Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พระราชบัญญัติที่มีโทษทางอาญา

พระราชบัญญัติที่มีโทษทางอาญา

Published by phenix stock, 2021-03-29 11:15:08

Description: พระราชบัญญัติที่มีโทษทางอาญา

Search

Read the Text Version

๔๒ คําสั่งเพิกถอนใบอนุญาตแลว ใหผูรับใบอนุญาตสงมอบอาวุธปน เครื่องกระสุนปนหรือวัตถุระเบิด และใบอนญุ าตแกนายทะเบียนทอ งท่โี ดยไมชักชา ถาผูรับใบอนุญาตเปนคนไรความสามารถ หรือเปนคนเสมือนไรความสามารถหรือเปน คนวิกลจริต หรือฟนเฟอนไมสมประกอบ ใหผูอนุบาล ผูพิทักษ หรือผูควบคุมดูแลแลวแตกรณี มหี นาทตี่ อ งปฏิบัติตามความในวรรคกอ น ÁÒμÃÒ ö÷ อาวุธปน เครือ่ งกระสนุ ปน หรือวัตถุระเบิด ซึง่ สงมอบไวต ามมาตรา ๖๕ หรือมาตรา ๖๖ นั้น ใหผูสงมอบจัดการโอนเสียภายในเกาสิบวัน นับแตวันท่ีสงมอบ ถาโอนได นายทะเบียนทองท่ีท่ีมอบแกผูรับโอนไป แตถาโอนไมไดใหนายทะเบียนจัดการขายทอดตลาด ภายหลังทไี่ ดป ระกาศและแจงใหผูสง มอบทราบแลวตามสมควร ไดเงนิ สทุ ธิเทาใดมอบใหแ กผมู สี ิทธิ ÁÒμÃÒ öø เมอ่ื พฤตกิ ารณอ นั สมควรสงสยั วา ผรู บั ใบอนญุ าตคนใดจะเปน ผตู อ งหา ม ในการออกใบอนุญาตตามมาตรา ๑๓(๘) หรือ (๙) นายทะเบียนทองที่มีอํานาจเรียกประกันหรือ ทัณฑบน จากผนู ้นั ได ถาผูรับใบอนุญาตดังกลาวแลวหาประกันใหเปนท่ีเช่ือถือไมได หรือไมยอมทําทัณฑบน ภายในเวลาอันสมควรตามท่ีนายทะเบียนไดกําหนดให ซ่ึงตองไมนอยกวาสามสิบวัน ใหถือวาผูรับ ใบอนุญาตนั้นเปนผูซ ึ่งจะออกใบอนุญาตใหไมไ ด และใหนาํ มาตรา ๖๖ และมาตรา ๖๗ มาใชบงั คับ โดยอนุโลม ÁÒμÃÒ öù เม่ือใบอนุญาตสูญหายเปนอันตรายหรือลบเลือนอานไมออก ใหผูรับ ใบอนญุ าต ยน่ื คาํ ขอรบั ใบแทนอนญุ าตตอ นายทะเบยี นทอ งทภี่ ายในสามสบิ วนั นบั แตว นั ทท่ี ราบเหตนุ นั้ ถานายทะเบียนเห็นวามีเหตุผลเปนที่เช่ือถือไดก็ใหออกใบแทนใหตามเงื่อนไขของใบอนุญาตเดิม แตถาใบอนุญาตที่สูญหายไดคืนในภายหลัง ก็ใหสงใบแทนนั้นแกนายทะเบียนทองท่ีภายในกําหนด สิบหาวันนบั แตว ันท่ไี ดคืน ÁÒμÃÒ ÷ð หามไมใหผูใดนําอาวุธปน เครื่องกระสุนปน หรือวัตถุระเบิดผาน ราชอาณาจกั ร เวน แตจ ะไดร บั หนงั สอื อนญุ าตจากรฐั มนตรี หรอื เจา พนกั งานซงึ่ รฐั มนตรแี ตง ตง้ั เพอื่ การนี้ ผูน าํ หนงั สืออนญุ าตใหนําอาวธุ ปน เคร่อื งกระสุนปน หรอื วตั ถุระเบิดผา นราชอาณาจกั ร จะนําสิ่งเชนวานั้นผานราชอาณาจักรไดเฉพาะแตทางดานศุลกากรซึ่งรัฐมนตรีกําหนดไว และตอง แจง ความตามแบบพิมพข องกรมศลุ กากรแกพ นักงานศลุ กากร เม่ือพนักงานศุลกากรไดรับแจงความตามวรรคกอนแลว ใหแจงเร่ืองใหนายทะเบียน ทองท่ีทราบ ถานายทะเบียนทองท่ีเห็นเปนการจําเปนเพ่ือความปลอดภัยของประชาชนจะจัดการ ควบคุม อาวุธปน หรือวัตถุระเบิด ในระหวางท่ีอยูในราชอาณาจักรก็ได และผูรับหนังสืออนุญาต เปน ผอู อกคา ใชจ า ยในการนน้ั ÁÒμÃÒ ÷ñ ใหรัฐมนตรีมีอํานาจจํากัดจํานวนรานคา และกําหนดจํานวนชนิดและ ขนาดอาวุธปน เครื่องกระสุนปน วัตถุระเบิด ดอกไมเพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปนสําหรับการคา ตามท่ีเหน็ สมควร

๔๓ º·¡Ó˹´â·É *ÁÒμÃÒ ÷ò “ผูใดฝาฝนมาตรา ๗ ตองระวางโทษจําคุกต้ังแตหน่ึงปถึงสิบป และ ปรบั ตั้งแตสองพนั บาทถึงสองหม่นื บาท ถาการฝาฝนตามวรรคหนึ่งเปนเพียงกรณีเกี่ยวกับสวนหน่ึงสวนใดของอาวุธปนตามที่ กําหนดไวในกฎกระทรวง หรือเปนกรณีมีเครื่องกระสุนปน ผูฝาฝนตองระวางโทษจําคุกไมเกินสิบป หรอื ปรับไมเ กนิ สองหมื่นบาทหรือทัง้ จําทั้งปรับ ถาการฝาฝนตามวรรคหน่ึงเปนเพียงการมีอาวุธปนที่เปนของผูอ่ืนซึ่งไดรับใบอนุญาต ใหมีและใชตามกฎหมาย ผูฝาฝนตองระวางโทษจําคุกตั้งแตหกเดือนถึงหาป และปรับตั้งแต หนง่ึ พนั บาทถงึ หน่งึ หมืน่ บาท” “ถา การฝา ฝน ตามวรรคหนงึ่ เปน การทาํ เครอื่ งกระสนุ ปน ทท่ี าํ ดว ยดนิ ปน มคี วนั สําหรบั ใชเ อง โดยไมไ ดรบั อนุญาตจากนายทะเบยี นทอ งที่ ผูฝาฝนตองระวางโทษปรับไมเกินหนง่ึ พันบาท” ®¡Õ Ò·Õè ÷øðó/òõôó รับจํานาํ ปน มีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปนฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๗๒ วรรคสาม *ÁÒμÃÒ ÷ò ·ÇÔ ผูใดฝาฝนมาตรา ๘ มาตรา ๑๒ มาตรา ๑๖ วรรคหนึ่ง หรือวรรคสาม มาตรา ๒๐ มาตรา ๕๘ มาตรา ๕๙ มาตรา ๖๕ มาตรา ๖๖ หรอื มาตรา ๗๐ วรรคหนึ่ง หรอื วรรคสอง ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเกินสบิ ป หรือปรบั ไมเกนิ สองหมน่ื บาทหรอื ท้งั จาํ ท้งั ปรับ ผูใดฝาฝนมาตรา ๘ ทวิ วรรคหนึ่ง ตองระวางโทษจําคุกไมเกินหาปหรือปรับไมเกิน หน่ึงหมื่นบาท หรือท้ังจําทั้งปรับ ถาผูน้ันฝาฝนมาตรา ๘ ทวิ วรรคสองดวย ตองระวางโทษจําคุก ต้งั แตห กเดอื นถงึ หา ป และปรบั ตงั้ แตห น่ึงพนั บาทถงึ หนึง่ หม่นื บาท ผูไดรับใบอนญุ าตใหมีอาวุธปนติดตวั ผใู ดฝาฝนมาตรา ๘ ทวิ วรรคสอง ตองระวางโทษ จําคกุ ไมเ กนิ หนึ่งป หรือปรบั ไมเ กนิ สองพนั บาท หรอื ทงั้ จาํ ทั้งปรบั *ÁÒμÃÒ ÷ó ผูใดฝาฝนมาตรา ๒๔ ตองระวางโทษจําคุกต้ังแตสองปถึงยี่สิบปและ ปรบั ตั้งแตสพ่ี ันบาทถงึ ส่หี มน่ื บาท *ÁÒμÃÒ ÷ó ·ÇÔ ผใู ดฝา ฝนมาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ หรอื มาตรา ๓๔ ตอ งระวางโทษ จาํ คุก ตง้ั แตหกเดอื นถงึ สบิ ป และปรับตงั้ แตห นง่ึ พนั บาทถึงสองหมื่นบาท *ÁÒμÃÒ ÷ô ผูใดฝาฝนบทบัญญัติเกี่ยวกับวัตถุระเบิดตามมาตรา ๑๖ วรรคหนึ่งหรือ วรรคสาม ซ่ึงไดนํามาใชบังคับโดยอนุโลมตามมาตรา ๔๑ หรือฝาฝนมาตรา ๓๘ ตองระวางโทษ จาํ คกุ ตัง้ แตห นง่ึ ปถึงยส่ี ิบป และปรับตั้งแตส องพันบาทถงึ ส่ีหมืน่ บาท * มาตรา ๗๒ แกไขหลงั สดุ ตามคาํ สงั่ ของคณะปฏริ ูปฯ (ฉ.๔๔) พ.ศ.๒๕๑๙ นัยขอ ๖ * มาตรา ๗๒ วรรคส่ี เพมิ่ เตมิ พ.ร.บ.อาวธุ ปน (ฉ.๗) พ.ศ.๒๕๒๒ นยั ม.๗ เจา พนกั งานอนมุ ตั ิ ม.๗๐ ดรู ะเบยี บกรมตาํ รวจ ขอ ๒ * มาตรา ๗๒ ทวิ-๗๗ แกไ ขหลงั สุดตามคาํ สงั่ ของคณะปฏิรูปฯ (ฉ.๔๔) พ.ศ.๒๕๑๙ นัยขอ ๗, ๘ และ ๙ ตามลาํ ดับ

๔๔ *ÁÒμÃÒ ÷õ ผูใดฝาฝนบทบัญญัติเก่ียวกับวัตถุระเบิดตามมาตรา ๒๘ มาตรา ๓๔ มาตรา ๓๕ หรือมาตรา ๓๗ วรรคสอง ซึ่งไดนํามาใชบังคับโดยอนุโลมตามมาตรา ๔๑ ตอ งระวางโทษจําคุกตั้งแตห กเดอื นถงึ สบิ ป และปรับตงั้ แตหน่งึ พนั บาทถึงสองหมนื่ บาท *ÁÒμÃÒ ÷ö ผูใดฝาฝนเง่ือนไขที่กําหนดไวสําหรับวัตถุระเบิดตามมาตรา ๒๗ หรือ มาตรา ๒๙ ซึ่งไดนํามาใชบังคับโดยอนุโลมตามมาตรา ๔๑ ตองระวางโทษปรับต้ังแตหารอยบาท ถึงหา พันบาท *ÁÒμÃÒ ÷÷ ผูใดฝาฝนมาตรา ๔๗ หรือมาตรา ๕๒ หรือไมปฏิบัติตามคําสั่ง นายทะเบียนทองท่ีตามมาตรา ๕๑ ตองระวางโทษจําคุกไมเกินหนึ่งเดือน หรือปรับไมเกิน หน่ึงพันบาทหรอื ท้ังจาํ ทงั้ ปรบั *ÁÒμÃÒ ÷ø ผใู ดทาํ ประกอบ ซอมแซม เปลีย่ นลักษณะ ซอื้ มี ใช สั่ง หรือนาํ เขา ซงึ่ อาวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน หรอื วตั ถรุ ะเบดิ นอกจากทกี่ าํ หนดในกฎกระทรวงทอ่ี อกตามมาตรา ๕๕ ตองระวางโทษจาํ คุกตัง้ แตส องปถ ึงจาํ คุกตลอดชีวิต ผูใดคา หรือจําหนายอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน หรือวัตถุระเบิด นอกจากท่ีกําหนดใน กฎกระทรวงท่ีออกตามมาตรา ๕๕ ตอ งระวางโทษจาํ คุกต้งั แตย ่ีสิบปถงึ จําคกุ ตลอดชวี ิต ผูใดใชอาวุธปน เครื่องกระสุนปน หรือวัตถุระเบิด นอกจากท่ีกําหนดในกฎกระทรวง ทอ่ี อกตามมาตรา ๕๕ ในการกระทาํ ความผดิ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ มาตรา ๓๑๓ มาตรา ๓๓๗ มาตรา ๓๓๙ หรอื มาตรา ๓๔๐ ตอ งระวางโทษจําคุกตลอดชวี ิตหรอื ประหารชวี ิต การกระทําความผิดตามวรรคสองหรือวรรคสาม ถาอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน หรือ วตั ถรุ ะเบดิ นั้น โดยสภาพมอี านุภาพไมร า ยแรง ตอ งระวางโทษจําคกุ ตัง้ แตสองปถึงจําคกุ ตลอดชวี ติ *ÁÒμÃÒ ÷ù ผูรับใบอนุญาตผูใดฝาฝนคําส่ังซ่ึงออกตามความในมาตรา ๕๗ ตอ งระวางโทษจําคกุ ไมเกนิ หน่ึงป หรือปรบั ไมเกนิ หนงึ่ หมน่ื บาท หรอื ทัง้ จาํ ท้ังปรับ *ÁÒμÃÒ øð ผูใ ดฝา ฝนมาตรา ๓๗ วรรคสอง หรือมาตรา ๔๓ หรอื ฝาฝน เงอ่ื นไขตาม มาตรา ๔๐ ตอ งระวางโทษปรบั ตัง้ แตหา รอยบาทถึงหา พันบาท *ÁÒμÃÒ øñ ผใู ดฝาฝนเงือ่ นไขตามมาตรา ๒๗ หรอื มาตรา ๒๙ หรอื ฝาฝน มาตรา ๒๘ มาตรา ๓๐ หรอื มาตรา ๓๕ ตองระวางโทษปรับไมเ กินหา พันบาท *ÁÒμÃÒ øò ผูใดสั่งอาวุธปนหรือเครื่องกระสุนปน ฝาฝนตอบทบัญญัติมาตรา ๓๐ ซง่ึ ไดนาํ มาใชบังคบั โดยอนโุ ลมตามมาตรา ๑๕ ตองระวางโทษปรบั ไมเกนิ หาพนั บาท *ÁÒμÃÒ øó ผูใ ดฝาฝนมาตรา ๒๑ มาตรา ๖๒ มาตรา ๖๔ วรรคหน่งึ หรือมาตรา ๖๙ ตองระวางโทษปรับไมเกินหนึง่ พันบาท *มาตรา ๗๘ แกไขหลังสุดโดย พ.ร.บ.อาวุธปน (ฉ.๘) พ.ศ.๒๕๓๐ นยั ม.๓ ลง ลตร.๑/๓๑ รจ.๑๐๔/๑๔๑ *มาตรา ๗๙-๘๔ แกต ามคาํ สงั่ ของคณะปฏริ ูปฯ (ฉ.๔๔) พ.ศ.๒๕๑๙ นัยขอ ๑๑

๔๕ *ÁÒμÃÒ øô ผูใ ดฝาฝนตอบทบัญญตั ิเก่ยี วกบั ดอกไมเพลิง ตามมาตรา ๑๖ วรรคหน่ึง หรือวรรคสาม มาตรา ๒๘ มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๕ มาตรา ๓๗ วรรคสอง หรือฝา ฝน เง่อื นไขตาม มาตรา ๔๙ ตองระวางโทษปรบั ไมเ กนิ หนึ่งพันบาท *ÁÒμÃÒ øõ “ผใู ดฝาฝน บทบญั ญัตเิ กีย่ วกบั สง่ิ เทยี มอาวธุ ปนตามมาตรา ๑๖ วรรคหน่ึง หรอื วรรคสาม มาตรา ๓๐ หรอื มาตรา ๓๗ วรรคสอง ซ่งึ ไดน ํามาใชบงั คบั โดยอนโุ ลมตามมาตรา ๕๓ ตอ งระวางโทษปรับไมเ กนิ หน่งึ พนั บาท” º·à©¾ÒСÒÅ *ÁÒμÃÒ øö ผูใดมีอาวธุ ปน เครอื่ งกระสนุ ปน หรือวัตถรุ ะเบิด ไมว า ชนิดหรอื ขนาดใด ซ่ึงยังไมไดรับอนุญาตโดยชอบดวยกฎหมาย ถาไดนําอาวุธปน เครื่องกระสุนปน หรือวัตถุระเบิด ดังกลาวแลวมาขออนุญาตเพ่ือปฏิบัติการใหถูกตองตามพระราชบัญญัตินี้ตอนายทะเบียนทองที่ ภายในกําหนดเกาสิบวันนับตั้งแตวันท่ีพระราชบัญญัติใชบังคับ ผูน้ันไมตองรับโทษตาม พระราชบัญญตั นิ ี้ และมใิ หนําบทบญั ญตั แิ หงมาตรา ๕๕ มาใชบ งั คับ เพื่อการน้ี รัฐมนตรีจะกาํ หนดเงื่อนไขในการออกใบอนญุ าตตามท่เี หน็ สมควรก็ได ÁÒμÃÒ ø÷ บรรดาใบอนญุ าตทอี่ อกใหต ามกฎหมายวา ดว ยอาวธุ ปน เครอื่ งกระสนุ ปน วัตถุระเบดิ และดอกไมเพลิง กอนวันท่ีพระราชบัญญตั นิ ใ้ี ชบังคับ ใหคงใชไ ดต อ ไปจนกวา ใบอนุญาต นั้นๆ สิ้นอายุ แตถาผูที่ไดรับใบอนุญาตใหมีและใชอาวุธปนคนใดจะขอรับใบอนุญาตตาม พระราชบัญญัตนิ ้กี อนใบอนุญาตเดมิ ส้ินอายุกใ็ หท าํ ได ÁÒμÃÒ øø ในการออกใบอนุญาตใหมีและใหใชอาวุธปน และเครื่องกระสุนปน ตามพระราชบัญญัติน้ีใหแกผูที่ไดรับใบอนุญาตตามกฎหมายวาดวยอาวุธปน เคร่ืองกระสุนปน วตั ถรุ ะเบดิ และดอกไมเ พลงิ อยแู ลว กอ นวนั ทพ่ี ระราชบญั ญตั นิ ใ้ี ชบ งั คบั มใิ หน าํ บทบญั ญตั ิ มาตรา ๑๓ (๔) มาใชบ ังคับสาํ หรับอาวธุ ปน ตามใบอนญุ าตเดิมน้ัน *มาตรา ๘๕ แกต ามคําส่งั ของคณะปฏริ ปู ฯ (ฉ.๔๔) พ.ศ.๒๕๑๙ นยั ขอ ๑๑

¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ¡®ËÁÒÂÇÒ‹ ´ÇŒ ÂÍÒÇ¸Ø »¹„ ๔๖ ÅÓ´ºÑ ¢ÍŒ ËÒ/°Ò¹¤ÇÒÁ¼´Ô ÁÒμÃÒ ÍμÑ ÃÒâ·É ËÁÒÂàËμØ ๑. ทํา ซือ้ มีใช ส่งั หรอื นําเขาอาวธุ ปน หรอื เคร่ืองกระสนุ ปนโดยไมไ ดร บั อนุญาต มาตรา ๗ - จําคกุ ๑ ปถ งึ ๑๐ ปแ ละปรบั ตงั้ แต ๒,๐๐๐-๒๐,๐๐๐ บาท ๒. มีเครอ่ื งกระสนุ มิใชใชกบั อาวุธปน ทต่ี นไดรับอนญุ าต มาตรา ๘ - จาํ คกุ ไมเ กนิ ๑๐ ป หรอื ปรบั ไมเ กนิ ๒๐,๐๐๐ บาท หรือทัง้ จาํ ท้งั ปรบั ๓. พาอาวธุ ปนไปในทางสาธารณะโดยไมไดร ับอนญุ าต และไมม เี หตุอนั ควร มาตรา ๘ ทวิ - จาํ คุกไมเกนิ ๕ ป หรอื ปรับไมเ กิน ๑๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจาํ ทงั้ ปรับ ๔. ไมแ จงเหตุผลและสงมอบใบอนุญาตอาวธุ ปน ถูกทาํ ลายหรอื สญู หายตอนายทะเบียน มาตรา ๒๑ - ปรบั ไมเ กิน ๑,๐๐๐ บาท ๕. ทาํ ประกอบ ซอ มแซม เปลย่ี น ลกั ษณะสงั่ นาํ เขา มหี รอื จาํ หนา ยอาวธุ ปน เครอ่ื งกระสนุ ปน มาตรา ๒๔ - จาํ คกุ ๒-๒๐ ป และปรับ ๔,๐๐๐- โดยไมไ ดรบั อนญุ าต ๔๐,๐๐๐ บาท ๖. รานคา อาวธุ ปน จําหนายอาวุธปน หรือเครือ่ งกระสุนปนใหแกผทู ี่ไมไ ดร ับอนุญาต มาตรา ๓๔ - จําคุก ๖ เดือน - ๑๐ ป และปรบั ๑,๐๐๐-๒๐,๐๐๐ บาท ๗. ทาํ ซอ้ื มี ส่งั นาํ เขามาคา หรือจาํ หนา ยวตั ถุระเบดิ โดยไมไ ดรับอนุญาต มาตรา ๓๘ - จาํ คกุ ตงั้ แต ๑-๑๐ ป และปรบั ตงั้ แต ๑,๐๐๐-๒๐,๐๐๐ บาท ๘. ยายวัตถุระเบดิ จากทแี่ หงหน่งึ ไปอกี แหงหนง่ึ โดยมิไดร ับอนญุ าต มาตรา ๔๓ - ปรบั ต้งั แต ๕๐๐-๕,๐๐๐ บาท ๙. ทาํ ส่งั นําเขา หรือคาดอกไมเ พลงิ โดยไมไดรบั อนุญาต มาตรา ๔๗ - จําคุกไมเกินหนึ่งเดือน หรือปรับ ไมเ กนิ หนงึ่ พนั บาท หรอื ทง้ั จาํ ทง้ั ปรบั

¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ¡®ËÁÒÂÇÒ‹ ´ŒÇÂÍÒÇ¸Ø »¹„ ÅӴѺ ¢ŒÍËÒ/°Ò¹¤ÇÒÁ¼Ô´ ÁÒμÃÒ ÍμÑ ÃÒâ·É ËÁÒÂàËμØ ๑๐. ใหผ อู ่ืนใชใ บอนญุ าตอาวธุ ปนของตน มาตรา ๕๘ - ตอ งระวางโทษจําคกุ ไมเ กิน ๑๐ ป ๑๑. โอนอาวธุ ปน เครือ่ งกระสุนปนหรือวตั ถุระเบดิ ใหคนท่ีไมไดรับอนุญาต หรือปรับไมเกิน ๒๐,๐๐๐ บาท ๑๒. ผไู ดร บั ใบอนญุ าตใหม แี ละใชอาวธุ ปนยา ยถ่นิ ทีอ่ ยู หรือทง้ั จําทง้ั ปรบั ๑๓. ไมไ ปยืน่ ขอรับใบแทนใบอนุญาตที่สูญหายหรือลบเลอื นอา นไมออกตอนายทะเบยี น ๑๔. ครอบครองอาวธุ ปนของผูอื่นซ่ึงไดรบั อนญุ าตใหมแี ละใชตามกฎหมาย มาตรา ๕๙ - จาํ คกุ ไมเ กนิ ๑๐ ป หรอื ปรบั ไมเ กนิ ๒๐,๐๐๐ บาท มาตรา ๖๒ - ปรับไมเ กิน ๑,๐๐๐ บาท มาตรา ๖๙ - ปรบั ไมเกิน ๑,๐๐๐ บาท มาตรา ๗๒ - จาํ คุกหกเดือนถึงหาป และปรับ ตงั้ แต ๑,๐๐๐-๑๐,๐๐๐ บาท ๔๗

๔๘

๔๙ º··èÕ ó ¾.Ã.º.ʶҹºÃÔ¡Òà ¾.È.òõðù ñ. ÇÑμ¶Ø»ÃÐʧ¤¡ÒÃàÃÂÕ ¹Ã»ÙŒ ÃШӺ· ๑.๑ เพือ่ ใหน ักเรยี นมคี วามรแู ละความเขาใจใน พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.๒๕๐๙ ๑.๒ เพ่ือใหนักเรียนสามารถอธิบายการวิเคราะหวาการกระทําใดมีความผิด หรือไมมี ความผดิ ตาม พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.๒๕๐๙ ๑.๓ เพ่ือใหนักเรียนสามารถอธิบายวิธีการดําเนินการกับผูกระทําความผิดตาม พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.๒๕๐๙ ò. ʋǹ¹Ó สถานบริการ เปนสถานท่ีกอใหเกิดปญหาสังคมหลายดาน เชน การมั่วสุมยาเสพติด การคาประเวณี หรือการประพฤติตนไมเหมาะสมกับวัยของเด็ก การควบคุมสถานบริการจึงเปน การปองกันอาชญากรรมในหลายๆ ดา น ó. à¹Í×é ËÒμÒÁËÑÇ¢ŒÍ ๓.๑ ความรูท ัว่ ไปเกีย่ วกับ พ.ร.บ.สถานบรกิ าร พ.ศ.๒๕๐๙ ๓.๒ ฐานความผิด ๓.๓ คุณสมบตั ิ ๓.๔ สถานที่ ๓.๕ ใบอนญุ าต ๓.๖ ใบอนญุ าตชาํ รุด ๓.๗ การปฏบิ ัตกิ บั พนักงาน ๓.๘ ขอปฏิบตั ขิ องสถานบริการ ๓.๙ อาํ นาจของเจา พนักงาน ๓.๑๐ โทษตามสถานบริการ ๓.๑๑ ความผดิ ตาม พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.๒๕๐๙ ô. ÊÇ‹ ¹ÊÃ»Ø ถา มกี ารบงั คบั ใช หรอื ควบคมุ สถานบรกิ ารอยา งเครง ครดั กจ็ ะทาํ ใหผ ทู จ่ี ะใชส ถานบรกิ าร เปนแหลงในการกระทําผิดในเร่ืองตางๆ ไมมีสถานท่ีจะม่ัวสุมกระทําความผิด ทําใหเปนการงาย ท่ีจะดําเนนิ การจบั กุมการกระทําความผิดอ่นื ๆ õ. ¡Ô¨¡ÃÃÁá¹Ð¹Ó ใหนักเรียนคนหาการจับกุมตาม พ.ร.บ.สถานบริการฯ และนําขอมูลมาวิเคราะห อภิปรายรว มกันในชัน้ เรยี น

๕๐ ปจ จบุ ันไดม บี คุ คลประกอบกิจการสถานบริการบางประเภท ซงึ่ อาจดําเนินการไปในทาง กระทบกระเทือนตอความสงบเรียบรอยหรือศีลธรรมของประชาชนและจัดใหมีการแสดง เพ่ือความบันเทิงในสถานบริการนั้นๆ ไมเหมาะสม เปนเหตุใหเยาวชนเอาเย่ียงอยางจนประพฤติตัว เสอ่ื มทรามลง จงึ เปน การสมควรทจ่ี ะออกกฎหมายมาควบคมุ สถานบรกิ ารนนั้ ๆ รวมทง้ั การแสดงดว ย ท้งั นเ้ี พอ่ื รักษาไว ซ่ึงความสงบเรยี บรอย ศีลธรรม วัฒนธรรม และประเพณอี ันดงี ามของชาตติ อไป ¤ÇÒÁÃÙŒ·ÇèÑ ä»à¡ÂèÕ Ç¡Ñº ¾.Ã.º.ʶҹºÃÔ¡ÒÃÏ ÁÒμÃÒ óò “สถานบริการ”๓ หมายความวา สถานท่ีที่ตั้งขึ้นเพื่อใหบริการโดยหวังประโยชนในทาง การคา ดังตอ ไปน้ี (๑) สถานเตนราํ ราํ วง หรือรองเง็ง เปน ปกติธรุ ะประเภทที่มีและประเภทท่ีไมมีคบู รกิ าร (๒) สถานท่ีท่ีมีอาหาร สุรา น้ําชา หรือเคร่ืองดื่มอยางอ่ืนจําหนายและบริการ โดยมี ผบู ําเรอสําหรบั ปรนนิบตั ลิ กู คา (๓) สถานอาบนํ้า นวด หรืออบตวั ซ่งึ มผี ูบริการใหแกลูกคา เวนแต (ก) สถานท่ีซ่ึงผูบริการไดขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเปนผูประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทยแผนไทยประเภทการนวดไทยตามกฎหมายวาดวยการประกอบโรคศิลปะ หรือไดรับ ยกเวนไมตองข้ึนทะเบียนและรับใบอนุญาตเปนผูประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทยแผนไทย ประเภทการนวดไทย ตามกฎหมายดงั กลา ว หรอื สถานพยาบาลตามกฎหมายวาดว ยสถานพยาบาล (ข) สถานท่ีเพื่อสุขภาพหรือเพ่ือเสริมสวยท่ีกระทรวงสาธารณสุขประกาศ กําหนดโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะตองมีลักษณะของสถานท่ี การบรกิ ารหรอื ผใู หบ รกิ ารเปน ไปตามมาตรฐานทก่ี ระทรวงสาธารณสขุ ประกาศกาํ หนดโดยความเหน็ ชอบ ของรฐั มนตรวี า การกระทรวงมหาดไทยดว ย ประกาศดงั กลา วจะกาํ หนดหลกั เกณฑแ ละวธิ กี ารตรวจสอบ เพ่ือรบั รองใหเปน ไปตามมาตรฐานนั้นดวยก็ได หรอื (ค) สถานทอ่ี ่นื ตามทก่ี าํ หนดในกฎกระทรวง (๔) สถานทท่ี ม่ี อี าหาร สรุ า หรอื เครอื่ งดม่ื อยา งอน่ื จาํ หนา ยหรอื ใหบ รกิ าร โดยมรี ปู แบบ อยา งหน่ึงอยา งใดดงั ตอ ไปนี้ (ก) มีดนตรี การแสดงดนตรี หรือการแสดงอื่นใดเพื่อการบันเทิงและยินยอม หรือปลอยปละละเลยใหน ักรอ ง นักแสดง หรือพนกั งานอื่นใดนงั่ กบั ลกู คา (ข) มีการจัดอุปกรณการรองเพลงประกอบดนตรีใหแกลูกคา โดยจัดใหมี ผูบรกิ ารขบั รอ งเพลงกบั ลูกคา หรือยนิ ยอมหรอื ปลอยปละละเลยใหพ นกั งานอนื่ ใดน่งั กับลกู คา ๒ มาตรา ๓ แกไ ขโดยพระราชบญั ญัติสถานบรกิ าร (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ.๒๕๒๑ ๓ นยิ ามคําวา “สถานบริการ” แกไขโดยพระราชบัญญตั ิสถานบรกิ าร (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ.๒๕๔๖

๕๑ (ค) มีการเตนหรือยินยอมใหมีการเตน หรือจัดใหมีการแสดงเตน เชน การเตน บนเวทหี รือการเตน บริเวณโตะ อาหารหรอื เครื่องดื่ม (ง) มีลักษณะของสถานที่ การจัดแสงหรือเสียง หรืออุปกรณอื่นใดตามท่ีกาํ หนด ในกฎกระทรวง (๕) สถานท่ีท่ีมีอาหาร สุรา หรือเครื่องดื่มอยางอื่นจําหนาย โดยจัดใหมีการแสดง ดนตรีหรอื การแสดงอ่นื ใดเพอื่ การบันเทิง ซง่ึ ปดทาํ การหลงั เวลา ๒๔.๐๐ นากิ า (๖) สถานทีอ่ นื่ ตามที่กําหนดในกฎกระทรวง” “ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด”๔ หมายความวา ความผิดตามกฎหมายวาดวยยาเสพติด ใหโทษ กฎหมายวาดวยวัตถุที่ออกฤทธิ์ตอจิตและประสาท กฎหมายวาดวยการปองกันการใช สารระเหย และกฎหมายวา ดว ยมาตรการในการปราบปรามผกู ระทาํ ความผิดเกี่ยวกับยาเสพตดิ ” “พนกั งานเจา หนา ท”่ี สําหรบั กรงุ เทพมหานคร หมายความถงึ ผบู ญั ชาการตํารวจนครบาล ในจังหวดั อ่นื หมายความรวมถึง ผวู า ราชการจังหวัด °Ò¹¤ÇÒÁ¼´Ô ตงั้ สถานบรกิ ารโดยไมไดร บั อนุญาต ÁÒμÃÒ ô๕ หามมิใหผูใดต้ังสถานบริการ เวนแตจะไดรับใบอนุญาตจากพนักงาน เจาหนาที่ ในการพิจารณาอนุญาต ใหพนักงานเจาหนาท่ีคาํ นึงถึงประวัติการกระทําความผิดตอ กฎหมายของผขู ออนุญาตตั้งสถานบรกิ ารประกอบดวย หลักเกณฑและวิธีการขออนุญาตและการอนุญาตตามวรรคหน่ึงและหลักเกณฑเก่ียวกับ ประวัติการกระทาํ ความผิดตอกฎหมายของผูขออนุญาตต้ังสถานบริการตามวรรคสอง รวมท้ังการขอ ตอ อายุใบอนญุ าตและการอนุญาตใหต ออายุใบอนุญาต ใหเปน ไปตามท่กี ําหนดในกฎกระทรวง ÁÒμÃÒ ô ·Ç๖Ô ¤Ø³ÊÁºÑμÔ ÁÒμÃÒ ö ผขู ออนุญาตตง้ั สถานบรกิ ารตามมาตรา ๔ ตองมคี ณุ สมบัติ ดงั นี้ (๑) อายุไมตํ่ากวาย่ีสิบปบ รบิ รู ณ (๒) ไมเ ปนผูมคี วามประพฤตเิ สือ่ มเสียหรือบกพรอ งในศีลธรรม (๓) ไมเปน ผูวกิ ลจริต หรือจิตฟน เฟอ นไมส มประกอบ (๔) ไมเปนผูเจ็บปวยดวยโรคติดตออันเปนท่ีรังเกียจแกสังคม โรคพิษสุราเรื้อรัง หรือ โรคยาเสพติดใหโทษอยา งรา ยแรง (๕) ไมเปนผูเคยตองรับโทษในความผิดเกี่ยวกับเพศ ตามประมวลกฎหมายอาญา ในความผิดตามกฎหมายวาดวยการคาหญิงและเด็กหญิงตามกฎหมายวาดวยการปราม การทําให แพรหลาย และการคา วตั ถุอนั ลามกหรือตามกฎหมายวา ดวยการปรามการคา ประเวณี ๔ นยิ ามคาํ วา “ความผิดเก่ยี วกบั ยาเสพติด” เพิม่ เติมโดยพระราชบญั ญตั ิสถานบรกิ าร (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ.๒๕๔๖ ๕ มาตรา ๔ แกไ ขโดยพระราชบัญญัตสิ ถานบริการ (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ.๒๕๔๖ ๖ มาตรา ๔ ทวิ ยกเลกิ โดยพระราชบัญญตั สิ ถานบริการ (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ.๒๕๔๖

๕๒ ในกรณีที่นิติบุคคลเปนผูขออนุญาตตั้งสถานบริการ ผูแทนของนิติบุคคลน้ันตองมี คุณสมบตั ิ ตามความในวรรคกอ น ʶҹ·Õè ÁÒμÃÒ ÷ อาคาร หรือสถานที่ท่ีขออนุญาตตงั้ เปน สถานบรกิ ารตามมาตรา ๔ ตอง (๑) ไมอ ยใู กลช ดิ วดั สถานทสี่ ําหรบั ปฏบิ ตั พิ ธิ กี รรมทางศาสนา โรงเรยี น หรอื สถานศกึ ษา โรงพยาบาล สถานพยาบาลท่ีรับผูปวยไวคางคืน สโมสรเยาวชน หรือหอพักตามกฎหมายวาดวย หอพกั ในขนาดทเี่ หน็ ไดวา จะกอความเดอื ดรอ นราํ คาญแกส ถานท่ดี ังกลาวแลว (๒) ไมอยูในยานท่ีประชาชนอยูอาศัย อันจะกอความเดือดรอนรําคาญแกประชาชน ผูอยอู าศยั ใกลเ คยี ง (๓) มีทางถา ยเทอากาศสะดวก ÁÒμÃÒ ø ถาอาคารหรือสถานท่ีที่ขออนุญาตตั้งสถานบริการตามมาตรา ๔ เปน ของผูอ่ืน ในช้ันขออนุญาตต้ังสถานบริการ ผูขออนุญาตตองมีหนังสือแสดงวาไดรับความยินยอม จากเจาของอาคารหรือสถานท่ีนน้ั ãºÍ¹ÞØ Òμ ÁÒμÃÒ ñð ใบอนญุ าตใหต ง้ั สถานบรกิ ารใหใ ชไ ดจ นถงึ วนั ท่ี ๓๑ ธนั วาคม ของปท อี่ อก ใบอนญุ าต ผูรับอนุญาตผูใดประสงคจะขอตออายุใบอนุญาต จะตองย่ืนคําขอเสียกอนใบอนุญาต ส้ินอายุ เมื่อไดยื่นคาํ ขอดังกลาวแลว จะประกอบกิจการตอไปก็ไดจนกวาพนักงานเจาหนาที่จะส่ัง ไมอนุญาตใหต อ อายใุ บอนญุ าตนั้น ÁÒμÃÒ ññ÷ ในกรณพี นกั งานเจา หนา ทไ่ี มอ อกใบอนญุ าต หรอื ไมต อ อายใุ บอนญุ าตใหต งั้ สถานบริการในกรุงเทพมหานคร ผูขออนุญาตหรือผูขอตออายุใบอนุญาตมีสิทธิอุทธรณตออธิบดี กรมตาํ รวจในจังหวัดอื่น ผูขออนุญาตหรือผูขอตออายุใบอนุญาตมีสิทธิอุทธรณตอปลัดกระทรวง มหาดไทย การอุทธรณใหกระทําภายในกําหนดสามสิบวัน นับแตวันไดรับหนังสือพนักงานเจาหนาที่ แจงการไมอนญุ าต หรือไมต ออายุใบอนญุ าต คาํ วนิ จิ ฉยั ของอธิบดกี รมตาํ รวจหรือปลดั กระทรวงมหาดไทยแลว แตก รณีใหเปนทส่ี ดุ หนังสือของพนักงานเจาหนาที่ตามความในวรรคแรก ตองแสดงเหตุผลในการไมออก ใบอนุญาตหรอื ไมต ออายใุ บอนุญาตใหผ ขู อทราบดวย ãºÍ¹ØÞÒμªÒí Ã´Ø ÁÒμÃÒ ñò ในกรณีใบอนุญาตใหตั้งสถานบริการสูญหายหรือชาํ รุดในสาระสาํ คัญ ใหผูรับอนุญาตตั้งสถานบริการท่ียื่นคาํ ขอรับใบแทนใบอนุญาตภายในกาํ หนดสิบหาวัน นับแตวันท่ี ไดท ราบวา ใบอนุญาตสญู หายหรือชาํ รดุ ÁÒμÃÒ ñó หา มมใิ หผ รู บั อนญุ าตตงั้ สถานบรกิ าร ยา ย แกไ ข เปลย่ี นแปลงหรอื ตอ เตมิ สถานบริการ เวนแตไดรบั อนุญาตเปนหนงั สอื จากเจาหนา ที่ ๗ มาตรา ๑๑ แกไขโดยพระราชบัญญัตสิ ถานบริการ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๒๑

๕๓ ¡Òû¯ÔºμÑ Ô¡ºÑ ¾¹Ñ¡§Ò¹ ÁÒμÃÒ ñô๘ ใหผูรับอนุญาตต้ังสถานบริการจัดทําบัตรประวัติของพนักงานกอนเริ่ม เขา ทํางานในสถานบริการ ในกรณีที่รายการในบัตรประวัติเปล่ียนแปลงไป ใหผูรับอนุญาตต้ังสถานบริการแจง การเปลี่ยนแปลงภายในเจ็ดวนั นบั แตว นั ทีม่ ีการเปลย่ี นแปลง การจดั ทํา การเกบ็ รกั ษา และการแจง การเปลย่ี นแปลงบตั รประวตั ิ ใหเ ปน ไปตามหลกั เกณฑ และวธิ ีการทกี่ าํ หนดในกฎกระทรวง การจดั ทําบตั รประวตั นิ นั้ ตอ งไมร ะบหุ นา ทขี่ องพนกั งานในทางทกี่ อ ใหเ กดิ ความเสยี หาย แกพ นักงานนนั้ ÁÒμÃÒ ñõ ในกรณีบัตรประวัติซ่ึงเก็บรักษาไว ณ สถานบริการ สูญหาย ถูกทําลาย หรือชาํ รุดในสาระสาํ คัญ ผูรับอนุญาตต้ังสถานบริการตองจัดทาํ บัตรประวัติใหม ภายในกําหนด เจ็ดวันนับแตวันท่ีบัตรน้ันสูญหาย ถูกทําลาย หรือชํารุดในสาระสาํ คัญและใหนาํ ความในมาตรา ๑๔ วรรคแรก มาใชบ ังคบั โดยอนโุ ลม ¢ÍŒ »¯ºÔ μÑ ¢Ô ͧʶҹºÃ¡Ô Òà ÁÒμÃÒ ñö๙ หา มมใิ หผ รู ับอนญุ าตต้งั สถานบรกิ าร (๑) รับผมู อี ายุตํา่ กวา สิบแปดปบรบิ รู ณเ ขาทาํ งานในสถานบริการ (๒) ยินยอมหรือปลอยปละละเลยใหผมู อี าการมนึ เมาจนประพฤติวนุ วาย หรือครองสติ ไมไดเขาไปหรืออยูในสถานบริการระหวางเวลาทําการ (๓) จําหนายสรุ าใหแ กผ มู ีอาการมนึ เมาจนประพฤตวิ ุนวายหรอื ครองสติไมได (๔) ยินยอมหรือปลอยปละละเลยใหผูซึ่งไมมีหนาที่เฝาดูแลสถานบริการนั้นพักอาศัย หลบั นอนในสถานบรกิ าร (๕) ยินยอมหรือปลอยปละละเลยใหมีการกระทาํ ความผิดเก่ียวกับยาเสพติดใน สถานบรกิ าร (๖) ยินยอมหรือปลอยปละละเลยใหมีการนําอาวุธเขาไปในสถานบริการ เวนแตเปน กรณีทเี่ จาหนา ท่ีซ่งึ อยใู นเครือ่ งแบบนาํ เขา ไปเพ่ือปฏิบตั ิหนาที่ตามกฎหมาย ÁÒμÃÒ ñö/ñ๑๐ หา มมใิ หผ รู บั อนญุ าตตง้ั สถานบรกิ ารยนิ ยอมหรอื ปลอ ยปละละเลยให ผมู อี ายตุ ่ํากวา ยส่ี บิ ปบ รบิ รู ณซ ง่ึ มไิ ดท ํางานในสถานบรกิ ารนน้ั เขา ไปในสถานบรกิ ารระหวา งเวลาทําการ เพื่อปฏิบัติการใหเปนไปตามวรรคหน่ึง ใหผูรับอนุญาตตั้งสถานบริการตรวจเอกสาร ราชการทม่ี ีภาพถา ยและระบอุ ายขุ องผูซ ่ึงจะเขาไปในสถานบริการ ๘ มาตรา ๑๔ แกไ ขโดยพระราชบญั ญตั สิ ถานบรกิ าร (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ.๒๕๔๖ ๙ มาตรา ๑๖ แกไ ขโดยพระราชบญั ญัติสถานบริการ (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ.๒๕๔๖ ๑๐ มาตรา ๑๖/๑ เพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญัตสิ ถานบรกิ าร (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๔๖

๕๔ ในกรณีท่ีผูซ่ึงจะเขาไปในสถานบริการไมยินยอมใหตรวจเอกสารราชการหรือไมมี เอกสารราชการและเขาไปในสถานบริการ ใหผูรับอนุญาตตั้งสถานบริการแจงใหเจาหนาท่ีทราบ โดยพลัน ท้ังน้ี เจาหนาท่ีผูรับแจงและหลักเกณฑและวิธีการในการแจงและการรับแจงใหเปนไปตาม ที่กระทรวงมหาดไทยประกาศกาํ หนด ในการดาํ เนนิ การตามวรรคสองหรอื วรรคสาม ผรู บั อนญุ าตตงั้ สถานบรกิ ารจะมอบหมาย ใหพนกั งานของสถานบริการเปน ผดู ําเนนิ การแทนก็ได ÁÒμÃÒ ñö/ò๑๑ หามมิใหผูใดนําอาวุธเขาไปในสถานบริการ เวนแตผูนั้นเปน เจา หนาท่ีซงึ่ อยใู นเครอ่ื งแบบและนําเขา ไปเพอ่ื ปฏิบตั หิ นา ทีต่ ามกฎหมาย ÁÒμÃÒ ñö/ó๑๒ ในกรณีท่ีผูรับอนุญาตตั้งสถานบริการพบหรือมีเหตุอันควรสงสัยวา มผี มู อี าการมนึ เมาจนประพฤตวิ นุ วายหรอื ครองสตไิ มไ ดเ ขา ไปหรอื อยใู นสถานบรกิ ารระหวา งเวลาทาํ การ มีการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานบริการ หรือมีการฝาฝนมาตรา ๑๖/๒ ใหผูรับ อนุญาตตั้งสถานบริการแจงใหเจาหนาท่ีทราบโดยพลัน ท้ังน้ี เจาหนาท่ีผูรับแจงและหลักเกณฑและ วธิ ีการในการแจงและการรับแจงใหเ ปนไปตามท่กี ระทรวงมหาดไทยประกาศกําหนด การแจงตามวรรคหนึ่ง ผูรับอนุญาตตั้งสถานบริการจะมอบหมายใหพนักงานของ สถานบริการเปนผแู จงแทนก็ได ÁÒμÃÒ ñ÷๑๓ การกาํ หนดวนั เวลาเปด ปด ของสถานบรกิ าร การจดั สถานทภี่ ายนอกและ ภายในเพื่อความเปนระเบียบเรียบรอย เพ่ือความสะอาดหรือเพื่อความสะดวกในการตรวจตราของ เจาหนาท่ี การใชโคมไฟหรือการใหพนักงานติดหมายเลขประจําตัวในสถานบริการ ใหเปนไปตาม ท่กี าํ หนดในกฎกระทรวง ÁÒμÃÒ ñø๑๔ ผูรบั อนุญาตตัง้ สถานบรกิ ารตามมาตรา ๓ (๑) จะจดั ใหมีสุรา น้าํ ชา หรอื เครื่องด่มื อยา งอ่นื จาํ หนาย หรอื จัดใหมีการแสดงดนตรีหรอื การแสดงอื่นใดเพอ่ื การบันเทงิ ดว ยก็ได ÁÒμÃÒ ñù ในการจัดใหมีการแสดงเพ่ือความบันเทิง ผูรับอนุญาตต้ังสถานบริการ มีหนาท่ีตองควบคุมการแสดงมิใหเปนไปในทางลามกหรืออนาจาร และมิใหมีสัตวรายเขารวม การแสดงในสภาพทอ่ี าจกอ ใหเ กิดอนั ตรายแกผ ชู ม ๑๑ มาตรา ๑๖/๒ เพม่ิ เติมโดยพระราชบญั ญัติสถานบรกิ าร (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๔๖ ๑๒ มาตรา ๑๖/๓ เพิ่มเติมโดยพระราชบญั ญตั สิ ถานบรกิ าร (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ.๒๕๔๖ ๑๓ มาตรา ๑๗ แกไขโดยพระราชบัญญัตสิ ถานบรกิ าร (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ.๒๕๔๖ ๑๔ มาตรา ๑๘ แกไขโดยพระราชบญั ญัตสิ ถานบริการ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๖

๕๕ ÍÓ¹Ò¨¢Í§à¨ŒÒ¾¹¡Ñ §Ò¹ ÁÒμÃÒ òð๑๕ เมื่อปรากฏวา ผูไดรับอนุญาตตั้งสถานบริการฝาฝน มาตรา ๑๙ ในกรุงเทพมหานคร นายตํารวจทองท่ีตั้งแตชั้นสารวัตรขึ้นไป ในจังหวัดอื่นต้ังแตนายอําเภอทองที่ ขึน้ ไปมอี าํ นาจสง่ั ใหง ดการแสดงนัน้ ได ÁÒμÃÒ òñ๑๖ ในกรณีท่ีผูรับอนุญาตต้ังสถานบริการขาดคุณสมบัติ หรือเม่ือสถาน บริการใดดําเนินกิจการขัดตอความสงบเรียบรอยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ยินยอมหรือ ปลอยปละละเลยใหมีการม่ัวสุมเพ่ือกระทําความผิดเก่ียวกับยาเสพติดหรือมีการกระทําความผิด เกี่ยวกับยาเสพติดในสถานบริการ หรือดําเนินกิจการโดยไมปฏิบัติตามหรือฝาฝนบทบัญญัติแหง พระราชบัญญัติน้ีหรือกฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติน้ี ใหพนักงานเจาหนาที่มีอํานาจ ไมตออายุใบอนุญาตหรือสั่งพักใชใบอนุญาต หรือสั่งเพิกถอนใบอนุญาตได โดยใหคํานึงถึง ความรา ยแรงของการกระทําความผดิ การสัง่ พักใชใ บอนญุ าต ใหส่งั พกั ไดด ังตอไปนี้ (๑) กรณีดาํ เนินกจิ การสถานบริการโดยไมป ฏิบตั ติ ามหรือฝา ฝนมาตรา ๑๔ มาตรา ๑๕ มาตรา ๑๖ (๒) หรือ (๓) หรือกฎกระทรวงตามมาตรา ๑๗ เฉพาะในสวนที่ไมใชกําหนดวันเวลา เปด ปด สถานบรกิ ารใหส ั่งพักไดคร้งั ละไมเกนิ สามสิบวนั (๒) กรณีดําเนินกิจการสถานบริการขัดตอความสงบเรียบรอยหรือศีลธรรมอันดีของ ประชาชน ยินยอมหรือปลอยปละละเลยใหมีการมั่วสุมเพ่ือกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด หรือมีการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานบริการ หรือดําเนินกิจการสถานบริการ โดยไมป ฏบิ ัตติ ามหรือฝาฝน มาตรา ๑๓ มาตรา ๑๖ (๑)(๔) (๕) หรือ (๖) มาตรา ๑๖/๑ วรรคหนงึ่ มาตรา ๑๖/๒ มาตรา ๑๙ หรือกฎกระทรวงตามมาตรา ๑๗ เฉพาะในสวนท่ีเกี่ยวกับกําหนด วนั เวลาเปดปด สถานบรกิ ารใหส ัง่ พกั ไดคร้งั ละไมเกินเกาสิบวนั หลักเกณฑในการพิจารณาวากรณีใดพนักงานเจาหนาท่ีจะมีคําส่ังหรือไมมีคําส่ัง ตอ อายใุ บอนญุ าตหรือพักใชใบอนุญาตหรือเพกิ ถอนใบอนุญาตพรอ มดวยเหตุผล รวมทง้ั หลกั เกณฑ การกาํ หนดระยะเวลาในการสงั่ พกั ใชใ บอนุญาตใหเปนไปตามท่ีกระทรวงมหาดไทยประกาศกําหนด ในกรณีที่ผูรับอนุญาตตั้งสถานบริการอุทธรณคําสั่งพักใชหรือเพิกถอนใบอนุญาตตาม มาตรา ๒๒ หากอทุ ธรณโดยเหตุตามวรรคสอง (๑) ใหก ารอุทธรณเ ปนการทุเลาการบังคบั ตามคาํ สั่ง พักใชหรือเพิกถอนใบอนุญาตนั้น หากอุทธรณโดยเหตุตามวรรคสอง (๒) หรือเหตุอื่นใหพนักงาน เจา หนา ทผ่ี ทู าํ คาํ สงั่ นน้ั เปน ผมู อี าํ นาจสงั่ ใหท เุ ลาการบงั คบั ตามคาํ สงั่ พกั ใชห รอื เพกิ ถอนใบอนญุ าตนน้ั ๑๕ มาตรา ๒๐ แกไขโดยพระราชบัญญัติสถานบริการ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ.๒๕๒๑ ๑๖ มาตรา ๒๑ แกไ ขโดยพระราชบัญญตั สิ ถานบริการ (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ.๒๕๔๖

๕๖ แตตองมีคําสั่งภายในเจ็ดวันนับแตวันท่ีไดรับคําขอใหทุเลาการบังคับ หากพนกําหนดดังกลาวแลว พนักงานเจาหนาท่ียังไมมีคําสั่งใดใหถือวาเปนการทุเลาการบังคับตามคําสั่งพักใชหรือเพิกถอน ใบอนญุ าตน้ัน ระยะเวลาในการพิจารณาอุทธรณคําสั่งพักใชใบอนุญาต ใหผูมีอํานาจพิจารณา อทุ ธรณใ หแ ลว เสรจ็ ภายในสบิ หา วนั นบั แตว นั ทห่ี นว ยงานทผี่ มู อี าํ นาจพจิ ารณาอทุ ธรณป ระจาํ อยไู ดร บั อุทธรณ ระยะเวลาในการพิจารณาอุทธรณคําส่ังอื่นท่ีไมใชคําส่ังพักใชใบอนุญาตใหเปนไปตาม กฎหมายวา ดว ยวธิ ปี ฏิบัตริ าชการทางปกครอง ÁÒμÃÒ òô๑๘ เม่ือพนักงานฝายปกครองหรือตํารวจช้ันผูใหญ ตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มีเหตุอันควรเช่ือหรือสงสัยวามีการฝาฝน หรือไมปฏิบัติตามบทแหง พระราชบัญญัติน้ี หรือกฎกระทรวงซ่ึงออกตามพระราชบัญญัติน้ี ในสถานบริการแหงใด ใหเ จาพนกั งานนนั้ มอี ํานาจเขา ไปตรวจภายในสถานบรกิ ารน้นั ไดไ มวา ในเวลาใดๆ ในการปฏิบัติหนาท่ีตามวรรคหนึ่ง ใหเจาพนักงานผูมีอํานาจตรวจแสดงบัตรประจําตัว ตอบคุ คลที่เกีย่ วของ â·ÉμÒÁ ¾.Ã.º.ʶҹºÃÔ¡Òà ÁÒμÃÒ òõ๑๙ ผูรับอนญุ าตต้ังสถานบริการ ผูดําเนินกจิ การ ลกู จาง หรือคนรบั ใชของ สถานบริการผูใดสามารถใหความสะดวกแกเจาพนักงานซ่ึงปฏิบัติการตามมาตรา ๒๔ ได แตไมยอม ใหความสะดวกน้ันเมื่อเจาพนักงานรองขอ ตองระวางโทษจําคุกไมเกินหนึ่งเดือน หรือปรับไมเกิน หนึง่ พันบาทหรอื ทั้งจาํ ทั้งปรับ ÁÒμÃÒ òõ ·ÇÔ๒๐ ÁÒμÃÒ òö๒๑ ผใู ดตงั้ สถานบรกิ ารโดยไมไ ดร บั อนญุ าต หรอื ดาํ เนนิ กจิ การสถานบรกิ าร เชนวาน้ันในระหวางถูกพักใชใบอนุญาตหรือดําเนินกิจการสถานบริการผิดประเภทท่ีระบุไวใน ใบอนญุ าต ตอ งระวางโทษจาํ คุกไมเ กนิ หนึง่ ป หรอื ปรบั ไมเกนิ หกหมื่นบาท หรือท้ังจาํ ท้ังปรับ ÁÒμÃÒ òö ·Ç๒Ô ๒ ÁÒμÃÒ ò÷๒๓ ผูรับอนุญาตตั้งสถานบริการผูใดฝาฝนหรือไมปฏิบัติตามมาตรา ๑๒ มาตรา ๑๔ มาตรา ๑๕ มาตรา ๑๖ (๑) (๒) (๓) หรือ (๔) มาตรา ๑๖/๑ วรรคหน่งึ หรอื กฎกระทรวง ตามมาตรา ๑๗ ตอ งระวางโทษปรบั ไมเกินหาหมื่นบาท ๑๘ มาตรา ๒๔ แกไขโดยพระราชบญั ญัตสิ ถานบรกิ าร (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ.๒๕๒๑ ๑๙ มาตรา ๒๕ แกไขโดยพระราชบัญญัติสถานบรกิ าร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๒๑ ๒๐ มาตรา ๒๕ ทวิ ยกเลกิ โดยพระราชบญั ญัติสถานบรกิ าร (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ.๒๕๔๖ ๒๑ มาตรา ๒๖ แกไขโดยพระราชบญั ญัตสิ ถานบริการ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๔๖ ๒๒ มาตรา ๒๖ ทวิ ยกเลกิ โดยพระราชบญั ญัติสถานบรกิ าร (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ.๒๕๔๖ ๒๓ มาตรา ๒๗ แกไขโดยพระราชบญั ญตั ิสถานบริการ (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ.๒๕๔๖

๕๗ ÁÒμÃÒ òø๒๔ ผรู บั อนุญาตตงั้ สถานบรกิ ารผูใ ดฝา ฝน มาตรา ๑๓ หรือมาตรา ๑๖ (๕) หรือ (๖) ตอ งระวางโทษปรับไมเ กินหกหมื่นบาท ÁÒμÃÒ òø/ñ๒๕ ผรู บั อนญุ าตตง้ั สถานบรกิ ารผใู ดไมป ฏบิ ตั ติ ามมาตรา ๑๖/๑ วรรคสอง หรอื วรรคสาม หรือมาตรา ๑๖/๓ ตองระวางโทษปรบั ไมเกนิ หาหม่ืนบาท ผูใดเขาไปในสถานบริการโดยไมม ีหรือไมย อมใหตรวจเอกสารราชการตามมาตรา ๑๖/๑ วรรคสาม ตอ งระวางโทษปรบั ไมเกนิ หา พนั บาท ÁÒμÃÒ òø/ò๒๖ ผูใดนําอาวุธเขาไปในสถานบริการโดยฝาฝนมาตรา ๑๖/๒ ตองระวางโทษจําคกุ ไมเ กินหกเดือน หรอื ปรับไมเ กนิ หนงึ่ หม่นื บาท หรือท้งั จําท้งั ปรับ ในกรณีที่อาวุธตามวรรคหน่ึงเปนอาวุธปน ผูฝาฝนตองระวางโทษจําคุกตั้งแตหนึ่งปถึง หาป หรือปรับต้ังแตส องหมื่นบาทถงึ หนงึ่ แสนบาท หรอื ทง้ั จาํ ท้งั ปรับ ในกรณีท่ีอาวุธตามวรรคหนึ่งเปนวัตถุระเบิดหรืออาวุธสงคราม ผูฝาฝนตองระวางโทษ จาํ คกุ ต้งั แตส องปถงึ ย่สี ิบป หรือปรบั ต้ังแตส่ีหมืน่ บาทถงึ สแ่ี สนบาท หรอื ทั้งจําทงั้ ปรบั ในกรณีที่ศาลมีคําพิพากษาลงโทษตามวรรคหน่ึง วรรคสอง หรือวรรคสาม ใหศาล มอี าํ นาจสั่งใหรบิ อาวธุ นนั้ ดว ย ÁÒμÃÒ òø/ó๒๗ ผูรับอนุญาตต้ังสถานบริการผูใดไมปฏิบัติตามมาตรา ๑๙ หรือผูใด จัดใหมีการแสดงเพ่ือความบันเทิงในสถานบริการที่เปนไปในทางลามกหรืออนาจาร ตองระวางโทษ จําคกุ ไมเกนิ สามป หรอื ปรับไมเกนิ หกหมื่นบาท หรอื ท้ังจาํ ทั้งปรบั ÁÒμÃÒ òø/ô๒๘ ในกรณีท่ีผูกระทําความผิดตามพระราชบัญญัติน้ีเปนนิติบุคคล กรรมการผูจัดการ หรือบุคคลใดซ่ึงรับผิดชอบในการดําเนินงานของนิติบุคคลนั้น ตองรับโทษตามที่ บัญญัติไวสําหรับความผิดนั้นๆ ดวย เวนแตจะพิสูจนไดวาตนมิไดมีสวนในการกระทําความผิดของ นติ บิ คุ คลน้ัน ÁÒμÃÒ òù เมื่อพระราชบัญญัตินี้ไดใชบังคับในทองท่ีใดใหผูต้ังสถานบริการตาม มาตรา ๓ (๑) (๒) หรือ (๓) อยูแลวกอนวันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใชบังคับดําเนินกิจการตอไปได ในเม่ือไดจัดทําบัตรประวัติตามท่ีบังคับไวในมาตรา ๑๔ และมาขอรับใบอนุญาตตั้งสถานบริการน้ัน โดยเสียคา ธรรมเนียมภายในกําหนดสามสิบวัน นับแตวนั ท่ีพระราชบญั ญตั ินี้ใชบงั คับในทองท่ีนนั้ ๒๔ มาตรา ๒๘ แกไ ขโดยพระราชบัญญตั ิสถานบรกิ าร (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ.๒๕๔๖ ๒๕ มาตรา ๒๘/๑ เพมิ่ เติมโดยพระราชบัญญตั ิสถานบรกิ าร (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ.๒๕๔๖ ๒๖ มาตรา ๒๘/๒ เพิม่ เติมโดยพระราชบญั ญตั ิสถานบริการ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๔๖ ๒๗ มาตรา ๒๘/๓ เพ่มิ เตมิ โดยพระราชบัญญตั ิสถานบริการ (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ.๒๕๔๖ ๒๘ มาตรา ๒๘/๔ เพ่มิ เติมโดยพระราชบัญญตั สิ ถานบริการ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๔๖

๕๘ ใหผูตั้งสถานบริการตามมาตรา ๓ (๔) อยูแลวกอนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใชบังคับ ปฏิบัติตามมาตรา ๑๖ และมาตรา ๑๗ ภายในกําหนดสามสิบวัน นับแตวันท่ีพระราชบัญญัติน้ี ใชบงั คับในทอ งทีน่ ัน้ ÁÒμÃÒ óð ใหรัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัติน้ี และใหมีอํานาจออกกฎกระทรวง กําหนดคาธรรมเนียมไมเกินอัตราในบัญชีทายพระราชบัญญัติน้ี ยกเวนคาธรรมเนียม และกําหนดกจิ การอืน่ เพือ่ ปฏบิ ัติการตามพระราชบัญญตั ินี้ กฎกระทรวงนั้น เมือ่ ไดป ระกาศในราชกิจจานเุ บกษาแลวใหใ ชบงั คับได

¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ ÔʶҹºÃ¡Ô Òà ¾.È.òõðù ·èÕ¾ºº‹ÍÂÁ´Õ §Ñ ¹éÕ ÅӴѺ ¢ÍŒ ËÒ/°Ò¹¤ÇÒÁ¼Ô´ ÁÒμÃÒ ÍÑμÃÒâ·É ËÁÒÂàËμØ ๑. ไมจัดทาํ บตั รประวตั ิพนักงาน มาตรา ๑๔ - ปรับไมเกนิ ๕๐,๐๐๐ บาท ๒. ๒.๑ รบั ผมู อี ายตุ ํา่ กวา ๑๘ ปบรบิ ูรณเขา ทํางาน มาตรา ๑๖(๑) - ปรับไมเกนิ ๕๐,๐๐๐ บาท ๒.๒ จาํ หนายสุราใหแกผูมอี าการมึนเมาจนประพฤติตนวุนวายหรอื ครองสติไมได มาตรา ๑๖(๓) - ปรบั ไมเ กิน ๕๐,๐๐๐ บาท ๒.๓ ยนิ ยอมปลอ ยปละละเลยใหม กี ารกระทาํ ความผดิ เกย่ี วกบั ยาเสพตดิ ในสถานบรกิ าร มาตรา ๑๖(๕) - ปรับไมเกิน ๖๐,๐๐๐ บาท ๒.๔ ยนิ ยอมหรือปลอ ยปละละเลยใหม กี ารนาํ อาวธุ เขา ไปในสถานบริการ มาตรา ๑๖(๖) - ปรบั ไมเกิน ๖๐,๐๐๐ บาท ๓. ยา ยแกไ ขเปลย่ี นแปลงหรอื ตอเตมิ สถานบรกิ ารโดยไมไ ดร ับอนุญาตจากเจา หนาท่ี มาตรา ๑๓ - ปรบั ไมเกิน ๖๐,๐๐๐ บาท ๔. ยินยอมหรือปลอ ยปละละเลยใหผ มู อี ายุตาํ่ กวา ๒๐ ปบ รบิ รู ณเ ขา ไปในสถานบรกิ าร มาตรา ๑๖/๑ - ปรับไมเกนิ ๖๐,๐๐๐ บาท ๕. จัดใหมีการแสดงลามกหรอื อนาจารในสถานบริการ มาตรา ๑๙ - จําคุกไมเกิน ๓ ปหรอื ปรับไมเ กิน ๖๐,๐๐๐ บาท หรอื ท้ังจําทัง้ ปรับ ๖. เปด ทําการสถานบรกิ ารไมเ ปนไปตามเวลาทก่ี ฎหมายกาํ หนด มาตรา ๑๖ - ปรับไมเ กนิ ๕๐,๐๐๐ บาท ๕๙

๖๐

๖๑ º··Õè ô ¾.Ã.º.¤Çº¤ØÁà¤Ã×Íè §´è×ÁáÍÅ¡ÍÎÍŏ ¾.È.òõõñ ñ. ÇÑμ¶»Ø ÃÐʧ¤¡ ÒÃàÃÂÕ ¹Ã»ŒÙ ÃШӺ· ๑.๑ เพื่อใหนักเรียนมีความรูและความเขาใจใน พ.ร.บ.ควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ ๑.๒ เพื่อใหนักเรียนสามารถอธิบายการวิเคราะหวาการกระทําใดมีความผิด หรือไมมี ความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคมุ เครอ่ื งดื่มแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ ๑.๓ เพื่อใหนักเรียนสามารถอธิบายวิธีการดําเนินการกับผูกระทําความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคมุ เครือ่ งดื่มแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ ò. ʋǹ¹Ó เครอื่ งดม่ื แอลกอฮอลไ ดก อ ใหเ กดิ ปญ หาแกส งั คมอยา งมากมายตง้ั แตป ญ หาความรนุ แรง ในครัวเรือน ปญหาสุขภาพกายสุขภาพจิตของผูปวยจากการติดสุรา ปญหาความรุนแรงจากการ ขาดสติ ปญหาอาชญากรรมทางเพศ ปญหาอุบัติเหตุ ดังน้ันเพื่อเปนการควบคุมปญหาท่ีเกิดจาก เครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอล รฐั จงึ จาํ เปน ตอ งควบคมุ การดาํ เนนิ การตา งๆ ทเ่ี กยี่ วขอ งกบั เครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอล ó. à¹Íé× ËÒμÒÁËÇÑ ¢ŒÍ ๓.๑ ความรูทัว่ ไปเก่ยี วกบั พ.ร.บ.ควบคุมเครอ่ื งด่ืมแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ ๓.๒ การควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอลตาม พ.ร.บ.ควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ ๓.๓ พนกั งานเจาหนาท่ี ๓.๔ ความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเคร่ืองดม่ื แอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ ô. ʋǹÊÃØ» เครื่องดื่มแอลกอฮอลอาจจะเปนบทบัญญัติท่ีเพ่ิมโทษใน พ.ร.บ.สุราใหหนักขึ้น แมวัตถุประสงคของกฎหมายทั้งสองฉบับจะตางกัน กลาวคือ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล มงุ ควบคมุ คนทต่ี ดิ สรุ าแลว ใหม โี อกาสไดเ ลกิ และปอ งกนั ไมใ หเ กดิ นกั ดม่ื หนา ใหม ในขณะท่ี พ.ร.บ.สรุ าฯ มุงท่ีการจัดเก็บรายไดของรัฐ และควบคุมคุณภาพของสุรา เพ่ือความปลอดภัยของผูดื่ม ดังนั้น การบังคับใชกฎหมายทั้งสองฉบบั จงึ แตกตา งกัน ซึ่งหากบงั คับใช พ.ร.บ.ควบคุมเครอื่ งดม่ื แอลกอฮอล อยางมปี ระสิทธภิ าพยอ มลดนกั ด่มื หนา ใหมท ีจ่ ะเกิดข้นึ เปนปญ หาสงั คมตอไป õ. ¡Ô¨¡ÃÃÁá¹Ð¹Ó ใหนักเรียนคนหาการจับกุมตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล และนําขอมูลมา วิเคราะหอ ภิปรายรวมกันในชัน้ เรียน

๖๒ ¤ÇÒÁÃÙŒ·ÑèÇä»à¡ÂèÕ Ç¡Ñº ¾.Ã.º.¤Çº¤ÁØ à¤Ãè×ͧ´×Áè áÍÅ¡ÍÎÍÅϏ ÁÒμÃÒ ó ในพระราชบัญญตั ิน้ี “เคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล” หมายความวา สุราตามกฎหมายวาดวยสุรา ทั้งนี้ ไมรวมถึง ยาวัตถุออกฤทธ์ติ อจติ และประสาท ยาเสพติดใหโ ทษตามกฎหมายวา ดว ยการน้นั “ผูติดเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล” หมายความวา บุคคลท่ีด่ืมเครื่องดื่มแอลกอฮอล จนกอใหเกิดผลเสียตอสุขภาพรางกายหรือจิตใจ โดยการด่ืมนั้นมีลักษณะที่ตองเพิ่มปริมาณมากขึ้น และเม่อื หยดุ ดม่ื จะมีอาการแสดงของการขาดเครอื่ งดม่ื แอลกอฮอลในรา งกาย “ขาย” หมายความรวมถงึ จาํ หนา ย จา ย แจก แลกเปลยี่ น ให เพอื่ ประโยชนใ นทางการคา “โฆษณา” หมายความวา การกระทําไมวาโดยวิธีใดๆ ใหประชาชนเห็น ไดยิน หรอื ทราบขอ ความเพ่ือประโยชนใ นทางการคา และใหหมายความรวมถงึ การสื่อสารการตลาด “การส่ือสารการตลาด” หมายความวา การกระทํากิจกรรมในรูปแบบตางๆ โดยมี วตั ถปุ ระสงคเ พอ่ื ขายสนิ คา บรกิ ารหรอื ภาพลกั ษณ การประชาสมั พนั ธ การเผยแพรข า วสาร การสง เสรมิ การขาย การแสดงสินคา การจดั หรอื สนบั สนุนใหมีการจัดกิจกรรมพเิ ศษ และการตลาดแบบตรง “ขอความ” หมายความรวมถึง การกระทําใหปรากฏดวยตัวอักษร ภาพ ภาพยนตร แสง เสยี ง เคร่อื งหมายหรือการกระทําอยา งใดๆ ทีท่ ําใหบคุ คลท่วั ไปสามารถเขาใจความหมายได “ฉลาก” หมายความวา รปู รอยประดษิ ฐ กระดาษหรือสิ่งอน่ื ใดท่ีทาํ ใหปรากฏขอความ เกี่ยวกับสินคาซ่ึงแสดงไวที่สินคาหรือภาชนะบรรจุหรือหีบหอบรรจุสินคา หรือสอดแทรก หรือรวม ไวกับสินคาหรือภาชนะบรรจุหรือหีบหอบรรจุสินคาและหมายความรวมถึงเอกสาร หรือคูมือสําหรับ ใชประกอบกับสินคา ปายทตี่ ดิ ตั้งหรอื แสดงไวทส่ี นิ คาหรือภาชนะบรรจหุ รือหีบหอบรรจุสนิ คานัน้ “คณะกรรมการ” หมายความวา คณะกรรมการนโยบายเครอ่ื งดืม่ แอลกอฮอลแ หงชาติ “คณะกรรมการควบคมุ ” หมายความวา คณะกรรมการควบคุมเครอื่ งดม่ื แอลกอฮอล “สํานกั งาน” หมายความวา สํานักงานคณะกรรมการควบคุมเคร่ืองดม่ื แอลกอฮอล “พนักงานเจาหนาที่” หมายความวา ผูซ่ึงรัฐมนตรีแตงต้ังใหปฏิบัติการตาม พระราชบญั ญัตินี้ “ผูอํานวยการ” หมายความวา ผูอํานวยการสํานักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องด่ืม แอลกอฮอล “อธบิ ดี” หมายความวา อธิบดีกรมควบคุมโรค “รฐั มนตรี” หมายความวา รัฐมนตรีผูรกั ษาการตามพระราชบัญญัตนิ ี้ ÁÒμÃÒ ô ใหนายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และใหมีอํานาจแตงตั้ง พนักงานเจา หนาที่ ออกกฎกระทรวง ระเบยี บ และประกาศ เพื่อปฏบิ ัติการตามพระราชบญั ญตั ินี้ กฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศน้ัน เมื่อไดประกาศในราชกิจจานุเบกษาแลวใหใช บังคบั ได

๖๓ ÁÒμÃÒ òö ใหผผู ลติ หรอื นาํ เขาเครือ่ งด่ืมแอลกอฮอล ปฏิบตั ดิ งั ตอ ไปนี้ (๑) จดั ใหม บี รรจภุ ณั ฑ ฉลาก พรอ มทงั้ ขอความคาํ เตือนสําหรบั เครือ่ งดื่มแอลกอฮอล ทผี่ ลิตหรอื นําเขา ทัง้ นใ้ี หเ ปน ไปตามหลกั เกณฑ วธิ กี าร และเงอ่ื นไขท่ีคณะกรรมการควบคมุ ประกาศ กําหนดโดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการและประกาศในราชกจิ จานุเบกษา (๒) การอ่ืนตามท่ีคณะกรรมการควบคุมกําหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ และประกาศในราชกิจจานุเบกษา ÁÒμÃÒ ò÷ หา มขายเครอ่ื งดืม่ แอลกอฮอลใ นสถานทห่ี รอื บรเิ วณดงั ตอไปน้ี (๑) วัดหรือสถานท่สี าํ หรบั ปฏิบตั พิ ธิ กี รรมทางศาสนา (๒) สถานบรกิ ารสาธารณสขุ ของรฐั สถานพยาบาลตามกฎหมายวา ดว ยสถานพยาบาล และรานขายยาตามกฎหมายวาดวยยา (๓) สถานทร่ี าชการ ยกเวน บรเิ วณทจี่ ดั ไวเปน รา นคา หรือสโมสร (๔) หอพักตามกฎหมายวา ดว ยหอพัก (๕) สถานศกึ ษาตามกฎหมายวาดวยการศึกษาแหง ชาติ (๖) สถานีบริการน้ํามันเชื้อเพลิงตามกฎหมายวาดวยการควบคุมน้ํามันเชื้อเพลิง หรือรา นคาในบรเิ วณสถานบี ริการนํา้ มนั เชื้อเพลิง (๗) สวนสาธารณะของทางราชการท่จี ัดไวเ พอ่ื การพกั ผอนของประชาชนโดยทว่ั ไป (๘) สถานทอ่ี น่ื ท่รี ฐั มนตรปี ระกาศกําหนดโดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการ ÁÒμÃÒ òø หามมิใหผูใดขายเครื่องด่ืมแอลกอฮอลในวัน หรือเวลาท่ีรัฐมนตรี ประกาศกําหนดโดยคําแนะนําของคณะกรรมการ ทั้งนี้ ประกาศดังกลาวจะกําหนดเงื่อนไขหรือ ขอยกเวนใดๆ เทาทีจ่ ําเปน ไวดวยก็ได บทบญั ญตั ใิ นวรรคหนงึ่ มใิ หใ ชบ งั คบั กบั การขายของผผู ลติ ผนู าํ เขา หรอื ตวั แทนของผผู ลติ หรอื ผูน าํ เขาไปยังผูขายซง่ึ ไดรับอนญุ าตตามกฎหมายวา ดวยสรุ า ÁÒμÃÒ òù หา มมิใหผใู ดขายเครอื่ งด่มื แอลกอฮอลแ กบคุ คลตอไปน้ี (๑) บคุ คลซึง่ มอี ายุตาํ่ กวายส่ี บิ ปบ ริบูรณ (๒) บคุ คลที่มอี าการมึนเมาจนครองสตไิ มได ÁÒμÃÒ óð หา มมใิ หผ ใู ดขายเครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอลโ ดยวธิ กี ารหรอื ในลกั ษณะ ดงั ตอ ไปน้ี (๑) ใชเ ครื่องขายอัตโนมัติ (๒) การเรขาย (๓) การลดราคาเพือ่ ประโยชนใ นการสง เสรมิ การขาย (๔) ใหหรือเสนอใหสิทธิในการเขาชมการแขงขัน การแสดง การใหบริการ การชิงโชค การชิงรางวัล หรือสิทธิประโยชนอื่นใดเปนการตอบแทนแกผูซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล หรือแกผูนํา หีบหอ หรือสลากหรือสงิ่ อ่ืนใดเก่ียวกับเครอื่ งดมื่ แอลกอฮอลม าแลกเปลยี่ นหรอื แลกซ้ือ

๖๔ (๕) โดยแจก แถม ให หรือแลกเปลยี่ นกบั เครื่องดมื่ แอลกอฮอล หรือกับสนิ คาอืน่ หรอื การใหบริการอยางอ่ืนแลวแตกรณี หรือแจกจายเคร่ืองดื่มแอลกอฮอลในลักษณะเปนตัวอยางของ เคร่ืองดื่มแอลกอฮอล หรือเปนการจูงใจสาธารณชนใหบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล รวมถึง การกาํ หนดเงอ่ื นไขการขายในลกั ษณะทเ่ี ปน การบงั คบั ซอื้ เครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอลโ ดยทางตรงหรอื ทางออ ม (๖) โดยวิธีหรือลักษณะอื่นใดตามที่รัฐมนตรีประกาศกําหนดโดยคําแนะนําของ คณะกรรมการ ÁÒμÃÒ óñ หา มมใิ หผ ใู ดบรโิ ภคเครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอลใ นสถานทห่ี รอื บรเิ วณดงั ตอ ไปนี้ (๑) วัดหรือสถานที่สําหรับปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา เวนแตเปนสวนหน่ึงของ พธิ กี รรมทางศาสนา (๒) สถานบรกิ ารสาธารณสขุ ของรฐั สถานพยาบาลตามกฎหมายวา ดว ยสถานพยาบาล และรานขายยาตามกฎหมายวาดวยยา ยกเวน บริเวณทีจ่ ัดไวเ ปน ท่ีพักสว นบคุ คล (๓) สถานที่ราชการ ยกเวนบริเวณท่ีจัดไวเปนที่พักสวนบุคคล หรือสโมสร หรือ การจดั เลย้ี งตามประเพณี (๔) สถานศึกษาตามกฎหมายวาดวยการศึกษาแหงชาติ ยกเวนบริเวณที่จัดไวเปน ท่ีพักสวนบุคคลหรือสโมสร หรือการจัดเลี้ยงตามประเพณี หรือสถานศึกษาที่สอนการผสมเคร่ืองด่ืม แอลกอฮอลและไดร บั อนญุ าตตามกฎหมายวา ดวยการศกึ ษาแหง ชาติ (๕) สถานีบริการนํ้ามันเช้ือเพลิงตามกฎหมายวาดวยการควบคุมน้ํามันเช้ือเพลิง หรอื รานคา ในบริเวณสถานีบรกิ ารนาํ้ มนั เช้อื เพลิง (๖) สวนสาธารณะของทางราชการท่ีจัดไวเ พ่ือการพกั ผอนของประชาชนโดยทวั่ ไป (๗) สถานที่อน่ื ที่รัฐมนตรีประกาศกําหนดโดยคาํ แนะนาํ ของคณะกรรมการ ÁÒμÃÒ óò หา มมใิ หผ ใู ด โฆษณาเครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอลห รอื แสดงชอ่ื หรอื เครอ่ื งหมาย ของเครือ่ งดื่มแอลกอฮอลอ ันเปนการอวดอา งสรรพคณุ หรือชกั จูงใจใหผ ูอ น่ื ด่ืมโดยตรงหรอื โดยออม การโฆษณาหรอื ประชาสมั พนั ธใ ดๆ โดยผผู ลติ เครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอลท กุ ประเภทใหก ระทาํ ไดเฉพาะการใหขอมูลขาวสาร และความรูเชิงสรางสรรคสังคม โดยไมมีการปรากฏภาพของสินคา หรือบรรจุภัณฑของเครอ่ื งดืม่ แอลกอฮอลน ้ัน เวนแตเปนการปรากฏของภาพสญั ลักษณของเครือ่ งดืม่ แอลกอฮอล หรือสัญลักษณของบริษัทผูผลิตเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอลนั้นเทานั้น ทั้งน้ีตามท่ีกําหนดใน กฎกระทรวง บทบัญญัติในวรรคหนึ่งและวรรคสอง มิใหใชบังคับกับการโฆษณาที่มีตนกําเนิด นอกราชอาณาจักร

๖๕ ÁÒμÃÒ óô ในการปฏิบัติหนาที่ตามพระราชบัญญัตินี้ใหพนักงานเจาหนาท่ีมีอํานาจ หนาท่ดี งั ตอ ไปน้ี (๑) เขาไปในสถานท่ีทําการของผูผลิต นําเขา หรือขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล สถานท่ี ผลิต นําเขา หรือขายเครื่องด่ืมแอลกอฮอล สถานท่ีเก็บเครื่องด่ืมแอลกอฮอล ในเวลาทําการของ สถานที่น้ัน รวมถึงเขา ตรวจสอบยานพาหนะเพื่อตรวจสอบการปฏิบัตติ ามพระราชบัญญตั ิน้ี (๒) ยึดหรืออายัดเคร่ืองดื่มแอลกอฮอลของผูผลิต ผูนําเขา หรือผูขายที่ฝาฝน หรือ ไมปฏบิ ตั ติ ามพระราชบญั ญัติน้ี (๓) มีหนังสือเรียกบุคคลใดมาใหถอยคําหรือใหสงเอกสารหรือวัตถุใดเพ่ือประกอบ การพิจารณา ÁÒμÃÒ óõ ในการปฏิบัติหนาที่ตามพระราชบัญญัตินี้ พนักงานเจาหนาที่ตองแสดง บตั รประจําตัวตอ ผูรบั อนญุ าตหรือบคุ คลที่เกี่ยวของ บตั รประจําตวั พนกั งานเจา หนา ที่ใหเ ปนไปตามแบบทรี่ ัฐมนตรีประกาศกาํ หนด ÁÒμÃÒ óö ในการปฏิบัติหนาที่ของพนักงานเจาหนาท่ีตามมาตรา ๓๔ ใหบุคคล ทเี่ กี่ยวของอาํ นวยความสะดวกตามสมควร ÁÒμÃÒ ó÷ ในการปฏิบัติหนาที่ตามพระราชบัญญัติน้ีใหพนักงานเจาหนาท่ีเปน เจา พนกั งานตามประมวลกฎหมาย ÁÒμÃÒ óø ผูผลิตหรือนําเขาเคร่ืองดื่มแอลกอฮอลผูใดไมปฏิบัติตามมาตรา ๒๖ ตอ งระวางโทษจําคุกไมเ กนิ หนึง่ ป หรอื ปรบั ไมเกินหนึง่ แสนบาท หรอื ทง้ั จาํ ทงั้ ปรบั ÁÒμÃÒ óù ผูใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลโดยฝาฝนมาตรา ๒๗ หรือมาตรา ๒๘ ตอ งระวางโทษจาํ คุกไมเกนิ หกเดือน หรอื ปรบั ไมเกนิ หน่ึงหม่ืนบาท หรอื ทั้งจาํ ทงั้ ปรับ ÁÒμÃÒ ôð ผใู ดขายเครือ่ งดื่มแอลกอฮอลโดยฝา ฝนมาตรา ๒๙ หรอื มาตรา ๓๐ (๑) ตอ งระวางโทษจาํ คุกไมเ กนิ หนง่ึ ป หรือปรับไมเ กินสองหม่ืนบาท หรือท้งั จาํ ท้ังปรับ ÁÒμÃÒ ôñ ผูใดฝาฝนมาตรา ๓๐(๒) (๓) (๔) (๕) หรือ (๖) ตองระวางโทษจําคุก ไมเ กินหกเดอื น หรอื ปรบั ไมเ กินหน่ึงหมื่นบาท หรอื ท้งั จําท้งั ปรบั ÁÒμÃÒ ôò ผใู ดฝา ฝน มาตรา ๓๑ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กนิ หกเดอื น หรอื ปรบั ไมเ กนิ หนึง่ หมน่ื บาท หรอื ท้งั จําท้ังปรบั ÁÒμÃÒ ôó ผูใดฝา ฝน มาตรา ๓๒ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กนิ หน่ึงป หรอื ปรับไมเกนิ หา แสนบาท หรอื ท้งั จาํ ท้ังปรบั นอกจากตอ งระวางโทษตามวรรคหนงึ่ แลว ผฝู า ฝน ยงั ตอ งระวางโทษปรบั อกี วนั ละไมเ กนิ หา หมืน่ บาทตลอดเวลาที่ยังฝา ฝน หรอื จนกวาจะไดปฏิบัติใหถูกตอ ง ÁÒμÃÒ ôô ผูใดตอสูหรือขัดขวางการปฏิบัติหนาที่ของพนักงานเจาหนาท่ีตาม มาตรา ๓๔ (๑) หรือ (๒) ตองระวางโทษจําคุกไมเกินหน่ึงป หรือปรับไมเกินสองหมื่นบาท หรือ ทงั้ จําทง้ั ปรับ

๖๖ ผูใดไมยอมมาใหถอยคําหรือไมยอมใหถอยคําโดยไมมีเหตุอันสมควรตอพนักงาน เจาหนาท่ี ซ่ึงปฏิบัติหนาที่ตามมาตรา ๓๔ (๓) หรือไมยอมสงเอกสารหรือวัตถุอื่นใดมา เพอ่ื ประกอบการพจิ ารณาของพนกั งานเจา หนา ทเ่ี มอ่ื ถกู เรยี กใหส ง ตามมาตรา ๓๔ (๓) ตอ งระวางโทษ ปรับไมเ กินสองหม่นื บาท ผูใดไมอํานวยความสะดวกแกพนักงานเจาหนาท่ี อันเปนการไมปฏิบัติตามมาตรา ๓๖ ตองระวางโทษปรับไมเกนิ สองพนั บาท ÁÒμÃÒ ôõ บรรดาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ีใหคณะกรรมการควบคุมมีอํานาจ เปรยี บเทยี บได และในการนใี้ หค ณะกรรมการควบคมุ มอี าํ นาจมอบหมายใหค ณะอนกุ รรมการพนกั งาน สอบสวน หรอื พนกั งานเจา หนา ทด่ี าํ เนนิ การเปรยี บเทยี บได โดยจะกาํ หนดหลกั เกณฑใ นการเปรยี บเทยี บ หรอื เงือ่ นไขประการใดๆ ใหแ กผไู ดรบั มอบหมายตามทีเ่ หน็ สมควรก็ได ในการสอบสวน ถา พนกั งานสอบสวนพบวา บคุ คลใดกระทาํ ความผดิ ตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี และบุคคลนั้นยินยอมใหเปรียบเทียบใหพนักงานสอบสวนสงเรื่องมายังคณะกรรมการควบคุม หรือผูซ่ึงคณะกรรมการควบคุมมอบหมายใหมีอํานาจเปรียบเทียบตามวรรคหน่ึงภายในเจ็ดวัน นบั แตว นั ทผี่ ูนนั้ แสดงความยินยอมใหเปรยี บเทยี บ เมื่อผูกระทําความผิดไดเสียคาปรับตามที่เปรียบเทียบแลวใหถือวาคดีเลิกกันตาม ประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา นอกจากนี้ ยังมีประกาศสาํ นักนายกรัฐมนตรี ซึ่งออกตามคําแนะนําของคณะกรรมการ นโยบายเครอ่ื งดืม่ แอลกอฮอล ในการตา งวัน เวลา สถานที่ ดังตอ ไปนี้ μÇÑ ÍÂÒ‹ §คํา¾¾Ô Ò¡ÉÒ ศาลแขวงขอนแกน มีคาํ พิพากษาคดีหมายเลขแดงท่ี ๗๓๐๘/๒๕๕๒ วินิจฉัยตาม ขอ เท็จจริงวา จําเลยขายสุราขาว จาํ นวน ๑ ขวด ภายในเทศกาลไหม บริเวณหนาศาลากลางจังหวดั ขอนแกน และไดขายสรุ าขาว จํานวน ๑ ขวด แกบ คุ คลซง่ึ มอี ายตุ ่ํากวา ๒๐ ปบ ริบรู ณ พิพากษาวา จําเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๒๗, ๒๙, ๓๙, ๔๐ ศาลแขวงพษิ ณโุ ลก มคี ําพพิ ากษาคดหี มายเลขแดงท่ี ๓๒/๒๕๕๔ วนิ จิ ฉยั ตามขอ เทจ็ จรงิ วา จาํ เลยไดข าย จาํ หนา ยเครอื่ งดม่ื แอลกอฮอล (สรุ าขาว ๔๐ ดกี ร)ี จํานวน ๑ ถงุ บรเิ วณศาลากลางจงั หวดั พิษณโุ ลก (งานกาชาด ประจาํ ป ๒๕๕๔) อนั เปนสถานทร่ี าชการโดยฝาฝน ตอกฎหมาย พพิ ากษาวา จาํ เลยมคี วามผดิ ตามพระราชบญั ญตั คิ วบคมุ เครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๓, ๒๗ (๓), ๓๙ ศาลแขวงขอนแกน มีคาํ พพิ ากษาคดหี มายเลขแดงท่ี ๙๕๗/๒๕๕๓ วินจิ ฉัยวา “จาํ เลยได บงั อาจขายเครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอลภ ายในบรเิ วณหอพกั ชาญวถิ ี ซงึ่ เปน หอพกั ตามกฎหมายวา ดว ยหอพกั อันเปน การฝาฝน ตอพระราชบัญญัตคิ วบคมุ เครอื่ งด่มื แอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๒๗ (๔)”

๖๗ ศาลจังหวัดธญั บรุ ี มคี ําพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ ๕๒๔๑/๒๕๕๔ วนิ ิจฉัยวา “จาํ เลย ขายเครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอลใ นสถานทแ่ี ละบรเิ วณหอพกั บา นบางกอก อนั เปน สถานทห่ี รอื บรเิ วณตอ งหา ม ตามกฎหมาย พิพากษาวาจาํ เลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๒๗ (๔) มาตรา ๓๙” ศาลจังหวัดสมุทรสาคร มีคําพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ ๙๐๐๔/๒๕๕๔ วินิจฉัยวา “...เมอื่ ไดค วามวา ภายในงานไดจ ดั ใหม กี ารจําหนา ยเบยี รใ นราคาเหยอื กละ ๑๐๐ บาท แมจ าํ เลยจะไมไ ด เปนผรู บั เงินหรอื รบั คปู องเพ่ือแลกเปล่ยี นกบั การสง มอบเบยี รใหก ็ตาม แตก ารทจี่ ําเลยเปนผใู หบริการ กดเบียรสดอันเปนเครื่องด่ืมแอลกอฮอลแจกจายใหแกผูมารวมงานเลี้ยง การกระทาํ ของจําเลย ในลกั ษณะดงั กลา ว ยอ มถอื ไดว า จําเลยเปน ผขู ายเครอื่ งดมื่ แอลกอฮอล ตามบทนยิ ามของคําวา “ขาย” ตามมาตรา ๓ แหงพระราชบัญญัติควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ ซึ่งหมายความรวมถึง จาํ หนาย จาย แจก แลกเปลย่ี น ให เพ่ือประโยชนในทางการคา แมง านเลย้ี งจะจดั ท่สี นามของโรงเรยี น และเคานเ ตอรเ บยี รข องจําเลยตง้ั อยนู อกหอ งเรยี น ไมไ ดจ ดั เลย้ี งในหอ งเรยี น แตถ อื ไดว า อยใู นบรเิ วณ ของโรงเรยี น ดงั นนั้ จาํ เลยจงึ มคี วามผดิ ฐานรว มกนั ขายเครอื่ งดมื่ แอลกอฮอลใ นบรเิ วณสถานศกึ ษาตาม กฎหมายวาดวยการศึกษาแหงชาติ ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๒๗ (๕)...” ศาลจังหวัดอุตรดิตถ มีคาํ พิพากษาคดีหมายเลขแดงท่ี ๑๓๔๘/๒๕๕๕ วินิจฉัยตาม ขอ เทจ็ จรงิ วา จาํ เลยเปน เจา ของรา นอาหารซง่ึ ตง้ั อยใู นบรเิ วณสถานบี รกิ ารนาํ้ มนั เชอื้ เพลงิ PT อนั เปน สถานบี รกิ ารนํ้ามนั เชอ้ื เพลงิ ตามกฎหมายวา ดว ยการควบคมุ นํา้ มนั เชอื้ เพลงิ ฯ ทก่ี ฎหมายกําหนดใหเ ปน สถานที่หรือบริเวณหามขายเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอลตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ จําเลยไดบ งั อาจขายเครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอล (เบยี ร ยห่ี อ ลโี อ) จาํ นวน ๓ ขวด ใหแ กล กู คา ทมี่ า ใชบ ริการในรา นคา ของจําเลยดังกลา ว ซึ่งเปน สถานทหี่ รอื บริเวณที่กฎหมายกาํ หนดหามขายเครื่องด่มื แอลกอฮอล อันเปนการฝาฝน ตอ กฎหมาย พิพากษาวา จาํ เลยมคี วามผิดตามพระราชบัญญัตคิ วบคมุ เคร่อื งด่ืมแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๒๗ (๖), ๓๙ ศาลแขวงลพบรุ ี มคี ําพพิ ากษาคดหี มายเลขแดงที่ ๑๒๕/๒๕๕๒ วนิ จิ ฉยั ตามขอ เทจ็ จรงิ วา จําเลยกับพวกไดบังอาจด่ืมสุรา อันเปนการบริโภคเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอลตามพระราชบัญญัติควบคุม เครอื่ งดมื่ แอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ ภายในวดั ถาํ้ ตะโก อนั เปน การฝา ฝน ตอ กฎหมาย พพิ ากษาวา จาํ เลย มีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๓, ๓๑ (๑), ๔๒ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๘ เปนกรรมเดยี วผิดตอ กฎหมายหลายบท ใหล งโทษฐานดืม่ สุรา ภายในบรเิ วณวดั ซึ่งเปน บททมี่ โี ทษหนกั สดุ ศาลแขวงพิษณุโลก มีคาํ พิพากษาคดีหมายเลขแดงท่ี ๘๗๖/๒๕๕๒ วินิจฉัยตาม ขอเท็จจริงวา จําเลยไดบริโภคเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอลในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรวิหาร (วัดใหญ) จนเปน เหตใุ หต นเมาแลว สง เสยี งดงั โวยวาย ประพฤตวิ นุ วายในวดั โดยฝา ฝน กฎหมาย พพิ ากษาวา จาํ เลย

๖๘ มีความผดิ ตามพระราชบญั ญตั ิควบคมุ เครือ่ งดื่มแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๓๑, ๔๒ ประมวล กฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๘ เปนกรรมเดียวผิดตอกฎหมายหลายบท ใหลงโทษฐานด่ืมสุราภายใน บรเิ วณวัด ซง่ึ เปน บทที่มีโทษหนักสุด ศาลแขวงลพบรุ ี มคี าํ พพิ ากษาคดหี มายเลขแดงที่ ๔๒๓/๒๕๕๒ วนิ จิ ฉยั ตามขอ เทจ็ จรงิ วา จาํ เลยดื่มสุราอันเปนการบรโิ ภคเครื่องดมื่ แอลกอฮอล ภายในสถานตี าํ รวจภธู รทาโขลงอนั เปน สถานที่ ราชการ อนั เปน การฝา ฝน กฎหมาย พพิ ากษาวา จาํ เลยมคี วามผดิ ตามพระราชบญั ญตั คิ วบคมุ เครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๓, ๓๑ (๓), ๔๒ ศาลแขวงพิษณุโลก มีคาํ พิพากษา เม่ือวันท่ี ๑๒ กุมภาพันธ ๒๕๕๔ วินิจฉัยตาม ขอ เทจ็ จรงิ วา จาํ เลยบรโิ ภคเครอื่ งดม่ื แอลกอฮอล (สรุ า) ภายในสถานตี ํารวจภธู รเมอื งพษิ ณโุ ลก อนั เปน สถานทป่ี ฏบิ ตั ริ าชการ พพิ ากษาวา จาํ เลยมคี วามผดิ ตามพระราชบญั ญตั คิ วบคมุ เครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๓๑ (๓), ๔๒ ศาลแขวงอุบลราชธานี มีคาํ พิพากษาคดีหมายเลขแดงท่ี ๒๙๗/๒๕๕๒ วินิจฉัยตาม ขอ เทจ็ จรงิ วา จําเลยบรโิ ภคเครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอล โดยการดม่ื กนิ เบยี รภ ายในบรเิ วณโรงเรยี นบา นดอนจกิ ซง่ึ เปน สถานศกึ ษาตามกฎหมายวา ดว ยการศกึ ษาแหง ชาติ โดยมไิ ดร บั การยกเวน ใดๆ อนั เปน การฝา ฝน ตอกฎหมาย พิพากษาวาจําเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ ศาลจังหวัดอุทัยธานี มีคาํ พิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ ๓๐๖/๒๕๕๒ วินิจฉัยตาม ขอเท็จจริงวา จาํ เลยบริโภคเบียรซึ่งเปนเครื่องดื่มแอลกอฮอล ดวยวิธีการดื่มเขาสูรางกายภายใน บริเวณวิทยาลัยเทคนิคอุทัยธานี พิพากษาวาจําเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องด่ืม แอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๓, ๓๑, ๔๒ ศาลจังหวัดกบินทรบุรี มีคาํ พิพากษาคดีหมายเลขแดงท่ี ๖๑/๒๕๕๕ วินิจฉัยตาม ขอเท็จจริงวา จําเลยไดบ ังอาจบรโิ ภคเครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอล (สุรา) ท่บี รเิ วณหนา รา นสะดวกซอ้ื ภายใน บริเวณสถานีบริการนํา้ มันตําบลบุพราหมณ อําเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี และประพฤติตนวุนวาย ครองสติไมไดภายหลังจําเลยกระทาํ ความผิด มีดาบตาํ รวจบุญเสริม โคผดุง เจาพนักงานตํารวจจะ เขาจับกุมจาํ เลยซ่ึงเปนการปฏิบัติตามหนาท่ี จาํ เลยไดบังอาจดูหมิ่นผูเสียหาย อันเปนการดูหม่ิน เจาพนักงาน พิพากษาวาจาํ เลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑, ๑๓๖, ๓๗๘ พระราชบญั ญตั แิ กไ ขเพมิ่ เตมิ ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบบั ที่ ๖) พ.ศ.๒๕๒๖ มาตรา ๔ คาํ สง่ั คณะปฏริ ปู การปกครองแผน ดนิ ฉบบั ท่ี ๔๑ ลงวนั ท่ี ๒๑ ตลุ าคม ๒๕๑๙ พระราชบญั ญตั คิ วบคมุ เครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๓๑ (๕), ๔๒ ศาลแขวงอุบลราชธานี มีคาํ พิพากษาคดีหมายเลขแดงท่ี ๔๓๖๐/๒๕๕๒ วิจิจฉัยตาม ขอ เทจ็ จรงิ วา จาํ เลยไดบ งั อาจบรโิ ภคสรุ าขาว ซง่ึ เปน เครอื่ งดมื่ แอลกอฮอลต ามกฎหมาย ภายในบรเิ วณ สวนสาธารณะภูหลนอันเปนสวนสาธารณะของทางราชการท่ีจัดไวเพื่อการพักผอนของประชาชน

๖๙ โดยทั่วไป โดยมิไดรับยกเวนใดๆ อันเปนการฝาฝนตอกฎหมาย พิพากษาวาจาํ เลยมีความผิดตาม พระราชบญั ญัติควบคมุ เคร่ืองดมื่ แอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๓, ๓๑, ๔๒ ศาลแขวงพษิ ณโุ ลก มคี ําพพิ ากษาคดหี มายเลขแดงที่ ๔๕๙/๒๕๕๒ วนิ จิ ฉยั ตามขอ เทจ็ จรงิ วา จาํ เลยขายเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล (สุรา) ใหแกบุคคลอายุตา่ํ กวาย่ีสิบปบริบูรณ อันเปนการฝาฝนตอ กฎหมาย เจา พนักงานจบั จาํ เลยได นาํ สงพนกั งานสอบสวน ทําการสอบสวนแลว พพิ ากษาวาจําเลยมี ความผิดตามพระราชบญั ญตั ิควบคุมเครือ่ งด่ืมแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๒๙, ๔๐ ศาลแขวงพิษณุโลก มีคาํ พิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ ๑๘๗๗/๒๕๕๒ วินิจฉัยตาม ขอเท็จจริงวา จาํ เลยไดบังอาจขายเครื่องด่ืมแอลกอฮอล โดยขายเบียร จาํ นวน ๑ ขวด แกบุคคล ซ่ึงมีอายุตาํ่ กวาย่ีสิบปบริบูรณ อันเปนการฝาฝนกฎหมาย พิพากษาวาจาํ เลยมีความผิดตาม พระราชบัญญตั ิควบคมุ เครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๓, ๒๙ (๑), ๔๐ ศาลแขวงขอนแกน มีคําพิพากษาคดีหมายเลขแดงท่ี ๖๔๕๐/๒๕๕๑ วินิจฉัยตาม ขอเท็จจริงวา จาํ เลยใชรถยนตกระบะบรรทุกเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอลเพ่ือเรขาย แลวตั้งแผงลอยขาย ณ บริเวณงานมหรสพทบ่ี า นหนองเม็ก โดยไมไ ดรับอนุญาตจากเจา พนักงานสรรพสามิต จาํ เลยไดข าย เครอื่ งดื่มแอลกอฮอลแ กเดก็ อายตุ ํ่ากวา ๒๐ ปบ รบิ ูรณ อันเปน การฝา ฝนกฎหมาย พิพากษาวา จาํ เลย มีความผิดตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.๒๔๙๓ มาตรา ๑๗, ๔๐ พระราชบัญญัติควบคุมเคร่ืองดื่ม แอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๒๙ (๑), ๓๐ (๒), ๔๐, ๔๑ ศาลแขวงพิษณุโลก มีคาํ พิพากษาคดี เม่ือวันท่ี ๘ เมษายน ๒๕๕๔ วินิจฉัยตาม ขอ เท็จจริงวา จาํ เลยไดจ ัดใหม กี ารเลนพนัน (จบั สลากโดยวิธีใดๆ) และขายเครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอลด ว ย วิธีการใหบริการชิงโชค ชิงรางวัล โดยจําเลยเปนเจามือขายสลากซึ่งมีหมายเลขซอนอยูหลังสลาก ใหก บั ลูกคาในราคาเบอรละ ๓ บาท และถอื เอาเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล น้าํ อดั ลม และกาแฟยีห่ อตางๆ เปนสินพนัน ท้ังน้ีโดยไมไดรับอนุญาตจากเจาพนักงาน พิพากษาวาจาํ เลยมีความผิดตาม พระราชบัญญัติควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๓๐ (๔), ๔๑ พระราชบัญญัติ การพนนั พ.ศ.๒๔๗๘ มาตรา ๑๒

๗๐ »ÃСÒÈÊíҹѡ¹Ò¡ÃѰÁ¹μÃÕ àÃ×èͧ ¡Òí ˹´Ê¶Ò¹·ËÕè Ã×ͺÃàÔ Ç³ËŒÒÁºÃÔâÀ¤à¤ÃÍ×è §´Á×è áÍÅ¡ÍÎÍź ¹·Ò§ ¾.È.òõõõ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔ และมาตรา ๓๑(๗) แหงพระราชบัญญัติควบคุม เคร่ืองดื่มแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ อันเปนกฎหมายท่ีมีบทบัญญัติบางประการเก่ียวกับการจํากัด สิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซ่ึงมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๔๑ มาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๕ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติ แหงกฎหมายนายกรัฐมนตรีโดยคําแนะนําของคณะกรรมการนโยบายเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอลแหงชาติ จึงออกประกาศไว ดังตอไปน้ี ขอ ๑ หามผูใดบริโภคเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอลบนทางในขณะขับข่ีหรือในขณะโดยสาร อยใู นรถ หรือ บนรถ คําวา “ทาง” และ “รถ” ตามวรรคหนง่ึ หมายความวา “ทาง” และ “รถ” ตามกฎหมาย วาดวยการจราจรทางบก ขอ ๒ ประกาศนใ้ี หใ ชบ งั คบั ตงั้ แตว นั ถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน ตน ไป ประกาศ ณ วันท่ี ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๕ ยิ่งลกั ษณ ชนิ วตั ร นายกรัฐมนตรี

๗๑ »ÃСÒÈÊӹѡ¹Ò¡ÃѰÁ¹μÃÕ àÃèÍ× § ¡Ó˹´àÇÅÒËŒÒÁ¢ÒÂà¤ÃÍ×è §´è×ÁáÍÅ¡ÍÎÍŏ ¾.È.òõõø อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔ และมาตรา ๒๘ แหงพระราชบัญญัติควบคุม เครื่องด่ืมแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ นายกรัฐมนตรีโดยคําแนะนําของคณะกรรมการนโยบาย เครอ่ื งดื่มแอลกอฮอลแหง ชาติ จึงออกประกาศไว ดังตอ ไปน้ี ขอ ๑ หา มผใู ดขายเครอื่ งดม่ื แอลกอฮอลใ นเวลาอน่ื นอกจากตง้ั แตเ วลา ๑๑.๐๐ นาฬก า ถงึ เวลา ๑๔.๐๐ นาฬกา และตง้ั แตเวลา ๑๗.๐๐ นาฬกา ถงึ เวลา ๒๔.๐๐ นาฬกา ยกเวน การขายใน กรณี ดังตอไปน้ี (๑) การขายในอาคารทา อากาศยานนานาชาติ (๒) การขายในสถานบริการซ่ึงเปนไปตามกําหนดเวลาเปดปดของสถานบริการตาม กฎหมายวาดวยสถานบริการ ขอ ๒ ประกาศนใ้ี หใ ชบ งั คบั ตง้ั แตว นั ถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน ตน ไป ประกาศ ณ วนั ท่ี ๖ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๘ พลเอก ประยุทธ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี

๗๒ »ÃСÒÈÊÓ¹¡Ñ ¹ÒÂ¡Ã°Ñ Á¹μÃÕ àÃ×èͧ ËÒŒ Á¢ÒÂËÃ×ÍËÒŒ ÁºÃÔâÀ¤à¤Ã×Íè §´è×ÁáÍÅ¡ÍÎÍÅ㏠¹¾¹é× ·»èÕ ÃСͺ¡Ô¨¡ÒÃã¹âç§Ò¹ ¾.È.òõõõ โดยที่เคร่ืองดื่มแอลกอฮอลไดกอใหเกิดปญหาดานสุขภาพและอุบัติเหตุ ซึ่งสงผล กระทบตอสังคมและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ประกอบกับการประกอบกิจการโรงงานใน ปจจุบันมีบทบาทสําคัญอยางยิ่งตอสภาพเศรษฐกิจ สมควรกําหนดมาตรการท่ีเหมาะสมในการ ควบคุมการขายและบริโภคเคร่ืองดื่มแอลกอฮอลในสถานประกอบกิจการโรงาน เพื่อมิใหเกิดการ เขาถึงเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอลไดโดยงาย ดังน้ัน อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔ มาตรา ๒๗(๘) และมาตรา ๓๑(๗) แหง พระราชบัญญตั คิ วบคมุ เครื่องดืม่ แอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ อนั เปน กฎหมาย ทม่ี บี ทบัญญตั ิบางประการเกี่ยวกับการจํากดั สทิ ธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกบั มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๕ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติ ใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบ และคําแนะนําของคณะกรรมการนโยบายเครื่องด่ืมแอลกอฮอลแหงชาติ จึงออกประกาศไว ดงั ตอ ไปน้ี ขอ ๑ หามผูใดขายหรือบริโภคเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอลในพื้นท่ีประกอบกิจการโรงงาน ตามกฎหมายวา ดว ยโรงงาน ขอ ๒ การหามขายหรือหามบริโภคเครื่องด่ืมแอลกอฮอลตามขอ ๑ ไมใชบังคับกับ โรงงานผลิตเคร่อื งดืม่ แอลกอฮอลในกรณดี ังตอไปนี้ (๑) การขายเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอลท่ีดําเนินการเปนปกติธุระในทางการคาของโรงงาน ผลิตเครอื่ งดมื่ แอลกอฮอล (๒) การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอลที่เปนขั้นตอนของการผลิตหรือรักษามาตรฐาน การผลติ เครื่องด่มื แอลกอฮอล ขอ ๒ ประกาศนี้ใหใชบังคับเม่ือพนกําหนดเกาสิบวันนับแตวันประกาศในราชกิจจา นุเบกษาเปน ตนไป ประกาศ ณ วันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๕ ย่งิ ลักษณ ชินวตั ร นายกรัฐมนตรี

๗๓ »ÃСÒÈÊӹѡ¹Ò¡ÃѰÁ¹μÃÕ àÃÍ×è § ËÒŒ Á¢ÒÂËÃÍ× ºÃÔâÀ¤à¤Ã×Íè §´Á×è áÍÅ¡ÍÎÍŏ㹾¹é× ·èÕ·ÕèÍÂãÙ‹ ¹¡Ó¡Ñº´ÙáÅ áÅÐ㪻Œ ÃÐ⪹¢Í§ÃÒª¡ÒÃ Ã°Ñ ÇÊÔ ÒË¡¨Ô ËÃ×Í˹‹Ç§ҹÍè¹× ¢Í§Ã°Ñ ¾.È.òõõø อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔ มาตรา ๒๗(๘) และมาตรา ๓๑(๗) แหงพระราช บัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบและคําแนะนํา ของคณะกรรมการนโยบายเคร่อื งด่มื แอลกอฮอลแหง ชาติ จงึ ออกประกาศไว ดังตอ ไปนี้ ขอ ๑ หามผูใดขายเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอลในพ้ืนที่ดังตอไปนี้ ยกเวนบริเวณที่จัดไวเปน รานคา หรอื สโมสร (๑) พ้ืนที่ท่ีอยูในกํากับดูแลและใชประโยชนของราชการ นอกเหนือจากสถานที่ ราชการตามมาตรา ๒๗(๓) (๒) พ้ืนท่ีที่อยูในกํากับดูแลและใชประโยชนของรัฐวิสาหกิจหรือหนวยงานอื่นของรัฐ นอกเหนือจากสถานที่หรือบริเวณท่ีกําหนดตามประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กําหนดสถานที่ หรือบริเวณหามขายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอลในรัฐวิสาหกิจและหนวยงานอื่นของรัฐ พ.ศ.๒๕๕๕ ขอ ๒ หามผูใดบริโภคเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอลในพ้ืนท่ีดังตอไปนี้ ยกเวน บริเวณที่จัดไว เปน ทพี่ ักสวนบคุ คล หรือสโมสร หรอื การจัดเล้ยี งตามประเพณี (๑) พ้ืนที่ทีอ่ ยูในกํากบั ดูแลและใชป ระโยชนของราชการ นอกเหนือจากสถานที่ราชการ ตามมาตรา ๓๑(๓) (๒) พื้นที่ท่ีอยูในกํากับดูแลและใชประโยชนของรัฐวิสาหกิจหรือหนวยงานอื่นของรัฐ นอกเหนือจากสถานท่ีหรือบริเวณที่กําหนดตามประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กําหนดสถานที่ หรือบริเวณหามขายหรือบริโภคเคร่ืองดื่มแอลกอฮอลในรัฐวิสาหกิจและหนวยงานอื่นของรัฐ พ.ศ.๒๕๕๕ ขอ ๓ ประกาศนใ้ี หใ ชบ งั คบั ตง้ั แตว นั ถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน ตน ไป ประกาศ ณ วนั ที่ ๕ กมุ ภาพันธ พ.ศ.๒๕๕๘ พลเอก ประยทุ ธ จนั ทรโ อชา นายกรัฐมนตรี

๗๔ »ÃСÒÈÊӹѡ¹ÒÂ¡Ã°Ñ Á¹μÃÕ àÃè×ͧ ¡Ó˹´Ê¶Ò¹·èÕËÃÍ× ºÃàÔ Ç³ËŒÒÁ¢ÒÂËÃÍ× ºÃâÔ À¤à¤ÃèÍ× §´Á×è áÍÅ¡ÍÎÍŏ ã¹Ã°Ñ ÇÔÊÒË¡¨Ô áÅÐ˹‹Ç§ҹÍè×¹¢Í§Ã°Ñ ¾.È.òõõõ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔ มาตรา ๒๗(๘) และมาตรา ๓๑(๗) แหงพระราช บญั ญตั คิ วบคมุ เครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ อนั เปน กฎหมายทม่ี บี ทบญั ญตั บิ างประการเกยี่ วกบั การจาํ กดั สทิ ธแิ ละเสรภี าพของบคุ คล ซงึ่ มาตรา ๒๙ ประกอบกบั มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๕ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติใหกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหง กฎหมายนายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบและคําแนะนําของคณะกรรมการนโยบายเคร่ืองด่ืม แอลกอฮอลแ หง ชาติ จงึ ออกประกาศไวดังตอไปน้ี ขอ ๑ หามผูใดขายเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอลในสถานที่หรือบริเวณรัฐวิสาหกิจ และ หนวยงานอนื่ ของรฐั ยกเวน บรเิ วณทจ่ี ดั ไวเ ปน รา นคา หรือสโมสร ขอ ๒ หามผูใดบริโภคเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอลในสถานที่หรือบริเวณรัฐวิสาหกิจ และ หนว ยงานอน่ื ของรฐั ยกเวน บรเิ วณทจ่ี ดั ไวเ ปน ทพี่ กั สว นบคุ คล หรอื สโมสร หรอื การจดั เลย้ี งตามประเพณี ขอ ๓ ประกาศน้ไี มใชบ ังคับกับองคการสรุ า ขอ ๔ ประกาศนใ้ี หใ ชบ งั คบั ตง้ั แตว นั ถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน ตน ไป ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑ สงิ หาคม พ.ศ.๒๕๕๕ ยิ่งลกั ษณ ชนิ วัตร นายกรฐั มนตรี

๗๕ »ÃСÒÈÊíÒ¹¡Ñ ¹Ò¡ÃѰÁ¹μÃÕ àÃÍ×è § ¡íÒ˹´Ê¶Ò¹·èËÕ ÃÍ× ºÃÔàdzËÒŒ Á¢ÒÂËÃÍ× ºÃÔâÀ¤à¤ÃèÍ× §´×Áè áÍÅ¡ÍÎÍź ¹·Ò§Ã¶ä¿ ¾.È.òõõø อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔ มาตรา ๒๗(๘) และมาตรา ๓๑(๗) แหงพระราช บัญญัติควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบและคําแนะนํา ของคณะกรรมการนโยบายเครื่องด่มื แอลกอฮอลแ หงชาติ จึงออกประกาศไว ดงั ตอไปนี้ ขอ ๑ หามผูใดขายหรือบริโภคเครื่องด่ืมแอลกอฮอลในบริเวณสถานีรถไฟ หรือใน ขบวนรถทอ่ี ยบู นทางรถไฟตามกฎหมายวา ดวยจัดวางการรถไฟและทางหลวง ขอ ๒ ประกาศนใี้ หใ ชบ งั คบั ตงั้ แตว นั ถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน ตน ไป ประกาศ ณ วนั ที่ ๕ กมุ ภาพนั ธ พ.ศ.๒๕๕๘ พลเอก ประยทุ ธ จันทรโ อชา นายกรัฐมนตรี

๗๖ »ÃСÒÈÊӹѡ¹ÒÂ¡Ã°Ñ Á¹μÃÕ àÃ×Íè § ¡Ó˹´Ç¹Ñ ËÒŒ Á¢ÒÂà¤Ã×èͧ´èÁ× áÍÅ¡ÍÎÍŏ (©ººÑ ·Õè ó) ¾.È.òõõø อาศัยอาํ นาจตามความในมาตรา ๔ มาตรา ๒๗ และมาตรา ๒๘ แหงพระราชบญั ญตั ิ ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ นายกรัฐมนตรีโดยคําแนะนําของคณะกรรมการนโยบาย เคร่ืองดื่มแอลกอฮอลแหงชาติ จงึ ออกประกาศไว ดงั ตอไปนี้ ขอ ๑ ใหยกเลิกประกาศสาํ นักนายกรัฐมนตรี เร่ือง กําหนดวันหามขายเคร่ืองด่ืม แอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๒ ลงวนั ที่ ๓๐ มถิ นุ ายน ๒๕๕๒ และประกาศสํานกั นายกรฐั มนตรี เรอ่ื ง กาํ หนด วันหา มขายเครอ่ื งด่ืมแอลกอฮอล (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ.๒๕๕๒ ลงวันท่ี ๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๒ ขอ ๒ หา มผใู ดขายครอื่ งดมื่ แอลกอฮอล ในวนั มาฆบชู า วนั วสิ าขบชู า วนั อาสาฬหบชู า วันเขาพรรษาและวันออกพรรษา ยกเวนการขายเฉพาะรานคาปลอดอากรภายในอาคาร ทา อากาศยานนานาชาติ ขอ ๓ ประกาศนใ้ี หใ ชบ งั คบั ตง้ั แตว นั ถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน ตน ไป ประกาศ ณ วนั ท่ี ๕ กุมภาพนั ธ พ.ศ.๒๕๕๘ พลเอก ประยุทธ จันทรโ อชา นายกรฐั มนตรี

๗๗ »ÃСÒÈÊÓ¹¡Ñ ¹Ò¡ÃѰÁ¹μÃÕ àÃèÍ× § ¡Òí ˹´Ê¶Ò¹·ËèÕ ÃÍ× ºÃÔàdzËÒŒ Á¢ÒÂà¤Ã×Íè §´Á×è áÍÅ¡ÍÎÍź ¹·Ò§ ¾.È.òõõø อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔ และมาตรา ๒๗(๘) แหงพระราชบัญญัติควบคุม เคร่ืองดื่มแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการนโยบาย เคร่อื งดม่ื แอลกอฮอลแ หง ชาติ จงึ ออกประกาศไว ดงั ตอ ไปน้ี ขอ ๑ หา มผใู ดขายเครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอลบ นทางตามกฎหมายวา ดว ยการจราจรทางบก ขอ ๒ ประกาศนใี้ หใ ชบ งั คบั ตงั้ แตว นั ถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน ตน ไป ประกาศ ณ วันที่ ๕ กมุ ภาพนั ธ พ.ศ.๒๕๕๘ พลเอก ประยุทธ จนั ทรโ อชา นายกรัฐมนตรี

๗๘ »ÃСÒÈÊíҹѡ¹ÒÂ¡Ã°Ñ Á¹μÃÕ àÃ×èͧ ¡Ó˹´Ê¶Ò¹·èËÕ ÃÍ× ºÃàÔ Ç³ËÒŒ Á¢ÒÂËÃ×ͺÃÔâÀ¤à¤Ã×èͧ´è×ÁáÍÅ¡ÍÎÍÅ㏠¹Ê¶Ò¹Õ¢¹Ê‹§ ¾.È.òõõø อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔ มาตรา ๒๗(๘) และมาตรา ๓๑(๗) แหงพระราช บัญญัติควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบและคําแนะนํา ของคณะกรรมการนโยบายเคร่อื งดื่มแอลกอฮอลแ หงชาติ จึงออกประกาศไว ดงั ตอ ไปน้ี ขอ ๑ หามผูใดขายหรือบริโภคเคร่ืองดื่มแอลกอฮอลบริเวณสถานีขนสงตามกฎหมาย วาดว ยการขนสง ทางบก ขอ ๒ ประกาศนใี้ หใ ชบ งั คบั ตงั้ แตว นั ถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน ตน ไป ประกาศ ณ วนั ท่ี ๕ กุมภาพนั ธ พ.ศ.๒๕๕๘ พลเอก ประยทุ ธ จนั ทรโอชา นายกรัฐมนตรี

๗๙ »ÃСÒÈÊíҹѡ¹Ò¡ÃѰÁ¹μÃÕ àÃèÍ× § ¡Ó˹´Ê¶Ò¹·ËÕè ÃÍ× ºÃÔàdzˌÒÁ¢ÒÂËÃ×ͺÃÔâÀ¤à¤ÃèÍ× §´è×ÁáÍÅ¡ÍÎÍŏ㹷ҋ àÃ×Íâ´ÂÊÒÃÊÒ¸ÒóР¾.È.òõõø อาศยั อาํ นาจตามความในมาตรา ๔ มาตรา ๒๗(๘) และมาตรา ๓๑(๗) แหง พระราชบญั ญตั ิ ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑ นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบและคําแนะนํา ของคณะกรรมการนโยบายเคร่ืองดื่มแอลกอฮอลแหงชาติ จงึ ออกประกาศไว ดังตอ ไปนี้ ขอ ๑ หา มผใู ดขายหรอื บรโิ ภคเครอ่ื งดมื่ แอลกอฮอลใ นบรเิ วณทา เรอื โดยสารสาธารณะ หรอื บนเรอื โดยสารสาธารณะประจาํ ทาง ทา เรอื โดยสารสาธารณะ หมายความวา สถานทส่ี าํ หรบั ใหบ รกิ ารแกเ รอื โดยสารสาธารณะ ในการจอด เทียบ บรรทุก หรือขนถา ยคนหรือสงิ่ ของ เรือโดยสารสาธารณะประจําทาง หมายความวา ยานพาหนะทางนํ้าทุกชนิดที่ใชขนสง คนโดยสารตามเสนทางทหี่ นว ยงานของรฐั กําหนด ขอ ๒ ประกาศนใ้ี หใ ชบ งั คบั ตงั้ แตว นั ถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน ตน ไป ประกาศ ณ วันท่ี ๕ กุมภาพนั ธ พ.ศ.๒๕๕๘ พลเอก ประยทุ ธ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี

¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ Ô¤Çº¤ÁØ à¤ÃèÍ× §´×Áè áÍÅ¡ÍÎÍŏ ¾.È.òõõñ ๘๐ ÅÓ´ºÑ ¢ÍŒ ËÒ/°Ò¹¤ÇÒÁ¼´Ô ÁÒμÃÒ ÍμÑ ÃÒâ·É ËÁÒÂàËμØ ๑. ขายเคร่ืองดมื่ แอลกอฮอลในสถานท่หี ามขาย มาตรา ๒๗ - จําคุกไมเกิน ๖ เดือน ปรับไมเกิน ๑๐,๐๐๐ บาท หรอื ท้ังจาํ ทั้งปรบั ๒. ด่ืมเครือ่ งด่มื แอลกอฮอลในสถานทหี่ า มบรโิ ภค มาตรา ๓๑ - จําคุกไมเกิน ๖ เดือน ปรับไมเกิน ๑๐,๐๐๐ บาท หรือท้ังจาํ ทั้งปรับ ๓. ขายเครือ่ งดืม่ แอลกอฮอลใ นวันและเวลาหา มขาย มาตรา ๒๘ - จําคุกไมเกิน ๖ เดือน ปรับไมเกิน ๓.๑ ขายเคร่ืองดืม่ แอลกอฮอลในวันท่ีหามขาย ๑๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจําท้งั ปรับ (วันมาฆบูชา วันวิสาขบชู า วนั อาสาฬหบูชา วันเขาพรรษา) (มาตรา ๒๘) ยกเวน โรงแรมแตตอ งพจิ ารณาขอ ๓.๓ และ ๓.๔ (ปว.๒๕๓ พ.ศ.๒๕๑๕) ๓.๒ ขายเคร่ืองดื่มแอลกอฮอลในเวลาหามขาย (ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเคร่ืองด่ืม - จําคุกไมเกิน ๖ เดือน ปรับไมเกิน แอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๑๕) ๑๐,๐๐๐ บาท หรือทัง้ จําทัง้ ปรบั ๓.๓ ขายเครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอลใ นเวลาหา มขาย ณ สถานทที่ ไ่ี ดร บั ใบอนญุ าตประเภท ๓ - จําคุกไมเกิน ๖ เดือน ปรับไมเกิน ถงึ ๖ (ชว งเวลา ๒๔.๐๐-๑๑.๐๐ น. หรอื ๑๔.๐๐-๑๗.๐๐ น.) (ปว.๒๕๓ พ.ศ.๒๕๑๕) ๑๐,๐๐๐ บาท หรือทงั้ จําท้งั ปรับ ๓.๔ ด่ืมในเวลาหา มขาย ณ สถานทขี่ ายตาม ๓.๓ (ชว งเวลา ๒๔.๐๐-๑๑.๐๐ น. หรือ - จําคุกไมเกิน ๖ เดือน ปรับไมเกิน ๑๔.๐๐-๑๗.๐๐ น.)(ปว.๒๕๓ พ.ศ.๒๕๑๕) ๑๐,๐๐๐ บาท หรือท้ังจําท้ังปรบั

¤ÇÒÁ¼Ô´μÒÁ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ Ô¤Çº¤ØÁà¤ÃÍè× §´Áè× áÍÅ¡ÍÎÍŏ ¾.È.òõõñ ÅÓ´ºÑ ¢ŒÍËÒ/°Ò¹¤ÇÒÁ¼Ô´ ÁÒμÃÒ ÍÑμÃÒâ·É ËÁÒÂàËμØ ๔. ขายเครือ่ งด่ืมแอลกอฮอลใหกับบุคคลท่กี ฎหมายหา มขาย มาตรา ๒๙ - จําคุกไมเกิน ๑ ป ปรับไมเกิน ๔.๑ ขายเครื่องด่มื แอลกอฮอลใหกับผทู มี่ อี ายุตํา่ กวา ๒๐ ปบ รบิ ูรณ ๒๐,๐๐๐ บาท หรอื ท้งั จาํ ทัง้ ปรับ ๔.๒ ขายเครือ่ งด่ืมแอลกอฮอลใหก บั คนเมาจนครองสติไมได - จําคุกไมเกิน ๑ ป ปรับไมเกิน ๒๐,๐๐๐ บาท หรอื ทงั้ จําทัง้ ปรับ ๕. การโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอลหรือแสดงชื่อหรือเคร่ืองหมายของเคร่ืองด่ืม มาตรา ๓๒ - จําคุกไมเกิน ๑ ป ปรับไมเกิน แอลกอฮอลฯ ๕๐๐,๐๐๐ บาท หรอื ทัง้ จําทงั้ ปรับ ๖. การสงเสรมิ การขายเครือ่ งดมื่ แอลกอฮอล มาตรา ๓๐ - จําคุกไมเกิน ๑ ป ปรับไมเกิน ๖.๑ ใชเครือ่ งขายอตั โนมตั ิ ๒๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจาํ ทง้ั ปรบั ๖.๒ การเรข าย - จําคุกไมเกิน ๑ ป ปรับไมเกิน ๑๐,๐๐๐ บาท หรอื ทัง้ จาํ ท้งั ปรบั ๖.๓ การลดราคาเพ่อื ประโยชนในการสงเสริมการขาย - จําคุกไมเกิน ๑ ป ปรับไมเกิน ๑๐,๐๐๐ บาท หรอื ทัง้ จําทั้งปรับ ๖.๔ ให/ เสนอสทิ ธใิ นการเขา ชมการแขง ขนั การแสดง การใหบ รกิ าร การชงิ โชคชงิ รางวลั - จําคุกไมเกิน ๑ ป ปรับไมเกิน หรือสทิ ธิประโยชนอ่นื ใดฯ ๑๐,๐๐๐ บาท หรอื ทัง้ จาํ ทั้งปรับ ๖.๕ การแจก แถมให หรอื แลกเปลย่ี นกบั เครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอลห รอื กบั สนิ คา หรอื บรกิ ารอน่ื - จําคุกไมเกิน ๑ ป ปรับไมเกิน /แจกจายเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอลในลักษณะเปนตัวอยางหรือชักจูงใจใหบริโภค/ ๑๐,๐๐๐ บาท หรอื ทัง้ จาํ ท้ังปรับ บงั คบั ซ้ือโดยตรงหรือโดยออม (ขายพวง) ๘๑

¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ Ô¤Çº¤ÁØ à¤ÃÍè× §´Á×è áÍÅ¡ÍÎÍŏ ¾.È.òõõñ ๘๒ ÅÓ´ºÑ ¢ŒÍËÒ/°Ò¹¤ÇÒÁ¼Ô´ ÁÒμÃÒ ÍμÑ ÃÒâ·É ËÁÒÂàËμØ ๗. ฉลาก/บรรจภุ ณั ฑ (มาตรา ๒๖ ตาม พ.ร.บ.ควบคมุ เครือ่ งด่มื แอลกอฮอล พ.ศ.๒๕๕๑) มาตรา ๒๖ - จําคุกไมเกิน ๑ ป ปรับไมเกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือทงั้ จาํ ทั้งปรบั ๘. ฉลากคาํ เตอื น (ประกาศ สธ.ท่ีออกตาม พ.ร.บ.อาหาร) มาตรา ๒๖ - จําคุกไมเกิน ๑ ป ปรับไมเกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรอื ทั้งจาํ ทั้งปรบั

๘๓ º··èÕ õ ¾.Ã.º.»‡Í§¡¹Ñ áÅлÃÒº»ÃÒÁ¡ÒäŒÒ»ÃÐàÇ³Õ ¾.È.òõóù ñ. ÇÑμ¶»Ø ÃÐʧ¤¡ ÒÃàÃÕ¹ûٌ ÃШӺ· ๑.๑ เพื่อใหนักเรียนมีความรูและความเขาใจใน พ.ร.บ.ปองกันและปราบปราม การคา ประเวณี พ.ศ.๒๕๓๙ ๑.๒ เพื่อใหนักเรียนสามารถอธิบายการวิเคราะหวาการกระทําใดมีความผิด หรือไมมี ความผดิ ตาม พ.ร.บ.ปอ งกนั และปราบปรามการคาประเวณี พ.ศ.๒๕๓๙ ๑.๓ เพ่ือใหนักเรียนสามารถอธิบายวิธีการดําเนินการกับผูกระทําความผิดตาม พ.ร.บ.ปอ งกนั และปราบปรามการคาประเวณี พ.ศ.๒๕๓๙ ò. ÊÇ‹ ¹¹Ó การคาประเวณีมีสาเหตุสําคัญมาจากสภาพเศรษฐกิจและสังคม ผูทําการคาประเวณี สวนมากเปนผูดอยสติปญญาและการศึกษาสมควรลงโทษผูกระทําการคาประเวณีและเปดโอกาส ใหบุคคลเหลาน้ันไดรับการคุมครองและพัฒนาอาชีพ และในขณะเดียวกันเพ่ือเปนการปราบปราม การคาประเวณีเพ่ือคุมครองบุคคล โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่อาจถูกลอลวงหรือชักพาไป จึงสมควรลงโทษบุคคลซ่ึงกระทําชําเราโสเภณีเด็กในสถานการคาประเวณี บุคคลซ่ึงหารายได จากการคา ประเวณีเด็กรวมถึงตัวบิดามารดา หรอื ผปู กครองซ่งึ มสี ว นรเู ห็นเปน ใจ ó. à¹Íé× ËÒμÒÁËÇÑ ¢ÍŒ ๓.๑ ความรทู ่วั ไปเกย่ี วกบั พ.ร.บ.ปอ งกันและปราบปรามการคา ประเวณี พ.ศ.๒๕๓๙ ๓.๒ นิยาม ๓.๓ ฐานความผดิ ๓.๔ มาตรการตาม พ.ร.บ.ปอ งกันและปราบปรามการคา ประเวณีฯ ๓.๕ อํานาจหนาทข่ี องพนักงานเจา หนาท่ี ๓.๖ ความผดิ ตาม พ.ร.บ.ปอ งกนั และปราบปรามการคาประเวณี พ.ศ.๒๕๓๙ ô. ÊÇ‹ ¹ÊÃ»Ø การคาประเวณีเปนปญหาสังคมท่ีจะนําไปสูปญหาในเรื่องของการคามนุษย เพราะ เปนการแสวงหาประโยชนจากมนุษยดวยกันเอง ดังนั้น การดําเนินการตาม พ.ร.บ.ปองกันและ ปราบปรามการคาประเวณีอยางมีประสิทธิภาพจึงเปนการลดหนทางที่จะเกิดปญหาการคามนุษย ในระดบั หน่ึง ซ่งึ เปนเรื่องที่เจาพนักงานจะตองใหความสนใจและบงั คับใชอยางมีประสิทธิภาพตอ ไป õ. ¡Ô¨¡ÃÃÁá¹Ð¹Ó ใหนักเรียนคนหาการจับกุมตาม พ.ร.บ.ปองกันและปราบปรามการคาประเวณี และ นาํ ขอ มลู มาวเิ คราะหอ ภิปรายรวมกนั ในช้ันเรียน

๘๔ เหตุผลในการประกาศใชพระราชบัญญัติน้ี โดยท่ีพระราชบัญญัติปรามการคาประเวณี พ.ศ.๒๕๐๓ ไดป ระกาศใชบ งั คบั มาเปน เวลานาน บทบญั ญตั ทิ ม่ี อี ยโู ดยเฉพาะอยา งยง่ิ บทกาํ หนดโทษ ไมเหมาะสมกับสถานการณปจจุบัน และโดยท่ีการคาประเวณีมีสาเหตุสําคัญมาจากสภาพ เศรษฐกจิ และสงั คม ผทู าํ การคา ประเวณสี ว นมากเปน ผซู งึ่ ดอ ยสตปิ ญ ญาและการศกึ ษา สมควรลดโทษ ผูกระทําการคาประเวณี และเปดโอกาสใหบุคคลเหลานั้นไดรับการคุมครองและพัฒนาอาชีพ ไมวา จะเปนการใหการอบรมฟนฟูจิตใจ การบําบัดรักษาโรค การฝกอบรมและพัฒนาอาชีพ ตลอดจน พฒั นาคณุ ภาพชวี ติ และในขณะเดยี วกนั เพอ่ื เปน การปราบปรามการคา ประเวณแี ละเพอ่ื คมุ ครองบคุ คล โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนท่ีอาจถูกลอลวงหรือชักพาไปเพื่อการคาประเวณีสมควรกําหนดโทษ บุคคลซึ่งกระทําชําเราโสเภณีเด็กในสถานการคาประเวณี บุคคลซึ่งหารายไดจากการคาประเวณี ของเด็กและเยาวชน และบิดามารดาหรือผูปกครอง ซึ่งมีสวนรวมรูเห็นเปนใจในการจัดหาผูอยูใน ความปกครองไปเพ่ือการคาประเวณกี บั ใหอ ํานาจศาลทจ่ี ะถอนอาํ นาจปกครองของบิดา มารดา หรอื ผปู กครองของผกู ระทาํ ความผดิ ซง่ึ เปน เดก็ เพราะเหตทุ ม่ี สี ว นรว มรเู หน็ เปน ใจใหผ อู ยใู นความปกครอง กระทําการคาประเวณี นอกจากน้ันในปจจุบันปรากฏวาไดมีโฆษณา ชักชวนหรือแนะนําตัวทาง ส่ือมวลชนในลักษณะที่เห็นไดวาเปนการเรียกรองการติดตอในการคาประเวณีกันอยางแพรหลาย สมควรกําหนดใหการกระทําดังกลา วเปนความผดิ จงึ จําเปน ตอ งตราพระราชบญั ญัติน้ี ¡¤ÒÇÃÒ¤ÁŒÒûٷŒ ÃèÑÇÐäà»ÇೡèÕÂãÕ ¹Ç¡»ÑºÃоà·.ÃÈ.亷.»Â͇ (§P¡r¹Ñ oásÅtiÐt»utÃiÒoºn»iÃnÒÁT¡hÒaäilÒŒa»nÃdÐ)àdzÕÏ สาํ ËÃºÑ »ÃÐà·Èä·Â ¡ÒäҌ »ÃÐàdzàÕ ÃÁèÔ ÁÁÕ Òáμà‹ ÁÍ×è ã´Â§Ñ äÁÁ‹ ËÕ Å¡Ñ °Ò¹·àèÕ ¢ÂÕ ¹äÇጠ¹ª‹ ´Ñ แตต ามประมวลกฎหมายรชั กาลที่ ๑ จลุ ศกั ราช ๑๖๖ พมิ พต ามฉบบั หลวงตรา ๓ ดวง ในบทพระไอยการ ลักษณะผวั เมยี ไดม คี ําวา หญิง นครโสเภณี ปรากฏอยูแลว กลาววา “ÁÒμÃÒ˹Öè§ ªÒÂã´Ê¢‹Ù ÍàÍÒ ËÞÔ§¤¹¢ºÑ ¤¹รําà·ÂèÕ Ç¢Í·Ò¹àÅéÂÕ §ªÇÕ Ôμ áÅÐËÞÔ§¹¤ÃâÊàÀ³ÕÁÒàÅÂéÕ §à»¹š àÁÕ ทําªŒÙà˹Í× ¼ÇÑ ¡ç´.Õ ..” เปนตน สันนิษฐานกันวาโสเภณีในประเทศไทย ขณะเร่ิมแรกมีสวนสืบเนื่องมาจากลักษณะของ การจัดหาหญิงมาเปนทาส และการเอาแบบอยางมาจากอินเดียและจีน โดยเหตุที่ประเทศไทย ในขณะน้ันยังไมไดเลิกทาส ดังน้ันสภาพของนางทาส จึงเปนเชนเดียวกับท่ีปรากฏในประเทศ หรอื สังคมอ่ืนๆ ท่เี คยมที าส กลาวคอื นางทาสนอกจากจะตองมหี นาท่ีบําเรอผเู ปน นายแลว ยังตอง อุทิศตัวเพื่อชายอื่นตามคําสั่งหรือตามตกลงของผูเปนนายอีกดวย วิธีการเชนนี้รายไดงาม ดังนั้น จึงมีหัวหนารวบรวมซื้อหรือไถหญิงท่ีเปนทาสแลวตั้งเปนสํานักข้ึน หญิงทาสเหลานั้นจึงกลายเปน โสเภณีไป จนกระทั่งไดทรงกรุณาโปรดเกลาฯ ใหเลิกทาสเสียเม่ือ พ.ศ.๒๔๔๘ หญิงจําพวกนี้ก็ยัง สมัครใจเปนโสเภณีตอไปอีกและมีแพรหลายเพิ่มข้ึน โดยหญิงพวกนี้รับตั๋วจากเจาภาษีแลวมีหัวหนา รวบรวมตง้ั สํานกั ขึ้น

๘๕ ʋǹ·èÊÕ ¹Ñ ¹ÉÔ °Ò¹Ç‹ÒàÍÒẺÍ‹ҧÁÒ¨Ò¡Í¹Ô à´Õ¹¹Ñé à¾ÃÒÐà¢ÒŒ ã¨Ç‹Ò »ÃÐà·Èä·Âä´ÃŒ Ѻ àÍÒÍÒøÃÃÁÁÒ¨Ò¡ÍÔ¹à´Õ ´Ñ§¹éѹ¨Ö§¹‹Ò¨ÐàÅÕ¹ẺÍ‹ҧ¡ÒèѴμ‹Ò§æ à¡ÕèÂǡѺâÊàÀ³ÕÁÒ¨Ò¡ ÍÔ¹à´Õ´ŒÇ à¾ÃÒÐâÊàÀ³ÕÍ¹Ô à´ÂÕ ÁÁÕ ÒμÑé§áμâ‹ ºÃÒ³¡ÒÅ´§Ñ ä´¡Œ ÅÒ‹ ÇÁÒáÅŒÇ สว นกรณที สี่ นั นษิ ฐานวา เอาแบบอยา งมาจากจนี นนั้ โดยทปี่ ระวตั ศิ าสตรบ างตอนบง ชดั วา หญิงโสเภณีก็มีในประเทศจีนมานมนานแลว และปรากฏวามีคนจีนเขามาพํานักอยูในประเทศไทย จํานวนมากเปนเวลาชานานแลว จึงนาจะสันนิษฐานไดอีกทางหน่ึงวาไทยเราคงจะเลียนอยางริเร่ิม ใหมโี สเภณีข้นึ ตามแบบเชน เดยี วกบั โสเภณีจนี ËÅÑ¡°Ò¹·¾èÕ Í¨ÐÂ×¹Âѹ䴌â´Âṋª´Ñ ¡ç¤Í× ä´ŒÁÕสาํ ¹Ñ¡ âÊàÀ³·Õ àèÕ ¨ÒŒ ¢Í§สาํ ¹¡Ñ áÅÐâÊàÀ³àÕ »¹š ¤¹¨¹Õ ÍÂã‹Ù ¹ºÃàÔ Ç³¡Ã§Ø à·¾Ï áÅи¹ºÃØ ÁÕ Ò¹Ò¹áÅÇŒ ¹Í¡¨Ò¡¹¹éÑ ÀÒÉÕ¨Õ¹·Õè㪌àÃÕ¡ËÞÔ§»ÃÐàÀ·¹éÕÇ‹Ò “Ëยํา©‹Ò” ä·ÂàÃÒ¡çà¤Âä´ŒÂÔ¹¨¹ªÔ¹ËÙáÅÐ㪌¡Ñ¹Ê׺ÁÒ¨¹ μÃÒºà·Ò‹ ·¡Ø Çѹ¹Õé จนกระทั่ง พ.ศ.๒๔๕๒ การคาประเวณีไดแพรหลายมากขึ้นถึงกับพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกลาเจาอยูหัวตองตรากฎหมายออกใชบังคับ ช่ือวา “¾ÃÐÃÒªºÑÞÞÑμÔ»‡Í§¡Ñ¹ÊÑÞ¨Ãâä Ã.È.ñò÷” แตกอนหนานี้ไมเคยมีกฎหมายควบคุมโสเภณีแตอยางใด คงปลอยใหหญิงประเภทนี้ ประกอบกิจการไปตามความตองการ แตเมื่อบานเมืองเจริญข้ึน จํานวนหญิงประเภทน้ีก็มีมากข้ึน ¨Ö§จํา໚¹μŒÍ§ÁÕ¡®ËÁÒ¤Ǻ¤ØÁáÅФ،Á¤Ãͧà¾×èÍãˌ໚¹ä»´ŒÇ¤ÇÒÁʧºàÃÕºÌÍ ดังปรากฏใน พระราชปรารภวา ทกุ วนั นหี้ ญงิ บางจาํ พวกประพฤตติ นอยา งทเี่ รยี กวา หญงิ นครโสเภณี มหี วั หนา รวบรวมกนั ตั้งโรงหาเงินข้ึนหลายแหงหลายตําบล ทําใหมีเหตุเกิดการวิวาทข้ึนเน่ืองๆ อีกประการหน่ึง หญิงบางคนปวยเปนโรค ซึ่งอาจจะติดตอเนื่องไปถึงผูชายท่ีคบหาสมาคมไดก็มิไดมีแพทยตรวจรักษา โรครายน้ัน อาจจะติดตอเน่ืองกันไปจนถึงเปนอันตรายแกรางกายและชีวิตมนุษยเปนอันมาก และยังไดหาไดมีกฎหมายและขอบังคับอยางใด สําหรับจะปองกันทุกข โทษภัยแหงประชาราษฎร ทั้งหลายเหลา นไี้ ม จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา ฯ ใหต ราพระราชบญั ญัตินีข้ ึ้นไว รูปแบบ “การคา ประเวณี” ของประเทศไทย ในอดตี ถึงปจ จบุ ัน อาจจําแนกแบง ไดเปน ๓ กลุม มีรูปแบบการใหบริการ จาํ นวน ๑๙ รูปแบบดังตอไปนี้ ๑. กลมุ การคาประเวณีในสถานคา ประเวณโี ดยตรง มี ๗ รูปแบบ คือ ๑.๑ สถานคาประเวณีโดยตรงหรือซองโสเภณี โดยการจัดใหมีหญิงโสเภณีขาย บริการรว มประเวณีกบั ชายในสถานคา ประเวณีโดยจดั หอ งไวเฉพาะสาํ หรับเพือ่ การคาประเวณี ๑.๒ สถานบริการประเภทอาบอบนวด ซ่ึงขออนุญาตเปนสถานบริการ ตาม มาตรา ๓(๓) แหง พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.๒๕๐๙ แตก็เปนที่ทราบกันวามีการดําเนินการให มีการคาประเวณเี ชนเดียวกบั ขอ ๑.๑

๘๖ ๑.๓ สถานนวดแผนไทยหรอื นวดแผนโบราณ นวดนํ้ามนั ตลอดจนสถานประกอบการ สปาบางแหงทั้งท่ีถูกตองและไมถูกตองตามกฎหมาย แตพบวา ยังคงมีการลักลอบบริการแอบแฝง คาประเวณีในสถานท่ีดงั กลาวอยเู ปน บางแหง ๑.๔ โรงแรมขนาดเล็ก หรือโรงแรมมานรูดที่จัดใหมีหญิงบริการคาประเวณีแก ลูกคาหรือโดยใหพนักงานจัดหาหญิงบริการประเวณีแกลูกคาโดยไดรับคาตอบแทน มีแมงดาเปน ธุระจัดหา ๑.๕ สถานบรกิ ารคาราโอเกะบังหนา ซง่ึ มีหญงิ บริการรอ งเพลงหรอื ผสมเครื่องดม่ื มีการจัดสถานท่ีตลอดจนแสง สี เสียงไปในทางที่ลอแหลม และมีการจัดหองแยกเปนการเฉพาะ สาํ หรบั ลูกคา และหญงิ บรกิ าร ๑.๖ รานตัดผมบางประเภท สวนใหญจะเปนรานท่ีมีพนักงานตัดผมเปนผูหญิง และมกี ารแยกหอ งบรกิ ารมดิ ชิดเปนการเฉพาะ ๑.๗ หอพักของหญิงโดยตรง มักมีการติดตอโดยตรงระหวางผูชายกับผูหญิง บรกิ ารทางเพศและมีการจา ยคาบริการทางเพศโดยตรงกับแขกทีม่ าบรกิ ารโดยตรง ๒. กลมุ สถานคาประเวณีในลกั ษณะสถานท่ีตดิ ตอ เพ่อื การคาประเวณี มี ๓ รปู แบบ ๒.๑ สถานที่ท่ีจัดใหมีหญิงไวบริการใหชายเลือกแลวพาไปรวมประเวณีอ่ืน อาจเปนลักษณะบานเชา หรือโรงแรม มีการจัดสถานท่ีใหผูรับบริการสามารถเลือกผูใหบริการได และพากนั ไปรว มหลับนอนกันที่สถานทอี่ ่ืนๆ ๒.๒ สถานบริการประเภทคาราโอเกะ ค็อกเทลเลานจ หรือคาเฟ ซ่ึงจะมีหญิง นั่งบริการแกลูกคาภายในสถานที่ดังกลาว ไมมีการคาบริการแตพนักงานจะไดรับเฉพาะคาด่ืม และ เมื่อตกลงราคากันไดก็จะไปใหบริการทางเพศกับแขกในสถานที่อ่ืนๆ ขางนอก โดยอาจเหมาคาดื่ม จากสถานบริการหรือสถานประกอบการนัน้ ๆ ทม่ี ีสว นรับรูด ว ย ๒.๓ บารอะโกโก, โคโยต้ี หญิงเตนเดินแบบโชวบนเวที การใหบริการทางเพศ มกั เกดิ ขน้ึ เมอ่ื พนกั งานเตน เลกิ งาน และมกั เปน การตดิ ตอ กนั เองระหวา งแขกมาเทย่ี วกบั ผหู ญงิ บรกิ าร ในบารอะโกโก หรือโคโยตี้ เดินแบบโชวบนเวทีถูกใจกับแขกมาเท่ียวก็จะมีการตกลงราคากับลูกคา และพากันไปหลบั นอนทส่ี ถานที่อน่ื ๆ นอกสถานบริการ ๓. กลุมอน่ื ๆ มี ๙ รปู แบบ ๓.๑ การคาประเวณีตามสถานที่หรือถนนสาธารณะ : โดยยืนยันในลักษณะ เสนอตัว ติดตอรบเราใหลูกคาทั้งที่ขับขี่ยานพาหนะหรือเดินเทามาใชบริการ (Hooker) พบเห็นเปน จํานวนมาก บริเวณทองสนามหลวง หรือบริเวณโดยรอบสวนลุมพินี ตลอดจนยานเพชรบุรีตัดใหม เมื่อติดตอ ตกลงราคากันก็จะพากันไปหลับนอนกนั ทอ่ี ืน่

๘๗ ๓.๒ การคาประเวณีโดยมีเอเยนตหรือนายหนาเปนธุระจัดหาใหมีการคา ประเวณี : มีภาษาเรียกกันวา มามาซัง ซ่ึงก็คือแมงดาท่ีรับเปนธุระจัดหาผูใหบริการทางเพศให โดยการติดตอทางโทรศัพท เรียกอีกอยางหน่ึงวานางทางโทรศัพท เม่ือตกลงการซื้อขายกันไดแลว ผูที่เปนธุระจัดหาก็จะพาหญิงบริการไปพบกับแขก และเม่ือจายเงินก็จะรับสวนแบงเปอรเซ็นตตาม แตจะตกลงกนั ๓.๓ การคาประเวณีในลักษณะเครือขายของหญิงบริการดวยกันเอง : อาจไมมี มามาซังเปนตัวกลาง หากแตหญิงบริการซึ่งคาประเวณีดวยกันจะติดตอลูกคาใหแกกันและกัน ทางโทรศัพท โดยมีการแนะนําหญิงอ่ืนใหแกลูกคาเพ่ือการคาประเวณี อาจมีหรือไมมีการแบง เปอรเ ซ็นตกบั หญิงบรกิ ารตามแตจ ะตกลงกัน ๓.๔ การคาประเวณีแฝงผานทางนิตยสาร หรือส่ือสิ่งพิมพอื่นโดยใชขอความ หรือภาพท่ีส่ือถึงการคาประเวณีโดยทางออม และสามารถคาดเดาเขาใจได เชน บริการเพ่ือเที่ยว คลายเหงาบริการ Escort ทง้ั ชายและหญิง ๓.๕ การคา ประเวณที างโทรศพั ท ระบบ ๑๙๐๐ XXX XXXX : โดยในปจ จบุ ัน จะเปน รปู แบบทม่ี หี ญงิ บรกิ ารพดู คยุ กบั ลกู คา และมคี าํ พดู หรอื สง เสยี ง สาํ เนยี งวาจาสอ ไปในทางลามก หรือมีเจตจาํ นงท่จี ะใหล ูกคา สาํ เร็จความใครท างกามารมณ ๓.๖ การคาประเวณีทางอินเทอรเน็ต : โดยการนําเสนอการคาประเวณีในทาง อินเทอรเน็ตในโปรแกรมหรือจะทําเปนเว็บเพจทั้งในแบบการโฆษณาหาลูกคาโดยตรงและโดยออม โดยสอื่ ความหมายดงั กลา ว หรอื ทางระบบหอ งแชท (Chat room) เชน เอม็ เอสเอน็ (MSN), PIRCH, ICQ เปนตน เมื่อตกลงราคากันไดก็จะนัดหมายกันไปซ้ือขายบริการทางเพศ บางกรณีอาจออกมา ในรูปของการ “ขายวิว” ทางเว็บแคมโชว เปดเผยรางกาย หรือแสดงการรวมเพศ เพ่ือใหอีกฝาย สําเร็จความใคร โดยอาจแลกเปลี่ยนโดยการใหซื้อบัตรเติมเงินบอกรหัสซ่ึงท้ังสองฝายจะไมไดเจอ ตัวตนกันจริงๆ ซ่ึงเฉพาะกรณีขายวิวนี้ ยังเปนประเด็นถกเถียงกันวาจะเขาขายการคาประเวณี หรอื ไม เพราะยงั ไมมกี ารตดิ ตอ หรือสอเจตนากันอยา งชดั เจนโดยตรงเหมือนกรณีอนื่ ๆ ๓.๗ การคาประเวณีโดยการหาคนเลี้ยงดูหลายคน : โดยไดรับคาตอบแทนเปน รายเดอื น ในแตล ะราย โดยหญงิ บรกิ ารบางคนอาจมคี นเลย้ี งดมู ากกวา ๒ ราย จากการตรวจสอบพบวา บางสวนยังเปนนักศึกษา หรือพนักงานระดับปฏิบัติท่ีตองการเงินเปนคาตอบแทน หรือคาเล้ียงดู โดยแลกกับการใหบ ริการทางเพศดังกลาว สวนใหญม กั เปนการคา ประเวณสี มัครใจยอมรับการกระทํา ๓.๘ การคาประเวณีที่แฝงอยูในอาชีพอ่ืน แตเปนท่ีรูกันในวงการ : เชน แคดดี้ สนามกอลฟกลางคืนบางแหง หรือผูหญิงจดแตมโตะสนุกเกอรบางแหง หรือ พริตต้ี (Pretty) หญิงเชียรสินคารูปแบบตางๆ ซึ่งบางสวนก็มีการแฝงการเสนอบริการทางเพศโดยมีคาตอบแทน ซึ่งพบเหน็ ไดอยูเสมอ

๘๘ ๓.๙ การคาประเวณีในลักษณะองคกรอาชญากรรม (Organized Crime) : ถือไดวาเปนธุรกิจที่สงผลกระทบตอความสงบเรียบรอยของบานเมืองมากกวารูปแบบอ่ืนๆ และปจจุบันมีแนวโนมจะสูงข้ึนเร่ือยๆ ในรูปแบบของการคามนุษย (Human Trafficking) ประเทศไทยนับวาเปนประเทศหนึ่ง มีการคามนุษยท้ังเปนตนทาง ทางผานและปลายทางจากการ คามนุษย โดยเฉพาะอยางยิ่งการเอาประโยชนจากการคามนุษยที่นําไปคาประเวณี (Transnational Sexual Exploitation) ¹ÂÔ ÒÁ ÁÒμÃÒ ô ในพระราชบญั ญัตนิ ้ี “การคาประเวณี” หมายความวา การยอมรับการกระทําชําเรา หรือการยอมรับ การกระทําอ่ืนใด หรือการกระทําอ่ืนใดเพื่อสําเร็จความใครในทางกามารมณของผูอ่ืน อันเปน การสาํ สอน เพือ่ สินจา งหรือประโยชนอ ่ืนใด ทัง้ นไี้ มว าผูย อมรับการกระทําและผูกระทาํ จะเปน บุคคล เพศเดียวกันหรือคนละเพศ “สถานการคาประเวณี” หมายความวา สถานที่ที่จัดไวเพื่อการคาประเวณี หรือยอม ใหมีการคาประเวณี และใหหมายความรวมถึงท่ีท่ีใชในการติดตอ หรือจัดหาบุคคลอื่นเพ่ือกระทํา การคา ประเวณดี วย “สถานแรกรับ” หมายความถึง สถานท่ีท่ีทางราชการจัดใหมีข้ึน หรือสถานท่ีที่มูลนิธิ สมาคม หรอื สถาบนั อน่ื จดั ตง้ั ขน้ึ ตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ เพอ่ื รบั ผรู บั การคมุ ครองและพฒั นาอาชพี ไวเ ปน การชั่วคราวเพอ่ื พจิ ารณาวิธกี ารคมุ ครองและพฒั นาอาชีพใหเ หมาะสมสําหรบั แตล ะบคุ คล “สถานคุมครองและพัฒนาอาชีพ” หมายความวา สถานที่ท่ีทางราชการจัดใหมีขึ้น หรอื สถานท่ที ี่มลู นธิ ิ สมาคมหรอื สถาบนั อนื่ จดั ต้ังขึน้ เพอื่ คมุ ครองสวสั ดิภาพและพัฒนาอาชพี แกผ ูรบั การคมุ ครองและพฒั นาอาชีพแกผ ูรบั การคุมครองและพัฒนาอาชีพตามพระราชบัญญัตินี้ “การคมุ ครองและพฒั นาอาชพี ” หมายความวา การอบรมฟน ฟจู ติ ใจ การบาํ บดั รกั ษาโรค การฝก อบรมและการพฒั นาอาชพี ตลอดจนพัฒนาคณุ ภาพชีวิต “กรรมการ” หมายความวา กรรมการคมุ ครองและพัฒนาอาชพี หรือกรรมการคมุ ครอง และพฒั นาอาชีพประจําจังหวัด แลวแตก รณี “พนกั งานเจา หนา ท”่ี หมายความวา ผซู ง่ึ รฐั มนตรแี ตง ตงั้ ใหป ฏบิ ตั กิ ารตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ “อธบิ ดี” หมายความวา อธิบดกี รมประชาสงเคราะห “รัฐมนตรี” หมายความวา รฐั มนตรผี รู ักษาการตามพระราชบญั ญัตนิ ี้ °Ò¹¤ÇÒÁ¼´Ô ÁÒμÃÒ õ ผูใดเขาติดตอ ชักชวน แนะนําตัว ติดตามหรือรบเราบุคคลตามถนน หรือสาธารณสถาน หรือกระทําการดังกลาวในที่อื่นใด เพื่อการคาประเวณีอันเปนการเปดเผย และนาอับอาย หรือเปนท่เี ดือดรอ นราํ คาญแกสาธารณชน ตองระวางโทษปรบั ไมเ กินหน่ึงพนั บาท

๘๙ ÁÒμÃÒ ö ผูใดเขาไปมั่วสุมในสถานการคาประเวณี เพื่อประโยชนในการคาประเวณี ของตนเองหรอื ผอู นื่ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กนิ หนง่ึ เดอื น หรอื ปรบั ไมเ กนิ หนง่ึ พนั บาท หรอื ทง้ั จาํ ทงั้ ปรบั ถา การกระทาํ ความผดิ ตามวรรคหนงึ่ ไดก ระทาํ เพราะถกู บงั คบั หรอื ตกอยภู ายใตอ าํ นาจ ซงึ่ ไมสามารถหลกี เล่ียงหรือขัดขืนได ผกู ระทําไมมคี วามผิด ÁÒμÃÒ ÷ ผูใดโฆษณาหรือรับโฆษณา ชักชวน หรือแนะนําดวยเอกสารสิ่งพิมพ หรือกระทําใหแพรหลายดวยวิธีใดไปยังสาธารณะที่เห็นไดวาเปนการเรียกรองหรือการติดตอ เพื่อการคาประเวณีของตนเองหรือผูอื่น ตองระวางโทษจําคุกต้ังแตหกเดือนถึงสองป หรือปรับตั้งแต หนึ่งหมนื่ บาทถงึ ส่ีหม่ืนบาท หรอื ท้ังจาํ ทั้งปรับ ÁÒμÃÒ ø ผูใดกระทําชําเราหรือกระทําอ่ืนใดเพื่อสําเร็จความใครของตนเอง หรือผูอ่ืนแกบุคคลอายุกวาสิบหาปแตยังไมเกินสิบแปดป ในสถานการคาประเวณี โดยบุคคลนั้น จะยินยอมหรือไมก็ตาม ตองระวางโทษจําคุกต้ังแตหน่ึงปถึงสามป และปรับต้ังแตสองหม่ืนบาท ถงึ หกหม่ืนบาท ถาการกระทําตามวรรคหน่ึงเปนการกระทําแกเด็กอายุยังไมเกินสิบหาป ตองระวางโทษ จาํ คุกตั้งแตสองปถ ึงหกปแ ละปรับต้งั แตส่หี มื่นบาทถึงหนง่ึ แสนบาท ถาการกระทําตามวรรคหนึ่งเปนการกระทําตอคูสมรสของตน โดยมิใชเพ่ือสําเร็จ ความใครของผูอนื่ ผกู ระทําไมม คี วามผิด ÁÒμÃÒ ù ผูใดเปนธุระจัดหา ลอไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดใหเพ่ือบุคคลนั้นกระทํา การคา ประเวณี แมบ คุ คลนน้ั จะยนิ ยอมกต็ าม และไมว า การกระทาํ ตา งๆ อนั ประกอบเปน ความผดิ นนั้ จะไดกระทําภายในหรือนอกราชอาณาจักรตองระวางโทษจําคุกต้ังแตหนึ่งปถึงสิบป และปรับต้ังแต สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท ถา การกระทาํ ความผดิ ตามวรรคหนงึ่ เปน การกระทาํ แกบ คุ คลอายกุ วา สบิ หา ปแ ตย งั ไมเ กนิ สบิ แปดป ผกู ระทาํ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตง้ั แตห า ปถ งึ สบิ หา ป และปรบั ตงั้ แตห นงึ่ แสนบาทถงึ สามแสนบาท ถาการกระทําความผิดตามวรรคหน่ึง เปนการกระทําแกเด็กอายุยังไมเกินสิบหาป ผูกระทาํ ตองระวางโทษจําคกุ ต้งั แตส บิ ปถงึ ยี่สิบป และปรับตัง้ แตส องแสนบาทถึงสี่แสนบาท ถาการกระทําตามวรรคหน่ึง วรรคสอง หรือวรรคสาม เปนการกระทําโดยใชอุบาย หลอกลวง ขูเข็ญ ใชกําลังประทุษราย ใชอํานาจครอบงําผิดคลองธรรม หรือใชวิธีขมขืนใจดวย ประการใดๆ ผูกระทําตองระวางโทษหนักกวาท่ีบัญญัติไวในวรรคหนึ่ง วรรคสอง หรือวรรคสาม หนึ่งในสามแลวแตก รณี ผูใดเพ่ือใหมีการกระทําการคาประเวณี รับตัวบุคคลซึ่งตนรูอยูวามีผูจัดหา ลอไป หรือ ชักพาไปตามวรรคหน่ึง วรรคสอง วรรคสาม หรือวรรคส่ี หรือสนับสนุนในการกระทําความผิด ดังกลาวตองระวางโทษตามทบ่ี ัญญัตไิ ววรรคหนึง่ วรรคสอง วรรคสาม หรือวรรคสแ่ี ลวแตก รณี

๙๐ ÁÒμÃÒ ñð ผูใดเปนบิดามารดาหรือผูปกครองของบุคคลซึ่งมีอายุยังไมเกินสิบแปดป รูวามีการกระทําความผิดตามมาตรา ๙ วรรคสอง วรรคสาม หรือวรรคส่ี ตอผูอยูในความปกครอง ของตน และมีสวนรวมรเู หน็ เปนใจใหม ีการกระทาํ ความผิดนัน้ ตอ งระวางโทษจําคกุ ตั้งแตส ี่ปถึงย่สี บิ ป และปรับตงั้ แตแปดหมื่นบาทถึงสี่แสนบาท ÁÒμÃÒ ññ ผใู ดเปน เจา ของกจิ การคา ประเวณี ผดู แู ลหรอื ผจู ดั การกจิ การการคา ประเวณี หรือเปนผูควบคุมผูกระทําการคาประเวณีในสถานการคาประเวณี ตองระวางโทษจําคุกตั้งแตสามป ถึงสิบหา ป และปรบั ต้งั แตหกหม่นื บาทถึงสามแสนบาท ถากิจการหรือสถานการคาประเวณีตามวรรคหนึ่งมีบุคคลซ่ึงมีอายุกวาสิบหาปแตยัง ไมเกินสิบแปดปทําการคาประเวณีอยูดวย ผูกระทําตองระวางโทษจําคุกตั้งแตหาปถึงสิบหาป และ ปรับตั้งแตหน่ึงแสนบาทถึงสามแสนบาท ถากิจการหรือสถานการคาประเวณีตามวรรคหนึ่งมีเด็ก อายุยังไมเกินสิบหาปทําการคาประเวณีอยูดวย ผูกระทําตองระวางโทษจําคุกต้ังแตสิบปถึงยี่สิบป และปรบั ตัง้ แตส องแสนบาทถึงส่ีแสนบาท ÁÒμÃÒ ñò ผใู ดหนวงเหนี่ยว กกั ขงั กระทาํ ดวยประการใด ใหผ ูอ ื่นปราศจากเสรภี าพ ในรางกายหรือทํารายรางกายหรือขูเข็ญดวยประการใดๆ วาจะใชกําลังประทุษรายผูอ่ืนเพื่อขมขืนใจ ใหผ อู นื่ นนั้ กระทาํ การคา ประเวณี ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ตง้ั แตส บิ ปถ งึ ยส่ี บิ ป และปรบั ตงั้ แตส องแสนบาท ถงึ ส่แี สนบาท ถา การกระทําความผิดตามวรรคหนง่ึ เปน เหตใุ หผ ูถ กู กระทาํ (๑) ไดร ับอนั ตรายสาหสั ผูกระทําตอ งระวางโทษจาํ คุกตลอดชวี ติ (๒) ถงึ แกค วามตาย ผกู ระทาํ ตอ งระวางโทษประหารชีวิต หรือจาํ คกุ ตลอดชีวิต ผูใดสนับสนุนในการกระทําความผิดตามวรรคหน่ึงหรือวรรคสอง ตองระวางโทษตามท่ี บัญญตั ิไวใ นวรรคหนง่ึ หรือวรรคสองแลวแตกรณี ถาผูกระทําความผิด หรือผูสนับสนุนการกระทําความผิดตามวรรคหน่ึงเปนพนักงาน ฝายปกครองหรือตํารวจหรือพนักงานเจาหนาที่ หรือเจาหนาที่ในสถานแรกรับ หรือสถานคุมครอง และพัฒนาอาชีพตามพระราชบัญญัติน้ี ผูกระทําตองระวางโทษจําคุกต้ังแตสิบหาปถึงย่ีสิบป และ ปรับตงั้ แตส ามแสนบาทถงึ สแ่ี สนบาท ÁÒμáÒÃμÒÁ ¾.Ã.º.»‡Í§¡¹Ñ áÅлÃÒº»ÃÒÁ¡ÒäŒÒ»ÃÐàÇ³Õ ÁÒμÃÒ ñó ถาบิดา มารดา หรือผูปกครองของผูกระทําความผิด ตามมาตรา ๕ มาตรา ๖ หรือมาตรา ๗ มสี วนรวมรเู หน็ เปนใจใหบ ุคคลผอู ยูใ นความปกครองกระทาํ การคา ประเวณี เมื่อคณะกรรมการคุมครองและพัฒนาอาชีพมีคําขอใหพนักงานอัยการยื่นคํารองตอศาลใหถอน อํานาจปกครองของบดิ า มารดา หรอื ผปู กครองของผนู ัน้ เสีย และแตง ตัง้ ผูปกครองแทนบดิ า มารดา หรอื ผูป กครองน้นั

๙๑ ÁÒμÃÒ óò ในกรณที ต่ี อ งมกี ารควบคมุ ตวั ผตู อ งหาหรอื จาํ เลยในความผดิ ตามมาตรา ๕ หรอื มาตรา ๖ ในระหวา งการสอบสวนของพนกั งานสอบสวน หรอื ในระหวา งการพจิ ารณาคดขี องศาล ใหกระทําไดตามกฎหมายวาดวยวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง แตใหควบคุมตัวผูตองหา หรือจําเลยนั้นไวตางหากจากผูตองหาหรือจําเลยอ่ืนหรือจะขอใหกรมประชาสงเคราะหเปนผูดูแล ผูถูกควบคุมตามระเบยี บท่ี ก.ค.อ. กําหนดกไ็ ด ÁÒμÃÒ óó ในกรณีทผ่ี กู ระทาํ ความผดิ ตามมาตรา ๕ หรอื มาตรา ๖ เปน บคุ คลอายุ ยังไมเกินสิบแปดปและไมปรากฏวาผูตองหาหรืออยูในระหวางถูกดําเนินคดีในความผิดฐานอื่น ซ่ึงเปนความผิดที่มีโทษจําคุก หรือตองคําพิพากษาใหจําคุก ใหพนักงานสอบสวนในกรณีที่ได เปรียบเทียบคดีแลว แจงกรมประชาสงเคราะหเพื่อดําเนินการจัดสงตัวผูน้ันไปเพ่ือรับการดูแล ในสถานแรกรับทมี่ ีเขตรบั ผิดชอบ กรณตี ามวรรคหนง่ึ หากเปน บคุ คลอายเุ กนิ กวา สบิ แปดป ถา บคุ คลนน้ั ประสงค ท่ีจะไดรับการคุมครองและพัฒนาอาชีพในสถานคุมครองและพัฒนาอาชีพ ใหพนักงานสอบสวนแจง กรมประชาสงเคราะหเ พอ่ื ดาํ เนนิ การจดั สง ตวั ผนู นั้ ไปเพอื่ รบั การดแู ลในสถานแรกรบั ทม่ี เี ขตรบั ผดิ ชอบ ÁÒμÃÒ óô ในกรณที ผ่ี กู ระทาํ ความผดิ ตามมาตรา ๕ มาตรา ๖ หรอื มาตรา ๗ เปน บคุ คล อายุยังไมเกินสิบแปดป เม่ือศาลไดพิจารณาถึงประวัติ ความประพฤติ สติปญญา การศึกษาอบรม สุขภาพ ภาวะแหงจิต อาชีพ และส่ิงแวดลอมของผูนั้นแลวเห็นวาไมสมควรพิพากษาลงโทษ แตควร ใหผูกระทําความผิดไดรับการคุมครองและพัฒนาอาชีพแทนการลงโทษ ก็ใหกรมประชาสงเคราะห รับตัวผูกระทําความผิดเพ่ือดําเนินการจัดสงตัวผูน้ันไปเพื่อรับการดูแลในสถานแรกรับที่มีเขต รับผิดชอบภายในสิบหา วันนับแตวันท่ีศาลมีคําพิพากษา กรณีตามวรรคหนึ่งหากเปนบุคคลอายุกวาสิบแปดป ถาบุคคลน้ันประสงคที่จะไดรับ การคุมครองและพัฒนาอาชีพในสถานคุมครองและพัฒนาอาชีพ และศาลเห็นสมควรใหกรมประชา สงเคราะหรับตัวผูกระทําความผิดเพ่ือดําเนินการจัดสงตัวผูน้ันไปเพื่อรับการดูแลในสถานแรกรับที่มี เขตรบั ผิดชอบภายในสบิ หาวันนบั แตวันที่ศาลมคี าํ พิพากษา ในกรณีท่ีศาลพิพากษาลงโทษผูกระทําความผิดตามวรรคหนึ่ง และศาลเห็นสมควร ใหผูกระทําความผิดรับการคุมครองและพัฒนาอาชีพดวย ก็ใหกรมประชาสงเคราะหรับตัวผูกระทํา ความผิดเพื่อดําเนินการจัดสงตัวผูนั้นไปเพ่ือรับการดูแลในสถานแรกรับที่มีเขตรับผิดชอบภายใน สิบหาวันนับแตวันที่ศาลมีคําพิพากษา และใหผูกระทําความผิดอยูในควบคุมของสถานแรกรับ และสถานคุม ครองและพัฒนาอาชพี มิใหนับระยะเวลาที่ควบคุมตัวผูกระทําความผิดตามวรรคสามเขาในกําหนดระยะเวลา ทอี่ ยใู นความดแู ลของสถานแรกรบั และระยะเวลาทรี่ บั การคมุ ครองและพฒั นาอาชพี ของสถานคมุ ครอง และพัฒนาอาชีพ หลักเกณฑและวิธีการรับตัวผูกระทําความผิดจากศาลเพื่อดําเนินการจัดสงตัว ผูน้ันไปเพื่อรับการดูแลในสถานแรกรับที่มีเขตรับผิดชอบใหเปนไปตามระเบียบท่ีอธิบดีกําหนด โดยความเหน็ ชอบของ ก.ค.อ.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook