สำนักงานคณะกรรมการสง เสรม� วท� ยาศาสตร วจ� ยั และนวตั กรรม สำนักงานการวจ� ยั แหงชาติ หนวยบรห� ารและจดั การทุนดา นการพัฒนาพน้� ท่ี (บพท.) กาแรลพะแจฒั ผ(งั SนหนIงPวาาัดภ)นมู 4ิภ.0าค แผนงานการพฒั นาภูมิภาคและจังหวัด 4.0 (SIP) สถาบนั คลังสมองของชาติ
ชื่อหนงั สือ แพลตฟอร์มวิจยั ด้านเกษตร: การออกแบบและการบริหารจัดการงานวจิ ยั เพือ่ มุ่งผลลัพธ์ บรรณาธกิ าร จนั ทรจ์ รสั เร่ียวเดชะ ผู้ชว่ ยบรรณาธิการ มยรุ ี จัยวฒั น์ สทุ ธ์ภิ าธร มาสำ� ราญ พิมพ์ครัง้ ท่ี 1 พฤศจิกายน 2563 จำ� นวนพมิ พ ์ 4,000 เลม่ จัดพมิ พ์โดย สถาบนั คลงั สมองของชาติ อาคารอุดมศกึ ษา 2 ชน้ั 19 เลขที่ 238 ถนนศรีอยธุ ยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400 โทรศพั ท์: 0 2126 7632-34 โทรสาร: 0 2126 7635 ออกแบบและพิมพ ์ บริษัท ซโี น พับลชิ ชง่ิ แอนด์ แพคเกจจงิ้ จำ� กดั โทรศัพท:์ 0 2511 5715 โทรสาร: 0 2511 5719 ขอ้ มลู ทางบรรณานุกรมของหอสมุดแห่งชาติ National Library of Thailand Cataloging in Publication Data แพลตฟอร์มวิจยั ดา้ นเกษตร: การออกแบบและการบรหิ ารจัดการงานวจิ ยั เพ่ือม่งุ ผลลพั ธ.์ -- กรงุ เทพฯ : สถาบันคลงั สมองของชาติ กระทรวงการอดุ มศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรม, 2563. 152 หนา้ . 1. เกษตรกรรม -- วิจัย I. ช่อื เร่อื ง. 630.72 ISBN 978-616-8261-84-2
รศ.ดร.จนั ทรจ์ รสั เรี่ยวเดชะ KOeybjReecstiuvelts TDheinskignng ReTseeaamrch เปาหมาย ทนุ ว�จยั ครวะนจ�บใัยบน Expert แพลตฟอรม ว�จัยเกษตรผลลพั ธ Communication กคเาควรราจม�่อดั งรกมแู ลาอื ระ MLoogdiecl ODuetlcivoemrye ผสมู วีสนวเสนียได SuApnpalylyCshisain PIamthpwacaty BMusoindeesl s OMuatpcpoimnge StAankeahlyoslidser Empathize องคประกอบสำคัญ เครอ่� งมอื การจัดการ
ค�ำนิยม ศาสตราจารย์ นพ.วิจารณ์ พานชิ อดตี ผู้อำ� นวยการสำ� นกั งานกองทนุ สนับสนุนการวิจยั (สกว.) กรรมการบริหารสถาบันคลังสมองของชาติ ผมอ่านต้นฉบับหนังสอื เล่มนดี้ ว้ ยความสดช่ืนในอารมณ์ และใชโ้ หมดการอา่ นแบบ reflective reading คืออา่ นไปทบทวนประสบการณ์ชีวิตของตนไป ท้ังชีวิตตอนเป็นเด็กบ้านนอกลกู เกษตรกร และชวี ติ การทำ� งานท่ี สกว. 8 ปี ระหว่างปี 2536 ถงึ 2544 สาระในหนังสือเล่มนี้บอกผมว่า ความรู้ด้านการจัดการงานวิจัยของไทยได้ก้าวหน้าไปมาก หลงั การตพี มิ พห์ นงั สอื การบรหิ ารงานวจิ ยั แนวคดิ จากประสบการณ์ ฉบบั พมิ พค์ รง้ั ท่ี 4 ในปี พ.ศ. 2546 ผมย่ิงมีความสุขที่ได้เห็นว่า ทีมงานของ สกว. ได้น�ำประสบการณ์ท่ีสั่งสม เขียนเป็นหนังสือออก เผยแพร่ก่อคุณูปการแก่สังคมไทยอย่างกว้างขวางต่อเน่ือง และบุคคลส�ำคัญท่านหนึ่งในทีมงานคือ รศ.ดร.จันทรจ์ รัส เร่ียวเดชะ บรรณาธกิ ารหนงั สือเล่มน้ี ตอนท่ีผมเริ่มท�ำงานที่ สกว. เม่ือเกือบสามสิบปีมาแล้ว ผมต้ังข้อสงสัยว่า ท�ำไมไม่มีคนเขียน หนังสือเล่าประสบการณ์การจัดการงานวิจัยในบริบทไทยเราเอง เพื่อช่วยให้คนรุ่นหลังไม่ต้องลองผิด ลองถกู เองมากเกนิ ไป และได้ตง้ั ปณิธานวา่ งานส�ำคญั ของ สกว. นอกจากใหท้ นุ สนบั สนุนการวจิ ัยแลว้ ยังมงุ่ สร้างความเข้มแข็งใหแ้ ก่ระบบวจิ ยั ของประเทศในหลายๆ ดา้ น ด้านหน่งึ คือ การจัดการงานวิจัย ซง่ึ ในสมยั ทผ่ี มทำ� งานอยยู่ งั ไมแ่ ขง็ แรงนกั แตต่ อ่ มา สกว. กไ็ ดช้ อ่ื วา่ เปน็ หนว่ ยงานสนบั สนนุ การวจิ ยั ทมี่ ี ระบบการจดั การเขม้ แขง็ และได้ตีพมิ พ์หนงั สอื เก่ียวกับการจดั การงานวิจยั ออกเผยแพร่ในจ�ำนวนมาก อยา่ งน่าช่ืนชม หนังสือเล่มน้ีมีพลังมาก เพราะเขียนข้ึนจากประสบการณ์ตรง และน�ำเอาทฤษฎีการจัดการ หรือกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วม จากหนังสือในโลกตะวันตก มาตีความท�ำความเข้าใจ เช่นเร่ือง Design Thinking, Log Frame, OKR, Supply Chain Analysis, Business Model Canvas, Impact Pathway, Outcome Mapping เปน็ ต้น ท่านผอู้ า่ นจะได้ความรู้ทั้งเชิงสาระของงานวิจัย เชิงคณุ ค่า ของผลงานวจิ ัย และเชงิ การจดั การโปรแกรมงานวิจยั ขนาดใหญ่ ท่มี ีความซับซ้อน และมหี ลายข้ันตอน มผี เู้ กย่ี วข้องหลากหลายกลุ่ม หลากหลายผลประโยชน์
เรอ่ื งงานวจิ ยั ไกพ่ นื้ เมอื ง จากการอนรุ กั ษพ์ นั ธกุ รรม สกู่ ารสรา้ งอาชพี ชมุ ชน และอาหารสขุ ภาพ เขียนโดย ศ.ดร.มนต์ชัย ดวงจินดาและ รศ.ดร.จันทร์จรสั เรย่ี วเดชะ อา่ นแลว้ ผมบอกตวั เองวา่ น่ีคือ ผลงานนวัตกรรมการเกษตรของไทยท่ีน่าภาคภูมิใจย่ิง เร่ืองน้ีจะเป็นต�ำนานเล่าขานไปอีกนาน และ เปน็ ขอ้ เรยี นรเู้ ร่ืองการจัดการนวตั กรรมในหลากหลายบรบิ ท อา่ นเรอื่ ง PGS Rice Seed : แนวทางปฏบิ ตั สิ กู่ ารยกระดบั รายไดแ้ กษตรกรผลติ เมลด็ พนั ธข์ุ า้ ว เขียนโดย รศ.สมพร อิศวิลานนท์แล้ว ผมจินตนาการเห็นเหตุการณ์ระทึกใจ ในเชิงขัดแย้ง ที่เป็น ความทา้ ทายตอ่ ความสำ� เรจ็ ของโครงการ และวเิ คราะหโ์ ครงการตอ้ งหาทางแกไ้ ขมากมาย และเหน็ ชดั วา่ โครงการนยี้ งั ไมบ่ รรลผุ ลสำ� เรจ็ ตามความมงุ่ หมาย แตเ่ มอื่ ดทู ต่ี ารางท่ี 1 (หนา้ 27) กลบั พบวา่ โครงการนี้ ใหผ้ ลประโยชนส์ งู สดุ ใน 10 โครงการ แสดงวา่ เมอ่ื จบั เรอ่ื งสำ� คญั จรงิ ๆ ผลกระทบทางเศรษฐกจิ เกดิ ขน้ึ ได้ แม้โครงการวิจัยจะยังไม่บรรลุผลตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ เป็นตัวอย่างความซับซ้อนของการจัดการ งานวจิ ยั ได้เปน็ อย่างดี เน่ืองจากกรณีศึกษาท่ีน�ำเสนอเลือกมาจาก โครงการวิจัยชุด การยกระดับห่วงโซ่อุปทาน สินคา้ เกษตร (SMAE) การจดั การจงึ เนน้ การกระจายผลประโยชน์ไปยังผ้ปู ระกอบการตน้ น�้ำ กลางนำ้� และปลายนำ้� ให้เป็นธรรมย่ิงขน้ึ ซ่ึงเปน็ เป้าหมายท่นี า่ ชื่นชม ท่านผู้อ่านจะสามารถตีความจากแต่ละกรณีศึกษา รวมท้ังจากตอนที่ 3 เสียงสะท้อนจาก นักวิจัย เพ่ือท�ำความเข้าใจหลักการและวิธีการ การบริหารจัดการงานวิจัยเพื่อมุ่งผลลัพธ์ และเพื่อ น�ำไปประยุกต์ใช้ในต่างบริบท ให้ได้ผลดีย่ิงข้ึน ทั้งในระดับการจัดการการให้ทุนวิจัย การจัดการ ชดุ โครงการวจิ ยั (โปรแกรม) และการจัดการโครงการวิจยั ทตี่ นรบั ผิดชอบ ผมขอแสดงความยินดีท้ังต่อนักวิจัยของแต่ละโครงการของกรณีศึกษา ต่อท่านผู้สังเคราะห์ กรณศี กึ ษาแตล่ ะตอน ตอ่ บรรณาธกิ าร คอื รศ. ดร.จนั ทรจ์ รสั เรย่ี วเดชะ รวมทงั้ ตอ่ หนว่ ยงานทสี่ นบั สนนุ การจัดพมิ พเ์ ผยแพร่หนงั สือเลม่ นท้ี ้งั 5 หน่วยงานคือ สกสว., วช., บพท., แผนงานพฒั นาภมู ภิ าคและ จังหวัด 4.0, และสถาบันคลังสมองของชาติ ในการร่วมกันตอ่ ยอดทางปัญญาดา้ นการจดั การงานวจิ ยั ให้แก่สงั คมไทย วิจารณ์ พานิช
คำ� นยิ ม ศาสตราจารย์ ดร.ปิยะวัติ บุญ-หลง อดตี ผอู้ ำ� นวยการสำ� นักงานกองทุนสนับสนนุ การวิจัย (สกว.) ประธานกรรมการคณะกรรมการอำ� นวยการสำ� นกั งานคณะกรรมการ สง่ เสรมิ วิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม (สกสว.) ผู้เขียนได้ต้ังช่อื การวิจยั แบบน้วี า่ เปน็ การสร้าง “แพลตฟอรม์ ” หรอื ชานชาลา เชน่ เดียวกบั การข้ึนรถไฟท่ีจะต้องไปขึน้ ที่ชานชาลา เพื่อเห็นเปา้ หมายและเห็นสถานีต่างๆ ทจ่ี ะต้องผ่าน จะไดเ้ ตรยี มตัวใหพ้ ร้อม ก่อนออกเดินทาง การวจิ ัยเพ่ือพฒั นาการเกษตรในประเทศไทยได้ดำ� เนนิ การมาแลว้ เกือบหน่งึ ร้อยปี โดย เรม่ิ ตน้ จากการวจิ ยั ทจ่ี ดุ ตน้ นำ้� เชน่ การพฒั นาพนั ธใ์ุ หม่ ทงั้ พนั ธพ์ุ ชื และพนั ธส์ุ ตั ว์ ซงึ่ กป็ ระสบความ สำ� เรจ็ สงู ไดพ้ นั ธใ์ุ หมๆ่ ทก่ี ลายเปน็ ชอ่ื เสยี งของประเทศไทยในเวลาตอ่ มา นกั วจิ ยั จำ� นวนมากกไ็ ด้ ด�ำเนินตามรอยน้ี คือเน้นการวิจัยเพื่อพัฒนาการเกษตรเป็นจุดๆ ตามหัวข้อที่ตนเองเช่ียวชาญ โดยเช่ือว่าเม่ือมีจุดครบแล้วก็จะมีผู้มาประกอบจุดต่างๆ เหล่าน้ันเข้าด้วยกันให้กลายเป็นระบบ การผลิตท่ีดี และเม่ือสามารถผลิตของดีๆ ได้แล้วก็จะขายได้เอง เพ่ิงมาในระยะหลังๆ นี้เอง ทห่ี ลายฝา่ ยตระหนกั วา่ สมมตฐิ านนไี้ มเ่ ปน็ จรงิ ในบางเรอื่ งอาจไมม่ ผี ใู้ ดรบั หนา้ ทปี่ ระกอบผลงาน วิจยั เป็นจดุ ๆ เหลา่ นั้นใหเ้ ปน็ ระบบ และถึงแมจ้ ะมผี พู้ ยายามท�ำกจ็ ะไมส่ ามารถท�ำได้ เนื่องจาก ผลงานวจิ ยั เหลา่ น้ันต่อกันไม่ได้ ขาดหายไปบ้าง ไมค่ รบท่ีจะเปน็ ระบบได้ นอกจากน้ี ในโลกธรุ กจิ สนิ คา้ เกษตรมีเง่ือนไขทีไ่ มเ่ ป็นธรรมกบั ผู้ผลติ มกี ารกีดกนั มกี าร ครอบงำ� ตลาดจนถงึ จดุ ขายปลายทาง ซง่ึ ทง้ั หมดนมี้ ผี ลตอ่ ความสำ� เรจ็ ของงานวจิ ยั ทจี่ ะเขา้ สตู่ ลาด การใช้งานจรงิ ท้ังสน้ิ นกั วิจัยจงึ ควรเข้าใจเสน้ ทางระหว่างผ้ผู ลิตจนถึงผู้บรโิ ภคสุดท้าย ท่ีเรียกวา่ ห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ให้ถ่องแท้ก่อน แล้วจึงก�ำหนดวัตถุประสงค์ของงานวิจัยและ ดำ� เนนิ การวจิ ยั ผลงานวจิ ยั จงึ จะประสบความสำ� เรจ็ และเกดิ ประโยชนใ์ นการใชง้ านอยา่ งแทจ้ รงิ
หนังสือเล่มน้ีเป็นหนังสือเล่มแรกท่ีได้หยิบยกเร่ืองของห่วงโซ่อุปทานข้ึนมาเป็น ฐานเรมิ่ ต้นในการวจิ ยั การเกษตร โดยได้ทดลองทำ� จรงิ กบั สนิ คา้ ตา่ งๆ กัน ต้ังแต่ไกพ่ นื้ เมือง ไปจนถึงเมล็ดพันธุ์ข้าว มีนักวิจัยจากหลายมหาวิทยาลัยเข้าร่วมโครงการหลายสิบคน ท�ำงานรว่ มกันบนพน้ื ฐานความเข้าใจระบบเดียวกนั เพ่อื จะไดเ้ ห็นว่างานวจิ ัยทต่ี นเองท�ำนนั้ อยู่ตรงไหน เม่ือท�ำส�ำเร็จแล้วจะน�ำส่งอย่างไร จะเกิดความเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อุปทาน อย่างไร เกดิ ผลตอ่ ประโยชนส์ ดุ ทา้ ยคอื เศรษฐกจิ ในพน้ื ท่ีเป้าหมายอยา่ งไร จุดอน่ื ๆ ทจ่ี ะตอ้ ง ผ่านก่อนจะไปถึงจุดหมายปลายทางมีอะไรบ้าง และที่ส�ำคัญอย่างหน่ึงก็คือจุดใดที่ไม่ควร ไปท�ำเพราะอยู่นอกเส้นทาง ท�ำไปกเ็ สยี เวลาเปล่า เปน็ ต้น ผ้เู ขียนได้ตั้งชอ่ื การวจิ ัยแบบนีว้ า่ เป็นการสร้าง “แพลตฟอร์ม” หรือชานชาลา เช่นเดียวกับการขึ้นรถไฟท่ีจะต้องไปข้ึนท่ี ชานชาลาเพ่ือเห็นเป้าหมายและเห็นสถานีต่างๆ ที่จะต้องผ่าน จะได้เตรียมตัวให้พร้อม กอ่ นออกเดินทาง รองศาสตราจารย์ ดร.จนั ทรจ์ รสั เรยี่ วเดชะ บรรณาธกิ ารหนงั สอื เลม่ นเ้ี ปน็ ผทู้ ม่ี คี วามรู้ และประสบการณอ์ ยา่ งสงู มากในดา้ นการวางแผนการวจิ ยั เกษตร เปน็ นกั วจิ ยั และเปน็ ผบู้ รหิ าร ฝา่ ยวจิ ยั เกษตรของสำ� นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การวจิ ยั (สกว.) มาหลายสบิ ปี ไดว้ างแนวทาง การวิจัยสินค้าเกษตรหลายเร่ือง ได้ติดตามดูแลโครงการวิจัยเกษตรหลายร้อยโครงการ ตลอดจนไดเ้ ปน็ ทป่ี รกึ ษานโยบายเกษตรทง้ั ในระดบั ประเทศและระหวา่ งประเทศ จงึ มองเหน็ ภาพใหญ่ภาพกว้าง ในขณะเดียวกันก็มีประสบการณ์ที่ติดดิน ท�ำงานกับชุมชน เกษตรกร รายย่อย และนกั วจิ ยั ในกรมกองและสถาบันการศกึ ษามาโดยตลอด เนื้อหาสาระในหนงั สือ เลม่ นจ้ี งึ ถกู ประกอบมาอยา่ งดี ใหค้ วามรแู้ กผ่ อู้ า่ นอยา่ งเปน็ ขน้ั เปน็ ตอน และมหี ลกั ฐานอา้ งองิ ทส่ี ามารถตดิ ตามหาความรเู้ พมิ่ เตมิ ได้ จงึ เหมาะอยา่ งยง่ิ สำ� หรบั ผบู้ รหิ ารนโยบายทจี่ ะใชเ้ ปน็ ตวั อยา่ งในการสนบั สนนุ การวจิ ยั เกษตรแนวใหม่ บนฐานของ “แพลตฟอรม์ ” ตา่ งๆ เพอื่ จะได้ ปฏริ ปู วงการวจิ ยั เกษตรใหไ้ ปสยู่ คุ ใหม่ ทสี่ ามารถตอบสนองเกษตรกรและสรา้ งความกา้ วหนา้ ให้กับวงการเกษตรของประเทศไทยได้อย่างแทจ้ ริง ปิยะวัติ บญุ -หลง
ค�ำนยิ ม ดร.สลี าภรณ์ บวั สาย ประธานแผนงานการพัฒนาภูมิภาคและจังหวดั 4.0 แพลตฟอร์มการเรยี นร้เู ป็นเคร่ืองมือสำ� คัญ ที่จะช่วยท้งั ในการรับร้สู ถานการณ์ เรียนรู้แนวคิด วธิ กี ารและเคร่อื งมอื ใหม่ๆ เพอ่ื นำ� ไปทดลองใช้ ในการท�ำงานวิจัย และน�ำกลบั มาแลกเปล่ยี นกนั เพอ่ื ยกระดบั ทงั้ ผลการท�ำงานของนักวิจยั และ พัฒนาแนวคดิ เครื่องมือใหมๆ่ ในชว่ ง 3-4 ปมี านี้ เรมิ่ มกี ารพดู ถงึ คำ� ใหมท่ เี่ กไ๋ กใ๋ นวงการวจิ ยั คอื คำ� วา่ Platform ดฉิ นั เปน็ หนงึ่ ใน กลมุ่ คนแรกๆ ทน่ี ำ� คำ� นม้ี าใชเ้ พราะเหน็ วา่ การสรา้ งการเรยี นรขู้ องนกั วจิ ยั จำ� เปน็ ตอ้ งมพี น้ื ทแ่ี ละโอกาส ให้นักวิจัยท่ีมาจากหลากหลายฐานประสบการณ์และความเชี่ยวชาญได้มาแลกเปล่ียนกัน อันเป็น เครื่องมือส�ำคัญท่ีจะท�ำให้ความรู้ของทุกคนงอกงามขึ้น ย่ิงสถานการณ์จริงในพื้นที่เปล่ียนแปลงไป เร็วเทา่ ไร นกั วิจัยยงิ่ ตอ้ งตามใหท้ ันสถานการณ์นน้ั เพื่อท่ีจะยงั คงสถานะในการใช้ปญั ญาช้ีนำ� สงั คมได้ มิฉะน้ันเราจะมีแต่งานถอดบทเรียนตามหลังกันเต็มไปหมด แพลตฟอร์มการเรียนรู้เป็นเครื่องมือ สำ� คญั ทจ่ี ะชว่ ยทงั้ ในการรบั รสู้ ถานการณ์ เรยี นรแู้ นวคดิ วธิ กี ารและเครอ่ื งมอื ใหมๆ่ เพอื่ นำ� ไปทดลองใช้ ในการทำ� งานวจิ ยั และนำ� กลับมาแลกเปลย่ี นกันเพอ่ื ยกระดับทง้ั ผลการท�ำงานของนักวจิ ยั และพฒั นา แนวคดิ เครอ่ื งมอื ใหม่ๆ แพลตฟอร์มการวิจัยเพ่ือสร้างการเรียนรู้เช่นน้ีเป็นของใหม่และยังไม่มีรูปธรรมให้คนเข้าใจได้ว่า มันคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร เมื่อดิฉันได้มีโอกาสได้มาดูแลแผนงานการพัฒนาภูมิภาคและ จังหวัด 4.0 ซึ่งมีกรอบงานด้านหนึ่งท่ีส�ำคัญคือการพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานรากในภาคการเกษตร โดยมีเป้าหมายที่จะยกระดับรายได้ของเกษตรกรให้ได้ไม่น้อยกว่า 30% ซึ่งเป็นเป้าท่ีท้าทายมาก จงึ ได้ไปขอร้อง รศ.ดร.จันทรจ์ รัส เรย่ี วเดชะ อดีตรองผอู้ ำ� นวยการสำ� นกั งานกองทนุ สนับสนนุ การวิจยั และผู้อ�ำนวยการฝ่ายเกษตรของ สกว. ปัจจุบันรองผู้อ�ำนวยการสถาบันคลังสมองของชาติ ให้เอา เครอื ขา่ ยงานดา้ นเกษตรทอี่ าจารยเ์ ปน็ ผสู้ รา้ งไวม้ ารบั ความทา้ ทายนี้ แถมดว้ ยโจทยท์ ที่ า้ ทายอกี อนั หนงึ่ ซอ้ นลงไปคอื การสรา้ งแพลตฟอรม์ การวจิ ยั ดา้ นการเกษตร ใหเ้ ปน็ เครอ่ื งมอื สำ� หรบั การพฒั นางานวจิ ยั และนักวจิ ยั ให้สามารถเดนิ ไปสเู่ ปา้ 30% นน้ั ได้
แมโ้ จทยจ์ ะยาก แถมยงั มโี จทยซ์ อ้ นโจทย์ แตอ่ าจารยจ์ นั ทรจ์ รสั กไ็ มเ่ คยทำ� ใหผ้ ดิ หวงั เพราะทา่ น เปน็ คนชอบความทา้ ทาย (โจทยง์ า่ ยๆ ไมช่ อบ) แพลตฟอรม์ การวจิ ยั ดา้ นการเกษตรทอี่ าจารยพ์ ฒั นาขนึ้ มีการออกแบบให้เป็นพ้ืนที่สร้างการเรียนรู้ แนวคิด และเครื่องมือใหม่ๆ เพื่อยกระดับนักวิจัยให้ มองภาพของงานเกษตรให้เห็นตลอดห่วงโซ่อุปทาน มีวิธีการวิเคราะห์เพ่ือต้ังเป้าหมายและออกแบบ งานวิจัยให้ตอบเป้าหมาย มีเคร่ืองมือวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์ที่ท�ำให้นักวิจัยเร่ิมก้าวข้ามศาสตร์ จากความช�ำนาญเฉพาะด้านการเกษตร มาสู่ด้านการจัดการและเศรษฐศาสตร์ ท่ีน่าช่ืนชมมาก อีกส่วนหนึ่งคือ นักวิจัยท่ีสู้ไม่ถอย แม้จะมาจากความช�ำนาญในสาขาวิชาและฐานประสบการณ์ท่ี แตกตา่ งกนั มาก แตท่ กุ คนกพ็ ยายามเรยี นรู้ แถมยงั ไดน้ ำ� เครอื่ งมอื ทไี่ ดเ้ รยี นรแู้ ละเหน็ วา่ เปน็ ประโยชนน์ ี้ ออกไปบอกต่อกนั อีกไม่นอ้ ย เมือ่ เห็นผลงานออกมาเปน็ เล่มทท่ี า่ นอ่านอยู่นี้ ดฉิ ันจึงเพิง่ ตระหนักได้ว่า นอกจากคุณค่าในการ สรา้ งความชัดเจนใหก้ ับแนวคดิ ของ “แพลตฟอรม์ การวิจยั ” แลว้ ส่งิ ที่อาจารยจ์ ันทรจ์ รสั ได้สรา้ งขึ้นน้ี จะมีคุณูปการอีกมหาศาลกับวงการวิจัยด้านการเกษตรของประเทศ เพราะเป็นการท�ำให้เห็นอย่าง เป็นรูปธรรมว่าหากนักวิจัยด้านการเกษตรต้องการสร้างการเปล่ียนแปลงเพ่ือช่วยเหลือเกษตรกร จรงิ ๆ แลว้ เขาจะตอ้ งกา้ วขา้ มรว้ั หรอื กบั ดกั ความคดิ เดมิ และเปดิ ใจออกมาเรยี นรแู้ นวคดิ ใหมๆ่ อะไรบา้ ง เชน่ ตอ้ งมกี ารวเิ คราะหโ์ ซอ่ ปุ ทานของสนิ คา้ เกษตรนน้ั ๆ กอ่ นทจ่ี ะกำ� หนดโจทยก์ ารทำ� งาน ตอ้ งออกแบบ การทำ� งานวจิ ยั โดยคำ� นึงถึงผลลพั ธป์ ลายทางไวต้ ั้งแตต่ น้ ต้องวางแผนการเกบ็ ข้อมลู ทางเศรษฐศาสตร์ เพอื่ วัดผลลพั ธ์การเปล่ียนแปลงไดอ้ ยา่ งเปน็ รปู ธรรม เปน็ ต้น จงึ จะสามารถผลิตงานวิจยั ทมี่ ีคุณค่าและ ชว่ ยเพม่ิ รายได้ใหเ้ กษตรกรไดอ้ ยา่ งแท้จรงิ ในโลกที่หมุนเร็วจนศาสตร์ทุกศาสตร์อยู่ในสภาพตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลงนี้ การเรียนรู้ ข้ามศาสตร์เป็นเครื่องมือส�ำคัญที่จะช่วยให้นักวิจัยสามารถมองปรากฏการณ์ท่ีเกิดขึ้นได้จากมุมมอง ท่ีหลากหลายมากขึ้น และสามารถยกระดับการวิเคราะห์ให้คมชัดเพื่อชี้น�ำทิศทางการพัฒนาได้อย่าง ถูกต้อง แพลตฟอร์มการวิจัย คือเคร่ืองมือหนึ่งที่จะพานักวิชาการให้กระโดดข้ามรั้วน้ีไปได้ กรณี ตัวอย่างจากโครงการวิจัยท่ีท�ำบนสินค้าเกษตรหลายประเภทดังท่ีปรากฏในหนังสือเล่มน้ี คือผลงาน ของนักวิจัยที่กระโดดข้ามร้ัวไปได้อย่างสวยงาม ผลที่เกิดกับเกษตรกรท�ำให้รายได้เพ่ิมข้ึนอย่างเป็น รูปธรรม แต่ที่มีคุณคา่ ยงิ่ กว่านัน้ คอื มุมมองใหม่ๆ ท่จี ะตดิ ตัวนักวิจัยเหล่านต้ี ลอดไป สีลาภรณ์ บัวสาย
คำ� นิยม ดร.กิตติ สจั จาวฒั นา ผู้อ�ำนวยการหน่วยบรหิ ารและจดั การทนุ ด้านการพัฒนาระดบั พ้นื ท่ี (บพท.) หนงั สอื เล่มนเี้ ป็นการสงั เคราะห์แพลตฟอร์มวจิ ัย ดา้ นเกษตรทีช่ ใ้ี ห้เหน็ ถงึ รูปแบบ กลไก กระบวนการและ เคร่อื งมอื ทใี่ ช้ เพ่ือนำ� พาผลงานวิจัยไปสู่ผลกระทบ อยา่ งแท้จรงิ โดยเฉพาะผู้ใชป้ ระโยชน์จากงานวิจยั ปลายทาง (destination user) คือเกษตรกรเอง และผู้ใช้ประโยชน์ จากงานวิจยั กลางทาง (intermediate user) ไดแ้ ก่ หนว่ ยงานทเ่ี กี่ยวข้องในพ้นื ท่ี หากกล่าวถึงงานวิจัยด้านเกษตรของประเทศไทย นักวิจัยด้านนี้ก็จะคุ้นชินกับการโฟกัสท่ีโจทย์ต้นน�้ำ อาทิ การจดั การดนิ การปรบั ปรงุ พนั ธ์ุ การวจิ ยั เมลด็ พนั ธ์ุ การวจิ ยั บรหิ ารจดั การนำ้� ดา้ นการเกษตร การจดั การ ศัตรูพืช เป็นต้น อาจจะไปถึงการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวและการแปรรูปข้ันต้น ต่อจากนั้นเป็นหน้าที่ของ งานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร (Food Science) ท่ีส่วนใหญ่เป็นโจทย์วิจัยด้านการหาสภาวะ (conditions) ทเี่ หมาะสมกับการแปรรปู อาหารใหไ้ ด้มาตรฐานตรงกับความตอ้ งการของบริษัท โรงงาน ท�ำให้ งานวิจัยด้านเกษตรของประเทศไทยยังขาดความเช่ือมโยงจนไปถึงตลาดและผู้บริโภค จึงมีค�ำถามสองค�ำถาม ทสี่ ำ� คญั ที่นกั วิจยั ด้านเกษตรควรขบคดิ และหาคำ� ตอบเพอ่ื เรยี นรเู้ พ่มิ เตมิ คือ 1. งานวจิ ยั ด้านเกษตรทีผ่ ่านมา ไดไ้ ปถึงมือเกษตรกรและได้รบั การน�ำไปใชจ้ ริงมากแคไ่ หน 2. งานวจิ ยั ด้านเกษตรทีผ่ า่ นมา ใช้ไดจ้ ริงในกลไกตลาดท่ีแทจ้ ริงมากนอ้ ยเพียงใด และหากไปถงึ ตลาด ไดจ้ รงิ ใครเปน็ ผไู้ ดร้ บั ผลประโยชนส์ งู สดุ ตอ่ สนิ คา้ นนั้ เกษตรกร ผปู้ ระกอบการแปรรปู หรอื คนขาย คำ� ถามแรก เปน็ เรอ่ื งของ Technology/Innovation adoption ซง่ึ เปน็ เรอื่ งทนี่ า่ สงั เกตมากวา่ งานวจิ ยั ดา้ นเกษตรให้ความสำ� คญั กบั การเรียนร้ขู องเกษตรกรนอ้ ยมาก ท้ังท่ีงานดา้ นเกษตรจะมสี ่วนงาน/วชิ าสง่ เสริม การเกษตร จนไปถึงข้ันตั้งกรมส่งเสริมการเกษตรขึ้นมา หากแต่ก็ยังไม่มีการตีความ สังเคราะห์ให้เห็น แพลตฟอร์มการเรียนรู้ของเกษตรกร อันจะเป็นค�ำตอบว่าท�ำไมเร่ืองน้ีเกษตรกรบางกลุ่มท�ำ บางกลุ่มไม่รับ หรอื ไมท่ ำ� การจดั การเรยี นรผู้ า่ นกระบวนการเรยี นรโู้ ดยตวั เกษตรกรเองจงึ เปน็ สงิ่ หนงึ่ ทนี่ กั วชิ าการดา้ นเกษตร ตอ้ งขบคดิ อย่างจรงิ จงั มากขนึ้ มเิ ชน่ นัน้ การติดต้งั (install) ความรแู้ ละนวตั กรรมจะเปน็ ไปในรปู แบบเดียวคือ การอบรมเกษตรกรจากการเลือกเกษตรกรแกนน�ำหัวก้าวหน้า ความเข้าใจและการขบคิดถึงความแตกต่าง หลากหลายของคนและบริบท ท้ังภูมิศาสตร์การเมือง ภูมิศาสตร์กายภาพและภูมิสังคมก็จะไม่มี จนเป็น คำ� บน่ ทว่ั ไปของนักวิจัยด้านเกษตรหลายต่อหลายครั้งว่า ชาวบ้านไม่เข้าใจ ไม่ยอมรับ หรือกล่าวอ้างเหตุผล ร้อยแปดทีท่ �ำใหง้ านวจิ ัยไปไม่ถึงเกษตรกรหรือเกษตรกรไมย่ อมรบั และไม่ยอมใช้
ค�ำถามท่ีสอง เป็นค�ำถามคลาสสิกท่ีนักวิจัยด้านเกษตรมองเห็นแต่ไม่ใช่งานที่ถนัดจึงแอบมองข้ามไป อย่างจงใจ ท�ำให้งานวิจัยด้านเกษตรส่วนใหญ่ของประเทศติดกับดักความคิดงานต้นน�้ำ แล้วก็วนเวียน หาทางออกไมเ่ จอ เชน่ ทำ� อย่างไรใหเ้ กษตรกรไดม้ าตรฐานการผลิตแล้วก็ลงทนุ สรา้ งค่มู ือ หลกั สูตร เวทีอบรม ที่น่าจะใช้งบประมาณหลักพันล้านต่อปีทั่วประเทศ จนถึงยุคหนึ่งก็มีเสียงเรียกร้องจากสังคมว่า งานวิชาการ ด้านเกษตรต้องท�ำจนถึงตลาดจึงจะมีผลกระทบอย่างแท้จริง แล้วก็มีการพัฒนารูปแบบงานวิจัยด้านเกษตร ขึน้ โดยใชห้ ่วงโซค่ ุณค่า (value chain) เปน็ เคร่ืองมือ หากแต่ยังไม่เหน็ รูปแบบท่ีชดั เจนนกั เพราะการท�ำให้ นักวจิ ยั ดา้ นเกษตรยอมรบั รูปแบบใหมข่ องการท�ำงานทต่ี ้องบรู ณาการกบั ศาสตร์อ่ืนไม่ใช่เรอ่ื งงา่ ย อาจารยจ์ นั ทรจ์ รสั เรยี่ วเดชะ เปน็ อาจารยค์ นสำ� คญั ทา่ นหนงึ่ ของผม ทา่ นไดพ้ ฒั นาแพลตฟอรม์ งานวจิ ยั ด้านเกษตรข้ึนตอนเป็นผู้อ�ำนวยการฝ่ายเกษตร สกว. จนเกิดรูปธรรมความส�ำเร็จมากมาย ท้ัง แพลตฟอร์ม งานวิจัยท่ีน�ำผลิตผลการเกษตรท่ีไปสู่ตลาดได้แท้จริงทั้งห่วงโซ่คุณค่า (โคเน้ือ ไก่พ้ืนเมือง พริก และฯลฯ) เปน็ รากเหงา้ ความคดิ ทผี่ มนำ� มาตอ่ ยอด และสอบถามไปทอ่ี าจารยส์ ธุ รี ะ ประเสรฐิ สรรพ์ อดตี รองผอู้ ำ� นวยการ และผบู้ ริหาร สกว. ฝ่ายอุตสาหกรรม ซ่ึงท่านช้ใี ห้เห็นวา่ งานด้านเกษตรขาดการวางระบบคิดใหเ้ หน็ ทัง้ ห่วงโซ่ (chain) และทา่ นไดใ้ หห้ ลกั คดิ วา่ ควรทำ� วจิ ยั ดา้ นเกษตรทที่ ำ� ทงั้ network value chain ทส่ี นิ คา้ ใดมหี ว่ งโซท่ ย่ี าว ยอ่ มทำ� ให้ชาวบา้ น เกษตรกรที่เก่ียวข้อง ผู้ประกอบการในพืน้ ท่ไี ดป้ ระโยชนม์ ากไปดว้ ย ตรงกันข้ามสินคา้ ใด ห่วงโซ่สน้ั มาก คนท่มี สี ัดส่วนรายไดส้ ูงสดุ กจ็ ะเป็นรายใหญ่ เชน่ ขา้ ว ปลูกแล้วส่งขา้ วเปลอื กเข้าโรงสีโดยตรง ออ้ ย มนั สำ� ปะหลงั เปน็ ตน้ ซง่ึ ตอ่ มาเมอื่ ผมมโี อกาสสนบั สนนุ ทนุ วจิ ยั ไดท้ ำ� งานรว่ มกบั อาจารยบ์ ณั ฑติ อนิ ณวงศ์ เราจงึ ตคี วามและออกแบบแพลตฟอรม์ การทำ� งานดา้ นการพฒั นาผลติ ภณั ฑอ์ ตั ลกั ษณพ์ นื้ ถน่ิ และผปู้ ระกอบการ ในพื้นที่ โดยมีการวางแผนให้เก็บข้อมูลและวิเคราะห์ห่วงโซ่อุปสงค์อุปทานต้ังแต่แรกเพ่ือหาช่องว่างยกไป เป็นห่วงโซ่คุณค่า โดยตั้งเงื่อนไขความส�ำเร็จว่า เม่ืองานวิจัยส�ำเร็จ สัดส่วนรายได้ของเกษตรกร/ผู้ผลิตต้นน้�ำ ต้องเพม่ิ มากข้นึ ดว้ ย เป็นท่ีน่าดีใจที่อาจารย์จันทร์จรัสได้ต่อยอดการให้ทุนวิจัยจากแผนงาน SIP วิจัยด้านเกษตรออกมา เป็นแพลตฟอร์มด้านเกษตร หนังสือเล่มนี้จึงเป็นการสังเคราะห์แพลตฟอร์มวิจัยด้านเกษตรท่ีช้ีให้เห็นถึง รูปแบบ กลไก กระบวนการและเครื่องมือที่ใช้ เพื่อน�ำพาผลงานวิจัยไปสู่ผลกระทบอย่างแท้จริง โดยเฉพาะ ผู้ใช้ประโยชน์จากงานวิจัยปลายทาง (destination user) คือเกษตรกรเอง และผู้ใช้ประโยชน์จากงานวิจัย กลางทาง (intermediate user) ได้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพ้ืนท่ี อีกทั้งยังมีอาจารย์สมพร อิศวิลานนท์ มาช่วยสังเคราะห์ให้เห็นความเช่ือมโยงของการวิจัยจากต้นจนไปถึงปลายทาง หนังสือเล่มนี้จึงเป็นหนังสือ ทนี่ า่ อา่ นอยา่ งยง่ิ สำ� หรบั นกั จดั การงานวจิ ยั นกั วจิ ยั นกั วชิ าการดา้ นเกษตร หากอา่ นแลว้ นำ� ชดุ ประสบการณข์ อง ตัวเองมาทาบและขบคดิ ใหเ้ หน็ เปน็ ตัวแบบของการขับเคลื่อนตามบริบทของตัวเองได้จะย่ิงดี แอบคดิ ดังๆ ว่า เสยี ดายทห่ี นังสอื เล่มนข้ี าดการขบคดิ สองสว่ นทวี่ า่ ทง้ั เรอ่ื งการเรียนรขู้ องเกษตรกรและผปู้ ระกอบการ รวมท้งั กระบวนการและเครอ่ื งมอื ทำ� งานทงั้ หว่ งโซค่ ณุ คา่ ทท่ี ำ� ใหส้ ดั สว่ นรายไดไ้ ปสเู่ กษตรกรตน้ นำ�้ อยา่ งจรงิ จงั ทง้ั ทอ่ี ยู่ ในกระบวนการจดั การและดำ� เนินงานวจิ ัยอยู่แล้ว จึงฝากไว้กับคำ� นยิ มว่า จะรอผลงานเลม่ ต่อไปของอาจารย์ จนั ทร์จรัสท่ีครบถ้วนสมบรู ณต์ ่อไป กติ ติ สจั จาวัฒนา
คำ� นำ� รศ.ดร.พีรเดช ทองอำ� ไพ ผู้อำ� นวยการสถาบนั คลังสมองของชาติ การวิจัยเป็นเรื่องของการลงทุนเพื่อสร้างความรู้ ส่วนการน�ำความรู้เหล่าน้ันมาใช้ เป็นการก่อให้เกิด นวัตกรรม ทั้งสองส่วนน้ีเป็นหัวใจส�ำคัญในการพัฒนาประเทศ องค์ประกอบส�ำคัญในการสร้างงานวิจัย และนวัตกรรมนั้น นอกเหนือจากเงินงบประมาณ อุปกรณ์การวิจัย และนักวิจัยแล้ว ยังมีอีกส่วนหน่ึงที่มี ความส�ำคัญมากและหลายคนมักจะมองข้าม น่ันคือ “นักบริหารงานวิจัย” ซ่ึงต้องมีความรู้เรื่องการบริหาร งานวจิ ัยเป็นอย่างดี เพื่อทำ� หน้าทบ่ี ริหารจดั การให้เกดิ ผลงานที่ดี มคี ุณภาพ รวมไปถึงการขับเคลือ่ นใหผ้ ลงาน เหล่านั้นถกู น�ำไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ การบริหารงานวิจัยให้มีประสิทธิภาพนั้น ต้องอาศัยเคร่ืองมือหลายอย่าง ตั้งแต่เริ่มคิดท�ำโครงการ การวางเป้าหมาย การก�ำหนดวิธีการวิจัย การผลักดันผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ ส่ิงเหล่านี้เป็นทั้งศาสตร์ และศลิ ป์ ซ่งึ นักบริหารงานวจิ ยั ทด่ี คี วรตอ้ งมที ง้ั ทกั ษะและประสบการณ์ รวมท้งั การคิดคน้ แสวงหา และน�ำ เคร่ืองมอื ต่างๆ เขา้ มาใช้เพอื่ ชว่ ยบรหิ ารจัดการ รองศาสตราจารย์ ดร.จันทร์จรัส เรี่ยวเดชะ ได้ส่ังสมประสบการณ์การบริหารงานวิจัยด้านการเกษตร มาอยา่ งตอ่ เนอื่ งยาวนาน ไดแ้ สวงหาเครอื่ งมอื ตา่ งๆ เพอ่ื ชว่ ยในการบรหิ ารงานวจิ ยั และไดป้ ระยกุ ตใ์ ชเ้ ครอ่ื งมอื เหล่าน้ันอย่างได้ผล จนเกิดเป็นตัวอย่างหรือต้นแบบ ซ่ึงได้นำ� มาใช้เป็นกรณีศึกษาในหลายๆ รูปแบบด้วยกัน องค์ความรูต้ า่ งๆ เหลา่ นถ้ี ือได้วา่ มีคณุ ค่าเปน็ อยา่ งย่งิ ซ่งึ นักบรหิ ารงานวจิ ยั ร่นุ ใหม่ หรือผทู้ ีค่ ิดวา่ อยากเข้ามา มีบทบาทในการเป็นนักบริหารงานวิจัยควรจะต้องรู้ และใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาการบริหารงานวิจัยให้ มีความกา้ วหน้าต่อไป หนังสือเล่มน้ีได้รวบรวมประสบการณ์จริงจากการบริหารงานวิจัยของนักบริหารงานวิจัยท่ีประสบ ความส�ำเร็จ เกิดเป็นกรณีศึกษาหลายรูปแบบ มีการน�ำเสนอเครื่องมือต่างๆ ท่ีใช้เป็นตัวช่วยในการบริหาร งานวิจัยอย่างได้ผล เพ่ือให้นักบริหารงานวิจัยได้หยิบมาใช้ รวมทั้งใช้กรณีศึกษาเหล่านี้เป็นต้นแบบ ในการวางระบบบริหารงานวิจัยของตนเองต่อไป โดย รศ.ดร.จันทร์จรัส เร่ียวเดชะ และ รศ.มยุรี จัยวัฒน์ ไดท้ มุ่ เทพละกำ� ลงั ในการเรยี บเรยี ง รวบรวมผลงานเหลา่ นอี้ อกมาเปน็ หนงั สอื “แพลตฟอรม์ วจิ ยั ดา้ นเกษตร” ฉบับนข้ี ้นึ มา โดยเนน้ เรอ่ื งของ “การออกแบบและบริหารจัดการงานวจิ ยั เพือ่ มุ่งผลลพั ธ์” เป็นหลกั จงึ หวัง เป็นอย่างยิ่งว่า องค์ความรู้ดังกล่าว จะเป็นเครื่องมือส�ำคัญในการยกระดับการวิจัยของประเทศได้ส่วนหน่ึง และจะท�ำให้ผู้ท่ีเกี่ยวข้องกับการวิจัยสามารถส่งมอบผลลัพธ์ได้ตามความคาดหวังของสังคม และช่วยกัน ขับเคลือ่ นระบบวจิ ยั ให้มีพลงั ในการพัฒนาประเทศอยา่ งยง่ั ยนื ต่อไป
สารบญั 04 คำนยิ ม ศ.นพ.ว�จารณ พานชิ / ศ.ดร.ปย ะวัติ บญุ -หลง / ดร.กติ ติ สัจจาวฒั นา / ดร.สีลาภรณ บัวสาย คำนำ รศ.ดร.พร� เดช ทองอำไพ บทบรรณาธิการ บทนำ จันทรจรสั เร�่ยวเดชะ ตอนท่ี 1 แพลตฟอรม ว�จยั ดา นเกษตร จนั ทรจ รัส เร�ย่ วเดชะ 14 แพลตฟอรม์ วิจยั ด้านเกษตร
41 ตอนท่ี 2 กรณีศกึ ษา • งานวจ� ัยไกพ น้� เมอื ง: จากการอนรุ กั ษพ นั ธกุ รรม • สูการสรา งอาชพี ชุมชน และอาหารสขุ ภาพ • มนตช ัย ดวงจน� ดา / จันทรจ รัส เร�่ยวเดชะ • • PGS: แนวทางปฏิบตั สิ ูการยกระดบั รายไดเ กษตรกรผลิตเมลด็ พันธุข าว สมพร อิศวล� านนท 137 ตอนที่ 3 โอกาสโคเน้อื ไทย หรอ� เพย� งปกปองอต� สาหกรรมเนือ้ โคของประเทศ ศิรพ� ร กริ ตกิ ารกุล ตรังโมเดล: เพ�่อพฒั นาเศรษฐกจิ ฐานรากของคนชายฝง มยุร� จยั วัฒน ดิจต� ลั แพลตฟอรม: เพ�มชองทางการตลาด ของธรุ กจิ เกษตรอนิ ทรย� ไทย ปยะทศั น พาฬอนรุ กั ษ เสยี งสะทอนจากนักวจ� ัย นกั วจ� ัยชดุ โครงการ SMAE การออกแบบและการบรหิ ารจดั การงานวิจัยเพือ่ ม่งุ ผลลพั ธ์ 15
บทบรรณาธิการ หนงั สอื แพลตฟอรม์ วจิ ยั ดา้ นเกษตร: การออกแบบและการบรหิ ารจดั การงานวิจยั เพอื่ มงุ่ ผลลพั ธ์ จัดท�ำข้นึ เพอ่ื ถ่ายทอดประสบการณ์และเครื่องมือด้านการออกแบบและการจัดการงานวิจัย เปน็ หลัก โดยเนน้ 1) องค์ประกอบสำ� คญั ของการขบั เคลือ่ นระบบวิจัย 2) เคร่อื งมอื และชดุ ความรู้ ดา้ นกระบวนทศั น์และกระบวนการ และ 3) กรณีศึกษา ด้านเครื่องมอื การบรหิ ารจดั การชุดโครงการวิจัยสว่ นหน่ึงอ้างองิ จากหนังสือ การบริหารจัดการ งานวจิ ัยเพือ่ สรา้ งผลลัพธแ์ ละผลกระทบ บรรณาธิการโดย จันทร์จรัส เรย่ี วเดชะ1 ผสู้ นใจกรณีศึกษา เรอ่ื งใหญท่ เ่ี ปน็ พน้ื ฐานของการจดั การทำ� ขอ้ เสนอเชงิ นโยบาย และการสรา้ งทางเลอื กและโอกาสใหมๆ่ แก่เกษตรกรและผปู้ ระกอบการ อาจหาอา่ นไดใ้ นหนงั สอื ดงั กลา่ ว หรอื ดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ สกสว. (เดิมคอื สกว.) เครื่องมอื ใหมท่ ่ียกมากลา่ วในฉบับน้ี ประกอบดว้ ย Design Thinking (DT), Objective Key Result (OKR), Supply Chain Analysis (SCA) และ Impact Pathway (IP) Supply Chain Analysis ชว่ ยใหท้ ราบวา่ ใครเปน็ ใครและไดผ้ ลตอบแทนเทา่ ใดในโซอ่ ปุ ทาน ในขณะท่ี Impact Pathway ชว่ ยให้ นกั วิจัย ผูบ้ ริหารโครงการวิจยั มอง “ทะล”ุ ถงึ ผลลพั ธ์ท่ีเกดิ จากการลงทุนวิจัยน้นั ๆ ส่วน OKR ก�ำหนด เป้าหมายท่ตี ้องการบรรลุผล กรณศี กึ ษาทหี่ ยบิ ยกมาวเิ คราะห์ เปน็ ตวั แทนของตวั สนิ คา้ เกษตร ทม่ี คี วามจำ� เพาะทางใดทางหนง่ึ ดงั นี้ งานไกพ่ ้ืนเมอื ง เปน็ การบรรจบกนั ของ 1) วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยดี า้ นพนั ธกุ รรม (Genetic Resources and Selection) และการอนุรักษ์พันธุกรรมสัตว์ (Animal Genetic Resources Conservation) กับ 2) ระบบส่งเสริมใหม่ที่เน้นการบริหารโซ่อุปทานเพ่ือสร้างห่วงโซ่คุณค่าใหม่แก่ เกษตรกร โดยมี 3) เกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรเป็น key actor ของการพฒั นาอาชพี ผลกระทบคือ ไก่ประดู่หางด�ำท่ีเป็นไก่พ้ืนเมืองไทยท่ีผ่านการรวบรวม คัดเลือกและปรับปรุงได้ด�ำรงพันธุ์อยู่ในมือ เกษตรกรทจ่ี ะใช้ประโยชน์ได้อยา่ งตอ่ เน่อื ง เปน็ in situ conservation ที่ยงั่ ยืน และมีประสิทธิภาพ สูงสดุ 1 จนั ทร์จรัส เรย่ี วเดชะ, 2561. การบริหารจดั การงานวจิ ัยเพื่อสร้างผลลพั ธ์และผลกระทบ. สำ�นกั งานกองทุนสนบั สนนุ การวิจยั . 480 หนา้ 16 แพลตฟอร์มวิจยั ดา้ นเกษตร
งานเมลด็ พนั ธข์ุ ้าว เป็นการต้ังเป้าหมายสร้างโอกาสรายได้เพ่มิ ของชาวนาโดยการปรบั เปลีย่ น การผลิต “ข้าวเปลือก” เป็น “เมล็ดพันธุ์” ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่า และสามารถตอบสนองความต้องการ ใช้เมล็ดพันธุ์ท่ีมีทั้งคุณภาพและได้รับการรับรองมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม คอขวดส�ำคัญของการน�ำ ผลงานวิจัยไปปรับใช้ คือ หน่วยงานผู้รับผิดชอบรับรองมาตรฐานแปลงและมาตรฐานเมล็ดพันธุ์ข้าว ข้อวเิ คราะหม์ ีความชัดเจนว่า จำ� เปน็ ตอ้ งมีกระบวนการน�ำส่งผลงานวจิ ัยอย่างเหมาะสม งานโคเนื้อ โคเน้ือเป็นวิถีชีวิตของเกษตรกรในอดีต และเป็นโอกาสเชิงเศรษฐกิจของเกษตรกร ผู้ก้าวไปสู่การเป็นผู้ประกอบการในปัจจุบัน ผลการวิเคราะห์โซ่อุปทานในหลายพื้นท่ี มีข้อค้นพบว่า เกษตรกรต้นน้�ำได้รับผลตอบแทนการลงทุนน้อยที่สุด โดยที่เทคโนโลยีต้นน�้ำอาจมีความสัมพันธ์บ้าง แต่ไมม่ ากนกั กับรายได้เพม่ิ ของเกษตรกร แนวทางการสร้าง value chain ใหมใ่ ห้สะท้อนไปสูต่ ้นน้�ำ จงึ มคี วามจำ� เป็นอยา่ งยิ่ง งานชุดอาหารทะเล ประกอบด้วยสัตว์น�้ำเศรษฐกิจหลายตัว เป็นการสร้างรายได้ อาชีพ เศรษฐกจิ จากฐานทรพั ยากรธรรมชาติ การลงทนุ มคี วามแตกตา่ งจากการทำ� เกษตร หรอื การทำ� ประมง แนวเพาะเล้ียง และการประมงทะเล ผู้เกี่ยวข้องต้นน�้ำเป็นประมงชายฝั่ง ซ่ึงได้รับผลตอบแทน ต�่ำกว่าปลายน�้ำตามธรรมชาติ แต่การน�ำความรู้และเทคโนโลยีไปปรับใช้ การวิเคราะห์ทั้งโซ่อุปทาน รวมทง้ั การใชเ้ ครอื่ งมอื ใหมใ่ นการหาคำ� ตอบโจทยว์ จิ ยั ชว่ ยฉายภาพผเู้ กยี่ วขอ้ งเหน็ ชดั เจนขนึ้ วา่ สามารถ เพม่ิ โอกาสสร้าง/ปรบั ห่วงโซค่ ุณค่าใหม่ (new value chain) ให้สงู ขึ้นได้เปน็ อย่างดี งานดิจดิ ัลแพลตฟอร์มสินค้าเกษตรอินทรีย์ เป็นการพัฒนา open platform เชิง digital เพื่อปรับใช้ต่อยอด และขยายฐานการผลิตและธุรกิจเกษตรอินทรีย์ผ่านระบบความเชื่อมั่นแบบ Participatory Guarantee System จากผลการสงั เคราะห์ ผูอ้ ่านจะไดท้ ำ� ความเข้าใจถงึ “โจทย์วจิ ัยที่ใช่” นักวจิ ัยที่ถกู เรื่อง เครื่อง มอื ทถ่ี กู หยบิ ยกมาใช้ ความเขา้ ใจรว่ มกนั ของ Stakeholders การสง่ มอบและการขบั เคลอ่ื นผลงานวจิ ยั รวมถึง “ข้อจำ� กดั ” และข้อเสนอแนะเพอื่ สร้างสรรค์ realized outcomes ในอนาคต นอกเหนือจากกรณีศึกษาตัวอย่างท่ีหยิบยกมาวิเคราะห์แล้ว หนังสือยังได้สรุปข้อคิดเห็นของ นักวิจัยท่ีสะท้อนการด�ำเนินงานท้ังหมด โดยเฉพาะการบริหารจัดการและการสร้าง Knowledge Platform ด้านการบรหิ ารจดั การโครงการในชุด “การยกระดับหว่ งโซ่อุปทานสนิ ค้าเกษตร” (SMAE) การออกแบบและการบรหิ ารจดั การงานวิจัยเพอื่ มุ่งผลลัพธ์ 17
เคร่ืองมือท่ียกมาท้ังหมด สามารถน�ำมาปรับใช้ได้ทุกระดับต้ังแต่การพัฒนากระบวนคิด การออกแบบใหส้ ะทอ้ น key results ไปจนถงึ การเชอื่ มรอ้ ยผลงานสู่ stakeholders/users เพอ่ื ใหร้ ะบบ วิจัยขับเคล่ือนไปไม่มีที่ส้ินสุด อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล …โลกเปลี่ยนไป เกษตรกรไทย ต้องเปลีย่ นแปลง ประเด็นส�ำคัญประการหนึ่งท่ีมิใช่เคร่ืองมือการจัดการ แต่เป็น mindset และพฤติกรรม คือ ธรรมาภบิ าลในระบบวจิ ยั ทกุ ระดบั บรรณาธกิ ารเชอื่ มนั่ วา่ ถกู ฝงั ตรงึ (embeded) ในบคุ ลากรผเู้ กย่ี วขอ้ ง กบั ระบบวจิ ยั ของประเทศไทย จงึ มิไดน้ �ำมากล่าวถงึ ในท่ีนี้ บรรณาธิการขอขอบพระคุณ ศาสตราจารย์ นพ.วิจารณ์ พานชิ และ ศาสตราจารย์ ดร.ปยิ ะวัติ บุญ-หลง อดีตผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ผู้ริเริ่มแนวคิด สร้างระบบ น�ำมาซึ่งเครื่องมอื การจดั การและการปรบั ใช้ คณุ ูปการทสี่ ำ� คัญยิ่งคอื สร้างผบู้ รหิ ารจัดการงานวจิ ยั ขอขอบคุณผู้นิพนธ์บทสังเคราะห์ทุกท่านที่กรุณาศึกษากรณีศึกษารายโครงการ วิเคราะห์และ สงั เคราะหร์ ว่ มไปกบั ทนุ ความรเู้ ดมิ และประสบการณท์ เี่ ขม้ ขน้ กลนั่ ออกมาเปน็ บทสงั เคราะหด์ งั ปรากฏ ขอขอบคณุ ทมี วจิ ยั ในชุดโครงการ SMAE ท่ชี ่วยใหไ้ ดเ้ ปิดประสบการณ์การเรียนร้เู ชิงการจดั การ เพ่ิมเติม และชว่ ยสนับสนนุ ข้อมลู ทีจ่ ำ� เป็น ขอขอบคุณ ดร.สีลาภรณ์ บัวสาย ประธานแผนงานภูมิภาคและจังหวัด 4.0 และ ดร.กิตติ สจั จาวฒั นา ผอู้ ำ� นวยการหนว่ ยบรหิ ารและจดั การทนุ ดา้ นการพฒั นาระดบั พนื้ ท่ี (บพท.) ทไี่ ดใ้ หโ้ อกาส เรยี นรูง้ านวจิ ยั ในมิตใิ หม่ และขอขอบคุณ อาจารยส์ ุปราณี จงดไี พศาล ผอู้ �ำนวยการแผนงานฯ ที่แสดง ตวั อยา่ งการบริหารจดั การที่มีระบบ โปร่งใส เขม้ ข้น และถงึ พรอ้ มทง้ั ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ล ขอขอบคณุ รศ.มยรุ ี จยั วฒั น์ ทก่ี รณุ าใหแ้ นวคดิ ในการทำ� หนงั สอื สวย ชว่ ยประสานงานทกุ ขนั้ ตอน ตง้ั แตต่ น้ ธารจนสำ� เร็จดังปรากฏ จันทรจ์ รสั เร่ยี วเดชะ 18 แพลตฟอร์มวิจัยดา้ นเกษตร
บทนำ� รองศาสตราจารย์ ดร.จันทรจ์ รัส เร่ยี วเดชะ
บทน�ำ การวิจัยและพัฒนาด้านการเกษตรเป็นรากฐานส�ำคัญของ การพัฒนาภาคเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรของประเทศไทย การศกึ ษาวิจยั ก่อให้เกิดความรู้ การสะสมความรู้ การตรวจสอบและ ปรับใช้ความรู้ ต่อยอดเป็นความรู้ใหม่ การขยายผล การเรียนรู้ อย่างต่อเน่ือง เมื่อความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปตาม สภาวะเศรษฐกิจ-สังคม และความสัมพันธ์กับสังคมโลก เกษตรกร และผู้ประกอบการต้องปรับตัวให้รู้เท่าทัน สามารถตอบสนองต่อ ความตอ้ งการใหม่ เรยี นรเู้ งอื่ นไขการผลติ ใหม่ และรบั มอื ความเสย่ี งใหม่ ก่อก�ำเนดิ เป็น R&D รูปแบบใหม่ๆ ท่มี วี จิ ยั -พัฒนา-บูรณาการศาสตร์ ตา่ งสาขา ตง้ั แต่ ตน้ นำ�้ ของการวจิ ยั คอื การวเิ คราะหป์ ญั หาและพฒั นา โจทย์วิจัย ถึง ปลายน้�ำ คือการส่งมอบผลงานวิจัยและการรับไปใช้ ใหบ้ รรลเุ ป้าหมายดังกล่าวถึงในบทนี้ 20 แพลตฟอร์มวจิ ัยด้านเกษตร
การวิจยั และพฒั นาด้านการเกษตร การเกษตรเปน็ จดุ เนน้ สำ� คญั ของประเทศไทย เปน็ อาชพี ทสี่ รา้ งรายไดแ้ ละเงนิ ตราตา่ งประเทศ ในภาวะปกติและเป็นความคาดหวังในภาวะวิกฤต การวิจัยและพัฒนาด้านเกษตร (Research and Development in Agriculture) มรี ูปแบบหลากหลายตามเป้าหมายและจุดเน้นแตล่ ะช่วงเวลา การวิจัยท่ีเน้นวิชาการเฉพาะสาขา (Discipline-based Research) เป็นการสร้างความรู้ ชุดความรู้ใหม่ในศาสตร์จ�ำเพาะที่รู้จักกันโดยท่ัวไป เช่น สรีรวิทยา พันธุศาสตร์ ปฐพีวิทยา โรคพืช กฏี วทิ ยา วทิ ยาการหลงั การเก็บเกย่ี ว เป็นต้น ผลผลติ คือ ความรลู้ กึ รู้จริง ในสาขาวชิ าและน�ำไปสู่ การปรับใชใ้ นพืชและสตั วต์ อ่ ไป การวิจัยเชิงตัวสินค้า (Commodity-based Research) ให้ความส�ำคัญท่ีคุณภาพ ปริมาณ การลดต้นทุนการผลิต การมีพืชหรือสัตว์ตัวเลือกใหม่ๆ เป็นการบูรณาการศาสตร์ต่างสาขามาเป็น Production Technology รวมไปถงึ การวิจยั ทีเ่ นน้ ตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพของผู้บรโิ ภค (Health Related Research) รูปแบบการวิจัยดงั กลา่ วเป็น Science and Technology ท่ีบางคร้งั ก่อเกิดนวัตกรรมน�ำไปสู่การสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงเศรษฐกิจ ซึ่งมีผลปรากฏเป็นรูปธรรมทั้งการ เปลยี่ นแปลงพันธ์ุ ระบบผลิต การบริหารจัดการผลผลติ การต่อยอดเชิงอุตสาหกรรม ค�ำถามส�ำคัญ คือ การวิจัย การลงทุนวิจัยและผลผลิตของการวิจัย ได้ส่งผลกระทบอย่างมี นัยสำ� คญั ต่อเกษตรกร และผ้ปู ระกอบการรายยอ่ ยในชมุ ชน ในพ้ืนทบี่ ้างหรอื ไม่ อย่างไร หรอื ผลลัพธ์ สดุ ทา้ ยลว้ นตกอยกู่ บั กลมุ่ ผปู้ ระกอบการรายใหญ่ หรอื ผทู้ ม่ี โี อกาสเขา้ ถงึ ผลผลติ และความรจู้ ากการวจิ ยั มากกว่า ในขณะท่ผี ู้ผลิตตน้ น้ำ� ยงั คงตดิ กับดักความยากจน และความเหลื่อมลำ�้ ทางเศรษฐกจิ แม้จะมี ผลงานวิจัยดๆี ท่ผี ลิตออกมามากมาย (availability) กลายเปน็ ปญั หาการเขา้ ถงึ (accessibility) และ การประยุกต์ใช้ความรู้ (technology adoption) สาเหตุท่ีผลงานวิจัยด้านเกษตรไม่ส่งผลต่อการยกระดับเศรษฐกิจของเกษตรกรหรือมีผลน้อย เน่ืองจากเหตุปัจจยั หลายประการ เชน่ ไม่มคี วามรู้ ไม่มัน่ ใจ ขาดเพอ่ื น ขาดผนู้ �ำ ลงทุนสูง มคี วามเสย่ี ง ท่ีไม่สามารถรับได้ ตอ้ งพึง่ พงิ เทคโนโลยีมากเกนิ ไป ตอ้ งแสวงหาทรพั ยากรท่ไี ม่คุ้นชนิ ไม่รจู้ ะขายใคร การออกแบบและการบรหิ ารจัดการงานวิจัยเพื่อมุ่งผลลัพธ์ 21
ปญั หาการไมม่ กี ารยอมรบั และนำ� ไปใช้ (adoption) ทส่ี ำ� คญั คอื ผลงานวจิ ยั เนน้ วชิ าการ หรอื ใช้ เทคโนโลยขี ัน้ สูง (high technology) และขาดผมู้ สี ่วนร่วม (user engagement) การออกแบบงานวิจัยใหม่จึงต้องเน้นเทคโนโลยีเหมาะสม (appropriate technology) เปน็ Human Centered Design Research คอื เข้าใจความต้องการ ความจ�ำเปน็ และขอ้ จำ� กดั ของ เกษตรกรเป้าหมาย และผู้ประกอบการตน้ น�ำ้ แผนงานการพัฒนาภูมิภาคและจังหวัด 4.0 ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ของการสนับสนุนการวิจัย เชงิ ยุทธศาสตร์ (Spearhead Innovative Program; SIP) ถูกออกแบบมุง่ สนบั สนนุ การวิจยั เพือ่ ให้ เกดิ รูปแบบใหม่ในการกระจายความเจรญิ ส่ภู มู ภิ าค และการลดความเหลอื่ มลำ้� แผนงานดังกล่าวได้ให้ความส�ำคัญกับชุดโครงการ “การยกระดับห่วงโซ่อุปทานสินค้าเกษตร (Small and Medium Agricultural Enterprise; SMAE)” ซง่ึ ได้ผสานขอ้ เทจ็ จริงเก่ยี วกับ 1. ความเหลื่อมล้�ำด้านผลตอบแทนทางเศรษฐกิจระหว่างเกษตรกรและผู้ประกอบการต้นน้�ำ กับผเู้ กี่ยวข้องช่วงปลายของโซ่อุปทาน 2. ความเหลื่อมล�้ำเชิงภูมิศาสตร์และระดับจังหวัดที่มี Gross Provincial Product (GPP) ตา่ งกนั 3. ชุดความรู้ด้านเทคโนโลยีการผลิตที่มีอยู่อย่างเพียงพอในภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะ ภาควิชาการ แต่ขาดการบรู ณาการชดุ ความรดู้ า้ นวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีกบั สังคมศาสตร์ และระบบนำ� สง่ ชุดความรูค้ รบถว้ นท่ผี ู้รับสามารถนำ� ไปปฏิบัตไิ ด้ (high on technology, low on engagement) หรือมีความรู้ความเข้าใจพ้ืนท่ีและชุมชนอย่างลึกซ้ึง แต่ขาด ความร้ทู ีถ่ ูกตอ้ งแมน่ ยำ� เชิงวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (high on engagement, low on technology) 4. ขาดการวิเคราะห์ “บริบท” ของตัวสินค้า จึงไม่สามารถจัดการความเสี่ยงที่เกิดข้ึนเป็น “ธรรมดา” (New Normal) ได้ 22 แพลตฟอร์มวิจยั ด้านเกษตร
ชดุ โครงการ “การยกระดบั หว่ งโซอ่ ปุ ทานสนิ คา้ เกษตร” จงึ มเี ปา้ หมายเพอื่ ยกระดบั ผลตอบแทน และสรา้ ง New Value Chain แก่เกษตรกร ซง่ึ เปน็ ฐานรากของการผลติ ใหไ้ ดผ้ ลตอบแทนท่เี ป็นธรรม และสมเหตุสมผล การสนับสนนุ การวจิ ยั ภายใตช้ ดุ โครงการนีจ้ ึงเปน็ 1. การทดสอบระบบการบรหิ ารจัดการงานวิจยั ในระดับชดุ โครงการ 2. การพัฒนา Knowledge Platform ผ่านการฝึกอบรม-ประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อให้ คณะวจิ ยั เรยี นรเู้ ครอ่ื งมอื ใหม่ ลงมอื ปฏบิ ตั ดิ ว้ ยตนเอง (hands on) และมโี อกาสรว่ มรบั ฟงั รายงานโครงการรวมถึงข้อวิจารณ์และข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิหลากหลายสาขา ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการก�ำหนดเป้าหมายโครงการ (goal setting) การวางแผน การบริหารโครงการและก�ำหนดจุดเส่ียง (LogFrame) การวิเคราะห์โซ่อุปทานและ การปรบั ใช้ การจดั ทำ� Business Model Canvas เพอื่ นำ� ไปสนบั สนนุ ใหเ้ กษตรกรสามารถ วิเคราะห์ตัวสินค้าเชิงธุรกิจ การปฏิบัติการ Impact Pathway Analysis และวิเคราะห์ ผลตอบแทนการลงทุนโครงการวิจัยได้อย่างมีหลักการ ก่อให้เกิดความตระหนักถึง ความคุ้มค่าของงานวิจยั การออกแบบและการบรหิ ารจดั การงานวจิ ัยเพ่ือมงุ่ ผลลัพธ์ 23
กอ่ นจะเป็นโครงการวิจัย ชุดโครงการฯ ถูกออกแบบเพื่อตอบสนองเป้าหมายการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่ได้ ไมน่ ้อยกวา่ 30% คำ� สำ� คญั ในทน่ี ้ี คอื “พน้ื ทเี่ ปา้ หมาย” และการเปลยี่ นแปลงทางเศรษฐกจิ ทจี่ ะเกดิ ขนึ้ (economic change) เมือ่ มงี านวิจัย เงื่อนไขส�ำคัญอีกประการหน่ึง คือ การสร้างความยั่งยืนเชิงวิชาการ สถาบันวิชาการท่ีเป็นที่พ่ึง ของคนในชุมชน-ในพื้นที่ท่ีสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา น�ำมาซ่ึงการให้โอกาสแก่นักวิจัยในพื้นที่เป็น ล�ำดบั ต้น การออกแบบชุดโครงการจงึ มีความจำ� เพาะหลายประการ อาทิ 1. การมตี วั สนิ คา้ สำ� คญั ทเ่ี ป็นตัวแทนภูมิภาค เช่น พนื้ ทภี่ าคใต้ อาหารทะเลมีน�้ำหนักมากกว่า ปศุสัตว์ จึงต้องเลือกอาหารทะเลเป็นตัวแบบ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปศุสัตว์มีน้�ำหนัก มากกว่า ยอ่ มตอ้ งเลอื กโคเป็นตัวแบบ 2. มชี ดุ ความรดู้ า้ นวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยที เ่ี พยี งพอและเหมาะสม (Appropriate Technology) ทเ่ี กษตรกรและผ้ปู ระกอบการรบั ไปใช้ได้ 3. มนี ักวชิ าการ นกั วจิ ัยทค่ี นุ้ ชินพน้ื ที่ และเปน็ ท่ียอมรับของเกษตรกรและผูเ้ กีย่ วขอ้ ง 4. มขี อ้ เสนอรปู แบบ-กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ใหมๆ่ ทสี่ นบั สนนุ การยกระดบั Value Chain ของ เกษตรกรและผปู้ ระกอบการธรุ กิจในโซ่อุปทาน (Supply Chain; SC) 5. มกี ารบรหิ ารจดั การความเสย่ี งของทง้ั ระดบั เกษตรกรและตวั สนิ คา้ คอื ตอ้ งมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ กระบวนการผลติ และการบรหิ ารจดั การสนิ คา้ และการมสี ว่ นรว่ มของ key actor ทง้ั หมดใน SC 6. ความรคู้ วามเข้าใจและการเข้าถึงเกษตรกร และผมู้ สี ว่ นได้ส่วนเสยี ทั้งหมด Commodity วจ� ยั Community 24 แพลตฟอร์มวิจยั ด้านเกษตร
โครงการวจิ ยั ที่เปน็ ตัวแทนภูมิภาค คณะกรรมการไดท้ ำ� การคดั กรองและคดั สรรโครงการวจิ ยั ทกี่ ระจายอยทู่ กุ ภมู ภิ าคของประเทศ และมีศกั ยภาพท่จี ะยกระดับ VC ของเศรษฐกิจฐานรากได้ 10 โครงการ ดงั แสดงในภาพท่ี 1 ภาคเหนือ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื โคเน้อื 1 โครงการ โคเนือ้ 1 โครงการ ไกพ �้นเมือง 1 โครงการ ไกพ ้�นเมอื ง 1 โครงการ ไมสกั 1 โครงการ ภาคกลาง ขาว 1 โครงการ ผกั 1 โครงการ ภาคใต เงาะ 1 โครงการ ทเุ ร�ยน 1 โครงการ อาหารทะเล 1 โครงการ ภาพท่ี 1 สนิ คา้ เกษตรท่ใี ชเ้ ป็นตัวแทนในแตล่ ะภมู ิภาค การออกแบบและการบริหารจัดการงานวจิ ัยเพอื่ มุ่งผลลัพธ์ 25
โอกาสแหง่ การเรยี นรู้ ทมี วจิ ยั ทงั้ 10 โครงการ รวม 55 คน มาจากพน้ื ฐานชดุ ความรทู้ แี่ ตกตา่ งกนั เพอื่ สนบั สนนุ ใหน้ กั วจิ ยั ไดท้ �ำงานอยา่ งมีแผน มงุ่ เป้าหมาย ราบรนื่ และสามารถส่งผลลัพธ์ที่เปน็ รูปธรรมได้ สถาบันคลงั สมอง ของชาติ ผรู้ บั ผดิ ชอบบรหิ ารจดั การชดุ โครงการ จงึ ได้จัดกระบวนการหนนุ เสรมิ ดงั นี้ 1. การอบรมเชงิ ปฏิบตั กิ าร 3 ครง้ั 1กอ นเร�มโครงการ : 2 Supply Chain Analysis 3 Impact Pathway Log Frame และ Business Model Canvas • เร�ยนรเู สนทางสผู ลกระทบ • เพอ�่ ใหทมี ว�จัยสามารถ และการวเ� คราะหผลตอบแทน จัดทำแผนงานโครงการ • เพ่�อใหส ามารถแยกแยะ การลงทนุ วจ� ัยในรูป NPV, อยา งเปน เหตุเปนผล ผูเกย่ี วขอ งแตละขอ โซ B/C Ratio และ IRR • มีตัวช้วี ดั output • กำหนด key actor แตล ะกจิ กรรม เพ่�อจัดเก็บขอมลู วเ� คราะห และผูรบั ผิดชอบ ผลตอบแทน • รูเ งอ่� นไขความสำเร็จ • ฝก ทำ Business Model ของโครงการ Canvas • สามารถวเ� คราะหผลตอบแทน การลงทนุ (Return on Investment; ROI) ของแตล ะขอ โซ 2. การตดิ ตามสนบั สนนุ การด�ำเนินงานวิจยั ในพ้ืนทีแ่ ละการรายงาน ความก้าวหน้าแบบ open/oral presentation และ open discussion ชว่ ยใหท้ มี วจิ ยั ไดเ้ รยี นรรู้ ว่ มกนั โดยการทำ� วจิ ยั 1 โครงการ แตไ่ ดเ้ รยี นรงู้ านวจิ ยั อกี 9 โครงการ พรอ้ มมุมมอง ขอ้ คิด และคำ� แนะน�ำของผูท้ รงคณุ วฒุ ิ การตดิ ตามสนบั สนนุ การดำ� เนนิ งานวจิ ยั ในพน้ื ทร่ี าย 3 เดอื น ทำ� ใหน้ กั วจิ ยั มนั่ ใจในทศิ ทางและ ไดร้ บั คำ� แนะนำ� อยา่ งทนั การณ์ สามารถเตมิ เตม็ ผลงานไดด้ กี วา่ การเสนอรายงานเปน็ รปู เลม่ และรบั ฟงั ความเหน็ เป็น hard copy เพยี งอยา่ งเดียว 26 แพลตฟอร์มวิจัยดา้ นเกษตร
ผลการดำ� เนินการ โครงการวิจัยสามารถสรุปผลได้ตามระยะเวลาโครงการ (1 ปี) แม้จะมีอุปสรรคด้านการเก็บ ข้อมูลบ้างจากผลกระทบของ Covid-19 ทกุ โครงการสามารถวเิ คราะหผ์ ลตอบแทนการลงทนุ ของเกษตรกรและผปู้ ระกอบการในแตล่ ะ ห่วงโซอ่ ุปทาน บางโครงการสามารถเปรยี บเทียบไดอ้ ยา่ งชัดเจนถึงหว่ งโซ่คณุ คา่ (Value Chain; VC) เดิม และ VC ใหม่ ของการวจิ ัย ตวั อย่างเชน่ ก่อนมโี ครงการ เศรษฐกิจหมนุ เวยี นในพน้ื ทจี่ ากการเลี้ยง ไกพ่ น้ื เมอื ง 4 จงั หวดั มมี ลู คา่ รวม 30.57 ลา้ นบาทตอ่ ปี หลงั มโี ครงการ เกดิ การบรหิ ารจดั การโซอ่ ปุ ทาน ใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพ/ลดตน้ ทนุ การผลติ ซง่ึ จากการประเมนิ มลู คา่ เศรษฐกจิ หมนุ เวยี นจากการเพมิ่ มลู คา่ ในโซอ่ ุปทาน จากตน้ น�ำ้ ส่ปู ลายนำ้� เกดิ มลู คา่ เศรษฐกิจ 41.19 ลา้ นบาทต่อปี หรือเกดิ มลู คา่ เศรษฐกจิ หมนุ เวยี นเพม่ิ ใน 4 จงั หวดั 10.62 ล้านบาทตอ่ ปี (เพิ่มข้นึ 34.74%) ผลการวเิ คราะหผ์ ลตอบแทนการลงทนุ ในการวจิ ยั รายโครงการ และคา่ เฉลยี่ เสนอในตารางที่ 1 ตาราง 1 รายชอ่ื โครงการและสรุปผลการประเมนิ ผลกระทบด้วยวธิ ี ex-ante assessment ของโครงการวจิ ัย SMAE จ�ำนวน 10 โครงการ (อ้างองิ ช่วง พ.ศ. 2562-2567) มูลคา่ ปจั จบุ ันของผลประโยชนส์ ทุ ธิ อัตราส่วนผลประโยชนต์ ่อต้นทนุ อตั ราผลตอบแทนภายใน (IRR) : (NPV) : บาท (BCR) รอ้ ยละ (%) 1. โครงการยกระดับผลตอบแทนทางเศรษฐกจิ ของเกษตรกรในโซอ่ ปุ ทานโคเนือ้ ตามภมู นิ เิ วศภาคเหนอื 1,293,587 1.08 12.87 2. โครงการแนวทางใหม่ในการพฒั นาระบบส่งเสรมิ อาชพี ปศสุ ัตวเ์ พ่ือสรา้ ง value chain ของเกษตรรายย่อย 1,528,844 1.39 17.00 3. โครงการยกระดับห่วงโซค่ ณุ คา่ ของผปู้ ระกอบการเฟอร์นิเจอร์ ไมส้ กั ในจงั หวัดแพร่/1 -2,729,366 0.12 -42.00 4. โครงการการบริหารจัดการหว่ งโซ่อุปทานการผลิตเนือ้ ไกส่ ขุ ภาพ (ไก่ 3 โลว)์ จาก Farm-to-Fork ในจงั หวัดขอนแกน่ /2 5,512,219 1.79 41.14 5. โครงการแนวทางการยกระดับรายไดข้ องเกษตรกรท่ีปลกู เมลด็ พนั ธ์ขุ า้ ว/3 2,305,226 2.51 51.54 6. โครงการการพฒั นาโมเดลใหมท่ างธรุ กิจผ่านดจิ ิตลั แพลตฟอร์มเพ่ือสร้างความเช่ือมน่ั และเพิ่มชอ่ งทางการตลาดของเกษตรอนิ ทรยี ์ 3,352,455 1.52 17.31 การออกแบบและการบริหารจัดการงานวจิ ัยเพือ่ มุ่งผลลพั ธ์ 27
มลู คา่ ปจั จุบนั ของผลประโยชน์สทุ ธิ อตั ราสว่ นผลประโยชน์ต่อต้นทุน อตั ราผลตอบแทนภายใน (IRR) : (NPV) : บาท (BCR) ร้อยละ (%) 7. โครงการการขบั เคล่ือนห่วงโซ่คุณคา่ ใหมข่ องธุรกจิ อาหารทะเลในจงั หวัดตรัง เพ่ือยกระดบั เศรษฐกจิ ฐานรากของชมุ ชนประมงชายฝัง่ 4,139,219 2.06 36.29 8. โครงการการพฒั นาหว่ งโซค่ ณุ คา่ เงาะผ่านระบบสหกรณ์ เพ่อื สร้างมูลค่าเพม่ิ ของเงาะ จังหวัดสุราษฎร์ธาน/ี 1 -1,045,146 0.17 -32.33 9. การเพิ่มมูลคา่ เศรษฐกิจด้วยระบบการบรหิ ารจัดการผลติ โคเน้อื ภาคอีสานตอนบน เพือ่ ขยายโอกาสตลาดโคเนอื้ /1 -1,195,912 0.69 -2.38 10. โครงการพัฒนาศักยภาพและยกระดับ หว่ งโซม่ ูลคา่ ของเกษตรกรไม้ผลจงั หวดั ยะลา 1,929,636 1.58 21.68 มลู ค่าปัจจุบันของ อัตราส่วนผลประโยชน์ อัตราผลตอบแทนภายใน ผลประโยชนส์ ุทธิ (NPV) ตอ่ ต้นทุน (BCR) (IRR) : ร้อยละ (%) ผลรวม และค่าเฉล่ยี 15,090,762 บาท เฉลี่ย 1.29 เฉลี่ย 12.11 หมายเหตุ 1 : อัตราคิดลดเทา่ กบั ร้อยละ 5.00 /1 จะเกิดความคุ้มค่าในการลงทุน แต่ใช้ระยะเวลาท่ียาวนานกว่า 5 ปี ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะมี องค์ความรู้เทคโนโลยี หรือนวัตกรรมใหม่เกิดขึ้นแล้วส่งผลให้องค์ความรู้จากโครงการวิจัยนี้ Dis-adoption หรืออาจกล่าวได้ว่า หากต้องการให้โครงการวิจัยเกิดความคุ้มค่าในช่วงเวลาที่สั้น กค็ วรตอ้ งผลกั ดนั ให้ผลประโยชนต์ ่อปีมีมลู ค่าทส่ี ูงข้ึน /2 คำ� นวณผลประโยชนจ์ ากกำ� ไรของกลมุ่ เปา้ หมายของโครงการ ไมม่ กี ารเปรยี บเทยี บกำ� ไรทแ่ี ตกตา่ ง จากการมี หรือไม่มีของโครงการวิจัย ดังน้ัน การค�ำนวณผลประโยชน์อาจไม่สะท้อนผลกระทบท่ี แทจ้ ริงจากการมโี ครงการวิจยั /3 ภายใต้สมมตฐิ านว่ามีหากมกี ารยอมรบั ผลงานวิจัยไปใช้ในเชิงนโยบาย หมายเหตุ 2 : ทีมวิจัยได้รับการฝึกอบรมและท�ำการวิเคราะห์ข้อมูลจริงจากผลงานวิจัยด้วยความช่วยเหลือจาก ทมี วทิ ยากร (รศ.ดร.สวุ รรณา ประณตี วตกลุ ผศ.ดร.กมั ปนาท วจิ ติ รศรกี มล และ ดร.ปยิ ะทศั น์ พาฬอนรุ กั ษ)์ 28 แพลตฟอรม์ วจิ ยั ดา้ นเกษตร
ตอนที่ 1 แพลตฟอร์มวิจัย ดา้ นเกษตร รองศาสตราจารย์ ดร.จนั ทรจ์ รสั เร่ียวเดชะ
แพลตฟอรม์ วจิ ัย ดา้ นเกษตร รองศาสตราจารย์ ดร.จนั ทรจ์ รัส เร่ียวเดชะ รองผู้อ�ำนวยการสถาบันคลังสมองของชาติ อดีต • อาจารย์คณะสตั วแพทยศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย • ผ้อู ำ� นวยการฝ่ายเกษตร สำ� นกั งานกองทนุ สนับสนนุ การวิจยั (สกว.) • รองผ้อู ำ� นวยการส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการวจิ ัย (สกว.) ความเชี่ยวชาญ • การใชพ้ นื้ ฐานปฐพวี ิทยา: ศาสตร์แห่งดิน ฐานแห่งการผลิตกบั พันธศุ าสตร์ และการปรับปรุงพนั ธส์ุ ตั ว:์ พันธกุ รรมและมหศั จรรย์แหง่ recombination ผสานกบั ทฤษฎีและเครอ่ื งมือการจัดการพฒั นาเป็นศาสตรแ์ ละศิลปข์ อง การบรหิ ารจดั การงานวิจัย • การออกแบบงานวิจยั เกษตรเชงิ กลยทุ ธ์ • พฒั นาหลกั สตู รการบริหารจดั การงานวจิ ัยแนว “Solution by Design”
แพลตฟอร์มวิจัยด้านเกษตร แพลตฟอร์มวจิ ัยด้านเกษตร เป็นพื้นที่การเรียนรู้ของผู้สนใจพัฒนาโจทย์และการ ออกแบบวิจยั เชงิ กลยุทธ์ รวมถึงการขบั เคลอื่ นงานวิจยั ให้บรรลุเป้าหมาย มกี ารเชอื่ มและผกู โยง องค์ประกอบส�ำคัญ 6 ประการเข้าด้วยกัน เพอ่ื ให้วงล้อวิจัยเคลื่อนไปได้ ไม่ส้นิ สุด ชุดความรู้ และเครอื่ งมือทุกชนิดสามารถถูกหยิบยกไปใช้ ได้ตามบริบทที่เหมาะสม หรอื บูรณาการร่วมกัน นำ� สง่ เป็นผลลัพธ์ที่สรา้ งการเปลย่ี นแปลงตอ่ สังคมและผเู้ กย่ี วขอ้ งทกุ ระดบั หากมองแพลตฟอร์มวิจัยด้านเกษตรเป็นฐานรองรับระบบปฏิบัติการวิจัยและองค์ประกอบ ทง้ั หมด เพอ่ื ใหก้ ิจกรรมวจิ ัยเปน็ ไปได้ และเคล่ือนไดอ้ ย่างตอ่ เนอื่ งไม่สะดดุ หรอื สนิ้ สุด เอกสารฉบับน้ี จะขอก�ำหนดแพลตฟอร์มวิจัยเกษตรว่าประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนแรก เป็นองค์ประกอบส�ำคัญ ที่ต้องมีในระบบวิจัย หากขาดองค์ประกอบใดองค์ประกอบหน่ึง จะท�ำให้การวิจัยชะงักหรือสะดุด ในสว่ นขององคป์ ระกอบไดป้ รบั ใชแ้ นวคดิ เชงิ วเิ คราะหอ์ งคก์ รธรุ กจิ ของ Jim Collins1 วา่ ธรุ กจิ ใหญน่ อ้ ย ในโลกท่ีล้มละลายและอยู่รอด ต้องมีองค์ประกอบส�ำคัญอย่างน้อย 5-6 ประการท่ีขับเคลื่อนให้ องค์กรอยู่รอด ฝ่าฟันอุปสรรคมาได้ บางบริษัทใช้เวลานับร้อยปี อีกส่วนคือ เครื่องมือและชุดความรู้ ที่ต้องมแี ละตอ้ งใช้ในแตล่ ะองค์ประกอบ หรอื 1 เครื่องมอื อาจใชไ้ ดก้ บั หลายองคป์ ระกอบ 1 Jim Collins. 2019. Turning the Flywheel: A Monograph to Accompany Good to Great. Random House. การออกแบบและการบริหารจัดการงานวจิ ยั เพอ่ื มุง่ ผลลพั ธ์ 31
ดงั น้นั จะขอนำ� เสนอและอธิบายแพลตฟอร์มวจิ ยั ด้านเกษตรดังภาพ KOeybjReecstiuvelts TDheinskignng ReTseeaamrch เปาหมาย ทนุ ว�จยั ครวะน�จบใัยบน Expert แพลตฟอรม วจ� ยั เกษตรผลลัพธ Communication กคเาควรราจม่�อดั งรกมูแลาอื ระ MLoogdiecl ODuetlcivoemrye ผสูมว ีสนวเสนยีได SuApnpalylyCshisain PIamthpwacaty OMuatpcpoimnge BMusoindeesl s StAankeahlyoslidser Empathize องคประกอบสำคัญ เครอ�่ งมอื การจดั การ องค์ประกอบสำ� คัญของระบบวิจัยด้านเกษตร องคป์ ระกอบสำ� คญั ทข่ี บั เคลอ่ื นการวจิ ยั ดา้ นเกษตรประกอบดว้ ย ทนุ วจิ ยั เปา้ หมาย คนในระบบวจิ ยั ความรแู้ ละเคร่ืองมอื การจัดการ ผูม้ สี ่วนได้สว่ นเสีย และผลสัมฤทธจ์ิ ากการวจิ ัย องคป์ ระกอบทง้ั 6 ประการน้ี เปน็ สง่ิ สำ� คญั ทจ่ี ะขาดมไิ ด้ หากประสงคจ์ ะใหร้ ะบบวจิ ยั ขบั เคลอ่ื น ไปได้อย่างต่อเน่ือง องค์ประกอบหนึ่งใดท่ีขาดหายไปย่อมท�ำให้ “วงล้อวิจัย” สะดุด หรือ disrupt ทนุ วิจยั จึงตอ้ งมีเปา้ หมาย เปา้ หมายน�ำไปสกู่ ารคดั สรรโครงการวจิ ัย หรอื อีกนัยหน่ึง คอื กำ� กบั นักวิจยั และสะท้อนไปสู่ผู้ทรงคุณวุฒิที่เข้ามาร่วมให้ข้อคิดเห็นหรือช้ีแนะ เป้าหมายของการวิจัยยังน�ำไปสู่ การเลอื กใชศ้ าสตรแ์ ละชดุ ความรทู้ จ่ี ำ� เปน็ เพอื่ ใหส้ ามารถสรา้ งผลผลติ ไดบ้ รรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ ผมู้ สี ว่ นได้ สว่ นเสยี ในงานวจิ ยั มบี ทบาทในการเปน็ หลกั ประกนั การทผ่ี ลงานวจิ ยั ไดน้ ำ� ไปสกู่ ารใชป้ ระโยชนใ์ หเ้ กดิ ผลลพั ธ์ ทงั้ ในดา้ นการเปล่ียนแปลงทางเศรษฐกจิ พฤตกิ รรมของกลุ่มเปา้ หมาย หรือนโยบาย ผลลัพธ์ ทีเ่ ปน็ รูปธรรมน�ำไปสูก่ ารไดร้ บั การสนบั สนุนทรัพยากรใหร้ ะบบขบั เคลอื่ นต่อไปได้ การขยายความแพลตฟอร์มวิจัยด้านเกษตร จะขอกล่าวถึงองค์ประกอบท้ัง 6 ประการและ เคร่ืองมอื ทใ่ี ช้ในการด�ำเนนิ การให้บรรลผุ ลไปพรอ้ มกัน 32 แพลตฟอรม์ วิจยั ด้านเกษตร
ทุนวจิ ยั ทุนวิจัยเป็น input ส�ำคัญในการสนับสนุนโครงการวิจัย (project) หรือชุดโครงการวิจัย (program) เป็นต้นทางของทรัพยากรท่ีใช้ในการขับเคล่ือน Research Flywheel ทุนวิจัยมักมี เป้าหมายของทุนก�ำกับว่าประสงค์จะให้โครงการวิจัยส่งมอบผลผลิต (output) และ/หรือผลลัพธ์ (outcome) เชน่ ไร ภายใตเ้ งอื่ นไขงบประมาณและเวลา ดงั นั้น “โครงการ” จึงมีจดุ เร่ิมต้นและสิ้นสดุ มใิ ช่ day to day operation2 เน่ืองจากงานในกลุ่ม SMAE มีความเจาะจงด้านเวลาและผลลัพธ์ที่จะต้องส่งมอบ โครงการ ท่ีน�ำเสนอจะต้องมีทุนเดิมท้ังด้านความรู้ ความเข้าใจตัวสินค้า รู้จักความต้องการของเกษตรกร อยู่มากพอสมควร ในกรณที นุ วจิ ยั ทไ่ี มไ่ ดถ้ กู จำ� กดั ดว้ ยเงอื่ นเวลา การสนบั สนนุ ใหน้ กั วจิ ยั ไดส้ รา้ งการเปลย่ี นแปลง (change) ขนาดใหญ่ มผี ลกระทบสูง และยงั่ ยนื มคี วามจำ� เปน็ ท่ีจะตอ้ งสนับสนุนการวจิ ยั ตน้ น�้ำ เพ่อื สร้างโอกาสใหน้ ักวิจยั ได้สะสมพลัง สร้างแกน่ และรากแกว้ แหง่ การวจิ ัย เชน่ การลงทุนด้านการพัฒนา พันธุ์ไก่พ้ืนเมืองไทย ตั้งแต่ปี 2545 ของส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ส่งผลให้เกิด พนั ธไ์ุ ก่ synthetic breeds และ hybrid ทที่ ดแทน broiler ได้ ดำ� รงพนั ธไ์ุ กพ่ นื้ เมอื งทค่ี ดั เลอื กปรบั ปรงุ พันธ์แุ ล้ว สร้างระบบขยายพันธุ์ สรา้ งอาชพี สร้างรายไดใ้ ห้กบั เกษตรกรได้ และมศี กั ยภาพตอ่ ยอดทาง วชิ าการ และสรา้ งนวัตกรรมตวั ใหม่ไดไ้ มร่ ู้จบ (ดรู ายละเอียด3) โครงการที่กล่าวถงึ ข้างต้น มกี ารลงทนุ สูง ใช้ระยะเวลายาวนานแต่เป็นส่ิงท่ปี ระเทศต้องมี เปน็ ทนุ วจิ ัยลักษณะทีเ่ นน้ stretch and ambitious goal ไม่ใช่ incremental goal จึงต้องมีการพฒั นาเป้าหมาย กรอบงาน และระบบตดิ ตามอยา่ งเข้มขน้ 2 Antonio Nieto-Rodriguez. 2019. Lead Successful Projects. Penguin Random House.164 pp. 3 จันทร์จรสั เร่ียวเดชะ มนต์ชยั ดวงจนิ ดา อมรรตั น์ โมฬี และ ศิรพิ ร กิรตกิ ารกุล. 2561. ไกพ่ ้ืนเมอื งไทย: จากอนุรกั ษ์สูก่ ารสร้าง อาชีพและโอกาสใหม่ ใน การบริหารจดั การงานวจิ ัยเพือ่ สร้างผลลพั ธแ์ ละผลกระทบ บรรณาธกิ ารโดย จนั ทรจ์ รสั เรย่ี วเดชะ. ส�ำนักงานกองทุนสนบั สนุนการวจิ ยั . 480 หน้า การออกแบบและการบริหารจดั การงานวจิ ยั เพอื่ มงุ่ ผลลพั ธ์ 33
ส�ำคญั ท่ีเป้าหมาย เปา้ หมายการวจิ ยั ดา้ นเกษตรในอดตี มงุ่ พฒั นาตวั สนิ คา้ หรอื commodity ทงั้ ปรมิ าณ คณุ ภาพ ความปลอดภัย การยืดอายุจัดเก็บระหว่างขนส่ง น�ำไปสู่การพัฒนาวิชาการและสะสมองค์ความรู้ ดา้ นพนั ธกุ รรม ปจั จยั การผลติ พชื ปศสุ ตั ว์ และสตั วน์ ำ�้ ระบบจดั การ โรงเรอื นและเทคโนโลยเี กย่ี วขอ้ ง ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นประเทศผลติ และส่งออกสินคา้ เกษตรและอาหารระดับตน้ ของโลก เป้าหมายชุดโครงการ SMAE สะท้อนข้อเท็จจริงว่าการพัฒนาตัวสินค้าเพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอที่จะสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมแก่เกษตรกรและผู้ประกอบการต้นน้�ำ และไม่เพียงพอ ทจ่ี ะลดความเหลอ่ื มลำ้� ทางเศรษฐกจิ ระหวา่ งผลตอบแทนของผผู้ ลติ และผปู้ ระกอบการตน้ นำ�้ -ปลายนำ�้ ยงั ผลใหเ้ กษตรกรตน้ น�้ำติดกับดัก ต้องรอรับการสนับสนนุ จากภาครฐั ตลอดมา เป้าหมายที่ต้องการยกระดับเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่เพ่ิมขึ้น 30% จากการวิจัย จึงเป็น เป้าหมายที่ชัด ก�ำหนดตัวช้ีวัด และระยะเวลาด�ำเนินการ น�ำไปสู่การก�ำหนดพื้นที่ ทีมวิจัย และ กระบวนการบริหารจัดการเพ่ือให้ผลงานวิจัยสามารถหนุนเสริมและยกระดับห่วงโซ่คุณค่าใหม่ ใหส้ ะท้อนเป็นผลลัพธท์ างเศรษฐกิจในพื้นท่เี ป้าหมาย การยกระดบั หวงโซอ �ปทานสนิ คาเกษตรในพ้น� ทเี่ ปา หมาย ภาคเหนือ มูลคา เศรษฐกิจ (ไกพ น�้ เมอื ง) 34กลุมเปา หมาย เพ�ม % เปาหมาย พน้� ท่ี การออกแบบและ ผลลพั ธ ชดุ โครงการ เปา หมาย ดำเนนิ การวจ� ัย 30ผลตอบแทนเพม� มูลคาเศรษฐกจิ % 17กลุมเปา หมาย ภาคใต เพ�ม % (อาหารทะเล) 34 แพลตฟอร์มวจิ ัยด้านเกษตร
Box 1 เครื่องมือที่ใช้ในการออกแบบและก�ำกบั เปา้ หมายการวิจัย เคร่ืองมือหรือหลักการส�ำคัญ 2 ประการ ท่ีจะช่วยในการออกแบบงานวิจัยและก�ำกับ เป้าหมาย คอื Design Thinking (DT) และ Objective Key Results (OKR) Design Thinking เป็น Human Centered Design (HCD) ที่สามารถปรับใช้กับ ระบบการออกแบบงานวิจัยท้ังขนาดใหญ่และเล็กได้เป็นอย่างดี ช่วยให้สามารถแยกแยะ pain point หรอื pleased point และถอดความไปเปน็ โจทยว์ จิ ยั ได้ ดงั กรณตี วั อยา่ งชดุ โครงการ ไก่พ้นื เมืองไทย ณ ขณะท่ีเร่มิ โครงการ pain point คือ 1) คนเลี้ยงไก่ไมท่ ราบวา่ มไี ก่พนื้ เมืองไทย พันธุ์แท้อยู่ท่ีไหนบ้าง 2) ไม่ทราบปริมาณพ่อแม่พันธุ์แท้ 3) ไม่ทราบว่าจะใช้ประโยชน์อย่างไร ในสถานการณ์ท่ีไก่เนื้อและไก่ไข่ในประเทศไทย ล้วนเป็นผลผลิตจากสายพันธุ์ท่ีน�ำเข้าจาก ตา่ งประเทศ กระบวนการออกแบบเรม่ิ ตน้ จงึ ตอ้ งสรา้ ง ความรสู้ กึ รว่ ม empathy โดยการประชมุ หารอื กบั stakeholders ภาควิชาการ ภาครัฐ ภาคเอกชนทง้ั รายกลางและรายใหญ่ แลว้ จงึ define กรอบและเป้าหมายการวิจัยเป็นระยะ ประชุมระดมความคิดเพ่ือแสวงหาแนวทางและวิธีการ ที่เป็นไปได้ ประหยัด และใช้เวลาน้อยท่ีสุด (ideation) แล้วจึงสนับสนุนโครงการวิจัยที่เป็น prototype จนกระทงั่ ไดผ้ ลผลติ เปน็ ไกพ่ นื้ เมอื งพนั ธแ์ุ ทท้ งั้ 4 พนั ธ์ุ มาทดสอบ (test) การยอมรบั ของเกษตรกรผู้เลี้ยงและผู้บริโภค ทั้งน้ีเม่ือมองย้อนกลับไปเป็นการด�ำเนินการตามแนวทาง การออกแบบเพอื่ สร้างการเปลี่ยนแปลงโดย Tim Brown4 แมจ้ ะยังไมม่ เี อกสารฉบับนใ้ี นขณะนน้ั OKR เป็นหลักการก�ำหนดวัตถุประสงค์และ Key Results ที่ focus และเช่ือมโยง ทุกกจิ กรรมในอนาคต (หรือในโครงการในพนื้ ท่ภี ายใต้เง่อื นไขชดุ SMAE น)ี้ OKR เน้น stretch goal และการมสี ว่ นรว่ มทุกภาคสว่ น ดรู ายละเอียดได้ใน John Doerr5 4 Tim Brown. 2013. Change by Design :How Design Thinking Transforms Organizations and Inspires Innovation. Harper-Collins Book. 264 pp. 5 John Doerr. 2018. Measure What Matters. Penguin Random House. 206 pp. การออกแบบและการบริหารจัดการงานวจิ ยั เพอ่ื มุง่ ผลลพั ธ์ 35
คนในระบบวิจัย ในทนี่ จี้ ะขอกลา่ วถงึ บคุ คลในระบบวจิ ยั เพยี ง 2 กลมุ่ ทมี่ ผี ลอยา่ งมนี ยั สำ� คญั ตอ่ ทศิ ทางโครงการ และผลงานวิจัย กลุ่มแรก คือ หัวหน้าโครงการวิจัย และทีมวิจัย เป้าหมายของชุดโครงการ SMAE และ ข้อก�ำหนดด้านเวลาปฏิบัติการวิจัยท�ำให้การคัดสรรทีมวิจัยให้น�้ำหนักกับหัวหน้าโครงการที่มี track record ว่าทำ� งานสำ� เร็จ มีความรับผิดชอบสงู มี leadership สร้างทีมเปน็ แบ่งความรับผดิ ชอบเป็น มีความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มเป้าหมายท้ังเกษตรกร และผู้ประกอบการ เปิดรับความรู้ใหม่-ข้อมูลใหม่ บรหิ ารงบประมาณอยา่ งโปรง่ ใส ตระหนกั ถงึ เปา้ หมายทจี่ ะตอ้ งสง่ มอบผลงานและเสาะหา “ตวั ชว่ ย” เปน็ มีทุนความรู้และความสัมพันธ์กับภาคีในพ้ืนที่ เปิดเผยข้อมูล เปิดรับค�ำวิจารณ์และข้อเสนอแนะ ปรับตัวได้ดีและเร็วแต่ไม่ทิ้งหลักการ สามารถบูรณาการศาสตร์และประสานจัดการทีมวิจัยได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติส�ำคัญของหัวหน้าโครงการกลุ่มนี้โดยเฉพาะหัวหน้าโครงการสายวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี แต่ตอ้ งสง่ มอบผลลพั ธเ์ ปน็ มลู คา่ การเปล่ียนแปลงทางเศรษฐกจิ กลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ/ผู้ประเมินโครงการ งาน SMAE มีลักษณะพิเศษที่ผูกโยงองค์ความรู้ และศาสตร์จ�ำเพาะกับตัวสินค้าท่ีเป็นตัวเดินงานให้เกิดผลตอบแทนทางเศรษฐกิจร่วมกับบริบท (context) พนื้ ทจี่ ากฝง่ั ผผู้ ลติ (เกษตรกร กลมุ่ เกษตรกร ชาวประมง กลมุ่ ประมงชายฝง่ั ) ผปู้ ระกอบการ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (stakeholders) โดยมีผู้บริโภคอยู่ปลายสุดของโซ่อุปทาน จึงเป็นการยาก ท่ีจะสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิท่ีประเมินศาสตร์ได้ครบทุกมิติ ฝ่ายบริหารจัดการชุดโครงการวิจัยจึงได้เชิญ ผู้ทรงคุณวุฒิ/ผู้ประเมิน 2 ด้าน คือ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเนื้อหาวิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิ/ผู้เช่ียวชาญ ด้านบรบิ ท ตวั สินคา้ และโซอ่ ุปทาน ในกรณีที่ผู้ทรงคุณวุฒิมีความเห็นต่างกัน ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในพ้ืนที่และผู้เช่ียวชาญเชิงบริบทตัวสินค้า และ/หรือผู้บริโภคสามารถให้ความเห็นที่เป็นประโยชน์ เพิ่มเติม ข้อคิดเห็นของผู้ใช้ประโยชน์งานวิจัย (user) โดยตรง เช่น เกษตรกร หรือผู้ประกอบการ มปี ระโยชนม์ ากเมอื่ เรมิ่ ตน้ โครงการ สรา้ งความมน่ั ใจวา่ ผลงานมโี อกาสถกู นำ� ไปปรบั ใชไ้ ดส้ งู อยา่ งไรกต็ าม บางกรณี ข้อคดิ เหน็ ของ user อาจมีข้อจ�ำกดั และ/หรอื มผี ลประโยชนท์ บั ซอ้ นจึงเป็นข้อพึงระวัง 36 แพลตฟอร์มวิจัยดา้ นเกษตร
ความรู้ องคป์ ระกอบ “ความรู้” จะขอแยกเป็น 2 ส่วน คอื 1) ความรู้ทง้ั หมดท่ตี ้องใช้เพอ่ื ใหโ้ ครงการ วิจยั ทำ� งานบนหลกั การ ทฤษฎี ขอ้ เท็จจรงิ และมีระเบยี บวธิ วี จิ ัยที่ถกู ต้องตรงตามศาสตร์ โดยเฉพาะ ความรทู้ ีเ่ ปน็ ขอ้ คน้ พบวา่ มคี วามสำ� คญั ในการวจิ ยั เพอ่ื ยกระดบั ผลตอบแทนของเกษตรกร คอื Supply Chain Analysis (SCA) และ 2) องค์ความรู้ด้านการบรหิ ารจดั การโครงการ ความรูด้ ้านการวิเคราะหโ์ ซอ่ ุปทาน หรอื Supply Chain Analysis (SCA) มคี วามสำ� คัญมาก การรวู้ า่ สนิ คา้ ของเกษตรกรมเี สน้ ทางเดนิ อยา่ งไร กอ่ นจะถงึ ผบู้ รโิ ภค SCA ชว่ ยใหน้ กั วจิ ยั ไดร้ จู้ กั -เขา้ ใจ key actor ในแตล่ ะข้อโซ่ เข้าใจเง่ือนไขข้อจ�ำกดั บรบิ ท จุดเนน้ การใช้ความรทู้ ไี่ ดจ้ าก SCA สามารถ จัดการปรับ Value Chain และเติมเต็มวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและกระบวนการทางธุรกิจ ท่ีจ�ำเป็นได้รวมถึงพัฒนา Business Model ใหม่ซ่ึงสามารถติดตามได้จากการวิเคราะห์กรณีศึกษา ในตอนที่ 3 เครือ่ งมอื บริหารจัดการโครงการ Box 2 ชดุ ความรแู้ ละเครอ่ื งมอื ดา้ นการบรหิ ารจดั การโครงการวจิ ยั ใหเ้ ปน็ เหตเุ ปน็ ผลตงั้ แตก่ ารวเิ คราะห์ ปัญหา (Problem Analysis) การจดั ท�ำ Objective Tree แล้วจงึ จดั ระเบยี บความคดิ และข้อมลู ให้เช่ือมโยงเปน็ เหตเุ ปน็ ผลกันตั้งแตเ่ ป้าหมายถงึ กจิ กรรมวจิ ยั วตั ถุประสงค กจิ กรรมวจ� ยั โผคลรงผกลาติ รจวา�จกยั ผลลัพธ เปาหมาย โดยมตี ารางบรรยายองค์ประกอบแต่ละช่วง ตวั ช้ีวดั ผ้รู บั ผิดชอบและเงอื่ นไขความสำ� เรจ็ (ดูรายละเอียดในปยิ ะวัต6ิ ) 6 ปยิ ะวตั ิ บญุ หลง. 2561. การวางแผนโครงการดว้ ยลอ็ คเฟรม. ใน จนั ทรจ์ รสั เรยี่ วเดชะ. บรรณาธกิ าร การบรหิ ารจดั การงานวจิ ยั เพ่อื สรา้ งผลลัพธแ์ ละผลกระทบ การออกแบบและการบริหารจดั การงานวิจัยเพ่ือมุง่ ผลลพั ธ์ 37
ผู้มสี ว่ นไดส้ ว่ นเสีย (Stakeholders) ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย คือ ผู้ท่ีจะได้รับผลจากโครงการ หรือถูกผลกระทบจากการด�ำเนินการของ โครงการ เป็นผู้ที่มีบทบาทส�ำคัญต่อความส�ำเร็จของโครงการ ความส�ำเร็จของโครงการ คือ การท่ี โครงการวจิ ยั ดำ� เนนิ ไปไดอ้ ยา่ งราบรนื่ ตามแผนงาน ไดผ้ ลผลติ ตามคาดหมาย และมผี รู้ บั ผลไปใชใ้ หเ้ กดิ เปน็ ผลลพั ธ์ (outcome) ผู้มีส่วนได้สว่ นเสยี อาจจ�ำแนกออกได้เป็น 7 กลมุ่ ดงั นีค้ อื ผูไดรบั ประโยชน หร�อ user เกษตรกร ผปู ระกอบการ ผูจา ยเงน� สนับสนนุ โครงการ ผูท ี่อยากใหโครงการสำเร็จ แหลง ทนุ วจ� ัย หนว ยงานภาครฐั ในพ้�นที่ ผคู วบคมุ ทรพั ยากร Stakeholders ผทู ่ีอาจจะขัดขวางโครงการ ทโ่ี ครงการจำเปนตอ งใช ผปู ระกอบการหร�อธรุ กิจ ผมู สี ว นไดสวนเสีย สถาบันตน สังกัด/ ที่อาจเสียผลประโยชน หอ งปฏบิ ตั กิ าร/ แปลงทดสอบ/โรงเรอ� น ผทู ชี่ วยสนบั สนุนการดำเนนิ การของโครงการ ผูที่อาจถกู ผลกระทบทั้งบวกและลบ ผูบรโ� ภค/ผปู ระกอบการเพอ่� ส�งิ แวดลอ ม ผูป ระกอบการเดิม/ผูทำธุรกิจทางเดียว องคก รเอกชนในพน้� ท่ี ความเขา้ ใจผู้มสี ่วนไดส้ ่วนเสยี และแรงจูงใจมนี ัยส�ำคญั ตอ่ ผลสัมฤทธข์ิ องโครงการ จึงจ�ำเปน็ ตอ้ ง มกี ารวเิ คราะหแ์ ยกแยะ (stakeholder analysis) เพอ่ื การ “เขา้ ถงึ ” หรอื “รกั ษาระยะหา่ ง” ทเี่ หมาะสม เพอ่ื ไม่ใหเ้ กิดผลกระทบต่อการด�ำเนนิ การโครงการ ดูรายละเอยี ดใน ปิยะวัติ (2561)7 7 ปยิ ะวตั ิ บญุ หลง. 2561. การวางแผนโครงการดว้ ยลอ็ คเฟรม. ใน จนั ทรจ์ รสั เรยี่ วเดชะ. บรรณาธกิ าร การบรหิ ารจดั การงานวจิ ยั เพ่อื สรา้ งผลลัพธ์และผลกระทบ 38 แพลตฟอร์มวิจยั ดา้ นเกษตร
ผลสัมฤทธ์ิ (Outcome) ผลสมั ฤทธเ์ิ ปน็ เปา้ หมายสำ� คญั ของโครงการวจิ ยั พสิ จู นว์ า่ ทรพั ยากรทจ่ี ดั สรรในการทำ� โครงการ ไดร้ บั ผลตอบรบั เปน็ ประโยชนต์ อ่ user และมกี ารรบั ไปใชเ้ พอื่ ใหเ้ กดิ การเปลยี่ นแปลงทงั้ ทางเศรษฐกจิ และ/หรือสงั คม เครื่องมือดา้ นการจัดการท่สี ำ� คัญ คือ การวเิ คราะห์เส้นทางสผู่ ลกระทบ (impact pathway) ซึ่งเป็นการเช่ือมแผนผังลูกโซ่เช่ือมโยงระหว่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากโครงการ ต้ังแต่เร่ิมต้นจนถึง จุดมุ่งหมายหลักของโครงการ รายละเอียดของเคร่ืองมือ ข้อมูลและวิธีการวิเคราะห์ อยู่ในสุวรรณา ประณตี วตกลุ 8 นอกเหนือจากการบรรลุเป้าหมายผลสัมฤทธิ์ของโครงการแล้ว การสื่อสารผลงานวิจัย (research communications) ก็เป็นเคร่ืองมือส�ำคัญในการส่ง “สาร” สู่กลุ่มเป้าหมาย เพ่ือสร้าง คุณค่าของผลงานวิจัยออกไปในแนวกว้างไกลกว่าการจ�ำกัดที่นักวิจัย แหล่งทุน ผู้ท่ีมีส่วนได้ส่วนเสีย และผู้ใช้ประโยชน์ผลงานวิจัย เป็นการสร้างการรับรู้ต่อสาธารณะ และปูพ้ืนไปสู่การเห็นคุณค่า ยอมรับ-ปรับใช้ผล-สนับสนุนในโอกาสตอ่ ไป เส้นทางสผู่ ลกระทบ Box 3 อา้ งอิงและเพ่ืมเตมิ จากสวุ รรณา9 Impact Pathway toOCuhtcaongmees CChomanmgeuninityS-EleEvCe:l Impact Final users: Adoption and Practice change Control Outputs Extension Effort Next users: Reduced Research and Research project: Inputs, Activities and Outputs input : output : outcome : Templeton, 2006 research investment ผลผลิตท่โี ครงการ เกิดข้นึ เม่อื มีผ้นู �ำ andresearch activities สัญญาว่าจะส่งมอบ ผลงานวจิ ัยไปใช้ประโยชน์ impact : เกดิ การเปล่ียนแปลง เป็นการเปลย่ี นแปลงท่ีเกดิ ขนึ้ ท่กี ลุ่มเป้าหมาย เมือ่ มีงานวจิ ัยนอกเหนือ กล่มุ เปา้ หมายเดิม หรอื เกิดการขยายผลในพื้นท่อี ืน่ ๆ 8, 9 สวุ รรณา ประณตี วตกลุ . หลกั การประเมนิ ผลกระทบของงานวจิ ยั และเสน้ ทางสผู่ ลกระทบ. การประเมนิ เชงิ ปฏบิ ตั กิ าร outcome mapping and impact pathway. 30 มถิ นุ ายน 2563 ณ โรงแรมปทมุ วนั ปร้ินเซส กรุงเทพฯ. การออกแบบและการบริหารจดั การงานวจิ ยั เพ่อื ม่งุ ผลลัพธ์ 39
สรุป จากแพลตฟอร์มวจิ ยั ดา้ นเกษตร คาดวา่ จะเห็นอะไร? KOeybjReecstiuvelts TDheinskignng ReTseeaamrch เปา หมาย ทุนวจ� ยั ครวะน�จบใยั บน Expert แพลตฟอรม วจ� ัยเกษตรผลลพั ธ Communication กคเาควรราจม่อ� ดั งรกมูแลาอื ระ MLoogdiecl ODuetlcivoemrye ผสมู วสี นว เสนยีได SuApnpalylyCshisain PIamthpwacaty BMusoindeesl s OMuatpcpoimnge StAankeahlyoslidser Empathize 1ประการที่ • เปาหมายการวจ� ยั ทีท่ า ทาย ทนั สมัย dynamic สอดคลอง/ทนั ตอ การเปลย่ี นแปลง stretch goal (and achievable) • กำกบั ดวย key results ทกุ ระดบั ของโครงการ หรอ� ชดุ โครงการ หรอ� แผนงาน 2ประการท่ี • โครงการว�จยั มีความเปนเหตเุ ปน ผลครบถวนทุกข้ันตอน ตามระเบยี บวธ� วี จ� ัย สงมอบผลงานไดทงั้ efficiency และ effectiveness และใชเ คร�่องมือเหมาะสม • มกี ารกำกับตดิ ตามภายใน • มีธรรมาภิบาลงานทุกระดบั 3ประการท่ี • สรา งการเปลี่ยนแปลงใน users/stakeholders • มคี วามคมุ คา ดานการลงทุนว�จยั • สงั คมรับรผู ลสมั ฤทธิ์ 40 แพลตฟอรม์ วิจัยด้านเกษตร
ตอนที่ 2 กรณีศึกษา โครงการแนวทางใหมใ นการพฒั นาระบบสงเสรม� อาชีพปศสุ ตั ว เพ่อ� สรา ง Value Chainของเกษตรรายยอย โครงการยกระดับผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ ของเกษตรกรในโซอปุ ทานโคเนื้อตามภมู ินเิ วศภาคเหนือ เชยี งราย แมฮ อ งสอน เชยี งใหม • โครงการเพ่�อเพม� มลู คาเศรษฐกิจ ดว ยระบบการบรห� ารจดั การผลิต โครงการแนวทางการ พษ� ณโุ ลก โคเนือ้ ภาคอสี านตอนบน ยกระดบั รายไดข องเกษตรกร ขอนแกน เพอ�่ ขยายโอกาสตลาดโคเน้ือ • โครงการบรห� ารจัดการหว งโซอุปทาน ที่ปลูกเมล็ดพันธุขาว การผลิตเน้อื ไกสขุ ภาพ (ไก 3 โลว) โครงการพฒั นาโมเดลใหมท างธรุ กจิ ผา นดจิ ต� ลั แพลตฟอรมเพ่�อสรา ง จาก Farm-to-Fork ในจังหวัดขอนแกน ความเชอ่ื ม่นั และเพ�มชอ งทาง การตลาดของเกษตรอินทร�ย นครปฐม โครงการการขบั เคลื่อนหว งโซค ณุ คาใหมของ ตรัง ธุรกจิ อาหารทะเลในจังหวัดตรงั เพ่อ� ยกระดับ เศรษฐกิจฐานรากของชมุ ชนประมงชายฝง
งานวจิ ัยไกพ่ ืน้ เมอื ง: จากการอนุรักษ์พันธุกรรมสู่การ สร้างอาชีพชุมชน และอาหารสขุ ภาพ ศาสตราจารย์ ดร. มนต์ชยั ดวงจนิ ดา รองอธิการบดีฝา่ ยวิจยั และบัณฑิตศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น อดีต • คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ • ประธานสภาคณบดสี าขาการเกษตรแหง่ ประเทศไทย ความเชี่ยวชาญ • ด้านพันธุศาสตร์และการปรบั ปรุงพนั ธ์ุสัตว์ • ด้านการใช้เครอ่ื งมอื ในการประเมินพนั ธุส์ ัตว์ และพัฒนาสายพันธสุ์ ตั วเ์ ศรษฐกจิ • บริหารงานโครงการวจิ ยั ขนาดใหญ่และทา้ ทาย ประเดน็ สำ� คญั เพ่อื แกป้ ัญหาประเทศ รองศาสตราจารย์ ดร.จันทร์จรัส เร่ียวเดชะ รองผูอ้ ำ� นวยการสถาบนั คลังสมองของชาติ อดตี • ผอู้ ำ� นวยการฝา่ ยเกษตร ส�ำนกั งานกองทุนสนับสนุนการวจิ ัย (สกว.) • รองผูอ้ �ำนวยการสำ� นักงานกองทนุ สนบั สนุนการวิจยั (สกว.) ความเชี่ยวชาญ • ใชพ้ ้นื ฐานปฐพวี ทิ ยา: ศาสตร์แห่งดิน ฐานแหง่ การผลิต กับ พนั ธศุ าสตรแ์ ละการปรบั ปรงุ พนั ธุ์สัตว:์ พันธุกรรมและมหศั จรรย์ แหง่ recombination ผสานกับทฤษฎีและเครื่องมอื การจัดการ พัฒนาเปน็ ศาสตร์และศลิ ปข์ องการบรหิ ารจัดการงานวิจัย • การออกแบบงานวจิ ยั เกษตรเชิงกลยุทธ์ • พฒั นาหลกั สูตรการบรหิ ารจัดการงานวจิ ัยแนว “Solution by Design”
งานวจิ ยั ไกพ่ ื้นเมอื ง: จากการอนุรักษ์พนั ธุกรรมสูก่ ารสร้างอาชีพชมุ ชน และอาหารสุขภาพ กวา่ สองทศวรรษทชี่ ดุ โครงการ “งานวจิ ยั ไกพ่ นื้ เมอื ง” ไดถ้ กู เลอื กเปน็ หนงึ่ ในผลงานวจิ ยั “เรอื ธง (flagship)” เพ่ือนำ� ทางสกู่ ารพัฒนางานวิจัยทางปศุสตั วอ์ ยา่ งมวี ิสยั ทัศน์ ภายใต้ “ฝา่ ยเกษตร” ของ ส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ภายหลังสถานการณ์ “ไข้หวัดนก” ที่ส่งผลกระทบต่อ การสูญเสียชนิดและจ�ำนวนสัตว์ปีกไปทั่วประเทศ ด้วยการระดมสมองของนักวิชาการทางด้าน สตั วป์ กี ของประเทศ จงึ ทำ� ใหเ้ กดิ จดุ เรม่ิ ตน้ ของยทุ ธศาสตรด์ า้ น “การอนรุ กั ษแ์ ละการใขป้ ระโยชนจ์ าก ไกพ่ น้ื เมอื งไทย” ซง่ึ เปน็ ทรพั ยากรทางชวี ภาพทมี่ คี วามหลากหลายทางพนั ธกุ รรม (genetic diversity) ค่อนขา้ งสูงเปน็ ทุนเดมิ สกว. และกรมปศุสัตว์ได้จับมือกันรวบรวมฝูงไก่พ้ืนเมืองต้นน�้ำ (breeding stock) ภายหลัง วกิ ฤตการณไ์ ขห้ วดั นกใหก้ ลบั มาอกี ครง้ั โดยใชก้ ลยทุ ธด์ า้ นการวจิ ยั และพฒั นา (R&D) เปน็ ตวั ขบั เคลอื่ น และเลือกไก่พ้ืนเมืองไทย 4 ฝูงหลัก ได้แก่ ประดู่หางด�ำ เหลืองหางขาว แดง และ ชี เป็นพื้นฐาน ทางพันธุกรรมส�ำหรับการวิจัยด้านการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์ แนวทางวิจัยในระยะแรกเน้น การรวบรวมพันธ์ุท่มี าจากหลากหลายทอ้ งถ่นิ เพ่ือใหไ้ ดฝ้ ูงต้นนำ�้ ทมี่ คี วามหลากหลายของพันธกุ รรมสูง เป็น “gene pool” ให้กับประเทศ พร้อมกับการคัดเลือกอย่างง่ายให้สอดคล้องตามอุดมทัศนีย์เพื่อ ความสม่�ำเสมอของรูปร่างและลกั ษณะภายนอกเพื่อให้การพฒั นาต่อยอดท�ำได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ 44 แพลตฟอรม์ วจิ ัยดา้ นเกษตร
พฒั นาการงานวจิ ยั ไก่พื้นเมอื งของไทย ระยะท่ี 1 Existing Genetic Diversity เริ่มตน้ จากการเหน็ ความส�ำคญั ของไก่พน้ื เมอื งไทย ท่ีเป็นแหล่งทรัพยากรชีวภาพที่มีความหลากหลายทางพันธุกรรมและมีศักยภาพในการส่งเสริม ด้านการผลิตปศุสัตว์ การอนุรักษ์และรวบรวมพันธุกรรมไก่พ้ืนเมืองไทยจากพื้นท่ีต่างๆ เพ่ือสร้าง ฝงู พนั ธกุ รรม (breeding stock collection) และคดั ลกั ษณะภายนอกใหม้ ลี กั ษณะตรงตามอดุ มทศั นยี ์ (standard of perfection) ของพันธุ์ตามภูมิปัญญา (local wisdom) เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ อยา่ งเป็นรูปธรรมในอนาคต ระยะที่ 2 Structural Transformation ส่งเสริมงานวิจัยที่เน้นการพัฒนาสายพันธุ์ (genetic lines development) เพ่ือรองรับการใช้ประโยชน์จากไก่พ้ืนเมืองไทยโดยอาศัยเคร่ืองมือ การปรับปรุงพันธุ์สัตว์ท่ีมีประสิทธิภาพ ได้แก่ การประเมินค่าพันธุกรรม (breeding value) การใช้ ดัชนีการคัดเลือกไก่พ้ืนเมืองพันธุ์ประดู่หางด�ำและพันธุ์ชีให้มีลักษณะทางเศรษฐกิจดีขึ้น (โตดี-ไข่ดก- อกกว้าง) รวมทั้งการพัฒนา facilities ด้านต่างๆ เพ่ือส่งเสริมการผลิตและขยายพันธุกรรม อาทิ การจดั การโรงฟัก การสร้างฟาร์มปู่ยา่ พันธ์ุ ฟารม์ พ่อแมพ่ ันธ์ุ การออกแบบและการบรหิ ารจัดการงานวจิ ัยเพือ่ ม่งุ ผลลพั ธ์ 45
ระยะที่ 3 Stakeholder Engagement Involvement ภาคเอกชน ภาครฐั ภาคทอ้ งถิ่น และ มหาวิทยาลัย ได้เล็งเห็นโอกาสและความเป็นไปได้ ในการนำ� ผลวจิ ยั ไปใชป้ ระโยชน์ การรว่ มมอื ทางวชิ าการ ในรูปแบบ multi-partnership เกิดข้ึนในรูปแบบ ตา่ งๆ เชน่ รว่ มลงทนุ พฒั นาสายพนั ธล์ุ กู ผสมไกพ่ น้ื เมอื ง (crossbred native chicken) การสรา้ งพนั ธส์ุ งั เคราะห์ (synthetic breed) การส่งเสริมการสรา้ งอาชพี ชุมชน การพัฒนาองค์ความรู้เชิงลึกและการสร้างนักวิจัยจาก การวิจยั ด้านไกพ่ ืน้ เมือง เปน็ ต้น สายพันธุ์ที่พัฒนาขึ้นพร้อมท่ีจะถูกน�ำไปใช้ ประโยชน์ท้ังกับภาคเอกชนและในชุมชนเมื่อความ ต้องการไก่พ้ืนเมืองในตลาดท้องถ่ินมีสูงข้ึนมากเมื่อ เทยี บกบั ไกเ่ นอื้ ทางการคา้ ประกอบกบั ภาคคี วามรว่ มมอื มีความพร้อมด้านการขยายพ่อแม่พันธุ์เพื่อรองรับ การผลติ ลูกไกอ่ ายุ 1 วนั จำ� นวนมาก ระยะท่ี 4 Community Engagement เนน้ การสรา้ งอาชพี ชมุ ชนโดยการใชไ้ กพ่ น้ื เมอื งเปน็ ฐาน โดยความรว่ มมือของทั้งภาครัฐภาคเอกชนและมหาวิทยาลัยเป็นปัจจยั สำ� คญั การสง่ เสริมการสร้างฟาร์มพอ่ แม่พันธ์ุ (multiplier farm) ในชมุ ชนเพอ่ื ผลิตลกู ไกอ่ ายุ 1 วนั ให้กับเกษตรกรในชุมชน การที่ชุมชนได้รับพ่อแม่พันธุ์ประดู่หางด�ำพันธุ์ดีจากกรมปศุสัตว์และ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเพื่อใช้ในการผลิตลูกไก่ขุน ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของอาชีพการเล้ียงไก่ พื้นเมืองประดู่หางด�ำ และถือว่าประสบความส�ำเร็จเป็นอย่างมากในการสร้างอาชีพในเขตจังหวัด ทางภาคเหนอื เกดิ มลู คา่ ทางเศรษฐกจิ หมนุ เวยี นในชมุ ชนและขบั เคลอ่ื นเศรษฐกจิ ฐานราก (grassroot economy) ได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ การสร้างอาชีพการเล้ียงไก่พ้ืนเมืองประดู่หางด�ำ มีการขยายผลมายังเขตจังหวัดในภาคตะวัน ออกเฉยี งเหนอื โดยเฉพาะจงั หวดั ขอนแกน่ และจงั หวดั ใกลเ้ คยี ง ควบคกู่ บั การพฒั นาลกู ผสมไกพ่ น้ื เมอื ง ด้วยศักยภาพของไก่เคเคยูวัน ซึ่งเกิดจากแม่พันธุ์สังเคราะห์ท่ีมีการเจริญเติบโตรวดเร็ว มีคุณสมบัติ ด้านการเป็นอาหารสุขภาพ และคงรสชาติที่ดี จากความร่วมมือของภาคเอกชนท่ีช่วยดูแลด้าน การส่งเสริมและการตลาดท�ำให้อาชีพการเลี้ยงไก่พื้นเมืองประดู่หางด�ำขยายควบคู่ไปกับลูกผสม ไกพ่ ื้นเมืองเคเคยวู ันในเขตภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื 46 แพลตฟอรม์ วิจัยดา้ นเกษตร
ระยะที่ 5 Deep Science Platform เป็นระยะท่เี ทคโนโลยีด้านโอมิกสร์ วมถงึ การวิจยั ขน้ั สูง และการสร้างองค์ความรู้เชิงลึกเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาด้านการเกษตรและอาหารมากข้ึน ข้อค้นพบเชิงลึกหลายประการ เช่น คุณสมบัติด้านเส้นใยกล้ามเน้ือ (ด้วย synchrotron) พบว่า เน้ือไก่พื้นเมืองมีโปรตีนในรูปแบบ alpha-helix สูงช่วยให้ร่างกายย่อยได้ง่าย มีปริมาณไขมันและ คลอเลสเตอรอลต่�ำกว่าไก่เนื้อทางการค้า เหมาะกับการเป็นอาหารผู้สูงวัย ไก่ลูกผสมเคเคยูวัน มีสารประกอบพิวรีน (สารท่ีสามารถเปลี่ยนเป็นกรดยูริกในร่างกาย) ต่�ำกว่าไก่เนื้อทั่วไป และมี การเจริญเติบโตดี ท�ำให้ภาคเอกชนสนใจผลิตเป็นอาหารสุขภาพเพื่อผู้บริโภคทั่วไป ผู้บริโภคใน กลุ่มนักออกก�ำลังกาย และรวมถึงกลุ่มผู้ผลิตอาหารฮาลาล เพ่ิมโอกาสและช่องทางการตลาดให้กับ ภาคเอกชน ภาคการสง่ ออก และแนวทางการสรา้ งอาชพี ใหก้ ับเกษตรกรมากยงิ่ ขน้ึ (ภาพที่ 1) พัฒนาการงานว�จยั DEEP SCIENCE 5 INVOLVING ไขกอพ งไน�้ ทเยมือง • Innovative products 4ENGAGING • Future food, • Functional food COMMUNITY • Industrial and global demand 3STAKEHOLDER • Community multiplier INVOLVING • Community production for new career • Supply chain management • Enhancing grassroot economy 2STRUCTURAL • SME, Public Private Partnership • (KKU-Industry-Community-TRF model) TRANSFORMATION • Small holder production for food security (chicken bank) 1DIVERSITY • Gentic lines development • Breeding Tools (BLUP) EXISTENCE • Facilities • Breeding stock collection • Strategic breeding management ภาพที่ 1 พัฒนาการงานวิจยั เพือ่ การผลิตไก่พนื้ เมืองของประเทศไทย การออกแบบและการบรหิ ารจัดการงานวจิ ัยเพ่ือมุ่งผลลัพธ์ 47
องค์ประกอบส�ำคัญในการท�ำงานวจิ ัย และพฒั นาให้ประสบความสำ� เรจ็ จากการวิเคราะห์และถอดบทเรียนพัฒนาการงานวิจัยด้านไก่พ้ืนเมืองแต่ละช่วงเวลาจะเห็นว่า ความส�ำเร็จของการท�ำงานวิจัยและพัฒนาข้ึนกับองค์ประกอบ 6 ประการ การท�ำความเข้าใจและ การเลอื กใช้เครอ่ื งมือที่เหมาะสมในแตล่ ะขน้ั ตอน/องคป์ ระกอบเปน็ ไปตามภาพท่ี 2 Goal ••• Design Thinking OKR Log Frame Fund R&D Human Outcome นักวจ� ยั • Competency Outcome mapping • ผูทรงคุณวฒุ ิ • Character Innovation • KR • • Attitude Knowledge • Basic Science/Deep Science • Technology Stakeholder • Stakeholder Analysis ภาพที่ 2 องคป์ ระกอบสำ� คัญในการทำ� งานวจิ ัยและพัฒนาใหป้ ระสบความสำ� เรจ็ 1. การกำ� หนดเปา้ หมาย (Goal) เคร่อื งมือท่ีช่วยวางเปา้ หมาย เชน่ design thinking มุ่งเน้น การใช้ประโยชน์หรือนวัตกรรม OKR มุ่งเน้นผลลัพธ์ส�ำคัญแทนการวัดด้วย KPI แบบเดิม logical framework เนน้ การกำ� กบั การดำ� เนนิ งานและผลลพั ธท์ กุ ระดบั ตงั้ แตเ่ ปา้ หมาย วตั ถปุ ระสงค์ แผนงาน กิจกรรม ปัจจัยนำ� เขา้ และข้อจำ� กัด เปน็ ต้น 2. บุคคล (Human) ท่ีเกี่ยวข้องกับโครงการวิจัย ได้แก่ นักวิจัยและผู้ทรงคุณวุฒิประเมิน โครงการนักวิจัยต้องเป็นผู้ท่ีมีสมรรถนะ (competency) มีความสามารถในการส่งมอบ (deliver) ผลผลิต/ผลลัพธ์และมีความรับผิดชอบต่อความส�ำเร็จโครงการในขณะท่ีผู้ทรงคุณวุฒิที่มีคุณสมบัติ ที่เหมาะสม (character) มที ศั นคติ (attitude) ท่ีดใี นการเปน็ ผปู้ ระเมนิ ติดตามให้ค�ำชแี้ นะให้โครงการ ถึงเป้าหมายทว่ี างไว้ 48 แพลตฟอร์มวิจยั ดา้ นเกษตร
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156