พระครูพู ิิศิษิ ฏ์ป์ ระชานาถ, ดร 49 เบ้อื งตน้ ตามบทบาทและหนา้ ที่ของกนั และกัน ในสว่ นพระสงฆก์ ม็ ีหลายพื้นที่ได้ให้การชว่ ยเหลือและ บรรเทาสาธารณภัยในวงกว้างในพื้นทจี่ ังหวัดต่าง ๆ ดงั ปรากฏเป็นภาพสอ่ื สารสาธารณะ ยอ้ นกลบั มา ที่บทบาทหลวงพ่อแดง นนฺทิโย กับเครือข่ายในการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเป็นเครือข่ายระหว่าง พระสงฆ์ในพ้ืนท่ี ช่วยขบั เคล่ือนช่วยเหลอื ประชาชนในเขตภัยพบิ ตั ิน้ำทว่ มได้ ดังกรณกี ารชว่ ยเหลือใน เขตน้ำท่วมจงั หวดั ชยั ภูมิ ในเขตจังหวัดนครราชสีมา ถงึ ไม่ได้เปน็ เขตพน้ื ทโ่ี ดยตรง แตด่ ว้ ยเครือข่ายท่ี เคยเข้าไปให้ความช่วยเหลือสถานการณ์น้ำท่วมในปีช่วงเดือนสิงหาคม พ.ศ.2563 จึงได้กลายเปน็ เครือข่ายในการให้ความช่วยเหลอื ในส่วนจงั หวัดพระนครศรีอยุธยา เขตพ้ืนทีบ่ รกิ ารของมหาวิทยาลยั รวมท้งั เครือข่ายพระสงฆท์ ี่ทำงานดา้ นชมุ ชนอยู่แล้วได้กลายเป็นเครือข่ายรว่ มในการให้การช่วยเหลือ ภายใต้แนวคิดพระไม่ทิ้งโยมของพระในพระพุทธศาสนา ภายใต้เครือข่ายร่วมกันของชัยภูมิ สมุทรสงคราม นครราชสมี า และพระนครศรีอยุธยาในเขตบริการนำ้ ทว่ ม ซ่งึ จะไดน้ ำเสนอเล่าแบง่ ปัน ตอ่ ไป เพอื่ สะท้อนคิดบทบาทพระสงฆ์ในการช่วยเหลอื สงั คมภายใตภ้ าระงานสาธารณสงเคราะห์ของ พระสงฆใ์ นพระพุทธศาสนา แนวคดิ ของพระสงฆก์ ับการช่วยเหลือสงั คม บทบาท (Role) ของพระสงฆ์ในสังคมไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมกี ารเปลยี่ นแปลงไปอยาก มากมายโดยเฉพาะพระสงฆ์ของเราด้วยแล้ว เราจะเห็นได้ชัดเจนมาก เพราะสังคมไทย ตั้งแต่เกิด จนกระทั่งถึงตายจะมีความเกี่ยวข้องกับบทบาทของพระสงฆ์ตลอด อย่างงานแต่งงานก็ต้อ งนิมนต์ พระสงฆ์มาในงานแต่งด้วย พอเกิดก็ต้องนิมนต์พระมาในงานวันเกิด หรือใส่บาตรทำบุญวันเกิด เจบ็ ป่วยกไ็ ปหาพระทำบุญ และบางแห่งพระอาจเปน็ หมอกลางบา้ น เปน็ เจ้าของตำราหมอยาพืน้ บา้ น ตามภูมปิ ญั ญาชาวบา้ น บทบาทก็มคี วามชัดเจนมากข้ึน แต่อยา่ งไรก็ตาม ทีจ่ ะกลา่ วต่อไปนี้เป็นเพียง ข้อเสนอ (Suggestion) ไม่ใช่คำตอบสำเร็จรูป แต่เป็นเพียงแนวคดิ ของบุคคลหนึ่ง ที่มีความสนใจใน งานของพระสงฆ์ ในบทบาทของพระสงฆ์ และพยายามที่จะผลักดันบทบาทของพระสงฆ์ ให้เป็น ประโยชน์ต่อสังคม และให้สังคมมองเห็นประโยชน์นัน้ เด่นชัดมากขึ้น ประเด็นที่ควรพิจารณา เ พื่อ กระตุ้นเตือนจิตสำนึกในการทำงานพัฒนาของพระสงฆ์ พระสงฆ์ คือใคร..? ตามหลักทางพระพุทธศาสนาแล้วพระสงฆ์คือผู้บวชในบวร พระพทุ ธศาสนาซึง่ สละแล้วซึ่งสภาวะความเป็นปัจเจกภาวะ แตม่ ีชวี ิตเพอื่ สังฆภาวะ เพอื่ ชุมชน มีจิต วิญญาณเพ่ือชุมชน ต้องมีความรู้สึกที่เป็นชุมชน (Community) เพราะชีวิตต้องมีความเกี่ยวขอ้ ง มี การติดต่อสื่อสาร(Communication) กันตลอดเวลา ยิ่งในสมัยโบราณด้วยแล้ว วัดหรือพระสงฆ์
50 ดร.หลวงพ่่อแดง พระสงฆ์์ไม่่ทิ้้�งประชาชน กลายเปน็ ศูนย์กลางของชมุ ชนไปในตวั วดั เป็นศนู ย์กลางของการเรยี นรขู้ องชมุ ชน มเี รอื่ งอะไรเกิดขึ้น ก็มาประชมุ กนั ท่วี ัด มาร่วมกิจกรรมทางศาสนา เช่นมาทำบญุ ใส่บาตรท่ีวดั ในวันสำคัญทางศาสนา คือ วนั วสิ าขบูชา วนั มาฆบูชา วนั อาสาฬหบูชา วนั เข้าพรรษาและวันสำคัญอ่ืน ๆ และวันท่ีมีการประชุม เรื่องราวที่ทางราชการให้ผู้นำหมู่บ้านอย่างกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เมื่อได้รับเรื่องราวข่าวสารจากทาง ราชการมาก็มาประชมุ กันทีว่ ัด พระสงฆ์ เป็นอยู่อย่างไร ..? เรามชี วี ิตความเป็นอยเู่ พราะอาศัยชาวบ้านเลยี้ งชพี อนั นี้เป็นสิ่ง ที่ถูกต้อง ในประเด็นน้ีต้องสำนึกและตระหนัก เตือนตัวเราอยู่เสมอว่า “เราอยู่ได้เพราะอาศัยญาติ โยม” เราจะช่วยชาวบ้านเขาอยา่ งไร ในฐานะที่เราเปน็ พระสงฆค์ วรตระหนกั ไวเ้ พอื่ เปน็ ฐานในการคิด พระพทุ ธองคท์ า่ นตรสั ไวว้ ่า “ทกุ ลมหายใจเขา้ ออกควรเปน็ ไปเพอื่ ก้อนขา้ ว” ฉะนนั้ ไม่วา่ พระสงฆ์จะ ถูกลดบทบาททางสงั คมไปมากแคไ่ หน เราในฐานะที่ยงั เป็นพระสงฆ์กค็ วรระลึกในสง่ิ ที่ได้เล้ียงชีพเรา มา ซึ่งแนวคิดในภาพรวมจะสอดคล้องกับแนวคิดจากการศึกษาวิจัยของ พระครูปลัดสมชัย นิสฺสโภ และคณะ (2063) ในเรื่อง บทบาทของพระสงฆ์ที่มีผลต่อการพัฒนาสังคมและชุมชน กรณีศึกษาวัด ไทยชุมพล อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ในงานศึกษาของ พระครูปราโมทย์ปัญญาวัฒน์ บุญเลิศ (2563) เรื่อง บทบาทและการจัดการสาธารณสงเคราะห์ของพระสังฆาธิการ ในอำเภอบางคนที จงั หวัดสมทุ รสงคราม ในงานศกึ ษาของ พระครอู ุดมธรรมรส อสญิ าโณและคณะ (2561) เรื่อง บทบาท เชิงรุกของพระสงฆ์ในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน ในจังหวัดชลบุรี หรือในงานวิจัยของ พระครูปราโมทย์ปญั ญาวัฒน์ บุญเลศิ (2563) เรื่อง บทบาทและการจัดการสาธารณสงเคราะห์ของ พระสังฆาธิการ ในอำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม รวมถึงงานวิจัยเร่ือง บทบาทพระสงฆ์กบั งานสาธารณสงเคราะห์ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid 19 : กรณีศึกษาบทบาท ของหลวงพอ่ แดง นนทฺ โิ ย วดั อินทาราม จงั หวดั สมุทรสงคราม (พระเอกลกั ษณ์ อชโิ ตและคณะ, 2563) หรือในงานวิจัยของ พระครูสังฆรักษ์ศุภณัฐ ภูริวฺฑฒโนและคณะ (2561) เรื่อง วัด: บทบาทการ เสริมสร้างสันติสุขในชุมชนท่ามกลางสังคมไทย ที่สะท้อนแนวคิดไว้ใกล้เคียงกันว่า วัดเป็น องค์ประกอบหน่ึงของสถาบันศาสนา พุทธศาสนาเปน็ สถาบันหน่ึงทีส่ ำคัญในสงั คมไทยไม่ยิ่งหย่อนไป กว่าสถาบันชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมีบทบาทในฐานะเป็นผู้กำหนดสรรค์สร้างความ เจริญก้าวหน้าและความมั่นคงให้กับสังคมไทยที่มีต่อเนื่องยาวนาน วัดเป็นสถานที่ที่มีความ หลากหลายในบทบาท เช่น วัดเป็นสถานศึกษา โรงพยาบาล ศาลสถิตยตุ ธิ รรม สถานสงเคราะห์เดก็ และคนชรา ที่พักพิงของคนเดินทาง แหล่งสวัสดิการชุมชน วิถีชีวิตของคนไทยได้ผูกพันกลมกลนื กบั หลกั ความเชอ่ื และหลักปฏิบัติในพระพทุ ธศาสนา สง่ ผลถึงชีวติ จิตใจของคนไทย ได้หลอ่ หลอมอปุ นสิ ัย
พระครููพิิศิษิ ฏ์ป์ ระชานาถ, ดร 51 ใหม้ ีความรกั ความเมตตาและช่วยเหลือซงึ่ กันและกัน จากสง่ิ ที่กล่าวมาขา้ งตน้ นพ้ี ระสงฆม์ สี ่วนสำคัญ ในการนาเอาหลักธรรมมาช่วยเสรมิ สรา้ งสันติสขุ ให้ชมุ ชนเกิดความสงบสุขโดยครอบคลมุ องค์ประกอบ คือ การศึกษา ศาสนา การเมอื ง กระบวนการยุติธรรม และเรื่องของสื่อทางสังคม ทั้งหมดถอื ว่าเปน็ องคป์ ระกอบการสนบั สนุนสร้างสนั ติภาพในชุมชนได้อยา่ งแท้จรงิ ดังนั้นแนวคิดสำคัญคือพระสงฆ์ต้องมีบทบาทต่อสังคมในด้านต่าง ๆ ทั้งในส่วนของการ พัฒนาตนให้เป็นต้นแบบในฐานะที่เป็นสงฆ์สาวกในพระพุทธศาสนา เป็นต้นคนในการนำคนใหไ้ ปสู่ ปลายทางพระพุทธศาสนา คือการผู้นำทางด้านจิตวญิ ญาณ เปน็ ผนู้ ำทางความคิดในการพัฒนาตัวเอง ให้เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตที่ดี จนกระทั่งหลายเป็นส่วนสำคัญของสังคม ทำให้เกิดการอยู่ รว่ มกนั ได้โดยมวี ดั พระสงฆ์ เป็นชาวพุทธ มกี ารเช่ือมโยงใหเ้ กิดปฏสิ ัมพนั ธร์ ะหว่างกนั และกนั ทำใหเ้ กดิ ความรว่ มมอื ภายใตค้ วามเปน็ ไปได้ สถานการณน์ ้ำทว่ มปี 2564 กับผลกระทบในวงกว้าง ภาพข่าวน้ำท่วมในหลายพื้นที่ในหลายจังหวัด (1) จังหวัดสุโขทัย ดังภาพข่าวว่า (ก) “สุโขทัยอ่วม น้ำท่วมที่เศรษฐกิจ การเดินทางเป็นอัมพาต ก่อนนายกฯลงพื้นที่พรุ่งนี้” (มติชน ออนไลน,์ 2564) (ข) สุโขทัยอ่วม นำ้ หลากท่วม 3 อำเภอ ต้องย้ายควายหนี (ไทยรัฐออนไลน์, 2564) (2) จังหวัดนครราชสีมา ดังภาพข่าว (ก) เปิดภาพมุมสูง \"ลำน้ำมูล\" ทะลักท่วมเขตเมืองพิมายเป็น บริเวณกวา้ ง (กรุงเทพธุรกิจออนไลน์, 2564) (ข) โคราชอ่วมหนัก! 2 อำเภอจมบาดาล ถนนถูกตัดขาด ผวู้ า่ ฯส่งั เตรียมรบั น้ำเขา้ พมิ ายในอีก 1-2 วนั (ไทยโพสต์ออนไลน์, 2564) (3) จังหวดั ชัยภูมิ ดังปรากฏ ภาพข่าว (ก) ชัยภูมิวิปโยค ท่วมหนักรอบ 50 ปี บำเหน็จณรงค์แทบมิดหลังคา (ไทยรัฐออนไลน์, 2564) (ข) ชัยภมู ิ น้ำทว่ ม 12 อำเภอ รวม 2.28 แสนไร่ เตอื น “แม่นำ้ ชี” ระวงั น้ำลน้ ตล่ิง (ประชาชาติ ธรุ กจิ ออนไลน์, 2564) (ค) นำ้ ท่วมชยั ภูมิเร่มิ ลดหมดแล้วท้งั 16 อำเภอ เผยเสยี หายหนกั สดุ ในรอบ 50 ปี (ไทยรัฐออนไลน์, 2564) (3) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดังปรากฏภาพข่าว (ก) อยุธยาวิกฤต! น้ำ ท่วมกว่าครึง่ จงั หวัด หลายพนื้ ท่ีรมิ นำ้ ไดร้ บั ผลกระทบอย่างหนกั (ผู้จดั การออนไลน์, 2564) (ข) ท่วม หนัก \"อยุธยา\" จมบาดาล 10 อำเภอ ชาวบ้านจำทนต้องนอนในเรือ (ไทยรัฐออนไลน์, 2564) นอกจากน้ยี งั มอี กี หลายพนื้ ที่หลายจงั หวัด ทป่ี ระสบภัยนำ้ ท่วมมากนอ้ ย ส้นั ยาวตามสถานการณ์ของ ฝนและมวลน้ำที่มีอยู่ ดังนั้นสถานการณ์น้ำท่วม จึงเป็นปัญหาภัยพิบัติที่เกิดขึ้นประหนึ่งเทศกาล ประจำปีในหลายพ้ืนท่ี และภัยเหล่าน้ีทำให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง จนกลายเป็นผลทีเ่ กดิ ขึ้นอยา่ ง ต่อเนือ่ งกระทัง่ ปจั จบุ นั ตามสถานการณท์ ปี่ รากฏในปี 2564
52 ดร.หลวงพ่อ่ แดง พระสงฆ์์ไม่ท่ ิ้�้งประชาชน ภาพที่ 1 ภาพรายงานสถานการณน์ ำ้ ทว่ มในหลายพื้นทข่ี องภาคเหนือ กลางและอสี าน ข้อมูลจาก Thailand Flood Monitoring System ขอ้ มลู ณ วนั ที่ 10 ตุลาคม 2564 ทมี่ า: Thailand Flood Monitoring System (2564) จากภาพสะท้อนให้เห็นว่า พื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วมกระจายอยู่ในหลายพื้นที่ ทั้งสุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ มาจนถึงภาคกลาง ชัยนาท สิงห์บุรี อุทัยธานี อ่างทอง ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งชัยภูมิ นครราชสีมา เป็นต้น ตามแผนที่น้ำท่วมของ Thailand Flood Monitoring System (2564) https://flood.gistda.or.th/ ในปีนี้สถานการณ์น้ำกลายเป็นปัญหา ร่วมกับสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้นร่วมกัน โควิดก็เป็นปัญหาท่ียังไม่ได้รับการแก้ไข น้ำก็กลายเป็น ปญั หาทมี่ ีปรากฏอยา่ งต่อเน่ืองและยังไมไ่ ดร้ บั การแก้ไขดว้ ยเชน่ กนั จนกระท่งั กลายเปน็ ปญั หาร่วม ที่ ซ้ำซ้อนทั้งในระบบการบริหารจัดการน้ำที่เกินกว่าการควบคุม ทำให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง ด้วย เช่นกัน แต่ที่ยกมาต้องการสะทอ้ นให้เหน็ วา่ สถานการณน์ ้ำทว่ มในพื้นท่ียงั คงมีอยู่ ร่วมทั้งการท่กี รม อุตุนิยมวิทยาได้แจ้งข้อมูลต่อสถานการณ์น้ำท่วมให้มีการเฝ้าระวัง และระมัดระวังน้ำท่วม ต่อ สถานการณน์ ้ำทีก่ ำลังเกดิ ขึน้ และปรากฏอยใู่ นปจั จบุ นั เครอื ขา่ ยกับการทำงานสาธารณสงเคราะห์ เมื่อนำ้ ท่วมก็ต้องบรรเทาหรือใหค้ วามชว่ ยเหลือซึ่งกนั และกนั ในสถานการณ์น้ำที่กำลงั เกิดข้ึน หรือปรากฏอยู่ แนวคดิ เร่ืองเครอื ขา่ ยหรือระบบเช่ือมโยงในการทำงานเพือ่ บริการสังคม นบั เป็นหัวใจ ของการทำงานร่วมกัน ภายใต้แนวคิด “วิสาสา ปรมา ญาติ” หรือระบบเครือข่าย ซึ่งใน
พระครูพู ิิศิษิ ฏ์ป์ ระชานาถ, ดร 53 พระพุทธศาสนาใช้ระบบเครือข่ายผ่าน “อุปัชฌาจารย์” หรือระบบเครือข่ายของวัดใน พระพุทธศาสนาร่วมกัน โดยศัพท์สมัยใหม่อาจใช้คำว่า Network ที่แปลว่าเชื่อมโยง ดังนั้นการ เช่อื มโยงระหว่างกลมุ่ ต่อกล่มุ ระหว่างเครอื ข่ายต่อเครือข่าย ทำใหเ้ กิดปฏสิ ัมพนั ธ์ระหว่างกันภายใน เครือข่ายการทำงานร่วมกันของชาวพุทธ ทั่วประเทศ ซึ่งในกรณีของหลวงพ่อแดงนนั ททิโย ก็ได้ใช้ เครือข่ายความร่วมเมือดังกล่าวเป็นเครือข่ายปฏิสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างชุมชนกับชุมชน ระหว่าง พระสงฆ์กบั ชาวบ้าน ดังปรากฏว่าช่วงที่ผ่านมา ในสถานการณ์น้ำท่วม เครือข่ายพระสงฆ์ช่วยเหลอื สังคมภายใต้การนำของหลวงพ่อแดง ได้ประสานช่วยเหลือในหลายพื้นที่ เช่น จังหวัดอุบลราชธานี จงั หวดั สุโขทยั จังหวดั เลย จงั หวัดนครราชสมี า มาจนกระท่งั ในปลี ่าสดุ พ.ศ. 2564 ได้มกี ารชว่ ยเหลือ วัด พระสงฆ์ และชาวพุทธในสถานการณ์น้ำท่วมด้วยกัน เช่นในพื้นที่น้ำท่วมจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา และพระนครศรีอยุธยา ภายใต้แนวคิด พระไม่ทิ้งโยม หรือเครือข่ายพระสงฆ์สาธารณ สงเคราะห์ช่วยเหลือสังคมและประชาชน ภาพที่ 2 เครอื ขา่ ยพระสงฆ์กบั การชว่ ยแหลือสงั คม ท่ี อำเภอพมิ าย จงั หวดั นครราชสมี า ใหก้ ารบรรเทาสาธารณะภยั เบือ้ งต้น เม่อื 24 ตุลาคม 2563 ที่มา: ภาพวัดอินทาราม (2563) ภาพท่ี 3 เครือขา่ ยพระสงฆ์หมบู่ ้านศลี 5 และคณะสงฆว์ ดั ราษฎร์ศรทั ธาธรรม (วดั ปากแคว) จังหวัดสุโขทยั โดยหลวงพอ่ แดง นนทฺ โิ ย ชว่ ยเหลอื น้ำทว่ ม ท่ีมา: ภาพวัดอนิ ทาราม (2563)
54 ดร.หลวงพ่อ่ แดง พระสงฆ์์ไม่่ทิ้�ง้ ประชาชน จากภาพท่ี 2-3 ทำให้เห็นว่าพระสงฆ์ในบทบาทการทำงานสาธารณสงเคราะห์ ช่วยเหลือ สังคมประชาชนเกิดขึ้นภายใต้แนวคดิ ของการทำงานสงเคราะห์ (สังหควัตถุ-ทาน/จาคะ) บรรเทาสา ธารณภัย ให้เบาบางในเบ้ืองตน้ แต่ทั้งหมดเกดิ ขึ้นด้วยเครอื ข่ายที่เชื่อมโยงระหว่างกันของพระสงฆ์ ชาวพทุ ธ ทมี่ ปี ฏิสัมพนั ธ์ระหวา่ งกนั ทำให้เกิดการเช่อื มโยงขอ้ มลู และความชว่ ยเหลอื เพ่ือทำให้เกิด การเชือ่ มโยงชว่ ยเหลือในแบบพ่นี ้อง ญาตมิ ิตร ต่อภยั พบิ ตั ิทเี่ กิดขน้ึ ซึ่งเป็นการบรรเทาในเบ้อื งต้นต่อ ความเสียหายเดือดรอ้ นดงั กล่าวได้ การเยยี วยาโดยพระสงฆใ์ นสถานการณ์นำ้ ทว่ มในองคร์ วม พ.ศ.2564 จากภาพข่าวในเขตหลายพื้นที่ จะพบเห็นพระสงฆ์ได้ออกมาทำงานสาธารณสงเคราะห์ให้ ความช่วยเหลือประชาชนในหลากพ้ืนที่ ในพื้นที่น้ำท่วมในปี 2564 ในฐานะที่พระสงฆ์เป็นเจ้าของ พนื้ ท่ี โดยขน้ั แรกใหค้ วามชว่ ยเหลอื โดยใชว้ ดั เปน็ ที่พกั อาศยั เปน็ ทร่ี ับบรจิ าคใหค้ วามช่วยเหลอื รวมไป ถึงเป็นหน่วยประสานงานจากภาคีภายนอกในการให้ความช่วยเหลือ ดังกรณีในเขตจังหวัดสุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งในชัยภูมิ และนครราชสีมา ดังนั้นบทบาทของพระสงฆ์ยังคงมีความสำคัญ และเป็นความจำเ ป็นภายใต้ สังคมไทยและวิถีพุทธ ที่มีวัดเปน็ ฐานของชุมชนในการทำงานร่วมกันระหวา่ งพระสงฆ์และชาวบ้าน พระสงฆ์ได้ทำบทบาทในเชงิ ของการสงเคราะห์ในแบบสาธารณสงเคราะห์หรอื การบรรเทาในเบือ้ งต้น เชน่ การเยยี่ มใหก้ ำลงั ใจ การช่วยเหลือเปน็ เครอ่ื งอุปโภค บรโิ ภคเปน็ เบือ้ งตน้ ซ่งึ จะทำให้เกิดการขัค เคลอื่ นการดำเนินชีวติ ไปได้ในเบ้ืองต้น ต่อสภาพท่เี กดิ ขึ้นของนำ้ ท่วม ซง่ึ สอดคล้องกับงานศึกษาของ พระครอู าทรกจิ จาภริ กั ษ์ และคณะ (2563) ในเรอื่ ง บทบาทพระสงฆ์กบั งานสาธารณสงเคราะห์ หรือ ในงานของวิจยั สบื พงษ์ ธรรมชาติ และพระครอู รณุ สงิ หธรรม (2558) เร่อื ง ศกึ ษาบทบาทพระสงฆใ์ น การพัฒนาสังคมตามแนวพระพุทธศาสนา : กรณีศึกษาพระครูประภัศรธรรมวิธาน (มิ่ง ปภสฺสโร) รวมท้ังในงานวจิ ัยของ พระครปู ริยัติกิจจาภวิ ัฒน์ (2558) เรอ่ื ง ภาวะผู้นำกบั การจัดการประสิทธิภาพ งานสาธารณสงเคราะห์ ท่ีในงานวิจยั สะท้อนแนวคิดในเร่ืองพระสงฆ์ต้องบำเพญ็ ประโยชน์เพื่อสังคม สว่ นรวม ตามพันธกจิ และหน้าที่ของพระสงฆ์เพื่อสว่ นรวม นบั เป็นบทบาทในฐานะพระสงฆ์ ในฐานะที่ เป็นทีพ่ ึง่ ของสงั คมและประชาชน ทำให้เกิดการช่วยเหลอื ซ่งึ กนั และกนั ได้
พระครูพู ิิศิษิ ฏ์ป์ ระชานาถ, ดร 55 ภาพที่ 4 เครือข่ายพระสงฆ์กบั การช่วยแหลือสงั คม ที่ อำเภอพิมาย จังหวดั นครราชสมี า ในการใหก้ ารบรรเทาสาธารณภัยเบือ้ งตน้ เมอื่ 4 ตลุ าคม 2564 ที่มา: ภาพวัดอนิ ทาราม (2564) ภาพที่ 5 พระสงฆส์ กลนคร (2560) และน่าน (2559) ในสถานการณ์น้ำทว่ มในประเทศไทย ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์ (2560); ทวี ีพูลออนไลน์ (2559) จากภาพที่ 2-5 บทบาทของพระสงฆ์จึงเป็นลักษณะร่วมในการทำงานเพื่อสงเคราะห์ ประชาชนภายใต้แนวคิด พระต้องทำประโยชน์ เพื่อส่วนรวม พระสงฆ์ต้องช่วยเหลือสังคมและ สว่ นรวมภายใต้สถานการณ์ทย่ี ากลำบาก โดยเฉพาะน้ำท่วมท่ีเกิดขึ้นอย่างต่อเนือ่ งในหลายพื้นท่ีและ ในหลายเขตจังหวดั ทั้งในปีปัจจุบัน และที่ผ่านมา เราจึงเห็นภาพข่าวพระสงฆ์ กับการมีส่วนรว่ มกับ สังคมชุมชนในการบรรเทาหรอื ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นเพือ่ สง่ เสริมคณุ ภาพชีวิตและช่วยเหลอื ประชาชนในสถานการณ์ที่ยากลำบากได้ โดยมีกำลงั คน ทุนทางสังคมในการช่วยเหลือซึ่งกันและให้ เกิดความช่วยเหลือเป็นเบื้องตน้ ได้ บทบาทพระสงฆเ์ ชิงเครือข่ายหลวงพอ่ แดงง นนฺทโิ ย กับการช่วยเหลือพนื้ ท่ีนำ้ ทว่ ม ชัยภมู ิ โคราช อยุธยา เครือข่ายพระสงฆ์กับการช่วยเหลือน้ำท่วม เป็นสิ่งสำคัญและเป็นหัวใจ ของการประสาน ความร่วมมือกนั ชว่ ยเหลือกัน ดงั นัน้ การประสานของวัดอนิ ทาราม จึงประสานกบั พระฉตั รชัย อธิปญฺ โญ, ดร. วัดลาดทราย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตชัยภูมิได้ประสาน และนำ เครืองอุปโภค บริโภค ไปจัดมอบให้แก่ผู้ประสบภัย ในความหมายคือเครือข่ายเป็นหัวใจสำคัญใน
56 ดร.หลวงพ่อ่ แดง พระสงฆ์์ไม่ท่ ิ้ง�้ ประชาชน ฐานะเจ้าของพืน้ ที่ หรือการประสานกับ พระมหากฤษฎา กิตติโสภโณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าการ้อง ในเขตจังหวัดพระนครศรอี ยธุ ยา ในการนำเครือ่ งอปุ โภค บริโภค ไปใปชว่ ยเหลือผู้ประสบภัยเป็นวัดใน เขตจงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา ภาพที่ 6 เครอื ข่ายพระสงฆ์สาธารณสงเคราะหโ์ ดยหลวงพอ่ แดง นนทฺ ิโย จังหวัดชัยภูมิ ในการใหก้ าร บรรเทาสาธารณภัยเบอ้ื งตน้ น้ำท่วม ทมี่ า: ภาพวดั อนิ ทาราม (2564) (ก) พื้นท่ีที่ 1 จังหวัดชัยภูมิ (ตามภาพประกอบ 6) เหตุการณ์เมื่อ 28 กันยายน 2564 โดย พระครูพิศิษย์ประชานาถ รองเจ้าคณะอำเภออัมพวา ได้มอบถุงยังชีพ จำนวน 100 ถุง ผ่านภาคี เครือข่ายโดยการนำของ ดร.พระฉัตรชัย อธิปัญโญ วัดลาดทราย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อม ปัจจัยจำนวน 5,000 บาท เพื่อทำขา้ วอาหารปรุงสุกแจก จำนวน 200 กล่อง แก่ผู้ประสบภยั จำนวน 95 หลงั คาเรอื น ใหก้ บั หมูบ่ า้ นบุตามี ตำบลส้มปอ่ ย อำเภอจตั รุ สั จังหวัดชัยภมู ิ ดงั นัน้ เครือขา่ ยในเขต จังหวดั ชยั ภมู ิ คือ พระฉัตรชยั อธิปญโฺ ญ (2564) ทีม่ ีภมู ลิ ำเนาบา้ นเกดิ อยใู่ นเขตจังหวัดชัยภูมิพร้อม คณะ รับอาสาประสานลงพื้นที่ ช่วยเหลือเบื้องต้นแจกถุงยังชีพ เพื่อการบรรเทาสาธารณภัย ทำให้ สมาชิกผปู้ ระสบภัยคลายทุกข์ ด้วยชยั ภูมไิ มเ่ คยประสบภัยในลักษณะดังกล่าวมากอ่ น ดังนน้ั เครอื ข่าย พระสงฆ์ดา้ นสาธารณสงเคราะห์ จึงเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานร่วมกนั เข้าถึงพื้นที่และให้ความ ชว่ ยเหลือได้อย่างเข้าถงึ และสอดรบั กับสถานการณค์ วามต้องการความช่วยเหลือ ภายใต้แนวคิดพระ ไมท่ ้งิ โยม ไมท่ ้งิ ประชาชน ภาพที่ 7 เครอื ข่ายพระสงฆ์กบั การชว่ ยแหลอื สงั คม ท่ี อำเภอพิมาย จงั หวดั นครราชสมี า ในการให้การบรรเทาสาธารณภยั เบ้ืองตน้ ทม่ี า: ภาพวัดอนิ ทาราม (2564)
พระครูพู ิิศิิษฏ์์ประชานาถ, ดร 57 (ข) พื้นที่ที่ 2 จังหวัดนครราชสีมา (ตามภาพประกอบ 7) พระสงฆ์อาจมีหลายพื้นที่หลาย หน่วยงาน และหลายจงั หวดั เพราะในปี 2564 นำ้ จะท่วมในหลายพื้นท่ีด้วยเหตุผลในเรื่องของพายุที่ เข้ามาทำใหน้ ำ้ ท่วมจำนวนมาก แต่ในส่วนของหลวงพอ่ แดง นนฺทิโย ได้ดำเนินกิจกรรมภายใต้แนวคิด “พระไมท่ ิง้ โยม” เดินทางจากวดั อินทาราม เมอ่ื เชา้ ตรู่ เวลา 03.00 น. ของวนั ที่ 4 ตุลาคม 2564 โดย ปลายทางเพอื่ เดินทางไปยงั พ้นื ท่ปี ระสบภัยน้ำทว่ มในเขตพ้นื ทีอ่ ำเภอพมิ าย จงั หวัดนครราชสมี า ตรง บริเวณบ้านกระเบื้องใหญ่ ที่ได้รับการแจ้งข้อมูลจากกำนันอรรัตน์ พิมปรุ (2564) กำนันหญิงแห่ง หมูบ่ ้าน วา่ มปี ระชากรกว่า 200 หลังคาเรอื นทป่ี ระสบภัยนำ้ ทว่ ม มากนอ้ ยแตกต่างกนั ไป ซ่งึ ดว้ ยพ้นื ท่ี ทางภมู ิศาสตรท์ ต่ี ดิ แมน่ ้ำมลู เมือ่ นำ้ มีปรมิ าณมากและฝนตกต่อเน่อื งดว้ ยพายุ จงึ ทำให้น้ำท่วมล้นตล่ิง จากแม่นำ้ ไหลเขา้ ทว่ มไรน่ า บ้านอยอู่ าศยั จากขอ้ มูลดงั กลา่ วด้วยเป็นเครือขา่ ยเดิมทเ่ี คยไปช่วยเหลือ เปน็ เครอื ขา่ ยน้ำทว่ มในปี พ.ศ.2563 จึงได้มกี ารประสานให้ความช่วยเหลือ โดยทางวัดอินทารามได้มี การส่ง ถุงยังชีพจำนวน 200 ชุด พร้อมน้ำดื่ม 250 แพ็ค ปัจจัยจัดตั้งโรงทาน 10, 000 บาท โดยมี นางอรรัตน์ พิมปรุ กำนันตำบลกระเบือ้ งใหญ่ ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ คณะ อสม. บ้านจบก เป็นตัวแทน รับมอบ พร้อมมอบปัจจัยเพื่อสร้างอุโบสถ วัดกระเบื้องน้อย-จบก (ออกเสยี งว่า จะ-บก) จำนวนเงิน 100, 000 บาทถว้ น โดยมีพระครพู ศิ ิษฏป์ ระชานาถ (อายุ 62 ป)ี (2564) เป็นผแู้ ทนรบั ถวายเพื่อเป็น การอุปถัมภ์วัดเครือข่าย โดยเป็นสะท้อนถึงพลัง บ-ว-ร พระสงฆ์ไม่ทิ้งประชาชน ซึ่งเป็นกิจกรรมใน แบบพระสงฆ์สาธารณสงเคราะห์ พระสงฆ์ไม่ท้งิ ประชาชน หรือพระกบั โยมตอ้ งช่วยกัน ภาพท่ี 8 เครอื ข่ายพระสงฆส์ าธารณสงเคราะหโ์ ดยหลวงพอ่ แดง นนทฺ ิโย กบั คณะสงฆจ์ งั หวดั พระนครศรอี ยุธยา แจกของผปู้ ระสบภัยน้ำทว่ ม ทมี่ า: ผู้เขียน (2564)
58 ดร.หลวงพ่่อแดง พระสงฆ์์ไม่่ทิ้้ง� ประชาชน ภาพท่ี 9 เครอื ข่ายพระสงฆส์ าธารณสงเคราะห์โดยหลวงพอ่ แดง นนทฺ ิโย กบั คณะสงฆจ์ งั หวัดพระนครศรอี ยธุ ยา แจกของผู้ประสบภยั นำ้ ทว่ ม ทีม่ า: ผู้เขียน (2564) (ค) พนื้ ทีท่ ี่ 3 จังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา (ตามภาพประกอบ 8-9) เหตกุ ารณเ์ มอื่ 10 ตุลาคม 2564 เป็นการประสานร่วมมือกับเครือข่ายในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เช่น คณะสงฆ์วัดลาด ทราย คณะสงฆ์วัดท่าการ้อง (พระมหากฤษฎา กิตตโิ สภโณ, 2564) คณะสงฆว์ ดั อโยธยา (พระครสู ังฆ รักษ์ปัญญาพล ปญฺญาพโล, 2564) คณะสงฆ์วัดหน้าพระเมรุ (พระปลัดโอภาส โอภาโส, 2564) ซึ่ง ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในการทำภารกิจช่วยเหลือสังคม ด้วยการนำเครื่องอุปโภค บริโภค ไปจัดแจกในเบ้ืองต้น เพื่อเป็นการบรรเทา ให้ความช่วยเหลือ ซึ่งพ้ืนทีน่ ้ำท่วมในเขตจงั หวดั พระนครศรีอยุธยา ในพื้นที่ผู้ประสบภัย อบตำบลบ้านแพน อำเภอเสนา เป็นเครื่องอุปโภคบริโภค บรรเทาเบอ้ื งตน้ เช่น ขา้ วกล่อง 400 ชดุ น้ำ 100 แพค็ มาม่า 10 กล่อง ขนม 400 ชุด ปัจจยั 4, 000 เป็นต้น รวมทัง้ การชว่ ยเหลือวัดในพื้นที่น้ำท่วม เช่น วัดบางกะจะ วัดนางกุย วัดไก่เตี้ย วัดศาลาปูน วัดเจดีย์แดง วัดกุฎีทอง วัดตองปุ วัดแค วัดมณฑป เป็นต้น ดังนั้นการให้ความช่วยเหลือเป็น อาหารแห้งเครื่องอุปโภค บริโภค โดยการประสานกบั หน่วยงานในพื้นที่ ทำให้เห็นบทบาทพระสงฆ์ และเครือข่ายของหลวงพ่อแดง นนฺทิโย พระไม่ทิ้งโยม ร่วมกับพระสงฆ์ชาวพุทธในพื้นที่ประสบภยั พิบัติน้ำท่วมได้เปน็ อย่างดี และเป็นภารสะท้อนภารกิจพระสงฆ์กับงานสาธารณสงเคราะห์ช่วยเหลือ ผอู้ ่นื สงั คมและสว่ นรวม ดังนั้นจากภาพที่ 6-9 เป็นบทบาทของหลวงพ่อแดง นนฺทิโย พระสงฆ์นักสังคมสงเคราะห์ ภายใตภ้ ารกจิ “พระไม่ท้ิงโยม” ไดป้ ระสานความช่วยเหลือในแบบเครือข่าย โดยใชท้ ุนทางสงั คม คือ ความเคารพต่อพระสงฆ์และพระพุทธศาสนา เป็นผูอ้ าสา นำความช่วยเหลือ น้ำใจของชาวพทุ ธจาก พืน้ ทต่ี า่ ง ๆ ไปใหค้ วามช่วยเหลอื หรอื เป็นตัวแทนในการใหค้ วามชว่ ยเหลอื บรรเทาสาธารณภัย ทำให้ เกิดการบรรเทาเบ้ืองตน้ ตอ่ ความยากลำบาก เช่น เทียนไข ใช้จุดในขณะที่ไฟฟ้ ้า ถูกน้ำท่วม และไม่ สามารถใชก้ ารได้ อาหารแห้ง หรอื อาหารปรงุ สกุ ในสถานการณ์ท่ียงั ไม่เอ้อื ตอ่ การประกอบ หรือปรุง อาหารเองได้ และสิ่งอน่ื ๆ ท่ีจะชว่ ยบรรเทาใหเ้ กดิ ความไม่ยากลำบาก หรือความช่วยเหลือในเบือ้ งต้น
พระครููพิิศิษิ ฏ์์ประชานาถ, ดร 59 ได้ ดังนั้นภาระกจิ เหลา่ นี้จึงเป็นทั้งงานตามปณธิ านของพระพุทธเจ้าทีพ่ ระสงฆ์ต้องทำประโยชน์ ใน เวลาเดยี วกันพระสงฆต์ ้องเอือ้ ประโยชน์ เสียสละ แบง่ ปนั เพื่อการบำบัดทุกข์ ชว่ ยเสริมสรา้ งความสุข ให้เกดิ ขึน้ ในเบ้ืองต้น ทเ่ี ร่ิมจากบรรเทาเบ้ืองตน้ จากนั้นหนว่ ยงานท่เี กย่ี วขอ้ ง ก็จะเข้าไปแก้ไขปัญหา ระยะสั้นบรรเทาความยากลำบากเบื้องต้น ระยะกลาง ซ่อมแซมเก็บกู้ความเสียหายที่เกิดขึ้น และ ระยะยาว การสร้างมาตรการในการป้องกันน้ำท่วมซ้ำซ้อน เพื่อไมใ่ ห้ผลกระทบต่อคุณภาพชวี ิตและ การดำเนินชีวติ ของประชาชนในองคร์ วมได้ สรุป เครือขา่ ยนบั เป็นหวั ใจสำคญั หนง่ึ ของการทำงาน และบทบาทพระสงฆ์กบั การช่วยเหลอื สงั คม ภายใต้แนวคิด “พระไม่ทิ้งโยม” นับเป็นส่วนสำคัญกับการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ สาธารณ สงเคราะห์ การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที นับเป็นหัวใจสำคัญของการทำงาน รวดเร็ว เข้าถึงพื้นที่ และเข้าใจตอ่ สถานการณ์ เพื่อประโยชน์ต่อการช่วยเหลือสังคมได้ ภายใต้แนว ปฏิบัติ “ภิกษุพึงจาริกไปเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนหมู่มาก” คือทำประโยชน์เพื่อสังคมและ สว่ นรวม การช่วยเหลอื สงั คมนบั เป็นบทบาทของพระสงฆ์ในพระพทุ ธศาสนาที่ตอ้ งทำและดำเนิน ใน บทความนี้เป็นการบันทึกไว้เปน็ ความทรงจำร่วมต่อสถานการณ์น้ำท่วมในปี 2564 ว่าพระสงฆช์ าว พุทธกลุ่มหนึ่ง นำโดยหลวงพ่อแดง นันทิโย วัดอินทาราม จังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมเครือข่าย พระสงฆ์สาธารณสงเคราะห์ “พระไม่ทิ้งโยม” ได้บำเพ็ญประโยชน์ภายใต้แนวคิดหลักการสาธารณ สงเคราะห์ บทบาทพระสงฆ์ในการชว่ ยเหลือสงั คมในสถานการณ์น้ำท่วมนรี้ ว่ มกัน เอกสารอา้ งองิ กรงุ เทพธรุ กจิ ออนไลน์. (2564). เปิดภาพมุมสงู \"ลำนำ้ มูล\" ทะลักทว่ มเขตเมอื งพมิ ายเปน็ บรเิ วณกวา้ ง. สบื คน้ 28 กนั ยายน 2564, จาก https://www.bangkokbiznews.com/news/962545 เดลนิ ิวสอ์ อนไลน.์ (2560). มติ ิใหมพ่ ระสงฆช์ ว่ ยน้ำท่วม ระดมทุนแจกนำ้ -อาหาร. สบื คน้ 2 สิงหาคม 2560, จาก https://www.dailynews.co.th/article/588972/
60 ดร.หลวงพ่อ่ แดง พระสงฆ์์ไม่่ทิ้ง้� ประชาชน ทวี พี ลู ออนไลน.์ (2559). คณุ พระชว่ ย! เมอ่ื ชาวเมืองน่านเดอื ดรอ้ นจากน้ำทว่ ม ทัง้ พระทงั้ เณร จงึ ออก จากวัดมาช่วยเหลือชาวบ้าน. สืบค้น 22 สิงหาคม 2559, จาก https://www.tvpool online.com/content/215600 ไทยโพสตอ์ อนไลน์. (2564). โคราชอว่ มหนัก! 2 อำเภอจมบาดาล ถนนถูกตัดขาด ผู้ว่าฯส่งั เตรียมรับ น้ำเข้าพิมายในอีก 1-2 วัน. สืบค้น 29 กันยายน 2564, จาก https://www.thaipost.net /main/detail/118259 ไทยรัฐออนไลน์. (2564). ท่วมหนัก \"อยุธยา\" จมบาดาล 10 อำเภอ ชาวบ้านจำทนต้องนอนในเรือ. สืบค้น 7 ตุลาคม 2564, จากhttps://www.thairath.co.th/news/local/central/2213 126 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์. (2564). ชัยภูมิ น้ำท่วม 12 อำเภอ รวม 2.28 แสนไร่ เตือน “แม่น้ำชี” ระวังน้ำล้นตลิ่ง. สืบค้น 28 กันยายน 2564, จาก https://www.prachachat.net/local- economy/news-770413 ผู้จัดการออนไลน์. (2564). อยุธยาวิกฤต! น้ำท่วมกว่าครึ่งจังหวัด หลายพื้นที่ริมน้ำได้รับผลกระทบ อ ย ่ า ง ห น ั ก . ส ื บ ค ้ น 4 ต ุ ล า ค ม 2 5 6 4 . จ า ก https://mgronline.com/local/ detail/9640000097992 พระครูปราโมทย์ปัญญาวัฒน์ บุญเลิศ. (2563). บทบาทและการจัดการสาธารณสงเคราะห์ของพระ สังฆาธกิ ารในอำเภอบางคนที จงั หวดั สมุทรสงคราม. วารสารศลิ ปศาสตร์ราชมงคลสวุ รรณภมู ิ , 4(1), 53-62. พระครูปริยัติกิจจาภิวัฒน์. (2558). ภาวะผู้นำกับการจัดการประสิทธิภาพงานสาธารณสงเคราะห์. วารสารวทิ ยาลัยสงฆ์นครลำปาง, 4 (2), 1-13. พระครูปลัดสมชัย นิสฺสโภและคณะ. (2063). บทบาทของพระสงฆ์ที่มีผลต่อการพัฒนาสังคมและ ชุมชน กรณีศกึ ษาวดั ไทยชุมพล อำเภอเมือง จงั หวดั สุโขทัย. วารสารศนู ย์การเรยี นรู้สมยั ใหม่, 5(5), 90-99. พระครูพิศิษฏ์ประชานาถ. (2564, 4 ตุลาคม). วัดกระเบื้องน้อย-จบก จังหวัดนครราชสีมา [สมั ภาษณ์]. พระครสู งั ฆรักษ์ปญั ญาพล ปญฺญาพโล. (2564, 28 กันยายน). วดั อโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา [สัมภาษณ์].
พระครููพิศิ ิษิ ฏ์์ประชานาถ, ดร 61 พระครูสังฆรักษ์ศุภณัฐ ภูริวฺฑฒโนและคณะ. (2561). วัด: บทบาทการเสริมสร้างสันติสุขในชุมชน ท่ามกลางสงั คมไทย. วารสารวิทยาลยั สงฆ์นครลำปาง, 7(1), 290-298. พระครูอาทรกิจจาภิรักษ์ และคณะ. (2563). บทบาทพระสงฆ์กับงานสาธารณสงเคราะห์. มหาจุฬา นาครทรรศน์, 6 (10), 1711-1719. พระครูอุดมธรรมรส อสิญาโณและคณะ. (2561).บทบาทเชิงรุกของพระสงฆ์ในการส่งเสริมคุณภาพ ชวี ิตของประชาชน ในจงั หวัดชลบรุ ี. วารสาร มจร สงั คมศาสตรป์ รทิ รรศน์, 7(2 พเิ ศษ), 1-10. พระฉตั รชัย อธิปญฺโญ. (2564, 28 กันยายน). วัดลาดทราย จงั หวัดพระนครศรอี ยธุ ยา [สมั ภาษณ์]. พระปลัดโอภาส โอภาโส. (2564, 10 ตลุ าคม). วัดหนา้ พระเมรุ จงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา [สัมภาษณ์]. พระมหากฤษฎา กิตติโสภโณ. (2564, 10 ตุลาคม). วัดท่าการ้อง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา [สัมภาษณ์]. มติชนออนไลน์. (2564). “สุโขทัยอ่วม น้ำท่วมที่เศรษฐกิจ การเดินทางเป็นอัมพาต ก่อนนายกฯลง พื้นที่พรุ่งนี้”. สืบค้น 25 กันยายน 2564. จากhttps://www.matichon.co.th /region/news_2957492 สืบพงษ์ ธรรมชาติ และพระครู อรุณสิงหธรรม. (2558). ศึกษาบทบาทพระสงฆ์ในการพัฒนาสังคม ตามแนวพระพุทธศาสนา : กรณีศึกษาพระครูประภัศรธรรมวิธาน (มิ่ง ปภสฺสโร). วารสาร มหาจุฬานาครทรรศน์, 2(2), 89-100. อรรัตน์ พิมปรุ. (2564, 4 ตุลาคม). กำนันตำบลกระเบ้ืองใหญ่ จงั หวดั นครราชสมี า. [สมั ภาษณ์]. Thailand Flood Monitoring System. (2564). พน้ื ทน่ี ำ้ ท่วมรายปภี าพรวมท้ังประเทศ, สบื ค้น 10 ตลุ าคม 2564, จาก https://flood.gistda.or.th/
62 ดร.หลวงพ่อ่ แดง พระสงฆ์์ไม่่ทิ้ง�้ ประชาชน
กับการชเว่คยรเหือลขขอื อ่าปยงระพหชลราชะวนสงใพงนฆพ่อ้ืน์สแทาด่นีธง�ำ้าทนรว่ ณนมซฺทสำ�้ ซิโงยอ้เคน:รจาังะหหวัด์ สโุ ขทยั LUANG POR DAENG NONTHIYO’S PUBLIC WELFARE MONKS NETWORK : WITH HELPING PEOPLE IN THE FLOODED AREAS, SUKHOTHAI PROVINCE
64 ดร.หลวงพ่่อแดง พระสงฆ์์ไม่่ทิ้้�งประชาชน ภาพท่ี 4 การช่วยเหลือน้ำทว่ ม ทจ่ี ังหวัดอุบลราช สงเคราะหส์ งฆ์ จงั หว ที่มา: วัดอนิ ทราม จังหวัดสม ในสถานการณน์ ้ำท่วมสโุ ขทยั เมอ่ื ปี พ.ศ.2563 พอ่ แดง นนฺทิโย พร้อมคณะ ซง่ึ ไดป้ ระสานเครือข่ายโค (วัดปากแคว) จังหวัดสุโขทยั อันเป็นจดุ น้ำท่วม ประจ
เครอื ข่ายพระสงฆ์สาธารณสงเคราะห์ของหลวงพ่อแดง นนทฺ โิ ย: กับการช่วยเหลือประชาชนในพ้ืนทน่ี ้ำท่วมซ้ำซอ้ น จงั หวดั สุโขทยั * LUANG POR DAENG NONTHIYO'S PUBLIC WELFARE MONKS NETWORK : WITH HELPING PEOPLE IN THE FLOODED AREAS, SUKHOTHAI PROVINCE ------------------------------------------- พระเอกลกั ษณ์ อชิตโต, พระมหากฤษฎา กิตฺตโิ สภโณ, สมชาย ลำภ,ู พระปลัดระพิน พุทธสิ าโร, สุภัทรชยั สสี ะใบ Phra Eakakak Achitto, Phramaha Krisada Kittisobhano, Somchai Lamphu, Phrapalad Rapin Bhuddhisaro, Suphatchai Sisabai วดั อินทาราม จงั หวดั สมทุ รสงคราม Wat Intharam, Samut Songkhram Province E-mail: [email protected] บทคดั ยอ่ บทความนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาแนวทางการสาธารณสงเคราะห์อันเป็นเครือข่ายของ หลวงพ่อแดงง นนทฺ โิ ย ท่เี ข้าไปมีบทบาทในการช่วยเหลอื สังคมสว่ นร่วม ใช้วธิ ีการศึกษาจากเอกสาร งานวจิ ยั การลงพ้นื ท่เี กบ็ ข้อมลู สมั ภาษณ์ และสอบถามจากบคุ คลท่เี ก่ยี วข้องเขียนเป็นบทความเรียง ในรูปแบบบทความวิชาการ ผลการศึกษาพบว่า หลวงพ่อแดง นนฺทิโย ได้ขับเคลือ่ นกิจกรรมผ่านโครงการหมู่บ้านศลี 5 และเช่อื มโยงกบั เครอื ข่ายพระสงฆ์ในพ้นื ทจ่ี ังหวัดสุโขทยั เพ่อื ขยายงานคณะสงฆ์สาธารณสงเคราะห์ ทำให้เกดิ การเชื่อมโยง ช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภยั เบื้องต้นส่งต่อเครื่องอุปโภคบริโภค และงบใน การเยียวยาช่วยเหลือผูป้ ระสบภัยน้ำทว่ มซ้ำซ้อนในเขตจังหวัดสุโขทัย ในช่วง พ.ศ.2563 และกลมุ่ พระสงฆส์ าธารณสงเคราะห์ในเขตพื้นทกี่ ับคณะสงฆส์ ่วนกลางในช่วง พ.ศ.2563 ทำให้เห็นวา่ พระสงฆ์ มีบทบาทผา่ นเครือข่ายร่วมกนั ในการให้ความชว่ ยเหลอื ประชาชนในสถานการณ์น้ำท่วมจงั หวัดสโุ ขทยั ภายใต้แนวคิดเครือข่ายของพระสงฆ์สาธารณสงเคราะห์ช่วยบรรเทาภยั ของประชาชนและพระไม่ท้ิง โยม *ตพี ิมพใ์ นวารสารพุทธนวตั กรรมและการจดั การ, ปที ี่ 4 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มถิ ุนายน 2564 หนา้ 88-101.
66 ดร.หลวงพ่่อแดง พระสงฆ์์ไม่ท่ ิ้�้งประชาชน คำสำคญั : เครือขา่ ยพระสงฆ์สาธารณสงเคราะห์; หลวงพ่อแดง นนฺทโิ ย; การช่วยเหลือประชาชนใน พื้นท่นี ้ำท่วมซ้ำซอ้ น จังหวดั สุโขทยั Abstract This article is intended To study the public welfare approach which is the network of Luang Por Daeng Nonthiyo who has played a role in helping the society. The study method was based on research papers, data collection, interviews, and questionnaires from related persons, writing essays in the form of academic articles. The results of the study revealed that Luang Por Daeng Nonthiyo had driven the activities through the 5 Precepts Village Project and connected with the network of monks in the Sukhothai area. to expand the work of the Sangha Public Welfare make a link First aid in disaster relief, forwarding consumer goods And the budget to heal the flood victims in Sukhothai province during the year 2563 and the group of monks for public welfare in the area and the central monks during 2021 show that the monks have a role. through a joint network in providing assistance to people in the flood situation in Sukhothai Province Under the concept of a network of monks who help alleviate people's dangers and monks don't leave Yom Keywords: network of monks for public welfare; Luang Por Daeng Nonthiyo, helping people in the flooded areas; Sukhothai Province บทนำ สถานการณน์ ำ้ ท่วมในจังหวดั สุโขทยั พื้นที่รับน้ำจากจงั หวัดแพร่ต้นน้ำของแม่น้ำยม เมื่อดู จากสถิติในแต่ละปี น้ำจะท่วมอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งกลายเป็นเรื่องปกติประหนึ่งเป็นเทศกาล ประจำปี ดังปรากฏข้อมูลเป็นภาพข่าวที่ว่า \"สุโขทัย\" พนังกั้นน้ำยมแตก ทะลักท่วมบ้าน 200 หลงั ” (Thai PBS ออนไลน,์ 2563) หรือภาพขา่ ว ลำบาก! นำ้ ท่วมรอบ รพ.สุโขทัย ใช้เรือรับสง่ ผปู้ ่วย- ผู้มาติดต่อ (Thai PBS ออนไลน์, 2563) น้ำท่วมสุโขทัยจึงเป็นเหตุการณ์ที่เนื่องต่อกันนับแต่ปีที่ก่อน หรือหลายปกี อ่ นจนเป็นเรื่องปกติหรือความคุ้นชินของคนสุโขทัย ด้วยเหตุผลในเร่ืองน้ำล้นตลิ่งบา้ ง และผนังก้ันน้ำพังน้ำไหลทว่ มบ้านและพื้นท่ีทางการเกษตร หรือน้ำป่าหลากท่วม พ้นื ทีท่ างภูมิศาสตร์
พระครููพิศิ ิษิ ฏ์์ประชานาถ, ดร 67 ของจังหวัดสุโขทัยจึงเป็นเมืองรับน้ำ หรือเมืองน้ำก็ไม่คงผิด ดังจารึกว่า “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” (อัศวิน โกมลเมนะ, 2517) แปลว่าสุโขทัยเป็นเมืองนำ้ หรือมีความอดุ มสมบูรณ์โดยสมั พนั ธ์กับพ้ืนของ แหล่งน้ำ รวมทง้ั ในตำนานพระร่วง (นรนิ ทร์ นำเจริญ และมนฤทัย ไชยวิเศษ, 2556) สโุ ขทยั ในฐานะ เมืองประเทศราชของอาณาจกั รขอมจะต้องส่งสว่ ยเป็นน้ำจากสโุ ขทยั ไปยังละโว้ ดงั น้นั จากภูมิศาสตร์ สุโขทัยจึงเป็นเมืองรับน้ำจากที่ราบสูงของจังหวัดแพร่โดยมีแม่น้ำยมเป็นจุดเชื่อมไหลผ่าน จาก สถานการณ์น้ำท่วมที่ท่วมคณะสงฆ์ได้เห็นว่าพระควรเข้าไปมีบทบาทในการบรรเทาสา ธารณภัยนำ้ ท่วมเบื้องต้น เช่น ในปี พ.ศ.2563 เครือข่ายหลวงพ่อแดง นนฺทิโย แห่งวัดอินทาราม จังหวัด สมุทรสงคราม ประสานเครือขา่ ยกับวดั ภายใต้โครงการหมู่บา้ นศลี 5 ไดเ้ ขา้ รว่ มช่วยเหลือบรรเทาภัย เบื้องต้นเป็นเครื่องอุปโภคบริโภค จนกระทั่งน้ำลดในท่ีสดุ หรือในปี พ.ศ.2563 น้ำก็ท่วมเครือข่าย คณะสงฆ์สาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคมกับคณะสงฆ์ระดับปกครองภายในจังหวัด ได้เข้าไป บรรเทาชว่ ยเหลอื เบ้อื งต้นดว้ ยเชน่ กัน ดงั นัน้ ในการเขยี นบทความนจ้ี ะไดส้ ะทอ้ นข้อมลู ถึงเครือข่ายกบั การช่วยเหลือสังคมของพระสงฆ์ เน้นกรณีของคณะหลวงพ่อแดง นนฺทิโย ที่ได้ดำเนินการบริหาร ประสานผ่านเครือขา่ ยใหเ้ ป็นกลไกสำคญั ท่ีชว่ ยเหลือประชาชนในเขตพน้ื ท่ีทว่ มไดอ้ ยา่ งทนั ท่วงที เป็น ประโยชน์ ไดป้ ระโยชน์ ประสานประโยชน์ ภายใตแ้ นวคิดการสงเคราะห์ประชาชนโดยพระสงฆ์ หรอื บทบาทพระสงฆก์ ับการช่วยเหลือสงั คมประชาชนที่ไดร้ ับความยากลำบาก ภาพท่ี 1 สถานการณ์ พนงั กน้ น้ำพงั ของจงั หวัดสุโขทยั สงิ หาคม 2563 ท่ีมา: คมชดั ลกึ ออนไลน์ (2563) ในบทความนี้จะได้สะท้อนคิด การทำงานของพระสงฆ์กับการช่วยเหลือประชาชนใน สถานการณ์ไมป่ กติ น้ำทว่ ม ผ่านงานและกิจกรรมหลวงพอ่ แดง นนทฺ ิโย ทีป่ ระสานเช่อื มโยงเครือข่าย พระสงฆก์ ับการทำงานสาธารณสงเคราะห์ หรอื “สงั ฆประชานุเคราะห์” ท่ีมเี ป้าหมายเพื่อ “คณุ ภาพ ชีวิตของชาวพุทธ” กับบทบาทพระสงฆ์ในสถานการณ์น้ำท่วมต่อการบรรเทาในเบื้องตน ซึ่งจะได้ นำเสนอต่อไป
68 ดร.หลวงพ่่อแดง พระสงฆ์์ไม่ท่ ิ้�้งประชาชน ภาพที่ 2 บทบาทเครือขา่ ยพระสงฆ์สุโขทัย กบั พระสงฆใ์ นนามสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม กับการชว่ ยเหลอื ประชาชนในสถานนำ้ ท่วม พื้นท่จี งั หวดั สโุ ขทยั เมอ่ื 1 ตุลาคม 2563 ทม่ี า: พระอุดมบณั ฑิต (2563) พ้ืนทีซ่ ้ำซอ้ นของจงั หวดั สุโขทยั จากภาพขา่ วท่ีปรากฏต่อสาธารณะเกย่ี วสถานการณ์นำ้ ท่วม เช่น (ก) 22 ส.ค.มวลน้ำเหนือ ทะลักถึงสุโขทัย-เตือนภัยเขตศก (โพสต์ทูเดย์ออนไลน์,21 สิงหาคม 2561) (ข) สุโขทัย น้ำท่วมอีก พนังกั้นน้ำแตก ไหลทะลักเข้าท่วมหนกั กว่า 5 อำเภอ (สำนักข่าว INN ออนไลน์, 4 กันยายน 2562) (ข) สโุ ขทัยยังอ่วม! เดือดร้อน 3 อำเภอ 5,700 ครัวเรือน (ไทยโพสต์ออนไลน์, 2563) (ค) สโุ ขทัยอ่วม น้ำหลากท่วม 3 อำเภอ ต้องย้ายควายหนี (ไทยรัฐออนไลน์, 2563) (ง) “สุโขทัยอ่วม น้ำท่วมที่ เศรษฐกิจ การเดินทางเป็นอัมพาต ก่อนนายกฯลงพื้นท่ีพรุ่งนี้” (มติชนออนไลน์, 2563) ภาพข่าวท่ี ปรากฏอยา่ งต่อเนือ่ งในทกุ ๆ ปี ในรอบหลายปี ว่าสุโขทยั เปน็ จุดรับน้ำในเสน้ ทางแมน่ ้ำยม ที่มาจาก แพร่ เข้าอุตรดิตถ์ ผ่านสวรรคโลก สุโขทัย เข้าพื้นที่กงไกรลาศ และเข้าพื้นที่บางระกำ จังหวัด พิษณุโลก ก่อนเข้าพิจิตรและไหลลงต่อมาจังหวัดนครสวรรค์ ซี่งเป็นจุดรับน้ำจากแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน ดังนั้นอาจสื่อไปได้ว่า (1) น้ำเป็นกลไกธรรมชาติตามภูมิศาสตร์เชิงพื้นที่ น้ำจึงเป็นปัจจัยทาง เศรษฐกิจการผลิต ทำนา ทำไร่ หรือแหลง่ อาหารปลา และพชื ทเ่ี นื่องด้วยนำ้ น้ำทำให้เกิดผลของการ ผลติ ในองค์รวม ท่ีเก่ียวกับปจั จัยสำคญั ในทางการเกษตร (2) นำ้ เปน็ แหล่งผลิตอาหาร ท่มี าพรอ้ มกับ น้ำ พืชน้ำ สัตว์น้ำ ดังปรากฏในงานวิจัยเรื่อง “โลกพันทาง” ของลุ่มน้ำ ปลา และผู้คน แห่งบ้านกง อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสโุ ขทัย: มุมมองเชงิ ภูมศิ าสตร์มนุษย์ (ชยา วรรธนะภูติ, 2561) นัยยะของ งานวิจัยน้สี อ่ื ให้เห็นวา่ นำ้ กับปลาเป็นของคู่กัน วถิ แี หง่ สายน้ำ สัตวน์ ำ้ จงึ ไปสัมพนั ธ์กบั ปลาตากแห้งที่ ไว้เก็บกนิ ในชว่ งฤดูแลง้ ปลาย่าง ปลาแห้ง นำ้ ปลาแบบหมัก ปลารา้ ฯลฯ เปน็ ต้น (3) วถิ ธี รรมชาตกิ ับ นำ้ อันหมายถึง พืน้ ที่ลุม่ สุโขทยั จะมลี ักษณะท่มี เี หตุการณ์นำ้ ท่วมซ้ำซ้อน หรือพืน้ ทล่ี ุ่มนำ้ สรุปง่าย ๆ คือ น้ำท่วมเป็นเรื่องท่ีเกดิ ขึ้นปกติ เกิดขึ้นต่อเนื่องในกรณจี ังหวัดสุโขทัย ดังปรากฏในงานวิจัยเรื่อง ความเปราะบางต่อภัยธรรมชาติของครัวเรือน: กรณีศึกษาจากเหตุการณ์น้ำท่วมปี พ.ศ. 2554 ใน ประเทศไทย (ชาฮีดา วริ ิยาทร และภทั ทา เกิดเรือง, 2560) และงานวจิ ยั “การวเิ คราะห์พ้ืนทีเ่ ส่ียงน้ำ
พระครูพู ิิศิิษฏ์ป์ ระชานาถ, ดร 69 ท่วมโดยกระบวนการลำดบั ชนั้ เชิงวิเคราะห์บริเวณลมุ่ นำ้ ยมตอนลา่ ง จงั หวดั สุโขทยั ” (ทับทิม วงศ์ทะ ดา, 2559) ทสี่ ะท้อนผลการศึกษาออกมาวา่ “...วิเคราะห์พื้นที่เสียงน้ำท่วมในจังหวัดสุโขทัย ด้วยกระบวนการลำดับช้ัน เชิง วเิ คราะห์ และระบบสารสนเทศภมู ิศาสตร์ โดยใหค้ ำนำ้ หนักจกการคำนวณด้วยกระบวนการ ลำดับชั้นเชิงวิเคราะห์ พิจารณาจากปัจจยั ท้ัง 6 ปัจจัย อันได้แก่ ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยรวมปี พ.ศ. 2552-2558 ความหนาแน่นทางน้ำ การใช้ประโยชน์ที่ดิน ความลาดชนั ความสูง และ การระบายนำ้ ของดินโดยจำแนกพนื้ ที่เส่ียงต่อการเกิดน้ำทว่ มเปน็ ระดบั ได้แก่ เสยี งน้ำท่วม ตำ่ ทส่ี ุด เสี่ยงนำ้ ทว่ มตำ่ เสยี่ งน้ำทว่ มปานกลาง เสี่ยงนำ้ ทว่ มสงู และเสี่ยงน้ำท่วมสูงมาก ซ่ึง พบวา่ พน้ื ที่บรเิ วณ อ.เมือง อ.ศรลี ำโรง อ. ครี ีมาศ และ อ.กงไกรลาศ มพี ื้นที่เส่ียงน้ำทว่ มมาก และมากที่สุด จากการตรวจสอบข้อมูล...สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิ สารสนเทศ พบว่าพ้ืนทีน่ ้ำท่วมสงู จากกระบวนการลำดับชั้นเชิงวเิ คราะหน์ ้ันตรงกับพื้นที่นำ้ ทว่ มสูงจรงิ จาก GISTDA อย่คู อ่ นขา้ งมาก เปน็ พนื้ ท่ี 448 ตารางกิโลเมตร หรอื คิดเป็นร้อยละ 9 12ของพื้นที่นำ้ ท่วมจริง อยู่ในตอนล่างของพืน้ ทีศ่ ึกษา บริเวณอำเภอเมอื งสุโขทัย กงไกร ลาศ ศรี ีมาศ และศรีสำโรง...” รวมทง้ั ในงานวจิ ยั ของ สาธิต วงศ์อนันต์นนท์ (2554) วิกฤตนน์ ำ้ ทว่ มประเทศไทย 2554 กบั ผลกระทบทางสงั คม ทีไ่ ด้ทำการศกึ ษาและใหข้อมลู ถึงผลกระทบจากนำ้ ทว่ มไวว้ า่ “...วิกฤตน้ำท่วมได้สร้างผลกระทบทางสังคมในวงกว้างแกป่ ระชาชน ไม่ว่าจะเป็น บา้ นเรือนเสียหาย ต้องมกี ารอพยพหนนี ำ้ ท่วมไปอาศยั อยทู่ อ่ี ่ืน บางส่วนก็ได้อพยพครอบครัว ไปยงั ศูนยพ์ ักพิงตา่ ง ๆ สถานศึกษาและสถานพยาบาลหลายแห่งต้องปิดทำการช่วั คราว และ น้ำท่วมยังส่งผลต่อสุขภาพกาย และใจของประชาชนด้วย นอกจากนี้ยังมีอีกปัญหาหนึ่งท่ี เกิดขนึ้ พร้อมกันกค็ อื ปญั หาสง่ิ แวดล้อม โดยเฉพาะปญั หานำ้ เน่าเสยี และขยะมลู ฝอย...” ในข้อเท็จจริงเชิงพื้นที่สุโขทยั เป็นเมอื งน้ำผ่าน และมีมวลนำ้ เหนือในทุก ๆ ปีอย่างต่อเนื่อง ยาวนาน ในวธิ กี ารแก้ปญั หาเชงิ ระบบจะตอ้ งมาตระหนักและคดิ ตอ่ ไปวา่ จะมแี นวทางในการแกป้ ัญหา ในผลกระทบทเ่ี กดิ ขึน้ รวมทง้ั การออกแบบเชงิ ระบบตอ่ การแก้ปัญหานำ้ ให้ได้ ทง้ั การจัดทำเข่ือนเพ่ือ บรหิ ารจดั การน้ำเชิงระบบ การทำคลองสาขาให้กลายเปน็ แหลง่ กระจายน้ำไปยังพ้ืนทที่ างการเกษตร ตลอดเส้นทางแม่น้ำยมทีไ่ หลผ่ า่ นแพร่ อุตรดติ ถ์ สุโขทยั พษิ ณโุ ลก พิจิตร นครสวรรค์ หรอื การทำแกม้ ลิงเพอื่ กักเกบ็ น้ำไวใ้ ช้ในฤดแู ลง้ อนั จะเป็นช่องทางในการบรรเทาภยั พบิ ัติจากนำ้ แลง้ ในช่วงฤดูแล้งได้ ด้วย
70 ดร.หลวงพ่่อแดง พระสงฆ์์ไม่ท่ ิ้ง�้ ประชาชน ภาพท่ี 3 แมน่ ้ำ กบั พน้ื ที่แม่น้ำ ท่ีเน่ืองด้วยภัยน้ำท่วมในจังหวดั สุโขทยั แมน่ ำ้ ยม จากแผนภาพที่ 3 สภาพภูมิศาสตร์เชิงพื้นที่แม่น้ำอื่น ๆ เช่น แม่น้ำน่าน (เขื่อนสิริกิตย/์ เขื่อนนเรศวร) แม่น้ำปิง และวัง (เขื่อนภมู พิ ล) จะมีจุดรับน้ำ ที่เรียกว่าเขือ่ นขนาดใหญ่ หรือแก้มลิง ขนาดใหญ่ ซึ่งจะเปน็ การสร้างกลไกรองรับน้ำ หรือการชะลอตัวของมวลน้ำ เพื่อรองรับการเก็บน้ำ และจัดการเชงิ ระบบ จงึ ทำใหน้ ้ำท่วม หรือโอกาสนำ้ ท่วม ถูกชะลอ หรอื ได้รับการแกไ้ ขไดเ้ ปน็ เบอื้ งตน้ ซึ่งประเด็นเกีย่ วกับเขื่อน ฝาย หรือการสร้างเขื่อนกันแม่นำ้ ยังเป็นประเดน็ ที่ต้องพดู คยุ กัน ซึ่งกอ่ น หน้านี้ก็ได้ดำเนินการและถกเถียงกันในเวทีสาธารณะแลว้ โดยมีแนวคิดชัดเจนว่า (1) ประชาชนได้ ประโยชน์ (2) รัฐบริหารจัดการเชิงระบบ (3) ไม่กระทบต่อระบบนิเวศวิทยาในองค์รวม (4) รักษา สิ่งแวดล้อม (5) สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของงบประมาณและการดำเนินการ และประเด็น ร่วมอื่น ๆ อีกมาก ซึ่งแนวคิดเหล่านี้ปรากฏในงานวิจัยกรณีศึกษาเกี่ยวกับเขื่อนและแนวทางการ จัดการเขอ่ื นเพ่อื แกป้ ญั หาน้ำ เชน่ ยุทธวิธีในการเคลือ่ นไหวทางสังคมของ “กลุ่มไม่เอาเขื่อนแก่งเสือ เตน้ ” (ทรงชัย ทองปาน, 2560) รูปแบบการอภิบาลเครือขา่ ยในการจัดการทรพั ยากรนำ้ : ศกึ ษากรณี พื้นทีภ่ มู ิภาคลุ่มนำ้ ยม (ภทั ร ชมภูมง่ิ , 2558) แนวคิดในการศกึ ษาเพื่อลดปัญหาน้ำทว่ มและภัยแล้งใน ลมุ่ น้ำยม (ชัยวฒั น์ ขยันการนาวีและฉลอง เกิดพทิ ักษ์, 2009) การเปลยี่ นแปลงของภมู ทิ ัศนพ์ ลวัตน้ำ หลากในลมุ่ แม่น้ำยม กรณศี กึ ษา ชมุ ชนบ้านกง อำเภอกงไกรลาศ จังหวดั สโุ ขทยั (ภัคเกษม ธงชยั และ ดนัย ทายตะคุ, 2563) การมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำยม ตอนล่าง (ปิยะดา วชิระวงศกร และณัฏฐิณี ดีแท้, 2559) ปัญหาและความต้องการของชุมชนในการ จัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำยม (เขมิกา วริทธิ์วุฒิกุล และคณะ, 2563) เมื่อนำแนวคิดมา
พระครูพู ิิศิิษฏ์ป์ ระชานาถ, ดร 71 ประมวลรวม อาจเสนอเป็นแนวทางในการพัฒนาคลองสาขาแทนการจัดการน้ำผ่านระบบเขื่อน จากนน้ั ไปพฒั นาเปน็ แกม้ ลิง หรืออ่างเกบ็ น้ำขนาดใหญ่ในพื้นท่ีทางการเกษตรอันเปน็ ปลายของคลอง สาขาตลอดเส้นของแมน่ ำ้ ยมในแตล่ ะจงั หวัดทแ่ี ม่นำ้ ยมไหลผา่ นเพ่อื การบรหิ ารจัดการน้ำ ดังแผนภาพ ท่ี 4 ได้ คือ การพฒั นาคลองสาขาแมน่ ้ำยมให้เปน็ แกม้ ลิงในการกกั เก็บนำ้ แก่ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซ้อน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พจิ ิตร พน้ื ท่จี ังหวดั แพร่ แม่น้ำ พ้นื ทีจ่ ังหวัด พ้นื ท่ีจงั หวัดสุโขทัย จังหวดั พิษณโุ ลก มี จงั หวดั พจิ ิตร การ ย มแ ล ะ ค ล อง ส าข า อตุ รดิตถม์ ีแม่นำ้ จะ มี ค ล อง สาขา แมน่ ำ้ และคลอง พัฒนาคลองสาขา คลองเช่อื มห้อยบ่อทอง น่าน เชน่ คลองแม่รำพัน สาขาที่จะเปน็ ในจงั หวัดพจิ ิตรให้ , คลองใส,คลองวะ, แนวคลองตรอน เชื่อมพื้นที่ตำบล แหลง่ ระบายนำ้ เป็นแหล่งรับน้ำ คลองเชื่อมห้วยจันทร์, แม่น้ำปาด คลอง เมืองเก่า อำเภอ และสรา้ งแก้มลงิ ได้ (แก้มลิง) ในช่วง คลองแม่หม้าย,คลอง แม่พร่อง ห้วยน้ำ บ้านด่านลานหอย เช่น แมค่ ำมี,คลองแม่หล่าย, ไคร้ และลำธาร 1.คลองวงฆ้อง 2. 1.แมน่ ้ำน่าน ฤดูฝน จากแม่น้ำ คลองแม่เฒ่า,คลองแม่ สายต่างๆ ที่จะ ค ล อ ง ป ล า ย น า 2.แม่น้ำยม น่าน พร้อมคลอง บง,คลองแม่ป๊าก,คลอง สามารถพัฒนา บ้านสวน 3.คลอง 3.แมน่ ้ำแควน้อย สาขา 7 สาย ซึ่ง แ ม ่ ส ิ น ,ค ล อ ง แ ม ่ เ ก ิ ้ ง , เปน็ แหลง่ พกั นำ้ ต้นข้อ 4.คลองละ 4.แม่น้ำวงั ทอง 5. ค ล อง แ นะ ,ค ล อ ง โ ป่ ง และเป็นแก้มลิง ท้อ 5.คลองแม่ แมน่ ้ำเหือ จะสามารถพัฒนา ย อ ก ,ค ล อ ง แ ม ่ พ ุ ง , ครอบคลุมพืน้ ลาน 6.คลองหก ให้แหล่งระบายน้ำ คลองเม่สธิ ิ,คลองสรอย ทางการเกษตร บาท ในเขตสวรรค 6.คลองโปรง่ นก พร้อมรับน้ำใน ,คลองแม่แปง,คลองแม่ ได้ และเป็น โลก 7.คลองบ้าน 7.คลองห้วยผง้ึ 8. แบบแกม้ ลงิ ได้ คลองไทรย้อย 9. กะบาน,คลองไม้,คลอง แหลง่ พักน้ำใน หลุม อ.เมือง 8. คลองบา้ นมุง 10. ยางหลอด,คลองระแฮ ฤดูน้ำทว่ มได้ คลองแม่ฮู้ 9.คลอง คลองชมพู 11. นำ้ แม่สิน ในเขตศรีสัช คลองวังยาง 12. นาลัย เปน็ ต้น คลองหว้ ยไร่ ตารางท่ี 1 แนวทางการพฒั นา คองสาขา และ “แก้มลงิ ” เพื่อปอ้ งกันนำ้ ท่วม และจัดการนำ้ โดยมี เปา้ หมายเป็นบรหิ ารน้ำปอ้ งกันน้ำทว่ ม จดั การนำ้ เก็บนำ้ และใชน้ ำให้ในชว่ งฤดแู ลง้ ทมี่ า: ผเู้ ขยี น จากตาราง ท่ี 4 จะเห็นไดว้ า่ น้ำทว่ มสุโขทัยเปน็ ปญั หาซ้ำ ๆ วนกลับไปกลบั มาด้วยเหตุผลว่า สุโขทัยเป็นเมืองน้ำ การเสนองบประมาณเพื่อพัฒนาทุ่งทะเลหลวง ดูโดยสภาพภูมิศาสตร์ที่ตัง้ กลบั
72 ดร.หลวงพ่่อแดง พระสงฆ์์ไม่ท่ ิ้้�งประชาชน ขวางทางนำ้ ทำใหน้ ้ำเดนิ ไมส่ ะดวก และพบว่าแนวทางดังกลา่ วไม่สามารถแกป้ ัญหาน้ำท่วมได้ เพราะ ไม่ได้มีการรับมวลน้ำธรรมชาตทิ ี่ไหล่บา่ มาแตใ่ นแตล่ ะปไี ปใช้เก็บอยา่ งทีโ่ หมโฆษณา ทำให้ปัญหานำ้ ท่วมยังคงซ้ำ ๆ ปีที่แล้ว พ.ศ.2563 น้ำก็ท่วมด้วยน้ำธรรมชาตทิ ี่มาจากแพร่ และพนังกันน้ำพัง ไหล ทว่ มทนี่ าของชาวบา้ น พอมา พ.ศ.2563 น้ำฝนตกดว้ ยพายุ น้ำไม่มีแหล่งพกั น้ำในแบบคลองสาขา น้ำ จึงกลายเป็นน้ำป่าไหลท่วมพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทางการเกษตร และไหล่ลงแม่น้ำยม ปัญหาน้ำ จงั หวัดสโุ ขทยั จงึ ไม่ได้รบั การแก้ไขในเชงิ ระบบ และตรงไปตรงมา อยา่ งโปร่งใส ซ่ึงพดู กันมานาน แต่ ไมไ่ ดท้ ำกนั ในแบบจริงจัง อย่างมเี ปา้ หมายเพื่อแกป้ ญั หา แต่มเี ป้าหมายแค่ผนั งบ และเป็นการผนั งบท่ี ไมไ่ ด้เออื้ ตอ่ การบรหิ ารจัดการน้ำอย่างแทจ้ ริง รวมถงึ อาจไมโ่ ปรง่ ใส ประหน่งึ เปน็ การเอาเหตกุ ารณน์ ำ้ ท่วมซ้ำ มาเป็นเงื่อนไขในการผันงับ เอาความเดือดร้อนของประชาชนมาเป็นข้ออ้างบังหน้า ซึ่งใน ข้อเท็จจริงคลองสาขามีจำนวนมาก หากมีการขุดคลองสาขาเพื่อกระจายน้ำไปยังพื้นที่ทางเกษตร อยา่ งเปน็ ระบบ ไปทำแกม้ ลิงขนาดใหญ่ตามแนวพระราชดำรขิ องลน้ เกล้ารัชการท่ี 9 ตามที่เคยดำริไว้ ในหลาย ๆ พื้นที่ จำกัดเฉพาะพื้นที่สุโขทัย (1) คลองแม่รำพัน เชื่อมแม่น้ำยมปลายทางอำเภอบ้าน ด่านลานหอย ถ้าทำคลองสาขาให้ขยายเพียงพอต่อปริมาตรน้ำในแต่ละปี จากนั้นไปทำแก้มลิงหรือ อา่ งเก็บน้ำขนาดใหญท่ ่ปี ลายคลอง กจ็ ะสามารถนำน้ำไปเกบ็ ในชว่ งฤดูนำ้ มาก และนำมาใช้ในฤดูแล้ง ได้ ซึ่งจากคำบอกเล่าในหลายแหล่งของพืน้ ที่จังหวัดสุโขทัยขณะปัจจุบันนำ้ ท่วม แต่อำเภอคีรมี าศ และอำเภอทุ่งเสลี่ยม ซึ่งอยู่ไกลพ้ืนที่แม่น้ำออกไปกลายเป็นว่าน้ำแล้ง และข้าวขาดน้ำตาย ขณะท่ี อำเภอตดิ แมน่ ำ้ มีข่าวนำ้ ท่วมและยงั ไม่มที ีทา่ จะลด หรือไดร้ บั การแก้ไขได้อยา่ งทันท่วงที นอกจากน้ี ยงั มีคลองอกี หลายแหง่ เช่น (2) คลองบ้านหลมุ (3) คลองวงฆ้อง (4) คลองหกบาท (5) คลองสาขาอน่ื ๆ อีกจำนวนมากท่จี ะสามารถขยายและเช่ือมให้เกิดทางเดินของน้ำ และนำน้ำไปฤดนู ้ำหลากไปเกบ็ ไว้ ในคลองสาขา หรือปลายทางของคลองสาขาในแบบแก้มลิง จะทำให้น้ำมีการบริหารจัดการป้องกนั หรอื บรรเทานำ้ ท่วมได้ รวมทัง้ ทำใหเ้ กดิ การบริหารนำ้ ไปใช้ในชว่ งฤดูแล้งได้ดว้ ย นำ้ ท่วมกบั ผลกระทบเชงิ ประจักษ์ ในแต่ละคร้ังสโุ ขทัยเป็นพ้นื ท่ีรบั น้ำโดยมตี ้นทางของแมน่ ้ำยม อยู่ที่จังหวดั แพร่ ซ่ึงทำให้เห็น ว่าน้ำท่วม เป็นปัญหา และส่งผลกระทบ ได้มีการผูท้ ำการศึกษาไว้ ถึงผลเสีย หรือผลกระทบจากนำ้ ท่วม ที่สัมพันธ์กับระบบนิเวศวิทยา สัมพันธ์กบั ทรัพย์สิน อาชีพ และการดำเนินชีวิต ซึ่งผู้ศึกษาได้ สะทอ้ นข้อมูลเกย่ี วกับความเสยี หายและผลกระทบไว้ คอื ตาราง 2 เปรียบเทยี บผลกระทบจากนำ้ ทว่ ม จากคลงั ขอ้ มลู นำ้ แห่งชาติ (2563)
พระครููพิิศิษิ ฏ์ป์ ระชานาถ, ดร 73 ระดบั ความเสยี หาย ผลกระทบทางตรง ผลกระทบทางอ้อม ผลกระทบท่เี กิดข้ึนกับมนษุ ย์ ระยะท่ี 1 ความเสียหายของ (1) สง่ิ ปลูกสร้าง และความสูญเสยี อ่ืน ๆ อาคาร (2) ส่ิงทอี่ ยใู่ นอาคาร (3) ความสญู เสยี หรือหยุดชะงกั ระยะท่ี 2 โครงสรา้ งท่วั ไป เช่น ถนน สะพาน พชื ใน (ก) การผลติ ภาค สญู เสยี ในชวี ิต ทรัพยส์ นิ พนั ธแุ์ ละสัตว์ การเกษตร (ข) การผลติ บาดเจ็บทางรา่ งกาย – ความ ภาคอุตสาหกรรม (ค) การ สญู เสยี ในมรดกและสิ่งปลูก - น้ำทว่ มเป็นสาเหตุใหเ้ กดิ ไฟไหม้และ ติดตอ่ ส่ือสาร ถนน ทางรถไฟ สรา้ งทางวัฒนธรรม ความเสยี หายจากไฟไหม้-เกลือในน้ำ และโทรคมนาคม (ง) การ ทะเลสร้างความเสยี หายจากไฟไหม้ บรกิ ารด้านสขุ ภาพและ - เพิ่มความเครียด - เกลือในน้ำทะเลสร้างความเสยี หาย การศกึ ษา (จ) ระบบบรโิ ภค - เกิดปัญหาสขุ ภาพทางกาย ให้กบั พนื้ ดนิ และลดการผลิตของพ้ืนท่ี อุปโภค น้ำ ไฟ และจติ ใจเรื้อรัง เกษตรกรรม -คา่ ความสูญเสยี ใน - เพ่มิ การฆ่าตวั ตายจากภาวะ - น้ำท่วมหยดุ การทำงานของไฟฟา้ อุตสาหกรรม นำ้ ทว่ ม ทำลายเครื่องจักรและระบบการ -ปญั หาการจราจรตดิ ขดั และ - เพิม่ โรคทีม่ าจากนำ้ ทว่ ม ทำงานคอมพิวเตอร์ ค่าบริหารที่สูงข้ึน - เพิ่มการจับไขไ้ ดป้ ่วย -พนกั งานไม่สามารถทำงานได้ - เพ่มิ การเยียวยารักษาหลงั - การปนเปอื้ นในนำ้ น้ำท่วม - คา่ รักษาฉกุ เฉินและบริการ - เพ่ิมการละเมิดเร่อื งศลี ธรรม สงู ขน้ึ - สูญเสยี รายได้ - เพ่มิ คา่ ใช้จ่ายเรอ่ื งครัวเรอื น ระยะที่ 3 - เพม่ิ ระดบั ความเสียหายและความ - ธรุ กิจบางส่วนลม้ ละลาย - ไร้ทอ่ี ยูอ่ าศัย เสอื่ มสภาพของทรัพย์สนิ ถือครอง - เสียภาวการณส์ ่งออก - ไมส่ ามารถดำเนนิ ชวี ติ ได้ - เกดิ ภาวะนำ้ เน่าเสียระยะยาว - ลดมลู คา่ ผลติ ภัณฑ์มวลรวม ตามปกติ - โครงสร้างตา่ ง ๆ ถกู ในประเทศ - สูญเสียทรัพยส์ นิ และสงิ่ ถอื กระทบกระเทอื นทำให้เกิดความ ครอง เสียหายเพ่มิ ข้ึน จากนำ้ ท่วมอยา่ ง - ครอบครัวพลดั พราก ต่อเนือ่ ง - ขาดการตดิ ตอ่ สอื่ สารเพราะ ผคู้ นในชมุ ชนถูกแยกออกจาก กัน จากตาราง 2 เมื่อถอดข้อมลู ความเสียหาย จากการสังเกตพื้นที่ และผสมรวมกับข้อมูลเชิง ประจักษ์จะพบวา่ (1) ทรพั ย์สนิ เสียหายทัง้ ในเรอ่ื งของพชื ผลทางการเกษตร (2) ทรัพยบ์ า้ นเรือนทเี่ ปน็ ที่อยู่อาศัยเกิดการชำรุด จากน้ำท่วม ที่เป็นไม้ก็ทำให้เกิดความผุ กรณีทีเป็นอิฐ ปูน หินทราย ก็เกดิ สภาพของความเปน็ รา ท่สี ำรวจพบ เช่น รถยนต์เครอื่ งประกอบอาชพี เสียหาย รวมไปถึงพชื สวนไร่นา ซึง่ คิดว่าคงเหมอื นหรือคลา้ ยกนั ทีท่ ก่ี รณีของน้ำท่วม แต่ทสี่ ำคญั คือสโุ ขทยั เปน็ เมืองน้ำ และมีมวลน้ำ
74 ดร.หลวงพ่่อแดง พระสงฆ์์ไม่ท่ ิ้ง้� ประชาชน ในทุก ๆ ปี ซ่งึ เปน็ สิง่ ทพี่ ูดกนั อยู่ตลอดว่าจะใช้แนวทางใด ในการแก้ไขปญั หานำ้ ท่วมได้ เข่ือน แก้มลิง การจัดน้ำน้ำในองคร์ วม ? ดังนั้นผลกระทบในแต่ละปี ด้วยความที่มีน้ำท่วมเป็นประจำและบอ่ ยคร้ัง เลยดูเหมือนเปน็ เร่ืองปกติ แต่อีกมุมหนึ่งกลายเปน็ ปัญหาซ้ำซ้อนท่ีเกิดข้ึนและยังไม่ได้รบั การแก้ไข อย่างเป็นระบบ ที่จะช่วยให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อย หรือน้อยที่สุด ภายใต้นโยบายบริหาร จดั การนำ้ ในองค์รวม เนือ่ งด้วยขอ้ เท็จจรงิ ในปจั จุบนั ผลกระทบจากน้ำทว่ มยงั มีอยู่และจะยังคงมีอยู่ ต่อไป ดงนั้นสว่ นงานที่เกี่ยวข้องควรหาวิธีแกไ้ ข ป้องกัน บรรเทาต่อภัยธรรมชาตินี้ให้เกิดผลกระทบ น้อยทีส่ ดุ มิฉะน้นั รัฐมนตรีท่ีมีพ้นื ทีใ่ นเขตจงั หวัดสโุ ขทยั กจ็ ะต้องให้ลูกน้องหว้ิ ปกี ใหเ้ ปน็ ภาพข่าวเพ่ือ ทำใหน้ ำ้ ท่วมเป็นปัญหาใหญ่ เชญิ นายกรัฐมนตรีไปเยี่ยมบา้ นเพ่อื ขอความเหน็ ใจ แลว้ ผันงบ อย่างน้ีอยู่ เรอ่ื ยไป “นายกฯ นำคณะ ไป จงั หวดั สุโขทัย ตรวจน้ำท่วม-มอบถงุ ยังชพี ชว่ ยผู้ประสบอุทกภัย” (ไทยรฐั ออนไลน์, 2563) พ่อแดง นนทฺ ิโย กบั เครอื ขา่ ยในจงั หวัดสุโขทัย กับการช่วยเหลือผูป้ ระสบภัยนำ้ ทว่ ม ตัดกลับมาที่บทบาทพระสงฆ์กับการชว่ ยเหลอื สงั คมในสถานการณ์น้ำท่วม จากภาพสือ่ สาร สาธารณะจะพบข้อมูลว่า เมือ่ ปี 2562 หลวงพ่อแดง นนฺทิโย ในนามกลมุ่ “สังฆประชานุเคราะห”์ ท่ี มีบทบาทเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ยากลำบาก ได้ไปช่วยเหลือน้ำท่วม นำสิ่งใช้ไปจัด แจกให้กับผู้ประสบภยั ที่ จ.อุบลราชธานี หรือให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำทว่ มที่ จ.เลย ระหว่าง เดือนกรกฎาคม 2563 ท่ยี กมาต้องการบอกว่าพระสงฆส์ ่วนหน่งึ มบี ทบาทในการช่วยเหลอื สงั คม (ตาม ภาพประกอบ 5) ทั้งอีกนัยหน่ึงต้องการสื่อสารวา่ เครือข่ายการช่วยเหลือ ของพระสงฆ์มีทั่วประเทศ ปฏิบัติตามหลักการทางพระพุทธศาสนาที่ว่า “บำเพ็ญประโยชน์ส่วนรวม” ตามหลักการทาง พระพุทธศาสนา “สังคหวัตถุ” เป็นฐานในการสงเคราะห์ประชาชน เพื่อให้ชีวิตขยับก้าว บรรเทา เบ้อื งตน้ พร้อมไปต่ออยา่ งมเี ปา้ หมาย จงึ นับเป็นพันธกจิ ภารกจิ ของเครือขา่ ยพระสงฆ์นักพัฒนา ที่มี หลวงพ่อแดง นนฺทิโย แห่งวัดอินทาราม จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นเครือข่ายสมาชิกขับเคลื่อน กิจกรรมเพ่ือบรรเทาสาธารณะภัยรวมอยดู่ ว้ ย
พระครููพิิศิิษฏ์์ประชานาถ, ดร 75 ภาพท่ี 4 การช่วยเหลือน้ำทว่ ม ทจี่ ังหวัดอุบลราชธานี เมอ่ื พ.ศ.2561 กับเครอื ข่ายสาธารณ สงเคราะหส์ งฆ์ จงั หวัดอบุ ลราธานี ที่มา: วดั อนิ ทราม จงั หวดั สมทุ รสงคราม (2561) ในสถานการณน์ ้ำท่วมสุโขทยั เม่ือปี พ.ศ.2563 ในเช้าตรูของวันที่ 26 สิงหาคม 2563 หลวง พอ่ แดง นนฺทิโย พร้อมคณะ ซงึ่ ได้ประสานเครอื ข่ายโครงการหมู่บ้านศีล 5 ไวท้ ่ีวัดราษฎร์ศรัทธาธรรม (วัดปากแคว) จังหวัดสุโขทัย อันเป็นจดุ น้ำท่วม ประจำปี 2563 โดยมีวัดเครือข่ายทำหน้าที่ในการ ประสานอำนวยความสะดวก โดยทางวัดอินทาราม จังหวัดสมุทรสงคราม ได้ดำเนินการโอนปัจจยั ช่วยเหลือนำหน้าไปก่อนเพือ่ ทำเปน็ อาหารปรุงสุกเลี้ยงประชาชนในสถานการณ์ยากลำบากนั้นเป็น เบื้องต้น จากนัน้ หลวงพ่อแดง นนฺทิโย ได้ส่งรถยนต์นำสิง่ ของเครื่องอุปโภค บริโภค จากญาติธรรม สายบุญที่สามารถระดมได้ ส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเขตพื้นที่จังหวัดสุโขทัย พร้อม ติดตามลงพนื้ ทีจ่ ริงเพ่ือสำรวจเย่ยี มให้กำลังใจ มอบถุงยงั ชพี ให้ ในบา้ นเรือนท่ีประสบภยั น้ำท่วม (ดัง ภาพประกอบ 6-7) ภายใต้สโลแกน “พระไม่ทิ้งโยม” ซึ่งในปี 2563 เหตุการณ์น้ำท่วมสุโขทัย มี สาเหตุจากนำ้ เหนือและพนงั กน้ั นำ้ ชำรุดนำ้ ไหลทว่ มบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตร พระครูโอภาส กันตศีล (2563) เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ศรัทธาธรรม (วัดปากแคว) ซึ่งทำงานในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย รวมทง้ั เปน็ จดุ พนงั แตกน้ำท่วม ได้เปิดวัดให้เป็นศนู ยพ์ กั หลบภัยเบอื้ งต้น พร้อมทำอาหารปรุงสุกเล้ียง ประชาชน เพื่อให้ความช่วยเหลือบรรเทาในเบื้องต้น ทางวัดอินทาราม จังหวัดสมุทรสงคราม จึง ประสานในฐานะที่ทำงานโครงการหมู่บ้านศีล 5 ร่วมกันและเป็นเครือข่ายทำงานอยู่แล้ว จึงได้ ประสานขอขอ้ มูลและเช่อื มโยงเป็นงบสนบั สนุนงบจำนวน 1 หมืน่ บาทเปน็ เบอื้ งตน้ ทำอาหารปรุงสุก ข้าวกล่องให้แก่ผู้มาพักอาศัยที่วัดและอยู่ในบ้านที่พื้นที่น้ำท่วมและไม่ยอมออกจากบ้าน ภายใต้ แนวคดิ พระสงฆ์ไมท่ ้ิงประชาชน และพระสงฆก์ ับบทบาทในการทำงานสังคมสงเคราะห์เพื่อประชาชน ผลเชงิ ประจักษท์ ่เี กดิ ขึ้น (ก) ระยะส้ันเป็นการสรา้ งขวญั และกำลังใจใหก้ บั ประชาชน (ข) ระยะกลาง กระตนุ้ ใหห้ น่วยงานต่าง ๆ ได้เหน็ ความสำคญั ของการช่วยเหลอื เพราะหลังจากน้นั หน่วยงานต่าง ๆ
76 ดร.หลวงพ่อ่ แดง พระสงฆ์์ไม่ท่ ิ้�ง้ ประชาชน ทั้งภาครัฐ พระสงฆ์ เอกชนได้เข้าไปช่วยเหลือในภาพกว้าง (ค) ระยะยาวหน่วยงานภาครัฐ หรือ เกย่ี วข้องจะต้องนำเป็นแนวทางในการแกไ้ ขปัญหาในเชงิ ระบบตอ่ ปญั หาน้ำท่วมในองคร์ วม เปน็ ตน้ ภาพท่ี 5 เครือข่ายพระสงฆ์หมบู่ า้ นศลี 5 และคณะสงฆว์ ดั ปากแคว จังหวัดสุโขทยั นำโดยหลวงพอ่ แดง นนทฺ โิ ย ชว่ ยเหลือน้ำท่วม จังหวัดสโุ ขทัย ท่มี า: วัดอินทราม จงั หวดั สมทุ รสงคราม (2563) จากภาพที่ 5-6 เป็นเหตุการณ์ที่หลวงพ่อแดง พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสุโขทยั พร้อมคณะสงฆเ์ ครอื ขา่ ยวัดราษฎร์ศรัทธาธรรม (วัดปากแคว) ไดจ้ ัดมอบเคร่ืองอปุ โภคบริโภค ให้แก่ ผู้ประสบภัยที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยที่ตั้งอยู่ในวัด พร้อมกับลงพื้นที่พบเยี่ยมให้กำลังใจชา วบ้าน ผปู้ ระสบภัย ทัง้ จดั มองเครอ่ื งอปุ โภคบริโภค เงนิ ขวญั ถงุ ในพ้นื ที่น้ำท่วม และไม่สามารถออกจากบ้าน มาได้ ซึ่งทำใหไ้ ดเ้ ห็นได้ว่าพระสงฆ์ไมท่ ิ้งโยม พระสงฆ์ยงั คงมีบทบาทท้ังในทางจิตวิญญาณ และการ ดำเนินชีวิตในทกุ สถานการณ์ ดงั ปรากฏตามภาพและเร่อื งท่นี ำเสนอ ภาพที่ 6 หลวงพอ่ แดง นนฺทโิ ย ลงพื้นทเี่ ย่ียม ใหก้ ำลังใจ มอบเคร่อื งอปุ โภคบริโภค บรรเทาสาธารณ ภยั เบ้ืองต้นภายใต้การนำของเครอื ข่ายพระสงฆห์ มบู่ า้ นศีล 5 และคณะสงฆว์ ัดราษฎร์ศรทั ธาธรรม (วดั ปากแคว) จังหวัดสโุ ขทัย ท่มี า: วดั อนิ ทราม จงั หวัดสมทุ รสงคราม (2561) ดังนั้นจากการเข้าร่วมกิจกรรมพระไม่ทิ้งโยมในช่วง สงิ หาคม 2563 ในสถานการณ์น้ำท่วม จังหวัดสุโขทัย ซึ่งอาจสรุปได้ว่าเครือข่ายมีความสำคัญต่อการทำงาน การที่ประเทศไทยมีวัดกว่า 4 หมื่นวัดทั่วประเทศนัยหนึ่งคือฐานของการทำงานชุมชนเชิงพื้นที่ อีกนัยหนึ่งวัดเหล่านั้นจะเป็น เครือข่ายในการทำงานร่วมกันแบบปฏิสมั พันธ์เชงิ บวก ทั้งจะกลายเป็นกลไกสำคัญของการสง่ ตอ่ ความ เหลอื ไดอ้ ย่างทนั ท่วงทีกรณขี องการประสบภยั พบิ ตั ิหรอื สาธารณภยั เช่น กรณีนำ้ ทว่ ม แผ่นดินไหว ไฟ
พระครูพู ิศิ ิษิ ฏ์ป์ ระชานาถ, ดร 77 ไหม้ เปน็ ต้น ท้ังจะเป็นเครอื ข่ายของพระสงฆ์ระหว่างพระพุทธชาวพทุ ธด้วยกันเอง ในการขับเคลื่อน และดำเนินกจิ กรรมอื่น ๆ ดังนั้นภาระกิจคราวน้ีเปน็ การตดิ ตามร่วมกจิ กรรมพระไม่ทิ้งโยมของหลวง พ่อแดง นนฺทิโย (พระครูพิศิษฏ์ประชานาถ,ดร./วัดอินทาราม จังหวัดสมุทรสงคราม) สามารถถอด ออกมาเปน็ ชุดคิดในการทำงานเครอื ข่ายคณะสงฆ์ได้ คอื (1) การทำงานผ่านเครือข่ายพระสงฆ์ หมายถึง วัดในพระพุทธศาสนา พระสงฆ์ทำงาน โครงการหมบู่ า้ นศีล 5 ชุมชนชาวพทุ ธ เป็นเครอื ขา่ ยจดั ต้ังเชิงระบบ ทเ่ี ป็นกลไกสำคัญในการทำงาน ลงพืน้ ที่ช่วยเหลอื ประชาชนในครั้งนี้ ซึ่งทำใหเ้ กิดการ “สงเคราะห์” ตามหลกั “สังคหวัตถุ” ลงใน พน้ื ท่ไี ดอ้ ย่างทันทว่ งทต่ี บอบรบั กับสถานการณ์และกลุม่ เป้าหมายของผู้ประสบภยั โดยตรง คือ ชุมชน ชาวบ้านในบริเวณวดั ราษฎร์ศรัทธาธรรม (วัดปากแคว) โดยตรง การที่เจ้าของพ้ืนท่ีรับเรืองและเป็น ฐานข้อมูลทำให้เข้าถึงสภาพปัญหาและข้อมูลเชิงประจักษ์ได้จริง และเสนอเป็นแนวทาง พร้อมกบั หนว่ ยงานเครือขา่ ยจะสามารถเข้าไปชว่ ยเหลอื หรือรว่ มแก้ปญั หารว่ มกันได้ จนสง่ ผลเป็นการบรรเทา สาธารณภัยเบ้อื งต้น และเยียวยาจติ ใจโดยพระสงฆ์ในพระพทุ ธศาสนารว่ มกัน สะทอ้ นใหเ้ ห็นบทบาท ของพระสงฆ์กบั สงั คมไดด้ ว้ ย (2) การทำงานเครือข่ายในเชิงสภาพปัญหา (ทุกข์) อันหมายถึง วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม (วัดปากแคว) เป็นเจ้าของพ้ืนท่ี เป็นประสงฆท์ ีอ่ ยูก่ ับชมุ ชนอยู่แล้ว ทราบข้อมูล ข้อเท็จจริง รายงาน ผล ให้ข้อมูล ประสานข้อมลู เกี่ยวกับสภาพปัญหา จากพื้นที่หนึ่งไปยังพื้นที่หนึ่งผ่านระบบออนไลน์ Facebook live Line หรือช่องทางอื่น ๆ ผ่านสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจริง ข้อมูลเหล่านั้นเป็นข้อมูล สาธารณะ ทำให้เกิดการสอบถามเห็นข้อเท็จจริงและให้ความช่วยเหลือตามสภาพความจริงและ สอดคล้องกับสภาพเวลาและความจำเป็น เครือข่ายนี้จึงเป็นพลังชนิดหนึ่ง หรือกลไกร่วมในการ แก้ปญั หาหรอื ให้ความชว่ ยเหลอื รว่ มกนั (3) เครอื ข่ายภาระกิจคณะสงฆ์ ตามมโนปณิธานของพระพุทธเจ้า “ภกิ ษุทั้งหลายจงจาริก ไปเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชน” หรืออีกความหมาย “จงจาริกไปเพื่อสงเคราะห์” ให้ความ ช่วยเหลือ แบ่งเบาปัญหาของความยากลำบากนั้น สถานการณ์ของเครือข่ายชาวพุทธ ในจังหวัด สุโขทยั ประสบภยั นำ้ ท่วมจึงตอ้ งไดร้ กั ารบรรเทาให้ความชว่ ยเหลอื ตามบทบาทหนา้ ท่ีของพระสงฆ์อัน จะพึงบำเพ็ญประโยชน์สาธารณะได้ ดังนั้นบทบาทนี้จึงเป็นหัวใจสำคัญหนึ่งทีพ่ ระสงฆ์จะพึงบำเพญ็ หรือดำเนนิ เพ่อื ทำประโยชน์ทั้งในทางวัตถสุ ่งิ ของ เครอ่ื งอุปโภค และการเยยี วยาเย่ียมเยียนผ่านการ ปลุกปลอบและให้กำลังใจในสถานการณท์ ีย่ ากลำบากให้ผ่านพ้นไปด้วยหลกั ธรรม หลกั คดิ และการณ์ ทางพระพุทธศาสนาดงั ปรากฏ
78 ดร.หลวงพ่อ่ แดง พระสงฆ์์ไม่่ทิ้�้งประชาชน จากข้อมูลในหลาย ๆ เหตุการณ์ ที่พระสงฆ์เข้าไปมีบทบาทในการช่วยเหลือสังคมผ่าน เหตกุ ารณ์นำ้ ท่วม ซงึ่ รวมถึงเหตุการณ์พระสงฆฝ์ ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม หลวงพ่อ แดง นนฺทิโย กับการช่วยเหลือน้ำทว่ มใน ปี พ.ศ.2563-2563 นับเป็นภารกิจสำคัญประการหนึ่ง ซ่ึง สามารถให้ข้อสรุปของการทำงานของพระสงฆ์ด้านสาธารณสงเคราะห์ได้เป็นอย่างดี ที่ทั้งการ สงเคราะห์ประชาชนในบรเิ วณใกล้ หมายถึงวัดในพื้นที่ตง้ั วัดอยู่ท่ัวประเทศกวา่ 4 หมืน่ วัด รวมไปถึง การได้ทำงานและให้ความช่วยเหลือในพืน้ ทีป่ ระสบภัยเฉพาะคราวในรปู แบบเครือข่ายภาคีร่วมกัน เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ แผ่นดินไหว หรือภัยอื่น ๆที่เกดิ ขึ้นแบบปัจจุบันเหตุ ไม่ทันได้ต้ังตัว หรือได้ทัน ระมัดระวงั อยา่ งเพียงพอ ทำใหภ้ ัยน้นั ดใู หญ่โต และสาหสั สำหรบั พน้ื ที่น้นั ๆ ไป ซึ่งเครอื ขา่ ยพระสงฆ์ สาธารณสงเคราะห์ในโครงการหมู่บ้านศีล 5 เครือข่ายพระสงฆ์ในแบบสาธารณสงเคราะห์ ได้เป็น กลไกสำคัญในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในพื้นที่ประสบภัยดังกรณีน้ำท่วมจังหวัดสุโขทัย เม่ือ สิงหาคม 2563 โดยมีวัดเครือข่ายเปน็ ฐานในการทำงานรว่ มกัน และใน เดอื นตุลาคม 2563 คณะสงฆ์ ส่วนกลางในฝา่ ยสาธารณสงเคราะห์ ก็ใชเ้ ครอื ขา่ ยพระสงฆ์ฝ่ายปกครองเชิงพื้นที่ในการทำงานเชิงสา ธารณสงเคราะห์เพือ่ ให้เกิดความชว่ ยเหลือเยียวยาเป็นเบื้องต้นแก่ประชาชนในเขตจังหวัดสุโขทัยใน สถานการณน์ ้ำท่วมด้วย สรปุ จากภาพทีป่ รากฏทำใหเ้ หน็ วา่ พระสงฆ์ ยังคงมหี น้าทใ่ี นการทำงานเพื่อสังคมสว่ นรวม ทำงาน เพื่อประชาชนในการช่วยเหลือสังคมและประชาชน ซึ่งจะเห็นว่าคณะสงฆ์จังหวัดสุโขทัย พร้อม เครือขา่ ยยงั คงทำงานเพื่อสงั คมและส่วนรวมโดยใชเ้ ครอื ข่ายสาธารณสงเคราะห์ โครงการหมู่บ้านศีล 5 เป็นจุดเช่อื ม ให้เกิดความช่วยเหลือ คนไมไ่ ปแตข่ องไป คนไมไ่ ดล้ งพ้ืนทแี่ ต่ความชว่ ยเหลือได้ส่งไป ยังประชาชนหรือถึงประชาชนได้ รวมไปถึงกรณีของหลวงพ่อแดง นนฺทิโย ได้ลงพื้นที่เยี่ยมพบปะให้ กำลังใจ แจกเครื่องอุปโภคบรโิ ภค เงนิ ขวญั ถงุ อาหารปรงุ สกุ ช่วยเหลอื ประชาชน โดยมวี ดั พระสงฆ์ ในพ้ืนที่ (วดั ราษฎรศ์ รัทธาธรรม/วดั ปากแคว) เจ้าของพน้ื ท่เี ปน็ ผู้ท่ปี ระสาน ดำเนนิ การ และให้ความ ช่วยเหลือในการดำเนินกิจกรรมเชิงพื้นที่ พร้อมทั้งร่วมมือให้เกิดการขับเคลื่อนเ ป็นภาพใหญ่ ตาม แนวทาง “พระไม่ท้ิงโยม” ให้ความช่วยเหลือในยามทุกข์ยาก ตามสถานการณ์และแนวทางท่ี เหมาะสม แมใ้ นปีนค้ี ือ พ.ศ.2563 บทบาทพระสงฆ์สาธารณสงเคราะห์มหาเถรสมาคม และพระสงฆ์ ฝ่ายปกครองในพ้ืนท่ีก็ให้ความชว่ ยเหลือบรรเทาสาธารณภัยเบือ้ งต้นแล้ว แต่ปัญหาน้ำท่วมก็ยังเปน็ ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากของจังหวัดสุโขทัย ดังปรากฏภาพข่าวน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา กระทั่ง
พระครูพู ิิศิิษฏ์ป์ ระชานาถ, ดร 79 นายกรัฐมนตรีต้องลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลอื บรรเทาสาธารณภัยต่อปัญหาน้ำท่วมดังกล่าว แต่ ทั้งหมดต้องคิดตอ่ ไปว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรตอ่ ปัญหานำ้ ท่วมในเชิงระบบอย่างไร ? เช่น การพัฒนา คลองสาขาของแมน่ ำ้ ยมใหเ้ ป็นแหล่งระบายน้ำสู่พน้ื ทท่ี างการเกษตร การจดั สร้างแก้มลงิ ให้เป็นแหล่ง พกั นำ้ กักเกบ็ น้ำ แทนการสรา้ งเข่อื น (แก่งเสือเตน้ ) ทำให้นำ้ มีจดุ พกั อยา่ งต่อเนือ่ งป้องกันน้ำท่วมใน ฤดูน้ำเยอะ และใช้น้ำที่พักไว้มาแก้ปัญหาภัยแล้งในช่วงขาดแคลนน้ำ ทั้งหมดยังไม่มีบทสรุป แต่ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานทเี่ กยี่ วข้อง จะต้องศกึ ษา ทำเป็นแผน เสนองบประมาณ และดำเนินการ อย่างเป็นระบบ เพราะมิฉะนั้นแล้วน้ำจะกลายเป็นเพียงเครืองมือของกลุ่มที่ได้ประโยชน์ (ผัน งบประมาณ) และป้องกันแก้ไขน้ำท่วมสโุ ขทยั จะกลายเป็นแค่วาทกรรมซ้ำ ๆ ทผ่ี ุดในชว่ งนำ้ ท่วม ท้ัง ยังไม่ไดร้ บั การแก้ไข ประชาชนกต็ กเป็นผู้รบั กรรมอยา่ งท่ปี รากฏต่อเน่ืองนับแตอ่ ดตี จนกระท่ังปัจจบุ ัน เอกสารอา้ งอิง เขมิกา วริทธ์วิ ฒุ ิกุล และคณะ. (2563). ปญั หาและความตอ้ งการของชุมชนในการจดั การทรัพยากรนำ้ ในพื้นที่ลุ่มน้ำยม. วารสารนานาชาติ สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศ าสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ , 11(1), 95-125. ชยา วรรธนะภูติ. (2561). “โลกพันทาง” ของลุ่มน้ำ ปลา และผู้คน แห่งบ้านกง อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสโุ ขทยั : มุมมองเชิงภูมิศาสตร์มนุษย์. วารสารสงั คมวิทยามานุษยวทิ ยา, 37(2), 130- 160. ชยา วรรธนภูติ และรัตนาภรณ์ พุม่ น้อย. (2561). “โลกพนั ทาง” ของลุ่มน้ำ ปลา และผู้คน แห่งบ้าน กง อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย: มุมมองเชิงภูมิศาสตร์มนุษย์. วารสารสังคมวิทยา มานุษยวทิ ยา, 37(2), 130-160. ชัยวัฒน์ ขยันการนาวี,ฉลอง เกิดพิทักษ์. (2009). แนวคิดในการศึกษาเพื่อลดปญั หานำ้ ท่วมและภยั แลง้ ในลมุ่ น้ำยม. วารสารวศิ วกรรมสาร มหาวทิ ยาลัยนเรศวร, 3(1), 1-7. ทรงชัย ทองปาน. (2560) ยุทธวิธีในการเคลื่อนไหวทางสังคมของ “กลุ่มไม่เอาเขื่อนแก่งเสอื เต้น”. วารสารสำนักบัณฑิตอาสาสมคั ร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 13(2), 46-82. ทับทิม วงศ์ทะดา. (2559). “การวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมโดยกระบวนการลำดับชั้นเชิงวิเคราะห์ บ ร ิ เ ว ณ ล ุ ่ ม น ้ ำ ย ม ต อ น ล ่ า ง จ ั ง ห ว ั ด ส ุ โ ข ท ั ย , ส ื บ ค ้ น 20 เ ม ษ า ย น 2 5 6 3 , http://www.agi.nu.ac.th/nred/Document/is-PDF/2559/geo_2559_05_Full Paper.pdf ไทยรัฐออนไลน์, (2563). สุโขทัยอ่วม น้ำหลากท่วม 3 อำเภอ ต้องย้ายควายหนี. สืบค้นเมื่อ 21 กนั ยายน 2563. จาก https://www.thairath.co.th/news/local/north/2199360
80 ดร.หลวงพ่อ่ แดง พระสงฆ์์ไม่่ทิ้�้งประชาชน ________. (2563). “นายกฯ นำคณะ ไป จงั หวดั สุโขทัย ตรวจนำ้ ทว่ ม-มอบถงุ ยงั ชีพ ชว่ ยผู้ประสบ อทุ กภยั ”. สบื ค้นเมอ่ื 28 กันยายน 2563.จาก https://www.thairath.co.th/news/politic/2203390 ไทยโพสต์ออนไลน์. (2563). สุโขทัยยังอ่วม! เดือดร้อน3อำเภอ 5,700 ครัวเรือน. สืบค้นเมื่อ 26 สงิ หาคม 2563. จาก https://www.thaipost.net/main/detail/75600 นรินทร์ นำเจริญ,มนฤทัย ไชยวิเศษ. (2556).บทบาททางการเมืองของพระร่วงในฐานะวีรบุรุษใน หลักฐานทางประวัตศิ าสตรข์ องไทย มอญ และเขมร. วารสารศิลปะศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยแม่ โจ้, 1 (2), 125-144. ปิยะดา วชิระวงศกร และณัฏฐิณี ดีแท้. (2559). การมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันปัญหา อทุ กภยั ในพื้นทลี่ ุ่มน้ำยมตอนล่าง. วารสารการจัดการสง่ิ แวดลอ้ ม, 12(2), 4-23. พระครโู อภาสกนั ตศีล. (2563, 28 สิงหาคม). เจา้ อาวาสวดั ราษฎรศ์ รทั ธาธรรม (วดั ปากแคว) จังหวัด สโุ ขทยั [สัมภาษณ์]. โพสต์ทูเดย์ออนไลน์. (2561). 22 ส.ค.มวลนำ้ เหนือ ทะลักถงึ สโุ ขทัย-เตือนภยั เขตศก. สบื คน้ เม่ือ 21 สงิ หาคม 2561. จาก https://www.posttoday.com/politic/report/561484 ภัทร ชมภูมิ่ง และคณะ. (2558). รูปแบบการอภิบาลเครือข่ายในการจัดการทรัพยากรน้ำ : ศึกษา กรณพี ้ืนทีภ่ มู ิภาคล่มุ นำ้ ยม. วารสารสักทอง:วารสารมนษุ ยศาสตร์, 21 (3),145-159. ภัคเกษม ธงชยั และดนัย ทายตะคุ (2563). การเปลี่ยนแปลงของภมู ิทศั นพ์ ลวัตน้ำหลากในลุ่มแม่น้ำ ยม กรณีศึกษา ชุมชนบ้านกง อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย. สาระศาสตร์ คณะ สถาปตั ยกรรมศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , 4(2), 341-375. มติชนออนไลน์. (2563). “สุโขทัยอ่วม น้ำท่วมที่เศรษฐกิจ การเดินทางเป็นอัมพาต ก่อนนายกฯลง พนื้ ท่ี พรุ่งนี้”. สืบค้นเมื่อ 25 กันยายน 2563. จากhttps://www.matichon.co.th /region/news_2957492 สาธิต วงศอ์ นนั ต์นนท.์ (2554). วกิ ฤตนำ้ ท่วมประเทศไทย 2554 กบั ผลกระทบทางสงั คมกลมุ่ งานวิจยั ข้อมูลสำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา. สืบค้นเมื่อ 25 กันยายน 2563. http://library.senate.go.th/document/Ext3130/3130446_0004.PDF สำนักข่าว INN ออนไลน์. (2562). สุโขทัย น้ำท่วมอีก พนังกั้นน้ำแตก ไหลทะลักเข้าท่วมหนักกว่า 5 อำเภอ. สืบคน้ เมือ่ 4 กนั ยายน 2562. จาก https://hilight.kapook.com /view/193036 อศั วิน โกมลเมนะ. (2517). เศรษฐกจิ สุโขทัยสมยั พอ่ ขุนรามคำแหง (วิทยานิพนธศ์ ิลปศาสตรบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
พระครูพู ิิศิิษฏ์ป์ ระชานาถ, ดร 81 Thai PBS ออนไลน์. (2563). \"สุโขทัย\" พนังกั้นน้ำยมแตก ทะลักท่วมบ้าน 200 หลัง. สืบค้นเมื่อ 23 สงิ หาคม 2563, จาก https://news.thaipbs.or.th/content/295739 Thai PBS ออนไลน.์ (2563). ลำบาก! น้ำท่วมรอบ รพ.สโุ ขทยั ใช้เรือรับส่งผูป้ ่วย-ผ้มู าติดต่อ. สืบค้น เมอื่ 27 กันยายน 2563. จาก https://news.thaipbs.or.th/content/308178
82 ดร.หลวงพ่อ่ แดง พระสงฆ์์ไม่่ทิ้ง�้ ประชาชน
แนวทางกเาชรงิขเบั กเษคตลร่ือพนงึ่ พตุทนธเอเศงร:ษฐศาสตร์ กรณสูโ่ศี คกึ กษหานศอนู งยนก์ าาโรมเเรดยี ลนรจู้ปงั หรัชวัดญสาุรพินอทเพร์ ียง THE GUIDELINE OF AGRICULTURE BUDDHIST ECONOMIES MOVEMENT FOR SELF-RELIANCE : CASE STUDY ON SELF- SUFFICIENCY THEORY THROUGH KHOK NONGNA MODEL LEARNING CENTER IN SURIN PROVINCE
84 ดร.หลวงพ่อ่ แดง พระสงฆ์์ไม่่ทิ้ง�้ ประชาชน
แนวทางการขับเคล่ือนพุทธเศรษฐศาสตร์เชิงเกษตรพึ่งตนเอง: กรณีศึกษา ศูนยก์ ารเรยี นรู้ปรชั ญาพอเพยี งสู่โคกหนองนาโมเดล จังหวดั สุรนิ ทร์* THE GUIDELINE OF AGRICULTURE BUDDHIST ECONOMIES MOVEMENT FOR SELF- RELIANCE : CASE STUDY ON SELF- SUFFICIENCY THEORY THROUGH KHOK NONG NA MODEL LEARNING CENTER IN SURIN PROVINCE ------------------------------------------- วาสนา แก้วหลา้ , พระครูพศิ ิษฎ์ประชานาถ (ประยรู นนทฺ โิ ย), พระเอกลักษณ์ อชิตโต, พระมหากฤษฎา กติ ตฺ ิโสภโณ, พระปลัดระพิน พุทฺธิสาโร Wassana Kaewla, Phrakhru Phisit Prachanat (Prayoon Nonthiyo), Phra Ekkalak Achito, Phramaha Krisada Kittisobhano, Phrapalad Rapin Bhuddhisaro มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสรุ นิ ทร์ Surin Rajabhat University E-mail: [email protected] บทคัดย่อ บทความวิชาการน้มี ีวตั ถุประสงค์ศกึ ษา แนวทางการขบั เคลอ่ื นพทุ ธเศรษฐศาสตร์เชิงเกษตร พึ่งตนเอง : กรณีศึกษาศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาพอเพียงสู่โคกหนองนาโมเดล จังหวัดสุรินทร์ ใช้ การศึกษาจากเอกสาร งานวิจัย บทความวิชาการ สัมภาษณ์ และสังเกต อย่างมีส่วนรว่ ม เขียนเป็น แบบความเรยี งในรูปแบบบทความวชิ าการ ผลการศกึ ษาพบว่า การพัฒนาท่ีดนิ 8 ไร่ 1 งาน โดยมเี ป้าหมายเพ่อื ส่งเสรมิ แนวคดิ ทางพุทธ เศรษฐศาสตร์ ที่เนน้ การไมเ่ บียดเบียนตามแนวพุทธ ส่งเสริมให้ชุมชนได้มีศูนย์การเรียนรู้ภายใตก้ าร สร้างปัจจัยการผลิต ผ่านวิสาหกิจชุมชนธนาคารวัว 28 กลุ่ม มีวัวกว่า 1 พันตัว การสร้าง การผลิต และบรโิ ภคในแบบพง่ึ ตนเอง โดยมเี ปา้ หมายเพือ่ การผลติ อาหาร ข้าว ผัก การปลูกพืชเพอื่ การบริโภค ท้งั กล้วย และการผลิตเพ่ือการยงั ชีพ โดยมีเป้าหมายเพือ่ ความสุขและการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข และสันตภิ ายใต้พอเพยี ง สมดุล และมชั ฌมิ าที่ศูนยก์ ารเรียนรพู้ ทุ ธเกษตรแบบพ่ึงตนเองตามแนวหลวง พอ่ แดง นนฺทิโย โมเดล ท่ีจังหวดั สรุ ินทร์ คำสำคญั : พุทธเศรษฐศาสตร์; ศูนยก์ ารเรียนรู้พทุ ธเกษตร; โคกหนองนาโมเดล *ตีพิมพใ์ นวารสารพุทธนวัตกรรมและการจดั การ ปที ่ี 4 ฉบบั ท่ี 2 กรกฎาคม - ธันวาคม 2564 หน้า 82-98.
86 ดร.หลวงพ่อ่ แดง พระสงฆ์์ไม่ท่ ิ้้�งประชาชน Abstract This academic article has the objective of studying Buddhist Economics Guidelines for Self-Reliant Agriculture : case study on self- sufficiency theory through Khok Nong Na model learning center in Surin province. Using Documentary research, research, academic articles, interviews and observations in part. Join write as an essay in the form of an academic article. The results showed that Development of land 8 rai 1 ngan with the goal of promoting the concept of Buddhist economics. that emphasizes not persecuting according to Buddhist principles Encourage the community to have a learning center under the creation of production factors. through Cow Bank Community Enterprise production creation and consumption in a self-reliant manner according to Buddhism, with the goal of producing food, rice, vegetables, growing crops for consumption, including bananas, and production for subsistence. The goal is for happiness and a happy and peaceful life under sufficiency, balance and matchmaking at the self-reliant Buddhist agricultural learning center according to Luang Por Daeng Nonthiyo Model in Surin Province. Keywords: Buddhist economics; Phuttha Kaset; Khok Nong Na Model บทนำ หลวงพ่อแดง นนฺทโิ ย วดั อินทาราม จงั หวดั สมุทรสงคราม ไดด้ ำเนินการจัดต้งั ศนู ย์การเรียนรู้ เกษตรชมุ ชนวิถพี ทุ ธภายในพื้นที่ดิน จำนวน 8 ไร่ 1 งาน โดยการจดั ซ้ือของมูลนิธวิ ัดอินทาราม แล้ว ได้ดำเนินการขบั เคลื่อนภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงเพือ่ ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้เกษตรผสมผสาน พึ่งตนเองให้กับชุมชนชาวบา้ นในเขต ท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ เป้าหมายเพื่อสอนชาวนาให้ทำนาแบบ ผสมผสานยงั ชพี ไม่เบยี ดเบียน (ปาณาติบาท) มีอยู่มีกนิ มคี ณุ ภาพชวี ิตท่ดี ี รวมท้งั เป็นฐานสำหรับส่ง ต่อธนาคารวัว จากโครงการไถช่ ีวติ โคกระบือ วดั อนิ ทาราม พัฒนาใหเ้ ปน็ ศนู ย์การเรียนรูใ้ นองคร์ วม ที่ เป็นทัง้ แหล่งปลกู พืชสาธิต ท้งั พันธุ์ข้าว พนั ธุ์ไม้ การเลี้ยงปศุสัตว์ ท่มี ีทง้ั ววั ไก่ ปลา และอกี หลายชนิด เป้าหมายการสร้างคุณภาพชีวิต ผ่านลงมือศึกษา (ปริยัติ) นำไปสู่การสร้างความรู้เหล่าสู่การลงมือ ปฏบิ ตั ิจรงิ (ปฏบิ ตั ิ) หรอื กระทำกนั อย่างจรงิ จงั จนกลายเปน็ อาชีพ รายได้ สู่การพัฒนาคุณภาพชีวิต
พระครูพู ิศิ ิิษฏ์ป์ ระชานาถ, ดร 87 อย่างเหมาะสมภายใต้วิถีเกษตร (ปฏิเวธ) แบบผสมผสานที่เน้นการพึ่งตนเองตามแนวคิดทาง พระพุทธศาสนา ในฐานะท่ีหลวงพ่อมรี าชทินนามวา่ “ประชานาถ” หรอื เปน็ พระสงฆอ์ ันเป็นท่พี ึง่ ของ ชาวบ้านในพระพุทธศาสนาทเี่ น้นปฏบิ ัติตนใหเ้ ป็นที่พ่ึงของประชาชนและสังคม ความเป็นท่ีพ่ึงจึงได้ กระจายไปยงั ชมุ ชนและสงั คมอน่ื ท่ไี ม่ได้จำเพาะเฉพาะในพน้ื ท่แี ค่วดั อนิ ทาราม แตก่ ระจายไปยงั พ้ืนที่ อ่นื ชมุ ชนอื่น ๆ ดังปรากฏในการทำโครงการโคกหนองนา ที่จงั หวดั สรุ ินทรน์ ี้ ซึง่ ในการศึกษาน้ีจะได้ นำข้อมูลเชงิ ประจกั ษ์ ที่เกิดขึ้นจริงท่ีศูนย์การเรียนรู้ ศูนย์การเรียนรูป้ รัชญาพอเพียงสู่โคกหนองนา โมเดล จังหวัดสรุ ินทร์ ที่ขับเคลื่อนดำเนินการโดยหลวงพ่อแดง ตลอดระเวลา 1 ปี ที่ผ่านมาว่าเกิด อะไรขึ้นและส่งผลกระทบตอ่ ชุมชนสังคมอย่างไร ซ่ึงจะไดน้ ำมาศกึ ษาแบง่ ปันต่อไป แนวทางการพฒั นา ที่ดนิ เป็นปัจจัยการผลติ ในวถิ ีเกษตร วัดอนิ ทาราม จงึ ดำริจดั ซื้อท่ดี ิน เพ่ือเป็นฐานสำหรบั การ พัฒนาเครอื ข่าย การจัดสร้างแหลง่ พักนำ้ ในระบบธนาคารนำ้ ใต้ดิน และธนาคารนำ้ ผวิ ดิน เพ่ือสร้าง ระบบนเิ วศให้เกดิ ข้ึน การปลูกตน้ ไม้การปลูกโรงเรอื น การทำแปลงนาเกษตรสาธิต การทำที่เล้ียงไก่ สาธิต เหล่านีม้ ีเป้าหมายเพ่ือดำเนนิ การในรูปแบบของการสาธิตเพ่ือประโยชนต์ ่อการบริหารจัดการ ชุมชนให้เกิดขึ้น ด้วยแต่เดิมพื้นที่ทีว่ ัดอินทารามจัดซือ้ เป็นที่นา จะทำได้เพียงปีละหนึ่งครัง้ รอคอย น้ำฝนเปน็ หลกั มาสู่เกษตรแบบทางเลือกโดยการจดั ซอ้ื ทดี่ ิน จำนวน 8 ไร่ 1 งาน เพอื่ พัฒนาเป็นศูนย์ การเรียนรู้ และเป็นศูนยเ์ กษตรสาธิต นำมาสกู่ ารบรหิ ารจัดการโดยมเี ป้าหมายเป็นแหล่งแหล่งการ เรยี นรู้ เป็นแหล่งผลติ อาหาร การบรหิ ารจดั การนำ้ ศูนย์การเรียนรเู้ กษตรทางเลือกทไี่ มใ่ ช่ทำนาขา้ วใน แบบเกษตรเชิงเดี่ยวแบบเดิม แต่มุ่งพฒั นาใหเ้ ปน็ แหลง่ ผลติ อาหารภายใต้แนวคิดสร้างห่วงโซ่อุปทาน ทางด้านอาหาร ไม่มีงานแต่มอี าหาร ก็สามารถอยูไ่ ด้ ภายใต้กรอบการการแสวงหาความรู้ พร้อมกบั การลงมอื ปฏิบัติในกรอบ 5 ท (ทุน-ทมี -ทำ-ทน-เทคโนโลยี) คือ (1) ปรับพ้นื ที่นาเดมิ ใหเ้ ปน็ สระนำ้ ที่สามารถกกั เก็บนำ้ ไวไ้ ด้ตลอดท้งั ปี ถ้านำ้ เต็มจะอยทู่ ่ี ระดับ 1200 ลูกบาศก์เมตร โดยการขุดสระเป็น 3 ระดับ จุดลึก 1 เมตรจากหนา้ ดิน ลึก 1.5 เมตร จากหน้าดินชัน้ ที่ 1 และลึก 3 เมตร จากหน้าดนิ ในช้ันท่ี 2 เพอื่ รองรบั การกกั เก็บน้ำและการระเหิด ของน้ำในชว่ งฤดแู ล้ง และคาดว่าจะมนี ำ้ เพียงพอตลอดการใชง้ านกบั พชื ผลทางเกษตรตลอดท้งั ปี (2) การปลูกพันธ์ุไม้ยนื ต้นและไม้ใชต้ ้น เพ่อื เป็นแหล่งนิเวศสำหรบั ไม้ใหญค่ ลมุ ดิน และ เป็นพืชทดลอง เพื่อการใช้ไม้ในเชิงเศรษฐกิจ ซึ่งใช้เวลา 2-20 ปี เช่น ไม้ไผ่ สักทอง พยุง ยางนา มะฮอกกานี ชมพพู ันธ์ทพิ ย์ เปน็ ตน้
88 ดร.หลวงพ่อ่ แดง พระสงฆ์์ไม่่ทิ้้ง� ประชาชน (3) การปลกู ขา้ วพืชเกษตรหลักในพืน้ ที่ เปน็ การทดลองปลกู ขา้ ว 3-5 เดือน ได้ผลผลิต (4) การปลูกพืชระยะส้นั เพือ่ การยังชีพ เป็นการทดลองปลกู ผกั พืช เกษตรระยะส้ันเพ่ือ เป็นแหล่งอาหารใชก้ ินในครัวเรือน 1 อาทติ ย์ – 3 เดอื น สามารถเก็บพชื ผลทางเกษตรเพือ่ การบริโภค ได้ พืช ผักชนิดต่าง ๆ เช่น แตงโม เมล่อน มะเขือ ถั่วพรู แตงกวา มะเขือเทศ พริก ฟักทอง ฟัก ถวั ฝักยาว ผักหวาน เปน็ ต้น (5) การปลกู ไมผ้ ลเพือ่ การบริโภคและพาณิชย์ อันหมายถึงผลไมท้ ่สี ามารถให้ผลผลิตใน 3 ระยะดว้ ยกนั 1-3 เดอื น 3-6 เดือน และ 6 เดอื น – 1 ปี โดยจะเปน็ ผลไมท้ ่ีเปน็ ที่นิยมในการบรโิ ภค ในพื้นที่ ในท้องตลาด รวมทั้งสอดคลอ้ งกับสภาพดนิ ในพื้นที่เพราะปลูกด้วย เช่น มะพร้าว ทุเรียน มะมว่ ง ขยัน 6 เดือน -2 ปสี ามารถเกบ็ ผลิตผลของพชื ผลทางการเกษตรนไี้ ด้ (6) การทำโรงเรอื นเพื่อการเลี้ยงสัตว์ปศุสัตว์ เชน่ ไก่ เป็ด ศูนย์ประสานงานวิสาหกจิ ชมุ ชนธนาคารโค กระบอื ปลาในบอ่ น้ำ ทข่ี ดุ ไว้ ซ่งึ ไดพ้ นั ธปุ์ ลานิล ปลาดกุ ปลาสวาย เป็นต้น และการ เลี้ยงไก่ และเป็ดเพ่ือเน้ือและไข่ อันเปน็ แหล่งโปรตนี ทีส่ ำคญั เป็นต้น รวมทัง้ เปน็ ศูนย์ประสานงาน กลุ่มวิสหากิจชุมชนธนาคารวัวที่เชื่อมโยงระหว่างวัดอินทาราม กับกลุ่มธนาคารวัวกว่าจำนวน 17 กล่มุ มีววั ในระบบเกนิ กวา่ 1 พนั ตัวมูลค่ารวมเกนิ กวา่ 20 ล้านบาท (7) การพัฒนาเป็นแหล่งท่องเท่ียววิถีเกษตรและแหล่งโบราณคดีทางประวัติศาสตร์ อันหมายถึง ที่ตั้งของของส่วนเกษตรแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดสุรินทร์ ในอนาคตจะพัฒนาเป็นศูนย์ การเรยี นร้เู พอ่ื พฒั นาพันธพ์ ืช พนั ธ์ขุ า้ ว และต้นแบบของการผลิตแหลง่ อาหาร รวมทั้งจะจดุ เชือ่ มโยม กับแหล่งท่องเท่ียวเชิงอัตลักษณ์แห่งชาติพันธ์ุ เช่น ศูนย์การเรยี นรู้คชบาล ประจำจงั หวัดสุรินทร์ (9 กม./12 นาท)ี ศนู ยก์ ารเรยี นรู้สสุ านช้างแห่งกลุ่มชาติพันธุ์กยู วดั เจียงอี (18 กม/18 นาที) เป็นต้น ดังนั้น ทั้งหมดที่กำหนดไว้ จึงเป็นแนวทาง เป็นการเรียนรู้และเป็นความหวัด ที่ได้ ดำเนินการแล้ว โดยมีผลระยะสั้นตั้งแต่ 1-3 เดือน สามารถผลิตอาหาร เช่น ไข่ไก่ ไข่เป็ด และผัก ปลอดสารพิษทีส่ ามารถบริโภคในครัวเรือนได้ และสามารถผลิตส่วนเกนิ ให้เป็นสินค้าภายในชุมชน บ้านดอนไม้ไฟไดด้ ้วย ดังน้ันจงึ เป็นความคาดหวงั ของการเริ่มต้นท่ีจะส่งผลเป็นทั้งแหล่งผลิตอาหาร เป็นห่วงโซ่ของแหล่งผลิตอาหารภายใต้สถานการณ์โควิด และที่สำคัญทำให้เกิดการเรียนรู้นำร่อง กลายเป็นศูนย์การเรียนรู้เพือ่ รองรับการปรับตัวภายใตเ้ กษตรแบบพึ่งพามิใช่เกษตรอตุ สาหกรรมดังที่ เกดิ ขึ้นในช่วงก่อนหน้าน้ีภายในประเทศไทยท่ีผผู้ ลิตข้าวแต่ไม่ไดก้ นิ ข้าวทต่ี วั เองผลติ เปน็ ต้น
พระครูพู ิศิ ิษิ ฏ์์ประชานาถ, ดร 89 ความเชื่อมโยงเชิงศาสตร์ของเกษตรแบบพึ่งตนเองทีท่ ำขึ้น จะเห็นความสัมพันธ์กับศาสตร์ ต่าง ๆ ที่เนือ่ งจากเกษตรแบบพึ่งตนเองท่ีศูนย์การเรียนรู้เกษตรแบบพึ่งตนเอง จังหวัดสุรินทร์ ทั้งใน เชิง (ก) เศรษฐศาสตร์ ที่หมายถึง การผลิตอาหารเพ่ือการบริโภค และการประหยัดออม พ่ึงตนเองไม่ตอ้ งไปชอ้ื จากภายนอก (ข) โภชนาการ อันหมายถึง การผลิตอาหารที่ควบคุมการผลิตได้ ทั้งในส่วนของอนามยั และความต้องการตามฐานของการบริโภค ชนิดของผัก ผลไม้ พืช ผักที่ต้องการกิน อยากกินและ บริโภค รวมทั้งประมาณท่ตี ้องการอยากได้มากปลูกมาก ผลิตมาก เป็นตน้ (ค) ความสมั พันธเ์ ชงิ สังคม หรือสังคมวิทยา เป็นศาสตรท์ ี่เช่ือมในเชิงปฏสิ ัมพันธ์ สามัคคีกัน ทำ สามัคคีกันกนิ และแบ่งปนั ตามสดั ส่วนของผลได้ท่ีเหมาะสม จติ อาสาช่วยงานศนู ยเ์ กษตรพง่ึ ตนเอง การชว่ ยงานกันและกนั ในชุมชน (ง) มานุษยวิทยาเชิงสังคม การทำกิจกรรมร่วมกนั การรวมกลุม่ กันทำกจิ กรรม (จ) การศึกษาเชิงเชื่อมโยงเชิงศาสตร์ พันธุ์ข้าว พันธุ์ไม้ยืนต้น ผลไม้ ชนิดของดิน การ จัดการนำ้ บริหารการใช้นำ้ การปลูกพืชเชิงพาณิชย์ ดิน-ปุ๋ย ที่จะปลูกมีดินเปน็ อยา่ งไร ดินถมพลิก หนา้ ดนิ มคี วามเปน็ กรดสูง ไมม่ สี ารอาหาร ถกู กดอนั จนแนน่ หาส่ิงทดแทน หรอื ดนิ จากแหล่งอื่นมา ทดแทน ทั้งดิน ปุ๋ยคอก มาเป็นฐานการผลิต (เทียบได้กับการปลูกพืชในที่คมุ อุณหภูมิในเมืองหนาว เขน่ ยุโรป/หรือการใชร้ ะบบคุมดินในโรงเรือนและระบบอุม้ ดนิ ในอิสราเอล เป็นตน้ ) (ฉ) ความรู้เรือ่ งการบรหิ ารจัดการนำ้ การขดุ ร่องน้ำลกึ เพ่อื กักเก็บนำ้ จากนำ้ ฝน ปลูกตน้ ไม้ ใหญ่เพื่อให้ลดการระเหยของน้ำ สร้างระบบซับน้ำ ตามธรรมชาติ รวมทั้งแนวทางที่จะมีการสร้าง เครื่องผลิตไฟฟา้ จากพลังงานแสงอาทติ ย์ ภายใตแ้ นวคิดพลงั งานธรรมชาติ พลังงานบริสุทธ์ิ พลังงาน ทดแทน จะถูกนำกลบั มาให้สอดคลอ้ งกับสภาพความเปน็ จริงและเปน็ ประโยชน์ (ช) การถ่ายทอดความรู้จากแปลงเกษตรสาธิต และการผลิตอาหารเพื่อยังชีพใน สถานการณ์ไม่ปกตดิ ัง Covid 19 ที่กำลังเกิดข้ึนน้ี จึงเป็นประหน่ึงแปลงสาธิตที่จะเป็นต้นแบบเป็น แรงบันดาลใจเลก็ ๆ ให้กบั สมาชิกอื่นทัง้ ใกล้ไกลได้ด้วย การลงมอื ทำ เรียนรู้ และถ่ายทอดให้เป็นผล เชงิ ประจักษ์ไดใ้ นระดับหน่งึ นับแตจ่ ุดเริม่ ของปญั หาทพ่ี ทุ ธศาสนาเรยี กวา่ ทุกข์ จากน้นั สง่ิ ทเี่ ปน็ ปญั หา ว่าด้วยเร่ืองอาหารและการผลติ ได้กลายเป็นการแสวงหาทางอออกพฒั นาเป็นปญั ญา (สมุทัย) เม่ือได้ ความรู้มาได้มีการเรียนรู้แบ่งปัน (มรรค) นำไปสู่การสร้างประดิษฐ์กรรมเกตรกรรมแบบพอเพียงท่ี เกิดขึ้นได้ (นโิ รธ) การผลติ เพอื่ การบรโิ ภคลดปัจจัยเส่ียงไดแ้ หล่งอาหาร แหลง่ โปรตีนไว้บริโภคยังชีพ
90 ดร.หลวงพ่อ่ แดง พระสงฆ์์ไม่ท่ ิ้�้งประชาชน ดับทกุ ข์เป็นความหวิ ได้ ได้ความรู้ จดั การแบง่ ปัน เพ่อื ใหส้ มาชกิ อนื่ ได้ดบั ทุกข์ คลายความสงสัยของผู้ มที ่ีดินและอยากทำการเกษตรแบบผสมผสานได้ (นิโรธ) ดังนน้ั ความเชื่อมโยงเชิงศาสตร์ จึงเป็นสิ่งท่ี เนอ่ื งดว้ ยแนวทางทก่ี ำลงั เร่มิ ตน้ เพ่อื พฒั นาใหเ้ ป็นแหลง่ ผลติ อาหารเพือ่ การยงั ชพี เกษตรแบบพอเพียง และศนู ย์การเรียนร้เู พอื่ ความเป็นต้นแบบในการเปน็ ห่วงโซ่อุปาทานขนาดเล็กในการผลิตอาหารเพ่ือ การยงั ชพี ตอ่ ไป กระบวนทัศนก์ ารพัฒนาตามแนวพทุ ธ ทงั้ นที้ ุกครวั เรือน ได้รับความเมตตา จากพระเดชพระคุณหลวงพอ่ แดง นนฺทโิ ย ดร. มอบเป็น ทุนทางความเชื่อ (ธนาคารโคกระบือวัดอินทาราม) คือปัจจัยการผลิต เน้นเกษตรอินทรีย์แบบ พึ่งตนเอง ความคาดหวงั คอื ชาวนาไทยตอ้ งมีความรวยเท่ากับชาวนาญีป่ นุ่ ดว้ ยวสิ ยั ธรรมนำวิสัยทัศน์ ที่ได้จากหลักธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนานำมาเป็นมากรอบ ประยกุ ต์พฒั นาในเขตพนื้ ท่จี ังหวัดสรุ ินทร์ ตามกรอบของผนู้ ำการเปลีย่ นแปลงด้วยกระบวนทัศน์เชิง พุทธ อนั ประกอบดว้ ย (1) จักขุมา (2) วธิ โุ ร (3) นสิ ยสัมปันโน ระบบสร้างศรทั ธา ปลายทางการเรียนรู้ กระบวนการมีส่วนร่วม ตามหลกั ท5 และพลังบวร การสรา้ งสงั คมอดุ มธรรม จดวสิ าหกจิ ชมุ ชน หมัน่ ประชุมเนอื งนติ ย์ (จกั ขมุ า นิสสยัง สมั ปนั โน การ มองการไกล) การหยิบเอาประเด็นที่สำคัญมาพิจารณาก่อน (3) มีอยู่ 22 กลุ่ม อยู่ใน 22 หมู่บ้าน ตำบล กะโพ ตำบล รรุ่มละวบี ้านหนองพลวง อ.จอมพระ อ.ศรขี รภูมิ บา้ นอายอง หมู่ 16 อายอง หมู่ 12 ซงึ่ ตอนนี้ ในการยกระดับแปลงนานน้ั จงึ เปน็ กิจกรรมต่อยอดจากธนาคารววั ธนาคารน้ำ ธนาคาร น้ำ ใต้ดนิ ระบบเปดิ -ปดิ ซ่งึ เปน็ การนำปรัชญาเศรษฐกจิ ไดพ้ ัฒนาตามหลกั ภมู ิสังคม แปลงนา ทำเป็น ศนู ย์การเรยี นรพู้ ุทธเกษตร ประชานาถโมเดล โดยมลู นธิ ิวดั อินทาราม ไดจ้ ดั ตง้ั ขึน้ ผลลัพธ์ พฒั นาจิต อาสา เปน็ ขบวนการลงมอื ทำพร้อมกบั การเรียนรู้ เรยี นรู้ศนู ยท์ จี่ ำเปน็ องค์ความรทู้ จ่ี ำเปน็ ขับเคลื่อน มาได้ทัง้ หมด ทำต่อไปในเรอ่ื งฤดกู าลเก็บเก่ยี ว การถนอมอาหาร กลว้ ย สมนุ ไพร โควิด ฟ้าทะลายโจร หา้ ร้อยต้น ไมผ้ ล มะพร้าว กาแฟอาราบิก้า มะมว่ ง มะละกอ สม้ โอ สมนุ ไพร ในครวั เรอื น เป็นท้ังยา สมุนไพร และอาหาร สว่ นป๋ยุ ทไี่ ด้ ผสมปยุ๋ โดยการหมกั นำ้ สรรพส่ิง ปน้ั เปน็ ก้อนอโตเมตกิ กระบือ ห้า ตัว โคแม่พันธ์ แม่ลูกอ่อน โคที่แจกจ่าย ส่งมาเป็นระยะครั้งละ 20-30 ตัว โดยประมาณ มีการ ยกระดบั ครัวเรอื น มจี ติ อาสา มากระทำกระท่อม หอ้ งนำ้ เป็นงานชา่ งก่อสร้าง ชา่ งเหล็ก ในรูปแบบ จติ อาสา
พระครูพู ิิศิิษฏ์ป์ ระชานาถ, ดร 91 ภาพท่ี 1 การพัฒนาทด่ี ินจำนวน 8 ไร่ 1 งาน เพือ่ ใหเ้ ปน็ ศนู ยก์ ารเรียนรภู้ ายใต้แนวคิด เกษตรผสมผสาน พึง่ ตวั เองได้ ท่ีมา: วัดอนิ ทาราม (2564) จากภาพที่ 1 การเริ่มโครงการในเดือนมกราคม 2564 เริ่มตั้งแต่การพัฒนาที่ดินพื้นที่ทาง การเกษตร ที่มีจำนวนพื้นที่ประมาณ 8 ไร่ 1 งาน เจ้าของโครงการของมูลนิธิวัดอินทาราม จังหวัด สมุทรสงคราม ภายใต้กรอบคิดเศรษฐกิจพอเพียง ผลิตผลทางการเกษตร พึ่งตนเองได้ พุทธ เศรษฐศาสตร์ สร้างศูนย์การเรียนรแู้ บบเกษตรสาธิต เริม่ ตัง้ แตก่ ารขุดบ่อ เพื่อทำธนาคารนำ้ แบบเปิด (งบประมาณ 3 แสนบาท) ภาพท่ี 2 กจิ กรรมการลงพ้นื ท่ีพฒั นาศูนยก์ ารเรียนรู้บ้านหนองอีดำ โคกหนองนาพทุ ธเกษตร มูลนิธิ วดั อนิ ทาราม ตำบลกระโพ อำเภอทา่ ตมู จังหวดั สรุ นิ ทร์ ท่ีมา: วดั อินทาราม (2564) ภาคตอ่ จากภาพที่ 2 หลวงพ่อแดง พร้อมผู้นำกลุ่มวิสาหกจิ ชมุ ชนธนาคารววั ร่วมกับชาวบา้ น ปลูกต้นมะพร้าว กล้วย ส้มโอ และดำนาปลูกขา้ วหอมมะลิ โดยภายใต้กจิ กรรม ยังได้มอบ ถุงยังชีพ (ทะเล) และพันธุ์มะพร้าวน้ำหอม จำนวน 37 ครอบครัว กว่า 300 ผล รวมถึง มอบปัจจัยให้ คนละ 500 บ.เพ่ือช่วยใหป้ ระชาชนและชุมชนทุกแห่งสามารถผ่านพน้ วิกฤตต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะช่วงวิกฤต
92 ดร.หลวงพ่่อแดง พระสงฆ์์ไม่่ทิ้ง�้ ประชาชน โควิด-19 เป้าหมายเพื่อ สร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้กับชุมชน ตามรอยศาสตร์พระราชา พ่อหลวง ร.9 เศรษฐกิจแบบพอเพียง แนวคดิ ทางพระพุทธศาสนามแี นวคดิ ในเร่อื งตนเป็นทพ่ี ่งึ ของตนเอง และ การพึ่งตนเอง เป็นหัวใจสำคัญ สาระสำคัญทำให้เกิดแนวคิดในเรื่องการพึ่งตนเอง เพื่อตนเอง “อต ตาหิ อตฺตโน นาโถ” เป้าหมายเพื่อการทำให้ตนพึ่งตนเอง ทำให้เกิดการขับเคลื่อน เป็น พระเดช พระคณุ ดรหลวงพ่อแดง นันทโิ ย (พระครพู ศิ ิฏ์ประชานาถ,ดร) รองเจ้าคณะอำเภออัมพวาเจ้าอาวาส วัดอินทารามจังหวัดสมุทรสงครามและคณะอาจารย์จากมหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วงั นอ้ ย ทา่ นไดเ้ มตตาเดินทางมาแจกถงุ ยงั ชีพทศี่ าลาประชาคมบ้านกระเบ้ืองใหญ่และถวายปัจจัยแด เจ้าอาวาสวัดกระเบื้องใหญ.่ .. ซึ่งปีที่แล้วกไ็ ดม้ าชว่ ยน้ำทว่ ม... ต่อเนื่องมาเป็นปี2564 นี้ ต่อจากนั้น เดินทางจากอำเภอพมิ าย จ นครราชสีมา ผา่ นบุรีรัมย์ มายัง ศูนย์พุทธะเกษตรโคกหนองนาประชา นาถโมเดล.. ทบ่ี ้านหนองอีดำ... ตำบลกะโพ อ ท่าตมู จ สุรนิ ทร์ เพอื่ ทำการสาธิตและขดุ หลมุ ธนาคาร น้ำใต้ดินระบบปดิ ... ปลูกต้นกลว้ ย... ปลอ่ ยปลา... และเปิดสวิตไฟทำการสขี า้ ว... เพือ่ ดำเนนิ การเป็น ศนู ยเ์ รียนรูค้ รบวงจรของโรงเรียนสอนชาวนาตอ่ ไป แนวทางเกษตรวถิ ีพอเพยี งกบั แหลา่ งผลติ อาหารเพอื่ ความม่ันคงและการพ่งึ ตนเองได้ อาหารเป็นปัจจัยหลัก แนวคิดทางพระพุทธศาสนาสะทอ้ นคิดไว้ชัดเจนว่า “ปัจจัย” สำคัญ ของการ ยังชีพประกอบด้วยปัจจัย 4 และอาหารก็เปน็ ปจั จัยหนึ่งในนน้ั (อง.เอกก.(ไทย)20/25/173, พหุการสูตร) และ องค์กรสหประชาชาติ ได้จัดตั้ง องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations หรือ FAO) มสี ำนกั งานใหญต่ ั้งอยู่ ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี มีสมาชิก กว่า 190 ประเทศทั่วโลก เป้าหมายคือเพื่อศึกษาและกำหนด มาตรการเม่ือกำหนด และควบคุมแนวทางใน เรื่อง “อาหาร” ที่หมายถึง การผลิต การบริโภค การ สร้างปัจจยั เงื่อนไขในเชิงของอาหาร (รวมเรื่อง โภชนาการ อาหาร การเกษตร ป่าไม้และประมงฯ) ดังน้ันอาหารเป็นปจั จยั สำคัญของมนษุ ย์เหมือนกนั ทวั่ โลก และใน พระพทุ ธศาสนาพระพุทธเจา้ รอคน ท่เี ดินทางมาฟังธรรม แต่มาดว้ ยความหิว ก็อนุญาตให้กินขา้ วก่อนแล้วจงึ แสดงธรรม จึงเปน็ ทมี่ าของ พทุ ธพจนท์ ีว่ า่ “ความหิวเปน็ โรคอยา่ งยิ่ง สงั ขารทง้ั หลาย เปน็ ทกุ ขอ์ ย่างย่ิง บัณฑติ รู้เรือ่ งนต้ี ามความ เป็นจริงแล้ว ย่อมทำนิพพานให้แจ้ง เพราะนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง” (ธ.อุ.(ไทย) 25/201- 20195- อัญญตรอุปาสกวัตถุ) ดังนัน้ แนวคิดหรือหลักการสำคัญคือกินย่อมเป็นสุข การได้กินและบริโภคย่อม เปน็ สขุ ดงั นน้ั การตัดสนิ ใจพฒั นาพืน้ ทีท่ างการเกษตรเดิมท่ีแตเ่ ดมิ เป็นที่นา และทำได้เพียงปีละหนึ่ง คร้งั รอ คอยน้ำฝนเปน็ หลัก มาสู่เกษตรแบบทางเลือกโดยแบง่ สว่ นจากทีน่ าเดิมจำนวน 3 ไร่ นำมาสู่
พระครูพู ิิศิษิ ฏ์์ประชานาถ, ดร 93 การบริหารจัดการ โดยมีเป้าหมายเป็นแหล่งผลิตอาหารภายใต้สถานการณ์โควิด-19 การบริหาร จดั การนำ้ ศนู ย์การเรียนร้เู กษตร ทางเลือกที่ไม่ใช่ทำนาข้าวในแบบเกษตรอุตสาหกรรม แต่ให้เป็นแหล่งผลิตอาหารภายใต้ แนวคิดสร้างห่วงโซ่ อปุ ทานทางดา้ นอาหาร ไมม่ ีงานแต่มอี าหาร ก็สามารถอยไู่ ด้ ซึ่งสามารถนำเสนอ แนวทางวธิ ีการไดค้ ือ 1. การปรับท่ีดนิ ทจี่ ัดซ้ือมาโดยมลู นิธวิ ดั อินทาราม จังหวดั สมทุ รสงคราม โดยภูมศิ าสตร์และ ธรณีวิทยาของที่ดินเป็นแบบดินโคก และที่ลุ่มเป็นร่องน้ำธรรมชาติไหลจากทิศเหนือไปสู่ทิศใต้ลงที่ แม่น้ำชีบรรจบกับแม่น้ำมูล เรียกว่าวังทะลุ บริเวณนี้จึงมีหนองนำ้ ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งนำ้ ดิบใน การทำน้ำประปาในหมบู่ า้ น แตย่ งั ขาดคลองชลประทานรบั นำ้ จากภายนอกเข้าสูน่ ้องนำ้ จงึ เป็นเหตุให้ น้ำฝนท่ีตกตามฤดูกาลไหลลงสู่ทต่ี ำ่ ไปบรรจบกบั ลำน้ำชี โดยท่ีดนิ ท่จี ัดซ้ือมา จำนวน 8 ไร่ 1 งาน เพ่ือ ดำเนินการให้ศนู ย์การเรียนรู้ เป็นศูนย์ต้นแบบในการดำเนินการในแบบเกษตรสาธิต ประกอบด้วย (1) พื้นที่สำหรับทำสระเก็บน้ำซึ่งรวมจำนวน 40 % ของพื้นท่ีทั้งหมดเปน็ การขุดแบบคลองใสไ้ ก่ ใน แบบธนาคารนำ้ แบบเปดิ เพื่อกักเก็บน้ำใน 3 ระยะในฤดูฝน ฤดูหนาว และฤดูร้อน ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 ระดับรองรับการระเหิดระเหยของน้ำ (2) พ้ืนที่สำหรับการปลูกโรงเรือนประมาณ 5 % อัน ประกอบด้วย (2.1) โรงเรือนเพื่อการพักอยู่อาศัย (2.2) โรงเรือนเพื่อการปศุสัตว์ เช่น ไก่ เป็ด ธนาคารวัว ควาย ทส่ี ่งจากวดั อนิ ทาราม และถูกสง่ ตอ่ ไปยังศนู ย์การเรียนรู้เพ่อื พกั และสง่ ต่อไปยังกลมุ่ วิสาหกิจธนาคารโคกระบือของกลุ่มต่าง ๆ (2.3) โรงเรือนเพื่อสร้างเปน็ ศูนย์การเรียนรู้ที่จะเป็นศูนย์ การเรยี นรู้ดา้ น เกษตรพอเพียง ท่ีว่าดว้ ยเรือ่ งพนั ธขุ์ ้าว พันธ์ุไม้ พันธ์ปุ ลา และการเปน็ ท่พี บปะเรียนรู้ เกี่ยวกับวิถีเกษตรใน การบริหารพื้นที่เกษตร การบริหารน้ำ รวมทั้งธนาคารน้ำใต้ดิน รวมท้ัง ประชุมสัมมนาแลกเปลี่ยนสำหรับประชาคมและชุมชน (2.4) โรงเรือนเพื่อการเพาะพันธุ์กล้าไม้ โรงเรอื นสาธติ เกี่ยวกนั พนั ธุ์ไม้ พันธุ์ปลา พันธุ์ข้าว และอื่นๆ เป็นต้น (3) ที่ดินสำหรับการปลกู พชื ประมาณ 20 เปอร์เซ็น ปลูกต้นไม้ยนื เน้ือแข็งยืนต้นเพื่อสร้างภมู ิทัศน์ และความร่มรืน่ พันธุ์ไม้ชนิด ต่าง ๆ ทงั้ ไมย้ ืนตน้ ไมเ้ น้อื แข็ง ไมผ้ ล ไมป้ ระดบั และพชื ผลทางการเกษตร ตามวงรอบของอายใุ น แต่ ละชนิดใหค้ รบวงจร (4) พื้นท่ีสำหรบั การทำนาอนั เปน็ พื้นทีห่ ลกั ประมาณ 20% ท่จี ะปลูกพันธุ์ข้าวใน แบบเกษตรอนิ ทรยี ์ ท่ีเนน้ การทดลองพันธุข์ า้ วเพอ่ื การเรียนรทู้ ีส่ อดคลอ้ งกบั สภาพภูมศิ าสตร์ เปน็ ต้น 2. จากการบริหารพื้นที่ในองค์รวมตามตารางที่ 1 การปรับภูมิทัศน์สร้างระบบนิเวศศูนย์ เกษตร แบบพอเพยี งในองค์รวม สามารถจำแนกรายลงรายละเอยี ดได้ คือ (1) ปรับพืน้ ที่เดิมใหเ้ ป็น สระน้ำ ท่สี ามารถ กักเก็บน้ำไว้ได้ตลอดทัง้ ปี ถ้าน้ำเต็มจะอยู่ในระดบั ที่ 1200 ลูกบาศกเ์ มตร โดยการ
94 ดร.หลวงพ่่อแดง พระสงฆ์์ไม่ท่ ิ้ง้� ประชาชน ขุดสระเป็น 3 ระดับ จุดลึก 1 เมตรจากหน้าดิน ลึก 1.5 เมตร จากหน้าดินชั้นที่ 1 และลึก 3 เมตร จากหน้าดนิ ในชน้ั ที่ 2 เพ่อื รองรับการกัก เกบ็ น้ำและการระเหิดของนำ้ ในช่วงฤดูแล้ง และคาดว่าจะมี นำ้ เพียงพอตลอดการใช้งานกับพืชผลทางเกษตร ตลอดทั้งปี (2) การปลกู พันธ์ไุ ม้ยืนต้น และไม้ใช้ต้น เพ่ือเปน็ แหล่งนเิ วศนส์ ำหรับไม้ใหญ่คลุมดนิ และเป็นพืช ทดลอง เพ่อื การใชไ้ ม้ในเชงิ เศรษฐกิจ ซ่ึงใช้ เวลา 2-20 ปี เชน่ ไม้ไผ่ สักทอง พยุง ยางนา มะฮอกกานี ประดู่ สะเดา เป็นต้น (3) การปลูกข้าวพืช เกษตรหลักในพื้นที่ เป็นการทดลองปลูกข้าว 3-5 เดือน ได้ผลผลติ (4) การปลกู พืชระยะสั้นเพื่อการ ยงั ชีพ เปน็ การทดลองปลกู ผกั พชื เกษตรระยะสั้นเพ่ือเปน็ แหลง่ อาหารใช้กินใน ครัวเรือน 1 อาทติ ย์ – 3 เดอื น สามารถเก็บพชื ผลทางเกษตรเพ่ือการบรโิ ภคได้พชื ผักชนิดต่าง ๆ เช่น แตงโม เมลอ่ น มะเขือ ถ่วั พูแตงกวา มะเขือเทศ พริก ฟักกทอง ฟกั ถ่วั ฝกั ยาว ผักหวาน เปน็ ต้น (5) การปลูกไมผ้ ล เพื่อการ บริโภคและพาณิชย์ อันหมายถึงผลไมท้ ี่สามารถให้ผลผลิตใน 3 ระยะด้วยกัน 1-3 เดือน 3-6 เดือน และ 6 เดือน – 1 ปี โดยจะเป็นผลไม้ที่เป็นที่นิยมในการบริโภคในพื้นที่ ในท้องตลาด รวมทั้ง สอดคล้องกับสภาพดินในพื้นที่เพราะปลูกด้วย เช่น มะพร้าว ทุเรียน มะม่วง ขนุน 6 เดือน -2 ปี สามารถเก็บผลิตผลของ พชื ผลทางการเกษตรน้ีได้ (6) การทำโรงเรอื นเพอื่ การเล้ยี งสตั วป์ ศุสัตว์ เช่น ปลาในบ่อนำ้ ทีข่ ุดไว้ ซึ่งได้พนั ธุ์ปลานิล ปลาดุก ปลาสวาย เป็นตน้ และการเล้ียงไก่ และเปด็ เพอื่ เนื้อ และไข่ อนั เป็นแหล่งโปรตนี ท่ีสำคญั เปน็ ต้น ท้งั หมดที่กำหนดไว้ จึงเป็นแนวทาง เป็นการเรียนรู้และ เปน็ ความหวดั ทไ่ี ดด้ ำเนนิ การแลว้ โดยมีผลระยะส้ันต้งั แต่ 1-3 เดอื น สามารถผลิตอาหาร เช่น ไข่ไก่ ไข่เป็ด และผักปลอดสารพิษที่สามารถ บริโภคในครัวเรอื นได้ และสามารถผลติ ส่วนเกินให้เป็นสินค้า ภายในชุมชนด้วย ดงั น้นั จึงเปน็ ความคาดหวังของการเรมิ่ ตน้ ท่จี ะสง่ ผลเปน็ ท้ังแหล่งผลติ อาหารเป็น ห่วงโซ่ของแหล่งผลิตอาหารภายใต้ สถานการณ์โควิด-19 และที่สำคัญทำให้เกิดการเรียนรู้นำร่อง กลายเป็นศูนยก์ ารเรียนรูเ้ พื่อรองรบั การปรบั ตวั ภายใตเ้ กษตรแบบพึ่งพามใิ ช่เกษตรอตุ สาหกรรมดงั ที่ เกดิ ขนึ้ ในชว่ งกอ่ นหนา้ นี้ภายในประเทศไทยท่ีผู้ผลติ ขา้ ว แต่ไม่ได้กนิ ขา้ วทีต่ วั เองผลติ เป็นต้น 5. ความเช่ือมโยงเชงิ ศาสตรข์ องสวนเกษตรท่ีทำข้ึน จะเหน็ ความสัมพนั ธ์กบั ศาสตร์ต่าง ๆ ท่ี เนื่องจาก แปลงเกษตรสวนผักทง้ั ในเชิง (ก) เศรษฐศาสตร์ ที่หมายถงึ การผลติ อาหารเพ่อื การบริโภค และการประหยัด ออม พึ่งตนเองไม่ต้องไปชื้อจากภายนอก (ข) โภชนาการ อันหมายถึง การผลิต อาหารทีค่ วบคุมการผลิตได้ ทั้ง ในส่วนของอนามัย และความต้องการตามฐานของการบริโภค ชนิด ของผัก ผลไม้ พืช ผกั ทตี่ ้องการกิน อยาก กินและบรโิ ภค รวมทัง้ ประมาณที่ต้องการอยากไดม้ ากปลูก มาก ผลิตมาก เป็นต้น (ค) ความสัมพันธ์เชิงสังคม หรือสังคมวิทยา เป็นศาสตร์ที่เชื่อมในเชิง ปฏิสัมพันธ์ สามัคคีกันทำ สามัคคีกันกิน และแบ่งปันตามสัดส่วนของ ผลได้ที่เหมาะสม (ง)
พระครูพู ิิศิษิ ฏ์์ประชานาถ, ดร 95 มานุษยวิทยาเชิงสังคม การทำกิจกรรมร่วมกัน การรวมกลุ่มกันทำกิจกรรม (จ) การศึกษา เชิง เชื่อมโยงเชงิ ศาสตร์พันธุข์ ้าว พันธุ์ไม้ยืนต้น ผลไม้ ชนิดของดนิ การจดั การน้ำ บริหารการใช้น้ำ การ ปลูก พืชเชงิ พาณิชย์ ดนิ -ปยุ๋ ทจี่ ะปลูกมีดนิ เปน็ อย่างไร ดินถมพลิกหน้าดนิ มีความเป็นกรดสูง ไม่มี สารอาหาร ถกู กดอัดจนแนน่ หาสิ่งทดแทน หรอื ดนิ จากแหล่งอืน่ มาทดแทน ทัง้ ดนิ ปุ๋ยคอก มาเป็น ฐานการผลิต (เทยี บได้กบั การปลูกพืชในทค่ี ุมอณุ หภูมใิ นเมอื งหนาว เชน่ ยุโรป/หรอื การใช้ระบบคุม ดนิ ในโรงเรือนและระบบอมุ้ ดนิ ใน อิสราเอล) (ฉ) ความรู้เร่อื งการบรหิ ารจัดการน้ำ การขุดร่องน้ำลึก เพื่อกักเก็บน้ำฝน ปลูกต้นไม้ใหญ่ เพื่อให้ ลดการระเหยของน้ำ สร้างระบบซับน้ำตามธรรมชาติ รวมทั้งแนวทางที่จะมีการสร้างเครื่องผลิต ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ภายใต้แนวคิดพลังงาน ธรรมชาติ พลังงานบริสุทธิ์ พลังงานทดแทน จะถูกนำกลับมาให้ สอดคล้องกับสภาพความเป็นจรงิ และเป็นประโยชน์ (ช) การถ่ายทอดความรู้จากแปลงเกษตรสาธติ โรงสขี ้าว ธนาคารน้ำใต้ดินระบบ การจัดการน้ำในแบบขุดคลอง เพื่อให้เป็นแหล่งพักน้ำ และใช้น้ำ รวมทั้งทำงานใต้ดิน การสร้าง แรงงานอาสา การฝึกความเสียสละเพื่อส่วนรวม และการสร้างการเรียนรู้เสียสละ ภายใต้การให้ เพอื่ ใหไ้ ด้ การทำให้เกดิ ความรว่ มมือ การทำให้เกิดการพง่ึ พาตนเองภายใต้ แนวคดิ ทำได้ ทำเป็นและ ทำให้เกิดขึ้น พุทธเศรษฐศาสตร์แนวคิดว่าดว้ ยการผลติ และการบรโิ ภค การก่อตั้งศูนย์การเรยี นร้เู กษตรวิถีพุทธ สะท้อนให้เหน็ ถึงแนวคิดในเร่ืองพุทธเศรษฐศาสตร์ ที่มีเป้าหมายเพื่อการจัดการทรัพยากรการสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับเกษตรแบบแผนที่มีเป้าหมาย เพื่อการพ่ึงตนเอง หรือทำให้ตัวเองเป็นทพี่ ่ึงของตัวเองได้ ภายใต้กรอบว่ามีอยู่ มีกิน มีใช้ มีคุณภาพ ชีวิตพ่ึงพาตนเองได้ ดังปรากฏในงานศึกษาเร่ือง การบริหารจัดการเชิงพุทธของมหาวิชชาลัยพุทธ เศรษฐศาสตร์ (ศศิวิมล ภู่พวง และคณะ, 2563) เศรษฐศาสตร์แนวพุทธ โดยพระพระพรหมคุณา ภรณ์ (ป. อ. ปยตุ โฺ ต) (2557) และนำไปรีววิ เป็นเปน็ บทความถงึ หนังสือเลม่ น้โี ดยพระครูวิจารณ์โกศล (จรี ะวฒั น์ เพง็ พร้งิ ) (2563) หรอื ในงานเร่อื ง เป้าหมายของกำไร: คุณค่าแห่งความร่วมมือของธุรกิจ ในมุมมองพุทธเศรษฐศาสตร์ (วรรณา ประยกุ ตว์ งศ์ ,2556) ในงาน กระบวนทศั น์กระแสทางเลอื ก : ยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในสังคมไทย (ทิพย์วรรณ สุขใจรุง่ วัฒนา ,2561) ใน งานวิจัยเรื่อง พุทธเศรษฐศาสตร์ในทัศนะของปราชญ์ในประเทศไทย (เดช ชูจันอัด ,2563) ใน งานวจิ ยั เรื่อง การวิเคราะห์หลักพุทธธรรมท่ีส่งเสริมหลักการแห่งเศรษฐศาสตร์ (พระคมสนั เจริญ วงค์ ,2563) ในงานวิจัยเร่อื ง ตัวแบบการจัดการพลงั งานชุมชนตามแนวทางพุทธเศรษฐศาสตร์ (สืบ
96 ดร.หลวงพ่อ่ แดง พระสงฆ์์ไม่่ทิ้ง�้ ประชาชน สกุล วัชรินทร์วงศ์, 2561) ในงานวิจัยเรื่อง การสื่อสารแนวคิดวิถีพุทธของมหาวิชชาลัยพุทธ เศรษฐศาสตร์ (คมสัน รัตนะสิมากูล,2562) ในงานวิจัยเรื่อง เศรษฐศาสตร์แนวพุทธ: รูปแบบการ พัฒนาความสุขอย่างยั่งยืน ของวิถีเกษตรอินทรีย์ (พระณัฏฐนันท์เดช สีลเตโช, 2563) ในงานวิจัย เร่อื ง ทุนมนุษย์ในทางเศรษฐศาสตร์เชิงพุทธ (ธเนส เตชะเสนและพลวฒั น์ ชมุ สุข, 2563) จากงานที่ ศกึ ษาทง้ั หมด สะท้อนผลการศึกษาได้ คอื (1) การจดั ภายใตแ้ นวคิดทางเศรษฐศาสตร์ โดยมีแนวคิด ทางพระพุทธศาสนาเป็นฐานในการบริหารจัดการ (2) การส่งเสริมให้เกิดการพึ่งตนเองภายใต้ แนวคิดทางพระพุทธศาสนา (3) การจัดการทรัพยากรโดยไม่เบียดเบียนเป้าหมายเพื่อทำให้เกิด คณุ ภาพชีวติ (4) การส่งเสริมใหช้ มุ ชนเข้มแข็งพึ่งตนเองไดภ้ ายใตห้ ลักอัตตาหิ อตฺตโนนาโถ ทำตนให้ เป็นที่พึ่งพิง เพื่อการยังชีพ และการดำเนินชีวิตในแบบพวกเรา ทำให้เกิดกลไก เพื่อการพัฒนา คณุ ภาพชีวิตในองค์รวม (5) การส่งเสรมิ ให้เกดิ กลไกในองค์รวมเพ่ือการพฒั นา เมื่อนำข้อมูลท้ังหมด มาสงั เคราะห์สะท้อนผลในการปฏิบัติกรณีศูนย์การเรียนรู้ของหลวงพ่อแดง นนฺทิโย ทจ่ี งั หวัดสุรินทร์ จึงได้ดำเนินตามหลักคิดในส่วนนี้ เพื่อเป็นการสร้างเสริมแนวคิดพุทธเศรษฐศาสตร์ และเป็นการ ส่งเสริมให้เกิดชุมชนพ่ึงตนเองตามแนวพุทธ ภายใต้การผลิต ที่ไม่เบียดเบียน ใช้ปุ๋ยอินทรี ส่งเสริม การพง่ึ ตนเอง ส่งเสรมิ สามคั คีธรรม ใชแ้ รงงงานอาสา และใชแ้ นวคิดในเรอื่ งการพึ่งตนเองตามแนว พุทธ รวมไปถึงการลดการเบียดเบียนปาณาติบาตร ผ่านธนาคารโคกระบือ ซึ่งปัจจุบันมีวัว อยู่ใน ระบบวิสาหกจิ ชมุ ชนเกินกวา่ 1 พนั ตวั ทก่ี ระจายไปเปน็ ทุนทางสังคมอาชพี ให้แก่ชมุ ชนเกินกว่า 27 กล่มุ วิสาหกิจชุมชนธนาคารวัว เป็นตน้ ศูนย์การเรียนรู้ได้มีแนวทางในการสร้างองค์ความรู้ใน 3 ส่วนคือ ความรู้เพื่อการผลิต อัน ประกอบด้วยการผลิต การแปรรูป และการตลอดเชิงพาณิชย์ เพื่อการยังชีพการบริหารจัดการท่ี ผสมผสานระหว่างการนำศาสตร์การจัดการสมัยใหม่ แล้วนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามา ประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการ เป็นการศึกษาคล้ายการศึกษานอกระบบ เศรษฐศาสตร์แนวพุทธ หรือเศรษฐศาสตร์มัชฌิมา ที่เน้นส่งเสริมให้เกิดการผลิตและบริโภคด้วยปัญญา ไม่เบียดเบียนท้ัง ตนเองและคนอื่นตามแบบแผนทางพระพุทธศาสนา โดยมเี ป้าหมายกำไรเป็นคุณภาพชีวิต สามคั คี อยู่ ร่วมกันอย่างสันตสิ ุข แนวทางการพัฒนามนษุ ยใ์ นทางที่ถกู ตอ้ ง “สัมมาอาชวี ะ” หนึ่งในอริยมรรคมี องคแ์ ปด จัดไดว้ า่ เป็นสิง่ ที่สอดคลอ้ งกับหลกั พุทธเศรษฐศาสตรใ์ นคำสอนของพระพทุ ธเจา้ มุ่งสสู่ งั คมท่ี มคี วามสุขอย่างย่ังยืน หรือท่ีเรยี กวา่ “สงั คมสีเขียว” การสร้างอารยธรรมวิธแี กพ่ ุทธศาสนกิ ชน นำไป จัดตั้งกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ การประยุกต์พุทธเศรษฐศาสตร์กับเศรษฐศาสตร์ในสาขาต่าง ๆ โดย ยกตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม หลักพุทธเศรษฐศาสตร์ในสังคมไทย เศรษฐศาสตร์ตามแนวพุทธเป็น
พระครููพิิศิษิ ฏ์ป์ ระชานาถ, ดร 97 เครื่องมือที่เหมาะสมในการจัดการกับปัญหาที่เรา การพลังงานชุมชนของชุมชนต้นแบบที่มี การ ปฏิบัติเป็นเลิศด้านการจัดการพลังงานชุมชน และเพื่อนำบทเรียนที่ได้มาประยุกต์ร่วมกับแนวทาง พุทธเศรษฐศาสตร์สำหรับพัฒนาตัวแบบในอุดมคติเกี่ยวกับการจัดการพลังงานชุมชนที่ยั่งยืน ระเบยี บวธิ วี จิ ัยใชว้ ธิ ีการวิจัยเชิงคุณภาพ การพง่ึ พาตนเอง ความสุข ความขยัน หม่ันเพียร ประกอบ อาชีพที่สุจริต การปล่อยวาง ไม่ยึดติด ไม่โลภ ความยั่งยืนของสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยใช้วิธีการ สื่อสาร 2 วธิ ี คอื (1) วธิ ี การสื่อสารดว้ ยวัจนะ และ (2) วิธีการสอื่ สารด้วยอวัจนะ และรูปแบบการ สื่อสาร แนวพุทธ เป็นเศรษฐศาสตร์มัชฌิมาปฏิปทา (สายกลาง) หรือ ดุลยภาพ เช่น ดุลยภาพ ระหว่างความต้องการของมนุษย์กับทรัพยากรธรรมชาติ เป็นเศรษฐศาสตร์ อหิงสา เอื้อ อาทร เศรษฐศาสตรอ์ หิงสา หมายถึง เศรษฐศาสตร์ท่ไี มม่ ีการเบียดเบียน ตนเองหรือหลักของศีล ๕ มาจบั คอื ไมม่ กี ารเบียดเบียนผู้อ่ืน เพ่ือสนับสนุนวา่ ความศรัทธาในพุทธศาสนาสามารถนำไปสู่การ เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนใน โดยมีรูปแบบที่พึงประสงค์ของเกษตรกร 8 ด้าน คือ 1) ด้าน ความขยัน 2) ด้านการประหยัด 3) ด้านความซื่อสัตย์ 4) ด้านความอดทน 5) ด้านวินัย 6) ด้าน คณุ ธรรม การพัฒนาทุนมนุษย์ตามเศรษฐศาสตร์เชิงพุทธทีศ่ ูนย์การเรียนรู้หลวงพ่อแดง นันทิโย จังหวดั สุรนิ ทร์ ในงานศึกษาเรื่อง นมนุษย์ในทางเศรษฐศาสตร์เชิงพุทธ (ธเนส เตชะเสน และพลวัฒน์ ชุม สุข, 2559) ท่ีเสนอแนวคิดในเร่อื ง “มนุษย์” (Human) จดั วา่ เป็น “ทนุ ” (Capital) ทส่ี ำคญั ท่ีสุดใน การขับเคลื่อน...ทุกหน่วยงานหรือองค์กรจึงต้องพ่ึงพิง ทุนมนุษย์ (Human Capital) เพื่อจะทำให้ หน่วยงานหรือองค์กรสามารถประสบ ความสำเร็จได้ในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ด้วยเหตุน้ีก็ยิ่งเป็น เหตุทำให้สินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ เช่น ความรู้ (Knowledge) ทักษะ (Skill) ความสามารถ (Competency) ตลอดจนประสบการณ์ (Experiences) กลายเป็นสิ่ง ที่มีพลังอำนาจมหาศาล ซึ่ง สิง่ ทีก่ ล่าวมาทงั้ หมด ไม่วา่ จะเป็น ความรู้ ทักษะ ความสามารถ ล้วนแล้วแต่เป็นทรัพย์ทีมีอยู่ในตัว มนุษย์ทั้งนั้น รวมเรียกว่า “ทุนมนุษย์” (Human Capital) แนวคิดดังกล่าวไปสัมพันธ์กับแนวทาง ของศูนย์การเรียนรู้ หรือวิธีการเรียนรู้ ที่จะขับเคลื่อนชุมชนไปข้างหน้าอย่างมีเป้าหมายเพื่อ ประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของชุมชน โดยมีชุมชนเป็นเงื่อนไขขับเคลื่อน ทำให้คนมีศักยภาพในตัวเอง ในฐานะเป็นผู้ผลิต ผบู้ ริโภค และพ่ึงตนเองได้ แนวคิดในเรื่องความเป็น “ประชานาถ” อันเป็นราช ทินนามในสมณศักดิ์ของหลวงพ่อแดง มีความหมายเป็นที่พึ่งให้ชาวบ้านได้ (ประชานาถ) พึ่งทาง
98 ดร.หลวงพ่อ่ แดง พระสงฆ์์ไม่ท่ ิ้ง�้ ประชาชน ความคดิ สติปัญญาเพอื่ ภายใตก้ รอบคิดการบำเพ็ญประโยชน์ พระไมท่ ้ิงโยม (ปรหิตประโยชน์) การ จัดการตนเอง พึ่งตนเองได้ (อัตตนาถ) และจัดการชุมชนภายใต้วิถีทางสังคม เอื้อเฟื้อ แบ่งปัน เสียสละ ไม่เอาเปรยี บ ไมเ่ บยี ดเบียน มีสามัคคธี รรม และอยู่รว่ มกันอย่างสันติสุข อันเป็นเป้าหมาย ของทนุ ทางสังคมท่มี าจากพระสงฆ์ วดั ในพระพทุ ธศาสนาโดยเฉพาะวัดอินทาราม สู่ทุนในการนำไป พฒั นาคนในชมุ ชนต้นแบบที่ จงั หวัดสรุ นิ ทร์ และขับเคล่อื นให้พง่ี ตนเองได้ เป็นหลักและจะเป็นศูนย์ กาเรียนรู้ให้เกิดขึ้นแก่ชมุ ชนได้ด้วยเช่นกัน ภาพท่ี 3 แปลงนาสาธติ ศนู ยก์ ารเรยี นรู้บา้ นหนองอดี ำ โคกหนองนาพทุ ธเกษตร มลู นิธิวัดอินทาราม ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จงั หวัดสรุ นิ ทร์ ทม่ี า: วัดอินทาราม (2564) ภาพท่ี 4 การเก็บเกี่ยวจากแรงงานอาสา ทไี่ ด้ทง้ั ผลการผลิต จิตอาสา และเปา้ หมายเชิงการพฒั นาที่ ศนู ยพ์ ฒั นาเกษตรพง่ึ ตนเอง ตามแนวพทุ ธ จังหวัดสรุ ินทร์ ที่มา: วัดอินทาราม (2564)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108