Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สาระทักษะการเรียนรู้

สาระทักษะการเรียนรู้

Published by Kik 119, 2021-05-18 05:39:31

Description: เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา สาระทักษะการเรียนรู้

Search

Read the Text Version

48 การจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ 1. การเรียนรู้ด้วยตนเอง ควรจดั ในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับ การสรา้ งสถานการณ์ในการเรียนรู้ที่หลากหลาย ซบั ซ้อน อย่างสร้างสรรค์ เพ่ือ (1) ฝึกให้ผูเ้ รยี นได้ กำหนดเป้าหมาย และวางแผนการเรยี นรู้ (2) เพ่ิมพูนให้มีทักษะพ้ืนฐานทักษะการพูด และการทำ แผนผังความคิดโดยการปฏิบัติจรงิ (3) มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองท่ีทำให้การเรียนรดู้ ้วย ตนเองประสบผลสำเร็จ และนำความรไู้ ปใช้ในวิถชี วี ิตให้เหมาะสมกบั ตนเอง และชมุ ชน/สังคม 2. การใช้แหล่งเรียนรู้ ให้ผู้เรียนทุกคนไปสำรวจ ศึกษา รวบรวมแหล่งเรียนรู้ ภายใน ชมุ ชน จงั หวัด ประเทศ และโลก รวมท้ังการใช้อินเทอร์เน็ต การเขา้ ถงึ ข้อมูลสารสนเทศท่ีสนใจ ทำ ความเข้าใจ บทบาท หนา้ ที่ ข้อดขี อ้ เสยี ของแหลง่ เรยี นรตู้ า่ ง ๆ 3. การจัดการความรู้ ศึกษาค้นคว้าหลกั การ และกระบวนการของการจัดการความรู้ การ ฝึกปฏิบัติจริงโดยการรวมกลุ่มปฏิบัติการ/ชุมชนปฏิบัติการ (Community of practice = Cops) สรุปองค์ความรู้ของกลุ่ม แลกเปล่ียนเรียนรู้ระหว่างกลุ่ม ยกระดบั ความร/ู้ สร้างองค์ความรูใ้ หม่และ จัดทำสารสนเทศเผยแพรค่ วามรู้ ด้วยวธิ ีการทีห่ ลากหลาย 4. การคดิ เป็น ให้ผู้เรียนไดม้ ีการทบทวนท้ังความเชื่อพืน้ ฐานทางการศึกษาผใู้ หญ่ / กศน. ท่เี ช่ือมโยงไปสู่ปรชั ญาคดิ เป็น และกระบวนการคดิ การแก้ปัญหาทเ่ี ปน็ ระบบกระบวนการคิดเปน็ ทใ่ี ช้ ขอ้ มูลของการคิดอย่างน้อย 3 ประการ คือ ข้อมลู วธิ กี ารตนเอง และสังคม ส่ิงแวดล้อม ให้ผ้เู รียนได้มี การอภิปรายถกแถลงถึงประสบการณ์ในการคิดของตนเองท่ีผ่านมาว่ามีการใช้กระบวนการคิดเป็น มากน้อยเพียงใด มีผลกระทบจากการคิดการตดั สินใจแก้ปัญหาอย่างใด รวมถึงการใช้หลักคุณธรรม จรยิ ธรรมบูรณาการเข้ากับกระบวนการคิดเป็นเพื่อปรับกระบวนการ คิดเป็นที่ยง่ั ยนื ให้ผู้เรยี นไดฝ้ ึก การเก็บข้องมูล การเลือกใชข้ ้อข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล การสังเคราะห์ขอ้ มูล ในชุมชน และนำมา ฝึกปฏิบตั กิ ารแก้ปัญหา ในลักษณะการคดิ เปน็ ทม่ี ขี ้อมูลคณุ ธรรม จริยธรรม บูรณาการดว้ ยเหมอื นการ คิดท่ยี ง่ั ยนื ให้มกี ารสรุปรายงานการคดิ แกป้ ญั หาด้วยกรนะบวนการคดิ เป็น เพอ่ื จัดทำเปน็ ร่องรอยใน แฟม้ ผลงาน 5. การวิจัยอย่างง่าย จัดให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นควา้ เอกสารที่เก่ียวข้อง การใช้เทคโนโลยี เพอ่ื สบื ค้นข้อมลู ฝึกทกั ษะการสงั เกตและค้นหาปญั หาทีพ่ บในชีวติ ประจำวัน / ในการประกอบอาชีพ / ในสาระที่เรียน การตั้งคำถาม การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพ่ือน / ผู้รู้ การคาดเดาคำตอบอย่างมี เหตุผล การฝึกปฏิบัติการเขียนโครงการวิจัยตามหลกั การ การเก็บรวบรวมขอ้ มูล การสรา้ งเครื่องมือ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิตอิ ย่างง่าย ๆ ท่ีเหมาะสมกับข้อมูล การนำเสนอข้อมูล การสรปุ ข้อมูล และเขยี นรายงานผลตามหลักการ การเผยแพรข่ ้อค้นพบดว้ ยวธิ ีการหลากหลาย 6. ทักษะการเรียนรู้และศักยภาพหลักของพ้ืนท่ีในการพัฒนาอาชีพ จัดให้ผู้เรียนทั้ง รายบุคคล/กลุ่มได้ศกึ ษาประยกุ ต์ทักษะการเรียนรู้ โดยคำนงึ ถึงพ้ืนฐานศักยภาพแต่ละพ้ืนที่ ทีม่ ีความ แตกตา่ ง และมคี วามต้องการของท้องถ่ินไม่เหมือนกัน ในการเพ่ิมขีดความสามารถของการประกอบ อาชีพ 5 กลุ่มอาชีพใหม่ คือ กลุ่มอาชีพด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรมพาณิชยกรรม ความคิด สร้างสรรค์ การบรหิ ารจดั การและการบรกิ าร เพอื่ สร้างอาชพี และรายได้ อย่างมั่นคง และย่ังยนื อยา่ ง ตอ่ เนอื่ ง

49 การวัดและประเมนิ ผล 1. การเรียนรู้ด้วยตนเอง ใช้การประเมินจากสภาพจริงของผู้เรียนท่ีแสดงออกเก่ียวกับ การกำหนดเป้าหมาย และวางแผนการเรียนรู้ รวมทักษะพื้นฐานและเทคนิคในการเรียนรู้ต่าง ๆ ตลอดจนปัจจยั ท่ที ำใหก้ ารเรียนรูป้ ระสบความสำเรจ็ 2. การใชแ้ หลง่ เรียนรู้ ผลงานจากการศึกษาสำรวจ และการนำไปใช้ประโยชน์ 3. การจัดการความรู้ ประเมินจากสภาพจรงิ โดย การสังเกต ความสนใจ การแสดงความ คิดเห็น การมีส่วนร่วม การให้ความร่วมมือในกลุ่มปฏิบัติการ ผลงาน/ช้ินงานจากการรวมกลุ่ม ปฏิบัติการ ใช้วิธีการประเมินแบบมีส่วนร่วมระหวา่ งครู ผู้เรียนและผู้เก่ียวข้องร่วมกันประเมินตีค่า ความสามารถ ความสำเร็จกบั เปา้ หมายทีก่ ำหนดไว้ และระบุข้อบกพร่องท่ีต้องแกไ้ ข สว่ นท่ีทำได้ดี แลว้ กพ็ ฒั นาใหด้ ยี ิ่งขึ้นตอ่ ไป 4. การคดิ เป็น ประเมินจากการเกบ็ รวบรวมข้อมลู การคิดวิเคราะห์ การตัดสินใจแกป้ ญั หา จากข้อมูลตามข้อเท็จจริง ประเมินจากการใช้ข้อมูลท่ีเหมาะสม สอดคล้อง เพียงพอ น่าเชื่อถือ ประเมนิ จากการมีส่วนรว่ มในกจิ กรรม และการอภปิ รายถกแถลง และความพอใจในการแกป้ ญั หาด้วย วธิ คี ดิ เป็นอย่างยั่งยืน 5. การวิจัยอย่างง่าย ประเมินจากสภาพจริงโดย การสังเกต ความสนใจ การมีส่วนร่วม ความร่วมมือ จากผลงาน / ชิ้นงานท่ีมอบหมายให้ฝึกปฏิบัติ ในระหว่างเรียน และการสอบปลาย ภาคเรยี น 6 ทักษะการเรยี นรู้ และศกั ยภาพหลักของพืน้ ทใ่ี นการพัฒนาอาชีพ ประเมินจากสภาพ จรงิ ความสนใจ การมีสว่ นร่วม ความร่วมมือ จากผลงาน / ชิน้ งานทม่ี อบหมายใหฝ้ ึกปฏบิ ตั ิ

50 รายละเอยี ดคำอธิบายรายวิชา ทร21001 ทักษะการเรียนรู้ จำนวน 5 หนว่ ยกิต ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นรูร้ ะดับ 1. สามารถประมวลความรู้ ทำงานบนฐานข้อมูล และมีความชำนาญในการอ่าน ฟัง จดบนั ทึก เป็นสารสนเทศอย่างคล่องแคล่วรวดเร็ว 2. สามารถวางแผนและใชแ้ หลง่ เรยี นร้ไู ดอ้ ย่างคล่องแคล่วจนเปน็ ลกั ษณะนิสยั 3. สามารถสรปุ องค์ความรูใ้ หม่ นำไปสร้างสรรค์สังคมอดุ มปัญญา 4. ความสามารถในการฝึกทักษะการคิดเป็นที่ซับซ้อนเชื่อมโยงกับคุณธรรม จริยธรรม ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับปรัชญาคิดเป็นและสามารถระบถุ ึงปญั หาอุปสรรคการพฒั นากระบวนการคิดเป็น และ การแก้ไข 5. สามารถวางแผนการวิจยั ดำเนินการตามแบบแผนอย่างถกู ตอ้ ง 6. สามารถจำแนก และวเิ คราะห์ทักษะการเรียนรู้ และศกั ยภาพหลกั ของพน้ื ที่ในการเพ่ิม ขดี ความสามารถของการประกอบอาชพี 5 กลมุ่ อาชีพใหม่ ท่ี หวั เร่ือง ตัวชวี้ ดั เนือ้ หา จำนวน (ชัว่ โมง) 1. การเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมาย 1. ความหมาย ความสำคญั 4 ดว้ ยตนเอง ความสำคัญ และกระบวนการ และกระบวนการของการ ของการเรียนรูด้ ้วยตนเอง เรยี นร้ดู ้วยตนเอง 2. ปฏบิ ตั ิการฝกึ ทกั ษะ 2. ทักษะพน้ื ฐานทาง 12 พนื้ ฐานทางการศึกษาหา การศกึ ษาหาความรู้ ทกั ษะ ความรู้ ทักษะการแกป้ ัญหา การแก้ปญั หาและเทคนคิ ใน และเทคนคิ ในการเรียนรู้ด้วย การเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง ตนเองได้ และการวาง รวมทัง้ การวางแผนการ แผนการเรียนรู้ และการ เรยี นรู้ และการประเมินผล ประเมินผลการเรยี นรู้ การเรียนรู้ด้วยตนเอง ดว้ ยตนเอง 3. ทักษะการพดู 8 3. ฝกึ ปฏบิ ตั ิทกั ษะการพดู และการทำแผนผงั ความคดิ และการทำแผนผังความคิด 4. อธิบายปจั จัย ท่ีทำให้การ 4. ปจั จัย ทท่ี ำให้การเรยี นรู้ 10 เรียนรู้ด้วยตนเองประสบ ด้วยตนเองประสบ ความสำเรจ็ ความสำเรจ็ 2. การใช้ 1. อธบิ ายความหมาย 1. ความหมาย ความสำคญั 10 แหล่งเรียนรู้ ความสำคัญ ประเภทแหลง่ ประเภทแหล่งเรียนรู้ เขา้ ถงึ

51 ที่ หวั เรอ่ื ง ตวั ชีว้ ัด เน้อื หา จำนวน 3. การจัดการความรู้ (ชัว่ โมง) เรียนรู้ การใช้หอ้ งสมุดและ สารสนเทศ แหลง่ เรยี นรู้ 20 แหล่งเรียนรอู้ ่ืน ๆ ทส่ี ำคญั อื่น ๆ ทสี่ ำคญั รวมทง้ั การ 10 รวมทั้งการใชอ้ ินเตอรเ์ น็ตเพอ่ื ใชอ้ ินเตอร์เนต็ เพอื่ การ 12 12 การเรียนรู้ของตนเอง เรยี นรู้ของตนเอง 2. บง่ ช้ขี อ้ ดีขอ้ เสียของแหล่ง 2. ข้อควรคำนงึ ในการศึกษา เรียนรู้ เรยี นรู้กบั แหลง่ ขอ้ มลู ต่าง ๆ 3. ปฏิบตั กิ ารเรียนรูก้ ับแหลง่ รวมทง้ั นวัตกรรมและ เรียนร้ตู ่างๆไดเ้ หมาะสม เทคโนโลยี 1. อธิบายความหมาย 1. ความหมาย ความสำคญั ความสำคญั หลกั การ หลกั การ กระบวนการ กระบวนการจดั การความรู้ จัดการความรู้ การรวมกลมุ่ เพ่อื ตอ่ ยอด การรวมกลมุ่ เพื่อตอ่ ยอด ความรู้ การพฒั นาขอบข่าย ความรู้ การพัฒนาขอบขา่ ย ความรขู้ องกลมุ่ การจดั ทำ ความรู้ของกลมุ่ การจัดทำ สารสนเทศเผยแพร่ความรู้ สารสนเทศเผยแพรค่ วามรู้ 2. ปฏบิ ัติการด้านทกั ษะ 2. ทกั ษะกระบวนการ กระบวนการจดั การความรู้ จดั การความรดู้ ้วยตนเอง ดว้ ยตนเองและดว้ ยการ และดว้ ยการรวมกลมุ่ รวมกลมุ่ ปฏบิ ตั กิ าร ปฏิบตั กิ าร 3. สรปุ องค์ความรู้ของกลมุ่ 3. สรปุ องคค์ วามรู้ของกลมุ่ จดั ทำสารสนเทศองค์ความรู้ จัดทำสารสนเทศองค์ความรู้ ในการพัฒนาตนเอง ในการพัฒนาตนเอง ครอบครวั ครอบครวั 4. การคิดเป็น 1. อธิบายความหมาย 1. ความเชอื่ พืน้ ฐานทาง 3 ความสำคญั ของการคิดเปน็ การศึกษาผ้ใู หญ/่ การศึกษา 3 8 2. รวบรวมและวเิ คราะห์ นอกระบบทเ่ี ชอ่ื มโยงมาสู่ สภาพปัญหา ของตนเอง ปรัชญาคิดเป็น ครอบครัว ชมุ ชน และ 2. ความหมาย ความสำคญั คิดวิเคราะห์ โดยใช้ข้อมลู ของการคดิ เปน็ ด้านตนเอง ดา้ นวชิ าการ 3. การรวบรวมและ และดา้ นสงั คมสงิ่ แวดล้อม วิเคราะหส์ ภาพปัญหา ของ 3. กำหนดแนวทางทางเลอื กที่ ตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน หลากหลายในการแกป้ ัญหา และคดิ วิเคราะห์ โดยใช้

52 ท่ี หวั เร่ือง ตวั ช้วี ัด เน้ือหา จำนวน (ช่ัวโมง) 5. การวิจยั อยา่ งง่าย อย่างมเี หตุผล มคี ุณธรรม ข้อมลู ด้านตนเอง ดา้ น 6. ทักษะการ จริยธรรม และมีความสขุ วชิ าการ และดา้ นสงั คม การประยุกต์ใชอ้ ย่างมีเหตุผล สิ่งแวดล้อม เหมาะสมกบั ตนเอง 4. กระบวนการและเทคนิค 10 ครอบครัว และชุมชน/สงั คม การเกบ็ ข้อมลู การ วเิ คราะห์ และสังเคราะห์ ข้อมลู ทง้ั 3 ประการ ของ บุคคล ครอบครวั และ ชุมชน เพือ่ ประกอบการคิด การตดั สนิ ใจ 5. การกำหนดแนวทาง 10 ทางเลือกทห่ี ลากหลายใน การแก้ปญั หาอย่าง มีเหตผุ ล มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และมคี วามสุข อย่างยง่ั ยนื การประยุกต์ใช้ อย่างมีเหตผุ ลเหมาะสมกับ ตนเอง ครอบครวั และ ชมุ ชน/สังคม 1. อธิบายความหมาย 1. ความหมาย ความสำคัญ 3 ความสำคัญการวิจัยอย่างง่าย การวจิ ยั อย่างง่าย กระบวนการและขน้ั ตอนของ กระบวนการและข้นั ตอนของ การดำเนินงาน การดำเนนิ งาน 2. อธิบาย และฝึกปฏิบัติ 2. สถิติงา่ ย ๆ เพ่ือการวิจัย 5 เกีย่ วกับสถิติง่าย ๆ เพ่อื การ 3. การสรา้ งเครื่องมอื การวจิ ยั 8 วิจยั 4. การเขียนโครงการวจิ ัย 8 3. สรา้ งเคร่ืองมือการวจิ ยั อย่างงา่ ย ๆ อยา่ งง่าย ๆ 5. ทกั ษะการวิจัยในอาชพี 10 4. ปฏบิ ตั ิการเขียโครงการวจิ ัย การเขยี นรายงานวิจยั การ อยา่ งง่าย ๆ และมที กั ษะการ นำเสนอและเผยแพรง่ านวิจยั วิจยั ในอาชีพ การเขยี น รายงานวจิ ยั การนำเสนอและ เผยแพร่งานวจิ ยั 1. อธิบายความหมาย 1. ความหมาย ความสำคญั 2

53 ที่ หวั เรือ่ ง ตัวช้ีวดั เนื้อหา จำนวน (ชั่วโมง) เรยี นรูแ้ ละ ศักยภาพ ความสำคญั ของทกั ษะการ ของศักยภาพหลกั ของพ้นื ที่ หลักของ พ้นื ที่ในการ เรยี นรู้ และศกั ยภาพหลักของ 2. กล่มุ อาชีพใหม่ 5 ดา้ น และ 2 พัฒนา พนื้ ที่ ทแี่ ตกตา่ งกนั ศักยภาพหลกั ของพืน้ ท่ี 5 2. ยกตัวอย่างเกยี่ วกบั ศกั ยภาพ ประการกลุม่ อาชพี ใหม่ หลกั ของพ้ืนทห่ี ลักท่ีแตกต่าง 1. กลมุ่ อาชพี ดา้ น กนั เกษตรกรรม 3. สามารถบอกหรอื ยกตวั อย่าง 2. กลุ่มอาชพี ด้าน เก่ียวกบั ศกั ยภาพหลักของพื้นที่ อตุ สาหกรรม ของตนเอง 3. กลมุ่ อาชีพดา้ น 4. ยกตัวอยา่ งอาชพี ที่ใช้ พาณิชยกรรม หลักการพนื้ ฐานของศักยภาพ 4. กลมุ่ อาชพี ด้านความคดิ หลักในการประกอบอาชีพใน สร้างสรรค์ กลุ่มอาชพี ใหม่เชน่ กลุ่มอาชพี ดา้ นเกษตรกรรม อตุ สาหกรรม 5. กลมุ่ อาชพี ดา้ นการ พาณชิ ยกรรม ความคดิ บรหิ ารจดั การ สร้างสรรค์ การบรหิ ารจัดการ และการบรกิ าร และการบรกิ าร ศักยภาพหลักของพ้ืนท่ี 10 1. ศกั ยภาพของ ทรัพยากรธรรมชาติ ในแตล่ ะ พน้ื ท่ี 2. ศักยภาพของพื้นที่ตาม ลกั ษณะภมู อิ ากาศ 3. ศกั ยภาพของภูมปิ ระเทศ และทำเลทต่ี งั้ ของแตล่ ะพน้ื ท่ี 4. ศกั ยภาพของศลิ ปะ วฒั นธรรม ประเพณี และวถิ ี ชีวิตของแต่ละพ้นื ท่ี 5. ศักยภาพของทรพั ยากร มนษุ ย์ในแตล่ ะพื้นที่ 6. ตัวอยา่ งการวิเคราะห์ 16 ศักยภาพหลักของพ้ืนที่ ทงั้ 5 ประการ ในกลมุ่ อาชพี ใหม่ ดา้ นการเกษตรกรรม อตุ สาหกรรมพาณชิ ยกรรม

54 ท่ี หวั เร่อื ง ตวั ช้ีวัด เน้ือหา จำนวน (ชั่วโมง) ความคิด สร้างสรรคบ์ รหิ าร จัดการ และการบรกิ าร

55 คำอธิบายรายวชิ าเลือก และรายละเอยี ดคำอธบิ ายรายวิชา ระดบั ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนตน้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

56 คำอธิบายรายวชิ า ทร02001 ขอ้ มูลน้ันสำคัญไฉน จำนวน 1 หนว่ ยกติ ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 1.1 มีความรคู้ วามเข้าใจ ทกั ษะ และเจตคตทิ ี่ดตี อ่ การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง ศึกษาและฝกึ ทักษะเก่ียวกบั เรอ่ื งตอ่ ไปนี้ ความสำคญั ของขอ้ มูล การสำรวจข้อมูล การไดม้ าซงึ่ ขอ้ มูล การแจกแจงขอ้ มลู การตรวจสอบ ข้อมูล การนำขอ้ มูลมาใช้ในการวางแผนการทำงานและการดำเนนิ ชวี ิต การจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ ควรจดั ในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกบั การสร้างสถานการณ์ในการ เรยี นร้อู ยา่ งสรา้ งสรรค์ เพ่อื ฝึกให้ผเู้ รยี นได้สำรวจข้อมลู คน้ ควา้ ตรวจสอบข้อมลู และการนำขอ้ มูลมา ใชใ้ นการวางแผนการทำงานและการดำเนินชวี ิต และมเี จตคตทิ ดี่ ตี ่อการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเองทท่ี ำให้การ เรียนรู้ด้วยตนเองประสบความสำเร็จ และนำความรไู้ ปใช้ในวถิ ีชีวิตให้เหมาะสมกับตนเอง และชมุ ชน สงั คม การวดั และประเมินผล ใช้การประเมนิ จากสภาพจริงของผเู้ รยี นท่ีแสดงออกเก่ียวกับขน้ั ตอน วิธีการสำรวจข้อมูล และความสามารถในการนำขอ้ มลู ไปใชป้ ระโยชน์

57 รายละเอียดคำอธบิ ายรายวชิ า ทร02001 ข้อมลู น้นั สำคญั ไฉน จำนวน 1 หน่วยกติ ระดบั ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 1.1 มีความรคู้ วามเข้าใจ ทกั ษะ และเจตคตทิ ด่ี ตี ่อการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง ท่ี หัวเร่อื ง ตัวชีว้ ดั เนือ้ หา จำนวน (ช่ัวโมง) 1 ขอ้ มลู นน้ั 1. รู้ เข้าใจ และ 1. ความสำคญั ของขอ้ มูล สำคัญไฉน ตระหนักถงึ ความสำคญั 2. การสำรวจขอ้ มลู 40 ของขอ้ มลู 3. การไดม้ าซึ่งข้อมลู 2. รูข้ ั้นตอน วิธีการ 4. การแจกแจงข้อมลู สำรวจข้อมูล 5. การตรวจสอบข้อมลู 3. สามารถนำข้อมลู 6. การนำข้อมลู มาใช้ในการ ไปใชป้ ระโยชน์ได้ วางแผนการทำงานและการดำเนนิ ชวี ิต

58 คำอธบิ ายรายวชิ า ทร02002 เทคนคิ การแก้ปญั หา จำนวน 1 หน่วยกติ ระดบั ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนตน้ และมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 1.1 มีความรคู้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ่ีดตี อ่ การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง ศึกษาและฝกึ ทักษะเก่ียวกบั เรอื่ งตอ่ ไปนี้ ความหมายของปัญหา สาเหตุของปัญหา ข้ันตอนและวิธีการการแก้ปัญหา ทัศนคติที่ดีใน การแก้ปัญหา การค้นหาปัญหา การยอมรับปัญหา การกำหนดปัญหา การวางแผนการแก้ปัญหา การหาขอ้ มูล การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาตน้ ตอสาเหตุและกำหนดข้อสมมติฐาน การแก้ปญั หาอย่าง เปน็ ระบบ การระดมสมองเพ่ือสร้างทางเลือก การตัดสนิ ใจ การกล้าลงมือแก้ไขและการบริหารการ เปลี่ยนแปลง ติดตามผล และปรบั ปรุงแก้ไข การปอ้ งกนั ปัญหา ฝกึ ทกั ษะการแก้ปัญหา และการปฏบิ ตั กิ ารแกป้ ัญหาจากกรณีศกึ ษาหรอื ประเด็นท่ีกำหนด การจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ ควรจัดในลักษณะของการบรู ณาการทกั ษะต่าง ๆ ไปพร้อมกบั การสร้างสถานการณใ์ นการ เรียนรู้อย่างสรา้ งสรรค์ เพ่อื ฝึกใหผ้ ู้เรียนไดก้ ำหนดปัญหา การวางแผนการแก้ปัญหา และมเี จตคตทิ ด่ี ี ตอ่ การเรียนรู้ด้วยตนเองที่ทำให้การเรียนรดู้ ้วยตนเองประสบความสำเร็จ และนำความรู้ไปใช้ในวิถี ชีวิตใหเ้ หมาะสมกบั ตนเอง และชุมชน สงั คม การวดั และประเมินผล ใช้การประเมินจากสภาพจริงของผู้เรียนที่แสดงออกเกี่ยวกับการใช้เทคนิคในการแก้ไข ปญั หา และความสามารถในการแก้ไขปญั หาจากกรณศี ึกษาหรือประเดน็ ปญั หาท่กี ำหนด

59 รายละเอียดคำอธิบายรายวชิ า ทร02002 เทคนิคการแก้ปัญหา จำนวน 1 หน่วยกติ ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานท่ี 1.1 มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ่ดี ีตอ่ การเรียนร้ดู ้วยตนเอง ที่ หวั เร่อื ง ตวั ช้ีวัด เนือ้ หา จำนวน (ชวั่ โมง) 1 เทคนิค 1. ร้เู ข้าใจสาเหตุ 1. ความหมายของปญั หา 40 การแก้ปญั หา ของการเกิดปญั หา 2. สาเหตุของปญั หา 2. บอกหรืออธิบาย 3. ขัน้ ตอนและวธิ กี ารการแกป้ ญั หา ขน้ั ตอนการแกไ้ ข (1) ทัศนคติท่ดี ใี นการแก้ปญั หา ปัญหาได้ (2) การค้นหาปัญหา 3. รจู้ กั เลอื กใช้ (3) การยอมรับปัญหา เทคนิคในการแกไ้ ข (4) การกำหนดปัญหา ปัญหา (5) การวางแผนการแกป้ ญั หา 4. ตระหนกั หรอื เห็น (6) การหาขอ้ มลู ความสำคัญของ (7) การวิเคราะห์ขอ้ มลู เพอ่ื หา เทคนิคการแกไ้ ข ต้นตอสาเหตแุ ละกำหนดข้อสมมติฐาน ปญั หา (8) การแกป้ ญั หาอยา่ งระบบ 5. สามารถแก้ไข (9) การระดมสมองเพอื่ สร้าง ปญั หาจาก ทางเลอื ก กรณศี ึกษาหรือ (10) การตดั สินใจ ประเดน็ ปญั หา (11) การกล้า ลงมอื แกไ้ ขและการ ท่กี ำหนดได้ บรหิ ารการเปลยี่ นแปลง (12) ติดตามผล และปรบั ปรงุ แก้ไข (13) การป้องกนั ปญั หา - ฝึกทกั ษะการแกป้ ญั หา 4. การปฏบิ ตั กิ ารแกป้ ญั หาจาก กรณีศึกษาหรอื ประเด็นทก่ี ำหนด

60 คำอธบิ ายรายวิชา ทร02003 ทกั ษะการตดั สนิ ใจ จำนวน 1 หน่วยกิต ระดบั ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 1.1 มีความรู้ความเขา้ ใจ ทกั ษะ และเจตคติท่ีดตี อ่ การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง ศกึ ษาและฝกึ ทักษะเกยี่ วกบั เร่ืองตอ่ ไปน้ี ความหมาย ความสำคัญของทักษะการตัดสินใจ องค์ประกอบของการตัดสินใจ กระบวนการและขั้นตอนการตัดสินใจ ปัญหาอุปสรรคท่ีมีต่อการตัดสนิ ใจ การสรา้ งความเช่ือมั่นใน ตนเองเพ่ือสร้างทักษะการตดั สนิ ใจ และการฝกึ ทกั ษะการตัดสินใจ การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ควรจดั ในลักษณะของการบรู ณาการทกั ษะต่าง ๆ ไปพร้อมกบั การสร้างสถานการณใ์ นการ เรียนร้อู ยา่ งสร้างสรรค์ เพ่ือฝึกใหผ้ ูเ้ รยี นไดฝ้ กึ กระบวนการและข้นั ตอนการตัดสินใจ และมเี จตคติ ทีด่ ี ต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองที่ทำให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบความสำเร็จ และนำความรู้ไปใช้ในวิถี ชวี ิตให้เหมาะสมกับตนเอง และชมุ ชน สังคม การวดั และประเมนิ ผล ใช้การประเมินจากสภาพจริงของผูเ้ รียนท่ีแสดงออกเก่ียวกบั กระบวนการและขัน้ ตอนการ ตดั สินใจทักษะการคิด ตัดสนิ ใจในการแก้ไขปญั หาของตนเอง

61 รายละเอยี ดคำอธิบายรายวชิ า ทร02003 ทกั ษะการตัดสินใจ จำนวน 1 หน่วยกิต ระดบั ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานท่ี 1.1 มคี วามรคู้ วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ดี่ ีตอ่ การเรยี นรู้ด้วยตนเอง ที่ หวั เรื่อง ตวั ชวี้ ดั เน้อื หา จำนวน (ช่วั โมง) 1 ทกั ษะการตัดสนิ ใจ 1. ตระหนกั และเห็น 1. ความหมาย ความสำคญั 40 ความสำคญั ของการมี ของทักษะการตดั สินใจ ทักษะการตดั สินใจ 2. องค์ประกอบของการ 2. ร้เู ข้าใจและบอก ตดั สินใจ ข้ันตอนเกยี่ วกบั 3. กระบวนการและข้ันตอน องค์ประกอบและ การตัดสินใจ กระบวนการตัดสนิ ใจ 4. ปญั หาอปุ สรรคท่มี ตี อ่ การ 3. บอกหรอื อธบิ าย ตัดสินใจ ปัญหาและอปุ สรรคทม่ี ี 5. การสร้างความเชือ่ มน่ั ใน ตอ่ การตัดสินใจ ตนเอง เพอื่ สร้างทกั ษะการ 4. สามารถใช้ทักษะ ตดั สนิ ใจ การคิด ตัดสนิ ใจในการ 6. การฝึกทกั ษะการตัดสนิ ใจ แกไ้ ขปัญหาของตนเอง ได้

62 คำอธิบายรายวชิ า ทร02004 ทกั ษะการคดิ จำนวน 1 หน่วยกิต ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานท่ี 1.1 มคี วามรู้ความเข้าใจ ทกั ษะ และเจตคตทิ ี่ดีต่อการเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง ศึกษาและฝกึ ทักษะเกี่ยวกับเร่อื งตอ่ ไปนี้ ความหมาย ความสำคัญของความคิดสร้างสรรค์ วิธีการคิด (คดิ สร้างสรรค์ คิดม่งุ อนาคต คดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ คดิ เชงิ บวก คดิ 6 ด้าน ปญั หาอุปสรรคต่อการคดิ การสรา้ งและการฝกึ พฒั นา ทักษะการคิดสร้างสรรค์ ฝึกปฏิบัติการพัฒนาทักษะการคิดแบบต่าง ๆ ให้กับตนเอง (การฝึกสมาธิ การสร้างจติ ใจให้มีความสุข การขจัดความเครียด) การคดิ มิตขิ อง “การคดิ ” 6 ด้าน (มิตดิ ้านขอ้ มูล หรือเนื้อหา ที่ใช้ในการคิดมิติด้านคุณสมบัติที่เอื้ออำนวยต่อการคิด มิติด้านทักษะการคิด มิติด้าน ลักษณะการคดิ มติ ดิ ้านกระบวนการคดิ และมิตดิ ้านการควบคุมและประเมนิ การคิดของตน) การจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ ควรจดั ในลักษณะของการบูรณาการทกั ษะต่าง ๆ ไปพร้อมกบั การสร้างสถานการณ์ในการ เรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพ่ือฝึกให้ผู้เรียนได้ฝึกกระบวนการคิด และมีเจตคติท่ีดีต่อการเรียนรู้ด้วย ตนเองท่ีทำให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบความสำเรจ็ และนำความรู้ไปใช้ในวิถีชีวิตให้เหมาะสมกับ ตนเอง และชุมชน สังคม การวดั และประเมินผล ใช้การประเมินจากสภาพจรงิ ของผู้เรยี นท่ีแสดงออกเกี่ยวกับกระบวนการคดิ สร้างสรรคใ์ น การแกป้ ัญหา ความสามารถในการแสดงผลงาน และการคดิ สร้างสรรคใ์ นการพัฒนาตนเอง

63 รายละเอยี ดคำอธิบายรายวิชา ทร02004 ทักษะการคิด จำนวน 1 หนว่ ยกิต ระดบั ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานท่ี 1.1 มีความรคู้ วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ด่ี ตี ่อการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง ที่ หวั เร่ือง ตัวชวี้ ัด เนอ้ื หา จำนวน (ช่วั โมง) 1 ทักษะการคดิ 1. ตระหนักและเห็น 1. ความหมาย ความสำคัญ 40 ความสำคญั ของการคดิ ความคิดสร้างสรรค์ 2. รู้และเข้าใจวธิ ีการคดิ 2. วิธกี ารคิด (คดิ สรา้ งสรรค์ แบบตา่ ง ๆ คิดมุ่งอนาคต คิดอยา่ งมี 3. บอกหรืออธบิ าย วิจารณญาณ คดิ เชิงบวก ความคิดสร้างสรรค์ คิด 6 ดา้ น) ในการแกป้ ญั หา 3. ปญั หาอุปสรรคต่อการคดิ 4. สามารถแสดงผลงาน 4. การสร้างและการฝกึ พัฒนา การคดิ สรา้ งสรรค์ในการ ทกั ษะการคดิ สร้างสรรค์ พฒั นาตนเอง 5. ฝกึ ปฏิบัติการพฒั นาทกั ษะ การคิดแบบต่าง ๆ ให้กับตนเอง (การฝึกสมาธิ การสร้างจิตใจให้ มคี วามสขุ การขจัดความเครียด) การคิด 6. มติ ิของ “การคิด” 6 ด้าน 6.1 มิติดา้ นขอ้ มลู หรอื เน้อื หา ทีใ่ ช้ในการคดิ 6.2 มิติด้านคุณสมบัติท่ี เอ้อื อำนวยต่อการคิด 6.3 มติ ดิ ้านทักษะการคิด 6.4 มติ ิด้านลักษณะการคดิ 6.5 มติ ิดา้ นกระบวนการคดิ 6.6 มติ ิด้านการควบคมุ และ ประเมินการคดิ ของตน

64 คำอธบิ ายรายวิชา ทร02005 การรู้จักตนเอง จำนวน 1 หน่วยกติ ระดบั ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 1.1 มีความร้คู วามเขา้ ใจ ทกั ษะ และเจตคติทด่ี ตี ่อการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง ศึกษาและฝกึ ทกั ษะเก่ียวกบั เรอื่ งตอ่ ไปน้ี ความสำคัญของการรู้จักตนเองเพื่อพัฒนาการเรยี นรู้ วิธกี ารค้นหาตนเอง (แบบทดสอบ ความถนัด การแนะแนว การพูดคุย การประเมินตนเอง ฯลฯ รูปแบบการเรียนรู้ด้วยตนเองแบบ ต่าง ๆ ความหมาย ความสำคัญของการวางแผนการเรยี นรู้และประโยชน์ของการวางแผนการเรียนรู้ องค์ประกอบของการวางแผนการเรียนรู้ วิธีการและกระบวนการวางแผนการเรียนรู้ ปฏิบัติการ วางแผนการเรยี นร้รู ายบคุ คลและรายกลมุ่ การจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ ควรจดั ในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์ในการ เรียนร้อู ยา่ งสรา้ งสรรค์ เพื่อฝึกให้ผูเ้ รยี นไดฝ้ กึ วิธกี ารค้นหาตนเอง ออกแบบและวางแผนการเรยี นรทู้ ่ี เหมาะสมกับตนเอง และมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองท่ีทำให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบ ความสำเรจ็ และนำความรูไ้ ปใช้ในวิถีชวี ิตให้เหมาะสมกบั ตนเอง และชุมชน สังคม การวัดและประเมินผล ใชก้ ารประเมนิ จากสภาพจรงิ ของผูเ้ รยี นท่ีแสดงออกเก่ียวกับความสามารถในการออกแบบ และวางแผนการเรยี นรทู้ ่ีเหมาะสมกบั ตนเอง

65 รายละเอยี ดคำอธิบายรายวิชา ทร02005 การรจู้ ักตนเอง จำนวน 1 หน่วยกิต ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 1.1 มีความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ี่ดีตอ่ การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง ท่ี หัวเรือ่ ง ตวั ชีว้ ัด เนือ้ หา จำนวน (ชั่วโมง) 1 การรจู้ กั ตนเอง 1. เขา้ ใจความสำคญั ของ 1. ความสำคัญของการรจู้ กั 40 การรจู้ กั ตนเอง ตนเองเพ่ือพฒั นาการเรยี นรู้ 2. สามารถคน้ หารปู แบบ 2. วิธกี ารคน้ หาตนเอง การเรียนรทู้ เ่ี หมาะสมกบั (แบบทดสอบความถนัด การแนะ ตนเอง แนวการพดู คุย การประเมินตนเอง 3. สามารถออกแบบและ ฯลฯ) วางแผนการเรยี นรูท้ ี่ 3. รูปแบบการเรียนร้ดู ้วยตนเอง เหมาะสมกับตนเอง แบบต่าง ๆ 4. ตระหนกั และเห็น 4. ความหมายความสำคญั ความสำคญั ของการวาง ของการวางแผนการเรียนรู้ แผนการเรียนรู้ และประโยชน์ของการวางแผนการ 5. รแู้ ละเข้าใจเกีย่ วกบั เรียนรู้ องค์ประกอบของการ วาง 5. องคป์ ระกอบของการวาง แผนการเรียนรู้ แผนการเรียนรู้ 6. อธบิ ายและบอก 6. วิธกี ารและกระบวนการวาง กระบวนการวางแผน แผนการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ 7. ปฏิบัติการวางแผนการเรยี นรู้ 7. สามารถวางแผน 7.1 รายบคุ คล การเรียนของตนเองได้ 7.2 รายกลมุ่

66 คำอธิบายรายวิชา ทร02006 โครงงานเพ่ือพัฒนาทกั ษะการเรียนรู้ จำนวน 3 หน่วยกติ ระดบั ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 1.1 มีความรคู้ วามเขา้ ใจ ทกั ษะ และเจตคตทิ ี่ดตี อ่ การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง ศกึ ษาและฝึกทักษะเกยี่ วกับเร่ืองตอ่ ไปนี้ หลักการและแนวคิดของโครงงานเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ ความหมายของโครงงาน เพ่ือพัฒนาทักษะการเรียนรู้ การเตรียมการทำโครงงานเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ ทักษะแล กระบวนการที่จำเปน็ ในการทำโครงงานเพอื่ พัฒนาทกั ษะการเรยี นรู้ (การหาขอ้ มลู การเลือกใช้ขอ้ มูล การจัดทำข้อมูล การนำเสนอขอ้ มลู การพฒั นาต่อยอดความรู)้ การดำเนินการในการทำโครงงาน เช่น การพฒั นาแหล่งเรยี นรู้ การทำไดอารีอ่ อนไลน์) การสะท้อนความคิดเห็นต่อโครงงาน การจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ ควรจดั ในลักษณะของการบูรณาการทกั ษะต่าง ๆ ไปพร้อมกบั การสรา้ งสถานการณใ์ นการ เรยี นรอู้ ยา่ งสร้างสรรค์ เพื่อฝึกให้ผู้เรียนได้ฝึกดำเนนิ การในการทำโครงงาน และมีเจตคติที่ดตี ่อการ เรยี นรดู้ ้วยตนเองท่ีทำให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบความสำเร็จ และนำความรู้ไปใช้ในวิถชี ีวิต ให้ เหมาะสมกับตนเอง และชมุ ชน สังคม การวดั และประเมนิ ผล ใชก้ ารประเมินจากสภาพจริงของผู้เรยี นที่แสดงออกเกย่ี วกบั ดำเนนิ การในการทำโครงงาน

67 รายละเอียดคำอธิบายรายวิชา ทร02006 โครงงานเพือ่ พัฒนาทักษะการเรียนรู้ จำนวน 3 หน่วยกิต ระดบั ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 1.1 มคี วามรูค้ วามเข้าใจ ทกั ษะ และเจตคตทิ ่ดี ตี ่อการเรียนรดู้ ้วยตนเอง ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนือ้ หา จำนวน (ชั่วโมง) 1 โครงงานเพือ่ พฒั นา ทกั ษะการเรยี นรู้ 1. มีความรู้ 1. หลักการและแนวคิดของ 120 ความเข้าใจ หลกั การ โครงงานเพื่อพฒั นาทักษะการ และแนวคดิ โครงงาน เรียนรู้ ความหมายของ 2. ความหมายของโครงงาน โครงงานเพ่ือพฒั นา เพือ่ พฒั นาทกั ษะการเรยี นรู้ ทักษะการเรยี นรู้ 3. การเตรียมการทำโครงงาน ประเภทของโครงงาน เพ่ือพฒั นาทกั ษะการเรยี นรู้ การเตรยี มการทำ 4. ทักษะและกระบวนการที่ โครงงาน ทกั ษะและ จำเปน็ ในการทำโครงงานเพอื่ กระบวนการในการทำ พฒั นาทกั ษะการเรียนรู้ (การ โครงงาน หาข้อมลู การเลือกใช้ขอ้ มลู การดำเนนิ การ การจัดทำขอ้ มลู การนำเสนอ ในการทำโครงงาน ข้อมูล การพฒั นาตอ่ ยอด 2. มีความสามารถ ความรู้) ในการดำเนินการทำ 5. การดำเนนิ การในการทำ โครงงาน และสะทอ้ น โครงงาน เช่น การพฒั นา ความคดิ เหน็ ตอ่ แหลง่ เรียนรู้ การทำไดอารี่ โครงงาน ออนไลน์ 3.มีเจตคตทิ ด่ี ี 6. การสะท้อนความคิดเห็นต่อ ต่อการทำโครงงานและ โครงงาน เห็นคณุ ค่าของโครงงาน

68 คำอธิบายรายวิชา ทร02007 เทคนิคการวเิ คราะห์งาน จำนวน 1 หน่วยกิต ระดบั ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 1.1 มีความร้คู วามเขา้ ใจ ทกั ษะ และเจตคตทิ ีด่ ีต่อการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง ศกึ ษาและฝึกทกั ษะเกี่ยวกบั เร่ืองต่อไปนี้ ความหมายและความสำคัญของ เทคนิคการวิเคราะห์งาน ประโยชน์ของเทคนิคการ วิเคราะห์งาน กระบวนการวิเคราะห์ เทคนิคการวิเคราะห์งาน กรอบการวิเคราะห์เทคนิคการ วิเคราะห์งาน เงื่อนไขในการทำกระบวนการวเิ คราะห์ เทคนิคการวิเคราะห์งาน ตัวอย่างท่วี ิเคราะห์ ด้วย SWOT , IPO , PDCA ฝึกปฏิบัติการวิเคราะห์ เทคนิคการวิเคราะห์งาน เช่น การวิเคราะห์ องคก์ ร/ชุมชน การจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ ควรจดั ในลักษณะของการบูรณาการทกั ษะต่าง ๆ ไปพร้อมกบั การสร้างสถานการณใ์ นการ เรียนรอู้ ย่างสร้างสรรค์ เพอ่ื ฝึกใหผ้ เู้ รยี นไดฝ้ ึกเทคนิคการวเิ คราะห์งาน และมเี จตคตทิ ี่ดีตอ่ การเรียนรู้ ดว้ ยตนเองท่ีทำใหก้ ารเรียนรดู้ ว้ ยตนเองประสบความสำเร็จ และนำความร้ไู ปใช้ในวิถีชวี ติ ให้เหมาะสม กบั ตนเอง และชมุ ชน สงั คม การวดั และประเมินผล ใช้การประเมนิ จากสภาพจริงของผูเ้ รียนที่แสดงออกเกี่ยวกบั การวิเคราะห์งาน

69 รายละเอียดคำอธบิ ายรายวิชา ทร02007 เทคนคิ การวิเคราะหง์ าน จำนวน 1 หนว่ ยกติ ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานท่ี 1.1 มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ่ดี ตี อ่ การเรียนรู้ด้วยตนเอง ท่ี หัวเรอ่ื ง ตวั ชว้ี ัด เนื้อหา จำนวน (ชั่วโมง) 1 เทคนิค 1. รเู้ ข้าใจความหมาย การวเิ คราะห์งาน และความสำคญั ของ 1. ความหมายและความสำคัญ 40 เทคนคิ การวเิ คราะห์ งาน ของ เทคนคิ การวเิ คราะหง์ าน 2. อธิบายหรือบอก กระบวนการวเิ คราะห์ 2. ประโยชนข์ อง เทคนิคการ ดว้ ย SWOT 3. มที กั ษะและใช้ วิเคราะหง์ าน กระบวนการ SWOT ในการแก้ไขปัญหาของ 3. กระบวนการวิเคราะห์ ตนเองได้ เทคนคิ การวเิ คราะหง์ าน 4. กรอบการวิเคราะหเ์ ทคนิค การวเิ คราะห์งาน 5. เงือ่ นไขในการทำ กระบวนการวเิ คราะห์ เทคนคิ การวิเคราะหง์ าน 6. ตัวอย่างทีว่ ิเคราะหด์ ้วย SWOT , IPO , PDCA 7. ฝกึ ปฏบิ ตั ิการวเิ คราะห์ เทคนิคการวเิ คราะหง์ าน เช่น การวเิ คราะห์องค์กร/ชุมชน

70 คำอธิบายรายวิชา ทร02008 เทคนคิ การจดบันทกึ จำนวน 1 หน่วยกติ ระดบั ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 1.1 มีความรูค้ วามเข้าใจ ทกั ษะ และเจตคติที่ดีตอ่ การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง ศึกษาและฝึกทกั ษะเก่ียวกบั เรอื่ งตอ่ ไปนี้ ความหมายของการจดบันทึก วัตถุประสงค์ของการจดบันทึก การเตรียมการก่อนการจด บนั ทึก ระหว่างการจดบนั ทึก หลกั การจดบนั ทกึ วิธกี ารจดบนั ทึก และเทคนคิ การจดบันทึก การจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทกั ษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณใ์ นการ เรยี นรอู้ ย่างสรา้ งสรรค์ เพื่อฝกึ ให้ผู้เรียนได้ฝึกเทคนิคการจดบนั ทึก และมีเจตคติท่ีดีต่อการเรยี นรูด้ ้วย ตนเองทที่ ำให้การเรยี นรู้ดว้ ยตนเองประสบความสำเรจ็ และนำความรู้ไปใชใ้ นวถิ ีชีวติ ให้เหมาะสมกับ ตนเอง และชมุ ชน สังคม การวดั และประเมนิ ผล ใช้การประเมนิ จากสภาพจริงของผู้เรียนทแ่ี สดงออกเกี่ยวกับการจดบนั ทึก

71 รายละเอยี ดคำอธิบายรายวิชา ทร02008 เทคนิคการจดบันทกึ จำนวน 1 หน่วยกติ ระดบั ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานท่ี 1.1 มคี วามรคู้ วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ่ดี ตี ่อการเรียนรดู้ ้วยตนเอง ที่ หวั เร่อื ง ตวั ชวี้ ดั เนือ้ หา จำนวน (ชัว่ โมง) 1 เทคนิค 1. ตระหนักและเห็นความ 1. ความหมายของ การจดบันทกึ 40 สำคัญของการจดบันทกึ การจดบันทึก 2. ร้เู ข้าใจหลกั การ 2. วตั ถปุ ระสงคข์ อง การจดบนั ทึก การจดบันทึก 3. อธิบายหรอื บอก 3. การเตรียมการก่อน ขั้นตอนการจดบันทกึ การจดบันทกึ 4. มีทกั ษะและใชเ้ ทคนคิ 4. ระหว่างการจดบันทกึ ในการจดบันทกึ ของตนเอง 5. หลกั การจดบันทึก ได้ 6. วิธกี ารจดบันทึก 7. เทคนคิ การจดบันทกึ

72 คำอธิบายรายวิชา ทร02009 การอา่ นเพอื่ ความเข้าใจ จำนวน 1 หน่วยกติ ระดับประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานท่ี 1.1 มีความรู้ความเข้าใจ ทกั ษะ และเจตคติที่ดีต่อการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง ศกึ ษาและฝกึ ทักษะเกยี่ วกับเร่ืองตอ่ ไปนี้ ความหมายและความสำคัญของการอ่าน ระดับของความเขา้ ใจในการอ่าน ความสามารถใน การอา่ นเพ่ือความเข้าใจ องคป์ ระกอบท่ีส่งผลตอ่ การอา่ นเพ่ือความเข้าใจ กระบวนการอ่านเพ่ือความ เข้าใจ การประเมนิ ระดบั ความยากของการอ่าน และเทคนคิ การอ่านเร็ว การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ควรจดั ในลกั ษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์ในการ เรียนรอู้ ย่างสรา้ งสรรค์ เพ่อื ฝกึ ให้ผู้เรยี นได้ฝกึ เทคนิคการอ่านเพือ่ ความเขา้ ใจ และมเี จตคติทด่ี ีตอ่ การ เรียนรู้ด้วยตนเองที่ทำให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบความสำเร็จ และนำความรู้ไปใช้ในวิถีชวี ิตให้ เหมาะสมกบั ตนเอง และชมุ ชน สงั คม การวดั และประเมนิ ผล ใช้การประเมนิ จากสภาพจริงของผู้เรยี นที่แสดงออกเกี่ยวกับการอา่ นเพื่อความเข้าใจ

73 รายละเอยี ดคำอธบิ ายรายวิชา ทร02009 การอา่ นเพอื่ ความเขา้ ใจ จำนวน 1 หน่วยกิต ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานท่ี 1.1 มคี วามร้คู วามเขา้ ใจ ทกั ษะ และเจตคตทิ ่ดี ตี อ่ การเรยี นร้ดู ้วยตนเอง ที่ หัวเรือ่ ง ตัวชว้ี ดั เนอ้ื หา จำนวน (ชั่วโมง) 1 การอ่านเพ่อื 1. ตระหนักและเหน็ ความ 1. ความหมาย/ความสำคญั ความเขา้ ใจ สำคญั ของการอ่าน ของการอ่าน 40 2. รู้เข้าใจเกยี่ วกับวิธี 2. ระดบั ของความเข้าใจใน การอา่ น การอ่าน 3. บอกหรอื อธบิ าย 3. ความสามารถในการอ่าน เกย่ี วกับองคป์ ระกอบ เพอื่ ความเข้าใจ ตา่ ง ๆ ท่สี ่งผลตอ่ การอ่าน 4. องคป์ ระกอบที่สง่ ผลต่อ เพอื่ ความเข้าใจได้ การอ่านเพือ่ ความเขา้ ใจ 4. อธบิ ายหรือประเมิน 5. กระบวนการอา่ นเพ่อื ระดับการอา่ นของตนเอง ความเขา้ ใจ ได้ 6. การประเมินระดบั ความ 5. มีทกั ษะและการใชก้ าร ยากของการอา่ น อ่านเพือ่ พฒั นาตนเองได้ 7. เทคนคิ การอ่านเร็ว

74 คำอธบิ ายรายวชิ า ทร02010 แผนพัฒนาความคดิ (Mind Map) จำนวน 1 หน่วยกิต ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานท่ี 1.1 มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ีด่ ตี ่อการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง ศึกษาและฝึกทักษะเก่ยี วกับเรือ่ งตอ่ ไปน้ี ความหมาย ความสำคัญและประโยชน์ของการทำแผนพัฒนาความคิด (Mind Map) กระบวนการสร้างแผนพัฒนาความคิด (Mind Map) ลักษณะการเขียนแผนพัฒนาความคิด (Mind Map) ตัวอย่าง ฝึกปฏิบัติ การเขียนแผนพัฒนาความคิด (Mind Map) ข้ันตอนการสร้าง แผนพฒั นาความคดิ (Mind Map) ฝึกปฏบิ ัติการสร้างแผนพัฒนาความคิด (Mind Map) การจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ ควรจดั ในลักษณะของการบรู ณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสรา้ งสถานการณ์ในการ เรยี นร้อู ยา่ งสรา้ งสรรค์ เพือ่ ฝกึ ให้ผู้เรยี นได้ฝกึ จดั ทำแผนพัฒนาความคดิ (Mind Map) และมีเจตคติ ท่ี ดีตอ่ การเรียนรู้ด้วยตนเองทท่ี ำให้การเรยี นร้ดู ้วยตนเองประสบความสำเรจ็ และนำความรู้ไปใชใ้ นวถิ ี ชวี ิตใหเ้ หมาะสมกบั ตนเอง และชมุ ชน สังคม การวัดและประเมนิ ผล ใช้การประเมินจากสภาพจริงของผู้เรียนท่ีแสดงออกเกี่ยวกับการแผนพัฒนาความคิด (Mind Map)

75 รายละเอียดคำอธิบายรายวิชา ทร02010 แผนพฒั นาความคิด (Mind Map) จำนวน 1 หน่วยกติ ระดบั ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานท่ี 1.1 มคี วามรคู้ วามเข้าใจ ทกั ษะ และเจตคตทิ ดี่ ีต่อการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง ที่ หัวเร่ือง ตวั ชี้วดั เนอื้ หา จำนวน (ช่วั โมง) 1 แผนพฒั นา ความคิด 1. ตระหนกั และเห็นความ 1. ความหมาย 40 (Mind Map) สำคญั ของการทำ ความสำคญั และประโยชน์ แผนพฒั นาความคดิ (Mind ของการทำแผนพฒั นา Map) ความคดิ (Mind Map) 2. ร้เู ข้าใจเกยี่ วกับ 2. กระบวนการสรา้ ง กระบวนการสร้าง แผนพฒั นาความคิด แผนพัฒนาความคิด (Mind Map) (Mind Map) 3. ลกั ษณะการเขยี น 3. บอกลกั ษณะของ แผนพัฒนาความคิด แผนพัฒนาความคดิ (Mind Map) (Mind Map) 4. ตวั อยา่ งแผนพฒั นา 4. สามารถสรา้ งแผนพฒั นา ความคิด (Mind Map) ความคดิ 5. ฝึกปฏิบตั ิ (Mind Map) จากประเดน็ การเขียนแผนพฒั นา ท่กี ำหนดได้ ความคดิ (Mind Map) 5. ร้จู ักใชแ้ ผนพฒั นา 6. ขน้ั ตอนการสรา้ ง ความคดิ (Mind Map) แผนพฒั นาความคิด ในการพฒั นาการเรียนร้ขู อง (Mind Map) ตนเอง 7. ฝึกปฏบิ ัติการสร้าง แผนพฒั นาความคิด (Mind Map)

76 คำอธิบายรายวชิ า ทร02011 ทกั ษะการพดู จำนวน 1 หนว่ ยกติ ระดบั ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 1.1 มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจ ทกั ษะ และเจตคติท่ดี ีต่อการเรียนรูด้ ้วยตนเอง ศึกษาและฝกึ ทักษะเกี่ยวกับเร่ืองต่อไปน้ี ความหมายและความสำคัญของทักษะการพูด วัตถุประสงค์ในการพูด การพูดเพื่อให้ ความรู้ การพูดเพ่ือคน้ หาคำตอบ (การต้ังคำถาม) ทักษะการพูดและการนำเสนอ การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสรา้ งสถานการณ์ในการ เรียนรอู้ ย่างสร้างสรรค์ เพ่ือฝกึ ให้ผ้เู รยี นได้ฝึกทักษะการพดู และมเี จตคติทด่ี ีต่อการเรียนรูด้ ้วยตนเอง ท่ที ำให้การเรยี นรู้ด้วยตนเองประสบความสำเร็จ และนำความร้ไู ปใช้ในวถิ ชี วี ิตใหเ้ หมาะสมกบั ตนเอง และชุมชน สังคม การวดั และประเมินผล ใช้การประเมนิ จากสภาพจริงของผู้เรียนท่แี สดงออกเก่ียวกบั ทกั ษะการพูด

77 รายละเอียดคำอธิบายรายวิชา ทร02011 ทกั ษะการพูด จำนวน 1 หน่วยกิต ระดบั ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานท่ี 1.1 มีความรคู้ วามเข้าใจ ทกั ษะ และเจตคตทิ ดี่ ีต่อการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง ท่ี หัวเรอื่ ง ตัวชี้วดั เนือ้ หา จำนวน (ชั่วโมง) 1 ทักษะการพดู 1. ตระหนกั และเห็น 1. ความหมาย และความสำคญั ของ 40 ความสำคญั ของทกั ษะ ทักษะและการนำเสนอ การพดู และการ 2. วัตถุประสงค์ในการพดู นำเสนอ 2.1 การพูดเพื่อให้ความรู้ 2. รูแ้ ละเขา้ ใจแนวคิด 2.2 การพดู เพ่ือคน้ หาคำตอบ และวตั ถุประสงค์ของ (การต้ังคำถาม) การพูด และการ 2.3 ทักษะการพูดและการ นำเสนอ นำเสนอ 3. รทู้ กั ษะการพูดท่ีชว่ ย ส่ือสารใหผ้ อู้ ่นื เข้าใจ และเพอ่ื คน้ หาคำตอบ 4. มที กั ษะการพูดและ การนำเสนอ

78 คำอธิบายรายวิชา ทร02012 ทกั ษะการคดิ หลายดา้ น จำนวน 1 หนว่ ยกติ ระดบั ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 1.1 มคี วามร้คู วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติท่ดี ตี ่อการเรียนร้ดู ้วยตนเอง ศกึ ษาและฝึกทักษะเก่ียวกับเร่อื งต่อไปน้ี ความสำคัญของเร่ืองการคิดและการเรยี นรู้เพ่ือพัฒนากระบวนการคิด ทฤษฎี หลักการ และแนวคดิ เกยี่ วกับการคิด ( ต่างประเทศ/ ไทย) กระบวนการคดิ ของ “การคิด” ลักษณะของการคดิ คำทเี่ กยี่ วข้องกบั การคดิ และปฏบิ ัติการพฒั นากระบวนการคดิ ตามประเด็นหรือกรณีศกึ ษา การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ควรจดั ในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสรา้ งสถานการณ์ในการ เรยี นร้อู ยา่ งสรา้ งสรรค์ เพื่อฝกึ ใหผ้ ู้เรยี นได้ฝกึ ทักษะการคิด และมีเจตคติทีด่ ตี อ่ การเรียนรดู้ ้วยตนเองท่ี ทำให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบความสำเร็จ และนำความรู้ไปใช้ในวิถีชีวิตให้เหมาะสมกับตนเอง และชมุ ชน สังคม การวัดและประเมนิ ผล ใช้การประเมนิ จากสภาพจริงของผูเ้ รยี นท่ีแสดงออกเกีย่ วกับทักษะการคิด

79 รายละเอยี ดคำอธบิ ายรายวิชา ทร02012 ทักษะการคิดหลายดา้ น จำนวน 1 หน่วยกิต ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 1.1 มคี วามรคู้ วามเข้าใจ ทกั ษะ และเจตคตทิ ดี่ ีต่อการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง ที่ หวั เรือ่ ง ตัวชีว้ ัด เน้อื หา จำนวน (ชั่วโมง) 1 ทักษะการคดิ 1. ตระหนักและ 1. ความสำคญั ของเรือ่ งการคิด 40 หลายดา้ น เห็นความสำคญั ของ และการเรยี นรเู้ พ่ือพฒั นา การคิดและ กระบวนการคดิ กระบวนการคิด 2. ทฤษฎี หลักการและแนวคดิ 2. รูเ้ ข้าใจหลักการและ เก่ียวกับการคิด แนวคิดเกยี่ วกับ ( ต่างประเทศ/ ไทย) กระบวนการคิด 3. กระบวนการคดิ ของ 3. บอกหรือยกตวั อย่าง “การคิด” ของมิติการคิด 4. ลักษณะของการคดิ 4. แสดงหรืออธบิ าย 5. คำที่เกี่ยวขอ้ งกบั การคิด กระบวนการคิดของ 6. ปฏบิ ัตกิ ารพฒั นา ตนเองได้ กระบวนการคดิ ตามประเดน็ หรอื กรณีศกึ ษา

80 คำอธิบายรายวิชา ทร02013 การเรยี นรู้วิธกี ารกระบวนการกล่มุ จำนวน 1 หน่วยกิต ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานท่ี 1.1 มคี วามรู้ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ่ีดีต่อการเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง ศึกษาและฝึกทักษะเก่ียวกับเร่ืองต่อไปน้ี ความหมายและความสำคญั ของการเรยี นรู้วธิ ีการกระบวนการกลมุ่ ข้ันตอนและการเรยี นรู้ โดยวิธกี ระบวนการกลุ่ม ข้ันวางแผน ขั้นลงมอื ปฏบิ ัติ ข้อค้นพบ ข้ันวิเคราะห์ ขน้ั ประเมินผล (ทฤษฎแี ละ ปฏบิ ตั )ิ ข้อดี ขอ้ เสียของการเรียนรวู้ ธิ ีกระบวนการกล่มุ และประโยชน์ของการเรยี นรู้กระบวนการกลมุ่ การจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์ในการ เรียนรู้อยา่ งสร้างสรรค์ เพื่อฝกึ ให้ผู้เรียนไดฝ้ ึกทักษะการเรยี นรู้วิธีการกระบวนการกลมุ่ และมีเจตคตทิ ี่ดี ต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองที่ทำให้การเรียนรู้ดว้ ยตนเองประสบความสำเร็จ และนำความรไู้ ปใชใ้ นวิถีชีวิต ให้เหมาะสมกบั ตนเอง และชมุ ชน สังคม การวัดและประเมินผล ใช้การประเมินจากสภาพจริงของผู้เรียนท่ีแสดงออกเกี่ยวกับการเรียนรู้วิธีการ กระบวน การกลมุ่

81 รายละเอียดคำอธิบายรายวชิ า ทร02013 การเรยี นร้วู ธิ ีการกระบวนการกลุ่ม จำนวน 1 หน่วยกิต ระดบั ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานท่ี 1.1 มีความรคู้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ่ีดีต่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง ที่ หวั เรื่อง ตัวชี้วดั เนอ้ื หา จำนวน (ช่วั โมง) 1 การเรียนรวู้ ธิ กี าร 1. รเู้ ข้าใจความหมาย 1. ความหมาย/ความสำคญั 40 กระบวนการกลุ่ม ความสำคญั ของวธิ ีการ ของวิธีการเรียนรู้ เรียนรกู้ ระบวนการกลมุ่ กระบวนการกล่มุ 2. บอกและสามารถใช้ 2. ขั้นตอนและการเรียนรู้ ขน้ั ตอนการเรยี นรู้วิธี โดยวธิ กี ระบวนการกลมุ่ กระบวนการกลมุ่ 2.1 ขนั้ วางแผน 3. บอกหรอื อธบิ ายขอ้ ดี 2.2 ข้นั ลงมือปฏิบตั ิ และข้อเสยี ของการเรยี นรู้ 2.3 ข้อคน้ พบ วิธกี ระบวนการกลมุ่ 2.4 ข้นั วเิ คราะห์ 4. รู้เขา้ ใจ ประโยชน์และ 2.5 ขั้นประเมินผล สามารถใชก้ ารเรยี นรู้ (ทฤษฎแี ละ วธิ ีการกระบวนการกลมุ่ ปฏบิ ัต)ิ ในการเรยี นรู้ 3. ขอ้ ดี และขอ้ เสยี ของการ เรยี นรู้วิธกี ระบวนการกลมุ่ 4. ประโยชน์ของการเรียนรู้ กระบวนการกลมุ่

82 คำอธิบายรายวิชา ทร02014 ทักษะการจำ จำนวน 1 หน่วยกติ ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 1.1 มีความรู้ความเขา้ ใจ ทกั ษะ และเจตคติทด่ี ตี อ่ การเรียนรดู้ ้วยตนเอง ศกึ ษาและฝกึ ทกั ษะเก่ียวกบั เรือ่ งตอ่ ไปน้ี ความหมายและความสำคัญของการจำ เทคนคิ ช่วยจำ ขั้นที่ 1 จัดเรยี งขอ้ มลู ใหเ้ ปน็ ลำดับ ขัน้ ที่ 2 คิดและไตร่ตรองข้อมลู อย่างละเอยี ด ขน้ั ที่ 3 นำขอ้ มูลนัน้ ไปสมั พันธ์กบั สงิ่ ที่แปลกออกไป ขั้นท่ี 4 ทบทวนบอ่ ย ๆ ตัวอย่างเทคนิคช่วยจำ 1. จัดคำเปน็ กลมุ่ (Word grouping) 2. สงั เกตความสมั พนั ธ์ (Making connection) 3. อักษรยอ่ (Acronym) 4. กลเม็ดจำศพั ท์ (Gimmicks) 5. สร้างภาพของคำศัพท์ (Visualizing) แบบฝกึ เทคนคิ การจำ การจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ ควรจัดในลกั ษณะของการบรู ณาการทักษะตา่ ง ๆ ไปพรอ้ มกบั การสรา้ งสถานการณใ์ นการ เรยี นรู้อยา่ งสรา้ งสรรค์ เพอื่ ฝึกให้ผเู้ รยี นไดฝ้ ึกทกั ษะการจำ และมีเจตคติท่ดี ตี ่อการเรียนร้ดู ้วยตนเองท่ี ทำให้การเรยี นรู้ด้วยตนเองประสบความสำเรจ็ และนำความรูไ้ ปใช้ในวิถชี วี ิตให้เหมาะสมกับตนเอง และชุมชน สังคม การวดั และประเมินผล ใชก้ ารประเมนิ จากสภาพจรงิ ของผเู้ รียนท่แี สดงออกเกย่ี วกบั ทกั ษะการจำ

83 รายละเอียดคำอธบิ ายรายวิชา ทร02014 ทกั ษะการจำ จำนวน 1 หนว่ ยกติ ระดบั ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานท่ี 1.1 มีความร้คู วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ดี่ ตี ่อการเรียนรดู้ ้วยตนเอง ท่ี หัวเร่ือง ตวั ช้วี ัด เน้ือหา จำนวน 1 ทักษะการจำ (ชวั่ โมง) 1. รเู้ ขา้ ใจความหมายและ 1. ความหมาย ความสำคญั 40 ความสำคัญของทกั ษะ 2. เทคนิคช่วยจำ การจำ ขัน้ ที่ 1 จดั เรยี งข้อมูลให้ 2. รเู้ ข้าใจและสามารถ เปน็ ลำดับ บอกเทคนิคขัน้ ตอน ขัน้ ท่ี 2 คิดและไตร่ตรอง การจำ ข้อมูลอย่างละเอยี ด 3. สามารถสรา้ งเทคนคิ ขนั้ ท่ี 3 นำข้อมูลนน้ั ไป การจำของตนเอง สัมพนั ธ์กบั สงิ่ ทีแ่ ปลก 4. สามารถใช้เทคนิค การจำเพอื่ พฒั นาการ ออกไป เรียนรูข้ องตนเอง ขั้นที่ 4 ทบทวนบอ่ ย ๆ 3. ตวั อยา่ งเทคนิคชว่ ยจำ 3.1 จัดคำเปน็ กลมุ่ (Word grouping) 3.2 สังเกตความสมั พนั ธ์ (Making connection) 3.3 อกั ษรย่อ (Acronym) 3.4 กลเมด็ จำศพั ท์ (Gimmicks) 3.5 สรา้ งภาพของ คำศัพท์ (Visualizing) 4. แบบฝกึ เทคนิคการจำ

84 คำอธิบายรายวิชา ทร02015 แฟม้ สะสมงาน จำนวน 1 หนว่ ยกิต ระดบั ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 1.1 มีความรคู้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ี่ดตี อ่ การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง ศกึ ษาและฝึกทักษะเก่ยี วกับเรื่องตอ่ ไปน้ี ความหมาย ความสำคญั และประโยชนข์ องแฟม้ สะสมงาน องคป์ ระกอบของแฟม้ สะสมงาน สว่ นท่ี 1 คำนำ/สารบัญ/ประวตั สิ ว่ นตวั /ผลงาน / ช้นิ งานทคี่ ดั เลอื ก ส่วนที่ 2 แบบรายงานแสดงรายละเอียดของงาน/หลักฐานข้อมูลประกอบการเรียนรู้ บนั ทกึ ประจำวัน เวลาทีใ่ ช้ ส่วนท่ี 3 เกณฑ์การประเมินแฟ้มสะสมงาน รวมท้ังภาคผนวก (ถ้าม)ี การแสดงความ คิดเห็น หรือความรู้สึกต่องาน การตรวจสอบ/ความสามารถของตน การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เกยี่ วกบั ผลงาน การนำเสนอผลงาน การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ควรจัดในลกั ษณะของการบูรณาการทกั ษะตา่ ง ๆ ไปพรอ้ มกบั การสร้างสถานการณใ์ นการ เรียนรอู้ ยา่ งสรา้ งสรรค์ เพอ่ื ฝกึ ให้ผเู้ รยี นไดฝ้ กึ การทำแฟ้มสะสมงาน และมเี จตคติที่ดีต่อการเรยี นร้ดู ว้ ย ตนเองทที่ ำให้การเรยี นรู้ด้วยตนเองประสบความสำเร็จ และนำความรไู้ ปใช้ในวถิ ชี ีวติ ให้เหมาะสมกบั ตนเอง และชมุ ชน สงั คม การวดั และประเมนิ ผล ใชก้ ารประเมินจากสภาพจริงของผเู้ รียนท่ีแสดงออกเกย่ี วกับการทำแฟ้มสะสมงาน

85 รายละเอยี ดคำอธบิ ายรายวิชา ทร02015 แฟม้ สะสมงาน จำนวน 1 หนว่ ยกติ ระดับประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานท่ี 1.1 มคี วามรู้ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ่ีดีตอ่ การเรยี นรู้ด้วยตนเอง ที่ หวั เร่อื ง ตัวช้วี ดั เนอ้ื หา จำนวน (ช่วั โมง) 1 แฟ้มสะสมงาน 1. รเู้ ข้าใจความหมาย 1. ความหมาย ความสำคัญ 40 และความสำคญั ของ และประโยชน์ แฟม้ สะสมงาน 2. องค์ประกอบของแฟ้ม 2. บอกหรอื อธบิ าย สะสมงาน องค์ประกอบของแฟ้ม ส่วนที่ 1 คำนำ/สารบญั สะสมงาน ประวตั สิ ว่ นตัว/ผลงาน / 3. สามารถจัดเกบ็ ช้นิ งานท่ีคัดเลอื ก รวบรวม คัดเลือก ส่วนท่ี 2 แบบรายงานแสดง ผลงานไดอ้ ย่างเปน็ รายละเอยี ดของงาน/หลกั ฐาน ระบบ ข้อมลู ประกอบการเรียนรู้ 4. สามารถนำเสนอ บนั ทกึ ประจำวนั เวลาทีใ่ ช้ แฟ้มสะสมงานของ สว่ นที่ 3 เกณฑก์ ารประเมนิ ตนเองได้ แฟม้ สะสมงาน รวมทั้ง ภาคผนวก (ถ้าม)ี 1) การแสดงความคดิ เหน็ หรือความรู้สึกตอ่ งาน 2) การตรวจสอบ/ ความสามารถของตน 3) การแลกเปลี่ยน ประสบการณเ์ กี่ยวกบั ผลงาน 4) การนำเสนอผลงาน

86 คำอธบิ ายรายวิชา ทร02016 การสร้างวนิ ยั ตนเอง จำนวน 1 หน่วยกติ ระดับประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานท่ี 1.1 มีความรคู้ วามเขา้ ใจ ทกั ษะ และเจตคติที่ดีตอ่ การเรยี นรูด้ ้วยตนเอง ศกึ ษาและฝกึ ทักษะเกย่ี วกบั เร่อื งตอ่ ไปนี้ ความหมายและความสำคญั ของการสร้างวนิ ยั ในการเรยี นรตู้ นเอง การสร้างวินยั ตนเองข้อเสีย ของการไม่สร้างวินัยตนเอง ประโยชนข์ องการสร้างวินัยตนเอง ตัวอยา่ งของผู้ทป่ี ระสบความสำเร็จจาก การเปน็ ผู้มีวนิ ัยในการเรยี นร้ดู ้วยตนเอง และวธิ ีสรา้ งความเชอ่ื ม่ันในตนเองเพื่อสร้างวนิ ัยตนเอง การจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกบั การสรา้ งสถานการณ์ในการ เรยี นร้อู ย่างสร้างสรรค์ เพื่อฝกึ ให้ผู้เรยี นได้ฝกึ การสรา้ งวนิ ัยตนเอง และมเี จตคติที่ดีตอ่ การเรียนร้ดู ้วย ตนเองท่ีทำใหก้ ารเรียนรู้ดว้ ยตนเองประสบความสำเร็จ และนำความรู้ไปใช้ในวิถชี ีวติ ให้เหมาะสมกับ ตนเอง และชมุ ชน สงั คม การวัดและประเมนิ ผล ใชก้ ารประเมนิ จากสภาพจรงิ ของผเู้ รียนที่แสดงออกเกี่ยวกับการสร้างวินัยตนเอง

87 รายละเอยี ดคำอธิบายรายวิชา ทร02016 การสร้างวินยั ตนเอง จำนวน 1 หนว่ ยกิต ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 1.1 มีความรู้ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ีด่ ีตอ่ การเรียนรดู้ ้วยตนเอง ที่ หัวเร่อื ง ตวั ชว้ี ดั เนื้อหา จำนวน (ช่วั โมง) 1 การสรา้ งวินัย ตนเอง 1. ตระหนักและเหน็ ความ 1. ความหมาย/ 40 สำคัญของการสร้างวนิ ัยใน ความสำคญั ของการสรา้ ง การเรยี นรู้ วนิ ัยในการเรยี นรู้ตนเอง 2. รูเ้ ข้าใจและสามารถ 2. การสร้างวนิ ยั ตนเอง บอกเกยี่ วกับการสรา้ งวินัย 3. ขอ้ เสยี ของการ ในการเรยี นรู้ ไมส่ รา้ งวินยั ตนเอง 3. อธบิ ายหรือแสดงความ 4. ประโยชน์ของการสร้าง คิดเห็นเกย่ี วกับประโยชน์ วินยั ตนเอง การสรา้ งวนิ ัยในการเรียนรู้ 5. ตัวอย่างของผ้ทู ปี่ ระสบ 4. เปน็ ผมู้ วี นิ ัยในการ ความสำเรจ็ จากการเป็นผ้มู ี เรยี นรดู้ ้วยตนเอง วนิ ยั ในการเรยี นรดู้ ว้ ย ตนเอง 6. วธิ ีสร้างความเชื่อมั่นใน ตนเองเพือ่ สร้างวินัยตนเอง

88 คำอธิบายรายวิชา ทร02017 Internet กับการเรยี นรไู้ ร้พรมแดน จำนวน 1 หน่วยกิต ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 1.2 มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ด่ี ตี อ่ การใชแ้ หลง่ เรียนรู้ ศึกษาและฝึกทกั ษะเก่ียวกบั เร่ืองตอ่ ไปน้ี ความหมายและความสำคัญของ Internet มารยาทการใช้ Internet ความร้เู บอ้ื งตน้ ดา้ น การใช้คอมพวิ เตอร์ และวธิ ีการสืบคน้ ข้อมลู บน Internet ลักษณะของ Website ของบริษทั องค์กร หนว่ ยงานตา่ ง ๆ เชน่ .com , .or.th, .go.th ฯลฯ วธิ ีการค้นหาขอ้ มลู จาก Website ของ หนว่ ยงาน ต่างๆ ได้แก่ของหน่วยงานสถานศึกษา ของสำนักงาน กศน. ท้ังส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และ เว็บไซด์ทไี่ ด้รับความนิยม เช่น google.com, sanook.com ฯลฯ และ Website ความรสู้ าขาตา่ ง ๆ การอ้างองิ ข้อมลู ทีค่ น้ ควา้ จาก Website การสง่ e-mail, SMS, MMS ฯลฯ การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ควรจดั ในลักษณะของการบูรณาการทกั ษะต่าง ๆ ไปพร้อมกบั การสรา้ งสถานการณใ์ นการ เรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อฝึกให้ผู้เรยี นได้ฝึกการใช้ Internet และมีเจตคติที่ดีต่อการเรยี นรู้ด้วย ตนเองทที่ ำใหก้ ารเรยี นรู้ดว้ ยตนเองประสบความสำเรจ็ และนำความรู้ไปใช้ในวถิ ีชีวิตให้เหมาะสมกับ ตนเอง และชุมชน สงั คม การวัดและประเมนิ ผล ใช้การประเมนิ จากสภาพจรงิ ของผูเ้ รยี นท่ีแสดงออกเกยี่ วกับการใช้ Internet

89 รายละเอียดคำอธิบายรายวิชา ทร02017 Internet กบั การเรยี นรูไ้ รพ้ รมแดน จำนวน 1 หนว่ ยกิต ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานท่ี 1.2 มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจ ทกั ษะ และเจตคตทิ ่ีดีตอ่ การใชแ้ หล่งเรียนรู้ ท่ี หวั เรื่อง ตัวชี้วัด เนื้อหา จำนวน (ช่วั โมง) 1 Internet กบั การ 1. สามารถบอก 1. ความหมาย/ความสำคัญ 40 เรียนรู้ไร้พรมแดน ความหมาย ของ Internet และมารยาทการ ความสำคญั ใช้ Internet ประโยชน์ของ 2. ความรู้เบื้องตน้ ด้านการใช้ Internet คอมพวิ เตอร์ และวิธีการ 2. มีมารยาทในการ สืบค้นข้อมลู บน Internet ใช้ Internet 3. ลกั ษณะของ Website ของ 3. สามารถสบื คน้ บริษทั องคก์ ร หนว่ ยงานตา่ ง ๆ ข้อมูลจาก Internet เช่น .com , .or.th, .go.th และ ฯลฯ 4.วิธีการค้นหาขอ้ มูลจาก Website ของ หน่วยงานตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ ของหน่วยงานสถานศึกษา ของสำนกั งาน กศน. ทง้ั ส่วนกลางและส่วนภมู ภิ าค และ เว็บไซด์ทีไ่ ดร้ บั ความนิยม เชน่ google.com, sanook.com ฯลฯ และ Website ความรู้ สาขาตา่ ง ๆ 5. การอา้ งองิ ข้อมลู ท่คี น้ คว้าจาก Website 6. การส่ง e-mail, SMS, MMS ฯลฯ

90 คำอธิบายรายวชิ า ทร02018 มาเรยี นรู้กบั ภูมิปัญญากันเถอะ จำนวน 1 หนว่ ยกิต) ระดบั ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 1.2 มีความรู้ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ่ีดีต่อการใชแ้ หล่งเรยี นรู้ ศึกษาและฝึกทกั ษะเกย่ี วกบั เรอ่ื งตอ่ ไปนี้ ความหมายและความสำคญั ของภูมปิ ัญญา ประวัตศิ าสตร์ พธิ กี รรม ความเชือ่ ฐานชีวติ และภูมิปญั ญา องค์ความรู้ การถ่ายทอดความรู้ การใช้ประโยชน์ทางตรงและทางออ้ ม การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ควรจดั ในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์ในการ เรยี นรู้อย่างสร้างสรรค์ เพ่อื ฝกึ ให้ผู้เรียนได้ฝกึ การเรยี นรู้กบั ภมู ปิ ัญญา และมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ ด้วยตนเองทท่ี ำใหก้ ารเรยี นรดู้ ้วยตนเองประสบความสำเร็จ และนำความร้ไู ปใช้ในวถิ ีชีวติ ให้เหมาะสม กับตนเอง และชมุ ชน สงั คม การวัดและประเมนิ ผล ใชก้ ารประเมนิ จากสภาพจรงิ ของผเู้ รียนทแ่ี สดงออกเกย่ี วกับการเรยี นรกู้ ับภูมปิ ญั ญา

91 รายละเอียดคำอธิบายรายวชิ า ทร02018 มาเรียนรู้กบั ภมู ปิ ัญญากนั เถอะ จำนวน 1 หน่วยกติ ระดับประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานท่ี 1.2 มีความรคู้ วามเขา้ ใจ ทกั ษะ และเจตคตทิ ี่ดตี อ่ การใช้แหล่งเรยี นรู้ ที่ หัวเร่ือง ตัวชวี้ ัด เนื้อหา จำนวน (ช่วั โมง) 1 มาเรียนรกู้ บั 1. มีความรู้ความเขา้ ใจ 1. ความหมายและความ ภูมิปญั ญา เห็นความสำคญั ของ สำคญั ของภมู ปิ ัญญา 40 กนั เถอะ ภมู ิปญั ญาตามความจรงิ 1.1 ประวัตศิ าสตร์ ความดี ความงามท่ี เหมาะสมกับท้องถ่ิน 1.2 พธิ ีกรรม 2. มีการนำองค์ความรู้ 1.3 ความเช่ือ 2. ฐานชวี ติ และภมู ปิ ญั ญา จากการถ่ายทอด องค์ความรู้ และ 2.1 องค์ความรู้ นำมาประยกุ ต์ใช้กับ 2.2 การถา่ ยทอดความรู้ 2.3 การใช้ประโยชน์ ตนเองและสงั คมไดอ้ ยา่ ง สมดลุ 2.3.1 ทางตรง 2.3.2 ทางออ้ ม

92 คำอธิบายรายวิชา ทร02019 เทคนิคการใช้ห้องสมดุ ประชาชน จำนวน 1 หน่วยกติ ระดับประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 1.2 มีความร้คู วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ี่ดตี อ่ การใช้แหลง่ เรียนรู้ ศึกษาและฝกึ ทกั ษะเกี่ยวกบั เรื่องตอ่ ไปน้ี ความหมาย ความสำคัญ และประโยชน์ของห้องสมุดประชาชน และห้องสมุดประเภท อ่ืน ๆ บริการของห้องสมุดประชาชนและระเบยี บ มารยาทการใชห้ อ้ งสมดุ ประชาชน สงิ อำนวยความ สะดวกในการค้นคว้าเพ่ือการเข้าถึงความรู้จากสื่อประเภทต่าง ๆ ทั้งการคน้ คว้าโดยใชค้ อมพิวเตอร์ บัตรราชการ (ถ้ามี) บัตรดัชนี (ถ้ามี) ท้ังโดยหัวเรื่อง โดยชื่อเร่ือง และโดยช่ือผู้แต่ง การจัดระบบ หมวดหมสู่ ่อื ในห้องสมดุ ประชาชน และหอ้ งสมดุ อนื่ ๆ และการเรียงสอ่ื การใชเ้ ทคโนโลยใี นการคน้ หา ความรู้จาก Internet, e-library, e-learning และฐานข้อมลู ต่าง ๆ การบันทกึ ความรู้ การนำเสนอ ข้อมูลในรูปแบบรายงานและรูปแบบอ่ืน ๆ การจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์ในการ เรยี นรู้อย่างสร้างสรรค์ เพ่ือฝึกให้ผู้เรยี นไดฝ้ ึกเทคนคิ การใช้ห้องสมุดประชาชน และมีเจตคติที่ดตี ่อการ เรียนรู้ด้วยตนเองท่ีทำให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบความสำเร็จ และนำความรู้ไปใช้ในวิถีชีวิตให้ เหมาะสมกับตนเอง และชมุ ชน สงั คม การวดั และประเมนิ ผล ใช้การประเมนิ จากสภาพจรงิ ของผู้เรยี นท่แี สดงออกเกย่ี วกบั เทคนคิ การใช้ห้องสมดุ ประชาชน

93 รายละเอียดคำอธบิ ายรายวิชา ทร02019 เทคนิคการใช้หอ้ งสมดุ ประชาชน จำนวน 1 หนว่ ยกิต ระดบั ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 1.2 มีความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ีด่ ตี อ่ การใช้แหล่งเรียนรู้ ท่ี หัวเรอ่ื ง ตัวชีว้ ัด เนอื้ หา จำนวน (ชัว่ โมง) 1 เทคนคิ การใช้ 1. มคี วามรู้ ความเข้าใจ 1. ความหมาย ความสำคัญ และ 40 หอ้ งสมุด ในความหมาย ประโยชน์ของหอ้ งสมุดประชาชน ประชาชน ความสำคญั ประโยชน์ และห้องสมุดประเภทอนื่ ๆ ของห้องสมุดประชาชน 2. บริการของหอ้ งสมุดประชาชนและ และหอ้ งสมดุ ประเภท ระเบยี บ และมารยาทการใชห้ อ้ งสมดุ ต่าง ๆ ประชาชน 2. มมี ารยาทในการใช้ 3. สง่ิ อำนวยความสะดวกในการ ห้องสมดุ ประชาชน และ ค้นควา้ เพอื่ การเข้าถึงความรู้จากสอื่ ห้องสมดุ ประเภทตา่ ง ๆ ประเภทตา่ ง ๆ ทง้ั การค้นควา้ โดยใช้ ได้อยา่ งเหมาะสม คอมพิวเตอร์ บตั รราชการ (ถ้าม)ี บัตร 3. มีความรู้ ความเข้าใจ ดัชนี (ถ้าม)ี ท้ังโดยหัวเรอื่ ง โดยชอื่ ในกระบวนการบรหิ าร เรอื่ ง และโดยชื่อผูแ้ ตง่ ของหอ้ งสมุดประชาชน 4. การจัดระบบหมวดหมสู่ อ่ื ใน 4. มที กั ษะการค้นคว้า ห้องสมุดประชาชน และหอ้ งสมุด จากสอ่ื อำนวยความ อื่น ๆ และการเรียงสอ่ื สะดวก ท้งั สื่อเทคโนโลยี 5. การใชเ้ ทคโนโลยใี นการค้นหา และส่ืออ่ืน ๆ เพือ่ การ ความรจู้ าก Internet, e-library, เข้าถึงข้อมูลและปฏบิ ัติ e-learning และฐานขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ได้จริง 6. การบนั ทกึ ความรู้ 5. การยมื -คนื สอ่ื 7. การนำเสนอข้อมลู ในรูปแบบ 6. สามารถนำเสนอ รายงานและรปู แบบอ่ืน ๆ ขอ้ มูลจากการค้นคว้าได้

94 คำอธบิ ายรายวชิ า ทร02020 เรียนรู้กบั ปราชญ/์ ผู้ร้/ู ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น จำนวน 1 หน่วยกิต ระดบั ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานที่ 1.2 มีความรคู้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ี่ดตี อ่ การใช้แหลง่ เรียนรู้ ศกึ ษาและฝึกทกั ษะเก่ยี วกับเรือ่ งตอ่ ไปนี้ ความหมายและความสำคัญของปราชญ์/ผู้รู้/ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประโยชน์ท่ีผู้เรียนจะได้รับ จากการศึกษา เรียนรู้จากปราชญ์/ ผู้รู้/ภูมิปัญญาท้องถ่ิน วิธีการศึกษา/เรียนรู้จากปราชญ์/ผู้รู้/ ภมู ิปญั ญาท้องถ่ิน (เช่น การสังเกต การพูดคุย สมั ภาษณ์ การฝึกปฏิบตั ิ ฯลฯ) สำรวจรายชอื่ ปราชญ์/ ผู้รู้ ภูมิปัญญาท้องถ่ิน เป็นต้น การกำหนดเน้ือหาสาระที่ตนสนใจและดำเนินการศึกษา เรียนรู้จาก ปราชญ์/ผูร้ ู/้ ภูมปิ ัญญาท้องถิน่ การจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ ควรจดั ในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์ในการ เรยี นรู้อย่างสรา้ งสรรค์ เพ่ือฝึกให้ผู้เรียนได้ฝึกปราชญ์/ผู้ร้/ู ภูมิปญั ญาท้องถิ่น และมีเจตคตทิ ี่ดตี ่อการ เรียนรู้ด้วยตนเองท่ีทำให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบความสำเร็จ และนำความรู้ไปใช้ในวิถีชีวิตให้ เหมาะสมกับตนเอง และชมุ ชน สงั คม การวดั และประเมนิ ผล ใชก้ ารประเมนิ จากสภาพจรงิ ของผูเ้ รยี นท่แี สดงออกเกยี่ วกับการเรียนรู้กบั ปราชญ์/ผรู้ /ู้ ภมู ิปัญญา ทอ้ งถน่ิ ประชาชน

95 รายละเอียดคำอธิบายรายวิชา ทร02020 เรียนร้กู บั ปราชญ/์ ผู้ร/ู้ ภมู ิปัญญาทอ้ งถิน่ จำนวน 1 หน่วยกติ ระดบั ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานท่ี 1.2 มีความร้คู วามเข้าใจ ทกั ษะ และเจตคตทิ ีด่ ตี อ่ การใช้แหลง่ เรยี นรู้ ที่ หัวเรอื่ ง ตัวชวี้ ัด เนอ้ื หา จำนวน (ชัว่ โมง) 1 เรียนร้กู ับปราชญ/์ 1. มีความรคู้ วามเขา้ ใจ 1. ความหมายและ 40 ผูร้ ู้/ภมู ปิ ญั ญา ความหมาย ความสำคัญ ความสำคัญของปราชญ/์ ท้องถนิ่ ของปราชญ์/ผรู้ /ู้ ผรู้ ู/้ ภมู ปิ ัญญาท้องถิ่น ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิน่ 2. ประโยชน์ทผ่ี ้เู รียนจะ 2. มคี วามรู้และตระหนกั ได้รบั จากการศกึ ษา เรียนรู้ ในความสำคัญของการ จากปราชญ์/ ผรู้ /ู้ ภมู ปิ ญั ญา เรียนรู้จากปราชญ/์ ผูร้ ้/ู ท้องถนิ่ ภูมปิ ัญญาท้องถ่นิ 3. วิธีการศึกษา/เรียนรจู้ าก 3. ดำเนนิ การศกึ ษา ปราชญ/์ ผูร้ /ู้ ภมู ปิ ญั ญา สำรวจและรวบรวม ท้องถ่ิน (เช่น การสังเกต รายชื่อของปราชญ/์ ผรู้ /ู้ การพูดคุย สมั ภาษณ์ การ ภูมปิ ัญญาท้องถ่ิน โดย ฝึกปฏิบตั ิ ฯลฯ) ระบอุ งคค์ วามรูแ้ ละ 4. สำรวจรายชอื่ ปราชญ/์ ผู้รู้ เน้อื หาสาระทจ่ี ะได้รบั ใน ภมู ิปัญญาท้องถิน่ เป็นต้น แตล่ ะแหลง่ 5. การกำหนดเนอ้ื หาสาระ ท่ีตนสนใจและดำเนนิ การ ศึกษา เรียนรจู้ ากปราชญ์/ ผูร้ /ู้ ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ 5 กลุ่มเนอื้ หาจาก 5 แหลง่

96 คำอธิบายรายวิชา ทร02021 แหล่งเรยี นรูใ้ นชมุ ชน จำนวน 1 หน่วยกติ ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานท่ี 1.2 มีความรู้ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติท่ีดีตอ่ การใช้แหล่งเรียนรู้ ศกึ ษาและฝกึ ทักษะเก่ียวกับเรอ่ื งตอ่ ไปนี้ ความหมาย ความสำคัญ และประโยชนข์ องแหลง่ เรยี นรู้ ประเภทของแหล่งเรยี นรใู้ นชมุ ชน และแหลง่ เรียนรใู้ กล้ตัว การใหบ้ รกิ าร (1) กลมุ่ บริการขอ้ มูล (2) กล่มุ ศลิ ปวฒั นธรรม ประวตั ศิ าสตร์ (3) กล่มุ ขอ้ มลู ท้องถนิ่ (4) กลุม่ สอ่ื และ (5) กล่มุ สันทนาการ การศกึ ษาสำรวจแหลง่ เรยี นรูใ้ นชุมชน/ใกล้ตัว การกำหนดเนอ้ื หาสาระทต่ี นสนใจและปฏิบัตกิ ารศึกษาคน้ คว้า รวบรวมข้อมูล/ความรูจ้ าก แหล่งเรยี นรู้ 5 กล่มุ เนื้อหาจาก 5 แหลง่ เรยี นรู้ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ควรจัดในลักษณะของการบรู ณาการทกั ษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณใ์ นการ เรยี นร้อู ย่างสรา้ งสรรค์ เพื่อฝกึ ให้ผู้เรยี นไดฝ้ ึกเรยี นรจู้ ากแหลง่ เรียนรใู้ นชมุ ชนใกลต้ วั และมีเจตคตทิ ีด่ ี ตอ่ การเรียนรู้ด้วยตนเองท่ีทำให้การเรียนรูด้ ้วยตนเองประสบความสำเร็จ และนำความรู้ไปใช้ในวิถี ชีวิตให้เหมาะสมกบั ตนเอง และชมุ ชน สังคม การวดั และประเมินผล ใช้การประเมนิ จากสภาพจริงของผูเ้ รยี นทแ่ี สดงออกเกย่ี วกับการเรยี นรจู้ ากแหลง่ เรยี นรใู้ น ชมุ ชนใกลต้ ัว

97 รายละเอียดคำอธิบายรายวชิ า ทร02021 แหล่งเรียนรู้ในชุมชน จำนวน 1 หน่วยกิต ระดบั ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานท่ี 1.2 มีความรคู้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ด่ี ตี ่อการใช้แหลง่ เรยี นรู้ ท่ี หัวเรื่อง ตวั ชว้ี ัด เนือ้ หา จำนวน (ชัว่ โมง) 1 แหล่งเรียนรู้ใน 1. มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจ 1. ความหมาย ความสำคัญ ชุมชน/ใกล้ตัว 40 เก่ียวกบั แหลง่ เรยี นรู้ใน และประโยชนข์ องแหลง่ ชุมชน/ใกล้ตวั เรียนรู้ ความสำคัญและ ประโยชนท์ จี่ ะได้รบั 2. ประเภทของแหลง่ เรียนรู้ 2. สำรวจแหล่งเรียนร้ใู น ในชมุ ชนและแหลง่ เรียนรู้ ชมุ ชน/ใกล้ตัวให้ไดม้ าก ใกล้ตัว การใหบ้ ริการ ท่สี ดุ เขยี นคำอธบิ าย (1) กล่มุ บริการข้อมลู บทบาทหนา้ ทแ่ี ละการ (2) กลมุ่ ศลิ ปวัฒนธรรม ให้บรกิ าร ตลอดจน ประวัตศิ าสตร์ กฎ กตกิ าเง่อื นไข (3) กลุ่มขอ้ มูลท้องถ่ิน ของแตล่ ะแหลง่ เรยี นรู้ (4) กลมุ่ ส่อื 3. ดำเนนิ การศึกษา/ (5) กลุ่มสันทนาการ คน้ คว้า/รวบรวมขอ้ มลู 3. การศึกษาสำรวจแหลง่ ความรู้ตามทต่ี นเองสนใจ เรียนรใู้ นชมุ ชน/ใกลต้ ัว อย่างน้อย 5 กลมุ่ เนอื้ หา 4. การกำหนดเน้ือหาสาระ โดยใชแ้ หลง่ เรยี นร้ตู า่ ง ๆ ท่ีตนสนใจและปฏบิ ัติ เหล่าน้นั อยา่ งนอ้ ย 5 การศึกษาค้นควา้ รวบรวม แหลง่ ขอ้ มูล/ความรจู้ ากแหล่ง เรียนรู้ เรยี นรู้ 5 กลุ่มเนอ้ื หาจาก 5 แหล่งเรียนรู้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook