Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แฟ้มสะสมผลงาน นายพิเชษฐ โกแสน

แฟ้มสะสมผลงาน นายพิเชษฐ โกแสน

Published by พิเชษฐ โกแสน, 2022-07-30 04:37:00

Description: แฟ้มสะสมผลงาน

Search

Read the Text Version

8. หากใชร้ ะบบปฏบิ ัตกิ ารวินโดวส์ 10 ควรเลอื กโปรแกรม 7 – Zip แบบใด ก. 7 – Zip 32 – bit X 86 for Linux ข. 7 – Zip 64 – bit X 64 for Linux ค. 7 – Zip 86 – bit X 86 for windows ง. 7 – Zip 64 – bit X 64 for windows 9. ขอ้ ใดไมใ่ ชโ่ ปรแกรมที่ใช้สำหรบั ดเู ว็บไซต์ (Web Browser) ก. Fire Fox ข. Foxit Reader ค. Microsoft Edge ง. Google Chrome 10. การถอนโปรแกรมท่ีตดิ ต้ังออกจากวนิ โดวส์ควรทำอย่างไร ก. ใชร้ ายการ Uninstall ในหวั ขอ้ Apps ข. ลบไอคอนโปรแกรมดังกลา่ วบนหน้าจอ ค. ลบไฟล์ทง้ั หมดของโปรแกรมทอ่ี ยใู่ นฮาร์ดดสิ ก์ ง. ลากไอคอนโปรแกรมดังกลา่ วลงในถงั ขยะ (Recycle Bin)

บนั ทกึ หลังสอน 1. ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ผลการเรียนของนักเรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ผลการสอนของครู ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการสอน หน่วยท่ี 8 ชื่อวิชา คอมพิวเตอรแ์ ละการบำรุงรกั ษา สอนคร้งั ท่ี 13 - 14 ชือ่ หน่วย การใชโ้ ปรแกรมอรรถประโยชน์ ช่วั โมงรวม 6 ชม. 1. สาระสำคัญ โปรแกรมอรรถประโยชน์ หรือที่เรียกทับศัพท์ว่าโปรแกรมยูทิลิตี้ (Utility) เป็นซอฟต์แวร์ที่นำมาใช้ ปรับแต่งหรือช่วยงาน โดยมีทั้งซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ หรือที่จัดหาเพิ่มเติมงานที่ต้อง ปรับแต่งโดยทั่วไป ได้แก่ การตรวจสอบคุณลักษณะเครื่อง การแบ่งส่วนหรือแบ่งพาร์ติชั่นฮาร์ดดิสก์และการ โคลนฮารด์ ดสิ ก์ 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกความหมายของโปรแกรมอรรถประโยชน์ได้ 2. ตรวจสอบคณุ ลกั ษณะของเคร่ืองได้ 3. แบ่งพารต์ ิชัน่ ฮารด์ ดิสก์ 4. สรา้ งไฟล์อมิ เมจของฮาร์ดดิสก์ดว้ ยโปรแกรม Acronis True Image ได้ 3. เนื้อหาสาระ 1. การตรวจสอบคณุ ลกั ษณะของเครือ่ ง 2. การแบง่ พาร์ตชิ นั่ ฮารด์ ดิสก์ 3. การสร้างไฟล์อิมเมจของฮาร์ดดสิ ก์

4. กิจกรรมการเรยี นการสอน กิจกรรมครู กิจกรรมนกั เรยี น ข้นั นำเขา้ สู่บทเรียน 1. ทดสอบผู้เรยี นโดยการสุ่มถามประมาณ 10 นาที 1. นักเรยี นศกึ ษาใบความรู้และรว่ มตอบ 2. ครูชมเชยนักเรยี นที่ตอบคำถามและแสดงความ คำถาม คิดเห็นพร้อมกับให้นกั เรียนในหอ้ งมีส่วนรว่ มในการแสดง ความชืน่ ชมกบั ผู้ท่ีตอบคำถามท้งั ผูท้ ี่ตอบถูกและผู้ทต่ี อบ ไมถ่ ูก ข้ันดำเนินการสอน 1. ใหน้ ักเรยี นศึกษาใบความรู้พร้อมอธิบายพรอ้ มกบั 1. นกั เรียนศกึ ษาใบความรู้และหนงั สอื ประจำ แสดงตัวอย่างบน Power Point เปน็ ขนั้ ตอนอย่าง หน่วยการเรียน ละเอียด 2. มีสว่ นรว่ มในการตอบและแสดงวิธกี ารหา 2. ใหน้ กั เรียนฝึกปฏบิ ตั กิ ารหาคำตอบไปพรอ้ มๆ บน คำตอบ Power Point 3. นกั เรยี นฝกึ เพื่อใหเ้ กิดความเขา้ ใจและ ทกั ษะในการแสดงวธิ กี ารคำตอบ 3. ให้ผู้เรยี นซกั ถามข้อสงสยั 4. ฟงั ครอู ธิบายสาระการเรยี นรู้ พร้อมซกั ถามข้อสงสัย 4. กำหนดให้นักเรียนทบทวนบทเรียนและฝกึ ปฏบิ ตั ิใน 5. ทำใบงานและแบบทดสอบหลังเรยี นท่ีได้รับ การแสดงวธิ ีการหาคำตอบกบั เนือ้ หาประจำหนว่ ยการ มอบหมายให้เสร็จทันภายในเวลาทก่ี ำหนด 7. ปรับปรงุ แกไ้ ขใบงานและแบบทดสอบหลัง เรียน เรยี นนำสง่ ครสู อนจนกว่าจะถูกต้องทกุ ข้อ 5. แจกใบงานใหน้ ักเรียนทำใบงานโดยออกมาแสดง 8. นกั เรียนร่วมกบั ครเู ฉลยใบงานและ แบบทดสอบหลงั เรียน วธิ กี ารหาคำตอบตามเลขทหี่ มุนเวียนกันจนครบทุกคนใน หอ้ งเรยี น 6. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั วเิ คราะหแ์ ละประเมินคำตอบ ครูคอยให้คำแนะนำและอธบิ ายหลกั การและเทคนิคใน การหาคำตอบไปด้วย 7. กำหนดให้นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียน 8. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น 9. ครแู ละผูเ้ รยี นร่วมกนั เฉลยใบงานและแบบทดสอบ ข้นั สรปุ 1. ครใู ห้นักเรยี นในห้องสรปุ สาระการเรยี นรปู้ ระจำหนว่ ย 1. รว่ มกบั ครูสรปุ สาระการเรียนรูป้ ระจำ การเรยี น หนว่ ย

5. สือ่ การสอนและแหล่งเรียนรู้ 1. ชุดการสอน PowerPoint / PDF File 2. หนังสอื เรียนเรยี นวิชาคอมพิวเตอรแ์ ละการบำรุงรักษา 3. ครูผ้สู อน, Internet, E-learning, Website , Visual Classroom 4. รายงานท่เี กี่ยวข้องกับสาระการเรยี นรู้ประจำหนว่ ย 5. ชุดการเรียนรูด้ ว้ ยโปรแกรมส่ือประสม 6. การวัดผลและการประเมินผล 1. ความสนใจในการเรียนรู้ การค้นคว้า การมีส่วนร่วมในกิจกรรม 2. การซกั ถามและการตอบคำถาม 3. การทำงานเป็นทมี (ให้ความสำคัญในการทำงานเป็นทีมงาน , การมสี ่วนรว่ มรบั ผิดชอบกันและกนั ของกลุ่ม ทีป่ ฏิบัตภิ าระงานรว่ มกันอย่างเป็นระบบ) 4. การสรปุ เนอ้ื หาบทเรียน องค์ความรู้ท่ีได้ในกิจกรรมการเรยี นการสอน และสามารถปฏบิ ัติภาระงานที่ได้รบั มอบหมายแลว้ เสร็จทันเวลาทก่ี ำหนด 5. บันทกึ ผลการเรียนรแู้ ละการเขยี นรายงานตนเอง (Self-Report) 6. แฟม้ สะสมผลงานในการปฏิบตั ิภาระงานที่มอบหมาย 7. ผลงาน / ชนิ้ งานของนกั ศกึ ษา 1. บนั ทกึ ผลการเรยี นรู้ การเขียนรายงานตนเอง 2. ผลงานการปฏิบัตติ ามใบงานทม่ี อบหมายประจำสาระการเรียนรู้ 8. กจิ กรรมเสนอแนะ /ภาระงานท่มี อบหมาย 1. ศึกษาค้นควา้ เพ่มิ เติมเก่ยี วกับสาระการเรยี นร้จู าก หนังสือ Internet , Website , บทเรยี นออนไลนใ์ น Visual Classroom ของสถานบันการศึกษาต่าง ๆ 2. บันทึกและสรปุ องคค์ วามรทู้ ี่ไดใ้ นการเรยี นเสนอครผู ูส้ อนหลังเสรจ็ ส้นิ การเรียนการสอนในแต่ละคร้งั 9. กิจกรรมเสนอแนะ 1. ถ้าผู้เรยี นมกี ารเตรยี มตวั ในการเรียนทด่ี ี เชน่ อ่าน และทำการศกึ ษาหนังสือเก่ยี วกบั หน่วยการเรียน มาก่อนถึงชว่ั โมงเรียน ผู้เรยี นจะสามารถเรียนและทำกิจกรรมตา่ งๆ ทคี่ รผู สู้ อนมอบหมายได้อยา่ ง มคี วามสขุ และเกดิ ความชอบ และสนุกกับการเรียนในช้นั เรียน 2. ผูเ้ รียนต้องมคี วามขยันหม่นั ฝึกฝนบทเรยี นอยเู่ สมอท้ังก่อนและหลังเรยี น 3. ผ้เู รียนตอ้ งมีความกลา้ ทจี่ ะถามเม่ือสงสัยท้ังในห้องและนอกหอ้ งเรยี นกับครผู ู้สอน

ภาระงานทม่ี อบหมาย บทที่ 8 เรือ่ ง การใชโ้ ปรแกรมอรรถประโยชน์ ………………………………………………………………………………………………………… คร้งั ท่ี 1 เรอ่ื ง การใชโ้ ปรแกรมอรรถประโยชน์ วธิ ปี ฏิบัติ 1. ผูเ้ รียนทำความเข้าใจกับบทเรียน 2. ผูเ้ รียนออกไปอธิบายถึงการใชง้ านโปรแกรมอรรถประโดยชน์ บน Power Point ตามเลขทหี่ มนุ เวยี นกนั จนครับทุกคนในหอ้ งเรียน เพ่ือใหน้ ักเรยี นเกิดประสบการณ์ร่วมในการกิจกรรมการเรียนรู้ 3. ฝึกปฏิบตั ิการใชง้ านโปรแกรมอรรถประโยชน์ 4. นักเรยี นช่วยกนั แสดงความคิดเห็น ถา้ เพ่ือนที่ออกไปเขียนแสดงการหาคำตองไม่ถกู ต้องนักเรยี นในห้อง ต้องรว่ มกนั แนะนำและเสนอแนะวธิ กี ารทีถ่ ูกต้อง 5. นักเรยี นแก้ไขปรบั ปรงุ ข้อบกพรอ่ งของช้ินงานให้ถูกต้องโดยการสรุปส่ิงท่ีผู้เรียนมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมแลว้ นำเขา้ แฟ้มสะสมผลงาน ภาระงานทมี่ อบหมาย 1. บอกความหมายของโปรแกรมอรรถประโยชน์ได้ 2. ตรวจสอบคณุ ลักษณะของเครอื่ งได้ 3. แบง่ พาร์ตชิ นั่ ฮารด์ ดิสกไ์ ด้ 4. สรา้ งไฟลอ์ มิ เมจของฮาร์ดดิสกด์ ว้ ยโปรแกรม Acronis True Image ได้ หน้าท่คี รูผู้สอน 1. กำหนดโจทย์ปัญหาเพ่ือให้ผูเ้ รยี นตอบคำถามและแสดงการหาคำตอบพร้อมใหค้ ะแนนการมสี ่วนรว่ มของผเู้ รยี น 2. สงั เกตพฤตกิ รรมในการมปี ระสบการณร์ ว่ มในกจิ กรรมการเรยี นรู้และให้คะแนน 3. กำหนดเวลาในการปฏบิ ัติกิจกรรมของผู้เรยี นแต่ละกจิ กรรมเพอ่ื ใหก้ ิจกรรมดำเนนิ การเป็นไปตามความเหมาะสม และผสู้ อนสามารถปรับเปลยี่ นกจิ กรรมได้ตามความเหมาะสมกบั จำนวนผ้เู รยี นถา้ ผู้เรยี นมจี ำนวนมากกส็ ามารถจดั กลุ่มผูเ้ รียนในการปฏิบัติกิจกรรมทมี่ อบหมาย 4. เฉลย ถ้านกั เรยี นคนใดตอบผิดให้นักเรยี นคนอื่น ช่วยแกไ้ ขให้ถูกตอ้ งและครูคอยเพมิ่ เติมและแนะนำเทคนคิ ให้นักเรียนเขา้ ใจหลกั ในการหาคำตอบได้ชัดเจนยิง่ ขนึ้

แบบฝึกหัด บทที่ 8 เรื่อง การใช้โปรแกรมอรรถประโยชน์ 1. ข้อใดเปน็ คำเรียกซอฟตแ์ วร์อรรถประโยชน์ ก. โอเอส (OS) ข. แอป (App) ค. แคด (CAD) ง. ยทู ิลิตี้ (Utility) 2. ขอ้ ใดคือขนั้ ตอนในการตรวจสอบคณุ ลักษณะของเคร่ืองโดยใช้วนิ โดวส์ ก. ดบั เบล้ิ คลกิ ไอคอนรปู Computer ข. คลกิ เมาส์ขวาท่ีไอคอนรปู Computer แลว้ เลอื กรายการ System info ค. คลกิ เมาสข์ วาที่ไอคอนรปู Computer แลว้ เลอื กรายการ Properties ง. คลกิ เมาส์ขวาท่ีไอคอนรูป Computer แลว้ เลอื กรายการ Manage 3. ซอฟตแ์ วรใ์ นขอ้ ใดใช้ตรวจสอบคณุ ลักษณะของเคร่อื ง ก. WinZip ข. 7 - Zip ค. CPU - Z ง. Partition Magic 4. การแบง่ พาร์ตชิ ัน่ ฮารด์ ดิสกก์ ระทำเพื่อส่งิ ใด ก. บบี อัดข้อมลู นฮาร์ดดิสก์ ข. จดั การฮาร์ดดิสก์ให้มปี ระสิทธิภาพมากขึ้น ค. จดั การฮาร์ดดสิ กใ์ หม้ ีความเร็วเพ่มื ขึน้ ง. แบง่ ฮาร์ดดิสก์เป็นไดร์ฟเสมอื นย่อยๆ หลายไดร์ฟ 5. ซอฟตแ์ วร์ใดในการจัดการพาร์ติช่ัน ก. Microsoft Studio ข. Microsoft Tool ค. Norton Ghost ง. MiniTool Partition Wizard 6. ขอ้ ใดคือรายการจัดการพารต์ ชิ ั่นในหนา้ ต่าง Computer Management ของวนิ โดวส์ 10 ก. Device Manager ข. Disk Management ค. System Tool ง. System Manager 7. การเปลย่ี นช่ืออักษรของไดร์ฟด้วย Disk Management จะใช้รายการใด ก. Properties ข. Change Label ค. Change Drive Letter

ง. Shrink Volume 8. เมนูใดใชใ้ นโปรแกรม Acronis True Image ใชส้ ำรองหรอื สร้างไฟล์อมิ เมจฮารด์ ดิสก์ ก. Backup ข. Recovery ค. Log ง. Tool & Utilities 9. เมนูใดใชใ้ นโปรแกรม Acronis True Image ใช้กคู้ นื ข้อมลู จากไฟล์อิมเมจ ก. Backup Drive To Drive ข. Recovery ค. Log ง. Tool & Utilities 10. การโคลนฮาร์ดดสิ กด์ ้วยโปรแกรม Acronis True Image อย่ใู นเมนูใด ก. Backup Drive To Drive ข. Recovery ค. Log ง. Tool & Utilities ตอนท่ี 2 ให้ผู้เรยี นตอบคำถามตอ่ ไปน้ี 1. โปรแกรมอรรถประโยชนค์ อื อะไร และมปี ระโยชน์อย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. จงบอกชือ่ โปรแกรมอรรถประโยชน์ และจุดประสงค์ในการใชง้ าน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. จงบอกความสมารถของ MiniTool Partition ในการจัดการพาร์ตชิ ั่นของฮาร์ดดสิ ก์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. จงบอกช่อื ซอฟต์ทมี่ ีความสามารถในการสร้างไฟลอ์ ิมเมจจากฮาร์ดดิสกข์ อง Norton Ghost ในการสำรอง และโคลนฮารด์ ิสก์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. จงบอกหน้าที่ของเมนูโปรแกรม Acronis True Image ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

บนั ทึกหลังสอน 1. ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ผลการเรยี นของนักเรียน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ผลการสอนของครู ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการสอน หน่วยท่ี 9 ช่อื วิชา คอมพิวเตอร์และการบำรงุ รกั ษา สอนครัง้ ท่ี 15 - 16 ชื่อหน่วย การแกป้ ัญหาและจดั การไวรัส ช่วั โมงรวม 6 ชม. 1. สาระสำคญั ภายหลังการประกอบหรือใช้งานเครื่อง งานที่ต้องดำเนินการต่อ คือ งานแก้ปัญหาเครื่อง งาน ตรวจสอบ และกำจดั ไวรสั คอมพวิ เตอร์ ทอ่ี าจเป็นสาเหตขุ องปญั หา เพื่อให้เครอ่ื งสามารถใชง้ านได้ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกแนวทางการแก้ปัญหาคอมพวิ เตอร์ตามเง่ือนไขตา่ งๆ ได้ 2. แสดงความรู้เกีย่ วกับเสยี งสญั ญาณแจ้งเตือนจาก BIOS 3. อธิบายความหมายและประเภทของไวรัสคอมพิวเตอรไ์ ด้ 4. บอกวิธีตรวจสอบและป้องกนั ไวรัสคอมพวิ เตอร์ได้ 5. ติดตง้ั และใช้งานโปรแกรม Avast Antivirus ได้ 3. เนอื้ หาสาระการเรยี นรู้ 1. การแกป้ ัญหาคอมพวิ เตอร์ 1. เสยี งสัญญาณแจ้งเตือนจาก BIOS 2. ไวรสั คอมพวิ เตอร์ 3. การตรวจสอบและป้องกนั ไวรัส 4. การใช้โปรแกรมตรวจและกำจดั ไวรสั 4. กจิ กรรมการเรียนการสอน กจิ กรรมครู กจิ กรรมนักเรียน ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรียน 1. ทดสอบพ้นื ฐานของผู้เรียนก่อนเรียนโดยการสุ่มถาม 1. นกั เรียนศึกษาใบความรู้และรว่ มกันแสดง 2. ครชู มเชยนักเรยี นท่ีตอบคำถามและแสดงความคดิ เหน็ ความคดิ เห็น พรอ้ มกบั ให้นักเรยี นในห้องมีสว่ นร่วม

ข้ันดำเนินการสอน 1. ให้นักเรียนศึกษาใบความรู้และครูอธิบายพร้อมกับ 1. นักเรียนศึกษาใบความรู้และหนังสือประจำ แสดงตัวอย่างประกอบบน Power Point เป็นลำดับ หนว่ ยการเรยี น ขนั้ ตอนอยา่ งละเอยี ด 2. มีส่วนร่วมในการตอบและแสดงวิธีการหา 2. ใหน้ ักเรียนฝกึ ปฏิบตั กิ ารหาคำตอบของการเรยี นแตล่ ะ คำตอบ หัวข้อไปพร้อมๆ กันบนกระดาน 3. นักเรียนฝึกเพื่อให้เกิดความเข้าใจและทักษะ 3. ใหผ้ ู้เรียนซักถามขอ้ สงสยั 4. กำหนดให้นกั เรยี นแสดงการหาคำตอบบน google ในการแสดงวิธกี ารคำตอบ meet 5. ครกู บั นักเรยี นร่วมกันหาเทคนิคและวธิ ีการหาคำตอบ 6. ครเู ฉลยและแนะนำวธิ ีการหาคำตอบ ขน้ั สรุป 1. ครูให้นักเรียนในห้องสรุปสาระการเรียนรู้ประจำหนว่ ย 1. ร่วมกบั ครูสรปุ สาระการเรียนรปู้ ระจำหนว่ ย การเรยี น 5. ส่ือการสอนและแหลง่ เรยี นรู้ 1. ชุดการสอน PowerPoint / PDF File 2. หนังสอื เรียนเรียนวชิ าคอมพวิ เตอร์และกากรบำรงุ รกั ษา 3. ครผู ูส้ อน, Internet, E-learning, Website , Visual Classroom , google meet 4. รายงานทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั สาระการเรยี นรู้ประจำหนว่ ย 5. ชดุ การเรียนรดู้ ว้ ยโปรแกรมสือ่ ประสม 6. การวดั ผลและการประเมินผล 1. ความสนใจในการเรียนรู้ การค้นควา้ การมีสว่ นร่วมในกิจกรรม 2. การซกั ถามและการตอบคำถาม 3. การทำงานเปน็ ทีม (ใหค้ วามสำคัญในการทำงานเป็นทีมงาน , การมีสว่ นร่วมรบั ผดิ ชอบกันและกันของกลมุ่ ท่ปี ฏิบัติภาระงานรว่ มกนั อยา่ งเป็นระบบ) 4. การสรุปเน้ือหาบทเรียน องค์ความรทู้ ไ่ี ด้ในกิจกรรมการเรียนการสอน และสามารถปฏิบัติภาระงานท่ีไดร้ ับ มอบหมายแลว้ เสรจ็ ทันเวลาที่กำหนด 5. บนั ทึกผลการเรยี นรู้และการเขยี นรายงานตนเอง (Self-Report) 6. แฟม้ สะสมผลงานในการปฏิบตั ภิ าระงานทม่ี อบหมาย 7. ผลงาน / ชน้ิ งานของนักศกึ ษา 1. บันทกึ ผลการเรียนรู้ การเขียนรายงานตนเอง 2. ผลงานการปฏิบตั ติ ามใบงานที่มอบหมายประจำสาระการเรียนรู้

8. กิจกรรมเสนอแนะ /ภาระงานทมี่ อบหมาย 1. ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาระการเรียนรู้จาก หนังสือ Internet , Website , บทเรียนออนไลน์ใน Visual Classroom ของสถานบนั การศึกษาต่าง ๆ , google meet 2. บันทกึ และสรุปองค์ความรู้ท่ไี ดใ้ นการเรียนเสนอครูผสู้ อนหลังเสร็จส้ินการเรยี นการสอนในแตล่ ะครัง้ 9. กิจกรรมเสนอแนะ 1. ถา้ ผู้เรยี นมกี ารเตรียมตวั ในการเรยี นท่ดี ี เช่น อา่ น และทำการศกึ ษาหนังสอื เก่ยี วกับหน่วยการเรียนมากก่อน ถงึ ชวั่ โมงเรยี น ผเู้ รยี น จะสามารถเรยี น และทำกจิ กรรมต่างๆ ที่ครผู สู้ อนมอบหมายได้อย่างมคี วามสุขและเกิด ความชอบและสนุกกับการเรียนในช้นั เรยี น 2. ผู้เรยี นตอ้ งมคี วามขยันหมัน่ ฝกึ ฝนบทเรยี นอย่เู สมอท้ังกอ่ นและหลังเรียน 3. ผูเ้ รยี นตอ้ งมีความกลา้ ที่จะถามเมอ่ื สงสยั ทง้ั ในห้องและนอกห้องเรยี นกับครูผูส้ อน

ภาระงานที่มอบหมาย บทท่ี 9 เรอ่ื ง การแกป้ ัญหาและจดั การไวรัส ………………………………………………………………………………………………………… เรื่อง การแก้ปญั หาคอมพิวเตอร์ วิธีปฏบิ ัติ 1. ผู้เรียนทำความเข้าใจกับบทเรยี น 2. ฝึกแก้ปญั หาทีเ่ กดิ ข้นึ กับคอมพวิ เตอร์ 3. ช่วยกนั วเิ คราะห์ปัญหาทเี่ กดิ ขนึ้ กับคอมพวิ เตอร์ 4. ฝกึ ปฏิบัติการแก้ปญั หาท่ีเกดิ ขึ้นกับคอมพิวเตอร์ 5. ออกไปแสดงวธิ ีการปัญหาทีเ่ กิดขน้ึ กบั คอมพิวเตอร์ 6. ปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามทม่ี อบหมายในเวลาทก่ี ำหนด 7. นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นถ้าเพื่อนที่ออกไปเขียนแสดงการหาคำตองไม่ถูกต้องนักเรียนในห้องตอ้ ง ร่วมกันแนะนำและเสนอแนะวธิ ีการทถ่ี กู ต้อง 8. นกั เรียนแก้ไขปรับปรงุ ขอ้ บกพร่องของชน้ิ งานให้ถูกต้องโดยการสรุปส่ิงที่ผูเ้ รียนมสี ่วนร่วมในกิจกรรม แลว้ นำเข้าแฟ้มสะสมผลงาน ภาระงานที่มอบหมาย 1. บอกแนวทางการแกป้ ัญหาคอมพิวเตอร์ตามเง่ือนไชตา่ งๆ 2. แสดงความรเู้ ก่ียวกับเสียงสัญญาณแจง้ เตอื นจาก BIOS 3. อธิบายความหมายและประเภทของไวรสั คอมพวิ เตอร์ 4. บอกวิธตี รวจสอบและป้องกนั ไวรสั คอมพวิ เตอรไ์ ด้ 5. ตดิ ตงั้ และใชง้ านโปรแกรม Avast Antivirus ได้ หนา้ ที่ครูผู้สอน 1. กำหนดโจทย์ปัญหาเพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นตอบคำถามและแสดงการหาคำตอบพรอ้ มใหค้ ะแนนการมีสว่ นร่วมของผเู้ รยี น 2. สังเกตพฤตกิ รรมในการมีประสบการณ์ร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้และให้คะแนน 3. กำหนดเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมของผู้เรียนแต่ละกิจกรรมเพื่อให้กิจกรรมดำเนินการเปน็ ไปตามความเหมาะสม และผู้สอนสามารถปรับเปลี่ยนกิจกรรมได้ตามความเหมาะสมกับจำนวนผู้เรียนถ้าผู้เรียนมีจำนวนมากก็สามารถจัด กลมุ่ ผเู้ รียนในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมที่มอบหมาย 4. เฉลย ถ้านักเรียนคนใดตอบผดิ ใหน้ ักเรียนคนอื่นช่วยแก้ไขให้ถูกตอ้ งและครูคอยเพิ่มเติมและแนะนำเทคนคิ ใหน้ ักเรยี นเข้าใจหลักในการหาคำตอบได้ชัดเจนยิ่งขึน้

แบบฝึกหัด บทท่ี 9 เร่อื ง การแก้ปญั หาและจัดการไวรสั 1. ข้อใดเป็นปญั หาคอมพวิ เตอรท์ เี่ กิดจากซอฟต์แวร์ ก. ไวรัสคอมพิวเตอร์ ข. ริบบอนเมนหู ายไป ค. ฮารด์ ดิสก์มี Bad Sector ง. เปิดเครอ่ื งมาหนา้ จอฟ้องวา่ Battery Low 2. ข้อใดน่าจะเปน็ ปญั หาคอมพิวเตอร์ที่เกดิ จากผู้ใช้งานมากท่ีสุด ก. ไมส่ ามารถเปดิ เคร่ืองได้ ข. ริบบอนเมนหู ายไป ค. ฮอาร์ดดิสก์มี Bad Sector ง. เปิดเครอ่ื งมาหนา้ จอฟอ้ งวา่ Battery Low 3. ถา้ เปดิ เคร่ืองใช้งานไดป้ กติ แตไ่ ฟ Power ไมต่ ดิ ควรแก้ไขสิ่งใด ก. เปลย่ี นแผน่ เมนบอรด์ ข. อปั เดต BIOS ค. เปลย่ี น Power LED ท่ีหน้าเคร่อื ง ง. ดูการเสยี บสาย Power LED ว่าสลบั ขวั้ ไหม 4. ถ้าเปดิ เคร่อื งแล้วหนา้ จอแจง้ วา่ Battery Low ควรแก้ปัญหาอย่างไร ก. เขา้ ไปตัง้ ค่า BIOS ใหม่ ข. อปั เดต BIOS ค. เปล่ียนแบตเตอรี่ CR 2032 ง. ตอ้ งเปลี่ยนแผ่นเมนบอรด์ 5. ถ้าเมนบอรด์ ท่ใี ช้ BIOS Award สง่ เสยี ง Beep ยาวเปน็ ระยะแสดงวา่ ก. เมนบอรด์ มปี ัญหา ข. น่าจะเป็นปญั หาทเ่ี กิดจาก RAM ค. นา่ จะเป็นปัญหาในสว่ นการ์ดแสดงผล ง. เป็นปัญหาทเี่ กดิ จากกล่องแหลง่ จา่ ยไฟ 6. ขอ้ ดคือลักษณะของมัลแวร์ท่ีเป็นไวรัส (Virus Computer) ก. เปิดช่องทางให้เกดิ การโจมตี ข. ขโมยขอ้ ความสว่ นตวั ของผู้ใช้ ค. สรา้ งหนา้ ต่างโฆษณาผดุ ขึ้นมาเสมอ ง. สำเนาตัวเองและแพรก่ ระจายไปยงั ไฟลต์ า่ งๆ 7. ไวรสั ทต่ี ดิ มากับไฟล์ใชง้ าน Microsoft Word เปน็ ไวรัสชนิดใด ก. ไวรสั บูตเซกเตอร์ ข. ไฟลไ์ วรัส ค. แมโครไวรัส ง. สปายแวร์

8. การแสดงหน้าจอโฆษณาแบบเดิมขนึ้ มาบอ่ ยๆ ในขณะใชอ้ ินเทอรเ์ น็ต น่าจะเกิดจากอะไร ก. ไวรสั คอมพวิ เตอร์ ข. แอดแวร์ (Adware) ค. สปายแวร์ (Spyware) ง. โทรจนั (Trojan) 9. กรณเี คร่ืองทำงานชา้ สามารถตรวจสอบดว้ ยวธิ ีใด ก. ใช้ Task manager ข. ใช้ Device manager ค. ใช้ Anti - Virus ง. ใช้ Firewall 10. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ซอฟต์แวรป์ อ้ งกนั ไวรสั คอมพิวเตอร์ ก. Avast ข. AVG ค. Kaspersky ง. Defrag ตอนที่ 2 ให้ผู้เรียนตอบคำถามต่อไปนี้ 1. ปัญหาของคอมพิวเตอร์ในภาพรวม เกดิ จากสาเหตุใดบา้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. เราสามารถวิเคราะห์ปัญหาเบ้อื งต้นจากสิ่งใดไดบ้ า้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. จงบอกสาเหตปุ ัญหาจากสัญญาณแจ้งเตือนต่อไปนี้ ในกรณีใช้ BIOS ของ Award 1. เสียง Beep ดังยาวต่อเนื่อง แสดงวา่ ………………………………………………………………………………… 2. เสยี ง Beep ยาว 1 ครง้ั สั้น 2 ครั้ง แสดงวา่ ……………………………………………………………………… 3. เสยี ง Beep ยาว 1 ครง้ั และสนั้ 3 ครั้ง แสดงว่า……………………………………………………………….. 4. เสียง Beep ส้ันหลายครง้ั ตอ่ เนอ่ื งกัน อาจเกิดจาก…………………………………………………………….. 4. จงบอกลักษณะของมลั แวร์ (Malware) ตอ่ ไปนี้ 1. โทรจัน (Trojan)………………………………………………………………………………… 2. วอร์ม (Worm)……………………………………………………………………… 3. สปายแวร์ (Spyware)……………………………………………………………….. 5. จงบอกวิธปี ้องกันไวรสั มา 3 ข้อ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

บันทึกหลังสอน 1. ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ผลการเรยี นของนักเรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ผลการสอนของครู ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการสอน หนว่ ยที่ 10 ชื่อวิชา คอมพิวเตอร์และการบำรุงรักษา สอนครั้งที่ 17 ชอ่ื หน่วย การบำรุงรักษาและการปรับปรงุ เครื่อง ชวั่ โมงรวม 6 ชม. 1. สาระสำคัญ ภายหลังการใช้งานเคร่ือง ควรมีการบำรุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อยู่เสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งาน นอกจากนี้ควรมีการสำรองข้อมูลเพื่อป้องกันข้อมูลเสียหาย และสามารถกู้คืนข้อมูลให้ กลับมาดั้งเดิมได้ รวมถึงการปรับปรุงเครื่อง (Upgrade) เพื่อเพิ่มสมรรถนะของเครื่องให้สูงขึ้น โดยไม่ต้อง จัดหาเครอื่ งใหม่ 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกวิธีการบำรงุ รกั ษาเคร่ืองและอปุ กรณค์ อมพิวเตอร์ได้ 2. มคี วามรู้และทักษะในการสำรองและก้คู นื ขอ้ มูล 3. บอกวิธีปรบั ปรงุ เคร่อื ง ให้มีสมรรถนะสูงขึ้นได้ 3. เน้ือหาสาระ 1. การบำรุงรักษาเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ 2. การสำรองและกคู้ ืนขอ้ มูล 3. การปรับปรุงเคร่อื ง

4. กจิ กรรมการเรียนการสอน กิจกรรมครู กจิ กรรมนักเรยี น ขนั้ นำเขา้ สู่บทเรียน 1. ทดสอบผเู้ รยี นโดยการส่มุ ถามประมาณ 10 นาที 1. นักเรยี นศกึ ษาใบความรู้และร่วมตอบ 2. ครชู มเชยนกั เรยี นท่ีตอบคำถามและแสดงความ คำถาม คิดเหน็ พร้อมกับใหน้ กั เรยี นในหอ้ งมีส่วนรว่ มในการแสดง ความช่นื ชมกับผูท้ ่ตี อบคำถามทัง้ ผทู้ ี่ตอบถกู และผู้ทต่ี อบ ไม่ถูก ขั้นดำเนินการสอน 1. ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาใบความรู้พร้อมอธบิ ายพร้อมกบั 1. นกั เรียนศึกษาใบความรู้และหนังสอื ประจำ แสดงตวั อยา่ งบน Power Point เป็นข้นั ตอนอย่าง หน่วยการเรียน ละเอียด 2. มีส่วนรว่ มในการตอบและแสดงวธิ กี ารหา 2. ใหน้ ักเรียนฝกึ ปฏบิ ัติการหาคำตอบไปพร้อมๆ บน คำตอบ google meet 3. นกั เรียนฝกึ เพื่อให้เกิดความเขา้ ใจและ 3. ให้ผู้เรยี นซกั ถามขอ้ สงสยั ทกั ษะในการแสดงวิธกี ารคำตอบ 4. กำหนดให้นักเรียนทบทวนบทเรยี นและฝกึ ปฏบิ ตั ิใน 4. ฟงั ครอู ธิบายสาระการเรียนรู้ การแสดงวิธีการหาคำตอบกบั เนื้อหาประจำหนว่ ยการ พร้อมซักถามข้อสงสัย เรียน 5. ทำใบงานและแบบทดสอบหลังเรยี นทไ่ี ด้รับ 5. แจกใบงานให้นักเรียนทำใบงานโดยออกมาแสดง มอบหมายให้เสร็จทันภายในเวลาทก่ี ำหนด วธิ ีการหาคำตอบบน google meet ตามเลขที่หมุนเวยี น 7. ปรับปรุงแกไ้ ขใบงานและแบบทดสอบหลงั กนั จนครบทุกคนในห้องเรียน เรยี นนำส่งครสู อนจนกวา่ จะถูกต้องทกุ ข้อ 6. ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ คำตอบ 8. นักเรียนรว่ มกับครเู ฉลยใบงานและ ครูคอยใหค้ ำแนะนำและอธิบายหลักการและเทคนิคใน แบบทดสอบหลังเรยี น การหาคำตอบไปด้วย 7. กำหนดใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น 8. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน 9. ครแู ละผู้เรยี นรว่ มกันเฉลยใบงานและแบบทดสอบ ข้ันสรุป 1. ครูใหน้ ักเรยี นในห้องสรปุ สาระการเรียนรปู้ ระจำหนว่ ย 1. ร่วมกบั ครูสรปุ สาระการเรียนรปู้ ระจำ การเรียน หนว่ ย

5. ส่ือการสอนและแหลง่ เรียนรู้ 6. ชดุ การสอน PowerPoint / PDF File 7. หนงั สอื เรยี นเรยี นวิชาคอมพิวเตอรแ์ ละการบำรุงรักษา 8. ครูผู้สอน, Internet, E-learning, Website , Visual Classroom , google meet 9. รายงานที่เก่ยี วข้องกบั สาระการเรียนรูป้ ระจำหน่วย 10. ชดุ การเรียนรู้ดว้ ยโปรแกรมสื่อประสม 6. การวดั ผลและการประเมินผล 7. ความสนใจในการเรียนรู้ การคน้ ควา้ การมีส่วนร่วมในกจิ กรรม 8. การซกั ถามและการตอบคำถาม 9. การทำงานเปน็ ทีม (ให้ความสำคญั ในการทำงานเปน็ ทมี งาน , การมีสว่ นร่วมรับผดิ ชอบกันและกนั ของกลมุ่ ท่ปี ฏิบตั ิภาระงานร่วมกันอย่างเปน็ ระบบ) 10. การสรุปเนื้อหาบทเรียน องค์ความรทู้ ไ่ี ด้ในกจิ กรรมการเรยี นการสอน และสามารถปฏิบัตภิ าระงานท่ีไดร้ บั มอบหมายแลว้ เสรจ็ ทนั เวลาทีก่ ำหนด 11. บนั ทึกผลการเรียนร้แู ละการเขียนรายงานตนเอง (Self-Report) 12. แฟ้มสะสมผลงานในการปฏบิ ตั ภิ าระงานท่มี อบหมาย 7. ผลงาน / ชน้ิ งานของนักศกึ ษา 3. บนั ทึกผลการเรยี นรู้ การเขียนรายงานตนเอง 4. ผลงานการปฏิบตั ติ ามใบงานท่มี อบหมายประจำสาระการเรียนรู้ 8. กจิ กรรมเสนอแนะ /ภาระงานท่มี อบหมาย 3. ศึกษาค้นคว้าเพม่ิ เติมเก่ยี วกับสาระการเรยี นรจู้ าก หนังสอื Internet , Website , บทเรียนออนไลนใ์ น Visual Classroom ของสถานบนั การศึกษาต่าง ๆ 4. บันทกึ และสรุปองคค์ วามรทู้ ่ีได้ในการเรียนเสนอครูผู้สอนหลังเสรจ็ ส้นิ การเรยี นการสอนในแตล่ ะคร้งั 9. กิจกรรมเสนอแนะ 4. ถ้าผเู้ รียนมกี ารเตรยี มตัวในการเรยี นที่ดี เชน่ อ่าน และทำการศึกษาหนังสือเกย่ี วกบั หนว่ ยการเรยี น มาก่อนถึงชว่ั โมงเรียน ผเู้ รยี นจะสามารถเรยี นและทำกิจกรรมตา่ งๆ ทคี่ รผู ูส้ อนมอบหมายไดอ้ ย่าง มคี วามสุขและเกดิ ความชอบ และสนุกกับการเรียนในชัน้ เรียน 5. ผู้เรียนต้องมีความขยนั หม่ันฝึกฝนบทเรียนอย่เู สมอท้ังก่อนและหลังเรยี น 6. ผ้เู รียนตอ้ งมีความกลา้ ที่จะถามเมอื่ สงสัยทั้งในห้องและนอกหอ้ งเรียนกบั ครูผูส้ อน

ภาระงานท่มี อบหมาย บทท่ี 10 เรอื่ ง การบำรุงรกั ษาและปรบั ปรุงเครอ่ื ง ………………………………………………………………………………………………………… ครัง้ ท่ี 1 เรอ่ื ง การบำรุงรกั ษาและการปรับปรุงเครือ่ ง วธิ ีปฏิบตั ิ 1. ผูเ้ รียนทำความเข้าใจกับบทเรียน 2. ผูเ้ รียนออกไปอธบิ ายถงึ การบำรุงรกั ษาและปรับปรุงเคร่ือง บนกระดานตามเลขทห่ี มุนเวียนกันจนครับทกุ คนในหอ้ งเรยี น เพื่อให้นกั เรยี นเกิดประสบการณร์ ่วมในการกจิ กรรมการเรยี นรู้ 3. ฝึกปฏิบัติการบำรงุ รกั ษาและการปรับปรุงเคร่ือง 4. นกั เรยี นช่วยกันแสดงความคิดเหน็ ถ้าเพ่อื นท่ีออกไปเขียนแสดงการหาคำตองไม่ถกู ต้องนกั เรียนในห้องตอ้ ง ร่วมกนั แนะนำและเสนอแนะวิธีการท่ีถกู ต้อง 5. นกั เรยี นแกไ้ ขปรบั ปรงุ ขอ้ บกพร่องของช้ินงานให้ถกู ต้องโดยการสรุปสงิ่ ท่ผี ู้เรยี นมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมแล้ว นำเขา้ แฟ้มสะสมผลงาน ภาระงานทมี่ อบหมาย 1. บอกวธิ ีการบำรุงรกั ษาเคร่ืองและอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ได้ 2. มคี วามรู้และทักษะในการสำรองและก้คู นื ข้อมูล 3. บอกวิธปี รบั ปรุงเครอื่ ง ให้มีสมรรถนะสูงขน้ึ ได้ หนา้ ทค่ี รูผู้สอน 1. กำหนดโจทย์ปญั หาเพอื่ ให้ผูเ้ รียนตอบคำถามและแสดงการหาคำตอบพรอ้ มใหค้ ะแนนการมสี ่วนรว่ มของผเู้ รยี น 2. สงั เกตพฤตกิ รรมในการมีประสบการณร์ ่วมในกิจกรรมการเรยี นร้แู ละใหค้ ะแนน 3. กำหนดเวลาในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมของผูเ้ รียนแต่ละกิจกรรมเพ่ือใหก้ จิ กรรมดำเนินการเป็นไปตามความเหมาะสม และผสู้ อนสามารถปรับเปล่ยี นกิจกรรมไดต้ ามความเหมาะสมกบั จำนวนผูเ้ รยี นถา้ ผเู้ รยี นมจี ำนวนมากกส็ ามารถจดั กลุ่มผเู้ รยี นในการปฏบิ ัติกจิ กรรมทมี่ อบหมาย 4. เฉลย ถ้านักเรยี นคนใดตอบผดิ ใหน้ กั เรยี นคนอ่ืน ชว่ ยแก้ไขใหถ้ ูกตอ้ งและครคู อยเพิ่มเติมและแนะนำเทคนิค ให้นกั เรยี นเข้าใจหลกั ในการหาคำตอบได้ชดั เจนย่งิ ข้นึ

แบบฝกึ หัด บทท่ี 10 เร่ือง การบำรงุ รกั ษาและปรบั ปรุงเคร่อื ง 1. ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยในการทำใหเ้ คร่อื งเส่ือมสภาพ ก. ความรอ้ น ข. แสงสว่าง ค. ความชืน้ ง. ฝุ่นละออง 2. ในกรณมี ปี ัญหาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า เราควรนำอปุ กรณใ์ ดมาใช้งาน ก. UPS ข. Battery ค. Stabilizer ง. Convertor 3. ถา้ เจอปัญหาใชง้ านเคร่อื งแล้วไฟดูดควรแกป้ ัญหาข้างต้นอย่างไร ก. เปล่ียนสวติ ซ์ไฟ ข. ต่อสายดนิ ค. ใช้ขวั้ ตอ่ แบบ 3 ช่อง ง. ใช้แผ่นยางหรอื ฉนวนรองท่ีพ้นื บรเิ วณใชง้ าน 4. เคร่อื งมือในวนิ โดวทใ่ี ช้สำรองข้อมูล จะอยูใ่ นหัวข้อใด ก. Privacy ข. Update & Security ค. Windows Tool ง. Windows Utility 5. ซอฟตแ์ วรใ์ ดทใ่ี ช้ในการกคู้ ืนขอ้ มูลที่ถกู ลบ ก. Restore ข. Recycle ค. Recuva ง. Paravecto 6. ข้อใดเปน็ วิธปี รับปรุงเคร่ือง (Update) โดยเสยี คา่ ใชจ้ า่ ยนอ้ ยทีส่ ดุ ก. เพิ่มหนว่ ยความจำ ข. เปลี่ยนแผงหนว่ ยความจำ ค. เปลย่ี นการด์ แสดงผล ง. เพิม่ ความเร็วโดยวธิ ี Over Clock 7. ขอ้ ใดเปน็ วธิ ีปรบั ปรงุ เครื่องท่ีรวดเร็วทส่ี ดุ ก. เปลย่ี นซพี ียู ข. เพิม่ แผงหนว่ ยความจำ ค. เปลี่ยนแผ่นการ์ด ง. Over Clock

8. ถ้าตอ้ งการเปดิ เครื่องและโปรแกรมให้เรว็ ขึน้ ควรใชว้ ธิ ใี ดจะใหผ้ ลดที ่สี ุด ก. เปล่ียนซพี ยี ู ข. เพมิ่ หนว่ ยความจำ ค. Over Clock CPU ง. เปลีย่ นฮาร์ดดิสกเ์ ปน็ SSD 9. ข้อใดไมใ่ ชส่ งิ่ ที่พจิ ารณาในการเปลยี่ นซพี ยี ู ก. ราคาของซีพียู ข. ชอ่ งเสยี บซพี ยี บู นเมนบอร์ด ค. ชิปเซตที่ใชง้ านบนเมนบอร์ด ง. BIOS บนเมนบอรด์ 10. ขอ้ ใดเป็นวธิ ีปรับปรุงเครื่องที่เสยี่ งต่อปัญหาการใชง้ านมากทสี่ ุด ก. การเปลย่ี นซพี ยี ู ข. การเพิ่มแผงหนว่ ยความจำ ค. การเปลีย่ นแผ่นการ์ด ง. การ Over Clock ตอนที่ 2 ใหผ้ ้เู รยี นตอบคำถามตอ่ ไปนี้ 1. จงบอกถึงปจั จัยทีท่ ำใหเ้ คร่ืองชำรดุ หรือเสื่อมสภาพไดง้ า่ ย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. จงบอกวธิ ีดแู ลรักษาเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ 3 ขอ้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. จงบอกวธิ คี ืนข้อมลู ในฮาร์ดดิสก์มา 3 วิธี ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. จงบอกวิธปี รับปรุง (Upgrade) เคร่ืองให้ทำงานเร็วข้ึน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. ถา้ ตอ้ งการเปล่ยี นซีพยี ูตวั ใหม่ตอ้ งพิจารณาสิ่งใดบา้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. ถ้าตอ้ งการเพิ่มหรอื เปลยี่ นแผงหน่วยความจำต้องพจิ ารณาส่ิงใดบา้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

บันทกึ หลังสอน 1. ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ผลการเรยี นของนักเรียน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ผลการสอนของครู ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ภาคผนวก แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ของผู้เรยี น

แบบประเมนิ คณุ ธรรมจริยธรรม วชิ าคอมพิวเตอรแ์ ละการบำรุงรกั ษา รหสั 20204 – 2002 ภาคเรียนที่…1…..ปกี ารศกึ ษา…2564……. หวั ข้อประเมนิ 1. การปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบียบของสถานศกึ ษา 2. มคี วามรบั ผิดชอบใฝด่ ใี ฝร่ ู้ 3. สนใจปฏบิ ตั งิ านท่ีมอบหมายด้วยความกระตือรือรน้ 4. สะอาดเป็นระเบียบและมีจรรยามารยาท 5. ซ่อื สัตย์ เสยี สละ และมีนำ้ ใจ 6. รหู้ น้าทีแ่ ละตระหนักในความพอเพยี งตามศักยภาพของการเปน็ นกั เรยี นนักศึกษา ............................................................................................................................. ................................ รูปแบบการประเมนิ ใหค้ ะแนน 5 = ดเี ย่ยี ม , 4 = ดี , 3 = พอใช้ , 2 = ควรปรับปรุง , 1 = รว่ มกิจกรรม , 0 = ไมร่ ่วมกิจกรรม หวั ข้อประเมิน เลขท่ี ช่ือ – สกุล 1. 2. 3. 4. 5. 6. รวม ลงชือ่ ผปู้ ระเมนิ คะแนน 1 2 3 4 5 6 ขอ้ คิดเหน็ จากผ้ปู ระเมนิ ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงชือ่ ...............................................ผปู้ ระเมนิ (……………………………) วันท่ี…………เดือน……………ปีพ.ศ.………

แบบประเมินสาระการเรียนรู้ วิชาคณิตศาสตรค์ อมพิวเตอร์ รหสั 20204 – 2002 ภาคเรียนที่…1…..ปีการศกึ ษา…2564……. หัวข้อประเมิน 1. หลกั การและเทคนิคในกระบวนการคิด และ ตอบคำถาม 2. เกดิ ความรู้ความเข้าใจในสาระการเรยี นรู้จนสามารถปฏิบัตติ ามใบงานและแบบฝึกหดั ได้ 3. มที ักษะในการวเิ คราะห์และประมวลผล 4. สามารถนำความรไู้ ปประยุกตใ์ ชใ้ นหลกั การคอมพิวเตอร์ 5. กระบวนการแก้ปัญหาและกระบวนการสบื ค้นเพื่อหาคำตอบ 6. มีโนภาพและความคิดรวบยอดในกระบวนการเรียนรู้ ............................................................................................................................................................. รปู แบบการประเมนิ ใหค้ ะแนน 5 = ดีเย่ียม , 4 = ดี , 3 = พอใช้ , 2 = ควรปรับปรุง , 1 = ร่วมกจิ กรรม , 0 = ไม่รว่ มกิจกรรม หวั ข้อประเมนิ เลขท่ี ชอ่ื – สกลุ 1. 2. 3. 4. 5. 6. รวม ลงชื่อผ้ปู ระเมิน คะแนน 1 2 3 4 5 6 ขอ้ คดิ เหน็ จากผปู้ ระเมิน ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………………………………… ลงช่อื ...............................................ผู้ประเมนิ (……………………………) วนั ที่…………เดอื น……………ปีพ.ศ.………



รายงานการวจิ ัย เรื่อง การพัฒนาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น ระดับชนั้ ปวส.1 รายวิชาการออกแบบและพฒั นาเวบ็ ไซต์ โดยการใช้รูปแบบการฝกึ ปฏบิ ตั ิรว่ มกบั เทคนคิ การสอนแบบสาธติ และสอ่ื การสอน CAI โดย นายพเิ ชษฐ โกแสน วทิ ยาลยั เทคนคิ นครลำปาง สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา

ช่อื เร่อื ง การพฒั นาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน ระดับชนั้ ปวส.1 รายวชิ าการออกแบบและ พัฒนาเว็บไซต์โดยการใช้รูปแบบการฝึกปฏิบัติร่วมกับเทคนิคการสอนแบบสาธิต ผ้เู ขียน และสื่อการสอน CAI สาขาวชิ า นายพิเชษฐ โกแสน ปกี ารศกึ ษา เทคโนโลยีสารสนเทศ 2564 บทคดั ยอ่ การวิจัยคร้ังน้ีมีวัตถุประสงค์ 1.) เพ่ือศึกษาความคิดเห็นของผู้เรียนท่ีมีต่อวิธีการจัดการเรียนรู้แบบ โดยการใช้รูปแบบการฝึกปฏิบัติร่วมกับเทคนิคการสอนแบบสาธิตและสื่อการสอน CAI 2.) เพื่อเปรียบเทียบ คะแนนสอบก่อนและหลงั เรียนของผู้เรยี นดว้ ยบทเรียน CAI รายวิชาการออกแบบและพัฒนาเวบ็ ไซต์ ชั้นปวส. 1 สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ วิทยาลัยเทคนิคนครลำปาง 3.) เพ่ือศึกษาความคิดเห็นของผู้เรียนท่ีมีต่อ วิธีการจัดการเรียนรู้แบบการฝึกปฏิบัติร่วมกับเทคนิคการสอนแบบสาธิตและส่ือการสอน CAI ประชากรที่ใช้ วิจัยในคร้ังนี้ คือ ผู้เรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง(ปวส.) ห้อง 1 สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ วิทยาลัยเทคนิคนครลำปาง ภาคเรียนที่ ๒ ปี การศึกษา 2564 จํานวน 1 ห้อง จํานวนผู้เรียนทั้งหมด 1๒ คน เครื่องมือท่ีใช้ในการวิจัยแบ่งเป็น 2 ประเภทเครื่องมือท่ีใช้ในการจัดการเรียนรู้และเคร่ืองมือที่ใช้ใน การประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1.) เครื่องมือท่ีใช้ในการจัดการเรียนรู้ 1.1)แผนการสอนวิชาการ ออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ 1.2) แผนการจัดการเรียนรู้แบบใช้ฝึกปฏิบัติร่วมกับเทคนิคการสอนแบบสาธิต และส่ือการสอน CAI 1.3) แผนการนิเทศเพ่ือพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ 2.) เครื่องมือท่ีใช้ในการ ประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2.1) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาการออกแบบและ พัฒนาเว็บไซต์ โดยใช้CAI 2.2) แบบบันทึกความคิดเห็นของผู้เรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ของครู (Reflective Journal) 2.3) แบบบันทึกความคิดเห็นของครูที่มีต่อความสามารถด้านการพัฒนาวิชาชีพและ การจัดการเรียนรู้ของตนเอง โดยใช้สถิติ X และค่าเฉลี่ยร้อยละผลการวิจัยพบว่าวิธีสอนแบบการฝึกปฏิบัติ ร่วมกับเทคนิคการสอนแบบสาธิตโดยบทเรียนCAIผู้เรียนศึกษาค้นคว้าหาความรู้และทําให้เกิดผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนในรายวิชาการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ของผู้เรียนระดับช้ัน ปวส.1 จํานวน 1๒ คน คิดเป็น คา่ เฉล่ียจากคะแนนแบบทดสอบก่อนเรียนคือ 4.41 และคา่ เฉลยี่ จากคะแนนแบบทดสอบหลงั เรียนคือ 7.02 ซ่ึงผู้เรียนมีการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามค่าเฉลี่ยโดยคิดเป็นร้อยล่ะเพิ่มข้ึน 26.13%และผู้เรียนมี ความพึงพอใจในการรูปแบบการฝึกปฏิบัติร่วมเทคนิคการสอนแบบสาธิตและส่ือการสอน CAIมีค่าเฉล่ีย ( X ) = 4.93 คดิ เปน็ รอ้ ยละ98.20 ซึ่งสอดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์ทกี่ ำหนด

บทท่ี 1 บทนำ ความเปน็ มาและความสำคัญของปญั หา การศึกษาตามอัธยาศัยตามพระราชบัญญัติการศึกษา พ.ศ.2542 ได้กล่าวไว้ในหมวด 3 ว่าด้วย การศึกษารูปแบบการศึกษาตามอัธยาศัย เป็นการศึกษาท่ีให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจศักยภาพ ความพร้อมและโอกาส ซึ่งคอมพิวเตอร์สามารถที่จะใช้เป็นสื่อท่ีผู้เรียนสามารถนํามาใช้เรียนรู้ด้วยตนเองได้ โดยอาศัยคุณสมบัติของคอมพิวเตอร์ เพ่ือสนองต่อการศึกษาตามอัธยาศัยทีผู้เรียนจะมีอิสระในการควบคุม เนื้อหา สามารถเลือกเรียนในส่วนท่ีต้องการได้หรือ การควบคุมลําดับและอัตราการเรียนได้พร้อมท้ังพัฒนา คุณภาพการศึกษา ให้คนไทยมีคุณภาพและศักยภาพซ่ึงเป็นกลไกสําคัญใน การพัฒนาประเทศให้มีสมรถนะ และขีดความสามารถในการแข่งขันเพ่ิมขึ้นท้ังในระดับภูมิภาคและในระดับโลก สํานักงานเลขาธิการสภา การศึกษาจึงได้จัดทํายุทธศาสตร์เพ่ือให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ดังกล่าว โดยการเตรียมความพร้อมและ พัฒนาการของผู้เรียนการพัฒนาคุณภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือ การศึกษาการจัดระบบการศึกษาท่ีส่งผลต่อคุณภาพการศึกษาการสร้างความเข้มแข็งของสถานศึกษาเพื่อ พัฒนาคุณภาพ และ การสง่ เสริมการมีส่วนรว่ มของทกุ ภาคสว่ นในสงั คม เพอื่ ใหผ้ ้ทู สี่ าํ เร็จการศึกษามีทักษะที่ สอดคลอ้ งกบั ตลาดแรงงาน จากการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ กำหนดมาตรฐานและสาระการ เรียนรู้ไว้ว่าผู้เรียนต้องสามารถเข้าใจในรายวิชาการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ได้ ซ่ึงจากการที่ได้สอนน้ัน ผ้เู รยี นค่อนข้างขาดทักษะในการเรียนรู้และเนื้อหาวิชาการใน เนื้อหาวชิ าดังกล่าวคือ การออกแบบและพัฒนา เวบ็ ไซต์ น้ันยังเขียนไม่คอ่ ยได้ ซ่ึงในเนื้อหาในส่วนน้ีน้ันมีเน้ือหาที่ต้องเรยี นมมี าก จึงสง่ ผลใหผ้ ู้เรียนไม่สามารถ สรา้ งช้ินงานตามคําสง่ั ได้ ดังน้ัน ผู้วิจัยในฐานะครูผู้สอนจึงสนใจท่ีจะแก้ปัญหา ทําให้ผู้เรียนเกิดทักษะทางกระบวนการทาง ความคิดสูงข้ึนและทําให้เกิดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนในวิชาการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์บทเรียน CAI ใน รายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศข้ึน เพื่อจัดแบ่งเน้ือหาให้เป็นลําดับข้ันตอนจากง่ายไปยาก ซึ่งผู้วิจัยคาดหวังว่า การเรยี นรูจ้ ากส่อื CAI ครง้ั น้ีจะช่วยให้ผู้เรยี นมผี ลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนที่ดขี น้ึ วตั ถุประสงคแ์ ละเปา้ หมายการวจิ ยั 1. เพือ่ เปรียบเทียบคะแนนสอบก่อนและหลังเรียนของผเู้ รียนดว้ ยบทเรียน CAI รายวชิ าการออกแบบ และพัฒนาเวบ็ ไซต์ ชัน้ ปวส.1 สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ วิทยาลยั เทคนิคนครลำปาง 2. เพอื่ ศึกษาความคดิ เหน็ ของผู้เรียนทีม่ ีต่อวิธีการจดั การเรียนรู้แบบการฝึกปฏิบตั ริ ่วมกับเทคนคิ การ สอนแบบสาธิตและส่ือการสอน CAI สมมติฐาน 1. ผู้เรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้ส่ือการสอน CAI มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระบบปฏิบัติการ เครอ่ื งแม่ขา่ ยหลงั เรยี นสงู กวาก่อนเรียน 2. ผ้เู รยี นท่ไี ด้รบั การสอนโดยการฝึกปฏิบตั ิร่วมเทคนิคการสอนแบบสาธติ และส่ือการสอน CAI มี ความคิดเห็นต่อการสอนของครูในระดบั มาก

นยิ ามศพั ท์ 1.บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) หมายถึงสื่อการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่ง ซึ่งใช้ความสามารถของคอมพิวเตอร์ในกานําเสนอสื่อประสม อันได้แก่ ข้อความ ภาพนิ่ง กราฟ แผนภูมิ กราฟฟิก ภาพเคล่อื นไหว วีดิทัศนแ์ ละเสียง เพ่ือถ่ายทอดเนือ้ หาบทเรียนหรอื องค์ความรู้ในลักษณะท่ีใกล้เคียง กับการสอนจรงิ ในห้องเรยี นมากที่สุด 2.วิธีสอนแบบสาธิต (Demonstration Method) วิธีสอนแบบสาธติ (Demonstration Method) หมายถึงวิธีสอนทีค่ รูมหี น้าทใ่ี นการวางแผนการเรียนการสอนเป็นส่วนใหญ่ โดยมีการแสดงหรือการกระทาํ ให้ดู เป็นตัวอย่างผู้เรียนจะเกิดการเรียนรู้จากการสังเกต การฟัง การกระทํา หรือการแสดง และอาจเปิดโอกาสให้ ผ้เู รียนเขา้ มามีส่วนร่วมบา้ ง ขนั้ ตอนการจดั การเรียนรู้แบบสาธิต 1.ขนั้ เตรียมการสาธติ เป็นขนั้ ตอนการทาํ การสาธติ ซ่ึงครคู วรเตรียมตัวดงั น้ี 2.ขนั้ สาธติ เมื่อครูเขา้ สูช่ ั้นเรยี นแล้ว จงึ ดาํ เนนิ การสอนตามลําดับดงั นี้ 3.ขนั้ สรุปและวดั ผล การใช้รปู แบบการฝึก ปฏิบตั ริ ่ วมเทคนิคการสอนแบบ สาธติ และสอ่ื การสอน CAI นกั ศึกษามผี ลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นดีขน้ึ ความพึงพอใจ 3.ความพึงพอใจของผ้เู รียน หมายถึง คะแนนท่ีได้มาจากผลรวมของความคิดเห็นของผู้เรียนท่ีมีต่อ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยรูปแบบการสอนแบบทางตรง หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง การตกแต่งสไลด์ โดยใชผ้ งั องค์กร ซึง่ มีทงั้ หมด 5 ด้าน คือรูปแบบการสอนแบบทางตรง วิธีการเรียนการสอน ความรู้ที่ได้รับจาก การเรียนการสอน บรรยากาศในการเรียนการสอนและการวัดและประเมินผล เป็นแบบสอบถามท่ีผู้วิจัยสร้าง ขนึ้ มลี ักษณะเป็นแบบประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) 4.ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน หมายถึง ความรู้ความสามารถในการเรียนรายวิชาการออกแบบและ พัฒนาเว็บไซต์ ด้วยเทคโนโลยีจาวาซ่ึงวัดได้จากคะแนนการทําแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางเรียนรายวิชาการ ออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ ด้วยเทคโนโลยีจาวา เป็นแบบทดสอบ CAI ของคุณ วรางคณา งามยิ่งยืนโดย เน้ือหาแบบทดสอบน้ันมีทม่ี าจากhttps://sites.google.com/site/warangkanacai1/phu-cad-tha แนวคิด ทฤษฎี ขอบเขตการวจิ ัย 1. ประชากร ได้แก่ นักศึกษาระดับชั้น ปวส.1 สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ห้องปฏิบัติการ คอมพิวเตอร์ ที่กำลงั ศึกษาในวทิ ยาลยั เทคนิคนครลำปาง ปีการศึกษา 256๔ จำนวน 1๒ คน 2. เครือ่ งมอื ที่ใช้คือแบบประเมินพฤติกรรม และระดบั ผลการเรียน ของนกั ศกึ ษารายบุคคล 3. ขอบเขตด้านวตั กรรม 1. แผนการสอน 2. แบบประเมินพฤตกิ รรมนักศกึ ษารายบุคคล 4. ตัวแปร ได้แก่

1. ตวั แปรต้น ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ที่สอดแทรกการใช้ส่ือในชั้นเรียน,แบบประเมินพฤตกิ รรม นักศึกษารายบุคคล 2. ตัวแปรตาม ไดแ้ ก่ พฤตกิ รรมการเขา้ ชั้นเรยี นให้ตรงเวลานักเรยี น ช้ัน ปวส.1 สาขาวชิ าเทคโนโลยี สารสนเทศ หอ้ งปฏบิ ัติการคอมพิวเตอร์ ประโยชน์ของการวจิ ยั 1.นักศึกษามีพฤติกรรมในการเข้าช้ันเรียนในรายวิชาการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ท่ีส่งผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรยี นสงู ข้นึ 2.นกั ศกึ ษามีความเข้าใจในการใช้งานมากยง่ิ ข้ึน

บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกยี่ วข้อง ในการวจิ ยั คร้ังน้ี ผูว้ จิ ัยไดศ้ ึกษาเอกสารและงานวจิ ัยทีเ่ กย่ี วขอ้ ง ขอนำเสนอตามลำดับดังนี้ 1. ความหมายของแบบเรียนแบบโปรแกรมCAI 2. ทฤษฎกี ารเรยี นรู้แบบสาธิต (Demonstration Method) 3. งานวจิ ยั ท่เี กยี่ วข้อง ความหมายของแบบเรียนแบบโปรแกรมCAI 1. ( ถนอมพร , 2559 ) บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนหมายถึงส่ือการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ รูปแบบหน่ึงซ่ึงใช้ความสามารถของคอมพิวเตอร์ในกานําเสนอสื่อประสมอันได้แก่ ข้อความ ภาพนิ่งกราฟ แผนภูมิ กราฟฟิก ภาพเคลื่อนไหว วีดิทัศน์และเสียง เพื่อถ่ายทอดเน้ือหาบทเรียนหรือองค์ความรใู้ นลักษณะที่ ใกลเ้ คยี งกบั การสอนจริงในห้องเรียนมากท่สี ดุ 2. ( สุรางค์ , 2559) CAI คือ โปรแกรมบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ท่ีมีหน้าที่เป็นส่ือการเรียน การสอนเหมือนแผ่นใส (Transparent) สไลด์ (Slide) หรือวีดีทัศน์ (Video) ที่ใช้ประกอบการเรียนการสอน เพ่ือให้ผู้เรียนเข้าใจง่ายในเวลาอันจํากัด และตรงตามวัตถุประสงค์ของบทเรียนน้ัน ๆ แต่เน่ืองจากโปรแกรม เรยี นคอมพวิ เตอร์ทาํ หนา้ ที่ไดค้ รบทุกสื่อในเวลาเดยี วและควบคมุ การนาํ เสนอได้ดว้ ยตัวเอง เรียกว่า “ สื่ออเนก ทัศน์” หรอื “ มัลตมิ ีเดีย” (Multimedia) ทําให้ประหยดั และมีประสิทธภิ าพ 3. (กฤติกา , 2554 ) CAI เป็ นกระบวนการเรียนการสอนโดยใช้ส่ือคอมพิวเตอร์ในการนําเสนอ เนื้อหาเรื่องราวต่างๆ มีลักษณะเป็นการเรียนโดยตรงและเป็นการเรียนแบบมีปฏิสัมพันธ์(Interactive) กับ ผเู้ รยี นคอื สามารถโต้ตอบระหว่างผเู้ รียนกบั คอมพวิ เตอร์ได้ จําแนกได้ 3 ชนิด คือ 1. CAI (Computer Assisted Instruction) 2. CAL (Computer Assisted Learning) 3. CBT ( Computer Base Training) จากความหมายท่ีกล่าวมาข้างต้น พอจะสรุปความหมายของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนได้ว่า หมายถึง การนําคอมพิวเตอร์มาใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาต่างๆ โดยนําเสนอในรูปของส่ือประสม ได้แก่ ข้อความ กราฟฟิก ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว กราฟ วีดิทัศน์และเสียง มีการถ่ายทอดเนื้อหาให้ตรงตาม หลักสูตรและสภาพการสอนจริง การนําเสนอบทเรียนน้ันคํานึงถึงความแตกต่างระหว่างผู้เรียน การมี ปฏสิ มั พนั ธก์ บผู้เรยี นและการใหผ้ ลป้อนข้อมูลกลับสรุปได้ว่า CAI คือ - เป็นสอื่ การเรยี นการสอน ชว่ ยครทู าํ การสอน - เนือ้ หาในโปรแกรมจะเป็นหนว่ ย ๆ ตามบทเรยี นนัน้ ๆ - ผู้เรียนสามารถนาํ ไปทบทวนเนอ้ื หา ศึกษาดว้ ยตนเอง - ครผู ู้สอน หรือผูม้ ีประสบการณ์ในเน้อื หาวิชานั้น ๆ จะทาํ ได้ดที ีส่ ุด

ทฤษฎกี ารเรยี นรแู้ บบสาธติ (Demonstration Method) วิธีสอนแบบสาธิต หมายถึง การท่ีครูหรือผู้เรียนคนใดคนหนึ่ง แสดงบางสิ่งบางอย่างให้ผู้เรียนดูหรือ ให้เพื่อนๆดู อาจเป็นการแสดงการใช้เครื่องมือแสดงให้เห็นกระบวนการวิธีการ กลวิธีหรือการทดลองที่มี อันตราย ซ่ึงไม่เหมาะที่จะให้ผู้เรียนทําการทดลอง การสอนวิธีน้ีช่วยให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความเข้าใจและ สามารถทําในสิ่งนั้นได้ถูกต้อง และยังเป็นการสอนให้ผู้เรียนได้ใช้ทักษะในการสังเกต และถือว่าเป็นการได้ ประสบการณ์ตรงวิธีหน่ึง วิธีสอนแบบสาธิต จึงเป็นการสอนท่ียึดผู้สอนเป็นศูนย์กลาง เพราะผู้สอนเป็นผู้ วางแผน ดําเนินการ และลงมือปฏิบัติ ผู้เรียนอาจมีส่วนร่วมบ้างเล็กน้อย วิธีสอนแบบน้ีจึงเหมาะสําหรับ จุดประสงค์การสอนที่ต้องการให้ผู้เรียนเห็นขั้นตอนการปฏิบัติ เช่น วิชาพลศึกษา ศิลปศึกษา อุตสาหกรรม ศิลป์ วิชาในกลุ่มการงานและพ้ืนฐานอาชีพ เป็นต้น ข้ันตอนการสอน 1. ขนั้ เตรยี มการสอน - กำหนดจดุ ประสงคใ์ นการสาธิตใหช้ ดั เจน - จัดลําดับเน้อื หาตามขั้นตอนใหเ้ หมาะสม - เตรียมกิจกรรมการเรยี นการสอน สิง่ ท่จี ะให้ผูเ้ รยี นปฏบิ ัติ ตลอดจนคาํ ถามท่จี ะใช้ให้รอบคอบ - เตรยี มส่ือการเรยี นการสอนและเอกสารประกอบให้พร้อม - กำหนดเวลาในการสาธติ ให้พอเหมาะ - กำหนดวิธีการวดั ผลประเมนิ ผลทชี่ ัดเจน - เตรียมสภาพหอ้ งเรียนใหเ้ หมาะสมเพอื่ ให้ผเู้ รียนมองเหน็ การสาธิตให้ท่ัวถึง - ทดลองสาธิตเพ่อื ให้แนใ่ จว่าไมเ่ กิดการติดขดั 2. ขนั้ ตอนการสาธติ - บอกจดุ ประสงคก์ ารสาธติ ให้ผู้เรียนทราบ - บอกกจิ กรรมที่ผ้เู รียนจะตอ้ งปฏิบัติ เช่น ผู้เรยี นจะต้องจดบันทกึ สงั เกตกระบวนการ สรปุ ขนั้ ตอน ตอบคาํ ถาม เป็นตน้ - ดําเนนิ การสาธิตตามลาํ ดบั ขั้นตอนทเ่ี ตรียมไว้ ประกอบกับอธิบายตวั อย่างชดั เจน 3. ขน้ั สรุปและประเมนิ ผล - ผู้สอนเปน็ ผ้สู รปุ ความสําคัญ ขนั้ ตอนของสิ่งที่สาธติ นั้นดว้ ยตนเอง - ให้ผเู้ รยี นเป็นผสู้ รปุ เพ่ือประเมินว่าผู้เรยี นมคี วามเขา้ ใจในบทเรยี นนั้นๆมากนอ้ งเพยี งใด - ผูส้ อนอาจใชว้ ธิ ีการตา่ งๆ เพื่อประเมนิ ว่าผ้เู รยี นเข้าใจเน้ือเร่ือง ขน้ั ตอนการสาธิตมากนอ้ ยเพยี งใด เช่น ใหต้ อบคําถาม ใหเ้ ขยี นรายงาน ใหแ้ สดงสาธติ ให้ดู ฯลฯ - ผู้สอนควรเปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นได้ซกั ถามหรอื แสดงความคิดเหน็ ภายหลังจากการสาธติ แล้ว

งานวจิ ยั ท่เี กี่ยวขอ้ ง วันเพ็ญ (2548) ได้ศึกษาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนจากการใช้ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนระบบ ไฮเปอร์มีเดียวิชาฟิสิกส์ เรื่องกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน ชั้นมัธยมศึกษาปี ท่ี 4จํานวน 25 คน ผลการวิจัย สรุปว่าผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอนระบบไฮเปอร์มเี ดียของกลุ่มทดลองและกลุ่ม ควบคุมแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญท่ีระดับ. 05 และผู้เรียนกลุ่มทดลองมีความคิดเห็นด้วยกับการนําบทเรียน คอมพวิ เตอร์ช่วยสอนระบบไฮเปอรม์ ีเดยี จีรพัฒน์ (2552) ได้ศึกษาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ เรื่องปรากฏการณ์เสียง จากการเรียน โดยใช้บทเรียนแบบไฮเปอร์เท็กซ์ของผู้เรียนช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 4 จํานวน 40คน ผลการวิจัยสรุป ได้ว่า ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของ กลุ่มทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุมอยางมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ .05แสดงว่า บทเรียนแบบไฮเปอร์เทกซ์สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนได้ ผลการวิจัย ภายในประเทศพบว่าการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนในวิชาวิทยาศาสตร์สาขาวิชาฟิสิกส์เหมาะสําหรับการสอน เป็นรายบุคคล ต้ังแต่1 – 3 คนต่อ 1 เครื่อง ช่วยให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนและความคงทนในการ เรยี นรสู้ งู ขนึ้ มเี จตคติท่ีดตี อ่ การเรยี น จารุวัส หนูทอง (2553:บทคัดย่อ) ทําการศึกษาเรื่อง การพฒั นารูปแบบการเรียนการสอนแบบสาธิต รว่ มกบั บทเรียนบน เครื่องชว่ ยงานส่วนบุคคลแบบดิจทิ ัล(PDA). การวจิ ัยครัง้ นม้ี ีวตั ถปุ ระสงค์ 3 ประการ คือ 1) เพ่ือพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบ สาธิตร่วมกับบทเรียนบนเคร่ืองช่วยงานส่วนบุคคลแบบ ดิจิทัลท่ีเหมาะสมและมีประสิทธิภาพตาม เกณฑ์85/85 2) เพ่ือเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อน เรียนและหลังเรียนของผู้เรียนท่ีเรียน ตามรูปแบบการเรียนแบบสาธิตร่วมกับบทเรียนบนเครื่องช่วยงานส่วน บุคคลแบบดิจิทัล 3) เพ่ือศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนตามรูปแบบการเรียนการสอนแบบสาธิตร่วมกับ บทเรียนบนเครื่องช่วยงานส่วนบุคคลแบบดิจิทัล ในการดําเนินการวิจัย ผู้วิจัยได้พัฒนารูปแบบการเรียนการ สอน แบบสาธิตร่วมกับบทเรียนบนเคร่ืองช่วยงานส่วนบุคคลแบบดิจิทัลขึ้น โดยผ่านการประเมินจาก ผู้เช่ียวชาญ และสร้างบทเรียนแบบสาธิตบนเครื่องช่วยงานส่วนบุคคลแบบดิจิทัล เรื่องการถ่ายภาพ บุคคลใน สตูดิโอ และนําไปทดลองกบั กลุ่มตวั อย่าง ซ่ึ งเป็นนิสิตชั้นปีที่ 2 สาขาเทคโนโลยกี ารศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ จํานวน 30 คน โดยใช้ t-test dependent sample เพื่อ วิเคราะห์ข้อมูลการ เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน ผลการวิจัยปรากฏดังนี้ 1. รูปแบบการเรียนการสอนแบบ สาธิตร่วมกับบทเรี ยนบนเคร่ื องช่วยงานส่วนบุคคลแบบ ดิจิทัล อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม มี 8 ข้ันตอน ประกอบด้วย 1) การกำหนดวตั ถปุ ระสงค์ 2) การกำหนดเน้ือหา 3) การกำหนดสภาพแวดล้อมทางการเรยี น 4) การกำหนดบทบาทผู้สอน 5) การกำหนดบทบาทผู้เรียน 6) การเลือกส่ือการสอนแบบสาธิต 7) ข้ันตอน การสอน 8) การประเมินผลรูปแบบ การเรียนการสอน 2. ผลการหาประสิทธิภาพบทเรียนตามรูปแบบการ เรียนการสอนแบบสาธิตร่วมกับ บทเรียนบนเครื่องช่วยงานส่วนบุคคลแบบดิจิทัล เร่ืองการถ่ายภาพบุคคลใน สตูดิโอ ท่ีพัฒนาข้ึนมีประสิทธิภาพ (E1 /E2 ) เท่ากับ 87.25/86.08 ซ่ึงเป็นไปตามเกณฑ์กำหนด 85/85 3. ผลของการศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นกอ่ นเรียนและหลังเรียนของกลมุ่ ตัวอย่างท่ีเรียนตาม รูปแบบการเรียนการสอนแบบสาธิตรว่ มกับบทเรียนบนเคร่ืองชว่ ยงานส่วนบคุ คล แบบดิจิทัล พบว่าผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรยี นหลงั เรียนสูงกว่ากอ่ นเรยี นอยา่ งมนี ัยสําคัญทางสถติ ิ ท่รี ะดบั .01 4.กลุ่มตวั อยา่ งมีความพึงพอใจ มากทสี่ ุดในการเรยี นตามรปู แบบการเรียนแบบสาธิต รว่ มกับบทเรียนบนเคร่ืองช่วยงานส่วนบุคคลแบบดิจทิ ัล

บทท่ี 3 วธิ ีการดำเนินการศึกษา ในการดำเนินการวิจัย เร่อื ง การพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ระดับชัน้ ปวส.1รายวชิ าการออกแบบ และพัฒนาเว็บไซต์ โดยการใช้รูปแบบการฝึกปฏิบัติร่วมกับเทคนิคการสอนแบบสาธิตและส่ือการสอน CAI ภาคเรียนที่ ๒/2564 วิทยาลัยเทคนิคนครลำปาง ผ้วู ิจยั ไดด้ ำเนนิ การตามข้ันตอนดังต่อไปนี้ 1. การกำหนดประชากรและกลมุ่ ตัวอยา่ ง 2. เคร่ืองมอื ทีใ่ ชใ้ นการวจิ ยั 3. วธิ ีการดำเนินการสรา้ งเครื่องมือ 4. การวเิ คราะห์ขอ้ มูล 5. การวิเคราะหข์ อ้ มลู และสถิตทิ ่ีใช้ในการวิเคราะห์ 1. ขอบเขตการวจิ ยั ประชากร ได้แก่ นกั ศกึ ษาระดบั ช้ัน ระดบั ชั้น ปวส.1 สาขาวชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศ หอ้ งปฏิบตั กิ าร คอมพวิ เตอร์ ที่กำลังศึกษาในวทิ ยาลัยเทคนคิ นครลำปาง ปีการศกึ ษา 2564 จำนวน 1๒ คน 2. เคร่ืองมือท่ีใช้ในการวิจยั 2.1 เครอื่ งมอื ท่ีใชใ้ นการจัดการเรียนรู้ 2.2 เครื่องมือท่ใี ชใ้ นการประเมนิ ผลการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 3. วิธีการดำเนินการสรา้ งเคร่อื งมือ ผ้วู ิจยั ดำเนินการสรา้ งเครอ่ื งมอื สำหรบั การเกบ็ รวบรวมข้อมูลดังน้ี 1. แบบแผนการทดลอง การวิจัยคร้ังนี้ผู้วิจัยดําเนินการทดลองโดยใช้แผนการสอนดําเนินการจัดการเรียนรู้ตามขั้นตอน ใช้เวลาในการ ทดลอง 4 ชวั โมง ดงั น้ี 1.ดาํ เนินการจัดกจิ กรรมการเรียนรดู้ ว้ ยแผนการจัดการเรียนรูโ้ ดยใชเ้ คร่ืองมือประเมินผลทส่ี รา้ งขน้ึ ตามความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้แตล่ ะแผนประกอบดว้ ยแบบฝึกปฏบิ ตั ิ แต่ละแผนการจัดการ เรยี นรู้ แบบสังเกตพฤติกรรรมการเรยี นของผู้เรยี น ผู้ช่วยวิจัยทําหน้าท่ีประเมินการสอน และสังเกตพฤติกรรม การสอนของครใู นขณะทท่ี าํ การสอนภายในช้นั เรียน 2. ทดสอบ ดว้ ยแบบฝึกปฏิบัติวัดผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น ช้นั ปวส.1/1 จาํ นวน 1 ข้อ เรอื่ ง คําส่ังควบคุมและตัดสินใจโดยแบบทดสอบก่อนเรียน และแบบทดสอบหลังเรียนในรายวิชาการออกแบบและ พัฒนาเว็บไซต์โดยการใช้โปรแกรม CAI ขอคุณวรางคณา งามยิ่งยืนโดยเน้ือหาแบบทดสอบนั้นมีที่มาจาก https://sites.google.com/site/warangkanacai1/phu-cad-tha เมื่อส้ินสุดการการจัดกิจกรรมการเรียน การสอนดว้ ยรูปแบบการสอนแบบใชฝ้ ึ กปฏบิ ัติร่วมกบเทคนิคการสอนแบบสาธิต และสื่อการสอน CAI หนว่ ย การเรียนรู้ เร่ือง คําส่ังควบคุมและตัดสินใจ โดยส่ือการสอนCAIและจากน้ันทําการสอบถามผู้เรียนด้วย แบบสอบถามความคิดเห็น ทีม่ ีต่อการจัดกจิ กรรมด้วยใช้ฝึกปฏิบัติรว่ มกับเทคนิคการสอนแบบสาธิตหน่วยการ เรียนรู้ เรือ่ ง เร่ือง คาํ ส่ังควบคมุ และตัดสนิ ใจ

4. สถติ ิทใี่ ช้ในการวจิ ยั ในการวจิ ัยคร้งั นี้ ผวู้ จิ ัยได้ดาํ เนนิ การวิเคราะห์ข้อมลู ดงั นี้ 1) คา่ ร้อยละ (pc) (รวีวรรณ ชินะตระกลู . 2540 : 184) สูตร pc = x 100 pc แทน คา่ ร้อยละ X แทน ความถี่ N แทน จาํ นวนข้อมูลของกลมุ่ ตัวอย่าง เกณฑ์การแปลความหมาย ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ของ ผู้เรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวส.)ชั้นปี ท่ี 1 โดยนําผลคะแนนของผู้เรียนแต่ละคนมาคิดค่าร้อยละ ซง่ึ ผวู้ จิ ัยไดใ้ ช้เกณฑข์ องวทิ ยาลัยเทคนิคนครลำปาง ค่าเฉลี่ยรอ้ ยละของคะแนน ความหมาย 80-100 สูง 50-79 ปานกลาง 0-49 ตา่ํ

บทที่ 4 สรปุ ผลการวิจัย และข้อเสนอแนะ การวจิ ัยการพัฒนาผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น ระดับชนั้ ปวส.1 รายวิชาการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ โดยการใช้รูปแบบการฝึกปฏิบัติร่วมกับเทคนิคการสอนแบบสาธิตและสื่อการสอน CAI ของนักศึกษาสาขา เทคโนโลยีสารสนเทศ ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศึกษา 2564 ปรากฏผลการ วเิ คราะห์ขอ้ มูล ดงั ต่อไปน้ี ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู การวิจัยเร่ือง การพัฒนาความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ผลิตผลงานของผู้เรียน ระดับปวส.1/1 ในรายวิชาการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ โดยการใช้รูปแบบการฝึกปฏิบัติร่วมเทคนิคการสอนแบบสาธิต และสื่อการสอน CAIในการวิเคราะห์ข้อมูลคร้ังน้ีผู้วิจัยนําเสนอในรูปแบบตารางประกอบคําบรรยาย จาํ นวน 3 ตารางดังนี้ ตารางท4่ี .1 แสดงผลการเปรียบเทยี บผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนก่อนและหลงั การเรียนของผ้เู รียนระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชพี ชั้นสงู (ปวส.) จํานวน 1๒ คน ภาคเรียนที่ ๒ ปี การศกึ ษา 2564 นักศกึ ษาคนที่ คะแนนสอบก่อนเรยี น คะแนนสอบหลังเรียน (10) (X1) (10) (X2) 1 5 7 2 3 6 3 4 6 4 5 8 5 6 7 6 3 6 7 5 7 8 2 7 9 4 3 10 1 6 11 4 9 12 4 9

ตารางท่ี4.2 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนของผู้เรียนประกาศนียบัตร วิชาชีพปี ท่ี1 สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ แบบทดสอบ จํานวนคน คะแนนตํ่าสุด คะแนนสงู สดุ คา่ เฉลยี่ X รอ้ ยละ กอ่ นเรียน 1๒ 1 6 3.94 30.94% หลังเรียน 1๒ 3 9 6.80 69.06 จากตาราง 4.2 พบว่า คะแนนผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นจากแบบทดสอบก่อนเรียน คิดเป็นค่าเฉล่ียอยู่ ท่ี 3.94 และ แบบทดสอบหลังเรียน คดิ เป็นคา่ เฉล่ียอยทู ี่ 6.80 ซ่ึงหลงั การฝึกทดสอบผ้เู รียนมีผลสัมฤทธิ์ สูงขนึ้ กวา่ ก่อนเรียนแสดงว่าการใช้ CAI มาเปน็ บททดสอบในคร้งั นท้ี าํ ใหผ้ ูเ้ รยี นมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นสงู ขึ้น จริงโดยสูงขึ้นจากเดิมคิดเป็นรอ้ ยละ 38.12 การวเิ คราะห์แบบสอบถามความคดิ เห็นของผ้เรยี นที่มีตอ่ การจดั การเรียนการสอนของครู ตารางท่ี 4.3 แสดงความคดิ เห็นการเรียนรู้แบบใช้รูปแบบการฝึ กปฏบิ ัตริ ว่ มเทคนิคการสอนแบบสาธิตและ สอื่ การสอน CAI ปวส.1/1 จาํ นวน 12 คน

จากตาราง พบว่าผ้เู รยี นระดบั ประกาศนียบัตรวชิ าชพี ชั้นสูง ปวส.1/1 มีความพึงพอใจในใชร้ ปู แบบการฝึก ปฏบิ ตั ริ ว่ มเทคนคิ การสอนแบบสาธติ และสือ่ การสอน CAI มคี ่าเฉล่ีย ( X ) = 4.93 คิดเปน็ รอ้ ยละ 98.20 ซ่ึง สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์ทีต่ ้ังไว้

บทท่ี 5 สรุปผล อภปิ รายและข้อเสนอแนะ การวิจยั เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน ระดับชั้น ปวส.1 รายวิชาการออกแบบและ พัฒนาเว็บไซต์ โดยการใช้รูปแบบการฝึกปฏิบัติร่วมกับเทคนิคการสอนแบบสาธิตและสื่อการสอน CAI แผนก เทคโนโลยีสารสนเทศ ภาคเรียนท่ี ๒/2564 วิทยาลัยเทคนิคนครลำปาง มีวัตถุประสงค์เพ่ือเปรียบเทียบ คะแนนสอบก่อนและหลังเรียนของผู้เรียนด้วยบทเรียน CAI รายวิชาการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ ชั้น ปวส.1 สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ วิทยาลัยเทคนิคนครลำปาง หาประสิทธิภาพของสื่อการสอนท่ีพัฒนาข้ึน เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนที่เรียนด้วยสื่อการสอนกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักศึกษาท่ีกำลังศึกษาอยู่ในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ช้ันปีที่ 1 แผนเทคโนโลยีสารสนเทศ ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา 2564 จำนวน 12 คน เคร่อื งมือที่ใชใ้ นการวิจัย เคร่ืองมือทใ่ี ช้ในการประเมินผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้สื่อ สูตร pc = x 100 pc แทน ค่าร้อยละ X แทน ความถ่ี N แทน จาํ นวนข้อมูลของกลุ่มตวั อย่าง และสถติ ิทใ่ี ช้ในการวิจยั คือ คา่ เฉลยี่ การหาประสทิ ธภิ าพตามเกณฑ์ ผลการวิจัยสรุปได้ดังตอ่ ไปน้ี จากการทดสอบใช้รูปแบบการฝึกปฏิบัติร่วมเทคนิคการสอนแบบสาธิตและสื่อการสอน CA I วิชาการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ รักษาผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ในวิชาการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ คิดเป็น ค่าเฉล่ยี จากคะแนนแบบทดสอบก่อนเรยี นคือ 3.94 และค่าเฉลี่ยจากคะแนนแบบทดสอบหลังเรียนคือ 6.80 ซึ่งผู้เรียนมีการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามค่าเฉล่ียโดยคิดเป็นร้อยละเพ่ิมข้ึน 38.12 เป็นไปตาม วตั ถุประสงค์ทต่ี ้งั ไว้ อภปิ รายผลการวิจัย จากผลการวิจัยเรือ่ งการพัฒนาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน โดยการใชส้ อื่ การสอน CAIของผู้เรยี นระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ช้ันปี ที่ 1/1 วิชาการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ผู้วิจัยอภิปราย ผลการวจิ ยั ดังน้ี ผู้เรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง (ปวส.) ชั้นปีท่ี 1/1 สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศท่ี ได้รับการพัฒนาการสอนโดยใชร้ ูปแบบการฝึกปฏิบัติรว่ มเทคนคิ การสอนแบบสาธิตและส่ือการสอน CAI มาใช้ ทําการสอนนั้นมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์อยูในระดับปานกลางซึ่งดีขึ้น กว่าเดิมจากระดับต่ําทั้งนี่เนื่องมาจากการใช้สื่อการสอน CAI นั้นทําให้ผู้เรียนมีเวลาเรียน และเข้าถึงในตัว บทเรียนได้ตลอดเวลาไม่ใช่เฉพาะแต่ในห้องเรียนทําให้ผู้เรียนมีความเข้าใจในเน้ือหาการเรียนมากย่ิงข้ึนทํา ให้ผลการเรียนดีขึ้นตามลําดับซ่ึงสอดคลอ้ งกันกบั สมมุติฐานการวิจัย คือ ผเู้ รียนที่ได้รบั การสอนโดยใช้ส่ือการ สอนCAI มีผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนวชิ าระบบปฏบิ ัติการเคร่ืองแมข่ ่ายหลงั เรียนสูงกว่าก่อนเรียน ข้อเสนอแนะ 1.ในการวจิ ัยครัง้ ตอ่ ไปอาจเพิ่มปริมาณของกลมุ่ ตวั อย่างขน้ึ และอาจเจาะจงทาํ การวิจยั กลุ่มผเู้ รียนที่ เรียนอ่อนมากๆเพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลอื และแก้ไขต่อไป 2.จากการทําวิจัยครั้งนี้พบว่าพฤติกรรมของผู้เรียนแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกันทําให้บางคร้ัง กิจกรรมทผ่ี ้สู อนจดั ข้ึนเกิดการซบั ซอ้ นในการเก็บข้อมูลจงึ ทาํ ให้ผลการวิจัยนั้นบางครั้งมคี วามคลาดเคลอ่ื นได้

บรรณานกุ รม ดุษฎี สตุลวางค์. (2538). การปฏิรูปการเรียนรู้สู่การสอนบูรณาการ. วารสารส่งเสริมประสิทธิ ภาพ การ เรียนการสอน , 1(3), 4. ธํารง บัวศรี. (2532). ทฤษฎีหลักสูตรการออกแบบและพั ฒ นา. กรุงเทพมหานคร;โรงพิมพ์คุรุสภา บันลือ พฤกษะวัน. (2531). หลักสูตรกับบูรณาการสอน.พิมพ์คร้ังที่2 กรุงเทพมหานคร; ไทยวัฒนาพานิช. ประภัสราโค ตะขุน. (ม.ป.ป.). รูปแบบการสอนแบบต่าง ๆ.(ออนไลน์) . แหล่งท่ีมา:https://sites.google.com/site/prapasara/15-1.30ธันวาคม 2557.พิมพันธ์เดชะคุปต์และพ เยาว์ยินดีสุข. (2548). วิธีวิทยาการวิทยาศาสตร์ทั่วไป. กรุงเทพฯ : สถาบันพัฒนา คุณภาวิชาการ (พว.). ไพศาล หวังพานิช. 2526. การวดั ผลการศึกษา.กรุงเทพมหานคร : ไทยวัฒนาพานิช. ป ร ะ ภัส ร า โ ค ต ะ ขุ น . ( ม . ป . ป . ) . รู ป แ บ บ ก า ร ส อ น แ บ บ ต่ า ง ๆ . ( อ อ น ไ ล น์ ) . แ ห ล่ ง ที่ ม า :https://sites.google.com/site/prapasara/15-1. 30 ธันวาคม 2557. ไพศาล หวังพานิช. 2526. การ วัดผลการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : ไทยวัฒนาพานิช. ภัทรา นิคมานนท์. 2538. การประเมินผลการเรียน. กรุงเทพฯ : อักษรพิพัฒน์. วิชัย วงษ์ใหญ่ . ( 2544 ). ความคิดสร้างสรรค์ : ศักยภาพที่เสริมและพัฒนาได้. วารสารวชิ าการ. 14 ( 11 ) 14.

ข้อมูลการช่วยพั ฒนาโรงเรียน

โครงการ ปลูกตน้ ไม้ เฉลมิ พระเกียรติฯ รวมใจไทย ปลูกต้นไม้ เพื่อแผ่นดิน โครงการประชุมเชงิ ปฏบิ ัตกิ าร การทบทวนวิสยั ทศั น์ พันธกจิ และแผนยทุ ธศาสตร์ ปี 64-66

โครงการปลกู ตน้ ไม้ เฉลมิ พระเกยี รติฯ รวมใจไทย ปลกู ตน้ ไม้ เพ่อื แผน่ ดนิ

ข้อมูลการร่วมมือกับสังคมและชุมนุม

โครงการอาชวี ะอาสา ชว่ งเทศกาลปใี หม่

\"โครงการโรงเรยี นยุตธิ รรมอปุ ถัมภ์ ปงี บประมาณ 2564\"

ข้อมูลผลสัมฤทธิ์ทางด้านการเรียน และการพั ฒนานักเรียน

โครงการขบั เคลื่อนวทิ ยาลัยสารพัดช่าง เพื่อพฒั นากำลงั คนสทู่ ักษะเฉพาะกล่มุ อาชพี ด้านงาน ประกอบคอมพิวเตอร์และติดตงั้ โปรแกรม ร่นุ ที่ 1


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook