Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore KM : การบูรณาการความร่วมมือของภาคีเครือข่ายในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

KM : การบูรณาการความร่วมมือของภาคีเครือข่ายในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

Published by สสว ปทุมธานี, 2023-07-26 03:53:26

Description: การบูรณาการความร่วมมือของภาคีเครือข่ายในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

Search

Read the Text Version

ก า ร จั ด ก า ร ค ว า ม รู้ (KNOWLEDGE MANAGEMENT) ก า ร บู ร ณา ก า ร ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ข อ ง ภ า คี เ ค รื อ ข่ า ย ใ นก า ร ป้ อ ง กั นแ ล ะ ป ร า บ ป ร า ม ก า ร ค้ า ม นุ ษย์ จั ง ห วั ด พร ะ นค ร ศ รี อ ยุ ธ ย า จั ด ทำ โ ด ย สำ นั ก ง า นส่ ง เ ส ริ ม แ ล ะ ส นั บ ส นุ นวิ ช า ก า ร 1 ก ร ะ ทร ว ง ก า ร พั ฒนา สั ง ค ม แ ล ะ ค ว า ม มั่ นค ง ข อ ง ม นุ ษย์

คำนำ กำรถอดบทเรียนกำรจัดกำรควำมรู้ (Knowledge Management : KM) เรื่อง \"กำรบูรณำกำรควำมร่วมมือของภำคีเครือข่ำยในกำรป้องกันและปรำบปรำม กำรค้ำมนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยำ\" เป็นกำรถ่ำยทอดองค์ควำมรู้บทบำท กำรปฏิบัติงำนของพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ และทีมสหวิชำชีพและภำคีเครือข่ำย ได้ร่วมกัน แบ่งปันควำมรู้ ควำมคิด และประสบกำรณ์ในกำรท ำงำนด้ำนกำรป้ องกั น และปรำบปรำมกำรคำ้ มนุษย์ให้ดียิง่ ข้ึน สำนักงำนส่งเสริมและสนับสนุนวิชำกำร 1 เป็นส่วนรำชกำรส่วนกลำงที่ตั้งอยู่ ในส่วนภูมิภำค โดยมีอำนำจหน้ำที่ในกำรพัฒนำงำนด้ำนวิชำกำรเกี่ยวกับกำรพัฒนำ สังคมและควำมมัน่ คงของมนุษย์ ให้สอดคล้องกบั พื้นที่และเป้ำหมำย พร้อมทั้งส่งเสรมิ และสนับสนุนงำนด้ำนวิชำกำร องค์ควำมรู้ข้อมูล สำรสนเทศให้คำปรึกษำแนะนำแก่ หน่วยงำนบริกำรกลุ่มเป้ำหมำย ในพื้นที่ให้บริกำรในควำมรับผิดชอบของกระทรวงฯ รวมทง้ั องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ินหน่วยงำนที่เกี่ยวข้อง องค์กรภำคเอกชนและประชำชน นอกจำกนี้ สสว.1 ยังเป็นศูนย์บริกำรวิชำกำรพัฒนำสังคมและกำรจัดสวัสดิกำร สังคม เพ่ือแลกเปล่ียนควำมรู้ด้ำนกำรพัฒนำสังคมและกำรจัดสวัสดกิ ำรสังคมท่ีจะส่งผล ทำใหเ้ กิดกำรปรับเปลี่ยนวิธกี ำรทำงำนและพัฒนำงำนด้ำนกำรพัฒนำสังคมท่ีสำมำรถ ตอบสนองต่อกำรเปลี่ยนแปลงและลดควำมเหล่ือมล้ำของสงั คมเพื่อให้ผู้ท่ีมีควำมสนใจ ได้ควำมรู้เกี่ยวกับกำรจัดกำรองค์ควำมรู้และสำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในหน่วยงำนได้ และหน่วยงำนมีระบบในกำรบริหำรกำรเรียนรู้เพื่อรองรับกำรเป็นองค์กรแห่งกำร เรียนรู้และเพื่อให้เกิดกำรถอดบทเรียนควำมสำเร็จและจัดกำรองค์ควำมรู้ในพื้นที่ ต้นแบบท่ีสำมำรถนำองคค์ วำมรูไ้ ปประยกุ ต์ใช้ในพื้นที่อ่ืนๆได้ สำนักงำนสง่ เสริมและสนับสนุนวิชำกำร 1 กรกฎำคม 2566

สำรบัญ 3 9 คำนำ 40 สำรบญั 45 ควำมเป็นมำ 46 กำรจัดกำรควำมรู้ 46 จงั หวัดพระนครศรอี ยุธยำ ปญั หำและข้อจำกดั ในกำรทำงำน แนวทำงกำรแกไ้ ขปัญหำ สงิ่ ท่ีไดเ้ รียนรูจ้ ำกกำรถอดบทเรียน บรรณำนกุ รม

ความเปน็ มา กำรจัดกำรควำมรู้ Knowledge Management (KM) มีควำมสำคัญมำก สำหรับกำรพัฒนำงำนขององค์กร กำรจัดกำรควำมรู้ที่มีอยู่เป็นเครื่องมือในกำรนำ องค์กรไปสู่องค์กรแห่งกำรเรียนรู้ และเพื่อให้ทุกคนในองค์กรสำมำรถเข้ำถึงควำมรู้ นำควำมรู้ที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ใช้ในกำรแก้ไขปัญหำ และต่อยอด กำรเรียนรู้ภำยในหน่วยงำน รวมทั้งกำรเชื่อมโยงข้อมูลสำรสนเทศ และองค์ควำมรู้ นอกสว่ นรำชกำรเพ่ือกำรแก้ปัญหำและสรำ้ งนวัตกรรม จนเกิดกระบวนกำรท่ีเป็นเลิศ และผลลพั ธ์ท่ดี สี กู่ ำรบรรลยุ ุทธศำสตร์ และกำรบริกำรประชำชนที่ดี กำรดำเนินกำรโครงกำรศูนย์บริกำรวิชำกำรพัฒนำสังคมและจัดสวัสดิกำร สังคมในระดับพื้นที่ กิจกรรมกำรจัดกำรควำมรู้ (Knowledge Management : KM) ส ำนักงำนส่งเสริมและสนับสนุนวิชำกำร 1 ได้สอบถำมองค์ควำมรู้ จำกหน่วยงำนในเขตพื้นที่ควำมรับผิดชอบ โดยองค์ควำมรู้ที่เสนอมำต้องมำจำก ผลงำนที่โดดเด่น หรือผลลัพธ์ในกำรดำเนินที่เป็นเลิศของหน่วยงำน ในปีงบประมำณ 2565 ซึ่งทำงคณะทำงำนกำรจัดกำรควำมรู้ของสำนักงำนส่งเสริม และสนับสนุนวิชำกำร 1 ประจำปีงบประมำณ 2566 ได้พิจำรณำคัดเลือกผลงำน “กำรบูรณำกำรควำมร่วมมือของภำคีเครือข่ำยในกำรป้องกันและปรำบปรำม กำรค้ำมนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยำ” มำเพื่อจัดทำองค์ควำมรู้ในกำรปฏิบัติงำน ของทีมสหวิชำชีพและภำคีเครือข่ำย โดยมีกลุ่มเป้ำหมำยในกำรให้ข้อมูล คือ คณะอนุกรรมกำรศูนย์ปฏิบัติกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์จังหวัด พระนครศรอี ยธุ ยำ

นโยบำยและยุทธศำสตร์ท่ีเกี่ยวข้องกับกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์ 1. นโยบำยและยุทธศำสตร์ชำติ ปัญหำกำรค้ำมนุษย์เป็นกำรละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่ำงร้ำยแรง นำยกรัฐมนตรี จึงได้ประกำศให้กำรป้องกันและปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์เป็น วำระแห่งชำติ เมื่อวันที่ ๓ เมษำยน 2558 ณ ทำเนียบรัฐบำลโดยมีเจตนำรมณ์ เพื่อนำตัวผู้กระทำควำมผิดมำลงโทษให้ถึงที่สุด และให้กำรคุ้มครองช่วยเหลือ ผู้เสียหำยจำกกำรค้ำมนุษย์ทั้งคนไทยและคนต่ำงด้ำวโดยไม่เลือกปฏิบัติ จำกสถิติที่ผ่ำนมำกำรค้ำมนุษย์ที่พบบ่อยในประเทศไทย จะมีอยู่ 3 รูปแบบ ได้แก่ กำรแสวงหำประโยชน์ทำงเพศในรูปแบบกำรค้ำประเวณี กำรแสวง ประโยชน์จำกกำรบังคับใช้แรงงำน และกำรแสวงประโยชน์จำกกำรนำคนมำ ขอทำน ซึ่งรัฐบำลได้ผนึกกำลังควำมร่วมมือกับทุกภำคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหำที่ เกิดขึ้นในทุกมิติ เริ่มตั้งแต่กำรกำหนดนโยบำยให้กำรป้องกันและปรำบปรำม กำรค้ำมนุษย์เป็นวำระแห่งชำติ กำรบูรณำกำรทุกภำคส่วนที่เกี่ยวข้อง ขับเคลื่อน กำรแก้ปัญหำอย่ำงเต็มที่ กำรปรับปรุงกฎหมำยและเพิ่มประสิทธิภำพในกำร ดำเนินคดี ตลอดจนกำรคุ้มครองผู้เสียหำยจำกกำรค้ำมนุษย์ตำมหลักสิทธิ มนุษยชนอย่ำงไรก็ตำมกำรแก้ปัญหำกำรค้ำมนุษย์ไม่สำมำรถดำเนินกำรได้โดย หน่วยงำนใดหน่วยงำนหนึ่งเพียงลำพัง กระทรวงกำรพัฒนำสังคมและควำมมั่นคง ของมนุษย์ (พม.) จึงสำนพลัง “ประชำรัฐ” จับมือกับภำคีเครือข่ำยทุกภำคส่วน ร่วมกันปูองกันและแก้ไขปัญหำกำรค้ำมนุษย์ ในรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย มำตรำ 65 กำหนดให้รัฐ พึงจัดให้มียุทธศำสตร์ชำติ เป็นเป้ำหมำยกำรพัฒนำประเทศอย่ำงยั่งยืนตำมหลัก ธรรมำภิบำล เพื่อใช้เป็นกรอบในกำรจัดทำแผนต่ำงๆให้สอดคล้องและบูรณำกำร 2

เพื่อให้เกิดเป็นพลังผลักดันร่วมกันไปสู่เป้ำหมำยดังกล่ำว โดยให้เป็นไปตำมที่ กำหนดในกฎหมำยว่ำด้วยกำรจัดทำยุทธศำสตร์ชำติ และต่อมำได้มีกำรตรำ พระรำชบัญญัติกำรจัดทำยุทธศำสตร์ชำติ พ.ศ.2560 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 สิงหำคม พ.ศ.2560 โดยกำหนดให้มีกำรแต่งตั้งคณะกรรมกำรยุทธศำสตร์ชำติ เพื่อรับผิดชอบในกำรจัดทำร่ำงยุทธศำสตร์ชำติ กำหนดวิธีกำรมีส่วนร่วม ของประชำชนในกำรจัดทำร่ำงยุทธศำสตร์ชำติ ในกำรติดตำมกำรตรวจสอบ และกำรประเมินผล รวมทั้งกำหนดมำตรกำรส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชำชน ทุกภำคส่วนดำเนินกำรให้สอดคล้องกับยุทธศำสตร์ชำติ เพื่อให้เป็นไปตำมที่ กำหนดในพระรำชบัญญัติกำรจัดทำยุทธศำสตร์ชำติ พ.ศ. 2560 คณะกรรมกำร ยุทธศำสตร์ชำติ จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมกำรจัดทำยุทธศำสตร์ชำติด้ำนต่ำง ๆ รวม 6 คณะ ซ่ึงประกอบด้วย 1) คณะกรรมกำรจัดทำยุทธศำสตร์ชำติ ด้ำนควำมม่ันคง 2) คณะกรรมกำรจัดทำยุทธศำสตร์ชำติด้ำนกำรสร้ำงควำมสำมำรถใน กำรแข่งขัน 3) คณะกรรมกำรจัดทำยุทธศำสตร์ชำติด้ำนกำรพัฒนำและเสริมสร้ำง ศักยภำพทรัพยำกรมนุษย์ 4) คณะกรรมกำรจัดทำยุทธศำสตร์ชำติด้ำนกำรสร้ำงโอกำสและควำม เสมอภำคทำงสังคม 5) คณะกรรมกำรจัดทำยุทธศำสตร์ชำติด้ำนกำรสร้ำงกำรเติบโตบน คุณภำพชีวิตที่เป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม 6) คณะกรรมกำรจัดทำยุทธศำสตร์ชำติด้ำนกำรปรับสมดุลและพัฒนำ ระบบกำรบริหำรจัดกำรภำครัฐ 3

โดยมีหน้ำที่รับผิดชอบในกำรดำเนินกำรจัดทำร่ำงยุทธศำสตร์ชำติ ให้เป็นไปตำมหลักเกณฑ์ วิธีกำรและเงื่อนไขที่กำหนด ตลอดจนจัดให้มีกำรรับ ฟังควำมคิดเห็นของประชำชนและหน่วยงำนของรัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบกำร พิจำรณำจัดทำร่ำงยุทธศำสตร์ชำติตำมที่กฎหมำยกำหนด คณะกรรมกำรจัดทำ ยุทธศำสตร์ชำติด้ำนควำมมั่นคง ได้พิจำรณำเห็นชอบให้ประเด็น “กำรป้องกัน และแก้ไขปัญหำกำรค้ำมนุษย์” เป็นแผนย่อยกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำที่มี ผลกระทบต่อควำมมั่นคง รองรับยุทธศำสตร์ชำติด้ำนควำมมั่นคง ประเด็นที่ 1 กำรแก้ไขปัญหำควำมมั่นคงในปัจจุบัน แนวทำงกำรพัฒนำที่สำคัญส่วนที่ 1 ส่วนกำรรักษำควำมม่ันคงภำยในรำชอำณำจักรและกำรพัฒนำประเทศ ซึ่งประกอบด้วยแนวทำงกำรพัฒนำที่สำคัญ รวมทั้งสิ้น 15 แนวทำง โดยประเด็น “กำรป้องกันและแก้ไขปัญหำกำรค้ำมนุษย์” อยู่ในแนวทำง กำรพัฒนำที่สำคัญ ลำดับที่ 3 ซึ่งจะต้องจัดทำแผนปฏิบัติกำรในห้วงระยะเวลำ 5-10–15–20-ปี-(พ.ศ. 2561 - 2580)-โดยคณะกรรมกำรจัดทำยุทธศำสตร์ชำติ ด้ำนควำมมั่นคง ได้มอบให้กระทรวงกำรพัฒนำสังคมและควำมมั่นคง ของมนุษย์เป็นหน่วยงำนหลัก รับผิดชอบกำรจัดทำแผนปฏิบัติกำรด้ำนกำร ป้องกันและแก้ไขปัญหำกำรค้ำมนุษย์ พ.ศ. 2561 - 2580 ซึ่งกระทรวง กำรพัฒนำสังคมและควำมมั่นคงของมนุษย์ ได้ร่วมกับทุกหน่วยงำนที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนปฏิบัติกำรดังกล่ำว และคณะกรรมกำรจัดทำยุทธศำสตร์ชำติ ด้ำนควำมมั่นคง ได้เห็นชอบในหลักกำรต่อแผนปฏิบัติกำรดังกล่ำว เมื่อวันที่ 30 ตุลำคม 2561 นอกจำกนี้กระทรวงกำรพัฒนำสังคมและควำมมั่นคงของมนุษย์ ได้นำแผนปฏิบัติกำรดำ้ นกำรป้องกันและแกไ้ ขปัญหำกำรค้ำมนุษย์ พ.ศ.2561–2580 เสนอคณะกรรมกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์ ในครำวประชุมร่วมกับ คณะกรรมกำรประสำนและก ำกับกำรด ำเนินงำนป้องกันและปรำบปรำม 4

กำรค้ำมนุษย์ ครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 18 มีนำคม 2562 โดยมีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนำยกรัฐมนตรี เป็นประธำนกำรประชุม ทั้งนี้ คณะกรรมกำรฯ ได้มีมติรับทรำบแผนปฏิบัติกำรดังกล่ำว ซึ่งมีเนื้อหำหลักประกอบด้วย- 4-ประเด็นยุทธศำสตร์ 9 กลยุทธ์ และ 29 โครงกำรสำคัญ เป็นโครงกำร Quick Win 6 โครงกำร เพื่อให้หน่วยงำนที่เกี่ยวข้องใช้เป็นกรอบแนวทำงในกำร ขับเคลื่อนกำรปูองกันและแก้ไขปัญหำกำรค้ำมนุษย์ของประเทศไทย ให้ยั่งยืน เห็นผลเป็นรูปธรรม รวมถึงนำไปใช้เป็นกรอบในกำรจัดทำคำของบประมำณ ในปีต่อ ๆ ไป แผนย่อยเรื่องนี้ได้นำแนวคิดและเป้ำหมำยของยุทธศำสตร์ชำติมำ ประกอบกำรจัดทำ คือ ส่งเสริมกำรวำงแผนและยกระดับวิธีกำรแก้ไข และมี กำรบูรณำกำรอย่ำงแท้จริง โดยในกำรแก้ไขปัญหำกำรค้ำมนุษย์ ตำมแผนฯ ได้แบ่งออกเป็น 4 ประเด็นยุทธศำสตร์ เพ่ือให้ครอบคลุมทุกมิติประกอบด้วย 1) ด้ำนกำรดำเนินคดีและบังคับใช้กฎหมำย ได้แก่ กำรดำเนินคดีกับ ผู้กระทำควำมผิด 2) ด้ำนกำรป้องกันปัญหำกำรค้ำมนุษย์ ได้แก่ กำรสร้ำงควำมรู้แก่ กลุ่มเป้ำหมำย เพื่อลดปัจจัยเสี่ยง กำรสร้ำงเครือข่ำยในกำรเฝ้ำระวัง กำรเพิ่ม ประสิทธิภำพในกำรตรวจประชำกรกลุ่มเส่ียง 3) ด้ำนกำรช่วยเหลือและคุ้มครองผู้เสียหำยจำกกำรค้ำมนุษย์ ได้แก่ กำรเพิ่มประสิทธิภำพในกำรคัดแยกผู้เสียหำย กำรปรับปรุงมำตรฐำน สถำนคุ้มครอง กำรส่งเสริมให้ชุมชนดูแลผู้เสียหำยหลังส่งกลับ กำรพัฒนำระบบ บริกำรล่ำม และกำรส่งเสริมให้ผู้เสียหำยให้ควำมร่วมมือทำงคดีผ่ำนกระบวน กำรคุ้มครอง 5

4) ด้ำนกำรบริหำรจัดกำรระบบฐำนข้อมูลกำรค้ำมนุษย์ ได้แก่ กำรบูรณำกำรและเชื่อมโยงฐำนข้อมูลทั้งในและระหว่ำงประเทศ กำรพัฒนำระบบ เครือข่ำยด้ำนกฎหมำย กำรสร้ำงควำมร่วมมือระหว่ำงภำคีเครือข่ำย กำรขยำยควำม ร่วมมือระดับภูมิภำคและนำนำชำติ กำรประชำสัมพันธ์และขยำยผลกำรดำเนินงำน โดยรัฐบำลได้ประกำศให้กำรป้องกันและปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์เป็นวำระ แห่งชำติ และกำหนดเป้ำหมำยหลัก คือ ประเทศไทยสำมำรถป้องกัน และปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์ได้อย่ำงยั่งยืน จึงมุ่งเน้นและให้ควำมสำคัญกับกำร สนับสนุนกำรดำเนินงำนป้องกันและแก้ไขปัญหำกำรค้ำมนุษย์ 2. แนวนโยบำยมำตรกำรปอ้ งกันปัญหำกำรคำ้ มนษุ ยข์ องจงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยำ จำกสถำนกำรณ์กำรค้ำมนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยำ ปีพ.ศ. 2565 ไม่พบว่ำมีคดีควำมผิดฐำนค้ำมนุษย์ แต่พบว่ำมีประชำกรแฝงที่เข้ำมำทำงำนใน พื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยำจำนวนมำก ทำให้คนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยำ มีโอกำสประกอบอำชีพนั่งบริกำรแขกในร้ำนคำรำโอเกะและกำรบริกำรนวดเพิ่มขึ้น จนนำไปสู่กำรขำยบริกำรทำงเพศในที่สุด ซึ่งจำกกำรเพิ่มขึ้นของอำชีพเหล่ำนี้ จึงทำให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยำ มีแนวโน้มและควำมเสี่ยงต่อกำรเกิดปัญหำ กำรค้ำมนุษย์เพิ่มมำกขึ้น จังหวัดพระนครศรีอยุธยำ จึงมีมำตรกำรป้องกันและ แก้ไขปัญหำกำรค้ำมนุษย์ ดังน้ี 1. เน้นกำรป้องกันและกำรทำงำนเชิงรุก รวมถึงกำรบังคับใช้กฎหมำยให้ มีประสิทธิภำพ 2. รณรงค์ไม่ให้มีกำรใช้แรงงำนเด็กที่มีอำยุต่ำกว่ำ 15 ปี โดยสร้ำง ระบบกำรแจ้งเบำะแสเหตุกำรณ์ท่ีพบเห็นว่ำผิดปกติ 6

3. ปลูกจิตสำนึกให้ประชำชนเคำรพและปฏิบัติตำมกฎหมำย เคำรพใน ศักดิ์ศรีควำมเป็นมนุษย์ควำมเท่ำเทียมกัน เพรำะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐำนที่ได้รับ ควำมคุ้มครองตำมรัฐธรรมนูญและได้รับกำรยอมรับในระดับสำกล 4. จัดประชุมคณะอนุกรรมกำรศูนย์ปฏิบัติกำรป้องกันและปรำบปรำม กำรค้ำมนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยำ ซึ่งกระทรวงกำรพัฒนำสังคมและควำม มั่นคงของมนุษย์ กำหนดให้จัดประชุมคณะอนุกรรมกำรป้องกันและปรำบปรำม กำรค้ำมนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยำ ปีละ 2 ครั้ง เพื่อติดตำมกำรดำเนินงำนของ หน่วยงำนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งในกำรดำเนินคดีกับผู้กระทำควำมผิด ฐำนค้ำมนุษย์ กำรคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหำยจำกกำรค้ำมนุษย์ และกำรป้องกันมิ ให้ประชำกรกลุ่มเสี่ยงตกเข้ำสู่ขบวนกำรค้ำมนุษย์ กำรทุจริตคอรัปชั่นของ เจ้ำหน้ำท่ีของรัฐท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องกับกำรค้ำมนุษย์ เป็นต้น 5. แต่งตั้งชุดปฏิบัติกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์ระดับอำเภอ เพื่อสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง คำร้องเรียนของประชำชน จัดชุดปรำบปรำม กำรค้ำมนุษย์ และทีมสหวิชำชีพ โดยมีพนักงำนเจ้ำหน้ำที่หรือนักสังคมสงเครำะห์ หรือบำงกรณีอำจมีล่ำมร่วมคัดแยกผู้เสียหำยและคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหำยจำก กำรค้ำมนุษย์ 6. ประชำสัมพันธ์สร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจให้กับผู้เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้ประกอบกำรต่ำงๆ ประชำชนท่ัวไป ผู้นำชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน กำนัน ผู้ใหญ่บ้ำน คณะกรรมกำรหมู่บ้ำน รวมถึงเด็กนักเรียน นักศึกษำในสถำนศึกษำ ต่ำงๆ ให้รับรู้ถึงภัยที่เกิดขึ้นจำกปัญหำกำรค้ำมนุษย์ และสร้ำงควำมร่วมมือ ภำคประชำชน เช่น อำสำสมัครพัฒนำสังคมและควำมมั่นคงของมนุษย์จังหวัด พระนครศรีอยุธยำ (อพม.) ให้ช่วยกันป้องกันไม่ให้คนในชุมชนของตนเองตกเป็น 7

ผู้เสียหำยจำกกำรค้ำมนุษย์ หรือช่วยกันสอดส่อง ดูแล เฝ้ำระวังไม่ให้เกิดกำร กระทำควำมผิดด้ำนกำรค้ำมนุษย์ข้ึนในพ้ืนท่ีของตนเอง 7. ประชำสัมพันธ์เกี่ยวกับช่องทำงกำรแจ้งเหตุด่วน เหตุร้ำย แจ้ง 191 หรือพบเห็นกำรกระทำผิดกำรค้ำมนุษย์ แจ้งสำยด่วน 1300 ศูนย์ช่วยเหลือสังคม กำรสร้ำงกลุ่มไลน์ “ไล่ล่ำตำสับปะรด” ของสถำนีตำรวจในพื้นที่จังหวัด พระนครศรีอยุธยำ เพื่อเป็นช่องทำงกำรแจ้งข่ำว เบำะแส ในกำรกระทำควำมผิด ด้ำนกำรค้ำมนุษย์ 8

การจัดการองค์ความรู้ “กำรค้ำมนุษย์” หมำยถึง กำรจัดหำ กำรขนส่ง กำรส่งต่อ กำรจัดให้อยู่ อำศัย หรือกำรรับไว้ซึ่งบุคคลด้วยวิธีกำรขู่เข็ญ หรือด้วยกำรใช้กำลัง หรือ ด้วยกำร บีบบังคับในรูปแบบอื่นใด ด้วยกำรลักพำตัว ด้วยกำรฉ้อโกง ด้วย กำรหลอกลวง ด้วยกำรใช้อำนำจโดยมิชอบ หรือด้วยกำรใช้สถำนะควำมเสี่ยงภัยจำกกำรค้ำ มนุษย์โดยมิชอบ หรือมีกำรให้หรือรับเงินหรือ ผลประโยชน์เพื่อให้ได้มำซ่ึงควำม ยินยอมของบุคคลผู้มีอำนำจควบคุม บุคคลอื่น เพื่อควำมมุ่งประสงค์ในกำรแสวง ประโยชน์ กำรแสวงประโยชน์ อย่ำงน้อยที่สุดให้รวมถึงกำรแสวงประโยชน์จำก กำรค้ำประเวณีของบุคคล อื่นหรือกำรแสวงประโยชน์ทำงเพศในรูปแบบอื่น กำร บังคับใช้ แรงงำน หรือบริกำร กำรเอำคนลงเป็นทำสหรือกำรกระทำอื่นเสมือนกำร เอำคนลงเป็นทำส กำรทำให้ตกอยู่ใต้บังคับ หรือกำรตัดอวัยวะออกจำกร่ำงกำย กำรปฏิบัติเกี่ยวกับกำรค้ำมนุษย์อำจเริ่มจำกมีบุคคลพบเห็น หรือทรำบ สำเหตุ เช่น บุคคลที่พักอำศัยใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ หรือมีผู้เสียหำยมำแจ้งเหตุ ด้วยตนเอง หรือจำกกำรสิบสวนหำข่ำวของเจ้ำหน้ำที่ผู้ปฏิบัติ ซึ่งมีหลำย หน่วยงำนที่มีอำนำจหน้ำที่ที่เกี่ยวข้องกับกำรปฏิบัติเกี่ยวกับคดีค้ำมนุษย์ แต่มี ภำรกิจแตกต่ำงกัน และถือกฎหมำยคนละฉบับ เช่น สถำนีตำรวจทั่วประเทศ มีอำนำจหน้ำที่ในกำรป้องกันปรำบปรำมและสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีใน ควำมผิดที่เกี่ยวข้องกับกำรค้ำมนุษย์ในเขตรับผิดชอบของสถำนีตำรวจนั้นๆ กอง บังคับกำรปรำบปรำมกำรกระทำควำมผิดเกี่ยวกับกำรค้ำมนุษย์ มีอำนำจหน้ำที่ ปรำบปรำมและสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีในควำมผิดฐำนค้ำมนุษย์และค วำมผิด 9

ที่เกี่ยวข้องทั่วรำชอำณำจักร กรมกำรจัดงำน มีหน้ำที่ในกำรตรวจสอบคนต่ำงด้ำว เพื่อตรวจสอบและช่วยเหลือคนต่ำงด้ำวที่ตกเป็นผู้เสียหำยจำกกำรค้ำมนุษย์ หน่วยงำนในสังกัดกระทรวงกำรพัฒนำสังคมและควำมมั่นคงของมนุษย์ เช่น บ้ำนพักเด็กและครอบครัวในจังหวัดต่ำงๆ มีหน้ำที่ในกำรช่วยเหลือและคุ้มครอง สวัสดิภำพผู้เสียหำยจำกกำรค้ำมนุษย์ เป็นต้น นอกจำกนี้ยังมีองค์กรพัฒนำเอกชนที่ทำงำนเกี่ยวกับกำรป้องกันและ ปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์ ซึ่งหลำยหน่วยงำนดังกล่ำวจะต้องทำงำนแบบประสำน ควำมร่วมมือกัน ในลักษณะ “ทีมสหวิชำชีพ” ตำมอำนำจหน้ำที่ ควำมรู้ ควำม ชำนำญในแต่ละด้ำนตำมสถำนกำรณ์ที่เกิดขึ้นแต่ละคดี โดยบำงสถำนกำรณ์ต้อง ให้หน่วยงำนหนึ่งเป็นเจ้ำภำพ บำงสถำนกำรณ์ต้องให้อีกหน่วยงำนหนึ่งเป็น เจ้ำภำพ แต่กำรทำงำนลักษณะดังกล่ำวให้ประสบผลสำเร็จและสำมำรถแก้ปัญหำ กำรค้ำมนุษย์อย่ำงมีระบบ เจ้ำหน้ำที่ผู้ปฏิบัติงำนจักต้องรู้และเข้ำใจ พระรำชบัญญัติป้องกันและปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ต้องรู้บทบำท หน้ำที่ของตนเองตำมกฎหมำยที่ตนเป็นเจ้ำภำพและต้องรู้บทบำทหน้ำที่ของ หน่วยงำนอื่นตำมกฎหมำยที่ร่วมเป็นเจ้ำภำพด้วย และเพื่อให้เจ้ำหน้ำที่ผู้ปฏิบัติ ทุกหน่วยมีควำมรู้และเข้ำใจในกำรปฏิบัติ กระบวนกำรทำงำนของเครือข่ำยในกำรป้องกันปรำบปรำมแก้ไขและปัญหำ กำรค้ำมนุษย์ เกิดจำกคณะอนุกรรมกำรศูนย์ปฏิบัติกำรป้องกันและปรำบปรำม กำรค้ำมนุษย์ ซึ่งแต่งตั้งโดยคณะกรรมกำรระดับจังหวัด ดังแผนภูมิภำพต่อไปน้ี.- 10

ศนู ยป์ ฏิบัติกำรป้องกนั และปรำบปรำมกำรค้ำมนษุ ย์ จังหวดั คณะอนกุ รรมกำรศนู ยป์ ฏบิ ัตกิ ำรป้องกนั และปรำบปรำมกำรคำ้ มนษุ ยจ์ งั หวดั ผวู้ ำ่ รำชกำรจังหวัด ประธำน รองผูว้ ่ำรำชกำรจงั หวดั รองประธำน ผ้แู ทนหนว่ ยงำนรำชกำรใน ผู้ทรงคณุ วุฒซิ ่งึ เปน็ ผแู้ ทนจำก จังหวดั องคก์ รเอกชน ภำคเอกชน หรอื ภำค พัฒนำสงั คมและควำมมน่ั คงของมนุษย์ จงั หวัด ที่มำ : คำสั่งคณะกรรมกำรประสำนกำกับกำรดำเนินงำนป้องกันและปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์ (ปกค.) ที่ 3/2553 ลงวันที่ 5 ก.พ. 2553 เร่ืองแต่งต้งั คณะอนุกรรมกำรศูนย์ปฏิบัติกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรค้ำ มนุษย์จังหวัด 11

กระบวนกำรและข้ันตอนกำรรับแจ้งเหตุ กำรช่วยเหลือและกำรตรวจสถำนท่ีเกิดเหตุ 1. กำรรับแจ้งเหตุ ➢ กรณีผู้แจ้งไม่ใช่ผู้เสียหำยจำกกำรค้ำมนุษย์ ให้ผู้รับแจ้งทำกำรตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐำนเบื้องต้น และ จัดทำรำยงำนผลกำรตรวจสอบข้อเท็จจริงเสนอผู้บังคับบัญชำพิจำรณำ โดยใน รำยงำนกำรตรวจสอบข้อเท็จจริง ควรมีรำยละเอียด ดังน้ี.- 1) พฤติกรรมตำมท่ีแจ้งเป็นอย่ำงไร 2) ผลกำรตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น พร้อมพยำนบุคคล พยำนวัตถุ และพยำนเอกสำร (ถ้ำมี) 3) ข้อเสนอและควำมเห็นว่ำเป็นกำรกระทำควำมผิดทำงอำญำหรือไม่ ควรดำเนินกำรอย่ำงไร และหำกเห็นว่ำกำรกระทำดังกล่ำว เป็นควำมผิดทำงอำญำ ฐำนอื่น ให้พิจำรณำด้วยว่ำเป็นควำมผิดฐำนใดแล้วเสนอผู้บังคับบัญชำเขำ พิจำรณำสั่งกำร เช่น ให้พนักงำนสอบสวนรับคำร้องทุกข์ เพื่อดำเนินคดีตำม กฎหมำยต่อไป เป็นต้น กรณีพบว่ำน่ำจะเป็นควำมผิดฐำนค้ำมนุษย์ อำจเรียกบุคคลที่มีเหตุ อันควรเชื่อว่ำเป็นผู้เสียหำยจำกกำรค้ำมนุษย์มำสัมภำษณ์เพื่อคัดแยกเบื้องต้น แล้วส่งแบบสัมภำษณ์เบื้องต้นเพื่อคัดแยกผู้เสียหำยประกอบรำยงำน กำรตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้พนักงำนสอบสวนนำมำใช้ประกอบกำรสอบสวน ต่อไป ➢ กรณีมีกำรแจ้งเหตุกำรค้ำมนุษย์ในเรือประมง เนื่องจำกมีเรือประมงจำนวนมำก ผู้รับแจ้งจึงควรสอบถำมข้อมูลต่ำงๆ ให้ได้ มำกที่สุดเพื่อประโยชน์ในกำรค้นหำของหน่วยงำนที่เกี่ยวข้อง โดยข้อมูลที่ผู้รับ แจ้งควรสอบถำม ได้แก่ 12

1) พิกัดตำแหน่งเรือทั้งแลตติจูด ลองติจูด หรือเรียกกันทั่วไปว่ำ “แลตลอง” ซึ่งได้มำจำกเครื่องมือหำตำแหน่งเรือติดต้ังประจำอยู่บนเรือ 2) ช่ือเรือหรือหมำยเลขข้ำงเรือ 3) ประเภทกำรทำประมงของเรือ เช่น เรอื ไดร์หมึก เรอื วนลอย เรอื อวนล้อม เรืออวนรุน เป็นต้น 4) ลักษณะทั่วไปของเรือ เช่น เรือทำด้วยไม้ขนำดประมำณ 12 วำ ตัวเรือสีขำว เป็นต้น 5) ทิศทำงของเรือ สอบถำมต้นทำงที่เรือออกและจุดหมำยปลำยทำง รวมท้ังควำมเร็วเรือ เป็นต้น 6) สภำพแวดล้อมโดยรอบ เช่น ชื่อเรือที่แล่นผ่ำน โดยเฉพำะเรือขนำด ใหญ่ ซึ่งอำจมีช่องทำงติดต่อกับหน่วยงำนต่ำงๆ ได้ หรือสิ่งที่สำมำรถใช้เป็น จุดอ้ำงอิง เช่น กระโจมไฟ ท่ำเรือ อ่ำว แหลม เป็นต้น ➢ กรณีแจ้งเป็นผู้เสียหำยหรือมีเหตุอันควรเช่ือว่ำเป็นผู้เสียหำยจำกกำรค้ำมนุษย์ ให้เจ้ำหน้ำที่ผู้รับแจ้งจัดให้มีกำรดำเนินกำรกำรคัดแยกผู้เสียหำย จำกกำรค้ำมนุษย์ เป็นกำรสัมภำษณ์เบื้องต้นเพื่อคัดแยกว่ำบุคคลใดเป็น ผู้เสียหำยจำกกำรค้ำมนุษย์ เป็นอำนำจหน้ำที่ของพนักงำนสอบสวน ตำมกฎหมำยว่ำด้วย กำรป้องกันและปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์ ส่วนทีมสหวิชำชีพ มีหน้ำที่ช่วยพนักงำนสอบสวนสัมภำษณ์เพื่อคัดแยกผู้เสียหำยเบื้องต้น กรณีที่ พนักงำนสอบสวนและทีมสหวิชำชีพมีควำมเห็นไม่ตรงกัน ให้พนักงำนสอบสวน เป็นผู้ตัดสินชี้ขำดหรือวินิจฉัยเป็นข้อยุติ แม้ว่ำกระบวนกำรคัดแยกผู้เสียหำยจำกกำรค้ำมนุษย์จะไม่มีกฎหมำย บังคับว่ำจำเป็นต้องทำ หรือใครมีหน้ำที่ต้องทำ แต่กำรคัดแยกที่มีประสิทธิภำพจะ ก่อให้เกิดประโยชน์อย่ำงยิ่งทั้งต่อตัว ผู้เสียหำยและพนักงำนสอบสวน เนื่องจำก 13

กำรคัดแยกที่รวดเร็ว ถูกต้อง และแม่นยำ จะช่วยให้ผู้เสียหำยหลุดพ้นจำกกำรถูก แสวงหำประโยชน์ได้เร็วขึ้น ทำให้ผู้เสียหำยรู้สึกปลอดภัยและเชื่อมั่น ในกำรทำงำนของเจ้ำหน้ำที่อันจะนำไปสู่ควำมพร้อมที่จะให้ควำมร่วมมือกับ เจ้ำหน้ำที่ในขั้นตอนต่อไป อย่ำงไรก็ตำม แม้ว่ำกำรคัดแยกเบื้องต้นจะไม่มีผลใน กำรผูกมัด ให้พนักงำนสอบสวนต้องยึดถือตำมนั้น แต่อำจช่วยให้พนักงำน สอบสวนได้รับควำมร่วมมือจำกบุคคลที่ผ่ำนกำรคัดแยกเบื้องต้นแล้ว เชื่อว่ำเป็น ผู้เสียหำย ซึ่งจะทำให้แนวทำงในกำรสอบสวนดำเนินไปอย่ำงรวดเร็วและมี ประสิทธิภำพยิ่งข้ึน 1. หน่วยรับแจ้งเหตุ (Front Line Officer) กำรรับแจ้งเหตุ หน่วยงำน องค์กรทั้งภำครัฐและเอกชน ที่ได้รับเรื่องรำว ร้องทุกข์/ประสำนขอรับกำรให้กำรช่วยเหลือ โดยกำรรับแจ้งเหตุ จะเป็นกำรรับ ข้อมูลจำกผู้แจ้งซึ่งเป็นบุคคลที่พบเห็นเหตุกำรณ์กำรกระทำที่มีพฤติกรรมตำมข้อ บ่งชี้หรือพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับกำรค้ำมนุษย์ กำรบังคับใช้แรงงำนหรือบริกำร และ/หรืออำจเป็นผู้ที่ประสบเหตุกำรณ์ด้วยตนเอง เพื่อนำไปสู่กำรให้ควำม ช่วยเหลือต่อไป หน่วยงำนรับแจ้งเหตุ ประกอบด้วยหน่วยงำนดังต่อไปนี้.- 14

1. ส ำนักงำนต ำรวจแห่งชำติ (ตร.) ได้แก่ ต ำรวจภูธรภำค 1 ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยำ สำนักงำนตรวจคนเข้ำเมือง หรือหน่วยงำน ของสำนักงำนตำรวจแห่งชำติที่ผู้แจ้งสำมำรถเข้ำถึงช่องทำงกำรแจ้งเหตุได้ 2. กระทรวงกำรพัฒนำสังคมและควำมม่ันคงของมนุษย์ (พม.) ได้แก่ สำนักงำนพัฒนำสังคมและควำมมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ศูนย์ช่วยเหลือสังคม บ้ำนพักเด็กและครอบครัวจังหวัด หรือหน่วยงำนอื่นของกระทรวงกำรพัฒนำสังคม และควำมม่ันคงของมนุษย์ ที่ผู้แจ้งเหตุสำมำรถเข้ำถึงช่องทำงกำรแจ้งเหตุได้ 3. กระทรวงแรงงำน (รง.) ได้แก่ ส ำนักงำนแรงงำนจังหวัด สำนักงำนสวัสดิกำรและคุ้มครอง แรงงำนจังหวัด สำนักงำนจัดหำงำนจังหวัด หรือ หน่วยงำนอื่นทั้งส่วนกลำงและภูมิภำคของกระทรวงแรงงำน ที่ผู้แจ้งเหตุสำมำรถ เข้ำถึงช่องทำงกำรแจ้งเหตุได้ 4. กระทรวงมหำดไทย (มท.) ได้แก่ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด กรมกำร ปกครอง หรือหน่วยงำนอ่ืนของกระทรวงมหำดไทย ที่ผู้แจ้งเหตุสำมำรถเข้ำถึงช่อง ทำงกำรแจ้งเหตุได้ 5. กระทรวงสำธำรณสุข (สธ.) ได้แก่ ศูนย์ช่วยเหลือเด็กและสตรีใน ภำวะวิกฤติจำกควำมรุนแรง (ศูนย์พึ่งได้) โรงพยำบำลประจำอำเภอ/จังหวัด โรงพยำบำลส่งเสริมสุขภำพตำบล/ชุมชน หรือหน่วยงำนอื่นของกระทรวง สำธำรณสุข ท่ีผู้แจ้งเหตุสำมำรถเข้ำถึงช่องทำงกำรแจ้งเหตุได้ 6. กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ได้แก่ สำนักงำนยุติธรรมจังหวัด หรือ หนว่ ยงำนอ่นื ของกระทรวงยุตธิ รรม ทีผ่ ู้แจ้งเหตุสำมำรถเขำ้ ถึงช่องทำงกำรแจ้งเหตุได้ 7. กระทรวงกำรต่ำงประเทศ (กต.) ได้แก่ สถำนทูต สถำนกงสุล หรือหน่วยงำนอื่นของกระทรวงกำรต่ำงประเทศ ที่ผู้แจ้งเหตุสำมำรถเข้ำถึงช่อง ทำงกำรแจ้งเหตุได้ 15

2.บทบำทหน้ำที่ของหน่วยงำนรับแจ้งเหตุ หน่วยงำนรับแจ้งเหตุมีหน้ำที่ในกำรรับแจ้งเหตุข้อมูลจำกผู้แจ้งเหตุ และส่งต่อข้อมูลไปยังหน่วยงำนด้ำนหน้ำ (First Responder) (สำนักงำน ตำรวจแห่งชำติ กระทรวงแรงงำน กระทรวงมหำดไทย กระทรวงสำธำรณสุข กระทรวงกำรพัฒนำสังคมและควำมมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงยุติธรรม กระทรวง กำรต่ำงประเทศ) ที่มีอำนำจหน้ำที่ในเรื่องนั้นๆ พิจำรณำคัดกรองและให้ควำม ช่วยเหลือต่อไป 2. ข้ันตอนกำรคัดกรอง กำรคัดกรองเป็นข้ันตอนท่ีหน่วยงำนด่ำนหน้ำ (First Responder) ดำเนินกำรสัมภำษณ์คัดกรองข้อมูลจำกบุคคลตำมที่ได้รับกำรส่งต่อมำจำก หน่วยงำนรับแจ้งเหตุ (Front Line Officer) โดยกำรสัมภำษณ์คัดกรอง จะเป็นกำรรวบรวมข้อมูล/ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นตำมที่มีกำรแจ้งเหตุ/ประสบเหตุ มำพิจำรณำร่วมกับข้อบ่งชี้ของกำรค้ำมนุษย์ กำรบังคับใช้แรงงำนหรือบริกำร เพื่อพิจำรณำว่ำบุคคลนั้นเป็นบุคคลที่มีเหตุอันควรเชื่อว่ำจะเป็นผู้เสียหำยหรือไม่ เพื่อให้กำรส่งต่อควำมช่วยเหลือเป็นไปอย่ำงมีประสิทธิภำพ และบุคคลที่มีเหตุ อันควรเชื่อว่ำเป็นผู้เสียหำยจะได้รับกำรช่วยเหลือและส่งต่อเข้ำสู่ขั้นตอนกำร คัดแยกอย่ำงเป็นทำงกำรต่อไป กำรคัดกรอง (Screening Process) คือ กำรดำเนินกำรสัมภำษณ์ เพื่อให้ได้ข้อมูล/ข้อเท็จจริงเบื้องต้นจำกบุคคล/กลุ่มบุคคล เท่ำที่จะสำมำรถ ดำเนินกำรได้ในช่วงเวลำนั้น แล้วนำมำพิจำรณำประกอบกับข้อบ่งชี้กำรค้ำมนุษย์ หรือกำรบังคับใช้แรงงำนหรือบริกำร เพื่อพิจำรณำว่ำบุคคลนั้นเป็นบุคคลที่มีเหตุ 16

อันควรเชื่อว่ำเป็นผู้เสียหำย (Potential Victims) จำกกำรค้ำมนุษย์หรือกำร บังคับใช้แรงงำนหรือบริกำรหรือไม่ แนวทำงกำรคัดกรอง หน่วยงำนด่ำนหน้ำมอบหมำยผู้ทำหน้ำที่คัดกรอง ซึ่งต้องเป็นผู้ที่มี ควำมรู้และควำมเข้ำใจเกี่ยวกับกำรค้ำมนุษย์ กำรบังคับใช้แรงงำนหรือบริกำร หรือเป็นบุคคลที่มีอำนำจหน้ำที่ เช่น พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ตำมกฎหมำย โดยให้ ผู้มีหน้ำที่คัดกรอง ดำเนินกำรตำมน้ี 1) ดำเนินกำรโดยคำนึงถึงควำมพร้อมทั้งด้ำนร่ำงกำยและจิตใจของ บุคคล และต้องดำเนินกำรกับบุคคลดังกล่ำวในฐำนะเป็น “ผู้ที่ได้รับกำรช่วยเหลือ คุ้มครอง” และดำเนินกำรภำยใต้มำตรกำรรักษำควำมลับอย่ำงเคร่งครัด 2) นำข้อมูลรำยงำนพฤติกำรณ์เบื้องต้น ที่ได้รับจำกหน่วยงำนรับแจ้ง เหตุมำประกอบกำรสัมภำษณ์คัดกรอง 3) สอบถำมข้อเท็จจริงโดยกำรซักถำมข้อมูล กรณีต้องสัมภำษณ์ข้อมูล ผ่ำนล่ำมแปลภำษำให้พิจำรณำใช้ล่ำมที่ผ่ำนกำรอบรมที่เกี่ยวข้องกับกฎหมำยว่ำ ด้วยกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์กฎหมำยที่เกี่ยวข้องกับกระบวนกำร ยุติธรรมก่อนเป็นอันดับแรก ห้ำมใช้ผู้ร่วมเดินทำงเป็นล่ำม 4) กรณีต้องใช้ทีมสหวิชำชีพในกำรสัมภำษณ์คัดกรอง ให้หน่วยงำน ด้ำนหน้ำเชิญทีมสหวิชำชีพเท่ำท่ีจำเป็น 5) ก่อนสัมภำษณ์ ให้ผู้ที่จะสัมภำษณ์ชี้แจงสิทธิและขั้นตอนกำร ดำเนินกำรตำมกลไกให้ผู้ท่ีจะถูกสัมภำษณ์ทรำบ 6) กำรสัมภำษณ์คัดกรอง ให้พิจำรณำสัมภำษณ์คัดกรอง ตำมแบบคัด กรองของหน่วยงำนหรือแบบคัดกรองที่ผ่ำนควำมเห็นชอบของคณะกรรมกำรตำม 17

กฎหมำยว่ำด้วยกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์ หรือแบบคัดกรองที่มี กำรจัดทำขึ้นมำเป็นกำรเฉพำะ ซึ่งได้รวมข้อบ่งชี้กำรค้ำมนุษย์ แรงงำน บังคับเข้ำ ไว้ด้วยแล้ว 7) ในกำรสัมภำษณ์คัดกรองบุคคลต่ำงด้ำวที่เข้ำเมืองผิดกฎหมำย ให้มี เจ้ำหน้ำที่จำกสำนักงำนตรวจคนเข้ำเมืองในพื้นที่เข้ำร่วมกำรคัดกรองด้วยทุกครั้ง หรือหำกเป็นกรณีบุคคลต่ำงด้ำวที่มีกำรหลบหนีเข้ำเมืองทำงทะเล ให้ประสำน ศูนย์อำนวยกำรรักษำผลประโยชน์ของชำติทำงทะเล เพื่อเข้ำร่วมคัดกรอง 8) ในระหว่ำงกำรสัมภำษณ์คัดกรอง ให้ผู้สัมภำษณ์ดำเนินกำรตำม หลักกำรสำกลว่ำด้วยกำรคุ้มครองช่วยเหลือ เช่น กำรคำนึงถึงบำดแผลทำงจิตใจ กำรไม่ทำให้เกิดบำดแผลทำงจิตใจซ้ำ กำรคำนึงถึงควำมแตกต่ำงทำงเพศ ภำษำ วัฒนธรรม ควำมเชื่อและประเพณี เป็นต้น 9) ในระหว่ำงกำรสัมภำษณ์คัดกรอง ต้องไม่ให้บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง อยู่ในพื้นที่สัมภำษณ์โดยเฉพำะบุคคลที่อำจเป็นผู้ควบคุม นำยหน้ำ เจ้ำของ สถำนประกอบกำร หรือบุคคลที่มีพฤติกำรณ์น่ำงสงสัยว่ำจะเป็นผู้กระทำควำมผิด หรือเกี่ยวข้องกับผู้กระทำควำมผิด เช่น คนที่ผู้กระทำผิดมอบหมำยให้แฝงตัวอยู่ ในกลุ่มผู้ที่จะถูกสัมภำษณ์ และควรแยกทำกำรสัมภำษณ์เป็นรำยบุคคล 10) เมื่อทำกำรสัมภำษณ์คัดกรองเสร็จสิ้น ให้หัวหน้ำหน่วยงำนด่ำน หน้ำ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมำยให้ดำเนินกำรคัดกรอง สรุปและลงควำมคิดเห็น (หรือลงควำมเห็นชอบร่วมกัน กรณีมีตั้งแต่ 2 หน่วยขึ้นไป) ว่ำบุคคลดังกล่ำวเป็น บุคคลท่ีมีเหตุอันควรเช่ือว่ำจะเป็นผู้เสียหำยหรือไม่ 11) ให้หน่วยงำนด่ำนหน้ำ ให้กำรช่วยเหลือเบื้องต้นแก่บุคคลที่มีเหตุ อันควรเชื่อว่ำจะเป็นผู้เสียหำย โดยให้พิจำรณำนำตัวออกจำกสถำนที่อันอำจ ก่อให้เกิดอันตรำย ให้นำไปอยู่ในสถำนที่ปลอดภัย กรณีที่มีควำมเสี่ยงจะเกิด 18

อันตรำย ให้รีบแจ้งประสำนเจ้ำหน้ำที่ตำรวจ หำกเป็นเด็กให้ติดต่อหน่วยงำนที่ มีหน้ำที่รับผิดชอบในกำรคุ้มครองเด็กทันที และยึดหลักกำรว่ำจะต้องไม่อยู่ใน ภำวะถูกควบคุมตัวโดยให้เคำระต่อสิทธิควำมเป็นส่วนตัว และกำรรักษำข้อมูลส่วน บุคคลไว้เป็นควำมลับ และต้องหลีกเลี่ยงกำรทำให้ผู้เสียหำยได้รับควำมบอบช้ำ ทำงจิตใจซ้ำ (Re-Traumatization) 12) ให้หน่วยงำนด่ำนหน้ำร่วมกับหน่วยงำนที่เกี่ยวข้อง แจ้งข้อมูล ให้บุคคลที่มีเหตุอันควรเชื่อว่ำจะเป็นผู้เสียหำยทรำบถึงขั้นตอนกระบวนกำร และระยะเวลำในกำรให้ควำมช่วยเหลือในกลไก NRM (ควำมรู้ของเจ้ำหน้ำที่ เกี่ยวกับกระบวนกำร NRM รวมทั้งบริกำรต่ำงๆ ที่พวกเขำจะได้รับระหว่ำงอยู่ใน กลไกจะช่วยสร้ำงควำมมั่นใจให้บุคคลที่มีเหตุอันควรเชื่อว่ำจะเป็นผู้เสียหำย โดยให้เจ้ำหน้ำที่ของหน่วยงำนด่ำนหน้ำ อธิบำยขั้นตอนกำรดำเนินกำรและสิทธิ ที่จะได้รับระหว่ำงอยู่ในกลไก NRM เช่น สถำนที่ บริกำรต่ำงๆ และระยะเวลำ ในกำรดำเนินกำร เป็นต้น) 13) หน่วยงำนด่ำนหน้ำ ประสำนแจ้งหน่วยงำนที่มีหน้ำที่ในกำรเปิด ศูนย์บูรณำกำรกำรคัดแยก เพื่อส่งต่อบุคคลที่มีเหตุอันควรเชื่อว่ำจะเป็นผู้เสียหำย เข้ำสู่กระบวนกำรคัดแยกต่อไป - กรณีเป็นคนไทย หรือคนต่ำงด้ำวที่เดินทำงเข้ำมำและอยู่ใน ประเทศโดยถูกต้องตำมกฎหมำยให้สอบถำมและลงนำมในเอกสำรให้ควำม ยินยอมเข้ำสู่กลไก NRM ส่วนกรณีที่เป็นเด็กให้ส่งตัวเข้ำสู่กลไก NRM ทุกกรณี (กรณีที่เป็นเด็กอำจใช้บ้ำนพักเด็กและครอบครัวเป็นสถำนที่ดำเนินกำรตำม กลไก) - กรณีเป็นคนต่ำงด้ำวที่ลักลอบเดินทำงเข้ำประเทศ หรืออยู่ใน ประเทศโดยผิดกฎหมำย ให้ส่งตัวเข้ำสู่กลไก NRM ทุกกรณี โดยกำรเอำตัวไว้ใน 19

ควำมดูแลระหว่ำงหำข้อมูลเพื่อยืนยันว่ำเป็นผู้เสียหำยหรือไม่ ให้ใช้อำนำจตำม พรบ.คนเข้ำเมือง พ.ศ.2522 ปัจจัยท่ีอำจทำให้บุคคลเหล่ำน้ีไม่ประสงค์เข้ำกลไก NRM - หวำดกลัว - เจ้ำหน้ำที่ - ไม่เชื่อคำรับรองเรื่องควำมปลอดภัย - ถูกคุกคำมจำกผู้แสวงประโยชน์ - ยังไม่รู้หรือไม่ยอมรับว่ำตนเป็นผู้เสียหำย - ยังมีควำมกังวลเกี่ยวกับสถำนกำรณ์เข้ำเมือง 14) สำหรับบุคคลที่คัดกรองแล้ว ไม่มีเหตุอันควรเช่ือว่ำจะเป็นผู้เสียหำย ให้หน่วยงำนด่ำนหน้ำดำเนินกำรประสำนแจ้งหน่วยงำนที่มีอำนำจหน้ำที่มำรับ ตัวเพ่ือดำเนินกำรต่อไป - กรณีเกี่ยวข้องกับกำรลักลอบเข้ำเมือง ให้ประสำนสำนักงำนตรวจ คนเข้ำเมือง - กรณีเกี่ยวข้องกับกำรลักลอบเข้ำเมือง ให้ประสำนหน่วยงำน กระทรวงแรงงำน - กรณีที่เป็นเด็ก ให้ประสำนหน่วยงำนกระทรวงกำรพัฒนำสังคม และควำมมั่นคงของมนุษย์ ให้กำรช่วยเหลือตำมภำรกิจหน้ำท่ี 20

ข้อพิจำรณำและพึงระวังระหว่ำงกำรคัดกรองเบ้ืองต้น 1. ซักถำม สอบถำมข้อมูลใดๆ เป็นไปเพื่อกำรให้ควำมช่วยเหลือบุคคล นั้นอย่ำงเหมำะสม ไม่ใช่กำรสอบสวนหรือสอบปำกคำทั้งในฐำนะ พยำนและผู้เสียหำย 2. ในกรณีที่เจ้ำหน้ำที่ตำรวจไม่ได้เข้ำมำเกี่ยวข้องแต่แรก ให้มีกำร ประสำนงำนแจ้งให้เจ้ำหน้ำที่ตำรวจทรำบกำรให้ควำมช่วยเหลือ ดังกล่ำวโดยไม่ชักช้ำ 3. กำรเตรียมกำรวำงแผนและจัดทีมเข้ำปฏิบัติก่อนเข้ำทำกำรช่วยเหลือ 1) กำหนดหัวหน้ำชุดปฏิบัติกำร (ในกรณีท่ีเป็นกำรทำงำนร่วมกันหลำย หน่วยงำน ควรมีกำรกำหนดผู้บัญชำกำรเหตุกำรณ์) 2) ระบุผู้ปฏิบัติงำนและหน้ำท่ีให้ชัดเจน 3) แบ่งทีมงำนสำหรับรับผิดชอบด้ำนต่ำงๆ เช่น ด้ำนสังคม ด้ำน กฎหมำย โดยแต่ละทีมกำหนดให้มีหัวหน้ำทีม เพื่อประสำนงำนกับทีมอื่นและ สื่อสำรกับหัวหน้ำชุดปฏิบัติกำร 4) ประเมินสภำพแวดล้อมของสถำนที่เกิดเหตุ เช่น ทำงเข้ำ -ออก ที่หลบซ่อน กล้องวงจรปิด เป็นต้น จัดทำแผนที่หรือศึกษำแผนผังของสถำนที่ ที่จะเข้ำปฏิบัติกำร โดยอำจขอควำมร่วมมือจำกหน่วยงำนท่ีเก่ียวข้อง 5) ประเมินควำมเสี่ยงและควำมปลอดภัยทั้งของผู้ปฏิบัติงำนและ ผู้เสียหำย เช่น จำนวนผู้ต้องสงสัย พฤติกรรมในกำรใช้ควำมรุนแรงหรืออำวุธ เป็นต้น 22

6) กำหนดจุดและสถำนที่ที่เหมำะสมสำหรับกำรเคลื่อนย้ำยผู้เสียหำย ออกจำกสถำนที่เกิดเหตุ และทำกำรคัดแยกซ่ึงต้องสอดรับกับจำนวนผู้เสียหำย 7) ประสำนลำ่ ม และนัดหมำยเวลำและสถำนทใ่ี หล้ ำ่ มเขำ้ รว่ มปฏบิ ัติกำร 8) เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในกำรตรวจค้น ช่วยเหลือ และรักษำ ควำมปลอดภัยให้แก่ผู้ปฏิบัติงำนและผู้เสียหำย 9) ประสำนงำนกับกระทรวงกำรพัฒนำสังคมและควำมมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดย กองต่อต้ำนกำรค้ำมนุษย์ หรือสถำนคุ้มครองสวัสดิภำพผู้เสียหำยจำก กำรค้ำมนุษย์ หรือบ้ำนพักเด็กและครอบครัว เพื่อเตรียมควำมพร้อมล่วงหน้ำ 10) กรณีเด็กในสถำนที่เกิดเหตุ ควรประสำนงำนให้พนักงำนเจ้ำหน้ำท่ี ตำมพระรำชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 เข้ำร่วมวำงแผนกำรช่วยเหลือ 11) คำนึงถึงประเด็นข้อกฎหมำยท่ีเก่ียวข้อง เช่น กำรขอหมำยค้น หรือ เหตุผลท่ีจะทำกำรเข้ำค้นโดยไม่มีหมำย เป็นต้น 12) เตรียมกำรทำงกำรแพทย์ อำหำร ยำนหำหนะ อุปกรณ์กำรสื่อสำร และกำรบันทึกข้อมูลอุปกรณ์บันทึกภำพเคลื่อนไหว หรือ VDO 13) กำชับเรื่องกำรรักษำแผนปฏิบัติกำรไว้เป็นควำมลับ 4. กำรเข1้ำ4ป) ฏิบัติกำรช่วยเหลือ 1) ก่อนปฏิบัติกำร หัวหน้ำชุดปฏิบัติกำรและหัวหน้ำทีมด้ำนต่ำงๆ ควรมี กำรประชุมและซักซ้อมเพ่ือให้เกิดควำมมั่นใจในกำรปฏิบัติกำรกรณีที่มีสื่อมวลชน เข้ำร่วมในขณะปฏิบัติกำรควรทำำควำมเข้ำใจถึงบทบำทหน้ำที่กำรรักษำควำม ปลอดภัยของผู้เสียหำยด้วย 2) ตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่ำผู้เข้ำร่วมปฏิบัติกำรทุกคนมีสัญลักษณ์ แสดงตนท่ีชัดเจน เพ่ือป้องกันควำมสับสน 23

3) ควบคุมสถำนท่ีเกิดเหตุในทันทีท่ีทำได้ 4) กักตัวผู้ต้องสงสัยไว้ในทันทีที่ทำำได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องสงสัย ทิ้งหรือทำำลำยพยำนหลักฐำน และเพื่อป้องกันควำมเสี่ยงต่ออันตรำยที่อำจเกิด แก่บุคคล รวมทั้งตัดกำรสื่อสำรระหว่ำง ผู้ต้องสงสัยกับบุคคลอื่นตลอดจนระหว่ำง ผู้ต้องสงสัยด้วยกันเอง หำกจำำเป็นให้ใช้เครื่องพันธนำกำร 5) หำกผู้เสียหำย ผู้ต้องสงสัย เจ้ำหน้ำที่ผู้ปฏิบัติ หรือบุคคลหนึ่งบุคคล ใด ได้รับบำดเจ็บจำกกำรปฏิบัติกำร หรือเจ็บป่วยอย่ำงเห็นได้ชัด และต้องกำร ควำมช่วยเหลือทำงกำรแพทย์ อย่ำงเร่งด่วน ให้จัดเข้ำรับกำรรักษำพยำบำลทันที ท่ีทำำได้ ทั้งในสถำนที่เกิดเหตุหรือเคลื่อนย้ำย ไปยังสถำนพยำบำล 6) หำสถำนที่ปลอดภัยและแยกผู้เสียหำยไว้ต่ำงหำก โดยมอบให้มี ผู้รับผิดชอบดูแลในกรณีที่ผู้เสียหำยตื่นตระหนกหรือมีปฏิกิริยำต่อต้ำนให้ พยำยำมทำำควำมเข้ำใจ และแยกผู้เสียหำยออกจำกผู้ต้องสงสัย 7) ควรย้ำยผู้เสียหำยออกไปจำกสถำนที่เกิดเหตุ โดยก่อนเคลื่อนย้ำย หำกผู้เสียหำยต้องกำรนำทรัพย์สินส่วนตัวออกจำกสถำนที่เกิดเหตุ ให้จัดทำ แผนที่คร่ำว ๆ แสดงตำแหน่งของทรัพย์สิน และก่อนเคลื่อนย้ำยทรัพย์สินดังกล่ำว ให้ถ่ำยภำพและบันทึกภำพวิดีโอประกอบ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐำน และควรให้ เจ้ำหน้ำท่ีท่ีรับผิดชอบในกำรเก็บรวบรวมพยำนหลักฐำนเป็นพยำนด้วย 8) ควรแจ้งให้ผู้เสียหำยทรำบถึงสิทธิและกระบวนกำรทำงำนในขั้นตอน ต่อไป ตลอดจนกำรคุ้มครองและให้ควำมปลอดภัย ตั้งแต่เคลื่อนย้ำยผู้เสียหำยออก จำกสถำนท่ีเกิดเหตุ 9) หำกมีบุคคลอื่นอยู่ด้วย เช่น ลูกค้ำ หรือคนงำนถูกต้องตำมกฎหมำย ให้เก็บบันทึกรำยละเอียดและย้ำยออกจำกสถำนท่ีเกิดเหตุในทันทีท่ีทำได้ 24

5. กำรตรวจสอบและรวบรวมพยำนหลักฐำนในท่ีเกิดเหตุ หลังจำกควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย และเคลื่อนย้ำยผู้เสียหำยไว้ในที่ปลอดภัย แล้วให้ตรวจค้นสถำนท่ีเกิดเหตุ ยำนพำหนะท่ีเกี่ยวข้องและที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ท่ีเกิดเหตุ รวมทั้งภำพจำกกล้องวงจรปิดจำกสถำนที่เกิดเหตุหรือสถำนท่ีใกล้เคียง เพื่อเก็บรวบรวมพยำนหลักฐำน และก่อนเริ่มกำรตรวจค้นให้แจ้งผู้ต้องสงสัย รวมทั้งเจ้ำของหรือผู้ครอบครองสถำนที่เกิดเหตุ (กรณีผู้ต้องสงสัย ไม่ใช่เจ้ำของหรือผู้ครอบครองสถำนที่เกิดเหตุ) ให้ทรำบ ดังน้ี 1) อำนำจในกำรตรวจค้น หำกเป็นกำรค้นตำมหมำยค้นให้แสดงหมำย ค้นให้ดู 2) ระหว่ำงตรวจค้น ให้ผู้ต้องสงสัยรวมทั้งเจ้ำของหรือผู้ครอบครอง สถำนที่เกิดเหตุ (กรณีผู้ต้องสงสัยไม่ใช่เจ้ำของหรือผู้ครอบครองสถำนที่เกิดเหตุ) อยู่ร่วมเป็นพยำนในกำรตรวจค้น ถ่ำยภำพ และบันทึกภำพวิดีโอไว้โดยตลอด 3) ให้พิจำรณำเก็บสิ่งของทุกชิ้นที่คิดว่ำอำจใช้เป็นพยำนหลักฐำน ยืนยันหรือโต้แย้ง กำรกระทำำผิดได้ หำกไม่แน่ใจให้เก็บสิ่งนั้นส่งให้พนักงำน สอบสวนพิจำรณำดำเนินกำรต่อไป 4) จัดทำบัญชีรำยกำรสิ่งของทั่วไปและสิ่งของที่ใช้เป็นพยำนหลักฐำน หำกมีสิ่งของ และเอกสำรเป็นจำนวนมำกให้หำกล่องมำบรรจุปิดผนึก แล้วให้ เจ้ำหน้ำท่ีและผู้ต้องสงสัย รวมทั้งเจ้ำของหรือผู้ครอบครองสถำนที่เกิดเหตุ (กรณีผู้ ต้องสงสัยไม่ใช่เจ้ำของหรือผู้ครอบครองสถำนที่เกิดเหตุ) ลงลำยมือชื่อกำกับพร้อม ถ่ำยภำพและบันทึกภำพวิดีโอไว้เป็นหลักฐำน เพ่ือนำไปตรวจสอบในภำยหลัง 5) พยำนหลักฐำนท่ีรวบรวมจำกที่เกิดเหตุนั้น อำจมีควำมแตกต่ำงกันไป ขึ้นอยู่กับว่ำ เป็นกำรแสวงหำประโยชน์รูปแบบใด อย่ำงไรก็ตำมพยำนหลักฐำนที่ 25

สำมำรถพบได้ในที่เกิดเหตุ บริเวณใกล้เคียง หรือจำกกำรตรวจค้นตัวผู้เสียหำยที่ อำจเป็นประโยชน์ต่อกำรดำำเนินคดี อำจสรุปเป็นแนวทำงโดยจำแนกตำม รูปแบบกำรแสวงหำประโยชน์ท่ีมักพบบ่อยได้ ดังน้ี 5.1 กำรแสวงหำประโยชน์ทำงเพศหรือจำกกำรค้ำประเวณี 1) หำกเป็นกำรล่อซื้อ หลักฐำนที่สำคัญ คือ ธนบัตรที่ใช้ล่อซื้อโดย จะต้องยืนยัน ได้ว่ำธนบัตรอยู่ในกำรครอบครองของผู้ใด (ถ่ำยรูปขณะตรวจพบ เป็นหลักฐำน) 2) หลักฐำนที่แสดงว่ำมีกำรค้ำประเวณี เช่น ถุงยำงอนำมัย ครีมสำหรับ ใช้หล่อลื่นขณะร่วมเพศ ตั๋วหรือเอกสำรใดๆ ที่ผู้ประกอบกำรทำขึ้นเพื่อเป็น หลักฐำนในกำรจ่ำยเงินให้กับหญิงขำยบริกำร หรือเพ่ือให้ทรำบจำนวนครั้ง หรือ วงรอบในกำรค้ำประเวณี 3) เอกสำรเกี่ยวกับสถำนที่เกิดเหตุ ได้แก่ ใบอนุญำตประกอบกำร ใบอนุญำตขำยบุหรี่หรือสุรำ เอกสำรแสดงกรรมสิทธิ์หรือกำรครอบครองอำคำร ที่เกิดเหตุ ทั้งน้ี เพ่ือเป็นกำรขยำยผลให้ทรำบว่ำผู้ประกอบกำรแท้จริงคือใคร 4) หลักฐำนเกี่ยวกับบัตรประจำตัวประชำชน หนังสือเดินทำงของ ผู้เสียหำย หรือผู้ต้องสงสัยที่อยู่ในสถำนที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ ควรถ่ำยรูปหรือบันทึก วีดิโอไว้เป็นหลักฐำนว่ำถูกเก็บไว้ที่ใดหรือเก็บในลักษณะซุกซ่อนหรือไม่ อย่ำงไร เพื่อใช้เป็นพยำนหลักฐำนกรณีผู้เสียหำยยืนยันว่ำถูกยึดเอกสำรดังกล่ำวไว้ 5) หลักฐำนทำงกำรเงิน เช่น สมุดบัญชีธนำคำร บัตรเอทีเอ็ม หลักฐำน กำรส่งเงิน เป็นต้น ท้ังน้ี เพ่ือเป็นหลักฐำนในกำรตรวจสอบรำยได้และเพื่อใช้เป็น หลักฐำนในกำรสืบสวนควำมผิดฐำนฟอกเงินอีกส่วนหน่ึง 6) หลักฐำนแสดงว่ำมีกำรพันธนำกำร เช่น กุญแจประตู กุญแจมือ โซ่ ตรวน เป็นต้น 26

7) หลักฐำนทำงกำรสื่อสำร เช่น โทรศัพท์มือถือ ใบเสร็จรับเงินค่ำ โทรศัพท์จดหมำยติดต่อกับผู้อื่น เพื่อใช้เป็นประโยชน์ในกำรสืบหำและเช่ือมโยง ขบวนกำรค้ำมนุษย์ 8) หำกเป็นคนต่ำงด้ำวให้ตรวจยึดหลักฐำนกำรเดินทำง และหลักฐำน กำรเข้ำเมือง ใบอนุญำตทำำงำน หรือเอกสำรที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบหำ นำยจ้ำงและผู้เก่ียวข้อง 9) รถยนต์หรือรถจักรยำนยนต์ที่จอดใกล้เคียงสถำนที่เกิดเหตุ เนื่องจำกอำจมีพยำนหลักฐำนที่เกี่ยวข้องอยู่ภำยใน รวมทั้งอำจทรำบเบำะแส เชื่อมโยงกับผู้กระทำำผิดได้ 10) หำกเป็นกำรล่อซื้อหญิงบริกำรเพื่อไปใช้บริกำรนอกสถำนที่ เกิดเหตุ ให้ตรวจยึดรถจักรยำนยนต์หรือรถยนต์ที่ใช้ส่งหญิงบริกำรเป็นของกลำง ประกอบกำรดำำเนินคดี และตรวจสอบทะเบียนรถ เพื่อให้ทรำบผู้ถือกรรมสิทธิ์ หรือผู้ครอบครองและหำควำมเชื่อมโยง 11) เสื้อผ้ำเคร่ืองใช้ของหญิงบริกำรหรือผู้เสียหำย เพ่ือแสดงให้เห็นว่ำ หญิงบริกำรหรือผู้เสียหำยพักอำศัยอยู่ในที่เกิดเหตุ และเพื่อป้องกันข้อต่อสู้ว่ำ หญิงเข้ำมำขำยบริกำรเอง โดยผู้ประกอบกำรไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง 12) หำกเป็นกรณีกำรค้ำมนุษย์ทำงอินเตอร์เน็ต จะต้องตรวจสอบและ ตรวจยึด หลักฐำนกำรใช้อินเตอร์เน็ต รวมท้ังอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และแท็ปเล็ต ทั้งนี้ กำรเก็บรวบรวมพยำนหลักฐำนประเภทนี้ ควรประสำนงำนให้ พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ตำมพระรำชบัญญัติว่ำด้วยกำรกระทำำควำมผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 เข้ำร่วมด้วย 27

5.2 กำรแสวงหำประโยชน์จำกกำรบังคับใช้แรงงำนหรือบริกำร 1) เอกสำรเกี่ยวกับสถำนที่เกิดเหตุ ได้แก่ ใบอนุญำตประกอบกำร ใบอนุญำตขำยบุหรี่หรือสุรำ เอกสำรแสดงกรรมสิทธิ์หรือกำรครอบครองอำคำรที่ เกิดเหตุ ท้ังน้ี เพ่ือเป็นกำรขยำยผลให้ทรำบว่ำผู้ประกอบกำรแท้จริงคือใคร 2) เอกสำรเกี่ยวกับกำรจ้ำงงำน ได้แก่ สัญญำจ้ำง ทะเบียนลูกจ้ำง เอกสำรกำรจ่ำยค่ำจ้ำง เป็นต้น ทั้งนี้ ในสถำนประกอบกำรบำงแห่งอำจมีกำร บันทึกกำรทำงำนหรือกำรจ่ำยค่ำจ้ำงของลูกจ้ำงไว้ในคอมพิวเตอร์ดังนั้น จึงควร ตรวจหรือยึดแฟลชไดรท์ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่พบในที่เกิดเหตุ ไว้เป็นหลักฐำนเพ่ือตรวจสอบ หำกไม่พบข้อมูลที่เก่ียวข้องให้นำำส่งคืนต่อไป 3) หลักฐำนเกี่ยวกับบัตรประจำำตัวประชำชน หนังสือเดินทำงของ ผู้เสียหำย หรือผู้ต้องสงสัยที่อยู่ในสถำนที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ ควรถ่ำยรูปหรือถ่ำย วิดีโอ ไว้เป็นหลักฐำนว่ำถูกเก็บไว้ที่ใด หรือเก็บในลักษณะซุกซ่อนหรือไม่เพื่อใช้ เป็นพยำนหลักฐำน กรณีผู้เสียหำยยืนยันว่ำถูกยึดเอกสำรดังกล่ำวไว้ 4) หลักฐำนทำงกำรเงิน เช่น สมุดบัญชีธนำคำร บัตรเอทีเอ็ม หลักฐำน กำรส่งเงิน ตู้เซฟ เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นหลักฐำนในกำรตรวจสอบรำยได้ของ แรงงำน และเพื่อใช้เป็นหลักฐำนในกำรสืบสวนควำมผิดฐำนฟอกเงินอีกส่วนหน่ึง 5) หลักฐำนแสดงว่ำมีกำรพันธนำกำร เช่น กุญแจประตู กุญแจมือ โซ่ ตรวน เป็นต้น 6) หลักฐำนทำงกำรสื่อสำร เช่น โทรศัพท์มือถือ ใบเสร็จรับเงิน ค่ำโทรศัพท์ จดหมำยติดต่อกับผู้อื่น เพื่อใช้เป็นประโยชน์ในกำรสืบหำและ เชื่อมโยงขบวนกำรค้ำมนุษย์ 28

7) หำกเป็นคนต่ำงด้ำวให้ตรวจยึดหลักฐำนกำรเดินทำงและหลักฐำน กำรเข้ำเมือง ใบอนุญำตทำำงำนหรือเอกสำรที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบหำนำยจ้ำง และผู้เกี่ยวข้อง 8) รถยนต์หรือรถจักรยำนยนต์ที่จอดใกล้เคียงสถำนที่เกิด เหตุ เนื่องจำกอำจมีพยำนหลักฐำนที่เกี่ยวข้องอยู่ภำยใน รวมทั้งอำจทรำบเบำะแส เชื่อมโยงกับผู้กระทำำผิดได้ 9) ในบำงกรณีอำจมีกำรเรียกค่ำไถ่จำกญำติผู้เสียหำย และอำจมีกำร โอนเงินเข้ำบัญชีผู้ต้องสงสัย ให้ตรวจหำหลักฐำนกำรเปิดบัญชีและเอกสำร ที่เกี่ยวข้อง 10) เสื้อผ้ำเครื่องใช้ของแรงงำนหรือผู้เสียหำย เพื่อแสดงให้เห็นว่ำ แรงงำน หรือผู้เสียหำยพักอำศัยอยู่ในท่ีเกิดเหตุ 11) หลักฐำนจำกกล้องวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุ อำจทำให้เห็นกำร เคล่ือนไหวของผู้เสียหำยและผู้ต้องสงสัย 5.3 กำรแสวงหำประโยชน์จำกกำรนำคนมำขอทำน กำรรวบรวมพยำนหลักฐำนในกำรดำเนินคดีลักษณะนี้ เจ้ำหน้ำที่ต้องใช้ วิธีเฝ้ำจุด และสะกดรอยตำมกลุ่มขบวนกำรไปยังที่ต่ำง ๆ เพื่อรวบรวม พยำนหลักฐำนก่อนทำำกำรจับกุม ซึ่งหลักฐำนท่ีสำคัญ ได้แก่ 1) หลักฐำนที่แสดงให้เห็นว่ำขบวนกำรค้ำมนุษย์มำรับและส่ง ผู้เสียหำยบริเวณที่เกิดเหตุ (อำจใช้วิธีกำรสะกดรอยและถ่ำยภำพหรือบันทึกภำพ วิดีโอไว้เป็นหลักฐำน) 2) กำรใช้วิธีล่อซื้อโดยกำรให้เจ้ำหน้ำที่แฝงตัวเป็นประชำชนที่สัญจร ไปมำแล้วนำเงิน (เงินล่อซื้อ) ให้ทำนกับผู้เสียหำย แล้วเฝ้ำสังเกตกำรณ์ว่ำ 29

มีผู้ใดมำนำำเงินไปจำกผู้เสียหำยหรือไม่หำกมี ให้ถ่ำยรูปหรือบันทึกภำพวิดีโอ เป็นหลักฐำน 3) เข้ำตรวจค้นบริเวณที่พักหรือที่กักตัวผู้เสียหำย และเก็บ พยำนหลักฐำน เช่นเดียวกันกับกำรเก็บพยำนหลักฐำนในคดีค้ำมนุษย์ ในรูปแบบกำรบังคับใช้แรงงำนตำมท่ีได้กล่ำวมำแล้ว 4) กรณีมีกำรกล่ำวอ้ำงว่ำบุคคลใดเป็นบิดำหรือมำรดำของผู้เสียหำย ซึ่งมีอำยุตำ่ กว่ำ 18 ปี ให้เก็บหลักฐำนเพื่อส่งตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ โดยระหว่ำงกำร สืบสวนสอบสวนรวบรวมพยำนหลักฐำนให้ส่งตัวผู้เสียหำยที่มีอำยุต่ำกว่ำ 18 ปี ไปยังสถำนสงเครำะห์ เพ่ือให้กำรสงเครำะห์และช่วยเหลือ 6. กำรคัดแยกผู้เสียหำยจำกกำรค้ำมนุษย์ ขั้นตอนกำรดำเนินกำรคัดแยกอย่ำงเป็นทำงกำร โดยหน่วยงำนที่มีหน้ำที่ ในศูนย์บูรณำกำรกำรคัดแยก รับข้อมูลบุคคลที่มีเหตุอันควรเชื่อว่ำจะเป็น ผู้เสียหำยจำกหน่วยงำนด่ำนหน้ำ เพื่อเข้ำสู่กำรให้บริกำรช่วงระยะเวลำกำรฟื้นฟู ไตร่ตรอง (Reflection Period) ซึ่งจะมีระยะเวลำที่เพียงพอและเหมำะสมใน กำรที่จะทบทวนเรื่องรำวที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะให้ข้อมูลแก่เจ้ำหน้ำที่ ประกอบกำรคัดแยกอย่ำงเป็นทำงกำรต่อไป ผู้มีหน้ำที่ในกำรคัดแยก หรือ “ทีมสหวิชำชีพ” ประกอบด้วยหน่วยงำนที่ เก่ียวข้องดังต่อไปนี้.- 1. สำนักงำนตำรวจแห่งชำติ (ตร.) ได้แก่ ผู้บังคับกำรตำรวจภูธร จังหวัด ผู้บังคับกำรปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์ หัวหน้ำตรวจคนเข้ำเมือง หรือผู้ที่ ได้รับมอบหมำยแล้วแต่กรณี 30

2. กระทรวงกำรพัฒนำสังคมและควำมมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้แก่ พัฒนำสังคมและควำมมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ผู้อำนวยกำรกองต่อต้ำนกำรค้ำมนุษย์ หัวหน้ำบ้ำนพักเด็กและครอบครัวจังหวัด หรือผู้ที่ได้รับมอบหมำยแล้วแต่กรณี 3.กระทรวงแรงงำน (รง.) ได้แก่ สวัสดิกำรและคุ้มครองแรงงำนจังหวัด หัวหน้ำศูนย์บังชำกำรป้องกันกำรค้ำมนุษย์ด้ำนแรงงำน (ศป.รง.) กรมสวัสดิกำร และคุ้มครองแรงงำน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมำยแล้วแต่กรณี 4. กระทรวงมหำดไทย (มท.) ได้แก่ ปลัดจังหวัด หรือผู้ที่ผู้ว่ำ รำชกำรจังหวัดมอบหมำย ผู้อำนวยกำรสำนักกำรสอบสวนและนิติกร กรมกำร ปกครอง หรือผู้ที่ได้รับมอบหมำยแล้วแต่กรณี 5. กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ได้แก่ ผู้อำนวยกำรกองคดีค้ำมนุษย์ กรม สอบสวนคดีพิเศษ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมำยแล้วแต่กรณี 6. ผู้แทนองค์กรภำคเอกชนที่เป็นหน่วยปฏิบัติกำรในกำรให้ควำม ช่วยเหลือในกรณีนั้นตั้งแต่เริ่มต้น บทบำทหน้ำท่ีของผู้มีหน้ำท่ีในกำรคัดแยก (ทีมสหวิชำชีพ) ผู้มีหน้ำที่ในกำรคัดแยก (Competence Authority) มีหน้ำที่ในกำร พิจำรณำว่ำบุคคลที่มีเหตุอันควรเชื่อว่ำจะเป็นผู้เสียหำยที่ส่งต่อมำจำกหน่วยงำน ด่ำนหน้ำ (First Responders) เป็นผู้เสียหำยจำกกำรค้ำมนุษย์หรือไม่ โดยพิจำรณำจำกข้อมูลที่ได้จำกกำรสัมภำษณ์ ประกอบกับข้อมูลอื่นๆ ที่ได้รับ ระหว่ำงช่วงระยะเวลำฟื้นฟูไตร่ตรอง และส่งต่อผู้เสียหำยจำกกำรค้ำมนุษย์ หรือ กำรบังคับใช้แรงงำนหรือบริกำร เข้ำสู่กระบวนกำรคุ้มครองช่วยเหลือต่อไป 31

แนวทำงกำรดำเนินกำรของศูนย์บูรณำกำรกำรคัดแยก กรณีต่ำงจังหวัด • กระทรวงมหำดไทย โดยผู้ว่ำรำชกำรจังหวัด รับผิดชอบในกำร กำหนดสถำนท่ีศูนย์บูรณำกำรกำรคัดแยก ดังน้ี o ศูนย์ฯ ต้องมีลักษณะอำคำรพร้อมใช้งำน มีอำกำศถ่ำยเท สะดวก มีระบบไฟฟ้ำ ประปำ ท่ีพร้อมใช้งำน มีท่ีพัก พร้อมจัดหำเคร่ืองนอน ห้อง อำบนำ้ และสุขำโดยแยกเป็นสัดส่วนพื้นที่ชำย - หญิงมีพื้นที่สำหรับรับประทำน อำหำร มีพื้นที่สำหรับซักล้ำง และมีระบบรักษำควำมปลอดภัยเบื้องต้น มีพื้นที่ สำหรับเป็นห้องให้คำปรึกษำแก่ผู้ท่ีเข้ำรับบริกำรในศูนย์บูรณำกำรคัดแยก o รับผิดชอบกำหนดมำตรกำรรักษำควำมปลอดภัย โดย มอบหมำยให้เจ้ำหน้ำที่ฝ่ำยปกครอง/ เจ้ำหน้ำที่ อส. ปฏิบัติหน้ำที่ในกำรดูแล รักษำควำมปลอดภัยบริเวณรอบนอกศูนย์ฯ รวมทั้งรับผิดชอบในกำรอนุญำตและ ตรวจตรำกำรเข้ำ-ออก พ้ืนท่ีศูนย์ฯ o รับผิดชอบค่ำใช้จ่ำยของสถำนที่ และเจ้ำหน้ำที่ที่ดูแลควำม ปลอดภัย • กระทรวงกำรพัฒนำสังคมและควำมมั่นคงของมนุษย์ โดยสำนักงำน พัฒนำสังคมและควำมมั่นคงของมนุษย์จังหวัด รับผิดชอบในกำรบริหำรจัดกำร ดูแลและช่วยเหลือบุคคลท่ีอยู่ในศูนย์บูรณำกำรกำรคัดแยก ดังนี้ o มอบหมำยเจ้ำหน้ำที่เป็นผู้จัดกำรรำยกรณีของศูนย์บูรณำกำร กำรคัดแยก เพื่อทำหน้ำที่บริหำรจัดกำรกำรดูแลช่วยเหลือบุคคลที่อยู่ในศูนย์ บูรณำกำรคัดแยก o รับผิดชอบค่ำใช้จ่ำยในกำรให้ควำมช่วยเหลือ เป็นค่ำอำหำร ค่ำสง่ิ ของเครอื่ งใช้ทจ่ี ำเป็นค่ำรักษำพยำบำลเบื้องต้น รวมถงึ ค่ำใชจ้ ่ำยท่จี ำเป็นอื่น ๆ 32

o จัดเจ้ำหน้ำที่ และประสำนงำนหน่วยงำนที่เกี่ยวข้องเพื่อจัด เจ้ำหน้ำที่เข้ำร่วมทำกำรชักถำม เก็บรวบรวมข้อเท็จจริง และประเมินควำมพร้อม ของบุคคลดังกล่ำวเป็นระยะ ร่วมกับหน่วยงำนท่ีเก่ียวข้อง เพ่ือพิจำรณำควำมพร้อม ที่จะเข้ำสู่กำรคัดแยกอย่ำงเป็นทำงกำรเป็นระยะ o ประสำนผู้ที่มีหน้ำที่คัดแยกอย่ำงเป็นทำงกำร และจัดให้มี กระบวนกำรคัดแยกอย่ำงเป็นทำงกำร เมื่อบุคคลนั้นมีควำมพร้อม หรือเมื่อครบ กำหนดระยะเวลำของระยะเวลำฟื้นฟูไตร่ตรอง (15 วัน) กรณีที่ผู้มีหน้ำที่ในกำร คัดแยกเห็นว่ำกรณีมีเหตุจำเป็นอย่ำงยิ่ง ทำให้ไม่สำมำรถคัดแยกได้ ภำยใน ก ำหนด 15 วัน สำมำรถขยำยระยะเวลำกำรฟื้นฟูไตร่ตรอง ( Re(lection Period) ดังกล่ำวออกไปได้เท่ำที่จำเป็น แต่ต้องบันทึกเหตุผลไว้ด้วย • กระทรวงแรงงำน โดยสำนักงำนสวัสดิกำรและคุ้มครองแรงงำนจังหวัด ร่วมกับ สำนักงำนจัดหำงำนจังหวัด สำนักงำนแรงงำนจังหวัด มีหน้ำที่ เช่นเดียวกับสำนักงำนพัฒนำสังคมและควำมมั่นคงของมนุษย์จังหวัด โดยเฉพำะ กรณีที่เกี่ยวข้องกับ กำรค้ำมนุษย์ด้ำนแรงงำน และกำรบังคับใช้แรงงำนหรือ บริกำร • สำนักงำนตำรวจแห่งชำติ รับผิดชอบ ดังน้ี o สำนักงำนตรวจคนเขำ้ เมือง โดยดำ่ นตรวจคนเข้ำเมอื งจงั หวัด หรือ ตรวจคนเขำ้ เมืองจังหวดั ในฐำนะพนกั งำนเจำ้ หน้ำท่ีตำมกฎหมำยวำ่ ด้วยคนเข้ำเมอื ง - ดำเนินกำรตำมกฎหมำยว่ำด้วยคนเข้ำเมือง - สง่ ตวั คนตำ่ งด้ำวทมี่ เี หตอุ ันควรเช่อื นวำ่ เป็นผูเ้ สียหำยไปยงั ศูนยฯ์ - รับตัวคนต่ำงด้ำวที่ผ่ำนกำรคัดแยกอย่ำงเป็นทำงกำร แล้ว พบว่ำไมเ่ ป็นผูเ้ สียหำยไปดำเนินกำรตำมกฎหมำย พ.ร.บ.คนเข้ำเมือง พ.ศ. 2522 33

o สถำนีตำรวจในเขตอำนำจพื้นที่เกิดเหตุ ดำเนินกำรสืบสวน เพื่อหำข้อเท็จจริงและรวบรวมพยำนหลักฐำนเบื้องต้น โดยอำจรับข้อมูลจำก ทีมสหวิชำชีพหรือหน่วยงำนด่ำนหน้ำ แนวทำงกำรดำเนนิ งำนในขัน้ ตอนกำรคัดแยกผู้เสยี หำยอย่ำงเปน็ ทำงกำร • ผู้จัดกำรรำยกรณี หรือผู้ที่ได้รับมอบหมำย รับตัวบุคคลที่มีเหตุ อันควรเชื่อว่ำจะเป็นผู้เสียหำยไว้ในศูนย์บูรณำกำรกำรคัดแยก และให้บุคคล ดังกล่ำวเข้ำสู่ห้วงระยะเวลำฟื้นฟูไตร่ตรอง (Reflection Period)\" ตำมกลไก NRM โดยรวม 45 วัน • ผู้จัดกำรรำยกรณี หรือผู้ที่ได้รับมอบหมำย ดำเนินกำรให้มีกำร จัดบริกำรเบื้องต้นในช่วงระยะเวลำกำรฟื้นฟูไตร่ตรอง เช่น กำรจัดบริกำรปัจจัยสี่ กำรให้คำปรึกษำแนะนำ กำรประสำนกำรรักษำพยำบำลควำมเจ็บป่วย กำรประเมินควำมพร้อมของบุคคลดังกล่ำว • ผู้จัดกำรรำยกรณี อำจมีกำรชักถำมข้อมูลเพิ่มเติมกับบุคคลที่มีเหตุ อันควรเชื่อว่ำจะเป็นผู้เสียหำย โดยพิจำรณำข้อมูล/ข้อเท็จจริงท่ีได้จำกขั้นตอนกำร คัดกรอง เพื่อกำหนดประเด็นในกำรสัมภำษณ์เพิ่มเติม หรือประเด็นที่ต้องกำร ได้รับข้มูลเพิ่มเติม ทั้งนี้ให้มีกำรประเมินควำมพร้อมบุคคลก่อนดำเนินกำร กำรสัมภำษณ์เพื่อหำข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ให้ดำเนินกำรสัมภำษณ์เฉพำะประเด็น ที่นำไปใช้ในกำรพิจำรณำเพื่อตัดแยกผู้เสียหำยอย่ำงเป็นทำงกำรเท่ำนั้น โดยอำจยึดองค์ประกอบตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรป้องกันและปรำนปรำมกำรค้ำ มนุษย์ และกำรสัมภำษณ์เพื่อหำข้อเท็จจริงเพิ่มเติมไม่ใช่กำรสอบสวน 34

• ในระหว่ำงกำรสัมภำษณ์ข้อเท็จจริงเพ่ิมเติม ให้พิจำรณำดำเนินกำร เช่นเดียวกับขั้นตอนกำรสัมภำษณ์ในขั้นตอนกำรคัดกรอง ( Screening Process) • เมื่อผู้จัดกำรรำยกรณี ได้ข้อมูลจำกกำรสัมภำษณ์เพิ่มเติมครบถ้วน แล้ว และบุคคลที่อยู่ในควำมคุ้มครองนั้นมีควำมพร้อม หรือเมื่อครบกำหนด ระยะเวลำของระยะเวลำฟื้นฟูไตร่ตรอง (15 วัน) ให้กำหนดกำรประชุมเพื่อ พิจำรณำกำรคัดแยกอย่ำงเป็นทำงกำร โดยให้ผู้จัดกำรรำยกรณี เชิญผู้มีหน้ำที่ คัดแยก (CA) เข้ำร่วมกำรประชุมเพื่อพิจำรณำกำรคัดแยกอย่ำงเป็นทำงกำร o กรณีที่ผู้มีหน้ำที่ในกำรคัดแยกเห็นว่ำกรณีมีเทตุจำเป็นอย่ำงยิ่ง ทำให้ไม่สำมำรถคัดแยกได้ภำยในกำหนด 15 วัน สำมำรถขยำยระยะเวลำกำร ฟื้นฟูไตร่ตรอง (Refection Period) ดังกล่ำวออกไปได้เท่ำที่จำเป็น แต่ต้อง บันทึกเหตุผลไว้ด้วย • กำรประชุมเพื่อพิจำรณำกำรคัดแยกอย่ำงเป็นทำงกำร ให้มีผู้เข้ำร่วม ประชุมประกอบด้วย CA (ผู้มีหน้ำที่คัดแยก), CM (ผู้จัดกำรรำยกรณี และ ผู้เชี่ยวชำญในประเด็นที่จะให้ควำมเห็นเพิ่มเติม เช่น กรณีที่บุคคลเข้ำรับกำร ประเมินทำงจิต ในช่วงระยะเวลำฟื้นฟูไตร่ตรอง อำจเชิญจิตแพทย์หรือ นักจิตวิทยำที่ทำกำรรักษำ เข้ำร่วมให้ข้อมูลด้วย เป็นต้น • กำรพิจำรณำคัดแยกอย่ำงเป็นทำงกำร ให้พิจำรณำจำกข้อมูล/ ข้อเท็จจริง ที่ได้มำตั้งแต่ขั้นตอนกำรรับแจ้งรับทรำบ ขั้นตอนกำรคัดกรอง กำร สัมภำษณ์เพ่ิมติม โดย CM (ผู้จัดกำรรำยกรณี) และ/หรือ เอกสำรหลักฐำนอื่น ๆ ท่ีได้มำเพ่ิมเติม ประกอบกำรพิจำรณำร่วมกัน 35

o กรณีที่ประชุมไม่สำมำรถพิจำรณำคัดแยกอย่ำงเป็นทำงกำรได้ใน พื้นที่ ให้ผู้จัดกำรรำยกรณี หรือผู้มีหน้ำที่คัดแยก ขอรับคำปรึกษำจำก คณะกรรมกำรระดับชำติ (ตำมแผน ปกค.) ประกอบกำรพิจำรณำได้ • เมื่อที่ประชุมได้พิจำรณำคัดแยกอย่ำงเป็นทำงกำร แล้วให้ผู้จัดกำร รำยกรณีดำเนินกำรแจ้งสิทธิของผู้เสียหำยและสอบถำมควำมสมัครใจกำรเข้ำรับ กำรคุ้มครอง (ลงนำมในแบบแจ้งสิทธิผู้เสียหำยจำกกำรค้ำมนุษย์) และ ดำเนินกำรตำมแนวทำงในข้อ 6 ต่อไป • ผู้จัดกำรรำยกรณี จัดทำรำยงำนสรุปผลกำรประชุมเพื่อพิจำรณำคัด แยกอย่ำงเป็นทำงกำร และลงลำยมือชื่อผู้ที่ทำหน้ำที่คัดแยก และส่งต่อหน่วยงำน ในชั้นตอนกำรคุ้มครองและหน่วยงำน บังคับใช้กฎหมำยเพื่อดำเนินกำรในส่วนที่ เก่ียวข้องต่อไป • ผู้จัดกำรรำยกรณี จัดทำสรุปผลกำรคัดแยก รวบรวมข้อมูลของศูนย์ บูรณำกำรกำรคัดแยกจังหวัด เสนอที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติกำรป้องกันและ ปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์จังหวัดทรำบ และส่งข้อมูลให้คณะอนุกรรมกำรขับเคลื่อน กลไกกำรส่งระดับชำติ รวบรวมต่อไป แนวทำงกำรดำเนนิ งำนส่งตอ่ ภำยหลงั กำรคดั แยกผู้เสียหำยอย่ำงเปน็ ทำงกำร กรณเี ปน็ ผู้เสยี หำย ▪ กรณีผู้เสียหำยมีควำมประสงค์เข้ำรับกำรคุ้มครองในหน่วยงำน ให้ผู้จัดกำรรำยกรณีดำเนินกำรประสำนส่งตัวผู้เสียหำยเข้ำรับกำรคุ้มครอง ณ สถำนคุ้มครองของกระทรวงกำรพัฒนำสังคมและควำมมั่นคงของมนุษย์ ตำมมำตรำ 33 พ.ร.บ. ป้องกันและปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์ พ.ศ. 2551 หรือสถำนคุ้มครอง เอกชนแล้วแต่กรณี ตำมข้ันตอนกำรคุ้มครองของ กลไก NRM 36

▪ กรณีผู้เสียหำยไม่มีควำมประสงค์ เข้ำรับกำรคุ้มครองใน หน่วยงำน - สำหรับผู้เสียหำยสัญชำติไทยและต่ำงด้ำวที่เข้ำเมืองถูก กฎหมำยและมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ให้กระทรวงกำรพัฒนำสังคมและควำมมั่นคง ของมนุษย์ หรือกระทรวงแรงงำน ติดตำมให้กำรช่วยเหลือตำมสภำพปัญหำ และ สิทธิตำมกฎหมำยท่ีเก่ียวข้อง - สำหรับผู้เสียหำยต่ำงชำติเข้ำเมืองไม่ถูกต้องกฎหมำยตำม กฎหมำย ให้เข้ำรับกำรคุ้มครองในสถำนคุ้มครองของกระทรวง หม. ไปพลำงก่อน และให้กระทรวง พม. ประสำนส่งกลับประเทศต่อไป กรณไี ม่เป็นผเู้ สียหำย 1. หำกพบว่ำมีกำรกระทำควำมผิดกฎหมำยแรงงำนอื่น ๆ เช่น พระรำชบัญญัติคุ้มครองแรงงำน พ.ศ.2541 พระรำชบัญญัติจัดหำงำนและคุ้มครอง คนหำงำน พ.ศ.2528 เป็นต้น ให้หน่วยงำนสังกัดกระทรวงแรงงำนดำเนินกำร ช่วยเหลือตำมอำนำจหน้ำท่ีโดยเร็ว 2. หำกพบว่ำมีกำรกระทำควำมผิดตำมพระรำขบัญญัติป้องกันและ ปรำบปรำมกำรค้ำประเวณี พ.ศ. 2539 ให้หน่วยงำนด่ำนหน้ำประสำนกระทรวง กำรพัฒนำสังคมและควำมมั่นคงของมนุษย์ดำเนินกำรช่วยเหลือฟื้นฟูตำมอำนำจ หน้ำที่ต่อไป 3. หำกเป็นเด็กที่พึงได้รับกำรคุ้มครองให้หน่วยงำนด่ำนหน้ำ ประสำนพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ตำมพระรำชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ดำเนินกำรคุ้มครองเด็กโดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นท่ีต้ัง 37

4. หำกพบว่ำเป็นบุคคลต่ำงด้ำวเข้ำเมืองผิดกฎหมำยให้หน่วยงำน ด่ำนหน้ำแจ้งต่อสำนักงำนตรวจคนเข้ำเมืองในพื้นที่เพื่อดำเนินกำรผลักดันตำม กฎหมำยว่ำด้วยคนเข้ำเมืองต่อไป 7.ขั้นตอนกำรคุ้มครอง (Protection Process) ขั้นตอนกำรคุ้มครอง เป็นขั้นตอนสุดท้ำยของกลไกกำรส่งต่อระดับชำติ (NRM) เป็นขั้นตอนของกำรคุ้มครองผู้เสียหำยจำกกำรค้ำมนุษย์ หรือผู้เสียหำย จำกกำรบังคับใช้แรงงำนหรือบริกำร โดยกระทรวงกำรพัฒนำสังคมและควำมมั่นคง ของมนุษย์ จะเป็นหน่วยงำนในกำรทำหน้ำที่ให้กำรช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหำย ตำมกฎหมำย และตำมควำมสมัครใจของผู้เสียหำยต่อไป หน่วยงำนที่ทำหน้ำท่ีในกำรคุ้มครอง กระทรวงกำรพัฒนำสังคมและควำมมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นหน่วยงำน หลักในกำรดำเนินกำรให้กำรคุ้มครองและช่วยเหลือผู้เสียหำยจำกกำรค้ำมนุษย์ ดังนี้.- - สถำนคุ้มครองสวัสดิภำพผู้เสียหำยจำกกำรค้ำมนุษย์ 9 แห่ง และสถำน แรกรับเด็กชำยปำกเกร็ด (บ้ำนภูมิเวท) จังหวัดนนทบุรี กรณีผู้เสียหำยประสงค์ เข้ำรับกำรคุ้มครอง และผู้เสียหำยท่ีรอกำรส่งกลับ - สถำนคุ้มครองเอกชน ที่จดทะเบียน เป็นสถำนคุ้มครองผู้เสียหำยจำก กำรค้ำมนุษย์กับกระทรวงกำรพัฒนำสังคมและควำมมั่นคงของมนุษย์ กรณี ผู้เสียหำยประสงค์เข้ำรับกำรคุ้มครองในสถำนคุ้มครองเอกชน - ศูนย์ปฏิบัติกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์จังหวัด กรณี ผู้เสียหำยไม่ประสงค์เข้ำรับกำรคุ้มครอง และไปพักอำศัยในพ้ืนท่ีจังหวัดน้ัน 38

- กองต่อต้ำนกำรค้ำมนุษย์ กรณีที่ผู้เสียหำยไม่ประสงค์เข้ำรับกำร คุ้มครอง และไปพักอำศัยในพ้ืนท่ีกรุงเทพมหำนคร กรณีเป็นผู้เสียหำยจำกกำรค้ำมนุษย์ด้ำนแรงงำน กำรบังคับใช้แรงงำนหรือบริกำร อำจ ดำเนินกำรประสำนกระทรวงแรงงำน ในกำรดำเนินกำรให้ควำมคุ้มครองและช่วยเหลือ ผู้เสียหำยได้อีกหน่วยงำนหน่ึง 39

จังหวัดพระนครศรอี ยธุ ยา แนวนโยบาย มาตรการป้องกันปญั หาการค้ามนษุ ย์ ของจงั หวดั พระนครศรีอยุธยา จำกสถำนกำรณ์กำรค้ำมนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยำ ปี พ.ศ. 2565 ไม่พบว่ำมีคดีควำมผิดฐำนค้ำมนุษย์ แต่พบว่ำมีประชำกรแฝงที่เข้ำมำทำงำนใน พื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยำจำนวนมำก ทำให้คนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยำ มีโอกำสประกอบอำชีพนั่งบริกำรแขกในร้ำนคำรำโอเกะและกำรบริกำรนวดเพิ่มขึ้น จนนำไปสู่กำรขำยบริกำรทำงเพศในที่สุด ซึ่งจำกกำรเพ่ิมข้ึนของอำชีพเหล่ำนี้จึงว ทำให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยำมีแนวโน้มและควำมเสี่ยงต่อกำรเกิดปัญหำกำรค้ำ มนุษย์เพิ่มมำกขึ้น จังหวัดพระนครศรีอยุธยำจึงมีมำตรกำรป้องกันและแก้ไข ปัญหำกำรค้ำมนุษย์ ดังน้ี.- 1. เน้นกำรป้องกันและกำรทำงำนเชิงรุก รวมถึงกำรบังคับใช้กฎหมำยให้มี ประสิทธิภำพ 2. รณรงค์ไม่ให้มีกำรใช้แรงงำนเด็กที่มีอำยุต่ำกว่ำ 15 ปี โดยสร้ำงระบบ กำรแจ้งเบำะแสเหตุกำรณ์ ที่พบเห็นว่ำผิดปกติ 3. ปลูกจิตสำนึกให้ประชำชนเคำรพและปฏิบัติตำมกฎหมำย เคำรพใน ศักดิ์ศรีควำมเป็นมนุษย์ ควำมเท่ำเทียมกัน เพรำะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐำนที่ได้รับ ควำมคุ้มครองตำมรัฐธรรมนูญและได้รับกำรยอมรับในระดับสำกล 4. จัดประชุมคณะอนุกรรมกำรศูนย์ปฏิบัติกำรป้องกันและปรำบปรำม กำรค้ำมนุษย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยำ ซึ่งกระทรวงกำรพัฒนำสังคมและควำม มั่นคงของมนุษย์ กำหนดให้จัดประชุมคณะอนุกรรมกำรป้องกันและปรำบปรำม กำรค้ำมนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยำ ปีละ ๒ ครั้ง เพ่ือติดตำมกำรดำเนินงำนของ 40

หน่วยงำนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งในกำรดำเนินคดีกับผู้กระทำควำมผิด ฐำนค้ำมนุษย์ กำรคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหำยจำกกำรค้ำมนุษย์ และกำรป้องกันมิ ให้ประชำกรกลุ่มเสี่ยงตกเข้ำสู่ขบวนกำรค้ำมนุษย์ กำรทุจริตคอรัปชั่นของ เจ้ำหน้ำท่ีของรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกำรค้ำมนุษย์ เป็นต้น 5. แต่งตั้งชุดปฏิบัติกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์ระดับอำเภอ เพื่อสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง คำร้องเรียนของประชำชน จัดชุดปรำบปรำม กำรค้ำมนุษย์ และทีมสหวิชำชีพ โดยมีพนักงำนเจ้ำหน้ำท่ีหรือนักสังคมสงเครำะห์ หรือบำงกรณีอำจมีล่ำมร่วมคัดแยกผู้เสียหำยและคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหำยจำก กำรค้ำมนุษย์ 6. ประชำสัมพันธ์สร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจให้กับผู้เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้ประกอบกำรต่ำงๆ ประชำชนทั่วไป ผู้นำชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้ำน คณะกรรมกำรหมู่บ้ำน รวมถึงเด็กนักเรียน นักศึกษำในสถำนศึกษำ ต่ำงๆ ให้รับรู้ถึงภัยที่เกิดขึ้นจำกปัญหำกำรค้ำมนุษย์ และสร้ำงควำมร่วมมือภำค ประชำชน เช่น อำสำสมัครพัฒนำสังคมและควำมมั่นคงของมนุษย์จังหวัด พระนครศรีอยุธยำ (อพม. ให้ช่วยกันป้องกันไม่ให้คนในชุมชนของตนเอง ตกเป็น ผู้เสียหำยจำกกำรค้ำมนุษย์ หรือช่วยกันสอดส่อง ดูแล เฝ้ำระวังไม่ให้เกิดกำร กระทำควำมผิดด้ำนกำรค้ำมนุษย์ขึ้นในพ้ืนท่ีของตนเอง 7. ประชำสัมพันธ์เกี่ยวกับช่องทำงกำรแจ้งเหตุด่วน เหตุร้ำย แจ้ง 191 หรือ พบเห็นกำรกระทำผิดกำรค้ำมนุษย์ แจ้งสำยด่วน 1300 ศูนย์ช่วยเหลือสังคม กำรสร้ำงกลุ่มไลน์ \"ไล่ล่ำตำสับปะรด\" ของสถำนีต ำรวจในพื้นที่จังหวัด พระนครศรีอยุธยำ เพื่อเป็นช่องทำงกำรแจ้งข่ำว เบำะแส ในกำรกระทำควำมผิด ด้ำนกำรค้ำมนุษย์ 41

จังหวัดพระนครศรีอยุธยำ มีสถำนกำรณ์กำรค้ำมนุษย์ ที่มีสถำนะที่เป็น ทั้งต้นทำง ทำงผ่ำน และปลำยทำง โดยเฉพำะกำรค้ำมนุษย์รูปแบบกำรค้ำ ประเวณี เนื่องจำกจังหวัดพระนครศรีอยุธยำ เป็นจังหวัดที่มีกำรเจริญเติบโตทำง เศรษฐกิจ อุตสำหกรรม กำรท่องเที่ยว กำรเกษตรกรรม และกำรบริกำรต่ำงๆ ที่ เกิดขึ้นมำกมำย ประกอบกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยำเป็นจังหวัดทำงผ่ำนทั้ง ขึ้นเหนือ และลงใต้ ทำให้มีกำรอพยพเคลื่อนย้ำยถิ่นฐำนของประชำกรจำกทุก ภูมิภำคทั้งในประเทศไทยและต่ำงประเทศ 42

กำรบวนกำรขับเคลอื่ นกำรดำเนนิ งำนปอ้ งกนั และปรำบปรำมกำรคำ้ มนษุ ย์จังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยำ รับแจ้งเหตุ สืบหำข้อเทจ็ จรงิ เบอื้ งต้น สอบข้อเท็จจริง เพิม่ เตมิ คดั แยกผู้เสยี หำย (ฝำ่ ยปกครอง/ ตำรวจ/ พม./ แรงงำน) (ผูใ้ หญ่บ้ำน ปกครอง (ทมี สหวิชำชพี ) ไม่มีมลู มีมูล ผูน้ ำชุมชน ฯลฯ) จบั กุม เก็บเปน็ ฐำนข้อมูล ไมเ่ กีย่ วข้อง เกี่ยวข้อง ประเมินสถำนกำรณ์ เตรยี มควำมพรอ้ มทีม วำงแผน จับกมุ พยำนบุคคล พยำนวตั ถุ ผกู้ ระทำ ผถู้ กู กระทำ เลขำคณะอนกุ รรมกำร ผู้เสยี หำย เด็ก เดก็ ไมต่ ่ำกว่ำ 18 ปี รวบรวมขอ้ มูล คมุ้ ครองสวัสดิภำพ บำ้ นพกั เดก็ และ รำยงำน ครอบครัว คณะอนกุ รรมกำร นำสง่ สถำนคุ้มครองฯ จัดทำแผนประจำปี 43

ซึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยำ มีหน่วยงำนภำคีเครือข่ำยที่ดำเนินกำรป้องกัน และปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์ร่วมกันทั้งในระดับจังหวัด และระดับอำเภอ ได้แก่ คณะอนุกรรมกำรศูนย์ปฏิบัติกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์จังหวัด พระนครศรีอยุธยำ และระดับอำเภอ เป็นศูนย์บูรณำกำรและประสำนกำรปฏิบัติงำน ป้องกันและปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์ โดยมีเจ้ำหน้ำที่ทีมสหวิชำชีพที่เกี่ยวข้องตำม กฎหมำยเป็นบุคคลสำคัญในกำรบังคับใช้กฎหมำย กำรดำเนินคดี กำรให้ควำม ช่วยเหลือค้มุ ครองเหยื่อหรอื ผเู้ สียหำยจำกกำรค้ำมนุษย์ ปัจจัยทสี่ ง่ ผลต่อควำมสำเร็จของกำรป้องกนั และปรำบปรำมกำรคำ้ มนษุ ยข์ องจงั หวัด 1. ผู้บริหำรทุกระดับเห็นควำมสำคัญของกำรค้ำมนุษย์ และมีกำรมอบหมำย ผู้ปฏิบตั งิ ำนอยำ่ งเป็นระบบ 2.มีกลไกกำรขับเคลื่อนงำนของคณะกรรมกำร คณะอนุกรรมกำรศูนย์ป้องกัน และปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยำ และศูนย์บูรณำกำรกำร ประสำนกำรปฏิบัติงำนป้องกันและปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์อำเภอ มีกำรทำ แผนกำรทำงำนร่วมกันทุกภำคส่วนในกำรลงพื้นที่ปฏิบัติงำน รวมทั้งมีกำรประชุม และวำงแผนกำรทำงำนอย่ำงต่อเน่อื ง 3.มีกำรใช้ทรัพยำกรร่วมกันระหว่ำงหน่วยงำน ทั้งในด้ำนข้อมูลกฎหมำย บุคลำกร และมีกำรใช้เทคโนโลยีกำรติดต่อสื่อสำรที่สะดวกรวดเร็ว ทันสมัยและ เขำ้ ถึงได้ง่ำยขนึ้ เช่น กลุ่มไลน์ 4.มีคู่มือปฏิบัติงำนฯ (SOP) และมีแผนกำรลงพื้นที่ตรวจสถำนประกอบกำร และสถำนท่ีสุ่มเสี่ยงอยำ่ งต่อเน่ือง 5.มีกำรสร้ำงจิตสำนึกที่ดีในกำรปฏิบัติงำนกำรค้ำมนุษย์ และให้ควำมรู้ใน กำรปฏบิ ัตงิ ำนทถ่ี ูกตอ้ ง 44

ปญั หาและข้อจากดั ในการทางาน เพ่อื ปอ้ งกนั และแก้ไขปญั หาการคา้ มนษุ ย์ ผลกำรลงพื้นที่ถอดบทเรียนสะท้อนให้เห็นว่ำ ปัญหำกำรค้ำมนุษย์นั้น มกั ประสบกบั ควำมยำกลำบำกในกำรเข้ำไปแกไ้ ขปัญหำ ท้งั นีเ้ พรำะปญั หำดังกล่ำว เป็นปัญหำที่มีควำมเชือ่ มโยงเกี่ยวพนั กับเงื่อนไขปัจจัยอืน่ ๆ อย่ำงซับซ้อน เป็นต้น ว่ำ ควำมคลุมเครือในกำรตีควำมกำรมองต่ำงมุม ไม่ชัดเจน กำรรับมือกับปัญหำท่ี ภำคส่วนต่ำงๆ พอทำได้คือ กำรขับเคลื่อนงำนด้ำนกำรป้องกันปัญหำและกำรตั้งรับ ปัญหำ ซึ่งปรำกฎออกมำในลักษณะของกำรช่วยเหลือ เยียวยำเหยื่อกำรค้ำมนุษย์ ต่ำงๆ ฉะนั้นในกระบวนกำรขับเคลื่องำนกำรทำงำนเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหำ กำรค้ำมนุษย์ของหน่วยงำน/องค์กรต่ำงๆ จึงเต็มไปด้วยข้อจำกัด สำมำรถสรุปได้ ดงั นี้.- - ผู้ปฏิบัติงำนขำดงบประมำณ และอัตรำกำลังคน จังหวัดใหญ่มีเจ้ำหน้ำท่ี คำ้ มนุษย์ 1 คน - ล่ำม ในกำรแปลภำษำไมม่ ี - ขำดองค์ควำมรู้ในกำรทำงำนร่วมกนั ไมม่ ีกำรพัฒนำต่อยอด - ควำมปลอดภยั ของเจ้ำหน้ำทใี่ นกำรลงพืน้ ที่ - กำรตดิ ตำมผลหลังจำกส่งต่อเคส - บุคลำกรทมี สหวิชำชีพมจี ำนวนน้อยและเวลำว่ำงไม่ตรงกนั - กำรปรบั เปล่ียนผูร้ ับผดิ ชอบบ่อยจึงทำให้เจำ้ หน้ำที่กำรทำงำนไม่ตอ่ เนือ่ ง - สถำนประกอบกำรไม่ให้ควำมร่วมมือกับคณะกรรมกำรตรวจสอบกำรจ้ำง แรงงำน 45

- ปัญหำกำรจัดกำรเคส กรณีท่ีมีข้อมลู รวั่ ไหล - ควำมเส่ียงในกำรออกตรวจพื้นท่ีสถำนบันเทิง และเจ้ำหน้ำท่ีผู้รับผิดชอบ ในกำรตรวจไม่มีบัตรพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ พร้อมทั้งอำนำจกำรตัดสินใจและ ดำเนนิ กำรด้ำนกฎหมำยที่เก่ยี วข้อง แนวทางการแก้ไขปัญหา - ควรเพิ่มโครงกำรส่งเสริมศักยภำพเครือข่ำย ประชำชน กลุ่มเป้ำหมำย และ กลุ่มเสี่ยงให้มำกขึ้นเพื่อให้ทุกภำคส่วนมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ เกี่ยวกับกำรป้องกัน และแกไ้ ขปัญหำกำรคำ้ มนษุ ย์ - ควรเพิ่มช่องทำงกำรประชำสัมพันธ์และเผยแพร่ควำมรู้ให้แก่นำยจ้ำง/ ลูกจ้ำง ให้ได้รับทรำบและเข้ำใจเกี่ยวกับกำรปอ้ งกันและแก้ไขปัญหำกำรค้ำมนุษย์ ด้ำนแรงงำน ลักษณะกำรกระทำควำมผิด โทษของผู้กระทำผิดและกำรช่วยเหลือ ผู้เสียหำยจำกกำรคำ้ มนุษย์ - กำรจดั เก็บข้อมลู ของผู้ประสบเหตใุ นรูปแบบ Crow เพือ่ ดึงข้อมูลได้ในทุก สถำนท่ี - มีเครอื ขำ่ ยในชมุ ชนเพอื่ แกไ้ ขปัญหำในเบือ้ งต้น - ควรมีเจำ้ หนำ้ ทผ่ี ู้รับผิดชอบในกำรลงพนื้ ท่ีมำกกว่ำ 1 คน - ออกนิเทศ ตดิ ตำมเพ่อื ให้คำแนะนำอยำ่ งต่อเนอื่ ง อยำ่ งน้อยปลี ะ 1 ครงั้ - กำรเสริมสร้ำงองค์ควำมรู้และศักยภำพของผู้ที่เกี่ยวข้องกับกำรทำงำนเพื่อ ป้องกันและแก้ไขปัญหำกำรค้ำมนุษย์ เป็นกำรทำงำนเพื่อให้ควำมรู้แก่ชุมชนและ 46

สังคมเกี่ยวกับปัญหำกำรค้ำมนุษย์ให้มำกยิ่งขึ้น ทั้งนี้ต้องมีกำรวำงแผนกำร ดำเนินงำน เพื่อกำรให้ควำมรู้แก่ชุมชนและสังคมอย่ำงเป็นระบบ และมีเป้ำหมำย เป็นต้นว่ำ กำรประชำสัมพันธ์ผ่ำนสื่อมวลชนต่ำงๆ กำรสนับสนุนให้ชุมชนมีกำร ดำเนินโครงกำรเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหำกำรค้ำมนุษย์ในชุมชนของตน โดยรัฐ เป็นองค์กรพี่เลี้ยงที่ให้กำรสนับสนุน ทั้งทำงด้ำนงบประมำณ องค์ควำมรู้ทำง วิชำกำรในกำรขับเคลื่อน กำรเสริมสร้ำงองค์ควำมรู้แก่กลุ่มเสี่ยงที่จะตกเป็นเหย่ือ กำรค้ำมนุษย์ หรือกลุ่มเหยื่อค้ำมนุษย์ เช่น กำรจัดโครงกำรอบรมให้ควำมรู้แก่ แรงงำนเกี่ยวกับสิทธิของแรงงำน โดยต้องให้ควำมสำคัญกับทั้งแรงงำนไทยและ แรงงำนขำ้ มชำติ - กำรเสริมสร้ำงองค์ควำมรู้แก่ทีมงำน/เจ้ำหน้ำที่ที่มีหน้ำท่ีรับผิดชอบโดยตรง ในกำรขับเคลื่อนกระบวนกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำกำรค้ำมนุษย์ เช่น กำรจัด อบรมให้ควำมรู้เกี่ยวกับนิยำมควำมหมำยของกำรค้ำมนุษย์ ตลอดจนกระบวนกำร ทำงำนเพื่อกำรป้องกันแก้ไขปัญหำกำรค้ำมนุษย์ และกำรช่วยเหลือ เยียวยำเหยื่อ กำรค้ำมนุษย์ที่เป็นระบบ และให้เห็นแนวทำงที่ชัดเจนในทิศทำงเดียวกัน ซึ่งอำจจะเป็นกำรอบรมในหลักสูตรที่เข้มข้น โดยกำรเชิญให้ภำคส่วนต่ำงๆที่ เกี่ยวข้องมำอบรมร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหำควำมไม่เข้ำใจ ควำมไม่ชัดเจน ในกระบวนกำรทำงำน หรือกำรจัดโครงกำรเสริมสร้ำงกระบวนกำรเรียนรู้ต่ำงๆ ที่เป็นโครงกำรในลัก ษณะของกำรเสริมสร้ำงทักษะในกำรดำเนนิ งำนแก่เจ้ำหน้ำท่ี อำทิ กำรจัดโครงกำรอบรมเพื่อให้เจ้ำหน้ำที่ของรัฐได้เรียนรู้ภำษำของแรงงำนที่ สำมำรถสอ่ื สำรกบั แรงงำนได้โดยตรง - กำรสร้ำงเครือข่ำยกำรเฝ้ำระวังปัญหำปัญหำกำรค้ำมนุษย์เครือข่ำย กำรเฝ้ำระวังและช่วยเหลือกนั ระหวำ่ งกลุ่มเสี่ยง เชน่ ในกลุม่ แรงงำน ควรมีกำรเข้ำไป สนับสนุนและส่งเสริมให้มีกำรสร้ำงเครือข่ำยช่วยเหลือกันของกลุ่มแรงงำน 47

โดยเฉพำะในกลุ่มแรงงำนข้ำมชำติ เครือข่ำยเฝ้ำระวงั ปัญหำของชุมชน โดยกำรเปิด โอกำสให้ประชำชนเข้ำมำมีกำรขับเคลื่อนกระบวนกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำ กำรค้ำมนุษย์ภำยในชุมชนของตนเอง ปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นหน่วยงำนที่มี บทบำทหลักในกำรขับเคล่อื นงำน โดยรัฐให้กำรส่งเสริมและให้บทบำทแก่ท้องถิ่น อย่ำงชัดเจน ในกระบวนกำรทำงำน ทั้งในเชิงป้องกัน แก้ไข เฝ้ำระวัง เพรำะจำก กำรศึกษำพบว่ำกำรเข้ำมำมีส่วนร่วมของท้องถิ่นในกำรทำงำนยังมีบทบำทน้อย เกินไป และในบำงครั้งเองท้องถิ่นก็เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจำกกระบวน กำรค้ำมนุษย์ มีกำรกำหนดปัญหำกำรค้ำมนุษย์ลงในแผนกำรทำงำนของท้องถิ่น อย่ำงชัดเจน รวมทั้งกำรจัดกิจกรรมที่เป็นรูปธรรม ทั้งด้ำนกำรสร้ำงควำมตระหนัก กำรป้องกัน กำรแก้ไข ช่วยเหลืออย่ำงจริงจัง ในส่วนของชุมชนต้องเข้ำมีส่วนร่วม ในฐำนะชมุ ชนเฝ้ำระวงั กำรดูแลกนั เองของคนในชุมชน อำจออกมำในรูปอำสำสมัคร เฝำ้ ระวังปัญหำ 48