ไมเ่ พยี งแตเ่ ปน็ บทบาทของศึกษานิเทศก์เท่านัน้ แต่ยังเป็นหน้าท่ีของผูบ้ ริหารสถานศึกษาในฐานะผนู้ ำทางวิชาการ ที่ต้องบริหารจัดการให้เกิดการนิเทศการจัดการเรียนรู้ภายในโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง เป็นระบบและเกิดผลเชิง คณุ ภาพ การนเิ ทศการจดั การเรยี นรู้ ส่งเสรมิ ใหเ้ กิดการพฒั นาวิชาชพี ในหลายประการ เช่น 1) ชว่ ยใหค้ รเู ข้าใจและ ตระหนกั ในบทบาทและความสำคัญของการวิชาชพี ครูท่ีหมายรวมถงึ การสร้างความเจรญิ งอกงามทางปญั ญา และ ความเหมาะสมด้านคุณธรรมจริยธรรมให้เกดิ ขึ้นแก่นักเรียน ซึ่งจะส่งผลให้ 2) ครูตั้งมั่น และมีแนวปฏิบัติในการ จัดการเรียนรู้ การจัดประสบการณ์ การปฏิสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพ ทันสมัย สอดคล้องกับความต้องการของ ผู้เรียน สอดคล้องกับค่านิยมทางสังคมที่มุ่งเน้นการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพทั้งด้านความรู้ ทักษะ เจตคติและ คุณลักษณะสำคัญอื่น ๆ นอกจากนี้ 3) การนิเทศการจัดการเรียนรู้ยังช่วยให้ครูได้มีเครือข่ายการพัฒนางานใน หน้าที่ ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนาคุณภาพการสอน เทคนิควิธี ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนา คุณภาพการจัดการเรียนรู้ของครู ทั้งนี้การนิเทศการจัดการเรียนรู้ในบริบทของสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา ประถมศึกษาสตูล มีเป้าหมายสูงสุดเพื่อให้ผู้บริหารสถานศึกษาในฐานะผู้นำทางวิชาการและครูผู้สอนสามารถ สะทอ้ นผลเพ่ือนเิ ทศการจัดการเรยี นรู้ของตนเองได้ วตั ถปุ ระสงคข์ องการนเิ ทศ 1. เพอ่ื พฒั นาครใู ห้มคี วามร้คู วามเขา้ ใจเกี่ยวกบั การจัดการเรยี นรเู้ ชงิ รกุ (Active Learning) 2. เพ่ือพฒั นาครูในการออกแบบการจัดการเรียนรู้เชงิ รุก (Active Learning) 3. เพื่อส่งเสรมิ และสนบั สนุนให้ครผู สู้ อนสามารถจัดการเรียนรเู้ ชิงรุก (Active Learning) ในช้ันเรยี น ประเดน็ การนเิ ทศ 1. ความร้เู ก่ยี วกับการจดั การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) 2. วิธีการออกแบบการจดั การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) 3. การปฏบิ ตั กิ ารสอนโดยใชก้ ารเรยี นรูเ้ ชิงรกุ (Active Learning) กระบวนการนเิ ทศ 1) การเตรยี มการนเิ ทศ 1.1 สำรวจข้อมูลสารสนเทศเพื่อการนิเทศ เชน่ ข้อมูลสารสนเทศของโรงเรยี น ข้อมูลของครูผรู้ บั การนิเทศ จำแนกตามวชิ าเอก กลุ่มสาระการเรยี นร้ทู ส่ี อน และศึกษาขอ้ มูลเดมิ จากรายงานการนิเทศเกี่ยวกับสภาพการ จัดการเรยี นการสอนของครู ทัง้ ด้านวิธีการจัดการเรียนรู้ วธิ กี ารวัดและประเมินผล หนังสอื ตำรา ส่ือประกอบการ สอน ผลสะท้อนของผเู้ รียน รวมทงั้ ศึกษามาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชวี้ ัดตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน 2551 เพอ่ื นำมาพจิ ารณาประกอบในการนิเทศ 1.2 จดั ระบบขอ้ มูลจำแนกตามความตอ้ งการจำเป็นในการนเิ ทศ และจัดกลุม่ โรงเรียนในการนิเทศ ได้แก่ - กลุม่ เป้าหมาย โครงการพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาโดยสถาบันอุดมศกึ ษาในท้องถนิ่ เป็นพ่เี ลีย้ ง จำนวน 6 โรง 95
- กล่มุ เป้าหมาย เครือข่ายสถานศึกษาท่ีได้รบั มอบหมาย : เครอื ข่ายไผ่สที อง และเครือข่าย บาราเกต จำนวน 18 โรง 1.3 ศกึ ษาองค์ความรแู้ ละแนวทางการจดั การเรียนรูเ้ ชงิ รุกเพื่อนำไปใชใ้ นกระบวนการนิเทศ มีประเดน็ สำคัญ ดังน้ี หนว่ ยท่ี 1 แนวคดิ : แนวคิดของการจดั การเรยี นรู้เชงิ รุก หน่วยที่ 2 ทศิ ทาง : รปู แบบการจดั การเรียนร้เู ชิงรุก หน่วยท่ี 3 วางกรอบ: การออกแบบการจดั การเรียนรู้เชิงรกุ หน่วยที่ 4 ตอบโจทย์ : เทคนิควธิ ีการจดั การเรียนรเู้ ชิงรกุ วชิ าภาษาองั กฤษ 2) การวางแผนการนเิ ทศ การวางแผนการนิเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการจดั การเรียนร้เู ชงิ รุกของครูผู้สอนภาษาองั กฤษ สงั กดั สำนักงานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาสตูล มีข้ันตอนดังนี้ 2.1 ประชมุ นิเทศกับผู้เกย่ี วข้อง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศกึ ษา หัวหนา้ งานวชิ าการของโรงเรยี น ครผู สู้ อน และศกึ ษานเิ ทศก์ท่านอน่ื ๆ 2.2 จดั ทำปฎทิ ินการนเิ ทศ แผนการนิเทศ สื่อประกอบการนิเทศ ได้แก่ คู่มือการนเิ ทศเพ่อื สง่ เสรมิ ความสามารถในการจัดการเรียนรูเ้ ชงิ รุกของครูผูส้ อนภาษาอังกฤษ และเคร่ืองมือนิเทศตามวัตถุประสงค์ของ กิจกรรมการนิเทศ 2.3 ดำเนินการนิเทศ โดยใชข้ ้ันตอนของกระบวนการชมุ ชนแห่งการเรยี นรทู้ างวชิ าชพี (PLC) ร่วมกับการ พัฒนาบทเรยี นรว่ มกนั (Lesson Study) ไดแ้ ก่ 1) การวางแผนบทเรียน (Plan: Preparation) 2) ปฏิบัติการจัดการเรยี นร้แู ละสงั เกตช้ันเรยี น (See: Teaching & Observation) 3) สะท้อนผลการจดั การเรยี นรู้ (Reflect: Discussion & Reflection) และใช้เทคนคิ การนิเทศท่หี ลากหลายรว่ มด้วย เช่น เทคนคิ การนิเทศแบบชี้แนะสะทอ้ นคิดและเป็นพี่เลีย้ ง (Reflective Coaching and Mentoring) เทคนิคการนเิ ทศแบบกัลยาณมิตร เทคนิคการนเิ ทศแบบเชิญชวน เทคนคิ การพูดคุยสะทอ้ นผลแบบสนุ ทรียสนทนา (positive and constructive feedback) 2.4 กำหนดระยะเวลานิเทศ ภาคเรียนละ 2 ครัง้ หรือปรบั เปลยี่ นตามความเหมาะสม 3) การดำเนนิ การนเิ ทศ การดำเนนิ การนิเทศ เปน็ การปฏิบัตกิ ารนเิ ทศระหว่างศกึ ษานเิ ทศก์รว่ มกบั ผู้บริหารสถานศกึ ษา ครูคู่พัฒนา (buddy teacher) และครูผสู้ อน (model teacher) มขี ้ันตอนสำคัญ คอื การวางแผนบทเรยี น (Plan: Preparation) การปฏิบัติการจัดการเรยี นร้แู ละการสงั เกตชัน้ เรียน (See: Teaching & Observation) และการ 96
สะท้อนผลหลังการจัดการเรียนรู้ (Reflect: Discussion & Reflection) ซ่ึงมีรายละเอียดในการดำเนินการ แบ่งเป็นบทบาทของศกึ ษานเิ ทศก์ และบทบาทของครผู ู้สอน ดังนี้ กจิ กรรมการนเิ ทศ วตั ถปุ ระสงค์ เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการนเิ ทศ 1. การลงพนื้ ทโี่ รงเรยี น เปา้ หมายเพอ่ื เตรยี มการ 1. เพอื่ สรา้ งความตระหนกั ในการ 1. เอกสารเกยี่ วกบั องคค์ วามรูใ้ นการจัด กอ่ นการนเิ ทศ จัดการเรียนรเู้ ชงิ รกุ ใหแ้ ก่ครูผู้สอน กจิ กรรมการเรยี นรเู้ ชิงรกุ บทบาทศกึ ษานเิ ทศก์ 2. เพื่อสร้างความเข้าใจในการมีส่วน 2. วดี ีโอแนวทางการนเิ ทศผา่ น บทบาทครผู สู้ อน ร่วมในการนเิ ทศของผบู้ รหิ าร กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนร้ทู าง สถานศึกษาและครผู ู้สอน วชิ าชพี 3. ค่มู อื การนิเทศเพ่ือส่งเสรมิ ความสามารถในการจัดการเรยี นร้เู ชงิ รุก สำหรับครูผสู้ อนภาษาองั กฤษ 1. เย่ียมเพอ่ื สังเกตชั้นเรยี นแบบไมเ่ ป็นทางการ 2. พูดคุยแลกเปลี่ยนกบั ครูผสู้ อนโดยใช้เทคนิคการต้ังคำถามชวนคิด 3. นำแผนการจัดการเรยี นรู้ มาร่วมกนั วิเคราะห์ความแตกตา่ งการจดั การเรยี นรู้ เชิงรุก และการจดั การเรยี นรรู้ ปู แบบทว่ั ไปทเ่ี น้นบทบาทครู ตามประเดน็ ดังนี้ 1) องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรยี นรู้ 2) ความสอดคลอ้ งของจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ และ การวดั ประเมนิ ผล 3) พฤติกรรมการเรยี นรู้ สอดคล้องกับตัวชีว้ ัดทส่ี ามารถวดั และ ประเมนิ ผลไดอ้ ย่างชดั เจน 4) กจิ กรรมการเรยี นรู้ กระตนุ้ ใหผ้ ้เู รียนคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ การ ทำงานรว่ มกันเปน็ กลุ่ม และค้นพบการสรา้ งองคค์ วามร้ดู ้วยตนเองได้ 5) กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอดคล้องกบั แนวทางการจัดการเรยี นรูเ้ ชงิ รกุ 6) การวดั และประเมินผลสอดคลอ้ งกับกิจกรรมและจดุ ประสงคก์ าร เรียนรู้ 4. มอบคมู่ ือการนเิ ทศเพ่ือสง่ เสรมิ ความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ให้ ครผู ู้สอนได้ศึกษาดว้ ยตนเองและฝึกปฏิบตั ิกจิ กรรมตามลำดบั 1. จัดการเรียนรูต้ ามรายวิชา ระดบั ชั้นท่ีกำหนดในตารางสอนปกติ 2. ร่วมวิเคราะห์แผนการจดั การเรยี นรูว้ ิชาภาษาอังกฤษของตนเอง หรือในกรณีที่ ครูไม่ได้จดั เตรียมแผนการจดั การเรียนรู้ไว้ ให้ใช้เค้าโครงการสอนท่ีบันทกึ ไว้ได้ตาม ความเหมาะสม 3. ศกึ ษารายละเอยี ด คำชแี้ จงการใช้งานค่มู อื การนเิ ทศเพอื่ สง่ เสรมิ ความสามารถ การจัดการเรียนรู้เชิงรกุ และวางแผนศกึ ษาค้นคว้าดว้ ยตนเอง ระยะเวลา 1-2 เดือน (เมษายน-พฤษภาคม) 97
กจิ กรรมการนเิ ทศ วตั ถปุ ระสงค์ เครอ่ื งมอื ทใี่ ชใ้ นการนเิ ทศ 2. ประชมุ นเิ ทศ รว่ มกบั ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา ครู 1. เพ่ือสรา้ งความเขา้ ใจในการนิเทศ 1. เอกสารเกี่ยวกับองค์ความรู้ในการจัด ผรู้ บั ผดิ ชอบงานบริหาร วชิ าการ และครผู สู้ อน ให้แกท่ มี นเิ ทศภายในสถานศึกษา กจิ กรรมการเรียนรเู้ ชิงรุก บทบาทศกึ ษานเิ ทศก์ 2. เพอ่ื สรา้ งความเข้าใจระหวา่ งผู้ 2. วดี โี อแนวทางการนเิ ทศผา่ น บทบาทครผู สู้ อน นิเทศกับผูร้ บั การนเิ ทศในแนวทางการ กระบวนการชมุ ชนแห่งการเรียนรูท้ าง 3. การนเิ ทศโดยการ นิเทศเพอ่ื สง่ เสริมความสามารถในการ วิชาชีพ สงั เกตชนั้ เรยี น (Lesson Study) จัดการเรียนรู้เชงิ รกุ 3. คมู่ อื การนิเทศเพื่อสง่ เสรมิ ความสามารถในการจัดการเรียนร้เู ชงิ รกุ สำหรับครูผู้สอนภาษาอังกฤษ 1. ดำเนินการประชุม ชแี้ จงแนวทาง ปฏทิ นิ การนิเทศและประเด็นการนเิ ทศ 2. ให้ความรู้เกย่ี วกบั บทบาท หนา้ ท่ีของสมาชกิ ในชมุ ชนแห่งการเรียนรูท้ างวิชาชีพ ไดแ้ ก่ บทบาทของผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา หวั หน้างานบริหารวิชาการและครูผู้สอน ในการร่วมนเิ ทศเพือ่ พฒั นาความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรกุ ของครูผ้สู อน ภาษาอังกฤษ 1. ผูบ้ ริหารสถานศึกษา หวั หนา้ งานบรหิ ารวิชาการและครผู ู้สอนรว่ มกันวางแผน รปู แบบการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชงิ รุก ผ่านการนิเทศด้วยกระบวนการชมุ ชน แห่งการเรยี นรทู้ างวชิ าชพี ดงั นี้ 1.1 จัดกลุ่มครทู ่ีมีลักษณะใกล้เคียงกนั เชน่ สอนวชิ า/กลุม่ สาระเดียวกนั ในระดบั ชนั้ เดียวกัน สอนวชิ า/กลุ่มสาระเดียวกันในช่วงชน้ั เดยี วกนั หรือตาม ลักษณะงาน 1.2 จำนวนสมาชิก 6-8 คน (ผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา ศกึ ษานเิ ทศก์ หมนุ เวียนเข้าร่วมทกุ วง PLC) 1.3 ระยะเวลา 2-3 ชว่ั โมง/ต่อสัปดาห์ ตลอดปีการศกึ ษา (ควรระบเุ ป็น ชั่วโมงทช่ี ดั เจน) 1.4 จัดชัว่ โมงอยู่ในภาระการสอนของครู 1.5 การจัด PLC ควรใช้ ICT สนบั สนุนในการเขา้ กลมุ่ ระหวา่ งดำเนนิ การ 2. สรา้ งความเข้าใจกับครูผู้สอนท่านอนื่ ๆ ในโรงเรยี นในการดำเนินการตามแผน รปู แบบการพัฒนาพฒั นาการจัดการเรยี นรูเ้ ชิงรุกผา่ นการนเิ ทศดว้ ยกระบวนการ ชุมชนแหง่ การเรียนรู้ทางวชิ าชีพ 3. ครูผูส้ อนภาษาองั กฤษท่ีเป็นกลมุ่ เป้าหมาย ศึกษาคู่มอื การนเิ ทศเพอ่ื สง่ เสริม ความสามารถการจดั การเรยี นร้เู ชงิ รกุ ตามระยะเวลาทีก่ ำหนด 1. เพอ่ื สังเกตการจัดการเรยี นรูเ้ ชิงรุก 1. แบบสงั เกตชัน้ เรียน ของครผู ูร้ บั การนิเทศ 2. แบบสะท้อนผลการจัดการเรยี นรู้ 2. เพ่อื แลกเปล่ยี นเรียนรู้และสะทอ้ น ผลร่วมกบั ครูผูร้ ับการนเิ ทศและผ้รู ่วม 98
กจิ กรรมการนเิ ทศ วตั ถปุ ระสงค์ เครอ่ื งมอื ทใี่ ชใ้ นการนเิ ทศ นิเทศตามกระบวนการชุมชนแหง่ การ เรยี นร้ทู างวชิ าชพี 3. คู่มอื การนิเทศเพอื่ ส่งเสรมิ ความสามารถในการจัดการเรียนร้เู ชงิ รกุ สำหรบั ครูผู้สอนภาษาอังกฤษ บทบาทศกึ ษานเิ ทศก์ 1. เข้ารว่ มการเปิดชัน้ เรียน (open class) ของครผู ูส้ อน สังเกตการณ์จัดการ บทบาทครผู สู้ อน เรียนรู้ สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ของนักเรยี น และบันทึกข้อสังเกต 2. ประชมุ สะทอ้ นผลหลงั การสังเกตชนั้ เรยี นโดยใช้เทคนิคการพดู คุยสะท้อนผล แบบสุนทรียสนทนา (positive and constructive feedback) มแี นวคำถาม ดงั นี้ - ครูไดม้ ีการเตรียมวางแผนในการจัดการเรยี นรอู้ ย่างไร - ครใู ช้วธิ ีใดในการวิเคราะหผ์ ู้เรียนเป็นรายบคุ คลเพื่อวางแผนการจดั การเรียนรู้ - สิ่งใด เปน็ จดุ เด่นท่ี หรือจุดทีท่ ำไดด้ ที ี่สุดในการจัดการเรียนรขู้ องครูวนั นี้ - ครูคิดว่าการสอนในช่วั โมงท่ีผ่าน บรรลุตามเป้าหมายและวัตถปุ ระสงค์ในแผน ไหม เพราะอะไร - ครูคดิ ว่าในการสอนในชว่ั โมงท่ผี ่านมา มีขน้ั ตอนหรอื กจิ กรรมการเรียนรใู้ ดทถี่ า้ มี โอกาสทำอีกคร้ัง จะปรับเปล่ียนในขัน้ ตอนหรอื กจิ กรรมใดบา้ ง - ถา้ ใหค้ ะแนนความพอใจของตัวเองในการสอนชั่วโมงทีผ่ ่านมา ถ้าเตม็ 10 คะแนน ครูจะให้ก่ีคะแนน เพราะเหตุใด - จะตอ่ ยอดขอ้ เสนอแนะในวันนใ้ี นการจดั การเรียนรคู้ ร้งั หน้าอยา่ งไรบา้ ง เช่น ด้านส่ือ ด้านวธิ กี าร ดา้ นบรรยากาศในชั้นเรียน 2. บนั ทึกสรุปผลจากการนเิ ทศ จำแนกตามประเด็น ดา้ นการจดั การเรียนรู้ ด้าน สอื่ ด้านการใช้ภาษาและด้านบรรยากาศในการจัดการเรยี นรู้ เก็บสถิติ ตวั เลขการ วดั การประเมิน แต่ละรอบ และเปรยี บเทียบผลท่ีเกดิ ข้ึนในแตล่ ะวงรอบ 1. ผ้บู รหิ ารสถานศึกษา หรอื ครูทีเ่ ปน็ Buddy Teacher เปน็ ประธานการประชมุ สะท้อนผลจากการสังเกตชั้นเรียน โดยเรียงลำดับการสะท้อนผล ดงั น้ี - Model Teacher หรอื ครผู ูร้ บั การนิเทศ เปน็ ผสู้ ะท้อนตนเองกอ่ น - Buddy Teacher หรอื ครคู พู่ ัฒนา/ครผู ู้รว่ มนเิ ทศ สะทอ้ นมุมมองเชิงบวก ให้ กำลงั ใจและเสนอแนวทางพัฒนา - ศึกษานิเทศก์ / ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น / อาจารยม์ หาวทิ ยาลยั สะท้อน มมุ มองทไ่ี ดจ้ ากการสังเกตชนั้ เรยี น ใช้คำถามชวนคิด สะทอ้ นแบบสุนทรียสนทนา (positive and constructive feedback และเสนอแนวทางการพัฒนา) - Model Teacher หรือครูผู้รับการนเิ ทศ สรุปผลการสะทอ้ นตนเองและ ขอ้ เสนอแนะจากสมาชิกในวงประชุมกระบวนการชมุ ชนแหง่ การเรยี นรู้ทางวชิ าชีพ 2. ดำเนนิ การตามขนั้ ตอนการนิเทศ ดังนี้ 99
กจิ กรรมการนเิ ทศ วตั ถปุ ระสงค์ เครอื่ งมอื ทใ่ี ชใ้ นการนเิ ทศ 4. กิจกรรมการ 1) การวางแผนบทเรยี น (Plan: Preparation) กำหนดเป้าหมายการ แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ พฒั นาบทเรียนรว่ มกนั จากน้ันกลุ่มเลือกบทเรยี นทส่ี อดคล้องกับเปา้ หมายมา บทบาทศกึ ษานเิ ทศก์ บทบาทครผู สู้ อน วางแผนการสอนร่วมกัน เขียนแผนการจดั การเรยี นการสอน และจัดเตรียมส่อื การ เรยี นการสอน ซง่ึ กลุ่มมกั เลอื กบทเรยี นทท่ี ้าทายหรอื จดั การเรยี นการสอนไดย้ าก 2) ปฏิบัติการจัดการเรยี นรูแ้ ละการสงั เกตช้ันเรียน (See: Teaching & Observation) การดำเนนิ การในระยะนเี้ ปน็ ระยะของนำบทเรียนทีพ่ ฒั นาข้นึ ไป ใชใ้ นชัน้ เรยี นจริง ซง่ึ เป็นการสอนและสงั เกตในช้ันเรยี น โดยกลุ่มนำแผนการ จัดการเรยี นการสอนท่สี ร้างข้นึ ไปสอนในชน้ั เรียนโดยครู 1 คนซ่งึ เปน็ สมาชกิ ใน กลมุ่ ส่วนสมาชิกคนอนื่ ๆ เปน็ ผสู้ งั เกต บนั ทึก และเกบ็ รวบรวมข้อมูลเกยี่ วกบั ผเู้ รยี นและการเรยี นการสอน 3) สะทอ้ นผลหลังการสังเกตช้นั เรียน (Reflect: Discussion & Reflection) การดำเนินงานในระยะนเี้ ป็นระยะหลงั การนำบทเรยี นท่พี ัฒนาขน้ึ ไป ใชใ้ นชน้ั เรยี นจรงิ เปน็ ขน้ั ตอนของการย้อนทวน (recall) ไตรต่ รองสะทอ้ นคดิ (reflect) ตรวจสอบ ปรับปรงุ แกไ้ ข (re-design/ revise) สอนซ้ำ (re-teach) และถอดบทเรียนวา่ กลุ่มได้เกิดการเรยี นรู้ในประเด็นใดบา้ ง 3. ครูผู้รับการนเิ ทศ และครูผรู้ ว่ มนิเทศ บันทึกประเด็นการสะทอ้ นคดิ ลงใน Logbook หรอื นสมดุ บันทกึ หลงั การสอน 1. เพ่อื แลกเปลยี่ นวิธกี าร รปู แบบ 1. แผนการจัดการเรียนรู้ เทคนิค กิจกรรมที่ใช้ในการจดั การ 2. วีดโี อบนั ทกึ การจดั การเรียนรู้ เรียนรู้เชงิ รุกวชิ าภาษาอังกฤษ 3. แบบบนั ทกึ กจิ กรรมการแลกเปลย่ี น 2. เพอื่ ขยายผลและสรา้ งเครอื ข่าย เรียนรู้ การจัดการเรยี นรู้เชิงรกุ ของครูผู้สอน 4. คู่มอื การนเิ ทศเพ่ือส่งเสรมิ ภาษาองั กฤษผา่ นกระบวนการชุมชน ความสามารถในการจัดการเรยี นรูเ้ ชิงรุก แห่งการเรยี นรู้ทางวชิ าชพี สำหรบั ครูผูส้ อนภาษาองั กฤษ 1. วางแผนการจดั ประชุมเวทแี ลกเปล่ยี นเรียนรู้การจดั การเรียนรู้เชงิ รกุ ของ ครูผ้สู อนภาษาองั กฤษ 2. ประชาสมั พนั ธ์การเขา้ ร่วมกจิ กรรมเวทีแลกเปลีย่ นเรียนรู้การจัดการเรยี นรู้ เชงิ รุกของครูผ้สู อนภาษาองั กฤษ 3. ดำเนินกิจกรรมเวทแี ลกเปลยี่ นเรียนรู้การจดั การเรียนรูเ้ ชิงรุกของครผู ู้สอน ภาษาอังกฤษ และสงั เกต รว่ มให้ขอ้ เสนอแนะและบันทกึ ผลการแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ 1. คดั เลือกแผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ผ่านการนิเทศโดยใชก้ ารพฒั นาบทเรียนร่วมกัน (Lesson Study) และนำเสนอเพอ่ื เตรียมการนำเสนอ 2. จัดทำวีดีโอบนั ทึกการจดั การเรยี นรู้ และนำสง่ เพ่อื เตรียมการนำเสนอ 100
กจิ กรรมการนเิ ทศ วตั ถปุ ระสงค์ เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการนเิ ทศ 3. เข้ารว่ มกจิ กรรมเวทีแลกเปลย่ี นเรยี นรู้การจัดการเรียนรเู้ ชงิ รุกของครูผู้สอน ภาษาอังกฤษ และบันทกึ ผลการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 4) การแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ จดั กิจกรรมเวทีแลกเปล่ียนเรยี นรู้การจดั การเรยี นรเู้ ชิงรกุ ของครผู สู้ อนภาษาอังกฤษแบบออนไลนห์ รือ แบบเผชญิ หน้าตามความเหมาสมของสถานการณ์ และรวบรวมผลงานการนำเสนอของครไู ว้เปน็ แหล่งเรียนรู้ สำหรบั ครูผสู้ อนท่านอืน่ ๆ ผ่านระบบออนไลน์ 5) การสรปุ และรายงานผลการนเิ ทศ หลงั จากทด่ี ำเนินการนิเทศ โดยการพฒั นาบทเรียนรว่ มกัน และการสงั เกตช้ันเรยี นที่จัดการเรยี นร้โู ดยใช้ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่พัฒนาร่วมกัน ผู้นิเทศและผูร้ ับการนเิ ทศจะนำผลการพัฒนาท่เี กิดจากการสะทอ้ นผล มา สรุปเปน็ ผลการเปล่ียนแปลงแนวทางการจัดการเรียนการสอน บันทึกเป็นข้อคน้ พบทีเ่ กดิ จากการนิเทศ เพอ่ื เป็น ร่องรอยในการพฒั นาการจัดการเรียนการสอน โดยผนู้ ิเทศจะตอ้ งจดั ทำรายงานผลการนเิ ทศ เพอ่ื แจ้งกลับไปให้โรงเรยี นรบั ทราบผลการพฒั นาโดยเร็ว เพื่อเปน็ ขอ้ มลู ประกอบการพัฒนางานด้านการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน รวมท้ังเสนอรายงานผลการนิเทศ ตอ่ ผบู้ ังคบั บญั ชาระดบั เขตพน้ื ท่ี เพ่อื เปน็ ขอ้ มลู ประกอบการวางแผนเชงิ นโยบายเพ่ือพัฒนางานวิชาการในภาพรวม ของสำนักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาสตูลด้วยและเผยแพรต่ อ่ สาธารณะตามความเหมาะสม เครอื่ งมอื การนเิ ทศ 1. แบบสงั เกตชน้ั เรียน 2. แบบสะท้อนผลการจัดการเรยี นรู้ 3. คู่มอื การนิเทศเพอ่ื พฒั นาความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูผู้สอนภาษาองั กฤษ ตวั ชว้ี ดั ความสำเรจ็ ร้อยละ 100 ของครผู สู้ อนภาษาองั กฤษโรงเรียนกลมุ่ เปา้ หมายได้รับการนิเทศติดตามการจัดการเรียนรู้ เชิงรกุ รอ้ ยละ 100 ของครผู ู้สอนภาษาอังกฤษในโรงเรยี นกลุ่มเปา้ หมาย สามารถจัดการเรยี นเชงิ รุกในวิชา ภาษาองั กฤษได้ 101
แบบสงั เกตชนั้ เรยี น แบบสงั เกตชน้ั เรยี น เพอ่ื การนเิ ทศ ตดิ ตามการพฒั นาคุณภาพการศกึ ษา โดยการใชร้ ปู แบบชมุ ชนแหง่ การเรยี นรู้ ทางวชิ าชพี ในสถานศกึ ษา (PLC) และการศกึ ษาชนั้ เรยี น (Lesson Study) ____________________________________ โรงเรยี น................................................................................ สพป.สตลู วนั ทน่ี เิ ทศ.................................................... 1. ดา้ นการขับเคลอ่ื นชมุ ชนแหง่ การเรยี นรทู้ างวชิ าชพี ประเดน็ พจิ ารณา ม/ี ใช่ ไมม่ /ี ไมใ่ ช่ ขอ้ สงั เกต/รอ่ งรอยหลกั ฐาน 1.มีการกำหนดการแผนการขับเคลื่อนชมุ ชนแหง่ การเรียนรู้ทางวิชาชีพในสถานศกึ ษา 2. มกี ารแต่งตั้งคณะกรรมการขบั เคล่อื นชุมชนแห่ง การเรยี นร้ทู างวชิ าชีพในสถานศกึ ษา 3.มกี ารขยายผลหลงั จากการอบรมให้แก่ครทู ุกคน ในสถานศึกษา 4.ดำเนนิ การตามแผนการขบั เคล่อื นชุมชนแห่งการเรียนรทู้ างวชิ าชพี ในสถานศกึ ษา 4.1 การศกึ ษาบทเรียน (Lesson Study) 4.1.1 การจับคูค่ รู Model Teacher และ ครูคู่ Buddy 4.1.2 การปรึกษางาน การเตรยี มแผนการจดั การ เรยี นรู้ 4.1.3 การพัฒนาแผนการจดั การเรียนรูจ้ าก คำแนะนำของครูคู่ Buddy 4.1.4 การรว่ มสังเกตช้นั เรยี นและบนั ทกึ ผล 4.1.5 การสะทอ้ นผลหลงั จากการสงั เกตชนั้ เรยี น 4.2 ชมุ ชนแห่งการเรียนรูท้ างวิชาชีพในสถานศกึ ษา 4.2.1 การมสี ่วนรว่ มจากบุคลากรทกุ คนตาม บทบาทหน้าท่ี เชน่ ผู้บริหารสถานศกึ ษาทำหน้าท่ี เปน้ ผู้อำนวยการแลกเปลยี่ น , ครู Model teacher ทำหนาท่ีขยายความปญั หาหรือประเดน็ แลกเปล่ยี น , ครู Buddy teachers และครูท่าน อนื่ ๆ ร่วมนำเสนอแนวทางแลกเปลยี่ น ฯลฯ 102
ประเดน็ พจิ ารณา ม/ี ใช่ ไมม่ /ี ไมใ่ ช่ ขอ้ สงั เกต/รอ่ งรอยหลกั ฐาน 4.2.1 การสอ่ื สารเชงิ บวกเพอื่ การพัฒนา 4.2.2 การปรับปญั หาเปน็ ขอ้ คำถามปลายเปิดเพอื่ การพัฒนาอยา่ งสรา้ งสรรค์ 4.2.3 การบันทึกร่องรอยหลกั ฐานการแลกเปลีย่ น โดยnote taker 4.2.4 การสรปุ ผลการแลกเปล่ยี นและนำสูก่ าร ปฎบิ ัติ 5. การนเิ ทศกำกับ ตดิ ตาม ประเมนิ ผลระหวา่ งการ ดำเนินการชมุ ชนแหง่ การเรียนรทู้ างวิชาชีพใน สถานศึกษา 5.1 ผู้บริหารสถานศกึ ษาใหค้ ำปรกึ ษาแกค่ รู Model teacher และครูคู่ Buddy ถงึ วธิ ีการ/ แนวคิด/หลักการในการพัฒนาแผนการจัดการ เรียนรู้ 5.2 ครูทา่ นอืน่ ๆ รว่ มให้คำปรึกษาแนะนำถงึ เทคนคิ การสอน/การใช้สอื่ หรือตัวอย่างอ่นื ๆ เพอ่ื การพฒั นาแผนการจดั การเรยี นรู้ 5.3 ผูบ้ ริหารสถานศกึ ษามีการประชุมถอดบทเรยี น การขบั เคลอ่ื นชุมชนแหง่ การเรียนรู้ทางวชิ าชพี ใน สถานศกึ ษาหลังสิ้นสดุ การปฏิบัติระยะสน้ั (AAR) 2. ดา้ นการสะทอ้ นผลจากการปฎบิ ัติ ประเดน็ พจิ ารณา ม/ี ใช่ ไมม่ /ี ไมใ่ ช่ ขอ้ สงั เกต/รอ่ งรอยหลกั ฐาน 1. มกี ารเขยี นจุดม่งุ หมายของการสอน 2. สามารถวิเคราะหว์ ัตถปุ ระสงค์ 3. ล่มุ ลึกในเนอ้ื หาทส่ี อน 4. มวี ิธกี ารสอนทสี่ อดรบั กบั วตั ถุประสงค์ 5. มีการจัดการเรียนรโู้ ดยวิธกี าร Active Learning 6. ผูเ้ รียนได้รบั การพัฒนาทักษะ ฟงั พดู อ่าน เขยี น 7. มีบรรยากาศทเ่ี อื้อตอ่ การเรียนรูใ้ นช้ันเรียน 8. ผเู้ รียนสนใจและมสี ว่ นรว่ ม 9. มกี ารวัดและประเมินผล (Pre-Post) 103
ขอ้ คำถาม : ในการขับเคลือ่ นชมุ ชนแหง่ การเรยี นร้ทู างวชิ าชีพในสถานศึกษาของทา่ น ท่านมคี วามพงึ พอใจสงิ่ ใด มากทส่ี ดุ เพราะเหตุใด .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อคำถาม : ในการขบั เคลอ่ื นชมุ ชนแห่งการเรียนรู้ทางวชิ าชีพในสถานศึกษาของท่าน ทา่ นประเมนิ ตนเองวา่ มสี ง่ิ ใดที่ตอ้ งการจะพฒั นาใหด้ ยี งิ่ ขนึ้ เพราะเหตใุ ด .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. ขอ้ เสนอแนะจากการนเิ ทศ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 104
แบบสะทอ้ นผลก การนเิ ทศ ติดตามการพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา โดยการใชร้ ปู แบบชมุ ชนแหง่ การเ แบบสรปุ การสะทอ้ นการเรยี นรรู้ ายบคุ คล (Personal ช่อื ครผู ูจ้ ัดการเรยี นร.ู้ ..............................โรงเรียน....................................................กล ช้นั .......... ................วนั ที่..............................เวลา...........................หน่วยการเรียน บนั ทึก ผ้บู รหิ าร ครภู าษาไทย ครูภาษาองั กฤษ ครูบ การสรปุ ความคิดเหน็ สะทอ้ นการจดั กา ด้าน ความสำเรจ็ /จดุ เดน่ /ความพงึ พอใจต เรยี นรคู้ รง้ั นี้ 1. ผเู้ รยี น 2. ครผู สู้ อน 3. สอ่ื ประกอบการเรยี นรู้ 4. การจดั การเรยี นรขู้ องครผู สู้ อน 5. บรรยากาศในชนั้ เรยี น
การจดั การเรยี นรู้ เรยี นรทู้ างวชิ าชพี ในสถานศกึ ษา (PLC) และการศกึ ษาชน้ั เรยี น (Lesson Study) l Learning Reflection) จากการรว่ มสงั เกตชน้ั เรยี น ลมุ่ สาระการเรยี นรู้......................................................... นรู้.......... ช่อื หนว่ ย.................สื่อ/นวัตกรรม ......................................................... บัดดี้ ผ้เู ชย่ี วชาญสาระ ศกึ ษานเิ ทศก์ ารเรยี นรขู้ องครผู สู้ อน (PLC หลงั สอน) ตอ่ การจดั การ อปุ สรรค/ความลม้ เหลว ขอ้ เสนอแนะ หรอื จดุ ดอ้ ยของการจดั การ เพอ่ื การพฒั นาในการจดั การ เรยี นรคู้ รง้ั น้ี เรยี นรคู้ รงั้ ตอ่ ไป 105
แบบบนั ทกึ การแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ กจิ กรรมเวทกี ารแลกเปลยี่ นเรยี นรกู้ ารจดั การเรยี นรู้เชงิ รกุ ของครผู สู้ อนภาษาองั กฤษ ว/ด/ป ผ้บู นั ทกึ ประเดน็ การแลกเปลย่ี น : วิธีการจัดการเรยี นรู้ :: สอ่ื การจดั การเรียนรู้ :: บรรยากาศการเรยี นรู้ :: อืน่ ๆ โรงเรยี น/ครผู สู้ อน ขอ้ สงั เกต แนวทางการนำไปใช้ โรงเรียน.......................................... โรงเรียน.......................................... โรงเรยี น.......................................... โรงเรยี น.......................................... 106
บรรณานกุ รม กมลวรรณ โดมศรีฟ้า. (2551). การศึกษาการใชกิจกรรมการพดู เพ่อื การสอื่ สารในการพัฒนาความสามารถดาน การพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1. (สารนพิ นธ์ ศลิ ปศาสตรมหาบณั ฑิต) กรงุ เทพมหานคร, มหาวิทยาลัยศรีนครนิ ทรวิโรฒ. สบื ค้นจาก http://thesis.swu.ac.th/swuthesis/Tea_Eng_For_Lan(M.A.)/Kamonwan_D.pdf จารุวรรณ มโนมยั กจิ . (2559). การพฒั นาหลกั สตู รฝกึ อบรมตามแนวคดิ การเรียนรูเ้ ชงิ ประสบการณ์เพอ่ื เสริมสรา้ ง สมรรถภาพดา้ นการจดั การเรียนรู้สำหรบั ครูภาษาอังกฤษ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย. Journal of Humanities and Social Sciences Nakhon Phanom University, 6(3), 115-123. จติ ณรงค์ เอยี่ มสำอางค.์ (2558). Active Learning แนวทางการจัดการเรยี นรู้สำหรับผู้เรยี น ในยุคศตวรรษที่ 21. [ออนไลน]์ , เขา้ ถึงไดจ้ าก: http://chitnarongactivelearning.blogspot.com (2562, 9 มกราคม). เฉลมิ ทองนวล. (2557). เทคนคิ การสอนภาษาอังกฤษเพื่อการส่อื สาร. กรงุ เทพฯ: ไฮเอ็ดพับลิชช่งิ . ณรงค์ กาญจนะ. (2552). เทคนิคและทักษะการสอนเบอ้ื งต้น กรุงเทพฯ : จรลั สนทิ วงศก์ ารพิมพ์. ทศิ นา แขมมณี. (2551). ศาสตรก์ ารสอน องคค์ วามรู้เพอื่ การจดั กระบวนการเรยี นรู้ทม่ี ปี ระสทิ ธิภาพ. พิมพ์ครัง้ ท่ี 7 : กรุงเทพฯ : สำนักพิมพแ์ ห่งจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั . ทศิ นา แขมมณี. (2554). รูปแบบการเรียนการสอน: ทางเลือกท่ีหลากหลาย. พิมพ์คร้ังที่ 7 : กรุงเทพฯ: สำนักพมิ พแ์ หง่ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. ปวีณยั บุญปก. (2554). วธิ สี อนภาษาต่างประเทศแบบ ALM: งานวจิ ัยจากอดตี จนถึงปจั จุบนั Audio Lingual Method : Researched from Past to Present. วารสารภาษาและภาษาศาสตร์, 29(2). 61-80. ปวณี า แยม้ ใส. (2565). การประยกุ ต์ใช้การจัดการเรยี นรแู้ บบกระตือรอื รน้ (Active Learning) ในการเรยี นการ สอนภาษาอังกฤษ The Application of Active Learning in English Teaching. สืบค้นจาก https://so08.tci-thaijo.org/index.php/JMLC/article/view/366 ปารฉิ ัตร โพธ์ิคำ. (2564). การจดั การเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานเรือ่ งสถานการณ์ของโลกในศตวรรษ ท่ี 21 เพ่ือ สง่ เสริมทักษะการคดิ แก้ปญั หาของนกั เรียนโรงเรียนอสั สัมชญั ลำปาง. วารสารวิทยาลยั สงฆ์นครลำปาง, 10(1), 101-113. พรทพิ ย์ วงศ์ไพบลู ย์. (2560). การเรียนรู้เชงิ รกุ และการมีสว่ นร่วมของผู้เรียน (Active Learning). Journal of Yanasangvorn Research Institute Mahamakut Buddhist University, 8(2), 327-336. จ
พระครรชิต อิสสฺ โร. (2017). หลักการและเทคนคิ การเขียนแผนการสอนวชิ าภาษาองั กฤษตามหลกั สูตรแกนกลาง การศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551. วารสารศึกษาศาสตรม์ มร., 5(1), 41-60. เพ็ญนภา ตลบั กลาง และภัทรธ์ ีรา เทียนเพม่ิ พนู . (2019). การพฒั นาผลสัมฤทธ์ิการเรียนรู้คำศพั ท์ภาษาอังกฤษ โดยใชว้ ธิ ีสอนกิจกรรมเปน็ ฐานสำหรบั นกั เรียนชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2 โรงเรียนวัดเขียนเขต จงั หวดั ปทุมธานี. Rajapark Journal, 13(31), 195-208. ภทั ราวดี ยวนช่ืน. (2553). การเปรียบเทยี บความสามารถด้านการฟง การพูดภาษาอังกฤษ และความสนใจใน การเรียนการสอนภาษาอังกฤษของนักเรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปที่ 2 ทไ่ี ดรบั การสอนโดยใชกจิ กรรมการ เรยี นรแู บบศนู ยการเรยี นตามแนวทฤษฎธี รรมชาติกับแนวการสอนแบบเดมิ . (ปริญญานิพนธ์ การศกึ ษามหาบัณฑติ ). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. สืบค้นจาก http://thesis.swu.ac.th/swuthesis/Sec_Ed/Phattarawadee_Y.pdf รังสรรค์ หล้าคำจา. (2564). การบรู ณาการการสอนพูดภาษาองั กฤษโดยใชว้ ธิ ีการเรียนแบบร่วมมอื . The Academic Journal: Faculty of Humanities and Social Sciences Nakhonsawan Rajabhat University, 8(2), 18-29. สถาบนั ภาษาองั กฤษ สำนกั งานการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน. (2558). ค่มู อื การจัดการเรยี นการสอนภาษาอังกฤษแนว ใหม่ ตามกรอบมาตรฐานความสามารถทางภาษาองั กฤษทเี่ ป็นสากล ระดับชน้ั ประถมศึกษา. กรุงเทพฯ: องคก์ ารสงเคราะหท์ หารผ่านศึก. สมหวงั พนั ธะลี และสุธรรม ธรรมทัศนานนท์. (2022). การศึกษาผลการนิเทศการจัดการเรยี นรู้ตามแนวคดิ การ สอนแนะและการเป็นพีเ่ ล้ยี งครสู ำหรับศึกษานเิ ทศก.์ Panyapiwat Journal, 14(1), 308-320. สุคนธ์ สนิ ธพานนท์. (2560). ครูยคุ ใหมก่ บั การจัดการเรียนรูส้ ่กู ารศกึ ษา 4.0. กรงุ เทพฯ: 9119 เทคนคิ พร้ินติ้ง. หนว่ ยศกึ ษานิเทศก์ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน. (2562). แนวทางการนิเทศเพอ่ื พัฒนาและ สง่ เสรมิ การจดั การเรียนร้เู ชงิ รกุ (Active Learning) ตามนโยบายลดเวลาเรยี นเพม่ิ เวลารู้. สืบค้นจาก http://academic.obec.go.th/images/document/1603180137_d_1.pdf หนว่ ยศึกษานิเทศก์ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน. (2562). แนวทางการนเิ ทศบูรณาการโดยใช้ พนื้ ทเ่ี ป็นฐานเพอื่ พัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่การนิเทศภายในโรงเรยี น โดยใช้หอ้ งเรยี นเป็นฐานเพื่อพัฒนา คุณภาพของผู้เรยี น. สืบคน้ จาก http://www.sakonarea1.go.th/news_file/p74701811102.pdf อรณภัทร์ มากทรพั ย์, ศิรประภา พฤทธิกุล, & สกุ ลั ยา สุเฌอ. (2564). ผลการจดั ประสบการณ์ภาษาอังกฤษตาม แนวการสอนภาษาแบบธรรมชาติร่วมกบั เทคนิคการสลับภาษาเพ่ือเสริมสร้างความสามารถด้านการฟัง และการพดู สำหรบั เดก็ วยั อนบุ าล. วารสารศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั บรู พา, 32(2), 60-75. ฉ
อรรชนิดา หวานคง. (2559). การจดั การเรยี นการสอนภาษาอังกฤษในศตวรรษที่ 21. Journal of Yanasangvorn Research Institute Mahamakut Buddhist University, 7(2), 303-314. เอกกมล บญุ ยะผลานันท์. (2014). การเรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน. Journal of Humanities and Social Sciences University of Phayao, 2(2), 3-7. เอกรัตน์ รวยรวย. (2558). เทคนคิ 5 ประการ ของกระบวนการเพื่อเปลย่ี นหอ้ งเรยี นไปส่กู ารจัดการเรียนรูเ้ ชงิ รกุ The Five Component of Facilitator for Change Classroom to Active Learning. การประชุม วิชาการครศุ าสตรอ์ ตุ สาหกรรมระดับชาติ คร้ังที่ 8 The 8th National Conference on Technical Education สืบคน้ จาก https://tdc.thailis.or.th/ tdc/dccheck.php?Int_code=52&RecId= 28257&obj_id=195609&showmenu=no&userid=0 เอกสิทธิ์ ชนินทรภมู .ิ (2559). การศึกษาแนวทางการจัดการเรียนร้ตู ามแนวการสรา้ งความรใู้ หม่.วารสาร ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั ศลิ ปากร, 14(1): 54-59. ช
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118