3.5 การจัดการน้าในสวนหมอ่ น 3.5.1 การให้นา้ หม่อนต้องการน้าไม่มากนัก ควรให้น้าในช่วงฤดูแล้ง อาจให้น้าแบบปล่อย ตามรอ่ ง หรือระบบน้าหยด หรือระบบสปริงเกลอร์ อย่างน้อยสปั ดาห์ละ 1 คร้งั 3.5.2 ระบบนา้ ปัจจุบันอปุ กรณก์ ารให้น้า มีใหเ้ ลอื กใชห้ ลายรปู แบบและมีราคาถูกลง จึงเป็น โอกาสดี ในการเลือกใช้ระบบที่เหมาะสมกับ ทุน ปริมาณน้าต้นทุน และสภาพ พ้ืนทสี่ วนหมอ่ น ระบบนา้ ท่ีใช้กันแพร่หลาย คอื 1) ระบบสปรงิ เกลอร์ ในกรณีมปี ริมาณนา้ สารองมาก การให้น้าแบบสปริงเกลอร์หรือแบบฝนเทียมเป็นการให้น้าในระบบท่อ ท่ีต้องการความดันค่อนข้างสูง ไม่น้อยกว่า 2 บาร์ (bars) จึงจาเป็นต้องใช้เคร่ือง สูบน้าท่ีมีความดันสูงและต้องใช้ต้นกาลังท่ีมีขนาดใหญ่ตามระยะการฉีดตั้งแต่ 8-50 เมตร และจานวนหัวสปริงเกลอรท์ ีต่ ้องการให้ครอบคลุมพน้ื ท่ใี นแต่ละคร้ัง เทคนคิ การปลกู หม่อนเลย้ี งไหมอุตสาหกรรมให้มัน่ คง มัง่ ค่งั ยั่งยืน 49
2) ระบบนา้ หยด พน้ื ที่มีน้าน้อย การให้นา้ ผ่านท่อแบบใชน้ ้าน้อย มอี งค์ประกอบต่างๆของระบบ ดังน้ี 1) หวั จ่ายนา้ 2) ท่อประธานหรอื ท่อเมน 3) ท่อแยกหรือท่อรองประธาน 4) ทอ่ แขนงหรือท่อยอ่ ย 5) หวั น้าหยด 6) เครอ่ื งกรองนา้ 7) เครอ่ื งสูบนา้ หรือถังน้าสงู 50 เทคนคิ การปลูกหมอ่ นเล้ยี งไหมอตุ สาหกรรมใหม้ ั่นคง มั่งคงั่ ยัง่ ยนื
3.5.3 การระบายน้า หม่อนเป็นพืชที่ไม่ชอบให้รากแช่น้า จะทาให้รากขาดออกซิเจน รากเน่า ชะงักการเจริญเติบโต ใบเหลอื ง และอาจเหยี่ วเฉาตายในท่สี ุด ดังนั้นการเลือกพื้นที่ปลูกหม่อน ควรหลีกเลี่ยงท่ีต่า ที่น้าท่วมขัง และควรมี การระบายนา้ ในสวนหม่อนโดยเฉพาะในฤดฝู น 3.5.4 การรกั ษาความชนื้ ในดิน ในช่วงฤดูแล้งควรมีการคลุมบริเวณโคนต้นและร่องหม่อนเพื่อปูองกันการ สูญเสียความชื้นในดิน ด้วยวัสดุท่ีหาง่ายในท้องถ่ิน เช่น ฟางข้าว เปลือกมะพร้าว เปลอื กถวั่ ซังขา้ วโพด ใบตอง หรือปลกู พชื ตระกูลถั่วคลุมดิน เชน่ ถ่ัวพร้า ปอเทอื ง 3.6 เทคนคิ การเพม่ิ ผลผลติ หม่อน เม่ือใบหมอ่ นสมบูรณ์ หนอนไหมกนิ ก็แข็งแรง ฉะนนั้ เราควรดแู ลสวนหมอ่ น ใหม้ ีสภาพสมบูรณ์ ตามคาแนะนาตอ่ ไป ส่ิงสาคญั คอื - หา้ มปลกู หม่อนถี่ เพราะสง่ ผลให้ใบเล็ก, บาง, เหลือง ร่วงไม่มีคณุ ภาพ - ควรปลกู หมอ่ นแถวเด่ยี ว ระยะระหวา่ งแถว 2.20-2.50 เมตร ระหวา่ งต้น1เมตร เทคนคิ การปลูกหม่อนเลยี้ งไหมอุตสาหกรรมให้ม่นั คง ม่ังคง่ั ยงั่ ยนื 51
หมอ่ นอายุ 1 เดือน หมอ่ นอายุ 3 เดอื น หม่อนอายุ 6 เดอื น 3.7 การบารุงและดแู ลสวนหมอ่ น 3.7.1 ตัดแต่ง การตัดแต่งหม่อนจะช่วยให้หม่อนแตกใบเร็ว และมี คุณภาพ โดยวิธี “กินไป แต่งไป” หมายถึง ทุกวันท่ีมาตัดหม่อนให้ทยอยแต่ง หม่อนทุกวัน เมื่อไหมสุกทารัง ก็ให้ใช้เวลาว่างแต่งให้เสร็จ หากทาได้จะสามารถ เล้ยี งไหมไดเ้ รว็ ขึ้น และเพม่ิ จานวนการเล้ยี งไหมได้อกี 1-2 ครั้งตอ่ ปี 52 เทคนคิ การปลกู หมอ่ นเล้ยี งไหมอตุ สาหกรรมให้มนั่ คง มั่งคง่ั ย่งั ยนื
วธิ กี ารตดั แตง่ กิ่ง ของคณุ พันธ์ทพิ ย์ (เกษตรกร) - หม่อนคุณพนั ธท์ พิ ยต์ ดั กินยาว 1.5 - 2 เมตร 1 ต้น มี 6 - 10 ก่ิง - กินไปแตง่ ไป - ตดั กนิ วัย 4 จะไมต่ ดั ทัง้ กิ่งหมด แต่ เลอื กเอาเฉพาะสว่ นกิ่งที่สมบรู ณก์ อ่ น แต่งกิ่งโดยใชเ้ คียว เทคนิคการปลูกหม่อนเลยี้ งไหมอุตสาหกรรมใหม้ ่ันคง มง่ั ค่ัง ยง่ั ยืน 53
- หลังจากตัดกิน 2-3 คร้ัง ครั้งสุดท้าย จะตัดแต่งที่ตอเดิม โดยใช้เล่ือย - ใส่ปุ๋ยสตู ร 15-15-15 ท้งั ปี 50 กิโลกรมั ต่อไร่ต่อคร้งั โดยใส่ปีละ 1 ครัง้ - หมอ่ นอายุ 25 - 30 วัน สั่งจองไข่ไหม 54 เทคนคิ การปลูกหมอ่ นเลี้ยงไหมอตุ สาหกรรมใหม้ ัน่ คง ม่งั คง่ั ย่งั ยนื
3.7.2 ไถพรวน ควรไถพรวนหลังการตัดแต่งแล้วทุกคร้ัง เพื่อเป็นการ กระตุ้นให้หม่อนแตกรากใหม่ แตกใบใหม่ และเปิดหน้าดินให้มีออกซิเจนมากข้ึน ดินร่วนซยุ อุ้มนา้ ได้ดี และคลมุ ฟาง (หม่ ดนิ หน้าแลง้ ) 3.7.3 ใส่ปุ๋ย-หว่านเมล็ดปอเทือง ใส่ปุ๋ยเม็ด จานวน 1 กระสอบ และ ขณะเดียวกันก็หว่านเมล็ดปอเทือง 4 กิโลกรัมต่อไร่ ไปด้วย เพ่ือเพิ่มปุ๋ยพืชสด 1-2 ตนั ตอ่ ไร่ 3.7.4 ฉีดพ่นไคโตซาน หากสังเกตเห็นมีแมลงรบกวนในช่วงที่หม่อน แตกยอดอ่อนยาว 20-30 เซนติเมตร หลงั ตัดแตง่ ให้พน่ ไคโตซานในอัตรา 1 ซีซีต่อ น้า 10 ลิตร หากยงั มแี มลงรบกวนใหฉ้ ดี พน่ ซ้าอกี โดยเวน้ ระยะ 7-10 วนั เทคนคิ การปลูกหมอ่ นเล้ยี งไหมอุตสาหกรรมให้มนั่ คง ม่ังคั่ง ย่ังยืน 55
3.8 โรค แมลง และสตั ว์ศัตรูหม่อน 3.8.1โรคหมอ่ น ชนดิ โรคหม่อน ชว่ งระบาด ลักษณะอาการต่อการป้องกันกาจัด 1. 1. โรครากเน่า ตลอดปี ลักษณะอาการ ใบเห่ียวกะทันหัน เปล่ยี นเปน็ สีนา้ ตาลปนดาคล้ายน้าร้อน ลวก รากเน่าเป่ือยหลุดลอกออกได้ง่าย และมกี ลิ่นเหมน็ การป้องกัน ปลูกพันธุ์หม่อนที่ทนทาน โรครากเนา่ เชน่ สกลนคร และคุณไพ ใน เขตพ้ืนท่ีท่ีมีการระบาด กรณีท่ีเกษตรกร ตอ้ งการเพิม่ ผลผลติ ใหต้ ิดตาพนั ธุ์ดี 2. โรคราสนิม ปลายฤดฝู น - ลักษณะอาการ แผลเป็นรูปวงกลมหรือ ต้นฤดหู นาว รูปไข่ ระบาดรนุ แรงใบจะมีสเี หลืองและ (ส.ค. – ต.ค.) ใบรว่ ง การป้องกัน ช่วงท่ีมีการระบาดรุนแรง ตัดแต่งก่ิงให้ทรงพุ่มโปร่ง ในพ้ืนที่ท่ี ระบาดควรปลูกหม่อนให้มีระยะปลูก ห่างมากกว่าปกติ หรือใช้พันธ์ุหม่อนที่ ทนทาน ไดแ้ ก่ หม่อนคณุ ไพ 3. โรคใบด่าง ฤดฝู น ลักษณะอาการ ใบมีลักษณะด่างและบิด เบ้ียว การปูองกัน ควรเลือกก่ิงพันธ์ุที่ปลอด โรค ทาลายต้นหม่อนท่ีแสดงอาการของ โรคใบด่าง ปลูกพันธ์ุหม่อนท่ีทนทานโรค ใบดา่ ง เช่น พนั ธ์ุบรุ รี มั ย์ 60 และพันธ์ุศรี สะเกษ 33 กาจัดแมลงท่ีเป็นพาหะของ โรคใบด่าง เช่น เพล้ียอ่อน และแมลงหว่ี ขาว 56 เทคนิคการปลกู หม่อนเลีย้ งไหมอตุ สาหกรรมให้มน่ั คง มง่ั ค่ัง ยัง่ ยนื
ชนดิ โรคหม่อน ชว่ งระบาด ลกั ษณะอาการต่อการปอ้ งกันกาจดั 4. โรคราแป้ง ฤดูหนาว ลักษณะอาการ มีผงสขี าวคลา้ ยแปูงอยู่ใต้ 5. โรคใบไหม้ ฤดูฝน ใบ ต่อมากลายเป็นจุดสีเหลืองและน้าตาล ใบรว่ ง การป้องกัน ปลูกพันธุ์หม่อนที่ทนทาน ต่อโรค ได้แก่ พันธุ์บุรีรัมย์ 60 และตัด แต่งก่ิงให้ทรงพุ่ม โปร่ง ให้การถ่ายเท อากาศดี แสงแดดส่องถึง ลักษณะอาการ ใบมีแผลสีเหลืองปน น้าตาลใบจะเหลอื งแหง้ ร่วง การป้องกัน ตัดแต่งก่ิงให้ทรงพุ่มโปร่ง ทาให้การถ่ายเทอากาศดีแสงแดดส่อง ถึง เกบ็ ใบและกิ่งทเ่ี ป็นโรคเผาทาลาย 3.8.2 แมลงศตั รหู ม่อน ชนดิ แมลงศตั รูหม่อน ช่วงระบาด ลกั ษณะอาการต่อการปอ้ งกันกาจดั 1. แมลงหว่ขี าว พบตลอดปี ลักษณะอาการ ดดู กนิ นา้ เล้ียงใบหม่อน แต่พบมากช่วง และถ่ายมูลเป็นน้าหวาน ถ้าระบาดมาก ปลายฤดฝู น - ต้นฤดหู นาว ทาให้ใบมีราดา หงิกงอ และใบรว่ ง การปอ้ งกนั ตรวจแปลงหม่อน หากพบ (ส.ค. - ตัวออ่ น ตวั เต็มวัย ให้ใช้สารเหนียวพวก เมตรค.) วาสลีนขาว ทาแผ่นพลาสติกสีเหลือง นาไปปักระหว่างแถวหม่อน ใช้น้าหมัก จากใบกะเพราหรือใบโหระพา อัตรา 50 กรัมต่อน้า 1 ลิตร ทิ้งไว้ 1 คืน กรองเอาน้า นาไปฉดี พน่ ในแปลงหม่อน ต่อใช้นา้ ส้มควันไม้ฉีดพ่นบริเวณหลังใบ ที่มีแมลงหว่ีขาวเกาะอยู่ โดยฉีดพ่น ทกุ ๆ 7-10 วนั เทคนคิ การปลกู หมอ่ นเลี้ยงไหมอตุ สาหกรรมให้ม่นั คง มัง่ คง่ั ยั่งยืน 57
ชนดิ แมลงศัตรหู มอ่ น ช่วงระบาด ลักษณะอาการต่อการปอ้ งกันกาจัด 4. 2. เพลย้ี แป้ง 5. มี.ค.–พ.ค. ลักษณะอาการ ใบอ่อนหงิกงอและ 1. 3. เพล้ียไฟ ต.ค.–ธ.ค. แคระแกรน ใบมีลักษณะหนา สีเขียว เข้ม เรยี กว่าโรคกูดหรือโรคหัวนกเค้า 4. ด้วงหนวดยาว มี.ค.–พ.ค. การป้องกัน ตรวจแปลงหม่อนในช่วง ต้นและปลายฤดูฝน เพื่อทาลายเพลี้ย มิ.ย.–ต.ค. แปูงโดยตัดยอดหม่อนที่หงิกงอมาเผา ทาลาย พยายามอยา่ ให้มดขึ้นต้นหม่อน ถ้าพบว่ายังมีมดทารังอยู่ในสวนหม่อน ต้องกาจัดโดยใช้สารกาจัดมดผสมน้า ราดตามโคนตน้ หม่อน ลักษณะอาการ หากระบาดมากทาให้ ใบหงกิ งอและใบรว่ ง การป้องกัน ช่วงฝนท้ิงช่วงควรใช้น้า ฉีดพ่นบริเวณใต้ใบ เพ่ือให้ตัวอ่อนหล่น ออกจากใบจะลดความเสียหายได้มาก ใ ช้ น้ า ห มั ก จ า ก ใ บ ก ะ เ พ ร า ห รื อ ใ บ โหระพา อัตรา 50 กรัมต่อน้า 1 ลิตร ท้ิงไว้ 1 คืน กรองเอากากออกนาไปฉีด พ่นในแปลงหม่อน ลักษณะอาการ เจาะก่งิ และลาต้นพบมูล ของตวั หนอนกองอยู่บริเวณโคนตน้ หม่อน การป้องกัน ตรวจดูแปลงหม่อนในช่วง ที่มีการระบาด ถ้าพบไข่ใช้ไม้แหลม ทาลาย ในช่วงท่ีเป็นตัวหนอนอยู่ในลา ต้นให้ใช้น้าเกลือฉีดเข้าไปในรูท่ีหนอน เจาะทาลาย 58 เทคนิคการปลกู หมอ่ นเลี้ยงไหมอตุ สาหกรรมให้มนั่ คง ม่งั คง่ั ยงั่ ยนื
ชนดิ แมลงศตั รูหม่อน ช่วงระบาด ลักษณะอาการต่อการปอ้ งกันกาจัด 5. ผเี ส้ือหนอนกระทู้ผัก 6. ปลวก พบมาก ลักษณะอาการ กดั กนิ ใบและยอดอ่อน ชว่ งฤดหู นาว การป้องกัน สารวจแปลงหม่อน หาก 7. หอยทาก พบกลุ่มไข่ หรือตัวหนอน เก็บทาลาย หรือปล่อยมวนพิฆาต มวนเพชฌฆาต เ พ่ื อ ใ ห้ ดู ด กิ น ห น อ น ก ร ะ ทู้ ใ น แ ป ล ง หม่อน ตลอดปี ลักษณะอาการ มักพบระบาดเม่ือหม่อน อ่อนแอและเกิดความแห้งแล้งนานๆ และพบในแปลงหม่อนปลูกใหม่ที่มีเศษ ไม้ผุๆ เหลืออยู่และจะเข้าทาลายหม่อน กัดกินเนอื้ ไม้และราก การป้องกัน ก่อนปลูกหม่อนในแปลง ควรเก็บเศษไม้ผุออกให้หมด ควรแช่ ท่อนพนั ธุ์หม่อนในสารเคมีปูองกันกาจัด ปลวก กอ่ นปลูก พบมากชว่ งฤดู ลกั ษณะอาการ กัดกนิ ใบออ่ นและตาที่ ฝน แตกใหม่ การป้องกัน เก็บหอยทากมาทาลาย หากระบาดมาก ให้เก็บทาลายร่วมกับ การโรยปูนขาวหรือใช้สารเคมีเมทัลดี ไฮด์ 5 เปอร์เซ็นต์ โดยใส่เย่ือพิษใน กระป๋องน้าตัดปากขวด ใช้ไม้ปักวางไว้ ประมาณ 20-30 จุดต่อไร่ หรือใช้ มะละกอสุกหรือกล้วยหอมสุก วางไว้ ข้างแปลงเพ่ือล่อหอยทากแล้วนาหอย ทากไปเผาทาลาย หรือนามาผสมกับ สารเมทัลดีไฮด์ 5 เปอร์เซ็นต์ เม่ือหอย ทากกินเขา้ ไปจะทาใหต้ ายในทสี่ ุด เทคนิคการปลูกหม่อนเล้ยี งไหมอตุ สาหกรรมให้มนั่ คง มง่ั คั่ง ยั่งยนื 59
3.8.3 การปอ้ งกนั กาจัด แมลงหว่ีขาวด้วยวธิ ที างชีวภาพ การปราบแมลงหว่ีขาวโดยใชน้ ้ามนั พชื 5 เปอร์เซ็นต์ ใช้น้ามันพืช 5 เปอร์เซ็นต์ (น้ามันพืช 500 ซีซี น้าสะอาด 10 ลิตร เขย่า นานๆ ให้เข้ากัน) ฉีดพ่นให้ท่ัวแปลง ช่วงเวลา 06.00 – 08.00 นาฬิกา หลังจากฉดี ไว้ 10 วนั จากนัน้ ใช้ นา้ เปลา่ ฉีดลา้ ง 20 วนั แล้วจึงตดั มาเลย้ี งไหมได้ 60 เทคนิคการปลกู หม่อนเลีย้ งไหมอตุ สาหกรรมใหม้ ่นั คง ม่งั คง่ั ย่งั ยนื
การปราบแมลงหว่ขี าวโดยการใชก้ าวดักแมลง ใช้แผ่นฟิวเจอร์บอร์ดสีเหลือง ขนาด 20x20 เซนติเมตร ทาด้วยกาวดัก แมลงแล้วมัดติดกับไม้ นาไม้ท่ีติดกาว ดักแมลงไปปักในแปลงหม่อนที่พบ แมลงหว่ีขาวจานวนมาก โดยให้ปักไม้ ในแถวหม่อนให้ห่างกัน 5-10 เมตร ใช้ถุงพลาสติก ทาด้วยน้ามันพืชแล้ว สวมไปท่ีแผ่นฟิวเจอร์บอร์ดสีเหลือง แมลงจะบิน มาติดที่แผ่นเหลือง เปลี่ยนถุงพลาสติก ออกทุก 3-5 วัน ตอ่ ครงั้ แมลงกจ็ ะลดลง เทคนิคการปลกู หมอ่ นเลี้ยงไหมอตุ สาหกรรมให้มนั่ คง มัง่ คั่ง ยงั่ ยืน 61
4. ไหม 4.1 พันธุไ์ หม 4.1.1 ไหมพันธุ์จลุ 1 ตัวหนอนไหมมขี นาดใหญ่ อายุ 21-22 วัน จากวันฟัก-วันไหมสุก มีนิสัยกิน หม่อนเก่งมาก เคลื่อนไหวช้าหรือไม่เคลื่อนไหวเลย ไม่ชอบเดินไปเดินมา การสุกของ หนอนไหมเร่ิมในวัย 5 วันท่ี 6 ไหมกินหม่อนช้าลง กินๆ หยุดๆ วันท่ี 7 ไหมเริ่มหยุด กินหม่อน และขน้ึ มาบนใบหม่อน ชูคอ ตวั เล็กลง สัน้ ลง และใส เดินเรว็ ไม่อยเู่ ฉย การทารัง เมื่อเก็บไหมสุกใส่จ่อ ไหมจะยังไม่ทารังทันที จะนอนอยู่กับจ่อเฉยๆ อยา่ งนอ้ ย 2-3 ชั่วโมง จงึ จะเริ่มทารัง ข้อปฏิบตั ิตอ่ ข้อควรระวงั เน่ืองจากเป็นพันธุ์ไหมตัวโต เปลือกรังหนา ดังน้ันต้องมีการดูแลเป็น อย่างดี เทคนิคถูกต้อง ใบหม่อนมีคุณภาพและมีสภาพอากาศท่ีเหมาะสม มีการ ถา่ ยเทอากาศทีเ่ พยี งพอ จึงจะใหผ้ ลผลติ สูง ข้อมูลประจาพันธจุ์ ุล 1 การบรรจุไขด่ ีต่อกลอ่ ง 34,000 ฟอง นา้ หนักต่อรงั 1.80-2.00 กรมั (500-550 รงั ตอ่ กิโลกรมั ) เปอรเ์ ซ็นตเ์ ปลือกรงั 21-25 เปอรเ์ ซ็นต์ เปอรเ์ ซ็นตเ์ ลยี้ งรอด 75-80 เปอร์เซ็นต์ น้าหนักรังไหมตอ่ กลอ่ ง 50 กิโลกกรัม *พันธุ์จุล 1 เป็นพันธุ์ท่ีไม่เหมาะที่จะเลี้ยงในสภาพท่ีอากาศร้อน ความชื้นสูง โดยเฉพาะในช่วงที่ฝนตกชกุ 62 เทคนคิ การปลกู หม่อนเล้ยี งไหมอตุ สาหกรรมให้มั่นคง มงั่ ค่ัง ยง่ั ยนื
4.1.2 ไหมพันธุ์จุล 6 ตัวหนอนไหมมีขนาดใหญ่ แต่เล็กกว่าจุล 1 มีอายุ 20-21 วัน จากวันฟัก-วันไหม สุก มีนิสัยกินหม่อนเก่งและกินมาก ชอบเคลื่อนไหวหรือเดินไปเดินมาเนื่องจาก เป็นพันธุ์ที่มีความแข็งแรงและทนต่อสภาพร้อนชื้นได้ดีกว่าพันธ์ุจุล 1 การสุกของ หนอนไหมเร่มิ ทว่ี ัย 5 วนั ที่ 6 จะเริม่ สุก เมื่อไหมสกุ จะหยุดกินหม่อนและข้ึนมาบน ใบหม่อน เร่ิมชูคอ ตวั เล็กลง สนั้ ลง และใส เดินเรว็ ไม่อยเู่ ฉย การทารัง เก็บไหมสุกใส่จ่อ ไหมจะเริ่มทารังเร็วกว่าพันธ์ุจุล 1 เล็กน้อย การโรย จ่อควรโรยใหพ้ อดอี ย่าโรยไหมแนน่ เพราะจะทาใหเ้ กิดรังแฝด และไหมฉี่รดกันเป็น รังเปือ้ นภายนอก ข้อปฏบิ ตั ิตอ่ ขอ้ ควรระวัง ในการเล้ียงไหมวยั ออ่ น ควรเลือกใบหม่อนท่ีเหมาะสม และให้หม่อนใน ปรมิ าณทีไ่ มม่ ากเกนิ ไป เพ่ือปูองกันการเกดิ ไหมนอน 3 และไหมสูญหาย ข้อมลู ประจาพันธจ์ุ ุล 6 การบรรจไุ ข่ดีตอ่ กล่อง 38,000 ฟอง นา้ หนักต่อรัง 1.70-1.80 กรมั (550-600 รงั ตอ่ กิโลกรมั ) เปอร์เซ็นตเ์ ปลือกรัง 20-22 เปอร์เซ็นต์ เปอรเ์ ซน็ ตเ์ ล้ยี งรอด 80-85 เปอร์เซน็ ต์ นา้ หนักรงั ไหมต่อกลอ่ ง 50-55 กโิ ลกกรัม *พันธ์จุ ลุ 6 เป็นพนั ธไุ์ หมที่แข็งแรง แต่เกษตรกรต้องเลยี้ งไหมด้วยใบหม่อนทม่ี ี คณุ ภาพ ในสภาพแวดลอ้ มทเี่ หมาะสมในการรักษาความสะอาด เพื่อจะได้รัง ไหมคุณภาพ และรายได้ดี เทคนิคการปลกู หม่อนเลย้ี งไหมอตุ สาหกรรมให้ม่ันคง มัง่ คง่ั ยงั่ ยืน 63
4.1.3 ไหมไทยลูกผสมอุบลราชธานี 60-35 (ดอกบัว) มีความแข็งแรง เลี้ยงง่าย เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของไทย ให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์พื้นเมืองประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ อายุหนอนไหมส้ัน ใช้เวลา เล้ียงประมาณ 18 วัน ทาให้ลดต้นทุนการผลิตและลดความเส่ียงต่อการเกิด โรคไหม ลกั ษณะประจาพันธุ์ ลาตัวหนอนไหมสีขาวปลอด ขนาดปานกลาง รูปร่างรังไหมหัวท้ายปูาน ค่อนขา้ งกลม รงั ไหมสเี หลืองขนาด 1.5x3.2 เซนติเมตร เปอรเ์ ซน็ ตเ์ ปลือกรัง 16.1 เปอรเ์ ซ็นต์ ความยาวเส้นไหมเฉลย่ี ตอ่ รัง 519 เมตร ขนาดเส้นไหม 2.4 ดีเนียร์ การสาว ง่าย 63 เปอรเ์ ซน็ ต์ ผลผลติ รงั สดตอ่ แผน่ (22,000 ฟอง) 14–20 กิโลกรมั 4.1.4 พนั ธุ์ J108xนางลายสระบรุ ี มีความแข็งแรง เลี้ยงง่าย ผลผลิตสูง เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของ ประเทศไทย ลักษณะประจาพันธุ์ ลาตัวหนอนไหมตัวลาย รังไหมสีเหลือง ผลผลิตรังสดต่อแผ่น (22,000 ฟอง) 16–22 กิโลกรมั 64 เทคนคิ การปลกู หมอ่ นเลยี้ งไหมอตุ สาหกรรมใหม้ น่ั คง มงั่ คั่ง ยั่งยนื
4.2 การเลีย้ งไหม เกษตรกรปลูกหม่อนเล้ียงไหมอตุ สาหกรรมเพ่ือจาหน่ายรัง นยิ มรบั ไหมวยั ออ่ น จากบริษัทหรือเกษตรกรท่ีเล้ียงไหมวยั อ่อนขาย เน่ืองจาก - ผลผลิตรงั ไหมเพม่ิ ข้ึน และมีความแน่นอน - คุณภาพรังไหมดขี ึน้ - สามารถควบคุมการแพร่กระจายเช้ือโรค โดยเฉพาะการเล้ียงไหม ไล่ รุ่น ในฤดูฝนทีม่ หี มอ่ นปริมาณมาก - ลดเวลา และ ลดการใชแ้ รงงาน มเี วลาไปดูแลสวนหมอ่ นเพมิ่ ขนึ้ - เพิ่มรนุ่ การเลยี้ งไหม ส่งผลใหเ้ พ่มิ ประสิทธภิ าพการใช้สวนหมอ่ นใหค้ ุ้มค่า 4.2.1 การเตรียมการกอ่ นการเล้ียงไหม การรับไหมวัยออ่ น (นอน 2) การรับไหมวัยอ่อน หรือ ไหมนอน 2 เกษตรกรจะเริ่มในช่วงเช้าหรือเย็น ซึ่ง เป็นช่วงท่ีอากาศเยน็ การเตรยี มรับไหมวยั อ่อน 1) เกษตรกรต้องทาความสะอาดโรงเลี้ยง และวัสดุอุปกรณ์ด้วยปูนคลอรีน 1 กโิ ลกรัม ผสมกบั นา้ 200 ลติ ร ฉดี พน่ ให้ทวั่ โรงเล้ยี งไหม และอุปกรณ์ เมื่อโรงเล้ียง และอุปกรณ์แห้ง ให้ราดคลอรีน 1 กิโลกรัม ผสมน้า 200 ลิตร ราดพ้ืนโรงเลี้ยง ไหม ก่อนการรับไหมวยั ออ่ น 1 วนั 2) เตรียมความพร้อมก่อนการรับไหมวัยอ่อน แบง่ ออกเป็น 2 ฤดู คอื ฤดูฝน ควรนาไหมวัยอ่อนไว้ชั้นกลาง โดยปฏบิ ตั ิดังนี้ - ปกู ระดาษหนังสือพิมพห์ รือกระดาษขาว - ปผู า้ ไนล่อน (ขนาด 0.9 × 2.0 เมตร) บนชัน้ เลีย้ งทับบนกระดาษ หนังสอื พมิ พ์ - นาไหมวัยอ่อนมาขยายบนชัน้ เล้ยี งทเ่ี ตรียมไว้ ฤดูแล้ง ควรนาไหมวัยอ่อนไว้ช้ันล่าง และปฏิบัติเช่นเดียวกันกับฤดูฝน เพ่ือปูองกนั ไม่ใหม้ ูลไหมหลน่ ลงมาที่พื้นโรงเลี้ยง และปูองกันการแพร่กระจายของ เช้ือโรค เทคนิคการปลูกหม่อนเลยี้ งไหมอตุ สาหกรรมให้มั่นคง ม่งั ค่ัง ยง่ั ยนื 65
3) เตรียมหม่อนสาหรับเลี้ยงไหมวัย 3 ควรเป็นใบหม่อนอ่อนที่เก็บจากช่วง รอยต่อของลาต้นหม่อนระหว่างสีเขียวต่อสีน้าตาลข้ึนไป ไม่ควรนาก่ิงแขนงมา เลี้ยงไหมวยั 3 เมื่อเกษตรกรทราบกาหนดวันรับไหมวัยอ่อนแล้ว ให้ไปรอรับไหมวัยอ่อน ณ จุดรับไหมวัยอ่อน ควรไปก่อนเวลากาหนด โดยต้องเตรียมกระบะรับไหมวัยอ่อน ไป ดว้ ยทุกคร้งั หากเกษตรกรไม่มีกระบะให้เตรียมผ้าสะอาดหรือปูเสื่อบนรถที่เตรียม ไปรบั ไหม 66 เทคนิคการปลกู หมอ่ นเลี้ยงไหมอุตสาหกรรมให้ม่ันคง ม่งั คงั่ ยั่งยนื
4.2.2 การเล้ียงไหมวยั 2 (หลกั การเลยี้ งไหมวยั อ่อน) (รับไหมวัย 1 ขยาย 2 กะบะต่อ 1 กลอ่ งไข่ไหม) ชั้นเลีย้ งไหมวยั อ่อนในโรงเลย้ี ง ขนาด กว้างxยาว เท่ากับ 1.0x1.5 เมตร แต่ใหเ้ ดนิ ได้รอบท้ัง 4 ดา้ น เลยี้ งวนั ละ 3 เวลา เลี้ยงทง้ั หมด 2 วันครงึ่ (เดด็ ยอด 3-5 ใบ นาใบมาห่นั ใหม้ ี ขนาดเล็ก) - เล้ยี งอยู่ 8 ม้ือ ไหมนอน 2 คร้ัง - ตอนเยน็ สามารถโรยปูน และล่อตวั ไม่นอนได้เลย ใช้ผ้าเปียกคลุมรักษาความสดของ ใบหม่อน คลุมทั้งช้ันแทนกระดาษ พาราฟิน เทคนคิ การปลกู หม่อนเลย้ี งไหมอตุ สาหกรรมใหม้ ่ันคง มั่งค่ัง ยงั่ ยืน 67
4.2.3 รบั ไหมวัย 3 เข้าบา้ น (ภาพซา้ ย) เตรยี มโรงเลยี้ งโดยอบคลอรีน 2 ครง้ั ปผู ้าเพอื่ รอรับไหม (ภาพกลาง) รับห่อ ไหมเขา้ โรงเลย้ี ง (ภาพขวา) แกะหอ่ ไหม แล้วขยายออกใหเ้ ต็มกระดาษสีนา้ ตาล (ภาพซ้าย) โรยปูนขาวซ้าอีกครั้ง (ภาพกลาง) กางมุ้งเพื่อปูองกันจ้ิงจก (ภาพขวา) หม่อน สาหรบั เลยี้ งไหมวยั 3 ตดั เอาแต่ยอดท่สี มบรู ณ์ ยาว 30-50 เซนตเิ มตร เดด็ ยอดทงิ้ (ภาพซ้าย) ดูอุณหภูมิทุกวันเพ่ือปรับสภาพ (ภาพกลาง) การเล้ียงไหมวัย 3 - 4 เม่ือไหม ใกลน้ อนตอ้ งรูดใบห่ันเลีย้ ง (ภาพขวา) ให้หม่อนซ้าประมาณ 2 ครั้ง ไหมจะนอนสม่าเสมอกัน ไหมวัย 3 ขยายพ้ืนท่ี 30 ตารางเมตรต่อกล่อง เม่ือไหมนอนสม่าเสมอให้โรยปูนขาว วางตาข่าย ใบหม่อนด้านบนเพอื่ ล่อไหมที่ยงั ไมน่ อนมาแยกเลีย้ ง 68 เทคนคิ การปลกู หมอ่ นเลี้ยงไหมอุตสาหกรรมใหม้ ่นั คง ม่ังค่งั ยง่ั ยนื
4.2.4 การเลย้ี งไหมวยั 4 (หลักการเลยี้ งไหมวยั แก่) (ภาพซา้ ย) วัย3 - วัย4 จะคลมุ มุ้งกันจ้ิงจก เพ่อื ลดการสญู หาย (ไหมนอน) (ภาพขวา) รอจนไหมตน่ื หมด 100 เปอรเ์ ซ็นต์ ถึงจะเลีย้ งมอ้ื แรก ไหมตนื่ จะวางเชือกถา่ ยมลู ทันที โดยใหห้ มอ่ นเพอื่ เล้ียงไหม บนเชือก 2 เวลา ไหมวัย 4 ถา่ ยมลู เสร็จ ขยาย พืน้ ที่ 46 ตารางเมตร ตอ่ กล่อง (ภาพซา้ ย) หม่อนวยั 4 ให้ตัดใบหมอ่ นพรอ้ มก่ิงยาวประมาณ 120-150 เซนติเมตร จะตดั ไม่หมดท้งั ตน้ ยงั เหลอื ใบติดตน้ ไวเ้ ล็กน้อย (ภาพขวา) หมอ่ นจะไมว่ างกับพน้ื ปนู ควรวางบนรถเขน็ ครงั้ ละ 3 มัดปอู งกนั เชือ้ โรคจากพ้ืนปนู ในโรงเลีย้ ง เทคนคิ การปลูกหมอ่ นเล้ียงไหมอตุ สาหกรรมให้มน่ั คง ม่งั คง่ั ยงั่ ยนื 69
4.2.5 ข้ันตอนการวางจ่อไหมสุก (การจัดการไหมสุกไหมทารัง) (ภาพซ้าย) ตอนเชา้ โรยสารโรยตวั ไหมกอ่ นการใหห้ ม่อน (ภาพขวา) เสริมดว้ ยใบหมอ่ น ตรงบริเวณทีไ่ หมกินหม่อนจนหมด (ภาพซ้าย) เมื่อไหมสกุ 80 เปอร์เซน็ ต์ วางเชอื ก (ภาพขวา) วางจอ่ (ภาพซ้าย) คลุมด้วยผ้า (ภาพกลาง) คลุมผ้าทับอีกช้ันให้มืดสนิท (ภาพขวา) ภายใน 2-4 ช่ัวโมง ยกจ่อข้ึน แล้วเก็บตัวไม่ขึ้นจ่อไปวางชั้นใหม่ แล้วเล้ียงจนสุกแล้ว วางจ่อรอบที่ 2 ดาเนินการเหมอื นครงั้ ท่ี 1 70 เทคนคิ การปลกู หมอ่ นเลย้ี งไหมอุตสาหกรรมใหม้ ่นั คง ม่ังคั่ง ย่งั ยนื
4.2.6 เทคนิคการเลย้ี งไหม - ไหมวัย 3 จะเน้นการคัดแยก จะล่อตัวไม่นอนโดยการวางตา ขา่ ยสีส้ม - ขยายพ้นื ท่เี ลีย้ งไหม 20 ตาราง เมตรตอ่ ไหม 1 กลอ่ ง - ไหมวัย 4 คัดแยกโดยการ เลือกเก็บตัวไม่นอน ออกในช่วง ท่ไี หมนอนสนิท - ขยายพืน้ ท่เี ลย้ี งไหม 40 ตาราง เมตรตอ่ ไหม 1 กล่อง - ไหมวัย 5 ขยายพ้ืนท่ีเล้ียงไหม 72 ตารางเมตรตอ่ ไหม 1 กล่อง ขยายพน้ื ที่ดี อากาศถา่ ยเทดี กนิ หม่อนดี มชี ยั เกนิ ร้อย เทคนิคการปลกู หมอ่ นเลี้ยงไหมอุตสาหกรรมให้มัน่ คง ม่งั คั่ง ยง่ั ยืน 71
เทคนคิ การเล้ยี งไหม (ตอ่ ) - ไหมสกุ วางจ่อ แลว้ รบี ยกทันที ภายใน 6 ชว่ั โมง - วนั รุง่ ขึ้นเอามลู ไหมออกจาก ชน้ั เลี้ยงไหม - โรงเลี้ยงต้องสูงโปร่ง อากาศ ถ่ายเทดี มีการเชิดซาแลนข้าง โรงเล้ยี งไหม - มงุ หลงั คา 2 ช้ัน โดยใช้ซาแลน เพื่อปูองกันความร้อน ทาให้โรง เล้ียงไหมเย็นสบาย 72 เทคนิคการปลกู หมอ่ นเลีย้ งไหมอตุ สาหกรรมใหม้ ่นั คง มั่งค่ัง ยั่งยนื
4.2.7 การจัดการไหมสกุ ขน้ึ จอ่ เอง เพื่อลดรังเสีย 1) ขึงเอน็ ตาข่าย 2) ขงึ เชอื กบนเอน็ ตาข่ายแลว้ วางจ่อ 3) คลมุ ตาข่ายไนล่อนเขียว 4) คลุมปรับสภาพ ถ้าอุณหภูมสิ งู กว่า 30 องศาเซลเซยี ส ให้ใชผ้ ้าหมาดคลมุ วนั รุ่งข้ึนใหด้ งึ ผา้ ออก 5) หากไหมข้ึนจ่อกวา่ 80เปอรเ์ ซ็นต์ 6) ยกจอ่ แขวนบนช้นั เล้ยี งภายใน 24 ให้ยกจอ่ ชวั่ โมงห้ามใหจ้ อ่ ลวดอยู่บนมลู ไหม เด็ดขาด เทคนิคการปลูกหมอ่ นเล้ยี งไหมอตุ สาหกรรมให้มน่ั คง มง่ั ค่งั ย่ังยนื 73
4.2.8 การแก้ไขปญั หาไหมเปน็ โรคและตายในรงั …ชว่ งฤดฝู น หน้าฝนเป็นช่วงท่ีมีอากาศร้อนและความช้ืนสูง ทาให้หนอนไหมไม่ สบายเปน็ โรคเยอะ จงึ มเี ทคนิคดีๆ ในการเลย้ี งไหมหน้าฝนมาฝาก ดงั น้ี 1) เปิดโรงเลย้ี งไหมใหโ้ ล่ง 2) โรยปูนขาวให้มากข้ึน 3) ถ่ายมลู ไหมใหบ้ ่อยคร้ังกวา่ เดิม เพ่ือลดความชื้น 4) เปดิ พัดลมระบายอากาศ 5) ไม่ใชย้ อดหม่อนเลีย้ งไหม วยั 3 – 4 – 5 เนือ่ งจากมีนา้ มาก ทาให้ไหมออ่ นแอ เป็นโรคตัวบวมไดง้ า่ ย 74 เทคนิคการปลูกหมอ่ นเล้ียงไหมอตุ สาหกรรมให้มนั่ คง มั่งค่งั ย่งั ยนื
4.2.9 การทาความสะอาดโรงเลี้ยงไหมและอปุ กรณข์ องคุณพันธท์ พิ ย์ (เกษตรกร) 1) จอ่ ทงั้ หมด 240 แผน่ จดั จอ่ ให้ลงลอนอย่างสมา่ เสมอ เรียบรอ้ ย 2) ใช้ไฟพ่นเอาใยออก ต้องพ่นในโรง เล้ียง แล้วยกไปเก็บนอกโรงเลี้ยงบน ชั้นทีท่ าไว้ 3) ใช้ไฟพ่นเอาปุยไหมออกก่อนนาไป ลา้ งทาความสะอาด เทคนิคการปลกู หม่อนเล้ียงไหมอตุ สาหกรรมใหม้ ่ันคง มัง่ ค่ัง ยงั่ ยืน 75
4) พื้นปูนมีคราบตัวตาย ใช้มีดแซะขูด ออก 5) แล้วใช้ไฟเผาเอาใย และเศษตัวตาย (ข้ีไหม) ทีต่ กค้างออกให้หมด 6) ล้างด้วยน้าเปล่าและผงซักฟอก ตามปกติ 76 เทคนคิ การปลกู หม่อนเลี้ยงไหมอตุ สาหกรรมใหม้ นั่ คง มงั่ คั่ง ยั่งยนื
4.3 ตารางการปฏิบตั งิ าน สาหรับการเลยี้ งไหม 1 กล่อง (เริ่มตน่ื วยั 3) ตารางการปฏบิ ตั ิงาน สาหรบั การเลี้ยงไหม 1 กลอ่ ง (เรมิ่ ต่ืนวยั 3) ไหมวยั ตอ่ ขยาย อุปกรณ์ งานท่ตี อ้ งปฏบิ ตั ิ รวม อณุ หภมู ิ วัน พ้ืนที่ ช่วย และปรมิ าณการใหห้ มอ่ นแต่ละครง้ั (กิโลกรมั ) กโิ ลกรมั (ตาราง ขยาย ตอ่ ที่ เมตร) เวลา 06.00 น. เวลา 17.00 น. รวม 60 ความชนื้ 212 ไหมวยั 3 1 4 2 รบั ไหมวัยออ่ น แกะ โรยสารโรยตวั ไหม 7 /อณุ หภูมิ กระดาษ ห่อไหม กระจายตวั 15 นาที วางตาขา่ ย 25 องศา สีน้าตาล ไหมใหเ้ สมอเต็ม ให้ใบหมอ่ น 7 เซลเซียส กระดาษ กิโลกรมั /ความชนื้ 2 4 4 ยกตาข่าย ถา่ ยมูล กระจายตัวไหมให้ 35 75 ผนื ผ้าปู ขยายพน้ื ทีเ่ ลย้ี ง ให้ เสมอกนั ให้หมอ่ น 20 กโิ ลกรมั เปอร์เซน็ ต์ หมอ่ น 15 กโิ ลกรมั 36 6 ขยายพื้นที่ ใหห้ ม่อน ให้หม่อน 8 18 ผนื ผ้าปู 10 กิโลกรมั กโิ ลกรัม (ถา้ ตวั ไหม ใกลน้ อน ให้ 5 กิโลกรมั ) นอน 3 4 10 10 โรยปนู ขาว ลอ่ ตัวไหม สงั เกตดมู ตี ัวไหม ผนื ผา้ ปู ทไี่ ม่นอน เริ่มตื่น ไหมวยั 4 5 14 10 โรยสารโรยตัวไหม 15 ยกตาข่ายถ่ายมลู 60 /อุณหภูมิ ผืนผ้าปู นาที วางตาข่าย ให้ ขยายพนื้ ที่ ให้ 25 องศา หมอ่ น 20 กโิ ลกรมั หมอ่ น 40 กิโลกรมั เซลเซียส (วัย 4 วนั ท่ี 14) /ความช้ืน 6 20 14 ขยายพนื้ ที่ ใหห้ มอ่ น กระจายตัวไหมให้ 90 70 ผืนผ้าปู 40 กิโลกรัม เสมอ ให้หม่อน 50 เปอรเ์ ซ็นต์ กโิ ลกรมั 7 20 ขยายพื้นท่ี ให้หม่อน กระจายตวั ไหมให้ 62 32 กิโลกรัม เสมอ ให้หมอ่ น 30 กโิ ลกรมั นอน 4 8 20 16 โรยปนู ขาว ล่อตัวไหม สังเกตดูมตี ัวไหม ผืนผ้าปู ท่ีไม่นอน เริม่ ตืน่ เทคนิคการปลูกหม่อนเลยี้ งไหมอตุ สาหกรรมใหม้ ัน่ คง มงั่ คัง่ ย่งั ยนื 77
ตารางการปฏบิ ตั ิงาน สาหรับการเลย้ี งไหม 1 กลอ่ ง (เรม่ิ ต่นื วัย3) ไหมวัยต่อ วัน ขยาย อุปกรณ์ งานท่ตี อ้ งปฏบิ ตั ิ รวม อณุ หภมู ิ ท่ี พน้ื ท่ี ช่วย และปรมิ าณการใหห้ มอ่ นแต่ละครงั้ (กโิ ลกรัม) กโิ ลกรมั (ตาราง ขยาย ตอ่ เมตร) เวลา 06.00 น. เวลา 17.00 น. รวม 1,328 ความช้ืน 9 20 16 โรยสารโรยตัวไหม 15 ยกตาข่ายถา่ ยมลู 168 ไหมวยั 5 /อณุ หภูมิ ผืนผา้ ปู นาที วางตาขา่ ย ให้ ขยายพื้นท่ี ให้ 25 องศา เซลเซียส หม่อน 68 กิโลกรัม หม่อน 100 /ความช้ืน (วัย 5 วันท่ี 14) กโิ ลกรัม 70 เปอรเ์ ซ็นต์ 10 50 33 กระจายตัวไหมให้ กระจายตวั ไหมให้ 180 ไหมสกุ ผนื ผ้าปู เสมอ ให้หม่อน 80 เสมอ ให้หม่อน กโิ ลกรัม 100 กโิ ลกรมั 11 50 33 กระจายตวั ไหมให้ กระจายไหมให้ 180 ผนื ผา้ ปู เสมอ ให้หม่อน 80 เสมอ ให้หมอ่ น กโิ ลกรัม 100 กิโลกรมั 12 50 33 กระจายไหมให้เสมอ กระจายตัวไหมให้ 250 ผนื ผา้ ปู ให้หมอ่ น 100 เสมอ ให้หม่อน กโิ ลกรัม 150 กิโลกรมั 13 50 33 โรยสารโรยตวั ไหม 15 ใหห้ มอ่ น 150 250 ผนื ผา้ ปู นาที วางเชอื กเตรียม กโิ ลกรัม ถา่ ยมลู ไหมวัย 5 ครั้ง ท่ี 2 ให้หม่อน 14 50 33 ให้หม่อน 100 ใหห้ ม่อน ก่งิ รวมใบ 250 ผนื ผา้ ปู กโิ ลกรัม 2 ชัว่ โมง 150 กิโลกรัม แลว้ ยกเชอื กถ่ายมลู ไหม วยั 5 15 50 33 โรยสารโรยตวั ไหม 15 ไหมสุก 80 50 ผืนผ้าปู นาที แลว้ ใหห้ มอ่ น เปอร์เซ็นต์ วาง 50 กโิ ลกรมั เพิ่มไป เชือกและวางจ่อ เร่อื ยๆจนกวา่ ไหมสกุ คลุมดว้ ยมุง้ และผ้า หลงั 4-6 ช่ัวโมง ให้ ยกจ่อ ตัวไมข่ ้ึนจอ่ เกบ็ รวบรวมให้บน ชั้นใหม่ วางจอ่ ใหม่ 78 เทคนิคการปลกู หมอ่ นเลีย้ งไหมอุตสาหกรรมให้มั่นคง ม่ังค่ัง ยัง่ ยนื
ตารางการปฏิบตั งิ าน สาหรบั การเล้ียงไหม 1 กลอ่ ง (เริ่มต่นื วัย3) ไหมวัยตอ่ ขยาย อปุ กรณ์ งานที่ตอ้ งปฏิบัติ อุณหภมู ิ วัน พ้ืนท่ี ชว่ ย และปรมิ าณการให้หมอ่ นแตล่ ะครงั้ (กโิ ลกรมั ) รวม (ตาราง ขยาย เวลา 06.00 น. เวลา 17.00 น. รวม กโิ ลกรมั ต่อ ท่ี เมตร) ความชืน้ 16 - เปิดโรงเลย้ี งไหมให้โปรง่ อากาศถา่ ยเทมากทสี่ ุด รวม (ยงั ไม่เปดิ ผ้าคลุมจ่อ) 1,600 ไหมทารงั 17 - ยกจอ่ ขึ้น เอามูลไหมทง้ิ นอกโรงเลีย้ ง /อุณหภูมิ 18 - เปิดโรงเลี้ยงไหมให้โปรง่ อากาศถ่ายเทมากท่สี ุด 25 องศา 19 - ทดสอบปาดรังไหม ถ้าเป็นดักแด้แล้วให้เริ่มแกะรังไหม คัดแยกรงั ดี รังเสยี เซลเซียส - /ความช้นื 21 รังแฝด และรังบาง ออก 65 22 - ทาการป่นั ปยุ ดว้ ยความระมดั ระวงั เปอร์เซน็ ต์ 23 - เตรยี มการขายรังไหม บรรจรุ ังไหมใส่ถุง ถุงละ 20 กโิ ลกรัม โดยใช้กระดาษ หนังสอื พิมพร์ องกน้ ถุง 1 คู่ แลว้ มดั ปากถุงนาไปขายท่ีจดุ นัดหมาย ตามวนั และ เวลาที่กาหนด หมายเหตุ : ถา้ เปลยี่ นฤดูกาล อากาศเย็นลง ไหมจะกินหมอ่ นนานและมากขนึ้ วัยละ 1-2 วัน ให้ปรับปริมาณใบ หมอ่ นตามความเหมาะสม : อณุ หภูมิ สงู กวา่ 25 องศาเซลเซียส ความช้ืน ต่ากว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ต้องคลุมผ้าเปียก เพื่อรักษา ความสดของใบหม่อน : อณุ หภูมิ ต่ากว่า 25 องศาเซลเซียส ความชื้น ต่ากว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ต้องคลุมผ้าแห้ง และปิดโรง เลี้ยงไหมไม่ใหล้ มโกรกเพ่ือรักษาความสดของหม่อน : อณุ หภูมิ สงู กวา่ 25 องศาเซลเซียส ความชื้น ต่ากวา่ 70 เปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องคลุมผ้าเปียก เพิ่มการ โรยปนู ขาว และถ่ายเทอากาศโดยการเปดิ พัดลม : หมอ่ นท่ีนามาเลย้ี งไหมทุกฤดู ตอ้ งสด แต่ไม่เปยี ก : หมอ่ นที่นามาเลี้ยงไหมวยั 3 ตัดยาว 5-7 ใบ ยาว 30 เซนตเิ มตร วนั 4-5 กนิ ไดห้ มด เทคนิคการปลกู หม่อนเลี้ยงไหมอตุ สาหกรรมให้มัน่ คง ม่ังค่ัง ย่ังยนื 79
4.4 โรค แมลง และ สตั ว์ ศัตรูไหม 4.4.1 โรคไหม ชนิดโรคไหม ช่วง ลักษณะอาการต่อการปอ้ งกันกาจัด ระบาด ลกั ษณะอาการ หนอนไหมเจริญเติบโตไม่สม่าเสมอ นอน 6. 1. โรคเพบบริน ตลอดปี ช้ากว่าปกติ ลาตัวหดสั้น แคระแกร็น ลอกคราบไม่ออก ผเี ส้ือมีปีกหงกิ งอ สามารถถ่ายทอดผ่านทางไขไ่ หมได้ 7. (ตัวหด) การป้องกันกาจัด รับไข่ไหมท่ีปลอดโรคจากหน่วย 8. ราชการ และแหล่งผลิตท่ีเชื่อถือได้ไม่ควรต่อพันธุ์เอง ตรวจแม่ผีเส้ือหลังวางไข่แล้ว แม่ผีเส้ือตัวใดที่เป็นโรคให้ 9. ทาลายไข่ของแม่ผีเสื้อโดยการเผาไฟ ก่อนและหลังการ เลยี้ งไหมฉีดสารเคมที าลายเช้ือในห้องเล้ียง และอุปกรณ์ การเลย้ี งไหมทุกชนิดด้วยนา้ ปูนคลอรนี 1 เปอรเ์ ซน็ ต์ 2.โรคแกรสเซอรี่ ตลอดปี ลักษณะอาการ ลาตัวมสี เี หลอื งขุ่น ผวิ เป็นมันวาวข้อ (เตอ้ , ตวั เหลือง) พบมาก ปล้องบวม ผิวหนังบางแตกง่าย มนี า้ เหลอื งไหล หนอน ชว่ ง ไหมไต่ขึ้นทีส่ ูงหรือเดนิ ตามขอบกระดง้ พ.ค.–ต.ค. การป้องกันกาจัด เกบ็ หนอนไหมทีเ่ ป็นโรคท้ิงในภาชนะ ที่มีน้ายาฆ่าเช้ือ (น้าปูนคลอรีน 1 เปอร์เซ็นต์) แล้วโรย ด้วยสารโรยตัวไหม หรือปูนคลอรีนผง 3.5 เปอร์เซ็นต์ บนตวั หนอนไหมปกติ หรอื ก่อนไหมนอนและหลังไหมตน่ื กรณีที่มีการระบาดมาก ทาความสะอาดโรงเล้ียงไหม โดยฉีดพ่นน้าปูนใส 1 เปอร์เซ็นต์ (ปูนขาว 1 กิโลกรัม ต่อน้า 100 ลิตร) ในสารละลายฟอร์มาลิน 2เปอร์เซ็นต์ (เตรียมจากฟอร์มาลิน 37 เปอร์เซ็นต์ ผสมน้า 13 ลิตร จะได้ฟอร์มาลิน 2 เปอร์เซ็นต์) ผสมน้าปูนใส 1 เปอร์เซ็นต์ ในสารละลายฟอร์มาลิน 2เปอร์เซ็นต์ ให้เข้า กันปล่อยทิ้งให้ตกตะกอน รีบนาส่วนที่เป็นน้าใสไปใช้ ทนั ทีจะทาให้มีประสทิ ธิภาพสูง 80 เทคนคิ การปลกู หม่อนเล้ียงไหมอุตสาหกรรมให้มัน่ คง มั่งค่งั ยง่ั ยนื
ชนิดโรคไหม ชว่ ง ลักษณะอาการต่อการป้องกันกาจัด 3. โรคแอสเปอร์ ระบาด จิลลัส (หดู ) พบมาก ลักษณะอาการ ระยะแรกพบจดุ สดี าบนตวั หนอนไหม 4. โรคมัสคาดนี ฤดฝู น จากนนั้ จะมเี สน้ ใยเชอื้ ราขนึ้ คลมุ ซาก ลาตวั แหง้ แข็ง (มัมม่ี) พ.ค.–ต.ค. การป้องกันกาจัด เก็บหนอนไหมที่เป็นโรคทิ้งใน ภาชนะท่ีมีน้ายาฆ่าเชื้อ แล้วโรยด้วยสารโรยตัวไหม หรือปูนคลอรีนผง 3.5 เปอร์เซ็นต์ บนตัวหนอนไหม ปกติ หรอื กอ่ นไหมนอนและหลงั ไหมต่ืน กรณีท่ีมีการระบาดมาก ทาความสะอาดโรงเล้ียงไหม โดยฉีดพ่นน้าปูนใส 1 เปอร์เซ็นต์ (ปูนขาว 1 กิโลกรัม ต่อน้า 100 ลิตร) ปล่อยให้แห้งแล้วจึงอบโรงเลี้ยงไหม ดว้ ยคลอรีน 1 เปอร์เซ็นต์ และลดความช้นื ในห้องเล้ียง ไหม และเปดิ ใหอ้ ากาศถา่ ยเท พบมาก ลกั ษณะอาการ กนิ อาหารน้อย พบจดุ สดี าคล้ายเปอ้ื น ฤดูฝน น้ามันบนตัวหนอนไหม ซากแข็งคล้ายมัมม่ี มีเส้นใย พ.ค.–ต.ค. เชอื้ ราข้นึ คลุมตามชนิดของเช้อื ราทีเ่ ขา้ ทาลาย การปอ้ งกันกาจัด เหมือนกบั โรคแอสเปอรจ์ ิลัส 5. โรคแฟคเซอรี่ พ.ค.–ต.ค. ลักษณะอาการ สารอกน้าย่อย ถ่ายมูลเหลว ลาตัว (เนา่ เละ) อ่อนปวกเปียก มีอาการส่ันกระตุกหรือเกร็งเป็น อมั พาต ซากเนา่ มกี ลิ่นเหมน็ การป้องกันกาจัด เก็บหนอนไหมที่เป็นโรคทิ้งใน ภาชนะท่ีมีน้ายาฆ่าเชื้อ แล้วโรยด้วยสารโรยตัวไหม หรือปูนคลอรีนผง 3.5 เปอร์เซ็นต์ บนตัวหนอนไหม ปกติ หรอื ก่อนไหมนอนและหลังไหมตืน่ กรณที มี่ ีการระบาดมาก ทาความสะอาดโรงเล้ียงไหม โดย ฉีดพ่นน้าปูนใส 1 เปอร์เซ็นต์ (ปูนขาว 1 กิโลกรัมต่อน้า 100 ลิตร) ปลอ่ ยให้แห้งแล้วจึงอบโรงเลี้ยงไหมด้วยคลอรีน 1 เปอร์เซน็ ต์ เทคนิคการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมอตุ สาหกรรมให้มนั่ คง มัง่ คง่ั ย่งั ยืน 81
4.4.2 แนวทางการป้องกันกาจดั โรคไหม 1) ก่อนและหลังเล้ียงไหม ฉีดพ่นสารเคมีทาลายเช้ือที่ตกค้างอยู่ในห้องเลี้ยง ไหมทุกชนิดด้วยน้าปูนคลอรีน 1เปอร์เซ็นต์ ฉีดพ่นห้องเล้ียงไหมหลังทาความ สะอาดแล้ว ในอัตรา 225 ซีซีต่อตารางเมตร โดยฉีดให้เปียกเป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาที ท้ังภายในและภายนอกห้องเลี้ยงไหม 2) เลี้ยงไหมให้แข็งแรง ให้ใบหม่อนท่ีมีคุณภาพเหมาะกับการเจริญเติบโตใน แตล่ ะวัย 3) มกี ารขยายพื้นทใี่ ห้เหมาะสมกับแตล่ ะวัย 4) รกั ษาห้องเลย้ี งไหมให้สะอาด มีการถา่ ยเทอากาศได้ดี 5) ใช้สารเคมีโรยตัวไหมแรกฟักและหลังจากไหมต่ืนทุกวัย เพื่อฆ่าเช้ือโรค ขณะเลย้ี ง แล้วทิง้ ไวป้ ระมาณ 15-30 นาที กอ่ นให้ใบหมอ่ น 6) คดั หนอนทีเ่ ป็นโรคทิ้ง แช่ในน้าปูนคลอรนี 1เปอร์เซน็ ต์ หรือเผาทาลาย 4.4.3 แมลง และสตั วศ์ ตั รูไหม ชนิด แมลง และสตั ว์ศัตรูไหม ชว่ ง ลกั ษณะอาการ/การป้องกนั กาจดั ระบาด แมลงวันก้นขนตัวเมียจะวางไข่บนทุกส่วน 1.แมลงวันก้นขน ตลอดปี ของลาตัวหนอนไหม โดยเฉพาะบริเวณ รอยตอ่ ของปลอ้ ง จากนน้ั จะเจาะเข้าไปใน พบมาก ตวั หนอนไหม กดั กินอวัยวะภายใน มักพบ การระบาดทาลายในไหมวัยแก่ ถ้าเข้า ช่วง ทาลายหนอนไหมวัย 5 หนอนไหมจะ สามารถทารังได้แต่จะตายในรัง มี.ค.–พ.ค. การป้องกัน ห้องเล้ียงไหมควรจะมีมุ้ง ลวดปิดอย่างมิดชิด ควรทาห้องมืดเพ่ือ ช่วยดักแมลงวันก้นขนที่อาจจะเข้าห้อง เล้ียงได้ในช่วงเวลาเข้าและออกจากห้อง เล้ียงไหมควรทาการกาจัดแมลงวันก้นขน ทันทีเม่ือพบในห้องเล้ียงไหม และวางกาว ดกั แมลงวนั 82 เทคนิคการปลูกหมอ่ นเลย้ี งไหมอตุ สาหกรรมใหม้ ั่นคง มงั่ ค่งั ยัง่ ยนื
ชนดิ แมลง และสัตวศ์ ัตรูไหม ชว่ ง ลกั ษณะอาการ/การป้องกนั กาจดั 2. มด ระบาด ตลอดปี มดเป็นศัตรทู ่ีสาคญั อีกชนิดหนึ่งท่ีทาความ 3. จิง้ จก ตกุ๊ แก จงิ้ เหลน เสียหายแก่หนอนไหม มดจะกัดกินไข่ไหม 4. หนู ตลอดปี ทาให้ไข่ไหมไม่สามารถฟักออกเป็นตัว ตลอดปี นอกจากนี้มดยังทาลายหนอนไหมท้ังวัย ออ่ นและวัยแก่ ทาให้หนอนไหมตายได้ การปอ้ งกนั ควรทาร่องน้ารอบๆโรงเลี้ยง เพื่อช่วยกันมดได้ในข้ันต้น ควรจะมีน้า หล่อที่ขาของชั้นเลี้ยงไหม หรืออาจใช้ น้ามันทาเพ่ือปูองกันมดไต่ขึ้นไปในกระด้ง เล้ียงไหม และไม่ควรใช้ใบหม่อนท่ีมีมด ปะปนอยู่เล้ียงไหม จง้ิ จก ตุ๊กแก และจ้งิ เหลน จะกดั กนิ หนอน ไหมเปน็ อาหาร การปอ้ งกนั เล้ยี งไหมในโรงเล้ยี งไหมที่มี มุง้ ลวด และวางกบั ดกั หนูเป็นศัตรูสาคัญของหนอนไหม เพราะ หนูทาลายไข่ไหม หนอนไหม รังไหม ผีเสือ้ ไหม โดยกัดกนิ เปน็ อาหาร การป้องกัน เลีย้ งไหมในโรงเลยี้ งไหมทม่ี ี มงุ้ ลวดมดิ ชดิ และวางกับดกั เชน่ กาวดกั หนู 4.4.4 วิธีกาจัดแมลงวนั ก้นขน 1) น้าส้มสายชู โดยเทน้าส้มสายชู ใส่ขวด มีผ้าห้อยอยู่นอกขวด นาขวดไป แขวนห้อยรอบๆ โรงเลี้ยงไหมเพื่อดับกลิ่นคาวของหนอนไหม โดยเฉพาะ ช่วงไหมวัย 5 2) ยาฆ่าแมลงวัน โดยนาใบหม่อนผสมยา ใช้ล่อแมลงวันในโรงเลี้ยงไหม 3) ใช้กาวดักแมลง เทคนคิ การปลูกหม่อนเล้ียงไหมอุตสาหกรรมให้มน่ั คง มงั่ คั่ง ยงั่ ยืน 83
4) หากนามูลไหมไปใส่ในสวนหม่อน ต้องไถกลบทุกครั้ง 4.5 การตายของหนอนไหมทีเ่ กิดจากสิ่งไม่มีชีวติ กรณีนี้ไหมท่ีเป็นโรคจะไม่มีเช้ือโรคเข้าทาลาย แต่มีสาเหตุจากอิทธิพล ของสิ่งแวดล้อม เช่น อุณหภูมิ ความชื้น แสงสว่าง ควันไฟ ควันบุหรี่ พิษจาก สารเคมี รวมทงั้ คุณภาพและปริมาณอาหารท่ีใช้เลี้ยงไหม วิธีแก้ไข คือ ปรับสภาพ ต่างๆ ให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของไหม หลีกเลี่ยงจากควันไฟ ควันบุหร่ี และไม่ควรใชใ้ บหมอ่ นที่มีสารพษิ ตกคา้ งนาไปเลีย้ งไหม เป็นต้น ความเปน็ พษิ ทีเ่ กดิ จากสารพวกเคมที างการเกษตร อาการตายจากสารเคมี อาการตายที่เกิดจากยาสบู 84 เทคนคิ การปลูกหมอ่ นเลี้ยงไหมอุตสาหกรรมให้ม่ันคง มั่งคงั่ ยัง่ ยนื
5. นวตั กรรมเครือ่ งจกั รทุ่นแรง 5.1 เคร่ืองปน่ั ปุย เครอื่ งป่ันปุย (ต้นทุน 4,500 บาท) - ใช้ตะแกรงเหลก็ เป็นพื้นโต๊ะเพ่ือให้มูลไหม หลน่ ออก ทาให้รังสะอาดก่อนปั่นปุย - ขนาด กวา้ งxยาวxสงู = 5x140x80 เซนตเิ มตร - ขาหน้า 70 เซนติเมตร ขาหลังสงู 80 เซนติเมตร - ใชม้ อเตอร์เครอ่ื งซักผา้ แรงจะเบาไม่ทา ให้ดกั แด้ไหมแตก เทคนคิ การปลกู หมอ่ นเล้ยี งไหมอตุ สาหกรรมให้มน่ั คง มัง่ ค่งั ย่งั ยืน 85
5.2 โตะ๊ กระจกคดั รังไหม - โตะ๊ กระจกคัดรังไหม (ตน้ ทนุ 4,500 บาท) - ขนาด กวา้ งxยาวxสูง = 70x140x80 เซนตเิ มตร - ใชก้ ระจกฟิลม์ เอกซเรย์ - ใช้หลอดไฟ 3 หลอด ใหแ้ สงตอนเวลาคดั รงั ไหม - ใหค้ วามสาคญั ในการคดั แยกรงั อย่างมาก เพ่อื ใหไ้ ด้ราคารังไหมต่อกโิ ลกรมั สูง 86 เทคนคิ การปลกู หมอ่ นเลยี้ งไหมอุตสาหกรรมให้มัน่ คง มั่งคงั่ ยง่ั ยนื
6. การเก็บเก่ยี วรงั ไหมและจาหน่ายรังสด การเก็บรงั ไหมจากจอ่ การลอกปยุ ไหม 1) หลังจากทารังไหมประมาณ 4-5 วัน ให้ปาด รังไหมเพื่อดูสีของดักแด้ ว่าสามารถเก็บรังไหม ได้หรือยัง โดยสังเกตส่วนหลังและตาของดักแด้ จะเปน็ สีนา้ ตาลจงึ จะแกะรังไหมออกจากจ่อได้ 2) ห้ามแกะรังไหมก่อนกาหนด ให้เกษตรกร แกะรงั ไหมออกจากจ่อด้วยความระมัดระวัง ลด การกระทบกระเทือนดักแด้โดยไม่โยนจ่อและรัง ไหม 3) รงั ไหมท่เี สร็จแล้วใหเ้ กลี่ยบางๆ ไว้บนชน้ั เล้ยี ง เพ่ือไมใ่ หเ้ กิดความร้อนหรอื ความช้นื สะสม อาจทาใหเ้ กดิ เช้อื รา 4) ใชเ้ ครื่องลอกปยุ ด้วยความระมดั ระวัง (เครื่อง ลอกปุยไหมใช้มอเตอร์ 0.25 แรง ความสูงจาก เคร่อื งลอกปุยไหม สงู ไมเ่ กนิ 70 เซนตเิ มตร) เทคนิคการปลูกหมอ่ นเลยี้ งไหมอตุ สาหกรรมให้มน่ั คง มง่ั คั่ง ยง่ั ยืน 87
5) คัดแยกรังไหมทุกครั้งก่อนนาไปขายเพ่ือลด เปอร์เซน็ ตร์ ังเสีย ขายไดร้ าคางาม 6) โต๊ะไฟฟูาคัดรังไหม คือ อุปกรณ์เสริมในการ คัดแยกตัวตายในรังเพื่อคัดแยกรังเสียออกจาก รังดี ได้อย่างชัดเจน เกษตรกรจะมีรายได้จาก การขายรังไหมเพ่ิมขนึ้ 88 เทคนิคการปลูกหมอ่ นเลี้ยงไหมอุตสาหกรรมให้มัน่ คง มง่ั คัง่ ย่งั ยนื
6.1 การแยกประเภทรงั ไหม เทคนคิ การปลกู หมอ่ นเล้ยี งไหมอตุ สาหกรรมให้ม่ันคง ม่งั คัง่ ย่งั ยนื 89
6.2 ขัน้ ตอนการรับซอื้ รังไหม 1) การตรวจสอบคณุ ภาพรังไหม การขนสง่ การเช็คจานวนถงุ การบรรจุรังไหม การลอกปยุ รังไหม 2) การชง่ั น้าหนกั รังไหม ช่งั น้าหนกั ด้วยเครอ่ื งดจิ ิตอล เกษตรกรตรวจผลด้วยตนเอง นาไปสมุ่ ตวั อยา่ ง 3) การส่มุ ตวั อย่างรงั ดี นารงั ดที ุกถุงรวมกนั สุ่มรังไหมตามจานวนกล่องที่เลี้ยง อัตรา 1:1 4) การส่มุ ตวั อย่างรังเสยี เทรังไหมบนโต๊ะ คลุมผ้าดา ตักรังไหมมา 1 ลิตร การตัดรังว่ามีรังบางปน มาก่รี งั การตรี าคารังเสยี 90 เทคนคิ การปลูกหม่อนเล้ียงไหมอตุ สาหกรรมใหม้ น่ั คง ม่ังค่ัง ย่ังยนื
5) การคานวณรายได้ ดจู าก 1. เปอรเ์ ซ็นตร์ งั เสีย 2. เปอร์เซ็นตเ์ ปลือกรงั การคานวณเปอร์เซน็ ต์รงั เสยี และเปอร์เซน็ ตเ์ ปลอื กรงั ตกั สมุ่ รังดี 50รัง ปาดรังดี 50รังพบรังเสยี 1รงั คดิ เป็น2เปอร์เซน็ ต์ ใชร้ งั ดี 20รงั แลก แยกเปลือกรังและดกั แด้ ชงั่ นา้ หนักด้วยเคร่ืองช่งั ดิจิตอล คานวณหา เปอรเ์ ซน็ ตเ์ ปลือกรัง คานวณรายได้ 6.3 ตัวอย่างการรบั ซ้ือรงั ไหมปี 2561 ราคา 180 บาท ตอ่ กิโลกรัม (เปลอื กรงั 21 เปอรเ์ ซ็นต์ รงั เสีย 3 เปอร์เซ็นต์) ประเภทรัง ราคาต่อกิโลกรมั รวมบาท (บาท) (กิโลกรมั ) 1. รงั ดรี าคา 180 บาท เงินเพิ่มคุณภาพรังดี รงั เสยี 0 เปอร์เซ็นต์ 40 220 รงั เสยี 1-2 เปอรเ์ ซน็ ต์ 30 210 รังเสีย 3-6 เปอรเ์ ซน็ ต์ 20 200 รังเสยี 7-10 เปอร์เซ็นต์ 10 190 รังเสีย 11-14 เปอร์เซน็ ต์ 5 185 2. รงั ดหี ลังจอ่ 110 110 3. รงั เสีย 90 90 4. รงั บาง 20 20 เทคนิคการปลกู หมอ่ นเลี้ยงไหมอุตสาหกรรมใหม้ นั่ คง ม่ังคง่ั ยงั่ ยนื 91
ประเภทรงั ราคาตอ่ กโิ ลกรมั รวมบาท (บาท) (กโิ ลกรมั ) 5. รงั แมลงวนั ก้นขนเจาะ 20 20 6. ปยุ ไหม 5-20 5-20 เง่ือนไข 1. ไม่ลอกปุยไหมกอ่ นนารังมาขาย หักกโิ ลกรัมละ 8 บาท 2. หลังตรวจสอบคณุ ภาพก่อนการรบั ซ้ือ หากคัดรงั มาไมผ่ ่าน 2.1 คดั รงั ไหมใหม่ 2.2 เหมาซ้อื เป็นรังดหี ลงั จอ่ กิโลกรัมละ 110 บาท 2.3 เหมาซอ้ื เป็นรงั เสีย กิโลกรัมละ 90 บาท 2.4 ซอื้ ตามตารางรับซ้ือ 7. ผลตอบแทนการปลกู หมอ่ นเลี้ยงไหม สรุปตน้ ทุนการผลติ ไหมอตุ สาหกรรม 7.1 ตน้ ทนุ ไหมอุตสาหกรรมรังเหลอื ง (ไหมไทยลกู ผสม) ตน้ ทนุ ไหมอตุ สาหกรรมรงั เหลือง(ไหมไทยลูกผสม) ประกอบด้วย ต้นทุนผันแปร คือ ค่าแรงงาน เป็นเงิน 1,859.31 บาท ค่าวัสดุ 620.45 บาท คา่ เสียโอกาสในการลงทุน 1.15 บาท ต้นทนุ คงท่ี เป็นเงิน 93.42 บาท รวมต้นทุนในการผลิตไหมอุตสาหกรรม รังเหลือง (ไหมไทยลูกผสม) เป็นเงิน 2,574.33 บาท เกษตรกรสามารถผลิตรัง ไหมสด ไดจ้ านวน 22.12 กโิ ลกรัม ต่อ 1 แผ่นไข่ไหม ดงั นั้นคดิ เป็นต้นทุนการผลิต รังไหมสด 1 กิโลกรัม เท่ากับ 116.38 บาท ท้ังนี้เกษตรกรสามารถจาหนา่ ยรังไหมได้ในราคา 160 บาทตอ่ กิโลกรัม ทาให้ได้รับ ผลตอบแทนคือ กาไรสุทธิ 43.62 บาท ต่อกิโลกรัม หรือ มีรายได้ต่อ 1 แผ่นไข่ ไหม 3,539.20 บาท และกาไรสุทธิต่อการผลิตรังไหมสด 1 กิโลกรัม เท่ากับ 7.91 บาท หรือกาไรสทุ ธิ 964.87 บาท ต่อ 1 แผ่นไขไ่ หม ทีม่ า: สานกั งานเศรษฐกิจการเกษตร, 2560 92 เทคนคิ การปลูกหมอ่ นเล้ยี งไหมอตุ สาหกรรมให้ม่ันคง มั่งคั่ง ยง่ั ยนื
7.2 ต้นทุนไหมอุตสาหกรรมลูกผสมรังขาว แบบที่เกษตรกรเล้ียงไหม วัย 1-5 ต้นทุนไหมอุตสาหกรรมรังขาว แบบท่ีเกษตรกรเลี้ยงไหม วัย 1-5 (ไหม ลูกผสม) ประกอบดว้ ย ต้นทุนผันแปร คือ ค่าแรงงาน เป็นเงิน 1,548.83 บาท ค่าวัสดุ 2,691.70 บาท คา่ เสียโอกาสในการลงทุน 7.91 บาท ต้นทุนคงที่ เป็นเงิน 378.64 บาท รวมต้นทุนในการผลิตไหม อุตสาหกรรมรังขาว แบบท่ีเกษตรกรเล้ียงไหม วัย 1-5 (ไหมลูกผสม) เป็นเงิน 4,627.08 บาท เกษตรกรสามารถผลิตรังไหมสด รวม 29.36 กิโลกรัม ต่อ 1 กลอ่ งไข่ไหม โดยแบ่งเป็นรังดี ไดจ้ านวน 28.75 กิโลกรัม และผลิตรังไหมสดที่เป็น รังเสยี ไดจ้ านวน 0.61 กิโลกรัม ดังนั้นคิดเป็นต้นทุนการผลิตรังไหมสด เฉลี่ย 1 กิโลกรัม เท่ากับ 157.60 บาท ท้ังนี้เกษตรกรสามารถจาหน่ายรังไหมรังดี ได้ในราคา 211.97 บาท ต่อ กิโลกรัม และจาหน่ายรังไหมรังเสีย ได้ในราคา 95.00 บาท ต่อ กิโลกรัม ทาให้ ได้รับผลตอบแทนคือ มีรายได้ต่อ 1 กล่องไข่ไหม 6,151.81 บาท และ กาไรสุทธิ ต่อการผลิตรังไหมสด 1 กิโลกรัมเฉล่ีย เท่ากับ 51.93 บาท หรือกาไรสุทธิ 1,524.73 บาทต่อ 1 กล่องไข่ไหม 7.3 ต้นทนุ ไหมอุตสาหกรรมลูกผสมรังขาว แบบทีเ่ กษตรกรเลยี้ งไหม วยั 3-5 ต้นทุนไหมอุตสาหกรรมรังขาว แบบท่ีเกษตรกรเลี้ยงไหม วัย 3-5 (ไหม ลูกผสม) ประกอบดว้ ย ต้นทุนผันแปร คือ ค่าแรงงาน เป็นเงิน 1,759.43 บาท ค่าวัสดุ 3,881.71 บาท คา่ เสยี โอกาสในการลงทุน 8.07 บาท ต้นทนุ คงที่ เป็นเงนิ 427.68 บาท รวมต้นทุนในการผลิตไหมอุตสาหกรรมรัง ขาว แบบท่ีเกษตรกรเล้ียงไหม วัย 3-5 (ไหมลูกผสม) เป็นเงิน 6,076.89 บาท เกษตรกรสามารถผลิตรังไหมสด รวม 48.92 กิโลกรัมต่อ 1 กล่องไข่ไหม เทคนิคการปลูกหม่อนเล้ยี งไหมอตุ สาหกรรมให้มัน่ คง มั่งคง่ั ยงั่ ยืน 93
โดยแบ่งเป็นรังดี ได้จานวน 46.04 กิโลกรัม และผลิตรังไหมสดท่ีเป็นรังเสีย ไดจ้ านวน 2.88 กิโลกรัม ดังนั้นคิดเป็นต้นทุนการผลิตรังไหมสด เฉล่ีย 1 กิโลกรัม เท่ากับ 124.22 บาท ทั้งนี้เกษตรกรสามารถจาหน่ายรังไหมรังดี ได้ในราคา 184.28 บาทต่อ กิโลกรัม และจาหน่ายรังไหมรังเสีย ได้ในราคา 90.00 บาทต่อกิโลกรัม ทาให้ ไดร้ ับผลตอบแทนคอื มีรายไดต้ อ่ 1 กลอ่ งไข่ไหม 8,743.45 บาทและกาไรสุทธิต่อ การผลติ รังไหมสด 1 กิโลกรัมเฉล่ีย เท่ากับ 54.51 บาท หรือกาไรสุทธิ 2,666.56 บาทตอ่ 1 กล่องไข่ไหม 7.4 ตารางแสดงผลตอบแทนเปรยี บเทยี บอาชพี การปลกู หม่อนเลี้ยงไหม กับอาชพี การเกษตรอ่ืนๆ ชนิดพืชตอ่ สัตว์ ต้นทนุ การผลติ ราคาทีเ่ กษตรกร ผลตอบแทน หมาย (บาทต่อไรต่ อ่ ป)ี ขายได้ สทุ ธิ เหตุ (บาทต่อไรต่ อ่ ป)ี (บาทต่อไร่ตอ่ ป)ี หม่อนไหม - ไหมอุตสาหกรรมรังเหลอื ง 16,821 17,696 875 (J108 x นางลายสระบุรี) - ไหมอุตสาหกรรมลกู ผสม 9,254 12,304 3,050 รงั ขาว (เล้ยี งวยั 1-5) - ไหมอตุ สาหกรรมลกู ผสม 12,154 17,487 5,333 รงั ขาว (เลย้ี งวยั 3-5) - ไหมไทยพ้นื บ้าน 966 1,260 294 อ้อยโรงงาน-นา้ ตาล 8,996 7,084 -1,912 มันสาปะหลัง 6,773 6,324 -449 ขา้ ว - ข้าวนาปี 3,968 3,794 -174 - ขา้ วนาปรงั 4,892 4,809 -83 ยางพารา - ยางแผน่ ดิบ 14,230 10,933 -3,297 ปาล์มน้ามนั 7,458 13,033 5,575 กาแฟ 6,546 7,486 940 ขา้ วโพดเลย้ี งสัตว์ 4,245 4,311 66 94 เทคนคิ การปลูกหมอ่ นเลยี้ งไหมอตุ สาหกรรมใหม้ ัน่ คง มง่ั คง่ั ย่งั ยนื
ทมี่ า : ดัดแปลงจากสานักงานเศรษฐกิจการเกษตร, 2559 หมายเหตุ : - หมอ่ น 1 ไรเ่ ลีย้ งไหมอตุ สาหกรรมรงั เหลอื ง (ไหมไทยลูกผสม) ได้ 5 แผน่ ต่อปี - หมอ่ น 1 ไร่เลยี้ งไหมอตุ สาหกรรมลกู ผสมรงั ขาว ได้ 2 แผ่นตอ่ ปี - หม่อน 1 ไร่เลี้ยงไหมไทยพืน้ บา้ น ได้ 7 แผ่นตอ่ ปี - ไข่ไหม 1 แผน่ มไี ขไ่ หมประมาณ 23,000 ฟอง มีการฟกั ออกไม่น้อยกวา่ 90 เปอรเ์ ซน็ ต์ (มาตรฐานของกรมหมอ่ นไหม) เทคนคิ การปลกู หม่อนเล้ยี งไหมอุตสาหกรรมให้มนั่ คง ม่ังค่ัง ยง่ั ยนื 95
7.5 เปรียบเทยี บการเลย้ี งไหมพันธุต์ ่างๆ พันธุ์ไหม ปรมิ าณใบ ผลผลิต ผลผล ไทยพ้นื บา้ น หมอ่ นที่ใช้ รงั ไหม เส้นไห (กิโลกรัมตอ่ (กิโลกรมั ต่อ (กิโลกร แผน่ ) ต่อแผน่ แผน่ ) 10-15 1-1.5 200-250 ไทยลูกผสม 300-350 15 – 20 2 – 3 ลูกผสม 400-600 25 – 35 4 – 6 หมายเหตุ : ไหมไทยลูกผสม 1 แผ่น มีไข่ไหมประมาณ 23,00 กรมหม่อนไหม) ไหมลูกผสม 1 แผน่ มไี ขไ่ หมประมาณ 34,000 ฟอง 96 เทคนคิ การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมอตุ สาหกรรมใหม้ ั่นคง มง่ั ค
ลิต ราคาผลผลิต รายได้ตอ่ แปลงหมอ่ น หม (บาทตอ่ การเล้ยี งไหม 1 ไร่ เล้ียงได้ รัม กโิ ลกรมั ) 1 แผน่ (บาท) (แผน่ ตอ่ รุ่น) น) 1,400-2,100 2 5 1,400 (เสน้ ไหม) 2,800-4,200 1.5 3 1,400 (เสน้ ไหม) 6 200 5,000-7,000 1 (รงั ไหม) 00 ฟอง มีการฟักออกไม่น้อยกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ (มาตรฐานของ ง มีการฟกั ออกไมน่ อ้ ยกวา่ 90 เปอรเ์ ซ็นต์ คงั่ ย่ังยืน
8. ตวั อย่างเกษตรกร 8.1 ตัวอย่างเกษตรกร ผเู้ ลี้ยงไหมขายรังสด (รงั เหลอื ง) นายสมเกียรติ เหลาวงค์ ทีอ่ ยู่ 72 หมู่ 5 ต.หนองแดง อ.แม่จรมิ จ.นา่ น ผลการเลย้ี งไหม ปี 2560 สวนหม่อน 15 ไร่ พันธุบ์ ุรีรมั ย์ 60 10 ไร่ หม่อนพนั ธส์ุ กลนคร 85 5 ไร่ เล้ียงไหม พันธเ์ุ หลอื งสระบุรี 59 กล่องต่อปี ผลผลติ รังไหม 1,340.80 กโิ ลกรัมต่อปี ราคาตอ่ กโิ ลกรมั 160.12 บาท รายได้ต่อกล่อง 3,639.53 บาท รายได้ต่อไรต่ ่อปี 14,312.97 บาท รายได้ต่อปี 214,694.50 บาท เทคนิคการปลกู หม่อนเลย้ี งไหมอุตสาหกรรมใหม้ ั่นคง มัง่ คงั่ ยั่งยนื 97
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114