Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอล

คู่มือผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอล

Published by library dpe, 2023-02-13 02:47:47

Description: คู่มือผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอล

Search

Read the Text Version

ค�ำ น�ำ

คู่มือผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอลเล่มน้ี กรมพลศึกษาจัดท�ำข้ึนเพ่ือเผยแพร่ความรู้ ดา้ นการตดั สนิ กฬี าฟตุ บอล ใหม้ คี วามถกู ตอ้ ง มมี าตรฐานสงู ขน้ึ สอดคลอ้ งกบั การจดั การแขง่ ขนั กีฬาฟุตบอลในปัจจุบัน และมอบให้แก่ผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอลและผู้สนใจได้ใช้เป็นคู่มือ ในการตดั สนิ กฬี าฟตุ บอล การดำ� เนนิ การไดร้ บั ความรว่ มมอื จากสมาคมฟตุ บอลแหง่ ประเทศไทย ในพระบรมราชูปถมั ภ์ และผเู้ ชย่ี วชาญดา้ นกีฬาฟตุ บอลมาเปน็ วิทยากร กรมพลศึกษาขอขอบคุณสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และผู้เชี่ยวชาญทุกท่าน ที่มีส่วนร่วมในการจัดท�ำคู่มือผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอล จนส�ำเร็จลุล่วง เป็นอย่างดี และหวังเป็นอย่างย่ิงว่า คู่มือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอล และผู้ท่ีสนใจท่ัวไปได้ศึกษา ค้นคว้า และน�ำไปใช้ในการพัฒนาการตัดสินกีฬาฟุตบอล ให้มมี าตรฐานสูงขึ้น สนองต่อนโยบายของรัฐบาลและแผนพัฒนาการกีฬาของชาติต่อไป กรมพลศึกษา มนี าคม 2558



สารบญั หน้า คำ� น�ำ 1 สารบัญ 3 หลกั สูตรการฝกึ อบรมผ้ตู ดั สนิ กฬี าฟุตบอล 4 ตารางการฝกึ อบรมหลกั สตู รผู้ตดั สินกฬี าฟุตบอล 9 ประวตั กิ ีฬาฟตุ บอล (FOOTBALL) 14 คุณสมบตั ิและจรรยาบรรณของผู้ตดั สินกฬี าฟตุ บอล 14 กติกาฟุตบอลของสหพนั ธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) 20 กติกาข้อ 1 สนามแขง่ ขัน 22 กติกาขอ้ 2 ลกู บอล 25 กติกาข้อ 3 จำ� นวนผูเ้ ล่น 27 กติกาข้อ 4 อุปกรณข์ องผู้เลน่ 30 กติกาข้อ 5 ผูต้ ัดสิน 32 กตกิ าขอ้ 6 ผู้ชว่ ยผตู้ ดั สนิ 34 กติกาข้อ 7 ระยะเวลาของการแขง่ ขนั 37 กตกิ าข้อ 8 การเริม่ การแข่งขันและการเรม่ิ เล่นใหม ่ 38 กติกาขอ้ 9 ลกู บอลอย่ใู นการเล่นและนอกการเลน่ กติกาขอ้ 10 การนบั ประต ู

สารบญั หน้า กติกาข้อ 11 การล้�ำหนา้ 39 กตกิ าขอ้ 12 การเล่นทผ่ี ิดกติกาและประพฤติผดิ 46 กติกาข้อ 13 การเตะโทษ 57 กตกิ าขอ้ 14 การเตะโทษ ณ จุดโทษ 60 กตกิ าข้อ 15 การท่มุ 64 กติกาข้อ 16 การเตะจากประต ู 67 กตกิ าขอ้ 17 การเตะจากมมุ 69 การตคี วามกติกาและแนวทางการปฏบิ ัติของผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอล 76 ขอ้ เสนอแนะสำ� หรบั ผูต้ ัดสนิ และผ้ชู ว่ ยผ้ตู ดั สนิ กฬี าฟุตบอล 132 ภาคผนวก 141 บรรณานกุ รม 161 คณะกรรมการจัดท�ำค่มู ือผตู้ ัดสินกฬี าฟุตบอล 163

ห ลกั สูตรการฝึกอบรมผตู้ ัดสิน กฬี าฟตุ บอล ระยะเวลาด�ำเนนิ การ : จ�ำนวน 5 วนั (ไม่น้อยกว่า 40 ช่ัวโมง) เนือ้ หาหลกั สตู ร : ล�ำ ดบั กจิ กรรม บสรารธยิตาย อภปิ ราย ฝึกปฏิบัติ สเ่อื ทนควโตันกโลรรยมี ทดสอบ จ�ำ นวน ที่ เนื้อหา ประเมนิ ผล ชัว่ โมง 1 ทดสอบก่อนการฝกึ อบรม (Pre-test) - - - - 1.30 1.30 2 ประวตั กิ ฬี าฟตุ บอล คณุ สมบตั แิ ละจรรยาบรรณ ของผู้ตดั สนิ กฬี าฟตุ บอล และการเตรียมตวั 1.30 - - - - 1.30 เป็นผตู้ ัดสินกฬี าฟตุ บอล 3 กติกาข้อ 1-6 1.00 0.30 - - - 1.30 4 การทดสอบสมรรถภาพทางกายเบ้อื งตน้ 1.30 - 0.30 - - 2.00 5 กตกิ าข้อ 7-8-9-10-13-15-16-17 0.30 0.30 - 0.30 - 1.30 6 กติกาขอ้ 11 1.00 - - 1.00 - 2.00 7 ตำ� แหน่งและทศิ ทางการควบคุมการแข่งขนั 0.30 - - 1.00 - 1.30 ของผ้ชู ว่ ยผูต้ ัดสินกีฬาฟุตบอล 8 การฝึกปฏบิ ตั ิ การเคล่อื นที่ การใชส้ ัญญาณธง - - 1.30 - - 1.30 9 การฝึกสมรรถภาพทางกายส�ำหรบั ผู้ตัดสนิ - - 2.00 - - 2.00 กีฬาฟุตบอล 10 กติกาข้อ 12 1.00 - - 1.00 - 2.00 11 การคาดโทษและการไลอ่ อก 0.30 - - 1.00 - 1.30 12 ตำ� แหนง่ และทศิ ทางการควบคมุ การแขง่ ขัน 0.30 - - 1.00 - 1.30 ของผ้ตู ัดสนิ กฬี าฟตุ บอล (ตอ่ ) - 1.30 13 การฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารใชส้ ญั ญาณนกหวดี ทา่ ทาง มอื - - 1.30 - - 2.00 14 การฝกึ ปฏบิ ัติการตัดสินกีฬาฟตุ บอล - - 2.00 - 15 กระบวนการและขั้นตอนการตัดสินกีฬาฟตุ บอล 0.30 - 1.00 - - 1.30 16 การสร้างความสัมพันธร์ ะหวา่ งผตู้ ัดสินและ 1.00 - 1.00 - - 2.00 ผชู้ ่วยผู้ตัดสนิ กีฬาฟตุ บอล 17 กติกาขอ้ 14 0.30 - 1.00 - - 1.30 คู่มอื ผ้ตู ดั สนิ กีฬาฟุตบ ล 1

ล�ำ ดบั กจิ กรรม บรรยาย อภปิ ราย ฝึกปฏิบัติ สเอื่ ทนควโตันกโลรรยมี ปรทะดเสมอนิ บผล จชำ�ว่ั นโมวนง ท่ี เนื้อหา สาธติ 18 การด�ำเนนิ การหาผชู้ นะในการแข่งขนั 1.30 - - - - 1.30 19 การฝึกปฏบิ ตั กิ ารตดั สนิ กฬี าฟุตบอล - - 2.00 - - 2.00 20 ทดสอบสมรรถภาพทางกาย - - - - 1.30 1.30 21 ทดสอบหลงั การฝึกอบรม (Post-test) - - - - 1.30 1.30 22 ทดสอบการตดั สนิ กีฬาฟตุ บอล - - - - 1.30 1.30 23 สรุป อภปิ ราย ซักถาม - 1.30 - - - 1.30 หม ายเ หตุ รวม 35 พธิ เี ปดิ และปิดรวมอย่ใู น 40 ชวั่ โมง 2 คมู่ ือผู้ตดั สินกฬี าฟตุ บ ล

คู่มือผตู้ ัดสนิ กฬี าฟุตบ ล ตารางการฝึกอบรมหลกั สตู รผ้ตู ดั สินกฬี าฟตุ บอล เวลา 08.30 - 09.30 น. 09.30 - 10.30 น. 10.30 - 12.00 น. 12.00 - 13.00 - 14.30 น. 14.30 - 16.00 น. 16.00 - 18.00 น. วันท่ี 13.00 น. 1 ลงทะเบียน พิธีเปิด ทดสอบก่อนการฝึกอบรม - ประวตั กิ ฬี าฟตุ บอล กติกาข้อ 1-6 การทดสอบ บรรยายพิเศษ (Pre - test) - คณุ สมบตั แิ ละจรรยาบรรณ สมรรถภาพทางกาย ของผตู้ ดั สนิ กฬี าฟตุ บอล - การเตรียมตัวเป็นผู้ตัดสิน เบื้องต้น กฬี าฟตุ บอล 2 กติกาข้อ 7-8-9-10-13-15-16-17 กติกาข้อ 11 พักรับประทานอาหาร ตำ�แหน่งและทิศทาง การฝึกปฏิบัติ การฝึกสมรรถภาพทางกาย การควบคุมการแข่งขันของ - การเคลื่อนที่ สำ�หรับ ผู้ช่วยผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอล - การใช้สัญญาณธง ผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอล 3 กติกาข้อ 12 การคาดโทษและการไลอ่ อก ตำ�แหน่งและทิศทาง การฝึกปฏิบัติ การฝึกปฏิบัติ การควบคุมการแข่งขัน การใช้สัญญาณ การตัดสินกีฬาฟุตบอล ของผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอล นกหวีด ท่าทาง มือ 4 กระบวนการและขั้นตอน การสรา้ งความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผตู้ ดั สนิ กติกาข้อ 14 การดำ�เนนิ การ การฝึกปฏิบัติ การตัดสินกีฬาฟุตบอล และผู้ช่วยผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอล หาผชู้ นะ การตัดสินกีฬาฟุตบอล ในการแข่งขัน 5 ทดสอบสมรรถภาพทางกาย ทดสอบหลังการฝึกอบรม ทดสอบการตัดสิน สรุป อภิปราย พิธีปิด (Post-test) กีฬาฟุตบอล ซักถาม มอบวุฒิบัตร หมายเหตุ 3 1. ตารางการฝกึ อบรม อาจมีการเปลยี่ นแปลงได้ตามความเหมาะสม 2. ผ้เู ข้ารบั การฝึกอบรม ควรเตรียมรา่ งกาย ชุดฝกึ ซอ้ มกฬี าและอปุ กรณ์การตัดสินกีฬาฟุตบอลให้พร้อม

ป ระวัตกิ ีฬาฟตุ บอล (FOOTBALL) ฟุตบอล (Football) หรือซอคเก้อร์ (Soccer)  เป็นกีฬาท่ีมีผู้สนใจชมการแข่งขัน และเข้าร่วมเล่นมากทีส่ ุดในโลก  ชนชาตใิ ดเปน็ ผกู้ ำ�เนดิ กฬี าชนิดนีอ้ ย่างแท้จรงิ นั้นไมอ่ าจจะยืนยัน ได้แน่นอนเพราะแต่ละชนชาติต่างยืนยันว่าเกิดจากประเทศของตน  แต่ในประเทศฝรั่งเศส และประเทศอิตาลี  ได้มีการละเล่นชนิดหน่ึงท่ีเรียกว่า “ซูเลอ” (Soule) หรือจิโอโค เดล คาซิโอ (Gioco Del Calcio)  มีลักษณะการเล่นที่คล้ายคลึงกับกีฬาฟุตบอลในปัจจุบัน  ทั้งสองประเทศ อาจจะถกเถียงกันว่ากีฬาฟุตบอลถือกำ�เนิดจากประเทศของตน  อันเป็นการหาข้อยุติไม่ได้ เพราะขาดหลักฐานยนื ยันอย่างแท้จริง  ประวตั กิ ฬี าฟตุ บอลทม่ี หี ลกั ฐานชดั เจนสามารถอา้ งองิ ได้ เพราะการเลน่ มกี ตกิ าการแขง่ ขนั ที่แน่นอน  คือ ประเทศอังกฤษ โดยจัดตั้งสมาคมฟุตบอลข้ึนในปี พ.ศ. 2406 และต่อมาเกิด กฬี าฟตุ บอลอาชพี ในประเทศอังกฤษ เมอ่ื ปี พ.ศ. 2431 วิวัฒนาการด้านกีฬาฟุตบอลจะเป็นไปพร้อมกับความเจริญก้าวหน้าของมนุษย์ตลอดมา ต้นกำ�เนิดกีฬาตะวันออกไกลจะได้รับอิทธิพลมาจากสงครามครั้งสำ�คัญๆ เช่น สงครามพระเจ้า อเล็กซานเดอร์มหาราช ได้นำ�เอา “แกลโล-โรมัน” (Gello-Roman)  พร้อมกีฬาต่างๆ เข้ามาสู่ เมืองกอล (Gaul) อันเป็นรากฐานส่วนหน่ึงของกีฬาฟุตบอลในอนาคต  และการเล่นฮาร์ปาสตัม (Harpastum) ไดถ้ กู ดดั แปลงมาเป็นกฬี าซูเลอ ในปี พ.ศ. 2400 สโมสรฟุตบอลได้ก่อตั้งเป็นคร้ังแรกที่เมืองเซนพัสด์ประเทศอังกฤษ และต่อมาในวนั ท่ี 26 ตลุ าคม พ.ศ. 2406 สโมสรฟุตบอล 11 แห่ง ได้มารวมกนั ทีก่ รุงลอนดอน เพื่อก่อต้ังสมาคมฟุตบอลข้ึน  ซึ่งถือเป็นรากฐานในการกำ�เนิดสมาคมแห่งชาติ ทำ�ให้ผู้เล่นฟุตบอล ต้องเล่นตามกฎและกติกาของสมาคมฟุตบอล จนเวลาผ่านไปจากคำ�ว่า Association ก็ย่อเป็น Assoc และกลายเป็น Soccer ขึน้ ในท่ีสุด ซงึ่ นิยมเรียกกันในประเทศอังกฤษ  สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (Federation International Football Association : FIFA) ก่อตั้งขึ้นท่ีกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เม่ือปีพ.ศ. 2447 โดยสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศฝร่ังเศส  และประเทศที่เข้าร่วมก่อตั้ง 7 ประเทศ คือ  ฝรั่งเศส เบลเยียม เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ สเปน สวีเดนและสวิตเซอร์แลนด์ มีสำ�นกั งานใหญต่ ง้ั อย่ทู ี่เมืองซรู กิ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 4 คู่มือผู้ตดั สินกีฬาฟตุ บ ล

สมาพนั ธฟ์ ตุ บอลท่ไี ด้รบั การรับรองจากสหพนั ธฟ์ ุตบอลนานาชาติ (FIFA) 1. Africa (C.A.F.) เปน็ เขตที่มีสมาชกิ มากที่สุด ไดแ้ ก่ ประเทศแอลจเี รีย ตูนิเซยี แซร์ ไนจีเรยี และซดู าน เป็นต้น 2. America-North and Central Caribbean (Concacaf)  ได้แก่ ประเทศ สหรัฐอเมริกา แคนาดา เมก็ ซโิ ก คิวบา เฮติ เอลซลั วาดอร์ กวั เตมาลา และฮอนดูรัส เป็นตน้ 3. South America (Conmebol)  ได้แก่ ประเทศเปรู  บราซิล อุรุกวัย โบลิเวีย อาร์เจนตนิ า ชลิ ี เวเนซุเอลา อีควิ เตอร์ และโคลัมเบีย เปน็ ต้น 4. Asia (A.F.C.) เป็นเขตท่ีมีสมาชิกรองจากแอฟริกา  ได้แก่ ประเทศไทย มาเลเซีย เกาหลี ญ่ปี ุน่  ฮ่องกง เลบานอน อิสราเอล อิหรา่ น จอร์แดน และเนปาล เป็นต้น 5. Europe (U.E.F.A.) เปน็ เขตที่มกี ารพฒั นามากท่สี ุด ไดแ้ ก่ ประเทศองั กฤษ ฝรัง่ เศส เยอรมัน ฮงั การี อิตาลี สกอตแลนด์ รสั เซยี สวเี ดน สเปน และเนเธอรแ์ ลนด์ เป็นตน้ 6. Oceannir เปน็ เขตทมี่ สี มาชิกน้อยทสี่ ุดและเพ่งิ จะไดร้ ับการแบง่ แยก ไดแ้ ก่ ประเทศ ออสเตรเลยี นวิ ซีแลนด์ ฟจิ ิ และปาปวั นิวกินี เปน็ ต้น ประเทศตา่ งๆ ทเ่ี ปน็ สมาชกิ ตอ้ งเสยี คา่ บำ�รงุ เปน็ รายปๆี ละ 300 ฟรงั สวสิ ส์ หรอื ประมาณ 2,400 บาท สหพนั ธฟ์ ุตบอลแหง่ เอเชีย (A.F.C.) ในทวปี เอเชยี มกี ารจดั ตง้ั สหพนั ธฟ์ ตุ บอลแหง่ เอเชยี (A.F.C.) เพอ่ื ดำ�เนนิ การดา้ นฟตุ บอล ดงั น้ี พ.ศ. 2495  มีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่เฮลซิงกิ  ประเทศฟินแลนด์  โดยมีนักกีฬา และเจ้าหน้าที่จากประเทศในเอเชียเข้ามาร่วมการแข่งขัน จึงได้ปรึกษาหารือกันในการจัดต้ัง สหพนั ธ์ฟุตบอลเอเชยี ขึ้น พ.ศ. 2497  มีการแข่งขันเอเชียนเกมส์ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ จึงได้เริ่มต้ัง คณะกรรมการจากชาตติ ่างๆ มปี ระเทศเข้ารว่ มเปน็ สมาชิก 12 ประเทศ พ.ศ. 2501  มีการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ท่ีประเทศญ่ีปุ่น  และได้มีการประชุมเก่ียวกับ การจดั ตง้ั สหพนั ธฟ์ ตุ บอลเอเชยี อกี มีประเทศเขา้ ร่วมเปน็ สมาชิกรวมเป็น 35 ประเทศ พ.ศ. 2509 FIFA ไดม้ องเหน็ ความสำ�คัญของ A.F.C. จงึ ไดก้ ำ�หนดใหม้ ีเลขานุการประจำ� ในเอเชยี โดยออกคา่ ใชจ้ า่ ยใหท้ งั้ หมด รวมทงั้ เงนิ เดอื น และคนแรกทไี่ ดร้ บั ตำ�แหนง่ คอื Khow Eve Turk พ.ศ. 2517  ในการแขง่ ขนั กฬี าเอเชยี นเกมสท์ ก่ี รงุ เตหะราน ประเทศอหิ รา่ น ไดม้ กี ารประชมุ ประเทศสมาชิก A.F.C. และที่ประชุมได้ลงมติขับไล่ประเทศอิสราเอล ออกจากสมาชิก และใหป้ ระเทศสาธารณรฐั ประชาชนจนี เขา้ เปน็ สมาชกิ แทน ทง้ั ๆ ทป่ี ระเทศสาธารณรฐั ประชาชนจนี ไมไ่ ดเ้ ปน็ สมาชกิ ของ FIFA นบั วา่ เปน็ การสรา้ งเหตกุ ารณท์ ป่ี ระหลาดใจใหก้ บั บคุ คลทวั่ ไปเปน็ อยา่ งมาก ทงั้ น้ี เนื่องจากเหตผุ ลทางการเมอื ง พ.ศ. 2519  มีการประชุมกันที่ประเทศมาเลเซีย  ปรากฏว่าประเทศสมาชิกได้ลงมติให้ ขับไล่ประเทศไต้หวันออกจากสมาชิก  และให้รับประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้ามาเป็น สมาชกิ แทน ท้งั ๆ ที่ประเทศไตห้ วันเป็นประเทศที่ร่วมกันก่อต้งั สหพันธ์ฟุตบอลข้นึ มา คู่มือผ้ตู ัดสนิ กีฬาฟุตบ ล 5

ภารกิจของสมาพันธฟ์ ุตบอลแหง่ เอเชยี (Asia : A.F.C.) 1. จดั การแขง่ ขันและควบคมุ Asian Cup 2. จดั การแขง่ ขันและควบคมุ Asian Youth 3. จัดการแขง่ ขนั และควบคุมฟุตบอลโลกรอบคดั เลอื ก 4. จดั การแข่งขนั และควบคุม Pre-Olympic 5. จดั การแข่งขันและควบคมุ World Youth 6. ควบคมุ การแข่งขัน King’s Cup, President Cup, Merdeka, Djakarta Cup นอกจากน้ี ยังไดร้ ับความรว่ มมอื จาก FIFA จัดส่งวทิ ยากรมาช่วยดำ�เนินการ ประวตั ิกีฬาฟตุ บอลในประเทศไทย กฬี าฟตุ บอลในประเทศไทย ไดม้ กี ารเลน่ ตงั้ แตส่ มยั “พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ” รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เน่ืองจากสมัยรัชกาลท่ี 5 พระองค์ได้ส่งพระเจ้าลูกยาเธอ พระเจ้าหลานยาเธอ และข้าราชบริพารไปศึกษาวิชาการด้านต่างๆ ท่ีประเทศอังกฤษ และผู้ที่น�ำกีฬาฟุตบอลกลับมายังประเทศไทยเป็นคนแรก คือ เจ้าพระยาธรรมศักด์ิมนตรี (สน่ัน เทพหัสดิน ณ อยุธยา) หรือ ที่ประชาชนชาวไทยมักเรียกชื่อสั้นๆ ว่า “ครูเทพ” ซึ่งท่าน ไดแ้ ต่ง “เพลงกราวกฬี า” ทพี่ รอ้ มไปด้วยเรือ่ งน�ำ้ ใจนกั กฬี าอยา่ งแท้จริง เชอ่ื กันวา่ เพลงกราวกฬี า ทค่ี รูเทพแตง่ ไวน้ ีจ้ ะตอ้ งเปน็  “เพลงอมตะ” และจะต้องคงอยูค่ ู่ฟ้าไทย  พ.ศ. 2440  รัชกาลท่ี 5 ได้เสด็จนิวัติพระนคร กีฬาฟุตบอลได้รับความสนใจมากข้ึน จากบรรดาข้าราชการบรรดาครูอาจารย์ ตลอดจนชาวอังกฤษในประเทศไทยและผู้สนใจชาวไทย จำ�นวนมากขน้ึ เปน็ ลำ�ดบั กอปรกบั ครเู ทพไดเ้ พยี รพยายามปลกู ฝงั การเลน่ ฟตุ บอลในโรงเรยี นอยา่ งจรงิ จงั และแพร่หลายมากในโอกาสต่อมา  พ.ศ. 2443 (รศ. 119)  การแข่งขันฟุตบอลเป็นทางการคร้ังแรกของไทยได้เกิดขึ้น เมอ่ื วนั เสารท์ ี่ 2 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2443 (รศ. 119) ณ สนามหลวง ซ่งึ เปน็ สถานท่อี อกกำ�ลงั กาย และประกอบงานพิธีต่างๆ การแข่งขันฟุตบอลคู่ประวัติศาสตร์ของไทย ระหว่าง “ชุดบางกอก” กับ “ชุดกรมศึกษาธิการ” จากกระทรวงธรรมการหรือเรียกช่ือการแข่งขันครั้งน้ีว่า “การแข่งขัน ฟุตบอลตามข้อบังคับของแอสโซซิเอชั่น” สมัยก่อนเรียกว่า “แอสโซซิเอชั่นฟุตบอล”  (ASSOCIATIONS FOOTBALL) สมัยปัจจุบันอาจเรียกได้ว่า “การแข่งขันฟุตบอลของสมาคม” หรอื “ฟตุ บอลสมาคม” ผลการแขง่ ขนั ฟตุ บอลนัดพเิ ศษดังกล่าวปรากฏว่า “ชุดกรมศกึ ษาธิการ” เสมอกบั “ชุดบางกอก” 2-2 ตอ่ มาพระบาทสมเดจ็ พระมงกฏุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี 6 พระองคท์ รงมคี วามสนพระทยั กีฬาฟุตบอลเป็นอย่างยิ่งถึงกับทรงกีฬาฟุตบอลเอง และทรงต้ังทีมฟุตบอลส่วนพระองค์ ช่ือทีม “เสือป่า” และได้เสด็จพระราชดำ�เนินประทับทอดพระเนตรการแข่งขันฟุตบอล 6 คมู่ อื ผ้ตู ดั สินกฬี าฟุตบ ล

เป็นพระราชกิจวัตรเสมอมา และจากพระราชกิจวัตรของรัชกาลท่ี 6 ทางด้านฟุตบอล นับได้ว่าเป็นยุคทองของไทยอย่างแท้จริง อีกทั้งยังมีการเผยแพร่ข่าวสาร หนังสือพิมพ์ และบทความตา่ งๆ ดว้ ย รัชกาลที่ 6 ทรงมีวัตถุประสงค์ในการกอ่ ตงั้ สมาคมฟุตบอลแหง่ สยาม ดงั น้ี 1. เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ ล่นฟุตบอลมพี ลานามัยท่สี มบูรณ์ 2. เพื่อกอ่ ให้เกิดความสามัคคี 3. เพื่อกอ่ ใหเ้ กดิ ไหวพริบและเปน็ กฬี าทป่ี ระหยัดดี 4. เพื่อเปน็ การศึกษากลยทุ ธใ์ นการรกุ และการรับเช่นเดยี วกับกองทพั ทหารหาญ จากวัตถปุ ระสงค์ดงั กล่าว นับเป็นสิ่งท่ีผลักดันให้สมาคมฟตุ บอลแห่งสยามดำ�เนนิ กจิ การ เจริญกา้ วหนา้ มาจนถึงทกุ วันน้ี และกำ�ลังอย่รู ะหว่างปรับปรุงขอ้ มลู ดังน้ ี พ.ศ. 2458 (ร.ศ. 134)  การแข่งขันระหว่างชาติครั้งแรกของประเทศไทย เม่ือวันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2458 ณ สนามราชกรีฑาสโมสร (สนามม้าปทุมวัน) ระหว่าง “ทีมชาติสยาม” กับ “ทีมราชกรีฑาสโมสร” ต่อหน้าพระที่นั่ง และมี มร.ดักลาส โรเบิร์ตสัน เป็นผู้ตัดสิน ซึ่งผลการแข่งขันปรากฏว่า ทีมชาติสยาม ชนะ ทีมราชกรีฑาสโมสร 2-1 ประตู (คร่ึงแรก 0-0) และครั้งที่ 2 เมื่อวันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2458 เป็นการแข่งขันระหว่างชาตินัดที่ 2 แบบเหย้าเยือนต่อหน้าพระท่ีน่ัง ณ สนามเสือป่าสวนดุสิต ผลปรากฏว่า ทีมชาติสยาม เสมอกับ ทีมราชกรีฑาสโมสร หรือ ทมี รวมต่างชาติ 1-1 ประตู (คร่ึงแรก 0-0) สมาคมฟตุ บอลแหง่ ประเทศไทย (THE FOOTBALL ASSOCIATION OF THAILAND) ววิ ฒั นาการของสมาคมฟตุ บอลแหง่ ประเทศไทย พ.ศ. 2459 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ต้ังสมาคมฟุตบอลแห่งสยามขึ้น เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2459 และตราข้อบังคับขึ้นใช้ ในสนามฟุตบอลแหง่ สยามดว้ ย ซงึ่ มีชื่อย่อวา่ ส.ฟ.ท. และเขยี นเปน็ ภาษาองั กฤษวา่ “THE FOOTBALL ASSOCIATION OF THAILANDUNDER THE PATRONAGE OF HIS MAJESTY THE KING” ใชอ้ ักษรยอ่ ว่า F.A.T. และสมาคมไดจ้ ัดการแข่งขนั ถ้วยใหญ่และถ้วยนอ้ ยเป็นครั้งแรกในปีนี้ด้วย พ.ศ. 2468 เปน็ ภาคสี มาชกิ สหพนั ธฟ์ ตุ บอลนานาชาติ เมอ่ื วนั ท่ี 23 มถิ นุ ายน พ.ศ. 2468 พ.ศ. 2499 การแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ ขอ้ บงั คบั ครง้ั ท่ี 3 และเรยี กวา่ ขอ้ บงั คบั “ลกั ษณะปกครอง” พ.ศ. 2499 สมาคมฟตุ บอลแหง่ ประเทศไทยไดส้ ทิ ธส์ิ ง่ ทมี ฟตุ บอลชาตไิ ทยเขา้ รว่ มการแขง่ ขนั “กีฬาโอลิมปิก” คร้ังที่ 16 นับเป็นครั้งแรกท่ีประเทศไทยมีสิทธ์ิเข้าร่วมการแข่งขัน เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พุทธศกั ราช 2499 ณ นครเมลเบริ น์ ประเทศออสเตรเลีย คูม่ อื ผ้ตู ัดสนิ กฬี าฟุตบ ล 7

พ.ศ. 2500 เป็นภาคีสมาชิกสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ซึ่งมีชื่อย่อว่า A.F.C. และเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า “ASIAN FOOTBALL CONFEDERATION” พ.ศ. 2501 มีการแก้ไขเพ่ิมเติมข้อบังคับลักษณะปกครอง คร้ังที่ 4 พ.ศ. 2503 มีการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ ลกั ษณะปกครอง ครงั้ ท่ี 5 พ.ศ. 2504-ปจั จุบนั สมาคมฟตุ บอลแห่งประเทศไทยไดจ้ ดั การแขง่ ขนั ฟตุ บอลถว้ ยนอ้ ยและถว้ ยใหญ่ ซง่ึ ภายหลงั ไดจ้ ดั การแขง่ ขนั แบบเดยี วกบั ของสมาคมฟตุ บอลองั กฤษ คือ จัดเป็นประเภทถ้วยพระราชทาน ก ข ค และ ง และยังจัดการแข่งขันประเภทอ่นื ๆ อีก เช่น ฟตุ บอลนกั เรยี น ฟตุ บอลเตรยี มอุดม ฟุตบอลอาชีวะ ฟตุ บอลเยาวชนและอนุชน ฟตุ บอลอดุ มศกึ ษา ฟุตบอลเอฟเอคัพ ฟุตบอลควีนส์คัพ ฟุตบอลคิงส์คัพ เป็นต้น นอกจากน้ียังได้จัดการแข่งขัน และสง่ ทมี เขา้ ร่วมการแข่งขันกับทมี นานาชาตอิ ีกมากมายจนถึงปัจจุบนั การแข่งขันระบบลีก (League) ในประเทศไทย ไทยพรเี มยี ร์ลีก (Thai Premire League) หรือ ไทยลีก (Thai League) เปน็ การแขง่ ขนั ฟุตบอลลีกสูงสุดในประเทศไทย ไทยพรีเมียร์ลีกมีทีมสโมสรท้ังหมด 18 ทีม การเล่ือนช้ันจะนำ� 3 ทีมอันดับสุดท้ายตกไปอยู่ดิวิช่ัน 1 และ 3 ทีมแรกจากดิวิช่ัน 1 จะมาเล่นในไทยพรเี มยี รล์ กี และยังมีลีกภูมิภาคท่ีมีส่วนเก่ียวข้องกับการเล่ือนช้ันของดิวิช่ัน 1 ด้วย ซ่ึงการเล่ือนช้ันของ ลีกภูมิภาคน้ัน อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสมของข้อตกลงของคณะกรรมการ จดั การแข่งขันลกี ภูมิภาค ลกี ฟตุ บอลอาชพี ของประเทศไทย กอ่ ตง้ั โดยนายกสมาคมฟตุ บอล ดร.ดาโตะ๊ วจิ ติ ร เกตแุ กว้ ในปี พ.ศ. 2539 โดยนำ�ทมี ทร่ี ว่ มการแขง่ ขนั ฟตุ บอลถว้ ยพระราชทานถว้ ย ก มาแขง่ ขนั กนั ในระบบลกี ภายใตช้ ื่อ ไทยลกี (Thai Leaque) หรอื ชื่ออยา่ งเป็นทางการเปลย่ี นตามผสู้ นับสนนุ มีจำ�นวนทีม ทั้งหมด 12 ทีม จนกระท่ังปี พ.ศ. 2545 (ฤดูกาล 2545/46) ได้ลดจำ�นวนทีมเหลือ 10 ทีม และในปี พ.ศ. 2549 ไดเ้ พม่ิ จำ�นวนทมี เปน็ 12 ทมี อกี ครง้ั หนง่ึ ในฤดกู าล พ.ศ. 2550 จะเพม่ิ จำ�นวนทมี อีก 4 ทีม รวมเปน็ 16 ทีม ปจั จบุ นั มีทมี เข้าร่วมท้ังหมด 18 ทมี การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้พยายามนำ�การแข่งขันโปรวิเชียลลีก หรือ โปรลีก รวมเขา้ กบั การแขง่ ขนั ไทยลกี หลายครง้ั และในทส่ี ดุ การกฬี าแหง่ ประเทศไทย (กกท.) ไดน้ ำ�ทมี จงั หวัด มารวมเขา้ ไปในฤดกู าล 2550 ไดส้ ำ�เรจ็ โดยไดร้ บั การอนเุ คราะหจ์ ากสมาคมฟตุ บอลแหง่ ประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2552 มกี ารเปลย่ี นชอ่ื การแขง่ ขนั อยา่ งเปน็ ทางการ เรยี กวา่ ไทยพรเี มยี รล์ กี (Thai Premire Leaque) ซง่ึ การแขง่ ขนั อาจมีการเปลยี่ นแปลงตามช่ือผูส้ นับสนุน ปี พ.ศ. 2539-2540 จัดการแขง่ ขันฟตุ บอลจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ไทยแลนด์ ซอกเกอรล์ กี ปี พ.ศ. 2541-2543 จัดการแข่งขันฟตุ บอลคาลเท็กซ์ พรเี มยี รล์ ีก ปี พ.ศ. 2544/45-2545/46 จัดการแขง่ ขันฟุตบอลจเี อสเอ็ม ไทยลีก ปี พ.ศ. 2546/47-2547/48 จัดการแข่งขนั ฟุตบอลไทยลีก ปี พ.ศ. 2549-2551 จัดการแข่งขนั ฟุตบอลไทยแลนด์ พรเี มียร์ลกี ปี พ.ศ. 2552-ปัจจุบัน จัดการแขง่ ขนั ฟุตบอลไทยพรเี มยี ร์ลกี 8 คมู่ ือผตู้ ัดสนิ กีฬาฟุตบ ล

คุ ณสมบัติและจรรยาบรรณ ของผู้ตัดสินกฬี าฟุตบอล 1. มคี วามรเู้ รอ่ื งทว่ั ไปเกยี่ วกบั กฬี าฟตุ บอลเปน็ อยา่ งดี มคี วามสนใจตดิ ตามขา่ วสารจากสอื่ ตา่ งๆ อยา่ งสมำ�่ เสมอ สามารถสนทนาแลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ และประสบการณก์ บั บคุ คลทวั่ ไปได้ 2. มีความรู้เร่ืองกติกาฟุตบอลเป็นอย่างดี สามารถวิเคราะห์ความหมายของกติกา ได้อย่างถูกต้อง เพื่อน�ำไปใช้ในการควบคุมการแข่งขันและท�ำให้เกิดความสนุกสนานได้ท้ังกับ ผ้เู ลน่ และผู้ชม 3. บุคลิกภาพดี แต่งกายเรียบร้อยท้ังในการปฏิบัติหน้าท่ีในสนามและนอกสนาม กริ ิยามารยาทเรียบร้อย มีสมั มาคารวะ รูก้ าลเทศะ มคี วามสัมพันธ์ทดี่ ีกบั ทุกคน 4. สุขภาพสมบรู ณ์ แขง็ แรง มกี ารฝกึ ซอ้ มออกก�ำลงั กายและบรหิ ารร่างกายเป็นประจำ� มีสายตาดี ความจ�ำดี รู้จักสงั เกต สตปิ ัญญาและไหวพรบิ ดี รูจ้ ักพักผ่อนใหเ้ พียงพอ 5. มีความยุติธรรม ท�ำหน้าที่ด้วยความบริสุทธ์ิใจ วางตนได้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ ไม่นำ� ปัญหาอื่นๆ มาเก่ียวข้องขณะท�ำหน้าทผ่ี ตู้ ัดสนิ 6. มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา รู้อภัย ยินดีรับฟังความคิดเห็นหรือค�ำแนะน�ำจากบุคคลอ่ืน ที่เกี่ยวข้องขณะท�ำหน้าท่ีผู้ตัดสิน โดยเฉพาะจากเพื่อนผู้ตัดสินด้วยกัน ไม่วิจารณ์การตัดสิน ไปในทางทไี่ มเ่ ป็นประโยชน์ 7. มีความขยันหมั่นเพียรในการฝึกซ้อมและการท�ำหน้าท่ีผู้ตัดสิน ศึกษาการแข่งขัน การตดั สินของบุคคลอ่นื ท้ังภายในและภายนอกประเทศ เพอื่ เปน็ แนวทางในการพฒั นาตนเอง จรรยาบรรณของผู้ตัดสนิ กฬี าฟตุ บอล 9 1. รักและศรทั ธาสถาบนั ผู้ตดั สิน 2. ไมก่ ระท�ำการใดท่ีเปน็ การลบหล่แู ละทำ� ลายสถาบันผูต้ ดั สิน 3. อุทศิ ตนและสร้างสถาบันผ้ตู ัดสินใหม้ คี วามกา้ วหน้า 4. ปฏบิ ัติตามระเบยี บของการเป็นผตู้ ัดสนิ 5. ตรงตอ่ เวลา 6. มีความยุตธิ รรม 7. ศกึ ษาหาความรอู้ ยูเ่ สมอ 8. มีคารวะธรรมต่อสถาบัน ผ้มู พี ระคุณและใหเ้ กยี รตผิ ูต้ ัดสินดว้ ยกัน 9. ไม่ลุ่มหลงในอบายมุขทัง้ ปวง คู่มอื ผู้ตัดสนิ กีฬาฟตุ บ ล

10. มีความซ่อื สตั ย์ สจุ ริต 11. มีความรบั ผดิ ชอบ 12. ไมว่ จิ ารณใ์ หผ้ ู้อ่ืนเสียหาย 13. สรา้ งสรรคแ์ ละมีนำ้� ใจเป็นนักกฬี า 14. เห็นประโยชนส์ ่วนรวมมากกวา่ ประโยชน์สว่ นตน การเตรียมตัวสำ� หรับการเป็นผตู้ ัดสนิ กีฬาฟุตบอล การเตรยี มตวั สำ� หรบั การเปน็ ผตู้ ดั สนิ กฬี าฟตุ บอล มหี ลายปจั จยั ทตี่ อ้ งเชย่ี วชาญและคำ� นงึ ถงึ ดงั นี้ 1. ความรดู้ ้านการตัดสิน ความรอบรู้กติกาเป็นสิ่งส�ำคัญ จะสร้างความมั่นใจในการตัดสินใจของผู้ตัดสิน ทีจ่ ะไมท่ ำ� ใหเ้ กดิ ปญั หา ในปัจจุบนั ความมั่นใจของผู้ตัดสนิ มคี วามสำ� คญั มากขึ้น 2. ความแข็งแรงของรา่ งกายและสมรรถภาพทางกาย ความแข็งแรงของร่างกายส�ำหรับเกม 90 นาทีน้ันไม่เพียงพอ ยังมีแบบการฝึก อีกหลายอย่าง เช่น แบบฝึกทางด้านร่างกายและจิตใจ การพัฒนาความทนทานของร่างกาย การฝกึ แบบผันผวนพัฒนารา่ งกายในวนั ตัดสนิ และควรอบอ่นุ รา่ งกายด้วยระยะเวลา 15-20 นาที รวมท้งั ตามดว้ ยการออกก�ำลังกายเบาๆ เป็นตน้ 3. บุคลกิ ภาพ จิตวิทยา ภาษาทางกาย ควรทบทวนกฎกตกิ า จติ วทิ ยาในการควบคมุ การแขง่ ขัน ฝึกทา่ ทาง (ลองฝกึ ทา่ ทางและ ปรบั ปรงุ ทา่ ทางทหี่ นา้ กระจก) สมาธเิ ปน็ สงิ่ ทส่ี ำ� คญั มากเพอื่ เตรยี มความพรอ้ มเมอื่ เกดิ สถานการณค์ บั ขนั และพรอ้ มทจี่ ะจดั การกบั สง่ิ เหลา่ นนั้ ทา่ ทางในการตดั สนิ ควรฝกึ ใหค้ ลอ่ ง ยง่ิ มบี คุ ลกิ เปน็ ทนี่ า่ เกรงขามมาก ยิง่ มอี ำ� นาจในการควบคมุ เกมได้มากขน้ึ 4. โภชนาการ การท่ีจะตัดสินได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดการแข่งขัน ผู้ตัดสินจะต้องมีความแข็งแรง และพลังงานที่เพียงพอ รวมไปถึงการมีสภาพร่างกายและจิตใจที่พร้อมด้วย ปัจจัยท่ีส�ำคัญ คือ การได้รบั สารอาหารที่เพียงพอ การควบคุมน�้ำหนกั เปน็ สิง่ สำ� คญั และควรใส่ใจในสงิ่ ต่อไปนี้ • ควรหลีกเล่ียงอาหารท่ีมีไขมนั • ควรหลีกเล่ียงเคร่อื งดื่มท่ีมีแอลกอฮอล์ บหุ ร่ี และดื่มน้�ำใหเ้ พียงพอ • เม่ือมีการเสียเหงอ่ื ควรชดเชยดว้ ยน้ำ� หรือเครือ่ งด่มื ทมี่ สี ่วนผสมของเกลือแร่ • ควรบรโิ ภคอาหารประเภทคารโ์ บไฮเดรตกอ่ นการแขง่ ขนั 2 ชวั่ โมง เพอ่ื สรา้ งพลงั งาน • กลูโคสมีประโยชน์ในการกระตุ้นก�ำลังมาก แต่ควรบริโภคในปริมาณท่ีน้อย มิฉะนั้น จะกระหายน้ำ� น�้ำลายจะเหนยี ว และมีปัญหาเกย่ี วกบั ทอ้ ง 10 คมู่ ือผ้ตู ดั สินกีฬาฟุตบ ล

5. แทคตกิ (Tactic) ผู้ตัดสินควรวางแทคติกในระหว่างข้ันตอนการเตรียมพร้อม ควรจะเตรียมพร้อม กบั สภาพอากาศ สนาม ผชู้ ม รวมถึงเม่อื มกี ารบาดเจ็บและการเปล่ยี นตวั 6. ระบบการเล่นของทมี ตา่ งๆ แต่ละทีมมีระบบการเล่นที่ต่างกัน บางทีมอาจใช้การดักล้�ำหน้าหรือแทคติกอื่นๆ การสอ่ื สารกบั ผชู้ ว่ ยผตู้ ดั สนิ เปน็ สง่ิ สำ� คญั มาก ตำ� แหนง่ ทย่ี นื การใหส้ ญั ญาณดว้ ยตาเปลา่ เปน็ สว่ นหนง่ึ ของระบบการสอ่ื สาร 7. พฤตกิ รรมของผู้เล่น ผเู้ ล่นแต่ละคนจะมบี ุคลกิ ทีต่ า่ งกนั ผูต้ ัดสินจงึ ควรเตรียมพรอ้ มตอ่ การเผชญิ หน้า 8. การวางแผนการเดินทาง ผู้ตัดสนิ ควรจะวางแผนการเดนิ ทางล่วงหน้า เพื่อมาถงึ สนามในเวลาที่เหมาะสม 9. อุปกรณ์และเสอ้ื ผ้า ควรเตรยี มเสื้อผา้ ให้พร้อมก่อนการตดั สนิ หลังการตดั สนิ ควรท�ำความสะอาดนกหวดี ให้เรียบร้อย เสื้อผ้าของผู้ตัดสินควรเลือกโดยดูจากสีท่ีแตกต่างจากผู้เล่นของทั้งสองทีมท่ีตัดสิน 10. การบริหารจัดการ 11. การต้ังจุดมงุ่ หมาย 12. การเตรยี มพรอ้ มทางด้านจิตใจ การออกก�ำลังกายแบบผ่อนคลาย การฝึกแบบเข้มข้น การฝึกการหายใจ ฯลฯ ผู้ตัดสินท่ีมีประสบการณ์มากจะรู้ว่าควรท�ำอย่างไรกับร่างกาย และร่างกายมีความพร้อมระดับไหน ความตงึ เครียดหรือผ่อนคลายจะถูกพฒั นามากขน้ึ การเตรยี มความพรอ้ มทางดา้ นรา่ งกายสำ� หรบั ผตู้ ดั สนิ 1 เดอื น กอ่ นการแขง่ ขนั โปรแกรมการฝกึ เรม่ิ จากศูนย์ สิบวนั แรก • เริ่มด้วยการว่ิง 2 เซตๆ ละ 15 นาที โดยเมื่อว่ิงเซ็ตแรกแล้ว ให้พักจนหายเหน่ือย แล้วจึงวิง่ เซตท่ี 2 • ควรวงิ่ คอ่ นขา้ งชา้ ปดิ ทา้ ยดว้ ยการยดื เหยยี ดกลา้ มเนอ้ื และออกกำ� ลงั กายแบบผอ่ นคลาย เปน็ เวลา 10 นาที • ควรท�ำทกุ วนั หลงั จากปฏิบตั อิ ย่างตอ่ เน่ือง 5 วัน พัก 1 วนั คมู่ อื ผู้ตดั สินกีฬาฟุตบ ล 11

วันที่ 11-20 • เร่มิ ตน้ เหมอื น 10 วนั แรก แตเ่ พ่มิ เปน็ 40 นาที วิ่ง 2 เซตๆ ละ 20 นาที • ในแต่ละวัน ปิดท้ายด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อและออกก�ำลังกายแบบผ่อนคลาย เปน็ เวลา 10 นาที • ควรท�ำทกุ วัน หลังปฏิบตั ิอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง 5 วัน พัก 1 วัน สิบวนั สดุ ทา้ ย • เริม่ ดว้ ยการอบอ่นุ รา่ งกายเป็นเวลา 15-20 นาที ควรเป็นสนามหญา้ โดยปฏิบตั ิ ดังนี้ - อบอนุ่ ร่างกาย แขน ขา ลำ� ตัว - ว่งิ ความเรว็ คงท่ี สลบั เรว็ แล้วจึงวง่ิ แบบความเรว็ คงท่ี - กระโดด วง่ิ กลับตวั วิง่ ถอยหลงั ฯลฯ • วิง่ เปน็ แนวทแยงมมุ และวง่ิ ข้ามฟากสนาม ควรวิ่งด้วยความเร็ว 30% ตามแนวทแยงมมุ แล้วจึงวงิ่ ข้ามฟากสนามด้วยความเร็ว 50% หลังจากการวง่ิ ทุกๆ 5 นาที พกั 1 นาที ใช้เวลาท้ังหมด 20 นาที การเตรยี มรา่ งกายในช่วงการแข่งขนั หลงั จากเสรจ็ โปรแกรม 30 วนั ขา้ งตน้ แลว้ สมรรถภาพทางกายจะพรอ้ มรบั การฝกึ ทม่ี ากขนึ้ ด้วยระยะเวลาและการฝกึ ท่ีหนกั ขึน้ การฝึก 2 ชนดิ ท่ีแนะน�ำ 1. การฝึกแบบต่อเน่ือง : ความทนทาน 2. การฝึกแบบท�ำซ้ำ� : ความอดทน ความเรว็ การฝึกแบบต่อเนือ่ ง : คอื 1. การพัฒนาความแข็งแรงและฝึกตามสถานีฝึก หรือฝึกเป็นกลุ่ม แต่ละกลุ่มฝึก ตามแบบฝกึ เฉพาะ ดังนี้ 1.1 ความอดทน 1.5 ระบบกล้ามเนือ้ 1.2 ความเร็ว 1.6 ความออ่ นตัว 1.3 เทคนิค (Technique) 1.7 การผอ่ นคลาย 1.4 แทคตกิ (Tactic) 12 คมู่ อื ผูต้ ดั สนิ กีฬาฟุตบ ล

2. ระยะเวลาในแตล่ ะการฝึก 3-5 นาที 3. การฝึกเริ่มต้นด้วยการอบอุ่นร่างกายและยืดเหยียดกล้ามเน้ือ 20-30 นาทีอย่างช้าๆ และเปน็ จงั หวะ 3.1 การวง่ิ ผา่ นสิ่งกดี ขวาง 1X2 เทยี่ ว 3.2 วง่ิ น่งั ลกุ ว่ิง ระยะทาง 25 เมตร 1X2 เทย่ี ว 3.3 วิ่งอย่างรวดเร็วไปและกลับ ระยะทาง 25 เมตร 1X2 เทย่ี ว 3.4 ว่ิงด้วยความเรว็ ไมค่ งที่ เลียนแบบการตัดสนิ จรงิ • วง่ิ ไปขา้ งหนา้ • ว่งิ ด้านข้าง • ว่ิงกลบั หลัง • เปลย่ี นจังหวะก้าว จบการฝึกด้วยการบริหารกลา้ มเน้อื หน้าท้อง การฝึกแบบท�ำซ้�ำ : คอื 1. อบอนุ่ รา่ งกาย 25 นาที ตามแบบฝึกขา้ งต้น 2. ว่ิงดว้ ยระยะทางที่ตา่ งกนั (80%) 2.1 วง่ิ 80 เมตร จำ� นวน 4 เทยี่ ว 2.2 วงิ่ 60 เมตร จำ� นวน 4 เทยี่ ว (ชพี จรเกนิ 180 ครง้ั /นาที พกั ใหห้ ายเหนอื่ ยในแตล่ ะชดุ ) 2.3 วงิ่ 30 เมตร จ�ำนวน 4 เทยี่ ว 2.4 วิ่ง 10 เมตร จ�ำนวน 4 เทย่ี ว 3. อบอุ่นรา่ งกาย • ยืดเหยียดกลา้ มเน้ือ • ผอ่ นคลายกลา้ มเนือ้ การฝึกสามารถเปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อยขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ท่ีมีอยู่ และกลุ่มความสนใจ เมอื่ ถงึ ระดบั ทต่ี อ้ งการ ผตู้ ดั สนิ และผชู้ ว่ ยผตู้ ดั สนิ จะพฒั นาไปอกี ขนั้ หนง่ึ จนบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคแ์ รก คมู่ อื ผูต้ ัดสนิ กฬี าฟุตบ ล 13

ก ตกิ าฟุตบอลของสหพันธ์ ฟตุ บอลนานาชาติ (FIFA) กตกิ าขอ้ 1 สนามแข่งขัน (THE FIELD OF PLAY) พืน้ สนาม (Field Surface) การแข่งขันอาจท�ำการเล่นบนพื้นสนามหญ้าธรรมชาติหรือพ้ืนหญ้าเทียมก็ได้ ข้ึนอยู่กับ ระเบียบการแข่งขันก�ำหนดไว้ ในกรณีของพื้นหญ้าเทียมต้องเป็นสีเขียว พื้นผิวของสนามต้องเป็นไป ตามมาตรฐานท่กี ำ� หนด ขนาดสนาม (Dimensions) สนามแข่งขันต้องเป็นรูปส่ีเหล่ียมผืนผ้า โดยมีความยาวของเส้นข้าง (Touch Line) ตอ้ งยาวกว่าความยาวของเส้นประตู (Goal Line) ความยาว ต่ำ� สดุ 90 เมตร (100 หลา) สงู สุด 120 เมตร (130 หลา) ความกว้าง ต่ำ� สุด 45 เมตร (50 หลา) สูงสดุ 90 เมตร (100 หลา) การแข่งขนั ระหวา่ งชาติ (International Matches) ความยาว ตำ่� สดุ 100 เมตร (110 หลา) สูงสดุ 110 เมตร (120 หลา) ความกว้าง ตำ่� สุด 64 เมตร (70 หลา) สูงสดุ 75 เมตร (80 หลา) หนว่ ยวดั เปน็ เมตร ความกวา้ งต่ำ� สดุ 45 เมตร สูงสุด 90 เมตร ูสงสุด 120 เมตร รศั มี 9.15 เมตร ความยาวต่�ำ ุสด 90 เมตร 9.15 เมตร 16.50 เมตร 11 เมตร 5.50 เมตร. รัศมี 1 เมตร 9.50 เมตร 16.50 เมตร 7.32 เมตร 5.50 เมตร 14 คมู่ ือผ้ตู ดั สนิ กฬี าฟตุ บ ล

การทำ� เครอื่ งหมายต่างๆ ของสนาม (Field Markings) สนามแข่งขันท�ำด้วยเส้นต่างๆ ซึ่งเส้นต่างๆ เหล่านี้จะเป็นพื้นท่ีของเขตน้ันๆ ด้วย เส้นที่มีความยาวกว่า 2 เส้น เรียกว่า “เส้นข้าง” เส้นที่ส้ันกว่า 2 เส้น เรียกว่า “เส้นประตู” ทกุ เส้นตอ้ งมีความกวา้ งไมเ่ กิน 12 เซนตเิ มตร (5 นว้ิ ) สนามแข่งขันถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนเท่ากัน โดยเส้นแบ่งแดน (Halfway Line) ท่ีก่ึงกลางของเส้นแบ่งแดนจะท�ำจุดก่ึงกลางสนาม (Center Mark) และท�ำวงกลมรัศมี 9.15 เมตร (10 หลา) ลอ้ มรอบจดุ นี้ สนามแข่งขนั ธงมมุ สนาม เส้นประตู เสน้ ขา้ ง เขตประตู จุดโทษ ธงด้านนอกสนาม สว่ นโค้งเขตโทษ เสน้ แบง่ สนาม วงกลมกลางสนาม จดุ ก่งึ กลางสนาม เส้น ้ขาง เขตโทษ เสน้ ดา้ นนอกสนาม เส้นประตู ส่วนโคง้ มมุ สนาม เขตประตู (The Goal Area) เขตประตูจะถกู ทำ� ไว้ตรงสว่ นสุดท้ายของสนามแต่ละด้าน ดงั น้ี จากขอบเสาประตดู า้ นในแตล่ ะขา้ ง วดั ออกไปตามแนวเสน้ ประตดู า้ นละ 5.50 เมตร (6 หลา) และจากจุดน้ีท�ำเส้นเป็นแนวตั้งฉากกับเส้นประตูเข้าไปในสนามแข่งขันเป็นระยะทาง 5.50 เมตร (6 หลา) เส้นท้ังสองเส้นน้ีจะเช่ือมต่อด้วยเส้นหน่ึงท่ีเขียนขนานกับเส้นประตู พื้นที่ภายในเขต ทีเ่ ส้นเหลา่ นแ้ี ละเส้นประตูลอ้ มรอบเรยี กว่า “เขตประต”ู คู่มือผ้ตู ัดสนิ กีฬาฟุตบ ล 15

เขตโทษ (Penalty Area) เขตโทษจะถูกทำ� ไว้ตรงส่วนทา้ ยของสนามแตล่ ะดา้ น ดงั น้ี • จากขอบเสาประตูดา้ นในแต่ละขา้ ง วัดออกไปตามแนวเส้นประตูด้านละ 16.50 เมตร (18 หลา) เส้นทั้งสองเส้นนี้จะเชื่อมต่อด้วยเส้นหน่ึงที่เขียนขนานกับเส้นประตู พื้นที่ภายในเขต ท่เี สน้ เหล่าน้แี ละเส้นประตลู ้อมรอบ เรยี กวา่ “เขตโทษ” • ภายในเขตโทษแตล่ ะดา้ นทำ� จดุ โทษ (Penalty Mark) ไว้ โดยหา่ งจดุ กง่ึ กลางระหวา่ งเสาประตู เปน็ ระยะทาง 11 เมตร (12 หลา) และทำ� สว่ นโค้งเขียนไวด้ า้ นนอกเขตโทษ โดยมีรศั มีหา่ งจากจดุ โทษ แต่ละดา้ นเปน็ ระยะทาง 9.15 เมตร (10 หลา) 9.15 เมตร รศั มี 1 เมตร 11 เมต1ร6.505.5เม0ตเรมตร. 9.50 เมตร 16.50 เมตร 7.32 เมตร 5.50 เมตร เสาธง (Flagposts) เสาธงตอ้ งสูงไมน่ ้อยกวา่ 1.50 เมตร (5 ฟตุ ) เม่ืออยู่บนดนิ ต้องไม่มียอดแหลม และจะปักไว้ ท่ีมุมสนามแต่ละมุม อาจปักเสาธงไว้ท่ีปลายเส้นแบ่งแดนแต่ละด้านก็ได้ แต่ต้องห่างจากเส้นข้าง ไม่น้อยกวา่ 1 เมตร (1 หลา) ธงมมุ สนาม เสาธงสงู ไม่นอ้ ยกว่า 1.50 เมตร เสน้ ขนาดกวา้ งไมเ่ กิน 12 เซนตเิ มตร หรอื 5 ฟตุ ต้องไม่มียอดแหลม หรอื 5 นิ้ว สว่ นโคง้ ท่ีมุมสนาม ตอ้ งมีธงมมุ สนาม 16 คู่มือผตู้ ัดสินกีฬาฟุตบ ล

เขตมุม (The Corner Area) จากเสาธงมุมสนามแตล่ ะดา้ นให้เขียน 1/4 ของสว่ นโค้งไวด้ า้ นในสนามแขง่ ขันโดยมีรศั มี 1 เมตร (1 หลา) ประตู (Goals) ประตูจะตอ้ งต้ังอยบู่ นกึง่ กลางเสน้ ประตูแตล่ ะดา้ น ประกอบด้วยเสา 2 เสา ท่ปี ักตง้ั ฉากไว้ และห่างจากธงมุมสนามเป็นระยะทางเท่ากัน มีคานเชื่อมต่อในแนวนอน ระยะทางระหว่าง เสาประตู 7.32 เมตร (8 หลา) และระยะทางจากส่วนใต้คานถึงพ้ืนสนาม 2.44 เมตร (8 ฟตุ ) เสาและคานประตูทั้ง 2 ด้าน ต้องมีขนาดเท่ากัน มีความกว้างและหนาไม่เกิน 12 เซนติเมตร (5 นิ้ว) เส้นประตูต้องมีความกว้างเท่ากับความกว้างของเสาและคานประตู อาจติดตาข่ายไว้ท่ปี ระตแู ละพื้นสนามดา้ นหลังประตู โดยต้องแนใ่ จวา่ ตดิ ไว้อยา่ งเรียบร้อยเหมาะสม และต้องไมร่ บกวนการเลน่ ของผู้รักษาประตู เสาและคานประตตู ้องเป็นสขี าวเทา่ นั้น 2.(484ฟเมุตต) ร 7.(382หเลมาต)ร 9(.1105 หเมลตา)ร 12 เซนตเิ มตร (5 น้ิว) ความปลอดภัย (Safety) ประตูต้องต้ังยึดติดไว้กับพ้ืนสนามเพื่อความปลอดภัย อาจใช้ประตูที่เคล่ือนย้ายได้ ถา้ ทำ�ตามความตอ้ งการน้ีจนเปน็ ทพี่ อใจแล้ว คูม่ ือผู้ตัดสนิ กฬี าฟุตบ ล 17

ตำ�แหนง่ ของเสาประตตู ้องมีความสมั พันธ์กับเส้นประตเู หมือนดงั รปู 7.32 เมตร ถ้าเสาประตูเป็นรูปสี่เหลี่ยม ขอบเสาต้องขนานกับเส้นประตู ขนาดของคานประตูต้องขนาน หรอื ตงั้ ฉากกบั ระนาบสนาม 7.32 เมตร ถ้าเสาประตูเป็นรูปไข่ ด้านที่ยาวกว่าต้องตั้งฉากกับเส้นประตู และคานประตูด้านท่ียาวกว่า ตอ้ งขนานกับระนาบสนาม 7.32 เมตร ถ้าเสาประตูเป็นรูปส่ีเหลี่ยมผืนผ้า ด้านที่ยาวกว่าต้องต้ังฉากกับเส้นประตู และด้านท่ียาวกว่า ของคานประตตู ้องขนานกบั ระนาบสนาม 7.32 เมตร ถ้าเสาประตเู ป็นรปู ทรงกลม ขอบของเสาประตตู ้องมขี นาดเท่ากับเสน้ ประตู 18 คมู่ ือผู้ตัดสินกีฬาฟุตบ ล

มติสหพนั ธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) 1. เขตเทคนคิ ตอ้ งทำ� ใหไ้ ด้มาตรฐาน ตามทีส่ หพันธฟ์ ตุ บอลนานาชาตกิ �ำหนด 2. การใชเ้ ทคโนโลยโี กลไลน์ (Goal-line technology : GLT) , เครอ่ื งมือและอปุ กรณ์ ท่ีใช้ต้องเปน็ ไปตามมาตรฐานท่สี หพันธ์ฟุตบอลนานาชาตกิ �ำหนด ค่มู ือผู้ตัดสินกฬี าฟุตบ ล 19

กติกาขอ้ 2 ลูกบอล (THE BALL) คณุ ลกั ษณะและหน่วยการวัด (Qualities and Measurements) ลกู บอลตอ้ ง 1. เป็นทรงกลม 2. ทำ� จากหนังหรอื วัสดุอ่ืนๆ ที่เหมาะสม 3. เส้นรอบวงไม่เกนิ 70 เซนตเิ มตร (28 นว้ิ ) ไม่นอ้ ยกวา่ 68 เซนตเิ มตร (27 นิ้ว) 4. ขณะเรมิ่ การแขง่ ขนั นำ�้ หนกั ไมเ่ กนิ 450 กรมั (16 ออนซ)์ และไมต่ ำ่� กวา่ 410 กรมั (14 ออนซ)์ 5. ความดนั ลมเม่อื วดั ทร่ี ะดับนำ�้ ทะเล เท่ากับ 0.6-1.1 (600-1,100 กรมั /ตารางเซนติเมตร) (8.5-15.6 ปอนด์/ตารางนิว้ ) การเปลยี่ นลกู บอลท่ีชำ� รุด (Replacement of a Defective Ball) ถา้ ลูกบอลแตกหรอื ช�ำรดุ ระหว่างการแขง่ ขนั ผูต้ ดั สนิ ตอ้ ง : 1. สง่ั หยุดการเล่น 2. เรม่ิ เลน่ ใหมโ่ ดยการปลอ่ ยลกู บอล ณ จดุ ทล่ี กู บอลชำ� รดุ ยกเวน้ การเลน่ ไดห้ ยดุ ภายในเขตประตู ในกรณีนี้ผู้ตัดสินท�ำการปล่อยลูกบอลท่ีเปล่ียนใหม่บนเส้นเขตประตูด้านท่ีขนานกับเส้นประตู ณ จุดทใี่ กล้ลกู บอลมากทสี่ ุดในขณะการเล่นไดห้ ยดุ ลง ถ้าลูกบอลแตกหรือช�ำรุด ระหว่างการเตะโทษ ณ จุดโทษ หรือระหว่างการเตะ จากจดุ โทษในขณะทลี่ กู บอลก�ำลงั เคลอื่ นทไี่ ปขา้ งหนา้ และกอ่ นทจ่ี ะสมั ผสั ผเู้ ลน่ อน่ื ๆ หรอื คานประตู หรือเสาประตู ต้องท�ำการเตะโทษ ณ จุดโทษใหม่ ถา้ ลกู บอลแตกหรอื ชำ� รดุ ในขณะทลี่ กู บอลอยนู่ อกการเลน่ เชน่ เมอื่ เตะเรมิ่ เลน่ เตะจากประตู เตะจากมุมเตะโทษ เตะโทษ ณ จุดโทษ หรอื การทมุ่ ตอ้ งเร่ิมเล่นใหม่ตามสถานการณท์ ่เี กดิ ข้ึน ในขณะแขง่ ขนั จะเปล่ียนลกู บอลไม่ได้ นอกจากจะได้รบั อนญุ าตจากผ้ตู ดั สิน FIFA Approved International Matchball Standard FIFA Inspected 20 คมู่ ือผตู้ ดั สนิ กฬี าฟตุ บ ล

มตสิ หพนั ธฟ์ ุตบอลนานาชาติ (FIFA) 1. การแข่งขันจะอนญุ าตใหใ้ ช้ลูกบอลทเ่ี ป็นไปตามความตอ้ งการทางเทคนคิ ตามท่รี ะบุไว้ ในกตกิ าขอ้ 2 เทา่ นนั้ 2. การแข่งขันต่างๆ ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ และการแข่งขันภายใต้ความดูแล รับผิดชอบของสหพันธ์ฟุตบอลต่างๆ การยอมรับเก่ียวกับลูกบอลที่ใช้แข่งขัน จะต้องอยู่ภายใต้ เงือ่ นไขของลกู บอล ข้อหนึ่งข้อใดใน 3 ขอ้ ท่ีระบไุ ว้ คือ • มีสญั ลักษณ์ “FIFA APPROVED” • มสี ัญลักษณ์ “FIFA INSPECTED” • มีสญั ลักษณ์ “INTERNATIONAL MATCHBALL STANDARD” แต่ละประการท่รี ะบไุ ว้บนลูกบอล เป็นสิ่งแสดงให้เหน็ ว่าได้ผ่านการทดสอบความเหมาะสม และได้ท�ำตามความต้องการทางเทคนิคที่ระบุไว้ ตามความแตกต่างกันแต่ละประการแล้ว และเปน็ ไปตามรายละเอยี ดตา่ งๆ ในขั้นตำ่� สดุ ตามทร่ี ะบุไวใ้ นกติกาขอ้ 2 รายการต่างๆ ท่ีตอ้ งการ ระบเุ พมิ่ เตมิ ในแตล่ ะประเภทตอ้ งไดร้ บั การรบั รองจากสหพนั ธฟ์ ตุ บอลนานาชาตกิ อ่ น สถาบนั ทค่ี วบคมุ การทดสอบเปน็ ไปตามความเห็นชอบของสหพันธ์ฟตุ บอลนานาชาติ 3. ถ้ามีการใช้เทคโนโลยีที่เส้นประตู (GLT) ลูกบอลที่ติดเคร่ืองมือสื่อสารต้องได้รับ การรบั รอง แตต่ อ้ งมเี ครอื่ งหมายสญั ลกั ษณท์ ไ่ี ดร้ บั การรบั รองจากสหพนั ธฟ์ ตุ บอลนานาชาต ิ (มตขิ อ้ 1) คูม่ อื ผู้ตัดสนิ กฬี าฟตุ บ ล 21

กตกิ าขอ้ 3 จ�ำนวนผ้เู ลน่ (THE NUMBER OF PLAYERS) จ�ำนวนผู้เลน่ (Number of Players) การแข่งขนั ประกอบดว้ ยผ้เู ลน่ 2 ทมี แตล่ ะทมี จะมีผูเ้ ลน่ ไมเ่ กนิ 11 คน ต้องมคี นหนึ่งเป็น ผรู้ กั ษาประตู ถ้าทีมใดมผี เู้ ล่นนอ้ ยกวา่ 7 คน จะไมอ่ นุญาตให้ท�ำการแขง่ ขัน การแข่งขนั ทีเ่ ปน็ ทางการ (Official Competition) การแขง่ ขนั ทเ่ี ปน็ ทางการภายใตก้ ารดแู ลรบั ผดิ ชอบของสหพนั ธฟ์ ตุ บอลนานาชาติ สหพนั ธ์ หรือสมาคมแห่งชาติ การเปลี่ยนตวั ผูเ้ ลน่ ทำ� ไดม้ ากท่สี ุดไมเ่ กิน 3 คน ระเบียบการแข่งขันจะก�ำหนดจ�ำนวนผู้เล่นส�ำรองท่ีต้องส่งชื่อ ว่าได้จ�ำนวนเท่าใด จาก 3 คน ถงึ มากทสี่ ุด 12 คน การแขง่ ขันอื่นๆ (Other Matches) • ในการแข่งขันในนามทมี ชาติ ให้มกี ารเปลยี่ นตวั ผู้เล่นส�ำรองได้ ไมเ่ กิน 7 คน • ในการแข่งขันอนื่ ๆ การเปล่ียนตวั ผู้เล่นก�ำหนดไวภ้ ายใตเ้ งือ่ นไข คือ 1. ทีมทเ่ี ขา้ ร่วมแขง่ ขันตกลงเหน็ ชอบในจำ� นวนการเปล่ียนตวั ท่มี ากท่สี ุด 2. ผู้ตัดสนิ ตอ้ งได้รบั แจง้ ก่อนการแขง่ ขัน ถ้าผู้ตัดสินไม่ได้รับแจ้ง หรือไม่ได้รับความเห็นชอบตามข้อตกลงก่อนการแข่งขันจะเร่ิม จะอนุญาตใหเ้ ปล่ยี นตวั ไดไ้ ม่เกิน 3 คน 3. การแข่งขันเพอื่ มติ รภาพ อนญุ าตให้แต่ละทีมเปลยี่ นตัวผเู้ ลน่ ไดไ้ มเ่ กิน 6 คน 22 คู่มอื ผู้ตัดสินกีฬาฟุตบ ล

การแข่งขนั ทุกรายการ (All Matches) การแข่งขันทุกรายการ ต้องส่งบัญชีรายชื่อผู้เล่นส�ำรองให้ผู้ตัดสินก่อนที่การแข่งขัน จะเร่ิมขึ้น ผ้เู ลน่ สำ� รองที่ไม่มีชอื่ ในบญั ชีรายชื่อจะไมส่ ามารถเข้ารว่ มการแขง่ ขันได้ ขน้ั ตอนการเปล่ียนตัว (Substitution Procedure) เงอื่ นไขต่อไปนี้ จะใชป้ ฏบิ ัตเิ มอื่ มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นสำ� รองเขา้ เลน่ แทน 1. ก่อนทีจ่ ะทำ� การเปลยี่ นตัวตอ้ งแจง้ ใหผ้ ู้ตดั สนิ ทราบก่อน 2. ผเู้ ลน่ สำ� รองจะเขา้ สนามแขง่ ขนั ไดเ้ ฉพาะบรเิ วณเสน้ แบง่ แดนเทา่ นนั้ และอยใู่ นระหวา่ ง การเล่นได้หยุดลง 3. การเปลี่ยนตัวจะสมบูรณ์ เมื่อผู้เล่นที่ถูกเปล่ียนตัวออกได้ออกจากสนามแล้ว และผเู้ ล่นส�ำรองได้เขา้ ไปในสนามแขง่ ขัน 4. ผู้เล่นส�ำรองท่ีเปล่ียนตัวจะกลายเป็นผู้เล่นทันที และผู้เล่นท่ีถูกเปล่ียนออกจะสิ้นสุด การเปน็ ผเู้ ล่น 5. ผูเ้ ล่นทถ่ี ูกเปลย่ี นออกมาแล้ว จะไม่สามารถเขา้ ไปมีสว่ นร่วมใดๆ ในการแข่งขันไดอ้ ีก 6. การเปลย่ี นตวั ทกุ ครงั้ อยใู่ นอำ� นาจและการตดั สนิ ใจของผตู้ ดั สนิ วา่ จะอนญุ าตใหเ้ ขา้ เลน่ ไดห้ รอื ไม่ 11 8 การเปล่ยี นหน้าทก่ี ับผู้รกั ษาประตู (Changing the Goalkeeper) 23 ผ้เู ลน่ คนอื่นๆ อาจเปลยี่ นหนา้ ที่กับผู้รักษาประตูไดต้ ามเง่ือนไข ดงั นี้ 1. แจ้งให้ผตู้ ัดสินทราบก่อนทำ� การเปลยี่ นหน้าที่ 2. ท�ำการเปลย่ี นหน้าท่ีในขณะการเลน่ ได้หยุดลง คมู่ ือผตู้ ัดสินกีฬาฟตุ บ ล

การกระทำ� ผดิ /การลงโทษ (Infringement/Sanctions) * ถ้าผู้เล่นส�ำรองหรือผู้เล่นที่ถูกเปลี่ยนตัวออกแล้ว เข้าไปในสนามแข่งขันโดยไม่ได้รับ อนญุ าตจากผตู้ ัดสิน ผตู้ ดั สินจะตอ้ ง 1. ส่ังหยุดการเล่น (จะไม่สั่งหยุดการเล่นทันที ถ้าบุคคลภายนอกไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับ การเลน่ ) 2. คาดโทษฐานประพฤติตนอย่างไม่มีน้ำ� ใจนักกฬี า และให้ออกจากสนามแขง่ ขนั 3. ถ้าผู้ตัดสินสั่งหยุดการเล่น การเล่นเริ่มเล่นใหม่โดยฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยอ้อม ณ จดุ ที่ลกู บอลอยู่ เมื่อการเลน่ ได้หยุดลง * ถ้าผเู้ ลน่ เปลย่ี นหนา้ ที่กับผรู้ กั ษาประตู โดยไมไ่ ด้รบั อนุญาตจากผ้ตู ดั สนิ 1. ใหก้ ารเล่นดำ� เนนิ ตอ่ ไป 2. ผูเ้ ลน่ ท่เี กีย่ วข้องตอ้ งถกู คาดโทษ เมอื่ ลูกบอลอยูน่ อกการเลน่ * ส�ำหรบั การกระท�ำผดิ อ่ืนๆ ของกติกาขอ้ นี้ 1. ผเู้ ลน่ ทเ่ี กี่ยวข้องตอ้ งถูกคาดโทษ 2. การเริ่มเลน่ ใหมโ่ ดยให้ฝา่ ยตรงข้ามได้เตะโทษโดยอ้อม ณ จุดที่ลูกบอลอยู่ ในขณะท่ี การเลน่ ได้หยดุ ลง การไลผ่ เู้ ลน่ และผเู้ ลน่ สำ� รองออกจากการแขง่ ขนั (Players and Substitutes Sent Off) ผู้เลน่ คนใดถูกไล่ออกกอ่ นการเตะเรม่ิ การแข่งขัน (Kick-off) สามารถเปล่ียนผูเ้ ลน่ ส�ำรอง ทีม่ ีชอื่ อยใู่ นบญั ชีรายช่อื เข้าเล่นแทนได้ ผูเ้ ล่นสำ� รองที่มชี ่อื อยใู่ นบัญชรี ายชื่อถูกไลอ่ อก ทงั้ ก่อนการเตะเรมิ่ การแข่งขันหรอื ภายหลัง ทก่ี ารแข่งขันได้เร่ิมขนึ้ แล้ว จะเปลย่ี นชอื่ แทนกนั ไม่ได้ 24 ค่มู ือผู้ตัดสินกีฬาฟุตบ ล

กติกาข้อ 4 อปุ กรณ์ของผู้เลน่ (PLAYER’S EQUIPMENT) ความปลอดภยั (Safety) ผู้เล่นต้องไม่ใช้อุปกรณ์การเล่น หรือสวมใส่ส่ิงต่างๆ ท่ีจะท�ำให้เกิดอันตรายต่อตนเอง และผ้เู ลน่ อ่นื (รวมทงั้ เคร่อื งประดับทุกชนดิ ) อุปกรณ์เบือ้ งตน้ (Basic Equipment) อุปกรณข์ องผ้เู ล่นทเ่ี ป็นข้อบังคบั เบอ้ื งตน้ คอื 1. เสอื้ ยืดหรอื เส้อื เชิต้ (Jersey of Shirt) ทมี่ แี ขนเสอ้ื ถา้ ใส่เสอื้ ดา้ นใน สีตอ้ งเหมอื นสีหลกั ของแขนเสือ้ 2. กางเกงขาสั้น (Shorts) ถ้าใส่กางเกงปรับอุณหภูมิ (Thermal) ไว้ภายใน สีของกางเกง จะต้องเปน็ สีเดยี วกบั สที ี่เปน็ หลกั ของกางเกงช้นั นอก 3. ถงุ เท้ายาว (Stocking) 4. สนบั แข้ง (Shinguards) 5. รองเทา้ (Footwear) สนบั แข้ง (Shinguards) 1. ตอ้ งอย่ภู ายในถงุ เทา้ ยาว 2. ตอ้ งทำ� จากวัสดทุ เี่ หมาะสม (ยาง พลาสตกิ หรือวสั ดทุ ีค่ ลา้ ยๆ กนั ) 3. มคี วามเหมาะสมท่ีจะใชใ้ นการป้องกนั ไดอ้ ย่างดี คู่มอื ผู้ตัดสินกีฬาฟตุ บ ล 25

ชดุ แขง่ ขนั ผเู้ ลน่ ทั้งสองทีมต้องสวมชุดทีม่ ีสีแตกตา่ งกนั รวมถงึ ผ้ตู ัดสินและผู้ชว่ ยผตู้ ดั สนิ ผู้รักษาประตู (Goalkeepers) ผรู้ กั ษาประตแู ตล่ ะทมี ตอ้ งสวมชดุ ทม่ี สี แี ตกตา่ งจากผตู้ ดั สนิ ผชู้ ว่ ยผตู้ ดั สนิ และผเู้ ลน่ คนอน่ื ๆ การกระทำ� ผดิ และการลงโทษ (Infringements and Sanctions) การกระท�ำผิดใดๆ ของกตกิ าขอ้ นี้ 1. ไม่จำ� เป็นต้องหยุดการเลน่ 2. ผู้เล่นที่กระท�ำผิดจะถูกแนะน�ำจากผู้ตัดสินให้ออกจากสนามแข่งขัน เพ่ือท�ำการแก้ไข อุปกรณข์ องตนเองใหถ้ ูกตอ้ ง 3. ผู้เล่นจะออกจากสนามแข่งขันเมื่อลูกบอลอยู่นอกการเล่น จนกว่าจะได้มีการแก้ไข อุปกรณใ์ หถ้ กู ต้อง 4. ผเู้ ลน่ คนใดถกู ใหอ้ อกจากสนามแขง่ ขนั เพอื่ แกไ้ ขอปุ กรณใ์ หถ้ กู ตอ้ ง จะกลบั เขา้ มาเลน่ ใหมไ่ ด้ ต้องไดร้ บั อนุญาตจากผตู้ ัดสิน 5. ผู้ตัดสินต้องตรวจดูว่าอุปกรณ์ของผู้เล่นได้แก้ไขถูกต้อง ก่อนท่ีจะอนุญาตให้กลับเข้ามา ในสนามแข่งขัน 6. จะอนญุ าตใหผ้ เู้ ลน่ กลบั เขา้ มาในสนามแขง่ ขนั ใหมไ่ ด้ ตอ่ เมอ่ื ลกู บอลอยนู่ อกการเลน่ เทา่ นน้ั ผเู้ ลน่ ทถ่ี กู ใหอ้ อกจากสนามแขง่ ขนั เนอ่ื งจากการกระทำ� ผดิ ตามกตกิ าขอ้ นี้ และไดเ้ ขา้ มาสมทบ (หรอื กลบั เขา้ มาสมทบ) ในสนามแขง่ ขนั โดยไมไ่ ดร้ บั อนญุ าตจากผตู้ ดั สนิ กอ่ น จะตอ้ งถกู คาดโทษ การเริ่มเลน่ ใหม่ (Restart of Play) ถ้าการเล่นได้หยุดลงโดยผู้ตัดสินเพ่ือท�ำการคาดโทษ การเล่นจะเริ่มเล่นใหม่โดยให้ผู้เล่น ฝา่ ยตรงขา้ มได้เตะโทษโดยอ้อม ณ จดุ ทีล่ ูกบอลอยู่ ในขณะทผี่ ้ตู ัดสินสั่งหยุดการเลน่ มติสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ • ผเู้ ล่นตอ้ งไม่เปิดเผยแสดงใหเ้ ห็นเส้อื ด้านใน ซงึ่ มีสโลแกนหรอื การโฆษณา • ผู้เล่นคนใดถอดเส้ือเพื่อเปิดให้เห็นสโลแกนหรือโฆษณา จะต้องถูกลงโทษ โดยคณะกรรมการจัดการแขง่ ขนั • เส้ือตอ้ งมแี ขน 26 คูม่ ือผตู้ ดั สนิ กฬี าฟตุ บ ล

กตกิ าข้อ 5 ผตู้ ดั สนิ (THE REFEREES) อ�ำนาจของผตู้ ดั สนิ (The Authority of the Referee) ผู้ตดั สินต้องได้รับการแต่งตั้ง เพ่ือควบคุมและดูแลการแข่งขนั ใหเ้ ป็นไปตามกตกิ า อำ� นาจและหนา้ ท่ี (Power and Duties) 1. ปฏิบตั ติ ามกติกาการแข่งขัน 2. ควบคุมการแข่งขันโดยมีผู้ช่วยผู้ตัดสินและผู้ตัดสินท่ี 4 คอยให้ความร่วมมือช่วยเหลือ ตามความเหมาะสม 3. แน่ใจวา่ ลูกบอลทกุ ลูกทีใ่ ช้แข่งขนั ถูกต้องตามข้อก�ำหนดของกติกาข้อ 2 4. แน่ใจว่าอุปกรณ์ของผเู้ ลน่ ถูกต้องตามขอ้ กำ� หนดของกตกิ าขอ้ 4 5. ท�ำหน้าทร่ี กั ษาเวลาของการแข่งขนั และเขยี นรายงานการแขง่ ขัน 6. พิจารณาสั่งหยุดการเล่น หยุดการเล่นช่ัวคราว หรือยุติการแข่งขัน (Suspends or Teminate the Match) หากพบการกระท�ำผดิ กติกาการแขง่ ขัน 7. พจิ ารณาสงั่ หยดุ การเลน่ หยุดการเล่นชัว่ คราวหรอื ยุติการแข่งขนั เนอ่ื งจากมสี ิง่ รบกวน จากภายนอกทำ� การรบกวนการแข่งขัน 8. สงั่ หยุดการเลน่ ถา้ เห็นวา่ ผเู้ ล่นบาดเจบ็ หนัก (Seriously Injured) และต้องแน่ใจว่า ผู้เลน่ นน้ั ไดถ้ กู เคลื่อนยา้ ยออกจากสนามแขง่ ขันไปแล้ว 9. อนญุ าตใหก้ ารเลน่ ดำ� เนนิ ตอ่ ไปจนกวา่ ลกู บอลจะอยนู่ อกการเลน่ ถา้ เหน็ วา่ ผเู้ ลน่ บาดเจบ็ เพยี งเลก็ นอ้ ย 10. แนใ่ จวา่ ผเู้ ลน่ ทมี่ เี ลอื ดไหลออกจากบาดแผลไดอ้ อกจากสนามแขง่ ขนั ไปแลว้ และผเู้ ลน่ นนั้ จะกลับเข้าไปเล่นใหม่ได้เมื่อได้รับสัญญาณจากผู้ตัดสิน ซึ่งต้องพึงพอใจแล้วว่าเลือดที่ไหลได้หยุดแล้ว 11. อนญุ าตใหก้ ารเลน่ ดำ� เนนิ ตอ่ ไป เมอ่ื ทมี ทถี่ กู กระทำ� ผดิ จะเกดิ ประโยชนจ์ ากการใหไ้ ดเ้ ปรยี บ (Advantage) และถ้าการคาดคะเนในการให้ได้เปรียบน้ันไม่เป็นไปตามท่ีคาดไว้ในขณะนั้นก็สามารถ กลบั มาลงโทษตามความผิดครั้งแรกได้ 12. ลงโทษความผิดทร่ี า้ ยแรงกวา่ ในกรณที ี่ผูเ้ ลน่ ทำ� ผดิ มากกวา่ 1 อย่างภายในเวลาเดยี วกนั 13. ควบคุมระเบียบวินัยโดยแสดงการต่อต้านต่อผู้เล่นท่ีกระท�ำผิดต้องได้รับการคาดโทษ (Cautionable) และการให้ออก (Sending-off) จากการแข่งขัน ไม่ได้ถูกบังคับว่าต้องกระท�ำ ในทันทที นั ใด แต่ต้องทำ� ทนั ทีเมือ่ ลูกบอลได้อยู่นอกการเลน่ แลว้ คู่มอื ผู้ตดั สนิ กีฬาฟุตบ ล 27

14. ท�ำหน้าท่ีแสดงการต่อต้านต่อเจ้าหน้าที่ทีมท่ีขาดความรับผิดชอบในการควบคุม การประพฤติปฏิบัตติ นเองที่ดี และอาจพิจารณาไล่ออกจากสนามแข่งขนั และบริเวณแวดลอ้ มในทันที 15. ปฏบิ ตั ิตามการช่วยเหลือของผชู้ ว่ ยผู้ตดั สินตามเหตกุ ารณท์ ่ตี นเองมองไม่เหน็ 16. แน่ใจว่าไมม่ ีบคุ คลอื่นๆ ที่ไม่ได้รับอนุญาตเขา้ ไปในสนามแข่งขนั 17. ทำ� การเรม่ิ เลน่ ใหมเ่ ม่ือการเลน่ ไดห้ ยุดลง 18. เขียนรายงานการแข่งขันเสนอต่อผู้มีอ�ำนาจหน้าท่ีที่แต่งตั้งไว้ รวบรวมข้อมูลเก่ียวกับ การควบคุมระเบียบวินัยทุกอย่างที่กระท�ำต่อผู้เล่นและหรือเจ้าหน้าที่ทีมและเหตุการณ์อื่นๆ ทุกกรณที ี่เกิดขึ้นก่อนการแขง่ ขนั ระหว่างการแข่งขัน หรือภายหลงั การแข่งขนั การพจิ ารณาตัดสินใจของผตู้ ดั สนิ (Decisions of the Referee) การพจิ ารณาตดั สนิ ใจของผตู้ ดั สนิ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั สภาพความเปน็ จรงิ ทเ่ี กดิ ขนึ้ ในการแขง่ ขนั ถอื เปน็ ขอ้ ยตุ ิ ผูต้ ดั สินอาจกลบั คำ� ตดั สินได้ ถา้ พิจารณาแลว้ ว่าสิ่งที่ท�ำไปนั้นไมถ่ กู ต้อง หรือไดพ้ จิ ารณา ตามความช่วยเหลือของผู้ช่วยผู้ตัดสิน โดยมีเง่ือนไขว่าการเริ่มเล่นใหม่นั้นยังไม่ได้เร่ิมขึ้น หรอื ยุตกิ ารแข่งขนั อุปกรณก์ ารตดั สิน 28 คมู่ ือผตู้ ัดสนิ กฬี าฟตุ บ ล

มติสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) 1. ผู้ตดั สิน หรือผู้ปฏบิ ตั ิหน้าท่ีผชู้ ่วยผตู้ ัดสิน หรอื ผู้ตัดสนิ ท่ี 4 จะไมม่ ีหนา้ ทร่ี ับผิดชอบกรณี • การบาดเจบ็ ทกุ อย่างทผี่ เู้ ลน่ เจ้าหนา้ ท่ี หรือผู้ชมไดร้ บั • ความเสียหายต่อทรัพยส์ นิ ทกุ ชนิด • ทกุ อยา่ งทไ่ี ดร้ บั ความเสยี หายโดยบคุ คล สโมสร บรษิ ทั สมาคม หรอื ทมี่ ลี กั ษณะคลา้ ยๆ กนั จะเป็นโดยตรง หรือเน่ืองจากการตัดสินใจในขอบเขตของกติกาการแข่งขัน หรือในการพิจารณา ด�ำเนินการชว่ ยเหลือตามปกติ ทัง้ ในการเล่นและการควบคุมการแข่งขันรวมทัง้ สนิ้ ดังน ี้ ก) ตดั สนิ ใจวา่ สภาพสนามแขง่ ขนั หรอื บรเิ วณสภาพแวดลอ้ ม หรอื สภาพภมู อิ ากาศเชน่ นนั้ จะอนญุ าตหรอื ไมอ่ นญุ าตใหแ้ ขง่ ขนั เพอ่ื เล่ือนการแข่งขันออกไป ข) ตดั สินใจละทงิ้ การแข่งขันไมว่ า่ เหตุผลใดกต็ าม ค) ตัดสินใจเก่ียวกับสภาพส่ิงของที่ติดตั้งหรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ถูกใช้ระหว่างการแข่งขัน รวมถงึ เสาประตู คานประตู เสาธงมุมสนาม และลูกบอล ง) ตัดสินใจหยุดหรือไม่ให้หยุดการแข่งขัน เนื่องจากผู้ชมเข้ามารบกวนหรือปัญหาอ่ืนๆ ทเ่ี กี่ยวกบั ผู้ชม จ) ตัดสินใจหยดุ หรือไมใ่ หห้ ยุดการแข่งขัน เพอ่ื น�ำผเู้ ลน่ ท่ีบาดเจบ็ ออกจากสนามแข่งขัน เพอ่ื ท�ำการปฐมพยาบาล ฉ) ตดั สนิ ใจเกย่ี วกบั การรอ้ งขอหรอื เรยี กรอ้ งวา่ ใหน้ ำ� ผเู้ ลน่ ทบ่ี าดเจบ็ ออกจากการแขง่ ขนั เพื่อท�ำการปฐมพยาบาล ช) ตัดสินใจอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ผู้เล่นสวมใส่เครื่องแต่งกาย เคร่ืองประดับ หรืออุปกรณ์บางชนดิ ซ) ตัดสินใจ (ในส่ิงต่อไปน้ีอาจเป็นหน้าท่ีรับผิดชอบด้วย) อนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ บุคคลอ่ืนใด รวมท้ังเจ้าหน้าท่ีทีม หรือเจ้าหน้าที่สนาม เจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัย ช่างภาพ ผู้บรรยาย หรอื ส่ือมวลชนต่างๆ อยใู่ นบรเิ วณใกล้เคยี งสนามแข่งขัน ญ) ตัดสินใจอ่ืนๆ ทุกอย่าง ซ่ึงอาจน�ำไปใช้ให้สอดคล้องกับกติกาการแข่งขัน หรือสอดคล้องกับหน้าที่ของผู้ตัดสินตามเงื่อนไขของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ สหพันธ์ สมาคม หรอื กฎระเบยี บของการแข่งขนั หรอื กฎขอ้ บังคับภายใต้การแขง่ ขนั ท่กี �ำลังเล่นอยู่ 2. ในการแข่งขันแบบทัวร์นาเมนท์ หรือการแข่งขันอื่นๆ ที่ก�ำหนดผู้ตัดสินคนท่ี 4 ไว้ บทบาทและหนา้ ทต่ี อ้ งสอดคลอ้ งกบั ขอ้ แนะนำ� ทก่ี ำ� หนดไว้ โดยคณะกรรมการสหพนั ธฟ์ ตุ บอลนานาชาติ 3. ข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการแข่งขันจะหมายรวมถึง การเป็นประตู หรือไมเ่ ป็นประตแู ละผลของการแข่งขัน คมู่ ือผตู้ ดั สินกฬี าฟุตบ ล 29

กตกิ าขอ้ 6 ผูช้ ่วยผ้ตู ัดสนิ (THE ASSISTANT REFEREES) หนา้ ที่ (Duties) เป็นผ้ชู แี้ นะแสดงให้ผู้ตัดสินทราบสง่ิ ต่างๆ สว่ นการตดั สินใจเป็นหน้าทข่ี องผู้ตดั สิน 1. เม่ือลูกบอลท้งั ลกู ได้ผ่านออกนอกสนามแข่งขนั 2. ฝ่ายใดไดส้ ิทธใ์ิ นการเตะจากมุมหรอื เตะจากประตู 3. เมอ่ื ผ้เู ล่นถกู ลงโทษฐานการอยู่ในตำ� แหนง่ ลำ้� หน้า 4. เมื่อมีความต้องการเปลย่ี นตวั ผู้เล่น 5. เมือ่ มกี ารกระทำ� ผดิ หรอื มีเหตุการณอ์ ่นื ๆ เกิดข้นึ โดยท่ีผตู้ ัดสนิ ไมเ่ ห็น 6. เมื่อมีผู้เล่นกระท�ำผิดกติกาเกิดขึ้นใกล้ผู้ช่วยผู้ตัดสินมากกว่าผู้ตัดสิน (รวมถึงเหตุการณ์ กระทำ� ผิดกติกาภายในเขตโทษ) 7. เมอื่ มกี ารเตะโทษ ณ จดุ เตะโทษ ผชู้ ว่ ยผตู้ ดั สนิ ตอ้ งดวู า่ ผรู้ กั ษาประตเู คลอื่ นทอ่ี อกมาขา้ งหนา้ กอ่ นที่ลูกบอลจะถูกเตะหรอื ไม่ และต้องดลู ูกบอลขา้ มเสน้ ประตูหรอื ไม่ การชว่ ยเหลือ (Assistant) ช่วยเหลือผู้ตัดสินควบคุมการแข่งขันให้ปฏิบัติตามกติกา และในกรณีพิเศษผู้ช่วยผู้ตัดสิน อาจเข้าไปในสนามได้ เพือ่ ชว่ ยควบคุมการแข่งขันการเตะในระยะ 9.15 เมตร (10 หลา) ในกรณที ผี่ ชู้ ว่ ยผตู้ ดั สนิ ทำ� หนา้ ทเ่ี กนิ ขอบเขตหรอื มพี ฤตกิ รรมทไี่ มเ่ หมาะสม ผตู้ ดั สนิ มสี ทิ ธิ์ เปลี่ยนผู้ตัดสินคนน้นั และเขียนรายงานตอ่ ผมู้ อี �ำนาจหน้าทตี่ ่อไป 30 ค่มู ือผูต้ ดั สินกีฬาฟุตบ ล

การใหส้ ญั ญาณของผ้ชู ว่ ยผ้ตู ัดสนิ ลำ้ �หนา้ Offside - Near side Offside - Center Offside - Far side Corner kick ค่มู อื ผตู้ ดั สนิ กฬี าฟุตบ ล 31

กตกิ าขอ้ 7 ระยะเวลาของการแขง่ ขนั (THE DURATION OF THE MATCH) ช่วงเวลาของการเลน่ (Periods of Play) การแขง่ ขนั แบง่ ออกเป็น 2 ครงึ่ ๆ ละ 45 นาทีเทา่ กัน ยกเว้นไดม้ กี ารพจิ ารณาตกลง รว่ มกนั ทง้ั 2 ฝา่ ย ระหวา่ งผตู้ ดั สนิ กบั ทมี ทเี่ ขา้ รว่ มแขง่ ขนั ทง้ั 2 ทมี การตกลงตา่ งๆ ตอ้ งทำ� การแกไ้ ข ก่อนเร่ิมท�ำการแข่งขันและต้องท�ำตามระเบียบของการแข่งขันด้วย ตัวอย่างเช่น การลดเวลา การแข่งขนั แตล่ ะครงึ่ เวลาเหลอื 40 นาที เนื่องจากแสงสว่างไมเ่ พียงพอ 0:45 0:15 0:45 ครงึ่ เวลาแรก พักครง่ึ เวลา คร่ึงเวลาหลงั พักครึ่งเวลา (Half-time Interval) 1. ผเู้ ล่นทุกคนมีสทิ ธ์ไิ ด้พักครงึ่ เวลา 2. การพกั ครึ่งเวลาต้องไม่เกนิ 15 นาที 3. ระเบียบการแข่งขันต้องระบุไว้ให้ชัดเจนว่า เวลาทีใ่ ช้ในการพกั คร่ึงเวลาเท่าใด 4. เวลาในการพักคร่ึงเวลาอาจเปล่ียนแปลงแก้ไขได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับความเห็นชอบ ของผูต้ ัดสินเทา่ น้นั การชดเชยเวลาทเี่ สียไป (Allowance for Time Lost) การชดเชยเวลาสามารถทำ� ไดท้ งั้ 2 ครงึ่ เวลาของการแขง่ ขนั สำ� หรบั เวลาทส่ี ญู เสยี ไปจาก 1. การเปล่ยี นตัวผู้เล่น 2. การตรวจสอบผู้เล่นทีบ่ าดเจ็บ 3. การนำ� ผูเ้ ล่นทบ่ี าดเจบ็ ออกจากสนามแขง่ ขนั เพื่อทำ� การปฐมพยาบาล 4. การถ่วงเวลาการเลน่ 5. สาเหตุอืน่ ๆ ท่เี กดิ ขึ้นทุกกรณี การชดเชยสำ� หรับเวลาที่สญู เสียไปจะอยู่ในดลุ ยพนิ ิจของผู้ตัดสิน 32 คู่มอื ผตู้ ัดสินกฬี าฟุตบ ล

การเตะโทษ ณ จดุ โทษ (Penalty Kick) อนุญาตให้เพิ่มเวลาเพ่ือการเตะโทษ ณ จุดโทษ ในช่วงเวลาสุดท้ายของแต่ละคร่ึงเวลา หรือในช่วงเวลาสุดท้ายของการตอ่ เวลาพเิ ศษ การยกเลกิ การแขง่ ขัน (Abandoned Match) การยกเลิกการแข่งขันจะต้องท�ำการแข่งขันใหม่ ยกเว้นระเบียบการแข่งขันได้ระบุไว้ เปน็ อย่างอืน่ ค่มู อื ผตู้ ดั สนิ กฬี าฟตุ บ ล 33

กติกาขอ้ 8 การเรม่ิ การแข่งขนั และการเร่มิ เลน่ ใหม่ (THE START AND RESTART OF PLAY) การเตรียมการเบือ้ งตน้ (Preliminaries) ท�ำการเสี่ยงเหรียญโดยทีมที่ชนะการเส่ียงจะเป็นฝ่ายเลือกประตูที่จะท�ำการรุก ในคร่งึ เวลาแรกของการแข่งขนั อกี ทมี จะเป็นฝ่ายได้เตะเริม่ เลน่ (Kick off) เพือ่ เร่มิ ต้นการแขง่ ขัน ทมี ทีช่ นะการเสย่ี งจะท�ำการเตะเร่มิ เลน่ ในครึ่งเวลาหลังของการแขง่ ขัน ท้ังสองทีมจะเปลีย่ นแดนกัน ในครึง่ เวลาหลงั ของการแข่งขนั และทำ� การรกุ ประตตู รงข้าม การเตะเรมิ่ เล่น (Kick off) การเตะเรม่ิ เล่นเพอ่ื เรมิ่ ต้นการแข่งขันหรอื เพ่ือเร่มิ เล่นใหม่ 1. เมื่อเร่ิมต้นการแข่งขัน 2. ภายหลังจากมกี ารทำ� ประตไู ด้ 3. เมอ่ื เรมิ่ ตน้ การแขง่ ขันครึง่ เวลาหลัง 4. เมอ่ื เร่มิ ตน้ การแข่งขนั แต่ละครึ่งเวลาของการต่อเวลาพิเศษที่นำ� มาใช้ สามารถท�ำประตไู ดโ้ ดยตรงจากการเตะเร่ิมเล่น 34 คู่มือผูต้ ัดสินกีฬาฟตุ บ ล

ข้ันตอนในการดำ� เนินการ (Procedure) ก่อนการเตะเรม่ิ การแขง่ ขันหรอื ตอ่ เวลาพเิ ศษ 1. ทมี ทช่ี นะการเสย่ี งเหรยี ญจะเปน็ ผเู้ ลอื กประตทู จ่ี ะทำ� การรกุ ในครงึ่ เวลาแรกของการแขง่ ขนั 2. อกี ทมี จะเปน็ ฝา่ ยเตะเร่ิมเลน่ (Kick off) 3. ทมี ทช่ี นะการเสี่ยงเหรยี ญจะเปน็ ผ้เู ตะเริ่มเลน่ ในครงึ่ เวลาหลัง 4. ในคร่ึงเวลาหลงั ท้ังสองทมี ต้องเปล่ยี นแดนกันและรกุ ท�ำประตูฝง่ั ตรงขา้ ม การเตะเรม่ิ เลน่ (Kick off) 1. หลังจากทม่ี กี ารท�ำประตไู ด้ การเร่ิมเลน่ ท�ำโดยอกี ฝ่าย 2. ผเู้ ลน่ ทุกคนตอ้ งอยู่ในแดนตนเองในสนามแข่งขนั 3. ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามต้องอยู่ห่างจากลูกบอลอย่างน้อย 9.15 เมตร (10 หลา) จนกวา่ ลกู บอลจะอยู่ในการเลน่ 4. ลูกบอลตอ้ งวางนง่ิ อย่บู นจดุ กึง่ กลางสนาม 5. ผู้ตัดสนิ ให้สัญญาณ 6. ลกู บอลอยู่ในการเลน่ เมอื่ ถูกเตะและเคลื่อนท่ีไปขา้ งหน้าแลว้ 7. ผเู้ ตะไมส่ ามารถเลน่ ลกู บอลเปน็ ครง้ั ทส่ี องได้ จนกวา่ ลกู บอลจะถกู สมั ผสั โดยผเู้ ลน่ คนอนื่ ๆ การกระทำ� ผิดและการลงโทษ (Infringements and Sanction) ถา้ ผเู้ ตะไดส้ มั ผสั ลกู บอลเปน็ ครงั้ ทส่ี องกอ่ นทจ่ี ะถกู สมั ผสั โดยผเู้ ลน่ คนอน่ื ๆ จะใหฝ้ า่ ยตรงขา้ มได้ เตะโทษโดยออ้ ม ณ จุดที่การกระท�ำผิดเกิดขน้ึ สำ� หรับการกระท�ำผดิ อ่นื ๆ ทกุ กรณีจากการเตะเรม่ิ เล่นให้ท�ำการเตะเรมิ่ เลน่ ใหม่ การปล่อยบอล (Dropped Ball) การปล่อยบอลเป็นวิธีหน่ึงของการเริ่มเล่นใหม่ของการแข่งขัน ภายหลังจากการเล่น ได้หยุดช่ัวคราว ซึ่งเป็นสิ่งส�ำคัญมากส�ำหรับกรณีท่ีไม่มีระบุไว้ในกติกาการแข่งขัน และในขณะที่ ลกู บอลยังอยูใ่ นการเลน่ ค่มู ือผตู้ ัดสนิ กีฬาฟุตบ ล 35

ข้ันตอนในการด�ำเนนิ การ (Procedure) ผู้ตัดสินปล่อยบอล ณ จุดที่ลูกบอลอยู่ในขณะที่ส่ังหยุดการเล่น ยกเว้นภายในเขตประตู จะตอ้ งทำ� บนเสน้ เขตประตทู ขี่ นานกบั เสน้ ประตู ณ จดุ ทใ่ี กลล้ กู บอลมากทสี่ ดุ ในขณะทกี่ ารเลน่ ไดห้ ยดุ ลง ทง้ั น้ี ใหป้ ฏิบัติตามสถานการณ์พเิ ศษที่กำ� หนดไว้ในกติกาขอ้ 8 ลูกบอลจะอยู่ในการเลน่ เมอ่ื สัมผสั พน้ื สนาม การกระทำ� ผดิ และการลงโทษ (Infringements and Sanction) ตอ้ งท�ำการปล่อยลกู บอลใหม่ ถ้า : 1. ลูกบอลถกู สมั ผสั โดยผ้เู ลน่ คนหนงึ่ คนใดกอ่ นท่ีสัมผัสพนื้ สนาม 2. ลูกบอลออกจากสนามแข่งขันไปภายหลังจากสัมผัสพ้ืนสนามแล้ว แต่ไม่ถูกสัมผัส โดยผู้เลน่ คนหนงึ่ คนใดก่อน • ถ้าลูกบอลเข้าประตู • ลกู บอลถกู เตะโดยตรงเข้าประตู ของค่ตู ่อสู้ใหเ้ ป็นลูกตง้ั เตะจากประตู • ลูกบอลถกู เตะโดยทีมตนเอง ใหท้ มี คตู่ อ่ สู้ได้เตะจากมมุ 36 ค่มู ือผู้ตดั สนิ กฬี าฟตุ บ ล

กติกาข้อ 9 ลกู บอลอยใู่ นการเล่นและนอกการเลน่ (THE BALL IN AND OUT OF PLAY) ลกู บอลอยนู่ อกการเลน่ (Ball Out of Play) ลกู บอลจะอย่นู อกการเล่น เม่อื : 1. ลกู บอลไดผ้ า่ นเสน้ ประตหู รอื เสน้ ขา้ งไมว่ า่ จะเปน็ บนพน้ื ดนิ หรอื ในอากาศออกไปทง้ั ลกู 2. ผตู้ ัดสนิ สัง่ หยดุ การเลน่ ลูกบอลอยใู่ นการเลน่ (Ball in Play) ลกู บอลอยใู่ นการเลน่ ตลอดเวลารวมทงั้ ในขณะท่ี 1. กระดอนจากเสาประตู คานประตู หรือธงมุมสนามและเขา้ มาในสนามแขง่ ขนั 2. กระดอนจากท้งั ผู้ตัดสนิ และผู้ช่วยผูต้ ัดสินในขณะที่อยู่ในสนามแขง่ ขนั บอลอยนู่ อกการเลน่ บอลอยใู่ นการเล่น บอลอยู่ในการเลน่ บอลอยใู่ นการเลน่ บอลอยู่ในการเลน่ บอลอยู่ในการเล่น บอลอยู่นอกการเล่น บอลอย่ใู นการเล่น คู่มือผู้ตดั สนิ กีฬาฟุตบ ล 37

กตกิ าข้อ 10 การนับประตู (THE METHOD OF SCORING) การทำ� ประตู (Goal Scored) ถอื วา่ เปน็ ประตู เมอ่ื ลกู บอลทงั้ ลกู ไดผ้ า่ นเสน้ ประตรู ะหวา่ งเสาประตแู ละภายใตค้ านประตู ภายใตเ้ งอ่ื นไขวา่ ตอ้ งไมม่ กี ารกระทำ� ผดิ กตกิ าการแขง่ ขนั ของฝา่ ยรกุ เกดิ ขน้ึ กอ่ นทที่ มี นน้ั จะทำ� ประตไู ด้ ทีมชนะ (Winning Team) ทีมท่ีท�ำประตูได้มากกว่าในระหว่างการแข่งขันจะเป็นฝ่ายชนะ ถ้าทั้งสองทีมท�ำประตู ไดเ้ ทา่ กนั หรอื ท�ำประตกู นั ไมไ่ ด้ การแขง่ ขันครงั้ น้ันจะถอื วา่ “เสมอกนั ” (Drawn) ระเบียบการแข่งขัน (Competition Rule) ภายหลงั การแขง่ ขนั แบบแมทชเ์ ดยี วหรอื แบบเหยา้ เยอื น (MATCH OR HOME AND AWAY) ถา้ ระเบยี บการแขง่ ขนั ตอ้ งหาทมี ชนะ จะตอ้ งทำ� ตามขนั้ ตอนทไี่ ดร้ บั รองจากสหพนั ธฟ์ ตุ บอลนานาชาตเิ ทา่ นนั้ 1. การใชก้ ฎทำ� ประตูไดเ้ ม่อื เป็นทีมเยอื น (AWAY GOAL RULE) 2. การตอ่ เวลาพเิ ศษ (EXTRA TIME) 3. การเตะจากจดุ โทษเพอ่ื หาผลแพช้ นะ (KICK FROM THE PENALTY MARK) เปน็ ประตู เปน็ ประตู เปน็ ประตู เป็นประตู ไมเ่ ป็นประตู ไมเ่ ปน็ ประตู ไม่เปน็ ประตู ไมเ่ ปน็ ประตู ไมเ่ ปน็ ประตู ไมเ่ ปน็ ประตู การใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการตัดสินของการผ่านเข้าประตูของลูกฟุตบอล Goal-line technology (GLT) GLT ระบบการใชเ้ ทคโนโลยที เี่ สน้ ประตอู าจถกู นำ� มาใชเ้ พอื่ วตั ถปุ ระสงคใ์ นการตรวจสอบ การเป็นประตู เพ่ือช่วยในการตัดสินใจของผู้ตัดสิน การใช้เทคโนโลยีท่ีเส้นประตูจะต้องก�ำหนดไว้ ในระเบียบการแขง่ ขนั 38 ค่มู ือผู้ตัดสินกีฬาฟตุ บ ล

กตกิ าขอ้ 11 การล้ำ� หน้า (OFFSIDE) จะไม่ถอื วา่ เป็นการกระท�ำผดิ ถา้ เพยี งแต่อยูใ่ นต�ำแหนง่ ลำ้� หนา้ เท่านัน้ ผู้เล่นจะอยู่ในต�ำแหน่งล�้ำหน้า ถ้าอยู่ใกล้เส้นประตูของฝ่ายตรงข้ามมากกว่าลูกบอล และผู้เลน่ คนที่สองของฝา่ ยตรงขา้ ม ยกเว้น 1. ผเู้ ล่นอยใู่ นแดนตนเองของสนามแข่งขัน 2. ผเู้ ล่นอยใู่ นแนวเดยี วกนั กบั ผเู้ ล่นคนท่ี 2 จากทา้ ยสุดของฝา่ ยตรงข้าม 3. ผเู้ ลน่ อยู่ในแนวเดยี วกันกบั ผู้เลน่ ท้งั 2 คน จากทา้ ยสดุ ของฝ่ายตรงข้าม การกระท�ำผดิ (Offence) ผู้เล่นที่อยู่ในต�ำแหน่งล้�ำหน้าจะถูกลงโทษ ถ้าในขณะน้ันลูกบอลได้ถูกสัมผัสหรือเล่น โดยผเู้ ลน่ คนหนง่ึ ในทมี และผตู้ ดั สนิ พจิ ารณาเหน็ วา่ ผเู้ ลน่ เขา้ ไปมสี ว่ นเกย่ี วขอ้ งในการเลน่ อยา่ งชดั แจง้ (Involved in Active Play) โดย 1. เก่ียวขอ้ งกบั การเลน่ โดยถูกหรือสัมผสั กับลูกบอล 2. เกย่ี วขอ้ งกบั ผเู้ ลน่ ฝา่ ยตรงขา้ ม โดยการมองเหน็ หรอื การปอ้ งกนั ประตขู องผรู้ กั ษาประตู 3. อาศยั ความไดเ้ ปรียบจากการอยูใ่ นตำ� แหนง่ ล้ำ� หน้าขณะน้ัน การกระท�ำที่ไมผ่ ดิ (No Offence) ถ้าผเู้ ลน่ รับลกู บอลโดยตรงจากกรณีตา่ งๆ ต่อไปน้ี จะไมเ่ ป็นการล�ำ้ หนา้ 1. การเตะจากประต ู 2. การท่มุ 3. การเตะจากมมุ การกระท�ำผดิ และการลงโทษ (Infringements and Sanctions) การกระท�ำผิดทุกอย่างของการล�้ำหน้า ผู้ตัดสินจะลงโทษโดยให้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ได้เตะโทษโดยออ้ มจากทซ่ี ึ่งมีการกระทำ� ผิดเกิดขน้ึ ท้งั น้ี ให้ปฏิบตั ติ ามสถานการณพ์ ิเศษทก่ี ำ� หนดไวใ้ น กตกิ าข้อ 13 คู่มือผูต้ ดั สนิ กีฬาฟุตบ ล 39

การลำ้� หนา้ A2 B1 A1 ตห ้ังมแาตย่ผเลู้เขลล่นBำ้� ห1หมนจาา้ายกผเทลเู้ ล้าขน่ยฝสAา่ดุ2ยขอรอยกุ งู่ใหฝกมา่ลาย้เยรสเับ้นลขปรAะ2ตรูขบั อลงกู ฝบ่าอยลตจรางกขผ้าเู้ มลมน่ าฝกา่ ยกรวกุ ่าหลมูกาบยอเลลขแลAะ1ผกู้เาลร่นลคำ้� นหนทา้ี่สนอับง A2 B1 B2 A1 ไมล่ ำ�้ หนา้ เไพมรล่ า้�ำะหในน้าขณผะู้เลท่นี่ลฝูกา่ บยอรลกุ ถหูกมเาตยะเสล่งขมาA2ผู้เซล่ึง่นรฝบั ่าลยูกรบุกออลยจู่ใานกแผนู้เวลเน่ ดฝียา่วยกเันดกยี ับวกผนัู้เลห่นมขาอยงเฝล่าขยAรับ1 คนทสี่ องจากทา้ ยสดุ หมายเลข B1 40 ค่มู ือผตู้ ดั สนิ กฬี าฟุตบ ล

A2 B1 A1 คจ านกทผีส่ เู้ ลอน่งจฝไามา่ กย่ลทเ้�ำด้าหยี ยวนสก้าดุ นั หหผมมู้เลาา่ยนยเเฝลล่าขขยBรA1ุก1หผมเู้ าลยน่ เฝลา่ ขยรAกุ 2หมไามย่ลเล�้ำขหนA้า2เพอรยาใู่ะนใแนนขวณเดะยี ทวี่ลกูกบั บผเ้อู ลลน่ ถขูกอสงฝ่งมา่ ยารใหบั ้ ไมล่ ้ำ� หนา้ ผู้เล่นจะไม่ล�ำ้ หนา้ จากการรับลกู โดยตรงจากการทุม่ 41 ค่มู อื ผ้ตู ัดสินกีฬาฟตุ บ ล

A2 A1 ลำ้� หน้า ผ้เู ลน่ ฝา่ ยรุกหมายเลข A2 ลำ้� หนา้ เพราะวา่ เข้าไปเกย่ี วขอ้ งกบั การเลน่ อยา่ งชดั แจ้ง โดย เขา้ ไปเก่ียวขอ้ งกับผรู้ ักษาประตู A2 A1 ไม่ล�้ำหน้า ผเู้ ลน่ ฝา่ ยรกุ หมายเลข A2 ไมม่ สี ว่ นเกยี่ วขอ้ งกบั การทำ� ประตขู องผเู้ ลน่ ฝา่ ยรกุ หมายเลข A1 42 ค่มู ือผู้ตดั สนิ กฬี าฟุตบ ล


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook