โครงงานบ้านนักวิทยศาสตร์น้อยโรงเรียนบ้านทับกุมารทอง

1

ก คำนำ การเรียนรู้การทดลองวิทยาศาสตร์ เป็นกระบวนการแสวงหาความรู้หรือการค้นคว้า หาคำตอบในส่ิงท่ี เด็กๆอยากรู้หรือสงสัยด้วยวิธีการต่างๆ เปน็ วธิ ีการเรียนรู้ทเ่ี ด็กๆได้เลือกศึกษาตาม คเวามสนใจของตนเองหรือ ของกลุ่มเป็นการตัดสนิ ใจร่วมกัน เป็นกิจกรรมทดลองวิทยาศาสตร์ท่ีเด็ก อยากรู้และสนใจมีการจัดการเรียนรู้ท่ี หลากหลาย เช่น กระบวนการกลุ่ม รายบุคคล การฝึกคิด การแก้ปัญหาและการร่วมมือกันคิด ฯลฯ เด็กๆได้ลง มือปฏิบัติกิจกรรมต่างๆเพื่อค้นหาคำตอบด้วย ตนเอง และไดเ้ รียนรู้จากประสบการณต์ รง เด็กมีความสนใจ และกระตอื รอื รน้ ในการรว่ มกิจกรรมเป็น อย่างดี รู้จักหน้าที่ ความรับผิดชอบของตนเอง รู้จักการรอคอย เกิดทักษะทางวิทยาศาสตร์ มีความ ภาคภูมิใจในตนเองและผู้อื่น ขอขอบพระคุณ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทับกุมารทอง ที่สนับสนุน กจิ กรรมการทดลองและโครงงานวิทยาศาสตร์ ใหก้ ำลังใจและคำปรึกษาทดี่ ี ตลอดมาหวังเป็นอย่างย่ิง ว่ากิจกรรมการทดลองและโครงงานวิทยาศาสตร์ จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจ และ หากท่านผู้รู้มี คำแนะนำเพื่อจะพัฒนากิจกรรมการทดลองและโครงงานวิทยาศาสตร์ทางผู้จัดทำน้อมรับ เพื่อจะได้ นำไปปรับปรุงพัฒนาให้ดยี ิ่งข้นึ ต่อไป ผ้จู ดั ทำ นางกฤษณา เดชวงศ์ษา

สารบญั ข คำนำ หน้า สารบญั ก กิจกรรม ข กจิ กรรมที่ 1 เรอ่ื ง ความลบั ของสดี ำ 1 กิจกรรมที่ 2 เรอื่ ง ทอรน์ าโดในขวด ๕ กจิ กรรมท่ี 3 เรอ่ื ง ไหลแรงหรือค่อย ๙ กจิ กรรมที่ 4 เรอ่ื ง ตวั ทำละลาย 1๓ กจิ กรรมท่ี 5 เรอื่ ง นำ้ เป็นตวั ทำละลาย 1๗ กิจกรรมที่ 6 เรอ่ื ง การละลายของน้ำตาล ๒๑ กิจกรรมท่ี 7 เร่ือง หมุดลอยน้ำ ๒๕ กจิ กรรมที่ 8 เรอ่ื ง สนุกกับฟองสบู่ ๒๙ กิจกรรมที่ 9 เรื่อง การกรองนำ้ ๓๓ กจิ กรรมท่ี 10 เรื่อง เนินน้ำ ๓๗ กิจกรรมท่ี 11 เรอ่ื ง นำ้ เป็นของเหลว ๔๑ กิจกรรมที่ 12 เรอ่ื ง พบั หรือตดั ก็ทับกันสนิท ๔๕ กิจกรรมท่ี 13 เร่อื ง เรือสะเทินนำ้ สะเทินบกและจรวด ๔๙ กิจกรรมท่ี 14 เรื่อง การเผาไหม้ ๕๓ กจิ กรรมท่ี 15 เรื่อง กักน้ำไวไ้ ด้ ๕๗ กจิ กรรมท่ี 16 เรื่อง สถานเี ติมลม ๖๐ กิจกรรมที่ 17 เรอ่ื ง น้ำมะนาวอญั ชนั โซดาแสนอร่อย ๖๔ กจิ กรรมท่ี 18 เรอ่ื ง น้ำ ทราย และน้ำมัน ๖๘ กิจกรรมที่ 19 เรื่อง อินดิเคเตอร์จากพืช ๗๒ กจิ กรรมท่ี 20 เรอ่ื ง แสงเล้ียวเบน ๗๖ ภาคผนวก ๘๐

1 รายงานผลการจดั กจิ กรรมการทดลองตามโครงการบ้านนกั วทิ ยาศาสตรน์ อ้ ย ประเทศไทย กจิ กรรมที่ 1 เรอื่ ง ความลบั ของสีดำ จดุ ประสงค์ 1. เพื่อใหเ้ ด็กเรียนร้เู รื่องสดี ำเกิดจากการรวมตวั ของสีมากกว่า 2 สี 2. เพื่อใหเ้ ด็กไดท้ ำการทดลองความลบั ของสดี ำไดด้ ้วยตนเอง 3. เพอ่ื ให้เดก็ มีเจตคติที่ดตี อ่ การเรียนร้โู ดยใชท้ กั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ข้นั ตอนการจัดกจิ กรรม ข้ันท่ี 1 ตงั้ คำถามที่อยากรู้ เด็กและครูสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับการระบายสีภาพ และสังเกตสิ่งรอบตัว โดยครูเอาสีน้ำให้ เดก็ หลายๆสี แล้วให้เดก็ นำสีมาระบายทับกัน น้องน้ำขงิ : ทำไมเวลาเอาสีมาระบายทับกันหลาย ๆ สี จึงเป็นสีดำคะ่ น้องไอแพท:ทำไมเวลาเรานำพกู่ ันท่ีเป้ือนสตี ่าง ๆ ไปลา้ งในแก้วใบเดียวกันน้ำจึงเป็นสี ดำครบั ขนั้ ที่ 2 รวบรวมความคดิ และคาดคะเนคำตอบ ครูใช้คำถามกระตุ้นให้เด็กได้คาดคะเนคำตอบถ้าเราหยดสีเทยี น สไี ม้ และสเี มจิก ลงในน้ำ เด็กๆคดิ วา่ จะเปน็ อยา่ งไรค่ะ น้องนิด : หนคู ดิ ว่าสีเมจิกละลายนำ้ ค่ะ น้องแฟร้งค์ : สีเทียนกับสไี ม้ไม่ ละลายนำ้ ครับ นอ้ งฮอมสขุ : หนูคิดว่าสีเมจกิ คะ เพราะเวลาทม่ี ือเราเปอื้ นสีเมจิกเราไปล้างสีจะละลาย ปนกบั นำ้ ข้ันที่ 3 ดำเนินการสำรวจตรวจสอบ เด็กๆและครูร่วมกันวางแผนโดยการกำหนดขั้นตอนการทดลองและออกแบบบันทึกผลการ ทดลองจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์การทดลองและดำเนินการทดลองตามแผนที่วางไว้โดยแบ่งเด็กเป็น2 กล่มุ กลุ่มที่ 1 ใช้สีเมจิกสีดำวาดภาพลงบนกระดาษกรองหลังจากนั้นให้หงายฝาขวดขึ้นแล้วนำ กระดาษกรองวางบนฝาขวดใช้หลอดหยดน้ำหยดน้ำทีละหยดตรงกลางกระดาษกรอง ให้เด็กสังเกต การวา่ เกิดอะไรขึ้น กลมุ่ ที่ 2 ใหเ้ ด็กตัดกระดาษใช้กรรไกรตัดตรงกลางกระดาษกรองแผ่นที่ 1 แล้วใช้สีเมจิกสีดำ วาดภาพล้อมรอบ กระดาษกรองแผ่นที่ 2 นำมาม้วนแล้วสอดลงในกระดาษกรองแผ่นที่1แล้วนำไป วางไว้บนแก้วนำ้ ให้เด็กสงั เกตการณ์เปลี่ยนแปลง ขน้ั ท่ี 4 การสังเกตและบรรยาย ครแู ละเด็กสนทนาร่วมกันโดยให้เด็กสังเกตการเคล่ือนท่ี /ซมึ ผ่านของนำ้ บนกระดาษกรองว่า มีลักษณะอย่างไร น้องอิ๊ฟ : น้ำจะค่อยๆซึมผ่านบนกระดาษกรองออกเป็นรูปวงกลม น้องนิด: สีจะ เคลื่อนที่ไปกับน้ำพร้อมๆกันค่ะ น้องณัฐชา: จะเกิดสีฟ้า สีชมพู สีม่วง สีส้ม สีน้ำตาล สีเทา บน กระดาษกรองแตไ่ ม่เหน็ สดี ำ

2 ข้นั ท่ี 5 บันทกึ ผล เด็กๆ บันทึกผลการทดลองลงในแบบบันทึกที่ร่วมกันออกแบบไว้โดยการวาดภาพระบายสี ตามท่ปี รากฏบนกระดาษกรองเพอ่ื นำมาเสนอใหเ้ พ่ือนฟังหน้าช้ันเรียน ขน้ั ที่ 6 สรุปและอภิปราย การเคลื่อนที่ของสีบนกระดาษกรองมีน้ำเป็นตัวนำพาและเกิดสีหลายสี ครูและเด็กๆช่วยกัน สรุปสดี ำเกิดจากการรวมกันของสมี ากกว่า 2 สีและไม่จำเปน็ ตอ้ งเป็นกลุ่มสีเดมิ ที่จะทำให้เกดิ สีดำ ภาพการดำเนินกจิ กรรม อุปกรณ์ในการทดลอง เดก็ ทำกิจกรรมการทดลอง เด็กนำเสนอผลงาน

3 ผลงานทีส่ ำเร็จ ผลทเี่ กดิ กับเดก็ 1. ผลทเ่ี กดิ ขึ้นตามจดุ ประสงค์ 1. เด็กได้เรียนรู้เรือ่ งสดี ำเกิดจากการรวมตวั ของสมี ากกว่า 2 สี 2. เด็กไดท้ ำการทดลองความลับของสดี ำไดด้ ้วยตนเอง 3. เดก็ ได้รับความสุขสนุกสนานกบั การทดลอง 4. เด็กมีเจตคตทิ ีด่ ีต่อการเรยี นรู้โดยใช้ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 2. พัฒนาการความสามารถพนื้ ฐาน และพฒั นาการของเดก็ ปฐมวัย 2.1 ด้านการเรยี นร้/ู ดา้ นภาษา /สตปิ ัญญา : 2.1.1 ด้านการเรียนรู้ได้เรียนรู้ว่า สีดำเกิดจากการรวมของสีมากกว่า 2 สีจึงเกิด เปน็ สดี ำ 2.1.2 ด้านภาษาเดก็ กล้าพูดกล้าแสดงความคดิ เหน็ และซักถามในสง่ิ ท่ตี นเองสนใจ 2.1.3 ด้านสติปญั ญา เด็กไดเ้ รยี นร้ขู น้ั ตอนการทดลองและใช้ใช้ทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์โดยการคาดคะเน การสงั เกต การเปรยี บเทียบ 2.2 ดา้ นสังคม 2.2.1 เดก็ สามารถทำงานรว่ มกบั ผู้อ่ืนได้ 2.2.2 เดก็ แสดงความคดิ เห็นของตนเองและยอมรบั ฟังความคิดเหน็ ของผ้อู ่นื 2.2.3 เดก็ ๆปฏิบตั ิตนตามขอ้ ตกลงได้ 2.3 ด้านอารมณ์ – จิตใจ 2.3.1 เดก็ มีความสุขสนกุ สนานกบั การทำการทดลองดว้ ยตนเอง 2.3.2 เด็กแสดงความยนิ ดีและช่นื ชมผลงานของตนเองและผ้อู นื่

4 2.3.3 เดก็ มีเจตคตทิ ดี่ ีตอ่ การเรียนรู้ดว้ ยทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2.4 ด้านการเคล่อื นไหว 2.4.1 เด็กๆเคล่ือนไหวหยิบจับ อุปกรณ์ในการทดลองได้อย่างคลอ่ งแคล่ว 2.4.2 เด็กสามารถเรียนรู้โดยการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ด้วยตัวเองจึงได้ข้อมูลที่ ชดั เจน

5 รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลองตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตรน์ ้อย ประเทศไทย กิจกรรมที่ 2 เรอ่ื ง ทอร์นาโดในขวด จดุ ประสงค์ 1. เพอื่ ใหเ้ ดก็ เรยี นรู้เรอื่ งอากาศมีตัวตนและตอ้ งการที่อยู่ 2. เพ่ือให้เด็กไดท้ ำการทดลองเรอื่ งการแทนท่ีกันของนำ้ กับอากาศ 3. เพื่อใหเ้ ด็กมีเจตคตทิ ่ีดีตอ่ การเรยี นรโู้ ดยใชท้ กั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ขนั้ ตอนการจัดกจิ กรรม ขั้นท่ี 1 ตงั้ คำถามท่ีอยากรู้ ครูสนทนากับเด็ก โดยให้เด็ก ๆ ดู VCD การเกิดลมพายุน้องแพ้นพายุเกิดขึ้นได้อย่างไรคะ น้องนำ้ ขงิ : ทำไมคนถึงว่ิงหนเี วลาเกดิ พายคุ ะ นอ้ งไอแพด : พายุทำไมหมนุ ได้ครบั ขั้นท่ี 2 รวบรวมความคิดและคาดคะเนคำตอบ เด็กและครูสนทนาร่วมกันโดยครูใช้คำถามกระตนุ้ อากาศมีอยู่ท่ีใดบ้างคะ นอ้ งไอแพด ผมคิด ว่าน่าจะอยู่รอบตัวเราครับ น้องอิ๊ฟ : หนูคิดว่าอยู่บนท้องฟ้าคะ น้องแฟร้งค์ : ผมคิดว่าอยู่บนต้นไม้ ครับครู : แสดงว่าอากาศ ไม่ได้หายไปไหนเพียงแตเ่ ปลย่ี นทีอ่ ยู่ ขน้ั ท่ี 3 ดำเนนิ การสำรวจตรวจสอบ เด็กและครูร่วมกันวางแผนการทดลองมีการกำหนดขั้นตอนการทดลองและร่วมออกแบบ บันทึกผลการทดลองจากนั้นจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์การทดลองและลงมือทำการทดลองโดย นำขวด เป็บซ่ีมา 2 ใบ ขวดใบท่ี 1 ใส่นำ้ ลงไปประมาณ 2 ใน 3 ส่วนและหยดสีผสมอาหารลงไป นำข้อต่อให้ ตดิ แน่นกับขวดแลว้ นำขวดเปล่าอกี ใบ หน่งึ มาวางคว่ำลงด้านบนกบั ข้อต่อหมุนใหแ้ นน่ เช่นกนั แล้วพลิก ขวดกลบั ดา้ นเพ่ือใหเ้ ดก็ สงั เกตการไหลของนำ้ ขั้นที่ 4 สังเกตและบรรยาย ครแู ละเด็กสนทนาร่วมกันโดยให้เด็กสังเกตว่ามสี ง่ิ ใดอย่ใู นขวดใบท่ี 1 และ ใบท่ี 2 น้องวิว มี น้ำผสมสีในขวดใบที่ 1 และขวดใบที่ 2 จะมีอากาศอยู่ซึ่งเราไม่สามารถมองเห็นได้ถ้าเราพลิกขวด กลบั ดา้ นเอาขวดใบที่ หน่ึงขน้ึ ด้านบนขวดใบท่ี 2 อยู่ดา้ นลา่ ง นอ้ งกอ้ ง น้ำไม่ไหลลงสขู่ วดดา้ นลา่ งครับ น้องเก้ือ เราตอ้ งเขยา่ ขวดหรอื บีบขวดน้ำจึงจะไหลลงส่ขู วดดา้ นล่าง ขั้นที่ 5 บันทึกผล เด็กๆ บันทึกผลการทดลองลงในแบบบันทึกที่ร่วมกันออกแบบไว้โดยการวาดภาพระบายสี ตามส่งิ ท่ีเห็นจากนน้ั นำเสนอให้เพ่อื นๆและคณุ ครฟู ังหนา้ ช้ันเรยี น ขั้นท่ี 6 สรปุ และอภิปราย ครูและเด็กช่วยการสรุปถึงการไหลของน้ำในขวดว่าเราต้องมีการเขย่าหรือบีบขวดน้ำในขวด ดา้ นบน ไหลลงสู่ด้านลา่ งมลี ักษณะเปน็ เกลยี วจากผลการทดลองสรุปไดว้ ่าอากาศมีตัวตนและต้องการ ท่ีอยู่ซึง่ สงั เกตจากการแทนท่กี ันระหว่างอากาศกบั นำ้

6 ภาพการดำเนินกจิ กรรม อุปกรณใ์ นการทดลอง เด็กทำกจิ กรรมการทดลอง

7 เดก็ นำเสนอผลงาน ผลงานทส่ี ำเรจ็ ผลที่เกดิ กบั เด็ก 1. ผลทีเ่ กิดขนึ้ ตามจุดประสงค์ 1. เดก็ เรยี นรวู้ า่ อากาศมีตัวตนและต้องการทีอ่ ยู่ 2. เดก็ ไดท้ ำการทดลองเร่ืองการแทนท่ีกนั ของน้ำกับอากาศ 3. เด็กมีเจตคติทดี่ ตี ่อการเรยี นรโู้ ดยใช้ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2. พัฒนาการความสามารถพน้ื ฐาน และพัฒนาการของเดก็ ปฐมวัย 2.1 ดา้ นการเรยี นรู้ / ดา้ นภาษา /ด้านสตปิ ญั ญา

8 2.1.1 ด้านการเรียนรู้ได้เรียนรู้ว่า สีดำเกิดจากการรวมของสีมากกว่า 2 สีจึงเกิด เปน็ สีดำ 2.1.2 ด้านภาษาเด็กกลา้ พดู กล้าแสดงความคิดเห็นและซักถามในสิ่งท่ีตนเองสนใจ 2.1.3 ด้านสติปัญญา เด็กได้เรียนรู้ขั้นตอนการทดลองและใช้ทักษะกระบวนการ ทางวทิ ยาศาสตรโ์ ดยการสงั เกต เปรยี บเทียบ คาดคะเน 2.2 ด้านสังคม: 2.2.1 เดก็ สามารถทำงานรว่ มกับผอู้ ืน่ ได้ 2.2.2 เด็กแสดงความคิดเหน็ ของตนเองและยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผูอ้ นื่ 2.2.3 เดก็ ๆปฏิบตั ติ นตามขอ้ ตกลงได้ 2.3. ด้านอารมณ์ 2.3.1 เดก็ ๆแสดงออกอย่างสนุกสนานในการรว่ มกิจกรรม 2.3.๒ เด็กๆ แสดงความยินดีและช่นื ชมผลงานของตนเองและผอู้ ื่น 2.3.๓ เด็กๆ มีเจตคตทิ ีด่ ีต่อการเรียนรู้ ด้วยทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2.4 ด้านการเคลอ่ื นไหว: 2.4.1 เด็กสามารถใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่ในการเคลื่อนไหวร่างกาย หยิบ จับ วสั ดุอปุ กรณ์ได้อย่างคล่องแคลว่ และควบคมุ ไปในทิศทางทต่ี ้องการได้ 2.4.2 เดก็ สามารถใช้ประสาทสัมผัสท้งั 5 ด้วยตนเองจงึ ไดข้ ้อมูลท่ีชดั เจน

9 รายงานผลการจดั กิจกรรมการทดลองตามโครงการบ้านนกั วิทยาศาสตรน์ อ้ ย ประเทศไทย กจิ กรรมท่ี 3 เรือ่ ง ไหลแรงหรือค่อย จุดประสงค์ 1. เพอื่ ให้เดก็ ไดเ้ รียนรวู้ ่า นำ้ มแี รงดัน 2. เพอื่ ให้เดก็ ได้ทำการทดลองเร่ืองไหลแรงหรอื ค่อยได้ด้วยตนเอง 3. เพื่อใหเ้ ดก็ ไดม้ ีความสขุ สนุกสนานกบั การทดลองและอยรู่ ว่ มกบั ผู้อน่ื ได้ ขัน้ ตอนการจดั กิจกรรม ขนั้ ที่ 1 ต้งั คำถามท่ีอยากรู้ ครสู นทนากบั เดก็ ๆ และใหเ้ ด็กดูภาพนำ้ ตกและใหเ้ ด็กลองล้างมือ นอ้ งแฟร้งค์ : น้ำตกมันเกิด จากอะไรครับ นอ้ งนำ้ ขงิ : ทำไมเวลาเราเปิดนำ้ เบา นำ้ จะไหลนอ้ ย เวลาเปดิ น้ำแรง นำ้ จะไหลมาคะ ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิดและคาดคะเนคำตอบ เด็กและครูสนทนาร่วมกันถึงเรื่องถังน้ำประปาเพื่อให้เด็กคาดคะเนคำตอบน้องนิด: ทำไมถึง ตั้งถังประปาไว้สงู น้องไอแพด: ถ้าตั้งถังน้ำประปาในระดับต่ำน้ำคงไหลน้อย ครูใช้คำถามเพื่อใหเ้ ดก็ ๆ ช่วยกนั คาดคะเนต่อ ดังนี้ ถา้ นำขวดพลาสติกมาเจาะรูสองรเู ดก็ ๆ คดิ วา่ น้ำจากรูขา้ งหรือจากรูข้างบน จะไหลแรงกวา่ กัน น้องอ๊ีฟ : รูข้างบนนา่ จะไหลแรงกวา่ น้องฮอมสุข: รขู ้างล่างนา่ จะไหลแรงกวา่ ขั้นที่ 3 ดำเนินการสำรวจตรวจสอบ เด็กและครูร่วมกันวางแผนกำหนดขั้นตอนการทดลอง ออกแบบบันทึกผลการทดลอง จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ ดำเนินการทดลองตามแผนที่วางไว้ โดยให้เด็กๆนำขวดพลาสติกมา 1 ขวด หลังจากนั้นใช้ตะปูเจาะรูที่ขวดน้ำอย่างน้อย 2 รู โดยให้รูแรกอยู่ใกล้ก้นขวดและรูที่สองอยู่กลางขวด บรเิ วณท่ีเจาะรูควรใชป้ ากกาเมจกิ กนั น้ำทำสญั ลักษณ์ไว้เพือ่ ให้เห็นง่าย ใช้เทปกาวใสขนาดยาวพอควร ปิดทับรูทั้งหมดที่เจาะไว้บนขวด นำขวดน้ำไปวางไว้ในกะละมังพลาสติกและเทน้ำผ่านกรวยลงไปใน ขวดใหเ้ ต็มไม่ต้องปิดฝาขวด จากน้นั ดงึ เทปกาวใสออกให้เด็กๆสงั เกตการไหลของนำ้ ว่าน้ำจากรูไหนท่ี ไหลแรง ขน้ั ท่ี 4 การสงั เกตและบรรยาย ครูและเด็กๆสนทนารว่ มกันว่า เมื่อดึงเทปกาวใสออกจากรูที่เราเจาะไวบ้ นขวดออก น้ำจากรู ทอี่ ยใู่ กลก้ ้นขวดจะไหลแรงกว่ารทู ่ีเจาะไวด้ ้านบน ทเี่ ป็นเชน่ น้ันเพราะน้ำมีแรงดนั ท่ีบริเวณน้ำลึกจะมี แรงดนั มากกว่านำ้ ตน้ื ข้นั ท่ี 5 บนั ทึกผลการทดลอง เด็กๆบันทึกผลการทดลองโดยการวาดภาพ จากนั้นนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนให้ครูและ เพ่อื นๆฟงั ขั้นที่ 6 สรุปและอภปิ รายผล เด็กและครสู นทนาร่วมกนั ถงึ การไหลของน้ำทอี่ อกจากขวดท่ีเจาะรูไว้สองรู แรงดันของน้ำที่มี แรงดันเพิ่มขึ้นเมื่อดำลงไปลึกและเมื่อปล่อยน้ำลงจากบ ริเวณที่สูงน้ำจะไหลแรงซึ่งสรุปได้ว่าน้ำมี แรงดนั

10 ภาพการดำเนินกิจกรรม อปุ กรณใ์ นการทดลอง เดก็ ทำกิจกรรมการทดลอง เด็กนำเสนอผลงาน

11 ผลงานทีส่ ำเรจ็ ผลทเ่ี กดิ กับเดก็ 1. ผลทีเ่ กดิ ขึ้นตามจุดประสงค์ 1. เดก็ ได้เรยี นรวู้ า่ นำ้ มแี รงดัน 2. เดก็ ไดท้ ำการทดลองเรือ่ งไหลแรงหรอื ค่อยได้ด้วยตนเอง 3. เดก็ ไดม้ ีความสุขสนุกสนานกบั การทดลองและอย่รู ่วมกบั ผูอ้ ่นื ได้ 2. พฒั นาการความสามารถพ้นื ฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย 2.1 ด้านการเรียนรู้ / ดา้ นภาษา / สติปัญญา 2.1.1 ด้านการเรยี นรู้ - เด็กๆได้ลงมือปฏบิ ัติการทดลองด้วยตนเอง - เด็กๆสามารถอธิบายถึงสิ่งที่เด็กได้เรียนรู้ เกี่ยวกับ กิจกรรมการทดลอง ไหลแรงหรือค่อยไดต้ ามลำดับข้ันตอน - เดก็ ๆสามารถนำเสนอผลงานตามความคิดของตนเองให้ผ้อู น่ื ฟงั ได้ 2.1.2. ด้านภาษา - เด็กๆสามารถเรียนรู้คำศัพท์จากวัสดุอุปกรณ์ และบอกรายละเอียดของ อุปกรณต์ า่ งๆไดด้ ้วยตนเอง - เด็กๆกล้าพูดกล้าแสดงความคิดเห็น และซักถามในสิ่งที่ตนเองสนใจด้วย คำพดู ของตนเองได้อย่าง ม่นั ใจ - เด็กสามารถอธิบายเกี่ยวกับความคิดรวบยอดของกิจกรรม โดยใช้คำศัพท์ คำพดู ท่ีเด็กๆรจู้ ักและเขา้ ใจในการนำเสนอผลงานของตนเอง 2.1.3. ดา้ นสตปิ ญั ญา - เด็กๆมีการคาดเดาคำตอบในสิง่ ท่เี กดิ ขึน้ ในการทำกิจกรรม โดยการ คาดคะเน พยากรณ์ ใช้ความคดิ ก่อนการทำกจิ กรรม 2.2 ดา้ นสงั คม 2.2.1 เดก็ ๆสามารถทำกจิ กรรมการทดลองร่วมกับผ้อู นื่ ได้ 2.2.2 เด็กแสดงความคดิ เหน็ และรับฟงั ความคิดเหน็ ของผอู้ น่ื

12 2.3 ด้านอารมณ์ - จิตใจ 2.3.1 เด็กๆแสดงออกอยา่ งสนุกสนานในการรว่ มกจิ กรรม 2.3.2 เดก็ ๆแสดงความยินดีและชื่นชมผลงานของตนเองและผูอ้ ืน่ 2.3.3 เด็กๆมเี จตคตทิ ี่ดีต่อการ เรียนรทู้ ักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2.4 ด้านการเคลอ่ื นไหว / ร่างกาย 2.4.1 เด็กสามารถใช้กล้ามเนื้อทั้งมัดเล็ก และมัดใหญ่ ในการเคลื่อนไหวร่างกาย หยิบจับ วัสดุอุปกรณ์ได้อย่างคล่องแคล่ว สามารถควบคุมให้ไปในทิศทางท่ี ตอ้ งการได้ และเรยี นร้ดู ้วยการประสาทสมั ผัสจากการมองเห็น

13 รายงานผลการจดั กิจกรรมการทดลองตามโครงการบา้ นนักวทิ ยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย กจิ กรรมที่ 4 เรอ่ื ง ตวั ทำละลาย จดุ ประสงค์ 1. เพ่ือใหเ้ ด็กได้เรยี นรเู้ กี่ยวกับตัวทำละลาย 2. เพ่ือให้เดก็ ได้ทำการทดลองกจิ กรรมตัวทำละลายได้ด้วยตนเอง 3. เพื่อใหเ้ ด็กมเี จตคติท่ดี ตี อ่ การเรียนรูโ้ ดยใชท้ ักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ข้ันตอนการจดั กจิ กรรม ขน้ั ท่ี 1 ตง้ั คำถามเก่ยี วกับปรากฏการณธ์ รรมชาติ เด็กและครูร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับทะเลว่าเด็กๆเคยไปเที่ยวทะเล น้ำทะเลมีรสชาติอย่างไร เด็กๆตอบว่าน้ำทะเลเค็ม น้องน้ำขิง:ทำไมน้ำทะเลจึงเค็ม น้องอี๊ฟ:สงสัยมีเกลือเยอะ น้องฮอมสุข:หนู เหน็ ทรายมเี ยอะมากครบั ทที่ ะเล ครบู นั ทึกคำถามของเด็กลงในกระดาษชาร์ท ขน้ั ท่ี 2 รวบรวมความคิดและข้อสันนิษฐาน ครูสนทนากับเด็ก ๆ เกย่ี วกับการละลายของเกลือและทราย นอ้ งเจนนี่:ในทะเลมีเกลือใช่ไหม ค่ะ น้องเพชร:มีทรายด้วยนะ ถ้าครูนำเกลือใส่ลงไปในน้ำอุ่นจะเกิดอะไรขึ้นค่ะ น้องแฟร้งค์:เกลือ ละลายหายไปเลยครับ ถ้าครูใส่ทรายลงไปในน้ำอุ่นละค่ะ น้องนิด:ละลายค่ะ น้องณัฐชา:ไม่ละลายคะ่ ครจู ึงบันทึกลงในกระดาษชาร์ท ขนั้ ท่ี 3 ทดสอบและปฏิบตั ิการสบื เสาะ เด็กและครูร่วมกันวางแผนการทดลองมีการกำหนดขั้นตอนการทดลองและร่วมออกแบบ บันทึกผลการทดลองจากนั้นจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์การทดลองและดำเนินการทดลองด้วยตนเองตาม ขั้นตอนโดยการนำเกลือและทรายมาจากบ้าน นำทรายและเกลือมาตวง2-3 ช้อนชา เทน้ำอุ่นลงใน แกว้ สองใบปริมาตรเทา่ กนั ครึ่งแกว้ ใชป้ ากกาเคมีขีดบอกระดับนำ้ ไว้บนแกว้ ตกั เกลือใสล่ งไปในแก้วใบ ที1ทีละช้อน และตักทรายใส่ลงไปในแก้วใบที่2ทีละช้อน เด็กสังเกตการทดลองโดยใช้ทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ขัน้ ท่ี 4 การสงั เกตและบรรยาย เด็กสังเกตและช่วยกันบรรยายผลที่เกิดขึ้นจากการทดลองโดยใช้ทักษะกระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์ ซง่ึ สงิ่ ทเ่ี ดก็ สังเกตเห็นคือ แกว้ ใบที่1เกลือละลายนำ้ ระดับนำ้ เทา่ เดิม แก้วใบท่ี2 ทราย ไมล่ ะลายนำ้ และระดับน้ำเพิ่มข้นึ ขน้ั ที่ 5 บนั ทึกผล เด็กและครูร่วมกันสนทนาและเด็กๆบันทึกผลการทดลองโดยการวาดภาพนำเสนอหน้าช้ัน เรียนและจดั ป้ายนิเทศให้ผู้ปกครองดู ขั้นท่ี 6 สรุปและอภิปราย เด็กและครูรว่ มกันสนทนาจากข้อสนั นิษฐานของเด็ก ๆ ว่าตัวทำให้เกลือละลายคือนำ้ น้ำเป็น ตวั ทำละลายทีด่ ี

14 ภาพการดำเนินกิจกรรม อุปกรณใ์ นการทดลอง เดก็ ทำกจิ กรรมการทดลอง

15 เดก็ นำเสนอผลงาน ผลงานท่ีสำเร็จ

16 ผลทเ่ี กิดกบั เด็ก 1. ผลทีเ่ กิดขนึ้ ตามจดุ ประสงค์ 1. เดก็ ไดเ้ รียนรเู้ ก่ยี วกับตวั ทำละลายคือน้ำ 2. เด็กได้ปฏิบัติการทดลองกจิ กรรมตวั ทำละลายไดด้ ้วยตนเอง 3. เดก็ มีเจตคติท่ีดีต่อการเรยี นร้โู ดยใช้ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2. พฒั นาการความสามารถพ้ืนฐาน และพัฒนาการของเดก็ ปฐมวัย 2.1. ด้านการเรียนร/ู้ ด้านภาษา /สติปัญญา: 2.1.1 ด้านการเรยี นรู้ - เด็ก ๆ ได้ลงมือการทดลองด้วยตนเองซ่ึงสามารถอธบิ ายสิง่ ท่ีเด็กได้เรียนรู้ เกี่ยวกบั กจิ กรรมการทดลองตวั ทำละลายไดต้ ามลำดบั ขั้นตอน - เดก็ ร้จู ักการตง้ั คำถาม การสันนษิ ฐาน การสงั เกต 2.1.2 ด้านภาษา - เด็กสามารถสื่อสาร เล่าเรื่อง แสดงความคิดเห็น สนทนาโต้ตอบ พูด อธบิ ายข้นั ตอนการทดลอง 2.1.3 ดา้ นสตปิ ญั ญา - เด็กได้รับความรู้ว่าน้ำเป็นตัวทำให้เกลือละลายได้ดี โดยใช้ทักษะ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ในการทดลอง ศกึ ษาค้นคว้า 2.2 ดา้ นสงั คม: 2.2.1 เด็กสามารถทำงานร่วมกบั ผู้อ่ืนได้ 2.2.2 เด็กแสดงความคิดเหน็ ของตนเองและยอมรับฟงั ความคดิ เห็นของผู้อนื่ 2.2.3 เด็กๆปฏิบตั ติ นตามข้อตกลงได้ 2.3 ดา้ นอารมณ์ – จติ ใจ : 2.3.1 เดก็ มีความสุขสนุกสนานและความสนใจกบั การทำการทดลองดว้ ยตนเอง 2.3.2 เดก็ มีความกระตอื รือร้นในการเรยี นรู้ 2.3.3 เด็กมคี วามม่นั ใจในตนเอง 2.4 ด้านการเคลือ่ นไหว: 2.4.1 เด็กๆเคลอ่ื นไหวหยบิ จับ อุปกรณ์ในการทดลองได้อยา่ งคล่องแคลว่ 2.4.2 เด็กสามารถเรียนรู้โดยการใช้ประสาทสัมผัสในการสังเกต การทดลองด้วย ตนเอง

17 รายงานผลการจดั กจิ กรรมการทดลองตามโครงการบ้านนักวทิ ยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย กจิ กรรมท่ี 5 เรือ่ ง น้ำเปน็ ตวั ทำละลาย จุดประสงค์ 1. เพ่ือใหเ้ ดก็ ได้เรียนรู้เก่ยี วกบั นำ้ เปน็ ตัวทำละลาย 2. เพ่อื ใหเ้ ด็กไดท้ ำการทดลองนำ้ เป็นตวั ทำละลายไดด้ ว้ ยตนเอง 3. เพอื่ ให้เด็กมีเจตคตทิ ี่ดตี อ่ การเรียนรูโ้ ดยใช้ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ข้ันตอนการจดั กจิ กรรม ขั้นที่ 1 ต้ังคำถามเกยี่ วกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ เด็กและครูร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับน้ำ น้ำเปล่ามีรสชาติเป็นอย่างไร เด็กๆตอบว่าน้ำเปล่ามี รสชาติจืด น้องไข่มุก : ทำไมน้ำบางชนนิดถึงมีรสหวานคะ น้องฮฮมสุข : สงสัยมีน้ำตาลหรือเปล่าคะ น้องแฟร้งค์ : ถ้าในน้ำมีน้ำตาลแล้วทำไมถึงมองไมเ่ ห็นนำ้ ตาลเลยล่ะครบั ครูบันทึกคำถามของเด็กลง ในกระดาษชารท์ ขั้นท่ี 2 รวบรวมความคดิ และข้อสนั นษิ ฐาน ครูสนทนากับเด็ก ๆ เกี่ยวกับน้ำตาล ซึ่งน้ำตาลมีทั้งชนิดที่เป็นเม็ดเล็กๆและเป็นก้อน ได้แก่ นำ้ ตาลทราย นำ้ ตาลก้อน และนำ้ ตาลปึก ถ้าเราใส่น้ำตาลแตล่ ะชนิดลงไปในแกว้ ท่ีมนี ้ำแล้วใช้ช้อนคน เดก็ ๆคดิ ว่าจะเป็นอย่างไร น้องไอแพด : น้ำตาลจะละลายครบั ครจู ึงบนั ทกึ ลงในกระดาษชารท์ ข้นั ท่ี 3 ทดสอบและปฏบิ ตั ิการสบื เสาะ เด็กและครูร่วมกันวางแผนการทดลองมีการกำหนดขั้นตอนการทดลองและร่วมออกแบบ บันทึกผลการทดลองจากนั้นจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์การทดลองและดำเนินการทดลองด้วยตนเองตาม ขั้นตอนโดยให้การนำน้ำตาลแต่ละชนิด ได้แก่ น้ำตาลทราย น้ำตาลก้อน และน้ำตาลปึก ใส่ลงไปใน แก้วที่มีน้ำปริมาตรเท่ากันทั้งสามใบ จากนั้นเด็กช่วยกันคนแก้วน้ำทั้งสามใบพร้อมๆกัน เด็กๆสังเกต การทดลองโดยใช้ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ขน้ั ที่ 4 การสังเกตและบรรยาย เด็กสังเกตและช่วยกันบรรยายผลที่เกิดขึ้นจากการทดลองโดยใช้ทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ ซึ่งสิ่งที่เด็กสังเกตเห็นคือ แก้วที่มีน้ำทั้งสามใบมีน้ำตาลแต่ละชนิด ได้แก่ น้ำตาลก้อน น้ำตาลปึก และน้ำตาลทราย มีการละลายนำ้ ทีต่ ่างกัน น้ำตาลทรายจะละลายน้ำไดเ้ รว็ ทส่ี ุดเป็นอันดับ 1 น้ำตาลก้อนละลายน้ำได้เป็นอนั ดบั 2 และนำ้ ตาลปกึ จะลายลายชา้ ทสี่ ดุ เป็นอันดับ 3 ขน้ั ที่ 5 บนั ทึกผล เด็กและครูร่วมกันสนทนาและเด็กๆบันทึกผลการทดลองโดยการวาดภาพการทดลองน้ำเปน็ ตัวทำละลาย ลงในกระดาษเพื่อนำเสนอหนา้ ช้นั เรียนและจัดป้ายนเิ ทศให้ผูป้ กครองดู ขน้ั ท่ี 6 สรุปและอภปิ ราย เด็กและครูรว่ มกนั สนทนาจากข้อสันนิษฐานของเด็ก ๆ วา่ น้ำตาลทรายทล่ี ะลายน้ำได้เร็วที่สุด เป็นอันดับ 1 เพราะมีลักษณะที่ขนาดเม็ดเล็กละเอียด ส่วนน้ำตาลก้อนละลายน้ำได้เป็นอันดับ 2 เพราะมีลักษณะที่ขนาดเม็ดเล็กแต่เป็นก้อนติดกัน และน้ำตาลปึกจะลายลายช้าท่ีสุดเป็นอันดับ 3

18 เพราะมีลักษณะแข็งแล้วเหนียว สรุปว่า น้ำเป็นตัวทำให้น้ำตาลแต่ละชนิดละลายได้ในลักษณะท่ี ต่างกัน ซ่ึงนำ้ ตาลทม่ี กี ้อนเลก็ ๆจะละลายในน้ำได้ดกี ว่าก้อนใหญ่ๆ ภาพการดำเนินกจิ กรรม อปุ กรณใ์ นการทดลอง เดก็ ทำกจิ กรรมการทดลอง

19 เด็กนำเสนอผลงาน ผลงานท่ีสำเร็จ ผลทเี่ กิดกบั เดก็ 1. ผลท่เี กดิ ขึ้นตามจดุ ประสงค์ 1. เดก็ เรยี นรเู้ กีย่ วกบั นำ้ เปน็ ตัวทำละลาย 2. เด็กได้ทำการทดลองนำ้ เป็นตวั ทำละลายได้ดว้ ยตนเอง 3. เพอ่ื ให้เด็กมเี จตคติทดี่ ตี ่อการเรียนรู้โดยใชท้ กั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

20 2. พฒั นาการความสามารถพนื้ ฐาน และพัฒนาการของเดก็ ปฐมวัย 2.1. ด้านการเรยี นร้/ู ดา้ นภาษา /สติปญั ญา: ๒.๑.๑ ดา้ นการเรียนรู้ - เด็ก ๆ ได้ลงมือการทดลองด้วยตนเองซึ่งสามารถอธิบายสิ่งที่เด็กได้ เรียนรู้เกี่ยวกับกิจกรรมการทดลองน้ำเป็นตัวละลายได้ตามลำดับ ข้ันตอน - เด็กรู้จักการตั้งคำถาม การสันนษิ ฐาน การสังเกต 2.1.2 ดา้ นภาษา - เดก็ สามารถสือ่ สาร เล่าเรื่อง แสดงความคดิ เห็น สนทนาโตต้ อบ พดู อธบิ ายข้นั ตอนการทดลอง 2.1.3 ดา้ นสตปิ ญั ญา - เด็กได้รับความรู้ว่าน้ำเป็นตัวทำให้น้ำตาลแต่ละชนิดละลายได้ใน ลักษณะที่ต่างกัน โดยใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการ ทดลอง ศึกษาคน้ ควา้ เชน่ ทกั ษะการสังเกตและเปรียบเทยี บ ๒.๒ ด้านสงั คม: 2.1.1 เด็กสามารถทำงานร่วมกบั ผอู้ ่นื ได้ 2.1.2 เดก็ ได้รจู้ กั การให้ การช่วยเหลือและการแบง่ ปัน 2.1.3 เด็กแสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผู้อ่นื 2.1.4 เด็กๆปฏบิ ัตติ นตามข้อตกลงได้ 2.1.5 เด็กๆได้ฝึกการรอคอย 2.3 ดา้ นอารมณ์ – จติ ใจ : 2.3.1 เดก็ มีความสขุ สนุกสนานและความสนใจกับการทำการทดลองดว้ ยตนเ 2.3.2 เด็กมคี วามกระตือรอื รน้ ในการเรยี นรู้ 2.3.3 เด็กมีความมั่นใจในตนเองในการทำกิจกรรม 2.4 ด้านการเคล่ือนไหว: 2.4.1 เดก็ ๆเคล่อื นไหวหยบิ จบั อปุ กรณ์ในการทดลองไดอ้ ยา่ งคล่องแคลว่ 2.4.2 เดก็ สามารถเรยี นรโู้ ดยการใช้ประสาทสมั ผสั ในการสังเกต การทดลองด้วย ตนเอง

21 รายงานผลการจดั กิจกรรมการทดลองตามโครงการบ้านนกั วทิ ยาศาสตรน์ อ้ ย ประเทศไทย กจิ กรรมท่ี 6 เร่ือง การละลายของน้ำตาล จดุ ประสงค์ 1. เพ่ือใหเ้ ดก็ เรยี นรกู้ ารละลายของนำ้ ตาล 2. เพอ่ื ให้เดก็ ลงมอื ปฏิบตั ิการทดลอง “การละลายของน้ำตาล” ดว้ ยตนเอง 3. เพื่อให้เดก็ ไดม้ คี วามสขุ สนกุ สนานกบั การทดลอง ขนั้ ตอนการจัดกิจกรรม ขัน้ ที่ 1 ต้งั คำถามที่อยากรู้ เด็กๆ และครูร่วมกันสนทนา เกี่ยวกับการละลายน้ำตาลในน้ำ ครูถามว่า เมื่อเราหย่อนก้อน น้ำตาลลงไปในชาร้อน จะเกิดอะไรขึ้น น้องน้ำขิงตอบว่า น้ำตาลจะหายไป แล้วมันจะหวาน หนูเคย กินคะ่ ขน้ั ท่ี 2 รวบรวมความคิดและคาดคะเนคำตอบ เด็กและครูร่วมสนทนากันว่า เมื่อเราวางก้อนน้ำตาลที่หยดสีผสมอาหารแล้วไว้ในจานใส่น้ำ เดก็ ๆคาดคะเนวา่ น้ำในจานจะเปน็ สี และน้ำตาลจะไม่เป็นก้อน ข้นั ที่ 3 ดำเนนิ การสำรวจตรวจสอบ เด็กๆ และครูร่วมกันวางแผนกำหนดขั้นตอนการทดลอง ออกแบบบันทึกผลการทดลอง จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ ดำเนินการทดลอง ตามแผนที่วางไว้ นำสีผสมอาหารมาเจือจางกับน้ำใน อัตราส่วน 1: 2 ครูสร้างความสนใจให้กับเด็กๆโดยให้เด็กๆดูการละลายของน้ำตาลในน้ำ ซึ่งมี ฟองอากาศผดุ ออกมาจากก้อนน้ำตาล และลอยขึน้ มาทผ่ี ิวน้ำ หลงั จากนัน้ น้ำตาลจะเปลยี่ นรปู รา่ งและ ละลายหายไปในท่สี ุด หลังจากนน้ั เด็กแตล่ ะกลุ่มเทน้ำใส่จานจนปริ่มขอบจาน หลังจากน้ันวางน้ำตาล 2 กอ้ น บนกระดาษชำระ และหยดสผี สมอาหารบนก้อนน้ำตาลเล็กน้อย วางกอ้ นน้ำตาลท่ีหยดสีแล้ว ไวใ้ นจานใสน่ ำ้ ใหแ้ ตล่ ะกอ้ นหา่ งกนั ประมาณ 2-3 เซนติเมตร เด็กๆและครูรว่ มกนั สังเกตการทดลอง ขน้ั ที่ 4 การสังเกตและบรรยาย เด็กๆช่วยกันบอกลกั ษณะของน้ำตาล สีที่ย้อม และน้ำในจาน เมื่อวางก้อนน้ำตาลที่ย้อมสีลง ในจานทีม่ ีน้ำ น้ำตาลจะดดู นำ้ เขา้ มาจนเต็มทำให้ผลกึ น้ำตาลแยกจากกันและละลายน้ำไปในท่ีสุด โดย นำ้ ตาลท่ียอ้ มสจี ะลอยอยู่ในน้ำเตม็ จาน สที แ่ี พร่กระจายออกจากนำ้ ตาลแตล่ ะก้อนจะแยกออกจากกัน ในชว่ งแรก เม่ือวางท้ิงไว้สกั พัก สเี หล่านน้ั จะแพร่เข้าหากันและผสมกันในท่ีสดุ ขนั้ ท่ี 5 บันทกึ ผล เดก็ ๆบนั ทึกผลการทดลองในแบบบนั ทึกเพ่ือนำมาเสนอใหเ้ พื่อนฟงั หน้าชน้ั เรยี น ขั้นท่ี 6 สรุปและอภปิ ราย ครู และเด็กๆ ช่วยกันสรุปว่า เมื่อน้ำตาลละลายน้ำ บริเวณที่วางก้อนน้ำตาลไว้จะมีความ เข้มข้นสูง จงึ ทำให้สารละลายแต่ละบรเิ วณมีความเข้มขน้ ต่างกัน เมื่อวางทิง้ ไวส้ กั พักน้ำตาลก้อนเล็กๆ จะแพรก่ ระจายไปยงั บริเวณที่มคี วามเข้มขน้ น้อยจนมีความเข้มขน้ เท่ากันท้ังจาน ซงึ่ มองไมเ่ ห็นด้วยตา เปล่าเนื่องจากอนุภาคน้ำตาลมีขนาดเล็ก จึงต้องหยดสีผสมอาหารลงบนน้ำตาลก้อน เพื่อให้เห็นการ

22 แพร่กระจายของน้ำตาลได้อย่างชัดเจน เมื่อสีที่เกิดจากการละลายของน้ำตาลทั้งสองก้อนไหลเข้าหา กัน จะเกิดการแบ่งแยกเป็น 2 สีในช่วงแรก ซึ่งหมายถึงความเข้มข้นของน้ำตาลจากทั้งสองก้อนจะ แพร่เข้ามาหากัน ทำให้การแพร่กระจายของน้ำสีช้าลง และความเข้มข้นของน้ำตาลเจือจางลง สักครู่ หน่ึงสีจากน้ำตาลท้ังสองก้อนจะผสมกนั อย่างสมบูรณ์ ภาพการดำเนนิ กิจกรรม อปุ กรณ์ในการทดลอง เด็กทำกิจกรรมการทดลอง

23 เด็กนำเสนอผลงาน ผลงานทสี่ ำเร็จ ผลทีเ่ กิดกับเด็ก 1. ผลท่เี กิดข้นึ ตามจุดประสงค์ 1.1 เดก็ ได้เรยี นรกู้ ารละลายของนำ้ ตาล 1.2 เด็กไดล้ งมอื ปฏบิ ัติการทดลอง “การละลายของน้ำตาล” ด้วยตวั เอง 1.3 เด็กมีความสขุ สนุกสนานกบั การทดลอง 2. พฒั นาความสามารถพนื้ ฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย 2.1 ดา้ นการเรยี นรู้ 2.1.1 ดา้ นการเรยี นรู้ - เด็กๆ ได้เรียนรู้ลกั ษณะการละลายนำ้ ตาลในน้ำ น้ำตาลละลายไดด้ ีในนำ้ แต่ ไมล่ ะลายในนำ้ มนั - เด็กได้เรยี นรแู้ ละสังเกตลกั ษณะการละลายนำ้ ตาลในน้ำ - เด็กไดเ้ รยี นรทู้ ักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2.1.2 ดา้ นภาษา - เด็กมีพัฒนาการด้านภาษาจากการสนทนาโต้ตอบ และการแสดงความ คดิ เห็น

24 - ทักษะด้านภาษาจากการพูด เล่า บรรยาย สิ่งที่สังเกตจากการทดลองการ ละลายของน้ำตาล - เด็กๆสามารถเลา่ วิธีการหาคำตอบ ไดด้ ว้ ยวิธกี ารของตนเอง 2.1.3 ด้านสตปิ ัญญา - เดก็ เกิดการเรียนรเู้ ก่ียวกบั ข้ันตอนการทดลองการละลายของน้ำตาลได้ตาม ขนั้ ตอน 2.2 ดา้ นสังคม - เดก็ สามารถทำงานร่วมกบั ผอู้ น่ื ได้ - เด็กแสดงความคิดเหน็ ของตนเองและยอมรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อืน่ - เดก็ ๆ ปฏบิ ัติตนตามขอ้ ตกลงได้ 2.3 ด้านอารมณ์ – จิตใจ - เดก็ มคี วามสขุ กบั การท่ีได้ลงมอื ปฏิบตั ิการทดลองดว้ ยตนเอง 2.4 ด้านการเคล่ือนไหว - เด็กๆ เคลื่อนไหวหยับจบั อุปกรณใ์ นการทดลอง - เด็กใช้ประสาทสัมผสั ในการสังเกตด้วยตัวเองจนไดข้ ้อมูลทถี่ กู ต้องและชดั เจน

25 รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลองตามโครงการบา้ นนกั วทิ ยาศาสตรน์ ้อย ประเทศไทย กจิ กรรมท่ี 7 เรื่อง หมุดลอยนำ้ จดุ ประสงค์ 1. เพ่อื ให้เด็กเรยี นรวู้ ่าน้ำมีแรงยึดเหนี่ยวท่ผี ิวนำ้ เรยี กวา่ “แรงตึงผวิ ” 2. เพอ่ื ให้เดก็ ลงมอื ปฏบิ ตั กิ ารทดลอง “หมุดลอยน้ำ” ด้วยตนเอง 3. เพอ่ื ใหเ้ ดก็ ได้มคี วามสขุ สนกุ สนานกับการทดลอง ขน้ั ตอนการจดั กจิ กรรม ข้นั ที่ 1 ตัง้ คำถามที่อยากรู้ เด็กๆ และครูร่วมกันสนทนา เกี่ยวกับแมลงที่สามารถเดนิ บนน้ำได้ ครูถามว่า เด็กๆ เคยเห็น แมลงเดินบนน้ำไหมคะ น้องณัฐชาตอบว่า เคยเห็นแมลงปอคะ ครูถามต่อว่า แล้วเด็กๆรู้ไหมว่าทำไม แมลงถงึ เดนิ บนน้ำได้ น้องแฟรง้ ค์ตอบว่า เพราะมนั มีปีกค่ะ ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิดและคาดคะเนคำตอบ เดก็ ๆ และครูรว่ มสนทนากนั ว่า เมือ่ เรานำหมดุ มาวางไว้บนน้ำ เดก็ ๆ คาดคะเนกันว่าหมุดจะ จมนำ้ และถา้ นำลวดเสยี บกระดาษมาวางไวบ้ นน้ำ ลวดเสียบกระดาษกจ็ ะจมนำ้ เชน่ กนั ขนั้ ท่ี 3 ดำเนินการสำรวจตรวจสอบ เด็กๆ และครูร่วมกันวางแผนกำหนดขั้นตอนการทดลอง ออกแบบบันทึกผลการทดลอง จดั เตรียมวัสดอุ ปุ กรณ์ ดำเนนิ การทดลอง ตามแผนทีว่ างไว้ โดยใหเ้ ด็กๆ ลองหยอ่ นหมดุ ลงไปในผิวน้ำ เลย และขน้ั ตอนตอ่ ไป ให้เด็กๆ จับหมดุ ไว้และค่อยๆ วางลงบนผวิ น้ำ เด็กๆ และครรู ว่ มกันสังเกตการ ทดลอง ข้ันท่ี 4 การสังเกตและบรรยาย เด็กๆ ช่วยกันลักษณะของการหย่อนหมุด ถ้าหย่อนหมุดลงไปเร็วๆ หมุดจะจมน้ำ แต่ถ้าเรา จับหมดุ และค่อยๆ วางลงบนผิวนำ้ หมดุ จะไม่จมน้ำ ขน้ั ท่ี 5 บนั ทกึ ผล เดก็ ๆ บันทกึ ผลการทดลองในแบบบันทึก เพื่อนำมาเสนอให้เพอื่ นฟงั หนา้ ชัน้ เรียน ขน้ั ท่ี 6 สรปุ และอภิปราย ครู และเด็กๆ ช่วยกันสรุปว่า ปกติหมุดจะจมน้ำเพราะมนี ้ำหนักมากกวา่ น้ำ โมเลกุล ของน้ำยึดเหนี่ยวกันแน่นบนผิวน้ำด้วยพันธะไฮโรเจนทำให้เกิดแรงตึงผิวขึ้น แรงตึงผิวนี้สามารถรับ น้ำหนักวัตถุที่หนักกว่าน้ำไม่ให้จมได้ แต่ต้องวางวัตถุอย่างระมัดระวัง โดยวา งขนานกับผิวน้ำ ไมเ่ ช่นน้ันหมุดจะจมน้ำ

26 ภาพการดำเนินกิจกรรม อปุ กรณใ์ นการทดลอง เดก็ ทำกิจกรรมการทดลอง เด็กนำเสนอผลงาน

27 ผลงานทส่ี ำเรจ็ ผลที่เกดิ กบั เด็ก 1. ผลทเ่ี กดิ ข้ึนตามจดุ ประสงค์ 1. เด็กไดเ้ รยี นรู้ เกย่ี วกบั น้ำมีแรงยดึ เหนี่ยวท่ีผิวนำ้ เรียกวา่ “แรงตึงผิว” 2. เด็กได้ทำการทดลอง เรื่องหมดุ ลอยนำ้ ได้ด้วยตนเอง 3. เดก็ มคี วามร้แู ละนำความรู้ไปใช้ในการดำรงชีวติ ได้ 4.เด็กมีเจตคติท่ีดีตอ่ การเรยี นรโู้ ดยใชท้ ักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 2. พัฒนาการความสามารถพ้ืนฐาน และพัฒนาการของเดก็ ปฐมวัย 2.1. ด้านการเรยี นร/ู้ ดา้ นภาษา /สตปิ ัญญา: 2.1.1 ดา้ นการเรียนรู้ - เด็ก ๆ ได้ลงมือการทดลองด้วยตนเองซง่ึ สามารถอธบิ ายสิ่งทีเ่ ดก็ ไดเ้ รยี นรู้ เกีย่ วกบั กจิ กรรมการทดลอง เรื่องหมุดลอยนำ้ เองไดต้ ามลำดบั ขัน้ ตอน - เดก็ รจู้ กั การตั้งคำถาม การสันนษิ ฐาน การสงั เกต 2.1.2 ดา้ นภาษา - เด็กสามารถสอื่ สาร เล่าเร่ือง แสดงความคดิ เห็น สนทนาโตต้ อบ พูด อธบิ ายขนั้ ตอนการทดลอง 2.1.3 ดา้ นสตปิ ญั ญา - เด็กไดร้ บั ความร้เู ร่ืองหมุดลอยนำ้ โดยใชท้ ักษะกระบวนการทาง วทิ ยาศาสตรใ์ นการทดลอง ศึกษาค้นคว้า 2.2 ด้านสังคม: 2.2.1 เด็กสามารถทำงานรว่ มกับผอู้ ่ืนได้ 2.2.2 เด็กแสดงความคิดเหน็ ของตนเองและยอมรบั ฟังความคดิ เห็นของผู้อน่ื 2.2.3 เดก็ ๆปฏิบัตติ นตามข้อตกลงได้ 2.3 ด้านอารมณ์ – จติ ใจ : 2.3.1 เดก็ มคี วามสขุ สนุกสนานและความสนใจกบั การทำการทดลองด้วยตนเอง 2.3.2 เด็กมคี วามกระตือรอื ร้นในการเรยี นรู้ 2.3.3 เด็กมคี วามม่นั ใจในตนเอง

28 2.4 ด้านการเคลอ่ื นไหว: 2.4.1 เด็กๆเคลอื่ นไหวหยิบจับ อุปกรณ์ในการทดลองได้อย่างคลอ่ งแคลว่ 2.4.2 เด็กสามารถเรยี นรูโ้ ดยการใช้ประสาทสัมผสั ในการสังเกต การทดลองด้วย ตนเอง

29 รายงานผลการจดั กิจกรรมการทดลองตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตรน์ ้อย ประเทศไทย กจิ กรรมท่ี 8 เรอ่ื ง สนุกกับฟองสบู่ จดุ ประสงค์ 1. เพอื่ ใหไ้ ดเ้ ด็กเรียนรู้ เกี่ยวกบั มอี ากาศอยูใ่ นฟองสบเู่ ทา่ ใด 2. เพอ่ื ให้เด็กไดท้ ำการทดลอง มีอากาศอยูใ่ นฟองสบู่เท่าใดได้ดว้ ยตนเอง 3. เพอ่ื ให้เดก็ มีเจตคตทิ ีด่ ีตอ่ การเรียนรโู้ ดยใชท้ กั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ขนั้ ตอนการจัดกิจกรรม ข้นั ที่ 1 ตั้งคำถามเก่ียวกับปรากฏการณ์ อากาศไมใ่ ช่ความว่างเปล่า เด็กและครูร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่พบปฏิบัติในชีวิตประจำวันเกี่ยวกับอากาศไหมคะถ้า เรากักเก็บอากาศได้หลายวิธีเช่น ในลูกโป่ง ถุงพลาสติก ตุ๊กตายางรวมทั้งฟองสบู่เราจะใส่อากาศ ปริมาณมากในฟองสบู่ได้อย่างไรคะ น้องณัฐชา : หนูเอาอากาศใส่ที่ฟองสบู่เพิ่มขึ้นค่ะ น้องแฟร้งค์ : ผมเอาอากาศใส่ไว้ที่ขวดนำ้ เปล่าครบั น้องไอแพด : ผมเอาอากาศไวใ้ นลกู โป่งครบั ขน้ั ท่ี 2 รวบรวมความคิดและขอ้ สันนิษฐาน ครูสนทนา ซักถามเพื่อให้เด็กคาดคะเนคำตอบเกี่ยวกับการเกดิ มีอากาศอยู่ในฟองสบู่เท่าใด น้องสตางค์ : ทำไมเป่าสำลีก้อนกลมๆไม่ค่อยไปครับ น้องอัน : ทำไมเกิดฟองอากาศขึ้นมาคะ ครูใช้ คำถาม ว่าถ้าครูใส่น้ำยาล้างจานในน้ำจะเกิดฟองอากาศไหม เด็กคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราเอา หลอดดูดเป่าฟองน้ำยาล้างจาน ให้เด็กๆช่วยกันสันนิษฐาน น้องนิด : เกิดฟองอากาศใหญ่น้อยท่ี แตกต่างกันคะ น้องฮอมสุข : จะมองเห็นฟองอากาสในฟองน้ำยาทั้งใหญ่และเล็กต่างกันมีเยอะมาก ด้วยคะ ขั้นท่ี 3 ทดสอบและปฏิบตั กิ ารสืบเสาะ เด็กและครูร่วมกันวางแผนกำหนดขั้นตอนการทดลอง จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ ดำเนินการ ทดลองตามแผนที่วางไว้ โดยให้เด็กนำน้ำยาล้างจานใส่ลงไปในถ้วยและจานโดยใส่ปริมาณน้ำต่างกัน แล้วเราจะเอาวสั ดุท่ตี า่ งกันมาทดสอบดคู วามแตกตา่ งกนั ของฟองอากาศ ข้ันที่ 4 การสังเกตและบรรยาย ครแู ละเด็กรว่ มกันสนทนาวา่ ให้เดก็ ๆสงั เกตและบรรยายว่าเห็นฟองสบู่ท่ีอยใู่ นถว้ ยหรือจานมี รูปร่างคล้ายอะไรและเห็นสีอะไรบ้างในฟองสบู่หรือเห็นสีอะไรบ้างเมื่อมองฟองสบู่ต่างจากมุมเด็กๆ อาจเหน็ ฟองสบคู่ ล้ายผลไม้ท่ีเปน็ พวงหรือคล้ายสัตว์ท่ีมีขนปุยให้เด็กๆบรรยายว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อฟอง สบู่ลอยไปในอากาศฟองสบู่จะลอยไปในอากาศหรือตกลงมาฟองที่มีขนาดใหญ่และเล็กจะมีความ แตกต่างกนั หรือไม่จะใช้อปุ กรณ์อะไรและการอย่างไรที่ทำให้ได้ฟองสบู่ขนาดใหญ่ท่ีสดุ ขนั้ ท่ี 5 บนั ทกึ ผล เดก็ และครรู ว่ มกันสนทนาและเด็กๆบันทึกผลการทดลองโดยการวาดภาพการทดลองสนุกกับ มีอากาศอยู่ในฟองสบู่เท่าใดลงในกระดาษเพ่ือนำเสนอหนา้ ชนั้ เรยี นและจัดป้ายนเิ ทศให้ผปู้ กครองดู

30 ขั้นท่ี 6 สรุปและอภปิ ราย เด็กและครูร่วมกันสนทนาจากข้อสันนิษฐานของเด็ก ๆ ว่าการเกิด มีอากาศอยู่ในฟองสบู่ เท่าใด โดยใชว้ ัตถุใส่ลงในถ้วยและจานน้ำสบู่ที่แตกต่างกนั ทำให้สามารถมองเหน็ อากาศอยู่ในฟองสบู่ เทา่ ใดได้อย่างชัดเจนข้ึน ภาพการดำเนนิ กิจกรรม อุปกรณ์ในการทดลอง เดก็ ทำกิจกรรมการทดลอง

31 เดก็ นำเสนอผลงาน ผลงานท่ีสำเร็จ

32 ผลท่เี กดิ กบั เด็ก 1. ผลที่เกดิ ขึ้นตามจดุ ประสงค์ 1. เพอ่ื ใหเ้ ด็กเรียนรเู้ ก่ียวกบั มอี ากาศอยใู่ นฟองสบเู่ ท่าใด 2. เพ่อื ใหเ้ ดก็ ได้ทำการทดลองสนุกกบั มีอากาศอยู่ในฟองสบเู่ ท่าใดได้ดว้ ยตนเอง 3. เด็กมคี วามสนกุ สนานกับการทดลอง และการอยู่รว่ มกับผอู้ น่ื ๔. เพือ่ ใหเ้ ด็กมีเจตคติที่ดีตอ่ การเรยี นรโู้ ดยใชท้ กั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2. พัฒนาการความสามารถพน้ื ฐาน และพฒั นาการของเด็กปฐมวัย 2.1 ดา้ นการเรียนร้/ู ดา้ นภาษา /สตปิ ัญญา: 2.1.1 ดา้ นการเรยี นรู้ - เด็ก ๆ ได้ลงมือการทดลองด้วยตนเองซึ่งสามารถอธบิ ายสิง่ ที่เด็กได้เรยี นรู้ เกี่ยวกับกิจกรรมการทดลองสนุกกับ มีอากาศอยู่ในฟองสบู่เท่าใด ได้ ตามลำดับขน้ั ตอน - เด็กรู้จกั การตงั้ คำถาม การสนั นษิ ฐาน การสงั เกต 2.1.2 ด้านภาษา - เด็กสามารถสอ่ื สาร เล่าเร่ือง แสดงความคิดเห็น สนทนาโต้ตอบ พูด อธบิ ายขนั้ ตอนการทดลอง 2.1.3 ด้านสตปิ ัญญา - เดก็ ได้รบั ความรูเ้ ร่ือง มีอากาศอยใู่ นฟองสบเู่ ทา่ ใด โดยใช้ทกั ษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการทดลอง ศึกษาคน้ คว้า 2.1 ด้านสงั คม: 2.2.1 เดก็ สามารถทำงานร่วมกับผอู้ ื่นได้ 2.1.1 เด็กแสดงความคดิ เห็นของตนเองและยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผู้อื่น 2.1.2 เด็กๆปฏบิ ัตติ นตามข้อตกลงได้ 2.2 ดา้ นอารมณ์ – จิตใจ : 2.3.1 เด็กมคี วามสุขสนุกสนานและความสนใจกบั การทำการทดลองด้วยตนเอง 2.3.2 เด็กมคี วามกระตือรอื ร้นในการเรียนรู้ 2.3.3 เดก็ มคี วามม่นั ใจในตนเอง 2.4 ด้านการเคลอ่ื นไหว: 2.4.1 เดก็ ๆเคลื่อนไหวหยิบจบั อุปกรณ์ในการทดลองได้อย่างคลอ่ งแคลว่ 2.4.2 เด็กสามารถเรียนรู้โดยการใช้ประสาทสัมผัสในการสังเกต การทดลองด้วย ตนเอง

33 รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลองตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตรน์ อ้ ย ประเทศไทย กิจกรรมท่ี 9 เรอ่ื ง การกรองน้ำ จดุ ประสงค์ 1. เพื่อให้เด็กๆได้เรยี นร้เู กี่ยวกับประโยชน์ของนำ้ ท่ีมตี ่อมนุษย์ นำ้ มาจากทไี่ หน น้ำสกปรก สารพิษในน้ำ นำ้ สกปรก ทำให้สะอาดไดอ้ ยา่ งไร วธิ ที ำใหน้ ำ้ สะอาด 2. เพือ่ ใหเ้ ด็กๆไดเ้ กดิ ทักษะ ในการลงมอื ปฏบิ ัติกิจกรรมการทดลอง 3. เพอื่ ใหเ้ ดก็ ๆสามารถนำประสบการณ์ทไ่ี ด้รับไปปรบั ใช้และเรยี นรู้ได้ ในชวี ิตประจำวนั ขัน้ ตอนการจัดกิจกรรม ขน้ั ท่ี 1 ต้ังคำถามท่ีอยากรู้ ครู และเด็กๆ สนทนาร่วมกัน ว่า ในชีวิตประจำวันของเราพบเห็นน้ำและใช้น้ำเวลาใดบ้าง เดก็ ๆ บอกเพือ่ นๆ และครู เดก็ จะบอกครไู ด้หลายเวลา ครถู ามเดก็ ต่อวา่ ในแตล่ ะวัน เราใช้นำ้ เทา่ ใด น้ำมาจากไหน น้ำสะอาดมาจากไหน น้ำสกปรกเคยเห็นที่ไหนบ้าง เราจะสามารถ ทำน้ำสกปรกให้ สะอาดได้หรอื ไม่ ครู และเดก็ ๆ เพอ่ื นๆ รว่ มสนทนา ขน้ั ท่ี 2 รวบรวมความคิดและคาดคะเนคำตอบ ครูสนทนากับเด็กๆ ว่าเห็นอะไรในน้ำสกปรก สิ่งสกปรก มีมากมาย บางอย่างก็อยู่ก้นขวด บางอย่างก็ลอยอยู่ในน้ำ ครูถามเด็กๆ ว่า เราจะมีวิธีการใด ทำให้น้ำสะอาด เราสามารถจะแยกส่ิง สกปรกที่อยู่ในน้ำแยกจากกันได้อย่างไร ใช้ช้อนตักได้หรือไม่ เด็กๆ คิด และช่วยหาคำตอบ ครู ให้ เด็กๆ ลองใช้กระชอน ใช้ตะแกรงในการแยกสง่ิ สกปรก ขัน้ ที่ 3 ดำเนินการสำรวจตรวจสอบ ครู นำอปุ กรณ์ทช่ี ว่ ยกันจัดเตรยี มไว้ ครู กับเด็กชว่ ยกนั ทำใหน้ ้ำสกปรก โดยใสห่ นิ ดิน เศษไม้ ใบไม้แห้ง หินก้อนเลก็ เด็กๆ สงั เกตนำ้ ทสี่ กปรก เหน็ ตะกอน อยใู่ นถัง หรือมีอะไรที่ลอยกระจายอยู่ ในน้ำ เด็กๆ จะนำส่ิงเหลา่ น้ันออกมาจากน้ำได้อย่างไร เดก็ ลองใชอ้ ุปกรณ์ เชน่ กระชอน ตระแกรง ที่ มรี ขู นาดตา่ งๆ แต่นำ้ ก็ยงั ไม่สะอาด ครแู ละเดก็ ๆ ทำการทดลองต่อไป การกรองนำ้ โดยการนำเอา ขวดพลาสติก ใช้ถุงน่อง ใส่ลงไปก่อน ต่อไปเป็นทรายละเอียด ตามด้วยก้อนกรวด ไว้บนสุด เด็กๆ ลองเทน้ำสกปรกลงไป ทิ้งไว้ สักครู จะเห็นน้ำใสๆ หยดลงมา ครู ให้เด็กๆ ลองเปรียบเทียบน้ำที่ผ่าน การกรอง และที่ไมผ่ า่ นการกรอง ขั้นท่ี 4 การสังเกตและบรรยาย เด็กๆ สังเกตน้ำที่ผ่านการกรองและไม่ได้กรอง เด็กๆ บอกว่า วัสดุที่ใช้ในการกรองน้ำมี ถุงนอ่ ง ทรายละเอียด ทรายหยาบ หิน หรือกรวด ถ้าเรามีนำ้ ทีต่ ้องกรองเยอะ ตอ้ งเพิ่มภาชนะใหใ้ หญ่ ขน้ึ ข้ันท่ี 5 บันทกึ ผล เด็กๆ บนั ทกึ ผล โดยการวาดรูป เปรียบเทียบ น้ำสะอาด สกปรก และวสั ดุทีใ่ ชก้ รองนำ้ ขั้นท่ี 6 สรุปและอภปิ ราย ครูและเด็กๆ สนทนาร่วมกัน เกี่ยวกับเครือ่ งกรองน้ำ เราสามารถกรองน้ำด้วยวสั ดอุ ะไรบ้าง

34 ภาพการดำเนินกิจกรรม อปุ กรณใ์ นการทดลอง เดก็ ทำกิจกรรมการทดลอง เด็กนำเสนอผลงาน

35 ผลงานทีส่ ำเรจ็ ผลที่เกดิ กบั เดก็ 1. ผลที่เกิดขึน้ ตามจุดประสงค์ 1.1 เด็กๆไดเ้ รียนรวู้ า่ นำ้ มาจากแหลง่ นำ้ ต่างๆ มที งั้ สกปรกและมีสารพิษ วกี ารท่ีทำใหน้ ้ำ สะอาด 1.2 เดก็ ๆ เกิดทักษะ ในการทำกจิ กรรม เรอื่ งการกรองนำ้ 1.3 เด็กๆนำความรูท้ ่ีได้ไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั 2. พัฒนาความสามารถพ้ืนฐาน และพฒั นาการของเดก็ ปฐมวัย 2.1 ดา้ นการเรียนรู้ 2.1.1 ด้านการเรยี นรู้ - เดก็ ๆ ไดเ้ รยี นร้หู ลักการกรองน้ำอยา่ งง่าย - เดก็ ไดเ้ รยี นรู้และสังเกต เปรียบเทยี บขนาดใหญก่ ับเล็ก ขุ่นกับใส - เด็กไดเ้ รยี นรทู้ ักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 2.1.2 ด้านภาษา - เด็กมีพัฒนาการด้านภาษาจากการสนทนาโต้ตอบ และการแสดงความ คดิ เหน็ - ทักษะด้านภาษาจากการพูด เล่า บรรยาย สิ่งที่สังเกตจากการทดลองการ กรองนำ้ - เด็กๆสามารถเลา่ วธิ กี ารหาคำตอบ ได้ดว้ ยวธิ กี ารของตนเอง 2.1.3 ด้านสติปญั ญา - เด็กเกิดการเรยี นร้เู ก่ยี วกบั ข้ันตอนการทดลอง การกรองน้ำ ไดต้ าม ขน้ั ตอน 2.2 ด้านสังคม - เดก็ สามารถทำงานรว่ มกบั ผู้อน่ื ได้ - เดก็ แสดงความคิดเหน็ ของตนเองและยอมรับฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อืน่ - เดก็ ๆ ปฏิบตั ติ นตามข้อตกลงได้

36 2.3 ด้านอารมณ์ – จิตใจ - เด็กมีความสขุ กบั การทไี่ ดล้ งมือปฏบิ ตั ิการทดลองด้วยตนเอง 2.4 ด้านการเคลอื่ นไหว - เด็กๆ เคลอื่ นไหวหยบั จับ อุปกรณ์ในการทดลอง - เดก็ ใชป้ ระสาทสัมผัส ในการสงั เกตดว้ ยตัวเองจนได้ข้อมูลทถ่ี ูกต้องและชดั เจน

37 รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลองตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์นอ้ ย ประเทศไทย กิจกรรมท่ี 10 เรอื่ ง เนินน้ำ จุดประสงค์ 1. เพือ่ ให้เดก็ เรยี นรู้เร่อื งแรงตงึ ผิว 2. เพ่ือให้เด็กลงมอื ปฏบิ ตั กิ ารทดลอง “เนนิ นำ้ ” ด้วยตนเอง 3. เพื่อใหเ้ ด็กได้มคี วามสขุ สนุกสนานกบั การทดลอง ขนั้ ตอนการจัดกิจกรรม ขนั้ ที่ 1 ต้งั คำถามที่อยากรู้ เด็กๆ และครูร่วมกันสนทนา เกี่ยวกับแรงตึงผิว โดยครูถามว่า เด็กๆ เคยเห็นแมลงตัวเล็กๆ เดินอยู่บนผิวน้ำได้ ทำไมแมลงพวกนี้จึงไม่จมน้ำคะ น้องนิดตอบว่า เพราะแมลงตัวเล็กค่ะ ครูถามต่อ ว่า แล้วเดก็ ๆ เคยเห็นหยดน้ำเล็กๆ เกาะตามทตี่ ่างๆหรือไมค่ ะ น้องไอแพดตอบว่า เคยเห็นครับ ครูจึง ถามวา่ ทำไมน้ำถงึ เกาะจนเป็นหยดนำ้ หยดเลก็ ๆได้คะ นอ้ งแฟรง้ คต์ อบว่า เพราะน้ำมีนอ้ ยครับ ขน้ั ท่ี 2 รวบรวมความคดิ และคาดคะเนคำตอบ เด็กและครรู ว่ มสนทนากนั วา่ เมอื่ หยดนำ้ ลงในแก้วไปเรอ่ื ยๆน้ำจะล้นออกมาจากแกว้ ขนั้ ท่ี 3 ดำเนินการสำรวจตรวจสอบ เด็กๆ และครูร่วมกันวางแผนกำหนดขั้นตอนการทดลอง ออกแบบบันทึกผลการทดลอง จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ ดำเนินการทดลอง ตามแผนที่วางไว้ โดยเด็กแต่ละคนจะได้รับหลอดหยด นำ แก้วขนาดเล็กมาวางไว้บนถาดแล้วเทน้ำลงไปจนเกือบเต็ม เหลือที่ว่างจากปากแก้วประมาณ 1 เซนติเมตร แล้วเทน้ำที่เหลือใส่ถาดรองน้ำ เด็กๆ ผลัดกันใช้หลอดหยดดูดน้ำจากถาด แล้วหยดทีละ หยด เมื่อหยดน้ำจนระดับน้ำอยู่ใกล้ขอบแก้ว แล้วหยดน้ำทีละหยดลงในแก้วน้ำให้ได้มากที่สุด จนน้ำ ล้นแก้ว เดก็ ๆ และครูรว่ มกนั สังเกตการทดลอง ขั้นที่ 4 การสงั เกตและบรรยาย เด็กๆ ช่วยกันบอกลักษณะการเกิดรอยนูนของน้ำที่ข้ึนตรงกลางแก้ว เนินน้ำจะสูงกว่าขอบ แก้ว เด็กๆ และครูร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการหยดน้ำลงในภาชนะอื่นๆ เช่น ฝากล่องใส่ฟิล์ม ถ้วยใบ เล็ก และภาชนะอ่นื ท่ไี ม่เป็นรปู วงกลม ขั้นที่ 5 บันทกึ ผล เด็กๆ บันทึกผลการทดลองลงในแบบบนั ทึกเพื่อนำมาเสนอใหเ้ พื่อนฟังหนา้ ช้ันเรยี น ขน้ั ท่ี 6 สรุปและอภปิ ราย ครู และเด็กๆช่วยกันสรุปว่า น้ำประกอบด้วยอนุภาคเล็กๆ ซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เรา เรยี กอนุภาคเล็กๆ น้ีว่า โมเลกุล โมเลกลุ ของน้ำนนั้ ซอ้ นกนั อยูแ่ ละมีการจบั ตวั กนั อยา่ งแนน่ หนา ทำให้ เกิดเป็นผวิ น้ำนนู ข้นึ

38 ภาพการดำเนินกจิ กรรม อุปกรณใ์ นการทดลอง เด็กทำกจิ กรรมการทดลอง

39 เด็กนำเสนอผลงาน ผลงานท่สี ำเรจ็ ผลที่เกดิ กบั เด็ก 1. ผลท่เี กดิ ขึน้ ตามจุดประสงค์ 1.1 เดก็ ไดเ้ รยี นรูเ้ รอ่ื งแรงตงึ ผวิ 1.2 เดก็ ได้ลงมือปฏบิ ัติการทดลอง “แรงตึงผิว” ด้วยตนเอง 1.3 เดก็ มีความสขุ สนกุ สนานกับการทดลอง 2. พัฒนาความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย 2.1 ด้านการเรียนรู้ 2.1.1 ดา้ นการเรียนรู้ - เด็กๆ ไดเ้ รยี นรู้ ว่าอากาศมีแรงดนั - เดก็ ไดเ้ รยี นรู้และสังเกต เปรียบเทยี บ การเกิดเนนิ นำ้ - เดก็ ได้เรยี นรทู้ ักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 2.1.2 ดา้ นภาษา - เดก็ มพี ัฒนาการด้านภาษาจากการสนทนาโต้ตอบ และการแสดงความ คดิ เห็น - ทกั ษะด้านภาษาจากการพดู เล่าบรรยายส่งิ ที่สังเกตจากการทดลองการ กักนำ้ ไว้ได้

40 - เด็กๆสามารถเลา่ วธิ ีการหาคำตอบ ได้ดว้ ยวิธกี ารของตนเอง 2.1.3 ดา้ นสติปัญญา - เดก็ เกดิ การเรยี นร้เู ก่ยี วกับขั้นตอนการทดลอง เรื่องเนนิ น้ำ ตามขนั้ ตอน 2.2 ด้านสงั คม - เดก็ สามารถทำงานร่วมกบั ผู้อนื่ ได้ - เดก็ แสดงความคดิ เหน็ ของตนเองและยอมรับฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อื่น - เดก็ ๆ ปฏบิ ตั ติ นตามข้อตกลงได้ 2.3 ดา้ นอารมณ์ – จติ ใจ - เดก็ มคี วามสขุ กับการทไ่ี ดล้ งมอื ปฏบิ ัติการทดลองด้วยตนเอง 2.4 ดา้ นการเคลือ่ นไหว - เดก็ ๆ เคลือ่ นไหวหยิบจบั อุปกรณ์ในการทดลอง - เด็กใชป้ ระสาทสมั ผสั ในการสงั เกตดว้ ยตวั เองจนไดข้ ้อมูลทถี่ กู ต้องและชดั เจน

41 รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลองตามโครงการบา้ นนักวทิ ยาศาสตรน์ ้อย ประเทศไทย กิจกรรมท่ี 11 เรื่อง น้ำเป็นของเหลว จดุ ประสงค์ 1. เพือ่ ให้เด็กได้เรยี นรูล้ กั ษณะของน้ำในสถานะของเหลว ลกั ษณะการไหล การกระจาย การ เปล่ยี นรปู ร่างไปตามภาชนะทีบ่ รรจุ 2. เพ่ือใหเ้ ด็กไดใ้ ช้ประสาทสัมผสั ของรา่ งกายในการทดลอง 3. เพื่อใหเ้ ด็กมีเจตคตทิ ่ีดตี อ่ การเรยี นรู้โดยใช้ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ขัน้ ตอนการจดั กจิ กรรม ข้ันท่ี 1 ตง้ั คำถาม เด็กและครูร่วมสนทนากับเกี่ยวกับการอาบน้ำชำระร่างกาย เด็กถามครูว่าน้องน้ำขิง : เรา สามารถใช้สง่ิ ใดตกั นำ้ ไดบ้ า้ งคะ น้องณฐั ชา : น้ำมีลกั ษณะอยา่ งไรคะ ข้นั ท่ี 2 รวบรวมความคิดและคาดคะเนคำตอบ ครสู นทนากับเด็กถึงเร่ืองท่ีเด็กสงสัยและคาดคะเนคำตอบ นอ้ งอี๊ฟ : เราใชอ้ ปุ กรณ์ในห้องนำ้ ขนั ตกั นำ้ อุปกรณ์ในครวั ถว้ ย กะละมงั กระบวย ใช้ใบไม้ ใชม้ อื น้องฮอมสขุ : เราใช้มอื ตักน้ำได้ค่ะ แต่อาจจะไม่เยอะมนั ไหลออกได้ นอ้ งไอแพด : นำ้ จะอ่อนไม่แขง็ ,เยน็ -ร้อน,เปียกแฉะนำ้ จะไหลลงสทู่ ่ี ต่ำกวา่ ข้ันท่ี 3 ดำเนนิ การสำรวจตรวจสอบ เด็กและครูร่วมกันวางแผนการทดลองมีการกำหนดขั้นตอนการทดลอง และร่วมออกแบบ บนั ทกึ ผลการทดลอง จัดเตรยี มอปุ กรณแ์ ละลงมือทำการทดลองดว้ ยตนเองตามขนั้ ตอน โดย กจิ กรรม ที่ 1 ขนนำ้ กรวด และทรายดว้ ยมือเปล่า กิจกรรมท่ี 2 นำสงิ่ ต่าง ๆ มาตักนำ้ สงั เกตว่าส่ิงใดตักได้บ้าง กิจกรรมที่ 3 เทนำ้ กรวด ทรายลงพ้ืนวงกลม สงั เกตการเปล่ียนแปลง กิจกรรมที่ 4 ใช้กระดาษทิชชู สรา้ งบันไดนำ้ ท้ิงไว้สักพักสงั เกตการเปลย่ี นแปลง ข้ันที่ 4 สังเกตและบรรยาย น้ำไม่ยอมให้ขนย้ายด้วยมือเปล่าได้ง่าย ๆ ซึ่งต่างจากกรวดและทรายยอมให้ขนย้ายได้ง่าย เมื่อเทน้ำไว้ในวงกลมน้ำจะไหลออกนอกวงกลมอย่างรวดเร็วไม่ยอมหยุด การตักน้ำ น้ำจะปรับ รูปร่างตามรูปร่างของภาชนะ ภาชนะที่เก็บน้ำได้ต้องก้นลึกไม่มีช่องหรือรู และน้ำจะซึมจากล่างขึ้น บน ขนั้ ท่ี 5 บันทึกผล เด็กบันทึกผลการทดลองด้วยการการวาดภาพระบายสีแล้วออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้น เรยี นใหเ้ พ่อื นๆและครฟู ัง ขั้นท่ี 6 สรุปและอภปิ ราย เด็กและครูร่วมกันสรุปการทดลองว่าน้ำเป็นของเหลวจะไหลลงสู่ที่ต่ำการขนย้ายต้องใช้วัสดุ ก้นลึก ไม่มีช่องหรือรู น้ำกระจายไปทุกทิศทาง น้ำจะปรับรูปร่างตามภาชนะที่บรรจุ น้ำจะซึมจาก

42 ล่างข้ึนบน ซง่ึ สรุปได้ว่า ลักษณะของนำ้ ในสถานะของเหลว ลักษณะการไหล การกระจาย การเปล่ียน รูปร่างไปตามภาชนะทบ่ี รรจุ ภาพการดำเนนิ กจิ กรรม อปุ กรณใ์ นการทดลอง เด็กทำกิจกรรมการทดลอง เดก็ นำเสนอผลงาน

43 ผลงานทส่ี ำเร็จ ผลที่เกดิ กับเด็ก 1. ผลทเี่ กิดขึน้ ตามจุดประสงค์ 1. เด็กได้เรียนรู้ลักษณะของน้ำในสถานะของเหลว ลักษณะการไหล การกระจาย การ เปลย่ี นรูปร่างไปตามภาชนะท่ีบรรจุ 2. เดก็ ได้ใช้ประสาทสมั ผัสของรา่ งกายในการทดลอง 3. เด็กมีเจตคตทิ ี่ดีต่อการเรยี นรูโ้ ดยใชท้ กั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2. พฒั นาการความสามารถพืน้ ฐานและพัฒนาการเดก็ ปฐมวัย 2.1 ดา้ นการเรยี นรู/้ ดา้ นภาษา/สตปิ ัญญา 2.1.1 ด้านการเรียนรู้ - เดก็ ไดเ้ รยี นรู้โดยผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 คอื ตาดู หูฟัง จมูกดมกล่นิ ลิ้น ชมิ รส ผวิ กายสมั ผสั - เด็กได้จำแนกความเหมือน ความต่าง และความสมั พันธร์ ว่ มระหว่างส่ิงของ ตา่ ง ๆ รอบตัว 2.1.2 ดา้ นภาษา - เด็กสามารถเรียนรู้คำศัพท์จากวัสดุอุปกรณ์ และบอกรายละเอียดของ อปุ กรณ์ตา่ งๆไดด้ ้วยตนเอง - เด็กพูดแสดงความคิดเห็น และซักถามในสิ่งที่ตนเองสนใจด้วยคำพูด เหมาะสมกับวัย - เด็กสามารถอธิบายเกี่ยวกับความคิดรวบยอดของกิจกรรมโดยใช้คำพูดเปน็ ประโยคง่ายๆได้ 2.1.3 ดา้ นสติปัญญา - เด็กมีการคาดเดาคำตอบในสิ่งที่จะเกิดขึ้นก่อนการทำกิจกรรม โดยการ คาดคะเน พยากรณ์ 2.2 ด้านสังคม 2.2.1 เด็กรู้จักการทำงานร่วมกับผู้อ่ืน รู้จักการแบ่งปัน รอคอย รับฟังความคิดเห็น ของผ้อู ่ืนได้ 2.2.2 เด็กร้จู กั การปฏิบัตติ ามกฎระเบียบหรอื ข้อตกลงรว่ มกนั ได้

44 2.3 ดา้ นอารมณ์-จิตใจ 2.3.1 เดก็ ชน่ื ชมผลงานของตนเองและของเพ่ือน 2.3.2 เด็กมีเจตคติท่ีดีต่อการค้นคว้าหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ด้วยทักษะ วิทยาศาสตร์ 2.4 ด้านการเคล่อื นไหวรา่ งกาย 2.4.1 เด็กไดใ้ ชป้ ระสามสมั ผสั ทั้งหา้ ในการทดลอง 2.4.2 เด็กสามารถใช้กลา้ มเน้อื มดั เล็กและกลา้ มเนอื้ มัดใหญ่ไดอ้ ย่างคล่องแคลว่ 2.4.3 เดก็ มีการประสานสัมพนั ธร์ ะหว่างมอื กับตาได้อยา่ งคล่องแคล่ว

45 รายงานผลการจัดกจิ กรรมการทดลองตามโครงการบา้ นนักวทิ ยาศาสตรน์ ้อย ประเทศไทย กจิ กรรมท่ี 12 เรือ่ ง พับหรอื ตัดกท็ ับกันสนิท จุดประสงค์ 1. เพ่ือใหเ้ ด็กไดเ้ รยี นรูเ้ กีย่ วกบั แกนสมมาตร 2. เพือ่ ให้เดก็ ไดท้ ำการทดลองพบั หรอื ตัดก็ทับกันสนทิ 3. เพื่อใหเ้ ด็กมเี จตคติทีด่ ตี ่อการเรยี นรู้โดยใชท้ กั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ขั้นตอนการจดั กิจกรรม ขน้ั ที่ 1 ตัง้ คำถามเก่ยี วกบั ปรากฏการณธ์ รรมชาติ เด็ก และครูร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั การทำศิลปะ และการตัดกระดาษ เพื่อให้ได้ความร้เู ร่อื ง แกนสมมาตร และการทำให้เกิดรูปสมมาตร ครูจึงให้เด็กคิดคำถามที่เด็กอยากรู้ ว่าการหยดสีลงบน กระดาษท่ีพับคร่ึงและการตดั กระดาษท่ีนำมาพับซ้อนกัน น้องไอแพท:สนี ้ำมีหลายสีครับ น้องณัฐชา:สี นำ้ หยดลงกระดาษท่ีพับคะ่ ครูบันทึกคำถามของเด็กลงในกระดาษชาร์ท ขัน้ ท่ี 2 รวบรวมความคิดและขอ้ สนั นิษฐาน ครูสนทนากบั เด็ก ๆ ว่า การทำศลิ ปะและการตัดกระดาษจากการพับซ้อนกัน จะทำให้เกิดรูป ต่างขึ้น นอ้ งแฟรง้ ค:์ เกิดรูปผีเสื้อครับ น้องฮอมสุข:เปน็ รปู เด็กผู้หญิงค่ะ นอ้ งนิด:ของหนูเป็นรูปภูเขา คะ ครูจึงบนั ทกึ ลงในกระดาษชารท์ ขั้นท่ี 3 ทดสอบและปฏบิ ัตกิ ารสบื เสาะ เด็กและครูร่วมกันวางแผนการทดลองมีการกำหนดขั้นตอนการทดลองและร่วมออกแบบ บันทึกผลการทดลองจากนั้นจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์การทดลองและดำเนินการทดลองด้วยตนเองตาม ขั้นตอน โดยครูแจกกระดาษให้หับเด็ก ๆ จากนั้นให้พับครึ่ง แล้วคลี่ออก ให้เด็ก ๆ หยดสี่น้ำลงบน กระดาษเพียงด้านเดียว เมื่อเสร็จแล้วให้พับกระดาษกลับตามรอยเดิม ใช้มือกดตรงที่สีหยด จากนั้น คลี่ออก จะเห็นว่ามีรูปบนกระดาษอีกด้าน ให้เด็กสังเกตการทดลองโดยใช้ทักษะกระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์ ขน้ั ที่ 4 การสงั เกตและบรรยาย ครใู ห้เด็กสังเกตและช่วยกันบรรยายผลท่ีเกิดขึ้นจากการทดลองโดยใช้ทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ ซึ่งสิ่งที่เด็กสังเกตเห็นคือ การนำศิลปะการวาดรูปมาประกอบความรู้ด้านคณิตศาสตร์ เรื่อง แกนสมมาตร การทำให้เกิดรูปสมมาตรจากการหยดสีลงบนกระดาษที่พับครึ่งได้ น้องอี๊ฟ: กระดาษเมือ่ พบั ครึง่ จะมีขนาดเท่ากนั พอดีค่ะ นอ้ งนำ้ ขงิ :เม่อื หยดสีเกิดเปน็ รูปสมมาตรหลากหลายสีค่ะ น้องไอแพด:เม่อื พับครง่ึ แล้วรปู ทบั กนั สนิทพอดคี รบั ข้นั ท่ี 5 บันทึกผล เด็กและครูร่วมกันสนทนาและเด็กๆบันทึกผลการทดลองโดยการวาดภาพการทดลอง พับ หรือตดั ก็ทบั กนั สนิท ในกระดาษเพื่อนำเสนอหน้าชน้ั เรยี นและจัดป้ายนิเทศให้ผปู้ กครองดู

46 ขน้ั ท่ี 6 สรุปและอภิปราย เดก็ และครรู ว่ มกันสนทนาจากข้อสันนษิ ฐานของเด็ก ๆ วา่ การสรา้ งรูปสมมาตรจาก การหยดสีลงบนกระดาษแล้วพับครึ่ง จะช่วยในการเรียนรู้เรื่องการสมมาตรเบื้องต้นได้ หลักพื้นฐาน ของรูปสมมาตรคือ การแบ่งออกเป็น 2 ส่วนเท่า ๆ กัน และรูปในแต่ละส่วนจะมีขนาดเท่ากันทุก ประการ รปู รปู หนง่ึ จะเป็นรปู สมมาตรก็ตอ่ เมอ่ื พับคร่งึ แล้วรปู ทบั กันสนทิ พอดี ภาพการดำเนนิ กจิ กรรม อุปกรณ์ในการทดลอง เด็กทำกจิ กรรมการทดลอง

47 เด็กนำเสนอผลงาน ผลงานทีส่ ำเร็จ ผลทีเ่ กิดกับเด็ก 1. ผลท่เี กดิ ขึ้นตามจุดประสงค์ 1. เด็กได้เรยี นรู้เกี่ยวกับ แกนสมมาตร 2. เดก็ ได้ทำการทดลองพบั หรือตัดก็ทับกนั สนทิ 3. เด็กมีเจตคติท่ีดีต่อการเรียนรู้โดยใชท้ กั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2. พัฒนาการความสามารถพ้นื ฐาน และพฒั นาการของเดก็ ปฐมวัย 2.1 ด้านการเรียนรู้/ดา้ นภาษา /สติปัญญา: 2.1.1 ดา้ นการเรียนรู้