Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบฝึกการอ่านจับใจความ ป.5

แบบฝึกการอ่านจับใจความ ป.5

Published by pear-ka, 2022-08-20 08:04:55

Description: แบบฝึกการอ่านจับใจความ ป.5

Search

Read the Text Version

๑ ใบความรู้ การอ่านจับใจความสาคญั การอ่านจับใจความสาคญั หมายถึง การอ่านเพือ่ คน้ หาความคิดสาํ คญั หรือสาระสาํ คญั ของเรื่องท่ีผเู้ ขียน มุ่งเสนอใหผ้ อู้ ่านทราบ ใจความสาคญั หมายถึง ขอ้ ความท่ีมีสาระคลุมขอ้ ความอื่นๆ ในยอ่ หนา้ หรือเร่ืองน้นั ท้งั หมด (ที่จะทาํ ใหผ้ อู้ ่านสามารถเขา้ ใจเรื่องไดง้ ่าย) โดยมีขอ้ ความ อ่ืนๆ เป็นเพียงส่วนขยายใจความสาํ คญั เท่าน้นั ขอ้ ความหน่ึงหรือตอนหน่ึงจะมี ใจความสาํ คญั เพียงหน่ึงเดียว นอกน้นั เป็นใจความสาํ คญั รองลงไป ตวั อย่าง พอ่ แม่มีหนา้ ที่อบรมสง่ั สอนลูกใหเ้ ป็นคนดี ใหป้ ฏิบตั ิในส่ิงที่ดีงาม เช่น ต้งั ใจเรียนหนงั สือ เช่ือฟังผใู้ หญ่ ใจความสาคญั คือ พอ่ แม่มีหนา้ ที่อบรมสงั่ สอนใหล้ ูกเป็นคนดี ปลาโลมาเป็นสัตวเ์ ล้ียงลูกดว้ ยนม อาศยั อยใู่ นทะเล เป็นสัตวท์ ่ีฉลาด วอ่ งไวนาํ มาฝึ กแสดงท่าวา่ ยน้าํ กระโดดน้าํ ท่าต่าง ๆ ได้ ใจความสาคญั คือ ปลาโลมาเป็นสัตวเ์ ล้ียงลูกดว้ ยนม

๒ ใบความรู้ การอ่านจบั ใจความนิทาน นิทาน หมายถึง เร่ืองราวที่เล่าสืบต่อกนั มา มุ่งใหเ้ ห็นความบนั เทิงสอดแทรก แนวคิด และสอดแทรกแง่คิดหรือแฝงคติสอนใจใหแ้ ก่ผอู้ ่าน หลกั ในการอ่านจบั ใจความ นิทาน ๑. ต้งั ใจอ่าน มีสมาธิในการอ่าน ๒. อ่านเรื่องราวต้งั แต่ตน้ จนจบเร่ือง ๓. พยายามต้งั คาํ ถามจากเรื่องที่อ่าน โดยใชค้ าํ ถาม มีใคร ทาํ อะไร ท่ีไหน เมื่อไร เพราะอะไร และผลเป็นอยา่ งไร ๔. อ่านอยา่ งพจิ ารณา เพอ่ื ตอบคาํ ถามท่ีต้งั ไว้ แลว้ สรุป เรื่องตามความเขา้ ใจโดยการเล่าเรื่อง หรือเขียนเรื่องยอ่ ๕. วเิ คราะห์ความสาํ คญั ของเร่ืองที่อ่าน ลกั ษณะนิสัย ของตวั ละคร การกระทาํ ของตวั ละคร ขอ้ คิดท่ีได้ จากนิทานเพอ่ื เป็นแนวทางในการดาํ เนินชีวติ

๓ แบบฝึ กท่ี ๑ คาชี้แจง นกั เรียนอ่านนิทานเรื่อง “ห่านกบั ไข่ทองคาํ ”แลว้ เขียนเคร่ืองหมาย  หนา้ ขอ้ ความที่ตรงกบั เน้ือเร่ือง และเขียนเคร่ืองหมาย X หนา้ ขอ้ ความ ท่ีไม่ตรงกบั เน้ือเร่ือง (๑๐ คะแนน) นิทานเรื่อง “ห่านกบั ไข่ทองคา” กาลคร้ังหน่ึงนานมาแลว้ มีชายยากจนผหู้ น่ึงเล้ียงห่านไวเ้ พื่อเกบ็ ไข่ไปขาย วนั หน่ึงเขาไดเ้ ขา้ ไปเกบ็ ไข่ในเลา้ ตามปกติทุกวนั ในวนั น้ีเขาไดส้ งั เกตเห็นวา่ มีไข่ ฟองหน่ึงส่องแสงสีเหลืองทองอร่ามแวววาวกร็ ู้สึกแปลกใจ จึงเดินเขา้ ไปเพื่อหยบิ ข้ึนมาดู และเมื่อหยบิ ข้ึนมาแลว้ เขากต็ อ้ งแปลกใจเพราะไข่ฟองน้ีคือไข่ทองคาํ และหลงั จากน้นั ห่านตวั น้ีกไ็ ดอ้ อกไข่ทองคาํ ใหแ้ ก่ชายยากจนผนู้ ้ีทุกเชา้ จนเขา ร่าํ รวยเป็นเศรษฐีไปในท่ีสุด แต่เขากย็ งั คงอยากร่าํ รวยมากกวา่ น้ี อยากใหม้ ี ทรัพยส์ ินเงินทองมากกวา่ ที่เป็นอยู่ เขาจึงบอกกบั ตนเองวา่ “ในทอ้ งของห่านตวั น้ี จะตอ้ งมีไข่ทองคาํ อยมู่ ากมายเป็นแน่” เม่ือคิดไดด้ งั น้นั แลว้ เขาจึงตดั สินใจใชม้ ีด ผา่ ทอ้ งของห่านดู เพ่ือหวงั วา่ จะไดไ้ ข่ทองคาํ มากมายดงั ท่ีเขาคิดไว้ แต่แลว้ เขากต็ อ้ ง ผดิ หวงั เม่ือไม่พบไข่ทองคาํ แมแ้ ต่เพยี งฟองเดียว ในขณะที่ห่านน้นั ไดต้ ายและไม่ สามารถออกไข่ทองคาํ ใหแ้ ก่เขาไดอ้ ีกต่อไป

๔ ตัวอย่าง X ชายยากจนเล้ียงหมูและมา้ ๑. ไข่ทองคาํ กลายเป็นกอ้ นหิน ๒. ชายยากจนขยนั ทาํ มาหากิน ๓. ชายยากจนคิดวา่ ในทอ้ งห่านตอ้ งมีไข่ทองคาํ มากมาย ๔. ห่านออกไข่ทองคาํ ทุกเชา้ ๕. สุดทา้ ยห่านตอ้ งตายและไม่สามารถออกไข่ทองคาํ ไดอ้ ีก ๖. ชายยากจนอยากร่าํ รวยมากกวา่ เดิม ๗. ไข่สีเหลืองแวววาวคือไข่ทองคาํ ๘. ชายยากจนขายไข่ทองคาํ จนกลายเป็นเศรษฐี ๙. ห่านท่ีชายยากจนเล้ียงไม่ยอมออกไข่ ๑๐.ชายยากจนใชม้ ีดผา่ ทอ้ งห่านและมีไข่ทองคาํ มากมาย

๕ แบบฝึ กท่ี ๒ คาชี้แจง นกั เรียนอ่านนิทานเรื่อง นกอินทรีกบั อีกา แลว้ ตอบคาํ ถาม (๑๐ คะแนน) นิทานเร่ือง “นกอนิ ทรีกบั อกี า” วนั หน่ึงมีอีกาหิวโซตวั หน่ึง บินมาเกาะอยทู่ ่ีบนตน้ ไม้ ใกลๆ้ กบั หนา้ คอกเล้ียงแกะแห่งหน่ึงเขา้ อยา่ งบงั เอิญ “อ๋า อ๋า อา้ วนั น้ีขา้ ยงั ไม่ไดก้ ินอะไรและไม่มีอะไรตกถึงทอ้ งมาต้งั แต่เชา้ แลว้ หิวจงั เลย เฮอ้ ...หิว” มนั พดู ดว้ ยความข้ีเกียจ แต่ตาของมนั กจ็ อ้ งมองไปที่ ฝงู แกะที่กาํ ลงั หากินและเลม็ หญา้ กนั อยทู่ ี่ทุ่งกวา้ งหนา้ คอกเล้ียงแกะ เผอิญขณะน้นั ไดม้ ีนกอินทรีตวั หน่ึงบินผา่ นมา เมื่อมนั แลเห็น ลูกแกะตวั หน่ึงเดินอยู่ กบ็ ินโฉบลงมา ดว้ ยความไว และเฉ่ียวเอาลูกแกะท้งั ตวั ติดกรงเลบ็ ของมนั ข้ึนไป สู่ทอ้ งฟ้าเบ้ืองบน อีกาเมื่อแลเห็นเช่นน้นั มนั ก็ นึกอิจฉานกอินทรีตวั น้นั ข้ึนมาเป็นอยา่ งมาก “แหม...ช่างน่าอิจฉาเจา้ นกอินทรีมนั เสียเหลือเกิน ใจกลา้ โฉบแกะ ข้ึนไปไดท้ ้งั ตวั เลย มนั คงจะอ่ิมทอ้ งและสบายไปท้งั วนั เลยล่ะ” มนั คิดและมองตามนกอินทรีท่ีโฉบลูกแกะ และกาํ ลงั บินหนีไป และมนั เริ่มคิดอยากที่จะกินแกะไดอ้ ยา่ งนกอินทรีบา้ ง มนั จึงบินตรงข้ึนไปสู่ทอ้ งฟ้า บินสูงข้ึนไปจนสูงท่ีสุด เท่าท่ีมนั จะทาํ ได้ แลว้ พงุ่ ถลาตรงแน่วลงมาที่กลางฝงู แกะ และขณะท่ีมนั บินถลาลงมาน้นั มนั กใ็ ชส้ ายตาของมนั

๖ มองเลือกหาแกะตวั ที่ใหญ่ที่สุด หมายจะกินใหอ้ ิ่มและหวงั เหน่ือยทีเดียวตามนิสัยโลภ มากของมนั มนั จึงเลือกแกะตวั ท่ีใหญ่ที่สุดและอว้ นที่สุดในฝงู น้นั ทนั ที แลว้ มนั กพ็ งุ่ ตรงเขา้ โฉบลงไป และเอากรงเลบ็ อนั นอ้ ยนิดของมนั จิกลงท่ีหลงั ของแกะไวอ้ ยา่ งมน่ั คง จนเลบ็ ของมนั ติดแน่นและพนั อยกู่ บั ขนแกะ มนั พยายามท่ีจะบินและยกแกะข้ึนไปสู่ เบ้ืองบนใหไ้ ด้ แต่ดว้ ยแกะตวั ที่มนั เลือกน้นั ท้งั ตวั ใหญ่และหนกั มากนนั่ เอง ไม่วา่ มนั จะพยายามบินเท่าไหร่กไ็ ม่เป็นผล เลบ็ ของมนั พนั อยกู่ บั ขนแกะน้นั แน่นข้ึนไปทุกที ๆ ไม่นานคนเล้ียงแกะกเ็ ห็นมนั เขา้ แลว้ วงิ่ มาจบั มนั ไวไ้ ด้ เขาตีมนั ดว้ ยไมจ้ นน่วมไปหมด ท้งั ตวั และเขายงั ขริบขนปี กของมนั จนเห้ียนจนบินไปไหนไม่ได้ ตกเยน็ เขากย็ งั เอามนั ไปใหล้ ูกเล่น ลูกเม่ือเห็นมนั กถ็ ามวา่ “พ่อจ๋า นี่เอานกอะไรมาล่ะพ่อ” พอ่ ตอบและนึกขาํ ไปดว้ ยวา่ “มนั คงคิดวา่ มนั เป็นนกอินทรี จึงพยายามล่าเหยอ่ื อยา่ งอินทรี แต่ลูกกเ็ ห็นน่ี วา่ มนั เป็นเพียงอีกาตวั หน่ึงเท่าน้นั ”

๗ กจิ กรรมที่ ๑ นกั เรียนเขียนแผนผงั ตวั ละครท่ีปรากฏในนิทานเร่ือง นกอินทรีกบั อีกา (๕ คะแนน) ตวั ละครในเร่ือง นกอนิ ทรีกบั อกี า

๘ กจิ กรรมท่ี ๒ นกั เรียนตอบคาํ ถามต่อไปน้ี (๕ คะแนน) ๑. นกอินทรีทาํ อะไร ๒. เหตุการณ์น้ีเกิดข้ึนท่ีไหน ๓. นกั เรียนคิดวา่ อีกามีนิสัยอยา่ งไร ๔. เพราะเหตุใดอีกาจึงถูกคนเล้ียงแกะจบั ได้ ๕. นกั เรียนไดข้ อ้ คิดอะไรจากนิทานเร่ืองน้ี

๙ แบบฝึ กท่ี ๓ คาชี้แจง นกั เรียนอ่านนิทานเรื่อง คา้ งคาวเลือกพวก แลว้ ตอบคาํ ถาม (๑๐ คะแนน) นิทานเร่ือง “ค้างคาวเลือกพวก” กาลคร้ังหน่ึงนานมาแลว้ มีคา้ งคาวตวั หน่ึงมนั ถือวา่ ตนมีปี กเหมือนนก เเละกม็ ีหูเหมือนสตั วอ์ ่ืนทว่ั ๆ ไป ดงั น้นั เม่ือนกยกพวกไปต่อสู้กบั สัตวอ์ ื่นๆ คา้ งคาวกข็ อตวั …ไม่เขา้ ขา้ งฝ่ ายใดโดยทาํ ตวั เป็นกลาง แต่พอเมื่อพวกนกน้นั มีท่าทีวา่ จะชนะ…คา้ งคาวกจ็ ะ ประกาศตวั แลว้ ไปเขา้ ขา้ งกบั พวกนกทนั ที ต่อมาพวกนกกาํ ลงั พลาดท่าเสียทีเเก่สตั วอ์ ื่นๆ… คา้ งคาวกผ็ ละจากพวกนก ไปเขา้ พวกกบั สตั วอ์ ื่นๆ ต่อมาพวกนก ต่อสูจ้ นใกลจ้ ะไดร้ ับชยั ชนะ… คา้ งคาวกก็ ลบั มาอยกู่ บั พวกนกอีก เมื่อนกกบั สัตวอ์ ่ืนๆ ทาํ สัญญาสงบศกึ เเละเป็นมิตรต่อกนั สัตวท์ ้งั หลายต่างกพ็ ากนั ขบั ไล่คา้ งคาว ไม่ยอมใหเ้ ขา้ พวกดว้ ย คา้ งคาวอบั อายจึงตอ้ งไปซ่อนตวั อยใู่ นถ้าํ … และจะออกจากถ้าํ ไปหาอาหารในตอนกลางคืนเท่าน้นั

๑๐ กจิ กรรมที่ ๑ นกั เรียนตอบคาํ ถามต่อไปน้ี (๕ คะแนน) ๑. นิทานเรื่องน้ีมีสัตวอ์ ะไรบา้ ง ๒. เหตุการณ์น้ีเกิดข้ึนท่ีไหน ๓. คา้ งคาวมีนิสยั อยา่ งไร ๔. เพราะเหตุใดสัตวท์ ้งั หลายจึงพากนั ขบั ไล่คา้ งคาว ๕. นิทานเรื่องน้ีใหข้ อ้ คิดอยา่ งไร

๑๑ กจิ กรรมที่ ๒ ใหน้ กั เรียนเลือกคาํ ตอบขอ้ ที่ถูกตอ้ งท่ีสุดเพียงขอ้ เดียว (๕ คะแนน) ๑. คา้ งคาวมีรูปร่างลกั ษณะอยา่ งไร ก. มีปี ก มีหู ข. มีหู ไม่มีปี ก ค. มีปี ก ไม่มีขา ง. มีปี ก ไม่มีหาง ๒. สตั วใ์ นนิทานแบ่งออกเป็นกี่พวก ก. ๔ พวก ข. ๓ พวก ค. ๒ พวก ง. ๑ พวก ๓. เมื่อมีการต่อสูก้ นั คา้ งคาวเลือกเขา้ ขา้ งสัตวพ์ วกใด ก. พวกนก ข. พวกผเี ส้ือ ค. พวกสตั วอ์ ื่นๆ ง. ไม่เขา้ ขา้ งฝ่ายใด ๔. เหตุการณ์ใดเกิดข้ึนก่อน ก. สัตวท์ ้งั หลายพากนั ขบั ไล่คา้ งคาว ข. นกกบั สตั วอ์ ่ืนๆทาํ สญั ญาสงบศึกกนั ค. เมื่อนกกบั สัตวอ์ ื่นๆต่อสู้กนั คา้ งคาวจะไม่เขา้ ขา้ งฝ่ายใด ง. เม่ือพวกนกต่อสูช้ นะคา้ งคาวจะประกาศตวั ไปเขา้ ขา้ งพวกนกทนั ที ๕. เพราะเหตุใดพวกสตั วท์ ้งั หลายจึงพากนั ขบั ไล่คา้ งคาว ก. เพราะคา้ งคาวไม่มีความจริงใจ ข. เพราะคา้ งคาวมีนิสยั ชอบลกั ขโมย ค. เพราะคา้ งคาวไม่มีหูเหมือนสัตวอ์ ื่นๆ ง. เพราะคา้ งคาวออกหากินในเวลากลางคืน

๑๒ แบบฝึ กท่ี ๔ คาชี้แจง นกั เรียนอ่านนิทานเรื่อง นกขมิน้ นอ้ ยผอู้ ารี แลว้ ตอบคาํ ถาม (๑๐ คะแนน) นิทานเรื่อง “นกขมนิ้ น้อยผู้อารี” คร้ังหน่ึงนานมาแลว้ มีนกขมิน้ ตวั หน่ึงอาศยั อยใู่ นป่ า ทาํ รังอยบู่ นตน้ ไมต้ น้ หน่ึง โดยเลือกเอาตรงง่ามไมส้ ูงๆ คุม้ แดด คุม้ ฝนและค่อนขา้ งปลอดภยั จากอนั ตรายท่ีจะมาจากสัตวร์ ้าย และคนร้าย เจา้ นกขมิน้ เหลืองอ่อนนอนอยบู่ นรังอยา่ งสงบสุขเรื่อยมา คราวหน่ึงเกิด ฝนตกชุกติดต่อกนั มาหลายวนั ไม่วา่ ฝนจะตกมาหนกั หนาขนาดไหน กไ็ ม่ทาํ ใหเ้ จา้ นกขมิ้นเดือดร้อนอะไรเลย เพราะรังของมนั ป้องกนั ลมและฝนไดเ้ ป็นอยา่ งดี ท่ีใกล้ ๆ รังของนกขมิ้น มีลิงตวั หน่ึงนงั่ หลบฝนอยู่ มนั เปี ยกปอน ไปท้งั ตวั นงั่ ส่นั งนั งกจนนกขมิ้นอดสงสารไม่ได้ จึงร้องถามวา่ “พ่ลี ิงจ๋า.. ท่านพม่ี ีลกั ษณะเหมือนอยา่ งมนุษยแ์ ต่ทาํ ไมจึงไม่สร้าง บา้ นอยอู่ ยา่ งมนุษยล์ ะจะ๊ มาทนตากฝนอยทู่ าํ ไม” ลิงตอบนกขมิ้น วา่ “เม่ือก่อนน้ีฉนั อาศยั อยใู่ นถ้าํ ซ่ึงมีท้งั อาหารและน้าํ อยรู่ อบ ๆ บริเวณถ้าํ …แต่ตอนน้ีไดม้ ีลิงแม่ลูกอ่อนหลายตวั มาอาศยั อย.ู่ .. ฉนั สงสารแม่ลูกอ่อนเหล่าน้นั ไม่อยากแยง่ อาหาร…ฉนั กต็ อ้ งออกมาหาท่ีอยใู่ หม่ แต่ยงั ไม่ทนั ไดท้ าํ ท่ีอยอู่ าศยั เลย…ฝนกต็ กหนกั มาหลายวนั แลว้ แต่ถา้ ฝนหยดุ ฉนั อยากจะทาํ ที่อยใู่ กลๆ้ กบั เจา้ ไดไ้ หม!” นกขมิ้นนอ้ ยตอบวา่ “ไดซ้ ิจะ๊ พี่ลิง เพราะฉนั กอ็ ยตู่ วั เดียวจะ ไดม้ ีเพ่ือน” ลิงดีใจ และลงมือทาํ ที่อยอู่ าศยั ใกลก้ บั รังของนกขมิน้ จากน้นั มาลิงกบั นกขมิน้ กเ็ ป็นเพอ่ื นท่ีดีต่อกนั ช่วยกนั คิดแกป้ ัญหาหรือเม่ือมีความทุกข…์ กป็ รึกษา ร่วมกนั คิดแกป้ ัญหา

๑๓ ๑. นกั เรียนเขียนตวั ละครที่ปรากฏในนิทานเร่ือง นกขมิน้ นอ้ ยผอู้ ารี ( ๒ คะแนน) ๒. นกั เรียนอธิบายลกั ษณะนิสยั ของตวั ละคร (๒ คะแนน) ลกั ษณะนิสัยของนกขมนิ้ น้อย ลกั ษณะนิสัยของลงิ ๓. นกั เรียนบอกเหตุการณ์สาํ คญั ในนิทาน (๕ คะแนน) เหตุการณ์ที่ ๑ เหตุการณ์ท่ี ๒ เหตุการณ์ท่ี ๓ เหตุการณ์ที่ ๔ เหตุการณ์ที่ ๕ ๔. นกั เรียนบอกขอ้ คิดท่ีไดจ้ ากการอ่านนิทาน (๑ คะแนน)

๑๔ แบบฝึ กที่ ๕ คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนอ่านนิทานแลว้ เลือกคาํ ตอบที่ถูกตอ้ งท่ีสุด (๑๐ คะแนน) อ่านนิทานต่อไปนีแ้ ล้วตอบคาถามข้อ ๑ – ๕ นิทานเรื่อง “หนูนากบั หนูบ้าน” วนั หน่ึง หนูนาเชิญหนูบา้ นซ่ึงเป็นญาติให้มาเที่ยวบา้ นของตน เมื่อหนู บา้ นไดพ้ บเห็นชีวิตที่อดอยากและลาํ บากของหนูนา หนูบา้ นจึงกล่าวว่า “ทาํ ไม จึงตอ้ งทนอยู่กับความทุกข์ จงไปอยู่กับพี่เถิด เพราะบ้านคนมีอาหารให้กิน มากมาย” หนูนาตดั สินใจเดินทางไปกบั หนูบา้ น เมื่ออยใู่ นบา้ นคน หนูนาได้ นอนในท่ีสุขสบาย มีอาหารอุดมสมบูรณ์จริง แต่ตอ้ งคอยหลบหนีเจา้ ของบา้ นและหมาอีก หลายตวั หนูนาจึงพูดกบั หนูบา้ นว่า “พ่ีหนูบา้ น ฉนั ชอบอยู่ในท่ีท่ีสงบเหมือน อยา่ งท่ีบา้ นฉนั แมอ้ าหารจะขาดแคลนและไม่สะดวกสบาย กย็ งั ดีกว่าจะมาอยใู่ น ที่ที่มีแต่อนั ตรายและความหวาดกลวั เช่นน้ี”

๑๕ ๑. หนูนาชอบอาศยั อยสู่ ถานที่แบบใด ก. วนุ่ วาย ข. เส่ียงตาย ค. เสียงดงั ง. เงียบสงบ ๒. นิทานเรื่องน้ีใหข้ อ้ คิดอยา่ งไร ก. การพอใจในส่ิงที่ตนเองมีอยู่ ข. การรู้จกั เอาใจเขามาใส่ใจเรา ค. การรู้จกั เสียสละและใหอ้ ภยั ผอู้ ื่น ง. การรู้จกั รับฟังความคิดเห็นของผอู้ ่ืน ๓. นิทานเร่ืองน้ีเป็นการสนทนาของใคร ก. หนูนา กบั หนูผี ข. หนูนา กบั หนูบา้ น ค. หนูบา้ น กบั หนูตะเภา ง. หนูตะเภา กบั หนูแฮมส์เตอร์ ๔. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง ก. หนูนาไปเยย่ี มบา้ นของหนูบา้ น ข. หนูบา้ นจดั งานเล้ียงจึงเชิญหนูนา ค. หนูนาเชิญหนูบา้ นมาบา้ นของตน ง. หนูบา้ นและหนูนาพากนั ไปเล่นในบา้ นของคน ๕. เพราะเหตุใดหนูนาจึงยา้ ยไปอยกู่ บั หนูบา้ น ก. มีอาหารท่ีอุดมสมบูรณ์ ข. อยากรู้จกั ผคู้ นในเมือง ค. อยากไปตามหาญาติพนี่ อ้ ง ง. อยากหลบซ่อนเจา้ ของบา้ นและสุนขั

๑๖ อ่านนิทานต่อไปนีแ้ ล้วตอบคาถามข้อ ๖ – ๑๐ นิทานเรื่อง “สองพนี่ ้องแบ่งของ” มีชาวนาผูห้ น่ึงมีบุตรสาวอยู่สองคน วนั หน่ึงชาวนาอยากจะทาํ การทดลอง ปัญญาของบุตรท้งั สองของตน ชาวนาจึงส่งแตงโมให้กบั บุตรสาวท้งั สองไป ๑ ผล โดยบอกวา่ ใหไ้ ปแบ่งกนั กินแต่จะตอ้ งแบ่งใหเ้ ท่าๆกนั เพ่ือจะไดไ้ ม่ตอ้ งมานง่ั เถียงกนั ทะเลาะกนั เรื่องใครได้มากกว่าน้อยกว่า ถา้ แบ่งไดไ้ ม่เท่ากนั แลว้ เกิดเถียงกนั หรือ ทะเลาะกนั ข้ึน ก็จะตอ้ งถูกลงโทษท้งั สองคนเป็ นแน่ เด็กท้งั สองคนเม่ือไดร้ ับแตงโม มาแลว้ ก็ไม่รู้ว่าจะตอ้ งแบ่งกนั อย่างไรจึงจะสามารถแบ่งไดเ้ ท่าๆกนั ดว้ ยกลวั ว่าตน น้นั จะตอ้ งถูกทาํ โทษ ในท่ีสุดจึงตกลงกนั ว่าจะใชว้ ิธีการดงั น้ี โดยที่เดก็ ท้งั สองคนน้นั เห็นวา่ เป็นวธิ ีที่ยตุ ิธรรมท่ีสุด คือ ถา้ หากใครตอ้ งเป็นคนท่ีผ่าแตงโม คนน้นั จะตอ้ งเป็น ฝ่ ายเลือกทีหลงั และจะตอ้ งยอมให้ฝ่ ายท่ีไม่ใช่เป็นคนผ่าเป็นฝ่ ายเลือกก่อน ท้งั น้ีกเ็ พื่อ ป้องกนั ไม่ใหค้ นผา่ ลาํ เอียง โดยผา่ เป็นชิ้นใหญ่ชิ้นหน่ึงและชิ้นเลก็ ชิ้นหน่ึง แลว้ คนท่ีผ่า รีบเลือกเอาชิ้นใหญ่ไปเป็นของตนก่อน เมื่อเด็กท้งั สองผ่าแตงโมและแบ่งกนั เสร็จแลว้ จึงรีบวง่ิ ไปเล่าใหบ้ ิดาฟัง เมื่อบิดาไดฟ้ ังดงั น้นั กพ็ อใจในสติปัญญาของบุตรสาวท้งั สอง น้นั มาก ๖. เหตุการณ์ใดเกิดข้ึนก่อน ก. บุตรสาวเล่าวธิ ีการแบ่งแตงโมใหบ้ ิดาฟัง ข. บุตรสาวของชาวนาคิดวธิ ีการแบ่งแตงโมใหเ้ ท่ากนั ค. ชาวนาใหบ้ ุตรสาวสองคนแบ่งแตงโม ๑ ผล ใหเ้ ท่าๆกนั ง. บุตรสาวท้งั สองคนผา่ แตงโม โดยผเู้ ป็นผผู้ า่ แตงโมจะเป็นฝ่ ายเลือกทีหลงั

๑๗ ๗. บุตรสาวท้งั สองใชว้ ธิ ีใดในการแบ่งแตงโมใหเ้ ท่าๆกนั ก. ใชม้ ีดผา่ แตงโมแลว้ ชงั่ น้าํ หนกั ใหเ้ ท่าๆกนั ข. ผทู้ ่ีผา่ แตงโมจะเป็นผเู้ ลือกชิ้นแตงโมก่อน ค. ผทู้ ่ีผา่ แตงโมจะเป็นผเู้ ลือกชิ้นแตงโมทีหลงั ง. ใชม้ ีดผา่ แตงโมแลว้ ใหพ้ อ่ เป็นผตู้ ดั สินวา่ ใครจะไดส้ ่วนไหน ๘. นิทานเรื่องน้ีใหข้ อ้ คิดอยา่ งไร ก. ควรใชช้ ีวติ อยา่ งประหยดั อดออม ข. ควรมีความซื่อสตั ยส์ ุจริตต่อหนา้ ที่ ค. การใชป้ ัญญาจะสามารถแกป้ ัญหาต่างๆได้ ง. ความขยนั อดทน เป็นหนทางสู่ความสาํ เร็จ ๙. นิทานเร่ือง สองพีน่ อ้ งแบ่งของ มีตวั ละครคือใครบา้ ง ก. ชาวนา นอ้ งของชาวนา ข. ชาวนา พ่ชี ายของชาวนา ค. ชาวนา พ่ีสาวของชาวนา ง. ชาวนา ลูกสาวของชาวนา ๑๐. เพราะเหตุใดชาวนาจึงใหบ้ ุตรสาวท้งั สองคนแบ่งแตงโมใหเ้ ท่าๆกนั ก. เพราะตอ้ งการใหล้ ูกไดก้ ินแตงโม ข. เพราะตอ้ งการใหล้ ูกรู้วธิ ีการผา่ แตงโม ค. เพราะตอ้ งการใหล้ ูกแบ่งแตงโมใหผ้ อู้ ื่น ง. เพราะตอ้ งการทดลองปัญญาของลูกท้งั สองคน

๑๘ ใบความรู้ การอ่านจบั ใจความสาคญั การอ่านจับใจความสาคญั หมายถึง การอ่านเพือ่ คน้ หาความคิดสาํ คญั หรือสาระสาํ คญั ของเร่ืองท่ีผเู้ ขียนมุ่งเสนอใหผ้ อู้ ่านทราบ ใจความสาคญั หมายถึง ขอ้ ความท่ีมีสาระคลุม ขอ้ ความอื่นๆ ในยอ่ หนา้ หรือเร่ืองน้นั ท้งั หมด (ท่ีจะทาํ ใหผ้ อู้ ่านสามารถเขา้ ใจเร่ือง ไดง้ ่าย) โดยมีขอ้ ความอ่ืนๆ เป็นเพียงส่วน ขยายใจความสาํ คญั เท่าน้นั ขอ้ ความหน่ึง หรือตอนหน่ึงจะมี ใจความสาํ คญั เพยี งหน่ึง เดียว นอกน้นั เป็นใจความสาํ คญั รองลงไป ตวั อย่าง “ไทยน้ีรักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด เอกราชจะไม่ใหใ้ ครข่มขี่ สละเลือด ทุกหยาดเป็นชาติพลี เถลิงประเทศชาติไทย ทวมี ีชยั ไชโย” ใจความสาคญั คือ ความรักชาติไทย

๑๙ ใบความรู้ การอ่านจบั ใจความบทเพลง บทเพลงเป็นงานเขียนประเภทจรรโลงใจ เป็นงานเขียนท่ีช่วยให้ จิตใจมีความประณีตข้ึนเป็นการผอ่ นคลายอารมณ์เครียด ผอู้ ่านควรอ่าน ดว้ ยความต้งั ใจ ทาํ ใจใหส้ บายและใชจ้ ินตนาการตามไปดว้ ย หลกั ในการอ่านจบั ใจความบทเพลง ๑. ใหน้ กั เรียนฝึกอ่านอยา่ งรวดเร็ว โดยใชว้ ธิ ีการ กวาดสายตาจากซา้ ยไปขวาเพ่ือพิจารณา รายละเอียดของขอ้ ความบทเพลงในแต่ละยอ่ หนา้ ๒. ฝึ กต้งั คาํ ถามจากบทเพลงท่ีอ่าน โดยใชค้ าํ ถาม บทเพลงเก่ียวกบั เรื่องอะไร ผเู้ ขียน มีจุดมุ่งหมาย อยา่ งไร เป็นตน้ ๓. อ่านอยา่ งพิจารณา เพ่อื ตอบคาํ ถามท่ีต้งั ไว้ ๔. ใหน้ กั เรียนสรุปสาระสาํ คญั ตามความเขา้ ใจโดย การเล่าเร่ือง หรือเขียนสรุปยอ่

๒๐ แบบฝึ กทกั ษะที่ ๖ คาชี้แจง นกั เรียนอ่านบทเพลงต่อไปน้ีแลว้ เขียนเรียงลาํ ดบั เหตุการณ์ โดยเขียน ตวั เลข ๑ – ๑๐ หนา้ ขอ้ ความท่ีกาํ หนดให้ (๑๐ คะแนน) เพลงส้ มตา เน้ือเพลง เพลงพระราชนิพนธใ์ นสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ต่อไปน้ีจะเล่าถึงอาหารอร่อย คือส้มตาํ กินบ่อยๆรสชาติแซบดี วธิ ีทาํ กง็ ่าย จะบอกไดต้ ่อไปน้ี มนั เป็นวธิ ีพิเศษเหลือหลาย ไปซ้ือมะละกอ ลูกพอเหมาะเหมาะ สบั สบั เฉาะเฉาะ ไม่ตอ้ งมากมาย ตาํ พริกกบั กระเทียม ยอดเยย่ี มกลิ่นอาย น้าํ ปลา มะนาว น้าํ ตาลทราย น้าํ ตาลปี๊ บถา้ มี ปรุงรสใหแ้ ซบหนอ ใส่มะละกอลงไป ออ้ ! อยา่ ลืมใส่ กงุ้ แหง้ ป่ นของดี มะเขือเทศเร็วเขา้ เอาถว่ั ฝักยาวใส่เร็วร่ี เสร็จสรรพแลว้ ซี ยกออกจากครัว กินกบั ขา้ วเหนียว เที่ยวแจกใหท้ วั่ กล่ินหอมยวนยว่ั น่าน้าํ ลายไหล จดตาํ ราจาํ สม้ ตาํ ลาวเอาตาํ รามา ใครหม่าํ เกินอตั รา ระวงั ทอ้ งจะพงั ขอแถมอีกนิด แลว้ จะติดใจใหญ่ ไก่ยา่ งดว้ ยเป็นไร อร่อยแน่จริงเอย

๒๑ ___________ ใส่น้าํ ปลา มะนาว น้าํ ตาลทราย ___________ วธิ ีการทาํ สม้ ตาํ ___________ ปรุงรสใหอ้ ร่อย ___________ กินกบั ขา้ วเหนียวและไก่ยา่ ง ___________ ใส่มะเขือเทศ และถว่ั ฝักยาว ___________ ซ้ือมะละกอลูกพอดี ___________ ใส่กงุ้ แหง้ ป่ น ___________ ใส่มะละกอลงไปในครก ___________ สบั มะละกอไม่ตอ้ งมาก ___________ ตาํ พริกกบั กระเทียม

๒๒ แบบฝึ กทักษะท่ี ๗ คาชี้แจง นกั เรียนอ่านบทเพลงแลว้ เขียนเครื่องหมาย  หนา้ ขอ้ ความท่ีตรงกบั เน้ือเพลง และเขียนเคร่ืองหมาย X หนา้ ขอ้ ความท่ีไม่ตรงกบั เน้ือเพลง (๑๐ คะแนน) เพลงหน้าทีเ่ ดก็ เดก็ เอ๋ยเดก็ ดี ตอ้ งมีหนา้ ท่ีสิบอยา่ งดว้ ยกนั เดก็ เอ๋ยเดก็ ดี ตอ้ งมีหนา้ ที่สิบอยา่ งดว้ ยกนั หน่ึง นบั ถือศาสนา สอง รักษาธรรมเนียมมนั่ สาม เช่ือพอ่ แม่ครูอาจารย์ ส่ี วาจาน้นั ตอ้ งสุภาพอ่อนหวาน หา้ ยดึ มน่ั กตญั ํู หก เป็นผรู้ ู้รักการงาน เจด็ ตอ้ งศึกษาใหเ้ ช่ียวชาญ ตอ้ งมานะบากบน่ั ไม่เกียจไม่คร้าน แปด รู้จกั ออมประหยดั เกา้ ตอ้ งซื่อสัตยต์ ลอดกาล น้าํ ใจนกั กีฬากลา้ หาญ ใหเ้ หมาะกบั กาลสมยั ชาติพฒั นา สิบ ทาํ ตนใหเ้ ป็นประโยชน์ รู้บาปบุญคุณโทษ สมบตั ิชาติตอ้ งรักษา เดก็ สมยั ชาติพฒั นา จะเป็นเดก็ ท่ีพาชาติไทยเจริญ

๒๓ ตวั อย่าง  หนา้ ที่ของเดก็ มี ๑๐ ประการ ๑. ดีตอ้ งเอาแต่ใจตนเอง ๒. เดก็ ดีตอ้ งพดู จาสุภาพอ่อนหวาน ๓. เดก็ ดีตอ้ งเชื่อฟังพอ่ แม่ ครู อาจารยเ์ ดก็ ๔. เดก็ ดีตอ้ งขยนั หมน่ั เพียร ไม่เกียจคร้าน ๕. เดก็ ดีตอ้ งมีความซื่อสตั ยต์ ่อตนเองและผอู้ ่ืน ๖. เดก็ ดีตอ้ งแต่งกายทนั สมยั ใชข้ องราคาแพง ๗. เดก็ ดีตอ้ งรู้จกั ประหยดั อดออม ๘. เดก็ ดีตอ้ งมีน้าํ ใจ รู้จกั ช่วยเหลือผอู้ ื่น ๙. เดก็ ดีตอ้ งไม่ยอมแพใ้ คร ตอ้ งชนะเทา่ น้นั ๑๐. เดก็ ดีตอ้ งมกั ใหญ่ใฝ่ สูง

๒๔ แบบฝึ กทกั ษะที่ ๘ คาชี้แจง นกั เรียนอ่านบทเพลงแลว้ เขียนค่านิยมที่ปรากฏในเน้ือเพลง ลงในช่องวา่ ง ใหถ้ ูกตอ้ ง (๑๐ คะแนน) เพลงค่านิยม ๑๒ ประการ คาํ ร้อง :พนั เอก สมศกั ด์ิ เตียสุวรรณ ทาํ นอง :ร้อยเอก สุระชยั ถวลิ ไพร หน่ึงรักชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ สองซ่ือสตั ย์ เสียสละ อดทนได้ สามกตญั ํู พ่อแม่ สุดหวั ใจ ส่ีมุ่งใฝ่ เล่าเรียน เพียรวชิ า หา้ รักษา วฒั นธรรม ประจาํ ชาติ หกไม่ขาด ศลี ธรรม ศาสนา เจด็ เรียนรู้ อธิปไตย ของประชา แปดรักษา วนิ ยั กฏหมายไทย เกา้ ปฏิบตั ิ ตามพระราชดาํ รัส สิบไม่ขาด พอเพยี ง เล้ียงชีพได้ สิบเอด็ ตอ้ ง เขม้ แขง็ ท้งั กายใจ สิบสองไซร้ คิดอะไร ใหส้ ่วนรวม

๒๕ ค่านิยม ๑๒ ประการ ตวั อย่าง รักชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์

๒๖ แบบฝึ กทกั ษะท่ี ๙ คาชี้แจง นกั เรียนอ่านบทเพลงแลว้ ตอบคาํ ถามใหถ้ ูกตอ้ ง (๑๐ คะแนน) เพลง ใครหนอ คาํ ร้อง/ทาํ นอง สุรพล โทณะวณิก ใครหนอ รักเรา เท่าชีวี ใครหนอ ปราณี ไม่มีเสื่อมคลาย ใครหนอ รักเราใช่เพียงรูปกาย รักเขาไม่หน่าย มิคิดทาํ ลาย ใครหนอ ใครหนอ เห็นเรา เศร้าทรวงใน ใครหนอ เอาใจปลอบเราเรื่อยมา ใครหนอ รักเราดงั ดวงแกว้ ตา รักเขากวา้ งกวา่ พ้ืนพสุธา นภากาศ จะเอาโลก มาทาํ ปากกา แลว้ เอานภา มาแทน กระดาษ เอาน้าํ หมด มหาสมุทรแทนหมึกวาด ประกาศ พระคุณไม่พอ ใครหนอ รักเรา เท่าชีวนั (เท่าชีวนั ) ใครหนอ ใครกนั ใหเ้ ราขี่คอ (คุณพ่อ คุณแม่) ใครหนอ ชกั ชวนดูหนงั ส่ีจอ รู้แลว้ ละก็ อยา่ มวั ร้ังรอ ทดแทนบุญคุณ ใครหนอ รักเรา เท่าชีวนั (เท่าชีวนั ) ใครหนอ ใครกนั ใหเ้ ราขี่คอ (คุณพอ่ คุณแม่) ใครหนอ ชกั ชวนดูหนงั สี่จอ รู้แลว้ ละก็ อยา่ มวั ร้ังรอ ทดแทนบุญคุณ

๒๗ ๑. จุดประสงคใ์ นการเขียนบทเพลงน้ีคืออะไร ตอบ............................................................................................................................. ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ๒. เน้ือหาของบทเพลงกล่าวถึงอะไร ตอบ............................................................................................................................. ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ๓. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไรเมื่อไดอ้ ่านบทเพลงน้ี ตอบ.............................................................................................................................. .......................................................................................................................... .......................................................................................................................... ๔. นกั เรียนไดป้ ระโยชนอ์ ยา่ งไรบา้ งจากการอ่านบทเพลงน้ี ตอบ............................................................................................................................... ........................................................................................................................... ........................................................................................................................... ๕. นกั เรียนจะนาํ ขอ้ คิดจากการอ่านบทเพลงน้ีไปประยกุ ตใ์ ชช้ ีวติ ประจาํ วนั ไดอ้ ยา่ งไร ตอบ............................................................................................................................... ........................................................................................................................... ...........................................................................................................................

๒๘ แบบฝึ กทักษะที่ ๑๐ คาชี้แจง นกั เรียนอ่านบทเพลงแลว้ ตอบคาํ ถามใหถ้ ูกตอ้ ง (๑๐ คะแนน) เพลงเยาวชนไทย คาํ ร้อง : เลิศ ประสมทรัพย์ ทาํ นอง : เอ้ือ สุนทรสนาน เยาวชนชาติไทย ตอ้ งหยงิ่ ในความเป็นไทย ชีวติ จิตใจอยา่ ใหใ้ ครดูหมิ่น เยาวชนไทยน้นั เป็นไทยทุกเมื่อ จะอยเู่ หนืออยกู่ ลางหรือทางใต้ แมจ้ ะถือศาสนาใดๆ เกิดเป็นไทยตอ้ งเป็นไทยอยชู่ วั่ กลั ป์ เดก็ วนั น้ีคือผใู้ หญ่ในวนั หนา้ ชาติศาสนามหากษตั ริยซ์ ่ือสตั ยม์ น่ั จงทาํ ดี จงทาํ ดี ไวช้ ว่ั ชีวนั ส่ิงสาํ คญั เพื่อมุ่งใหช้ าติไทยเจริญ

๒๙ ๑. จุดประสงคใ์ นการเขียนบทเพลงน้ีคืออะไร ตอบ............................................................................................................................. ......................................................................................................................... ......................................................................................................................... ๒. เน้ือหาของบทเพลงกล่าวถึงอะไร ตอบ.............................................................................................................................. .......................................................................................................................... .......................................................................................................................... ๓. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไรเม่ือไดอ้ ่านบทเพลงน้ี ตอบ.............................................................................................................................. .......................................................................................................................... .......................................................................................................................... ๔. นกั เรียนไดป้ ระโยชนอ์ ยา่ งไรบา้ งจากการอ่านบทเพลงน้ี ตอบ.............................................................................................................................. .......................................................................................................................... .......................................................................................................................... ๕. นกั เรียนจะนาํ ขอ้ คิดจากการอ่านบทเพลงน้ีไปประยกุ ตใ์ ชช้ ีวติ ประจาํ วนั ไดอ้ ยา่ งไร ตอบ............................................................................................................................... .......................................................................................................................... ...........................................................................................................................

๓๐ แบบฝึ กทกั ษะที่ ๑๑ คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนอ่านบทเพลงแลว้ เลือกคาํ ตอบท่ีถูกตอ้ งท่ีสุด (๑๐ คะแนน) อ่านบทเพลงต่อไปนีแ้ ล้วตอบคาถามข้อ ๑ – ๕ เพลงอม่ิ อุ่น คาํ ร้อง : ศุ บุญเล้ียง ทาํ นอง : ศุ บุญเล้ียง อุ่นใดๆ โลกน้ีมิมีเทียบเทียม อุ่นอกออ้ มแขนออ้ มกอดแม่ตระกอง รักเจา้ จึงปลูก รักลูกแม่ยอ่ มห่วงใย ไม่อยากจากไปไกล แมเ้ พียงคร่ึงวนั ใหก้ ายเราใกลก้ นั ใหด้ วงตาใกลต้ า ใหด้ วงใจเราสองเช่ือมโยงผกู พนั อิ่มใดๆ โลกน้ีมิมีเทียบเทียม อิ่มอกอ่ิมใจ อิ่มรักลูกหลบั นอน น้าํ นมจากอก อาหารของความอาทร แม่พร่าํ เตือนพร่าํ สอน สอนสงั่ ใหเ้ จา้ เป็นเดก็ ดี ใหเ้ จา้ มีพลงั ใหเ้ จา้ เป็นความหวงั ของแม่ต่อไป ใช่เพียงอ่ิมทอ้ งที่ลูกร่าํ ร้องเพราะตอ้ งการไออุ่น อุ่นไอรัก อุ่นละมุนขอน้าํ นมอุ่นจากอกใหล้ ูกด่ืมกิน

๓๑ ๑. บทเพลงน้ีใหข้ อ้ คิดอยา่ งไร ก. ควรกตญั ํูต่อแม่ ข. ควรมีกิริยา สุภาพเรียบร้อย ค. ควรช่วยกนั รักษาความสะอาด ง. ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ๒. บทเพลงน้ีกล่าวถึงใครบา้ ง ก. แม่ ข. ลูก ค. แม่ ลูก ง. พอ่ แม่ ลูก ๓. บทเพลงน้ีกล่าวถึงเน้ือหาใดชดั เจนท่ีสุด ก. ความรักของพอ่ แม่ ลูก ข. ความรักของลูกที่มีต่อแม่ ค. ความรักของแม่ท่ีมีต่อลูก ง. ความรักของคนในครอบครัว ๔. ขอ้ ใดเป็นความหวงั ของผเู้ ป็นแม่ ก. อยากใหล้ ูกเป็นคนดี ข. อยากใหล้ ูกเรียนเก่ง ค. อยากใหล้ ูกร่าํ รวยเงินทอง ง. อยากใหล้ ูกมีชื่อเสียงโด่งดงั ๕. นกั เรียนอ่านบทเพลงน้ีแลว้ รู้สึกอยา่ งไร ก. รู้สึกเหงา ข. รู้สึกเศร้าใจ ค. รู้สึกซาบซ้ึงใจ ง. รู้สึกสนุกสนาน

๓๒ อ่านบทเพลงต่อไปนีแ้ ล้วตอบคาถามข้อ ๖ – ๑๐ เพลงรักเมืองไทย คาํ ร้อง : พลตรีหลวงวจิ ิตรวาทการ ทาํ นอง : พลตรีหลวงวจิ ิตรวาทการ รักเมืองไทย ชูชาติไทย ทาํ นุบาํ รุงใหร้ ุ่งเรือง สมเป็นเมืองของไทย เราชาวไทยเกิดเป็นไทยตายเพ่ือไทย (ซ้าํ ) ไม่เคยอ่อนนอ้ มเราไม่ยอมแพใ้ คร (ซ้าํ ) ศตั รูใจกลา้ มาแต่ทิศใด ถา้ ข่มเหงไทย คงจะไดเ้ ห็นดี เราชาวไทยเกิดเป็นไทยตายเพ่ือไทย (ซ้าํ ) เรารักเพอื่ นบา้ นเราไม่รานรุกใคร (ซ้าํ ) แต่รักษาสิ ทธ์ ิอิสระของไทย ใครทาํ ช้าํ ใจไทยจะไม่ถอยเลย (สร้อย) เราชาวไทยเกิดเป็นไทยตายเพอ่ื ไทย (ซ้าํ ) ถา้ ถูกข่มเหงแลว้ ไม่เกรงผใู้ ด (ซ้าํ ) ดงั งูตวั นิดมีพษิ เหลือใจ เรารักเมืองไทยยง่ิ ชีพเราเอย

๓๓ ๖. บทเพลงน้ีใหค้ วามรู้สึกอยา่ งไร ก. รู้สึกปลุกใจใหร้ ักชาติ ข. รู้สึกเศร้าใจและเสียใจ ค. รู้สึกประหม่าและตื่นเตน้ ง. รู้สึกยนิ ดีสนุกสนานเพลิดเพลิน ๗. บทเพลงน้ีกล่าวถึงผใู้ ด ก. ชาวนา ข. ชาวไทย ค. ชาวบา้ น ง. ชาวประมง ๘. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง ก. คนไทยตอ้ งทนั สมยั ข. คนไทยตอ้ งรักเมืองไทย ค. คนไทยตอ้ งรักอิสระเสรี ง. คนไทยตอ้ งไปเรียนต่างประเทศ ๙. ขอ้ ใดเป็นประเดน็ สาํ คญั ของบทเพลงน้ี ก. ความมีน้าํ ใจของคนไทย ข. ความเสียสละของคนไทย ค. ความเอ้ือเฟ้ื อเผอื่ แผข่ องคนไทย ง. ความรักชาติบา้ นเมืองของคนไทย ๑๐. ขอ้ ใดไม่ได้กล่าวในบทเพลงน้ี ก. การรักประเทศชาติ ข. การเชิดชูประเทศชาติ ค. การทาํ นุบาํ รุงประเทศชาติ ง. การบริจาคทรัพยเ์ พ่อื ประเทศชาติ

๓๔ ใบความรู้ การอ่านจบั ใจความบทความ บทความ เป็ นงานเขียนประเภทหน่ึง ซ่ึงมีผูน้ ิยมอ่านกนั มาก และเผยแพร่ ท้งั ในหนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสาร บทความมกั เขียนให้ผูอ้ ่าน ไดร้ ับทราบ ขอ้ มูลที่เป็นสาระความรู้ ประสบการณ์ ขอ้ เทจ็ จริงท่ีเกิดข้ึน และความคิดเห็นของ ผูเ้ ขียนท่ีมีต่อเรื่องใดเรื่องหน่ึง โดยเน้ือหานาํ เสนอจากขอ้ เทจ็ จริง ไม่ใช่เรื่องท่ีแต่ง หรือคิดข้ึนเองจากจินตนาการ ซ่ึงจะทาํ ใหผ้ อู้ ่านไดข้ ยายแนวความคิดอนั จะเป็นการ เสริมสร้างใหม้ ีทศั นะต่างๆ ท่ีกวา้ งไกล และมีความคิดเห็นที่ทนั สมยั หลกั การอ่านจบั ใจความบทความ ๑. อ่านผา่ นๆ โดยตลอดเพือ่ ใหร้ ู้วา่ เรื่องน้นั วา่ ดว้ ย เรื่องอะไร จุดใดเป็นจุดสาํ คญั ของเรื่อง ๒.อ่านเพื่อจบั ประเดน็ สาํ คญั เป็นรายยอ่ หนา้ โดยอาจ สงั เกตไดจ้ ากคาํ หรือขอ้ ความที่กล่าวซ้าํ ที่ปรากฏใน ยอ่ หนา้ น้นั ๓.ถามตอบคาํ ถามส้นั ๆ เก่ียวกบั ประเดน็ ของเร่ืองและ ใจความสาํ คญั ของเร่ืองในแต่ละยอ่ หนา้ ๔. เช่ือมโยงความคิดสาํ คญั ของแต่ละยอ่ หนา้ เขา้ ดว้ ยกนั กจ็ ะสามารถจบั ใจความของเร่ืองไดท้ ้งั หมด ๕. วเิ คราะห์ความน่าเช่ือถอื ของขอ้ มูลวา่ ถูกตอ้ ง เพียงใด

๓๕ แบบฝึ กทักษะท่ี ๑๒ คาชี้แจง นกั เรียนอ่านบทความต่อไปน้ีแลว้ เติมขอ้ มูลลงในแผนภาพความคดิ ใหถ้ ูกตอ้ ง (๑๐ คะแนน) เชียงใหม่ มนตเ์ สน่หท์ ่ีทาํ ใหอ้ ดีต อาณาจกั ร ลา้ นนาแห่งน้ี เป็นดินแดนที่ดึงดูด ความสนใจของนกั เดินทางท่องเท่ียว มากที่สุด คือ ภูมิทศั นแ์ ห่งขนุ เขา สายน้าํ ทะเลหมอก ดอกไมเ้ มืองหนาว และน้าํ ใจไมตรีของผคู้ น ในฤดูหนาว ภูมิอากาศที่หนาวเยน็ ทาํ ใหย้ อดดอยต่างๆ เช่น ดอยอินทนนท์ ดอยเชียงดาว หรือดอยอ่างขาง สามารถพบเห็นทะเลหมอกไดท้ ุกเชา้ อยา่ งงดงาม นอกจากแหล่งท่องเท่ียวทางธรรมชาติแลว้ เชียงใหม่ยงั เตม็ ไปดว้ ยโบราณสถาน โบราณวตั ถุที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น วดั พระธาตุดอยสุเทพ วดั พระสิงห์ วดั สวนดอก

๓๖ ความน่าสนใจ ๑. ................................................................. ๒. ................................................................. ๓. ................................................................. ๔. ................................................................. เชียงใหม่ โบราณสถาน ยอดดอยต่างๆ ๑. .......................................... ๑. .......................................... ๒. ......................................... ๒. ......................................... ๓. ......................................... ๓. .........................................

๓๗ แบบฝึ กทกั ษะท่ี ๑๓ คาชี้แจง นกั เรียนอ่านบทความต่อไปน้ีแลว้ เติมขอ้ มูลลงในช่องวา่ งใหถ้ ูกตอ้ ง (๑๐ คะแนน) อทุ ยานแห่งชาตเิ ขาสามร้อยยอด อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด มีสภาพภูมิประเทศโดยทวั่ ไปเป็นเขาหินปูน ยอดแหลมและสูงชนั ต้งั อยรู่ ิมชายฝั่งทะเลของอาํ เภอปราณบุรีและอาํ เภอกยุ บุรี จงั หวดั ประจวบคีรีขนั ธ์ มีเน้ือที่ประมาณ ๖๑,๓๐๐ ไร่ จดั เป็นอุทยานแห่งชาติ ประเภทชายฝั่ง ผสมผสานหมู่เกาะในทะเลแห่งแรกของประเทศไทย หินปูนท่ีสึกกร่อนเพราะกาลเวลา จึงก่อใหเ้ กิดถ้าํ มากมายข้ึน เช่น ถ้าํ ไกร และ ถ้าํ แกว้ ฯลฯ อีกท้งั ยงั มีจุดชมวิวเขาแดง ความสูงราว ๓๒๒ เมตร เหมาะสาํ หรับเดิน ข้ึนไปชมพระอาทิตยข์ ้ึน นอกจากน้ีบริเวณพ้นื ท่ีโดยรอบเขาสามร้อยยอดยงั มีสภาพเป็น พ้ืนท่ีชุ่มน้าํ สําคญั ย่ิงของประเทศ นับเป็ นแหล่งรวมพรรณไม้น้ํา สัตวน์ ้าํ สัตว์ป่ า ตลอดจนนกอีกนบั ร้อยชนิด เหมาะสาํ หรับกิจกรรมพายเรือคายกั เดินป่ า ดูนก และ อื่นๆ อีกมากมาย

๓๘ อทุ ยานแห่งชาตเิ ขาสามร้อยยอด ๑. ต้งั อยู่ที่ ---------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------- ๒. สภาพภูมปิ ระเทศ ---------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------------------------------- ๓. หินปูนทสี่ ึกกร่อนเพราะ เช่น กาลเวลาก่อให้เกดิ เป็ นถา้ ๑.................................................................. ๒................................................................ ๔. เป็ นแหล่งรวม ๑.................................................................. ความอดุ มสมบูรณ์ของ ๒................................................................ ๓................................................................ ๕. กจิ กรรมในการท่องเทย่ี ว ๑.................................................................. ๒................................................................ ๓................................................................

๓๙ แบบฝึ กทกั ษะท่ี ๑๔ คาชี้แจง นกั เรียนอ่านบทความต่อไปน้ีแลว้ เขียนเครื่องหมาย  หนา้ ขอ้ ความท่ี ตรงกบั บทความและเขียนเคร่ืองหมาย X หนา้ ขอ้ ความที่ไม่ตรงกบั บทความ (๑๐ คะแนน) รับมือกบั ตะขาบ : ป้องกนั ภยั ร้ายในฤดูฝน นอกจากจะเป็นช่วงเวลาท่ีหยดน้าํ จากฟ้าลงมาสู่โลก ทาํ ใหม้ นุษยม์ ีน้าํ ใชใ้ นการ ทาํ เกษตรกรรมแลว้ ฤดูฝนยงั ทาํ ใหส้ ตั วจ์ าํ นวนมากหนีน้าํ จากที่อยอู่ าศยั เดิม มายงั ท่ีอยู่ อาศยั ของมนุษย์ ไม่เวน้ แมแ้ ต่สัตวม์ ีพษิ ที่เป็นอนั ตรายดงั เช่น “ตะขาบ” ตะขาบเป็นสตั วไ์ ม่มีกระดูกสนั หลงั มีขา ๑๕-๑๗ คู่ แลว้ แต่สายพนั ธุ์ ลาํ ตวั แบน สีแดง น้าํ ตาล หรือดาํ ตามสายพนั ธุ์ ท่ีส่วนหวั มีหนวดยาว และเข้ียวที่ปากซ่ึงมีต่อมพษิ ที่ใชพ้ ษิ น้ีล่าเหยอื่ เช่น แมลง แมงมุม หรือ สัตวเ์ ล้ือยคลานขนาดเลก็ โดยทวั่ ไป ตะขาบอาศยั ในท่ีมืดและอบั ช้ืน และออกหากินในเวลากลางคืน ปกติแลว้ ตะขาบ จะไม่รุกรานสัตวท์ ่ีขนาดใหญ่กวา่ ตวั มนั มาก ๆ อยา่ งเช่นมนุษยก์ ่อน แมว้ า่ จะหนีน้าํ เขา้ มาอาศยั ในเขตท่ีอยขู่ องมนุษยก์ ต็ าม แต่เนื่องจากออกหากินในเวลากลางคืน ซ่ึงเป็นช่วง ที่สายตาของมนุษยแ์ ละสัตวจ์ าํ นวนมากมองไม่เห็น จึงอาจเหยยี บมนั ได้ หรือบางคร้ังก็ ซ่อนในท่ีมืดและอบั ช้ืน เช่น ในรองเทา้ ซ่ึงคนอาจใส่รองเทา้ ที่มีตะขาบอยโู่ ดยไม่รู้ตวั ทาํ ใหต้ ะขาบกดั และปล่อยพิษเพ่ือป้องกนั ตนเอง

๔๐ ตวั อย่าง X ตะขาบเป็นสตั วท์ ่ีไม่มีพิษ ๑. ตะขาบมีลาํ ตวั แบน สีน้าํ ตาล หรือสีดาํ ตามสายพนั ธุ์ ๒. ตะขาบออกหากินในเวลากลางวนั ๓. เราจะพบตะขาบในบริเวณที่โล่งแจง้ ๔. ตะขาบเป็นสตั วท์ ่ีไม่มีกระดูกสนั หลงั ๕. ตะขาบจะใชห้ างต่อยศตั รู ๖. เข้ียวท่ีปากของตะขาบจะมีต่อมพิษ ๗. ตะขาบชอบซ่อนตวั อยใู่ นรองเทา้ ๘. ตะขาบจะอาศยั อยใู่ นท่ีมืดและอบั ช้ืน ๙. ตะขาบมีขา ๓๐ คู่ ๑๐. ตะขาบจะล่าสตั วเ์ ล้ือยคลานขนาดใหญ่เป็นอาหาร

๔๑ แบบฝึ กทกั ษะท่ี ๑๕ คาชี้แจง นกั เรียนอ่านบทความต่อไปน้ีแลว้ ตอบคาํ ถามใหถ้ ูกตอ้ ง (๑๐ คะแนน) ดูแลสุขภาพด้วยอาหาร ๗ สี การดูแลตนเองใหม้ ีสุขภาพดีน้นั เป็นเร่ืองท่ีทุกคนจาํ เป็นจะตอ้ งใหค้ วามสาํ คญั เพราะเม่ือไหร่ที่สุขภาพอ่อนแอ ไม่วา่ จะเป็นทางร่างกายหรือจิตใจกต็ าม ลว้ นเป็นบ่อ เกิดของโรคภยั ไขเ้ จบ็ ต่างๆ ดร.วลั ลภ ปิ ยะมโนธรรม นกั จิตวทิ ยาและที่ปรึกษาศูนยพ์ ฒั นาความสุข มนุษย์ มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทร์วโิ รฒ ใหค้ วามรู้วา่ หากอยากมีสุขภาพท่ีดีตอ้ งเร่ิม ต้งั แต่ภายในร่างกายจึงจะส่งผลดีมาสู่ภายนอก สามารถพบไดใ้ นอาหารจากธรรมชาติ และสามารถเรียงลาํ ดบั ความสัมพนั ธ์กบั ระบบภายในร่างกายไดด้ งั น้ี ๑.สีแดง เก่ียวขอ้ งกบั อวยั วะเพศ ไม่วา่ จะเป็น มดลูก รังไข่ และต่อมลูกหมาก สามารถพบไดใ้ นผลไม้ เช่น มะเขือเทศ บีทรูท แตงโม พริก ๒.สีส้ม เกี่ยวขอ้ งกบั ทอ้ งนอ้ ย ลาํ ไส้ พบไดใ้ น แครอท สม้ มะละกอสุก ๓.สีเหลือง เก่ียวขอ้ งกบั ตบั และกระเพาะอาหาร พบในกลว้ ย ขา้ วโพด ฟักทอง ๔.สีเขียว เกี่ยวขอ้ งกบั หนา้ อกและหวั ใจพบในผกั ใบเขียว และผลไมท้ ว่ั ไป ๕.สีฟ้า เก่ียวขอ้ งกบั ลาํ คอ สามารถทดแทนไดด้ ว้ ยอาหารทะเล ๖.สีน้าํ เงิน เกี่ยวขอ้ งกบั ใบหนา้ พบไดใ้ นดอกอญั ชนั ๗.สีม่วง เก่ียวขอ้ งกบั ระบบสมอง พบในมะเขือม่วง กะหล่าํ ม่วง มนั สีม่วง ท้งั หมดท่ีกล่าวมาน้นั เป็นส่วนหน่ึงท่ีช่วยเสริมใหส้ ุขภาพดีไดด้ ว้ ยการรู้จกั กินอาหารท่ีมี ประโยชนจ์ ากธรรมชาติ พกั ผอ่ นใหเ้ พยี งพอ อารมณ์ดี กินอาหารใหค้ รบ ๕ หมู่ และ ควรออกกาํ ลงั กายอยา่ งสม่าํ เสมอ

๔๒ ๑. บทความน้ีกล่าวถึงการดูแลสุขภาพอยา่ งไร ตอบ.................................................................................................................................. ๒. อาหาร ๗ สี ไดแ้ ก่สีใดบา้ ง ตอบ.................................................................................................................................. ๓. อาหารสีใดเกี่ยวขอ้ งกบั หวั ใจ ตอบ.................................................................................................................................. ๔. หากนกั เรียนตอ้ งการบาํ รุงสมอง ควรทานอาหารชนิดใด ตอบ.................................................................................................................................. ๕. กลว้ ย ขา้ วโพด ฟักทอง ช่วยบาํ รุงส่วนใดของร่างกาย ตอบ.................................................................................................................................. ๖. อาหารสีแดง ไดแ้ ก่อาหารชนิดใดบา้ ง ตอบ.................................................................................................................................. ๗. อาหารท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ทอ้ งนอ้ ยไดแ้ ก่อาหารชนิดใดบา้ ง ตอบ.................................................................................................................................. ๘. อาหารสีน้าํ เงิน ไดแ้ ก่อาหารชนิดใด ตอบ.................................................................................................................................. ๙. อาหารชนิดใดเก่ียวขอ้ งกบั ลาํ คอ ตอบ.................................................................................................................................. ๑๐. นอกจากการกินอาหารท่ีมีประโยชนแ์ ลว้ นกั เรียนควรทาํ อยา่ งไรเพ่ือใหม้ ีสุขภาพท่ีดี ตอบ..................................................................................................................................

๔๓ แบบฝึ กทกั ษะท่ี ๑๖ คาชี้แจง นกั เรียนอ่านบทความต่อไปน้ีแลว้ ตอบคาํ ถามใหถ้ ูกตอ้ ง (๑๐ คะแนน) ภยั แฝงจาก “บะหมกี่ ง่ึ สาเร็จรูป” ยคุ ประหยดั แบบน้ีอาหารชนิดหน่ึงที่เชื่อวา่ แทบทุกบา้ นตอ้ งมีติดไวค้ ือ \"บะหมก่ี งึ่ สาเร็จรูป\" ที่มีราคาถูก ท้งั ยงั กินง่าย ประหยดั เวลา และเพราะรูปแบบการกินง่าย เช่นน้ีเอง ท่ีทาํ ใหเ้ รามองขา้ มความใส่ใจถึง ภยั ร้ายท่ีแฝงมาพร้อมกบั การกินบะหม่ี ก่ึงสาํ เร็จรูปแบบผดิ วธิ ี ส่วนประกอบของ บะหมี่ก่ึงสาํ เร็จรูปส่วนใหญ่มีส่วนผสมของแป้งสาลีในกรรมวธิ ีการผลิตถึง ๖๐-๗๐% ส่วน ๑๕-๒๐% เป็นไขมนั ในซองเคร่ืองปรุงน้าํ มนั ทอดบะหม่ีก่ึงสาํ เร็จรูปมกั เป็น น้าํ มนั พชื ราคาถูก ซ่ึงมีคุณสมบตั ิแตกตวั เป็น \"กรดไขมนั ชนิดทรานส์\" ท่ีเป็นหน่ึง ในสาเหตุการกระตุน้ ใหเ้ กิดโรคหวั ใจ ที่เหลืออีก ๕-๖% เป็นเกลือและผงชูรส ท้งั ยงั มี ปริมาณโซเดียมเกินความตอ้ งการของร่างกายปนอยมู่ าก ซ่ึงเป็นอนั ตรายต่อไต และยงั จะ ทาํ ใหค้ วามดนั โลหิตสูงอีกดว้ ย แต่หากหลีกเลี่ยงท่ีจะทานไม่ได้ ทางกระทรวงสาธารณสุข เขากม็ ีขอ้ แนะนาํ วา่ ให้ ใส่ไข่ ผกั หรือเน้ือสตั วล์ งไปดว้ ย เพือ่ เพ่ิมสารอาหารและป้องกนั ไม่ใหร้ ่างกายไดร้ ับโซเดียมมากเกินไป ควรเลือกซ้ือบะหม่ีก่ึงสาํ เร็จรูปท่ีเขียนกาํ กบั วา่ เพิม่ สารไอโอดีน ธาตุเหลก็ และวติ ามินเอ ไวห้ นา้ ซองไม่ควรทานบะหม่ีก่ึงสาํ เร็จรูป ดิบๆ เพราะเสน้ บะหม่ีน้นั จะไปพองตวั ในกระเพาะอาหารอาจทาํ ใหท้ อ้ งอืดได้ และ ไม่ควรทานบะหม่ีก่ึงสาํ เร็จรูปมากกวา่ วนั ละ ๑ ซอง เพอ่ื ป้องกนั โรคต่างๆ ท่ีแทรกมา พร้อมบะหม่ีก่ึงสาํ เร็จรูป

๔๔ ๑. เน้ือหาของบทความน้ีเกี่ยวกบั เรื่องอะไร ตอบ................................................................................................................................ ............................................................................................................................ ............................................................................................................................ ๒. เพราะเหตุใดคนจึงนิยมรับประทานบะหมี่ก่ึงสาํ เร็จรูป ตอบ................................................................................................................................ ............................................................................................................................ ............................................................................................................................ ๓. บะหม่ีก่ึงสาํ เร็จรูปมีโทษต่อร่างกายอยา่ งไร ตอบ................................................................................................................................ ........................................................................................................................... ........................................................................................................................... ๔. เหตุใดจึงไม่ควรทานบะหม่ีก่ึงสาํ เร็จรูปแบบดิบๆ ตอบ............................................................................................................................... ........................................................................................................................... ........................................................................................................................... ๕. จุดมุ่งหมายสาํ คญั ของบทความน้ีคืออะไร ตอบ................................................................................................................................ ............................................................................................................................ ............................................................................................................................

๔๕ แบบฝึ กทกั ษะท่ี ๑๗ คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนอ่านบทความต่อไปน้ีแลว้ เลือกคาํ ตอบที่ถูกตอ้ งท่ีสุด (๑๐ คะแนน) ยาปราบศัตรูพืช ยาปราบศตั รูพชื คือยาพษิ ชนิดหน่ึง ใชส้ าํ หรับฆ่าหรือทาํ ลายสัตวแ์ ละ วชั พืชแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ ยาฆ่าแมลงและยาปราบวชั พชื หรือยาฆ่าหญา้ ยาปราบศตั รูพชื จะประกอบไปดว้ ยสารเคมีหลายชนิด บา้ งกร็ วมเอาสารสกดั ที่ได้ จากพืชรวมอยดู่ ว้ ย เช่น ยาปราบศตั รูพชื บางชนิดสกดั มาจากสะเดา เป็นตน้ แต่โดยมากจะประกอบไปดว้ ยสารเคมีลว้ นๆ มากกวา่ ยาปราบศตั รูพชื ท่ีสกดั มาจากพืชมีอนั ตรายนอ้ ยกวา่ ยาฆ่าแมลงที่มาจาก สารเคมีลว้ นๆ เช่น DDT (ดีดีที) เป็นยาฆ่าแมลงที่นิยมใชก้ นั มากเม่ือ ๒๐ ปี ท่ีแลว้ เพราะมนั มีประสิทธิภาพสูง สามารถฆ่าแมลงไดท้ ุกชนิด แต่ในไม่ชา้ แมลงกพ็ ฒั นา ภูมิคุม้ กนั ของมนั ข้ึนมาเอง จนมนั ไม่กลวั ดีดีทีอีกต่อไป และยงั ยากท่ีจะหาสูตรยา ใหม่ๆ มาทาํ ลายมนั อีกดว้ ย นกั วทิ ยาศาสตร์ไดค้ น้ พบดว้ ยวา่ ดีดีทีเม่ือฉีดแลว้ ไม่หายไปไหน มนั ยงั คงลอยปะปนอยใู่ นอากาศ จบั คราบอยบู่ นพ้ืน ทาํ ลาย ส่ิงมีชีวติ ต่างๆ

๔๖ ตวั ยาชนิดใหม่ที่ใชฆ้ ่าแมลงถูกคิดคน้ ข้ึนมาใหม่ในชื่อต่างๆ โฆษณา กนั ท้งั ทางวทิ ยแุ ละโทรทศั น์ ในไม่ชา้ แมลงกจ็ ะพฒั นาภูมิคุม้ กนั ของมนั ข้ึนมา สู้กบั ยาชนิดใหม่ๆ จนยาน้นั พ่ายแพไ้ ป แลว้ เรากต็ อ้ งคิดคน้ ตวั ยาใหม่ๆที่แรงข้ึนๆ ทุกที การฆ่าทาํ ลายแมลงหรือวชั พืช รวมท้งั หญา้ น้นั มีอนั ตรายเหมือนกนั เพราะ สารพิษเหล่าน้ีอาจสะสมอยใู่ นหญา้ ท่ีววั ควายกิน สะสมอยใู่ นน้าํ ที่ไหลมาจาก เรือกสวน ไร่นา สะสมอยใู่ นปลา ซ่ึงกินสตั วห์ รือพชื น้าํ เป็นอาหาร และในท่ีสุด ส่ิงเหล่าน้ีกก็ ลายมาเป็นอาหารของคนเรานอกจากน้นั พืชผกั ท่ีเรากินเขา้ ไปอาจ มียาฆ่าแมลงสะสมตกคา้ งอยใู่ นหวั ลาํ ตน้ ใบและดอก ทาํ อนั ตรายต่อสุขภาพ ของเราอีกดว้ ย ๑. ยาฆ่าแมลงมีส่วนประกอบของส่ิงใดเป็นหลกั ก. สารเคมีลว้ นๆ ข. สารท่ีสกดั มาจากพชื ค. สารท่ีสกดั มาจากสตั ว์ ง. สารที่สกดั มาจากธรรมชาติ ๒. ขอ้ ใดเป็นโทษของดีดีทีตามท่ีนกั วทิ ยาศาสตร์คน้ พบ ก. มีส่วนประกอบของสารเคมีลว้ นๆ ข. มีประสิทธิภาพสูง ฆ่าแมลงไดท้ ุกชนิด ค. ไม่สามารถกาํ จดั ได้ ตอ้ งใชเ้ วลาหลายปี ง. ลอยอยใู่ นอากาศ จบั คราบอยบู่ นพ้ืน ทาํ ลายสิ่งมีชีวติ ต่างๆ

๔๗ ๓. เหตุใดการใชย้ าปราบศตั รูพชื จึงมีอนั ตรายต่อมนุษย์ ก. เพราะมนุษยไ์ ม่ระมดั ระวงั ในการใชส้ ารเคมี ข. เพราะสารเคมีจะสะสมอยใู่ นพชื ซ่ึงเป็นอาหารของคน ค. เพราะสารเคมีแพร่กระจายไปในอากาศไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ง. เพราะมนุษยไ์ ม่รู้จกั การรักษาส่ิงแวดลอ้ มตามธรรมชาติ ๔. เหตุใดเราจึงตอ้ งระวงั การรับประทานผกั ต่างๆ ก. ผกั บางชนิดปลูกนอกฤดูกาล ข. ชาวสวนมีการใชย้ าฆ่าแมลงพ่นผกั ค. ผกั บางชนิดมีพิษรับประทานไม่ได้ ง. ผกั บางชนิดไม่มีประโยชนต์ ่อร่างกาย ๕. บทความน้ีมีประโยชนอ์ ยา่ งไร ก. ทาํ ใหช้ าวสวนใชย้ าฆ่าแมลงกนั มากข้ึน ข. ทาํ ใหเ้ ราใชส้ ารเคมีในการปราบศตั รูพชื ค. ทาํ ใหเ้ รารู้จกั ระมดั ระวงั ในการเลือกทานผกั ง. ทาํ ใหร้ ้านคา้ ขายยาปราบศตั รูพืชไดด้ ียงิ่ ข้ึน ๖. ยาปราบศตั รูพืชคืออะไร ก. ยาที่ใชท้ าํ ลายสตั ว์ ข. ยาที่ใชท้ าํ ลายวชั พืช ค. ยาอนั ตรายทุกชนิด ง. ยาที่ใชท้ าํ ลายสัตวแ์ ละวชั พชื

๔๘ ๗. “ดีดีที” เป็นช่ือของอะไร ก. ยาฆ่าหญา้ ข. ยาฆ่าแมลง ค. ชื่อของแมลง ง. ช่ือของวชั พืช ๘. พชื ชนิดใดนาํ มาสกดั เป็นยาปราบศตั รูพชื ได้ ก. สะเดา ข. ตะไคร้ ค. กระชาย ง. โหระพา ๙. ขอ้ ใดคือประโยชนข์ องยาปราบศตั รูพชื ที่สกดั มาจากพชื ก. หาง่าย ข. ราคาถูก ค. มีประสิทธิภาพสูง ง. มีอนั ตรายนอ้ ยกวา่ สารเคมี ๑๐. เหตุใดปัจจุบนั แมลงจึงไม่กลวั ดีดีที ก. เพราะดีดีทีเส่ือมคุณภาพ ข. เพราะแมลงพฒั นาภูมิคุม้ กนั ตวั เอง ค. เพราะแมลงไม่มากินพชื อีกต่อไป ง. เพราะแมลงต่างๆไปอาศยั อยทู่ ี่อ่ืน

๔๙ ใบความรู้ การอ่านจบั ใจความพระบรมราโชวาท ทบทวนความรู้กนั ก่อนนะคะ การอ่านจบั ใจความสาคญั หมายถึง การอ่านเพ่ือคน้ หาความคิด สําคญั หรือสาระสาํ คญั ของเรื่องท่ีผูเ้ ขียนมุ่ง เสนอใหผ้ อู้ ่านทราบ พระบรมราโชวาท หมายถึง ถ้อยคําที่พระมหากษัตริยท์ รง ตรัส มกั กล่าวแก่ท่ีประชุม มีจุดประสงค์เพื่อ แนะนํา ให้ข้อคิด มีใจความที่แฝงไปด้วย ป ร ะ โ ย ช น์ ต่ อ ก า ร ดํา เ นิ น ชี วิ ต ใ น ด้า น ต่ า ง ๆ สามารถนาํ ถอ้ ยคาํ พระบรมราโชวาท ไปปรับ ใช้ในชีวิตประจาํ วนั เพื่อเป็ นประโยชน์ท้งั ต่อ ตนเองและสังคมบา้ นเมือง

๕๐ หลกั การอ่านจบั ใจความ พระบรมราโชวาท ๑. อ่านพระบรมราโชวาทอยา่ งคร่าวๆ ๒. เม่ืออ่านจบแลว้ ควรต้งั คาํ ถามวา่ พระบรมราโชวาท กล่าวถึงเร่ืองใด มีจุดมุ่งหมายอยา่ งไร ๓. อ่านอยา่ งต้งั ใจและตอบคาํ ถามท่ีต้งั ไว้ ๔. สรุปสาระสาํ คญั ของพระบรมราโชวาท ๕. วเิ คราะห์ความสาํ คญั และขอ้ คิดของพระบรมราโชวาท เพ่ือเป็นแนวทางในการดาํ เนินชีวติ ประจาํ วนั ตวั อย่าง ใจความสาคญั คือ การรู้จกั อดทนและอดกล้นั ทาํ ใหเ้ กิดการย้งั คิด ทบทวนเร่ืองที่ทาํ คาํ ท่ีพูด จะช่วยใหเ้ กิดความเขา้ ใจชดั เจนยง่ิ ข้ึน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook