Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เกณฑ์คุณภาพ OBECQA

เกณฑ์คุณภาพ OBECQA

Description: เกณฑ์คุณภาพ OBECQA

Search

Read the Text Version

ปี 2565 - 2568



คำนำ ในการพัฒนาประเทศให้เจริญทัดเทียมนานาอารยประเทศ จำเป็นต้องพัฒนาระบบการจัดการศึกษา ของประเทศให้ทันสมัย มีคุณภาพตอบสนองความต้องการของสังคมและเป็นสากล สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงได้ขับเคลื่อนโรงเรียนมาตรฐานสากล มาตั้งแต่ปีการศึกษา 2553 มีเป้าหมาย เพื่อพัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพเทียบเคียงมาตรฐานระดับสากล โครงการโรงเรียนมาตรฐานสากล จึงเป็นนวัตกรรมการจัดการศึกษาที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นำมาใช้เป็นมาตรการ ในการยกระดับคณุ ภาพการศึกษา โดยมีองค์ประกอบสำคัญสองประการ ได้แก่ การบริหารด้วยระบบคุณภาพ และการจัดการเรียนสอนทีม่ ุง่ เน้นการพฒั นาผู้เรยี นให้มีคุณลักษณะในศตวรรษท่ี 21 เพื่อให้การขับเคลื่อนดังกล่าวเป็นไปตามเป้าหมายสำคัญ “คุณภาพการบริหารจัดการที่เป็นเลิศ” สำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ใช้แนวทาง เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน OBECQA ปี 2559-2560 ซึ่งประยุกต์ให้มีความสอดคล้องตามเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Award : TQA) มาตั้งแต่ปี 2559 ทั้งนี้ เพื่อให้เกณฑ์ดังกล่าวมีความถูกต้องและมีความทันสมัย จึงได้มีการปรับปรุงเกณฑ์ ดังกล่าว ซึ่งได้จัดทำเป็นเอกสารเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน OBECQA ปี 2565-2568 ซึ่งพัฒนาเชื่อมต่อมาจากเกณฑ์ OBECQA ปี 2559-2560 และมีการอ้างอิง เกณฑ์ TQA ปี 2563-2564 และ ปี 2565-2566 ของสถาบนั เพม่ิ ผลผลิตแห่งชาติเป็นหลกั ทั้งนี้ มวี ัตถปุ ระสงค์ เพื่อให้โรงเรียนนำแนวทางของเกณฑ์ไปประยุกต์ใช้ โดยเทียบเคียงให้เหมาะสมกับบริบทการบริหารจัดการ ของโรงเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเองสู่ความเป็นเลิศอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ถือเป็นนโยบายสำคัญในการให้โรงเรียนในสังกัด นำเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน OBECQA ของปี 2565 - 2568 ของโครงการโรงเรียนมาตรฐานสากลไปใช้ขับเคลื่อนการบริหารจัดการศึกษาให้โรงเรียนมีคุณภาพเทียบเคียง มาตรฐานระดับสากลและมีสมรรถนะในการแข่งขันส่เู วทีโลก โดยใหใ้ ช้แนวทางเกณฑ์ฉบับนี้ ต้ังแต่ปีการศึกษา 2565 เป็นต้นไป สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ขอขอบคุณสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้บริหาร ครู และนักวิชาการศึกษาที่ร่วมกันดำเนินการทำให้เอกสารฉบับนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน OBECQA ปี 2565 - 2568 ฉบับนี้ จะเปน็ ประโยชน์สำหรบั สถานศึกษาในการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการท่เี ป็นเลิศสืบไป สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน



สารบญั หนา้ 1 สว่ นที่ 1 เกณฑร์ างวัลคุณภาพแหง่ สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน ปี 2565 – 2568 9 กรอบความคิดของเกณฑ์ 10 โครงสร้างเกณฑร์ างวัลคณุ ภาพแหง่ สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อผลการดำเนนิ งานทเี่ ปน็ เลิศ (Criteria for Performance Excellence Structure) 11 รปู แบบของหัวข้อ 12 หวั ข้อของเกณฑ์ 13 คำอธบิ ายเพอ่ื การอ่านเกณฑ์ 14 เน้ือหาเกณฑ์ 16 บทนำ : โครงร่างองค์กร (Organizational Profile) 16 1.ลกั ษณะองคก์ ร (Organizational Description) 16 17 ก. สภาพแวดล้อมขององค์กร (Organizational Environment) 20 ข. ความสมั พนั ธร์ ะดบั องค์กร (Organizational Relationships) 20 2. สภาวการณ์ขององค์กร (Organizational Situation) 20 20 ก. สภาพแวดล้อมดา้ นการแข่งขนั (Competitive Environment) 22 ข. บรบิ ทเชิงกลยุทธ์ (Strategic Context) 22 ค. ระบบการปรับปรุงผลการดำเนินการ (Performance Improvement) 22 หมวด 1 การนำองคก์ ร (Leadership) 22 1.1 การนำองค์กรของผนู้ ำระดับสงู (Senior Leadership) 23 ก. วิสยั ทัศน์ และค่านิยม (Vision and Values) 26 ข. การสอ่ื สาร (Communication) ค. พนั ธกิจและผลการดำเนินการของโรงเรียน (MISSION and School 26 PERFORMANCE) 27 1.2 การกำกับดูแลองค์กรและการตอบแทนสงั คม (Governance and Societal 27 Contributions) ก. การกำกบั ดแู ลองค์กร (Organizational GOVERNANCE) ข. การประพฤตปิ ฏบิ ตั ิตามกฎหมายและการประพฤตปิ ฏบิ ัติอย่างมีจรยิ ธรรม ค. การตอบแทนสังคม (Societal Contributions)

สารบญั (ต่อ) หนา้ 30 หมวด 2 กลยทุ ธ์ (Strategy) 30 2.1 การจัดทำกลยุทธ์ (Strategy Development) 30 ก. กระบวนการจดั ทำกลยทุ ธ์ (Strategy Development PROCESS) 31 ข. วตั ถปุ ระสงคเ์ ชงิ กลยุทธ์ (STRATEGIC OBJECTIVES) 35 35 2.2 การนำกลยุทธไ์ ปปฏิบัติ (Strategy Implementation) ก. การจดั ทำแผนปฏิบัตกิ ารและการถ่ายทอดสู่การปฏบิ ัติ (ACTION PLAN 36 38 Development and DEPLOYMENT) 38 ข. การปรับเปล่ียนแผนปฏิบัติการ (ACTION PLAN Modification) 38 39 หมวด 3 นกั เรียนและผู้มสี ่วนไดส้ ่วนเสีย 3.1 ความคาดหวงั ของนักเรยี นและผู้มสี ่วนไดส้ ว่ นเสีย (Expectations OF THE STUDENT 41 and Stakeholders) 41 ก. การรับฟังนกั เรียนและผู้มสี ่วนได้สว่ นเสยี (STUDENT and Stakeholders Listening) 42 ข. การจำแนกนักเรียนและผสู้ ว่ นไดส้ ่วนเสยี และหลักสตู ร 43 45 (STUDENT and Stakeholders Segmentation and Product Offerings) 3.2 ความผกู พนั ของนักเรียนและผู้มีสว่ นได้ส่วนเสีย (Student and Stakeholders 45 Engagement): 45 ก. ความสมั พันธแ์ ละการสนับสนุนนักเรียนและผมู้ ีส่วนได้ส่วนเสีย 46 ข. การประเมนิ ความพึงพอใจและความผกู พันของนักเรยี นและผมู้ ีส่วนได้ส่วนเสยี ค. การใช้ขอ้ มลู เสยี งของนักเรยี นและผู้มีส่วนไดส้ ่วนเสีย และส่วนตลาด 46 หมวด 4 การวดั การวิเคราะห์ และการจดั การความรู้ (Measurement, Analysis and Knowledge Management) 4.1 การวัด การวิเคราะห์ และการปรับปรุงผลการดำเนินการของโรงเรยี น (Measurement, Analysis, and Improvement of Organization Performance) ก. การวดั ผลการดำเนนิ การ (PERFORMANCE Measurement) ข. การวิเคราะหแ์ ละทบทวนผลการดำเนินการ (PERFORMANCE ANALYSIS and Review) ค. การปรบั ปรุงผลการดำเนินการ (PERFORMANCE Improvement)

สารบัญ(ตอ่ ) หนา้ 49 4.2 การจดั การสารสนเทศ และการจดั การความรู้ (Information, and Knowledge Management) 49 49 ก. ขอ้ มูล และสารสนเทศ (Data and Information) 52 ข. ความรขู้ ององค์กร (Organizational Knowledge) 52 หมวด 5 บคุ ลากร (Workforce) 52 5.1 สภาพแวดล้อมของบุคลากร (WORKFORCE Environment) ก. ขดี ความสามารถและอตั รากำลงั บุคลากร (WORKFORCE CAPABILITY and 53 CAPACITY) 56 ข. บรรยากาศการทำงานของบุคลากร (WORKFORCE Climate) 56 5.2 ความผกู พนั ของบคุ ลากร (Workforce Engagement) ก. การประเมนิ ความผูกพนั ของบุคลากร (Assessment of WORKFORCE 56 ENGAGMENT) 57 ข. วฒั นธรรมองคก์ ร (Organizational Culture) ค. การจัดการผลการปฏบิ ัตงิ านและการพฒั นา (PERFORMANCE Management and 59 Development) 59 หมวด 6 การปฏบิ ัติการ (Operations) 59 59 6.1 กระบวนการทำงาน (Work Processes) ก. การออกแบบหลักสูตรและกระบวนการทำงาน (Product and PROCESS Design) 60 ข. การจดั การและการปรบั ปรงุ กระบวนการ (PROCESS Management and 61 63 Improvement) 63 ค. การจดั การเครือขา่ ยอุปทาน (Supply - Network Management) ง. การจดั การนวัตกรรม (INNOVATION Management) 63 6.2 ประสทิ ธิผลของการปฏิบัติการ (Operational Effectiveness) 64 ก. ประสิทธภิ าพและประสทิ ธผิ ลของกระบวนการ (PROCESS Efficiency and EFFECTIVENESS) ข. ความปลอดภยั และการรักษาความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ (Security and Cybersecurity) ค. การเตรยี มความพร้อมดา้ นความปลอดภัยและต่อภาวะฉุกเฉิน

สารบัญ(ตอ่ ) หนา้ 66 หมวด 7 ผลลพั ธ์ (RESULTS) 66 7.1 ผลลพั ธ์ด้านหลักสตู ร กระบวนการจัดการเรียนรู้ และกระบวนการทำงานท่ีสำคัญ 66 (Product and Process Results) ก. ผลลพั ธ์ดา้ นหลักสูตร กระบวนการจัดการเรยี นรู้ กระบวนการทำงานที่สำคัญ และ 67 การบรกิ ารที่มุ่งเนน้ นักเรียนและผูม้ ีส่วนได้ส่วนเสีย (Student and Stakeholders – Focused 67 Product and Service RESULTS) 70 ข. ผลลพั ธด์ า้ นประสทิ ธผิ ลของกระบวนการทำงาน (WORK PROCESS 70 EFFECTIVENESS RESULTS) 71 ค. ผลลัพธด์ ้านการจัดการเครือขา่ ยอุปทาน (Supply - Network Management 71 RESULTS) 73 7.2 ผลลัพธ์ด้านนกั เรยี นและผู้มสี ว่ นไดส้ ่วนเสีย (Student and Stakeholder RESULTS) 73 ก. ผลลัพธ์ด้านการม่งุ เนน้ นักเรียนและผมู้ ีส่วนได้ส่วนเสยี (Student and Stakeholder 75 RESULTS) 7.3 ผลลพั ธ์ด้านบคุ ลากร (Workforce Results) 75 ก. ผลลัพธ์ดา้ นการมงุ่ เน้นบุคลากร (WORKFORCE - Focused RESULTS) 75 7.4 ผลลัพธด์ ้านการนำองค์กรและการกำกับดูแลองค์กร (Leadership and Governance Results) ก. ผลลพั ธ์ด้านการนำองค์กรและการกำกบั ดูแลองค์กร และการตอบแทนสงั คม (Leadership, Governance and Societal Contribution Results) 7.5 ผลลพั ธด์ า้ นการเงนิ ตลาด และกลยุทธ์ (Financial, Market, and Strategy RESULTS) ก. ผลลัพธด์ ้านการเงนิ ตลาด (Financial and Market RESULTS) ข. ผลลัพธด์ า้ นการนำกลยุทธ์ไปฏบิ ัติ (Strategy Implementation RESULTS)

สารบัญ(ตอ่ ) หน้า 77 ส่วนท่ี 2 รายละเอียดท่ีเก่ียวข้องกับเกณฑร์ างวัลคุณภาพแหง่ สำนักงานคณะกรรมการ การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน (Office of The Basic Education Commission Quality Award: 81 OBECQA) 83 การปรบั เปลยี่ นท่ีสำคญั ของหมวดตา่ ง ๆ ในเกณฑร์ างวัลคณุ ภาพแหง่ สำนกั งาน 85 คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (OBECQA) ปี 2565 – 2568 แนวทางการตอบเกณฑ์ (How to Respond to the Criteria) 87 แนวทางการตอบหัวข้อในหมวดกระบวนการ (Responding to Process Items) 88 (หมวด 1 - 6) 91 แนวทางการตอบหวั ขอ้ ในหมวดผลลพั ธ์ (Responding to Results Items) (หมวด 7) 103 การตอบเกณฑ์อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ (Responding Efficiently) 123 ค่านิยมและแนวคิดหลัก (Core Values and Concepts) 126 อภธิ านศัพท์ (Glossary) 137 จากการตัง้ รบั ปัญหาสู่การสรา้ งนวตั กรรม (from Fighting Fires to Innovation) 138 ระบบการให้คะแนน 141 แนวทางการดำเนนิ การพัฒนาและประเมินโรงเรยี นในโครงการโรงเรยี นมาตรฐานสากล ตามแนวทางเกณฑร์ างวลั คุณภาพแหง่ สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐานระดบั 145 ScQA และ ระดบั OBECQA ของปี 2565 การดำเนนิ การเปน็ พเ่ี ลี้ยงเพ่ือพัฒนาและแนวทางการประเมนิ ตามแนวทาง เกณฑ์รางวลั คุณภาพแหง่ สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน ระดบั ScQA การดำเนนิ การเปน็ พี่เล้ียงเพ่ือพัฒนาและแนวทางการประเมนิ ตามแนวทาง เกณฑร์ างวัลคณุ ภาพแหง่ สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน ระดับ OBECQA คณะทำงานผจู้ ัดทำเอกสารเกณฑ์รางวลั คณุ ภาพแหง่ สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน OBECQA ปี 2565 - 2568



สว่ นท่ี 1 เกณฑ์รางวลั คุณภาพแหง่ สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน OBECQA ปี 2565 - 2568

