แฟ้มสะสมผลงาน นายพิเชษฐ โกแสน

6. ให้ทำใบงาน 7. ครูตรวจใบงาน พร้อมแจกคืนให้นักเรียน เพื่อนำกลับไปแก้ไขข้อที่ผิดแล้วส่งใหม่จนกว่า จะถูกต้องหรือหมดเวลาที่กำหนดในการส่งใบ งาน ขนั้ สรุป 1. ผเู้ รยี นบอกวิธีทนี่ ำความรจู้ ากบทเรียนไป 1. ครแู นะนำใหผ้ เู้ รยี น ไปศกึ ษาจากเอกสาร ประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชน์และประสทิ ธิภาพสูงสดุ ประกอบการเรียน ต่อไป 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ บทเรียนและการ นำไปประยุกตใ์ ช้ 5. ส่ือการสอนและแหล่งเรียนรู้ 5.1 ชดุ การสอน PowerPoint/PDF File 5.2 หนังสอื เรยี นเรยี นวิชาการสรา้ งเวบ็ ไซต์ 5.3 ครผู สู้ อน, Internet, E-learning, Website , Visual Classroom 5.4 รายงานทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั สาระการเรยี นร้ปู ระจำหนว่ ย 5.5 ชุดการเรียนร้ดู ว้ ยโปรแกรมสื่อประสม 6. การวดั ผลและการประเมินผล 6.1 ความสนใจในการเรยี นรู้ การค้นคว้า การมสี ่วนร่วมในกจิ กรรม 6.2 การซกั ถามและการตอบคำถาม 6.3 การทำงานเป็นทีม (ให้ความสำคญั ในการทำงานเป็นทีมงาน , การมีสว่ นร่วมรบั ผดิ ชอบกนั และกันของ กล่มุ ท่ีปฏบิ ัตภิ าระงานรว่ มกนั อย่างเปน็ ระบบ) 6.4 การสรปุ เน้อื หาบทเรียน องค์ความรู้ท่ีได้ในกิจกรรมการเรยี นการสอน และสามารถปฏิบตั ิภาระงานท่ี ได้รับมอบหมายแล้วเสรจ็ ทันเวลาที่กำหนด 6.5 บันทึกผลการเรียนร้แู ละการเขยี นรายงานตนเอง (Self-Report) 7. ผลงาน/ช้ินงานของนกั ศึกษา 7.1 บันทึกผลการเรียนรู้ การเขียนรายงานตนเอง 7.2 ผลงานการปฏบิ ตั ิตามใบงานทมี่ อบหมายประจำสาระการเรียนรู้ 8. กจิ กรรมเสนอแนะ/ภาระงานทมี่ อบหมาย 8.1 ศึกษาคน้ ควา้ เพมิ่ เตมิ เกย่ี วกับสาระการเรยี นรจู้ าก หนงั สอื Internet , Website , บทเรียนออนไลน์ใน Visual Classroom ของสถานบนั การศกึ ษาตา่ ง ๆ 8.2 บันทกึ และสรปุ องคค์ วามรทู้ ี่ไดใ้ นการเรยี นเสนอครูผู้สอนหลงั เสรจ็ สน้ิ การเรยี นการสอนในแต่ละครง้ั

9. กจิ กรรมเสนอแนะ 9.1 ผู้เรียนต้องให้ความสนใจในการศึกษา เพื่อหาเทคนิค วิธีการ หรือหลักการง่ายเพื่อให้หาคำตอบ ได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตั้งใจฟังหลักการ เทคนิควิธีการที่ครูผู้สอนสรุปในขณะที่ทำการสอน และนำข้อสงสยั ซกั ถามครูในการเรียนทกุ ครั้งทีเ่ กิดความสบั สน และไมเ่ ข้าใจ 9.2 ผู้มีการทบทวนบทเรยี น ตลอดเพอื่ เสริมสร้างความเข้าใจอย่างแท้จรงิ 9.3 ผเู้ รียนหมน่ั ทำใบงาน แบบฝกึ หดั และแก้ไขขอ้ ที่ผิดให้ถูกต้องเสมอ

ภาระงานทีม่ อบหมาย บทที่ 1 เรอื่ ง ความรู้เบื้องตน้ เก่ียวกบั เว็บไซต์ ………………………………………………………………………………………………………… วิธปี ฏบิ ตั ิ 1. นักเรยี นปรกึ ษาหารือกนั และศกึ ษา ทบทวนสาระการเรียนรู้ 2. นักเรยี นแสดงความคิดเหน็ ที่เหมือนหรือแตกตา่ ง จากเพื่อนในห้องเรียนเพื่อเป็นแนวทางการคน้ หาคำตอบที่ ถูกต้อง 3. ตอบคำถามครผู ู้สอน 4. นักเรียนแก้ไขปรับปรุงข้อบกพร่องของชิ้นงานให้ถูกต้องจากที่ครู โดยการสรุปสิ่งที่ผู้เรียนมีส่วนร่วมใน กิจกรรม เข้าแฟ้มสะสมผลงานแล้วนำเข้าแฟม้ สะสมผลงาน ภาระงานทม่ี อบหมาย 1. บอกความหมายของคำศพั ท์พื้นฐานเก่ียวกบั อนิ เทอรเ์ นต็ ได้ 2. บอกความหมายของอินเทอรเ์ น็ตได้ 3. บอกความหมายของเวิลด์ไวดเ์ วบ็ 4. บอกความหมายของเวบ็ ไซต์ได้ 5. สามารถแยกประเภทของเว็บไซต์ได้ หน้าที่ครูผู้สอน 1. กำหนดเวลาในการปฏิบตั งิ านของนกั เรียน 2. สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการมสี ่วนร่วมและปฏบิ ตั ิภาระงานที่มอบหมาย 3. ตรวจผลงานของนักเรียน 4. สุ่มถามนกั เรียน 5. ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเฉลยใบงานพร้อมให้คะแนนหรือชมชยนักเรียนที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมการ เรียนรู้

แบบฝกึ หัด บทที่ 1 เรื่อง ความรเู้ บอ้ื งต้นเกีย่ วกับเวบ็ ไซต์ 1. ข้อใดหมายถึงเครอ่ื งใหบ้ ริการ ก. Social Network ข. Server ค. Client ง. URL 2. บริการรูปแบบหนึ่งบนอินเทอร์เน็ต เป็นการให้บริการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์กับเครื่องอื่นๆบน เครือข่ายแบบใยแมงมุมขนาดใหญื โดยการใช้บริการนั้นจำเป็นต้องกระทำผ่านโปรแกรมเว็บเบราเซอร์ต่างๆ และระบุ URL เพอ่ื ใช้ในการอา้ งท่อี ยู่ของที่เก็บเวบ็ ไซต์ เรยี กวา่ อะไร ก. WWW ข. Web Page ค. Home Page ง. Facebook 3. ขอ้ ใดคือเว็บเบราเซอรท์ ่นี ยิ มใช้งานในปจั จุบนั ก. Internet Explorer และ Firefox ข. Chrome และ Safari ค. Firefox และ Chrome ง. internet Explorer , Firefox และ Chrome 4. ที่อยขู่ องข้อมลู ต่างๆ บนอินเทอรเ์ น็ต ซึ่งมลี กั ษณะเปน็ คำและตวั อักษรโรมนั เรียกวา่ อะไร ก. E-mail Address ข. IP Address ค. Domain Name ง. Web Server 5. อนิ เทอรเ์ น็ตเปน็ ระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ ท่มี ีขนาดใหญ่ เครอ่ื งคอมพวิ เตอรท์ ุกเคร่ืองท่วั โลกสามารถ ติดต่อส่ือสารถึงกันได้โดยใช้มาตรฐานในการรบั สง่ ข้อมลู ท่เี ป็นหนึง่ เดียวหรอื ทีเ่ รยี กวา่ อะไร ก. Protocol ข. IP Address ค. Web Page ง. Web sever 6. ขอ้ ใดคือเวบ็ ไซต์แห่งแรกของโลก

ก. http://info.cern.ch ข. www.google.com ค. www.sanoook.com ง. www.hotmail.com 7. เว็บบอรด์ ที่ใหญ่ท่ีสุดในประเทศไทยคอื เวบ็ ใด ก. www.google.com ข. www.pantip.com ค. www.sanook.com ง. www.hotmail.com 8. เว็บไซตส์ ารานกุ รมที่มีชอื่ เสียง โดยใหบ้ ริการด้านข้อมลู ในหลากหลายแขนง โดยผใู้ ช้สามารถค้นหาข้อมลู ใน เวบ็ ได้ และสามารถแก้ไขปรบั ปรุงเน้ือหาใหส้ มบรู ณ์ขึน้ ได้ด้วยตนเอง ใหบ้ ริการในหลายภาษารวมถงึ ภาษาไทย คือเว็บไซต์ใด ก. www.google.com ข. www.pantip.com ค. www.wikipedia.org ง. www.sanook.com 9. ข้อใดไมใ่ ชเ่ วบ็ ข่าว (News Site) ก. www.naewna.com ข. www.thairath.co.th ค. www.dailynews.co.th ง. www.google.com 10. ขอ้ ใดคอื เว็บธรุ กจิ หรือการตลาด (Business/Marketing Site) ก. www.shopat7.com ข. www.pantip.com ค. www.thairath.co.th ง. www.sanook.com เฉลย 1. ข 2. ก 3. ง 4. ข 5. ก 6. ก 7. ข 8. ค 9. ง 10. ก

ตอนที่ 2 ให้นักเรียนตอบคำถามตอ่ ไปน้ี 1. จงบอกความหมายของเวบ็ ไซต์ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. จงระบปุ ระเภทของเว็บไซต์มาอย่างน้อย 3 ประเภท …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. เวบ็ ไซตแ์ ห่งแรกของโลก เป็นเวบ็ ไซตข์ ององค์กรใด …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. เวบ็ เพจหลกั ของเว็บไซต์หนึง่ ๆ เรียกว่าอะไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. โปรแกรมทใี่ ช้แสดงผลเวบ็ เพจ เป็นโปรแกรมประเภทใด …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

บนั ทึกหลังสอน 1. ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ผลการเรยี นของนักเรียน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ผลการสอนของครู ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการสอน หน่วยท่ี 2 ช่อื วิชา การโปรแกรมเวบ็ เบอ้ื งตน้ สอนครั้งที่ 2 ช่ือหน่วย กระบวนการสรา้ งเว็บไซต์ ช่วั โมงรวม 5 ชม. 1. สาระสำคญั การสร้างเว็บไซต์ให้ประสบความสำเร็จนั้น ขั้นตอนการสร้างเว็บไซต์ มีความสำคัญดุจเข็มทิศนำทาง ให้เว็บไซต์นั้นเดินในทิศทางที่ถูกต้องและตรวจสอบได้ ซึ่งผู้สร้างเว็บไซต์จะต้องรู้ตั้งแต่ ขั้นตอน กระบวนการ เตรียมข้อมูล กระบวนการออกแบบและสร้างเว็บไซต์ ส่วนประกอบของเว็บเพจ การออกแบบโครงสร้างเลย์ เอาท์ การเลอื กใช้สี รปู แบบอกั ษร ตลอดจนกระบวนการพฒั นาและเผยแพรเ่ วบ็ ไซต์ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สามารถเตรยี มข้อมลู เพอื่ ใช้ในการเขยี นเวบ็ ไซตจ์ ริงได้ 2. สามารถเขียนกระบวนการออกแบบและสรา้ งเว็บไซต์ได้ 3. มีความเข้าใจในหลักการออกแบบเวบ็ ไซต์ 4. มคี วามเขา้ ใจในกระบวนการพัฒนาและเผยแพร่เวบ็ ไซต์ 5. มีเจตคติ และกจิ นิสยั ทด่ี ีในการปฏบิ ัติงานคอมพิวเตอร์ด้วยความละเอียดรอบคอบและถูกต้อง 3. เน้ือหาสาระการเรียนรู้ 1. กระบวนการเตรียมขอ้ มลู 2. กระบวนการออกแบบและสรา้ งเว็บไซต์ 3. กระบวนการพัฒนาและเผยแพร่เว็บไซต์ 4. กจิ กรรมการเรียนการสอน กจิ กรรมครู กิจกรรมนกั เรยี น ขน้ั เตรียม 1. นักเรยี นอ่านหนังสือเรียน และทำความเข้าใจใน 1. ใหน้ กั เรียนอ่านหนงั สือเรยี น เพ่ือทำความรจู้ กั กบั ระบบเลขฐาน ตา่ ง ๆ กระบวนการสร้างเว็บไซต์ ประมาณ 10 นาที 2. นกั เรียน ซกั ถามข้อสงสัย 2. ครูตอบข้อสงสัย ของนักเรียน จดบนั ทกึ คำตอบของครูผ้สู อน

ขน้ั นำเข้าส่บู ทเรยี น 1. ครูเขยี นตัวอยา่ งกระบวนการสรา้ งเวบ็ ไซต์ บน 1. นักเรยี นชว่ ยกันวเิ คราะห์ตัวอยา่ งท่ีผ้สู อนเขยี น กระดาน แล้วถามผเู้ รยี น เพื่อใหท้ ราบความรู้ บนกระดาน วา่ กระบวนการสร้างเวบ็ ไซตม์ ีอะไรบา้ ง พน้ื ฐานของผู้เรยี นเกีย่ วกบั กระบวนการสรา้ งเว็บไซต์ 2. ผ้เู รียนช่วยกนั แสดงความคิดเหน็ และตอบคำถาม 2. ครูถามนักเรียน เกี่ยวกับกระบวนการสรา้ ง ผูเ้ รยี นชว่ ยกนั แสดงความช่ืนชมกบั ผู้ทม่ี ีส่วนร่วมใน เวบ็ ไซต์ การแสดงความคิดเห็นและตอบคำถาม 3. ครูชมเชยผู้เรียนท่ีมีความพยายามตอบคำถาม และแสดงความคิดเหน็ และให้นักเรยี นในห้องมีสว่ น รว่ มในการแสดงความชน่ื ชมกับผทู้ ีต่ อบคำถาม ท้ังผู้ ท่ีตอบถูก และผู้ทต่ี อบไม่ถกู ขน้ั ดำเนินการสอน 1. จดบันทกึ 1. บรรยาย อธิบาย และยกตัวอย่างประกอบ 2. นกั เรยี นตอบคำถาม 2. เขยี นกระบวนการสรา้ งเวบ็ ไซต์ ใหผ้ ู้เรียนเพ่ือให้ 3. นักเรียนซักถามขอ้ สงสยั ผ้เู รยี นสังเกตุและเขา้ ใจถึงกระบวนการสรา้ งเว็บไซต์ 4. ทำใบงานและแบบทดสอบหลังเรียนที่ได้รับ 3. ครแู นะนำเทคนิค วิธกี ารทำความเข้าใจกับ มอบหมายใหเ้ สร็จทนั ภายในเวลาที่กำหนด กระบวนการสรา้ งเวบ็ ไซต์ทเ่ี ป็นประโยชนใ์ นการ 5. นกั เรยี นและครผู สู้ อนรว่ มกันสรปุ สาระการเรียนรู้ เรียนรู้ และเพื่อให้ผู้เรียนเกดิ มโนภาพและมีความคดิ จากสิ่งที่ได้รับมอบหมายตามใบงานแล ะ รวมยอดในสาระการเรียนรู้ แบบทดสอบ 6. ตรวจใบงานและแบบทดสอบ 7. ครูและผเู้ รียนร่วมกนั เฉลยใบงานและ แบบทดสอบ ขน้ั สรุป 1. ครูใหน้ กั เรยี นในห้องสรปุ ความรทู้ ่ีได้จากการเรียน ทุกหัวขอ้ การเรยี นรู้ 2. ครสู ุ่มถามนักเรยี นในห้องเรยี นเพ่ือตอบคำถาม ครูดำเนินการถามจนนักเรียนจนกวา่ ผเู้ รยี นจะถาม คำถามได้อยา่ งถูกต้อง ครกู ับนกั เรียนรว่ มกนั สรุปบทเรียนและวิธีการนำไป ประยุกต์ใช้ 5. สื่อการสอนและแหล่งเรยี นรู้ 5.1 ชดุ การสอน PowerPoint / PDF File 5.2 หนังสอื เรยี นเรยี นวิชาการสรา้ งเวบ็ ไซต์ 5.3 ครูผสู้ อน, Internet, E-learning, Website , Visual Classroom

5.4 รายงานทเ่ี ก่ยี วข้องกบั สาระการเรยี นรู้ประจำหนว่ ย 5.5 ชุดการเรียนรดู้ ้วยโปรแกรมสื่อประสม 6. การวดั ผลและการประเมินผล 6.1 ความสนใจในการเรียนรู้ การคน้ คว้า การมสี ่วนร่วมในกจิ กรรม 6.2 การซกั ถามและการตอบคำถาม 6.3 การทำงานเป็นทมี (ใหค้ วามสำคัญในการทำงานเปน็ ทมี งาน, การมีส่วนร่วมรับผดิ ชอบกันและกันของ กลุ่มทป่ี ฏบิ ัติภาระงานร่วมกันอยา่ งเปน็ ระบบ) 6.4 การสรปุ เนอ้ื หาบทเรียน องค์ความรทู้ ี่ได้ในกิจกรรมการเรยี นการสอน และสามารถปฏิบัติภาระงานท่ี ไดร้ บั มอบหมายแลว้ เสร็จทันเวลาที่กำหนด 6.5 บันทกึ ผลการเรยี นรู้และการเขียนรายงานตนเอง (Self-Report) 6.6 แฟ้มสะสมผลงานในการปฏิบัติภาระงานที่มอบหมาย 7. ผลงาน/ชิน้ งานของนกั ศกึ ษา 7.1 บันทกึ ผลการเรียนรู้ การเขียนรายงานตนเอง 7.2 ผลงานการปฏบิ ตั ติ ามใบงานท่มี อบหมายประจำสาระการเรยี นรู้ 8. กจิ กรรมเสนอแนะ/ภาระงานทม่ี อบหมาย 8.1 ศึกษาคน้ คว้าเพมิ่ เติมเกี่ยวกับสาระการเรยี นรูจ้ าก หนงั สือ Internet , Website , บทเรียนออนไลน์ใน Visual Classroom ของสถานบันการศึกษาต่าง ๆ 8.2 บนั ทกึ และสรปุ องค์ความรทู้ ไี่ ดใ้ นการเรยี นเสนอครูผสู้ อนหลงั เสรจ็ สน้ิ การเรียนการสอนในแตล่ ะครัง้ 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ถ้าผู้เรียนมีการเตรียมตัวในการเรียนที่ดี เช่น อ่าน และทำการศึกษาหนังสือเกี่ยวกับหน่วยการเรียน มากก่อน ถึงชั่วโมงเรียน ผู้เรียน จะสามารถเรียน และทำกิจกรรมต่างๆ ที่ครูผู้สอนมอบหมายได้อย่าง มคี วามสขุ และเกดิ ความชอบ และสนุกกับการเรียนในชนั้ เรยี น

ภาระงานท่มี อบหมาย บทที่ 2 เรือ่ ง กระบวนการสรา้ งเวบ็ ไซต์ ………………………………………………………………………………………………………… วิธีปฏบิ ัติ 1. นกั เรยี นศึกษาทบทวนเน้ือหาบทเรยี นจากหนงั สือและทำความเข้าใจกับสาระการเรียนรู้ในสิ่งท่ผี ู้สอนได้ 2. แนะนำหลกั การและเทคนิคให้กบั ผ้เู รยี น 3. แบ่งกลุ่มผเู้ รียนเท่ากนั 2 กลุ่ม เพ่อื แข่งขันกันปฏิบัติภาระงานที่มอบหมาย 4. สมาชิกทัง้ 2 กลุ่ม แข่งขันกนั ตอบคำถามผู้สอน โดยการออกไปแสดงวธิ กี ารหาคำตอบบนกระดาน 5. นกั เรยี นแกไ้ ขปรบั ปรุงชนิ้ งานให้ถกู ต้องจากท่คี รูและเพอ่ื นๆ รว่ มกันเฉลย แลว้ เกบ็ เขา้ แฟม้ สะสมผลงาน ภาระงานทีม่ อบหมาย 1. สามารถเตรียมขอ้ มลู เพอื่ ใชใ้ นการเขยี นเว็บไซต์จริงได้ 2. สามารถเขยี นกระบวนการออกแบบและสรา้ งเว็บไซต์ได้ 3. มคี วามเข้าใจในหลักการออกแบบเว็บไซต์ 4. มีความเขา้ ใจในกระบวนการพัฒนาและเผยแพร่เว็บไซต์ หนา้ ท่คี รผู สู้ อน 1. สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการมีสว่ นรว่ มและปฏิบัตภิ าระงานที่มอบหมาย 2. กำหนดให้นกั เรียนทุกคนมปี ระสบการณ์ร่วมในกิจกรรมท่ีมอบหมาย 3. ตงั้ คำถามใหส้ มั พนั ธ์กบั ภาระงานที่มอบหมาย แล้วใหน้ กั เรยี นทง้ั 2 กลุ่ม แขง่ ขนั กันตอบคำถาม เพ่ือกระตุ้น ใหน้ ักเรียนมีความกระตือรอื ร้นในกจิ กรรมท่ีกำหนด 4. ร่วมกับนักเรียนเฉลยใบงานพร้อมแนะนำเทคนคิ การหาคำตอบใหแ้ ก่ผ้เู รยี น

บทท่ี 2 เร่ือง กระบวนการสร้างเว็บไซต์ 1. ข้อใดคือขนั้ ตอนที่ตอ้ งทำก่อนการออกแบบและสร้างเว็บไซต์ ก. การเลอื กโทนสีพืน้ หลัง ข. การเตรยี มข้อมูล ค. การเลือกโทนสีตวั อักษร ง. การจัดวางข้อมลู ในเวบ็ 2. กลมุ่ เป้าหมายของเวบ็ ไซต์บันเทงิ คือบุคคลกลุ่มใด ก. วัยร่นุ ข. วยั กลางคน ค. วัยสงู อายุ ง. ทุกวยั 3. กลุม่ เป้าหมายของเว็บไซต์ออกกำลังกายคือบคุ คลกลุ่มใด ก. วัยรุน่ ข. วยั กลางคน ค. วัยสูงอายุ ง. ทุกวยั 4. การใช้ระบบเชื่อมโยง (Link) ในเว็บไซต์มคี วามจำเป็นอยา่ งไร ก. ไม่มีความจำเป็นเพราะผ้ใู ช้อาจใช้งานไมเ่ ปน็ ข. ไมม่ ีความจำเปน็ เพราะทำให้เว็บไซต์ผูใ้ ชอ้ าจใช้งานไมเ่ ป็น ค. มีความจำเปน็ เพราะชว่ ยใหก้ ารใช้งานในเว็บไซตส์ ะดวกและรวดเรว็ ง. มคี วามจำเป็นเพราะต้องโฆษณาสินค้าหรือบรกิ ารต่างๆ ใหก้ บั ผสู้ นบั สนนุ 5. แนวทางในการออกแบบเว็บไซต์ทดี่ ีมอี งค์ประกอบใดบ้าง ก. มคี วามเรยี บง่าย มีความเป็นเอกภาพและมีประโยชน์ ข. มรี ะบบเช่ือมโยงที่ดี มีรปู ลักษณ์ทด่ี ึงดดู และมีภาพลกั ษณ์ท่นี า่ เชื่อถือ ค. มีภาพประกอบและลงิ ก์ครบถ้วน และใช้งานไดท้ นั ทีกบั ทกุ คน ง. ถูกทกุ ข้อ 6. FAQ หมายถึงอะไร ก. ขอ้ มูลเกีย่ วกบั องค์กร บริษัท หรอื ผจู้ ัดทำเวบ็ ไซต์ ข. ขา่ วสารของเวบ็ ไซต์ ค. ขอ้ มลู สำหรบั การติดตอ่ ง. คำถามที่พบบ่อย 7. ขอ้ ใดหมายถึง ส่วนท่ใี ชแ้ สดงเนื้อหาในเว็บเพจ ก. Page Header ข. Navigation Bar ค. Page Body ง. Page Footer

8. โครงสรา้ งเว็บไซต์แบบเชอ่ื มโยงเวบ็ เพจแตล่ ะหนา้ เปน็ ลำดับๆเหมอื นเรยี งหน้าหนังสอื เป็นโครงสรา้ งแบบใด ก. แบบเรยี งลำดบั (Sequence) ข. แบบระดับชน้ั (Hierarchy) ค. แบบผสม (Combination) ง. ไม่มขี ้อใดถูก 9. ในการเลือกใชโ้ ทนสี สที ี่ให้ความรูส้ กึ เปน็ มิตร อบอนุ่ สดใส และความสร้างสรรค์ คือโทนสใี ด ก. โทนสแี ดง ข. โทนสีส้ม ค. โทนสเี หลอื ง ง. โทนสฟี ้า-นำ้ เงิน 10. ขอ้ ใดหมายถงึ ช่ือของเวบ็ ไซต์ ซง่ึ เปน็ ช่ือท่ีตั้งขึ้นเพื่อใหจ้ ดจำและนำไปใช้ เข้าถึงได้ง่าย โดยก่อนที่จะ ใช้ งานตอ้ งทำการจดทะเบยี น ก. Domain Name ข. Mock Up ค. IP Address ง. Web Hosting เฉลย 1. ข 2. ก 3. ข 4. ค 5. ง 6. ง 7. ค 8. ก 9. ข 10. ก ตอนที่ 2 ให้นักเรยี นตอบคำถามตอ่ ไปน้ี 1. กระบวนการสร้างเว็บไซต์ ประกอบด้วยกข่ี ้นั ตอน และมขี ั้นตอนอะไรบา้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.จงเขยี นสว่ นประกอบของเว็บเพจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3.โครงสร้างเว็บไซต์มีกลี่ ักษณะ ประกอบด้วยลกั ษณะใดบา้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4.เม่ือใชโ้ ทนสแี ดงกับเว็บเพจ จะให้อารมณค์ วามรูส้ ึกอย่างไร จงอธบิ าย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5.จงอธิบายความหมายของการลงทะเบียนโดเมนเนม และเว็บโฮสต้งิ มาพอสงั เขป ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

บันทึกหลังสอน 1. ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ผลการเรยี นของนักเรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ผลการสอนของครู ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการสอน หนว่ ยท่ี 3 ชอื่ วิชา การโปรแกรมเบอ้ื งตน้ สอนครง้ั ที่ 3 ชอ่ื หน่วย ภาษาและเคร่ืองมือในการสรา้ งเว็บไซต์ ช่วั โมงรวม 5 ชม. 1. สาระสำคญั ภาพรวมของการสร้างเว็บไซต์น้ัน มคี วามจำเปน็ จะต้องทราบว่า ภาษาและโปรแกรม ทใ่ี ช้ในการสร้าง เว็บไซตน์ ัน้ มอี ะไรบ้างในภาพกวา้ งๆ เพ่อื ให้ผู้สร้างเว็บไซตส์ ามารถเลือกเครื่องมือในการสร้างเว็บไซต์ได้อย่าง มปี ระสทิ ธภิ าพ และตรงความต้องการของผู้ว่าจ้างหรอื เจ้าของเวบ็ ไซต์ 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. มคี วามเขา้ ใจในภาษาที่ใชใ้ นการสรา้ งเวบ็ ไซตเ์ บ้อื งตน้ 2. ร้จู กั เครอื่ งมอื ในการสร้างเว็บไซต์ 3. สามารถคดั เลอื กโปรแกรมสำหรบั สร้างเว็บไซตไ์ ด้ 4. สามารถเขียนภาษา HTML เบอ้ื งตน้ ได้ 5. มเี จตคติ และกจิ นิสยั ทด่ี ใี นการปฏิบัติงานคอมพิวเตอรด์ ว้ ยความละเอียดรอบคอบและถูกต้อง 3. เนอื้ หาสาระการเรยี นรู้ 1. ภาษาและเครื่องมือที่ใช้ในการสรา้ งเว็บไซต์ 2. โปรแกรมที่ใชใ้ นการสร้างเว็บไซต์ 3. การใชภ้ าษา HTML เบือ้ งตน้

4. กิจกรรมการเรยี นการสอน กิจกรรมครู กิจกรรมนกั เรยี น ขน้ั นำเข้าสู่บทเรยี น 1. นักเรียนปรกึ ษาหารือเพื่อหาคำตอบ 1. ทดสอบก่อนเรียน โดยการถาม 2. นกั เรียนผทู้ ไ่ี ดร้ ับคัดเลือกโดยการส่มุ ลุกข้นึ แสดง - ภาษาและเครื่องมือทใ่ี ช้ในการสรา้ งเวบ็ ไซต์ ความคดิ เหน็ และตอบคำถาม - การใช้ภาษา HTML เบ้ืองต้น 3. นกั เรยี นช่วยกันประเมินคำตอบของเพอื่ นและ - โปรแกรมที่ใช้ในการสร้างเวบ็ ไซต์ ช่วยกันสบื ค้นเพอ่ื หาคำตอบท่ีคิดว่าถกู ต้องท่ีสดุ เสนอ 2. สุ่มนักเรียนตามเลขทล่ี กุ ขนึ้ ตอบคำถาม ครผู ้สู อน 3. ใหน้ ักเรยี นในห้องหาคำตอบช่วยกนั 4. ครูตอบคำถามพรอ้ มอธบิ าย ถงึ ภาษาและ เคร่ืองมอื ที่ใช้ในการสร้างเวบ็ ไซต์ การใช้ภาษา HTML เบอื้ งต้น โปรแกรมท่ีใชใ้ นการสรา้ งเวบ็ ไซต์ ข้ันดำเนนิ การสอน 1. นักเรยี นรว่ มกนั แสดงการหาคำตอบจากสิง่ ที่ 1. ครูอธิบาย พร้อมยกตัวอย่างและแสดงวธิ ีการหา ครูผสู้ อนกำหนดให้ คำตอบทลี ะข้ันอย่างละเอียดแตล่ ะหัวขอ้ การเรยี น 2. นกั เรียนถามเมื่อสงสยั หรือไม่เข้าใจบทเรยี น ครูเขียนโจทยบ์ นกระดานแลว้ แสดงวิธกี ารหาคำตอบ 3. ทำใบงานส่ง ไปพร้อมๆ กนั กบั ผู้เรียน 4. ผูเ้ รยี นรว่ มกับครูผู้สอนเฉลยใบงาน 2. ให้ผูเ้ รยี นทำใบงานและกำหนดเวลาส่งทกุ ครง้ั ที่เรียนจบแตล่ ะหวั ข้อการเรียน 3. ครตู รวจใบงานและให้คะแนนสำหรับผู้ที่ทำ ถกู ต้องและเสร็จทันเวลาที่กำหนด และผู้ทท่ี ำใบงาน ผิดต้องนำกลบั ไปแก้ไขใหม่จนกว่าจะใบงานจะ ถูกต้องทุกข้อ ขัน้ สรปุ 1. สรุปสาระการเรยี นรทู้ กุ หัวขอ้ การเรยี นตามความ 1. 1. ครูแนะนำใหน้ ักเรียนศึกษาจากเอกสาร เขา้ ใจของผูเ้ รยี น ประกอบการเรยี น,ใบงาน,แบบทดสอบ 2. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ สาระการเรยี นรจู้ าก บทเรยี น

5. ส่ือการสอนและแหล่งเรียนรู้ 5.1 ชดุ การสอน PowerPoint / PDF File 5.2 หนงั สือเรยี นเรยี นวิชาการออกแบบเว็บไซต์ 5.3 ครผู ู้สอน, Internet, E-learning, Website, Visual Classroom 5.4 รายงานท่เี กยี่ วข้องกับสาระการเรยี นรู้ประจำหน่วย 5.5 ชดุ การเรยี นร้ดู ว้ ยโปรแกรมส่ือประสม 6. การวัดผลและการประเมินผล 6.1 ความสนใจในการเรยี นรู้ การค้นคว้า การมสี ว่ นร่วมในกิจกรรม 6.2 การซกั ถามและการตอบคำถาม 6.3 การทำงานเป็นทีม (ใหค้ วามสำคญั ในการทำงานเป็นทีมงาน , การมีสว่ นร่วมรับผิดชอบกันและกันของ กล่มุ ทป่ี ฏิบตั ภิ าระงานร่วมกนั อยา่ งเป็นระบบ) 6.4 การสรปุ เนื้อหาบทเรียน องค์ความรูท้ ีไ่ ด้ในกิจกรรมการเรยี นการสอน และสามารถปฏบิ ัตภิ าระงานท่ี ได้รบั มอบหมายแลว้ เสรจ็ ทนั เวลาท่ีกำหนด 6.5 บนั ทกึ ผลการเรียนรแู้ ละการเขยี นรายงานตนเอง (Self-Report) 6.6 แฟม้ สะสมผลงานในการปฏิบัตภิ าระงานที่มอบหมาย 7. ผลงาน / ชนิ้ งานของนกั ศึกษา 7.1 บันทกึ ผลการเรียนรู้ การเขียนรายงานตนเอง 7.2 ผลงานการปฏิบัติตามใบงานที่มอบหมายประจำสาระการเรียนรู้ 8. กจิ กรรมเสนอแนะ /ภาระงานท่ีมอบหมาย 8.1 ศกึ ษาคน้ คว้าเพม่ิ เติมเกีย่ วกบั สาระการเรยี นรจู้ าก หนงั สือ Internet, Website, บทเรยี นออนไลนใ์ น Visual Classroom ของสถานบันการศกึ ษาตา่ ง ๆ 8.2 บนั ทึกและสรปุ องค์ความร้ทู ี่ได้ในการเรียนเสนอครูผู้สอนหลังเสร็จสิน้ การเรียนการสอนในแตล่ ะคร้งั 9. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ผู้เรียนต้องทบทวนบทเรยี นทัง้ ก่อนเรียนและหลงั เรียนอย่อู ยา่ งสม่ำเสมอ 2. ผ้เู รยี นหม่นั เข้าช้นั เรยี นเพื่อรบั ฟงั เทคนิค วธิ ี และแนวทางทีด่ กี ับครสู อนอยา่ งต้งั ใจ 3. ผูเ้ รยี นสนใจทำใบงาน แบบทดสอบ และขยันปรับปรงุ แกไ้ ขใบงานและแบบทดสอบให้ถูกต้อง

ภาระงานท่ีมอบหมาย บทที่ 3 เรื่อง ภาษาและเครอ่ื งมือในการสรา้ งเว็บไซต์ ………………………………………………………………………………………………………… ครง้ั ที่ 1 ภาษาและเครื่องมือในการสรา้ งเวบ็ ไซต์ วธิ ปี ฏบิ ตั ิ 1. นกั เรียนทำความเขา้ ใจกับบทเรยี น 2. นกั เรียนทำใบงานลงในสมุดแล้วสง่ ตามเวลาท่กี ำหนด 3. นกั เรียนออกไปแสดงเครื่องมือในการสรา้ งเว็บไซต์จากสิ่งท่คี รูกำหนดให้บนกระดานตามเลขที่ 4. นักเรยี นช่วยกนั เฉลยคำตอบทีถ่ กู ต้องไปพร้อมๆ กนั ในช้ันเรียน 5. นักเรยี นแก้ไขปรบั ปรุงช้ินงานใหถ้ ูกต้องจากท่คี รูและเพ่อื นๆ รว่ มกันเฉลย ภาระงานทม่ี อบหมาย 1. มคี วามเขา้ ใจในภาษาทใี่ ชใ้ นการสร้างเวบ็ ไซตเ์ บือ้ งต้น 2. รจู้ ักเครอ่ื งมอื ในการสรา้ งเว็บไซต์ 3. สามารถคัดเลือกโปรแกรมสำหรับสรา้ งเวบ็ ไซต์ได้ 4. สามารถเขยี นภาษา HTML เบอ้ื งตน้ ได้ หน้าทคี่ รผู สู้ อน 1. สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการมีสว่ นรว่ มและปฏิบัติภาระงานท่ีมอบหมาย 2. กำหนดโจทย์ปัญหา 3. เรียกชื่อนกั เรยี นโดยเรยี งตามเลขที่ออกไปแสดงวิธีการหาคำตอบจากโจทย์ท่ีกำหนด 4. เฉลย ถา้ นกั เรยี นคนใดตอบผดิ ให้นักเรียนคนอื่น ช่วยแก้ไขใหถ้ กู ต้องและครูคอยเพ่มิ เติมและแนะนำ เทคนคิ ให้นักเรยี นเข้าใจหลักในการหาคำตอบได้ชดั เจนยิ่งข้ึน

แบบฝกึ หัด บทท่ี 3 เรอื่ ง ภาษาและเครอ่ื งมือในการออกแบบเวบ็ ไซต์ 1. ขอ้ ใดเปน็ ภาษาหลกั ที่ใชใ้ นการเขียนเว็บไซต์ทั่วไป ที่มกี ารใช้กนั มาอย่างแพร่หลาย และยาวนานตัง้ แต่ต้น ทศวรรษที่ 90 ก. HTML ข. XHTML ค. BASIC ง. PASCAL 2. HTML และ CSS ทำหนา้ ท่ีคนละอย่างในเวลาเดียวกันจะมีผลอยา่ งไร ก. รบกวนซงึ่ กันและกนั และแยกจากกนั อยา่ งเดด็ ขาด ข. รบกวนซง่ึ กันและกนั และไม่แยกจากกนั อยา่ งเด็ดขาด ค. ไม่รบกวนซึ่งกนั และกัน และแยกจากกันอยา่ งเดด็ ขาด ง. ไม่รบกวนซึ่งกันและกัน และไม่แยกจากกันอยา่ งเด็ดขาด 3. ขอ้ ใดคือองค์กรกลางทค่ี อยกำหนดมาตรฐาน เก่ียวกับอินเทอร์เน็ต ก. WWW ข. WC3 ค. C3W ง. W3C 4. ขอ้ ใดคือเวบ็ แอปพลเิ คชนั ทใ่ี ชโ้ ดยทั่วไป ก. Media Player ข. ส่วนท่ีนับจำนวนผ้เู ข้าชมเว็บไซต์ (Visitor Count) ค. MP3 ง. Chrome 5. สญั ลักษณน์ ี้คืออะไร ก. โปรแกรมเกี่ยวกบั การนำเสนอผลงาน ข. โปรแกรมเกี่ยวกับการจดั การฐานข้อมลู ค. โปรแกรมสำหรับสรา้ งส่อื ทั้งภาพเคลื่อนไหว การนำเสนอ แบบทดสอบ หนังสอื อิเล็กทรอนิกส์และ สื่อกราฟิกอิเล็กทรอนกิ ส์อ่ืนๆ ง. โปรแกรมเก่ยี วกับการประมวลผลคำ 6. สัญลักษณ์น้ีคืออะไร ก. โปรแกรมสร้างเวบ็ ไซต์ทใ่ี ช้สรา้ งไดโ้ ดยสะดวก ไม่ซับซ้อน และปรับแต่งรายละเอยี ดต่างๆ ช่อื Dreamweaver ข. โปรแกรมเกยี่ วกบั การจัดการฐานข้อมลู ค. โปรแกรมเก่ียวกบั การนำเสนอผลงาน ง. โปรแกรมเกี่ยวกบั การประมวลผลคำ

7. หากต้องการใน่สีใหก้ ับพน้ื หลงั ของเวบ็ เพจเป็นสเี หลอื ง ต้องใช้คำส่งั ใด ก. <body bgcolor = ”red” ><body> ข. <body bgcolor = ”yellow ></body> ค. <body bgYellow “yellow” ><body> ง. <body bgYellow = “Hello” ></body> 8. <html></html> คำสั่งนห้ี มายถึงอะไร ก. คำสง่ั เรมิ่ ตน้ ท่ใี ช้กำหนดจุดเร่มิ ตน้ และสิน้ สดุ ของโค้ดภาษา HTML ข. คำสั่งเพ่ือกำหนดวา่ คำสง่ั ภายในคำสัง่ นเี้ ปน็ คำสัง่ ในสว่ นของ Head ค. คำส่ังเพื่อกำหนดชื่อของหนา้ เว็บเพจ ง. คำสั่งเพือ่ กำหนดวา่ คำสัง่ ภายในคำสงั่ นเ้ี ปน็ คำสั่งในส่วนของ Body 9.จงเลอื กข้อที่เป็น Tag เด่ียว ก. <body bgYellow = “Hello” ></body> ข. <title>yellow</title> ค. <BR> ง. <body bgcolor – “red” ></body> 10. Tag <p> ข้อความ </p> เปน็ คำสง่ั ให้อะไร ก. เป็นคำสงั่ ข้นั ย่อหนา้ ใหม่ ข. เปน็ การตดั ข้อความข้ึนบรรทัดใหม่ ค. เป็นการทำตวั หนา ง. เปน็ การกำหนดรปู แบบตัวอกั ษร ตอนท่ี 2 ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามตอ่ ไปน้ี 1. จงอธบิ ายและใหค้ วามหมายภาษา HTML ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. XHTML มีความเหมือนหรือแตกตา่ งจาก HTML อย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3.จงอธบิ ายความเขา้ ใจเก่ยี วกบั โปรแกรมแฟลช ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. จงเขยี นชอ่ื เตม็ ของโปรแกรมแบบ WYSIWYG พร้อมท้งั อธิบายความหมายพอสังเขป ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5.Tag ใดในภาษา HTML ทใ่ี ชเ้ มอ่ื ตอ้ งการขนึ้ บรรทดั ใหม่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

บนั ทกึ หลังสอน 1. ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ผลการเรียนของนักเรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ผลการสอนของครู ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการสอน หนว่ ยที่ 4 ช่อื วิชา การโปรแกรมเว็บเบือ้ งต้น สอนคร้งั ท่ี 4 ชั่วโมงรวม 5 ชม. ชือ่ หน่วย การตดิ ต้ังและใช้งานโปรแกรม Adobe Dreamweaver CS6 เบื้องต้น 1. สาระสำคญั นักสร้างและพัฒนาเว็บไซตไ์ ม่ว่าเม่ือเก่าหรือมือใหม่มกั จะเลือกใช้โปรแกรม Adobe Dreamweaver สำหรบั สร้างเวบ็ ไซต์กันเป็นจำนวนมากดว้ ยเหตผุ ลทว่ี ่าโปรแกรม Adobe Dreamweaver งานครอบคลุมและ สะดวกต่อการใช้งานในขั้นแรก จึงจำเป็นจะต้องรู้วิธีการติดตั้งโปรแกรมและการใช้งานในเบ้ืองต้นเพื่อนำไปสู่ ข้นั ตอนการสรา้ งเวบ็ ไซต์ตอ่ ไป 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ร้จู ักโปรแกรม Adobe Dreamweaver CS6 2. บอกความสามารถของ Adobe Dreamweaver CS6 ได้ 3. สามารถตดิ ตงั้ โปรแกรม Adobe Dreamweaver CS6 ได้ 4. สามารถเข้าสู่โปรแกรม Adobe Dreamweaver CS6 ได้ 5. บอกส่วนประกอบต่างๆของ Adobe Dreamweaver CS6 ได้ 6. เข้าใจและสามารถใช้งาน Adobe Dreamweaver ในเบ้ืองต้นได้ 7. มเี จตคติ และกจิ นิสยั ทด่ี ใี นการปฏิบัตงิ านคอมพวิ เตอร์มีความละเอียดรอบคอบและถูกต้อง 3. เน้อื หาสาระ 1. แนะนำโปรแกรม Adobe Dreamweaver CS6 2. ความสามารถของโปรแกรม Adobe Dreamweaver CS6 3. การตดิ ต้งั โปรแกรม Adobe Dreamweaver CS6 4. การเขา้ ส่โู ปรแกรม Adobe Dreamweaver CS6 5. ส่วนประกอบตา่ งๆของ Adobe Dreamweaver CS6 6. การใชง้ านเบอ้ื งตน้

4. กจิ กรรมการเรียนการสอน กจิ กรรมครู กิจกรรมนักเรยี น ข้ันนำเข้าสบู่ ทเรียน 1. นกั เรยี นปรกึ ษาหารือเพื่อตอบคำถาม 1. ทดสอบก่อนเรยี น โดยการสอบถามผเู้ รียน 2. ผู้เรียนชว่ ยกนั หาคำตอบจากสงิ่ ทค่ี รูกำหนด 2. ครตู ้ังโจทย์ การตดิ ตั้งและใชง้ านโปรแกรม Adobe Dreamweaver CS6 เบ้ืองต้น 3. ครเู ขยี น การตดิ ตง้ั และใช้งานโปรแกรม Adobe Dreamweaver CS6 เบื้องต้น บน Power Point พรอ้ มเฉลยคำตอบวา่ ต้องเตรียมอะไรบ้างเพื่อใหผ้ เู้ รียน เกิดความสงสัย และสนใจเรยี นเพ่อื จะรู้ทมี่ าของคำตอบ ท่คี รผู สู้ อนเฉลย ขัน้ ดำเนินการสอน 1. ผู้เรยี นรว่ มกันแสดงการหาคำตอบจากส่งิ ที่ 1. ครอู ธบิ าย พรอ้ มยกตวั อย่างและแสดงวธิ กี ารหา ครผู ู้สอนกำหนดให้ คำตอบทลี ะขนั้ อยา่ งละเอียดแตล่ ะหวั ขอ้ การเรียน 2. นกั เรยี นถามเมื่อสงสัยหรือไมเ่ ขา้ ใจบทเรยี น 2. ครูเขยี นโจทยบ์ น Microsoft Word แล้วแสดง 3. ทำใบงานส่ง วธิ กี ารหา คำตอบไปพร้อมๆ กนั กับผู้เรยี น 4. แกไ้ ขใบงานให้ถูกต้อง 3. ครูบอกเทคนิคและแนวคิดท่งี า่ ยแก่การจดจำและ 5. ผ้เู รียนรว่ มกบั ครผู ูส้ อนเฉลยใบงาน รวดเร็วในการหาคำตอบทถ่ี ูกตอ้ งใหแ้ ก่ผู้เรียน 4. ให้ผู้เรยี นทำใบงานและกำหนดเวลาส่งทุกครงั้ ท่ีเรยี น จบแต่ละหัวขอ้ การเรียน 5. ครูตรวจงานและให้คะแนนสำหรบั ผู้ทีท่ ำถกู ต้องและ เสรจ็ ทันเวลาท่กี ำหนด และผู้ทท่ี ำงานผิดต้องนำกลับไป แกไ้ ขใหม่จนกวา่ จะใบงานจะถูกต้องทุกข้อ 6. ครเู ปดิ โอกาสให้ผู้เรยี นซักถามขอ้ สงสัย ข้นั สรปุ 9.1. ครูแนะนำให้นักเรียนศึกษาจากเอกสารประกอบการ 1. ผู้เรียนสรปุ สาระการเรียนทกุ หัวขอ้ การเรียน เรียน,ใบงาน,แบบทดสอบ และร่วมกันสรุปความรู้ท่ี แล้วจดบันทกั ไดร้ ับ 5. สือ่ การสอนและแหลง่ เรยี นรู้ 5.1 ชุดการสอน PowerPoint/PDF File 5.2 หนงั สอื เรียนเรียนวชิ าการออกแบบเว็บไซต์ 5.3 ครผู ู้สอน, Internet, E-learning, Website, Visual Classroom 5.4 รายงานท่ีเก่ยี วข้องกับสาระการเรียนรู้ประจำหนว่ ย 5.5 ชดุ การเรียนร้ดู ว้ ยโปรแกรมสอ่ื ประสม

6. การวัดผลและการประเมินผล 6.1 ความสนใจในการเรยี นรู้ การค้นควา้ การมีส่วนร่วมในกจิ กรรม 6.2 การซกั ถามและการตอบคำถาม 6.3 การทำงานเปน็ ทมี (ใหค้ วามสำคัญในการทำงานเปน็ ทมี งาน ,การมีสว่ นรว่ มรับผิดชอบกนั และกัน ของกล่มุ ท่ปี ฏิบตั ิภาระงานรว่ มกนั อย่างเปน็ ระบบ) 6.4 การสรุปเนือ้ หาบทเรียน องค์ความรู้ที่ได้ในกิจกรรมการเรยี นการสอน และสามารถปฏิบตั ิภาระงานท่ี ไดร้ ับมอบหมายแลว้ เสร็จทันเวลาทกี่ ำหนด 6.5 บนั ทกึ ผลการเรียนรแู้ ละการเขยี นรายงานตนเอง (Self-Report) 6.6 แฟ้มสะสมผลงานในการปฏิบตั ภิ าระงานทม่ี อบหมาย 7. ผลงาน/ชน้ิ งานของนักศึกษา 7.1บนั ทึกผลการเรียนรู้ การเขยี นรายงานตนเอง 7.2ผลงานการปฏิบัตติ ามใบงานท่มี อบหมายประจำสาระการเรยี นรู้ 8. กจิ กรรมเสนอแนะ /ภาระงานทมี่ อบหมาย 8.1 ศกึ ษาคน้ ควา้ เพิ่มเติมเกีย่ วกับสาระการเรียนรจู้ าก หนงั สือ Internet, Website, บทเรยี นออนไลน์ใน Visual Classroom ของสถานบันการศกึ ษาตา่ ง ๆ 8.2 บันทกึ และสรปุ องค์ความรู้ทไ่ี ด้ในการเรียนเสนอครูผ้สู อนหลงั เสร็จสนิ้ การเรียนการสอนในแตล่ ะครงั้ 9. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ผูเ้ รียนต้องทบทวนบทเรียนทง้ั กอ่ นเรียนและหลงั เรียนอยู่อยา่ งสม่ำเสมอ 2. ผู้เรยี นหมนั่ เข้าช้ันเรียนเพ่อื รับฟงั เทคนคิ วิธี และแนวทางที่ดกี บั ครสู อนอยา่ งตงั้ ใจ 3. ผูเ้ รียนสนใจทำใบงาน แบบทดสอบ และแกไ้ ขใหถ้ ูกต้องทกุ ครง้ั ท่ีทำผดิ 4. กล้าท่ีจะถามทุกคร้ังทเ่ี กิดความสงสยั และไมเ่ ข้าใจหรอื ตามบทเรียนไมท่ ัน

ภาระงานที่มอบหมาย บทท่ี 4 เรอื่ ง การติดต้งั และใช้งานโปรแกรม Adobe Dreamweaver CS6 เบ้อื งต้น ………………………………………………………………………………………………………… ครง้ั ท่ี 1 การติดต้งั และใชง้ านโปรแกรม Adobe Dreamweaver CS6 เบ้อื งตน้ วธิ ีปฏบิ ัติ 1. นกั เรยี นแบ่งกลุ่มเท่าๆ กัน เพอื่ ทบทวนบทเรียนและรว่ มกันปฏิบัตภิ าระงานท่ีครมู อบหมายในช่วั โมงเรยี น 2. สมาชิกในกลมุ่ ร่วมกันหาคำตอบจากโจทยท์ ี่ครกู ำหนดให้ และแขง่ ขนั กบั กล่มุ อนื่ ออกไป แสดงคำตอบ 3. ผเู้ รียนร่วมกันเฉลย และแกไ้ ขข้อผดิ เพอื่ เก็บเขา้ แฟ้มสะสมผลงาน 4. ผเู้ รียนชว่ ยกันสรุปเทคนคิ ในการหาคำตอบของนิพจน์ การบวกและการลบเลขฐาน ภาระงานท่ีมอบหมาย 1. แนะนำโปรแกรม Adobe Dreamweaver CS6 2. ความสามารถของโปรแกรม Adobe Dreamweaver CS6 3. การตดิ ต้ังโปรแกรม Adobe Dreamweaver CS6 4. การเขา้ ส่โู ปรแกรม Adobe Dreamweaver CS6 5. สว่ นประกอบตา่ งๆของ Adobe Dreamweaver CS6 6. การใช้งานเบื้องตน้ หน้าท่คี รผู สู้ อน 1. สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการช่วยเหลือและร่วมมือในกลุ่ม รวมทัง้ การมสี ว่ นรว่ มในการปฏิบัติภาระ งานทม่ี อบหมาย 2. กำหนดโจทย์ปัญหา ให้สัมพันธ์กับภาระงานที่มอบหมาย เพื่อให้กลุ่มนักเรียนแข่งขันกันออกไปแสดง คำตอบ ตั้งคำถามไปเรื่อย ๆ จนกว่านักเรียนจะมีความเข้าใจในสาระการเรียนรู้เป็นไปตามจุดประสงค์ท่ี กำหนด 3. ครูเฉลยและแนะนำเทคนิคในการหาคำตอบท่ีถูกต้องรวดเร็วให้แกน่ ักเรียน แบบฝึกหดั บทท่ี 4 เร่ือง การตดิ ต้ังและใช้งานโปรแกรม Adobe Dreamweaver CS6 เบื้องต้น 1. ข้อใดไม่ใชเ่ คร่ืองมือท่ีต้องใชใ้ นการประกอบเครอื่ งคอมพิวเตอร์ ก. ไขควงปากแฉก ข. ไขควงปากแบน ค. หวั แรง้ ไฟฟา้ ง. คมี ตดั สายไฟ 2. อุปกรณ์ขอ้ ใดอาจไม่จำเป็นต้องใชป้ ระกอบเคร่ืองคอมพิวเตอรใ์ นปจั จุบัน ก. RAM ข. Hard Disk ค. DVD Drive ง. ตัวถงั เคร่อื ง

3. ข้อใดควรเป็นขั้นตอนแรกในการตดิ ตั้งเครือ่ ง ก. ตดิ ตง้ั ซีพยี ู ข. ติดตั้งแผงหน่วยความจำ ค. ติดต้ังฮาร์ดดิสก์ ง. ติดต้งั แผน่ เมนบอร์ดลงในตัวเคร่ือง 4. ข้อใดคือขัน้ ตอนแรกในการติดต้งั ซีพียู ก. นับจำนวนขาของซพี ยี ู ข. เปิดฝาครอบซีพียู ค. ทาสารนำความร้อนลงบนตวั ซพี ียู ง. ตดิ ต้งั ชุดระบายความร้อนของซีพียู 5. ข้อใดควรเปน็ ข้นั ตอนสดุ ท้ายในการตดิ ต้ังซพี ียู ก. ปดิ ฝาครอบซีพยี ู ข. ทาสารนำความร้อนลงบนตวั ซีพยี ู ค. ตดิ ตัง้ ชุดระบายความรอ้ นของซีพียู ง. ล็อคคานของชอ่ งเสยี บซีพยี ู 6. ชอ่ งตอ่ แบบ SATA บนเมนบอร์ดจะมกี ่ีช่อง ก. 2 ช่อง ข. 4 ชอ่ ง ค. 6 ชอ่ ง ง. มีจำนวนไมแ่ นน่ อน 7. การตอ่ สายสัญญาณใดต้องคำนึงถึงขวั้ + ขั้ว - ก. Power Sw ข. Reset Sw ค. Power LED ง. ไฟเลย้ี งซีพยี ู 8. สายทน่ี ำมาต่อกบั ขวั้ ต่อ USB บนเมนบอรด์ มจี ำนวนก่เี ส้น ก. 2 เสน้ ข. 3 เส้น ค. 4 เสน้ ง. 5 เสน้ 9. สายสญั ญาณ Hard Disk ทีใ่ ชส้ ่วนใหญจ่ ะเป็นแบบใด ก. แบบ SATA ข. แบบ SCSI ค. แบบ USB 3 ง. แบบ SSD 10. หลังจากเปิดเคร่ืองควรได้ยนิ เสยี งแบบใด จึงจะแสดงวา่ ไมม่ ีปญั หา ก. เสยี ง Beep ยาว 1 คร้ัง

ข. เสยี ง Beep ส้นั 1 ครง้ั ค. เสียง Beep ส้นั สลับยาว 1 ครั้ง ง. ต้องไม่ไดย้ ินเสยี งใดเลยจึงจะแสดงว่าไมม่ ีปัญหา ตอนที่ 2 ใหผ้ ู้เรียนตอบคำถามต่อไปน้ี 1. บอกชอ่ื เคร่อื งมือที่ใชใ้ นการประกอบเคร่ืองมา 3 รายการ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. บอกชอ่ื อปุ กรณ์ทใี่ ช้ในการประกอบเคร่ืองมา 5 รายการ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. บอกขนั้ ตอนการติดต้ังซีพยี ูลงบนเมนบอร์ด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. บอกชอ่ื ขั้วต่อไฟท่ีตอ้ งเสียบลงบนเมนบอร์ด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. บอกช่อื ขว้ั ต่อสวิตชไ์ ฟและสัญญานไฟที่ต้องเสียบลงบนเมนบอร์ด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… บนั ทึกหลังสอน 1. ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ผลการเรียนของนักเรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ผลการสอนของครู ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แผนการสอน หน่วยที่ 5 ชอ่ื วิชา คอมพิวเตอร์และการบำรงุ รกั ษา สอนครงั้ ท่ี 7 - 8 ช่อื หน่วย การกำหนดคา่ BIOS ช่วั โมงรวม 8 ชม. 1. สาระสำคญั ไบออส (BIOS) คือ โปรแกรมขนาดเล็กที่ใช้ควบคุมและจัดการอุปกรณ์อินพุต – เอาต์พุต พื้นฐาน (Basic Input – Output System) โดยทั่วไปจะเป็นชิปไอซีขนาดเล็กอยู่บนเมนบอร์ด โดยประกอบด้วย 2 ส่วน คือ สว่ นทใี่ ช้เกบ็ ชดุ โปรแกรมไบออส และสว่ นท่ีใชจ้ ดั เก็บข้อมลู ในการต้ังคา่ ปัจจุบนั ไดพ้ ัฒนา BIOS เป็น ระบบใหม่ทสี่ ามารถจดั การด้วยระบบปฏิบัตกิ ารได้เรยี กว่า EFI หรือ UEFI 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกลักษณะและหน้าท่ขี อง BIOS ได้ถกู ตอ้ ง

2. บอกความแตกต่างระหวา่ ง BIOS ร่นุ เกา่ กบั BIOS แบบ UEFI ได้ 3. ตัง้ คา่ BIOS รุ่นเดมิ ได้ 4. ตงั้ คา่ BIOS แบบ UEFI ได้ 5. เลือกอุปกรณค์ อมพวิ เตอรไ์ ด้อย่างเหมาะสมกับงาน 6. บอกแนวทางและวิธีในการจดั ซื้ออปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ได้ 3. เนอ้ื หาสาระการเรียนรู้ 1. BIOS และ UEFI 2. การต้ังคา่ BIOS และ UEFI 3. ตัวอยา่ งการตั้งคา่ BIOS แบบเก่า 4. ตวั อย่างการตั้งค่า BIOS แบบ UEFI 5. การปรบั ปรุง BIOS 4. กจิ กรรมการเรียนการสอน

กจิ กรรมครู กิจกรรมนกั เรียน ข้ันนำเข้าสูบ่ ทเรยี น 1. ทดสอบก่อนเรยี น โดยการถามเพือ่ ประเมินความรู้ 1. นักเรียนตอบคำถามจากภมู ิความร้ขู องตน พน้ื ฐานของผเู้ รียนในหอ้ ง 2. ผ้เู รยี นแสดงความคดิ เห็นจากสิ่งทค่ี รูถาม 2. ครเู ขยี นประโยคคำถามบนกระดานแล้วถามผูเ้ รยี น 1. ผู้เรียนรว่ มกนั แสดงการหาคำตอบจากสงิ่ ที่ วา่ จากคำถามเป็นประพจน์หรือไม่อยา่ งไร ครูผสู้ อนกำหนดให้ 2. นักเรียนถามเม่ือสงสัยหรอื ไม่เข้าใจบทเรียน ข้ันดำเนินการสอน 3. ทำใบงานส่ง 1. ครูบรรยาย และยกตวั อย่างประกอบการเรียนการ 4. แกไ้ ขใบงานให้ถูกต้อง 5. ผ้เู รียนรว่ มกบั ครผู สู้ อนเฉลยใบงาน สอน ในหวั ข้อการกำหนดคา่ BIOS 6. จดเทคนคิ และหลักการคิดทีค่ รูผู้สอนแนะนำ 2. ครเู ขยี นโจทย์บนกระดานแลว้ ใหผ้ เู้ รียนรว่ มกันตอบ 7. ทำแบบทดสอบสง่ 8. ผู้เรยี นกบั ครูร่วมกนั เฉลยแบบทดสอบ คำถาม 3. ครอู ธิบายและแสดงวิธกี ารกำหนดคา่ BIOS บน 1. ผู้เรยี นบอกวธิ ีทน่ี ำความรู้จากบทเรียนไป ประยกุ ต์ใช้ใหเ้ กิดประโยชน์และประสิทธภิ าพ กระดาน สงู สุดต่อไป 4. ครบู อกเทคนคิ และแนวคิดทีง่ ่าย ๆ ในการ กำหนดคา่ BIOS ทถี่ ูกต้อง 5. ให้ผูเ้ รียนทำใบงานและกำหนดเวลาส่งทกุ ครั้งที่ เรยี นจบแต่ละหัวขอ้ การเรียน 6. ครูตรวจใบงานและให้คะแนนสำหรบั ผทู้ ีท่ ำถูกตอ้ ง และเสรจ็ ทันเวลาท่กี ำหนด และผู้ท่ที ำใบงานผิดต้อง นำกลบั ไปแก้ไขใหม่จนกวา่ จะใบงานจะถูกต้องทุกข้อ 7. ครเู ปิดโอกาสใหผ้ ูเ้ รยี นซักถามข้อสงสัย 8. กำหนดเวลาใหผ้ เู้ รียนทำแบบทดสอบหลังเรียน ขั้นสรปุ 1. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปสาระการเรียนรู้ประจำ หนว่ ยการเรียน 5. สือ่ การสอนและแหล่งเรียนรู้ 1. ชดุ การสอน PowerPoint / PDF File 2. หนงั สือเรยี นเรยี นวชิ าคอมพิวเตอรแ์ ละการบำรงุ รักษา 3. ครผู สู้ อน, Internet, E-learning, Website , Visual Classroom 4. รายงานทเี่ ก่ียวข้องกบั สาระการเรยี นร้ปู ระจำหน่วย 5. ชดุ การเรียนรดู้ ว้ ยโปรแกรมส่ือประสม 6. การวัดผลและการประเมินผล

1. ความสนใจในการเรียนรู้ การค้นคว้า การมสี ่วนร่วมในกจิ กรรม 2. การซกั ถามและการตอบคำถาม 3. การทำงานเปน็ ทมี (ให้ความสำคัญในการทำงานเป็นทีมงาน , การมีสว่ นรว่ มรับผิดชอบกนั และกนั ของ กลุม่ ทป่ี ฏบิ ัตภิ าระงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ) 4. การสรุปเนือ้ หาบทเรียน องค์ความรู้ท่ีได้ในกจิ กรรมการเรียนการสอน และสามารถปฏิบัติภาระงานที่ ได้รบั มอบหมายแลว้ เสรจ็ ทนั เวลาท่กี ำหนด 5. บันทึกผลการเรยี นรแู้ ละการเขียนรายงานตนเอง (Self-Report) 6. แฟ้มสะสมผลงานในการปฏิบตั ิภาระงานท่ีมอบหมาย 7. ผลงาน / ช้ินงานของนักศกึ ษา 1. บนั ทกึ ผลการเรยี นรู้ การเขียนรายงานตนเอง 2. ผลงานการปฏบิ ตั ิตามใบงานท่ีมอบหมายประจำสาระการเรยี นรู้ 8. กจิ กรรมเสนอแนะ /ภาระงานท่มี อบหมาย 1. ศกึ ษาคน้ คว้าเพิ่มเติมเก่ยี วกบั สาระการเรยี นรจู้ าก หนงั สือ Internet , Website , บทเรียนออนไลน์ ใน Visual Classroom ของสถานบนั การศกึ ษาตา่ ง ๆ 2. บนั ทึกและสรุปองค์ความรู้ที่ไดใ้ นการเรียนเสนอครูผู้สอนหลงั เสร็จส้นิ การเรยี นการสอน 3. ในแตล่ ะครั้ง 9. กิจกรรมเสนอแนะ 1. ผู้เรียนต้องทบทวนบทเรยี นท้ังกอ่ นเรียนและหลังเรียนอยอู่ ยา่ งสม่ำเสมอ 2. ผูเ้ รียนหม่ันเข้าช้นั เรยี นเพื่อรับฟงั เทคนคิ วิธี และแนวทางที่ดกี ับครูสอนอย่างตั้งใจ 3. ผูเ้ รยี นสนใจทำใบงาน แบบทดสอบ และแก้ไขใหถ้ ูกต้องทุกครั้งทีท่ ำผดิ ภาระงานทม่ี อบหมาย

บทที่ 5 เรือ่ ง การกำหนดคา่ BIOS ………………………………………………………………………………………………………… วิธปี ฏบิ ตั ิ 1. นกั เรยี นทำความเข้าใจกับบทเรียน 2. นักเรียนทำใบงานลงในสมุด แล้วส่งตามเวลาทก่ี ำหนด 3. นักเรียนอออกไปแสดงการหาคำตอบจากสงิ่ ท่ีครูกำหนดใหบ้ นกระดานจนครบทกุ คน 4. ผูเ้ รยี นชว่ ยกันเฉลยคำตอบท่ีถกู ต้องไปพร้อมๆกนั ในช้นั เรยี น 5. แก้ไขปรบั ปรงุ ใหถ้ ูกต้องแลว้ เก็บเข้าแฟ้มสะสมผลงาน ภาระงานท่ีมอบหมาย 1. บอกลกั ษณะและหน้าทขี่ อง BIOS ไดถ้ ูกตอ้ ง 2. บอกความแตกต่างระหว่าง BIOS รุน่ เก่ากับ BIOS แบบ UEFI ได้ 3. ตง้ั คา่ BIOS รุ่นเดมิ ได้ 4. ตัง้ คา่ BIOS แบบ UEFI ได้ 5. เลอื กอุปกรณค์ อมพวิ เตอร์ไดอ้ ย่างเหมาะสมกบั งาน 6. บอกแนวทางและวธิ ีในการจดั ซอ้ื อุปกรณค์ อมพวิ เตอร์ได้ หน้าท่คี รูผสู้ อน 1. ครผู สู้ อนกำหนดโจทย์ปญั หาบนกระดานเพ่ือใหน้ กั เรียนออกไปแสดงการหาคำตอบ 2. สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการชว่ ยเหลือและรว่ มมือในกจิ กรรมของการมีสว่ นรว่ มในการปฏิบัติภาระ งานท่ีมอบหมาย 3. ประเมนิ นกั เรยี นในการปฏิบตั งิ านและการแสดงภมู ิความร้ขู องนักเรยี นในสาระการเรยี นรู้ 4. ตรวจผลงานของนกั เรยี น 5. แจ้งผลการตรวจสอบใหน้ กั เรยี นทราบเพ่อื นำไปแก้ไขปรับปรุงชิ้นงานใหถ้ ูกตอ้ ง

แบบฝกึ หดั บทที่ 5 เรือ่ ง การกำหนดคา่ BIOS 1. ขอ้ ใดไมส่ ามารถใช้ BIOS ดำเนินการได้ ก. กำหนดลำดับอปุ กรณ์ทใ่ี ชบ้ ูตเครอื่ ง ข. กำหนดวันท่แี ละเวลาของเครื่อง ค. ตรวจสอบความพร้อมของเคร่อื ง ง. ควบคุมการทำงานของอปุ กรณ์ต่อพ่วง 2. ส่วนของ BIOS ทที่ ำหนา้ ที่เกบ็ ข้อมูลทผี่ ใู้ ชก้ ำหนดคา่ คืออะไร ก. ROM BIOS ข. Flash Drive ค. CMOS RAM ง. BIOS Memory 3. ขอ้ ใดไม่ใช่ผผู้ ลิต BIOS ก. Asus ข. AMI ค. Award ง. Phoenix 4. แปน้ พิมพใ์ ดที่ส่วนใหญ่ใชใ้ นการเขา้ สู่ BIOS ก. F 1 ข. F 8 ค. Esc ง. Del 5. ข้อใดคือจุดประสงคใ์ นการกำหนด Supervisor หรือ Administrator Password ใน BIOS ก. ปอ้ งกนั การเปิดใช้งานเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ข. ป้องกนั การเขา้ ไปกำหนดค่าใน BIOS ค. ปอ้ งกนั การใชง้ านโปรแกรมต่างๆ ภายในเครื่อง ง. ป้องกนั การขโมยอุปกรณภ์ ายในเครือ่ ง 6. การกำหนดคา่ วนั ท่ีและเวลาใน BIOS UEFI จะอยใู่ นเมนูใด ก. Main ข. Monitor ค. Security ง. Boot 7. การกำหนดลำดบั การบตู เคร่อื งใน BIOS UEFI จะอยใู่ นเมนใู ด ก. Main ข. Monitor ค. Security ง. Boot

8. การกำหนดรหัสผา่ นในการเข้าสู่ BIOS จะอย่ใู นเมนใู ด ก. Main ข. Monitor ค. Security ง. Boot 9. การตรวจสอบอณุ หภูมิของซพี ยี ูใน BIOS จะอยูใ่ น BIOS UEFI จะอยใู่ นเมนูใด ก. Main ข. Monitor ค. Security ง. Boot 10. ถา้ ออกจาก BIOS พรอ้ มทั้งเก็บค่าติดตัง้ ไว้ ตอ้ งใชร้ ายการใด ก. Exit & Save Change ข. Exit & Discard Change ค. Load Setup Default ง. Load Optimized Defaults ตอนท่ี 2 ใหผ้ ู้เรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี 1. BIOS คอื อะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ไอซี BIOS ประกอบส่วนการทำงานอะไร แต่ละส่วนมีหนา้ ทอี่ ะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. จงบอกช่ือบริษทั ทีเ่ ป็นผูผ้ ลิต BIOS มา 3 บริษัท ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. UEFI คืออะไร และมีจุดเด่นอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. จงบอกแป้นพมิ พ์ทีใ่ ช้กดเพื่อเข้าสหู่ น้าจอกำหนดค่า BIOS ของเครื่องคอมพวิ เตอรต์ อ่ ไปนี้ คอมพิวเตอร์ HP ใชแ้ ป้นพิมพ์………………………………………………………………………………………………………………. คอมพิวเตอร์ Samsung ใชแ้ ปน้ พมิ พ์……………………………………………………………………………………………………. คอมพวิ เตอร์ทั่วไป ใช้แปน้ พมิ พ์……………………………………………………………………………………………………………. 6. Admin Password กับ User Password ที่กำหนดใน BIOS มีความต่างกนั อย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

บันทึกหลังสอน 1. ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ผลการเรยี นของนักเรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ผลการสอนของครู ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการสอน หนว่ ยท่ี 6 ชอ่ื วิชา คอมพิวเตอร์และการบำรุงรักษา สอนครง้ั ท่ี 9 - 10 ชอื่ หน่วย การติดต้ังระบบปฏบิ ตั ิการ ชว่ั โมงรวม 8 ชม. 1. สาระสำคัญ ระบบปฏิบัติการเป็นซอฟต์แวร์ที่จำเป็นต้องติดตั้งเป็นลำดับแรก เพื่อให้ผู้ใช้สามารถติดต่อกับเครื่อง คอมพิวเตอรแ์ ละติดตงั้ ซอฟตแ์ วร์ใช้งานตัวอื่นได้ สำหรบั ระบบปฏิบัติการที่ใช้งานบนเครื่องต้ังโต๊ะ (Desktop) หรือ โนต้ บ๊กุ (Notebook) มดี ว้ ยกนั หลายตวั ได้แก่ ระบบปฏบิ ตั ิการวินโดวส์ (Windows) เวอร์ชั่นต่างๆ ของ บริษัท ไมโครซอฟต์ (Microsoft) หรือระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ (Linux) ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ไม่มีค่าใช้จ่าย สำหรับระบบปฏบิ ัติการทีส่ ่วนใหญน่ ิยมใช้กนั แพรห่ ลายในประเทศไทย ไดแ้ ก่ ระบบปฏบิ ตั ิการวนิ โดวส์ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกหนา้ ท่ีและชื่อของระบบปฏิบตั ิการได้ 2. เตรยี มไฟล์ตดิ ต้ังระบบปฏบิ ตั ิการ Windows 10 ได้ 3. ตดิ ต้ังระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้ถกู ต้อง 4. ติดต้ังโปรแกรมควบคมุ อุปกรณไ์ ด้ 5. ปรบั แต่งระบบปฏบิ ัตกิ ารหลงั การติดต้ังได้ 6. บอกแนวทางและวิธใี นการจดั ซอื้ อุปกรณค์ อมพิวเตอร์ได้ 3. เนอื้ หาสาระการเรยี นรู้ 1. ระบบปฏิบตั ิการ 2. การเตรยี มความพร้อมในการตดิ ตัง้ 3. การตดิ ตงั้ ระบบปฏบิ ัติการ Windows 10 4. การติดตง้ั โปรแกรมควบคุมอุปกรณ์ 5. การปรับแตง่ ระบบปฏิบัตกิ าร

4. กิจกรรมการเรียนการสอน กจิ กรรมครู กิจกรรมนักเรยี น ขน้ั นำเข้าสู่บทเรียน 1.ทดสอบก่อนเรยี น โดยการถามถงึ ความหมายของ 1. นกั เรียนปรกึ ษาหารือเพ่ือหาคำตอบ ระบบปฏิบัตกิ าร 2. นกั เรียนลุกขน้ึ แสดงความคดิ เห็นและตอบ 2. สมุ่ ผ้เู รียนตอบคำถามเกี่ยวกบั ระบบปฏิบตั ิการ การ คำถามตามภมู ิรขู้ องตนเอง เตรียมความพร้อมในการติดตั้งระบบปฏบิ ตั กิ าร 3. นักเรยี นชว่ ยกันประเมินคำตอบของเพ่ือน และชว่ ยกันสืบค้นเพื่อหาคำตอบทค่ี ิดวา่ ถกู ต้อง ทสี่ ดุ เสนอครผู ้สู อน ข้นั ดำเนินการสอน 1. ครอู ธบิ ายจากคำถามทนี่ ำเสนอในข้ันนำเข้าสู่ 1. ตง้ั ใจฟงั จดบันทกึ บทเรยี นแล้วให้ผเู้ รียนตอบคำถามใหม่ 2. ผู้เรยี นร่วมกันแสดงการหาคำตอบจากสิ่งท่ี 2. ครใู หค้ วามหมายและประโยชนข์ องระบบปฏิบตั ิการ ครูผสู้ อนกำหนดให้ 3. ครใู ห้ผู้เรียนอ่านและจดจำการตดิ ตัง้ 3. นักเรยี นถามเม่ือสงสยั หรือไม่เขา้ ใจบทเรยี น ระบบปฏบิ ัติการ 4. ทำใบงานสง่ 4. ครูบรรยายเพมิ่ เตมิ และแนะนำวิธีการศึกษาและการ 5. แกไ้ ขใบงานใหถ้ ูกต้อง ตดิ ตัง้ ระบบปฏบิ ตั ิการ 6. ผเู้ รยี นร่วมกบั ครผู ู้สอนเฉลยใบงาน 5. สุ่มผู้เรียนให้ออกมาอธบิ ายสมมตฐิ านบน 7. สรุปสาระการเรยี นรู้ทกุ หวั ข้อการเรียนตาม 6. ครูให้ผเู้ รียนอา่ นและจดจำการเตรียมความพร้อมใน ความเขา้ ใจของผู้เรยี น การตดิ ตัง้ ระบบปฏบิ ัติการ 7. ครูบรรยายเพม่ิ เติมและแนะนำวิธีการศกึ ษาและ จดจำการเตรยี มความพร้อมในการตดิ ตง้ั ระบบปฏบิ ตั กิ าร 8. ครสู าธติ การพิสจู น์จากสมมตฐิ านและทฤษฎบี ท เพ่อื หาค่าความจริง 9. ให้ผ้เู รยี นทำใบงานและประเมินให้คะแนนสำหรับผู้ ทที่ ำถูกตอ้ งและเสรจ็ ทันเวลาท่กี ำหนด และผู้ท่ีทำใบ งานผิดตอ้ งนำกลับไปแก้ไขใหม่จนกว่าจะใบงานจะ ถูกต้องทุกข้อ 10. ครเู ปิดโอกาสให้ผู้เรียนซักถามขอ้ สงสยั

ขน้ั สรปุ 1. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ สาระการเรียนรู้บทเรยี น 1. ร่วมกันสรุปสาระการเรียนรปู้ ระจำหนว่ ย และวิธกี ารนำไปประยุกตใ์ ช้ 5. ส่อื การสอนและแหล่งเรียนรู้ 1. ชดุ การสอน PowerPoint / PDF File 2. หนังสอื เรยี นเรยี นวชิ าคอมพิวเตอร์และการบำรงุ รักษา 3. ครูผูส้ อน, Internet, E-learning, Website , Visual Classroom 4. รายงานท่ีเก่ยี วข้องกบั สาระการเรียนร้ปู ระจำหน่วย 5. ชุดการเรียนรดู้ ว้ ยโปรแกรมส่ือประสม การวดั ผลและการประเมนิ ผล 1. ความสนใจในการเรียนรู้ การคน้ ควา้ การมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรม 2. การซักถามและการตอบคำถาม 3. การทำงานเป็นทีม (ให้ความสำคญั ในการทำงานเป็นทีมงาน , การมสี ่วนรว่ มรบั ผิดชอบกนั และกนั ของกลุ่ม ท่ปี ฏบิ ัติภาระงานร่วมกันอย่างเปน็ ระบบ) 4. การสรปุ เน้อื หาบทเรียน องค์ความรทู้ ไี่ ด้ในกจิ กรรมการเรียนการสอน และสามารถปฏิบัติภาระงานท่ีไดร้ บั มอบหมายแล้วเสรจ็ ทนั เวลาที่กำหนด 5. บนั ทกึ ผลการเรยี นรแู้ ละการเขยี นรายงานตนเอง (Self-Report) 6. แฟม้ สะสมผลงานในการปฏิบัติภาระงานทม่ี อบหมาย 7. ผลงาน / ชน้ิ งานของนกั ศกึ ษา 1. บนั ทกึ ผลการเรยี นรู้ การเขียนรายงานตนเอง 2. ผลงานการปฏิบัตติ ามใบงานทีม่ อบหมายประจำสาระการเรยี นรู้ 8. กิจกรรมเสนอแนะ /ภาระงานท่มี อบหมาย 1. ศึกษาค้นควา้ เพมิ่ เติมเก่ียวกับสาระการเรยี นรูจ้ าก หนังสอื Internet , Website , บทเรยี นออนไลน์ใน Visual Classroom ของสถานบันการศึกษาต่าง ๆ 2. บันทกึ และสรุปองค์ความรู้ที่ได้ในการเรยี นเสนอครผู ้สู อนหลังเสร็จส้นิ การเรียนการสอน 3. ในแตล่ ะครั้ง 9. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ผเู้ รียนตอ้ งทบทวนบทเรยี นทั้งกอ่ นเรียนและหลังเรียนอยอู่ ย่างสม่ำเสมอ 2. ผ้เู รียนหมนั่ เข้าชั้นเรียนเพ่ือรับฟงั เทคนคิ วธิ ี และแนวทางทดี่ กี ับครูสอนอย่างตัง้ ใจ 3. ผูเ้ รยี นสนใจทำใบงาน แบบทดสอบ และขยันปรับปรงุ แกไ้ ขใบงานและแบบทดสอบให้ถูกต้องทกุ ครงั้ ที่ ทำผดิ

ภาระงานทม่ี อบหมาย บทที่ 6 เรอ่ื ง การตดิ ต้ังระบบปฏิบัตกิ าร ………………………………………………………………………………………………………… วธิ ปี ฏิบตั ิ 1. ผู้เรียนทำความเขา้ ใจกบั บทเรียน 2. ผเู้ รียนสืบคน้ กระบวนเพอื่ หาแนวคดิ และ เทคนคิ ในการจดจำที่เข้าใจได้งา่ ยเกย่ี วกับการตดิ ตัง้ ระบบปฏิบัติการ 3. ผู้เรยี นทกุ คนต้องแสดงแนวความคดิ ในการตดิ ตั้งระบบปฏิบัติ 4. ผเู้ รยี นให้เหตผุ ลและประโยชนใ์ นการตดิ ตง้ั ระบบปฏิบตั ิการ 5. นักเรียนแก้ไขปรับปรุงขอ้ บกพร่องของชิน้ งานใหถ้ ูกต้อง โดยการสรปุ ส่งิ ที่ผูเ้ รียนมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรม แล้วนำเขา้ แฟ้มสะสมผลงาน ภาระงานทีม่ อบหมาย 1. บอกหน้าทแ่ี ละช่ือของระบบปฏิบตั ิการได้ 2. เตรียมไฟลต์ ดิ ต้ังระบบปฏบิ ัติการ Windows 10 ได้ 3. ตดิ ตงั้ ระบบปฏิบัตกิ าร Windows 10 ได้ถกู ตอ้ ง 4. ตดิ ตัง้ โปรแกรมควบคมุ อุปกรณ์ได้ 5. ปรบั แตง่ ระบบปฏบิ ัตกิ ารหลงั การติดตั้งได้ 6. บอกแนวทางและวธิ ีในการจัดซอ้ื อปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ได้ หน้าท่ีครผู ู้สอน 1. กำหนดโจทย์ปัญหาเพอื่ ให้ผู้เรียน ตอบคำถามพร้อมให้คะแนนการมีสว่ นรว่ มของผ้เู รยี นทต่ี อบคำถาม 2. กำหนดนพิ จนบ์ ูลนี เพื่อให้ผู้เรยี นแสดงการพสิ ูจนส์ มมตฐิ านพรอ้ มอภปิ รายผล 3. สังเกตพฤตกิ รรมในการมีประสบการณร์ ่วมในกจิ กรรมการเรยี นรู้ และใหค้ ะแนน 4. กำหนดเวลาในการปฏิบตั ิกิจกรรมของผู้เรียนแตล่ ะกจิ กรรมเพอ่ื ใหก้ จิ กรรมดำเนินการเป็นไปตามความเหมาะสม และผู้สอนสามารถปรับเปลย่ี นกจิ กรรมได้ตามความเหมาะสมกบั จำนวนผเู้ รยี น ถ้าผเู้ รยี นมจี ำนวนมาก ก็สามารถ จดั กล่มุ ผ้เู รยี นในการปฏิบตั ิกจิ กรรมทีม่ อบหมาย

แบบฝกึ หัด บทที่ 6 เร่อื ง การตดิ ต้ังระบบปฏิบัตกิ าร 1. เหตใุ ดจึงจำเปน็ ต้องติดตงั้ ระบบปฏิบัติการก่อนซอฟตแ์ วร์อน่ื ก. เพื่อตรวจสอบความพร้อมของเคร่อื ง ข. ถา้ ไมต่ ิดตัง้ ก่อนเคร่ืองอาจเกิดปญั หา ค. หากไม่ตดิ ต้ังระบบปฏิบตั กิ ารจะไม่สามารถติดต้ังซอฟต์แวร์อ่ืนได้ ง. เพอื่ ตรวจสอบและปอ้ งกันไวรัสคอมพวิ เตอรท์ ต่ี ิดมากบั ซอฟต์แวรอ์ น่ื 2. ระบบปฏิบตั ิการใดนยิ มนำมาใช้กับเครื่องคอมพวิ เตอร์ในสำนกั งาน ก. Android ข. IOS ค. Microsoft Windows ง. Microsoft Office 3. โปรแกรมใดท่ใี ชส้ ร้างแฟลชไดร์ฟสำหรบั บูตและติดตัง้ ระบบปฏบิ ัตกิ าร ก. Rufus ข. I Clone ค. Disk part USB ง. USB Boot 4. กรณเี ป็นเมนบอรด์ รุ่นเก่า ควรเลอื กรูปแบบพารต์ ิชนั่ แบบใด ก. BIOS ข. MRB ค. GPT ง. เฉพาะ MBR กับ GPT 5. หวั ข้อใดใช้ตรวจสอบวา่ อปุ กรณ์ทีต่ ดิ ตง้ั ในวนิ โดวสม์ ีปญั หาหรอื ไม่ ก. Personalize ข. Device Manager ค. Display Setting ง. System Security 6. การเพมิ่ ไอคอน Computer และ User’s File ใช้รายการเมนูใด ก. Personalize ข. Device Manager ค. Display Setting ง. System Security 7. คำสั่งใดใชต้ รวจสอบเวอรช์ ั่นของวินโดวส์ที่ติดตัง้ ใช้งาน ก. windows ข. winwin ค. winver ง. verwin

8. ถ้าไมต่ ดิ ตั้งโปรแกรมควบคุมอปุ กรณจ์ ะมีผลอย่างไร ก. เครอื่ งจะไม่สามารถใชง้ านได้ ข. จะไม่สามารถใช้งานอปุ กรณด์ งั กล่าวได้ ค. จะมีผลให้เครอ่ื งรวนและรีสตารต์ บ่อย ง. ไมไ่ ด้สง่ ผลกระทบใดๆ ต่อการใช้งาน 9. การตดิ ต้ังแป้นพมิ พ์เพ่ือใช้งานภาษาไทย นยิ มใชแ้ บบใด ก. Thai Pattachote ข. Thai Kedmanee ค. Thai Sarabun ง. Thai SarabunPSK 10. แปน้ ท่ใี ช้สลับภาษาไทย - องั กฤษ สว่ นใหญจ่ ะนิยมใชแ้ ป้นใด ก. Grave ข. Esc ค. Shift + Alt ง. Ctrl + Alt ตอนท่ี 2 ให้ผู้เรยี นตอบคำถามต่อไปนี้ 1. เหตใุ ดจงึ ตอ้ งติดตง้ั ระบบปฏิบัติกอ่ นติดตั้งซอฟต์แวร์อน่ื ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. การติดตงั้ ระบบปฏบิ ัตสิ ว่ นใหญ่จะติดตั้งจากอปุ กรณใ์ ดบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. การเตรียมการติดต้ังระบบปฏิบตั ิการด้วย USB Flash Drive จะต้องจดั เตรียมอะไรบา้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. ในการสรา้ ง USB Flash Drive เพ่ือตดิ ต้งั ระบบปฏิบัติการ ควรกำหนดเปน็ พาร์ตชิ น่ั แบบใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. จงบอกขั้นตอนในการตรวจสอบเวอร์ช่นั ของวนิ โดวสท์ ีต่ ิดตงั้ ใชง้ าน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. โปรแกรมควบคุมอปุ กรณ์ (Device Driver) คืออะไร และมคี วามสำคญั อยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

บันทกึ หลังสอน 1. ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ผลการเรยี นของนักเรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ผลการสอนของครู ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการสอน หนว่ ยที่ 7 ชื่อวิชา คอมพิวเตอรแ์ ละการบำรงุ รกั ษา สอนครั้งที่ 11 - 12 ชือ่ หน่วย การตดิ ต้ังซอฟต์แวรใ์ ช้งาน ชว่ั โมงรวม 6 ชม. 1. สาระสำคญั ซอฟต์แวร์ใช้งาน (Applications) เป็นซอฟต์แวร์ที่อาจติดตั้งแตกต่างกันไปตามลักษณะงานที่ใช้ ซอฟต์แวร์ใช้งานจะต้องติดตั้งหลังการติดตั้งโปรแกรมระบบปฏิบัติการ เนื่องจากต้องใช้ระบบปฏิบัติการเป็นฐาน มารองรบั และต้องเลอื กใช้เวอร์ชนั่ ท่ีสนับสนนุ ระบบปฏบิ ตั ิการดังกล่าวด้วยจึงจะสามารถตดิ ต้ังใช้งานได้ 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกลกั ษณะของซอฟตแ์ วรใ์ ช้งานได้ 2. ติดต้งั ซอฟต์แวร์ใชง้ านท่ีมีความจำเป็นลงในเคร่ืองได้ 3. ถอนโปรแกรมที่ไม่ต้องการใช้ออกจากระบบปฏิบตั ิการได้ 3. เนอื้ หาสาระการเรยี นรู้ 1. ซอฟต์แวร์ใชง้ าน 2. การตดิ ตั้ง Microsoft Office 3. การตดิ ต้ังโปรแกรม 7-Zip 4. การติดตั้งโปรแกรม Foxit Reader 5. การตดิ ตงั้ โปรแกรม MPC- HC 6. การตดิ ต้ัง Google Chrome 7. การถอนโปรแกรมที่ติดตั้ง

4. กจิ กรรมการเรียนการสอน กิจกรรมครู กจิ กรรมนักเรยี น ขน้ั นำเขา้ สู่บทเรียน 1. ครเู ขียนอธบิ ายถึงการตดิ ตั้งซอฟตแ์ วร์ใช้งาน 1. ผ้เู รยี นช่วยกนั แสดงความคิดเห็น และตอบ แล้วถามผเู้ รยี น เพ่ือให้ทราบความร้พู ้นื ฐานของผเู้ รยี น คำถาม เกีย่ วกบั วงจรตรรกะการตดิ ตั้งซอฟตแ์ วร์ 2. ครชู มเชยผ้เู รียนท่มี คี วามพยายามตอบคำถามและแสดง 2. ผเู้ รยี นช่วยกันแสดงความชื่นชมกับผู้ทีม่ ี ส่วนรว่ มในการแสดงความคิดเห็นและตอบ ความคิดเหน็ และใหน้ กั เรยี นในหอ้ งมสี ว่ นร่วมในการแสดง คำถาม ความชื่นชมกับผ้ทู ีต่ อบคำถาม ทง้ั ผู้ทต่ี อบถูก และผูท้ ่ตี อบ ไม่ถูก ขั้นดำเนนิ การสอน 1. บรรยาย อธิบาย และแสดงวธิ ีการตดิ ตงั้ ซอฟต์แวรใ์ ช้ 1. จดบันทกึ งาน 2. เปรียบเทยี บใหเ้ ห็นความแตกต่างของซอฟต์แวร์ใชง้ าน 2. มสี ่วนร่วมในการตอบคำถามทกุ คน แตล่ ะลกั ษณะ เพื่อให้เกดิ ประโยชนแ์ ก่ผู้เรียนได้งา่ ยแก่ 3. นกั เรยี นซักถามขอ้ สงสยั ความเข้าใจ 4. นักเรียนและครผู ู้สอนรว่ มกันสรุปสาระการ 4. ให้ผเู้ รียนซักถามข้อสงสัย เรียนรู้จากสิ่งที่ได้รับมอบหมายตามใบงาน 5. กำหนดเวลาใหผ้ เู้ รียนหัดตดิ ตั้งซอฟตแ์ วร์ใชง้ านพรอ้ ม และแบบทดสอบ ทำความเข้าใจการใช้งานของแต่ละซอฟต์แวร์ 5. ทำใบงานและแบบทดสอบหลังเรยี นที่ได้รับ 6. ใหน้ กั เรยี นทำใบงานโดยออกไปเขียนคำตอบบน มอบหมายใหเ้ สรจ็ ทันภายในเวลาที่กำหนด กระดานดำ 6. ปรับปรุงแก้ไขใบงานและแบบทดสอบหลัง 5. ทำแบบทดสอบหลงั เรียนและให้นกั เรียนส่งภายในเวลา เรยี นนำส่งครสู อนจนกว่าจะถกู ต้องทุกข้อ ท่ีกำหนด 8. นักเรียนร่วมกับครูเฉลยใบงานและ 6. ตรวจใบงานและแบบทดสอบ แบบทดสอบหลังเรียน 7. ครูและผ้เู รยี นร่วมกันเฉลยใบงานและแบบทดสอบ ข้ันสรปุ 1. ครูให้นักเรียนในห้องสรุปสาระการเรียนรู้ประจำหน่วย 9. ผู้เรียนบอกวิธีที่นำความรู้จากบทเรียนไป การเรยี น ประยุกต์ใช้ 5. สอื่ การสอนและแหล่งเรียนรู้ 1. ชุดการสอน PowerPoint / PDF File 2. หนงั สอื เรยี นเรียนวิชาคอมพวิ เตอร์และการบำรงุ รกั ษา 3. ครผู ู้สอน, Internet, E-learning, Website , Visual Classroom 4. รายงานทเ่ี กยี่ วข้องกับสาระการเรียนรู้ประจำหน่วย 5. ชุดการเรียนร้ดู ้วยโปรแกรมสือ่ ประสม

6. การวดั ผลและการประเมินผล 1. ความสนใจในการเรยี นรู้ การค้นควา้ การมสี ว่ นร่วมในกิจกรรม 2. การซกั ถามและการตอบคำถาม 3. การทำงานเปน็ ทีม (ใหค้ วามสำคญั ในการทำงานเปน็ ทีมงาน , การมสี ่วนรว่ มรบั ผิดชอบกันและกนั ของ กลมุ่ ทีป่ ฏิบตั ิภาระงานรว่ มกนั อย่างเปน็ ระบบ) 4. การสรุปเนือ้ หาบทเรยี น องค์ความรู้ทไ่ี ด้ในกิจกรรมการเรียนการสอน และสามารถปฏิบัติภาระงานที่ ได้รับมอบหมายแลว้ เสรจ็ ทันเวลาทีก่ ำหนด 5. บนั ทึกผลการเรียนรู้และการเขียนรายงานตนเอง (Self-Report) 6. แฟ้มสะสมผลงานในการปฏบิ ัติภาระงานท่ีมอบหมาย 7. ผลงาน / ช้นิ งานของนักศกึ ษา 1. บันทกึ ผลการเรยี นรู้ การเขียนรายงานตนเอง 2. ผลงานการปฏบิ ัตติ ามใบงานท่มี อบหมายประจำสาระการเรยี นรู้ 8. กจิ กรรมเสนอแนะ /ภาระงานท่ีมอบหมาย 1. ศกึ ษาค้นควา้ เพิม่ เติมเกย่ี วกบั สาระการเรยี นรจู้ าก หนงั สอื Internet , Website , บทเรียนออนไลนใ์ น Visual Classroom ของสถานบันการศกึ ษาตา่ ง ๆ 2. บนั ทกึ และสรุปองคค์ วามรทู้ ่ีได้ในการเรยี นเสนอครูผสู้ อนหลังเสร็จสิ้นการเรียนการสอนในแต่ละคร้ัง 9. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ถ้าผู้เรียนมีการเตรียมตัวในการเรียนที่ดี เช่น อ่าน และทำการศึกษาหนังสือเกี่ยวกับหน่วยการเรียน มากก่อน ถึงชั่วโมงเรียน ผู้เรียน จะสามารถเรียน และทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ครูผู้สอนมอบหมาย ไดอ้ ย่างมีความสขุ และเกดิ ความชอบ และสนุกกับการเรยี นในชนั้ เรียน 2. ผเู้ รยี นต้องมีความขยัน หมัน่ ฝึกฝนบทเรยี นอยู่เสมอทง้ั กอ่ นและหลงั เรยี น 3. ผ้เู รยี นตอ้ งมีความกล้าทีจ่ ะถามเม่อื สงสัยทัง้ ในห้องและนอกห้องเรียนกับครผู ้สู อน

ภาระงานทีม่ อบหมาย บทท่ี 7 เรอ่ื ง การติดตง้ั ซอฟตแ์ วรใ์ ช้งาน ……………………………………………………………………………………………………………….. ครง้ั ท่ี 1 การตดิ ตัง้ ซอฟตแ์ วร์ใช้งาน วธิ ปี ฏิบตั ิ 1. ผเู้ รียนทำความเขา้ ใจกบั บทเรยี น 2. ผู้เรียนออกไปอธิบายซอฟต์แวร์ใช้งาน พร้อมทั้งตัวอย่างการใช้งานซอฟต์แวร์ ที่เขียนหมุนเวียนจนกว่าจะ ครบทุกคนเพอ่ื ใหน้ กั เรยี นมปี ระสบการณ์รว่ มในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมการเรยี นรู้ 3. ปฏิบัติการเขียนรูปภาพสัญลักษณ์เพื่อให้มองภาพให้ชัดเจน บนกระดานพร้อมทั้งบอกลักษณะการทำงาน ของแตล่ ะโปรแกรม 4. นักเรียนแก้ไขปรับปรุงข้อบกพร่องของชิ้นงานให้ถูกต้อง โดยการสรุปสิ่งที่ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมแลว้ นำเขา้ แฟม้ สะสมผลงาน ภาระงานทม่ี อบหมาย 1. บอกลักษณะของซอฟตแ์ วร์ใช้งานได้ 2. ติดตง้ั ซอฟตแ์ วรใ์ ช้งานที่มีความจำเปน็ ลงในเคร่ืองได้ 3. ถอนโปรแกรมทไ่ี ม่ตอ้ งการใชอ้ อกจากระบบปฏิบตั ิการได้ หนา้ ทคี่ รผู สู้ อน 1. กำหนดโจทย์ปญั หาเพอื่ ใหผ้ เู้ รียน ตอบคำถามพร้อมให้คะแนนการมสี ่วนรว่ มของผเู้ รยี นทต่ี อบคำถาม 2. สงั เกตพฤตกิ รรมในการมปี ระสบการณร์ ่วมในกจิ กรรมการเรียนรู้ และใหค้ ะแนน 3. กำหนดเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมของผู้เรียนแต่ละกิจกรรมเพื่อให้กิจกรรมดำเนินการเป็นไปตามความเหมาะสม และผู้สอนสามารถปรับเปลี่ยนกิจกรรมได้ตามความเหมาะสมกับจำนวนผู้เรียน ถ้าผู้เรียนมีจำนวนมากก็สามารถ จัดกลมุ่ ผู้เรียนในการปฏิบตั กิ ิจกรรมที่มอบหมาย 4. เฉลย ถ้านักเรยี นคนใดตอบผิดให้นักเรียนคนอืน่ ชว่ ยแก้ไขให้ถูกต้องและครูคอยเพ่ิมเติมและแนะนำเทคนคิ ใหน้ กั เรยี นเข้าใจหลกั ในการหาคำตอบได้ชดั เจนยิ่งข้ึน

แบบฝึกหดั บทที่ 7 เรือ่ ง การติดตง้ั ซอฟต์แวรใ์ ชง้ าน 1. ซอฟตแ์ วร์ใช้งานมักใช้คำเรียกส้ันๆ ว่าอะไร ก. โอเอส (OS) ข. แอป (App) ค. ทูล (Tool) ง. ยูทลิ ิตี้ (Utility) 2. ซอฟต์แวรใ์ ดไม่นิยมนำมาใช้ในสำนกั งาน ก. Acrobat Reader ข. Microsoft Studio ค. Microsoft Windows ง. Microsoft Office 3. ซอฟต์แวร์ใดไม่อยใู่ นชุดโปรแกรม Microsoft Office ก. Word ข. Excel ค. Microsoft Edge ง. PowerPoint 4. การเปล่ียนเมนขู อง Microsoft Office เป็นภาษาไทย ใชร้ ายการใด ก. Language → Thai ข. Options → Language ค. Software → Language ง. Options → Display → Language 5. ซอฟตแ์ วรใ์ นขอ้ ใดสามารถนำมาใชแ้ ทน Adobe Acrobat Reader ได้ ก. Foxit Reader ข. Auto CAD ค. Adobe Photoshop ง. Adobe Premiere 6. โปรแกรม MPC – HC เปน็ ซอฟตแ์ วร์ประเภทใด ก. ซอฟต์แวร์สำหรับใชง้ านในสำนกั งาน ข. ซอฟต์แวรส์ ำหรบั ใชบ้ บี อดั หรือคลายไฟล์ ค. ซอฟต์แวรส์ ำหรับเปดิ ไฟล์ PDF ง. ซอฟต์แวรส์ ำหรบั เล่นไฟลม์ ัลติมเี ดีย 7. โปรแกรมใดสามารถใช้ทดแทน MPC- HC ได้ ก. VLC ข. KM Player ค. GOM Player ง. ถูกทุกข้อ