พมิ พค์ รั้งที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ พมิ พค์ ร้งั ที่ ๒ จานวน ๓,๐๐๐ เลม่ ธันวาคม ๒๕๖๒ จานวน ๕,๐๐๐ เล่ม สแกนเพ่อื ดาวน์โหลดเอกสารฉบบั น้ี
คำนำ รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย มาตรา ๖๕ กาหนดใหร้ ัฐพึงจัดให้มียุทธศาสตร์ชาติเป็น เป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อใช้เป็นกรอบในการจัดทาแผน ต่าง ๆ ให้สอดคล้องและบูรณาการกันเพ่ือให้เกิดเป็นพลังผลักดันร่วมกันไปสู่เป้าหมายดังกล่าว โดยให้เป็นไปตามท่ีกาหนดในกฎหมายว่าด้วยการจัดทายุทธศาสตร์ชาติ และต่อมาได้มีการตรา พระราชบัญญัติการจัดทายุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยกาหนดให้มีการแต่งต้ังคณะกรรมการ ยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อรับผิดชอบในการจัดทาร่างยุทธศาสตร์ชาติ และต่อมาได้มีพระราชโองการโปรด เกล้าฯ ให้ใช้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๘๐) และประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๕ ตอนท่ี ๘๒ ก ประกาศ เรื่อง ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๘๐) เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ดังน้ัน เพ่ือให้เป็นไปตามมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติการจัดทายุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ เม่ือมีพระบรมราชโองการประกาศใช้ยุทธศาสตร์ชาติแล้ว ให้คณะกรรมการจัดทา ยทุ ธศาสตร์ชาตแิ ตล่ ะด้าน จดั ทาแผนแม่บทเพอื่ บรรลุเป้าหมายตามที่กาหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ เสนอต่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบ และเสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้ ความเห็นชอบและประกาศในราชกจิ จานุเบกษา แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ เป็นแผนแม่บทเพ่ือบรรลุเป้าหมายตามท่ีกาหนดไว้ใน ยทุ ธศาสตร์ชาติ มีทั้งส้นิ ๒๓ แผนแม่บท ซ่ึงจะมีผลผูกพันต่อหน่วยงานของรัฐท่ีเก่ียวข้องท่ีจะต้อง ปฏิบัติให้เป็นไปตามน้ัน รวมทั้งการจัดทางบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณต้องสอดคล้อง กับแผนแม่บทซึ่งจะนาไปสู่การปฏิบัติ เพื่อให้ประเทศไทยบรรลุวิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ภายในช่วงเวลาดังกล่าว เพ่ือความสขุ ของคนไทยทุกคน
บทนำ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติเป็นส่วนสาคัญในการถ่ายทอดเป้าหมายและประเด็นยุทธศาสตร์ ของยุทธศาสตร์ชาติลงสู่แผนระดับต่าง ๆ ต่อไป ซ่ึงได้คานึงถึงประเด็นร่วมหรือประเด็นตัดข้ามยุทธศาสตร์ และการประสานเช่ือมโยงเป้าหมายของแต่ละแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติให้มีความสอดคล้องไปใน ทิศทางเดียวกัน โดยแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติจะประกอบด้วย สถานการณ์และแนวโน้มที่เกี่ยวข้อง ของแผนแม่บท เป้าหมายและตัวชี้วัดในการดาเนินการซึ่งแบ่งช่วงเวลาออกเป็น ๔ ช่วง ช่วงละ ๕ ปี รวมท้ัง กาหนดแนวทางการพัฒนา และแผนงาน/โครงการท่ีสาคัญของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ เพ่ือเป็น กร อบ ใน ก า ร ด า เ นิ น กา ร ขอ ง ห น่ ว ย ง า น ที่ เ ก่ีย ว ข้อ ง ให้ บ ร ร ลุ เ ป้ า ห ม า ย ก า ร พั ฒ น า ป ร ะ เ ทศ ท่ีกา ห น ด ไว้ ใ น ยุทธศาสตร์ชาติว่า “ประเทศชาติม่ันคง ประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจพัฒนาอย่างต่อเน่ือง สังคมเป็นธรรม ฐานทรพั ยากรธรรมชาติย่ังยืน” โดยยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ พัฒนาคนในทุกมิติและ ในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม สร้างการเติบโตบน คุณภาพชีวติ ทีเ่ ป็นมิตรกับสิ่งแวดลอ้ ม และมีภาครัฐของประชาชนเพื่อประชาชนและประโยชนส์ ่วนรวม” แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ มีจานวนรวม ๒๓ ฉบับ ประกอบด้วย (๑) ความมั่นคง (๒) การ ต่างประเทศ (๓) การเกษตร (๔) อุตสาหกรรรมและบริการแห่งอนาคต (๕) การท่องเที่ยว (๖) พ้ืนที่และเมือง น่าอย่อู ัจฉริยะ (๗) โครงสร้างพื้นฐาน ระบบโลจิสติกส์ และดิจิทัล (๘) ผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมยุคใหม่ (๙) เขตเศรษฐกิจพิเศษ (๑๐) การปรับเปลี่ยนค่านิยม และวัฒนธรรม (๑๑) ศักยภาพ คนตลอดช่วงชวี ิต (๑๒) การพัฒนาการเรียนรู้ (๑๓) การเสริมสร้างให้คนไทยมีสุขภาวะท่ีดี (๑๔) ศักยภาพการ กฬี า (๑๕) พลงั ทางสังคม (๑๖) เศรษฐกิจฐานราก (๑๗) ความเสมอภาคและหลักประกันทางสังคม (๑๘) การ เติบโตอย่างย่ังยืน (๑๙) การบริหารจัดการน้าท้ังระบบ (๒๐) การบริการประชาชนและประสิทธิภาพภาครัฐ (๒๑) การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ (๒๒) กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และ (๒๓) การวิจัย และพัฒนานวตั กรรม แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติจะเป็นกลไกสาคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติให้บรรลุตาม เปา้ หมายท่วี างไว้ในปี ๒๕๘๐ ซง่ึ ประเทศและประชาชนทกุ กลมุ่ วัยจะได้รบั ประโยชน์ ดงั น้ี วัยครรภ์มารดาถึงปฐมวัย เด็กและมารดาทุกคนจะได้รับการดูแลต้ังแต่เริ่มตั้งครรภ์ที่ถูกต้องตามหลัก วิชาการ โภชนาการ และสมวัย ผ่านระบบบริการสาธารณะท่ีมีกระจายครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคอย่างท่ัวถึง ด้วยบริการและเทคโนโลยีทางการแพทย์ท่ีทันสมัย และมีคุณภาพ เด็กจะเกิดมาท่ามกลางสภาพแวดล้อมทาง สังคมท่ีปลอดภัย สงบสุข เติบโตในสภาพแวดล้อมธรรมชาติท่ีดี มีทรัพยากรธรรมชาติที่จาเป็นต่อการเติบโต ได้รับการเล้ียงดูจากทั้งพ่อและแม่ของเด็ก ท่ีจะมีเวลาให้กับลูกของตนมากข้ึน พร้อมทั้งมีส่ิงอานวยความ สะดวกตา่ ง ๆ ท้ังเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเลี้ยงดูและศูนย์เด็กเล็กที่พ่อแม่ทุกคนสามารถเข้าถึง มีคุณภาพ และเอ้อื ตอ่ การเลย้ี งดเู ด็กให้เตบิ โตได้อยา่ งดี มีทกั ษะ สุขภาพกายและสุขภาพใจทดี่ ีพร้อม มีพัฒนาสมวยั วัยประถม ถึง มัธยมต้น ซ่ึงเป็นช่วงการศึกษาภาคบังคับ จะได้รับการศึกษาท่ีมีคุณภาพ มีหลักสูตร แกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐานที่มุ่งเน้นการพัฒนาสมรรถนะหลักท่ีจาเป็นต่อผู้เรียน มีดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพ่ือการเรียนรู้แห่งชาติท่ีสามารถขยายความรู้และวิธีการเรียนไปสู่โรงเรียน นักเรียน และครูที่ครอบคลุม ทั่วประเทศ รวมทั้ง ผู้เรียนในพ้ืนท่ีห่างไกลและขาดแคลนทุนทรัพย์จะได้รับการโอกาสศึกษาที่เท่าเทียมและ ทั่วถึงในทุก ๆ พื้นท่ี เพ่ือให้นักเรียนได้รับการปูพื้นฐานความพร้อมท้ังกาย ใจ และปัญญาให้พร้อมรองรับการ พัฒนาของช่วงวัยต่อไป และได้รับการปลูกฝังวัฒนธรรมการใช้ชีวิตในสังคมท่ีดี ให้เป็นคนดี มีจิตสาธารณะ มีความมคี วามรบั ผิดชอบตอ่ ส่วนรวม มวี ินยั พร้อมเตบิ โตเป็นคนทีม่ ีคุณภาพของประเทศต่อไป
วยั รนุ่ นกั ศึกษา จะไดร้ ับการเรยี นรู้ให้มีทกั ษะและองค์ความรู้ที่จาเป็นต่อการเปล่ียนแปลงในศตวรรษ ที่ ๒๑ อย่างมีคุณภาพ ได้รับการพัฒนาวินัย คุณธรรม จริยธรรม ตระหนักถึงความสาคัญของการมี สุขภาวะท่ีดี ได้รับความรู้และการพัฒนาสมรรถนะที่สอดคล้องกับความต้องการภาคการผลิตของประเทศ สร้างผู้ประกอบการ เพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ประเทศพัฒนาแล้วด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีแห่งอนาคต ผ่านสถาบนั ศกึ ษายคุ ใหม่ทาหน้าที่ให้ความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ความรู้ในทางวิชาการท่ีสามารถใช้องค์ความรู้ ทางวิชาการในการวิจัยและสร้างสรรค์นวัตกรรมในด้านวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์และใส่ใจ ศิลปะ วัฒนธรรมท้องถิ่น ที่แสดงถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทย ที่สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ สู่การสร้าง ความสามารถในการแขง่ ขันของประเทศท่ีทดั เทยี มกับนานาประเทศทวั่ โลก วัยทางาน จะได้รับการพฒั นาศักยภาพท่ีจาเป็นต่อการทางานและการใช้ชีวิตอย่างต่อเน่ือง ให้เป็นคนไทย ท่ีมีทักษะสูง มีองค์ความรู้ฐานสมรรถนะท่ีสอดคล้องกับความต้องการของตลาดงานในทุกสายอาชีพ ท้ังใน ภาครัฐและเอกชน รวมทั้งจะได้รับการสนับสนุนให้มีช่องทางการหารายได้ที่หลากหลายขึ้น เพ่ือสร้างความ มั่นคงทางรายได้ อาทิ ธุรกิจสตาร์ทอัพท่ีกาลังมีแนวโน้มเพ่ิมสูงขึ้นอย่างต่อเน่ือง ซ่ึงจะสามารถเป็นช่องทาง ธุรกิจท่ีขยายวงกว้างไปยังต่างประเทศ มีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงในมิติต่าง ๆ ท่ีจะเกิดขึ้นในอนาคต ขณะเดียวกนั จะไดร้ บั ประโยชน์จากการกระจายความเจริญที่จะไปส่ทู กุ ภูมิภาคของประเทศในอนาคต ส่งผลให้ ประชากรวัยทางานสามารถทางานได้ในภูมิลาเนาของตนเอง มีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกับครอบครัว ทาให้ ครอบครัวมีความอยู่ดีมีสุขเพ่ิมมากขึ้น โดยท่ีแต่ละพื้นท่ี/ภูมิภาคจะได้รับการพัฒนาให้สอดคล้องกับศักยภาพ ทัง้ ในภาคอุตสาหกรรม บรกิ ารและท่องเท่ียว และภาคเกษตร มีโครงสร้างพ้ืนฐานท่ีเกี่ยวข้องท่ีเอ้ือและอานวย ความสะดวกตอ่ การใชช้ วี ติ และการทางาน วัยสูงอายุ จะได้รับการดูแลท้ังด้านสุขภาพ การดารงชีวิตที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยของผู้สูงอายุ ทั้งผู้สูงอายุวัยต้นอายุ ผู้สูงอายุวัยกลางอายุ และผู้สูงอายุวัยปลาย มีอุปกรณ์ที่ได้รับการพัฒนาให้มีความ ทันสมัย มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ เพื่ออานวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุให้สามารถ ดาเนินชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ได้รับการบริการสาธารณะท่ีมีประสิทธิภาพและ คุณภาพ อยูใ่ นสภาพแวดล้อมท่ีเป็นมิตรและเอื้ออานวยต่อการดาเนินชีวิต ส่งเสริมและสนับสุนนให้มีส่วนร่วม ทางสังคม มีสขุ ภาพกายและใจท่ีดี และเป็นแรงพลงั ในการช่วยขับเคลือ่ นและพัฒนาประเทศ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติทั้ง ๒๓ ฉบับ เป็นการกาหนดประเด็นในลักษณะที่มีความบูรณา การและเชื่อมโยงระหว่างยุทธศาสตร์ชาติด้านที่เก่ียวข้อง และประเด็นการพัฒนาจะไม่มีความซ้าซ้อนกัน ระหว่างแผนแม่บทฯ เพ่ือให้ส่วนราชการสามารถนาแผนแม่บทฯ ไปใช้ในทางปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกนั การเกดิ ความสับสน โดยแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติเป็นแผนระดับที่ ๒ ที่มีความสาคัญใน การเป็นแนวทางการพัฒนาและขับเคล่ือนประเทศเพ่ือให้บรรลุตามเป้าหมายของยุทธศาสตร์ และถ่ายทอด ไปสู่แนวทางในการปฏิบัติในแผนระดับที่ ๓ ของหน่วยงาน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๐ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติทั้ง ๒๓ ฉบับจึงมีการกาหนดองค์ประกอบของแผนตามหลักการ ความสัมพันธ์เชิงเหตุผลท่ีต้องมีการระบุแนวทางการพัฒนาและการดาเนินแผนงาน/โครงการต่าง ๆ ที่ต้อง สามารถสะท้อนผลสัมฤทธิ์ของเป้าหมายของยุทธศาสตรช์ าติดา้ นท่ีเกย่ี วขอ้ งได้อยา่ งเป็นรปู ธรรม
โครงสร้างของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติทั้ง ๒๓ ฉบับมีองค์ประกอบหลัก ๒ ส่วน ได้แก่ (๑) ประเด็นแผนแม่บท ประกอบด้วย เป้าหมาย ตัวชี้วัด และค่าเป้าหมายในระดับประเด็น เพ่ือใช้ติดตาม ประเมินผลการดาเนินงานในระดับผลลัพธ์ขั้นกลาง และ (๒) แผนย่อยของแผนแม่บทฯ ประกอบด้วย เป้าหมาย ตัวชี้วัด และค่าเป้าหมายในระดับ เพ่ือใช้ติดตามประเมินผลการดาเนินงานในระดับผลลัพธ์ขั้นต้น ดังนี้ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติแต่ละฉบับตอบเป้าหมายการพัฒนาของยุทธศาสตร์ชาติด้านท่ี เกี่ยวข้องโดยตรง รวมถึงมีส่วนในการสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติด้านอื่น ๆ โดยสรุป ได้ตามแผนภาพ
สารบญั หนา้ 1 ๑. ความมน่ั คง 5 ๒. การตา่ งประเทศ ๙ ๓. การเกษตร 1๔ ๔. อตุ สาหกรรมและบริการแหง่ อนาคต 1๙ ๕. การท่องเท่ยี ว ๒๔ ๖. พนื้ ที่และเมืองน่าอยอู่ ัจฉรยิ ะ 2๙ ๗. โครงสร้างพนื้ ฐาน ระบบโลจสิ ติกส์ และดจิ ิทลั ๓๕ ๘. ผปู้ ระกอบการและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมยคุ ใหม่ 3๘ ๙. เขตเศรษฐกิจพเิ ศษ ๔๓ ๑๐. การปรับเปล่ยี นคา่ นยิ มและวฒั นธรรม ๔๖ ๑๑. ศกั ยภาพคนตลอดช่วงชีวิต ๕๐ ๑๒. การพฒั นาการเรียนรู้ ๕๔ ๑๓. การเสรมิ สรา้ งให้คนไทยมสี ขุ ภาวะที่ดี ๕๗ ๑๔. ศกั ยภาพการกีฬา 5๙ ๑๕. พลงั ทางสังคม ๖๒ ๑๖. เศรษฐกจิ ฐานราก ๖๕ ๑๗. ความเสมอภาคและหลักประกันทางสงั คม ๖๘ ๑๘. การเตบิ โตอยา่ งย่ังยืน ๗๒ ๑๙. การบริหารจดั การนา้ ท้ังระบบ ๗๖ ๒๐. การบรกิ ารประชาชนและประสทิ ธภิ าพภาครฐั ๘๐ ๒๑. การตอ่ ต้านการทุจรติ และประพฤติมิชอบ ๘๔ ๒๒. กฎหมายและกระบวนการยตุ ิธรรม ๘๘ ๒๓. การวจิ ยั และพฒั นานวัตกรรม
๑. ประเดน็ ความมนั่ คง “แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นความมั่นคง” ถือเป็นกรอบแนวทางการดาเนินการหลัก ท่ีจะนาไปสู่จุดหมายปลายทางในภาพรวมที่เป็นรูปธรรมชัดเจนในระยะ ๒๐ ปี ตามที่ยุทธศาสตร์ชาติ ด้านความม่ันคงได้กาหนดเอาไว้ ซึ่งก็คือ “ประเทศชาติม่ันคง ประชาชนมีความสุข” โดยมีเป้าหมายสาคัญ ประกอบด้วย (๑) ประชาชนอยู่ดี กินดี และมีความสุข (๒) บ้านเมืองมีความม่ันคงในทุกมิติและทุกระดับ (๓) กองทัพ หน่วยงานด้านความม่ันคง ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน มีความพร้อมในการป้องกันและ แก้ไขปัญหาความม่ันคง (๔) ประเทศไทยมีบทบาทด้านความมั่นคงเป็นที่ช่ืนชมและได้รับการยอมรับ โดยประชาคมระหว่างประเทศ และ (๕) การบริหารจัดการความม่ันคงมีผลสาเร็จท่ีเป็นรูปธรรมอย่างมี ประสทิ ธภิ าพ เพ่ือให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวข้างต้น จึงได้กาหนดแผนย่อย แนวทางการพัฒนา เป้าหมายและตัวช้ีวัด ตลอดถงึ แผนงาน โครงการ และกิจกรรมสาคญั ทจ่ี ะต้องดาเนนิ การให้บงั เกิดผลเป็นรูปธรรม ในห้วงระยะเวลา ๕ - ๑๐ - ๑๕ - ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๘๐) ประกอบด้วย ในช่วงปี พ.ศ.๒๕๖๑ - ๒๕๖๕ ดาเนินการ “ปรับ สภาพแวดล้อม พร้อมแก้ไขปัญหา” ให้ลดระดับลงอย่างมีนัยยะสาคัญ สาหรับในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๖๖ - ๒๕๗๐ จะดาเนินการให้ “ปัญหาเก่าหมดไป ปัญหาใหม่ไม่เกิด” เอ้ือต่อการบริหารประเทศมากย่ิงขึ้น เพ่ือเป็นฐาน นาไปส่เู ป้าหมายในช่วงปี พ.ศ.๒๕๗๑ – ๒๕๗๕ ท่ีกาหนดไว้ว่า “ประเทศชาติพัฒนา ปวงประชาร่วมผลักดัน” จนกระทง่ั สามารถบรรลเุ ป้าหมายสดุ ทา้ ย ในห้วงปี พ.ศ.๒๕๗๖ – ๒๕๘๐ ท่วี ่า “ประเทศชาติ มนั่ คง ประชาชน มีความสขุ ” สถานการณ์ ดัชนสี ันติภาพโลก (อนั ดบั ) ดชั นีชี้วดั ความสขุ ของประชากรไทย (อันดบั ) ๒๕๖๒ ๑๑๖ ๒๕๖๒ ๒๕๖๑ ๑๑๓ ๒๕๖๑ ๕๒ ๒๕๖๐ ๑๒๐ ๒๕๖๐ ๔๖ ๒๕๕๙ ๑๒๕ ๒๕๕๙ ๓๒ ๑๐๕ ๑๑๐ ๑๑๕ ๑๒๐ ๑๒๕ ๑๓๐ ๐ ๒๐ ๔๐ ๖๐ ทมี่ า : Global Peace Index (GPI) 2019 (๒๕๖๒) ท่ีมา : World Happiness Report 2019 (๒๕๖๒) Institute for Economics & Peace TheUnited Nations Sustainable Development Solution Networks หมายเหตุ : การจัดอันดับประกาศตามปขี องรายงาน หมายเหตุ : การจัดอนั ดบั อา้ งองิ ขอ้ มลู ห้วงปี ๒๕๕๙ – ๒๕๖๑ เปา้ หมาย ๑. ประเทศชาติมีความมั่นคงในทุกมติ ิ และทุกระดับเพ่ิมขึน้ ๒. ประชาชนอยดู่ ี กินดี และมคี วามสุขดขี นึ้ ตัวชวี้ ดั และคา่ เปา้ หมาย ๑
โดยสาระสาคญั ประกอบไปดว้ ยแผนยอ่ ย จานวนท้งั ส้ิน ๕ แผนยอ่ ย ไดแ้ ก่ การรักษาความสงบภายในประเทศ เพื่อสร้างความสงบให้เกิดขึ้นในประเทศชาติบ้านเมือง เอื้อต่อ การบริหารและพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายท่ีกาหนด สังคมมีความเข้มแข็งสามัคคี ปรองดอง ประชาชนอยู่ดี กินดี และมีความสุข โดยมีแนวคิดในการดาเนินการท่ีสาคัญคือการสร้างความมั่นคง ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สร้างความรักความสามัคคี ความสานึกจงรักภักดี และความภาคภูมิใจในชาติ ให้เกิดขึ้นกับประชาชนทุกหมู่เหล่า ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขท่ีมีเสถียรภาพและธรรมาภิบาล เห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่า ประโยชน์ส่วนตน ตลอดถึงการพัฒนาปรบั ปรงุ กลไกการบริหารจดั การทีม่ ปี ระสิทธภิ าพอย่างเปน็ รปู ธรรม ประชาชนมคี วามมนั่ คง ปลอดภยั ในชวี ิต และทรพั ย์สนิ เพิ่มขน้ึ ระดับความมัน่ คงปลอดภยั ภายในประเทศและศกั ยภาพตารวจระดบั สากล (WISPI) ดีข้ึน (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) อยใู่ นลาดับ อย่ใู นลาดบั อยู่ในลาดบั อยู่ในลาดบั ๑ ใน ๕๕ ของโลก ๑ ใน ๔๕ ของโลก ๑ ใน ๓๕ ของโลก ๑ ใน ๒๕ ของโลก คนไทยจงรักภักดี ซื่อสตั ย์ พรอ้ มธารงรักษาไว้ซ่ึงสถาบันหลักของชาติ สถาบนั ศาสนาเปน็ ทเ่ี คารพ ยดึ เหนย่ี วจิตใจของคนไทยสูงขึ้น ตัวชีว้ ดั ระดับทุนทางสงั คม (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) - - -- หมายเหตุ : อย่รู ะหวา่ งการตรวจสอบ/จัดทาค่าเปา้ หมาย การเมืองมเี สถยี รภาพและธรรมาภิบาลสูงข้ึน ประสิทธิผลของรัฐบาลจากการประเมนิ ของธนาคารโลก (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) ได้รบั การประเมิน ได้รบั การประเมนิ ไดร้ บั การประเมนิ ไดร้ ับการประเมนิ ไม่ตา่ กวา่ ร้อยละ ๗๐ ไม่ต่ากว่ารอ้ ยละ ๗๕ ไมต่ า่ กว่ารอ้ ยละ ๘๐ ไม่ตา่ กว่าร้อยละ ๘๐ การป้องกันและแก้ไขปัญหาท่ีมีผลกระทบต่อความม่ันคง เพื่อเร่งรัดดาเนินการแก้ไขปัญหา ด้านความม่ันคงท่ีมีอยู่ในปัจจุบันอย่างจริงจังให้หมดไปในที่สุด (ภายใน ๑๐ ปี) พร้อมท้ังพัฒนากลไกเฝ้าระวัง แจง้ เตือน ปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคง ท่ีอาจจะเกิดข้ึนใหม่อย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงพิทักษ์รักษา ไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งอาณาเขตและเขตที่ประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย เกยี รติภมู แิ ละผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคงของรัฐ และความสงบเรียบร้อยของประชาชน และการพัฒนา ประเทศ ตามท่ีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยมีแนวคิดในการดาเนินการที่สาคัญคือ การวิเคราะห์และระบุสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาในแต่ละเรื่องให้ชัดเจน วางแผนบูรณาการในการแก้ไขปัญหา ตามลาดบั ความเรง่ ดว่ นของปญั หา มีการติดตามตรวจสอบที่เป็นรูปธรรม ตลอดจนพัฒนากลไกในการเฝ้าระวัง แจง้ เตอื น ปอ้ งกนั และแก้ไขปญั หาทั้งท่มี อี ยู่ในปัจจุบนั และอาจจะเกดิ ข้ึนใหม่ใหช้ ัดเจนและมปี ระสทิ ธิภาพ ปญั หาความม่นั คงทีม่ ีอยใู่ นปัจจบุ นั (เชน่ ปัญหายาเสพตดิ ความมั่นคงทางไซเบอร์ การค้ามนษุ ย์ ฯลฯ) ได้รับการแก้ไขจนไม่สง่ ผลกระทบต่อการบริหารและพฒั นาประเทศ ระดบั ความสาเร็จของการแกไ้ ขปญั หาความม่ันคงในปัจจุบนั (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) ดขี ึน้ อย่างนอ้ ยรอ้ ยละ ๕๐ ดขี ึ้นอยา่ งต่อเน่อื ง ดขี น้ึ อย่างตอ่ เน่ือง ดีขึ้นอยา่ งตอ่ เนอื่ ง จนไมส่ ง่ ผลกระทบ จนไมส่ ง่ ผลกระทบ จนไมส่ ่งผลกระทบ ต่อการบริหารประเทศ ต่อการบริหารประเทศ ต่อการบรหิ ารประเทศ ๒
ภาคใตม้ ีความสงบสุข ร่มเยน็ จานวนงบประมาณดา้ นความมน่ั คงในการแกไ้ ขปญั หาความรนุ แรงในพื้นที่จงั หวัดชายแดนใตล้ ดลง (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) ลดลงร้อยละ ๑๐ ตอ่ ปี ลดลงรอ้ ยละ ๑๐ ตอ่ ปี คงเหลอื เฉพาะงบประมาณ คงเหลอื เฉพาะงบประมาณ ตามภารกิจความมน่ั คงปกติ ตามภารกจิ ความม่ันคงปกติ สถติ ิจานวนเหตุรนุ แรง/สญู เสีย (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) ลดลงรอ้ ยละ เหตกุ ารณ์ความรุนแรงยตุ ิ ไมม่ เี หตุการณค์ วามรุนแรง ไมม่ เี หตุการณค์ วามรนุ แรง ๒๐ ต่อปี ภายในปี ๒๕๗๐ ทกุ กรณี ทกุ กรณี ปริมาณการเขา้ -ออกของนกั ท่องเท่ยี วในพนื้ ท่ีจงั หวดั ชายแดนใต้ (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) เพิม่ ข้ึนร้อยละ เพม่ิ ขน้ึ รอ้ ยละ เพ่มิ ขึน้ ร้อยละ เพม่ิ ขนึ้ ร้อยละ ๑๐ ต่อปี ๑๐ ตอ่ ปี ๑๐ ตอ่ ปี ๑๐ ตอ่ ปี (ปี ๖๑ - ๖๕) มูลคา่ การลงทนุ ในพ้ืนทจี่ ังหวัดชายแดนใต้ (ปี ๗๖ - ๘๐) เพิ่มข้นึ ร้อยละ เพ่มิ ขนึ้ รอ้ ยละ (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๗๑ - ๗๕) ๑๐ ตอ่ ปี เพ่มิ ข้นึ รอ้ ยละ เพ่มิ ข้นึ รอ้ ยละ ๑๐ ตอ่ ปี ๑๐ ต่อปี ๑๐ ตอ่ ปี การพัฒนาศักยภาพของประเทศ ให้พร้อมเผชิญภัยคุกคามที่กระทบต่อความม่ันคงของชาติ เพื่อยกระดบั ขีดความสามารถของกองทัพและหนว่ ยงานดา้ นความมั่นคงท้ังระบบของประเทศ ให้มีความพร้อม ในการป้องกันและรักษาอธิปไตยของประเทศ สามารถติดตาม แจ้งเตือน ป้องกัน แก้ไขปัญหา และรับมือกับ ภยั คุกคาม รวมท้ังปัญหาท่ีอาจกระทบต่อความม่นั คงในทุกมิติ ทุกรูปแบบ และทุกระดับความรุนแรง ตลอดถึง สามารถพทิ กั ษร์ ักษาไว้ซงึ่ สถาบันพระมหากษตั ริย์ เอกราช อธปิ ไตย บูรณภาพแห่งอาณาเขตและเขตท่ีประเทศ ไทยมีสิทธิอธิปไตย เกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ ความม่ันคงของรัฐ และความสงบเรียบร้อยของ ประชาชน และการพัฒนาประเทศ ได้ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย อย่างมี ประสิทธิภาพตามบทบาทหน้าที่ที่กาหนด โดยมีแนวคิดในการดาเนินการท่ีสาคัญคือพัฒนาระบบงาน ด้านการข่าวกรองให้มีประสิทธิภาพ สามารถติดตาม แจ้งเตือน ระงับยับยั้ง ป้องกันปัญหาและภัยคุกคาม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนจะเกิดเหตุการณ์หรือเหตุการณ์จะลุกลามต่อไป ในขณะเดียวกัน จะต้องมีแผน ในการพัฒนาศักยภาพกองทัพและหน่วยงานด้านความม่ันคง ทั้งคน เครื่องมือ/ยุทโธปกรณ์ แผนปฏิบัติการ ตลอดจนการฝึกและระบบการบริหารจัดการ ให้มีความพร้อมอย่างเพียงพอและเป็นรูปธรรมในการเผชิญกับ ภัยคุกคามต่าง ๆ ท่ีอาจเกิดข้ึน เช่น การป้องกันประเทศ ภัยจากการก่อการร้าย อาชญากรรมข้ามชาติ ตลอดจนสาธารณภัยและภัยพิบัติต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งจัดทาแนวทางในการบริหารจัดการ และ/หรอื แผนปฏิบัตกิ าร ในการเผชิญกับภยั คุกคามแต่ละมติ ใิ ห้เปน็ รปู ธรรมและมปี ระสิทธิภาพดว้ ย หนว่ ยงานด้านการขา่ วและประชาคมข่าวกรองทางานอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ และแผนเตรียมพรอ้ มแห่งชาติ มคี วามทันสมยั และปฏิบัติไดจ้ ริง ประสิทธภิ าพของหน่วยงานด้านการขา่ วและประชาคมข่าวกรอง (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) รอ้ ยละ ๘๐ ร้อยละ ๙๐ รอ้ ยละ ๙๐ รอ้ ยละ ๙๕ ๓
กองทพั และหน่วยงานด้านความม่ันคง มคี วามพรอ้ มสงู ข้ึนทจ่ี ะเผชญิ ภยั คกุ คามทกุ รปู แบบ ทกุ มติ ิ และทกุ ระดับความรุนแรง ระดบั ความพรอ้ มของกองทัพและหน่วยงานดา้ นความม่นั คง (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) ร้อยละ ๘๐ ร้อยละ ๘๕ ร้อยละ ๙๐ ร้อยละ ๙๕ การบูรณาการความร่วมมือ ด้านความม่ันคงกับอาเซียน และนานาชาติ รวมทั้งองค์กรภาครัฐและ มิใช่ภาครัฐ เพ่ือส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในทุกระดับเพ่ือเตรียมความพร้อมของไทยในการรับมือ ต่อความท้าทายด้านความม่ันคงในอนาคต โดยส่งเสริมความม่ันคงแบบองค์รวม รวมถึงความมั่นคงของ โครงสร้างพื้นฐานและของมนุษย์ควบคู่กับความม่ันคงทางทหาร และนอกเหนือจากการเสริมสร้าง ขีดความสามารถของประเทศไทยในการรับมือภัยคุกคามจากภายนอกแล้ว ยังจะต้องดาเนินการเชิงรุก ในด้านการเสริมสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยในภูมิภาคไปพร้อมกันด้วย เพ่ือมุ่งลดความเสี่ยงหรือ ปอ้ งกนั ปัญหาท่ีอาจสง่ ผลกระทบตอ่ ประเทศไทยในอนาคตได้ ประเทศไทยมีความม่นั คงและสามารถรบั มือกบั ความท้าทายจากภายนอกได้ทกุ รปู แบบสูงขน้ึ ระดบั ความสมั พันธ์และความร่วมมอื ดา้ นความมน่ั คงในทกุ มิติ กบั ประเทศมหาอานาจและประเทศท่ีมีความสาคัญทางยทุ ธศาสตร์ (อาทิ จานวนการเยือน จานวนความร่วมมือ ระดบั ความสัมพนั ธ)์ (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) มากข้ึน/ดีขน้ึ จากเดิม มากขึ้น/ดีข้นึ จากเดิม มากขนึ้ /ดีขึ้นจากเดมิ มากขน้ึ /ดขี ึ้นจากเดิม ร้อยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ ประเทศไทยมบี ทบาทในการกาหนดทิศทางและส่งเสริมเสถยี รภาพของภูมภิ าคเอเชยี ระดับความสาเรจ็ ของบทบาทไทยในการกาหนดทิศทางและสง่ เสรมิ เสถยี รภาพของภูมภิ าคเอเชยี (อาทิ จานวนขอ้ เสนอ/ขอ้ ริเร่ิมของไทยทไี่ ด้รบั การยอมรับ การเป็นผู้เล่นทส่ี าคญั ในกรอบอนภุ ูมภิ าคและภูมภิ าคกบั ต่างประเทศ) (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) มากขึ้น/ดขี ้นึ จากเดมิ มากขึน้ /ดีขึ้นจากเดมิ มากขนึ้ /ดีข้ึนจากเดมิ มากขึ้น/ดีขน้ึ จากเดิม รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ ร้อยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ การพฒั นากลไกการบรหิ ารจัดการความม่ันคงแบบองค์รวม มีวัตถุประสงค์เพ่ือให้มีกลไกในการแก้ไข ปัญหา ตลอดจนขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคงท่ีเป็นรูปธรรม โดยมีแนวคิดในการดาเนินการ ที่สาคัญคือการปรับโครงสร้าง บทบาท อานาจหน้าที่ และระบบการบริหารจัดการของสานักงานสภา ความม่ันคงแห่งชาติ กองอานวยการรักษาความม่ันคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และศูนย์อานวยกา ร รกั ษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ให้มีประสทิ ธิภาพมากขึน้ กลไกการบริหารจดั การความมน่ั คงมปี ระสิทธิภาพสูงข้นึ ระดบั ประสิทธิภาพการดาเนินงานของหน่วยงานดา้ นการจดั การความม่นั คง (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) รอ้ ยละ ๘๐ ร้อยละ ๑๐๐ รอ้ ยละ ๑๐๐ รอ้ ยละ ๑๐๐ ๔
๒. ประเด็น การตา่ งประเทศ การต่างประเทศมีส่วนขับเคลื่อนเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๘๐) เพอ่ื ให้ไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้วและมีความม่ันคง มั่งค่ัง และยั่งยืน โดยการดาเนินงานด้านการต่างประเทศ ให้ไทยมคี วามพร้อมและมีบทบาทเชิงรุกอย่างสร้างสรรค์เพื่อเป็นผู้เล่นสาคัญในเวทีโลก และมีความร่วมมือกับ นานาชาติในลักษณะที่จะเก้ือหนุนต่อความก้าวหน้าในทุก ๆ ด้านของไทยและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา ประชาคมโลกโดยรวม โดยปัจจุบันประเทศไทยมีบทบาทที่โดดเด่นมากข้ึนในเวทีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะ อยา่ งยิ่งในกลุ่มอนภุ ูมิภาคและภูมภิ าคเอเชีย และมีการขยายความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อาทิ เศรษฐกิจ การค้า การคมนาคม และทรพั ยากรมนษุ ย์ ทัง้ ในระดบั ทวิภาคแี ละพหุภาคี ขณะท่ี กระแสโลกาภิวัตน์ท่ีเข้มข้นข้ึน และ การเปลี่ยนแปลงข้ัวอานาจทางเศรษฐกิจเป็นหลายศูนย์เป็นเงื่อนไขสาคัญต่อการปรับตัวด้านการต่างประเทศ ของประเทศไทย ดังนั้นแผนแม่บทประเด็นการต่างประเทศ จึงได้กาหนดกรอบนโยบายต่างประเทศของไทย เพือ่ ให้ทุกส่วนราชการสามารถขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติทั้ง ๖ ด้านในมิติการต่างประเทศอย่างบูรณาการและ เป็นเอกภาพ โดยมเี ปา้ หมายสาคัญคือ “การต่างประเทศไทย มีเอกภาพ ทาให้ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งค่ัง ยั่งยืน มีมาตรฐานสากล และมีเกยี รติภูมิในประชาคมโลก” เปา้ หมาย การต่างประเทศไทยมเี อกภาพ ทาให้ประเทศไทยมคี วามม่ันคง มง่ั ค่ัง ยง่ั ยนื มีมาตรฐานสากล และมีเกยี รติภมู ิในประชาคมโลก ตัวชีว้ ัดและคา่ เปา้ หมาย ตัวชี้วัดการต่างประเทศไทย แผนแมบ่ ทภายใต้ยทุ ธศาสตร์ชาติประเดน็ การตา่ งประเทศได้กาหนดเป้าหมาย คือ การต่างประเทศไทย มีเอกภาพ ทาใหป้ ระเทศไทยมีความมั่นคง ม่ังคั่ง ย่ังยืน มีมาตรฐานสากล และมีเกียรติภูมิในประชาคมโลก ซึ่ง ประกอบด้วยประเด็นสาคัญ ๕ ประเด็นท่ีจะทาให้ไทยบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ได้แก่ (๑) มีความม่ันคง (๒) มี ความม่ังค่ัง ยั่งยืน (๓) มีมาตรฐานสากล (๔) มีสถานะและเกียรติภูมิ และ (๕) มีพลัง โดยแผนย่อยของแผน แม่บทภายใตย้ ุทธศาสตร์ชาตปิ ระเด็นการต่างประเทศจึงประกอบดว้ ย ๕ แผนยอ่ ยโดยสรปุ ดังนี้ ความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ มุ่งเสริมสร้างความมั่นคงของไทยและเสถียรภาพของ ภูมิภาคท่ามกลางภัยคุกคามทุกรูปแบบ โดยการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในทุกระดับเพ่ือส่งเสริม ความม่ันคงในทุกมิติและเตรียมความพร้อมของไทยในการรับมือต่อความท้าทายด้านความมั่นคงจากภายนอก นอกจากน้ี การต่างประเทศไทยยังจะต้องดาเนินการเชิงรุกในด้านการเสริมสร้างเสถียรภาพในภูมิภาคไปพร้อม กนั ดว้ ย เพือ่ ลดความเสยี่ งหรือปอ้ งกนั ปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมน่ั คงของไทยในอนาคตได้ ๕
ประเทศไทยมีความม่ันคงและสามารถรบั มอื กบั ความทา้ ทายจากภายนอกไดท้ ุกรปู แบบสงู ขนึ้ ระดบั ความสมั พนั ธแ์ ละความรว่ มมอื ด้านความมัน่ คงในทกุ มิติกบั ประเทศมหาอานาจและประเทศ ทม่ี ีความสาคญั ทางยทุ ธศาสตร์ (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) มากขึน้ /ดขี นึ้ มากข้นึ /ดขี ึ้น มากข้นึ /ดีขน้ึ มากข้ึน/ดขี น้ึ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ ร้อยละ ๕ - ๑๐ ร้อยละ ๕ - ๑๐ ร้อยละ ๕ - ๑๐ ประเทศไทยมีบทบาทในการกาหนดทิศทางและสง่ เสรมิ เสถียรภาพของภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งเปน็ ประเทศแนวหน้าใน ภมู ิภาคอาเซยี น ระดับความสาเรจ็ ของบทบาทไทยในการกาหนดทิศทางและสง่ เสริมเสถียรภาพของภมู ภิ าคเอเชีย (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) มากขน้ึ /ดขี ึ้น มากขนึ้ /ดีขนึ้ มากขนึ้ /ดีข้ึน มากข้ึน/ดีขึน้ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความร่วมมือเพ่ือการพัฒนาระหว่างประเทศ การเจริญเติบโตทาง เศรษฐกิจของไทยในชว่ งทีผ่ า่ นมามีส่วนสาคัญมาจากรายได้จากการส่งออกและการท่องเที่ยว ส่งผลให้เศรษฐกิจ ไทยไม่สามารถรักษาระดับการขยายตัวได้ในสภาวะท่ีเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงและต้องเผชิญกับการแข่งขันจาก ประเทศที่มีระดับค่าจ้างแรงงานต่ากว่าในยุคโลกาภิวัต น์ การท่ีไทยจะสามารถหลุดพ้นจาก “กับดักประเทศรายได้ปานกลาง” นี้ได้ต้องอาศัยการพัฒนาตามเป้าหมายที่มุ่งสร้างเศรษฐกิจที่เน้นคุณค่าท่ี ขับเคล่ือนด้วยนวัตกรรม รวมทั้งเร่งพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล นอกจากน้ี ประเทศไทยยังสามารถคว้าโอกาสทอง ของการที่เอเชียผงาดขึ้นเป็นภูมิภาคที่เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่โดดเด่นที่สุดโดยใช้ประโยชน์จากที่ต้ังเชิง ภูมิศาสตร์ของไทย ควบคู่กับการสร้างความเช่ือมโยงด้านการคมนาคมและโลจิสติกส์ในภูมิภาค และส่งเสริมความสะดวกในการประกอบธุรกิจในประเทศไทย รวมถึงการใช้ประโยชน์จากกรอบความร่วมมือ ระดบั ภูมภิ าคท่ีไทยเป็นสมาชิก เพ่ือส่งเสริมให้ไทยเป็นหน่ึงในศูนย์กลางการค้าและการลงทุนในเอเชียในอีก ๒๐ ปีขา้ งหน้า โดยเฉพาะในอตุ สาหกรรมและการบรกิ ารท่ไี ทยมีความได้เปรียบเชิงแข่งขัน นอกจากเศรษฐกิจไทยจะ พึ่งพาต่างประเทศในเชิงอุปสงค์แล้ว ไทยยังต้องพึ่งพาต่างประเทศในเชิงอุปทานอีกด้วย ไทยจึงจะต้องใช้ ประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และความเป็นหุ้นส่วนกับภาคส่วนต่าง ๆ ของต่างประเทศ เพื่อร่วมกัน บรรลเุ ปา้ หมายการพฒั นาทย่ี ่งั ยนื ของโลก ประเทศไทยเปน็ หน่ึงในศนู ย์กลางการค้า การลงทุน การบรกิ าร และความเชอ่ื มโยงท่ีสาคัญ ในภูมภิ าคเอเชีย โดยมีระบบเศรษฐกจิ ทเี่ น้นนวตั กรรมดขี ้ึน ระดับความสัมพนั ธ์และความร่วมมอื ด้านเศรษฐกจิ ความเชื่อมโยง และนวตั กรรมในกรอบทวิภาคี ภมู ิภาค และพหุภาคี (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) มากขึ้น/ดีขน้ึ มากขนึ้ /ดขี ึน้ มากขนึ้ /ดขี ้นึ มากขึ้น/ดขี ึ้น รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ ร้อยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ ร้อยละ ๕ - ๑๐ ประเทศไทยเปน็ ห้นุ ส่วนการพฒั นาทีย่ ั่งยนื กบั ต่างประเทศ เพือ่ รว่ มกันบรรลเุ ป้าหมายการพัฒนาทยี่ ั่งยนื ของโลก ระดบั ความสาเรจ็ ของบทบาทไทยในการเปน็ หนุ้ ส่วนการพฒั นาท่ยี ่ังยนื กับต่างประเทศ (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) มากข้นึ /ดีขน้ึ มากขนึ้ /ดขี ้ึน มากขน้ึ /ดขี ึ้น มากขึ้น/ดีขนึ้ ร้อยละ ๕ - ๑๐ ร้อยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ ๖
การพัฒนาที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและพันธกรณีระหว่างประเทศ สังคมโลกในปัจจุบันและใน อกี ๒๐ ปขี ้างหน้าจะมีการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว มีความเชื่อมโยงใกล้ชิด และการแข่งขันที่สูงมากข้ึนเร่ือย ๆ สง่ ผลใหก้ ารพัฒนาอย่างเปน็ เอกเทศจากกฎเกณฑแ์ ละมาตรฐานทไี่ ด้รับการยอมรับอย่างเป็นสากลเป็นเร่ืองที่ เป็นไปได้ยาก อยา่ งไรก็ดี กระบวนการพฒั นาเศรษฐกจิ โครงสรา้ ง ทรัพยากรมนุษย์ รวมถึงกฎระเบียบและการ บังคับใช้ของไทยในปัจจุบันยังขาดความสอดคล้องกับกฎระเบียบระหว่างประเทศ มาตรฐานสากล และ พนั ธกรณีระหวา่ งประเทศของไทยในหลายดา้ น ทั้งยังมีอีกหลายประเด็นที่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสาคัญต่อการ พัฒนาความร่วมมือทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมกับนานาประเทศ จึงมีความจาเป็นเป็นอย่างย่ิงท่ี กระบวนการพัฒนาโครงสร้าง และกฎระเบียบของไทยจะได้รับการพัฒนาและบังคับใช้ให้สอดคล้องกับ กฎระเบียบระหว่างประเทศ มาตรฐานสากล และพันธกรณีของไทย และในขณะเดียวกัน ภาคส่วนต่าง ๆ ของ ไทยก็ควรได้รับการพัฒนาองค์ความรู้และขีดความสามารถเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบ มาตรฐาน และพันธกรณีต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบตามมาท้ังในระยะสั้นและระยะยาว ทงั้ นี้ นอกเหนือจากการปฏบิ ตั ิตามมาตรฐานสากลแล้ว ไทยยังสามารถมีบทบาทในการร่วมเสนอแนวปฏิบัติท่ีดี ของไทยเพือ่ รว่ มพัฒนากฎระเบียบระหว่างประเทศ มาตรฐานสากล และพนั ธกรณตี า่ ง ๆ นี้ ไปพร้อมกนั ไดด้ ้วย ไทยมีการพฒั นาทส่ี อดคลอ้ งกับมาตรฐานสากลในทุกมิติและสามารถมบี ทบาทเชิงรุกในการร่วมกาหนดมาตรฐานสากล เพม่ิ ข้ึน ระดบั ความร่วมมือกับตา่ งประเทศในการปรบั ปรุง/พัฒนามาตรฐานภายในประเทศใหส้ อดคลอ้ งกับพันธกรณรี ะหวา่ ง ประเทศและมาตรฐานสากลท่ีสาคญั (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) มากขึ้น/ดีขน้ึ มากขน้ึ /ดีขนึ้ มากขึ้น/ดีข้นึ มากข้นึ /ดขี ึ้น รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ ร้อยละ ๕ - ๑๐ ระดับความสาเร็จของบทบาทไทยในการกาหนดบรรทัดฐานและมาตรฐานระหว่างประเทศ (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) มากขึน้ /ดีขึ้น มากข้นึ /ดีขน้ึ มากขน้ึ /ดขี ้ึน มากขนึ้ /ดีขน้ึ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ ร้อยละ ๕ - ๑๐ อนั ดบั /คะแนนของไทยในดชั นสี ากลในประเดน็ ทีม่ ีนยั สาคัญตอ่ ผลประโยชนข์ องชาติ มีพฒั นาการทีด่ ีข้ึน (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) มากขึ้น/ดขี น้ึ มากขึ้น/ดีขนึ้ มากขน้ึ /ดีขน้ึ มากขนึ้ /ดีขนึ้ ร้อยละ ๕ - ๑๐ ร้อยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ การส่งเสริมสถานะและบทบาทของประเทศไทยในประชาคมโลก การส่งเสริมสถานะและอานาจ แบบนุ่มนวลของไทย สามารถกระทาได้ในสองแนวทางหลกั คอื ผ่านการเผยแพร่วัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของ ไทย และนโยบายการต่างประเทศของไทย อย่างไรกด็ ี ไทยยงั ขาดการดาเนินการท่ีส่งเสริมการนาจุดเด่นเหล่าน้ี มายกสถานะและสรา้ งอานาจต่อรองเพอ่ื รกั ษาและเพ่ิมพนู ผลประโยชน์ให้แก่ประเทศและประชาชนไทยในการ มีปฏิสัมพันธ์กับประชาคมโลกได้อย่างเป็นระบบ ดังน้ัน จึงมีความจาเป็นท่ีไทยจะต้องยกระดับการส่งเสริม เอกลักษณข์ องไทยให้สามารถนาไปสร้างมูลค่าได้ รวมถึง ต้องเน้นการดาเนินนโยบายท่ีเป็นการส่งเสริมสถานะ ของไทยในเวทีโลก พร้อมไปกับการสร้างขีดความสามารถใหท้ ุกภาคส่วนของไทยสามารถร่วมเสริมสร้างสถานะ ของประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพและเปน็ ระบบ ๗
ประเทศไทยมีเกียรตภิ มู ิ อานาจตอ่ รอง และได้รบั การยอมรบั ในสากลมากขนึ้ ระดับความสาเร็จของไทยในการสร้างความเขา้ ใจ/การยอมรับภาพลักษณ์ และความนิยมไทยในสากลด้วยอานาจแบบ นุ่มนวลของไทย (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) มากขึ้น/ดขี ึน้ มากข้ึน/ดีขน้ึ มากขน้ึ /ดขี น้ึ มากขน้ึ /ดีขึ้น รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ ร้อยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ ระดับความสาเร็จของไทยในเวทีระหว่างประเทศ (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) มากขึน้ /ดีขึน้ มากขนึ้ /ดขี ึ้น มากข้นึ /ดขี ึน้ มากขน้ึ /ดีขน้ึ ร้อยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ ระดบั ความสาเรจ็ ในการพัฒนาศักยภาพและเสริมสร้างเครอื ข่ายของคนไทย/ชมุ ชนไทยในตา่ งประเทศ ให้มีความเข้มแข็งและมีเกยี รตภิ มู ิ (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) มากขน้ึ /ดีขนึ้ มากขน้ึ /ดขี ึ้น มากขึ้น/ดีข้นึ มากข้ึน/ดีขน้ึ ร้อยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ ร้อยละ ๕ - ๑๐ การต่างประเทศมีเอกภาพและบูรณาการ การทางานอย่างบูรณาการและเอกภาพเป็นกุญแจสาคัญที่จะ เพ่ิมประสิทธิภาพของการทางานด้านต่างประเทศ ทุกประเด็นยุทธศาสตร์จะสามารถบรรลุได้โดยการดาเนินงาน ด้านการต่างประเทศที่สอดรับกันอย่างเป็นทีมของทุกหน่วยงานท้ังในประเทศและในต่างประเทศบนเง่ือนไขเวลา และทรัพยากรของประเทศที่จากัด เช่นเดียวกับการท่ีต้องมีการบริหารจัดการกาลังคนที่เหมาะสม มีการพัฒนา บุคลากรอย่างต่อเน่ือง เพ่อื ให้สามารถรองรับการเปล่ียนแปลงต่าง ๆ โดยแผนแม่บทประเด็นการต่างประเทศจะมุ่ง ส่งเสริมให้ภาคส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม รวมถึงประชาชนไทยทั่วไป ท้ัง ในประเทศและในต่างประเทศมีส่วนเกี่ยวข้องกับการต่างประเทศมากข้ึน ทั้งในการมีส่วนร่วมในการแสดงความ คดิ เห็นและในการร่วมขับเคลื่อนเพ่ือให้การต่างประเทศเป็นเรื่องทใ่ี กลต้ ัวสาหรบั ประชาชนไทย ทุกภาคสว่ นมสี ว่ นร่วมขบั เคลือ่ นการต่างประเทศอย่างมีเอกภาพ และไทยเป็นหุน้ สว่ นความร่วมมอื กบั ต่างประเทศในทุกมติ ิ มากขน้ึ ระดับความรว่ มมอื ระหว่างส่วนราชการไทยเพ่อื พฒั นา/ขับเคล่ือนการต่างประเทศในทุกมติ ิ (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) มากขน้ึ /ดีข้นึ มากขนึ้ /ดขี ึน้ มากขน้ึ /ดีขึ้น มากข้ึน/ดีขน้ึ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ ร้อยละ ๕ - ๑๐ ร้อยละ ๕ - ๑๐ ระดบั ความสาเร็จในการสรา้ งความตระหนกั รู้ การมสี ่วนร่วมของภาคสว่ นต่าง ๆ (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) มากขึ้น/ดขี ึ้น มากข้นึ /ดีขนึ้ มากข้ึน/ดขี น้ึ มากขึ้น/ดีขึ้น รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ ร้อยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ ระดบั การพัฒนางานบริการดา้ นการตา่ งประเทศและดา้ นการกงสลุ (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) มากขึ้น/ดขี ึ้น มากขน้ึ /ดขี น้ึ มากขึ้น/ดขี ึ้น มากขึน้ /ดขี ึ้น รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ ร้อยละ ๕ - ๑๐ ร้อยละ ๕ - ๑๐ ร้อยละ ๕ - ๑๐ ระดับความสาเรจ็ ในการเสรมิ สร้างเครอื ขา่ ยบคุ คลและองค์กรทเ่ี ปน็ มติ รกบั ประเทศไทยในต่างประเทศ (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) มากขน้ึ /ดขี ึ้น มากขึน้ /ดีขึน้ มากขึ้น/ดีข้นึ มากขน้ึ /ดีข้นึ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ ร้อยละ ๕ - ๑๐ รอ้ ยละ ๕ - ๑๐ ร้อยละ ๕ - ๑๐ ๘
๓. ประเด็น การเกษตร ภาคเกษตรมบี ทบาทสาคัญในการสรา้ งความมนั่ คงทางด้านอาหารและสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศ รวมทั้ง เปน็ แหล่งจา้ งงานทส่ี าคัญ การพัฒนาภาคการเกษตรใหม้ ศี ักยภาพและขีดความสามารถทางการแข่งขัน จะเป็น ปัจจัยแห่งความสาเร็จท่ีสาคัญท่ีจะช่วยให้การดาเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติในด้านต่าง ๆ สามารถบรรลุ วัตถปุ ระสงคไ์ ดต้ ามเป้าหมาย โดยเฉพาะด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน โดยการยกระดับผลิตภาพ การผลิตและสร้างมูลค่าเพ่ิมให้กับผลิตภัณฑ์และสินค้าเกษตร ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาค ทางสังคม โดยการกระจายรายได้สู่ชุมชน ลดความเหล่ือมล้า ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตท่ีเป็น มิตรต่อส่ิงแวดล้อม โดยสร้างการเติบโตที่คานึงถึงความย่ังยืนของทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม และ ด้านการปรบั สมดลุ และพฒั นาระบบการบรหิ ารจดั การภาครัฐ สถานการณ์ ๑๐ล.๐้านล้านบาท ผลติ ภัณฑม์ วลรวมในประเทศในชว่ งแผนพัฒนาฯ ฉบับท่ี ๗-๑๑ ๙.๑๐๙ ๘.๐ ๗.๘๙๔ ๘.๔๖ ๖.๕๑๓ ๗.๓๐ ๖.๐ ๔.๖๙ ๕.๑๔๘ ๕.๙๖ ภาคเกษตร ภาคนอกเกษตร ๔.๐ ๔.๓๐ ๔.๖๙ GDP รวม ๒.๐ ๐.๔๐ ๐.๔๖ ๐.๕๕ ๐.๖๑ ๐.๖๖ ๐.๐ แผนฯ ๗ แผนฯ ๘ แผนฯ ๙ แผนฯ ๑๐ แผนฯ ๑๑ เป้าหมาย ๑. ผลิตภณั ฑ์มวลรวมในประเทศในสาขาเกษตรเพิ่มข้ึน ทมี่ า : จากการคานวณโดยใช้ฐานข้อมูลจาก สศช. ๒. ผลิตภาพการผลิตของภาคเกษตรเพิม่ ข้นึ หมายเหตุ *แผนฯ ๑๑ เฉล่ียปี ๒๕๕๕-๒๕๕๗ ตัวชี้วดั และคา่ เปา้ หมายัอตราการขยาย ัตว ( ้รอยละ) อัตราการขยายตวั ของผลิตภณั ฑม์ วลรวมในประเทศสาขาเกษตร (เฉลย่ี ร้อยละ) 4 3.8 3.5 3 3 3 3 2.5 2 ผลติ ภณั ฑม์ วลรวมใน 1.5 ประเทศสาขาเกษตร 1 0.5 0 (ป๖ี ๖๑๑-๖-๕๖)๕ ป(ี๖๖๖๖-๗- ๐๗)๐ ปี(๗๗๑๑--๗๗๕๕) ปี (๗๗๖๖--๘๘๐๐) ช่วงปี ชว่ งปี ๙
อตั ราผลิตภาพการผลิตของภาคเกษตร (เฉลย่ี ร้อยละ) 1.4 1.2 1.2 1.3 1.2 1 1 ร้อยละ 0.8 ผลติ ภาพการผลติ 0.6 ของภาคเกษตร 0.4 0.2 0 ป(๖ี ๖๑๑-๖-๕๖)๕ ป(๖ี ๖๖๖-๗-๐๗)๐ ป(๗ี ๗๑๑-๗-๕๗)๕ ป(ี๗๗๖๖-๘- ๐๘๐) ช่วงปี ช่วงปี ในช่วงปี ๒๕๕๐ – ๒๕๖๐ ภาคเกษตรของไทยมีอัตราการเติบโตในระดับท่ีน้อยกว่าร้อยละ ๑ โดยมี สาเหตุสาคัญจากข้อจากัดด้านการใช้และเข้าถึงปัจจัยการผลิตท่ีไม่เหมาะสม การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและ นวตั กรรม ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ สง่ ผลกระทบต่อการยกระดับผลิตภาพการผลิตและรายได้ ของภาคเกษตร ซึ่งท่ีผ่านมาได้มีมาตรการในการบรรเทาปัญหา แต่ส่วนใหญ่เป็นแผนระยะส้ันเพื่อการแก้ไข สถานการณ์เฉพาะหน้า สะท้อนใหเ้ หน็ ว่าภาคเกษตรของไทยยังสามารถได้รับการพัฒนาเพื่อยกระดับศักยภาพ และขีดความสามารถในการแข่งขันให้เทียบเท่ากับภาคการผลิตอ่ืน ๆ และเป็นส่วนหน่ึงในการยกระดับรายได้ ของประเทศใหเ้ ป็นประเทศทพี่ ัฒนาแล้ว ดังน้ัน เพื่อเป็นการวางรากฐานการพัฒนาในระยะยาวอันจะนาไปสู่การพัฒนาและแก้ไขปัญหาอย่างเป็น ระบบ จงึ จาเปน็ ตอ้ งมที ศิ ทางในการพฒั นาเพ่ือยกระดับความสามารถในการแข่งขันของภาคเกษตรทั้งพืช ปศุสัตว์ และประมง เพ่ือนามาซ่ึงโอกาสในการสร้างรายได้ สร้างความมั่นคงทางอาหารและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับ เกษตรกรในระยะ ๒๐ ปี โดยในแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติประเด็นการเกษตร จะให้ความสาคัญกับการ ยกระดับการผลิตให้เข้าสู่คุณภาพมาตรฐานความปลอดภัย การใช้ประโยชน์จากความโดดเด่นและเอกลักษณ์ของ สินค้าเกษตร รวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพในแต่ละพื้นท่ี การพัฒนาสินค้าเกษตรและ การแปรรูปสินค้าเกษตร เพ่ือสร้างมูลค่าและคุณค่าให้กับสินค้าเกษตร การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม สมัยใหม่ในการผลิตและการจัดการฟาร์ม นอกจากน้ี มีการสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาระบบนิเวศของภาค เกษตร เพ่อื เสริมสรา้ งให้การพฒั นามีการเติบโตอยา่ งต่อเนื่องและเข้มแขง็ ประกอบดว้ ย ๖ แผนย่อยโดยสรปุ ดงั น้ี เกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น ส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถ่ิน ด้วยการประยุกต์ใช้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น เทคโนโลยีและนวัตกรรม การขึ้นทะเบียนและคุ้มครองสิทธิให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์ การพัฒนาคุณภาพมาตรฐานของสินค้าและผลิตภัณฑ์ และการสร้างความเข้มแข็งของเกษตรกรและชุมชน ในการพัฒนาอัตลักษณ์พ้ืนถ่ิน รวมท้ังสร้างอัตลักษณ์หรือเร่ืองราวแหล่งกาเนิด สร้างความแตกต่างและความ โดดเด่น และสร้างแบรนด์ให้กับสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น และส่งเสริมการบริโภคสินค้าเกษตรอัตลักษณ์ พนื้ ถนิ่ ท้ังในระดับประเทศและเพ่ือการสง่ ออก ๑๐
สินคา้ เกษตรอตั ลกั ษณ์พน้ื ถนิ่ มมี ลู คา่ เพิ่มขน้ึ อตั ราการขยายตวั ของมูลคา่ ของสนิ คา้ เกษตรอัตลกั ษณพ์ ืน้ ถนิ่ (เฉลีย่ ร้อยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ขยายตัวรอ้ ยละ ๓ ขยายตัวร้อยละ ๔ ขยายตัวร้อยละ ๕ ขยายตวั ร้อยละ ๖ เกษตรปลอดภยั พัฒนาคุณภาพมาตรฐานและระบบการรับรองความปลอดภัยในระดับต่างๆ รวมถึง การตรวจสอบย้อนกลับให้เป็นที่ยอมรับของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตสินค้า เกษตรที่ได้คุณภาพมาตรฐานความปลอดภัย เพิ่มความสามารถในการเข้าถึงอาหารอย่างทั่วถึงและปลอดภัย สร้างความตระหนักรู้ของผู้ผลิตและผู้บริโภคถึงความสาคัญของเกษตรปลอดภัย และส่งเสริมด้านการขยาย ตลาดบริโภคสินค้าเกษตรปลอดภัย รวมท้ังสนับสนุนการทาเกษตรอินทรีย์ต้ังแต่ระดับอินทรีย์วิถีชาวบ้าน เพ่อื ต่อยอดสูเ่ กษตรอินทรยี ์เชิงพาณิชย์ท่ีไดม้ าตรฐานเกษตรอนิ ทรีย์ท้ังในระดับประเทศและระดับสากล สนิ คา้ เกษตรปลอดภยั มมี ูลค่าเพมิ่ ขน้ึ อัตราการขยายตวั ของมูลค่าของสนิ ค้าเกษตรปลอดภยั (เฉล่ียร้อยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ขยายตวั ร้อยละ ๓ ขยายตวั รอ้ ยละ ๓ ขยายตัวร้อยละ ๓ ขยายตวั รอ้ ยละ ๓ ผลิตภณั ฑ์เกษตรปลอดภัยของไทยไดร้ บั การยอมรบั ดา้ นคณุ ภาพความปลอดภัยและคณุ คา่ ทางโภชนาการสูงขน้ึ ดชั นีความเช่อื มน่ั ผบู้ ริโภคด้านคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) - ดชั นรี ะดับดี ดัชนีระดบั ดมี าก ดัชนีระดบั ดมี าก เกษตรชีวภาพ สนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากรชีวภาพทางการเกษตรเพ่ือนาไปสู่การผลิตและ ขยายผลเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ส่งเสริมการวิจัยพัฒนาองค์ความรู้ และประยุกต์ใช้นวัตกรรมจากภูมิปัญญา ท้องถิ่นและเทคโนโลยีท่ีคานึงถึงสิ่งแวดล้อมเพ่ือการแปรรูปสินค้าจากความหลากหลายชีวภาพ ส่งเสริมและ สนับสนนุ การผลิต การแปรรูปและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากฐานเกษตรกรรมและฐานทรัพยากรชีวภาพ รวมถึงพัฒนา เช่ือมโยงไปสู่ภาคอุตสาหกรรมต่อเน่ือง และใช้ฐานการทาเกษตรกรรมย่ังยืนเพ่ือใช้ประโยชน์และต่อยอด ไปสสู่ นิ คา้ เกษตรชวี ภาพ รวมทั้งส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพรให้เป็นพืชเศรษฐกิจตามความเหมาะสม และส่งเสริม ใหม้ ีการนาวัตถดุ บิ เหลือท้ิงทางการเกษตรมาใช้ประโยชน์ในอตุ สาหกรรมและพลงั งานทีเ่ ก่ยี วเนื่องกับชวี ภาพ สนิ คา้ เกษตรชีวภาพมมี ลู คา่ เพิม่ ขน้ึ อัตราการขยายตัวของมูลค่าสนิ คา้ เกษตรชีวภาพ (เฉลยี่ ร้อยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ขยายตวั ร้อยละ ๓ ขยายตวั ร้อยละ ๕ ขยายตวั รอ้ ยละ ๘ ขยายตวั รอ้ ยละ ๑๐ ๑๑
วสิ าหกิจการเกษตรจากฐานชวี ภาพและภูมปิ ัญญาท้องถนิ่ มกี ารจดั ตัง้ ในทกุ ตาบลเพ่มิ ขนึ้ จานวนวิสาหกจิ การเกษตรขนาดกลางและขนาดเล็ก และผลติ ภัณฑ์จากฐานชีวภาพ (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ๑ ตาบล ๑ วิสาหกิจ ๑ ตาบล ๑ วสิ าหกจิ ๑ ตาบล ๑ วสิ าหกิจ ๑ ตาบล ๑ วิสาหกจิ เกษตรแปรรูป สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการแปรรูปสินค้าเกษตร ข้ันสูงที่มีคุณค่าเฉพาะ และผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และผลักดัน เทคโนโลยีและนวัตกรรมไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ ตลอดจนให้ความสาคัญกับตราสินค้าและปกป้องสิทธิ ในทรัพย์สินทางปัญญา ส่งเสริมการใช้วัตถุดิบและผลิตผลทางการเกษตรเพ่ือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยการนาเทคโนโลยแี ละนวัตกรรมมาประยกุ ต์ใชใ้ นกระบวนการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทานให้แก่เกษตรกรและ สถาบันเกษตรกร รวมท้ังสนับสนุนการนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาใช้ในการควบคุมคุณภาพและ ความปลอดภัย ติดตามผลิตภัณฑ์ระหว่างขนส่ง และยืดอายุของอาหารและสินค้าเกษตรในบรรจุภัณฑ์ เพ่อื เพ่ิมมลู คา่ ให้แกส่ ินคา้ สนิ คา้ เกษตรแปรรูปและผลิตภัณฑ์มมี ลู คา่ เพม่ิ ขึ้น อัตราการขยายตัวของมูลค่าสนิ คา้ เกษตรแปรรูปและผลติ ภณั ฑ์ (เฉลีย่ ร้อยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ขยายตัวร้อยละ ๓ ขยายตวั รอ้ ยละ ๔ ขยายตัวร้อยละ ๕ ขยายตัวรอ้ ยละ ๖ เกษตรอัจฉริยะ ส่งเสริมการวิจัยพัฒนาพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ ปัจจัยการผลิต เคร่ืองจักรกลและอุปกรณ์ ทางการเกษตร รวมถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตรแห่งอนาคต เพ่ือนามาใช้ในกระบวนการผลิตและ เพ่มิ ประสทิ ธภิ าพการผลิตการเกษตรทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พัฒนาศักยภาพ เกษตรกรให้เข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเกษตร เทคโนโลยีอวกาศและ ภูมิสารสนเทศ เทคโนโลยีดิจิทัล เพ่ือวางแผนการเกษตร และพัฒนาเกษตรกรให้เป็นเกษตรกรอัจฉริยะที่มี ขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมท้ังสนับสนุนและส่งเสริมการทาระบบฟาร์มอัจฉริยะ โดยถ่ายทอดและ สนับสนุนเทคโนโลยีให้แก่เกษตรกรในราคาที่สามารถเข้าถึงได้ ควบคู่กับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและการใช้ ประโยชน์จากข้อมลู ในการวางแผนการปรับเปลยี่ นกระบวนการผลิตสนิ ค้าท่ีสอดคลอ้ งกับความต้องการของตลาด สินค้าทไี่ ด้จากเทคโนโลยสี มยั ใหม่/อจั ฉรยิ ะมมี ูลคา่ เพ่ิมขึน้ มูลคา่ สนิ ค้าท่มี กี ารใช้เทคโนโลยสี มยั ใหม่/อัจฉริยะ (เฉลยี่ ร้อยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) เพ่มิ ขึ้นร้อยละ ๓ เพมิ่ ขน้ึ รอ้ ยละ ๔ เพิม่ ข้นึ ร้อยละ ๕ เพ่มิ ข้นึ ร้อยละ ๖ ผลผลติ ต่อหน่วยของฟารม์ หรือแปลงทีม่ กี ารใช้เทคโนโลยีสมยั ใหม/่ อัจฉรยิ ะเพิ่มข้ึน ผลผลติ ต่อหนว่ ยของฟาร์มหรือแปลงทีม่ กี ารใชเ้ ทคโนโลยีสมยั ใหม/่ อัจฉรยิ ะ (เฉล่ียร้อยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) เพ่ิมขึ้นรอ้ ยละ ๑๐ เพิ่มขึ้นรอ้ ยละ ๑๕ เพิม่ ขึ้นร้อยละ ๒๐ เพมิ่ ขน้ึ รอ้ ยละ ๒๕ ๑๒
ระบบนเิ วศการเกษตร ให้ความสาคญั กบั มาตรการสนบั สนุนท่ีจะช่วยให้การสร้างมูลค่าในภาคเกษตร ดาเนินการได้อย่างต่อเน่ืองและเป็นรูปธรรม อาทิ เพิ่มประสิทธิภาพและการจัดการทรัพยากรทางการเกษตร และการพัฒนาฐานข้อมูลทรัพยากรทางการเกษตร เพ่ือนาไปสู่การบริหารจัดการพ้ืนที่เกษตรกรรมอย่าง เหมาะสม พัฒนาระบบฐานข้อมูลสารสนเทศการเกษตรและระบบติดตาม เฝ้าระวังและเตือนภัยสินค้าเกษตร ให้ทันกับสถานการณ์ ส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกร ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมท่ี สนับสนุนภาคการเกษตรที่สอดคล้องกับความต้องการและสามารถนาไปประยุกต์ใช้ในเชิงพาณิชย์ พัฒนา คุณภาพมาตรฐานสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดหรือกลุ่มผู้บริโภค การส่งเสริม และขยายตลาดสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์เกษตรในรูปแบบต่างๆ การเพ่ิมประสิทธิภาพการให้บริการทาง การค้าและอานว ยคว า มสะดว กแก่ผู้ประกอบการให้มีคว ามรวดเร็ว และการพัฒนาระบบ โลจสิ ตกิ สก์ ารเกษตร เพอ่ื ลดขนั้ ตอนและระยะเวลาในการส่งสินคา้ ประสทิ ธิภาพการผลติ สินคา้ เกษตรตอ่ หน่วยมีการปรบั ตัวเพิ่มขน้ึ มลู ค่าผลผลิตสนิ คา้ เกษตรต่อหนว่ ย (เฉล่ียรอ้ ยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) เพ่มิ ข้นึ ร้อยละ ๑๐ เพ่มิ ขน้ึ รอ้ ยละ ๑๕ เพิม่ ขึน้ รอ้ ยละ ๒๐ เพิ่มขึน้ ร้อยละ ๒๕ สถาบนั เกษตรกร (สหกรณ์ วสิ าหกิจชมุ ชน และกลมุ่ เปา้ หมาย) ท่ีข้ึนทะเบียนกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มคี วามเขม้ แขง็ ในระดบั มาตรฐานเพิม่ ขึ้น สถาบนั เกษตรกร (สหกรณ์ วสิ าหกิจชมุ ชน และกล่มุ เกษตรกร) ทข่ี ้นึ ทะเบียนกบั กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความเขม้ แข็งในระดับมาตรฐาน (เฉลี่ยร้อยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) สหกรณม์ คี วามเขม้ แข็งใน สหกรณ์มีความเขม้ แขง็ ใน สหกรณ์มคี วามเข้มแข็งใน สหกรณ์มคี วามเขม้ แข็งใน ระดบั ๑ และ ๒ อย่างนอ้ ย ระดบั ๑ และ ๒ อยา่ งน้อย ระดับ ๑ และ ๒ อยา่ งน้อย ระดบั ๑ และ ๒ อยา่ งน้อย รอ้ ยละ ๙๐ ร้อยละ ๙๕ ร้อยละ ๙๕ ร้อยละ ๙๕ วสิ าหกิจชมุ ชน วสิ าหกิจชมุ ชน วสิ าหกิจชมุ ชน วิสาหกิจชุมชน และกลมุ่ เกษตรกร และกลมุ่ เกษตรกร และกลมุ่ เกษตรกร และกลมุ่ เกษตรกร มีความเข้มแขง็ มีความเขม้ แขง็ มีความเขม้ แขง็ มคี วามเข้มแขง็ รอ้ ยละ ๒๕ รอ้ ยละ ๓๐ ร้อยละ ๓๕ รอ้ ยละ ๔๐ ๑๓
๔. ประเดน็ อุตสาหกรรมและบรกิ ารแห่งอนาคต อุตสาหกรรมและบริการเป็นภาคการผลิตที่สาคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ท่ีผ่านมา การพัฒนาอุตสาหกรรมของไทยมุ่งเน้นการผลิตเพ่ือการส่งออก โดยให้ความสาคัญกับการส่งเสริมการพัฒนา ประสิทธิภาพในการผลิตและการให้บริการขั้นพ้ืนฐานในการสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ ซึ่งภาคอุตสาหกรรม และบริการของไทยมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดท้ังในด้านมูลค่าและสัดส่วนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวม ในประเทศไทยโดยมีมูลค่าเพ่ิมข้ึนจาก ๘.๕ ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ ๘๘.๗ ของผลิตภัณฑ์ มวลรวมในประเทศในปี ๒๕๕๖ เปน็ ๙.๖ ล้านลา้ นบาท หรอื คดิ เปน็ สัดสว่ นร้อยละ ๙๑.๓ ของผลิตภัณฑ์มวล รวมในประเทศในปี ๒๕๖๐ อยา่ งไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งในด้านความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี การพัฒนานวัตกรรม การติดต่อส่ือสารและคมนาคมขนส่งท่ีพัฒนาอย่างรวดเร็ว ตลอดจนการ แข่งขันในตลาดโลกท่ีสูงขึ้น ทาให้ประเทศไทยจะต้องมีการปรับเปล่ียนภาคอุตสาหกรรมและบริการเข้าสู่การ เป็นประเทศไทย ๔.๐ ซึง่ เปน็ การเปล่ียนจากการขบั เคลือ่ นด้วยประสิทธิภาพ เป็นการขับเคล่ือนด้วยเทคโนโลยี และนวตั กรรม และปรับเปลี่ยนจากการใหบ้ ริการพนื้ ฐานเปน็ บริการท่ตี ้องใช้ทกั ษะและเทคโนโลยีขั้นสงู สถานการณ์ ที่มา : กระทรวงอตุ สาหกรรม เป้าหมาย ง ๑. การขยายตวั ของผลิตภณั ฑ์มวลรวมในประเทศในสาขาอุตสาหกรรมและบริการ ๒. ผลิตภาพการผลติ ของภาคอตุ สาหกรรมและภาคบรกิ ารเพิ่มขึ้น ๑๔
ตัวชว้ี ัดและคา่ เป้าหมาย อตั ราการขยายตวั ของผลติ ภัณฑ์มวลรวมและผลิตภาพการผลิตในประเทศในสาขาอตุ สาหกรรมและบริการ (เฉลี่ยรอ้ ยละ) 6 5.4 5.3 5.3 5.3 4.8 4.8 ผลิตภัณฑม์ วลรวมในประเทศใน 5 3.0 3.0 4 4.6 2.4 2.4 4.8 สาขาอุตสาหกรรม 3 2.7 (เฉล่ียร้อยละ) (๖๖ - ๗๐) (๗๑ - ๗๕) 3.2 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศใน 2 2.2 สาขาบริการ 1 2.5 TFP ภาคอุตสาหกรรม (ร้อยละ) 0 (๖๑ - ๖๕) TFP ภาคบริการ (รอ้ ยละ) (๗๖ - ๘๐) ช่วงปี ที่มา : สานักงานสภาพฒั นาการเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ (สศช.) การพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคตจะเป็นแรงขับเคล่ือนให้เกิดการปรับ โครงสร้างทางเศรษฐกิจที่เน้นการสร้างมูลค่าเพ่ิมจากประสิทธิภาพมาเป็นการสร้างมูลค่าเพ่ิมจากเทคโนโลยี และนวัตกรรมซงึ่ จะทาให้เศรษฐกิจของไทยขยายตัวอย่างต่อเน่ืองท่ามกลางการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วของ เทคโนโลยแี ละโครงสร้างประชากรของไทย แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติประเด็นอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคตจะให้ความสาคัญกับ การพัฒนาต่อยอดอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศไปสู่อุตสาหกรรมอนาคต การพัฒนาเป็นองค์รวมและ การสร้างระบบนิเวศให้อุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต โดยในระยะแรกจะเน้นการสร้างรากฐานของ อุตสาหกรรมและบริการและสร้างสภาพแวดล้อมที่เอ้ืออานวยต่อการพัฒนาของอุตสาหกรรมและบริการ ทั้งด้านบุคลากร การสร้างนวัตกรรม การปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบต่าง ๆ และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ที่จาเป็น ในขณะเดียวกันต้องพัฒนาต่อยอดจากฐานอุตสาหกรรมและบริการเดิมที่มีความเข้มแข็ง และสร้าง โอกาสให้ทุกอุตสาหกรรมในการปรับตัวและสร้างศักยภาพใหม่ ในระยะต่อไปจะเป็นการสนับสนุนให้ อุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคตไดเ้ ตบิ โตเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจไทย สร้างมูลค่าเพิ่มด้วยเทคโนโลยีและ นวัตกรรมของตนเอง ลดการพ่ึงพาเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากต่างประเทศ และเป็นผู้นาของอุตสาหกรรม และบรกิ ารที่ประเทศไทยมีศักยภาพในระดบั ภูมภิ าคและระดับโลก ซง่ึ ประกอบดว้ ย ๖ แผนย่อย ดงั น้ี อุตสาหกรรมชีวภาพ ส่งเสริมและสร้างเศรษฐกิจฐานชีวภาพอุบัติใหม่ท้ังระบบแบบครบวงจร โดยให้ ความสาคัญกับการสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบชีวภาพท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมและการพัฒนาอุตสาหกรรม ชีวภาพอย่างบูรณาการตลอดท้ังห่วงโซ่มูลค่า พร้อมท้ังส่งเสริมการลงทุนวิจัยและพัฒนา การสร้างและพัฒนา องค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย และส่งเสริมการนาทรัพย์สิน ทางปัญญาไปใช้ประโยชน์ ตลอดจนฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพัฒนาและส่งเสริมการค้าท้ังภายใน และระหว่างประเทศรวมถงึ ธรุ กิจบริการท่ีมศี ักยภาพ การขยายตัวของอตุ สาหกรรมชีวภาพมีการขยายตัวเพิม่ ขึ้น อตั ราการขยายตวั ของอุตสาหกรรมชีวภาพ (เฉล่ยี รอ้ ยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ขยายตัวรอ้ ยละ ๑๐ ขยายตวั รอ้ ยละ ๑๕ ขยายตวั ร้อยละ ๑๐ ขยายตวั ร้อยละ ๑๕ ๑๕
อุตสาหกรรมและบริการทางการแพทยค์ รบวงจร เน้นการพฒั นาแบบบูรณาการควบคู่กับอุตสาหกรรม ที่เกี่ยวเนื่อง ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา และนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในทางการแพทย์เพ่ือเพิ่ม ประสิทธิภาพและศักยภาพในทุกมิติและสร้างอุตสาหกรรมการแพทย์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เพื่อรองรับความต้องการ ท้ังในประเทศและต่างประเทศ ผลิตและพัฒนาบุคลากรทางด้านสุขภาพให้มีศักยภาพด้านเทคโนโลยี มีทักษะ ความชานาญ มีมาตรฐานเปน็ ที่ยอมรับ ทั้งดา้ นบคุ ลากร ผลิตภณั ฑ์ และบริการทางการแพทย์ และขยายช่องทาง การตลาดท้ังในและต่างประเทศ และเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและกิจกรรมอื่น ๆ เพ่ือให้ไทย เป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมและบริการสุขภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจท่ีผสมผสานความเชี่ยวชาญทั้งใน การแพทย์แผนปจั จุบันและการแพทย์แผนไทย การขยายตัวของอุตสาหกรรมและบรกิ ารทางการแพทย์มีการขยายตัวเพม่ิ ข้ึน อตั ราการขยายตวั ของอุตสาหกรรมและบรกิ ารการแพทย์ เฉลี่ยต่อปี (เฉล่ียร้อยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ขยายตวั ร้อยละ ๕ ขยายตัวร้อยละ ๕ ขยายตวั รอ้ ยละ ๕ ขยายตวั ร้อยละ ๕ อุตสาหกรรมและบริการดิจิทัล ข้อมูล และปัญญาประดิษฐ์ ต้องส่งเสริมให้มีการวิจัยพัฒนาและ สร้างนวัตกรรมทางอุตสาหกรรมและบริการดิจิทัล ข้อมูล และปัญญาประดิษฐ์ เพ่ือเพ่ิมศักยภาพและ ความสามารถในการแข่งขันของภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการ พัฒนาผู้ประกอบการ และบุคลากรท้ังด้านการผลิตและผู้ใช้ สร้างความตระหนักรู้และสนับสนุนการลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันตามระดับความพร้อมของผู้ประกอบการ ขยายช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ลงทุน ในโครงสรา้ งพนื้ ฐานและระบบนิเวศท่ีจาเป็นและสง่ เสริมการลงทนุ ท้งั ในและตา่ งประเทศ อุตสาหกรรมและบริการเทคโนโลยดี จิ ิทัล ข้อมูล และปญั ญาประดษิ ฐ์มกี ารขยายตวั เพิม่ ขน้ึ อัตราการขยายตัวของอตุ สาหกรรมและบริการดิจิทลั ขอ้ มลู และปัญญาประดษิ ฐ์ เฉล่ียตอ่ ปี (เฉลยี่ รอ้ ยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖–๘๐) ขยายตัวรอ้ ยละ ๕ ขยายตวั รอ้ ยละ ๕ ขยายตวั รอ้ ยละ ๕ ขยายตวั ร้อยละ ๕ ความสามารถในการพฒั นาดา้ นเศรษฐกิจดจิ ิทลั ของไทยดีขนึ้ อันดบั ของ Digital Evolution Index ของไทย (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ๑ ใน ๔๐ ๑ ใน ๓๐ ๑ ใน ๒๕ ๑ ใน ๒๐ ๑๖
อุตสาหกรรมต่อเน่ืองจากการพัฒนาระบบคมนาคม ผลักดันการเปล่ียนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งระบบไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสายการบินของประเทศพัฒนา ขดี ความสามารถในการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมซ่อมบารุงและ ผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน ตลอดจนสนับสนุนให้มีกลไกในการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมระบบราง และอตุ สาหกรรมสนับสนุนภายในประเทศ และรองรบั ระบบคมนาคมในอนาคต ประเทศไทยเปน็ ศนู ยก์ ลางการซอ่ มบารุงอากาศยานในภมู ิภาคโดยเฉพาะอากาศยานรุ่นใหม่ สว่ นแบง่ การตลาดของจานวนอากาศยานทเ่ี ขา้ ซอ่ มในภาคพ้นื เอเชยี แปซิฟิก (เฉลีย่ รอ้ ยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖–๘๐) รอ้ ยละ ๑ ร้อยละ ๑ รอ้ ยละ ๔ รอ้ ยละ ๔ ประเทศไทยมศี ักยภาพในการผลติ ชิ้นสว่ นอากาศยานสงู ข้ึน (Tier) จานวนผปู้ ระกอบการผลติ ชิ้นสว่ นอากาศยานระดบั Tier ๒ Tier ๓ และ Tier ๔ (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖–๘๐) Tier ๔ Tier ๓ Tier ๒ Tier ๒ อุตสาหกรรมความม่ันคงของประเทศ สร้างและพัฒนาบุคลากรสาหรับอุตสาหกรรมความม่ันคงของ ประเทศและสนับสนนุ การนาเขา้ ผู้เช่ยี วชาญจากต่างประเทศ สง่ เสรมิ ให้เกิดการวิจัยพัฒนาและสร้างนวัตกรรม เพื่อลดการพึ่งพาจากต่างประเทศ สนับสนุนผู้ประกอบการตามระดับความสามารถของผู้ประกอบการ และ สร้างเครือข่ายและคลัสเตอร์ของอุตสาหกรรมความม่ันคงของประเทศและเช่ือมโยงกับห่วงโซ่มูลค่าระดับโล ก ส่งเสริมให้มีการลงทุนเพื่อสร้างฐานการผลิตของอุตสาหกรรมความม่ันคงในประเทศ สร้างระบบนิเวศ สนับสนุนและเปดิ โอกาสในการแสวงหาชอ่ งทางการตลาดใหม่ ๆ จากในประเทศและตา่ งประเทศ อตุ สาหกรรมความม่นั คงของประเทศมีการขยายตวั เพิ่มขึน้ อตั ราการขยายตัวของอตุ สาหกรรมความมน่ั คงของประเทศ (เฉลย่ี ร้อยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖–๘๐) ขยายตัวรอ้ ยละ ๕ ขยายตวั ร้อยละ ๑๐ ขยายตัวร้อยละ ๑๐ - การสง่ ออกของอตุ สาหกรรมความม่ันคงของประเทศเพมิ่ ขึ้น อตั ราการขยายตัวของมลู ค่าการสง่ ออกของอุตสาหกรรมความมัน่ คงของประเทศ (เฉลี่ยร้อยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖–๘๐) ขยายตัวรอ้ ยละ ๕ ขยายตัวรอ้ ยละ ๑๐ ขยายตวั รอ้ ยละ ๑๐ - ๑๗
การพัฒนาระบบนิเวศอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต สนับสนุนการเพิ่มผลิตภาพการผลิตของ อุตสาหกรรมและบริการไทยตลอดห่วงโซ่มูลค่า มีการคาดการณ์เทคโนโลยีในอนาคตสาหรับการกาหนด ยุทธศาสตร์สาหรับภาคเกษตร อุตสาหกรรม และบริการของประเทศ กาหนดแนวทางการผลิตและพัฒนา บุคลากรโดยเช่ือมโยงภาคการศึกษากับภาคอุตสาหกรรมและบริการให้ตอบสนองความต้องการของ ตลาด และจัดให้มีแผนพัฒนากาลังแรงงานท้ังประเทศในทุกระดับ กาหนดโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลที่สอดคล้อง กับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ สนับสนุนให้มีข้อมูลเปิด เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของ ภาคอุตสาหกรรม ส่งเสริมให้เกิดธรรมาภิบาลข้อมูลข้ึนในองค์กรต่าง ๆ ในสังคม และส่งเสริมให้มีการจัดเก็บ ข้อมลู ของภาครัฐอยา่ งบูรณาการ ตลอดจนพฒั นาการใหบ้ รกิ ารจดทะเบยี นทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญามปี ระสิทธภิ าพ แรงงานไทยมีประสิทธภิ าพเพม่ิ ขนึ้ อนั ดบั ความสามารถด้านประสิทธิภาพแรงงาน (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖–๘๐) อนั ดบั ท่ี ๖๐ อันดบั ท่ี ๕๕ อันดบั ท่ี ๕๐ อันดับที่ ๔๕ ประเทศไทยมคี วามสามารถในการแข่งขนั ด้านดิจทิ ลั ในดา้ นความพร้อมในอนาคตดีขนึ้ อนั ดับขดี ความสามารถในการแข่งขนั ดา้ นดจิ ิทัล ในด้านความพร้อมในอนาคต (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖–๘๐) อันดบั ท่ี ๔๕ อันดับที่ ๔๐ อนั ดับท่ี ๓๕ อนั ดับที่ ๓๐ ๑๘
๕. ประเดน็ การท่องเท่ียว ประเทศไทยตระหนักถึงความสาคัญของการทอ่ งเทยี่ วในฐานะกลไกหลักในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ของประเทศ โดยในปี ๒๕๖๐ การท่องเท่ียวของไทยสามารถสร้างรายได้กว่า ๒.๗๕ ล้านล้านบาท และมีขีด ความสามารถในการแขง่ ขันดา้ นการท่องเที่ยว (Travel & Tourism Competitiveness Index) อยู่ในอันดับที่ ๓๔ จาก ๑๓๖ ประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแนวทางการพัฒนาการท่องเท่ียวที่ผ่านมาของไทยสามารถเพิ่มขีด ความสามารถของอตุ สาหกรรมทอ่ งเท่ยี วของไทยไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ อยา่ งไรก็ดี อุตสาหกรรมท่องเที่ยวน้ัน มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาตามสภาวการณ์โลกและพฤติกรรมของผู้บริโภค อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของ ไทยจึงต้องมีการปรับตัวตามกระแสโลกที่เปล่ียนแปลงไป และวางแผนการพัฒนาให้สอดคล้องกับความ ต้องการของตลาด เพอื่ รกั ษาและพฒั นาขีดความสามารถด้านการท่องเทีย่ วของประเทศ สถานการณ์ อันดับ อนั ดับขีดความสามารถในการแขง่ ขนั ด้านการทอ่ งเทีย่ วของไทย ๒๕๖๐ คะแนน (๗) ๓๔ ๒๕๕๒ ๒๕๕๔ ๒๕๕๖ ๒๕๕๘ ๔.๔ ๓๙ ๔๑ ๔๓ ๓๕ ๔.๔ ๔.๕ ๔.๕ ๔.๓ ปี ๒๕๖๐ ทม่ี า : The Travel & Tourism Competitiveness Report ๒๐๑๗ เปา้ หมาย ๑. ผลติ ภณั ฑม์ วลรวมในประเทศดา้ นการท่องเทีย่ วต่อผลิตภณั ฑม์ วลรวมในประเทศเพ่ิมข้ึน ๒. รายไดจ้ ากการท่องเทีย่ วของเมอื งรองเพ่ิมข้นึ ๓. ความสามารถทางการแข่งขันด้านการท่องเท่ยี วของประเทศไทยดขี ้ึน ๑๙
ตวั ชวี้ ัดและค่าเปา้ หมาย สัดส่วน GDP ในประเทศด้านการทอ่ งเทีย่ วตอ่ ดา้ นอ่นื ๆ รายได้จากการท่องเท่ียวของเมืองรองเพิ่มขึ้น อัตราส่วนรายได้จากการท่องเทย่ี วของ รายไดเ้ มืองหลัก GDP รวมของประเทศ (ร้อยละ) ด้านทอ่ งเทีย่ ว เมืองหลักและเมืองรอง (สัดส่วน) รายได้เมอื งรอง GDP รวมในประเทศด้านการท่องเ ี่ทยว ร้อยละ ร้อยละ ต่อ GDP รวมในประเทศเพ่ิมขึ้น 100% 100% 80% 80% 60% 60% 40% 40% 20% 20 25 30 40 20% 22 25 28 30 0% 0% (61-65) (66-70) (71-75) (76-80) ชว่ งปี (61-65) (66-70) (71-75) (76-80) ชว่ งปี ท่มี า : กระทรวงการทอ่ งเท่ียวและกฬี า ท่มี า : สานกั งานสภาพฒั นาการเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ อันดับความสามารถทางการแข่งขนั ประเทศไทย อนั ดับ ด้านการทอ่ งเท่ยี วของประเทศไทย (TTCI) 15 ความสามารถทางการแข่งขัน 20 24 ด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยดีข้ึน 26 25 28 30 30 35 40 (66-70) (71-75) (76-80) ชว่ งปี (61-65) ที่มา : The Travel & Tourism Competitiveness Report ๒๐๑๗ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติประเด็นการท่องเที่ยว ให้ความสาคัญกับการรักษาการเป็นจุดหมาย ปลายทางของการท่องเท่ียวระดับโลกจึงเป็นสิ่งท่ีสาคัญย่ิง โดยจะต้องพัฒนาการท่องเที่ยวท้ังระบบ มุ่งเน้น นักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพ สร้างความหลากหลายด้านการท่องเท่ียวให้สอดคล้องกับความต้องการของ นักท่องเท่ียว และมุ่งเน้นการพัฒนาการท่องเท่ียวในสาขาที่มีศักยภาพ แต่ยังคงรักษาจุดเด่นของประเทศ ดา้ นขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม อตั ลกั ษณค์ วามเป็นไทย ตลอดจนให้คณุ คา่ กับสง่ิ แวดล้อมไว้ได้ ทั้งนี้ การกาหนดเป้าหมายของการพัฒนาการท่องเท่ียวในระยะ ๒๐ ปี ในระยะแรกให้ความสาคัญกับ การสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างต่อเน่ือง วางรากฐานด้านการท่องเท่ียวท่ีเน้นมาตรฐานและคุณภาพ ระดับสากล ส่ิงที่สาคัญท่ีสุดคือการสร้างความเชื่อม่ันในเรื่องความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว การบังคับใช้ กฎหมายให้เกิดความปลอดภัย และไม่ให้นักท่องเท่ียวถูกเอารัดเอาเปรียบ จึงกระจายการท่องเท่ียวท้ังในมิติ ของพื้นท่ี และรายได้สู่ชุมชน ตลอดจนการให้ความสาคัญกับการพัฒนาการท่องเท่ียวอย่างย่ังยืน เพ่ือมุ่งสู่ เป้าหมายสูงสุดของการท่องเที่ยวคือการเป็นเครื่องมือในการลดความเหล่ือมล้าของสังคมไทย โดยแผนแม่บท ด้านการทอ่ งเที่ยวประกอบด้วย ๖ แผนย่อย ดงั นี้ ๒๐
การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม สร้างสรรค์คุณค่าสินค้าและบริการการท่องเท่ียว มุ่งเน้น การใชอ้ งคค์ วามรู้และนวัตกรรม ผนวกกับจุดแข็งในด้านความหลากหลายทางทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรม และวิถีชีวิต เพื่อสร้างคุณค่าให้กับสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวที่ตอบสนองพฤติกรรม ความต้องการ นกั ทอ่ งเทยี่ ว และสรา้ งทางเลอื กของประสบการณ์ใหม่ ๆ ใหก้ ับนักทอ่ งเที่ยว รายไดจ้ ากการทอ่ งเท่ยี วเชงิ สร้างสรรคแ์ ละวฒั นธรรมเพ่มิ ขึน้ อัตราการขยายตวั ของรายได้จากการทอ่ งเทย่ี วเชงิ สร้างสรรคแ์ ละวัฒนธรรม (เฉลี่ยร้อยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ขยายตวั รอ้ ยละ ๑๐ ขยายตัวร้อยละ ๑๒ ขยายตัวร้อยละ ๑๕ ขยายตัวร้อยละ ๒๐ เมืองและชมุ ชนท่ีมีศกั ยภาพดา้ นการทอ่ งเท่ียวเชิงสร้างสรรคแ์ ละวัฒนธรรมเพม่ิ ข้นึ จานวนเมืองและชมุ ชนทม่ี ศี ักยภาพดา้ นการท่องเท่ียวเชิงสรา้ งสรรค์และวัฒนธรรม (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ๕ เมือง ๑๕ เมอื ง ๒๕ เมอื ง ๓๐ เมอื ง สนิ ค้าท่องเท่ยี วเชิงสร้างสรรคแ์ ละวัฒนธรรมได้รับการขนึ้ ทะเบียนทรพั ย์สนิ ทางปญั ญาเพิ่มขึน้ อตั ราการขยายตวั ของจานวนสินคา้ และบริการการท่องเทย่ี วเชิงสรา้ งสรรค์ และวัฒนธรรมทไี่ ดร้ บั การขนึ้ ทะเบียนทรัพยส์ นิ ทางปัญญา (เฉล่ยี ร้อยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ขยายตวั ร้อยละ ๕ ขยายตวั ร้อยละ ๗ ขยายตัวร้อยละ ๑๐ ขยายตวั รอ้ ยละ ๑๒ การท่องเท่ียวเชิงธุรกิจ ส่งเสริมให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเท่ียวเชิงธุรกิจ ครอบคลุม การจัดประชุมและนิทรรศการ การจัดงานแสดงสินค้า การจัดกิจกรรมการท่องเท่ียวเป็นรางวัล การจัด การแขง่ ขันกฬี าระดับนานาชาติ การท่องเที่ยวเชิงกีฬา รวมถึงการพักผ่อนระหว่างหรือหลังการประกอบธุรกิจ หรือการทากิจกรรมต่าง ๆ อันเป็นการดึงดูดกลุ่มนักเดินทางเพื่อธุรกิจและนักท่องเที่ยวท่ีมีคุณภาพ อีกทั้ง ส่งเสริมให้การจัดงานธุรกิจและกิจกรรมต่าง ๆ เป็นการสนับสนุนการพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของ ประเทศ เป็นเวทีแลกเปล่ียนองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่นาไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรม รวมถึงการสร้างเวที เจรจาการค้าและการลงทุนของธรุ กจิ ทเี่ กยี่ วเนื่องกบั อตุ สาหกรรมเป้าหมาย รายไดจ้ ากการท่องเทีย่ วเชิงธรุ กิจ เพ่ิมขึ้น อัตราการขยายตวั ของรายไดจ้ ากการท่องเท่ียวเชิงธุรกจิ (เฉลีย่ รอ้ ยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ขยายตัวร้อยละ ๕ ขยายตัวรอ้ ยละ ๕ ขยายตัวร้อยละ ๕ ขยายตวั รอ้ ยละ ๕ อันดับของไทยในการเป็นจุดหมายปลายทางในการจดั การประชมุ นานาชาติของไทย อันดับของไทยในการเป็นจุดหมายปลายทางในการจัดการประชมุ นานาชาติ ตามดชั นี International Congress and Convention Association (ICCA) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ๑ ใน ๒๓ ๑ ใน ๒๐ ๑ ใน ๑๘ ๑ ใน ๑๕ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ความงาม และแพทย์แผนไทย พัฒนาและยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวเชิง สุขภาพ ความงาม และแพทย์แผนไทย ทั้งสินค้า บริการ บุคลากร ผู้ประกอบการ และแหล่งท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้อง ตลอดห่วงโซ่คุณค่าการท่องเท่ียว มุ่งเน้นการสร้างความแตกต่างและความเป็นเอกลักษณ์จากการให้บริการ ตามแบบอย่างความเป็นไทยท่ีโดดเด่นในระดับสากล ร่วมกับการใช้องค์ความรู้และภูมิปัญญาไทยท่ีพัฒนาต่อ ยอดกับความคิดสรา้ งสรรค์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละนวัตกรรม เพ่อื สรา้ งมลู คา่ เพิม่ ใหก้ ับสนิ คา้ และบริการ ๒๑
รายไดจ้ ากการท่องเทยี่ วเชิงสุขภาพ ความงาม และแพทยแ์ ผนไทยเพม่ิ ข้ึน อัตราการขยายตัวของรายได้จากการทอ่ งเท่ยี วเชงิ สขุ ภาพ ความงาม และแพทย์แผนไทย (เฉล่ียร้อยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ขยายตวั ร้อยละ ๕ ขยายตวั รอ้ ยละ ๘ ขยายตวั รอ้ ยละ ๑๐ ขยายตัวรอ้ ยละ ๑๐ อันดบั ดา้ นรายไดก้ ารทอ่ งเที่ยวเชงิ สขุ ภาพของประเทศไทย อนั ดับด้านรายได้การทอ่ งเท่ยี วเชงิ สขุ ภาพของประเทศไทย โดย Global Wellness Institute ดีขน้ึ (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) อันดับที่ ๑๒ อนั ดบั ที่ ๑๐ อันดับท่ี ๘ อนั ดบั ท่ี ๗ สถานประกอบการด้านการทอ่ งเท่ียวเชิงสขุ ภาพและบริการทางการแพทย์ไดร้ ับมาตรฐานเพิ่มข้นึ อตั ราการเพิ่มข้นึ ของจานวนสถานประกอบการดา้ นการท่องเท่ียวเชงิ สขุ ภาพท่ไี ด้รับมาตรฐานการท่องเท่ียว (เฉลีย่ ร้อยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) เพมิ่ ขึ้นรอ้ ยละ ๕ เพิ่มขึน้ รอ้ ยละ ๗ เพ่ิมข้ึนร้อยละ ๑๐ เพิ่มขึน้ ร้อยละ ๑๐ การท่องเทีย่ วสาราญทางน้า ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้าให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการท่องเท่ียวไทย เป็นแหล่งสร้างรายได้ใหม่ให้กับประเทศ โดยคานึงถึงความย่ังยืนของแหล่งท่องเท่ียวและการมีส่วนร่วมของ ชุมชน ครอบคลุมการท่องเท่ียวทางทะเลและชายฝ่ัง และการท่องเที่ยวในลุ่มน้าสาคัญ โดยการปรับปรุงและ พัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐาน สาธารณูปโภค และสิ่งอานวยความสะดวกในการท่องเที่ยวทางน้าให้ได้มาตรฐาน สร้างสรรค์กิจกรรมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว รวมถึงบริบทของ พ้นื ท่แี ละชมุ ชนในพ้ืนท่ี รายไดก้ ารท่องเทีย่ วสาราญทางน้าเพ่ิมขน้ึ อัตราการขยายตวั ของรายไดก้ ารทอ่ งเท่ยี วสาราญทางน้า (เฉล่ียรอ้ ยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ขยายตัวรอ้ ยละ ๕ ขยายตวั ร้อยละ ๗ ขยายตวั ร้อยละ ๑๐ ขยายตวั ร้อยละ ๑๐ การขยายตัวของทา่ เรือทอ่ งเทยี่ วในประเทศไทย จานวนทา่ เรอื ทอ่ งเที่ยวในประเทศไทยเพิม่ ขน้ึ (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ๒ ท่าเรือ ๔ ทา่ เรือ ๖ ท่าเรือ ๘ ท่าเรอื การท่องเที่ยวเช่ือมโยงภูมิภาค ยกระดับให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงเส้นทางการ ท่องเที่ยวภายในภูมิภาคอาเซียน โดยใช้ประโยชน์จากที่ต้ังทางภูมิศาสตร์ แผนการลงทุนพัฒนาโครงข่าย คมนาคมท้ังทางถนน ราง น้า และอากาศ และกรอบความร่วมมือกับประเทศเพ่ือนบ้าน เพื่อการเช่ือมโยง เส้นทางการท่องเที่ยวภายในประเทศ อนุภูมิภาค และอาเซียนบนฐานอัตลักษณ์เดียวกัน เพ่ือส่งเสริมให้เป็น จดุ หมายปลายทางการท่องเทย่ี วร่วมกัน ประเทศไทยเป็นจุดเชอ่ื มต่อการเดนิ ทางของนักทอ่ งเท่ียวในภมู ภิ าคอาเซยี น อัตราการขยายตัวของจานวนนกั ท่องเทีย่ วชาวตา่ งชาตทิ ่เี ดนิ ทางผ่านแดนระหว่างประเทศไทย กบั ประเทศสมาชกิ อาเซียน (เฉลี่ยร้อยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ขยายตวั รอ้ ยละ ๕ ขยายตวั ร้อยละ ๕ ขยายตัวรอ้ ยละ ๑๐ ขยายตัวร้อยละ ๑๐ ๒๒
การพัฒนาระบบนิเวศการท่องเท่ียว พัฒนาปัจจัยแวดล้อมให้เอ้ือต่อการยกระดับขีดความสามารถ ในการแข่งขันด้านการท่องเทีย่ วและการจัดการท่องเท่ยี วอย่างย่ังยนื เพ่ือสรา้ งมลู ค่าเพิ่มให้กับการท่องเที่ยวไทย นกั ทอ่ งเท่ียวมีความปลอดภยั ในชีวติ และทรพั ยส์ นิ มากขน้ึ อันดบั ขีดความสามารถในการแข่งขนั ด้านความปลอดภยั ของนกั ท่องเทีย่ ว โดย Travel & Tourism Competitiveness Index (TTCI) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ๑ ใน ๗๐ ๑ ใน ๖๕ ๑ ใน ๖๐ ๑ ใน ๕๕ โครงสร้างพื้นฐานเพอ่ื สนบั สนนุ การท่องเทย่ี วมีคณุ ภาพและมาตรฐานดีขน้ึ อันดับขดี ความสามารถในการแข่งขนั ด้านโครงสร้างพ้นื ฐานดา้ นการคมนาคมทางบกและทางน้า โดย Travel & Tourism Competitiveness Index (TTCI) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ๑ ใน ๕๐ ๑ ใน ๔๕ ๑ ใน ๔๐ ๑ ใน ๓๕ การทอ่ งเท่ยี วอย่างมีความรับผดิ ชอบตอ่ สังคมและสิ่งแวดล้อมดขี นึ้ อันดับขีดความสามารถด้านความยง่ั ยนื ของส่งิ แวดล้อมและทรพั ยากรธรรมชาติ โดย Travel & Tourism Competitiveness Index (TTCI) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ๑ ใน ๑๑๐ ๑ ใน ๑๐๐ ๑ ใน ๙๐ ๑ ใน ๘๐ ๒๓
๖. ประเด็น พน้ื ทีแ่ ละเมืองนา่ อยอู่ ัจฉริยะ แนวโนม้ การขยายตัวของประชากรในเขตเมืองส่งผลให้เกิดความจาเป็นในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สร้างงาน จัดการส่ิงแวดล้อมของเมืองให้สามารถรองรับการเพ่ิมข้ึนของประชากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพือ่ ใหเ้ ป็นเมอื งน่าอยสู่ าหรับคนทุกกลุ่มในสังคมโดยมีคุณภาพชีวิต สภาพแวดล้อม เศรษฐกิจ และการบริหาร จัดการท่ดี ี อีกทัง้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีโดยเฉพาะด้านการสื่อสาร การขนส่งและพลังงานจะเป็นโอกาส ในการพัฒนาเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในภูมิภาคให้เป็นเมืองอัจฉริยะ ซึ่งใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและ นวัตกรรมท่ีทันสมัยและชาญฉลาดในการยกระดับการบริหารจัดการเมืองในมิติต่างๆ อาทิ การพัฒนา เศรษฐกิจ การคมนาคมขนส่ง การเพ่ิมประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การอนุรักษ์ และฟื้นฟูส่ิงแวดล้อม การใช้ชีวิต และการบริหารจัดการเมือง ซ่ึงสอดคล้องกับเป้าหมายในยุทธศาสตร์ชาติที่ ต้องการใหม้ กี ารกระจายศนู ย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคมและลดความเหล่ือมล้าในทกุ มิติ นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีความได้เปรียบด้านที่ต้ังซ่ึงสามารถเชื่อมโยงกับประเทศเพ่ือนบ้านและ ประเทศใกล้เคียงได้โดยรอบ อยู่บนแนวระเบียงเศรษฐกิจสาคัญของอนุภูมิภาค และมีทางออกสู่ทะเลทั้งฝั่ง มหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก รวมท้ังมีความพร้อมด้านโครงสร้างพ้ืนฐาน ทรัพยากรด้านการ ท่องเท่ียวและวัตถุดิบทางการเกษตรท่ีสามารถนามาต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพ่ิม ประกอบกับการเปล่ียนแปลง นโยบายการพัฒนาของประเทศเพอื่ นบ้าน และการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จึงเป็นโอกาสให้ประเทศไทย สามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพและโอกาสดังกล่าวเพื่อพัฒนาให้เกิดฐานเศรษฐกิจใหม่ทั้งบริเวณชายแดน และพน้ื ที่ตอนใน เพอ่ื เพ่มิ ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สถานการณ์ มูลคา่ ผลติ ภัณฑ์ภาค ๓,๓๓๑,๗๔๘ 3.5 ๒,๕๙๓,๔๘๔ ้ลานล้านบาท 3.0 ๑,๑๓๒,๘๖๑ ๑,๔๒๓,๑๒๒ ๑,๑๘๑,๖๘๒ 2.5 ๑๔๐,๓๕๘ 2.0 1.5 1.0 0.5 0.0 ท่มี า : สานกั บญั ชีประชาชาติ สศช. ปี ๒๕๕๙ โดยแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นพื้นท่ีและเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ มุ่งเป้าการพัฒนาเมือง น่าอยู่ในทุกภาคของประเทศ เพื่อเปน็ ศูนยเ์ ศรษฐกิจ แหล่งจ้างงานและท่ีอยู่อาศัย รวมทั้งพื้นท่ีเพื่อการอนุรักษ์ ทมี่ คี วามปลอดภัยในชวี ติ และทรัพย์สิน สอดคล้องกับอัตลักษณ์ท้องถิ่นและศักยภาพของเมือง โดยมีระบบการ บริหารจดั การเมอื งที่มปี ระสทิ ธภิ าพ และส่ิงอานวยความสะดวกที่สามารถรองรับความต้องการของคนทุกกลุ่ม รวมทั้งมีการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดี และเป็นเมืองที่มีความยืดหยุ่นซึ่งสามารถปรับตัวต่อการเปล่ียนแปลงใน ๒๔
ดา้ นเศรษฐกจิ สังคม ส่ิงแวดล้อมและเทคโนโลยี โดยใช้ศักยภาพและโอกาสของแต่ละเมือง และมีการวางแผน พัฒนาอย่างเป็นระบบ รวมท้ังให้ความสาคัญกับผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม และการมี ส่วนร่วมของภาคีการพฒั นาท่เี ก่ยี วข้อง และการผลักดันการพัฒนาให้เป็นเมืองอัจฉริยะในพ้ืนท่ีที่มีความพร้อม ในการพฒั นา โดยการนาเทคโนโลยสี มัยใหม่มาประยุกต์ใช้ เปา้ หมาย ๑. ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น เกิดศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจและ สงั คมในทุกภมู ภิ าคของประเทศ เพอ่ื กระจายความเจริญทางดา้ นเศรษฐกิจและสงั คม ๒. ประเทศไทยมีพ้ืนท่ีมีแผนผังภูมินิเวศเพื่อเป็นกรอบในการพัฒนาเมืองน่าอยู่ ชนบทมั่นคง เกษตร ย่ังยนื และอตุ สาหกรรมเชิงนเิ วศ รวมท้งั ผงั พื้นท่อี นุรกั ษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งโบราณคดี ๓. ช่องวา่ งความเหลื่อมล้าระหว่างพนื้ ท่ีลดลง ตวั ชว้ี ดั และคา่ เป้าหมาย มลู ค่าการลงทนุ ในเมืองเป้าหมาย / พื้นท่พี เิ ศษเพมิ่ ขน้ึ (รอ้ ยละ) เกณฑแ์ ละมาตรฐานการพฒั นาทีม่ โี ครงสร้างพื้นฐาน (๖๑ - ๖๕) (๖๖ - ๗๐) (๗๑ - ๗๕) (๗๖ - ๘๐)ช่วงปี รองรับการพัฒนาเมอื งนา่ อยู่ ชนบทมน่ั คง เกษตรยง่ั ยนื 5 7 อตุ สาหกรรมเชิงนเิ วศ และผงั พืน้ ทอ่ี นรุ กั ษ์ 10 15 15 6 15 6 20 54 20 25 4 25 30 ้รอยละ 3 2 จานวนภาค 21 1 0 (๖๑ - ๖๕) (๖๖ - ๗๐) (๗๑ - ๗๕) (๗๖ - ๘๐) ช่วงปี สัดสว่ น ผลิตภณั ฑม์ วลรวมจงั หวัด ร้อยละ 20 สดุ ทา้ ยทรี่ วยทสี่ ุด ตอ่ ผลิตภัณฑม์ วลรวมจงั หวดั ร้อยละ 20 แรกทีจ่ นท่ีสดุ สัด ่สวน 5 4 3 2 333 1 0 (61 - 65) (66 - 70) (71 - 75) (76 - 80) ชว่ งปี ๒๕
ดังน้ัน การกาหนดประเด็นพ้ืนที่และเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ เป็นประเด็นแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ จึงมีความสาคัญเพ่ือพัฒนาศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคมในทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อกระจาย ความเจรญิ ทางด้านเศรษฐกจิ และสงั คม โดยแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการพัฒนาพ้ืนที่และเมือง น่าอยอู่ จั ฉริยะ ประกอบด้วย ๒ แผนย่อย สรุปไดด้ งั นี้ การพัฒนาเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ ให้ความสาคัญกับการพัฒนาเมืองตามแผนผังภูมินิเวศให้เป็นเมืองที่มี ความน่าอย่สู ามารถรองรบั กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ เปน็ ทอี่ ยู่อาศยั ลดความเหลื่อมลา้ และยกระดับคุณภาพชีวิต ของประชาชนในพ้ืนท่ีทุกกลุ่ม โดยแบ่งการพัฒนาเมืองออกเป็น ๒ รูปแบบ ได้แก่ (๑) เมืองศูนย์กลางทาง เศรษฐกจิ ซ่ึงเน้นพัฒนาเมืองศนู ยก์ ลางทางเศรษฐกิจของภาคใหม้ ีศกั ยภาพในการดาเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เทียบเท่าเมืองขนาดใหญ่ในระดับนานาชาติ มีความน่าอยู่ และมีการนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการเมือง และ (๒) เมืองขนาดกลาง ซึ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานให้ ครอบคลุมทั่วถึงและได้มาตรฐาน เพ่ือส่งเสริมให้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการบริการสาหรับพื้นที่ โดยรอบ ก่อให้เกิดการสร้างงานในพื้นที่และลดความเหล่ือมล้า โดยท้ังเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ เมอื งขนาดกลาง เน้นกรอบการเป็นเมอื งน่าอย่สู าหรับคนทุกกลุ่มท่ีมีการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีท่ีเก่ียวข้อง กับการพฒั นาเมอื ง โดยยงั คงรักษาอัตลักษณ์ของพ้ืนที่ โดยเฉพาะศูนย์เศรษฐกิจ แหล่งที่อยู่อาศัย พ้ืนท่ีเฉพาะ เพ่ือพัฒนาและอนุรกั ษ์ในเขตเมือง เช่น เขตอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ พ้ืนท่ีพิเศษเพื่อการอนุรักษ์แหล่งโบราณคดี มรดกทางสถาปัตยกรรมและศิลปวัฒนธรรม อัตลักษณ์และวิถีชีวิตพ้ืนถิ่นอย่างยั่งยืน ทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดล้อม เป็นต้น โดยนาแนวคิดการพัฒนาเมืองสมัยใหม่มาใช้ เช่น หลักการออกแบบเพ่ือทุกคน หลักการเมอื งกระชับ การเติบโตสีเขียว และผังภูมินิเวศ เพ่ือให้เกิดการกระจายความเจริญจากเมืองศูนย์กลาง ทางเศรษฐกิจไปยังพน้ื ทโ่ี ดยรอบ เมืองในพนื้ ท่ีเปา้ หมายทไ่ี ดร้ บั การพัฒนาเพื่อกระจายความเจริญและลดความเหลื่อมลา้ ในทกุ มิติ จานวนเมอื งศนู ย์กลางทางเศรษฐกจิ ทมี่ ีการพฒั นาศนู ยเ์ ศรษฐกจิ แหล่งทอ่ี ย่อู าศัยและพ้ืนทเี่ ฉพาะ (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ๖ เมือง (กรงุ เทพและ - - - ปรมิ ณฑล เชยี งใหม่ ขอนแก่น เมอื งในพน้ื ท่ี ระเบยี งเศรษฐกจิ พิเศษภาค ตะวนั ออก สงขลา และ ภเู กต็ ) จานวนเมืองขนาดกลางท่ีได้รับการพัฒนา (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) - ๗ เมอื ง (เชยี งราย ๗ เมือง (สุราษฎรธ์ านี ๖ เมือง (ร้อยเอ็ด สกลนคร กระบี่ ยะลา กาญจนบุรี พระนครศรอี ยธุ ยา นา่ น อดุ รธานี ราชบรุ ี และลาปาง) พษิ ณุโลก นครราชสมี า อบุ ลราชธานี บุรีรมั ย์ หนองคาย และมกุ ดาหาร) นครสวรรค์ สระบรุ ี) จานวนเมืองท่ีได้รบั การพัฒนาเมืองใหเ้ ป็นเมืองอจั ฉรยิ ะ (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ๕ เมอื ง (กรงุ เทพและ เพม่ิ ข้นึ ๔ เมอื ง เพ่มิ ข้ึน ๔ เมือง เพมิ่ ข้นึ ๔ เมือง ปรมิ ณฑล เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา และภเู ก็ต) ๒๖
แนวทางการพัฒนาพนื้ ทแ่ี ละเมืองนา่ อย่อู จั ฉรยิ ะ ในช่วง พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๘๐ ๒๗
การพัฒนาพื้นท่ีเมือง ชนบท เกษตรกรรมและอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ที่มีการบริหารจัดการตาม แผนผังภูมินิเวศอย่างย่ังยืน โดยจัดทาและพัฒนาระบบการเชื่อมโยง จัดการ และวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อการจัดทาแผนผังภูมินิเวศระดับประเทศ รวมถึงสนับสนุนการบริหารจัดการตามศักยภาพของภูมินิเวศ จัดทาแผนผังภูมินิเวศของพ้ืนที่ตามเกณฑ์และมาตรฐานการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐาน การจัดการสิ่งแวดล้อม การกาหนดเขตพ้ืนท่ีแนวกันชน พร้อมทั้งการจัดทาผังเมืองและชนบท ตามเกณฑ์มาตรฐานและองค์ประกอบ ของผังเมืองรวมด้านการใช้ประโยชน์ท่ีดิน คมนาคมขนส่ง สาธารณูปโภค สาธารณูปการ การจัดทาแผนผัง พื้นที่เขตเกษตรเศรษฐกิจ แผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก เพื่อใช้ในการพัฒนาการเกษตรปลอดภัย และเกษตรอินทรีย์ การจัดทาผังพื้นท่ีอุตสาหกรรมตามเกณฑ์มาตรฐานตลอดจนตัวช้ีวัดเมืองอุตสาหกรรม เชิงนิเวศ การจัดทาผังพ้ืนท่ีอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งโบราณคดี มรดกทางสถาปัตยกรรมและ ศิลปวัฒนธรรม อัตลักษณ์ และวิถีชีวิตพื้นถิ่นอย่างย่ังยืน รวมถึงการสนับสนุนการพัฒนาเครือข่ายองค์กร พัฒนาเมือง ชุมชน และเครือข่าย ที่ประกอบด้วย ภาคีสาคัญตามบริบทของพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม เชื่อมโยง การพฒั นารว่ มกนั ในทกุ ระดบั และพฒั นาศกั ยภาพ องค์กร เพอื่ การพฒั นาเมอื ง ชุมชนและเครือข่าย ให้มีทักษะ ทัดเทียมกับประเทศอื่นในระดับสากล โดยพัฒนาสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน หรือองค์กรธุรกิจประจาชุมชน เพือ่ ส่งเสริมให้เกิดกลไกทางเศรษฐศาสตร์ในการพัฒนาผลผลิตตามมาตรฐานสากล ธุรกิจชุมชนแบบครบวงจร และตลาดเพื่อเกษตรกรโดยเกษตรกร พร้อมกับสง่ เสริมกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์และรายไดใ้ ห้กบั ชุมชน เมืองมีระบบจดั การสงิ่ แวดล้อมและมลพิษทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพครอบคลมุ และได้มาตรฐาน จานวนเมอื งคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มภายในเมอื งอยูใ่ นเกณฑ์มาตรฐาน (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ๕ เมอื ง (กรงุ เทพและปรมิ ณฑล ๑๒ เมือง ๑๙ เมือง ๒๕ เมือง เชยี งใหม่ ขอนแก่น สงขลา และ (เมืองระยะท่ี ๑ และ ๒) (เมอื งระยะท่ี ๑ – ๓ ) (เมืองระยะที่ ๑ – ๔ ) ภูเก็ต) ความย่งั ยนื ทางภมู นิ เิ วศ ภมู ิสังคม และภมู วิ ฒั นธรรม พน้ื ทีท่ ่ีมีการดาเนนิ การสงวนรกั ษาอนรุ กั ษฟ์ ื้นฟู และพฒั นาทรัพยากรธรรมชาติ มรดกทางสถาปัตยกรรม และศิลปวฒั นธรรม อตั ลกั ษณ์ และวถิ ชี วี ติ พืน้ ถิ่น บนฐานธรรมชาตแิ ละฐานวฒั นธรรมอยา่ งยั่งยนื ในพื้นท่ี (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) อยา่ งนอ้ ยใน ๓ จังหวัด เพ่ิมขนึ้ อีกอย่างนอ้ ยใน ๖ เพม่ิ ข้ึนอกี อยา่ งนอ้ ยใน เพ่มิ ขนึ้ อกี อย่างน้อยใน ของ ๑ ภาค จังหวดั ของ ๒ ภาค ๓ จังหวดั ของ ๒ ภาค ๖ จังหวดั ของ ๒ ภาค ๒๘
7. ปร๗ะ.เดป็นรกะาเดรพน็ ัฒโคนราโงคสรรงา้ สงรพ้างื้นพฐ้ืนาฐนานระรบะบบโบลโจลสิจสิตตกิ กิสส์ แ์ แลละะดดจิ ิจทิ ทิ ัลัล การพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐาน ถือเป็นรากฐานที่สาคัญของการสร้างความสามารถในการแข่งขันของ ประเทศ ซ่ึงที่ผ่านมาประเทศไทยได้ให้ความสาคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐาน ด้านคมนาคม และระบบโลจสิ ติกส์ พลงั งาน ดิจิทัล เพ่ิมข้ึนอย่างต่อเนื่อง จนทาให้มีโครงสร้างพ้ืนฐานที่สาคัญของประเทศท่ี ครอบคลุมพ้ืนที่ รวมถึงสามารถรองรับความต้องการของประชาชนทั้งในระดับครัวเรือน อุตสาหกรรม และ การท่องเท่ียวได้ในระดบั หน่งึ สง่ ผลให้ประเทศไทยไดร้ บั การจัดอันดบั ความสามารถด้านโครงสร้างพื้นฐานดีขึ้น จากอนั ดบั ที่ ๔๙ ในปี ๒๕๖๐ เป็นอันดับที่ ๔๘ ในปี ๒๕๖๑ และต้นทุนระบบโลจิสติกส์ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวม ของประเทศท่ีลดลงจากร้อยละ ๑๔.๒ ในปี ๒๕๕๗ เหลือร้อยละ ๑๓.๘ ในปี ๒๕๖๐ รวมท้ังมีอันดับด้าน ประสิทธภิ าพโลจิสติกสด์ ีข้ึนจากอนั ดบั ที่ ๔๕ ในปี ๒๕๕๙ เปน็ อนั ดบั ที่ ๓๒ ในปี ๒๕๖๑ สถานการณ์ เปา้ หมาย ทีม่ า : อันดับความสามารถดา้ นโครงสรา้ งพื้นฐานโดยสถาบัน IMD ตน้ ทุนระบบโลจสิ ตกิ ส์ต่อจีดีพี ข้อมลู จาก สศช. อนั ดับดา้ นประสิทธิภาพโลจสิ ติกส์ โดย ธนาคารโลก ดา้ นโครงสรา้ งพนื้ ฐาน(Infrastructure) โดยสถาบัน IMD ความสามารถในการแขง่ ขนั ด้านโครงสร้างพน้ื ฐานของประเทศดีขนึ้ ตวั ชวี้ ัดและค่าเปา้ หมาย อันดบั ความสามารถในการแขง่ ขนั ด้านโครงสรา้ งพืน้ ฐานของประเทศดขี ึ้น 0 (61-65) (66-70) (71-75) (76-80) ช่วงปี 10 20 25 30 31 40 38 50 45 ๒๙
อย่างไรก็ดี ประเทศไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการพัฒนาท้ังจากปัจจัยภายในและภายนอก ประเทศที่มีผลกระทบต่อการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างต่อเน่ือง แผนแม่บทประเด็น โครงสร้างพื้นฐาน ระบบโลจิสติกส์ และดิจิทัล จึงให้ความสาคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานเพ่ือรองรับ และสนบั สนุนการสรา้ งความสามารถในการแขง่ ขันของประเทศ ประกอบด้วย ๓ แผนยอ่ ยโดยสรุป ดงั น้ี โครงสร้างพ้ืนฐานด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ ให้ความสาคัญกับการพัฒนาระบบขนส่งทาง รางให้เป็นโครงข่ายหลักในการขนส่งของประเทศและรองรับการเช่ือมโยงกับการขนส่งรูปแบบอ่ืนๆ รวมถึงส่ิง อานวยความสะดวกและศูนย์บริการโลจิสติกส์ในรูปแบบต่าง ๆ พร้อมทั้งพัฒนากระบวนการและการบริหาร จัดการระบบโลจิสติส์ที่มีการใช้ระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่เพ่ิมขึ้น ตลอดจนการพัฒนายกระดับศักยภาพ ของผู้ให้บริการโลจิสติกส์ของประเทศ เพื่อให้สามารถสนับสนุนการขนส่งสินค้าต่อเน่ืองหลายรูปแบบอย่าง ไร้รอยต่อและสอดรับกับการพัฒนาพื้นที่ตามแนวระเบียงเศรษฐกิจ เกษตรกรรม ท่องเท่ียวและอุตสาหกรรม ของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศในระดับท่ีแข่งขันได้ พัฒนาให้เกิดการ ใช้พลงั งานในภาคขนส่งทีม่ ปี ระสิทธภิ าพ เป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม พัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมท้ังเมืองหลักในภูมิภาค เพ่ือสนับสนุนการกระจายความเจริญและการสร้างศูนย์เศรษฐกิจ ใหม่ พร้อมทั้งพัฒนาการเช่ือมโยงระบบการคมนาคมเพ่ือยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมถึงการ พัฒนาและบูรณาการระบบฐานข้อมูลการเดินทางและขนส่งทุกรูปแบบ เพื่อนาไปสู่การควบคุมส่ังการและ บริหารจัดการจราจรอัจฉริยะท้ังในระดับพ้ืนที่และระดับประเทศ ตลอดจนการปฏิรูปองค์กร ปรับโครงสร้าง การกากับดูแล และปรับปรุงกฎหมายท่ีเกี่ยวข้องให้มีความทันสมัยและสามารถตอบสนองต่อการพัฒนา คมนาคมและระบบโลจิสตกิ ส์ของประเทศให้มมี าตรฐานในระดบั สากล การพฒั นาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและระบบโลจสิ ติกส์ ในชว่ ง พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๘๐ ๓๐
256๑-๒๕๖๕ 256๖-๒๕๗๐ 25๗๑-๒๕๗๕ 25๗๖-๒๕๘๐ ๓๑
ตน้ ทุนโลจสิ ตกิ สข์ องประเทศไทยต่อผลิตภณั ฑ์มวลรวมในประเทศลดลง สดั สว่ นตน้ ทนุ โลจิสตกิ สข์ องประเทศตอ่ ผลิตภณั ฑ์มวลรวมในประเทศ (เฉล่ียร้อยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) น้อยกว่าร้อยละ ๑๒ น้อยกวา่ รอ้ ยละ ๑๑ น้อยกวา่ รอ้ ยละ ๑๐ นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ ๙ ประสิทธิภาพด้านโลจสิ ตกิ สร์ ะหร่างประเทศของประเทศไทยดขี ้นึ ดชั นีวัดประสิทธภิ าพดา้ นโลจสิ ตกิ สร์ ะหวา่ งประเทศของประเทศไทย (อนั ดับ/คะแนน) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ๒๕ ลาดบั แรก หรือ ๒๕ ลาดบั แรก หรือ ๒๐ ลาดบั แรก หรอื คะแนน ๒๐ ลาดับแรก หรอื คะแนนไมต่ า่ กว่า ๓.๕๐ คะแนนไมต่ ่ากวา่ ๓.๖๐ คะแนนไมต่ า่ กว่า ๓.๘๐ ไมต่ า่ กวา่ ๓.๗๐ การขนสง่ สินค้าทางรางเพิม่ ข้ึน สดั สว่ นปรมิ าณการขนส่งสนิ ค้าทางรางตอ่ ปริมาณการขนสง่ สนิ คา้ ท้ังหมด (เฉลี่ยรอ้ ยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ร้อยละ ๔ ร้อยละ ๗ รอ้ ยละ ๘ ร้อยละ ๑๐ การเดนิ ทางดว้ ยระบบขนส่งสาธารณะในเขตเมืองเพ่มิ ขึ้น สัดส่วนการเดินทางด้วยระบบขนสง่ สาธารณะในเขตเมืองตอ่ การเดินทางในเมืองท้ังหมด (เฉล่ยี ร้อยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) กรุงเทพฯและปรมิ ณฑล กรงุ เทพฯ และปริมณฑล กรุงเทพฯ และปริมณฑล กรุงเทพฯ และปริมณฑล ไม่น้อยกวา่ ๓๐ เมืองหลกั ไมน่ อ้ ยกว่า ๔๐ เมอื งหลกั ไมน่ ้อยกว่า ๕๐ เมืองหลัก ไม่นอ้ ยกวา่ ๖๐ เมืองหลัก ในภมู ิภาค ไม่นอ้ ยกวา่ ๕ ในภมู ิภาคไมน่ ้อยกว่า ๑๐ ในภูมภิ าค ไมน่ อ้ ยกวา่ ๒๐ ในภูมิภาค ไมน่ อ้ ยกวา่ ๒๐ ผูเ้ สียชวี ติ จากอบุ ัติเหตุทางถนนลดลง อัตราผู้เสยี ชีวิตจากอบุ ตั เิ หตุทางถนน (คนต่อประชากร ๑ แสนคน) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ๑๒ คนตอ่ ประชากร ๑๒ คนตอ่ ประชากร ๘ คนตอ่ ประชากร ๕ คนตอ่ ประชากร ๑ แสนคน ๑ แสนคน ๑ แสนคน ๑ แสนคน ๓๒
โครงสร้างพน้ื ฐานด้านพลงั งาน โดยจดั หาพลังงานและระบบโครงสรา้ งพน้ื ฐานด้านพลังงานให้รองรับ ความต้องการใช้พลังงานของประเทศ และมีการกระจายชนิดของเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า เพ่ือให้สามารถ พงึ่ พาตนเองได้อย่างยัง่ ยืน สนับสนุนการจัดหาแหล่งพลังงานใหม่ การพัฒนาระบบการบริหารจัดการพลังงาน อัจฉริยะ เพ่ือนาไปสู่การผลิตและการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพ มีเสถียรภาพ และทันกับแนวโน้มการ เปล่ียนแปลงทางเทคโนโลยีด้านพลังงานในอนาคต สนับสนุนการผลิตและการใช้พลังงานทดแทนในสัดส่วนท่ี สูงข้ึนตามศักยภาพของแหล่งเชื้อเพลิงในพื้นที่ ตลอดจนพัฒนาระบบกากับดูแลด้านพลังงานให้มีการแข่งขัน อยา่ งเสรีและเป็นธรรม สร้างความสามารถในการแขง่ ขันของประเทศ การใช้ก๊าซธรรมชาตใิ นการผลิตไฟฟ้าลดลง สดั ส่วนของการใช้ก๊าซธรรมชาตใิ นการผลติ ไฟฟ้า (เฉลี่ยร้อยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ไม่เกนิ ร้อยละ ๖๐ ไม่เกนิ ร้อยละ ๖๐ ไมเ่ กินรอ้ ยละ ๕๐ ไม่เกนิ รอ้ ยละ ๕๐ การใช้พลงั งานทดแทนทผ่ี ลติ ภายในประเทศเพิม่ มากข้ึน สดั สว่ นของการใช้พลังงานทดแทนที่ผลิตได้ภายในประเทศในการผลติ ไฟฟ้า ความรอ้ นและเช้อื เพลงิ ชีวภาพ (เฉลี่ยรอ้ ยละของพลงั งานขน้ั สดุ ท้าย) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ร้อยละ ๑๕-๑๘ ร้อยละ ๑๙-๒๒ รอ้ ยละ ๒๓-๒๕ รอ้ ยละ ๒๖-๓๐ ประสทิ ธภิ าพการใชพ้ ลังงานของประเทศเพิ่มขนึ้ ค่าความเข้มขน้ การใช้พลงั งาน (พนั ตันเทียบเทา่ นา้ มันดบิ /พันล้านบาท) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) ๗.๔๐ พันตันเทยี บเท่า ๖.๙๓ พันตันเทียบเท่า ๖.๔๕ พันตนั เทียบเทา่ ๕.๙๘ พันตนั เทียบเท่า นา้ มนั ดบิ /พนั ล้านบาท นา้ มนั ดบิ /พนั ลา้ นบาท นา้ มนั ดบิ /พันล้านบาท นา้ มันดิบ/พันล้านบาท การปรับปรงุ และพัฒนาระบบไฟฟา้ ของประเทศให้มีประสทิ ธิภาพดว้ ยเทคโนโลยีระบบโครงขา่ ยสมาร์ทกริด จ้านวนแผนงาน และ/หรือโครงการทกี่ า้ ลงั พฒั นา / โครงการนา้ รอ่ ง / โครงการท่ีมีการใช้งานทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง กับการเพิ่มประสทิ ธภิ าพระบบไฟฟา้ ในแตล่ ะระยะ (แผนงาน/โครงการ) ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๖๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) พัฒนาและสาธิต พฒั นาโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาโครงสรา้ งพื้นฐาน พฒั นาโครงสร้างพ้ืนฐาน นาร่องการใช้งาน ระบบสมารท์ กรดิ อยา่ งน้อย ระบบสมารท์ กรดิ อย่างนอ้ ย ระบบสมารท์ กรดิ อย่างน้อย ระบบสมารท์ ๓ แผนงาน/โครงการ ๓ แผนงาน/โครงการ ๔ แผนงาน/โครงการ(รวม กริดอยา่ งน้อย ๘ แผนงาน / (รวมเปน็ ๑๑ แผนงาน/ (รวมเปน็ ๑๔ แผนงาน/ เปน็ ๑๘ แผนงาน/ โครงการ โครงการ) โครงการ) โครงการ) ๓๓
โครงสรา้ งพ้นื ฐานด้านดจิ ิทัล พัฒนาโครงสร้างพืน้ ฐานด้านดิจิทัล ท้ังในส่วนของโครงข่ายสื่อสารหลัก ภายในประเทศและระหว่างประเทศให้สามารถบริการได้อย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ สอดรับกับแนวโน้ม การเปล่ียนแปลงทางเทคโนโลยดี ้านดจิ ิทลั สนับสนนุ การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ นาไปสู่การยกระดับ เศรษฐกจิ ของประเทศและการเป็นศนู ย์กลางดา้ นดจิ ิทลั ของภูมิภาคอาเซียนในอนาคต สนับสนุนให้เกิดการบูร ณาการการใช้งานโครงสร้างพ้ืนฐานและส่ิงอานวยความสะดวกด้านดิจิทัลร่วมกัน รวมท้ังสนับสนุนให้มีการ พัฒนาระบบนิเวศ ปรับปรุงกฎหมายท่ีเกี่ยวข้อง เพ่ือนาไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล ที่มีศักยภาพและเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคตสาหรับกิจการท่ีใช้เทคโนโลยีข้ันสูง ตลอดจนกาหนดมาตรการ แนวปฏิบัติในการคุ้มครองสิทธิและข้อมูลส่วนบุคคล จัดให้มีมาตรการเฝ้าระวังและรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ท่ี เหมาะสมและสอดคลอ้ งตามมาตรฐานสากล เพ่อื รองรับการเตบิ โตของการใช้งานเทคโนโลยดี จิ ทิ ัลในอนาคต ประชาชนมีความสามารถในการเขา้ ถึงอินเทอร์เน็ตมากขน้ึ อตั ราส่วนของครัวเรอื นท่ใี ช้อินเตอร์เน็ต (รอ้ ยละ) (ปี ๖๑ – ๖๕) (ปี ๖๖ – ๗๐) (ปี ๗๑ – ๗๕) (ปี ๗๖ – ๘๐) รอ้ ยละ ๗๐ ร้อยละ ๘๐ ร้อยละ ๙๐ รอ้ ยละ ๙๕ ๓๔
๘. ประเดน็ ผปู้ ระกอบการและวิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดยอ่ มยุคใหม่ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ถือได้ว่าเป็นกลไกสาคัญในการพัฒนาประเทศ ท้ังในมิติของการ สร้างรายได้ เป็นแหล่งการจ้างงานที่สาคัญ และยังเป็นกลไกในการแก้ไขปัญหาความยากจนของประเทศ ที่ผา่ นมาแม้วา่ วสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ มของไทยจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนของมูลค่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมต่อมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศของไทยอยู่ท่ี ร้อยละ ๓๗.๓ ในปี ๒๕๕๕ และเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ ๔๒.๔ ในปี ๒๕๖๐ แต่ในการท่ีจะบรรลุเป้าหมายตาม ยุทธศาสตร์ชาติที่กาหนดให้สัดส่วนมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมต่อ ผลิตภณั ฑม์ วลรวมของประเทศไว้ทร่ี ้อยละ ๖๐ ในปี ๒๕๘๐ ประเทศไทยจะต้องให้ความสาคัญกับการผลักดัน ให้ผู้ประกอบการยุคใหม่สามารถเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้มากขึ้น มีการลงทุนเพ่ิมขึ้น และมีศักยภาพในการ แขง่ ขันทั้งในประเทศและในระดบั สากลสูงข้นึ สถานการณ์ ผลติ ภัณฑม์ วลรวมของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม ปี ๒๕๕๖ - ๒๕๖๑ ล้านล้านบาท ๔๒.๑ ๔๒.๔ ๔๒.๖ รอ้ ยละ ๘.๐ ๔๓ ๖.๐ ๔๑.๓ ๔๒ ๔.๐ ๓๙.๗ ๔๐.๒ ๔๑ ๔๐ ๒.๐ ๕.๓๒ ๕.๖๘ ๖.๑๒ ๖.๕๕ ๕.๑๗ ๓๙ ๕.๑๓ ๐.๐ ๓๘ ๒๕๕๖ ๒๕๕๗ ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ ๒๕๖๐ ๒๕๖๑ (๙ เดอื น) GDP ของ SMEs (ลา้ นลา้ นบาท) สัดสว่ น GDP ของ SMEs ตอ่ GDP ท้ังหมด (รอ้ ยละ) ทม่ี า : สานักงานส่งเสริมวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม เปา้ หมาย ผู้ ป ร ะ ก อ บ ก า ร ใ น ทุ ก ร ะ ดั บ เ ป็ น ผู้ ป ร ะ ก อ บ ก า ร ยุ ค ใ ห ม่ ท่ี มี บ ท บ า ท ต่ อ ร ะ บ บ เ ศ ร ษ ฐ กิ จ เพม่ิ มากขนึ้ ตัวช้ีวัดและค่าเป้าหมาย ร้อยละ สดั ส่วนผลติ ภณั ฑ์มวลรวมของวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อมต่อผลิตภัณฑม์ วลรวมในประเทศ ๖๕ ๖๐ ๖๐.๐ ๕๕ ๕๕.๐ ๕๐ ๕๐.๐ ๔๕ ๔๒.๔ ๔๕.๐ ๔๐ ๓๕ ๓๐ ๖๐ (๖๑ - ๖๕) (๖๖ - ๗๐) (๗๑ - ๗๕) (๗๖ - ๘๐) ช่วงปี ๓๕
การขับเคลื่อนการพัฒนาเพ่ือสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะ ๒๐ ปีข้างหน้า จาเป็นตอ้ งสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้เป็น “ผู้ประกอบการยุคใหม่” ท่ีก้าวทันและใช้ประโยชน์จาก เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เนื่องจากการ ประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการมีบทบาทสาคัญต่อการกระตุ้นให้เศรษฐกิจเจริญเติบโต และความเข้มแข็ง ของผู้ประกอบการจะช่วยให้ประเทศสามารถแข่งขันในระดับเวทีการค้าโลกได้ โดยผู้ประกอบการยุคใหม่ จะต้องมีทักษะแห่งอนาคตท่ีมีความพร้อมทางด้านทัศนคติ ทักษะความสามารถ และความรู้สาหรับการรับมือ กับการแข่งขันท่ีจะรุนแรงขึ้นจากการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีได้ โดยประกอบด้วย ๔ แผน ย่อยโดยสรุป ไดแ้ ก่ การสร้างความเข้มแข็งผู้ประกอบการอัจฉริยะ โดยให้ความสาคัญกับการจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนา ความเป็นผู้ประกอบการ รวมทั้งพัฒนาทักษะพ้ืนฐานท่ีจาเป็นและความถนัดท่ีแตกต่างและหลากหลายของ แรงงานโดยเฉพาะท่ีเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี และพัฒนาผู้ประกอบการในทุกระดับให้มีจิตวิญญาณของการเป็น ผู้ประกอบการ ขบั เคล่อื นธรุ กจิ ด้วยเทคโนโลยี นวตั กรรม และความคดิ สรา้ งสรรคใ์ นการพัฒนาเพ่ิมมูลค่าธุรกิจ ตลอดจนส่งเสริมการรวมกลุ่มและสรา้ งเครือข่ายของผู้ประกอบการ การขยายตวั ของวิสาหกจิ เร่มิ ต้นในประเทศไทยเพิ่มข้ึน อตั ราการขยายตัวจานวนการก่อตง้ั วิสาหกจิ เริ่มตน้ (เฉล่ยี ร้อยละ) (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) ขยายตัวร้อยละ ๑๐ ขยายตวั รอ้ ยละ ๒๕ ขยายตวั ร้อยละ ๑๕ ขยายตัวร้อยละ ๒๒ ความสามารถในการแขง่ ขนั ด้านการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยดี ิจิทัลดขี นึ้ อันดับความสามารถในการแข่งขนั ด้านการใช้เคร่อื งมือและเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) อันดบั ที่ ๑ ใน ๓๖ อนั ดบั ท่ี ๑ ใน ๓๐ อันดับที่ ๑ ใน ๒๕ อนั ดับท่ี ๑ ใน ๒๐ การสร้างโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงิน จัดหาแหล่งเงินทุนและพัฒนาช่องทางการเข้าถึงแหล่ง เงินทุนรูปแบบใหม่ ๆ พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการบริหารความเส่ียง พัฒนาระบบประเมินมูลค่า ทรัพย์สินในรูปแบบต่าง ๆ เพ่ือใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจ พัฒนาระบบการประเมินความน่าเชื่อถือทาง เครดิต และระบบการรู้จักลูกค้าที่สะดวกมากข้ึน รวมท้ังสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้าถึงบริการทาง การเงนิ ดว้ ยต้นทุนทีเ่ หมาะสม สนิ เช่อื ธรุ กิจรายใหม่ทีไ่ ม่ใชร่ ายใหญ่เฉลี่ยตอ่ ปเี พ่ิมข้นึ อตั ราการขยายตวั สนิ เชอื่ ธุรกิจรายใหมท่ ีไ่ มใ่ ช่รายใหญ่ (ร้อยละ) (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) ขยายตวั ร้อยละ ๑๐ ขยายตวั รอ้ ยละ ๑๐ ขยายตัวรอ้ ยละ ๑๐ ขยายตัวร้อยละ ๑๐ มลู ค่าการระดมทุนผา่ นตลาดทุนของกจิ การที่เรม่ิ ตัง้ ตน้ และวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ มเพมิ่ ข้ึน มูลค่าการระดมทุนผา่ นตลาดทุนของกจิ การทเี่ รม่ิ ตงั้ ต้นและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (ร้อยละ) (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) ขยายตัวร้อยละ ๑๐ ขยายตวั รอ้ ยละ ๑๒ ขยายตัวร้อยละ ๑๔ ขยายตัวร้อยละ ๑๖ ๓๖
การสร้างโอกาสเข้าถึงตลาด โดยสนับสนุนผู้ประกอบการให้มีอัตลักษณ์และตราสินค้าท่ีเด่นชัด ให้ความสาคัญกับการผลิตโดยใช้ตลาดนาที่คานึงถึงความต้องการของตลาดโดยเฉพาะตลาดที่มีมูลค่าสูง ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร ใ ช้ ป ร ะโ ย ช น์ จ า ก เ ท ค โ น โ ล ยี ดิ จิ ทั ล ใ น ก า ร ข ย า ย ช่ อง ท า ง ก า ร ต ล า ด ทั้ ง ใ น แ ล ะต่ า ง ป ร ะเ ท ศ สรา้ งโอกาสใหผ้ ู้ประกอบการสามารถเขา้ ถงึ ตลาดจัดซ้ือจัดจ้างภาครัฐได้มากขึ้น มีแผนกลยุทธ์การเข้าถึงตลาด ใหญ่ที่มศี ักยภาพสาหรบั สนิ ค้าและบรกิ ารของไทย ตลอดจนสร้างและพัฒนาตลาดในประเทศสาหรับสินค้าท่ีมี คุณภาพมาตรฐาน รวมทง้ั ตลาดสินค้าสาหรบั กลมุ่ เฉพาะ มูลคา่ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกสข์ องประเทศเพิม่ ข้ึน อัตราการขยายตัวของมูลค่าพาณิชย์อเิ ล็กทรอนกิ ส์ของวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) เพ่มิ ข้นึ ๑ เทา่ เพ่ิมข้ึน ๑ เทา่ เพ่ิมขึน้ ๑ เท่า เพ่มิ ขึน้ ๑ เท่า ความสามารถในการแขง่ ขนั ดา้ นการค้าระหว่างประเทศของประเทศไทยดขี ึน้ อนั ดบั ความสามารถในการแขง่ ขนั ด้านการคา้ ระหว่างประเทศโดย IMD (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) อนั ดบั ที่ ๑ ใน ๕ อันดบั ที่ ๑ ใน ๕ อนั ดบั ที่ ๑ ใน ๕ อนั ดบั ที่ ๑ ใน ๕ การขยายตวั การส่งออกของวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อมเพมิ่ ขน้ึ สัดส่วนการส่งออกของวิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ มต่อการสง่ ออกรวมของประเทศ (ร้อยละ) (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) ไม่ต่ากว่ารอ้ ยละ ๒๕ ไมต่ า่ กวา่ รอ้ ยละ ๒๕ ไม่ตา่ กว่าร้อยละ ๓๐ ไม่ต่ากว่าร้อยละ ๓๐ การสร้างระบบนิเวศท่ีเอื้อต่อการดาเนินธุรกิจของผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมยุคใหม่ พัฒนาปัจจัยแวดล้อมที่เอ้ือต่อการสนับสนุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดาเนินธุรกิจ โดยการพัฒนาระบบฐานข้อมูลที่เก่ียวกับองค์ความรู้ สถิติ ผลการวิจัยและพัฒนา ทรัพย์สินทางปัญญา การตลาดและนวตั กรรมให้เป็นระบบที่เป็นปัจจุบัน บูรณาการ และต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงและการใช้ ประโยชน์จากฐานข้อมูลในการสร้างโอกาสให้ภาคธุรกิจ รวมถึงสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศกึ ษา และสถาบนั วชิ าการทั้งในและระหว่างประเทศ ในการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการร่วมกัน ยกระดับบริการและโครงสร้างพื้นฐานทางคุณภาพให้เอ้ือต่อการประกอบธุรกิจ และการพัฒนานวัตกรรมและ ประยกุ ต์ใชท้ งั้ ในภาครัฐและเอกชน อันดบั นโยบายของภาครัฐทมี่ ตี อ่ วสิ าหกิจและผู้ประกอบการดา้ นการสนับสนุนและความสอดคลอ้ งของนโยบายดีขึ้น อนั ดบั นโยบายของภาครฐั ทม่ี ตี อ่ วิสาหกจิ และผูป้ ระกอบการด้านการสนับสนุนและความสอดคล้องของนโยบาย (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) อนั ดับท่ี ๑๕ อันดบั ที่ ๑๒ อนั ดับท่ี ๑๐ อันดับท่ี ๑๐ ๓๗
9. ประเด็น เขตเศรษฐกจิ พิเศษ EEC ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน มุ่งเน้นการยกระดับศักยภาพของประเทศ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเป็นประเทศท่ีพัฒนาแล้ว เศรษฐกิจเติบโตอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน พร้อมกับ การมีขีดความสามารถในการแขง่ ขันสูงขน้ึ ซงึ่ ผลการประเมินขดี ความสามารถในการแข่งขันโดยสถาบันการจัด อนั ดบั ขดี ความสามารถการแขง่ ขนั ชน้ั นาของโลก พบว่าประเทศไทยไดร้ ับการจัดอันดับค่อนข้างดีโดยอยู่อนั ดบั ท่ี ๓๐ จาก ๖๑ ประเทศ แต่หากพิจารณาในตัวชี้วัดที่เก่ียวข้องกับอุตสาหกรรมจะพบว่าไทยทาคะแนนได้ ค่อนข้างต่าในด้านผลิตภาพ (อันดับที่ ๔๓) โครงสร้างพ้ืนฐานเก่ียวกับวิทยาศาสตร์ (อันดับท่ี ๔๗) และ เทคโนโลยี (อันดับท่ี ๔๒) ซ่ึงรายงาน ดัชนีความสามารถในการแข่งขันระดับโลก ๒๐๑๖ - ๒๐๑๗ ของ การประชุมเศรษฐกิจโลกให้ผลการประเมินในทิศทางเดียวกัน กล่าวคือ ศักยภาพในการคิดค้นนวัตกรรม โครงสร้างพื้นฐาน และแรงงานทักษะ มีการพัฒนาช้า เม่ือเทียบกับประเทศกาลังพัฒนาในภูมิภาคเดียวกัน และยังคงเปน็ ปญั หาหลักในการทาธรุ กจิ ในไทยอกี ด้วย สถานการณ์ 2018 2017 คะแนน 2015 2014 2016 โลก 76.61 77.033 73.267 69.228 64.762 ประเทศไทย 79.450 80.095 74.681 69.786 64.976 (30) (27) (28) (30) (29) สถานะภาพทางเศรษฐกจิ ขดี ความสามารถของภาครัฐ 2014 2015 2016 2017 2018 2014 2015 2016 2017 2018 12 13 13 10 10 28 27 23 20 22 ขดี ความสามารถทางธุรกจิ โครงสร้างพนื้ ฐาน 2014 2015 2016 2017 2018 2014 2015 2016 2017 2018 25 24 25 25 25 48 46 49 49 48 ทม่ี า : IMD International, World Competitiveness Center ผลคะแนนเฉลีย่ โลกระหว่างปี ๒๕๕๗ – ๒๕๖๑ และคะแนนของประเทศในกลมุ่ อาเซียน country ๒๕๖๑ ๒๕๖๐ ๒๕๕๙ ๒๕๕๘ ๒๕๕๗ World ๗๖.๖๑ ๗๗.๐๓๓ ๗๓.๒๖๗ ๖๙.๒๒๘ ๖๔.๗๖๒ Singapore ๙๘.๕๕๓ ๙๙.๔๘๘ ๙๗.๖๔๙ ๙๔.๙๕๐ ๙๐.๙๖๖ Malaysia (๓) (๓) (๔) (๓) (๓) ๘๕.๑๗๔ ๘๓.๕๓๐ ๘๓.๐๔๘ ๘๔.๑๑๓ ๘๒.๐๘๘ Thailand (๒๒) (๒๔) (๑๙) (๑๔) (๑๒) ๗๙.๔๕๐ ๘๐.๐๙๕ ๗๔.๖๘๑ ๖๙.๗๘๖ ๖๔.๙๗๖ (๓๐) (๒๗) (๒๘) (๓๐) (๒๙) ทีม่ า : Thailand Management Association (TMA) หมายเหตุ : ตวั เลขในวงเล็บแสดงถงึ อนั ดบั ของประเทศ ๓๘
เป้าหมาย ๑. การเจริญเตบิ โตของผลติ ภณั ฑ์มวลรวมของเขตเศรษฐกิจพิเศษทัง้ หมดเพิม่ ขึ้น ๒. การลงทุนในพ้ืนที่เขตเศรษฐกิจพเิ ศษท้งั หมดได้รับการยกระดับ ตวั ชวี้ ัดและคา่ เปา้ หมาย อัตราการขยายตัวของผลติ ภัณฑม์ วลรวมของพน้ื ท่ีเขตเศรษฐกิจพเิ ศษทง้ั หมด (เฉลี่ยร้อยละ) ร้อยละ มูลค่าการส่งเสริมการลงทุนในพนื้ ทเี่ ขตเศรษฐกจิ พิเศษท้งั หมด ในช่วง 5 ปแี รก (ล้านบาท) 7 6 5 4 3 2 1 0 (66-70) (71-75) (76-80) ชว่ งปี (61-65) เพื่อทาให้ไทยกลบั มามกี ารขยายตัวทางเศรษฐกจิ ท่ีดขี ึ้นและหลุดพน้ กบั ดกั รายไดป้ านกลาง เขตเศรษฐกจิ พิเศษจึงเป็นโครงการสาคัญที่จะเพ่ิมความสามารถในการแข่งขันของไทย ภายใต้แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ ชาติประเดน็ เขตเศรษฐกิจพิเศษ ประกอบดว้ ย ๑) เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ๒) เขตพัฒนาพน้ื ที่ระเบยี ง เศรษฐกิจภาคใต้ และ ๓) เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน จะเป็นแนวทางในการขับเคล่ือนการพัฒนาเชิงพื้นท่ีที่ สาคัญ และมีความสาคญั อย่างยิ่งในการส่งเสริมการเพิ่มผลิตภาพและสร้างมลู ค่าเพ่ิม รวมท้ังการปรบั โครงสร้าง ภาคการผลติ และบริการในปจั จุบันไปสูภ่ าคการผลติ และบริการแห่งอนาคตที่มศี กั ยภาพ การพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เป็นการวางจุดยืนของประเทศไทยสาหรับการพฒั นาระยะ ยาว ตอบสนองต่อความท้าทายภายในประเทศและระดับโลก การพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก มี วัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นต้นแบบการพัฒนาเชิงพ้ืนที่ที่สมบูรณ์แบบ ช่วยผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคม และให้ประเทศไทยก้าวข้ึนสู่ระดับประเทศพัฒนาโดยเร็วที่สุด ปรับโครงสร้างการผลิตของประเทศและ กระจายความเจริญออกสู่พื้นท่ีบริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก มีการลงทุนโครงสร้างพ้ืนฐานข้ันสูง เป็นฐาน การสะสมเทคโนโลยีและนวัตกรรม ยกระดับอุตสาหกรรมสู่อุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงและมีศักยภาพในการ แข่งขันสูง ให้สอดรับกับบริบทโลกบนฐานกิจกรรมทางเศรษฐกิจท่ีทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง การพัฒนาพื้นท่ีให้เป็นเมืองอัจฉริยะน่าอยู่และมีความทันสมัยระดับนานาชาติ และสามารถประกอบกิจการ อย่างมีคุณภาพ ซ่ึงจะทาให้ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น และยกระดับการพัฒนาแบบ กา้ วกระโดด เพอื่ เสรมิ สร้างความเขม้ แขง็ ให้กบั ประเทศไทยในฐานะประตขู องภูมภิ าคเอเชยี การขยายตัวของผลติ ภัณฑม์ วลรวมของพืน้ ท่ีเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวนั ออกเพ่ิมข้นึ อัตราการขยายตวั ของผลติ ภัณฑม์ วลรวมของพ้ืนที่ เขตพัฒนาพเิ ศษภาคตะวันออก (รอ้ ยละตอ่ ปี) (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) ขยายตวั ร้อยละ ๖.๓ ขยายตวั รอ้ ยละ ๖.๓ ขยายตวั รอ้ ยละ ๖.๓ ขยายตวั ร้อยละ ๖.๓ ๓๙
การลงทนุ ในเขตพฒั นาพเิ ศษภาคตะวนั ออกเพิ่มข้ึน มูลคา่ การลงทนุ ในเขตพฒั นาพเิ ศษภาคตะวันออก (ลา้ นบาท) (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) ๕๐๐,๐๐๐ ๕๐๐,๐๐๐ ๕๐๐,๐๐๐ ๕๐๐,๐๐๐ การพัฒนาเขตพืน้ ท่ีระเบยี งเศรษฐกิจภาคใต้ มีวตั ถปุ ระสงค์เพ่อื พฒั นาพน้ื ท่ีเศรษฐกิจใหม่และทางออก ทางทะเลของภาคใต้ตอนบน โดยใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในพื้นท่ีผสานกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม และความได้เปรียบทางกายภาพและที่ต้ังของพ้ืนท่ี รวมท้ังอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดล้อม โดยรูปแบบการพัฒนาพ้ืนท่ีระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (จังหวัดชุมพร - ระนอง และพ้ืนที่จังหวัด สุราษฎร์ธานี - นครศรีธรรมราช) ตามกรอบแนวทางการพัฒนา ประกอบด้วย (๑) การพัฒนาประตูการค้า ฝ่ังตะวันตก ให้สามารถเชื่อมโยงโครงข่ายและใช้ประโยชน์ในการเป็นประตูส่งออกสินค้าฝั่งตะวันตกเพ่ือ เช่ือมโยงกับพ้ืนที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกไปยังกลุ่มประเทศความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสาหรับ ความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ (๒) การพัฒนาประตูสู่การท่องเท่ียวอ่าวไทยและ อนั ดามนั พัฒนาการเชือ่ มโยงแหลง่ ท่องเทยี่ วในพน้ื ทฝี่ ัง่ อันดามันตอ่ เนื่องไปจนถึงฝ่ังอ่าวไทยตอนบนบริเวณหัว หิน ชะอา ให้เป็นแนวการท่องเท่ียวชั้นนาแห่งใหม่ และพัฒนาเป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ด้านการท่องเท่ียว เชิงนิเวศเพ่ือรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ (๓) การพัฒนาอุตสาหกรรมฐานชีวภาพและการแปรรูปการเกษตร มูลค่า จากการใช้ทรัพยากรการผลิตทั้งในพ้ืนท่ีและประเทศเพ่ือนบ้าน เพ่ือพัฒนาเป็นศูนย์กลางการแปรรูป การเกษตรและการประมงในภาคใต้ และ (๔) การอนุรักษ์ทรัพยากรและวัฒนธรรมเพ่ือการท่องเท่ียวและ การเรียนรู้ รวมท้ังเมอื งนา่ อยู่ การขยายตัวของผลติ ภัณฑม์ วลรวมของพ้ืนที่เขตพ้นื ทรี่ ะเบยี งเศรษฐกจิ ภาคใต้เพ่ิมขึ้น อตั ราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมของพื้นท่ีเขตพน้ื ทร่ี ะเบยี งเศรษฐกิจภาคใต้ (รอ้ ยละตอ่ ป)ี (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) อย่างนอ้ ยร้อยละ ๕ อย่างน้อยรอ้ ยละ ๕ อยา่ งน้อยร้อยละ ๕ อยา่ งนอ้ ยรอ้ ยละ ๕ ๔๐
การลงทุนในเขตพื้นทร่ี ะเบยี งเศรษฐกจิ ภาคใต้เพ่ิมขึน้ มลู คา่ การลงทุนในเขตพนื้ ท่ีระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (ล้านบาท) (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) ๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ๑๐๐,๐๐๐ ลา้ นบาท เมืองในพื้นท่รี ะเบียงเศรษฐกจิ ภาคใตท้ ไ่ี ดร้ บั การพัฒนาให้เปน็ เมืองนา่ อยู่มากขนึ้ จานวนเมืองในพื้นทร่ี ะเบยี งเศรษฐกิจภาคใต้ท่ไี ด้รบั การพฒั นาใหเ้ ป็นเมืองน่าอยู่ (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) ๒ เมอื ง - ๑ เมือง ๑ เมอื ง (ระนอง และชุมพร) (สุราษฎร์ธานี*) (นครศรธี รรมราช) * เป็นเมืองขนาดกลางในแผนแม่บทฯ ประเด็นพ้ืนทีแ่ ละเมอื งนา่ อยู่อัจฉริยะด้วย การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน แผนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน มีวัตถุประสงค์ สาคัญให้เกิดการกระจายความเจรญิ สูภ่ ูมภิ าคโดยใช้โอกาสจากอาเซียน ลดความเหล่อื มลา้ ทางรายได้ ยกระดับ คุณภาพชีวิตของประชาชน และเสริมสร้างความม่ันคงในพ้ืนที่บริเวณชายแดน รวมท้ัง เพิ่มความสามารถ ในการแข่งขันและการเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน การขยายตัวของผลิตภัณฑม์ วลรวมของพ้นื ที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพเิ ศษชายแดนเพมิ่ ขน้ึ อัตราการขยายตวั ของผลติ ภัณฑม์ วลรวมของเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน (ร้อยละตอ่ ปี) (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) ขยายตวั ร้อยละ ๓.๐ ขยายตวั ร้อยละ ๓.๐ ขยายตัวร้อยละ ๓.๐ ขยายตวั ร้อยละ ๓.๐ การลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพเิ ศษชายแดนเพ่ิมขนึ้ มลู คา่ การลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกจิ พเิ ศษชายแดน (ล้านบาท) (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ๑๐,๐๐๐ ลา้ นบาท ๑๐,๐๐๐ ลา้ นบาท เมืองในพน้ื ที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพเิ ศษชายแดนทไี่ ดร้ ับการพฒั นาให้เปน็ เมอื งน่าอยู่มากขึน้ จานวนเมืองในเขตพฒั นาเศรษฐกจิ พิเศษชายแดนท่ีไดร้ ับการพฒั นาใหเ้ ปน็ เมืองนา่ อยู่ (จานวนเมือง) (ปี ๖๑ - ๖๕) (ปี ๖๖ - ๗๐) (ปี ๗๑ - ๗๕) (ปี ๗๖ - ๘๐) ๑ เมอื ง ๖ เมือง - ๓ เมอื ง (สงขลา) (ตาก สระแก้ว เชียงราย* (นครพนม นราธิวาส และ กาญจนบุรี* หนองคาย* ตราด) มุกดาหาร*) * เป็นเมอื งศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและเมืองขนาดกลางในแผนแม่บทฯ ประเดน็ พ้ืนทแ่ี ละเมอื งนา่ อยู่อจั ฉริยะดว้ ย ๔๑
Search