2 เกณฑร์ างวัลคณุ ภาพแหง่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน ปี 2565 – 2568 เกณฑ์เพอ่ื ผลการดำเนนิ งานทเี่ ปน็ เลิศ เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (OBECQA) มีการพัฒนา ตามเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Award : TQA) ซึ่งสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ให้การยอมรับ เกณฑ์มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับการบริหารจัดการภายในโรงเรียนของตนเอง ให้เปี่ยมด้วย ประสิทธิภาพและมุ่งสู่การปรับปรุงพัฒนากระบวนการดำเนินงานให้มีมาตรฐานทัดเทียมระดับสากล โรงเรียน จะต้องกำหนดวิสัยทัศน์ เป้าหมาย และแนวทา.งการขับเคลื่อนสู่ความเป็นเลิศ โดยการนำของผู้บริหาร และได้รับการตอบสนองการร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมรับผิดชอบของคณะกรรมการบริหารโรงเรียน คณะครู และบุคลากรของโรงเรียน รวมทั้งพันธมิตรและผู้ส่งมอบ โดยมีคณะทำงานที่มีศักยภาพ มีความคล่องตัว ดำเนินการตามแผนงานที่กำหนดไว้ โรงเรียนต้องมีความคาดหวังถึงประโยชน์และการพัฒนาที่สำคัญจาก การใช้เกณฑ์ รวมถึงผลลัพธ์ของการบริหารจัดการที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และนำข้อเสนอแนะจากการประเมิน มาเปน็ แนวทางการวางแผนพัฒนาโรงเรียนให้ประสบความสำเร็จอย่างตอ่ เนื่องและย่ังยืน โรงเรียนที่ได้รับรางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้รับการยอมรับ ว่าเป็นโรงเรียนต้นแบบระดับประเทศ โรงเรียนเหล่านี้จะมีการเผยแพร่และแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีปฏิบัติ ที่เป็นเลิศเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้โรงเรียนอื่น ๆ ในการปรับปรุงการปฏิบัติการและปรับปรุงผลลัพธ์ การดำเนินการของตนเองใหด้ ีขึน้ ซึง่ จะสง่ ผลดตี อ่ การพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาของประเทศไทย เกณฑ์มีเจตจำนงทีเ่ รยี บงา่ ย เจตจำนงของเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึก ษาขั้นพื้นฐาน คือ การชว่ ยโรงเรยี น ไม่วา่ ขนาดใดหรอื อยใู่ นสังกัดใด ตอบคำถามท่ที า้ ทาย 3 ขอ้ ดงั น้ี 1) โรงเรียนดำเนนิ การได้ดีเทา่ ท่คี วรเปน็ หรือไม่ 2) โรงเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งไร 3) โรงเรยี นควรปรับปรุงหรอื เปล่ยี นแปลงอะไร ดว้ ยวธิ กี ารอย่างไร จากการท้าทายตนเองด้วยการตอบคำถามของเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อผลการดำเนินงานที่เป็นเลิศ โรงเรียนจะได้สำรวจตนเองว่าได้สำเร็จในสิ่งที่สำคัญ ต่อโรงเรียนแล้วหรือไม่ คำถามของเกณฑ์ครอบคลุม 7 ด้านที่สำคัญ ในการจัดการและการดำเนินการ ของโรงเรียน (แบง่ ย่อยออกเป็นกระบวนการ 6 หมวด และผลลพั ธ์ 1 หมวด) ไดแ้ ก่ 1. การนำองคก์ ร ผู้นำองค์กรถ่ายทอดวิสัยทัศน์และนำองค์กรอย่างไร และทำให้มั่นใจถึงการกำกับดแู ลองค์กรท่ดี ี อยา่ งไร

3 2. กลยุทธ์ โรงเรยี นเตรยี มความพร้อมสำหรบั อนาคตอยา่ งไร 3. นักเรยี นและผมู้ ีสว่ นไดส้ ่วนเสีย โรงเรยี นรับฟงั นกั เรยี นและผ้มู สี ว่ นได้สว่ นเสยี สร้างความพึงพอใจและสร้างความผกู พันอย่างไร 4. การวดั การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้ โรงเรียนใชข้ อ้ มูลและสารสนเทศทเ่ี ชอ่ื ถือได้ เพื่อการตัดสินใจอยา่ งไร 5. บุคลากร โรงเรียนสร้างความผูกพันและเอื้ออำนาจในการตัดสินใจ (Empowerment) ของบุคลากร อยา่ งไร 6. การปฏิบตั กิ าร โรงเรียนมั่นใจได้อย่างไรว่า การปฏิบัติการสามารถตอบสนองความต้องการ และสร้างความ พงึ พอใจแกน่ กั เรียนและผูม้ สี ่วนไดส้ ว่ นเสียทม่ี ปี ระสทิ ธิภาพและประสทิ ธิผล 7. ผลลพั ธ์ โรงเรยี นดำเนินการได้ดเี พยี งใด เกณฑ์ส่งเสริมให้เกิดมมุ มองเชิงระบบ มุมมองเชิงระบบ หมายถึง การบริหารจัดการองค์ประกอบทั้งหมดของโรงเรียนให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อให้เกิดความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยโครงสร้างและกลไกการบูรณาการเชิงระบบ ได้แก่ ค่านิยม และแนวคดิ หลัก เกณฑ์ 7 หมวด ท่ีมีการปฏบิ ตั ิท่เี กย่ี วเน่อื งกนั และแนวทางการให้คะแนน ลักษณะท่สี ำคัญของเกณฑ์ การมุง่ เน้นทีค่ ่านยิ มและแนวคดิ หลกั เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีพื้นฐานมาจาก “คา่ นิยมและแนวคดิ หลัก 11 ประการ” ได้แก่ 1. มุมมองเชงิ ระบบ (Systems perspective) 2. การนำองค์กรอย่างมีวสิ ยั ทศั น์ (Visionary leadership) 3. ความเปน็ เลิศที่มงุ่ เนน้ นักเรยี นและผู้มสี ่วนไดส้ ่วนเสยี (Customer - focused excellence) 4. การให้ความสำคัญกับบคุ ลากร (Valuing people) 5. ความคล่องตวั และความสามารถในการฟนื้ ตัว (Agility and resilience) 6. การเรียนรรู้ ะดับองค์กร (Organizational learning) 7. การมุ่งเน้นความสำเร็จและการจัดการเพ่ือนวัตกรรม (Focus on success and innovation) 8. การจัดการโดยใช้ขอ้ มลู จริง (Management by fact)

4 9. การตอบแทนสังคม (Societal contributions) 10. จริยธรรมและความโปร่งใส (Ethics and transparency) 11. การสง่ มอบคุณคา่ และผลลพั ธ์ (Delivering value and results) ค่านิยมและแนวคิดหลักดังกล่าวเป็นรากฐานสำหรับการบูรณาการผลการดำเนินการที่สำคัญ และข้อกำหนดการปฏิบัติการภายใต้กรอบที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ ซึ่งจะสร้างพื้นฐานสำหรับการปฏิบัติ ขอ้ มูลป้อนกลบั และความสำเรจ็ อยา่ งตอ่ เน่อื ง การมงุ่ เน้นกระบวนการ กระบวนการ หมายถึง วิธีการต่าง ๆ ที่โรงเรียนใช้เพื่อทำให้งานสำเร็จ เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน ช่วยให้โรงเรียนตรวจประเมินและปรบั ปรงุ กระบวนการ ตาม 4 มติ ิ ดงั นี้ 1. แนวทาง (Approach) หมายถึง โรงเรียนมีวิธีการอย่างไรในการทำให้งานของโรงเรียนประสบความสำเร็จ ความเป็น ระบบและประสิทธิผลของแนวทางที่สำคัญของโรงเรยี นเป็นอย่างไร 2. การถ่ายทอดสู่การปฏิบตั ิ (Deployment) หมายถึง โรงเรียนนำแนวทางที่สำคัญไปใช้อย่างคงเส้นคงวาในส่วนงานที่เกี่ยวข้องอย่างไร แนวทางกำหนดไวอ้ ย่างไรการปฏิบตั ติ อ้ งเปน็ ไปตามนน้ั 3. การเรียนรู้ (Learning) หมายถึง โรงเรียนประเมินและปรับปรุงแนวทางที่สำคัญของโรงเรียนได้ดีอย่างไร การปรับปรุง ตา่ ง ๆ มีการแบง่ ปันภายในองคก์ รได้ดีเพยี งไร องคค์ วามรู้ใหม่ ๆ ได้นำไปสกู่ ารสรา้ งนวัตกรรมหรอื ไม่ 4. การบูรณาการ (Integration) หมายถึง แนวทางต่าง ๆ ของโรงเรียนสอดคล้องกับความต้องการจำเป็นของโรงเรียนทั้งใน ปัจจุบนั และอนาคตอย่างไร การมุ่งเนน้ ผลลัพธ์ เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ชี้นำให้โรงเรียนประเมิน ผลลัพธ์จาก 3 มมุ มอง • มมุ มองภายนอก : นกั เรยี นและผมู้ ีสว่ นไดส้ ่วนเสยี อน่ื มองโรงเรียนอยา่ งไร • มุมมองภายใน : การปฏบิ ตั ิการของโรงเรียนมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างไร • มมุ มองอนาคต : โรงเรียนมีการเรยี นรู้และเตบิ โตหรอื ไม่ เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กำหนดให้แสดงผลลัพธ์ ท่คี รอบคลมุ ทกุ ประเด็นสำคัญของโรงเรียน เนือ่ งจาก องคป์ ระกอบของตวั วัดเป็นส่งิ ท่ที ำให้มน่ั ใจวา่ กลยทุ ธ์

5 ของโรงเรียนมีความสมดุลระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญกับวัตถุประสงค์ ต่าง ๆ ตลอดจนเป้าประสงค์ ระยะสน้ั และระยะยาว เกณฑร์ างวัลคุณภาพแหง่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานช่วยให้โรงเรียน ประเมนิ ผลลพั ธต์ าม 4 มติ ิ ดงั น้ี 1. ระดบั (Level) หมายถึง ระดบั ผลการดำเนนิ การปัจจบุ นั ตามตัววดั ทีเ่ หมาะสมเป็นอยา่ งไร 2. แนวโน้ม (Trend) หมายถึง ผลลพั ธ์มีการเปล่ยี นแปลงอยา่ งไร เช่น ดีขน้ึ หรือเหมือนเดมิ หรือต่ำลงกวา่ เดิม 3. การเปรยี บเทียบ (Comparison) หมายถึง ผลการดำเนินการของโรงเรียนเมื่อเทียบกับโรงเรียนอื่นท่ีเหมาะสมเป็นอย่างไร เช่น เทยี บกบั คู่แขง่ หรือระดบั เทียบเคียง หรอื ผนู้ ำทางการศกึ ษา 4. การบูรณาการ (Integration) หมายถึง โรงเรียนติดตามดูผลลัพธ์ที่สำคัญของโรงเรียนหรือไม่ โรงเรียนใช้ผลลัพธ์นั้นในการ ตดั สินใจหรอื ไม่ การมุ่งเนน้ การปฏบิ ตั ทิ ีเ่ กี่ยวเนอ่ื งกนั การปฏิบัติท่ีเกีย่ วเน่ืองกันระหว่างเกณฑ์หมวดต่าง ๆ เป็นองค์ประกอบท่ีสำคัญของมุมมองเชิงระบบ ในเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตัวอย่างการปฏิบัติที่เกี่ยวเนื่องกัน เชน่ 1) การปฏิบัติที่เกี่ยวเนื่องกันระหว่างแนวทางของโรงเรียนในหมวด 1 - 6 และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ในหมวด 7 2) ความจำเป็นของข้อมลู ในกระบวนการวางแผนกลยุทธแ์ ละการปรบั ปรงุ การปฏบิ ตั ิการ 3) การปฏิบตั ทิ ีเ่ ก่ยี วเนอ่ื งกนั ระหวา่ งการวางแผนบุคลากรกับการวางแผนกลยุทธ์ 4) ความจำเป็นของความรู้เกี่ยวกับนักเรียน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ความต้องการของชุมชนและสังคม ในการสร้างกลยุทธ์และแผนปฏบิ ตั ิการ 5) การปฏิบัติที่เกี่ยวเนื่องกันระหว่างแผนปฏิบัติการและการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นในระบบงาน ของโรงเรียน การมุ่งเนน้ การปรบั ปรงุ เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ช่วยให้โรงเรียนเข้าใจ และตรวจประเมินโรงเรียนว่าประสบผลสำเร็จในสิ่งที่สำคัญต่อโรงเรียนในระดับใด โรงเรียนมีการถ่ายทอด กระบวนการไปสู่การปฏิบัติในระดับพัฒนาการใด ผลลัพธ์ของโรงเรียนดีในระดับใด โรงเรียนได้ เรียนรู้ และปรับปรุงหรือไม่ และแนวทางของโรงเรียนตอบสนองความจำเป็นของโรงเรียนได้ดีในระดับใด แนวทาง การให้คะแนน (หน้า 136) แสดงใหเ้ ห็นถงึ มติ ขิ องกระบวนการและผลลัพธ์ที่อธบิ ายข้างต้นอยา่ งไร

6 ในขณะที่โรงเรียนตอบคำถามตามเกณฑ์ และประเมินผลการตอบของตนเองกับแนวทาง การให้คะแนน โรงเรียนจะสามารถระบุจุดแข็งและโอกาสในการปรับปรุง ทั้งภายในเกณฑ์แต่ละหมวด และระหว่างหมวด เมื่อโรงเรียนใช้เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อบริหารจัดการผลการดำเนินการของโรงเรียน จะเกิดการทำงานประสานกันระหว่างกระบวนการที่สำคัญ และข้อมูลป้อนกลับระหว่างกระบวนการกับผลลัพธ์ ซึ่งจะนำไปสู่วงจรการปรับปรุง และเมื่อโรงเรียน ใช้เกณฑ์นี้อย่างต่อเนื่อง โรงเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับตนเองมากขึ้น และจะสามารถระบุวิธีที่ดีที่สุด ในการเสรมิ สรา้ งจดุ แข็ง ปิดชอ่ งวา่ งและสรา้ งนวัตกรรม เกณฑ์รางวลั คุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พื้นฐาน เหมาะสมกบั ทุกโรงเรียน เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สามารถปรับใช้ได้ ตามความจำเป็นของทุกโรงเรียน เกณฑ์ไม่ได้กำหนดว่าโรงเรียนควรจัดโครงสร้างหรือการปฏิบัติการอย่างไร ในโครงร่างองค์กร (หน้า 16) โรงเรียนจะอธิบายว่าอะไรเป็นสิ่งสำคัญต่อโรงเรียน (สภาพแวดล้อม การปฏิบัติการความสัมพันธ์ที่สำคัญ สภาพแวดล้อมเชิงแข่งขัน และบริบทเชิงกลยุทธ์) เกณฑ์สนับสนุนให้ โรงเรียนใช้แนวทางที่สร้างสรรค์ ปรับเปลี่ยนได้และยืดหยุ่น ซึ่งจะเอื้อให้เกิดการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและ ก้าวกระโดดด้วยนวัตกรรม เกณฑ์สนับสนุนให้โรงเรียนเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมและมีประสิทธิผลที่สุด เพื่อช่วยให้โรงเรยี นปรับปรุง (เช่น Lean, Six Sigma, ISO 9000, Balanced Scorecard, Plan – Do – Check - Act [PDCA]) หากใช้งานอย่างเหมาะสม เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยสร้างเสริมความสามารถให้โรงเรียนบรรลุ ความเปน็ เลิศอยา่ งย่งั ยนื เกณฑ์มีบทบาท 3 ประการ คือ 1) ช่วยปรบั ปรงุ กระบวนการ ขีดความสามารถ และผลลพั ธ์ 2) ช่วยกระตุ้นการสื่อสารและแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศระหว่างโรงเรียนต่าง ๆ ผา่ นการเข้ารว่ มเวทีศักยภาพโรงเรยี นมาตรฐานสากล และการเย่ยี มชมศึกษาดงู านโรงเรยี นทไี่ ด้รบั รางวลั 3) เป็นเครื่องมือที่นำมาใช้ในการทําความเข้าใจ และใช้ในการบริหารจัดการผลการดำเนินการ ของโรงเรยี น ช้ีนําความคิดในเชงิ กลยทุ ธ์และสร้างโอกาสในการเรยี นรู้ในการบริหารจัดการ ประเทศไทยมีการใช้เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติเพื่อช่วยให้องค์กร ปรับปรุงขีดความสามารถ ในการแข่งขันและผลลัพธ์ผ่านระบบการพัฒนาและประเมินองค์กรต่าง ๆ ได้แก่ ระบบการรับรองมาตรฐาน โรงพยาบาล (Hospital Accreditation : HA) ระบบการประเมินคุณภาพรัฐวิสาหกิจ (State Enterprise Performance Appraisal: SEPA) ระบบคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (Public Sector Management Quality Award: PMQA) เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพื่อผลการดําเนินงานที่เป็นเลิศ (Education Criteria for Performance Excellence: EdPEx) สำหรับการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานใช้เกณฑ์รางวัลคุณภาพ แห่งสำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน (OBECQA)

7 วธิ ีการใช้เกณฑ์รางวลั คุณภาพแห่งสำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน ทุกโรงเรียนสามารถใช้เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพ่ือปรับปรุงพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาได้ เกณฑ์จะชว่ ยให้โรงเรียนตัดสินใจได้ว่าจะเริ่มตน้ อย่างไร ก. กรณีโรงเรียนเริ่มต้นเรียนรู้เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ข้นั พน้ื ฐาน วิธีการที่จะเป็นประโยชน์สำหรับโรงเรียนที่เริ่มต้นใช้เกณฑ์เพื่อปรับปรุงพัฒนาคุณภาพการศึกษา ของโรงเรียนดำเนินการ ดงั น้ี 1) ศึกษาคำถามในโครงร่างองค์กร (หน้า 16) อภิปรายเพื่อหาคําตอบ โดยถามคําถามเหล่านี้กับคณะผู้บริหารระดับสูง อาจถือเป็นการตรวจ ประเมินตนเองครัง้ แรกของโรงเรียน 2) ศึกษาคา่ นยิ มและแนวคิดหลกั 11 ประการ (หน้า 91) เทยี บเคียงโรงเรียนกบั ค่านยิ มเหล่านี้ วา่ มีประเด็นอะไรบ้างทโี่ รงเรยี นควรปรบั ปรงุ 3) ตอบคําถามตาม 17 หัวข้อของเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน เพือ่ ทําความเข้าใจพนื้ ฐานเกย่ี วกับเกณฑ์ และผลการดำเนินการของโรงเรียน 4) ศึกษากรอบภาพรวมของระบบบริหารจัดการ ผลการดำเนนิ การ โดยศึกษาหัวข้อหลักตา่ ง ๆ ในแตล่ ะหัวข้อคําถาม (หน้า 12) โรงเรียนพิจารณาถึงประเด็นเหล่านี้ (ตัวหนังสือตัวหนา ในเนื้อหาเกณฑ์) ในการวางระบบ การนาํ องค์กรและการวัดผลการดำเนินการ 5) ใช้เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและเนื้อหา คำอธิบาย เปน็ แหล่งขอ้ มลู ในการปรบั ปรุงผลการดำเนินการของโรงเรียน เกณฑแ์ ละคำอธิบายอาจชว่ ยใหโ้ รงเรยี นคิดดว้ ยวิธีท่ีแตกตา่ ง หรือใหก้ รอบการอา้ งอิงใหม่ ๆ 6) เข้าร่วมการฝึกอบรมหรือสัมมนาเกี่ยวกับเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน เพอื่ เรียนรู้แนวทางการนำเกณฑไ์ ปใช้ในการพัฒนาโรงเรียนให้เกดิ คณุ ภาพ 7) เข้ารว่ มการฝึกอบรมหรือสมั มนาเก่ยี วกับเกณฑ์รางวัลคณุ ภาพแหง่ ชาติ (รายละเอยี ดตาม www.tqa.or.th) เพื่อเรียนรู้แนวทางที่เปน็ แบบอย่างทีด่ จี ากองค์กรท่ีได้รับรางวัล องค์กรเหล่านี้ได้ใช้เกณฑร์ างวัล คุณภาพแหง่ ชาติ เพอ่ื ปรบั ปรุงผลการดำเนนิ การ สรา้ งนวตั กรรม และบรรลุผลลัพธม์ าแล้ว 8) นำเกณฑ์รางวัลคณุ ภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้นื ฐานสู่การปฏบิ ตั ิในโรงเรียน

8 ข. กรณีโรงเรียนมีความพร้อมสำหรับการสมัครขอรับการตรวจประเมินเพื่อรับรางวัลตามเกณฑ์รางวัล คุณภาพแหง่ สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน เมื่อโรงเรียนนำเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานสู่การปฏิบัติ ในโรงเรียนอย่างน้อย 1 ปีการศึกษาแลว้ ดำเนนิ การดงั น้ี 1) จดั ทำโครงร่างองคก์ รใหส้ มบูรณ์ ให้คณะผู้บริหารระดับสูงตอบคําถามในโครงร่างองค์กร หากพบว่ามีสารสนเทศในประเด็นใด ที่ขัดแย้งกัน หรือมีข้อมูลน้อย หรือไม่มีเลย ให้ใช้ประเด็นเหล่านี้ในการลงมือวางแผน เพื่อให้เกิดการปฏิบัติ มโี รงเรียนส่วนใหญท่ ีใ่ ชโ้ ครงร่างองค์กรเปน็ จุดเร่มิ ต้นในการประเมนิ ตนเอง 2) ใช้คําถามของเกณฑ์แบบเต็มรูปแบบ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการทุกเรื่องที่สำคัญ ในการนาํ องคก์ ร (ใช้คำถามของเกณฑ์ทั้ง 3 ระดับ คือ คำถามพื้นฐาน (Basic Questions) คำถามโดยรวม (Overall Questions) และ คำถามย่อย (Multiple Questions) เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการทุกเรื่อง ทส่ี ำคญั โรงเรยี นอาจคน้ พบจดุ ทค่ี วรปรบั ปรุง พัฒนา หรือประเด็นทค่ี วรให้ความสำคัญเพ่มิ เตมิ ) 3) ทบทวนแนวทางการใหค้ ะแนน (หนา้ 134 และ136) แนวทางนจ้ี ะช่วยให้โรงเรยี นประเมินระดับพัฒนาการของโรงเรยี น. 4) ตอบคาํ ถามในหมวดที่โรงเรียนตระหนักวา่ จำเปน็ ตอ้ งปรับปรงุ ตอบด้วยตนเอง หรือกับคณะผู้บริหารระดับสูง จากนั้นตรวจประเมินจุดแข็งและโอกาส ในการ ปรับปรุงและจัดทำแผนปรับปรุง อย่างไรก็ตามวิธีการประเมินโดยการเลือกตอบเฉพาะหมวด อาจทำให้เกิด ความจาํ กัดของประโยชน์ทพี่ งึ จะได้จากมุมมองเชิงระบบของเกณฑ์ 5) ให้คณะผบู้ รหิ ารระดับสูงตรวจประเมนิ โรงเรยี น โดยตอบคําถามโครงร่างองค์กรและเกณฑ์ทั้ง 7 หมวด เพื่อให้ทราบถึงจุดแข็งและโอกาส ในการ ปรบั ปรงุ แล้วจัดทำแผนปรบั ปรงุ โรงเรยี น 6) ตรวจประเมินโรงเรียนแบบเตม็ รูปแบบด้วยตนเอง โดยจดั ตงั้ คณะทำงานภายในโรงเรยี นเพอ่ื ตรวจประเมินองค์กรตามเกณฑท์ ้งั 7 หมวด 7) เขียนรายงานวิธีการและผลการดำเนินงานเมื่อสิ้นปีการศึกษา และสมัครเข้ารับการประเมิน รางวลั ระดับ ScQA หรอื OBECQA ตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการท่สี ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐานกำหนด ค. กรณีโรงเรียนที่ผ่านการประเมินตามเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐานระดับ OBECQA สามารถพัฒนาให้มีความยั่งยืน / ต่อยอดเพื่อมุ่งสู่การรับรางวัลคุณภาพ แหง่ ชาติ (TQA) จากสำนักงานรางวัลคณุ ภาพแห่งชาติ สถาบนั เพ่มิ ผลผลิตแห่งชาติ กระทรวงอุตสาหกรรมได้ ทง้ั นี้ใหศ้ กึ ษาจากค่มู อื สมัครขอรับรางวลั คณุ ภาพแหง่ ชาติประจำปนี ้ัน ๆ จากเวบ็ ไซต์ www.tqa.or.th

9 เกณฑ์รางวลั คณุ ภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน (OBECQA) ปี 2565 - 2568 กรอบความคิดของเกณฑ์ เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (OBECQA) เพื่อผลการ ดำเนนิ งานทเี่ ป็นเลศิ : มมุ มองเชิงระบบ ระบบของการดำเนินการที่เป็นเลิศ ประกอบด้วยเกณฑ์ 6 หมวดที่อยู่ส่วนกลางของภาพซึ่งระบุ กระบวนการและผลลพั ธ์ที่โรงเรยี นบรรลุ ผลการดำเนนิ การทีเ่ ป็นเลิศต้องอาศัยการนำองคก์ รท่ีเข้มแขง็ และแสดงใหเ้ ห็นผา่ นผลลัพธท์ ่โี ดดเดน่ คำวา่ “บูรณาการ” ท่ีกลางภาพ แสดงใหเ้ หน็ วา่ ทกุ องค์ประกอบของระบบเชอ่ื มโยงกัน ลกู ศรแนวนอนตรงกลาง แสดงการเช่ือมโยงทสี่ ำคัญระหว่างกลุ่มการนำองค์กร (หมวด 1, 2, และ 3) กับกลุ่มผลลัพธ์ (หมวด 5, 6, และ 7) และยังแสดงถึงความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างกลุ่มการนำองค์กร และกลุม่ ผลลัพธ์ ลูกศรแนวตั้งที่กลางภาพ แสดงความสัมพันธ์แบบ 2 ทิศทาง ระหว่างพื้นฐานของระบบ ซึ่งให้ สารสนเทศและข้อมลู ป้อนกลบั สำหรบั กระบวนการทสี่ ำคญั กบั สภาพแวดลอ้ มขององค์กร ภาพ 1 Criteria for Performance Excellence Framework* : OBECQA

10 โครงสร้างเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน เพอ่ื ผลการดำเนนิ งานที่เปน็ เลิศ (Criteria for Performance Excellence Structure) เกณฑ์ทง้ั 7 หมวดประกอบด้วยหวั ขอ้ และประเด็นพิจารณา หวั ขอ้ เกณฑ์มีทั้งหมด 17 หัวข้อ และอีก 2 หัวข้อในโครงร่างองค์กร แต่ละหัวข้อมีจุดมุ่งเน้น ทีเ่ ฉพาะเจาะจง หัวข้อเหล่าน้ีแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ตามประเภทของสารสนเทศทต่ี ้องการ คอื • โครงร่างองคก์ ร ถามเพอ่ื ให้โรงเรียนระบุสภาพแวดลอ้ มของโรงเรียน • หัวข้อที่เป็นกระบวนการ (หมวด 1 - 6) ถามเพื่อให้โรงเรียนระบกุ ระบวนการตา่ ง ๆ ของโรงเรียน • หัวข้อที่เป็นผลลัพธ์ (หมวด 7) ถามเพื่อให้โรงเรียนรายงานผลลัพธ์ของกระบวนการ ตา่ ง ๆ ของโรงเรยี น (สำหรับรายชอื่ หัวขอ้ และคะแนน ดหู นา้ 12) หมายเหตขุ องหัวข้อ หมายเหตุของหวั ขอ้ มเี พ่ือ 1) อธิบายคำหรือข้อกำหนดของแต่ละหวั ข้อ 2) ขอ้ แนะนำและให้ตัวอยา่ งวธิ ีการตอบตามข้อกำหนดของหวั ข้อ 3) ชี้ให้เห็นถึงการปฏบิ ตั ทิ เ่ี ก่ียวเนือ่ งกนั ท่สี ำคญั กบั หวั ข้ออืน่ ๆ ประเดน็ พจิ ารณา ในแตล่ ะหัวขอ้ มีประเดน็ พจิ ารณาอยา่ งนอ้ ยหน่ึงประเด็น (ใช้ตัวอกั ษร ก. , ข. และ ค.) คำถาม ในเกณฑ์ แสดงดว้ ยคำถามหรอื การใหอ้ ธบิ ายโดยแบง่ ออกเปน็ 3 ระดบั • คำถามพื้นฐาน (Basic questions) คอื คำถามท่ีตามหลังหวั ข้อหลกั • คำถามโดยรวม (Overall questions) แสดงด้วยคำถามตัวอักษรเข้ม คำถามชี้นำ เหลา่ น้เี ป็นจุดเริ่มต้นในการตอบคำถามของเกณฑ์ • คำถามย่อย (Multiple questions) เป็นชุดคำถามที่อยู่ต่อจากคำถามโดยรวม โดยคำถามแรกแสดงถึงส่ิงท่ีสำคญั ทสี่ ดุ ในชดุ คำถามนนั้ อภิธานศพั ท์ คำที่ขีดเส้นใต้ในเนื้อหาเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สามารถดูความหมายไดจ้ ากอภธิ านศัพทท์ า้ ยเลม่

11 รูปแบบของหัวขอ้ ภาพประกอบ 2 รปู แบบของหวั ข้อ ภาพประกอบ 2 รูปแบบของหวั ข้อ

12 คะแนน หัวขอ้ ของเกณฑ์ 110 60 โครงรา่ งองคก์ ร 50 1. ลักษณะองค์กร 95 2. สภาวการณข์ ององคก์ ร 45 50 หมวดและหัวข้อตา่ ง ๆ 95 45 หมวด 1 การนำองคก์ ร 50 1.1 การนำองค์กรของผู้นำระดบั สงู 100 1.2 การกำกบั ดแู ลองคก์ รและการตอบแทนสงั คม 55 45 หมวด 2 กลยทุ ธ์ 100 2.1 การจดั ทำกลยทุ ธ์ 45 2.2 การนำกลยทุ ธ์ไปสกู่ ารปฏบิ ตั ิ 55 100 หมวด 3 นักเรียนและผ้มู สี ว่ นได้ส่วนเสยี 55 3.1 ความคาดหวงั ของนกั เรียนและผ้มู ีสว่ นไดส้ ่วนเสยี 45 3.2 ความผกู พนั ของนักเรียนและผมู้ สี ่วนไดส้ ่วนเสยี 400 120 หมวด 4 การวัด การวิเคราะห์ และการจดั การความรู้ 70 4.1 การวัด การวิเคราะห์ และการปรบั ปรงุ ผลการดำเนินการของโรงเรยี น 70 4.2 การจัดการสารสนเทศ และการจดั การความรู้ 65 75 หมวด 5 บุคลากร 5.1 สภาพแวดลอ้ มของบุคลากร 1,000 5.2 ความผูกพันของบุคลากร หมวด 6 การปฏิบตั ิการ 6.1 กระบวนการทำงาน 6.2 ประสทิ ธผิ ลของการปฏิบัติการ หมวด 7 ผลลัพธ์ 7.1 ผลลพั ธด์ ้านหลกั สูตรและกระบวนการ 7.2 ผลลพั ธด์ ้านนักเรียนและผูม้ ีสว่ นได้สว่ นเสยี 7.3 ผลลัพธด์ ้านบคุ ลากร 7.4 ผลลพั ธก์ ารนำองค์กรและการกำกับดูแลองค์กร 7.5 ผลลพั ธด์ า้ นการเงิน ตลาด และกลยุทธ์ คะแนนรวม

13 คำอธบิ ายเพือ่ การอา่ นเกณฑ์ 1. คำศัพท์ทส่ี ำคัญ เพ่อื ใช้ในเกณฑ์รางวลั คุณภาพแห่งสำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน สงั เกตได้จาก 1.1 คำทข่ี ดี เส้นใต้ 1.2 คำท่พี มิ พเ์ ป็นตัวพิมพ์ใหญ่ คำเหล่านี้สามารถดูความหมายได้จากอภธิ านศพั ท์ หนา้ 103 2. หัวข้อต่าง ๆ ในเนื้อหาเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน แบง่ ออกเป็น 3 กลุ่ม ไดแ้ ก่ บทนำ อธิบายสภาพแวดลอ้ มขององคก์ ร หมวด 1 - 6 อธิบายกระบวนการตา่ ง ๆ ขององค์กร หมวด 7 แสดงผลลัพธ์จากกระบวนการตา่ ง ๆ ขององคก์ ร 3. คำที่เปน็ ตัวเอยี งในหมายเหตุ เปน็ คำอธิบายสำหรับองค์กรไมแ่ สวงหาผลกำไร 4. (*) หมายถงึ การตอบในประเด็นนี้ ใหพ้ จิ ารณาตามความเหมาะสม 5. ในคำถามย่อยของประเด็นพิจารณา ที่มีตัวเลขในวงเล็บ เช่น 1.1ก.(3) ประกอบด้วยคำถาม หลายคำถาม คำถามเหล่านี้มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน และไม่จำเป็นต้องแยกตอบแต่ละคำถาม คำถามย่อย เหลา่ น้ีใชเ้ ป็นแนวทางในการทำความเข้าใจว่าต้องใชส้ ารสนเทศใดในการตอบ 6. หมายเหตทุ ้ายเกณฑ์แตล่ ะหวั ขอ้ มจี ดุ ประสงค์ 3 ประการ คอื 1) อธิบายคำ หรือข้อกำหนดของแต่ละหัวขอ้ ให้ชัดเจน 2) แนะนำและใหต้ ัวอย่างวธิ ีการตอบตามคำถามของหัวข้อ 3) ชใ้ี หเ้ หน็ การปฏิบัตทิ ่ีเกี่ยวเนือ่ งกันทส่ี ำคัญกับหัวข้ออ่นื โดยสรุปจุดประสงค์ของหมายเหตุ คือ เพื่อช่วยให้โรงเรียนสามารถตอบคำถามต่าง ๆ ตามคำถามของหวั ขอ้ ไดช้ ัดเจนย่ิงข้ึน 7. เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานประจำปี 2565 – 2568 จะใช้ในการดำเนินงานตั้งแต่ปีการศึกษา 2565 เป็นต้นไป สำหรับโรงเรียนที่สนใจสมัครขอรับการประเมิน เพ่ือรบั รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน สามารถพิจารณารายละเอียด ได้จาก คมู่ ือการสมคั รขอรับรางวลั คุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พื้นฐานปีนั้น ๆ โดย Download เอกสารไดท้ ี่ www.secondary.obec.go.th

เน้อื หาเกณฑ์

15 เกณฑ์รางวลั คุณภาพแหง่ สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน (OBECQA) เรมิ่ ต้นดว้ ยโครงรา่ งองค์กร (Begin with the Organizational Profile) โครงรา่ งองค์กร เป็นการเริ่มต้นที่เหมาะสมที่สุดในการประเมินตนเองของโรงเรียน และในการเขียนรายงาน เพอ่ื สมัครขอรับการประเมนิ เพ่ือรับรางวลั โครงร่างองค์กรมคี วามสำคญั อยา่ งยิ่ง เนื่องจาก • โรงเรยี นสามารถใชโ้ ครงร่างองคก์ รเพื่อการประเมนิ ตนเองเบื้องต้น หากพบว่าประเด็น ใดมีความขัดแย้ง หรือข้อมูลน้อย หรือไม่มีเลย ให้ใช้ประเด็นเหล่านี้ในการวางแผน เพื่อให้เกิด การปฏิบตั ิ • โครงร่างองค์กรเป็นสิ่งที่กำหนดบริบท เพื่อทำความเข้าใจองค์กรและวิธีปฏิบัติการ และทำให้โรงเรียนสามารถระบุลักษณะที่เฉพาะเจาะจงของโรงเรียน เพื่อประโยชน์ในการตอบ คำถามของเกณฑ์ในหมวด 1 – 7 การตอบคำถามต่าง ๆ ในเกณฑ์ควรสัมพันธ์กับบริบทขององค์กร ท่ที า่ นอธิบายไว้ในโครงรา่ งองค์กร • โครงร่างองค์กรช่วยให้โรงเรียน สามารถระบุสารสนเทศสำคัญที่อาจขาดหายไป และช่วยใหโ้ รงเรยี นเน้นทีก่ ารตอบคำถามและผลลพั ธ์การดำเนินการท่ีสำคัญ

16 บทนำ : โครงร่างองคก์ ร (Organizational Profile) โครงร่างองค์กร คือ ภาพบรบิ ทโดยย่อของโรงเรยี น และสภาพแวดล้อมเชิงกลยุทธ์ 1ลักษณะองค์กร (Organizational Description) คุณลกั ษณะทสี่ ำคัญของโรงเรยี น คอื อะไร ก. สภาพแวดล้อมขององค์กร (Organizational Environment) (1) หลกั สูตร (Product Offerings) โรงเรยี นมหี ลักสตู รหรือแผนการเรียนทีส่ ำคญั อะไรบา้ ง • หลักสูตรหรือแผนการเรียนที่ส่งผลต่อความสำเร็จของโรงเรียน เรียงตามลำดับ ความสำคญั คอื อะไร • โรงเรียนมีกลไก รูปแบบ หรือวิธีการในการจัดการเรียนรู้ และการให้บริการทาง การศึกษาท่ีส่งผลตอ่ ความสำเร็จของโรงเรยี นอะไรบ้าง (2) พนั ธกจิ วิสยั ทัศน์ คา่ นิยม และวฒั นธรรมองค์กร (MISSION, VISION, VALUES and CULTURE) พันธกิจ วิสัยทัศน์ ค่านิยมของโรงเรียนคืออะไร ค่านิยมใดบ้างที่สอดคล้องกับค่านิยมหลัก 11 ประการ (ถ้ามี) คุณลักษณะของวัฒนธรรมองค์กรที่เพิ่มเติมจากค่านิยมคืออะไร (ถ้ามี) สมรรถนะหลัก ของโรงเรยี น (CORE COMPETENCIES) คอื อะไร และมคี วามเก่ยี วข้องอยา่ งไรกบั พนั ธกิจของโรงเรียน (3) ลกั ษณะโดยรวมของบคุ ลากร (WORKFORCE Profile) ลกั ษณะโดยรวมของบคุ ลากร คืออะไร มกี ารเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกบั องค์ประกอบและความจำเป็น ดา้ นบคุ ลากรอย่างไร • มีการจำแนกบุคลากรออกเป็นกลุ่มอะไรบ้าง แต่ละกลุ่มเหล่านี้มีข้อกำหนด ดา้ นการศกึ ษาระดบั ใด • ปจั จยั ขับเคลือ่ นสำคญั ท่ที ำให้บุคลากรมีความผูกพันกบั องค์กร คืออะไร • มีกลุม่ ใดบ้างทท่ี ำหน้าที่เจรจาสทิ ธปิ ระโยชน์กบั โรงเรียน เช่น ชมรมครู (ถา้ ม)ี • สิทธิประโยชน์และข้อกำหนดพิเศษด้านสุขภาพและความปลอดภัยที่สำคัญ ของบุคลากรมอี ะไรบ้าง (ถ้าม)ี

17 (4) สินทรพั ย์ (Assets) โรงเรียนมีอาคารสถานท่ี เทคโนโลยี ครุภัณฑ์ และอุปกรณท์ สี่ ำคัญต่อกระบวนการจดั การเรียนรู้ และกระบวนการทำงานทีส่ ำคญั อะไรบ้าง (5) สภาพแวดลอ้ มดา้ นกฎระเบียบข้อบังคับ (Regulatory Environment) โรงเรียนดำเนนิ งานภายใตก้ ฎระเบยี บข้อบังคับที่สำคัญ อะไรบ้าง ในด้านต่อไปนี้ • กฎกระทรวงวา่ ดว้ ยการประกันคณุ ภาพการศึกษา • กฎ ระเบยี บ เกี่ยวกบั หลกั สตู ร การจดั การเรียนรู้ การวัดผลและประเมนิ ผลการศึกษา และการบริการเสรมิ พเิ ศษ • กฎระเบยี บเก่ยี วกับการปฏบิ ัติงานทางการศึกษา • กฎระเบยี บข้อบังคับด้านการเงินและส่งิ แวดลอ้ ม • กฎระเบียบท่ีเก่ียวข้องกับเรื่องเทคโนโลยสี ารสนเทศข้อมูลขา่ วสาร • กฎระเบยี บด้านอาชวี อนามยั และความปลอดภัย ข. ความสมั พนั ธร์ ะดับองคก์ ร (Organizational Relationships) (1) โครงสร้างองค์กร (Organizational Structure) โครงสร้างองค์กรและระบบการกำกับดูแลองค์กร (GOVERNANCE System) ของโรงเรียน มีลกั ษณะอยา่ งไร โครงสรา้ งและกลไกระบบการนำองค์กรมีอะไรบ้าง ระบบการรายงานระหว่างคณะกรรมการ การกำกับดูแลองคก์ ร ผู้นำระดับสูง หนว่ ยงานต้นสังกัด มลี ักษณะเช่นใด (*) (2) นักเรยี นและผ้มู ีสว่ นได้ส่วนเสีย (STUDENTS and STAKEHOLDERS) กลุ่มนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญของโรงเรียน จำแนกตามหลักสูตร หรือแผนการ เรียนของโรงเรยี นมีอะไรบ้าง (*) • กลุ่มดังกล่าวมีความต้องการและความคาดหวังที่สำคัญต่อหลักสูตร การบริการ ทางการศกึ ษา และการปฏิบัติการอย่างไร และมีความแตกตา่ งกันระหว่างกลุ่มตา่ ง ๆ อยา่ งไร (3) ผสู้ ง่ มอบ พนั ธมติ ร และคคู่ วามรว่ มมือ (Suppliers, PARTNERS, and COLLABORATORS) ผู้ส่งมอบ พันธมิตร และคู่ความร่วมมือ (COLLABORATORS) ที่สำคัญมีประเภทใดบ้าง แตล่ ะกลุ่มมีบทบาทอะไร ในเรอ่ื งต่อไปนี้ • มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนรู้ การบริการทางการศึกษาและการจบหลักสูตร ของนกั เรียน

18 • การยกระดับความสามารถในการแขง่ ขันของโรงเรียน • มสี ่วนรว่ มในการสร้างนวัตกรรมให้แกโ่ รงเรยี น • ขอ้ กำหนดท่สี ำคญั ของเครือข่ายอปุ ทาน (supply - network) ของโรงเรียน คอื อะไร หมายเหตุ หมายเหตุ 1.ก.(1) หลักสูตร หมายถึง หลักสูตรสถานศึกษาซึ่งประกอบด้วยหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน สาระการเรยี นรรู้ ะดับทอ้ งถ่ิน และสาระการศกึ ษาค้นควา้ ด้วยตนเอง (Independent Study: IS) แผนการเรียน หมายถึง แผนการจัดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมศักยภาพของนักเรียนด้านต่าง ๆ เช่น แผนการเรียนวิทยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์ แผนการเรียนศิลป์ - คำนวณ แผนการเรียนธุรกิจ แผนการเรียน เตรียมแพทย์ แผนการเรียนทวิศึกษา โครงการจัดการเรียนการสอนภาคภาษาอังกฤษ (English Program) หรือโครงการห้องเรียนพิเศษทีเ่ นน้ เฉพาะด้าน เชน่ ดา้ นดนตรี กีฬา ศิลปะ ภาษาจนี ภาษาญ่ปี ่นุ ภาษาฝรั่งเศส เป็นต้น โรงเรียนใช้วิธีการหรือรูปแบบใดในการจัดการเรียนรู้ เช่น โรงเรียนจัดเองทั้งหมด หรือ โรงเรียน ร่วมมือกับสถาบันการศึกษา สถานประกอบการ หรือการจัดการเรียนการสอนผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ หรือผ่านเครือข่ายพันธมิตร หรือคู่ความร่วมมือด้วยกิจกรรมต่าง ๆ หรือรูปแบบการจัดการเรียนรู้อื่น ๆ ทโี่ รงเรียนกำหนดขนึ้ เปน็ ตน้ หมายเหตุ 1.ก.(2) กรณีโรงเรียนกำหนดเจตจำนงหรือพันธกิจ โรงเรียนควรอธิบายถึงสิ่งเหล่านั้นในการตอบคำถาม บางโรงเรียนอาจระบุเจตจำนงและพันธกิจ บางโรงเรียนใช้คำเหล่านี้แทนกัน บางโรงเรียนระบุเจตจำนง หมายถงึ เหตุผลพนื้ ฐานในการดำรงอยู่ของโรงเรียน ซง่ึ สิง่ เหลา่ น้ีมบี ทบาทในการสร้างแรงบันดาลใจ และช้ีนำ การกำหนดค่านยิ ม วัฒนธรรมองคก์ ร หมายถึง ทัศนคติ ค่านิยมและความเช่อื ท่ีทกุ คนในองค์กรมีรว่ มกัน และทั้งหมดนี้ ยังเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างเป้าหมายขององค์กร ให้เป็นภาพที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทั้งยังเป็นสิ่งที่กำหนดวิธีการ ทำงานของทกุ คนใหเ้ ป็นไปตามกลยุทธ์เพื่อมุง่ สคู่ วามสำเร็จ ค่านิยม เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร คุณลักษณะอื่นของวัฒนธรรมองค์กรอาจรวมถึง ความเชอื่ และบรรทัดฐาน (norms) ร่วมกันซ่ึงนำไปสูค่ วามเป็นเอกลักษณข์ องสภาพแวดล้อมภายในโรงเรยี น สมรรถนะหลักของโรงเรียน (Core Competencies) หมายถึง เรื่องที่โรงเรียนมีความเชี่ยวชาญ มากที่สุด เป็นความสามารถเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญซึ่งเป็นแกนหลักในการทำให้โรงเรียนบรรลุพันธกิจ หรือทำให้ ได้เปรยี บในสภาพแวดลอ้ มของการให้บรกิ ารทางการศึกษาของตนเอง

19 หมายเหตุ 1.ก.(3) กลุ่มของบุคลากร (รวมถึงกลุ่มที่ทำหน้าที่เจรจาสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น ชมรมครู ชมรม ลูกจ้างประจำ ชมรมลูกจ้างชั่วคราว) อาจแบ่งตามลักษณะงาน สัญญาจ้าง และให้รวมถึงนักศึกษา ฝึกประสบการณ์ หมายเหตุ 1.ข.(1) ระบบการกำกับดแู ลองคก์ รสำหรับโรงเรียน อาจประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียน มูลนิธิ ท่ีใหก้ ารสนบั สนุนการจดั การศึกษาของโรงเรียน หรือหนว่ ยงานอน่ื ท่ที ำหน้าท่กี ำกบั ดแู ลโรงเรยี น คำถามในโครงร่างองค์กร ถามว่า ระบบการนำองค์กรคือ “อะไร” (What) (โครงสร้างและกลไก) คำถามในหมวด 1 และหมวด 5 ถาม “วธิ กี าร” ใชร้ ะบบการนำองคก์ ร (How) หมายเหตุ 1.ข.(2) ความต้องการและความคาดหวังของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทำให้โรงเรียนตระหนัก และเตรียมการต่อความเสี่ยงของการหยุดชะงักการจัดการเรียนการสอนและกระบวนการทำงานที่สำคัญ และเครือข่ายอุปทาน รวมถึงการหยุดชะงักที่มาจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ สถานการณ์โรคอุบัติใหม่ โรคอบุ ัตซิ ำ้ และภาวะฉกุ เฉินอน่ื ๆ กล่มุ นกั เรยี นและผู้มีสว่ นไดส้ ่วนเสีย อาจแบ่งตามความคาดหวัง พฤตกิ รรม ความนิยม ต่อหลักสูตร หรือแผนการเรียนและบริการต่าง ๆ หรือลักษณะที่คล้ายคลึงกันในแต่ละกลุ่ม และยังอาจแบ่งออกตาม ความแตกตา่ งหรือลักษณะร่วม หรือทง้ั 2 แบบ หมายเหตุ 1.ข.(3) เครือข่ายอุปทาน (Supply - network) ประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดการเรียน การสอนและกระบวนการทำงานที่สำคัญของโรงเรียน สำหรับบางโรงเรียนนั้น หน่วยงานเหล่านี้จะก่อให้เกิด ห่วงโซ่ โดยที่หน่วยงานหนึ่งเป็นผู้จัดหาให้อีกหน่วยงานหนึ่งโดยตรง อย่างไรก็ตาม หน่วยงานเหล่าน้ี จะมีความโยงใยเข้าด้วยกันและพึ่งพาซึ่งกันและกันมากขึ้น ไม่เพียงแค่เป็นความสัมพันธ์เชิงเส้นตรง เกณฑ์ใช้คำว่า “เครือข่ายอุปทาน” (supply - network) แทน “ห่วงโซ่อุปทาน” (Supply Chain) เพื่อช้ีให้เหน็ ถึงการพง่ึ พาซ่งึ กันและกันระหว่างโรงเรียนและผูส้ ง่ มอบ

20 2. สภาวการณข์ ององค์กร (Organizational Situation): สภาวการณเ์ ชิงกลยทุ ธข์ องโรงเรียน คืออะไร ก. สภาพแวดลอ้ มดา้ นการแขง่ ขัน (Competitive Environment) (1) ลำดบั ในการแข่งขนั (Competitive Position) โรงเรียนอยู่ในลำดับที่เท่าใดในการแข่งขัน เมื่อเปรียบเทียบกับโรงเรียนที่มีหลักสูตรลักษณะ เดียวกัน หรือขนาดใกล้เคียงกัน หรืออยู่ในชุมชนเดียวกัน หรือเขตพื้นที่การศึกษา หรือจังหวัดเดียวกัน โรงเรยี นทเ่ี ปน็ ค่แู ข่งมจี ำนวนเท่าไร และประเภทอะไรบา้ ง (2) การเปลย่ี นแปลงความสามารถในการแข่งขนั (Competitiveness Changes) การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ (ถ้ามี) ซึ่งมีผลต่อสถานการณ์ในการแข่งขันของโรงเรียนคืออะไร รวมถงึ การเปลยี่ นแปลงที่สร้างโอกาสสำหรับการสรา้ งนวตั กรรมและความรว่ มมือคืออะไร เช่น ปรบั ปรงุ พัฒนา หลกั สตู รใหท้ ันสมยั พัฒนาเทคโนโลยที ่ีทันสมัย พฒั นาบุคลากรใหม้ ีทักษะการปฏบิ ตั ิงาน เป็นตน้ (3) ขอ้ มลู เชงิ เปรียบเทียบ (Comparative Data) ระบุข้อมูลสำคัญเชิงเปรียบเทียบและเชิงแข่งขันทางการศึกษามีอะไรบ้าง มีข้อจำกัดอะไรบ้าง ในการไดข้ ้อมลู เหล่าน้ี หรอื มขี อ้ จำกัดอะไรบ้างในการใช้ประโยชนจ์ ากข้อมูลเหล่านี้ ข. บรบิ ทเชิงกลยุทธ์ (Strategic Context) ระบุสภาพปัญหาที่เป็นความท้าทายเชิงกลยุทธ์ของโรงเรียนที่ต้องการแก้ไขและพัฒนา รวมทั้งระบุ จุดแข็งและโอกาสท่เี ปน็ ความไดเ้ ปรียบเชิงกลยทุ ธ์ที่สำคัญของโรงเรยี น ค. ระบบการปรับปรงุ ผลการดำเนินการ (Performance Improvement) ระบุระบบการปรับปรุงผลการดำเนินการ รวมถึงกระบวนการที่ใช้ในการประเมินผล และ การปรบั ปรุงกระบวนการจดั การเรียนรู้และกระบวนการทำงานที่สำคญั ของโรงเรียน หมายเหตุ หมายเหตุ 2.ก. ความเข้าใจว่าคู่แขง่ คือใคร มจี ำนวนก่รี าย และคุณลกั ษณะที่สำคญั ของคู่แข่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างย่ิง ในการกำหนดวา่ อะไรเป็นความได้เปรยี บเชิงกลยุทธ์ขององค์กรในการจัดการศึกษาและขอบข่ายการให้บริการ (ตลาด) โรงเรียนควรศึกษาตัวอย่างจากโรงเรียนชั้นนำที่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในสภาพแวดล้อม ดา้ นการแขง่ ขนั ในปจั จบุ ัน รวมถึงปจั จัยต่าง ๆ ที่อาจมีผลกระทบต่อการดำเนนิ การในอนาคต

21 หมายเหตุ 2.ข. ความท้าทายเชิงกลยุทธ์และความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ อาจเป็นด้านการจัดการศึกษา ด้านการปฏิบัติการ ด้านการตอบแทนสังคม และด้านบุคลากร อาจเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่เกิดใหม่ (emerging technology) หลักสูตรและกระบวนการจัดการเรียนรู้ การเงิน โครงสร้างและวัฒนธรรมองค์กร นักเรียน ความต้องการของตลาด ชื่อเสียงของโรงเรียน การยอมรับของชุมชน การบริการที่สนับสนุนนักเรียน และผู้ปกครอง รูปแบบการจัดการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียน โลกาภิวัตน์ เครือข่ายอุปทาน ห่วงโซ่คุณค่า และผู้ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง รวมถึงส่งิ ท่ีทำให้โรงเรียนมีความโดดเด่น เชน่ การเป็นผู้นำด้านหลกั สตู ร การพฒั นาหลักสูตร การใหบ้ รกิ าร อตั ราของการสร้างนวตั กรรม สถานทตี่ ัง้ ของโรงเรยี น (ความสะดวกในการเดนิ ทางของนักเรียน) ส่ิงแวดลอ้ มและสภาพภมู ิอากาศ รวมถงึ ระบบการประกันคุณภาพการศึกษา สดั สว่ นตน้ ทนุ การบริหารจัดการ หมายเหตุ 2.ค. ระบบการให้คะแนนของเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พิจารณาการปรับปรุงผลการดำเนินการ ผ่านการเรียนรู้และการบูรณาการ เป็นมิติการตรวจประเมิน ระดับพัฒนาการของแนวทางและการถ่ายทอดสู่การปฏิบตั ิของโรงเรยี นตามระบบการให้คะแนน เพื่อประเมิน ความสมบูรณ์ของแนวทางและวิธีการนำไปปฏิบัติ คำถามนี้ช่วยให้โรงเรียนและผู้ประเมินคุณภาพกำหนด บริบทในภาพรวมของแนวทางที่ใช้ปรบั ปรุงผลการดำเนินการของโรงเรียนที่สอดคลอ้ งกับแนวทางที่เป็นระบบ ตามเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน อาจรวมถึงการใช้ระบบ Lean Enterprise, Six Sigma, Plan – Do – Check - Act (PDCA), มาตรฐาน ISO (เชน่ 9000 หรอื 14000 หรอื การประกนั คุณภาพภายนอก ของสำนกั งานรบั รองมาตรฐานและประเมินคณุ ภาพการศึกษา (สมศ.)

22 หมวด 1 การนำองค์กร (110 คะแนน) (Leadership) ในหมวดการนำองค์กรนี้ เกณฑ์ถามถึงวิธีการปฏิบัติตนของผู้นำระดับสูงของโรงเรียน กำหนด นโยบายและทำให้องค์กรมีความยั่งยืนอย่างไร นอกจากนี้ เกณฑ์ยังถามถึงระบบการกำกับดูแลองค์กร (GOVERNANCE System) และวิธีการที่โรงเรียนใช้เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ พันธกิจ และความรับผิดชอบ ด้านกฎหมาย จรยิ ธรรม และการตอบแทนสังคม 1.1 การนำองคก์ รของผ้นู ำระดบั สงู (Senior Leadership): กระบวนการ ผูน้ ำระดับสูงมีระบบการนำองคก์ รอยา่ งไร (60 คะแนน) ก. วิสัยทัศน์ และค่านิยม (Vision and Values) (1) กำหนดวสิ ยั ทัศน์ และคา่ นิยม (Establishing Vision and Values) ผ้นู ำระดบั สูง (SENIOR LEADERS) ดำเนนิ การอยา่ งไรในการกำหนดวิสัยทัศน์และค่านิยม • ผู้นำระดับสูงดำเนินการอย่างไรในการถ่ายทอดวิสัยทัศน์และค่านิยม สู่การปฏิบัติ โดยผ่านระบบการนำองค์กร (LEADERSHIP SYSTEM) ไปยังบุคลากร ผู้ส่งมอบ และพันธมิตร ทส่ี ำคัญ นักเรยี นและผมู้ สี ่วนได้ส่วนเสยี (*) • การปฏิบัติตนของผู้นำระดับสูงแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อค่านิยมขององค์กร อย่างไร (2) การสง่ เสริมการประพฤตปิ ฏิบตั ิตามกฎหมาย และการประพฤติปฏบิ ตั อิ ย่างมีจรยิ ธรรม (PROMOTING LEGAL and ETHICAL BEHAVIOR) การปฏิบัติตนของผู้นำระดับสูงแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อการประพฤติปฏิบัติตามกฎหมาย และการประพฤตปิ ฏบิ ตั อิ ยา่ งมีจริยธรรมอยา่ งไร • ผ้นู ำระดับสงู สรา้ งสภาพแวดล้อมในโรงเรียนเพือ่ สรา้ งสิ่งเหล่านี้อย่างไร ข. การส่อื สาร (Communication) ผู้นำระดับสูง (SENIOR LEADERS) ดำเนินการอย่างไรในการสื่อสารและสร้างความผูกพัน กบั บคุ ลากร (WORKFORCE) ทกุ คนในโรงเรยี น รวมท้งั นักเรยี นและผู้มีสว่ นไดส้ ่วนเสีย และดำเนนิ การอยา่ งไรในเรอื่ งดงั ต่อไปน้ี

23 • กระตุ้นให้มีการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา และเป็นไปในลักษณะ 2 ทิศทาง รวมทั้ง การใช้สอื่ สงั คมออนไลนอ์ ย่างมปี ระสทิ ธิผล • สื่อสารให้ทราบถึงการตัดสินใจที่สำคัญและความจำเป็นต่อการเปลี่ยนแปลงของ โรงเรยี น • มีบทบาทโดยตรงในการจูงใจบุคลากร เพื่อให้มีผลการดำเนินการที่ดี และให้ความสำคัญ กบั นักเรยี นและผู้มสี ่วนไดส้ ่วนเสีย และการจัดการเรียนการสอน ค. พันธกจิ และผลการดำเนินการของโรงเรียน (MISSION and School PERFORMANCE) (1) การสร้างสภาพแวดล้อมเพือ่ ความสำเร็จ (Creating and Environment for Success) ผู้นำระดับสูง (SENIOR LEADERS) ดำเนินการอย่างไรในการสร้างสภาพแวดล้อมเพื่อทำให้ โรงเรียนประสบความสำเร็จทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ผนู้ ำระดับสงู ดำเนนิ การในเรื่องนี้อย่างไร • สรา้ งสภาพแวดลอ้ มเพ่อื ให้เกดิ การบรรลุพันธกิจ และความคล่องตัวของโรงเรยี น • สร้างและเสริมสร้างให้เกิดวัฒนธรรมองค์กรและวัฒนธรรมที่ส่งเสริมความผูกพัน ของนกั เรียนและบุคลากร • ปลูกฝังความคล่องตัวของโรงเรียน ภาระความรับผิดชอบ การเรียนรู้ระดับองค์กร และของบุคลากรแต่ละคน นวัตกรรม และยอมรับความเสี่ยงที่ผ่านการประเมินผลได้ผลเสีย อยา่ งรอบด้าน (INTELLIGENT RISK taking) • มสี ่วนร่วมในการวางแผนในการสบื ทอดตำแหนง่ (succession planning) และพัฒนา ผนู้ ำในอนาคตของโรงเรียน () การทำใหเ้ กดิ การปฏบิ ตั ิอยา่ งจริงจัง (2Creating a Focus on Action) ผู้นำระดับสูง (SENIOR LEADERS) ดำเนินการอย่างไรให้เกิดการปฏิบัติการอย่างจริงจัง เพื่อให้บรรลพุ ันธกิจของโรงเรียน ผ้นู ำระดับสงู ดำเนนิ การอยา่ งไรในเรื่องดังตอ่ ไปนี้ • ทำให้เกิดการปฏิบตั ิท่สี ่งผลตอ่ การปรบั ปรุงผลการดำเนนิ การของโรงเรยี นอยา่ งจริงจัง • ระบสุ ่ิงที่ต้องการใหเ้ กดิ การปฏบิ ตั ิอย่างจริงจงั • ในการตั้งความคาดหวังต่อผลการดำเนินการได้พิจารณาถึงการสร้างคุณค่า (VALUE) ใหแ้ กน่ ักเรยี นและผ้มู สี ่วนไดส้ ่วนเสยี อ่นื ๆ อย่างสมดลุ • แสดงใหเ้ ห็นถึงภาระความรบั ผิดชอบสว่ นตนตอ่ การดำเนนิ การของโรงเรยี น

24 หมายเหตุ หมายเหตุ 1.1 ผลลัพธ์การดำเนินการของโรงเรียนควรรายงาน ในหัวข้อ 7.1 – 7.5 ผลลัพธ์ด้านประสิทธิผล ของการนำองคก์ รและระบบการนำองค์กรควรรายงานในหัวข้อ 7.4 หมายเหตุ 1.1ก.(1) วิสัยทัศน์และค่านิยมของโรงเรียน ควรเป็นตัวกำหนดบริบทของวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ และแผนปฏบิ ัติการทีไ่ ด้อธิบายไวใ้ นทง้ั ขอ้ 2.1 และ 2.2 หมายเหตุ 1.1ข. การส่ือสารในลักษณะ 2 ทศิ ทางอาจรวมถงึ การใช้สื่อสังคมออนไลน์ เชน่ การสง่ ข่าวสารเป็นระยะ ๆ ทั้งภายในและภายนอกผ่านเว็บไซต์ ทวีต (tweet) บล็อก (blogging) และวงสนทนาอิเล็กทรอนิกส์ (electronic forums) ของนกั เรียนและครูรวมทั้งการตดิ ตามเวบ็ ไซต์และบลอ็ กภายนอกและตอบกลับ (*) บทบาทโดยตรงของผู้นำระดับสูงในการสร้างแรงจูงใจแก่บุคลากรรวมถึงการมีส่วนร่วมในการ ใหร้ างวลั และยกยอ่ งชมเชย หมายเหตุ 1.1ข.(1) สำหรับโรงเรียนที่จำเป็นต้องพึ่งพาอาสาสมัคร หรือนักศึกษาฝึกประสบการณ์เป็นอย่างมาก ในการทำงาน ควรจะกล่าวถึงวิธีการที่โรงเรียนใช้ในการสื่อสารและสร้างความผูกพันกับบุคลากร ทีเ่ ปน็ อาสาสมคั ร หรอื นกั ศึกษาฝึกประสบการณ์ เหล่าน้ันด้วย หมายเหตุ 1.1ค.(1) โรงเรียนที่ประสบความสำเร็จต้องสามารถตอบสนองต่อความต้องการการจัดการศึกษาในปัจจุบัน การจัดการกับความเสี่ยง ความคล่องตัว และการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ และโรงเรียนต้องมีความสามารถ เตรียมพร้อมต่อสภาพแวดล้อมทางการศึกษา ตลาด และการปฏิบัตกิ ารในอนาคต ในการสร้างสภาพแวดล้อม เพื่อความสำเร็จ ผู้นำระดับสูงควรคำนึงถึงปัจจัยภายในและภายนอกด้วย ปัจจัยเหล่านี้อาจรวมถึงระดับ ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (risk appetite) และโอกาสของความเสี่ยงที่ยอมรับได้เฉพาะกรณี (risk tolerance) วัฒนธรรมองค์กร ระบบงาน ความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉม (transformational change) ในด้านโครงสร้างและวัฒนธรรมองค์กรที่อาจเกิดขึ้น ขีดความสามารถ และอัตรากำลังบุคลากร การมีทรัพยากรพร้อมใช้งาน สมรรถนะหลักของโรงเรียน และความจำเป็นในการสร้างนวัตกรรม ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับโรงเรียน ปัจจัยอื่น ๆ รวมถึงความเสี่ยงและโอกาสต่าง ๆ ที่เกิดจาก

25 เทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ การบูรณาการข้อมูลความปลอดภัย ด้านข้อมูลและสารสนเทศรวมทั้งการพิจารณา ปัจจัยส่งิ แวดล้อม หมายเหตุ 1.1ค.(2) การมุ่งเน้นการปฏิบัติอย่างจริงจังของผู้นำระดับสูง ต้องคำนึงถึงกลยุทธ์ บุคลากร ระบบงาน และสินทรัพย์ของโรงเรียน ทั้งนี้ รวมถึงความเสี่ยงที่ผ่านการประเมินผลได้ผลเสียอย่างรอบด้าน การสร้าง นวัตกรรมและปรับปรุงผลิตภาพอย่างต่อเนื่อง ผู้นำระดับสูงต้องคำนึงถึงสิ่งที่ต้องการการปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ของโรงเรียน (Strategic Objective) (ดูใน 2.2ก.(1)) และอาจเกี่ยวข้อง กับการวางแผนบริหารเพื่อจัดการการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ หรือการตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อสารสนเทศ ท่ีสำคญั

26 1.2 การกำกบั ดแู ลองคก์ รและการตอบแทนสงั คม (Governance and Societal Contributions) โรงเรยี นดำเนินการอยา่ งไรในการกำกับดแู ลองคก์ รและการตอบแทนสงั คม (คะแนน 50) กระบวนการ ก. การกำกับดูแลองค์กร (Organizational GOVERNANCE) (1) ระบบการกำกบั ดูแลองคก์ ร (GOVERNANCE System) โรงเรียนดำเนินการอย่างไรเพอื่ ทำให้มนั่ ใจวา่ มีระบบการกำกับดแู ลทมี่ คี วามรับผิดชอบ โรงเรียนดำเนินการอย่างไรในการทบทวนและทำให้ประสบความสำเรจ็ ในเรื่องต่าง ๆ ที่สำคัญ ในระบบการกำกับดแู ลองค์กรตอ่ ไปนี้ • ภาระความรบั ผิดชอบในการกระทำของผู้นำระดบั สงู (SENIOR LEADERS) • ภาระความรบั ผิดชอบต่อแผนกลยทุ ธ์ • ภาระความรับผิดชอบด้านการเงิน • ความโปร่งใสของการดำเนินการ • การคัดเลือกคณะกรรมการกำกับดูแลองค์กร และนโยบายในเรื่องการเปิดเผยข้อมูล ข่าวสารของคณะกรรมการกำกบั ดูแลองค์กร (*) • การตรวจสอบภายในและภายนอกที่เป็นอิสระและมปี ระสิทธิผล • การปกป้องผลประโยชนข์ องนักเรียนและผมู้ สี ว่ นได้สว่ นเสีย (*) • การวางแผนสบื ทอดตำแหนง่ สำหรบั ผนู้ ำระดบั สูง (succession planning) (2) การประเมินผลการดำเนินการ (PERFORMANCE Evaluation) โรงเรียนประเมินผลการดำเนินการของผู้นำระดับสูง (SENIOR LEADERS) และ คณะกรรมการกำกับดแู ลองคก์ รอยา่ งไร • โรงเรยี นใช้การประเมินผลการดำเนินการเพื่อกำหนดค่าตอบแทน (เชน่ เลอ่ื นเงนิ เดือน ให้รางวลั ) และยกยอ่ งชมเชยการดำเนินการของผนู้ ำระดบั สูงอยา่ งไร • ผู้นำระดับสูงและคณะกรรมการกำกับดูแลองคก์ รใช้ผลการประเมินผลการดำเนินการ เพื่อการพัฒนาตนเองและปรับปรุงประสิทธิผลของผู้นำ คณะกรรมการ และระบบการนำองค์กร อย่างไร (*)

27 ข. การประพฤติปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายและการประพฤตปิ ฏบิ ัติอย่างมีจรยิ ธรรม (Legal and ETHICAL BEHAVIOR) (1) การปฏิบัตติ ามกฎหมายและกฎระเบียบ (Legal and Regulatory Compliance) โรงเรียนพจิ ารณาปจั จัยทีเ่ ก่ียวข้องกับหลกั สูตรและการปฏิบัติการตอ่ ไปนี้อย่างไร กฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ ทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่คาดการณ์ว่าจะมีในอนาคต และความกังวล ของสาธารณะ (Public Concerns) โรงเรยี นดำเนนิ การในเรอื่ งตอ่ ไปน้ีอยา่ งไร • ดำเนินการในกรณีที่หลกั สตู รและการปฏิบตั ิการมผี ลกระทบเชิงลบต่อสังคม • คาดการณ์ล่วงหน้าถึงความกังวลของสาธารณะ (public concerns) ที่มีหลักสูตร และการปฏบิ ตั กิ ารทสี่ ำคัญในอนาคต • เตรยี มการเชงิ รุกต่อความกงั วลและผลกระทบเหล่านี้ • โรงเรียนมีกระบวนการ ตัววัด และเป้าประสงค์ที่สำคัญอะไร เพื่อให้การดำเนินการ เป็นไปตามระเบียบข้อบังคบั ท่ีกำหนด หรือดกี ว่าทกี่ ำหนด (*) โรงเรียนมีกระบวนการ ตัววัด และเป้าประสงค์ที่สำคัญอะไรในการดำเนินการเรื่องความเสี่ยง ทีเ่ ก่ียวข้องกบั หลักสตู ร และการปฏบิ ัตกิ ารที่สำคญั (2) การประพฤตปิ ฏบิ ตั อิ ยา่ งมีจรยิ ธรรม (ETHICAL BEHAVIOR) โรงเรียนดำเนินการอย่างไรในการส่งเสริมและสร้างความมั่นใจว่าปฏิสัมพันธ์ทุกด้าน ของโรงเรียนเปน็ ไปอย่างมีจริยธรรม • โรงเรียนมีกระบวนการ ตัววัด หรือตัวชี้วัดที่สำคัญอะไรในการส่งเสริมและกำกับดูแล ให้มีการประพฤติอย่างมีจริยธรรมภายใต้โครงสร้างระบบการกำกับดูแลองค์กร รวมท้ัง การปฏสิ มั พนั ธก์ บั บคุ ลากร นกั เรยี นและผู้มีสว่ นไดส้ ว่ นเสยี พันธมิตร และผสู้ ่งมอบ • โรงเรียนมีวิธีการอย่างไรในการติดตามและดำเนินการในกรณีที่มีการกระทำที่ขัดต่อ การประพฤตปิ ฏบิ ัตอิ ย่างมจี รยิ ธรรม ค. การตอบแทนสังคม (Societal Contributions) (1) ความผาสุกของสงั คม (Societal Well - Being) โรงเรียนคำนึงถึงความผาสุกและผลประโยชน์ของสังคมที่เป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์ และการปฏิบตั ิการประจำวันอย่างไร • โรงเรียนมีส่วนร่วมอย่างไรในการสร้างความสมบูรณ์แก่ระบบสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกจิ

28 (2) การสนบั สนนุ ชมุ ชน (Community Support) โรงเรียนดำเนินการสนับสนุนและสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน ที่สำคัญ (KEY communities) ของโรงเรยี นอยา่ งไร • ชุมชนที่สำคัญของโรงเรียนมีอะไรบ้าง และมีวิธีการในการกำหนดชุมชนที่สำคัญ ดงั กล่าวอย่างไร รวมท้งั วธิ ีการกำหนดเร่ืองทโ่ี รงเรยี นจะเขา้ ไปมสี ่วนร่วม • ผนู้ ำระดับสูง และบคุ ลากร รว่ มมือกันในการพฒั นาชุมชนนัน้ อยา่ งไร หมายเหตุ หมายเหตุ 1.2 ควรนำเรื่องการตอบแทนสังคมในประเด็นที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของด้านการ ตอบสนองความต้องการของสังคมและชุมชน ไปใช้ประกอบการจัดทำกลยุทธ์ (หัวข้อ 2.1) และในการมุ่งเน้น การปฏบิ ตั กิ าร (หมวด 6) ด้วย และการกำกับดูแลองค์กร ควรประกอบด้วยผลลัพธ์ท่ีสำคัญเช่น ผลการปฏิบัติ ตามระเบยี บ ขอ้ บงั คบั และกฎหมาย (รวมถึงผลการตรวจสอบด้านการเงนิ ตามข้อบงั คับ) การลดผลกระทบต่อ สภาพแวดล้อม การปรับปรุงสิ่งแวดล้อม โดยใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม(Green Technology) การอนุรักษ์ทรัพยากร หรือวิธีการอื่น ๆ หรือการปรับปรุงผลกระทบต่อสังคมโดยกิจกรรมการมีส่วนร่วม ระหว่างชุมชนและโรงเรียน ควรรายงานเป็นผลลัพธ์ของหมวดการนำองค์กร (ข้อ 7.4) หัวข้อนี้ไม่ครอบคลุม เรื่องสุขอนามัยและความปลอดภัยของบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน จึงควรอธิบายเรื่องนี้ใน หัวข้อ และ หัวข้อ 1.5 6.2 ตามลำดบั หมายเหตุ 1.2ก. หากคณะกรรมการกำกับดูแลองค์กรมีการทบทวนผลการดำเนินการ และความก้าวหน้าขององค์กร ให้รายงานใน 4.1(ข) ความโปร่งใสในการดำเนินการของระบบการกำกับดูแลองค์กร ควรครอบคลุมเรื่องการควบคุม ภายในของกระบวนการกำกับดูแลองค์กร สำหรับโรงเรียน ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรคณะกรรมการ ท่ปี รึกษาภายนอกอาจทำหน้าทีข่ องคณะกรรมการกำกับดูแลองค์กรท้งั หมดหรือบางส่วน หมายเหตุ 1.2ก.(2) การประเมินผลการดำเนินการของผู้นำระดับสูง อาจใช้ข้อมูลที่ได้จากการประเมินโดยผู้ร่วมงาน ผลการทบทวนผลการดำเนินการของผู้บริหารอย่างเป็นทางการ รวมทั้งใช้ข้อมูลป้อนกลับและผลสำรวจที่ได้ จากบุคลากรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ ที่ดำเนินการอย่างเป็นทางการหรือไม่เป็ นทางการ สำหรับ บริษัทเอกชนบางแห่ง รวมทั้งองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรและองค์กรภาครัฐ คณะกรรมการที่ปรึกษาภายนอก อาจเปน็ ผ้ปู ระเมินผลการปฏบิ ัตงิ านของผู้นำระดับสงู และคณะกรรมการกำกบั ดูแลองค์กร

29 หมายเหตุ 1.2ข.(1) การเตรียมการเชิงรุกต่อผลกระทบเชิงลบและความกังวลของสังคม อาจรวมถึงการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและกระบวนการจัดการเครือข่ายอุปทานที่มีประสิทธิผล โรงเรียนควรอธิบายถึงวิธีการ ที่ดำเนินการตามหรือเหนือกว่าข้อกำหนดและมาตรฐานของกฎหมายและกฎระเบียบข้อบังคับที่ใช้ในการ กำกับดูแลองค์กร หมายเหตุ 1.2ข.(2) ตัววดั หรอื ตัวชีว้ ดั ของการประพฤตปิ ฏบิ ัติอย่างมีจรยิ ธรรม อาจรวมถึง อตั ราส่วนของกรรมการอิสระ ในคณะกรรมการกำกับดูแลองค์กร ตัววัดที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เหตุการณ์ของการละเมิดจริยธรรมของการฝ่าฝืนกฎเกณฑ์และการตอบสนองต่อเหตุการณ์นั้น ๆ ผลสำรวจ ความคิดเห็นของบุคลากรต่อจริยธรรมขององค์กร การใช้โทรศัพท์สายด่วนจริยธรรม รวมทั้งผลการทบทวน และการตรวจสอบด้านจริยธรรม ตัววัดหรือตัวชี้วัดของการประพฤติปฏิบัติตามกฎหมายและการประพฤติ ปฏิบัติอย่างมีจริยธรรม อาจรวมถึงหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าโรงเรียนมีนโยบายการฝึกอบรมบุคลากร และระบบการติดตามเฝ้าระวังในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน การป้องกันและการใช้สารสนเทศที่มีประเด็น ความอ่อนไหว และองค์ความรู้ที่เกิดจากการสังเคราะห์และหาความสัมพันธ์ของข้อมูลเหล่านั้นตลอดจน การใชเ้ งินกองทุนอยา่ งเหมาะสม หมายเหตุ 1.2ค.(1) ควรรายงานความผาสกุ และผลประโยชน์ของสังคมทน่ี อกเหนือจากการปฏิบัติตามกฎหมายที่อธิบาย ใน 1.2ข.(1) ซึ่งอาจรวมถึงความพยายามของโรงเรียนหรือคู่ความร่วมมือ ในการปรับปรุงสิ่งแวดล้อม สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในงานบริการการศึกษา สุขอนามัย และการเตรียมพร้อมต่อภาว ะฉุกเฉิน การแก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียมทางสังคม รวมทั้งปรับปรุงแนวทางปฏิบัติการการทำงานร่วมกับ หน่วยงานตา่ ง ๆ หมายเหตุ 1.2ค.(2) การมีสว่ นสนับสนุนชมุ ชนทีส่ ำคัญ อาจรวมถึงเรือ่ งทีใ่ ช้ประโยชน์จากสมรรถนะหลักของโรงเรยี น

30 หมวด 2 กลยทุ ธ์ (95 คะแนน) (Strategy) ในหมวดกลยุทธ์ เกณฑ์ถามว่าโรงเรียนมีวิธีการอย่างไรในการจัดทำกลยุทธ์และวัตถุประสงค์ เชิงกลยุทธ์ และแผนปฏิบัติการของโรงเรียน การนำไปปฏิบัติ การปรับเปลี่ยนเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป ตลอดจนวธิ ีการวดั ผลความกา้ วหน้า 2.1 การจัดทำกลยทุ ธ์ (Strategy Development): โรงเรยี นมีวิธีการในการจัดทำกลยุทธ์อยา่ งไร (45 คะแนน) กระบวนการ ก. กระบวนการจัดทำกลยทุ ธ์ (Strategy Development PROCESS) (1) กระบวนการวางแผนกลยทุ ธ์ (Strategy Planning PROCESS) โรงเรียนมวี ิธกี ารอย่างไร ในการวางแผนกลยุทธ์ ขั้นตอนที่สำคัญของกระบวนการจัดทำแผนกลยุทธ์มีอะไรบ้าง ผู้ที่เกี่ยวข้องท่ีสำคัญมีใครบ้าง กรอบเวลาของการวางแผนระยะสั้นและระยะยาวคืออะไร โรงเรียนมีวิธีการอย่างไรในการทำให้กระบวนการ วางแผนกลยุทธ์มีความสอดคล้องกับกรอบเวลาดังกล่าว กระบวนการวางแผนกลยุทธ์ได้คำนึงถึงความจำเป็น ทอี่ าจเกิดขนึ้ ในโรงเรียนในเรื่องต่อไปนี้อย่างไร • การเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉม และลำดับความสำคัญของแผนงานด้านต่าง ๆ ในการเปลย่ี นแปลง • ความคลอ่ งตวั ของโรงเรยี น (organizational agility) (2) นวัตกรรม (INNOVATION) กระบวนการจัดทำกลยทุ ธข์ องโรงเรียนกระตุ้นและทำใหเ้ กิดนวตั กรรมได้อย่างไร • โรงเรยี นกำหนดโอกาสเชิงกลยุทธ์ (STRATEGIC OPPORTUNITIES) อย่างไร • โรงเรียนมีวิธีการอย่างไรในการตัดสินใจว่าจะเลือกโอกาสเชิงกลยุทธ์ในเรื่องใด เป็นความเสย่ี งท่ผี ่านการประเมนิ ผลไดผ้ ลเสยี อยา่ งรอบดา้ น (INTELLIGENT RISK) • โอกาสเชงิ กลยทุ ธ์ที่สำคัญของโรงเรยี น คอื อะไร

31 (3) การพจิ ารณากลยุทธ์ (Strategy Considerations) โรงเรียนมีวิธีการอย่างไรในการรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลที่มีความสำคัญและจัดทำ สารสนเทศเพอ่ื ใชใ้ นกระบวนการวางแผนกลยุทธ์ ในการรวบรวมและวเิ คราะห์ข้อมูล โรงเรยี นคำนึงถึงองคป์ ระกอบท่สี ำคัญของความเส่ียงต่อไปน้ี อยา่ งไร • ความทา้ ทายเชงิ กลยุทธ์ และความไดเ้ ปรียบเชงิ กลยุทธ์ • ความเปลี่ยนแปลงที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อม ด้านกฎระเบียบ ข้อบังคับ และด้านการจัดการศกึ ษา • จุดบอดทอี่ าจเกิดขึน้ ในกระบวนการวางแผนกลยุทธ์และสารสนเทศ • ความสามารถของโรงเรยี นในการนำแผนกลยุทธ์ไปปฏบิ ตั ิ (4) ระบบงานและสมรรถนะหลกั ของโรงเรยี น (WORK SYSTEMS and CORE COMPETENCIES) โรงเรียนมีวิธีการอย่างไรในการตัดสินใจว่ากระบวนการที่สำคัญใดจะดำเนินการโดยบุคลากร ของโรงเรียนและกระบวนการใดดำเนนิ การโดยผู้สง่ มอบ พันธมิตร และคคู่ วามร่วมมือ • การตัดสินใจเหล่านี้ได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ สมรรถนะหลักของโรงเรียน (CORE COMPETENCIES) และสมรรถนะหลักของผู้ส่งมอบ พันธมิตร และคู่ความร่วมมือที่มี ศักยภาพอยา่ งไร • โรงเรียนมีวิธีการอย่างไรในการกำหนดสมรรถนะหลัก (CORE COMPETENCIES) และระบบงานในอนาคตท่จี ำเป็นของโรงเรียน ข. วัตถปุ ระสงค์เชิงกลยทุ ธ์ (STRATEGIC OBJECTIVES) (1) วตั ถปุ ระสงค์เชงิ กลยุทธ์ท่ีสำคญั (KEY STRATEGIC OBJECTIVES) วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ที่สำคัญของโรงเรียนมีอะไรบ้าง ให้ระบุตารางเวลาที่จะบรรลุ วัตถปุ ระสงคเ์ ชิงกลยทุ ธ์เหลา่ นน้ั • เป้าประสงค์ (GOALS) ที่สำคัญที่สุดของวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์เหล่าน้ัน มีอะไรบ้าง • การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ (ถ้ามี) ในด้านหลักสูตร การจัดการเรียนรู้ นักเรียน ผู้มี ส่วนได้ส่วนเสีย ความต้องการของตลาด ผู้ส่งมอบ พันธมิตร และการปฏิบัติการที่ได้วางแผนไว้ มีอะไรบ้าง (2) การพจิ ารณาวัตถปุ ระสงคเ์ ชงิ กลยทุ ธ์ (STRATEGIC OBJECTIVES Considerations)

32 วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ของโรงเรียน สามารถสร้างสมดุลที่เหมาะสมระหว่างความต้องการ ที่หลากหลาย และการแข่งขันได้อย่างไร วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ของโรงเรียนดำเนินการในเรื่องต่อไปน้ี อย่างไร • ตอบสนองความท้าทายเชิงกลยุทธ์ และใช้ประโยชน์จากสมรรถนะหลักของโรงเรียน ความได้เปรยี บเชงิ กลยุทธ์ และโอกาสเชิงกลยทุ ธ์ • สร้างความสมดลุ ระหว่างกรอบเวลา ระยะสนั้ และระยะยาวอยา่ งไร • คำนึงถึงและสร้างความสมดุลระหว่างความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญ ทั้งหมด หมายเหตุ หมายเหตุ 2.1 หัวข้อนี้กล่าวถึงกลยุทธ์โดยรวมของโรงเรียน ซึ่งอาจรวมถึงการเปลี่ยนแปลงในหลักสูตร และ กระบวนการสร้างความผูกพันกับนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย อย่างไรก็ตามโรงเรียนควรอธิบายวิธีการ ออกแบบกระบวนการจัดการเรยี นรู้ กระบวนการทำงานทีส่ ำคัญ และการสรา้ งความผูกพันกบั นักเรียนและผู้มี ส่วนไดส้ ว่ นเสีย ในหวั ขอ้ 6.1 และ 3.2 (*) “การจัดทำกลยุทธ์” (Strategy Development) หมายถึง วิธีการหรือแนวทางของโรงเรียน ที่เตรียมการสำหรับอนาคต การจัดทำกลยุทธ์อาจจะใช้การคาดการณ์ การคาดคะเนทางเลือก สถานการณ์ จำลององค์ความรู้ (ดูข้อ 4.2ข เกี่ยวกับความรู้ขององค์กร) หรือวิธีการอื่น ๆ ที่ช่วยให้เห็นภาพในอนาคต การจัดทำกลยุทธ์ ควรพิจารณาถึงระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของโรงเรียน เพื่อการตัดสินใจ การจัดสร ร ทรัพยากร และอาจเก่ยี วข้องกับความร่วมมอื ของนกั เรียนและผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี คำว่า “กลยุทธ์” ควรตีความให้ครอบคลุมอย่างกว้าง ๆ กลยุทธ์อาจมาจากหรือนำไปสู่สิ่งต่อไปนี้ ไดแ้ ก่ • การปรับปรงุ พัฒนาหลักสตู รและการบรกิ ารทางการศึกษา • การปรับปรงุ กระบวนการจดั การเรยี นการสอน • การเปลย่ี นแปลงวธิ ีการวดั ผลและประเมินผล หรอื การนำมาตรฐานใหม่มาใช้ • การใชเ้ ทคโนโลยีใหม่ ๆ • คำนิยามหรือการกำหนดนิยามใหม่ของระบบนิเวศทางการศึกษา (เครือข่ายพันธมิตร ผู้ส่งมอบ คู่ความร่วมมือ คู่แข่ง นักเรียน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ชุมชน และองค์กรที่เกี่ยวข้อง ทง้ั ภายในและภายนอกระบบการศึกษา) • การสรา้ งจดุ เน้นที่สำคัญของหลักสูตร แผนการเรยี น และบริการทางการศกึ ษา • สมรรถนะหลกั ใหมข่ องโรงเรียน • พนั ธมติ รใหม่ แนวรว่ มใหม่ คูค่ วามร่วมมอื ใหม่

33 • ความสัมพนั ธ์ในรูปแบบใหมก่ ับบคุ ลากร อาสาสมัคร หรือนกั ศึกษาฝึกประสบการณ์ • การมุ่งตอบสนองต่อความตอ้ งการใหม่ ๆ ของตลาด โลกอาชพี ใหม่ หมายเหตุ 2.1ก.(1) ความคล่องตัวของโรงเรียน หมายถึง ความสามารถในการเปล่ียนแปลงกลยทุ ธ์อยา่ งรวดเร็ว ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติการ หมายถึง ความสามารถในการปรับเปลี่ยนการปฏิบัติการของ โรงเรยี น เมอื่ มโี อกาส หรอื มคี วามจำเปน็ หมายเหตุ 2.1ก.(2) โอกาสเชิงกลยุทธ์เกิดจากการคิดนอกกรอบ การระดมสมอง การใช้ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดข้ึน โดยบังเอิญ การวิจัยและกระบวนการสร้างนวัตกรรม การคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากสถานการณ์ปัจจุบัน ด้วยวิธีการที่ไม่ใช่เชิงเส้นตรง และแนวทางอื่น ๆ เพื่อจินตนาการอนาคตที่แตกต่างออกไป การสร้างแนวคิด ทนี่ ำไปส่โู อกาสเชิงกลยุทธ์เกดิ จากสภาพแวดล้อมท่ีกระตุ้นให้เกิดการคดิ อย่างอิสระ การเลอื กว่าจะดำเนินการ ตามโอกาสเชิงกลยุทธ์ใดเกี่ยวข้องกับการพิจารณาถึงความเสี่ยงที่สัมพันธ์กัน กล่าวคือ การเงิน และอื่น ๆ จากนั้นจึงตัดสินใจเลือกดำเนินการ (ดูอภิธานศัพท์ “Intelligent Risks ความเสี่ยงที่ผ่านการประเมิน ผลได้ผลเสยี อย่างรอบด้าน”) หมายเหตุ 2.1ก.(3) การบูรณาการข้อมลู จากทุกแหล่ง เพ่ือสร้างสารสนเทศเชงิ กลยุทธ์ถือเป็นข้อพจิ ารณาทสี่ ำคญั ข้อมูล และสารสนเทศอาจเกยี่ วขอ้ งกบั • ความต้องการ ความคาดหวัง โอกาส และความเสี่ยงในด้านนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ความต้องการของชมุ ชนและสังคม • โอกาสและความเสี่ยงด้านการเงิน สังคม จริยธรรม กฎระเบียบ ข้อบังคับ เทคโนโลยี ความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ (cybersecurity) รวมถึงความเสี่ยง และโอกาสอ่ืนที่อาจเกดิ ขน้ึ • สมรรถนะหลักของโรงเรียน • สภาพแวดล้อมด้านการแข่งขัน และผลการดำเนินงานของโรงเรียนในปัจจุบันและอนาคต เมอ่ื เปรียบเทยี บกับค่แู ข่ง และโรงเรยี นท่ีเทียบเคยี งกันได้ • การพฒั นาการของหลักสตู ร และกระบวนการจดั การเรยี นการสอน • นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สำคัญด้านอื่น ๆ หรือการเปลี่ยนแปลง ที่อาจมี ผลกระทบต่อหลักสูตร การจัดการเรียนรู้ และการบริการทางการศึกษา ตลอดจนการปฏิบัติการ รวมทงั้ อตั ราการสรา้ งนวตั กรรม

34 • ความตอ้ งการดา้ นทรัพยากรบคุ คล และทรพั ยากรอ่นื ๆ • ความสามารถในการใช้ประโยชน์จากความหลากหลายของบคุ ลากร • การปรับแผนปฏิบตั กิ ารเพอ่ื นำทรพั ยากรทีม่ อี ยู่ไปใชก้ บั กิจกรรมอนื่ ๆ ท่ีมคี วามสำคัญกว่า • ความสามารถของโรงเรียนในการป้องกัน และตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉิน รวมทั้งภัยพิบัติ ทางธรรมชาตแิ ละอื่น ๆ • การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ และ ระดบั โลก • ข้อกำหนด รวมท้งั จุดแข็ง จุดออ่ นของพันธมิตร และเครือข่ายอปุ ทาน • ปจั จัยอนื่ ๆ ท่เี ป็นลักษณะเฉพาะขององคก์ ร หมายเหตุ 2.1ก.(4) ระบบงานของโรงเรียน คือ การรวมกันของกระบวนการทำงานภายในและทรัพยากรภายนอก ที่โรงเรียนต้องการพัฒนา และการจัดกระบวนการจัดการเรียนรู้ การบริการทางการศึกษาให้กับนักเรียน เพื่อให้องค์กรประสบความสำเร็จในการตอบสนองความต้องการของตลาด ทรัพยากรภายนอก อาจรวมถึง พันธมิตร ผู้ส่งมอบ คู่ความร่วมมือ คู่แข่ง นักเรียน และองค์กรอื่น ๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบเครือข่ายทาง การศึกษา การตัดสินใจเกี่ยวกับระบบงานเป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สินทางปัญญา การใช้ประโยชน์จาก สมรรถนะหลกั ของโรงเรยี นและการบรรเทาความเสีย่ ง สมรรถนะหลกั ดใู น โครงร่างองคก์ ร หมายเหตุ 1ก.(2) หมายเหตุ 2.1ข.(1) วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ ควรมุ่งเน้นความท้าทาย ความได้เปรียบ และโอกาสที่เป็นลักษณะเฉพาะ ของโรงเรียน ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จ และต่อการส่งเสริมให้ผลการดำเนินการโดยรวม ของโรงเรียนดขี น้ึ ทั้งในปัจจุบนั และอนาคต หมายเหตุ 2.1ข.(2) ความทา้ ทายเชงิ กลยทุ ธ์ ความได้เปรยี บเชิงกลยทุ ธ์ โอกาสเชงิ กลยุทธ์ ดูในอภธิ านศัพท์

35 2.2 การนำกลยุทธไ์ ปปฏบิ ัติ (Strategy Implementation) กระบวนการ โรงเรยี นนำกลยุทธไ์ ปปฏบิ ัตอิ ย่างไร (50 คะแนน) ก. การจดั ทำแผนปฏิบตั กิ ารและการถ่ายทอดส่กู ารปฏิบตั ิ (ACTION PLAN Development and DEPLOYMENT) (1) แผนปฏบิ ตั ิการ (ACTION PLAN) แผนปฏิบัติการท่สี ำคัญท้งั ระยะสั้นและระยะยาวของโรงเรียนมอี ะไรบ้าง • แผนดังกล่าวมีความสัมพันธ์กับวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ (STRATEGIC OBJECTIVES) ของโรงเรยี นอะไรบ้าง • โรงเรยี นมวี ธิ ีการอย่างไรในการจดั ทำแผนปฏบิ ตั ิการ (2) การนำแผนปฏบิ ตั ิการไปปฏบิ ัติ (ACTION PLAN Implementation) โรงเรยี นมวี ิธกี ารอย่างไรในการถ่ายทอดแผนปฏบิ ัติการสู่การปฏบิ ตั ิ • โรงเรียนมีวิธีการอย่างไรในการถ่ายทอดแผนปฏิบัติการสู่การปฏิบัติไปยังบุคลากร ผู้ส่งมอบ พันธมิตร และคู่ความร่วมมือที่สำคัญ (*) เพื่อให้มั่นใจว่าโรงเรียนบรรลุวัตถุประสงค์ เชงิ กลยทุ ธ์ทส่ี ำคญั • โรงเรียนมีวิธีการอย่างไรเพื่อทำให้มั่นใจว่าผลการดำเนินการที่สำคัญตามแผน ปฏิบตั ิการนีจ้ ะมีความยั่งยนื (3) การจัดสรรทรัพยากร (Resource Allocation) โรงเรียนทำอย่างไรให้มั่นใจว่ามีทรัพยากรด้านการเงินและด้านอื่น ๆ พร้อมใช้ในการ สนับสนนุ แผนปฏบิ ตั กิ ารจนประสบความสำเรจ็ และบรรลพุ นั ธะผกู พันในปจั จบุ ัน • โรงเรียนมวี ิธีการจัดสรรทรพั ยากรเหลา่ นี้อย่างไรเพื่อสนบั สนุนแผนปฏบิ ตั กิ าร • โรงเรียนจัดการความเสี่ยงต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับแผนดังกล่าวอย่างไร เพื่อทำให้เกิด ความมัน่ ใจถงึ ความมน่ั คงทางการเงิน (financial viability) ของโรงเรยี น (4) แผนด้านบคุ ลากร (WORKFORCE Plans) แผนด้านบุคลากรที่สำคัญที่สนับสนุนวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ และแผนปฏิบัติการทั้งระยะ สนั้ และระยะยาวมอี ะไรบ้าง • แผนดังกล่าวได้คำนึงถึงผลกระทบต่อบุคลากร และความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น ทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกับความต้องการดา้ นขดี ความสามารถและอตั รากำลังบุคลากรอยา่ งไร

36 (5) ตัววดั ผลการดำเนินการ (PERFORMANCE MEASURES) ตัววัดหรือตัวชี้วัดผลการดำเนินการที่สำคัญ (KEY PERFORMANCE MEASURES or INDICATORS) ที่ใช้ติดตามความสำเร็จและประสิทธิผล (EFFECTIVENESS) ของแผนปฏิบัติการ มอี ะไรบ้าง • โรงเรียนมีวิธีการอย่างไรเพื่อทำให้ระบบการวัดผลโดยรวมของแผนปฏิบัติการ เสรมิ สร้างใหโ้ รงเรียน ดำเนนิ การสอดคล้องไปในแนวทางเดยี วกนั (ALIGNMENT) (6) การคาดการณผ์ ลการดำเนินการ (PERFORMANCE PROJECTIONS) การคาดการณ์ผลการดำเนินการตามกรอบเวลาของการวางแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาว ของโรงเรียนตามตัววัดหรือตัวชวี้ ัดผลการดำเนินการทส่ี ำคญั ทรี่ ะบไุ ว้มอี ะไรบ้าง • โรงเรียนจะทำอย่างไรกับแผนปฏิบัติการหากพบว่าผลการดำเนินการที่คาดการณ์ไว้ มีความแตกตา่ ง เม่อื เทียบกบั ค่แู ขง่ (Competitors) หรอื กบั โรงเรียนในระดบั ท่เี ทียบเคยี งกนั ได้ ข. การปรับเปลี่ยนแผนปฏบิ ตั ิการ (ACTION PLAN Modification) โรงเรียนรับรู้และตอบสนองอย่างไร ในกรณีที่สถานการณ์บังคับให้ต้องปรับแผนปฏิบัติการ และนำไปปฏิบตั ิอยา่ งรวดเรว็ หมายเหตุ หมายเหตุ 2.2 การจัดทำกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการ รวมทั้งการถ่ายทอดสู่การปฏิบัติมีความเกี่ยวเนื่องกัน อย่างใกล้ชดิ กบั หัวขอ้ อ่นื ในเกณฑ์ ตัวอย่างการปฏิบตั ทิ ่ีเกีย่ วเนื่องกัน มดี งั นี้ • หัวข้อ 1.1 เรื่องวธิ กี ารของผ้นู ำระดบั สูงในการกำหนดและส่ือสารทศิ ทางของโรงเรยี น • หมวด 3 เรื่องวิธีการรวบรวมความรู้เกี่ยวกับนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และ ความต้องการของตลาด เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการของโรงเรียน รวมทั้งการ ถา่ ยทอดแผนปฏิบตั กิ ารส่กู ารปฏบิ ัติ • หมวด 4 เรื่องวิธีการวัด การวิเคราะห์ข้อมูล และการจัดการความรู้ เพ่ือตอบสนอง ความต้องการด้านสารสนเทศที่สำคัญ เพื่อสนับสนนุ การจดั ทำกลยุทธ์ของโรงเรียน เพื่อเป็นพื้นฐาน ที่เหมาะสม (effective basis) ในการวัดผลการดำเนินการ และเพื่อติดตามความก้าวหน้าในการ บรรลวุ ตั ถปุ ระสงคเ์ ชงิ กลยทุ ธ์และแผนปฏิบัติการ

37 • หมวด 5 เรื่องวิธีการตอบสนองความต้องการของโรงเรียนด้านขีดความสามารถและอัตรากำลัง ของบุคลากร และเร่อื งการดำเนินการเปล่ยี นแปลงด้านบุคลากร ซึ่งเป็นผลจากแผนปฏิบัตกิ าร • หมวด 6 เรื่องวิธีการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานซึ่งเป็นผลจาก แผนปฏบิ ตั ิการของโรงเรียน • หัวข้อ 7.1 เรื่องการบรรลุวัตถุประสงค์เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการ ของโรงเรยี น • หวั ข้อ 7.5 ผลลัพธ์ภาพรวมของการบรรลกุ ลยุทธแ์ ละแผนปฏบิ ตั ิการ หมายเหตุ 2.2ก.(6) ผลการดำเนินการที่คาดการณ์ไว้อาจพิจารณาถึงการปรับปรุงหรือการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรใหม่ การตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจให้แก่นักเรยี น ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตลาดกลุ่มใหม่ การบังคับใช้ กฎหมายใหม่ หลักเกณฑ์การพัฒนาบุคลากรใหม่ ข้อกำหนดตามกฎหมายหรือมาตรฐานการประกันคุณภาพ การศึกษา การบรกิ ารด้านเทคโนโลยแี ละนวตั กรรมท่สี ำคญั ทค่ี าดวา่ จะเกิดขน้ึ ในอนาคต

38 หมวด 3 นักเรยี นและผู้มีสว่ นไดส้ ว่ นเสยี (95 คะแนน) (Student and Stakeholders) ในหมวดนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เกณฑ์ถามถึงโรงเรียนมีวิธีการอย่างไร ในการสร้าง ความผูกพันกับนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อตอบสนองความต้องการ และความพึงพอใจของตลาด อย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมถึงวิธีการที่โรงเรียนรับฟังเสียงของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตอบสนอง ความต้องการและทำให้เหนือกว่าความคาดหวัง และสร้างความสัมพันธ์กับนักเรียน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในระยะยาว 3.1 ความคาดหวังของนกั เรียนและผ้มู สี ่วนได้สว่ นเสยี (Expectations OF THE STUDENT and Stakeholders): โรงเรยี นมีวธิ กี ารอย่างไรในการรบั ฟังนกั เรียนและผู้มสี ว่ นได้ส่วนเสีย การ กำหนดหลกั สตู ร และการบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของนกั เรยี นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสยี (45 คะแนน) กระบวนการ ก. การรบั ฟงั นกั เรียนและผู้มีสว่ นไดส้ ว่ นเสยี (STUDENT and Stakeholders Listening) (1) นกั เรยี นและผ้มู สี ่วนไดส้ ว่ นเสยี ในปจั จุบัน (Current STUDENT and Stakeholders) โรงเรียนมีวิธีการอย่างไรในการรับฟัง มีปฏิสัมพันธ์ และสังเกตนักเรียนและผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย เพอื่ ให้ได้สารสนเทศที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ตอ่ ไปได้ • วิธีการรับฟังมีความแตกต่างกันอย่างไร ระหว่างนักเรียน กลุ่มนักเรียน หรือตลาด วิธีการรับฟังมีความแตกต่างกันอย่างไร ภายในช่วงเวลาของการเป็นนักเรียนและผู้มีส่วนได้ ส่วนเสยี • โรงเรียนมีวิธีการอย่างไรในการค้นหาข้อมูลป้อนกลับจากนักเรียนอย่างทันท่วงที และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ ในเรื่องคุณภาพของหลักสูตร การสนับสนุนนักเรียนในเรื่อง การบริการทางการศึกษา และการทำธรุ กรรม (2) นกั เรยี นและผู้มสี ่วนได้สว่ นเสยี ในอนาคต (Potential STUDENT and Stakeholders) โรงเรียนมีวิธีการอย่างไรในการรับฟังนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอนาคต เพื่อให้ได้ สารสนเทศที่นำไปใชต้ อ่ ได้ • โรงเรียนมีวิธีการอย่างไรในการรับฟังนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอดีต และใน อนาคต นักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของคู่แข่ง เพื่อให้ได้สารสนเทศที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ ต่อได้เกี่ยวกับหลักสูตร การสนับสนุนนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในเรื่องการบริการทาง การศึกษา และการทำธุรกรรม (*)

39 ข. การจำแนกนักเรยี นและผู้สว่ นได้สว่ นเสีย และหลักสตู ร (STUDENT and Stakeholders Segmentation and Product Offerings) (1) การจำแนกนกั เรียน (STUDENT Segmentation) โรงเรียนมีวิธีการอย่างไร ในการจำแนกกลุ่มนักเรียนและส่วนตลาด โรงเรียนดำเนินการ ในเรือ่ งตอ่ ไปนี้อย่างไร • ใช้สารสนเทศเกี่ยวกับนักเรียน และหลักสูตร แผนการเรียน เพื่อจำแนกกลุ่มนักเรียน ในปัจจบุ นั และในอนาคต • กำหนดว่านักเรียนใด กลุ่มนักเรียนใด ที่โรงเรียนจะให้ความสำคัญในการตอบสนอง ความตอ้ งการ และสรา้ งความพึงพอใจเพ่อื การเตบิ โตและยง่ั ยนื ของโรงเรยี น (2) หลักสูตร (Product Offerings) โรงเรียนมีวิธีการอย่างไรในการกำหนดหลักสูตร หรือแผนการเรียน โรงเรียนดำเนินการ ในเรื่องตอ่ ไปน้ีอย่างไร • กำหนดความจำเป็น (need) ความต้องการของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตลาดสำหรับหลักสตู ร แผนการเรยี น และการบริการทางการศึกษา • กำหนดและปรับหลักสูตร แผนการเรียน เพื่อตอบสนองความต้องการ และทำให้ เหนอื กว่าความคาดหวังของกลมุ่ นักเรียนและผมู้ ีสว่ นได้ส่วนเสยี และส่วนตลาด • ค้นหาและปรับหลักสูตร แผนการเรียน เพื่อตอบสนองความต้องการของนักเรียน ในอนาคต ส่วนตลาดกลุ่มใหม่ เพื่อดึงดูดนักเรียนใหม่ และสร้างโอกาสในการขยายความสัมพันธ์ กับนักเรยี นในปัจจบุ นั (*) หมายเหตุ หมายเหตุ 3.1 “การรบั ฟงั นักเรียนและผู้มสี ่วนไดส้ ่วนเสีย” หมายถงึ กระบวนการคัดกรองสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง กับนักเรยี นและผูม้ สี ว่ นได้ส่วนเสีย กระบวนการเหลา่ นี้ควรจะเป็นเชิงรุกและสร้างสรรคอ์ ย่างต่อเนื่อง เพือ่ ให้ได้ ความต้องการ ความคาดหวัง และความปรารถนา ทั้งที่ระบุอย่างชัดเจน ไม่ได้ระบุชัดเจน และที่คาดหมายไว้ ของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ได้ความผูกพันของนักเรียน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การรับฟังนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย อาจรวมถึง การรวบรวมและบูรณาการ ข้อมูลชนิดต่าง ๆ ของ นักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น ข้อมูลการสำรวจ ข้อมูลจากการสนทนากลุ่ม (Focus Group Findings) กล่องรับความคิดเห็น และข้อมูลจากสื่อสังคมออนไลน์อื่น ๆ ข้อมูลความพึงพอใจ และข้อร้องเรียนที่มีผลกระทบ ตอ่ การตัดสนิ ใจสมัครเขา้ เรยี น

40 หมายเหตุ 3.1ก.(1) วิธีการรับฟังนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย อาจรวมถึงสื่อสงั คมออนไลนแ์ ละเทคโนโลยบี นเว็บไซต์ การรับฟังสื่อสังคมออนไลน์ อาจรวมถึงการติดตามข้อคิดเห็นผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ที่โรงเรียน เป็นผู้ดูแล และช่องทางต่าง ๆ ที่โรงเรียนไม่มีสิทธิ์ควบคุม ช่วงเวลาของการเป็นนักเรียน หมายถึง เริ่มตั้งแต่ การเขา้ มาเป็นนกั เรยี นไปจนกระทั่งจบการศึกษาจากโรงเรยี น หมายเหตุ 3.1ข.(2) ในการกำหนดหลักสูตร โรงเรียนควรคำนึงถึงลักษณะที่สำคัญทั้งหมดของหลักสูตรและการบริการ รวมทั้งผลการดำเนินการ ตลอดช่วงเวลาของการเป็นนักเรียน จุดมุ่งเน้นควรอยู่ที่ลักษณะพิเศษของหลักสูตร ที่มีผลต่อความชอบและความผูกพันของนักเรียนที่มีต่อโรงเรียนหรือตราสัญลักษณ์ของโรงเรียน ตัวอย่างเช่น ลักษณะพิเศษที่ทำให้หลักสูตรของโรงเรียนมีความแตกต่างจากโรงเรียนคู่แข่งหรือบริการด้วยความเป็น เอกลักษณ์ หรือนวัตกรรม ลักษณะพิเศษเหล่านี้ อาจรวมถึงเงินบำรุงการศึกษา (ค่าหน่วยกิต)ความน่าเชื่อถือ คุณค่า การส่งมอบ ความทันกาล หลักสูตรที่ปรับเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะ การสนับสนุนนักเรียน หรือการบริการด้านเทคนิค ลักษณะพิเศษที่สำคัญ อาจพิจารณาถึงการทำธุรกรรม และปัจจัยอื่น ๆ เช่น เทคโนโลยีทีเ่ กดิ ข้นึ ใหม่ และการรักษาความลบั และความปลอดภยั ของข้อมลู สว่ นตัวของนักเรียน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook