Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัยโรงเรียนบ้านทับก

หลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัยโรงเรียนบ้านทับก

Published by arawan0101, 2021-01-22 07:01:19

Description: หลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัยโรงเรียนบ้านทับก

Search

Read the Text Version

หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนบ้านทบั กมุ ารทอง (ฉบับปรับปรังพทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ สำนกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาเชียงราย เขต ๓

โครงสร้างหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนบ้านทับกุมารทอง จัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐ สำหรับหลักสูตรสถานศึกษาตามหลักสูตรการศึกษาการศึกษาปฐมวัย โรงเรียนได้ กำหนดโครงสรา้ งหลักสูตรสถานศึกษา ดงั น้ี หลกั สตู รการศึกษาปฐมวยั ฉบับปรับปรุงพทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ปรชั ญาการศกึ ษาปฐมวยั การศึกษาปฐมวยั เป็นการพัฒนาเดก็ ตัง้ แต่แรกเกิดถงึ ๖ ปีบริบูรณ์ อย่างเป็นองค์รวมบนพืน้ ฐาน การอบรมเลี้ยงดูและการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่สนองต่อธรรมชาติและพัฒนาการตามวัยของเด็ก แต่ละคนให้เต็มตามศักยภาพ ภายใต้บริบทสังคมและวัฒนธรรมที่เด็กอาศัยอยู่ ด้วยความรัก ความเอื้อ อาทร และความเขา้ ใจของทุกคน เพือ่ สร้างรากฐานคุณภาพชวี ิตใหเ้ ด็กพัฒนาไปสคู่ วามเป็นมนุษยท์ สี่ มบูรณ์ เกิดคณุ ค่าต่อตนเอง ครอบครัว สงั คม และประเทศชาติ วิสัยทศั น์ หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยมุ่งพัฒนาเด็กทุกคนให้ได้รับการพัฒนาด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา อย่างมคี ุณภาพและต่อเน่ือง ไดร้ ับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้อยา่ งมคี วามสุขและ เหมาะสมตามวัย มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นคนดี มีวินัย และ สำนึกความเป็นไทย โดยความร่วมมือระหว่างสถานศึกษา พ่อแม่ ครอบครัว ชุมชนและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง กับการพัฒนาเดก็ หลกั การ เด็กทุกคนมีสิทธิท่ีจะได้รับการอบรมเลี้ยงดแู ละการส่งเสริมพัฒนาการตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิ เด็ก ตลอดจนได้รบั การจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้อย่างเหมาะสม ด้วยปฏิสมั พนั ธท์ ่ีดรี ะหว่างเด็กกับพ่อแม่ เด็กกับผู้สอน เด็กกับผู้เลี้ยงดู หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการอบรมเลี้ยงดู การพัฒนา และให้การศึกษาแก่เด็ก ปฐมวัย เพื่อให้เด็กมีโอกาสพัฒนาตนเองตามลำดับขั้นของพัฒนาการทุกด้าน อย่างเป็นองค์รวม มีคุณภาพ และเต็มตามศกั ยภาพ โดยกำหนดหลกั การ ดงั นี้ ๑. ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และพฒั นาการทค่ี รอบคลมุ เด็กปฐมวยั ทุกคน ๒. ยึดหลักการอบรมเลี้ยงดูและให้การศึกษาที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ โดยคำนึงถึงความแตกต่าง ระหว่างบคุ คล และวถิ ีชวี ิตของเดก็ ตามบริบทของชมุ ชน สังคม และวัฒนธรรมไทย

๓. ยดึ พฒั นาการและการพัฒนาเด็กโดยองค์รวม ผา่ นการเลน่ อย่างมคี วามหมาย และมกี จิ กรรม ที่หลากหลาย ได้ลงมือกระทำในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ เหมาะสมกับวัย และมีการพักผ่อน เพียงพอ ๔. จัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้เด็กมีทักษะชีวิต และสามารถปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง เป็นคนดี มีวนิ ัย และมคี วามสขุ ๕. สร้างความรู้ ความเขา้ ใจ และประสานความร่วมมือในการพฒั นาเด็กระหวา่ งสถานศึกษากับ พอ่ แม่ ครอบครัว ชมุ ชน และทกุ ฝ่ายทเี่ ก่ียวขอ้ งกับการพัฒนาเดก็ ปฐมวยั ปรชั ญาการศกึ ษาปฐมวัยโรงเรยี นบ้านทับกมุ ารทอง การศึกษาระดับปฐมวัยโรงเรียนบ้านทับกุมารทอง จัดการพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง ๖ ปี บริบูรณ์ อย่างเป็นองค์รวมบนพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดูและการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่สนองต่อ ธรรมชาติและพัฒนาการตามวัยของเด็กแต่ละคนให้เต็มตามศักยภาพ ภายใต้บริบทสังคมและวัฒนธรรมที่ เดก็ อาศยั อยู่ ดว้ ยความรัก ความเออื้ อาทร และความเข้าใจของทกุ คน เพ่อื สรา้ งรากฐานคุณภาพชีวิตให้เด็ก พฒั นาไปสู่ความเป็นมนษุ ย์ท่สี มบรู ณ์ เกิดคณุ ค่าต่อตนเอง ครอบครัว สงั คม และประเทศชาติ วิสยั ทศั นก์ ารศึกษาปฐมวยั โรงเรียนบา้ นทับกมุ ารทอง ภายในปี ๒๕๖๑ เด็กปฐมวัยของโรงเรียนบ้านทับกุมารทองทุกคน ให้ได้รับการพัฒนาทัง้ ทางดา้ น ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา อย่างมีคุณภาพและต่อเนื่อง ได้รับการจัดประสบการณ์การ เรียนรู้อย่างมีความสุขและเหมาะสมตามวัย มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง เป็นคนดี มีวินัย และสำนึกความเป็นไทย โดยความร่วมมือระหวา่ งสถานศึกษา พ่อแม่ ครอบครวั ชุมชนและทกุ ฝ่ายท่เี กีย่ วข้องกบั การพัฒนาเด็ก มเี จตคติทีด่ ีตอ่ การเรยี นรู้และมีทักษะในการแสวงหาความรู้ โดยปลูกฝังให้เด็กมีคุณธรรม จริยธรรม พร้อมทั้งมีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย สามารถใช้ภาษาไทย เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้และให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา มุ่งสู่มาตรฐานการศึกษา รักษาความสะอาดเด่น เน้นคุณธรรม จริยธรรม นำสุขภาพดี เทคโนโลยีก้าวหน้า สู่ประชาคมอาเซียน นักเรียนรักวฒั นธรรมประเพณไี ทย ใฝเ่ รียนรู้ คปู่ รัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พนั ธกจิ ๑) พัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีการพฒั นาการท้ัง ๔ ด้าน อยา่ งสมดุล และเต็มศักยภาพ มเี จตคติทด่ี ตี ่อ ท้องถิน่ สนใจใฝ่รู้ และเรยี นรู้อย่างมีความสขุ ๒) พัฒนาคุณภาพนกั เรยี นให้มคี วามร้คู วามสามารถตามมาตรฐานการศึกษา ๓) พฒั นาครแู ละบุคลากรทางการศึกษา สามารถจัดประสบการณ์การเรียนรูผ้ ่านการเล่นและการ ลงมอื ปฏิบัติท่หี ลากหลาย สอดคลอ้ งกับพฒั นาการเดก็

๔) พัฒนาระบบบริหารจัดการศึกษา และการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ โดยให้ผู้ปกครองและ ชมุ ชนมีสว่ นรว่ มของทุกภาคสว่ น ๕) น้อมนำหลักการศึกษาเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและเรียนรู้คู่ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตาม บริบทของสถานศึกษา เปา้ หมาย ๑. เด็กปฐมวัยทุกคนมีการพัฒนาด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา อย่างสมดุล และเต็มศกั ยภาพ มีเจตคตทิ ีด่ ีต่อทอ้ งถิน่ สนใจใฝร่ แู้ ละเรยี นรูอ้ ยา่ งมีความสขุ ๒. ครูทุกคนมีความรู้ความเข้าใจและสามารถจัดประสบการณ์การเรียนรู้ผ่านการเล่นและการลง มอื ปฏบิ ัติที่หลากหลาย สอดคล้องกบั พฒั นาการเดก็ ๓. มเี ครอื ขา่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครองและชุมชนให้ความรว่ มมอื ในการพัฒนาคุณภาพเดก็ ปฐมวยั ๔. สถานศึกษามสี ภาพแวดลอ้ ม สือ่ เทคโนโลยี แหลง่ เรียนรทู้ ่ีเหมาะสมกับพัฒนาการเดก็ ๕. ครูทุกคนน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการจัดประสบการณ์ปฐมวัยอย่าง เหมาะสมกบั วยั และบริบทของสถานศกึ ษา ปรชั ญา วิสยั ทัศน์ อตั ลกั ษณ์ เอกลกั ษณ์ของสถานศึกษา ปรัชญา : การศกึ ษา สรา้ งปญั ญา พัฒนาชวี ติ วสิ ยั ทศั น์ : มุ่งสู่มาตรฐานการศึกษา รักษาความสะอาดเด่น เน้นคุณธรรม จริยธรรม นำสุขภาพดี เทคโนโลยีก้าวหน้า สู่ประชาคมอาเซียน นักเรียนรักวัฒนธรรมประเพณีไทย ใฝ่เรียนรู้ คปู่ รัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง อัตลกั ษณ์ : สุขภาพดี มีมารยาทงาม เอกลักษณ์ : สะอาดนา่ อยู่

ชว่ งอายุ โครงสรา้ งหลกั สูตรการศึกษาปฐมวยั อายตุ ่ำกวา่ ๓ ปี อายุ ๓ – ๖ ปี ประสบการณส์ ำคัญ สาระท่ีควรเรียนรู้ • ดา้ นรา่ งกาย • เรอื่ งราวเก่ียวกับตัวเด็ก สาระทค่ี วรเรียนรู้ • ด้านอารมณ์และจิตใจ • เรอ่ื งราวเกยี่ วกบั บุคคลและ ระยะเวลาเรยี น • ด้านสังคม สถานทีแ่ วดล้อมเด็ก • ดา้ นสตปิ ัญญา • ธรรมชาตริ อบตัว • สงิ่ ตา่ งๆรอบตวั เดก็ ระดบั ช้นั อนุบาลหลักสตู ร ๒ ปี ประกอบด้วยช้ันอนุบาลปีท่ี ๒ (๔-๕ ขวบ) ชั้นอนบุ าลปีที่ ๓ (๕-๖ ขวบ) กำหนดเวลาเรียนปีการศกึ ษาละ ๒ ภาคการเรยี น หรอื ประมาณ ๓๘ – ๔0 สปั ดาห์  โครงสรา้ งหลักสูตรจำนวนช่ัวโมงท่ีจดั ใหน้ กั เรยี น ระดับปฐมวัย ทงั้ ปี เทา่ กบั ๑,๐๐๐ ชัว่ โมง

มาตรฐานคณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ คุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ที่ ๑ รา่ งกายเจริญเตบิ โตตามวัยและมสี ุขภาพดี คณุ ลักษณะ แรกเกดิ -๒ เดือน ๒-๔ เดือน ๔-๖ เดอื น ๖-๙ ๑.๑ มนี ้ำหนกั สว่ นสูง  น้ำหนักและสว่ นสงู ตามเกณฑ์ และเสน้ รอบศีรษะ  เสน้ รอบศรี ษะตามเกณฑ์ ตามเกณฑอ์ ายุ  มภี มู ิต้านทานโรค ไม่ป่วยบอ่ ย ขบั ๑.๒ มีร่างกายแข็งแรง หมายเหตุ * แรกเกิด - ๒ เดือน หมายถึง แรกเกดิ - ๑ เดอื น ๒๙ วัน ๙ เดือ ๒ - ๔ เดือน หมายถงึ ๒ เดือน - ๓ เดอื น ๒๙ วัน ๑ ปี ๔ - ๖ เดือน หมายถึง ๔ เดอื น – ๕ เดือน ๒๙ วัน ๑ ปี ๖ – ๙ เดือน หมายถงึ ๖ เดอื น – ๘ เดือน ๒๙ วนั ๒ ป

สภาพทพ่ี ึงประสงค์ ๒-๓ ปี ๙ เดือน ๙ เดอื น - ๑ ปี ๑ ปี-๑ปี ๖ เดือน ๑ ปี ๖ เดอื น-๒ ปี บถ่ายเป็นเวลา รบั ประทานอาหาร นอนและพักผ่อนเหมาะสมกบั วัย อน - ๑ ปี หมายถงึ ๙ เดือน - ๑๑ เดือน ๒๙ วัน - ๓ ปี ๖ เดือน หมายถึง ๑๒ เดือน - ๑๗ เดอื น ๒๙ วนั ๖ เดอื น - ๒ ปี หมายถึง ๑๘ เดือน - ๒๓ เดือน ๒๙ วัน ปี - ๓ ปี หมายถงึ ๒๔ เดอื น - ๓๕ เดือน ๒๙ วัน

คุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ท่ี ๒ ใชอ้ วัยวะของรา่ งกายได้ประสานสัมพันธก์ ัน คณุ ลักษณะ แรกเกิด-๒ เดือน ๒-๔ เดอื น ๔-๖ เดอื น ๖- ๒.๑ ใชก้ ล้ามเนื้อใหญ่  นอนคว่ำ  นอนคว่ำ  ยันหน้าอก น ยกศีรษะ พน้ พน้ื โดย ต ได้เหมาะสม ยกศีรษะและ และอก ใชแ้ ขนช่วย เอ พ้นพื้น ใช กบั วัย หนั ไปขา้ งใด  นัง่ ได้ โดย เล  เม่ือจบั ยืน ตอ้ งมี อ ขา้ งหน่งึ ได้ เรม่ิ ลง ผู้ประคอง อ นำ้ หนักที่ เทา้ ท้ังสอง ค ข้างได้ ใช เข ย เค ส อ

น สภาพท่ีพึงประสงค์ -๙ เดือน ๙ เดอื น -๑ ปี ๑ ปี-๑ปี ๖ เดอื น ๑ ปี ๖ เดอื น-๒ ปี ๒-๓ ปี นั่งหลัง  ยืนทรงตัว  ลกุ ขึน้ ยืนดว้ ย  เดนิ ขึ้นบันได  น่งั ยองๆ เล่น ตรงและ (ตัง้ ไข่) ได้ ตนเอง โดยมอื ขา้ งหนึ่ง โดยไม่เสยี การ อี้ยวตัว ช่วงสน้ั ๆ จบั ราวบันได ทรงตัว ชม้ ือ  หยอ่ นตัว  ยืนได้เองอยา่ ง อีกมือจับผู้ใหญ่  เดินถอยหลังได้ ล่นได้ ลงน่ังจาก อิสระ ก้าวเทา้ โดยมี  เดนิ ขน้ึ ลงบันได อย่าง ท่ายืน สองเทา้ ในข้ัน โดยมือขา้ งหนึ่งจับ อิสระ  ยนื แลว้ ก้มลง เดยี วกัน ราวและก้าวเทา้ หยบิ ของท่ีพนื้ โดยมีสองเทา้ ใน คลานโดย ได้  ว่ิงและหยดุ ได้ ขนั้ เดียวกัน ชม้ อื และ ทันที และเร่ิม  กระโดดอยู่กับที่ ขา่  เดินได้เองโดย วง่ิ ใหม่ โดยเท้าพน้ พนื้ ทง้ั ปล่อยแขนเป็น ๒ ขา้ ง ยืนเกาะ อิสระและแกว่ง ครือ่ งเรือน แขนตามสบาย สูงระดบั อกได้  เรม่ิ วิ่งหรือเดิน เรว็ ๆ ได้

คณุ ลักษณะ แรกเกิด-๒ เดือน ๒-๔ เดอื น ๔-๖ เดอื น ๖- ๒.๒ ใช้กล้ามเนื้อเล็ก  จอ้ งมองได้  มองตาม  เออื้ มควา้ ม และประสาน มองเหน็ ใน วตั ถุที่ ใกลๆ้ ตัวได้ ข สัมพนั ธ์มือ-ตา ระยะหา่ ง เคลอื่ นไหว ไดเ้ หมาะสม ๘-๑๒ นว้ิ  เปลย่ี นมือ จ กบั วัย  กำหรือจับ ถอื ของได้ ก สิ่งของทีใ่ ส่ ทีละมอื ด ให้ในมอื ๒  เร ห น น ห ช

สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ -๙ เดือน ๙ เดอื น -๑ ปี ๑ ปี-๑ปี ๖ เดือน ๑ ปี ๖ เดือน-๒ ปี ๒-๓ ปี มองตาม  หยิบของ  วางก้อนไม้  วางกอ้ นไมซ้ ้อน  จบั สเี ทียน ของตก ใส่และเอา ซ้อนกนั ได้ กันได้ ๔-๖ ก้อน แท่งใหญเ่ พื่อ จบั ของมา ออกจาก ๒ ก้อน ขีดเขียนได้ กระทบกนั ภาชนะได้  เปิดพลิกหน้า ดว้ ยมือ  เปดิ หนังสอื หนังสือได้ทีละ  เลียนแบบ ๒ ข้าง  ถอื กดั ทลี ะ ๓-๔ หน้า แผน่ ลากเส้นเป็น รม่ิ ใชน้ ิว้ และเคย้ี ว วงต่อเนอื่ ง หวั แมม่ อื อาหารได้ หรอื เส้นตรง น้วิ ชแ้ี ละ ด้วยตนเอง แนวด่ิง น้ิวกลาง หยิบของ ชิ้นเลก็ ๆ

คุณลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ท่ี ๓ มคี วามสุขและแสดงออกทางอารมณ์ไดเ้ หม คณุ ลกั ษณะ แรกเกดิ -๒ เดือน ๒-๔ เดอื น ๔-๖ เดอื น ๖- ๓.๑ ร่าเรงิ แจ่มใส  ย้ิมและหัวเราะ  ผูกพนั กับ  อารมณ์ด ได้เม่อื พอใจ พอ่ แม่ หรอื  แสดงอารมณ์  แ ๓.๒ แสดงออก ผเู้ ลี้ยงดู ทางอารมณ์  สบตา จ้องหน้า ใกลช้ ดิ ทห่ี ลากหลาย อ ไดอ้ ย่าง แม่ ผ่านการ ต เหมาะสมกับวยั  ย้ิมทักทาย ส่งเสยี ง ร เม่ือเหน็ หนา้ คน แ ค้นุ เคย ก แ ๓.๓ สนใจ และมี  ตอบสนองต่อธรรมชาติ เสียง ความสุขกับ ธรรมชาติสง่ิ สวยงาม ดนตรี และจงั หวะการ เคล่ือนไหว

มาะสมกบั วัย สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ -๙ เดือน ๙ เดือน -๑ ปี ๑ ปี-๑ปี ๖ เดอื น ๑ ปี ๖ เดือน-๒ ปี ๒-๓ ปี ดี ย้ิมแยม้ หวั เราะง่าย แววตามีความสุข  แสดงความรัก  แสดงความ แสดง  แสดงความ  แสดงความ ต่อผอู้ ่ืน ภาคภูมิใจ อารมณ์ สนใจติด ชอบไม่ชอบ ตามความ ผเู้ ลีย้ งดู สว่ นตัวอยา่ ง  แสดงความกังวล เมอื่ ทำส่งิ รู้สกึ ตนเอง ชดั เจน เมื่อแยกจากคน สง่ิ ต่างๆ แสดงอาการ มากกว่า ใกล้ชดิ สำเร็จ กลัวคน คนอืน่  ชอบพูดคำว่า แปลกหนา้  แสดงความ “ไม่” แมจ้ ะ เปน็ ส่ิงท่ี ตอ้ งการ ต้องการ ของตนเอง มากข้นึ งเพลง จังหวะดนตรี และสิง่ สวยงามต่างๆ อย่างเพลดิ เพลิน

คณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ท่ี ๔ รับรู้และสร้างปฏสิ มั พันธก์ ับบคุ คลและสงิ่ แว คุณลักษณะ แรกเกดิ -๒ เดอื น ๒-๔ เดอื น ๔-๖ เดอื น ๖- ๔.๑ ปรับตวั เขา้ กบั  หยุดรอ้ งไห้  มีปฏกิ ริ ิยา  ยม้ิ ทกั ทาย  แ สิ่งแวดล้อม เมอื่ มคี นอุ้ม โตต้ อบดว้ ย แสดงอาการ ถ ใกลต้ ัวได้ การ ดใี จ เม่ือเหน็ อ เคลอ่ื นไหว สงิ่ ทต่ี ัวเอง แ รา่ งกาย พอใจ ร เมื่อเห็น  จำหนา้ แม่ ผ หรือได้ยิน และคน  เล เสียงคน คุ้นเคยได้ ก และสิง่ ท่ี ท คุ้นเคย ผ ง่า ๔.๒ เล่นและร่วมทำ  ยิ้มและสง่ เสียง  หวั เราะ  ย้ิมใหค้ นอื่น  ช กจิ กรรมกบั ผู้อื่น เมอ่ื มคี นพดู คุย เสียงดัง ชอบเล่นกบั จ ไดต้ ามวัย เล่นหรือสมั ผสั ดใี จเม่ือมี คน ผ ตวั คนมาเลน่ ใก ด้วย

วดลอ้ มรอบตัว สภาพท่ีพงึ ประสงค์ -๙ เดอื น ๙ เดอื น -๑ ปี ๑ ป-ี ๑ปี ๖ เดอื น ๑ ปี ๖ เดอื น-๒ ปี ๒-๓ ปี แสดงออก  มองผูใ้ หญ่  เรมิ่ คุน้ เคยกับ  ชอบการออกไป  ชอบเก็บของ เทย่ี วนอกบา้ น ของตนเอง ถึงการรับรู้ หรอื เด็ก คนอืน่ ไว้ใกล้ตวั  แสดงความเปน็ และไม่ชอบ อารมณ์ คนอนื่ ๆ  ขอความ เจ้าของ แบง่ ปันผ้อู นื่ และความ ทำกิจกรรม ช่วยเหลอื เมือ่  ชอบเลน่ ของเลน่  รอคอยชว่ ง คนเดยี ว สั้นๆ รสู้ กึ ของ อยา่ งใกลช้ ดิ ต้องการ  เลน่ รวมกับ ผู้อื่น คนอื่น แต่ ตา่ งคนตา่ ง ลียนแบบ เล่น กริ ิยา ท่าทางของ ผอู้ ่นื อยา่ ง ายๆ ชอบเล่น  เลน่ กับผู้  ชอบดเู ด็ก จะ๊ เอ๋กบั เลย้ี งดู คนอน่ื เล่นกนั ผเู้ ลยี้ งดู ใกล้ชิด แต่ไมค่ ่อย กล้ชดิ เข้าไปเล่นด้วย

คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ท่ี ๕ ช่วยเหลือตนเองไดเ้ หมาะสมกบั วยั คุณลกั ษณะ แรกเกดิ -๒ เดอื น ๒-๔ เดอื น ๔-๖ เดอื น ๖- -- - ๕.๑ ทำกิจวตั ร ต ประจำวนั ถ ด้วยตนเอง ด ไดต้ ามวยั

สภาพทพี่ งึ ประสงค์ -๙ เดอื น ๙ เดอื น -๑ ปี ๑ ปี-๑ปี ๖ เดือน ๑ ปี ๖ เดอื น-๒ ปี ๒-๓ ปี ตอ้ งการ  หยิบอาหาร  ถอดเส้ือผา้  ใชช้ ้อนตักอาหาร  สวมเส้ือผา้ เขา้ ปาก แตห่ ก โดยมคี นช่วย ถือขวดนม กินได้ ง่ายๆ ได้ บา้ ง  บอกไดว้ า่ ดว้ ยตนเอง  ดื่มนำ้ จาก  เรม่ิ ชว่ ยเหลือ  ชอบชว่ ยเหลอื ตนเอง งานบ้านง่ายๆ ต้องการ แก้ว ตนเองในการ ขับถา่ ย  ให้ความ แปรงฟนั รว่ มมือเวลา ล้างมอื โดยมี แต่งตวั ผูใ้ หญด่ แู ล  เริ่มฝกึ ขับถ่าย

คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ที่ ๖ สือ่ ความหมายและใชภ้ าษาไดเ้ หมาะสมกบั ว คุณลกั ษณะ แรกเกิด-๒ เดือน ๒-๔ เดือน ๔-๖ เดือน ๖- ๖.๑ รบั ร้แู ละเขา้ ใจ  ตอบสนองต่อ  หยุดฟัง  หันตามเสยี ง ร ความหมายของ เสียง เสียง และ จ้องมองปาก แ ภาษาไดต้ ามวัย หนั ตาม คน ส เสียงเคาะ ท ๖.๒ แสดงออกและ/  ส่งเสยี งในคอ  สง่ เสยี งตาม หรือพูดเพอื่ ส่อื  สง่ เสียง เม่ือได้ยิน ต ความหมายได้ อ้อแอ้ เสียงพดู ต โตต้ อบสงู ๆ ง่า ตำ่ ๆ  ส่งเสยี งได้ หลายเสยี ง ห เร พ เล ต ท ซ ห

วัย สภาพทพี่ งึ ประสงค์ -๙ เดือน ๙ เดอื น -๑ ปี ๑ ปี-๑ปี ๖ เดอื น ๑ ปี ๖ เดือน-๒ ปี ๒-๓ ปี รับรู้ภาษา  ชอบฟงั  หยิบหรือชี้ตาม  ปฏิบตั ิตามคำสงั่  รอ้ งเพลงได้ และแสดง คำพูดซำ้ ๆ คำบอก ได้ ๒ คำสงั่ บางคำ และ สหี น้า  รวู้ ่าคำ  ช้ีสว่ นตา่ งๆ ต่อเน่อื ง ร้องเพลง ทา่ ทาง แต่ละคำมี ของรา่ งกาย  สนใจฟงั นิทาน คลอตาม ตอบสนอง ความหมาย ตามคำบอก งา่ ยๆ ทำนอง ตอ่ คำสง่ั ต่างกัน อย่างน้อย  สนใจดู ายๆ  หยดุ กระทำ ๑ สว่ น หนงั สือ หนั หาเมอ่ื เมอื่ ได้ยิน นทิ านภาพ รียกชื่อ เสยี งห้าม พยายาม  รูจ้ ักเชื่อมโยง  พดู คำพยางค์  พดู คำต่อกนั เช่น  พูดเปน็ วลี ลยี นเสียง คำพดู กบั การ เดยี ว ท่มี ี ไปเที่ยว สนั้ ๆ ตา่ งๆ กระทำ เชน่ ไม่ ความหมายได้  มกั จะถาม ทำเสียง สน่ั หัว อยา่ งน้อย คำถาม ซ้ำๆ เชน่  พูดคำ ๒ คำ “อะไร” หมำ่ หม่ำ พยางค์เดียว และ “ทำไม” ได้อยา่ งน้อย ๒ คำ

คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ที่ ๗ สนใจเรยี นรู้สิ่งตา่ งๆ รอบตัว คุณลกั ษณะ แรกเกิด-๒ เดอื น ๒-๔ เดือน ๔-๖ เดอื น ๖- ๗.๑ สนใจและเรียนรู้  สนใจมอง  กรอกตา  มองสง่ิ ของ  เร ส่ิงตา่ งๆ ใบหนา้ คน มองตามสง่ิ ทอ่ี ยู่รอบๆ ส รอบตัว มากกวา่ สง่ิ ของ ของหรอื ส่ิง และในระยะ ช ท่มี เี สยี ง ใกล้ ป ๗.๒ เรยี นรู้ผ่าน - การเลยี นแบบ -  แสดงความ  เล อยากรอู้ ยาก เส เห็นเกยี่ วกบั สิ่งตา่ งๆ และ พยายามหยิบ ของในระยะ ที่เอื้อมถึง  เลียนแบบ เสียงเพลง และการ เคล่ือนไหว

สภาพท่พี ึงประสงค์ -๙ เดือน ๙ เดือน -๑ ปี ๑ ปี-๑ปี ๖ เดือน ๑ ปี ๖ เดอื น-๒ ปี ๒-๓ ปี ร่ิมรู้จัก  คาดคะเนได้  สำรวจสิง่ ของ  สังเกต สำรวจ  อยากเรยี นรู้ สิ่งของใน ถงึ การกลับ โดยใช้หลายๆ ลองผดิ ลองถกู สิ่งตา่ งๆ ชีวติ มาของ วิธี กับคณุ สมบตั ิ ประจำวนั บคุ คลหรอื ของสิง่ ต่างๆ  ถามบอ่ ย ส่งิ ของ ถามซำ้  จดจอ่ ตอ่ ส่ิง ใดส่งิ หนึง่ ได้ ยาวนานขน้ึ ลยี นแบบ  เลยี นแบบ  เลียนแบบ  เลยี นแบบคำพูด  เลยี นแบบ ทีผ่ ใู้ หญพ่ ดู การกระทำผู้ สยี งบุคคล การ ทา่ ทางการ ใกลช้ ิดหรอื เด็ก อืน่ เคล่อื นไหว กระทำง่ายๆ  พยายาม เลียน เสียง ต่างๆ หนา้ ตา ของผ้ใู หญ่ แลบล้นิ ปากจู๋

คณุ ลกั ษณะ แรกเกิด-๒ เดอื น ๒-๔ เดือน ๔-๖ เดอื น ๖- ๗.๓ สำรวจโดยใช้  จอ้ งมองสิง่ ของ  สนใจเลน่  ชอบสำรวจ ส ประสาทสัมผัส เคล่ือนไหวหรือ มือตนเอง ดว้ ยการนำ ร เคร่อื งแขวน และเอาเขา้ สง่ิ ของเข้า ต สีขาว-ดำ ปาก ปาก ส ร  ชอบปดั วัตถุที่มอง เลน่  จำเสยี ง บคุ คลท่ี ใกล้ชิด

สภาพที่พึงประสงค์ -๙ เดือน ๙ เดือน -๑ ปี ๑ ปี-๑ปี ๖ เดอื น ๑ ปี ๖ เดอื น-๒ ปี ๒-๓ ปี สำรวจ  ใชน้ ิ้วสำรวจ  สำรวจสง่ิ ท่ี  สำรวจตามตู้  ค้นหาของท่ี ร่างกาย สงิ่ ของหรือ เกิดขน้ึ ลิ้นชกั ชัน้ วาง ถกู ซ่อนโดย ตนเองและ พ้นื ท่ีที่มี  ลองผดิ ลองถูก ของ ตะกรา้ ผ้า มีส่ิงปกปิด สิง่ ตา่ งๆ ชอ่ งหรือมีรู เพอ่ื แกป้ ัญหา ๒-๓ ช้นั รอบตัว  มองอย่าง  ชอบเล่น ลาก ดงึ ผลกั โยน  ชอบละเลงสี คน้ หา ดว้ ยมือ  ชอบวางรูปทรง ลงช่อง

สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ เป็นสือ่ กลางในการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ใหก้ ับเด็ก เพอ่ื ส่งเสรมิ พัฒนาการเด็ก ทุกด้าน ให้เป็นไปตามจุดหมายของหลักสูตรที่กำหนด ประกอบด้วย ประสบการณ์สำคัญ และสาระที่ควร เรียนรู้ ดังน้ี ๑. ประสบการณ์สำคัญ ประสบการณ์สำคัญเป็นแนวทางสำหรับผู้สอนนำไปใช้ในการออกแบบ การจดั ประสบการณใ์ ห้เดก็ ปฐมวัยเรยี นรู้ ลงมือปฏิบตั ิ และได้รบั การสง่ เสริมพฒั นาการครอบคลุมทุกดา้ น ดังน้ี ๑.๑ ประสบการณ์สำคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้มี โอกาสพัฒนาการใช้กล้ามเนื้อใหญ่ กล้ามเนื้อเล็ก และการประสานสัมพันธ์ระหว่างกล้ามเนื้อและระบบ ประสาท ในการทำกิจวัตรประจำวันหรือทำกิจกรรมต่างๆ และสนับสนุนให้เด็กมีโอกาสดูแลสุขภาพและ สขุ อนามัย สุขนสิ ัย และการรักษาความปลอดภัย ดังน้ี ดา้ นร่างกาย ประสบการณ์สำคญั ๑.๑.๑ การใชก้ ลา้ มเน้ือใหญ่ (๑) การเคลอ่ื นไหวอยูก่ บั ที่ (๒) การเคลือ่ นไหวเคลอ่ื นท่ี (๓) การเคลื่อนไหวพร้อมวัสดุอุปกรณ์ (๔) การเคลื่อนไหวที่ใช้การประสานสัมพันธ์ของการใชก้ ล้ามเน้ือ ใหญใ่ นการขว้าง การจับ การโยน การเตะ (๕) การเล่นเคร่ืองเลน่ สนามอย่างอิสระ ๑.๑.๒ การใช้กลา้ มเนือ้ เลก็ (๑) การเล่นเครอ่ื งเลน่ สัมผสั และการสร้างจากแท่งไม้ บล็อก (๒) การเขยี นภาพและการเลน่ กับสี (๓) การป้ัน (๔) การประดษิ ฐ์ส่ิงต่างๆ ด้วย เศษวัสดุ (๕) การหยบิ จับ การใช้กรรไกร การฉกี การตัด การปะ และ การรอ้ ยวสั ดุ ๑.๑.๓ การรักษาสุขภาพ อนามยั ส่วนตน (๑) การปฏิบัติตนตามสุขอนามยั สุขนสิ ยั ท่ดี ใี นกิจวตั รประจำวนั ๑.๑.๔ การรักษาความปลอดภยั (๑) การปฏิบัติตนใหป้ ลอดภัยในกิจวตั รประจำวัน (๒) การฟังนทิ าน เร่ืองราว เหตกุ ารณ์ เกย่ี วกับการป้องกัน และรกั ษาความปลอดภัย (๓) การเลน่ เครื่องเล่นอย่างปลอดภยั (๔) การเล่นบทบาทสมมตเิ หตุการณ์ตา่ งๆ ๑.๑.๕ การตระหนกั ร้เู ก่ียวกับรา่ งกาย (๑) การเคลื่อนไหวโดยควบคุมตนเองไปในทิศทาง ระดับ และ ตนเอง พนื้ ที่ (๒) การเคลื่อนไหวขา้ มส่งิ กดี ขวาง

๑.๒ ประสบการณ์สำคัญที่ส่งเสริมพฒั นาการดา้ นอารมณ์ จิตใจ เปน็ การสนบั สนนุ ให้เด็กได้ แสดงออกทางอารมณ์และความรู้สึกของตนเองที่เหมาะสมกับวัย ตระหนักถึงลักษณะพิเศษเฉพาะ ที่เป็นอัต ลักษณ์ ความเป็นตัวของตัวเอง มีความสุข ร่าเริงแจ่มใส การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ได้พัฒนาคุณธรรมจริยธรรม สุนทรยี ภาพ ความร้สู กึ ท่ีดตี อ่ ตนเอง และความเชอ่ื ม่นั ในตนเองขณะปฏิบตั กิ จิ กรรมต่างๆ ดังนี้ ดา้ นอารมณ์ ประสบการณ์สำคัญ ๑.๒.๑ สุนทรียภาพ ดนตรี (๑) การฟังเพลง การร้องเพลง และการแสดงปฏกิ ริ ิยาโตต้ อบ ๑.๒.๒ การเลน่ เสยี งดนตรี (๒) การเล่นเครื่องดนตรีประกอบจงั หวะ ๑.๒.๓ คุณธรรม จรยิ ธรรม (๓) การเคล่ือนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี ๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์ (๔) การเลน่ บทบาทสมมติ (๕) การทำกิจกรรมศลิ ปะต่างๆ ๑.๒.๕ การมีอัตลกั ษณ์เฉพาะ (๖) การสร้างสรรค์สง่ิ สวยงาม ตนและเชื่อวา่ ตนเองมคี วามสามารถ (๑) การเลน่ อสิ ระ ๑.๒.๖ การเห็นอกเหน็ ใจผู้อน่ื (๒) การเล่นรายบุคคล กลุ่มย่อย กลุม่ ใหญ่ (๓) การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ (๔) การเลน่ นอกหอ้ งเรียน (๑) การปฏบิ ัตติ นตามหลกั ศาสนาทน่ี บั ถอื (๒) การฟังนิทานเกยี่ วกับคุณธรรม จรยิ ธรรม (๓) การรว่ มสนทนาและแลกเปล่ยี นความคดิ เหน็ เชงิ จรยิ ธรรม (๑) การพูดสะท้อนความรสู้ กึ ของตนเองและผอู้ ื่น (๒) การเลน่ บทบาทสมมติ (๓) การเคล่ือนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี (๔) การร้องเพลง (๕) การทำงานศิลปะ (๑) การปฏิบตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ ตามความสามารถของตนเอง (๑) การแสดงความยนิ ดีเม่ือผู้อ่ืนมีความสุข เห็นใจเม่ือผู้อน่ื เศรา้ หรอื เสยี ใจและการช่วยเหลอื ปลอบโยนเมื่อผู้อนื่ ไดร้ ับบาดเจ็บ

๑.๓ ประสบการณ์สำคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้มีโอกาส ปฏิสมั พันธก์ บั บคุ คลและส่ิงแวดล้อมต่างๆ รอบตัวจากการปฏบิ ัติกจิ กรรมต่างๆ ผา่ นการเรียนรู้ทางสังคม เช่น การเล่น การทำงานกบั ผอู้ ืน่ การปฏบิ ตั ิกจิ วตั รประจำวนั การแกป้ ัญหาข้อขัดแย้งตา่ งๆ ดา้ นสงั คม ประสบการณ์สำคญั ๑.๓.๑ การปฏบิ ัติกิจวัตรประจำวนั (๑) การชว่ ยเหลือตนเองในกิจวตั รประจำวนั ๑.๓.๒ การดแู ลรกั ษาธรรมชาตแิ ละ (๒) การปฏิบตั ิตนตามแนวทางหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง (๑) การมีสว่ นรว่ มรับผดิ ชอบดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและ ส่ิงแวดล้อม ภายนอกห้องเรยี น ๑.๓.๓ การปฏิบตั ติ ามวฒั นธรรม (๒) การใชว้ ัสดแุ ละส่ิงของเคร่ืองใช้อย่างคุ้มค่า ทอ้ งถน่ิ และความเปน็ ไทย (๓) การทำงานศิลปะท่นี ำวสั ดุหรือสงิ่ ของเครื่องใชท้ ่ีใชแ้ ล้ว มาใช้ ซ้ำหรือแปรรูปแลว้ นำกลับมาใชใ้ หม่ ๑.๓.๔ การมปี ฏสิ ัมพนั ธ์ มีวินัย มีส่วน (๔) การเพาะปลูกและดูแลตน้ ไม้ รว่ มและบทบาทสมาชิกของสังคม (๕) การเลย้ี งสัตว์ (๖) การสนทนาข่าวและเหตุการณ์ทเ่ี ก่ยี วกับธรรมชาตแิ ละ ๑.๓.๕ การเลน่ และทำงานแบบร่วมมือ รว่ มใจ สิง่ แวดล้อมในชวี ติ ประจำวนั ๑.๓.๖ การแกป้ ญั หาความขัดแย้ง (๑) การเล่นบทบาทสมมติการปฏิบตั ติ นในความเปน็ คนไทย ๑.๓.๗ การยอมรับในความเหมือนและ (๒) การปฏบิ ัติตนตามวฒั นธรรมท้องถน่ิ ที่อาศัยและประเพณไี ทย ความแตกต่างระหว่างบคุ คล (๓) การประกอบอาหารไทย (๔) การศึกษานอกสถานที่ (๕) การละเล่นพืน้ บ้านของไทย (๑) การรว่ มกำหนดข้อตกลงของหอ้ งเรียน (๒) การปฏบิ ตั ิตนเปน็ สมาชิกทด่ี ขี องหอ้ งเรียน (๓) การให้ความรว่ มมือในการปฏิบัตกิ ิจกรรมต่างๆ (๔) การดแู ลห้องเรยี นร่วมกนั (๕) การรว่ มกิจกรรมวนั สำคญั (๑) การรว่ มสนทนาและแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ (๒) การเลน่ และทำงานรว่ มกับผู้อนื่ (๓) การทำศลิ ปะแบบร่วมมือ (๑) การมีสว่ นรว่ มในการเลือกวธิ กี ารแก้ปัญหา (๒) การมีส่วนร่วมในการแกป้ ัญหาความขัดแยง้ (๑) การเลน่ หรือทำกจิ กรรมร่วมกับกลมุ่ เพื่อน

๑.๔ ประสบการณ์สำคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้รับรู้ และเรียนรู้ส่ิงต่างๆ รอบตัวผ่านการมีปฏิสัมพันธ์กับส่ิงแวดล้อม บุคคลและสื่อต่างๆ ด้วยกระบวนการเรยี นร้ทู ี่ หลากหลาย เพื่อเปดิ โอกาสให้เดก็ พฒั นาการใชภ้ าษา จินตนาการความคิดสรา้ งสรรค์ การแก้ปญั หา การคิดเชงิ เหตุผล และการคดิ รวบยอดเก่ียวกับสงิ่ ตา่ งๆ รอบตัวและมคี วามคดิ รวบยอดทางคณิตศาสตร์ทเี่ ปน็ พื้นฐานของ การเรยี นรู้ในระดับท่สี ูงขน้ึ ต่อไป การพัฒนาดา้ นสติปัญญา ประสบการณส์ ำคัญ (๑) การฟังเสยี งตา่ งๆ ในส่งิ แวดลอ้ ม (๒) การฟังและปฏบิ ตั ติ ามคำแนะนำ (๓) การฟังเพลง นิทาน คำคล้องจอง บทร้อยกรองหรือเรื่องราว ตา่ งๆ (๔) การพูดแสดงความคดิ ความร้สู กึ และความต้องการ (๕) การพูดกบั ผู้อื่นเก่ยี วกับประสบการณ์ของตนเอง หรือพูดเลา่ เรอื่ งราวเก่ยี วกับตนเอง (๖) การพูดอธบิ ายเกีย่ วกับส่ิงของ เหตุการณ์ และความสมั พันธ์ ของสิ่งตา่ งๆ (๗) การพูดอยา่ งสรา้ งสรรคใ์ นการเลน่ และการกระทำตา่ งๆ (๘) การรอจังหวะท่เี หมาะสมในการพูด (๙) การพูดเรียงลำดบั คำเพ่ือใชใ้ นการสือ่ สาร (๑๐) การอา่ นหนังสอื ภาพ นิทาน หลากหลายประเภท/รูปแบบ (๑๑) การอ่านอยา่ งอิสระตามลำพัง การอ่านรว่ มกนั การอา่ นโดยมีผชู้ ี้แนะ (๑๒) การเห็นแบบอย่างของการอา่ นที่ถกู ต้อง (๑๓) การสังเกตทิศทางการอ่านตวั อักษร คำ และข้อความ (๑๔) การอา่ นและช้ขี ้อความ โดยกวาดสายตาตามบรรทัดจากซา้ ยไปขวา และ จากบนลงล่าง (๑๕) การสังเกตตัวอักษรในชื่อของตน หรอื คำคุ้นเคย (๑๖) การสังเกตตวั อักษรท่ปี ระกอบเปน็ คำผ่านการอา่ นหรือเขียนของผู้ใหญ่ (๑๗) การคาดเดาคำ วลี หรอื ประโยค ที่มีโครงสร้างซำ้ ๆ กัน จาก นิทาน เพลง คำคลอ้ งจอง (๑๘) การเล่นเกมภาษา (๑๙) การเห็นแบบอย่างของการเขียนทถ่ี ูกตอ้ ง (๒๐) การเขยี นร่วมกันตามโอกาส และการเขยี นอสิ ระ (๒๑) การเขียนคำท่มี ีความหมายกบั ตวั เด็ก/คำคุน้ เคย (๒๒) การคิดสะกดคำและเขยี นเพ่ือสื่อความหมายดว้ ยตนเองอย่างอิสระ

การพัฒนาดา้ นสติปญั ญา ประสบการณ์สำคัญ ๑.๔.๒ การคิดรวบยอด (๑) การสงั เกตลกั ษณะ ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลง และ การคดิ เชงิ เหตุผล การ ความสมั พนั ธข์ องส่งิ ตา่ งๆ โดยใชป้ ระสาทสัมผัสอย่างเหมาะสม ตดั สินใจและแก้ปัญหา (๒) การสังเกตสิ่งต่างๆ และสถานท่จี ากมมุ มองที่ตา่ งกัน (๓) การบอกและแสดงตำแหนง่ ทิศทาง และระยะทางของสิ่งต่างๆ ดว้ ยการ ๑.๔.๓ จนิ ตนาการและ กระทำ ภาพวาด ภาพถ่าย และรูปภาพ ความคดิ สรา้ งสรรค์ (๔) การเล่นกบั ส่ือต่างๆ ท่ีเป็นทรงกลม ทรงสีเ่ หล่ียมมมุ ฉาก ทรงกระบอก กรวย (๕) การคดั แยก การจัดกลุม่ และการจำแนกส่ิงต่างๆ ตามลกั ษณะและรปู ร่าง รูปทรง (๖) การต่อของชนิ้ เลก็ เตมิ ในชน้ิ ใหญใ่ ห้สมบูรณ์ และการแยก ช้ินสว่ น (๗) การทำซำ้ การต่อเตมิ และการสรา้ งแบบรูป (๘) การนับและแสดงจำนวนของส่งิ ต่างๆ ในชวี ติ ประจำวัน (๙) การเปรียบเทียบและเรยี งลำดับจำนวนของสิง่ ต่างๆ (๑๐) การรวมและการแยกสง่ิ ต่างๆ (๑๑) การบอกและแสดงอันดับทขี่ องสง่ิ ต่างๆ (๑๒) การช่ัง ตวง วัดสง่ิ ตา่ งๆ โดยใช้เคร่อื งมือและหนว่ ยที่ไม่ใช่ หนว่ ยมาตรฐาน (๑๓) การจบั คู่ การเปรยี บเทียบ และการเรียงลำดบั สิ่งต่างๆ ตามลกั ษณะ ความยาว/ความสูง น้ำหนกั ปริมาตร (๑๔) การบอกและเรยี งลำดับกิจกรรมหรือเหตกุ ารณต์ ามช่วงเวลา (๑๕) การใช้ภาษาทางคณิตศาสตร์กับเหตุการณใ์ นชวี ติ ประจำวัน (๑๖) การอธบิ ายเชื่อมโยงสาเหตแุ ละผลทเ่ี กิดขน้ึ ในเหตุการณห์ รอื การกระทำ (๑๗) การคาดเดาหรอื การคาดคะเนส่ิงทอ่ี าจจะเกดิ ข้นึ อย่างมี เหตุผล (๑๘) การมสี ่วนรว่ มในการลงความเหน็ จากข้อมลู อยา่ งมเี หตผุ ล (๑๙) การตัดสินใจและมสี ว่ นรว่ มในกระบวนการแก้ปัญหา (๑) การรับรู้ และแสดงความคดิ ความรูส้ กึ ผา่ นสื่อ วัสดุ ของเล่น และชน้ิ งาน (๒) การแสดงความคดิ สรา้ งสรรคผ์ า่ นภาษา ทา่ ทาง การเคลือ่ นไหวและศิลปะ (๓) การสรา้ งสรรคช์ ิ้นงานโดยใชร้ ปู รา่ งรปู ทรงจากวัสดุที่ หลากหลาย

การพฒั นาด้านสตปิ ญั ญา ประสบการณ์สำคญั ๑.๔.๔ เจตคตทิ ดี่ ีต่อการเรยี นรแู้ ละการ (๑) การสำรวจส่ิงตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรรู้ อบตัว แสวงหาความรู้ (๒) การตั้งคำถามในเรื่องท่ีสนใจ (๓) การสืบเสาะหาความรู้เพ่ือคน้ หาคำตอบของข้อสงสยั ต่างๆ (๔) การมีส่วนรว่ มในการรวบรวมข้อมูลและนำเสนอข้อมลู จากการ สืบเสาะหาความรใู้ นรูปแบบต่างๆ และแผนภมู ิอยา่ งงา่ ย ๒. สาระที่ควรเรียนรู้ สาระที่ควรเรียนรู้ เป็นเรื่องราวรอบตัวเด็กที่นำมาเป็นส่ือกลางในการจัดกิจกรรมให้เด็กเกิด แนวคดิ หลงั จากนำสาระทค่ี วรรนู้ ้ันๆ มาจดั ประสบการณ์ใหเ้ ด็ก เพอ่ื ให้บรรลุจดุ หมายท่ีกำหนดไว้ ทั้งน้ี ไม่เน้น การทอ่ งจำเน้ือหา ผู้สอนสามารถกำหนดรายละเอียดขึ้นเองให้สอดคล้องกับวัย ความตอ้ งการ และความสนใจ ของเด็ก โดยให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์สำคัญ ทั้งนี้ อาจยืดหยุ่นเนื้อหาได้ โดยคำนึงถึงประสบการณ์ และสิง่ แวดลอ้ มในชวี ิตจรงิ ของเดก็ ดังนี้ ๒.๑ เรื่องราวที่เกี่ยวกับตัวเด็ก เด็กควรเรียนรู้ชื่อ นามสกุล รูปร่างหน้าตา อวัยวะต่างๆ วิธี ระวังรักษาร่างกายให้สะอาดและมีสุขภาพอนามัยที่ดี การรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ การระมัดระวัง ความปลอดภัยของตนเองจากผู้อื่นและภัยใกล้ตัว รวมทั้งการปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างปลอดภัย การรู้จักประวัติ ความเปน็ มาของตนเองและครอบครัว การปฏบิ ัตติ นเป็นสมาชิกที่ดขี องครอบครวั และโรงเรียน การเคารพสิทธิ ของตนเองและผู้อื่น การรู้จักแสดงความคิดเห็นของตนเองและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น การกำกับตนเอง การเล่นและทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเองตามลำพังหรือกับผู้อื่น การตระหนักรู้เกี่ยวกับตนเอง ความภาคภูมิใจใน ตนเอง การสะทอ้ นการรบั รอู้ ารมณ์และความรู้สกึ ของตนเองและผู้อืน่ การแสดงออกทางอารมณ์และความรู้สึก อย่างเหมาะสม การแสดงมารยาทท่ีดี การมคี ุณธรรมจริยธรรม ๒.๒ เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่แวดล้อมเด็ก เด็กควรเรียนรู้เกี่ยวกับครอบครัว สถานศกึ ษา ชุมชน และบคุ คลตา่ งๆ ท่เี ด็กต้องเกี่ยวข้องหรือใกล้ชิดและมีปฏิสัมพนั ธ์ในชวี ิตประจำวัน สถานท่ี สำคัญ วันสำคัญ อาชีพของคนในชุมชน ศาสนา แหล่งวัฒนธรรมในชุมชน สัญลักษณ์สำคัญของชาติไทยและ การปฏิบตั ิตามวัฒนธรรมทอ้ งถิน่ และความเปน็ ไทย หรือแหล่งเรยี นรจู้ ากภมู ปิ ญั ญาท้องถ่นิ อื่นๆ ๒.๓ ธรรมชาติรอบตัว เด็กควรเรียนรู้เกี่ยวกับชื่อ ลักษณะ ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลง และความสัมพันธ์ของมนุษย์ สัตว์ พืช ตลอดจนการรู้จักเกี่ยวกับดิน น้ำ ท้องฟ้า สภาพอากาศ ภัยธรรมชาติ แรงและพลงั งานในชีวติ ประจำวนั ทีแ่ วดล้อมเดก็ รวมทงั้ การอนุรักษ์สงิ่ แวดลอ้ มและการรกั ษาสาธารณสมบตั ิ ๒.๔ สิ่งต่างๆ รอบตัวเด็ก เด็กควรเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ภาษาเพื่อสื่อความหมายใน ชวี ติ ประจำวนั ความร้พู ้นื ฐานเกี่ยวกบั การใช้หนังสือและตัวหนังสือ รูจ้ ักชอ่ื ลกั ษณะ สี ผวิ สมั ผัส ขนาด รูปร่าง รูปทรง ปริมาตร น้ำหนัก จำนวน ส่วนประกอบ การเปลีย่ นแปลงและความสัมพันธข์ องสิง่ ตา่ งๆ รอบตัว เวลา เงิน ประโยชน์ การใช้งาน และการเลือกใช้สิ่งของเครื่องใช้ ยานพาหนะ การคมนาคม เทคโนโลยีและการ สื่อสารต่างๆ ท่ใี ชอ้ ยใู่ นชวี ติ ประจำวันอยา่ งประหยัด ปลอดภัยและรกั ษาสง่ิ แวดลอ้ ม

การจดั เวลาเรียน หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยกำหนดกรอบโครงสร้างเวลาในการจัดประสบการณ์ให้กับเด็ก ๓ -๖ ปี การศึกษาโดยประมาณ ทงั้ น้ี ขึ้นอยกู่ ับอายุของเด็กที่เริ่มเข้าสถานศึกษาหรือสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยเวลาเรียน สำหรับเด็กปฐมวัยจะขึ้นอยู่กับสถานศึกษาแต่ละแห่ง โดยมีเวลาเรียนไม่น้อยกว่า ๑๘๐ วันต่อ ๑ ปีการศึกษา ในแตล่ ะวันจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า ๕ ช่วั โมง โดยสามารถปรบั ให้เหมาะสมตามบริบทของสถานศึกษาและสถาน พฒั นาเดก็ ปฐมวยั ตารางกจิ กรรมประจำวนั โรงเรียนบ้านทบั กมุ ารทอง อำเภอแม่จนั จังหวัดเชยี งราย สำนกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาเชยี งราย เขต ๓ เวลา ตารางการจดั กิจกรรมประจำวนั ๐๗.๓๐-๐๘.๐๐ น. รับนกั เรียน บันทึกคำพดู ๐๘.๐๐-๐๘.๓๐ น. เขา้ แถวเคารพธงชาติ สวดมนต์ กายบริหาร ๐๘.๓๐-๐๘.๔๐ น. ตรวจสขุ ภาพ สนทนาข่าวและเหตุการณป์ ระจำวัน ๐๘.๔๐-๐๙.๐๐ น. กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ ๐๙.๐๐-๐๙.๔๐ น. กิจกรรมสรา้ งสรรค์ ๐๙.๔๐-๑๐.๐๐ น. กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์ ๑๐.๐๐-๑๐.๓๐ น. กิจกรรมเสรี ๑๐.๓๐-๑๑.๐๐ น. กจิ กรรมกลางแจ้ง ๑๑.๐๐-๑๑.๑๕ น. ตรวจสอบจดั เกบ็ อุปกรณ์ ล้างมือ ๑๑.๑๕-๑๒.๐๐ น. รบั ประทานอาหาร ๑๒.๐๐-๑๒.๒๐ น. แปรงฟัน ๑๒.๒๐-๑๓.๐๐ น. สวดมนต์ ไหวพ้ ระ ทำสมาธิ ๑๓.๐๐-๑๔.๓๐ น. นอนพักผอ่ น ๑๔.๓๐-๑๔.๔๕ น. เกบ็ ท่ีนอน ทำความสะอาดร่างกาย ๑๔.๔๕-๑๕.๐๐ น. รบั ประทานอาหารว่าง ๑๕.๐๐-๑๕.๒๐ น. กจิ กรรมเกมการศึกษา ๑๕.๒๐-๑๕.๓๐ น. สรุปกจิ กรรมประจำวัน กลบั บา้ น หมายเหตุ เวลาอาจเปล่ียนแปลงได้ตามความเหมาะสม

ตารางวเิ คราะหส์ าระการเรยี นรู้รายปี โรงเรยี นบ้านทบั กุมารท พฒั นาการดา้ นรา่ งกาย มาตรฐานท่ี ๑ รา่

ทอง สำนกั งานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาเชียงรายเขต ๓ างกายเจริญเติบโตตามวยั และมีสุขนสิ ัยท่ดี ี

ตวั ชี้วัดท่ี สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ สภาพทีพ่ ึงประสงค์ ประสบกา ๔ – ๕ ปี ๕ – ๖ ปี ๑. การปฏบิ ตั ิตนตา ๑.๑ นำ้ หนกั ทด่ี ใี นกิจวัตรประจำ และส่วนสงู ตาม ๑.๑.๑ นำ้ หนักและ ๑.๑.๑ น้ำหนักและ เกณฑ์ สว่ นสงู ตามเกณฑ์ของ ส่วนสงู ตามเกณฑ์ของ ๑. การประกอบอาห ๑.๒ มสี ขุ ภาพ กรมอนามัย กรมอนามัย ๒. การปฏบิ ตั ติ นตา อนามัย สุขนสิ ยั ๑.๒.๑ รับประทาน ๑.๒.๑ รับประทาน สขุ นิสัยทีด่ ีในกิจวัตร ทดี่ ี อาหารทีม่ ปี ระโยชน์ อาหารทม่ี ปี ระโยชนไ์ ด้ และดื่มนำ้ สะอาดได้ หลายชนิดและดม่ื น้ำ ด้วยตนเอง สะอาดได้ดว้ ยตนเอง ๑.๒.๒ ล้างมอื กอ่ น ๑.๒.๒ ลา้ งมือกอ่ น ๑. การปฏบิ ตั ติ นตา รับประทานอาหาร รับประทานอาหาร ทด่ี ีในกจิ วัตรประจำ และหลงั จากใช้ห้องนำ้ และหลังจากใชห้ ้องนำ้ ๒. การช่วยเหลือตน หอ้ งส้วมด้วยตนเอง ห้องสว้ มด้วยตนเอง ประจำวนั ๓. การฟังนิทานเร่อื ทีด่ ี ๑.๒.๓ นอนพักผอ่ น ๑.๒.๓ นอนพักผ่อน ๑. การปฏิบตั ิตนตา เป็นเวลา เปน็ เวลา ที่ดใี นกิจวัตรประจำ ๑.๒.๔ ออกกำลังกาย ๑.๒.๔ ออกกำลังกาย ๑. การเล่นอสิ ระ เป็นเวลา เปน็ เวลา ๒. การเลน่ นอกหอ้ ง ๓. การเล่นเคร่ืองเล ๔. การเคลื่อนไหวขา้ ๕. การละเล่นพ้นื บ้า

สาระการเรยี นรู้ หน่วย ารณ์สำคญั สาระท่คี วรรู้ - ตัวเรา - ร่างกายของเรา ามสขุ อนามัย สขุ นิสัย ๑. การรบั ประทานอาหารทเี่ ปน็ ประโยชน์ ำวัน ๒. การออกกำลังกาย หารไทย ๑. อาหารหลัก ๕ หมู่ - อาหารดีมี ประโยชน์ ามสุขอนามยั ๒. การร้จู กั อาหารทีเ่ ป็นประโยชน์ ไม่เป็น - หนูทำได้ - ขา้ ว รประจำวนั ประโยชนแ์ ละส่งิ ท่คี วรเลอื ก - หนทู ำได้ ๓. มารยาทในการบั ประทานอาหาร - รา่ งกายขอเรา ๔. การรู้จักและเลือกด่มื นำ้ ทส่ี ะอาด ามสุขอนามยั สุขนสิ ัย ๑. การรักษาสุขลักษณะของตวั เรา(มือ) ำวัน ๒. การลา้ งมอื ทถี่ กู วิธี นเองในกิจวัตร องราวเกีย่ วกบั สุขนสิ ยั ามสุขอนามยั สุขนสิ ยั ๑. ประโยชนข์ องการนอนหลบั พกั ผอ่ น - รา่ งกายของเรา ำวัน - รา่ งกายของเรา ๑. ประโยชน์ของการออกกำลงั กาย - หนทู ำได้ งเรยี น ๒. การเลน่ เคร่อื งเลน่ สนามอยา่ งถกู วิธี ลน่ สนามอยา่ งอิสระ ามสงิ่ กีดขวาง านของไทย

ตารางวิเคราะห์สาระการเรียนรรู้ ายปี โรงเรียนบ้านทบั กมุ ารท พัฒนาการด้านรา่ งกาย มาตรฐานท่ี ๑ รา่ งกา ตัวชี้วัดท่ี สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ สภาพที่พงึ ประสงค์ ประสบกา ๔ – ๕ ปี ๕ – ๖ ปี ๑.๓ รักษาความ ๑. การปฏบิ ัติตนใหป้ ปลอดภยั ของ ๑.๓.๑ เล่นและทำ ๑.๓.๑ เลน่ ทำ ประจำวนั ตนเองและผอู้ น่ื กิจกรรมอยา่ ง กจิ กรรมและปฏิบัตติ อ่ ๒. การฟงั นิทาน เรื่อ ปลอดภัยดว้ ยตนเอง ผู้อน่ื อยา่ งปลอดภัย การป้องกนั และรกั ษา ๓. การเล่นเครือ่ งเลน่ ๔. การเลน่ หรือทำกิจ เพอ่ื น ๕. การพูดกับผูอ้ น่ื เก ของตนเองหรอื พดู เล ตนเอง

ทอง สำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาเชียงรายเขต ๓ ายเจรญิ เติบโตตามวัยและมีสุขนสิ ยั ทีด่ ี (ตอ่ ) สาระการเรียนรู้ หน่วย ารณส์ ำคญั สาระทีค่ วรรู้ - ร่างกายของเรา - ร่างกายแข็งแรง ปลอดภยั ในกจิ วตั ร ๑. การรักษาความปลอดภยั ของตนเอง - หนูทำได้ และการปฏิบตั ิตอ่ ผู้อนื่ อย่างปลอดภัย องราวตา่ งๆ เกี่ยวกับ ๒. การเล่นหรือทำส่ิงตา่ งๆดว้ ยตนเอง าความปลอดภยั ตามลำพังหรือกับผูอ้ ื่นให้ปลอดภัย นอยา่ งปลอดภัย จกรรมรว่ มกับกลุม่ ก่ยี วกับประสบการณ์ ลา่ เร่ืองราวเกยี่ วกบั

ตารางวเิ คราะห์สาระการเรียนร้รู ายปี โรงเรียนบา้ นทับกุมารท พฒั นาการด้านร่างกาย มาตรฐานท่ี ๒ กล้ามเนื้อใหญแ่ ละกล้าม

ทอง สำนักงานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาเชียงรายเขต ๓ มเนื้อเล็กแข็งแรง ใชไ้ ดอ้ ย่างคล่องแคลว่ และประสานสัมพันธก์ นั

ตวั ชีว้ ัดท่ี สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ สภาพท่พี ึงประสงค์ ประสบกา ๔ – ๕ ปี ๕ – ๖ ปี ๑. การเคล่อื นไหวเคล ๒.๑ เคลื่อนไหว ๒. การเคลอ่ื นไหวโด รา่ งกายอย่าง ๒.๑.๑ เดินต่อเท้าไป ๒.๑.๑ เดินต่อเทา้ ถอย ทศิ ทาง ระดบั และพื้น คลอ่ งแคล่ว ขา้ งหนา้ เปน็ เสน้ ตรงได้ หลังเปน็ เสน้ ตรงได้ ประสานสัมพนั ธ์ โดยไม่ตอ้ งกางแขน โดยไมต่ ้องกางแขน ๑. การเคลื่อนไหวอย และทรงตัวได้ ๒. การเคลื่อนไหวเคล ๒.๑.๒ กระโดดขา ๒.๑.๒ กระโดดขา ๓.การเคล่ือนไหวโดย เดียวอยกู่ ับท่ไี ดโ้ ดยไม่ เดียวไปข้างหน้าได้ ทศิ ทาง ระดบั และพื้น เสยี การทรงตวั อยา่ งต่อเนอ่ื งโดยไม่ ๑. การเคล่อื นไหวเคล เสยี การทรงตัว ๒. การเคลื่อนไหวพร ๒.๑.๓ วิ่งหลบหลกี สงิ่ ๒.๑.๓ วิง่ หลบหลกี ส่งิ ๓. การเคล่ือนไหวโด กดี ขวางได้ กีดขวางไดอ้ ยา่ ง ทศิ ทาง ระดบั และพน้ื คล่องแคลว่ ๑. การเคล่ือนไหวอย ๒.๑.๔ รับลูกบอลโดย ๒. การเคล่ือนไหวเคล ใชม้ อื ทง้ั ๒ ข้าง ๒.๑.๔ รบั ลกู บอลท่ี ๓. การเคลื่อนไหวพร กระดอนข้นึ จากพ้นื ได้ ๔. การเคลื่อนไหวทใ่ี ของการใช้กลา้ มเนื้อใ ๕. การเคลื่อนไหวโด ทิศทาง ระดบั และพืน้

สาระการเรยี นรู้ หน่วย - รา่ งกายแขง็ แรง ารณส์ ำคัญ สาระทีค่ วรรู้ - ความปลอดภยั ของหนู - วันไหว้ครู ล่ือนท่ี ๑. การเดินทรงตวั เชน่ เดนิ ต่อเท้าใน - รา่ งกายของฉัน ดยควบคมุ ตนเองไปใน ลักษณะต่างๆ - ฝนจ๋า - อาเซียน นที่ ๒. การเคลื่อนไหวโดยควบคุมตนเอง - หนูทำได้ ไปในทศิ ทางที่กำหนด - การสือ่ สาร ยกู่ บั ท่ี ๑. การเคลอ่ื นไหวอยู่กบั ท่แี ละการ -รา่ งกายของฉนั ลื่อนที่ เคล่อื นท่ี เช่น การกระโดดขาเดียว ยควบคุมตนเองไปใน ๒. การเล่นเกมกระตา่ ยขาเดยี ว นที่ ลอ่ื นที่ ๑. การวง่ิ หลบหลีกสิง่ กดี ขวางตา่ งๆ รอ้ มวัสดอุ ปุ กรณ์ ๒. การเคล่ือนไหวรา่ งกายไปใน ดยควบคมุ ตนเองไปใน ทศิ ทาง ระดบั และพ้ืนทท่ี ม่ี ีสิ่งกดี นท่ี ขวาง ยกู่ ับท่ี ๑. การรับลกู บอลในลักษณะตา่ งๆ ลื่อนที่ ๒. ความคล่องแคลว่ วอ่ งไวของ ร้อมวัสดอุ ุปกรณ์ รา่ งกาย ใชก้ ารประสานสัมพันธ์ ใหญใ่ นการจบั ดยควบคมุ ตนเองไปใน นท่ี

ตารางวเิ คราะหส์ าระการเรยี นรรู้ ายปี โรงเรยี นบ้านทบั กมุ ารท พฒั นาการด้านร่างกาย มาตรฐานท่ี ๒ กล้ามเนอ้ื ใหญ่และกลา้ มเน ตวั ชวี้ ดั ท่ี สภาพทพ่ี ึงประสงค์ สภาพทีพ่ ึงประสงค์ ประสบก ๔ – ๕ ปี ๕ – ๖ ปี ๑. การหยิบจบั การ ๒.๒ ใช้มอื – ตา ๒. การทำกิจกรรมศ ประสานสมั พนั ธ์ ๒.๒.๑ ใช้กรรไกรตดั ๒.๒.๑ ใชก้ รรไกรตัด ๓. การเลน่ ตามมมุ ป กนั กระดาษตามแนว กระดาษตามแนวเส้น เสน้ ตรงได้ โค้งได้ ๒.๒.๒ เขียนรปู ๒.๒.๒ เขียนรปู ๑. การเขียนภาพแล สเ่ี หลยี่ มตามแบบได้ สามเหล่ียมตามแบบ ๒. การหยิบจับดินส อยา่ งมมี มุ ชัดเจน ไดอ้ ย่างมมี มุ ชดั เจน ๓. การทำงานศิลปะ ๒.๒.๓ ร้อยวสั ดุท่มี รี ู ๒.๒.๓ ร้อยวสั ดทุ ่มี ีรู ๑. การรอ้ ยวสั ดุ ขนาดเสน้ ผ่าน ขนาดเสน้ ผ่าน ๒. การเลน่ ตามมมุ ป ศูนยก์ ลาง ๐.๕ ศูนย์กลาง ๐.๒๕ เซนตเิ มตรได้ เซนติเมตรได้

ทอง สำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาเชยี งรายเขต ๓ น้อื เล็กแขง็ แรง ใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว และประสานสมั พันธ์กัน (ต่อ) สาระการเรียนรู้ หน่วย การณ์สำคญั สาระที่ควรรู้ รใชก้ รรไกรและการตัด ๑. วธิ กี ารใช้เครอ่ื งมือ เคร่ืองใช้ในการ - ของเล่นของใช้ ศิลปะตา่ งๆ ทำงานศิลปะอย่างปลอดภยั และถกู วิธี - สสี นั แสนสวย ประสบการณ์ เช่น กรรไกร ๒. การตดั กระดาษตามแนวตา่ งๆ ละการเล่นกบั สี ๑. การวาดภาพระบายสี - กลางวัน กลางคนื สอ และ สี ๒. การเรียนรู้และการเขียนเก่ยี วกับ - สิง่ มชี ีวิต สง่ิ ไม่มชี วี ติ ะ รูปรา่ ง เช่น รปู ส่ีเหลยี่ มและ สามเหล่ยี ม ๑. การรอ้ ยวสั ดุ เช่น ลูกปัดขนาด - บ้านแสนสขุ ประสบการณ์ ตา่ งๆ ด้วยเสน้ ดา้ ย - คมนาคม ๒. การฝึกกลา้ มเน้อื มอื สมั พนั ธก์ บั ประสาทตาผ่านการเล่น

ตารางวิเคราะหส์ าระการเรียนร้รู ายปี โรงเรียนบ้านทบั กุมารท พฒั นาการด้านอารมณ์ – จติ ใจ มาตร

ทอง สำนกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศึกษาเชยี งรายเขต ๓ รฐานท่ี ๓ มสี ุขภาพจติ ดีและมีความสขุ

ตัวช้วี ดั ที่ สภาพที่พงึ ประสงค์ สภาพทีพ่ ึงประสงค์ ตัวบ่งชท้ี ่ี ๓.๑ ๔ – ๕ ปี แสดงออกทาง ๕ – ๖ ปี ประสบกา อารมณ์ไดอ้ ยา่ ง ๓.๑.๑ แสดงอารมณ์ เหมาะสม ความรสู้ ึกไดต้ าม ๓.๑.๑ แสดง 1. การเล่นบทบาทส สถานการณ์ ตัวบง่ ชที้ ่ี ๓.๒ ความรูส้ กึ ไดส้ อดคลอ้ ง 2. การเล่นอิสระ มคี วามรูส้ กึ ท่ดี ี ๓.๒.๑ กลา้ พดู กล้า ตอ่ ตนเองและ แสดงออกอย่าง กับสถานการณอ์ ยา่ ง 3. การเล่นรายบุคค ผ้อู นื่ เหมาะสมบาง สถานการณ์ เหมาะสม กลุ่มใหญ่ 4. การเล่นตามมมุ ป เล่นต่างๆ 5. การเลน่ นอกห้อง 6. การพดู สะทอ้ นค และผู้อื่น ๓.๒.๑ กล้าพดู กลา้ 1. ๑. การพดู สะทอ้ นคว แสดงออกอย่าง และผูอ้ ่นื เหมาะสมตาม 2. ๒. การเล่นบทบาทส สถานการณ์ 3. ๓. การร่วมสนทนาแ ความคิดเหน็ 4. ๔. การพูดกบั ผูอ้ ่ืนเก ประสบการณข์ องตน เรือ่ งราวเก่ียวกบั ตนเ 5. ๕. พดู แสดงความคว ความรสู้ ึกและความต

สาระการเรยี นรู้ หนว่ ย ารณส์ ำคัญ สาระทคี่ วรรู้ - ฤดรู อ้ น - วันเฉลิม วนั อาสาฬบชู า สมมตุ ิ ๑. เลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ - ชมุ ชนน่าอยู่ ๒. การแสดงออกทางอารมณ์และ คล กลุม่ ยอ่ ย และ ความรู้สกึ อยา่ งเหมาะสม ๓. การแสดงมารยาทที่ดี ประสบการณ์/มมุ งเรียน ความร้สู กึ ของตนเอง วามรสู้ ึกของตนเอง ๑. พูดแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกับตนเอง - ผัก ผลไม้ นา่ กนิ และผ้อู น่ื - วันพอ่ สมมตุ ิ ๒. การเล่นเลยี นแบบ บทบาทสมมุติ - วนั แม่ และแลกเปลยี่ น ๓. การสร้างความมน่ั ใจในตนเอง ให้ กลา้ แสดงออก กยี่ วกับ นเองหรอื พูดเลา่ เอง วามคิดเหน็ ต้องการ

ตารางวิเคราะห์สาระการเรียนร้รู ายปี โรงเรยี นบ้านทบั กมุ ารท พัฒนาการด้านอารมณ์ – จิตใจ มาตรฐาน ตัวชี้วดั ที่ สภาพทพี่ งึ ประสงค์ สภาพท่ีพึงประสงค์ ๔ – ๕ ปี ตัวบ่งชท้ี ่ี ๓.๒ ๕ – ๖ ปี ประสบกา มคี วามร้สู ึกที่ดี ๓.๒.๒ แสดงความ ตอ่ ตนเองและ พอใจในผลงานและ ๓.๒.๒ แสดงความ 1. ๑. การพดู สะท้อนค ผู้อื่น ความสามารถของ ตนเอง พอใจในผลงานและ และผอู้ น่ื ความสามารถของ 2. ๒. การปฏิบัติกจิ กร ตนเองและผู้อื่น ความสามารถของต 3. ๓. การให้ความรว่ ม กิจกรรมตา่ งๆการพ ความรู้สึก และควา

ทอง สำนกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศึกษาเชียงรายเขต ๓ นท่ี ๓ มีสุขภาพจติ ดแี ละมีความสุข (ตอ่ ) สาระการเรียนรู้ หน่วย ารณส์ ำคัญ สาระทีค่ วรรู้ - วนั ข้นึ ปใี หม่ - ประสาทสัมผสั ความรสู้ กึ ของตนเอง1. ๑. ยอมรับและภูมิใจในความสามารถ ของตนเอง รรมตา่ ง ๆ ตาม 2. ๒. การรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อืน่ ตนเอง มมอื ในการปฏบิ ตั ิ พูดแสดงความคดิ ามต้องการ

ตารางวเิ คราะห์สาระการเรยี นรูร้ ายปี โรงเรียนบ้านทบั กุมารท พัฒนาการดา้ นอารมณ์ – จติ ใจ มาตรฐานท่ี ๔ ชน่ื ช

ทอง สำนักงานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาเชียงรายเขต ๓ ชมและแสดงออกทางศลิ ปะ ดนตรี และการเคลอ่ื นไหว


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook