นิทานยายกะตา ปลูกถ่ัวงาให้หลานเฝ้า กากินถ่ัวงาเจ้า เร่อื งต่ืนเต้นต้องติดตาม
เด็กหญงิ มะลิ ช่ือเหมอื นดอกมะลิ เธอชอบ เก็บดอกมะลิมาร้อยมาลัยบูชาพระ ดอกมะลิสีขาว ส่งกลิ่นหอมกรุ่นอยูใ่ นสวนหลังบา้ น ทุกวันพระมะลิ จะชว่ ยยายเก็บดอกมะลิไปบูชาพระที่วัดใกล้บ้าน
วันหน่ึง ยายพามะลิ ไปทาบุญที่วัดโพธิ์ วัดโพธิ์เป็นวัด เก่าแก่และสาคัญมากของกรุงเทพ- มหานคร ในวัดโพธิม์ ีเจดีย์หลายองค์ เจดียแ์ ต่ละองค์ติดกระเบ้อื งแต่งลาย ดอกไม้หลายสี มะลิบอกยายว่า เป็นเหมอื น “เจดียด์ อกไม”้
ในวัดโพธิม์ พี ระอุโบสถหลังใหญ่และมีพระวิหาร หลายหลัง มรี ูปป้ ันยักษ์ มีต๊กุ ตาจีนตัวใหญ่ หน้าตาท่าทาง ขงึ ขังยืนเฝ้าประตู เหมอื นคอยจ้องมองคนท่ีเดินผา่ นไปมา มะลิไมก่ ล้ามองหนา้ ตุ๊กตาจีนนกั เธอกลัวว่ามนั จะโกรธ ถ้าต๊กุ ตาจีนโกรธ มันคงจะกระโดดเข้ามาจับตัวเธอ “ไม่ต้องกลัวหรอกหลาน มนั เปน็ ต๊กุ ตาหิน เท่าน้นั เอง” ยายบอกแล้วหวั เราะเม่อื เหน็ มะลิทาท่า กลัวตุ๊กตาตัวใหญ่
ยายกับมะลิเข้าไปไหว้พระในพระอุโบสถหลังใหญ่ ในพระอุโบสถมพี ระพุทธรูปองค์เล็กและพระพุทธรูปองค์ใหญ่ มภี าพลายไทยและภาพวาดจานวนมากอยู่ที่ฝาผนัง
ยายบอกมะลิว่า “ภาพวาดนี้มคี ่า เราต้องชว่ ยกันรักษา อยา่ ไปทาลาย มาสิ ยายจะพาไปดภู าพนทิ าน เร่อื ง ยายกะตา ปลูกถ่ัวปลูกงาให้หลานเฝา้ ” “ภาพนทิ านอยู่ที่ไหนหรอื จ๊ะยาย รีบพาหนไู ปดหู นอ่ ย” มะลิบอกยาย ท่าทางดีใจ ยายพามะลิไปที่หนา้ ต่างพระอุโบสถ ตรงหนา้ ต่าง บานใหญม่ ภี าพลายไทยและภาพนิทาน
“น่ไี งล่ะหลาน ภาพนิทานเร่อื งยายกะตา” ยายช้ีให้มะลิดู ภาพวาดที่เชิงบานหนา้ ต่าง หนา้ ต่างหน่งึ บาน มีภาพนทิ าน หน่ึงภาพ “หนอู ยากฟังนทิ านในภาพไหมจ๊ะ” ยายถามมะลิ “อยากฟงั สจิ ๊ะยาย” มะลิตอบ “หนูรอฟังอยู่แล้ว” “ถ้าอย่างน้ันก็ตามยายมา” ยายว่า พลางขยับเขา้ ไป ใกล้บานหนา้ ต่าง แล้วเรม่ิ ต้นเล่านิทานไปทีละภาพ
ยายกะตา ยายกะตาปลกู ถ่ัวปลูกงาใหห้ ลานเฝา้ หลานไมเ่ ฝ้า กามากินถ่ัวกินงาเจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนาน
ยายกะตา ยายมายายก็ด่า ตามาตาก็ตา
ยายกะตา หลานรอ้ งไหไ้ ปหานายพรานขอใหช้ ่วยยิงกา กากินถ่ัวกินงาเจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนาน ยายมายายก็ด่า ตามาตาก็ตี นายพรานตอบว่า “ไมใ่ ช่กงการอะไรของขา้ ”
ยายกะตา หลานจึงไปหาหนู ขอให้ช่วยกัดสายธนูนายพราน นายพรานไม่ช่วยยงิ กา กากินถ่ัวกินงาเจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนาน ยายมายายก็ด่า ตามาตาก็ตี หนูตอบว่า “ไม่ใชก่ งการอะไรของข้า”
ยายกะตา หลานจึงไปหาแมว ขอให้แมวช่วยกัดหนู หนูไมช่ ่วยกัดสายธนนู ายพราน นายพรานไมช่ ่วยยิงกา
ยายกะตา กากินถ่ัวกินงาเจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนาน ยายมายายก็ด่า ตามาตาก็ตี แมวตอบว่า “ไม่ใช่กงการอะไรของขา้ ”
ยายกะตา หลานจึงไปหาหมา ขอให้ชว่ ยกัดแมว แมวไมช่ ว่ ยกัดหนู หนูไม่ช่วยกัดสายธนนู ายพราน
ยายกะตา นายพรานไมช่ ่วยยิงกา กากินถ่ัวกินงาเจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนาน ยายมายายก็ด่า ตามาตาก็ตี หมาตอบว่า “ไมใ่ ช่กงการอะไรของขา้ ”
ยายกะตา หลานจึงไปหาไมค้ ้อนใหย้ อ้ นหวั หมา หมาไมช่ ่วยกัดแมว แมวไม่ช่วยกัดหนู
ยายกะตา หนไู มช่ ่วยกัดสายธนนู ายพราน นายพรานไมช่ ่วยยิงกา กากินถ่ัวกินงาเจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนาน ยายมายายก็ด่า ตามาตาก็ตี ไมค้ ้อนตอบว่า ไมใ่ ช่กงการอะไรของขา้ ”
ยายกะตา หลานจึงไปหาไฟใหช้ ่วยไหมไ้ ม้ค้อน ไมค้ ้อนไม่ชว่ ยย้อนหวั หมา หมาไม่ช่วยกัดแมว
ยายกะตา แมวไม่ชว่ ยกัดหนู หนไู มช่ ว่ ยกัดสายธนูนายพราน นายพรานไม่ช่วยยิงกา กากินถ่ัวกินงาเจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนาน ยายมายายก็ด่า ตามาตาก็ตี ไฟตอบว่า “ไมใ่ ช่กงการอะไรของขา้ ”
ยายกะตา หลานจึงไปหานา้ ใหช้ ่วยดับไฟ ไฟไม่ชว่ ยไหม้ไมค้ ้อน ไมค้ ้อนไมช่ ่วยย้อนหวั หมา
ยายกะตา หมาไมช่ ่วยกัดแมว แมวไม่ชว่ ยกัดหนู หนไู ม่ชว่ ยกัดสายธนูนายพราน นายพรานไมช่ ่วยยิงกา กากินถ่ัวกินงาเจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนาน ยายมายายก็ด่า ตามาตาก็ตี นา้ ตอบว่า “ไม่ใช่กงการอะไรของขา้ ”
ยายกะตา หลานจึงไปหาตลิ่งใหช้ ว่ ยพังทับนา้ น้าไมช่ ว่ ยดับไฟ ไฟไม่ชว่ ยไหม้ไม้ค้อน ไม้ค้อนไมช่ ่วยยอ้ นหัวหมา
ยายกะตา หมาไม่ช่วยกัดแมว แมวไม่ชว่ ยกัดหนู หนไู มช่ ว่ ยกัดสายธนูนายพราน นายพรานไมช่ ่วยยิงกา กากินถ่ัวกินงาเจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนาน ยายมายายก็ด่า ตามาตาก็ตี ตล่ิงตอบว่า “ไม่ใชก่ งการอะไรของขา้ ”
ยายกะตา หลานจึงไปหาชา้ งใหช้ ว่ ยถล่มตล่ิง ตลิ่งไม่ช่วยพงั ทับน้า นา้ ไมช่ ่วยดับไฟ ไฟไมช่ ่วยไหม้ไม้ค้อน
ยายกะตา ไม้ค้อนไมช่ ่วยย้อนหวั หมา หมาไมช่ ่วยกัดแมว แมวไม่ชว่ ยกัดหนู หนไู ม่ช่วยกัดสายธนูนายพราน นายพรานไม่ช่วยยงิ กา กากินถ่ัวกินงาเจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนาน ยายมายายก็ด่า ตามาตาก็ตี ชา้ งตอบว่า “ไมใ่ ช่กงการอะไรของขา้ ”
ยายกะตา หลานจึงไปหาแมลงหวี่ใหช้ ว่ ยตอมตาชา้ ง ช้างไมช่ ่วยถล่มตลิ่ง ตล่ิงไมช่ ่วยพงั ทับน้า น้าไมช่ ว่ ยดับไฟ
ยายกะตา ไฟไม่ช่วยไหม้ไม้ค้อน ไม้ค้อนไม่ช่วยย้อนหวั หมา หมาไม่ช่วยกัดแมว แมวไม่ช่วยกัดหนู หนไู มช่ ่วยกัดสายธนนู ายพราน นายพรานไม่ช่วยยงิ กา
ยายกะตา กากินถ่ัวกินงาเจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนาน ยายมายายก็ด่า ตามาตาก็ตี แมลงหว่ีตอบว่า “ขา้ จะช่วยตอมตาชา้ ง ใหต้ าเน่าท้ังสองข้าง”
ยายกะตา ช้างตกใจจึงรีบไปช่วยถล่มตลิ่ง ตลิ่งจึงรบี ไปชว่ ยพังทับนา้ น้าจึงรบี ไปช่วยดับไฟ ไฟจึงรบี ไปชว่ ยไหมไ้ ม้ค้อน ไมค้ ้อนจึงรบี ไปช่วยยอ้ นหวั หมา หมาจึงรีบไปช่วยกัดแมว แมวจึงรีบไปชว่ ยกัดหนู หนูจึงรีบไปช่วยกัดสายธนูของนายพราน
ยายกะตา นายพรานจึงรบี ไปชว่ ยยิงกา กาจึงเอาถ่ัวเอางาเจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนานมาคืนหลาน หลานเอาถ่ัวเอางาไปให้แก่ยายกะตา ยายกะตาก็เลิกด่าเลิกตีหลานแต่น้นั มา
ยายเล่าพลาง ขยบั ตัวไปพลาง มะลิก็ขยับตามไปด้วย พอเล่าจบ ท้ังยายและหลานก็มาหยุดอยู่ที่ภาพสดุ ท้าย “สนกุ มากเลยจ้ะยาย” มะลิบอก เม่อื ได้ฟังนิทานจนจบ “จ้ะ สนุกมาก เล่าเร่อื งนที้ ีไรยายก็สนกุ ทุกทีไป” ยายบอก
มะลิกลับไปดภู าพนิทานอีก เธอเหน็ ภาพยายกับตา ปลูกถ่ัวปลูกงาให้หลานเฝา้ ภาพของกาที่มากินถ่ัวกินงา เจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนาน ภาพของหลานสองคนท่ีไปตามคนน้นั คนนใี้ ห้มาช่วยแต่ก็ไม่มใี ครช่วย จนในท่ีสดุ มาพบแมลงหวี่ใจดี “ยายจ๋า ยายของมะลิเหมือนยายกะตาในนิทาน ไหมจ๊ะ” มะลิถาม
“ไมเ่ หมอื นหรอกจ้ะ” ยายบอก “ยายของมะลิ ไมต่ ีไมด่ ่าหลานหรอก” “ทาไมล่ะจ๊ะยาย” มะลิถามอีก “ก็เพราะหลานของยายจะไมป่ ล่อยให้กามากิน ถ่ัวกินงาน่ะส”ิ ยายตอบ มะลิยิม้ พอใจ รบี เขา้ ไปกอดยายแล้วกระซบิ เบา ๆ ว่า “มะลิรกั ยายที่สุดในโลก”
๑. นิทานเร่อื ง ยายกะตา ทเี่ ด็ก ๆ ได้อ่าน สนุกไหมเอ่ย ความเป็นมาของนิทาน ก็น่าสนใจ ลองอ่านดู
นิทานเร่อื ง ตากับยาย นิทานเร่ือง ยายกะตา เปน็ นทิ านไทยท่ีคนสมยั ก่อน รูจ้ ักกันดี เพราะเน้อื เร่อื งสนกุ สนาน เร่อื งและตัวละครต่อกัน เป็นทอด ๆ แล้วจะวนกลับมาตอนต้นใหม่ นอกจากเป็น นทิ านเล่าส่กู ันฟังแล้ว ยงั มผี ู้วาดภาพเร่อื ง ยายกะตา ไว้ที่ เชิงบานหนา้ ต่างของพระอุโบสถวัดโพธ์ิหรือ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ซ่งึ เป็นวัดเก่า และสาคัญมากแห่งหน่งึ ในกรุงเทพมหานคร
ภาพวาดนทิ านเร่อื ง ยายกะตา มจี านวนท้ังสิน้ ๑๒ ภาพ นิทานเร่อื งนี้ใช้คาและความซา้ ๆ กัน เช่น “ยายมายายก็ด่า ตามาตาก็ตี” “ไมใ่ ชก่ งการอะไรของขา้ ” และนักเรียนจะได้รู้จักตัวละครยายและตา ซ่งึ เปน็ ตัวแทน ของปูย่ ่าตายายที่คอยเลี้ยงดูลกู หลาน และเป็น บุคคลสาคัญในครอบครวั ของคนไทย
๒. ใครเคยอ่านหรอื ฟงั นิทาน เร่อื ง ยายกะตา มาก่อนบา้ ง คุณตา คณุ ยายของพวกเรา เหมือนหรอื ต่างกับ ยายตาในเร่อื งอยา่ งไร
๓. ถ้านักเรยี นเปน็ หลานในนิทาน เร่อื ง ยายกะตา นักเรยี นจะทาอยา่ งไร ไมใ่ หถ้ ่ัวงาหาย แต่ถ้าถ่ัวงาหายไป นักเรยี นจะแก้ไขปัญหาอย่างไร
๔. หลานในนิทานไปขอความช่วยเหลือ จากใครบา้ ง ค้นหาดูในภาพ แล้วชว่ ยกันตอบ
๕. ถ้าคนอ่ืนมคี วามเดือดรอ้ น และมาขอใหน้ ักเรยี นช่วยเหลือ นักเรยี นจะตอบในทานองว่า “ไมใ่ ช่ กงการอะไรของข้า” หรอื จะทาอย่างไร จะทาอยา่ ง แมลงหวห่ี รอื ไม่
๖. อ่านกาพยย์ านี ๑๑ ต่อไปนี้ พรอ้ ม ๆ กัน แล้วชว่ ยกันตอบ
นิทานยายกะตา มีคณุ ค่าในด้านใด สนุกน่าสนใจ เด่นขอ้ คิดแฝงความรู้ ตัวละครท่ีรูจ้ ัก ใครนา่ รกั นา่ ช่ืนชู ช่วยเหลือและกอบกู้ ปัญหาใหญ่แก้ไขทัน
๗. เคยอ่านหรอื เคยฟงั นิทาน เพลง หรอื ข่าวทน่ี ่าประทับใจเกย่ี วกับ ปู่ ย่า ตา ยาย กับหลานหรอื ไม่ ช่วยกัน เล่าแลกเปลยี่ นกัน
ยายกับตาย่ากับปู่แม่กับพ่อ ผเู้ กิดก่อมีพระคุณแก่ตัวฉนั ใหช้ ีวิตรกั เลี้ยงดทู กุ คืนวัน ลกู หลานน้ันควรยดึ ม่นั กตัญญู
๘. ถ่ัว งา และข้าว เปน็ อาหาร สาคัญของคนไทย นักเรยี นเคยเหน็ ต้นถ่ัว-เมล็ดถ่ัว ต้นงา-เมล็ดงา และต้นข้าว-เมล็ดขา้ ว หรอื ไม่
ต้นถ่ัว-เมล็ดถ่ัว ต้นงา-เมล็ดงา ต้นข้าว-เมล็ดขา้ ว
อ่านบทกลอนต่อไปน้ี ความดี ความช่ัว แล้วช่วยกันบอกขอ้ คิดทไี่ ด้ ปลกู ต้นข้าวเกิดเมล็ดขา้ วดังเขาว่า ปลกู ถ่ัวงาเกิดถ่ัวงาเป็นแม่นม่ัน ปลูกอย่างไรได้ผลอย่างเดียวกัน ตามพืชพนั ธุ์หว่านลงจงเข้าใจ แม้ความช่ัวปลูกลงคงได้ช่ัว ความดีคงไมก่ ล้ัวค้มุ ตัวได้ ปลกู ความดีผลดีมีท่ัวไป ความช่ัวไซรอ้ ย่าปลูกเป็นถูกเอย (หม่อมเจ้าพจิ ิตรจิราภา เทวกุล, บทเพลงเกยี่ วกับธัมมะของโรงเรยี นราชิน.ี )
Search