Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พุทธประวัติ

พุทธประวัติ

Published by Janista Krasaetho, 2018-09-03 00:02:15

Description: พุทธประวัติ

Search

Read the Text Version

คำนำ หนงั สอื อเิ ล็กทรอนกิ สเ์ ลม่ นี้ เร่ือง พทุ ธประวตั ิ เป็ นสว่ นหนง่ึ ของวิชาพระพทุ ธศาสนา ซ่ึงบรู ณาการกบั วิชาคอมพวิ เตอร์ มจี ดุ ประสงคเ์ พอ่ื ใหผ้ อู้ ่านไดท้ ราบเกยี่ วกบัประวตั ขิ องพระพทุ ธเจา้ ศาสดาของศาสนาพทุ ธ ผา่ นสื่อเทคโนโลยีเพ่ือใหเ้ ขา้ กบั ความเปลยี่ นแปลงในปัจจบุ ัน ผจู้ ดั ทาขอขอบอาจารยท์ ่ใี หค้ าแนะนาจนทาหนงั สือสาเร็จและสมาชกิ ผจู้ ดั ทาทที่ าใหง้ านก็ไดป้ ระสบความสาเร็จผจู้ ดั ทาหวงั วา่ ผอู้ า่ นจะไดร้ ับความรจู้ ากการอ่านไมม่ ากก็นอ้ ยหากมขี อ้ ผดิ พลาดประการใดตอ้ งขออภยั มา ณ ท่ีนดี้ ว้ ย

สำรบญั หนำ้ 1เรอ่ื ง 2การประสตู ิ และคาทานาย 3การเจริญวยั และพบเทวทตู ทง้ั ส่ี 4การปฏิบตั ติ นเพอ่ื พน้ จากทกุ ข์ 5-6การตรสั รู้ 7การเผยแพรศ่ าสนาพทุ ธ 8การปลงอายสุ งั ขารและปรินพิ พาน 9ตอบคาถาม 10เฉลยตอบคาถาม 11บรรณานกุ รมรายชอ่ื สมาชกิ ผจู้ ดั ทา

ประสตู ิ และคำทำนำยพระนางสริ มิ หามายาทรงพระสบุ ินนมิ ติ วา่ มชี า้ งเผอื กมงี าสามคไู่ ดเ้ ขา้มาส่พู ระครรภ์ ณ ท่ีบรรทม กอ่ นทพ่ี ระนางจะเสด็จกลบั กรงุ เทวทหะเพื่อประสตู พิ ระโอรส แตร่ ะหว่างทาง ทรงมพี ระประสตู กิ าล ท่ีใตต้ น้สาละ ณ สวนลมุ พินวี นั เมอ่ื วนั ขนึ้ สิบหา้ คา่ เดอื นวสิ าขะ ทนั ทีทป่ี ระสตู ิ เจา้ ชายสทิ ธตั ถะทรงดาเนนิ ดว้ ยพระบาท 7กา้ ว และมดี อกบัวผดุ ขน้ึ มารองรบั พระบาท พรอ้ มเปลง่ พระวาจาวา่\"เรำเป็ นเลิศท่ีสดุ ในโลก ประเสรฐิ ท่ีสดุ ในโลก กำรเกิดครงั้ น้ีเป็ นครง้ั สดุ ทำ้ ยของเรำ\" แต่ หลงั จากเจา้ ชายสทิ ธตั ถะประสตู ิกาลได้แลว้ 7 วนั พระนางสริ ิมหามายาก็เสด็จสวรรคาลยั เจา้ ชายสิทธัตถะจึงอย่ใู นความดแู ลของพระนางประชาบดโี คตมี ซึ่งเป็ นพระกนษิ ฐาของพระนางสริ มิ หามายา พราหมณ์ ทงั้ 8 ไดท้ านายวา่เจา้ ชายสิทธตั ถะมลี กั ษณะเป็ นมหาบรุ ษุ คือหากดารงตนในฆราวาสจะไดเ้ ป็ นจกั รพรรดิถา้ ออกบวชจะไดเ้ ป็ นศาสดาเอกของโลกแตโ่ กณฑญั ญะพราหมณผ์ อู้ ายนุ อ้ ยท่ีสดุ นน้ัยนื ยนั ว่า เจา้ ชายสิทธตั ถะจะเสด็จออกบวชและจะไดต้ รสั รเู้ ป็ นพระพทุ ธเจา้ แนน่ อน

กำรเจรญิ วยั และพบเทวทตู ทงั้ 4 ตอ่ มา เจา้ ชายสทิ ธตั ถะทรงศึกษาเล่าเรียนจนจบศิลปศาสตรท์ งั้ 18 ศาสตร์ ในสานกั ครวู ิศวามติ ร และเนอ่ื งจากพระบิดาไม่ประสงคใ์ หเ้ จา้ ชายสทิ ธตั ถะออกผนวช จึงพยายามทาใหเ้ จา้ ชายสทิ ธตัถะพบเห็นแตค่ วามสขุ โดยการสรา้ งปราสาท 3 ฤดู ใหอ้ ย่ปู ระทบั และจดั เตรยี มความพรอ้ มสาหรบั การราชาภเิ ษกใหเ้ จา้ ชายขน้ึ ครองราชย์ เมอ่ื มพี ระชนมายุ 16 พรรษา ทรงอภเิ ษกสมรสกบั พระนางพมิ พา หรอื ยโสธรา พระธดิ าของพระเจา้ กรงุ เทวทหะซึ่งเป็ นพระญาติฝ่ ายพระมารดา จนเมอื่ มพี ระชนมายุ 29 พรรษา เจา้ ชายสิทธตั ถะทรงเบื่อความจาเจในปราสาท 3 ฤดู จึงชวนสารถีทรงรถมา้ ประพาสอทุ ยาน ครงั้ นนั้ ไดท้ อดพระเนตรเห็นคนแก่ คนเจ็บ คนตาย และนกั บวช โดยเทวทตู (ทตู สวรรค)์ ท่แี ปลงกายมา พระองคจ์ ึงทรงคิดได้วา่ นเ่ี ป็ นธรรมดาของโลก ชวี ติ ของทกุ คนตอ้ งตกอยใู่ นสภาพเชน่ นน้ัไมม่ ใี ครสามารถหลกี เลี่ยงเกิด แก่ เจ็บ ตายได้ จงึ ทรงเห็นว่าความสขุทางโลกเป็ นเพียงภาพมายาเท่านน้ั และวถิ ีทางท่จี ะพน้ จากความทกุ ข์คอื ตอ้ งครองเรอื นเป็ นสมณะ ในขณะนนั้ พระนางพิมพาไดใ้ หป้ ระสตู ิพระราชโอรส มพี ระนามว่า \"รำหลุ \" ซ่ึงหมายถึง \"บ่วง\" ดงั นนั้พระองคจ์ ึงใครจ่ ะเสด็จออกบรรพชำ

กำรปฏิบตั ิตนเพื่อพน้ จำกควำมทกุ ข์ ครานนั้ พระองคไ์ ดเ้ สด็จไปพรอ้ มกบั นายฉันทะ สารถี ซ่ึงเตรียมมา้ พระทนี่ งั่ นามวา่ กณั ฑกะ มงุ่ ตรงไปยงั แมน่ า้ อโนมานที กอ่ นจะประทบั นงั่ บนกองทราย ทรงตดั พระเมาลีดว้ ยพระขรรค์ และเปล่ียนชดุ ผา้ กาสาวพตั ร์ (ผา้ ยอ้ มดว้ ยรสฝาดแห่งตน้ ไม)้ และใหน้ ายฉันทะนาเครอ่ื งทรงกลบั พระนคร กอ่ นที่พระองคจ์ ะเสด็จออกไปโดยเพียงลาพงั และทรงบาเพ็ญทกุ รกิริยา แตห่ ลงั จากทดลองได้ 6 ปี ทรงเห็นวา่ นย่ี งั ไมใ่ ชท่ างพน้ ทกุ ข์ จงึ ทรงเลกิ บาเพ็ญทกุ รกิริยา และหันมาฉนัอาหารตามเดมิ ดว้ ยพระราชดารติ ามท่ีทา้ วสกั กเทวราชไดเ้ สด็จลงมาดดี พณิ ถวาย 3 วาระ คือดดี พิณสายท่ี 1 ขงึ ไวต้ งึ เกินไปเมอ่ื ดดี ก็จะขาดดดี พณิ วาระท่ี 2 ซึ่งขงึ ไวห้ ยอ่ น เสยี งจะยดื ยาดขาดความไพเราะดดี พิณวาระที่ 3 ดดี พณิ สายสดุ ทา้ ยทข่ี งึ ไวพ้ อดี จงึ มีเสยี งกงั วานไพเราะ ดงั นนั้ จึงทรงพิจารณาเห็นวา่ ทางสายกลางคอื ไมต่ งึ เกินไปและไมห่ ยอ่ นเกินไป นนั่ คือทางที่จะนาส่กู ารพน้ ทกุ ข์ ทาใหพ้ ระปัญจวคั คยี ท์ งั้ 5 ท่มี าคอยรบั ใชพ้ ระองคเ์ กิดเสือ่ มศรทั ธาที่พระองคล์ ม้ เลิกความตงั้ ใจ จึงเดนิ ทางกลบั ไปที่ป่ าอสิ ปิ ตนมฤคทายวนั ตาบลสารนาถ เมอื งพาราณสี

กำรตรสั รู้ จนเวลาผา่ นไปในที่สดุ พระองคท์ รงบรรลรุ ปู ฌาณ คือ ครานนั้พระองคท์ รงประทบั นงั่ ขดั สมาธิ ใตต้ น้ พระศรีมหาโพธ์ิ ณ อรุ เุ วลาเสนานคิ ม เมอื งพาราณสี หันพระพกั ตรไ์ ปทางทศิ ตะวนั ออก และตง้ัจิตอธษิ ฐานดว้ ยความแนว่ แนว่ ่าตราบใดท่ียงั ไมบ่ รรลสุ มั มาสมั โพธิญาณ ก็จะไมล่ กุ ขน้ึ จากสมาธบิ ลั ลงั ก์ แมจ้ ะมหี มมู่ ารเขา้ มาขดั ขวางแตก่ ็พา่ ยแพพ้ ระบารมขี องพระองคก์ ลบั ไป จนเวลาผา่ นไปในที่สดุพระองคท์ รงบรรลรุ ปู ฌาณ คอื ยำมตน้ หรอื ปฐมยาม ทรงบรรลปุ ุพเพนวิ าสานสุ ตญิ าณ คือสามารถระลกึ ชาตไิ ด้ ยำมสอง ทางบรรลจุ ตุ ปู ปาตญาณ (ทิพยจกั ษญุ าณ) คอื รู้เรอื่ งการเกดิ การตายของสตั วท์ งั้ หลายว่าเป็ นไปตามกรรมที่กาหนดไว้ ยำมสำม ทรง บรรลอุ าสวกั ขยญาณ คือ ความรทู้ ่ที าใหส้ น้ิอาสวะ หรอื กเิ ลส ดว้ ยอริยสจั 4 ไดแ้ ก่ ทกุ ข์ สมทุ ยั นโิ รธ และมรรคและไดต้ รสั รดู้ ว้ ยพระองคเ์ องเป็ นพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ และเป็ นศาสดาเอกของโลก ซึ่งวนั ทพ่ี ระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ตรสั รู้ ตรงกบั วนั เพ็ญเดอื น6 ขณะทมี่ พี ระชนม์ 35 พรรษา

กำรเผยแพรศ่ ำสนำพทุ ธ หลงั จากพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ตรสั รแู้ ลว้ ทรงพจิ ารณาธรรมที่พระองคต์ รสั รมู้ าเป็ นเวลา 7 สปั ดาห์ และทรงเห็นวา่ พระธรรมนนั้ ยากตอ่บคุ คลทวั่ ไปท่จี ะเขา้ ใจและปฏิบตั ไิ ด้ พระองคจ์ งึ ทรงพจิ ารณาว่า บคุ คลในโลกนมี้ หี ลายจาพวกอยา่ ง บวั 4 เหลา่ ทีม่ ที ง้ั ผทู้ ี่สอนไดง้ า่ ย และผทู้ ส่ี อนไดย้ ากพระองคจ์ ึงทรงระลึกถึงอาฬารดาบสและอทุ กดาบส ผเู้ ป็ นพระอาจารย์ จงึหวงั เสด็จไปโปรดแตท่ ง้ั สองทา่ นเสยี ชวี ิตแลว้ พระองคจ์ ึงทรงระลกึ ถึงปัญจวคั คีย์ ทงั้ 5 ที่เคยมาเฝ้ ารบั ใช้ จึงไดเ้ สด็จไปโปรดปัญจวคั คยี ท์ ปี่ ่ าอิสปิ ตนมฤคทายวนั ธรรมเทศนากณั ฑแ์ รกทพ่ี ระองคท์ รงแสดงธรรมคือ \"ธมั มจกักปั ปวตั ตนสตู ร\" แปล ว่าสตู รของการหมนุ วงลอ้ แหง่ พระธรรมใหเ้ ป็ นไป ซึ่งถือเป็ นการแสดงพระธรรมเทศนาครง้ั แรก ในวนั เพ็ญ ขนึ้ 15 คา่ เดอื น 8ซึ่งตรงกบั วนั อาสาฬหบชู า ในการนพ้ี ระโกณฑญั ญะไดธ้ รรมจกั ษุ คือดวงตาเห็นธรรมเป็ นคนแรก พระพทุ ธองคจ์ ึงทรงเปลง่ วาจาวา่ \"อญั ญาสิ วตโกณฑญั โญ\" แปล วา่โกณฑญั ญะไดร้ แู้ ลว้ ทา่ นโกณฑญั ญะ จึงไดส้ มญาว่า อญั ญาโกณฑญั ญะและไดร้ บั การบวชเป็ นพระสงฆอ์ งคแ์ รกในพระพทุ ธศาสนา โดยเรียกการบวชทพ่ี ระพทุ ธเจา้ บวชใหว้ า่ \"เอหิภกิ ขอุ ปุ สมั ปทา\" หลงั จากปัญจวคั คยี อ์ ปุ สมบททง้ั หมดแลว้ พทุ ธองคจ์ งึ ทรงเทศน์อนตั ตลกั ขณสตู ร ปัญจวคั คียจ์ งึ สาเร็จเป็ นอรหันตใ์ นเวลาตอ่ มา

ตอ่ มาพระพทุ ธเจา้ ไดเ้ ทศนพ์ ระธรรมเทศนาโปรดแกย่ สกลุ บตุ รรวมทงั้ เพอ่ื นของยสกลุ บตุ ร จนไดส้ าเร็จเป็ นพระอรหนั ตท์ ง้ั หมด รวม60 รปู พระพทุ ธเจา้ ทรงมพี ระราชประสงคจ์ ะใหม้ นษุ ยโ์ ลกพน้ ทกุ ข์พน้ กเิ ลส จึงตรสั เรยี กสาวกทงั้ 60 รปู มาประชมุ กนั และตรัสให้พระสาวก 60 รปู จารกิ แยกยา้ ยกนั เดนิ ทางไปประกาศศาสนา 60แห่ง โดยลาพงั ในเสน้ ทางที่ไมซ่ า้ กนั เพือ่ ใหส้ ามารถเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาไดใ้ นหลายพน้ื ทอ่ี ย่างครอบคลมุ สว่ นพระองคเ์ องได้เสด็จไปแสดงธรรมณ ตาบลอรุ เุ วลา เสนานคิ ม หลงั จากสาวกไดเ้ ดนิ ทางไปเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในพืน้ ที่ตา่ งๆ ทาใหม้ ผี เู้ ลื่อมใสพระพทุ ธศาสนาเป็ นจานวนมาก พระองคจ์ งึทรงอนญุ าตใหส้ าวกสามารถดาเนนิ การบวชได้ โดยใชว้ ิธกี าร \"ตสิ รณคมนปู สมั ปทา\" คอื การปฏิญาณตนเป็ นผถู้ ึงพระรัตนตรัยพระพทุ ธศาสนาจึงหยงั่ รากฝังลึกและแพร่หลายในดนิ แดนแห่งนนั้ เป็ นตน้ มา

กำรปลงอำยสุ งั ขำรและปรนิ ิพพำน พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ไดเ้ สด็จโปรดสตั วแ์ ละแสดงพระธรรมเทศนา ตลอดระยะเวลา 45 พรรษา ทรงสดบั ว่า อีก 3 เดอื นขา้ งหนา้ จะปรินพิ พาน จงึ ได้ทรงปลงอายสุ งั ขาร ขณะนนั้ พระองคไ์ ดป้ ระทบั จาพรรษา ณ เวฬคุ าม ใกล้เมอื งเวลาสี แควน้ วชั ชี โดยกอ่ นเสด็จดบั ขนั ธป์ รินพิ พาน 1 วนั พระองคไ์ ด้เสวยสกุ รมทั ทวะที่นายจนุ ทะทาถวาย แตเ่ กดิ อาพาธลง ทาใหพ้ ระอานนทโ์ กรธแตพ่ ระองคต์ รสั วา่ \"บณิ ฑบาตท่ีมอี านสิ งสท์ สี่ ดุ มี 2 ประการ คือ เมอ่ื ตถาคต(พทุ ธองค)์ เสวยบิณฑบาตแลว้ ตรสั รู้ และปรินพิ พาน\" และมพี ระดารสัว่า \"ดกู อ่ นอานนท์ ธรรมและวินยั อนั ทเี่ ราแสดงแลว้ บญั ญตั แิ ลว้ แกเ่ ธอทงั้ หลาย ธรรมวินยั นนั้ จกั เป็ นศาสดาของเธอทง้ั หลาย เมอ่ื เราลว่ งลบั ไปแลว้ \" พระพทุ ธเจา้ ทรงประชวรหนกั แตท่ รงอดกลน้ั มงุ่ หนา้ ไปยงั เมอื งกสุ ินารา ประทบั ณ ป่ าสาละ เพอื่ เสด็จดบั ขนั ธป์ุ รินพิ พาน โดยกอ่ นที่จะเสด็จดบัขนั ธป์ รินพิ พานนน้ั พระองคไ์ ดอ้ ปุ สมบทแกพ่ ระสภุ ทั ทะปริพาชก ซ่ึงถือไดว้ า่\"พระสภุ ภทั ทะ\" คอื สาวกองคส์ ดุ ทา้ ยท่ีพระพทุ ธองคท์ รงบวชให้ ในครานน้ั พระองคท์ รงมปี ัจฉิมโอวาทวา่ \"ดกู อ่ นภกิ ษทุ งั้ หลาย เราขอบอกเธอทงั้ หลาย สงั ขารทง้ั ปวงมีความเสื่อมสลายไปเป็ นธรรมดา พวกเธอจึงทาประโยชนต์ นเอง และประโยชนข์ องผอู้ ่ืนใหส้ มบรู ณด์ ว้ ยความไมป่ ระมาทเถิด\" (อปปมาเทน สมปาเทต) จากนน้ั ไดเ้ สด็จดบั ขนั ธป์ รินพิ พาน ใตต้ น้ สาละ ณ สาลวโนทยาน ของเหลา่ มลั ลกษตั ริย์ เมอื งกสุ ินารา แควน้ มลั ละ ในวนั ขนึ้ 15 คา่ เดอื น 6รวมพระชนม์ 80 พรรษา และวนั นถ้ี ือเป็ นการเร่ิมตน้ ของพทุ ธศักราช

ตอบคำถำม1) พระพทุ ธเจา้ ทรงประสตู ทิ ใ่ี ดตอบ2) พระพทุ ธเจา้ มอี ีกชอ่ื ชอื่ ว่าอะไรตอบ3) พราหมณท์ งั้ 8 ทานายว่าอย่างไรตอบ4) เมอ่ื พระพทุ ธเจา้ ทรงอายุ 16 พรรษา ทรงอภเิ ษกกบั ใครตอบ5) พระพทุ ธเจา้ ไดเ้ สด็จลงมาดดี พณิ ถวาย 3 วาระ คืออะไรบา้ งตอบ6) ธรรมเทศนากณั ฑแ์ รกทพ่ี ระองคท์ รงแสดงธรรม เรียกวา่ อะไรตอบ7) ใครคอื ดวงตาเห็นธรรมเป็ นคนแรกตอบ8) พระพทุ ธศาสนา โดยเรียกการบวชทพ่ี ระพทุ ธเจา้ บวชวา่ตอบ9) พระพทุ ธเจา้ ทรงอนญุ าตใหส้ าวกสามารถดาเนนิ การบวชได้ โดยใชว้ ิธีการใดตอบ10) พระพทุ ธเจา้ ทรงดบั ขนั ธป์ รินพิ พานทใ่ี ดตอบ

เ ฉ ล ย ต อ บ คำ ถ ำ ม1) พระพทุ ธเจา้ ทรงประสตู ทิ ่ีใดตอบ ใตต้ น้ สาละ ณ สวนลมุ พนิ วี นั2) พระพทุ ธเจา้ มอี ีกชอ่ื ชอื่ ว่าอะไรตอบ เจา้ ชายสทิ ธตั ถะ3) พราหมณท์ ง้ั 8 ทานายว่าอยา่ งไรตอบ เจา้ ชายสิทธตั ถะจะเสด็จออกบวช และจะไดต้ รสั รเู้ ป็ นพระพทุ ธเจา้ แนน่ อน4) เมอ่ื พระพทุ ธเจา้ ทรงอายุ 16 พรรษา ทรงอภเิ ษกกบั ใครตอบ อภเิ ษกสมรสกบั พระนางพมิ พา5) พระพทุ ธเจา้ ไดเ้ สด็จลงมาดดี พณิ ถวาย 3 วาระ คืออะไรบา้ งตอบ ดดี พิณสายที่ 1 ขงึ ไวต้ งึ เกนิ ไปเมอ่ื ดดี ก็จะขาด ดดี พณิ วาระที่ 2 ซ่ึงขงึ ไวห้ ย่อน เสียงจะยืดยาดขาดความไพเราะ ดดี พณิ วาระท่ี 3 ดดี พิณสายสดุ ทา้ ยที่ขงึ ไวพ้ อดี จงึ มเี สียงกังวานไพเราะ6) ธรรมเทศนากณั ฑแ์ รกทพ่ี ระองคท์ รงแสดงธรรม เรียกว่าอะไรตอบ \"ธมั มจกั กปั ปวตั ตนสตู ร\"7) ใครคือดวงตาเห็นธรรมเป็ นคนแรกตอบ พระโกณฑญั ญะไดธ้ รรมจกั ษุ8) พระพทุ ธศาสนา โดยเรียกการบวชทพ่ี ระพทุ ธเจา้ บวชว่าตอบ \"เอหิภกิ ขอุ ปุ สมั ปทา\"9) พระพทุ ธเจา้ ทรงอนญุ าตใหส้ าวกสามารถดาเนนิ การบวชได้ โดยใชว้ ิธกี ารใดตอบ \"ตสิ รณคมนปู สมั ปทา\"10) พระพทุ ธเจา้ ทรงดบั ขนั ธป์ รินพิ พานทใี่ ดตอบ ใตต้ น้ สาละ ณ สาลวโนทยาน ของเหลา่ มลั ลกษตั ริย์ เมอื งกสุ ินารา แควน้ มลั ละ

บรรณำนกุ รม• http://www.learntripitaka.com/Hi story/Buddhist.html• https://hilight.kapook.com/view/ 37629• http://www.dharma- gateway.com/buddha/buddha- history/buddha-history-01.htm

วิ ชำพระพุทธศำสนำ จัด ทำ โ ด ย ม.4/4 นางสาว เมธนยิ า วารีรกั ษ์ เลขที่ 16 นางสาว พชั ริดา บญุ ทองซ่นุ เลขท่ี 27 นางสาว ปัณณาธร สเุ มธจรัส เลขที่ 30 นางสาว อยั ยา กลั ปพฤกษ์ เลขท่ี 37 นางสาว วรินทป์ ภา ปั้นเพรช เลขที่ 37นางสาว วรรณพร วงษส์ วุ รรณ เลขที่ 38 นายสวุ รรณเทพ คาศรี เลขท่ี 39นางสาว ธนวรรณ คณุ วฒุ ิโอภาส เลขที่ 40 นางสาว จณิสตา กระแสรโ์ ท เลขท่ี 42 นางสาว นริศรา สงปรีชา เลขท่ี 43 นางสา วีรวรรณ ใจสนกุ เลขท่ี 44 เสนอ อาจารย์ อภวิ ฒั น์ แกว้ ระยา้โรงเรยี นสตรวี ิทยำ ๒ ในพระรำชปู ถมั ภ์

#legendogBuddha


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook