Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานประจำปี 2555 กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รายงานประจำปี 2555 กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

Published by srirachalib, 2015-09-02 04:48:18

Description: Annual Report 2010

Keywords: Annual Report 2010

Search

Read the Text Version

สารบัญ >> 1 2สารนายกรัฐมนตรี 4สารรฐั มนตรีวา่ การกระทรวงวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย ี 6สารปลดั กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย ี 8บทความ 18“พระราชด�ำรงิ านวิจัย พระราชทานให้เมอื่ พระชนมพรรษา ๘๓ พรรษา” 19คณะผบู้ ริหาร 20วสิ ัยทศั น ์ 23พนั ธกิจ, ค่านิยม 37เกริน่ นำ� 61I การส่งเสริมภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร 73II การพัฒนาศักยภาพและเพมิ่ ขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศ 87III สรา้ งงาน สร้างรายได้ พัฒนาชวี ิต ส่งเสรมิ เศรษฐกจิ ชุมชน 107IV การเตรียมความพร้อมและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภมู ิอากาศ 118V การสรา้ งความตระหนกั และพฒั นาบคุ ลากรทางดา้ นวทิ ยาศาสตร ์ 130VI การพัฒนาโครงสรา้ งพ้ืนฐานทางด้านวทิ ยาศาสตร์ ภาพข่าวกิจกรรม หนว่ ยงานในสงั กดั กระทรวงวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี



สาร นายอภิสิทธ์ิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เน่ืองในโอกาสวันคล้ายวนั สถาปนากระทรวงวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครบรอบ ๓๒ ปี วนั ท่ี ๒๔ มนี าคม ๒๕๕๔ -------------- ในปัจจุบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวหน้าไปอย่างไม่หยุดย้ัง ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในดา้ นต่างๆ อย่างกวา้ งขวาง รัฐบาลตระหนักดวี า่ การพฒั นาประเทศจ�ำเป็นตอ้ งพึง่ พาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีท่ีเหมาะสม จึงก�ำหนดนโยบายด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัย และนวัตกรรมอย่างเป็นระบบ โดยส่งเสริมสนับสนุนโครงการวิจัยและพัฒนาตามแนวพระราชด�ำริ การพัฒนางานวิจัยขั้นพื้นฐานและวิจัยประยุกต์ เพ่ือใช้ประโยชน์เชิงพาณชิ ย์ การพัฒนากำ� ลังคนเพ่อื ตอบสนองความตอ้ งการของภาคการผลติ รวมถึงการวจิ ัยและพฒั นาเพ่ือยกระดบั คุณภาพชวี ติ ของประชาชนโดยรวม นอกจากน้ี คณะรัฐมนตรยี งั ไดอ้ นมุ ตั นิ โยบายและยทุ ธศาสตร์การวจิ ยั ของชาตฉิ บบั ที่ ๘ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) และยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ยั (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙) ๔ ภมู ภิ าค เพอ่ื ใหห้ นว่ ยงานต่างๆ ใช้เป็นแนวทางในการด�ำเนินการวจิ ยั อันจะท�ำใหเ้ กดิ การบรู ณาการเช่อื มโยงระหวา่ งภาครฐั เอกชน และสถาบนั วจิ ยั ทเ่ี กี่ยวขอ้ งอยา่ งเป็นรูปธรรม ผมขอขอบคุณผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าท่ี และผู้ท่ีเก่ียวข้องของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ีมุ่งม่ัน พยายาม และรับผิดชอบการด�ำเนินงานในฐานะเป็นองค์กรหลักของการพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อสร้างปัญญาในสังคมและพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศมาอย่างเต็มท่ีตลอดระยะเวลา ๓๒ ปีทผี่ า่ นมา ผมหวังเปน็ อยา่ งยิ่งวา่ นับจากนไี้ ป กระทรวงวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยจี ะผลกั ดันผลงานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและประชาชนชาวไทยมากข้ึนอีก ท้ังนี้เพ่ือเพิ่มคุณภาพชวี ติ สรา้ งโอกาสใหม่ๆ และเช่อื มโยงกับเศรษฐกจิ เพอ่ื สรา้ งมูลค่าเพม่ิ และคณุ ค่าอยา่ งยั่งยืน ในโอกาสครบรอบ ๓๒ ปี วนั คลา้ ยวนั สถาปนากระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ผมขออวยพรให้รฐั มนตรี ผบู้ ริหาร ขา้ ราชการ เจ้าหนา้ ท่แี ละผูเ้ กยี่ วข้องทุกคน จงประสบแตค่ วามสุข ความเจริญ มกี �ำลังกาย ก�ำลงัใจ เพ่ือร่วมสรา้ งสรรคแ์ ละพัฒนางานดา้ นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยขี องประเทศให้กา้ วหนา้ อันจะเป็นประโยชน์แกส่ ังคมและประเทศชาตทิ ัง้ ในปัจจุบนั และอนาคต (นายอภิสทิ ธ์ิ เวชชาชีวะ) นายกรัฐมนตรี

สาร ดร.วีระชยั วีระเมธีกุล รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เนอ่ื งในโอกาสวนั คล้ายวันสถาปนากระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครบรอบ ๓๒ ปี วนั ท่ี ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๔ -------------- วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีความส�ำคัญย่ิงต่อการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของไทยใหก้ า้ วทนั กระแสการเปล่ยี นแปลงของโลกแห่งยุคการใชอ้ งค์ความรใู้ หม่และนวตั กรรม กระทรวงวทิ ยาศาสตรฯ์ ไดด้ ำ� เนนิ การตามนโยบายรฐั บาลดา้ นวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรมเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าความก้าวหน้าน้ันสอดคล้องและสามารถรองรับกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ อนั จะนำ� ไปสกู่ ารสรา้ งงาน สรา้ งรายได้ และยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ ของประชาชนอยา่ งยงั่ ยนื โดยมงุ่ เนน้การส่งเสริมโครงการวิจัยตามแนวพระราชด�ำริและปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” การขยายผลจากงานวิจัยและพฒั นาเพอ่ื ใหเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ การใชง้ านจรงิ ในวงกวา้ ง รวมถงึ การสรา้ งความตระหนกั ดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละสง่ เสรมิวัฒนธรรมนวัตกรรมในสังคมไทยอย่างตอ่ เนอื่ ง ความส�ำเร็จในการด�ำเนินงานของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เป็นท่ีประจักษ์ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนโครงการตามแนวพระราชด�ำริในการพัฒนาระบบจัดการทรัพยากรน้�ำเพื่อความมั่นคงของเศรษฐกิจชมุ ชน และสง่ เสริมการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ สนองพระราชด�ำริสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ าร ี ผลงานสำ� คญั ของกระทรวงวทิ ยาศาสตรฯ์ ยงั มผี ลสง่ เสรมิ การพฒั นาเศรษฐกจิ สงั คม และความมนั่ คงของประเทศในภาพรวม โดยในด้านเศรษฐกิจ ได้ด�ำเนินโครงการอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทยและภูมิภาคให้เป็นนิคมวิจัยส�ำหรับธุรกิจอย่างครบวงจร การพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานทางด้านห้องปฏิบัติการเพ่ือสนับสนุนการส่งออกของไทย การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาควิชาการ และภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศในการพัฒนาเทคโนโลยีอาหาร เกษตร และพลังงานทดแทน เป็นต้น ส�ำหรับทางด้านสังคมไดม้ กี ารถา่ ยทอดเทคโนโลยสี ชู่ มุ ชนชนบทเพอ่ื เสรมิ สรา้ งเศรษฐกจิ ฐานรากใหเ้ ขม้ แขง็ อยา่ งยง่ั ยนื การรกั ษาสง่ิ แวดลอ้ มและการเตรียมความพร้อมเพอ่ื รับมอื กบั ภยั พิบัติตา่ ง ๆ ในสว่ นของการส่งเสรมิ และรักษาความมั่นคงของประเทศเนน้ การนำ� เอาเทคโนโลยไี ปพฒั นาความเปน็ อยขู่ องพนี่ ้องประชาชนและทหารในจังหวัดชายแดนภาคใต้

ผมขอแสดงความยินดี ในโอกาสทก่ี ระทรวงวทิ ยาศาสตรฯ์ ได้สถาปนามาเป็นปีที่ 32 และขอเดชะพระบารมีแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดดลบันดาลให้ผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ทุกท่านประสบความสุข ความเจริญ สัมฤทธ์ิผลการด�ำเนินงานเปน็ กำ� ลงั สำ� คญั ในการพฒั นาชาติไทยสบื ไป (ดร.วรี ะชัย วรี ะเมธกี ุล) รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

สาร ดร.พรชัย รจุ ปิ ระภา ปลดั กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เนอื่ งในโอกาสวนั คล้ายวนั สถาปนากระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครบรอบ ๓๒ ปี วนั ที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๔ -------------- หากมองย้อนกลบั ไปถึงประวัตศิ าสตร์ของโลก จะเหน็ ไดว้ า่ ช่วงเวลาประมาณ 200 ปีท่ผี ่านมา เป็นช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ได้ถูกน�ำมาใช้เพื่อการผลิตซึ่งน�ำไปสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรม และได้กลายเป็นปัจจัยหลักที่ท�ำให้เกิดการเปล่ียนแปลงทางโครงสร้างเศรษฐกิจซึ่งท�ำให้มนษุ ยร์ จู้ กั คำ� วา่ การเตบิ โตทางเศรษฐกจิ และทำ� ใหเ้ กดิ การเปลยี่ นแปลงทางสงั คมจากสงั คมการเกษตรสสู่ งั คมเมอื งซง่ึ การเปลยี่ นแปลงดงั กลา่ วนำ� ไปสกู่ ารขยายตวั ของระบอบเศรษฐกจิ ทนุ นยิ มผสมกบั การปกครองแบบประชาธปิ ไตยไปในประเทศโดยส่วนใหญ่ของโลก ตลอดชว่ งเวลาดงั กลา่ ว ถงึ แมว้ า่ ความรทู้ างวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยจี ะมจี ดุ ก�ำเนดิ สว่ นใหญอ่ ยใู่ นประเทศตะวนั ตก แตห่ ลายประเทศในเอเชยี กไ็ ดเ้ รยี นรทู้ จ่ี ะนำ� วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยมี าใชเ้ พอื่ พฒั นาเศรษฐกจิและสงั คมของตนเอง ผา่ นทางการกำ� หนดนโยบายและดำ� เนนิ การรว่ มระหวา่ งภาครฐั และภาคสว่ นตา่ งๆ ทงั้ จากกรณีของการสง่ เสรมิ อตุ สาหกรรมและเทคโนโลยรี ายสาขาโดย Ministry of International Trade and Industry (MITI)กบั กลุ่มบริษทั อตุ สาหกรรมของประเทศญี่ปุ่น การท�ำงานร่วมกนั ระหวา่ ง Korea Development Institute (KDI), Economic Planning Board (EPB) และ Korea Institute of Science and Technology (KIST) กบั กลุ่มบรษิ ทัอตุ สาหกรรมขนาดใหญข่ องประเทศเกาหลใี ต้ และกรณขี องการประสานงานระหวา่ ง Council for Economic Plan-ning and Development (CEPD) และ Minister of Economic Affairs กบั Industrial Technology ResearchInstitute (ITRI) ในการก�ำหนดทิศทางพฒั นาเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมของประเทศไตห้ วนั ซงึ่ ความร่วมมือในการก�ำหนดทิศทางของนโยบายและประสานการปฏิบัติงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นปัจจัยส�ำคัญที่ผลกั ดนั ให้ประเทศเอเชยี เหล่าน้ีเกิดการพัฒนาทางเศรษฐกจิ และสังคมอยา่ งรวดเรว็ กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ในฐานะหนว่ ยงานหลกั ดา้ นการพฒั นาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวตั กรรมของประเทศ ไดต้ ระหนกั ถงึ ปจั จยั ทนี่ ำ� ไปสคู่ วามสำ� เรจ็ ดงั เชน่ ในกรณขี องประเทศตา่ งๆ ทก่ี ลา่ วมา อนัประกอบด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการวิจัยและการบริหารจัดการเทคโนโลยีร่วมกันระหว่างภาครัฐกับ

ภาคสว่ นตา่ งๆ กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยจี งึ เรมิ่ ตน้ ทจี่ ะประสานการวางแผนงานวจิ ยั และการใชป้ ระโยชน์ร่วมกันระหว่างหน่วยงานในสังกัดกระทรวงกับหน่วยงานภายใต้กระทรวงอ่ืนๆ (เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กระทรวงอตุ สาหกรรม กระทรวงพลังงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเทีย่ วและกีฬา) ส�ำนกั งานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ส�ำนักงบประมาณ ภาคเอกชน และภาคส่วนอืน่ ๆ ซง่ึ จะเป็นก้าวแรกท่ีส�ำคัญในการบูรณาการการท�ำงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมกัน ซึ่งช่วยให้การจัดเตรียมโครงสร้างพ้ืนฐานและก�ำหนดหัวข้อวิจัยและพัฒนา สอดคล้องกับทิศทางและสาขาการผลิตท่ีส�ำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมของประเทศ และชว่ ยใหว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยไี ดเ้ ปน็ ปจั จยั หลกั ในการพฒั นาและรกั ษาเสถยี รภาพทางเศรษฐกจิ และสงั คมของประเทศต่อไปในอนาคต กระผมขอขอบคณุ ขา้ ราชการ พนกั งาน และเจา้ หนา้ ทหี่ นว่ ยงานในสงั กดั กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีทกุ ทา่ นทไี่ ดร้ ว่ มกนั ทมุ่ เทการทำ� งานในตลอดชว่ งปี 2553 ทผี่ า่ นมา พรอ้ มทง้ั ขอสง่ ความปรารถนาดไี ปยงั ขา้ ราชการพนักงาน และเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทุกท่านให้ประสบความสุข ความเจริญ และมีสุขภาพที่แข็งแรง เพ่ือร่วมกันประสานการท�ำงานอันจะน�ำไปสู่การยกระดับการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานและการบูรณาการการก�ำหนดทิศทางและการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งจะเป็นปัจจัยส�ำคัญในการเตรียมความพรอ้ มของประเทศใหส้ ามารถรองรับตอ่ การเปล่ียนแปลงในอนาคต ทงั้ ทางดา้ นเศรษฐกจิ สงั คมและสง่ิ แวดลอ้ ม และชว่ ยยกระดบั ขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั ของไทยในเศรษฐกจิ โลก รวมถงึ สง่ เสรมิ ความเสมอภาคของประชาชนทกุ คนในประเทศให้ไดร้ บั สิทธแิ ละคณุ ภาพชวี ติ ทีเ่ ทา่ เทยี มกันตอ่ ไป (ดร.พรชัย รจุ ปิ ระภา) ปลดั กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

บทความ “พระราชด�ำรงิ านวจิ ัย พระราชทานให้เม่อื พระชนมพรรษา ๘๓ พรรษา” นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จข้ึนครองราชย์ ได้ทรงอุทิศพระองค์ประกอบพระราชกรณียกิจในทุกด้านท่ีจะก่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่ราษฎรและประเทศชาติ พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ท่ีทรงงานหนักที่สุดพระองคห์ นึ่งของโลก พระราชกรณยี กิจทท่ี รงปฏบิ ตั ิครอบคลมุ ไปทว่ั ทุกภมู ภิ าค การเสด็จเยีย่ มราษฎรในพ้ืนที่ต่างๆ ทั่วราชอาณาจักร ท�ำให้พระองคท์ อดพระเนตรเห็นสภาพความเปน็ จรงิ และทรงตระหนกั ถึงปัญหาอนั แท้จริงของราษฎร พระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกายและพระราชหฤทัยที่จะแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเสมือนเป็นความทกุ ข์สว่ นพระองค์ ดงั พระราชด�ำรสั ทท่ี รงรับสั่งอยเู่ สมอวา่ “ทกุ ข์ของประชาชน กค็ ือทกุ ขข์ องแผน่ ดนิ ” ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระราชหฤทัยในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพราะทรงเลง็ เหน็ วา่ การพฒั นาประเทศและการชว่ ยเหลอื ราษฎรของพระองคใ์ หม้ ชี วี ติ ความเปน็ อยู่ทด่ี ขี น้ึ นัน้ จะตอ้ งอาศยั ความร้แู ละวทิ ยาการสมัยใหมเ่ ขา้ มาชว่ ยดว้ ย พระองค์ทรงศกึ ษา ค้นคว้า วิจัย ทดลอง และทรงนำ� ความรูท้ างสาขาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยใี นทกุ สาขาวิชามาใชใ้ นการพฒั นา โดยทรงมุ่งให้เกิดการพัฒนาคนใหอ้ ยู่ได้ดว้ ยการพ่งึ ตนเองเป็นสำ� คญั ทุกๆ โครงการพระราชด�ำริ ล้วนมีวิธีด�ำเนินการที่ง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน มีความสอดคล้องกับธรรมชาติสภาพแวดล้อม และสภาพสังคมของชุมชนนั้นๆ การน�ำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนา พระองค์ไม่ทรงปิดกั้นเทคโนโลยีใหม่จากต่างประเทศ แต่ทรงเน้นว่าจะต้องเลือกใช้เทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์มาปรับปรุงใช้ใหพ้ อเหมาะพอดกี บั สภาพและฐานะของประเทศ โดยเนน้ ทปี่ ระสทิ ธภิ าพและประหยดั พระองคท์ รงเหน็ วา่ เทคโนโลยีของไทยบางอยา่ งยงั สตู้ า่ งชาตไิ มไ่ ด้ แตท่ รงโปรดใหใ้ ชเ้ ทคโนโลยขี องคนไทย และประเทศไทยจำ� เปน็ ตอ้ งมเี ทคโนโลยีเปน็ ของตัวเอง เพือ่ เปน็ การพิสจู น์ว่าเรามคี วามรู้เปน็ ของตวั เองเช่นกัน พระราชด�ำริงานวิจัย พระราชทานให้เมื่อพระชนมพรรษา ๘๓ พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลเข้าเฝ้าฯ เม่ือวันท่ี ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ณ ห้องประชุมช้ัน ๑๔อาคารเฉลมิ พระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช สรปุ พระราชด�ำริ ความตอนหนึง่ วา่ “...ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเห็นได้ชัด ท้ังทิศทางลม ฝน ฤดูกาล เห็นได้จากแนวฝนทเี่ คล่ือนตัวลงต�่ำกวา่ เขือ่ นภมู ิพล ทศิ ทางลมทที่ ำ� ให้เกดิ ฝนกเ็ ปลี่ยนและวกวนมาก เช่น สปั ดาหน์ ี้ ลมพาฝนมาจากทะเลอันดามันพัดไปทางตะวันออกแล้ววกกลับมาตกตอนเหนือของไทย จึงต้องเร่งศึกษาวิจัย แนวทางการศึกษาของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน�้ำและการเกษตร (องคก์ ารมหาชน) ท่ที �ำเกยี่ วกบั อณุ หภมู ิ และคลืน่ ในทะเล และแบบจ�ำลองลม น้ันถกู แล้ว ใหด้ ำ� เนนิ การต่อใหใ้ ช้ได้โดยเร็ว”6 AMinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy

“...การบรหิ ารจดั การน้�ำนนั้ ทส่ี ำ� คญั คอื จงั หวะการปด เปด ระบายหรอื รบั นำ้� เพราะน�้ำเมอ่ื ไหลไปแลวไมไ หลยอนกลับขึ้นมา จะทําไดก็ตองใชพลังงานมาก นอกจากนี้หากเขาใจธรรมชาติของน�้ำอย่างถ่องแท ไมใชแคการไหลตองเขาใจต้ังแตน�้ำในมหาสมุทรที่อุณหภูมิเปล่ียน ตางกันจึงเกิดการไหล ระเหยเปนฝนตกลงมา บางสวนซึมเปนนำ�้ ใต้ดิน ซ่ึงหากเขาใจศึกษากพ็ ัฒนาเขื่อนใตด นิ แหลงน้�ำใต้ดินได เหมือนทเี่ ชยี งดาว หรอื แมฮองสอน และถา เขาใจพชื ชนดิ ตา งๆ กส็ ามารถเลอื กพชื มาปลกู ใหด ดู ซบั ดงึ สรา งและรกั ษาความชืน้ ในผิวดนิ ไวไ ด้” กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ไดด้ ำ� เนนิ การสนองพระราชดำ� รดิ งั กลา่ ว มอบหมายใหส้ ถาบนั สารสนเทศทรัพยากรน�้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) ร่วมกับส�ำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ(องค์การมหาชน) ศึกษาวิจัยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จัดท�ำฐานข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเพ่ือน�ำมาประกอบการบริหารจัดการน�้ำ ส�ำหรับเร่ืองแหล่งน�้ำใต้ดิน สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้�ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) ได้ด�ำเนินการร่วมกับสถาบันเทคโนโลยนี ิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) สถาบันการศึกษา และ International Atomic Energy Agency(IAEA) ดำ� เนนิ งานโครงการประยกุ ตใ์ ชไ้ อโซโทปและเคมเี ทคนคิ เพอื่ บรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ้� บาดาล พนื้ ทลี่ มุ่ นำ้� ชีตอนบน ส่วนท่ี ๑ และ ๒ จงั หวัดชัยภมู ิ นอกจากน้ี กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ยงั ไดเ้ ขา้ ไปมสี ว่ นสนองโครงการในพระราชดำ� ริ ดว้ ยการนำ�ผลงานวจิ ยั วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรม สนับสนนุ โครงการในพระราชด�ำริตา่ งๆ ใหป้ ระชาชนในชนบทได้รับผลอย่างเป็นรูปธรรม เพิ่มรายได้ และปรับปรุงความเป็นอยู่ให้ดีข้ึน ซ่ึงเห็นได้จากผลงาน/โครงการต่างๆที่ปรากฏในรายงานประจำ� ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยเี ล่มนี้ 7รากยระงทารวนงวทิปยารศะาสจตร�ำ์แปละเี ท2คโ5น5โล3ยี

คณะผู้บรหิ าร >> สำ�นักงานรฐั มนตรี รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงดวิทรย.วาศรี าะสชตยั ร์แวลรีะเะทเคมโธนโีกลลุยีนายสุรเชษฐ์ แวอาแซ นายอนุชา จนั ทรส์ รุ ิยา นายก้องศักด์ิ ยอดมณีผชู้ ว่ ยรฐั มนตรวี า่ การ เลขานกุ ารรัฐมนตรวี ่าการ ทป่ี รกึ ษารฐั มนตรีว่าการกระทรวงวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี8 MAinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy

สำ�นักงานปลดั กระทรวงวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีดปลรัด.พกรระชทยั รวงรุจปิ ระภารศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ นางสาวเสาวณี มุสิแดงรองปลดั กระทรวง รองปลัดกระทรวงดร.สทุ ธเิ วช ต.แสงจนั ทร์ นางนนั ทวรรณ ชน่ื ศิริหัวหน้าผ้ตู รวจราชการกระทรวง ผตู้ รวจราชการกระทรวง 9รากยระงทารวนงวิทปยารศะาสจตร�ำแ์ ปละเี ท2คโ5น5โล3ยี

คณะผู้บริหาร >> กรมวิทยาศาสตร์บริการนายเกษม พิฤทธิ์บูรณะ นางสาวจันทรเ์ พ็ญ ใจธีรภาพกุล อธิบดี รองอธิบดีสำ�นกั งานปรมาณเู พ่ือสนั ติศ.เกียรติคุณ ดร.ชัยวัฒน์ ต่อสกุลแก้ว นายวิเชยี ร วงษส์ มาน นางประไพพิศ สุปรารภเลขาธกิ าร รองเลขาธกิ าร รักษาการรองเลขาธกิ าร10 AMinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy

สถาบันวจิ ยั วทิ ยาศาสตแรห์แ่งลปะรเทะเคทโศนไโทลยยีนางเกษมศรี หอมชืน่ ดร.ลักษมี ปลง่ั แสงมาศ ดร.สทุ ธพิ ร ชีวสาธน์ ผวู้ า่ การ รองผวู้ ่าการบรกิ ารอตุ สาหกรรม รองผวู้ า่ การวจิ ยั และพฒั นา ด้านพัฒนาอยา่ งย่ังยนืดร.สุภาพ อัจฉรยิ ศรีพงศ์ ดร.อนชุ า เล็กสกลุ ดลิ ก นายชวลติ ลีลาศวิ พร รองผูว้ ่าการบรหิ าร รองผวู้ ่าการยทุ ธศาสตรแ์ ละพัฒนาธรุ กิจ รองผวู้ ่าการวจิ ยั และพฒั นา ดา้ นอุตสาหกรรมชีวภาพ 11รากยระงทารวนงวทิปยารศะาสจตร�ำ์แปละเี ท2คโ5น5โล3ยี

องคก์ ารพิพิธภณั ฑ์วิทยาศาสตรแ์ ห่งชาติดร.พชิ ยั สนแจ้ง นายธนากร พละชยั ผ้อู ำ�นวยการ รองผูอ้ ำ�นวยการนายมานพ อสิ สะรยี ์ นายสาคร ชนะไพฑูรย์ รองผอู้ �ำนวยการ รองผู้อ�ำนวยการ12 MAinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy

ส�ำนกั งแาลนะพเฒัทคนโานวโิทลยยาแี ศหาง่ สชตาตริ์ดร.ทวีศักดิ์ กออนนั ตกลู ศ.ดร.มรกต ตนั ตเิ จรญิ ดร.ณรงค์ ศริ เิ ลิศวรกุล รองผอู้ ำ�นวยการ รองผู้อำ�นวยการ ผ้อู ำ�นวยการดร.ชฎามาศ ธวุ ะเศรษฐกลุ ดร.กญั ญวมิ ว์ กีรตกิ ร รศ.ดร.วรี ะศกั ด์ิ อุดมกิจเดชา ผู้อ�ำนวยการศนู ยพ์ ันธวุ ศิ วกรรม ผูอ้ ำ�นวยการศูนยเ์ ทคโนโลยีโลหะ รองผูอ้ ำ�นวยการ และเทคโนโลยีชีวภาพแหง่ ชาติ และวสั ดแุ หง่ ชาติดร.พนั ธ์ศกั ดิ์ ศริ ิรชั ตพงษ์ ศ.นพ. สิรฤิ กษ์ ทรงศวิ ไิ ล ดร.ทวีศักดิ์ กออนนั ตกูลผู้อ�ำนวยการศนู ยเ์ ทคโนโลยี ผู้อำ�นวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแหง่ ชาติ รักษาการผู้อ�ำนวยการอเิ ล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ศนู ย์บรหิ ารจดั การเทคโนโลยี 13รากยระงทารวนงวิทปยารศะาสจตรำ� แ์ ปละเี ท2คโ5น5โล3ยี

สถาบันมาตรวทิ ยาแห่งชาติพล.อ.ต. ดร.เพียร โตทา่ โรง นายสมศกั ดิ์ ฉากเขยี น ผอู้ �ำนวยการ รองผู้อำ�นวยการเสทำ�คนโักนงโาลนยคแี ณละะนกวรัตรกมรกรามรนแหโย่งบชาาตยวิ ทิ ยาศาสตร์ ดร.พิเชฐ ดรุ งคเวโรจน์ ดร.ญาดา มกุ ดาพทิ กั ษ์ เลขาธกิ าร รองเลขาธิการ14 AMinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy

สำ�นกั งานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศแ(ลอะงภคมูก์ สิารารมสหนาเชทนศ)ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยธุ ยา นายชาญชยั เพียรวิจารณ์พงศ์รักษาการผ้อู �ำนวยการ รองผูอ้ ำ�นวยการดร.สรุ ชยั รตั นเสริมพงศ์ นางปราณตี ดิษริยะกลุ นายสามารถ ดวงวิจติ รกลุ รองผอู้ ำ�นวยการ รองผอู้ �ำนวยการ รองผูอ้ ำ�นวยการ 15รากยระงทารวนงวิทปยารศะาสจตรำ� ์แปละเี ท2คโ5น5โล3ยี

สถาบันเทคโนโลยนี วิ เคลียร์แห่งชาติ (องคก์ ารมหาชน)ศ.ดร.ประสาท สบื คา้ นายศกั ดา เจริญ ดร.สิรินาฏ เลาหะโรจนพนั ธ์ รักษาการผู้อ�ำนวยการ รองผอู้ ำ�นวยการ รองผ้อู ำ�นวยการสถาบนั วิจัย สถาบันสารสนเทศแสงซินโครตรอน ทรพั ยากรน�้ำและการเกษตร(องคก์ ารมหาชน) (องคก์ ารมหาชน) รศ.ดร.ประยูร ส่งสริ ฤิ ทธิกลุ ดร.รอยล จติ รดอน รักษาการผ้อู ำ�นวยการ ผ้อู �ำนวยการ16 MAinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy

สถาบนั วจิ ัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน)รศ.บุญรกั ษา สนุ ทรธรรม ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา นายภทั รวรรธน์ อาจองค์ผ้อู �ำนวยการ รองผูอ้ ำ�นวยการ รองผูอ้ �ำนวยการส�ำนกั งานนวัตกรรมแห่งชาติ(องค์การมหาชน) ดร.ศภุ ชัย หล่อโลหการ ดร.วันทนีย์ จองค�ำ ผู้อำ�นวยการ ผู้อ�ำนวยการฝา่ ยส่งเสริมวฒั นธรรมนวัตกรรม 17รากยระงทารวนงวทิปยารศะาสจตรำ� แ์ ปละเี ท2คโ5น5โล3ยี

วิสยั ทัศน์ >> “ เป็นองค์กรหลักในการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อสร้างปัญญาในสังคม“สนบั สนนุ การพฒั นาเศรษฐกจิ สงั คม และความสามารถ ในการแขง่ ขันของประเทศอย่างยง่ั ยืน

<< พันธกิจ 1. เสนอแนะนโยบาย จัดท�ำยุทธศาสตร์และแผนด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวตั กรรม 2. ริเรม่ิ เร่งรดั ผลกั ดนั และด�ำเนินการวจิ ัยและพฒั นา เพือ่ สรา้ งองค์ความรู้ และสรา้ งผลกระทบเชงิ เศรษฐกจิ และสงั คม รวมทงั้ พฒั นาโครงสรา้ งพน้ื ฐานดา้ นวทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยแี ละนวตั กรรม 3. ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ สร้างคนดีและเก่งในทุกระดับ รวมทั้งสร้างความตระหนักดา้ นวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละนวตั กรรม ใหแ้ พร่หลายและเป็นท่ียอมรบั 4. สร้างระบบสนบั สนุนวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวตั กรรมอย่างมปี ระสิทธิภาพเพอ่ื สามารถสร้างปัญญา เข้าถงึ ความรู้ใหม่ๆ และนำ�ภูมิปญั ญาไทยมาใช้ผสมผสานกันได้ 5. สนบั สนนุ ใหม้ กี ารถา่ ยทอดเทคโนโลยี และสรา้ งนวตั กรรมใหแ้ กภ่ าคการผลติ และบรกิ าร รวมทง้ั บรกิ ารสงั คมดว้ ยวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรม เพอ่ื เพมิ่ ผลติ ภาพทางเศรษฐกิจ และคุณภาพชวี ิตของประชาชน << ค่านยิ มMOST :M = merit , modernization (สรา้ งสรรค์ส่ิงดีงาม และทนั สมัยอยเู่ สมอ)O = outcome – oriented (มุง่ ประโยชน์ของชาติเป็นหลกั )S = social accountability (มีส�ำนกึ รบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม)T = transparency (โปร่งใสตรวจสอบได)้ teamwork (มกี ารท�ำงานร่วมกนั ท้งั องค์กร เพอื่ ใหบ้ รรลุเป้าหมายเดียวกัน)

ภเกร่นิ น�ำายหลงั การเขา้ รบั ตำ� แหนง่ ของ ดร.วรี ะชยั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เน่ืองจากท่ีผ่านมางาน วีระเมธีกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวง วิจัยจะถูกริเริ่มและจ�ำกัดอยู่แต่เฉพาะในมุมของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) คนท่ี 29 ในช่วง นกั วทิ ยาศาสตรซ์ ง่ึ ทำ� งานในหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร และกระทรวงครงึ่ ปหี ลงั ของปงี บประมาณ 2553 กระทรวงวทิ ยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยไี มม่ หี นว่ ยงานประจำ� อยใู่ นและเทคโนโลยี ได้ปรับกลยุทธ์ในการท�ำงานเพ่ือให้ ต่างจังหวัด ท�ำให้มีการน�ำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์สอดคล้องกับทิศทางและนโยบายท่ีรัฐมนตรีว่าการ ไม่ได้อย่างเต็มท่ีหรือเต็มศักยภาพ ดังนั้น กระทรวงกระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ทา่ นใหมม่ อบหมาย วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จึงได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์โดยนอกจากการให้ความส�ำคัญสูงสุดในการสืบสาน การทำ� งาน โดยใหค้ วามสำ� คญั กบั การสรา้ งเครอื ขา่ ยการแนวพระราชด�ำริในการน�ำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำ� งานรว่ มกบั ภาคเอกชน ภาคประชาสงั คม ภาควชิ าการมาใชเ้ พ่อื การพัฒนาประเทศ และการสานตอ่ โครงการ และหนว่ ยงานของรัฐทีเ่ กีย่ วข้องในระดับพืน้ ที่ เพ่อื ให้ตามพระราชด�ำริฯ แล้ว กระทรวงวิทยาศาสตร์และ เกิดการท�ำงานร่วมกันอย่างบูรณาการในการก�ำหนดเทคโนโลยี ยังได้ใหค้ วามสำ� คญั กับการนำ� วิทยาศาสตร์ โจทย์วิจัยและการน�ำผลงานวิจัยไปใช้ให้เกิดประโยชน์และเทคโนโลยีลงไปสู่พ่ีน้องประชาชนในชุมชนระดับ สงู สดุ ไมว่ า่ จะเปน็ ดา้ น การเกษตร อาหาร พลงั งานและรากหญ้า และไปสู่ผู้ประกอบการโดยเฉพาะอย่างย่ิง สง่ิ แวดลอ้ ม การรบั มอื การเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศขนาดกลาง ขนาดเลก็ และวสิ าหกิจชมุ ชน การสรา้ งศกั ยภาพชมุ ชนดว้ ยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ทง้ั นี้ โดยมุ่งหวงั ใหว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี การสง่ เสรมิ ผปู้ ระกอบการดว้ ยนวตั กรรม และสรา้ งความเป็นคร่ืองมือส�ำคัญอีกประการหนึ่งในการลดรายจ่าย เชอ่ื มน่ั ในระดบั นานาชาติ ตลอดจนพฒั นากำ� ลงั คนและสรา้ งงาน สรา้ งรายได้ และพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ของพน่ี อ้ ง สรา้ งความตระหนกั ซงึ่ จะนำ� ไปสกู่ ารพฒั นาวทิ ยาศาสตร์ประชาชนในชนบท รวมทงั้ เปน็ กลไกส�ำคญั ในการเพ่มิ และเทคโนโลยขี องประเทศในอนาคตศกั ยภาพของผปู้ ระกอบการ ยกระดบั ขดี ความสามารถใน การสร้างศักยภาพของชุมชนและเสริมสร้างการแขง่ ขนั ของประเทศ และผลกั ดนั การพฒั นาเศรษฐกจิ ความแข็งแกร่งให้แก่เศรษฐกิจชุมชนด้วยวิทยาศาสตร์และสังคมไทยไปสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์และสังคมฐาน และเทคโนโลยี เป็นอีกเรื่องที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ความเชอ่ื เพอ่ื การพฒั นาประเทศใหก้ า้ วหนา้ อยา่ งยงั่ ยนื และเทคโนโลยี ใหค้ วามส�ำคัญและพยายามสรา้ งกลไกตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ เชอ่ื มโยงใหง้ านวจิ ยั ถกู นำ� ไปใชไ้ ดจ้ รงิ ในชมุ ชนระดบั ราก การน�ำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีลงไปสู่ หญา้ ดว้ ยการสรา้ งเครอื ขา่ ยการทำ� งานรว่ มกบั สถาบนัชุมชนกลายเป็นโจทย์ใหม่ท่ีท้าทายส�ำหรับกระทรวง วิชาการและอาสาสมัครวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (อสวท.) การนำ� วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยลี งไปจดั แสดง20 AMinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy

เผยแพร่และฝึกอบรมให้กับประชาชนถึงในพ้ืนท่ีผา่ นโครงการคาราวานเทคโนโลยี การสง่ เสรมิ และพฒั นาหมู่บ้านแม่ข่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อเป็นศนู ยก์ ารเรยี นรชู้ มุ ชนทางดา้ นวทิ ยาศาสตรข์ น้ึ ในภมู ภิ าคต่าง ๆ โดยเนน้ การถ่ายทอดเทคโนโลยีที่สามารถเสรมิสรา้ งอาชพี ให้คนในชมุ ชน ยกระดับมาตรฐานการผลิตสินคา้ และบริการของชมุ ชน และสร้างมูลคา่ เพ่มิ ให้แก่วตั ถดุ บิ หรือของเหลอื ใช้ “ขยะ” ท่ีมอี ยใู่ นท้องถน่ิ อยา่ งไรกต็ าม นอกจากการผลกั ดนั ใหเ้ กดิ การนำ�วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสงิ่ แวดลอ้ มแลว้ สิ่งส�ำคญั ทขี่ าดไม่ไดค้ ือกำ� ลงั คน หรอืนักวิทยาศาสตร์ท่ีเป็นหัวใจส�ำคัญในการสร้างงานวิจัยและพฒั นา ดงั นน้ั กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยียังได้มุ่งมั่นในการน�ำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีลงไปสู่เด็กและเยาวชน ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ในรปู แบบตา่ ง ๆ ทง้ั ในหอ้ งเรยี นและนอกหอ้ งเรียน ทง้ั น้ีเพ่ือเป็นการสร้างความตระหนักทางด้านวิทยาศาสตร์ใหก้ บั สงั คมไทย กระตนุ้ ความสนใจและการเรยี นรทู้ างดา้ นวทิ ยาศาสตรข์ องเดก็ และเยาวชน และสง่ เสรมิ การพัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพ่ือรองรบั ความตอ้ งการในการพฒั นาเศรษฐกจิ สงั คม และสงิ่ แวดลอ้ มของประเทศในอนาคตนน้ั เปน็ เพยี งสว่ นยอ่ ยของการทำ� งานในรอบปี 2553 ของกระทรวงวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซง่ึ ประกอบดว้ ยหนว่ ยงานตา่ งๆ กวา่ 14หนว่ ยงาน ซงึ่ แบง่ หนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบตามงานทถ่ี นดัซ่งึ จะสรุปโดยแยกเปน็ กล่มุ งานท่นี ่าสนใจตอ่ ไป 21รากยระงทารวนงวิทปยารศะาสจตร�ำ์แปละเี ท2คโ5น5โล3ยี



การส่งเสริมภาคการเกษตรและอตุ สาหกรรมอาหาร



I. การส่งเสริมภาคการเกษตรและอตุ สาหกรรมอาหาร ในสถานการณป์ จั จบุ นั ตอ้ งยอมรบั วา่ ภาคเกษตรกรรม ความหมายมากกวา่ อาหารสำ� หรบั ดำ� รงชวี ติ แตข่ า้ วคอื วถิ ชี วี ติและอุตสาหกรรมอาหารเป็นภาคเศรษฐกิจหลักของประเทศ ทผี่ กู พนั กบั คนไทยมาอยา่ งยาวนาน โดยกระทรวงวทิ ยาศาสตร์เนอ่ื งจากเกย่ี วขอ้ งกบั วถิ ชี วี ติ และปากทอ้ งของคนสว่ นใหญข่ อง และเทคโนโลยไี ดใ้ หก้ ารสนบั สนนุ งานวจิ ยั และพฒั นาพนั ธข์ุ า้ วประเทศ และสร้างรายไดห้ ลกั ให้กบั ประเทศดว้ ยมลู ค่าการส่ง ใหไ้ ดผ้ ลผลติ ตอ่ ไรส่ งู ตา้ นทานโรคแมลง ทนตอ่ สภาพภมู อิ ากาศออกมากกว่าแสนล้านบาทต่อปี อีกทั้งยังเป็นภาคเศรษฐกิจ ที่เปล่ียนแปลงไม่ว่าจะเป็นภัยแล้ง หรือน้�ำท่วม จนกระท่ังได้ที่อาศัยทรัพยากร วัตถุดิบ แรงงาน และเทคโนโลยีภายใน พนั ธข์ุ า้ วตัวอย่างแจกจ่ายให้กับเกษตรกรประเทศในสดั สว่ นทส่ี งู และมแี นวโนม้ ในการเตบิ โตสงู อยา่ งตอ่ ตอ้ งยอมรบั วา่ ปญั หาสำ� คญั ประการหนง่ึ ทมี่ าพรอ้ มกบัเนือ่ ง แต่ขณะเดยี วกันกย็ งั มีประเดน็ ทีท่ ้าทายหลายประการ อทุ กภัย คอื ผลผลติ ขา้ วเสยี หายเน่ืองจากน�้ำท่วมพ้ืนที่นาข้าวซึง่ อาจทำ� ให้ศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขนั ของ ซงึ่ นอกจากสง่ ผลกระทบตอ่ เกษตรกรเจา้ ของทน่ี าแลว้ ยงั สง่ ผลประเทศลดลง หากไมม่ กี ารปรับตวั และพฒั นาใหก้ ้าวหนา้ ไป กระทบโดยตรงตอ่ เศรษฐกจิ ของประเทศ เนอื่ งจากประเทศไทยอยา่ งต่อเนอื่ ง สง่ ออกขา้ วเปน็ อันดบั 1 ของโลก การนำ� วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยมี าใชเ้ พอ่ื สรา้ งความ ดว้ ยเหตนุ ้ี กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โดยเขม้ แขง็ เพอ่ื ยกระดบั ขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั จงึ กลายเปน็ ศนู ยพ์ นั ธวุ ศิ วกรรมและเทคโนโลยชี วี ภาพแหง่ ชาติ (ไบโอเทค)สง่ิ จำ� เปน็ ทจี่ ะหนนุ ภาคเกษตรและอตุ สาหกรรมอาหารของไทย สำ� นกั งานพฒั นาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ (สวทช.)ใหก้ า้ วไปขา้ งหนา้ และสามารถยืนหยดั อยูบ่ นเวทีโลกไดอ้ ยา่ ง จงึ ไดพ้ ฒั นาและปรบั ปรงุ พนั ธข์ุ า้ วใหม้ คี ณุ สมบตั ทิ นตอ่ ภาวะนำ�้ยัง่ ยืนและสงา่ งาม ทว่ มดว้ ยเทคโนโลยชี วี ภาพรว่ มกบั วธิ กี ารผสมพนั ธแ์ุ บบดง้ั เดมิ1.1 ภาคการเกษตร จนไดส้ ายพันธุ์ “ขา้ วหอมชลสทิ ธ์ิ ทนนำ้� ท่วมฉบั พลัน” ที่เป็น เกษตร คอื ภาคการผลติ พชื อาหารทสี่ ำ� คญั ของประเทศ ลกู ผสมระหวา่ งขา้ วทนนำ�้ ทว่ มกบั ขา้ วขาวดอกมะลิ 105 สามารถแตด่ ว้ ยสภาพการเปลยี่ นแปลงของภมู อิ ากาศทำ� ใหภ้ ยั ธรรมชาติ ทนต่อภาวะนำ้� ทว่ มฉบั พลันไดน้ าน 2 สปั ดาห์ และใหผ้ ลผลิตมีความรุนแรงและมีความถ่ีมากข้ึน โดยพืชท่ีได้รับผลกระทบ สงู ถงึ 900 กโิ ลกรมั ตอ่ ไร่ เหมาะกบั พน้ื ทป่ี ลกู ขา้ วในภาคกลางในวงกว้างได้แก่ ข้าว ซ่ึงที่ผ่านมาผู้ผลิตรายใหญ่ ไม่ว่าจะ ทั้งยังเป็นพันธุ์ข้าวที่สามารถปลูกได้ตลอดท้ังปี โดยกระทรวงเป็น อินเดยี จีน เวยี ดนาม รวมท้งั ไทย ล้วนประสบปัญหาภยั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ทดลองปลูกข้าวสายพันธุ์ใหม่ธรรมชาตกิ ระทบการผลติ สง่ ผลใหส้ ตอ๊ กขา้ วของโลกลดลงจงึ ทไี่ ดจ้ ากการวจิ ยั รว่ มกบั เกษตรกร เพอ่ื หาแนวทางในการแจกจา่ ยเปน็ สาเหตทุ �ำใหน้ านาประเทศหวนั่ วติ กวา่ จะกระทบกบั ความ พนั ธุ์ข้าวทนนำ้� ท่วมตอ่ ไปม่ันคงทางอาหารของโลก ท้ังน้ี ไบโอเทคได้ให้ความส�ำคัญและด�ำเนินงานวิจัย 1.1.1 การพฒั นาพนั ธุข์ ้าว และพฒั นาดา้ นการปรบั ปรงุ พนั ธข์ุ า้ วดว้ ยวธิ กี ารทางเทคโนโลยี กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เลง็ เหน็ ถงึ ปญั หา ชวี ภาพอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ตง้ั แตป่ ี 2532 และไดเ้ ขา้ รว่ ม “โครงการดงั กลา่ วและไดใ้ หค้ วามสำ� คญั กบั ภาคการเกษตรและความมนั่ คง วจิ ยั จโี นมขา้ วนานาชาต”ิ ในปี 2542 เพอ่ื เพมิ่ ศกั ยภาพการวจิ ยัดา้ นอาหาร โดยเฉพาะ “ขา้ ว” ซึ่งถอื เป็น ”หัวใจ” สำ� คัญทม่ี ี ด้าน whole-genome sequencing ของนักวิจัยไทย และ สามารถนำ� ความรจู้ ากการเขา้ รว่ มโครงการฯ ไปเปน็ ประโยชน์ สำ� หรบั การพฒั นาพนั ธข์ุ า้ ว โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ การคน้ หายนี ที่ สำ� คญั ในขา้ วไทย และการพฒั นาดเี อน็ เอเครอื่ งหมายทค่ี วบคมุ 25รากยระงทารวนงวทิปยารศะาสจตร�ำแ์ ปละเี ท2คโ5น5โล3ยี

แปลงปลกู ข้าวน้ำ� ท่วมนาน 7 วนั แปลงปลูกขา้ วหลงั นำ�้ ลด พนั ธห์ุ อมชลสทิ ธิ์ (ภาพบน) และพันธุ์ กข31 (ภาพลา่ ง)พ้นื ท่ีปลูกข้าวเปรยี บเทยี บระหว่างพันธุห์ อมชลสทิ ธิ์ (ทนน้�ำทว่ ม) และพนั ธุ์ กข31 (ไมท่ นน�้ำทว่ ม) อ.สามชกุ จ.สุพรรณบรุ ีลกั ษณะสำ� คญั เพอ่ื ใชใ้ นการคดั เลอื กและปรบั ปรงุ พนั ธร์ุ ว่ มกบั กไ็ ดพ้ ฒั นางานวจิ ยั ดา้ นการวเิ คราะหท์ ดสอบและการผลติ สารวธิ กี ารปรบั ปรงุ พนั ธแ์ุ บบมาตรฐาน (conventional breeding) อ้างอิงการวดั แคดเมียมในขา้ ว เพ่ือสรา้ งความน่าเชอื่ ถือด้านเช่น คุณภาพเมล็ด ความสามารถทนต่อน�้ำท่วม ทนเค็ม ทน การวัดแคดเมียมให้กับข้าวไทย ซ่ึงนอกจากจะช่วยสร้างหลักแลง้ ตา้ นทานโรคไหม้ ตา้ นทานโรคขอบใบแหง้ ตา้ นทานเพลยี้ ประกนั ทางดา้ นคณุ ภาพและความปลอดภยั ในการบรโิ ภคขา้ วกระโดดสีน�้ำตาล เป็นต้น ท�ำให้ร่นระยะเวลาในการปรับปรุง แลว้ ยงั ชว่ ยเพม่ิ ขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั ของขา้ วไทยในพนั ธุ์ขา้ วไดเ้ ร็วกว่าวธิ ีดง้ั เดิม ตลาดโลกได้เพมิ่ มากข้ึน ในปีงบประมาณ 2553 กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละ อย่างไรก็ตาม พันธุ์ข้าวท่ีพัฒนาข้ึน พร้อมกับเทคนิคเทดโนโลยี โดยส�ำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตรวจวิเคราะห์หาสารปนเปื้อนในข้าวท่ีแม่นย�ำ จะใช้ให้ได้ผลแห่งชาติ (สวทช.) ได้ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำ� เปน็ ตอ้ งบรหิ ารจดั การพน้ื ทเี่ พาะปลกู ใหม้ คี วามเหมาะสม โดยทดลองน�ำพันธุ์ข้าวหอมชลสิทธิ์ ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวทนน้�ำท่วม กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ไดม้ อบหมายใหส้ ำ� นกั งานฉับพลันและมีกลิ่นหอม ลงไปปลูกในแปลงนาของเกษตรกร พัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์กรมหาชน)ในพนื้ ทีห่ ม่บู ้านข้าวหอมนลิ จงั หวดั อ่างทอง และหม่บู า้ นข้าว (สทอภ.) เดินหน้าใช้ประโยชน์จากภาพถ่ายแผนท่ีดาวเทียมอำ� เภอผกั ไห่ จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา เพอื่ ใหเ้ ปน็ ศนู ยเ์ รยี นรู้ ในการตรวจสอบสภาพพน้ื ทเ่ี พาะปลกู รวมถงึ ขน้ึ ทะเบยี นพนื้ ท่ีสาธิตและถ่ายทอดเทคโนโลยสี ่ภู าคการผลติ ในชมุ ชน เพาะปลกู ขา้ วของเกษตรกรทงั้ ประเทศ ในโครงการประกนั รายได้ ในขณะเดียวกัน สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ (มว.) เกษตรกรผ้ปู ลูกขา้ ว รอบท่ี 226 MAinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy

สทอภ. ไดจ้ ดั หาขอ้ มลู จากดาวเทยี ม THEOS, LANDSAT ภาพสผี สมจรงิ (Red Green Blue) ขอ้ มลู จากดาวเทยี ม THEOS ตา่ งและ ALOS เพอื่ นำ� มาใชว้ เิ คราะห์ พรอ้ มทง้ั ดำ� เนนิ การจดั ทำ� ฐาน ชว่ งเวลา บนั ทกึ ภาพวนั ที่ 3 กมุ ภาพนั ธ์ 2553 (บน) และ 22 เมษายนข้อมลู สำ� หรบั โครงการ แผนทีแ่ สดงพนื้ ที่ปลูกข้าว มาตราสว่ น 2553 (ล่าง) แสดงการติดตามพ้ืนท่ีปลูกข้าว ปี 2552/53 รอบที่1:25,000 จำ� แนกรายตำ� บล พรอ้ มทงั้ พฒั นาระบบบรกิ ารแผนที่ 2 ของตำ� บลดอนแสลบ กงิ่ อำ� เภอห้วย กระเจา จงั หวดั กาญจนบุรีทางอินเทอร์เน็ตแสดงพ้ืนที่ปลูกข้าว (Web Map Service:WMS) เพอื่ ใหห้ นว่ ยงานรว่ มโครงการ และหนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ ง ค้นพบพืชเศรษฐกิจใหม่ อย่างเช่น ดอกชมจันทร์ ที่มีคุณค่าเรยี กดขู อ้ มลู แผนทผี่ า่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ได้ โดยขอ้ มลู ทไี่ ดถ้ กู สง่ ให้ ทางโภชนาการ ไขมันต�่ำ ช่วยในการระบาย อีกทั้งศึกษากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพอื่ นำ� ขอ้ มลู ไปใชใ้ นกระบวนการ คุณสมบัติของชาผักหวานป่า ท่ีช่วยต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าตรวจสอบข้อมลู พืน้ ที่ปลูกขา้ วให้ถูกต้องตามขอ้ เท็จจริงตอ่ ไป ชาใบหม่อน/ชาดอกค�ำฝอย ที่ประกอบด้วยวิตามิน ช่วยลด 1.1.2 วิจยั พนั ธุ์พืชเพื่อการเกษตรกร ระดับคอเลสเตอรอลและลดความเสี่ยงการเกิดโรคเน่ืองจาก กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โดยสถาบนั วจิ ยั การเสอ่ื มสภาพของรา่ งกาย ทมี วจิ ยั จงึ ไดพ้ ฒั นาชาผกั หวานปา่วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี หง่ ประเทศไทย (วว.) ได้ด�ำเนิน ใหอ้ ยใู่ นรปู ชาผกั หวานปา่ พรอ้ มดมื่ สามารถผลติ และจำ� หนา่ ยงานวจิ ยั และพฒั นา เพอื่ พฒั นาและปรบั ปรงุ พนั ธพ์ุ ชื ณ สถานีวจิ ยั ลำ� ตะคอง อำ� เภอปากชอ่ ง จงั หวดั นครราชสมี า ซงึ่ สามารถ 27รากยระงทารวนงวทิปยารศะาสจตรำ� ์แปละเี ท2คโ5น5โล3ยี

รวมถึงพัฒนาการปลูกอย่างเป็นระบบ ช่วยสร้างรายได้ให้กับ มะยงชดิ จดั วา่ เปน็ ผลไมท้ น่ี ยิ มปลกู กนั มากในปจั จบุ นัครวั เรือน ตลอดจนเอสเอ็มอี ทม่ี องเห็นช่องทางการตลาด อีกทั้งเป็นพืชเศรษฐกิจส�ำคัญของจังหวัดนครนายก เพราะ 1.1.3 ผลผลิตดีด้วยเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ผลผลิตมรี าคาแพง เฉลี่ยแล้ว 100-300 บาทต่อกิโลกรมั และ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสถาบัน เปน็ ทต่ี อ้ งการของตลาดทง้ั ในประเทศ อกี ทง้ั การทำ� ตลาดตา่ งเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.) ได้ประสบความส�ำเร็จ ประเทศกย็ งั มอี นาคต ชว่ ยสรา้ งรายไดใ้ หแ้ กเ่ กษตรกร และเพมิ่ในการน�ำเทคโนโลยีนิวเคลียร์มาใช้ประโยชน์ทั้งทางด้านการ ศกั ยภาพในการแข่งขันในตลาดโลกได้เพ่มิ มากขน้ึแพทย์ อตุ สาหกรรม และเกษตรกรรม โดยลา่ สดุ นกั วจิ ยั สทน. ทั้งน้ี การทดลองกับสวนของเกษตรกรจริงๆ หลายไดป้ ระยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยนี วิ เคลยี ร์ เพอ่ื พฒั นาศกั ยภาพทางดา้ น สวนปรากฏวา่ สามารถเพม่ิ ผลผลติ ตอ่ ไรไ่ ดเ้ ปน็ ทนี่ า่ พอใจ พรอ้ มเกษตรกรรม โดยใชส้ ารละลายไคโตซานทผี่ า่ นการฉายรงั สี ลด กันนี้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ยังได้เปิดสัมมนาขนาดโมเลกลุ ใหเ้ ลก็ ลงเพอื่ ใหพ้ ชื สามารถดดู ซมึ ได้ โดยทดลอง โครงการความร่วมมือการพัฒนาศักยภาพเกษตรกรหมู่บ้านกับ “มะยงชิด” ท�ำให้มะยงชิดที่ใช้สารไคโตซานมีคุณภาพดี ในจังหวัดนครนายก เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการน�ำกว่าท้ังในเร่ืองของรสชาติที่หวานกว่า เนื้อกรอบกว่า ไม่เละ เทคโนโลยนี วิ เคลยี รม์ าใชเ้ พอ่ื เพม่ิ ผลผลติ ทางการเกษตร สรา้ งเหมือนมะยงชิดต้นท่ีไม่ได้ฉีดสาร ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคุณค่า รายไดใ้ หก้ บั เกษตรกรไดอ้ กี ทางหนงึ่ โดยกระทรวงวทิ ยาศาสตร์ของสารละลายไคโตซานท่ีผ่านการฉายรังสีว่าสามารถน�ำมา และเทคโนโลยี มองวา่ การถา่ ยทอดเทคโนโลยนี วิ เคลยี ร์ เพ่อืใช้เพิ่มผลผลิตทางการเกษตรและปรับปรุงคุณภาพได้อย่างมี เพ่ิมศักยภาพทางด้านการเกษตรจะเป็นกลไกส�ำคัญในการประสทิ ธิภาพ สร้างความมั่นคงย่ังยืนทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แกเ่ กษตรกรไทย 1.1.4 นวตั กรรมการเกษตร กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มองว่า “นวตั กรรม” เปน็ เครอ่ื งมอื สำ� คญั ทจี่ ะสรา้ งใหเ้ กดิ “อตุ สาหกรรม คล่ืนลกู ใหม่” (New Wave Industries) ทีท่ �ำให้เกิดการปรับ โครงสร้างในภาคการผลิต โดยคณะรัฐมนตรีได้มอบหมาย ให้ ส�ำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) เป็นหน่วยงานหลัก ในการประสานการด�ำเนินงานของแผนที่น�ำทางแห่งชาติการ พฒั นาอตุ สาหกรรมพลาสตกิ ชีวภาพ พ.ศ. 2551-2555 และ รบั ผดิ ชอบในดา้ นการบรหิ ารจดั การองคค์ วามรแู้ ละนวตั กรรม เกษตรอนิ ทรยี ใ์ นแผนปฏบิ ตั กิ ารพฒั นาเกษตรอนิ ทรยี แ์ หง่ ชาติ พ.ศ. 2551-2554 นวัตกรรมเกษตรอินทรีย์ สำ� นักงานนวัตกรรมแห่งชาติ มีบทบาทสำ� คญั ในการ พัฒนาโครงการนวัตกรรมเชิงยุทธศาสตร์ มองเห็นจุดเด่น ของกลุ่มเกษตรอินทรีย์ว่าเป็นกลุ่มตลาดสินค้าระดับบน มี ศักยภาพสร้างรายได้จากกลุ่มผู้บริโภคท่ีมีก�ำลังซ้ือสูง และผู้28 AMinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy

ทร่ี กั สขุ ภาพ โดยมองหาและตอ่ ยอดนวตั กรรมจากงานวจิ ยั เพอื่ การแปรรปู การตรวจสอบรบั รองมาตรฐาน และการสรา้ งรปู แบบสรา้ งผลติ ภณั ฑใ์ หมท่ ม่ี คี ณุ สมบตั พิ เิ ศษกวา่ สนิ คา้ ทวั่ ไปในกลมุ่ ธุรกิจใหม่ ซึ่งผลการด�ำเนินงานท่ีผ่านมา โครงการเพ่ิมขีดเดียวกัน โดยเน้นจดั การความรู้ ไม่ใช่ขยายผลเพียงอยา่ งเดียว ความสามารถของผู้ประกอบการนวัตกรรมด้านธุรกิจเกษตร ตัวอย่างสินค้านวัตกรรมเกษตรอินทรีย์ท่ีมีศักยภาพ อนิ ทรยี ์ของ สนช. ได้สร้างเครอื ขา่ ยวิสาหกิจ นกั วิชาการ และไดแ้ ก่ สนิ คา้ นำ้� ผง้ึ อนิ ทรยี ท์ างการแพทย์ ขา้ วโพดฝกั ออ่ นอนิ ทรยี ์ ผู้ประกอบการด้านเกษตรอินทรีย์ให้มีความร่วมมือกันหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์ ท่ีมีปริมาณวิตามินซีสูง และความหวาน อย่างจริงจัง และผลักดันให้เกิดการลงทุนในธุรกิจนวัตกรรมน้อยกว่าหน่อไม้ท่ัวไป หรือแม้กระท่ังผ้าอ้อมท่ีมาจากผ้าฝ้าย รวมท้ังหมด 33 โครงการ รวมเป็นวงเงินสนับสนุนทั้งส้ินอนิ ทรยี ์ ผลติ ภณั ฑใ์ นกลมุ่ เครอ่ื งสำ� อาง เชน่ สบู่ แชมพู อนิ ทรยี ์ 26,582,572 บาท คดิ เปน็ มลู คา่ การลงทนุ 277,379,620 บาทเป็นต้นกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมให้การ นวัตกรรมเชิงยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมพลาสติกสนับสนุนงบประมาณ 50 ล้านบาทต่อปี เพ่ือใช้สนับสนุน ชีวภาพและธุรกจิโครงการ พฒั นาสนิ คา้ ใหมจ่ ากงานวจิ ยั และพฒั นา รวมถงึ สรา้ ง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ผลักดันให้เครือข่ายวิสาหกิจเกษตรอินทรีย์ ในลักษณะให้การสนับสนุน เกิดการขับเคลื่อนให้เกิดอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพข้ึนในเทคโนโลยี และข้อมูลทางวิชาการ ปัจจุบันมีเอกชนให้ความ ประเทศไทย ซงึ่ กอ่ ใหเ้ กดิ การสรา้ งโครงสรา้ งพน้ื ฐานทเี่ ขม้ แขง็สนใจทำ� ธุรกจิ นีเ้ ปน็ จ�ำนวนมาก ดา้ นเทคโนโลยี มาตรฐานอุตสาหกรรม และนโยบายด้านการ การพฒั นานวตั กรรมดา้ นธรุ กจิ เกษตรอนิ ทรยี ์ เปน็ การ ลงทนุ และสง่ิ แวดลอ้ ม กระตนุ้ ใหภ้ าคเอกชนขนาดใหญม่ คี วามสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์อินทรีย์ของประเทศไทย โดย สนใจในการลงทุนโรงงานนำ� ร่อง (pilot plant) เพ่ือผลติ เม็ดอาศยั นวตั กรรมเขา้ ไปแทรกแซงทง้ั ดา้ นการผลติ ปจั จยั การผลติ 29รากยระงทารวนงวิทปยารศะาสจตรำ� ์แปละเี ท2คโ5น5โล3ยี

พลาสตกิ ชวี ภาพข้นึ ในประเทศ โดยคาดว่าจะสามารถผลักดนั การพฒั นานวตั กรรมระดบั โลกดา้ นระบบขนสง่ ตน้ ออ่ นให้เกิดอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพอย่างครบวงจรภายในปี กลว้ ยไมท้ างเรอื ชว่ ยลดตน้ ทนุ ในการขนสง่ จากทางอากาศซง่ึ มี2558 และมีโอกาสเปน็ ผนู้ ำ� ในภมู ภิ าค ราคาสงู มาเปน็ ทางเรอื ซง่ึ มตี น้ ทนุ ทต่ี ำ่� กวา่ อยา่ งมาก สามารถ การส่งเสริมให้เกิดอุตสาหกรรมต้นน�้ำในการผลิต เพ่ิมมูลค่าการส่งออกสินค้ากล้วยไม้เพาะเล้ียงเน้ือเย่ือในขวดพลาสตกิ ชวี ภาพข้นึ ในประเทศนน้ั จะเปน็ การช่วยสรา้ งมูลค่า แกว้ จากเดมิ อกี 40 ลา้ นบาทตอ่ ปี โดยกอ่ ใหเ้ กดิ มลู คา่ การลงทนุเพิ่มและสร้างเสถียรภาพทางด้านราคาให้กับผลิตผลทางการ ไมต่ ำ่� กวา่ 60 ลา้ นบาท และสามารถสรา้ งรายไดป้ ลี ะไมต่ ำ่� กวา่เกษตรส�ำคัญของไทย เช่น มันส�ำปะหลัง ข้าวโพด ซ่ึงเป็น 50 ลา้ นบาท การลดตน้ ทุนการขนส่งใหแ้ ก่ผูป้ ระกอบการ ซึง่วัตถุดิบสำ� คัญของการผลติ เม็ดพลาสตกิ ชีวภาพ เปน็ ปจั จยั สำ� คญั ทที่ ำ� ใหส้ ามารถยกระดบั ศกั ยภาพการแขง่ ขนั ในขณะเดยี วกนั การดำ� เนนิ งานในอนาคตดา้ นพลาสตกิ ในตลาดโลกได้ อีกทั้งยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การแข่งขันชวี ภาพ จะเรง่ ดำ� เนนิ มาตรการเสรมิ เพอ่ื กระตนุ้ ใหเ้ กดิ การลงทนุ กล้วยไม้ไทยในตลาดโลกในการเพ่ิมศักยภาพการแข่งขันด้านเชงิ พาณชิ ย์ ประกอบดว้ ย 5 มาตรการยอ่ ย ไดแ้ ก่ 1) มาตรการ ตลาดสง่ ออกในระดบั โลกด้านความพร้อมของวัตถุดิบชีวมวล 2) มาตรการสนับสนุน 1.1.5 เครื่องตรวจไวรัสกุง้ ฝมี ือคนไทยดา้ นการวจิ ยั และพฒั นา 3) มาตรการดา้ นการจดั ทำ� มาตรฐาน การพฒั นาเทคโนโลยที างการเกษตรไมใ่ ชเ่ รอ่ื งยากเกนิพลาสตกิ ชวี ภาพในระดบั สากล 4) มาตรการสทิ ธปิ ระโยชนด์ า้ น กำ� ลงั โดยสำ� นกั งานพฒั นาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติการลงทนุ และการประกอบธุรกิจ และ 5) มาตรการด้านการ (สวทช.) นำ� โดยทมี วจิ ยั จากศนู ยพ์ นั ธวุ ศิ วกรรมและเทคโนโลยีสง่ เสริมตลาดและจัดการส่ิงแวดล้อม ชวี ภาพแหง่ ชาติ (ไบโอเทค) และศนู ยเ์ ทคโนโลยอี เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ นวตั กรรมโลจิสตกิ สเ์ พ่อื การเกษตร และคอมพวิ เตอรแ์ หง่ ชาติ (เนคเทค) รว่ มกนั พฒั นาเครอ่ื งตรวจ การพฒั นานวตั กรรมการเกษตรนอกจากจะชว่ ยสรา้ ง ไวรัสโรคกุ้งใช้ร่วมกับชุดน้�ำยาตรวจโรค หนุนอุตสาหกรรมกุ้งโอกาสใหธ้ รุ กจิ ในตลาดโลกแลว้ นวตั กรรมดา้ นการขนสง่ หรอื ป้องกันโรคระบาดจากไวรสั ทอร่าและไวรสั ตวั แดงดวงขาวโลจิสติกส์ ยังเป็นอีกหน่ึงหัวใจส�ำคัญ โดย สนช. ได้ให้การ เทคนิคแลมป์ (LAMP) หรือการตรวจไวรัสกุ้งจากสนับสนุน ห้างหุ้นส่วนจ�ำกัด ประยูร ออคิดส์ ในการพัฒนา ดเี อน็ เอดว้ ยชดุ นำ้� ยาเฉพาะ จดุ มงุ่ หมายเพอ่ื พฒั นาประสทิ ธภิ าพนวัตกรรม “Ocean Tissue Culture”…ระบบขนส่งต้นออ่ นกลว้ ยไมท้ างเรอื ภายใตโ้ ครงการ “นวตั กรรมด.ี ..ไมม่ ดี อกเบย้ี ”จำ� นวน 2,040,000 บาท จากวงเงนิ กู้ 20,000,000 บาท เนอื่ งจากกลว้ ยไมเ้ ปน็ สนิ คา้ สง่ ออกทส่ี ำ� คญั และสรา้ งรายไดใ้ หก้ บั ประเทศ โดยการปรบั สภาพแวดลอ้ มของกลว้ ยไม้ผสมผสานกบั เทคนคิ การผลติ เพาะเลยี้ งเนอื้ เยอ่ื กลว้ ยไมโ้ ดยการขยายพันธุ์ในห้องมืด มาปรับปรุงเพ่ือท�ำให้เน้ือเย่ือกล้วยไม้ท่ีพรอ้ มออกปลกู ทอี่ ยใู่ นสภาพสง่ิ แวดลอ้ มทม่ี แี สงสวา่ ง กลบั มาสสู่ ภาวะในหอ้ งมดื อกี ครงั้ แตย่ งั สามารถอยใู่ นสภาพพรอ้ มออกปลูกได้ ท�ำให้สามารถส่งออกเนื้อเยื่อกล้วยไม้ในขวดแก้ว ไปตลาดตา่ งประเทศใหก้ บั ลกู คา้ ทางเรอื ได้ โดยใชต้ คู้ อนเทรนเนอร์ปรบั อากาศซง่ึ ไมม่ แี สงสวา่ ง และควบคมุ อณุ หภมู ิ และความชน้ืตลอดการขนสง่30 AMinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy

กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยพี รอ้ มถา่ ยทอด เทคโนโลยีให้กับเอกชนน�ำไปผลิตเพ่ือจ�ำหน่ายให้เกษตรกรผู้ เลยี้ งกงุ้ ใชใ้ นการตรวจหาไวรสั ในพอ่ แมพ่ นั ธก์ุ งุ้ ตลอดจนตรวจ สอบไวรสั กงุ้ ระหวา่ งเลยี้ ง เพอ่ื ปอ้ งกนั โรคระบาดในบอ่ เลยี้ งซง่ึ กงุ้ อยรู่ วมกนั เปน็ จำ� นวนมาก โดยปจั จบุ นั มเี อกชนในธรุ กจิ ผผู้ ลติ เครอ่ื งมอื แพทย์ และเทคโนโลยชี วี ภาพ ตลอดจนผปู้ ระกอบการ อตุ สาหกรรมเลย้ี งกงุ้ ใหค้ วามสนใจรบั การถา่ ยทอดเทคโนโลยี เช่ือวา่ การผลิตจำ� นวนมากจะทำ� ใหร้ าคาเคร่อื งถูกลง โดยทไ่ี ม่ ตอ้ งนำ� เข้าเครอื่ งมือลกั ษณะเดียวกันจากต่างประเทศและความแม่นย�ำในการตรวจสอบไวรัสโรคกุ้งที่ร้ายแรงอย่าง 1.1.6 ปยุ๋ อินทรีย์คุณภาพสงูไวรสั ทอรา่ และไวรัสตัวแดงดวงขาว ซงึ่ เป็นสาเหตกุ ารตายยก กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีนโยบายในบ่อในอุตสาหกรรมกงุ้ เล้ยี ง การน�ำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีลงสู่ชุมชน โดยเฉพาะ เทคโนโลยที พี่ ฒั นาขน้ึ เมอื่ เทยี บกบั เทคนคิ ทตี่ รวจไวรสั เทคโนโลยีการผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง ใช้ทดแทนปุ๋ยเคมีกุ้งโดยท่ัวไปจะใช้เคร่ืองพีซีอาร์ ซ่ึงต้องส่ังจากต่างประเทศใน อกี ทง้ั ชว่ ยลดตน้ ทนุ การผลติ และการเพมิ่ รายไดใ้ หก้ บั เกษตรกรราคาเครอ่ื ง 6-7 แสนบาท อกี ทง้ั ตอ้ งใชค้ วบคกู่ บั เครอื่ งอา่ นคา่ โครงการปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง ด�ำเนินการโดยสว่ นนำ�้ ยาทใ่ี ชท้ ดสอบเปน็ นำ้� ยาอนั ตราย สรา้ งความไมป่ ลอดภยั สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ประเทศไทย (วว.)ให้กับผู้ใช้ ขณะท่ีเทคนิคแลมป์ ได้พัฒนาข้ึนโดยติดเซ็นเซอร์ ทช่ี ว่ ยสง่ เสรมิ ใหก้ ลมุ่ เกษตรกรพนื้ ทภี่ าคตะวนั ออกเฉยี งเหนอืควบคมุ อณุ หภมู ิ วดั ระดบั ความขนุ่ ดว้ ยแสง เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพ และภาคใตผ้ ลติ ปยุ๋ อนิ ทรยี ค์ ณุ ภาพสงู ใชท้ ดแทนปยุ๋ เคมี โดยมีความแมน่ ยำ� 100% การจัดสร้างโรงปุย๋ อินทรยี ์เป็นจำ� นวนท้งั ส้นิ 317 โรง ซ่ึง วว. ไดร้ ว่ มกบั เครอื ขา่ ยคลนิ กิ เทคโนโลยดี ำ� เนนิ การ ผลการดำ� เนนิ การในแตล่ ะปี โรงปุย๋ เหลา่ นี้สามารถผลิตปยุ๋ ได้ประมาณปีละ 15,000 ตนั หรอื ประมาณ 300,000 กระสอบ และคาดวา่ ใน ปี 2554 โรงป๋ยุ ชมุ ชนของ วว. จะสามารถผลติ ปุ๋ยอนิ ทรีย์รวม ท้ังส้ินมากกว่า 1 ล้านกระสอบ คิดเป็นรายได้ของเกษตรกร มากกวา่ 500 ล้านบาท 31รากยระงทารวนงวทิปยารศะาสจตรำ� แ์ ปละเี ท2คโ5น5โล3ยี

1.2 ภาคอตุ สาหกรรมอาหาร มลู คา่ เพม่ิ และใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ งสงู สดุ จากขา้ ว ตลอดจนไดน้ ำ� 1.2.1 นวัตกรรมข้าวไทย องคค์ วามรจู้ ากผลงานวจิ ยั ไปสง่ เสรมิ ใชป้ ระโยชนใ์ นเชงิ พาณชิ ย์ “รางวัลนวัตกรรมข้าวไทย” เป็นอีกหน่ึงผลงานใน กรมวทิ ยาศาสตรบ์ รกิ าร ไดศ้ กึ ษาวจิ ยั พฒั นาผลติ ภณั ฑจ์ ากขา้ วระดบั บรษิ ทั ทสี่ รา้ งมลู คา่ เพมิ่ ใหแ้ กข่ า้ ว จดั ประกวดโดยมลู นธิ ิ หอมมะลิ ข้าวกล้องหอมมะลิ และข้าวหอมนลิ และถ่ายทอดขา้ วไทยในพระบรมราชปู ถมั ภ์ รว่ มกบั สำ� นกั งานนวตั กรรมแหง่ เทคโนโลยีสู่ภาคการผลิต ในปี 2553 เปน็ การวจิ ยั และพฒั นาชาติ (องคก์ ารมหาชน) (สนช.) โดยผลงานทไี่ ดร้ บั รางวลั ชนะเลศิ เทคโนโลยเี พือ่ พัฒนาและสร้างมูลคา่ เพมิ่ ใหภ้ าคการผลติ ดา้ นไดแ้ ก่ “คงิ ” เนยขาวจากนำ้� มนั รำ� ขา้ ว เสนอผลงานโดย บรษิ ทั การเกษตรของไทย ภายใต้การด�ำเนินงานโครงการหมู่บ้านน�้ำมันบริโภคไทย จ�ำกัด โดยรางวัลดังกล่าวนับเป็นการเชิดชู วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โดยมศี นู ยแ์ ปรรปู ตน้ แบบผลติ ภณั ฑ์เกียรติและให้ก�ำลังใจแก่ผู้ประกอบการที่คิดพัฒนานวัตกรรม จากขา้ ว ณ หมบู่ า้ นขา้ วหอมนลิ จงั หวดั อา่ งทอง และหมบู่ า้ นขา้ วข้าวไทย ซง่ึ จะเปน็ ต้นแบบในการคิดรเิ ร่มิ พฒั นานวัตกรรมให้ อ�ำเภอผักไห่ จังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา เป็นศนู ยเ์ รียนรู้ สาธิตเอกชนรายอ่นื ตอ่ ไป และถา่ ยทอดเทคโนโลยกี ารแปรรปู ขา้ วสภู่ าคการผลติ ในชมุ ชน งานวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าวของกรมวิทยาศาสตร์ 1.2.2 เทคโนโลยีแปรรูปข้าว สูอ่ าหาร บริการ รวมถึงการแปรรูปข้าวในเชิงพาณิชย์ ที่เน้นพัฒนา ในรอบปี 2553 กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เครือ่ งมอื ในกระบวนการผลิต อาทิ ต้นแบบหอ้ งอบแห้ง หรอืโดยกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) ได้อาศัยความเชี่ยวชาญ ต้อู บแหง้ เพือ่ ส่งเสริมการผลติ และแปรรปู ข้าวในระดบั ชุมชนด้านเทคโนโลยี พัฒนาข้าวและอาหารบรรจุกระป๋อง เพื่อให้ ใหห้ ลากหลาย และมคี ณุ ภาพไดม้ าตรฐาน ซง่ึ กระบวนการผลติได้ผลิตภัณฑ์ใหม่จากข้าวที่มีนวัตกรรม เป้าหมายก็เพื่อสร้าง ท่ีกรมวิทยาศาสตร์บริการ คิดค้นขึ้นน้ัน ด�ำเนินการภายใต้ มาตรฐานการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ด้วยความร้อนแบบสเตอร์ริไลซ์ ทอ่ี ณุ หภมู สิ งู ภายใตค้ วามดนั สงู สามารถยนื ยนั ความปลอดภยั ตอ่ สขุ ภาพ และสามารถเกบ็ ไวท้ อี่ ณุ หภมู หิ อ้ งไดน้ านกวา่ 1 ปี ทงั้ นี้ นอกจากการพฒั นาผลติ ภณั ฑอ์ าหารจากขา้ วหอม นลิ แลว้ กรมวทิ ยาศาสตรบ์ รกิ ารยงั ไดม้ กี ารวจิ ยั ขา้ วสำ� เรจ็ รปู ใน ถงุ รที อรต์ เชน่ ขา้ วหอมมะลิ ขา้ วกลอ้ ง ขา้ วหอมนลิ ขา้ วเสรมิ สขุ ภาพ ขา้ วกลอ้ งงอก รวมถงึ อาหารสำ� เรจ็ รปู ในถงุ รที อรต์ เชน่ แกงเขยี วหวาน ตม้ ขา่ ไก่ แกงสม้ กงุ้ ยอดมะพรา้ ว และขนมไทย ในถงุ รีทอร์ต ซงึ่ ผลิตภณั ฑ์ต่างๆ เหลา่ นน้ี ำ� ไปผลิตเชิงพาณชิ ย์ เพื่อการส่งออก สามารถเก็บไว้ได้เป็นเวลานาน ช่วยอ�ำนวย ความสะดวกใหก้ ับผบู้ ริโภค ผลงานการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าวของกรม วิทยาศาสตร์บริการ ไม่ได้เป็นเพียงงานวิจัยท่ีอยู่แต่ในห้อง ปฏิบัติการ เพราะในช่วงเกิดเหตุการณ์น้�ำท่วมภาคกลาง กรมวิทยาศาสตร์บริการได้น�ำผลิตภัณฑ์อาหารข้าวกระป๋อง และอาหารส�ำเรจ็ รปู ในถงุ รีทอรต์ แจกจา่ ยช่วยเหลือผปู้ ระสบ อุทกภัยในยามวิกฤติได้เป็นอย่างดี หรืออาจใช้เป็นเสบียง ในกองทัพได้ดว้ ย32 MAinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy

พร้อมกันน้ี ส�ำหรับผู้ประกอบการท่ีสนใจต้องการ พฒั นาผลติ ภณั ฑ์ กรมวทิ ยาศาสตรบ์ รกิ ารจะเปดิ หลกั สตู รการ ฝึกอบรมผลิตข้าวส�ำเร็จรูป และแกงส�ำเร็จรูปในถุงรีทอร์ตใน ช่วงเดือนสิงหาคม 2554 นดี้ ้วย นอกจากนี้ อาหารส�ำเร็จรูปบรรจุกระป๋องยังมีความ 1.2.3 สรา้ งมาตรฐานวัสดุสัมผัสอาหารตอ้ งการสงู ทงั้ ตลาดในประเทศและตา่ งประเทศ แตใ่ นปจั จบุ นั ในการสง่ เสรมิ อตุ สาหกรรมอาหารใหเ้ ปน็ ทยี่ อมรบั ในอาหารส�ำเร็จรูปในถุงรีทอร์ตจะค่อยๆ เข้ามาแทนท่ีอาหาร ตลาดโลก และสร้างหลกั ประกันความปลอดภัยในการบริโภคบรรจุกระป๋อง เนื่องจากมีความสดใหม่ และรกั ษาคณุ คา่ ทาง อาหารนนั้ สงิ่ ทสี่ ำ� คญั ไมย่ งิ่ หยอ่ นไปกวา่ อาหาร กค็ อื วสั ดสุ มั ผสัโภชนาการได้สูงกว่า จากระยะเวลาในการให้ความร้อนเพ่ือ อาหาร ไมว่ า่ จะเปน็ ในสว่ นภาชนะบรรจอุ าหาร อปุ กรณ์บนฆา่ เชอื้ จุลนิ ทรยี ์สนั้ กว่าอาหารกระปอ๋ ง ตลอดจนข้าวกระปอ๋ ง โตะ๊ อาหาร หรอื เครอ่ื งจกั รในการผลติ อาหาร ซง่ึ หากวสั ดสุ มั ผสัมโี อกาสผลติ ในเชงิ พาณชิ ยเ์ พอ่ื สง่ ออกไดด้ ี เพราะคณุ ภาพขา้ ว อาหารนน้ั ไมม่ คี ณุ ภาพหรอื ไมไ่ ดม้ าตรฐานแลว้ กย็ อ่ มกอ่ ใหเ้ กดิใกล้เคยี งขา้ วสวยทั่วไป อันตรายแก่ผ้บู ริโภคได้ ที่ผ่านมากรมวิทยาศาสตร์บริการได้บูรณาการร่วม ด้วยเหตุน้ี กรมวิทยาศาสตร์บริการ จึงได้จัดตั้งห้องกับสถาบนั วจิ ยั และพฒั นา มหาวทิ ยาลัยนครพนม ถา่ ยทอด ปฏบิ ตั กิ ารเพอื่ ตรวจวเิ คราะหท์ ดสอบวสั ดสุ มั ผสั อาหารขนึ้ เพอ่ืเทคโนโลยผี ลติ ขา้ วสำ� เรจ็ รปู บรรจกุ ระปอ๋ ง (ขา้ วหอมมะลิ ขา้ ว ทำ� การวจิ ยั พฒั นาดา้ นความปลอดภยั ของวสั ดสุ มั ผสั อาหาร ให้เสริมสุขภาพ และข้าวกล้องงอก) ให้แก่โรงงานหลวงอาหาร บรกิ ารตรวจวเิ คราะห์ ทดสอบ และใหค้ ำ� ปรกึ ษาแกผ่ ปู้ ระกอบสำ� เรจ็ รูปท่ี 3 อำ� เภอเตา่ งอย จังหวดั สกลนคร ภายใตก้ ิจกรรม การทงั้ ภาคการผลติ อาหารและภาคการผลติ วสั ดสุ มั ผสั อาหารการสง่ เสรมิ นวตั กรรมอตุ สาหกรรมสเู่ ชงิ พาณชิ ย์ และบรษิ ทั ดอย เพื่อให้ผู้ประกอบการท้ังสองส่วนสามารถผลิตสินค้าได้ตามคำ� ผลติ ภณั ฑอ์ าหาร จำ� กดั ซง่ึ เตรยี มทจี่ ะผลติ ขา้ วกระปอ๋ งออก มาตรฐานของต่างประเทศ และสามารถส่งออกสินค้าของตนส่ตู ลาดในปี 2554 ไปจำ� หนา่ ยแข่งขนั ในตลาดโลกได ้ ในชว่ งปงี บประมาณ 2553 กรมวทิ ยาศาสตร์บรกิ าร ไดด้ ำ� เนนิ การผลกั ดนั เพอื่ ใหห้ อ้ งปฏบิ ตั กิ ารตรวจวเิ คราะหว์ สั ดุ สมั ผสั อาหาร ไดร้ บั การยอมรบั ในมาตรฐานและความเชย่ี วชาญ จากอาเชียน และได้ด�ำเนินการยกระดับห้องปฏิบัติการ 33รากยระงทารวนงวิทปยารศะาสจตรำ� ์แปละเี ท2คโ5น5โล3ยี

ดงั กลา่ วใหก้ า้ วไปสกู่ ารเปน็ ศนู ยเ์ ชยี่ วชาญดา้ นวสั ดสุ มั ผสั อาหาร 1.2.4 แปรรปู ลองกอง ซบั นำ�้ ตาพีน่ ้องชาวใต้แหง่ แรกและแหง่ เดยี วของอาเซยี น ซง่ึ ศนู ยเ์ ชย่ี วชาญดงั กลา่ ว จากปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้พรอ้ มทจ่ี ะเปดิ ตวั ไดอ้ ยา่ งเปน็ ทางการในชว่ งตน้ ปงี บประมาณ ท�ำให้พ่ีน้องเกษตรกรชาวสวนลองกองต้องประสบกับปัญหา2554 เพอื่ ท�ำหนา้ ทเ่ี ปน็ แหล่งอา้ งอิงและรับรองทางวิชาการ อย่างหนัก เน่ืองจากไม่สามารถจ�ำหน่ายลองกอง ซึ่งเป็นพืชดา้ นวสั ดสุ มั ผสั อาหารแกผ่ ปู้ ระกอบการสง่ ออกอาหาร สนบั สนนุ เศรษฐกิจส�ำคัญของตนเองได้ ด้วยเหตุนี้ สมเด็จพระนางภาคการผลติ อตุ สาหกรรมอาหารมขี ดี ความสามารถผลติ สนิ คา้ เจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ จงึ ทรงมพี ระราชดำ� รใิ หส้ ว่ นราชการอาหารที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ทเ่ี กยี่ วขอ้ งเขา้ ไปหาหนทางใหค้ วามชว่ ยเหลอื ชาวสวนลองกองและสามารถแข่งขันในตลาดโลก ตลอดจนส่งเสริมการพฒั นา ทไี่ ดร้ บั ผลกระทบจากความไมส่ งบในพน้ื ท่ี ผา่ นโครงการ “นำ้�เศรษฐกจิ ของประเทศ ยกระดบั ใหป้ ระเทศไทยยงั คงเปน็ ผนู้ ำ� พระทัยสู่ 3 จงั หวัดภาคใต้”ในการสง่ ออกอาหารของอาเซยี น ในการนี้ สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ประเทศไทย (วว.) ไดด้ ำ� เนนิ “โครงการวจิ ยั และพฒั นานวตั กรรม และผลติ ภณั ฑแ์ ปรรปู จากลองกอง” ขนึ้ เพอื่ เพม่ิ มลู คา่ ผลผลติ ลองกองดว้ ยองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อาทิ สรา้ งเครอ่ื งลา้ งและปลดิ ขว้ั ลองกอง เครอื่ งคน้ั นำ�้ ลองกอง และ ได้พัฒนาวิธีในการแปรรูปจากลองกอง เพ่ือยืดอายุการเก็บ รกั ษาลองกองใหส้ ามารถบรโิ ภคนอกฤดูกาล นอกจากน้ี ดร.วีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ยังได้ประสานงาน กับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เพ่ือให้เข้ามาสนับสนุน ทางด้านเงินทุนให้แก่เกษตรกรชาวสวนลองกองและ ท�ำงานร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย ได้มีการลงนามความร่วมมือเพ่ือน�ำองค์ความรู้ทางด้าน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้าไปส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกร 5 จงั หวดั ชายแดนภาคใต้ (สงขลา สตูล ยะลา ปตั ตานี และ นราธวิ าส) เพอื่ เปน็ การสรา้ งอาชพี และเพม่ิ รายไดใ้ หแ้ กเ่ กษตรกร ด้วยการแปรรูปลองกองแทนการจ�ำหน่ายผลสดทั้งในและ นอกฤดกู าล ซง่ึ จะชว่ ยแกป้ ญั หาผลผลติ ลน้ ตลาดใหแ้ กเ่ กษตรกร ในช่วงฤดูกาลแล้ว ช่วยเพิ่มมูลค่าผลผลิตนอกฤดูกาลให้มี มลู คา่ สงู ขน้ึ ผบู้ รโิ ภคสามารถเลอื กซอื้ ผลติ ภณั ฑไ์ ดห้ ลากหลาย อนั จะชว่ ยใหเ้ กษตรกรมคี ณุ ภาพชวี ติ ทมี่ นั่ คงและประกอบอาชพี ไดอ้ ย่างยั่งยนื34 MAinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy

เครื่องลา้ งและปลิดขัว้ ลองกอง เครอื่ งคน้ั น้ำ� ลองกอง เคร่ืองดื่มนำ้� ลองกอง แยมลองกอง 35รากยระงทารวนงวทิปยารศะาสจตรำ� ์แปละเี ท2คโ5น5โล3ยี



เพ่มิ ขดี ความสกาามราพรฒั ถใแนนลากศะาักรยแภข่งาขพนั ของประเทศ



เพิม่ ขดี ควIาIม. สกาามรพารัฒถในนากศาักรยแภข่งาพขันแขลอะงประเทศ กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี นอกจากจะให้ ชว่ ยทำ� ใหผ้ ลงานวจิ ยั พฒั นาทเี่ กดิ ขน้ึ ถกู นำ� ไปใชป้ ระโยชนต์ อ่ การความสำ� คญั กบั การวจิ ยั และพฒั นาจนนำ� ไปสกู่ ารสรา้ งเทคโนโลยี เพม่ิ ขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศไดอ้ ยา่ งจรงิ จงัหรอื ผลติ ภณั ฑต์ น้ แบบใหม่ ๆ ขนึ้ มาใหส้ ำ� เรจ็ แลว้ ยงั ไดใ้ หค้ วาม 2.1.1 ความร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งส�ำคัญกับการน�ำผลงานวิจัยและพัฒนาเหล่าน้ัน ไปพัฒนา ประเทศไทยตอ่ ยอดและถ่ายทอดเทคโนโลยใี หก้ ับภาคเอกชน เพ่ือน�ำไปสู่ จากการประชมุ หารอื รว่ มกบั ประธานและคณะผบู้ รหิ ารข้ันตอนของการเช่ือมโยงน�ำงานวิจัยไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ระดบั สงู ของสภาอตุ สาหกรรมแหง่ ประเทศไทย และมกี ารแตง่ในภาคอตุ สาหกรรม โดยในรอบปี 2553 กระทรวงวทิ ยาศาสตร์ ตั้งคณะท�ำงานเพื่อปรึกษาหารือและร่วมกันท�ำงานอย่างใกล้และเทคโนโลยี ได้พยายามผลักดันให้เกิดกลไกการท�ำงาน ชิด ท�ำให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้รับทราบร่วมกันระหว่างนกั วจิ ัย ภาครฐั และภาคเอกชน เพือ่ เกดิ การ ปัญหา ความต้องการ และข้อจ�ำกัดของภาคเอกชนในส่วนที่บูรณาการการท�ำงานวิจัยร่วมกัน เพื่อให้งานวิจัยและพัฒนา เก่ียวข้องกับการน�ำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้เพื่อการสามารถตอบโจทยแ์ ละตอบสนองความตอ้ งการของภาคเอกชน พัฒนาและยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทย ส่งเสริมให้ภาคเอกชนลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาเพิ่ม ดงั นน้ั กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยจี งึ ไดเ้ ดนิ หนา้ แกไ้ ขมากข้ึน ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการน�ำผลงานวิจัยพัฒนา ปัญหาในการขอใช้สิทธิประโยชน์ท่ีภาคเอกชนต้องการ อาทิไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์เพ่ิมมากขึ้น ทั้งน้ี เพื่อเป็นการ สทิ ธปิ ระโยชนท์ างดา้ นภาษเี พอ่ื การวจิ ยั และพฒั นาเทคโนโลยียกระดับภาคเศรษฐกิจของไทยไปสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ 200-300% เพอื่ อำ� นวยความสะดวกใหแ้ กผ่ ปู้ ระกอบการทคี่ ดิบนพื้นฐานของวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม สร้างสรรค์ด้วยการวิจัยและพัฒนาให้ได้รับสิทธิประโยชน์ได้2.1 เช่ือมนักวิทยฯ์ ใกล้ชิดผู้ประกอบการ สะดวกและรวดเรว็ ข้ึน ด้วยการจัดตั้ง Price Paid สำ� หรบั การ ในการนำ� วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยลี งไปสผู่ ปู้ ระกอบ วจิ ยั และพฒั นา เมอื่ ภาคเอกชนนำ� เงนิ มาลงในกองทนุ ดงั กลา่ วการ เพอ่ื ชว่ ยยกระดบั ศกั ยภาพและเพม่ิ ขดี ความสามารถในการ สามารถขอใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีไดท้ นั ที โดยมเี ง่อื นไขว่าแขง่ ขนั ใหก้ บั ประเทศโดยรวมนนั้ หวั ใจสำ� คญั ประการหนง่ึ คอื เงินดังกล่าวเอกชนสามารถน�ำไปใช้เพ่ือประโยชน์ในการวิจัยผลงานวิจัยและพัฒนาท่ีเกิดขึ้นจะต้องตรงตามความต้องการ และพัฒนาของตนเองได้ ร้อยละ 70 ส่วนที่เหลือร้อยละ 30ทแี่ ทจ้ รงิ ของภาคเศรษฐกจิ มใิ ชว่ างอยบู่ นพนื้ ฐานความตอ้ งการ นน้ั กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยโี ดย สำ� นกั งานพฒั นาของนักวิทยาศาสตร์หรือนักวิจัยแต่เพียงฝ่ายเดียว ดังนั้น วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีแหง่ ชาติ (สวทช.) จะน�ำไปใชเ้ พ่อืการเชื่อมโยงการท�ำงานร่วมกันอย่างบูรณาการระหว่าง การวจิ ยั พัฒนาท่เี ป็นประโยชน์ต่อภาพรวมของประเทศนกั วจิ ยั หรอื นกั วทิ ยาศาสตร์ กบั ผปู้ ระกอบการและนกั วจิ ยั ของ และเพื่อให้งานวิจัยถูกน�ำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมภาคเอกชน ตงั้ แตเ่ รมิ่ ตน้ ของการกำ� หนดโจทยใ์ นการวจิ ยั การ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้เดินหน้าสร้างความจดั สรรเงนิ ทนุ สนบั สนนุ การวจิ ยั การสง่ เสรมิ การทำ� วจิ ยั รว่ มกนั รว่ มมอื กบั สภาอตุ สาหกรรมในการผลกั ดนั นวตั กรรม และสรา้ งระหวา่ งภาครฐั และเอกชน และการนำ� ผลงานวจิ ยั ไปใชใ้ หเ้ กดิ เครอื ขา่ ยผปู้ ระกอบการภาคเอกชน เพอื่ สนบั สนนุ ใหเ้ กดิ ธรุ กจิประโยชน์น้นั จงึ เป็นวิธีการทำ� งานทีจ่ ะช่วยทำ� ใหก้ ารบริหาร นวตั กรรมโดยทรี่ ฐั บาลโดยกระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีจดั การทรพั ยากรเพอื่ การวจิ ยั เปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และ สำ� นกั งานนวตั กรรมแหง่ ชาติ (องคก์ ารมหาชน) ใหก้ ารสนบั สนนุ งบประมาณ ตลอดจนจับมือกับสภาอุตสาหกรรม ผลักดัน 39รากยระงทารวนงวิทปยารศะาสจตร�ำ์แปละเี ท2คโ5น5โล3ยี

ให้เกิดโครงการคูปองนวัตกรรม สนับสนุนงบประมาณจ้างทปี่ รกึ ษานวตั กรรม หรอื ISP ชว่ ยแบกรบั ความเสยี่ ง โดยมองวา่จะเปน็ กลไกสำ� คญั ทน่ี ำ� วทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยแี ละนวตั กรรมออกสู่เชิงพาณชิ ย์ 2.1.2 จากหิ้งสหู่ ้าง จากงานวิจัยสเู่ ชิงพาณชิ ย์ 1) ระบบหมุนเวียนนำ�้ แบบปิดส�ำหรบั เลยี้ งสัตว์น้ำ� ที่ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นอกจากจะมี ชว่ ยให้ไมต่ อ้ งเปลย่ี นนำ�้ บอ่ ย โดยเปล่ียนนำ�้ เพียงปีละครง้ั บทบาทในการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาวงการวิทยาศาสตร์ 2) เม็ดมวลเบาสังเคราะห์ ซึ่งได้จากของเสียในภาคในประเทศแล้ว การน�ำผลงานวิจยั ไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ หรือ อุตสาหกรรมส�ำหรับใช้ผลิตอิฐมวลเบาท่ีรองรับแรงได้มากแต่พูดงา่ ย ๆ คือ การน�ำผลงานวจิ ยั ลงจากหิง้ ไปสู่หา้ งนัน้ นับ ยังคงสภาพการเปน็ ฉนวนท่ีดีได้เป็นเร่ืองท่ีท้าทายและถูกตั้งค�ำถามมากที่สุดเร่ืองหนึ่งในการ 3) ระบบจำ� ลองใบหนา้ หลงั จดั ฟนั และวางแผนการจดัปฏบิ ตั ิภารกจิ ของกระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ฟัน (CephSmile V.2) และเพ่ือให้เป็นไปตามนโยบายดังกล่าวข้างต้น 4) นำ�้ ยานาโนส�ำหรับผา้ ไหม ทช่ี ว่ ยให้ผ้าไหมยับยากสำ� นกั งานพฒั นาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาตหิ รอื สวทช. นุ่ม ลนื่ และดแู ลง่ายจึงได้ปรับเปล่ียนกลยุทธ์ในการท�ำงานโดยเน้นกิจกรรมการ 5) ชุดตรวจโรคแพ้ยาในสุนัข ที่ตรวจหายีนแพ้ยาในถา่ ยทอดเทคโนโลยใี หเ้ พม่ิ มากขนึ้ และไดร้ เิ รมิ่ ใหม้ กี ารจดั งาน สุนขั ไดภ้ ายใน 90 นาที นเี่ ปน็ เพียงตัวอยา่ งงานวิจัยทพ่ี ร้อมวนั เทคโนโลยพี บนกั ลงทนุ หรอื NSTDA Investors’ Day ของดี เสริฟใหผ้ ้ปู ระกอบการน�ำไปต่อยอดในเชงิ ธรุ กิจไดท้ ันทีส�ำหรับนักลงทุนข้ึน เพื่อเปิดโอกาสให้เอกชนสามารถเข้าถึง นอกจากน้ี ยังมีผลงานวิจัยและเทคโนโลยีจากศูนย์งานวิจัยและมีโอกาสซักถามรายละเอียดของงานจากนักวิจัย แห่งชาติท้ัง 4 ศูนย์เข้าร่วมจัดแสดงและเปิดรับฟังความคิดโดยตรง โดยคัดเลือกผลงาน ทพ่ี ร้อมเจรจาต่อยอดสูธ่ ุรกิจมา เห็นจากนักลงทุนอีกจ�ำนวน 20 ผลงาน และผลงานวิจัยนำ� เสนอแกน่ กั ลงทนุ และเพอ่ื เปดิ โอกาสใหน้ กั วจิ ยั ไดร้ บั ทราบ ของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทยแนวคิด ความตอ้ งการ และเรียนรู้เก่ยี วกับการน�ำผลงานวิจยัไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ เพ่ือท่ีนักวิจัยจะได้น�ำขอ้ คดิ เหน็ ตา่ ง ๆ ทไ่ี ดร้ บั จากภาคเอกชนมาใชเ้ ปน็ ขอ้ คดิ ในการวิจัยพัฒนาผลงานในคร้ังต่อไป เพ่ือให้สามารถตอบโจทย์ของผปู้ ระกอบการไดม้ ากขน้ึ การจัดงานวันเทคโนโลยีพบนักลงทุนหรือ “NSTDAInvestors’ Day” ครั้งแรก ได้ถกู จดั ข้นึ ในวนั พฤหัสบดที ี่ 16กนั ยายน 2553 ณ ศนู ยก์ ารประชมุ แหง่ ชาตสิ ริ กิ ติ ิ์ มวี ตั ถปุ ระสงค์เพอ่ื ตอ้ งการนำ� เอาผลงานวจิ ยั ดี ๆ ไปสกู่ ารใชป้ ระโยชนใ์ นการพฒั นาประเทศ ในการเพม่ิ ขดี ความสามารถของภาคเอกชนไทยให้ได้มากที่สุด โดยภายในงานมีนักลงทุนและผู้ประกอบการชั้นน�ำเข้าร่วมงานประมาณ 250 คน และ สวทช. ได้เริ่มต้นน�ำผลงานวิจัยที่โดดเด่นและมีความพร้อมท่ีจะน�ำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์มาเปิดตัวจ�ำนวน 5 ผลงาน ได้แก่ 40 AMinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy

8 ผลงาน และผลงานวิจัยและเทคโนโลยีของบริษัทร่วมทุน ทางปญั ญา ในปี พ.ศ. 2553 จำ� นวน 33 เรอ่ื ง แบง่ เปน็ สทิ ธบิ ตั ร8 บรษิ ทั โดยกจิ กรรมภายในงาน มที งั้ นทิ รรศการและออกบธู จำ� นวน 27 เรอื่ ง อาทิ กระบวนการบำ� บดั นำ�้ ทง้ิ จากโรงงานนำ้� ตาลสว่ นสมั มนาวชิ าการ และสว่ นการเจรจาธรุ กจิ ซง่ึ คาดวา่ จะกอ่ ให้ ด้วยสาหร่ายสายพันธุ์คัดเลือก กระบวนการผลิตสารให้ความเกดิ การลงทนุ ในธรุ กจิ ทใ่ี ชเ้ ทคโนโลยเี ปน็ ฐานในการสรา้ งมลู คา่ หวานพรีไบโอติกจากขา้ ว กรรมวธิ กี ารผลิตฟิลม์ ต้านจลุ ินทรีย์และความไดเ้ ปรยี บทางการแข่งขนั มากข้นึ โดยผ่านกลไกการ จากสารสกัดกานพลู เครอื่ งแยกก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และอนญุ าตใหใ้ ชส้ ทิ ธิ การรว่ มทนุ หรอื กเู้ งนิ ดอกเบย้ี ตำ�่ และเปน็ การ ไฮโดรเจน และกระบวนการผลติ บลอ็ กซเี มนตจ์ ากเสน้ ใยมะพรา้ วกระตนุ้ ใหน้ กั วจิ ยั หนั มาใหค้ วามส�ำคญั กบั การสรา้ งผลงานวจิ ยั เปน็ ตน้ และอนสุ ทิ ธบิ ตั ร จำ� นวน 6 เรอื่ ง อาทิ ผลติ ภณั ฑท์ ม่ี สี ารที่สามารถตอบสนองความต้องการของลกู ค้าเพ่ิมข้ึนต่อไป ตา้ นอนมุ ลู อสิ ระจากสารสกดั เหด็ แครงเพอ่ื บำ� รงุ ผวิ และกรรมวธิ ี การถ่ายทอดเทคโนโลยีส่เู ชิงพาณชิ ย์ การเตรียมหัวเช้อื จลุ นิ ทรีย์ส�ำหรับผลติ กา๊ ซไฮโดรเจน เป็นตน้ นอกจากผลงานวิจัยที่ถ่ายทอดสู่เชิงพาณิชย์แล้ว ที่ พร้อมกันนี้ วว. ถ่ายทอดเทคโนโลยีผลงานวิจัยและผา่ นมากระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยไี ดเ้ ดนิ หนา้ พฒั นา พัฒนาสู่เชิงพาณิชย์ เพื่อลดการน�ำเข้าเทคโนโลยีจากต่างงานวิจัยที่ก่อให้เกิดสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรที่ย่ืนจดกับกรม ประเทศ สร้างงาน สร้างอาชีพแก่ประชาชน ผู้ประกอบการ ทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญา โดยในสว่ นของ สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตร์ น�ำไปสู่การสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจของประเทศอย่างและเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย หรือ วว. ได้น�ำผลงานวิจัย ยงั่ ยนื ในปี พ.ศ. 2553 จำ� นวน 7 ผลงานวจิ ยั ไดแ้ ก่ 1.การผลติและพัฒนาย่ืนจดสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรกับกรมทรัพย์สิน เคร่ืองอบนึ่งฆ่าเชื้อ ให้แก่ บริษัทเอ็น อาร์ อินดัสตรีส์ จ�ำกัด 2.การผลติ ผลติ ภณั ฑข์ นมขบเคย้ี วสำ� หรบั วยั เดก็ ใหแ้ ก่ บรษิ ทัเครือ่ งอบนง่ึ ฆา่ เชอ้ื ขนมขบเคย้ี วสำ� หรับวยั ท�ำงาน ผลติ ภณั ฑบ์ �ำรงุ ผิวตา้ นอนมุ ลู อิสระ ผลติ ภัณฑ์คลนี น่ีไพลที่มีส่วนประกอบของสารสกดั จากเห็ดแครง 41รากยระงทารวนงวิทปยารศะาสจตรำ� แ์ ปละเี ท2คโ5น5โล3ยี

โฟรเ์ มา้ เทน่ สอ์ นิ เตอรเ์ นชน่ั แนล จำ� กดั 3.การผลติ ผลติ ภณั ฑข์ นม อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์และขบเคี้ยวส�ำหรบั วัยทำ� งาน ให้แก่ บรษิ ัทโฟรเ์ มา่ เท่นส์อนิ เตอร์ เทคโนโลยีจึงได้มีก�ำหนดที่จะน�ำคาราวานเทคโนโลยีเพ่ือเนชน่ั แนล จำ� กดั 4.การผลติ ผลติ ภณั ฑบ์ ำ� รงุ ผวิ ตา้ นอนมุ ลู อสิ ระ ผู้ประกอบการลงไปโรดโชว์ “คาราวานเทคโนโลยีเพ่ือเพิ่มทมี่ สี ว่ นประกอบของสารสกดั จากเหด็ แครง ใหแ้ กบ่ รษิ ทั ไนน์ บบี ี ศกั ยภาพการแขง่ ขนั ภาคเอกชนไทย” เปน็ ครงั้ แรก ณ โรงแรมพลสั จำ� กดั 5.การผลติ ปยุ๋ ชวี ภาพจากจลุ นิ ทรยี เ์ ชงิ อตุ สาหกรรม สระบรุ อี นิ น์ จงั หวดั สระบรุ ี ภายในไตรมาสแรกของปงี บประมาณ(ปุ๋ยชีวภาพจากสาหร่ายสีน้�ำเงินแกมเขียวท่ีตรึงไนโตรเจน) 2554 เพอ่ื นำ� เทคโนโลยี นวตั กรรม บรกิ าร และสทิ ธปิ ระโยชน์ใหแ้ ก่ บรษิ ทั อลั โกเทค จำ� กดั 6.การผลติ ปยุ๋ ชวี ภาพจากจลุ นิ ทรยี ์ ทางด้านการเงินของหน่วยงานในสังกัด ตลอดจนเผยแพร่เชิงอุตสาหกรรม (ปุ๋ยชีวภาพจากสาหร่ายสีน�้ำเงินแกมเขียวท่ี ประชาสัมพันธ์และถ่ายทอดให้กับผู้ประกอบการในพ้ืนท่ีจังผลติ พอลแิ ซค็ คาไรดเ์ ปน็ วสั ดปุ รบั ปรงุ ดนิ ) ใหแ้ ก่ บรษิ ทั อลั โกเทค วดั สระบรุ แี ละจงั หวดั ใกลเ้ คยี ง และเพอื่ เปดิ โอกาสใหผ้ ปู้ ระกอบจำ� กดั และ 7.การผลติ นำ�้ ยาเชด็ พนื้ ทมี่ สี ว่ นผสมของนำ้� มนั ไพล การขนาดกลางและขนาดเล็กในต่างจังหวัดได้รับทราบและใหแ้ ก่ บรษิ ัทไนน์ บีบี พลสั จำ� กัด เปน็ ต้น สามารถเขา้ ถงึ และน�ำองคค์ วามรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม และ 2.1.3 โรดโชว์กบั ภาคอุตสาหกรรม สทิ ธปิ ระโยชนท์ างดา้ นการเงนิ ไปใชเ้ พอ่ื พฒั นาตอ่ ยอดเพอ่ื สรา้ ง เนื่องจากปัญหาข้อจ�ำกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และ มลู ค่าเพ่ิมใหก้ บั สนิ ค้าหรือบริการ หรอื ยกระดบั การผลติ ใหไ้ ด้เทคโนโลยีท่ีไม่มีหน่วยงานประจ�ำอยู่ในต่างจังหวัด จึงท�ำให้ ตามมาตรฐานสากล ซง่ึ เปน็ สว่ นหนงึ่ ของนโยบายทต่ี อ้ งการเนน้ผู้ประกอบการในต่างจังหวัดโดยเฉพาะขนาดกลางและขนาด การนำ� วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละนวตั กรรม มาใชเ้ พอื่ พฒั นาเล็กไม่สามารถเข้าถึงบริการและสิทธิประโยชน์ของกระทรวง ศกั ยภาพและเพมิ่ ขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั ของผปู้ ระกอบวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้อย่างสะดวกและท่ัวถึง ดังน้ัน การไทย และผลักดนั เศรษฐกิจไทยไปสู่เศรษฐกจิ สร้างสรรค์เพอ่ื เปน็ การแกไ้ ขปญั หาขอ้ จำ� กดั ดงั กลา่ วและตอบสนองนโยบาย 2.14 แผนพัฒนาระบบราง เพิ่มประสิทธภิ าพระบบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โลจสิ ติกส์(ดร.วีระชัย วีระเมธีกุล) กระทรวงวิทยาศาสตร์และ กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โดย สำ� นกั งานเทคโนโลยี โดยส�ำนักส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยี จึง คณะกรรมการนโยบายวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละนวตั กรรมได้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ริเร่ิมโครงการ แหง่ ชาติ (สวทน.) ไดใ้ หค้ วามสำ� คญั กบั การพฒั นาอตุ สาหกรรมคาราวานเทคโนโลยีเพ่ือผู้ประกอบการขนึ้ มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ นำ� หนว่ ยงานตา่ ง ๆในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีออกไปเดินสายโรดโชว์บริการและสิทธปิ ระโยชนต์ ่าง ๆ ถงึ ในพ้นื ที่ โดยมุ่งหวังน�ำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวตั กรรมลงไปยกระดบั คณุ ภาพมาตรฐานและเพ่ิมขีดความสามารถของผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อม และวิสาหกิจชุมชนในตา่ งจังหวัด จากการหารือร่วมกับสภา42 AMinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy

ระบบราง เป็น 1 ใน 3 ภาคอุตสาหกรรมเป้าหมาย นอกเหนือ วิจัยให้มีคุณภาพ และเพยี งพอต่อความตอ้ งการของประเทศ จาก อตุ สาหกรรมผลติ ภณั ฑย์ างลอ้ และการออกแบบเพอ่ื นวตั สง่ เสรมิ ความรว่ มมอื ระหวง่ สถาบนั วจิ ยั หรอื สถาบนั การศกึ ษากรรมภาคอตุ สาหกรรม ทกี่ ระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในประเทศ กับสถาบันวิจัยใหค้ วามสำ� คญั ในการเปดิ ตวั สถาบนั วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หรือสถาบันการศึกษาต่างประเทศ ในการวิจัยและพัฒนาชั้นสูง (THAIST) หรือการจดั การศึกษาระดบั ปริญญาโทและปรญิ ญาเอก โดย เนอ่ื งจากรฐั บาลเหน็ วา่ การพฒั นาระบบขนสง่ ทางราง ให้สถาบันวิจัยหรือสถาบันการศึกษานั้นเข้าร่วมเป็นสถาบันในระยะ 20 ปขี า้ งหนา้ ของประเทศไทยเปน็ การลงทนุ โครงสรา้ ง เครอื ข่ายของสถาบนั และสร้างกลุ่มสถาบนั เครือขา่ ยในการพื้นฐานขนาดใหญ่ และมีมูลค่าสูงมากกว่า 1 ล้านล้านบาท ด�ำเนินโครงการหรือหลักสูตรร่วมกัน โดยเน้นโครงการหรือซ่ึงจะก่อให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมเก่ียวเนื่อง และเกิด หลักสูตรซ่ึงมีการวิจัยและพัฒนาที่เอื้ออ�ำนวยต่อการพัฒนาการจา้ งงานเป็นจ�ำนวนมาก สวทน. จึงมีการพัฒนาบุคลากร ประเทศอย่างเป็นรูปธรรม และมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาในใหเ้ พยี งพอทง้ั ในเชงิ ปรมิ าณและคณุ ภาพใหส้ ามารถรองรบั การ ภาคการผลติ และบรกิ าร รวมท้ังส่งเสริมและสนับสนุนใหเ้ กดิเดนิ รถไฟฟา้ สายต่าง ๆ ในปจั จุบนั และการเปิดสายใหม่ในอีก ศนู ยค์ วามเปน็ เลศิ เฉพาะทางเพอื่ นำ� สถาบนั เครอื ขา่ ยหรอื กลมุ่6 ปีขา้ งหน้าได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ สถาบันเครือขา่ ยไปสู่การยอมรบั ในระดับสากล เปา้ หมายของสถาบนั วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยชี น้ั สงู (THAIST) คอื ยกระดบั ความสามารถในการพฒั นาองคค์ วามรู้ 2.1.5 งานแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยขี องไทย อนั กอ่ ใหเ้ กดิ การ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้จัดงานพฒั นาประเทศและเศรษฐกจิ อยา่ งยงั่ ยนื โดยสถาบนั ฯ มหี นา้ ที่ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย เพ่ือเป็นเวทีกลางให้นักสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การผลติ และการพฒั นาบคุ ลากรดา้ นการ วิทยาศาสตร์และนักลงทุนได้พบกัน เพื่อสร้างนวัตกรรมท่ีมี ศักยภาพด้านการแข่งขันออกสู่ตลาด โดยในปี 2553 งาน TechnoMart&InnoMart 2010 ภายใตแ้ นวคิด “สร้างสรรค์ เศรษฐกจิ พชิ ติ ความจน ประชาชนเขม้ แขง็ ดว้ ยเทคโนโลยแี ละ นวตั กรรมไทย” ทจ่ี ัดขึ้นระหว่างวนั ท่ี 16-20 ตุลาคม 2553 ณ อมิ แพค เมืองทองธานี ภายในงานได้จัดกิจกรรมประกวด แข่งขันทาง เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการมี ส่วนรว่ มและเปิดโอกาสใหแ้ กท่ ้งั ผู้ประกอบการ เยาวชน และ 43รากยระงทารวนงวิทปยารศะาสจตร�ำแ์ ปละเี ท2คโ5น5โล3ยี

ประชาชนทว่ั ไป ไดแ้ สดงความสามารถในการประดษิ ฐ์ คดิ คน้ หรอื พฒั นาผลงานทางเทคโนโลยแี ละนวตั กรรมทเี่ ปน็ ประโยชน์ สรา้ งความนา่ สนใจใหก้ บั งานเทคโนโลยแี ละนวตั กรรมของไทย มากยงิ่ ขน้ึ ตลอดจนจดั ใหม้ กี ารสมั มนาและฝกึ อบรม ฝกึ อาชพี นอกจากน้ี ในปี 2553 กระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ได้สนับสนุนการประกวดรางวัลต่าง ๆ เพ่ิม เปิดเวทีให้เด็ก เยาวชนและผู้ประกอบการ ทั้งใน กทม.และ ตา่ งจงั หวดั เขา้ รว่ มการประกวดดว้ ย เชน่ รางวลั เทคโนโลยดี า้ น การประหยดั พลงั งานและรกั ษาสงิ่ แวดลอ้ ม รางวลั สงิ่ ประดษิ ฐ์ หรอื ประดษิ ฐกรรมทางการเกษตร รางวลั ออกแบบเชงิ สรา้ งสรรค์ ผลิตภัณฑ์ลดโลกร้อน และการประกวดแข่งขันหุ่นยนต์กู้ภัย เยาวชนไทยท�ำได้ ซึ่งเป็นการแข่งขันท�ำหุ่นยนต์กู้ระเบิดใน ระดบั เดก็ และเยาวชน เพอ่ื สรา้ งพน้ื ฐานในการประดษิ ฐห์ นุ่ ยนต์ ก้ภู ัยตอ่ ไป สร้างขวญั ก�ำลังใจดว้ ยรางวัลนวัตกรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยโครงการ สง่ เสริมนวัตกรรม ของสำ� นกั งานนวตั กรรมแหง่ ชาติ (องค์การ มหาชน) (สนช.) ได้มอบรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจ�ำปี 2553 เพอ่ื กระตนุ้ ใหเ้ กดิ ความตนื่ ตวั และความใฝร่ ดู้ า้ นนวตั กรรม ขนึ้ ในประเทศ ซง่ึ จะทำ� ใหน้ วตั กรรมเปน็ ทร่ี จู้ กั และเปน็ ทสี่ นใจ อย่างกว้างขวาง ซ่ึงจะช่วยสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการ ในธุรกิจต่างๆ เกิดความสนใจท่ีจะสร้างและพัฒนานวัตกรรม ข้ึนในธุรกิจท้ังด้านผลิตภัณฑ์ ทั้งกระบวนการผลิต และการ บริการในด้านต่างๆ อาทิ รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติด้าน เศรษฐกิจและสังคม รางวัลนวัตกรรมข้าวไทย ท่ีมอบให้แก่ บริษัทท่ีคิดนวัตกรรมสร้างมูลค่าเพิ่มให้ข้าว ตลอดจนรางวัล การออกแบบเชงิ นวตั กรรมทม่ี อบใหก้ บั ผลงานออกแบบอาหาร ผลติ ภณั ฑท์ เ่ี ปน็ มติ รกบั สง่ิ แวดลอ้ มในรอบปี 2553 มผี ลงานท่ี ดีรับรางวลั นวตั กรรมเปน็ จำ� นวนมาก อาทิ “รางวลั นวัตกรรม แห่งชาติ” เป็นผลงานในระดับบริษัทหรือหน่วยงานภาครัฐท่ี มปี ระโยชนเ์ ดน่ ชดั ตอ่ เศรษฐกจิ และสงั คมของประเทศ โดยผล งานท่ีได้รับรางวัลชนะเลิศ ด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ “TextPro” กระดาษเพอ่ื งานพมิ พห์ นงั สอื แบบเรยี นเสนอผลงานโดย บรษิ ทั ผลติ ภณั ฑก์ ระดาษไทย จำ� กดั และดา้ นสงั คม ไดแ้ ก่ “แฮลเซยี่ น”44 AMinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy

ข้อเข่าและขาเทียมแบบสี่จุดหมุน เสนอผลงานโดย บริษัท 2.2 พลาสติกชีวภาพ อุตสาหกรรมเพือ่ อนาคตแฮลเซ่ียน เมทอล จ�ำกัด ขณะท่ี “รางวัลการออกแบบ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้ความเชงิ นวตั กรรม” เปน็ ผลงานในระดบั บรษิ ทั ทางดา้ นการออกแบบ ส�ำคัญกับการวิจัยพัฒนาอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพเพื่อใช้โดยผลงานที่ชนะเลิศ ได้แก่ “I-Fruiz” ไอศกรีมเน้ือผลไม้สด ทดแทนพลาสติกที่ผลิตขึ้นจากปิโตรเคมี โดยเล็งเห็นว่าการเสนอผลงานโดยบริษัท อินโนเวทีฟ ฟู้ด แพ็คเกจจิ้ง จ�ำกัด ผลิตพลาสติกชีวภาพนั้นจะเป็นอุตสาหกรรมท่ีประเทศไทยและ “แมถ่ ว้ น” หมยู อเพอื่ สขุ ภาพ เสนอผลงานโดย รา้ นหมยู อ สามารถพงึ่ พาตนเองไดท้ างวตั ถดุ บิ และมแี นวโนม้ ทจี่ ะสามารถแม่ถ้วน ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ ได้แก่ “Nara Micro เติบโตไดอ้ ย่างยง่ั ยนื ในอนาคต เน่ืองจากNeedle” แถบเข็มขนาดไมโครเมตรส�ำหรับการน�ำส่งยา ด้านส่ิงแวดล้อม การใช้พลาสติกชีวภาพจะช่วยลดทางผิวหนัง เสนอผลงานโดย บริษัท นาราแฟคทอรี่ จ�ำกัด ปรมิ าณขยะได้อยา่ งมาก เพราะพลาสตกิ ชีวภาพสามารถย่อยด้านการออกแบบเพ่ือส่ิงแวดล้อมได้แก่ ผ้าทอจากฝ้าย สลายไดภ้ ายในระยะเวลา 1 ปี ขณะทพ่ี ลาสตกิ ปโิ ตรเคมตี อ้ งสีธรรมชาติปั่นจากเครื่องปั่นด้าย “ไทยน�ำโชค”เสนอผลงาน ใชร้ ะยะเวลายอ่ ยสลายนานถงึ 400 ป ี โดย บริษทั ไทยน�ำโชคเทก็ ซ์ไทล์ จ�ำกัด ด้านการสร้างมูลค่าเพ่ิมให้แก่สินค้าเกษตร การน�ำ พืชเศรษฐกิจส�ำคัญ เช่น ข้าวโพด และมันส�ำปะหลังมาผลิต “I-Fruiz” ไอศกรมี เน้อื ผลไม้สด เปน็ เมด็ พลาสตกิ ชวี ภาพ นอกจากจะชว่ ยแกป้ ญั หาผลผลติ ลน้ ตลาดแล้ว ยงั เปน็ การสร้างมูลค่าเพม่ิ ใหแ้ กพ่ ชื เศรษฐกจิ ของ รางวลั ดา้ นนวตั กรรมทกี่ ลา่ วมาทงั้ หมด เปน็ เพยี งสว่ น ไทย วนั น้ี หากนำ� แปง้ มนั สำ� ปะหลงั มาผลติ เปน็ เอทานอลจะมีหนง่ึ ทกี่ ระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ใหก้ ารสนบั สนนุ และ มลู คา่ เพมิ่ ขนึ้ 2 เทา่ แตถ่ า้ นำ� มาผลติ เปน็ เมด็ พลาสตกิ ชวี ภาพดำ� เนนิ การอยา่ งตอ่ เนอื่ ง เพอ่ื กระตนุ้ บรรยากาศการสรา้ งสรรค์ จะมมี ลู คา่ เพม่ิ 6 เทา่ ซงึ่ จะทำ� ใหพ้ นี่ อ้ งเกษตรกรมรี ายไดด้ ขี น้ึนวัตกรรมในกลุ่มของเอกชนและอุตสาหกรรมโดยมองว่าจะ ดา้ นการพัฒนาอุตสาหกรรม อตุ สาหกรรมพลาสติกน�ำพาประเทศไปสู่การสร้างความสามารถด้านการแข่งขันได้ ชวี ภาพถอื เปน็ ทางรอดของอตุ สาหกรรมไทยในอนาคต เพราะด้วยนวตั กรรม กระแสโลกนบั วนั จะใหค้ วามสำ� คญั กบั สงิ่ แวดลอ้ มเพมิ่ มากขนึ้ และหากเกิดอุตสาหกรรมการผลิตเม็ดพลาสติกชีวภาพข้ึนใน ประเทศกจ็ ะชว่ ยลดการสญู เสยี เงนิ ตราตา่ งประเทศจากการนำ� เขา้ เมด็ พลาสติกชวี ภาพจากต่างประเทศได้ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นองค์กร ที่มีบทบาทหลักส�ำคัญในการขับเคล่ือนให้เกิดการพัฒนา อตุ สาหกรรมพลาสตกิ ชวี ภาพขน้ึ ในประเทศไทย โดยเปน็ หนว่ ย งานทไี่ ดร้ เิ รมิ่ นำ� เทคโนโลยผี ลติ เมด็ พลาสตกิ ชวี ภาพเขา้ มาเผย แพรแ่ ละถา่ ยทอด เพอ่ื สรา้ งความตระหนกั ถงึ ความสำ� คญั และ ความจำ� เปน็ ของการใชพ้ ลาสตกิ ชวี ภาพในสงั คมไทย รวมทง้ั เปน็ หนว่ ยงานทม่ี บี ทบาทหลกั ในการสรา้ งโครงสรา้ งพน้ื ฐานทจ่ี ำ� เปน็ ส�ำหรับอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ และได้บูรณาการการ ทำ� งานของหนว่ ยงานในสงั กดั เพอื่ ขบั เคลอ่ื นการพฒั นาโครงสรา้ ง พื้นฐานที่จ�ำเป็นของอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ ดังน้ี 45รากยระงทารวนงวิทปยารศะาสจตรำ� ์แปละเี ท2คโ5น5โล3ยี

1. สำ� นกั งานนวตั กรรมแหง่ ชาติ (องคก์ ารมหาชน) เปน็ อุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพข้ึนในประเทศไทย ก่อให้เกิดหน่วยงานที่สนับสนุนและผลักดันให้เกิดการวิจัยและพัฒนา การสรา้ งโครงสรา้ งพนื้ ฐานทเ่ี ขม้ แขง็ ดา้ นเทคโนโลยี มาตรฐานเทคโนโลยีในการผลิตเม็ดพลาสติกชีวภาพ และการน�ำเม็ด อุตสาหกรรม และนโยบายดา้ นการลงทุนและส่ิงแวดล้อม ซึง่พลาสติกชีวภาพมาพฒั นาเปน็ ผลติ ภัณฑ์ต่าง ๆ รวมทง้ั มสี ว่ น กระตุ้นให้ภาคเอกชนมีความสนใจในการลงทุนโรงงานน�ำร่องสำ� คญั ในการรณรงคแ์ ละสรา้ งความตระหนกั ใหป้ ระชาชนทวั่ ไป (pilot plant) เพอื่ ผลติ เมด็ พลาสตกิ ชวี ภาพขน้ึ ในประเทศเพอ่ืหนั มาใหค้ วามสำ� คญั กบั การใชพ้ ลาสตกิ ทผี่ ลติ จากวสั ดชุ วี ภาพ เรง่ รดั ใหเ้ กดิ การพฒั นาเทคโนโลยกี ารผลติ ในระดบั อตุ สาหกรรม 2. ศนู ยเ์ ทคโนโลยโี ลหะและวสั ดแุ หง่ ชาติ (MTEC) ซง่ึ โดยโครงการดังกล่าวคาดว่าจะผลักดันให้เกิดอุตสาหกรรมเปน็ หนว่ ยงานในสงั กดั สวทช. ไดจ้ ดั ตงั้ หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารทดสอบ พลาสติกชีวภาพอย่างครบวงจรภายในปี 2558 และมีโอกาสคณุ สมบตั กิ ารยอ่ ยสลายและภาวการณเ์ ปน็ พษิ ภายหลงั การยอ่ ย เป็นผู้น�ำในภูมิภาค นั่นเป็นสิ่งท่ีกระทรวงวิทยาศาสตร์และสลายของเมด็ พลาสตกิ ชวี ภาพ เพอ่ื ใหบ้ รกิ ารแกผ่ ปู้ ระกอบการ เทคโนโลยี ก�ำลังเร่งผลักดันให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมกอ่ นทีจ่ ะนำ� เม็ดพลาสติกไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ พลาสติกชีวภาพในประเทศไทยเพ่ือก้าวไปสู่การเป็นศูนย์การ 3. สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่ง ผลติ พลาสติกชวี ภาพในภูมิภาคเอเชยีประเทศไทยหรอื วว. ไดจ้ ดั ตงั้ หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารทดสอบการยอ่ ย 2.3 ผลติ ภัณฑส์ เี ขยี วเพ่อื สิง่ แวดล้อมสลายของผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพ และสามารถพัฒนาวิธี ปจั จบุ นั ประเดน็ ในเรอื่ งสงิ่ แวดลอ้ มไดก้ ลายมาเปน็ สว่ นการทดสอบจากเดมิ ทตี่ อ้ งใชร้ ะยะเวลาทดสอบนานถงึ 6 เดอื น หนึ่งของเศรษฐกิจและการคา้ ระหวา่ งประเทศไปเสยี แลว้ ดังเหลอื เพยี ง 1 เดือน นนั้ การทป่ี ระเทศไทยจะผลติ สนิ คา้ หรอื บรกิ ารเพ่ือส่งออกไป 4. กรมวิทยาศาสตร์บริการ ไดพ้ ัฒนาวิธีการทดสอบ จำ� หนา่ ยในตา่ งประเทศ จงึ มคี วามจำ� เปน็ อยา่ งยง่ิ ทผ่ี ปู้ ระกอบความปลอดภยั ของบรรจภุ ณั ฑจ์ ากพลาสตกิ ชวี ภาพ เพอ่ื สรา้ ง การจะตอ้ งคำ� นงึ ถงึ ความเปน็ มติ รตอ่ สงิ่ แวดลอ้ มของสนิ คา้ และความม่นั ใจและสรา้ งความปลอดภยั ให้แก่ผูบ้ ริโภค บรกิ ารดงั กลา่ ว ทงั้ นี้ เพอ่ื ใหส้ นิ คา้ และบรกิ ารของไทยสามารถ อยา่ งไรกด็ ี ในการขบั เคลอ่ื นแผนทน่ี ำ� ทางแหง่ ชาตดิ า้ นการพฒั นาอตุ สาหกรรมพลาสตกิ ชวี ภาพใหเ้ กดิ ขนึ้ ไดอ้ ยา่ งจรงิ จงันนั้ กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยไี มส่ ามารถทจ่ี ะดำ� เนนิการไดแ้ ต่เพยี งลำ� พงั จ�ำเป็นต้องอาศยั การมีส่วนร่วมจากภาคสว่ นตา่ ง ๆ ทงั้ ภาครัฐและภาคเอกชนเข้ามาชว่ ยกนั ขบั เคลื่อนดังนั้น กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยส�ำนักงานนวตั กรรมแหง่ ชาติ (องคก์ ารมหาชน) จงึ ไดร้ ว่ มมอื กบั รายการแจว๋ และสถานโี ทรทศั นไ์ ทยทวี สี ชี อ่ ง 3 จดั ทำ� กลอ่ งพลาสตกิ ชวี ภาพสำ� หรบั บรรจอุ าหารออกจำ� หนา่ ย เพอ่ื การสรา้ งความตระหนกัให้ผู้บริโภคเห็นถึงความส�ำคัญและความจ�ำเป็นของพลาสติกชวี ภาพ และรณรงคใ์ หห้ นั มาใชผ้ ลติ ภณั ฑพ์ ลาสตกิ ชวี ภาพแทนพลาสตกิ ทผี่ ลติ จากปโิ ตรเคมใี หเ้ พม่ิ มากขนึ้ อกี ทงั้ รายไดท้ งั้ หมดทไ่ี ดจ้ ากการจำ� หนา่ ยกลอ่ งพลาสตกิ ชวี ภาพจะน�ำขนึ้ ทลู เกลา้ ฯถวายสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เพ่ือทรงใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อไป ท้ังนี้ ผลการด�ำเนินงานเพ่ือขับเคลื่อนให้เกิด46 MAinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy

แขง่ ขนั อยใู่ นตลาดโลกไดอ้ ยา่ งสงา่ งาม และเพอ่ื เปน็ การแสดง เรียบร้อยแล้วพลงั รกั ษโ์ ลกซงึ่ เปน็ กระแสระหวา่ งประเทศอยใู่ นปจั จบุ นั และ ตลอดจนดำ� เนนิ โครงการเครอื่ งหมายคารบ์ อนฟตุ พรน้ิ ท์นับวันจะทวคี วามส�ำคัญเพม่ิ มากขึ้น หรอื ฉลากเขยี ว ทต่ี ดิ บนผลติ ภณั ฑจ์ ะเปน็ การสอื่ สารสรา้ งความ 2.3.1 คารบ์ อนฟตุ พร้ินท์ เพื่อโลกสีเขียว เชอื่ มนั่ กบั ผบู้ รโิ ภค ทำ� ใหผ้ บู้ รโิ ภคมขี อ้ มลู มากขน้ึ ในการตดั สนิ ใจ ขณะทที่ ว่ั โลกกำ� ลงั ใหค้ วามสำ� คญั กบั ผลติ ภณั ฑท์ เี่ ปน็ เลอื กซอ้ื สนิ คา้ ในสว่ นของผผู้ ลติ เอง ปรมิ าณคารบ์ อนฟตุ พรนิ้ ท์มติ รกบั สง่ิ แวดลอ้ ม กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โดย จะช่วยให้ผู้ประกอบการทราบประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมศนู ยเ์ ทคโนโลยโี ลหะและวสั ดแุ หง่ ชาติ (เอม็ เทค) สำ� นกั งานพฒั นา ที่ควรปรบั ปรุง ก่อให้เกดิ การพฒั นาผลิตภัณฑท์ ี่มคี ารบ์ อนต�่ำ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ (สวทช.) ไดร้ เิ รม่ิ โครงการ อนั จะนำ� ไปสเู่ ศรษฐกจิ และสงั คมยคุ คารบ์ อนตำ่� (Low Carbonความร่วมมือทางเทคนิคที่เก่ียวข้องกับคาร์บอนฟุตพร้ินท์ Economy and Society) ซ่ึงปัจจุบันประเทศไทยสามารถ(Carbon Footprint) ของผลติ ภณั ฑส์ ำ� หรบั ในประเทศ ซงึ่ นบั วา่ นำ� ร่องติดฉลากคาร์บอนฟุตพร้ินทแ์ ล้วกวา่ 65 ชนดิเปน็ การสรา้ งองคค์ วามรใู้ หม่ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั คารบ์ อนฟตุ พรน้ิ ท์ของประเทศไทย ซ่ึงถือเป็นเรื่องใหม่ทยี่ ังไมเ่ คยมีมาก่อน อาหารไกเ่ น้ือ โครงการดงั กล่าวมีเปา้ หมายเพ่อื สร้างทมี ผ้เู ชยี่ วชาญในประเทศ เพ่ือทดแทนการจ้างผู้เชี่ยวชาญตา่ งชาติ ทัง้ น้ีเพ่ือ เสือ้ ยืด 100% cotton ขา้ วหอมมะลิ 100%รองรับกระแสด้านสิ่งแวดล้อมและการค้าของโลกท่ีมีความตอ้ งการขอ้ มลู สงิ่ แวดลอ้ มมากขน้ึ เรอ่ื ยๆ และคาดวา่ ผลงานทไ่ี ด้ แกงเขยี วหวานไก่ และ มสั มั่นไก่จะชว่ ยสง่ เสรมิ การสง่ ออกและรกั ษาตลาดเดมิ ของประเทศไทยไวไ้ ด้ภายใต้การเปลี่ยนแปลงทจี่ ะเกิดขน้ึ ในอนาคต 47รากยระงทารวนงวทิปยารศะาสจตรำ� ์แปละเี ท2คโ5น5โล3ยี เอม็ เทคไดส้ รา้ งหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารการประเมนิ วฎั จกั รชวี ติเพอ่ื ดำ� เนนิ การจดั ทำ� ฐานขอ้ มลู วฎั จกั รชวี ติ ของวสั ดพุ น้ื ฐานและพลังงานของประเทศ (National LCI Database) โดยได้รว่ มกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก องค์การมหาชน(อบก.) ดำ� เนนิ โครงการ “การสง่ เสรมิ การใชค้ ารบ์ อนฟตุ พรนิ้ ท์ของผลิตภัณฑ์” เพื่อเป็นการสร้างกระแสแห่งการอนุรักษ์สิง่ แวดลอ้ มให้กบั ทัง้ ผู้ผลติ และผู้บริโภค เอ็มเทคได้พัฒนาระบบการจัดการฐานข้อมูลวัฏจักรชวี ติ ของไทย หรือ LCA (Thai Life Cycle Inventory DataManagement System) ซอฟตแ์ วรส์ ำ� เรจ็ รปู เพอื่ การประเมนิปริมาณกา๊ ซเรอื นกระจกของไทย (GHGs+) ซึ่งเป็นระบบดา้ นLCA รายแรกของประเทศและภมู ภิ าคอาเซยี นโดยจะชว่ ยจดั การและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยลดปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการค�ำนวณปริมาณก๊าซท่ีปล่อยออกมาจากตัวผลิตภัณฑ์ต้ังแต่การน�ำเข้าวัตถุดิบจนถึงกระบวนการท�ำลายล้างของผลิตภัณฑ์หลังจากใช้งาน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook