Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานการศึกษาเรื่องพื้นฐานการนวดพื้นบ้านภาคเหนือ

รายงานการศึกษาเรื่องพื้นฐานการนวดพื้นบ้านภาคเหนือ

Description: รายงานการศึกษาเรื่องพื้นฐานการนวดพื้นบ้านภาคเหนือ

Search

Read the Text Version

๑๔. การจก (ล้วง) การจก (ล้วง) เป็นวิธีการล้วงไปยังส่วนที่มีช่องว่าง เช่น สะบัก รักแร้ ข้อเข่า เพื่อท�ำให้เส้นท่ีถูก กดทับอยู่ฟูและคลายตัว และลดอาการชา แต่ต้องมีความช�ำนาญสูง มิฉะน้ันอาจท�ำให้อาการปวด ชาเพ่ิมมากข้ึน (ภาพ ๔.๑๗) ภาพ ๔.๑๗ การจก (ลว้ ง) ๑๕. การแช่สมนุ ไพร การแช่สมุนไพร เป็นอีกหน่ึงรูปแบบผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ส่วนใหญ่จะใช้ร่วมกับการนวด เป็นวิธีการ ฟื้นฟูผู้ป่วย อัมพฤกษ์ อัมพาต ได้ดี ท�ำให้กล้ามเน้ือลดการเกร็งตัว ระบบไหลของเลือดและลมดีข้ึน โดยการ ตม้ สมุนไพรให้ร้อน ๆ ทิ้งให้อุ่น ๆ แลว้ ให้คนไขน้ อนแช่ (ภาพ ๔.๑๘) ภาพ ๔.๑๘ การแช่สมุนไพร 38 พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ

๑๖. การฝงั (ดนิ /ทราย) การฝงั (ดนิ /ทราย) เปน็ อกี หนงึ่ รปู แบบผอ่ นคลายกลา้ มเนอ้ื สว่ นใหญจ่ ะใชร้ ว่ มกบั การนวด เปน็ วธิ กี าร ฟื้นฟูผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต ได้ดี ท�ำให้กล้ามเน้ือลดการเกร็งตัว ระบบไหลเวียนของเลือดและลมดีข้ึน โดยการขุดดินหรือทรายแล้วฝัง เช่ือว่าดินหรือทรายสามารถดูดเอาส่ิงท่ีไม่ดีออกจากร่างกายได้ (ภาพ ๔.๑๙ ที่มา ของภาพ www.oknation.net/blog/print) ภาพ ๔.๑๙ การฝัง (ดิน/ทราย) ๑๗. การกวาซา หรอื การขูดพษิ การกวาซา เป็นการถอนพิษทุกอย่าง ช่วยดูดความร้อนออกจากร่างกาย ในกรณีปวดเมื่อย มีลม ท่ีค่ังค้างอยู่ท�ำให้กล้ามเน้ือแข็งเกร็ง การกวาซาจะท�ำระบายลมกระจายออกมาผ่านรูขุมขน ท�ำให้กล้ามเน้ือท่ีเกร็ง ผอ่ นคลาย เป็นการขยายทอ่ น�ำ้ เหลอื ง ท่อเส้นเลอื ดฝอย และทำ� ใหเ้ ลือดลมไหลเวยี นดขี ึ้น (ภาพ ๔.๒๐) ภาพ ๔.๒๐ การกวาชา (ขดู พษิ ) พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 39

๑๘. การหยมิ่ หรอื การหยกิ การหยิก เป็นการสะกิดตามข้อนิ้วท้ังน้ิวมือ และนิ้วเท้า เพ่ือท�ำให้ลมหรือเลือดที่คั่งค้างท่ีข้อได้ กระจายออกไปเพอ่ื ลดการปวดตามขอ้ ทดสอบการรบั รู้ ความเจ็บปวด และอาการชา (ภาพ ๔.๒๑) ภาพ ๔.๒๑ การหย่มิ หรอื การหยกิ ๑๙. การเกาะเส้น การเกาะเสน้ เปน็ การนวดและงดั เสน้ ออกจากกระดกู โดยออกแรงกดพรอ้ มกบั งดั มาดา้ นผนู้ วด เพอื่ ไม่ ให้ เส้นจม หรือถกู กดทบั และลดอาการปวด (ภาพ ๔.๒๒) ภาพ ๔.๒๒ การเกาะเส้น 40 พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ

๒๐. การแกะเส้น (การเขี่ยเส้น) การแกะเส้น การเขยี่ เส้น เป็นการใช้นิว้ กด พร้อมกับแกะ แคะ หรอื เขย่ี เสน้ เอน็ ท่ีตึง หรือกล้ามเน้ือ ท่เี ปน็ กอ้ นอยใู่ หน้ ่ิมลง ลดขนาดของก้อนลง และลดความตงึ ลง (ภาพ ๔.๒๓) ภาพ ๔.๒๓ แกะเส้น การเข่ียเส้น สว่ นท่ี ๓ การวเิ คราะหโ์ รค อาการและกระบวนการรกั ษาของหมอนวดพนื้ บา้ นลา้ นนา ๓.๑ การวเิ คราะห์โรคและอาการดว้ ยการนวดพื้นบา้ นล้านนา จากการถอดองค์ความรู้ของหมอพื้นบ้านภาคเหนือพบว่ามีโรค/อาการท่ีสามารถรักษาได้ด้วยการนวด จ�ำนวน ๓๕ โรค ดังตารางที่ ๔.๒ การรักษานอกจากจะใช้กระบวนการนวดแล้วยังมีกระบวนการรักษา ในรูปแบบอน่ื ๆ ไดอ้ ีก ได้แก่ การเชด็ การแหก ดดู ขดู ประคบ เป่า ย่�ำขาง กอ๊ บยา ตอกเสน้ นวดน้ำ� มัน โฮมยา แช่ยาสมนุ ไพร ขวากซยุ เป่าเส้น พอกยา นอนยา ฝงั (ดนิ /ทราย) และเผายา เปน็ ตน้ พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 41

ตารางท่ี ๔.๒ โรค อาการและวธิ ีการรักษาตามภมู ิปญั ญาของหมอพน้ื บา้ นภาคเหนอื ลำ�ดบั โรค อาการ การรกั ษา ๑ กระดกู ทบั เสน้ ออ่ นลา้ ชา ปวดร้าวเสียวแปลบ นง่ั ก็ปวด นอนก็ปวด นวด ประคบ ยำ�่ ขาง (เส้นจม เส้นบิด) เชน่ เอน็ เขา้ แคบ เอ็นเขา้ ตะกา๋ ม ตอกเส้น เชด็ แหก ๒ กอนลงฟกั /วัวไม่ชน ไม่มคี วามต้องการทางเพศ อวยั วะเพศชายไมแ่ ขง็ ตัว นวด กินยาสมุนไพร /มะเขอื เผา (นกเขาไม่ขัน) ๓ กางคา้ ง พดู ไมช่ ัด ลิ้นแขง็ ปากเบีย้ ว ขา้ งปากหบุ ไมไ่ ด้ เกดิ จาก นวด ยำ่� ขาง ตอกเสน้ (ขากรรไกรคา้ ง) หาวแล้วค้าง เค้ยี วข้าวแล้วคา้ ง หัวเราะคา้ ง กวาดยา กนิ ยาสมนุ ไพร โฮมยาสมุนไพร ประคบ ๔ เก่ียว (ตะคริว) กลา้ มเน้อื แขง็ เกรง็ เป็นกอ้ นบิด เจ็บ ปวดมาก ชา นวด ย่ำ� ขาง ตอกเส้น กระตุก กนิ ยาสมนุ ไพร โฮมยาสมนุ ไพร ประคบ ๕ ขางขะยอื (หืดหอบ หายใจลำ� บาก หายใจไมส่ ะดวก แน่นหนา้ อก นวด ย�่ำขาง ตอกเสน้ ถงุ ลมโป่งพอง) ปวดทา้ ยทอย แนน่ หลงั ออ่ นเพลีย หนา้ มดื กนิ ยาสมุนไพร หนา้ ซีด มอื เยน็ เทา้ เยน็ และซดี ตาและปากมีสีคล้ำ� โฮมยาสมนุ ไพร ประคบ แช่ยาสมนุ ไพร พอกยา ๖ ครัวทอ้ งลง ปวดท้องน้อยร้าวลงขา ปวดหลัง ปัสสาวะและอุจจาระ นวดกดเส้น นั่งยา (มดลูกลง ลำ� บาก เวลามปี ระจำ� เดอื นจะปวดมาก แนน่ จกุ ใตล้ น้ิ ป่ี ดึงเส้น กินยา มดลูกหยอ่ น สามารถนวดแกอ้ าการปวดประจำ� เดือน แก้ไขภาวะ ไสเ้ ลื่อน) ทีม่ ีบุตรยาก และนวดแกอ้ าการมดลูกต�ำ่ หรอื กรณี ไสเ้ ล่ือนในผู้ชายได้ ๗ ทอ้ งผูก หายใจฝืด พะอดื พะอม แน่นท้อง แนน่ หลัง นวด ยำ�่ ขาง ตอกเส้น ปวดแสบปวดรอ้ น ถา่ ยยาก อจุ จาระเปน็ เมด็ เลก็ ๆ แขง็ กนิ ยาสมุนไพร ๘ นว้ิ ขี่กัน เสน้ ท่ีมือตงึ เรอื้ รัง การคดของกระดกู ปวดตามขอ้ นวด ยำ่� ขาง ตอกเสน้ ทำ� ใหน้ ว้ิ บดิ ไปซ้อนกัน สว่ นใหญจ่ ะเป็นทนี่ ้ิวมอื กินยาสมุนไพร โฮมยาสมนุ ไพร ประคบ ฯลฯ ๙ นิ้วล็อก ข้อศอกล็อก ปวดแขนชาลงนว้ิ มอื นวิ้ มอื งอผดิ รูป มี ๓ กรณ ี นวด ประคบ ยำ่� ขาง หวั ไหลล่ อ็ ก (๑) งอนิว้ ไม่ได้ (๒) เหยยี ดนิว้ ไมไ่ ด้ (๓) นว้ิ ไกปืน ตอกเสน้ แชย่ าสมนุ ไพร ๑๐ ปวดหลงั ปวดเอว ปวดแน่นหลงั ทำ� ให้ทอ้ งตึง ขาตงึ ปวดสะโพก นวด ย่�ำขาง ตอกเส้น จนถึงก้นกบ กนิ ยาสมนุ ไพร นวดนำ�้ มนั แช่ยาสมนุ ไพร ๑๑ ปวดเหงอื ก เจ็บ บวม ที่เหงอื ก ปวดหวั ไหล่ เจบ็ คอ เจบ็ ศรี ษะ นวด ตอกเสน้ เจบ็ คาง ปวดกระบอกตา ปวดออกหู ตา และขมบั กนิ ยาสมนุ ไพร น้�ำหู น้ำ� ตา น้�ำมกู ไหล อมยาสมนุ ไพร ประคบ 42 พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ

ตารางท่ี ๔.๒ โรค อาการและวิธกี ารรกั ษาตามภมู ิปญั ญาของหมอพื้นบ้านภาคเหนอื (ตอ่ ) ลำ�ดับ โรค อาการ การรักษา ๑๒ ปิด๊ นำ้� เกดิ อาการเจบ็ ปวดหลังการอาบนำ�้ มกี ารปวดบวม การเชด็ การแหก เป่า ตามรา่ งกาย ตัวเยน็ ๑๓ ป๊ิดไฟ ๑๔ ปด๊ิ ภายนอก เจ็บปวด รอ้ นตามผวิ หนงั หรือท่วั รา่ งกาย การเช็ด การแหก ๑๕ ปดิ๊ ภายใน เจ็บปวดกล้ามเน้ือมาก เวลาจับลูบคล�ำเพียงเบา ๆ การเช็ด การแหก ดูดขูด บางครงั้ แคล่ มพดั ผา่ นผวิ หนงั กจ็ ะเกดิ อาการเจบ็ ปวดมาก ๑๖ ปิ๊ดลม เจ็บปวดมากเวลาจับและกดแรง ๆ หรือไดร้ ับการ การเช็ด การแหกนวด กระทบกระเทือนภายใน บางครั้งนง่ั รถท่ ี ประคบ ๑๗ โป่ง สน่ั สะเทือนมาก ๆ กจ็ ะเกดิ อาการเจบ็ ปวดทนั ท ี ๑๘ โป่งกนิ เส้น กินดูก เจ็บปวดเม่ือมลี มพดั ผ่านผวิ หนัง การเช็ด การแหก เป่า ๑๙ โป่งปอง บางคร้ังมอี าการบวมด้วย ๒๐ โปง่ เยยี่ น ปวด ร้อน บวม บริเวณข้อหรือกระดูก การเช็ด การแหก ย่ำ� ขาง ดูด เป่า ประคบ ๒๑ โป่งแห้ง ปวดตามข้อบางครัง้ จะมอี าการบวมร่วมดว้ ย การเช็ด การแหก ๒๒ มะโหกก้นปูด (ริดสดี วงทวาร) ปวด บวม และรอ้ น ไมม่ ีแผล เดินลากขา การเชด็ การแหก ยำ่� ขาง กอ๊ บยา ประคบ ๒๓ ยำ� (ย�ำปวก) ปวดรอ้ น เป็นแผลที่มลี กั ษณะเป็นรเู ลก็ ๆ มีน้�ำเหลือง การเช็ด การแหก หรอื น�ำ้ หนองไหลออกจากรแู ผล เป่ากอ๊ บยาเยน็ ๒๔ ยำ� ข�ำ อาการจะปวดชา อ่อนแรง กระดูกปดู โปนออกมา การเช็ด การแหก ย่�ำขาง ๒๕ ยำ� สะลี (ที่นอน) แขนขาลบี เล็กแหง้ ผิวหนงั เหี่ยวด�ำ ๒๖ ลมกระดา้ ง มกี ้อนเนื้อออกจากทวาร ทอ้ งผกู อุจจาระล�ำบาก นวดและทายา กนิ ยา (อมั พาต) เปน็ กอ้ นแขง็ ปวดแสบปวดร้อนรูทวาร มีเลือดออก นง่ั ยา ยาสอด ปวดเอว เจบ็ ทอ้ ง เจ็บปวดเป็นบางครัง้ มีอาการคัน มีการบวมของ การเชด็ การแหก กลา้ มเน้ือ กล้ามเนอื้ แขง็ เป็นกอ้ นตามร่างกาย และ ยำ่� ขาง นวด ประคบ กอ้ นดงั กลา่ วสามารถเคลอื่ นยา้ ยไปในทกุ สว่ นของรา่ งกาย จะปวดอยู่กับที่ เจบ็ และร้อน เมื่อทำ� การเชด็ หรือแหก การเช็ด การแหก จะยา้ ยที่ไป ปวดมากเวลาต่ืนนอนตอนเชา้ จะปวดบริเวณชว่ งเอว การเช็ด การแหก คอตกหมอนก็อยู่ในกล่มุ น้ี ยำ�่ ขาง นวด เปน็ อัมพาตท่ีไม่ใชเ่ กดิ จากอบุ ัตเิ หตุ แตเ่ กิดจากการท่ ี นวด ย่�ำขาง ตอกเส้น เสน้ เคลอื่ นออกจากตำ� แหนง่ ปกติ แลว้ ไมไ่ ดร้ บั การรกั ษา จนกลายเปน็ อัมพาตไมส่ ามารถชว่ ยเหลอื ตนเองได้เลย สว่ นใหญจ่ ะเปน็ คร่งึ ท่อน พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 43

ตารางที่ ๔.๒ โรค อาการและวิธีการรกั ษาตามภูมิปญั ญาของหมอพืน้ บ้านภาคเหนอื (ตอ่ ) ลำ�ดับ โรค อาการ การรกั ษา ๒๗ ลมต๋ายฝาก ออ่ นแรง ยกแขนและขาไมข่ ึ้น ปากเบ้ียว ล้นิ กระดา้ ง นวด ย่ำ� ขาง ตอกเสน้ (อัมพฤกษ์) คางแข็ง พูดไม่ชดั น้ำ� หู นำ�้ ตาไหล ขา้ งในท่อี อ่ นแรง ชามอื ชาเทา้ จิตใจแปรปรวน อมั พฤกษจ์ ะเปน็ คร่ึงซีก ๒๘ ลมต้องเต้น เสน้ เอน็ หน้าท้องตงึ เป็นก้อน เป็นดานแขง็ นวด ยำ่� ขาง มีลมในท้อง เส้นเลอื ดบรเิ วณสะดือเต้นแรงมาก เวลากดบริเวณทอ้ งจะเรอออกมา ๒๙ ลมมะเฮง็ คดุ ออกหัว ปวดศีรษะขา้ งเดยี ว อยากอาเจียน ปวดตาขา้ งเดียว นวด ยาสมุนไพร ออกตา (ไมเกรน) หงุดหงดิ ง่าย เท้าเย็นมอื เยน็ ปวดทา้ ยทอย ลมออกหู แกล้ มไมเกรน หอู อ้ื น้�ำในหไู ม่เทา่ กนั หายใจตดิ ขดั น้ำ� ตาไหล ตามวั ย�่ำขาง เปา่ โฮมยา (อบ) ตากระตุก หนงั ตาตก ตาเหล ่ ก๊อบยา เผายา ๓o ลมสันนิบาตเขา้ เสน้ ปวดตามเสน้ ตามเอน็ ตามขอ้ ชักกระตุก สัน่ เขย่าแขง้ นวด ยำ่� ขาง ตอกเส้น หรอื สะเดาดดี จก๊ ขา แขน ก้ม แหงน เอียงขา้ ง อย่ไู ม่เปน็ สุข อยนู่ ิ่งไม่ได้ กินยาสมนุ ไพร พูดไปเรอ่ื ย ชัก เกรง็ กัดฟนั (คลา้ ยอาการผเี ข้า) โฮมยาสมุนไพร ประคบ แช่ยาสมนุ ไพร พอกยา นอนยา ฝงั ดิน ฝงั ทราย เผายา ๓๑ เหนบ็ ชา ชาบรเิ วณปลายมอื ปลายเทา้ หรอื ชาท่วั บรเิ วณแขน นวด ย่ำ� ขาง ตอกเสน้ และขา ซ่งึ เกิดจากเลือดลมหมุนเวียนไมป่ กต ิ ๓๒ ไหลห่ ลด เกดิ จากการได้รับอุบตั ิเหตุ หรอื การกระทบกระทัง่ เข้าเฝือก ขวกซุย หัวไหลห่ ลด อยา่ งแรง เล่นกีฬาแรง ๆ ยกของหนัก ทำ� ให้ปวดมาก ทาน้ำ� มัน ก๊อบยา กนิ ยา (ไหล่หลุด) รอยต่อหวั กระดกู เคลอ่ื นออกจากกนั กดเสน้ เป่าเสน้ ๓๓ เอน็ เข้าแคบ๊ ปวด เม่ือย ล้า แขนจนถงึ ศีรษะทง้ั สองข้าง นวด ประคบย�ำ่ ขาง (สะบักจม) เวลายกแขนจะปวด หรอื ยกแขนไม่ได้ ตรงท่ปี วด ตอกเสน้ โฮมยา (อบ) จะมีอาการรอ้ นร่วมด้วย บางครัง้ ท�ำให้มไี ข้ กอ๊ บยา นวดน้ำ� มัน ๓๔ เอน็ เขา้ ตะกา๋ มบ่อง ปวดชา ปวดแสบปวดรอ้ นลงหน้าขา ลงแขง้ ปวดเอว นวด ย�่ำขาง ตอกเส้น (เอน็ เขา้ สะโพก) ปวดท้อง ปวดหัวเขา่ ขอ้ พบั หลงั เท้า น่อง น้วิ เท้า กนิ ยาสมนุ ไพร (ปวดชาตงั้ แต่สะโพกถงึ ปลายเทา้ ) โฮมยาสมุนไพร ประคบ แช่ยาสมนุ ไพร พอกยา นอนยา ฝังดนิ ฝงั ทราย เผายา ๓๕ เอน็ เข้าเปยี้ ง (สขี ้าง) เจ็บแปลบเสยี ดแทงสขี า้ ง กม้ ไมไ่ ด้ เงยไม่ได้ ลุกยาก นวด ย่ำ� ขาง ตอกเสน้ นง่ั ยาก เจบ็ ท้องเปน็ กอ้ นแขง็ เกร็ง ปวดทอ้ งรา้ วลงขา กนิ ยาสมุนไพร และสะโพก โฮมยาสมุนไพร ประคบ แช่ยาสมุนไพร พอกยา นอนยา ฝังดนิ ฝงั ทราย เผายา ในการประคบใช้ลูกประคบท่ีเรียกว่า “ยาน่ึง” ซ่ึงเป็นห่อยาขนาดใหญ่ ประกอบด้วยสมุนไพรหลายชนิด หอ่ ดว้ ยผา้ ฝ้าย เมือ่ จะใชน้ ำ� ไปน่งึ กับหวดนง่ึ ขา้ วเหนยี ว แล้วนำ� มาประคบบรเิ วณที่มอี าการ ปวด บวมหรอื ช�้ำ 44 พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ

๓.๒ กระบวนการรักษาของหมอนวดพ้ืนบ้านลา้ นนา จากการถอดองค์ความรู้แบบเจาะลึกพบว่าโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบกล้ามเน้ือ กระดูก เส้น เอ็นและ จดุ ท่ีสำ� คญั บนรา่ งกายมีทั้งสนิ้ ๓๕ โรค/อาการ เป็นโรคทีไ่ มต่ อ้ งใช้วิธีการนวดรักษา จ�ำนวน ๑๓ โรค ส�ำหรับวธิ ีและ ขั้นตอนการนวดรักษามีเทคนิคที่แตกต่างกันไปแล้วแต่ความช�ำนาญของตัวหมอ มีองค์ประกอบ คือ ท่ารักษา เทคนิคการกดเสน้ ยาสมนุ ไพร และพธิ ีกรรม แต่จะขาดไม่ได้คอื จุดเสน้ ส�ำคญั ของแตล่ ะโรค ท่ีหมอนวดทกุ คนต้องใช้ เหมือนกัน ดังน้ันขน้ั ตอนของการรกั ษาโรค/อาการทีร่ กั ษาไดด้ ้วยการนวดมี ๒๒ โรค/อาการ ดังตอ่ ไปนี้ ๑. ช่ือโรค/อาการ กระดกู ทับเส้น อาการ อ่อนล้า ชา ปวดร้าว เสียวแปลบ นง่ั กป็ วด นอนก็ปวด (เส้นจม เส้นบดิ ) เช่น เอ็นเขา้ แคบ๊ (สะบัก จม) เอน็ เขา้ ตะกา๋ มป่อง (เอน็ เข้าสะโพก) วธิ ีการรกั ษา นวด ประคบ ย�่ำขาง ตอกเสน้ เชด็ แหก วิธกี ารนวดและประคบสมุนไพร (ภาพ ๔.๒๔) ภาพ ๔.๒๔ การนวดแกล้ มกระดา้ ง (อมั พาต) ใหผ้ ปู้ ว่ ยนอนในทา่ คว�่ำ หมอนวดกดเสน้ หลงั หมายเลข ๑-๒ จากนน้ั ทายาสมนุ ไพรทขี่ า แลว้ ทำ�การหมนุ เอวกลับไปมาในลกั ษณะวงกลม ดงั ภาพ หมายเลข ๓-๔ พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 45

๒. ชอื่ โรค/อาการ กอนลงฟกั หรอื ววั ไม่ชนหรือมะเขือเผา (นกเขาไม่ขนั ) อาการ ไมม่ คี วามตอ้ งการทางเพศ อวยั วะเพศชายไม่แขง็ ตัว วิธกี ารรกั ษา นวดและใช้ยาสมนุ ไพ (ภาพ ๔.๒๕) ภาพ ๔.๒๕ การนวดรักษาอาการกอนลงฟักหรือวัวไม่ชนหรือมะเขือเผา (นกเขาไม่ขัน) (ก) ให้ผู้ป่วยนอนในท่าหงายกดจุดเส้น ขาหนีบ และจุดขาหนีบด้านใน (ข) ใช้ส้นมือจุดเส้นข้างหน้าขาด้านในท้ังสองขา (ค) ให้ผู้ป่วยนอนในท่าหงาย หมอยกขาขน้ึ แล้วหมุนกลับไปมา ซา้ ย – ขวา ท�ำท้งั สองขา ๓. ช่อื โรค/อาการ คางค้าง (ขากรรไกรคา้ ง) อาการ พดู ไมช่ ดั ลน้ิ แขง็ ปากเบย้ี ว ขา้ งปาก หบุ ไม่ได้ เกิดจากหาวแลว้ ค้าง เค้ียวขา้ วแล้วคา้ ง หัวเราะ คา้ ง วิธกี ารรกั ษา ยำ่� ขาง ตอกเสน้ กวาดยา กิน ยาสมุนไพร โฮมยา ประคบและนวด (ภาพ ๔.๒๖) ภาพ ๔.๒๖ การนวดแก้ขากรรไกรค้าง ให้กดเสน้ กรามขากรรไกร หมายเลข ๑ และ ๒ ในลกั ษณะบีบ แลว้ ผลกั งับขากรรไกรเข้า 46 พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ

๔. ชอ่ื โรค/อาการ เกยี่ ว (ตะครวิ ) อาการ กล้ามเนอื้ แข็งเกรง็ เปน็ กอ้ นบิด เจ็บ ปวดมาก ชา และกระตุก วธิ ีการรกั ษา ยำ่� ขาง ตอกเสน้ กนิ ยาสมุนไพร โฮมยา ประคบและนวด (ภาพ ๔.๒๗) ภาพ ๔.๒๗ การนวดแกเ้ กยี่ ว(ตะครวิ ) (ก)การรกั ษาอาการตะครวิ หมอตอ้ งรบี กดกลา้ มเนอ้ื ทเ่ี ปน็ ตะครวิ ใหอ้ อ่ นตวั ลงกลา้ มเนอ้ื ตะครวิ จะมีลักษณะแข็ง ปั้น หมอต้องกดในลักษณะคลึง ย้�ำไปมา รอบ ๆ ดังหมายเลข ๑ (ข) กดจุดเส้นขาด้านใน ดังหมายเลข ๑ และ ๒ และเส้นแขง้ ดา้ นนอก หมายเลข ๓ (ค) กดเส้นพบั หมายเลข ๑ และเสน้ นอ่ งหมายเลข ๒ (ง) กดจุดตามรอ่ งนวิ้ ดงั หมายเลข ๑ - ๔ พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 47

๕. ชอื่ โรค/อาการ ขางขะยอื (หืดหอบ ถงุ ลมโป่งพอง) อาการ หายใจล�ำบาก หายใจไม่สะดวก แน่นหน้าอก ปวดท้ายทอย แน่นหลัง อ่อนเพลีย หน้ามืด หนา้ ซีด มือเยน็ เทา้ เย็นและซดี ตาและปากมสี คี ลำ้� วิธีการนวดรักษา ย�่ำขาง ตอกเส้น กินยาสมุนไพร โฮมยา แช่ยา พอกยา ประคบและนวด (ภาพ ๔.๒๘) ภาพ ๔.๒๘ การนวดแก้อาการขางขะยือ (หืดหอบ ถุงลมโป่งพอง) (ก) เปิดลมที่เส้นหลอดลมหมายเลข ๑ โดยกดเบา ๆ ซ�้ำ ๒-๓ ครั้ง ขึ้นลง และจุดหมายเลข ๒ เส้นกล้าม จากน้ันกดจุดหมายเลข ๓ และ ๔ จุดระหว่างอก (ข) เคาะท่จี ุดปอดด้านขวามือ ลักษณะก�ำปั้นทุบสลบั กับตบในแนวเส้นหลงั ดังจุดหมายเลข ๑-๓ 48 พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ

๖. ช่อื โรค/อาการ ครัวทอ้ งลง (มดลูกลง มดลกู หย่อน ไส้เลอื่ น) อาการ ปวดท้องน้อยร้าวลงขา ปวดหลัง ปัสสาวะและอุจจาระล�ำบาก เวลามีประจ�ำเดือนจะ ปวดมาก แน่น จกุ ใตล้ ้นิ ป่ี วิธกี ารรกั ษา นั่งยา ดงึ เสน้ กนิ ยาสมุนไพร และนวดกดเส้น (ภาพ ๔.๒๙) ภาพ ๔.๒๙ การนวดครัวทอ้ งลง (มดลกู ลง มดลูกหยอ่ น ไส้เล่ือน) ให้ผูป้ ว่ ยนอนในทา่ หงาย หมอใช้สันมอื หรือหวั แมม่ อื กดลงไปที่ จุดขาบน หมายเลข ๑ และ ๒ ตอ่ ด้วยจุดเสน้ หนา้ ขา หมายเลข ๓ และ ๔ และจดุ แอบแอขา หมายเลข ๕ และ ๖ จากนน้ั โกยทอ้ งให้มดลกู เข้าต�ำแหนง่ ดงั ภาพหมายเลข ๗ และ ๘ หมายเหตุ สามารถใช้วิธกี ารนวดแบบนแี้ ก้อาการปวดประจำ� เดือน แก้ไขภาวะทม่ี บี ุตรยาก นวดแกอ้ าการมดลูกต�่ำ ในผหู้ ญิงหรอื กรณีไส้เลื่อนในผู้ชายได้ พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 49

๗. ชอื่ โรค/อาการ ท้องผูก อาการ หายใจฝดื พะอดื พะอมแนน่ ทอ้ งแนน่ หลงั ปวดแสบปวดรอ้ นถา่ ยอจุ จาระยากและอจุ จาระเปน็ เมด็ เล็ก ๆ แขง็ ๆ วธิ ีการรกั ษา ยำ่� ขาง ตอกเสน้ กินยาสมุนไพรและนวด (ภาพ ๔.๓๐) ภาพ ๔.๓๐ การนวดแก้อาการท้องผูก (ก) ใช้ส้นมอื และปลายนว้ิ โกยท้องทวนเขม็ นาฬิกา (ข) กดเสน้ สะดอื หมายเลข ๑ และกดเส้นท้องทั้ง ๔ ทิศ ดงั หมายเลข ๒-๕ ๘. ชือ่ โรค/อาการ นว้ิ ขี่กัน อาการ เสน้ ทีม่ อื ตงึ เรื้อรงั การคดของกระดกู และปวดตามขอ้ ทำ� ใหน้ ิ้วบิดไปซ้อนกนั ส่วนใหญจ่ ะเป็น ทีน่ ้ิวมอื วิธีการรักษา ย่�ำขาง ตอกเส้น กินยาสมุนไพร โฮมยา ประคบและนวด (ภาพ ๔.๓๑) ภาพ ๔.๓๑ การนวดแกน้ วิ้ ขก่ี นั (ก) ดงึ เสน้ นว้ิ ในลกั ษณะหมนุ (ข) กดขอ้ มอื ดา้ นทอ้ งมอื ในลกั ษณะขดิ และกดย�้ำ ทเ่ี ดมิ ในจดุ ใกลก้ นั หมายเลข ๑ แล้วกดจดุ งา่ มมอื หมายเลข ๒ (ค) กดจุดเสน้ ขอ้ มอื กดซำ้�ในบริเวณใกลก้ ัน ลักษณะกดผลกั เขา้ -ออก 50 พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ

๙. ชื่อโรค/อาการ นว้ิ ล็อก ขอ้ ศอกล็อก หัวไหล่ล็อก อาการ ปวดแขนชาลงน้ิวมือ น้ิวมืองอผิดรูป มี ๓ กรณี คือ (๑) งอน้ิวไม่ได้ (๒) เหยียดนิ้วไม่ได้ และ (๓) น้ิวไกปืน วิธกี ารรักษา ยำ่� ขาง ตอกเสน้ แช่ยา ประคบและนวด (ภาพ ๔.๓๒) ภาพ ๔.๓๒ การนวดแกน้ วิ้ ลอ็ ก ขอ้ ศอกลอ็ ก หวั ไหล่ล็อก (ก) นวิ้ ลอ็ กกดเส้นหมายเลข ๑-๔ (ข) ศอกล็อกกดเสน้ หมายเลข ๑ – ๕ (ค) กดจดุ ขา้ งไหลด่ ้านใน หมายเลข ๑-๒ พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 51

๑๐. ช่อื โรค/อาการ ปวดหลงั ปวดเอว อาการ ปวดแน่นหลงั ท�ำให้ท้องตงึ ขาตึง และปวดสะโพกจนถงึ กน้ กบ วธิ กี ารรักษา ย่�ำขาง ตอกเส้น กินยาสมนุ ไพรและนวด (ภาพ ๔.๓๓) ภาพ ๔.๓๓ การนวดแก้อาการปวดหลัง ปวดเอว (ก) ใช้ส้นมือและปลายน้ิวโกยท้องทวนเข็มนาฬิกา หมายเลข ๑-๔ (ข) กดแนวเส้นหลังหมายเลข ๑-๒ (ค) ใช้มือเป็นตัววัดจุดต�ำแหน่งเส้น โดยกางมือออกให้น้ิวหัวแม่มือและน้ิวช้ี กางออกจากกัน วัดระยะจากปลายมอื กดไล่ไปตามหมายเลข ๑-๔ 52 พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ

๑๑. ชื่อโรค/อาการ ปวดเหงือก อาการ เจ็บ บวม ที่เหงือก ปวดหัวไหล่ เจ็บคอ เจ็บศีรษะ เจ็บคาง ปวดกระบอกตา ปวดออกหู ตา และขมบั นำ�้ หู นำ�้ ตา และน�้ำมูกไหล วิธีการรักษา ตอกเส้น อมยาสมุนไพร กินยาสมนุ ไพร ประคบและนวด (ภาพ ๔.๓๔) ภาพ ๔.๓๔ การนวดแก้อาการปวดเหงือก มีการรักษาร่วมกับ การใช้ยา ในการนวดเป็นการกดคลึง เร่ิมจากจุดหมายเลข ๑ ขมบั กดเวยี นไปตามลกู ศร ท�ำซ�้ำ ๑-๒ คร้งั ทงั้ สองขา้ งและกดจุด หมายเลข ๒-๔ ๑๒. ชอ่ื โรค/อาการ มะโหกก้นปูด (ริดสดี วงทวาร) อาการ มีกอ้ นเนอื้ ออกจากทวาร ทอ้ งผูก อุจจาระล�ำบากเป็นก้อนแข็ง ปวดแสบปวดร้อนรูทวาร มเี ลือดออก ปวดเอว และเจบ็ ทอ้ ง วิธีการรักษา ทายาสมุนไพร กินยา สมุนไพร น่ังยา สอดยาและนวด (ภาพ ๔.๓๕) ภาพ ๔.๓๕ การนวดแกม้ ะโหกกน้ ปดู (รดิ สีดวงทวาร) มีการรกั ษาร่วมดว้ ยกับการใช้สมนุ ไพร และมี อปุ กรณใ์ นการสวนทวาร มขี ้ันตอนในการนวดคอื กดคลึงจดุ กน้ กบ หมายเลข ๑ จากนน้ั กดรอบจดุ กน้ กบดังภาพหมายเลข ๒-๖ พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 53

๑๓. ชือ่ โรค/อาการ ลมต๋ายฝาก (อัมพฤกษ์) อาการ อ่อนแรง ยกแขนและขาไม่ข้ึน ปากเบี้ยว ล้ินกระด้างคางแข็ง พูดไม่ชัด น้�ำหู น้�ำตาไหล ข้างในอ่อนแรง ชามอื ชาเท้า และจิตใจแปรปรวน อัมพฤกษ์จะเป็นคร่ึงซีก วธิ ีการรักษา ย�ำ่ ขาง ตอกเส้นและนวด (ภาพ ๔.๓๖) ภาพ ๔.๓๖ การนวดแก้ลมต๋ายฝาก (อัมพฤกษ์) (ก) กดเส้นหัวหมายเลข ๑-๖ เส้นไหล่หมายเลข ๗ เส้นรักแร้หมายเลข ๘ (ข) เส้นไหล่ด้านหน้า ๑-๓ กดจุดใต้นมหมายเลข ๕ จุดท้อง ๖ และ ๔ มุมขา ๗-๙ (ค) กดจุดก้าวขาบนสุด หมายเลข ๑-๓ กดจุดหน้าฝาช้าง หมายเลข ๔ ข้อเท้าบนล่าง หมายเลข ๕ จดุ ระหวา่ งนว้ิ เทา้ หมายเลข ๖ กดเสน้ ขา หมายเลข ๗-๙ ขาพับหมายเลข ๑๐ จุดขาหมายเลข ๑๑-๑๕ (ง) จุดแนวเส้นหลัง ๑-๒ กดจุดตะกามบ่อง ๓-๔ เสน้ ร่องกน้ หมายเลข ๕ ๑๔. ชื่อโรค/อาการ ลมกระดา้ ง (อัมพาต) อาการ เป็นอัมพาตท่ีไม่ใช่เกิดจากอุบัติเหตุ แต่เกิดจากเส้นอยู่ผิดท่ีจนเกิดการเคล่ือนไหวล�ำบาก แล้วไม่ไดร้ บั การรกั ษาจนกลายเปน็ อมั พาตช่วยเหลือตัวเองไมไ่ ด้ สว่ นใหญ่เป็นครงึ่ ท่อน วธิ ีการรักษา ยำ�่ ขาง ตอกเสน้ และนวดรกั ษาเหมอื นกับโรคอมั พฤกษ์ (ภาพ ๔.๓๖) มกี ารใชย้ าร่วม แต่มีต�ำรับที่แตกต่างกัน และต้องใช้เวลาในการรักษา มีการกดเส้นทุกระบบทั่วร่างกายเพ่ือเป็นการกระตุ้นและ ฟนื้ ฟรู ะบบเสน้ เอ็น 54 พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ

๑๕. ช่ือโรค/อาการ ลมทอ้ งเตน้ อาการ เสน้ เอ็นหนา้ ท้องตึง เป็นกอ้ น เป็นดานแข็ง มีลมในทอ้ ง เส้นเลือดบริเวณสะดือเต้นแรงมาก เวลากดบริเวณทอ้ งจะเรอออกมา วธิ ีการรกั ษา ยำ่� ขางและทำ� การนวดคลายเสน้ บริเวณหน้าท้อง (ภาพ ๔.๓๗) ภาพ ๔.๓๗ การนวดแก้ลมท้องเต้น (ก) ให้ผู้ป่วยอยู่ในท่านอนหงาย กดท่ีบริเวณท้องซ่ึงเป็นจุดส�ำคัญในการตรวจท้องและ ชพี จรทอ้ ง หมายเลข ๑-๗ มจี ดุ ส�ำคัญคอื สายแฮงท้อง หมายเลข ๓ และ ๗ (ข) โกยท้อง จากหมายเลข ๑ และ ๒ ตามดว้ ยเส้นทอ้ งหมายเลข ๓-๑๐ (ค) ใชส้ น้ มอื กดจุดหมายเลขสบิ ของขา ยาวมาตามจดุ กลางขา พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 55

๑๖. ชอื่ โรค/อาการ ลมมะเฮง็ คุด ออกหวั ออกตา (ปวดไมเกรน) อาการ ปวดศรี ษะขา้ งเดยี ว อยากอาเจยี น ปวดตาขา้ งเดยี ว หงดุ หงดิ งา่ ย เทา้ เยน็ มอื เยน็ ปวดทา้ ยทอย ลมออกหู หูอื้อ นำ�้ ในหูไมเ่ ท่ากัน หายใจตดิ ขดั นำ�้ ตาไหล ตามวั ตากระตุก หนังตาตก และตาเหล่ วิธกี ารรกั ษา กินยาสมนุ ไพรแก้ลม ย่�ำขาง เป่า โฮมยา ก๊อบยา เผายาและนวด (ภาพ ๔.๓๘) ภาพ ๔.๓๘ การนวดแก้ลมมะเฮ็งคุด ออกหวั ออกตา (ปวดไมเกรน) (ก) กดจดุ คอหมายเลข ๑ และ ๓ และจุดหลังหมายเลข ๒ (ข) ให้ผู้ป่วยนั่งหันหลังแล้วกดในลักษณะคลึงเป็นวงกลมรอบจุดขมับ หมายเลข ๑ ท้ังสองด้าน แล้วกดจุด หมายเลข ๒-๘ ตามล�ำดับ 56 พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ

๑๗. ช่อื โรค/อาการ ลมสันนิบาตเข้าเสน้ อาการ ปวดตามเสน้ ตามเอน็ ตามขอ้ ชกั กระตกุ สน่ั เขยา่ แขง้ ขา แขน กม้ แหงน เอยี งขา้ ง อยไู่ มเ่ ปน็ สขุ อยูน่ ง่ิ ไม่ได้ พดู ไปเรื่อย ชัก เกรง็ กดั ฟัน (คล้ายอาการผีเขา้ ) วิธกี ารรักษา ยำ่� ขาง ตอกเสน้ กินยา โฮมยา แช่ยา พอกยา นอนยา ฝงั (ดิน/ทราย) ประคบและนวด (ภาพ ๔.๓๙) ภาพ ๔.๓๙ การนวดแก้ลมสันนิบาตเข้าเส้น (ก) กดแนวเส้นหลัง หมายเลข ๑-๔ (ข) กดจุดขาหนีบ (ค) กดจุดก้าวขาบนสุด หมายเลข ๑-๓ กดจุดหน้าฝาช้าง หมายเลข ๔ ข้อเท้าบนล่าง หมายเลข ๕ จุดระหว่างน้ิวเท้า หมายเลข ๖ กดเส้นขา หมายเลข ๗-๙ ขาพับหมายเลข ๑๐ จุดขาหมายเลข ๑๑-๑๕ แล้วพลิกฝ่าเท้าขึ้นแล้วกดจุดใต้ฝ่า เทา้ หมายเลข ๑ และ ๒ (จ) ดงึ นิ้วทั้ง ๕ น้วิ ดงั หมายเลข ๑ และกดตามร่องน้วิ เทา้ หมายเลข ๒ พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 57

๑๘. ช่ือโรค/อาการ เหน็บชา อาการ ชาบริเวณปลายมือปลายเท้า หรือชาท่ัวบริเวณแขนและขา ซ่ึงเกิดจากเลือดลมหมุนเวียน ไมป่ กติ วิธกี ารรักษา ย่ำ� ขาง ตอกเส้นและนวดไปตามลำ� ดับของจดุ (ภาพ ๔.๔๐) ภาพ ๔.๔๐ การนวดแกอ้ าการเหนบ็ ชา (ก) กดจดุ หน้าขาบนสุด หมายเลข ๑-๓ กดจดุ หน้าขาข้างเขา่ หมายเลข ๔ ขอ้ เทา้ บนลา่ ง หมายเลข ๕ จดุ ระหว่างนิ้วเทา้ หมายเลข ๖ กดเส้นขา หมายเลข ๗-๙ ขาพับ หมายเลข ๑๐ จดุ ขา หมายเลข ๑๑-๑๕ (ข) ใหผ้ ูป้ ่วยนอนหงาย จากนั้นหมอกดเสน้ หมายเลข ๑ เส้นสะพายย่าม สองคร้งั ลกั ษณะขิดไปมา แลว้ กดหมายเลข ๒ เสน้ ใต้รกั แร้ กดผลักไปมาและขยับมายงั จดุ ใกล้ ๆ กัน กดจดุ เส้นศอกหมายเลข ๔ กดเสน้ แขนหมายเลข ๓ ๕ ๖ กดเสน้ ผา่ มอื หมายเลข ๗ และเส้นนวิ้ มอื หมายเลข ๘ (ค) กดจดุ ทีแ่ ขนหมายเลข ๑-๘ 58 พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ

๑๙. ชื่อโรค/อาการ ไหลห่ ลด หัวไหล่หลด (ไหล่หลดุ ) อาการ เกดิ จากการไดร้ บั อุบัตเิ หตุหรือการกระทบกระท่ังอยา่ งแรง เล่นกีฬาแรงๆ ยกของหนัก ท�ำให้ ปวดไหลม่ าก รอยตอ่ หัวกระดกู ไหล่เคล่อื นออกจากกนั วิธีการรักษา เข้าเฝอื ก ขวากซุย ทานำ�้ มัน กอ๊ บยา กินยา เปา่ เส้นและนวด (ภาพ ๔.๔๑) ภาพ ๔.๔๑ การนวดแก้อาการไหล่หลด (ก) ให้ผู้ป่วยอยู่ในท่านั่ง กดลงไปท่ีเส้นหัวไหล่หมายเลข ๑ และขยับลงใกล้จุด หมายเลข ๒ (ข) จากนนั้ กดเสน้ สะพายย่ามหมายเลข ๑ และ ๒ และกดเส้นมุมใตร้ กั แรห้ มายเลข ๓ ๒๐. ช่ือโรค/อาการ เอ็นเขา้ แคบ๊ (สะบักจม) อาการ ปวด เมื่อย ลา้ แขนจนถึงศรี ษะ ทง้ั สองขา้ ง เวลายกแขนจะปวด หรอื ยกแขนไม่ได้ ตรงท่ี ปวดจะมอี าการรอ้ นรว่ มดว้ ย บางครงั้ ท�ำใหม้ ีไข้ วิธีการรักษา ย่�ำขาง ตอกเส้น โฮมยา ก๊อบยา นวดน้�ำมนั และนวด (ภาพ ๔.๔๒) ภาพ ๔.๔๒ การนวดแก้เอ็นเขา้ แค๊บ (สะบกั จม) หมอนวดใชม้ อื กดในลกั ษณะขิดเส้นหมายเลข ๑-๒ และกดเส้นหมายเลข ๓-๗ และดึงเส้นข้างหมายเลข ๘ และกดจุดสะบักเอวท้ังสองข้าง ย�้ำกลบั ไปมาดงั หมายเลข ๙ พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 59

๒๑. ชอื่ โรค/อาการ เอ็นเขา้ ตะก๋ามบอ่ ง (เอน็ เข้าสะโพก) อาการ ปวดชา ปวดแสบปวดรอ้ นลงหนา้ ขา ลงแขง้ ปวดเอว ปวดท้อง ปวดหัวเข่า ขอ้ พับ หลังเท้า นอ่ ง และนว้ิ เทา้ (ปวดชาตั้งแต่สะโพกถึงปลายเท้า) วิธีการรักษา ยำ่� ขาง ตอกเสน้ กนิ ยา โฮมยาและนวด (ภาพ ๔.๔๓) ภาพ ๔.๔๓ การนวดรกั ษาเอน็ เขา้ ตะกา๋ มบอ่ ง (เอน็ เขา้ สะโพก) (ก) ใชส้ น้ มอื และปลายนวิ้ โกยทอ้ งทวนเขม็ นาฬกิ า (ข) กดจดุ ขา้ งขา (ค) กดจุดขาหนีบด้านในยาวมาตามจุดกลางขาด้านใน (ง) กดจุดเส้นขาด้านใน (จ) กดจุดกลางขาหน้า (ฉ) กดจุด สะโพก ๑-๓ และจดุ ก้าวขาหนา้ บน 60 พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ

๒๒. ชื่อโรค/อาการ เอ็นเข้าเปย้ี ง (สขี ้าง) อาการ เจ็บแปลบเสียดแทงสีข้าง ก้มไม่ได้ เงยไม่ได้ ลุกยาก นั่งยาก เจ็บท้องเป็นก้อนแข็งเกร็ง ปวดทอ้ งรา้ วลงขาและสะโพก วิธกี ารรกั ษา ยำ่� ขาง ตอกเส้น กินยา โฮมยา แช่ยา พอกยา นอนยา ฝงั (ดิน/ทราย) เผายา ประคบ และนวด (ภาพ ๔.๔๔) ภาพ ๔.๔๔ การนวดแก้เอ็นเข้าเปี้ยง (สีข้าง) (ก) กดเส้นบ่าหมายเลข ๑ เส้นแคบหมายเลข ๒-๔ และใต้รักแร้ หมายเลข ๕ (ข) ใหผ้ ปู้ ว่ ยน่งั หนั หน้าเข้าหาหมอนวด แลว้ ใชม้ ือทัง้ สองกดลงไปท่ีจุดสันในในลักษณะผลกั ออก ดังภาพหมายเลข ๑ และกดเส้นกลา้ ม หมายเลข ๒ และมุมรกั แร้ หมายเลข ๓ ๒๓. ชือ่ โรค/อาการ ยำ� (ย�ำปวก) อาการ เจ็บปวดเป็นบางครั้ง มีอาการคัน มีการบวมของกล้ามเน้ือ กล้ามเนื้อแข็งเป็นก้อนตาม ร่างกาย ก้อนดังกล่าวสามารถเคลอื่ นย้ายไปได้ในทกุ ส่วนของร่างกาย วิธกี ารรักษา เชด็ แหก และย�่ำขาง ๒๔. ช่ือโรค/อาการ ย�ำข�ำ อาการ ปวดอยู่กบั ที่ เจ็บ รอ้ น เมื่อท�ำการเช็ดหรือแหกบรเิ วณทป่ี วดจะยา้ ยไป วิธีการรักษา เชด็ และแหก ๒๕. ช่ือโรค/อาการ ยำ� สะลี (ที่นอน) อาการ ปวดมากเวลาตื่นนอนตอนเชา้ โดยเฉพาะบริเวณชว่ งเอว อาการตกหมอนก็จดั อยู่ในกลุม่ นี้ วธิ กี ารรักษา เช็ด แหก ยำ�่ ขาง และนวด ๒๖. ชื่อโรค/อาการ ปด๊ิ น�ำ้ อาการ เกดิ อาการเจบ็ ปวดหลงั จากการอาบนำ�้ มกี ารบวมตามรา่ งกาย และตวั เย็น วธิ ีการรักษา เช็ด แหกและเปา่ พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 61

๒๗. ชื่อโรค/อาการ ปิด๊ ไฟ อาการ เจ็บปวด ร้อนตามผิวหนังหรือทวั่ ร่างกาย วธิ ีการรกั ษา เช็ด และแหก ๒๘. ชอ่ื โรค/อาการ ปิ๊ดภายนอก อาการ เจ็บปวดกล้ามเนื้อมากเวลาลูบคล�ำเพียงเบา ๆ บางคร้ังแค่ลมพัดผ่านผิวหนังก็เกิดอาการ เจบ็ ปวดมาก วธิ กี ารรักษา เช็ด แหก ดดู และขดู ๒๙. ช่อื โรค/อาการ ป๊ดิ ภายใน อาการ เจ็บปวดมากเวลาจับและกดแรง ๆ หรือได้รับการกระทบกระเทือนภายใน บางคร้ังนั่งรถท่ี สะเทอื นมาก ๆ กเ็ กิดอาการเจบ็ ปวดทนั ที วิธีการรกั ษา เชด็ แหก นวด และประคบสมนุ ไพร ๓๐. ชอ่ื โรค/อาการ ป๊ดิ ลม อาการ เจบ็ ปวดเมอ่ื มีลมพัดผ่านผิวหนงั บางคร้งั มีอาการบวมด้วย วิธีการรกั ษา เช็ด แหก และเปา่ ๓๑. ชอ่ื โรค/อาการ โป่ง อาการ ปวด ร้อน และบวม บริเวณขอ้ หรอื กระดกู วิธีการรักษา เช็ด และแหก ๓๒. ช่อื โรค/อาการ โป่งกินเสน้ กนิ ดกู อาการ ปวดตามข้อ บางคร้ังมอี าการบวมร่วมด้วย วิธกี ารรกั ษา เชด็ และแหก ๓๓. ชอ่ื โรค/อาการ โปง่ ปอง อาการ ปวด บวม ร้อน ไมม่ ีแผล เดนิ ขาลาก วิธกี ารรักษา เชด็ แหก ยำ่� ขาง กอ๊ บยา และประคบ ๓๔. ช่อื โรค/อาการ โปง่ เยีย่ น อาการ ปวดร้อน เป็นแผลท่ีมีลักษณะเปน็ รูเล็ก ๆ มนี ำ�้ เหลืองหรอื หนองไหลออกมาจากรูแผล วิธีการรกั ษา เชด็ แหก เปา่ และกอ๊ บยาเย็น ๓๕. ชื่อโรค/อาการ โปง่ แห้ง อาการ ปวดชา ออ่ นแรง กระดกู ปูดโปนออกมา แขนขาลบี เล็กแห้ง และผวิ หนังเห่ียวด�ำ วธิ ีการรักษา เช็ด แหก และยำ�่ ขาง 62 พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ

ส่วนที่ ๔ พธิ กี รรมทใี่ ชร้ ว่ มกบั การนวดพนื้ บ้านล้านนา ๑. พธิ ีกรรมป้องกนั ตวั หมอนวดพ้ืนบา้ น พิธีกรรมท่ีใชร้ ว่ มกับการนวดพน้ื บา้ นภาคเหนือ กล่าวไดว้ า่ คาถา มีความสำ� คัญกับการรักษาดูแลผู้ป่วย และตัวหมอนวดพน้ื บา้ นเปน็ อย่างมาก โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์ของการใชด้ งั น้ี ๑) เพอ่ื ปอ้ งกนั ตัวหมอนวดพ้ืนบา้ นเอง ๒) เพอื่ ปอ้ งกนั ปดั เปา่ รกั ษาผปู้ ว่ ย ดงั นนั้ จะเหน็ ไดว้ า่ การนวดของหมอนวดพนื้ บา้ นภาคเหนอื จะมคี าถา กำ� กับเสมอ อาทิ (๑) คาถาปัดปิ๊ด (พิษ) ปัดย�ำ ปัดไฟ เพ่ือปัดเอาปิ๊ดหรือส่ิงไม่ดีออกจากผู้ป่วยและป้องกัน ตวั หมอ (๒) คาถา นวิ้ เพ็ชร เพ่ือทำ� ให้น้วิ มือของหมอนวดมพี ลงั ในการรักษาผ้ปู ว่ ย (๓) คาถาโมคคลั ลาดบั เปลวไฟนรก เพอื่ ดบั ปด๊ิ จากความรอ้ นของไฟ ไมใ่ หเ้ ทา้ หมอและผวิ หนงั ของ ผปู้ ่วยพุพอง คาถานีจ้ ะใชก้ ับผู้ปว่ ยที่ปวดเมือ่ โดนความรอ้ นและใช้วิธนี วดทม่ี คี วามรอ้ นรว่ ม เช่น ย�่ำขาง (๔) คาถาโมคคลั ลาประสานกระดูก ประสานเอ็น เพือ่ ประสานกระดูกและเส้นเอน็ ส่วนใหญจ่ ะใช้ ในกลมุ่ หมอกระดูก (๕) คาถาประสานบาตร เพ่ือประสานกระดกู และเสน้ เอน็ (๖) คาถาแกป้ ๊ิด ดับป๊ดิ ใช้ร่วมกบั การเชด็ การแหก และการเปา่ เพอ่ื ดบั พิษจากเส้นเอ็น (๗) คาถาคลายเส้น เพอ่ื ใหเ้ ส้นเอน็ คลายความตึงตัว (๘) คาถาดึงเส้นหรอื โมคคลั ลาดึงเสน้ เพื่อใหเ้ สน้ เอ็นคลายความตงึ ตวั (๙) คาถาหนมุ านประสานกาย รักษากรณีกระดกู หัก (๑๐) คาถาล้างบาตร เพือ่ ดบั ปิ๊ดร้อน กรณปี วดแสบ ปวดร้อน ตามร่างกาย ๒. พิธกี รรมที่เกย่ี วขอ้ งกับการวนิ ิจฉัยโรค ๑) วธิ ีการ “ดูเมอ่ื ดหู มอ” อาทิ ผยี า่ หม้อน่ึง แกว่งข้าว วาไม้ ในอดตี “เมื่อ” คือ คนทม่ี อี งคค์ วามรดู้ ้านเวทมนต์คาถา การเปน็ “หมอเมอื่ หมอดู” จะไดร้ ับการ สบื ทอดจากบรรพบรุ ษุ แตไ่ มใ่ ชว่ า่ ทกุ คนในครอบครวั จะเปน็ หมอเมอ่ื กนั ไดห้ มดทกุ คน สว่ นใหญจ่ ะไดร้ บั การคดั เลอื ก จากสงิ่ เหนอื ธรรมชาติ สง่ิ ล้ีลับ หรอื การไดร้ ับอนญุ าตจากผบี รรพบรุ ุษจงึ จะสามารถเป็นหมอเม่ือ หมอดไู ด้ การ “ดเู มอ่ื ดหู มอ” เปน็ ความเชอ่ื ของชาวลา้ นนามาตงั้ แตอ่ ดตี จนถงึ ปจั จบุ นั และยงั มอี ทิ ธพิ ลทางดา้ น จิตใจของคนล้านนา วัตถุประสงค์การ “ดูเมื่อดูหมอ” ของชาวล้านนาเพ่ืออยากทราบถึงอาการเจ็บป่วยของบุคคล ในครอบครัว ญาติ และเพื่อดูฤกษ์ยามท่ีเหมาะสม เช่ือกันว่าการเริ่มต้นที่ดีต้องถูกต้องตามวัน เวลาจึงจะท�ำให้ อยู่เย็นเป็นสุขท้ังตัวบุคคล ครอบครัว และชุมชน ความเช่ือเร่ือง “ดูเมื่อดูหมอ” ของชาวล้านนา มีหลายประเภท ซึ่งออกจะแยกออกเปน็ กลมุ่ ๒ กลุ่ม ดงั นี้ (๑) กลมุ่ “ดเู มอ่ื ” เรอื่ งฤกษย์ าม : การดมู อื้ สนั วนั ดี หมอเมอื่ ในกลมุ่ นส้ี ว่ นใหญจ่ ะเปน็ พระอาจารย์ ทอี่ ยใู่ นวดั หรอื หมอสตู ร (ผปู้ ระกอบพธิ กี รรมทางศาสนา ผา่ นการบวชพระมาแลว้ ) ซงึ่ กลมุ่ นจี้ ะไดเ้ รยี นเวทมนตค์ าถา มาดว้ ย และสามารถทำ� พิธเี พือ่ รกั ษาไดด้ ้วย เช่น สู่ขวัญ สง่ เคราะห์ รดน้�ำมนต์ สะเดาะเคราะห์ เป็นตน้ ชาวลา้ นนา มีความเชื่อเร่ืองวันและเวลามาก เชื่อว่าจะท�ำให้อยู่เย็นเป็นสุขในครอบครัวและชุมชน ถ้าหากท�ำผิดจากค�ำสอน พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 63

ความเชือ่ จารีตประเพณขี องชุมชนจะนำ� เอาความวิบตั ิ ฉิบหาย หายนะ ความอปั มงคลมาสตู่ นเอง ครอบครวั และ ชุมชนได้ ชาวล้านนาเรียกว่า “ขึด” และเม่ือเกิดขึดข้ึนจะส่งผลต่อสุขภาพของผู้กระท�ำหรือคนในครอบครัวก่อน เปน็ อนั ดบั แรก เรียกว่า “ขึดบ้าน” และถ้าส่งผลกระทบต่อชุมชนดว้ ยเรยี กว่า “ขึดเมือง” ซึ่งในกรณีขดึ เมืองถือว่า เป็นเร่ืองใหญ่และมีผลรุนแรงต่อชุมชนมาก เช่น ท�ำให้คนในชุมชนตาย ท�ำให้เกิดอาเพศ ฝนแล้งน้�ำท่วม ฯลฯ ดงั นนั้ ตอ้ งท�ำพธิ กี รรมตา่ ง ๆ แล้วแต่กรณี เชน่ การถอดขดึ การส่งขึด การบชู าสังเวย การลอยเคราะห์ การสะเดาะ เคราะห์ การสง่ เคราะห์ การสบื ชะตา เปน็ ตน้ ถา้ ไมส่ ามารถแกไ้ ขไดด้ ว้ ยพธิ กี รรมใด ๆ ผกู้ ระทำ� ตอ้ งไดร้ บั โทษจากการ กระท�ำนั้นอย่างหลีกเล่ียงไม่ได้ ดังนั้นการกระท�ำใด ๆ ต้องไม่ขัดกับขึด หรือข้อห้ามตามจารีตประเพณีโบราณ ยกตวั อย่างเช่น ฤกษแ์ ต่งงาน ฤกษส์ รา้ งใหม่/ฤกษ์ขน้ึ บ้านใหม่ ฤกษป์ ลกู ขา้ ว/เก็บเก่ยี วขา้ ว/เอาข้าวเขา้ ยุง้ ฤกษ์เดนิ ทาง ฤกษ์เผาศพ ฤกษต์ ดั ผม สระผม ฤกษบ์ วชพระ บวชเณร ฤกษเ์ อาเดก็ นอนอู่ (ข้ึนแปลนอน) เป็นตน้ ความเช่ือ เรอื่ งขึดยังเชือ่ มโยงกับประเพณี วัฒนธรรม พิธกี รรมต่าง ๆ ของชุมชนนน้ั ๆ ดังน้ันการดูฤกษย์ าม ดวู ัน ดูเวลาท่ีดี จงึ มคี วามสำ� คญั ตอ่ วถิ ชี วี ติ ของชาวลา้ นนา ตง้ั แตเ่ กดิ จนถงึ ตาย การเลอื กมอ้ื สนั วนั ดที ำ� ใหอ้ ยเู่ ยน็ เปน็ สขุ มคี วามเจรญิ รงุ่ เรอื ง เป็นมงคลกบั ชวี ิต (๒) กลมุ่ “ดเู มอ่ื ” เรอื่ งสขุ ภาพ “หมอเมอื่ ” จะทำ� หนา้ ทเี่ สย่ี งทายเพอื่ วเิ คราะหห์ าสาเหตขุ องการ เจ็บป่วยใช้หลักการทางโหราศาสตร์แบบพื้นบ้าน โดยการซักถามวัน เดือน ปีเกิดของผู้ป่วยแล้วน�ำมาค�ำนวณ จากน้ันก็ท�ำนายทายทักว่าเป็นเพราะอะไร พร้อมทั้งบอกวิธีแก้ไขด้วย ซึ่งจะมีการแก้ไขได้หลายแบบ เช่น ทำ� พิธี สะเดาะเคราะห์ ทำ� พธิ ขี อขมาตอ่ สงิ่ ทผ่ี ู้ปว่ ยไปลว่ งเกนิ ท้งั กาย วาจา ใจ ซง่ึ กรรมวธิ แี ก้ไขนีจ้ ะผสมผสานกนั ไป ท้ังทางความเชื่อเร่ืองผีและพิธีกรรมทางพุทธศาสนาหรือบางคร้ังมีการรักษาโดยใช้ยาสมุนไพรร่วมด้วย ในเขตล้าน นา นน้ั มคี วามเช่ือเรื่อง “ป่ดู �ำย่าด�ำ” หรอื บางพน้ื ที่เรยี กว่า “ผปี ู่ยา่ ” ซึง่ เป็นผบี รรพบรุ ษุ ของคนลา้ นนามีหน้าท่คี อย คุ้มครอง ดูแล ปกปักษ์รักษาลูกหลาน ผีปู่ย่าจะอาศัยอยู่ที่บ้านต้นตระกูลของฝ่ายหญิง เรียกว่า “บ้านเก๊าผี” เพราะผีปู่ย่าสืบสายตระกูลมาจากทางแม่ ในแต่ละปีจะมีพิธีเล้ียงผีปู่ย่า โดยลูกหลานในสายตระกูลจะช่วยกัน ท�ำอาหารมาเลี้ยง ส่วนใหญ่จะใช้ไก่และสุราในพิธีเซ่นไหว้ หลังจากเลี้ยงผีเสร็จ ญาติ ๆ จะกินอาหารท่ีเป็น เครอื่ งเซ่นร่วมกัน ชาวล้านนาเช่ือวา่ ผปี ยู่ า่ จะคุ้มครองลูกหลานใหอ้ ยดู่ ีมีสขุ แต่ถ้าคนไหนคนใดทำ� ผดิ ผี เชน่ มกี าร แตะเนื้อต้องตัวกันหรือท้องก่อนพิธีแต่งงานจะท�ำให้ผีปู่ผีย่าโกรธ เรียกว่า “ผิดผี” ซ่ึงจะส่งผลให้หัวหน้า ครอบครัวล้มป่วยต้องไปท�ำพิธีขอขมาและเลี้ยงผี (เซ่นไหว้) ก่อนจึงจะแต่งงานเมื่อแต่งงานแล้วต้องไป จ่ายค่าผีให้กับผีทางฝ่ายผู้หญิง เรียกว่า ค่าเสียผี หรือ บางพ้ืนที่เรียกไขว๋ผี ค่าเสียผีในแต่ละชุมชนไม่เหมือนกัน ค่าเสียผสี ่วนใหญป่ ระกอบดว้ ย หวั หมู ๑ หัว เงิน ๑ แถบ (เงนิ แท้ลา้ นนาโบราณเปน็ เหรยี ญเงนิ มีรูตรงกลางรอ้ ย ด้วยเชือก) เหล้าขาว ๑ ขวด เป็นต้น ซ่ึงไม่ใช่ค่าสินสอด กล่าวได้ว่าผีมีอิทธิพลต่อความเชื่อของชาวล้านนามาก ผมี ที ้งั คุณและโทษ ทำ� ใหเ้ จ็บปว่ ยได้ ท�ำให้เสยี ชวี ิตได้ ถ้าหากเรากระทำ� ผิด ในพ้ืนท่ีล้านนายังคงมี “หมอเม่ือ” ท่ีท�ำหน้าท่ีท�ำนายการเจ็บป่วยโดยใช้ผี เรียกกันว่า “ผีย่าหม้อน่ึง” บางพน้ื ทเ่ี รยี กวา่ “ผปี ยู่ า่ ” บางพน้ื ทเ่ี รยี กวา่ “ปดู่ ำ� ยา่ ดำ� ” คอื ผีทีเ่ ข้าไปสิงอยใู่ นชดุ นงึ่ ข้าว ประกอบไปดว้ ย หม้อนง่ึ ไหขา้ ว และฝาหมอ้ ชาวลา้ นนาเช่ือกันวา่ ถา้ เด็กร้องไหต้ ลอดกลางคนื โดยไม่ไดเ้ จ็บปว่ ย ร้องไม่รู้สาเหตุ เกดิ จากการ รบกวนของพ่อเกิดแม่เกิด (พ่อแม่เด็กในเมืองผี) เน่ืองจากเด็กหนีมาเกิด ดังนั้นพ่อเกิดแม่เกิดมาตามเอาตัวกลับ ดังนั้นต้องท�ำพิธีบอกกล่าวผีปู่ผีย่าโดยพิธีกรรมประกอบด้วย สวย (กรวย) ดอกไม้ ข้าวเหนียว ๑ ปั้น กล้วย ๑ ลกู ไปที่เตาไฟ (หอ้ งครัว) เพราะเชอ่ื ว่าเป็นทที่ ีผ่ ปี ู่ด�ำยา่ ด�ำสงิ สถติ อยู่ กลา่ วคำ� ขอใหป้ ดู่ ำ� ยา่ ดำ� ปกปกั รกั ษาคมุ้ ครอง ดูแลเด็ก เสร็จแล้วเอาหม่ินหม้อน่ึง (เขม่าที่ติดก้นหม้อน่ึง) ไปป้ายหน้าผากเด็กและกล่าวว่า “ขอให้กินข้าวร�ำ 64 พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ

น�้ำลง อว้ นหลำ่� ปน๋ั สงิ ห์ นอนหลบั นง่ิ เหมอื นขอนไม้ ปนั ใหญป๋ นั สงู จะไปไห้ไปก๋วน” ล้านนาเชื่อว่าการน�ำเด็กทารก ออกนอกบ้านน้ันตอ้ งเชญิ “ปู่ด�ำย่าดำ� ” ไปด้วย เพ่ือปกปกั ษ์รักษาเดก็ ไม่ให้ผตี ามท่ีต่าง ๆ มาทำ� ร้ายเด็ก โดยก่อน ออกจากบ้านจะไปบอกกล่าวอันเชิญปู่ด�ำย่าด�ำที่เตาไฟและน�ำเอาหมิ่นหม้อนึ่งมาป้ายหน้าผากเด็กก่อนจึงจะ ออกนอกบ้านได้ การด�ำเนินการเช่นน้ีจะท�ำจนกระท่ังเด็กพูดได้เป็นวิธีง่าย ๆ ท่ีท�ำกันเป็นทุกครัวเรือนไม่ต้องไป พ่ึงหมอเมอ่ื สรุปการลงผีปู่ย่าเป็นการวินิจฉัยให้ทราบถึงอาการเจ็บป่วยท่ีหาสาเหตุไม่ได้ ในกรณีน้ีมักจะท�ำหลังจาก การไปรกั ษาด้วยวธิ กี ารอน่ื ๆ แล้วอาการไมด่ ขี ึ้น หมอเม่ือที่เป็นคนประกอบพิธีลงผีย่าหม้อนึ่งนั้นจะได้รับการถ่ายทอดและคัดเลือกจากตระกูล ไม่ใช่ทุกคน ที่สามารถประกอบพิธีลงผยี า่ หมอ้ น่ึงได้ ข้ันตอนการลงผียา่ หม้อน่ึงมีดงั ต่อไปนี้ เคร่อื งประกอบพธิ กี รรม (แต่ละพื้นท่ี จะแตกต่างกนั ) ไดแ้ ก่ ข้าวสาร กระด้ง ใบพลู ๔ ใบ กล้วย ๒ ลูก ขา้ วเหนียว ๒ ป้นั เส้อื ผา้ สำ� หรบั สวมหม้อนึ่ง ไหขา้ ว คา่ ขันตงั้ สวยดอกไมธ้ ูปเทยี น (กรวย) เสื้อผ้าผ้ปู ่วย วิธีการลงผีย่าหม้อนึ่ง ผู้ประกอบพิธีน�ำเอาเส้ือผ้ามาสวมให้กับไหข้าว น�ำเอาไม้มาพาดไว้ท่ีปากไห ท�ำให้เหมือนว่าเป็นแขน ขา (ภาพ ๔.๔๕) เอากระด้งมาใส่ข้าวสารเกล่ียข้าวให้เต็มกระด้ง น�ำไหข้าวที่สวมเสื้อผ้า เสรจ็ ไปทำ� พธิ อี นั เชญิ ผปี ดู่ ำ� ยา่ ดำ� ทเ่ี ตาไฟ โดยตง้ั หมอ้ นงึ่ ไวบ้ นเตาไฟ เอาไหขา้ วทสี่ วมเสอ้ื ผา้ เสรจ็ เรยี บรอ้ ยแลว้ ไปตงั้ บนหม้อน่ึงท�ำเหมือนการน่ึงข้าวเหนียว ท�ำพิธีกรรมอันเชิญผี “ปู่ด�ำย่าด�ำ” ให้มาสิงสถิตในไหข้าว ต่อด้วยขั้นตอน การท�ำนาย ผู้ประกอบพิธีกรรมจะยกไหข้าวออกจากครัวไฟมาท่ีกระด้งที่เตรียมไว้พร้อมกับถามว่า “ตอนน้ีผีลง หรอื ยงั ” ถา้ ลงเขา้ ใหเ้ อาไมท้ ที่ ำ� เปน็ แขนโขกลงทกี่ ระดง้ ชาวลา้ นนาจะมเี รอ่ื งใหใ้ ช้ “ผยี า่ หมอ้ นงึ่ ” ทำ� นายอยู่ ๓ เรอื่ ง คอื ภาพ ๔.๔๕ พธิ ีกรรมเมือ่ ผยี ่าหมอ้ นึ่ง พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 65

(๑) เรื่องการถามอาการเจ็บป่วยท่ีไม่รู้สาเหตุของญาติหรือคนในครอบครัว ส่วนใหญ่เป็นพิธีกรรม ที่ท�ำหลังจากไปหาหมอมาแล้วไม่หาย ซ่ึงจะเป็นการถามว่าอาการเจ็บป่วยเกิดจากการท�ำของผีอะไร เช่น ผีป่า ผีบ้านผีเรือน ผีตายโหง ไปโดนผีกระท�ำมาจากทางทิศไหน และจะจบด้วยการบนบานศาลกล่าวว่า เช่น ผีจะกิน อะไร จะให้เล้ียงอะไร พอได้ค�ำตอบว่า ผีต้องการของเซ่นเป็นอะไร เช่น จิ้นลาบ แกงอ่อม ไก่ต้ม กวางค�ำ (สุนัข) หัวหมู เหล้าขาว เป็นต้น ก็จะมีการต่อรองกับผีว่า “จากน้ีสามวันเจ็ดวัน ขอให้อาการเจ็บป่วยทุเลาและหาย ไป แล้วจะมาเลี้ยงตามท่ีผีขอ ถ้าไม่หายก็ไม่เล้ียง ผีมีสัจจะคนก็มีสัจจะ” เสร็จแล้วกลับบ้านไปรอดูอาการ ถ้า หายต้องมาเลี้ยงผี ถ้าไม่เล้ียงจะท�ำให้เป็นหนักย่ิงกว่าเดิม ผู้ประกอบพิธีหรือคนมาใช้บริการสามารถมีค�ำถามว่า ใช่หรือไม่ก็ได้ ถ้าใช่ให้ผีย่าหม้อน่ึงโขกลงกับกระด้งหรือวาดรูปเป็นสัญลักษณ์ ผู้ประกอบพิธีกรรมจะเป็นผู้ถอดรหัส และสื่อสาร (๒) เรอื่ งเกีย่ วกบั เดก็ ไม่สบาย ค�ำถาม ประมวลไดด้ งั น้ี ต้องการเปล่ยี นชื่อใหม่หรอื ไม ่ เปล่ียนเป็นชื่ออะไร ถามไปจนกว่า “ผียา่ หมอ้ นง่ึ ” จะโขกแสดงวา่ ยอมรบั ช่ือนัน้ หรอื ต้องการของมดั มือหรอื ไม่ เช่น ทอง เงนิ และนาค ดา้ ยสายสญิ จน์ ถามไปจนกวา่ “ผยี า่ หมอ้ นง่ึ ” จะโขกแสดงวา่ ยอมรบั และใครมาเกดิ จะขานชอ่ื ตามกลมุ่ ญาตทิ ง้ั ฝา่ ย พ่อและแม่ ท่ีเสียชีวิตไปแลว้ โดยเรยี งลำ� ดับจากคนท่เี สยี ชวี ิตก่อน บางคร้งั คนเสยี ชีวติ หน่ึงคนสามารถมาเกดิ ใหมไ่ ด้ หลายคน คนล้านนาเชื่อว่าคนมี ๓๒ ขวัญ ดังนั้นสามารถมาเกิดกับญาติได้หลายคนถามไปจนกว่า “ผีย่าหม้อนึ่ง” จะโขกแสดงว่ายอมรับ อยากได้อะไร ถามจากความชอบในอดีตท่ียังไม่ตาย ถามไปจนกว่า “ผีย่าหม้อน่ึง” จะโขก แสดงว่ายอมรบั คำ� ถามนสี้ ่วนใหญจ่ ะเป็นค�ำถามสุดท้าย (๓) เรื่องสิ่งของมีค่าหรือคนในครอบครัว ญาติหาย กรณีของหายจะมีข้อห้ามคือ ห้ามถามช่ือคนเอาไป เพราะจะเป็นการสร้างบาปให้กับผู้ประกอบพิธีกรรม แต่สามารถถามถึงลักษณะ รูปร่าง สีผิว หรือทิศที่อยู่ได้ ค�ำถามท่นี ิยมถามคอื จะไดข้ องคืนหรือไม่ ส่วนใหญจ่ ะไม่ไดค้ นื ให้ท�ำใจ และบางคร้งั ผลการท�ำนายออกมาว่าไมห่ าย แตเ่ อาไว้ลมื ท่ี (ซอ่ นจนลืม) “ผีย่าหมอ้ น่งึ ” จะบอกลกั ษณะท่ีซ่อนของใหด้ ว้ ยการวาดรปู บนข้าวสาร คนหายจะใชใ้ น กรณคี นในครอบครวั ออกจากบา้ นไปหลายปขี าดการตดิ ตอ่ ทางครอบครวั ตอ้ งการทราบวา่ ยงั มชี วี ติ อยไู่ หม อยทู่ ไ่ี หน สบายดหี รอื ไม่ ถา้ ยงั มชี ีวติ อยขู่ อให้ “ผีปู่ด�ำย่าด�ำ” ชว่ ยดลใจใหก้ ลบั มาเยีย่ มบา้ นบา้ ง และถ้าผลออกมาวา่ เสยี ชีวิต จะถามตอ่ ว่าอยทู่ ่ไี หน ตอ้ งการอะไรจะทำ� บุญไปให้ เป็นต้น ข้ันตอนสุดท้ายเม่ือผู้มาหา “เม่ือ” ถามจนได้ค�ำตอบที่พอใจแล้ว ผู้ประกอบพิธีกรรมจะน�ำเอาไหข้าว กลบั ไปวางทห่ี มอ้ นง่ึ ทค่ี รวั ไฟอกี ครง้ั หนงึ่ เชญิ “ผปี ดู่ ำ� ยา่ ดำ� ” ออกแลว้ ปลดเสอ้ื ผา้ ออกจากไห เอาสวยดอกไมธ้ ปู เทยี น ไปวางไว้ทเี่ ตาไฟ บางคนเอามาไว้ทีห่ ิ้งพระ (โตะ๊ บชู าพระ) เป็นอันเสรจ็ พิธี ความเชื่อเร่ืองการนบั ถอื ผขี องคนล้านนามมี าตั้งแตอ่ ดตี จนถึงปัจจบุ นั โดยเฉพาะความเช่ือเรือ่ งผีบรรพบุรุษ ยงั คงมบี ทบาทสำ� คญั อยา่ งยงิ่ ตอ่ การดำ� เนนิ ชวี ติ นอกจากพธิ ลี ง “ผยี า่ หมอ้ นง่ึ ” แลว้ ยงั มอี กี วธิ หี นง่ึ ทม่ี าจากความเชอ่ื เรอ่ื ง “ผปี ู่ผีย่า” คือ การแกวง่ ข้าว ใช้ท�ำนายทายทกั “เม่อื ” กบั “ผีย่าหม้อนึ่ง” แต่แตกตา่ งวธิ กี นั โดยมอี ปุ กรณ์ ของพิธีแกว่งข้าว ได้แก่ ข้าวสาร กระด้ง ใบพลู ๔ ใบ ข้าวเหนียว ๑ ก้อนปั้นกลม ๆ ไม้ยาว ๑ วา ค่าขันต้ัง สวยดอกไม้ธูปเทยี น (กรวย) เสอื้ ผา้ ผปู้ ่วย การแกว่งขา้ ว มีวิธีการดังนี้ ผู้ประกอบพิธีแกว่งข้าวจะนำ� เอาข้าวเหนยี ว ท่ีหุงสุกแล้วมาปั้นเป็นก้อนกลมใหญ่พอประมาณ แล้วผูกกับเชือกหรือด้าย จากนั้นเอาปลายเชือกอีกด้านหน่ึง ไปมัดตดิ กับด้ามไม้ยาวประมาณ ๑ วา จากน้ันตัง้ ค�ำถามซึง่ เหมอื นกับค�ำถามของพธิ ีลงผยี ่าหม้อน่งึ แตกต่างกนั ตรง วิธีการท�ำนายท่ีผีย่าหม้อน่ึงจะใช้การโขก แต่พิธีแกว่งข้าวผู้ประกอบพิธีจะถามว่า “ถ้าเป็นจ๊ะอั๋นแต้ขอให้ข้าวนั้น แกว่งไปแกว่งมา แกว่งแรงจนพ้นขอบด้งขอบหึง (กระด้ง) ถ้าบ่เป็นจะอ้ันขอให้อย่างแกว่งฮื้อหยุดอยู่กับตี๋” 66 พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ

หมายความว่า ถ้าเป็นไปตามที่ถามให้เชือกท่ีมัดติดข้าวไว้ให้แกว่งแรงจนพ้นขอบกระด้ง ถ้าไม่ใช่ให้เชือกท่ีมัดข้าว หยุดนงิ่ ผปู้ ระกอบพธิ ีจะถอื ไม้ หรือบางคนก็ถือเชือกกไ็ ด้ ชาวลา้ นนาเช่อื ว่า ครวั ไฟ (หอ้ งครวั ) แตล่ ะครอบครวั จะมีผปี ดู่ �ำยา่ ดำ� อยู่ เป็นผีทคี่ อยดแู ลทรพั ย์สินในบ้าน และคุม้ ครองคนในครอบครัวให้อยูเ่ ย็นเป็นสขุ และยงั สามารถพยากรณ์เรอ่ื งราวต่าง ๆ ทมี่ นุษยต์ อ้ งการทราบ ดงั นนั้ เมอ่ื จะออกไปไกลบ้านไปตา่ งถน่ิ ตา่ งจังหวัดคนเฒ่าคนแกม่ ักจะเอา หมากคำ� พลูใบ (หมาก จำ� นวน ๑ คำ� พลู จ�ำนวน ๑ ใบ) สวยดอกไมธ้ ปู เทยี น ขา้ วปัน้ กล้วยหน่วย (ข้าวเหนยี ว จ�ำนวน ๑ ป้ัน กลว้ ย จ�ำนวน ๑ ลูก) ไปบอกกล่าว ผปี ูด่ ำ� ย่าด�ำทคี่ รวั ไฟเสมอ ขอให้เดนิ ทางปลอดภยั และปกปักรกั ษาบ้านเรือน ความเช่อื เหลา่ น้ยี ังคงดำ� รงอยใู่ นชุมชน ท้องถน่ิ ในเขตภาคเหนือตอนบนจนไมส่ ามารถแยกออกจากวิถีชวี ติ ได้ (นางต่นุ ลาวตูม : สมั ภาษณ์ พ.ศ. ๒๕๕๖) ๒) วิธีการด่ืมน�้ำมนต์ ขั้นตอนน้ีจะใช้วินิจฉัยอาการเจ็บป่วยเรื้อรังท่ีเป็นมานาน ไปรักษาหลายวิธี แลว้ ไมห่ าย อาการไมด่ ขี นึ้ หรอื แยล่ งกวา่ เดมิ หาสาเหตไุ มเ่ จอสว่ นใหญจ่ ะเปน็ โรคของกรรม หรอื โรคทโ่ี ดนกระทำ� จาก สิ่งเหนือธรรมชาติ ยกตัวอย่างในกลุ่มปวดเมื่อยตามร่างกายที่ไปประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มบริเวณโค้งท่ีมี อุบัติเหตุและมีจ�ำนวนผู้เสียชีวิตมาก ในกลุ่มหมอพ้ืนบ้านจะให้ดื่มน�้ำมนต์แล้วจะสอบถามรสชาติของน้�ำมนต์ คือถ้ากินน�้ำมนต์แล้วมีรสชาติหวานแสดงว่าผีดีกระท�ำโทษ เช่น ผีบรรพบุรุษ ผีบ้าน ผีปู่ย่าที่โกรธและให้โทษลูก หลาน แตถ่ า้ กรณดี ่ืมแลว้ มรี สขม เฝ่ือน แสดงวา่ ผีรา้ ยกระท�ำให้โทษ เช่น ผีตายโหง ผีปา่ เปน็ ตน้ วธิ กี ารรักษามีหลาย รปู แบบ อาทิ การเป่า พู่ พ่น หรอื อาบน�ำ้ มนต์ เพอ่ื ขับไล่สิ่งช่ัวร้าย หรือการสง่ เคราะห์ การปัดรงั ควาญ การสู่ขวัญ หรือการเล้ียงผี เปน็ ต้น ๓) การตรวจวินิจฉัยด้วยวิธีอื่น ๆ เช่นการดูธาตุทั้งห้า ได้แก่ ดิน น้�ำ ลม ไฟ และอากาศ การสักยา การก๊อบขผ้ี ง้ึ การดดู นำ�้ มนั การกอ๊ บยาสมนุ ไพร ยกตัวอยา่ งกรณีการก๊อบยาสมุนไพร (พอกยา) ในผู้ปว่ ยเป็นโป่งย�ำ ท่ีมอี าการปวดบวมบริเวณขอ้ จะใช้สมุนไพรท่มี สี รรพคุณเยน็ เช่น ผเี ส้ือน้อย ผเี สือ้ ใหญ่ และรางคาว ผสมกบั ขา้ ว เหน่ียวหม่า (ข้าวเหนียวแช่) ต�ำผสมกันแล้วน�ำมาพอกบริเวณท่ีปวด สังเกตอาการร้อนบริเวณพอกลดลงหรือไม่ หรือพอกท้ิงไว้ ประมาณ ๓๐ นาที เอายาออกจับดวู า่ ยารอ้ นหรอื ไม่ ถ้ารอ้ นให้พอกไปเรื่อย ๆ และหมั่นคอยเปล่ียน ยาจนกระทงั่ ความรอ้ นทีย่ าพอกและบรเิ วณทบ่ี วมลดลง จงึ จะตามด้วยสมุนไพรต้ม หรอื การเช็ด และการแหก พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 67

ขอ้ ห้ามและข้อควรปฏบิ ัติในการนวด ๑. ขอ้ หา้ ม ผเู้ ขา้ มาใช้บรกิ ารทม่ี ีลักษณะไมค่ วรนวด ได้แก่ ผ้ปู ว่ ยทเี่ ป็นโรคร้ายแรง เช่น มะเรง็ (ระยะทีร่ ุนแรง) กระดูกหัก กระดูกพรนุ ผิวหนงั บาง มีแผลพุพอง มบี าดแผล หญงิ ตงั้ ครรภ์ หญิงระหว่างมปี ระจ�ำเดอื น ระหวา่ งเป็นไข้ ชำ�้ เลือด ชำ้� หนอง ปวด บวม แดง และรอ้ น ๒. ข้อควรระวัง ผปู้ ว่ ยเบาหวาน ผูป้ ว่ ยความดันโลหิตสงู ผปู้ ว่ ยมะเรง็ มีกอ้ นเน้อื (สาร) ในกรณีข้อหา้ มหรอื ข้อควรระวังอาจจะมคี วามแตกต่างกนั ไป บางโรคการนวดก็สามารถช่วยบรรเทาอาการ เจ็บป่วยได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้ป่วย ญาติ และความเช่ียวชาญของหมอพ้ืนบ้านของแต่ละท่าน ซ่ึงการก�ำหนดกฎเกณฑ์ร่วมกันในคร้ังนี้เพ่ือให้ได้มาตรฐานกลางร่วมกันของกลุ่มหมอพ้ืนบ้าน และจะส่งผลดีต่อ หมอนวดพน้ื บ้านรนุ่ ใหม่ ๆ ท่ยี งั ไม่เชย่ี วชาญใหไ้ ดม้ แี นวทางเพื่อยดึ ถือเปน็ หลกั ปฏบิ ตั ติ อ่ ไป ผลการสำ� รวจการใช้บริการจากหมอนวดพน้ื บา้ น จากการสัมภาษณ์ผู้มารับบริการจากหมอนวดพ้ืนบ้าน จ�ำนวน ๑๒๐ คน พบว่ามีเพศหญิงมารับบริการ มากกว่าเพศชาย โดยช่วงอายทุ ่ีมารบั บริการสูงสดุ อยูร่ ะหว่าง ๕๑-๖๐ ปี เปน็ จำ� นวนมากทสี่ ดุ ร้อยละ ๓๐ คา่ ใชจ้ า่ ย ในการมารับบริการ มีต้ังแต่ไม่มีค่าบริการจนถึง ๒,๙๙๙ บาท เกษตรกรเป็นกลุ่มอาชีพที่เข้ามารับบริการสูงสุด รอ้ ยละ ๓๙ ผมู้ ารบั บรกิ ารมีความพงึ พอใจตอ่ การรักษาของหมอนวดพ้นื บา้ นมากท่ีสดุ ร้อยละ ๘๔ ผมู้ ารับบริการ รู้จักหมอ โดยได้รับการบอกจากญาติ ร้อยละ ๙๒ อาการที่มารักษามากที่สุดคือ การปวดข้อ ร้อยละ ๓๒ รายละเอยี ด ดงั ตารางที่ ๔.๓ 68 พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ

ตารางท่ี ๔.๓ ผลการสมั ภาษณผ์ ู้ปว่ ยที่เข้ามารับบรกิ ารจากหมอพนื้ บา้ น รายการ จำ�นวน (N=๑๒๐) ร้อยละ หมายเหตุ เพศของผมู้ ารับบรกิ าร ๗๑ ๕๙ หญิง ๔๙ ๔๑ ชาย ชว่ งอายุท่ีมารบั บรกิ าร (ปี) ๑๑ ๙ ๒๑ - ๓๐ ๑๙ ๑๖ ๓๑ - ๔๐ ๒๐ ๑๗ ๔๑ - ๕๐ ๓๖ ๓๐ ๕๑ - ๖๐ ๓๔ ๒๘ มากกวา่ ๖๐ ปขี ึ้นไป ค่ารักษา (บาท) ๕๗ ๔๗.๕ ๐ - ๑๐๐ ๓๗ ๓๐.๘ ๑๐๑ - ๒๐๐ ๒๒ ๑๘.๓ ๒๐๑ - ๓๐๐ - - ๓๐๑ - ๔๐๐ ๒ ๑.๗ ๔๐๑ - ๕๐๐ ๒ ๑.๗ มากกวา่ ๕๐๐ บาทข้นึ ไป อาชีพของผ้มู ารับบริการ ๔๗ ๓๙ เกษตรกร ๓๔ ๒๘ ค้าขาย ๒๔ ๒๐ รบั จา้ ง ๑๓ ๑๑ รบั ราชการ ๑ ๑ นกั ศึกษา ๑ ๑ แม่บา้ น พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 69

ตารางที่ ๔.๓ ผลการสัมภาษณผ์ ู้ปว่ ยทเี่ ข้ามารับบรกิ ารจากหมอพื้นบา้ น (ตอ่ ) รายการ จำ�นวน (N=๑๒๐) รอ้ ยละ หมายเหตุ จ�ำนวนญาติที่มาดว้ ย (คน) ๑๔ ๑๒ ๐ ๕๙ ๔๙ ๑ ๑๖ ๑๓ ๒ ๑๐ ๘ ๓ ๗ ๖ ๔ ๕ ๔ ๕ ๓ ๓ ๖ ๖ ๕ ๙ ความพึงพอใจในการมาใช้บริการ ๑๐๑ ๘๔ มาก ๑๙ ๑๖ พอใช้ - - นอ้ ย การรูจ้ ักหมอนวดพ้นื บา้ นจาก ๑๑๐ ๙๒ ญาต ิ สอื่ สาธารณะ ๙ ๗ เพอื่ น ๑ ๑ อาการที่มารกั ษา ๓๘ ๓๒ ปวดขอ้ ๑๘ ๑๕ ปวดหลงั ๑๐ ๘ ปวดทั้งตวั ๑๐ ๘ เส้นทอ้ งตึง ๑๐ ๘ เส้นจม ๘ ๗ นว้ิ ล็อก ๘ ๗ ปวดขา ๘ ๗ ปวดหวั ๖ ๕ อมั พาต อมั พฤกษ์ ๒ ๑.๖ ปวดคอ ๒ ๑.๖ เอน็ พลิก 70 พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ

สว่ นท่ี ๕ การวเิ คราะหส์ มนุ ไพรทใี่ ชร้ ว่ มกับการนวด ในการถอดองค์ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรท่ีใช้ร่วมกับการนวดในครั้งนี้หมอนวดพื้นบ้านแต่ละคนได้ให้ ตำ�รับยาท่ีใช้ร่วมกับการนวด จำ�นวน ๕๔ ตำ�รับ (ตาราง ๔.๔) นำ�เสนอพืชสมุนไพรท่ีใช้เป็นประจำ�ทั้งส้ิน ๑๘๔ ชนิด (ตาราง ๔.๕) มสี มนุ ไพรบางชนิดท่ยี งั ไมส่ ามารถจดั จำ�แนกได้ เน่อื งจากยังขาดตวั อย่างในการศึกษา โดยมีรายละเอยี ดของสูตรตำ�รบั ยาและวิธใี ชย้ า ดังตารางที่ ๔.๔ ตารางที่ ๔.๔ ตำ�รบั ยาสมนุ ไพรทีใ่ ชป้ ระกอบการรกั ษาด้วยการนวดแบบลา้ นนา ลำ�ดับ โรค/อาการ ตำ�รับยาและวิธใี ช้ยา ผ้ใู หข้ อ้ มลู ๑ กระดูกทับเสน้ เอาลกู มะกรูดไปเผาไฟบีบเอาแตน่ ้ำ� นำ� ไปผสมกบั เหลา้ ขาว หมอส�ำราญ มาฟู โดยมสี ัดสว่ นมะกรูด ๕ ลกู ตอ่ เหลา้ ขาว ๑ เปก็ ทาวนั ละ ๒ คร้งั โดยมีวิธีทาดงั น้ี ทาครั้งท่ี ๑ ทาให้ท่วั ตรงบรเิ วณปวดแล้วนวด ให้ยาซมึ ลงไปจนแหง้ จากนนั้ จึงทาครง้ั ท่ี ๒ ทำ� เหมอื นครัง้ ท่ี ๑ และทาคร้งั ที่ ๓ พรอ้ มทบั ยานง่ึ ลงบรเิ วณที่ปวดท�ำเชา้ เยน็ จนกวา่ อาการจะดขี น้ึ ๒ กอนลงฟัก/ (ยาต้ม) บำ� รงุ กำ� หนดั เถาคันแดง ๑ ส่วน นมววั ๑ สว่ น หมอสนุ ทร แกว้ ทอง นกเขาไม่ขนั / ก�ำแพงเจด็ ช้ัน ๑ สว่ น ตม้ ดืม่ แทนน�ำ้ มะเขอื เผา ด่มื ติดตอ่ กนั เป็นระยะเวลา ๓-๗ วัน ๓ กอนลงฟกั / (ยาตม้ ) บ�ำรงุ ก�ำหนัด ไม้ปลาไหลเผือก ๓ สว่ น หมอสมบูรณ์ นกเขาไม่ขนั / ไมป้ ระดเู่ ครอื ๓ สว่ น ไมม้ ะหนอ้ ด ๔ สว่ น และเครอื จมุ่ จรงิ ๑ สว่ น ปัญญาพิท มะเขือเผา ตม้ ดม่ื แทนน�้ำ ด่ืมติดต่อกันเป็นระยะเวลา ๗ วัน ๔ กอนลงฟกั / (ยาต้ม) ชูกำ� ลงั มะเขือแจ้เครือ ๔ ส่วน ก�ำลังเสือโครง่ ๔ สว่ น หมอสำ� ราญ มาฟู นกเขาไมข่ นั / กวางหีแฉะ ๑ กำ� มือ โดไ่ ม่รู้ลม้ ๑ กำ� มอื และฝางเสน ๔ ส่วน มะเขือเผา ต้มดื่มแทนนำ�้ ด่ืมตดิ ต่อกันเปน็ ระยะเวลา ๓-๗ วนั ๕ เก่ียว (ตะคริว) (ยาลกู กลอน) ฮอ้ มเก่ยี วเงิน ฮอ้ มเก่ยี วค�ำ โกฐจฬุ าลมั พา หมอสมบูรณ์ ปัญญาพิท รากเปา้ ตองแตก พริกไทย กานพลู และพิมเสน นำ� มาสับ ตากใหแ้ หง้ บดเป็นผงท�ำเปน็ ลูกกลอนเทา่ เมล็ดมะแวง้ กนิ ครั้งละ ๓ เมด็ วันละ ๓ ครง้ั กอ่ นหรือหลังอาหารกไ็ ด้ พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 71

ตารางที่ ๔.๔ ตำ� รับยาสมุนไพรที่ใชป้ ระกอบการรักษาดว้ ยการนวดแบบล้านนา (ตอ่ ) ลำ�ดับ โรค/อาการ ตำ�รับยาและวิธีใช้ยา ผู้ให้ข้อมลู ๖ เก่ยี ว (ตะคริว) พรกิ ไทย ใบพลู ใบจะค่าน ดีปลี ฮ้อมเก่ียวเงนิ ฮ้อมเกย่ี วค�ำ หมอประเดมิ โกฐจุฬาลมั พา ใบปด๊ิ ปวิ แดง ใบปด๊ิ ปวิ ขาว ใบหนาดเงิน และ ส่างเสน ใบหนาดค�ำ นำ� มาสับตากให้แห้ง บดเปน็ ผง ละลายน�ำ้ อุ่น กนิ ครงั้ ละปรมิ าณ ๒ ชอ้ นกาแฟ วนั ละ ๓ เวลา กอ่ นอาหาร เชา้ กลางวนั และเย็น หรอื เอาผงยาน�ำมาผสมเหลา้ ขาว ทาใช้ในกรณเี ร่งดว่ น ๗ เก่ียว (ตะครวิ ) (ยาพอก) ยากอ๊ บเกย่ี ว ใบจะคา่ น ใบดปี ลี ใบพลบั พลงึ ใบฮอ้ มเกยี่ ว หมออรุณวรรณ ใบผเี ส้ือนอ้ ย ใบเปา้ เลือด ใบชะเอม ปเู ลย และใบส้มปอ่ ย นำ� เอา นวลจันทร์ มาตำ� ใหพ้ อดี เสรจ็ แล้วนำ� ไปน่ึงให้ร้อน ทงิ้ ให้อ่นุ นำ� ไปพอกแลว้ เอาผา้ พันทับบริเวณท่เี ป็น ในกรณีท่ีเปน็ บอ่ ยต้องมกี ารเตรยี ม สมุนไพรพร้อมใช้อย่เู สมอ ๘ ขางขะย้ือ มะนาวจ�ำนวน ๗ ลกู และน�ำ้ ผึง้ ปรมิ าณ ๑ ขีด (๑๐๐ กรัม) หมอตามมะ สา่ งวิ (หืดหอบ) น�ำเอามะนาวมาสบั ให้ละเอียด แล้วนำ� มาตม้ จนเละ เคีย่ วกบั นำ้� ผึ้งประมาณครึง่ ชว่ั โมง กนิ ครัง้ ละปรมิ าณ ๑ ช้อนกาแฟ วนั ละ ๒ ครัง้ เชา้ และเยน็ กอ่ นหรือหลังอาหารกไ็ ด้ ๙ ขางขะยื้อ ฝา่ มือผี (หนมุ านประสานกาย) รางเย็น ยอดมะเกว๋น หมอประเดมิ (หดื หอบ) โกฐจุฬาลมั พา มะแว้งขมขาว และเกล็ดปลากุง นำ� มาสับ สา่ งเสน ตากแดดให้แห้ง บดเป็นผง นำ� มาผสมน้�ำผงึ้ กนิ คร้งั ละ ๑-๒ ช้อนชา กินบ่อย ๆ วันละ ๔-๖ ครงั้ /วัน ๑๐ ครัวท้องลง หลับมนื น้อยเอาแต่ราก ปอกเอาเปลือกรากออกให้หมด หมอจา่ มขิ่น กุง่ นะ (มดลกู ลง นำ� มามัดให้ไดจ้ ำ� นวน ๓ มัด แตล่ ะมัดเทา่ ๑ วอ้ งมือ ต้มมดั แรก มดลกู หยอ่ น) ใสน่ ำ�้ ปริมาณ ๓ แก้วเหลือน�้ำปรมิ าณ ๑ แกว้ กินใหห้ มด มัดทสี่ องและสาม ตม้ ใส่น้ำ� พอท่วม ตม้ พอน�้ำเดอื ด ด่ืมไปเร่ือย ๆ แทนน�้ำ จนกว่าอาการจะดีขึน้ ๑๑ ครัวทอ้ งลง (ยานัง่ ) ยาแก้ไส้ลงห�ำ หญา้ ปากควาย หญ้าถอดปล้อง หัวปูเลย หมอประเดิม (มดลกู ลง หัวค้างคาว ป้งิ สมทุ รทัง้ สาม ไมค้ า่ หด และวา่ นหัวหลวง สา่ งเสน มดลูกหย่อน) น�ำเอาสมนุ ไพรสด ๆ มาต�ำพอแหลก หอ่ ด้วยใบตองกล้วยตีบ หรอื ตองกล้วยนวล และใบขมน้ิ นำ� ไปหมกไฟ ทิง้ ใหอ้ ่นุ จัด ๆ แลว้ นง่ั ทบั ทำ� วนั ละ ๑ ครั้ง จนกว่าอาการจะดีขึ้น 72 พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ

ตารางท่ี ๔.๔ ต�ำรบั ยาสมนุ ไพรท่ีใช้ประกอบการรักษาด้วยการนวดแบบลา้ นนา (ตอ่ ) ลำ�ดับ โรค/อาการ ตำ�รับยาและวธิ ีใชย้ า ผู้ให้ขอ้ มูล ๑๒ ครวั ทอ้ งลง (ยาน่งั ) ยาแก้ไส้ลงห�ำ เป้านอ้ ย เป้าหลวง เป้าตอกแตก หมอจันทร์ทรา (มดลกู ลง และใบปูเลย ผงิ ไฟใหร้ ้อนน�ำมานั่งทบั มงคลดี มดลกู หยอ่ น) ทำ� ติดต่อกัน ๓ วนั ๑๓ ท้องผูก (ยาระบาย) ต้นหญา้ นมแพะ ๔-๘ ใบ หมออรณุ วรรณ นำ� มาต้มด่มื ๑ แก้ว (ดื่มทันท)ี นวลจนั ทร์ ๑๔ ท้องผูก (ยาระบาย) น้ำ� มะขาม ๑ แกว้ ดื่มวันละ ๒ ครง้ั เช้า และเยน็ หมออรณุ วรรณ นวลจนั ทร์ ๑๕ ท้องผูก (ยาระบาย) ฝักลมแลง้ (ฝกั คนู ) ทบุ เอาแตเ่ มล็ดขา้ งใน หมอสมบรู ณ์ จำ� นวน ๑ เมล็ด น�ำไปตม้ กับนำ้� ๓ แก้วใหเ้ หลอื ๑ แก้ว ด่มื ทนั ที ปญั ญาพทิ ๑๖ ทอ้ งผกู (ยาสวน) บบี เอาน้�ำมนั จากผิวมะกรูดน�ำไปผสมกบั นำ้� สะอาด หมอสมบูรณ์ ปริมาณครง่ึ แกว้ สวนเข้าทวารหนัก ปญั ญาพิท เหมาะสำ� หรับผตู้ ิดปว่ ยติดเตียงท่ีลกุ ไม่ได้ ๑๗ ปวดหลงั รากหญา้ ตดหมา รากหอมปอ้ มเปอ้ (ผักชีฝรั่ง) หมอสมบรู ณ์ ปวดเอว และรากหญา้ ฮามป่าย นำ� มาห่ันตากแดดให้แหง้ บดเป็นผง ปัญญาพิท นำ� เอาผงมาผสมน�้ำตาลสด ปน้ั เป็นลกู กลอนเท่ากับเมลด็ มะขาม กนิ ครง้ั ละ ๒ เม็ด เชา้ และเยน็ หรอื เมื่อมอี าการปวด ๑๘ ปวดหลงั ไมเ้ นา่ ใน เครอื หน�ำแน้ เครือกอ้ งแกบ มะแจ้เครอื และแกน่ ฝาง หมอจ่ามข่ิน กุง่ นะ ปวดเอว นำ� มาต้มดมื่ แทนน�ำ้ กินจนกวา่ อาการจะดขี ึ้น ๑๙ ปวดหลัง ตาไมบ้ งปา่ หัวคา้ งคาว รากมะลิซอ้ นหลวง กาฝากผักหละ หมอจนั ทร์ทรา ปวดเอว รากมะแว้งขาวขม รากผักหวานบา้ น ตน้ หง้วนตากหงาย มงคลดี และปูเลย น�ำไปต้มหรอื ฝนกนิ กินติดต่อกันจนกวา่ อาการจะดขี ึน้ ๒๐ ปวดหลงั เครือเขาหมวก เครือก้องแกบ มะเขือแจ้เครือ ผาแป้ง รากขะจาว หมอส�ำราญ มาฟู ปวดเอว รากขี้เหล็ก รากลมแลง้ เคลด็ เกา๊ และแก่นฝาง ตม้ ใสข่ า้ วเจ้าเปลอื ก ดื่มแทนนำ�้ จนกวา่ อาการจะดขี นึ้ ๒๑ ปวดหลัง ใบอนู บ้าน ทบุ พอช้ำ� เอาไปลนไฟ นำ� มาหอ่ ผา้ ประคบบริเวณ หมอหมอ่ ทป่ี วด กวนิ ย่ังยืน ๒๒ ปวดเหงอื ก ยางฝ่ินต้น หกั ก้านใบเอายางสขี าวใส่ท่ีเหงอื กหรอื ฟันที่ปวด หมออรณุ วรรณ นวลจนั ทร์ พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 73

ตารางที่ ๔.๔ ตำ�รับยาสมนุ ไพรทใี่ ช้ประกอบการรักษาด้วยการนวดแบบลา้ นนา (ต่อ) ลำ�ดับ โรค/อาการ ตำ�รับยาและวิธใี ชย้ า ผู้ให้ข้อมลู ๒๓ ปวดเหงอื ก รากผักโขมไข่ นำ� มาลา้ งให้สะอาดทบุ ใหล้ ะเอียด หมอจา่ มขิน่ กงุ่ นะ น�ำไปอดุ ท่เี หงือกหรือฟนั ทป่ี วด ๒๔ ปวดเหงือก เปลือกขอ่ ย เปลอื กขางหวั หมู ใบผเี สือ้ นอ้ ย และเปลอื กไมจ้ ่ี หมอประเดิม น�ำเอามาตม้ เป็นน้�ำยาบ้วนปาก หรือใช้อมก็ได้ ส่างเสน ๒๕ ปวดเหงอื ก เปลอื กกอกในดนิ เปลอื กมะเกมิ้ ในดนิ และเปลอื กไมค้ า่ วหดในดนิ หมอประเดิม นำ� เอามาตม้ เป็นนำ้� ยาบว้ นปาก หรอื ใชอ้ มกไ็ ด้ สา่ งเสน ๒๖ ปวดเหงือก ยอดไมแ้ หว ๗ ยอด พรกิ น้อย ๗ เม็ด การบรู ๑ ขีด หมอตามมะ ส่างวิ นำ� เอาทั้งหมดมาต�ำเปน็ ผงแลว้ ปั้นเป็นลกู กลอน เทา่ กบั เมล็ดมะแว้ง น�ำมาอดุ ตามฟันทเ่ี ปน็ รู ๒๗ มดลกู หยอ่ น (ยามหาเสนห่ ์) วา่ นชกั มดลกู ว่านหวั หลวง และวา่ นนางคำ� หมอประเดมิ อยา่ งละ ๗ ช้นิ ตม้ กินตา่ งน�้ำ จนกว่าอาการจะดีขึ้น สา่ งเสน ๒๘ มะโหกกน้ ปูด เครือเจน ๑ กำ� มือ มัดตัดหัวตัดหางต้มพอใหน้ �ำ้ ท่วมยา หมออรุณวรรณ กินวันละ ๑ แก้ว จนกว่าอาการจะดีข้นึ นวลจันทร์ ๒๙ มะโหกกน้ ปูด หนามจายแดง เครอื เจน หนามเคลด็ เกา๊ ไม้มะแตก และไม้ฝาง หมอจนั ทร์ฉาย (รดิ สีดวงทวาร) ตม้ ใสใ่ นน้�ำใสข่ ้าวเจ้าเปลอื กกนิ ตา่ งนำ�้ จนกวา่ อาการจะดีขึน้ เขตสิทธิ์ ๓๐ มะโหกก้นปดู เครือกอ้ งแกบ เครอื เจน แกนฝาง ฮอ้ สะปายควาย หมอส�ำราญ มาฟู (รดิ สดี วงทวาร) มะเขอื แจเ้ ครอื เครอื ออน เพชรสงั ฆาต รากพลู และหมา่ ปหู้ มา่ เมยี ต้มใสใ่ นน้ำ� ใสข่ ้าวเจ้าเปลือกกนิ ต่างน้�ำ จนกวา่ อาการจะดขี ้นึ ๓๑ ลมทอ้ งเต้น รากหญา้ ตองกง (รากหญา้ ไม้กวาด) น�ำมาตม้ กิน หมอสมบูรณ์ ปญั ญาพทิ ๓๒ ลมท้องเตน้ (ยาด�ำ) ยาแก้แหล่ม ข้าวคัว่ พรกิ ไทย เทยี นท้งั ๕ แตงเถ่อื น หมอสำ� ราญ มาฟู หมูปลอ่ ย ดงี หู ว้า และดีปลี ๓๓ ลมทอ้ งเตน้ น�ำ ขิง ขา่ ตะไคร้ และฮ้อมเกย่ี ว มาต้มรวมกนั ด่ืมขับลม หมอบุญ อุปนันท์ ๓๔ ลมมะเฮง็ คุด (ยาก๊อบ ยาพอก) ใบค้างคาว เมลด็ ข่า ใบปูต้น ใบแมงดาต้น หมอประเดมิ ออกหัวออกตา ใบกฤษณา ใบจันผา ใบยาแก้ดอกขาว ใบขมิ้น ใบปูเลย สา่ งเสน (ปวดไมเกรน) และใบเล็บครฑุ ทง้ั สอง น�ำมาตำ� ให้แหลกน�ำมาพอกท่ีศรี ษะ แลว้ นำ� เอาผา้ พันทบั ทิง้ ไว้ จ�ำนวน ๑ ชั่วโมง ขึ้นอยู่อาการปวด ถ้าเป็นมากพอกวันละ ๒ คร้ัง ท�ำจนกวา่ อาการจะดีขึ้น 74 พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ

ตารางท่ี ๔.๔ ตำ�รบั ยาสมนุ ไพรที่ใชป้ ระกอบการรกั ษาดว้ ยการนวดแบบลา้ นนา (ตอ่ ) ลำ�ดบั โรค/อาการ ตำ�รับยาและวิธีใช้ยา ผใู้ หข้ อ้ มลู ๓๕ ลมมะเฮ็งคดุ (ยากอ๊ บ ยาพอก) ใบพลับพลึง ผักเสีย้ นผี ใบผีเสอื้ น้อย ตะไคร้ หมออรุณวรรณ ออกหัวออกตา หวั ปเู ลย มะขามป้อมดนิ ใบฮ้อมเก่ยี ว ใบสม้ ปอ่ ย ใบค้างคาว นวลจนั ทร์ (ปวดไมเกรน) ใบกฤษณา และใบเล็บครุฑทัง้ สอง น�ำมาต�ำให้แหลก เอามาพอก บริเวณท่ปี วดแล้วน�ำเอาผา้ พนั ทบั ทิง้ ไว้ ๑ ชัว่ โมง ขนึ้ อย่กู บั อาการปวดถา้ เป็นมากพอกวนั ละ ๒ คร้ัง พอกจนกว่าอาการจะดีขนึ้ ๓๖ ลมมะเฮ็งคดุ หนาดเงิน หนาดค�ำ ผเี สอ้ื น้อย ตองกล้วยตีบ รากกลว้ ยนวล หมอสำ� ราญ มาฟู ออกหวั ออกตา ตองเครือคำ� สรุ ะปดิ๊ ค�ำ ปดิ๊ เตอะ ทองพันช่งั โป้งหญา้ ตดหมา (ปวดไมเกรน) กาฝากเด่ือเกลี้ยง เดอื่ ปอ่ ง และโป้งผักสาบ ตม้ กนิ ตา่ งนำ�้ จนกวา่ อาการจะดขี ึ้น ๓๗ ลมสันนิบาต โกฐจุฬาลมั พา เปา้ ตองแตก ฮอ้ มเก่ยี วเงนิ ฮอ้ มเก่ียวทอง ขา่ หมอสมบรู ณ์ เขา้ เส้น ตน้ กดน�้ำ หัวละแอน (กระชาย) วา่ นหอม ตาลคอม้าหรือ ปญั ญาพิท หญ้าคอตุง ดอกมะละกอ พรกิ ไทย การพลู ยาแก้ดอกขาว ยาแก้เครอื ด�ำหรอื กอนหมาด�ำ รากไมล้ มแลง้ และรากไม้แมงดาตน้ น�ำมาสับตากให้แห้งบดเป็นผง กินกับน้ำ� อนุ่ ครั้งละ ๑ ช้อนโต๊ะ วันละ ๒ ครง้ั เชา้ และเย็น ๓๘ ลมสนั นิบาต (ยาทา ยาบีบ ยานวด) ใบข่า หัวขม้ินขึน้ หวั ตนู ใบผักไผ่ หมอส�ำราญ มาฟู เขา้ เสน้ และขี้ขะเย้อคา่ (ย่ายอนไฟ) น�ำมาตำ� ให้ละเอยี ด เอาน้ำ� หมอ้ น่ึง มาผสม แล้วทาแล้วบบี นวดทกุ วนั วันละหลาย ๆ คร้ัง จนกวา่ อาการจะดีขน้ึ ๓๙ ลมสนั นบิ าต (ยาพญาอินทร์ ตาปราบลมสนั นิบาต) เทียนทัง้ หา้ (เทียนดำ� หมอประเดิม เข้าเส้น เทยี นแดง เทียนขาว เทยี นขา้ วเปลอื ก และเทียนตาตก๊ั แตน) ส่างเสน โกฐทงั้ หา้ (โกฐสอ โกฐเขมา โกฐหวั บวั โกฐเชยี ง และโกฐจฬุ าลมั พา) บัวทัง้ หา้ (บัวสตั ตบษุ ย์ บัวสตั ตบรรณ บัวลนิ จง บวั จงกลนี และบวั นลิ บุ ล) จนั ทนท์ ง้ั สอง (จนั ทนแ์ ดง จนั ทนข์ าว) ขมนิ้ ทง้ั สอง (ขม้ินชนั และขม้ินออ้ ย) ใบพลู ใบการบรู ใบกฤษณา ใบหนาด ปง้ิ สมทุ รทง้ั สาม ไมส้ น ไมด้ ู่ แกน่ ไมข้ นนุ แกน่ ไมฝ้ าง ใบกาสะลอง ใบหมา่ ไขม่ อก ดอกไม้ไหว และหญา้ หวาน น�ำไปสับตากแห้ง บดเปน็ ผง ละลายกบั นำ้� อนุ่ กนิ สำ� หรบั คนทเ่ี รมิ่ เปน็ กนิ วนั ละ ๒ ครง้ั ถ้าอาการไม่หนักมาก กนิ วนั ละ ๓ ครง้ั ถ้ามีอาการหนกั กนิ วันละ ๔ ครง้ั พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 75

ตารางที่ ๔.๔ ตำ�รบั ยาสมนุ ไพรทใ่ี ชป้ ระกอบการรกั ษาดว้ ยการนวดแบบล้านนา (ต่อ) ลำ�ดบั โรค/อาการ ตำ�รบั ยาและวธิ ใี ช้ยา ผใู้ ห้ข้อมูล ๔๐ ลมอัมพฤกษ ์ ปเู ลย จนั จ๋ี จันบาน เทียนทง้ั ห้า โกฐท้ังเกา้ (โกฐสอ หมอประเดิม เย็น ทเี่ กดิ จาก โกฐเขมา โกฐหวั บวั โกฐเชียง โกฐจุฬาลมั พา โกฐกระดกู ส่างเสน ความดันโลหติ โกฐกา้ นพรา้ ว โกฐชฎามงั สี และโกฐพุงปลา) บวั ทงั้ หา้ ตำ่� เครอื ก้องแกบ เครอื หมา่ หนงั เพมิ่ ขงิ เหงา้ ตะไคร้ พรกิ นอ้ ย และดปี ลี สดั สว่ นอยา่ งละเทา่ กนั มาตม้ ดม่ื ดมื่ วนั ละ ๓ ครงั้ กอ่ นอาหารเชา้ กลางวนั และเย็น ปรมิ าณครงั้ ละ ๑ แกว้ หรอื ดม่ื แทนนำ้� กไ็ ดห้ รอื นำ� มาแชต่ วั ไดว้ นั ละ ๑ ครง้ั จนกว่าอาการจะดขี ึน้ ๔๑ ลมอมั พฤกษ์ ปเู ลย จันจ๋ี จันบาน เทยี นทงั้ หา้ โกฐทง้ั เกา้ บวั ทงั้ ห้า หมอประเดิม รอ้ น ทเ่ี กิดจาก เครือกอ้ งแกบ และเครอื หม่าหนัง สัดสว่ นอยา่ งละเท่ากัน สา่ งเสน ความดนั โลหิต มาต้มดื่ม ดมื่ วนั ละ ๓ คร้ัง กอ่ นอาหารเช้า กลางวัน สูง และเยน็ ปรมิ าณครงั้ ละ ๑ แก้ว หรอื ดมื่ แทนน้�ำก็ได้ หรือนำ� มาแช่ตัวกไ็ ด้ วันละ ๑ ครง้ั จนกวา่ อาการจะดีขึน้ ๔๒ เหนบ็ ชา รากหนามเล็บแมว รากหนามเคลด็ เกา๊ หญ้าฮ้อมเก่ียว หมอบญุ อุปนันท์ รากผกั ดดี และไมฝ้ าง ทั้งหมดสดั ส่วนเท่ากันตม้ ดืม่ ๓ เวลา เชา้ กลางวนั และเยน็ ก่อนอาหาร จนกระทง่ั อาการดขี ้นึ ๔๓ เหน็บชา ไม้เปา้ เลือด ยาแก้ดอกขาว หญา้ ฮ่อมเก่ยี ว ใบหนาด หมอตามมะ ส่างวิ ปูเลย ว่านหัวหลวง และผีเส้อื น้อย ตม้ ดืม่ จ�ำนวนวันละ ๒ คร้งั กอ่ นอาหารเชา้ และเย็น และสตู รดงั กลา่ วน�ำไปอบยาสมุนไพร จนกระทั่งอาการดขี ึน้ ๔๔ เหนบ็ ชา โคกกระสุน กระเทียมโทน มหาหงิ ส์ หัวขา้ วเยน็ เหนอื หมอสมบูรณ์ พญานาคราช ปูเลย ปิด๊ ปิวแดง ขิงแหง้ และเปา้ เลือด นำ� มาสับ ปญั ญาทพิ แลว้ ตากแห้งบดเป็นผง นำ� เอาผงมาผสมกันโดยใชส้ ัดสว่ นเท่ากัน กินเป็นผงหรอื ปั้นเป็นลูกกลอน ถา้ เปน็ ลกู กลอนให้กนิ วันละ ๓ ครั้ง คร้งั ละ ๓ เมด็ กอ่ นอาหารเช้า กลางวนั และเยน็ ถ้ากนิ ในรูปท่เี ปน็ ผง ให้กินปรมิ าณ ๑ ชอ้ นกาแฟ ๔๕ อัมพฤกษ์ (ยาย่าง) ใบเปา้ ท้งั สาม (ตองแตก เป้าหลวง เปล้าน้อย) ใบข่า หมอสำ� ราญ มาฟู (ยายา่ ง) หัวปูเลย ใบชุมเห็ดขาว ใบชมุ เห็ดแดง ใบปิ๊ดปวิ ขาวและแดง ใบมกู นั่ง ใบผเี สือนอ้ ย ใบขม้ินขึ้น ใบตะไคร้ และตองกล้วยตีบ สบั รวมกนั สัดส่วนเทา่ กันน�ำไปตากให้แห้ง น�ำไปโรยไว้บนแคร่ สมุ ไฟแลว้ ใหผ้ ้ปู ว่ ยไปยา่ ง ระยะแรก ๆ ท�ำวนั ละ ๒ ครง้ั เชา้ และเยน็ ถ้าอาการดีขึ้นท�ำวนั ละ ๑ ครง้ั จนกว่าอาการจะดีข้ึน 76 พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ

ตารางที่ ๔.๔ ตำ�รบั ยาสมนุ ไพรทีใ่ ชป้ ระกอบการรกั ษาด้วยการนวดแบบล้านนา (ต่อ) ลำ�ดับ โรค/อาการ ตำ�รับยาและวิธีใช้ยา ผ้ใู ห้ข้อมลู ๔๖ อัมพฤกษ ์ ปเู ลย คา้ งคาว โกฐจฬุ าลมั พา เครือบอระเพ็ด ว่านหัวหลวง หมอประเดิม เกดิ จาก ตาไม้ไผส่ ีสุก ไมป้ ูเลยต้น ไม้มะดูก ไม้มะดะ ไมข้ ิ ไม้ขอ่ ย สา่ งเสน อุบตั ิเหตุ หญา้ ถอดปล้อง และลา้ นผปี าย ตม้ แล้วแช่หรือต้มอาบและต้มดื่ม สดั สว่ นเทา่ กนั กนิ วนั ละ ๓ ครง้ั กอ่ นอาหารเชา้ กลางวนั และเยน็ คร้ังละ ๑ แกว้ จนกวา่ อาการจะดขี น้ึ ๔๗ อมั พาต ฝางแดง ควยงนู ้อย ควยงหู ลวง รากและดอกแกว้ หมอสำ� ราญ มาฟู รากต้นขี้เหลก็ รากตน้ ระงับพษิ รากตน้ หสั สะกึน รากแหนเครือ รากต้นหมา่ ม่นุ รากต้นส้มป่อย รากไม้มะดกู และรากตน้ ตบั เตา่ นอ้ ย ใชส้ ดั สว่ นเทา่ กนั นำ� ไปตม้ ใสข่ า้ วเจา้ เปลอื ก ๑ หยิบมอื กนิ ต่างน้�ำจนกว่าอาการจะดีข้ึน ๔๘ อัมพาต ดอกดปี ลี เมลด็ พรกิ ไทย ขงิ ปูเลย ใบโบลาขาว ใบโบลาดำ� หมอบญุ อุปนันท์ ใบหสั สะกึน ใบจมุ่ จะลงิ (บอระเพ็ด) ใบดอกรัก ใบข่อย เครอื เขาค�ำ และใบลมแล้ง น�ำมาสับแล้วตากแห้งบดเป็นผง นำ� เอามาผสมกนั สดั ส่วนเท่ากนั แบ่งออกเปน็ สองส่วน ส่วนที่ ๑ เอาไปดองสรุ าน�ำมาทาตามร่างกายวันละ ๒ เวลา เชา้ และเยน็ และสว่ นท่ี ๒ น�ำไปกนิ ครั้งละ ๑ ชอ้ นชา กนิ ผสมนำ้� อุน่ วนั ละ ๒ เวลา เช้า และเย็น หลงั อาหาร ดมื่ จนกว่าอาการจะดีข้นึ ๔๙ อมั พาต ผกั เสย้ี นผี ใบกวา๋ วตน้ ใบมะตา๋ เสอื และใบพลบั พลงึ สดั สว่ นเทา่ กนั หมอวเิ ชยี ร น�ำมาตม้ แบ่งออกเป็นสองสว่ น สว่ นที่หนึ่งนำ� มาทาตามร่างกาย รักสิทธ์ิ ใหเ้ พม่ิ การบูร ส่วนทส่ี อง น�ำมาดื่มวันละ ๓ คร้ังๆ ละปริมาณ ๑ แก้ว หลงั อาหาร เช้า กลางวัน และเย็น ๕๐ เอ็นเขา้ แคบ๊ ใช้นำ้� มนั ปเู ลยนวด ๕๑ เอน็ เข้าแคบ๊ ใชน้ �้ำมันตะไคร้นวด ๕๒ เอน็ เขา้ แค๊บ ใชน้ �้ำมันพลบั พลึงนวด ๕๓ เอน็ เขา้ แคบ๊ ผเี ส้ือน้อย โกฐจุฬาลมั พา หนาด ใบพลับพลึง ว่านน้ำ� หมอจนั ทร์ฉาย เถาวัลยเ์ ปรยี ง เปล้าน้อย เปลา้ หลวง ใบโคคลาน เกลอื การบูร เขตสิทธ์ิ พมิ เสน ตะไคร้ ใบมะกรูด ใบมะขาม ใบสม้ ปอ่ ย ปเู ลย ขม้นิ และข่า นำ� ไปนงึ่ ใชป้ ระคบ พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พื้ น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 77

ตารางที่ ๔.๔ ตำ�รบั ยาสมนุ ไพรท่ใี ช้ประกอบการรักษาดว้ ยการนวดแบบล้านนา (ตอ่ ) ลำ�ดับ โรค/อาการ ตำ�รบั ยาและวธิ ใี ช้ยา ผู้ให้ข้อมูล ๕๔ เอน็ เข้าแคบ๊ (ยานง่ึ ) ผีเสือ้ นอ้ ย ใบหนาด พลบั พลงึ เสี้ยนผี ใบฮอ้ มเด่ยี ว หมออรุณวรรณ (สะบกั จม) เปา้ น้อย เป้าหลวง ตะไคร้ ปูเลย ขม้นิ มะขามป้อมดนิ เลบ็ ครุฑ นวลจนั ทร์ และโกฐจฬุ าลัมพา จากต�ำรับยาทั้ง ๕๔ ต�ำรับ ท�ำการจ�ำแนกชนิดสมุนไพรจากแต่ละต�ำรับ พบสมุนไพรท่ีอยู่ในกลุ่มพืช จำ� นวน ๑๘๔ ชนดิ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ๑ ชนดิ คือ ข้ขี ะเยอ้ คา่ หรือภาษาไทยกลางเรยี กวา่ ย่ายอนไฟ หมายถงึ ใยแมงมุมท่ีอยู่บนหลังคาในครัวแล้วมีเขม่าควันไฟจับอยู่ ในการศึกษาคร้ังน้ี ผู้วิจัยได้จัดจ�ำแนก ชื่อวิทยาศาสตร์ ของสมุนไพร โดยใช้วิธีการเทียบชื่อจากเอกสาร ๒ ฉบับ คือ ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย เต็ม สมิตินันท์ (ส�ำนักวิชาการป่าไม้ กรมป่าไม้ ๒๕๔๔) และพจนานุกรมสมุนไพรล้านนา (จีรเดช มโนสร้อย และคณะ ๒๕๕๒) และมกี ารยืนยนั จากหมอพื้นบ้านโดยใช้ภาพถ่ายและตวั อย่างบางชนดิ ที่เกบ็ มาได้ ตามตารางท่ี ๔.๕ 78 พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ

ตารางท่ี ๔.๕ รายช่อื สมุนไพรที่ใชใ้ นการรักษารว่ มกับการนวดพนื้ บ้าน ลำ�ดับ ช่ือพ้นื เมือง ชอ่ื สามัญ ชอ่ื วิทยาศาสตร์ ลักษณะวิสัย จำ�นวนท่ีพบใน ตำ�รบั ยา ๑ กรดน�้ำ กรดน�ำ้ Scoparia dulcis Linn ไม้ลม้ ลุกมาจาก ๑ ๒ กระเทยี มโทน กระเทียมโทน Allium ampeloprasum var. ampeloprasum ๓ กฤษณา กฤษณา Aquilaria crassna Pierre ex Lecomte ตา่ งประเทศ ๔ กล้วยตีบ กลว้ ยตีบ Musa x paradisiaca L. (ABB group) ๕ กลว้ ยนวล กลว้ ยหวั โต Ensete glaucum (Roxb.) Cheesman ไมล้ ้มลกุ ๑ ๖ กวางหีแฉะ ใตใ้ บ Sauropus amoebiflorus Airy Shaw ๗ กว๋าวต้น ทองกวาว Butea monosperma (Lam.) Taub ไม้ตน้ ๓ ๘ กอก มะกอก Spondias pinnata (L.f.) Kurz ๙ กาฝากเดือ่ เกล้ยี ง ไมล้ ้มลุก ๓ ๑๐ ก๋าฝากผักหละ ๑๑ การบนู การบูร Cinnamomum camphora (L.) J. Presl ไม้ลม้ ลุก ๒ ๑๒ กาสะลอง ปีบ Millingtonia hortensis L.f. ๑๓ ก�ำแพงเจ็ดชนั้ ก�ำแพงเจ็ดชนั้ Salacia chinensis L. ไมล้ ้มลุก, ไม้พุ่ม ๑ พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 79 ๑๔ ก�ำลงั เสอื โคร่ง กำ� ลงั เสอื โครง่ Betula alnoides Buch.-Ham. ex G.Don ไมต้ น้ ๑ ๑๕ เกลด็ ปลากุง ๑๖ เกลือ มะเกลือ Diospyros mollis Griff. ไม้ตน้ ๑ ๑๗ โกฐกระดูก โกฐกระดกู Saussurea lappa C.B.Clarke กาฝาก ๑ กาฝาก ๑ ไมต้ น้ มาจากตา่ งประเทศ ๔ ไมต้ ้น ๑ ไม้พุ่มทเี่ ลื้อยทอดลำ� ตน้ ๑ เกาะเก่ียวข้ึนไป ไม้ต้น ๑ ๑ ไม้ตน้ ๑ ไม้ล้มลุก ๒

80 พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ ตารางท่ี ๔.๕ รายชอ่ื สมุนไพรท่ีใชใ้ นการรกั ษารว่ มกับการนวดพืน้ บา้ น (ตอ่ ) ลำ�ดับ ช่ือพ้ืนเมอื ง ช่ือสามญั ชื่อวิทยาศาสตร์ ลกั ษณะวสิ ยั จำ�นวนท่ีพบใน ตำ�รบั ยา ๑๘ โกฐก้านพรา้ ว โกฐก้านพรา้ ว Picrorhiza kurroa Royle ex Benth. ไม้ลม้ ลุก ๒ ๑๙ โกฐเขมาหรอื โกฐหอม โกฐเขมาหรอื โกฐหอม Atractylis lyrata Sieb & Zuce ๓ ไมล้ ม้ ลกุ ๑๐ ๒๐ โกฐจฬุ าลัมพา โกฐจุฬาลัมพา Astemisia abrotanum L. ไมล้ ม้ ลุก ๒ ๒๑ โกศชฎามงั ษ ี โกศชฎามงั ษี Nardostachys jatamansi DC. (โกฐชฎามงั สี) (โกฐชฎามังสี) ๒๒ โกฐเชยี ง โกฐเชยี ง Levisticum officinale Koch. ๓ ไมต้ น้ ๒ ๒๓ โกฐพุงปลา โกฐพงุ ปลา Terminalia chebula Retz. (ปดู กกส้มมอ) (ปูดกกสม้ มอ) ๒๔ โกฐสอ โกฐสอ Angelica sylvestris L. ๓ ๓ ๒๕ โกฐหัวบัว โกฐหวั บวั Conioselinum vaginatum (Spreng.) Thell. ไม้ยืนต้นมาจาก ๑ ตา่ งประเทศ ๒๖ ขนนุ ขนนุ Artocarpus heterophyllus Lam. ล้มลกุ ๖ ล้มลกุ มาจากตา่ งประเทศ ๑ ไม้ตน้ ๓ ไม้ต้น ๑ ๒๗ ขมิน้ ขม้ินขึน้ ขมิน้ ชนั Curcuma longa L. ไมล้ ้มลุก ๖ ไมต้ ้น ๑ ๒๘ ขม้นิ ออ้ ย ขมน้ิ อ้อย Curcuma zedoaria (Christm.) Roscoe หญ้า ๑ ไมล้ ้มลุก ๓ ๒๙ ขอ่ ย ข่อย Streblus asper Lour. ๓๐ ขะจาว ขะจาว Holoptelea integrifolia Planch. ๓๑ ข่า ข่า Alpinia galanga (L.) Willd. ๓๒ หางรอก ขางหัวหมู Miliusa velutina (Dunal) Hook.f. & Thomson ๓๓ ข้าว ขา้ ว Oryza sativa L. ๓๔ ขิง ขงิ Zingiber officinale Roscoe

ตารางที่ ๔.๕ รายชือ่ สมนุ ไพรทใี่ ช้ในการรกั ษาร่วมกบั การนวดพ้ืนบา้ น (ตอ่ ) ลำ�ดบั ชอ่ื พื้นเมือง ช่ือสามญั ชื่อวทิ ยาศาสตร์ ลักษณะวสิ ยั จำ�นวนที่พบใน ตำ�รบั ยา ๓๕ ขงิ แหง้ ขงิ แหง้ Zingiber ligulatum Roxb. ไมล้ ้มลกุ Senna siamea (Lam.) H.S. Irwin & Barneby ไมต้ ้น ๑ ๓๖ ขเ้ี หล็ก ขเี้ หลก็ Achyranthes bidentata Blume ไม้ล้มลุก ๒ Achyranthes aspera L. ไมล้ ม้ ลุก ๑ ๓๗ ควยงนู อ้ ย หญา้ พนั งูน้อย Engelhardtia spicata Lechen ex Blume var. spicata ไมต้ ้น ๑ Ventilago denticulata Willd. ไม้เถา ๒ ๓๘ ควยงูหลวง หญา้ พันง ู Cuscuta reflexa Roxb. กาฝาก ๕ Urceola minutiflora (Pierre) D.J.Middleton ไมเ้ ถา ๒ ๓๙ ค่าหด ไมค้ า่ วหด ค่าหด Ichnocarpus frutescens (L.) W.T.Aiton ไมเ้ ถา ๑ Tinospora crispa (L.) Hook.f.& Thomson ไมเ้ ถา ๓ ๔๐ เครอื ก้องแกบ รางแดง ๓ Thumbergia laurifolia Lindl. ไมเ้ ถา ๔๑ สงั วาลยพ์ ระอินทร์ เครือเขาคำ� Aspidocarya uvifera Hook.f.&Thomson ไมเ้ ถา ๑ Congea tomentosa Roxb. ไม้เถา ๒ ๔๒ เครือเขาหมวก เถามวกขาว Oxyceros horridus Lour. ไม้พุม่ รอเลือ้ ย ๑ Tribulus terrestris L. ไมล้ ม้ ลุก ๓ พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 81 ๔๓ เครือเจน เตรอื เจ็น เครอื ปลาสงแดง Anamirta cocculus (L.) Wight & Arn. ไมเ้ ถา ๑ Piper interruptum Opiz ไมเ้ ถา ๑ ๔๔ เครือบอระเพด็ บอระเพด็ Syzygium aromaticum (L.) Merr.& L.M.Perry ไม้ต้นขนาดเลก็ ๒ Tarenna hoaensis Pit. ไมต้ ้น ๓ (เครือจมุ่ จรงิ จ่มุ จะลิง) ๑ ๔๕ เครือหนำ� แน ้ รางจดื ๔๖ เครอื หม่าหนัง เครอื หนงั ๔๗ เครือออน เครอื ออน ๔๘ เคล็ดเกา๊ หนามเคล็ดเกา๊ คัดเค้าเครือ ๔๙ โคกกระสนุ หนามกระสนุ ๕๐ โคคลาน โคคลาน ๕๑ จะคา่ น สะคา้ น ๕๒ จนั จี๋ กานพล ู กานพล ู ๕๓ จนั ทนข์ าว(จันทั้งสอง) จนั ทนา

82 พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ ตารางท่ี ๔.๕ รายชอ่ื สมนุ ไพรที่ใช้ในการรักษาร่วมกับการนวดพื้นบา้ น (ต่อ) ลำ�ดบั ชอ่ื พนื้ เมอื ง ชือ่ สามัญ ชื่อวิทยาศาสตร์ ลักษณะวิสัย จำ�นวนที่พบใน ตำ�รบั ยา ๕๔ (จันทง้ั สอง) จนั ผา จันทนแ์ ดง Dracaena cochinchinensis (Lour.) S.C.Chen ไมพ้ ่มุ ๑ ๕๕ จันบาน จนั ทน์เทศ Myristica fragrans Houtt. ไมพ้ ุม่ /ไม้ตน้ ๒ ๕๖ ชะเอมไทย ชะเอมปา่ Albizia myriophylla Benth. ๑ ๕๗ ชุมเหด็ ขาว ชุมเห็ดเทศ Senna alata (L.) Roxb. ไม้เถา ๑ ๕๘ ดอกแกว้ แกว้ Murraya paniculata (L.) Jack ไม้พมุ่ ๑ ๕๙ ดอกไมไ้ หว ผเี สื้อ Coreopsis tinctoria Nutt. ไม้ตน้ ๑ ๖๐ ดอกรกั รัก Calotropis gigantea (L.) W. T. Aiton ไม้ล้มลุก ๑ ๖๑ ดงี วู ่า วา่ นคา้ งคาว เนระพสู ไี ทย Tacca chantrieri André ไมพ้ มุ่ /ไม้ตน้ ขนาดเล็ก ๕ ๖๒ ดปี ลี ดีปล ี Piper retrofractum Vahl ไมล้ ้มลกุ ๕ ๖๓ ดู่ ไม้ดู่ ประดู ่ Pterocarpus macrocarpus Kurz ไมเ้ ถา ๑ ๖๔ เด่ือป่อง มะเดื่อปลอ้ ง Ficus hispida L.f. ไม้ตน้ ๑ ๖๕ โด่ไม่รู้ลม้ โดไ่ ม่รลู้ ม้ Elephantopus scaber L. var. scaber ไมต้ ้น ๑ ๖๖ ต้นตบั เต่าน้อย กล้วยเต่า Polyalthia debilis (Pierre) Finet & Gagnep. ไม้ล้มลกุ ๑ ๖๗ ตะไคร้ ตะไคร ้ Cymbopogon citratus (DC.) Stapf ไมพ้ ่มุ ๗ ๖๘ ตานคอม้าหรือ ตานคอมา้ Tadehagi triquetrum (L.) H. Ohashi หญ้า ๑ หญา้ คอตงุ ไมพ้ ุ่มขนาดเล็ก ๖๙ ตนู ดนู Colocasia gigantea (Blume) Hook. f. ๗๐ แตงเถอื่ น หย่ังสมุทร Amalocalyx microlobus Pierre ex Spire ไม้ล้มลกุ ๑ ๗๑ ไม้เถาคันแดง ไม้เถาคนั แดง Parthenocissus quinquefolia (L.) Planch. ไม้เถา ๑ ๗๒ ไม้เถาวัลยเ์ ปยี ง เถาวัลย์เปรยี ง Derris scandens (Roxb.) Benth. ไม้เถา ๑ ไม้เถา ๑

ตารางที่ ๔.๕ รายชื่อสมนุ ไพรทใี่ ชใ้ นการรกั ษาร่วมกบั การนวดพืน้ บ้าน (ต่อ) ลำ�ดบั ชอ่ื พ้นื เมือง ช่อื สามญั ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ ลักษณะวิสัย จำ�นวนท่พี บใน ตำ�รบั ยา พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 83 ๗๓ ทองพนั ชง่ั ทองพนั ชั่ง Rhinacanthus nasutus (L.) Kurz ไม้พุ่ม ๑ ๗๔ เทยี นขาว ย่ีหร่า Cuminum cyminum L. ไมล้ ้มลกุ ๔ ๗๕ เทียนขา้ วเปลือก เทียนขา้ วเปลอื ก Anethum graveolens L. ไม้ล้มลกุ ๔ ๗๖ เทียนด�ำ เทียนด�ำ Nigella sativa L. ไมล้ ม้ ลุก ๔ ๗๗ เทียนแดง เทียนแดง Lepidium sativum L. ไม้ลม้ ลุก ๔ ๗๘ เทียนตาตกั๊ แตน เทียนข้าวเปลอื ก Anethum graveolens L. ไม้ล้มลกุ ๔ ๗๙ นมวัว พพี วนน้อย Uvaria rufa Blume ไมเ้ ถา ๑ ๘๐ เน่าใน เน่าใน Ilex umbellulata (Wall.) Loes. ไมพ้ ุ่ม/ไม้ต้นขนาดเล็ก ๑ ๘๑ บวั จงกลน ี จงกลน ี Nymphaea pubescens Willd. พชื น�ำ้ ๓ ๘๒ บัวนลิ บุ ล/นิโรบล บวั เผือ่ น Nymphaea nouchali Burm. f.. พืชนำ�้ ๓ ๘๓ บวั ลินจง บวั ลนิ จง Nymphaea lotus L. พืชนำ�้ ๓ ๘๔ บัวสัตตบุษย์ บัวหลวง Nelumbo mucifera Gaerth. พืชนำ้� ๓ ๘๕ บวั สตั บรรณ บัวสาย/จงกลน ี Nymphaea pubescens Willd. พชื นำ้� ๓ ๘๖ โบลาขาว เสนียด Justicia adhatoda L. ไม้พ่มุ ๑ ๘๗ โบลาด�ำ สนั พรา้ มอญ Justicia gendarussa Burm.f. ไมพ้ ่มุ ขนาดเลก็ ๑ ๘๘ ประดูเ่ ครอื ไม้เถา ๑ ๘๙ ไหลเฝอื ก ปลาไหลเฝอื ก ไม้พุ่ม ๑ ๙๐ ปิ้งสมทุ รทง้ั สาม ปงิ้ หอม Eurycoma longifolia Jack ไมพ้ ุ่ม ๒ Clerodendrum chinense (Osbeck) Mabb. ๙๑ ปด๊ิ เตอะ หนามพุงดอ var. chinense ไม้เถา ๑ Azima sarmentosa (Blume) Benth. & Hook. f.

84 พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ ตารางท่ี ๔.๕ รายช่อื สมุนไพรทใ่ี ชใ้ นการรักษาร่วมกบั การนวดพนื้ บา้ น (ต่อ) ลำ�ดบั ชอื่ พ้นื เมอื ง ชื่อสามญั ช่อื วทิ ยาศาสตร์ ลักษณะวสิ ยั จำ�นวนท่พี บใน ตำ�รบั ยา ๙๒ ปิ๊ดปวิ ขาว เจตมูลเพลิงขาว Plumbago zeylanica L. ไมพ้ ุ่มขนาดเล็ก ๒ ๙๓ ปิด๊ ปวิ แดง เจตมูลเพลิงแดง ๓ ๙๔ ปเู ลย ไพล Plumbago indica L. ไมพ้ ุ่มขนาดเลก็ ๑๖ ๙๕ ปเู ลยต้น อบเชย ๒ ๙๖ เป้าตองแตก เปลา้ ตองแตก Zingiber montanum (J. Koenig) Link ex A. Dietr. ไม้ล้มลุก ๔ ๙๗ เป้าน้อย เปลา้ น้อย เปล้านอ้ ย ๔ ๙๘ เปา้ เลือด เปล้าใหญ ่ Cinnamomum sp. ไมต้ ้น ๓ ๙๙ เป้าหลวง เปลา้ ใหญ ่ ๔ ๑๐๐ ผกั โขมไข่ ผกั ขมสวน Baliospermum calycinum Müll. Arg. ไม้พมุ่ ๑ ๑๐๑ ผกั ดีด ต้อยต่ัง ๑ ๑๐๒ ผักไผ่, ผกั แพว ผักไผ่ Croton stellatopilosus H. Ohba ไม้พุม่ ๑ ๑๐๓ ผักสาบ, อนี นู ผักสาบ ๑ ๑๐๔ ผักเสี้ยนผี ผักเสีย้ นผี Croton robustus Kurz ไม้พุ่ม/ไมต้ น้ ขนาดเล็ก ๒ ๑๐๕ ผักหวานบ้าน ผกั หวานบา้ น ๑ ๑๐๖ ผาแปง้ , ฝา่ แปง้ ดับยาง Croton poilanei Gagnep. ไมต้ ้น ๑ ๑๐๗ ผีเสือ้ น้อย คนทิสอ ๘ ๑๐๘ ไผส่ สี ุก ไผส่ ีสุก Amaranthus tricolor L. ไม้ลม้ ลุก ๑ ๑๐๙ ฝาง ฝางเสน ฝางแดง ฝาง ๘ ๑๑๐ ฝา่ มือผ ี นว้ิ มอื พระนารายณ ์ Solanum spirale Roxb. ไม้พุม่ ขนาดเลก็ ๑ (หนุมานประสานกาย) Persicaria odorata (Lour.) Soják ไม้ลม้ ลุก Adenia viridiflora Craib ไมเ้ ถา Cleome viscose L. ไมล้ ้มลกุ Sauropus androgynus (L.) Merr. ไมพ้ ุ่ม Solanum erianthum D. Don ไมพ้ ุม่ Vitex trifolia L. subsp. trifolia ไม้พุ่ม Bambusa blumeana Schult.f. ไผ่ Caesalpinia sappan L. ไมต้ ้นขนาดเลก็ Schefflera heptaphylla (L.) Frodin. ไม้ต้น

ตารางที่ ๔.๕ รายช่อื สมุนไพรทีใ่ ช้ในการรกั ษารว่ มกับการนวดพ้ืนบา้ น (ตอ่ ) ลำ�ดับ ชือ่ พื้นเมอื ง ชือ่ สามญั ช่ือวทิ ยาศาสตร์ ลกั ษณะวิสยั จำ�นวนที่พบใน ตำ�รับยา พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 85 ๑๑๑ ฝนิ่ ตน้ ฝิ่นตน้ Jatropha multifida L. ไม้พ่มุ /ไม้ตน้ ขนาดเล็ก ๑ ๑๑๒ พญานาคราช วา่ นพญานาคราช Monadenium sp. ไม้พมุ่ ๑ ๑๑๓ พรกิ นอ้ ย พริกไทย พริกไทย Piper nigrum L. ไมเ้ ถา ๙ ๑๑๔ พลับพลึง พลบั พลงึ Crinum asiaticum L. ไมล้ ม้ ลุก ๖ ๑๑๕ พล ู พลู Piper betle L. ไมเ้ ถา ๓ ๑๑๖ พิมเสน พิมเสน Pogostemon cablin (Blanco) Benth. ไม้ลม้ ลุก ๑ ๑๑๗ เพ็ดสงั ฆาต เพชรสังฆาต Cissus quadrangularis L. ไมเ้ ถา ๑ ๑๑๘ มหาหิงส์ มหาหิงค์ุ Ferula sinkiangensis K.M. Shen ไม้ล้มลกุ ๑ ๑๑๙ มะกรูด มะกรดู Citrus hystrix DC. ๓ ๑๒๐ มะเกวน๋ มะแขว่น Zanthoxylum rhetsa (Roxb.) DC. ไม้ต้นขนาดเล็ก ๑ ๑๒๑ มะเก้มิ มะกอกเกลื้อน Canarium subulatum Guillaumin ไม้ตน้ ๑ ๑๒๒ มะขาม มะขาม Tamarindus indica L. ไม้ต้น ๒ ๑๒๓ มะขามป้อมดนิ ลูกใต้ใบ Phyllanthus amarus Schumach. & Thonn. ไม้ตน้ ๒ ๑๒๔ มะเขอื แจเ้ ครือ ชองระอา Securidaca inappendiculata Hassk. ไมล้ ้มลุก ๔ มะแจเ้ ครือ ไมเ้ ถา ๑๒๕ มะดกู มะดกู Siphonodon celastrineus Griff. ๑๒๖ มะต๋าเสอื , ยอบ้าน ยอ Morinda citrifolia L. ไมต้ น้ ๒ ๑๒๗ มะแตก กระทงุ ลาย Celastrus paniculatus Willd. ไมต้ ้น ๑ ๑๒๘ มะนาว มะนาว Citrus x aurantifolia (Christm.) Swingle ไมเ้ ถา ๑ ๑๒๙ มะละกอ มะละกอ Carica papaya L. ไมต้ ้นขนาดเลก็ ๑ ไมต้ ้นขนาดเล็ก ๑

86 พ้ื น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ ตารางท่ี ๔.๕ รายชอ่ื สมนุ ไพรที่ใชใ้ นการรักษาร่วมกับการนวดพ้นื บ้าน (ตอ่ ) ลำ�ดับ ชื่อพ้นื เมือง ชื่อสามัญ ชือ่ วิทยาศาสตร์ ลักษณะวสิ ัย จำ�นวนทีพ่ บใน ตำ�รบั ยา ๑๓๐ มะลิซ้อนหลวง มะลิลา Jasminum sambac (L.) Aiton ไม้เถา ๑ ๒ ๑๓๑ มะแวง้ ขมขาว มะแวง้ ต้น Solanum anguivi Lam. ไม้พ่มุ ๑ ๑๓๒ มะหนอ้ ด มะน้อด Ficus ribes Reinw. ex Blume ไมต้ น้ ขนาดเล็ก ๒ ๑ ๑๓๓ มูกนงั่ พุดทงุ่ Holarrhena curtisii King & Gamble ไม้พุม่ ๑ ๑ ๑๓๔ แมงดาต้น ทำ� มงั Litsea elliptica Blume ไมต้ น้ ๑ ๑ ๑๓๕ ไม้ข,ิ ข่อยหนาม ข่อยนำ้� Streblus taxoides (B. Heyne ex Roth) Kurz ไม้ตน้ ๑ ๑๓๖ ไมจ้ ี่ คนทา Harrisonia perforata (Blanco) Merr. ไม้พุ่มรอเลอื้ ย ๓ ๑ ๑๓๗ ไมบ้ งป่า ไผ่บง Bambusa nutans Wall. ex Munro ไผ่ ๑ ๔ ๑๓๘ ไม้มะดะ มะดะหลวง Garcinia xanthochymus Hook.f. ex T. Anderson ไมต้ ้น ๑ ๓ ๑๓๙ ไมแ้ หว ไมเ้ หว ตะเคยี นหนู Anogeissus acuminata (Roxb. ex DC.) Guill. & Perr. ไม้ตน้ ๒ ๑๔๐ ยาแกเ้ ครอื ดำ� ก�ำลงั เสือโครง่ Ziziphus attopoensis Pierre ไมต้ น้ ขนาดเลก็ หรอื กอนหมาด�ำ ๑๔๑ ยาแกด้ อกขาว ยาแก ้ Monosis volkameriifolia (DC.) H. Rob. & Skvarla ไมต้ ้นขนาดเลก็ Breynia glauca Craib ไม้พุ่ม ๑๔๒ ระงบั พิษ ระงบั พษิ Thunbergia laurifolia Lindl. ไม้เถา Cassia fistula L. ไม้ต้น ๑๔๓ รางเย็น รางเยน็ Capparis zeylanica L. ไม้เถา Polyscias fruticosa (L.) Harms. ไม้พุ่ม ๑๔๔ ลมแลง้ ราชพฤกษ ์ ๑๔๕ ล้านผีปาย สะแอะ ๑๔๖ เล็บคุด (เล็บครุดฝอย) เลบ็ คุด เลบ็ คดุ ทัง้ สอง ๑๔๗ เลบ็ คดุ (เล็บคุดทง้ั สอง) เลบ็ คุด Polyscias guilfoylei (W. Bull) L.H. Bailey ไมพ้ ุ่ม

ตารางท่ี ๔.๕ รายชอื่ สมุนไพรทใี่ ช้ในการรกั ษารว่ มกบั การนวดพื้นบ้าน (ตอ่ ) ลำ�ดับ ช่ือพ้นื เมอื ง ชื่อสามัญ ช่ือวทิ ยาศาสตร์ ลักษณะวสิ ยั จำ�นวนท่ีพบใน ไม้ลม้ ลุก ตำ�รบั ยา ๑๔๘ ว่านชักมดลกู วา่ นชักมดลูก Curcuma zanthorrhiza Roxb. ไม้ลม้ ลุก ๑ ๑๔๙ ว่านนางคำ� วา่ นนางค�ำ Curcuma aromatica Salisb. ไม้นำ้� ๑ ๑๕๐ ว่านนำ้� ว่านน�ำ้ Acorus calamus L. ไมล้ ม้ ลุก ๑ ๑๕๑ วา่ นหอม เปราะหอม Kaempferia galanga L. กลว้ ยไม้ดนิ ๑ ๑๕๒ วา่ นหวั หลวง ว่านหวั คร ู Eulophia spectabilis (Dennst.) Suresh ไม้ตน้ ๔ ๑๕๓ สน สนสองใบ Pinus merkusii Jungh.& de Vriese ไม้ต้น ๑ ๑๕๔ สน สนสามใบ Pinus kesiya Royle ex Gordon. ๑ ๑๕๕ สม้ ป่อย สม้ ปอ่ ย Acacia concinna (Willd.) DC. ไมเ้ ถารอเลื้อย ๔ ๑๕๖ สุระป๊ิดคำ� - Dimocarpus sp. ไมต้ ้น ๑ ๑๕๗ เสี้ยนผี ผักเสย้ี นผ ี Cleome viscosa L. ไม้ลม้ ลกุ ๑ พื้ น ฐ า น ก า ร น ว ด พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ 87 ๑๕๘ หงว้ นตากหงาย หญ้าจมิ้ ฟันควาย Arundina graminifolia (D. Don) Hochr. subsp. ๑ graminifolia กลว้ ยไม้ดิน ๑๕๙ หญ้าตดหมา เถาตดหมา Merremia tridentata (L.) Hallier f. ไมเ้ ถา ๒ ๑๖๐ หญ้าตองกง ตองกง Thysanolaena latifolia (Roxb. ex Hornem.) หญ้า ๑ (รากหญ้าไมก้ วาด) Honda เฟริ ์น ๑๖๑ หญ้าถอดปล้อง หญ้าถอดบอ้ ง Equisetum ramosissimum Desf. subsp. ไม้ลม้ ลกุ ๒ debile (Roxb. ex Vaucher) Hauke หญา้ ๑๖๒ หญา้ นมแพะ มยี าง ไม้ลม้ ลุก ๑ ๑๖๓ หญ้าปากควาย หญ้าปากควาย Dactyloctenium aegyptium (L.) Willd. ไม้ลม้ ลุก ๑ ๑๖๔ หญา้ หวาน หญา้ หวาน Stevia rebaudiana (Bertoni) Bertoni ๑ ๑๖๕ หญ้าฮ่อมเกย่ี ว กะเมง็ Eclipta prostrata (L.) L. ๙ ฮ้อมเก่ยี ว ฮอ้ มเก่ียวเงิน