สรุปเนื้อหาปี63

ติ ว V- N E T สำ ห รั บ วิ ช ำ ทั ก ษ ะ ก ำ ร จั ด ก ำ ร ง ำ น อ ำ ชี พ ปวช.3 ปี กำรศกึ ษำ 2563 ด้วยระบบ Digital Testing วันอังคำรที่ 6 เมษำยน พ.ศ. 2564 โดย ครแู วนดา้ เวลำ 13.00-16.00 น. ณ วทิ ยำลัยเทคนิคอุบลรำชธำนี







ค ว ำ ม รู้ ท่ั ว ไ ป เ ก่ี ย ว กั บ อ ำ ชี พ

1.1 ความหมายของอาชีพ อาชพี (Occupation) ตามความหมายของบัณฑิตยสถาน (2546 : 1362) กลา่ ววา่ อาชพี (อาชีว-อาชีวะ) การเลยี้ งชีวิต การทามาหากนิ ในงานทท่ี าเปน็ ประจาเพ่ือเลีย้ งชีพ

ความหมายของอาชีพ การทากิจกรรมใดๆ ซึ่งนาไปสกู่ ารไดร้ บั ผลตอบแทนทีอ่ าจจะ - เปน็ รายไดท้ เ่ี ปน็ วตั ถจุ บั ตอ้ งได้ เชน่ เงิน - เป็นส่งิ ตอบแทนทจี่ บั ตอ้ งไม่ได้ เชน่ ความปลอดภัยในตนเอง อุดมคติ หรอื ความพงึ พอใจ ซง่ึ ผลตอบแทนที่ไดจ้ ะเปน็ ปจั จยั ให้ชวี ติ ดารงอยูไ่ ดใ้ นสงั คม • สรุปแล้ว อาชีพ หมายถึง การทามาหากนิ ในงานท่ที าเปน็ ประจา เพ่อื ให้เกดิ รายได้ สาหรับการเลย้ี งชวี ติ ตนเองและครอบครัว

1.2 ความสาคญั ของอาชีพ 1. พฒั นาคุณภาพชีวิตท่ีดขี ึน้ พัฒนาคณุ ภาพชีวติ ทีด่ ขี ึ้น เชน่ มีรายได้ซ้อื บา้ น ซอื้ รถยนต์ ซอ้ื เสื้อผ้าใหม่ ฯลฯ 2. จดุ เริ่มต้นใพฒั นาความก้าวหนา้ ยิง่ ขน้ึ จุดเร่มิ ตน้ ในการพฒั นาความกา้ วหนา้ ย่งิ ขน้ึ เช่น พนักงาน ---> หวั หน้าพนกั งาน ปลดั อาเภอ --->เปน็ นายอาเภอ --->เปน็ ปลัดจังหวัด --->เป็นผ้วู า่ ราชการจงั หวัด

3. ฝกึ ตนเองใหม้ ีภาวะการเป็นผู้นา ฝึกตนเองใหม้ ภี าวการณเ์ ปน็ ผนู้ า โดยเฉพาะหากได้รบั การเลอื กขึน้ เปน็ ผนู้ าหนว่ ยงาน 4. สร้างความเจรญิ ก้าวหนา้ สร้างความเจรญิ กา้ วหนา้ ใหแ้ กป่ ระเทศชาติ ทกุ คนจะชว่ ยกันเสยี ภาษอี ากร และรัฐบาลนาเงินเหลา่ น้ีมาพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าตอ่ ไป

ประเภทของอาชีพ อาชีพรับราชการ คือ พนกั งานทไ่ี ด้รับการจา้ งงานจากรัฐบาล เรียกวา่ “ข้าราชการ” มหี น้าที่ ให้บรกิ ารประชาชนในรูปแบบต่างๆตามตาแหน่ง การทางานข้าราชการ มรี ะยะเวลา ของการทางานจนถงึ อายุ 60 ปี เรยี กวา่ “ปลดเกษยี ณ” มวี นั ทาการแนน่ อน มีรายได้ เปน็ เงนิ เดอื นประจา อาชพี ลูกจ้าง คอื อาชีพท่ไี ม่ได้เป็นเจ้าของกิจการ แตเ่ ปน็ ลูกจ้างหรอื พนกั งานองค์การธรุ กิจ หรอื หนว่ ยงานต่างๆ ได้คา่ ตอบแทนเป็นเงนิ เดือน หรือ รายไดป้ ระจาวัน คา่ ตอบแทน เป็นชน้ิ งาน

ประเภทของอาชีพ (ต่อ) อาชีพอิสระ (สว่ นตัว) คอื เป็นอาชพี ทีล่ งทุนด้วยตัวเอง หรือรว่ มกบั บุคคลอื่น ลกั ษณะการทางานเป็น นายจา้ งตนเอง แบง่ เปน็ • อาชพี การสร้างผลผลติ >> ธุรกจิ การเกษตร และ ธุรกจิ อุตสาหกรรม • อาชพี การคา้ >> ธรุ กิจค้าส่ง และ ธรุ กจิ ค้าปลีก • อาชีพการใหบ้ ริการ >> เชน่ โรงแรม สปา ซักรีด

ลักษณะของอาชีพ ธรุ กิจการเกษตรกรรม เปน็ อาชพี หลักของคนไทย มีความสาคัญในการพัฒนาเศรษฐกจิ และการพัฒนา ประเทศเป็นงานปฏิบัติกบั ดนิ เพอ่ื ให้เกิดผลผลติ ทั้งการทานา ทาไร่ ทาสวน ทาป่าไม้ ปลูกพชื เล้ียงสตั ว(์ ปศสุ ตั ว)์ ประมง ธุรกิจการผลติ เป็นธรุ กิจทตี่ อ้ งซอ้ื วตั ถดุ บิ แลว้ นาไปสกู่ ารผลติ โดยใช้แรงงานและคา่ ใช้จ่ายใน การผลติ ผลออกมาคือสินค้าสาเรจ็ รปู รายไดข้ องธรุ กจิ นี้คือรายไดจ้ ากการขาย การ จดั ทารายงานทางการเงินคอ่ นข้างทีจ่ ะยุ่งยากเนอ่ื งจากต้องคานวณต้นทนุ การผลติ ค่อนข้างซับซ้อน

ลักษณะของอาชีพ ธรุ กจิ การตลาด คือ กระบวนการของการสอ่ื สารคุณคา่ ของผลิตภัณฑ์หรอื บรกิ ารไปยังลกู ค้า การตลาดอาจถูกตีความวา่ เป็นศลิ ปะแหง่ การขายสินคา้ ในบางคร้งั แต่การขายนน้ั เปน็ เพยี งส่วนเล็กๆ สว่ นหนงึ่ ของการตลาด ธรุ กจิ การเงนิ คือ การจัดการทางการเงนิ และการตดั สนิ ใจทางการเงนิ ของบรษิ ทั เช่น การวเิ คราะห์ผลตอบแทนของโครงการเพอ่ื ตดั สินใจลงทุนในโครงการท่ีให้ ผลตอบแทนมากกวา่ ตน้ ทนุ เงนิ ทนุ การวเิ คราะหค์ วามเสยี่ งของโครงการ การจดั หา เงนิ ทนุ เพื่อใหบ้ รษิ ัทมโี ครงสร้างเงินทุนท่เี หมาะสม

ธุรกจิ การขนสง่ คือ การเคลอ่ื นยา้ ยคนและสิง่ ของจากทีห่ นึง่ ไปยังอกี ทหี่ นงึ่ การขนส่งแบง่ ออกเป็นหมวดหมู่ใหญ่ ได้แก่ ทางบก ทางนา้ ทางอากาศ

ความหมายของธุรกจิ ธุรกิจ (Business) หมายถึง กระบวนการนาทรัพยากรธรรมชาติ มาผ่านกรรมวิธีการผลิตด้วยแรงงานหรือเคร่ืองจักร เพ่ือแปรสภาพให้ เป็นสินค้าก่ึงสาเร็จรูปหรือสินค้าสาเร็จรูปเพ่ือจาหน่าย รวมท้ังกิจกรรม บริการต่าง ๆ ดว้ ย โดยมีวัตถปุ ระสงคเ์ พ่ือมุ่งค้าหรอื แสวงหากาไร

ข้อสังเกต 1. กจิ กรรมบริการตา่ ง ๆ เช่น โรงแรม สายการบิน ธนาคาร ฯลฯ 2. ธุรกิจจะตอ้ งมวี ัตถุประสงค์เพอื่ มุ่งคา้ หรือแสวงหากาไร จึงจะเข้า ความหมายของ คาว่า “ธุรกิจ” แต่ถ้ากระทาเพอื่ บริจาค หรือกระทาเพื่อ แจกจา่ ยก็จะไมเ่ ข้าความหมายของคาวา่ ธุรกิจ “องค์กรทางธุรกจิ ” อาจเป็น - ผูผ้ ลิต - ผจู้ าหน่าย - ผใู้ หบ้ รกิ าร

อาชพี เสรใี นอาเซียน 1. อาชพี วศิ วกร ผทู้ ีป่ ระกอบอาชีพทางดา้ นวิศวกรรมมหี น้าที่ ศึกษาวิเคราะห์ คานวณ ออกแบบ ตรวจสอบแกไ้ ขปัญหา และควบคมุ การผลติ อาทิ การก่อสร้างสิง่ กอ่ สร้าง การออกแบบ และผลิตรถยนต์ การควบคมุ เคร่อื งจกั รกลโรงงานต่าง ๆ โดยวศิ วกรยังแบง่ ออกได้เปน็ หลายสาขา เชน่ วศิ วกรรมสงิ่ แวดลอ้ ม วศิ วกรรมเคมี วศิ วกรรมอุตสหการ วศิ วกรรมโทรคมนาคม 2. อาชพี สถาปนกิ สถาปนิก คอื บคุ คลผ้เู ก่ยี วข้องในการออกแบบ และ วางแผน ในการ ก่อสรา้ ง หรอื ที่เรยี กว่างานสถาปตั ยกรรม โดยสถาปนกิ จะเป็นผ้ทู เ่ี ขา้ ใจในมาตรฐานการกอ่ สร้างของ อาคาร เขา้ ใจถงึ หนา้ ทใ่ี ชส้ อยของอาคารนัน้ รวมถงึ วสั ดุท่จี ะนามาเป็นส่วนประกอบของสิ่งก่อสร้างนน้ั สถาปนิกจาเป็นตอ้ งไดร้ บั การศึกษาทางสถาปตั ยกรรมศาสตรแ์ ละไดร้ ับใบอนญุ าติประกอบอาชพี สถาปัตยกรรม ถงึ จะสามารถทางานในวชิ าชพี สถาปนิกได้ ซงึ่ คล้ายกบั การทางานในสาขาวิชาชพี อ่ืน

3. อาชพี พยาบาล 4. อาชีพการสารวจ 5. อาชีพพนกั งานบญั ชี 6. อาชพี ทันตแพทย์ 7. อาชพี แพทย์ 8. การบรกิ าร การท่องเท่ยี ว

คำถำม นายกรกช ปลูกผักสง่ ตลาดทกุ วนั โดยมนี ายธนบดีนารถมารบั จากนายกรกช แล้วสง่ ผัก เขา้ ตลาด รับคนงานเพาะปลกู และจัดเกบ็ ผกั ธรุกิจของนายธนบดี คือธุรกิจข้อใด ก. ธุรกจิ ขนส่ง ข. ธรุ กจิ การเงนิ ค. ธุรกจิ การตลาด ง. ธรุ กิจการเกษตร เฉลย ก.

มาตรฐานอาชีพ

ความหมายของมาตรฐานอาชพี (Occupation Standard) ฝีมอื แรงงานแห่งชาติ (กรมพฒั นาฝีมอื แรงงาน 2556 : 1) มาตรฐานอาชีพ คอื ข้อกาหนดทางวชิ าการท่ีใชเ้ ปน็ เกณฑ์วดั ระดบั ความรู้ ความสามารถและทศั นคติ ในการทางานของผู้ประกอบอาชีพในสาขาตา่ งๆ มาตรฐานอาชพี หมายถงึ ข้อกาหนดที่เปน็ เกณฑเ์ กี่ยว ความรคู้ วามสามารถ และทัศนคติ ทคี่ นสามารถใชใ้ นการทางานในอาชพี ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ

มาตรฐานอาชีพมอี งคป์ ระกอบทสี่ าคญั 3 ส่วนดงั นี้ 1. ความรู้(Knowledge) ความรเู้ ปน็ สิ่งจาเปน็ ทีจ่ ะใชง้ านน้นั ๆ ไดถ้ กู ตอ้ งตามหลกั วชิ าการหรอื หลกั ทฤษฎใี นอาชีพต่างๆ 2. ทักษะ (Skill) ทกั ษะเป็นการสะสมประสบการณ์จนเกิดความชานาญ มีความสามารถ เพียงพอท่ีจาทางานได้อย่างมีคุณภาพ ตามข้อกาหนดและแล้วเสรจ็ เชน่ -ทักษะอาชพี ชา่ งไฟฟา้ ภายนอกอาคารสามารถติดตัง้ ซ่อมแซม แกป้ ัญหาเก่ยี วกบั ระบบไฟฟา้ นอกอาคารไดท้ ุกวิธี โดยถูกตอ้ งและปลอดภัย เปน็ ต้น

3. ทศั นคติ(Attitude) มีจิตสานกึ ในการทางานที่ดี ซงึ่ เป็นเร่อื งเก่ียวกับนสิ ยั ในการประกอบอาชีพ เช่น - การตรงตอ่ เวลา - การรักษาวินยั มคี วามซ่ือสัตย์ - ประหยดั - วเิ คราะหว์ างแผน แกไ้ ขปัญหาในการทางาน โดยคานงึ ถึงประสิทธิภาพ และประสทิ ธิผลในการทางาน ซ่งึ ทศั นคตนิ ี้มคี วามสาคัญมากในการประกอบอาชพี ทุกอย่างในยุคสมัยใหมท่ ่ีเจริญกา้ วหนา้ ด้วยเทคโนโลยี

มาตรฐานอาชีพ (Occupational Standard) สรุปไดว้ ่า ดา้ นความรู้ ด้านทักษะ ด้านคุณธรรม - ความรทู้ ี่จาเปน็ - สะสม -มคี วามรับผิดชอบ ตอ่ การทางานน้นั ๆ ประสบการณ์จน -มีจติ สานึกท่ดี ี ตามหลกั วชิ าการ เกดิ ความชานาญใน หรือทฤษฎี งานทท่ี า

ทักษะท่ีจาเป็ นต่อการประกอบอาชีพ ทกั ษะกำร ทำงำน ร่วมกนั ทกั ษะ ทกั ษะ ทักษะ กระบวนกำร ทจ่ี ำเป็ น แสวงหำ ควำมรู้ ทำงำน ทักษะ ทกั ษะกำร แก้ปัญหำ จัดกำร

คาถาม นกั เรียนจะเตรยี มความพรอ้ มขณะกาลงั ศึกษา เพอื่ ก้าวสชู่ ีวติ การทางาน อย่างไรบา้ ง

การเตรียมความพรอ้ มขณะกาลังศึกษา เพ่อื กา้ วส่ชู วี ิตการทางาน 1. การเตรยี มตวั ในดา้ นวิชาการ หลกั การ ทฤษฎีในงานอาชพี อยา่ งถ่องแท้ 2. การเตรียมตวั ประสบการณช์ วี ติ จากการทากิจกรรมนอกหลักสตู รการเรียน อย่างเปน็ ระบบ แหลง่ เรยี นรู้ กิจกรรมกลุ่ม ชมรมตา่ งๆ ที่ตนเองสนใจ 3. การฝกึ ฝนความสามารถพิเศษ ขับรถยนต์ การใช้คอมพวิ เตอร์ พดู ได้หลาย ภาษา

จริยธรรมที่ผู้ประกอบอาชีพควรปฏิบัติ จริยธรรม หมายถึง กฎเกณฑ์ ขอ้ ปฏิบตั ิในการประกอบอาชีพ เช่น ความ ซ่ือสตั ยส์ ุจริต ความเช่ือถือได้ ความไวว้ างใจ ความมีวนิ ยั ซ่ึงจริยธรรมต่างๆน้ี เราตอ้ งนามาใชใ้ นการประกอบอาชีพ

การมีวินัยในการทางาน หมายถึง กฎ กติกาของการอยรู่ ่วมกนั ของสงั คมใดสังคมหน่ึง เพ่อื ใหเ้ กิดความเป็น ระเบียบเรียบร้อย เช่น คาสั่ง ระเบียบ หรือขอ้ บงั คบั เพื่อเป็นการควบคุมการทางานของ ลูกจา้ งใหส้ ามารถทางานใหแ้ ก่นายจา้ งอยา่ งมีประสิทธิภาพ เช่น - การมาทางานแต่เชา้ และรูดบตั รเขา้ ทางานเองทุกวนั - ใส่รองเทา้ แบบหุม้ เทา้ สวมหมวกนิรภยั ตามระเบียบของบริษทั - แต่งกายตามที่บริษทั กาหนดเสมอ - การออกไปทานขา้ วนอกบริษทั จากน้นั กลบั มาทางานตามเวลา

จริยธรรมที่ผู้ประกอบอาชีพควรปฏิบัติ 1. การมีวนิ ยั 2. ความซื่อสตั ยส์ ุจริต 3. ความรับผดิ ชอบ 4. มีจริยธรรมตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม 5. สร้างสมั พนั ธภาพที่ดีต่อลูกคา้ 6. ขยนั 7. ใหข้ ่าวสารอยา่ งถูกตอ้ ง 8. ดาเนินธุรกิจถูกกฎหมาย 9. มีจรรยาบรรณต่ออาชีพ

จรรยาบรรณท่ีผู้ประกอบอาชีพควรปฏิบัติ จรรยาบรรณ คือ ขอ้ ความท่ีกาหนดการประพฤติท่ีดีงามสาหรับอาชีพ แต่ละอาชีพ โดยกาหนดเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร

จรรยาบรรณต่ออาชีพ 1. มีความซื่อสัตยต์ ่อลูกคา้ เพื่อนร่วมอาชีพและกิจการ 2. ใหบ้ ริการท่ีดีสม่าเสมอ 3. รักษาความลบั ของลูกคา้ 4. ไมล่ ดหรือเสนอที่จะลดราคาสินคา้ เป็นเป็นการจูงใจ 5. ไมก่ ล่าวใหร้ ้ายนกั ขายคนอื่นหรือกิจการอ่ืน 6. ไม่แยง่ ลูกคา้ คนอื่น 7. เสนอขายสินคา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ 8. หมนั่ ศึกษาหาความรู้ในวชิ าชีพเพ่มิ เติมอยเู่ สมอ 9. ใหค้ วามร่วมมือกบั กิจกรรมต่างๆ 10. ประพฤติตนอยใู่ นศีลธรรม

การปฏิบตั ติ นในงานอาชีพที่เหมาะสม การปฏบิ ตั ิตนในงานอาชพี คอื หลกั การและแนวทางในการปฏบิ ัตติ นท่ดี ีใน งานอาชีพทัง้ ต่อตนเองตอ่ เพอื่ นรว่ มงานเพ่ือให้การปฏิบตั ิงานดาเนินไปอยา่ ง เรียบร้อยและประสบความสาเร็จ 1. การมีวินยั ในการประกอบอาชีพ 2. ความซือ่ สตั ย์สจุ ริต 3. ความรับผิดชอบในงานอาชีพ 4. การมจี รยิ ธรรมต่อส่งิ แวดลอ้ ม 5. ขยนั หมัน่ เพียร 6. ขยันหมน่ั เพียร 7. ให้ข้อมูลข่าวสารอย่างถกู ตอ้ ง 8. ดาเนนิ ธุรกิจถูกกฎหมาย 9. มีจรรยาบรรณต่ออาชพี

หน้าทแี่ ละความรับผิดชอบในการทางาน 1. หน้าทแ่ี ละความรับผิดชอบตอ่ ตนเอง 1.1 ปฏบิ ัตติ นเปน็ แบบอย่างทีด่ ีให้แกผ่ ูอ้ น่ื 1.2 ยดึ หลกั คณุ ธรรมและจริยธรรมในการปฏิบัติงาน 1.3 ให้เกียรติผู้ร้ทู ้ังผทู้ ี่อาวุโสกว่า ผทู้ ี่เทา่ เทยี มกนั 1.4 รกั ษาจรรยาบรรณวชิ าชีพ

หน้าทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบในการทางาน 2. หน้าท่แี ละและความรับผดิ ชอบตอ่ ผ้บู ังคบั บัญชา 2.1 มีความซือ่ สัตยต์ ่อผู้บงั คับบญั ชา 2.2 รายงานผลการปฏบิ ัติงานตอ่ ผบู้ ังคับบัญชาตามความเหมาะสม 2.3 รู้จักใช้ศลิ ปะการพดู 2.4 ไม่แสดงความขดั แย้ง 2.5 เรียนรงู้ านดว้ ยตนเอง

หน้าท่ีและความรบั ผิดชอบในการทางาน 3. หนา้ ท่แี ละความรับผิดชอบต่อผใู้ ต้บังคบั บัญชา 3.1 ให้ความเป็นธรรมและเทา่ เทยี บกัน 3.2 เข้าใจและเหน็ ใจต่อความจาเป็นในธรุ ะสว่ นตวั ของผใู้ ต้บงั คบั บญั ชา 3.3 สัง่ งานใหช้ ดั เจนและตรงกบั ความสามารถของผ้ใู ตบ้ งั คบั บญั ชาแต่ละคน 3.4 ไมใ่ ช่อารมกับผ้ใู ตบ้ ังคับบญั ชา

คุณสมบัติท่ีจาเป็นในการทางานอาชีพ คณุ สมบตั ิของอาชีพรับจ้าง • มีไหวพรบิ สติปญั ญา • มคี วามรใู้ นการใชอ้ ปุ กรณ์ • มที ักษะในการใชค้ อมพวิ เตอร์ • ใช้เทคโนโลยีได้ • มนุษยสัมพันธ์ที่ดี • ความคิดรเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ รอบคอบ • มรี ะเบยี บวนิ ยั • รู้ภาษาต่างประเทศ

คุณสมบัติท่ีจาเป็นในการทางานอาชีพ (ต่อ) คุณสมบัติของอาชีพอิสระ • กลา้ เสี่ยง กลา้ ตัดสนิ ใจ • ประหยดั ทรพั ย์ ประหยัดเวลา • มคี วามคดิ ริเริม่ • สุขภาพแข็งแรง • มีความเปน็ ผูน้ า • ขยันหม่ันเพียร • มีระเบยี บวินยั ซอ่ื สตั ย์ รับผดิ ชอบ • บุคลกิ ภาพที่ดี • มีความรูแ้ ละทกั ษะในอาชพี น่ันเปน็ อยา่ งดี

คำถำม ข้อใด ไมใ่ ช่ การเตรยี มตวั ในขณะกาลังศึกษาเพ่อื กา้ วเข้าสู่ชวี ติ การทางาน ก. รว่ มกจิ กรรมกลุ่มหรอื ชมรมต่างๆ ตามท่ตี นเองสนใจ ข. ฝึกฝนความสามารถด้านภาษาองั กฤษ ค. อา่ นหนังสือ ความรู้วชิ าการ ง. ศกึ ษาดูงานจากแหลง่ เรยี นรู้ จ. กรอกใบสมคั รผา่ นเว็บไซตส์ มคั รงานออนไลน์ เฉลย จ

ก า ร บ ริ ห า ร

การบริหาร การบริหาร (Administration) ประโยชน์ของการบริหาร คือ กระบวนการดาเนินงานอยา่ ง 1. ประหยดั มีศิลปะในการใชค้ น และทรัพยากร 2. ประสิทธิผล ต่างๆ เพ่ือใหง้ านบรรลุวตั ถุประสงค์ 3. ประสิทธิภาพ ที่กาหนดไว้ 4. ความเป็นธรรมต่อทุกคน ในองคก์ าร 5. มีเกียรติยศชื่อเสียง

ร ะ ดั บ ข อ ง ผู้ บ ริ ห า ร ( L E V E L S O F M A N A G E R ) ผู้จดั การ ระดบั สูง 1. ผู้จัดการระดับสูง (Top Manager) หรือผบู้ ริหาร จะประกอบดว้ ย ประธาน หรือคณะกรรมการ หรือตาแหน่งอ่ืนท่ีเป็ นระดบั สูงสุดขององคก์ าร ผู้จดั การ มีหนา้ ที่ในการวางแผนงานระยะยาวในองคก์ าร ระดับกลาง 2. ผู้จัดการระดับกลาง (Middle Manager) หรือผนู้ าระดบั กลาง เรียกวา่ ผ้จู ดั การระดับต้น ผจู้ ดั การ เช่น ผจู้ ดั การฝ่ ายต่าง ๆ และ หวั หนา้ แผนกงาน เป็นตน้ มีหนา้ ที่ เกี่ยวขอ้ งเฉพาะอยา่ งภายในองคก์ ร โดยรับผดิ ชอบการวางแผนงานและ ระเบียบวธิ ีการปฏิบตั ิงานเฉพาะอยา่ ง 3. ผ้จู ัดการระดับต้น (First Line Manager) ผนู้ าระดบั ตน้ เรียกวา่ หวั หนา้ งาน (Supervisor)ไดแ้ ก่ หวั หนา้ งานตา่ ง ๆ ที่มีความรับผดิ ชอบโดยตรงตอ่ รายละเอียด

ทกั ษะดา้ นความคิด ผจู้ ดั การระดบั สูงใชม้ าก ทกั ษะดา้ นมนุษยสัมพนั ์ ผจู้ ดั การระดบั กลางใชม้ าก ทกั ษะดา้ นเทคนิค ผจู้ ดั การระดบั ตน้ ใชม้ าก ภาพที่ การเปรียบเทียบปริมาณทกั ษะของผจู้ ดั การดา้ นต่าง ๆ

การบรหิ ารยุคใหม่ประกอบดว้ ยสงิ่ ทส่ี าคัญ 8 ประการ คอื 8M ไดแ้ ก่ 1. คน (Man) เจา้ หนา้ ท่ผี ปู้ ฏบิ ตั งิ าน 2. เงิน (Money) สาหรับเปน็ ค่าจ้างและค่าใช้จา่ ยในการดาเนนิ การ 3. วสั ดุส่ิงของ (Material) ไดแ้ ก่ อุปกรณ์ เครอ่ื งใช้ และอาคารสถานที่ 4. การจัดการ (Management) หมายถงึ ความรู้เก่ยี วกบั การจัดการ 5. ตลาด (Market) เป็นทจ่ี าหนา่ ยสนิ คา้ และบรกิ าร 6. เคร่ืองจักร (Machine) ใชส้ าหรับผลติ สินคา้ และบรกิ าร 7. วิธีการทางาน (Method) หมายถงึ วธิ หี รือขั้นตอนในการทางาน 8. เวลา (Minute) หมายถึง เวลาในการดาเนนิ งาน

องคก์ าร

ความหมายขององคก์ าร องคก์ าร คือ กลุ่มบคุ คลทที่ างานร่วมกัน เพื่อใหง้ านดาเนนิ ไปสู่ ความสาเรจ็ ตามวตั ถปุ ระสงค์ โดยมรี ะบบของการประสานงาน อย่างเหมาะสม

ประเภทขององค์การ เกณฑ์การแบง่ วตั ถุประสงค์ •เพอื่ ประโยชนส์ มาชกิ •เพือ่ ธุรกิจ องค์การ วตั ถุประสงค์ •เพื่อบรกิ าร •เพื่อสวัสดกิ ารประชาชน •เป็นทางการ •ไมเ่ ปน็ ทางการ

โครงสร้างองคก์ ร มลี ักษณะสาคญั ดงั น้ี 1. กาหนดงานให้ชดั เจน มีการแบ่งงานกันทา สมาชกิ ใน องคก์ ารจะไดร้ ับมอบหมายงานให้ทางานตามความรู้ ความสามารถและความถนดั ของแต่ละบคุ คล 2. มีสายบังคับบัญชาเปน็ ชัน้ ๆ ลดหลนั่ กันลงมา มีสายการ บังคบั บัญชาเปน็ ช้ันๆ ตั้งแต่ระดับระดบั สงู สดุ ลงมาถึงระดบั ลา่ งสดุ ขององคก์ าร 3. มีวตั ถุประสงค์ องคก์ ารตอ้ งมีวตั ถุประสงคท์ ี่แนน่ อน เพอื่ สมาชกิ ขององค์การจะได้ยึดถอื เป็นแนวทางในการทางาน

4. วตั ถุประสงค์ขององคก์ าร เพ่อื สรา้ งคุณคา่ ทส่ี ังคมปรารถนา เพอื่ ตอบสนองความตอ้ งการของสมาชิกแต่ละคน เพอ่ื ความดารงอย่แู ละความเจรญิ ขององคก์ าร

ประโยชนข์ องการจัดองคก์ าร ประโยชนต์ ่อองค์การ ประโยชนต์ อ่ ผ้บู รหิ าร ประโยชน์ตอ่ ผู้ปฏิบัตงิ าน