แนวทำงกำรดำเนินกำร ตำมหลกั เกณฑแ์ ละวิธีกำรประเมินตำแหน่งและวิทยฐำนะ ขำ้ รำชกำรครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ สงั กดั สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขน้ั พ้ืนฐำน ตำแหนง่ ผบู้ ริหำรสถำนศึกษำ (ตำมหนงั สือสำนกั งำน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ ๐๒๐๖.๓/ว ๑๐ ลงวนั ท่ี ๒๐ พฤษภำคม ๒๕๖๔) กลม่ ุ สง่ เสริมประสำนกำรบรหิ ำรงำนบคุ คล สำนกั พฒั นำระบบบริหำรงำนบคุ คลและนิติกำร สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขนั้ พ้ืนฐำน
คำนำ ส ำ นั ก ง ำ น ค ณ ะ ก ร ร ม ก ำ ร ก ำ ร ศึ ก ษ ำ ขั้ น พ้ื น ฐ ำ น ไ ด ้ต ร ะ ห น ัก ถ ึง ค ว ำ ม ส ำ ค ัญ ข อ ง ห ล ัก เ ก ณ ฑ ์แ ล ะ วิธีกำรประเมินตำแหน่งและวิทยฐำนะข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ตำแหน่งครู ตำมหนังสือ สำนักงำน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 9 ลงวันที่ 20 พฤษภำคม 2564 ตำแหน่งผู้บริหำรสถำนศึกษำ ตำมหนังสือสำนักงำน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 10 ลงวันท่ี 20 พฤษภำคม 2564 ตำแหน่งศึกษำนิเทศก์ ตำมหนังสือสำนักงำน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 11 ลงวันที่ 20 พฤษภำคม 2564 และตำแหน่งผู้บริหำร กำรศึกษำ ตำมหนังสือสำนักงำน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.4/ว 12 ลงวันที่ 20 พฤษภำคม 2564 ซึ่งหลักเกณฑ์ และวิธีกำรดังกล่ำวกำหนดให้ข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำทุกคนจัดทำข้อตกลงในกำรพัฒนำงำน (Performance Agreement : PA) ทุกปีงบประมำณ เพ่ือให้ข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ มีศักยภำพและสมรรถนะในกำรปฏบิ ัตงิ ำนให้สงู ขน้ึ ตำมตำแหน่งและวทิ ยฐำนะท่ีคำดหวงั สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน จึงได้จัดทำแนวทำงกำรดำเนินกำรตำมหลักเกณฑ์ และวิธีกำรประเมินตำแหน่งและวิทยฐำนะข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ สังกัดสำนักงำนคณะกรรมกำร กำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน ตำแหน่งผู้บริหำรสถำนศึกษำ เพ่ือให้ผู้บริหำรสถำนศึกษำมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจที่ชัดเจน และครอบคลุมเกี่ยวกับกำรประเมินตำแหน่งและวิทยฐำนะ รวมทั้งใช้เป็นแนวทำงกำรปฏบิ ัติหรือปรบั ประยุกต์ กำรจัดทำข้อตกลงในกำรพัฒนำงำน (PA) โดยเช่ือมโยงบูรณำกำรกับกำรขอมีหรือเล่ือนวิทยฐำนะ กำรประเมิน ประสิทธิภำพและประสิทธิผลในกำรเล่ือนเงินเดือน และกำรประเมินเพ่ือคงวิทยฐำนะ ตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำร ที่ ก.ค.ศ. กำหนดและสอดคล้องกับบริบทในกำรปฏบิ ัตหิ น้ำท่ี กลุ่มส่งเสรมิ ประสำนกำรบรหิ ำรงำนบคุ คล สำนักพฒั นำระบบบรหิ ำรงำนบุคคลและนิติกำร สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน มกรำคม 2565
ส่วนที่ 1 สารบญั หนา้ ส่วนท่ี 2 สว่ นท่ี 3 คานา 1 ส่วนที่ 4 สารบัญ 1 บทนา 5 ความสาคญั และความเป็นมา 6 นิยามศัพท์ 20 มาตรฐานตาแหนง่ และมาตรฐานวิทยฐานะ 21 ภาระงาน 21 แนวทางการจดั ทาขอ้ ตกลงในการพัฒนางาน 22 องค์ประกอบของข้อตกลงในการพฒั นางาน 23 คาชี้แจงการจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน 24 แบบข้อตกลงในการพฒั นางาน (PA) 25 ข้อเสนอแนะ แนวทางการดาเนินการจดั ทาข้อตกลงในการพัฒนางาน แนวทางการเขยี นข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) 25 ตาแหนง่ ผู้บริหารสถานศึกษา 27 ส่วนท่ี ๑ ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตาแหนง่ สว่ นที่ ๒ ข้อตกลงในการพฒั นางานที่เป็นประเด็นทา้ ทาย 28 28 ในการพัฒนาคุณภาพผเู้ รยี น ครูและสถานศกึ ษา 31 แนวทางการประเมนิ ผลการพฒั นางานตามข้อตกลงในการพัฒนางาน 31 องค์ประกอบการประเมิน 31 การตั้งคณะกรรมการประเมนิ วธิ กี ารประเมิน เกณฑ์การตดั สิน
สารบัญ (ต่อ) หนา้ สว่ นท่ี 5 การขอมีวทิ ยฐานะหรอื เลอื่ นวิทยฐานะ 32 ตาแหนง่ รองผู้อานวยการสถานศกึ ษา 32 ขอมวี ทิ ยฐานะรองผู้อานวยการชานาญการและเล่ือนเป็นวิทยฐานะ รองผอู้ านวยการชานาญการพเิ ศษ ตาแหนง่ รองผู้อานวยการสถานศกึ ษา 37 ขอเลอ่ื นเปน็ วทิ ยฐานะรองผู้อานวยการเช่ยี วชาญ ตาแหน่งผูอ้ านวยการสถานศึกษาขอมวี ิทยฐานะผ้อู านวยการชานาญการ 42 และเลื่อนเปน็ วิทยฐานะผู้อานวยการชานาญการพิเศษ ตาแหนง่ ผู้อานวยการสถานศึกษาขอเล่อื นเปน็ วิทยฐานะผู้อานวยการเชี่ยวชาญ 46 และวทิ ยฐานะผอู้ านวยการเชย่ี วชาญพเิ ศษ รปู แบบไฟล์วดี ีทัศน์ 52 คาช้ีแจงการดาเนนิ การประเมนิ เพ่ือขอมีวทิ ยฐานะและเลอ่ื นวิทยฐานะ 54 ในช่วงระยะเวลาเปล่ียนผ่าน ก. การยืน่ คาขอปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 54 ข. การยื่นคาขอปงี บประมาณ พ.ศ. 2567 56 บรรณานุกรม 59 ภาคผนวก ตัวอย่างการเขียนข้อตกลงในการพัฒนางาน 60 คณะผจู้ ดั ทา
๑ สว่ นที่ ๑ บทนำ ควำมสำคัญและควำมเปน็ มำ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๕๔ บัญญัติไว้ว่า “รัฐต้องดาเนินการ ให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลาสิบสองปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพ โดยไม่เก็บค่ำใช้จ่ำย รัฐต้องดาเนินการให้เด็กเลก็ ได้รับการดูแลและพัฒนาก่อนเข้ารับการศึกษาตามวรรคหนงึ่ เพ่ือพัฒนาร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาให้สมกับวัย โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ินและภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดาเนินการด้วย รัฐต้องดาเนินการให้ประชาชน ได้รับการศึกษาตามความต้องการในระบบต่างๆ รวมท้ังส่งเสริมให้มีการเรียนรู้ตลอดชีวิตและจัดให้ มกี ารรว่ มมือกันระหวา่ งรฐั องคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่น และภาคเอกชน ในการจัดการศกึ ษาทุกระดับ โดยรัฐมหี น้าที่ ดาเนินการ กากับ ส่งเสริม และสนับสนุนให้การจัดการศึกษาดังกล่าวมีคุณภาพและได้มาตรฐานสากล ทั้งนี้ ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติซึ่งอย่างน้อยต้องมีบทบัญญัติเก่ียวกับการจัดทาแผนการศึกษาแห่งชาติ และการดาเนินการและตรวจสอบการดาเนินการให้เป็นไปตามแผนการศึกษาแห่งชาติด้วย การศึกษาท้ังปวง ต้องมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีวินัย ภูมิใจในชาติ สามารถเชี่ยวชาญได้ตามความถนัดของตน และมีความ รับผิดชอบต่อครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติ” และ หมวด ๑๖ การปฏิรูปประเทศ มาตรา ๒๕๘ จ. ด้านการศึกษา (๓) บัญญัติไว้ว่า “ให้มีกลไกและระบบการผลิต คัดกรองและพัฒนาผู้ประกอบวิชาชีพครู และอาจารย์ ให้ได้ผู้มีจิตวิญญาณของความเป็นครู มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง ได้รับค่าตอบแทน ท่ีเหมาะสมกับความสามารถ และประสิทธิภาพในการสอน รวมท้ังมีกลไกสร้างระบบคุณธรรมในการบริหารงาน บุคคลของผ้ปู ระกอบวชิ าชีพครู” ยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๘๐ ที่กาหนดให้ปฏิรูปประเทศไว้ ๖ ยุทธศาสตร์ กระบวนการปฏิรูปการศึกษา อยู่ในยุทธศาสตร์ท่ี ๓ ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพ ทรัพยากรมนุษย์ มีสาระประเด็นสาคัญคือ มีเป้าหมายการพัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ โดยคนไทยมีความพร้อมทั้งกาย ใจ สติปัญญา มีพัฒนาการที่ดีรอบด้านและมีสุขภาวะที่ดี ในทุกช่วงวัย มีจิตสาธารณะรับผิดชอบต่อสังคมและผู้อื่น มัธยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอารี มีวินัย รักษาศีลธรรม และเป็นพลเมืองดีของชาติมีหลักคิดท่ีถูกต้องมีทักษะท่ีจาเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ มีทักษะส่ือสารภาษาอังกฤษ และภาษาที่สามและอนุรักษ์ภาษาท้องถ่ิน มีนิสัยรักการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต สู่การเป็นคนไทยท่ีมีทักษะสูง เป็นนวัตกร นักคิด ผู้ประกอบการ เกษตรกรยุคใหม่และอ่ืน ๆ โดยมีสัมมาชีพ ตามความถนดั ของตนเอง แผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๕ เป็นองค์ประกอบสาคัญ ท่ีจะสนับสนุนการดาเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยเฉพาะอย่างย่ิงด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพ ทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ ด้านความเท่าเทียมและคว ามเสมอภาคของสังคม และด้าน ขีดความสามารถในการแข่งขัน แผนการปฏิรูปประเทศ ด้านการศึกษา ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๕ มีวัตถุประสงค์ ในการยกระดับคุณภาพของการจัดการศึกษา (Enhance Quality of Education) ครอบคลุม ผลลัพธ์ทางการศึกษาและการเรียนรู้ (Learning Outcomes) ท้ังด้านความรู้ ทักษะ เจตคติที่ถูกต้อง และรู้จัก ดแู ลสขุ ภาพ เพอื่ การจัดการในเรื่องการดารงชวี ติ ของตนเองและการใช้ชีวิตร่วมกับผูอ้ ืน่
๒ แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙) ยุทธศาสตร์ที่ ๖ การพัฒนาประสิทธิภาพของระบบ บริหารจัดการศึกษา ได้กาหนดแนวทางการพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา โดยพัฒนาระบบการประเมินตาแหน่งและวิทยฐานะสาหรับตาแหน่งท่ีมีใบอนุญาตประกอบ วิชาชีพเป็นระยะๆ เพ่ือดารงไว้ซึ่งความรู้ ความสามารถ ความชานาญการ หรือความเช่ียวชาญในตาแหน่งและ วิทยฐานะทีไ่ ดร้ ับการบรรจแุ ละการแตง่ ตงั้ กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายในการปรับปรุงหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะใหม่ต้องส่งผลไปถึง ผู้เรียน มุ่งเน้นการพัฒนาวิชาชีพมากกว่าการจัดทาผลงานวิชาการ มีการบูรณาการการทางานท่ีเชื่อมโยงกัน โดยมีการประเมินท่ีไมย่ ุ่งยาก ไมซ่ ับซ้อน และเป็นธรรม แต่จากงานวิจัยในโครงการการสังเคราะห์ระบบและแนวทางการปฏิบัติการพัฒนาวิชาชีพครู : จากแนวคดิ การเรยี นรู้เชิงวชิ าชีพสู่การปฏิบัติ โดยรองศาสตราจารย์ ดร.ประวติ เอราวรรณ์ ซง่ึ ไดศ้ กึ ษาแนวคิด และรายงานการศึกษาวิจัยของนักวิชาการ และหน่วยงานต่าง ๆ พบว่า จากรายงานของ OECD/UNESCO เมื่อปี ๒๐๑๖ และจากผลการศึกษาของ Schleicher เมื่อปี ๒๐๑๒ พบว่าระบบการสนับสนุนการพัฒนา ความก้าวหน้าในวิชาชีพน้ัน มีปัจจัยหลายอย่างที่เป็นอุปสรรค เช่น การพัฒนาวิทยฐานะไม่ยึดโยงกับผลลัพธ์ การเรียนรู้ของผู้เรียน โรงเรียนไม่มีโครงสร้างเวลาพอที่ครูจะมีโอกาสแลกเปล่ียนการสอนในรูปแบบ ชุมชนวิชาชีพ และผู้บริหารโรงเรียนยังขาดศักยภาพในการเป็นผู้นาการเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาครูรูปแบบ ชุมชนวิชาชีพ และปัจจัยสาคัญท่ีสุดที่ส่งผลต่อการเรียนรู้ของนักเรียนและการพัฒนาวิชาชีพครู คือ ภาวะผู้นา ของผู้บริหารโรงเรียน ซึ่งต้องมีบทบาทในการบริหารหลักสูตร การกากับและประเมินการสอนของครู การเสริมสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาครู และสนับสนุนวัฒนธรรมการทางานในโรงเรียนแบบร่วมมือกัน ตามลาดบั ดังนั้น เพ่ือความสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กฎหมายการศึกษา ยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี แผนปฏิรูปการศึกษา และแนวนโยบายกระทรวงศึกษาธกิ าร สานักงาน ก.ค.ศ. จึงได้ใช้การวจิ ัยเป็นฐาน ดาเนินการศึกษา วิเคราะห์สภาพปัญหาในการประเมินวิทยฐานะตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ตลอดจนสังเคราะห์แนวคิด ทฤษฎี และผลการศึกษาวิจัยของประเทศต่าง ๆ และหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง มากาหนด เป็นกรอบแนวคิดสาคัญ ในการดาเนินการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินวิทยฐานะของข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา เพื่อเป็นหัวใจสาคัญที่จะยกระดับคุณภาพกการศึกษาให้ประสบความสาเร็จ จงึ ไดก้ าหนดหลักเกณฑก์ ารประเมนิ วทิ ยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาขึ้นใหม่ ให้สอดคลอ้ งกับ เรื่องสาคัญท่ีต้องดาเนินการให้ตอบสนองต่อนโยบาย รวมถึงหลักการและแนวคิดในเชิงวิชาการ เช่น Back to school คณุ ภาพการศึกษาต้องเร่ิมที่ห้องเรยี น การปฏิบัตงิ านของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ทุกสายงาน ต้องมีความสอดคล้องเช่ือมโยงกัน มีการทางานเป็นทีม มีเป้าหมายร่วมกัน คือ ยกระดับคุณภาพ การศึกษาและพัฒนาผู้เรียน Focus on classroom การประเมินให้ดูที่ผลการปฏิบัติงานของครูในห้องเรียน ดูท่ีสมรรถนะในการปฏิบัติงานจริงของครู (Teacher Performance) แผนการจัดการเรียนรู้ (Powerful Pedagogies) และผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน (Students Outcomes) ครูเป็นกลไกสาคัญ (Teacher as a Key of Success) ที่จะทาให้การศึกษาประสบความสาเร็จ ครูต้องมีการพัฒนาให้มีสมรรถนะในการปฏิบัติงาน สูงขึ้นตามระดับการปฏิบัติที่คาดหวังตามตาแหน่งและวิทยฐานะ ได้แก่ ปฏิบัติและเรียนรู้ (Execute and Learn) ปรับประยุกต์ (Apply and Adapt) สามารถปรับประยุกต์ความรู้และศาสตร์การสอนมาใช้ในการ จัดการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสมกับบริบทและความแตกต่างของผู้เรียน แก้ไขปัญหา (Solve the Problem) รับรู้ปัญหาและสามารถแก้ปัญหาในการจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน และส่งเสริมให้ผู้เรียน มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ริเริ่ม พัฒนา (Originate and Improve) สามารถปรับปรุงพัฒนางานให้ดีกว่าเดิม
๓ ได้สอนให้ผู้เรียนมีกระบวนการคิด คิดค้น ปรับเปล่ียน (Invent and Transform) สามารถสร้างสรรค์สื่อ นวตั กรรมและเทคโนโลยี เพือ่ ยกระดบั การทางานในห้องเรยี นให้ดีขน้ึ ได้ สอนใหผ้ ้เู รยี นคน้ พบองค์ความรูไ้ ด้ด้วย ตนเอง สร้างการเปล่ยี นแปลง (Create an Impact) สามารถสร้างผลกระทบใหเ้ กดิ ขนึ้ นอกเหนอื จากห้องเรียน สามารถสอนให้ผเู้ รียนเกดิ แรงบันดาลใจในการเรยี นรู้ (School as an Organization) การจดั ระบบการบริหาร การจัดการในสถานศึกษาต้องมุ่งเน้นงานหลักของครูและผู้อานวยการสถานศึกษา ลดความซ้าซ้อน การประเมินผลการปฏิบัติงานเพ่ือเลื่อนเงินเดือนกับการให้มีหรือเล่ือนวิทยฐานะ (มาตรา ๕๔) และการคงวิทยฐานะ (มาตรา ๕๕) เป็นเร่ืองเดียวกัน (ใช้ตัวช้ีวัดเดียวกัน) School Professional Community การจัดทา PLC เป็นหน้าที่ของผู้บริหารสถานศึกษาที่จะต้องทาให้เกิดข้ึนในโรงเรียน ควรกาหนดเป็นตัวชี้วัด ของผอู้ านวยการสถานศกึ ษาด้วย Support System ควรเปน็ ระบบ Online System เชอ่ื มโยงกบั แพลตฟอร์ม การพฒั นาตา่ ง ๆ ครูต้องไดร้ บั การพฒั นาตรงตามความต้องการจาเปน็ อยา่ งต่อเน่ืองและเป็นระบบ สานกั งาน ก.ค.ศ. จงึ ไดน้ าความคิดเหน็ ของนักวิชาการและผลการวิจัยทีเ่ กยี่ วข้องมาจดั ทาหลกั เกณฑ์และ วิธีการประเมินตาแหน่งและวิทยฐานะ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา โดยผู้บริหารสถานศึกษาต้องมีการพัฒนาให้มีสมรรถนะในการปฏิบัติงานสูงข้ึน ตามระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง ตามตาแหน่งและวทิ ยฐานะ ก.ค.ศ. ได้กาหนดระบบการประเมินตาแหน่งและวิทยฐานะตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตาแหน่ง และวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกตาแหน่ง รวมถึงตาแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา มีความเชื่อมโยงบูรณาการกับระบบการประเมินเพื่อเลื่อนเงินเดือน และการประเมินเพ่ือคงวิทยฐานะ ตามมาตรา ๕๕ แห่งพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ โดยมีความเชอื่ มโยงของระบบการประเมนิ ตามแผนภาพที่ ๑ แผนภาพท่ี ๑ ความเชื่อมโยงของระบบการประเมนิ ตาแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครแู ละบุคลากร ทางการศกึ ษาสาหรับตาแหนง่ ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา ท่มี า : สานกั งาน ก.ค.ศ. ,น.๖,๒๕๖4. ก.ค.ศ. กาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตาแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา ตาแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ ๐๒๐๖.๓/ว ๑๐ ลงวันท่ี ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๔ จะเป็นประโยชน์กับผ้เู รยี น สถานศึกษา และผูท้ เี่ ก่ียวข้อง ดงั นี้
๔ ๑. เปน็ การเสรมิ สร้างความเขม้ แขง็ ให้กบั วชิ าชีพผ้บู ริหารสถานศึกษา เพ่อื ให้ผู้บรหิ ารสถานศึกษา ได้พัฒนาตนเองให้มีศักยภาพสูงขึ้นตามระดับวิทยฐานะ มีภาวะผู้นาในการบริหารวิชาการ และบริหาร การเปล่ียนแปลง ที่ส่งผลต่อการยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนการสอน คุณภาพครู คุณภาพผู้เรียน และคณุ ภาพการศึกษาไดอ้ ยา่ งเป็นรปู ธรรม ๒. ผู้บริหารเข้าถึงครูและห้องเรียนมากขึ้น ทาให้ได้รับทราบสภาพปัญหาและความต้องการ ของแต่ละห้องเรียน สามารถนามากาหนดแผนพัฒนาสถานศึกษา เพ่ือยกระดับคุณภาพการศึกษาได้อย่าง มีประสทิ ธภิ าพและยัง่ ยืน ๓. การประเมินผลการพัฒนางานตามข้อตกลงในแต่ละปีงบประมาณ ทาให้ผู้บริหารสถานศึกษา ได้ทราบถึงจุดแข็งและจุดท่ีควรพัฒนาของครูและบุคลากรในสถานศึกษา ซ่ึงจะทาให้มีแนวทางในการพัฒนา ตนเอง พัฒนาครู เพ่ือให้ครูสามารถนาผลการพัฒนามาใช้ให้เกิดประโยชน์กับการจัดการเรียนรู้และการพัฒนา ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ของผู้เรียน ๔. การนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ เป็นการลดภาระการจัดทาเอกสาร ประหยัดงบประมาณ ในการประเมนิ และทาใหร้ ะบบการประเมนิ โดยรวมมีความโปร่งใส มปี ระสิทธิภาพและคล่องตัวย่ิงขน้ึ ๕. เกิดการเช่ือมโยงบูรณาการ (Alignment and Coherence) ในระบบการประเมินวิทยฐานะ การประเมินผลการปฏิบัติงานเพ่ือการเลื่อนเงินเดือน และการประเมินเพื่อคงวิทยฐานะ โดยใช้ตัวชี้วัดเดยี วกัน ลดความซ้าซ้อน และงบประมาณในการประเมนิ ๖. ทาให้มี Big data ในการบริหารงานบุคคลในหลายมิติ และสามารถนาไปใช้เป็นข้อมูลสาคัญ ในการวางแผนอตั รากาลังขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการรับผิดชอบ เก่ียวกับการจัดการศึกษาในระดับพื้นฐาน ตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้ตระหนักถึงความสาคัญของหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตาแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา ตาแหน่งครู ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/ว 9 ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 ตาแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/ว 10 ลงวันท่ี 20 พฤษภาคม 2564 ตาแหน่งศึกษานิเทศก์ ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/ว 11 ลงวันท่ี 20 พฤษภาคม 2564 และตาแหน่งผู้บริหารการศึกษา ตามหนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.4/ว 12 ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 ซึ่งหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าวกาหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคนจัดทาข้อตกลง ในการพัฒนางาน (Performance Agreement : PA) ทุกปีงบประมาณ เพื่อให้ข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษามีศักยภาพและสมรรถนะในการปฏิบัติงานให้สูงขึ้นตามตาแหน่งและวิทยฐานะที่คาดหวัง ส านั กงาน คณะกร ร มการ การ ศึกษาขั้น พ้ื น ฐ าน จึ งได้ จัดทาแนวทางการด าเนิ นการตามหลั กเกณฑ์ และวิธีการประเมินตาแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสานักงาน คณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน ผู้บรหิ ารสถานศึกษา เพ่อื ให้ผ้บู รหิ ารสถานศึกษา มคี วามรู้ ความเข้าใจทชี่ ัดเจน และครอบคลุมเก่ียวกับการประเมินวิทยฐานะ รวมท้ังใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติให้กับผู้บริหารสถานศึกษา ให้สามารถนาไปเป็นแนวทางหรือปรับประยุกต์การจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) โดยเชื่อมโยงบูรณาการ กับการขอมีหรือเล่ือนวิทยฐานะการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการเลื่อนเงินเดือน และการประเมิน เพื่อคงวิทยฐานะ ตามหลักเกณฑ์และวธิ กี ารที่ ก.ค.ศ. กาหนด
๕ นิยำมศพั ท์ นิยำมศัพท์ ตำมหลักเกณฑ์และวิธีประเมินตำแหน่ง และวิทยฐำนะข้ำรำชกำรครูและบุคลำกร ทำงกำรศกึ ษำ (หนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ ๐๒๐๖.3/ว ๑๐ ลงวนั ท่ี ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๔) “สว่ นราชการตน้ สงั กดั ” หมายความว่า สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน “ผู้บริหารสถานศึกษา” หมายความว่า ผู้อานวยการสถานศึกษา หรือรองผู้อานวยการสถานศึกษา “ผเู้ รยี น” หมายความวา่ นกั เรยี น นกั ศึกษา หรอื ผู้รับบริการ “รอบการประเมิน” หมายความว่า ช่วงระยะเวลาในการประเมินผลการพัฒนางานตามข้อตกลง ซึ่งกาหนดให้มกี ารประเมนิ ปีงบประมาณละ ๑ ครงั้ เม่ือส้นิ ปีงบประมาณ “ผลลัพธ์ในการพัฒนาการบริหารสถานศึกษา” หมายความว่า ผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ครู และสถานศึกษา ท่ีมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีข้ึนหรือมีการพัฒนามากข้ึน เม่ือได้มีการดาเนินการ ตามแผนพัฒนาสถานศึกษา กลยุทธ์ การใช้เคร่ืองมือหรือนวัตกรรมทางการบริหาร ที่ผู้บริหารสถานศึกษา ไดพ้ ัฒนาขน้ึ “ข้อตกลงในการพัฒนางาน” (Performance Agreement : PA) หมายความว่า ข้อตกลงที่ผู้บริหาร สถานศึกษาได้เสนอต่อผู้บังคับบัญชา เพ่ือแสดงเจตจานงว่าภายในรอบการประเมินจะพัฒนาคุณภาพผู้เรียน คุณภาพครู และยกระดับคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา โดยสะท้อนให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง ของตาแหนง่ และวิทยฐานะที่ดารงอยู่ และสอดคลอ้ งกับเป้าหมาย และบริบทสถานศึกษา นโยบายของส่วนราชการ และกระทรวงศกึ ษาธกิ าร โดยผบู้ งั คับบญั ชาได้เห็นชอบใหเ้ ปน็ ขอ้ ตกลงในการพฒั นางาน “ระบบการประเมินวิทยฐานะดจิ ิทัล” (Digital Performance Appraisal) เรียกโดยยอ่ ว่าระบบ DPA หมายความว่า ระบบการประเมินตาแหน่งและวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา แบบออนไลน์ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการส่งผ่าน จัดการและประมวลผลข้อมูลการประเมินผลการปฏบิ ัติงานตามข้อตกลง ในการพัฒนางาน รวมท้ังหลักฐานประกอบการพิจารณาเพื่อให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มีวทิ ยฐานะและเล่ือนวทิ ยฐานะ
๖ มำตรฐำนตำแหน่งและมำตรฐำนวิทยฐำนะสำหรับตำแหน่งผู้บริหำรสถำนศึกษำ (หนังสือสานักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ ๐๒๐๖.๔/ว ๓ ลงวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๔) มำตรฐำนตำแหน่งและมำตรฐำนวิทยฐำนะ ประเภท ผบู้ ริหำรสถำนศกึ ษำ สำยงำน บรหิ ำรสถำนศึกษำ ลกั ษณะงำนโดยท่ัวไป สายงานบริหารสถานศึกษา มีลักษณะงานท่ีปฏิบัติเกี่ยวกับการบริหารวิชาการและความเป็นผู้นา ทางวิชาการ บริหารจัดการสถานศึกษา บริหารการเปล่ียนแปลงเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรม บริหารงานชุมชน และเครือข่าย รวมท้ังพฒั นาตนเองและวชิ าชีพ และปฏบิ ตั งิ านอน่ื ตามทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ชือ่ ตำแหนง่ รองผอู้ านวยการสถานศึกษา ผอู้ านวยการสถานศกึ ษา ช่ือวิทยฐำนะ รองผู้อานวยการชานาญการ รองผู้อานวยการชานาญการพิเศษ รองผู้อานวยการเช่ยี วชาญ ผู้อานวยการชานาญการ ผู้อานวยการชานาญการพิเศษ ผ้อู านวยการเชย่ี วชาญ ผอู้ านวยการเชย่ี วชาญพเิ ศษ
๗ มำตรฐำนตำแหน่ง ชื่อตำแหนง่ รองผ้อู ำนวยกำรสถำนศึกษำ หน้ำทแ่ี ละควำมรับผดิ ชอบ มีหน้าที่และความรับผิดชอบหลักในการบังคับบัญชาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และบุคลากรในสถานศึกษารองจากผู้อานวยการสถานศึกษา และช่วยปฏิบัติราชการเก่ียวกับการบริหารวิชาการ และความเป็นผู้นาทางวิชาการ บริหารจัดการสถานศึกษา บริหารการเปล่ียนแปลงเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรม บรหิ ารงานชมุ ชนและเครือขา่ ย รวมท้งั พฒั นาตนเองและวชิ าชพี และปฏบิ ัตงิ านอน่ื ตามทไี่ ด้รบั มอบหมาย ลกั ษณะงำนที่ปฏิบตั ิ การปฏิบัติงานของรองผู้อานวยการสถานศึกษาเป็นการช่วยปฏิบัติงานของผู้อานวยการสถานศึกษา ซึง่ ต้องมีการบูรณาการงานทงั้ ๕ ด้าน ใหเ้ ชือ่ มโยงและสอดคลอ้ งกนั ดงั น้ี ๑. ดำ้ นกำรบริหำรวชิ ำกำรและควำมเปน็ ผ้นู ำทำงวชิ ำกำร ๑.๑ พัฒนามาตรฐานการเรียนรู้ วางแผน ตรวจสอบ ทบทวน จัดทา และพัฒนาหลักสูตรประสานงาน วิชาการ และนาหลักสตู รไปใช้ให้ผ้เู รียนไดพ้ ฒั นาสมรรถนะและการเรียนรเู้ ต็มตามศักยภาพ ๑.๒ ปฏิบัติการสอน พัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ วัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ให้ผู้เรียนมีสมรรถนะ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และมีความพร้อมในการดารงชีวิต ในปจั จุบันและอนาคต ๑.๓ ส่งเสริม สนับสนุน การพัฒนา หรือ การนาส่ือ นวัตกรรม และเทคโนโลยีทางการศึกษา มาใชใ้ นการจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนมที ักษะการคดิ และสรา้ งนวตั กรรมได้ ๑.๔ นิเทศ กากับ ติดตาม และประเมินผล การจัดการเรียนรู้ของครู โดยส่งเสริมกระบวนการ แลกเปล่ียนเรียนรู้ทางวิชาชีพ ให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน สร้างและสนับสนุนให้สถานศึกษาเป็นชุมชนแห่งการ เรียนรู้ทางวชิ าชีพ ๑.๕ ศึกษา วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และวิจยั เพ่ือแก้ปญั หาและพฒั นา เพอ่ื ยกระดบั คณุ ภาพการศึกษา ของสถานศกึ ษา ๑.๖ จัดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา เพ่ือปรับปรุงและพัฒนา คุณภาพการศกึ ษาของสถานศึกษาอย่างต่อเน่ือง
๘ ๒. ด้ำนกำรบริหำรจัดกำรสถำนศกึ ษำ ๒.๑ บังคบั บญั ชาขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา และบคุ ลากรในสถานศึกษา และบริหาร กิจการของสถานศึกษา ใหเ้ ปน็ ไปตามกฎหมาย ระเบยี บ และข้อบงั คบั ๒.๒ บริหารงานบุคคล บริหารงบประมาณ และบริหารทั่วไปของสถานศึกษา ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บงั คบั นโยบาย และเป็นไปตามหลักบรหิ ารกจิ การบา้ นเมืองทด่ี ี ๒.๓ ส่งเสริมและพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ให้มีสมรรถนะ เต็มตามศักยภาพ โดยเน้นทักษะการใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ หรือภาษาต่างประเทศอื่น และทักษะ การใชเ้ ทคโนโลยดี ิจทิ ัล ดว้ ยวธิ ีการต่าง ๆ อยา่ งเหมาะสม ๒.๔ บริหารกิจการผู้เรียน จัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน ให้ผู้เรียนมีสมรรถนะและ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๒.๕ จัดระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน เพ่ือแก้ปัญหาและพัฒนาผู้เรียนให้มีโอกาสและความเสมอภาค ทางการศึกษา ลดความเหลอื่ มลา้ ๓. ดำ้ นกำรบรหิ ำรกำรเปลี่ยนแปลงเชิงกลยทุ ธแ์ ละนวัตกรรม ๓.๑ กาหนดนโยบาย แผน กลยุทธ์ในการพัฒนาสถานศึกษาร่วมกับครู คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ชุมชน และเครือข่าย โดยใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์เป็นฐาน เพ่ือเป็นแนวทางเชิงรุกในการพัฒนา สถานศกึ ษา และคณุ ภาพผู้เรยี น ๓.๒ นานโยบาย แผน กลยุทธ์ในการพัฒนาสถานศึกษาไปปฏิบัติ ส่งเสริม สนับสนุน กากับ และตดิ ตาม ให้บรรลวุ ตั ถปุ ระสงคต์ ามแผนที่กาหนด ๓.๓ สร้างหรือนานวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้ในการพัฒนาสถานศึกษาและผู้เรียน ส่งเสริม สนับสนุน ให้ผูเ้ รยี นมสี มรรถนะและสามารถดารงชวี ติ ไดอ้ ย่างมีคุณภาพในอนาคต ๓.๔ สร้างการมีส่วนร่วม การทางานเป็นทีม ในการบริหารการเปล่ียนแปลงและนวัตกรรม ในสถานศกึ ษา ให้เกิดการพฒั นาสถานศึกษาอยา่ งย่ังยนื ๔. ดำ้ นกำรบริหำรงำนชมุ ชนและเครอื ขำ่ ย ๔.๑ สร้างและพัฒนาความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์กับผู้เรียน ครู คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ผู้เก่ียวข้อง ชุมชนและเครือข่าย เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ เสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม การดูแล ช่วยเหลอื และพัฒนาคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรยี น ๔.๒ จัดระบบการให้บริการในสถานศึกษา ประสานความร่วมมือกับชุมชนและเครือข่าย ในการระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา ให้บริการด้านวิชาการแก่ชุมชน และงานจิตอาสา เพ่ือสร้างเครือข่าย ในการพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาให้แก่ผูเ้ รยี น สถานศกึ ษา และชุมชน และเสรมิ สรา้ งวัฒนธรรมท้องถนิ่
๙ ๕. ด้ำนกำรพัฒนำตนเองและวิชำชพี ๕.๑ พัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเน่ือง เพื่อให้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ โดยเฉพาะ อยา่ งยงิ่ การใชภ้ าษาไทยและภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยดี ิจิทลั เพื่อการศึกษา สมรรถนะ ทางวชิ าชีพผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา และความรอบรู้ในการบริหารงานใหส้ งู ขึ้น ๕.๒ มีส่วนร่วมและเป็นผู้นาในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ และการจัดการศกึ ษา ๕.๓ นาความรู้ ความสามารถ ทักษะท่ีได้จากการพัฒนาตนเองและวิชาชีพมาใช้ในการพัฒนา การบริหารจัดการสถานศึกษา รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรยี นรู้ทสี่ ่งผลตอ่ คุณภาพครแู ละผู้เรยี น ๕.๔ สร้างและสนบั สนุนชุมชนการเรยี นรู้ทางวิชาชพี วนิ ัย คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจรรยำบรรณวิชำชพี มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ดารงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง มีจิตสานึกความรบั ผดิ ชอบในการบริหารสถานศึกษา และมจี รรยาบรรณของวิชาชีพ คุณสมบตั เิ ฉพำะสำหรับตำแหนง่ ๑. มใี บอนุญาตประกอบวชิ าชพี ผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา ๒. ดารงตาแหนง่ หรอื เคยดารงตาแหนง่ อยา่ งใดอย่างหน่งึ ต่อไปนี้ ๒.๑ ตาแหนง่ ครู ทมี่ วี ทิ ยฐานะไมต่ ่ากวา่ ครชู านาญการ ๒.๒ ตาแหน่งศึกษานเิ ทศก์ ทมี่ วี ิทยฐานะไม่ตา่ กวา่ ศึกษานิเทศก์ชานาญการ ๒.๓ ตาแหนง่ บุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค.(๒) ท่มี ีระดบั ตาแหน่งไม่ต่ากว่าชานาญการ มาแลว้ ไมน่ อ้ ยกวา่ ๓ ปี ๒.๔ ตาแหนง่ อ่นื ที่ ก.ค.ศ. เทยี บเทา่ ควำมรู้และสมรรถนะท่จี ำเปน็ สำหรับตำแหนง่ ๑. มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารงานในหน้าท่ี กฎหมาย ระเบียบ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน และมีความรอบรู้ท่ัวไป ๒. มีสมรรถนะที่จาเป็นสาหรับการปฏิบัติงานในตาแหน่ง
๑๐ มำตรฐำนตำแหน่ง ชอ่ื ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยกำรสถำนศกึ ษำ หน้ำที่และควำมรับผดิ ชอบ มีหน้าท่ีและความรับผิดชอบหลักในการบังคับบัญชาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและบุคลากร ในสถานศึกษา และปฏิบัติราชการเกี่ยวกับการบริหารวิชาการและความเป็นผู้นาทางวิชาการ บริหารจัดการ สถานศึกษา บริหารการเปล่ียนแปลงเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรม บริหารงานชุมชน และเครือข่าย รวมท้ังพัฒนา ตนเองและวิชาชีพ และปฏิบัติงานอ่นื ตามท่ีไดร้ ับมอบหมาย ลักษณะงำนทีป่ ฏิบตั ิ การปฏิบัติงานของผู้อานวยการสถานศึกษา ต้องมีการบูรณาการงานทั้ง ๕ ด้าน ให้เช่ือมโยง และสอดคลอ้ งกัน ดงั นี้ ๑. ดำ้ นกำรบรหิ ำรวิชำกำรและควำมเปน็ ผนู้ ำทำงวิชำกำร ๑.๑ พัฒนามาตรฐานการเรียนรู้ วางแผน ตรวจสอบ ทบทวน จัดทา และพัฒนาหลักสูตร ประสานงาน วิชาการ และนาหลักสูตรไปใช้ ให้ผู้เรียนไดพ้ ฒั นาสมรรถนะและการเรยี นรเู้ ตม็ ตามศกั ยภาพ ๑.๒ ปฏิบัติการสอน พัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ วัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ให้ผู้เรียนมีสมรรถนะ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และมีความพร้อมในการดารงชีวิต ในปจั จุบันและอนาคต ๑.๓ ส่งเสริม สนับสนุน การพัฒนา หรือ การนาส่ือ นวัตกรรม และเทคโนโลยีทางการศึกษา มาใช้ในการจดั การเรยี นรู้ใหผ้ ู้เรียนมที ักษะการคิดและสร้างนวตั กรรมได้ ๑.๔ นิเทศ กากับ ติดตาม และประเมินผล การจัดการเรียนรู้ของครู โดยส่งเสริมกระบวนการ แลกเปลย่ี นเรยี นรูท้ างวชิ าชีพ ใหเ้ กิดการเรยี นรู้ร่วมกัน สรา้ งและสนับสนุนให้สถานศึกษาเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ ทางวชิ าชพี ๑.๕ ศึกษา วิเคราะห์ สงั เคราะห์ หรอื วิจัยเพือ่ แกป้ ญั หาและพฒั นา เพื่อยกระดบั คณุ ภาพการศึกษา ของสถานศึกษา ๑.๖ จัดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา เพ่ือปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพ การศึกษาของสถานศกึ ษาอย่างต่อเนือ่ ง
๑๑ ๒. ดำ้ นกำรบรหิ ำรจัดกำรสถำนศึกษำ ๒.๑ บังคับบัญชาขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา และบุคลากร ในสถานศึกษาและบรหิ าร กจิ การของสถานศึกษา ใหเ้ ป็นไปตามกฎหมาย ระเบยี บ และข้อบังคบั ๒.๒ บริหารงานบุคคล บริหารงบประมาณ และบริหารทั่วไปของสถานศึกษา ให้เป็นไปตาม กฎหมาย ระเบยี บ ข้อบังคับ นโยบาย และเป็นไปตามหลกั บรหิ ารกิจการบา้ นเมอื งทด่ี ี ๒.๓ ส่งเสริมและพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ให้มีสมรรถนะ เต็มตามศักยภาพ โดยเน้นทักษะการใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ หรือภาษาต่างประเทศอื่น และทักษะ การใช้เทคโนโลยดี จิ ิทลั ด้วยวิธกี ารตา่ ง ๆ อยา่ งเหมาะสม ๒.๔ บริหารกิจการผู้เรียน จัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน ให้ผู้เรียนมีสมรรถนะและคุณลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ ๒.๕ จัดระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน เพอ่ื แกป้ ัญหาและพัฒนาผู้เรียนให้มโี อกาสและความเสมอภาค ทางการศกึ ษา ลดความเหลอ่ื มลา้ ๒.๖ ดาเนินการตามอานาจหนา้ ท่ีของกรรมการและเลขานกุ ารของคณะกรรมการสถานศึกษา ๓. ด้ำนกำรบรหิ ำรกำรเปลีย่ นแปลงเชงิ กลยุทธ์และนวัตกรรม ๓.๑ กาหนดนโยบาย แผน กลยุทธ์ในการพัฒนาสถานศึกษาร่วมกับครู คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ชุมชน และเครือข่าย โดยใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์เป็นฐาน เพื่อเป็นแนวทางเชิงรุกในการพัฒนา สถานศึกษา และคณุ ภาพผู้เรยี น ๓.๒ นานโยบาย แผน กลยุทธ์ในการพัฒนาสถานศึกษาไปปฏิบัติ ส่งเสริม สนับสนุน กากับและติดตาม ใหบ้ รรลวุ ตั ถุประสงค์ตามแผนท่ีกาหนด ๓.๓ สร้างหรือนานวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้ในการพัฒนาสถานศึกษาและผู้เรียน ส่งเสริม สนับสนุน ให้ผเู้ รียนมสี มรรถนะและสามารถดารงชีวิตไดอ้ ยา่ งมคี ุณภาพในอนาคต ๓.๔ สรา้ งการมสี ว่ นรว่ ม การทางานเป็นทีม ในการบริหารการเปล่ียนแปลงและนวตั กรรมในสถานศึกษา ให้เกิดการพัฒนาสถานศึกษาอยา่ งย่งั ยืน ๔. ด้ำนกำรบรหิ ำรงำนชมุ ชนและเครอื ขำ่ ย ๔.๑ สร้างและพัฒนาความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์กับผู้เรียน ครู คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ผู้เก่ียวข้อง ชุมชนและเครือข่าย เพ่ือพัฒนาการเรียนรู้ เสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม การดูแลช่วยเหลือ และพัฒนาคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ของผเู้ รียน ๔.๒ จัดระบบการให้บริการในสถานศึกษา ประสานความร่วมมือกับชุมชนและเครือข่าย ในการระดม ทรัพยากรเพื่อการศึกษา ให้บริการด้านวิชาการแก่ชุมชน และงานจิตอาสา เพื่อสร้างเครือข่ายในการพัฒนา คุณภาพการศึกษาใหแ้ ก่ผูเ้ รยี น สถานศกึ ษา และชมุ ชน และเสริมสรา้ งวัฒนธรรมทอ้ งถ่ิน
๑๒ ๕. ดำ้ นกำรพัฒนำตนเองและวิชำชีพ ๕.๑ พัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเน่ือง เพ่ือให้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งการใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพ่ือการศึกษา สมรรถนะทางวิชาชีพผบู้ รหิ ารสถานศึกษา และความรอบรูใ้ นการบรหิ ารงานใหส้ ูงข้ึน ๕.๒ มีส่วนร่วม และเป็นผู้นาในการแลกเปล่ียนเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพ่ือพัฒนาการจัดการเรียนรู้ และการจดั การศึกษา ๕.๓ นาความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ได้จากการพัฒนาตนเองและวิชาชีพมาใช้ในการพัฒนา การบริหารจัดการสถานศกึ ษา รวมถึงการพฒั นานวตั กรรมการจัดการเรยี นรู้ที่สง่ ผลตอ่ คณุ ภาพครู และผเู้ รียน ๕.๔ สร้างและสนับสนนุ ชุมชนการเรยี นรูท้ างวิชาชพี วินยั คุณธรรม จริยธรรม และจรรยำบรรณวชิ ำชพี มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ดารงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง มจี ิตสานกึ ความรับผิดชอบในการบรหิ ารสถานศกึ ษา และมีจรรยาบรรณของวชิ าชีพ คณุ สมบตั ิเฉพำะสำหรบั ตำแหน่ง ๑. มใี บอนญุ าตประกอบวิชาชีพผู้บรหิ ารสถานศึกษา ๒. ดารงตาแหนง่ หรอื เคยดารงตาแหน่ง อยา่ งใดอยา่ งหนึ่ง ตอ่ ไปนี้ ๒.๑ ตาแหน่งรองผู้อานวยการสถานศึกษา มาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี และมีวิทยฐานะไม่ต่ากว่า รองผู้อานวยการชานาญการ ๒.๒ ตาแหน่งครู ที่มีวิทยฐานะไม่ต่ากว่าครูชานาญการพิเศษ และมีประสบการณ์การบริหาร ไม่ต่ากวา่ หัวหนา้ กลมุ่ มาแล้วไม่นอ้ ยกวา่ 2 ปี ๒.๓ ตาแหน่งศึกษานิเทศก์ ที่มีวิทยฐานะไม่ต่ากว่าศึกษานิเทศก์ชานาญการพิเศษ และมี ประสบการณก์ ารบรหิ ารไม่ต่ากว่าหัวหน้ากลุ่ม หวั หนา้ หนว่ ย หรอื ผอู้ านวยการกลุ่ม มาแล้วไม่น้อยกวา่ ๒ ปี ๒.๔ ตาแหน่งอ่นื ที่ ก.ค.ศ. เทียบเทา่ ควำมรูแ้ ละสมรรถนะทจ่ี ำเป็นสำหรบั ตำแหน่ง ๑. มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับการบริหารงานในหน้าท่ี กฎหมาย ระเบียบ ท่ีเก่ียวข้องกับการปฏิบัติงาน และมีความรอบร้ทู ั่วไป ๒. มีสมรรถนะทจี่ าเปน็ สาหรับการปฏบิ ตั ิงานในตาแหนง่
๑๓ มำตรฐำนวิทยฐำนะ ช่อื วิทยฐำนะ รองผูอ้ ำนวยกำรชำนำญกำร หน้ำท่แี ละควำมรับผดิ ชอบ มีหน้าท่ีและความรับผิดชอบแล ะลั กษณะงานท่ีปฏิบัติตามมาตรฐานตาแหน่ งรองผู้อานว ยก าร สถานศึกษา มีการปฏิบัติการสอนและมภี าระงานบรหิ ารจัดการสถานศึกษา ตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด คณุ ภำพกำรปฏิบัตงิ ำน มีความสามารถ และทักษะในการปฏิบัติงานด้านการบริหารวิชาการและความเป็นผู้นาทางวิชาการ ด้านการบริหารจัดการสถานศึกษา ด้านการบริหารการเปล่ียนแปลงเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรม ด้านการบริหารงาน ชุมชนและเครือข่าย โดยแสดงให้เห็นว่ามีการริเริ่มดาเนินการและแก้ไขปัญหาการบริหารงานทุกด้าน มีการบรหิ ารงานทันต่อการเปล่ียนแปลงอย่างเป็นระบบ ถูกตอ้ ง และเหมาะสม เพ่อื ยกระดับคณุ ภาพการศึกษา ของสถานศึกษา พัฒนาตนเอง พัฒนาวิชาชีพ นาความรู้ ความสามารถ ทักษะ ที่ได้จากการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ มาใช้ในการพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาของสถานศึกษา วินยั คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยำบรรณวิชำชพี มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม ประพฤติตนเป็นแบบอย่างท่ีดี ดารงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง มจี ิตสานึกความรับผดิ ชอบในการบริหารสถานศึกษา และมจี รรยาบรรณวิชาชพี คณุ สมบัติเฉพำะสำหรับวิทยฐำนะ ๑. ดารงตาแหน่งรองผู้อานวยการสถานศึกษา ไม่น้อยกว่า ๔ ปี หรือ ลดระยะเวลาจาก ๔ ปี เหลือ ๓ ปี ตามเงอื่ นไขท่ี ก.ค.ศ. กาหนด และผา่ นการประเมนิ ตามหลักเกณฑ์และวธิ กี ารท่ี ก.ค.ศ. กาหนด หรอื ๒. ดารงตาแหนง่ อ่ืนท่ี ก.ค.ศ. เทยี บเทา่ หรือ ๓. ดารงตาแหน่งอ่นื ท่มี วี ิทยฐานะชานาญการ
๑๔ มำตรฐำนวิทยฐำนะ ชอ่ื วิทยฐำนะ รองผูอ้ ำนวยกำรชำนำญกำรพเิ ศษ หน้ำท่แี ละควำมรบั ผิดชอบ มีหน้าท่ีแล ะคว ามรับผิ ดช อบแล ะลั กษ ณ ะงาน ท่ีปฏิบัติ ตาม มาต รฐ านตา แหน่ง รอ งผู้ อ านว ย ก า ร สถานศกึ ษา มกี ารปฏิบัตกิ ารสอนและมภี าระงานบริหารจดั การสถานศกึ ษา ตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด คณุ ภำพกำรปฏบิ ัตงิ ำน มีความสามารถ และทักษะในการปฏิบัติงานด้านการบริหารวิชาการและความเป็นผู้นาทางวิชาการ ด้านการบริหารจัดการสถานศึกษา ดา้ นการบริหารการเปล่ียนแปลงเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรม ดา้ นการบริหารงาน ชุมชนและเครือข่าย โดยแสดงให้เห็นว่า มีการริเริ่มดาเนินการ แก้ไขปัญหาและพัฒนาการบริหารงานทุกด้าน มีการนานวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในสถานศึกษา มีการบริ หารงานทันต่อ การเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบ ถูกต้อง เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับ คุณภาพการศึกษา ของสถานศกึ ษาให้สูงขึ้น พัฒนาตนเอง พัฒนาวิชาชีพ นาความรู้ ความสามารถ ทักษะ ท่ีได้จากการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ มาใชใ้ นการพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาของสถานศึกษา และสามารถเปน็ แบบอย่างทด่ี ี วนิ ยั คุณธรรม จริยธรรม และจรรยำบรรณวชิ ำชพี มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ดารงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง มีจติ สานกึ ความรบั ผดิ ชอบในการบริหารสถานศึกษา และมจี รรยาบรรณวชิ าชีพ คณุ สมบตั เิ ฉพำะสำหรบั วทิ ยฐำนะ ๑. ดารงตาแหน่งรองผู้อานวยการสถานศึกษา ท่ีมีวิทยฐานะรองผู้อานวยการชานาญการ ไม่น้อยกว่า ๔ ปี หรือ ลดระยะเวลาจาก ๔ ปี เหลือ ๓ ปี ตามเงื่อนไขที่ ก.ค.ศ. กาหนด และผ่านการประเมินตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กาหนด หรือ ๒. ดารงตาแหนง่ อ่นื ที่ ก.ค.ศ. เทยี บเทา่ หรอื ๓. ดารงตาแหน่งอ่ืนท่มี วี ิทยฐานะชานาญการพิเศษ
๑๕ มำตรฐำนวทิ ยฐำนะ ชอ่ื วทิ ยฐำนะ รองผอู้ ำนวยกำรเชย่ี วชำญ หน้ำท่แี ละควำมรับผิดชอบ มีหน้าท่ีและความรับผิดชอบและลักษณะงานที่ปฏิบัติตามมาตรฐานตาแหน่งรองผู้อานวยการ สถานศึกษา มกี ารปฏบิ ัตกิ ารสอนและมภี าระงานบรหิ ารจัดการสถานศึกษา ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด คุณภำพกำรปฏบิ ตั งิ ำน มีความสามารถ และทักษะในการปฏิบัติงานด้านการบริหารวิชาการและความเป็นผู้นาทางวิชาการ ด้านการบริหารจัดการสถานศึกษา ด้านการบริหารการเปล่ียนแปลงเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรม ด้านการบริหารงาน ชุมชนและเครือข่าย โดยแสดงให้เห็นว่า มีการริเร่ิมดาเนินการ แก้ไขปัญหา และพัฒนาการบริหารงานทุกด้าน มีการนานวตั กรรมมาประยุกต์ใช้ สรา้ งสรรค์และพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษาทส่ี ามารถนาไปใช้ประโยชน์ ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในสถานศึกษา และนาไปเผยแพร่ได้ มีการบริหารงานทันต่อการเปล่ียนแปลง อย่างเป็นระบบ ถกู ตอ้ ง เหมาะสม และมีประสทิ ธภิ าพ เพือ่ ยกระดบั คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาใหส้ ูงข้ึน พัฒนาตนเอง พัฒนาวิชาชีพ นาความรู้ ความสามารถ ทักษะ ท่ีได้จากการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ มาใช้ในการพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาของสถานศกึ ษา สามารถเปน็ แบบอย่างทดี่ ี และให้คาปรึกษากบั ผู้อนื่ วนิ ัย คุณธรรม จรยิ ธรรม และจรรยำบรรณวิชำชพี มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ดารงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง มจี ติ สานกึ ความรับผิดชอบในการบรหิ ารสถานศึกษา และมจี รรยาบรรณวิชาชพี คุณสมบตั ิเฉพำะสำหรับวทิ ยฐำนะ ๑. ดารงตาแหน่งรองผู้อานวยการสถานศึกษา ที่มีวิทยฐานะรองผู้อานวยการชานาญการพิเศษ ไม่น้อยกว่า ๔ ปี หรือ ลดระยะเวลาจาก ๔ ปี เหลือ ๓ ปี ตามเง่ือนไขที่ ก.ค.ศ. กาหนด และผ่านการประเมิน ตามหลักเกณฑแ์ ละวิธีการท่ี ก.ค.ศ. กาหนด หรือ ๒. ดารงตาแหนง่ อ่นื ท่ี ก.ค.ศ. เทยี บเท่า หรือ ๓. ดารงตาแหน่งอ่ืนท่ีมวี ิทยฐานะเชีย่ วชาญ
๑๖ มำตรฐำนวิทยฐำนะ ชือ่ วิทยฐำนะ ผอู้ ำนวยกำรชำนำญกำร หนำ้ ท่แี ละควำมรบั ผดิ ชอบ มีหน้าท่ีและความรับผิดชอบและลักษณะงานท่ีปฏิบัติตามมาตรฐานตาแหนง่ ผู้อานวยการสถานศึกษา มีการปฏิบัติการสอนและมภี าระงานบรหิ ารจัดการสถานศึกษา ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด คณุ ภำพกำรปฏบิ ัตงิ ำน มีความสามารถ และทักษะในการปฏิบัติงานด้านการบริหารวิชาการและความเป็นผู้นาทางวิชาการ ด้านการบริหารจัดการสถานศึกษา ด้านการบริหารการเปล่ียนแปลงเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรม ด้านการบริหารงาน ชุมชนและเครือข่าย โดยแสดงให้เห็นว่ามีการริเร่ิมดาเนินการและแก้ไขปัญหาการบริหารงานทุกด้าน มีการบริหารงานทันต่อการเปล่ียนแปลงอย่างเปน็ ระบบ ถูกต้อง และเหมาะสมเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ของสถานศกึ ษา พัฒนาตนเอง พัฒนาวิชาชีพ นาความรู้ ความสามารถ ทักษะ ท่ีได้จากการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ มาใชใ้ นการพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศึกษา วนิ ัย คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจรรยำบรรณวิชำชีพ มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ดารงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง มีจิตสานึกความรับผิดชอบในการบรหิ ารสถานศกึ ษา และมจี รรยาบรรณวชิ าชีพ คณุ สมบัติเฉพำะสำหรับวิทยฐำนะ ๑. ดารงตาแหน่งผู้อานวยการสถานศึกษา ไม่น้อยกว่า ๔ ปี หรือ ลดระยะเวลาจาก ๔ ปี เหลือ ๓ ปี ตามเงือ่ นไขท่ี ก.ค.ศ. กาหนด และผ่านการประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธกี ารท่ี ก.ค.ศ. กาหนด หรือ ๒. ดารงตาแหนง่ อนื่ ที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่า หรอื ๓. ดารงตาแหน่งอืน่ ทมี่ ีวิทยฐานะชานาญการ
๑๗ มำตรฐำนวทิ ยฐำนะ ช่อื วิทยฐำนะ ผู้อำนวยกำรชำนำญกำรพเิ ศษ หนำ้ ทแ่ี ละควำมรับผดิ ชอบ มีหน้าท่ีและความรับผิดชอบและลักษณะงานท่ีปฏบิ ัติตามมาตรฐานตาแหนง่ ผู้อานวยการสถานศึกษา มีการปฏิบัตกิ ารสอนและมีภาระงานบรหิ ารจัดการสถานศึกษา ตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด คุณภำพกำรปฏบิ ตั งิ ำน มีความสามารถ และทักษะในการปฏิบัติงานด้านการบริหารวิชาการและความเป็นผู้นาทางวิชาการ ด้านการบริหารจัดการสถานศึกษา ด้านการบริหารการเปล่ียนแปลงเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรม ด้านการบริหารงาน ชุมชนและเครือข่าย โดยแสดงให้เห็นว่ามีการริเริ่มดาเนินการ แก้ไขปัญหา และพัฒนาการบริหารงานทุกด้าน มีการนานวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในสถานศึกษามีการบริหารงานทันต่อการ เปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบ ถูกต้อง เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ เพ่ือยกระดับ คุณภาพการศึกษาของ สถานศึกษาใหส้ งู ขึน้ พัฒนาตนเอง พัฒนาวิชาชีพ นาความรู้ ความสามารถ ทักษะ ท่ีได้จากการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ มาใช้ในการพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาของสถานศกึ ษา และสามารถเป็นแบบอยา่ งทด่ี ี วินัย คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจรรยำบรรณวชิ ำชีพ มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ดารงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง มจี ติ สานกึ ความรบั ผดิ ชอบในการบริหารสถานศึกษา และมีจรรยาบรรณวชิ าชีพ คณุ สมบตั เิ ฉพำะสำหรบั วทิ ยฐำนะ ๑. ดารงตาแหน่งผู้อานวยการสถานศึกษา ท่ีมีวิทยฐานะผู้อานวยการชานาญการ ไม่น้อยกว่า ๔ ปี หรือลดระยะเวลาจาก ๔ ปี เหลือ ๓ ปี ตามเงื่อนไขที่ ก.ค.ศ. กาหนด และผ่านการประเมินตามหลักเกณฑ์ และวธิ ีการที่ ก.ค.ศ. กาหนด หรอื ๒. ดารงตาแหน่งอื่นท่ี ก.ค.ศ. เทียบเทา่ หรอื ๓. ดารงตาแหนง่ อื่นท่ีมีวิทยฐานะชานาญการพเิ ศษ
๑๘ มำตรฐำนวทิ ยฐำนะ ชือ่ วิทยฐำนะ ผู้อำนวยกำรเชยี่ วชำญ หน้ำทแี่ ละควำมรบั ผดิ ชอบ มีหน้าท่ีและความรับผิดชอบและลักษณะงานท่ีปฏบิ ัติตามมาตรฐานตาแหน่งผู้อานวยการสถานศึกษา มกี ารปฏบิ ัตกิ ารสอนและมีภาระงานบรหิ ารจดั การสถานศึกษา ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด คุณภำพกำรปฏิบัติงำน มีความสามารถ และทักษะในการปฏิบัติงานด้านการบริหารวิชาการและความเป็นผู้นาทางวิชาการ ด้านการบริหารจัดการสถานศึกษา ด้านการบริหารการเปล่ียนแปลงเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรม ด้านการบริหารงานชุมชนและเครือข่าย โดยแสดงให้เห็นว่ามีการริเร่ิมดาเนินการ แก้ไขปัญหา และพัฒนา การบริหารงานทุกด้าน มีการนานวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ สร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา ที่สามารถนาไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในสถานศึกษาและนาไปเผยแพร่ได้ มีการ บริหารงานทันตอ่ การเปล่ียนแปลงอย่างเป็นระบบ ถูกต้อง เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ เพ่อื ยกระดับคุณภาพ การศึกษา ของสถานศึกษาให้สูงข้นึ พัฒนาตนเอง พัฒนาวิชาชีพ นาความรู้ ความสามารถ ทักษะ ที่ได้จากการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ มาใช้ในการพฒั นาคุณภาพการศึกษาของสถานศกึ ษา สามารถเปน็ แบบอย่างที่ดี และให้คาปรึกษากับผอู้ น่ื วนิ ยั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจรรยำบรรณวิชำชีพ มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ดารงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง มีจติ สานึกความรบั ผิดชอบในการบริหารสถานศึกษา และมีจรรยาบรรณวชิ าชพี คณุ สมบัตเิ ฉพำะสำหรบั วทิ ยฐำนะ ๑. ดารงตาแหน่งผู้อานวยการสถานศึกษา ท่ีมีวิทยฐานะผู้อานวยการชานาญการพิเศษ ไม่น้อยกว่า ๔ ปี หรือ ลดระยะเวลาจาก ๔ ปี เหลือ ๓ ปี ตามเง่ือนไขท่ี ก.ค.ศ. กาหนด และผ่านการประเมินตามหลักเกณฑ์ และวิธีการท่ี ก.ค.ศ. กาหนด หรือ ๒. ดารงตาแหนง่ อื่นที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่า หรือ ๓. ดารงตาแหนง่ อื่นท่ีมวี ทิ ยฐานะเชย่ี วชาญ
๑๙ มำตรฐำนวทิ ยฐำนะ ชอ่ื วิทยฐำนะ ผู้อำนวยกำรเชย่ี วชำญพเิ ศษ หนำ้ ทแี่ ละควำมรบั ผดิ ชอบ มีหน้าที่และความรับผิดชอบและลักษณะงานท่ีปฏิบัติตามมาตรฐานตาแหน่งผู้อานวยการสถานศึกษา มกี ารปฏิบัตกิ ารสอนและมีภาระงานบรหิ ารจดั การสถานศึกษา ตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด คณุ ภำพกำรปฏิบตั งิ ำน มีความสามารถ และทักษะในการปฏิบัติงานด้านการบริหารวิชาการและความเป็นผู้นาทางวิชาการ ด้านการบริหารจัดการสถานศึกษา ด้านการบริหารการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรม ดา้ นการบริหารงาน ชุมชนและเครือข่าย โดยแสดงให้เห็นว่ามีการริเร่ิมดาเนินการ แก้ไขปัญหา พัฒนา การบริหารงานทุกด้าน มีการนานวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ สร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษาและงานวิจัย ที่สามารถ นาไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในสถานศึกษา เผยแพร่และขยายผลในวงวิชาชีพ เป็นแบบอย่าง และเป็นท่ียอมรับ มีการบริหารงานทันต่อการเปล่ียนแปลงอย่างเป็นระบบถูกต้อง เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ เพ่ือยกระดับคุณภาพการศกึ ษาของสถานศึกษาให้สูงขึน้ พัฒนาตนเอง พัฒนาวิชาชีพ นาความรู้ ความสามารถ ทักษะ ท่ีได้จากการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ มาใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา สามารถเป็นแบบอย่างทด่ี ี ให้คาปรึกษากับผู้อ่ืน และเปน็ ผู้นา วินยั คุณธรรม จรยิ ธรรม และจรรยำบรรณวิชำชพี มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ดารงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง มจี ติ สานึกความรับผิดชอบในการบริหารสถานศึกษา และมีจรรยาบรรณวชิ าชีพ คณุ สมบตั เิ ฉพำะสำหรับวิทยฐำนะ ๑. ดารงตาแหน่งผู้อานวยการสถานศึกษา ที่มีวิทยฐานะผู้อานวยการเช่ียวชาญ ไม่น้อยกว่า ๔ ปี หรือลดระยะเวลาจาก ๔ ปี เหลือ ๓ ปี ตามเงื่อนไขท่ี ก.ค.ศ. กาหนด และผ่านการประเมินตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กาหนด หรือ ๒. ดารงตาแหนง่ อื่นท่ี ก.ค.ศ. เทียบเทา่ หรอื ๓. ดารงตาแหนง่ อื่นท่มี ีวทิ ยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ ๔. ผ่านการพฒั นากอ่ นแตง่ ต้งั ตามหลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการท่ี ก.ค.ศ. กาหนด
๒๐ ภำระงำนสำหรบั ตำแหน่งผู้บรหิ ำรสถำนศกึ ษำ (หนังสอื สานกั งาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ ๐๒๐๖.3/ว ๒๑ ลงวนั ที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๔) ภำระงำนของข้ำรำชกำรครแู ละบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำ ตำแหน่งผูบ้ ริหำรสถำนศึกษำ (ทกุ สงั กัด) ก.ค.ศ. มีมติกาหนดภาระงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา (ทกุ สงั กดั ) ไว้ดงั ตอ่ ไปนี้ ๑. มีภาระงานด้านการบริหารวิชาการและความเป็นผู้นาทางวิชาการ ด้านการบริหารจัดการสถานศึกษา ด้านการบริหารการเปล่ียนแปลงเชิงกลยุทธ์นวัตกรรม ด้านการบริหารงานชุมชนและเครือข่าย เต็มเวลา และมีการพฒั นาตนเองและวชิ าชีพ ๒. ให้มีการปฏิบัติการสอนด้วย ซ่ึงเป็นส่วนหน่ึงของภาระงานด้านการบริหารวิชาการและความเป็น ผู้นาทางวิชาการ โดยให้ผู้ดารงตาแหน่งผู้อานวยการสถานศึกษา ปฏิบัติการสอนไม่ต่ากว่า ๕ ชั่วโมง/สัปดาห์ และรองผู้อานวยการสถานศึกษา ปฏบิ ัตกิ ารสอนไมต่ า่ กว่า ๑๐ ชัว่ โมง/สปั ดาห์ ทั้งน้ีการปฏิบัติการสอน ให้หมายถึง การปฏิบัติงานเก่ียวกับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในสถานศึกษา อย่างใดอย่างหนึง่ หรือหลายอยา่ ง ดังน้ี ๑) ปฏิบตั กิ ารสอนประจาวิชา ๒) ปฏิบัติการสอนรว่ มกับครปู ระจาชัน้ /ประจาวชิ า ๓) สงั เกตการสอนและสะท้อนผลการสอนร่วมกบั ครใู นกิจกรรมเปิดชัน้ เรียน (Open Class) ๔) เปน็ ผูน้ ากจิ กรรมแลกเปล่ียนเรียนรใู้ นชุมชนการเรยี นรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ของสถานศึกษา ๕) นเิ ทศการสอนเพ่อื เป็นพเ่ี ล้ียงการจดั กิจกรรมการเรยี นรใู้ ห้กบั ครู ๖) จดั กิจกรรมเสรมิ การเรียนรู้และอบรมบม่ นสิ ยั ผ้เู รยี น
๒๑ สว่ นท่ี ๒ แนวทำงกำรจัดทำข้อตกลงในกำรพัฒนำงำน องคป์ ระกอบของข้อตกลงในกำรพัฒนำงำน ขอ้ ตกลงในการพัฒนางาน ประกอบด้วย ๒ ส่วน ดงั ตอ่ ไปนี้ สว่ นท่ี ๑ ข้อตกลงในการพฒั นางานตามมาตรฐานตาแหน่ง ๑) การปฏิบัติงานตามมาตรฐานตาแหน่งรองผู้อานวยการสถานศึกษา/ผู้อานวยการ สถานศกึ ษา และมีภาระงานตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ๒) ผลการปฏิบัติงาน ด้านการบริหารวิชาการและความเป็นผู้นาทางวิชาการ ด้านการบริหารจัดการสถานศึกษา ด้านการบริหารการเปล่ียนแปลงเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรม ด้านการบริหารงาน ชุมชนและเครือข่าย และดา้ นการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ ส่วนท่ี ๒ ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เสนอเป็นประเด็นท้าทายเพ่ือพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ครู และสถานศึกษา โดยผู้บริหารสถานศึกษาต้องแสดงให้เห็นถึงการปรับประยุกต์ แก้ไขปัญหา ริเร่ิม พัฒนา คิดค้น ปรับเปล่ียน หรือสร้างการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ข้อตกลงในการพัฒนางานต้องมีความสอดคล้องกับ เปา้ หมายและบริบทสถานศึกษา นโยบายของสว่ นราชการและกระทรวงศึกษาธิการ แผนภำพท่ี ๒ องคป์ ระกอบ ข้อตกลงในการพฒั นางาน ท่ีมา : สานกั งาน ก.ค.ศ.
๒๒ คาชแี้ จงและการจัดทาขอ้ ตกลงในการพฒั นางาน ตำแหนง่ รองผู้อำนวยกำรสถำนศกึ ษำ “ข้อตกลงในการพัฒนางาน” (Performance Agreement : PA) หมายความว่า ข้อตกลง ท่ีรองผอู้ านวยการสถานศึกษาได้เสนอต่อผู้อานวยการสถานศึกษา เพอ่ื แสดงเจตจานงว่าภายในรอบการประเมิน จะพัฒนาคุณภาพผู้เรียน คุณภาพครู และยกระดับคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา โดยสะท้อนให้เห็นถึง ระดับการปฏิบัติท่ีคาดหวังของตาแหน่งและวิทยฐานะท่ีดารงอยู่ และสอดคล้องกับเป้าหมาย และบริบท สถานศึกษา นโยบายของสว่ นราชการและกระทรวงศึกษาธิการ โดยผู้อานวยการสถานศึกษาไดเ้ ห็นชอบให้เป็น ข้อตกลงในการพฒั นางาน รองผู้อานวยการสถานศึกษาต้องจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางานตามแบบท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ทุกปีงบประมาณ เสนอต่อผอู้ านวยการสถานศึกษาเพ่ือพิจารณาให้ความเหน็ ชอบ โดยข้อตกลงในการพัฒนางาน ประกอบด้วย ๒ สว่ น ดังตอ่ ไปนี้ ส่วนที่ ๑ ขอ้ ตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตาแหนง่ ๑) การปฏิบัตงิ านตามมาตรฐานตาแหนง่ รองผู้อานวยการสถานศึกษา และมีภาระงาน ตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด ๒) ผลการปฏิบัติงาน ด้านการบริหารวิชาการและความเป็นผู้นาทางวิชาการ ด้านการบริหารจัดการสถานศึกษา ด้านการบริหารการเปลยี่ นแปลงเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรม ด้านการบริหารงาน ชมุ ชนและเครือข่าย และดา้ นการพฒั นาตนเองและวิชาชพี ส่วนที่ ๒ ข้อตกลงในการพัฒนางานท่ีเสนอเป็นประเด็นท้าทายเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ครู และสถานศึกษา โดยผู้บริหารสถานศึกษาต้องแสดงให้เห็นถึงการปรับประยุกต์ แก้ไขปัญหา ริเริ่ม พัฒนา คดิ คน้ ปรับเปล่ยี น หรือสรา้ งการเปลย่ี นแปลง ทง้ั น้ี ขอ้ ตกลงการพัฒนางานต้องมคี วามสอดคล้องกับเป้าหมาย และบรบิ ทของสถานศึกษา นโยบายของส่วนราชการและกระทรวงศกึ ษาธิการ การจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน ควรกาหนดการดาเนินการในแต่ละกิจกรรม ให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถประเมินผลการพัฒนางานตามข้อตกลงได้อย่างชัดเจนและเป็น รูปธรรม ทั้งนี้ ในระหว่างการดาเนินการตามข้อตกลงในการพัฒนางาน กรณีท่ีรองผู้อานวยการสถานศึกษาย้าย หรอื รักษาการในตาแหน่งผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา ให้ดาเนนิ การ ดงั น้ี ก ร ณี ที่ ร อ ง ผู้ อ า น ว ย ก า ร ส ถ า น ศึ ก ษ า ย้ า ย ส ถ า น ศึ ก ษ า ร ะ ห ว่ า ง ปี ง บ ป ร ะ ม า ณ ให้จัดทาขอ้ ตกลงในการพฒั นางานกบั ผูอ้ านวยการสถานศึกษาคนใหม่ ตำแหนง่ ผู้อำนวยกำรสถำนศกึ ษำ “ข้อตกลงในการพัฒนางาน” (Performance Agreement : PA) หมายความว่า ข้อตกลง ท่ีผู้อานวยการสถานศึกษาได้เสนอต่อผู้อานวยการสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา เพื่อแสดงเจตจานงว่าภายใน รอบการประเมินจะพัฒนาคุณภาพผู้เรียน คุณภาพครู และยกระดับคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา โดยสะท้อนให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของตาแหน่งและวิทยฐานะที่ดารงอยู่ และสอดคล้องกับ เป้าหมาย และบริบทสถานศึกษา นโยบายของส่วนราชการและกระทรวงศึกษาธิการ โดยผู้อานวยการ สานกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษา ไดเ้ หน็ ชอบใหเ้ ปน็ ขอ้ ตกลงในการพฒั นางาน
๒๓ ผู้อานวยการสถานศึกษาต้องจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางานตามแบบที่ ก.ค.ศ. กาหนด ทุกปงี บประมาณ เสนอต่อผอู้ านวยการสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพอื่ พิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยขอ้ ตกลง ในการพัฒนางาน ประกอบด้วย ๒ ส่วน ดงั ตอ่ ไปน้ี สว่ นท่ี ๑ ข้อตกลงในการพฒั นางานตามมาตรฐานตาแหนง่ ๑) การปฏิบัติงานตามมาตรฐานตาแหน่งผู้อานวยการสถานศึกษา และมีภาระงาน ตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด ๒) ผลการปฏิบัติงาน ด้านการบริหารวิชาการและความเป็นผู้นาทางวิชาการ ด้านการบริหารจัดการสถานศึกษา ด้านการบริหารการเปล่ียนแปลงเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรมด้านการบริหารงาน ชมุ ชนและเครือข่าย และดา้ นการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ ส่วนท่ี ๒ ข้อตกลงในการพัฒนางานท่ีเสนอเป็นประเด็นท้าทายเพ่ือพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ครู และสถานศึกษา โดยผู้บริหารสถานศึกษาต้องแสดงให้เห็นถึงการปรับประยุกต์ แก้ไขปัญหา ริเร่ิม พัฒนา คิดค้น ปรับเปล่ียน หรือสร้างการเปลี่ยนแปลง ทั้งน้ี ข้อตกลงในการพัฒนางานต้องมีความสอดคล้องกับ เป้าหมายและบรบิ ทของสถานศกึ ษา นโยบายของส่วนราชการและกระทรวงศึกษาธิการ การจัดทาข้อตกลงในการพัฒนางาน ควรกาหนดการดาเนินการในแต่ละกิจกรรม ให้ชัดเจน เพ่ือให้สามารถประเมินผลการพัฒนางานตามข้อตกลงได้อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม ทั้งน้ี ในระหว่างการดาเนินการตามข้อตกลงในการพัฒนางาน กรณีท่ีผู้อานวยการสถานศึกษาย้าย หรือรักษาการ ในตาแหน่งผู้อานวยการสถานศกึ ษา ให้ดาเนนิ การ ดงั น้ี 1) กรณีที่ผู้อานวยการสถานศึกษาย้ายสถานศึกษาระหว่างปีงบประมาณให้จัดทา ข้อตกลงในการพฒั นางานกบั ผ้อู านวยการสานักงานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาคนใหม่ 2) กรณีท่ีรองผู้อานวยการสถานศึกษาได้รับการแต่งต้ังให้รักษาการในตาแหน่ง ผู้อานวยการสถานศึกษา ให้จัดทาข้อตกลงในการพัฒนางานในตาแหน่งรองผู้อานวยการสถานศึกษา กับผอู้ านวยการสานักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษา 3) กรณีท่ีข้าราชการครูได้รับการแต่งตั้งให้รักษาการในตาแหน่งผู้อานวยการ สถานศึกษา ให้จัดทาขอ้ ตกลงในการพัฒนางานในตาแหนง่ ครู กับผอู้ านวยการสานกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษา แบบขอ้ ตกลงในกำรพัฒนำงำน (PA) สาหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา (ทุกวิทยฐานะ) (ศึกษาเพิ่มเติมจากคู่มือการดาเนินการตามหลักเกณฑ์ประเมินตาแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและ บคุ ลากรทางการศึกษา ตาแหน่งผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา สานักงาน ก.ค.ศ. ) 1. แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน (แบบ PA ๑/บส) สาหรบั ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งผู้บรหิ ารสถานศึกษา (ยงั ไม่มวี ิทยฐานะ) 2. แบบขอ้ ตกลงในการพฒั นางาน (แบบ PA ๑/บส) สาหรบั ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา ตาแหนง่ ผบู้ ริหารสถานศึกษา (วิทยฐานะชานาญการ) 3. แบบขอ้ ตกลงในการพัฒนางาน (แบบ PA ๑/บส) สาหรับขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งผบู้ รหิ ารสถานศึกษา (วิทยฐานะชานาญการพเิ ศษ) 4. แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน (แบบ PA ๑/บส) สาหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งผ้บู รหิ ารสถานศึกษา (วทิ ยฐานะเช่ียวชาญ) 5. แบบขอ้ ตกลงในการพัฒนางาน (แบบ PA ๑/บส) สาหรบั ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา ตาแหนง่ ผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา (วิทยฐานะเชีย่ วชาญพเิ ศษ)
๒๔ ข้อเสนอแนะ แนวทำงกำรดำเนนิ กำรจดั ทำข้อตกลงในกำรพฒั นำงำน ๑. รูปแบบการจัดทาบันทึกข้อตกลงในการพัฒนางานฯ ตามแบบ PA ๑ ให้เป็นไปตามบริบทและ การบริหารและการจัดการศึกษาของสถานศึกษาท่ีรับผิดชอบ ท้ังน้ี งาน (Tasks) ที่เสนอเป็นข้อตกลงในการ พัฒนางานฯ จะต้องสะท้อนให้เห็นถึงการปฏิบัติงานตามมาตรฐานตาแหน่งมาตรฐานวิทยฐานะและ ภาระงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา และคณะกรรมการ ประเมนิ ผลการพฒั นางานตามข้อตกลงสามารถประเมินไดต้ ามแบบการประเมิน PA ๒ ๒. การนาเสนอและการประเมิน “ผลลัพธ์ (Outcomes) หรือตัวชี้วัด (Indicators)” ไม่เน้นรูปแบบ เอกสาร ให้ใช้วิธีการนาเสนอและประเมินเชิงประจักษ์ โดยพิจารณาจากการบริหารและการจัดการศึกษา มีผลลพั ธท์ เี่ กิดข้นึ กับผเู้ รียน ครู และสถานศกึ ษาตามตวั ชว้ี ดั ทก่ี าหนดไว้ในขอ้ ตกลงฯ เปน็ สาคญั
๒๕ ส่วนที่ ๓ แนวทำงกำรเขียนขอ้ ตกลงในกำรพัฒนำงำน (PA) สำยงำนผูบ้ ริหำรสถำนศกึ ษำ ข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) ของรองผู้อานวยการสถานศึกษาและผู้อานวยการสถานศึกษา ต้องการผลลัพธ์ ให้เกิดคุณภาพผู้เรียน คุณภาพครู และคุณภาพสถานศึกษา สอดคล้องกับเป้าหมาย และบริบทสถานศึกษา ซึ่งผู้จัดทาข้อตกลงในการพัฒนางานจะต้องเขียนตามแบบท่ี ก.ค.ศ. กาหนด คือ PA ๑/บส ซ่ึงมีองค์ประกอบสาคัญ ๒ ส่วน ได้แก่ ส่วนท่ี ๑ ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตาแหน่ง และส่วนที่ ๒ ข้อตกลงในการพัฒนางาน ทเ่ี ป็นประเดน็ ท้าทายในการพฒั นาคณุ ภาพผู้เรียน ครแู ละสถานศึกษา โดยมแี นวทางการเขยี น ดงั ต่อไปน้ี ๑. ให้กรอกแบบข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) ตามแบบ PA ๑/บส ให้ตรงตามตาแหน่งและวทิ ยฐานะ ของผูจ้ ดั ทาขอ้ ตกลง ๒. กรอกปีงบประมาณ พ.ศ. ............ ของปีท่ีทาข้อตกลงในการพัฒนางาน และระบุระหว่างวันที่ ๑ เดือนตุลาคม........... ของวนั ท่ีเริม่ ต้นปงี บประมาณ จนถงึ วนั ที่ ๓๐ เดือนกันยายน............ ของวนั ส้นิ ปงี บประมาณ ๓. กรอกข้อมูลของผู้จัดทาข้อตกลง ได้แก่ ช่ือ สกุล ตาแหน่ง วิทยฐานะ สถานศึกษา สังกัด อันดับ คศ.......... อัตราเงินเดือน ในวันท่ีเขยี นขอ้ ตกลง ๔. ทาเคร่ืองหมาย ลงในช่อง ที่ตรงกับประเภทของสถานศึกษา ซ่ึงอาจกรอกระดับภาระงานที่รับผิดชอบ ไดห้ ลายระดับ สว่ นที่ ๑ ข้อตกลงในกำรพัฒนำงำนตำมมำตรฐำนตำแหน่ง ๑) ภาระงาน ตามมาตรฐานตาแหน่ง ๕ ด้าน ให้เลือกทาเครื่องหมาย ลงในช่อง ทีต่ รงกับการปฏบิ ัติภาระงานของผู้จัดทาข้อตกลง วรรคสอง ภาระงานด้านวชิ าการและความเป็นผู้นาทางวิชาการให้เลือกทาเคร่ืองหมาย ลงในชอ่ ง ที่ตรงกับการปฏบิ ตั ภิ าระงานของผู้จัดทาขอ้ ตกลง ซึง่ อาจเลือกไดห้ ลายข้อ
๒๖ ๒) งานท่ีจะปฏิบตั ิตามมาตรฐานตาแหน่งผบู้ ริหารสถานศกึ ษา ให้ผูจ้ ัดทาขอ้ ตกลงในการพัฒนางาน แสดงเจตจานงในการจัดทาขอ้ ตกลงในการพัฒนางาน ตามตาแหน่งและวิทยฐานะทด่ี ารงอยู่ในปัจจุบนั กับผู้บังคบั บัญชา โดยระบรุ ายละเอียดของงานท่ีจะปฏิบัติในแตล่ ะด้าน ว่าจะดาเนินการอย่างไร ซ่ึงอาจระบุระยะเวลาท่ีใช้ในการดาเนินการด้วยก็ได้ ในตารางตามแบบข้อตกลง ในการพฒั นางานที่ ก.ค.ศ. กาหนด ได้แก่ ลักษณะงำนท่ีปฏิบตั ิ งำน(Tasks) ผลลัพธ(์ Outcomes) ตัวชวี้ ดั (Indicators) ตำมมำตรฐำนตำแหน่ง ที่จะดาเนินการพัฒนาตาม ของงานตามขอ้ ตกลง ที่จะเกิดข้ึนกับผู้เรียน ครู ท่คี าดหวงั ให้เกิดขึน้ และสถานศึกษา ที่แสดง ขอ้ ตกลงใน กับผู้เรียน ครู และ ใหเ้ ห็นถึงการเปล่ียนแปลง สถานศึกษา (โปรดระบุ) ในทางที่ดีข้ึนหรือมีการ ๑ รอบการประเมิน (โปรดระบ)ุ พั ฒ น า ม า ก ข้ึ น ห รื อ ผลสัมฤทธิ์สูงข้ึน (โปรด ระบ)ุ ก.ค.ศ. ได้ระบลุ กั ษณะงานที่ ดาเนนิ การพฒั นาตามข้อตกลง ระบผุ ลลัพธ์จากงาน ระบตุ ัวชีว้ ดั ทั้งด้าน ปฏิบัตติ ามมาตรฐาน ใน ๑ รอบการประเมิน เพ่อื ให้ (Tasks) ท่ีระบวุ า่ ปรมิ าณและคุณภาพ ตาแหน่งผ้บู รหิ าร ผู้จดั ทาขอ้ ตกลงระบงุ านที่จะ จะดาเนินการตาม ซ่งึ เปน็ ผลลัพธท์ จี่ ะเกดิ สถานศกึ ษาไว้ ๕ ด้าน ไดแ้ ก่ ดาเนนิ การ ใหค้ รอบคลมุ และ ข้อตกลงในตารางช่องที่ ขึน้ กับผู้เรียน ครู และ 1) ด้านการบรหิ ารวชิ าการ เป็นไปตามลักษณะงานท่ี ๒ ท่คี าดหวังให้เกิด สถานศกึ ษาท่ีแสดงใหเ้ ห็น และความเปน็ ผ้นู าทาง ปฏิบตั ติ ามมาตรฐานตาแหน่ง ขึ้นกบั ผเู้ รยี น ครู และ ถงึ การเปล่ยี นแปลงในทาง วิชาการ โดยระบรุ ายละเอยี ดให้ สถานศึกษา ทด่ี ขี ้นึ หรือมีการพัฒนา 2) ดา้ นการบริหารจัดการ สะท้อนตามระดบั การปฏิบัติท่ี มากขน้ึ หรือผลสัมฤทธิ์ สถานศึกษา คาดหวงั ในตาแหนง่ และวทิ ย สูงขึน้ 3) ด้านการบรหิ ารการ ฐานะ เชน่ ปรับประยุกต์ เปล่ียนแปลงเชงิ กลยุทธแ์ ละ แกไ้ ขปญั หา ริเรมิ่ พฒั นา นวัตกรรม คิดคน้ ปรบั เปลย่ี น และสรา้ ง 4) ดา้ นการบรหิ ารงาน การเปล่ยี นแปลง เป็นตน้ ชมุ ชนและเครือข่าย 5) ด้านการพฒั นาตนเอง และวิชาชพี แนวทางการเขียนข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) (แบบภาพรวม) มีแนวทางการเขียน ข้อตกลงท่ีสาคัญจากการวิเคราะห์สภาพปัญหา ท่ีมาและแรงบันดาลใจจากการบริหารจัดการสถานศึกษา และคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาในรอบปีหรือในภาคเรียนท่ีผ่านมา ตามเป้าหมายภาระงานและหน้าท่ี รับผิดชอบหลักตามบริบทของสถานศึกษา นโยบายของส่วนราชการและกระทรวงศึกษาธิการ ท่ีส่งผลโดยตรง ต่อผลลัพธ์ในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ครูและสถานศึกษา แล้วเลือกปัญหาหรือคุณภาพท่ีส่งผลต่อผลลัพธ์ ในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ครูและสถานศึกษา ที่เป็นประเด็นท่ีสาคัญ และนามากาหนดเป็นข้อตกลง ในการพัฒนางานให้สอดคล้องกับระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง ของตาแหน่งและวิทยฐานะหรือสูงกว่าของผู้จัดทา ข้อตกลงในการพัฒนางาน พร้อมทง้ั ระบุเรือ่ งของประเด็นทา้ ทายตามข้อตกลงในการพฒั นางาน
๒๗ ส่วนท่ี ๒ ขอ้ ตกลงในกำรพฒั นำงำนที่เปน็ ประเด็นทำ้ ทำยในกำรพฒั นำคณุ ภำพผู้เรียน ครแู ละสถำนศกึ ษำ ให้ผู้จัดทาข้อตกลงในการพัฒนางานระบุเรื่องของประเด็นท้าทายที่สะท้อนให้เห็นถึงระดับ การปฏิบัติท่ีคาดหวังตามตาแหน่งและวิทยฐานะหรือสูงกว่า แล้วเขียนบรรยายรายละเอียดของประเด็น ท้าท้ายเกี่ยวกับสภาพปัญหา ที่มาและแรงบันดาลใจ วิธีการดาเนินการให้บรรลผุ ลและผลลัพธ์การพัฒนาท่ีคาดหวัง ดงั ต่อไปนี้ ๑) สภาพปัญหาการบริหารจัดการสถานศึกษาและคุณภาพของสถานศึกษา เขียนบรรยายถึงสภาพปัญหาจากการวิเคราะห์ผลการบริหารจัดการสถานศึกษาท่ีส่งผล ต่อผลลัพธ์ในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ครูและสถานศึกษา ท่ีผู้จัดทาข้อตกลงเลือกมาเป็นประเด็นท้าทาย อาจระบุถงึ ผลการวเิ คราะหแ์ ละแหล่งทม่ี าของข้อมูลทีเ่ ชือ่ ถือได้ ตามบริบทของสถานศึกษา ๒) วิธกี ารดาเนินการให้บรรลุผล เขียนบรรยายและระบถุ ึงวิธีการ หรือส่ือ หรือนวัตกรรม หรือเทคโนโลยีที่นามาใช้ในการแก้ไข ปัญหาผลลัพธ์ในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ครูและสถานศึกษา ตามบริบทของสถานศึกษา ควรระบุถึงเครื่องมือ กระบวนการหรือข้นั ตอนในการดาเนินการใหบ้ รรลผุ ลตามเปา้ หมายของประเดน็ ทา้ ทาย ๓) ผลลพั ธ์การพัฒนาทคี่ าดหวงั ๓.๑) เชงิ ปรมิ าณ เขียนระบถุ ึงจานวน หรือปรมิ าณ หรือรอ้ ยละของผลลัพธ์ท่เี กิดข้ึนของผู้เรียน หรอื ครู หรือสถานศึกษา สะท้อนให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติงานที่คาดหวังตามตาแหน่งและวิทยฐานะหรือสูงกว่าได้ ท้ังน้ี อาจระบเุ ป็นข้อๆ ๓.๒) เชงิ คุณภาพ เขียนระบุถึงคุณภาพของผู้เรียน หรือครู หรือสถานศึกษาที่แสดงให้เห็นถึง การเปล่ียนแปลงไปในทางท่ีดีข้ึน หรือมีการพัฒนามากข้ึน หรือผลสัมฤทธิ์สูงข้ึน ที่สะท้อนให้เห็นถึงระดับ การปฏบิ ัติงานทคี่ าดหวงั ตามตาแหน่งและวทิ ยฐานะหรือสูงกว่าได้ ทงั้ นี้ อาจระบเุ ปน็ ขอ้ ๆ
๒๘ ส่วนที่ ๔ แนวทำงกำรประเมนิ ผลกำรพฒั นำงำนตำมขอ้ ตกลงในกำรพฒั นำงำน คณะกรรมการประเมิน ประเมินผลการพัฒนางานตามข้อตกลงของผู้บริหารสถานศึกษาตามระดับการปฏิบัติ ท่ีคาดหวังของตาแหน่งและวิทยฐานะท่ี ก.ค.ศ. กาหนดในแบบประเมินนี้ โดยการประเมินผลการพัฒนางานตาม ขอ้ ตกลงใหด้ าเนนิ การประเมินตามองค์ประกอบที่กาหนด องค์ประกอบกำรประเมินผลกำรพัฒนำงำนตำมข้อตกลง การประเมินผลการพัฒนางานตามข้อตกลง สาหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่ง ผบู้ ริหารสถานศกึ ษา สังกัดสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน ใหป้ ระเมินตามระดบั การปฏิบตั ิที่คาดหวัง ของตาแหน่งและวิทยฐานะที่ ก.ค.ศ. กาหนด ตามแบบประเมินโดยการประเมินให้ดาเนินการตามองค์ประกอบ ทก่ี าหนด มี 2 ส่วน ดงั น้ี ส่วนท่ี ๑ ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตาแหนง่ (คะแนนเต็ม ๖๐ คะแนน) ประกอบด้วย ๑) การปฏบิ ัตงิ านตามมาตรฐานตาแหน่งผบู้ รหิ ารสถานศึกษา และมีภาระงานตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ๒) ผลการปฏิบัติงานตามมาตรฐานตาแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา เป็นการประเมินผล การปฏิบัติงานตามหน้าที่และความรับผิดชอบของตาแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา ตามที่กาหนดไว้ในมาตรฐานตาแหน่ง ท้งั ๕ ด้าน จานวน ๑๕ ตวั ชว้ี ดั ดงั นี้ ด้านที่ ๑ ด้านการบริหารวชิ าการและความเปน็ ผนู้ าทางวชิ าการ จานวน ๖ ตวั ช้วี ดั 1) การวางแผนพัฒนามาตรฐานการเรียนรูข้ องผเู้ รียน 2) การจดั ทาและพฒั นาหลักสตู รสถานศึกษา 3) การพัฒนากระบวนการจัดการเรยี นรู้ทเี่ น้นผเู้ รยี นเปน็ สาคญั และปฎบิ ัตกิ ารสอน 4) การส่งเสริมและสนับสนุน และการพัฒนาหรือการนาส่ือนวัตกรรมและเทคโนโลยี ทางการศึกษามาใช้ในการจดั การเรียนรู้ 5) การนิเทศ กากับ ติดตาม และประเมนิ ผลการจัดการเรยี นรขู้ องครูในสถานศึกษา และมีประกันคณุ ภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา 6) การศึกษา วิเคราะห์ เพ่ือแก้ปัญหาและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ เพื่อยกระดับ คณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศกึ ษา ด้านที่ ๒ ด้านการบรหิ ารจดั การสถานศึกษา จานวน ๓ ตัวช้วี ดั 1) การบรหิ ารจดั การการสถานศึกษาให้เปน็ ไปตาม กฎหมาย ระเบยี บ ข้อบังคับ นโยบาย และตามหลกั บริหารกิจการบ้านเมอื งทดี่ ี 2) การบรหิ ารกิจการผเู้ รียนและการสง่ เสริมพฒั นาผเู้ รยี น 3) การจัดระบบดูแลชว่ ยเหลอื ผู้เรียน ด้านท่ี ๓ ด้านการบริหารการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรม จานวน ๒ ตัวช้วี ัด 1) การกาหนดนโยบาย กลยุทธ์ การใช้เคร่ืองมือหรือนวตั กรรมทางการบริหาร 2) การบริหารการเปลี่ยนแปลงและนวตั กรรมในสถานศึกษาเพ่ือพฒั นาสถานศึกษา ด้านที่ ๔ ด้านการบริหารงานชุมชนและเครอื ข่าย จานวน ๒ ตวั ช้วี ัด 1) การสร้างและพฒั นาเครือข่ายเพือ่ พฒั นาการเรยี นรู้ 2) การจดั ระบบการให้บริการในสถานศึกษา
๒๙ ดา้ นที่ ๕ ด้านการพฒั นาตนเองและวิชาชพี จานวน ๒ ตวั ช้วี ดั 1) การพฒั นาตนเองและวิชาชพี 2) การนาความรู้ ทักษะ ที่ได้จาการพัฒนาตนเองและวิชาชีพมาใช้ในการพัฒนา การบรหิ ารจัดการสถานศึกษา ทส่ี ง่ ผลต่อคณุ ภาพผูเ้ รียน ครู และสถานศกึ ษา ส่วนที่ ๒ ข้อตกลงในการพัฒนางานท่ีเสนอเป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ครู และสถานศกึ ษา (คะแนนเต็ม ๔๐ คะแนน) โดยมรี ะดับการปฏบิ ตั ิทค่ี าดหวัง และระดบั คะแนนและคณุ ภาพการประเมนิ ดังน้ี ๑) ระดบั การปฏบิ ตั ทิ คี่ าดหวังในตาแหนง่ และวทิ ยฐานะ ก. กรณีท่ียงั ไม่มีวิทยฐำนะ ตำแหนง่ ระดับกำรปฏบิ ัตทิ ่ีคำดหวงั รำยละเอียด รองผู้อานวยการสถานศึกษา ปรับประยุกต์ สามารถปรบั ประยุกต์การบริหารจัดการ ผู้อานวยการสถานศกึ ษา (Apply and Adapt) สถานศึกษา และปฏบิ ตั งิ านจนปรากฏ ผลลัพธ์กบั ผเู้ รียน ครู และสถานศึกษา ได้ตามมาตรฐานตาแหนง่ ข. กรณที ่ีมีวิทยฐำนะ วิทยฐำนะ ระดับกำรปฏิบตั ิที่คำดหวัง รำยละเอยี ด สามารถแก้ไขปัญหาคุณภาพผูเ้ รียน ครู รองผู้อานวยการ/ แกไ้ ขปัญหา และสถานศึกษา ผอู้ านวยการชานาญการ (Solve the Problem) สามารถริเรมิ่ พฒั นาคุณภาพผู้เรยี น ครู รองผอู้ านวยการ/ รเิ ร่ิม พัฒนา และสถานศึกษา ผ้อู านวยการชานาญการพิเศษ (Originate & Improve) สามารถคิดคน้ พัฒนานวัตกรรมและ รองผู้อานวยการ/ คดิ ค้น ปรับเปลีย่ น ปรบั เปลยี่ น ใหค้ ณุ ภาพผู้เรยี น ครู ผู้อานวยการเช่ียวชาญ (Invent & Transform) และสถานศึกษาสูงขนึ้ เป็นแบบอย่างท่ีดี และใหค้ าปรึกษาผู้อน่ื ผูอ้ านวยการ สรา้ งการเปล่ียนแปลง สามารถคดิ คน้ พัฒนา นวัตกรรม เผยแพร่ เช่ยี วชาญพเิ ศษ (Create an Impact) และขยายผล จนนาไปสู่การเปลี่ยนแปลง ในวงวชิ าชพี เปน็ แบบอย่างที่ดี ใหค้ าปรกึ ษา ผูอ้ ่นื และเปน็ ผู้นา
๓๐ ๒) ระดบั คะแนนและคุณภาพการประเมนิ ในแต่ละตาแหนง่ และวทิ ยฐานะ ให้ผู้ประเมินพิจารณาผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารสถานศึกษาจากการปฏิบัติงานจริง ท่ีได้ปฏิบัติงานตามลักษณะงานที่ปฏิบัติตามมาตรฐานตาแหน่ง โดยคานึงถึงสภาพการบริหารจัดการสถานศึกษา ในบริบทของแต่ละสถานศึกษา และผลลัพธ์ในการพัฒนาการบริหารสถานศึกษาที่เกิดจากการพัฒนางาน ตามข้อตกลงเป็นสาคัญ ไม่เน้นการประเมินจากเอกสาร โดยให้ตรวจสอบข้อมูลจากบุคคลและหรือหน่วยงาน และหลักฐานที่แสดงว่าผู้ขอรับการประเมินได้ดาเนินการตามตัวชี้วัด เช่น รายงานผลการพัฒนาการจัดการศึกษา กลยุทธ์ การใช้เครื่องมือ หรือนวัตกรรมทางการบริหาร ผลลัพธ์ในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ครู และสถานศึกษา ก่อนตดั สินใจใหค้ ะแนนตามระดบั คณุ ภาพในแบบประเมินผลการปฏิบัตงิ าน ดงั นี้ คะแนน ระดบั คุณภำพ รำยละเอียด ๑ ปฏิบตั ไิ ด้ตา่ กว่าระดบั ไม่ปรากฏผลการปฏิบตั งิ านได้ตามมาตรฐานตาแหนง่ /มาตรฐาน ๒ ท่ีคาดหวงั มาก วิทยฐานะที่ดารงอยู่ มกี ารปฏบิ ตั งิ านตามมาตรฐานตาแหนง่ ในตวั ชี้วดั นัน้ อย่บู า้ ง ๓ ปฏบิ ตั ิได้ต่ากวา่ ระดบั แต่ไม่ครบถ้วน และไม่มีคุณภาพตามมาตรฐานตาแหน่ง/มาตรฐาน ๔ ท่คี าดหวงั วิทยฐานะทีด่ ารงอยู่ มีการปฏิบัติงานตามมาตรฐานตาแหน่ง และมคี ณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิไดต้ ามระดบั ตามมาตรฐานตาแหน่ง/มาตรฐานวิทยฐานะท่ีดารงอยู่ ที่คาดหวัง มกี ารปฏบิ ัตงิ านตามมาตรฐานตาแหนง่ และมีคุณภาพสงู กวา่ มาตรฐานตาแหน่ง/มาตรฐานวิทยฐานะทด่ี ารงอยู่ ปฏบิ ตั ไิ ดส้ งู กวา่ ระดับ ที่คาดหวัง เกณฑก์ ำรให้คะแนน การประเมินสว่ นที่ ๒ ข้อตกลงในการพฒั นางานที่เสนอเป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ครู และสถานศึกษา กาหนดให้มีเกณฑ์การให้คะแนนตามระดับคุณภาพ ๔ ระดับ คือ ระดับ ๔ ระดับ ๓ ระดับ ๒ และระดบั ๑ ในแตล่ ะระดบั คณุ ภาพกาหนดค่าคะแนน ไว้ดงั น้ี ระดบั คณุ ภำพ คำ่ คะแนนที่ได้ คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนนเตม็ ๒๐ ๔ ๑๐.๐๐ ๒๐.๐๐ ๓ ๗.๕๐ ๑๕.๐๐ ๒ ๕.๐๐ ๑๐.๐๐ ๑ ๒.๕๐ ๕.๐๐
๓๑ กำรตงั้ คณะกรรมกำรประเมิน การประเมินผู้บรหิ ารสถานศึกษา สังกัดสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ให้มีการแต่งต้ัง คณะกรรมการประเมนิ ผลการพฒั นางานตามข้อตกลง ดงั นี้ 1. ตาแหน่งรองผ้อู านวยการสถานศึกษา ให้ผู้อานวยการสถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินผลการพัฒนางานตามข้อตกลง จานวน ๓ คน ประกอบด้วย 1) ผูอ้ านวยการสถานศึกษาน้นั เป็นประธานกรรมการ 2) ผ้ทู ี่ดารงตาแหน่งหรือเคยดารงตาแหนง่ ศึกษานิเทศก์ ทม่ี ีวทิ ยฐานะไมต่ ่ากวา่ ศึกษานิเทศก์ชานาญการพิเศษ หรือผู้ทรงคุณวุฒิในสถาบันอุดมศึกษาที่มีความรู้ ความสามารถเหมาะสม และดารง ตาแหน่งไม่ต่ากว่าผู้ช่วยศาสตราจารย์ หรือผู้อานวยการสถานศึกษาจากสถานศึกษาอื่น ท่ีมีวิทยฐานะไม่ต่ากว่า ผ้อู านวยการชานาญการพิเศษ หรือผทู้ รงคณุ วฒุ ิทม่ี ีความรู้ ความสามารถเหมาะสม จานวน ๒ คน เปน็ กรรมการประเมิน ก ร ณี ท่ี ผู้ อ า น ว ย ก า ร ส ถ า น ศึ ก ษ า น้ั น ไ ม่ อ า จ ป ร ะ เ มิ น ผ ล ก า ร พั ฒ น า ง า น ต า ม ข้ อ ต ก ล ง ของรองผู้อานวยการสถานศึกษาด้วยเหตุใด ๆ ให้แต่งต้ังผู้อานวยการสถานศึกษาใกล้เคียงทมี่ ีความรู้ ความสามารถ เหมาะสม เป็นประธานกรรมการประเมินแทน 2. ตาแหนง่ ผู้อานวยการสถานศึกษา ให้ผอู้ านวยการสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาแต่งตงั้ คณะกรรมการประเมินผลการพฒั นางาน ตามข้อตกลง จานวน ๓ คน ประกอบด้วย 1) ผู้อานวยการสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาน้ันหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เป็นประธาน กรรมการ 2) ผู้ทรงคุณวุฒิในสถาบันอุดมศึกษาท่ีมีความรู้ ความสามารถเหมาะสม และดารง ตาแหน่งไม่ต่ากว่าผู้ช่วยศาสตราจารย์ หรือผู้อานวยการสถานศึกษาอื่นที่มีวิทยฐานะไม่ต่ากว่าวิทยฐานะผู้อานวยการ ชานาญการพิเศษ หรอื ผ้ทู รงคณุ วุฒทิ ีม่ คี วามรคู้ วามสามารถเหมาะสม จานวน ๒ คน เป็นกรรมการประเมิน วธิ ีกำรประเมิน ให้คณะกรรมการประเมิน ประเมินผลการพัฒนางานตามข้อตกลงของผู้บริหารสถานศึกษาในแต่ละรอบ การประเมิน โดยพิจารณาประเมินตามระดับการปฏิบัติท่ีคาดหวังของตาแหน่งและวิทยฐานะ ตามแบบท่ี ก.ค.ศ. กาหนด กรณผี ู้ดารงตาแหน่งรองผู้อานวยการสถานศึกษา ให้ผูอ้ านวยการสถานศึกษาเป็นผ้รู ับผิดชอบระบบ DPA สาหรับผู้ดารงตาแหน่งผู้อานวยการสถานศึกษา ให้ผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา เป็นผู้รับผิดชอบ ระบบ DPA และให้ผู้รับผิดชอบระบบ DPA นาข้อมูลผลการประเมินการพัฒนางานตามข้อตกลง ในแต่ละรอบการประเมิน ของผู้บริหารสถานศึกษาแต่ละรายเข้าสู่ระบบดังกล่าว เป็นประจาทุกรอบการประเมิน โดยให้ดาเนินการตามคู่มือ การใช้งานระบบ DPA ที่ ก.ค.ศ. กาหนด เกณฑ์กำรตดั สิน ผู้บริหารสถานศึกษาต้องมีภาระงานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด และมีผลการประเมินการพัฒนางาน ตามข้อตกลงผา่ นเกณฑ์ โดยต้องไดค้ ะแนนจากกรรมการแต่ละคน ไมต่ า่ กว่ารอ้ ยละ ๗๐
๓๒ สว่ นท่ี ๕ กำรขอมีวิทยฐำนะหรือเลื่อนวทิ ยฐำนะ การขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ สานักงาน ก.ค.ศ. ได้กาหนดแบบเสนอขอรับการประเมินของ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ท่ีจะขอรับการประเมินต้องยึดรูปแบบตามที่สานักงาน ก.ค.ศ. กาหนด เทา่ น้ัน จงึ จะได้รับการประเมนิ โดยมหี ลักเกณฑก์ ารขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ดังต่อไปน้ี ตำแหน่ง รองผู้อำนวยกำรสถำนศกึ ษำ ขอมีวทิ ยฐำนะรองผู้อำนวยกำรชำนำญกำรและเล่ือนเป็นวิทยฐำนะรองผู้อำนวยกำรชำนำญกำรพเิ ศษ หลกั เกณฑ์ ๑. ผู้ขอมีวิทยฐานะรองผู้อานวยการชานาญการหรือขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะรองผู้อานวยการชานาญการพิเศษ ตอ้ งมคี ุณสมบตั ินับถงึ วนั ทย่ี นื่ คาขอ ดงั ต่อไปนี้ ๑.๑ การขอมีวิทยฐานะรองผู้อานวยการชานาญการ ต้องมีระยะเวลาการดารงตาแหน่ง รองผู้อานวยการสถานศึกษา มาแล้วไมน่ อ้ ยกวา่ ๔ ปีติดตอ่ กัน หรือดารงตาแหน่งอื่นท่ี ก.ค.ศ. เทียบเท่า สาหรับการขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะรองผู้อานวยการชานาญการพิเศษ ต้องมีระยะเวลา การดารงตาแหน่งรองผู้อานวยการสถานศึกษา วิทยฐานะรองผู้อานวยการชานาญการ มาแล้วไม่น้อยกว่า ๔ ปีติดต่อกัน หรือดารงตาแหน่งอ่นื ท่ี ก.ค.ศ. เทยี บเทา่ ๑.๒ มีการพัฒนางานตามข้อตกลงในตาแหน่งรองผู้อานวยการสถานศึกษา หรือในวิทยฐานะ รองผู้อานวยการชานาญการ แล้วแต่กรณี ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง ๓ รอบการประเมิน โดยในแต่ละรอบการประเมิน ต้องมภี าระงานเป็นไปตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนดและมีผลการประเมนิ ไมต่ ่ากวา่ รอ้ ยละ ๗๐ ๑.๓ มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง ๔ ปี ต้องไม่เคยถูกลงโทษทางวินัยที่หนักกว่าโทษภาคทัณฑ์ หรือไม่เคยถูกวินิจฉัยช้ีขาดทางจรรยาบรรณวิชาชีพ ท่ีหนักกว่าภาคทัณฑ์ หากปีใดรองผู้อานวยการสถานศึกษาถูกลงโทษทางวินัยหนักกว่าโทษภาคทัณ ฑ์ หรือถูกวินิจฉัยช้ีขาดทางจรรยาบรรณวิชาชีพท่ีหนักกว่าภาคทัณฑ์ ไม่ให้นาระยะเวลาในปีน้ันมาใช้เป็นคุณสมบัติ ตามขอ้ นี้ กรณีผู้ขอมีคุณสมบัติเป็นไปตามเง่ือนไขการลดระยะเวลาในการดารงตาแหน่งหรือการดารง วิทยฐานะของผู้ขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ให้ลดระยะเวลาตามหลักเกณฑ์ ข้อ ๑.๑ เหลือ ๓ ปีติดต่อกัน มีการพัฒนางานตามข้อตกลง ตามหลักเกณฑ์ ข้อ ๑.๒ จานวน ๒ รอบการประเมิน และลดช่วงระยะเวลาตามหลักเกณฑ์ ข้อ ๑.๓ เหลอื ๓ ปี สาหรับรองผู้อานวยการสถานศึกษาที่ปฏิบัติงานในพื้นท่ีพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนใต้ จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา (เฉพาะพื้นท่ีอาเภอเทพา สะบ้าย้อย นาทวี และจะนะ) หากประสงค์จะขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ โดยใช้สิทธินับระยะเวลาทวีคูณ ตามระเบียบ สานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยบาเหน็จความชอบสาหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๐ ให้ใช้สิทธินับระยะเวลาทวีคูณได้ในคุณสมบัติ ข้อ ๑.1 โดยต้องมีการพัฒนางานตามข้อตกลง ตามข้อ ๑.๒ ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง จานวน 1 รอบการประเมิน มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ ตามข้อ ๑.๓ ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง ๒ ปี และเป็นรองผู้อานวยการสถานศึกษาที่ปฏิบัติงานอยู่ในพ้ืนที่พิเศษ เฉพาะกิจจงั หวัดชายแดนใต้ จังหวัดยะลา ปตั ตานี นราธวิ าส และสงขลา (เฉพาะพนื้ ทอี่ าเภอเทพา สะบ้ายอ้ ย นาทวี และจะนะ) มาแล้วไม่นอ้ ยกวา่ ๑ ปีติดตอ่ กัน นับถงึ วันที่ยื่นคาขอ ทั้งนี้ ให้ผู้ขอและผู้อานวยการสถานศึกษา เป็นผู้รับรองข้อมูล หลักฐาน และคุณสมบัติของผู้ขอ หากภายหลังตรวจสอบแล้วพบว่ามีคุณสมบตั ิไม่เป็นไปตามหลกั เกณฑ์นี้ ให้ถอื วา่ เป็นผขู้ าดคณุ สมบตั ิ
๓๓ ๒. ผขู้ อต้องผ่านการประเมิน ๒ ด้าน ดังน้ี ด้ำนท่ี ๑ ด้านทักษะการวางแผนพัฒนาสถานศึกษา กลยุทธ์ การใช้เครื่องมือหรือนวัตกรรม ทางการบรหิ าร พจิ ารณาจาก ๑) รายงานผลการดาเนินการตามแผนพัฒนาสถานศึกษา กลยุทธ์ การใช้เครื่องมือ หรือนวัตกรรมทางการบริหาร ตามโครงการหรือกิจกรรมในแผนพัฒนาสถานศึกษา ในรูปแบบไฟล์ PDF ซ่ึงผู้ขอได้พัฒนาขึ้นและนาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาจริงในช่วงที่ดารงตาแหน่ง รองผู้อานวยการสถานศกึ ษา หรือดารงวิทยฐานะรองผอู้ านวยการชานาญการ แลว้ แตก่ รณี ๒) การนาเสนอการพัฒนาสถานศึกษา กลยุทธ์ การใช้เครื่องมือหรือนวัตกรรมทางการบริหาร ตามโครงการหรือกิจกรรมในแผนพัฒนาสถานศึกษาที่เสนอในข้อ ๑) โดยแสดงให้เห็นถึงสภาพปัญหา ที่มา หรือแรงบันดาลใจ ระดับการปฏิบัติท่ีคาดหวังตามมาตรฐานวิทยฐานะที่ขอรับการประเมิน และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น จากการดาเนินการตามโครงการหรือกิจกรรม ที่ส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียน ครู และสถานศึกษา ทั้งน้ี ให้นาเสนอ เปน็ ไฟล์วีดิทศั นต์ ามรูปแบบที่ ก.ค.ศ. กาหนด จานวน ๑ ไฟล์ ด้ำนท่ี ๒ ด้านผลลัพธ์ในการพัฒนาการบริหารสถานศึกษา พิจารณาจาก ผลงานหรือผลการปฏิบัติ ของครู หรือผลการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา ท่ีมีการเปล่ียนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น หรือมีการพัฒนามากข้ึน หรือเป็นต้นแบบ และส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียน ตามท่ีเสนอไว้ในด้านที่ ๑ โดยให้นาเสนอในรูปแบบไฟล์วีดิทัศน์ ตามรูปแบบท่ี ก.ค.ศ. กาหนด จานวน ๑ ไฟล์ ๓. การประเมินด้านที่ ๑ และด้านท่ี ๒ ให้มีคณะกรรมการประเมิน จานวน ๓ คน โดยประเมินผ่านระบบ DPA ตามแบบที่ ก.ค.ศ. กาหนด ๔. เกณฑก์ ารตดั สิน ผ้ทู ผี่ ่านเกณฑ์การประเมนิ ต้องได้คะแนนแต่ละด้าน ดงั น้ี ด้ำนที่ ๑ ด้านทักษะการวางแผนพัฒนาสถานศึกษา กลยุทธ์ การใช้เคร่ืองมือหรือนวัตกรรมทางการบริหาร ต้องได้คะแนนจากกรรมการแต่ละคน ไม่ต่ากว่าร้อยละ ๖๕ สาหรับการขอมีวิทยฐานะรองผู้อานวยการชานาญการ และไม่ต่ากวา่ รอ้ ยละ ๗๐ สาหรบั การขอเล่ือนเป็นวิทยฐานะรองผอู้ านวยการชานาญการพเิ ศษ ด้ำนที่ ๒ ด้านผลลัพธ์ในการพัฒนาการบริหารสถานศึกษา ต้องได้คะแนนจากกรรมการแต่ละคน ไม่ต่ากว่าร้อยละ ๖๕ สาหรับการขอมีวทิ ยฐานะรองผู้อานวยการชานาญการ และไม่ต่ากว่าร้อยละ ๗๐ สาหรับการขอเลื่อน เปน็ วิทยฐานะรองผู้อานวยการชานาญการพเิ ศษ ๕. การพจิ ารณาอนมุ ัติผลการประเมิน ให้ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี เป็นผู้อนุมัติ โดยให้มีผลไม่ก่อน วนั ท่ีสถานศึกษานาขอ้ มลู คาขอพร้อมท้ังหลักฐานประกอบการประเมนิ ครบถ้วนสมบรู ณ์เข้าสรู่ ะบบ DPA สาหรับกรณีสถานศึกษาที่ไม่มีปจั จยั พ้นื ฐานด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศรองรบั ระบบการประเมนิ ดังกล่าว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือมีเหตุผลความจาเป็นอ่ืนใดเป็นพิเศษ และผู้อานวยการสถานศึกษาได้มีหนังสอื ส่งคาขอ และหลักฐานเกี่ยวกับการประเมินวิทยฐานะ ในรูปแบบไฟล์ดจิ ทิ ัล ให้สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา หรอื สานกั บริหารงาน การศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี ตรวจสอบและรับรองคุณสมบัติและนาข้อมูลเข้าสู่ระบบ DPA แทนสถานศึกษา ให้มีผลไม่ก่อนวันท่ีสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา หรือสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี นาข้อมูลคาขอ พรอ้ มทัง้ หลกั ฐานประกอบการประเมินครบถ้วนสมบรู ณ์เขา้ สูร่ ะบบ DPA ๖. เมอื่ กศจ. หรอื อ.ก.ค.ศ. สานกั บรหิ ารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแตก่ รณี พิจารณาผลการประเมินและมีมติ เป็นประการใดแล้วให้ถือเปน็ อนั สิ้นสุด
๓๔ ๗. ให้พิจารณาดาเนนิ การตามหลักเกณฑ์และวิธกี ารนี้โดยเคร่งครดั และเป็นไปตามหลักการบริหารกิจการ บ้านเมืองท่ีดี หากภายหลังตรวจสอบพบว่ามีการดาเนินการโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตาม หลักเกณฑ์และวิธีการนี้ หรือมีการดาเนินการท่ีมิชอบใด ๆ ให้ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของผู้ขอมีวิทยฐานะ หรอื เล่อื นวิทยฐานะและผู้ท่เี กยี่ วขอ้ ง และเป็นความผดิ ทางวนิ ัย แลว้ แตก่ รณี วิธีกำร ๑. ผู้ที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ข้อ ๑ และประสงค์จะขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ให้ยื่นคาขอ ต่อสถานศึกษา ได้ตลอดปี ภาคเรียนละ ๑ คร้ัง เพื่อให้สถานศึกษานาข้อมูลเข้าสู่ระบบ DPA พร้อมหลักฐาน ดงั ต่อไปนี้ ๑.๑ ผลการพัฒนางานตามข้อตกลงในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง ๓ รอบการประเมิน หรือ ๒ รอบ การประเมิน หรอื ๑ รอบการประเมิน แล้วแตก่ รณี ในรูปแบบไฟล์ PDF ๑.๒ รายงานผลการดาเนินการตามแผนพัฒนาสถานศึกษา กลยุทธ์ การใช้เครื่องมือหรือนวัตกรรม ทางการบริหาร ตามโครงการหรอื กจิ กรรมในแผนพฒั นาสถานศกึ ษา ในรปู แบบไฟล์ PDF จานวน ๑ ไฟล์ ๑.๓ ไฟลว์ ดี ทิ ัศน์ จานวน ๒ ไฟล์ ประกอบดว้ ย ๑) ไฟล์วีดิทัศน์ที่นาเสนอการพัฒนาสถานศึกษา กลยุทธ์ การใช้เครื่องมือหรือนวัตกรรม ทางการบริหาร ตามโครงการหรือกิจกรรมในแผนพัฒนาสถานศึกษา ที่เสนอในข้อ ๑.๒ ซ่ึงแสดงให้เห็นถึงสภาพปัญหา ที่มาหรือแรงบันดาลใจ ในการพฒั นาสถานศึกษา จานวน ๑ ไฟล์ ๒) ไฟลว์ ีดทิ ัศนก์ ารนาเสนอผลลัพธ์ในการพัฒนาการบรหิ ารสถานศึกษา ทสี่ ง่ ผลตอ่ คุณภาพผู้เรียน ครู และสถานศกึ ษา ทีเ่ สนอในขอ้ ๑.๒ จานวน ๑ ไฟล์ ทั้งน้ี หากผู้ขอประสงค์จะย่ืนคาขอคร้ังใหม่ในวิทยฐานะเดิม จะต้องได้รับหนังสือแจ้งมติไม่อนุมัติ ผลการประเมินคาขอท่ียนื่ ไวเ้ ดิมกอ่ น ๒. ให้ผู้อานวยการสถานศึกษาตรวจสอบและรับรองคุณสมบัติ รวมทั้งหลักฐานของผู้ขอตามที่กาหนดไว้ ในวิธีการ ข้อ ๑.๑ - ข้อ ๑.๓ ก่อนนาข้อมูลคาขอพร้อมทั้งหลักฐานเข้าสู่ระบบ DPA เพ่ือส่ังผ่านไปยังสานักงาน เขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา หรือสานกั บริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษ แลว้ แต่กรณี โดยเรว็ สาหรับสถานศึกษาที่ไม่มีปัจจัยพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศรองรับระบบการประเมินดังกล่าว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือมีเหตุผลความจาเป็นอ่ืนใดเป็นพิเศษ ให้ผู้อานวยการสถานศึกษามีหนงั สือส่งคาขอและ หลักฐานเกี่ยวกบั การประเมนิ วทิ ยฐานะ ในรปู แบบไฟลด์ จิ ทิ ัล ใหส้ านักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษา หรอื สานกั บริหารงาน การศกึ ษาพเิ ศษ แล้วแต่กรณี ตรวจสอบและรับรองคุณสมบตั กิ อ่ นนาข้อมูลเขา้ สู่ระบบ DPA แทนสถานศกึ ษา ๓. ให้สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ส่งผ่านข้อมูลไปยังสานักงานศึกษาธิการจังหวัด เพื่อตรวจสอบและ รับรองคุณสมบตั ิ รวมทงั้ หลักฐานของผขู้ อตามทก่ี าหนดไว้ในวิธีการ ข้อ ๑.๑ - ข้อ ๑.๓ จากระบบ DPA สาหรับผูข้ อสังกัดสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ใหส้ ่วนราชการดังกล่าวตรวจสอบและรับรองคุณสมบัติ รวมทง้ั หลกั ฐานของผขู้ อตามท่ีกาหนดไว้ในวิธกี าร ขอ้ ๑.๑ - ขอ้ ๑.๓ จากระบบ DPA ก่อนดาเนินการตอ่ ไป ๔. เม่ือหน่วยงานการศึกษาหรือส่วนราชการ แล้วแต่กรณี ตรวจสอบแล้วปรากฏว่า ผู้ขอเป็นผู้ ไม่มี คุณสมบัติหรือข้อมูลคาขอและหลักฐานตามท่ีกาหนดไว้ในวิธีการ ข้อ ๑.๑ - ข้อ ๑.๓ ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน ให้ส่งเรอ่ื งคืนพรอ้ มเหตผุ ลผ่านระบบ DPA ไปยังสถานศึกษาโดยเรว็ เพอื่ แจง้ ใหผ้ ขู้ อทราบ
๓๕ ๕. ให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัด หรือสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เสนอให้ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี เห็นชอบให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัด หรือสานักบริหารงาน การศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี แต่งตั้งคณะกรรมการประเมินด้านท่ี ๑ ด้านทักษะการวางแผนพัฒนาสถานศึกษา กลยุทธก์ ารใชเ้ คร่อื งมอื หรือนวตั กรรมทางการบริหาร และด้านท่ี ๒ ดา้ นผลลัพธ์ในการพัฒนาการบรหิ ารสถานศึกษา จากบัญชีรายช่ือผู้ทรงคุณวุฒิท่ี ก.ค.ศ. กาหนด จานวน ๓ คน ต่อผู้ขอ ๑ ราย ท้ังน้ี การกาหนดบัญชีรายชื่อ ผู้ทรงคุณวฒุ แิ ละการแต่งตั้งคณะกรรมการประเมนิ ให้ดาเนนิ การผา่ นระบบ DPA ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ๖. ให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัด หรือสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี ส่งผ่านข้อมูลของผู้ขอ จากระบบ DPA ให้คณะกรรมการประเมินดาเนินการประเมินให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ คู่มือการประเมิน และคู่มือการใช้งานระบบ DPA ที่ ก.ค.ศ. กาหนด ทั้งนี้ ควรดาเนินการประเมินให้แล้วเสร็จโดยเร็ว นับแต่วันที่ ได้รบั คาขอและหลกั ฐานผา่ นระบบ DPA ครบถ้วนสมบูรณ์ เม่อื สานกั งานศึกษาธิการจงั หวัด หรอื สานกั บริหารงานการศึกษาพิเศษ ไดร้ บั ผลการประเมินจากกรรมการ ท้ัง ๓ คนแล้ว ให้นาผลการประเมินเสนอ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี พจิ ารณาอนมุ ัตหิ รือไม่อนมุ ัติ ๗. การขอมีวิทยฐานะหรอื เลอื่ นวิทยฐานะ สาหรับผทู้ ่ีจะเกษยี ณอายรุ าชการ ให้ผู้ขอยื่นคาขอพร้อมหลักฐานตามที่กาหนดไว้ในวิธีการ ข้อ ๑.๑ - ข้อ ๑.๓ ต่อสถานศึกษา เพื่อดาเนนิ การตามวธิ กี ารที่กาหนด โดยให้สถานศึกษานาข้อมูลดงั กล่าวเข้าสรู่ ะบบ DPA ท่ีอยู่ในวนั ท่ี ๓๐ กนั ยายน ๘. การพิจารณาดาเนนิ การของ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. สานกั บรหิ ารงานการศึกษาพิเศษ ให้ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี พิจารณาผลการประเมิน ของกรรมการท้ัง ๓ คน และมีมติอนุมัติหรือไม่อนุมัติ แล้วให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัดหรือสานักบริหารงาน การศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี แจ้งมติเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านระบบ DPA ให้สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา สานักบรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษ และสถานศกึ ษา เพ่ือแจง้ ให้ผ้ขู อทราบ ๙. การแต่งตั้ง ๙.๑ วิทยฐานะรองผอู้ านวยการชานาญการ กรณีท่ี กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี มีมติอนุมัติ ให้ผู้มีอานาจ ตามมาตรา ๕๓ สั่งแต่งตั้งให้มีวิทยฐานะรองผู้อานวยการชานาญการ และให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ. ๒ กรณี ท่ไี ดร้ ับเงนิ เดือนถึงข้ันสูงของอันดับ คศ. ๒ แล้ว ใหไ้ ดร้ บั เงินเดือนสูงกว่าขั้นสูงของอนั ดับ คศ. ๒ ได้ ตามกฎ ก.ค.ศ. ว่าดว้ ยการให้ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาได้รบั เงนิ เดือนสงู กว่าหรอื ต่ากวา่ ขัน้ ตา่ หรือสงู กว่าขนั้ สูงของอันดบั ๙.๒ วทิ ยฐานะรองผูอ้ านวยการชานาญการพิเศษ กรณีที่ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี มีมติอนุมัติ ให้ผู้มีอานาจ ตามมาตรา ๕๓ สัง่ แตง่ ต้งั ให้เลื่อนเปน็ วิทยฐานะรองผู้อานวยการชานาญการพิเศษ และใหไ้ ดร้ ับเงินเดือนอันดับ คศ. ๓ กรณีที่ได้รับเงินเดือนถึงข้ันสูงของอันดับ คศ. ๓ แล้ว ให้ได้รับเงินเดือนสูงกว่าข้ันสูงของอันดับ คศ. ๓ ได้ ตามกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วย การให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ากว่าข้ันต่า หรอื สงู กวา่ ขน้ั สูงของอนั ดับ สาหรับรองผู้อานวยการสถานศึกษาท่ีใช้สิทธินับระยะเวลาทวีคูณ ตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยบาเหน็จความชอบสาหรับเจ้าหนา้ ทีผ่ ปู้ ฏบิ ัติงานในจังหวดั ชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๐ ในการขอมวี ทิ ยฐานะ รองผู้อานวยการชานาญการหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะรองผู้อานวยการชานาญการพิเศษ เม่ือได้รับการแต่งต้ังให้มี วิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะแล้ว หากจะย้ายไปดารงตาแหน่งหรือไปช่วยปฏิบัติราชการนอกเขตพื้นท่ีจังหวัดยะลา ปตั ตานี นราธิวาส และสงขลา (เฉพาะพ้นื ที่อาเภอเทพา สะบ้าย้อย นาทวี และจะนะ) จะต้องมรี ะยะเวลาปฏิบัติหน้าท่ี อยู่ในเขตพ้ืนที่ดังกล่าว ไม่น้อยกว่า ๓ ปี นับตั้งแต่วันที่มีผลอนุมัติให้มีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ เว้นแต่มีเหตุผล และความจาเป็นเปน็ พเิ ศษ
๓๖ กรณีผู้ท่ีมาช่วยปฏิบัติราชการในเขตพนื้ ที่จังหวดั ยะลา ปตั ตานี นราธวิ าส และสงขลา (เฉพาะพ้ืนที่ อาเภอเทพา สะบ้าย้อย นาทวี และจะนะ) เม่ือได้รับการแต่งตั้งให้มีวิทยฐานะรองผู้อานวยการชานาญการ หรือเล่ือนเป็นวิทยฐานะรองผู้อานวยการชานาญการพิเศษ หากจะขอกลับสังกัดเดิมหรือขอไปช่วยปฏิบัติราชการ นอกเขตพ้ืนท่ีจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา (เฉพาะพ้ืนที่อาเภอเทพา สะบ้าย้อย นาทวี และจะนะ) จะต้องมีระยะเวลาปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเขตพ้ืนท่ีดังกล่าว ไม่น้อยกว่า ๓ ปี นับต้ังแต่วันที่มีผลอนุมัติให้มีวิทยฐานะ หรอื เลอ่ื นวิทยฐานะ เวน้ แตม่ เี หตุผลและความจาเปน็ เปน็ พเิ ศษ ท้งั นี้ เม่อื ออกคาสง่ั บรรจุและแต่งต้ังในแตล่ ะวทิ ยฐานะตามข้อ ๙.๑ หรือขอ้ ๙.๒ แลว้ ใหส้ ่งสาเนา คาสั่งผ่านระบบ DPA ไปยงั สานกั งาน ก.ค.ศ. หน่วยงานทเี่ ก่ยี วข้อง และสถานศึกษา กรณีท่ีไม่สามารถดา เนินการหรือมีปัญหาในทางปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีกา หนด ในหมวด ๓ (ว ๑๐/๒๕๖๔) ใหเ้ สนอ ก.ค.ศ. พจิ ารณาหรือวินิจฉัย
๓๗ ตำแหน่ง รองผูอ้ ำนวยกำรสถำนศึกษำ ขอเล่ือนเปน็ วทิ ยฐำนะรองผู้อำนวยกำรเชย่ี วชำญ หลักเกณฑ์ ๑. ผู้ขอเลอ่ื นเปน็ วิทยฐานะรองผ้อู านวยการเชีย่ วชาญ ต้องมีคุณสมบตั ินับถึงวนั ท่ยี น่ื คาขอ ดงั ตอ่ ไปนี้ ๑.๑ การขอเลื่อนวิทยฐานะรองผู้อานวยการเชี่ยวชาญ ต้องมีระยะเวลาการดารงตาแหน่งรองผู้อานวยการ สถานศึกษา วิทยฐานะรองผู้อานวยการชานาญการพิเศษ มาแล้วไม่น้อยกว่า ๔ ปีติดต่อกัน หรือดารงตาแหน่งอื่น ที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่า ๑.๒ มีการพัฒนางานตามข้อตกลงในตาแหน่งรองผู้อานวยการสถานศึกษา วิทยฐานะรองผู้อานวยการ ชานาญการพิเศษ ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง ๓ รอบการประเมิน โดยในแต่ละรอบการประเมินต้องมีภาระงาน เป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กาหนดและมีผลการประเมินไม่ตา่ กว่ารอ้ ยละ ๗๐ ๑.๓ มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง ๔ ปี ต้องไม่เคยถูกลงโทษทางวินัยท่ีหนักกว่าโทษภาคทัณฑ์ หรือไม่เคยถูกวินิจฉัยช้ีขาดทางจรรยาบรรณวิชาชีพ ท่ีหนักกว่าภาคทัณฑ์ หากปีใดรองผู้อานวยการสถานศึกษาถูกลงโทษทางวินัยหนักกว่าโทษภาคทัณฑ์ หรือถูกวินิจฉัยช้ีขาดทางจรรยาบรรณวิชาชีพที่หนักกว่าภาคทัณฑ์ ไม่ให้นาระยะเวลาในปีน้ันมาใช้เป็นคุณสมบัติ ตามขอ้ นี้ กรณีผู้ขอมีคุณสมบัติเป็นไปตามเง่ือนไขการลดระยะเวลาในการดา รงตาแหน่งหรือการดารง วิทยฐานะของผู้ขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด ให้ลดระยะเวลาตามหลักเกณฑ์ ข้อ ๑.๑ เหลือ ๓ ปีติดต่อกัน มีการพัฒนางานตามข้อตกลง ตามหลักเกณฑ์ ข้อ ๑.๒ จานวน ๒ รอบการประเมิน และลดช่วง ระยะเวลาตามหลกั เกณฑ์ ขอ้ ๑.๓ เหลอื ๓ ปี ทั้งนี้ ให้ผู้ขอและผู้อานวยการสถานศึกษา เป็นผู้รับรองข้อมูล หลักฐาน และคุณสมบัติของผู้ขอ หากภายหลงั ตรวจสอบแลว้ พบวา่ มคี ุณสมบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์นี้ ใหถ้ อื วา่ เป็นผขู้ าดคณุ สมบัติ ๒. ผ้ขู อตอ้ งผา่ นการประเมนิ ๓ ด้าน ดงั นี้ ดำ้ นท่ี ๑ ด้านทักษะการวางแผนพัฒนาสถานศึกษา กลยุทธ์ การใชเ้ ครื่องมือหรือนวัตกรรมทางการบริหาร พจิ ารณาจาก ๑) รายงานผลการดาเนินการตามแผนพัฒนาสถานศึกษา กลยุทธ์ การใช้เครื่องมือหรือ นวัตกรรมทางการบริหาร ตามโครงการหรือกิจกรรมในแผนพัฒนาสถานศึกษาในรูปแบบไฟล์ PDF ซ่ึงผู้ขอ ไดพ้ ัฒนาข้นึ และนาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาจริง ซึ่งในช่วงทีด่ ารงวิทยฐานะรองผู้อานวยการ ชานาญการพิเศษ ๒) การนาเสนอการพัฒนาสถานศึกษา กลยุทธ์ การใช้เครื่องมือหรือนวัตกรรมทางการบริหาร ตามโครงการหรือกิจกรรมในแผนพัฒนาสถานศึกษาท่ีเสนอในข้อ ๑) โดยแสดงให้เห็นถึงสภาพปัญหา ที่มา หรือแรงบันดาลใจ ระดับการปฏิบัติท่ีคาดหวังตามมาตรฐานวิทยฐานะรองผู้อานวยการเช่ียวชาญ และผลลัพธ์ ท่ีเกิดข้ึนจากการดาเนินการตามโครงการหรือกิจกรรม ที่ส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียน ครู และสถานศึกษา ท้ังนี้ ให้นาเสนอเป็นไฟลว์ ีดิทัศนต์ ามรปู แบบท่ี ก.ค.ศ. กาหนด จานวน ๑ ไฟล์ ด้ำนท่ี ๒ ด้านผลลัพธ์ในการพัฒนาการบริหารสถานศึกษา พิจารณาจาก ผลงานหรือผลการปฏิบัติ ของครู หรือผลการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางท่ีดีข้ึน หรือมีการพัฒนามากขึ้น หรอื เป็นต้นแบบ และสง่ ผลตอ่ คณุ ภาพผู้เรียน ตามทเ่ี สนอไวใ้ นด้านท่ี ๑ โดยใหน้ าเสนอเปน็ ไฟล์วดี ิทัศนต์ ามรูปแบบ ท่ี ก.ค.ศ. กาหนด จานวน ๑ ไฟล์
๓๘ ด้ำนที่ ๓ ด้านผลงานทางวิชาการ ต้องมีผลงานทางวิชาการซึ่งเป็นผลงานวิจัยเก่ียวกับการพัฒนา สถานศึกษา หรือนวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา ที่แสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังตามมาตรฐาน วิทยฐานะรองผอู้ านวยการเช่ียวชาญ จานวน ๑ รายการ ในรูปแบบไฟล์ PDF ท้ังนี้ ผลงานทางวิชาการที่ผู้ขอเสนอ ต้องเป็นผลงานในช่วงที่ดารงตาแหน่งและวิทยฐานะ ที่ดารงอยู่ ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง ๔ ปี หรือ ๓ ปี แล้วแต่กรณี ตามเงื่อนไขการลดระยะเวลาในการดารง วิทยฐานะของผู้ขอเลื่อนวิทยฐานะ นับถึงวันท่ีย่ืนคาขอ และต้องไม่เป็นผลงานทางวิชาการที่ใช้เป็นส่วนหน่ึง ของการศึกษา เพื่อรับปริญญาหรือประกาศนียบัตรใด ๆ หรือเป็นผลงานทางวิชาการที่เคยใช้เพื่อเล่ือนตา แหน่ง หรือเพือ่ ใหม้ ีวทิ ยฐานะ หรอื เลอ่ื นวทิ ยฐานะมาแล้ว ๓. การประเมินด้านที่ ๑ ด้านท่ี ๒ และด้านที่ ๓ ให้มีคณะกรรมการประเมิน จานวน ๓ คน โดยประเมิน ผ่านระบบ DPA ตามแบบท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ๔. เกณฑก์ ารตัดสนิ ผทู้ ่ีผา่ นเกณฑ์การประเมินตอ้ งได้คะแนนแตล่ ะด้าน ดงั นี้ : ด้ำนท่ี ๑ ด้านทักษะการวางแผนพัฒนาสถานศึกษา กลยุทธ์ การใช้เครื่องมือหรือนวัตกรรมทางการบริหาร ต้องไดค้ ะแนนจากกรรมการแต่ละคน ไม่ตา่ กวา่ รอ้ ยละ ๗๕ ด้ำนท่ี ๒ ด้านผลลัพธ์ในการพัฒนาการบริหารสถานศึกษา ต้องได้คะแนนจากกรรมการแต่ละคน ไม่ตา่ กว่ารอ้ ยละ ๗๕ ดำ้ นท่ี ๓ ดา้ นผลงานทางวิชาการ ตอ้ งได้คะแนนจากกรรมการแต่ละคน ไมต่ ่ากวา่ รอ้ ยละ ๗๕ ๕. การพจิ ารณาอนุมตั ิผลการประเมิน ให้ ก.ค.ศ. เป็นผู้อนุมัติ โดยให้มีผลไม่ก่อนวันที่สถานศึกษานาข้อมูลคาขอพร้อมทั้งหลักฐาน ประกอบการประเมินครบถ้วนสมบูรณเ์ ข้าส่รู ะบบ DPA สาหรับกรณีสถานศึกษาที่ไม่มีปัจจัยพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศรองรับระบบการประเมินดังกล่าว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือมีเหตุผลความจาเป็นอ่ืนใดเป็นพิเศษ และผู้อานวยการสถานศึกษาได้มีหนังสอื ส่งคาขอ และหลักฐานเก่ียวกับการประเมินวิทยฐานะ ในรูปแบบไฟล์ดิจิทัลให้สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา หรือสานักบริหารงาน การศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี ตรวจสอบและรับรองคุณสมบัติและนาข้อมูลเข้าสู่ระบบ DPA แทนสถานศึกษา ให้มีผลไม่ก่อนวันท่ีสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา หรือสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี นาข้อมูลคาขอ พรอ้ มทั้งหลกั ฐานประกอบการประเมนิ ครบถ้วนสมบรู ณเ์ ขา้ สู่ระบบ DPA กรณีที่มีการปรับปรุงผลงานทางวิชาการ หาก ก.ค.ศ. มีมติอนุมัติ ให้มีผลไม่ก่อนวันท่ีสถานศึกษา สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา หรือสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี นาข้อมูลผลงานทางวิชาการ ท่ีปรบั ปรงุ ครบถ้วนสมบรู ณ์ ในรูปแบบไฟล์ PDF เข้าสูร่ ะบบ DPA ๖. เม่อื ก.ค.ศ. พิจารณาผลการประเมนิ และมีมตเิ ปน็ ประการใดแลว้ ใหถ้ อื เป็นอนั สิ้นสุด ๗. ให้พิจารณาดาเนนิ การตามหลักเกณฑ์และวิธกี ารน้ีโดยเครง่ ครดั และเป็นไปตามหลกั การบริหารกิจการ บ้านเมืองท่ีดี หากภายหลังตรวจสอบพบว่ามีการดาเนินการโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ไม่ปฏิบัติให้เป็นไป ตามหลักเกณฑ์และวิธีการน้ี หรือมีการดาเนินการที่มิชอบใด ๆ ให้ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของผู้ขอ เลือ่ นวิทยฐานะและผ้ทู เ่ี กี่ยวข้อง และเป็นความผิดทางวนิ ัย แลว้ แตก่ รณี
๓๙ วิธกี ำร ๑. ผู้ที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ข้อ ๑ และประสงค์จะขอเลื่อนวิทยฐานะ ให้ยื่นคาขอต่อสถานศึกษา ไดต้ ลอดปี ภาคเรียนละ ๑ คร้ัง เพื่อให้สถานศกึ ษานาขอ้ มลู เขา้ ส่รู ะบบ DPA พร้อมหลักฐาน ดังต่อไปนี้ ๑.๑ ผลการพัฒนางานตามข้อตกลงในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง ๓ รอบการประเมิน หรือ ๒ รอบการประเมิน แล้วแตก่ รณี ในรปู แบบไฟล์ PDF ๑.๒ รายงานผลการดาเนินการตามแผนพัฒนาสถานศึกษา กลยุทธ์ การใช้เคร่ืองมือหรือนวัตกรรม ทางการบริหาร ตามโครงการหรือกิจกรรมในแผนพฒั นาสถานศึกษา ในรปู แบบไฟล์ PDF จานวน ๑ ไฟล์ ๑.๓ ไฟล์วดี ทิ ัศน์ จานวน ๒ ไฟล์ ประกอบด้วย ๑) ไฟล์วีดิทัศน์ที่นาเสนอการพัฒนาสถานศึกษา กลยุทธ์ การใช้เคร่ืองมือ หรือนวัตกรรม ทางการบริหาร ตามโครงการหรือกิจกรรมในแผนพัฒนาสถานศึกษา ท่ีเสนอในข้อ ๑.๒ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสภาพ ปัญหา ทม่ี า หรือแรงบันดาลใจ ในการพฒั นาสถานศึกษา จานวน ๑ ไฟล์ ๒) ไฟล์วีดิทัศน์การนาเสนอผลลัพธ์ในการพัฒนาการบริหารสถานศึกษา ท่ีส่งผลต่อคุณภาพ ผเู้ รยี น ครู และสถานศึกษา ทเ่ี สนอในข้อ ๑.๒ จานวน ๑ ไฟล์ ๑.๔ ผลงานทางวชิ าการ ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ท้ังนี้ หากผู้ขอประสงค์จะย่ืนคาขอครั้งใหม่ในวิทยฐานะเดิม จะต้องได้รับหนังสือแจ้งมติไม่อนุมัติ ผลการประเมินคาขอที่ย่นื ไวเ้ ดิมก่อน ๒. ให้ผู้อานวยการสถานศึกษาตรวจสอบและรับรองคุณสมบัติ รวมทั้งหลักฐานของผู้ขอตามที่กาหนดไว้ ในวิธีการ ข้อ ๑.๑ - ข้อ ๑.๔ ก่อนนาข้อมูลคาขอพร้อมทั้งหลักฐานเข้าสู่ระบบ DPA เพ่ือส่งผ่านไปยังสานักงาน เขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา หรอื สานกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ แลว้ แตก่ รณี โดยเร็ว สาหรับสถานศึกษาท่ีไม่มีปัจจัยพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศรองรับระบบการประเมินดังกล่าว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือมีเหตุผลความจาเป็นอื่นใดเป็นพิเศษ ให้ผู้อานวยการสถานศึกษามีหนังสือส่งคาขอ และหลักฐานเก่ียวกับการประเมินวิทยฐานะ ในรูปแบบไฟล์ดิจิทัล ให้สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาหรือสานักบริหารงาน การศกึ ษาพิเศษ แล้วแตก่ รณี ตรวจสอบและรับรองคุณสมบัติ ก่อนนาข้อมลู เขา้ สรู่ ะบบ DPA แทนสถานศกึ ษา ๓. ส่งผ่านข้อมูลไปยังสานักงานศึกษาธิการจังหวัด เพ่ือตรวจสอบและรับรองคุณสมบัติ รวมท้ังหลักฐาน ของผู้ขอตามท่กี าหนดไว้ในวิธกี าร ข้อ ๑.๑ - ขอ้ ๑.๔ จากระบบ DPA สาหรบั ผ้ขู อสงั กัดสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ให้ส่วนราชการดังกล่าวตรวจสอบและรับรองคุณสมบัติ รวมท้งั หลกั ฐานของผู้ขอตามท่กี าหนดไว้ในวิธีการ ขอ้ ๑.๑ - ขอ้ ๑.๔ จากระบบ DPA กรณีตรวจสอบแล้วปรากฏว่า ผขู้ อมคี ณุ สมบัติและส่งหลักฐานครบถ้วน ให้สานกั งานศึกษาธกิ ารจังหวัด หรือสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เสนอ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี พิจารณาให้ความเห็นชอบคุณสมบัติก่อนส่งผ่านข้อมูลคาขอพร้อมท้ังหลักฐานตามที่กาหนดดังกล่าวในระบบ DPA ไปยังสานักงาน ก.ค.ศ. แต่หากตรวจสอบแล้วปรากฏว่าผู้ขอไม่มีคุณสมบัติ หรือข้อมูลคาขอและหลักฐาน ตามที่กาหนดไว้ในวิธีการ ข้อ ๑.๑ - ข้อ ๑.๔ ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน ให้ส่งเร่ืองคืนพร้อมเหตุผลผ่านระบบ DPA ไปยงั สถานศึกษาโดยเร็ว เพ่ือแจง้ ใหผ้ ขู้ อทราบ ๔. ให้สานักงาน ก.ค.ศ. ตรวจสอบคุณสมบัติ รวมท้ังหลักฐานของผู้ขอ ตามท่ีกาหนดไว้ในวิธีการ ข้อ ๑.๑ - ข้อ ๑.๔ กอ่ นดาเนนิ การตอ่ ไป
๔๐ กรณีท่ีสานักงาน ก.ค.ศ. ตรวจสอบแล้วปรากฏว่า ผู้ขอไม่มีคุณสมบัติ หรือข้อมูลคาขอและหลักฐาน ตามท่ีกาหนดไว้ในวธิ ีการ ขอ้ ๑.๑ - ข้อ ๑.๔ ไม่ถูกตอ้ งหรือไม่ครบถว้ น ให้สง่ เร่อื งคืนพร้อมเหตุผล ผ่านระบบ DPA ไปยังหน่วยงานหรอื ส่วนราชการ ตามข้อ ๓ แลว้ แตก่ รณี โดยเร็ว เพือ่ ใหส้ ถานศกึ ษาแจง้ ผขู้ อทราบ ๕. ให้สานักงาน ก.ค.ศ. เสนอ ก.ค.ศ. เห็นชอบให้สานักงาน ก.ค.ศ. แต่งต้ังคณะกรรมการประเมิน ดา้ นที่ ๑ ด้านทักษะการวางแผนพฒั นาสถานศึกษา กลยุทธ์ การใชเ้ ครอ่ื งมอื หรือนวัตกรรมทางการบรหิ าร ดา้ นที่ ๒ ด้านผลลัพธ์ในการพัฒนาการบริหารสถานศึกษา และด้านท่ี ๓ ด้านผลงานทางวิชาการ จากบัญชีรายช่ือผู้ทรงคุณวุฒิ ท่ี ก.ค.ศ. กาหนด จานวน ๓ คน ต่อผู้ขอ ๑ ราย ทั้งน้ี การกาหนดบัญชีรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิและการแต่งตั้ง คณะกรรมการประเมิน ใหด้ าเนนิ การผ่านระบบ DPA ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด และใหส้ านกั งาน ก.ค.ศ. สง่ ขอ้ มูลของผู้ขอ จากระบบ DPA ใหค้ ณะกรรมการประเมนิ ดาเนนิ การประเมนิ ดา้ นท่ี ๑ ดา้ นท่ี ๒ และดา้ นท่ี ๓ ต่อไป ๖. การประเมนิ ด้านที่ ๑ ดา้ นที่ ๒ และด้านที่ ๓ ๖.๑ ให้คณะกรรมการประเมินดาเนินการประเมินให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ คู่มือการประเมิน และคู่มือการใช้งานระบบ DPA ท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ทั้งน้ี ควรดาเนินการประเมินให้แล้วเสร็จโดยเร็ว นับแต่วันท่ี สานกั งาน ก.ค.ศ. สง่ คาขอและหลกั ฐานของผขู้ อผา่ นระบบ DPA ให้คณะกรรมการประเมินครบถ้วนสมบูรณ์ ๖.๒ กรณีคณะกรรมการประเมินด้านท่ี ๑ และด้านท่ี ๒ แล้ว มีผลการประเมินผ่านเกณฑ์ แตด่ า้ นท่ี ๓ เห็นควรใหป้ รบั ปรุงผลงานทางวชิ าการ โดยมผี ลการประเมนิ จากคณะกรรมการไม่น้อยกวา่ ๒ ใน ๓ คน ผ่านเกณฑ์ ท้ังน้ี ผลงานทางวิชาการต้องอยู่ในวิสัยท่ีสามารถปรับปรุงได้ ซึ่งต้องไม่เป็นการแก้ไขข้อมูล ที่กระทบ ต่อความถูกต้องตามหลักวิชาการ และ ก.ค.ศ. มีมติให้ปรับปรุง โดยให้ปรับปรุงตามข้อสังเกตของกรรมการได้ ภายใน ๖ เดอื น นับแตว่ นั ทสี่ านกั งาน ก.ค.ศ. แจ้งมติเปน็ ลายลักษณอ์ กั ษรผา่ นระบบ DPA ให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัด หรือสานกั บรหิ ารงานการศึกษาพิเศษ แลว้ แต่กรณี ทราบ เมอ่ื ผูข้ อปรับปรุงผลงานทางวชิ าการครบถว้ นสมบูรณ์แล้ว ใหส้ ่งผลงานทางวชิ าการในรูปแบบไฟล์ PDF จานวน ๑ ชุด ผ่านระบบ DPA ตามท่ีกาหนดไว้ในวิธีการ ข้อ ๒ ไปยังสานักงาน ก.ค.ศ. เพ่ือส่งผลงาน ทางวิชาการใหค้ ณะกรรมการชดุ เดมิ ตรวจและประเมนิ ต่อไป กรณีที่กรรมการประเมินคนเดิมไม่สามารถประเมินได้ด้วยเหตุผลใดก็ตาม ให้สานักงาน ก.ค.ศ. เสนอ ก.ค.ศ. เห็นชอบให้สานักงาน ก.ค.ศ. แต่งตั้งกรรมการคนอื่นแทนได้ โดยให้ดาเนินการผ่านระบบ DPA ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ให้คณะกรรมการประเมินส่งข้อมูลผลการประเมิน ตามแบบท่ี ก.ค.ศ. กาหนด เข้าสู่ระบบ DPA ให้สานักงาน ก.ค.ศ. เพ่อื นาเสนอ ก.ค.ศ. พจิ ารณา ๖.๓ กรณีผู้ขอเลื่อนวิทยฐานะไม่ส่งผลงานทางวิชาการท่ีปรับปรุงตามข้อสังเกตภายในระยะเวลา ที่กาหนด หรอื สง่ พน้ ระยะเวลาทกี่ าหนดใหถ้ อื ว่าสละสิทธ์ิ ๗. การพจิ ารณาดาเนินการของ ก.ค.ศ. ให้สานักงาน ก.ค.ศ. นาผลการประเมินจากกรรมการทั้ง ๓ คน เสนอ ก.ค.ศ. พิจารณามีมติอนุมัติ หรือไม่อนุมัติ แล้วให้สานักงาน ก.ค.ศ. แจ้งมติเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านระบบ DPA ไปยังหน่วยงาน หน่วยงาน การศึกษา หรือส่วนราชการต้นสังกดั เพือ่ แจ้งให้ผู้ขอทราบ ทั้งน้ี หลักฐานประกอบการประเมินด้านท่ี ๑ ด้านท่ี ๒ และด้านท่ี ๓ ท่ีผ่านการอนุมัติ ให้เผยแพร่ ต่อสาธารณะได้ ๘. การขอเลอ่ื นวิทยฐานะ สาหรับผทู้ ่ีจะเกษียณอายุราชการ ให้ผู้ขอย่ืนคาขอพร้อมหลักฐานตามที่กาหนดไว้ในวิธีการ ข้อ ๑.๑ - ข้อ ๑.๔ ต่อสถานศึกษาเพ่ือดาเนินการ ตามวิธีการท่ีกาหนด โดยตอ้ งสง่ ผ่านขอ้ มูลในระบบ DPA ถงึ สานักงาน ก.ค.ศ. ภายในวนั ที่ ๓๐ กันยายน
๔๑ กรณีท่ีคณะกรรมการประเมินผลงานทางวิชาการ พิจารณาแล้วเห็นว่าควรมีการปรับปรุงผลงานทางวิชาการ ผู้ขอจะต้องเสนอผลงานทางวิชาการที่ได้ปรับปรุงครบถ้วนสมบูรณ์ ในรูปแบบไฟล์ PDF ภายในวันที่ผู้ขอยังมี สถานภาพการเปน็ ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ในสังกดั กระทรวงศึกษาธกิ าร ๙. การแต่งตง้ั กรณีท่ี ก.ค.ศ. มมี ติอนุมัติ ให้ผ้มู อี านาจตามมาตรา ๕๓ สง่ั แตง่ ต้งั ให้เลอื่ นเปน็ วิทยฐานะรองผู้อานวยการ เชี่ยวชาญ และให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ. ๔ กรณีที่ได้รับเงินเดือนถึงข้ันสูงของอันดับ คศ. ๔ แล้วให้ได้รับเงินเดือน สูงกว่าขั้นสูงของอันดับ คศ. ๔ ได้ ตามกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับ เงนิ เดือนสงู กวา่ หรือต่ากว่าข้ันตา่ หรือสงู กว่าขัน้ สูงของอันดับ ท้ังน้ี เมื่อออกคาส่ังบรรจุและแต่งตั้งให้เลื่อนเป็นวิทยฐานะรองผู้อานวยการเชี่ยวชาญแล้วให้ส่งสาเนา คาส่ังผ่านระบบ DPA ไปยงั สานักงาน ก.ค.ศ. หน่วยงานท่ีเกย่ี วขอ้ ง และสถานศกึ ษา กรณีที่ไม่สามารถดาเนินการหรือมีปัญหาในทางปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีกาหนดในหมวด ๔ (ว ๑๐/๒๕๖๔) ใหเ้ สนอ ก.ค.ศ. พิจารณาหรอื วินจิ ฉยั แผนภำพที่ ๓ วิธีการขอมแี ละเลอื่ นวิทยฐานะ ตาแหน่งรองผู้อานวยการสถานศึกษา ที่มา : สานกั งาน ก.ค.ศ.
๔๒ ตำแหนง่ ผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำ ขอมวี ิทยฐำนะผู้อำนวยกำรชำนำญกำรและเลื่อนเปน็ วทิ ยฐำนะผอู้ ำนวยกำรชำนำญกำรพิเศษ หลักเกณฑ์ ๑. ผู้ขอมีวิทยฐานะผู้อานวยการชานาญการหรือขอเล่ือนเป็นวิทยฐานะผู้อานวยการชานาญการพิเศษ ต้องมีคณุ สมบตั ินบั ถงึ วันที่ยน่ื คาขอ ดังต่อไปน้ี ๑.๑ การขอมีวิทยฐานะผู้อานวยการชานาญการ ต้องมีระยะเวลาการดารงตาแหน่งผู้อานวยการ สถานศึกษา มาแลว้ ไมน่ ้อยกวา่ ๔ ปีติดตอ่ กัน หรือดารงตาแหนง่ อ่ืนที่ ก.ค.ศ. เทยี บเท่า สาหรับการขอเล่ือนเป็นวิทยฐานะผู้อานวยการชานาญการพิเศษ ต้องมีระยะเวลาการดารงตาแหน่ง ผู้อานวยการสถานศึกษา วิทยฐานะผอู้ านวยการชานาญการ มาแล้วไม่น้อยกวา่ ๔ ปีติดตอ่ กัน หรือดารงตาแหน่งอ่ืน ท่ี ก.ค.ศ. เทียบเท่า ๑.๒ มีการพัฒนางานตามข้อตกลงในตาแหน่งผู้อานวยการสถานศึกษา หรือในวิทยฐานะ ผู้อานวยการชานาญการ แล้วแต่กรณี ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง ๓ รอบการประเมิน โดยในแต่ละรอบการประเมิน ตอ้ งมีภาระงานเปน็ ไปตามที่ ก.ค.ศ. กาหนดและมผี ลการประเมนิ ไมต่ า่ กว่าร้อยละ ๗๐ ๑.๓ มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง ๔ ปี ต้องไม่เคยถูกลงโทษทางวินัยที่หนักกว่าโทษภาคทัณฑ์ หรือไม่เคยถูกวินิจฉัยช้ีขาดทางจรรยาบรรณวิชาชีพ ที่หนักกว่าภาคทัณฑ์ หากปีใดผู้อานวยการสถานศึกษาถูกลงโทษทางวินัยหนักกว่าโทษภาคทัณฑ์ หรือถูกวินิจฉัย ชี้ขาดทางจรรยาบรรณวชิ าชีพท่ีหนักกวา่ ภาคทณั ฑ์ ไมใ่ หน้ าระยะเวลาในปีนั้นมาใช้เป็นคณุ สมบตั ิตามข้อนี้ กรณีผู้ขอมีคุณสมบัติเป็นไปตามเงื่อนไขการลดระยะเวลาในการดารงตาแหน่งหรือการดารง วิทยฐานะของผู้ขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ให้ลดระยะเวลาตามหลักเกณฑ์ ข้อ ๑.๑ เหลือ ๓ ปีติดต่อกัน มีการพัฒนางานตามข้อตกลง ตามหลักเกณฑ์ ข้อ ๑.๒ จานวน ๒ รอบการประเมิน และลดช่วงระยะเวลาตามหลกั เกณฑ์ ข้อ ๑.๓ เหลอื ๓ ปี สาหรับผู้อานวยการสถานศึกษาท่ีปฏิบัติงานในพื้นท่ีพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนใต้ จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา (เฉพาะพื้นท่ีอาเภอเทพา สะบ้าย้อย นาทวี และจะนะ) หากประสงค์ จะขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ โดยใช้สิทธินับระยะเวลาทวีคูณ ตามระเบียบสา นักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยบาเหน็จความชอบสาหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๐ ให้ใช้สิทธิ นับระยะเวลาทวีคูณได้ในคุณสมบัติ ข้อ ๑.๑ โดยต้องมีการพัฒนางานตามข้อตกลง ตามข้อ ๑.๒ ในช่วงระยะเวลา ย้อนหลัง จานวน ๑ รอบการประเมิน มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชพี ตามข้อ ๑.๓ ในช่วงระยะเวลา ย้อนหลัง ๒ ปี และเป็นผู้อานวยการสถานศึกษาที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่พเิ ศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนใต้ จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา (เฉพาะพืน้ ที่อาเภอเทพา สะบ้ายอ้ ย นาทวี และจะนะ) มาแลว้ ไม่น้อยกว่า ๑ ปีติดต่อกัน นับถงึ วันทยี่ ่ืนคาขอ ทั้งน้ี ให้ผู้ขอและผู้บังคับบัญชา เป็นผู้รับรองข้อมูล หลักฐาน และคุณสมบัติของผู้ขอ หากภายหลงั ตรวจสอบแลว้ พบว่ามีคุณสมบัตไิ มเ่ ปน็ ไปตามหลักเกณฑ์น้ี ใหถ้ อื ว่าเป็นผูข้ าดคณุ สมบตั ิ
๔๓ ๒. ผู้ขอต้องผา่ นการประเมิน ๒ ด้าน ดังนี้ ด้ำนที่ ๑ ด้านทักษะการวางแผนพัฒนาสถานศึกษา กลยุทธ์ การใช้เคร่ืองมือหรือนวัตกรรมทางการบริหาร พจิ ารณาจาก ๑) รายงานผลการดาเนินการตามแผนพัฒนาสถานศึกษา กลยุทธ์ การใช้เคร่ืองมือ หรือนวัตกรรม ทางการบริหาร ตามโครงการหรือกิจกรรมในแผนพัฒนาสถานศึกษา ในรูปแบบไฟล์ PDF ซ่ึงผู้ขอได้พัฒนาขึ้น และนาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาจริงในช่วงท่ีดารงตาแหน่งผู้อานวยการสถานศึกษา หรอื ดารงวทิ ยฐานะผู้อานวยการชานาญการ แล้วแต่กรณี ๒) การนาเสนอการพัฒนาสถานศึกษา กลยุทธ์ การใช้เคร่ืองมือหรือนวัตกรรมทางการบริหาร ตามโครงการหรือกิจกรรมในแผนพัฒนาสถานศึกษาท่ีเสนอในข้อ ๑) โดยแสดงให้เห็นถึงสภาพปัญหา ที่มา หรือแรงบันดาลใจ ระดับการปฏิบัติที่คาดหวังตามมาตรฐานวิทยฐานะท่ีขอรับการประเมิน และผลลัพธ์ ท่ีเกิดข้ึนจากการดาเนินการตามโครงการหรือกิจกรรม ท่ีส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียน ครู และสถานศึกษา ทั้งน้ี ให้นาเสนอเป็นไฟลว์ ีดทิ ศั นต์ ามรปู แบบท่ี ก.ค.ศ. กาหนด จานวน ๑ ไฟล์ ด้ำนที่ ๒ ด้านผลลัพธ์ในการพัฒนาการบริหารสถานศึกษา พิจารณาจาก ผลงานหรือผลการปฏิบัติ ของครู หรือผลการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา ท่ีมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีข้ึนหรือมีการพัฒนามากขึ้น หรือเป็นต้นแบบ และส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียน ตามท่ีเสนอไว้ในด้านท่ี ๑ โดยให้นาเสนอในรูปแบบไฟล์วีดิทัศน์ ตามรูปแบบที่ ก.ค.ศ. กาหนด จานวน ๑ ไฟล์ ๓. การประเมินด้านท่ี ๑ และด้านท่ี ๒ ให้มีคณะกรรมการประเมิน ๓ คน โดยประเมินผ่านระบบ DPA ตามแบบท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ๔. เกณฑก์ ารตดั สิน ผู้ที่ผา่ นเกณฑ์การประเมินตอ้ งไดค้ ะแนนแต่ละดา้ น ดังน้ี ด้ำนที่ ๑ ด้านทักษะการวางแผนพัฒนาสถานศึกษา กลยุทธ์ การใช้เคร่ืองมือหรือนวัตกรรม ทางการบริหาร ต้องได้คะแนนจากกรรมการแต่ละคน ไม่ต่ากว่าร้อยละ ๖๕ สาหรับการขอมีวิทยฐานะผู้อานวยการ ชานาญการ และไม่ตา่ กว่าร้อยละ ๗๐ สาหรับการขอเล่ือนเป็นวิทยฐานะผู้อานวยการชานาญการพิเศษ ด้ำนที่ ๒ ด้านผลลัพธ์ในการพัฒนาการบริหารสถานศึกษา ต้องได้คะแนนจากกรรมการแต่ละคน ไมต่ า่ กว่าร้อยละ ๖๕ สาหรบั การขอมีวทิ ยฐานะผู้อานวยการชานาญการ และไมต่ า่ กว่าร้อยละ ๗๐ สาหรับการขอเลื่อน เปน็ วิทยฐานะผูอ้ านวยการชานาญการพิเศษ ๕. การพจิ ารณาอนุมัตผิ ลการประเมนิ ให้ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี เป็นผู้อนุมัติ โดยให้มีผลไม่ก่อน วันท่ีสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา หรือสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี นาข้อมูลคาขอพร้อมทั้ง หลกั ฐานประกอบการประเมนิ ครบถว้ นสมบูรณ์เข้าสรู่ ะบบ DPA ๖. เม่ือ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี พิจารณาผลการประเมิน และมีมติเปน็ ประการใดแลว้ ให้ถอื เปน็ อันสิน้ สดุ ๗. ให้พิจารณาดาเนินการตามหลกั เกณฑ์และวิธกี ารน้ีโดยเครง่ ครัด และเป็นไปตามหลักการบริหารกิจการ บ้านเมืองที่ดี หากภายหลังตรวจสอบพบว่ามีการดาเนินการโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ไม่ปฏิบัติให้เป็นไป ตามหลักเกณฑ์และวิธีการน้ี หรือมีการดาเนินการท่ีมิชอบใดๆ ให้ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของผู้ขอมีวิทยฐานะ หรือเลอื่ นวทิ ยฐานะและผทู้ เ่ี ก่ียวขอ้ ง และเปน็ ความผิดทางวนิ ยั แล้วแตก่ รณี
๔๔ วธิ ีกำร ๑. ผู้ที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ข้อ ๑ และประสงค์จะขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะให้ยื่นคาขอต่อ สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา หรือสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี ได้ตลอดปี ภาคเรียนละ ๑ คร้ัง เพอื่ ให้สว่ นราชการดังกลา่ วนาขอ้ มูลเข้าสูร่ ะบบ DPA พรอ้ มหลักฐาน ดงั ตอ่ ไปน้ี ๑.๑ ผลการพัฒนางานตามข้อตกลงในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง ๓ รอบการประเมิน หรือ ๒ รอบ การประเมนิ หรือ 1 รอบการประเมิน แลว้ แตก่ รณี ในรูปแบบไฟล์ PDF ๑.๒ รายงานผลการดาเนินการตามแผนพัฒนาสถานศึกษา กลยุทธ์ การใช้เคร่ืองมือหรือนวัตกรรม ทางการบรหิ าร ตามโครงการหรอื กิจกรรมในแผนพฒั นาสถานศกึ ษา ในรูปแบบไฟล์ PDF จานวน ๑ ไฟล์ ๑.๓ ไฟลว์ ีดทิ ศั น์ จานวน ๒ ไฟล์ ประกอบดว้ ย ๑) ไฟล์วีดิทัศน์ท่ีนาเสนอการพัฒนาสถานศึกษา กลยุทธ์ การใช้เครื่องมือหรือนวัตกรรมทางการบริหาร ตามโครงการหรือกิจกรรมในแผนพัฒนาสถานศึกษา ที่เสนอไว้ในข้อ ๑.๒ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสภาพปัญหา ท่ีมา หรอื แรงบนั ดาลใจในการพัฒนาสถานศึกษา จานวน ๑ ไฟล์ ๒) ไฟลว์ ีดีทศั นก์ ารนาเสนอผลลัพธ์ในการพัฒนาการบรหิ ารสถานศึกษา ทสี่ ง่ ผลตอ่ คุณภาพผู้เรยี น ครูและสถานศกึ ษาทเี่ สนอในขอ้ ๑.๒ จานวน ๑ ไฟล์ ท้ังนี้ หากผู้ขอประสงค์จะยื่นคาขอคร้ังใหม่ในวิทยฐานะเดิม จะต้องได้รับหนังสือแจ้งมติไม่อนุมัติ ผลการประเมนิ คาขอท่ีย่ืนไว้เดมิ ก่อน ๒. ให้สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ส่งผ่านข้อมูลไปยังสานักงานศึกษาธิการจังหวัด เพื่อตรวจสอบ และรบั รองคุณสมบตั ิ รวมทั้งหลกั ฐานของผู้ขอตามทีก่ าหนดไว้ในวธิ ีการ ข้อ ๑.๑ - ข้อ ๑.๓ จากระบบ DPA สาหรับผู้ขอสังกัดสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ให้ส่วนราชการดังกล่าวตรวจสอบและรับรองคุณสมบัติ รวมทง้ั หลกั ฐานของผขู้ อตามที่กาหนดไวใ้ นวธิ ีการ ขอ้ ๑.๑ - ๑.๓ จากระบบ DPA ก่อนดาเนนิ การตอ่ ไป ๓. เม่ือหนว่ ยงานการศกึ ษาหรือสว่ นราชการ แลว้ แตก่ รณี ตรวจสอบแล้วปรากฏวา่ ผขู้ อเปน็ ผ้ไู มม่ ีคุณสมบัติ หรอื ข้อมลู คาขอและหลักฐานตามท่ีกาหนดไว้ในวิธีการ ข้อ ๑.๑ – ข้อ ๑.๓ ไมถ่ ูกตอ้ งและไมค่ รบถว้ น ใหส้ ่งเรื่องคืน พรอ้ มเหตผุ ลผ่านระบบ DPA ไปยังสถานศึกษาโดยเร็ว เพื่อแจ้งให้ผูข้ อทราบ ๔. ให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัด หรือสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เสนอให้ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี เห็นชอบให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัด หรือสานักบริหารงาน การศึกษาพิเศษ แต่งตั้งคณะกรรมการประเมินด้านท่ี ๑ ด้านทักษะการวางแผนพัฒนาสถานศึกษา กลยุทธ์ การใช้เคร่ืองมือหรือนวัตกรรมทางการบริหาร และด้านที่ ๒ ด้านผลลัพธ์ในการพัฒนาการบริหารสถานศึกษา จากบัญชีรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิท่ี ก.ค.ศ. กาหนด จานวน ๓ คน ต่อผู้ขอ ๑ ราย ทั้งนี้ การกาหนดบัญชีรายช่ือ ผู้ทรงคุณวุฒแิ ละการแตง่ ตัง้ คณะกรรมการประเมิน ให้ดาเนนิ การผ่านระบบ DPA ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ๕. ให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัด หรือสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี ส่งผ่านข้อมูล ของผู้ขอจากระบบ DPA ให้คณะกรรมการประเมินดาเนินการประเมินให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ คู่มือการประเมิน และคู่มือการใชง้ านระบบ DPA ที่ ก.ค.ศ. กาหนด ท้งั นี้ ควรดาเนนิ การประเมินให้แล้วเสรจ็ โดยเรว็ นบั แตว่ นั ท่ไี ดร้ บั คาขอและหลกั ฐาน ผ่านระบบ DPA ครบถ้วนสมบรู ณ์ เม่ือสานักงานศึกษาธิการจังหวัด หรือส่วนราชการ ได้รับผลการประเมินจากกรรมการทั้ง ๓ คนแล้ว ให้นาผลการประเมินเสนอ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี พิจารณาอนุมัติ หรอื ไมอ่ นมุ ัติ ๖. การขอมีวิทยฐานะหรือเล่อื นวิทยฐานะ สาหรบั ผทู้ จ่ี ะเกษียณอายุราชการ ให้ผู้ขอย่ืนคาขอพร้อมท้ังหลักฐาน ตามท่ีกาหนดไว้ในวิธีการ ข้อ ๑.๑ - ข้อ ๑.๓ ต่อสานักงาน เขตพื้นที่การศึกษาหรือสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี เพื่อดาเนินการตามวิธีการท่ีกาหนด
๔๕ โดยให้สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี นาข้อมูลดังกล่าวเข้าสู่ ระบบ DPA ภายในวนั ท่ี ๓๐ กันยายน ๗. การพิจารณาดาเนินการของ กศจ. หรอื อ.ก.ค.ศ. สานกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ ให้ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี พิจารณาผลการประเมิน ของกรรมการทั้ง ๓ คน และมีมติอนุมัติหรือไม่อนุมัติ แล้วให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัดหรือส่วนราชการ แลว้ แตก่ รณี แจง้ มตเิ ปน็ ลายลกั ษณอ์ ักษรผา่ นระบบ DPA ให้สานกั งานเขตพื้นที่การศึกษา สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ และสถานศึกษา เพอ่ื แจ้งใหผ้ ขู้ อทราบ ๘. การแต่งตั้ง ๘.๑ วิทยฐานะผู้อานวยการชานาญการ กรณีท่ี กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี มีมติอนุมัติ ให้ผู้มีอานาจตามมาตรา ๕๓ สั่งแต่งต้ังให้มีวิทยฐานะผู้อานวยการชานาญการ และให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ. ๒ กรณีท่ีได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูงของอันดับ คศ. ๒ แล้ว ให้ได้รับเงินเดือนสูงกว่าข้ันสูงของอันดับ คศ. ๒ ได้ ตามกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ากว่าขั้นต่า หรือสูงกว่าข้นั สงู ของอันดบั ๘.๒ วิทยฐานะผอู้ านวยการชานาญการพเิ ศษ กรณีที่ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี มีมติอนุมัติ ให้ผู้มีอานาจ ตามมาตรา ๕๓ สั่งแต่งตั้งให้เลื่อนเป็นวิทยฐานะผู้อานวยการชานาญการพิเศษ และให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ. ๓ กรณีที่ได้รับเงินเดือนถึงข้ันสงู ของอันดับ คศ. ๓ แล้ว ให้ได้รับเงินเดอื นสูงกว่าข้ันสงู ของอันดับ คศ. ๓ ตามกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ากว่าขั้นต่า หรือสูงกว่าขั้นสูง ของอันดับ สาหรับผู้อานวยการสถานศึกษาที่ใช้สิทธินับระยะเวลาทวีคูณ ตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี วา่ ด้วยบาเหน็จความชอบสาหรับเจา้ หนา้ ทผ่ี ปู้ ฏิบัติงานในจังหวดั ชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๐ ในการขอมวี ทิ ยฐานะ ผู้อานวยการชานาญการหรือเล่ือนเป็นวิทยฐานะผู้อานวยการชานาญการพิเศษ เม่ือได้รับการแต่งต้ังให้มีวิทยฐานะ หรือเล่ือนวิทยฐานะแล้ว หากจะย้ายไปดารงตาแหน่งหรือไปช่วยปฏิบัติราชการนอกเขตพ้ืนที่จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา (เฉพาะพื้นที่อาเภอเทพา สะบ้าย้อย นาทวีและจะนะ) จะต้องมีระยะเวลาปฏิบัติหน้าท่ีอยู่ใน เขตพื้นที่ดังกล่าว ไม่น้อยกว่า ๓ ปี นับตั้งแต่วันท่ีมีผลอนุมัติให้มีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ เว้นแต่มีเหตุผล และความจาเป็นเปน็ พิเศษ กรณีผู้ที่มาช่วยปฏิบัติราชการในเขตพ้ืนที่จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา (เฉพาะพ้ืนท่ี อาเภอเทพา สะบ้าย้อย นาทวี และจะนะ) เม่ือได้รับการแต่งต้ังให้มีวิทยฐานะผู้อานวยการชานาญการ หรือเลื่อนเป็น วิทยฐานะผู้อานวยการชานาญการพเิ ศษ หากจะขอกลับสังกัดเดิมหรือขอไปชว่ ยปฏิบัติราชการนอกเขตพ้ืนท่จี ังหวัด ยะลา ปตั ตานี นราธวิ าส และสงขลา (เฉพาะพ้ืนทอี่ าเภอเทพา สะบ้ายอ้ ย นาทวี และจะนะ) จะตอ้ งมรี ะยะเวลาปฏิบัติ หน้าที่อยู่ในเขตพ้นื ทดี่ ังกล่าว ไมน่ อ้ ยกวา่ ๓ ปี นับต้ังแตว่ ันที่มีผลอนมุ ัติให้มวี ทิ ยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ เว้นแตม่ เี หตุผล และความจาเป็นเปน็ พเิ ศษ ทั้งนี้ เมื่อออกคาสั่งบรรจุและแต่งตั้งในแต่ละวิทยฐานะตามข้อ ๘.๑ หรือข้อ ๘.๒ แล้ว ให้สง่ สาเนาคาสั่งผา่ นระบบ DPA ไปยงั สานักงาน ก.ค.ศ. หนว่ ยงานท่ีเก่ียวขอ้ ง และสถานศกึ ษา กรณีที่ไม่สามารถดาเนินการหรือมีปัญหาในทางปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กาหนดในหมวด ๕ (ว ๑๐/๒๕๖๔) ใหเ้ สนอ ก.ค.ศ. พิจารณาหรอื วินจิ ฉยั
๔๖ ตำแหน่ง ผูอ้ ำนวยกำรสถำนศึกษำ ขอเลือ่ นเป็นวทิ ยฐำนะผูอ้ ำนวยกำรเชี่ยวชำญและวิทยฐำนะผู้อำนวยกำรเชย่ี วชำญพเิ ศษ หลักเกณฑ์ ๑. ผูข้ อเล่อื นเป็นวิทยฐานะผู้อานวยการเชี่ยวชาญหรือวิทยฐานะผู้อานวยการเช่ียวชาญพิเศษ ตอ้ งมคี ณุ สมบัติ นบั ถงึ วนั ทย่ี น่ื คาขอ ดังตอ่ ไปน้ี ๑.๑ การขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะผู้อานวยการเชี่ยวชาญ ต้ องมีระยะเวลาการดารงตาแหน่ง ผู้อานวยการสถานศึกษา วิทยฐานะผู้อานวยการชานาญการพิเศษ มาแล้วไม่น้อยกว่า ๔ ปีติดต่อกัน หรือดารง ตาแหนง่ อืน่ ท่ี ก.ค.ศ. เทยี บเทา่ สาหรับการขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะผู้อานวยการเช่ียวชาญพิเศษ ต้องมีระยะเวลาการดารงตาแหน่ง ผู้อานวยการสถานศึกษา วิทยฐานะผู้อานวยการเช่ียวชาญ มาแล้วไม่น้อยกว่า ๔ ปีติดต่อกัน หรือดารงตาแหน่งอื่น ที่ ก.ค.ศ. เทยี บเทา่ ๑.๒ มีการพัฒนางานตามข้อตกลงในตาแหน่งผู้อานวยการสถานศึกษา วิทยฐานะผู้อานวยการ ชานาญการพิเศษ หรือในวิทยฐานะผู้อานวยการเช่ียวชาญ แล้วแต่กรณี ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง ๓ รอบ การประเมินโดยในแต่ละรอบการประเมินต้องมีภาระงานเป็นไปตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด และมีผลการประเมิน ไมต่ า่ กวา่ รอ้ ยละ ๗๐ ๑.๓ มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง ๔ ปี ต้องไม่เคย ถกู ลงโทษทางวินัยท่ีหนักกว่าโทษภาคทัณฑ์ หรือไม่เคยถูกวินิจฉัยชี้ขาดทางจรรยาบรรณวิชาชีพที่หนักกว่าภาคทัณฑ์ หากปีใดผู้อานวยการสถานศึกษาถูกลงโทษทางวินัยหนักกว่าโทษภาคทัณฑ์หรือถูกวินิจฉัยชี้ขาด ทางจรรยาบรรณ วิชาชีพทห่ี นกั กว่าภาคทณั ฑ์ ไมใ่ ห้นาระยะเวลาในปีน้นั มาใชเ้ ปน็ คุณสมบตั ิตามขอ้ นี้ กรณีผู้ขอมีคุณสมบัติเป็นไปตามเงื่อนไขการลดระยะเวลาในการดารงตาแหน่งหรือการดารงวิทยฐานะ ของผู้ขอมีวทิ ยฐานะหรือเล่ือนวทิ ยฐานะ ตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด ใหล้ ดระยะเวลาตามหลักเกณฑ์ ข้อ ๑.๑ เหลอื ๓ ปี ติดต่อกัน มีผลการพัฒนางานตามข้อตกลง ตามหลักเกณฑ์ ข้อ 1.๒ จานวน ๒ รอบการประเมิน และลดช่วงระยะเวลา ตามหลกั เกณฑ์ ข้อ ๑.๓ เหลือ ๓ ปี ท้ังน้ี ให้ผู้ขอและผู้บังคับบัญชาเป็นผู้รับรองข้อมูล หลักฐาน และคุณสมบัติของผู้ขอหากภายหลัง ตรวจสอบแล้วพบวา่ มคี ุณสมบตั ไิ ม่เป็นไปตามหลักเกณฑน์ ้ี ให้ถือว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ ๒. ผู้ขอตอ้ งผา่ นการประเมนิ ๓ ด้าน ดังนี้ ด้ำนที่ ๑ ด้านทักษะการวางแผนพัฒนาสถานศึกษา กลยุทธ์ การใช้เครื่องมือหรือนวัตกรรมทางการบริหาร พจิ ารณาจาก ๑) รายงานผลการดาเนินการตามแผนพัฒนาสถานศึกษา กลยุทธ์ การใช้เคร่ืองมือ หรือนวัตกรรมทางการบริหาร ตามโครงการหรือกิจกรรมในแผนพัฒนาสถานศึกษาในรูปแบบไฟล์ PDF ซ่ึงผู้ขอ ได้พัฒนาขึ้นและนาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาจริงในช่วงที่ดารงวิทยฐานะผู้อานวยการ ชานาญการพิเศษ หรือวิทยฐานะผอู้ านวยการเชยี่ วชาญ แล้วแตก่ รณี ๒) การนาเสนอการพัฒนาสถานศึกษา กลยุทธ์ การใช้เคร่ืองมอื หรอื นวตั กรรมทางการบริหาร ตามโครงการหรือกิจกรรมในแผนพัฒนาสถานศึกษา ที่เสนอในข้อ ๑) โดยแสดงให้เห็นถึงสภาพปัญหา ท่ีมา หรือแรงบันดาลใจ ระดับการปฏิบัติที่คาดหวังตามมาตรฐานวิทยฐานะที่ขอรับการประเมินและผลลัพธ์ท่ีเกิดขึ้น จากการดาเนินการตามโครงการหรือกิจกรรม ท่ีส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียน ครู และสถานศึกษา ทั้งนี้ ให้นาเสนอเป็น ไฟลว์ ดี ทิ ศั น์ตามรูปแบบที่ ก.ค.ศ. กาหนด จานวน ๑ ไฟล์
Search