Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ (๑)

พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ (๑)

Description: พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ (๑)

Search

Read the Text Version

ราชกจิ จานเุ บกษา พระราชบัญญตั ิ องคก์ รจัดสรรคลืน่ ความถ่ีและกากับการ ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุ โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

พระราชบญั ญัติ องค์กรจัดสรรคล่ืนความถี่และกากบั การประกอบกจิ การ วทิ ยุกระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกจิ การโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ใหไ้ ว้ ณ วนั ที่ ๑๗ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็นปี ที่ ๖๕ ในรัชกาลปัจจุบนั พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรด เกลา้ ฯ ใหป้ ระกาศว่า โดยทเี่ ป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าดว้ ยองคก์ รจดั สรรคลื่นความถ่ีและ กากบั กิจการวิทยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พระราชบญั ญตั ิน้ีมีบทบญั ญตั ิบางประการเกี่ยวกบั การจากดั สิทธิและเสรีภาพ ของบคุ คล ซ่ึงมาตรา ๒๙ ประกอบกบั มาตรา ๓๕ มาตรา ๓๖ มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๓ มาตรา ๔๕ มาตรา ๔๖ มาตรา ๔๗ มาตรา ๖๑ และมาตรา ๖๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย บญั ญตั ิใหก้ ระทาไดโ้ ดยอาศยั อานาจตามบทบญั ญตั ิแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหต้ ราพระราชบญั ญตั ิข้ึนไวโ้ ดยคาแนะนาและ ยนิ ยอมของรัฐสภา ดงั ต่อไปน้ี มาตรา ๑ พระราชบญั ญตั ิน้ีเรียกวา่ “พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคล่ืนความถ่ี และกากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓”

มาตรา ๒[๑] พระราชบญั ญตั ิน้ีใหใ้ ชบ้ งั คบั ต้งั แต่วนั ถดั จากวนั ประกาศในราช กิจจานุเบกษาเป็นตน้ ไป มาตรา ๓ ใหย้ กเลิกพระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคลื่นความถ่ีและกากบั กิจการ วทิ ยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๔ ในพระราชบญั ญตั ิน้ี “คลื่นความถี่” หมายความว่า คล่ืนวิทยหุ รือคลื่นแฮรตเซียนซ่ึงเป็นคล่ืน แม่เหลก็ ไฟฟ้าท่ีมีความถี่ต่ากว่าสามลา้ นเมกะเฮิรตซ์ลงมาที่ถูกแพร่กระจายในที่ว่างโดย ปราศจากส่ือนาทปี่ ระดิษฐ์ข้ึน “โทรคมนาคม” หมายความว่า การส่ง การแพร่ หรือการรับเครื่องหมาย สัญญาณ ตวั หนงั สือ ตวั เลข ภาพ เสียง รหสั หรือสิ่งอ่นื ใดซ่ึงสามารถใหเ้ ขา้ ใจความหมายไดโ้ ดยระบบ คลื่น ความถี่ ระบบสาย ระบบแสง ระบบแม่เหลก็ ไฟฟ้า หรือระบบอน่ื “วทิ ยคุ มนาคม” หมายความวา่ การส่ง การแพร่ หรือการรับเคร่ืองหมาย สัญญาณ ตวั หนงั สือ ตวั เลข ภาพ เสียง รหสั หรือส่ิงอนื่ ใดซ่ึงสามารถใหเ้ ขา้ ใจความหมายไดด้ ว้ ยคล่ืน ความถ่ี “วิทยกุ ระจายเสียง” หมายความวา่ วิทยคุ มนาคมที่ส่งหรือแพร่เสียงเพอ่ื ใหบ้ ุคคล ทว่ั ไปรับไดโ้ ดยตรง “วทิ ยโุ ทรทศั น์” หมายความว่า วทิ ยคุ มนาคมทีแ่ พร่ภาพและเสียงเพ่ือใหบ้ ุคคล ทวั่ ไปรับไดโ้ ดยตรง “กิจการกระจายเสียง” หมายความวา่ กิจการวทิ ยกุ ระจายเสียงและกิจการกระจาย เสียง ซ่ึงใหบ้ ริการการส่งข่าวสารสาธารณะหรือรายการไปยงั เคร่ืองรับที่สามารถรับฟังการใหบ้ ริ การน้นั ๆ ได้ ไม่วา่ จะส่งโดยผา่ นระบบคล่ืนความถี่ ระบบสาย ระบบแสง ระบบแม่เหลก็ ไฟฟ้า หรือระบบอื่น ระบบใดระบบหน่ึง หรือหลายระบบรวมกนั หรือกิจการอ่ืนทานองเดียวกนั ท่ี กสทช. กาหนดใหเ้ ป็นกิจการกระจายเสียง “กิจการโทรทศั น์” หมายความวา่ กิจการวิทยโุ ทรทศั นแ์ ละกิจการโทรทศั น์ซ่ึง ใหบ้ ริการการส่งขา่ วสารสาธารณะหรือรายการไปยงั เคร่ืองรับทส่ี ามารถรับชมและฟังการ ใหบ้ ริการน้นั ๆ ได้ ไม่วา่ จะส่งโดยผา่ นระบบคล่ืนความถ่ี ระบบสาย ระบบแสง ระบบ แม่เหลก็ ไฟฟ้า หรือระบบอืน่ ระบบใดระบบหน่ึง หรือหลายระบบรวมกนั หรือกิจการอืน่ ทานองเดียวกนั ท่ี กสทช. กาหนดใหเ้ ป็นกิจการโทรทศั น์

“กิจการวทิ ยคุ มนาคม” หมายความว่า กิจการซ่ึงเป็นการรับและส่งเครื่องหมาย สญั ญาณ ตวั หนงั สือ ตวั เลข ภาพ เสียง รหสั หรือส่ิงอ่นื ใด ซ่ึงสามารถใหเ้ ขา้ ใจความหมายไดโ้ ดย ระบบคลื่นความถี่ เพอื่ ความมุ่งหมายทางโทรคมนาคมในกิจการใดกิจการหน่ึงโดยเฉพาะหรือ เป็นการเฉพาะกิจทมี่ ิใช่เป็นการประกอบกิจการโทรคมนาคมตามกฎหมายว่าดว้ ยการประกอบ กิจการโทรคมนาคมหรือกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทศั น์ตามกฎหมายว่าดว้ ยการ ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ “กิจการโทรคมนาคม” หมายความวา่ กิจการซ่ึงใหบ้ ริการการส่ง การแพร่ หรือ การรับเคร่ืองหมาย สัญญาณ ตวั หนงั สือ ตวั เลข ภาพ เสียง รหสั หรือส่ิงอ่ืนใด ซ่ึงสามารถให้ เขา้ ใจความหมายไดโ้ ดยระบบคล่ืนความถี่ ระบบสาย ระบบแสง ระบบแม่เหลก็ ไฟฟ้า หรือ ระบบอื่น ระบบใดระบบหน่ึง หรือหลายระบบรวมกนั และรวมถึงกิจการซ่ึงใหบ้ ริการดาวเทียม ส่ือสาร หรือกิจการอืน่ ที่ กสทช. กาหนดใหเ้ ป็นกิจการโทรคมนาคม แต่ไม่รวมถึงกิจการทเี่ ป็น กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั นแ์ ละกิจการวิทยคุ มนาคม “ตารางกาหนดคล่ืนความถี่” หมายความวา่ การกาหนดยา่ นความถ่ีวทิ ยขุ อง วทิ ยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ วิทยคุ มนาคม โทรคมนาคม และการอืน่ เพ่อื ใชง้ านภายใต้ เงื่อนไขที่ กสทช. กาหนด “แผนความถี่วทิ ย”ุ หมายความว่า การกาหนดช่องความถี่วิทยสุ าหรับกิจการ วิทยกุ ระจายเสียง กิจการวทิ ยโุ ทรทศั น์ กิจการวิทยคุ มนาคม และกิจการโทรคมนาคม เพือ่ ใชง้ าน ภายใตเ้ งื่อนไขที่ กสทช. กาหนด “จดั สรรคลื่นความถี่” หมายความว่า การอนุญาตใหส้ ถานีวทิ ยกุ ระจายเสียง สถานีวทิ ยโุ ทรทศั น์ หรือสถานีวิทยคุ มนาคม ใชค้ วามถ่ีวิทยหุ รือช่องความถี่วิทยตุ ามตาราง กาหนดคลื่นความถี่หรือแผนความถี่ วิทยเุ พื่อใชง้ านภายใตเ้ งื่อนไขท่ี กสทช. กาหนด “ชุมชน” หมายความวา่ กลุ่มประชาชนท่มี ีพ้นื ท่อี าศยั ในแหล่งเดียวกนั ไม่ว่าจะใน เมือง หรือในชนบท และใหห้ มายความรวมถึงกลุ่มประชาชนทม่ี ีความสนใจร่วมกนั และอยใู่ น พ้นื ที่ใกลเ้ คียงกนั หรือสื่อสารถึงกนั ได้ โดยมีผลประโยชน์ดา้ นสงั คมและวฒั นธรรมเกี่ยวขอ้ ง เชื่อมโยงกนั ทากิจกรรมอนั ชอบดว้ ยกฎหมายและศีลธรรมร่วมกนั มีการดาเนินการอยา่ ง ต่อเนื่อง มีการจดั การและการแสดงเจตนาแทนกลุ่มได้ “กองทุน” หมายความว่า กองทุนวจิ ยั และพฒั นากิจการกระจายเสียง กิจการ โทรทศั นแ์ ละกิจการโทรคมนาคม เพ่ือประโยชนส์ าธารณะ “กรรมการ” หมายความวา่ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

“พนกั งานเจา้ หนา้ ที่” หมายความวา่ ผซู้ ่ึงคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ แต่งต้งั ใหป้ ฏิบตั ิการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี มาตรา ๕ ใหน้ ายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี หมวด ๑ คณะกรรมการกจิ การกระจายเสียง กจิ การโทรทศั น์ และกจิ การโทรคมนาคมแห่งชาติ ส่วนที่ ๑ องค์ประกอบ คณุ สมบัตแิ ละลกั ษณะต้องห้ามของกรรมการ มาตรา ๖[๒] ใหม้ ีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ เรียกโดยยอ่ ว่า “กสทช.” จานวนเจด็ คน ซ่ึงแต่งต้งั จากผมู้ ีคุณสมบตั ิและ ไม่มีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๗ และมีความรู้ความเช่ียวชาญดา้ นกิจการกระจายเสียง ดา้ น กิจการโทรทศั น์ ดา้ นกิจการโทรคมนาคม ดา้ นวิศวกรรม ดา้ นกฎหมาย ดา้ นเศรษฐศาสตร์ และ ดา้ นการคุม้ ครองผบู้ ริโภคหรือส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ดา้ นละหน่ึงคน ท้งั น้ี ท่ี จะยงั ประโยชน์ต่อการปฏิบตั ิหนา้ ที่ของ กสทช. ใหเ้ ลขาธิการ กสทช. เป็นเลขานุการ กสทช. มาตรา ๗[๓] กรรมการตอ้ งมีคุณสมบตั ิและไม่มีลกั ษณะตอ้ งหา้ ม ดงั ต่อไปน้ี ก. คุณสมบตั ิทว่ั ไป (๑) มีสัญชาติไทยโดยการเกิด และ (๒) มีอายไุ ม่ต่ากวา่ สี่สิบปี แต่ไม่เกินเจด็ สิบปี ข. ลกั ษณะตอ้ งหา้ ม (๑) เป็นผดู้ ารงตาแหน่งทางการเมือง (๒) เป็นผดู้ ารงตาแหน่งใดในพรรคการเมือง (๓) เป็นบุคคลวกิ ลจริตหรือจิตฟั่นเฟื อนไม่สมประกอบ (๔) ติดยาเสพติดใหโ้ ทษ (๕) เป็นบคุ คลลม้ ละลายหรือเคยเป็นบคุ คลลม้ ละลายทุจริต

(๖) เป็นบคุ คลท่ตี อ้ งคาพิพากษาใหจ้ าคุกและถูกคุมขงั อยโู่ ดยหมายของศาล (๗) เคยตอ้ งคาพิพากษาอนั ถึงที่สุดว่ากระทาความผดิ ใด เวน้ แต่เป็ นความผิด อนั ไดก้ ระทาโดยประมาท ความผดิ ลหุโทษ หรือความผดิ ฐานหม่ินประมาท (๘) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือใหอ้ อกจากราชการ หน่วยงานของรัฐหรือ รัฐวสิ าหกิจ หรือจากหน่วยงานของเอกชน เพราะทุจริตต่อหนา้ ท่ี หรือประพฤติชวั่ อย่างร้ายแรง หรือถือวา่ กระทาการทจุ ริตและประพฤติมชิ อบในวงราชการ (๙) เคยตอ้ งคาพิพากษาหรือคาสั่งของศาลใหท้ รัพยส์ ินตกเป็ นของแผ่นดิน เพราะร่ารวยผดิ ปกติหรือมีทรัพยส์ ินเพิ่มข้ึนผดิ ปกติ (๑๐) เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการการเลือกต้งั ผตู้ รวจการแผน่ ดิน กรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ กรรมการตรวจเงินแผน่ ดิน หรือกรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (๑๑) เคยถูกวุฒสิ ภามีมติใหถ้ อดถอนออกจากตาแหน่ง (๑๒) เป็นหรือเคยเป็นกรรมการ ผจู้ ดั การ ผบู้ ริหาร ท่ปี รึกษา พนกั งาน ผูถ้ ือ หุน้ หรือหุน้ ส่วน ในบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนหรือนิติบคุ คลอื่นใด บรรดาที่ประกอบธุรกิจดา้ น กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ หรือกิจการโทรคมนาคม ในระยะเวลาหน่ึงปี ก่อนไดร้ ับการ คดั เลือกตามมาตรา ๑๕ (๑๓) อยใู่ นระหวา่ งตอ้ งหา้ มมิใหด้ ารงตาแหน่งทางการเมือง (๑๔) เคยเป็นผตู้ อ้ งพน้ จากตาแหน่งกรรมการ หรือผบู้ ริหารบริษทั มหาชน จากดั เพราะเหตุมีลกั ษณะทีแ่ สดงถึงการขาดความเหมาะสมทจี่ ะไดร้ ับความไวว้ างใจใหบ้ ริหาร จดั การกิจการทม่ี ีมหาชนเป็นผถู้ ือหุน้ ตามกฎหมายว่าดว้ ยหลกั ทรัพยแ์ ละตลาดหลกั ทรัพย์ มาตรา ๘ กรรมการตอ้ ง (๑) ไม่เป็นขา้ ราชการซ่ึงมีตาแหน่งหรือเงินเดือนประจา (๒) ไม่เป็นพนกั งานหรือลูกจา้ งของหน่วยงานของรัฐ รัฐวสิ าหกิจหรือราชการ ส่วนทอ้ งถิ่นและไม่เป็ นกรรมการหรือทีป่ รึกษาของรัฐวสิ าหกิจหรือหน่วยงานของรัฐ (๓) ไม่ประกอบอาชีพหรือวชิ าชีพอสิ ระอ่ืนใดท่ีมีส่วนไดเ้ สียหรือมีผลประโยชน์ ขดั แยง้ ไม่วา่ โดยตรงหรือโดยออ้ มกบั การปฏิบตั ิหนา้ ทใ่ี นตาแหน่งกรรมการ

ส่วนท่ี ๒ การได้มาซึ่งรายช่ือผ้สู มควรได้รับเลอื กเป็ นกรรมการ โดยวธิ กี ารคดั เลอื กกนั เอง[๔] มาตรา ๙[๕] (ยกเลิก) มาตรา ๑๐[๖] (ยกเลิก) มาตรา ๑๑[๗] (ยกเลกิ ) มาตรา ๑๒[๘] (ยกเลิก) มาตรา ๑๓[๙] (ยกเลิก) ส่วนท่ี ๓ การได้มาซ่ึงรายช่ือผ้สู มควรได้รับเลือกเป็ นกรรมการ โดยวธิ ีการสรรหา มาตรา ๑๔[๑๐] เม่ือมีเหตุตอ้ งมีการเลือกและแต่งต้งั กรรมการ ใหม้ ีคณะกรรมการ สรรหากรรมการคณะหน่ึง ทาหนา้ ทคี่ ดั เลือกผสู้ มควรไดร้ ับเลือกเป็นกรรมการ ประกอบดว้ ย (๑) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญซ่ึงไดร้ ับคดั เลือกโดยทปี่ ระชุมใหญ่ตุลาการในศาล รัฐธรรมนูญ จานวนหน่ึงคน (๒) ผพู้ ิพากษาในศาลฎีกาซ่ึงดารงตาแหน่งไม่ต่ากวา่ ผพู้ พิ ากษาศาลฎีกาหรือผู้ พิพากษาอาวโุ สซ่ึงเคยดารงตาแหน่งไม่ต่ากวา่ ผพู้ ิพากษาศาลฎีกาซ่ึงไดร้ ับคดั เลือกโดยท่ปี ระชุม ใหญ่ศาลฎีกา จานวนหน่ึงคน (๓) ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดซ่ึงไดร้ ับคดั เลือกโดยที่ประชุมใหญ่ตุลาการใน ศาลปกครองสูงสุด จานวนหน่ึงคน

(๔) กรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติซ่ึงไดร้ ับคดั เลือกโดยที่ ประชุมคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จานวนหน่ึงคน (๕) กรรมการตรวจเงินแผน่ ดินซ่ึงไดร้ ับคดั เลือกโดยทป่ี ระชุมคณะกรรมการ ตรวจเงินแผน่ ดิน จานวนหน่ึงคน (๖) ผตู้ รวจการแผน่ ดินซ่ึงไดร้ ับคดั เลือกโดยท่ปี ระชุมผตู้ รวจการแผน่ ดิน จานวน หน่ึงคน (๗) ผวู้ ่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ใหค้ ณะกรรมการสรรหาตามวรรคหน่ึงเลือกกรรมการสรรหาคนหน่ึงเป็น ประธานกรรมการสรรหา ประธานและกรรมการสรรหาไม่มสี ิทธิสมคั รเป็นกรรมการ ในกรณีทไี่ ม่มีกรรมการสรรหาในตาแหน่งใด หรือมีแต่ไม่สามารถปฏิบตั ิหนา้ ที่ ได้ ถา้ กรรมการสรรหาที่เหลืออยนู่ ้นั มีจานวนไม่นอ้ ยกวา่ ก่ึงหน่ึง ใหค้ ณะกรรมการสรรหา ประกอบดว้ ยกรรมการสรรหาเทา่ ทีม่ ีอยู่ ใหส้ านกั งานเลขาธิการวฒุ ิสภาทาหนา้ ท่ีเป็นหน่วยธุรการในการดาเนินการสรร หาและคดั เลือกกรรมการ มาตรา ๑๔/๑[๑๑] ก่อนดาเนินการประกาศรับสมคั รตามมาตรา ๑๕ ให้ คณะกรรมการสรรหากาหนดลกั ษณะของความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และผลงานของ แต่ละดา้ นท่ีจะยงั ประโยชนต์ ่อการปฏิบตั ิหนา้ ที่ของ กสทช. แลว้ ประกาศใหท้ ราบทวั่ กนั มาตรา ๑๔/๒[๑๒] ผมู้ ีสิทธิสมคั รเขา้ รับการสรรหาเพ่ือเป็ นกรรมการตอ้ งมี ลกั ษณะอยา่ งหน่ึงอยา่ งใด ดงั ต่อไปน้ี (๑) เป็นหรือเคยเป็นขา้ ราชการพลเรือน พนกั งานในหน่วยงานอื่นของรัฐหรือ รัฐวสิ าหกิจ ทด่ี ารงตาแหน่งไม่ต่ากว่ารองหวั หนา้ ส่วนราชการต้งั แต่ระดบั กรมข้ึนไป หรือรอง หวั หนา้ หน่วยงานอน่ื ของรัฐที่เป็นนิติบุคคลหรือรัฐวสิ าหกิจ หรือ (๒) เป็นหรือเคยเป็ นนายทหารหรือนายตารวจที่มียศต้งั แต่พนั เอก นาวาเอก นาวา อากาศเอก หรือพนั ตารวจเอก อตั ราเงินเดือนพนั เอกพิเศษ นาวาเอกพเิ ศษ นาวาอากาศเอกพเิ ศษ หรือพนั ตารวจเอกพเิ ศษข้ึนไป หรือ (๓) ดารงตาแหน่งหรือเคยดารงตาแหน่งรองศาสตราจารยข์ ้ึนไป หรือ

(๔) เป็นหรือเคยเป็นผูบ้ ริหารมาแลว้ ไม่นอ้ ยกว่าสามปี ในตาแหน่งไม่ต่ากว่ารอง กรรมการผจู้ ดั การในบริษทั มหาชนจากดั ทม่ี ีทุนจดทะเบียนไม่นอ้ ยกว่าหา้ ร้อยลา้ นบาท หรือ (๕) มีประสบการณ์การทางานดา้ นการคุม้ ครองผบู้ ริโภคหรือส่งเสริมสิทธิและ เสรีภาพของประชาชนอยา่ งสม่าเสมอและตอ่ เนื่องมาแลว้ ไม่นอ้ ยกว่าสิบปี หรือ (๖) มีประสบการณ์ดา้ นการบริหารกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ หรือ กิจการโทรคมนาคมอยา่ งสม่าเสมอและต่อเน่ืองมาแลว้ ไม่นอ้ ยกวา่ สิบปี มาตรา ๑๕[๑๓] ในการดาเนินการคดั เลือกกรรมการ ใหส้ านกั งานเลขาธิการ วุฒิสภาประกาศการเปิ ดรับสมคั รบุคคลผมู้ คี ุณสมบตั ิตามมาตรา ๖ ใหท้ ราบเป็นการทว่ั ไปผา่ น ทางวิทยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ ส่ือส่ิงพิมพ์ และส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์อยา่ งนอ้ ยสามสิบวนั ติดต่อกนั เม่ือพน้ กาหนดระยะเวลาตามวรรคหน่ึงแลว้ ใหค้ ณะกรรมการสรรหาพิจารณา คดั เลือกผสู้ มคั รซ่ึงมีคุณสมบตั ิท่ีจะเป็ นกรรมการใหไ้ ดจ้ านวนสองเท่าของจานวนกรรมการที่ จะพึงมีในแต่ละดา้ นภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั ทไี่ ดร้ ับรายชื่อผสู้ มคั รเขา้ รับการคดั เลอื กจาก สานกั งานเลขาธิการวฒุ สิ ภา หลกั เกณฑแ์ ละวิธีการคดั เลือกใหเ้ ป็นไปตามท่คี ณะกรรมการสรรหากาหนด โดย แต่ละดา้ นใหผ้ ทู้ ่ไี ดร้ ับคะแนนสูงสุดเรียงตามลาดบั เป็นผไู้ ดร้ ับการคดั เลือก ในกรณีทีม่ ีการฟ้องคดีเกี่ยวกบั การสรรหากรรมการต่อศาลปกครอง การฟ้องคดี ดงั กล่าวไม่เป็นเหตุใหร้ ะงบั หรือชะลอการดาเนินการใด ๆ เก่ียวกบั การสรรหาที่ไดด้ าเนินการไป แลว้ เวน้ แต่ศาลปกครองจะมีคาพพิ ากษาหรือคาสั่งเป็นอยา่ งอ่ืน ในการน้ี หากศาลปกครองมีคา พพิ ากษาหรือคาส่งั ใด ๆ อนั เป็ นผลใหบ้ คุ คลทีไ่ ดร้ ับการคดั เลือกขาดคุณสมบตั ิหรือมีลกั ษณะ ตอ้ งหา้ ม หรือไดร้ ับการคดั เลือกโดยไม่ชอบดว้ ยกฎหมาย กรณีเช่นวา่ น้นั ไม่มีผลกระทบต่อกิจการ ท่ีบคุ คลน้นั ไดก้ ระทาไวแ้ ลว้ ก่อนมีคาพิพากษาหรือคาส่ังดงั กล่าว ส่วนที่ ๔ การเลือกและการแต่งต้ังกรรมการ[๑๔] มาตรา ๑๖[๑๕] เม่ือไดร้ ายชื่อผสู้ มควรไดร้ ับเลือกเป็ นกรรมการจากการสรรหา ตามส่วนท่ี ๓ แลว้ ใหเ้ ลขาธิการวฒุ สิ ภาจดั ทารายชื่อผซู้ ่ึงไดร้ ับการคดั เลือกน้นั และเสนอบญั ชี

รายช่ือ พร้อมประวตั ิและเอกสารหลกั ฐานของบุคคลดงั กล่าว ซ่ึงตอ้ งระบุให้ชดั เจนหรือมี หลกั ฐานแสดงให้เห็นวา่ เป็นบุคคลทมี่ ีความเหมาะสมตามมาตรา ๖ ต่อประธานวุฒิสภาภายใน สามสิบวนั นบั แต่วนั ทคี่ ดั เลือกเสร็จตามมาตรา ๑๕ เพื่อเสนอใหว้ ุฒิสภาพิจารณาและมีมติเลือก ต่อไป ในกรณีที่คณะกรรมการสรรหาไม่อาจสรรหาผสู้ มควรไดร้ ับเลือกเป็นกรรมการ ตามส่วนท่ี ๓ ใหแ้ ลว้ เสร็จไดภ้ ายในกาหนดเวลาตามมาตรา ๑๕ ใหเ้ ลขาธิการวุฒิสภานารายชื่อผู้ สมควรไดร้ ับเลือกเป็นกรรมการทีค่ ณะกรรมการสรรหาดาเนินการแลว้ เสร็จภายในกาหนดเวลา พร้อมประวตั ิและเอกสารหลกั ฐานของบุคคลดงั กล่าวแสดงใหเ้ ห็นว่าเป็นบคุ คลที่มีความ เหมาะสมตามมาตรา ๖ เสนอต่อประธานวุฒิสภาภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั ท่คี ดั เลือกเสร็จตาม มาตรา ๑๕ เพ่อื เสนอใหว้ ุฒิสภาพจิ ารณาและมีมติเลือกต่อไป มาตรา ๑๗[๑๖] ให้วุฒิสภามีมติเลือกบุคคลจากบญั ชีรายช่ือท่ีเลขาธิการวุฒิสภา เสนอใหแ้ ลว้ เสร็จภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั ที่ไดร้ ับบญั ชีรายชื่อ เพ่ือให้ไดก้ รรมการตามมาตรา ๖ โดยแต่ละดา้ นใหผ้ ทู้ ี่ไดร้ ับคะแนนสูงสุดเรียงตามลาดบั เป็นผไู้ ดร้ ับการคดั เลือก ซ่ึงจะตอ้ ง กระทาโดยวิธีลงคะแนนลบั แลว้ แจง้ ใหผ้ ไู้ ดร้ ับเลือกทราบ และประธานวุฒิสภาจดั ใหผ้ ไู้ ดร้ ับ การเลือกมาประชุมร่วมกนั เพ่ือคดั เลือกกนั เองเป็ นประธานกรรมการ แลว้ นารายชื่อผไู้ ดร้ ับการ คดั เลือกเป็นประธานกรรมการและไดร้ ับการเลือกเป็นกรรมการ แจง้ ใหน้ ายกรัฐมนตรีทราบ ภายในยสี่ ิบวนั นบั แต่วนั ที่วุฒิสภามีมติเลือก เพื่อนายกรัฐมนตรีดาเนินการนาความกราบบงั คม ทลู เพ่ือทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ แต่งต้งั ต่อไป เม่ือล่วงพน้ กาหนดเวลาตามวรรคหน่ึง ถา้ ยงั มีผไู้ ดร้ ับเลือกเป็นกรรมการไม่ครบ ตามจานวนที่กาหนดในมาตรา ๖ ใหป้ ระธานวฒุ ิสภาแจง้ ใหค้ ณะกรรมการสรรหาดาเนินการ สรรหาเพมิ่ เติมตามมาตรา ๑๕ วรรคสอง ตามจานวนท่ีไม่ครบ โดยตอ้ งดาเนินการใหแ้ ลว้ เสร็จ ภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั ทค่ี ณะกรรมการสรรหาไดร้ ับแจง้ ในกรณีที่วุฒิสภามีมติเลือกบุคคลเป็ นกรรมการไม่ครบตามวรรคสองแต่มี จานวนผูไ้ ดร้ ับเลือกเป็นกรรมการไม่นอ้ ยกว่าหา้ คน ใหป้ ระธานวุฒิสภานารายชื่อผทู้ ีไ่ ดร้ ับเลือก เป็นกรรมการแจง้ ใหน้ ายกรัฐมนตรีทราบ และใหน้ ายกรัฐมนตรีนารายช่ือผไู้ ดร้ ับเลือกดงั กล่าว ข้ึนกราบบงั คมทลู เพอื่ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ แต่งต้งั และใหก้ รรมการดงั กลา่ วปฏิบตั ิหนา้ ท่ี ต่อไปไดโ้ ดยใหถ้ ือว่า กสทช. ประกอบดว้ ยกรรมการจานวนดงั กล่าว และใหก้ รรมการ กสทช. น้นั ประชุมร่วมกนั เพ่ือเลือกกรรมการคนหน่ึงทาหนา้ ท่ีประธานกรรมการชว่ั คราว จนกวา่ จะได้ มีพระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ แต่งต้งั ประธานกรรมการตามวรรคสี่

เม่ือวฒุ ิสภาไดร้ ับบญั ชีรายชื่อเพม่ิ เติมจากคณะกรรมการสรรหาตามวรรคสอง แลว้ ให้วุฒิสภาดาเนินการตามวรรคหน่ึงเพ่ือเลือกบคุ คลจากบญั ชีรายชื่อน้นั ใหค้ รบตาม จานวนที่กาหนดในมาตรา ๖ ภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั ทไ่ี ดร้ ับบญั ชีรายช่ือดงั กล่าว และให้ ประธานวฒุ ิสภาจดั ใหผ้ ทู้ ี่ไดร้ ับเลือกเป็นกรรมการมาประชุมร่วมกบั กรรมการตามวรรคสามเพอื่ คดั เลือกผสู้ มควรดารงตาแหน่งประธานกรรมการใหแ้ ลว้ เสร็จภายในยส่ี ิบวนั นบั แต่วนั ทวี่ ุฒิสภา มีมติเลือกกรรมการเพิม่ เติม แลว้ แจง้ บญั ชีรายชื่อกรรมการที่ไดร้ ับเลือกและผไู้ ดร้ ับคดั เลือกเป็น ประธานกรรมการใหน้ ายกรัฐมนตรีทราบ เพือ่ ดาเนินการนาความกราบบงั คมทูลเพื่อทรงพระ กรุณาโปรดเกลา้ ฯ แต่งต้งั ต่อไป ในกรณีทีผ่ ไู้ ดร้ ับการคดั เลือกเป็นประธานกรรมการเป็น กรรมการตามวรรคสาม ใหผ้ ูน้ ้นั พน้ จากความเป็ นกรรมการนบั แต่วนั ท่ีไดร้ ับโปรดเกลา้ ฯ แต่งต้งั เป็ นประธานกรรมการ วนั ท่ีวุฒิสภาจะดาเนินการเลือกตามวรรคหน่ึงใหห้ มายถึงวนั ในสมยั ประชุม รัฐสภา มาตรา ๑๘[๑๗] ในกรณีทีบ่ คุ คลท่จี ะไดร้ ับการแต่งต้งั ตามมาตรา ๑๗ มีลกั ษณะ ตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๘ (๑) (๒) หรือ (๓) นายกรัฐมนตรีจะนาความข้ึนกราบบงั คมทูลเพ่ือทรง พระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ แต่งต้งั ไดต้ ่อเมื่อผนู้ ้นั ไดล้ าออกจากการเป็นบุคคลตามมาตรา ๘ (๑) หรือ (๒) หรือแสดงหลกั ฐานใหเ้ ป็นที่เชื่อถือไดว้ า่ ตนไดเ้ ลิกประกอบอาชีพหรือวิชาชีพตามมาตรา ๘ (๓) แลว้ ซ่ึงตอ้ งกระทาภายในสิบหา้ วนั นบั แต่วนั ท่ีไดร้ ับเลือก แต่ถา้ ผนู้ ้นั มิไดล้ าออก หรือมิได้ เลิกประกอบอาชีพหรือวิชาชีพอิสระภายในเวลาท่กี าหนด ใหถ้ ือว่าผนู้ ้นั ไม่เคยไดร้ ับเลือกให้ เป็นกรรมการ และใหค้ ณะกรรมการสรรหาคดั เลือกบุคคลจากรายชื่อผเู้ ขา้ รับการคดั เลือกตาม มาตรา ๑๖ เพื่อเสนอวุฒิสภาใหค้ วามเห็นชอบ ส่วนที่ ๕ วาระการดารงตาแหน่งและการพ้นจากตาแหน่งของกรรมการ มาตรา ๑๙ กรรมการมีวาระการดารงตาแหน่งหกปี นบั แต่วนั ทีพ่ ระมหากษตั ริย์ ทรงแต่งต้งั และใหด้ ารงตาแหน่งไดเ้ พียงวาระเดียว ใหก้ รรมการซ่ึงพน้ จากตาแหน่งตามวาระ อยใู่ นตาแหน่งเพือ่ ปฏิบตั ิหนา้ ที่ต่อไป จนกว่าจะมีพระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ แต่งต้งั กรรมการข้ึนใหม่

ก่อนครบกาหนดตามวาระเป็นเวลาไม่นอ้ ยกว่าหน่ึงร้อยหา้ สิบวนั ใหส้ านกั งาน เลขาธิการวุฒิสภาดาเนินการจดั ใหม้ ีการเสนอชื่อและแต่งต้งั กรรมการข้ึนใหม่ใหแ้ ลว้ เสร็จ โดยเร็ว[๑๘] มาตรา ๒๐ นอกจากการพน้ จากตาแหน่งตามวาระ กรรมการพน้ จากตาแหน่งเม่ือ (๑) ตาย (๒) มีอายคุ รบเจด็ สิบปี บริบูรณ์ (๓) ลาออก (๔) ขาดคุณสมบตั ิหรือมีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๗ (๕) กระทาการอนั เป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๘ (๖) วุฒิสภามีมติใหพ้ น้ จากตาแหน่งตามมาตรา ๒๑ (๗) วฒุ ิสภามีมติใหถ้ อดถอนจากตาแหน่งตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่า ดว้ ยการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริต การพน้ จากตาแหน่งกรรมการตาม (๑) (๒) หรือ (๓) ใหน้ าความกราบบงั คมทลู เพ่ือทรงทราบ ถา้ เป็นการพน้ จากตาแหน่งตาม (๔) (๕) (๖) หรือ (๗) ใหน้ าความกราบบงั คมทลู เพื่อมีพระบรมราชโองการใหพ้ น้ จากตาแหน่ง พระบรมราชโองการดงั กล่าวใหม้ ีผลต้งั แต่วนั ที่ ขาดคุณสมบตั ิหรือมีลกั ษณะตอ้ งหา้ ม หรือวนั ท่กี ระทาการอนั เป็นการฝ่าฝืน หรือวนั ทีว่ ฒุ ิสภามี มติใหพ้ น้ จากตาแหน่ง หรือวนั ท่ีถูกถอดถอนจากตาแหน่ง แลว้ แต่กรณี เมื่อมีกรณีตามวรรคหน่ึง ใหก้ รรมการเท่าที่เหลืออยปู่ ฏิบตั ิหนา้ ที่ต่อไปได้ และให้ ถือวา่ กสทช. ประกอบดว้ ยกรรมการเทา่ ที่เหลืออยู่ แต่ท้งั น้ี จะตอ้ งมีจานวนกรรมการไม่นอ้ ยกว่า สี่คน[๑๙] ในกรณีทก่ี รรมการพน้ จากตาแหน่งก่อนวาระ ใหผ้ ไู้ ดร้ ับแต่งต้งั ใหด้ ารงตาแหน่ง แทน อยใู่ นตาแหน่งเท่ากบั วาระท่เี หลืออยขู่ องกรรมการซ่ึงตนแทน และในกรณีทวี่ าระที่ เหลืออยไู่ ม่ถึงสามปี ใหผ้ นู้ ้นั มีสิทธิไดร้ ับการแต่งต้งั อกี วาระหน่ึงได้ ในกรณีทปี่ ระธานกรรมการหรือรองประธานกรรมการพน้ จากตาแหน่งตาม วรรคหน่ึง ให้ กสทช. ประชุมกนั เพ่อื เลือกกรรมการคนหน่ึงเป็นประธานกรรมการหรือรอง ประธานกรรมการ แลว้ แจง้ ใหน้ ายกรัฐมนตรีทราบ และใหน้ ายกรัฐมนตรีนาความข้ึนกราบ บงั คมทลู เพอื่ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ แต่งต้งั เป็ นประธานกรรมการหรือรองประธาน กรรมการ แลว้ แต่กรณี

มาตรา ๒๑ สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรหรือสมาชิกวฒุ ิสภาไม่นอ้ ยกวา่ หน่ึงในส่ี ของจานวนสมาชิกท้งั หมดเทา่ ท่ีมีอยขู่ องแต่ละสภา มีสิทธิร้องขอต่อประธานวฒุ ิสภาเพอ่ื ให้ วุฒิสภามีมตใิ หก้ รรมการพน้ จากตาแหน่งเพราะเหตุท่ีกรรมการน้นั มีความประพฤติเสื่อมเสีย อยา่ งร้ายแรงหรือบกพร่องต่อหนา้ ทอี่ ยา่ งร้ายแรง มติของวฒุ ิสภาตามวรรคหน่ึงตอ้ งไดค้ ะแนนเสียงไม่นอ้ ยกว่าสามในหา้ ของ จานวนสมาชิกท้งั หมดเท่าท่ีมีอยู่ มาตรา ๒๒ เม่ือปรากฏวา่ กสทช. ไม่ปฏิบตั ิหนา้ ที่ตามท่กี ฎหมายกาหนดอยา่ งมี ประสิทธิภาพใหบ้ ุคคลดงั ต่อไปน้ีมีสิทธิร้องขอต่อประธานวุฒิสภาเพือ่ ใหว้ ฒุ ิสภามีมตใิ ห้ กสทช. พน้ จากตาแหน่งท้งั คณะ (๑) สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรจานวนไม่นอ้ ยกว่าหน่ึงในส่ีของจานวนสมาชิก ท้งั หมดเทา่ ท่ีมีอยขู่ องสภาผแู้ ทนราษฎร (๒) สมาชิกวฒุ ิสภาจานวนไม่นอ้ ยกวา่ หน่ึงในส่ีของจานวนสมาชิกท้งั หมดเทา่ ที่ มีอยขู่ องวุฒิสภา (๓) ประชาชนผใู้ ชบ้ ริการซ่ึงไดร้ ับผลกระทบจากการกระทาตามวรรคหน่ึง จานวนไม่นอ้ ยกว่าสองหม่ืนคน ท้งั น้ี โดยทาเป็นคาร้องยนื่ ต่อประธานวฒุ ิสภาตามหลกั เกณฑท์ ี่ ประธานวุฒิสภากาหนด มติของวฒุ ิสภาตามวรรคหน่ึงตอ้ งไดค้ ะแนนเสียงไม่นอ้ ยกว่าสามในหา้ ของ จานวนสมาชิกท้งั หมดเท่าทีม่ ีอยู่ โดยในการลงมติน้นั ตอ้ งนารายงานของคณะกรรมการติดตาม และประเมินผลการปฏิบตั ิงานท่ไี ดส้ ่งมายงั วฒุ ิสภาตามมาตรา ๗๒ มาพจิ ารณาประกอบดว้ ย[๒๐] ในกรณีทีก่ รรมการพน้ จากตาแหน่งท้งั คณะตามวรรคหน่ึง ใหค้ ณะกรรมการที่ พน้ จากตาแหน่งยงั คงรักษาการในตาแหน่งน้นั ต่อไปเพยี งเท่าทจี่ าเป็นจนกว่าคณะกรรมการชุด ใหม่จะเขา้ รับหนา้ ที่ มาตรา ๒๒/๑[๒๑] หา้ มมใิ หผ้ ซู้ ่ึงพน้ จากตาแหน่งกรรมการเป็นผถู้ ือหุน้ หุน้ ส่วน หรือดารงตาแหน่งใด ในบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนหรือนิติบุคคลอื่นใด บรรดาทปี่ ระกอบธุรกิจ ดา้ นกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ หรือกิจการโทรคมนาคม เวน้ แต่จะไดพ้ น้ จากตาแหน่ง มาแลว้ ไม่นอ้ ยกว่าสองปี

ส่วนที่ ๖ การประชุมและอานาจหน้าทข่ี องคณะกรรมการ มาตรา ๒๓ การประชุม การลงมติ และการปฏิบตั ิงานของ กสทช. ใหเ้ ป็นไปตาม ระเบยี บท่ี กสทช. กาหนด ในการประชุม ถา้ มีการพิจารณาเรื่องทีก่ รรมการผใู้ ดมีส่วนไดเ้ สีย กรรมการผนู้ ้นั ไม่มีสิทธิเขา้ ประชุม ในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ี กสทช. อาจมอบหมายใหก้ รรมการคนหน่ึงหรือหลายคน ปฏิบตั ิงานแทน กสทช. ได้ แต่ กสทช. จะปฏิเสธความรับผดิ เพราะเหตุทีไ่ ดม้ อบหมายให้ กรรมการไปทาแทนแลว้ ไม่ได้ มาตรา ๒๔ การปฏิบตั ิหนา้ ท่ีของ กสทช. กสท. และ กทค. ในเร่ืองใดทีเ่ กี่ยวขอ้ ง หรือมีผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ ตอ้ งกระทาโดยมติของที่ประชุม และตอ้ งเปิ ดเผย รายงานการประชุม พร้อมท้งั ผลการลงมติของที่ประชุมท้งั รายบคุ คลและท้งั คณะใหส้ าธารณชน ทราบผา่ นทางสื่ออเิ ลก็ ทรอนิกส์ของสานกั งาน กสทช. และโดยวิธีการอนื่ ทเ่ี หมาะสมตามท่ี กสทช. ประกาศกาหนด ขอ้ มูลท่ีปรากฏอยใู่ นรายงานการประชุมเรื่องใดมีลกั ษณะตามทก่ี ฎหมายวา่ ดว้ ย ขอ้ มูลข่าวสารของราชการกาหนดมิใหต้ อ้ งเปิ ดเผยกไ็ ด้ กสทช. อาจมีมติมิใหเ้ ปิ ดเผยขอ้ มูล เฉพาะในส่วนน้นั ได้ การเปิ ดเผยรายงานการประชุมพร้อมท้งั ผลการลงมติตามวรรคหน่ึง ตอ้ ง ดาเนินการภายในระยะเวลาไม่เกินสามสิบวนั นบั แต่วนั ที่ไดม้ ีการลงมติ เวน้ แต่มีเหตุจาเป็นให้ ขยายเวลาออกไปไดอ้ ีกไม่เกินสิบหา้ วนั แต่ตอ้ งแสดงเหตุผลและความจาเป็นทตี่ อ้ งขยายเวลาไว้ ดว้ ย มาตรา ๒๕ ใหก้ รรมการเป็นผดู้ ารงตาแหน่งระดบั สูงตามกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูญ วา่ ดว้ ยการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริต และเป็นเจา้ พนกั งานตามประมวล กฎหมายอาญา

มาตรา ๒๖ ใหป้ ระธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการปฏิบตั ิ หนา้ ท่เี ตม็ เวลา ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการ ไดร้ ับค่าตอบแทนเหมา จ่ายเป็ นรายเดือนตามที่กาหนดในพระราชกฤษฎีกา ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการ อาจไดร้ ับค่าใชจ้ ่ายอนั เก่ียวกบั การเดินทางไปปฏิบตั ิหนา้ ทตี่ ่างทอ้ งทไี่ ดไ้ ม่เกินอตั ราทกี่ าหนดในพระราชกฤษฎีกา มาตรา ๒๗ ให้ กสทช. มีอานาจหนา้ ที่ ดงั ต่อไปน้ี (๑)[๒๒] จดั ทาแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ ตารางกาหนดคล่ืนความถี่ แห่งชาติ แผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ แผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม แผนความถ่ีวทิ ยแุ ละแผนเลขหมายโทรคมนาคม และดาเนินการใหเ้ ป็นไปตามแผนดงั กล่าว แต่ แผนดงั กล่าวตอ้ งสอดคลอ้ งกบั นโยบายและแผนระดบั ชาติว่าดว้ ยการพฒั นาดิจิทลั เพ่อื เศรษฐกิจ และสังคม (๒) กาหนดการจดั สรรคล่ืนความถี่ระหวา่ งคลื่นความถ่ีท่ใี ชใ้ นกิจการกระจาย เสียง กิจการโทรทศั น์ กิจการวิทยคุ มนาคม และกิจการโทรคมนาคม (๓) กาหนดลกั ษณะและประเภทของกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และ กิจการโทรคมนาคม (๔)[๒๓] พิจารณาอนุญาตและกากบั ดูแลการใชค้ ลื่นความถี่และเครื่องวิทยุ คมนาคมในการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม หรือใน กิจการวทิ ยคุ มนาคม และกาหนดหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการเกี่ยวกบั การอนุญาต เง่ือนไข หรือ ค่าธรรมเนียมการอนุญาตดงั กล่าว ในการน้ี กสทช. จะมอบหมายใหส้ านกั งาน กสทช. เป็ นผู้ อนุญาตแทน กสทช. เฉพาะการอนุญาตในส่วนท่ีเก่ียวกบั เครื่องวิทยคุ มนาคมตามหลกั เกณฑ์ และเง่ือนไขที่ กสทช. กาหนดก็ได้ (๕) กาหนดหลกั เกณฑก์ ารใชค้ ล่ืนความถี่ใหเ้ ป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพและ ปราศจากการรบกวนซ่ึงกนั และกนั ท้งั ในกิจการประเภทเดียวกนั และระหวา่ งกิจการแต่ละ ประเภท (๖) พจิ ารณาอนุญาตและกากบั ดูแลการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการ โทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม เพ่อื ใหผ้ ใู้ ชบ้ ริการไดร้ ับบริการที่มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ รวดเร็ว ถูกตอ้ ง และเป็นธรรมและกาหนดหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการเก่ียวกบั การอนุญาต เง่ือนไข หรือค่าธรรมเนียมการอนุญาตดงั กล่าว

(๗) พิจารณาอนุญาตและกากบั ดูแลการใชเ้ ลขหมายโทรคมนาคม และกาหนด หลกั เกณฑแ์ ละวิธีการเกี่ยวกบั การอนุญาต เง่ือนไข หรือค่าธรรมเนียมการอนุญาตดงั กล่าว (๘) กาหนดหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการในการใชห้ รือเช่ือมต่อ และหลกั เกณฑแ์ ละ วิธีการในการกาหนดอตั ราค่าใชห้ รือค่าเชื่อมต่อโครงข่ายในการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม ท้งั ในกิจการประเภทเดียวกนั และระหวา่ งกิจการแต่ ละประเภท ใหเ้ ป็นธรรมต่อผใู้ ชบ้ ริการ ผใู้ หบ้ ริการและผลู้ งทุน หรือระหว่างผใู้ หบ้ ริการ โทรคมนาคม โดยคานึงถึงประโยชน์สาธารณะเป็นสาคญั (๙) กาหนดโครงสร้างอตั ราค่าธรรมเนียมและโครงสรา้ งอตั ราค่าบริการใน กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม ใหเ้ ป็นธรรมต่อผใู้ ชบ้ ริการและผู้ ใหบ้ ริการโดยคานึงถึงประโยชนส์ าธารณะเป็นสาคญั (๑๐) กาหนดมาตรฐานและลกั ษณะพึงประสงคท์ างดา้ นเทคนิคในการประกอบ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ กิจการโทรคมนาคม และในกิจการวิทยคุ มนาคม (๑๑) กาหนดมาตรการเพื่อป้องกนั มิใหม้ ีการกระทาอนั เป็นการผกู ขาดหรือ ก่อใหเ้ กิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขนั ในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการ โทรคมนาคม (๑๒) กาหนดมาตรการใหม้ ีการกระจายบริการดา้ นโทรคมนาคมใหท้ วั่ ถึงและ เทา่ เทียมกนั ตามมาตรา ๕๐ (๑๒/๑)[๒๔] เรียกคืนคลื่นความถ่ีท่ีไม่ไดใ้ ชป้ ระโยชน์ หรือใชป้ ระโยชน์ไม่คุม้ ค่า หรือนามาใชป้ ระโยชน์ใหค้ ุม้ ค่ายง่ิ ข้ึน ตามที่กาหนดไวใ้ นแผนซ่ึงจดั ทาข้ึนตาม (๑) จากผทู้ ีไ่ ดร้ ับ อนุญาตเพ่อื นามาจดั สรรใหม่ ท้งั น้ี ตามหลกั เกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขท่ี กสทช. กาหนด โดย เง่ือนไขดงั กล่าวตอ้ งกาหนดวิธีการทดแทน ชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนสาหรับผทู้ ี่ถูกเรียกคืน คล่ืนความถ่ี โดยใหค้ านึงถึงสิทธิของผทู้ ี่ไดร้ ับผลกระทบจากการถูกเรียกคืนคลื่นความถ่ีในแต่ ละกรณีดว้ ย (๑๓) คุม้ ครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนมิใหถ้ ูกเอาเปรียบจากผปู้ ระกอบ กิจการและคุม้ ครองสิทธิในความเป็นส่วนตวั และเสรีภาพของบุคคลในการสื่อสารถึงกนั โดย ทางโทรคมนาคมและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคของประชาชนในการเขา้ ถึงและ ใชป้ ระโยชน์คล่ืนความถี่ทีใ่ ชใ้ นกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม (๑๔)[๒๕] ประสานงานเก่ียวกบั การบริหารคล่ืนความถ่ีท้งั ในประเทศและระหว่าง ประเทศ โดยเป็นหน่วยงานอานวยการของรัฐในกิจการส่ือสารระหวา่ งประเทศกบั องคก์ าร ระหว่างประเทศ รัฐบาล และหน่วยงานต่างประเทศดา้ นการบริหารคล่ืนความถ่ี รวมท้งั สนบั สนุน

กิจการของรัฐ เพ่ือใหม้ ีดาวเทียมหรือใหไ้ ดม้ าซ่ึงสิทธิในการเขา้ ใชว้ งโคจรดาวเทียม ท้งั น้ี เพ่ือใหเ้ ป็นไปตามแผนซ่ึงจดั ทาตาม (๑) และนโยบายและแผนระดบั ชาติวา่ ดว้ ยการพฒั นา ดิจิทลั เพอื่ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (๑๕) วนิ ิจฉยั และแกไ้ ขปัญหาการใชค้ ลื่นความถี่ทมี่ ีการรบกวนซ่ึงกนั และกนั (๑๖) ติดตามตรวจสอบและใหค้ าปรึกษาแนะนาการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์และกิจการโทรคมนาคม (๑๗) กาหนดลกั ษณะการควบรวม การครองสิทธิขา้ มส่ือ หรือการครอบงา กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ท่ีใชค้ ล่ืนความถี่ ระหวา่ งสื่อมวลชนดว้ ยกนั เองหรือโดย บุคคลอน่ื ใด ซ่ึงจะมีผลเป็นการขดั ขวางเสรีภาพในการรับรู้ขอ้ มูลขา่ วสารหรือปิ ดก้นั การไดร้ ับ ขอ้ มูลข่าวสารท่ีหลากหลายของประชาชน (๑๘) ส่งเสริมการรวมกลุ่มของผรู้ ับใบอนุญาต ผผู้ ลิตรายการ และผปู้ ระกอบ วชิ าชีพสื่อสารมวลชนที่เก่ียวกบั กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั นเ์ ป็นองคก์ รในรูปแบบ ต่าง ๆ เพือ่ ทาหนา้ ที่จดั ทามาตรฐานทางจริยธรรมของการประกอบอาชีพหรือวชิ าชีพและการ ควบคุมการประกอบอาชีพหรือวิชาชีพกนั เองภายใตม้ าตรฐานทางจริยธรรม (๑๙) ออกระเบยี บหรือประกาศตามมาตรา ๕๘ (๒๐) อนุมตั ิงบประมาณรายจ่ายของสานกั งาน กสทช. รวมท้งั เงินทจ่ี ะจดั สรรเขา้ กองทุนตามมาตรา ๕๒ (๒๑) พจิ ารณาและใหค้ วามเห็นชอบเก่ียวกบั การจดั สรรเงินกองทุนตามที่คณะ กรรมการบริหารกองทุนเสนอตามมาตรา ๕๕ (๒๒) ใหข้ อ้ มูลและร่วมดาเนินการในการเจรจาหรือทาความตกลงระหวา่ ง รัฐบาลแห่งราชอาณาจกั รไทยกบั รัฐบาลต่างประเทศหรือองคก์ ารระหว่างประเทศ ในเร่ืองท่ี เกี่ยวกบั การบริหารคลื่นความถี่ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ กิจการโทรคมนาคม หรือ กิจการอน่ื ท่ีเก่ียวขอ้ ง (๒๒/๑)[๒๖] ใหข้ อ้ มูลที่เก่ียวกบั การดาเนินการของ กสทช. และผปู้ ระกอบการที่ ไดร้ ับอนุญาตจาก กสทช. ท้งั น้ี ในส่วนทีเ่ กี่ยวกบั ดิจิทลั ตามทส่ี านกั งานคณะกรรมการดิจิทลั เพอ่ื เศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติร้องขอเพ่ือใชเ้ ป็นขอ้ มูลในการวิเคราะห์และจดั ทานโยบายและ แผนระดบั ชาติว่าดว้ ยการพฒั นาดิจิทลั เพ่อื เศรษฐกิจและสังคม (๒๓) เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเพอื่ ใหม้ ีกฎหมายหรือแกไ้ ขปรับปรุงหรือ ยกเลิกกฎหมายท่เี ก่ียวขอ้ งกบั การจดั สรรคล่ืนความถี่และการดาเนินการอืน่ ๆ ทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั คลื่นความถี่ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม

(๒๔) ออกระเบยี บ ประกาศ หรือคาสงั่ อนั เกี่ยวกบั อานาจหนา้ ท่ขี อง กสทช. (๒๕) ปฏิบตั ิการอน่ื ใดตามทก่ี าหนดไวใ้ นพระราชบญั ญตั ิน้ีหรือกฎหมายอื่น การกาหนดลกั ษณะการควบรวม การครองสิทธิขา้ มสื่อหรือการครอบงาตาม (๑๗) ให้ กสทช. รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและผเู้ กี่ยวขอ้ งประกอบดว้ ย การใชอ้ านาจหนา้ ทตี่ ามวรรคหน่ึง ตอ้ งไม่ขดั หรือแยง้ กบั กฎหมายวา่ ดว้ ยการ ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ กฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบกิจการ โทรคมนาคม และกฎหมายว่าดว้ ยวิทยคุ มนาคม บรรดาระเบียบ ประกาศ หรือคาส่ังใด ๆ ทใี่ ชบ้ งั คบั เป็นการทว่ั ไปเมื่อไดป้ ระกาศ ในราชกิจจานุเบกษาแลว้ ใหใ้ ชบ้ งั คบั ได้ มาตรา ๒๗/๑[๒๗] ในกรณีทมี่ ีปัญหาว่าการดาเนินการของ กสทช. สอดคลอ้ งกบั นโยบายและแผนระดบั ชาติวา่ ดว้ ยการพฒั นาดิจิทลั เพือ่ เศรษฐกิจและสงั คมหรือไม่ ใหผ้ ทู้ ่ี เกี่ยวขอ้ งเสนอคณะกรรมการดิจิทลั เพ่อื เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติตามกฎหมายว่าดว้ ยการ พฒั นาดิจิทลั เพ่ือเศรษฐกิจและสงั คม เพ่อื วนิ ิจฉยั ช้ีขาด ในการวินิจฉยั ช้ีขาด ใหค้ ณะกรรมการดิจิทลั เพื่อเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ แต่งต้งั คณะกรรมการข้ึนเพอื่ พิจารณาเสนอแนะต่อคณะกรรมการดิจิทลั เพอื่ เศรษฐกิจและสงั คม แห่งชาติ โดยใหค้ ณะกรรมการประกอบดว้ ยผแู้ ทนจากคณะกรรมการดิจิทลั เพ่อื เศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติคนหน่ึง เป็นประธานกรรมการ และผแู้ ทนจากหน่วยงานที่เก่ียวขอ้ งและ กสทช. จานวนเท่า ๆ กนั เป็นกรรมการ คาวินิจฉยั ช้ีขาดของคณะกรรมการดิจิทลั เพ่ือเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติตาม วรรคหน่ึง ใหเ้ ป็นที่สุด มาตรา ๒๘ ให้ กสทช. จดั ใหม้ ีการรับฟังความคิดเห็นของผมู้ ีส่วนไดเ้ สียและ ประชาชนทวั่ ไปเพ่ือนาความคิดเห็นท่ไี ดม้ าประกอบการพจิ ารณาก่อนออกระเบยี บ ประกาศ หรือคาสั่ง เกี่ยวกบั การกากบั ดูแลการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการ โทรคมนาคมที่มีผลใชบ้ งั คบั เป็ นการทวั่ ไปและเกี่ยวขอ้ งกบั การแข่งขนั ในการประกอบกิจการ หรือมีผลกระทบต่อประชาชนอยา่ งมีนยั สาคญั โดยตอ้ งใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ความเป็นมา เหตุผล ความจาเป็น และสรุปสาระสาคญั เกี่ยวกบั เร่ืองท่ีจะรับฟังความคิดเห็น ตลอดจนประเดน็ ที่ ตอ้ งการรับฟังความคิดเห็น ท้งั น้ี ระยะเวลาในการรับฟังความคิดเห็นตอ้ งไม่นอ้ ยกว่าสามสิบวนั

เวน้ แต่ในกรณีมีเหตุฉุกเฉินหรือมีความจาเป็นเร่งด่วน กสทช. อาจกาหนดระยะเวลาในการรับ ฟังความคิดเห็นใหน้ อ้ ยกว่าระยะเวลาท่ีกาหนดได้ ใหส้ านกั งาน กสทช. จดั ทาบนั ทึกสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นทป่ี ระกอบดว้ ย ความคิดเห็นทีไ่ ดร้ ับมติหรือผลการพิจารณาของ กสทช. ท่ีมีต่อความคิดเห็นดงั กล่าว พร้อมท้งั เหตุผลและแนวทางในการดาเนินการต่อไป และเผยแพร่บนั ทึกดงั กล่าวในระบบเครือข่าย สารสนเทศของสานกั งาน กสทช. มาตรา ๒๙ การกาหนดอตั ราค่าใชห้ รือค่าเช่ือมต่อโครงข่าย ค่าธรรมเนียมใด ๆ หรือค่าบริการในการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคมตาม พระราชบญั ญตั ิน้ีและตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ หรือตามกฎหมายว่าดว้ ยการประกอบกิจการโทรคมนาคม ให้ กสทช. คานึงถึงประโยชน์ สาธารณะและภาระของผบู้ ริโภคความสอดคลอ้ งกบั ตน้ ทุนการใหบ้ ริการ ความคุม้ ค่า และการ จดั สรรทรัพยากรท่มี ีประสิทธิภาพดว้ ย มาตรา ๓๐ ในการปฏิบตั ิหนา้ ทีข่ อง กสทช. กสท. กทค. คณะกรรมการอื่น และ คณะอนุกรรมการทจ่ี ดั ต้งั ข้ึนตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ตลอดจนเลขาธิการ กสทช. และพนกั งานของ สานกั งาน กสทช. เกี่ยวกบั การพิจารณาคาขอหรือคาร้องเรียนท่ปี ระชาชนยนื่ ตามกฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ประกาศ หรือสัญญาที่ กสทช. หรือสานกั งาน กสทช. ทากบั เอกชน หาก กฎหมาย ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ประกาศ หรือสัญญาดงั กล่าวมิไดก้ าหนดระยะเวลาในการดาเนินการ ไวโ้ ดยเฉพาะให้ กสทช. กาหนดระยะเวลาการดาเนินการแลว้ เสร็จและประกาศใหป้ ระชาชน ทราบโดยทว่ั ไป เรื่องใดทมี่ ิไดก้ าหนดระยะเวลาไว้ จะตอ้ งดาเนินการใหแ้ ลว้ เสร็จภายในเวลาไม่ เกินสิบหา้ วนั นบั แต่วนั ทไ่ี ดร้ ับเรื่อง ในกรณีท่ี กสทช. กสท. กทค. คณะกรรมการอนื่ และคณะอนุกรรมการท่ีจดั ต้งั ข้ึน ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี เลขาธิการ กสทช. หรือพนกั งานของสานกั งาน กสทช. ปฏิบตั ิหนา้ ทล่ี ่าชา้ กว่าที่กาหนดตามวรรคหน่ึงโดยไม่มีเหตุอนั สมควร หากก่อใหเ้ กิดความเสียหายแก่บคุ คลใด ให้ สานกั งาน กสทช. รับผดิ ชดใชค้ วามเสียหายใหแ้ ก่บคุ คลน้นั และใหเ้ รียกเงินชดใชค้ ืนจาก กสทช. กสท. กทค. คณะกรรมการอืน่ และคณะอนุกรรมการท่จี ดั ต้งั ข้ึนตามพระราชบญั ญตั ิน้ี เลขาธิการ กสทช. หรือพนกั งานของสานกั งาน กสทช. ผเู้ ป็นตน้ เหตุแห่งความล่าชา้ น้นั แลว้ แต่กรณี หาก ความเสียหายน้นั เกิดจากการกระทาหรืองดเวน้ การกระทาดว้ ยความจงใจหรือประมาทเลินเล่อ อยา่ งร้ายแรง

มาตรา ๓๑ เพอ่ื ประโยชน์ในการคุม้ ครองผบู้ ริโภคมิใหถ้ ูกเอาเปรียบจากผู้ ประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม ให้ กสทช. มีหนา้ ท่ี ตรวจสอบการดาเนินการของผปู้ ระกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการ โทรคมนาคม มิใหม้ ีการดาเนินการใด ๆ ในประการที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผบู้ ริโภค ท้งั น้ี โดยให้ กสทช. แต่งต้งั คณะอนุกรรมการข้นึ สองคณะ ประกอบดว้ ยผทู้ ่มี ีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์อนั เป็นประโยชนต์ ่อการปฏิบตั ิหนา้ ท่ีของ กสทช. ในการคุม้ ครองผบู้ ริโภค ดา้ นกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ และในการคุม้ ครองผบู้ ริโภคดา้ นกิจการ โทรคมนาคมโดยใหม้ ีอานาจหนา้ ที่ในการพิจารณาและเสนอความเห็นเกี่ยวกบั เร่ืองร้องเรียน และปฏิบตั ิหนา้ ที่อน่ื ท้งั น้ี ตามที่ กสทช. กาหนด ในกรณีที่ผปู้ ระกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ หรือกิจการ โทรคมนาคม ดาเนินการใด ๆ ในประการที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผูบ้ ริโภค โดยอาศยั การใช้ เครือข่ายหรือการโฆษณาอนั มีลกั ษณะเป็นการคา้ กาไรเกินควร หรือก่อใหเ้ กิดความเดือดร้อน ราคาญ ไม่วา่ ดว้ ยวิธีการใดตามหลกั เกณฑท์ ่ี กสทช. กาหนด ให้ กสทช. มีอานาจสง่ั ระงบั การ ดาเนินการดงั กล่าวได้ มาตรา ๓๒ เพอื่ ประโยชน์ในการคุม้ ครองสิทธิในความเป็นส่วนตวั และเสรีภาพ ของบคุ คลในการสื่อสารถึงกนั โดยทางโทรคมนาคม ให้ กสทช. มีอานาจกาหนดมาตรการ คุม้ ครองสิทธิของผใู้ ชบ้ ริการโทรคมนาคมเก่ียวกบั ขอ้ มูลส่วนบคุ คล สิทธิในความเป็นส่วนตวั และเสรีภาพในการสื่อสารถึงกนั โดยทางโทรคมนาคม ในกรณีที่มีการกระทาความผดิ โดยการดกั รับไว้ ใชป้ ระโยชน์ หรือเปิ ดเผย ขอ้ ความข่าวสารหรือขอ้ มูลอ่นื ใดทมี่ ีการส่ือสารทางโทรคมนาคมโดยไม่ชอบดว้ ยกฎหมาย ให้ ถือว่า กสทช. เป็นผเู้ สียหายตามประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา ในกรณีทผ่ี ไู้ ดร้ ับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมเป็นผกู้ ระทาความผดิ ตามวรรคสอง หรือรู้ว่ามีการกระทาความผดิ ตามวรรคสอง แต่เพกิ เฉยหรือไม่ดาเนินการตาม กฎหมายภายในเวลาอนั สมควร ให้ กสทช. มีอานาจส่ังพกั ใชห้ รือเพกิ ถอนใบอนุญาตประกอบ กิจการโทรคมนาคมได้

มาตรา ๓๓[๒๘] ให้ กสทช. มีอานาจแต่งต้งั คณะอนุกรรมการเพ่อื ปฏิบตั ิหนา้ ที่ ตามท่ี กสทช. มอบหมายไดต้ ามความจาเป็นและเหมาะสมสอดคลอ้ งกบั อานาจหนา้ ทข่ี อง กสทช. ในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ี คณะอนุกรรมการท่ไี ดร้ ับแต่งต้งั จะมอบหมายใหบ้ ุคคลอื่น ดาเนินการแทนไม่ได้ และการส่ังการใด ๆ ตามทไ่ี ดร้ ับมอบหมายน้นั จะตอ้ งรายงานให้ กสทช. ทราบ ตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการท่ี กสทช. กาหนด อนุกรรมการตอ้ งไม่มีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๗ ข. มาตรา ๓๓/๑[๒๙] กสทช. อาจมอบหมายใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ที่ปฏิบตั ิหนา้ ที่ตาม พระราชบญั ญตั ิน้ีไดต้ ามความจาเป็นและเหมาะสม สอดคลอ้ งกบั อานาจหนา้ ทข่ี อง กสทช. โดย พนกั งานเจา้ หนา้ ท่นี ้นั ตอ้ งรายงานการปฏิบตั ิหนา้ ทีใ่ ห้ กสทช. ทราบ ตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการ ที่ กสทช. กาหนด มาตรา ๓๔[๓๐] ในการปฏิบตั ิหนา้ ที่ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ให้ กสทช. และ คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงานมีอานาจสงั่ หน่วยงานของรัฐหรือบคุ คลใด ใหช้ ้ีแจงขอ้ เทจ็ จริง มาใหถ้ อ้ ยคาหรือส่งเอกสารหลกั ฐานทเ่ี กี่ยวขอ้ งเพ่ือประกอบการพิจารณาได้ หมวด ๒ การกากบั ดูแลการประกอบกจิ การ ส่วนท่ี ๑ คณะกรรมการกจิ การกระจายเสียงและกจิ การโทรทศั น์[๓๑] มาตรา ๓๕[๓๒] (ยกเลิก) มาตรา ๓๖[๓๓] (ยกเลิก) มาตรา ๓๗[๓๔] (ยกเลิก)

ส่วนที่ ๒ คณะกรรมการกจิ การโทรคมนาคม[๓๕] มาตรา ๓๘[๓๖] (ยกเลิก) มาตรา ๓๙[๓๗] (ยกเลิก) มาตรา ๔๐[๓๘] (ยกเลกิ ) ส่วนท่ี ๓ การกากบั กจิ การกระจายเสียงและกจิ การโทรทศั น์ มาตรา ๔๑ ผใู้ ดประสงคจ์ ะใชค้ ล่ืนความถ่ีเพ่ือกิจการกระจายเสียงหรือกิจการ โทรทศั นต์ อ้ งไดร้ ับใบอนุญาตตามพระราชบญั ญตั ิน้ี การยนื่ คาขออนุญาต และการอนุญาต ใหเ้ ป็นไปตามหลกั เกณฑ์ วิธีการ และ เงื่อนไขทก่ี สทช. ประกาศกาหนด เวน้ แต่การประกอบกิจการทางธุรกิจใหเ้ ป็นไปตามท่กี าหนด ในวรรคหก ใหถ้ ือว่าการยน่ื คาขอรับใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ล่ืนความถี่ตามวรรคหน่ึง เป็นการยน่ื คาขออนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทศั น์ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบ กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั นด์ ว้ ย และเม่ือ กสทช. อนุญาตใหใ้ ชค้ ล่ืนความถ่ีแลว้ ให้ ถือว่าอนุญาตใหป้ ระกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทศั น์ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการ ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ และใหถ้ ือวา่ ไดร้ ับอนุญาตใหม้ ีและใชเ้ ครื่อง วทิ ยคุ มนาคมและต้งั สถานีวิทยคุ มนาคมตามกฎหมายว่าดว้ ยวิทยคุ มนาคมดว้ ย ท้งั น้ี เฉพาะใน ส่วนท่ีเกี่ยวกบั เคร่ืองวทิ ยคุ มนาคมท่ีระบุไวใ้ นคาขออนุญาต การอนุญาตใหใ้ ชค้ ลื่นความถี่เพอื่ กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั นต์ อ้ ง คานึงถึงประโยชนส์ ูงสุดของประชาชนในระดบั ชาติ ระดบั ภูมิภาค และระดบั ทอ้ งถิ่น ในดา้ น การศึกษา วฒั นธรรม ความมนั่ คงของรัฐ และประโยชนส์ าธารณะอน่ื รวมท้งั การแข่งขนั โดยเสรี อยา่ งเป็นธรรม และตอ้ งดาเนินการในลกั ษณะที่มีการกระจายการใชป้ ระโยชนโ์ ดยทว่ั ถึงใน

กิจการดา้ นต่าง ๆ โดยเฉพาะดา้ นการบริการสาธารณะแก่ประชาชน เพื่อใหค้ ล่ืนความถีเ่ หมาะสม แก่การเป็นสมบตั ิของชาติ เพอื่ ใชใ้ หเ้ กิดประโยชนแ์ ก่ประเทศชาติและประชาชน[๓๙] เพือ่ ประโยชนใ์ นการส่งเสริมรายการวิทยแุ ละรายการโทรทศั น์ที่มีเน้ือหา สร้างสรรคส์ งั คมหรือรายการสาหรับเดก็ และเยาวชน ให้ กสทช. กาหนดเง่ือนไขในการอนุญาต ใหผ้ รู้ ับใบอนุญาตตอ้ งจดั เวลาใหร้ ายการดงั กล่าวไดอ้ อกอากาศในช่วงเวลาทีเ่ หมาะสมสาหรับ กลุ่มเป้าหมาย ในกรณีทเี่ ป็นการอนุญาตใหใ้ ชค้ ล่ืนความถ่ีเพ่อื กิจการกระจายเสียงหรือกิจการ โทรทศั น์ ใหใ้ ชว้ ธิ ีคดั เลือกท้งั ในระดบั ชาติ ระดบั ภูมิภาค และระดบั ทอ้ งถ่ิน โดยใหแ้ ยกกนั ในแต่ ละระดบั ท้งั น้ี ตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ ระยะเวลา และเง่ือนไขที่ กสทช. ประกาศกาหนด แต่ใน กรณีท่ีเป็นการประกอบกิจการทางธุรกิจตามท่กี าหนดไวใ้ นกฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบกิจการ กระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ การคดั เลอื กใหท้ าโดยวิธีการประมลู โดย กสทช. ตอ้ งกาหนด หลกั เกณฑ์ วธิ ีการ ระยะเวลา และเงื่อนไขก่อนการประมูล ซ่ึงตอ้ งคานึงถึงประโยชน์สาธารณะ และประโยชนท์ ผี่ บู้ ริโภคจะไดร้ ับดว้ ย[๔๐] การกาหนดคุณสมบตั ิของผมู้ ีสิทธิเขา้ ร่วมประมูลคล่ืนความถ่ีตามวรรคหก ให้ คานึงถึงประโยชน์ในการจดั สรรทรัพยากรคล่ืนความถี่อยา่ งมีประสิทธิภาพและเกิดความคุม้ ค่า การป้องกนั การผกู ขาด การส่งเสริมการแข่งขนั โดยเสรีอยา่ งเป็นธรรม การใหบ้ ริการอยา่ งมี ประสิทธิภาพ ภาระของผบู้ ริโภคและการคุม้ ครองสิทธิของผขู้ อรับใบอนุญาตประกอบกิจการ ทางธุรกิจระดบั ภมู ิภาคและระดบั ทอ้ งถ่ิน การอนุญาตใหใ้ ชค้ ล่ืนความถ่ีเพอื่ กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ท่ี ก่อใหเ้ กิดหรืออาจเกิดการรบกวนหรือทบั ซอ้ นกบั คล่ืนความถี่ที่ไดร้ ับอนุญาตอยกู่ ่อนแลว้ จะ กระทามิได้ ในกรณีทป่ี รากฏว่าเกิดการรบกวนหรือทบั ซอ้ นของคล่ืนความถ่ีใด ๆ อนั เป็นผลจาก การละเมิดกฎหมาย กสทช. ตอ้ งดาเนินการระงบั การรบกวนหรือทบั ซอ้ นน้นั โดยเร็ว[๔๑] คลื่นความถี่ที่ กสทช. อนุญาตใหผ้ รู้ ับใบอนุญาตใชต้ ามวรรคหน่ึง กสทช. อาจ กาหนดเป็ นเงื่อนไขไวล้ ่วงหนา้ ในใบอนุญาตว่า กสทช. อาจอนุญาตให้บุคคลอื่นร่วมใช้ ประโยชน์ในยา่ นความถี่หรือช่องความถี่จากคล่ืนความถี่ที่ไดอ้ นุญาตไวแ้ ลว้ น้นั ได้ แต่การ อนุญาตน้นั จะตอ้ งไม่เป็นการรบกวนการใชป้ ระโยชน์ หรือเป็ นการแข่งขนั กบั กิจการของผู้ ไดร้ ับใบอนุญาต ท้งั น้ี เวน้ แต่จะไดป้ ระกาศใหท้ ราบทวั่ กนั ไวเ้ ป็นอยา่ งอืน่ ในการคดั เลือกหรือ ในการอนุญาต[๔๒]

เมื่อ กสทช. อนุญาตใหผ้ ใู้ ดใชค้ ลื่นความถ่ีเพ่ือกิจการกระจายเสียง และกิจการ โทรทศั น์แลว้ ใหแ้ จง้ ไปยงั คณะกรรมการดิจิทลั เพือ่ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติตามกฎหมายว่า ดว้ ยการพฒั นาดิจิทลั เพื่อเศรษฐกิจและสงั คมทราบ[๔๓] มาตรา ๔๒ ให้ กสทช. มีอานาจกาหนดอตั ราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตตามมาตรา ๔๑ โดยแยกเป็นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ลื่นความถ่ี และคา่ ธรรมเนียมใบอนุญาต ประกอบกิจการ ซ่ึงตอ้ งชาระเม่ือไดร้ ับใบอนุญาตและตอ้ งชาระเป็ นรายปี ในอตั ราที่เหมาะสมกบั ประเภทของใบอนุญาตตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการ โทรทศั น์ เวน้ แต่ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ลื่นความถ่ีเพือ่ ประกอบกิจการทางธุรกิจ ใหถ้ ือ ว่าเงินทไ่ี ดจ้ ากการประมูลตามมาตรา ๔๑ วรรคหก เป็นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ล่ืน ความถ่ีซ่ึงตอ้ งชาระเมื่อไดร้ ับใบอนุญาต และภายใตบ้ งั คบั มาตรา ๕๓ (๘/๑) เงินท่ีไดจ้ ากการ ประมูลดงั กล่าวเม่ือหักค่าใชจ้ ่ายในการประมูล และเงินที่ตอ้ งนาส่งเขา้ กองทุนพฒั นาดิจิทลั เพ่ือ เศรษฐกิจและสังคมตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการพฒั นาดิจิทลั เพือ่ เศรษฐกิจและสงั คมแลว้ เหลือ เท่าใดใหน้ าส่งเป็นรายไดแ้ ผน่ ดิน[๔๔] ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตตามวรรคหน่ึงซ่ึงตอ้ งชาระเป็นรายปี ให้ กสทช. กาหนด โดยคานึงถึงรายจ่ายในการกากบั ดูแลการใชค้ ลื่นความถี่และการกากบั ดูแลการประกอบกิจการ อยา่ งมีประสิทธิภาพในอตั รารวมท้งั สิ้นไม่เกินร้อยละสองของรายไดก้ ่อนหกั ค่าใชจ้ ่ายของผรู้ ับ ใบอนุญาต และใหน้ าส่งเป็นรายไดข้ องสานกั งาน กสทช. บรรดาหน่วยงานทีไ่ ดร้ ับยกเวน้ ไม่ตอ้ งปฏิบตั ิตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบ กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั นไ์ ม่วา่ ท้งั หมดหรือบางส่วน ตอ้ งเสียค่าธรรมเนียมตาม วรรคหน่ึงดว้ ย แต่ กสทช. จะลดหยอ่ นใหต้ ามท่ีเห็นสมควรกไ็ ด้ โดยคานึงถึงวตั ถุประสงคข์ อง กิจการของหน่วยงานน้นั มาตรา ๔๓ ใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ล่ืนความถ่ีเพ่ือกิจการกระจายเสียงและกิจการ โทรทศั น์เป็นสิทธิเฉพาะตวั ของผไู้ ดร้ ับใบอนุญาต จะโอนแก่กนั มิได้ ผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ล่ืนความถี่เพือ่ กิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทศั น์ ตอ้ งประกอบกิจการดว้ ยตนเอง จะมอบการบริหารจดั การท้งั หมดหรือบางส่วนหรือยนิ ยอมให้ บุคคลอ่ืนเป็นผมู้ ีอานาจประกอบกิจการแทนมิได้ แต่การใหบ้ ุคคลอืน่ เช่าเวลาดาเนินรายการบาง ช่วงเวลาอาจกระทาไดต้ ามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเง่ือนไขท่ี กสทช. กาหนด

มาตรา ๔๔ ผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ล่ืนความถี่เพอ่ื กิจการกระจายเสียงหรือ กิจการโทรทศั นผ์ ใู้ ดมิไดป้ ระกอบกิจการทใี่ ชค้ ลื่นความถี่น้นั ภายในระยะเวลาท่ี กสทช. กาหนด หรือนาคล่ืนความถ่ีไปใชใ้ นกิจการนอกวตั ถุประสงค์ หรือไม่ปฏิบตั ิตามเงื่อนไขการประกอบ กิจการทใ่ี ชค้ ลื่นความถ่ี หรือกระทาการอนั มีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามท่กี าหนดในมาตรา ๒๗ (๑๑) และ (๑๗) หรือไม่ปฏิบตั ิตามมาตรา ๔๓ ให้ กสทช. ดาเนินการเพอ่ื ใหม้ ีการแกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ งหรือ มีคาสั่งเพิกถอนใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ล่ืนความถี่น้นั ท้งั หมดหรือบางส่วน ส่วนที่ ๔ การกากบั กจิ การโทรคมนาคม มาตรา ๔๕ ผใู้ ดประสงคจ์ ะใชค้ ลื่นความถ่ีเพื่อกิจการโทรคมนาคมตอ้ งไดร้ ับ ใบอนุญาตตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ซ่ึงตอ้ งดาเนินการโดยวิธีคดั เลือกโดยวิธีการประมูลคล่ืน ความถ่ี เวน้ แต่ในกรณีเป็นคล่ืนความถ่ีท่ีมีเพียงพอต่อการใชง้ านหรือนาไปใชใ้ นกิจการบาง ประเภททีไ่ ม่มีวตั ถุประสงคเ์ พื่อแสวงหากาไร ตามลกั ษณะและประเภทที่ กสทช. ประกาศ กาหนดไวเ้ ป็นการล่วงหนา้ จะใชว้ ธิ ีการคดั เลือกโดยวิธีอน่ื กไ็ ด้ ท้งั น้ี ตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ ระยะเวลา และเง่ือนไขที่ กสทช. ประกาศกาหนด โดยใหน้ าความในมาตรา ๔๑ วรรคสี่ วรรคเจด็ วรรคเกา้ และวรรคสิบมาใชบ้ งั คบั โดยอนุโลม และภายใตบ้ งั คบั มาตรา ๕๓ (๘/๑) เงินทไ่ี ดจ้ าก การคดั เลือกเม่ือหกั ค่าใชจ้ ่ายในการคดั เลือก และเงินที่ตอ้ งนาส่งเขา้ กองทุนพฒั นาดิจิทลั เพื่อ เศรษฐกิจและสงั คมตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการพฒั นาดิจิทลั เพื่อเศรษฐกิจและสังคมแลว้ เหลือ เท่าใดใหน้ าส่งเป็นรายไดแ้ ผน่ ดิน[๔๕] ใหถ้ ือวา่ การยนื่ คาขอรับใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ลื่นความถ่ีตามวรรคหน่ึง เป็นการยน่ื คาขออนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบกิจการ โทรคมนาคมดว้ ย และเม่ือ กสทช. อนุญาตใหใ้ ชค้ ลื่นความถ่ีแลว้ ใหถ้ ือวา่ อนุญาตใหป้ ระกอบ กิจการโทรคมนาคมตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบกิจการโทรคมนาคม และใหถ้ ือวา่ ไดร้ ับ อนุญาตใหม้ ีและใชเ้ คร่ืองวิทยคุ มนาคมและต้งั สถานีวิทยคุ มนาคมตามกฎหมายว่าดว้ ยวทิ ยุ คมนาคมดว้ ย ท้งั น้ี เฉพาะในส่วนทเ่ี กี่ยวกบั เครื่องวิทยคุ มนาคมทร่ี ะบไุ วใ้ นคาขออนุญาต ให้ กสทช. มีอานาจกาหนดอตั ราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการตาม กฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบกิจการโทรคมนาคมและค่าธรรมเนียมซ่ึงตอ้ งชาระเป็นรายปี โดย คานึงถึงรายจ่ายในการกากบั ดูแลการใชค้ ลื่นความถ่ีและการกากบั ดูแลการประกอบกิจการอยา่ ง

มีประสิทธิภาพในอตั รารวมท้งั สิ้นไม่เกินร้อยละสองของรายไดก้ ่อนหกั ค่าใชจ้ ่ายของผรู้ ับ ใบอนุญาต และใหน้ าส่งค่าธรรมเนียมดงั กล่าวเป็นรายไดข้ องสานกั งาน กสทช. มาตรา ๔๖ ใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ล่ืนความถี่เพอื่ กิจการโทรคมนาคมเป็นสิทธิ เฉพาะตวั ของผไู้ ดร้ ับใบอนุญาต จะโอนแก่กนั มิได้ ผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ลื่นความถ่ีเพ่อื กิจการโทรคมนาคม ตอ้ งประกอบ กิจการดว้ ยตนเองจะมอบการบริหารจดั การท้งั หมดหรือบางส่วนหรือยนิ ยอมใหบ้ ุคคลอื่นเป็ นผู้ มีอานาจประกอบกิจการแทนมิได้ มาตรา ๔๗ ผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ล่ืนความถี่เพอื่ กิจการโทรคมนาคมผใู้ ด มิไดป้ ระกอบกิจการทใ่ี ชค้ ล่ืนความถ่ีน้นั ภายในระยะเวลาที่ กสทช. กาหนด หรือนาคล่ืนความถ่ี ไปใชใ้ นกิจการนอกวตั ถุประสงค์ หรือไมป่ ฏิบตั ิตามเงื่อนไขการประกอบกิจการท่ีใชค้ ลื่นความ ถี่หรือกระทาการอนั มีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามทีก่ าหนดในมาตรา ๒๗ (๑๑) หรือไม่ปฏิบตั ิตาม มาตรา ๔๖ ให้ กสทช. ดาเนินการเพ่ือใหม้ ีการแกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ ง หรือมีคาสง่ั เพิกถอนใบอนุญาต ใหใ้ ชค้ ลื่นความถ่ีน้นั ท้งั หมดหรือบางส่วน หมวด ๓ แนวทางการจดั ทาแผน มาตรา ๔๘ ใหม้ ีแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ซ่ึงอยา่ งนอ้ ยตอ้ งมีรายการ ดงั ต่อไปน้ี (๑) รายละเอยี ดเกี่ยวกบั ตารางกาหนดคลื่นความถ่ีท้งั หมดทป่ี ระเทศไทยสามารถ นามาใชป้ ระโยชนไ์ ด้ (๒) แนวทางการดาเนินการเกี่ยวกบั คล่ืนความถี่ระหว่างประเทศ (๓) รายละเอียดเกี่ยวกบั คล่ืนความถ่ีทกี่ าหนดใหใ้ ชใ้ นกิจการกระจายเสียงและ กิจการโทรทศั น์กิจการโทรคมนาคม และกิจการอนื่ (๔) แนวทางในการคืนคล่ืนความถ่ีเพอ่ื นาไปจดั สรรใหม่หรือการปรับปรุงการใช้ คล่ืนความถี่

แผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ เม่ือประกาศในราชกิจจานุเบกษาแลว้ ใหใ้ ช้ บงั คบั ไดแ้ ละใหใ้ ชเ้ ป็นหลกั เกณฑแ์ ละเง่ือนไขเบ้อื งตน้ ในการอนุญาตและการดาเนินกิจการท้งั ปวงท่เี ก่ียวขอ้ งกบั การใชค้ ลื่นความถ่ี ให้ กสทช. ติดตามประเมินผลการดาเนินงานตามแผนแม่บทการบริหารคล่ืน ความถ่ี และตอ้ งปรับปรุงแผนแม่บทดงั กล่าว เพ่ือประโยชน์ในการบริหารคล่ืนความถ่ใี หม้ ี ประสิทธิภาพและสอดคลอ้ งกบั ความกา้ วหนา้ ของเทคโนโลยที ่ีเปล่ียนแปลงไป ในการจดั ทาแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถ่ี ให้ กสทช. รับฟังความคิดเห็น ของประชาชนผปู้ ระกอบกิจการที่ใชป้ ระโยชน์คล่ืนความถ่ี และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวขอ้ ง เพ่ือเป็นขอ้ มูลประกอบการพจิ ารณาดว้ ย ท้งั น้ี ระยะเวลาในการรับฟังความคิดเห็นตอ้ งไม่นอ้ ย กว่าสามสิบวนั และการจดั ทาแผนแม่บทการบริหารคล่ืนความถใี่ หค้ านึงถึงการใชง้ านดา้ นความ มน่ั คงของรัฐตามความจาเป็น มาตรา ๔๙ ในการกากบั ดูแลการประกอบกิจการ ให้ กสทช. จดั ใหม้ ีแผนแม่บท กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ และแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม เพือ่ ใชเ้ ป็น แนวทางในการดาเนินการระยะหา้ ปี โดยในแผนดงั กล่าวตอ้ งสอดคลอ้ งกบั แผนแม่บทการ บริหารคล่ืนความถ่ีและอยา่ งนอ้ ยตอ้ งมีแนวทางการพฒั นาและการส่งเสริมแข่งขนั โดยเสรีอยา่ ง เป็นธรรมระหว่างผปู้ ระกอบกิจการแนวทางการอนุญาตใหใ้ ชค้ ล่ืนความถี่และการอนุญาตให้ ประกอบกิจการ โดยในส่วนกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ ตอ้ งจดั ใหภ้ าคประชาชน ไดใ้ ชค้ ล่ืนความถ่ีเพื่อประโยชน์สาธารณะ และไม่แสวงหากาไรในทางธุรกิจในการประกอบ กิจการบริการชุมชนไม่นอ้ ยกว่าร้อยละยส่ี ิบของคล่ืนความถี่ในแต่ละพ้นื ท่ขี องการอนุญาต ประกอบกิจการ ในการจดั ทาแผนแม่บทตามวรรคหน่ึง ให้ กสทช. รับฟังความคิดเห็นของ ประชาชนผปู้ ระกอบกิจการ และหน่วยงานของรัฐทเ่ี ก่ียวขอ้ ง เพื่อเป็นแนวทางในการพจิ ารณา ดว้ ย ท้งั น้ี ระยะเวลาในการรับฟังความคิดเห็นตอ้ งไม่นอ้ ยกว่าสามสิบวนั ในกรณีที่ กสทช. วินิจฉยั เร่ืองใดไม่สอดคลอ้ งกบั ความคิดเห็นของประชาชน ผู้ ประกอบกิจการหรือหน่วยงานของรัฐตามทีป่ รากฏในการรับฟังความคิดเห็นตามวรรคสอง กสทช. ตอ้ งช้ีแจงและแสดงเหตุผลใหป้ ระชาชน ผปู้ ระกอบกิจการ หรือหน่วยงานของรัฐทราบ ประชาชน ผปู้ ระกอบกิจการ หรือหน่วยงานของรัฐตามวรรคสาม ผใู้ ดเห็นว่า แผนแม่บทที่ กสทช. กาหนดขดั ต่อบทบญั ญตั ิของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย ใหม้ ีสิทธิ

ฟ้องคดีต่อศาลปกครองไดโ้ ดยใหถ้ ือวา่ แผนแม่บทดงั กล่าวเป็นกฎตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการจดั ต้งั ศาลปกครองและวธิ ีพิจารณาคดีปกครอง แผนแม่บทตามวรรคหน่ึง เมื่อไดป้ ระกาศในราชกิจจานุเบกษาแลว้ ใหผ้ กู พนั กสทช. และหน่วยงานของรัฐท่ีเกี่ยวขอ้ ง มาตรา ๕๐ เพือ่ ประโยชน์ในการจดั ใหม้ ีบริการโทรคมนาคมพ้นื ฐานโดยทว่ั ถึง และบริการเพือ่ สงั คมตามกฎหมายว่าดว้ ยการประกอบกิจการโทรคมนาคม ให้ กสทช. กาหนด แผนการจดั ใหม้ ีบริการโทรคมนาคมพ้ืนฐานโดยทว่ั ถึงและบริการเพ่อื สงั คม โดยในแผนอยา่ ง นอ้ ยจะตอ้ งกาหนดพ้ืนที่และกลุ่มเป้าหมาย ระยะเวลาในการดาเนินการ พร้อมท้งั ประมาณการ ค่าใชจ้ ่ายท่จี ะเกิดข้ึนจากการดาเนินการดงั กล่าว การจดั ทาแผนตามวรรคหน่ึง ให้ กสทช. หารือกบั หน่วยงานของรัฐอื่นท่ี เก่ียวขอ้ งโดยตอ้ งสอดคลอ้ งกบั นโยบายทค่ี ณะรัฐมนตรีแถลงไวต้ ่อรัฐสภา ให้ กสทช. ประกาศกาหนดจานวนค่าใชจ้ า่ ยทจ่ี ะเรียกเกบ็ จากผไู้ ดร้ ับใบอนุญาต ประกอบกิจการโทรคมนาคมเพอ่ื นาไปใชด้ าเนินการสนบั สนุนการจดั ใหม้ ีบริการโทรคมนาคม ตามวรรคหน่ึง ท้งั น้ี โดยคานึงถึงรายไดท้ ี่ผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตไดร้ ับจากการใหบ้ ริการ โทรคมนาคม ให้ กสทช. ประกาศกาหนดจานวนเงินจากกองทุนตามมาตรา ๕๓ (๔) ที่จะนามา สนบั สนุนผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตเพ่อื ใหส้ ามารถดาเนินการจดั ใหม้ ีบริการดงั กล่าวได้ ในการดาเนินการตามแผนการจดั ใหม้ ีบริการโทรคมนาคมพ้นื ฐานโดยทว่ั ถึงและ บริการเพ่อื สังคมตามวรรคหน่ึง ให้ กสทช. มีอานาจมอบหมายใหส้ านกั งานคณะกรรมการดิจิทลั เพอื่ เศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติดาเนินการท้งั หมดหรือบางส่วนแทนได้ ในกรณีเช่นน้นั ให้ กสทช. โอนเงินท่เี รียกเกบ็ ไดต้ ามวรรคสามและทกี่ าหนดไวต้ ามวรรคสี่ใหแ้ ก่กองทนุ พฒั นา ดิจิทลั เพอ่ื เศรษฐกิจและสงั คมเพื่อดาเนินการต่อไป[๔๖] มาตรา ๕๑ เพอ่ื ส่งเสริมใหภ้ าคประชาชนไดใ้ ชค้ ลื่นความถี่ตามสดั ส่วนทกี่ าหนด ไวใ้ นมาตรา ๔๙ วรรคหน่ึง ให้ กสทช. กาหนดหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการในการส่งเสริมชุมชนทม่ี ี ความพร้อมใหเ้ ป็นผมู้ ีคุณสมบตั ิในการขอรบั ใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการ โทรทศั น์ประเภทบริการชุมชน การหารายได้ และการสนบั สนุนผปู้ ระกอบกิจการบริการชุมชน ทีม่ ีคุณภาพ ท้งั น้ี โดยใหร้ ับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวขอ้ ง ประกอบดว้ ย

รายไดข้ องผปู้ ระกอบกิจการบริการชุมชนตอ้ งเป็ นรายไดจ้ ากการบริจาค การ อุดหนุนสถานีหรือรายไดท้ างอ่ืนซ่ึงมิใช่การโฆษณาหรือการประกอบกิจการกระจายเสียงหรือ กิจการโทรทศั น์ การสนบั สนุนผปู้ ระกอบกิจการบริการชุมชนทม่ี ีคุณภาพตอ้ งเป็นการอดุ หนุน การดาเนินการของสถานีมิใช่เป็นการสนบั สนุนรายการใดโดยเฉพาะ และมีสัดส่วนไม่เกินก่ึง หน่ึงของรายไดท้ ้งั หมดของผูป้ ระกอบกิจการบริการชุมชน รวมท้งั ตอ้ งจดั ใหม้ ีการประเมินผล คุณภาพการใหบ้ ริการและประสิทธิภาพในการใชจ้ ่ายเงินทไ่ี ดร้ ับการอดุ หนุนเพือ่ ใช้ ประกอบการพจิ ารณาจดั สรรเงินอุดหนุนในแต่ละคราว หมวด ๔ กองทุนวจิ ัยและพฒั นากจิ การกระจายเสียง กจิ การโทรทศั น์ และกจิ การโทรคมนาคม เพ่ือประโยชน์สาธารณะ มาตรา ๕๒ ใหจ้ ดั ต้งั กองทุนข้ึนในสานกั งาน กสทช. เรียกวา่ “กองทนุ วจิ ยั และ พฒั นากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม เพือ่ ประโยชน์ สาธารณะ” โดยมีวตั ถุประสงค์ ดงั ต่อไปน้ี (๑) ดาเนินการใหป้ ระชาชนไดร้ ับบริการดา้ นกิจการกระจายเสียง กิจการ โทรทศั น์และกิจการโทรคมนาคม อยา่ งทวั่ ถึง ตลอดจนส่งเสริมชุมชนและสนบั สนุนผปู้ ระกอบ กิจการบริการชุมชนตามมาตรา ๕๑ (๒) ส่งเสริมและสนบั สนุนการพฒั นาทรัพยากรส่ือสาร การวจิ ยั และพฒั นาดา้ น กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม รวมท้งั ความสามารถในการรู้เทา่ ทนั ส่ือเทคโนโลยดี า้ นการใชค้ ล่ืนความถี่ เทคโนโลยสี ารสนเทศ เทคโนโลยสี ่ิงอานวยความ สะดวกสาหรับผพู้ กิ าร ผสู้ ูงอายุ หรือผูด้ อ้ ยโอกาส ตลอดจนอุตสาหกรรมโทรคมนาคม และ อตุ สาหกรรมต่อเน่ือง (๓) ส่งเสริมและสนบั สนุนการพฒั นาบคุ ลากรดา้ นกิจการกระจายเสียง กิจการ โทรทศั น์ กิจการโทรคมนาคม และเทคโนโลยสี ารสนเทศ ตลอดจนการดาเนินการขององคก์ รซ่ึง ทาหนา้ ทีจ่ ดั ทามาตรฐานทางจริยธรรมของการประกอบอาชีพหรือวิชาชีพตามกฎหมายวา่ ดว้ ย การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์

(๔) สนบั สนุน ส่งเสริม และคุม้ ครองผบู้ ริโภคดา้ นกิจการกระจายเสียง กิจการ โทรทศั น์และกิจการโทรคมนาคม (๕) สนบั สนุนการดาเนินการตามกฎหมายว่าดว้ ยกองทุนพฒั นาสื่อปลอดภยั และ สร้างสรรคโ์ ดยจดั สรรเงินใหแ้ ก่กองทนุ พฒั นาส่ือปลอดภยั และสร้างสรรค์ (๖)[๔๗] สนบั สนุนการใชค้ ล่ืนความถ่ีใหเ้ กิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมท้งั สนบั สนุนการเรียกคืนคล่ืนความถ่ีทมี่ ีผไู้ ดร้ บั อนุญาตไป เพือ่ นามาจดั สรรใหม่และสนบั สนุน การทดแทน ชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนการถูกเรียกคืนคลื่นความถี่ ท้งั น้ี เพ่อื ใหเ้ กิด ประสิทธิภาพสูงสุดในการใชค้ ล่ืนความถ่ี มาตรา ๕๓ กองทุนตามมาตรา ๕๒ ประกอบดว้ ย (๑) ทนุ ประเดิมท่ีรัฐบาลจดั สรรให้ (๒)[๔๘] (ยกเลิก) (๓) เงินทไ่ี ดร้ ับการจดั สรรตามมาตรา ๖๕ วรรคสอง (๔) เงินที่ส่งเขา้ กองทนุ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบกิจการกระจายเสียงและ กิจการโทรทศั น์และกฎหมายว่าดว้ ยการประกอบกิจการโทรคมนาคม (๕) เงินค่าปรับทางปกครองที่ปรับตามพระราชบญั ญตั ิน้ี และตามกฎหมายว่า ดว้ ยการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ และตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบ กิจการโทรคมนาคม (๖) เงินหรือทรัพยส์ ินทมี่ ีผมู้ อบใหเ้ พ่อื สมทบกองทุน (๗) เงินและทรัพยส์ ินท่ีไดร้ ับโอนมาตามมาตรา ๙๑ (๘) ดอกผลและรายไดข้ องกองทนุ รวมท้งั ผลประโยชนจ์ ากค่าตอบแทนการใช้ ประโยชนจ์ ากการวิจยั และพฒั นาดา้ นกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการ โทรคมนาคม (๘/๑)[๔๙] เงินรายไดท้ ีไ่ ดจ้ ากการจดั สรรคล่ืนความถ่ีที่ไดร้ ับคืนตามมาตรา ๒๗ (๑๒/๑) ภายหลงั หกั ค่าใชจ้ ่ายในการจดั สรรคลื่นความถี่ดงั กล่าวแลว้ (๙) เงินและทรัพยส์ ินอน่ื ที่ตกเป็นของกองทุน เงินกองทนุ ใหใ้ ชต้ ามวตั ถุประสงคข์ องกองทนุ ตามมาตรา ๕๒ และตามแผนการ จดั ใหม้ ีบริการโทรคมนาคมพ้ืนฐานโดยทว่ั ถึงและบริการเพอ่ื สังคมตามมาตรา ๕๐ เวน้ แต่ วตั ถุประสงคข์ องกองทุนตามมาตรา ๕๒ (๖) ใหใ้ ชเ้ งินจากกองทุนตาม (๘/๑) เทา่ น้นั [๕๐]

เงินกองทุนตาม (๘/๑) ถา้ กระทรวงการคลงั เห็นวา่ มีเกินความจาเป็นหรือหมด ความจาเป็นตอ้ งใช้ จะขอใหน้ าส่วนทเี่ กินจาเป็นส่งเขา้ เป็นรายไดแ้ ผน่ ดินกไ็ ด[้ ๕๑] มาตรา ๕๔[๕๒] ใหม้ ีคณะกรรมการบริหารกองทนุ คณะหน่ึง ประกอบดว้ ย (๑) ประธาน กสทช. เป็นประธานกรรมการ (๒) ปลดั สานกั นายกรัฐมนตรี ปลดั กระทรวงกลาโหม เลขาธิการคณะกรรมการ พฒั นาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผอู้ านวยการสานกั งบประมาณ อธิบดีกรมบญั ชีกลาง และผอู้ านวยการศูนยเ์ ทคโนโลยอี ิเลก็ ทรอนิกส์และคอมพวิ เตอร์แห่งชาติ เป็นกรรมการโดย ตาแหน่ง (๓) ผทู้ รงคุณวฒุ ิ จานวนสองคน ซ่ึงกรรมการตาม (๑) และ (๒) เป็นผคู้ ดั เลือก ใหเ้ ลขาธิการ กสทช. เป็นกรรมการและเลขานุการ และใหเ้ ลขาธิการ กสทช. แต่งต้งั พนกั งานของสานกั งาน กสทช. เป็นผชู้ ่วยเลขานุการ กรรมการตามวรรคหน่ึง (๓) ตอ้ งไม่มีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๗ ข. (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) (๖) (๗) (๘) (๙) (๑๐) และ (๑๑) และมีวาระการดารงตาแหน่งคราวละสามปี และอาจ ไดร้ ับการแต่งต้งั อีกได้ แต่จะดารงตาแหน่งติดต่อกนั เกินสองวาระมิได้ ใหน้ ามาตรา ๒๓ มาใชบ้ งั คบั กบั การประชุมของคณะกรรมการบริหารกองทุน โดยอนุโลม มาตรา ๕๕ คณะกรรมการบริหารกองทุนมีอานาจหนา้ ทีใ่ นการบริหารกองทนุ และเสนอความเห็นเกี่ยวกบั การจดั สรรเงินกองทนุ เพ่ือใชจ้ ่ายตามวตั ถุประสงคต์ ามมาตรา ๕๒ ต่อ กสทช. เพื่อพิจารณาใหค้ วามเห็นชอบ ในกรณีที่ กสทช. มีความเห็นแตกต่างจากคณะ กรรมการบริหารกองทุน กสทช. ตอ้ งใหเ้ หตุผลประกอบการพิจารณาไวด้ ว้ ย ใหค้ ณะกรรมการบริหารกองทนุ เปิ ดเผยรายละเอียดเกี่ยวกบั การจดั สรร เงินกองทนุ และการดาเนินการตามวรรคหน่ึงใหป้ ระชาชนทราบผา่ นทางส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์ของ สานกั งาน กสทช. โดยตอ้ งแสดงขอ้ มูลเกี่ยวกบั ผทู้ ขี่ อและผทู้ ไี่ ดร้ ับการจดั สรรเงินจากกองทนุ และจานวนเงินท่ไี ดร้ ับจากการจดั สรรท้งั หมดดว้ ย การเกบ็ รักษา การใชจ้ ่าย การจดั ทาบญั ชีและระบบบญั ชี ใหเ้ ป็ นไปตามระเบียบที่ คณะกรรมการบริหารกองทุนกาหนด

หมวด ๕ สานกั งานคณะกรรมการกจิ การกระจายเสียง กจิ การโทรทศั น์ และกจิ การโทรคมนาคมแห่งชาติ มาตรา ๕๖ ใหม้ ีสานกั งานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรียกโดยยอ่ วา่ “สานกั งาน กสทช.” เป็นนิติบคุ คล มีฐานะเป็น หน่วยงานของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายวา่ ดว้ ยระเบียบบริหารราชการแผน่ ดินและ ไม่เป็นรัฐวสิ าหกิจตามกฎหมายว่าดว้ ยวธิ ีการงบประมาณหรือกฎหมายอืน่ และอยภู่ ายใตก้ าร กากบั ดูแลของประธานกรรมการ กิจการของสานกั งาน กสทช. ไม่อยภู่ ายใตบ้ งั คบั แห่งกฎหมายว่าดว้ ยการคุม้ ครอง แรงงาน กฎหมายว่าดว้ ยแรงงานสัมพนั ธ์ กฎหมายวา่ ดว้ ยการประกนั สงั คมและกฎหมายวา่ ดว้ ย เงินทดแทน มาตรา ๕๗ ใหส้ านกั งาน กสทช. มีอานาจหนา้ ที่ ดงั ต่อไปน้ี (๑) รับผดิ ชอบในการรับและจ่ายเงินรายไดข้ องสานกั งาน กสทช. (๒)[๕๓] จดั ทางบประมาณรายจ่ายประจาปี ของสานกั งาน กสทช. เพอื่ เสนอ กสทช. อนุมตั ิ โดยรายจ่ายประจาปี ของสานกั งาน กสทช. ใหห้ มายความรวมถึงรายจา่ ยใด ๆ อนั เกี่ยวกบั การดาเนินการตามอานาจหนา้ ทขี่ อง กสทช. คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการ ปฏิบตั ิงาน และสานกั งาน กสทช. งบประมาณรายจ่ายประจาปี ดงั กล่าวตอ้ งจดั ทาโดยคานึงถึงความ คุม้ ค่า การประหยดั และประสิทธิภาพ รายการหรือโครงการใดท่ีต้งั งบประมาณไวแ้ ลว้ และมิได้ จ่ายเงินหรือก่อหน้ีผกู พนั ภายในปี งบประมาณน้นั ใหร้ ายการหรือโครงการน้นั เป็นอนั พบั ไป และใหส้ านกั งาน กสทช. นาส่งงบประมาณสาหรับรายการหรือโครงการดงั กล่าวเป็นรายได้ แผน่ ดิน (๓) ตรวจสอบและติดตามการใชค้ ลื่นความถ่ี (๔) รับและพิจารณาเรื่องร้องเรียนเก่ียวกบั การใชค้ ลื่นความถ่ี การประกอบ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม เพอ่ื ตรวจสอบและแกไ้ ขปัญหา หรือเสนอความเห็นต่อ กสทช. เพือ่ พิจารณาตามหลกั เกณฑท์ ี่ กสทช. กาหนด (๕) ศึกษารวบรวมและวเิ คราะห์ขอ้ มูลเกี่ยวกบั คล่ืนความถ่ี การใชค้ ลื่นความถ่ี การประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม

(๖) รับผดิ ชอบงานธุรการของ กสทช. กสท. กทค. และคณะกรรมการบริหาร กองทนุ (๗) ปฏิบตั ิการอนื่ ตามที่ กสทช. กสท. และ กทค. มอบหมาย ในการจดั ทางบประมาณรายจ่ายประจาปี ตาม (๒) ก่อนท่สี านกั งาน กสทช. จะ เสนอ กสทช. อนุมตั ิ ใหส้ านกั งาน กสทช. เสนอร่างงบประมาณรายจ่ายประจาปี ต่อ คณะกรรมการดิจิทลั เพ่ือเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติเพื่อพจิ ารณาใหค้ วามเห็น และให้ สานกั งาน กสทช. พจิ ารณาดาเนินการแกไ้ ขหรือปรับปรุงร่างงบประมาณรายจา่ ยประจาปี ดงั กล่าว เวน้ แต่งบประมาณรายจ่ายประจาปี ในส่วนของคณะกรรมการติดตามและประเมินผล การปฏิบตั ิงาน ใหส้ านกั งาน กสทช. เสนอไปยงั คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการ ปฏิบตั ิงานเพอ่ื ดาเนินการแกไ้ ขหรือปรับปรุง ในกรณีท่ี สานกั งาน กสทช. หรือคณะกรรมการ ติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงาน แลว้ แต่กรณี ไม่เห็นดว้ ยกบั ความเห็นของคณะกรรมการ ดิจิทลั เพ่ือเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ใหส้ านกั งาน กสทช. เสนอร่างงบประมาณรายจ่าย ประจาปี ดงั กล่าวพร้อมความเห็นของคณะกรรมการดิจิทลั เพอ่ื เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อ กสทช. เพอ่ื พจิ ารณาต่อไป[๕๔] เมื่อ กสทช. อนุมตั ิงบประมาณรายจ่ายประจาปี ของสานกั งาน กสทช. ตามวรรค สองแลว้ ใหส้ านกั งาน กสทช. เปิ ดเผยงบประมาณรายจ่ายประจาปี น้นั พร้อมท้งั รายการหรือ โครงการทไ่ี ดร้ ับอนุมตั ิงบประมาณ ใหป้ ระชาชนทราบทางระบบเครือข่ายสารสนเทศ หรือ วิธีการอ่ืนทีเ่ ขา้ ถึงไดโ้ ดยสะดวก[๕๕] ใหค้ ณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงานเสนองบประมาณรายจ่าย ต่อสานกั งาน กสทช. เพอ่ื จดั สรรเป็นงบประมาณของคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการ ปฏิบตั ิงาน ไวใ้ นร่างงบประมาณรายจ่ายประจาปี ของสานกั งาน กสทช. ในการน้ี สานกั งาน กสทช. อาจทาความเห็นเกี่ยวกบั การจดั สรรงบประมาณดงั กล่าวไวใ้ นรายงานการเสนอร่าง งบประมาณรายจ่ายประจาปี กไ็ ด[้ ๕๖] มาตรา ๕๘ ให้ กสทช. มีอานาจออกระเบียบหรือประกาศเกี่ยวกบั การ บริหารงานทวั่ ไปการบริหารงานบุคคล การงบประมาณ การเงินและทรัพยส์ ิน และการ ดาเนินการอ่ืนของสานกั งาน กสทช. โดยใหร้ วมถึงเร่ืองดงั ต่อไปน้ีดว้ ย (๑) การแบ่งส่วนงานภายในของสานกั งาน กสทช. และขอบเขตหนา้ ทีข่ องส่วน งานดงั กล่าว

(๒) การกาหนดตาแหน่ง อตั ราเงินเดือน และค่าตอบแทนอื่นของเลขาธิการ กสทช. พนกั งานและลูกจา้ งของสานกั งาน กสทช. ตลอดจนค่าตอบแทนและค่าใชจ้ ่ายของ กรรมการอนื่ และอนุกรรมการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี (๓) การคดั เลือกหรือการประเมินความรู้ความสามารถเพือ่ ประโยชน์ในการ บรรจุและแต่งต้งั ใหด้ ารงตาแหน่ง หรือการเล่ือนข้นั เงินเดือน หลกั เกณฑก์ ารต่อสญั ญาจา้ ง และ การจ่ายเงินชดเชยกรณีเลิกจา้ งเนื่องจากไมผ่ า่ นการประเมิน (๔) การบริหารงานบคุ คล รวมตลอดท้งั การดาเนินการทางวนิ ยั การอทุ ธรณ์ และ ร้องทกุ ข์ (๕) การรักษาการแทนและการปฏิบตั ิการแทน (๖) การกาหนดเครื่องแบบและการแต่งกายของพนกั งานและลูกจา้ งของ สานกั งาน กสทช. (๗)[๕๗] การจา้ งและการแต่งต้งั บุคคลเพื่อเป็ นผูเ้ ช่ียวชาญหรือเป็ น ผูช้ านาญการเฉพาะดา้ นอนั จะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบตั ิหนา้ ทข่ี อง กสทช. รวมท้งั จานวน และอตั ราค่าตอบแทนของตาแหน่งดงั กล่าว ท้งั น้ี โดยใหค้ านึงถึงการปฏิบตั ิงานและระยะเวลา การปฏิบตั ิงานของตาแหน่งน้นั ดว้ ย (๘) การบริหารและจดั การงบประมาณ ทรัพยส์ ิน และการพสั ดุของสานกั งาน กสทช. (๙) การจดั สวสั ดิการหรือการสงเคราะห์อ่นื ระเบยี บหรือประกาศตามวรรคหน่ึง ใหป้ ระธานกรรมการเป็นผลู้ งนาม และเมื่อ ไดป้ ระกาศในราชกิจจานุเบกษาแลว้ ใหใ้ ชบ้ งั คบั ได้ มาตรา ๕๙ ใหส้ านกั งาน กสทช. เปิ ดเผยขอ้ มูลเกี่ยวกบั การดาเนินงานของ กสทช. และสานกั งาน กสทช. ใหป้ ระชาชนทราบทางระบบเครือข่ายสารสนเทศ หรือวธิ ีการอ่ืน ทเ่ี ห็นสมควรโดยอยา่ งนอ้ ยตอ้ งเปิ ดเผยขอ้ มูล ดงั ต่อไปน้ี (๑) ใบอนุญาตประกอบกิจการของผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตทุกราย พร้อมท้งั เงื่อนไขท่ี กาหนด (๒) รายไดข้ องสานกั งาน กสทช. ตามมาตรา ๖๕ เป็นรายเดือนโดยสรุป (๓) รายจ่ายสาหรับการดาเนินงานของ กสทช. และสานกั งาน กสทช. เป็นราย เดือนโดยสรุป

(๔)[๕๘] รายละเอยี ดของอตั ราค่าตอบแทนกรรมการ จานวนคณะอนุกรรมการ และอตั ราค่าตอบแทนของอนุกรรมการเป็นรายบคุ คล และอตั ราคา่ ตอบแทนท่ีปรึกษาที่ กสทช. แต่งต้งั เป็นรายบุคคล (๕) ผลการศกึ ษาวิจยั และผลงานอ่นื ๆ ทวี่ า่ จา้ งใหห้ น่วยงานภายนอกดาเนินการ (๖) รายการเรื่องร้องเรียน ความคืบหนา้ และผลการพิจารณาเร่ืองร้องเรียนของ ผบู้ ริโภคและผรู้ ับใบอนุญาตและจานวนเรื่องทีย่ งั คา้ งพิจารณา (๗) รายละเอยี ดของผลการจดั ซ้ือจดั จา้ งของสานกั งาน กสทช. และสญั ญาตา่ ง ๆ ทเี่ ก่ียวขอ้ ง มาตรา ๖๐ ใหส้ านกั งาน กสทช. มีเลขาธิการ กสทช. คนหน่ึงรับผดิ ชอบการ ปฏิบตั ิงานของสานกั งาน กสทช. ข้ึนตรงต่อประธานกรรมการ และเป็นผบู้ งั คบั บญั ชาพนกั งาน และลูกจา้ งของสานกั งาน กสทช. ในกิจการของสานกั งาน กสทช. ท่ีเกี่ยวกบั บุคคลภายนอก ใหเ้ ลขาธิการ กสทช. เป็นผแู้ ทนของสานกั งาน กสทช. เพ่อื การน้ีเลขาธิการ กสทช. จะมอบอานาจใหบ้ คุ คลใด ปฏิบตั ิงานเฉพาะอยา่ งแทนกไ็ ด้ ท้งั น้ี ตามระเบยี บที่ กสทช. กาหนด โดยประกาศในราชกิจจา นุเบกษา ระเบียบดงั กล่าวจะกาหนดในลกั ษณะบงั คบั ใหเ้ ลขาธิการ กสทช. ตอ้ งมอบอานาจให้ บุคคลใดมิได้ มาตรา ๖๑ ใหป้ ระธานกรรมการ โดยความเห็นชอบของ กสทช. เป็นผแู้ ต่งต้งั และถอดถอนเลขาธิการ กสทช. เลขาธิการ กสทช. ตอ้ งมีอายไุ ม่ต่ากว่าสามสิบหา้ ปี บริบูรณ์ในวนั แต่งต้งั และตอ้ ง มีคุณสมบตั ิและไม่มลี กั ษณะตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๗ รวมท้งั คุณสมบตั ิอ่นื ตามท่ี กสทช. กาหนด มาตรา ๖๒ เลขาธิการ กสทช. มีวาระการดารงตาแหน่งคราวละหา้ ปี นบั แต่วนั ท่ี ไดร้ ับแต่งต้งั และอาจไดร้ ับแต่งต้งั อกี ได้ แต่จะดารงตาแหน่งติดต่อกนั เกินสองวาระไม่ได้ มาตรา ๖๓ นอกจากการพน้ จากตาแหน่งตามวาระตามมาตรา ๖๒ เลขาธิการ กสทช. พน้ จากตาแหน่งเม่ือ (๑) ตาย (๒) มีอายคุ รบหกสิบปี บริบรู ณ์

(๓) ลาออก (๔) เป็นบุคคลลม้ ละลาย (๕) ไดร้ ับโทษจาคกุ โดยคาพพิ ากษาถึงทีส่ ุดใหจ้ าคุก (๖) ขาดคุณสมบตั ิหรือมีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๖๑ วรรคสอง (๗) กสทช. มีมติดว้ ยคะแนนเสียงไม่นอ้ ยกวา่ สองในสามของจานวนกรรมการ ท้งั หมดใหอ้ อกจากตาแหน่งเพราะบกพร่องต่อหนา้ ท่ี มีความประพฤติเสื่อมเสีย หยอ่ น ความสามารถ หรือไม่สามารถปฏิบตั ิหนา้ ท่ีได้ มาตรา ๖๔ ใหเ้ ลขาธิการ กสทช. และพนกั งานของสานกั งาน กสทช. เป็น เจา้ หนา้ ท่ีของรัฐตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าดว้ ยการป้องกนั และปราบปรามการทุจริต พนกั งานของสานกั งาน กสทช. ตอ้ งมีคุณสมบตั ิและไม่มีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตาม ระเบยี บที่ กสทช. กาหนด และตอ้ งไม่เป็นกรรมการ ผจู้ ดั การ ผบู้ ริหาร ทีป่ รึกษา พนกั งาน ผถู้ ือ หุน้ หรือหุน้ ส่วนในบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนหรือนิติบุคคลอนื่ ใดบรรดาทป่ี ระกอบธุรกิจดา้ น กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์หรือกิจการโทรคมนาคม ใหเ้ ลขาธิการ กสทช. เป็นผดู้ ารงตาแหน่งระดบั สูงตามกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูญวา่ ดว้ ยการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริต ในการปฏิบตั ิหนา้ ทต่ี ามพระราชบญั ญตั ิน้ี ให้ เลขาธิการ กสทช. และพนกั งาน เจา้ หนา้ ท่ีเป็นเจา้ พนกั งานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๕ รายไดข้ องสานกั งาน กสทช. มีดงั ต่อไปน้ี (๑) ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ลื่นความถ่ีและคา่ ธรรมเนียมใบอนุญาต ประกอบกิจการตามมาตรา ๔๒ วรรคสอง และมาตรา ๔๕ วรรคสาม (๒) รายไดห้ รือผลประโยชน์อนั ไดม้ าจากการดาเนินงานตามอานาจหนา้ ทข่ี อง กสทช. และสานกั งาน กสทช. (๓) รายไดจ้ ากทรัพยส์ ินของสานกั งาน กสทช. (๔) เงินและทรัพยส์ ินทมี่ ีผบู้ ริจาคใหแ้ ก่สานกั งาน กสทช. ตามระเบียบที่ กสทช. กาหนดเพ่อื ใชใ้ นการดาเนินงานของสานกั งาน กสทช. (๕) เงินอดุ หนุนทว่ั ไปท่ีรัฐบาลจดั สรรให้ รายไดข้ องสานกั งาน กสทช. ตาม (๑) และ (๒) เมื่อไดห้ กั รายจ่ายสาหรับการ ดาเนินงานอยา่ งมีประสิทธิภาพของสานกั งาน กสทช. ค่าภาระต่าง ๆ ท่จี าเป็น เงินทจ่ี ดั สรรเพื่อ

สมทบกองทุนตามมาตรา ๕๒ กองทุนพฒั นาเทคโนโลยเี พือ่ การศึกษาตามกฎหมายว่าดว้ ย การศึกษาแห่งชาติ และกองทนุ พฒั นาดิจิทลั เพ่ือเศรษฐกิจและสังคมตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการ พฒั นาดิจิทลั เพ่ือเศรษฐกิจและสังคมแลว้ เหลือเทา่ ใดใหน้ าส่งเป็นรายไดแ้ ผน่ ดิน[๕๙] ในกรณีรายไดข้ องสานกั งาน กสทช. มีจานวนไม่พอสาหรับค่าใชจ้ ่ายในการ ดาเนินงานอยา่ งมีประสิทธิภาพของสานกั งาน กสทช. รวมท้งั ค่าภาระต่าง ๆ ทจี่ าเป็นและไม่ สามารถหาเงินจากแหล่งอ่นื ไดร้ ัฐพึงจดั สรรเงินงบประมาณแผน่ ดินใหแ้ ก่สานกั งาน กสทช. เทา่ จานวนที่จาเป็ น มาตรา ๖๖ เพ่อื ประโยชน์ในการจดั สรรเงินงบประมาณแผน่ ดินใหแ้ ก่สานกั งาน กสทช. ตามมาตรา ๖๕ วรรคสาม ใหส้ านกั งาน กสทช. เสนองบประมาณรายจ่ายของ ปี งบประมาณท่ขี อความสนบั สนุนต่อคณะรัฐมนตรี เพ่ือจดั สรรเงินอดุ หนุนทว่ั ไปของสานกั งาน กสทช. ไวใ้ นร่างพระราชบญั ญตั ิงบประมาณรายจ่ายประจาปี หรือร่างพระราชบญั ญตั ิ งบประมาณรายจ่ายเพ่ิมเติม แลว้ แต่กรณี ในการน้ีคณะรัฐมนตรีอาจทาความเห็นเก่ียวกบั การ จดั สรรงบประมาณของสานกั งาน กสทช. ไวใ้ นรายงานการเสนอร่างพระราชบญั ญตั ิ งบประมาณรายจ่ายประจาปี หรือร่างพระราชบญั ญตั ิงบประมาณรายจ่ายเพมิ่ เติมดว้ ยก็ได้ และใน การพจิ ารณาร่างพระราชบญั ญตั ิงบประมาณรายจ่ายประจาปี หรือร่างพระราชบญั ญตั ิงบประมาณ รายจ่ายเพม่ิ เติม สภาผแู้ ทนราษฎรหรือวฒุ ิสภาอาจขอใหเ้ ลขาธิการ กสทช. เขา้ ช้ีแจงเพอื่ ประกอบการพิจารณาได้ มาตรา ๖๗ บรรดาอสงั หาริมทรัพยท์ ่ีสานกั งาน กสทช. ไดม้ าโดยการซ้ือหรือ แลกเปลี่ยนจากรายไดข้ องสานกั งาน กสทช. ตามมาตรา ๖๕ (๑) (๒) หรือ (๓) หรือท่ีมีผบู้ ริจาค ใหต้ าม (๔) ใหเ้ ป็นกรรมสิทธ์ิของสานกั งาน กสทช. อสังหาริมทรัพยท์ ี่เป็นทีร่ าชพสั ดุตามกฎหมายว่าดว้ ยท่ีราชพสั ดุท่ีอยใู่ นความ ครอบครองของสานกั งาน กสทช. ใหส้ านกั งาน กสทช. มีอานาจในการปกครอง ดูแล บารุงรักษา ใช้ และจดั หาผลประโยชนไ์ ด้ ตามระเบยี บท่ี กสทช. กาหนด ทรัพยส์ ินของสานกั งาน กสทช. ไม่อยใู่ นความรับผดิ แห่งการบงั คบั คดี มาตรา ๖๘ การบญั ชีของสานกั งาน กสทช. ใหจ้ ดั ทาตามหลกั สากลตาม มาตรฐานของสภาผสู้ อบบญั ชี และตอ้ งจดั ใหม้ ีการตรวจสอบภายในเกี่ยวกบั การเงิน การบญั ชี และการพสั ดุของสานกั งาน กสทช. ตามระเบยี บท่ี กสทช. กาหนด

ในการตรวจสอบภายในตามวรรคหน่ึง ใหม้ ีคณะกรรมการตรวจสอบภายใน จานวนไม่นอ้ ยกว่าสามคนและไม่เกินหา้ คน ซ่ึง กสทช. แต่งต้งั จากผทู้ รงคุณวฒุ ิซ่ึงมีความรู้ ความสามารถในการตรวจสอบภายในและมีคุณสมบตั ิและไม่มีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๗ และมาตรา ๘ และใหส้ านกั งาน กสทช. จดั ใหม้ ีเจา้ หนา้ ท่ผี ตู้ รวจสอบภายในมีจานวนตามสมควร ข้ึนตรงต่อคณะกรรมการตรวจสอบภายใน เพื่อทาหนา้ ท่ีช่วยคณะกรรมการตรวจสอบภายในใน การดาเนินการตามอานาจหนา้ ท่ี ใหค้ ณะกรรมการตรวจสอบภายในมีอสิ ระในการปฏิบตั ิหนา้ ที่ และให้ กสทช. เลขาธิการ กสทช. และพนกั งานของสานกั งาน กสทช. อานวยความสะดวกแก่คณะกรรมการ ตรวจสอบภายในและเจา้ หนา้ ทผ่ี ตู้ รวจสอบภายในตามที่ร้องขอ ใหค้ ณะกรรมการตรวจสอบภายในแจง้ ผลการตรวจสอบต่อ กสทช. ทกุ หน่ึงร้อย แปดสิบวนั วาระการดารงตาแหน่ง การพน้ จากตาแหน่ง และการประชุมของคณะกรรมการ ตรวจสอบภายในใหเ้ ป็นไปตามระเบยี บที่ กสทช. กาหนด มาตรา ๖๙ ใหส้ านกั งาน กสทช. จดั ทางบดุล งบการเงิน และบญั ชีทาการส่ง ผสู้ อบบญั ชีภายในหกสิบวนั นบั แต่วนั สิ้นปี บญั ชี ในทุกรอบปี ใหส้ านกั งานการตรวจเงินแผน่ ดินเป็นผสู้ อบบญั ชีและประเมินผล การใชจ้ ่ายเงินและทรัพยส์ ินของสานกั งาน กสทช. โดยใหว้ ิเคราะห์ประสิทธิผลของการใช้ จ่ายเงินพร้อมท้งั แสดงความคิดเห็นวา่ การใชจ้ ่ายดงั กล่าวเป็นไปตามวตั ถุประสงค์ และไดผ้ ลตาม เป้าหมายเพียงใดดว้ ยแลว้ ทาบนั ทกึ รายงานผลเสนอต่อ กสทช. คณะรัฐมนตรี และรัฐสภา ใหส้ านกั งาน กสทช. เป็นหน่วยรับตรวจตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญวา่ ดว้ ยการตรวจเงินแผน่ ดิน ในเวลาใด ๆ ท่สี านกั งานการตรวจเงินแผน่ ดินตรวจพบวา่ การใชจ้ ่ายเงินและ ทรัพยส์ ินของสานกั งาน กสทช. ไม่เกิดประสิทธิผล หรือเป็ นการฟ่ ุมเฟื อยเกินสมควร หรือการ ดาเนินการใดไมถ่ ูกตอ้ งตรงตามแผน หรือจะก่อใหเ้ กิดความเสียหายต่อประโยชนส์ ่วนรวม ให้ สานกั งานการตรวจเงินแผน่ ดินแจง้ ให้ กสทช. ทราบ และให้ กสทช. ดาเนินการปรบั ปรุงแกไ้ ข หรือระงบั การดาเนินการตามควรแก่กรณีภายในระยะเวลาที่สานกั งานการตรวจเงินแผน่ ดิน กาหนด และหากปรากฏว่า กสทช. ไม่ดาเนินการภายในระยะเวลาดงั กล่าวโดยไม่มีเหตุอนั ควร สานกั งานการตรวจเงินแผน่ ดินอาจพิจารณารายงานต่อวุฒิสภาเพ่ือพจิ ารณาดาเนินการตาม อานาจหนา้ ท่ตี ่อไป[๖๐]

หมวด ๖ การตดิ ตาม ตรวจสอบ และประเมนิ ผลการดาเนินการและการบริหารงาน มาตรา ๗๐ ใหม้ ีคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงานคณะหน่ึง ประกอบดว้ ยประธานกรรมการคนหน่ึงและกรรมการอ่ืนอีกจานวนสี่คน ซ่ึงมีคุณสมบตั ิ ดงั ต่อไปน้ี (๑) เป็นผทู้ ม่ี ีผลงานหรือมีความรู้ และมคี วามเชี่ยวชาญหรือประสบการณ์ดา้ น กิจการกระจายเสียง จานวนหน่ึงคน และดา้ นกิจการโทรทศั น์ จานวนหน่ึงคน (๒) เป็นผทู้ ีม่ ีผลงานหรือมีความรู้ และมคี วามเช่ียวชาญหรือประสบการณ์ดา้ น กิจการโทรคมนาคม จานวนหน่ึงคน (๓) เป็นผทู้ ม่ี ีผลงานและประสบการณ์ดา้ นการคุม้ ครองผบู้ ริโภค จานวนหน่ึงคน (๔) เป็นผทู้ ีม่ ีผลงานและประสบการณ์ดา้ นการส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของ ประชาชน จานวนหน่ึงคน ใหป้ ระธานวฒุ ิสภาจดั ใหม้ กี ารดาเนินการคดั เลือกบุคคลผสู้ มควรไดร้ ับการเสนอ ชื่อเป็นกรรมการจานวนสองเทา่ ของจานวนกรรมการตามวรรคหน่ึง เพื่อนาเสนอใหว้ ุฒิสภา พิจารณาคดั เลือกต่อไป ท้งั น้ี ตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการทป่ี ระธานวุฒิสภากาหนด ใหผ้ ไู้ ดร้ ับการคดั เลือกเป็นกรรมการประชุมร่วมกนั เพื่อคดั เลือกผสู้ มควรเป็น ประธานกรรมการ มาตรา ๗๑ กรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงานมีวาระการดารง ตาแหน่งคราวละสามปี และจะแต่งต้งั ใหด้ ารงตาแหน่งสองวาระติดต่อกนั มิได้ กรรมการตามวรรคหน่ึงตอ้ งไม่เป็นกรรมการ กสทช. กสท. กทค. อนุกรรมการ เลขาธิการ กสทช. พนกั งานหรือลูกจา้ งของสานกั งาน กสทช. และใหน้ าความในมาตรา ๗ มาตรา ๘ และมาตรา ๒๐ (๑) (๓) (๔) และ (๕) มาใชบ้ งั คบั โดยอนุโลม ในกรณีท่กี รรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงานพน้ จากตาแหน่งดว้ ย เหตุอื่นนอกจากการพน้ จากตาแหน่งตามวาระ ใหก้ รรมการเท่าทีเ่ หลืออยปู่ ฏิบตั ิหนา้ ที่ต่อไปได้ และใหถ้ ือวา่ คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงานประกอบดว้ ยกรรมการเท่าที่ เหลืออยู่ เวน้ แต่มีกรรมการเหลืออยไู่ ม่ถึงสามคน

วิธีการประชุมและการลงมติใหเ้ ป็นไปตามระเบยี บท่คี ณะกรรมการติดตามและ ประเมินผลการปฏิบตั ิงานกาหนด ค่าตอบแทนและค่าใชจ้ ่ายอ่ืนในการสรรหาและการปฏิบตั ิงานของกรรมการ ติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงานใหเ้ ป็ นไปตามระเบยี บท่ี กสทช. กาหนด มาตรา ๗๒ ใหค้ ณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงาน มีอานาจ หนา้ ท่ีติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดาเนินการและการบริหารงานของ กสทช. กสท. กทค. สานกั งาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. แลว้ แจง้ ผลให้ กสทช. ทราบภายในเกา้ สิบวนั นบั แต่วนั สิ้นปี บญั ชี และให้ กสทช. นารายงานดงั กล่าวเสนอต่อรัฐสภาพร้อมรายงานผลการ ปฏิบตั ิงานประจาปี ของ กสทช. ตามมาตรา ๗๖ และเปิ ดเผยรายงานดงั กล่าวใหป้ ระชาชนทราบ ทางระบบเครือข่ายสารสนเทศของสานกั งาน กสทช. หรือวธิ ีการอืน่ ทเี่ ห็นสมควร การประเมินตามวรรคหน่ึงตอ้ งอยบู่ นพ้นื ฐานขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ มูลต่าง ๆ และ ตอ้ งมีการรับฟังความคิดเห็นของผมู้ ีส่วนไดเ้ สียประกอบดว้ ย คณะกรรมการอาจมอบหมายใหห้ น่วยงานหรือองคก์ รทมี่ ีความเช่ียวชาญเป็นผู้ รวบรวมขอ้ มูล วเิ คราะห์ และประเมินผลเพอ่ื ประโยชนใ์ นการจดั ทารายงาน มาตรา ๗๓ รายงานตามมาตรา ๗๒ อยา่ งนอ้ ยจะตอ้ งมีเน้ือหา ดงั ต่อไปน้ี (๑) ผลการปฏิบตั ิงานของ กสทช. กสท. กทค. สานกั งาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. (๒) รายงานขอ้ เทจ็ จริงหรือขอ้ สงั เกตจากการปฏิบตั ิตามอานาจหนา้ ที่ของ กสทช. ในส่วนทเี่ ก่ียวกบั การปฏิบตั ิหนา้ ท่อี ยา่ งมีประสิทธิภาพและความสอดคลอ้ งกบั นโยบายของ รัฐบาล พร้อมท้งั ความเห็นและขอ้ เสนอแนะ (๓) ความเห็นเกี่ยวกบั รายงานประจาปี ท่ี กสทช. ไดจ้ ดั ทาข้ึนตามมาตรา ๗๖ (๔) เรื่องอ่นื ๆ ที่เห็นสมควรรายงานให้ กสทช. รัฐสภา หรือประชาชน ทราบ ให้ กสทช. กสท. กทค. สานกั งาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. ใหค้ วามร่วมมือ และอานวยความสะดวกใหแ้ ก่คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ิงานตามทร่ี ้องขอ

หมวด ๗ ความสัมพนั ธ์กบั รัฐบาลและรัฐสภา มาตรา ๗๔[๖๑] ในการดาเนินการตามอานาจหนา้ ท่ี กสทช. ตอ้ งดาเนินการให้ สอดคลอ้ งกบั นโยบายท่คี ณะรัฐมนตรีแถลงไวต้ ่อรัฐสภา และตอ้ งสอดคลอ้ งกบั นโยบายและ แผนระดบั ชาติว่าดว้ ยการพฒั นาดิจิทลั เพ่ือเศรษฐกิจและสงั คม มาตรา ๗๕ ในกรณีท่จี ะตอ้ งมีการเจรจาหรือทาความตกลงระหวา่ งรัฐบาลแห่ง ราชอาณาจกั รไทยกบั รัฐบาลต่างประเทศหรือองคก์ ารระหวา่ งประเทศ ในเรื่องทเี่ กี่ยวกบั การ บริหารคลื่นความถี่ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ กิจการโทรคมนาคม หรือการอ่นื ท่ี เก่ียวขอ้ ง กสทช. และสานกั งาน กสทช. มีหนา้ ทีต่ อ้ งใหข้ อ้ มูลและร่วมดาเนินการตามท่รี ัฐบาล แจง้ ใหท้ ราบ มาตรา ๗๖ ให้ กสทช. จดั ทารายงานผลการปฏิบตั ิงานประจาปี ในดา้ นการ บริหารคล่ืนความถ่ี กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม แลว้ แต่กรณี ซ่ึงตอ้ งแสดงรายละเอยี ดแผนงานและผลการปฏิบตั ิงาน รายละเอียดเกี่ยวกบั การบริหารคลื่น ความถี่ การจดั สรรคลื่นความถ่ี การประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการ โทรคมนาคม แลว้ แต่กรณี และแผนการดาเนินงานในระยะต่อไปเสนอต่อคณะรัฐมนตรีและ รัฐสภาภายในหน่ึงร้อยยส่ี ิบวนั นบั แต่วนั สิ้นปี บญั ชี และเปิ ดเผยใหป้ ระชาชนทราบ รายงานผลการปฏิบตั ิงานประจาปี ตามวรรคหน่ึงอยา่ งนอ้ ยตอ้ งมีเน้ือหา ดงั ต่อไปน้ี (๑) ผลงานของ กสทช. ในปี ที่ล่วงมาแลว้ เม่ือเปรียบเทยี บกบั แผนงานหรือ โครงการที่กาหนดไว้ (๒) แผนงาน โครงการ และแผนงบประมาณสาหรับปี ถดั ไป (๓) งบการเงินและรายงานของผสู้ อบบญั ชี รายงานการตรวจสอบภายใน (๔) ปัญหาและอปุ สรรคในการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคมประเภทต่าง ๆ ทมี่ ีความสาคญั ต่อประชาชน (๕) คุณภาพและอตั ราค่าบริการโทรคมนาคมประเภทต่าง ๆ ท่ีมีความสาคญั ต่อ ประชาชน

(๖) ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการพจิ ารณาเรื่องร้องเรียนของผบู้ ริโภค (๗) ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของกองทนุ ตามมาตรา ๕๒ (๘) รายงานเก่ียวกบั สภาพการแข่งขนั ของตลาดในการประกอบกิจการกระจาย เสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคมประเภทต่าง ๆ รวมท้งั ขอ้ สังเกตเกี่ยวกบั การ กระทาอนั มีลกั ษณะเป็นการครอบงากิจการท้งั ทางตรงและทางออ้ มทมี่ ีผลกระทบกบั ประโยชน์ ของรัฐและประชาชน นายกรัฐมนตรี สภาผแู้ ทนราษฎร และวฒุ ิสภา อาจขอให้ กสทช. หรือ เลขาธิการ กสทช. แลว้ แต่กรณี ช้ีแจงการดาเนินงานในเร่ืองใดเรื่องหน่ึงเป็ นหนงั สือหรือขอให้ มาช้ีแจงดว้ ยวาจาก็ได้ หมวด ๘ บทกาหนดโทษ มาตรา ๗๖/๑[๖๒] ผใู้ ดฝ่ าฝื นมาตรา ๒๒/๑ ตอ้ งระวางโทษปรับไม่เกินหน่ึงลา้ น บาท มาตรา ๗๗ ผปู้ ระกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ หรือกิจการ โทรคมนาคมผใู้ ดไดร้ ับคาสั่งตามมาตรา ๓๑ วรรคสอง แลว้ ไม่ปฏิบตั ิตาม ให้ กสทช. มีอานาจ ปรับทางปกครองไม่เกินหา้ ลา้ นบาท และปรับอีกวนั ละไม่เกินหน่ึงแสนบาทตลอดเวลาท่ยี งั มิได้ ปฏิบตั ิตามคาส่งั มาตรา ๗๘ ผใู้ ดใชค้ ลื่นความถี่เพื่อกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ หรือ กิจการโทรคมนาคม โดยไม่ไดร้ ับอนุญาตตามมาตรา ๔๑ วรรคหน่ึง หรือมาตรา ๔๕ วรรคหน่ึง ผนู้ ้นั ตอ้ งรับโทษตามที่บญั ญตั ิไวส้ าหรับความผดิ ตามมาตรา ๖๖ แห่งพระราชบญั ญตั ิการ ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ พ.ศ. ๒๕๕๑ หรือตามมาตรา ๖๗ แห่ง พระราชบญั ญตั ิการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ แลว้ แต่กรณี มาตรา ๗๙ พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ี กสทช. หรือผซู้ ่ึงใชอ้ านาจของ กสทช. ท่ีรู้หรือ ไดร้ ับแจง้ จากบคุ คลใดวา่ มีการใชค้ ล่ืนความถ่ีอนั เป็นการฝ่ าฝื นหรือไม่ปฏิบตั ิตาม

พระราชบญั ญตั ิน้ี หากมิไดด้ าเนินการบงั คบั การใหเ้ ป็นไปตามพระราชบญั ญตั ิน้ี และการกระทา หรืองดเวน้ การกระทาน้นั ไม่เป็นความผดิ ตามมาตรา ๑๕๗ แห่งประมวลกฎหมายอาญา พนกั งานเจา้ หนา้ ที่ กสทช. หรือผซู้ ่ึงใชอ้ านาจของ กสทช. ทีก่ ระทาการดงั กล่าว ตอ้ งระวางโทษ จาคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือท้งั จาท้งั ปรับ บทเฉพาะกาล มาตรา ๘๐ ในระหวา่ งทกี่ ารแต่งต้งั กสทช. ตามพระราชบญั ญตั ิน้ียงั ไม่แลว้ เสร็จ ใหค้ ณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติที่ไดแ้ ต่งต้งั ข้ึนตามพระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรร คล่ืนความถี่และกากบั กิจการวทิ ยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ ยงั คงปฏิบตั ิหนา้ ที่ต่อไปในฐานะ กสทช. ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี แต่ในส่วนทเี่ ก่ียวกบั การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบกิจการ กระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ใหเ้ ป็นไปตามกฎหมายดงั กล่าว เมื่อ กสทช. ไดร้ ับการแต่งต้งั แลว้ ใหค้ ณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ตามวรรคหน่ึง เป็นอนั พน้ จากหนา้ ท่ี มาตรา ๘๑ ใหค้ ณะกรรมการตามพระราชบญั ญตั ิการประกอบกิจการกระจาย เสียงและกิจการโทรทศั น์ พ.ศ. ๒๕๕๑ คณะกรรมการตามพระราชบญั ญตั ิการประกอบกิจการ โทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั นแ์ ห่งชาติ ตามมาตรา ๖๑ แห่งพระราชบญั ญตั ิองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศ ไทย พ.ศ. ๒๕๕๑ หมายความถึง กสทช. ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ใหบ้ รรดาอานาจหนา้ ท่ขี องรัฐมนตรี อธิบดีกรมไปรษณียโ์ ทรเลข และเจา้ พนกั งานผอู้ อกใบอนุญาต ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยวิทยคุ มนาคมเป็นอานาจหนา้ ท่ีของ กสทช. ตาม พระราชบญั ญตั ิน้ี มาตรา ๘๒ เม่ือมีการแต่งต้งั กสทช. แลว้ ใหส้ ่วนราชการ รัฐวสิ าหกิจ หน่วยงาน ของรัฐหรือบุคคลใดทไ่ี ดร้ ับจดั สรรคลื่นความถี่หรือใชค้ ลื่นความถี่เพ่อื การประกอบกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม อยใู่ นวนั ทพี่ ระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั มี

หนา้ ทีแ่ จง้ รายละเอียดการใชป้ ระโยชนค์ ล่ืนความถี่ รวมท้งั เหตุแห่งความจาเป็นในการถือครอง คลื่นความถี่ต่อ กสทช. ตามหลกั เกณฑ์ และระยะเวลาที่ กสทช. กาหนด ในการดาเนินการตามวรรคหน่ึง ใหส้ ่วนราชการ รัฐวสิ าหกิจ และหน่วยงานของ รัฐแจง้ รายละเอยี ดเก่ียวกบั การอนุญาต สัมปทาน หรือสญั ญา รวมถึงอายสุ ญั ญาและคา่ สมั ปทาน หรือค่าตอบแทนต่าง ๆ ตามการอนุญาต สัมปทาน หรือสญั ญาน้นั ต่อ กสทช. ตามหลกั เกณฑ์ และวิธีการท่ี กสทช. กาหนด และให้ กสทช. ตรวจสอบความชอบดว้ ยกฎหมายของการอนุญาต สัมปทานหรือสัญญาน้นั พร้อมท้งั เปิ ดเผยขอ้ มูลและผลการตรวจสอบใหส้ าธารณชนทราบ มาตรา ๘๓ ผไู้ ดร้ ับจดั สรรคลื่นความถ่ีหรือใชค้ ลื่นความถ่ีเพือ่ การประกอบ กิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทศั นท์ ี่ชอบดว้ ยกฎหมาย อยใู่ นวนั ท่พี ระราชบญั ญตั ิน้ีใช้ บงั คบั และไดป้ ฏิบตั ิตามมาตรา ๘๒ แลว้ ใหถ้ ือว่าไดร้ ับอนุญาตจาก กสทช. ตามพระราชบญั ญตั ิ น้ี และให้ กสทช. กากบั ดูแลใหผ้ ไู้ ดร้ ับจดั สรรคล่ืนความถ่ีหรือใชค้ ลื่นความถ่ีน้นั ปฏิบตั ิตาม พระราชบญั ญตั ิน้ี กฎหมายอืน่ และตามหลกั เกณฑท์ ี่ กสทช. กาหนด ท้งั น้ี จนกว่าจะถึงกาหนดที่ ตอ้ งคืนคลื่นความถ่ีตามวรรคสาม ความในมาตรา ๔๓ มิใหใ้ ชบ้ งั คบั กบั ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจทน่ี าคลื่น ความถี่ท่ีไดร้ ับจดั สรรไปใหผ้ อู้ น่ื ประกอบกิจการโดยการอนุญาต สมั ปทาน หรือตามสญั ญาที่ ชอบดว้ ยกฎหมายและใหผ้ ไู้ ดร้ ับอนุญาต สัมปทาน หรือสญั ญาประกอบกิจการต่อไปไดเ้ ฉพาะ ในช่วงระยะเวลาท่เี หลืออยตู่ ามการอนุญาต สมั ปทาน หรือตามสัญญาน้นั ให้ กสทช. กาหนดระยะเวลาทแี่ น่นอนในการใหผ้ ไู้ ดร้ ับจดั สรรคลื่นความถ่ีหรือ ใชค้ ล่ืนความถี่คืนคล่ืนความถี่ดงั กลา่ วเพ่ือนาไปจดั สรรใหม่หรือปรับปรุงการใชค้ ลื่นความถี่ ตามท่กี าหนดไวใ้ นแผนแม่บทการบริหารคล่ืนความถี่ตามมาตรา ๔๘ โดยคานึงถึงประโยชน์ สาธารณะและความจาเป็นของการประกอบกิจการและการใชค้ ลื่นความถี่ ท้งั น้ี ใหน้ าเหตุแห่ง ความจาเป็นในการถือครองคล่ืนความถ่ีตามทีไ่ ดร้ ับแจง้ ตามมาตรา ๘๒ มาพิจารณาประกอบดว้ ย มาตรา ๘๔ ผไู้ ดร้ ับจดั สรรคลนื่ ความถี่หรือใชค้ ล่ืนความถ่ีเพอ่ื กิจการ โทรคมนาคมท่ีชอบดว้ ยกฎหมายอยใู่ นวนั ท่พี ระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั และไดป้ ฏิบตั ิตามมาตรา ๘๒ แลว้ ใหถ้ ือว่าไดร้ ับอนุญาตจาก กสทช. ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี และให้ กสทช. กากบั ดูแลให้ ผไู้ ดร้ ับจดั สรรคลื่นความถ่ีหรือใชค้ ล่ืนความถ่ีน้นั ปฏิบตั ิตามพระราชบญั ญตั ิน้ี กฎหมายอืน่ และ ตามหลกั เกณฑท์ ่ี กสทช. กาหนด ท้งั น้ี จนกว่าจะถึงกาหนดทต่ี อ้ งคืนคล่ืนความถ่ีตามวรรคสี่

ความในมาตรา ๔๖ มิใหใ้ ชบ้ งั คบั กบั รัฐวิสาหกิจที่นาคล่ืนความถี่ท่ีไดร้ ับจดั สรร ไปใหผ้ อู้ นื่ ประกอบกิจการโดยการอนุญาต สมั ปทาน หรือตามสัญญาท่ชี อบดว้ ยกฎหมายและให้ ผไู้ ดร้ ับอนุญาต สมั ปทาน หรือสัญญาประกอบกิจการต่อไปไดเ้ ฉพาะในช่วงระยะเวลาทเี่ หลืออยู่ ตามการอนุญาต สมั ปทาน หรือตามสญั ญาน้นั เมื่อพน้ กาหนดระยะเวลาสามปี นบั แต่วนั ที่พระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั ให้ รัฐวสิ าหกิจนารายไดจ้ ากผลประกอบการในส่วนท่ีไดร้ ับจากการใหอ้ นุญาต สัมปทาน หรือ สญั ญาตามวรรคสองทรี่ ัฐวสิ าหกิจไดด้ าเนินการตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการใหเ้ อกชนเขา้ ร่วมงาน หรือดาเนินการในกิจการของรัฐ ท้งั น้ี ไม่ว่าจะไดด้ าเนินการท้งั หมดหรือบางส่วน โดยใหห้ กั ค่าใชจ้ ่ายดงั ต่อไปน้ีแลว้ เหลือเท่าใดใหส้ ่ง กสทช. และให้ กสทช. นาส่งเงินจานวนดงั กล่าวเป็น รายไดแ้ ผน่ ดินต่อไป (๑) ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการ เฉพาะในส่วนทค่ี ิดจากฐานรายไดท้ ี่ เกิดจากการอนุญาต สมั ปทาน หรือสญั ญา (๒) ค่าใชจ้ ่ายเพ่อื สนบั สนุนการจดั ใหม้ ีบริการโทรคมนาคมพ้นื ฐานโดยทวั่ ถึง และบริการเพ่อื สงั คมตามนโยบายของรัฐบาล และตามมาตรา ๕๐ เฉพาะในส่วนท่ีคิดจากฐาน รายไดท้ เ่ี กิดจากการอนุญาต สมั ปทาน หรือสัญญา (๓) คา่ ใชจ้ ่ายที่เกิดข้ึนจากการดาเนินการตามการอนุญาต สัมปทาน หรือสญั ญา ตามท่ีกระทรวงการคลงั กาหนด ให้ กสทช. กาหนดระยะเวลาท่ีแน่นอนในการใหผ้ ไู้ ดร้ ับจดั สรรคลื่นความถี่หรือ ใชค้ ลื่นความถ่ีคืนคลื่นความถ่ีดงั กลา่ วเพ่ือนาไปจดั สรรใหม่หรือปรับปรุงการใชค้ ลื่นความถี่ ตามทีก่ าหนดไวใ้ นแผนแม่บทการบริหารคล่ืนความถี่ตามมาตรา ๔๘ โดยใหน้ าความในมาตรา ๘๓ วรรคสาม มาใชบ้ งั คบั โดยอนุโลม มาตรา ๘๕ ในวาระเร่ิมแรกมิใหน้ าบทบญั ญตั ิมาตรา ๔๙ ในส่วนที่เก่ียวกบั การ จดั ใหภ้ าคประชาชนไดใ้ ชค้ ลื่นความถ่ีในกิจการโทรทศั น์ไม่นอ้ ยกว่าร้อยละยส่ี ิบมาใช้ บงั คบั ท้งั น้ี จนกวา่ กสทช. จะประกาศใหใ้ ชร้ ะบบการรับส่งสัญญาณวิทยโุ ทรทศั นใ์ นระบบ ดิจิตอลแลว้ ให้ กสทช. จดั ใหม้ ีแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถ่ีตามมาตรา ๔๘ ภายใน ระยะเวลาหน่ึงปี นบั แต่เมื่อมีการแต่งต้งั กสทช. แลว้ โดยแผนดงั กล่าวตอ้ งกาหนดใหม้ ีการ กาหนดเวลาในการเปล่ียนไปสู่ระบบการรบั ส่งสญั ญาณวทิ ยโุ ทรทศั น์ในระบบดิจิตอลและ กาหนดเวลาเกี่ยวกบั การจดั ใหภ้ าคประชาชนไดใ้ ชค้ ลื่นความถ่ีในกิจการโทรทศั น์ดว้ ย

หลงั จากประกาศใชแ้ ผนแม่บทการบริหารคลื่นความถ่ีแลว้ ในช่วงเวลาทยี่ งั มิได้ ประกาศใหใ้ ชร้ ะบบการรับส่งสัญญาณวิทยโุ ทรทศั น์ในระบบดิจิตอลให้ กสทช. จดั สรรคลื่น ความถใี่ หภ้ าคประชาชนไดใ้ ชใ้ นกิจการโทรทศั นเ์ ป็ นการชว่ั คราวเฉพาะในพ้ืนทีท่ ี่มีคล่ืนความถ่ี เพียงพอทจี่ ะดาเนินการจดั สรรได้ มาตรา ๘๖ ผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมท่คี ณะกรรมการ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติมอบหมายใหด้ าเนินการจดั ใหม้ ีบริการโทรคมนาคมพ้ืนฐานโดย ทว่ั ถึงและบริการเพ่อื สังคมตามพระราชบญั ญตั ิการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ ก่อนวนั ทีพ่ ระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั ใหไ้ ดร้ ับยกเวน้ ไม่ตอ้ งนาส่งค่าใชจ้ ่ายเขา้ กองทนุ ตามมาตรา ๕๐ จนกว่าจะสิ้นสุดระยะเวลาตามทีก่ าหนดไวใ้ นประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม แห่งชาติ เร่ือง หลกั เกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการจดั ใหม้ ีบริการโทรคมนาคมพ้นื ฐานโดย ทว่ั ถึงและบริการเพอ่ื สงั คม มาตรา ๘๗ บรรดาใบอนุญาตทีอ่ อกโดยชอบดว้ ยกฎหมายตามพระราชบญั ญตั ิ วิทยคุ มนาคม พ.ศ. ๒๔๙๘ พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคล่ืนความถี่และกากบั กิจการ วทิ ยกุ ระจายเสียงวิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ พระราชบญั ญตั ิการ ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ พ.ศ. ๒๕๕๑ และพระราชบญั ญตั ิการประกอบ กิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ ก่อนวนั ท่พี ระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั ใหค้ งใชไ้ ดต้ ่อไปจนกวา่ จะสิ้นอายุ และใหถ้ ือวา่ เป็นใบอนุญาตท่ีออกตามพระราชบญั ญตั ิน้ี โดยให้ กสทช. กากบั ดูแลให้ ผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตปฏิบตั ิตามพระราชบญั ญตั ิน้ีกฎหมายอืน่ ท่ีเกี่ยวขอ้ ง และตามหลกั เกณฑท์ ี่ กสทช. กาหนด ใบอนุญาตใดตามวรรคหน่ึงทใ่ี หส้ ิทธิในการถือครองหรือใชค้ ล่ืนความถ่ีและ มิไดก้ าหนดวนั สิ้นอายใุ หค้ งใชไ้ ดต้ ่อไปจนกวา่ จะถึงวนั ที่ กสทช. กาหนดใหใ้ บอนุญาตดงั กล่าว สิ้นอายลุ ง โดยใหน้ าความในมาตรา ๘๓ วรรคสามมาใชบ้ งั คบั โดยอนุโลม มาตรา ๘๘ ภายในหน่ึงร้อยยส่ี ิบวนั นบั แต่วนั ทีพ่ ระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั ให้ กสทช. ออกใบอนุญาตใหใ้ ชค้ ลื่นความถ่ีและใบอนุญาตประกอบกิจการตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการ ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น์ ใหแ้ ก่องคก์ ารกระจายเสียงและแพร่ภาพ สาธารณะแห่งประเทศไทยตามลกั ษณะและประเภทของการประกอบกิจการ รวมท้งั ขอบเขต การใหบ้ ริการเทา่ ทม่ี ีอยใู่ นวนั ทพี่ ระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั

การใชค้ ล่ืนความถ่ีเพอื่ ประกอบกิจการเพิ่มเติมจากท่ไี ดร้ ับใบอนุญาตตามวรรค หน่ึงตอ้ งสอดคลอ้ งกบั แผนแม่บทการบริหารคล่ืนความถ่ี และตอ้ งไดร้ ับใบอนุญาตจาก กสทช. ในการน้ี กสทช. จะกาหนดเง่ือนไขใด ๆ ท่ีจาเป็นเพอื่ ประโยชนส์ าธารณะกไ็ ด้ การประกอบกิจการขององคก์ ารกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่ง ประเทศไทยใหอ้ ยภู่ ายใตพ้ ระราชบญั ญตั ิน้ีเพยี งเทา่ ท่ไี ม่ขดั หรือแยง้ กบั กฎหมายวา่ ดว้ ยองคก์ าร กระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ในระหวา่ งทยี่ งั มิไดร้ ับใบอนุญาตตามวรรคหน่ึง ใหอ้ งคก์ ารกระจายเสียงและ แพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยประกอบกิจการต่อไปได้ มาตรา ๘๙ ใหโ้ อนบรรดากิจการ ทรัพยส์ ิน สิทธิ หนา้ ที่ หน้ี พนกั งานและลูกจา้ ง และเงินงบประมาณ ของสานกั งานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติท่มี ีอยไู่ ปเป็ นของ สานกั งาน กสทช. ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ใหพ้ นกั งานและลูกจา้ งท่ีโอนไปตามวรรคหน่ึงไดร้ ับเงินเดือน เงินประจา ตาแหน่งหรือค่าจา้ ง รวมท้งั สิทธิและประโยชน์ต่าง ๆ เท่ากบั ทีเ่ คยไดร้ ับอยเู่ ดิมไปพลางก่อน จนกว่าจะไดบ้ รรจุและแต่งต้งั ใหด้ ารงตาแหน่งในสานกั งาน กสทช. แต่จะแต่งต้งั ใหไ้ ดร้ ับ เงินเดือนหรือค่าจา้ งต่ากว่าเงินเดือนหรือค่าจา้ งทไ่ี ดร้ ับอยเู่ ดิมไม่ได้ ในกรณีทพ่ี นกั งานหรือลูกจา้ งผใู้ ดอยภู่ ายใตร้ ะเบยี บหรือสัญญาจา้ งที่มิไดก้ าหนด ระยะเวลาการจา้ ง มิใหถ้ ือวา่ การจา้ งโดยไม่มีกาหนดระยะเวลาดงั กล่าวเป็นสิทธิและประโยชน์ ตามวรรคสอง มาตรา ๙๐ ในวาระเริ่มแรก ใหด้ าเนินการแต่งต้งั เลขาธิการ กสทช. ตาม พระราชบญั ญตั ิน้ีภายในกาหนดเกา้ สิบวนั นบั แต่วนั ทีม่ ีการแต่งต้งั กสทช. ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ในระหวา่ งทีย่ งั ไม่มีเลขาธิการ กสทช. ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ใหเ้ ลขาธิการ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติตามพระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคล่ืนความถี่และ กากบั กิจการวทิ ยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ ซ่ึงดารง ตาแหน่งอยใู่ นวนั ก่อนวนั ท่พี ระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั ดารงตาแหน่งเลขาธิการ กสทช. ไปพลาง ก่อน มาตรา ๙๑ ใหโ้ อนเงินและทรัพยส์ ินของกองทนุ พฒั นากิจการกระจายเสียงและ กิจการโทรทศั น์เพ่อื ประโยชน์สาธารณะ และกองทุนพฒั นากิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์

สาธารณะตามพระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคลื่นความถ่ีและกากบั กิจการวิทยกุ ระจายเสียง วทิ ยุ โทรทศั น์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ ที่มีอยใู่ นวนั ท่พี ระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั ไป เป็นของกองทุนตามพระราชบญั ญตั ิน้ี มาตรา ๙๒ ใหโ้ อนบรรดากิจการ ทรัพยส์ ิน สิทธิ หนา้ ที่ ของกรมประชาสัมพนั ธ์ สานกั นายกรัฐมนตรี ในส่วนทเ่ี ก่ียวกบั กองงานคณะกรรมการกิจการวทิ ยกุ ระจายเสียงและวทิ ยุ โทรทศั น์แห่งชาติ กรมประชาสัมพนั ธ์ สานกั นายกรัฐมนตรี ที่มีอยใู่ นวนั ท่ีพระราชบญั ญตั ิน้ีใช้ บงั คบั ไปเป็นของสานกั งาน กสทช. เวน้ แต่เงินงบประมาณหมวดเงินเดือนและค่าจา้ งประจาซ่ึงมี ผคู้ รองอยใู่ หโ้ อนไปเป็นของกรมประชาสัมพนั ธ์ สานกั นายกรัฐมนตรี มาตรา ๙๓ ขา้ ราชการและลูกจา้ งของกองงานคณะกรรมการกิจการวิทยกุ ระจาย เสียงและวทิ ยโุ ทรทศั น์แห่งชาติ กรมประชาสมั พนั ธ์ สานกั นายกรัฐมนตรี ท่ีดารงตาแหน่งอยใู่ น วนั ก่อนวนั ทพี่ ระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั ถา้ สมคั รใจจะโอนไปเป็ นพนกั งานหรือลูกจา้ งของ สานกั งาน กสทช. เมื่อไดแ้ จง้ ความจานงเป็นหนงั สือต่อผบู้ งั คบั บญั ชาภายในเกา้ สิบวนั นบั แต่ วนั ทีพ่ ระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั ใหส้ านกั งาน กสทช. บรรจุและแต่งต้งั ขา้ ราชการหรือลูกจา้ งผู้ น้นั เป็นพนกั งานหรือลูกจา้ งของสานกั งาน กสทช. ตามหลกั เกณฑท์ ี่ กสทช. กาหนด แต่จะ กาหนดใหไ้ ดร้ ับเงินเดือนหรือค่าจา้ งต่ากว่าเงินเดือนหรือค่าจา้ งท่ีไดร้ ับอยเู่ ดิมไม่ได้ สาหรับผทู้ ่ี ไม่ไดแ้ จง้ ความจานงภายในระยะเวลาดงั กล่าวใหก้ ลบั ไปปฏิบตั ิหนา้ ท่ใี นกรมประชาสมั พนั ธ์ สานกั นายกรัฐมนตรี ในระหวา่ งที่ยงั ไม่มี กสทช. ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ใหอ้ านาจของ กสทช. ตาม วรรคหน่ึงเป็นอานาจของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติที่ไดแ้ ต่งต้งั ข้ึนตาม พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคล่ืนความถ่ีและกากบั กิจการวิทยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และ กิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๙๔ การบรรจุและแต่งต้งั ขา้ ราชการตามมาตรา ๙๓ ใหถ้ ือว่าเป็นการให้ ออกจากราชการเพราะเลิกหรือยบุ ตาแหน่งตามกฎหมายวา่ ดว้ ยบาเหน็จบานาญขา้ ราชการ หรือ กฎหมายวา่ ดว้ ยกองทนุ บาเหนจ็ บานาญขา้ ราชการ การบรรจุและแต่งต้งั ลูกจา้ งตามมาตรา ๙๓ ใหถ้ ือวา่ เป็นการออกจากงานเพราะ ทางราชการยบุ ตาแหน่งหรือทางราชการเลิกจา้ งโดยไม่มีความผดิ และใหไ้ ดร้ ับบาเหนจ็ ตาม ระเบยี บกระทรวงการคลงั วา่ ดว้ ยบาเหนจ็ ลกู จา้ ง

มาตรา ๙๕ ใหบ้ รรดาระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ประกาศ หรือคาสงั่ ท่ีออกตาม พระราชบญั ญตั ิองคก์ รจดั สรรคลื่นความถ่ีและกากบั กิจการวทิ ยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และ กิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ ซ่ึงชอบดว้ ยกฎหมายและมีผลบงั คบั ไดอ้ ยใู่ นวนั ท่ี พระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั ยงั คงใชบ้ งั คบั ไดต้ ่อไปเทา่ ท่ีไม่ขดั หรือแยง้ กบั พระราชบญั ญตั ิ น้ี ท้งั น้ี จนกวา่ จะมีระเบียบ ขอ้ บงั คบั ประกาศหรือคาสั่งทอ่ี อกตามพระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั ผรู้ ับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธ์ิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ิฉบบั น้ี คือ โดยทมี่ าตรา ๔๗ ของ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย ไดบ้ ญั ญตั ิใหม้ ีองคก์ รของรัฐทเี่ ป็ นอิสระองคก์ รหน่ึงทา หนา้ ทด่ี าเนินการจดั สรรคลื่นความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการวทิ ยกุ ระจายเสียง วทิ ยุ โทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม ท้งั น้ี ตามทกี่ ฎหมายบญั ญตั ิ และมาตรา ๓๐๕ (๑) บญั ญตั ิให้ กฎหมายจดั ต้งั องคก์ รท่ีตราข้ึนจะตอ้ งมีสาระสาคญั ใหม้ คี ณะกรรมการเฉพาะดา้ นเป็นหน่วยยอ่ ย ภายในองคก์ รน้นั แยกต่างหากจากกนั ทาหนา้ ท่ีกากบั การประกอบกิจการวทิ ยกุ ระจายเสียงและ วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกากบั การประกอบกิจการโทรคมนาคม และมรี ายละเอยี ดวา่ ดว้ ยการกากบั และคุม้ ครองการดาเนินกิจการ การจดั ใหม้ ีกองทุนพฒั นาทรัพยากรส่ือสารและส่งเสริมใหภ้ าค ประชาชนมีส่วนร่วมในการดาเนินการส่ือมวลชนสาธารณะ ประกอบกบั พระราชบญั ญตั ิองคก์ ร จดั สรรคลื่นความถแ่ี ละกากบั กิจการวทิ ยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ ไดใ้ ชบ้ งั คบั มาเป็นระยะเวลานานแลว้ แต่ยงั ไม่เกิดผลในทางปฏิบตั ิเท่าที่ควร ทาให้ เกิดขอ้ ติดขดั ในการดาเนินการหลายประการ รวมท้งั ยงั มีบทบญั ญตั ิที่ไม่สอดคลอ้ งกบั รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย สมควรกาหนดใหจ้ ดั ต้งั องคก์ รของรัฐทเ่ี ป็นอิสระองคก์ ร หน่ึงทาหนา้ ทดี่ าเนินการจดั สรรคล่ืนความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการวทิ ยกุ ระจายเสียง วิทยุ โทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม รวมท้งั กาหนดขอบเขตการดาเนินงานขององค์กรและการ กากบั ดูแลการประกอบกิจการดงั กล่าว และปรับปรุงกฎหมายวา่ ดว้ ยองคก์ รจดั สรรคลื่นความถ่ี และกากบั กิจการวทิ ยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคมใหเ้ หมาะสมยง่ิ ข้ึน เพือ่ ใหเ้ ป็นไปตามบทบญั ญตั ิของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย จึงจาเป็นตอ้ งตรา พระราชบญั ญตั ิน้ี ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบบั ท่ี ๘๐/๒๕๕๗ เร่ือง การแกไ้ ขเพมิ่ เติมกฎหมายวา่ ดว้ ยองคก์ รจดั สรรคลื่นความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการวิทยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม ลงวนั ท่ี ๙ กรกฎาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๗[๖๓] ขอ้ ๕ เงินท่ีไดจ้ ากการประมูลตามมาตรา ๔๑ วรรคหก แห่งพระราชบญั ญตั ิ องคก์ รจดั สรรคล่ืนความถ่ีและกากบั การประกอบกิจการวทิ ยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ และ กิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ก่อนวนั ทีป่ ระกาศน้ีใชบ้ งั คบั หากยงั มิไดน้ าส่งเขา้ กองทุนวจิ ยั และพฒั นากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์ สาธารณะ ใหน้ าส่งเป็นรายไดแ้ ผน่ ดินหลงั หกั ค่าใชจ้ ่ายแลว้ ภายในสิบหา้ วนั นบั แต่วนั ทปี่ ระกาศ น้ีใชบ้ งั คบั