Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ถอดบทเรียนย่านกะดีจีน

ถอดบทเรียนย่านกะดีจีน

Published by สสว ปทุมธานี, 2021-08-25 07:45:20

Description: ถอดบทเรียนย่านกะดีจีน

Search

Read the Text Version

คำนำ สำนักงำนส่งเสริมและสนับสนุนวิชำกำร 1 สำนักงำน ปลัดกระทรวงกำรพัฒนำสังคมและควำมมนั่ คงของมนษุ ย์ มีบทบำท หน้ำท่ีพัฒนำงำนด้ำนวิชำกำรเกี่ยวกับกำรพัฒนำสังคมและควำม มั่นคงของมนุษย์ให้สอดคล้องกับพื้นที่และกลุ่มเป้ำหมำย ส่งเสริม และสนับสนุนงำนด้ำนวิชำกำร องค์ควำมรู้ ข้อมูลสำรสนเทศ ให้คำปรึกษำแนะนำแก่หน่วยงำนบริกำรทุกกลุ่มเป้ำหมำยในพ้ืนที่ ให้บริกำรในควำมรับผิดชอบของกระทรวง รวมท้ังองค์กรปกครอง สว่ นทอ้ งถ่นิ หน่วยงำนทเ่ี กีย่ วข้อง องค์กรภำคเอกชนและประชำชน ศึกษำ วิเครำะห์ สถำนกำรณ์และสภำพแวดล้อม เพ่ือคำดกำรณ์ แนวโน้ม ของสถำนกำรณ์ทำงสังคมและผลกระทบ รวมท้ังให้ ข้อเสนอแนะกำรพัฒนำสังคมและกำรจัดทำยุทธศำสตร์ในกลุ่ ม จังหวัด สนับสนุน กำรนิเทศงำน ติดตำมประเมินผลกำรดำเนินงำน เชิงวิชำกำรตำมนโยบำยและภำรกิจของกระทรวง โดยมีพ้ืนท่ี ปฏิบัติงำนในควำมรับผิดชอบ 8 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัด ปทุมธำนี นนทบุรี พระนครศรีอยุธยำ สระบุรี นครนำยก อ่ำงทอง สมุทรปรำกำร และกรุงเทพมหำนคร กำรถอดบทเรียนชุมชนย่ำนกะดีจีน จัดทำขึ้นเพื่อศึกษำ แนวทำงกำรสร้ำงควำมเข้มแข็งของชุมชนสู่รูปแบบกำรนำไป ประยุกต์ใช้กับชุมชน ด้วยหลัก “บวร” มำใช้ในกำรสร้ำงควำม เข้มแข็งของชุมชนเพ่ือพัฒนำสังคม และดูแลประช ำช น กลุ่มเป้ำหมำยในทุกช่วงวัยให้มีคุณภำพชีวิตที่ดีขึ้น ประกอบด้วย

1) ปัจจัยด้ำนครอบครัวและชุมชน 2) ปัจจัยด้ำนเครือข่ำยชุมชน และ 3) ปัจจัยด้ำนวัฒนธรรมและศำสนำ รวมถึงผู้มบี ทบำทสำคัญท่ี เป็นหวั ใจสำคญั ของควำมสำเร็จในกำรพฒั นำชมุ ชนยำ่ นกะดีจีน สำนักงำนส่งเสริมและสนับสนุนวิชำกำร 1 ขอขอบคุณ ผบู้ ริหำร ขำ้ รำชกำรและเจ้ำหนำ้ ท่ี และหน่วยงำนท่ีเกี่ยวข้องในกำร ช่วยสนับสนุนให้สำเร็จลุล่วง และหวังเป็นอย่ำงยิ่งว่ำกำรถอด บทเรียนชุมชนย่ำนกะดีจีน จะเป็นข้อมูลสนับสนุนกับหน่วยงำน ที่เก่ียวข้องได้ และเป็นประโยชน์สำหรับผู้ท่ีสนใจต่อไป หำกกำร ถอดบทเรียนชมุ ชนยำ่ นกะดจี ีน เลม่ นี้มีขอ้ ผดิ พลำดประกำร ผจู้ ัดทำ ต้องขออภยั ไว้ ณ ที่น้ดี ้วย

สำรบญั หนำ้ 1 เรื่อง 19 ย้อนวนั วำนบรบิ ทพื้นท่ี ...... เก่ำแต่เกำ๋ 54 “ยำ่ นกะดีจีน” 66 บทเรียนชุมชนกะดีจนี .....จุดเปลี่ยนดว้ ย 69 “บวร” กำรถอดรหัสควำมสำเร็จของชมุ ชนยำ่ นกะดีจนี : ต้นแบบชมุ ชนเขม้ แขง็ ด้ำนกำรพฒั นำสังคมดว้ ยหลัก “บวร” แนวทำงกำรขบั เคลื่อนของกระทรวงกำรพฒั นำสังคม และควำมม่ันคงของมนษุ ย์ : สร้ำงชุมชนเข้มแข็ง ด้วยหลัก “บวร” ปญั หำและอุปสรรคที่พบในชุมชน

ยอ้ นวันวำนบริบทพนื้ ที่ ...... เก่ำแตเ่ ก๋ำ “ย่ำนกะดจี นี ”

Knowledge Management “ชุมชนยำ่ นกะดีจีน” | 2 กะดีจีน1 เป็นย่ำนชุมชน เก่ำแก่ริมแม่น้ำเจ้ำพระยำ บริเวณฝ่ังธนบุรีที่มีควำม หลำกหลำยทำงเช้ือชำติ ศำสนำ ควำมเชื่อ และ วัฒ นธรรมประ เพณีมำ รูป 1 ภาพชุมชนกุฎีจีน อย่ำงยำวนำน ประกอบไป ด้วยชำวจีน อินเดีย และยุโรป ท่ีอพยพมำจำกอยุธยำ ตั้งแต่ สมัยเร่ิมสร้ำงกรุงธนบุรี เดิมชุมชนกุฎีจีน มีวิถีชีวิต เป็น ชุมชนแพอยู่ริมแม่น้ำ มีวดั ตลำดน้ำเป็นศูนย์กลำงของชุมชน ต่อมำในสมัยรัชกำลท่ี 3 หลังกำรทำสนธิสัญญำเบำว์ริง มีเรือกลไฟเข้ำมำทำกำรค้ำขำยมำกขึ้น ทำให้วิถีชีวิตริมน้ำ เปล่ียนไป เรือนแพจึงต้องอพยพขึ้นสู่ฝ่ังและค่อยๆ ลด หำยไป เก่ำแต่เก๋ำหรือรู้จักกันในนำม “กะดีจีน” เป็นชุมชน เก่ำแก่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้ำพระยำ เร่ิมมีกำรตั้งถ่ินฐำนเป็นคร้ัง 1 ชุมชนกฎุ ีจนี . [ออนไลน์]. ชุมชนกุฎจี ีนกับภูมทิ ศั น์วัฒนธรรม บำงกอก. เข้ำถึงได้จำก : https://junior142.wordpress.com/ why_here_kudeejean/ (วันที่ค้นข้อมลู 30 มกรำคม 2564)

Knowledge Management “ชมุ ชนย่ำนกะดีจีน” | 3 แรกในสมัยกรุงธนบุรี หลังจำกสมเด็จพระเจ้ำตำกสิน ทรงกอบกู้เอกรำชและสถำปนำกรุงธนบุรีขนึ้ โดยพระองคไ์ ด้ รวบรวมเหล่ำไพร่พลที่กระจัดกระจำยหลังจำกศึกสงครำม ท้ังชำวไทย ชำวจีน ชำวโปรตุเกส ซ่ึงมีเช้ือชำติ และศำสนำ ที่แตกต่ำงกัน และพระรำชทำนท่ีดินเพ่ือให้เป็นท่ีอยู่อำศัย ทำมำหำกิน สำเหตุที่เรียกชุมชนน้ีว่ำ “กุฎีจีน” นั้น “สมเด็จกรมพระยำดำรงรำชำนุภำพ” ทรงวินิจฉัยว่ำ “กุฎี นำ่ จะหมำยถึงศำลเจ้ำขนำดใหญ่ทตี่ ้ังอยู่ริมคลองกฎุ จี ีน ซ่ึงชำวจีนที่อำศัยอยู่ดั้งเดิมสร้ำงไว้ตั้งแต่ก่อนขุดคลอง ลดั บำงกอก คือ เม่ือก่อนสมัยพระไชยรำชำ บริเวณที่ต้ังศำล เจ้ำน้ีเดิมเป็นส่วนแหลมที่แม่น้ำเจ้ำพระยำไหลเลี้ยวไปทำง คลองบำงกอกใหญ่ เม่ือมีศำลเจ้ำจีนมำต้ังอยู่ตรงปลำย แหลม จึงเปน็ จุดสังเกตและกลำยเป็นนำมที่ชำวบ้ำนใช้เรียก บริเวณน้ีติดปำกว่ำ กุฎีจีน”2 และชุมชนแห่งน้ีนับเป็นแหล่ง วัฒนธรรม แหล่งเรียนรู้ และแหล่งรำยได้ ท่ีมีควำมสำคัญ 2 มหำวทิ ยำลัยบำ้ นสมเด็จเจำ้ พระยำ. [ออนไลน์]. ประวตั คิ วำม เป็นมำของชมุ ชน. เขำ้ ถึงไดจ้ ำก : http://human.bsru.ac.th /localinformation/?page_id=486 (วันที่ค้นข้อมูล 30 มกรำคม 2564)

Knowledge Management “ชุมชนยำ่ นกะดจี ีน” | 4 แห่งหน่ึง เพรำะชุมชนแห่งนี้ และบรเิ วณใกล้เคียงเป็นชุมชน ท่ีประกอบด้วยชนหลำยชำติหลำยภำษำเข้ำมำตั้งรกรำก เช่น ชุมชนชำวจีน ฝร่ังเช้ือชำติโปรตุเกส มุสลิม ลำว และ มอญ เป็นต้น นอกจำกนี้ยังปรำกฏว่ำพื้นท่ีแห่งนี้เป็นสถำน ที่ตั้งของบ้ำนขุนนำงเก่ำสำยสกุลบุญนำค และยังมีแหล่ง วัฒนธรรมท่ีน่ำสนใจอีกมำกมำย ซึ่งมีกำรสืบทอดและ ถ่ำยทอดควำมรู้ทำงวัฒนธรรมจำกอดีตจน ถึงปัจจุบันพ้ืนที่ บริเวณย่ำนกุฎีจีนเป็นพ้ืนท่ีท่ีมีควำมหลำกหลำยทำง วฒั นธรรมสูง ทงั้ ทำงดำ้ นกลมุ่ ชำติพันธ์ุ ได้แก่ ไทย โปรตุเกส จีน วิถีชีวิต ควำมเช่ือ และประเพณี เป็นสถำนที่ท่ีมีกำร กลมกลืนของผู้คนหลำยเช้ือชำติหลำยศำสนำมำอยู่รวมกัน เป็นชมุ ชนขนำดใหญ่3 เสน่ห์ชุมชน 3 ศำสนำ 4 ควำมเชื่อ ได้ยินคำว่ำ “กะดีจีน” ก็แปลกแลว้ แกแ่ ต่เก๋ำท่ีไม่ธรรมดำ เมอ่ื รู้วำ่ ชมุ ชน น้ีมีอำยุนำวนำนมำกกว่ำ 200 ปี ทึ่งไปกว่ำนั้นคือ ควำม 3 มหำวิทยำลัยบำ้ นสมเดจ็ เจ้ำพระยำ. [ออนไลน์]. ชมุ ชน 3 ศำสนำ 4 ควำมเชือ่ . เขำ้ ถึงไดจ้ ำก : http://human.bsru.ac.th/ localinformation/?page_id=493 (วันทค่ี ้นข้อมูล 30 มกรำคม 2564)

Knowledge Management “ชุมชนยำ่ นกะดจี ีน” | 5 แตกต่ำงทำงเชื้อชำติ ศำสนำ ควำมเชื่อ และควำม หลำกหลำยทำงมรดกวัฒนธรรม ไม่ว่ำจะเป็นพุทธ คริสต์ อิสลำม หรือพุทธมหำนิกำยสำยจีน ของกำรเป็นแบบอย่ำง ข อ ง ก ำ ร อ ยู่ ร่ ว ม กั น อ ย่ ำ ง สั น ติ ต้ั ง แ ต่ ส มั ย ก รุ ง ธ น บุ รี จนถึงปัจจุบัน “ชุมชนกุฎีจีน ชุมชนแขวงวัดกัลยำณ์ ชุมชน อิสลำมกุฎีขำว” ได้รับกำรเรียกขำนเป็น 3 ศำสนำ 4 ควำม เช่ือของชุมชน “กะดีจีน”4 โดยควำมเชื่อแรกเป็นควำมเช่ือ ของชำวคริสต์ นิกำยคำทอลิกบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงโบสถ์ ซำงตำครู้ส ควำมเชื่อที่สองคือ วัดกัลยำณมิตรวรมหำวิหำร ส่ือให้เรำได้สัมผัสกับควำมเช่ือของชำวพุทธนิกำยเถรวำท และศำลเจ้ำเกียนอันเก็ง เป็นควำมเชื่อที่สำมของชำวพุทธ นิกำยมหำยำนสำยจีน สุดท้ำย คือ มัสยิดบำงหลวง (กุฎีขำว) เป็นควำมเชื่อที่สี่ ของชุมชนกะดีจีนซึ่งเป็นควำม เช่อื ของชำวมุสลิม 4 สำนักงำนเลขำธิกำรวฒุ ิสภำ. 2561. [ออนไลน์]. กำรขับเคล่อื น กำรพัฒนำชมุ ชนยำ่ นกะดีจนี สู่ควำมมัน่ คงยั่งยืน. เข้ำถึงได้จำก : https://www.senate.go.th/assets/portals/22/fileups/148/fi les/รวมเลม่ รำยงำนกะดจี ีน.pdf. (วันทีค่ ้นข้อมลู 30 มกรำคม 2564)

Knowledge Management “ชมุ ชนย่ำนกะดีจนี ” | 6 กล่ำวคือ ชุมชนศรัทธำและมีควำมเชื่อทำงศำสนำ พุทธ คริสต์ และอิสลำม ให้กำรเคำรพควำมเชื่อของผู้อื่น แ ส ด ง ใ ห้ เ ห็ น ถึ ง ค ว ำ ม คิ ด แ ล ะ ค ว ำ ม รู้ สึ ก ข อ ง ตั ว เ อ ง ร่วมยอมรับควำมเช่ือและศรัทธำของผู้อ่ืน แม้แตกต่ำงกัน และสำมำรถดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันฉันท์พ่ีน้อง ควำม หลำกหลำยเป็นต้นทุนทำงวัฒนธรรมของชุมชนที่ต้องรักษำ ไว้ นำยวรชัย พิลำศรมย์ ประธำนชุมชนวัดกัลยำณ์ กล่ำวถึง “ชมุ ชนเรำอยูแ่ บบถอ้ ยทีถอ้ ยอำศัยซึ่งกันช่วยเหลือจนุ เจือ กันมำตลอด ไม่แบ่งแยกศำสนำ พวกเรำเคำรพและเข้ำใจ ผู้อ่ืน ไม่ก้ำวก่ำยกัน ทั้งในควำมคิดและควำมเช่ือในกำร นบั ถือศำสนำ นค่ี ือหลักกำรอยรู่ ่วมกันของเรำ” สอดคล้อง กับพระพรหมบัณฑิต เจ้ำอำวำสวัดประยุรวงศำวำสวรวิหำร “มองอย่ำงเข้ำใจเปรียบคือกำรต้อนรับทุกคนอย่ำงเท่ำ เทียม สร้ำงสัมพันธ์ด้วยกิจกรรมชุมชนเพ่ือให้เกิดควำม ไว้วำงใจของคนในชุมชน” แสดงให้เห็นถึงควำมสำมัคคี ไมล่ ำเอยี งปฏบิ ตั ิ เป็นหลักท่ีตอ้ งรกั ษำสู่กำรพัฒนำที่สมดลุ ควำมก่อตัวจำกบรรพบุรุษหล่อหลอมสอนคนรุ่น หลังด้วยเรื่องเล่ำขำนมำกด้วยประสบกำรณ์สร้ำงวัฒนธรรม อันดีของกำรอยู่ร่วมกันของ “ชำติพันธ์ุ” ที่มีควำมกลมกลืน

Knowledge Management “ชุมชนยำ่ นกะดีจีน” | 7 กำรอยู่ร่วมกนั จำก 3 ถนิ่ ฐำนดั้งเดิม จำกคนรุ่นหลงั สร้ำงฐำน กำรอยู่ร่วมกัน โดยเน้นพ้ืนท่ีเป็นศูนย์กลำงพักอำศัยและทำ มำหำกิน เน้นหลักของควำมเช่ือและศรัทธำ แตกต่ำงแต่ ไม่แตกแยก ผสมผสำนควำมเป็นน้ำหน่ึงใจเดียวกัน สร้ำง คุณค่ำประโยชน์ใช้สอยด้วยควำมงดงำมของควำมรู้สึกคงไว้ ด้วยกำรอนุรักษ์และพัฒนำสำนตอ่ เพื่อกำรเปล่ียนแปลงตำม บริบทของยุคสมัย ปัจจุบัน “ชุมชนกะดีจีน” ประกอบด้วย 6 ชุมชน คือ 1) ชุมชนวัดกัลยำณ์ 2) ชุมชนกุฎีจีน 3) ชุมชน กุฎีขำว 4) ชุมชนวัดประยุรวงศ์ 5) ชุมชนบุปผำรำม และ 6)ชุมชนโรงครำม ซ่ึงแต่ละชุมชนมีลักษณะเฉพำะของ แต่ละชมุ ชนท่สี ำคัญ5 ดังนี้ 1. ชุมชนวัดกัลยำณ์ เป็นพื้นท่ีเดิมจำกกุฎีจีน ลักษณะเป็นชุมชนเมือง ต้ังอยู่ท่ี 371 ถ.เทศบำลสำย 1 แขวงวัดกัลยำณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ สภำพบ้ำนเรือนมี ควำมหนำแน่น สภำพบ้ำนเป็นส่วนใหญ่เป็นบ้ำนปูนกึ่งเรือน แถวไม้ มีซอยลัดเลำะเป็นทำงเชื่อมผ่ำนสำมำรถเดินเลียบ 5 มหำวิทยำลัยรำชภัฏธนบุรี. (2560). ย่ำนกะดีจีน 3 ศำสนำ 4 ควำมเช่อื 6 ชมุ ชน. แผ่นพับ. เส้นทำงกำรทอ่ งเที่ยวเชิงวัฒนธรรม. มหำวิทยำลัยธนบรุ .ี

Knowledge Management “ชมุ ชนยำ่ นกะดีจีน” | 8 แม่น้ำเจ้ำพระยำได้ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นท่ีดินของวัด ซ่ึงชำวบ้ำนเข้ำมำขอที่ดินเพ่ืออยู่อำศัย ท้ังน้ีนำยอุดร หลักทอง กลำ่ วถึง ชมุ ชนวดั กัลยำณ์6 อดีตชมุ ชนมบี รรพบรุ ุษ เป็นชำวฮกเกี้ยนท่ีมำต้ังรกรำกทำมำค้ำขำย ทำงำนเป็น กรรมกรแบกหำมบนเรือสำเภำ (กุลีชำวจีน) ต่อมำในสมัย ธนบุรีก็มีชำวจีนท่ีอพยพตำมเสด็จพระเจ้ำตำกสินมหำรำช มำจำกอยุธยำมำอำศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้ำพระยำฝั่งตะวันตก รวมกับชำวจีนอยู่จำนวนมำก ชำวจีนจึงได้ร่วมกันสร้ำง ศำลเจ้ำขึ้น 2 ศำล คือ 1) ศำลเจ้ำโจวซือกง 2) ศำลเจ้ำ กวนอู ต่อมำเม่ือรัชกำลที่ 1 ย้ำยพระนครไปกรุงเทพฯ คนจนี เหลำ่ น้จี ึงอพยพไปรวมกับพวกที่ยำ่ นตลำดนอ้ ยและสำ เพ็ง ศำลเจ้ำจึงถูกทิ้งร้ำง ต่อมำในสมัยรัชกำลท่ี 3 จึงได้ บูรณะรวมกันเป็นศำลเดียวกันแล้วอัญเชิญเจ้ำแม่กวนอิมมำ ประดษิ ฐำนให้ใช้ชือ่ วำ่ “ศำลเจำ้ เกยี นอันเกง” ศำลเจ้ำนจี้ ึง เป็นร่องรอยของชุมชนย่ำนกุฎีจีน หลักจำกที่มีกำรบูรณะ 6 อุดร หลักทอง. (2558). แนวทางการสรา้ งความเขม้ แขง็ ของ ชุมชนพหวุ ฒั นธรรม. วทิ ยานพิ นธ์, หลักสตู รปรญิ ญารัฐ ประศาสนศาสตร์มหาบัณฑติ (นโยบายสาธารณะและการจดั การ ภาครัฐ) มหาวทิ ยาลัยมหิดล.

Knowledge Management “ชมุ ชนยำ่ นกะดีจีน” | 9 ศำลเจ้ำเสร็จแล้ว ต่อมำเจ้ำพระยำนิกรบดินทร์ ได้อุทิศบ้ำน และที่ดินบริเวณใกล้เคียง สร้ำงเป็นวัดขึ้นเม่ือ พ.ศ.2368 และน้อมเกล้ำฯ ถวำยเป็นพระอำรำมหลวง จำกนั้น พระบำทสมเด็ จพระ น่ังเจ้ำเจ้ำอยู่หัว รัชก ำลที่ 3 พระรำชทำนนำมว่ำ “วัดกัลยำณมิตร” และทรงสร้ำง พ ร ะ วิ ห ำ ร ห ล ว ง แ ล ะ พ ร ะ ป ร ะ ธ ำ น พ ร ะ ร ำ ช ท ำ น เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ชื่อ พระพุทธไตรรัตนนำยก หรือ หลวงพอ่ โต (ซำปอกง) 2. ชุมชนกุฎีจีน ลักษณะเป็นพ้ืนท่ีชุมชนเมือง เป็นชุมชนเก่ำแก่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้ำพระยำ วิถีชีวิตชุมชน แบบเครือญำติ ส่วนใหญ่จะนับถือศำสนำคริสต์ เพรำะมีวัด ซำงตำครู้สเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชน และบำทหลวง เป็นผู้นำชุมชนที่เห็นสำคัญในกำรทำกิจกรรมต่ำงๆ เพ่ือให้ ชมุ ชนดำเนินชีวิตภำยใต้หลักคำสอนทำงศำสนำ กำรร่วมกัน ดว้ ยควำมรัก ควำมสำมัคคี ท้ังนี้ชุมชนกุฎีจีนมีควำมโดดเด่น ภูมิปัญญำท้องถ่ินในกำรสืบทอดขนมโบรำณ หรือที่เรียกกัน ว่ำ “ขนมฝร่ังกุฎีจีน” ต้นตำหรบั จำกชำวโปตุเกส ซ่ึงอย่คู ู่กับ ชุมชนจนถึงปจั จบุ ัน

Knowledge Management “ชุมชนย่ำนกะดจี ีน” | 10 3. ชุมชนกุฎีขำว มัสยิดบำงหลวง7 (กฎุ ีขำว) ตั้งอยู่ ริมคลองบำงหลวงตรงข้ำม สุเหร่ำต้นสน บรรพบุรุษของ ชุมชนนี้เป็น แขกแพ ซ่ึงอำศัยเรือนแพลอยอยู่ในน้ำ อพยพ มำหลำยแห่ง เป็นมุสลิมเช่ือสำยมลำยู บำงส่วนมำจำก กรุงศรีอยุธยำ บำงส่วนมำจำกบ้ำนน้ำเชี่ยว แหลมงอบ จังหวัดตรำด ล่องเรือมำค้ำขำยยังกรุงเทพแถบเจริญนคร มัสยิดน้ี เดิมชำวบ้ำนเรียกว่ำ กุฎีขำว เป็นมัสยิดเก่ำแก่สร้ำง ในรัชกำลท่ี 1 สร้ำงโดยพ่อค้ำมุสลิม โต๊ะหยี รูปแบบ สถำปัตยกรรมของมัสยิดเป็นอำคำรก่ออิฐ ถือรูปแบบ ทรงไทย ณ วนั นกี้ ย็ งั ไม่มมี ัสยิดทไ่ี หนสรำ้ งด้วยสถำปตั ยกรรม แบบน้ี มัสยิดบำงหลวงจึงนับเป็นมัสยิด ทรงไทย หน่ึงเดียวในโลกที่มีอยู่ในปัจจุบันน้ี ตัวอำคำรเป็นปูนทำสี ขำวทั้งหมด จึงเป็นท่ีมำของช่ือ กุฎีขำว ซ่ึงบ่งบอก ถึง ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงพี่น้องชำวไทยพุทธท่ีอยู่ดั้งเดิมกับชำว มุสลิมที่มำตั้งรกรำกใหม่ หน้ำบันไดด้ำนหน้ำและหลัง 7 สยามฟรีสไตล์. [ออนไลน]์ . มสั ยิดบางหลวง (กุฎีขาว). เข้าถึง ได้จาก : http://www.siamfreestyle.com/travel- attraction-more/bangkok/มัสยดิ บางหลวง.html (สืบค้น เม่อื วันที่ 2 กุมภาพนั ธ์ 2564)

Knowledge Management “ชุมชนย่ำนกะดจี นี ” | 11 ประดับตกแต่งด้วยลำยปูนป้ันศิลปะ 3 ชำติ กรอบหน้ำบัน เป็นเครื่องลำยองศิลปะไทย ในหน้ำบันเป็นปูนปั้นลำยก้ำน แยง่ ใบฝรั่งเทศศลิ ปะฝร่ัง สว่ นดอกไมเ้ ปน็ ดอกพดุ ตำน ศิลปะ จีนลำยศิลป์ 3 ชำติน้ี เป็นส่วนประดับกรอบประตูและ หน้ำต่ำงทุกบำนของมัสยิด ส่วนอำคำรท่ีเป็นปูนทำสีขำว ทั้งหมด ส่วนที่เป็นไม้ทำสีเขียวท้ังหมด นอกจำกน้ันในสมัย อิหม่ำมคนท่ี 3 มิมบัร ในมัสยิดชำรุดลง (มิมบัร คือแท่นยืน แสดงธรรม ส่วนตัวซุ้มทั้งหมด เรียกว่ำ เม๊ียะหรอบ) เจ้ำสัวพุก ซ่ึงเป็นจีนมุสลิม ได้ทำกำรก่อสร้ำงมิมบัร และ เมี๊ยะหรอบให้ใหม่ เป็นซุ้มทรงวิมำน 3 ยอด ก่ออิฐถือปูน ปดิ ทอง ล่องชำดปรับกระจกสที ั้งซุม้ โดยนำศิลปะ ปูนปั้นของ 3 ชำติที่หน้ำนำมำผสมผสำนหน้ำ ประกอบด้วยตัวซุ้มเป็น ลวดลำยศิลปะไทย เก่ียวกระหวัดด้วย ก้ำน ใบ ฝรั่งเศส ประดับด้วยดอกเมำตำลของศิลปะจีนตลอดซุ้มนับเป็นซุ่มท่ี มีควำมสวยงำมมำก แม้ตัวอำคำรจะเป็นทรงไทยแต่ผู้สร้ำง ได้บรรจุหลักกำรสำคัญของศำสนำอิสลำมไว้ เช่น มีเสำค้ำ ยันชำยพำไล 30 ต้น เท่ำกับบทบัญญัติ ในคัมภีร์อัลกุลอำน ที่มี 30 บท และห้องละหมำดมีหน้ำต่ำง 12 บำน ประตู 1 บำน รวม 13 ช่อง เท่ำกับจำนวนรุกุ่นหรือกฎละหมำด

Knowledge Management “ชุมชนยำ่ นกะดจี ีน” | 12 13 ข้อ แม้รูปแบบทำงสถำปัตยกรรมของมัสยิดและแท่น มิมบัร จะเป็นรูปแบบทำงศิลปะเหมือนของศำสนำพุทธ แตก่ ำรปฏิบตั ิกิจของมุสลิมยงั คงเป็นรูปแบบดั้งเดมิ ซึง่ รปู ลกั ษณ์ภำยนอกจะได้ รับอิทธิพลจำกพทุ ธ แต่รูปแบบกำร ปฎิบัติภำยในยังคงไว้ซึ่งควำมเป็นมุสลิม ส่วนใหญ่ ที่อำศัยอยู่ในชุมชนกุฎีขำวเป็นมุสลิมนิกำยซุนนีย์ ซ่ึงปฎิบัติ พิธีกรรมทำงศำสนำโดยมีรูปแบบจำกทำงซำอุดีอำระเบีย ทุกๆ วัน ชำวชุมชนยังต้องละหมำดวันละ 5 เวลำ (ย่ำรุ่ง กลำงวัน เย็น พลบค่ำ กลำงคืน) เพรำะถือเป็นกำรเข้ำเฝ้ำ พระผู้เป็นเจ้ำ โดยกำรสวดมนต์ต่อหน้ำพระองค์ทุกๆ เย็น เมื่อกลับจำกโรงเรียน เด็กๆ ก็จะพำกันไปเรียนที่โรงเรียน สอนศำสนำ เพื่อทรำบในข้อบัญญัติและส่ิงที่ควรปฏิบัติใน กำรเป็นมุสลิมท่ีดี และทุกวันศุกร์ อิหม่ำม (ผู้นำศำสนำ อิสลำมประจำมัสยิด) ก็จะทำหน้ำที่ในกำรสั่งสอนคนใน ชุมชน (คล้ำยกับกำรขึ้นเทศน์แสดงธรรมของพระสงฆ์) ซึ่งเรื่องท่ีพูดหรือสั่งสอนก็จะนำมำจำกพระคัมภีร์ หรือเป็น เร่ืองสถำนกำรณ์ในขณะน้ัน เช่น กำรพนัน ยำเสพติด แม้กระท่ังกำรทำหน้ำท่ี ผู้คลำยทุกข์ เป็นเหมือนที่พ่ึงทำงใจ ส ำ ห รั บ ช ำ ว ชุ ม ช น ก ำ ร ท่ี มั ส ยิ ด บ ำ ง ห ล ว ง มี ลั ก ษ ณ ะ

Knowledge Management “ชุมชนย่ำนกะดจี ีน” | 13 สถำปัตยกรรมและศิลปะหลำยชำติมำผสมผสำนกัน เป็นสิ่ง สะท้อนบอกถึงควำมเป็นมำของมัสยิด บอกถึงภูมิปัญญำ และควำมสำมำรถด้ำนช่ำงฝีมือ ของบรรพบุรุษของชำว ชุมชน เพรำะหำกย้อนไปในอดีต จะเห็นว่ำมีชำวต่ำงชำติ จำกหลำกหลำยประเทศเข้ำมำท้ังรับใช้ในรำชสำนักและทำ กำรค้ำขำย วัฒนธรรมประเพณีต่ำงๆจึงซึมซับและหลอม รวมกัน โดยไม่มีควำมเป็นเช้ือชำติหรือศำสนำมำ แบ่งแยก สิ่งสะท้อนของมัสยิดบำงหลวงจำกงำนศิลปกรรม ทไ่ี ม่จำกัดสญั ชำติ กระทง่ั ถึงชุมชนชำวบำงหลวงที่อยู่รว่ มกัน อย่ำงสันติและเผื่อแผ่ไปยังชุมชนอื่น จึงเป็นส่ิงยืนยันใน ควำมเป็นจริง “คนมุสลมิ กค็ ือคนไทยมจี ิตใจเป็นไทยเพียงแต่ นบั ถือศำสนำอสิ ลำมเทำ่ นนั้ เอง” 4. ชุมชนวัดประยุรวงศ์ ตั้งอยู่ในเขตธนบุรี ซึ่งเป็น ชมุ ชนประเภทแออดั ประกำศเปน็ ชุมชนทีจ่ ดั ต้ังตำมระเบียบ กรุงเทพมหำนครเมื่อปี 2535 ชุมชนตั้งอยู่ที่ ถนนเทศบำล สำย 1 แขวง วัดกัลยำณ์ ซ่ึงเป็นกลุ่มเขต 5 กลุ่ม กรุงธน เหนือ มีประชำกรชำยจำนวน 742 คน และประชำกรหญิง จำนวน 861 คน รวมเป็น 1,603 คน มีครัวเรือนท้ังหมด

Knowledge Management “ชมุ ชนย่ำนกะดีจนี ” | 14 261 ครัวเรือน โดยมีบ้ำนจำนวน 28 หลัง ชุมชน วัดประยุร วงศ์ มีกรรมกำรชมุ ชน 11 คน 5. ชุมชนบุปผำรำม วัดบุปผำรำมวรวิหำร เป็น พระอำรำมหลวงชั้นตรี ชนิดวิหำร เดิมช่ือวัดดอกไม้เป็น โบรำณสร้ำงมำตั้งแต่สมัยอยุธยำ โดยท่ำนผู้หญิงจันทร์ ภรรยำสมเด็จเจ้ำพระยำมหำประยุรวงศ์ (ดิศ บุนนำค) ได้บูรณะขึ้นในสมัยรัชกำลที่ 3 ต่อมำสมเด็จเจ้ำพระยำ บรมมหำศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนำค) และสมเด็จเจ้ำพระยำ ทิพำกรวงศ์ (ขำ บุนนำค) ได้ร่วมกันปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ รัชกำลท่ี 4 โปรดเกล้ำฯ พระรำชทำนนำมว่ำ วัดบุปผำรำม วัดแห่งนใี้ นช่วงสงครำมโลกคร้ังท่ี 2 พ.ศ. 2487 ไดถ้ ูกระเบิด ทำลำย ทำให้พระอุโบสถศำลำกำรเปรียญ กุฏิตึกโบรำณ และกำแพงวัด ได้รับควำมเสียหำยเป็นอย่ำงมำกและ ซ่อมแซมข้ึนใหม่ ในปี พ.ศ.2507 สถำนที่ท่องเที่ยวของ ชุมชนวัดบุปผำรมวรวิหำร พระอุโบสถวัดบุปผำรำม พระวิหำร วดั บุปผำรำม อำหำรแนะนำของชมุ ชน 6. ชุมชนโรงครำม สถำนทีท่ ่องเท่ียวขุมชนโรงครำม ได้แก่ เรือนพระยำรำชำนุประดิษฐ์ (นำค) เรือนไม้สักทอง หลั ง งำ ม ข นำ ด ใ หญ่ ตั วเ รื อ นป ร ะ ดับ ลู กไ ม้ แ บบ ข น มปั ง ขิ ง

Knowledge Management “ชมุ ชนย่ำนกะดีจนี ” | 15 (Ginger bread) หน้ำจั่วประดับหลักเสำตั้ง พร้อมลูกไม้ ประดับเสำ ปีกผีเสื้อลวดลำยไม้ฉลุขนำบซ้ำยขวำ กลำงหน้ำ เรือน อย่ำงงำมตำตำมพระรำชนิยมสมัยรัชกำลท่ี 5 ปลำย ตอนลำ่ งของปั้นลมทั้งสองข้ำง ประดบั เสำตงั้ ไมก้ ลึงขนำดส้ัน พร้อมปิดชำยป้ันลมดว้ ยลำยฉลุขนำดย่อม ไม้คอสองรัดรอบ มุขหน้ำ และเฉพำะระเบียงเอกของตัวเรือนประดับลำยขนม ปังขิง เป็นช่องลมเพ่ือควำมงำมและควำมโปรงสว่ำง เรือน ดังกล่ำวน้ี มีอำยุ รำวต้นรัชกำลท่ี 5 ก่อนกระแสนิยม “เรือน ขนมปังขิง (Ginger bread)” จะเข้ำมำและเม่ือมีกระแส นิย ม ดั ง ก ล่ำ ว เ ข้ ำ ม ำถึ ง บ้ ำน เ มือ ง เร ำ จึง มี ก ำ ร น ำ เคร่ืองประดับเรือนแบบขนมปังขิงมำใช้ร่วมด้วย เม่ือพระยำ รำชำนุประดิษฐ์ (นำค) ถึงแก่กรรมและไม่มีทำยำทอำศัย ต่อจึงเปล่ียนผู้ถือครองมำเป็น นำงผัน อหะหมัดจุฬำ คหปตำนี หำกนับอำยุเรือนจำกปี พ.ศ. ที่กรมพระรำช วังบวรสถำนมงคลทิวงคตในปี พ.ศ.2428 ท่ีบทบำทของกรม พระรำชวังบวรสถำนมงคลส้ินสุดลง ตลอดจนควำม ผสมผสำนของลวดลำยเรือนท่ีบ่งบอกยุคสมัยของวันเวลำ จนถึงปัจจุบันไม่น้อยกว่ำ 135 ปี อำหำรแนะนำของชุมชน โรงครำม ได้แก่ วิหกนอนรัง หมูสะโรง น้ำชัรบัต และน้ำขิง

Knowledge Management “ชมุ ชนยำ่ นกะดจี ีน” | 16 ปรุงอย่ำงเทศ ผลิตภัณฑ์ชุมชนที่น่ำสนใจ คือ ผ้ำย้อมครำม กำรทำผ้ำย้อม เป็นภูมิปัญญำของชุมชนโรงครำมในอดีต ลกั ษณะกำรย้อมคือใชส้ ีจำกครำมผสมน้ำ ปรำศจำกสำรเคมี ในอดีตชุมชนโรงครำม เป็นชุมชน ท่ีโด่งดังในเรื่องกำรย้อม ผำ้ จำกครำม ปจั จุบันไม่ไดม้ ีกำรผลติ ผ้ำยอ้ มครำมเป็นอำชีพ หลักมีเพียงกำรทำผ้ำย้อมครำมตำมโอกำสและเทศกำล นับว่ำเป็นภูมิปัญญำ ท่ีนับวัน จะเลือนหำยไปจำกชุมชน โรงครำม กล่ำวคือ ย่ำนกะดีจีนหรือกุฎีจีน เป็นชุมชน ประวัติศำสตร์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์เป็นชุมชนเก่ำแก่ ริมแม่น้ำเจ้ำพระยำบริเวณฝั่งธนบุรี มีประวัติควำมเป็นมำ เก่ำแก่กว่ำ 200 ปี ย้อนไปหลังจำกท่ีกรุงศรีอยุธยำแตก สมเด็จพระเจ้ำตำกสินทรงกอบกู้เอกรำช และสถำปนำกรุง ธนบุรีข้ึน โดยที่พระองค์ได้รวบรวมเหล่ำไพร่พลที่กระจัด กระจำยหลังจำกศกึ สงครำม ทง้ั ชำวไทย ชำวจนี ชำว โปรตุเกส และพระรำชทำนที่ดินเพื่อให้เป็นที่อยู่อำศัยทำมำ หำกนิ เป็นเวลำสืบเนื่องต่อมำ โดยผู้คนที่อำศยั อยู่ในบรเิ วณน้ี ล้วนแตกต่ำงกันด้วยแนวควำมคิดเชื้อชำติ วัฒนธรรมและ ศำสนำ (ชุมชนชำวพุทธ จีน คริสต์ และมุสลิม) แต่สำมำรถ

Knowledge Management “ชุมชนย่ำนกะดีจีน” | 17 หล่อหลอมผสมผสำนแนวกำรดำรงชีวิต ท่ีเป็นเอกลักษณ์หำ ที่ใดเหมือน นับเป็นชุมชนท่ีน่ำสนใจและถูกเรียกขำนว่ำเป็น ชุมชน 3 ศำสนำ 4 ควำมเชื่อ เนื่องจำกเป็นชุมชนที่มีควำม แตกต่ำงทำงด้ำนเชื้อชำติ ศำสนำ ควำมเชื่อ และควำม หลำกหลำยทำงวัฒนธรรมแตส่ ำมำรถอยู่ร่วมกนั ได้อย่ำงสันติ จึงเป็นแบบอย่ำงของชุมชนแห่งควำมสุขอย่ำงยั่งยืน ภำยใต้ บริบทควำมหลำกหลำยในหลำยมิติ โดยชุมชนกะดีจีน ประกอบด้วย 6 ชุมชน คือ ชุมชนวัดกัลยำณ์ ชุมชนกุฎีจีน ชุมชนกุฎีขำว ชุมชนวัดประยุรวงศ์ ชุมชนบุปผำรำม และ ชุมชนโรงครำม ซ่ึงแต่ละชุมชนมีลักษณะเฉพำะของแต่ละ ชุมชนที่แตกต่ำงกัน และชุมชน แห่งน้ีเป็นชุมชนแห่ง วัฒนธรรมของกำรเรียนรู้ ท่ีผสมผสำนควำมแตกต่ำงในเชิง วัฒนธรรม เชื้อชำติ และศำสนำ ได้อย่ำงกลมกลืน รวมทั้ง เปน็ ชมุ ชน ท่ีประกอบดว้ ยชนหลำยชำตหิ ลำยภำษำเข้ำมำต้ัง รกรำก เช่น ชุมชนชำวจีน ฝร่ังเชื้อชำติโปรตุเกส มุสลิม ลำว และมอญ เป็นต้น นอกจำกน้ียังปรำกฏว่ำพ้ืนท่ีแห่งนี้เป็น สถำนที่ตั้งของบ้ำนขุนนำงเก่ำสำยสกุลบุญนำค และยังมี แหล่งวัฒนธรรมท่ีน่ำสนใจอีกมำกมำย ซ่ึงมีกำรสืบทอดและ ถ่ำยทอดควำมรู้ทำงวัฒนธรรมจำกอดีตจนถึงปัจจุบัน พื้นที่

Knowledge Management “ชุมชนยำ่ นกะดจี นี ” | 18 บริเวณย่ำนกุฎีจีนจึงเป็นพ้ืนท่ีท่ีมีควำมหลำกหลำยทำง วฒั นธรรม ท้ังทำงด้ำนกลุ่มชำติพนั ธ์ุ วิถีชวี ิต ควำม เชอื่ และประเพณี ควำมเฉพำะด้วยเอกลักษณ์ของชุมชนสำมำรถเป็น ต้นแบบให้แก่ชุมชนอ่ืน ในกำรดำรงชีวิตร่วมกันในบริบท ควำมหลำกหลำยแห่งวัฒนธรรม ศำสนำ ควำมเช่ือ และ ประเพณี โดยเน้นกำรสร้ำงควำมสำมัคคีปรองดองและ ร่วมมือกันในทำกิจกรรม กำรอยู่เก้ือกูลซึ่งกันและกันแบบ เครือญำติ กำรสืบทอดควำมเป็นอัตลักษณ์ท้องถ่ิน และวัฒนธรรมชุมชน ซึ่งสิ่งเหล่ำนี้นำไปสู่กำรเป็นชุมชนท่ี เข้มแข็งอย่ำงยั่งยืนและน่ำอัศจรรย์ สร้ำงคุณค่ำและควำม ง ด ง ำ ม จ น เ ป็ น เ ส น่ ห์ ชุ ม ช น บ อ ก เ ล่ ำ . . . เ ก้ ำ สิ บ กั น ป ำ ก ต่อปำกวำ่ คร้งั หนง่ึ ตอ้ งมำเยย่ี มเยยี น......ยำ่ นกะดจี นี

Knowledge Management “ชุมชนย่ำนกะดีจีน” | 19 บทเรียนชุมชนกะดีจนี .....จดุ เปลี่ยน ด้วย “บวร”

Knowledge Management “ชุมชนยำ่ นกะดีจนี ” | 20 “บวร” เป็นแกนนำสำคัญในกำรขับเคล่ือนให้เกิด ชุมชนและสังคมคุณธรรม ตำมเป้ำหมำย โดย “บวร” จะต้องมีคณุ ลักษณะสำคญั คอื เป็นบุคคลทเ่ี สียสละ อทุ ิศตน เพ่ือส่วนรวม ลด ละ เลิกอัตตำหรือควำมมีตัวตน ควำมรู้สึก ส่วนตัวลง อดทน อดกลั้นต่อสิ่งรอบข้ำง ลดควำมมีอคติ ต่อกัน มีจุดมุ่งหมำยท่ีแรงกล้ำ มีอุดมกำรณ์ทำงำน เพือ่ ส่วนรวม โดยมีควำมหมำย ดงั นี้ “บ” แทนควำมหมำยดว้ ยคำว่ำ “บ้ำน” ซึ่งหมำยถึง สถำบันครอบครัว ประกอบด้วย ชำวบ้ำนและกลุ่มบุคคล ต่ำงๆ ในชุมชน เช่น ผู้นำตำมธรรมชำติ ผู้สูงอำยุ สตรี เด็ก เยำวชน ปรำชญ์ชำวบำ้ น ภูมปิ ัญญำท้องถนิ่ เปน็ ตน้ “ว” แทนควำมหมำยด้วยคำว่ำ “วัด” ซึ่งหมำยถึง สถำบันศำสนำทุกศำสนำในชุมชนนั้นๆ ประกอบด้วย ผู้นำ ทำงศำสนำของแต่ละศำสนำ ไม่ว่ำจะเป็นศำสนำพุทธ คริสต์ อิสลำม พรำหมณ์ฮินดู ซิกข์เช่น เจ้ำอำวำส ผู้ช่วยเจ้ำอำวำส บำทหลวง อมิ หมำ่ ม คอเต็บ บหิ ล่ัน เป็นต้น “ร” แทนควำมหมำยด้วยคำว่ำ “โรงเรยี น/รำชกำร” ซ่ึงหมำยถึ งสถ ำบันก ำรศึกษ ำ/หน่วยงำนรำชก ำร ประกอบด้วย ผู้อำนวยกำร อำจำรย์ใหญ่ ครูใหญ่ คณะครู

Knowledge Management “ชมุ ชนยำ่ นกะดีจีน” | 21 นักวิชำกำร และบุคลำกรทำงกำรศึกษำอ่ืนๆทั้งในโรงเรียน วิทยำลัย มหำวิทยำลัย และองค์กรทำงกำรศึกษำอื่น ๆ รวมถึงผู้แทนหน่วยงำนภำครัฐในชุมชน อำทิ กำนัน ผู้ใหญ่บ้ำน คณะกรรมกำรหมู่บ้ำน อบต. พัฒนำกำรประจำ ตำบล เกษตรตำบล โรงพยำบำล ส่งเสริมสุขภำพประจำ ตำบล เป็นต้น รวมท้ังระบบกลไกในกำรบริหำรที่มำจำกรัฐ ในรปู อ่นื ๆ (สำนักงำนปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (2562 : 7) ปจั จยั ควำมเขม้ แขง็ ของชมุ ชน “ยำ่ นกะดจี นี ” 1. ด้ำนครอบครัวและชุมชน จำกกิจกรรมทชี่ ุมชน ต่ำงๆ ท่ีเกิดขึ้น ชุมชนจะได้รับควำมร่วมมือเกิดกำรรวมตัว ในรูปแบบประชำคมของ “กำรมีส่วนร่วมของสมำชิกใน ชุมชน” โดยชำวบำ้ นแตล่ ะชมุ ชนจะเขำ้ ร่วมกจิ กรรมสำคัญๆ ระหว่ำงชุมชนเสมอควำมสัมพันธ์แบบเครือญำติระหว่ำงคน ในชุมชนที่อยู่อำศัยมำตั้งแต่ก่อน แต่มีประชำชนส่วนหน่ึง ย้ำยเข้ำมำอยู่ใหม่เพื่อทำงำนรับจ้ำงและพักอำศัยเพ่ือศึกษำ ต่อ ทำให้ต่ำงคน ต่ำงอยู่ และปัจจัยหน่ึงทำให้เกิดปัญหำ ควำมแออัดของบ้ำนเรือน และขำดกำรให้ควำมร่วมมือ

Knowledge Management “ชมุ ชนยำ่ นกะดจี ีน” | 22 กำรส่ือสำร ประชำสัมพันธ์ข่ำวสำรในชุมชนใช้กำรประกำศ ผ่ำนเสยี งตำมสำยผำ่ น “กำรรบั รสู้ ิทธชิ ุมชน และขอ้ บญั ญตั ิ ของชุมชน” ต้องกำรให้สมำชิกและคนในชุมชน ได้รับรู้ สิทธิและปฏิบัติร่วมกัน ไม่ก้ำวก่ำยซึ่งกันและกัน ชุมชนจึง ประสบปัญหำในกำรอยู่ร่วมกันน้อยมำก ควำมเข้มแข็ง กำรชุมชนคือกำรอยู่แบบเครือข่ำยน้ันเอง และส่วนเชื่อมที่ สำคัญท่ีชุมชนตระหนักใน “บทบำทหน้ำท่ีของครอบครัว” ส่วนใหญ่จะเป็นครอบครัวที่อยู่อำศัย ในพ้ืนที่ชุมชนกะดีจีน มำหลำยช่วงอำยุคนยำวนำนกว่ำ 200 ปี โดยครอบครัว จะนับถือศำสนำสืบทอดตำมต้นตระกูลตำมๆมำ เช่น ครอบครัวที่นบั ถือคริสต์ จะมีกำรอบรมสั่งสอนบตุ รหลำนให้ ประพฤติปฏิบัติ ด้ำนศำสนำประจำ โดยเข้ำโบสถ์ทุกวัน อำทิตย์ และปฏิบัตติ ำมกจิ จำเปน็ ของศำสนำคริสต์ พร้อมทั้ง ให้มีปฏิสัมพันธ์กับทุกคน ทุกศำสนำท่ีอยู่ร่วมกันในชุมชน มีน้ำใจ เอ้ือเฟ้ือ เผื่อแผ่ต่อกัน พ่ึงพำอำศัยกันได้ รวมถึง “กำรฟ้ืนฟูและรกั ษำไว้ซึ่งเอกลกั ษณ์ของชุมชน” กลำ่ วคือ สมำชิกต่ำงๆในชุมชน ท้ัง 6 ชุมชน ท้งั 3 ศำสนำ ได้แก่ พทุ ธ คริสต์ และอิสลำม ต่ำงให้ควำมเคำรพซึ่งกันและกัน และอยู่ ร่วมกันอย่ำงสันติ มีควำมขัดแย้งกันน้อยมำก โดยคนรุ่นพ่อ

Knowledge Management “ชมุ ชนย่ำนกะดจี ีน” | 23 แม่ปู่ย่ำตำยำย จะอบรมสั่งสอนเด็กรุ่นลูกหลำนให้ปฏิบัติ ตำมกิจกรรมต่ำงๆทำงศำสนำ ที่ครอบครัวนับถือและรักษำ ไว้ เพือ่ ใหส้ บื ทอดไปส่คู นรุ่นใหมส่ บื ไป โดยสถำบันกำรศกึ ษำ ได้แก่ โรงเรียนจะเป็นหน่วยงำนสำคัญมำกที่จะเป็นศูนย์ เช่ือมร้อยประสำนให้คนทุกคน เด็กและเยำวชนในชุมชนให้ ธำรงรักษำและสำนต่อขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม และพธิ ีกรรมตำ่ งๆของทุกศำสนำใหด้ ำเนนิ ต่อไป 2. ด้ำนเครอื ข่ำยชุมชน ด้วย “กำรสร้ำงเครอื ข่ำย องค์กรในชุมชน” จัดทำขึ้นเพื่อเป็นกำรพึ่งพำอำศัยซ่ึงกัน และกัน โดยมีกำรรวมกลุ่มกัน เช่น หน่วยงำนภำยใน ที่มีอยู่ในชุมชน ประกอบไปด้วย ประธำนชุมชน 6 ชุมชน และคณะกรรมกำรพัฒนำย่ำนกะดีจีน ท่ีอยู่ในชุมชน ย่ำนกะดีจีน โรงเรียนในชุมชน โดยมีพระพรหมบัณฑิต เจ้ำอำวำสวัดประยุรวงศำวำสวรวิหำร เป็นแกนหลัก ในกำร เช่ือมโยงควำมหลำกหลำยทำงศำสนำ ท้ัง 3 ศำสนำเข้ำ ด้วยกัน ทั้งศำสนำพุทธ ศำสนำคริสต์ ศำสนำอิสลำม เพ่ือสร้ำงควำมสำมัคคีเข้ำด้วยกัน จนได้รับรำงวัลยอดเยี่ยม อันดับ 1 หรือ Award of Excellence จำกองค์กำรยเู นสโก้

Knowledge Management “ชมุ ชนย่ำนกะดจี ีน” | 24 ในด้ำนกำรอนุรักษ์มรดกทำงวัฒนธรรม โดยพระพรหม บัณฑติ เจ้ำอำวำสวัดประยุรวงศำวำสวรวหิ ำร กล่ำวถึง “...เราจัดงานทอดผ้าป่า หรือขายสินค้าได้ คนแสดงมากกว่า คนดูอีก เลยคิดว่าจะจัดงานไรดี เพอื่ แก้ปัญหาชมุ ชน จึงเกิด ไอเดีย 6 ชุมชน เลยชวนศาสนาอื่นมาร่วมกัน เราอยู่ริมน้า มีท่าน้า เรามีวัฒนธรรม เลยใช้สถานที่ท่ีเป็นกลางเปิดตัว เปิดงานตีปีบ ท้าให้คนได้รู้จักชุมชน ต้องใช้สถานที่ท่ีเป็น กลาง ให้โต๊ะอีหม่าม หลวงพ่อ มาเปิดงานร่วมกัน น่ังอยู่บน เวทีด้วยกัน...” อีกทั้งได้รับกำรสนับสนุนจำกหน่วยงำน ภำยนอก เช่น มหำวิทยำลัยรำชภัฏธนบุรี มหำวิทยำลัย รำชภัฏบ้ำนสมเดจ็ เจ้ำพระยำ เปน็ เครือข่ำยหลักในกำรสร้ำง เครือขำ่ ยองค์กรในชุมชน ร่วมสร้ำงควำมเขำ้ ใจร่วมกับชุมชน วำงแผนในกำรพัฒนำชุมชน เพิ่มองค์ควำมรู้ สร้ำงควำม เข้มแข็งใหก้ ับผนู้ ำชมุ ชน และสง่ เสริมกำรประชำสัมพันธ์ทำง ส่ือออนไลน์ผ่ำนช่องทำงต่ำงๆ เช่น รำยกำรโทรทัศน์ Facebook YouTube เป็นต้น นอกจำกนี้ยังได้รับควำม ร่วมมือจำกสำธำรณสุขชุมชน เป็นหน่วยงำนท่ีดูแลสุขภำพ ของประชำชนในชุมชนย่ำนกะดจี ีน และกระทรวงวัฒนธรรม เข้ำมำส่งเสริมกิจกรรมจัดโครงกำรปั่นจักรยำนเท่ียวบวร

Knowledge Management “ชมุ ชนยำ่ นกะดจี นี ” | 25 ซง่ึ เป็นชุมชนประวัติศำสตร์แหง่ กรุงรัตนโกสินทร์ เพื่อนำทุน ทำงวัฒนธรรมของย่ำนกะดีจีนมำส่งเสรมิ สนบั สนนุ ต่อยอด กระตุ้นเศรษฐกิจในพ้ืนท่ี โดยใช้พลัง บวร บูรณำกำรกับ ทุกภำคส่วนสร้ำงควำมเข้มแข็งและย่ังยืนตำมศำสตร์ พระรำชำ และตอบสนองนโยบำยรัฐบำลในกำรฟื้นฟูสังคม อย่ำงเร่งด่วนหลงั วิกฤตกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคตดิ เชื้อ ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) เพื่อให้เกิดคุณค่ำและมูลค่ำ ของเศรษฐกิจชุมชน ได้รับกำรถ่ำยทอดและสร้ำงรำยได้ ให้กับชุมชน นักท่องเท่ียวท่ีเข้ำมำเท่ียวในชุมชนย่ำนกะดีจีน เพิ่มมำกขึ้น โดยมีกำรจำหน่ำยอำหำรและผลิตภัณฑ์ทำง วัฒนธรรมของย่ำนกะดีจีน เป็นประจำทุกวันเสำร์และ วนั อำทติ ย์ รวมถึง “กำรส่งเสริมและพัฒนำผนู้ ำชมุ ชนและ ประชำชนในชุมชน” กำรพัฒนำผู้นำชุมชนและประชำชน ในชุมชน โดยมีสถำบันกำรศึกษำเข้ำมำมีบทบำทในกำร พัฒนำชุมชนย่ำนกะดีจีน โดยกำรส่งเสริมของมหำวิทยำลัย รำชภัฏธนบุรี ให้คนในชุมชนรว่ มกันจัดทำแผนในกำรพัฒนำ ชุมชนซึ่งมีหลักกำร ดังน้ี1) กำรค้นหำจุดเด่นของชุมชน เพื่อพัฒนำต่อยอด สร้ำงควำมเข้มแข็งให้กับชุมชน โดยใช้ งำนวิจัยเข้ำมำเก่ียวข้อง 2) หลักในกำรพัฒนำศักยภำพผู้นำ

Knowledge Management “ชุมชนยำ่ นกะดีจนี ” | 26 และจัดกิจกรรมชุมชน โดยให้ผู้นำมีทิศทำงเดียวกันทำงำน ร่วมกัน เพ่ือพัฒนำและจัดกิจกรรมกับผู้นำชุมชน และ 3) กำรสร้ำงกำรมีส่วนร่วม สร้ำงจิตสำนึก และพัฒนำ เสริมสร้ำงควำมเข้มแข็งในชุมชนร่วมกัน เพื่อให้กำรพัฒนำ ต่อยอดและยั่งยืน โดยมีแผนปฏิบัติกำรชุมชนเสริมสร้ำง ควำมตระหนักว่ำชุมชนมีของดีอยู่ในชุมชนอยู่แล้ว มีทุนทำง สังคม เช่น ผลิตภัณฑ์ในชุมชนเพื่อสร้ำงรำยได้ให้กับชุมชน และในส่วนของมหำวิทยำลัยรำชภัฏบ้ำนสมเด็จเจ้ำพระยำ มีส่วนร่วมจัดกิจกรรมทอดน่อง.....ล่องเรือ เพื่อเป็นกำร ป ร ะ ช ำ สั ม พั น ธ์ ชุ ม ช น ใ ห้ เ ป็ น ท่ี รู้ แ ล ะ เ ป็ น ก ำ ร ส่ ง เ ส ริ ม กำรท่องเท่ียว โดยกำรทำควำมเข้ำใจกับชุมชน สร้ำงควำม เข้ำใจและควำมตระหนักใหช้ ุมชนรักและหวงแหน ควำมเป็น มรดกทำงศิลปวัฒนธรรมในพื้นท่ีของชุมชนย่ำนกุฎีจีน และ ไ ด้ มี ก ำ ร พั ฒ น ำ อ อ ก แ บ บ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ท่ี ชุ ม ช น มี อ ยู่ แ ล้ ว นอกจำกน้ี ยังมีกำรส่งเสริมและออกแบบผลิตภัณฑ์ท่ีเป็น อัตลักษณ์โดดเด่นของชุมชนมำพัฒนำต่อยอด โดยได้นำ เครือข่ำย เช่น กระทรวงอตุ สำหกรรมผลักดันผลิตภัณฑ์ เช่น ขนมฝรั่งกุฏีจีน ผ้ำย้อมครำม เป็นต้น นอกจำกน้ี ยังมีกำร จัดกำรควำมรู้จำกภูมิปัญญำท้องถ่ินให้มีควำมน่ำสนใจ

