(บน) สง่ิ กอ่ สร้างอฐิ สอปนู รูปโคง้ คลา้ ยสระน้�ำ มที อ่ โลหะซึง่ เปน็ สว่ นหน่งึ ของระบบ สาธารณปู โภคของพิพธิ ภัณฑสถาน สำ� หรบั พระนคร พ.ศ. ๒๔๗๐ (ล่าง) ฐ านอาคารโบราณสถานที่การกอ่ อิฐเป็น ทอ่ ระบายนำ้� ทางสถาปตั ยกรรมประเภทอฐิ ขนาดตา่ ง ๆ กระเบอ้ื งเกลด็ เตา่ กระเบอ้ื งปรุ กระเบอื้ งปพู น้ื ดนิ เผาเคลอื บสีเขยี ว แผน่ หินทรายสีแดงใชป้ พู ื้น กระเบือ้ งปรุ กระเบื้องเชงิ ชาย กล่มุ ปนื หามแล่น ปืนใหญ่ จำ� นวน ๑๓ กระบอก และลกู กระสุนปืนใหญ่ (พบอยูด่ า้ นนอก อาคารโรงทหาร สนั นษิ ฐานวา่ เปน็ ปนื ทีป่ ลดประจ�ำการ) เกอื กมา้ เป็นตน้ พระราชวงั บวรสถานมงคล 101
เศษภาชนะดนิ เผาเนอ้ื แกรง่ เคลือบใส (เคร่อื งถว้ ย Kokura ware) จากแหล่งเตา ในจงั หวดั ฟูกโุ อกะ ประเทศญ่ีปุน่ ภาชนะดินเผาเนื้อดนิ จากแหลง่ เตาเผาพน้ื ถ่ิน เศษเคร่ืองถ้วยลายคราม ศิลปะจีน ดา้ นในและดา้ นนอกจานพมิ พ์ลายสนี ้�ำเงนิ (ปลายพุทธศตวรรษที่ ๒๔ - ต้นพทุ ธศตวรรษท่ี ๒๕) เคลอื บใส ทผ่ี ลติ จากแหลง่ เตาเผาในยโุ รป ชน้ิ ส่วนถว้ ยชาพิมพ์ลายสนี ำ�้ เงินเคลอื บใส ที่ผลิตจากแหล่งเตาเผาในยโุ รป 102 การศกึ ษาทางโบราณคด ีบรเิ วณพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหนา้ )
กระเบ้อื งเกลด็ เตา่ กระเบอ้ื งปพู น้ื เคลือบสีเขียว กระเบ้อื งปรุดนิ เผา พระราชวงั บวรสถานมงคล 103
เกือกม้า ท�ำดว้ ยเหลก็ ปนื ขานกกระยาง หรอื ปนื หามแลน่ ปืนรกั ษาพระศาสนา ลูกปืนใหญ่ ทำ� ด้วยเหล็ก กองปืนใหญ่ทีพ่ บอย่รู ะหว่างอาคารโบราณสถาน สนั นษิ ฐานวา่ เปน็ ปืนใหญท่ ปี่ ลดประจำ� การแล้ว 104 การศกึ ษาทางโบราณคด ีบริเวณพระราชวงั บวรสถานมงคล (วังหน้า)
(บน) ส่วนฐานรากอาคารโบราณสถานซ่งึ เป็น ส่วนต่ออาคารโรงทหาร (ลา่ ง) ฐานรากอาคารโบราณสถานอีกแห่งหนึ่ง ทม่ี ีการถมช้ันปนู ตำ� เป็นชนั้ ซอ้ นอยูด่ ้านบน การดำ� เนนิ งานทางโบราณคดี พ.ศ. ๒๕๕๗ ด�ำเนินการขุดค้นทางโบราณคดีบริเวณสนามด้านข้างพระที่น่ังพุทไธสวรรย์ (ดา้ นทขี่ นานกบั ดา้ นขา้ งพระทน่ี งั่ พทุ ไธสวรรย)์ ตอ่ เนอ่ื งจากพน้ื ทขี่ ดุ คน้ ทางโบราณคดี เม่ือ พ.ศ. ๒๕๕๖ พบหลักฐานสำ� คญั ทางโบราณคดี ได้แก่ แนวอาคารโบราณสถาน ก่อสร้างด้วยอิฐท่ีต่อเนื่องของอาคารโรงทหาร แนวอาคารโบราณสถานขนาดเล็ก ท่ีมีแนวถนนปูพ้ืนอิฐ แนวอาคารโบราณสถานอิฐที่มีชั้นอิฐหักกากปูนทับซ่ึงอาคาร ดังกล่าวไม่ปรากฏในข้อมูลสารสนเทศภูมิศาสตร์พ้ืนที่พระราชวังบวรสถานมงคล วา่ ด้วยการใชพ้ นื้ ท่ีในอดีต (GIS) พระราชวังบวรสถานมงคล 105
ฐานของอาคารซ่งึ สันนษิ ฐานวา่ เป็นโรงสูบน้ำ� สรา้ งในรชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยู่หวั
ฐานรากของอาคารโบราณสถานขนาดเลก็ ริมเส้นทางเดนิ นอกจากน้ี ยงั พบสว่ นฐานอาคารโรงสบู นำ้� ซง่ึ ตำ� แหนง่ ของฐานอาคารโบราณสถาน ตรงกบั แผนผังพระราชวงั บวรสถานมงคล พ.ศ. ๒๔๖๑ และปรากฏในต�ำนานวงั หนา้ พระนพิ นธใ์ นสมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพ วา่ “...ตอ่ มาทาง ทศิ ตะวนั ตกตรงพระทนี่ ง่ั พทุ ไธสวรรยไ์ ปขา้ งเหนอื มโี รงไวส้ บู นำ้� ดบั ไฟหลงั ๑ เขา้ ใจวา่ สร้างในรัชกาลท่ี ๕ หลังโรงสบู นำ�้ ไปข้างเหนือเปน็ โรงงิว้ หลงั ๑...”13 รวมทั้งพบแนว ถนนปูพื้นหินซ่งึ พบตอ่ เน่อื งจากการขุดคน้ เมือ่ พ.ศ. ๒๕๕๖ และหลุมกลม จำ� นวน ๒ หลุม และร่องรอยการเจาะพืน้ อิฐเป็นหลุมกลมเรียงรายบนถนนอฐิ ซ่ึงสันนิษฐาน ว่า อาจเป็นแนวหลุมเสาธงในอดีต ปรากฏกล่าวถึงในต�ำนานวังหน้า พระนิพนธ์ใน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ ว่า “..สถานที่ต่าง ๆ ใน พระราชวังบวรฯ ชั้นกลาง ข้างด้านใต้ต่อมุมพระท่ีน่ังศิวโมกข์พิมาน เป็นโรงทหาร 13 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ. ประชุมพงศาวดาร เล่ม ๑๑ ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๑๓ - ๑๔. พระนคร: องค์การคา้ คุรุสภา, ๒๕๐๗, หนา้ ๑๓๒ พระราชวังบวรสถานมงคล 107
(บน) แนวทางเดนิ กอ่ ดว้ ยอฐิ สอปูน (ลา้ ง) หลุมกลมบนแนวทางเดิน ซึ่งสนั นิษฐานวา่ เปน็ หลมุ เสาธง รักษาพระองค์หลัง ๑ โรงชาวท่ีหลัง ๑ มีศาลาโถงที่ขุนนางเฝ้าอยู่หน้าพระท่ีนั่ง คชกรรมประเวศ เหมอื นศาลาหนา้ พระที่น่งั อาภรณ์พโิ มกข์แต่กอ่ น ๒ หลงั ริมศาลา ข้างใต้ต้ังเสาธงส�ำหรับพระบรมราชวัง เสาธงนี้ครั้งพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า เจา้ อยู่หัวชักธงพระจุฑามณี แต่ในรชั กาลที่ ๕ ชกั ธงช้างจนตลอดสมัยกรมพระราชวัง บวรวไิ ชยชาญ...”14 ทางตะวนั ออก - ตะวนั ตกของพ้นื ทีข่ ุดคน้ ยงั พบแนวท่อนำ�้ เหลก็ ซ่ึงเป็นส่วน ของระบบสาธารณูปโภคของพิพิธภัณฑสถานส�ำหรับพระนคร เม่ือ พ.ศ. ๒๔๗๐ รวมทั้งแนวเสาคอนกรีตทรงหกเหล่ียมต่อเน่ืองกับแนวเสาแบบเดียวกันที่พบจาก 14 เรอ่ื งเดียวกนั , หนา้ ๑๓๑ 108 การศึกษาทางโบราณคด ีบรเิ วณพระราชวังบวรสถานมงคล (วงั หนา้ )
แนวฐานคอนกรีตเสริมเหล็กเรียงเป็นระยะสร้างซ้อนทับอย่บู นโบราณสถาน การขุดค้นเม่ือ พ.ศ. ๒๕๕๖ และคานคอนกรีตเสริมเหล็กเรียงเป็นระยะเท่ากัน ต่อเน่ืองเป็นแนวยาว สิ่งก่อสร้างชุดน้ีสามารถเปรียบเทียบกับข้อมูลเอกสารและ ภาพถ่ายในอดีตของพื้นที่พระราชวังบวรสถานมงคลได้ว่า อาจเป็นส่ิงก่อสร้าง ทีเ่ กยี่ วข้องกบั สงั คตี ศาลาตามแผนทพี่ ิพธิ ภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร พ.ศ. ๒๕๐๕ หรือโครงสร้างของอาคารซ่อมราชรถและเคร่ืองประกอบพระราชพิธีออกพระเมรุ สมเด็จพระนางเจ้าร�ำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗ ณ ท้องสนามหลวง เม่ือ พ.ศ. ๒๕๒๘ ตามที่ปรากฏจากภาพถ่ายในอดีต หรืออาจเป็นส่วนของอาคาร โรงหล่อพระพุทธสิหิงค์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอฐั มรามาธบิ ดนิ ทร ซง่ึ มกี ารหลอ่ พระพทุ ธสหิ งิ คใ์ นบรเิ วณขา้ งพระทนี่ ง่ั พทุ ไธสวรรย์ เพื่อมอบให้กับจังหวัดต่าง ๆ อาทิ นครปฐม เชยี งใหม่ ฯลฯ นำ� ไปประดิษฐานเป็น พทุ ธปฏมิ าประจ�ำพุทธสถานของแตล่ ะจังหวัด ส�ำหรับโบราณวตั ถทุ พ่ี บจากการขุดค้นครั้งนี้ อาทิ เศษเครอ่ื งถว้ ยจีน กำ� หนด อายุราวปลายพุทธศตวรรษที่ ๒๔ - คร่ึงหลังพุทธศตวรรษที่ ๒๕ ประติมากรรม ดินเผารูปเป็ดเขียนสีเคลือบซ่ึงอาจเป็นส่วนประกอบของมือจับบนฝาภาชนะ หรือส่วนตกแต่งสถาปัตยกรรม เศษเครื่องถ้วยยุโรปชนิดพิมพ์ลายบนเคลือบและ พระราชวงั บวรสถานมงคล 109
ชนิดเคลือบใส ส่วนประกอบทางสถาปตั ยกรรมประเภทกระเบ้อื งปรุ กระเบือ้ งปพู ้ืน บรรจภุ ัณฑ์ประเภทขวดแก้ว ขวดน้�ำหอมท่ผี ลิตจากฝรง่ั เศส ยทุ โธปกรณ์ประเภทปนื ขานกกระยางหรอื ปืนหามแลน่ ลูกปืนใหญ่ เปน็ ตน้ เศษเครอื่ งถ้วยจีนเขียนลายคราม (อายรุ าวปลายพทุ ธศตวรรษที่ ๒๔ – ตน้ พทุ ธศตวรรษที่ ๒๕) เศษเคร่อื งถว้ ยพมิ พ์ลายคราม ประติมากรรมดินเผารปู เป็ดเขยี นสแี ดง เขยี ว ขาว ศลิ ปะจนี (อายรุ าวคร่ึงแรกพุทธศตวรรษท่ี ๒๕) เศษภาชนะดนิ เผาพมิ พ์ลาย ผลติ จากแหล่งเตาในยโุ รป 110 การศึกษาทางโบราณคด ีบริเวณพระราชวงั บวรสถานมงคล (วงั หน้า)
ชน้ิ สว่ นกระเบ้ืองปรุเน้อื ดนิ ชนิ้ สว่ นกระเบอ้ื งปพู ้นื เน้อื ดิน ขวดแกว้ ลูกปนื ใหญ่ พระราชวงั บวรสถานมงคล 111
สภาพทัว่ ไปของพน้ื ท่ขี ดุ คน้ ในระยะท่ี ๕ ปงี บประมาณ ๒๕๕๘ 112 การศึกษาทางโบราณคด ีบรเิ วณพระราชวังบวรสถานมงคล (วงั หนา้ )
อาคารซ่ึงสนั นิษฐานวา่ เปน็ โรงสบู นำ�้ ในรชั สมัยพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจา้ อยหู่ ัว มกี ารสรา้ ง โครงสรา้ งคอนกรตี เสรมิ เหล็กซ้อนทับบนฐานนน้ั โครงสรา้ งอาคารทซี่ ้อนทบั นีต้ รงกบั ตำ� แหนง่ ของ ศาลาลงสรง เม่อื แรกชะลอมาจากพระราชวงั สนามจันทร์ จังหวดั นครปฐม การดำ� เนนิ งานทางโบราณคดี พ.ศ. ๒๕๕๘ ในปีงบประมาณ ๒๕๕๘ กรมศิลปากรได้ด�ำเนินการขุดค้นใน ๒ พื้นที่ ไดแ้ ก่ การดำ� เนนิ งานขดุ คน้ ทางโบราณคดบี รเิ วณสนามดา้ นขา้ งพระทนี่ งั่ พทุ ไธสวรรย์ ส่วนต่อเนื่อง (ระยะที่ ๕) โดยการขุดค้นทางโบราณคดีในคร้ังน้ีเป็นการขุดค้น ต่อเน่ืองเต็มพื้นท่ีส่วนสนามด้านข้างพระท่ีนั่งองค์ดังกล่าว รวมปริมาตรการขุดค้น ของพื้นที่ด้านข้างพระที่น่ังพุทไธสวรรย์ที่ได้ด�ำเนินการนับแต่ปีงบประมาณ ๒๕๕๖ - ๒๕๕๘ จำ� นวน ๑,๑๔๐ ลกู บาศกเ์ มตร พบหลกั ฐานสำ� คญั เกย่ี วกบั สงิ่ กอ่ สรา้ ง ในอดตี ได้แก่ บรเิ วณทิศตะวันออกของพนื้ ทข่ี ดุ คน้ พบแนวอฐิ สอปูนของสงิ่ กอ่ สร้าง คล้ายก�ำแพงท่ีมีการฝังท่อระบายน้�ำอยู่ภายในโดยแนวอิฐเหล่าน้ีมีไม้แบบท�ำด้วย พระราชวังบวรสถานมงคล 113
ไม้กระบากตีประกบเป็นมุมฉากต่อเนื่องกันอย่างเป็นระเบียบ สันนิษฐานว่าอาจ เป็นก�ำแพงท่ีสร้างค่ันระหว่างเขตพระราชฐานช้ันนอกกับพระราชฐานช้ันกลางท่ีมี การร้ือถอนไปในช่วงของการเปลีย่ นแปลงพนื้ ท่ีพระราชวงั บวรสถานมงคล (วังหนา้ ) เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๐ ภายหลังการเสด็จทิวงคตของกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ จึงไม่พบรายละเอียดส่ิงก่อสร้างน้ีท้ังในข้อมูลสารสนเทศภูมิศาสตร์พ้ืนท่ีส่วนน้ี รวมท้งั แผนผงั พระราชวงั บวรสถานมงคล (วงั หน้า) พ.ศ. ๒๔๖๑ ใกล้กับแนวสิ่งก่อสร้างคล้ายก�ำแพงน้ี พบโครงสร้างก�ำแพงท่ีมีการฝังไม้ เป็นโครงสร้างแทรกอยู่ภายใน ใต้ส่วนของก�ำแพงนี้พบการบดอัดของช้ันอิฐที่มี การปกั ไมเ้ ขม็ เหลาปลายแหลม ซึง่ จากการวเิ คราะห์ประเภทไม้ โดยกรมป่าไม้พบวา่ ท�ำดว้ ยไม้สกั ศาลาลงสรง เมอ่ื แรกชะลอมาสรา้ งบริเวณดา้ นขา้ งพระท่ีนั่งพุทไธสวรรย์ 114 การศึกษาทางโบราณคด ีบริเวณพระราชวังบวรสถานมงคล (วงั หน้า)
อาคารโรงซ่อมราชรถ และเครื่องประกอบงานพระเมรุ ในการออกงานพระเมรุ ณ ท้องสนามหลวง พ.ศ. ๒๕๒๘ ซ่ึงต�ำแหน่งอาคารตรงกับโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กที่สร้างเป็นระยะในพ้ืนท่ีขุดค้น ปีงบประมาณ ๒๕๕๗ และ ๒๕๕๘ พระราชวงั บวรสถานมงคล 115
สง่ิ กอ่ สรา้ งอฐิ ลักษณะคลา้ ยกำ� แพงมีการฝงั ทอ่ ระบายนำ้� ดนิ เผาอยภู่ ายใน และตไี ม้กระบากประกบมมุ เปน็ แบบเรยี งเปน็ ระยะ บริเวณฐานอิฐสอปูนของโรงสูบน้�ำซ่ึงพบในการขุดค้น เม่ือปีงบประมาณ ๒๕๕๗ ในการขุดค้นครั้งน้ีพบฐานคอนกรีตเสริมเหล็กสร้างซ้อนทับอีกช้ันหนึ่ง ต�ำแหน่งของส่ิงก่อสร้างดังกล่าวตรงกับที่ตั้งของศาลาลงสรง อันเป็นอาคารที่สร้าง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เดิมตั้งท่ีพระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม ต่อมาโปรดให้ชะลอมาตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑสถาน ส�ำหรับพระนคร ในตำ� แหนง่ ดา้ นทศิ เหนอื ของพระทน่ี ง่ั พทุ ไธสวรรยซ์ ง่ึ ปรากฏในภาพถา่ ยเกา่ กอ่ นทจี่ ะ มกี ารชะลอมาตง้ั ไวใ้ นตำ� แหนง่ ปจั จบุ นั ทางทศิ ตะวนั ออกของพระทนี่ ง่ั พทุ ไธสวรรย์ นอกจากนี้ ยังพบโบราณวัตถุที่มีความคล้ายคลึงกับพื้นท่ีขุดค้นเดียวกัน โดยมอี ายุราวพุทธศตวรรษที่ ๒๔ – ๒๕ 116 การศึกษาทางโบราณคด ีบริเวณพระราชวังบวรสถานมงคล (วงั หน้า)
- การด�ำเนินงานขุดค้นบริเวณพื้นท่ีจอดรถใกล้วัดบวรสถานสุทธาวาส (วดั พระแกว้ วงั หน้า) การขดุ คน้ พนื้ ทดี่ งั กลา่ วเปน็ สว่ นพนื้ ทซี่ ง่ึ จากการศกึ ษาขอ้ มลู แผนผงั ภาพถา่ ย เม่ือ พ.ศ. ๒๔๘๙ เอกสารทางประวัติศาสตร์ รวมทั้งผลการส�ำรวจทางสารสนเทศ ภูมศิ าสตรเ์ พื่อศกึ ษาการใชพ้ น้ื ท่ีในอดตี (GIS) การส�ำรวจโครงสร้างโบราณคดีใต้ดนิ ดว้ ยเทคนคิ เรดารห์ ยงั่ ความลกึ (GPR) พบวา่ เปน็ พนื้ ทซ่ี ง่ึ เปน็ เขตพระราชฐานชนั้ นอก และมีการเปล่ียนแปลงสภาพการใช้พ้ืนท่ีเพื่อการก่อสร้างอาคารกระทรวงธรรมการ ใน พ.ศ. ๒๔๔๐ สภาพพน้ื ทข่ี ดุ คน้ ในบรเิ วณพืน้ ที่จอดรถใกล้วดั บวรสถานสทุ ธาวาส (วัดพระแก้ววงั หน้า) เปน็ สงิ่ กอ่ สร้างอฐิ ขนาดใหญ่ ซึง่ มีลักษณะคล้ายถนนก่อด้วยอฐิ สอปูน กับโครงสร้างอิฐก่อคลา้ ยแนวก�ำแพง ท่ีมีการฝงั ทอ่ นไมแ้ ทรกอยู่ในโครงสรา้ ง พระราชวังบวรสถานมงคล 117
จากการขุดค้นทางโบราณคดีบริเวณพ้ืนที่ดังกล่าว ได้พบ หลกั ฐานทางโบราณคดสี ำ� คญั คอื สว่ นของขอบแนวถนนอฐิ ลกั ษณะ การกอ่ สรา้ งและขนาดของอฐิ สนั นษิ ฐานวา่ อาจเปน็ ถนนทสี่ รา้ งขนึ้ ก่อนการเปล่ียนแปลงพื้นท่ีเขตพระราชฐานช้ันนอก เพื่อจัดสร้าง อาคารกระทรวงธรรมการ ใน พ.ศ. ๒๔๔๐ การดำ� เนนิ งานทางโบราณคดใี นพน้ื ทพี่ ระราชวงั บวรสถาน มงคล (วงั หน้า) ทีก่ ลา่ วมาโดยสงั เขปน้ี มีข้อน่าสังเกตเกยี่ วกบั หลกั ฐานทางโบราณคดีทพี่ บ ดงั นี้ หลักฐานทางโบราณคดสี ่วนใหญ่ กำ� หนดอายดุ ้วยลักษณะ ทางศิลปกรรมและหลักฐานสนับสนุนอื่น ๆ อยู่ในช่วงระหว่าง พทุ ธศตวรรษที่ ๒๔ - ปลายพุทธศตวรรษท่ี ๒๕ และดว้ ยการถูก รบกวนจากการใช้พื้นที่ในปัจจุบัน จึงมีหลักฐานประเภทหนึ่งที่ เป็นวัตถุ หรือส่ิงก่อสร้างในสมัยปัจจุบันซ้อนทับอยู่บนช้ันทับถม ทางโบราณคดีในอดีต โดยยังไม่พบหลักฐานที่มีอายุเก่ากว่าช่วง พทุ ธศตวรรษที่ ๒๔ อนั จะเปน็ หลกั ฐานทบ่ี ง่ ชถ้ี งึ สภาพแรกเรม่ิ กอ่ น การสถาปนาพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) ท่ีพบว่ามีเพียง หลักฐานด้านเอกสาร เช่น พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ต�ำนานวังหน้า พระนิพนธ์ในสมเด็จ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพ ฯลฯ 118 การศกึ ษาทางโบราณคด ีบริเวณพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า)
แผ่นหินสลักตกแตง่ ลาย ศิลปะจีน หักเป็น ๒ ช้นิ พบบริเวณใกล้กับส่งิ กอ่ สรา้ งอิฐ เอกสารหลกั ทก่ี ลา่ วถงึ เกย่ี วกบั ภมู สิ ถานของพระราชวงั บวรสถานมงคล (วงั หนา้ ) คอื ตำ� นานวงั หนา้ พระนพิ นธใ์ นสมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาด�ำรงราชานภุ าพ กลา่ วถงึ อาคารสง่ิ กอ่ สรา้ งตา่ ง ๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในชว่ งระยะเวลาแตล่ ะชว่ ง นบั เปน็ พระนพิ นธ์ ทม่ี าจากค�ำบอกเล่าของพระบรมวงศานุวงศ์ทม่ี พี ระชนม์อย่รู ่วมในสมัยนัน้ และจาก สภาพปัจจุบันของพ้ืนท่ีพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) เมื่อสมเด็จพระเจ้า บรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพทรงพระนพิ นธ์ตำ� นานวงั หนา้ นนั้ พระองค์ จึงระบุไว้ในท้ายบทพระนิพนธ์นั้นว่า “...พระราชมนเฑียรและสถานที่ต่าง ๆ ในพระราชวังบวรสถานมงคลอันปรากฏอยู่ในแผนที่ ที่พิมพ์ผนึกไว้ในสมุดเล่มน้ี พรรณนาแต่สิ่งส�ำคัญและส่ิงท่ีสามารถจะทราบเรื่องราวได้โดยเคยรู้เคยเห็นเองบ้าง สบื ถามผมู้ อี ายทุ ท่ี ราบเรอื่ งราวมาแตก่ อ่ นเลา่ ใหฟ้ งั บา้ ง ประกอบกบั ความสนั นษิ ฐาน พระราชวงั บวรสถานมงคล 119
ตามเหตุผลดงั ไดอ้ ธบิ ายไว้ ยงั มสี ิง่ ทีท่ ราบเรอ่ื งราวไมไ่ ด้ ด้วยหมดตัวผูร้ ูเ้ หน็ เสยี แลว้ ก็ มาก เหน็ วา่ ถา้ ไมม่ ใี ครเขยี นเรยี บเรยี งบนั ทกึ ไวเ้ สยี ยง่ิ นานเรอื่ งตำ� นานวงั หนา้ กจ็ ะยง่ิ สูญหายหมดไปทุกท.ี ..”15 ดงั นน้ั ในการสำ� รวจดว้ ยการใชข้ อ้ มลู สารสนเทศภมู ศิ าสตร์ ประกอบกบั การขดุ คน้ ทางโบราณคดที ด่ี ำ� เนนิ การ จงึ พบวา่ ฐานรากอาคารโบราณสถานทข่ี ดุ คน้ พบนนั้ หลาย แหง่ ไมป่ รากฏขอ้ มลู เกย่ี วกบั ลกั ษณะการซอ้ นทบั ของโครงสรา้ งอาคารทส่ี ามารถระบุ เวลาการสรา้ งทแี่ นช่ ดั รวมทงั้ รายละเอยี ดการดดั แปลงพนื้ ทภ่ี ายใน – ภายนอกอาคาร ตามลักษณะการใชง้ านชว่ งเวลาตา่ ง ๆ ทีเ่ กดิ ข้นึ ฯลฯ ดังนั้น การแปลความเกี่ยวกับ อาคารโบราณสถานจึงมีความจำ� กดั อยา่ งมาก แมจ้ ะมีการน�ำตัวอย่างอฐิ หนิ ไม้ ฯลฯ ท่ีพบในโครงสร้างการซ้อนทับของโบราณสถานท่ีต่างต�ำแหน่งกันน้ันน�ำไปวิเคราะห์ ตรวจสอบอายุ องค์ประกอบด้านวัสดุศาสตร์ในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ เพอื่ เปน็ ขอ้ มลู สนบั สนนุ ในการวเิ คราะห์แปลความเกย่ี วกบั อาคารโบราณสถานทพี่ บ หลกั ฐานทางโบราณคดปี ระเภทวตั ถสุ งิ่ ของ เครอื่ งใชโ้ ดยรวม สะทอ้ นถงึ รสนยิ ม ของผใู้ ชส้ ง่ิ ของเครอ่ื งใชเ้ หลา่ นน้ั วา่ ใชช้ วี ติ เกยี่ วขอ้ งกบั การรบั วฒั นธรรมจากภายนอก ไดแ้ ก่ จนี ญป่ี นุ่ ดนิ แดนตะวนั ตก (ฝรงั่ เศส องั กฤษ สหรฐั อเมรกิ า ฯลฯ) สอดคลอ้ งกบั ข้อมูลทางประวัติศาสตร์เก่ียวกับเจ้านายท่ีประทับในพระราชวังบวรสถานมงคล (วงั หนา้ ) ในชว่ งพทุ ธศตวรรษท่ี ๒๔ - ปลายพทุ ธศตวรรษท่ี ๒๕ ซง่ึ เปน็ ระยะเวลาทม่ี กี าร ติดต่อกับทั้งซีกโลกตะวันออกและตะวันตก มีการรับวิทยาการจากทั้ง ๒ ซีกโลก กลา่ วคือ การรบั วิทยาการตะวันออก อาทิ การค้าขายทางส�ำเภา การสร้างบ้านเรือน การตกแตง่ เคร่อื งเรือน การใชส้ ่งิ ของประเภทภาชนะ บรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ฯลฯ และ การรบั วทิ ยาการจากตะวนั ตก อาทิ ภาษาองั กฤษ วทิ ยาศาสตร์ เครอ่ื งจกั รกล การตอ่ เรอื การพมิ พ์ ฯลฯ การพบหลกั ฐานจากการขดุ คน้ ทางโบราณคดบี ง่ ชใี้ หเ้ หน็ วา่ อาคารในอดตี หลายหลงั ทถ่ี กู ร้ือถอนไปเปน็ อาคารท่สี ร้างในสถาปตั ยกรรมไทย และสถาปตั ยกรรม จีน รวมท้ังมีเครื่องตกแต่งอาคาร ส่ิงของเครื่องใช้ในศิลปะจีน และศิลปะตะวันตก ซ่ึงชาวตะวันตก เช่น เฟรเดอรคิ อาร์เธอร์ นีล กล่าวถงึ พระบาทสมเด็จพระป่นิ เกล้า เจา้ อยหู่ วั วา่ “...(พระบาทสมเดจ็ พระปน่ิ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ) เมอื่ พบนายฮนั เตอรก์ ท็ รงแสดง 15 เร่อื งเดยี วกัน, หน้า ๑๗๖ 120 การศึกษาทางโบราณคด ีบรเิ วณพระราชวังบวรสถานมงคล (วงั หนา้ )
ความประสงค์ในเบ้ืองแรกว่า อยากเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างง่ายๆ และด้วยความ ชว่ ยเหลอื ของเขา พระองคก์ ไ็ ดเ้ รยี นภาษาองั กฤษขนั้ ตน้ ซงึ่ กไ็ ดเ้ ปน็ พนื้ ฐานภาษาองั กฤษ ของพระองค์..ต่อมาจึงได้ซื้อหนังสือเกี่ยวกับการค�ำนวณและก่อสร้าง ฝึกฝนสมอง ของพระองค์ด้วยเรอื่ งปืน วธิ หี ล่อปนื เล็กและปนื ใหญ่...”16 หรือคาร์ล บอค กล่าวถึง สมเดจ็ พระบวรราชเจา้ กรมพระราชวงั บวรวไิ ชยชาญ วา่ “...ทรงเปน็ นกั ศึกษาเกยี่ ว กบั แรธ่ าตตุ า่ ง ๆ และไดส้ ะสมแรไ่ วเ้ ปน็ จำ� นวนมาก ทงั้ ยงั โปรดวชิ าวศิ วกรรม เครอ่ื งกล พระองค์มีแบบจ�ำลองของโรงงานท่ีใช้เคร่ืองยนต์และได้ให้ข้าพเจ้าชมเครื่องยนต์ ไอน้�ำที่พระองค์ทรงสร้างข้ึนเองด้วย ...จากท้องพระโรง (พระที่นั่งวงจันทร์ หรือ พระที่นั่งอิศเรศราชานสุ รณ์) นั้น มองเห็นส่วนท่ีตบแตง่ แบบจนี มีไมด้ ดั เปน็ รูปต่าง ๆ และอา่ งปลาประดบั ด้วยสะพานกับเจดีย์กระเบ้อื งเลก็ ๆ ตามแบบจีน...”17 ขอ้ สงั เกตเหลา่ นี้ เปน็ ภาพรวมการดำ� เนนิ งานทางโบราณคดใี นพน้ื ทพี่ ระราชวงั บวรสถานมงคล (วงั หน้า) ระหวา่ งปีงบประมาณ ๒๕๕๕ - ปจั จุบนั ซ่งึ ข้อมูลทไ่ี ด้รับ จากการขุดค้นทางโบราณคดีนั้น จะมีส่วนต่อการอธิบายพัฒนาการของการใช้พ้ืนที่ ของผู้คนในอดีตบริเวณพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) ข้อสันนิษฐานเหล่านี้ อาจมีการเปล่ียนแปลงได้ หากมีการพบหลักฐานเพ่ิมเติมเพ่ือการแปลความ ในอนาคต 16 กรมศิลปากร. ชีวิตความเป็นอยู่ในกรุงสยามในทัศนะของชาวต่างประเทศ ระหว่าง พ.ศ. ๒๓๘๓ – ๒๓๘๔ [ม.ป.ท.], ๒๕๒๕, หนา้ ๘๓ 17 คารล์ บอค. ทอ้ งถนิ่ สยามยคุ พระพทุ ธเจา้ หลวง. เสถยี ร พนั ธรงั สี และอมั พร ฑขี ะระ เรยี บเรยี ง. กรงุ เทพฯ : ๒๕๕๐, หน้า ๓๐ - ๓๑ พระราชวงั บวรสถานมงคล 121
พระอุโบสถวัดบวรสถานสทุ ธาวาส (วัดพระแกว้ วงั หนา้ )
บทสรปุ พระราชวังบวรสถานมงคล หรือท่ีเรียกกันท่ัวไปว่า “วังหน้า” เป็นสถานท่ี ประทบั ของบุคคลส�ำคัญ มสี ถานะรองจากพระมหากษัตริย์ คอื กรมพระราชวังบวร สถานมงคล ซ่ึงเรียกกันทัว่ ไปวา่ วังหนา้ เช่นกัน วังหน้า กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ทรงมีคุณูปการต่อประเทศชาติ อยา่ งมากมาย ทง้ั การปอ้ งกนั ประเทศ การปกครอง และการทำ� นบุ ำ� รงุ บา้ นเมอื ง วังหน้า พระราชวังบวรสถานมงคลเป็นสถานท่ีส�ำคัญทางประวัติศาสตร์ เปล่ียนแปลงประโยชน์การใช้สอยไปตามยุคสมัยเพ่ือความเหมาะสม เป็นสถานที่ ท่ีงดงาม ควรแกก่ ารอนุรกั ษแ์ ละศกึ ษาเรียนรู้ วงั หนา้ ทง้ั ทเี่ ปน็ บคุ คลและสถานทเี่ ปน็ มรดกทางประวตั ศิ าสตรแ์ ละวฒั นธรรม ทส่ี ำ� คญั ยง่ิ ของประเทศซง่ึ แสดงใหเ้ หน็ พฒั นาการทางประวตั ศิ าสตรท์ สี่ บื สานมาตงั้ แต่ สมยั อยธุ ยาจนถงึ ปัจจุบัน พระราชวังบวรสถานมงคล 123
บรรณานกุ รม กฎหมายตราสามดวง เลม่ ๑. พระนคร : องค์การค้าของคุรุสภา, ๒๕๐๕. คารล์ บอค. ทอ้ งถน่ิ สยามยคุ พระพทุ ธเจา้ หลวง. เสถยี ร พนั ธรงั ษี และอมั พร ฑขี ะระ เรยี บเรยี ง. กรุงเทพฯ : ๒๕๕๐ หนา้ ๓๐ - ๓๑ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ. พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงวิจารณ์เร่ืองพระราชพงศาวดารกับเรื่อง ราชประเพณีการตัง้ พระมหาอุปราช. พระนคร : โรงพมิ พพ์ ระจันทร์, ๒๔๗๙. (สมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัว รชั กาลที่ ๗ โปรดใหต้ พี มิ พ์แจกในงานพระราชทานเพลงิ พระศพพระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ อรพนิ ทเ์ุ บญภาคย์ ณ วนั ที่ ๒ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๔๗๙). ณัฐวฒุ ิ สทุ ธสิ งคราม. กษตั ริย์วังหนา้ พระบาทสมเดจ็ พระป่ินเกล้าเจา้ อย่หู วั . กรงุ เทพฯ : บรษิ ัท สรา้ งสรรค์บคุ๊ ส์ จ�ำกดั , ๒๕๕๒. . สมเดจ็ พระบรมโอรสาธริ าช. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์รุ่งเรอื งธรรม, ๒๕๑๕. ดำ� รงราชานภุ าพ, สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยา. แสดงบรรยายพงศาวดารสยาม. พระนคร : โรงพิมพค์ ุรสุ ภา, ๒๔๙๒. . พระราชพงศาวดารกรงุ รตั นโกสนิ ทร์ รัชกาลท่ี ๕. กรุงเทพฯ : บริษัทวัชรนิ ทร์ การพิมพ์ จ�ำกัด, ๒๕๓๙. (มูลนิธิสมเด็จฯ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ และ หม่อมเจ้าจงจิตรถนอม ดิศกุล พระธิดา จัดพิมพ์เน่ืองในวันคล้ายวันประสูติ สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพ ๒๑ มถิ นุ ายน ๒๕๓๙). ทิพากรวงศมหาโกษาธบิ ด,ี เจ้าพระยา. พระราชพงศาวดารกรงุ รตั นโกสนิ ทร์ รชั กาลที่ ๑. กรุงเทพฯ : บริษทั อมรนิ ทรพ์ รนิ้ ตงิ้ แอนด์ พบั ลิชชิง่ จ�ำกัด (มหาชน), ๒๕๕๒. (คณะสงฆ์วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม มูลนิธิ “ทุนพระพุทธยอดฟ้า” ใน พระบรมราชปู ถัมภ์ จัดพิมพ์เนื่องในโอกาส ครบ ๒๐๐ ปี วันสวรรคตพระบาท สมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช วนั ที่ ๗ กนั ยายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๒). . พระราชพงศาวดารกรงุ รตั นโกสนิ ทร์ รัชกาลที่ ๒. พระนคร : องคก์ ารคา้ ของ ครุ ุสภา, ๒๕๐๔. 124 พระราชวงั บวรสถานมงคล
ทพิ ากรวงศมหาโกษาธบิ ด,ี เจา้ พระยา.พระราชพงศาวดารกรงุ รตั นโกสินทร์ รชั กาลที่ ๓. กรุงเทพฯ : บรษิ ัท อมรินทร์พริน้ ต้งิ แอนด์ พบั ลชิ ช่ิง จำ� กดั (มหาชน), ๒๕๓๘. นรศิ รานวุ ดั ตวิ งศ,์ สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ เจา้ ฟา้ กรมพระยา และ ดำ� รงราชานภุ าพ, สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยา. สาสน์ สมเดจ็ เลม่ ๑๗ พมิ พค์ รง้ั ท่ี ๒. กรงุ เทพฯ : องค์การคา้ ของคุรสุ ภา, ๒๕๑๕. นันทนา กปลิ กาญจน์. การวิเคราะห์ในเชิงประวัติศาสตร์เรื่อง บทบาทของวังหน้าสมัย รตั นโกสนิ ทร์พ.ศ.๒๓๒๕-๒๔๒๘.กรงุ เทพฯ:สำ� นกั พมิ พโ์ อเดยี นสโตร,์ ๒๕๓๙. นอร์ทเทิร์นซัน (๑๙๓๕) จ�ำกัด, บริษัท. รายงานการขุดค้นและขุดแต่งทางโบราณคดี โครงการขดุ คน้ และขดุ แตง่ ทางโบราณคดี บรเิ วณพระราชวงั บวรสถานมงคล ระยะที่ ๑ พ้ืนที่ด้านทิศใต้พระราชมณเฑียร ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร (พ.ศ. ๒๕๕๕) (เอกสารถา่ ยสำ� เนา). . รายงานการขดุ คน้ และขดุ แตง่ ทางโบราณคดี โครงการขดุ คน้ และขดุ แตง่ ทาง โบราณคดี บริเวณพระราชวังบวรสถานมงคล ระยะท่ี ๒ พ้ืนท่ีสนามหญ้า ด้านหน้าโรงราชรถ และพระท่ีน่ังมังคลาภิเษก ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร (พ.ศ. ๒๕๕๖) (เอกสารถา่ ยสำ� เนา) . รายงานการขดุ คน้ และขดุ แตง่ ทางโบราณคดี โครงการขดุ คน้ และขดุ แตง่ ทาง โบราณคดี บริเวณพระราชวังบวรสถานมงคล ระยะท่ี ๓ พ้ืนที่สนามหญ้า ด้านหน้าโรงราชรถ และพระที่น่ังมังคลาภิเษก ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร (พ.ศ. ๒๕๕๖) (เอกสารถา่ ยสำ� เนา) ประภัสสร บุญประเสริฐ. ขอบเขตพระอ�ำนาจของกรมพระราชวังบวรสถานมงคลใน สมยั รตั นโกสนิ ทร์ วทิ ยานพิ นธอ์ กั ษรศาสตรมหาบณั ฑติ ภาควชิ าประวตั ศิ าสตร์ บณั ฑติ วทิ ยาลยั จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย, ๒๕๑๖. ศิลปากร, กรม. กรงุ เทพฯ ๒๔๘๙ – ๒๕๓๙. กรงุ เทพฯ : บรษิ ทั เอ.พี. กราฟคิ ดไี ซน์และ การพมิ พ์ จำ� กดั , ๒๕๓๙. . กรมพระราชวังบวรสถานมงคลสมัยรัตนโกสินทร์. กรุงเทพฯ : บริษัท รงุ่ ศลิ ป์การพมิ พ์ (๑๙๗๗) จ�ำกดั , ๒๕๕๖. (กรมศลิ ปากร กระทรวงวฒั นธรรม จดั พมิ พเ์ ฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระบรมโอรสาธริ าชฯ สยามมกฎุ ราชกมุ าร เนอ่ื ง ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕). พระราชวงั บวรสถานมงคล 125
ศลิ ปากร, กรม. ค�ำให้การชาวกรุงเกา่ ค�ำใหก้ ารขนุ หลวงหาวัด และพระราชพงศาวดาร กรงุ เกา่ ฉบบั หลวงประเสรฐิ อกั ษรนติ .ิ์ พระนคร : สำ� นกั พมิ พค์ ลงั วทิ ยา, ๒๕๑๕. . ชีวิตความเป็นอยู่ในกรุงสยามในทัศนะของชาวต่างประเทศ ระหว่าง พ.ศ. ๒๓๘๓ - ๒๓๘๔. [ม.ป.ท.], ๒๕๒๕. . เที่ยวเกาะรัตนโกสนิ ทร์ ยลวดั แลวัง. [ม.ป.ท.], ๒๕๕๖. . ประชุมพงศาวดารภาคที่ ๒๖ เร่ืองต�ำนานวังเก่าในกรุงเทพฯ และประชุม พงศาวดาร ภาคท่ี ๑๓ (บางตอน). กรุงเทพฯ : โรงพิมพม์ หามกุฏราชวทิ ยาลยั , ๒๕๓๒. (พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพนายบวร ธีมากร ณ เมรุ วัดตรที ศเทพวรวหิ าร กรุงเทพมหานคร วันพฤหัสบดีที่ ๓ สงิ หาคม พุทธศกั ราช ๒๕๓๒). . แผนแม่บทโครงการอนุรักษ์และพัฒนาพระราชวังบวรสถานมงคล พ.ศ. ๒๕๕๕. (เอกสารถา่ ยส�ำเนา). . พระราชพงศาวดารกรงุ รตั นโกสนิ ทร์ รชั กาลที่ ๔. กรงุ เทพฯ : บรษิ ทั อมรนิ ทร์ พรนิ้ ตง้ิ แอนด์ พบั ลชิ ชงิ่ จำ� กดั (มหาชน), ๒๕๔๘. (คณะอนกุ รรมการฝา่ ยจดั ทำ� หนงั สอื ทรี่ ะลกึ ในคณะกรรมการอำ� นวยการจดั งานเฉลมิ พระเกยี รตพิ ระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ในโอกาสทว่ี นั พระบรมราชสมภพ ครบ ๒๐๐ ป)ี . . พระราชพงศาวดารฉบบั พระราชหัตถเลขา ๒ เลม่ . กรงุ เทพฯ : ส�ำนกั พมิ พ์ คลงั วทิ ยา, ๒๕๑๖. . พระราชวังบวรสถานมงคล. กรุงเทพฯ : บริษัท รุ่งศิลป์การพิมพ์ (๑๙๗๗) จ�ำกดั , ๒๕๕๖. . เรอ่ื งกรมพระราชวงั หลัง. (กรมศิลปากรจดั พมิ พ์เปน็ บรรณาการในงานบ�ำเพญ็ กุศลฉลองอายุครบรอบ ๗๕ ปี บริบูรณ์ของพระปรีชาเฉลิม (ติลกะยเถระ) (ม.ล.ยมิ้ ปาลกะวงศ)์ ณ วัดเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนนทบุรี วันที่ ๑๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๙). . สมเด็จพระบรมโอรสาธริ าช สยามมกฎุ ราชกมุ าร. กรุงเทพฯ : โรงพิมพก์ าร ศาสนา, ๒๕๑๕. (กรมศิลปากรจัดพิมพ์เนื่องในพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จ พระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณสยามมกุฎราชกุมาร วันที่ ๒๘ ธนั วาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๕). 126 พระราชวังบวรสถานมงคล
หอสมดุ วชริ ญาณ. ต�ำนานวงั หนา้ พมิ พค์ รั้งท่ี ๒. พระนคร : โรงพิมพโ์ สภณพพิ รรฒธนากร, ๒๔๖๘.(พิมพ์ในงารพระราชทานเพลิงศพ อ�ำมาตย์เอก หม่อมเจ้าโกสิต ทจ. ตช. รตั น วปร ๓. ในพระเจา้ ราชวงศเ์ ธอ ช้ัน ๔ พระองค์เจา้ ภาณุมาศ เมื่อปีฉลู พ.ศ. ๒๔๖๘). . พระบรมราชาธิบายในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ว่าด้วย พระยศเจา้ ตา่ งกรมและยศขุนนาง. พระนคร : โรงพิมพโ์ สภณพพิ รรฒธนากร, ๒๔๖๕. (พระนางเจา้ สขุ มุ าลมารศรฯี โปรดใหพ้ มิ พใ์ นการทรงบ�ำเพญ็ พระราชกศุ ล เม่ือสมเดจ็ พระเจา้ พ่ีนางเธอ เจ้าฟ้าสทุ ธาทพิ ยรตั นฯ กรมหลวงศรีรตั นโกสินทร์ สน้ิ พระชนมม์ าถึงปัญญาสมวาร ณ วันท่ี ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๕). . พระบวรราชประวตั แิ ละพระบวรราชนพิ นธ.์ พระนคร : โรงพมิ พโ์ สภณพพิ รรฒ ธนากร, ๒๔๗๐. (พระโอรสธิดาแลกุลสนั ตตวิ งศ์ในกรมพระราชวงั บวรฯ ท้งั ๕ รชั กาล พมิ พเ์ ปนทรี่ ะลกึ ในงานบรรจพุ ระอฐั พิ ระโอรสธดิ าในกรมพระราชวงั บวรฯ ๕ พระองค์ ณ วดั ชนะสงคราม เม่อื ปีเถาะ พ.ศ. ๒๔๗๐). Fine Arts Department, The . Guide to the National Museum Bangkok Fourth Edition. Bangkok : Amarin Printing and Publishing Public Company Limited, 1999. พระราชวังบวรสถานมงคล 127
พระราชวังบวรสถานมงคล (วังหนา้ ) กรมศลิ ปากร กระทรวงวัฒนธรรม พมิ พ์ครง้ั ที่ ๑ พุทธศกั ราช ๒๕๕๘ จ�ำนวน ๓,๐๐๐ เลม่ ISBN 978-616-283-232-1 ที่ปรึกษา อธิบดกี รมศิลปากร นายบวรเวท รงุ่ รจุ ี รองอธบิ ดีกรมศิลปากร นายพีรพน พสิ ณพุ งศ ์ รองอธบิ ดกี รมศลิ ปากร นางสนุ สิ า จติ รพันธ ์ รองอธบิ ดีกรมศลิ ปากร นายสหภูมิ ภูมธิ ฤติรฐั นกั โบราณคดที รงคณุ วฒุ ิ (ผู้เช่ยี วชาญเฉพาะด้าน นายสมชาย ณ นครพนม โบราณคดี (โบราณคดแี ละพิพธิ ภณั ฑ)์ ) ผูอ้ ำ� นวยการสำ� นกั บริหารกลาง นางสาวศุภร รัตนพงศ ์ คณะทำ� งาน นายธนากร กำ� ทรพั ย์ นายธีระ แก้วประจันทร์ นางสาวเดน่ ดาว ศิลปานนท์ นางสาวอรวรรณ ทรัพย์พลอย นายวโรภาส วงศ์จตรุ ภทั ร นางมนต์จันทร์ วงศจ์ ตรุ ภทั ร นางสาวเมธนิ ี จริ ะวัฒนา นางระวีวรรณ แสงวณั ณ ์ นางสาวหัทยา สริ ิพฒั นากลุ นายบณั ฑิต ล่ิวชัยชาญ นางกิริยา ชยะกุลสทิ ธวิ ัง นายภาสกร คำ� ภูแสน นางรัชณี งามเจรญิ นางวรานี เนียมสอน นางสาวศริ พิ ร ดยี ิ่ง นางสาวรจุ ิรา ไชยคำ� ภา นางสาวภทั รณ์ รินทร์ รวิชนพรัตน์ ภาพประกอบ สำ� นักบริหารกลาง กลุ่มเผยแพรแ่ ละ สำ� นักหอจดหมายเหตุแหง่ ชาติ ประชาสัมพันธ์ นายสภุ าชัย ตยิ าภรณ์ พิพธิ ภณั ฑสถานแห่งชาติ พระนคร นายธวชั ชัย รามนัฏ พิมพท์ ี่ บรษิ ัท รุ่งศิลปก์ ารพมิ พ์ (๑๙๗๗) จำ� กัด เลขท่ี ๕๕๕ หมู่ ๑๒ ถนนพทุ ธมณฑล สาย ๕ ตำ� บลไรข่ งิ อ�ำเภอสามพราน จงั หวัดนครปฐม ๗๓๒๑๐ โทร. ๐ ๒๑๑๘ ๓๕๕๕
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130