Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore chinese culture

chinese culture

Published by flookkyyy61181500120, 2020-08-17 23:28:57

Description: chinese culture 中国文化

Keywords: chinese

Search

Read the Text Version

บุญญาดา มลู ผงึ้ ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ชานาญการ โรงเรยี นบญุ วาทยว์ ทิ ยาลยั สานกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต35 中国文化与遗产

เอกสารประกอบการเรียน วิชา มรดกและวฒั นธรรมจีน 中国文化与遗产 รหัสวิชา จ 254333 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่5 บญุ ญาดา มูลผ้งึ ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ชานาญการ โรงเรียนบญุ วาทยว์ ทิ ยาลยั สานักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษามัธยมศึกษา เขต35

คานา เอกสารประกอบการเรียนรายวิชามรดกและวัฒนธรรมจีน รหัสวิชา จ 254333 จัดข้ึนเพ่ือใช้ ประกอบการเรยี นการสอน ในกลุ่มสาระภาษาตา่ งประเทศ เป็นรายวิชาในแผนการเรยี นภาษาจีน สาหรับ นักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปีที่5 เพอื่ ให้ผู้เรียนศกึ ษาเก่ยี วกับมรดกและวฒั นธรรมของประเทศจนี ท่ีถือปฏบิ ตั ิ กันมายาวนาน มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ เรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมของประเทศจีน ขนบธรรมเนียมประเพณี โดยเอกสารประกอบการเรียนวชิ ามรดกและวัฒนธรรมจนี ประกอบดว้ ยเน้ือหาและสาระสาคัญ 3บทเรียน ได้แก่บทที่1สี่ส่ิงประดิษฐ์อันย่ิงใหญ่ของจีน(中国四大发明) บทท่ี2 วัฒนธรรมการดื่มชา (茶) บทท3่ี 8กลมุ่ อาหารขนึ้ ชื่อของจีน (中国八大菜系) แบบฝึกหัดท้ายบทและเอกสารอ้างอิง เพื่อ ช่วยให้ผู้เรียนสามารถทบทวนและศึกษาเพม่ิ เติมเพ่อื เพ่มิ ความร้คู วามเข้าใจในเนอ้ื หา ผูจ้ ดั ทาขอกราบขอบพระคณุ อาจารย์ธวี รา จันทรสรุ ีย์ ผู้ให้ความรูแ้ ละคาแนะนา ผูจ้ ดั ทาหวังเป็น อย่างยง่ิ วา่ เอกสารประกอบการเรยี นวิชามรดกและวฒั นธรรมจีน จะเป็นประโยชน์ในการพฒั นาการเรยี น การสอนสาหรับครูและการพัฒนาการเรียนสาหรับนักเรียน และเป็นแนวทางในการพัฒนางานแก่ผู้ที่ สนใจเรอื่ งมรดกและวฒั นธรรมจีน บญุ ญาดา มูลผงึ้ ผูจ้ ดั ทา

สารบัญ ก คานา ข-ค สารบัญ ง จุดประสงคร์ ายวชิ า บทท่1ี ส่สี ิ่งประดษิ ฐอ์ ันยง่ิ ใหญ่ของจนี 1-9 2-5 -ส่สี ่งิ ประดษิ ฐ์อนั ย่ิงใหญข่ องจนี 6-8 -ส่สี ิ่งประดิษฐ์ยคุ ใหม่ของจนี 9 -แบบฝกึ หดั ท้ายบท 10-13 บทท2ี่ วัฒนธรรมดมื่ ชา 10-12 -วัฒนธรรมดื่มชา 12-13 -ชนิดของชา 13 -แบบฝกึ หัดทา้ ยบท 14-19 บทที่3 วัฒนธรรมอาหารจนี 15 -วฒั นธรรมอาหารจนี 15 -อาหารเสฉวน 16 -อาหารกวางตุง้ 16 -อาหารฮกเกยี้ น 17 -อาหารชานตง

-อาหารซโู จว 17 -อาหารเจ้อเจียง 18 -อาหารหหู นาน 18 -อาหารอานฮุย 18 -แบบฝกึ หดั ทา้ ยบท 19 ภาคผนวก 20 -เฉลยแบบฝึกหัดท้ายบท 21 อา้ งองิ จ

จดุ ประสงคร์ ายวชิ า มรดกและวัฒนธรรมจีน 1. เพื่อใหผ้ ้เู รียนมีความรูใ้ นเร่ืองมรดกและวัฒนธรรมของประเทศจีน 2. เพ่อื ให้ผ้เู รียนมคี วามเขา้ ใจในเร่ืองของวฒั นธรรมของประเทศจีน 3. เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รียนมคี วามเข้าใจถงึ พัฒนาการการเปลี่ยนแปลงของมรดกและ วฒั นธรรมจีนจากอดตี จนถงึ ปัจจุบัน จดุ ประสงคข์ องบทท่ี 1 1.เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นมีความรูค้ วามเขา้ ใจในเรอ่ื งของสสี่ ิ่งประดิษฐ์อนั ยง่ิ ใหญ่ของจนี 2.เพอ่ื ให้ผู้เรียนรปู้ ระวตั ิความเปน็ มาของสส่ี ง่ิ ประดิษฐ์อนั ย่งิ ใหญ่ของจีน 3.เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนมีความร้คู วามเขา้ ใจในเรอื่ งสส่ี ง่ิ ประดิษฐย์ ุคใหมข่ องจนี จุดประสงค์ของบทที่ 2 1.เพื่อใหผ้ ู้เรยี นรู้ถงึ ความสาคญั ของวัฒนธรรมการด่มื ชา 2.เพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นมีความรู้เกี่ยวกับศิลปะการดื่มชา 3.เพอ่ื ให้ผู้เรียนรูจ้ กั ชนดิ ของชา จุดประสงค์ขอบทที่ 3 1.เพื่อใหผ้ ู้เรียนมคี วามรู้เก่ยี วกับวฒั นธรรมอาหารของจนี 2.เพอ่ื ให้ผ้เู รยี นเข้าใจวัฒนธรรมอาหารของจนี 3.เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นไดเ้ รียนร้ถู ึงเอกลักษณ์และจุดเด่นของอาหารจนี

中 国 四 大 发 明

第一课 四大发明 สีส่ ิ่งประดษิ ฐอ์ ันย่งิ ใหญข่ องจีน คอื มมุ มองเกย่ี วกับประวตั ศิ าสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยที ี่ ชาวจนี สมยั โบราณได้ประดษิ ฐ์คิดคน้ ข้ึนมาเพือ่ และได้แพรห่ ลายไปยังประเทศตา่ งๆ ได้แก่ กระดาษ เข็มทศิ ดินปืน และแท่นพมิ พ์ เขม็ ทิศจีน เข็มทิศจีน สมัยโบราณก่อนท่ีจะมีการประดิษฐ์เข็มทิศข้ึนน้ัน มีคนจีนสมัยโบราณได้ใช้วิธีการ แบบสุ่มเดาในการออกทะเล บางครง้ั กอ็ า้ งองิ ตามการเคลื่อนตัวของพระอาทติ ยแ์ ละดวงดาว ในการบอก ทิศทาง จึงมกี ารคิดคน้ และประดิษฐเ์ ขม็ ทิศขน้ึ มา เขม็ ทศิ เป็นเคร่อื งมือท่ใี ช้ในการบอกทิศทางในยุคจ้านก๋ัว (战国)ชาวจนี ได้คิดคน้ เคร่ืองมือที่มี ลกั ษณะเป็นหนิ แม่เหลก็ ทช่ี ้ีไปทางทศิ เหนอื ใต้ และนามาประยกุ ต์เป็นเครอ่ื งมอื ในการบอกทศิ ทางเรียกว่า “ซอื หนาน ”(司南)ลกั ษณะของซือหนาน จะมีช้อนแม่เหล็กตั้งอยู่บนฐาน ที่มีการสลักตัวอักษรท่ี บอกทิศทางไวซ้ ึง่ ชอ้ นจะช้ไี ปทางทศิ ใตเ้ สมอ สว่ นปลายอีกด้านจะชีไ้ ปทางทิศเหนือพอถึงสมัยราชวงศ์ซ่ง (宋代)ได้นาเอาแผน่ แม่เหล็กและถาดบอกทิศทางมารวมกนั เรยี กว่า“หลวั ผาน” (罗盘) ในสมัยราชวงศ์ซง่ เหนือ (北宋)เข็มทิศได้เร่ิมนามาใช้ในการเดินเรือ ในสมัยซ่งใต้(南宋)ได้มี การใช้อยา่ งแพรห่ ลายไปยงั ยโุ รปโดยผา่ นทางประเทศแถบอาหรบั ในสมัยนั้นชาวอาหรับจะเรียกเข็มทิศ วา่ “ตาของกะลาสี” (水手之眼)

กระดาษ กระดาษได้มีการคิดค้นและนาเอาเศษของเหลือใช้เช่นพวก เศษเชือกปอ เศษผ้า มาทาเป็น แผน่ ใย จากพชื ไว้สาหรับเขยี นหนงั สือเรยี กว่า “หมาจอื่ ” (麻纸) ไดม้ ีบันทึกไว้วา่ ไชห่ ลุน(蔡伦)ไดอ้ ธบิ ายถงึ ข้นั ตอนการทากระดาษใหก้ ษัตริยแ์ ห่งราชวงศ์ตง ฮ่นั ฟงั โดยละเอียดว่าเค้าเอาเปลอื กไม้ เศษเชือกปอและเศษผ้า มาทาเป็นกระดาษ คนจีนจึงเร่ิมเชื่อกัน มากกวา่ ครึ่งศตวรรษว่า ไช่หลุนเป็นคนแรก ทค่ี ิดค้นทากระดาษขึ้นมา แต่มีหลักฐานมากมายท่ีระบุได้ว่า ชาวจีนมีการทากระดาษท่ีว่าน้ีกนั มานานแลว้ เช่น เศษกระดาษช้นิ หน่งึ ทพี่ บในบรเิ วณโบราณสถาน ท่เี คย เป็นจุดส่งสัญญาณควันไฟใน มณฑลซินเกยี ง (新疆)สมัยราชวงศฮ์ ั่น (汉朝)จากการตรวจสอบพบวา่ เป็นกระดาษหมาจ่อื (麻纸)ในสมัยราชวงศซ์ ีฮัน่ (西汉)นบั เป็นกระดาษใยพืชที่เกา่ แก่ที่สดุ ดงั นัน้ แลว้ สรุปว่า ไช่หลุน(蔡伦)ไมใ่ ช่คนจีนคนแรกท่ี ประดิษฐ์กระดาษ แต่เป็นคนท่ีพัฒนาและปรับปรุงเทคนิค การทากระดาษให้สมบรู ณ์ขึ้น กระดาษของไชห่ ลุนจึงเหนียวและแข็งกวา่ หลังจากยุคของไช่หลุน คนจีนเริ่มใช้วัสดุทากระดาษหลากหลายมากข้ึน ยกตัวอย่างเช่นใน สมัยราชวงศถ์ ัง (唐朝)มีกระดาษแขง็ สีเหลือง เป็นกระดาษย้อมสีทข่ี ้นึ ชือ่ มากชนดิ หน่ึง เพราะมกี ารชุบ กาวและฉาบเทียนไข เพ่อื ใหก้ ระดาษหนา แข็งแรงและลน่ื มัน จากน้นั จงึ ใช้นา้ ยาย้อมให้เป็นสีเหลอื งอีกที กระดาษชนดิ นี้จะไม่มีมอดกัดกิน ไม่ขึ้นราและกันน้าได้ เหมาะท่ีจะใช้จารึกคัมภีร์ต่างๆ นอกจากนี้ยังมี กระดาษย้อมสคี ุณภาพดีสาหรับเขียนจดหมายเกิดขน้ึ ดว้ ยเช่น “กระดาษจากมณฑลเสฉวน” ซ่ึงมีด้วยกัน ถงึ 10สี เชน่ แดงเข้ม ชมพู เหลืองสดเป็นตน้ ในสมยั ราชวงศ์ถงั (唐朝)ท่ีเทคนิคการทากระดาษของจีน ไดแ้ พร่หลายไปยังอาหรบั จากนนั้ กแ็ พร่ถงึ ยุโรป จนคนทวั่ โลกยอมรบั ว่า นี่คอื สงิ่ ประดษิ ฐ์สาคัญจากจีน

แทน่ พมิ พ์ การประดษิ ฐแ์ ทน่ พมิ พ์จีน เรียกว่า \"ยิน่ ซัวซู่\" (印刷术) หรือ \"เคอปาุ นย่ินซัวซ\"ู่ (刻版印刷术)หรอื \"เตยี วปุานยน่ิ ซัวซู่\" (雕版印刷术) สมัยราชวงศส์ ุย (隋朝)และราชวงศ์ถัง (唐朝)ได้มีการคิดค้นประดิษฐ์แท่นพิมพ์ ไม้ขนึ้ มา นอกเหนอื จากการเขยี นหนังสอื เป็นเล่มเองแลว้ ยังทาให้เกดิ การพิมพ์เป็นหนังสือมากขึ้น ทาให้ การทาหนงั สอื เกดิ ความรวดเร็วขึน้ แต่วา่ การพมิ พ์ในสมยั โบราณจะตอ้ งอาศยั การแกะสลักไมเ้ ป็นจานวน มาก ซ่ึงเป็นการยุ่งยากมาก ต่อมาในสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ (北宋)ได้มีนักประดิษฐ์ช่ือ \"ป้ีเซิง\" (毕昇)ได้ทาการทดลอง และได้ค้นพบแท่นพิมพ์ท่ีข้างในสามารถเคลื่อนย้ายตัวอักษรได้ เรียกว่า \"หัวจือ้ อิ้นซวั ซู\"่ (活字印刷术)โดยไดแ้ กะสลัก ตัวอักษรลงบนกอ้ นดนิ เหนียวส่ีเหล่ียมเล็กๆก้อน ละตัวอักษร จากน้ันนาไปเผาไฟให้แข็งตัว ก็ได้เป็นแท่นพิมพ์ที่เคล่ือนย้ายตัวอักษรได้ ตอนพิมพ์ก็นา ตัวพิมพ์ตวั อกั ษรเหลา่ น้ไี ปวางเรยี งตามขอ้ ความ วางไวใ้ นกรอบใหญแ่ ลว้ ใชห้ มกึ ทา จากนั้นนากระดาษมา ทาบ หลังจากท่ีพิมพ์กระดาษเสร็จแล้ว ตัวอักษรเหล่าน้ันยังสามารถนาไปใช้ใหม่ได้ ตัวอักษรที่พิมพ์ ออกมาคอ่ นข้างเป็นระเบียบและยงั ประหยัดเวลา และพัฒนาข้นึ ไปเรอ่ื ยๆ แท่นพิมพ์ของจีนยังได้แพร่และนาไปใช้อย่างประเทศเพื่อนบ้าน เช่นญี่ปุนและเกาหลี หลังจากนนั้ ก็แพร่ไปสูเ่ ปอรเ์ ซียและอยี ิปต์ การคิดคน้ แท่นพมิ พท์ าใหเ้ พมิ่ ความรวดเร็วในการสื่อสารข้าม วัฒนธรรมของประเทศต่างๆในโลก

ดินปืน ดนิ ปนื สว่ นประกอบสาคัญของดินปืนได้แก่ ดินประสิวหรือโพแทสเซียมไนเตรต กามะถัน และผงถ่านรวมเข้าด้วยกัน ในสมัยโบราณเล่าว่า การคิดค้นดินปืนมีความเกี่ยวข้องกับการกล่ันยา อายุวัฒนะ ในสมัยโบราณคือ นักปรุงยาได้นาแร่ธาตุและพันธ์ุพืชมากมายมาผสมให้ใส่ลงไปในเตาต้ม รวมกนั ซง่ึ ในขณะท่ีกลั่นยาอยูน่ นั้ เตาได้เกดิ ระเบิดขึน้ นักปรงุ ยาจงึ พบธาตุ ท่เี ปน็ ชนวนระเบดิ ไดจ้ ากการ เผาไหม้นน้ั โดยบงั เอิญ เป็นเหตุให้ดินปืนถูกประดิษฐ์ขึ้นและนาไปใช้ในงานด้านการทหาร โดยดินปืนนี้ คดิ คน้ ไดส้ าเร็จในสมัยราชวงศ์ถงั (唐朝) ในสมัยราชวงศ์ซ่ง (宋朝)มีการใช้ดินปืนอย่างแพร่หลายไม่ใช่แค่ใช้เพียงใน ชีวิตประจาวัน ยงั รวมไปถึงการล่าสตั ว์ การระเบิดถลงุ แร่ การประดิษฐ์ประทัดและดอกไม้ไฟ และมีการ นาไปใช้ในด้านการทหารมากยิ่งขึ้น ท้ังด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ ก็มีการพัฒนาไปอีกข้ัน โดยอาวุธดินปืน ส่วนมากเปน็ แบบลุกไหม้ระเบิด เชน่ ธนูไฟลกู ประกายไฟลูกระเบิด มีเร่ืองเล่าว่า ในสมัยราชวงศ์ซ่งไม่มี คดิ ค้นอาวธุ \"ปืนไฟ\" ชว่ งนลี้ ักษณะคลา้ ยท่อ ใช้กระบอกไม้ไผท่ บี่ รรจดุ ินปนื ไว้เพ่ือต่อสู้กับชาวมองโกล ใน สมัยปลายราชวงศ์หมิง \"ซ่งอ้ิงซิง\"(宋应星)ได้เขียนตารา \"เทียนกงไคอู้\" (天工开物) หนึ่งในตาราที่สาคัญท่ีสุดในทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีในสมัยจีนโบราณได้บันทึกสารเคมี และ วิธีการประดิษฐ์ดินปืนเอาไว้

新四大发明 4 ส่ิงประดิษฐ์ยคุ ใหม่ของจีน รถไฟความเร็วสูง รถไฟความเร็วสงู ( ) เปน็ เทคโนโลยีรถไฟความเร็วสงู มตี ้นกาเนดิ ในญปี่ ุนและ ยุโรปแต่ปัจจุบันจีนกาลังกลายเป็นผู้นา จีนเปิดให้บริการคร้ังแรกในปี2008 (สายปักกิ่ง-เทียนจิน) ในทศวรรษทีส่ องของศตวรรษที่21 การขนสง่ ทางรางเรมิ่ ขึ้นโดยรถไฟความเร็วสูงของจีน รถไฟความเร็ว สงู ไมเ่ พยี งแตเ่ ป็นตัวเลือกแรกสาหรบั คนจานวนมากในการเดนิ ทาง ยังส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมอยา่ งมาก ปจั จบุ นั จานวนรถไฟความเร็วสูง ที่จนี ได้เปิดให้บริการมีจานวน 2,595คัน มากกว่า60% ของทง้ั หมดทัว่ โลก

อคี อมเมริ ซ์ อีคอมเมริ ซ์ (网购)การเข้าสู่ยุคของอนิ เตอร์เนต็ เคลอื่ นท่ี ปัจจบุ นั จีนได้กลายเป็นตลาด ค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่อันดับหนึ่งของโลก มีประชากรในอินเตอร์เน็ตเกินกว่า700ล้านคน การซื้อขาย ออนไลน์ของจีนได้ส่งออก \"โอกาสทางธุรกิจอินเตอร์เน็ต\" ร้านค้าปลีกออนไลน์ เป็นการปฏิวัติระบบ คา้ ขาย ท่ีไมจ่ าเป็นตอ้ งมหี นา้ รา้ น หรือถ้ามกี เ็ ป็นการเพิ่มช่องทางใหข้ ายของได้มากข้ึน กระแสการซื้อของ ออนไลน์ได้รับความนิยมอย่างสูงในจีน ทาให้ธุรกิจประเภทน้ีขยายตัวข้ึนได้เรื่อยๆ แถมมาด้วย อาชีพบรกิ ารขนสง่ ออนไลนท์ ่เี ต็มบ้านเต็มเมอื งไปหมด ช่วยเพิม่ งาน เพิม่ เงนิ กระจายรายได้มากมาย การใช้จา่ ยไร้เงินสด ( ) การใช้จา่ ยไร้เงินสด (扫码支付)ธุรกรรมการเงินออนไลน์ ทท่ี าใหค้ นจีนกระโดดขา้ มใน หลายๆประเทศไปสสู่ งั คมไรเ้ งินสด หรอื Cashless Society เป็นยุคที่ใครจะไปไหนก็ไม่ต้องพกกระเป๋า สตางค์ แค่มีมือถอื กส็ ามารถจ่ายค่าบริการตา่ งๆได้โดยไมต่ อ้ งใชเ้ งินสด

จักรยานแชร์ใชไ้ รท้ ่ีจอด จกั รยานแชร์ใช้ไร้ที่จอด (共享单车)มียอดการดาเนินธุรกิจทั่วโลกเกินกว่า 5 ล้านคัน ผใู้ ช้จดทะเบียนเกนิ กว่า 100ล้านราย เพียงแค่มแี อปพลิเคชัน่ บนมอื ถือ ก็สามารถปลดล็อกจักรยานท่ีจอด ไวใ้ หต้ ามทต่ี ่างๆ พอใช้เสร็จก็ใช้แอปพลิเคชั่นล็อกจักรยานจอดไว้ตรงไหนก็ได้ แถมยังช่วยลดมลภาวะ ประหยดั คา่ ใช้จา่ ยในการเดนิ ทาง ทส่ี าคญั ราคาถูก เพยี งช่ัวโมงละ 1หยวน หรอื ประมาณ5บาท

แบบฝึกหดั ท้ายบท คาชี้แจง : จงตอบคาถามต่อไปนี้ใหถ้ กู ตอ้ ง 1. สี่สิ่งประดษิ ฐ์ของจนี ( )มอี ะไรบ้าง ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... 2. ในสมัยราชวงศ์ซ่งใต้ ชาวอาหรับเรียกเข็มทิศวา่ อะไร ....................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... 3. ใครคือผคู้ ้นพบแท่นพิมพ์ทข่ี า้ งในสามารถยา้ ยตัวอักษรได้ ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... 4. สส่ี ิ่งประดิษฐย์ ุคใหม่ของจีน( )มีอะไรบ้าง ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... 5. จงบอกขอ้ ดีของการเขา้ สยู่ คุ อนิ เตอร์เนต็ เคล่ือนทีห่ รอื อคี อมเมิรซ์ ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ......................................................................................................................................



第二课 茶 วฒั นธรรมการดม่ื ชา \"ชา\" ในสมัยราชวงศ์ถัง ชาไดร้ บั ยกย่องเปน็ เครอื่ งด่ืมประจาชาตขิ องจนี แล้วศัพท์คาว่าชา หรือ 茶 ก็ถกู บญั ญัติขนึ้ เพือ่ เรียกใบไม้ชนดิ หนงึ่ เมื่อนามาต้มดื่มมกี ลน่ิ หอม ชุ่มคอ ชาวจีนด่ืมชาโดยมีประวัติการด่ืมชามากกว่า4,000ปี ชาเป็นเคร่ืองด่ืมที่ขาดไม่ได้ใน ชวี ติ ประจาวนั ของชาวจีน การเลีย้ งน้าชาเปน็ ประเพณีของชาวจนี เมื่อมีแขกมาเยย่ี มท่บี า้ น รสนิยมในการดม่ื ชา ความเคยชินในการดื่มชาของชาวจีนแต่ละพื้นที่จะไม่เหมือนกัน ในสมัยโบราณชาวจีน นอกเหนือจากนยิ มดื่มชาแล้ว ยงั นยิ มใส่หัวหอม ของ เกลือเป็นส่วนประกอบ พอถึงสมัยราชวงศ์หยวน กลับไม่ใสอ่ ะไรเพิม่ เติมลงไปในชาเลย จนมาถงึ ปจั จุบัน โดยท่ัวไปชาวจีนทางตอนเหนือ นิยมดืม่ ชาดอกไม้ ชาวเมืองมณฑลเจียงซู มณฑลเจ้อเจียงนิยมด่ืมชาเขียว ชาวฝูเจียน ชาวกวางตุ้งนิยมดื่มชาอู่หลง ทางมณฑลยนุ นานนิยมดม่ื ชาผู่เออร์ ชาวมองโกเลีย นิยมด่ืมชาโดยใส่นมและเกลือ เรียกว่า \"หน่ายชา\" 奶茶 ชาวทิเบตนิยมใสเ่ นยและเกลือลงไปในชาเรยี กชาน้วี ่า \"ซูโยวชา\"酥油茶 酥油茶 ชาของชาวทเิ บต

ศิลปะการด่ืมชา ชาวจีนเรียกศลิ ปะการด่ืมชาว่า \"品茶” มขี ้ันตอนดังน้ี เมื่อชงชาเสร็จแล้ว ให้นาชาท่ีชง รนิ ใสแ่ กว้ ชาท่ีเตรียมไว้ ก่อนชิมชาให้สดู กลน่ิ ชาก่อน เรียกวา่ “闻香” จากน้ันพินิจสีของชาในแก้วนั้น เรียกว่า \"观色\" ต่อด้วยการจิบชาและอมหรือกล้ัวภายในปากสักพักแล้วค่อยกลืนหลังจากนั้นค่อย ละเลยี ดชิมชาจนหมดเรยี กวา่ “赏味” ชนิดของชา สว่ นใหญแ่ ลว้ ชาจะมอี ยู่ 5ชนดิ ทเ่ี ป็นทร่ี ู้จกั และเป็นท่ีนิยมของชาวจีน ชาแดง เป็นชาทีเ่ กดิ จากการ หมกั ของใบชา ชาแดงท่มี ีชื่อเสยี งอย่ทู ่ี เมอื งฉีเหมนิ มณฑลอานฮุย ชาเขียว เปน็ ชาที่ไมไ่ ด้ผา่ นกรรมวธิ ีโดยการหมัก ลกั ษณะของน้าชาเป็นสีเขยี วหยกและมกี ล่นิ หอม ชาเขียวท่ี มีชอ่ื เสียงคือ 龙井茶 มณฑลหางโจว เมืองซีหู 碧螺春茶 มณฑลซูโจว เมืองไท่หู 毛峰茶 มณฑลอานฮยุ ชาอู่หลง กรรมวธิ ีในการผลิตชาอูห่ ลง เรม่ิ จากนาใบชามาทาใหแ้ ห้งลบี โดยใช้เวลาทัง้ ส้นิ 6ชัว่ โมง หลังจากนัน้ จงึ นาไปกล้งิ ดว้ ยลกู กล้ิง ฉกี และหมกั ดว้ ยระยะเวลาสนั้ ๆ ชาอู่หลงทมี่ ชี อ่ื เสียงคอื 武夷岩茶 อยูท่ ่ี มณฑลฝเู จยี น ยังมีแหล่งผลิตใหญอ่ ีกคือ ไตห้ วนั ซงึ่ ชาวไต้หวันนิยมด่ืมชาอ่หู ลงมาก

ชาดอกไม้ ชาดอกไม้ หลักๆจะมีส่วนประกอบของ ชาแดง ชาเขียว ชาอหู่ ลง และดอกไม้ทมี่ กี ล่นิ หอมชนิด ตา่ งๆ อบหรือรมเขา้ ด้วยกันเพ่ือใหม้ ีกลิน่ หอมทง้ั ของชาและกลนิ่ ของดอกไม้ ส่วนมากดอกไม้ที่นิยมนามา ทาชาได้แก่ ดอกมะลิ ดอกกหุ ลาบ ดอกเบญจมาศ ดอกหอมหม่ืนล้ี เป็นตน้ ชาอดั เป็นกรรมวธิ ีอกี หน่ึงในการผลิตชา คอื การนาใบชาหมักแลว้ อดั ใหเ้ ปน็ ตามลักษณะทส่ี ะดวกต่อ การเกบ็ รกั ษาไปชาได้นานนับร้อยๆปี ชาอัดท่มี ชี ่ือเสียงไดแ้ ก่ 普洱茶 (ชาผเู่ ออร)์ มณฑลยูนนาน กจิ กรรมทา้ ยบท คาชี้แจง : ให้ผู้เรยี นทากจิ กรรมชงชา

中 国 饮 食 文 化

第三课 中国饮食文化 วัฒนธรรมอาหารจีน 8 กลุ่มอาหารขึ้นช่ือของจีน เนื่องจาก ประเทศจีนเป็นประเทศท่ีมี พื้นท่ีกว้างใหญ่ แต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างทางด้านสภาพภูมิอากาศ ภูมิประเทศ ซ่ึงส่งผลให้ผู้คนที่ อาศัยอยู่ในแต่ละท้องถิ่นมีวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ การดารงชีวิต รวมถึงอาหารการกินที่แตกต่างกัน ออกไป หากกลา่ วถึง \"อาหารจนี \" เลีย่ งไม่ไดท้ ่จี ะต้องกลา่ วถงึ อาหารทอ้ งถนิ่ ทมี่ คี วามโดดเด่นของจีน จีน มีการแบ่งกลุม่ อาหารท้องถ่นิ ออกเป็น 8กล่มุ หลัก ซง่ึ อาหารทัง้ 8กล่มุ ลว้ นมีเอกลักษณ์และความโดดเด่น เฉพาะตวั มดี ังน้ี 1. อาหารเสฉวน หรือ ชวนไช่ เป็นอาหารจีนทีใ่ ช้เคร่ืองเทศและของปาุ มาก เครอื่ งปรุงทเ่ี ป็นเอกลักษณค์ ือพรกิ หอมหรือพริก เสฉวน เปน็ อาหารรสจดั รวมทั้งรสเผด็ รอ้ น ใชเ้ ต้าซเี่ ป็นเครื่องปรงุ ทมี่ เี ครอื่ งเทศมาก อาหารเสฉวนเรมิ่ ขนึ้ ในช่วงปลายยุคสมยั ราชวงศฉ์ นิ และต้นสมัยราชวงศฮ์ ่ัน ตอ่ มายคุ สมัยราชวงศ์ถังมกี ารพฒั นาอย่างรวดเร็ว และในช่วงราชวงศ์หมงิ และราชวงศ์ชิงเปน็ ระยะเวลาทอ่ี าหารเสฉวนได้มชี อ่ื เสียงอยา่ งมาก ปัจจุบนั จะพบ เหน็ รา้ นอาหารเสฉวนกระจายอยทู่ ่วั ทกุ พื้นทบ่ี นโลก และเมอื งท่เี ป็นต้นตารบั ของอาหารเสฉวนคอื เมอื ง เฉิงตแู ละเมอื งฉงชง่ิ จุดเด่นของอาหารเสฉวน จะอยทู่ ี่การให้ความสาคัญในการคดั สรรวตั ถุดิบ พถิ ีพิถนั ใน เร่ืองความโดดเดน่ และสสี ันของอาหาร ส่วนรสชาติน้ันจะเนน้ รสชาติทจ่ี ดั จ้าน เปรีย้ ว หวาน เผด็ ชา และ มนั มาก ซงึ่ รสชาติความเผ็ดแบบชาๆนี่เอง ทก่ี ลายเปน็ เอกลกั ษณเ์ ฉพาะตวั ของอาหารเสฉวน วตั ถดุ ิบหลัก ท่ีทาให้อาหารเสฉวนมรี สชาตเิ ผ็ดชา คอื พริกสด พริกไทย พรกิ เสฉวนและขงิ สด ซง่ึ เป็นวัตถดุ ิบทหี่ าไดง้ า่ ย ในพนื้ ท่ีแถบน้ี นอกจากนก้ี ารปรงุ อาหารเสฉวน ยงั ขน้ึ ชอื่ วา่ \"หน่งึ อยา่ งหนงึ่ รสชาติ ร้อยอยา่ งร้อยรสชาติ\" (一菜一味 ,百菜百味)

2. อาหารกวางตุง้ หรือ เยวไ่ ช่ เป็นอาหารจีนท่ีเด่นด้านการใช้เทคนิคการปรงุ เพราะความสดใหมข่ องอาหารมากที่สุดมักใช้ น้ามันหอยและผักมาก ปรุงเนน้ การปรงุ อาหารไดด้ ูสด รสชาตนิ ่มุ นวล พบวา่ อาหารกวางตุ้ง ได้เร่ิมมีการ บันทึกไว้ตั้งแต่ยุคสมัยฮ่ันตะวันตก ในยุคสมัยราชวงศ์ซ่งใต้ ได้มีการส่งพ่อครัวของราชสานักไปยัง กว่างโจว ต่อมาจนถึงสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วมีการติดต่อการค้า ตา่ งประเทศ ทาใหม้ ีการซึมซบั จดุ เดน่ ของอาหารตะวนั ตกเขา้ มา สว่ นท่ีมาของอาหารกวางตุ้งนั้นมีความ หลากหลาย มีสีสัน พถิ ีพถิ นั ในเรอ่ื งของความสดใหม่ของอาหาร โดยทั่วไปนั้น ในชว่ งฤดรู ้อนและฤดูใบไม้ รว่ งจะเน้นการปรงุ รสชาติคอ่ นข้างจืด แต่ในฤดหู นาวและฤดใู บไม้ผลิน้นั จะปรงุ อาหารให้มีรสชาติเข้มข้น กลมกล่อม 3. อาหารฮกเก้ียน หรือ หมน่ิ ไช่ อาหารฮกเกย้ี นมีตน้ กาเนดิ จากอาเภอหมิน่ โหว (闽候) มณฑลฝเู จ้ียน และเป็นอาหารทมี่ ี วิวัฒนาการมาจากอาหารของเมืองฝูโจว เฉวียนโจวและเซ้ียะเหมิน จุดเด่นของอาหารฮกเกี้ยนอยู่ท่ี หนา้ ตาและสสี ัน และความสดใหม่ของอาหาร เนื่องด้วยมณฑลฝูเจี้ยนอยู่ที่คิดทะเล ทาให้มีอาหารทะเล อดุ มสมบรู ณ์ ดว้ ยเหตุนี้อาหารฮกเกี้ยนสว่ นใหญ่จงึ ใชอ้ าหารทะเลเป็นวตั ถดุ ิบหลกั ในการประกอบอาหาร เด่นด้านการใช้น้าซุป มักใช้ข้าวหมักสีแดงสด โดยนามาหมักเต้าหู้ย้ีสีแดงมีน้าซุปใสท่ีเก่าท่ีสุและใช้ เคร่ืองปรุงบางอย่างจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่นน้าปลาและผงกะหร่ี อาหารที่มีชื่อเสียงคือพระ กระโดดกาแพง

4. อาหารชานตง หรือ หลู่ไช่ กลา่ วกนั ว่าตัง้ แต่ยุคหลังราชวงศ์ซ่งเป็นต้นมา อาหารซานตงได้กลายเป็นตัวแทนของอาหาร ทางตอนเหนอื ซง่ึ ในสมยั ราชวงศ์หมงิ และราชวงศ์ชิง อาหารชานตงได้กลายเป็นอาหารหลักที่ใช้ถวายใน ราชสานัก สว่ นที่มาของอาหารชานตงนั้น ถือเปน็ การผสมผสานและวิวัฒนาการมาจากอาหารของเมือง จหี้ นานและเมืองเจยี วตง โดยจัดเดน่ ของอาหารชานตงน้ัน จะอยู่ท่ีรสชาติสดใหม่และกล่ินที่หอมละมุน รวมถึงความพิถีพิถันในการปรงุ ซุป ท้ังซุปใส(清汤)ที่น้าซุปมีความใส และซุปข้น(奶糖)ที่น้าซุปมีสี ขาวและรสชาตเิ ข้มข้น เปน็ อาหารจนี ทีม่ ีความโดดเดน่ ในดา้ นเป็นอาหารในราชสานกั และไดร้ วมอาหาร ทีไ่ ด้รบั อิทธพิ ลจากชาวแมนจูและชาวมองโกลเขา้ ไว้ดว้ ย เชน่ เป็ดปกั กิ่งและหมอ้ ไฟมองโกเลีย 5. อาหารซโู จว หรอื ซไู ซ่ เกดิ ขึ้นในยุคสมยั ราชวงศ์ซ่งเหนือใต้ของจีน ในยุคสมัยราชวงศ์ถังอาหารซูโจวมีชื่อเสียงคู่กับ อาหารเจ้อเจยี ง ส่วนท่มี าของอาหารซูโจวน้ี ได้ประกอบข้ึนมาจากอาหารเจยี งซู หยางโจว หนานจิง และ เจนิ้ เจียง โดยจดุ เดน่ ของอาหารซโู จวอยทู่ ่ีรสชาตเิ ข้มข้นแต่ยงั ไมจ่ ัดจ้าน และมีความหอมละมุน ในตัวน้า ซปุ มีความข้นแตไ่ ม่เล่ยี น รสชาติกลมกลอ่ ม มีรสเค็มปนหวาน พิถีพิถันในรูปเอกลักษณ์ และการให้สีสัน อาหารตามฤดกู าลทแ่ี ต่งต่างกนั

6. อาหารเจ้อเจียง หรอื เจอ๋ ไช่ อาหารเจ้อเจยี งเปน็ การพฒั นามาจากอาหารเมอื งหังโจว เมอื งหนงิ โป เมอื งซ่าวซงิ จดุ เดน่ ของ อาหารเจ้อเจยี งคอื ความหอม สดใหม่ กรอบและละมนุ ของอาหาร 7. อาหารหหู นาน หรือ เซยี งไช่ เป็นอาหารทพ่ี ัฒนามาจากอาหารของแถบพื้นทลี่ มุ่ แม่น้าเซียง และแถบทะเลสาบต้งถิง ส่วน จุดเด่นของอาหารหูหนาน จะอยู่ท่ีการใช้วัตถุดิบท่ีหลากหลาย ความมันและการให้สีสันของอาหาร โดยวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการประกอบอาหารหูหนานคือ พริกและเนื้อรมควัน ส่วนรสชาติของอาหาร หูหนานจะเน้นท่รี สเปรย้ี วเผด็ (酸辣)เปน็ หลัก 8. อาหารอานฮยุ หรอื ฮุยไช่ อาหารอานฮุยประกอบข้ึนมาจากอาหารของแถบแม่น้าเหยียน แม่น้าโฮว๋ และฮุยโจว โดยจุดเด่นอยู่ท่ีการเลือกสรรวัตถุดิบท่ีเรียบง่าย พิถีพิถันในการใช้ไฟปรุงอาหาร นอกจากนี้ อาหาร อานฮุยจะเนน้ ทีค่ วามมนั และสีสันของอาหาร และในส่วนรสชาติจะให้ความสาคัญกับการรักษารสชาติ ด้ังเดิมของตัววัตถุดิบเอาไว้ ส่วนวัตถุดิบหลักท่ีใช้นามาประกอบอาหารส่วนมากจะใช้อาหารปุาและ อาหารทะเล

แบบฝกึ หัดทา้ ยบท คาชี้แจง : ให้จบั คู่วฒั นธรรมอาหารของจีน8กลมุ่ กบั คณุ สมบตั ขิ องอาหาร .......... 1. อาหารเสฉวน หรอื ชวนไช่ 川菜 .......... 2. อาหารกวางตุ้ง หรือ เยว่ไช่ 粤菜 .......... 3. อาหารฮกเกีย้ น หรอื หม่ินไช่ 闽菜 .......... 4. อาหารชานตง หรอื หลไู่ ช่ 鲁菜 .......... 5. อาหารซโู จว หรอื ซูไซ่ 苏菜 .......... 6. อาหารเจอ้ เจียง หรือ เจ๋อไช่ 浙菜 .......... 7. อาหารหหู นาน หรอื เซียงไช่ 湘菜 .......... 8. อาหารอานฮยุ หรือ ฮยุ ไช่ 徽菜 A. เปน็ อาหารจนี ทม่ี ีความโดดเด่นในดา้ นการเป็นอาหารในราชสานกั B. รสชาติเข้มข้นแตไ่ มจ่ ัดจา้ นและมคี วามหอมละมนุ C. เนน้ รสชาติทีจ่ ัดจา้ น เปรีย้ ว หวาน เผด็ ชา และมนั มาก D. จุดเดน่ คือ ความหอม สดใหม่ กรอบและละมุนของอาหาร E. วัตถดุ บิ หลักทีใ่ ชป้ ระกอบอาหารคือพริกและเน้อื รมควัน F. ให้ความสาคญั กบั การรกั ษารสชาติดงั้ เดมิ ของวัตถุดิบ วัตถดุ บิ สว่ นมากใช้อาหารปุาและ อาหารทะเล G. เดน่ ดา้ นการใช้น้าซปุ อาหารทม่ี ีช่อื เสยี งคือ พระกระโดดกาแพง H. ฤดูรอ้ นและฤดใู บไมร้ ่วงเน้นการปรงุ รสชาตจิ ดื แตใ่ นฤดูหนาวและฤดูใบไมผ้ ลจิ ะปรงุ อาหาร รสชาตเิ ข้มขน้ กลมกลอ่ ม

ภาคผนวก

เฉลยแบบฝึกหัดท้ายบท บทท่ี 1 คาชี้แจง : จงตอบคาถามต่อไปน้ีให้ถกู ต้อง 1. สี่สง่ิ ประดษิ ฐ์ของจนี ( )มีอะไรบ้าง สส่ี งิ่ ประดิษฐข์ องจีน ประกอบด้วย 1.เข็มทิศจีน 2. กระดาษ 3.แทน่ พมิ พ์ 4.ดินปืน 2. ในสมัยราชวงศซ์ ง่ ใต้ ชาวอาหรับเรียกเข็มทิศวา่ อะไร ในสมัยนั้นชาวอาหรบั จะเรียกเขม็ ทศิ ว่า “ตาของกะลาสี” (水手之眼) 3. ใครคอื ผ้คู น้ พบแทน่ พมิ พท์ ข่ี ้างในสามารถยา้ ยตวั อกั ษรได้ นกั ประดษิ ฐ์ชือ่ \"ป้เี ซงิ \" (毕昇) 4. สสี่ ง่ิ ประดษิ ฐย์ ุคใหม่ของจีน( )มอี ะไรบ้าง ส่ิงประดิษฐ์ยุคใหม่ของจนี ประกอบด้วย 1.รถไฟความเรว็ สงู 2.อีคอมเมริ ซ์ 3.การใชจ้ ่ายไรเ้ งินสด 4. จักรยานแชร์ใช้ไร้ท่ีจอด 5. จงบอกขอ้ ดีของการเขา้ สู่ยคุ อนิ เตอรเ์ นต็ เคลอื่ นท่หี รืออีคอมเมิรซ์ กระแสการซอ้ื ของออนไลน์ได้รบั ความนยิ มอยา่ งสูงในจนี ทาให้ธรุ กจิ ประเภทนี้ขยายตัวขึน้ ได้เรื่อยๆ แถมมาดว้ ย อาชพี บรกิ ารขนสง่ ออนไลน์ทเ่ี ตม็ บา้ นเต็มเมืองไปหมด ช่วยเพิม่ งาน เพ่ิม เงนิ กระจายรายไดม้ ากมาย

บทที2่ คาชแ้ี จง : ใหจ้ บั ค่วู ัฒนธรรมอาหารของจีน8กลมุ่ กบั คณุ สมบัติของอาหาร .....C... 1. อาหารเสฉวน หรือ ชวนไช่ 川菜 .....H... 2. อาหารกวางตงุ้ หรอื เยว่ไช่ 粤菜 .....G.... 3. อาหารฮกเกีย้ น หรือ หมนิ่ ไช่ 闽菜 .....A.... 4. อาหารชานตง หรอื หล่ไู ช่ 鲁菜 .....B.... 5. อาหารซโู จว หรอื ซไู ซ่ 苏菜 .....D.... 6. อาหารเจอ้ เจยี ง หรือ เจอ๋ ไช่ 浙菜 .....E.... 7. อาหารหหู นาน หรอื เซียงไช่ 湘菜 .....F.... 8. อาหารอานฮยุ หรือ ฮยุ ไช่ 徽菜

อ้างองิ กิตตญิ า ตยุ้ คา.(2018).เอกสารประกอบการเรียนวชิ ามรดกและวฒั นธรรม. ประจิตร ปอู มจรินทร์.(2019).วฒั นธรรมการกินของจนี .สบื คน้ เมอื่ 1 สงิ หาคม 2563. จากhttps://www.arsomsiam.com.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook