Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore merged (pdf.io) (1)

merged (pdf.io) (1)

Published by hiranpuangyen23, 2021-03-04 08:59:52

Description: merged (pdf.io) (1)

Search

Read the Text Version

     องคค์ วามรู้ ดอกไม้ในวรรณคดไี ทย นนาางงสสาาววจจิริราาพพรร เเพพชชรรดดาํ ํา นนักกั ววิชชิ าากกาารรววัฒัฒนนธธรรรรมมชชําํานนาาญญกกาารร   สสําํานนักกั งงาานนววัฒัฒนนธธรรรรมมจจงั ังหหววดั ัดนนคครรนนาายยกก กกลลมุ มุ ยยทุ ุทธธศศาาสสตตรรแ แ ลละะเเฝฝาา รระะววังังททาางงววัฒฒั นนธธรรรรมม โโททรร.. ๐๐--๓๓๗๗๓๓๑๑--๕๕๐๐๕๕๐๐ โโททรรสสาารร.. ๐๐--๓๓๗๗๓๓๒๒--๑๑๔๔๔๔๒๒

  ดอกไม้ในวรรณคดีไทย ดอกไม้ในวรรณคดีไทย หมายถึงดอกไม้ท่ีบรรดากวีไทยท่านได้พรรณาไว้เป็นบท ร้อยกรองอย่างไพเราะในหนังสือวรรณคดี เช่น รามเกียรติ์ อิเหนา เงาะป่า ดาหลัง ขุนช้าง ขุนแผน พระอภัยมณี บทเห่เรือเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ กาพย์ห่อโคลงนิราศธารโศก กาพย์ห่อโคลง นริ าศทองแดง นริ าสหรภิ ญุ ชยั นริ าศพระประธม นริ าศสุพรรณ นริ าศเมอื งแกลง นิราศภูเขาทอง นิราศอิเหนา นิราศเจ้าฟ้าลิลิตพระลอ และลิลิตตะเลงพ่าย เป็นความสามารถเฉพาะตัวของกวี ไทย ท่ไี ดพ้ รรณาชอ่ื ดอกไม้หลายชนิดไว้อย่างไพเราะ ท้ังลักษณะ สีสัน กล่ิน ทําให้ผู้อ่านเกิดมโน ภาพ ประทับใจ เหมือนได้ไปอยู่ ณ ที่ด้วย หวังว่าสิ่งท่ีเรียบเรียงมาคงจะเป็นประโยชน์และเกิด ความประทบั ใจกับการพรรณนาของกวไี ทย บ้าง ช่อื ดอกไม้ วรรณคดที ก่ี ลา่ วถึง ถ่นิ กาํ เนิด กระดังงา ไทย ฟิลปิ ปนิ ส์ รามเกียรต์ิ นริ าศกลาง กาหลง ไทย พมา่ รามเกยี รติ์ อิเหนาบทเห่เรอื เจ้าฟ้า แกว้ ธรรมธเิ บศร์ ลลิ ิตพระลอ ลลิ ติ ไทยพมา่ ตะเลงพ่าย นริ าศขนุ ช้างขนุ แผน พระอภัยมณี รามเกยี รติ์ อิเหนา ลลิ ติ พระลอ ลลิ ิตตะเลงพ่าย ขนุ ช้างขุนแผน

 ๒ ชอ่ื ดอกไม้ วรรณคดีทีก่ ลา่ วถงึ ถ่ินกําเนดิ กหุ ลาบ ทวีปเอเชยี ทวีปอเมรกิ า จําปี รามเกยี รต์ิ มัทนะพาธา พระ ไทย มาเลเซยี อินโดนเี ซีย จาํ ปา อภยั มณีอเิ หนา ชงโค รามเกยี รต์ิ เงาะปา่ ลิลิตตะเลง ช้องนาง พ่ายขุนชา้ งขุนแผน นางแย้ม รามเกยี รต์ิ อเิ หนาเงาะป่า ไทย จนี มาเลเซยี อนิ เดีย รามเกียรต์ิ อิเหนา จนี อินเดีย ลิลิตตะเลงพา่ ย รามเกียรติ์ ลิลติ พระลอ ทวปี แอฟริกา รามเกยี รต์ิ อเิ หนา ลลิ ิตพระลอ ไทย พม่าอินโดนเี ซีย ลลิ ิตตะเลงพ่าย    

  ๓ ดอกไมใ้ นวรรณคดไี ทย ดอกกรรณกิ าร์ “…กรรณกิ าร์ กา้ นสแี ดงสด คิดผ้าแสดติดขลิบนาง เหน็ เนือ้ เรื่อโรงราง หม่ สองบ่าอา่ โนเน่…” วรรณคดี : กาพย์ห่อโคลง “นริ าศธารโศก” ผปู้ ระพนั ธ์ : เจา้ ฟา้ ธรรมาธิเบศร์ (เจ้าฟา้ กุ้ง) ชอ่ื พฤกษศาสตร์ : Nyctanthes arbor – tristis ชอ่ื สามัญ : Night Jasmine ช่ือวงศ์ : Verbenaceae กรรณิการ์เป็นพุ่มไม้ขนาดเล็ก สูงประมาณ ๑ - ๒ เมตร ใบสากคาย ขอบใบเป็นจักตื้น ๆ และ ใบออกทิศทางตรงข้ามกัน ดอกสีขาว ออกเป็นช่อที่ปลายก่ิง ลักษณะคล้ายดอกมะลิ แต่มี ขนาดกลีบแคบกว่า ปลายกลีบมี ๒ แฉก ขนาดไม่เท่ากัน โคนกลีบติดกันเป็นหลอดสี ส้มสด ดอกบานส่งกลิ่นหอมในเวลากลางคืน และจะร่วงในเช้าวันรุ่งข้ึน ผลมีลักษณะ กลมแบน ขณะออ่ นมีสเี ขยี วเม่ือแก่เปน็ สดี าํ การขยายพันธุ์ ใชต้ อนก่งิ ทางดา้ นสมุนไพร เปลือกให้นํา้ ฝาด เปลอื กช้นั ในเม่ือผสมกบั ปูนขาวจะให้สีแดง ดอกมีนํ้ามนั หอมระเหยทกี่ ล่ันได้ เชน่ เดยี วกับมะลิ ส่วนของดอกที่เปน็ หลอด สกดั เปน็ สยี อ้ มผา้ ไหม ใบใช้ แกไ้ ข้และโรคปวดตามข้อ นํา้ ค้นั จากใบใชเ้ ป็นยาระบาย และเปน็ ยาขมเจรญิ อาหาร

 ๔ บนุ นาค “….พิกุลบุนนาคมากมี ตามทางหวา่ งวถิ ีสีขาวสด ชมพลางทางเร่งรีบรถ เลียบตามบรรพตคีร…ี ” วรรณคดี :“อเิ หนา” ตอนทา้ วปนั จะรากนั ไปในพธิ อี ภเิ ษกสังคามาระตา ผ้ปู ระพันธ์ : พระราชนิพนธใ์ นพระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลิศหลา้ นภาลยั ช่อื พฤกษศาสตร์ : Mesua ferrea, L. ชอ่ื สามญั : Indian Rose Dhestnut, Iron Weed ชอ่ื วงศ์ : Guttiferae ช่ืออ่ืน ๆ : นาคบุตร บนุ นาคเป็นไม้พุ่มขนาดใหญ่ ทรงพมุ่ ยอดแหลม ออกดอกในฤดหู นาว ใบเปน็ ใบเดี่ยว ออกสลบั ทศิ ทางกัน มีลักษณะเป็นกระจกุ ใหญต่ รงกลาง บางตน้ กลีบดอกออกสชี มพูเรื่อ ๆ เมอ่ื ดอกบาน เตม็ ทมี่ ขี นาด ๕ - ๗.๕ เซนตเิ มตร หลังจากดอกโรยจะติดเมลด็ การขยายพนั ธ์ุ นิยมใช้วธิ ตี อนก่งิ หรือเพาะเมล็ด คุณคา่ ทางสมนุ ไพร ใชเ้ กสรผสมยาหอมบํารุงหัวใจ แกร้ ้อนในกระหายน้าํ แก้วิงเวยี นเปน็ ยาชู้ กําลงั ฯลฯ

 ๕ ผกากรอง “…มะลวิ ลั ยพ์ ันระกําขนึ้ แกมจาก ได้สามวนั กรรมพรากไปจากห้อง จําปเี คยี งโศกระย้า ผกากรอง พ่โี ศกเศร้าเฝา้ ตรองกวา่ สองปี…” วรรณคดี : “ขุนช้างขุนแผน” ผ้ปู ระพนั ธ์ : สุนทรภู่ ช่อื พฤกษศาสตร์ : Lantana camara, L. ชอื่ สามญั : Cloth ofGold, Hedge Flower, Weeding Lantana ช่อื วงศ์ : Verbenaceae ชื่ออื่น ๆ : กา้ มกงุ้ เบญจมาศปา่ ขะจาย ขีก้ า คาํ ขไ้ี ก่ เบง็ ละมาศ ไมจ้ นี ผกากรองเปน็ ไม้พุ่มขนาดเลก็ สงู ประมาณ ๒ - ๖ ฟตุ ขึน้ ได้ในดนิ ทกุ ชนิด ชอบแลง้ มากกวา่ แฉะ ชอบแสงแดดจัด นยิ มปลกู เป็นไมป้ ระดับเพอื่ ดูดอกเพราะผกากรองใหด้ อกสวยและดก ตลอดปี ใบเปน็ รูปไข่ ริมใบหยักเปน็ จัก ใบคายสากมอื มีกล่นิ เหม็น ดอกมขี นาดเลก็ ออกเป็น กระจุก ขนาดโตประมาณ ๑ - ๑.๕ นวิ้ มหี ลายสี เชน่ เหลอื งอ่อน แดง ขาว มว่ ง ชมพู เหลือง การขยายพันธุ์ ใช้วธิ ีเพาะเมลด็ หรอื ตัดกิ่งปกั ชาํ สรรพคณุ ทางสมุนไพร ใบตําพอกแผล ฝพี ุพอง ใบต้มนา้ํ อุ่นอาบ หรอื แชแ่ ก้โรคปวดขอ้      

 ๖ พิกุล “…เสอื มองยอ่ งแอบตน้ ตาเสือ รม่ หูกวางกวางเฝอื ฝูงกวางป่า อ้อยชา้ งชา้ งน้าวเป็นราวมา สาลกิ าจบั กิง่ พิกุลกิน…” วรรณคดี :“ขุนชา้ งขนุ แผน” ผูป้ ระพันธ์ : สุนทรภู่ ชอ่ื พฤกษศาสตร์ : Mimusope elengi, L. ช่อื สามัญ : Bullet Wood ชือ่ วงศ์ : Sapotaceae พิกลุ เป็นไมย้ ืนต้นขนาดกลาง ก่ิงกา้ นค่อนขา้ งแจ้ แบน คลา้ ยตน้ หว้า มพี ่มุ ใบแน่น เหมาะ สาํ หรบั ปลกู ไว้บังแดดตอนบ่าย ดอกมีกลน่ิ หอม ใบเปน็ ใบเด่ยี ว สีเขียวเขม้ ปลายแหลมมน มี ขนาดใบกว้างประมาณ ๗ ซ.ม. ยาวประมาณ ๑๕ ซ.ม. เสน้ กลางใบด้านทอ้ งใบนูน กา้ นใบยาว ประมาณ ๓ ซ.ม. ดอกออกเปน็ ช่อ เปน็ กระจกุ ดอกมขี นาดเล็กกว้างประมาณ ๑ ซ.ม. กลบี ดอกเลก็ แคบยาวเรียงซอ้ นกนั เปน็ ช้ัน ๆ มองดรู มิ ดอกเปน็ จกั เลก็ ผลกลมโตคลา้ ยละมดุ สี ดา แตเ่ ลก็ กว่าเล็กนอ้ ย ผลสุกสแี ดงแสด ใช้รบั ประทานได้ รสฝาดหวานมนั การขยายพันธ์ ใช้เพาะเมลด็ หรอื ตอนกิง่ ทางด้านสมนุ ไพร เปลือกใชต้ ้มเอาน้าํ อมเป็นยากล้ัวล้างปาก แกป้ ากเปอ่ื ย ปวดฟัน ฟนั โยก คลอน เหงือกบวม

 ๗ สุพรรณิการ์ “…เลบ็ นางงามแสลม้ ต้นนางแยม้ แกมดองดึง สพุ รรณกิ ากากระทงึ ดอกราชพฤกษ์ซึกไทรไตร…” วรรณคดี : กาพยห์ ่อโคลง “ นริ าศธารทองแดง” ผปู้ ระพันธ์ : เจ้าฟ้าธรรมาธเิ บศร์ “เจา้ ฟ้ากุง้ ” ช่ือพฤกษศาสตร์ : Cochlospermum religiosum ช่ือสามัญ : Yellow Slik-Cotton Tree, Butter-Cup Tree ชือ่ วงศ์ : Bixaceae สพุ รรณิการม์ ีช่ืออกี ชื่อหนง่ึ ว่า “ฝา้ ยคาํ ” เปน็ ไมย้ ืนต้นขนาดกลางสูงประมาณ ๓ -๗ เมตร ขึ้น ได้ในดินแทบทุกชนิด ชอบแสงแดดจัด ออกดอกหลังจากใบร่วงหมดในราวเดือนกุมภาพันธ์ถึง เมษายน ใบมีลกั ษณะมน ขอบเว้าเปน็ ๕ แฉก กวา้ งประมาณ ๖ น้ิว ยาวประมาณ ๘ น้ิว ท้อง ใบมีขนออ่ น ดอกใหญ่มี ๕ กลีบ สเี หลืองสด กลีบดอกง้มุ เข้าหากันคล้ายถ้วย ดอกมีขนาดกว้าง ประมาณ ๕ นิว้ กลางดอกมเี กสรตัวผ้มู ากมาย เมือ่ ดอกโรยจะติดผล ผลมลี ักษณะกลมรี ภายใน ผลมีเมล็ดมปี ุยคลา้ ยปุยฝ้าย

 ๘ การเวก “…สามกษัตรยิ ์เทย่ี วชมบปุ ผชาติ ดอกดกเดียรดาษในสวนขวญั เกดแก้วพิกลุ แกมพกิ ัน จวงจนั ทรล์ าํ ดวนกระดังงา…” วรรณคดี : “รามเกยี รต”์ิ ผปู้ ระพนั ธ์ : พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จฬุ าโลก ชือ่ พฤกษศาสตร์ : Artabotrys siamensis ชอ่ื สามัญ : Artabotrys ชอื่ วงศ์ : Annonaceae ชอ่ื อ่นื ๆ : กระดังงาเถา กระดังงัว การเวกเปน็ ไมเ้ ถาขนาดกลางถงึ ใหญ่ เนอื้ ไม้แข็ง มักพบตามป่าช้ืนท่ัว ๆ ไปนิยมปลูกให้เล้ือยเป็น ไมซ้ ้มุ ตามเรอื นต้นไม้ หรอื ซุม้ ประตู ใบรม่ ทึบ อายยุ ืนมาก ออกดอกตลอดปี ข้นึ ไดด้ ใี นทกุ ท่ที กุ แห่งท่ีมีความชนื้ พอสมควร ชอบอยูก่ ลางแจ้ง ลาํ ต้นอาจมีขนาดโคนตน้ ใหญ่ ๘ - ๑๒ นวิ้ ลํา ตน้ มผี ิวเปลอื กคอ่ นข้างเรยี บ สีเทาอมดาํ หรอื นา้ํ ตาล มกี ลนิ่ เหม็นเขยี วเพราะมีตน้ นา้ํ มันกระจาย อยู่ ใบเปน็ ใบเดย่ี วสเี ขียวจัด เป็นมัน รูปมนรี ปลายแหลม ยาวประมาณ ๖ - ๗ นิว้ แตก่ ว้าง กว่ากระดงั งา ดอกออ่ นเปน็ สเี ขียว เมือ่ แกจ่ ะเปล่ยี นเป็นขาว เหลอื งออ่ น จนแกจ่ ดั มสี ีเหลือง เข้ม มีกล่นิ หอมรนุ แรงและสง่ กลนิ่ ไปไดไ้ กล ดอกเป็นกลบี เรยี วยาวแยกจากกนั ๖ กลีบ ดอก ใหญ่กวา่ และกลีบดอกหนากวา่ กระดังงา เมื่อดอกแก่จะร่วงเป็นผล ผลมลี กั ษณะกลมรี เป็น พวง สีเขียว และเปลย่ี นเป็นสเี หลอื งเข้ม เมื่อผลแก่จัดภายในผลแก่มีเมล็ดสีดาํ เปน็ เมอื ก ๆ การขยายพนั ธุ์ นิยมใช้กิ่งตอน เพราะโตเรว็ กวา่ การขยายพนั ธุด์ ว้ ยการเพาะเมล็ด

 ๙ กระพอ้ “…กระพ้อเงาะระงบั กระจับบก กระทกรกกระลําพอสมอไข่ ผกั หวานตาลดาํ ลาํ ใย มะเฟอื งไฟไข่เนา่ สะเดานา…” วรรณคดี : “ขนุ ช้างขนุ แผน” ตอนขนุ แผนลแุ กโ่ ทษ ผ้ปู ระพันธ์ : สุนทรภู่ ช่อื พฤกษศาสตร์ : Passiflorafoetida, L. ชื่อสามญั : Stinking –Passion Flower ชอ่ื วงศ์ : Passifloraceae ชื่ออ่ืน ๆ : หญา้ รกชา้ ง กระโปรงทอง เถาสงิ โต กระทกรกเป็นไม้ประเภทเถาเลื้อย เถาเล็กสีเขียว ใบเป็นใบเดี่ยว แยกเป็น ๓ แฉกคล้ายใบ ตําลึง ยาวประมาณ ๖ - ๗ ซ.ม. แผ่นใบมีขนละเอียดปกคลุมจับนุ่มมือออกเป็นข้อ ๆ ละใบสลับ ข้างกัน ก้านใบมีขนเห็นได้ชัด หูใบมีลักษณะเป็นแผ่น ปลายจักแหลม ๆ ขนาบอยู่ที่ฐานก้าน ใบ ระหว่างฐานใบกับลําต้นมีมือเกาะลักษณะเป็นเส้นม้วนงอ สําหรับเกาะให้เลื้อยขึ้นไปตามร้ัว หรือต้นไม้อื่นท่ีอยู่ใกล้เคียง ดอกเป็นดอกเด่ียว ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ๒ - ๓ เซนติเมตร มี กาบใบเป็นฝอยร่างแห ๓ กาบ กลีบเป็นเส้นฝอยละเอียดสีขาว วงในเป็นสีม่วง บอกในช่วงเช้า ดอกออกตามซอกระหว่างก้านใบกับลําต้น เม่ือดอกโรยจะติดผล ผลมีลักษณะกลมเป็นพู มี กาบใบเจริญเติบโตตามผลหุ้มผลไว้ผลหน่ึง ๆ มีหลายเมล็ด ออกดอกตลอดปี ผลรับประทาน เลน่ ได้

  ๑๐ กหุ ลาบ “…เท่ยี วชมแถวข้ันรกุ ขชาติ ดอกเกลือ่ นดกกลาดหนักหนา กาหลงกหุ ลาบกระดงั งา การะเกดกรรณิการ์ลาํ ดวน…” วรรณคดี : “รามเกียรต”์ิ ผ้ปู ระพันธ์ : พระราชนพิ นธใ์ นพระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้าจุฬาโลก ช่อื พฤกษศาสตร์ : Rosa damascema, Mill. ชอื่ สามัญ : DamaskRose, Persia Rose, Mon Rose ช่ือวงศ์ : Rosaceae กุหลาบมอญเป็นไม้ดอกประเภทไม้พุ่มผลัดใบ ลําต้นตั้งตรง ก่ิงก้านมีหนาม พุ่มสูงประมาณ ๒ - ๓ เมตร อายุยืน แข็งแรง เป็นไม้ที่ต้องการแสงแดดจัดอย่างน้อยวันละ ๖ ชั่วโมง จึงควร ปลูกในที่โล่งแจ้งแต่ควรเป็นที่อับลม ขึ้นได้ในดินท่ีมีความอุดมสมบูรณ์พอ ชอบน้ํา แต่ไม่ชอบ นํ้าขัง ดินจึงต้องระบายนํ้าได้ดี ชอบอากาศร้อนในตอนกลางวัน และอากาศเย็นในตอน กลางคืน กุหลาบมอญน้ีถือได้ว่าเป็นกุหลาบพ้ืนเมืองของไทย ใบเป็นใบประกอบชนิดขนนก มีหู ใบ ๑ คู่ มีใบย่อย ๓ - ๕ ใบ ในก้านช่อใบหนึ่ง ๆ ใบจัดเรียงแบบสลับ ใบมีสีเขียวเข้มเป็นมัน มี รอยย่นเล็กน้อย ขอบใบเป็นจักละเอียด เส้นกลางใบด้านท้องใบมีหนามห่าง ๆ ดอกมีลักษณะ ค่อนข้างกลม กลับดอกเรียงซ้อนกันหลายช้ัน วนออกนอกเป็นรัศมีโดยรอบ ดอกมีสีชมพู ออ่ น สีชมพูเขม้ ดอกมกั ออกเป็นชอ่ ทางปลายกง่ิ กลีบดอกมีลกั ษณะปลายแหลมเรียว การขยายพนั ธ์ใชว้ ธิ ตี อนกง่ิ

  ๑๑ ช้องนาง “นาเวศเคล่ือนคล้อยคลา ลว่ งลอยตามชลธาร ชมไมใ้ นอทุ ยาน บานเกล่ือนกลน่ หล่นเร่ียราย ช้องนางนางคลไ่ี ว้ คิดทรามวยั เคยสรงสยาย กล่ินร่ํานํ้าอบอาย ไม่วายวา่ งหา่ งหอมเอยฯ” (กาพย์เหเ่ รอื พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๕) ชื่อวิทยาศาสตร์ Thunbergiarepens Linn. ชอื่ ภาษาอังกฤษ Bush Clock Vine ช้องนางเป็นพชื พืน้ เมืองของทวปี อาฟริกา เป็นไมพ้ ุม่ เตย้ี แตกกง่ิ ก้านหนาแน่นใบมนปลาย ใบ แหลม ดอกมสี ีมว่ งเขม้ รปู กรวยปากแตร มกี ลบี ดอก ๕ กลบี ออกดอกได้ตลอดปี สามารถ เจรญิ เตบิ โตได้ท้งั ในที่รําไรและกลางแจ้ง ขยายพันธุไ์ ดโ้ ดยการตดั ชาํ หรือการตอน

  ๑๒ ข้อมลู อา้ งองิ http://www.skoolbuz.com (สบื ค้นเมื่อ ๑๘ มถิ นุ ายน ๒๕๕๕) http://www.kawethai.com (สบื ค้นเมื่อ ๒๐ มถิ ุนายน ๒๕๕๕) http://edunews.eduzones.com (สืบค้นเมอ่ื ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๕) http://www.school.obec.go.th (สืบค้นเมื่อ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๕) http://www.thaigoodview.com (สืบคน้ เมื่อ ๑๓ สงิ หาคม ๒๕๕๕)

34 ทาไปตามผงั งาน คาชแ้ี จง พิจารณาขอ้ ความแล้วเขยี นหมายเลขเรียงลาดบั หนา้ ข้อความ และเขยี นผังงานใหถ้ กู ต้อง กจิ กรรมท่ี 1 รปู แบบโครงสร้าง …………………………………………………………………………………………… 1. เริม่ ต้น 2. จบ 3. รับประทำน 4. ต้มน้ำใหเ้ ดือด 5. ต้มนำ้ ประมำณ 1 นำที 6. ใส่เคร่ืองปรงุ แลว้ ยกภำชนะลงจำกเตำ 7. ใสบ่ ะหม่ลี งในน้ำเดือด เลม่ ท่ี 2 เคร่ืองมอื สำหรบั กำรออกแบบโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ แบบฝึกเสรมิ ทักษะกำรออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ วชิ ำพื้นฐำนกำรเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหัส 2204-2006 ชนั้ ปวช.2

35 กิจกรรมที่ 2 รปู แบบโครงสรา้ ง …………………………………………………………………………………………… 1. เริม่ ตน้ 2. จบ 3. ซกั เสื้อผ้ำ 4. ฝนตกหรือไม่ 5. ถ้ำฝนไม่ตก ออกไปดูภำพยนต์ 6. ถำ้ ฝนไม่ตก อยู่บ้ำนอำ่ นหนังสอื กิจกรรมท่ี 3 รปู แบบโครงสร้าง …………………………………………………………………………………………… 1. ถำ้ NUM = 1 แสดงข้อควำม “Number One” 2. ถ้ำ NUM = 2 แสดงข้อควำม “Number Two” 3. ถำ้ NUM = 3 แสดงข้อควำม “Number Three” 4. เรม่ิ ต้น 5. ตรวจสอบคำ่ NUM 6. ค่ำไมเ่ ท่ำกับ NUM แสดงข้อควำม “Error” 7. รับคำ่ NUM 8. จบกำรทำงำน เล่มที่ 2 เคร่อื งมอื สำหรับกำรออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แบบฝกึ เสริมทกั ษะกำรออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ วิชำพื้นฐำนกำรเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหสั 2204-2006 ชนั้ ปวช.2

36 กิจกรรมท่ี 4 รปู แบบโครงสรา้ ง …………………………………………………………………………………………… 1. ถ้ำ NUM = 1 แสดงข้อควำม “Number One” 2. ถำ้ NUM = 2 แสดงข้อควำม “Number Two” 3. ถ้ำ NUM = 3 แสดงข้อควำม “Number Three” 4. เรม่ิ ต้น 5. ตรวจสอบคำ่ NUM 6. คำ่ ไมเ่ ท่ำกับ NUM แสดงข้อควำม “Error” 7. รบั คำ่ NUM 8. จบกำรทำงำน กิจกรรมท่ี 5 รูปแบบโครงสรา้ ง …………………………………………………………………………………………… 1. เริม่ ตน้ 2. จบ 3. ครใู ห้นักเรยี นทำแบบฝึกหัด 4. สอนเรื่องใหม่ 5. ครอู ธิบำยเรอ่ื งกำรบวกเลข 6. ตรวจสอบนักเรยี นทำไดห้ รอื ไม่? 7. นกั เรยี นส่งแบบฝกึ หัด 8. ครูตรวจแบบฝกึ หัด เล่มท่ี 2 เครอ่ื งมือสำหรับกำรออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แบบฝึกเสริมทกั ษะกำรออกแบบโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ วิชำพื้นฐำนกำรเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหัส 2204-2006 ชนั้ ปวช.2

37 กจิ กรรมท่ี 6 รูปแบบโครงสรา้ ง …………………………………………………………………………………………… 1. เรม่ิ ตน้ 2. จบ 3. ดผู ลกำรสอบ 4. เรียนซอ่ มเสริม 5. สอบไม่ผำ่ น 6. รอผลกำรสอบซ่อม 7. สอบซ่อม 8. ดูประกำศผลสอบซ่อม กิจกรรมที่ 7 รปู แบบโครงสร้าง …………………………………………………………………………………………… 1. เรม่ิ ต้น 2. จบ 3. เปดิ หนงั สือหน้ำถดั ไป 4. ตรวจสอบอ่ำนไมค่ รบ 10 หน้ำ 5. ครใู หน้ ักเรยี นอำ่ นหนังสอื 10 หนำ้ 6. นกั เรยี นอำ่ นหนังสือ 7. นกั เรียนเปิดอ่ำนหนังสอื หนำ้ แรก เลม่ ท่ี 2 เคร่ืองมือสำหรับกำรออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แบบฝกึ เสรมิ ทักษะกำรออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ วชิ ำพน้ื ฐำนกำรเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหสั 2204-2006 ชั้น ปวช.2

34 ทาไปตามผงั งาน คาชแ้ี จง พิจารณาขอ้ ความแล้วเขยี นหมายเลขเรียงลาดบั หนา้ ข้อความ และเขยี นผังงานใหถ้ กู ต้อง กจิ กรรมท่ี 1 รปู แบบโครงสร้าง …………………………………………………………………………………………… 1. เริม่ ต้น 2. จบ 3. รับประทำน 4. ต้มน้ำใหเ้ ดือด 5. ต้มนำ้ ประมำณ 1 นำที 6. ใส่เคร่ืองปรงุ แลว้ ยกภำชนะลงจำกเตำ 7. ใสบ่ ะหม่ลี งในน้ำเดือด เลม่ ท่ี 2 เคร่ืองมอื สำหรบั กำรออกแบบโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ แบบฝึกเสรมิ ทักษะกำรออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ วชิ ำพื้นฐำนกำรเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหัส 2204-2006 ชนั้ ปวช.2

35 กิจกรรมที่ 2 รปู แบบโครงสรา้ ง …………………………………………………………………………………………… 1. เริม่ ตน้ 2. จบ 3. ซกั เสื้อผ้ำ 4. ฝนตกหรือไม่ 5. ถ้ำฝนไม่ตก ออกไปดูภำพยนต์ 6. ถำ้ ฝนไม่ตก อยู่บ้ำนอำ่ นหนังสอื กิจกรรมท่ี 3 รปู แบบโครงสร้าง …………………………………………………………………………………………… 1. ถำ้ NUM = 1 แสดงข้อควำม “Number One” 2. ถ้ำ NUM = 2 แสดงข้อควำม “Number Two” 3. ถำ้ NUM = 3 แสดงข้อควำม “Number Three” 4. เรม่ิ ต้น 5. ตรวจสอบคำ่ NUM 6. ค่ำไมเ่ ท่ำกับ NUM แสดงข้อควำม “Error” 7. รับคำ่ NUM 8. จบกำรทำงำน เล่มที่ 2 เคร่อื งมอื สำหรับกำรออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แบบฝกึ เสริมทกั ษะกำรออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ วิชำพื้นฐำนกำรเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหสั 2204-2006 ชนั้ ปวช.2

36 กิจกรรมท่ี 4 รปู แบบโครงสรา้ ง …………………………………………………………………………………………… 1. ถ้ำ NUM = 1 แสดงข้อควำม “Number One” 2. ถำ้ NUM = 2 แสดงข้อควำม “Number Two” 3. ถ้ำ NUM = 3 แสดงข้อควำม “Number Three” 4. เรม่ิ ต้น 5. ตรวจสอบคำ่ NUM 6. คำ่ ไมเ่ ท่ำกับ NUM แสดงข้อควำม “Error” 7. รบั คำ่ NUM 8. จบกำรทำงำน กิจกรรมท่ี 5 รูปแบบโครงสรา้ ง …………………………………………………………………………………………… 1. เริม่ ตน้ 2. จบ 3. ครใู ห้นักเรยี นทำแบบฝึกหัด 4. สอนเรื่องใหม่ 5. ครอู ธิบำยเรอ่ื งกำรบวกเลข 6. ตรวจสอบนักเรยี นทำไดห้ รอื ไม่? 7. นกั เรยี นส่งแบบฝกึ หัด 8. ครูตรวจแบบฝกึ หัด เล่มท่ี 2 เครอ่ื งมือสำหรับกำรออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แบบฝึกเสริมทกั ษะกำรออกแบบโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ วิชำพื้นฐำนกำรเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหัส 2204-2006 ชนั้ ปวช.2

37 กจิ กรรมท่ี 6 รูปแบบโครงสรา้ ง …………………………………………………………………………………………… 1. เรม่ิ ตน้ 2. จบ 3. ดผู ลกำรสอบ 4. เรียนซอ่ มเสริม 5. สอบไม่ผำ่ น 6. รอผลกำรสอบซ่อม 7. สอบซ่อม 8. ดูประกำศผลสอบซ่อม กิจกรรมที่ 7 รปู แบบโครงสร้าง …………………………………………………………………………………………… 1. เรม่ิ ต้น 2. จบ 3. เปดิ หนงั สือหน้ำถดั ไป 4. ตรวจสอบอ่ำนไมค่ รบ 10 หน้ำ 5. ครใู หน้ ักเรยี นอำ่ นหนังสอื 10 หนำ้ 6. นกั เรยี นอำ่ นหนังสือ 7. นกั เรียนเปิดอ่ำนหนังสอื หนำ้ แรก เลม่ ท่ี 2 เคร่ืองมือสำหรับกำรออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แบบฝกึ เสรมิ ทักษะกำรออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ วชิ ำพน้ื ฐำนกำรเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหสั 2204-2006 ชั้น ปวช.2


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook