Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สำนวนไทย1

สำนวนไทย1

Published by ปวีณา สุดาชม, 2020-09-30 05:32:37

Description: สำนวนไทย1

Search

Read the Text Version

สำนวนไทย

สำนวน หมำยถึง ถ้อยคำทเ่ี รียบเรียงเป็ นข้อควำม หรือคำพดู ทเ่ี ป็ นช้ันเชิง ไม่ตรงตำมรูปแบบภำษำ เป็ นถ้อยคำหรือ คำพูดทม่ี ลี กั ษณะเฉพำะตวั มี ควำมหมำยเป็ นนัยแฝงอยู่ นำมำใช้ให้มคี วำมหมำยแตกต่ำงไปจำกควำมหมำย เดมิ ของคำ ๆ น้ัน หรืออำจจะมคี วำมหมำยคล้ำย กบั ควำมหมำยเดมิ ของคำท่ี นำมำประสมกนั แต่กไ็ ม่เหมือนกบั ควำมหมำยเดมิ ทเี ดยี ว เป็ นควำมหมำยใน เชิงอปุ มำเปรียบเทยี บ มกั ใช้ถ้อยคำทไ่ี ม่ยำวมำกแต่กนิ ควำมมำก ใช้คำที่ ไพเรำะ คมคำย สละสลวย ต้องอำศัยกำรตคี วำมจงึ จะเข้ำใจ

ลกั ษณะของสำนวนไทย สำนวนไทย มีจำนวนมำกมำยสำมำรถเลือกใช้ได้ ตำมควำมต้องกำร สำนวนไทย มีลักษณะ ดังนี้

1.ถ้อยคำทใ่ี ช้เป็ นสำนวนอำจเป็ นเพยี งคำเดียว หรือประกอบด้วยถ้อยคำทเ่ี รียง กนั ต้งั แต่ 2 คำขึน้ ไปซึ่งบำง สำนวนเป็ นกลุ่มคำ บำงสำนวนเป็ นประโยค ซ่ึง มที ้งั ควำมเดยี วและประโยคควำมซ้อน 2. สำนวนไทยบำงสำนวนมที ้งั มเี สียงสัมผสั และไม่มเี สียงสัมผสั ทมี่ เี สียง สัมผสั มเี สียงสัมผสั ในและสัมผสั นอก จะมตี ้งั แต่ 4 ถึง 12 คำ ส่วนทไี่ ม่มี เสียงสัมผสั จะมตี ้งั แต่ 2 ถึง 8 คำ บำงสำนวนมกี ำรใช้คำซ้ำและเล่นคำ

3. เนื้อควำมของสำนวนมที ้งั ทมี่ เี นื้อควำมตอนเดยี ว และมเี นื้อควำมสองตอน ขนึ้ ไป 4. เนื้อหำของสำนวนจะมหี ลำกหลำย ดงั น้ี

4.1 เนื้อหำเกย่ี วกบั รูปร่ำง หน้ำตำ ผวิ พรรณ และกริ ิยำท่ำทำง 4.2 เนื้อหำเกย่ี วกบั ลกั ษณะนิสัย กริ ิยำอำกำรและพฤตกิ รรม 4.3 เนื้อหำเกย่ี วกบั จิตใจ อำรมณ์ ควำมรู้สึก 4.4 เนื้อหำเกย่ี วกบั กำรพดู 4.5 เนื้อหำเกยี่ วกบั ควำมรัก กำรมคี ู่ และกำรครองเรือน 4.6 เนื้อหำเกย่ี วกบั กำรศึกษำหำควำมรู้ และกำรอบรมส่ังสอน 4.7 เนื้อหำเกย่ี วกบั ควำมเป็ นอยู่ อำชีพ กำรทำงำน กำรทำมำหำกนิ และกำร ดำรงชีวิต 4.8 เนื้อหำเกยี่ วกบั กำรอย่รู ่วมกนั ในสังคม กำรเมือง กำรปกครอง 4.9 เนื้อหำเกยี่ วกบั คุณธรรม กำรเตือนสติและคำสอนต่ำง ๆ 4.10 เนื้อหำเกยี่ วกบั เหตุกำรณ์ สถำนกำรณ์ เวลำ ระยะทำงและสถำนท่ี

วธิ ีกำรใช้สำนวนไทย กำรใช้สำนวนทถ่ี ูกต้องเหมำะสมจะช่วยให้กำรส่ือสำรมี ประสิทธิภำพมำกยงิ่ ขนึ้ สำมำรถส่ือควำมหมำย ได้อย่ำง ชัดเจน ถูกต้อง และรวดเร็ว โดยทว่ั ไปเรำใช้สำนวนเพื่อ กำรสื่อสำรในกรณตี ่อไปนี้

1. ใช้ในกำรจูงใจ เช่น ทำดไี ด้ดี ทำช่ัวได้ช่ัว รักดหี ำมจ่ัว รักช่ัว หำมเสำ ธรรมะย่อมชนะอธรรม คบคนพำลพำลพำไปหำผดิ คบ บณั ฑติ บณั ฑติ พำไปหำผล แพ้เป็ นพระ ชนะเป็ นมำร เป็ นต้น

2. ใช้ย่อข้อควำมยำว ๆ เช่น ขงิ กร็ ำ ข่ำกแ็ รง ตดั หำงปล่อยวัด จับ ปลำสองมือ กนิ เปล่ำ ชุบมือเปิ บ ตำนำ้ พริกละลำยแม่นำ้ เป็ นต้น 3. ใช้ขยำยควำมหรือเน้นควำมเข้ำใจ เช่น ปิ ดทองหลงั พระ หนีเสือ ปะจระเข้ ทำคุณบูชำโทษ กนิ นำ้ ใต้ศอก เรือล่มในหนองทองจะไป ไหน หนูตกถงั ข้ำวสำร เป็ นต้น

4. ใช้แทนถ้อยคำทไ่ี ม่ต้องกำรกล่ำวตรงๆ เช่น เฒ่ำหัวงู สิ้นบุญ เจ้ำ โลก บ้ำนเลก็ ไก่แก่แม่ปลำช่อน โคแก่กนิ หญ้ำอ่อน ววั เคยขำม้ำเคยข่ี เป็ นต้น 5. ใช้เพมิ่ สีสันและควำมสละสลวยของถ้อยคำในกำรส่ือสำร เช่น ข้ำวแดงแกงร้อน อยู่เยน็ เป็ นสุข ร้ัวรอบขอบชิด คลกุ คลตี โี มง ขดุ บ่อ ล่อ ปลำ เป็ นต้น

ตวั อย่ำงสำนวนไทยและควำมหมำย 1. อย่ำแหย่เสือหลบั ควำมหมำยสำนวนนีค้ ือ อย่ำก่อเร่ืองกบั ผ้มู ีอำนำจ เพรำะแม้ภำยนอกจะดูสงบนิ่งแต่ถ้ำผ้นู ้ันโกรธ หรือไม่พอใจขนึ้ มำกส็ ำมำรถทำร้ำยหรือทำให้เกดิ อนั ตรำยแก่เรำได้ เสือเป็ นสัตว์ที่ดุร้ำยอยู่แล้วเม่ือเรำ เอำไม้แย่ในขณะทม่ี นั หลบั มันย่อมไม่พอใจมันตื่นขนึ้ มำอำจจะทำร้ำยเรำได้ ทำนองเดียวกนั อย่ำไปมี เร่ืองกบั ผ้มู อี ำนำจเพรำะจะทำให้เรำเดือดร้อนแม้เขำจะดูสงบนิ่ง จึงเป็ นทม่ี ำของสำนวนไทยอย่ำแหย่ เสือหลบั

2.ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ ควำมหมำยของสำนวนนีห้ มำยถึง คนสองคนทต่ี ่ำงคนต่ำงรู้ เร่ืองรำวมมี ำแต่เดิมของอกี ฝ่ ำยมำเป็ น อคยน่ำทงำดตีหนรเือปร็ นู้คควนำมมล่งั บัมขหี อรืงออมกี คี ฝว่ ำำยมรโดู้สยูงทเพค่ี ่ื้อนออว่ืนดไคมน่ทอร่ืนำบๆหแรตือ่ทร้งัู้เรสื่อองงขคอนงนคีต้น่ำสงอรู้งไสค้นกนันดีเ้ ลวี ย่ำแเชท่น้จรคิงนแสล้อวงอกี คนหน่ึงกไ็ ม่มีเงนิ อกี คนหน่ึงกไ็ ม่มีควำมรู้เลยอะไรเลย เมื่อมำพบกนั เข้ำจึงเท่ำกบั ว่ำ ไก่เห็นตนี งู งู เห็นนมไก่ ซึ่งในควำมเป็ นจริงแล้วงูกไ็ ม่มตี นี ไก่กไ็ ม่มีนม

3.แกว่งเท้ำหำเสี้ยน ควำมหมำย คนทชี่ อบทำอะไรเป็ นกำรสอดแทรกหรือเข้ำไปย่งุ กบั เร่ืองของผู้อ่ืนโดยไม่ จำเป็ น จนตวั เองได้รับควำมเดือดร้อนหรือคนทชี่ อบรนหำเรื่องใส่ตวั แส่เข้ำไปย่งุ กบั เรื่อง ของคนอ่ืนโดยไม่จำเป็ นท้งั ๆทเ่ี รื่องน้ันไม่ได้เกยี่ วข้องกบั ตนเองแม้แต่น้อยนิด จนตวั เอง ได้รับควำมเดือดร้อน หำเร่ืองมำใส่ตวั เองแท้ๆอยู่ดๆี ไม่ชอบกลบั หำเรื่องเดือดร้อนมำใส่ ตวั เอง

4.ตำบอดได้แว่น ควำมหมำยสำนวน ตำบอดได้แว่น หมำยถงึ คนทีไ่ ด้รับส่ิงของใดๆ ทตี่ นไม่มีทำงจะได้ใช้หรือใช้ สิ่งของน้ันๆให้เกดิ ประโยชน์กบั ตนเองได้ เปรียบเหมือนกบั คนที่ตำบอดทไี่ ม่มคี วำมสำมำรถในกำร มองเห็น แล้วได้แว่นสำยตำมำ ซึ่งกไ็ ม่สำมำรถนำแว่นตำที่ได้มำน้ันมำใช้สวมใส่ให้เกดิ ประโยชน์แก่ ตวั เองได้เพรำะไม่สำมำรถมองเห็น สำนวนนีม้ คี วำมหมำยเดียวกนั กบั คนหัวล้ำนได้หวี ซ่ึงหวคี น หัวล้ำนได้ไปกไ็ ม่เกดิ ประโยชน์เหมือนกนั เพรำะไม่มผี มจะให้หวีเพรำะว่ำหัวล้ำน เส้นผมหมดจำกหัว แล้ว

5.สำวไส้ ให้ กำกนิ สำนวนไทยนีม้ ีควำมหมำยว่ำ กำรท่ีเอำควำมลบั หรือเร่ืองไม่ดขี องตวั เองหรือของญำติพนี่ ้องหรือเร่ือง ภำยในองค์กรทต่ี ัวเองเกย่ี วข้องไปเปิ ดเผยให้คนอ่ืนรู้ เท่ำกบั เป็ นกำรประจำนตนเองและของญำตพิ นี่ ้อง หรือองค์กรให้เสื่อมเสีย โดยไม่ได้ประโยชน์อะไรขนึ้ มำเลย กำรกระทำเช่นนีส้ ่วนมำกสืบเน่ืองมำจำก ควำมโกธร และขำดควำมย้งั คดิ ปล่อยให้อำรมณ์พำไป จึงทำเรื่องทไี่ ม่สมควรกระทำ ดง่ั สำนวนสุภำษิต ไทยสำวใส้ให้กำกนิ ดงั กล่ำวข้ำงต้น

Thank you ขอบคุณคะ่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook