ศึกษำ เกี่ยวกบั จงั หวะ ตำแหน่งของสิ่งต่ำง ๆ ที่ปรำกฏในส่ิงแวดลอ้ ม และสร้ำงสรรคง์ ำนทศั นศิลป์ สื่อควำมคิด จินตนำกำร เปรียบเทียบควำมแตกต่ำงระหว่ำงงำนทศั นศิลป์ ท่ีสร้ำงสรรคด์ ว้ ยวสั ดุอุปกรณ์และ วิธีกำรท่ีต่ำงกัน ใช้ควำมรู้ เทคนิค วิธีกำร และวสั ดุอุปกรณ์ประเภทต่ำง ๆ จำกแหล่งกำรเรียนรู้หรือ นิทรรศกำร แสดงออกถึงควำมรู้สึก ควำมคิดเห็น ประโยชน์และคุณค่ำของงำนทศั นศิลป์ ท่ีมีผลต่อชีวิตของ คนในสังคม สร้ำงสรรค์งำนป้ันจำก ดินน้ ำมัน หรือดินเหนียว งำนพิมพ์ภำพ โดยเน้นกำรถ่ำยทอด จินตนำกำร ศิลปะ และกำรจดั วำงตำแหน่งของสิ่งต่ำง ๆ ในภำพ โดยเลือกเทคนิค วิธีการ วสั ดุอุปกรณ์ในการสร้างสรรคอ์ ยา่ งเหมาะสม ใชก้ ระบวนการคิดวิเคราะห์ การอภิปราย มีความมุ่งมน่ั ในการทางาน รักความเป็ นไทย มีจิตสาธารณะและเห็นคุณค่าของการนาความรู้ ไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ในการดาเนินชีวิตประจาวนั ดนตรี ศึกษำจงั หวะ ทำนอง องคป์ ระกอบดนตรีในเพลงที่ใชใ้ นกำรส่ืออำรมณ์ จำแนกลกั ษณะของเสียงขบั ร้องและเคร่ืองดนตรี ท่ีอยู่ในวงดนตรีประเภทต่ำง ๆ กำรอ่ำน เขียนโน้ตดนตรีไทย ดนตรีสำกล ๕ ระดบั เสียง ร้องเพลงไทยหรือเพลงสำกลหรือเพลงไทยสำกลท่ีเหมำะสมกบั วยั ดน้ สดง่ำย ๆ โดยใชป้ ระโยคเพลง แบบถำมตอบ ใชเ้ คร่ืองดนตรีบรรเลงจงั หวะและทำนอง ร่วมกบั กิจกรรมในกำรแสดงออกตำมจินตนำกำร โดยการฝึ กปฏิบตั ิ การแสดงออกตามจินตนาการเพื่อส่ือความคิด จินตนาการ ความรู้สึกประทบั ใจ และเห็นคุณค่า อธิบายความสัมพนั ธ์ระหว่างดนตรีกับประเพณีในวฒั นธรรมต่าง ๆ ให้สัมพนั ธ์กัน เพื่อ นาไปสร้างสรรคร์ ะหวา่ งดนตรีกบั ประเพณีในวฒั นธรรมทอ้ งถิ่น เห็นคุณค่าของดนตรีท่ีมาจากวฒั นธรรมท่ี ตา่ งกนั นำฏศิลป์ ศึกษาความรู้พ้ืนฐานทางนาฏศิลป์ การบรรยายองค์ประกอบของนาฏศิลป์ การประดิษฐ์ท่าทาง ประกอบเพลงหรือเร่ืองราวตามความคิด องค์ประกอบของละคร บอกท่ีมาขอ งการแสดงนาฏศิลป์ ประโยชน์ท่ีไดร้ ับจากการชมการแสดง
โดยแสดงนาฏศิลป์ ละครสร้างสรรค์ การแสดงออก การถ่ายทอดความรู้สึก เพื่อนาความรู้และ หลกั การทางดา้ นนาฏศิลป์ มาใชบ้ ูรณาการกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ๆ และชีวิตประจาวนั สัมพนั ธ์กบั การ แสดงนาฏศิลป์ พ้ืนบา้ นที่สะทอ้ นถึงวฒั นธรรมและประเพณี ภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน ภูมิปัญญาไทยและสากล รหสั ตัวชีว้ ัด ศ ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗ ศ ๑.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ศ ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗ ศ ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ศ ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖ ศ ๓.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒ (รวม ๒๖ ตัวชีว้ ดั ) คำอธิบำยรำยวชิ ำพื้นฐำน ศ ๑๖๑๐๑ ศิลปะ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ศิลปะ ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี ๖ เวลำ ๘๐ ช่ัวโมง
ทศั นศิลป์ ศึกษา สร้างสรรคง์ านทศั นศิลป์ ส่ือความคิด ถ่ายทอดจินตนาการ ใช้สีคู่ตรงขา้ ม แสงเงา น้าหนัก งานป้ัน รูปแบบ เทคนิค และวิธีการต่าง ๆ แสดงเป็ นแผนภาพ แผนผงั ภาพประกอบ อธิบายหลกั การจดั ขนาด สัดส่วน ความสมดุลในการสร้างงานทัศนศิลป์ จากรูปแบบ ๒ มิติ เป็ น ๓ มิติ บทบาทของงาน ทศั นศิลป์ ที่สะทอ้ นชีวิตและสังคม อภิปรายเก่ียวกบั อิทธิพลของความเช่ือ ความศรัทธาในศาสนาท่ีมีผลต่อ งานทศั นศิลป์ ในทอ้ งถ่ินอนั เป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ิน ภูมิปัญญาไทยและสากล โดยใชก้ ระบวนกำรคิดวิเครำะห์ กำรสร้ำงสรรคง์ ำน กระบวนกำรกลุ่มและรำยบุคคล เพ่ือถ่ำยทอด ควำมคิดหรือเรื่องรำวเก่ียวกบั เหตุกำรณ์ต่ำง ๆ ให้เกิดควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ มีความมุ่งมนั่ ในการทางาน รัก ความเป็ นไทย มีจิตสาธารณะและเห็นคุณค่าของการนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดาเนิน ชีวิตประจาวนั ดนตรี ศึกษาวิเคราะห์องคป์ ระกอบดนตรี เพลงที่ฟังและศพั ทส์ ังคีต จาแนกประเภทเคร่ืองดนตรี ใชเ้ ครื่อง ดนตรีและเครื่องดนตรีท่ีมาจากวฒั นธรรมต่าง ๆ อ่าน เขียนโน้ตไทยและโน้ตสากล ร้องเพลง ด้นสด สร้างสรรคร์ ูปแบบจงั หวะและทานองดว้ ยเคร่ืองดนตรีไทยหรือเครื่องดนตรีที่มาจากวฒั นธรรมต่าง ๆ สืบ ทอดดนตรีไทย จาแนกดนตรีที่มาจากยุคสมยั ที่ต่างกนั อิทธิพลของวฒั นธรรมต่อดนตรีในทอ้ งถิ่น บรรยาย ความรู้สึกและแสดงความคดิ เห็นท่ีมีตอ่ บทเพลง ความไพเราะของเสียงดนตรี โดยใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการกลุ่ม เพื่อให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ ตลอดจนนา ความรู้และหลกั การทางดนตรีมาประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชนและเห็นคณุ คา่ ในการสร้างสรรค์ นาความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั นำฏศิลป์ ศึกษาพ้ืนฐานความรู้ ความเขา้ ใจ นาฏศิลป์ เบ้ืองตน้ แสดงออกอย่างอิสระในการประดิษฐ์ท่าทาง ประกอบเพลงปลุกใจหรือเพลงพ้ืนเมืองหรือทอ้ งถ่ิน การแสดงนาฏศิลป์ และละครสร้างสรรค์ การใช้เร่ือง แต่ง จินตนาการ ประสบการณ์ ละครสร้างสรรค์ ระบา ฟ้อน ราวงมาตรฐาน การอธิบายความสัมพนั ธ์ ระหว่างนาฏศิลป์ และการละครกับส่ิงที่ประสบในชีวิตประจาวนั ใช้หลกั สุนทรีทางนาฏศิลป์ การบอก ความหมาย ความเป็ นมา ความสาคญั พร้อมท้งั ระบุประโยชน์ท่ีไดร้ ับจากการแสดงหรือการชมการแสดง นาฏศิลป์ สร้างสรรคก์ ารเคล่ือนไหวและการถ่ายทอดลีลา อารมณ์ สิ่งที่มีความสาคญั ต่อการแสดงนาฏศิลป์ และละคร ระบปุ ระโยชน์ท่ีไดร้ ับจากการแสดงหรือการชมการแสดงนาฏศิลป์ และละคร
โดยใชก้ ระบวนกำรคดิ วิเครำะห์ กำรอภิปรำย กระบวนกำรกลุ่ม เพื่อใหเ้ กิดควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ และ เห็นคุณค่ำของกำรนำควำมรู้ไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ในกำรดำเนินชีวติ ประจำวนั รหัสตวั ชี้วดั ศ ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗ ศ ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ศ ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖ ศ ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ศ ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖ ศ ๓.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒ (รวม ๒๗ ตัวชีว้ ดั ) โครงสร้ำงรำยวชิ ำ รายวชิ าตามโครงสร้างหลกั สูตรโรงเรียนบา้ นทบั กุมารทอง พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๗ กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ระดบั ประถมศึกษำ รำยวชิ ำกำรงำนอำชีพและเทคโนโลยีพื้นฐำน ระดับช้ัน รหสั ชื่อรำยวชิ ำ เวลำเรียน(ชั่วโมง/ปี ) ช้นั ป. ๑ ง ๑๑๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๔๐ ช้นั ป. ๒ ง ๑๒๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๔๐ ช้นั ป. ๓ ง ๑๓๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๔๐ ช้นั ป. ๔ ง ๑๔๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๘๐ ช้นั ป. ๕ ง ๑๕๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๘๐ ช้นั ป. ๖ ง ๑๖๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๘๐ คำอธิบำยรำยวชิ ำพื้นฐำน ง ๑๑๑๐๑ กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี กล่มุ สำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษำปี ที่ ๑ เวลำ ๔๐ ชั่วโมง
ศึกษา ฝึกฝนการทางานช่วยเหลือตนเอง เก่ียวกบั การแต่งกาย การเก็บของใช้ การหยิบจบั และใช้ ของใชส้ ่วนตวั การจดั โต๊ะ ตู้ ช้นั การใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือง่าย ๆ ในการบารุงรักษาตน้ ไม้ การพบั กระดาษเป็นของเล่น ความสาคญั ของขอ้ มูลท่ีสนใจรวมท้งั แหล่งขอ้ มูลท่ีอย่ใู กลต้ วั ภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน ผูร้ ู้ ส่ือส่ิงพิมพ์ และสื่อเทคโนโลยี ประโยชน์ของอุปกรณ์เทคโนโลยสี ารสนเทศท่ีใชใ้ นการเรียน การวาดภาพ และการติดตอ่ ส่ือสาร โดยใชก้ ระบวนการทางาน การสังเกต การฝึ กปฏิบตั ิ และการแสวงหาความรู้ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ มีความคิดสร้างสรรค์ ส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้ไดด้ ี มีทกั ษะในการใชม้ ือ เครื่องมือ เคร่ืองใชใ้ นการ ทางานอย่างปลอดภยั สามารถทางานตามข้นั ตอนกระบวนการทางาน เห็นคุณค่าของการนาความรู้ไปใช้ ประโยชน์ในชีวิตประจาวนั มีวินยั ใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทางาน ทางานดว้ ยความกระตือรือร้น และตรง เวลา มีเจตคติท่ีดีต่อการทางาน มีลกั ษณะนิสยั การทางานท่ีเหมาะสม รหัสตัวชีว้ ัด ง ๑.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓ ง ๓.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ รวม ๕ ตัวชีว้ ัด คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน ง ๑๒๑๐๑ กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี ๒ เวลำ ๔๐ ชั่วโมง
ศึกษา ฝึกฝนการทางานช่วยเหลือตนเองและครอบครัว ตามบทบาทและหนา้ ท่ีของสมาชิกในบา้ น ดว้ ยการจดั วางส่ิงของ การเก็บเส้ือผา้ และรองเทา้ การช่วยครอบครัวเตรียมประกอบอาหารการกวาดบา้ น การลา้ งจาน การใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ และเคร่ืองมือในการทางาน การเพาะเมลด็ การดูแลแปลงเพาะกลา้ การ ทาของเล่น และการประดิษฐ์ของใชส้ ่วนตวั ลกั ษณะและประโยชน์ของส่ิงของเครื่องใชใ้ นชีวิตประจาวนั การออกแบบสร้างของเล่นของใช้ง่าย ๆ การถ่ายทอดความคิดเป็ นภาพร่าง ๒ มิติ การสร้างชิ้นงาน และ ประเมินผลงาน ความสาคญั และประโยชน์ของขอ้ มูล การรวบรวมขอ้ มูลท่ีสนใจจากแหล่งขอ้ มูลท่ีเชื่อถือ ได้ และแหล่งขอ้ มูลในทอ้ งถ่ิน ประโยชน์ของแหล่งขอ้ มูล และการรักษาแหล่งขอ้ มูล หน้าท่ีของอุปกรณ์ พ้ืนฐานท่ีเป็นส่วนประกอบหลกั ของคอมพิวเตอร์ โดยใช้กระบวนการทางาน กระบวนการเทคโนโลยี กระบวนการแกป้ ัญหา การสังเกต การฝึ ก ปฏิบตั ิ การอภิปราย และการแสวงหาความรู้ เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ มีทกั ษะในการใชม้ ือ เคร่ืองมือ เครื่องใช้ในการทางานอย่างเหมาะสมกับงานและประหยดั เห็นคุณค่าของการทางาน และ เทคโนโลยสี ารสนเทศ มีลกั ษณะความคดิ สร้างสรรค์ ทางานเป็นข้นั ตอน ถูกวิธี และปลอดภยั ปฏิบตั ิงาน ตามบทบาทหนา้ ท่ี ทางานร่วมกบั สมาชิกในครอบครัวได้ มีการปรับปรุงการทางาน สามารถนาความรู้ไป ประยุกตใ์ ชใ้ นการทางาน ในชีวิตประจาวนั มีวินยั ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มน่ั ในการทางาน มีเจตคติท่ีดีต่อการทางาน และมีลกั ษณะนิสยั การทางานท่ีเหมาะสม รหัสตัวชีว้ ดั ง ๑.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒, ป.๒/๓ ง ๒.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒, ป.๒/๓ , ป.๒/๔ ง ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓ รวม ๑๐ ตัวชีว้ ดั คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน ง ๑๓๑๐๑ กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษำปี ที่ ๓ เวลำ ๔๐ ช่ัวโมง
ศึกษา ฝึ กฝนการทางานช่วยเหลือตนเอง ครอบครัว และส่วนรวม ในการเลือกใชเ้ ส้ือผา้ และการ ดูแลรักษาเส้ือผา้ การทาความสะอาดบา้ น การทาความสะอาดและตกแต่งห้องเรียน การใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเคร่ืองมือในการทางานต่าง ๆ การปลูกพืชผกั สวนครัว การบารุงรักษาของเล่น การซ่อมแซมของใช้ ส่วนตวั การประดิษฐข์ องใชใ้ นโอกาสตา่ ง ๆโดยใชว้ สั ดุ และวสั ดุเหลือใช้ ในทอ้ งถิ่น การสร้างของเล่น หรือของใช้อย่างง่าย ดว้ ยการกาหนดปัญหา หรือความตอ้ งการ รวบรวม ขอ้ มูล ออกแบบ การถ่ายทอดความคิดเป็ นภาพร่าง ๒ มิติ หรือภาพ ๒ มิติ สร้างชิ้นงาน และประเมินผล งาน การใช้เทคโนโลยีที่เป็ นภูมิปัญญาท้องถิ่นในการสร้างงานต่าง ๆ การเลือกใช้สิ่งของเครื่องใช้ใน ชีวติ ประจาวนั การสารวจ คน้ หา และรวบรวมขอ้ มูลจากแหล่งขอ้ มูลในทอ้ งถิ่นและแหล่งขอ้ มูลท่ีเชื่อถือได้ การพิจารณาและสรุปผล การนาเสนอขอ้ มลู วิธีดูแลและรักษาอุปกรณ์เทคโนโลยสี ารสนเทศ โดยใช้กระบวนการทางาน การจดั การ การทางานร่วมกนั กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการ เทคโนโลยี กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ การฝึ กปฏิบตั ิ และการแสวงหาความรู้ เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถทางานตามข้นั ตอนกระบวนการทางาน มีทกั ษะในการเลือกใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ และเคร่ืองมือ ตรงกับลักษณะงาน สามารถออกแบบและสร้างชิ้นงานตามความคิดสร้างสรรค์และ กระบวนการเทคโนโลยี มีความสามารถในการจดั การสิ่งของเคร่ืองใชด้ ว้ ยการนากลบั มาใช้ซ้า ถ่ายทอด ความคิดและส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้ได้ สามารถคน้ หาขอ้ มูลที่ตอ้ งการอยา่ งมีข้นั ตอนและนาเสนอขอ้ มูลไดอ้ ยา่ ง หลากหลาย ใชง้ าน ดูแลและรักษาอุปกรณ์เทคโนโลยสี ารสนเทศไดถ้ ูกวิธี เห็นคุณค่าและประโยชน์ของ การทางาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีการปรับปรุงการทางานอยู่เสมอ สามารถนาความรู้ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น การทางาน ในชีวิตประจาวนั มีจิตสานึกในการอนุรักษส์ ิ่งแวดลอ้ ม มีคุณธรรมจริยธรรม และลกั ษณะนิสัย ในการทางานที่เหมาะสม มีวินยั ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน มีเจตคติท่ีดีตอ่ การทางาน รหสั ตัวชี้วดั ง ๑.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ ง ๒.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ ง ๓.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ (รวม ๘ ตัวชี้วดั ) คำอธิบำยรำยวชิ ำพื้นฐำน ง ๑๔๑๐๑ กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษำปี ที่ ๔ เวลำ ๘๐ ช่ัวโมง
ศึกษา สังเกต ฝึกปฏิบตั ิ และอภิปรายสรุปเกี่ยวกบั การทางาน การดูแลรักษาของใชส้ ่วนตวั การ จดั ตูเ้ ส้ือผา้ โต๊ะเขียนหนังสือ และกระเป๋ านักเรียน การปลูกไม้ดอก หรือไมป้ ระดบั การซ่อมแซมวสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือ การประดิษฐข์ องใช้ ของตกแต่งจากใบตอง และกระดาษ การจดั เกบ็ เอกสารส่วนตวั มารยาทในการตอ้ นรับบิดามารดา หรือผปู้ กครอง ในโอกาสต่าง ๆ มารยาทในการรับประทานอาหาร การ ใชห้ อ้ งเรียน หอ้ งน้าและหอ้ งสว้ ม ความหมาย และความสาคญั ของอาชีพในทอ้ งถิ่น โดยใชก้ ระบวนการทางาน การจดั การ การทางานร่วมกนั กระบวนการแกป้ ัญหา การฝึ กปฏิบตั ิ การอภิปราย และการแสวงหาความรู้ เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถ ทางานไดต้ ามข้นั ตอนกระบวนการทางานจนบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ สามารถอธิบายเหตุผลในการทางาน ใหบ้ รรลุเป้าหมาย อธิบายความหมายและความสาคญั ของอาชีพในทอ้ งถ่ิน ถา่ ยทอดความคิดและส่ือสารส่ิง ที่เรียนรู้ได้ดี เห็นคุณค่าของการทางาน ทางานร่วมกับผูอ้ ่ืนอย่างรู้หน้าที่ ปรับปรุงการทางานอยู่เสมอ สามารถนาความรู้ความเข้าใจไปประยุกต์ใช้ ในการทางาน และในชี วิต ประจาวนั ใช้พลังงานและ ทรัพยากรอย่างประหยดั และคมุ้ ค่า มีคุณธรรมจริยธรรม และลกั ษณะนิสัยการทางานที่เหมาะสม มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน มีเจตคติท่ีดีต่อการทางานและอาชีพสุจริต ศึกษา สังเกตหนา้ ที่ของอุปกรณ์เทคโนโลยสี ารสนเทศ เช่น กลอ้ งดิจิตลั สแกนเนอร์ แผน่ ซีดี หลกั การทางานเบ้ืองตน้ ของคอมพิวเตอร์ การจดั ประเภทของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ตามหลกั การทางานเบ้ืองตน้ คืออุปกรณ์รับขอ้ มลู อุปกรณ์ประมวลผล และอุปกรณ์แสดงผล ประโยชน์จาก การใชง้ านคอมพิวเตอร์ เก่ียวกบั การสร้างงาน จดั ทารายงาน สร้างงาน นาเสนองาน การใช้ติดต่อสื่อสารและคน้ หาความรู้ดว้ ยการส่ง e-mail การคน้ หาขอ้ มูล และศึกษาบทเรียน การใช้เพื่อ ความบันเทิง โทษจากการใช้งานคอมพิวเตอร์ท่ีมีผลต่อสุขภาพ ต่อสังคม และความสัมพนั ธ์ กับ ครอบครัว ประเภทของซอฟต์แวร์ การใช้งานระบบปฏิบตั ิการคอมพิวเตอร์เบ้ืองตน้ การใช้โปรแกรม กราฟิ กข้ันพ้ืนฐานในการวาดภาพ การระบายสี การพิมพ์ข้อความ การสร้างภาพหรือชิ้นงานโดยใช้ โปรแกรมกราฟิ ก โดยใชก้ ระบวนการเทคโนโลยสี ารสนเทศ การสืบคน้ ขอ้ มลู กระบวนการแกป้ ัญหา การเรียนรู้ การฝึ กปฏิบตั ิ และการอภิปราย เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจวิวฒั นาการของเทคโนโลยี สามารถนาเสนอ ส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ให้ผูอ้ ่ืนเขา้ ใจ มีทกั ษะการใช้คอมพิวเตอร์เบ้ืองตน้ ในการสร้างภาพกราฟิ ก สามารถใช้ งาน และสร้างชิ้นงานจากคอมพิวเตอร์ได้ เห็นคุณค่าของการนาความรู้ ไปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ในการ ทางาน ในชีวิตประจาวนั มีจิตสานึกในการใชเ้ ทคโนโลยี และมีคุณธรรมจริยธรรม โดยไม่คดั ลอกผลงาน ผอู้ ่ืน ใชค้ าสุภาพและไม่สร้างความเสียหายตอ่ ผอู้ ่ืน รหัสตัวชีว้ ดั ง ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ , ป.๔/๔
ง ๓.๑ ป. ๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕ ง ๔.๑ ป. ๔/๑ (รวม ๑๐ ตวั ชี้วัด) คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน ง ๑๕๑๐๑ กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี กล่มุ สำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษำปี ที่ ๕ เวลำ ๘๐ ชั่วโมง
ศึกษา สังเกต ฝึ กฝน และอภิปรายสรุปเกี่ยวกบั ข้นั ตอนการทางาน การทาความสะอาด จดั เก็บ และดูแลรักษา เส้ือผา้ การปลูกพืช การทาบญั ชีครัวเรือน การจดั การในการจดั โตะ๊ อาหาร ตอู้ าหาร ตูเ้ ยน็ และห้องครัว การทาความสะอาดห้องน้าและห้องส้วม การซ่อมแซมอุปกรณ์ของใชใ้ นบา้ น การประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวสั ดุเหลือใชท้ ่ีมีอยใู่ นทอ้ งถิ่น การจดั เก็บเอกสารสาคญั การดูแลรักษา และใช้สมบตั ิส่วนตวั สมาชิกในครอบครัว และส่วนรวม มารยาทในการทางานกับสมาชิกในครอบครัว ความหมายและวิวฒั นาการของเทคโนโลยี การสร้างสิ่งของเครื่องใช้ ตามความสนใจ รวบรวมขอ้ มูล เลือกวิธีการออกแบบเป็ นภาพร่าง ๓ มิติ สร้างชิ้นงาน และประเมินผลงาน การใช้เทคโนโลยีท่ีเป็ นภูมิ ปัญญาท้องถ่ินในการสร้างงาน การใช้อุปกรณ์ เครื่องมือท่ีเก่ียวข้องกับกลไกและการควบคุมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ การเลือกใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ การแปรรูปส่ิงของเคร่ืองใช้ การสารวจข้อมูล เก่ียวกบั อาชีพต่าง ๆ ในชุมชน และความแตกต่างของแต่ละอาชีพ โดยใชก้ ระบวนการทางาน การจดั การ การทางานร่วมกนั กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการเทคโนโลยี การฝึกปฏิบตั ิ การอภิปราย และการแสวงหาความรู้ เพือ่ ใหเ้ กิดความรู้ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถทางานตามข้นั ตอนกระบวนการทางาน อธิบายเหตุผลการทางานแต่ละข้นั ตอนได้ มีทกั ษะการจดั การการทางานอยา่ งเป็นระบบ ใชแ้ ละประยุกตใ์ ชอ้ ุปกรณ์ และเคร่ืองมือไดอ้ ย่างคล่องแคล่ว รวดเร็ว และถูกต้อง สามารถออกแบบและสร้างชิ้นงานตามความคิดสร้างสรรค์ และกระบวนการ เทคโนโลยี สามารถคน้ หาขอ้ มูลท่ีตอ้ งการอย่างมีข้นั ตอนและนาเสนอขอ้ มูลได้ ถ่ายทอดความคิดและ ส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ไดด้ ี เห็นคุณค่าของการทางาน ทางานร่วมกบั ผูอ้ ่ืนอย่างรู้หน้าที่ มีมารยาทในการทางาน นาความรู้ความเขา้ ใจไปประยุกต์ใช้ในการทางาน ในชีวิตประจาวนั ได้ ใช้พลังงานและทรัพยากรอย่าง ประหยดั และคุม้ ค่า มีคุณธรรมจริยธรรม และลกั ษณะนิสัยการทางานท่ีเหมาะสม รักการทางาน มีเจตคติที่ ดีต่อการทางานและอาชีพสุจริต รหัสตวั ชีว้ ดั ง ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ ง ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป,๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ ง ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ง ๔.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒ (รวม ๑๓ ตัวชี้วดั ) คำอธิบำยรำยวิชำพื้นฐำน ง ๑๖๑๐๑ กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี กล่มุ สำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี ๖ เวลำ ๘๐ ชั่วโมง
ศึกษา สังเกต ฝึกฝน และอภิปรายแนวทางในการทางานดูแลรักษาสมบตั ิภายในบา้ น การปลกู ไมด้ อก หรือไมป้ ระดบั หรือปลูกผกั หรือเล้ียงปลาสวยงาม การบนั ทึกรายรับ - รายจ่ายของห้องเรียน การจดั เก็บเอกสาร การเงิน การจดั การในการทางานเก่ียวกบั การเตรียม ประกอบ จดั อาหารใหส้ มาชิกในครอบครัว การติดต้งั ประกอบของใชใ้ นบา้ น การประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวสั ดุในทอ้ งถิ่นให้สมาชิกในครอบครัว หรือ เพื่อน ในโอกาสต่าง ๆ การปฏิบัติตนอย่างมีมารยาทในการทางานกับสมาชิกในครอบครัวและผูอ้ ื่น ส่วนประกอบของระบบเทคโนโลยี ประกอบด้วย ตวั ป้อน (Input) กระบวนการ (Process) และผลลพั ธ์ (Output) การสร้างส่ิงของเคร่ืองใชต้ ามความสนใจ กาหนดปัญหา หรือความตอ้ งการ รวบรวมขอ้ มลู เลือก วิธีการออกแบบเป็ นภาพร่าง ๓ มิติ หรือแผนท่ีความคิด สร้างชิ้นงาน และประเมินผลงาน การใช้ เทคโนโลยีที่เป็ นภูมิปัญญาทอ้ งถิ่นในการสร้างงานต่าง ๆ การนาความรู้และทกั ษะการสร้างชิ้นงานไป ประยุกต์ใช้ ในการส่ิงของเคร่ืองใช้ที่เก่ียวข้องกับชิ้นงานอ่ืนอีก เช่น กลไกและการควบคุมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ การสารวจตนเองเก่ียวกบั ความสนใจ ความสามารถ และทกั ษะ คุณธรรมในการประกอบ อาชีพ โดยใช้กระบวนการทางาน การจัดการ การทางานร่วมกัน กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการ เทคโนโลยี การฝึกปฏิบตั ิ การอภิปราย และการแสวงหาความรู้ เพ่ือให้เกิดความรู้ความคิด ความเขา้ ใจและ มีความสามารถทางานตามข้นั ตอนกระบวนการทางาน มีทกั ษะการจดั การในงานต่าง ๆ เป็ นระบบ ใช้ ความรู้และทกั ษะการสร้างชิ้นงานไปประยุกตใ์ ช้ในงานอ่ืน ใช้อุปกรณ์ และเคร่ืองมือไดอ้ ยา่ งคล่องแคล่ว รวดเร็ว ปลอดภยั สามารถออกแบบและสร้างชิ้นงานตามความคิดสร้างสรรคแ์ ละกระบวนการเทคโนโลยี รู้ วิธีท่ีจะไดข้ อ้ มูลเป็นข้นั ตอนถ่ายทอดความคดิ และสื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้ไดด้ ี เห็นคุณค่าของการทางาน ทางาน ร่วมกบั ผูอ้ ื่นอย่างรู้หน้าที่ มีมารยาทในการทางาน นาความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจไปประยุกต์ใช้ในการ ทางานในชีวิตประจาวนั มีจิตสานึกในการใชพ้ ลงั งานและทรัพยากรอยา่ งประหยดั และคุม้ ค่า ลกั ษณะนิสัย การทางานเหมาะสม รักการทางาน มีเจตคติที่ดีต่อการทางาน มีคณุ ธรรมที่สมั พนั ธ์กบั อาชีพ ศึกษา วิเคราะห์ หลักการเบ้ืองต้นของการแก้ปัญหา โดยการพิจารณาปัญหา การวางแผน แกป้ ัญหา การแกป้ ัญหา การตรวจสอบและปรับปรุง การใชค้ อมพิวเตอร์ในการคน้ หาขอ้ มูลการเก็บรักษาขอ้ มูล แบบสาเนาถาวรท่ีเป็นเอกสาร แฟ้มสะสมงาน ในส่ือบนั ทึกรูปแบบตา่ ง ๆ การจดั ทาขอ้ มูลเพ่ือการนาเสนอ เช่น กราฟ ตาราง แผนภาพ การใชซ้ อฟตแ์ วร์นาเสนอ การเลือกซอฟตแ์ วร์ประยกุ ตใ์ นการนาเสนอ การใช้ คอมพวิ เตอร์ช่วยสร้างชิ้นงานจากจินตนาการหรืองานท่ีทาในชีวิตประจาวนั การอา้ งอิงแหล่งขอ้ มลู โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสืบคน้ ขอ้ มูล กระบวนการแก้ปัญหาการเรียนรู้ การฝึ ก ปฏิบัติ และการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ และสามารถส่ือสารหลักการเบ้ืองตน้ ของการ แกป้ ัญหา มีทกั ษะการใชค้ อมพิวเตอร์ในการคน้ หาขอ้ มูล และเก็บรักษาขอ้ มูลในรูปแบบตา่ ง ๆ สามารถใช้ ซอฟต์แวร์ประยุกตใ์ นการนาเสนอขอ้ มูลในรูปแบบที่เหมาะสมเห็นคุณค่าของการนาความรู้ไปใช้ให้เกิด ประโยชน์ในการทางาน ใชค้ อมพิวเตอร์สร้างชิ้นงานไดอ้ ยา่ งเป็นข้นั ตอน และมีประสิทธิภาพ มีจิตสานึก
และรับผิดชอบในการใชเ้ ทคโนโลยี โดยใชท้ รัพยากรอยา่ งคุม้ ค่า ไม่คดั ลอกผลงานผูอ้ ื่น ใชค้ าสุภาพ และ ไมส่ ร้างความเสียหายตอ่ ผอู้ ื่น รหัสตวั ชี้วดั ง ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ง ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ง ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔ , ป.๖/๕ ง ๔.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒ รวม ๑๓ ตวั ชีว้ ดั กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำองั กฤษ โครงสร้ำงรำยวชิ ำ รายวิชาตามโครงสร้างหลกั สูตรโรงเรียนบา้ นทบั กมุ ารทอง พุทธศกั ราช ๒๕๕๗ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ
ระดบั ช้ัน รหสั รำยวิชำภำษำองั กฤษ เวลำเรียน(ชั่วโมง/ปี ) ช้นั ป. ๑ อ ๑๑๑๐๑ ชื่อรำยวชิ ำ ๔๐ ช้นั ป. ๒ อ ๑๒๑๐๑ ๔๐ ช้นั ป. ๓ อ ๑๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๔๐ ช้นั ป. ๔ อ ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๘๐ ช้นั ป. ๕ อ ๑๕๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๘๐ ช้นั ป. ๖ อ ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๘๐ ภาษาองั กฤษ ภาษาองั กฤษ อ ๑๑๑๐๑ ภำษำองั กฤษ คำอธิบำยรำยวิชำพืน้ ฐำน ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี ๑ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ เวลำ ๔๐ ช่ัวโมง
ระบุตวั อกั ษรและเสียงตวั อกั ษรของภาษาองั กฤษและภาษาไทย อ่านออกเสียง สะกดคาง่าย ๆ สามารถ เลือกภาพตรงตามความหมายของคาและกลุ่มคาท่ีฟัง ปฏิบตั ิตามและใชค้ าสั่งง่ายๆ บอกความตอ้ งการง่าย ๆ ของ ตนเอง พูดขอและให้ขอ้ มูลในการสื่อสารระหว่างบุคคลเก่ียวกับตวั เองและเรื่องใกลต้ ัวในสถานการณ์ง่าย ๆ ท่ีเกิดข้ึนในห้องเรียน พร้อมท้งั ทาท่าประกอบตามวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา บอกชื่อ รวบรวม คาศพั ท์ และ ตอบคาถามเก่ียวกบั เรื่องใกลต้ วั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเทศกาลสาคญั ของเจา้ ของภาษาอย่างง่าย ๆ และเขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมที่เหมาะสมกบั วยั ถูกตอ้ งตาม กาลเทศะ ใฝ่ เรียนรู้ รักความเป็ นไทย มีความ มุ่งมนั่ และรักการทางาน รหัสตวั ชี้วดั ต ๑.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ ,ป.๑/๓ ,ป.๑/๔ ต ๑.๒ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ ,ป.๑/๓ ,ป.๑/๔ ต ๑.๓ ป.๑/๑ ต ๒.๑ ป.๑/๑ ,ป.๑/๒ ,ป.๑/๓ ต ๒.๒ ป.๑/๑ ต ๓.๑ ป.๑/๑ ต ๔.๑ ป.๑/๑ ต ๔.๒ ป.๑/๑ (รวม ๑๖ ตวั ชีว้ ัด) อ ๑๒๑๐๑ ภำษำองั กฤษ คำอธิบำยรำยวิชำพืน้ ฐำน ช้ันประถมศึกษำปี ที่ ๒ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ เวลำ ๔๐ ชั่วโมง
ปฏิบตั ิตามคาส่ัง คาขอร้อง คาและประโยคง่าย ๆ ในสถานการณ์ใกลต้ วั สะกดคา อ่านออกเสียงคา และประโยคง่าย ๆ ตามหลกั การอ่านออกเสียง เขา้ ใจสนทนาส้ัน ๆ บทอ่านและนิทานง่าย ๆ ท่ีมีภาพประกอบ พูดคาหรือประโยคส้ัน ๆ เพ่ือสร้างความสัมพนั ธ์ระหว่างบุคคลแสดงความตอ้ งการของตน ให้ขอ้ มูลเก่ียวกับ ตนเองและเร่ืองใกล้ตวั ด้วยท่าทาง ภาพ คาและประโยคส้ัน ๆในการติดต่อปฏิสัมพันธ์ตามวฒั นธรรมของ เจ้าของภาษา ระบุ และอ่านออกเสียงตัวอกั ษร สระของภาษาองั กฤษได้ถูกต้อง รู้จกั กิจกรรมและคาศพั ท์ เก่ียวกบั วฒั นธรรม เทศกาลของเจา้ ของภาษา รู้จกั และรวบรวมคาศพั ทท์ ่ีเก่ียวขอ้ งกบั ส่ิงใกลต้ วั เห็นประโยชน์ ของการรับรู้ภาษาอังกฤษในการแสวงหาความรู้ ความบันเทิงในเร่ืองท่ีเก่ียวกับตนเอง ครอบครัว และ ชีวิตประจาวนั และใช้ท่าทางประกอบการสนทนาตามวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ใฝ่ เรียนรู้ รักความเป็นไทย มี ความมุ่งมนั่ และรักการทางาน รหัสตัวชีว้ ัด ต ๑.๑ ป.๒/๑ ,ป.๒/๒ ,ป.๒/๓ ,ป.๒/๔ ต ๑.๒ ป.๒/๑ ,ป.๒/๒ ,ป.๒/๓ ,ป.๒/๔ ต ๑.๓ ป.๒/๑ ต ๒.๑ ป.๒/๑ ,ป.๒/๒ ,ป.๒/๓ ต ๒.๒ ป.๒/๑ ต ๓.๑ ป.๒/๑ ต ๔.๑ ป.๒/๑ ต ๔.๒ ป.๒/๑ (รวม ๑๖ ตัวชี้วดั ) อ ๑๓๑๐๑ ภำษำองั กฤษ คำอธิบำยรำยวิชำพื้นฐำน ช้ันประถมศึกษำปี ที่ ๓ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ เวลำ ๔๐ ช่ัวโมง
ปฏิบตั ิตามคาส่งั คาขอร้อง อา่ นออกเสียงคา สะกดคา กลมุ่ คา ประโยคบทพดู เขา้ จงั หวะง่าย ๆ นิทานงา่ ย ๆ ถูกตามหลกั การอ่านออกเสียง พูดสนทนาสื่อสารดว้ ยคาส้ัน ๆ ง่าย ๆ ใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง และเพื่อน ความตอ้ งการ ความรู้สึกเก่ียวกบั สิ่งต่าง ๆ ใกลต้ วั หรือกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดจนสถานการณ์ ง่าย ๆ การจดั หมวดหมู่ คา ตามประเภทของบุคคลสัตว์และสิ่งของที่เกิดข้ึนด้วยท่าทางประกอบการ สนทนาตามวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ภาษา และวฒั นธรรมไทยในเรื่อง มารยาท เทศกาล วนั สาคญั งานฉลอง ชีวิตความเป็นอยู่ โดยใช้กระบวนการ การฝึ กทักษะทางภาษาการฝึ ก ปฏิบัติในสถานการณ์จริงหรือสถานการณ์จาลองท้ังการฟัง การพูด การอ่าน การเปรียบเทียบ การเก็บ รวบรวมขอ้ มลู การแสดงบทบาทสมมุติ เห็นคุณค่าและความสาคญั ของการนาความรู้ ทกั ษะไปใชป้ ระโยชน์ ในชีวติ ประจาวนั มีความซ่ือสัตยส์ ุจริต มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ รักความเป็นไทย มีความมงุ่ มน่ั และรักการทางาน รหสั ตวั ชีว้ ดั ต ๑.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓ ,ป.๓/๔ ต ๑.๒ ป.๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓ ,ป.๓/๔ ,ป.๓/๕ ต ๑.๓ ป.๓/๑ ,ป.๓/๒ ต ๒.๑ ป.๓/๑ ,ป.๓/๒ ,ป.๓/๓ ต ๒.๒ ป.๓/๑ ต ๓.๑ ป.๓/๑ ต ๔.๑ ป.๓/๑ ต ๔.๒ ป.๓/๑ (รวม ๑๘ ตัวชีว้ ดั ) อ ๑๔๑๐๑ ภำษำองั กฤษ คำอธิบำยรำยวชิ ำพื้นฐำน ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี ๔ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ เวลำ ๘๐ ช่ัวโมง
ออกเสียงตัวอักษร สะกดคา กลุ่มคา ข้อความ และประโยค ส้ัน ๆ บทพูดเข้าจังหวะ บทสนทนา และนิทานง่าย ๆ ปฏิบตั ิตามคาสง่ั คาขอร้อง คาแนะนา และคาขออนุญาตงา่ ย ๆ พูดสนทนาส่ือสาร ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน และครอบครัว แสดงความตอ้ งการ ขอความช่วยเหลือ แสดงความรู้สึกและความสัมพนั ธ์ เกี่ยวกบั สิ่งต่าง ๆ ใกลต้ วั กิจกรรมในหอ้ งเรียนและ สถานศึกษา เขา้ ร่วมกิจกรรมและเรียนรู้วฒั นธรรมของเจา้ ภาษา เร่ือง มารยาท เทศกาล วนั สาคญั งาน ฉลอง ชีวิตความเป็นอยู่ ใชภ้ าษาองั กฤษในการสืบคน้ ขอ้ มูล โดยใชก้ ระบวน การสื่อสาร การคิดวิเคราะห์ การใช้สื่อ เทคโนโลยีในการสืบค้นขอ้ มูลและการบนั ทึกข้อมูล มีวินัย ใฝ่ เรียนรู้ มีความมุ่งมน่ั ในการ ทางาน และมีจิตสาธารณะ รหัสตัวชีว้ ัด ต ๑.๑ ป.๔/๑ ,ป.๔/๒ ,ป.๔/๓ ,ป.๔/๔ ต ๑.๒ ป.๔/๑ ,ป.๔/๒ ,ป.๔/๓ ,ป.๔/๔ ,ป.๔/๕ ต ๑.๓ ป.๔/๑ ,ป.๔/๒ ,ป.๔/๓ ต ๒.๑ ป.๔/๑ ,ป.๔/๒ ,ป.๔/๓ ต ๒.๒ ป.๔/๑ ,ป.๔/๒ ต ๓.๑ ป.๔/๑ ต ๔.๑ ป.๔/๑ ต ๔.๒ ป.๔/๑ (รวม ๒๐ ตวั ชี้วัด) อ ๑๕๑๐๑ ภำษำองั กฤษ คำอธิบำยรำยวิชำพื้นฐำน ช้ันประถมศึกษำปี ที่ ๕ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ เวลำ ๘๐ ชั่วโมง ใช้ภาษาสื่อสารด้วยถ้อยคา น้ าเสียงและกริยาท่าทางสุภาพเหมาะสมตามมารยาท สังคม วฒั นธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีของเจา้ ของภาษาในการเขา้ ร่วมกิจกรรม การปฏิบัติตามประโยค
คาส่ัง คาขอร้อง คาแนะนา การบอกใจความสาคญั และคาตอบจากบทสนทนา นิทานส้ัน ๆ การเขียน ภาพ สัญลกั ษณ์ แผนผงั แผนภูมิ เครื่องหมายตรงตามความหมายเก่ียวกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดลอ้ ม อาหาร เครื่องดื่ม เวลาวา่ ง นนั ทนาการ สุขภาพ สวสั ดิการ การซ้ือ -ขาย และลมฟ้าอากาศ โดยใชท้ กั ษะการฟังและการอ่านที่ถูกต้องตามหลกั การอ่านเพื่อใชส้ ่ือสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนใน ห้องเรียนและสถานศึกษา มีทกั ษะการพูดและการเขียนโตต้ อบในการสื่อสารระหว่างบุคคล การแสดง ความตอ้ งการ ขอความช่วยเหลือ การตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ การแสดงความรู้สึกของ ตนเองพร้อมท้งั ให้เหตุผลส้ัน ๆ ขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรื่องใกลต้ วั การ ตอบคาถามบอกความสาคญั ของเทศกาล วนั สาคญั งานฉลองและชีวิตความเป็นอยงู่ า่ ย ๆ ของเจา้ ของภาษา บอกความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยค การใชเ้ ครื่องหมายวรรคตอน และการ ลาดบั ตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศ ใช้กระบวนการทกั ษะทางภาษาในการสืบคน้ คน้ ควา้ และรวบรวมคาศพั ทใ์ หส้ ามารถนาเสนอขอ้ มูลที่เรียนรู้ มีเจตคติและวฒั นธรรมในการใชภ้ าษาต่างประเทศ ใหเ้ หมาะสมตามสถานการณ์ต่าง ๆ มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ มีความมุ่งมน่ั ในการทางาน และมีจิตสาธารณะ รหัสตวั ชีว้ ัด ต ๑.๑ ป.๕/๑ ,ป.๕/๒ ,ป.๕/๓ ,ป.๕/๔ ต ๑.๒ ป.๕/๑ ,ป.๕/๒ ,ป.๕/๓ ,ป.๕/๔ ,ป.๕/๕ ต ๑.๓ ป.๕/๑ ,ป.๕/๒ ,ป.๕/๓ ต ๒.๑ ป.๕/๑ ,ป.๕/๒ ,ป.๕/๓ ต ๒.๒ ป.๕/๑ ,ป.๕/๒ ต ๓.๑ ป.๕/๑ ต ๔.๑ ป.๕/๑ ต ๔.๒ ป.๕/๑ (รวม ๒๐ ตัวชี้วัด) อ ๑๖๑๐๑ ภำษำองั กฤษ คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี ๖ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ เวลำ ๘๐ ช่ัวโมง
ใชภ้ าษาสื่อสารดว้ ยถอ้ ยคา น้าเสียงและกริยาท่าทางสุภาพเหมาะสมตามมารยาททางสังคม และ วฒั นธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีของเจา้ ของภาษาในการเขา้ ร่วมกิจกรรม การปฏิบตั ิตามประโยคคาสั่ง คาขอร้อง คาแนะนาในการเล่นเกม การวาดภาพ การทาอาหาร เคร่ืองด่ืม และการประดิษฐ์ บทสนทนา ขอ้ ความ นิทาน บทกลอนส้ัน ๆ การบอกใจความสาคญั และตอบคาถาม ระบุประโยค ขอ้ ความส้ัน ๆ ตรงตามภาพ สัญลกั ษณ์ แผนผงั แผนภูมิ เคร่ืองหมายตรงตามความหมายเกี่ยวกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน ส่ิงแวดลอ้ ม อาหาร เครื่องดื่ม เวลาว่าง นนั ทนาการ สุขภาพ สวสั ดิการ การซ้ือ -ขาย และลม ฟ้าอากาศ โดยใชท้ กั ษะการฟังและการอ่านที่ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่านเพื่อใชส้ ื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา มีทกั ษะการพูดและการเขียนโตต้ อบในการส่ือสารระหวา่ งบุคคล การแสดงความตอ้ งการ ขอความช่วยเหลือ การตอบรับและปฏิเสธการใหค้ วามช่วยเหลือ การขอและให้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ วั แสดงความรู้สึกของตนเองพร้อมท้งั ให้เหตุผล ส้นั ๆ การตอบคาถามบอกความสาคญั ของเทศกาล วนั สาคญั งานฉลองและชีวติ ความเป็นอยงู่ ่าย ๆ ของ เจา้ ของภาษา บอกความเหมือนหรือความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยค การใช้เคร่ืองหมาย วรรคตอน และการลาดบั ตามโครงสร้างประโยคโดยใช้ประโยคเด่ียวและประโยคผสม ส่ือความหมายให้ เหมาะสมตามสถานการณ์ต่าง ๆ ของภาษาต่างประเทศ งานฉลองและประเพณีของเจ้าของภาษา โดยใช้ กระบวนการทกั ษะทางภาษาในการสืบคน้ คน้ ควา้ และรวบรวมคาศพั ทใ์ หส้ ามารถนาเสนอขอ้ มูลท่ีเรียนรู้ มีเจตคติท่ีดีต่อภาษาองั กฤษเห็นคุณค่าของการใชภ้ าษาองั กฤษมีนิสัยรักการอ่าน และสามารถนาความรู้ไป ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั มีความซ่ือสัตยส์ ุจริต มีวินยั ใฝ่เรียนรู้ รักความเป็นไทย มีความมงุ่ มน่ั และรักการทางาน รหัสตวั ชี้วัด ต ๑.๑ ป.๖/๑ ,ป.๖/๒ ,ป.๖/๓ ,ป.๖/๔ ต ๑.๒ ป.๖/๑ ,ป.๖/๒ ,ป.๖/๓ ,ป.๖/๔ ,ป.๖/๕ ต ๑.๓ ป.๖/๑ ,ป.๖/๒ ,ป.๖/๓ ต ๒.๑ ป.๖/๑ ,ป.๖/๒ ,ป.๖/๓ ต ๒.๒ ป.๖/๑ ,ป.๖/๒ ต ๓.๑ ป.๖/๑ ต ๔.๑ ป.๖/๑ ต ๔.๒ ป.๖/๑ (รวม ๒๐ ตวั ชี้วัด) บทท่ี ๔ กจิ กรรมพฒั นำผ้เู รียน ตำมหลกั สูตรโรงเรียนบ้ำนทับกมุ ำรทอง
ควำมหมำยและควำมสำคญั ของกจิ กรรมพฒั นำผ้เู รียน กิจกรรมพฒั นาผเู้รียนเป็นกิจกรรมสาคญั ท่ีหลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นทบั กุมารทอง พุทธศกั ราช ๒๕๕๗ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ กาหนดให้จดั ทาข้ึนให้ผูเ้ รียน ทุกคน ทุกระดบั ช้นั เพ่ือส่งเสริมพฒั นาความสามารถของตนเองตามความถนัด ความสนใจ ให้เต็มศกั ยภาพ โดยมุ่งเน้นการพฒั นาองคร์ วมของความเป็ นมนุษยท์ ้งั ดา้ นร่างกาย สติปัญญา อารมณ์และสังคม สร้างเยาวชน ของชาติใหเ้ ป็นผมู้ ีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินยั ปลกู ฝังและสร้างจิตสานึกของการทาประโยชน์เพื่อสังคมและ สามารถบริหารการจดั การตนเอง กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียนเป็ นกิจกรรมที่จะส่งเสริมให้ผูเ้ รียนได้พฒั นาความสามารถของตนเองตาม ศกั ยภาพ เพิ่มเติมจากกิจกรรมการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ท้งั ๘ กลุ่ม การเขา้ ร่วม และปฏิบตั ิกิจกรรมท่ี เหมาะสมร่วมกบั ผอู้ ่ืนอยา่ งมีความสุขกบั กิจกรรมที่เลือกดว้ ยตนเองตามความถนดั ความสนใจอย่างแทจ้ ริง จะเสริมสร้างและพัฒนาองค์รวมของความเป็ นมนุษย์ให้ครบทุกด้านสร้างควำมเป็ นมนุษย์ท่ีสมบูรณ์ ปลกู ฝังและสร้ำงจิตสำนึกของกำรทำประโยชน์เพอื่ สงั คม จดุ มุ่งหมำยของกจิ กรรมพฒั นำผู้เรียน กำรจดั ทำกิจกรรมพฒั นำผเู้ รียนในหลกั สูตรโรงเรียนบำ้ นทบั กมุ ำรทอง มีจุดประสงคส์ ำคญั คือ ๑. เพื่อช่วยเพ่ิมพนู ประสบกำรณ์ของผเู้ รียน ไดฝ้ ึกฝนทกั ษะ ไดเ้ รียนรู้ โดยกำรปฏิบตั ิจริง อนั เป็น กำรสอดคลอ้ งกบั แนวกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ียดึ ผเู้ รียนเป็นสำคญั ๒. เพ่อื เสริมสร้ำงคุณลกั ษณะดีเด่นของควำมเป็นประชำธิปไตย ฝึกกำรเป็นผนู้ ำ ผตู้ ำม ฝึกกำร ทำงำนร่วมกนั ฝึกกำรแสดงควำมคิดเห็น ฝึกควำมรับผดิ ชอบ ๓. เพอ่ื ก่อให้เกิดควำมสำมคั คี รักหมคู่ ณะ เกิดควำมเขำ้ ใจซ่ึงกนั และกนั เพรำะกำรปฏิบตั ิกิจกรรม ตอ้ งทำงำนเป็นกล่มุ ตอ้ งร่วมกนั คิด ร่วมกนั ทำ ไดพ้ บควำมสุข ควำมทกุ ขร์ ่วมกนั เกิดควำมประทบั ใจซ่ึงกนั และกนั ๔. ส่งเสริมควำมคิดริเริ่มสร้ำงสรรค์ ควำมแปลกใหม่ เพรำะกำรทำกิจกรรมร่วมกนั ตอ้ งร่วมกนั ศึกษำคน้ ควำ้ คน้ หำวธิ ีกำรที่ดีกวำ่ ทำใหค้ วำมคิดแตกฉำน พบเทคนิค วิธีกำรท่ีแปลก ๆ ใหม่ ๆ ในกำร พฒั นำผลงำน ๕. เพอื่ ช่วยใหผ้ ูเ้ รียนมีทำงเลือก มีโอกำสแสดงออกตำมแนวคิด ควำมสนใจของตนเอง มีโอกำสใน กำรเลือกตำมควำมตอ้ งกำร ควำมถนดั ช่วยพฒั นำศกั ยภำพของผเู้ รียนเป็นรำยบคุ คล ๖. เพ่อื ฝึกผเู้ รียนใหเ้ ป็นสมาชิกที่ดีของสังคม ชุมชน และประเทศชาติ ท้งั ในปัจจุบนั และอนาคต เพราะกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนมีลกั ษณะเป็นสงั คมเลก็ ท่ีจาลองจากสงั คมใหญ่ มีกฎระเบียบ กติกา มีความ
รับผดิ ชอบท้งั ในสิทธิหนา้ ท่ีซ่ึงเป็นการปลูกฝังลกั ษณะนิสัยและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องการอยู่ ร่วมกนั ในสังคมปกติ ๗. เพ่ือช่วยใหผ้ สู้ อนรู้จกั ผเู้ รียนแตล่ ะคนดีข้ึน เพราะผลงานในการทากิจกรรมของผเู้ รียน จะช่วยใหผ้ สู้ อนเขา้ ใจผเู้ รียนและประเมินคุณคา่ คุณภาพของนกั เรียนไดด้ ี และถูกตอ้ งมากข้นึ รู้จกั และเขา้ ใจความสนใจของผูเ้ รียน ความถนดั ของผเู้ รียน ช่วยใหผ้ สู้ อนทราบขอ้ มูลพ้ืนฐานของผูเ้ รียนท่ีถกู ตอ้ ง และ สามารถส่งเสริม สนบั สนุน หรือแกไ้ ขขอ้ บกพร่องของผเู้ รียนไดถ้ ูกแนวทาง ๘. เพื่อใชเ้ ป็นขอ้ มลู ในการปรับปรุงหลกั สูตรและการเรียนการสอนของสถานศึกษา เพราะ พฤติกรรมการแสดงออกของผเู้ รียนในการปฏิบตั ิกิจกรรม เป็นผลท่ีบง่ ช้ีถึงความสาเร็จของหลกั สูตรและการ เรียนการสอนของสถานศึกษาวา่ บรรลผุ ลตามจุดมงุ่ หมายหรือไม่ มากนอ้ ยเพยี งใด หลกั สูตรควรจะตอ้ งมี การปรับปรุงหรือพฒั นาในส่วนใด หลกั กำรจัดกจิ กรรมพฒั นำผู้เรียน ๑. มีกำรกำหนดวตั ถุประสงค์ และแนวปฏิบตั ิท่ีชดั เจนเป็นรูปธรรม ๒. จดั ใหเ้ หมำะสมกบั วยั วุฒิภำวะ ควำมสนใจ ควำมถนดั และควำมสำมำรถของผเู้ รียน ๓. บูรณำกำรกบั ชีวิตจริง ใหผ้ เู้ รียนไดต้ ระหนกั ถึงควำมสำคญั ของกำรเรียนรู้ตลอดชีวิต ๔. ใชก้ ระบวนกำรกลุ่มในกำรจดั ประสบกำรณ์เรียนรู้ ฝึกใหค้ ิดวเิ ครำะห์ สร้ำงสรรค์ จินตนำกำร ท่ีเป็นประโยชน์ และสัมพนั ธก์ บั ชีวิตในแตล่ ะช่วงวยั อยำ่ งต่อเน่ือง ๕. จำนวนสมำชิกเหมำะสมกบั ลกั ษณะของกิจกรรม ๖. มีกำรกำหนดเวลำในกำรจดั กิจกรรมให้เหมำะสมตำมโครงสร้ำงหลกั สูตรสถานศึกษา ๗. ผเู้ รียนเป็นผดู้ าเนินการ มีครูเป็นท่ีปรึกษา ถือเป็นหนา้ ที่และงานประจา โดยคานึงถึง ความปลอดภยั ๘. ยดึ หลกั การมีส่วนร่วม โดยเปิ ดโอกาสใหค้ รู พอ่ แม่ ผปู้ กครอง ชุมชน องคก์ ร ท้งั ภาครัฐ และเอกชน มีส่วนร่วมในการจดั กิจกรรม ๙. มีการประเมินผลการปฏิบตั ิกิจกรรม ดว้ ยวิธีที่หลากหลาย และสอดคลอ้ งกบั กิจกรรมอยา่ งเป็น ระบบและต่อเน่ือง โดยใหถ้ ือวา่ เป็นเกณฑป์ ระเมินผลการผา่ นช่วงช้นั เรียน โครงสร้ำงและอตั รำเวลำจดั กจิ กรรม กิจกรรมพฒั นำผ้เู รียน ป. ๑ ระดบั ประถมศึกษำ ป. ๖ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ๑. กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
๒. ลกู เสือ – ยุวกำชำด ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓. กิจกรรมชมรม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔. กจิ กรรมเพื่อสังคม และสำธำรณประโยชน์ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ เวลำเรียนรวม ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ กำรดำเนนิ กำรกจิ กรรมพฒั นำผู้เรียนโรงเรียนบ้ำนทับกมุ ำรทอง โรงเรี ยนบ้านทับกุมารทอง จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรี ยนโดยมุ่งให้ผู้เรี ยนเกิดการเรี ยนรู้จาก ประสบการณ์ตรง ไดฝ้ ึ กปฏิบตั ิจริงและคน้ พบความถนดั ของตนเอง สามารถคน้ ควา้ หาความรู้เพ่ิมเติมตาม ความสนใจจากแหลง่ เรียนรู้ท่ีหลากหลาย บาเพญ็ ประโยชน์เพอื่ สังคม มีทกั ษะในการดาเนินงาน ส่งเสริมให้ มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ สังคม ศีลธรรม จริยธรรม ให้ผูเ้ รียนรู้จกั และเขา้ ใจตนเอง สามารถวางแผนชีวิตและ อาชีพไดอ้ ยา่ งเหมาะสม กจิ กรรมพฒั นำผ้เู รียนโรงเรียนบ้ำนทับกุมำรทอง ๑. กจิ กรรมแนะแนว โรงเรียนบา้ นทบั กุมารทองไดจ้ ดั กิจกรรมแนะแนวเพอ่ื ช่วยเหลือและพฒั นา ผเู้ รียน ดงั น้ี ๑. จัดกิจกรรมเพ่ือให้ครูได้รู้จักและช่วยเหลือผูเ้ รียนมากข้ึน โดยใช้กระบวนการทาง จิตวิทยา การจดั บริการสนเทศ โดยจดั ให้มีเอกสารเพื่อใช้สารวจขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตวั ผูเ้ รียน ดว้ ยการสังเกต การสมั ภาษณ์ การใชแ้ บบสอบถาม การเขียนประวตั ิ การพบผปู้ กครองก่อนและระหว่างเรียน การเยย่ี มบา้ น นักเรียน การให้ความช่วยเหลือผูเ้ รียนในเร่ืองสุขภาพจิต เศรษฐกิจ การจดั ทาระเบียนสะสม สมุดรายงาน ประจาตวั นกั เรียน และบตั รสุขภาพ ๒. จดั กิจกรรมพฒั นาวฒุ ิภาวะทางอารมณ์ โดยทาแบบทดสอบเพื่อรู้จกั และเขา้ ใจ ตนเอง มีทกั ษะในการตดั สินใจ การปรับตวั และการวางแผนเพอ่ื เลือกศึกษาตอ่ เลือกอาชีพ ๓. จดั บริการใหค้ าปรึกษาแก่ผเู้ รียนเป็นรายบุคคล และรายกลุม่ ในดา้ นการศึกษา อาชีพ และส่วนตวั โดยมีผใู้ หค้ าปรึกษาท่ีมีคณุ วุฒิ และมีความเชี่ยวชาญในเร่ืองการให้คาปรึกษา ตลอดจนมี หอ้ งใหค้ าปรึกษาท่ีเหมาะสม ๓.๑ ช่วยเหลือผเู้ รียนที่ประสบปัญหาดา้ นการเงิน โดยการให้ทุนการศึกษาแก่ผเู้ รียน ๓.๒ ติดตามเก็บขอ้ มลู ของนกั เรียนที่สาเร็จการศึกษา ๒. กจิ กรรมนกั เรียน ๒.๑ กจิ กรรมลกู เสือ
ผเู้ รียนในระดบั ช้นั ประถมศึกษำปี ที่ ๑ – ๖ ไดฝ้ ึกอบรมวิชำลูกเสือ เพอื่ ส่งเสริม หลกั กำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอนั มีพระมหำกษตั ริยเ์ ป็ นประมุข ส่งเสริมควำมสำมคั คี มีวินยั และ บำเพญ็ ประโยชน์ตอ่ สงั คม โดยดำเนินกำรจดั กิจกรรมตำมขอ้ กำหนดของคณะกรรมกำรลูกเสือแห่งชำติ ๒.๑.๑ กจิ กรรมลูกเสือ ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี ๑ – ๓ เปิ ดประชุมกอง ดาเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจดั กิจกรรมใหศ้ ึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบตั ิกิจกรรมตามฐาน โดยเนน้ ระบบหมู่ สรุปผลการปฏิบตั ิกิจกรรม ปิ ดประชุมกอง โดยใหผ้ เู้ รียนศึกษาและฝึกปฏิบตั ิในเร่ือง ๑. เตรียมลกู เสือสารอง นิยายเร่ืองเมาคลี ประวตั ิการเริ่มกิจการลูกเสือสารอง การทาความเคารพเป็ นหมู่ (แกรนด์ฮาวล์) การทาความเคารพเป็ นรายบุคคล การจบั มือซ้าย ระเบียบแถว เบ้ืองตน้ คาปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของลกู เสือสารอง ๒. ลูกเสือสารองดาวดวงที่ ๑ ๒ และ ๓ อนามยั ความสามารถเชิงทกั ษะ การสารวจ การคน้ หา ธรรมชาติ ความปลอดภยั บริการ ธง และประเทศต่าง ๆ การฝี มือ กิจกรรมกลางแจ้ง การบนั เทิง การผูก เงื่อน คาปฏิญาณ และกฎของลูกเสือสารอง โดยใช้กระบวนการทางาน กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม กระบวนการจัดการ กระบวนการคดิ ริเริม สร้างสรรค์ กระบวนการฝึกปฏิบตั ิทางลูกเสือ กระบวนการทางเทคโนโลยี และภมู ิปัญญาทอ้ งถิ่นไดอ้ ยา่ งเหมาะสม เพ่ือให้มีความรู้ ความเขา้ ใจในกิจกรรมลูกเสือ สามารถปฏิบตั ิตามคาปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของ ลูกเสือสารอง มีนิสัยในการสงั เกต จดจา เชื่อฟัง และพ่ึงตนเอง ซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบวนิ ยั และเห็นอกเห็น ใจผูอ้ ื่น บาเพ็ญตนเพ่ือสาธารณประโยชน์ รู้จกั ทาการฝี มือ พฒั นากาย จิตใจ และศีลธรรม ท้ังน้ีโดยไม่ เก่ียวขอ้ งกบั ลทั ธิการเมืองใด ๆ สนใจและอนุรักษธ์ รรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม นาไปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ หมำยเหตุ - เมื่อผเู้ รียนผำ่ นกำรทดสอบในขอ้ ๑ แลว้ จะไดร้ ับเคร่ืองหมำยลูกเสือสำรอง - เม่ือผเู้ รียนไดป้ ฏิบตั ิกิจกรรมและผา่ นการสอบแลว้ จะไดร้ ับเคร่ืองหมายดาวดวงที่ ๑ ๒ และ ๓ ตามลาดบั - สาหรับวิชาพิเศษ ใหใ้ ชข้ อ้ บงั คบั คณะลกู เสือแห่งชาติวา่ ดว้ ยการปกครองหลกั สูตร และวิชาพเิ ศษลกู เสือสารอง (ฉบบั ท่ี ๑๐) พ.ศ. ๒๕๒๒ ๒.๑.๒ กจิ กรรมลกู เสือ ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี ๔ - ๖ เปิ ดประชุมกอง ดำเนินกำรตำมกระบวนกำรของลกู เสือ และจดั กิจกรรมใหศ้ ึกษำ วิเครำะห์ วำงแผน ปฏิบตั ิกิจกรรมตำมฐำน โดยเนน้ ระบบหมู่ สรุปผลกำรปฏิบตั ิกิจกรรม ปิ ดประชุมกอง โดยใหผ้ เู้ รียนศึกษำและฝึกปฏิบตั ิในเรื่อง
๑. ลูกเสือตรี ควำมรู้เกี่ยวกับขบวนกำรลูกเสือ คำปฏิญำณและกฎของลูกเสือสำมัญ กิจกรรม กลำงแจง้ ระเบียบแถว ๒. ลกู เสือโท กำรรู้จกั ดูแลตนเอง กำรช่วยเหลือผอู้ ่ืน กำรเดินทำงไปยงั สถำนท่ีต่ำง ๆ ทกั ษะในทำงวิชำลกู เสือ งำนอดิเรกและเร่ืองท่ีน่ำสนใจ คำปฏิญำณ และกฎของลกู เสือ ระเบียบแถว ๓. ลกู เสือเอก การพ่ึงตนเอง การบริการ การผจญภยั วิชาการของลูกเสือ ระเบียบแถว โดยใชก้ ระบวนการทางาน กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการกลุ่ม กระบวนการจดั การ กระบวนการคิด ริเร่ิม สร้างสรรค์ กระบวนการฝึกปฏิบตั ิทางลกู เสือ กระบวนการทางเทคโนโลยี และภูมิปัญญาทอ้ งถิ่นไดอ้ ยา่ งเหมาะสม เพ่ือให้มีความรู้ ความเขา้ ใจในกิจกรรมลูกเสือ สามารถปฏิบตั ิตามคาปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ ของลูกเสือสามญั มีนิสัยในการสังเกต จดจา เชื่อฟัง และพ่ึงตนเอง ซ่ือสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินยั และเห็นอก เห็นใจผูอ้ ื่น บาเพญ็ ตนเพ่ือสาธารณประโยชน์ รู้จกั ทาการฝี มือ พฒั นากาย จิตใจ และศีลธรรม ท้งั น้ีโดยไม่ เกี่ยวขอ้ งกบั ลทั ธิการเมืองใด ๆ สนใจและอนุรักษธ์ รรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม นาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ หมำยเหตุ - เม่ือผเู้รียนไดป้ ฏิบตั ิกิจกรรม และผำ่ นกำรทดสอบแลว้ จะไดร้ ับเคร่ืองหมำยลกู เสือตรี ลกู เสือโท และลกู เสือเอก ตำมลำดบั - สำหรับวิชำพิเศษ ใหใ้ ชข้ อ้ บงั คบั คณะลูกเสือแห่งชำติวำ่ ดว้ ยกำรปกครองหลกั สูตร และวชิ ำพเิ ศษลกู เสือสำมญั (ฉบบั ท่ี ๑๓) พ.ศ. ๒๕๒๕ ผลกำรเรียนรู้กจิ กรรมลกู เสือ ๑. รู้ เขำ้ ใจและสำมำรถปฏิบตั ิตนตำมคำปฏิญำณ กฎและคติพจนข์ องลูกเสือ ๒. เขำ้ ใจควำมเป็นมำและววิ ฒั นำกำรของลูกเสือ ๓. ปฏิบตั ิตนดว้ ยควำมซ่ือสัตย์ สุจริต มีควำมกลำ้ หำญ อดทน เช่ือมนั่ ในตนเอง มีระเบียบวินยั มีควำมสำมคั คี เห็นอกเห็นใจผอู้ ื่น มีควำมเสียสละ บำเพญ็ ตนเพ่ือสำธำรณประโยชน์ ๔. มีทกั ษะการสังเกต จดจา การใชม้ ือ เคร่ืองมือ การแกไ้ ขปัญหา และทกั ษะในการทางาน ร่วมกนั ๕. พฒั นำตนเองอยเู่ สมอ สร้ำงสรรคง์ ำนฝีมือ สนใจ และพฒั นำเรื่องของธรรมชำติ ๒.๒ กจิ กรรมยวุ กำชำด ผเู้ รียนในระดบั ช้นั ประถมศึกษำปี ท่ี ๑ – ๖ ท่ีเป็ นนกั เรียนหญิงไดฝ้ ึ กอบรมวิชำยุวกำชำด เพื่อ ส่งเสริมหลกั กำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอนั มีพระมหำกษตั ริยเ์ ป็ นประมุข ส่งเสริมพฒั นำผเู้ รียนใหม้ ี คณุ ธรรมจริยธรรม ระเบียบวินยั มีจิตสำนึกในกำรทำประโยชน์ใหแ้ ก่สงั คม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ของสังคมไทย โดยให้ผูเ้ รียนเป็ นผูป้ ฏิบตั ิด้วยตนเองอย่ำงครบวงจร เน้นทกั ษะกระบวนกำรต้งั แต่ศึกษำ วเิ ครำะห์วำงแผน ปฏิบตั ิตำมแผน ประเมิน ปรับปรุงกำรทำงำน และกำรทำงำนร่วมกนั เป็นกลมุ่ ขอบข่ำยกำรจดั กิจกรรมยุวกำชำดไดก้ ำหนดโครงสร้ำงหลกั สูตรยุวกำชำดในสถำนศึกษำ โรงเรียนบำ้ นทบั กมุ ำรทอง ๒ ระดบั ดงั น้ี ยวุ กำชำดระดบั ๑ ช้นั ประถมศึกษำปี ที่ ๑ – ๓ ยวุ กำชำดระดบั ๒ ช้นั ประถมศึกษำปี ที่ ๔ – ๖ ผลกำรเรียนรู้กจิ กรรมยวุ กำชำด ๑. มีอุดมคติในศำนติสุขมีควำมจงรักพกั ดีต่อชำติ ศำสนำ พระมหำกษตั ริย์ ๒. มีควำมรู้ควำมชำนำญในเรื่องกำรรักษำอนำมยั ของตนเองและผอู้ ่ืน ๓. มีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจในหลกั กำรและอดุ มกำรณ์กำชำด มีคณุ ธรรมจริยธรรมและมีจิตใจเมตตำ กรุณำต่อเพือ่ นมนุษย์ ๔. บาเพญ็ ตนใหเ้ ป็นประโยชน์ต่อผอู้ ื่น ชุมชน สังคม และประเทศชาติ ๕. มีจิตสำนึกในกำรอนุรักษท์ รัพยำกรธรรมชำติและส่ิงแวดลอ้ ม ๖. มีสมั พนั ธภำพและมิตรภำพที่ดีต่อบุคคลทวั่ ไป ๓. กจิ กรรมชมรม/ชุมนุม ผเู้ รียนสำมำรถเลือกเขำ้ เป็นสมำชิกชุมนุม วำงแผนกำรดำเนินกิจกรรม ร่วมกนั โดยมีชุมรมท่ีหลำกหลำย เหมำะสมกบั เพศ วยั และควำมสนใจของผเู้ รียน ประกอบดว้ ยกิจกรรม ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม วฒั นธรรม อนุรักษส์ ิ่งแวดลอ้ ม ส่งเสริมประชาธิปไตย ส่งเสริมการเรียนรู้ และคา่ ย วิชาการ การศึกษาดูงาน การฝึกปฏิบตั ิ ๓.๑ ชุมนุมวทิ ยาศาสตร์ จดั ข้ึนเพอ่ื เสริมทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยการปฏิบตั ิจริง สร้างเจตคติที่ดีต่อวิชาวิทยาศาสตร์ พฒั นาทกั ษะชีวิต อนุรักษส์ ่ิงแวดลอ้ ม รู้จกั คิด แกป้ ัญหาทกุ ข้นั ตอนอยา่ งมีระบบและบรู ณาการความรู้ที่ไดไ้ ปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ๓.๒ ชุมนุมนนั ทนาการ จดั กิจกรรมเพือ่ ท่ีมุ่งเนน้ การเรียนรู้อยา่ งหลากหลาย โดยผเู้ รียนได้ ฝึกทกั ษะการทางาน และการแกป้ ัญหา ๓.๓ ชุมนุมคอมพวิ เตอร์ จดั ข้ึนเพือ่ เสริมทกั ษะดา้ นเทคโนโลยใี หก้ บั ผเู้ รียน จดั กิจกรรม โดยใหผ้ เู้ รียนลงมือปฏิบตั ิจริง เกิดการเรียนรู้ดว้ ยกระบวนการเรียนรู้ของตนเอง ๔. กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสำธำรณะประโยชน์ เป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมให้ผเู้ รียนไดท้ าประโยชน์ ตามความสามารถ ความถนดั และความสนใจในลกั ษณะอาสาสมคั ร เพือ่ แสดงถึงความรับผดิ ชอบ ความดี งาม ความเสียสละต่อสงั คม มีจิตใจมุ่งทาประโยชน์ต่อครอบครัว ชุมชนและสังคม กิจกรรมสาคญั ไดแ้ ก่ กิจกรรมบาเพญ็ ประโยชน์ กิจกรรมสร้างสรรคส์ ังคม กิจกรรมดารงรักษา สืบสานศาสนา ศิลปะและวฒั นา ธรรม
เวลาเรียนสาหรับกิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ในส่วนกิจกรรมเพ่ือสงั คมและ สาธารณประโยชน์จดั สรรเวลาใหผ้ เู้ รียนดงั น้ี - ระดบั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑-๖ รวม ๖ ปี จานวน ๖๐ ชวั่ โมง (เฉล่ียปี ละ ๑๐ ชวั่ โมง) การจัดกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณะประโยชน์ ในระดับประถมศึกษาปี ที่ ๑-๖ นาไป สอดแทรกในกิจกรรมลูกเสือ – ยวุ กำชำด ท้งั น้ีการทากิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ให้ผเู้ รียน รายงานแสดงการเขา้ ร่วมกิจกรรมลงในสมดุ บนั ทึก และมีผรู้ ับรองผลการเขา้ ร่วมกิจกรรมทกุ คร้ังท้งั กิจกรรม ในสถานศึกษาและกิจกรรมนอกสถานศึกษา กำรพจิ ำรณำมอบหมำยผ้จู ดั กจิ กรรมพฒั นำผ้เู รียน คณะครูทกุ คนเป็นที่ปรึกษากิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ตามท่ีสถานศึกษามอบหมายโดยมีบทบาท ดงั น้ี ๑. ปฐมนิเทศผเู้ ขา้ เรียนใหเ้ ขา้ ใจเป้าหมาย วธิ ีการจดั กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ๒. เลือกต้งั คณะกรรมการการดาเนินกิจกรรม ๓. ส่งเสริมการจดั ทาแผนงาน / โครงการ โดยใหผ้ เู้ รียนร่วมแสดงความคิดเห็นใน การจดั ทาแผนงานโครงการ และปฏิทินปฏิบตั ิงาน ๔. ประสานงาน และอานวยความสะดวกในดา้ นทรัพยากรตามความเหมาะสม ๕. ใหค้ าปรึกษา ดูแล ติดตามการจดั กิจกรรมของผเู้ รียนใหเ้ ป็นไปตามแผนงานดว้ ย ความเรียบร้อย และปลอดภยั ๖. ประเมินผลการเขา้ ร่วมและปฏิบตั ิกิจกรรมของผเู้ รียน ๗. สรุปและรำยงำนผลกำรจดั กิจกรรมต่อผบู้ ริหำรสถำนศึกษำ ข้นั ตอนกำรดำเนินกำรของกจิ กรรมพฒั นำผ้เู รียน ๑. ประชุมผทู้ ี่เก่ียวขอ้ ง เพอ่ื กำหนดนโยบำย ๒. แตง่ ต้งั คณะทำงำน ๓. สำรวจควำมสนใจของผเู้ รียนและควำมพร้อมของสถำนศึกษำ ๔. กำหนดกิจกรรมพฒั นำผเู้ รียน ๕. วำงแผนร่วมกนั ระหวำ่ งผทู้ ่ีเกี่ยวขอ้ ง จดั ทำแผนงำนโครงกำรและปฏิทินปฏิบตั ิงำน ๖. ปฏิบตั ิงำนตำมแผนท่ีกำหนด ๗. นิเทศ ติดตำม และประเมินผล ๘. สรุป รำยงำนผล
บทที่ ๕ เกณฑ์กำรจบกำรศึกษำ ตำมหลกั สูตรโรงเรียนบ้ำนทับกมุ ำรทอง หลกั สูตรโรงเรียนบำ้ นทบั กุมำรทอง พุทธศกั รำช ๒๕๕๗ (ฉบบั ปรับปรุง คร้ังท่ี ๑ พุทธศกั รำช ๒๕๕๗) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พ้ืนฐำนพุทธศกั รำช ๒๕๕๑ จดั ทาข้ึนภายใตก้ รอบของ หลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พ้ืนฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑ บริบทของสภาพชุมชนและสังคม ภูมิ ปัญญาทอ้ งถ่ินของสถานศึกษา เพื่อใชจ้ ดั ในการศึกษาของสถานศึกษาเพ่ือพฒั นาให้ผเู้ รียนเป็นสมาชิกที่ดี ของครอบครัว ชุมชน สังคม ประเทศชาติ และพลโลก จากความมูลเหตุดงั กล่าว การวดั และประเมินผล การเรียนตามหลกั สูตรโรงเรียนบำ้ นทบั กุมำรทอง พุทธศกั รำช ๒๕๕๗ (ฉบบั ปรับปรุง คร้ังที่ ๑ พุทธศกั รำช ๒๕๕๗) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พ้ืนฐำน พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑ จึงตอ้ งปฏิบตั ิตามขอ้ กาหนด
การประเมินผลตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ เป็ นหลัก ซ่ึงการ ดาเนินการในการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ของหลักสูตรโรงเรียนบ้ำนทับกุมำรทอง พุทธศักรำช ๒๕๕๗ (ฉบบั ปรับปรุง คร้ังท่ี ๑ พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๗) ไดก้ าหนดแนวทางในการดาเนินการดงั ต่อไปน้ี ระเบยี บโรงเรียนบ้ำนทบั กุมำรทองว่ำด้วยกำรวัดและประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ ตำมหลกั สูตรโรงเรียนบ้ำนทบั กุมำรทอง การวัดและประเมิน ผลการเรี ยนรู้ของผู้เรี ยนอยู่บนห ลักการพ้ื นฐานส องประการคือ การประเมินเพ่ือพฒั นาผูเ้ รียนและเพื่อตดั สินผลการเรียน ในการพฒั นาคุณภาพการเรียนรู้ของผูเ้ รียน ให้ ประสบผลสาเร็จน้นั ผูเ้ รียนจะตอ้ งไดร้ ับการพฒั นาและประเมินตามตวั ช้ีวดั เพื่อใหบ้ รรลุตามมาตรฐานการ เรียนรู้ สะทอ้ นสมรรถนะสาคญั และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องผเู้ รียนซ่ึงเป็นเป้าหมายหลกั ในการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ เป็ นกระบวนการพฒั นาคุณภาพผเู้ รียนโดยใช้ ผลการประเมินเป็ นขอ้ มูลและสารสนเทศท่ีแสดงพฒั นาการ ความกา้ วหน้า และความสาเร็จทางการเรียน ของผเู้ รียน ตลอดจนขอ้ มลู ท่ีเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนเกิด การพฒั นาและเรียนรู้อย่างเตม็ ตาม ศกั ยภาพ การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ แบ่งออกเป็ น ๒ ระดับ ไดแ้ ก่ ระดบั ช้นั เรียน ระดบั สถานศึกษา ดงั น้ี ๑. กำรประเมนิ ระดบั ช้ันเรียน เป็นการวดั และประเมินผลที่อยใู่ นกระบวนการจดั การเรียนรู้ ผสู้ อน ดาเนินการเป็นปกติและสม่าเสมอ ในการจดั การเรียนการสอน ใชเ้ ทคนิคการประเมินอยา่ งหลากหลาย เช่น การซกั ถาม การสังเกต การตรวจการบา้ น การประเมินโครงงาน การประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน แฟ้มสะสม งาน การใชแ้ บบทดสอบ ฯลฯ โดยผสู้ อนเป็นผปู้ ระเมินเองหรือเปิ ดโอกาส ใหผ้ เู้ รียนประเมินตนเอง เพอ่ื น ประเมินเพื่อน ผปู้ กครองร่วมประเมิน ในกรณีที่ไม่ผา่ นตวั ช้ีวดั ใหม้ ี การสอนซ่อมเสริม การประเมินระดับช้ันเรี ยนเป็ นการตรวจสอบว่า ผู้เรี ยนมีพัฒนาการความก้าวหน้าใน การเรียนรู้ อนั เป็ นผลมาจากการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด มีสิ่งท่ีจะตอ้ ง ไดร้ ับการพฒั นาปรับปรุงและส่งเสริมในดา้ นใด นอกจากน้ียงั เป็นขอ้ มูลใหผ้ ูส้ อนใชป้ รับปรุงการเรียนการ สอนของตนดว้ ย ท้งั น้ีโดยสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้ีวดั ๒. กำรประเมนิ ระดบั สถำนศึกษำ ประกอบดว้ ย -การประเมินที่สถานศึกษาดาเนินการเพอื่ ตดั สินผลการเรียนของผเู้ รียนเป็นรายปี /รายภาค -การประเมินการอา่ น คดิ วเิ คราะห์และเขยี น -การประเมิน คุณลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ -การประเมิน กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน
ขอ้ มูลการประเมินในระดบั ต่าง ๆ ขา้ งตน้ เป็ นประโยชน์ต่อสถานศึกษาในการตรวจสอบทบทวน พฒั นาคุณภาพผูเ้ รียน ถือเป็ นภาระความรับผิดชอบของสถานศึกษาที่จะตอ้ งจดั ระบบดูแลช่วยเหลือ ปรับปรุงแกไ้ ข ส่งเสริมสนบั สนุนเพ่ือใหผ้ เู้ รียนไดพ้ ฒั นาเตม็ ตามศกั ยภาพบนพ้ืนฐานความแตกต่างระหวา่ ง บุคคล ที่จาแนกตามสภาพปัญหาและความตอ้ งการ ไดแ้ ก่ กลุ่มผูเ้ รียนทว่ั ไป กลุ่มผเู้ รียนท่ีมีความสามารถ พิเศษ กลุ่มผเู้ รียนที่มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนต่า กลมุ่ ผเู้ รียนท่ีมีปัญหาดา้ นวินยั และพฤติกรรม กลุ่มผเู้ รียน ที่ปฏิเสธโรงเรียน กลุ่มผเู้ รียนท่ีมีปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มพิการทางร่างกายและสติปัญญา เป็ น ตน้ ขอ้ มูลจากการประเมินจึงเป็นหัวใจของสถานศึกษาในการดาเนินการช่วยเหลือผเู้ รียนไดท้ นั ท่วงที เปิ ด โอกาสใหผ้ เู้ รียนไดร้ ับการพฒั นาและประสบความสาเร็จในการเรียน เกณฑ์กำรวดั และประเมินผลกำรเรียน ๑. กำรตดั สิน กำรให้ระดับและกำรรำยงำนผลกำรเรียน ๑.๑ กำรตดั สินผลกำรเรียน ในการตัดสินผลการเรี ยนของกลุ่มสาระการเรียนรู้ การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ และกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนน้นั ผสู้ อนตอ้ งคานึงถึงการพฒั นาผเู้ รียนแต่ละคนเป็น หลกั และตอ้ งเก็บขอ้ มูลของผูเ้ รียนทุกดา้ นอย่างสม่าเสมอและต่อเน่ืองในแต่ละภาคเรียน รวมท้งั สอนซ่อม เสริมผเู้ รียนใหพ้ ฒั นาจนเตม็ ตามศกั ยภาพ (๑) ผเู้ รียนตอ้ งมีเวลาเรียนไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนท้งั หมด (๒) ผเู้ รียนตอ้ งไดร้ ับการประเมินทกุ ตวั ช้ีวดั และผา่ นตามเกณฑป์ ระเมิน ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ ๖๐ ของทกุ รายวชิ า (๓) ผเู้ รียนตอ้ งไดร้ ับการตดั สินผลการเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมินทกุ รายวชิ า (๔) ผเู้ รียนตอ้ งไดร้ ับการประเมิน และมีผลการประเมินผา่ นตามเกณฑท์ ี่ สถานศึกษากาหนด ในการอ่าน คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ และกิจกรรมพฒั นา ผเู้ รียน การพิจารณาเลื่อนช้ันท้ังระดับประถมศึกษา ถ้าผู้เรียนมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย และ สถานศึกษาพิจารณาเห็นวา่ สามารถพฒั นาและสอนซ่อมเสริมได้ ให้อยใู่ นดุลพินิจของสถานศึกษาท่ีจะผอ่ น ผนั ใหเ้ ล่ือนช้นั ได้ แต่หากผูเ้ รียนไม่ผ่านรายวิชาจานวนมาก และมีแนวโนม้ ว่าจะเป็ นปัญหาต่อการเรียนใน ระดบั ช้นั ที่สูงข้ึน สถานศึกษาอาจต้งั คณะกรรมการพิจารณาให้เรียนซ้าช้นั ได้ ท้งั น้ีใหค้ านึงถึงวุฒิภาวะและ ความรู้ความสามารถของผเู้ รียนเป็นสาคญั ๑.๒ กำรให้ระดบั ผลกำรเรียน
ในการตดั สินเพ่ือใหร้ ะดบั ผลการเรียนรายวิชา สถานศึกษาสามารถใหร้ ะดบั ผลการเรียน หรือระดบั คณุ ภาพการปฏิบตั ิของผเู้ รียน เป็นระบบตวั เลขโดยใหใ้ ชต้ วั เลขแสดงระดบั ผลการเรียนเป็น ๘ ระดบั ช่วงคะแนน ๘๐ – ๑๐๐ ระดบั ผลการเรียน ๔ หมายถึง ผลการเรียนดีเยย่ี ม ช่วงคะแนน ๗๕ - ๗๙ ระดบั ผลการเรียน ๓.๕ หมายถึง ผลการเรียนดีมาก ช่วงคะแนน ๗๐ - ๗๔ ระดบั ผลการเรียน ๓ หมายถึง ผลการเรียนดี ช่วงคะแนน ๖๕ - ๖๙ ระดบั ผลการเรียน ๒.๕ หมายถึง ผลการเรียนคอ่ นขา้ งดี ช่วงคะแนน ๖๐ - ๖๔ ระดบั ผลการเรียน ๒ หมายถึง ผลการเรียนน่าพอใจ ช่วงคะแนน ๕๕ - ๕๙ ระดบั ผลการเรียน ๑.๕ หมายถึง ผลการเรียนพอใช้ ช่วงคะแนน ๕๐ - ๕๔ ระดบั ผลการเรียน ๑ หมายถึง ผลการเรียนผา่ นเกณฑ์ ช่วงคะแนน ๐ - ๔๙ ระดบั ผลการเรียน ๐ หมายถึง ผลการเรียนต่ากวา่ เกณฑข์ ้นั ต่า กำรประเมินกำรอ่ำน คิดวิเครำะห์ และเขียน การประเมินการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขียน คณะกรรมการสถานศึกษาและคณะครูไดต้ กลงร่วมกนั โดย ไดก้ าหนดสดั ส่วนการประเมินการอา่ น คิดวิเคราะห์ และเขยี น ดงั น้ี ๙๐ : ๑๐ ซ่ึงมีความหมายดงั น้ี คือ ๙๐% เป็นการประเมินผลงานการเขยี นท่ีรวบรวมหน่วยการเรียนจากรายวชิ าใน ๘ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ๑๐% เป็นการประเมินผลจากผลงานโครงการรักการอา่ น เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๐-๔๙ คะแนน หมายถึง ไมผ่ า่ น ๕๐-๖๙ คะแนน หมายถึง ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน ๗๐-๗๙ คะแนน หมายถึง ดี ๘๐-๑๐๐ คะแนน หมายถึง ดีเยยี่ ม หลกั การและวธิ ีดาเนินการ มีดงั น้ี ๑. กาหนดชิ้นงานโดยวิธีการดงั น้ี กาหนดสดั ส่วนการประเมิน คะแนน ๑๐๐ คะแนน กาหนดเป็นสัดส่วน ๙๐:๑๐ ๑.๑) คะแนน ๙๐ คะแนน เป็นการประเมินสะสมรายวชิ าใน ๘ กลมุ่ สาระการเรียนรู้การเรียนรู้
๑.๒) คะแนน ๑๐ คะแนน เป็นการประเมินภาระงาน ชิ้นงาน โครงงาน หรือผลการปฏิบตั ิตาม โครงการรักการอา่ น เกณฑ์กำรตดั สินคณุ ภำพกำรอ่ำน คดิ วิเครำะห์ และเขียน กำรตดั สินผลกำรประเมินเพ่ือเล่ือนช้ัน ใชผ้ ลการประเมินปลายปี กำรตดั สินผลกำรประเมินเพ่ือจบระดบั กำรศึกษำ ใชผ้ ลการประเมินปลายปี สุดทา้ ยของระดบั การศึกษา เกณฑ์กำรตัดสินคณุ ภำพกำรอ่ำน คิดวิเครำะห์ และเขยี น มี ๔ ระดบั ดงั น้ี ดีเยีย่ ม หมายถึง มีผลงานที่ แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ที่มีคณุ ภาพดีเลิศอยเู่ สมอ ดี หมายถึง มีผลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ที่มีคุณภาพเป็ นท่ียอมรับ ผ่ำน หมายถึง มีผลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ที่มีขอ้ บกพร่องบางประการ ไม่ผ่ำน หมายถึง ไมม่ ีผลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขียน หรือถา้ มี ผลงาน ผลงานน้นั ยงั มีขอ้ บกพร่องที่ตอ้ งไดร้ ับการปรับปรุงแกไ้ ขหลายประการ เกณฑ์คุณภำพผลงำนกำรอ่ำน คิดวเิ ครำะห์ และเขยี น ประเด็น ๓ ระดบั คะแนน ๑ กำรประเมิน - เรียงลาดบั เรื่องราวได้ - เรียงลาดบั เร่ืองราวได้ การนาเสนอเน้ือหา เหมาะสม ไมว่ กวน ๒ แตม่ ีการวกวนบา้ ง - แสดงความคดิ เห็น - เรียงลาดบั เรื่องราวได้ - แสดงความคดิ เห็น ประกอบไดอ้ ยา่ งมี เหมาะสม ไม่วกวน ประกอบ เหตผุ ลและสร้างสรรค์ - แสดงความคิดเห็น - ขอ้ มูลสนบั สนุน หรือ ประกอบไดอ้ ยา่ งมี เหตุผล
- นาเสนอประเดน็ สาคญั - นาเสนอขอ้ มลู ชดั เจน ประเดน็ ยงั ไม่ชดั เจน ท่ีทาใหเ้ ห็นความชดั เจน แต่บางประเด็นไมช่ ดั เจน ของเร่ือง - ประเมินสิ่งที่เป็นประโยชน์ ในการดาเนินชีวิตได้ ถูกตอ้ ง การใชภ้ าษา - เขียนสะกดคาถกู ตอ้ ง - เขียนสะกดคาถูกตอ้ ง - เขียนสะกดคาถกู ตอ้ ง ตามอกั ขรวธิ ี ตามอกั ขรวธิ ี ตามอกั ขรวธิ ี -เลือกใชค้ าตรงความหมาย - เลือกใชค้ าตรง - เลือกใชค้ าตรง - ใชภ้ าษาเหมาะสมกบั ความหมาย ความหมาย ระดบั ภาษา - ใชภ้ าษาเหมาะสมกบั - ใชภ้ าษาสื่อสารตรง ระดบั ภาษา จุดประสงค์ การประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องโรงเรียนทกุ ขอ้ โดยมีผลการประเมินเป็นผา่ น และไม่ ผา่ น กรณีท่ีผา่ นใหไ้ ดร้ ะดบั เป็น “ดีเยยี่ ม” “ดี” หรือ “ผา่ น” ควำมหมำยของผลกำรประเมนิ คุณภำพคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของโรงเรียนบ้ำนทับกมุ ำรทอง ดีเยย่ี ม หมายถึง ผเู้ รียนมีคณุ ลกั ษณะในการปฏิบตั ิจนเป็นนิสยั และ นาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั เพ่ือประโยชนส์ ุขของ ตนเองและสังคม
ดี หมายถึง ผเู้ รียนมีคณุ ลกั ษณะในการปฏิบตั ิตามกฎเกณฑ์ ผ่ำน หมายถึง เพอ่ื ใหเ้ ป็นท่ียอมรับของสังคม ไม่ผ่ำน หมายถึง ผเู้ รียนรับรู้และปฏิบตั ิตามกฎเกณฑแ์ ละเงื่อนไขท่ี สถานศึกษากาหนด ผเู้ รียนไม่รับรู้และไม่ปฏิบตั ิตามกฎเกณฑแ์ ละ เงื่อนไขที่สถานศึกษากาหนด การประเมินกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน จะตอ้ งพิจารณาท้งั เวลาการเขา้ ร่วมกิจกรรมปฏิบตั ิกิจกรรม อยา่ ง นอ้ ย ๘๐ เปอร์เซ็นต์ และผา่ นจุดประสงคข์ องทุกกิจกรรมใหร้ ะดบั ผลการประเมินเป็นผา่ น และไม่ผา่ น. ๑.๓ กำรรำยงำนผลกำรเรียน การรายงานผลการเรียนเป็ นการส่ือสารให้ผูป้ กครองและผูเ้ รี ยนทราบความกา้ วหน้าในการ เรียนรู้ของผเู้ รียน ซ่ึงสถานศึกษาตอ้ งสรุปผลการประเมินและจดั ทาเอกสารรายงานให้ผปู้ กครองทราบภาค เรียนละ ๑ คร้ัง การรายงานผลการเรียนสามารถรายงานเป็ นระดับคุณภาพ การปฏิบตั ิของผูเ้ รียนที่สะท้อน มาตรฐานการเรียนรู้กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ๒. เกณฑ์กำรจบกำรศึกษำ หลักสูตรโรงเรี ยนบ้านทับกุมารทอง กาหนดเกณฑ์กลางสาหรับการจบการศึกษา ระดับ ประถมศึกษา ดงั น้ี เกณฑ์กำรจบระดับประถมศึกษำ ๑ ผเู้ รียนเรียนรายวิชาพ้ืนฐานจานวน ๘๔๐ ชวั่ โมง และรายวชิ า/กิจกรรมเพิม่ เติม ๔๐ ชว่ั โมง กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ๑๒๐ ชวั่ โมง ตอ้ งมีผลการประเมินรายวิชาพ้ืนฐาน ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน ระดบั ผลการเรียน ๑ ข้ึนไป ๒. ผเู้ รียนตอ้ งมีเวลาเรียนไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนท้งั หมด ๓. ผเู้ รียนตอ้ งไดร้ ับการประเมินทกุ ตวั ช้ีวดั และผา่ นตามเกณฑป์ ระเมิน ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ ๖๐ ของทุกรายวิชา ๑. ผเู้ รียนมีผลการประเมินการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขียนในระดบั ผา่ นเกณฑ์
การประเมินในระดบั “ดีเยยี่ ม” “ดี” หรือ “ผา่ น” ๕. ผเู้ รียนมีผลการประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคใ์ นระดบั ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินใน ระดบั “ดีเยย่ี ม” “ดี” หรือ “ผา่ น” ๖. ผเู้ รียนเขา้ ร่วมกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนและมีผลการประเมินผา่ นเกณฑก์ ารประเมินคอื “ผา่ น” ทกุ กิจกรรม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135