บทที่ 7

ใบความรทู้ ี่ 7 อปุ กรณป์ อ้ งกันอันตรายสว่ นบคุ คล

ใบความรูท้ ่ี 7 เรื่อง อปุ กรณป์ ้องกันอนั ตรายส่วนบคุ คล 1. ความหมายและความสำคัญของอุปกรณ์ป้องกันอันตรายสว่ นบคุ คล อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล คือ ส่ิงของอย่างหน่ึงอย่างใดที่ปกคลุมหรือสวมใส่ท่ีอวัยวะบน รา่ งกาย เพ่ือป้องกันอนั ตรายที่จะเกิดกับอวัยวะส่วนที่ได้รับการป้องกัน เช่น หมวกนิรภยั แวน่ ตานิรภัย รองเท้า เครื่องป้องกันศีรษะ และใบหน้า เป็นต้น อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลมีความสำคัญต่อผู้ปฏิบัติงานในการป้องกันอันตรายให้กับอวัยวะ ส่วนต่างๆ ไม่ให้ได้รับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในขณะปฏิบัติงาน ให้ผู้ปฏิบัติงานได้ศึกษาถึงลักษณะและวิธีใช้ อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลเหล่าน้ันให้เข้าใจ และต้องสวมใส่ทุกครั้งท่ีต้องปฏิบัติงาน โดยที่ทุกคนต้อง ปฏิบัตติ ามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด เพราะอุปกรณ์เหลา่ น้นั สามารถปกป้องชีวติ และทรัพย์สินให้ปลอดภัยได้ 2. หลักในการเลอื กใชอ้ ุปกรณ์ป้องกนั อนั ตรายสว่ นบุคคล สถานประกอบการควรพิจารณาเลอื กใช้อปุ กรณป์ ้องกนั อนั ตรายสว่ นบุคคล ดงั นี้ 1. ควรเลือกอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลให้เหมาะสมถูกต้องกับการปฏิบัติงานท่ีอันตรายของ แต่ละประเภทงาน 2. ควรเลือกอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลท่ีได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม จากหนว่ ยงานทเี่ ชื่อถือได้

3. ควรใหผ้ ู้ทีจ่ ะใช้อปุ กรณ์ป้องกันอันตรายสว่ นบุคคลศกึ ษาวิธีการใช้อุปกรณ์อย่างถูกตอ้ งวิธีการรักษา อปุ กรณ์ และปฏิบตั ิตามคูม่ ือท่กี ำหนดอย่างเคร่งครัด 4. ควรเลือกอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลท่ีได้ผ่านการทดสอบแล้วว่าสามารถป้องกันอันตราย ระหว่างการปฏิบตั งิ านได้ 5. ควรเลือกอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลท่ีมีขนาดพอดีกับรปู ร่าง หรืออวัยวะของผู้ที่จะสวมใส่ อปุ กรณ์เหล่านัน้ 6. ควรเลือกอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลที่มีน้ำหนักเบา มีประสิทธิภาพสูง และสบายเมื่อใช้ อุปกรณ์ป้องกนั นนั้ 7. ควรเลือกอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล ที่มีข้ันตอนการใช้งานไม่ยุ่งยากซับซ้อนมีหลากหลาย แบบให้เลอื กใช้ และสามารถบำรงุ รักษาได้ง่าย สถานประกอบการควรเลือกอุปกรณ์ป้องกันอันตรายให้เหมาะสม และถูกต้อง คงทนกับการใช้งาน ของผู้ปฏิบัติงาน ให้ผู้ใช้อุปกรณ์ศึกษาวิธีการ ข้ันตอน การใช้อุปกรณ์อย่างถูกต้อง โดยต้องมีการรับรอง มาตรฐานอุตสาหกรรมจากหน่วยงานที่เช่ือถือได้ รวมทั้งการบำรุงรักษาต้องง่ายไม่ยุ่งยากเพ่ือผู้ท่ีใช้อุปกรณ์ ป้องกนั อนั ตรายสว่ นบคุ คลจะได้ทำงานดว้ ยความปลอดภยั และมปี ระสิทธภิ าพ 3. ประเภทของอุปกรณ์ป้องกันอนั ตรายส่วนบุคคล อุปกรณ์ปอ้ งกันอนั ตรายส่วนบุคคล สามารถแบ่งได้ตามลักษณะการใช้งาน ดงั น้ี 1. อุปกรณ์ป้องกันศีรษะ เป็นการป้องกันอันตรายท่ีจะเกิดกับศีรษะ ท่ีออกแบบมาเพ่ือป้องกันการ กระแทก หรอื การถกู กระทบศรี ษะ ทเ่ี หมาะสมกบั ประเภทของงาน 2. อุปกรณ์ป้องกันหู เป็นอุปกรณ์สวมใส่ป้องกันเสียงดังเกินระดับปกติ เพื่อลดอันตรายท่ีมีต่อระบบ การไดย้ ินต่อแกว้ หู และป้องกันเศษวัสดุท่ีกระเด็นเขา้ มากระทบหูดว้ ย สถานประกอบการท่ีมีการทำงานทเ่ี สียง ดังติดต่อกันเกินกว่าท่ีกฎหมายกำหนดจะต้องรีบดำเนินการปรับปรุงแก้ไข และให้มีการจัดหาอุปกรณ์ป้องกัน อันตรายสว่ นบคุ คลทีไ่ ด้รบั รองมาตรฐานให้ผู้ปฏิบัติงานสวมใสต่ ลอดเวลาการปฏิบตั ิงาน 3. อุปกรณ์ป้องกันหน้าและดวงตา เป็นอุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากการทำงานหลายประเภท เช่น งานเชื่อม งานเจียระไน งานกลึง หรือเก่ียวกับสารเคมีเป็นต้น ทั้งนี้ผู้ปฏิบัติงานอาจมีอันตรายจากสะเก็ดไฟ กระเด็นเขา้ ตาหรอื ใบหน้า 4. หน้ากากป้องกันใบหน้า เป็นการป้องกันการกระแทก การกระเดน็ ของเศษวัสดุ หรอื ไอของสารเคมี โดยมแี ผงใสโครงครอบใบหนา้ และต้องผ่านการทดสอบมาตรฐานที่ทนต่อแรงกระแทก แรงเจาะ สารเคมี และ ความร้อน หน้ากากปอ้ งกันใบหนา้ มี 2 แบบ คอื แบบสวมหวั และแบบติดกบั หมวกนิรภัย 5. หน้ากากเชื่อม เป็นอปุ กรณ์ป้องกันดวงตาและใบหน้า ใชใ้ นงานเช่ือม เพ่ือป้องกันอันตรายจากการ กระเด็นของโลหะ รังสี และความร้อนจากการเช่ือม โดยมีคุณสมบัติถูกต้องตามมาตรฐานเหมือนกับแว่นตา นริ ภัย แว่นครอบตา และหน้ากากป้องกันใบหน้ามีลักษณะการใชง้ านได้ 3 ชนิด คือ หน้ากากเช่ือมชนิดมือถือ หน้ากากเชื่อมชนดิ สวมหวั และหน้ากากเช่ือมติดกับหมวกนริ ภยั 6. ครอบป้องกันใบหน้า เป็นการป้องกันอันตรายจากสารเคมี หรือของเหลวโดยแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คอื ชนดิ ไม่มีไส้กรองเคมีและชนิดมีไส้กรองเคมี 7. อุปกรณ์ป้องกันระบบหายใจ สถานประกอบการควรเลือกอุปกรณ์ป้องกันระบบหายใจให้ตรงกับ ลักษณะของงานที่มอี ันตราย

8. อุปกรณ์ป้องกันลำตัว ใช้ป้องกันส่วนลำตัว ท้อง หน้าอก แขนและขา โดยต้องเลือกให้ตรงกับ ลกั ษณะงานที่ปฏบิ ตั ิ 9. อุปกรณ์ป้องกันมือ เป็นถุงมือนิรภัยใช้ป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับมือ และนิ้ว เพราะผู้ปฏิบัติงาน ต้องใช้มือและนิ้วทำงาน 10. อปุ กรณป์ อ้ งกนั เท้า ใช้ป้องกนั อนั ตรายสว่ นของเทา้ จนถึงหน้าแขง้ มีหลายชนดิ แล้วแตจ่ ะใชก้ ับการ ปฏิบตั ิงานอย่างใด 11. อุปกรณ์ป้องกันการตกจากท่ีสูง การปฏิบัติงานในท่ีสูงอาจเสี่ยงต่อการตกลงจากที่สูง จึงควรมี อปุ กรณ์ป้องกันการตกจากทีส่ ูง 4. ประโยชนข์ องอปุ กรณป์ ้องกันอนั ตรายส่วนบคุ คล อุปกรณ์ปอ้ งกนั อนั ตรายส่วนบคุ คล เปน็ อปุ กรณ์ท่มี ีประโยชน์ ดงั น้ี 1. ปอ้ งกนั อนั ตรายทจี่ ะเกดิ กบั ผู้ปฏบิ ัติงานทง้ั ร่างกายและจติ ใจ 2. สร้างความมั่นใจในเรื่องความปลอดภยั ใหก้ ับผู้ทเ่ี ก่ียวข้อง 3. สถานประกอบการสามารถลดค่าใช้จ่ายตา่ งๆ 4. ผ้ปู ฏิบตั ิงานทำงานไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ 5. สถานประกอบการสามารถเพิม่ ผลผลติ และเพ่ิมกำไร