ลอกคราบ 2 ครง้ั ระยะตัวออ่ น 12-13 วนั จงึ เปน็ ตวั เตม็ วัย ตวั เต็มวัยสี เขม้ ข้นึ เลก็ นอ้ ย ขนาดตวั ผ้กู ว้าง 0.16 มม. ยาว 0.30 มม. ตัวเมยี กว้าง 0.18 มม. ยาว 0.37 มม. ผสมพนั ธแ์ุ ลว้ วางไขภ่ ายใตฝ้ า้ รงั เกา่ และมดุ ออก ไปถกั ฝา้ รงั ใหมต่ อ่ ไป โดยมากมกั ไปทางดา้ นปลายใบตามแนวเสน้ ใบ พชื อาหารและลกั ษณะการทำ� ลาย ออ้ ยทไี่ รชนดิ นล้ี งทำ� ลายมอี าการ ใบลายเปน็ ขดี ขาว ๆ เปน็ เสน้ ประ ๆ คอื ไมต่ ดิ กนั ตลอด แตล่ ะรอยขาว ๆ คอื ฝา้ ทเ่ี กดิ จากเสน้ ใยทถ่ี กั เปน็ ฝา้ ไวอ้ ยา่ งหนาแนน่ และเปน็ ทอ่ี ยอู่ าศยั ของกลุ่มไรภายใต้ฝ้าที่ถักไว้ ทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยของไรดูดกินผิว ใบจนเป็นรอยดา่ ง นอกจากอ้อยยังสามารถอาศัยอยู่บนหญา้ ทใ่ี กล้ชิด กบั ออ้ ยทม่ี ใี บแคบยาวเหมอื นกัน คูม่ อื การวนิ ิจฉัยโรคอ้อย 101
เพล้ียกระโดดด�ำ ชอ่ื สามัญภาษาองั กฤษ Froghopper, Spittle bug ชอ่ื วิทยาศาสตร์ Callitetrix versicolor Fabricius, Rhinertria versicolor Fabricius ความเสียหาย/ลกั ษณะการท�ำลาย เปน็ แมลงทม่ี คี วามสำ� คญั เฉพาะแหลง่ ทรี่ ะบาดเทา่ นน้ั ตวั เตม็ วยั ดดู กนิ น้�ำเลย้ี งจากใบอ้อย ทำ� ใหใ้ บออ้ ยมีลกั ษณะเปน็ จุดเหลอื งซดี หรอื สี น้�ำตาลออ่ นกระจายอย่ทู วั่ ไป เม่ือถกู ดดู กินมาก ๆ ใบออ้ ยจะแห้งจาก ขอบใบเขา้ หาเสน้ กลางใบ ซงึ่ มผี ลทำ� ใหอ้ อ้ ยชะงกั การเจรญิ เตบิ โต หรอื ผลผลติ อ้อยลดลง การแพรก่ ระจายและฤดกู าลระบาด ในชว่ งเดอื นมถิ นุ ายน-สงิ หาคม ตวั เตม็ วยั ของเพลยี้ กระโดดดำ� จะบนิ ออกจากวัชพืชท่ีเป็นพืชอาศัยมายังแปลงข้าวโพดปลูกไว้ และท�ำการ ผสมพนั ธ์ุ และเมอื่ ไมม่ ขี า้ วโพด กจ็ ะเขา้ สไู่ รอ่ อ้ ยเพอื่ ผสมพนั ธแ์ุ ละทำ� ลาย 102 คมู่ ือการวินิจฉัยโรคออ้ ย
ตอ่ ไป แมลงชนดิ นมี้ ี 2 ชวั่ อายใุ นรอบปี บรเิ วณทรี่ ะบาดมากจะอยบู่ รเิ วณ เชิงเขาท่ีมีความชื้นสูง เข้าท�ำลายอ้อยได้ต้ังแต่เดือนพฤษภาคม- พฤศจกิ ายน พืชอาหาร ตวั อ่อนดดู กินน้�ำเล้ียงจากรากหญา้ กำ� มะหย่ี สว่ นตวั เต็ม วยั ดูดกินน�้ำเลี้ยงจากใบอ้อย ขา้ วโพด ไผ่ หญ้าขจรจบ หญ้าคา กลว้ ย หญา้ ไผ่ และกระทือ คำ� แนะนำ� การป้องกันก�ำจดั • ควรทำ� ลายวชั พชื ทเ่ี ปน็ พชื อาศยั และแหลง่ เพาะพนั ธข์ุ องตวั ออ่ น คอื หญ้ากำ� มะหย่ี • เพลีย้ กระโดดดำ� ไม่ได้ท�ำลายพืชอาศัย เมอ่ื พบฟองนำ้� ลายตาม ต้นหรือใบวัชพืชเป็นจ�ำนวนมาก ควรจะฉีดพ่นด้วยสารฆ่าแมลงเพื่อ กำ� จดั ตวั อ่อนท่ีอยู่ในฟองน�้ำลาย • ในชว่ งเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม เม่อื พบตัวเต็มวัยระบาดมาก ในรุ่นแรก ควรฉีดพ่นดว้ ยสารฆ่าแมลงตามพชื อาศยั ในช่วงเชา้ เพ่ือลด ประชากรก่อนท่ีจะเข้าท�ำลายในรุ่นที่ 2 สารฆ่าแมลงที่ใช้ได้ผล คือ carbosulfan (Posse 20% EC) อัตรา 40 ซซี ตี อ่ นำ้� 20 ลติ ร carbaryl (Sevin 85% WP) อตั รา 30 กรัมต่อน้�ำ 20 ลติ ร และ BPMC (Bassa 50% WP) อัตรา 30 มิลลิลิตรต่อน้�ำ 20 ลิตร คมู่ ือการวนิ จิ ฉยั โรคอ้อย 103
มวนอ้อย ชื่อสามญั ภาษาองั กฤษ Sugarcane bug, Linear bugs ช่ือวิทยาศาสตร์ Phaenacantha saccharicida Karsch ความเสียหาย/ลักษณะการท�ำลาย มวนอ้อยเป็นแมลงที่เร่ิมมีความสำ� คญั ชนิดหน่ึงของออ้ ย ตวั เต็มวยั และตวั ออ่ นดดู กนิ นำ�้ เลย้ี งจากใบออ้ ย ทำ� ใหใ้ บออ้ ยเปลยี่ นเปน็ สเี หลอื ง ตอ่ มาจะเปลยี่ นเปน็ สนี ำ้� ตาลแดง เมอ่ื ระบาดมากทำ� ใหใ้ บออ้ ยแหง้ ตาย หรือชะงกั การเจรญิ เติบโต รปู รา่ งลักษณะและชีวประวตั ิ ไข่ ไข่ยาวรีสีน�้ำตาล ขนาด 0.5 X1.7 มิลลเิ มตร 104 คู่มือการวนิ จิ ฉัยโรคอ้อย
ตวั อ่อน ตัวอ่อนท่ฟี ักใหม่มีสนี ำ้� ตาลจนเกือบด�ำ ตาสีน้�ำตาลแดง ขา ยาวสนี ำ�้ ตาลอ่อน หนวดยาวกว่าล�ำตวั ประมาณ 1.5 เท่า หลังจากลอก คราบครง้ั แรก ส่วนท้องจะเปลี่ยนเป็นสคี ่อยขา้ งแดงและใส ตัวเต็มวัย ล�ำตัวยาวแคบ โดยเฉพาะส่วนท้องที่ติดอยู่กับอกจะเล็ก แลว้ ขยายใหญข่ นึ้ ไปทางปลายทอ้ ง ตาสแี ดง ปกี ใสยาว 7.5-8.0 มลิ ลเิ มตร ตวั เต็มวัยวางไขเ่ ป็นฟองเดี่ยว ๆ ท่ีกาบใบแห้งดา้ นในใบออ้ ยท่ี 1-14 จากพ้นื ดิน ระยะไข่ 7-12 วัน ตวั อ่อนลอกคราบ 5-6 คร้ัง อายุตัวอ่อน 30-45 วัน แล้วลอกคาบคร้ังสุดท้ายเป็นตัวเต็มวัย ตัวเต็มวัยอายุ 1-2 เดือน การแพร่กระจายและฤดกู าลระบาด ในประเทศไทยพบการระบาดเขา้ ทำ� ลายออ้ ยท่ี อ.กมุ ภวาปี จ.อดุ รธานี อ.เมือง จ.กาญจนบุรี อ.จอมบึง จ.ราชบุรี อ.เมือง จ.ระยอง ในต่าง ประเทศพบทตี่ อนเหนอื ของออสเตรเลยี ระยะเวลาการระบาดตง้ั แตอ่ อ้ ย อายุ 1 เดือนจนถงึ เกบ็ เก่ยี ว พืชอาหาร อ้อย หญา้ คา หญ้าขจรจบ ค�ำแนะน�ำการปอ้ งกันก�ำจัด พน่ ดว้ ย carbaryl (Sevin 85% WP) อตั รา 40 กรมั ตอ่ นำ้� 20 ลติ ร คมู่ อื การวินจิ ฉยั โรคอ้อย 105
ตั๊กแตนโลกสั ตา้ ชอ่ื สามัญภาษาองั กฤษ Locusta ชือ่ วิทยาศาสตร์ Locusta migratoria manilensis Meyen ความเสียหาย/ลกั ษณะการท�ำลาย เปน็ ตกั๊ แตนทอี่ นั ตรายมากระบาดมากในประเทศไทยระบาดทว่ั ไปสว่ น ใหญพ่ บมากทภ่ี าคกลาง และจงั หวดั ทม่ี กี ารปลกู ออ้ ย ปลกู ขา้ วโพด ขา้ ว และขา้ วฟา่ ง ตก๊ั แตนทำ� ลายใบ ใบทม่ี กี า้ นใบแขง็ ๆ เชน่ ใบออ้ ย จะไมก่ นิ กา้ นกลางใบ แตถ่ า้ เปน็ ใบออ่ นของขา้ ว หรอื ขา้ วโพดกจ็ ะกนิ หมดทง้ั ใบ ชวี ประวตั ิ เมอ่ื เปน็ ตวั เตม็ วยั ได้ 10-20 วนั ตวั เมยี จะไดร้ บั การผสมจาก ตัวผู้ หลงั จากนน้ั จะวางไข่ ภายใน 7-15 วนั อายไุ ข่ 14-18 วนั ไข่จะฟกั ออกเปน็ ตวั ออ่ นซง่ึ จะลอกคราบ 5-6 ครงั้ ใชเ้ วลาประมาณ 27-40 วนั จงึ จะเปน็ ตวั เตม็ วยั และผสมพนั ธต์ุ อ่ ตวั เตม็ วยั มอี ายปุ ระมาณ 32-97 วนั ระยะเวลาผสมพนั ธร์ุ ะหวา่ งมกราคม-เมษายน,กรกฎาคม-พฤศจกิ ายน และธันวาคม ระยะเวลาวางไขร่ ะหวา่ ง มกราคม-กมุ ภาพนั ธ,์ พฤษภาคม, กรกฎาคม, กนั ยายน และ พฤศจกิ ายน – มกราคม 106 คูม่ ือการวนิ ิจฉัยโรคออ้ ย
ระยะเวลาไข่ฟักเปน็ ตัว กมุ ภาพนั ธ์-มนี าคม, พฤษภาคม-มถิ นุ ายน, สงิ หาคม-ตลุ าคม และธนั วาคม-กมุ ภาพันธ์ การแพร่กระจายและฤดกู าลระบาด ในประเทศไทยระบาดอยู่ท่ัวไป ในต่างประเทศมีรายงานระบาดใน จนี ญปี่ ุ่น เกาหลี ไตห้ วัน ฟิลิปปนิ ส์ เวียดนาม มาเลเซีย บอรเ์ นยี ว ชวา เกาะโซโลมอน และตองกา้ ฤดูกาลระบาดของตัวอ่อนจะปรากฏตัวช่วงต้นฤดูฝน คือเร่ิมต้ังแต่ เดือนพฤษภาคมเป็นตันไป และเนื่องจากมี 4 ร่นุ ใน 1 ปี ท�ำให้พบการ ระบาดของตก๊ั แตนชนดิ นไ้ี ด้ทัง้ ปี พืชอาหาร ต๊ักแตนชนิดน้ีสามารถกินพืชตระกูลหญ้าหลายชนิดเป็น อาหาร พชื ทเี่ คยถูกทลายมาแล้วมีขา้ วโพด ออ้ ย ขา้ ว ข้าวฟ่าง กลว้ ย มะพร้าว ถั่วเหลอื ง หม่อน ละหุ่ง ไผ่ ฝ้าย หญา้ ขน คำ� แนะน�ำการป้องกนั ก�ำจัด • ต๊ักแตนชนิดนี้ไม่วางไข่ในท่ีโล่งเหมือนตั๊กแตนปาทังก้า แต่จะ วางไขใ่ นทร่ี ก ดงั นนั้ จงึ ควรกำ� จดั วชั พชื และพรวนดนิ เพอื่ ทำ� ลายไขแ่ ละ ตัวอ่อนของต๊กั แตน • การใชส้ ารเคมกี ็อาจจะใชส้ ารเคมีบางชนดิ ฉดี พน่ เชน่ carbaryl ผง 85% อตั รา 60-80 กรัมตอ่ น้�ำ 20 ลิตร ฉดี พ่นไปบนดนิ หรอื บนใบพืช คูม่ อื การวินจิ ฉัยโรคออ้ ย 107
ดว้ งงวงอ้อย ชอ่ื สามัญภาษาองั กฤษ Lead eating weevil ช่ือวทิ ยาศาสตร์ Sepiomus sp. ความเสยี หาย/ลกั ษณะการท�ำลาย เม่ือเกิดการระบาดมาก ๆ จะกัดกนิ ใบออ้ ยให้เสียหาย ถ้าเขา้ ทำ� ลาย ขณะทอี่ อ้ ยยงั เลก็ อยจู่ ะทำ� ใหอ้ อ้ ยชะงกั การเจรญิ เตบิ โต โดยเฉพาะเมอ่ื เกดิ ภาวะแหง้ แลง้ ตดิ ตอ่ กนั กอ็ าจจะทำ� ใหผ้ ลผลติ ออ้ ยลดลงได้ ใบออ้ ย จะถูกกัดจากด้านนอกเข้ามาหาด้านใน ท�ำให้ใบขาดหายเป็นส่วน ๆ และปรากฏรอยเวา้ แหว่งทวั่ ไป รูปร่างลกั ษณะและชีวประวัติ ตัวแก่ เป็นดว้ งปกี แขง็ สเี ทาปนน�้ำตาลเลก็ นอ้ ย ส่วนหัวและอกยนื่ ไปข้างหน้า ลกั ษณะคล้ายงวง ลำ� ตวั ยาวประมาณ 7-8 มลิ ลเิ มตร กวา้ ง 2-3 มลิ ลเิ มตร สว่ นทอ้ งขยายใหญก่ วา่ สว่ นอกประมาณ 2.5 เทา่ สำ� หรบั ไข่ หนอน และดกั แดย้ งั ไมไ่ ดม้ กี ารศกึ ษา 108 คูม่ อื การวินิจฉัยโรคอ้อย
ในเวลากลางวนั ตัวแก่มักซอ่ นตวั สงบนงิ่ อยู่ตามใบของตน้ ไมก้ วาด หรือต้นมะขามเทศท่ีข้ึนอยู่ตามไร่อ้อย หรือตามขอบถนนที่ติดต่อกัน ภายในไรอ่ อ้ ย ถา้ ทำ� ใหต้ น้ พชื ทแ่ี มลงกำ� ลงั เกาะอยกู่ ระเทอื นมนั กจ็ ะทง้ิ ตวั ลงสพู่ นื้ ดนิ พลบคำ�่ กจ็ ะบนิ ออกจากพชื อาศยั เขา้ กดั กนิ ใบออ้ ย แมลง ชนิดนี้วางไข่ในดิน ตัวหนอนท่ีฟักออกจากไข่อาจจะกัดกินรากพืชเป็น อาหาร การแพรก่ ระจายและฤดูกาลระบาด พบเขา้ ทำ� ลายมากในพนื้ ทจี่ งั หวดั ชลบรุ ี และระยอง เขา้ ทำ� ลายออ้ ยตงั้ แต่ เดอื นกรกฎาคมถงึ ตลุ าคม แตร่ ะบาดมากในเดอื นกนั ยายน พชื อาหาร ออ้ ย มะขามเทศ และต้นไม้กวาด คำ� แนะนำ� การป้องกันก�ำจัด ถา้ ไรอ่ อ้ ยมตี น้ ไมก้ วาด หรอื ตน้ มะขามเทศอยบู่ รเิ วณไรอ่ อ้ ย กฉ็ ดี สาร ฆ่าแมลงเฉพาะต้นไม้กวาดหรือต้นมะขามเทศ โดยใช้เป็นพืชล่อ จะ ประหยดั คา่ สารฆา่ แมลงลงไปมาก สารฆา่ แมลงทใ่ี ชไ้ ดผ้ ลดคี อื carbaryl (Sevin 85%, S-85) อัตรา 50 กรมั ต่อน�้ำ 20 ลิตร คมู่ ือการวินจิ ฉยั โรคอ้อย 109
หนอนบงุ้ ช่อื สามัญภาษาอังกฤษ Hariry caterpillar ชือ่ วิทยาศาสตร์ Eupterote testacca Walker ความเสยี หาย/ลักษณะการท�ำลาย เปน็ แมลงทกี่ ดั เขา้ กนิ ใบออ้ ยในระยะหนอน ทำ� ใหใ้ บออ้ ยเปน็ รอยเวา้ แหวง่ แตไ่ มม่ คี วามเสยี หายตอ่ ผลผลติ ออ้ ย ความสำ� คญั ทเี่ กดิ กบั ชาวไร่ อ้อยคือ คราบและขนของหนอนท่ีตกค้างอยู่ตามกาบใบอ้อย มักฟุ้ง กระจายไปในไร่ออ้ ย ทำ� ให้ผทู้ ปี่ ฏิบตั ิงานอยูใ่ นไรอ่ ้อยเกดิ อาการผ่ืนคัน ตามผวิ หนัง คนงานมกั ไมย่ อมเข้าไปตดั อ้อยในไรท่ ม่ี ีหนอนบุ้งระบาด 110 คมู่ ือการวนิ จิ ฉยั โรคออ้ ย
การแพรก่ ระจายและฤดกู าลระบาด พบกระจายท่ัวไปในแหล่งปลูกอ้อย แต่มีปัญหาในบางพื้นที่ของ จ.นครปฐม ราชบรุ ี กาญจนบุรี และสุพรรณบุรี โดยในหนง่ึ รอบปี แมลง ชนดิ นสี้ ามารถมไี ด้ 2 รนุ่ พบวา่ หนอนรนุ่ แรกอยรู่ ะหวา่ งเดอื นพฤษภาคม - กรกฎาคม และหนอนรนุ่ ที่ 2 พบระหวา่ งเดอื น ตลุ าคม – ธนั วาคม คำ� แนะนำ� การปอ้ งกนั ก�ำจดั • จบั กลุ่มหนอนท�ำลายขณะหนอนตวั เลก็ ยังเล็กอยู่ จากวัยท่ี 1-6 มกั รวมกลมุ่ กนั อยบู่ นใบออ้ ยใบเดยี่ ว จงึ งา่ ยตอ่ การตดั ใบออ้ ยทมี่ หี นอน เขา้ มาทำ� ลาย • ฉดี พ่นด้วยสารฆา่ แมลง carbaryl (Sevin 85% ชนิดผง) อัตรา 20-30 กรัมต่อน้�ำ 20 ลติ ร หรอื chorpyrifos (Lorsban 20 ชนดิ นำ้� ) อัตรา 40-50 ซีซี.ตอ่ น้�ำ 20 ลิตร คมู่ อื การวนิ ิจฉัยโรคออ้ ย 111
เพลีย้ สำ� ลีแปง้ ชอ่ื สามญั ภาษาอังกฤษ Wooly aphid ชือ่ วิทยาศาสตร์ Ceratovacuna lanigera Zehnter ความเสียหาย/ลักษณะการท�ำลาย เมื่อระบาดมากท�ำให้อ้อยชะงักการเจริญเติบโต หรือท�ำให้ใบอ้อย แหง้ กรอบทง้ั ใบ ซงึ่ บางครงั้ มผี ลใหต้ น้ ออ้ ยแหง้ ตายไปทงั้ ตน้ นอกจากนี้ นำ้� หวานทเี่ พลย้ี ชนดิ นถ้ี า่ ยออกมาเคลอื บอยตู่ ามใบออ้ ย ทำ� ใหร้ าดำ� เขา้ ทำ� ลายนำ�้ หวานจงึ พบวา่ ราดำ� เคลอื บอยตู่ ามใบออ้ ยซงึ่ ทำ� ใหป้ ระสทิ ธภิ าพ การสังเคราะห์แสงของใบอ้อยลดลง ซ่ึงย่อมส่งผลต่อการเจริญเติบโต และการสะสมน�้ำตาลของออ้ ย ท้ังตัวอ่อนและตัวเต็มวัยดูดกินน้�ำเล้ียงใต้ใบอ้อย ท�ำให้ใบอ้อยเป็น สีเหลืองซีด เม่ือระบาดมากจะมีลักษณะคล้ายแป้งสีขาวปกคลุมตาม ใตใ้ บออ้ ย ซ่งึ อาจทำ� ใหเ้ ขา้ ใจผดิ วา่ เป็นเพลีย้ แป้ง 112 คู่มือการวินิจฉยั โรคออ้ ย
การแพร่กระจายและฤดูกาลระบาด พบท่ัวไปในแหล่งปลูกอ้อยทั่วประเทศ เป็นศัตรูร้ายแรงในไต้หวัน อินโดนเี ซีย ฟิลปิ ปนิ ส์ และญี่ปนุ่ เรมิ่ ระบาดเม่อื อณุ หภมู ิสูงและสิน้ ฤดู ฝนตงั้ แตเ่ ดอื นตลุ าคม พบระบาดมากในฤดแู ลง้ คอื กมุ ภาพนั ธ-์ เมษายน ปรมิ าณจะลดนอ้ ยลงเมอื่ เขา้ ฤดฝู นเมอื่ ฝนตกหนกั เพลยี้ สำ� ลจี ะหายไปเอง ปริมาณน้�ำฝนจึงเป็นปัจจัยส�ำคัญต่อการระบาดของแมลงศัตรูอ้อย ชนดิ นี้ คำ� แนะน�ำการปอ้ งกนั ก�ำจดั • การเริ่มฉีดสารฆ่าแมลงเม่ือพบเพลี้ยส�ำลีเริ่มระบาดก่อนท่ีจะ แพรพ่ นั ธอ์ุ อกไปมาก โดยฉดี เฉพาะกอทถ่ี กู ทำ� ลาย สารฆา่ แมลงทแ่ี นะนำ� คือ carbaryl (Sevin 85% WP) อัตรา 10 กรัมต่อน้�ำ 20 ลิตร หรือ malathion 57% EC (Malarfez 57% EC) อตั รา 10 ซีซ.ี ตอ่ น�้ำ 20 ลติ ร • ถา้ ไมม่ กี ารระบาดมากกไ็ มต่ อ้ งทำ� การปอ้ งกนั กำ� จดั เมอ่ื ฝนตกลง มาก็จะหายไปเอง คมู่ อื การวินจิ ฉยั โรคอ้อย 113
ไรอ้อยสีแดงหรือไรขา้ วฟา่ ง ชือ่ ภาษาอังกฤษ Sugarcane mite หรอื Cholam mite ช่ือวทิ ยาศาสตร์ Oligonychus (Reckiella) indicus (Hirst) รปู รา่ งลักษณะและชีวประวัติ ไรออ้ ยชนดิ นม้ี ีตวั สเี หลอื งซดี ขนาดตวั ประมาณ 0.3 มม. อยู่กนั เปน็ กลุ่มดา้ นใต้ใบ ตวั เมียวางไข่ได้วนั ละ 1-7 ฟอง ตลอดอายุของตวั เมยี ตัวหน่ึงวางไข่ได้ เฉลี่ยประมาณ 53 ฟอง ระยะเวลาการเจริญเติบโต ตั้งแต่เป็นไข่เป็นตัวอ่อนจนกระท่ังเป็นตัวเต็มวัยกินเวลา 7-50 วันแตกตา่ งกนั ตามฤดูกาล มกี ารขยายพนั ธุ์ได้ราว 30 ช่วั อายุขยั ตอ่ ปี พชื อาหารและลักษณะการท�ำลาย อาการทป่ี รากฏเนอ่ื งจากไรชนดิ นที้ ำ� ลายดา้ นใตใ้ บจะเปน็ สแี ดงคลา้ ย สีสนิม เริ่มตั้งแต่เป็นจุดแล้วแผ่กว้างตามจ�ำนวนไรท่ีเพ่ิมข้ึน สามารถ สังเกตเห็นตัวไรกระจายกันอยู่หนาแน่นในบริเวณที่มีอาการดังกล่าว นอกจากอ้อยไรชนิดน้ีอยู่บนใบหญ้าใบแคบยาวท่ีคล้ายอ้อย อ้อยป่า และขา้ วฟ่าง เกดิ อาการใบแดงเชน่ เดยี วกบั บนใบอ้อย 114 คมู่ ือการวนิ ิจฉัยโรคออ้ ย
หนอนกอลายจดุ เล็ก ชอ่ื สามัญภาษาองั กฤษ Early shoot borer, Yellow top borer ช่อื วิทยาศาสตร์ Chilo infuscatellus Snellen ความเสยี หาย/ลักษณะการท�ำลาย คู่มอื การวินจิ ฉัยโรคอ้อย 115
เปน็ แมลงทส่ี ำ� คญั ทส่ี ดุ ในออ้ ยของประเทศไทย แมลงชนดิ นเ้ี ขา้ ทำ� ลาย ออ้ ยใหเ้ สยี หายไดม้ าก และยากแกก่ ารปอ้ งกนั กำ� จดั การเขา้ ทำ� ลายใน ระยะแรกจะมองเห็นได้ยาก และเกษตรกรจะทราบก็ต่อเมื่ออ้อยถูก ท�ำลายไปแล้ว หนอนเข้าท�ำลายท้ังหน่อ และส่วนยอด รวมท้ังล�ำต้น อ้อย จัดได้ว่า เป็นแมลงท่เี ขา้ ทำ� ลายได้ตลอดอายกุ ารเจริญเตบิ โตของ อ้อย ในระยะท่อี อ้ ยแตกกอ หนอนมกั เจาะเข้าท�ำลายหนอ่ อ้ยท�ำใหเ้ กดิ อาการยอดแหง้ ตาย หนอ่ แมจ่ ะถกู ทำ� ลายมากทสี่ ดุ ประมาณ 52% หนอ่ ท่ี 2 ถูกท�ำลายประมาณ 21% และหนอ่ ที่ 3 ถกู ทำ� ลายประมาณ 15% ส่วนหน่ออ่ืน ๆ ถูกท�ำลายประมาณ 12% ผลจากการเข้าท�ำลายหน่อ อ้อยท�ำให้ผลผลิตอ้อยลดลง 5-40% เพราะท�ำให้การเจริญเติบโตไม่ สมำ่� เสมอและออ้ ยมอี ายกุ ารเกบ็ เกยี่ วสน้ั ลง เมอ่ื ออ้ ยโตมลี ำ� แลว้ หนอน จะเจาะเขา้ ทำ� ลายอยภู่ ายในลำ� ตน้ ออ้ ย ซงึ่ ปรากฏวา่ โดยเฉลย่ี แลว้ ไมม่ ี ผลผลิตตอ่ ผลผลติ ออ้ ย แตม่ ีผลให้ค่าความหวานหรือค่า ซี.ซี.เอส. ของ ออ้ ยลดลงประมาณ 7% นอกจากนี้ เมอ่ื นำ� ออ้ ยทถี่ กู หนอนกอเขา้ ทำ� ลาย มากไปปลูกเป็นท่อนพันธุ์ จะท�ำให้เปอร์เซ็นต์การงอกของอ้อยลดลง หรอื ไมง่ อก ซงึ่ ทำ� ใหต้ อ้ งปลกู ซอ่ มดว้ ยออ้ ยใหม่ หรอื ถา้ ออ้ ยงอกขน้ึ มาก กอ็ าจจะไมส่ มบูรณ์ ขณะทอ่ี อ้ ยยงั เปน็ หนอ่ หนอนเจาะเขา้ ตรงสว่ นโคนระดบั ผวิ ดนิ เขา้ ไป กดั กนิ สว่ นทกี่ ำ� ลงั เจรญิ ภายในและสว่ นฐานของใบออ้ ยทยี่ งั ไมค่ ล่ี ทำ� ให้ เกดิ อาการ “ยอดแห้งตาย” อาการยอดเห่ียวจะปรากฏช้าหรือเรว็ ขึ้นอยู่ กับอายุของอ้อย ลักษณะรอยเจาะเข้าไปจะพบรูเจาะเล็ก ๆ หลายรูที่ บรเิ วณโคนหนอ่ ออ้ ย ระยะออ้ ยยา่ งปลอ้ งหนอนกอยงั คงเจาะเขา้ ทำ� ลาย ล�ำต้นและยอดอ้อย ท�ำให้เกิดอาการยอดแห้งตาย แต่มีปริมาณน้อย กว่าระยะหน่ออ้อยมาก ระยะน้ีส่วนใหญ่หนอนเจาะเข้าไปกัดกินอยู่ ภายในล�ำต้นอ้อย เมื่อเข้าท�ำลายล�ำต้นมากหรือส่วนยอดถูกท�ำลาย 116 คู่มอื การวินิจฉยั โรคออ้ ย
ทำ� ใหอ้ อ้ ยแตกแขนงใหม่ และเกดิ อาการแตกพมุ่ ยอด แตก่ ารแตกยอด พมุ่ นอ้ ยกว่าการเขา้ ท�ำลายของหนอนกอสขี าว การแพรก่ ระจายและฤดกู าลระบาด พบได้ทั่วไปในแหล่งปลูกอ้อยทั่วประเทศ ส่วนในต่างประเทศมีเขต แพรก่ ระจายจากอฟั กานสิ ถานไปถงึ สว่ นของทวปี เอเซยี และอนิ เดยี จนถงึ เกาหลี ไต้หวนั มาเลเซยี และฟิลิปปินส์ เข้าท�ำลายอ้อยได้เกือบตลอด อายุการเจริญเติบโต โดยเฉพาะอย่างย่ิงในระยะแตกกอซ่ึงแล้วแต่ ฤดูกาลปลกู ออ้ ยของแตล่ ะพนื้ ท่ี ระบาดมากเมือ่ อุณหภูมสิ ูง ความช้นื ต่�ำและไม่มฝี น ประชากรต่�ำในช่วงฤดฝู นและมีความชืน้ สูง พืชอาหาร อ้อย ล�ำเจียก แขม หญ้าแพรก แห้วหมู เดือย หญา้ ขา้ วนก หญา้ พง พงหรือเลา และหญ้าคา ค�ำแนะน�ำการป้องกนั ก�ำจดั • ใชพ้ นั ธ์ทุ ี่ตา้ นทานดีพอสมควร • ในเขตชลประทานหรอื ฤดูฝน ควรใช้คาร์โบฟแู รน (ฟูราดาน 3% ชนดิ เมด็ ) โดยใส่พรอ้ มปลกู หรือใส่ซำ�้ หลงั อ้อยงอก 45 วนั ครงั้ ละ 6-10 กโิ ลกรมั ตอ่ ไร่ เพราะเปน็ อันตรายต่อแมลงศตั รธู รรมชาตินอ้ ย • หลังจากเกบ็ เกย่ี วอ้อยแลว้ ควรใชใ้ บอ้อยคลมุ ดินไว้ ถ้าเผาออ้ ย ใหใ้ ชว้ สั ดอุ ยา่ งอนื่ คลมุ แทน เชน่ กากออ้ ย จะสามารถลดการเขา้ ทำ� ลาย ของหนอนกออ้อยได้ • สารฆา่ แมลงชนดิ พน่ ทใี่ ชไ้ ดผ้ ลดกี บั หนอนกอออ้ ยคอื cyperme- thrin (Ripcord 15%) อตั รา 15 มิลลลิ ิตร ตอ่ น้�ำ 20 ลติ ร หรอื สารฆ่า แมลง deltamethrin (Decis 3%) อตั รา 10 มิลลิลิตรตอ่ นำ�้ 20 ลติ ร คู่มอื การวินิจฉยั โรคออ้ ย 117
หนอนกอสชี มพู ชอ่ื สามญั ภาษาองั กฤษ Pink borer, Purple stem borer, Violet stem borer, Ragi stem borer ชื่อวทิ ยาศาสตร์ Sesamia inferens Walker ความเสยี หาย/ลกั ษณะการท�ำลาย เปน็ แมลงทส่ี ำ� คญั อกี ชนดิ หนงึ่ ของออ้ ย มคี วามสำ� คญั ตอ่ ออ้ ยในระยะ ทอี่ อ้ ยยงั เลก็ อยู่ ในระยะนหี้ นอนจะเขา้ ทำ� ลายหนอ่ ออ้ ยไดม้ ากพอ ๆ กบั หนอนกอลายเล็กและหนอนกอสีขาว ซึง่ ทำ� ใหอ้ อ้ ยเกดิ อาการยอดแห้ง ตาย แม้หน่ออ้อยที่ถูกท�ำลายจะสามารถแตกหน่อข้ึนใหม่เพ่ือชดเชย กบั หนอ่ ทเี่ สยี ไป แตต่ า่ งกนั ไปในพนั ธอ์ุ อ้ ยทอ่ี อ่ นแอหรอื ตา้ นทานรวมทง้ั ฤดกู าล อยา่ งไรกต็ ามหนอ่ ออ้ ยทแี่ ตกใหมเ่ พอื่ ชดเชยในระยะหลงั ๆ ยอ่ ม มอี ายสุ น้ั ลง ยอ่ มทำ� ใหผ้ ลผลติ และคณุ ภาพออ้ ยลดลงเมอื่ ออ้ ยโตมลี ำ� จะ พบหนอนเขา้ ทำ� ลาย ทำ� ใหอ้ อ้ ยยอดเหยี่ วหรอื เจาะลำ� ตน้ ออ้ ยดว้ ย หนอนเจาะเขา้ ไปตรงสว่ นโคนของหนอ่ ออ้ ยระดบั ผวิ ดนิ เขา้ ไปทำ� ลาย สว่ นทกี่ �ำลงั เจรญิ เติบโตภายในจนท�ำให้ยอดอ้อยแห้งตายเช่นเดียวกัน 118 คมู่ ือการวนิ ิจฉยั โรคอ้อย
กบั หนอนกอลายเลก็ แตร่ อยเจาะเข้าไปแตกตา่ งกันคือ มรี ูเดยี ว และ ขนาดใหญก่ ว่ารอยเจาะของหนอนกอลายเลก็ การแพรก่ ระจายและฤดกู าลระบาด พบทว่ั ไปในประเทศไทย สว่ นในตา่ งประเทศพบในประเทศปากสี ถาน อินเดีย ประเทศในกลุ่มเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินโดนเี ซีย และเกาะโซโลมอน สว่ นใหญ่เขา้ ท�ำลายออ้ ยใน ระยะแตกกอ พืชอาหาร นอกจากออ้ ยแล้ว ยงั มีศตั รูส�ำคัญของขา้ ว พบเข้าทำ� ลาย ขา้ วโพดบ้าง พชื อาศัยทสี่ �ำคญั คอื โสง รายงานจากตา่ งประเทศพบวา่ เปน็ ศตั รขู องขา้ วฟา่ ง มลิ เลด็ ขา้ วสาลี ขา้ งโอต๊ และพชื ตระกลู หญา้ อนื่ ๆ อกี หลายชนิด คำ� แนะน�ำการป้องกันก�ำจัด • ใช้พันธุ์ที่ต้านทานดพี อสมควร • ในเขตชลประทานหรือฤดฝู น ควรใช้คาร์โบฟูแรน (ฟูราดาน 3% ชนิดเม็ด) โดยใสพ่ ร้อมปลูกหรือใสซ่ ำ้� หลงั อ้อยงอก 45 วัน ครงั้ ละ 6-10 กโิ ลกรัมตอ่ ไร่ เพราะเป็นอนั ตรายต่อแมลงศตั รูธรรมชาตินอ้ ย • หลังจากเก็บเก่ียวอ้อยแล้ว ควรใช้ใบอ้อยคลุมดินไว้ ถ้าเผาอ้อย ใหใ้ ชว้ สั ดอุ ยา่ งอน่ื คลมุ แทน เชน่ กากออ้ ย จะสามารถลดการเขา้ ทำ� ลาย ของหนอนกออ้อยได้ • สารฆา่ แมลงชนดิ พน่ ทใี่ ชไ้ ดผ้ ลดกี บั หนอนกอออ้ ยคอื cypermethrin (Ripcord 15%) อัตรา 15 มิลลิลิตร ตอ่ น้�ำ 20 ลติ ร หรอื สารฆ่าแมลง deltsmethrin (Decis 3%) อตั รา 10 มิลลลิ ติ รตอ่ นำ้� 20 ลติ ร คู่มือการวนิ ิจฉยั โรคออ้ ย 119
หนอนกอลายจดุ ใหญ่ ชอื่ สามัญภาษาองั กฤษ Stem borer ชอ่ื วิทยาศาสตร์ Chilo tumidicostalis Hampson ความเสยี หาย/ลักษณะการท�ำลาย เป็นแมลงท่ีส�ำคัญชนิดหน่ึง ระบาดท�ำความเสียหายให้แก่อ้อยใน ระยะออ้ ยเปน็ ลำ� สาเหตขุ องการระบาดคอื ความชน้ื สงู เพราะหนอนกอ ลายจดุ ใหญร่ ะบาดมากเมอ่ื ความชนื้ 70-80% นนั่ คอื ตอ้ งมฝี นมาก และ ฝนตกชกุ โดยพันธ์ุอ้อยท่อี ่อนแอจะพบว่าเม่อื ถูกหนอนกอลายจุดใหญ่ เขา้ ท�ำลายจะมีการสูญเสียทง้ั นำ�้ หนกั และความหวาน 120 ค่มู ือการวนิ ิจฉัยโรคออ้ ย
อ้อยอายปุ ระมาณ 5-6 เดือน อยู่ในระยะยา่ งปลอ้ ง ผเี สื้อวางไขท่ ่บี น ใบ เมอื่ ฟกั ออกเปน็ ตวั หนอน จะเดนิ เขา้ เจาะทยี่ อดออ้ ยหา่ งจากทวี่ างไข่ 1 ปลอ้ ง เจาะเขา้ อยใู่ นลำ� ตน้ ทง้ั หมด ประมาณ 300-400 ตวั โดยเจาะรู เข้าเพียงรูเดียว และกัดท�ำลายท�ำให้อ้อยเสียหาย ถ้าเป็นพันธุ์อ้อย ทอี่ อ่ นแอหนอนจะเจาะลงไปถงึ โคนออ้ ย โดยหนอนจะกนิ เนอ้ื ออ้ ยจนหมด เหลอื แตเ่ ปลอื ก การระบาดของหนอนเจาะลำ� ตน้ สว่ นมากระบาดในนา ข้าว เนอื่ งจากบริเวณน้นั มคี วามชื้นสูง การแพรก่ ระจายและฤดกู าลระบาด พบไดท้ วั่ ไปในแหลง่ ปลูกอ้อยในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือมากที่สุด เพราะว่าเป็นการปลูกอ้อยในนาข้าว และใช้พันธุ์อ้อยซึ่งอ่อนแอและ หนอนชอบ มีการระบาดมากเมอื่ มีความชน้ื ในอากาศสงู 70-80% โดย ประชากรหนอนตำ�่ เมือ่ เขา้ สูฤ่ ดูแลง้ คำ� แนะนำ� การป้องกันก�ำจัด ระยะตดั ออ้ ยเขา้ โรงงาน แปลงทไ่ี วต้ อจะเหน็ รอ่ งรอยการทำ� ลายของ หนอนกอลายจดุ ใหญท่ ตี่ อออ้ ยเปน็ รเู จาะลงไป ในระยะนห้ี นอนลงไปที่ โคนอ้อยเข้าส่รู ะยะพกั ตวั ไมก่ ินอาหาร ไม่เคล่ือนไหว ถา้ ส�ำรวจพบการ ทำ� ลายมากกวา่ 10%ลำ� ใหใ้ ชส้ ารฆา่ แมลง deltamethrin (Discis 30%) อตั รา 20 มลิ ลลิ ิตรตอ่ นำ�้ 20 ลติ ร หรอื cypermethrin (Rupcord 15%) อัตรา 15 มลิ ลิลติ รตอ่ น�้ำ 20 ลติ ร ถ้าสำ� รวจพบน้อยกวา่ 10%ลำ� ให้ ปลอ่ ยแตนเบยี นหนอนอัตรา 500 ตัวตอ่ ไร่ ระยะแตกหนอ่ จะพบการทำ� ลายของหนอนกอลายจดุ เลก็ หนอนกอ สชี มพู และหนอนกอสขี าว สว่ นหนอนเจาะลำ� ตน้ ออ้ ยหรอื หนอนกอลาย จดุ ใหญย่ งั คงอยใู่ นระยะพกั ตวั ทโี่ คนออ้ ย คมู่ อื การวนิ ิจฉยั โรคออ้ ย 121
ส�ำรวจพบการท�ำลายมากกว่า 10% ให้ใช้สารฆ่าแมลง ถ้าท�ำลาย นอ้ ยกว่า 10% ใหใ้ ชแ้ ตนเบียนไขอ่ ัตรา 12,000 ตัวตอ่ ไร่ หนอนกอทง้ั 3 ชนดิ นม้ี วี งจรชวี ติ ทค่ี ละกนั การวางไขจ่ ะไมพ่ รอ้ มกนั สามารถใชแ้ ตน เบยี นไขแ่ ละแตนเบยี นหนอน อตั รา 500 ตวั ตอ่ ไร่ ปลอ่ ยเพอ่ื ทำ� ลายหนอน ระยะออ้ ยเปน็ ลำ� เปน็ ระยะทอ่ี นั ตรายทส่ี ดุ สำ� หรบั ออ้ ยเพราะเปน็ ชว่ ง ท่ีหนอนเจาะลำ� ต้นหรือหนอนกอลายจดุ ใหญอ่ อกจากระยะพักตัวและ เร่มิ วางไข่ • สำ� รวจแปลงถา้ พบใหร้ บี ทำ� ลายทิ้ง โดยน�ำหนอนมาประกอบเป็น อาหาร ซ่งึ ท�ำไดห้ ลายอยา่ ง • ถา้ พบการท�ำลายมากกว่า 20% ลำ� ให้ท�ำการป้องกนั กำ� จดั โดยใช้ สารฆา่ แมลงพน่ สลบั กบั เชอื้ แบคทเี รยี ทม่ี ปี ระโยชน์ โดยใชส้ ารฆา่ แมลง อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้�ำ 20 ลิตร และแบคทีเรียท่ีมีประโยชน์ 100 มลิ ลิลติ รตอ่ นำ�้ 20 ลติ ร ใชแ้ รงดนั น้�ำสงู ฉีดพ่น • ถ้าพบว่ามีการท�ำลายของหนอนน้อยกว่า 20% อาจปล่อยแตน เบยี นหนอนอตั รา 10,000 ตวั ตอ่ ไร่ (ระยะนห้ี นอนมจี ำ� นวนมากใน 1 ลำ� ประมาณ 27-370 ตวั ) หรอื ใช้วธิ กี ลโดยการตดั ทำ� ลาย • ถา้ เรมิ่ ออกเปน็ ตวั เตม็ วยั ประมาณ 50% (สงั เกตจากการผา่ ลำ� และ ดคู ราบของดกั แด)้ ใหใ้ ชส้ ารฆา่ แมลงฉดี พน่ ตอนเยน็ เวลา 16.00-18.00 หลังจากน้นั 5-7 วนั ใหป้ ลอ่ ยแตนเบยี นตามอีกคร้ังหน่งึ • ถา้ พบไขต่ ้ังแต่ 0.2-1.0 กลมุ่ /ตน้ ใหใ้ ช้ปิโตรเลยี มออยล์ อัตรา 100 มลิ ลิลิตร ตอ่ น้�ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นหรือปลอ่ ยแตนเบยี นไข่ อตั รา 20,000 ตัวต่อไร่ • เกษตรกรตอ้ งหมน่ั ตรวจดแู ปลงออ้ ยอยเู่ สมอ ถา้ พบการทำ� ลายของ หนอนเจาะลำ� ต้นออ้ ยใหร้ บี ท�ำการปอ้ งกนั ก�ำจัดทนั ที 122 คู่มือการวินจิ ฉัยโรคออ้ ย
หนอนกอสีขาว ช่ือสามญั ภาษาองั กฤษ White top borer ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ Schirpophaga excerptalis Walker ความเสียหาย/ลกั ษณะการท�าลาย เปน็ แมลงทส่ี า� คญั อนั ดบั สองในบรรดาแมลงศตั รอู อ้ ย หนอนเขา้ ทา� ลาย ระยะหนอ่ ออ้ ยพอ ๆ กบั หนอนกอลายเลก็ เมอื่ ออ้ ยโตเปน็ ลา� แลว้ พบเขา้ ทา� ลายยอดออ้ ยมากกวา่ หนอนกอลายเลก็ และหนอนกอสชี มพมู าก หนอ่ ออ้ ยทยี่ งั เลก็ เมอื่ ถกู ทา� ลายมกั ตาย เมอ่ื เขา้ ทา� ลายออ้ ยโตเปน็ ลา� แลว้ อาจ ทา� ใหอ้ อ้ ยตายหรอื ชะงกั การเจรญิ เตบิ โต ไมส่ ามารถสรา้ งลา� ออ้ ยเพม่ิ ขน้ึ ได้ ซง่ึ ยอ่ มสง่ ผลตอ่ ผลผลติ และคณุ ภาพของออ้ ย ขณะทอี่ อ้ ยยงั เปน็ หนอ่ หนอน เจาะไชจากสว่ นยอดเขา้ ไปกดั กนิ สว่ นโคนยอดทกี่ า� ลงั เจรญิ เตบิ โต ทา� ใหเ้ กดิ อาการยอดแหง้ ตายเฉพาะใบทย่ี งั มว้ นอย ู่สว่ นใบยอดอนื่ ๆ ทถ่ี กู หนอนเขา้ ทา� ลายจะมลี กั ษณะหงกิ งอและมรี พู รนุ ซง่ึ เปน็ ลกั ษณะเดน่ ของการเขา้ ทา� ลาย ของหนอนกอชนดิ น ้ีเมอื่ ออ้ ยเปน็ ลา� แลว้ หนอนเขา้ ทา� ลายสว่ นทกี่ า� ลงั เจรญิ เตบิ โตใหห้ มดไป จงึ ทา� ใหอ้ อ้ ยไมส่ ามารถสรา้ งเปน็ ปลอ้ งโตขนึ้ ไปไดอ้ กี มี ผลใหต้ าออ้ ยทอี่ ยตู่ า�่ กว่าส่วนท่ีถูกท�าลายแตกหน่อข้ึนมาทางด้านข้าง อาจจะเปน็ หนอ่ เดียวหรือหลายหน่อ อ้อยจึงมีการแตกยอดพุ่ม คมู อื การวนิ ิจฉยั โรคออ ย 123
การแพร่กระจายและฤดกู าลระบาด พบได้ท่วั ไปในแหลง่ ปลกู อ้อยทวั่ ประเทศ สำ� หรบั เขตแพรร่ ะบาดใน ต่างประเทศ มีรายงานว่า เป็นศัตรูอ้อยในพม่า ศรีลังกา จีน ไต้หวัน อนิ เดยี ญป่ี นุ่ มาเลเซยี ปากสี ถาน ฟลิ ปิ ปนิ ส์ และอนิ โดนเี ซยี เขา้ ทำ� ลาย อ้อยได้เกอื บทุกระยะการเจริญเติบโตเช่นเดียวกับหนอนกอลายเล็ก ค�ำแนะนำ� การปอ้ งกนั ก�ำจดั ในประเทศอินเดียมีการรวบรวมไข่และตัดยอดอ้อยท่ีแสดงอาการ ยอดเหี่ยวท�ำลาย สามารถลดการท�ำลายของแมลงชนิดนี้ลงได้ 21% เหลอื เพยี ง 1.5% และวิธีการนี้สามารถใช้ได้ผลมีแลว้ ที่ประเทศไตห้ วัน วิธีการดังกล่าวยังสามารถด�ำเนินการได้ผลในประเทศท่ีมีต้นทุนค่า แรงงงานตำ�่ และตอ้ งพรอ้ มใจกนั ทจี่ ะควบคมุ ในพน้ื ทก่ี วา้ ง ๆ จงึ จะเหน็ ผล สำ� หรบั การปอ้ งกนั กำ� จดั ดว้ ยวธิ กี ารอน่ื ๆ ใชว้ ธิ กี ารเดยี วกบั หนอนกอ ลายเล็ก • ใชพ้ ันธุ์ทตี่ า้ นทานดีพอสมควร • ในเขตชลประทานหรือฤดฝู น ควรใช้คารโ์ บฟูแรน (ฟรู าดาน 3% ชนดิ เม็ด) โดยใสพ่ ร้อมปลกู หรือใสซ่ ำ�้ หลังอ้อยงอก 45 วัน ครั้งละ 6-10 กิโลกรัมตอ่ ไร่ เพราะเป็นอนั ตรายตอ่ แมลงศตั รธู รรมชาติน้อย • หลงั จากเกบ็ เก่ยี วออ้ ยแลว้ ควรใชใ้ บอ้อยคลุมดินไว้ ถ้าเผาออ้ ย ใหใ้ ชว้ สั ดอุ ยา่ งอนื่ คลมุ แทน เชน่ กากออ้ ย จะสามารถลดการเขา้ ทำ� ลาย ของหนอนกออ้อยได้ • สารฆา่ แมลงชนดิ พน่ ทใ่ี ชไ้ ดผ้ ลดกี บั หนอนกอออ้ ยคอื cyperme- thrin (Ripcord 15%) อตั รา 15 มิลลลิ ติ ร ต่อนำ้� 20 ลติ ร หรอื สารฆ่า แมลง deltsmethrin (Decis 3%) อตั รา 10 มลิ ลิลติ รต่อนำ�้ 20 ลติ ร 124 ค่มู อื การวนิ จิ ฉยั โรคอ้อย
ด้วงหนวดยาว ชื่อสามัญภาษาองั กฤษ Stem boring grub ช่อื วิทยาศาสตร์ Dorysthenes (Lophosternus)bugueti Guerin อันดบั Coleoptera ความเสียหาย/ลกั ษณะการท�ำลาย เปน็ ด้วงหนวดยาวทีไ่ ดร้ บั การรายงานครงั้ แรกว่า เขา้ ท�ำลายอ้อยใน ประเทศไทย โดยเจาะเขา้ ไปในสว่ นของลำ� ตน้ ออ้ ยทอ่ี ยใู่ ตด้ นิ และทำ� ให้ อ้อยที่ถูกเจ้าตาย เป็นแมลงที่ส�ำคัญชนิดหน่ึงของอ้อย มักพบระบาด มากในดนิ รว่ นปนทรายทมี่ ี pH 6.9 ดนิ มอี นิ ทรยี วตั ถุ 1.15-1.22 % แมลง คู่มอื การวินจิ ฉัยโรคอ้อย 125
ชนดิ นี้ท�ำความเสยี หายให้แก่ออ้ ยไดม้ ากกว่าแมลงนนู หลวง เพราะมัก แพร่กระจายไปทว่ั ไร่ออ้ ยที่ถกู ทำ� ลายในบริเวณกวา้ งขวาง ผลจากการ เขา้ ทำ� ลายของหนอนชนดิ นที้ ำ� ใหผ้ ลผลติ ออ้ ยลดลง 13-43% และนำ้� ตาล ลดลง 11-46% ส่วนออ้ ยตอ 1 จะสญู เสยี ผลผลติ ประมาณ 54% และ น้�ำตาลลดลง 57% หนอนเรมิ่ เขา้ ท�ำลายตง้ั แตร่ ะยะทอ่ นพนั ธอ์ุ อ้ ย โดยเจาะไชเขา้ ไปกดั กินเนื้อออ้ ยภายในทอ่ นพันธ์ุ มผี ลทำ� ใหท้ อ่ นพันธ์ุออ้ ยไมง่ อก หน่ออ้อย อายุ 1-3 เดอื น จะถกู กดั ตรงสว่ นโคนทต่ี ดิ กบั เหงา้ ใหข้ าดออกทำ� ใหห้ นอ่ ออ้ ยแหง้ ตาย เมอ่ื อ้อยโตเป็นลำ� แลว้ อาการเรมิ่ แรกพบว่า กาบใบและ ใบอ้อยแห้งมากกว่าปกติ ตั้งแต่ใบล่างข้ึนไปจนแห้งตายไปทั้งต้นหรือ ทงั้ กอออ้ ย ขณะทหี่ นอนยงั เลก็ จะกดั กนิ อยตู่ รงบรเิ วณเหงา้ ออ้ ย ซง่ึ มผี ล ทำ� ใหก้ ารสง่ นำ้� และอาหารจากรากไปสลู่ ำ� ตน้ และใบนอ้ ยลง เมอื่ หนอน โตข้ึนขนาดยาวประมาณ 40 มิลลิเมตร ก็จะเริ่มเจาะไชจากส่วนโคน ล�ำต้นอ้อยข้ึนไปเพื่อกินเน้ืออ้อยจนบางคร้ังท�ำให้ล�ำต้นอ้อยเป็นโพรง เหลอื แตเ่ ปลอื ก บางตน้ หนอนเจาะสงู ขนึ้ ไปจากสว่ นโคนถงึ 40 เซนตเิ มตร จนท�ำให้ล�ำตน้ อ้อยหักล้มและแหง้ ตาย การแพรก่ ระจายและฤดกู าลระบาด พบมากในดินร่วนทราย ส่วนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมท้ัง ภาคอ่นื โดยพบวา่ เข้าทำ� ลายอ้อยไดใ้ นทุกระยะการเจริญเติบโต พืชอาหาร ออ้ ยและมนั สำ� ปะหลัง การสุ่มตัวอยา่ งหลงั จากตดั ออ้ ยเขา้ โรงงาน ควรส่มุ ตวั อย่างโดยวิธเี สน้ ทแยงมมุ หรอื ซเี ควนเชียล ถ้าอ้อย ถกู ทำ� ลายมากกวา่ 24%กอ หรือ 7.23%ลำ� ควรไถทิ้งและปลูกใหม่ ถา้ ไวต้ ออาจไมค่ มุ้ ค่า จะถูกกินหมด และไมไ่ ดเ้ กบ็ เกย่ี ว 126 คมู่ อื การวินจิ ฉัยโรคออ้ ย
คำ� แนะนำ� การป้องกันก�ำจดั • ขณะที่ไถไร่ ควรเดินเกบ็ หนอนตามรอยไถ 1-2 คร้งั กอ่ นปลูก ออ้ ย ควรส่งเสรมิ ให้มีการน�ำตัวหนอนไปประกอบอาการ • ปลกู พชื หมนุ เวยี น โดยปลกู มนั สำ� ปะหลงั หรอื สบั ปะรดแทน แมว้ า่ หนอนชนิดนี้จะเข้าท�ำลายมันส�ำปะหลังโดยเจาะเข้าไปที่โคนต้น มนั สำ� ปะหลงั ใหเ้ ปน็ โพรง และหกั ลม้ ในทสี่ ดุ บางครง้ั พบเจาะเขา้ ไปกนิ ในหวั มนั แตก่ ารเขา้ ทำ� ลายมนั สำ� ปะหลังก็รุนแรงนอ้ ยกวา่ ในออ้ ยมาก • ในแหลง่ ทพ่ี บการระบาด หลงั วางทอ่ นพนั ธค์ุ วรมกี ารฉดี พน่ ดว้ ย สารแขวนลอยของเชื้อราเขียว จงึ กลบ จะสามารถป้องกันตวั หนอนได้ ประมาณ 1 ปใี นกรณที ไี่ มม่ ตี วั หนอนเขา้ ทำ� ลายออ้ ย แตห่ ากมหี นอนได้ รับเช้ือราเข้าท�ำลาย เช้ือราสามารถกระจายต่อไปได้เรื่อย ๆ จากตัว หนอนทต่ี าย • อาจใช้สารเคมีโรยในร่องอ้อย endosuldan + fenobucarb (Thiocorb 4.5% G) อตั รา 5 กโิ ลกรัมต่อไร่ แล้วจงึ กลบรอ่ ง หรอื ฉีดพ่น ด้วยสาร fipronil (Asscend 5% SC) อัตรา 80 มลิ ลลิ ิตรต่อนำ�้ 20 ลิตร ฉดี แลว้ กลบดิน • ในช่วงปลายมนี าคม-เมษายนของทกุ ปี ดว้ งหนวดยาวออ้ ยเริ่ม ออกจากดักแดม้ าเป็นตวั เต็มวัย ใชว้ ิธกี ลคอื ขดุ หลมุ ดักจบั โดยตวั เมยี หลงั จากออกจากดกั แดจ้ ะปลอ่ ยสารลอ่ ทางเพศออกมา ตวั ผกู้ เ็ ดนิ ตาม เมื่อตกลงไปในหลมุ ก็จะไม่สามารถขน้ึ มาได้ และควรรองก้นหลุมด้วย พลาสตกิ เพอื่ ปอ้ งกันการวางไข่ของดว้ งหนวดยาวได้ คูม่ ือการวนิ ิจฉยั โรคออ้ ย 127
แมลงนนู หลวง ชอื่ สามัญภาษาองั กฤษ White grub, Curl grub ชื่อวิทยาศาสตร์ Lepidiota stigma Fabricius ความเสยี หาย/ลกั ษณะการท�ำลาย แมลงนนู หลวงเปน็ ศตั รสู �ำคัญชนดิ หนง่ึ ของออ้ ยและมนั ส�ำปะหลงั ที่ ปลูกในจังหวัดระยองและชลบุรี มักระบาดในสภาพดินทรายที่มี pH 6-6.5 และสภาพดินท่ีมอี ินทรียวตั ถุ 0.56-0.84% การเข้าทำ� ลายอ้อย มักปรากฏเปน็ หย่อมไมแ่ พรก่ ระจายไปท้งั ไร่ พน้ื ทีใ่ ดค่อนขา้ งลุ่มเมื่อมี ฝนตกน้�ำขัง ตัวหนอนของแมลงนูนหลวงจะเข้าท�ำลายได้น้อย แต่ถ้า ออ้ ยปลกู ในทด่ี อนมกั ถกู หนอนเขา้ ทำ� ลายมาก ออ้ ยกอใดทถี่ กู หนอนเขา้ ทำ� ลายเพยี งหนึ่งตัวตอ่ กอก็ทำ� ให้อ้อยกอนั้นตายไปท้งั กอได้ หรือถา้ ไม่ ตายกท็ �ำใหผ้ ลผลติ ของอ้อยลดลงมาก จนเกบ็ เก่ยี วผลผลติ ไมไ่ ด้ สว่ น 128 คู่มอื การวนิ จิ ฉัยโรคอ้อย
ใหญพ่ บหนอน 1-2 ตวั ตอ่ กอ แต่บางกออาจพบหนอนเข้าทำ� ลาย 6-8 ตัว ปีใดท่มี ีความแห้งแลง้ ติดต่อกันนาน เช่น ปี 2520 ท�ำใหก้ ารระบาด เข้าทำ� ลายอ้อยมคี วามรนุ แรงมากยง่ิ ข้ึน หนอนเข้ากัดกินรากอ้อยเป็นอาหาร อาการเริ่มแรกของอ้อยที่ถูก ท�ำลายดูคล้ายกับว่าเป็นผลเนื่องจากความแห้งแล้ง คือ ใบอ้อยมีสี เหลืองต่อมาใบอ้อยจะแห้งตายมากผิดปกติจนในท่ีสุดกออ้อยจะแห้ง ตายทั้งกอ กออ้อยที่ถูกหนอนเข้าท�ำลายจะดงึ ออกมาจากพน้ื ดนิ ไดง้ า่ ย เนอื่ งจากรากออ้ ยถกู ทำ� ลายหมด การแพร่กระจายและฤดูกาลระบาด เปน็ แมลงทแี่ พรห่ ลายในบรเิ วณเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ในประเทศไทย พบเขา้ ทำ� ลายและสรา้ งความเสยี หายใหแ้ กอ่ อ้ ยไดม้ ากในจงั หวดั ชลบรุ ี ระยอง กาญจนบุรี และกำ� แพงเพชร ค�ำแนะน�ำการปอ้ งกันก�ำจัด • เนอื่ งจากแมลงชนิดน้ีเป็นตัวเตม็ วยั ปีละครัง้ วธิ ที ี่ประหยดั และ ไดผ้ ลดคี อื ชาวไรค่ วรพรอ้ มใจกนั จบั ตวั เตม็ วยั ทำ� ลาย หรอื นำ� ไปประกอบ อาหารก่อนท่ีจะวางไข่ โดยเร่ิมจับครั้งแรกตอนกลางเดือนกุมภาพันธุ์ และจับต่อเน่ืองประมาณ 15-20 วัน การจับท�ำได้ง่ายโดยการใช้ไม้ตี ตามกงิ่ ไม้ หรอื ปนี ขน้ึ ไปเขยา่ ใหต้ วั เตม็ วยั ตกลงมาในขณะผสมพนั ธ์ุ ใช้ เวลาจับประมาณวันละ 30 นาที ชว่ งหวั ค�่ำ สามารถลดปริมาณแมลง นนู หลวงลงได้ ทำ� ต่อเนอื่ ง 2- 3 ปี แมลงนนู หลวงก็จะหมดความส�ำคัญ ไปเอง คู่มอื การวินิจฉยั โรคออ้ ย 129
• ไร่อ้อยที่ถูกแมลงนูนหลวงเข้าท�ำลายมาก และคาดว่าจะไม่ สามารถเก็บเกี่ยวได้ หรือไม่คุ้มค่า ควรรีบไถพรวนหลาย ๆ คร้ัง เพ่ือ ท�ำลายตัวหนอนที่เข้าดักแด้ในดินลึกในเดือนธันวาคม นอกจากนี้ เกษตรกรท่ีปลูกอ้อยตั้งแต่เดือนมีนาคม – พฤษภาคม ควรพรวนดิน หลาย ๆ ครั้งเพ่อื ทำ� ลายไขแ่ ละตวั หนอนในดนิ ก่อนการปลูกออ้ ย • ถา้ จำ� เปน็ ตอ้ งใชส้ ารฆา่ แมลง ควรจะใชว้ ธิ ปี อ้ งกนั จะใหผ้ ลดกี วา่ การกำ� จดั เพราะเมอื่ หนอนโตแลว้ การใชส้ ารฆา่ แมลงจะไมค่ อ่ ยประสบผล และเปน็ การยากท่ีใช้สารฆ่าแมลงเมอ่ื ออ้ ยโตแลว้ ระยะเวลาใช้สารฆา่ แมลงท่ีเหมาะสมคือ ระยะที่หนอนเร่ิมฟักออกจากไข่ประมาณกลาง เดอื นมนี าคม สารฆ่าแทมลงทไ่ี ดผ้ ลดคี อื fipronil (Asscend 5% SC) อตั รา 80-250 ต่อน�้ำ 20 ลติ ร ตามร่องออ้ ย สำ� หรับออ้ ยตอกเ็ ปิดหนา้ ดนิ ออกใหห้ า่ งจากกอออ้ ยประมาณ 8 นว้ิ ทง้ั สองดา้ นของแถวออ้ ย แลว้ ฉีดสารสารฆ่าแมลงไปตามร่องอ้อยท่ีเปิดหน้าดินออก เสร็จแล้ว จึงกลบ 130 คมู่ อื การวนิ ิจฉยั โรคออ้ ย
ปลวก ชอื่ สามญั ภาษาองั กฤษ Termite ความเสยี หาย/ลักษณะการทำ� ลาย ปลวกเข้าท�ำลายอ้อยได้ในทุกระยะการเจริญเติบโต เร่ิมเข้าท�ำลาย ตงั้ แตท่ อ่ นพนั ธอ์ุ อ้ ยตอนปลกู โดยเขา้ ไปกดั กนิ อยภู่ ายในทอ่ นพนั ธ์ุ บาง คร้งั เข้าทำ� ลายจากด้านหน่ึงจนอาจทะลถุ งึ อกี ดา้ นหนึง่ เปน็ รกู ลวง ส่ง ผลให้ออ้ ยไมง่ อกและแหง้ ตายไป เกษตรกรตอ้ งปลกู ซอ่ มใหม่ และเม่อื คู่มือการวนิ จิ ฉัยโรคอ้อย 131
อ้อยโตเป็นล�ำแล้วปลวกจะกัดเข้าไปตรงระดับต�่ำกว่าผิวดินเล็กน้อย กดั กนิ อยภู่ ายในล�ำตน้ ออ้ ย โดยทำ� เป็นโพรงสงู ขนึ้ ไปเรือ่ ย ๆ โพรงทเ่ี นอื้ ออ้ ยถกู กนิ ไปแลว้ ปลวกกน็ ำ� ดนิ เขา้ ไปบรรจแุ ทนที่ เมอ่ื เขา้ ทำ� ลายมาก ๆ จะพบล�ำอ้อยหักลม้ ลง การแพรก่ ระจายและฤดกู าลระบาด ปลวกกระจายออกไปโดยตัวแก่จะบินออกจากรังเดิมไปสร้างรังใหม่ และสรา้ งปลวกราชนิ ใี หม่ เมอ่ื ถงึ ฤดแู พรพ่ นั ธซ์ุ ง่ึ มกั อยใู่ นระยะตน้ ฤดฝู น คำ� แนะนำ� การปอ้ งกันก�ำจัด ชนิดรังใตด้ ิน • ควรเรมิ่ ปอ้ งกนั ตอนปลกู ออ้ ยใหม่ การไถพรวนหลาย ๆ รอบกอ่ น ปลกู จะทำ� ลายรงั และเปดิ โอกาสใหม้ ด และนกตา่ ง ๆ ช่วยกนิ ปลวก • เกษตรกรจะตัดสนิ ใจว่าควรใช้สารเคมีก�ำจัดปลวกหรอื ไม่ และ ควรใชอ้ ย่างไร ก็โดยการสำ� รวจไร่ในขณะไถพ้ืนทก่ี อ่ นการปลกู อ้อย ถา้ พบรงั ปลวกก็ควรใชส้ ารฆา่ แมลงตอ่ ไปน้ี คือ เมอื่ พบรังปลวกมากและ กระจายอยทู่ ว่ั แปลงออ้ ย ควรฉดี ดว้ ย fipronil 5% SC อตั รา 80 มลิ ลลิ ติ ร ตอ่ นำ้� 20 ลติ ร โดยฉดี ไปตามรอ่ งออ้ ย หลงั จากวางทอ่ นพนั ธแ์ุ ลว้ กลบดนิ ชนิดจอมปลวก • เมื่อพบจอมปลวกชนิดนี้เข้าท�ำลายอ้อยบริเวณไร่อ้อย ควรใช้ fipronil 5% SC ผสมน้�ำอัตรา 80 มลิ ลลิ ติ รต่อนำ้� 20 ลิตร จำ� นวน 3-5 ลติ รตอ่ จอมปลวก แลว้ แตข่ นาดจอมปลวกวา่ เลก็ หรอื ใหญ่ โดยเทนำ้� ยา ทีผ่ สมแล้วลงไปตามรทู ี่เจาะลกึ ลงสู่ใจกลางของรังปลวก • ในออ้ ยตอ การคลมุ ดว้ ยใบออ้ ย สามารถลดการทำ� ลายของปลวก ลงได ้ 132 ค่มู อื การวนิ จิ ฉัยโรคออ้ ย
เพลย้ี แป้งสีชมพู ชื่อสามัญภาษาอังกฤษ Pink sugarcane mealybug, Sugarcane mealybug ช่ือวทิ ยาศาสตร์ Saccharicoccus sacchari Cockerell ความเสยี หาย/ลักษณะการทา� ลาย เมื่อระบาดเข้าท�าลายอ้อยมาก ๆ โดยเฉพาะในฤดูแล้ง ท�าให้อ้อย ชะงักการเจริญเติบโตผลผลิตและปริมาณน้�าตาลซูโครสในอ้อยลดลง เมื่อน�าท่อนพันธุ์ที่มีแมลงชนิดนี้ไปปลูกก็เข้าท�าลายท่อนพันธุ์อ้อยใน ดิน ท�าให้ท่อนพันธุ์ไม่งอก หรืองอกขึ้นมากก็อาจท�าให้หน่ออ้อยแห้ง ตาย เกษตรกรตอ้ งปลูกซ่อมออ้ ยใหม ่ เคยปรากฏวา่ เกษตรกรบางราย ในจังหวัดชลบุรีต้องปลูกซ่อมอ้อยเน่ืองจากหน่ออ้อยตายเป็นจ�านวน มาก จากการเขา้ ทา� ลายของแมลงชนดิ น ้ี แตโ่ ดยทว่ั ไปแมลงชนดิ นไ้ี มม่ ี ความสา� คญั ตอ่ การผลิตออ้ ยมากนัก คมู ือการวนิ จิ ฉัยโรคออย 133
เขา้ ท�ำลายออ้ ยไดท้ ุกระยะการเจริญเตบิ โต เริม่ ต้งั แตท่ อ่ นพนั ธทุ์ ่ีอยู่ ในดิน เม่อื น�ำพนั ธุ์ทีม่ แี มลงไปปลูก หน่ออ้อยทย่ี งั ไม่มลี ำ� ก็พบว่าถูกดดู กินนำ้� เล้ียงตามร่องกาบใบอ้อยหรอื ตามสว่ นโคนตน้ ออ้ ย สว่ นใหญม่ กั พบดูดกินอยู่ตามล�ำต้นอ้อยท่ียังมีกาบใบหุ้มอยู่ และมักพบอยู่ต�่ำกว่า ขอ้ ออ้ ยลงมาอยทู่ ต่ี รงขา้ มกบั ตาออ้ ยแตเ่ มอ่ื ระบาดมากกพ็ บอยทู่ วั่ ปลอ้ งออ้ ย การแพรก่ ระจายและฤดกู าลระบาด พบในแหลง่ ปลกู ออ้ ยทวั่ ประเทศไทย และแหลง่ ปลกู ออ้ ยเกอื บทว่ั โลก สำ� หรบั การแพรก่ ระจายของเพลยี้ แปง้ สชี มพแู พรไ่ ปไดห้ ลายทางไดแ้ ก่ การขนส่งอ้อยท่ีถูกแมลงชนิดนี้เข้าท�ำลายไปสู่แหล่งอ่ืน ๆ การน�ำ ทอ่ นพนั ธท์ุ ถี่ กู เขา้ ท�ำลายไปปลกู มดเปน็ ตวั การสำ� คญั ทช่ี ว่ ยแพรก่ ระจาย เพราะมดและเพลี้ยแป้งสีชมพูอาศัยอยู่ด้วยกันแบบได้ประโยชน์ร่วม กนั คือ มดอาศัยกนิ น�้ำหวานท่ีเพล้ียชนิดนผี้ ลิตออกมาเป็นอาหาร มด พาตวั ออ่ นไปหาแหลง่ อาหารทเ่ี หมาะสมและคอยตอ่ สปู้ อ้ งกนั ศตั รใู หแ้ ก่ เพลย้ี ชนดิ น้ี ดงั นน้ั มดจงึ เปน็ ตวั ทำ� ใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพการเขา้ ทำ� ลายของ ศตั รธู รรมชาตหิ ยอ่ นประสทิ ธภิ าพลงมดทอี่ าศยั อยรู่ ว่ มกบั เพลยี้ แปง้ สชี มพู มี 2 ชนดิ คอื มดดำ� และมดแดง นอกจากนี้ ลมยงั เปน็ ตวั ทำ� ใหแ้ มลงชนดิ น้ี แพรก่ ระจายไปโดยลมจะพดั พาตวั ออ่ นใหแ้ พรก่ ระจายไปและพบวา่ เพลยี้ แปง้ สชี มพสู ามารถเขา้ ทำ� ลายออ้ ยไดใ้ นทกุ ระยะการเจรญิ เตบิ โต 134 ค่มู อื การวนิ จิ ฉยั โรคอ้อย
พืชอาหาร อ้อย และ โขมง คำ� แนะน�ำการปอ้ งกันก�ำจดั • ควรใชท้ อ่ นพนั ธอ์ุ อ้ ยทป่ี ราศจากเพลยี้ แปง้ สชี มพู ซงึ่ เปน็ การปอ้ งกนั การแพร่พันธุ์ในแหล่งปลูกอ้อยในฤดูถัดไป ถา้ จะเปน็ ควรแชท่ อ่ นพนั ธ์ุ ในนำ�้ ประมาณ 72 ชวั่ โมง เพอ่ื กำ� จดั แมลงชนดิ นี้ แตก่ อ่ นแชค่ วรลอกกาบ ใบของทอ่ นพนั ธอ์ุ อกกอ่ น • ในแหล่งทีมีการระบาดของเพลี้ยแป้งสีชมพู ควรเลือกปลูกอ้อย พนั ธุ์ที่กาบใบหลดุ ออกจากลำ� ตน้ ไดง้ ่าย และใหผ้ ลผลติ ดี • เมอ่ื พบอยตู่ ามซอกใบออ้ ย ควรลอกกาบใบออ้ ยทเ่ี รมิ่ แหง้ ออกเสยี และฉดี ดว้ ย malathion (Malarfez 57% Ozo-mal 57E) อัตรา 30-40 ซซี .ี ตอ่ นำ้� 20 ลติ ร ค่มู ือการวินิจฉยั โรคอ้อย 135
เพลย้ี หอยอ้อย ช่ือสามญั ภาษาองั กฤษ Sugarcane scale ช่ือวิทยาศาสตร์ Aulacaspie tegalensis Zehntner ความเสยี หาย/ลักษณะการทา� ลาย เพลย้ี หอยเคยเปน็ แมลงทมี่ คี วามสา� คญั โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในบรเิ วณ ปา่ เปดิ ใหม ่ เมอ่ื ออ้ ยถกู เพลยี้ หอยเขา้ ทา� ลายมาก ทา� ใหผ้ ลผลติ ออ้ ยลด ลง 2-4 ตัน และยังท�าให้ปริมาณน้�าตาลซูโครสลดลงประมาณ 35% ส�าหรับผลจากการศึกษาผลของความสูญเสียจากการเข้าท�าลายของ เพล้ียหอยในประเทศกบั พนั ธุ์ออ้ ยต่าง ๆ พบวา่ เมื่ออ้อยถูกเขา้ ท�าลาย ในระดบั ปานกลางทา� ใหค้ า่ บรกิ ซห์ รอื คา่ เปอรเ์ ซน็ ตค์ วามเขม้ ขน้ ของนา้� ออ้ ยลดลงในช่วง 11-59-49.05% หรือลดลงเฉลี่ย 24% เม่อื ถกู เพล้ีย หอยท�าลายมากคา่ บรกิ ซ์ลดลงในช่วง 31.68-55.27% หรือลดลงเฉลย่ี 43% ผลการเขา้ ทา� ลายทา� ใหน้ า�้ หนกั ออ้ ยลดลงเฉลย่ี 2.36 ตนั ตอ่ ไร ่ หรอื ทา� ใหน้ า้� หนกั ออ้ ยลดลงประมาณ 21% นอกจากน ้ี ยงั ทา� ใหค้ า่ ซ.ี ซ.ี เอส. ในน้�าอ้อยลดลง 3.45% หรอื ลดลงเฉลี่ย 31% แสดงวา่ การเขา้ ทา� ลาย ของเพลี้ยหอยท�าให้อ้อยสูญเสียท้ังปริมาณและคุณภาพ เม่ือประเมิน ความสูญเสียของอ้อยจากพื้นที่ท่ีเพลี้ยหอยระบาด ท้ังตัวอ่อนและตัว เตม็ วัยดดู กินน้�าเลย้ี งจากล�าตน้ อ้อย โดยใช้ปากซ่งึ มีลกั ษณะยาวเรยี ว เป็นทอ่ นคล้ายเส้นด้ายไชผา่ นเน้ือเยือ่ และเซลลข์ องลา� ต้นอ้อยและดดู 136 คูมือการวินิจฉยั โรคออ ย
กนิ นำ้� เลยี้ งจากพาเรนไคมา ซงึ่ ทำ� หนา้ ทเ่ี ปน็ เซลลส์ ะสมนำ้� ตาล เมอื่ เขา้ ทำ� ลายกบั ออ้ ยพนั ธท์ุ อี่ อ่ นแอ กม็ กั ทำ� ใหล้ ำ� ตน้ แหง้ ตายไปทงั้ ล�ำ นอกจาก จะดูดกินน�้ำเลี้ยงจากต้นอ้อยโดยตรงแล้วยังปล่อยสารพิษฉีดเข้าไป ลำ� ต้นทำ� ให้เกดิ ความเสยี หายรนุ แรงมากข้นึ การแพร่กระจายและฤดูกาลระบาด ระบาดมากระหวา่ งเดอื นพฤศจกิ ายนถึงมกราคม คำ� แนะน�ำการปอ้ งกันก�ำจดั • ควรใช้พันธอุ์ อ้ ยที่ตา้ นทานต่อเพล้ยี หอย • เกษตรกรควรลอกใบออ้ ย 2 ครัง้ ครัง้ แรกเมือ่ อ้อยอายุ 6-7 เดือน หรอื เม่ือออ้ ยโดนเพล้ียหอยเข้าท�ำลายล�ำละ 4-5 ปล้อง และความหนา แนน่ เฉลยี่ 4-5 ตารางเซนตเิ มตรตอ่ ปลอ้ ง ลอกใบออ้ ยซำ�้ อกี ครงั้ เมอ่ื ออ้ ย อายุ 8-9 เดอื น การลอกใบออ้ ยนอกจากทำ� ใหป้ ริมาณเพล้ียหอยลดลง ยงั มผี ลใหผ้ ลผลติ และความหวานของออ้ ยเพมิ่ ขนึ้ ดว้ ย จงึ เปน็ วธิ ปี ระหยดั ปลอดภยั และไดผ้ ลดี นอกจากน้ี การลอกใบออ้ ยยงั ยงั เปน็ การชว่ ยเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการทำ� ลายของแมลงศตั รธู รรมชาตติ อ่ เพลยี้ หอยดว้ ย • การเกบ็ เกย่ี วออ้ ยควรตดั ออ้ ยใหต้ ำ�่ และชดิ ผวิ ดนิ ใหม้ ากทส่ี ดุ เพอื่ ไมใ่ หซ้ ากอ้อยเหลือพอทเ่ี พลย้ี หอยจะอยขู่ า้ มฤดูได้ • ใชท้ อ่ นพนั ธท์ุ ปี่ ราศจากเพลยี้ หอยในการปลกู แตใ่ นกรณที ต่ี อั งการ ก�ำจัดเพล้ียหอยที่ติดมากับท่อนพันธุ์โดยการจุ่มท่อนพันธุ์ในน�้ำยา malathion (Malarfez 57% หรอื Ozo-mala 57E) อตั รา 30-40 ซซี ตี อ่ นำ้� 20 ลติ ร หรอื จมุ่ ทอ่ นพนั ธใ์ุ นนำ�้ รอ้ นทอ่ี ณุ หภมู ิ 50 องศาเซลเซยี ส นาน 30 นาที • ทำ� ลายตนั โมงทเ่ี ปน็ พชื อาศยั ของเพลยี้ หอยทมี่ กั ขนึ้ อยบู่ รเิ วณไร่ ออ้ ยให้หมด คูม่ อื การวนิ จิ ฉยั โรคอ้อย 137
หนู สาเหต ุ หนู ความเสียหาย/อาการ หนูจะเข้ากัดกินอ้อยให้ได้รับความเสียหาย โดยอาจเริ่มเข้าท�ำลาย ตั้งแต่ออ้ ยอายุ 7 เดอื นเป็นต้นไปจนกวา่ จะมกี ารเก็บเกี่ยวออ้ ย จะพบ รอ่ งรอยของหนบู นตน้ ออ้ ยตงั้ แตร่ ะดบั พนื้ ดนิ ไปจนถงึ ระดบั ความสงู จาก พนื้ ดนิ ประมาณ 45 ซม. โดยกดั เปน็ แหวง่ ตามปลอ้ งเกอื บตลอดทง้ั ทอ่ น ออ้ ย หากหนกู ดั ทโี่ คนแหวง่ มาก ตน้ ออ้ ยจะลม้ และแหง้ ตายในทส่ี ดุ รอย แหวง่ ทเ่ี กดิ จากการกดั ทำ� ลายของหนบู นตน้ ออ้ ยเปน็ แผล หากปลอ่ ยไว้ จะเปน็ ชอ่ งทางให้เชอื้ สาเหตุโรคเขา้ ท�ำลายออ้ ยได้ และอาจท�ำใหอ้ ้อย ตายในทส่ี ุด ค�ำแนะนำ� การควบคมุ อาจดำ� เนนิ การโดยการวางเหยอ่ื พษิ ซง่ึ ต้องดำ� เนนิ การ ประมาณ 2 สปั ดาห์กอ่ นทจ่ี ะเร่ิมปลูกออ้ ย โดยอาจเปน็ ช่วงของการเตรียมดนิ ควร ใชส้ ารเคมที อี่ อกฤทธ์ิเร็ว เช่น ซงิ ค์ฟอสไฟด์ 80% หากต้องมีการวางเหยื่อพิษ ให้ด�ำเนินการให้ได้ผลมากที่สุดในคร้ัง แรกทดี่ ำ� เนนิ การ เน่อื งจากหนมู คี วามสามารถในการเรียนรไู้ ดเ้ ร็ว และ จะไมห่ ลงกินเหย่อื พิษดงั กล่าวอกี 138 คูม่ อื การวินจิ ฉยั โรคออ้ ย
ไส้เดอื นฝอย สาเหตุของโรค เกดิ จากไสเ้ ดอื นฝอย Meloidogyne sp ลักษณะอาการโรค อ้อยท่ีถูกไส้เดือนฝอยเข้าท�ำลายจะแคระแกร็น และซดี เหลอื ง หากเปน็ มากออ้ ยกจ็ ะตาย โดยเฉพาะในชว่ งอากาศแลง้ จะพบออ้ ยตายเนอื่ งจากการทำ� ลายของศตั รพู ชื ชนดิ นมี้ ากกวา่ ปกติ บาง ครั้งแม้จะเป็นอ้อยท่ีเจริญอยู่ในไร่เดียวกัน แต่จะพบอาการรุนแรงใน บางหย่อมเท่านั้น ในขณะท่ีอ้อยบริเวณใกล้เคียงอาจจะไม่พบอาการ เลยกไ็ ด้ ลกั ษณะอาการของออ้ ยสว่ นเหนอื พน้ื ดนิ ขน้ึ มาจะคลา้ ยคลงึ กบั อาการขาดธาตอุ าหารหรอื ขาดนำ�้ เขา้ รว่ มดว้ ยเสมอ เมอ่ื เกดิ การระบาด รุนแรงพืชจะเกิดการเหี่ยวในช่วงกลางวัน แต่พอกลางคืนพืชก็จะฟื้น และจะกลับไปเหย่ี วเหมอื นเดมิ อกี ครงั้ ตอนกลางวันของวนั ถดั ไป สลบั กนั จนกวา่ ใบแกห่ รอื ใบตอนลา่ งจะซดี เหลอื งกอ่ นกำ� หนด และทบี่ รเิ วณ ปลายหรือขอบใบจะเกิดอาการไหม้หรือเปลี่ยนเป็นสีน�้ำตาล ในท่ีสุด ออ้ ยกอ็ าจจะตาย แตถ่ า้ ถอนตน้ ออ้ ยทแี่ สดงอาการซดี เหลอื แคระแกรน็ คู่มือการวินจิ ฉยั โรคออ้ ย 139
คล้ายกับอาการขาดธาตุอาหารดังกล่าวข้ึนมาตรวจสอบจะพบปุ่มปม ผดิ ปกติ เกดิ กระจายไปตามบรเิ วณรากเปน็ จำ� นวนมาก ปมุ่ ปมเหลา่ นน้ั จะมหี ลายขนาดแตกตา่ งกัน โดยทีป่ มุ่ ปมขนาดเลก็ ก็จะมีไสเ้ ดอื นฝอย อยเู่ พยี งตัวเดยี ว ถ้าปมใหญก่ ็จะมีไสเ้ ดอื นฝอยเพศเมยี อย่หู ลายตัว รปู รา่ งของปมุ่ ปมกจ็ ะไมส่ มำ�่ เสมอ อาจจะปะปนกนั ไประหวา่ งรปู ทรงกลม หรอื ทรงหนำ� เลยี๊ บ ปมุ่ ปมเหลา่ นจี้ ะพบเรยี งรายตดิ ตอ่ กนั คลา้ ยการรอ้ ย ลูกปดั ไปตามรากฝอยมากที่สดุ ทำ� ใหร้ ากไม่สามารถดดู น�้ำและอาหาร ไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ จะลดลงด้วย และเม่ือรากไม่สามารถท�ำหน้าที่ให้ สมบรู ณไ์ ด้ อ้อยกจ็ ะแสดงอาการขาดธาตุอาหารและเห่ียว การแพรร่ ะบาด สำ� หรบั การเคลอื่ นยา้ ยของไสเ้ ดอื นฝอยโดยตวั ของมนั เองเกดิ ข้นึ ไดน้ ้อยมาก และเปน็ การเคลอื่ นย้ายในระยะทางสั้น ๆ เชน่ ใน 1 ปี อาจจะเคลอ่ื นยา้ ยไปได้เพียง 1 เมตรเทา่ นั้น แตจ่ ะสามารถแพร่ กระจายไปทอี่ น่ื ๆไดท้ างนำ�้ ดนิ ปลกู หรอื ตดิ ไปกบั เครอ่ื งมอื การเกษตรตา่ ง การเจรญิ ของไสเ้ ดอื นฝอยรากปมขนึ้ อยกู่ บั อณุ หภมู ิ ความชนื้ ปรมิ าณ ออกซิเจนในดิน และสารอาหารของอ้อย ไส้เดือนฝอยจะเจริญเติบโต ในประเทศเขตรอ้ นไดด้ ีกว่าในเขตหนาว โดยอาจมถี ึง 5-10 วงจรตอ่ ไป ความช้ืนมีความจ�ำเป็นต่อกิจกรรมของไส้เดือนฝอย ถึงแม้ดินจะมี ความชนื้ คอ่ นขา้ งต�่ำกต็ าม ดนิ รว่ นหรอื ดนิ ปนทรายจะมไี สเ้ ดอื นฝอยอยู่ มากกวา่ ดนิ ชนดิ อนื่ แตไ่ สเ้ ดอื นฝอยจะมจี ำ� นวนลดลงตามความลกึ ของ ดนิ เช่น ดนิ รว่ นปนทรายจะมไี สเ้ ดือนฝอยอยลู่ กึ ไม่เกิน 8 ฟตุ เท่านนั้ 140 คูม่ ือการวินิจฉัยโรคออ้ ย
คำ� แนะนำ� การปอ้ งกนั ก�ำจดั • ลดปริมาณการสะสมของแหลง่ ไส้เดอื นฝอย หรือกำ� จัดให้หมด ไปจากพนื้ ทเ่ี ปา้ หมาย โดยการปลูกพชื หมุนเวยี นสลับกนั ไป พชื ตระกลู หญ้าบางชนิด สลับกับอ้อย จะช่วยลดการระบาดของไส้เดือนฝอย ลงได้ • ใชว้ ธิ กี ารปลกู พชื ลอ่ (trap crop) ซงึ่ มอี ยดู่ ว้ ยกนั 2 แบบ คอื ปลกู พชื ลอ่ พนั ธุอ์ ่อนแอ ไสเ้ ดอื นฝอยจะเข้าทำ� ลายพนั ธ์ุทอี่ ่อนแอ แล้วรีบไถกลบฝังลึกลงดินทันที อาจต้องไถกลบมากกว่าหน่ึงครั้ง ข้อ ควรระวงั คอื อยา่ ปลอ่ ยใหพ้ ชื พนั ธอ์ุ อ่ นแอนน้ั เจรญิ อยนู่ านเกนิ ไป จะเปน็ ช่องทางให้ไส้เดือนฝอยรากปมขยายพันธุ์เป็นจ�ำนวนมากข้ึน จนไม่ สามารถก�ำจดั ใหห้ มดไปจากพน้ื ทีเ่ ปา้ หมายได้ ปลกู พชื ทเี่ ปน็ พษิ ลอ่ ใหไ้ สเ้ ดอื นฝอยเขา้ ทำ� ลาย เมอื่ ไสเ้ ดอื นฝอย เขา้ ไปในรากแลว้ กไ็ มส่ ามารถเจรญิ ตอ่ ไปไดแ้ ละตายในทส่ี ดุ พชื ทน่ี ยิ ม ใชล้ ่อได้แก่ ดาวเรอื ง เปน็ ตน้ • ใช้สารเคมีชนดิ เมด็ เช่น Furadan ใส่ลงไปในหลมุ พร้อมกับวาง ท่อนพันธุ์อ้อย นอกจากจะช่วยป้องกันการเกิดรากปมแล้ว ยังป้องกัน การทำ� ลายของแมลงบางชนดิ ไดด้ ว้ ย แตก่ ารใชส้ ารเคมชี นดิ นตี้ อ้ งระวงั เพราะมีความเป็นพิษและผลตกคา้ งคอ่ นข้างนาน คมู่ ือการวินจิ ฉยั โรคอ้อย 141
ขาดนำ�้ , แลง้ อาการผิดปกติ ใบอ้อยอาจมีการม้วนกลม และม้วนเรียว ใบชี้ตั้งข้ึน ปลายใบเร่ิม กลายเปน็ สนี ำ้� ตาลและแหง้ ตายจากปลายใบเขา้ มา มกี ารแสดงอาการ ในใบแกแ่ ลว้ ลกุ ลามมาทใ่ี บออ่ น เมอื่ พจิ ารณาทร่ี าก พบวา่ รากจะนม่ิ ลง เม่ือบีบพบว่าน่ิม เน้ือภายในรากอ้อยหายไป รากกลายเป็นสีน้�ำตาล เปน็ การเนา่ แบบแหง้ ยบุ หายไป โดยไม่มกี ล่นิ เหม็นเน่าใด ๆ และหน่อ ทง่ี อกขนึ้ มาใหมจ่ ะแหง้ ตาย ขอ้ ปลอ้ งออ้ ยชว่ งทอี่ อ้ ยกระทบแลง้ มกี ารหด สนั้ ลง แนวทางการแกไ้ ขปัญหา จดั การเรอ่ื งระบบการใหน้ ำ้� ทเี่ หมาะสม ใหเ้ พยี งพอกบั ความตอ้ งการ ของออ้ ย โดยอาจพจิ ารณารปู แบบการใหน้ ำ�้ ทอี่ าจแตกตา่ งกนั ไปไดต้ าม ปรมิ าณนำ�้ ตน้ ทนุ ทม่ี ีและวธิ กี ารทเ่ี หมาะสมแตกตา่ งกนั ไปในแตล่ ะทอ้ งถน่ิ โดยอาจมีการใหน้ ้�ำตามความตอ้ งการใชน้ ้�ำของอ้อยทตี่ รวจวัดได้ 142 คู่มอื การวินิจฉยั โรคอ้อย
เอกสารอ้างอิง โกศล เจริญสม. 2525. แมลงอ้อย. ภาควิชากีฏวิทยา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน, กรุงเทพมหานคร. 108 หนา้ . เฉลมิ พล ไหลรงุ่ เรือง อุดม เลยี บวนั อรรถสิทธ์ิ บญุ ธรรม ประพนั ธ์ ประเสรฐิ ศักดิ์ วนั ทนีย ์ อ่วู านชิ ย์ ณัฐกฤต ิ พิทักษ์ วลั ลิภา สชุ าโต สมศกั ด์ื ทองศรี และตลุ ย์ อินทรัมพรรย.์ 2547. เอกสารวชิ าการออ้ ย. กรมวชิ าการเกษตร กระทรวงเกษตร และสหกรณ์. กรงุ เทพ ฯ. 147 หน้า. ณฐั กฤต ิ พทิ กั ษ.์ 2547. แมลงศตั รอู อ้ ยและการปอ้ งกนั กำ� จดั . หนา้ 57-117. ใน เฉลมิ พล ไหลรงุ่ เรอื ง อุดม เลยี บวัน อรรถสทิ ธ ์ิ บุญธรรม ประพันธ์ ประเสริฐศักดิ์ วนั ทนยี ์ อวู่ านชิ ย ์ ณฐั กฤต ิ พทิ กั ษ ์ วลั ลภิ า สชุ าโต สมศกั ด ์ื ทองศร ี และตลุ ย์ อนิ ทรมั พรรย.์ เอกสารวชิ าการออ้ ย. กรมวชิ าการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ.์ กรงุ เทพ ฯ. 147 หนา้ . ฝา่ ยเอกสารวชิ าการและทะเบยี นวจิ ยั กองแผนงานและวชิ าการ. 2528. โรคออ้ ย. กอง โรคพชื และจลุ ชวี วทิ ยา กรมวชิ าการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ,์ กรงุ เทพ ฯ 96 หน้า. ธนาคร จารุพฒั น์, วชิ ัย ก่อประดิษฐ์สกุล, นิพนธ์ ทวชี ยั และ ศศินาฏ แสงวงศ์. 2526. โรคอ้อยในประเทศไทย. สมาคมนักวิชาการอ้อยและน�้ำตาลแห่งประเทศไทย. กรุงเทพ ฯ. 180 หนา้ . http://www.doae.go.th/pest/filcrop/sugar/sugaphyt2.html Magarey, R.C., Lonie, K.J. and Croft, B.J. 2006. Sugarcane diseases field guide. BSES Limited. Australia. 109 pages. คมู่ ือการวินจิ ฉยั โรคออ้ ย 143
144 คู่มอื การวินจิ ฉยั โรคออ้ ย
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144