ชุดที่ ๒ สารคดีเชิงความรู้

๑ คำชี้แจง ชุดฝึ กเสริมทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ชุดที่ ๒ สารคดีเชิงความรู้น้ี นักเรี ยน ส าม ารถ ศึ กษ าไ ด้ด้วยค ว าม เข้าใจใน การ เรี ยน ด้วยการ ป ฏิ บัติ ต าม คาแนะนาดงั น้ี ๑. ให้นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน นกั เรียนตรวจสอบคาตอบจาก เฉลยเพือ่ ตรวจสอบความรู้พ้นื ฐานของนกั เรียน ๒. นกั เรียนศกึ ษาเน้ือหาของชุดฝึ กเสริมทกั ษะการอ่านเชิงวเิ คราะห์ชุดที่ ๒ สารคดีเชิงความรู้โดยทาความเข้าใจและทาแบบฝึ กในแต่ละ ข้นั ตอน ๓. ถ้านักเรียนไม่เขา้ ใจตอบคาถามไม่ได้ให้ยอ้ นกลบั ไปอ่านเน้ือหา ชุดฝึ กเสริมทกั ษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ชุดที่ ๒ สารคดีเชิงความรู้ ใหม่อีกคร้ังหรือขอคาแนะนาจากครู

๒ วตั ถปุ ระสงค์ เมื่อนกั เรียนศึกษาชุดฝึกเสริมทกั ษะการอ่านเชิงวเิ คราะห์ชุดท่ี ๒ สารคดีเชิงความรู้นกั เรียนจะมีความรู้ความสามารถดงั น้ี ๑. วเิ คราะห์เน้ือหา ขอ้ มูล ขอ้ เทจ็ จริงได้ ๒. แสดงความรู้สึก และความคิดเห็นในเชิงเช่ือมโยงสมั พนั ธ์ได้ ๓. วเิ คราะห์จุดเด่น ขอ้ ดี ประโยชนแ์ ละขอ้ คิดได้ ๔. วิเคราะห์จุดดอ้ ย ปัญหา ผลกระทบและอปุ สรรคได้ ๕. นาเสนอแนวทาง วธิ ีการ ทางเลือกของตนเองได้ ๖. สรุป ลาดบั เหตุการณ์หรือข้นั ตอนของเร่ืองท่ีอ่านได้

๓ แบบทดสอบก่อนเรียน ชุด ๒ สำรคดเี ชิงควำมรู้ ๑. ไข่ผง ๒. ไหม

๔ ไข่ อาหารท่ีมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ประกอบดว้ ยสารอาหารท่ีสาคญั ไดแ้ ก่ โปรตีน ไขมนั เกลือแร่ วิตามิน และอ่ืนๆ เน่ืองจากความสดของไข่จะลดลงเรื่อยๆ เม่ือเกบ็ ไวเ้ ป็นเวลานาน ประกอบกบั ปริมาณการผลิตไม่แน่นอน ในบางช่วงกจ็ ะมีไข่ มากเกินความตอ้ งการของผบู้ ริโภค จึงมีการคิดแปรรูปไข่สดเป็นไข่ผงซ่ึงจะทาใหเ้ กบ็ ไข่ไวร้ ับประทานไดน้ าน ในระยะแรกไข่ผงยงั ไม่ไดร้ ับความนิยม จนกระทงั่ เกิดภาวะ ขาดแคลนอาหารในระหว่างสงคราม จึงมีผูน้ ิยมบริโภคไข่ผงมากข้ึน ทาให้มี การศกึ ษาและพฒั นาไข่ผงใหม้ ีคุณภาพดียงิ่ ข้ึนในการผลิตไข่ผงใหม้ ีคุณภาพดีน้นั เร่ิม ต้งั แต่การคดั เลือกไข่ท่ีมีความสด กรรมวิธีการผลิตท่ีตอ้ งคานึงถึงความสะอาดเป็ น สาคญั การเก็บและบรรจุในภาชนะที่กันความช้ืนและก๊าซออกซิเจน เพ่ือป้องกัน การเจริญเติบโตของแบคทีเรียคุณภาพบางประการลดลง เช่น สี กล่ิน รส ฯลฯ ไข่ผง นาไปประกอบอาหารได้หลายอย่างเช่น ไอศกรีม เค้ก ฯลฯ นอกจากน้ียงั ใช้เป็ น อาหารของสัตว์ ใชใ้ นอุตสาหกรรมทากาว สบู่ เขาเทียม ฯลฯ หรือทาใหเ้ ครื่องด่ืมที่มี สารแขวนลอยใสน่าด่ืม

๕ คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่ำนสำระน่ำรู้เร่ืองไข่ผง แล้วตอบคำถำมข้อ ๑ - ๖ ให้ถูกต้อง ๑. ปัญหาสาคญั ในการเกบ็ รักษาไข่สด คืออะไร ข. เปลือกไข่บอบบางแตกง่าย ก. ไข่มีน้าหนกั มาก ง. สิ้นเปลืองเน้ือท่ีในการเกบ็ รักษา ค. ความสดของไข่ลดลงเร่ือยๆ ข. การเพิม่ สารอาหาร ๒. การแปรรูปของไข่ผง จดั อยใู่ นขอ้ ใด ง. การผลิตอาหาร ก. การถนอมอาหาร ค. การประกอบอาหาร ข. เกบ็ ไวไ้ ดน้ านกวา่ ง. หาซ้ือไดส้ ะดวกกวา่ ๓. ไข่ผงมีขอ้ ดีกวา่ ไข่สดในเรื่องใด ก. มีสารอาหารสูงกวา่ ข. ออกซิเจนและความร้อน ค. มีรสชาติอร่อยกวา่ ง. คาร์บอนไดออกไซดแ์ ละความช้ืน ๔. สิ่งท่ีทาใหไ้ ข่ผงมีคุณภาพต่าลง คืออะไร ข. การยอ้ มสี ก. ความช้ืนและออกซิเจน ง. การทาเขาเทียม ค. ความร้อนและคาร์บอนไดออกไซด์ ข. ใชใ้ นภาวะขาดแคลนอาหาร ๕. ไข่ผงนาไปใชร้ ่วมในอุตสาหกรรมใด ง. ถูกทุกขอ้ ก. พลาสติก ค. กระดาษชาระ ๖. ไข่ผงมีประโยชนอ์ ยา่ งไร ก. นาไปประกอบอาหาร ค. แปรรูปอาหาร

๖ จีนไดช้ ื่อวา่ เป็นชาติแรกท่ีคน้ พบวิธีการเล้ียงไหม และใชไ้ หมทอผา้ จากตานาน เล่าว่า พระนางง่วงฮุย มเหสีของพระเจ้าอ้ึงตี่ ได้พบหนอนชนิดหน่ึงเกาะอยู่บน ตน้ หม่อน หนอนน้ีกินใบหม่อนเป็ นอาหาร และมีการชกั ใยรอบตวั หนอน พระนางจึง ใหน้ างขา้ หลวงสาวใยไหมออกจากรังและนามาทอเป็นผา้ การปลูกหม่อนและเล้ียงไหม ในตอนน้ันถือเป็ นความลับสุดยอดของประเทศจีน ต่อมาญี่ป่ ุนก็ได้ความรู้เรื่อง การเล้ียงไหมไปจากจีนเพราะเช้ือพระวงศข์ องกษตั ริยจ์ ีนไดอ้ พยพไปอยญู่ ี่ป่ ุนและไดน้ า ตน้ หม่อนพนั ธุใ์ หม่ไปเล้ียงดว้ ย หลงั จากน้นั ประเทศต่างๆกเ็ ร่ิมรู้วิธีการปลูกหม่อนเล้ียง ไหม ประเทศในยุโรปรู้จกั การเล้ียงไหม เพราะนักพรตชาวยุโรป ๒ รูปที่มาเผยแพร่ คริสต์ศาสนาในประเทศจีนได้ลกั ลอบนาไข่ไหมไปจากประเทศจีน การเล้ียงไหม ในประเทศไทยไม่มีหลกั ฐานแน่ชดั แต่เช่ือกนั ว่าไดร้ ับวิธีการเล้ียงไหมมาจากประเทศ จีน ในระยะแรกๆเล้ียงกนั แบบตามมีตามเกิด จนกระทง่ั ถึงรัชสมยั ของรัชกาลท่ี ๕ พระองค์ดาริให้มีการฟ้ื นฟูการเล้ียงไหมให้เจริญทดั เทียมประเทศเพื่อนบา้ น โดยจา้ ง ผเู้ ช่ียวชาญจากประเทศญ่ีป่ ุนมาปรับปรุงแกไ้ ขการเล้ียงไหมในไทย หลงั จากน้นั กม็ ีการ ปรับปรุงวธิ ีการเล้ียงไหมและทอผา้ ไหมใหด้ ีข้ึนเป็นลาดบั ปัจจุบันไหมไทยเป็ นที่นิยมของชาวต่างประเทศเพราะเน้ือไหมคุณภาพดี กรรมวิธีในการผลิตใช้วิธีตามธรรมชาติการทอทาด้วยมือ จึงทาให้เส้นไหมไม่เรียบ เสมอกนั มีป่ ุมปมซ่ึงถือเป็นลกั ษณะของไหมแท้ ท่ีมา : ธิติยา จนั ทพลาบูรณ์. แบบวดั ผลประเมินผลภาษาไทย ป.๖

๗ คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่ำนสำระน่ำรู้เร่ืองไหม แล้วตอบคำถำมข้อ ๗ – ๑๒ ให้ถูกต้อง ๗. ประเทศใดไดช้ ื่อวา่ เป็นประเทศแรกที่คน้ พบวธิ ีการเล้ียงไหม ก. จีน ข. ญ่ีป่ ุน ค. เกาหลี ง. อินเดีย ๘. มนุษยใ์ ชป้ ระโยชนจ์ ากสิ่งใดของไหม ก. ไข่ไหม ข. ตวั หนอน ค. รังไหม ง. ผเี ส้ือ ๙. ญี่ป่ ุนรู้วธิ ีเล้ียงไหมไดอ้ ยา่ งไร ก. ศึกษาจากตารา ข. คน้ ควา้ ทดลองดว้ ยตนเอง ค. เช้ือพระวงศข์ องจีนนาไหมไปเล้ียงท่ีญี่ป่ ุน ง. ส่งคนญ่ีป่ ุนไปศึกษาจากประเทศจีน ๑๐. ไทยไดว้ ธิ ีการเล้ียงไหมมาจากประเทศใด ก. พม่า ข. ลาว ค. จีน ง. ญี่ป่ ุน ๑๑. ประเทศไทยเร่ิมเล้ียงไหมต้งั แต่เม่ือไร ก. สมยั พระเจา้ อู่ทอง ข. สมยั พอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราช ค. พร้อมกบั ประเทศญี่ป่ ุน ง. ไม่มีหลกั ฐานแน่ชดั ๑๒. ลกั ษณะเด่นของผา้ ไหม คือขอ้ ใด ก. เส้นไหมเรียบเสมอกนั ข. เสน้ ไหมไม่เรียบ มีป่ ุมปม ค. เน้ือผา้ บางเบา สวมใส่สบาย ง.ทอดว้ ยมือ เป็นเงาแวววาง

๘ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน ๑. ค ๒. ก ๓. ข ๔. ก ๕. ง ๖. ง ๗. ก ๘. ค ๙. ค ๑๐. ค ๑๑. ง ๑๒. ข

๙ ในช่วงปลายปี ๒๕๓๔ วงการอนุรักษไ์ ดม้ ีการต่ืนตวั กนั เมื่อมีการสารวจพบวา่ ในน่านน้า ทะเลไทยยงั มี “ปลาพะยูน”เงือกข้ีเหร่ แห่งท้องทะเลหลงเหลืออยู่ในแถบบริเวณเกาะลิบง จงั หวดั ตรังเท่าท่ีตรวจพบปลาพะยนู มีจานวนหลงเหลือรอดจากภยั น้ามือมนุษยเ์ พียง ๔๐ – ๖๐ ตวั เท่าน้นั เพ่ือรักษาเผ่าพนั ธุ์ของเงือกข้ีเหร่ พุ่งเป้าไปท่ีชาวประมงพ้ืนบา้ น ซ่ึงถือว่าเป็นศตั รูหมาย เลย ๑ ซ่ึงใชอ้ วนผิดประเภททาลายบริเวณแหล่งหญา้ ทะเล อาหารของปลาพะยูน และล่าปลา พะยูนมาเพ่ือใช้เป็ นอาหารจึงตอ้ งทาความเข้าใจให้ตระหนักถึงความสาคัญของการรักษา เผา่ พนั ธุ์ปลาพะยนู แต่แลว้ เมื่อมีกระแสข่าวความเช่ือในเร่ืองไสยศาสตร์ว่าชิ้นส่วนต่างๆของเงือกข้ีเหร่ สามารถนาไปทาเคร่ืองรางของขลังได้ การล่าเพื่อการซ้ือขายจึงเกิดข้ึน ปลาพะยูนท่ีมีอยู่ จานวนมากกค็ ่อยๆร่อยหรอลง ดงั น้นั ทางรัฐบาลจึงประกาศใหเ้ ป็นสัตวค์ ุม้ ครองท่ีผใู้ ดจะทาลาย หรือมีไวค้ รอบครองไม่ไดจ้ ึงมีคนหนั มาสนใจอนุรักษก์ นั มากข้ึน จากหนงั สือพมิ พป์ ระชาชาติธุรกิจ ฉบบั วนั พฤหสั ท่ี ๑๙ ส.ค. ๒๕๕๕

๑๐ ชุดฝึ กเสริมทกั ษะกำรอ่ำนเชิงวเิ ครำะห์ แบบฝึ กท่ี ๑ พะยูนกำลงั จะสูญพนั ธ์ุ ใหน้ กั เรียนวเิ คราะห์เร่ือง พะยนู กาลงั จะสูญพนั ธุ์ โดยใชเ้ ทคนิคการคิดแบบหมวก ๖ ใบ ๑. ขอ้ มูลหลกั ในเน้ือเร่ืองมีอะไรบา้ ง …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๒. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไรต่อเรื่องท่ีอ่าน …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๓. มีผลประโยชนใ์ ดจากการล่าปลาพะยนู …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๔. ควรทาอยา่ งไรเพอื่ คลี่คลายสถานการณ์การสูญพนั ธุ์ของปลาพะยนู …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๕. จากเน้ือเรื่องนกั เรียนมีแนวทางใดบา้ งที่จะป้องกนั ไม่ใหช้ ุมชนของนกั เรียนมี การทาลายสตั วค์ ุม้ ครอง …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๖. จากเร่ืองที่นกั เรียนอ่าน นกั เรียนไดข้ อ้ สรุปอยา่ งไรบา้ ง …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………

๑๑ ป่ าที่รัก ฉนั กลบั มาสู่ออ้ มกอดของเธออีกแลว้ ฉนั จากเธอไปนาน แต่ฉนั กค็ ิกถึงเธอเสมอ ไม่ลืมความอบอุ่นท่ีได้จากเธอฉันระลึกเสมอว่าฉันมีชี วิตอยู่ได้อย่างเป็ นสุ ข กเ็ พราะเธอ เธ อ ส วยแ บ บ ธ รรม ช าติ ไ ม่ มี ก ารเส ริ ม แ ต่ ง แ ต่ เธ อ ก็ทัน ส มัยเส ม อ เธอเปล่ียนแปลงความเหมาะสมของทุกฤดูกาล ฤดูฝนเธอจะสดชื่นเขียวชอุ่ม ฤดูแลง้ เธอ จะเห่ี ยวแห้งไปหน่ อยแต่ก็ไม่ทาให้เธอลดความมีเสน่ ห์ ฤดูหนาวแม้อากาศ จะหนาวเหน็บหน้าเธอก็ไม่ร้าวเหมือนป่ าคอนกรีตในเมืองหลวง ทองกวาว อินทนิน ประดู่ พะยอม สีสวยสด ฉนั มองดูเธอแลว้ ดว้ ยความสดชื่นรื่นรมยห์ นา้ น้ีแหละฉนั จาได้ ใตต้ น้ ทองกวาวท่ีกาลงั ออกดอกสะพร่ัง ฉันสมหวงั ในความรัก ฉันอายเธอเหลือเกิน เธอคงรู้หมดซินะวา่ ฉนั พูดกบั คนที่ฉนั รักวา่ อยา่ งไรและยงั ไง เธออยา่ บอกใครนะ

๑๒ ป่ าที่รัก เธอให้หลายอย่างแก่ฉันจริงๆ อาหาร น้า ความสมบูรณ์ต่างๆลว้ นแต่เธอ มีส่วนช่วยบนั ดาลให้ เธอเป็ นผูใ้ ห้ท่ีไม่หวงั ผลตอบแทนจริงๆ เป็ นผูบ้ ริจาคท่ีไม่ประสงค์ ออกนามอีกดว้ ย จึงไม่มีใครเขา้ ใจเธออยา่ งแทจ้ ริง นอกจากผูท้ ่ีรักและใกลช้ ิดกบั เธอเท่าน้นั เธอไม่ตอ้ งเสียใจหรือนอ้ ยใจ มีหลายคนนกั ที่รักและเป็นห่วงเธออยา่ งจริงใจ กระท่อมหลงั เล็กๆของฉันก็ได้มาจากเธอ ฉันรอดตายเม่ือสองปี ก่อนโน้นด้วยสมุนไพรที่เธอให้มา สมุนไพรของเธอช่วยชีวติ คนมามากเหลือเกิน ไม่เฉพาะแต่ฉนั เท่าน้นั หรอกฉนั รู้ดีและซ้ึงใน ความดีของเธอเสมอ ฉันเสียใจเหลือเกิน ท่ีทราบว่ามีคนทาลายเธอ เพื่อตอ้ งการพ้ืนดินท่ีเธออยู่เพียง เล็กๆนอ้ ยๆทาลายญาติพี่นอ้ งของเธอดว้ ยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และเขาทาให้เธอเสียใจแต่ ฉันทากบั เธอไม่ได้ ฉันจะทาลายป่ าท่ีฉันรักไม่ไดแ้ น่นอน ฉันจะรักหวงแหนปกป้องและ คุม้ ครองเธอเท่าท่ีจะทาได้ ที่มา : ธิติยา จนั ทพลาบูรณ์. แบบวดั ผลประเมินผลภาษาไทย ป.๖

๑๓ ชุดฝึ กเสริมทกั ษะกำรอ่ำนเชิงวเิ ครำะห์ แบบฝึ กท่ี ๒ ป่ ำ ใหน้ กั เรียนวเิ คราะหเ์ รื่อง ป่ า โดยใชเ้ ทคนิคการคิดแบบหมวก ๖ ใบ ๑. ฉนั ในขอ้ ความน้ีเป็นคนท่ีมีลกั ษณะนิสัยอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๒. นกั เรียนมีความรู้สึกอยา่ งไรกบั เรื่องท่ีอ่าน …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๓. ถา้ ป่ าถูกทาลายจะทาใหเ้ กิดผลเสียอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๔. นกั เรียนมีวธิ ีการอยา่ งไรไม่ใหป้ ่ าถูกทาลาย …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๕. นกั เรียนมีแนวความคิดท่ีจะรักษาป่ าไดอ้ ยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๖. ผเู้ ขียนขอ้ ความน้ีมีจุดมุ่งหมายอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………

๑๔ สานกั งานสาธารณสุขจงั หวดั ชลบุรี กล่าวเตือนถึงน้ามนั ที่ใชป้ ระกอบ อาหารทว่ั ๆไป มี ๒ ชนิด คือ น้ามนั พืชและน้ามนั สัตว์ ซ่ึง ๒ ชนิดน้ีมีความ แตกต่างกัน น้ ามันสัตว์ เช่น น้ ามันหมูจะเป็ นไขง่าย ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน เมื่อประกอบอาหาร แต่กินเขา้ ไปนานๆจะทาใหค้ อเลสเตอรอลในเลือดสูงข้ึน ส่วนน้ามนั พืช ไดแ้ ก่น้ามนั ถวั่ เหลืองและน้ามนั ขา้ วโพด จะมีขอ้ แตกต่างจาก น้ามนั สัตวค์ ือไม่ค่อยเป็ นไขแมจ้ ะอยใู่ นตูเ้ ยน็ เกิดกล่ินเหมน็ หืนเมื่อประกอบ อาหาร เป็ นไขมันท่ีร่างกายจาเป็ นต้องได้จากอาหาร โดยเฉพาะเด็กท่ีตอ้ ง เจริญเติบโตต่อไปและยงั ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดด้วย ยกเวน้ น้ามนั มะพร้าวและน้ามนั ปาลม์ จะมีลกั ษณะเหมือนน้ามนั สัตว์ ไม่เหมาะกบั การเจริญเติบโตของเดก็ ดูแลว้ น้ามนั พืชจะมีประโยชน์มากกวา่ น้ามนั สัตว์ แต่ กม็ ีโอกาสท่ีจะเกิดพิษต่อร่างกายได้

๑๕ ในกรณีท่ีใช้ความร้อนสูงมากจนถึงจุดเดือดมากกว่า ๑๘๐ องศา โดยจะ สังเกตไดจ้ ากการที่น้ามนั เดือดเป็นฟองปุด ในขณะท่ียงั ไม่ไดใ้ ส่สารอาหาร ใดๆลงไปจะทาใหเ้ กิดสารพิษจนเราสังเกตเห็นคือ สีของน้ามนั เปล่ียนจาก สีเหลืองเป็ นสีน้าตาล สารพิษน้ีเรียกว่า โพลาคอมเพาด์ ยิง่ น้ามนั สีน้าตาล เข้มมากก็ยิ่งมีสารโพลาคอมเพาด์มาก เม่ือกินเข้าไปจะมีผลทาให้ เจริญเติบโต ตบั ไต ผดิ ปกติเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหาร ท่ีมา : เดลินิวส์ ฉบบั วนั ท่ี ๒๙ เม.ย. ๒๕๕๕

๑๖ ชุดฝึ กเสริมทักษะกำรอ่ำนเชิงวเิ ครำะห์ แบบฝึ กที่ ๓ พษิ จำกนำ้ มนั พืช ใหน้ กั เรียนวิเคราะหเ์ รื่อง พษิ จากน้ามนั พืช โดยใชเ้ ทคนิคการคิดแบบหมวก ๖ ใบ ๑. น้ามนั ท่ีใชป้ ระกอบอาหารมีก่ีชนิด อะไรบา้ ง …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๒.น้ามนั ท่ีนกั เรียนใชป้ ระกอบอาหารมีโทษหรือประโยชนอ์ ยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๓.น้ามนั ชนิดใดที่ไม่เหมาะกบั การรับประทาน เพราะเหตุใด …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๔.น้ามนั ชนิดใดที่เหมาะกบั การเจริญเติบโตของเดก็ …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๕.นกั เรียนมีวธิ ีการหลีกเล่ียงการใชน้ ้ามนั ท่ีไม่มีประโยชนอ์ ยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๖.จากเรื่องที่นกั เรียนอ่าน นกั เรียนไดข้ อ้ สรุปอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………

๑๗ รังนกเป็นอาหารที่คนไทยเชื่อกนั วา่ ทาใหร้ ่างกายแขง็ แรง อายยุ นื และเป็นยาบารุงกาลงั รังนกที่วา่ น้ีคือ รังนกนางแอ่น ซ่ึงเป็นสินคา้ ส่งออกที่ทารายไดอ้ ยา่ งสูงใหแ้ ก่ประเทศไทย นกนางแอ่นเป็นนกที่มีขนาดเลก็ เท่านกกระจอก กินแมลงเป็นอาหาร จะอยรู่ วมกนั เป็น จานวนมาก นกน างแอ่นมีมากใน แถบเอเชี ยตะวันออกเฉี ยงใต้ ในประเทศไทยพบมาก ในจงั หวดั กระบ่ี ชุมพร ตรัง ประจวบคีรีขนั ธ์ และสุราษฎร์ธานี นกนางแอ่นสร้างรังดว้ ยน้าลาย โดยจะทารังในเวลากลางคืน ลกั ษณะของรังนกจะเป็ น รู ปตัวยู เม่ือแห้งจะแข็ง น กนางแอ่นจะสร้างรังใหม่ถ้ารังเก่าถูกเก็บไป ส่ วนใหญ่ “ชาหอ” จะเกบ็ รังนกเพยี ง ๒ คร้ัง รังนกที่สร้างคร้ังที่ ๓ จะปล่อยใหน้ กไดว้ างไข่

๑๘ ชาวจีนจดั รังนกเป็นอาหารช้นั สูง รักนกที่บริสุทธ์ิและราคาแพงจะตอ้ งเป็นรังนก ที่ขาวสะอาด สร้างจากน้าลายนกนางแอ่นขาวซ่ึงค่อนขา้ งหายาก รังนกมีคุณค่าทางอาหาร ค่อนขา้ งสูงและมีสารประกอบท่ีมีคุณสมบตั ิยบั ย้งั การเกิดเช้ือไวรัสหวดั ในปัจจุบนั นกนางแอ่นมีจานวนลดลง ราคารังนกจึงสูงข้ึนทุกๆปี ดงั น้ันรังนกแทๆ้ จึงหารับประทานได้ค่อนขา้ งยาก รังนกที่ปรุงขายโดยท่ัวไปส่วนใหญ่เป็ นรังนกปลอม ซ่ึงทาจากวนุ้ ผสมกบั สาหร่ายทะเลและแต่งกลิ่น รสชาติและกล่ินคลา้ ยรังนกแทๆ้ มาก ที่มา : สมศกั ด์ิ สินธุระเวชญ.์ แบบวดั ผลประเมินผลภาษาไทย ป. ๖

๑๙ ชุดฝึ กเสริมทักษะกำรอ่ำนเชิงวเิ ครำะห์ แบบฝึ กท่ี ๔ รังนก ใหน้ กั เรียนวเิ คราะห์เรื่อง รังนก โดยใชเ้ ทคนิคการคิดแบบหมวก ๖ ใบ ๑. จากเรื่อง รังนก น้ีมีขอ้ มูลอะไรบา้ ง …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๒. นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไรกบั เร่ืองที่อ่าน …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๓. รังนกปลอมเกิดข้ึนเพราะสาเหตุใด …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๔. รังนกนางแอ่นมีประโยชนอ์ ยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๕. การเกบ็ รังนกอยา่ งถูกวธิ ีทาอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๖. การท่ีนกนางแอ่นมีจานวนลดลงน่าจะมีสาเหตุจากสิ่งใด …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………

๒๐ มมั ม่ี คือศพอาบยาที่ไม่เน่าเป่ื อยแต่แหง้ อียปิ ตโ์ บราณถือวา่ การทามมั มี่เป็น งานสาคัญย่ิง ชาวอียิปต์เช่ือว่าวิญญาณเป็ นตัวสาคัญที่ทาให้คนเรามีชีวิตอยู่ได้ เมื่อคนตายแสดงว่าวิญญาณออกจากร่างและถา้ เกบ็ รักษาร่างให้ดีวิญญาณน้นั ก็จะ กลบั สู่ร่างไดอ้ ีก คนๆน้นั กจ็ ะฟ้ื นข้ึนมาไดเ้ สมือนเป็นการนอนหลบั ไปชวั่ คราว ในการทามมั มี่เขาจะเอาอวยั วะภายในร่างออกหมด นอกจากหัวใจเพราะ หัวใจเป็ นศูนยก์ ลางของความคิดหัวใจเป็ นศูนยก์ ลางของความรู้สึกตอ้ งเก็บเอาไว้ เม่ือเอาอวยั วะออกเรียบร้อยแลว้ ก็นาศพไปแช่เกลือชนิดหน่ึงเรียกว่า เนตรอน เกลือน้ีจะดูดความช้ืนออกไปจากร่าง เม่ือร่างแหง้ ดีแลว้ จะเอาแถบผา้ ยาวๆมาพนั ศพ จนมิดหมด แลว้ เอาเคร่ืองหอมทาภายนอกผา้ ที่พนั ศพ บางคร้ังมมั ม่ีที่พนั ผา้ เสร็จแลว้ ยงั สวมหนา้ กากไวอ้ ีกกม็ ี

๒๑ หน้ากากท่ีสวมจะแสดงฐานะความเป็ นอยู่ของคนตาย เม่ือแต่งศพเป็ นมมั มี่เสร็จก็นาไปใส่ไวใ้ นโลง บางท่ีโลงหน่ึงๆ กบ็ รรจุมมั ม่ีเพียงศพเดียว แต่บางโลงอาจบรรจุหลายศพโลงศพจะมีรูปทรงคลา้ ย กบั ตวั มมั ม่ี ต้งั แต่ผ่าศพทาความสะอาด แช่เกลือเรื่อยไปจนกระทง่ั ถึงบรรจุโลงจะ กินเวลาประมาณ ๗๐ วนั จากน้นั จะนามมั ม่ีไปฝัง ชาวอียปิ ตเ์ ชื่อว่า สักวนั หน่ึง วญิ ญาณที่ออกไปเท่ียวโลกอ่ืนกจ็ ะยอ้ นกลบั สู่เจา้ ของร่างเดิม ที่มา : สมศกั ด์ิ สินธุระเวชญ.์ แบบวดั ผลประเมินผลภาษาไทย ป.๖

๒๒ ชุดฝึ กเสริมทกั ษะกำรอ่ำนเชิงวเิ ครำะห์ แบบฝึ กท่ี ๕ มมั มี่ ใหน้ กั เรียนวิเคราะหเ์ ร่ือง มมั มี่ โดยใชเ้ ทคนิคการคิดแบบหมวก ๖ ใบ ๑. นกั เรียนไดข้ อ้ มูลอะไรจากเรื่องท่ีอ่าน …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๒. นกั เรียนคิดวา่ วิญญาณจะกกลบั เขา้ ร่างไดห้ รือไม่ เพราะเหตุใด …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๓. ความเชื่อของชาวอียปิ ตโ์ บราณ แตกต่างจากความเช่ือของคนไทยอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๔. การนาศพไปแช่เกลือเนตรอนมีผลดีอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๕. ชาวอียปิ ตม์ ีความเช่ือเกี่ยวกบั วญิ ญาณและชีวติ อยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ๖. การทามมั ม่ีมีข้นั ตอนอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………

๒๓ แบบทดสอบหลงั เรียน ชุด ๒ ๑. ไข่ผง ๒. ไหม

๒๔ ไข่ อาหารท่ีมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ประกอบดว้ ยสารอาหารท่ีสาคัญไดแ้ ก่ โปรตีน ไขมนั เกลือแร่ วิตามิน และอ่ืนๆ เน่ืองจากความสดของไข่จะลดลงเร่ือยๆ เมื่อเกบ็ ไวเ้ ป็นเวลานาน ประกอบกบั ปริมาณการผลิตไม่แน่นอน ในบางช่วงกจ็ ะมีไข่ มากเกินความตอ้ งการของผบู้ ริโภค จึงมีการคิดแปรรูปไข่สดเป็นไข่ผงซ่ึงจะทาใหเ้ กบ็ ไข่ไวร้ ับประทานไดน้ าน ในระยะแรกไข่ผงยงั ไม่ไดร้ ับความนิยม จนกระทงั่ เกิดภาวะ ขาดแคลนอาหารในระหว่างสงคราม จึงมีผูน้ ิยมบริโภคไข่ผงมากข้ึน ทาให้มี การศึกษาและพฒั นาไข่ผงใหม้ ีคุณภาพดียงิ่ ข้ึนในการผลิตไข่ผงใหม้ ีคุณภาพดีน้นั เร่ิม ต้งั แต่การคดั เลือกไข่ท่ีมีความสด กรรมวิธีการผลิตที่ตอ้ งคานึงถึงความสะอาดเป็ น สาคญั การเก็บและบรรจุในภาชนะท่ีกันความช้ืนและก๊าซออกซิเจน เพื่อป้องกัน การเจริญเติบโตของแบคทีเรียคุณภาพบางประการลดลง เช่น สี กลิ่น รส ฯลฯ ไข่ผง นาไปประกอบอาหารได้หลายอย่างเช่น ไอศกรีม เค้ก ฯลฯ นอกจากน้ียงั ใช้เป็ น อาหารของสัตว์ ใชใ้ นอุตสาหกรรมทากาว สบู่ เขาเทียม ฯลฯ หรือทาใหเ้ คร่ืองด่ืมที่มี สารแขวนลอยใสน่าดื่ม

๒๕ คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่ำนสำระน่ำรู้เรื่องไข่ผง แล้วตอบคำถำมข้อ ๑- ๖ ให้ถูกต้อง ๑. ไข่ผงมีประโยชนอ์ ยา่ งไร ข. ใชใ้ นภาวะขาดแคลนอาหาร ก. นาไปประกอบอาหาร ง. ถูกทุกขอ้ ค. แปรรูปอาหาร ข. เปลือกไข่บอบบางแตกง่าย ๒. ปัญหาสาคญั ในการเกบ็ รักษาไข่สด คืออะไร ง. สิ้นเปลืองเน้ือท่ีในการเกบ็ รักษา ก. ไข่มีน้าหนกั มาก ค. ความสดของไข่ลดลงเรื่อยๆ ข. การยอ้ มสี ง. การทาเขาเทียม ๓. ไข่ผงนาไปใชร้ ่วมในอตุ สาหกรรมใด ก. พลาสติก ข. ออกซิเจนและความร้อน ค. กระดาษชาระ ง. คาร์บอนไดออกไซดแ์ ละความช้ืน ๔. สิ่งที่ทาใหไ้ ข่ผงมีคุณภาพต่าลง คืออะไร ข. การเพมิ่ สารอาหาร ก. ความช้ืนและออกซิเจน ง. การผลิตอาหาร ค. ความร้อนและคาร์บอนไดออกไซด์ ข. เกบ็ ไวไ้ ดน้ านกวา่ ๕. การแปรรูปของไข่ผง จดั อยใู่ นขอ้ ใด ง. หาซ้ือไดส้ ะดวกกวา่ ก. การถนอมอาหาร ค. การประกอบอาหาร ๖.ไข่ผงมีขอ้ ดีกวา่ ไข่สดในเรื่องใด ก. มีสารอาหารสูงกวา่ ค. มีรสชาติอร่อยกวา่

๒๖ จีนไดช้ ื่อวา่ เป็นชาติแรกท่ีคน้ พบวธิ ีการเล้ียงไหม และใชไ้ หมทอผา้ จากตานาน เล่าว่า พระนางง่วงฮุย มเหสีของพระเจ้าอ้ึงต่ี ได้พบหนอนชนิดหน่ึงเกาะอยู่บน ตน้ หม่อน หนอนน้ีกินใบหม่อนเป็ นอาหาร และมีการชกั ใยรอบตวั หนอน พระนางจึง ใหน้ างขา้ หลวงสาวใยไหมออกจากรังและนามาทอเป็นผา้ การปลูกหม่อนละเล้ียงไหม ในตอนน้นั ถือเป็นความลบั สุดยอดของประเทศจีน ต่อมาญี่ป่ ุนกไ็ ดค้ วามรู้เรื่องการเล้ียง ไหมไปจากจีนเพราะเช้ือพระวงศ์ของกษัตริ ย์จีนได้อพยพไปอยู่ญี่ป่ ุนและได้ ตน้ หม่อนพนั ธุ์ใหม่ไปเล้ียงดว้ ย หลงั จากน้นั ประเทศต่างๆกเ็ ร่ิมรู้วิธีการปลูกหม่อนเล้ียง ไหม ประเทศในยุโรปรู้จกั การเล้ียงไหม เพราะนักพรตชาวยุโรป ๒ รูปท่ีมาเผยแพร่ คริสต์ศาสนาในประเทศจีนได้ลักลอบนาไข่ไหมไปจากประเทศจีน การเล้ียงไหม ในประเทศไทยไม่มีหลกั ฐานแน่ชดั แต่เชื่อกนั ว่าไดร้ ับวิธีการเล้ียงไหมมาจากประเทศ จีน ในระยะแรกๆเล้ียงกนั แบบตามมีตามเกิด จนกระท่งั ถึงรัชสมัยของรัชกาลท่ี ๕ พระองค์ดาริให้มีการฟ้ื นฟูการเล้ียงไหมให้เจริญทดั เทียมประเทศเพ่ือนบา้ น โดยจา้ ง ผเู้ ชี่ยวชาญจากประเทศญ่ีป่ ุนมาปรับปรุงแกไ้ ขการเล้ียงไหมในไทย หลงั จากน้นั กม็ ีการ ปรับปรุงวธิ ีการเล้ียงไหมและทอผา้ ไหมใหด้ ีข้ึนเป็นลาดบั ปัจจุบันไหมไทยเป็ นที่นิยมของชาวต่างประเทศเพราะเน้ือไหมคุณภาพดี กรรมวิธีในการผลิตใช้วิธีตามธรรมชาติการทอทาด้วยมือ จึงทาให้เส้นไหมไม่เรียบ เสมอกนั มีป่ ุมปมซ่ึงถือเป็นลกั ษณะของไหมแท้ ที่มา : ธิติยา จนั ทพลาบูรณ์. แบบวดั ผลประเมินผลภาษาไทย ป.๖

๒๗ คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่ำนสำระน่ำรู้เร่ืองไหม แล้วตอบคำถำมข้อ ๗ – ๑๒ ให้ถูกต้อง ๗. ลกั ษณะเด่นของผา้ ไหม คือขอ้ ใด ก. เส้นไหมเรียบเสมอกนั ข. เส้นไหมไม่เรียบ มีป่ ุมปม ค. เน้ือผา้ บางเบา สวมใส่สบาย ง. ทอดว้ ยมือ เป็นเงาแวววาง ๘. ประเทศใดไดช้ ื่อวา่ เป็นประเทศแรกที่คน้ พบวธิ ีการเล้ียงไหม ก. จีน ข. ญี่ป่ ุน ค. เกาหลี ง. อินเดีย ๙. มนุษยใ์ ชป้ ระโยชนจ์ ากสิ่งใดของไหม ก. ไข่ไหม ข. ตวั หนอน ค. รังไหม ง. ผเี ส้ือ ๑๐. ประเทศไทยเริ่มเล้ียงไหมต้งั แต่เมื่อไร ก. สมยั พระเจา้ อู่ทอง ข. สมยั พอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราช ค. พร้อมกบั ประเทศญี่ป่ ุน ง. ไม่มีหลกั ฐานแน่ชดั ๑๑. ญี่ป่ ุนรู้วธิ ีเล้ียงไหมไดอ้ ยา่ งไร ก. ศกึ ษาจากตารา ข. คน้ ควา้ ทดลองดว้ ยตนเอง ค. เช้ือพระวงศข์ องจีนนาไหมไปเล้ียงที่ญ่ีป่ ุน ง. ส่งคนญี่ป่ ุนไปศึกษาจากประเทศจีน ๑๒. ไทยไดว้ ธิ ีการเล้ียงไหมมาจากประเทศใด ก. พม่า ข.ลาว ค. จีน ง. ญี่ป่ ุน

๒๘ แนวกำรให้คำตอบ

๒๙ เกณฑ์กำรให้คะแนนแบบฝึ กท่ี ๑ เร่ือง พะยูนกำลงั จะสูญพนั ธ์ ข้อคำถำม เกณฑ์กำรให้คะแนน ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐) ๑. ขอ้ มูลหลกั ในเน้ือเร่ืองมี บอกถึงเน้ือหาของเรื่อง บอกถึงเน้ือหาของเรื่อง ไม่มีคาตอบ อะไรบา้ ง พะยนู กาลงั จะสูญพนั ธ์ พะยนู กาลงั จะสูญพนั ธ์ ได้ ๒ ประเดน็ ได้ ๑ ประเดน็ ๒.นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไรต่อ บอกถึงความรู้สึก บอกถึงความรู้สึก ไม่มีคาตอบ เรื่องที่อ่าน ต่อเรื่องที่อ่านได้ ๒ ต่อเรื่องท่ีอ่านได้ ๑ ประเดน็ ประเดน็ ๓. มีผลประโยชนใ์ ดจากการ บอกถึงผลประโยชน์ บอกถึงผลประโยชน์ ไม่มีคาตอบ ล่าปลาพะยนู จากการล่าปลาพะยนู ได้ จากการล่าปลาพะยนู ๒ ประเดน็ ได้ ๑ ประเดน็ ๔. ควรทาอยา่ งไรเพือ่ นาเสนอแนวทางเพ่อื นาเสนอแนวทางเพอ่ื ไม่มีคาตอบ คลี่คลายสถานการณ์การสูญ คลี่คลายการสูญพนั ธ์ คลี่คลายการสูญพนั ธ์ พนั ธุ์ของปลาพะยนู ของปลาพะยนู ได้ ๒ ของปลาพะยนู ได้ ๑ ประเดน็ ประเดน็ ๕. จากเน้ือเรื่องนกั เรียนมี นาเสนอแนวทางที่จะ นาเสนอแนวทางที่จะ ไม่มีคาตอบ แนวทางใดบา้ งที่จะป้องกนั ป้องกนั ไม่ใหช้ ุมชนมี ป้องกนั ไม่ใหช้ ุมชนมี ไม่ใหช้ ุมชนของนกั เรียนมี การทาลายสตั วค์ ุม้ ครอง การทาลายสัตว์ การทาลายสตั วค์ ุม้ ครอง ได้ ๒ ประเดน็ คุม้ ครองได้ ๑ ประเดน็ ๖. จากเร่ืองท่ีนกั เรียนอ่าน สรุปเน้ือหาของเร่ืองได้ สรุปเน้ือหาของเรื่องได้ ไม่มีคาตอบ นกั เรียนไดข้ อ้ สรุปอยา่ งไร ชดั เจน มีสาระสาคญั ชดั เจน ขาด บา้ ง สาระสาคญั บาง ประเดน็

๓๐ เกณฑ์กำรให้คะแนนแบบฝึ กท่ี ๒ เรื่อง ป่ ำ ข้อคำถำม เกณฑ์กำรให้คะแนน ๑. ฉนั ในขอ้ ความน้ีเป็นคนท่ี ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐) มีลกั ษณะนิสัยอยา่ งไร บอกถึงลกั ษณะนิสัย บอกถึงลกั ษณะนิสัย ไม่มีคาตอบ ๒.นกั เรียนมีความรู้สึก อยา่ งไรกบั เรื่องท่ีอ่าน ของคาวา่ ฉนั ใน ของคาวา่ ฉนั ใน ๓. ถา้ ป่ าถูกทาลายจะทาให้ เร่ืองป่ าได้ ๒ ประเดน็ เรื่องป่ าได้ ๑ ประเดน็ เกิดผลเสียอยา่ งไร บอกถึงความรู้สึก บอกถึงความรู้สึก ไม่มีคาตอบ ๔.นกั เรียนมีวธิ ีการอยา่ งไร ไม่ใหป้ ่ าถูกทาลาย เก่ียวกบั เรื่องที่อ่านได้ เกี่ยวกบั เร่ืองที่อ่านได้ ๑ ๕.นกั เรียนมีแนวความคิดท่ี ๒ ประเดน็ ประเดน็ จะรักษาป่ าไดอ้ ยา่ งไร ๖. ผเู้ ขียนขอ้ ความน้ีมี บอกถึงผลเสียของป่ าที่ บอกถึงผลเสียของป่ าท่ี ไม่มีคาตอบ จุดมุ่งหมายอยา่ งไร ถูกทาลายได้ ๒ ถูกทาลายได้ ๑ ประเดน็ ประเดน็ นาเสนอแนวทาง นาเสนอแนวทางในการ ไม่มีคาตอบ ในการไม่ใหป้ ่ าถูก ไม่ใหป้ ่ าถูกทาลายได้ ๑ ทาลายได้ ๒ ประเดน็ ประเดน็ นาเสนอแนวคิดที่จะ นาเสนอแนวคิดที่จะ ไม่มีคาตอบ รักษาป่ าได้ ๒ ประเดน็ รักษาป่ าได้ ๑ ประเดน็ สรุปเน้ือหาของเร่ืองได้ สรุปเน้ือหาของเร่ืองได้ ไม่มีคาตอบ ชดั เจน มีสาระสาคญั ชดั เจน ขาดสาระสาคญั บางประเดน็

๓๑ เกณฑ์กำรให้คะแนนแบบฝึ กท่ี ๓ เร่ืองพษิ จำกนำ้ มนั พืช ข้อคำถำม เกณฑ์กำรให้คะแนน ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐) ๑. น้ามนั ที่ใชป้ ระกอบ บอกไดว้ า่ น้ามนั ที่ใช้ บอกไดว้ า่ น้ามนั ท่ีใช้ ไม่มีคาตอบ อาหารมีก่ีชนิด อะไรบา้ ง ประกอบอาหารมี ๒ ชนิด ประกอบอาหารมี ๒ ชนิด คือน้ามนั พืชและน้ามนั คือน้ามนั พชื หรือน้ามนั สัตว์ สตั ว์ ๒. น้ามนั ท่ีนกั เรียนใช้ บอกถึงโทษและ บอกถึงโทษและ ไม่มีคาตอบ ประกอบอาหารมีโทษหรือ ประโยชนข์ องน้ามนั ที่ใช้ ประโยชนข์ องน้ามนั ท่ีใช้ ประโยชนอ์ ยา่ งไร. ประกอบอาหารได้ ๒ ประกอบอาหาร ได้ ๑ ประเดน็ ประเดน็ ๓. น้ามนั ชนิดใดท่ีไม่ บอกไดว้ า่ น้ามนั จากสตั ว์ บอกไดว้ า่ น้ามนั จากสตั ว์ ไม่มีคาตอบ เหมาะกบั การรับประทาน ไม่เหมาะกบั การ ไม่เหมาะกบั การ เพราะเหตุใด รับประทานพร้อมให้ รับประทานพร้อมให้ เหตุผลสมเหตุสมผล เหตุผลไม่ค่อยเหมาะสม ๔. น้ามนั ชนิดใดที่เหมาะ บอกไดว้ า่ น้ามนั พืช บอกไดว้ า่ น้ามนั พืช ไม่มีคาตอบ กบั การเจริญเติบโตของเด็ก เหมาะสมกบั การ เหมาะสมกบั การ เจริญเติบโตของเดก็ เจริญเติบโตของเดก็ พร้อม พร้อมใหเ้ หตุผล ใหเ้ หตุผลไม่ค่อย สมเหตุสมผล เหมาะสม ๕. นกั เรียนมีวธิ ีการ นาเสนอวธิ ีการหลีกเลี่ยง นาเสนอวธิ ีการหลีกเล่ียง ไม่มีคาตอบ หลีกเล่ียงการใชน้ ้ามนั ท่ีไม่ การใชน้ ้ามนั ที่ไม่มี การใชน้ ้ามนั ท่ีไม่มี มีประโยชนอ์ ยา่ งไร ประโยชนไ์ ด้ ๒ ประเดน็ ประโยชนไ์ ด้ ๑ ประเดน็ ๖. จากเรื่องที่นกั เรียนอ่าน สรุปเน้ือหาของเรื่องได้ สรุปเน้ือหาของเร่ืองได้ ไม่มีคาตอบ นกั เรียนไดข้ อ้ สรุปอยา่ งไร ชดั เจน มีสาระสาคญั ชดั เจน ขาดสาระสาคญั บางประเดน็

๓๒ เกณฑ์กำรให้คะแนนแบบฝึ กที่ ๔ เรื่องรังนก ข้อคำถำม เกณฑ์กำรให้คะแนน ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรุง ๑. จากเรื่อง รังนก น้ีมีขอ้ มูล บอกขอ้ มูลเก่ียวกบั บอกขอ้ มูลเกี่ยวกบั เร่ือง (๑) อะไรบา้ ง เร่ืองรังนกได้ ๒ รังนกได้ ๑ ประเดน็ ไม่มีคาตอบ ประเดน็ ไม่มีคาตอบ ๒.นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไรกบั บอกถึงความรู้สึก บอกถึงความรู้สึก ไม่มีคาตอบ เรื่องท่ีอ่าน เกี่ยวกบั เร่ืองท่ีอ่านได้ เก่ียวกบั เรื่องท่ีอ่านได้ ๑ ไม่มีคาตอบ ๒ ประเดน็ ประเดน็ ไม่มีคาตอบ ไม่มีคาตอบ ๓. รังนกปลอมเกิดข้ึนเพราะ บอกถึงสาเหตุเก่ียวกบั บอกถึงสาเหตุเกี่ยวกบั สาเหตุใด รังนกปลอมได้ ๒ รังนกปลอมได้ ๑ ประเดน็ ประเดน็ ๔. รังนกนางแอ่นมีประโยชน์ บอกถึงประโยชนข์ อง บอกถึงประโยชนข์ อง อยา่ งไร รังนกนางแอ่นได้ ๒ รังนกนางแอ่นได้ ๑ ประเดน็ ประเดน็ ๕.การเกบ็ รังนกอยา่ งถูกวิธี บอกถึงวธิ ีการเกบ็ บอกถึงวธิ ีการเกบ็ รังนก ทาอยา่ งไร รังนกได้ ๒ ประเดน็ ได้ ๑ ประเดน็ ๖. การท่ีนกนางแอ่นมีจานวน บอกถึงสาเหตุการณ์ บอกถึงสาเหตุการณ์ ลดลงน่าจะมีสาเหตุจากส่ิงใด ลดลงของนกนางแอ่น ลดลงของนกนางแอ่น๑ ได้ ๒ ประเดน็ ประเดน็

๓๓ เกณฑ์กำรให้คะแนนแบบฝึ กที่ ๕ เร่ืองมมั มี่ ข้อคำถำม เกณฑ์กำรให้คะแนน ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐) ๑. นกั เรียนไดข้ อ้ มูลอะไรจาก บอกถึงขอ้ มูลจาก บอกถึงขอ้ มูลจาก ไม่มีคาตอบ เร่ืองที่อ่าน เรื่องมมั มี่ได้ ๒ เร่ืองมมั ม่ีได้ ๑ ประเดน็ ประเดน็ ๒.นกั เรียนคิดวา่ วญิ ญาณจะ วเิ คราะหพ์ ร้อมท้งั ให้ วเิ คราะหพ์ ร้อมท้งั ให้ ไม่มีคาตอบ กลบั เขา้ ร่างไดห้ รือไม่ เพราะ เหตุผลเก่ียวกบั การเขา้ เหตุผลเกี่ยวกบั การ เหตุใด ร่างได้ ๒ ประเดน็ เขา้ ร่างได้ ๑ ประเดน็ ๓. ความเชื่อของชาวอียปิ ต์ บอกถึงความแตกต่าง บอกถึงความแตกต่าง ไม่มีคาตอบ โบราณ แตกต่างจากความเชื่อ เรื่องความเช่ือของชาว เรื่องความเชื่อของชาว ของคนไทยอยา่ งไร อียปิ ตแ์ ละของไทยได้ อียปิ ตแ์ ละของไทยได้ ๑ ๒ ประเดน็ ประเดน็ ๔. การนาศพไปแช่เกลือเนต บอกถึงผลดีของการ บอกถึงผลดีของการ ไม่มีคาตอบ รอนมีผลดีอยา่ งไร นาศพไปแช่เกลือเนต นาศพไปแช่เกลือเนต รอนได้ ๒ ประเดน็ รอนได้ ๑ ประเดน็ ๕.ชาวอียปิ ตม์ ีความเช่ือ บอกถึงความเช่ือเรื่อง บอกถึงความเช่ือเร่ือง ไม่มีคาตอบ เก่ียวกบั วญิ ญาณและชีวติ วญิ ญาณของชาวอียปิ ต์ วญิ ญาณของชาวอียปิ ต์ อยา่ งไร ได้ ๒ ประเดน็ ได้ ๑ ประเดน็ ๖. การทามมั มี่มีข้นั ตอน บอกถึงข้นั ตอนการ บอกถึงข้นั ตอนการ ไม่มีคาตอบ อยา่ งไร ทามมั ม่ีไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ทามมั ม่ีไดค้ ่อนขา้ ง ครบถว้ นได้ ครบถว้ นขาดไปบาง ข้นั ตอน

๓๔ เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน ๑. ง ๒. ค ๓. ง ๔. ก ๕. ก ๖. ข ๗. ข ๘. ก ๙. ค ๑๐. ง ๑๑. ค ๑๒. ค

๓๕ เอกสำรอ้ำงองิ กระทรวงศกึ ษาธิการ. คู่มือกำรจัดกำรสำระกำรเรียนรู้กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พค์ ุรุสภาลาดพร้าว, 2551. คณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน.สำนักงำนกระทรวงศึกษำธิกำร.หนังสือเรียนสระกำรเรียนรู้ พืน้ ฐำนชุดพำษำพำทเี พ่ือชีวติ ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี 5.โรงพิมพค์ ุรุสภาลาดพร้าว , 2550. สาลี รักสุทธี. แบบฝึ กทกั ษะ กำรอ่ำน คดิ วเิ ครำะห์และเขยี นส่ือควำมกำรเรียนรู้ภำษำไทย. ช้นั ประถมศกึ ษาปี ท่ี 4 มหาสารคาม : คุม้ การพิมพ,์ 2550. สุวฒั น์ ววิ ฒั นานนท.์ ทกั ษะการอ่านคิดวเิ คราะห์แบบเขียน. พิมพค์ ร้ังที่ 2. นนทบุรี :ซี ซี นอล ลิคจล์ ิงคส์, 2550. สุวทิ ย์ มูลคา. ครบเครื่องเรื่องกำรคดิ . พมิ พค์ ร้ังท่ี 7. กรุงเทพมหานคร : หา้ งหุน้ ส่วนภาพพิมพ,์ 2550.