๘๙ ความรัก การเจริญภาวนาด้วยการสลัดความกระวนกระวาย การเจริญภาวนาต้องไม่แบ่งแยกและไม่ ใช้ความรนุ แรง การเจรญิ ภาวนาต้องทนั สถานการณ์ของโลก ๔) การฝึกปฏิบัติเจริญสติเพื่อหนทางแห่งสันติภาพ ได้แก่ ฝึกปฏิบัติการหายใจอย่างมีสติ ในปัจจุบันขณะ การเจริญสติเพ่ือสันติภาพต้องกลับมาสู่ตนเอง การเจริญสติต้องทําในชีวิตประจําวัน การเจรญิ สติคืองานเพ่ือสันติภาพในปัจจุบันและอนาคต การเจริญสติต้องมองถึงความสมานฉันท์ของ เราทกุ คน ๕) คําสอนทางพระพุทธศาสนาสร้างสันติภาพในโลกปัจจุบัน ได้แก่ ศึกษาคําสอนทาง พระพุทธศาสนาโลกจะมีสันตภิ าพ ฝกึ ปฏบิ ัติตามวิถีของพระพุทธเจ้าเราจะพบอิสระ อริสัจ ๔ คือสิ่งท่ี ต้องเข้าใจและเปล่ียนแปลงความทุกข์ สร้างสันติภาพในโลกปัจจุบันด้วยการฝึกปฏิบัติอานาปานสติ ๖) แนวคดิ สนั ตภิ าพในปจั จุบันกบั อนาคตของสันติภาพโลก ได้แก่ การเปล่ียนจิตสํานึกต่อ ความโลภและความรุนแรง การรักษาสุขภาพจิตและความรับผิดชอบต่อเพ่ือนมนุษย์ การตระหนักรู้ ดว้ ยการปกปอู งแผน่ ดนิ เพื่อสันสนั ติภาพ การปลดปล่อยความทกุ ขเ์ พื่อสนั ติภาพของคนรุ่นต่อไป จากการสรุป แนวคิดเรื่องสันติภาพในโลกปัจจุบัน กล่าวได้ว่า ท่านติช นัท ฮันห์ ได้พยายามที่จะเผยแพร่คําสอนและเสนอเป็นทางออกในการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นต้ังแต่ ระดับพ้ืนฐาน คือ ครอบครวั ชุมชน สงั คม และโลก
บทที่ ๕ สรปุ ผลการวจิ ยั และขอ้ เสนอแนะ การวิจัยเรื่อง การศึกษาแนวคิดเรื่องสันติภาพของติช นัท ฮันห์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อ ศกึ ษาแนวคดิ เรอ่ื งสนั ตภิ าพ ๒) เพื่อศึกษาแนวคิดเรื่องสันติภาพของติช นัท ฮันห์ และ ๓) เพ่ือวิเคราะห์ แนวคิดเรื่องสันติภาพของติช นัท ฮันห์ ในโลกปัจจุบัน เป็นการวิจัยเชิงเอกสาร (Documentary Research) โดยการเก็บข้อมูลจากเอกสารปฐมภูมิ และทุติยภูมิ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการพรรณนาตาม หลกั อปุ นยั ๕.๑ สรปุ ผลการวจิ ยั ๕.๑.๑ แนวคดิ เร่ืองสันติภาพ แนวคิดเร่ืองสันติภาพของนักปราชญ์ นักวิชาการและผลงานวิจัยสามารถสรุปได้ ดังน้ี ๑) สันติภาพ คือภาวะท่ีปราศจากสงคราม เป็นแนวคิดที่พยายามอธิบายถึงความ สันติสขุ ทีป่ ราศจากสงคราม แมว้ า่ จะนักสันติภาพบางกลุ่มจะมองว่า เมื่อปราศจากสงคราม ปัจจุบันก็ ยังหาสันติภาพไม่ได้ก็ตาม แต่ผู้ศึกษามองว่า สันติภาพท่ีปราศจากสงคราม ก็ยังทาให้เห็นว่า เม่ือโลก ไม่มีสงคราม ก็ลดการสูญเสียต่อสรรพส่ิงไปได้มาก ดังน้ันไม่ว่าเหตุผลใดก็ตาม สันติภาพจะต้องไม่มี ภาวะทางสงครามและไม่ควรเลือกนามาใชใ้ นการแก้ไขปัญหา ๒) สันติภาพ คือภาวะท่ีปราศจากความขัดแย้ง แนวคิดส่วนหนึ่งเก่ียวกับสันติภาพ ยังคงอธิบายว่า สังคมมนุษย์ต้องอยู่กับความขัดแย้งเพราะน่ันเป็นความจริง สันติภาพในภาวะที่ ปราศจากความขัดแย้งจะเป็นสันติภาพได้หรือไม่ ผู้ศึกษาจึงมองว่า ความขัดแย้งท่ีเกิดข้ึนกับสังคม มนุษย์สามารถท่ีจะสลายลงได้ นับตั้งแต่ความขัดแย้งขั้นพ้ืนฐาน คือ ระดับครอบครัว สังคม ไปจนถึง ระดบั สูง ก็มวี ิธกี ารทจี่ ะลดความขัดแย้งและสร้างวิถีของสันติภาพได้ เพราะหากไม่มีความขัดแย้งหรือ ขจัดความขดั แย้งได้ สนั ติภาพกเ็ กดิ ขึ้นได้ ๓) สันติภาพ คือภาวะที่ปราศจากความรุนแรง ความรุนแรงทุกชนิดถือว่า เป็นสาเหตุ ของการก่อตัวหรือขยายตัวของสงครามตั้งแต่ในระดับเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ได้ ฉะนั้น ความรุนแรงก็ เป็นคานิยามหนึ่งที่นักคิดหรือนักสันติภาพ พยายามที่จะอธิบายว่า หากต้องการเสริมสร้างสันติภาพ ความรุนแรงกไ็ ม่ควรถูกเลือกเป็นวิธีแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ต่างๆ ๔) สันตภิ าพ เป็นเรือ่ งของความเสมอภาค นกั สันติภาพบางท่านยังมองว่า สันติภาพ ไม่ได้ปราศจากสงคราม ความขัดแย้ง ความรุนแรงเสมอไป แต่สันติภาพยังรวมไปถึงความเป็นธรรม
๙๑ หรอื ความเสมอภาคในสงั คมด้วย เพราะมองวา่ ความเสมอภาคของมนุษย์จะนาไปสู่สังคมที่สันติสุขได้ ๕) สันติภาพ เป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน เรื่องสิทธิมนุษย์ได้ถูกนามาอธิบายไว้ในคา นยิ ามของสันตภิ าพดว้ ย เพราะมองวา่ เรอื่ งสทิ ธิมนษุ ย์เป็นเร่ืองเกี่ยวกับการดาเนินชีวิตและสิทธิต่างๆ ของผู้คนในสังคมอย่างเท่าเทียมกัน ฉะน้ัน ในข้อ ๔ และ ข้อ ๕ น้ี จึงเป็นการมองเร่ืองสันติภาพท่ี หมายเอาระบบโครงสร้างทางสงั คมด้วย ๖) สนตาภาพ เป็นความสงบสันติท่ีมนุษย์ได้มอบความรักความเมตตาต่อเพ่ือน มนุษย์ด้วย ซ่ึงแนวคิดน้ีก็เป็นแนวคิดพื้นฐานในการเสริมสร้างสันติภาพ ไม่ว่าจะในแง่ของการสร้าง ความสามคั คี ความสมานฉันท์ หรือการปรองดอง ท้ังนักสันติภาพทางศาสนาและนักสันติภาพทั่วไปก็ เหน็ ไปในทิศทางเดยี วกันวา่ ความรัก ความเมตตาสามารถท่จี ะพยงุ และรกั ษาซึ่งสันติภาพไว้ได้ ๕.๑.๒ แนวคิดเรื่องสนั ติภาพของติช นทั ฮันห์ ๑) แนวคิดสันติภาพในทัศนะต่อสงครามและความรุนแรง เป็นทัศนะของท่านติช นัท ฮนั ห์ท่พี ยายามจะเสนอและเผยแพรค่ าสอนในเร่ืองสันติภาพ ดงั น้ี (๑) สันติภาพต้องเป็นภาวะที่ปราศจากสงคราม ท่านติช นัท ฮันห์ กล่าวอย่าง ชัดเจนว่า เราไมป่ รารถนาสงครามไม่วา่ ในรปู แบบใด ไม่ว่าฝ่ายใดจะชนะหรือแพ้ เพราะสงคราม เป็นสิ่งท่ี ไมใ่ ชว่ ธิ ีทีต่ ้องเลือกมาปฏบิ ัตติ อ่ กัน และควรหลกี เลี่ยงด้วยทุกวิถีทางที่จะไม่ให้สงครามนั้นเกิดข้ึน เหตุผล ท่ีท่านกล่าวเชน่ นี้ ทา่ นไดย้ กตัวอยา่ งความทกุ ข์ทรมานของชาวเวียดนามที่ตกเป็นเหยื่อของสงคราม (๒) สันติภาพต้องไม่ใช้ความรุนแรง ท่านติช นัท ฮันห์ ได้แสดงแนวคิดอย่าง ชัดเจนเกี่ยวกับการสร้างสันติภาพว่า เมื่อปัญหาและความขัดแย้งเกิดข้ึน ประการแรกสุดท่ีเราต้อง ตระหนักคือ ความรุนแรงต้องไม่นามาใช้ในการแก้ปัญหา ดังที่ท่านกล่าวไว้ในการต้อสู่แบบอหิงสา ว่า “ส่ิงท่ีเป็นไปได้ในการต่อสู้แบบอหิงสาก็คือ เราจะหลีกเลี่ยงความรุนแรงเท่าทีจะทาได้” ดังน้ันเราควร เลือกวิธีการแก้ปัญหาตามแนวทางแห่งสันติวิธี เพราะความรุนแรงนั้น จะนามาซึ่งปัญหาและความ ยุ่งยากมากขน้ึ (๓) สันติภาพคือกระบวนการแห่งสันติวิธี เป็นแนวคิดท่ีท่านติช นัท ฮันห์เสนอ วา่ ขบวนการสันติวธิ สี ามารถท่ีจะนามาใชใ้ นการทางานเพื่อสันติภาพได้ ซึ่งสิ่งที่ต้องตระหนักน้ัน ท่าน เสนอว่า สันติวิธีต้องไม่มองแบบแบ่งแยก เพ่ือท่ีจะลดทอนความโกรธ ความเกลียดชังภายใต้การรับรู้ ดว้ ยสตขิ องเราทุกคน จึงจะดาเนินงานสันติภาพได้ (๔) สันติภาพกับกระบวนการสร้างความสมานฉันท์ ท่านติช นัท ฮันห์ ได้เสนอ วา่ การสรา้ งความสมานฉนั ท์ เปน็ สงิ่ ทตี่ ้องดาเนนิ ไปอย่างต่อเนื่องอย่างที่สุดเท่าชีวิตของเรา และท่าน พยายามท่จี ะเสนอวา่ โลกของเรามีความจาเปน็ อย่างมากขณะน้ี สาหรับบุคคลที่มีความปรารถนาท่ีจะ เห็นสนั ตภิ าพ เขา้ มาทางานเพือ่ ขบวนการสมานฉนั ท์
๙๒ (๕) สันติภาพตอ้ งพัฒนาความเขา้ ใจเพ่ือหยุดสงคราม สงครามเป็นปัญหาที่ท่าน ติช นัท อันห์ได้พยายามแสดงให้กับผู้คนได้รับรู้ว่า ผลกระทบจากสงครามน้ันทาลายทุกสิ่งทุกอย่าง ฉะน้ันเราจะต้องทาทุกวิถีทางที่จะหยุดย้ังอย่างถึงที่สุด ซ่ึงท่านเสนอว่า เราต้องสร้างความเข้าใจของ เราใหม่ เพราะรากฐานของการกระทาทีน่ าไปสเู่ หตสุ งครามนั้น คือ จิตใจของเราเอง เพราะท่านกล่าว วา่ การมจี ิตท่ีมงุ่ ทาลายน้ันอนั ตรายย่งิ กว่าสงคราม (๖) สันติภาพต้องเข้าใจสงครามในฐานะปัจเจกบุคคลและประชาชาติ เป็น แนวคิดที่ท่านติช นัท ฮันห์ได้พยายามที่จะเสนอให้ผู้คนได้เรียนรู้และเข้าใจอย่างลึกซึ่งและจริงจังใน ระดับตนเองและระดับโลก เพราะท่านมองว่า ความเข้าใจในปัญหาของสงครามอย่างถ่องแท้และ พยายามทาให้ความเข้าใจ แล้วเผยแพร่ออกไปอย่างถูกต้อง เพ่ือท่ีจะเป็นการป้องกันสงครามไมให้ เกิดขนึ้ อกี ๒) แนวคดิ สนั ตภิ าพกบั การเปล่ยี นแปลงพัฒนาร่วมกัน แนวคิดสันติภาพในทัศนะ การเปล่ียนแปลงพัฒนาร่วมกัน ท่ีท่านติช นัท ฮันห์พยายามจะเสนอในการเสริมสร้างและพัฒนา สนั ติภาพรว่ มกัน ดงั น้ี (๑) สันติภาพต้องไม่แบ่งแยก เป็นแนวคิดสันติภาพท่ีท่านติช นัท ฮันห์ได้ พยายามอธิบายถึงสาเหตุหนึ่งของสงครามเวียดนาม ซ่ึงเกิดจากทัศนะการมองที่แบ่งแยก โดยเฉพาะ ประเทศมหาอานาจอย่างอเมริกา การมองอย่างแบ่งแยกทาให้ชาวเวียดนามต้องได้รับทุกข์อย่างแสน สาหัส ฉะนั้นท่านจึงมองว่า เราจะต้องทาทุกดอย่างโดยไม่แบง่ แยก (๒) สันติภาพต้องพัฒนาการรับฟังความทุกข์ของกันและกัน การรับฟังเป็นวิธี หนึง่ ทท่ี า่ นตชิ นทั ฮนั ห์ได้พยายามเสนอในการสร้างสันตภิ าพ โดยเฉพาะการรับฟังอย่างลึกซ้ึง คือการ รบั ฟงั ความทุกข์ของตนเอง ขณะเดียวกันการรับฟังความทุกข์ของตนเองนั้นจะเป็นการช่วยเหลือผู้อ่ืน ได้อยา่ งมาก กล่าวอีกนัยหนึ่ง เปิดโอกาสในการสรา้ งพนื้ ท่ขี องการรับฟังซ่ึงกันและกัน เพราะจะทาให้ เห็นรากเหง้าของปญั หาและไม่ตกเปน็ เหยอื่ ของสงครามหรือผูก้ ่อการรา้ ย (๓) สนั ตภิ าพคือการเปน็ อยูร่ ะหวา่ งกนั และกันของมนุษย์ ท่านติช นัท ฮันห์มอง ว่า การดาเนินชีวิตของมนุษย์นั้นจะแยกไม่ได้ เพราะอยู่ในระบบของการอาศัยซ่ึงกันและกัน หรืออยู่ ในระบบของความสัมพนั ธ์ เพราะนัน่ หมายถงึ ระบบของธรรมชาตทิ ่ีมกี ารองิ อาศัยจะขาดกันไม่ได้ ท่าน จึงยกตัวอย่างให้เห็นว่า ประเทศที่ด้อยพัฒนาก็ต้องอาศัยประเทศที่เจริญกว่าและต้องอาศัยอีกหลาย ประเทศ (๔) สันติภาพต้องมีความมุ่งมั่นในการสร้างสันติสุขให้กับตนเอง ท่านติช นัท ฮนั ห์ ไดก้ ล่าวอยา่ งชดั เจนว่า หากเรามคี วามม่งุ มัน่ และความอดทนท่ีจะสร้างสันติภาพ เราก็สามารถท่ี จะปกป้องและผดุงสนั ติภาพไว้ได้ และในความอดทน ความมุ่งม่ันภายใต้ของการเสียสละ เป็นการต่อ
๙๓ สู่กับความอ่อนแอเพ่ือความยุติธรรม อีกท้ังยังสามารถที่จะลดช่องว่างของการแข่งขันทางอาวุธและ การแกง่ แย่งระหว่างคนในสงั คมดว้ ย ๕.๑.๓ แนวคดิ เรอ่ื งสันติภาพของตชิ นัท ฮันห์ ในโลกปัจจุบนั จากการศึกษาแนวคดิ เร่อื งสันติภาพของติช นัท ฮันห์ เพื่อสร้างสรรค์และพัฒนาสันติภาพ ใหเ้ กิดข้ึนในโลกปจั จบุ ัน สามารถสรปุ ได้ ดงั นี้ ๑) แนวคดิ การแปรเปล่ยี นสงั คมและชุมชนเพ่ือสนั ติภาพ ได้แก่ (๑) การแปรเปลี่ยนเงื่อนปมภายในเพอ่ื การอย่รู ว่ มกัน เป็นแนวคิดท่ีท่านติช นัท ฮันห์เสนอต่อการพัฒนาชุมชนให้ดาเนินไปสู่สันติภาพ คือ การแปรเปลี่ยนเง่ือนปมภายในจิตใจของ ตนเอง ซึง่ เมือ่ เปล่ียนปมภายในแล้วกต็ ้องช่วยกันแปรเปลย่ี นภายในของผู้อื่นท่อี ยูใ่ นความขัดแย้งต่างๆ ภายใต้ความรัก ความเก้ือกูล ซึ่งท่านมองว่า วิธีการน้ีก็จะนามาซ่ึงการดารงอยู่ร่วมกันในชุมชนและ สงั คมอยา่ งสนั ตไิ ด้ (๒) การแปรเปลี่ยนชมุ ชนใหเ้ ปน็ ชุมชนที่ปฏิบัตธิ รรม เป็นแนวคิดที่ท่านเสนอว่า เราตอ้ งสร้างชมุ ชนของการปฏิบตั ขิ น้ึ ซงึ่ การสร้างชุมชนของการปฏิบัตนิ ั้นจะเปด็ พื้นส่ือสาร และขยาย การเช่ือมโยงสันตภิ าพได้ เพือ่ ทจ่ี ะลดความหวาดกลัว ความโกรธ ความทกุ ข์ ดว้ ยความเอาใจต่อต่อกัน และกนั (๓) การแปรเปล่ียนสังคมและชุมชนต้องดาเนินไปเพ่ือเพ่ือนมนุษย์ ท่านติช นัท ฮันห์ มองว่า การเปลี่ยนแปรสังคมและชุมชนต้องดาเนินไปเพ่ือนคนส่วนใหญ่ โดยการแปรเปล่ียน ตนเองก่อนและพยายามสรา้ งเครือขา่ ยของเราไว้เป็นฐาน จากน้ันจึงค่อยดาเนินการโดยการช่วยเหลือ ผู้อืน่ หรอื ผู้ท่ลี าบาก เพ่อื ท่ีจะให้เขามคี วามสขุ (๔) การแปรเปลย่ี นชมุ ชนต้องดาเนินไปอย่างมีสติ สติเป็นฐานสาคัญมาก ท่ีท่าน ติช นทั ฮันหพ์ ยายามสอนใหผ้ ้คู นไดต้ ระหนกั และฝกึ ปฏิบตั ใิ นขณะทีเ่ ราดาเนินชีวิต เพราะท่านมองว่า สติเป็นส่วนหนง่ึ ของการสรา้ งชุมชนแห่งสันติ และสติยังเอื้อประโยชน์ต่อคนอ่ืน สรรพสัตว์ และจะทา ให้เรารวู้ ่า เราจะปฏบิ ัติหรือดาเนนิ ไปอยา่ งไร หรอื อะไรควรทาและไมค่ วรทา นน่ั จงึ เป็นการสร้างเมล็ด พนั ธุแ์ หง่ สนั ตภิ าพ ๒) การแปรเปล่ยี นตัวเองเพอ่ื หนทางแหง่ สันตภิ าพ ไดแ้ ก่ (๑) การแปรเปล่ียนด้วยการถอนความคิดเห็นท่ีผิด ท่านติช นัท ฮันห์มองว่า ความเห็นผิดทาให้เกิดความกลัว และนาไปสู่สงคราม การก่อการร้าย การระเบิด ความรุนแรง ที่ต่าง ฝ่ายต่างที่จะเพ่ือปกป้องตัวเองจากฝ่ายตรงข้าม แม้กระทั่งประเทศ ศาสนาของตนเองท่ีนับถือ เพราะฉะนั้นเราต้องถอดถอนความเห็นผิด ซ่ึงเป็นรากฐานของปัญหาเหล่านี้ และเราสามารถที่จะทา ไดด้ ้วยการแปรเปลย่ี นความเหน็ ของตนเองและชว่ ยกันถอดถอนความเห็นผิดของผู้อ่ืนด้วย
๙๔ (๒) การเปล่ียนแปรด้วยการสร้างความเห็นท่ีถูกต้อง คือ ท่านติช นัท ฮันห์ พยายามทาให้เห็นว่า ชีวิตมนุษย์เป็นดังกันและกัน เม่ือเห็นฝ่ายหน่ึงทุกข์ เราก็ไม่มีความสุข ฉะนั้นจึง ไม่ใช้เร่ืองของใครคนใดคนหนึ่ง แต่คือเรื่องราวของมนุษย์บนโลกด้วย ท่านจึงมองว่า เราควรท่ีจะ แปรเปลี่ยนความเห็นของตนเองให้ถกู ตอ้ งเพราะเราต้องอาศัยกนั แลกนั (๓) การแปรเปล่ียนด้วยการปฏิบัติในแนวทางแห่งสติ สมาธิ ปัญญา ท่านติช นัท ฮนั หเ์ สนอว่า เราควรท่ีจะปฏบิ ัติตนเองตามแนวทางนี้ เพราะจะทาใหเ้ ราได้เห็นความจริง เมื่อเห็น ความจริง เราจะพูด จะกระทา หรือคิด ก็เปน็ ไปในทิศทางทีส่ ร้างความสขุ ให้กับตนเองและผ้อู นื่ (๔) การแปรเปลี่ยนด้วยการสร้างความเห็นอกเหน็ ใจต่อผอู้ ื่น ท่านมองว่า ทุกคน มีหัวใจและต้องการการดูแลด้วยกันทุกคน ฉะนั้นการปฏิบัติของเราจะต้องปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วย ความเห็นอกเห็นใจซงึ่ กันและกัน (๕) การแปรเปล่ยี นดว้ ยการหยุดนสิ ัยของตนเองเพอ่ื การอยูร่ ว่ มกนั คอื การท่ีตัว เราเองพยายามแปรเปลี่ยนนิสัยของเราในทางที่ไม่ดีให้กลับมาอยู่ในสังคมท่ีพ่ึงพิงอาศัยกันได้ อยู่ รว่ มกันได้ ท่านมองว่า ชีวิตของมนษุ ย์ไมม่ ีอะไรวเิ ศษไปกวา่ การทีเ่ ราได้อย่รู ว่ มกันอย่างสนั ติ (๖) การแปรเปล่ียนด้วยการสร้างพลังนิสัยด้านบวก ท่านมองว่า พลังนิสัยด้าน ลบของเราถูกปลุกฝังมานานนับไม่ได้ ฉะน้ัน ขณะปัจจุบันเราสามารถที่จะแปรเปลี่ยนพลังด้านลบให้ เป็นพลังนิสัยด้านบวกของเรา เพ่ือท่ีจะให้เราน้ันได้ควบคุมและดูแลสถานการณ์ ปัญหาต่างๆ ภาย จิตใจของตนเองได้ (๗) การแปรเปล่ียนด้วยการสร้างความเก้ือกูล เป็นหน่ึงวิธีท่ีท่านติช นัท ฮันห์ ไดเ้ น้นใหผ้ ู้คนสร้างชุมชนของการเก้ือกูล เพราะท่านมองว่า การเกื้อกูลน้ันจะสามารถเยียวยาและลด ความทุกข์เดิมของเราได้ หรือเมื่อเราสร้างชุมชนของการเก้ือกูลน้ัน เราจะเห็นพื้นที่ท่ีเราอยู่เกิดสันติ ท้ังต่อตนเองและสภาพแวดลอ้ ม (๘) การแปรเปลี่ยนด้วยการสร้างความสัมพันธ์ ท่านมองว่า การแปรเปลี่ยน ความสัมพันธ์ที่ดนี นั้ จะสามารถทาให้เราผ่อนคลาย และคลี่คลายสถานการณ์ท่ีเลวร้ายได้ และท่านยัง เชื่อว่า เราสามารถท่ีจะเปลี่ยนแปลงและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้ภายใต้ของความเข้าใจซึ่งกัน และกัน (๙) การแปรเปลี่ยนตนเองด้วยความรัก ความรักเป็นส่วนหน่ึงท่ีจะทาให้เรานั้น ได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ ซ่ึงเกิดจากท่ีเราสามารถเรียนรู้และเข้าใจชีวิตของเราและผู้อื่นเป็นอย่างดี ท่านจงึ มองวา่ ความรกั จะทาใหเ้ รามคี วามหวงั และนามาซ่งึ ความสุข (๑๐) การแปรเปล่ียนการกระทาทุกอย่างด้วยสันติ ท่านมองว่า งานด้าน สนั ตภิ าพควรดาเนินไปอย่างมีสันติ ด้วยรอยยิ้ม ด้วยความตั้งใจจริงรวมไปถึงการกระทาทุกอย่างของ เรา และไม่ใช่งานในอนาคตแตเ่ ป็นงานในขณะปจั จุบนั ดงั นนั้ จึงกล่าวได้ว่า สันติภาพต้องดาเนินการ
๙๕ ไปพร้อมกันคือ สันติภาพภายนอกท่ีเกิดจากความร่วมมือต่างๆ และสันติภาพภายในที่ตัวเราจะต้อง พัฒนาให้เกดิ ขนึ้ ในปจั จบุ นั ด้วยวิธีการท่สี นั ตขิ องเราเอง ๓) การฝกึ ปฏิบตั ิเจรญิ ภาวนาเพื่อหนทางแห่งสนั ตภิ าพ ได้แก่ (๑) การปฏิบัติเจริญภาวนาต้องนามาใช้ในชีวิตประจาวัน ท่านติช นัท ฮันห์ ได้ แนะถึงการเจริญภาวนาว่า เราควรนาการเจริญมาฝึกปฏิบัติในชีวิตประจาวันในทุกกิจกรรม เพราะ ท่านมองว่า การฝึกเจริญภาวนานั้น ไม่ได้ส่งผลแค่ตัวเราเอง แต่ยังได้ส่งผลต่อสังคมอย่างกว้างขวาง นั่นหมายถงึ สันตภิ าพในสงั คม (๒) การเจริญภาวนาต้องทาด้วยความการุณย์ เป็นการฝึกปฏิบัติเจริญภาวนาที่ เต็มไปด้วยความรัก ความการุณย์ การปฏิบัติเช่นน้ี ท่านกล่าวว่า จะเป็นการเข้าใจท้ังตัวเราและตัว ผอู้ น่ื ถึงความทกุ ข์ท่มี ีดว้ ยกันทั้งสนิ้ เมอื่ เปน็ เช่นน้ีจงึ นามาซึง่ การเอาใจใส่ซ่ึงกันและกนั (๓) การเจริญภาวนาต้องทาด้วยความรัก ท่านมองว่า การฝึกเจริญภาวนาท่ี ประกอบไปด้วยความรักน้ัน เราต้องมีจุดมุ่งหมายที่กว้างขวาง ซึ่งการปฏิบัติน้ันไม่ใช่เพียงความคิด หรอื จนิ ตนาการของเราเท่านน้ั แตค่ ือการทเ่ี รากาลงั สร้างเมล็ดพันธุแ์ หง่ ความรกั เพื่อโลก (๔) การเจริญภาวนาด้วยการสลัดความกระวนกระวาย ท่านมองว่า การปฏิบัติ ของเราตอ้ งเปล่ียนวิถีของการดาเนินของเราใหม่ ซ่ึงต้องไร้ความกระวนกระวาย น่ันคือการกระทาทุก อย่างของเรา ดังนั้น สิ่งที่ต้องคานึงคือวิถีการปฏิบัติของเราจะต้องเป็นไปเพื่อความสงบร่มเย็นและ สนั ตภิ าพของโลก (๕) การเจริญภาวนาต้องไม่แบ่งแยกและไม่ใช้ความรุนแรง ท่านมองว่า การ ปฏิบัติของเราจะต้องไม่มีความขัดแย้งและความรุนใดๆ เพราะตัวเราเป็นทั้งความทุกข์และความสุข เพราะฉะนน้ั เราต้องดูแลทง้ั สองด้านของตวั เราโดยปราศจากความรุนแรงในทุกสถานการณ์ (๖) การเจริญภาวนาต้องทันสถานการณ์ของโลก ท่านมองว่า การเจริญภาวนา ของเราต้องทันสมัยและทันเหตุการณ์ เพราะจะทาให้เรารู้ว่า อะไรท่ีเราควรใส่ใจ อะไรท่ีเราไม่ควร กระทา ซึ่งก็หมายถึง การกระทาท่ีไม่เป็นไปเพ่ือประโยชน์เพ่ือสังคมและโลก เราก็ควรที่จะพิจารณา กระทาในสิ่งทด่ี กี ว่า เป็นประโยชน์กว่า ๔) การฝกึ ปฏิบัติเจรญิ สตเิ พื่อหนทางแห่งสันตภิ าพ ไดแ้ ก่ (๑) ฝึกปฏิบัติการหายใจอย่างมีสติในปัจจุบันขณะ ท่านติช นัท ฮันห์แนะว่า ปัจจุบันสาคัญอย่างมากท่ีจะต้องเน้นการฝึกสติในสังคมโลกปัจจุบัน เพราะท่านมองว่า สติจะทาให้ผู้ ปฏิบัติสามารถมีความสมบูรณ์ในตัวเอง และไม่ตกเป็นเหย่ือของความเลวร้าย และทาให้เราสามารถ เผชิญกบั เหตกุ ารณ์ในโลกปัจจุบนั ไดอ้ ยา่ งรเู้ ท่าทนั (๒) การเจริญสติเพื่อสันติภาพต้องกลับมาสู่ตนเอง การที่ปฏิบัติเช่นนี้ ท่านมอง ว่า เป็นการสร้างสันติภาพข้ึน เพราะเราสามารถนาสติมาใช้ ซ่ึงก็หมายถึงเรากาลังสร้างสันติภาพให้
๙๖ เกิดขึ้น และท่านก็เห็นว่า การที่เรามีสตินั้นนอกจากจะเป็นการสร้างสันติสุขให้กับตนเองแล้ว เรายัง สามารถทจี่ ะชว่ ยเหลอื ผู้อื่นได้จากสถานการณท์ เี่ ลวรา้ ยทางสงครามได้ (๓) การเจริญสติตอ้ งทาในชีวติ ประจาวัน ท่านแนะว่า ไม่ว่าเราจะเป็นใครก็ตาม เราควรที่จะฝึกการมีสติในขณะปัจจุบัน เพราะสติน้ันจะทาให้เห็นถึงปัญหาต่างๆ ท่ีเกิดขึ้นอย่างถ่อง แท้ และนาไปสูก่ ารเปล่ยี นสถานการณท์ ไ่ี มด่ ีใหก้ ลบั กลายเปน็ ดีได้ (๔) การเจริญสติคืองานเพื่อสันติภาพในปัจจุบันและอนาคต การเจริญสติใน ปจั จุบนั น้นั ทา่ นมองวา่ เรากาลังทางานเพอื่ อนาคตของเรา เรากาลังปกป้องสันติภาพ และเรากาลังสร้าง สันติภาพในสถานการณ์ปัจจุบันของเรา เพราะการเจริญสติทาให้เกิดความตระหนัก เกิดจิตสานึกที่ดีซ่ึง เปน็ รากฐานของความสุข (๕) การเจริญสติต้องมองถึงความสมานฉันท์ของเราทุกคน ท่านได้แนะว่า เมื่อ เราเจรญิ สติ พลังของสตินนั้ จะทาใหเ้ ราสามารถทจ่ี ะแก้ไขสถานการณไ์ ด้ ทั้งความรนุ แรง ความขัดแย้ง ในสงั คมของเรา และสามารถท่ีจะใช้วิธีการสรา้ งความสมานฉันทใ์ หเ้ กดิ ขน้ึ ในสงั คมได้ ๕) คาสอนทางพระพุทธศาสนาสรา้ งสันติภาพในโลกปจั จุบัน ได้แก่ (๑) ศึกษาคาสอนทางพระพุทธศาสนาโลกจะมีสันติภาพ ท่านมองว่า โลกของ เราเต็มไปด้วยความรุนแรง ความขัดแย้ง การทาลาย สิ่งที่เราต้องการมากที่สุดในขณะนี้คือสันติภาพ ท่านจึงเสนอว่า จาเป็นอย่างมากที่จะเรียนรู้และนาหลักคาสอนทางพระพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้ใน การแก้ไขปัญหา เพราะเปน็ หนทางเดยี วท่ีจะนาสนั ตภิ าพกลบั คืนมา (๒) ฝึกปฏิบัติตามวิถีทางของพระพุทธเจ้าเราจะพบอิสระ ท่านแนะนาให้ผู้คนได้ ฝึกปฏิบัติตามวิถีทางของพระพุทธเจ้า เพราะจะเป็นการสลายความโกรธ ความกลัวอันเป็นหนทางของ การไมม่ สี นั ติสุข วิถที างของพระพทุ ธเจ้าจะทาให้ผู้คนได้เบิกบาน และมอบความรกั ใหก้ ันอยา่ งแทจ้ รงิ (๓) อริสัจ ๔ คือสิ่งที่ต้องเข้าใจและเปลี่ยนแปลงความทุกข์ ท่านเห็นว่า เม่ือสังคม โลกของเราในสถานการณ์ปัจจุบันมีความความรุนแรง ครอบครัวท่ีแตกแยก สังคมที่แตกแยก สงคราม ความขัดแยง้ ผกู้ อ่ การร้าย การทาลายระบบนิเวศ ภาวะโลกร้อน ปัญหาเหล่านี้ ท่านต้องการท่ีจะนาหลัก อริยสัจ ๔ แนวใหม่ตามการอธิบายของท่านในการที่ทาให้ผู้คนได้เห็นความทุกข์บนโลกใบนี้ และหาทาง ทีจ่ ะเปลี่ยนแปลงความรสู้ กึ และจติ ใจของผคู้ นใหไ้ ดเ้ ป็นอสิ ระและอยู่อย่างสันติภาพ (๔) สรา้ งสันตภิ าพในโลกปัจจุบันด้วยการฝึกปฏิบัติอานาปานสติ การฝึกปฏิบัติ อานาปานสติจะช่วยให้เราดูแลกายและใจให้สงบ ท่านเห็นว่า เม่ือกายและใจสงบก็เหมือนกับการทา ใหส้ งั คมเกดิ สันติภาพ ซ่ึงก็เท่ากบั ว่าเป็นการสร้างพลงั ชนิดหนึ่งทาเพ่ือคนอีกจานวนมากมาย
๙๗ ๖) แนวคิดสันตภิ าพในปจั จบุ นั กบั อนาคตของสันตภิ าพโลก ไดแ้ ก่ (๑) การเปล่ียนจิตสานึกต่อความโลภและความรุนแรง เป็นแนวทางท่ีท่าน ติช นทั ฮนั ห์ เสนอว่า เราต้องเร่มิ ตน้ ด้วยการเปลี่ยนแปลงจิตสานึกของเรา หากเราต้องการสันติภาพ น่ัน คอื การเปลยี่ นจิตสานึกตอ่ ความโลภและความรนุ แรงทอี่ ยใู่ นตวั เราเอง (๒) การรักษาสุขภาพจิตและความรับผิดชอบต่อเพ่ือนมนุษย์ ท่านเห็นว่า เราไม่ สามารถที่ใช้วิธีการแก้ไขปัญหาอย่างเดียวต่อปัญหาต่างๆ ท่ีเกิดข้ึนในสังคม เช่น สงคราม การใช่อาวุธ ทาลาย กระทั่งปัญหาปัญหามลภาวะที่มีผลต่อสุขภาพของผู้คน เราควรที่จะหาวิธีการป้องกันด้วยความ รบั ผิดชอบอย่างจริงใจ (๓) การตระหนักรู้ด้วยการปกป้องแผ่นดินเพื่อสันสันติภาพ เป็นการตระหนักรู้ถึง ธรรมชาติหรือแผ่นดินที่เราอาศัย เมื่อมีการตระหนักรู้จะทาให้เราได้ปกป้องร่วมกันในการรักษาแผ่นดิน และรกั ษาชีวติ ของทุกชีวิตท้งั ในปัจจบุ นั และอนาคต (๔) การปลดปลอ่ ยความทุกขเ์ พ่อื สนั ติภาพของคนรุ่นต่อไป ท่านมองว่า เราต้อง ชว่ ยกันปลดปล่อยความทุกข์ ความทรมานที่เกิดขึ้นกับผู้คนมาอย่างยาวนาน ขณะปัจจุบันน้ีเป็นเวลา ท่เี หมาะแก่การปลดเปลือ้ งใหท้ ุกคนเป็นอสิ ระท้ังตวั เราและผู้อน่ื รวมไปถงึ คนร่นุ ต่อไปในอนาคตดว้ ย ๕.๒ ขอ้ เสนอแนะ จากการวิจัยเร่ือง “การศึกษาแนวคิดเร่ืองสันติภาพของติช นัท ฮันห์” ทาให้เห็นว่ายังมี เรอื่ งท่คี วรศึกษาเกี่ยวกับสันติภาพ ดังนี้ ๑) ควรทาการศึกษาเปรียบเทียบแนวคิดสันติภาพของท่านติช นัท ฮันห์กับแนวคิด สันติภาพของนักสนั ติภาพทา่ นอื่นๆ ๒) ควรทาการศกึ ษาแนวคดิ สนั ติภาพของนักสนั ติภาพท่านอนื่ ๆ
บรรณานกุ รม ๑. ภาษาไทย: ก. ขอ้ มูลปฐมภูมิ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พม์ หาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย, ๒๕๓๙. ข. ข้อมูลทตุ ิยภูมิ (๑) หนงั สือ: คณาจารย์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. มนุษย์กับสังคม. พิมพ์คร้ังที่ ๒. กรงุ เทพมหานคร: มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๕๒. ชัยวัฒน์ สถาอนันท์. สันติทฤษฎีวถิ วี ฒั นธรรม. กรุงเทพมหานคร: มูลนธิ ิโกมลคมี ทอง, ๒๕๓๙. ชลัท ประเทืองรัตนา. กระบวนการสันติภาพในรวันดา. กรุงเทพมหานคร: ส เจริญ การพิมพ์, ๒๕๕๕. ติช นทั ฮันห์. สนั ตภิ าพทุกยา่ งก้าว. แปลโดย ประชา หุตานุวัตรและสุภาพร พงศ์พฤกษ์. พิมพ์ครั้งที่ ๖. กรุงเทพมหานคร: ศยาม, ๒๕๕๔. ________. ศานติในเรือนใจ . แปลโดย ธีรเดช อุทัยวิทยารัตน์. พิมพ์ครั้งที่ ๗. กรุงเทพมหานคร: มูลนธิ โิ กมลคมี ทอง, ๒๕๕๔. ________. ของฝากจากหลวงปู่. แปลโดย สังฆะอาสาสมัครหมู่บ้านพลัมประเทศไทย. พิมพ์ครั้งที่ ๒. กรงุ เทพมหานคร: พิมพ์ดี จากดั , ๒๕๕๔. ________. รักแท้: การฝึกปฏิบัติเพ่ือหัวใจที่เบิกบาน. แปลโดย วัชรีวรรณ ชัยวรศิลป์. พิมพ์คร้ังท่ี ๙. กรงุ เทพมหานคร: อมรนิ ทร์ธรรมะ, ๒๕๕๔. ________. เราคือโลก โลกคือเรา. แปลโดย ปองขวัญ สุขวัฒนา ลาซูส. กรุงเทพมหานคร: มูลนิธิ หมบู่ ้านพลัม, ๒๕๕๖. ทศ พันธุมเสน และจินตนา ยศสนุ ทร. จากมหาสงครามสูส่ นั ตภิ าพ. พมิ พค์ รัง้ ท่ี ๒. กรุงเทพมหานคร: ธนธชั , ๒๕๔๒. ทวศี กั ด์ิ อุชุคตานนท์. เพ่ือนงาม ตชิ นทั ฮันห.์ สมทุ รปราการ: บ้านภายใน, ๒๕๕๓. บิช็อบคารล์ อส ฟลิ เิ ป ซเี มเนส เบโล. ปาฐกถาเรื่อง การศึกษาเพื่อสันติภาพ, แปลโดย ดร. เจนจิต กสกิ ิจธารง, ผศ. ดร. เคิร์ก เพอร์สัน, และ อ. จรัญญา เทพพรบัญชากิจ. บัณฑิตวิทยาลัย และการศกึ ษานานาชาติ มหาวทิ ยาลยั พายัพ เชยี งใหม่, ๒๕๔๗. ประเวศ วะสี. ประเทศไทยกับสันตภิ าพโลก. กรุงเทพมหานคร: สานกั งานคณะกรรมการสิทธิ มนษุ ยชนแหง่ ชาติ, ๒๕๔๕.
๙๙ ประชุมสุข อาชวอารุง และยุพิน พิพิธกุล. ประมวลความรู้เรื่องสันติภาพ. กรุงเทพมหานคร: จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั , ๒๕๓๐. พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยตุ ฺโต). การศึกษาเพอื่ สนั ติภาพ. พิมพ์ครั้งที่ ๖. กรุงเทพมหานคร: มูลนิธิ พุทธธรรม, ๒๕๔๐. ________. พทุ ธวิธีแกป้ ญั หาเพอ่ื ศตวรรษท่ี ๒๑. กรงุ เทพมหานคร: บริษทั ธรรมสาร จากัด, ๒๕๔๔. พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต). วิถีสู่สันติภาพ. กรุงเทพมหานคร: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๕๔. ________. สนั ตภิ าพเกิดจากอิสรภาพและความสุข. พิมพ์ครั้งที่ ๔. กรุงเทพมหานคร: วัดญาณเวศ กวนั พิมพ์เป็นธรรมทาน, ๒๕๕๖. พระเมธีธรรมาภรณ์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต). พุทธวิธีสร้างสันติภาพ. พิมพ์คร้ังที่ ๒. กรุงเทพมหานคร: บริษทั อมรินทรพ์ ริ้นต้ิงกรพุ๊ จากัด, ๒๕๓๒. พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส (นิธิบุณยากร). พุทธสันติวิธี : การบูรณาการหลักการและเคร่ืองมือจัด การความขดั แยง้ . กรงุ เทพมหานคร: บริษทั ๒๑ เซน็ จรู ี่ จากัด, ๒๕๕๔. พระไพศาล วิสาโล. สอ่ งสว่างทางไท. กรุงเทพมหานคร: กลมุ่ เสขธิ รรม, ๒๕๔๗. ________. ขอคืนพนื้ ทีธ่ รรม. กรงุ เทพมหานคร: มตชิ น, ๒๕๕๓. พุทธทาสภิกข,ุ สันติภาพของโลก, ไชยา: ธรรมทานมลู นธิ ิ, ๒๕๓๑. พระมหา ดร.รุ่งเพชร ติกฺขวชิโร. คมวาทะองค์ทะไล ลามะ ฉบับคลาสสิก. พิมพ์ครั้งท่ี ๒. กรงุ เทพมหานคร: บรษิ ัท พมิ พส์ วย จากัด, ๒๕๕๘. พนิ ิจ รตั นกุล. ศาสนาและสงคราม. นนทบุรี: ธงิ ค์ บยี อนด์ บุ๊คส์, ๒๕๕๕. มนตรี วิวาห์สุข. เอกสารประกอบการสอน รายวิชา ศาสนากับสันติภาพ. นครปฐม: มหาวิทยาลัย ราชภัฏนครปฐม, ๒๕๕๕. มูฮามัดอายุบ ปาทาน และคณะ. ประชาสังคมกับกระบวนการสันติภาพ: รายงานวิจัยสารวจ สถานภาพองค์กรประชาสังคมในชายแดนใต้. ปัตตานี: ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้, ๒๕๕๔. ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔. พิมพ์คร้ังที่ ๒. กรุงเทพมหานคร: ราชบณั ฑติ ยสถาน, ๒๕๕๖. รอมฎอน ปันจอร์. กระบวนการสันติภาพปาตานีในบริบทอาเซียน. ปัตตานี : โครงการจัดพิมพ์ ดีพบุ๊คส์ (deepbooks) ศนู ยเ์ ฝา้ ระวังสถานการณ์ภาคใต้, ๒๕๕๖. วลัย อารุณี บรรณาธิการ. สันติศึกษากับการแก้ปัญหาความขัดแย้ง : รวมบทความคัดสรร. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั , ๒๕๓๐.
๑๐๐ ศรีเพ็ญ ศุภพิทยากุล (บรรณาธิการ). มนุษย์กับสันติภาพ. พิมพ์คร้ังท่ี ๔. กรุงเทพมหานคร: จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั , ๒๕๕๖. สานักงานเลขานุการทูตสันติภาพ มูลนิธิสหพันธ์สันติภาพสากล (ประเทศไทย). สรุปกิจกรรมทูต สันติภาพสัญจร: สนทนาสันติภาพ (Open Forum for Peace) คร้ังท่ี ๕ ในหัวข้อ “สนั ติภาพสู่ตน้ กลา้ เยาวชน”. กรงุ เทพมหานคร: Aambassador for Peace, ๒๕๕๕. (๒) วิทยานิพนธ์: คัทลียา รัตนวงศ์. “แนวคิดเร่ืองสันติภาพของซัยยิด กุฎุบ”. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. บณั ฑิตวทิ ยาลยั : มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่, ๒๕๕๐. จิรวัฒน์ เพชรชานาญ. “การศึกษาวิเคราะห์สันติวิธีตามแนวพระพุทธศาสนากับสังคมไทย”. วิทยา นิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบณั ฑติ . บณั ฑิตวทิ ยาลัย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, ๒๕๕๔. ฑีฆายุวัฒก์ สวัสดิ์ลออ. “การวิเคราะห์การเจริญสติตามแนวทางของ ติช นัท ฮันห์”. วิทยานิพนธ์ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. บณั ฑิตวทิ ยาลยั : มหาวิทยาลัยเชียงใหม,่ ๒๕๕๑. ทศั นีย์ จันอนิ ทร์. “วิวัฒนาการของมโนทศั น์การศึกษาเพอ่ื สันติภาพในประเทศไทยนา”. วิทยานิพนธ์ ปรญิ ญาครุศาสตรมหาบณั ฑิต. บัณฑติ วิทยาลัย: จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย, ๒๕๕๗. พระมหาเจษฎา โชติวโส (จุลพันธ์). “ศึกษาเปรียบเทียบวิธีการเจริญสติของหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ และทา่ นตชิ นัท ฮันห์”. วทิ ยานพิ นธ์ปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๕๖. พระวิมาน คมฺภีรปญฺโญ (ตรีกมล). “การศึกษาวิเคราะห์ศีล ๕ ในฐานะเป็นรากฐานของสันติภาพ”. วิทยานิพนธพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ ราชวทิ ยาลยั ,๒๕๕๕. พระทรัพย์ชู มหาวีโร (บุญพิฬา). “การศึกษาวิธีการเจริญสติในชีวิตประจาวันตามแนวทางของ ติช นัท ฮันห์”. วิทยานิพนธพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหา จฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย, ๒๕๕๓. พระมหานครินทร์ แก้วโชติรุ่ง. “สันติภาพตามแนวคิดของท่านพุทธทาสภิกขุ: ความหมาย และการ ประยุกต์ใช้ ในโลกปัจจุบัน”. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร, ๒๕๔๘. พรอุษา ประสงค์วรรณะ. “การศึกษาชุมชนต้นแบบต่างศาสนาท่ีอยู่ร่วมกันอย่างสันติในแขวงวัดกัล ยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิต วทิ ยาลยั : มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย, ๒๕๕๖.
๑๐๑ มานติ า ลีโทชวลิต. “การวิเคราะห์นิทานชาดกที่ส่งเสริมสันติธรรมสาหรับเด็กปฐมวัย”. วิทยานิพนธ์ ครศุ าสตรมหาบัณฑติ . บัณฑติ วทิ ยาลยั : จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย, ๒๕๔๔. วรมาศ ยวงตระกูล. “วาทกรรมสงครามและสนั ติภาพในกวีนพิ นธส์ งคราม”. วทิ ยานิพนธ์อักษรศาสต รมหาบณั ฑิต. บัณฑติ วทิ ยาลยั : จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั , ๒๕๔๗. ศศิธร เวียงวะลัย. “ศึกษาวิเคราะห์อายตนะในฐานะสื่อแห่งสันติภาพ”. ปริญญาพุทธศาสตรดุษฎี บัณฑติ . บณั ฑติ วทิ ยาลัย: มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั , ๒๕๕๖. สายสวาท ปัจวิทย์. “ทิศทางนโยบายการจัดการศึกษาท่ีสอดคล้องกับโลกทัศน์เก่ียวกับสันติภาพใน พื้นที่ชายแดนสามจังหวัดภาคใต้”. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต. จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . ๒๕๔๙. อรทัย มีแสง. “พัฒนาการอหิงสธรรมในพระพุทธศาสนา: กรณีศึกษาพุทธศาสนิกสัมพันธ์เพ่ือ สันติภาพแห่งสหรัฐอเมริกา”. สารนิพนธ์ปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิต วิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๕๓. ไอศูรย์ พยัฆศิริ. “การศึกษาเปรียบเทียบแนวความคิดเรื่องสันติภาพของพระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺ โต) และมาร์ ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์”. วิทยานิพนธ์อักษรศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิต วิทยาลัย: มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล, ๒๕๔๖. อธพิ ฒั น์ สินทรโก. “การจดั การความขดั แยง้ ตามแนวทางสันติวิธี”. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตร มหาบัณฑิต. วทิ ยาลัยการบริหารรัฐกิจ: มหาวทิ ยาลัยบูรพา, ๒๕๕๕. ฮามีดะห์ฮาสัน โต๊ะมะ. “การปฏิรูปการปกครองและการสร้างสันติภาพของเคาะลีฟะฮฺอับดุลมาลิก บิน มัรฺวานแห่งราชวงศ์อุมัยยะฮฺ”. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์, ๒๕๕๗. (๓) บทความ กฤช ปุณณกัณฑ์. “พระพุทธศาสนากับสันติภาพของโลก”, ใน ประมวลความรู้เร่ืองสันติภาพ. หน้า ๒๗๑. ประชุมสุข อาชวอารุง และยุพิน พิพิธกุล บรรณาธิการ. กรุงเทพมหานคร: จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย, ๒๕๓๐. ขจรจติ บนุ นาค. “ความขัดแยง้ VS ความรนุ แรง”, วารสารนักบริหาร. ปที ่ี ๓๑ ฉบบั ที่ ๓ (ก.ค.- ก.ย. ๒๕๕๔ ): ๑๓๖- ๑๔๔. ชัยวัฒน์ สถาอานันท์. ผู้ปกครองในอุดมคติของ ฮ่ันเฟจ้ือ (Han Fei Tzu) และวิธีการต่อสู้แบบ สนั ติ, คณะรฐั ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยฮาวาย. นสิ ิตปริญญาโทสาขาการสอนสังคมศึกษา. “มโนมติ แนวพจิ ารณาหลักและเหตผุ ลเกยี่ วกับสันติภาพ”, วารสารศกึ ษาศาสตรป์ ริทัศน์. ปีที่ ๒ ฉบับที่ ๒ (๒๕๒๘): ๑๐๖-๑๐๗.
๑๐๒ นิพนธ์ คันธเสรี. “การจดั การศึกษาหรือพัฒนาสันติภาพ”, วาสารศึกษาศาสตร์ปริทัศน์. ปีท่ี ๒ ฉบับ ที่ ๓ (๒๕๒๙): ๒๔๖. นันทวัฒน์ ฉัตรอุทัย. “สงครามและสันติภาพ”, จดหมายข่าว. ปีท่ี ๖ ฉบับท่ี ๓๖ (กุมภาพันธ์- มีนาคม ๒๕๔๘): ๑. ประชุมสขุ อาชวอารงุ . “การวิจัยสันตภิ าพ”, ใน ประมวลความรู้เร่ืองสันติภาพ. หน้า ๑๑๕. ประชุม สุข อาชวอารุง และยุพิน พิพิธกุล บรรณาธิการ. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงการณ์ มหาวทิ ยาลยั , ๒๕๓๐. ________. “ทฤษฎีสันตศิ กึ ษาและความเคล่อื นไหว”, วาสารศกึ ษาศาสตร์ปริทัศน์. ปีที่ ๒ ฉบับท่ี ๓ (๒๕๒๙): ๒๑๗. พรรณทิพย์ ศิริวรรณบุศย์. “แนวคิดจิตวิทยาในการจัดการความขัดแย้งในใจและสร้างสันติสุข”, วารสารราชบณั ฑิตยสถาน. ปีที่ ๓๘ ฉบบั ที่ ๒ (เมษายนย-มถิ ุนายน ๒๕๕๖): ๒๒๒. รุ่งธรรม ศุจิธรรมรักษ์. “สันติศึกษากับสันติภาพ”, ใน เอกสารการสอนชุดวิชา สันติศึกษา หน่วยที่ ๑-๗. หน้า ๑๒. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช บรรณาธิการ. พิมพ์คร้ังที่ ๑๑. กรุงเทพมหานคร: มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช, ๒๕๔๕. รวี ภาวิไล. รูส้ ึกนึกคิด “เพ่ือสันติภาพ”, สารธรรมสถาน. ฉบับที่ ๕๘ (เมษายน ๒๕๕๔): ๓. วิจิตร ศรีสอ้าน. “การจัดการศึกษาเพ่ือสันติภาพ”, ใน สันติศึกษากับการแก้ปัญหาความขัดแย้ง : รวมบทความคัดสรร. หน้า ๑๘๙. วลัย อารุณี บรรณาธิการ. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั , ๒๕๓๐. สุรชาติ บารุงสุข. “สันติเสวนา: การเจรจากับผู้ก่อความไม่สงบ”, จุลสารความม่ันคงศึกษา. ฉบับท่ี ๑๑๗ -๑๑๘ (ธันวาคม ๒๕๕๕): ๑. เสาวรส ปล้ืมใจ และอุทิศ สังขรัตน์. “ผู้หญิงกับการสร้างสันติภาพชายแดนใต้”, วารสาร มนุษยศาสตร์สังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยทักษิณ. ปีท่ี ๑๐ ฉบับที่ ๑ (เมษายน–กันยายน ๒๕๕๘):๒๒๕. ๔) สือ่ อเิ ล็กทรอนิกส์ เอกพันธุ์ ปิณฑวณิช. เอกสารประกอบการอบรมวิทยากรสันติวิธี [ออนไลน์], แหล่งที่มา: http://deepsouthwatch.org/sites/default/files/ths.santiphaaph1_aacchaarye k.pdf [๑๐ ม.ิ ย. ๒๕๕๙]. ชาญชัย ชัยสุขโกศล. บทบรรณาธิการ : สันติศึกษาคืออะไร? [ออนไลน์], แหล่งที่มา: https://chaisuk.files.wordpress.com/2008/09/peace-studies.pdf [๑๐ มิ.ย. ๒๕๕๙].
๑๐๓ ศูนย์ปฏิบัติธรรมนานาชาติ หมู่บ้านพลัม เมืองบอร์กโดซ์ (Bordeaux) ประเทศฝร่ังเศส. ประวัติและ ปฏิปทาท่านติช นัท ฮันห์ [ออนไลน์], แหล่งที่มา:http://www.dhammajak.net/ forums/viewtopic.php?f=13&t=21739 [๑๐ ม.ิ ย. ๒๕๕๙]. สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส. สันติเกิดขึ้นได้ ถ้าเราไม่น่ิงดูดาย [ออนไลน์], แหล่งท่ีมา: http://www.disacsurat.com/download/CompletePeaceMessage2016TH.pdf [๒ ก.ค. ๒๕๕๙].
ช่อื : ๑๐๔ ปเี กิด : สถานทเี กดิ : ประวัติผู้วจิ ัย กาศึกษา : พระเตียม ฉายา รตนโชโต นามสกุล กินุวงศ์ อปุ สมบท : ๓ เดือน พฤษภาคม ๒๕๓๒ ตรงกับวนั พธุ แรม ๑๑ คา่ ปี มะโรง ท่ีอยปู่ ัจจบุ นั : แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว ประถมศึกษาปที ี ๕ โรงเรยี นประถมสมบูรณ์ บ้านนาจาน โทร : เมืองอาดสะพงั ทอง แขวงสะหวันนะเขต มัธยมศึกษาตอนตน้ โรงเรยี นวัดศรีบญุ เรือง บ้านดงเห็น เมืองอาดสะพังทอง แขวงสะหวันนะเขต มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนวดั ชยั ภูมิ บ้านชัยภมู ิ เมืองไกสอนพรหมวหิ าน แขวงสหวันนะเขต พุทธศาสตรบัณฑติ (พธ.บ.) (พระพทุ ธศาสนา) มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ วัดบ้านหนองตูม หมู่ ๒ บา้ นหนองตูม ตา่ บลหนองตมู อา่ เภอเมอื ง จังหวดั ขอนแกน่ รหสั ไปรษณยี ์ ๔๐๐๐๐ ๐๘๓-๒๙๐-๔๖๔๙
แนวคดิ เรือ่ งสนั ติภาพของตชิ นทั ฮันห์ The Concept of Peace According to Thich Nhat Hanh พระเตียม รตนโชโต/กินุวงศ์ Phratiem Ratanachoto (Kinouvong) คณะกรรมการควบคุมวทิ ยานิพนธ์ พระครูภาวนาโพธคิ ุณ, ผศ.ดร. พธบ. (ศาสนา). รศ.อดุ ม บัวศรี ป.ธ. ๗, พธบ. (ปรัชญา). ผศ.ดร.สวุ ิน ทองปน้ั พธบ. (ปรัชญา). บทคัดยอ่ การวิจัยน้ี มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ ๑. เพ่ือศึกษาแนวคิดเรื่องสันติภาพ ๒. เพื่อ ศึกษาแนวคิดเร่ืองสันติภาพของติช นัท ฮันห์ ๓. เพ่อื วิเคราะห์แนวคิดเรื่องสันติภาพของตชิ นัท ฮันห์ ในโลกปัจจุบัน เป็นการวิจัยเชิงเอกสาร (Documentary Research) โดยการเก็บข้อมูลจากเอกสาร ปฐมภมู ิ และทุตยิ ภูมิ วิเคราะหข์ ้อมลู ดว้ ยวธิ กี ารพรรณนาตามหลกั อุปนัย ผลการวิจัยพบวา่ แนวคิดเรื่องสันติภาพ ได้แก่ สถานการณ์หรือภาวะท่ีปราศจากสงคราม ปราศจากความขัดแย้ง ปราศจากความรุนแรง สันติภาพเป็นเรื่องของความเสมอภาค เป็นเร่ืองสิทธิ มนษุ ยชน เป็นความสงบท่มี นษุ ย์ได้มอบความรักความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ติช นัท ฮันห์มีแนวคิดเก่ียวกับสันติภาพ ดังน้ี ๑) สันติภาพเป็นภาวะท่ีปราศจากสงคราม ปราศจากความรุนแรง สันติภาพคือกระบวนการแห่งสันติวิธี กระบวนการสร้างความสมานฉันท์ สันติภาพต้องพัฒนาความเข้าใจเพื่อหยุดสงคราม สันติภาพต้องเข้าใจสงครามในฐานะปัจเจกบุคคล และประชาชาติ ๒) แนวคิดสนั ตภิ าพกบั การเปลี่ยนแปลงพฒั นาร่วมกัน ตชิ นัท ฮันห์เห็นว่า สนั ตภิ าพ ต้องไม่แบ่งแยก สันติภาพต้องพัฒนาการรับฟังความทุกข์ของกันและกัน สันติภาพคือการเป็นอยู่ ระหว่างกันและกันของมนุษย์ สันติภาพต้องมีความมุ่งมั่นในการสรา้ งสนั ตสิ ขุ ให้กับตนเอง ติช นัท ฮันห์มีแนวคิดว่า การสร้างสรรค์สันติภาพให้เกิดข้ึนในโลกปัจจุบัน ดังน้ี ๑) สันติภาพต้องสร้างจากภายในเพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติสุข ๒) สันติภาพต้อง เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อหนทางแห่งสันติภาพ โดยการแปรเปลี่ยนด้วยการถอนความคิดเห็นที่ผิด การ
๒ แปรเปล่ียนด้วยการสร้างความเห็นที่ถูกต้อง ฯลฯ ๓) การฝึกปฏิบัติเจริญภาวนาเพื่อหนทางแห่ง สันติภาพ ๔) การฝึกปฏิบัติเจริญสติเพ่ือหนทางแห่งสันติภาพ โดยการฝึกปฏิบัติการหายใจอย่างมีสติ ในปัจจุบันขณะ ๕) ปฏิบัติตามคาสอนทางพระพุทธศาสนาสร้างสันติภาพในโลกปัจจุบัน โดยการฝึก ปฏิบัติตามวิถีทางของพระพุทธเจ้าเราจะพบอิสระ อริสัจ ๔ คือสิ่งที่ต้องเข้าใจและเปลี่ยนแปลงความ ทุกข์ ฯลฯ ๖) แนวคิดสันติภาพในปัจจุบันกับอนาคตของสันติภาพโลก โดยการเปล่ียนจิตสานึกต่อ ความโลภและความรุนแรง การรักษาสุขภาพจิตและความรับผิดชอบต่อเพ่ือนมนษุ ย์ โดยการเร่ิมต้นท่ี ตนเอง แล้วขยายตอ่ ไปยงั ครอบครวั ชมุ ชน สงั คม และโลก จงึ จะเกิดสนั ตภิ าพที่แทจ้ รงิ คาสาคญั : ติช นัท ฮนั ห์, แนวคิด, สนั ตภิ าพ. Abstract The aims of this research were 1) to study the concepts of peace, 2) to study the concept of peace in accordance with Thich Nhat Hanh and 3) to study Thich Nhat Hanh’s concept of peace in the current time. This documentary research was carried out by collecting the data from primary and secondary sources and then the data were analyzed by the inductive description principles. The research results revealed that peace is defined as the situation or condition without war, conflicts and violence. It is the matter of equality, human right and is created through loving kindness towards human beings. The concepts of Thich Nhat Hanh are as follows: 1) peace is the condition without war, violence, peace process and harmony creation; peace must be made based on individual and national comprehension against war and 2) based on the peace concept and collaborative change, Thich Nhat Hanh mentioned that peace is not discrimination, is made by listening to one another suffering, is coexistence of human and can be made by intension to create peace to oneself. Thich Nhat Hanh has the idea for building peace in the current world as follows: 1) peace must be created within oneself for peaceful coexistence; 2) wrong views must be changed as the right view, considered as self-change for peace; 3) meditation is the way of peace; 4); consciousness development by mindfully breathing is the way of peace; 5) following and practicing Buddhist teachings is the
๓ way to find freedom and the Four Noble Truths which should be understood as a source for alternating suffering and 6) for creating peace in the present time and for peace in the future, true peace can be created by changing attitudes towards greed and violence, mental health maintenance and responsibility of human beings; this must be done within oneself at first and extended to family, community, society and world. ๑. บทนา เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ทาให้เกิดคาถามว่า ที่จริงแล้วโลกนี้มี สันติภาพท่ีแทจ้ ริงหรือไม่ หรือสันติภาพเป็นเพียงสภาวะชั่วคร้ังชั่วคราว ท่ีขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เวลา สถานที่ และบุคคล หรือการไม่มีสันติภาพเป็นเร่ืองธรรมดาปรกติของโลก จึงไม่ต้องเสียเวลาท่ีจะ ค้นหาวิถีทางแห่งสันติภาพ ท้ังที่หลายคนหลายฝ่ายทั่วโลก ต่างพยายามเรียกร้องหรือพยายามท่ีจะ สร้างสันติภาพให้เกิดขึ้น ทั้งที่บางคร้ังหากพิจารณาดูแล้ว ก็เกิดคาถามขึ้นอีกว่า วิธีการเช่นนี้หรือคือ วิธีที่จะทาให้เกิดสันติภาพ เช่น การทาสงครามโดยอ้างเหตุผลว่าเพ่ือสันติภาพ๑ ทั้งที่สันติภาพเป็น ความใฝ่ฝันของมนุษยชาติมาทุกยุคทุกสมัย แม้กระน้ันโลกแทบไม่เคยว่างเว้นจากสงคราม เม่ือ สงครามโลกครั้งที่ ๑ เสรจ็ สิ้น เช่อื กนั ว่า “สงครามท่ียุติสงครามท้ังหลาย” จะนามาซ่ึงสนั ติภาพได้ แต่ แล้วผ่านไปเพียงแค่ ๒ ทศวรรษ สงครามโลกคร้ังที่ ๒ ก็เกิดข้ึน การพ่ายแพ้อย่างยับเยินของเยอรมนี และญ่ีปุ่นเมื่อ ๖๐ ปีท่ีแล้ว และการเกิดองค์การสหประชาชาติ (The United Nations) ได้สร้าง ความหวังไปทั่วทั้งโลกว่าสันติภาพจะสถาปนาตั้งม่ันในโลก แต่แล้วหลังจากนั้นไม่ก่ีปีโลกก็ต้องเผชิญ กับสงครามเยน็ ท่ีนาไปสู่สงครามและความรนุ แรงน้อยใหญ่ไปทั่วโลก รวมท้งั สงครามเกาหลี สงคราม เวียดนาม และสงครามในอัฟกานิสถาน๒ ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียชีวิตและการบาดเจ็บอย่างมหันต์ นอกจากนัน้ ยังก่อใหเ้ กิดความเสยี หายทางดา้ นทรัพยส์ นิ อีกมากมาย ติช นัท ฮันห์ เป็นบุคคลสาคัญของโลกผู้หนึ่งที่มองเห็นความสาคัญในการสร้างสรรค์ ๑ ไอศูรย์ พยัฆศิริ, “การศึกษาเปรียบเทียบแนวความคิดเร่ืองสันติภาพของพระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺ โต) และมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนยี ร์”, วิทยานิพนธอ์ กั ษรศาสตรมหาบัณฑติ , (บณั ฑติ วทิ ยาลัย: มหาวิทยาลยั มหิดล, ๒๕๔๖), หน้า ๘๑. ๒ พระไพศาล วสิ าโล, ขอคนื พืน้ ที่ธรรม, (กรุงเทพมหานคร: มตชิ น, ๒๕๕๓), หน้า ๔๓.
๔ สันติภาพให้เกิดขึ้นในโลก โดยเฉพาะศานติสุขภายในของแต่ละปัจเจกชน มีความสาคัญมากในการ สร้างสันติภาพให้เกิดข้ึนในโลก ดังท่ี ทาไลลามะเคยพูดถึงติช นัท ฮันห์ ไว้ว่า “ติช นัท ฮันห์ เป็น ครูผู้สอนความเชื่อมโยงของสันติภายในและสันติภาพของโลก” จุดเด่นประการหน่ึงที่เด่นชัดคือ คา สอนท่ีเชื่อมโยงให้เราเห็นว่า การพัฒนาตนเองภายในเพื่อแก้ปมทุกข์ความขัดแย้งภายในของเราน้ันมี ส่วนสาคัญในการสรา้ งสนั ตภิ าพต่อโลก๓ ท่านเห็นว่าการที่จะสร้างสรรค์สันติภาพให้เกิดขึ้นในสังคมโลกได้นั้น ผู้คนในขบวนการ สันติภาพต้องมีศานติสุขภายในจิตใจตัวเองก่อนเป็นประการแรก หากเราไม่สงบสุขเราก็ทาอะไรเพื่อ สันติไม่ได้ หากเราไม่สามารถย้ิม เราก็ไม่สามารถช่วยให้คนอื่นย้ิมได้ หากเราไม่สงบสุข เราก็ไม่ สามารถแบ่งปันให้ขบวนการสันตไิ ด้ บ่อยครั้งขบวนการสันติคุกร่นุ ไปด้วยความโกรธเคืองและความชัง ไม่ได้เล่นบทบาทที่เราคาดหวัง เราต้องการวิธีการท่ีสดใสของการมีศานติสุข ของการสร้างสรรค์ สนั ตภิ าพ นั่นคอื เหตุที่ว่า ทาไม่จึงเปน็ สิ่งสาคญั นักสาหรบั เราทจ่ี ะฝึกสติ เพ่ือทจี่ ะแสวงหาวิธกี ารมอง เพ่ือที่จะเห็นและเพ่ือท่ีจะเข้าใจ มันจะเป็นความมหัศจรรย์หากเราสามารถนาวิธีการมองโดยไม่ แบ่งแยก ให้เกิดขบวนการสันติภาพ มันเป็นวิธีการเดียวท่ีจะทอนความเกลียดชังความก้าวร้าว งาน สันติภาพหมายถึง ความมีศานติสุขเป็นประการแรกสุด เราต้องพึ่งพิงซึ่งกันและกัน เด็ก ๆ ของเรา ตอ้ งพึ่งพงิ เราเพอ่ื อนาคตของเขา๔ ผู้วิจัยเห็นว่า แนวคิดเรื่องสันติภาพของ ติช นัท ฮันห์ มีความสาคัญและเป็นประโยชน์ มากต่อการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นแก่มวลมนุษย์โลก ตั้งแต่ระดับปัจเจกชนจนถงึ สังคมระดับโลก จึง เป็นเร่ืองที่น่าสนใจศึกษาค้นคว้า เพ่ือนามาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการดาเนินชีวิตในสังคม และในโลกปจั จบุ ันตอ่ ไป ๒. วัตถุประสงคข์ องการวิจัย ๑ เพอ่ื ศกึ ษาแนวคิดเรอื่ งสนั ตภิ าพ ๒ เพ่อื ศึกษาแนวคิดเร่อื งสันตภิ าพของตชิ นทั ฮันห์ ๓ เพื่อวิเคราะหแ์ นวคิดเร่อื งสนั ติภาพของติช นทั ฮันห์ ในโลกปัจจุบัน ๓ ทวศี กั ดิ์ อุชคุ ตานนท,์ เพือ่ นงาม ติช นทั ฮนั ห์, (สมุทรปราการ: บา้ นภายใน, ๒๕๕๓), หน้า ๑๑๕. ๔ ติช นัท ฮันห์, สันติภาพทุกย่างก้าว, แปลโดย ประชา หุตานุวัตร, สุภาพร พงศ์พฤกษ์, พิมพ์ครั้งท่ี ๖, (กรุงเทพมหานคร: ศยาม, ๒๕๕๔), หน้า ๑๔๒-๑๔๓.
๕ ๓. วิธีดาเนนิ การวจิ ยั การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงเอกสาร (Documentary Research) ซึ่งมีขั้นตอนการ ดาเนนิ การตามลาดับดงั ตอ่ ไปน้ี ๑ ศึกษาค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลจากเอกสารช้ันปฐมภูมิ (Primary Sources) ได้แก่ พระไตรปิฎก อรรถกถา ฎีกา อนฎุ กี า และงานเขยี นของติช นัท ฮนั ห์ ๒ ศึกษาค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลจากเอกสารชั้นทุติยภูมิ (Secondary Sources) ได้แก่ ตารา หนังสอื เอกสารบทความวชิ าการ และผลงานวจิ ยั ที่เกี่ยวข้องกับสันติภาพของติช นัท ฮนั ห์ ๓ วิเคราะห์ขอ้ มลู ทั้งหมดตามวตั ถปุ ระสงค์ ๔ เรียบเรียงและสรปุ ผลการวิจยั พรอ้ มข้อเสนอแนะ ๔. สรปุ ผลการวจิ ยั แนวคดิ เร่อื งสันติภาพ จากการศึกษาแนวคิดเร่ืองสันติภาพ จากแนวคิดของนักปราชญ์ นักวิชาการและ ผลงานวิจัย ผ้ศู ึกษาสามารถสรปุ ได้ ดงั น้ี ๑ สันติภาพ คือภาวะท่ีปราศจากสงคราม เปน็ แนวคิดที่พยายามอธิบายถงึ ความสันติสขุ ที่ ปราศจากสงคราม แม้ว่าจะนักสันติภาพบางกลุ่มจะมองว่า เมื่อปราศจากสงคราม ปัจจุบันก็ยังหา สันติภาพไม่ได้ก็ตาม แต่ผู้ศึกษามองว่า สันติภาพท่ีปราศจากสงคราม ก็ยังทาให้เห็นว่า เม่ือโลกไม่มี สงคราม ก็ลดการสูญเสียต่อสรรพส่ิงไปได้มาก ดังนั้นไม่ว่าเหตุผลใดก็ตาม สันติภาพจะต้องไม่มีภาวะ ทางสงครามและไมค่ วรเลอื กนามาใช้ในการแกไ้ ขปัญหา ๒ สันติภาพ คือภาวะท่ีปราศจากความขัดแย้ง แนวคิดส่วนหนึ่งเกี่ยวกับสันติภาพยังคง อธิบายว่า สังคมมนุษย์ต้องอยู่กับความขัดแย้งเพราะน่ันเป็นความจริง สันติภาพในภาวะที่ปราศจาก ความขัดแย้งจะเป็นสันติภาพได้หรือไม่ ผู้ศึกษาจึงมองว่า ความขัดแย้งท่ีเกิดข้ึนกับสังคมมนุษย์ สามารถท่ีจะสลายลงได้ นับต้ังแต่ความขัดแย้งขั้นพื้นฐาน คือ ระดับครอบครัว สังคม ไปจนถึง ระดบั สูง ก็มวี ิธีการท่ีจะลดความขัดแยง้ และสร้างวิถีของสันติภาพได้ เพราะหากไมม่ ีความขัดแย้งหรือ ขจัดความขัดแยง้ ได้ สนั ติภาพกเ็ กดิ ข้นึ ได้ ๓ สันติภาพ คอื ภาวะที่ปราศจากความรุนแรง ความรุนแรงทุกชนิดถือว่า เป็นสาเหตุของ การกอ่ ตัวหรือขยายตัวของสงครามตั้งแต่ในระดับเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ได้ ฉะน้ัน ความรุนแรงก็เป็น
๖ คานิยามหน่ึงทนี่ ักคิดหรือนักสันตภิ าพ พยายามทจ่ี ะอธบิ ายวา่ หากตอ้ งการเสริมสร้างสันตภิ าพ ความ รุนแรงกไ็ ม่ควรถูกเลือกเป็นวิธีแกไ้ ขปัญหาในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ๔ สันติภาพ เป็นเรื่องของความเสมอภาค นักสันติภาพบางท่านยังมองว่า สันติภาพไม่ได้ ปราศจากสงคราม ความขัดแย้ง ความรุนแรงเสมอไป แต่สันติภาพยังรวมไปถึงความเป็นธรรมหรือ ความเสมอภาคในสงั คมด้วย เพราะมองวา่ ความเสมอภาคของมนษุ ย์จะนาไปสู่สังคมท่ีสันตสิ ุขได้ ๕ สันติภาพ เป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน เรื่องสิทธิมนุษย์ได้ถูกนามาอธิบายไว้ในคานิยามของ สนั ตภิ าพด้วย เพราะมองว่า เรือ่ งสทิ ธิมนษุ ยเ์ ป็นเรอ่ื งเกี่ยวกับการดาเนนิ ชีวติ และสิทธิตา่ ง ๆ ของผูค้ น ในสังคมอย่างเท่าเทียมกัน ฉะน้ัน ในข้อ ๔ และ ข้อ ๕ น้ี จึงเป็นการมองเร่ืองสันติภาพท่ีหมายเอา ระบบโครงสรา้ งทางสังคมด้วย ๖ สันตาภาพ เป็นความสงบสันติท่ีมนุษย์ได้มอบความรักความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วย ซึ่งแนวคิดน้ีก็เป็นแนวคิดพื้นฐานในการเสริมสร้างสันติภาพ ไม่ว่าจะในแง่ของการสร้างความสามัคคี ความสมานฉันท์ หรือการปรองดอง ท้ังนักสันติภาพทางศาสนาและนักสันติภาพท่ัวไปก็เห็นไปใน ทิศทางเดยี วกันว่า ความรกั ความเมตตาสามารถที่จะพยงุ และรกั ษาซึ่งสนั ตภิ าพไว้ได้ แนวคดิ เรอื่ งสันตภิ าพของตชิ นัท ฮนั ห์ จากการศึกษาสรุปได้ว่า แนวคิดเรื่องสันติภาพของติช นัท ฮันห์ เป็นแนวคิดที่ท่าน พยายามอธิบายในทุกวิถีทางท่ีจะสานสันติภาพให้เกิดข้ึนบนโลก โดยท่านได้กล่าวไว้และแสงดจุดย่ืน อย่างชัดเจนเกี่ยวกับแนวคิดสันติภาพว่า เราจะใช้ทาทุกวิถีทางท่ีจะหลีกเล่ียงสงคราม ลูกระเบิด ความรนุ แรง ความขัดแย้ง ตลอดจนความเสมอภาคทางสงั คม หรือกล่าวอีกนัยหน่ึงคือ ปัญหาต่างๆ ท่ี ทาให้มนุษย์ขาดเสรีภาพในการดาเนินชีวิต ท่านจึงพยายามเสนอแนวคิดสันติภาพผ่านกระบวนการ ทางคาสอนของทา่ น ด้วยความรัก ความเมตา ความอ่อนโยน ภายใตห้ ลกั พนื้ ฐานของการมีสติทุกขณะ ในปัจจบุ ัน และขณะท่ีแนวคิดสนั ติภาพของทา่ นน้ัน จะเห็นได้วา่ มีลกั ษณะที่เป็นการนาเสนอแนวคิด และการพัฒนาเสริมสร้างควบคู่กันไป กล่าวคือ เม่ือท่านอธิบายแนวคิดสันติภาพในแต่ละประเด็น ท่านก็จะเสนอแนวคิดในการป้องกัน เช่น การป้องกันปัญหาของสงคราม โดยการพยายามทาความ เข้าใจถงึ รากเหง้าของสงคราม และรว่ มมอื กนั ตีแผ่ขอ้ มูลอย่างถูกต้องเพื่อเช่ือมโยงไปยังผู้คนบนโลกให้ รับรู้รว่ มกันเพือ่ ท่จี ะหลีกเลียงอย่างถึงท่สี ุด ดังนั้นแนวคิดสันติภาพของท่านติช นัท ฮันห์ ยังเห็นได้ชัด คือ สันติภาพไม่ใช่เรื่องวิธีการ แก้ปัญหาภายนอกอย่างเดียว แต่สันติภาพต้องเป็นเร่ืองภายในจิตของตนเองด้วยท่ีจะต้องพัฒนาให้
๗ เกิดข้ึนกับจิตของตนเอง ดังบทสวดภาพของท่านท่ีว่า “สันติภาพดารงอยู่ทุกย่างก้าว ดวงตะวันจ้าคือ หัวใจฉัน ดอกไม้แต่ละดอกยิ้มให้ฉันเติบโตเขียวสดชื่นเสียนี่กระไร ช่างเย็นชื่นยามลมพัด สันติภาพ ดารงอยู่ทุกย่างก้าว หนทางแห่งความเบกิ บานไม่มีทส่ี ้ินสดุ ” บทสวดภาวนานี้เห็นได้ว่า สาระหรือเนื้อ แท้ของการแสวงหาสันติภาพนั้นอยู่ที่ตัวเรา สันติภาพไม่ใช่เร่ืองไกลตัว สันติภาพจัดการได้ด้วยตัวเรา เอง หากกลา่ วให้ชัดเจนคือ ปญั หาทุกอย่างไม่ว่าสงคราม ความรุนแรง ความขัดแย้ง รวมไปถึง ความไม่เสมอภาคทางสังคมทุกชนิดที่ทาให้มนุษย์เกิดความทุกข์เวทนานั่นคือสภาวะท่ีไม่ใช่สันติภาพ เพราะทาให้การดาเนินชีวิตของมนุษย์ดาเนินไปอย่างขาดอิสระ ขาดเสรีภาพและไม่มีสันติสุขบนโลก น่ันก็คือภาวะทไ่ี ม่ใชส่ ันตภิ าพ ดังที่ท่านพุทธทางภิกขุ ได้กล่าวไว้ว่า “ตามปรกติไม่มีอะไรรบกวนความ สงบสุข เรียกว่าสนั ติภาพ; จะเรียกว่า สนั ติสขุ กไ็ ด้ มนั เปน็ ชื่อ, จะเรยี กว่าสันติภาพก็ได้ มันเป็นภาวะ ของสงิ่ ท่ีมชี ่อื อย่างน้ัน, มีสันติหรือมคี วามสขุ นี้มันก็ชัดอยู่แล้ว. ภาวะแห่งความมีสนั ติหรือมีความสุขน่ี ก็เปน็ ภาวะ เราเลยเรียกว่า สันติภาวะหรอื สนั ติภาพ”๕ ๆ แนวคิดเรอ่ื งสันตภิ าพของตชิ นทั ฮันห์ในโลกปจั จุบนั สว่ นแนวคิดเร่ืองสันติภาพของติช นัท ฮันห์ในโลกปจั จบุ ัน เป็นแนวคดิ ทีท่ ่านติช นัท ฮันห์ ได้เสนอข้ึนเพื่อใช้ในการเสริมสร้างสันติภาพ ซึ่งมีหลากหลายประการ นับต้ังแต่การเปลี่ยนแปรสังคม และชุมชนเพ่ือสันติภาพ การเปลี่ยนแปรตัวเองท้ังความคิดและการะทาทุกอย่างด้วยสันติ ตลอดท้ัง การหลักคาสอนทางพระพุทธศาสนามาใช้ในการพัฒนาสันติภาพ เช่น หลักอริยสัจ ๔ การเจริญ ภาวนา การฝึกสติ และการเจริญอานาปานสติ ซ่ึงท่านได้เน้นและให้ความสาคัญอย่างมากต่อการ นามาสอนผู้คนให้ได้เข้าถึงความจริงของปัญหาต่างๆ ด้วยการฝึกปฏิบัติร่วมกันในการดาเนินชีวิตใน สังคมปัจจุบัน ซ่ึงการฝึกปฏิบัติน้ี ท่านเรียกว่า เรากาลังสร้างสันติภาพและขณะท่ีเรากาลังงานเพื่อ สันติภาพ ท่านก็แนะว่า ความรู้สึกนึกคิดของเราเก่ียวกับสันติภาพ เราจะต้องรู้เท่าทันสถานการณ์ อย่างทันสมัย เพ่ือไม่ให้ตกเป็นเหย่ือของความความทุกข์ ไม่ว่าจะเกิดจากสงคราม การก่อการร้าย ความขัดแยง้ หรือความรุนแรงตา่ งๆ ทั้งนี้แนวคิดสันติภาพในโลกปัจจุบันของท่านติช นัท ฮันห์ ยังมองว่า เราจะต้องฝึกปฏิบัติ ทุกวิถีทางด้วยสันติวิธี ไม่มีการแบ่งแยก พยายามเข้าใจปัญหาของตนและผู้อ่ืนและช่วยกัน เปลี่ยนแปลงความทุกข์ท่ีเกิดขึ้นด้วยกัน ซ่ึงจะเห็นแก่ตนเอง หรือเป็นเรื่องของตนเอง กลุ่มของตนเอง ๕ พุทธทาสภิกขุ, สันตภิ าพของโลก, (ไชยา: ธรรมทานมลู นธิ ิ, ๒๕๓๑), หน้า ๒.
๘ นั้นไม่ได้ทุกคนต้องอาศัยกันและกัน เพราะท่านเช่ือว่า เราสามารถที่จะปลดปล่อยความทุกข์ของ บรรพบรุ ุษเราได้ นั่นก็หมายถงึ สันติภาพทีแ่ ท้จรงิ สามารถท่ีจะเกิดขึ้นได้ด้วยการอาศัยการทางานของ มนุษย์ด้วยกัน ดังท่ี วิไล ณ ป้อมเพชร ได้กล่าวว่า “ความอยู่รอดของมนุษยชาติ สังคมมนุษย์ใน อนาคตจะต้องได้รับการมองและการพิจารณาในลักษณะใหม่ กล่าวคือ จากมุมกว้างระดับโลก ระดับ จักวาล มิใช่จากแง่มุมของชาติใดชาติหนึ่ง หรือภูมิภาคใดภูมิภาคหน่ึงเท่านั้นสถานการณ์ของโลก มนุษย์ในปัจจุบันมคี วามผูกพนั และต้องพง่ึ พากัน”๖ ฉะนั้น แนวคิดเร่ืองสันติภาพในโลกปัจจุบันของท่านติช นัท ฮันห์ จึงกล่าวได้ว่า เป็น แนวคิดที่ท่านพยายามถ่ายทอดการสรรค์สร้างสันติภาพต้ังแต่ในระดบั ตนเองและเชื่อมโยงไปจนระดับ สูงสุดคือระดับโลกในทุกๆ ด้วยการเปลี่ยนแปลงตนเอง ชุมชน สังคมและโลก อีกทั้งท่านยังเสนอ หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาในการสร้าวสันติภาพโลกด้วย ซ่ึงวิถีทางที่ท่านเป็นเจตนารมณ์อัน สูงส่งเพื่อให้สถานการณ์ของโลกในปัจจุบันได้เดินทางไปสู่สันติภาพ แม้ว่าวิธีการที่ท่านเสนอข้ึน เพ่ือท่ีจะแกไ้ ขปกป้องหรือผดุงไว้ซ่ึงสนั ติภาพน้ัน อาจได้รับการตอบโตแ้ ละไม่เห็นด้วยกับท่าน แตท่ ่าน ก็มีความเช่ือว่า วิธีการของท่านเป็นวิธีการเดียวอย่างแท้จริงท่ีจะทาให้มนุษย์พบเจอสันติภาพ และ ปัจจุบันก็เห็นได้ชัดว่า ทั้งคนหนุ่มสาวในเวียดนาม และตลอดจนท่ัวโลกได้เดินตามทางสันติภาพของ ท่านติช นทั ฮันห์ ๕. ข้อเสนอแนะ จากการวิจัยเร่ือง “การศึกษาแนวคิดเรื่องสันติภาพของติช นัท ฮันห์” ทาให้เห็นว่ายังมี เรื่องท่คี วรศกึ ษาเกี่ยวกบั สนั ติภาพ ดงั น้ี ๑) ควรทาการศึกษาเปรียบเทียบแนวคิดสันติภาพของท่านติช นัท ฮันห์กับแนวคิด สันตภิ าพของนักสันติภาพท่านอน่ื ๆ ๒) ควรทาการศึกษาแนวคดิ สันตภิ าพของนักสนั ตภิ าพท่านอ่นื ๆ ๖ ศรีเพ็ญ ศุภพิทยากุล (บรรณาธิการ), มนุษย์กับสันติภาพ, พิมพ์ครั้งท่ี ๔, (กรุงเทพมหานคร: จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย, ๒๕๕๖).
๙ บรรณานกุ รม ตชิ นัท ฮนั ห์. สนั ติภาพทกุ ยา่ งกา้ ว. แปลโดย ประชา หุตานวุ ัตร, สุภาพร พงศพ์ ฤกษ์. พมิ พ์ครัง้ ท่ี ๖. กรุงเทพมหานคร: ศยาม, ๒๕๕๔. ทวศี กั ด์ิ อชุ คุ ตานนท์. เพ่ือนงาม ติช นัท ฮันห์. สมุทรปราการ: บา้ นภายใน, ๒๕๕๓. พทุ ธทาสภกิ ข.ุ สันตภิ าพของโลก. ไชยา: ธรรมทานมูลนิธิ, ๒๕๓๑. พระไพศาล วิสาโล. ขอคืนพนื้ ท่ีธรรม. กรงุ เทพมหานคร: มติชน, ๒๕๕๓. ศรีเพ็ญ ศุภพิทยากุล (บรรณาธิการ). มนุษย์กับสันติภาพ. พิมพ์ครั้งท่ี ๔. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั , ๒๕๕๖. ไอศูรย์ พยฆั ศิริ. “การศึกษาเปรียบเทียบแนวความคิดเร่อื งสันตภิ าพของพระธรรมปฎิ ก (ป.อ. ปยุตฺโต) และมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์”. วิทยานิพนธ์อักษรศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิต วิทยาลัย: มหาวทิ ยาลยั มหิดล, ๒๕๔๖.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125