88 พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ ตารางท่ี ๔.๕ รายชอื่ สมุนไพรทใี่ ช้ในการรักษาร่วมกบั การนวดพนื้ บ้าน (ต่อ) ลำ�ดับ ชื่อพืน้ เมอื ง ช่อื สามัญ ชอ่ื วิทยาศาสตร์ ลักษณะวสิ ยั จำ�นวนท่ีพบใน ตำ�รบั ยา ๑๖๖ หญ้าฮามปา่ ย Blumea balsamifera (L.) DC. ไม้พุ่ม ๑ ๑๖๗ หนาด หนาดใหญ ่ Duhaldea cappa (Buch.-Ham. ex D. Don) ไมพ้ ุม่ ๔ Pruski & Anderb. ๒ ๑๖๘ หนาดค�ำ หนาดค�ำ Pterolobium macropterum Kurz ไม้เถา ๒ Ziziphus oenoplia (L.) Mill. var. oenoplia ไม้เถา ๑ ๑๖๙ หนาดเงนิ Gardenia sootepensis Hutch. ไมต้ ้นขนาดเล็ก ๑ Cordyline fruticosa (L.) A. Chev. ไม้พมุ่ ๑ ๑๗๐ หนามจายแดง แก้วตาไว Elaeocarpus stipularis Blume ไม้ต้น ๑ ๑ ๑๗๑ หนามเลบ็ แมว เลบ็ เหย่ียว Senna tora (L.) Roxb. ๑ Eryngium foetidum L. ไม้พุม่ ขนาดเล็ก ๒ ๑๗๒ หมา่ ไขม่ อก คำ� มอกหลวง Smilax corbularia Kunth ๑ Boesenbergia rotunda (L.) Mansf. ไม้ลม้ ลกุ ๑ ๑๗๓ หมา่ ปู้ หม่าเมีย หมากผหู้ มากเมีย Micromelum minutum (G.Forst.) Wight & Arn. ไม้เถา ๑ Combretum deciduum Collet & Hemsl. ไมล้ ม้ ลกุ ๒ ๑๗๔ หมา่ ม่นุ มะมุ่น Sambucus simpsonii Rehder ไม้ต้น ๑ Wedelia chinensis (Osbeck) Merr. ไม้เถา ๑ ๑๗๕ หมูปล่อย ไมพ้ ่มุ ๓ Berchemia floribunda Wall. Brongn. ไมเ้ ถาล้มลุก ๑๗๖ หลบั มนื น้อย ชุมเหด็ แดง ชุมเหด็ ไทย ๑ ไมเ้ ถา ๑๗๗ หอมป้อมเปอ้ ผักชีฝรั่ง ๑๗๘ หัวเขา้ เย็นเหนอื ข้าวเยน็ เหนือ ๑๗๙ หวั ละแอน (กระชาย) กระชาย ๑๘๐ หสั สะกนึ หัสคณุ ๑๘๑ แหนเครอื แหนเครอื ๑๘๒ อนู บา้ น พวงไขม่ กุ ๑๘๓ ฮ้อมเก่ยี วคำ� เบญจมาศชน้ื ฮอ้ มเกย่ี วทอง ๑๘๔ ฮอ้ สะปายควาย ฮ่อสะพายควาย
๕บทท่ี สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การศึกษาเร่ือง พื้นฐานการนวดพื้นบ้านล้านนา เป็นการศึกษาเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา องค์ความรู้การนวดพ้ืนบ้านล้านนา ตามหลักความเชื่อ กระบวนการรักษาของหมอพื้นบ้านล้านนา รูปแบบ การนวดพ้ืนบ้าน พิธีกรรม และสมุนไพรที่ใช้ร่วมกับการนวด ผู้วิจัยด�ำเนินการศึกษาในกลุ่มหมอนวดพ้ืนบ้าน ท่ีมคี ุณสมบตั ติ ามเกณฑ์ คัดเลอื กหมอนวดพ้นื บ้านได้ จำ� นวน ๑๖ คน ดำ� เนนิ การถอดองคค์ วามรู้จากหมอพื้นบา้ น ทุกคน เก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๖ ถึง กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ โดยสามารถน�ำเสนอข้อมูล ผลการศึกษาที่สำ� คัญได้ ดังนี้ สรุปผลการศึกษา ๑) ความเชอ่ื และวธิ กี ารอธบิ ายรา่ งกายมนษุ ย์ โดยพบวา่ สมฏุ ฐานโรคตามความเชอื่ ของการแพทยพ์ นื้ บา้ น ล้านนามีรากฐานความเชื่อมาจากศาสนาพุทธ เริ่มต้งั แตก่ ารกำ� เนดิ มาเป็นมนุษย์จนกระทงั่ ตาย โดยมนษุ ย์ประกอบ ไปด้วย ๒ ส่วน คือ ๑) ขนั ธท์ ัง้ ๕ ไดแ้ ก่ รปู เวทนา สันญาณ สังขาร วญิ ญาณ และ ๒) ธาตุท้งั ๔ ไดแ้ ก่ ดนิ นำ�้ ลม ไฟ ประกอบเป็นมนุษย์ขึ้นมา เม่ือร่างกายเราแตกดับไปก็จะกลับสู่ธรรมชาติ อวัยวะต่างๆ ของร่างกายหรือ อาการ ๓๒ ประกอบดว้ ย ธาตดุ นิ ธาตนุ ำ้� ธาตลุ ม ธาตไุ ฟ และจะวนิ จิ ฉยั โรคตามธาตุ กาลเวลา ฤดกู าล อายุ ภมู ลิ ำ� เนา และกรรมของคนๆ น้ัน สว่ นวธิ ีการอธบิ ายรา่ งกายมนษุ ย์ พบว่า ร่างกายมนษุ ย์แบง่ เป็น ๔ สว่ น ส่วนที่ ๑ เรียกว่า ปฐม ประกอบ ไปด้วย หู ตา จมูก ล้ิน ฟัน ลิ้นไก่ เส้นประสาทส่วนบน จะเป็นส่วนควบคุมการท�ำงานของอวัยวะทุกส่วนของ รา่ งกาย สว่ นที่ ๒ เรียกวา่ ทุติยะ ส่วนประกอบไปด้วย หัวใจ ตับ ปอด มา้ ม ล�ำไสใ้ หญ่ กระเพาะอาหาร ล�ำไส้น้อย กระเพาะปสั สาวะ ไต ดี มดลกู สว่ นท่ี ๓ เรียกว่า ตะตยิ ะ ประกอบด้วย กระดูกและเสน้ เอน็ ตา่ งๆ สว่ นที่ ๔ เรียกวา่ จตุกะวญิ ญาณ คอื ศนู ยร์ วมของสงิ่ ที่มองไมเ่ ห็น มขี ันธท์ ง้ั ๕ และธาตทุ ั้ง ๔ เปน็ ตัวควบคุม ถ้าทกุ อยา่ งพร่องไปจะ ท�ำใหเ้ รามอี าการเจบ็ ปว่ ยไม่สบายหรอื แตกดับไป ๒) รปู แบบการนวดพนื้ บา้ นลา้ นนา พบวา่ มวี ธิ กี ารและรปู แบบการนวดพน้ื บา้ นทง้ั หมด ๑๘ รปู แบบ ไดแ้ ก่ ๑) การเชด็ /การแหก ๒) การย่�ำขาง ๓) การตอกเส้น ๔) การเอาม่าน (ดดั ดงึ ) ๕) การบบี ๖) การขย�ำ ๗) การนคิ นม่ิ (การคลึง) ๘) การฮดู เส้น (รีดเสน้ ) ๙) การดึง ๑๐) การเหยียบ ๑๑) การทบุ และการสับ ๑๒) การบิดฮา้ ว (การบิด) ๑๓) การเต็ก (การกด) ๑๔ การจก (การลว้ ง) ๑๕) การกวาซา ๑๖) การหย่มิ หรือการหยกิ ๑๗) การเกาะเส้น ๑๘) การแกะเสน้ /การเข่ยี เสน้ นอกจากนน้ั ยังมีรูปแบบท่ใี ชร้ ว่ มกับการรักษา คอื การแชส่ มนุ ไพร และการฝัง (ดิน/ทราย) ซงึ่ เปน็ รูปแบบในการรักษาของหมอพื้นบ้านลา้ นนาร่วมดว้ ยเช่นกัน พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 89
๓) โรค อาการและกระบวนการรกั ษาของหมอนวดพนื้ บา้ นลา้ นนา พบวา่ หมอพนื้ บา้ นลา้ นนาสามารถรกั ษา อาการตา่ งๆ ได้ จำ� นวน ๓๕ อาการ แตใ่ นการศกึ ษานไี้ ดเ้ จาะลกึ เฉพาะโรคทย่ี งั มกี ารรกั ษาอยใู่ นปจั จบุ นั และสามารถ ตดิ ตามผปู้ ว่ ยได้ มที ง้ั หมด ๒๒ อาการ อาทเิ ชน่ ๑) ลมทอ้ งเตน้ ๒) เหนบ็ ชา ๓) อมั พฤกษ์ ๔) อมั พาต ๕) กระดกู ทบั เสน้ ๖) ลมมะเฮง็ คุดออกหวั ออกตา ๗) เอน็ เขา้ แค๊บ ๘) นิว้ ลอ็ ก ศอกล็อก ไหล่ล็อก ๙) ทอ้ งผูก ๑๐) ปวดหลงั ปวดเอว ๑๑) ปวดเหงอื ก ๑๒) เก่ยี ว (ตะคริว) ๑๓) น้ิวขีก่ ัน ๑๔) ขากรรไกรค้าง ๑๕) หดื หอบ ๑๖) ไหล่หลดุ ๑๗) ลมสนั นิบาต เข้าเส้น ๑๘) เอ็นเข้าตะก๋ามบ่อง (เอน็ เขา้ สลกั เพชร) ๑๙) เอ็นเขา้ เปีย้ ง ๒๐) นวดครัวทอ้ งลง (มดลกู ลง มดลูกหย่อน ไส้เลือ่ น) ๒๑) มะโหกก้นปูด (รดิ สีดวงทวาร) และ ๒๒) นกเขาไม่ขนั (กอนลงฟกั /มะเขอื เผา) เปน็ ตน้ นอกนน้ั จะเปน็ อาการปวดเมอื่ ยต่างๆ ๔) พิธกี รรม พบวา่ หมอพืน้ บา้ นส่วนใหญ่มีคาถาใช้รว่ มกับการนวด ทงั้ นีค้ าถาทีห่ มอพน้ื บ้านล้านนาใชม้ ี ความสำ� คัญทงั้ ในดา้ นการรกั ษาผปู้ ว่ ยและดา้ นการป้องกันตวั ของหมอพืน้ บา้ นเปน็ อย่างมาก โดยคาถานั้นมี ๒ สว่ น ได้แก่ คาถาท่ีใช้ประกอบพธิ กี รรมป้องกันตวั หมอพื้นบา้ น และคาถาในพิธกี รรมทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การรักษาโรค ๕) สมนุ ไพรท่ีใช้ร่วมกบั การนวด พบวา่ มจี ำ� นวน ๕๔ ตำ� รบั ประกอบด้วย สมนุ ไพร ๑๘๔ ชนิด โดยตำ� รบั ยาแต่ละต�ำรับท่ีใช้ในการรักษาอาการเดียวกันอาจใช้สมุนไพรทั้งท่ีเหมือนกันและแตกต่างกันออกไปบ้างเล็กน้อย โดยแยกตามการรักษาโรคทย่ี ังมีอย่ใู นปจั จบุ ัน อภปิ รายผล จากการศกึ ษาในครง้ั น้ี ผู้วิจัยและคณะ ไดน้ ำ� ประเดน็ ที่ส�ำคัญจากการศกึ ษามาอภปิ ราย โดยผลการศึกษา จะน�ำไปสู่ขอ้ เสนอแนะ โดยมีรายละเอยี ด ดงั น้ี ๑) ด้านความเช่ือ และกระบวนการนวดพ้ืนบ้านล้านนา ยังคงมีบทบาทและเช่ือมโยงกับชีวิตความเป็น อยู่ของคนในชุมชน โดยใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้านช่วยดูแลรักษาแก้ไขความเจ็บป่วย อันมีสาเหตุที่เก่ียวเนื่องกับระบบ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก ระบบเลือด และระบบลม จากการท�ำไร่ท�ำนาซ่ึงเป็นสังคมเกษตรกรรมมาช้านาน ท�ำให้ความรู้ความเช่ือด้านการเจ็บป่วยได้รับการส่ังสมมีการถ่ายทอดจากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง ผ่านระบบการเรียน รู้เชิงปฏิบัติการ สืบทอดผ่านบรรพบุรุษท่ีมีคุณูปการต่อชุมชนในสังคมชนบท กระบวนการดูแลรักษาเป็นการ ช่วยเหลือและดูแลกันของคนในครอบครัว เพื่อนบ้านตลอดจนถึงการดูแลชุมชนกระทั่งกลายเป็นองค์ความรู้ที่เป็น ทั้งศาสตรแ์ ละศิลปะ ท่มี คี ุณค่าเปน็ ทีย่ อมรบั และมบี ทบาทมากในสงั คมปัจจบุ ัน จนกลายเป็นฮีต (จารตี ) วฒั นธรรม ของท้องถ่ินภาคเหนอื มาจนถึงทกุ วนั น้ี ๒) ด้านรูปแบบการนวด จากการศึกษาในคร้ังนี้มีท้ังหมด ๑๘ รูปแบบ แต่จากการศึกษาของดารณี ออ่ นชมจนั ทรแ์ ละคณะ พบวา่ มเี ทคนคิ การนวดมที งั้ สน้ิ ๒๓ รปู แบบ โดยมกี ารนบั รปู แบบการนวดทม่ี ลี กั ษณะเดยี วกนั เปน็ คนละวธิ ี เช่น “ทบุ ” และ “สบั ” นบั เปน็ ๒ รปู แบบ หรือรปู แบบ การคลี่ คลาย คลึง คล�ำ นบั เป็น ๔ รปู แบบ ซึ่งผู้วิจัยพิจารณาแล้วเห็นว่าน่าจะเป็นรูปแบบหรือเทคนิคการนวดแบบเดียวกัน โดยในการศึกษาคร้ังนี้ผู้วิจัย จะนับเป็นวิธีเดียวกัน เรียกว่า การคลึงเส้น โดยนับเป็นเพียงหนึ่งวิธีเท่าน้ัน ท�ำให้จ�ำนวนรูปแบบในการนวด ตามรายงานการศึกษาของดารณี อ่อนชมจันทร์ มีจ�ำนวนรูปแบบการนวดท่ีแตกต่างกันไปบ้าง นอกจากนั้น การศกึ ษาของกัลยา มหาวนั (๒๕๕๕) พบวา่ กล่มุ ชาติพันธตุ์ ่างๆ บนดอยอ่างขางของจงั หวดั เชียงใหมม่ วี ิธกี ารนวด ทีแ่ ตกตา่ งกันทัง้ ๕ กล่มุ ชาตพิ ันธุ์ โดยมจี �ำนวนรวมทงั้ สิน้ ๒๘ วธิ ี ส่วนใหญ่ใชม้ อื ในการนวดอาการต่างๆ ของผปู้ ่วย ไมม่ ีรปู แบบอน่ื เชน่ การเหยยี บ การบดิ การแช่สมนุ ไพร การฝงั (ดนิ /ทราย) ให้เห็นในรปู แบบการนวดเลย โดยผล การศึกษาครงั้ น้ี พบวา่ โรคหรืออาการต่างๆ ทร่ี ักษาได้ด้วยการนวดท้ัง ๓๕ อาการนนั้ มเี พยี ง ๒๒ อาการที่รกั ษาได้ 90 พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ
ด้วยการนวด และอกี จำ� นวน ๑๓ อาการไมส่ ามารถรักษาด้วยการนวดแบบล้านนา แต่จะรกั ษาดว้ ยวิธีการอน่ื เช่น การเช็ด การแหก หรือการเป่า โดยอาการต่างๆ ท่ีไม่สามารถรักษาได้ด้วยการนวดเหล่าน้ี ส่วนใหญ่จะเป็นอาการ ไม่ทราบสาเหตุ เช่น อาการย�ำปวก, ย�ำข�ำ, ย�ำสะลี, อาการปิ๊ดน้�ำ, ปิ๊ดไฟ, ปิ๊ดภายนอก, ปิ๊ดภายใน, ปิ๊ดลม และ อาการโป่งกินเส้นกินดูก, โป่งปอง, โป่งเย่ียน, โป่งแห้ง เป็นต้น โดยจะพบว่าหมอพื้นบ้านท่ีท�ำการรักษาส่วนใหญ่ จะใชว้ ิธีการรกั ษาดว้ ยคาถาเพอ่ื เปน็ การปัดเปา่ อาการตา่ งๆ ให้ทเุ ลาเบาบางลง และเปน็ การปอ้ งกันอาการเหล่านน้ั ไม่ให้เกดิ ซ้ำ� ร่วมอกี ดว้ ย ๓) ระบบการถ่ายทอดความรู้ พบว่า การนวดพื้นบ้านล้านนาส่วนใหญ่เป็นการฝากตัวเป็นศิษย์กับ หมอพนื้ บา้ น โดยผทู้ ศี่ กึ ษาจะตอ้ งมคี วามเคารพและศรทั ธาครหู มอ ซง่ึ เปน็ ผทู้ ม่ี คี วามรกู้ ารสบื ทอดมาจากบรรพบรุ ษุ โดยส่วนใหญ่ความรู้พื้นฐานมาจากความเช่ือและความศรัทธาในคัมภีร์พระไตรปิฎกยึดหลักความสมดุลของคนกับ ธรรมชาติและสิ่งเหนือธรรมชาติ รวมท้ังความสมดุลและความผิดปกติของธาตุในร่างกายท่ีเป็นสาเหตุของความ เจ็บป่วยโดยเช่ือว่าเกิดจากธาตุและขันธ์ หมอนวดล้านนาต้องเป็นผู้ที่อยู่ในศีลในธรรม ต้ังม่ันในศีล ๕ และหมั่น ฝกึ ฝนวิชาความรตู้ ่างๆ ให้เช่ียวชาญ จงึ จะสามารถใหก้ ารดูแลรักษาผู้ป่วยได้ ดงั นนั้ การนวดพืน้ บ้านลา้ นนาจึงเปน็ ภมู ปิ ญั ญาดงั้ เดมิ ทส่ี มควรไดร้ บั การรวบรวมและจดั เกบ็ ขอ้ มลู องคค์ วามรเู้ พอ่ื การอนรุ กั ษฟ์ น้ื ฟแู ละถา่ ยทอดอยา่ งเปน็ รปู ธรรมใหก้ บั ชนรนุ่ หลงั ต่อไป สามารถนำ� ไปประยกุ ตใ์ ช้ในดแู ลสขุ ภาพของประชาชนได้อยา่ งมอี ัตลักษณแ์ ละเปน็ ท่ี ยอมรบั ของคนในวงการสาธารณสขุ จากการศกึ ษาในครง้ั นที้ ำ� ใหท้ ราบวา่ หมอนวดพน้ื บา้ นลา้ นนา นอกจากมคี วามรู้ ความเข้าใจในบริบทของภูมิปัญญาการนวดพื้นบ้านแบบล้านนา ตั้งแต่ระบบความเช่ือโครงสร้างร่างกายมนุษย์ การวินิจฉัยความเจ็บป่วย รูปแบบและกระบวนการนวดแล้ว ยังต้องมีการเรียนรู้เร่ืองพิธีกรรมคาถาการใช้สมุนไพร ต�ำรับพ้ืนบ้าน ซ่ึงเป็นรูปแบบของกระบวนการนวดพื้นบ้านล้านนา ดังน้ัน ในการสืบทอดความรู้การนวดพ้ืนบ้าน ล้านนานั้น จึงจ�ำเป็นต้องมีการพัฒนาแนวทางในการถ่ายทอดความรู้อย่างเป็นระบบ ปัจจุบันมีสถาบันการศึกษา ท่ีสามารถถ่ายทอดภูมิปัญญาการแพทย์พื้นบ้านล้านนาในระบบการเรียนการสอนแล้ว แต่จากการศึกษาในคร้ังนี้ ผวู้ จิ ยั ไดร้ วบรวมและนำ� ขอ้ มลู จากการระดมความคดิ ของหมอพนื้ บา้ นทใ่ี หจ้ ดั ทำ� เปน็ แผนการเรยี นการสอน เพอ่ื เปน็ แนวทางในการพัฒนาองค์ความรู้การนวดพ้ืนบ้านล้านนาอย่างเป็นระบบ สามารถถ่ายทอดความรู้ด้านนวดพ้ืนบ้าน ล้านนาได้ ข้อเสนอแนะเชงิ นโยบาย ๑. ควรมีการจัดท�ำหลักสูตรการเรียนการสอนการนวดพื้นบ้านล้านนา ให้เป็นวิชาหนึ่งของการเรียน การสอน ในสถาบันการศึกษาท่ีมีการเรียนการสอนแพทย์แผนไทย ทั้งนี้ในการถ่ายทอดความรู้การนวดพื้นบ้าน ลา้ นนา ทางคณะผวู้ จิ ยั ไดพ้ ฒั นาและจดั ทำ� แนวทางการเรยี นการสอน โดยกำ� หนดเปน็ แผนการเรยี นรสู้ ำ� หรบั นกั ศกึ ษา แพทยจดั ทำ� เปน็ วชิ าเลอื ก เพ่อื เป็นแนวทางในการพฒั นาตอ่ ไป ดังน้ี ๑. แผนการเรียนการสอน ช้นั ปีท่ี ๑ ๑) การเรียนรู้วชิ าพืน้ ฐาน เกย่ี วกบั ทฤษฎีการเป็นหมอนวดพื้นบ้านทพี่ ึงประสงค์ ประกอบไปด้วย (๑) คณุ ลักษณะของการเปน็ หมอนวดพน้ื บ้าน (๒) จรรยาบรรณของหมอนวดพื้นบา้ น (๓) คุณธรรมของหมอนวดพ้ืนบ้าน พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 91
๒) ขัน้ ตอนการข้นึ ขนั ต้งั ครู หรอื การมอบตวั เป็นศิษย์ ซง่ึ เป็นข้ันตอนส�ำคัญมาก เป็นขน้ั ตอนการทดสอบ จติ ใจของผเู้ รยี น โดยการตดิ ตามครหู มออยา่ งใกลช้ ดิ และฝกึ ปฏบิ ตั เิ รยี นรวู้ ถิ ชี วี ติ ครหู มอ เรยี นรเู้ ปน็ ผชู้ ว่ ยครหู มอ เชน่ การเก็บยาสมนุ ไพร การประคบ การอบ หรือการนวดผ่อนคลาย ยงั ไมเ่ รียนถงึ เนอื้ หาวชิ าเฉพาะโรค ชน้ั ปีท่ี ๒-๓ ๑) การเรียนรู้ภาคทฤษฎีของการนวดพืน้ บา้ น (๑) เรยี นรู้เรอ่ื งการวนิ จิ ฉยั โรค/วเิ คราะห์/สังเคราะหโ์ รค (๒) เรียนรเู้ ร่ืองระบบโครงสร้างร่างกายตามทฤษฎีของการนวดพน้ื บา้ นล้านนา (๓) เรยี นรู้ระบบกระดกู ตามทฤษฎขี องการนวดพื้นบา้ นลา้ นนา (๔) เรียนรู้ระบบประสาทตามทฤษฎขี องการนวดพนื้ บา้ นลา้ นนา (๕) เรยี นรู้ระบบกลา้ มเนอื้ ตามทฤษฎีของการนวดพ้ืนบ้านล้านนา (๖) เรยี นรรู้ ะบบเลอื ดตามทฤษฎขี องการนวดพื้นบา้ นล้านนา (๗) เรยี นรรู้ ะบบลมตามทฤษฎีของการนวดพนื้ บา้ นล้านนา (๘) เรียนรรู้ ะบบเส้นเอ็นตามทฤษฎีของการนวดพน้ื บ้านลา้ นนา (๙) เรยี นรู้ระบบยอ่ ยอาหารตามทฤษฎขี องการนวดพื้นบ้านลา้ นนา ๒) เรียนรู้เรือ่ งระบบธาต/ุ วเิ คราะหโ์ รคดว้ ยธาตุ ๓) การเรียนร้เู ร่ืองสมุนไพรในกลมุ่ แก้ปวดเมือ่ ย ๔) เรยี นรูเ้ ร่ืองการปรุงยาสมุนไพรแกป้ วดเม่ือย ช้ันปีท่ี ๔ ๑) เรยี นรกู้ ารนวดพ้นื บ้านเพ่ือรกั ษาโรค จ�ำนวน ๒๒ อาการ ๒) เกบ็ ข้อมูลกรณศี ึกษาผปู้ ว่ ยอยา่ งนอ้ ย ๑๕ โรค โรคละ ๑๐ คน ๓) เรียนรกู้ ารรกั ษาโรคและสะสมประสบการณ์ ๒. สนบั สนนุ การจดั ตงั้ สถาบนั การเรยี นการสอนการนวดพน้ื บา้ นลา้ นนา พรอ้ มมใี บรบั รองหรอื ใบประกาศ ท่ีออกจากหนว่ ยงานในกระทรวง ทบวง กรม หรอื หน่วยงานภาครฐั ทีใ่ ห้การรบั รองตามมาตรฐานการเรยี นการสอน อยา่ งเป็นรูปธรรม ๓. ควรมีการประเมินผลการเรียนการสอนหรือการอบรมผู้รับการสืบทอดความรู้ โดยหน่วยงานภาครัฐ ที่เกี่ยวข้อง สามารถออกใบรับรองการนวดพื้นบ้านล้านนาให้กับผู้เรียนหรือผู้รับการอบรมสืบทอดความรู้ การนวดพื้นบ้านล้านนาตามเกณฑ์ ขอ้ เสนอแนะในการวิจัยครงั้ ตอ่ ไป ๑. ควรจดั ให้มกี ารศึกษาวจิ ยั เชงิ ลกึ เก่ียวกบั ตำ� รบั ยาที่ใช้รว่ มกบั การนวดพ้นื บา้ นลา้ นนา เพอ่ื ให้ภมู ปิ ัญญา เหลา่ นเี้ ป็นที่ยอมรบั ในวงกวา้ ง รวมทั้งเปน็ การสืบทอดภมู ิปญั ญาพืน้ บ้านล้านนาใหก้ ับคนรุ่นหลงั เรียนรู้และเกดิ การ อนรุ ักษ์ สืบทอด สามารถใช้ประโยชนจ์ ากสมุนไพรท่มี อี ย่ใู นทอ้ งถิ่นไดอ้ ย่างเหมาะสม ๒. ควรจัดให้มีการศึกษาวิจัยสมุนไพรท่ีใช้ร่วกับการนวด โดยการศึกษาสรรพคุณต่างๆ วิธีใช้ วิธีปรุงยา รวมท้งั แนวทางในการพฒั นาต�ำรับยาสมุนไพรพืน้ บา้ นเพอ่ื ประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจตอ่ ไป ๓. ควรมีการศึกษาและรวบรวมองค์กระบวนการนวดพ้ืนบ้านที่นับว่าเป็นอัตลักษณ์ของการนวด แบบพน้ื บา้ นภาคเหนอื เพอ่ื ใชเ้ ปน็ แนวทางในการพฒั นาและสรา้ งชอ่ื เสยี งใหก้ บั ประเทศไทยตอ่ ไป รวมทงั้ การพฒั นา เป็นหลักสูตรขนั้ พืน้ ฐานใหก้ ับผู้สนใจสามารถนำ� ไปประกอบวิชาชพี ต่อไป 92 พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ
เอกสารอา้ งอิง กัลยา มหาวนั . (๒๕๕๔). การแพทยพ์ ื้นบ้านชาวเขาเผ่าจนี ฮอ่ มเู ซอด�ำ ปะหลอ่ ง และไทยใหญ”่ กรณศี กึ ษา ศูนย์ พัฒนาโครงการหลวงดอยอ่างขาง อ�ำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่. รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เสนอต่อ ส�ำนักงานคณะกรรมการวจิ ัยแหง่ ชาติ. จีรเดช มโนสร้อย, อรัญญา มโนสร้อยและอุดม รุ่งเรืองศรี. (๒๕๕๒). พจนานุกรมสมุนไพรล้านนา. ศูนย์วิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่. ดารณี อ่อนชมจันทร์และคณะ. (๒๕๔๘). การนวดพื้นบ้านไทย. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและ พัสดุภัณฑ.์ เพญ็ นภา ทรพั ยเ์ จรญิ . (๒๕๔๖). การศกึ ษาองคค์ วามรกู้ ารนวดพน้ื บา้ นในภมู ภิ าคตา่ ง ๆ ของประเทศไทย รายงานฉบบั สมบูรณ์ น�ำเสนอต่อ สถาบนั การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสขุ . ไพบูลย์ ด�ำริห์. (๒๕๔๕). การศกึ ษาหมอเสน้ : การนวดพน้ื บ้านอสี าน. รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เสนอต่อสำ� นักงาน คณะกรรมการวฒั นธรรมแห่งชาต.ิ มลู นิธกิ ระจกเงา. (๒๕๕๐). ชนเผา่ ลาหู่ - หมอพ้นื บ้าน. (อนิ เทอรเ์ น็ต). สืบค้นจาก http://www.hilltribe.org/thai/ lahu/lahu-traditional-medicine.php ระพีพันธ์ ศิริสัมพันธ์. (๒๕๕๓). การอนุรักษ์และการพัฒนาการนวดพื้นบ้าน จังหวัดนครพนม. (วิทยานิพนธ์ ศลิ ปศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหาสารคาม). รุจินาถ อรรถสิษฐ. (๒๕๓๕). คุณสมบัติและพฤติกรรมของหมอพื้นบ้านในชุมชน. สาธารณสุขปริทัศน์, ๓(๑). ๓๓-๓๘. รุจินาถ อรรถสิษฐ. (๒๕๓๘). การปรับตัวของการนวดพ้ืนบ้านในสังคมชนบท. (วิทยานิพนธ์ สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑติ , กรุงเทพฯ มหาวิทยาลัยมหดิ ล). วทิ ยา ภูมเิ หล่าแจง้ . (๒๕๕๔). หมอเอน็ : การพฒั นาการใช้ภูมปิ ัญญาพน้ื บ้านตอ่ กระบวนการรักษาระบบกลา้ มเนือ้ ในภาคอีสาน. (วิทยานิพนธป์ รชั ญาดุษฎบี ณั ฑิต, มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม). สุทิศา ปล้ืมปิติวิริยะเวช และเสาวภา พรสิริพงษ์. (๒๕๔๓). การนวดพื้นบ้านอีสานในเชิงกายวิภาคศาสตร์และ สรรี วทิ ยา. นนทบรุ ี : สถาบนั การแพทยแ์ ผนไทย กระทรวงสาธารณสุข. สมบูรณ์ ทพิ ยน์ ้ยุ , พนม สงั ข์สนิ เลิศ, วัลลภ พรหมสงั ฆะหะ, สุพรรณี ยีโชติชว่ ง และประสทิ ธ์ิ รามทิพย์. (๒๕๔๖). การฟื้นฟูภูมิปัญญาและการขยายองค์ความรู้ให้เป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพชุมชนขิงหมอนวดพื้นบ้าน อ�ำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง, รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เสนอต่อ ส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการ สรา้ งเสริมสุขภาพ. สวัสวดี อ๋องสกุล. (๒๕๕๓). ประวัติศาสตร์ล้านนา. พิมพ์คร้ังที่ ๗ ฉบับปรับปรุงและเพิ่มเติม. นนทบุรี : อมรินทรบ์ ุ๊คเซน็ เตอร์. พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 93
ส�ำนักการแพทย์พื้นบ้านไทย. (๒๕๕๔). องค์ความรู้การดูแลอัมพฤกษ์ อัมพาต ของหมอพื้นบ้าน. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชมุ นุมสหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย. สว่ นพฤกษศาสตร์ป่าไม้. (๒๕๔๔). ชอื่ พรรณไมแ้ หง่ ประเทศไทย เต็ม สมิตนิ ันท์ ฉบับแก้ไขเพม่ิ เตมิ พ.ศ. ๒๕๔๔. กรงุ เทพฯ : สำ� นกั วิชาการกรมป่าไม้ กรมป่าไม.้ ผจู้ ัดการออนไลน์ ๖ เมษายน ๒๕๕๔ http://www.manager.co.th/Travel/ อษุ า กล่นิ หอม. (๒๕๕๕). ขิดเสน้ : วิชานวดพ้นื บา้ นอสี าน. กรงุ เทพฯ : อุษาการพมิ พ.์ J.H. Kellogg MD ๑๘๙๕ “The art of massage” (page ๙). Robert Noah Calvert ๒๐๐๒: “The History of Massage” (page ๓๕). Alan Steinfeld ๒๐๐๓: “Careers in Alternative Medicine” By (page ๔๘). Thomas Claire ๒๐๑๐: “Body Work” http://ittm.dtam.moph.go.th/data_articles/ thai_mssg/thaimssg๐๑.htm http://www.soundtransformations.co.uk/therapymain.htm) http://www.google.co.th/imgres?q=Charaka+Samhita http://en.wikipedia.org/wiki/Massage#History) http://www.google.co.th/imgres?q=Dr+Sun+Si+Miao http://www.google.co.th/imgres?q=Commiphora+myrrha) https://www.google.co.th/search?q=Bian+Que&isch=tbm&th=hl https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2485/D/033/1346.PDF http://en.wikipedia.org/wiki/Huangdi_Neijing http://en.wikipedia.org/wiki/File:Akmanthor.jpg Andrienko, N & Andrienko, G (๒๐๐๕) Exploratory Analysis of Spatial and Temporal Data. A Systematic Approach. Springer Tukey, J. W. (๑๙๗๗). Exploratory Data Analysis. Addison-Wesley. ตัวอย่างอักษรล้านนา. (อินเทอรเ์ นต็ ). สบื ค้นจาก http://www.pralanna.com 94 พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ
อภิธานศัพท์ ศัพท์ คำ�อธิบาย กดจดุ การออกแรงกดลงบนกลา้ มเนือ้ หรอื บริเวณทีป่ วด เพ่อื ผ่อนคลายความตึงตวั ของ กลา้ มเนือ้ เสน้ เอน็ กระดง้ เครอ่ื งจกั สานชนิดหนงึ่ ในอดตี เม่ือต�ำข้าวเสร็จจะใชส้ �ำหรบั ตากขา้ ว คดั เลือกข้าว กระดูกทบั เสน้ อาการอ่อนลา้ ชา มอี าการปวดรา้ วเสยี วแปลบ น่งั ก็ปวด นอนกป็ วด (เส้นจม เส้นบิด) เช่น เอ็นเขา้ แค๊บ (สะบกั จม) เอน็ เขา้ ตะกา๋ มปอ่ ง (เอ็่นเข่าสะโพก) กระดูกผุ เชอ่ื ว่ากระดูกทีห่ ักง่าย แตกง่ายมาจากกระดกู ทผ่ี กุ รอ่ น กระดกู พรุน เชอ่ื วา่ กระดูกพรนุ คือกระดกู ท่ีเปน็ รูมาก ๆ จนไมส่ มบูรณ์ทำ� ให้กระดูกหกั แตก ไดง้ า่ ย กระบวนการวินิจฉยั ข้นั ตอน/วิธกี าร ในการตรวจและวเิ คราะหโ์ รค กลว้ ย ผลไมช้ นิดหนงึ่ กวางคำ� สุนัข กัดฟัน การกัดฟัน หรอื ขบฟัน การกอ๊ บขี้ผ้งึ การพอกขี้ผ้งึ การก๊อบยาสมุนไพร การพอกยาสมุนไพร การเกร็ง อาการเกร็งของกลา้ มเนือ้ การแกวง่ ขา้ ว วิธกี ารทำ� นายดว้ ยวธิ ีแกวง่ ข้าว เปน็ อีกหนง่ึ วิธกี ารของการท�ำนาย การขยำ� การขยุม่ เป็นวิธกี ารจบั กลา้ มเนอื้ แลว้ บบี พรอ้ มขยับมือ เป็นการจับบ่อย ๆ เหมอื นกบั การขยำ� เป็นการกระตุ้นกลา้ มเนื้อ ผอ่ นคลายกลา้ มเน้อื วธิ นี ี้จะชว่ ยใหก้ ล้ามเน้ือ ผอ่ นคลายหลังจากการนวดแบบหนกั ๆ มาแลว้ การขยี้เสน้ การนวดโดยการใช้มอื ขยกี้ ล้ามเนื้อและเสน้ เอ็นอยา่ งแรงและรวดเรว็ เพ่ือให้ กล้ามเน้ือและเส้นเอน็ ผ่อนคลาย การเขย่ี เส้น แกะเส้น การเขยี่ เส้น คอื การใช้น้วิ กดพร้อมกับแกะ แคะ หรือเขยี่ เส้นเอ็นทตี่ ึง หรือกลา้ มเน้ือทีเ่ ป็นก้อนอยู่ให้นิ่มลง ลดขนาดของกอ้ นลง ลดความตงึ ลง การจก เป็นวิธกี ารล้วงไปยังสว่ นทม่ี ีช่องวา่ ง เชน่ สะบัก รกั แร้ ข้อเข่า เพื่อท�ำให้เสน้ ทถ่ี ูก กดทับอยฟู่ ูและคลายตวั ลดอาการชา แต่ตอ้ งมคี วามชำ� นาญสูง มฉิ ะนั้น อาจท�ำใหอ้ าการปวด ชาเพมิ่ มากขึน้ การจ๊อบไข่ คือ การน�ำเอาไข่มากลิ้งบรเิ วณท่ีเจ็บปวดเพ่อื ลอ่ โรค พษิ หรอื ส่งิ ท่ีไมด่ ี ออกมากบั ไข่ ท�ำใหอ้ าการเจบ็ ปวดดขี ้ึน พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 95
ศัพท์ คำ�อธบิ าย การแช่ยา คอื การน�ำเอาสมุนไพรมาตม้ ทิ้งไว้ใหอ้ ุ่นแลว้ ใหผ้ ปู้ ว่ ยลงไปนอนแช่น้�ำสมุนไพร การแช่สมุนไพร ความหมายเดยี วกนั กบั การแช่ยา การดัด การดงึ เปน็ การยืดเสน้ เอน็ เพื่อคลายความตึงของเสน้ เอ็น แกป้ วดเม่ือย ตามรา่ งกายจากการทำ� งานหนกั ช่วยผอ่ นคลายกล้ามเน้อื และเส้นเอน็ การทบุ และการสับ การทบุ เปน็ การนวดโดยใช้ก�ำปนั้ หรือสันมือทุบ หรอื เคาะไปตามกลา้ มเนอื้ เพือ่ ท�ำให้กล้ามเนอ้ื ทตี่ ึงผ่อนคลายและทำ� ใหเ้ ลือดหมุนเวียนได้ดขี ้นึ สว่ นใหญ่ จะใช้ร่วมกบั วิธีการนวดอื่น ๆ เป็นการผอ่ นคลายกลา้ มเน้ือ การเตก็ การเตก็ (การกด) เป็นการนวดทใ่ี ช้มอื และศอก ในการออกแรงกดลงไปบริเวณ ทต่ี งึ ปวด ของกล้ามเน้อื ซึ่งการเตก็ เป็นการนวดทีใ่ ช้แรงค่อนขา้ งมาก ถา้ คนป่วย ตวั ใหญต่ ้องใช้ศอกในการเต็ก และการเตก็ ส่วนจะทำ� บรเิ วณทมี่ กี ลา้ มเนื้อหนา ๆ เช่น สะโพก หลัง บ่า ขา เปน็ ตน้ การนอนยา คือ การนอนทับบนยาสมุนไพรแลว้ ก่อไฟด้านล่าง คล้าย ๆ การย่างของคนอีสาน การนิคนน่ิ การนคิ นนิ่ (การคลึง) จะทำ� เพอ่ื การกระตนุ้ กลา้ มเนอื้ ผ่อนคลายกล้ามเนอื้ และ ทำ� ใหก้ ้อนเนื้อที่แขง็ เกรง็ เป็นกอ้ นขนาดเลก็ และใหญ่ ลดการคลายตัวและมีขนาด ลดลง การนิคนิน่ จะให้นวิ้ มอื หรือศอกออกแรงกดแลว้ คอ่ ยหมนุ วนเปน็ วงกลม การบิดฮ้าว การบิดฮา้ ว (การบดิ ) เป็นการดดั ดงึ อีกรปู แบบหนึง่ คล้าย ๆ กับการล่นั ม่าน แต่จะใชห้ ลงั จากการนวดเสร็จแล้ว การดมู อื้ สันวันดี การดฤู กษ์ ดยู าม ดูวัน ทเ่ี ป็นมงคล การบีบม่าน การเอามา่ น การบีบมา่ น หรอื การล่ัน เปน็ ความรกู้ ารนวดพ้นื ล้านลา้ นนาท่ีไดร้ บั อทิ ธพิ ลมาจากประเทศพมา่ ซ่งึ มหี ลกั การคอื การดัด ดงึ เปน็ การยืดเสน้ เอน็ การบบี การบบี เป็นการนวดโดยการจบั กลา้ มเนือ้ ใช้แรงบีบจากน้วิ มอื ท้งั หมดบบี กลา้ มเนอื้ เข้าหากนั บางครั้งใชแ้ รงยกกลา้ มเนื้อด้วย การบีบจะท�ำให้กล้ามเน้อื ผอ่ นคลาย และส่งผลใหเ้ ลอื ดมาเลีย้ งบรเิ วณท่ีปวดไดด้ ีขนึ้ ช่วยลดอาการ กล้ามเน้อื ตึง หด เกรง็ แขง็ ตัว การบชู าสังเวย การแสดงความเคารพนบั ถอื ผ่านเครื่องเซ่นไหว้ การเป่า การเปา่ ลมพรอ้ มกับการบริกรรมคาถา การบ�ำบดั การรักษาใหอ้ าการทผี่ ดิ ปกตบิ รรเทาลงหรอื หายเป็นปกติ การฝงั ดนิ /ทราย การขดุ หลมุ บริเวณดินหรือทรายกไ็ ด้ แล้วน�ำผปู้ ว่ ยไปนอนแลว้ ถมดิน หรอื ทราย เชื่อว่าดินและทรายสามารถดดู พษิ หรือส่ิงทีไ่ มด่ อี อกจากร่างกายได้ 96 พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ
ศพั ท์ คำ�อธบิ าย การพน่ การพน่ นำ�้ มนตล์ งในบริเวณที่ตอ้ งการท่จี ะรักษา การพู่ ความหมายเดยี วกันกบั การพน่ มกั จะเรยี กรวมกันวา่ การพู่การพ่นน้�ำมนต์ การรักษา วิธีการดแู ลเพอื่ ให้ผปู้ ่วยมอี าการดขี นึ้ โดยวิธีการอยา่ งใดอยา่ งหน่งึ การลงผ ี การอนั เชิญผีเข้าประทับร่าง เรยี กวา่ เปน็ การทรงเจา้ เขา้ ผี มี ๒ ชนิด (๑) ประทบั กับรา่ งทรง (๒) สงิ สถติ อยูว่ ัสดุอปุ กรณ์ เชน่ ผยี า่ หม้อน่ึง การลอยเคราะห์ คือ การน�ำเอาเคราะห์ใสส่ ะตวงนำ� ไปลอย (สะตวงทำ� มาจากเปลอื กต้นกลว้ ย ท�ำเปน็ ๔ หรือ ๖ ห้อง) เอาไปลอยนำ�้ หรอื เอาไวต้ ามทางสามแพร่ง เพอ่ื ปลดปล่อยเคราะห์ การส่งเคราะห์ พธิ กี รรมทที่ ำ� ใหก้ บั คนทเี่ คราะหร์ า้ ย ไดร้ บั อบุ ตั เิ หตตุ า่ ง ๆ เชอ่ื วา่ ถา้ สง่ เคราะหแ์ ลว้ จะทำ� ให้พบแตค่ วามสขุ สบายอาการเจ็บปว่ ยกด็ ีข้นึ การสะเดาะเคราะห์ คอื พธิ กี รรมท่ที �ำให้กบั คนท่เี คราะหร์ า้ ย ไดร้ ับอบุ ัติเหตุตา่ ง ๆ เชือ่ วา่ ถ้าสะเดาะ เอาเคราะหอ์ อกจากตัวแลว้ จะทำ� ให้พบแตค่ วามสุขสบายอาการเจ็บป่วย กด็ ีขน้ึ โดยมขี ้นั ตอน (๑) สะเดาะ (๒)ส่งเคราะห์ (๓) ลอยเคราะห์ การเลยี้ งผี การนำ� เอาของกิน ของใชไ้ ปเซ่นไหว้ผี การสง่ ขดึ การสง่ เคราะหเ์ พอ่ื แก้ไขสง่ิ ทท่ี ำ� ผิดจารตี ประเพณี เพื่อใหเ้ กิดความเป็นสิริมงคล กบั ตนเองและรอดพน้ จากส่งิ ชัว่ รา้ ย หรือเปน็ การขอโทษกับเทวดา ภูติ ผี ตา่ ง ๆ การสกั ยา การสักยาสมนุ ไพรลงตามรา่ งกายพร้อมกับคาถา สว่ นใหญจ่ ะทำ� ไวเ้ พ่อื ป้องกัน เช่น ป้องกนั งูกัด หรอื สัตว์อื่น ๆ กัด การสบั การใชส้ นั มือสบั ลงไปบริเวณกลา้ มเนือ้ ตา่ ง ๆ ความหมายคลา้ ยกบั การทุบ แต่การทบุ ใชก้ �ำปน้ั การสืบชะตา การต่ออายุผ้ปู ว่ ย หรอื คนปกติใหม้ คี วามสขุ มีอายยุ นื ยาวได้ การสู่ขวัญ เชอ่ื วา่ คนเรามี ๓๒ ขวญั เมอื่ ไปประสบอุบัตเิ หตุ หรอื โดนผหี ลอก ผที ำ� ฯลฯ ท�ำใหข้ วญั หายขวัญไมอ่ ยู่กบั ตัว จงึ ตอ้ งท�ำพิธีกรรมการส่ขู วญั เพอ่ื ให้ขวญั มาอยู่เหมอื นเดิมแลว้ อาการตา่ ง ๆ จะดขี ึ้น การเหยียบ การเหยยี บเป็นวิธกี ารนวดแบบพ้นื บ้านอยา่ งแทจ้ รงิ การใชเ้ ท้าเหยียบเพือ่ ลด ความปวดเมื่อยอยู่คกู่ ับสังคมไทยทุกยคุ ทุกสมัย เหน็ ต้ังแต่ระดบั ครอบครัว ลูกเหยยี บให้พอ่ แม่ ปยู่ ่า ตา ญาติ และเพ่ือน ๆ การเหยยี บทำ� ให้กล้ามเน้ือท่ีตงึ ผอ่ นคลายและทำ� ใหเ้ ลอื ดหมนุ เวียนไดด้ ีข้ึน การแหก การใช้อุปกรณ์ เชน่ มดี หมอ กระดูกสัตว์ งาสัตว์ เขาสัตว์ กรดี หรอื แหกไปตาม กลา้ มเนอ้ื เพอ่ื ให้พษิ ท่มี ีอยู่แสดงออกมาเป็นทง้ั การวนิ จิ ฉยั โรคและการรักษา ร่วมกนั พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 97
ศพั ท์ คำ�อธิบาย การอาบน้�ำมนต ์ การน�ำเอาน้ำ� จาก ๗ บ่อมารวมกันแลว้ บรกิ รรมถาคาแลว้ น�ำมาราดผปู้ ว่ ย สว่ นใหญจ่ ะใชใ้ นกรณี โดนท�ำไสยศาสตร์ ผเี ข้า ดวงตก ป่วยหนกั เกอื บตาย หรือไดร้ ับอบุ ตั เิ หตหุ นัก ๆ การฮูดเส้น (รดี เส้น) การกดพร้อมกับออกแรงดึงรูดลงมา สว่ นใหญ่จะรดู จากส่วนตน้ ลงสว่ นปลาย ใชใ้ นผู้ปว่ ยที่มีอาการชา เนอื่ งจากการรดี จะท�ำใหเ้ ลอื ดมาเล้ียงสว่ นปลายอวัยวะ ได้ดี การรดี จะใชน้ �ำ้ มันสมุนไพรช่วยเพ่ือลดการเสยี ดสีของผวิ หนงั พร้อมท้ัง น�ำ้ มันสมุนไพรจะช่วยให้กลา้ มเนือ้ ผ่อนคลาย การโฮม การอบยาสมนุ ไพร กนิ ข้าวรำ� นำ้� ลง กินอาหารไดอ้ ร่อย ด่มื น�้ำไดด้ ี กินผิด กนิ อาหารแลว้ เกดิ อาการอาหารเปน็ พิษ เกี่ยว ตะครวิ แกงฮอ่ ม แกงเน้ือชนดิ หน่งึ แกวง่ ข้าว การท�ำนายทายทกั ดว้ ยวิธกี ารแกว่งข้าว หลกั การคลา้ ยผยี ่าหมอ้ น่งึ ขวัญ ส่งิ ทไ่ี มม่ ีตัวตน ซ่งึ ประจำ� ตัวคนมาต้งั แต่เกิดจนตาย มีความเช่ือต่อ ๆ กันมาว่า ขวัญเปน็ ส่ิงทีใ่ ห้คณุ แก่มนษุ ยเ์ รา คนเราทกุ คนมขี วัญจ�ำนวน ๓๒ ขวญั ขวญั เสีย การกระท�ำที่ทำ� ใหเ้ กิดอาการไมส่ บายกาย ไม่สบายใจ ตกใจ หรอื วติ กกังวล เชอ่ื ว่าขวญั เสยี เมื่อขวัญไมค่ รบ ๓๒ ก็ท�ำให้จิตใจไมอ่ ยู่กบั เนื้อกับตัว ขวญั หาย อาการตกใจง่าย ส่วนใหญ่จะเกดิ จากการตกใจมาก ๆ เช่น การเห็นผี เห็นอุบตเิ หตรุ า้ ยแรง จนท�ำให้ตกใจกลัว ขวัญเลยหายไปไมค่ รบ ๓๒ ขวญั อ่อน อาการที่ขกี้ ลวั มาก ๆ ตกใจงา่ ย และสามารถติดต่อกับผีได้ ขอบด้ง ขอบหึง ภาชนะชนดิ หนงึ่ ท่ีสานจากไมไ้ ผ่ หงึ รูปร่างคลา้ ยกระด้งแตพ่ น้ื มรี ู เอาไว้ตากของใหแ้ ห้ง ขนั ต้ัง ขันบูชาคุณครูบาอาจารย์ ขันธท์ ้งั ห้า คอื รูป เวทนา สงั ขาร สัญญา และวญิ ญาณ ชาวลา้ นนาเชื่อวา่ ต้องมีการบูชา ขันธ์ท้งั ๕ เพื่อเปน็ สิรมิ งคลและสง่ ผลต่อการรักษาผปู้ ่วย ขางเขยือ้ อาการหายใจไม่ออก อาการคล้ายกับหืดหอบ ขา่ ง ๑) กระทะ ๒) กลมุ่ โรคชนดิ หนง่ึ ในลา้ นนา เปน็ กลมุ่ โรคทม่ี อี าการคลา้ ยกลมุ่ โรคซาง ขา่ งกระดกู พลัวะ กลมุ่ โรคทีเ่ กดิ จากขา่ งท�ำให้กระดูกเปราะแตกง่าย ขา้ วเหนยี วหมา่ การน�ำขา้ วเหนยี วมาแช่น�ำ้ กอ่ นนำ� ไปนงึ่ 98 พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ
ศัพท์ คำ�อธบิ าย ขดึ ข้อห้ามของคนลา้ นนาในสมัยอดตี มคี วามสำ� คญั อยา่ งยิง่ ในการจดั ระเบยี บ ความสมั พันธข์ องคนในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพนั ธร์ ะหว่างคน กับธรรมชาติและสง่ิ เหนอื ธรรมชาติ ขึดบ้าน การกระทำ� ท่ีเป็นเสนียดจญั ไรทำ� ให้ชมุ ชนได้รบั ผลกระทบด้วย เชน่ การถมสมทุ ร เปน็ การเปลย่ี นทศิ ทางน�้ำเชื่อวา่ เป็นขดึ ใหญ่ท�ำให้ชุมชนเกิดการวบิ ตั ิได้ ขึดเมือง การกระทำ� ผดิ จารีตประเพณี ก่อให้เกิดเสนยี ดจันไรใหก้ บั บา้ นเมอื ง เช่น การกินปลาไหลเผือกในตำ� นานลา้ นนาทเ่ี ชอ่ื วา่ เป็นพญานาคทำ� ใหเ้ มอื งล่มสลาย เป็นต้น โขก การโขกสับ ไข ้ อาการท่มี ีตัวรอ้ น หนา้ แดง ไขข้ น้ึ สงู อาการไขท้ ม่ี คี วามรอ้ นสูงจัด มีอาการหนา้ แดง เพอ้ ไม่รู้สกึ ตัว ไขว๋ผี การแลกผีบรรพบุรษุ จะทำ� ในกรณีการแตง่ งาน ต้องมีการแลกผกี นั เพ่ือให้ ผีบรรพบรุ ุษรูจ้ ักกนั ไข้หลบใน อาการไข้แต่ไม่มคี วามร้อนออกมาตามผิวหนัง หนาวสะท้าน ครัวไฟ/เตาไฟ หอ้ งครัวในอดีตจะมีเตาไฟอยตู่ รงกลางห้องครัวจงึ เรียกว่าครวั ไฟ คา่ ขันตัง้ ค่าบชู าครใู หม้ าช่วยทำ� การรักษาผปู้ ่วยและตวั หมอ จ้ินลาบ ลาบเนื้อ จตุ ิ การตายหรอื การเคลอ่ื น เปลีย่ นสภาพจากก�ำเนิดหนง่ึ ไปเป็นอีกกำ� เนิดหน่ึง จู้ยา การประคบยา เซน่ การนำ� ของไปใหก้ บั ผี ด�ำหัว พิธกี รรมทแี่ สดงถึงความนอบนอ้ ม การเคารพ ระลึกถึงบุญคณุ ตอกเสน้ การนวดโดยใชไ้ ม้เปน็ อปุ กรณใ์ นการตอกบนกล้ามเน้ือ เส้นเอ็น ตงั้ ไข ่ การตรวจโรคโดยการใชไ้ ข่ ถา้ ไขต่ งั้ ขน้ึ บรเิ วณไหนแสดงวา่ มอี าการผดิ ปกตบิ รเิ วณนน้ั ตวั เมอื ง ตวั หนังสอื ลา้ นนา นกเขาไม่ขัน อาการไมแ่ ขง็ ตวั ของอวยั วะเพศชาย ครัวลงทอ้ ง อวัยวะที่อยใู่ นท้องต่ำ� กวา่ สะดอื เช่น มดลกู น้�ำป ู๋ การน�ำเอาปนู ามาต�ำใหล้ ะเอียดนำ� มาเคีย่ วจนเปน็ เนอื้ สดี ำ� คล้ายกะปิ แตม่ ีสีดำ� ทำ� มาจากปูนา พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 99
ศพั ท์ คำ�อธิบาย บา้ นเก๊าผ ี บา้ นบรรพบรุ ุษหลังแรก และมีทอี่ ยู่ของผบี รรพบุรุษ เมอ่ื มีการขยายบ้านออกมา ก็ตอ้ งไปเล้ยี งผเี กา๊ ในทุกปีทีบ่ า้ นหลังแรก ปวดเหงือก อาการปวดระบมที่เหงือกท�ำให้ฟนั มีปัญหา จะไมเ่ รยี กปวดฟนั ปิ๊ด พิษซึ่งมาจากธรรมชาติ และสงิ่ เหนือธรรมชาติ ป๊ดิ นำ�้ ลกั ษณะอาการเกดิ จากหลงั การอาบน้�ำจะมอี าการเจ็บ ปวด บวมตามรา่ งกาย ตัวเย็น ปิ๊ดไฟ ลกั ษณะอาการจะเจ็บปวด ร้อนตามผวิ หนงั ตามเนือ้ ตามตัว (ตามร่างกาย) ปิ๊ดภายนอก ลกั ษณะอาการเจบ็ ป่วยจะมากเวลาจับลบู คลำ� เพยี งเบา ๆ บางครั้งแค่ลมพดั ผ่าน ผิวหนงั ก็จะเกิดอาการเจบ็ ปวดมาก ป๊ิดภายใน ลกั ษณะอาการจะเจบ็ ปวดมากเวลาจบั และกดแรง ๆ หรอื ไดร้ บั การกระทบกระเทอื น ภายใน บางครง้ั น่ังรถท่ีสน่ั สะเทอื นมาก ๆ ก็จะเกดิ อาการเจ็บปวดทันที ปด๊ิ ลม ลักษณะอาการเจ็บปวดเม่อื มลี มพดั ผ่านผวิ หนงั บางครัง้ มอี าการบวมด้วย ปูจ่ าร คนทผี่ ่านการบวชเรยี นแล้วสามารถท�ำพิธีกรรมต่าง ๆ ได้ เช่น ปู่จารสู่ขวญั ปู่จารวัด (มรรคนายก) เป็นต้น ปู่ด�ำย่าด�ำ ผีทส่ี งิ สถิตที่ครวั ไฟ (ห้องครวั ) เป็นดาน อาการแขง็ มาก กดไม่ลงเหมอื นไมก้ ระดาน โปง่ อาการปวด รอ้ น บวม บรเิ วณข้อหรอื บริเวณกระดูก โปง่ กินเสน้ กินดูก อาการจะปวดตามข้อ ตามกระดูกบางครงั้ จะมีอาการบวมร่วมดว้ ย โป่งปอง อาการจะปวด บวม รอ้ น ไม่มแี ผล เดินลากขา โปง่ ยำ� อาการปวด บวม รอ้ น และยา้ ยทไ่ี ด้ตลอดเวลา คลา้ ยตัวจดี๊ โป่งเย่ยี น อาการปวดรอ้ น เปน็ แผลเป็นรเู ลก็ ๆ มีนำ้� เหลอื ง น้�ำหนองไหลออกจากรแู ผล โปง่ แห้ง อาการปวดชา อ่อนแรง กระดูกปูดโปนออกมา แข้งขาลบี เลก็ แห้ง ผวิ หนงั เหย่ี วดำ� ผักดดี ผกั พื้นบ้านภาคเหนอื ชนดิ หน่ึง ผิดผ ี การกระท�ำท่ลี บหลผู่ ี ท�ำใหผ้ ไี ม่พอใจ ทำ� ใหม้ าลงโทษเกิดอาการเจบ็ ปว่ ยไม่สบาย ผ ี สิ่งที่ไม่มตี ัวตน สง่ิ ทมี่ องไมเ่ หน็ ผีขนุ น้ำ� ผที อ่ี าศัยอย่ทู แี่ มน่ �้ำลำ� ธาร ผีเขา ผที อ่ี าศัยอย่ใู นป่าเขา ผีจ�ำ ผที ี่อย่ตู ามหนอง บึง ตา่ ง ๆ ผตี ายโหง คนท่ีตายจากการถูกฆา่ หรอื อบุ ัติเหตุ 100 พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ
ศัพท์ คำ�อธิบาย ผบี รรพบรุ ุษ บรรพบุรุษทเ่ี รานบั ถอื ตอ่ ๆ กันมาตามสายตระกูล ผีบ้าน ผเี รอื น ผที ่ีรกั ษาบ้านเรือน ผีปา่ ผที ่อี ย่ใู นปา่ ผีปูย่ า่ ผีบรรพบรุ ษุ ที่ดูแลคมุ้ ครองลูกหลานให้อยใู่ นจารีต ประเพณี วฒั ธรรม ผโี ปง่ ผที ีอ่ ยู่ตามโปง่ (หนองน้ำ� นงิ่ ๆ ) ผีย่าหม้อนึ่ง ผที อ่ี าศัยอยู่ห้องครัว เช่ือว่าสามารถคุ้มครองดแู ลลกู หลานได้ ผีเส้อื นอ้ ย เปน็ พืชสมุนไพรชนดิ หน่ึง ผีเสอ้ื บ้าน ผที ดี่ แู ลชมุ ชน หมู่บา้ น ผีเส้อื ใหญ ่ เปน็ พืชสมนุ ไพรชนดิ หน่ึง ฝี อาการอกั เสบจนเกิดฝีหนองพพุ องขึ้นมา พงั ผืด เยอื่ เหนียวท่ีเกดิ ข้นึ เม่อื เสน้ หรือเอน็ อยู่ผิดตำ� แหน่ง พอก การน�ำเอายามาพอกทบั ตรงบรเิ วณเจบ็ ป่วย พอ่ เกดิ แมเ่ กิด พ่อแมท่ เ่ี ป็นผี พอ่ แมช่ าตกิ ่อนทไ่ี ด้ตายไปแลว้ หรือพอ่ แมเ่ บอื้ งบนที่สง่ เราใหม้ าเกดิ พอ่ เล้ียง เปน็ การยกย่องหมอเมือง หมอพ้ืนบา้ น ท่ผี ู้ป่วยมารักษาจนหายแล้วจะเรยี กวา่ พ่อเล้ียง เน่อื งจากมลี ูกเลี้ยงทเ่ี ป็นผูป้ ่วยมากมาย และได้มาชว่ ยท�ำงานให้ เช่น ทำ� นา พับสา ต�ำราโบราณท่ีท�ำมาจากกระดาษสา หรือใบลานทจ่ี ารึกภาษาล้านนาไว้ พธิ ีกรรม วิธกี ารหนึ่งท่ีชาวลา้ นนามักจะประกอบขึ้นเพ่ือรว่ มกับการรักษา มดลูกคว่ำ� มดลกู ทอี่ ยูใ่ นตำ� แหน่งผดิ ปกติ มะโหกกน้ ขดุ /มะโหกกน้ ปดู รดิ สดี วงทวาร มะโหกเลือด อาการทีเ่ ปน็ รดิ สดี วงทวารแลว้ มเี ลอื ดออก มะเฮ็งคุด ลมชนิดหนึง่ ท่ที ำ� ให้เกิดอาการเจบ็ ป่วยได้ มีดหมอ มดี ที่หมอใชร้ ่วมกบั การรักษา ไม้ทบุ ไม้ที่ใช้ในการทบุ ยากอ๊ บ ยาสมนุ ไพรทีใ่ ช้พอก ยาครัว ใหไ้ ปดรู ายละเอียดอณุ หก๊ิ ยาน่งั ยาสมุนไพรทใ่ี ช้น่ัง ยามหาเสน่ห ์ ยาทีเ่ พิม่ เสนห่ ์ ลมเข้าเส้น อาการลมทีก่ �ำเรบิ ท�ำให้เจบ็ ปวด ปวดเมอื่ ย เม่ือนวดไปแล้วมักจะเรอออกมา ลมตอ้ งเส้น อาการเจบ็ ปวด แนน่ ทอ้ ง เมอ่ื กดทอ้ งเสน้ เลอื ดใหญท่ บ่ี รเิ วณสะดอื จะเตน้ แรงมาก ๆ ลมในเลือด อาการทล่ี มเข้าไปในเสน้ เลอื ดทำ� ให้เลอื ดไหลเวียนได้ไมม่ ี เลือดจาง เลือดเป็นฟอง พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 101
ศัพท์ คำ�อธบิ าย ลมป ิ อาการหนา้ มดื ตาลาย เวียนศีรษะ ทเี่ กิดจากการหิวขา้ ว หรอื การเป็นลมนนั่ เอง ลมมะเฮง็ คุด อาการปวดศรี ษะข้างเดยี ว อยากอาเจยี น ปวดตาขา้ งเดยี ว หงดุ หงิดง่าย เท้าเยน็ มอื เยน็ ปวดท้ายทอย ลมออกหู หอู อื้ นำ�้ ในหูไม่เทา่ กนั หายใจไม่ค่อยออก ลมสันนบิ าตเขา้ เส้น นำ้� ตาไหล ตามวั ตากระตุก หนังตาตก ตาเหล่ อาการปวดตามเสน้ ตามเอ็น ตามขอ้ ชกั กระตกุ ส่นั เขยา่ แขน ขา อยู่ไม่เปน็ สุขอย่นู ่ิงไมไ่ ด้ พูดไปเรอ่ื ย ชกั เกรง็ กดั ฟัน (คลา้ ยอาการผีเข้า) ลมสนั นบิ าตจ๊ัก คล้ายกับสนั นบิ าตเข้าเสน้ ลมเสียดลนิ้ ป่ี อาการจกุ แนน่ บริเวณใตล้ ิ้นป่ี ลัน่ มา่ น การนวดแบบการดัดดงึ ของประเทศพมา่ ลกู เล้ยี งเอยี้ งคำ� ผปู้ ว่ ยทีม่ ารับการรักษาจากหมอพ้นื บ้าน เลี้ยงผ ี การนำ� เอาสิ่งของไปเซ่นไหว้ ขอโทษผี สาบผดิ การไดก้ ล่นิ หอมมาก ๆ เหม็นมาก ๆ จนท�ำให้มอี าการแพ้ เช่น หาว นำ้� หูน้�ำตาไหล ปากเบ้ียว ปวดศีรษะ เป็นต้น และเปน็ อาการเรือ้ รัง สขู่ วัญ พิธกี รรมท่ที ำ� ให้ขวญั ท้ัง ๓๒ ขวญั มาอย่กู บั เนอื้ กับตวั ทำ� ในกรณตี กใจ ปว่ ย เชอ่ื ว่าขวัญหายไปตอ้ งท�ำพธิ สี ู่ขวญั สิ่งเหนอื ธรรมชาต ิ เทวดา ภตู ิ ผี ต่าง ๆ เสียผ ี เมื่อท�ำการผดิ ผตี อ้ งไปเสยี ผี จะเกิดขนึ้ ในกรณผี ดิ จารตี ประเพณี เช่น การอยกู่ อ่ นแตง่ การทะเลาะกนั ในครอบครัว เสยี องคะ เสียสมดลุ ของรา่ งกาย โครงสร้างบดิ เบี้ยว หรือมกี ารผดิ ปกติทางรา่ งกาย ไสล้ งห�ำหรอื ไส้เล่อื น อาการที่ลำ� ไสเ้ คลื่อนลงมาอยใู่ นถุงห้มุ อันฑะ หา้ ว อาการรบี เร่ง ใจร้อนด่วนได้ บางครง้ั ไมร่ อบคอบ หรือเปน็ อาการแหง้ ตึงของ ผวิ หนังเมือ่ กระทบความเย็นและแตกเป็นขยุ หน้ามืด อาการใกล้จะหมดสติ ตามัวมองไมช่ ดั ใจสั่นหววิ ๆ หมอด ู หมอพน้ื บา้ นท่มี คี วามเชย่ี วชาญในการดโู ชคชะตาราศี หม้อนึง่ หมอ้ ทว่ั ไปทรี่ ปู ทรงคลา้ ยหมอ้ แตป่ ากจะบานออกมาเปน็ อปุ กรณใ์ นการนงึ่ ขา้ วเหนยี ว หมอพนื้ บา้ น ผรู้ ทู้ ่ที ำ� การรักษาโรคในชุมชน เป็นท่พี ึง่ ของชาวบ้านและชมุ ชนเรียกว่า “หมอ” หมอเม่ือ หมอพนื้ บา้ นอกี ประเภทหนึ่งท่ีมคี วามเช่ียวชาญในการดฤู กษ์ ดยู าม เชน่ ฤกษย์ ามท�ำบญุ บ้าน การแตง่ งาน งานบวช ฯลฯ หมอเมือง หมอพ้ืนบ้านในภาคเหนือตอนบน หรือในเขตล้านนาจะเรียกว่า หมอเมอื ง มาจาก “คนเมอื ง” หรอื กลมุ่ คนทีอ่ าศัยอยพู่ น้ื ราบ 102 พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ
ศพั ท์ คำ�อธิบาย หม่าข้าว การแช่ขา้ วเหนยี วเพอ่ื ให้ข้าวสารนิม่ อ่มิ นำ้� การแชต่ ้องแช่ทิ้งไว้ประมาณ ๑ คืน และน�ำไปน่ึงตอนเชา้ ตรู่ของอีกวนั หนึง่ หมิ่นหมอ้ น่งึ เขมา่ สดี ำ� ทต่ี ดิ อยทู่ ก่ี น้ หมอ้ นง่ึ เนอ่ื งจากในอดตี จะนง่ึ ขา้ วดว้ ยฟนื ทำ� ใหก้ น้ หมอ้ นง่ึ ดำ� หวั หมู เครือ่ งเซน่ ไหว้ผี ศรี ษะหมู หายใจพะอืดพะอม อาการหายใจเข้าออกล�ำบาก เกิดการพะอดื พะอมบางครั้งอาเจียนเอาแต่ลม และเสยี งเรอออกมา หายใจไมอ่ อก อาการแนน่ หน้าอก ไมห่ ายใจ หายใจลำ� บาก หึง (ขอบหงึ ) ภาชนะทีม่ ลี กั ษณะเหมือนกระด้ง แต่พ้ืนเป็นรู ใชต้ ากของ หืดหอบ อาการท่หี ายใจล�ำบาก หายใจตดิ ขดั จะมีอาการก�ำเรบิ เม่ือมคี วามชนื้ มาก ๆ เช่น ฝนใกล้ตกหรอื อากาศเย็นในฤดูหนาว เหน็บชา อาการปวดและชาตามปลายมอื ปลายเท้าหรอื อาการเหนบ็ ทเี่ ทา้ ทีม่ อื เหล้าขาว สรุ าขาวหรอื สุราพน้ื บ้าน เหลา้ ไหไกค่ ู่ เครือ่ งเซน่ ไหวผ้ ี มสี ุราขาว ๑ ขวด ไก่ตม้ ๒ ตัว ไหขา้ ว อปุ กรณ์ส�ำหรบั น่ึงขา้ ว ในอดีตท�ำมาจากไม้ อ้วนล�ำปัน๋ สงิ ห์ ร่างกายอ้วนทว้ นสมบรู ณแ์ ขง็ แรงเหมอื นราชสีห์ อมั พฤกษ์ ออ่ นแรง ยกแขนและขาไม่ข้นึ ปากเบยี้ ว ลน้ิ กระดา้ งคางแขง็ พดู ไม่ชัด นำ้� หู น�้ำตาไหลในข้างท่ีอ่อนแรง ชามอื ชาเท้า จติ ใจแปรปรวน อมั พฤกษ์จะเปน็ ส่วนหนง่ึ สว่ นใดของรา่ งกาย อมั พาต อัมพาตทไี่ ม่ใช่อาการที่เกิดจากอบุ ัติเหตุแลว้ เสน้ ประสาทขาด เกดิ จากการเปน็ อมั พฤกษไ์ มไ่ ดร้ บั การรกั ษากจ็ ะกลายเปน็ อมั พาตไมส่ ามารถชว่ ยเหลอื ตนเองไดเ้ ลย สว่ นใหญจ่ ะเป็นครง่ึ ท่อน อุบาทว ์ สงิ่ ท่ีเกดิ โดยปจั จบุ ันทันดว่ น ภยั อันตราย ความทุกขร์ ้อน ภยั ซ่ึงลกุ ลามไปทวั่ เอน็ เข้าแค๊บ เอน็ ข้าวสะบกั หรือสะบกั จม เอ็นเข้าตะกา๋ มบอ่ ง เอน็ เขา้ สะโพก เอน็ เขา้ เปี้ยง เอน็ เขา้ สขี ้าง ฮดี จารีตประเพณี พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 103
ภาคผนวก ก หนงั สอื ยินยอมให้บันทกึ ข้อมลู ภมู ิปัญญาการแพทย์พนื้ บ้านด้านการนวด ทะเบียน เลขท่ี ............................... เขียนท่ี ............................................................................. วันท่ี ........เดอื น.......................................พ.ศ. ................. ช่อื - สกุล....................................................เพศ ( ) ชาย ( ) หญงิ วนั /เดอื น/ปเี กิด........................................................................................................................................................... ทีอ่ ยู่ ............................................................................................................................................................................ ชอ่ื เครือข่าย/ชมุ ชน.................................................................... ท่อี ยเู่ ครือขา่ ย/ชุมชน............................................... การใหค้ �ำยินยอม ในหนังสือยินยอมน้ีข้าพเจ้า/ผู้แทนเครือข่าย ยินยอมให้มีการเปิดเผยองค์ความรู้ด้านการนวดพื้นบ้าน ตำ� รบั ยา วธิ กี ารรกั ษา และหรอื การใชป้ ระโยชนจ์ ากสมนุ ไพรตามเอกสารแนบทา้ ย โดยมอบให้ กรมการแพทยแ์ ผนไทย และการแพทยท์ างเลือก เป็นผมู้ ีสิทธิ์ดำ� เนินการแทนขา้ พเจ้า/เครือข่ายตามชอ่ื ขา้ งบนน้ี ข้าพเจา้ /เครอื ขา่ ยไดร้ ับการ อธิบายและเข้าใจในเร่ืองตอ่ ไปนี้ ๑. การจัดเก็บข้อมูล/การถอดองค์ความรู้เร่ืองการนวดพื้นบ้านในคร้ังน้ี มีเพื่อฟื้นฟูและส่งเสริมการใช้ ภูมิปญั ญาด้านการแพทยพ์ ืน้ บ้านไทย เพอื่ สาธารณประโยชน์ของชุมชน ๒. การจัดเก็บข้อมูล/การถอดองค์ความรู้เรื่องการนวดพ้ืนบ้านในครั้งนี้ ประกอบด้วยองค์ความรู้ด้านการ วินิจฉัย สมุฏฐานของโรค ช่ือโรคและการรักษาโรค ด้วยการนวดแบบพ้ืนบ้าน เพื่อเป็นการส่งผ่านข้อมูล ทีเ่ ป็นสมบัตขิ องข้าพเจา้ /ชมุ ชนให้กับลกู หลานร่นุ ตอ่ ๆ ไป ๓. การด�ำเนินงานในครั้งนี้เป็นการจัดด�ำเนินการเพื่อเป็นการคุ้มครองและรักษาองค์ความรู้ที่เป็นภูมิปัญญา และการใชป้ ระโยชนจ์ ากภูมิปัญญาท้องท้องถ่นิ ใหก้ บั ชมุ ชน ๔. ในกรณีท่ีมีการน�ำเอาภูมิปัญญาที่มีการจัดเก็บในคร้ังนี้ไปใช้ประโยชน์ในทางการค้า ทางกรมการแพทย์ แผนไทยและการแพทยท์ างเลือกจะเปน็ ผู้แทนชุมชนในการเจรจาการแบง่ ปนั ผลประโยชน์ท่ีเกดิ ขึน้ ลงช่อื …………………………………………ผใู้ หข้ อ้ มูล ลงชอ่ื …………………………………………………ผูบ้ ันทกึ ข้อมูล (.........................................................) (...............................................................) ลงช่ือ…………………………………………พยาน ลงช่ือ…………………………………………พยาน (.........................................................) (.........................................................) 104 พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ
ภาคผนวก ข หนงั สือแสดงการยนิ ยอมในการรักษา เขียนที่ ............................................................................. วนั ที่ ........เดือน.......................................พ.ศ. ................. ข้าพเจ้า นาย/นาง/นางสาว...............................................นามสกุล................................................อายุ ............ปี อย่บู า้ นเลขที่ ......................หม.ู่ ............ถนน/ซอย.......................................................แขวง/ตำ� บล........................... เขต/อ�ำเภอ.............................................................จังหวัด...........................................รหัสไปรษณีย์......................... ได้มาพบ นาย/นาง/นางสาว .........................................................................................อายุ......................ปี อยูบ่ า้ นเลขท่ี ......................หมู.่ ............ถนน/ซอย.......................................................แขวง/ต�ำบล........................... เขต/อ�ำเภอ.............................................................จังหวัด...........................................รหัสไปรษณีย์................. ซ่ึงเป็นหมอนวดพื้นบ้าน เพ่ือขอรับความช่วยเหลือในการบ�ำบัดรักษาอาการเจ็บป่วยด้วยความยินยอมและสมัครใจ ตามหน้าท่ีธรรมจรรยาด้วยอาการ............................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ซ่ึงในการขอรับความช่วยเหลือในการบ�ำบัดรักษาอาการเจ็บป่วยน้ี ข้าพเจ้าแจ้งลักษณะอาการเจ็บป่วย หรอื โรคประจำ� ตวั ตามความเปน็ จรงิ และไมป่ ิดบงั หรือในข้อเทจ็ จริงทีไ่ มค่ รบถ้วนหรือเปน็ เท็จ ตลอดจนได้รบั ทราบ ถึงกระบวนการ หรือวิธีการรักษาท่ีเก่ียวข้องท้ังหมดเป็นอย่างดี จึงได้ยินยอมและสมัครใจด้วยตนเองขอรับความ ชว่ ยเหลอื ในการรกั ษาอาการเจ็บปว่ ยในคร้ังน้ี ท้ังนี้ หากการบ�ำบัดรักษาอาการเจ็บป่วยตามหน้าที่ธรรมจรรยาที่ข้าพเจ้าได้ยินยอมและสมัครใจด้วย ตนเอง มีความเสียหายหรือเกิดผลร้ายขึ้น หรืออาจมีหรือเกิดข้ึนในอนาคต ข้าพเจ้าแสดงเจตนาต่อหน้าพยาน เป็นส�ำคัญ ไม่ถือว่าเป็นความผิดหรือความบกพร่องของผู้ท�ำหน้าท่ีตามธรรมจรรยาในการบ�ำบัดรักษาอาการ เจ็บปว่ ยใหข้ า้ พเจา้ จงึ ลงลายมอื ชอ่ื ไวเ้ ปน็ หลกั ฐาน ลงชือ่ …………………………………………ผ้ใู หข้ อ้ มลู ลงชือ่ …………………………………………………ผบู้ ันทกึ ขอ้ มลู (.........................................................) (...............................................................) ลงช่ือ…………………………………………พยาน ลงชอ่ื …………………………………………พยาน (.........................................................) (.........................................................) พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 105
ภาคผนวก ค แบบบนั ทกึ การนวดรกั ษาแบบพ้นื บ้าน สว่ นทกี่ รอกโดยผู้มารบั การรักษา/ญาติทีร่ ่วมเดินทางมาดว้ ย ๑. ผมู้ ารบั การรกั ษา นาย/นาง/นางสาว....................................นามสกลุ .................................เพศ ( ) หญงิ ( ) ชาย วัน/เดอื น/ปีเกดิ .................................................................................................................................................. เลขที่บัตรประชาชน ทอี่ ยู่ เลขท.ี่ ..............หมทู่ .ี่ ............บา้ น ........................................................ตำ� บล.................................................. อำ� เภอ.........................................................................จังหวัด.............................................................................. หมายเลขโทรศพั ท์ .............................. หมายเลขโทรศพั ท์ มอื ถอื .................................อาชพี ..................................... ๒. วันท่ีเขา้ มาใช้บรกิ าร วันท.ี่ .......................เดือน..............................................พ.ศ. ............................................. ๓. คา่ เดินทาง ไป- กลับ ในการมาหาหมอ...........................................................................บาท ๔. การช�ำระค่าบริการ ( ) ไมไ่ ด้เสียคา่ บริการ ( ) บรจิ าคเป็นเงนิ .........................บาท ( ) หมอนวดเรยี กเกบ็ จำ� นวน ............................บาท (คา่ คาย/ยกคร.ู .................บาท คา่ ปงคาย...............บาท) ( ) ตอบแทนหมอเป็นสง่ิ ของ คอื ..................................................................................................................... ๕. จำ� นวนญาติทร่ี ่วมเดินทางมาด้วย......................คน ๖. การบริการดา้ นอ่นื ๆ ของครัวเรือนของหมอ ( ) ที่พกั ( ) อาหาร ( ) คา่ เดนิ ทางกลับ ๗. รจู้ กั หมอนวดดว้ ยวิธีการใด ( ) ญาต ิ ( ) สอ่ื สาธารณะ ( ) เพื่อน ๘. ความพึงพอใจในการมาใชบ้ รกิ าร พงึ พอใจในระดบั ( ) มาก ( ) พอใช้ ( ) น้อย ๙. หลงั จากรบั บริการไปแลว้ ( ) จะไปบอกต่อ ( ) จะกลับมารักษาอกี ถ้ากลับมาเปน็ ใหม่ ๑๐. ส่ิงที่ต้องการให้หมอนวดปรับปรุงคือ ............................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ๑๑. มารกั ษาดว้ ยอาการ ............................................................................................................................................ ๑๒. ใชเ้ วลาในการรกั ษา ...................ช่ัวโมง/ .........................วัน ……………………………………………………….. ……………………………………………………….. ( ) ( ) ผมู้ ารับบรกิ าร/ผู้ป่วย ผบู้ ันทกึ ขอ้ มูล/ผฝู้ ึกปฏิบตั ิ หมายเหตุ : ใหแ้ นบสำ�เนาบัตรประชาชนของผู้มารบั บริการ/ผู้ปว่ ย 106 พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ
ภาคผนวก ง รายชอื่ หมอนวดพื้นบา้ นล้านนา นายส�ำราญ มาฟ ู ๖๕ หมู่ ๔ ต�ำบลโรงช้าง อ�ำเภอปา่ แดด จังหวดั เชยี งราย นายวเิ ชียร รกั สทิ ธ ์ิ ๑๙๔ หมู่ ๑๐ ตำ� บลบ้านแซว อ�ำเภอเชียงแสน จงั หวัดเชยี งราย นางจนั ทร์ทา มูลดี ๒๗๖ หมู่ ๘ บ้านศาลา ต�ำบลแมจ่ นั อ�ำเภอแมจ่ ัน จังหวัดเชียงราย นางแสงเดือน เพื่อธงสา ๘๙/๙ ถนนราชโยธา แยกประตเู ชียงใหม่ ต�ำบลเวียง อำ� เภอเมือง จงั หวดั เชยี งราย นายประเดิม สา่ งเสน ๑๒๓ หมู่ ๑๗ บา้ นใหมร่ อ่ งใคร้ ตำ� บลแม่นาวาง อ�ำเภอแมอ่ าย จังหวดั เชยี งใหม่ ๕๐๒๘๐ นายบุญ อปุ นนั ท์ ๗๙/๑ หมู่ ๑๔ ตำ� บลหนองตอง อ�ำเภอหางดง จังหวดั เชยี งใหม่ ๕๐๓๔๐ นายจา่ มขน่ิ กงุ่ นะ ๒๑๘ หมู่ ๕ ตำ� บลม่อนปน่ิ อำ� เภอฝาง จังหวดั เชียงใหม่ ๕๐๑๑๑ นายตามมะ ส่างวิ ๕๔ หมู่ ๕ ตำ� บลโปง่ น�้ำร้อน อ�ำเภอฝาง จังหวัดเชยี งใหม่ ๕๐๑๑๑ นายสมบูรณ์ ปัญญาพทิ ๖๔/๔ หมู่ ๕ บา้ นเบอ ตำ� บลสนั ผกั หวาน อ�ำเภอหางดง จงั หวัดเชียงใหม่ นางสาวจันทร์ฉาย เขตสทิ ธิ์ ๗๕ หมู่ ๖ ต�ำบลสันปเู ลย อ�ำเภอดอยสะเกต็ จังหวดั เชียงใหม่ ๕๐๒๒๐ นางอรณุ วรรณ นวลจันทร์ ๑๑๙/๔ ซอย ๕ ทอ้ งสาย หมู่ ๒ ตำ� บลริมเหนอื อำ� เภอแมร่ มิ จังหวัดเชียงใหม่ นายหมอ่ กวินยัง่ ยนื ๔๓ หมู่ ๗ ถนน กม.๓๑ ดอยอินทนนท์ บ้านขนุ กลาง ต�ำบลบ้านหลวง อำ� เภอจอมทอง จงั หวดั เชยี งใหม่ นางบวั เรยี ม มาทา ๑๒ หมู่ ๘ ตำ� บลนาแก้ว อำ� เภอเกาะคา จังหวดั ล�ำปาง นางบวั ลอย มาวงค์วนั ๗๖/๒ หมู่ ๒ ตำ� บลใหม่พฒั นา อำ� เภอเกาะคา จังหวดั ล�ำปาง นายสมเกียรติ สมควร ๙๑ หมู่ ๒ ต�ำบลโรงช้าง อำ� เภอป่าแดด จงั หวดั เชยี งราย นางถนอม มีแก้ว ๑๓ หมู่ ๕ ตำ� บลโรงช้าง อำ� เภอปา่ แดด จงั หวดั เชยี งราย พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 107
ภาคผนวก จ ภาพกจิ กรรมการดำ�เนนิ งาน การสาธติ การวนิ จิ ฉัยการเจ็บปวดตามร่างกาย การนวดสาธติ แสดงการรกั ษาโรค โดยการตั้งไข่ ด้วยการนวดแบบต่างๆ การถอดองคค์ วามรู้เก่ยี วกับสมุนไพรและตำ�รับยาทใี่ ชเ้ ก่ียวกบั การนวดพืน้ บา้ น 108 พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ
ภาคผนวก ฉ มาตรฐานการนวดแบบพน้ื บา้ น จากการประชุมหมอนวดพื้นบ้าน ๔ ภาค โดยเฉพาะการประชุมหมอนวดพ้ืนบ้านภาคเหนือได้ก�ำหนด มาตรฐานการนวดแบบพ้ืนบา้ น ประกอบ ๔ ด้านดงั นี้ ๑) ด้านคณุ สมบตั ทิ ่ีดขี องหมอนวดพน้ื บ้าน ๒) ด้านคณุ ลักษณะของสถานทใ่ี ห้บรกิ าร ๓) ดา้ นหลกั เกณฑใ์ นการประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ านของหมอนวดพื้นบ้าน ๔) ด้านการบนั ทึกก่อนและหลังการรักษา มีรายละเอยี ดดังนี้ ๑. คุณสมบตั ิท่ดี ขี องหมอนวดพืน้ บา้ นแบ่งออกเป็น ๒ ดา้ น ดงั น้ี ๑.๑ คุณสมบัตทิ างกายภาพ ๑) แต่งกายสะอาดเรียบรอ้ ย ๒) ดแู ลรกั ษารา่ งกายสะอาด ๓) ไมเ่ ป็นโรคตดิ ต่อรา้ ยแรงหรอื ในระหว่างป่วยห้ามรกั ษา ๔) ถือศลี ๕ อย่างเครง่ ครัด ๕) มีความน่าเชือ่ ถือ ส�ำรวม พูดจาสุภาพ ๑.๒ คณุ สมบตั ิทางจิตวิญาณและจรรยาบรรณ ๑) เปน็ ผู้ท่มี ีพรหมวิหาร ๔ คอื เมตตา กรุณา มทุ ติ า และอุเบกขา ๒) มีความตอ้ งการชว่ ยเหลือผ้อู นื่ ไมเ่ ห็นแกป่ ระโยชนส์ ว่ นตน มีความเสียสละ มีจติ สาธารณะ ๓) อย่ใู นศลี ธรรมอันดี ซอื่ สัตย์ สุจรติ ไม่ลักขโมย ไมผ่ ิดในกามคณุ ๔) มีความศรัทธาในวชิ าชพี ของตนเอง ๕) ไม่หลอกลวง ไม่หวังผลตอบแทน ลาภ ยศ ศรทั ธา ๖) ไม่โอ้อวด ไม่ยกตนขม่ ท่าน ๗) สนใจศึกษาหาความร้ใู หม่ ๆ อยูเ่ สมอ ๘) ไมเ่ ลย้ี งไข้ ถ้าเกินความสามารถของตนเองต้องมีการส่งต่อให้กับหมอท่านอ่นื ทีเ่ กง่ กว่าตนเอง ๙) ไมแ่ บง่ ชั้นวรรณะ รกั ษาทกุ คนอย่างเทา่ เทยี ม ๑๐) ไมด่ ่มื ของมนึ เมาในขณะท�ำการรกั ษา พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 109
๒. สถานบรกิ ารท่ีเหมาะสม สถานท่ีทใ่ี ห้บรกิ ารนวดแบบพนื้ บ้านพบวา่ มี ๒ ลกั ษณะ คอื ๒.๑ การใหบ้ รกิ ารที่บา้ นของหมอนวดพ้ืนบา้ น ๑) ตอ้ งเป็นที่โลง่ แจ้ง อากาศถา่ ยเทได้สะดวก ๒) ในกรณีที่หมอนวดและผู้มารับบริการที่เป็นคนละเพศห้ามนวดในที่ลับตาคน ถ้าจ�ำเป็น ต้องนวดในท่ลี ับตาห้ามอยลู่ ำ� พังสองต่อสอง ควรมบี ุคคลทีส่ ามอยดู่ ว้ ย ๓) สถานท่ตี อ้ งสะอาด ๔) อปุ กรณ์ ไดแ้ ก่ ท่ีนอน หมอน ปลอกหมอน ตอ้ งสะอาด ๒.๒ การให้บริการนอกสถานท่ี ได้แก่ การให้บริการในสถาบันของรัฐ/เอกชน ซึ่งต้องมีมาตรฐาน ตามทีก่ ระทรวงสาธารณสขุ ก�ำหนด ๓. หลกั เกณฑ์ในการประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ านของหมอนวดพนื้ บา้ น ๓.๑ วธิ ีการประเมินการนวดแบบพนื้ บา้ นเพือ่ ใหใ้ บประกอบโรคศิลปะ มรี ายละเอยี ดดังน้ี การทดสอบทักษะการแพทย์พน้ื บา้ น สาขาอาชพี นวดพืน้ บา้ น มีการทดสอบท้งั ภาคทฤษฎีและ ภาคปฏบิ ัติ ดังนี้ ภาคทฤษฎี (การทดสอบความรู้) เป็นการทดสอบความรู้ท่ีน�ำไปใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่าง ถูกต้องตามหลักวิชาการลักษณะข้อสอบเป็นแบบปรนัย ๔ ตัวเลือก จ�ำนวนข้อสอบ ๑๐๐ ข้อ เวลา ๒ ช่ัวโมง คิดเป็นร้อยละ ๒๐ ของคะแนนท้ังหมด ผู้เข้ารับการทดสอบจะต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ ๖๐ จึงจะถือว่า สอบผา่ นภาคความรู้และมสี ิทธสิ อบภาคปฏบิ ตั ิ (ถา้ สอบไมผ่ า่ น จะไม่มสี ทิ ธิสอบภาคปฏิบัต)ิ ภาคปฏิบัติ (การทดสอบทัศนคติ) โดยผู้ทดสอบจะต้องสัมภาษณ์ผู้เข้ารับการทดสอบ ตามท่ีก�ำหนด โดยพจิ ารณาจาก บุคลิกภาพ ความมมี นษุ ยสมั พนั ธ์ มคี ณุ ธรรมจริยธรรม รขู้ อ้ ห้ามและข้อควรระวัง ในการนวด ภาคปฏิบัติ (การทดสอบความสามารถ) เป็นการทดสอบความสามารถซึ่งเกิดจากการสะสม ประสบการณ์จนเกิดความช�ำนาญเพียงพอท่ีจะปฏิบัติงานได้อย่างมีคุณภาพตามข้อก�ำหนดถูกขั้นตอนและ เสร็จตามเวลาท่ีก�ำหนด (ใช้เวลาสอบ ๑ ช่ัวโมง) ลักษณะแบบทดสอบเป็นการทดสอบปฏิบัติโดยให้ผู้เข้ารับ การทดสอบสอบถามประวัติและตรวจร่างกายผู้มารับบริการก่อนท่ีจะนวดซึ่งผู้เข้ารับการทดสอบสามารถ เลือกนวดตามอาการทีป่ รากฏ เอกสารประกอบการสมัครเข้าทดสอบการแพทย์พ้ืนบ้าน(สาขานวดพืน้ บา้ น) (๑) สำ� เนาทะเบียนบ้าน (๒) ส�ำเนาบตั รประชาชน (๓) รูปถา่ ย ๑ นวิ้ จำ� นวน ๒ รปู (๔) ใบรบั รองวฒุ จิ ากสถาบนั การศกึ ษา (๕) ใบรับรองการเรยี นนวดพนื้ บ้าน จ�ำนวน ๑๐๐ ชัว่ โมง (๖) ใบนวดเก็บประสบการณ์งานนวด จำ� นวน ๑๐๐ ราย (๗) คา่ ลงทะเบียนทดสอบ จ�ำนวน ๓๐๐ บาท 110 พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ
๓.๒ เกณฑ์การประเมินการปฏบิ ัตงิ านของหมอนวดพืน้ บา้ น จากการระดมความคิดเห็นเร่ืองการประเมินสถานประกอบการของหมอนวดพื้นบ้าน ที่ประชุม มคี วามเห็นดังนี้ หวั ขอ้ ทีท่ ำ�การประเมนิ คะแนนเตม็ คะแนนที่ได้ หมายเหตุ ๑. ดา้ นสถานทีแ่ ละสงิ่ แวดลอ้ ม ๒๐ ๑.๑ อาคารทใ่ี ชน้ วดสะอาด เรียบรอ้ ย ๑๐ ๑.๒ ที่นอนสำ� หรับนวดและผ้าคลุม สะอาด ๕ ๑.๓ หมอนและปลอกหมอนสะอาด ๕ ๒. ดา้ นหมอนวด ๒๕ ๒.๑ แต่งกายสะอาด เรยี บรอ้ ย ๕ ๒.๒ มขี ั้นตอนในการวินิจฉัยโรคทีถ่ กู ตอ้ ง ๑๐ ไม่กอ่ ให้เกดิ ความเส่ียง ๒.๓ สุภาพ ไมโ่ ออ้ วด ๕ ๒.๔ ไม่ดำ� เนนิ การหรอื ก่อใหเ้ กิดความเสีย่ ง ๕ หรือเปน็ อันตรายต่อผ้มู าใช้บรกิ าร ๓. ด้านอปุ กรณ/์ สมนุ ไพร/คาถา ๒๐ ๓.๑ อปุ กรณ์ท่ีใช้เหมาะสม (สะอาด ปลอดภัย ๕ ตอ่ ผใู้ ช้บริการ) ๓.๒ สมนุ ไพรท่ีใชใ้ นการอบ ประคบมคี วาม ๑๐ เหมาะสม (สะอาด ปลอดภยั ) ๓.๓ พิธีกรรม ๕ ๔. การตดิ ตามประเมินผลการรักษา ๑๕ ๕. การยอมรบั ของชมุ ชน ๒๐ รวมคะแนน ๑๐๐ พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 111
ภาคผนวก ช กฎหมายท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั การนวดพืน้ บา้ น มีกฎหมายหลายฉบับ ท่ผี ู้ประกอบวชิ าชพี การนวดไทยควรทราบ หลกั ๆ ท่ีสำ� คัญ มดี งั น้ี คอื ๑. พระราชบัญญัตวิ ชิ าชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ. ๒๕๕๖ ๒. พระราชบญั ญัติยา พ.ศ. ๒๕๑๐ ๓. พระราชบญั ญตั สิ ถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ๔. พระราชบัญญตั ิสถานพยาบาล (ฉบบั ท่ี ๒ ) พ.ศ. ๒๕๔๗ ๕. มาตรฐานโรงพยาบาลส่งเสริมและสนับสนนุ การแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน (รพ.สส.พท) ๖. ระเบยี บกระทรวงสาธารณสุข ว่าดว้ ยการรับรองหมอพนื้ บา้ น พ.ศ. ๒๕๖๒ ๗. ระเบยี บกระทรวงสาธารณสุข ว่าดว้ ยการรับรองหมอพื้นบ้าน (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ สามารถดาวน์โหลด เพื่อศกึ ษารายละเอยี ดไดจ้ ากลงิ คด์ ้านลา่ ง https://drive.google.com/drive/u/0/folders/193VUo-ojbTXBYT9_BZligV4F4zkrIsLP 112 พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ
พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 113
114 พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ
พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 115
116 พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ
จากองคค์ วามรู้ในตัวหมอพืน้ บ้าน สู่ความร้ทู ีบ่ ันทึกไว้ กระทรวงสาธารณสขุ ๘๘/๒๐ ตำาบลตลาดขวัญ อาำ เภอเมือง จงั หวดั นนทบรุ ี ๑๑๐๐๐
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130