ดร.หลวงพ่อแดง พระสงฆ์ไม่ทิ้งประชาชน

พระครูพู ิศิ ิษิ ฏ์ป์ ระชานาถ, ดร 99 ภาพท่ี 5 ขา้ วในวิถเี กษตรถูกแปรรปู เปน็ ขา้ วหอมมะลิ สเี อง ผลิตเอง สง่ เอกถงึ ผบู้ ริโภคโดยตรงจาก ศนู ยก์ ารเรยี นรเู้ กษตรพง่ึ ตนเอง มูลนธิ ิวัดอนิ ทาราม ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวดั สรุ ินทร์ ที่มา: วดั อนิ ทาราม (2564) ผลเชิงประจักษ์การขบั เคล่ือนเชงิ ปฏิบัติพทุ ธเศรษฐศาสตร์การผลติ สู่การบริโภค การดำเนินโครงการพัฒนาท่ีดินเพื่อเป็นฐานการเรียนรู้เกษตรชุมชนของ ที่มีเป้าหมายเพื่อ การเข้าไปส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนให้มีอยู่มีกิน มีคุรภาพชีวิต และรู้จักเสียสละแบ่งปันเพ่ือ ส่วนรวมและคนอื่น จึงทำให้ต้องมาตระหนักและคิดต่อไปว่า จะมีแนวทางหรือวิธีการในการ ดำเนินการอย่างไร เพื่อให้คนเหล่านั้นมีคุณภาพ เมื่อเรายกระดบั ท่ีดินทีป่ ลดหนีใ้ ห้เจ้าของมาทำโคก หนองนาเปน็ ตวั อย่างนำรอ่ ง ต้นแบบการทำนาไร้เคมี มีฐานการเรยี นรู้ กวา่ 50 วิชา วชิ าฟาร์มไกส่ รา้ ง เงิน บ่อปลา บ่อหอย บ่อกบ บ่อแหนแดงไมโครฟิลลา่ สวนสมุนไพร ฟ้าทะลายโจร สวนกล้วยกว่า 1000 ต้น สวนมะพร้าว กาแฟ สวนหญ้าเนเปียร์ นาแปลงขา้ วหอมมะลิ 2แปลง คอกวัว ป๋ยุ คอก คอก ไก่ ให้ฟอสฟอรัส โรงเรือนทำก้อนปุ๋ยอะตอมมคิ นาโน วิชาทำขนมครก วิชาทำขนมนางเล็ด วิชาทำ กลว้ ยตาก กลว้ ยป้ิง กล้วยอบ วิชาหอ่ ขา้ วตม้ มัดใจ วิชาเลี้ยงควายฝกึ ไถนา วชิ าโรงสีข้าว แยกรำขาย วชิ าอาหารโคทเี อ้มอาร์ วิชาปลูกหญา้ เนเปียร์ 1ไร่ 3ตนั วิชาทำปยุ๋ หมกั ข้ีวัว ดนิ แกลบดิบ โรยอีเอ็ม วิชาการบริหารกลมุ่ วิสาหกจิ และการตลาดออนไลน์ วชิ าทำนำ้ ยาล้างจานจากการหมักมะกรดู ะนาว การแปรรปู วชิ าทำนำ้ ยาซักผา้ วชิ าทำนำ้ ยาปรบั ผา้ น่มุ วิชาทำนำ้ ยาลา้ งรถยนต์ วิชาทำ นำ้ ยาไล่ยุง ธนาคารน้ำใต้ดนิ แบบหลุม่ แฝด หรือ 3 หลุม เพื่อส่งเสรมิ ให้เกดิ การผลติ แหลง่ นำ้ ใชใ้ น ครวั เรือนเพอ่ื การเป็นระบบน้ำซับ การสรา้ งระบบเพอ่ื ต่อยอดจากพนื้ ทที่ างการเกษตร อันประกอบด้วย (ก) วิชาทำธนาคารน้ำ ใตด้ ินระบบปดิ (ข) วชิ าทำหญา้ คามงุ ขาย (ค) วชิ าทำนำ้ หมักบอระเพด็ ผสมอาหารไก่ (ง) วชิ าการดแู ล สขุ ภาพโคกระบอื (จ) วชิ าเล้ียงไก่พันธ์ุเนอ้ื (ฉ) วชิ าเล้ียงไกไ่ ข่ การปลูกผักพืชเพือ่ เปน็ แหลง่ ผลติ อาหาร (ก) วิชาปลกู ผักบงุ้ (ข) วชิ าปลกู มะเขอื เทศ (ค) วิชาปลกู ไมค้ า้ ง (ง) วชิ าแกะสลกั ไมท้ ำปา้ ย

100 ดร.หลวงพ่่อแดง พระสงฆ์์ไม่ท่ ิ้ง้� ประชาชน การสร้างจติ อาสาเพ่อื พัฒนาสังคมอุดมธรรมร่วมกัน เชน่ (ก) วชิ าสรา้ งกระทอ่ มไมไ้ ผ่ (ข) วชิ าสร้างหอ้ งน้ำแบบพอเพยี ง (ค) วชิ าสรา้ งสะพานข้ามคลองไสไ้ ก่ (ง) วิชาการออกแบบวางระบบโคก หนองนา สิ่งที่ได้เป็นผลเชิงประจักษ์คือสามัคคธี รรม จิตอาสา การบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์และ แรงงานอาสาภายใต้แนวคดิ การเสียสละเพื่อส่วนรวม (จาคะ) การประชุมกันเนืองนิตย์ผ่านกิจกรรม (สารารียธรรม) การสร้างตนใหเ้ ป็นตน้ แบบภายใตแ้ นวคดิ การบำเพญ็ ตนเพื่อส่วนรวม (หติ ประโยชน)์ การสร้างการเรียนรเู้ ชงิ ปฏบิ ตั ิโดยมเี ปา้ หมายเพือ่ การกระตนุ้ และส่งเสรมิ ใหเ้ กิดผลในทาง ปฏิบัติ อันประกอบด้วย (ก) วิชาออมทรัพย์วันละบาทเพื่อรวมกลุ่มธุรกิจชมุ ชน (ข) วิชาการบริหาร จดั การกลุม่ วิสาหกจิ ชมุ ชน (ค) วิชาจติ อาสาเพอื่ สังคม (ง) วิชาหลักทฤษฎเี ศรษฐกิจพอเพียงเบ้ืองต้น (จ) วิชาศาสตร์พระราชาสู่โคกหนองนา (ฉ) วิชาปลูกไม้ป่า (ช) วิชาปลูกไม้สักทองคำ (ซ) วิชาปลูก ตะไคร้ขายใบ (ฌ) วิชาสมุนไพรทำรูปประคบ (ญ) วิชาทำกล้วยกวน (ฏ) วิชาทำน้ำสกัดเย็นจาก มะม่วงหาวมะนาวโห่ รวมทั้งหมดในการทำกิจกรรมเพื่อการประกอบความสามัคคีร่วมกัน ประกอบดว้ ย 58 วิชา/ฐานการเรียนรู้ ซง่ึ สามารถจำแนกตารางไดด้ ังน้ี คือ ตาราง 1 เปรียบเทยี บฐานงานกับการพัฒนาศนู ยก์ ารเรยี นรเู้ กษตรพึ่งตนเอง จงั หวดั สรุ นิ ทร์ ฐานปฏิบัติการ/จดั การ ฐานจดั ตั้งเชิงปฏบิ ตั กิ าร ฐานการเรียนรู้ ฐานปศุสัตว์ -ธนาคารวัวภายใต้ระบบวิสาหกจิ ฐานการเรยี นรู้ฟารม์ ไกส่ รา้ งเงนิ ชุมชน จำนวน 27 กลมุ่ มีววั ในระบบ จำนวนกว่า ฐานการเรยี นรู้บอ่ ปลา มฐี านการเรียนรู้ กว่า 50 วิชา วชิ าฟารม์ ไกส่ ร้างเงนิ 1 พนั ตัวกระจายในแต่ละกลุ่มวสิ าหกจิ ชมุ ชน ฐานการเรียนรู้บอ่ หอย ฐานการเรยี นร้บู ่อปลา - ศนู ยแ์ ม่พนั ธุพ์ อ่ พันธว์ ัว เพื่อการส่งเสรมิ วสิ าหกจิ ฐานการเรยี นรู้บ่อกบ ฐานการเรยี นรบู้ อ่ หอย ธนาคารววั ฐานการเรยี นรูบ้ อ่ แหนแดงไมโครฟิลล่า ฐานการเรียนรู้บ่อกบ - การเล้ยี งไกใ่ นแบบทดลองและสาธติ ฐานการเรยี นรู้สวนสมุนไพร ฟ้าทะลายโจร - การเลี้ยงปลา หอย กบ ในแบบสาธิต ทดลอง ฐานการเรยี นร้สู วนกลว้ ย ฐานการเรยี นรู้บอ่ แหนแดงไมโครฟิลลา่ เพอ่ื การเรียนรู้ ฐานการเรยี นรู้สวนมะพร้าว กาแฟ สวนสมุนไพร ฟ้าทะลายโจร - การเพาะบอ่ แหนแดงไมโครฟลิ ลา่ สระแหนแดง ฐานการเรยี นรู้สวนหญ้าเนเปยี ร์ สวนกลว้ ยกวา่ 1000ตน้ ไมโครฟลิ ล่า( Azolla microphylla)เพ่ือการสร้าง ฐานการเรียนรนู้ าแปลงข้าวหอมมะลิ 2แปลง สวนมะพรา้ ว กาแฟ มลู ค่าเพ่ิมในการผลติ ฐานการเรียนรคู้ อกววั ปุย๋ คอก สวนหญา้ เนเปยี ร์ ฐานการเรียนรคู้ อกไก่ ให้ฟอสฟอรัส นาแปลงขา้ วหอมมะลิ 2แปลง การพัฒนาระบบนำ้ : การสร้างธนาคารน้ำใต้ดิน ฐานการเรยี นรู้โรงเรอื นทำก้อนปุย๋ อะตอมมิคนาโน คอกววั ปุ๋ยคอก ในระบบปดิ และระบบเปดิ เพื่อเป็นพืน้ ที่นำ้ สาธิต พันธไ์ ม้ – พนั ธพ์ ชื คอกไก่ ให้ฟอสฟอรสั ทดลอง เป้าหมายเพอ่ื สร้างความชุม่ ชน่ื และระบบ พนั ธุ์สตั ว์ นำ้ ใตด้ ิน ในองคร์ วม แบบ 2-3 หลมุ คู่ ไม้ยนื ตน้ อายุ 1-10 ปี โรงเรอื นทำก้อนปยุ๋ อะตอมมิคนาโน พันธ์พชื ใชไ้ ม้ : ไมส้ ะเดา ไมไ้ ผ่ สกั ทองคำ กล้า ผักผลไม้ ระยะกลาง วิชาทำขนมครก ไม้ปลูกปา่ 9 ชนิด ประกอบดว้ ยไมป้ ระดู่ ไม้แดง การสรา้ งมูลคา่ เพ่มิ วสิ าหกจิ ขนาดเล็ก : โรงสีข้าว วิชาทำขนมนางเลด็ ไมเ้ ต็ง ไมม้ ะคา่ โมง ไม้พยงุ ไม้ยางนา ไมแ้ คนา ไม้ ผลติ ข้าว แยกรำขาย วชิ าทำกลว้ ยตาก กล้วยป้ิง กลว้ ยอบ ไผ่ซางมนต์ วิชาห่อขา้ วตม้ มดั ใจ พันธ์พืชระยะสั้นแหล่งอาหาร : ผัก ผลไม้ / การแปรรูปผลิตภัณฑ์ : ทำน้ำยาล้างจาน น้ำยา วิชาเล้ียงควายฝกึ ไถนา กลว้ ย มะนาว มะกรดู ผักบุง้ มะเขือเทศ ชักผ้า น้ำยาปรบั ผา้ นุ่ม วิชาโรงสีข้าว แยกรำขาย วิชาอาหารโคทีเอ้มอาร์ วิชาปลกู หญา้ เนเปยี ร์ 1ไร่ 3ตัน วชิ าทำปุย๋ หมัก ขีว้ วั ดนิ แกลบดบิ โรยอีเอ็ม วชิ าการบริหารกลมุ่ วสิ าหกจิ และการตลาดออนไลน์ วิชาทำนำ้ ยาลา้ งจานจากการหมักมะกรดู มะนาว วิชาทำนำ้ ยาซกั ผ้า วชิ าทำน้ำยาปรับผา้ นุ่ม

พระครููพิศิ ิษิ ฏ์์ประชานาถ, ดร 101 สมนุ ไพร : บอระเพ็ด ฟา้ ทะลายโจร พืชสมุนไพร การแปรรปู อาหาร : ขนมครก นางเล็ด กล้วยตาก วชิ าทำน้ำยาล้างรถยนต์ ฟ้าทะลายโจร ตะไคร้ ตะไคร้หอม เตยหอมขมิ้น กลว้ ยปิ้ง กล้วยอบ (พลงั งานแสงอาทิตย)์ วิชาทำนำ้ ยาไลย่ ุง วชิ าทำธนาคารน้ำใตด้ นิ ระบบปดิ กระชายขาวว่านหางจระเข้ มะกรูด มะนาว หลกั พุทธธรรมสกู่ ารประยุกต์ : ศลี 5 / วสิ ยั ธรรม วิชาทำหญ้าคามุงขาย ข้ีเหลก็ มะขามป้อม สู่วิสัยทัศน์ (จักขุมา-วิธุโร-นิสยสัมปันโน) คุณธรรมของนักพัฒนา 5 ท (ทุน-ทีม-ทำ/ธรรม- วชิ าทำนำ้ หมกั บอระเพด็ ผสมอาหารไก่ ที่-เทคโนลยี) สามัคคีธรรม จิตอาสา (เมตตา) วชิ าการดแู ลสขุ ภาพโคกระบือ เสียสละแบง่ ปัน (ทาน-จาคะ) วิชาเลย้ี งไกพ่ นั ธ์เุ นื้อ วิชาเลีย้ งไก่ไข่ วชิ าปลกู ผกั บุ้ง วิชาปลกู มะเขือเทศ วิชาปลูกไมค้ ้าง วชิ าแกะสลักไม้ทำป้าย วชิ าสร้างกระท่อมไม้ไผ่ วชิ าสรา้ งห้องนำ้ แบบพอเพียง วิชาสร้างสะพานขา้ มคลองไส้ไก่ วิชาการออกแบบวางระบบโคกหนองนา วิชาออมทรัพย์วันละบาทเพ่อื รวมกลมุ่ ธุรกิจชุมชน วชิ าการบริหารจัดการกลมุ่ วิสาหกจิ ชมุ ชน วชิ าจติ อาสาเพือ่ สงั คม วิชาหลกั ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพยี งเบือ้ งต้น วิชาศาสตร์พระราชาสโู่ คก่ หนองนา วิชาปลูกไมป้ ่า วชิ าปลกู ไมส้ กั ทองคำ วชิ าปลกู ตะไครข้ ายใบ วิชาสมนุ ไพรทำรูปประคบ วิชาทำกล้วยกวน วชิ าทำนำ้ สกดั เย็นจากมะมว่ งหาวมะนาวโห่ วชิ าทำกล้วยกวน วิชาทำน้ำสกดั เย็นจากมะม่วงหาวมะนาวโห รวม58วิชา/ฐานการเรยี นรู้ สรปุ การเริ่มพัฒนาท่ดี นิ จำนวน 8 ไร่ 1 งานภายใต้แนวคดิ ศูนยเ์ กษตรการเรยี นรู้ ทีบ่ า้ นหนองอีดำ ภายใตแ้ นวคิดเกษตรสาธติ เกษตรผสมผสาน พทุ ธเศรษฐศาสตร์ ท่ีมงุ่ ขบั เคลอ่ื นคุณภาพชีวิตของคน ให้มอี ยมู่ ีกนิ มีคุณภาพชีวติ โดยยังมศี กั ยภาพในทีด่ นิ เดมิ และเรยี นรแู้ บบสรา้ งสรรค์ ตามแนวพุทธ ไม่ เบยี ดเบยี น ไม่ทำราย ทำลายสขุ ภาพตัวเอง ภายใต้เกษตรอินทรยี ์ ทจ่ี ะทำให้เปน็ ต้นแบบ เป็นแนวทาง การเรียนรู้ รวมทั้งเป็นศูนย์กลางเรียนรู้เพื่อการพัฒนา ย่อมเป็นเป้าหมายหรือแนวทางอันเป็น ปลายทางสำหรับประโยชน์ของการเรียนรู้ในองค์รวมด้วยเช่นกัน ภาพที่ปรากฏจึงเป็นการเรียนรู้ ภายใต้แนวคิดของการแสวงหาปญั ญา แนวคิดในเรือ่ งการพัฒนาทั้งกายกำลังทางกาย (กายพัฒนา) การพัฒนาทางจิต (จิตตพัฒนา) ที่จะฝึกความอดทน ฝึกความเสียสละ ฝึกความคิด ให้มุ่งมั่นในการ ทำงาน

102 ดร.หลวงพ่่อแดง พระสงฆ์์ไม่ท่ ิ้�้งประชาชน เอกสารอา้ งอิง คมสัน รัตนะสิมากูล. (2562). การสื่อสารแนวคิดวิถีพุทธของมหาวิชชาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์. วารสารวชิ าการมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยบรู พา, 27(53), 1-22. เดช ชูจันอัด. (2563). พุทธเศรษฐศาสตร์ในทัศนะของปราชญ์ในประเทศไทย. วารสาร มจร การ พัฒนาสังคม, 5(2), 78-86. ทิพย์วรรณ สุขใจรุ่งวัฒนา. (2561). กระบวนทัศน์กระแสทางเลือก : ยุทธศาสตร์การขับเคลื่อน เศรษฐกิจสร้างสรรค์ในสังคมไทย. Veridian E-Journal, Silpakorn University ฉบับ ภาษาไทย สาขามนษุ ยศาสตร์ สงั คมศาสตร์ และศลิ ปะ, 11(1), 411-427. ธเนส เตชะเสน และพลวัฒน์ ชุมสุข. (2563). ทุนมนุษย์ในทางเศรษฐศาสตร์เชิงพุทธ. วารสารมหา จฬุ าวชิ าการ, 3(2), 119-137. พระคมสัน เจริญวงค์. (2563). การวิเคราะห์หลักพุทธธรรมที่ส่งเสริมหลักการแห่งเศรษฐศาสตร์. วารสาร มจร การพฒั นาสงั คม, 5(2), 47-55. พระครวู ิจารณ์โกศล (จรี ะวัฒน์ เพง็ พร้ิง). (2563). เศรษฐศาสตรแ์ นวพุทธ. วารสารศิลปะการจดั การ , 5(1), 173-179. พระณัฏฐนันท์เดช สีลเตโช. (2563). เศรษฐศาสตร์แนวพุทธ: รูปแบบการพัฒนาความสุขอย่าง ย่ังยืน ของวิถีเกษตรอินทรีย์. วารสารสันติศึกษา, 8(5), 1749-1763. พระพรหมคณุ าภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต). (2557). เศรษฐศาสตรแ์ นวพุทธ (พิมพค์ รงั้ ท่ี 14). กรงุ เทพฯ: จ. เจริญ อนิ เตอรพ์ ริน้ . วรรณา ประยุกต์วงศ์. (2556). เป้าหมายของกำไร: คุณค่าแห่งความร่วมมือของธุรกิจในมุมมองพุทธ เศรษฐศาสตร์. วารสารเศรษฐศาสตรแ์ ละนโยบายสาธารณะ, 47), 50-57. ศศิวิมล ภู่พวง และคณะ. (2563) การบริหารจัดการเชิงพุทธของมหาวิชชาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์. วารสารวชิ าการเครือขา่ ยบัณฑติ ศึกษามหาวทิ ยาลยั ราชภฎั ภาคเหนือ, 10(2), 63-78. สืบสกุล วัชรินทร์วงศ์. (2561). ตัวแบบการจัดการพลังงานชุมชนตามแนวทางพุทธเศรษฐศาสตร์. วารสารสังคมศาสตร์วิชาการ, 11(1), 147-158.

บทสรปุ หลวงพ่อแดง นนฺทิโย พระครูพิศิษฎ์ประชานาถ,ดร. ท่านมีทัศนะอันเฉียบแหลม ดัง หลักธรรม ที่ว่า จักขุมา มีวิสัยทัศน์ปัญญาการมองการณ์ไกล (Conceptual Skill) วิธูโร ทักษะ ทางด้านการปฏิบัตงิ าน (Technical Skill) และนิสสยสัมปันโน ทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ เครือข่าย เพอื่ การบริการงาน (Human Relation Skill) นักพฒั นาจึงควรมวี สิ ยั ทศั น์ ท่มี ีวสิ ัยธรรม หวั ใจนกั ปราชญ์คือ สุ (สุตตะ-การฟัง) จิ (จินตะ-การคิด) ปุ (ปุจฉา-การถาม) ลิ (ลิขิต-การ เขียน) ทกั ษะของการเป็นผ้ฟู ังพดู ถามผ้เู ขยี นและสามารถสรา้ งจนิ ตนาการจงึ เป็นหลักการสำคัญท่ี ทุกคนจะเปน็ ผู้รอบรเู้ ชน่ เดยี วกับนักชกท่ีหมั่นฝกึ ซ้อม ก็ย่อมเปน็ นักชกทมี่ คี วามแข็งแกรง่ แมว้ า่ จะเจอ ค่ตู อ่ ส้ทู เี่ ก่งกวา่ แตก่ ็สามารถตอ่ สู้และชนะได้ จอมยทุ ธ์ที่มกี ำลงั ทเี่ ข้มแขง็ แตถ่ ้าขาดการวางแผนทีด่ ี ขาดการมองการณไ์ กล โดยเฉพาะกล ยุทธ์ในการรบ กไ็ ม่สามารถท่ีจะเปน็ จอมยทุ ธท์ ่เี ขม้ แข็งฝ่าฟนั อปุ สรรคในสนามรบได้ หลายสถานการณส์ รา้ งวรี บุรุษดังคำกล่าวที่วา่ รบก่อนชนะก่อน สะท้อนใหเ้ ห็นถึงการเป็น นักปฏิบตั ิทพ่ี รอ้ มลงมือ นักพัฒนานอกจากจะตั้งรับแล้วยังต้องฝ่าฟันและรุกเข้าไปในพื้นที่ที่กำลังต้องการการ พฒั นา การรู้เขารเู้ รา ซ่งึ มหี ลักธรรมทจี่ ะตอ้ งทำความเขา้ ใจ 7 ประการ (สปั ปุริสธรรม 7) คือ รู้จักเหตุ (ธัมมัญญตุ า) รู้จักผล (อัตถัญญุตา) รู้จักตน (อัตตัญญุตา) รู้จักประมาณ (มัตตัญญุ ตา) รู้จักกาลเวลา ที่เหมาะสม (กาลัญญุตา) ต้องรู้จักชุมชน (ปริสัญญุตา) รู้จักพัฒนาตน คน (ปุคคลัญญตุ า) พฒั นางาน อุดมการณ์ความพร้อมและแนวคิดในการปฏิบัติการ เพื่อการพัฒนาและการกอบกู้ สถานการณ์วิกฤติในบางครั้งไม่อาจตั้งตัวเตรียมรับได้ แต่สามารถระดมสรรพกำลัง ดำเนินการ ขับเคลือ่ นให้ก้าวพน้ ไปได้ เดินทางเข้าไปในสถานการณ์ของความทุกข์ยากไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์น้ำท่วมและ สถานการณไ์ ฟไหมค้ วามอดอยากหวิ โหย ความขาดแคลนและความลา่ ช้าของการช่วยเหลอื ทไ่ี ม่อาจ รั้ง จอมยุทธพ์ จิ ารณาเหตผุ ลและประมาณตนเองให้กระชับเวลาที่เหมาะสมจึงสามารถแก้ปัญหาใน ชุมชนและพฒั นาทีมงานพัฒนางานให้มีคุณภาพ

104 ดร.หลวงพ่่อแดง พระสงฆ์์ไม่่ทิ้�้งประชาชน ผลงานเชิงประจักษ์ท่ีสะทอ้ นจากบทความทงั้ หลายในหนงั สือเล่มน้ยี อ่ มแสดงเจตนารมย์ของ อุดมการณพ์ ระนักพัฒนา หลวงพ่อแดง นนฺทิโย พระครูพิศิษฎ์ประชานาถ,ดร. แห่งลุ่มน้ำแม่กลองด้วยวัย 72 ปี (พ.ศ.2494) พรรษา 50 ไดป้ ระสบความสำเรจ็ ในการพฒั นาทงั้ ในด้านปริมาณและคุณภาพ กลยุทธ์และทกั ษะในการจัดการเชงิ พทุ ธจึงเป็นบันไดก้าวไปสู่ความเช่ียวชาญในระดับบุคคล ชั้นเลิศของวงการพระสงฆ์สาธารณสงเคราะห์ของประเทศไทยและยังเป็นพระผู้ให้ พระไม่ท้ิง ประชาชน และพระชว่ ยพระ หรือวดั ชว่ ยวัดในยามทุกข์ยาก ประเทศไทยได้ฝา่ ฟันวกิ ฤติในหลายทศวรรษ ไม่ว่าจะเปน็ วิกฤตทางเศรษฐกจิ จนกระทั่งใน ยคุ น้ไี มอ่ าจปฏเิ สธว่าเศรษฐกจิ ดสิ รับชน่ั (Disruption) โควดิ ดิสรบั ชั่น (Disruption COVID-19) และ ภัยสงครามแห่งความอดอยากเข้าป่าอาหารราคาแพงจนกระทั่งภาวะตกงานปิดสถานบริการและ โรงงาน การผจญและเผชิญตอ่ ปัญหาต่าง ๆ ท่านก็สามารถให้การชว่ ยเหลือท้งั แบบประคับประคอง และแบบปัจจบุ ันทันด่วนไดอ้ ย่างเหมาะสมจนไดฉ้ ายาวา่ ประชานารถคือทพี่ งึ่ ของประชาชน ในทา้ ยที่สดุ นี้ความเจรญิ งอกงามบนความลำบาก ความสขุ บนความทุกข์และโลกธรรมท้ัง 8 ยิง่ เพิม่ แรงเสียดทานในการเป็นนกั พฒั นาเนื่องจากหลกั ธรรมในพระพทุ ธศาสนาเปน็ กรอบทแี่ ขง็ แรง ในการดำรงคอ์ ยขู่ องสังคมไทย หลวงพ่อแดง นนฺทิโย พระครูพศิ ษิ ฎ์ประชานาถ,ดร. มักจะกล่าวเสมอวา่ ประเทศไทยไป รอดได้ ชาวบา้ นมที างรอดแลว้ มีพระมาโปรดแลว้ น่ันหมายความวา่ ทา่ นเปน็ ผูม้ ยี ทุ ธศาสตรแ์ ละเป็น จอมยทุ ธ์หลักของพระสงั ฆาธกิ ารดังเชน่ ผลงานในหนังสือเล่มน้ี คณุ ูปการทั้งหลายประการ ขอประกาศยกยอ่ งเกียรติคณุ ในความรู้ความสามารถของทา่ นต่อ ผอู้ ่านหวงั เป็นอยา่ งยิ่งว่าจะนำไปประยุกตใ์ ชแ้ ละเกดิ ประโยชนต์ ่อสังคมและสากลโลกตอ่ ไป รศ.ดร.วาสนา แกว้ หล้า 9 พฤษภาคม 2565