)” ในทะเลจนี ใต้ตอนกลาง ซงึ่ พายดุ งั กลา่ ว ไดเ้ คลือ่ นตวั ทางทิศตะวนั ตกคอ่ นทางเหนือเล็กน้อยและ ทวีความรุนแรงเป็นพายุระดับ ๓ (โซนร้อน) “โนอึล” ในเวลาต่อมา จากนั้น ได้เคล่ือนท่ีข้ึนฝั่งท่ีเมืองดานัง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยเมื่อวันท่ี ๑๘ กันยายน ๒๕๖๓ และยังคงเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ผ่านทางตอนกลางของสาธารณรัฐประชาชนลาวเข้าสู่ประเทศไทยทาง จ.อ�ำนาจเจริญ จ.มหาสารคาม และ จ.ขอนแกน่ ตามลำ� ดับ โดยอ่อนก�ำลังลงเปน็ พายรุ ะดับ ๒ ในพ้นื ท่ี จ.เพชรบูรณ์ และสลายตวั เป็นหย่อมความ กดอากาศต�ำ่ ก�ำลังแรง ในพื้นที่ จ.พิษณโุ ลก เม่ือวันท่ี ๑๙ กนั ยายน ๒๕๖๓ จากอิทธิพลของพายุดังกล่าว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย ส่งผลทาํ ใหเ้ กดิ สถานการณ์นำ้� ทว่ มฉับพลนั นำ้� ไหลหลาก วาตภัย และดินสไลด์ ใน พนื้ ท่ี ๑๘๖ ตำ� บล ๙๑ อำ� เภอ ใน ๒๖ จงั หวดั ไดแ้ ก่ จ.ลำ� ปาง จ.ตาก จ.เพชรบรู ณ์ จ.เลย จ.อดุ รธานี จ.ขอนแกน่ จ.ชยั ภมู ิ จ.มกุ ดาหาร จ.อบุ ลราชธานี จ.รอ้ ยเอด็ จ.มหาสารคาม จ.สรุ นิ ทร์ จ.บรุ รี มั ย์ จ.ศรสี ะเกษ จ.นครราชสมี า จ.ลพบุรี จ.ปราจีนบุรี จ.จนั ทบรุ ี จ.ตราด จ.ชมุ พร จ.ระนอง จ.พงั งา จ.กระบี่ จ.ภเู กต็ จ.สตูล และ จ.ตรัง โดยมีพ่นี ้องประชาชนได้รับผลกระทบกวา่ ๑,๙๐๐ ครวั เรือน มผี ้เู สยี ชีวติ จ�ำนวน ๑ ราย และผไู้ ด้รับบาดเจบ็ จำ� นวน ๒ ราย กระทรวงกลาโหม โดยศนู ยบ์ รรเทา สาธารณภัยกระทรวงกลาโหม ได้ยกระดับ การตดิ ตามสถานการณส์ าธารณภยั พบิ ตั เิ ปน็ ระดบั ๒ และไดป้ ระสานงานกบั หนว่ ยทหาร ที่รับผิดชอบในพ้ืนที่เส่ียงต่อการได้รับ ผลกระทบจากพายุดังกล่าว ตามแผน บรรเทาสาธารณภัยกระทรวงกลาโหม ๒๕๕๘ โดยขอให้ทุกหน่วยจัดเตรียมก�ำลัง พล เคร่อื งมือ และยทุ โธปกรณ์ เตรยี มพรอ้ ม ใหก้ ารสนบั สนนุ และประสานการปฏบิ ตั โิ ดย ใกล้ชิดกับหน่วยงานพลเรือนที่เก่ียวข้องใน ทุกระดับ และสามารถให้การช่วยเหลือ ประชาชนได้อยา่ งทันทว่ งที ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
28 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยต่างๆ ภายใต้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกระทรวงกลาโหม ได้แก่ ส�ำนักงาน ปลดั กระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทพั บก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ไดม้ อบหมาย ให้หน่วยทหารในสังกัดท่ีอยู่ในพ้ืนท่ีเส่ียงภัย จัดเตรียมและตรวจสภาพความพร้อมของก�ำลังพล เครื่องมือ ส่ือสาร และยุทโธปกรณ์ในการบรรเทาสาธารณภัยและช่วยเหลือประชาชน โดยได้จัดเตรียมก�ำลังพลทั้งส้ิน จ�ำนวน ๓,๗๘๓ นาย รวมถงึ เครื่องมอื และยุทโธปกรณ์ เชน่ รถยนต์บรรทุกขนาดตา่ งๆ จำ� นวน ๑,๐๖๘ คนั รถครัวสนาม จ�ำนวน ๑๔ คนั รถประปาสนามและผลติ น้�ำด่ืม จำ� นวน ๓๗ คัน รถบรรทุกน�ำ้ จำ� นวน ๘๙ คนั รถสะพานขนาดตา่ งๆ จำ� นวน ๑๗ ชุด รถขดุ ตกั และรถบรรทกุ ตดิ ป้นั จ่นั จ�ำนวน ๔ คนั เรอื จ�ำนวน ๓๗๖ ล�ำ อากาศยาน (เฮลคิ อปเตอร)์ จำ� นวน ๒ ลำ� ชดุ แพทย์เคลื่อนที่ จ�ำนวน ๑๘ ชดุ และชดุ ช่างทว่ั ไป จำ� นวน ๗ ชดุ ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
29 ซึ่งหน่วยทหารในพ้ืนที่ได้ระดมทรัพยากรทางทหารท่ีมีอยู่ ตลอดจนทุ่มเททั้งแรงกายและใจในการ ชว่ ยเหลอื พนี่ อ้ งประชาชนอยา่ งเตม็ ความสามารถ เพอื่ ลดความสญู เสยี ทอี่ าจจะเกดิ ขนึ้ ทงั้ ตอ่ ชวี ติ และทรพั ยส์ นิ ของพ่ีน้องประชาชน โดยได้ด�ำเนินการต้ังแต่ก่อนเกิดภัย ระหว่างเกิดภัย และภายหลังสิ้นสุดภัย เช่น การ อพยพประชาชนไปยังพ้ืนที่ปลอดภัยและขนย้ายสิ่งของเคร่ืองใช้ขึ้นท่ีสูง การก�ำจัดสิ่งกีดขวางทางระบายน้�ำ การบรรจุกระสอบทรายท�ำพนังก้ันน้�ำ การเปิดเส้นทางคมนาคมท่ีถูกดินโคลนถล่มและขนย้ายส่ิงกีดขวาง เส้นทางสัญจร การขนย้ายซากปรักหักพัง การแจกจ่ายเคร่ืองอุปโภคบริโภค และการอ�ำนวยความสะดวก ด้านการจราจร รวมถึงการท�ำความสะอาดและซ่อมแซมบ้านเรือนท่ีได้รับความเสียหายบางส่วน โดยมุ่งหวังให้ พี่น้องประชาชนสามารถกลบั มาดำ� เนินชวี ิตได้ตามปกติโดยเรว็ การช่วยเหลอื ประชาชนทไี่ ดร้ ับผลกระทบจากพายรุ ะดับ ๒ (ดเี ปรสชนั ) จากอิทธิพลพายุระดับ ๒ (ดีเปรสชัน) และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ท�ำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่งผลท�ำให้เกิดสถานการณ์น�้ำท่วม ฉบั พลนั นำ้� ไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย ตงั้ แตว่ ันท่ี ๗ ตลุ าคม ๒๕๖๓ ในพนื้ ท่ี ๑,๘๙๑ หมู่บ้าน ๔๕๒ ตำ� บล ๑๒๘ อำ� เภอ ๓๓ จงั หวดั ไดแ้ ก่ จ.อบุ ลราชธานี จ.นครราชสมี า จ.ชยั ภมู ิ จ.ศรสี ะเกษ จ.บรุ รี มั ย์ จ.สรุ นิ ทร์ จ.อทุ ยั ธานี จ.ชยั นาท จ.สงิ หบ์ รุ ี จ.ปทมุ ธานี จ.ฉะเชงิ เทรา จ.ปราจนี บรุ ี จ.สระแกว้ จ.ชลบรุ ี จ.ระยอง จ.จนั ทบรุ ี จ.สมทุ รสงคราม จ.สมทุ รสาคร จ.สพุ รรณบรุ ี จ.กาญจนบรุ ี จ.ราชบรุ ี จ.นครปฐม จ.เพชรบรุ ี จ.ประจวบครี ขี นั ธ์ จ.ชมุ พร จ.สรุ าษฎร์ธานี จ.นครศรธี รรมราช จ.พังงา จ.กระบ่ี จ.ภูเกต็ จ.ตรัง จ.สตลู และ จ.สงขลา โดยมี ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า ๗๓,๐๐๐ ครวั เรอื น มีผูเ้ สียชีวิต จำ� นวน ๔ ราย และผู้ไดร้ บั บาดเจ็บ จ�ำนวน ๓ ราย ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
30 กระทรวงกลาโหม โดยศนู ยบ์ รรเทาสาธารณภยั กระทรวงกลาโหม ไดย้ กระดบั การตดิ ตามสถานการณ์ สาธารณภััยพิิบััติิเป็็นระดัับ ๒ และได้้ประสานงานกัับหน่่วยทหารที่่�รัับผิิดชอบในพื้�นที่�เสี่�ยงต่่อการได้้รัับ ผลกระทบจากพายุดุ ังั กล่า่ ว ตามแผนบรรเทาสาธารณภัยั กระทรวงกลาโหม ๒๕๕๘ ซึ่�งในส่ว่ นของศูนู ย์บ์ รรเทา สาธารณภัยกองบัญชาการกองทัพไทยและศูนย์บรรเทาสาธารณภัยเหล่าทัพ ได้น�ำศักยภาพและขีดความ สามารถของหนว่ ยในการใหก้ ารสนบั สนนุ สว่ นราชการและชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั โดยทนั ทอี ยา่ งเตม็ กำ� ลงั ความ สามารถ เพอื่ ลดผลกระทบจากภยั ทอ่ี าจเกดิ ขนึ้ และบรรเทาความเดอื ดรอ้ นของพน่ี อ้ งประชาชนใหไ้ ดม้ ากทสี่ ดุ โดยได้จัดก�ำลังพลหมุนเวียนปฏิบัติหน้าท่ีให้การช่วยเหลือประชาชน เฉลี่ยวันละกว่า ๔,๐๐๐ นาย รวมท้ัง เครื่องมอื และยุทโธปกรณ์ต่างๆ เช่น รถยนต์บรรทุกขนาดต่างๆ จำ� นวน ๓๘๕ คนั รถประปาสนาม จ�ำนวน ๓ คนั รถครัวสนาม จำ� นวน ๑๐ คัน รถพยาบาล จำ� นวน ๑๗ คัน เรือ จำ� นวน ๗๕ ล�ำ สะพานเครือ่ งหนุนม่ัน จ�ำนวน ๕ ชดุ และเฮลิคอปเตอร์แบบ ๑๑ จ�ำนวน ๑ ล�ำ เป็นต้น โดยไดม้ กี ารด�ำเนินการในพ้นื ท่ีตา่ งๆ สรปุ ไดด้ ังน้ี ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบัญชาการกองทัพไทย ได้ให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ ๑๓ จงั หวดั ไดแ้ ก่ จ.นครราชสมี า จ.ชยั ภมู ิ จ.ชยั นาท จ.อทุ ยั ธานี จ.เพชรบรุ ี จ.กาญจนบรุ ี จ.ราชบรุ ี จ.ปราจนี บรุ ี จ.ระยอง จ.จนั ทบรุ ี จ.ตราด จ.สรุ าษฎรธ์ านี และ จ.สตลู โดยมกี ารปฏบิ ัติทีส่ �ำคญั เชน่ การกำ� จัดวัชพืชและ สิ่งกีดขวางทางน�้ำ การท�ำแนวคันดินกั้นน�้ำ การขุดเปิดเส้นทางน้�ำ การบรรจุกระสอบทรายท�ำพนังกั้นน้�ำ การเคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวางเส้นทางและซ่อมแซมถนนที่ได้รับความเสียหายจากการถูกน�้ำกัดเซาะ การจัดรถ ประปาสนามผลิตน�้ำดื่มบรรจุขวด แจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัย การอพยพประชาชน สัตว์เล้ียง และขนย้าย สง่ิ ของเครื่องใชไ้ ปยงั พ้นื ทป่ี ลอดภยั การแจกจา่ ยเครือ่ งอปุ โภคบรโิ ภค น�้ำด่ืม ยาและเวชภัณฑ์ การสนับสนุน รถครัวสนามผลติ อาหารกลอ่ งแจกจา่ ยผปู้ ระสบภัย การอำ� นวยความสะดวกในการเดนิ ทางใหแ้ กผ่ ูป้ ระสบภยั การติดต้ังสะพานเคร่ืองหนุนม่ันเพื่อเช่ือมต่อเส้นทางท่ีถูกตัดขาดจากน้�ำป่าไหลหลาก รวมถึงภายหลังน้�ำลด ยังั ได้ท้ ำำ�ความสะอาดอาคารสถานที่�ของหน่ว่ ยงานต่า่ งๆ และบ้้านเรืือนของพี่่�น้อ้ งประชาชน ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
31 ศููนย์์บรรเทาสาธารณภััยกองทััพบก ได้้ ให้ก้ ารช่ว่ ยเหลือื พี่่�น้อ้ งประชาชน ในพื้�นที่่� ๔๓ จังั หวัดั ได้้แก่่ จ.เชีียงใหม่่ จ.ลำำ�ปาง จ.พะเยา จ.แพร่่ จ.อุตุ รดิิตถ์์ จ.น่า่ น จ.แม่่ฮ่่องสอน จ.ตาก จ.สุโุ ขทััย จ.บุุรีีรััมย์์ จ.นครราชสีีมา จ.อุุบลราชธานีี จ.ชััยภููมิิ จ.ศรีสี ะเกษ จ.สุรุ ินิ ทร์์ จ.อุทุ ัยั ธานีี จ.สระบุรุ ีี จ.ชัยั นาท จ.สิิงห์์บุุรีี จ.สระแก้้ว จ.ปราจีนี บุุรีี จ.ฉะเชิงิ เทรา จ.ชลบุรุ ีี จ.ระยอง จ.จัันทบุุรีี จ.สมุุทรสาคร จ.สมุทุ รสงคราม จ.นครปฐม จ.ปทุุมธานีี จ.กาญจนบุุรีี จ.สุุพรรณบุุรีี จ.ราชบุุรีี จ.เพชรบุุรีี จ.ประจวบคีีรีีขัันธ์์ จ.ชุุมพร จ.สุุราษฎร์ธ์ านีี จ.นครศรีีธรรมราช จ.กระบี่่� จ.พัังงา จ.ภููเก็็ต จ.ตรััง จ.สตููล และ จ.สงขลา โดยมีกี ารปฏิบิ ััติทิี่� สำำ�คัญั เช่น่ การกำำ�จัดั วัชั พืชื และสิ่�งกีดี ขวางทางน้ำำ�� การบรรจุกุ ระสอบทรายทำำ�พนังั กั้�นน้ำำ�� การอพยพประชาชน สัตั ว์เ์ ลี้�ยง และขนย้้ายสิ่�งของเครื่�องใช้้ไปยัังพื้�นที่�ปลอดภัยั การแจกจ่า่ ยเครื่�องอุปุ โภคบริโิ ภคและน้ำำ��ดื่่�มให้แ้ ก่ผ่ ู้�้ ประสบภัยั การติดิ ตั้�งสะพานเครื่�องหนุนุ มั่�นเพื่�อเชื่�อมต่อ่ เส้น้ ทางที่่�ถูกู ตัดั ขาด การอำำ�นวยความสะดวกด้า้ นการ จราจรและการเดินิ ทางให้้แก่่ผู้ป้� ระสบภัยั การจัดั ชุุดแพทย์เ์ คลื่�อนที่่�ดููแลสุขุ ภาพประชาชน และการสนัับสนุุน รถครััวสนามผลิิตอาหารกล่่องแจกจ่่ายผู้�้ประสบภััย รวมถึึงการช่่วยเหลืือเกษตรกรเก็็บเกี่�ยวผลผลิิตที่่�ถููกน้ำำ�� ท่ว่ มได้้รับั ความเสีียหาย ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
32 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรอื ได้ใหก้ ารช่วยเหลือพนี่ ้องประชาชน ในพื้นท่ี ๒ จงั หวดั ได้แก่ จ.ระยอง และ จ.เพชรบุรี โดยมกี ารปฏิบตั ทิ ีส่ ำ� คัญ เชน่ การบรรจกุ ระสอบทรายท�ำพนังกนั้ น้�ำ การขนย้าย ซากปรกั หกั พงั และส่ิงกดี ขวางทางน�้ำ และการสนับสนนุ เรือผลักดันน�้ำ จำ� นวน ๒๐ ลำ� บรเิ วณแมน่ ำ้� เพชรบุรี โดยมีประสิทธิภาพการผลักดันน�้ำไดก้ วา่ ๒ ลา้ นลูกบาศก์เมตรตอ่ วนั ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ได้ให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ในพื้นท่ี ๓ จังหวัด จ.นครราชสมี า จ.นครปฐม และ จ.สพุ รรณบุรี โดยมีการปฏบิ ตั ิทีส่ ำ� คญั เชน่ การบรรจุกระสอบทรายท�ำพนงั กน้ั นำ�้ การอพยพประชาชน สัตวเ์ ล้ยี ง และขนยา้ ยส่ิงของเคร่อื งใชไ้ ปยังพนื้ ทีป่ ลอดภยั การติดตงั้ เคร่ืองสูบนำ้� การแจกจ่ายเคร่ืองอุปโภคบริโภคและน้�ำด่ืมให้แก่ผู้ประสบภัย รวมถึงการจัดเฮลิคอปเตอร์ จ�ำนวน ๑ ล�ำ เพอื่ บนิ สำ� รวจและถ่ายภาพพื้นท่ปี ระสบอทุ กภัย ในพ้นื ที่ จ.นครราชสีมา ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
33 การช่วยเหลอื ประชาชนทปี่ ระสบอุทกภยั ในพ้นื ทภี่ าคใต้ จากอทิ ธพิ ลมรสมุ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ทพ่ี ดั ปกคลมุ อา่ วไทยและภาคใตป้ ระกอบกบั มหี ยอ่ มความ กดอากาศต่�ำปกคลุมประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก บางพื้นท่ีท�ำให้เกิดสถานการณ์น้�ำท่วมฉับพลัน น�้ำไหลหลาก ดินสไลด์และวาตภัย ตั้งแต่วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ในพื้นท่ี ๔,๒๒๐ หมบู่ ้าน ๕๘๔ ตำ� บล ๑๐๑ อำ� เภอ ใน ๑๑ จังหวัด ได้แก่ จ.ชมุ พร จ.สรุ าษฎรธ์ านี จ.กระบี่ จ.นครศรธี รรมราช จ.ตรงั จ.พทั ลงุ จ.สตลู จ.สงขลา จ.ปตั ตานี จ.ยะลา และ จ.นราธวิ าส โดยมปี ระชาชนไดร้ บั ผลกระทบกวา่ ๖๙๑,๐๐๐ ครัวเรือน และมผี เู้ สียชีวิต จ�ำนวน ๓๐ ราย กระทรวงกลาโหม โดยศนู ยบ์ รรเทาสาธารณภยั กระทรวงกลาโหม ไดย้ กระดบั การตดิ ตามสถานการณ์ สาธารณภัยพิบัติเป็นระดับ ๒ และได้ประสานงานกับหน่วยทหารท่ีรับผิดชอบในพ้ืนที่เส่ียงต่อการได้รับ ผลกระทบจากมรสมุ และหยอ่ มความกดอากาศตำ�่ ดงั กลา่ ว ตามแผนบรรเทาสาธารณภยั กระทรวงกลาโหม ๒๕๕๘ ซงึ่ ในสว่ นของศนู ยบ์ รรเทาสาธารณภยั กองบญั ชาการกองทพั ไทยและศนู ยบ์ รรเทาสาธารณภยั เหลา่ ทพั ไดน้ ำ� ศักยภาพและขีดความสามารถของแต่ละหน่วย เพื่อให้การสนับสนุนส่วนราชการท่ีรับผิดชอบเป็นไปอย่าง มีประสิทธิภาพ และสามารถช่วยเหลือพ่ีน้องประชาชนที่ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที ซ่ึงจะสามารถลด ผลกระทบจากภยั นำ�้ ทว่ มทเ่ี กดิ ขน้ึ และบรรเทาความเดอื ดรอ้ นของพน่ี อ้ งประชาชน โดยไดจ้ ดั กำ� ลงั พล ๒,๔๖๐ นาย หมนุ เวียนปฏิบตั ิหนา้ ทใ่ี ห้การช่วยเหลือประชาชน รวมทัง้ เครือ่ งมือและยุทโธปกรณต์ า่ งๆ เช่น รถยนต์ บรรทุกขนาดต่างๆ จำ� นวน ๑๐๖ คัน รถขุดตักและรถบรรทุกติดปัน้ จ่ัน จ�ำนวน ๙ คัน รถโกยตัก จำ� นวน ๑ คัน รถยนตบ์ รรทกุ เททา้ ย จำ� นวน ๖ คัน รถครัวสนาม จ�ำนวน ๓ คัน รถประปาสนาม จ�ำนวน ๒ คนั รถบรรทกุ น้�ำ จำ� นวน ๔ คนั สะพานเครือ่ งหนุนมนั่ จำ� นวน ๑ ชดุ เรอื จำ� นวน ๑๘ ล�ำ (เรือหลวง จำ� นวน ๒ ลำ� เรือตรวจการณ์ จ�ำนวน ๔ ล�ำ และเรืออืน่ ๆ จ�ำนวน ๑๒ ลำ� ) เรอื ผลักดันนำ�้ จำ� นวน ๒๐ ลำ� และ อากาศยาน จำ� นวน ๓ ล�ำ โดยไดม้ กี ารดำ� เนินการช่วยเหลือประชาชนในพนื้ ทตี่ ่างๆ ดงั นี้ ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
34 ศนู ยบ์ รรเทาสาธารณภยั กองบญั ชาการกองทพั ไทย ไดใ้ หก้ ารชว่ ยเหลอื ประชาชน ในพน้ื ท่ี ๖ จงั หวดั ได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.พัทลุง จ.สงขลา จ.ปัตตานี และ จ.นราธิวาส โดยมกี ารปฏบิ ัตทิ ีส่ ำ� คญั เชน่ การบรรจกุ ระสอบทรายทำ� แนวพนงั กน้ั นำ้� การอพยพประชาชน เคลอ่ื นยา้ ยผปู้ ว่ ยตดิ เตยี ง สตั วเ์ ลย้ี ง และ ขนย้ายสิ่งของเคร่ืองใช้ไปยังพื้นท่ีปลอดภัย การแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ประสบภัย การจัดชุด ค้นหากู้ภัยเพื่อสนับสนุนเจ้าหน้าท่ีกู้ภัยจังหวัด การอ�ำนวยความสะดวกด้านการจราจร การเดินทางให้แก่ ประชาชน และการจัดรถประปาสนามผลิตน้�ำด่ืมแจกจ่ายผู้ประสบภัย รวมถึงการก�ำจัดผักตบชวาและ ส่งิ กีดขวางทางน้�ำเพื่อเปดิ ทางระบายนำ้� ศนู ยบ์ รรเทาสาธารณภยั กองทพั บก ไดใ้ หก้ ารชว่ ยเหลอื ประชาชน ในพน้ื ท่ี ๗ จงั หวดั ไดแ้ ก่ จ.กระบี่ จ.นครศรีธรรมราช จ.ยะลา จ.พทั ลงุ จ.สุราษฎร์ธานี จ.ตรัง และ จ.สงขลา โดยมกี ารปฏบิ ตั ทิ ี่ส�ำคญั เช่น การก�ำจดั ผกั ตบชวาและสง่ิ กดี ขวางทางนำ้� เพอื่ เปดิ ทางระบายนำ้� การบรรจกุ ระสอบทรายทำ� แนวพนงั กน้ั นำ�้ การเคลอ่ื น ย้ายสิง่ กดี ขวางเสน้ ทางคมนาคม การจัดรถประปาสนามผลิตน�้ำดม่ื บรรจขุ วดแจกจา่ ยให้แก่ผู้ประสบภยั การ จัดรถบรรทุกน�้ำแจกจ่ายน้�ำอุปโภคในพ้ืนที่ท่ีน้�ำประปาไม่สามารถใช้การได้ การอพยพประชาชน สัตว์เลี้ยง และขนย้ายส่ิงของเคร่ืองใช้ไปยังพ้ืนท่ีปลอดภัย การแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค น้�ำดื่ม ยาและเวชภัณฑ์ ใหแ้ กผ่ ปู้ ระสบภยั การอำ� นวยความสะดวกในการเดนิ ทางใหแ้ กป่ ระชาชน การสนบั สนนุ รถครวั สนามประกอบ ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
35 อาหารแจกจ่ายผู้ประสบภัย การจัดชุดแพทย์เคล่ือนที่บริการประชาชน การแจกจ่ายถุงยังชีพ การท�ำความ สะอาดอาคารบ้านเรือนของพี่น้องประชาชน และสถานที่ราชการ ตลอดจนพ้ืนที่สาธารณประโยชน์ต่างๆ รวมถึงการซ่อมและปรับปรงุ เส้นทางที่ถกู นำ�้ กดั เซาะ ศนู ยบ์ รรเทาสาธารณภยั กองทพั เรอื ไดใ้ หก้ ารชว่ ยเหลอื พน่ี อ้ งประชาชนในพน้ื ท่ี จ.สงขลา โดยมกี าร ปฏบิ ตั ทิ ส่ี ำ� คญั เชน่ การสนบั สนนุ เรอื ผลกั ดนั นำ้� จำ� นวน ๒๐ ลำ� เพอื่ เรง่ ระบายนำ�้ ทว่ มขงั ลงสทู่ ะเลสาบสงขลา ซึ่งมีประสิทธิภาพในการผลักดันน้�ำเฉล่ีย ๑๐๐,๐๐๐ ล้านลูกบาศก์เมตร/ล�ำ/วัน การอพยพประชาชนและ ขนย้ายส่ิงของเคร่ืองใช้ ตลอดจนเคล่ือนย้ายผู้ป่วยติดเตียงไปยังพื้นท่ีปลอดภัย การแจกจ่ายเคร่ืองอุปโภค บริโิ ภคให้แ้ ก่ผ่ ู้ป�้ ระสบภัยั การจัดั ชุดุ แพทย์เ์ คลื่�อนที่�เยี่�ยมบ้า้ นผู้ป�้ ระสบภัยั การกำำ�จัดั สิ่�งกีดี ขวางทางน้ำำ�� การบรรจุุ กระสอบทรายทำำ�แนวพนัังกั้�นน้ำำ�� การอำำ�นวยความสะดวกในการเดิินทางให้้แก่่พี่่�น้้องประชาชนที่�ได้้รัับ ผลกระทบ และการติดิ ตั้�งสะพานเครื่�องหนุนุ มั่�นเพื่�อเชื่�อมต่อ่ เส้น้ ทางที่่�ถูกู ตัดั ขาด รวมถึงึ การจัดั หมู่�เรือื บรรเทา สาธารณภยั ประกอบดว้ ย กำ� ลงั พล ๑๒๐ นาย เรือหลวงปัตตานี ๑ ลำ� และเรือหลวงคลองใหญ่ จ�ำนวน ๑ ล�ำ เรือตรวจการณ์ จ�ำนวน ๔ ล�ำ และเฮลิคอปเตอร์ล�ำเลียง จ�ำนวน ๑ ล�ำ เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือ ผู้�้ประสบภััยเพิ่ �มเติมิ ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
36 ศนู ยบ์ รรเทาสาธารณภยั กองทพั อากาศ ได้ให้การช่วยเหลือพ่ีน้องประชาชนในพื้นที่ ๓ จังหวัด ได้แก่ จ.สงขลา จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นครศรีธรรมราช โดยมกี ารปฏบิ ตั ิที่ส�ำคัญ เช่น การอพยพประชาชน สตั วเ์ ลย้ี ง และขนยา้ ยสงิ่ ของ เคร่ืองใช้ไปยังพื้นท่ีปลอดภัย การแจกจ่ายเคร่ือง อุปโภคบริโภค น�้ำดื่ม ยาและเวชภัณฑ์ ให้แก่ ผปู้ ระสบภยั การสนบั สนนุ รถครัวสนามประกอบ อาหารแจกจ่ายผู้ประสบภัย รวมถึงการแจกจ่าย ถุงยังชีพ นมกลอ่ ง และน�ำ้ ดื่ม ใหแ้ ก่ผูป้ ระสบภยั ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
37 การช่วยเหลือประชาชนทปี่ ระสบภัยแลง้ รัฐบาล มีความหว่ งใยตอ่ ปัญหาภยั แล้ง ซึ่งได้เกิดขึน้ ในหลายพื้นท่ขี องประเทศ โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยผลกระทบต่อภัยแล้งท่ีจะ เกิดขึ้นกับประชาชนอย่างมาก จึงได้ก�ำชับให้หน่วยข้ึนตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ เตรียมการ และปฏิบัตติ ามแผนบรรเทาสาธารณภยั กระทรวงกลาโหม โดยใหป้ ระสานงานกับทกุ สว่ นราชการท่เี กี่ยวขอ้ ง เพอ่ื รบั ทราบแผนงานของแตล่ ะหนว่ ย ในการสนบั สนนุ การแกไ้ ขปญั หาภยั แลง้ ใหเ้ ปน็ ไปไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และเกิดการประสานสอดคล้องกันในภาพรวมของประเทศ โดยให้น�ำศักยภาพ และขีดความสามารถ ของหน่วยมาใช้ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ซ่ึงได้ด�ำเนินการอย่างต่อเน่ืองใน ๒ ลักษณะ คือ ๑) การช่วยเหลอื เชิงป้องกัน เชน่ การขดุ ลอกคคู ลอง การสรา้ งฝาย การขดุ บ่อน้ำ� บาดาล การพัฒนาบอ่ นำ้� บาดาล การกอ่ สร้างถงั เกบ็ น้ำ� การกอ่ สรา้ งระบบผลติ น�้ำประปา การกำ� จดั ผกั ตบชวา และการปลูกป่า และ ๒) การชว่ ยเหลอื เฉพาะหนา้ เชน่ การสนบั สนนุ รถบรรทกุ นำ้� และเรอื บรรทกุ นำ�้ ไปแจกจา่ ยนำ้� ในพน้ื ทปี่ ระสบภยั การสนบั สนนุ เรอื ผลกั ดนั นำ้� เพอื่ ผลกั ดนั นำ�้ ทะเลทหี่ นนุ และการสนบั สนนุ อากาศยานในการปฏบิ ตั กิ ารฝนหลวง โดยในปี ๒๕๖๓ ทีผ่ ่านมา กระทรวงกลาโหม โดยกองบัญชาการกองทัพไทย กองทพั บก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ได้ให้การสนับสนุนส่วนราชการท่ีรับผิดชอบและช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้ง เช่น การแจกจ่ายน�้ำอุปโภค บริโภค ในพ้ืนท่ีท่ีประสบปัญหาการขาดแคลนน�้ำในทุกภูมิภาคของประเทศ จำ� นวนกว่า ๕๒,๓๙๐,๐๐๐ ลติ ร การขดุ เจาะบอ่ บาดาล จำ� นวน ๗๐๖ บอ่ ประกอบดว้ ย โครงการท่ไี ดร้ บั การ สนบั สนนุ งบกลาง จากรฐั บาล จำ� นวน ๓๘๓ โครงการ และโครงการทใี่ ชง้ บประมาณประจำ� ปขี องกองบญั ชาการ กองทพั ไทย จำ� นวน ๓๒๓ โครงการ รวมถงึ การจดั อากาศยานจากกองทพั บกและกองทพั อากาศเพอื่ สนบั สนนุ การปฏบิ ตั กิ ารฝนหลวง รวมทงั้ สนิ้ ๖๗๗ เทย่ี วบนิ (๘๕๙.๖ ชว่ั โมงบนิ ) ทำ� ใหใ้ นหว้ งฝนทง้ิ ชว่ งเดอื นกรกฎาคม มีฝนตกในพื้นทเ่ี ปา้ หมายในภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ ได้แก่ จ.สกลนคร จ.นครพนม จ.อุดรธานี จ.กาฬสนิ ธ์ุ จ.บรุ รี มั ย์ และ จ.นครราชสมี า รวมท้งั ในภาคใต้ ได้แก่ จ.กระบ่ี และ จ.สรุ าษฎรธ์ านี ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
38 ท้ังนี้ กระทรวงกลาโหมยังได้ให้การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในด้านอ่ืนๆ อีก เช่น การใช้ สถานีวิทยุในเครือข่ายของกระทรวงกลาโหม และสถานีวิทยุสาธารณะในเครือข่ายความมั่นคง ในการสร้าง ความรู้ความเข้าใจเก่ียวกบั ปญั หาภัยแล้งให้กับพน่ี อ้ งประชาชน และผลกระทบทีจ่ ะเกดิ ขน้ึ ได้แก่ โรคท่ีอาจ เกิดขึ้นจากภัยแล้ง และการป้องกันไฟป่า รวมท้ังจัดก�ำลังพลลงพื้นที่รณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันใช้น้�ำ อย่างประหยัดและเห็นคุณค่า ท�ำความเข้าใจกับเกษตรกรในพ้ืนที่ประสบภัยแล้ง และเป็นวิทยากรแนะน�ำ แกเ่ กษตรกรตามแนวทางปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง และเกษตรทฤษฎใี หม่ การบรรเทาผลกระทบจากปั ญหาไฟป่ า หมอกควัน และฝ่ นุ ละออง ส่วนใหญ่ไฟป่ามักจะเกิดข้ึนเป็นประจ�ำทุกปีในห้วงหน้าแล้ง โดยเฉพาะในพ้ืนที่ภาคเหนือตอนบน ของประเทศไทย ซง่ึ กอ่ ใหเ้ กดิ ปญั หามลพษิ ทางอากาศและหมอกควนั ทสี่ ง่ ผลกระทบโดยตรงตอ่ สขุ ภาพอนามยั ของพี่น้องประชาชน รวมท้ังยังกระทบต่อเศรษฐกิจและการท่องเท่ียวในภาพรวมของประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นสาเหตุหน่ึงท่ีท�ำให้พื้นท่ีป่าลดลงอย่างรวดเร็ว และเป็นปัจจัยท่ีส่งผลกระทบต่อความสมดุลของ ระบบนิเวศอีกดว้ ย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมได้เก็บข้อมูลสถิติการเกิดไฟป่าในประเทศไทยระหว่าง ปี ๒๕๖๐ - ๒๕๖๒ พบว่า สว่ นใหญ่เกิดจากการกระทำ� ของมนษุ ยแ์ ทบทัง้ ส้ิน เชน่ การเผาเพอื่ เก็บของป่า คดิ เป็นรอ้ ยละ ๖๘.๙๐ ของสาเหตุการเกิดไฟป่าทง้ั หมด ในขณะท่ีสถานการณ์ไฟป่าในปี ๒๕๖๒ มีพ้ืนท่ีปา่ ถกู ไฟไหม้ จ�ำนวนกวา่ ๑๕๑,๐๐๐ ไร่ ซึ่งในปี ๒๕๖๓ มแี นวโน้มความรุนแรงไมน่ ้อยกว่าท่ีผ่านมา โดยศูนย์ ภูมิอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์ว่าอุณหภูมิเฉล่ียของประเทศไทยจะสูงกว่าค่าปกติ และมีน้�ำฝน ตำ่� กวา่ คา่ ปกติ ตอ่ เนอื่ งไปจนถงึ กลางปี ๒๕๖๓ อย่างไรกต็ าม ควนั ไฟจากไฟปา่ ไมใ่ ช่สาเหตเุ ดยี วทีท่ ำ� ให้เกิดปญั หาหมอกควนั และฝนุ่ ละอองเทา่ น้ัน หากแต่ยังเกิดจากควันของการเผาในที่โล่ง การเผาเศษวัชพืชจากภาคเกษตรกรรม ฝุ่นละอองจากยานยนต์ และเครือ่ งจักรจากภาคอุตสาหกรรม รวมท้ังหมอกควันไฟป่าขา้ มพรมแดนจากประเทศขา้ งเคยี ง ดังนนั้ ความ พยายามในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน จึงต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและ ภาคประชาชน เพ่ือปกป้องผืนป่า และทรัพยากรธรรมชาติให้คงไว้ซ่ึงความสมดุลของระบบนิเวศ ตลอดจน สขุ ภาพอนามัยของพ่ีน้องประชาชน รฐั บาลได้ใหค้ วามส�ำคญั ในการแกป้ ัญหาไฟปา่ ฝุน่ ละออง และหมอกควนั ในภาคเหนอื อยา่ งเป็น รูปธรรมและย่ังยืน โดย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายความมั่นคง) ได้มอบ นโยบายเพอื่ เตรยี มรบั มอื สถานการณไ์ ฟปา่ ปญั หาฝนุ่ ละอองและหมอกควนั ตง้ั แตว่ นั ท่ี ๑๐ ตลุ าคม ๒๕๖๒ ณ จังหวดั เชียงใหม่ โดยไดก้ �ำชบั ให้ทกุ หน่วยงานเร่งแกไ้ ขปญั หาโดยเร็ว เพ่ือป้องกันปญั หาดา้ นสขุ ภาพ อนามัยของประชาชน และใหท้ มุ่ เทสรรพกำ� ลงั และทรพั ยากรเพื่อหยุดการเผา และควบคมุ ไม่ใหป้ รมิ าณ ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
39 ฝุ่นละอองสูงเกินค่ามาตรฐานตลอดปี ๒๕๖๓ พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมด�ำเนินการลดจุดความร้อน (Hotspot) รวมทั้งระดมสรรพก�ำลังทั้งอุปกรณ์และเคร่ืองมือ เพือ่ สนับสนนุ การลาดตระเวนเฝ้าระวงั และดบั ไฟปา่ โดยใหก้ ระทรวงมหาดไทยรบั ผิดชอบในการอ�ำนวยการ ส่ังการ (Single Command) และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดติดตามสถานการณ์และบูรณาการส่ังการป้องกัน และควบคุมการเผาในจังหวัดอย่างเคร่งครัด หากพบค่าฝุ่นละอองสูงเกินมาตรฐานให้ประกาศห้ามเผาทันที นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้กระทรวงกลาโหมสนับสนุนการลาดตระเวนและดับไฟทั้งภาคพ้ืนดินและ ทางอากาศอย่างเต็มที่ ตลอดจนหารือในกรอบความร่วมมือของคณะกรรมการชายแดนเพื่อให้ความ ร่วมมอื และกำ� ชบั ใหค้ วบคมุ การเผาชายแดนอย่างเครง่ ครดั กระทรวงกลาโหม ในฐานะหน่วยสนบั สนนุ การป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั ตามแผนการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ แผนปฏบิ ตั กิ ารขบั เคลอ่ื นวาระแหง่ ชาติ “การแกไ้ ขปญั หามลพษิ ด้านฝุ่นละออง” และแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ ดังน้ัน กองทัพบกจึงได้ จัดก�ำลงั พล เครือ่ งมอื และยุทโธปกรณ์ ลาดตระเวนคน้ หาจดุ เสีย่ งเกดิ ไฟปา่ และจัดท�ำแนวกนั ไฟ พรอ้ มท้งั รณรงค์ประชาสัมพันธ์ในการป้องกันไฟป่า ตลอดจนดับไฟป่า โดยในส่วนของกองทัพอากาศได้จัดก�ำลังพล และเครอื่ งบินไรค้ นขับ จ�ำนวน ๑ ระบบ เพอ่ื สนับสนนุ การลาดตระเวนทางอากาศและแจง้ พกิ ดั ท่ีเกดิ ไฟปา่ ใหแ้ กห่ นว่ ยงานทร่ี บั ผดิ ชอบ รวมทงั้ เตรยี มพรอ้ มใหก้ ารสนบั สนนุ เครอ่ื งบนิ แบบ C-130 จำ� นวน ๑ เครอ่ื ง และ เคร่ืองบนิ แบบ BT-67 จำ� นวน ๒ เครือ่ ง เมื่อได้รับการรอ้ งขอ ซง่ึ เปน็ การปฏิบัติการภายใตศ้ นู ย์อ�ำนวยการ ปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หาไฟปา่ และหมอกควนั ระดบั ภาค ทเ่ี ปน็ การบรู ณาการรว่ มกบั หนว่ ยงานตา่ งๆ เพอ่ื ใหก้ าร แกไ้ ขปญั หาไฟป่าและหมอกควันในพ้ืนที่ ๙ จังหวดั ภาคเหนอื เปน็ ไปอย่างมีประสิทธภิ าพ นอกจากน้ี เนอื่ งจากสภาพทางอตุ ุนิยมวิทยาและความแห้งแลง้ ในปี ๒๕๖๓ ทำ� ให้เกดิ ไฟปา่ ในพน้ื ท่ี จงั หวดั อ่นื ๆ ดว้ ยเชน่ กัน ยกตัวอยา่ ง เมอ่ื วนั ท่ี ๑๖ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๓ ไดเ้ กดิ ไฟปา่ ในพน้ื ทอี่ ทุ ยานแหง่ ชาตภิ กู ระดงึ จ.เลย กระทรวง กลาโหม โดยกองทัพบกได้จัดก�ำลังพลและ ยุทโธปกรณ์ รวมถงึ สนับสนนุ เฮลิคอปเตอร์ จำ� นวน ๑ ลำ� เพ่ือลำ� เลียงสงิ่ อุปกรณแ์ ละเครอ่ื งมือหนักของ ส่วนราชการท่ีรับผิดชอบในพื้นที่ โดยในส่วนของ กองทพั อากาศไดส้ นบั สนนุ เครอ่ื งบนิ แบบBT-67จำ� นวน ๒ เครอื่ ง เขา้ ปฏบิ ตั กิ ารดบั ไฟปา่ รว่ มกบั หนว่ ยงานที่ รบั ผดิ ชอบ จนสามารถควบคมุ สถานการณไ์ วไ้ ด้ และ ลดความสูญเสียของพ้ืนท่ีป่าไม้ไว้ได้ จึงท�ำให้พื้นที่ ป่าไมถ้ ูกไฟไหม้ไปเพียง ๓,๔๐๐ ไร่ ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
40 ตอ่ มาเมอื่ วันท่ี ๑๙ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๓ ยงั ได้เกดิ ไฟปา่ ในพืน้ ที่ จ.สระบุรี และได้ลกุ ลามไปยงั พื้นท่ี จ.นครนายก กระทรวงกลาโหม โดยกองทพั บกได้จัดก�ำลงั พล ยุทโธปกรณ์ และเฮลคิ อปเตอร์ จ�ำนวน ๓ ล�ำ ในขณะทกี่ องทัพอากาศไดส้ นบั สนุน เครือ่ งบินแบบ C-130 จ�ำนวน ๑ เคร่ือง เครือ่ งบินแบบ BT-67 จ�ำนวน ๑ เคร่ือง และเคร่ืองบินไร้คนขับ จ�ำนวน ๑ ระบบ เข้าร่วมดับไฟป่ากับส่วนราชการที่รับผิดชอบในพื้นท่ี จนสามารถควบคุมสถานการณ์ไวไ้ ด้ นอกจากน้ียังได้เกิดไฟปา่ ในพ้นื ทเ่ี ทือกเขามดแดง อุทยานแหง่ ชาตเิ ขาใหญ่ จ.ปราจีนบรุ ี เม่ือวันที่ ๒๑ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๓ กระทรวงกลาโหมโดยกองทพั บกไดจ้ ดั กำ� ลงั พล ยทุ โธปกรณ์ และเฮลคิ อปเตอร์ จำ� นวน ๓ ลำ� ในขณะทก่ี องทพั อากาศได้สนับสนุน เคร่ืองบนิ แบบ C-130 จ�ำนวน ๑ เครอื่ ง เครื่องบนิ แบบ BT-67 จ�ำนวน ๑ เครื่อง และเคร่ืองบินไร้คนขับ จ�ำนวน ๑ ระบบ เข้าร่วมดับไฟป่ากับส่วนราชการท่ีรับผิดชอบ ในพ้ืนท่จี นสามารถควบคุมสถานการณ์ไวไ้ ด้ และทำ� ใหม้ ีพ้ืนท่ีปา่ ไดร้ บั ความเสียหายประมาณ ๑,๐๐๐ ไร่ ทงั้ น้ี ในการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หาหมอกควนั ขา้ มพรมแดนทเ่ี กดิ จากไฟปา่ ในประเทศขา้ งเคยี งนน้ั กระทรวงกลาโหมได้มีการประสานงานและขอความร่วมมือผ่านกลไกความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ต้ังแต่ระดับประเทศจนถึงระดับท้องถิ่นอย่างต่อเน่ือง เช่น เมื่อวันท่ี ๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๒ การประชุม คณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนท่ัวไป ครั้งท่ี ๒๖ ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว ซง่ึ มี พลเอก ประวติ ร วงษส์ วุ รรณ รองนายกรฐั มนตรี (ไดร้ บั มอบหมาย จาก พลเอก ประยทุ ธ์ จนั ทรโ์ อชา นายกรฐั มนตรแี ละรฐั มนตรวี า่ การกระทรวงกลาโหม) และ พลเอก จนั สะหมอน จันยาลาด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงป้องกันประเทศ เป็นประธานร่วม ได้มีการหารือความร่วมมือในการ ปอ้ งกนั หมอกควนั ขา้ มแดนในระหวา่ งการพบปะกอ่ นการประชมุ คณะกรรมการฯ นอกจากน้ี ในดา้ นชายแดน ไทย - เมียนมา กม็ ีการหารือเพอื่ แก้ไขปญั หาหมอกควนั ขา้ มแดนในระดับท้องถน่ิ อยู่เปน็ ประจำ� และต่อเนือ่ ง เช่น การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย - เมียนมา โดยหน่วยทหารที่ปฏิบัติภารกิจภายใต้ กองก�ำลังป้องกันชายแดนและรับผิดชอบด่านชายแดน ไทย - เมียนมา ได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยทหาร เมียนมาในพน้ื ทเ่ี ป็นประจำ� ทกุ เดือน ส�ำหรบั การบรรเทาความเดอื ดรอ้ นและลดผลกระทบจากปญั หามลพษิ จากฝนุ่ ละออง โดยเฉพาะ ฝนุ่ ละอองทม่ี ขี นาดไมเ่ กนิ ๒.๕ ไมครอน หรอื PM 2.5 นน้ั รฐั บาลโดยทา่ นนายกรฐั มนตรแี ละรฐั มนตรวี า่ การ กระทรวงกลาโหมไดแ้ สดงความเปน็ หว่ งตอ่ ผลกระทบจากปญั หาฝนุ่ ละอองทเ่ี กดิ ขนึ้ โดยไดส้ งั่ การในทปี่ ระชมุ สภากลาโหมใหห้ นว่ ยขน้ึ ตรงกระทรวงกลาโหมและเหลา่ ทพั สนบั สนนุ ทรพั ยากรทางทหารในการแกไ้ ขปญั หา ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
41 ดังกล่าว ให้ยึดแนวทางการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษ ด้านฝุ่นละออง” และมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองในช่วงสถานการณ์วิกฤต รวมถึงมาตรการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กของกระทรวงกลาโหม ตลอดจนบูรณาการ การปฏิบัตริ ่วมกบั ทุกภาคส่วน ซงึ่ ในสว่ นของกระทรวงกลาโหม โดยส�ำนกั งานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทพั ไทย กองทพั บก กองทัพเรือ และกองทพั อากาศ ไดจ้ ัดก�ำลงั พล เครือ่ งมือ และยุทโธปกรณ์ สนับสนนุ การแก้ไข ปญั หาฝนุ่ ละออง เชน่ การตรวจควนั พษิ และควนั ดำ� ของรถราชการ การรณรงคไ์ มข่ บั ชว่ ยดบั เครอ่ื ง การควบคมุ และป้องกันฝนุ่ บริเวณพนื้ ท่ีกอ่ สรา้ ง การฉีดน�ำ้ ท�ำความสะอาดพ้ืนทีส่ าธารณะ และการฉดี พ่นละอองน้ำ� เพ่ือ บรรเทาปญั หาฝนุ่ ละอองในพ้ืนท่เี สย่ี งตา่ งๆ นอกจากนี้ กองทัพเรือยังไดม้ ีการพฒั นาและสรา้ งเครอ่ื งบ�ำบดั ฝนุ่ PM 2.5 โดยไดต้ ดิ ตงั้ จำ� นวน ๒ เครอ่ื ง ทบี่ รเิ วณลานจอดรถฝง่ั ดา้ นหนา้ นนั ทอทุ ยานสโมสร กองบญั ชาการ กองทัพเรือพื้นที่วังนันทอุทยาน ซึ่งเป็นพ้ืนท่ีท่ีมีประชาชนมาใช้บริการและออกก�ำลังกายเป็นจ�ำนวนมาก รวมถึงตดิ ตั้งบรเิ วณรอบวงั สระปทมุ จำ� นวน ๔ เคร่อื ง และรอบวัดราชบพิธ จำ� นวน ๓ เคร่อื ง ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
42 การพัฒนาคุณภาพชวี ิตประชาชน การพัฒนาโดยยึดหลักเศรษฐกจิ พอเพยี ง สร้างความเจรญิ อยา่ งยัง่ ยนื กระทรวงกลาโหมไดด้ ำ� เนนิ การปฏริ ปู กองทพั และปรบั บทบาทมาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง เพอ่ื ใหส้ อดคลอ้ ง กับการเปล่ียนแปลงของสภาพแวดล้อมด้านความม่ันคงในปัจจุบัน และแนวโน้มในอนาคต ตลอดจน ความท้าทายของความมั่นคงรูปแบบใหม่ จะเห็นว่าปัจจุบันกองทัพไม่ได้มีภาระหน้าท่ีแค่เพียงการป้องกัน ประเทศจากภัยคุกคามทางทหารเท่าน้ัน แต่ยังต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาที่ส�ำคัญของชาติ ไม่ว่าจะเป็นการบรรเทาภัยพิบัติ การให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนในด้านต่างๆ ตามตัวอย่างที่ไดก้ ลา่ วไปแล้วกอ่ นหนา้ น้ี นอกจากนี้ “ยามศึกเรารบ ยามสงบเราพัฒนา” ยังเป็นประโยคท่ีกองทัพยึดถือปฏิบัติมาตลอด โดยปัจจุบันกองทัพได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน ผ่านโครงการและกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น ซึ่งเป็นบทบาทหน้าที่ที่ก�ำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ที่เกี่ยวข้อง กระทรวงกลาโหม ไดม้ อบนโยบายให้หนว่ ยทหารในทกุ พื้นท่ี ให้ความสำ� คัญกับการชว่ ยเหลอื พนี่ ้อง ประชาชน ใหม้ ฐี านะความเปน็ อยทู่ ด่ี ขี นึ้ โดยการสง่ เสรมิ ใหน้ อ้ มนำ� ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งของ พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมพิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร มาจดั ทำ� โครงการเพ่อื ถ่ายทอดแนวทาง การด�ำเนนิ ชีวติ และสร้างมาตรฐานในการปฏบิ ตั ิตน อย่างตอ่ เนือ่ งเป็นประจ�ำ โดยมีกจิ กรรมทส่ี �ำคัญ ได้แก่ ๑. การจดั ตง้ั ศนู ยก์ ารเรยี นรตู้ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง โดยสำ� นกั งานปลดั กระทรวง กลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ได้ด�ำเนินการอย่าง ต่อเน่ือง และปัจจุบันมีศูนย์การเรียนรู้ฯ ท่ัวทุกภูมิภาคกว่า ๒,๖๐๐ ศูนย์ ซึ่งมุ่งหวังจะให้ศูนย์เรียนรู้ฯ น้ี เป็นแหล่งเผยแพรค่ วามรู้ การท�ำเกษตรในแนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี ง และนวัตกรรมทเ่ี หมาะสม สอดคล้อง กับการประกอบอาชีพของประชาชน โดยเฉพาะด้านการเกษตรเพ่ือเป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้สามารถ น�ำไปต่อยอดในการประกอบอาชีพเสริม เพ่ือลดรายจ่ายหรือเพิ่มรายได้ในครัวเรือน และศึกษาการท�ำการ เกษตรในรูปแบบอนรุ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
43 ๒. การดำ� เนนิ การโครงการยกระดบั การฝกึ อาชพี ใหแ้ กผ่ รู้ บั การสงเคราะห์ เพอ่ื รองรบั เขตเศรษฐกจิ พิเศษและเขา้ ส่ปู ระชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยม่งุ เนน้ ฝึกอาชพี ใหแ้ กท่ หารผ่านศึก ครอบครวั ทหารผา่ นศึก และทหารนอกประจ�ำการ ให้เป็นแรงงานคุณภาพ พร้อมทั้งส่งเสริมทักษะภาษาอังกฤษให้สามารถสื่อสาร และสนทนาขน้ั พนื้ ฐาน เพอ่ื รองรบั การเขา้ สปู่ ระชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น ใหม้ รี ายไดเ้ ลย้ี งตนเอง และครอบครวั เพม่ิ ขน้ึ โดยเปิดฝึกอบรมและพัฒนาฝีมอื ในหลายหลักสตู ร ประกอบด้วย ๑) การฝึกอาชพี เชน่ ช่างเสรมิ สวย แบบมืออาชพี ขับรถยนต์แบบมืออาชพี และศิลปะการท�ำกาแฟแบบมอื อาชีพ ๒) การฝึกอบรมและพฒั นา ฝมี อื แรงงานในพนื้ ทส่ี ว่ นกลาง เชน่ วชิ าไฟฟา้ วชิ าอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ วชิ าพมิ พด์ ดี และคอมพวิ เตอร์ วชิ าชา่ งโลหะ วชิ าชา่ งเครอ่ื งยนตแ์ ละขับรถยนต์ และวิชาคหกรรม และ ๓) การฝกึ หาความชำ� นาญในพื้นที่สว่ นภมู ภิ าค เช่น วชิ าไฟฟา้ วิชาคหกรรม วิชาอิเล็กทรอนิกส์ และวิชาชา่ งเครือ่ งยนตแ์ ละขับรถยนต์ ๓. ยทุ ธศาสตร์ โคเนอื้ กระทรวงกลาโหม โดยหนว่ ยบญั ชาการทหารพฒั นา กองบญั ชาการกองทพั ไทย ได้น้อมน�ำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สู่ “ยุทธศาสตร์ โคเนื้อ” ก่อเกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชน อย่างเป็นรูปธรรม โดยริเริ่มโครงการน�ำร่องเพื่อแก้ปัญหาการว่างงานและอาชญากรรม โดยเฉพาะกลุ่ม เกษตรกร จากทเี่ คยเลีย้ งโคพันธพ์ุ นื้ เมอื งเพยี งไมก่ ี่ตวั ปลอ่ ยให้หากินเองตามท้องนา ขายไดก้ ำ� ไรแคห่ ลักหม่นื เปน็ รายไดเ้ สรมิ จากการทำ� นา หรอื กรดี ยางพารา เมอื่ ผลผลติ ดา้ นการเกษตร หรอื ยางพารา ราคาตกตำ่� รายได้ แทบไม่พอกิน หลายคนว่างงาน บ้างก็หันไปเสพยาเสพติด และมีจ�ำนวนไม่น้อยถูกชักชวนไปสู่การก่อเหตุ รนุ แรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
44 โดยได้ท�ำการส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงโคเนื้อ การจัดหน่วยเคล่ือนที่ (ชุดผสมเทียมโค) ใหบ้ รกิ ารผสมเทยี มดว้ ยนำ�้ เชอ้ื โคคณุ ภาพดี การอบรมเกษตรกรเกย่ี วกบั การผสมเทยี มโคเนอื้ เพอื่ ใหเ้ กษตรกร มีความรู้ ความเข้าใจ ในการสร้างโคเน้ือคุณภาพดี ราคาสูง และสามารถน�ำไปปฏิบัติเองได้ ซึ่งผลจาก การด�ำเนินโครงการน้ีอย่างต่อเนื่อง ท�ำให้พ่ีน้องประชาชน โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงผู้หลงผิดได้เห็นโอกาสท่ีจะสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตตนเองและครอบครัวต้องการกลับตัวกลับใจ กลบั บ้านมาอยูก่ ับครอบครัว รว่ มมอื กบั ภาครฐั ในการพฒั นา ชุมชน โดยลูกหลานกส็ ามารถน�ำความร้ทู ไี่ ด้รบั ไปใชป้ ระกอบอาชพี ได้ในอนาคต นอกจากการให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการฟาร์มแบบครบวงจรแล้ว ยังได้ส่งเสริมให้ชาวบ้าน หันมาปลูกหญ้าเนเปียร์ปากช่อง ๑ เพื่อเป็นอาหารให้แก่โค ช่วยลดต้นทุนได้อีกทางหนึ่งด้วย อีกทั้ง ในปี ๒๕๖๓ ยงั ไดใ้ ชส้ ถานผี สมเทยี ม จำ� นวน ๗๐ สถานที วั่ ประเทศ ชว่ ยเหลอื เกษตรกรในการผสมเทยี มโคกวา่ ๒๑,๖๐๐ ครั้ง ได้ลูกโคกว่า ๑๒,๙๖๐ ตัว โดยมุ่งหวังว่า รายได้ที่มั่นคงทางปศุสัตว์ จะช่วยท�ำให้ชีวิต ความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกรดีขึ้น ลดปัญหาการว่างงานและอาชญากรรม ช่วยท�ำให้เหตุความรุนแรง ในพน้ื ทีด่ ้านความมัน่ คง และปัญหาในถ่นิ ทุรกันดารลดลงหรือหมดไปในอนาคต ๔. โครงการทหารพันธุ์ดี กระทรวงกลาโหมโดยกองทัพบกได้ด�ำเนิน “โครงการทหารพันธุ์ดี” มาอย่างตอ่ เน่อื งกวา่ ๔ ปี ภายใต้หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงในพ้นื ทห่ี นว่ ยทหารทวั่ ประเทศรวมทั้งสน้ิ ๑๐๖ หน่วย ในพื้นที่ ๓๑ จังหวัด โดยกองทัพบกได้จัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนรู้ และแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์ เพื่อการบริโภคให้กับก�ำลังพลและครอบครัว ตลอดจนพ่ีน้องประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบค่ายทหารอีกด้วย ซงึ่ เปน็ การดำ� เนนิ การตามแนวทางพระราชทานสมเดจ็ พระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยการน�ำก�ำลังพลและครอบครัว รวมถึงพลทหารกองประจ�ำการท่ีมีความสนใจ ด้านการเกษตรไดม้ โี อกาสเรยี นร้ดู ้วยการลงมือท�ำด้วยตนเอง (Learning by Doing) เพอื่ ปลูกผกั ทปี่ ลอดภยั ไว้บริโภค ผลิตเมล็ดพันธุ์ผักเพื่อให้แก่ทหารกองประจ�ำการที่ก�ำลังจะปลดประจ�ำการได้น�ำไปขยายผล ในภูมิล�ำเนา และยังส�ำรองเมล็ดพันธุ์เพ่ือไว้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนท่ีประสบภัยพิบัติ อันเป็นการบรรเทา ความเดือดรอ้ นไดอ้ ีกทางหนง่ึ ดว้ ย ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
45 “หนว่ ยทหารทำ� โครงการทปี่ ระสบความสำ� เรจ็ คอื โครงการทหารพนั ธดุ์ ี ไมใ่ ช่พนั ธทุ์ หารดอี ยา่ งเดยี ว พนั ธุข์ า้ ว พนั ธพุ์ ชื พันธสุ์ ัตว์ ทผี่ ลติ และนำ� ไปมอบให้ราษฎรทีป่ ระสบภัยตา่ งๆ ก็ท�ำไดด้ ”ี พระราชดำ� รสั สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมอื่ วันท่ี ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ณ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกลา้ จ.นครนายก โดยตลอดปี ๒๕๖๓ ท่ีประเทศไทยประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 และปัญหาอุทกภัย ในหลายพ้ืนท่ี ท�ำให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจ�ำนวนมาก กองทัพบกจึงได้น�ำผลผลิต จาก “โครงการทหารพันธุ์ดี” เช่น ข้าวเปลือก ผักสวนครัว ปลาน�้ำจืด ไข่เป็ด และไข่ไก่ แจกจ่ายฟรีผ่าน โครงการ “Army Delivery” ของกองทัพบก รวมท้ังยังได้จ�ำหน่ายในราคาที่ย่อมเยา ซึ่งช่วยลดภาระ ค่าใช้จ่ายครัวเรือน และช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พ่ีน้องประชาชนได้อีกทางหนึ่งด้วย โดยกองทพั บกมงุ่ หวงั จะเป็นก�ำลังใจใหพ้ นี่ อ้ งประชาชนกา้ วผา่ นวกิ ฤตคร้ังน้ีไปด้วยกัน ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
46 นอกจากน้ี ยังได้จัดการฝึกอบรมให้ทหารกองประจ�ำการ ได้รับความรู้และประสบการณ์ในเกษตร ผสมผสานจ�ำนวนกว่า ๑,๒๐๐ นาย ลงพ้ืนที่ไปดูแลและให้ค�ำแนะน�ำการท�ำเกษตรแก่พี่น้องประชาชน ในพน้ื ทีท่ รุ กันดาร หรอื ได้รบั ความเดือดรอ้ น อีกทั้งยงั ไดข้ ยายผลจาก “โครงการทหารพันธดุ์ ี” และตอ่ ยอด ในโครงการอนื่ ๆ เชน่ “โครงการบา้ นนมี้ รี กั ปลกู ผกั กนิ เอง” และ “โครงการอาหารชมุ ชนโรงเรยี นตน้ แบบ” เพอ่ื ให้ชุมชนสามารถปลกู ผักได้อยา่ งถกู ตอ้ งและปลอดภยั อันจะทำ� ให้พน่ี ้องประชาชนในพ้นื ท่ตี ่างๆ จ�ำนวน กวา่ ๔๙,๐๐๐ คน มคี ณุ ภาพชวี ติ ที่ดขี ึน้ และสามารถพงึ่ พาตนเองได้ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
47 ๕. โครงการศูนยก์ ารเรียนรู้เกษตรทฤษฎใี หม่ “โคก หนอง นา กองทัพเรือ” กองทัพเรือได้ด�ำเนินการโครงการนี้มาต้ังแต่ปี ๒๕๖๓ โดยได้น้อมน�ำเกษตรทฤษฎีใหม่ตามหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาประยุกต์เป็นต้นแบบให้แก่ก�ำลังพลและครอบครัว ตลอดจนพี่น้องประชาชนทั่วไป สามารถน�ำไปใช้เป็นแนวทางในการด�ำรงชีวิตแบบพ่ึงพาตนเอง สอดคล้องกับพระปฐมบรมราชโองการของ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ในการสบื สาน รกั ษา และตอ่ ยอดพระราชปณธิ าน ของพระบาทสมเดจ็ พระบรม ชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
48 เนอื่ งในโอกาสพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธบิ ดศี รีสนิ ทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมพิ ลราชวรางกรู กติ สิ ิรสิ มบูรณอดุลยเดช สยามนิ ทราธเิ บศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชริ เกล้าเจา้ อย่หู วั ทรงมพี ระปฐมบรมราชโองการ ความว่า “เราจะสบื สาน รกั ษา และตอ่ ยอด และครองแผน่ ดนิ โดยธรรม เพ่อื ประโยชนส์ ุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” โดยปจั จบุ นั พน้ื ทศ่ี นู ยก์ ารเรยี นรฯู้ ของกองทพั เรอื มจี ำ� นวน ๗ พนื้ ที่ จาก ๑๐ หนว่ ยงาน ประกอบดว้ ย - พื้นท่ีกรุงเทพมหานคร และ จ.นครปฐม จ�ำนวน ๒ หน่วยงาน คือ ฐานทัพเรือกรุงเทพ และ กรมยุทธศกึ ษา - พนื้ ที่ จ.ชลบรุ ี จ�ำนวน ๓ หน่วยงาน คอื กองเรอื ยทุ ธการ ฐานทพั เรอื สตั หีบ และหน่วยบัญชาการ ต่อสู้อากาศยานและรกั ษาฝ่งั - พ้นื ที่ จ.ฉะเชงิ เทรา จำ� นวน ๑ หน่วยงาน คือ กรมสวัสดกิ ารทหารเรอื - พน้ื ที่ จ.ตราด จ�ำนวน ๑ หน่วยงาน คอื ทัพเรอื ภาคที่ ๑ - พนื้ ท่ี จ.สงขลา จ�ำนวน ๑ หน่วยงาน คือ ทพั เรือภาคที่ ๒ - พื้นท่ี จ.พังงา จำ� นวน ๑ หน่วยงาน คอื ทัพเรอื ภาคท่ี ๓ - พื้นที่ จ.จันทบรุ ี จ�ำนวน ๑ หนว่ ยงาน คือ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ผลการด�ำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ประจ�ำปี ๒๕๖๓
ชาตมิ ั่นคง
Search