Knowledge Management “ชุมชนยำ่ นกะดจี ีน” | 27 ให้ทันสมัยมำกย่ิงข้ึน เช่น กำรออกแบบควำมเฉพำะตัวใน กำรทำอำหำรตำ่ งๆ เช่น ทำขนมฝรั่งกุฎีจีน ทำขนมจีนไก่คั่ว เป็นต้น ส่วนสำคัญของชุมชน คือ “กำรตัดสินใจร่วมกัน ของชุมชน” ชุมชนกะดีจีนมีกำรตัดสินใจร่วมกันของชุมชน โดยมีผู้นำหรือตัวแทนของแต่ละกลุ่มหรือครอบครัว เพ่ือ ประชุมปรึกษำหำรือร่วมกันในเร่ืองต่ำงๆ เป็นแนวทำงใน กำรจัดกิจกรรมของชุมชน ซ่ึงเกิดขึ้นจำกกำรร่วมมือร่วมใจ ของทุกฝ่ำยเพ่ือหำแนวทำงกำรจัดกิจกรรมท่ีดีท่ีสุด เน้นกำร แลกเปลี่ยน หำรือ ประชุมร่วมกันระหว่ำงผู้นำศำสนำ คณะกรรมกำรชุมชน ตัวแทนประชำชน กำรจัดทำ แผนพัฒนำชุมชุน เพื่อลงมติหรือหำแนวทำงในกำรจัด กิจกรรมแต่ละครั้งไป กำรขับเคลื่อนจะขำดไม่ได้กับ “ อ ำ ส ำ ส มั ค ร แ ล ะ ส ภ ำ อ ง ค์ ก ร ชุ ม ช น เ พื่ อ ก ำ ร พั ฒ น ำ ” ของชุมชน โดยชุมชนจะมีอำสำสมัคร มี 2 รูปแบบ คือ อำสำสมัครด้ำนศำสนำ ได้แก่ อำสำสมัครซำงตำครู้ส และอำสำสมัครสำธำรณสุข ได้แก่ สำธำรณสุขชุมชน ศูนย์บริกำรสำธำรณสุข 26 เจ้ำคุณพระประยุรวงศ์ ในส่วน “สภำองค์กรชุมชนเพื่อกำรพัฒนำ” ด้วยกำรดำเนินงำน ของขบวนองค์กรชุมชน เขตธนบุรี เริ่มดำเนินงำนต้ังแต่

Knowledge Management “ชุมชนยำ่ นกะดจี ีน” | 28 ปี 2553 จำกกำรทำงำนของขบวนองค์กรชุมชน ในพ้ืนท่ีท่ีมี กำรดำเนินงำนอยู่บ้ำงแล้ว เช่น กลุ่มอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณี กลุ่มออมทรัพย์กุฎีจีน โดยกำรทำงำนร่วมกับ สำนักงำนพัฒนำชุมชนเมือง (องค์กรเดิมก่อนเป็น พอช.) ในปี 2555 จัดต้ังกองทุนสวัสดิกำรชุมชนเขตธนบุรี เพ่ือให้ เกิดกำรจัดสวัสดิกำรของชุมชน ต้ังแต่เกิดจนตำย มีกำร ช่วยเหลือเก้ือกูลกัน สร้ำงควำมมน่ั คงในคุณภำพชีวิต รวมถึง กำรสร้ำงควำมสัมพันธ์อันดีระหว่ำงชุมชนกับหน่วยงำนภำคี มีชมุ ชนทเี่ ข้ำรว่ ม 26 ชุมชน รวมถึงสมำชิกในชุมชนย่ำนกะดี จีนด้วย ต่อมำปี 2557 จัดตั้งสภำองค์กรชุมชนเขตธนบุรี เมื่อวันที่ 17 กันยำยน 2557 มีกลุ่มองค์กรท่ีเข้ำร่วม 42 กลุ่ม ชุมชนในย่ำนกะดีจีน ท้ัง 6 ชุมชนได้เข้ำมำเป็นสมำชิก ในสภำองค์กรชุมชน มีส่วนในกำรร่วมกันขับเคล่ือนงำน พัฒนำทั้ง 6 ประเด็นงำน ที่สภำองค์กรชุมชนดำเนินกำร ประกอบด้วย ด้ำนประเพณีวัฒนธรรมและกำรท่องเท่ียว ด้ำนท่ีอยู่อำศัย ด้ำนสุขภำพ ด้ำนสวัสดิกำร ด้ำนสังคม และ ด้ำนเศรษฐกิจ กลไกกำรทำงำนจะมีกำรเชื่อมประสำน กำรทำงำนร่วมกันโดยให้สภำองค์กรชุมชนเป็นเวทีกลำง ในกำรเช่ือมโยงคน เช่ือมโยงประเพณีวัฒนธรรม และ

Knowledge Management “ชมุ ชนย่ำนกะดจี นี ” | 29 เชื่อมโยงงบประมำณ ในกำรพัฒนำชุมชนให้มีควำมเข้มแข็ง โดยกำรเช่ือมโยง 3 ศำสนำ (ศำสนำพุทธ ศำสนำอิสลำม ศำสนำคริสต์) ใช้วัฒนธรรมประเพณีเป็นเคร่ืองมือในกำร รวมคน เชื่อมควำมสัมพันธ์ ซ่ึงมีกำรดำเนินงำนมำตั้งแต่ อดีตจนถึงปัจจุบันและได้รับกำรสืบทอดไปยังรุ่นหลำน ผ่ำนกิจกรรมท่ีดำเนินกำรในชีวิตประจำวัน สถำนกำรณ์ เร่งด่วน เช่น สถำนกำรณ์น้ำท่วม ไฟไหม้ งำนก่อสร้ำงบำรุง ชุมชน ศำสนสถำน รวมถึงกิจกรรมทำงศำสนำ ที่ทุกคนเข้ำ มำร่วมกันไดโ้ ดยไม่ยดึ ตดิ กับหลักศำสนำของตน จงึ ทำใหเ้ กิด ควำมเป็นเอกลักษณ์ของคนในชุมชนในกำรอยู่ร่วมกันแบบ ชุมชนพหวุ ฒั นธรรมย่ำนกะดีจนี ท่ีชัดเจน ซึง่ กลไกกำรพฒั นำ ชมุ ชนทใี่ ช้หลกั “บวร” และปรัชญำเศรษฐกจิ พอเพยี ง ทำให้ หน่วยงำนภำคี สถำบันกำรศึกษำ องค์กรเอกชนให้ควำม สนใจและเข้ำมำมีส่วนในกำรหนุนเสริม รวมถึงมหำวิทยำลัย รำชภัฏธนบุรี และมหำวิทยำลัยรำชภัฏบ้ำนสมเด็จ เจ้ำพระยำ ภำยใต้กำรดำเนินงำนของสภำองค์กรชุมชน เขตธนบุรี เข้ำมำหนุนเสริมในเร่ืองกำรพัฒนำชุมชนด้ำน เศรษฐกิจชุมชน กำรพัฒนำผลิตภัณฑ์ กำรส่งเสริมกำร ท่องเท่ียวชุมชนย่ำนกะดีจีน “กิจกรรมที่สภำองค์กรชุมชน

Knowledge Management “ชุมชนย่ำนกะดจี ีน” | 30 ดำเนนิ งำนร่วมกับชุมชน” เนอื่ งจำกชมุ ชนยำ่ นกะดีจีน เป็น พื้นท่ีชุมชนเก่ำแก่ มีควำมหลำกหลำยทำงศำสนำและ วฒั นธรรม มีภมู ิปญั ญำดั้งเดมิ จึงเกิดกำรพัฒนำในด้ำนต่ำงๆ ประกอบด้วย 1) ด้ำนเศรษฐกิจ สนับสนุนกำรให้ควำมรู้ใน ด้ำนกำรส่งเสริมอำชีพ กำรส่งเสริมพัฒนำรูปแบบผลิตภัณฑ์ ให้มีควำมน่ำสนใจ พัฒนำช่องทำงกำรจำหน่ำยสินค้ำ ประสำนงำนในกำรออกบูธจำหน่ำยสินค้ำในสถำนท่ีต่ำงๆ ซ่ึงชุมชนย่ำนน้ี มีอำหำรโปตุเกต ขนมฝรั่งกุฎีจีน ขนมกุสรัง หรือขนมโบว์คริสมำส (มีเฉพำะในเทศกำล) ขนมก๋วยต๊ัส ศิลปะประดิษฐ์ หมูกระดำษออมสิน ท่ีเป็นเอกลักษณอ์ ยู่แล้ว 2) ด้ำนท่องเที่ยว สนับสนุนด้ำนกำรท่องเที่ยววิถีถิ่น อนรุ ักษ์ แหล่งท่องเที่ยวแหล่งโบรำณสถำน บ้ำนเก่ำ พัฒนำมี มคั คุเทศกท์ ้องถ่ินในกำรต้อนรบั นักท่องเท่ียวโดยสภำองค์กร ชุมชนเขตธนบุรี เช่ือมโยงกับสถำบันกำรศึกษำในกำรหนุน เสริม 3) ด้ำนประเพณีวัฒนธรรม สภำองค์กรชุมชนเขต ธนบุรี ร่วมจัดงำนประเพณีลอยกระทง งำนประจำปี 3 ศำสนำ 4) ด้ำนสวัสดิกำรชุมชน พัฒนำและขยำยฐำน สมำชิกกองทุนสวัสดิกำรชุมชนจำกผู้นำชุมชนสู่กำรขยำย สมำชกิ เพ่ิมในชุมชน เพอื่ ให้เข้ำถึงสวัสดิกำร ขั้นพ้ืนฐำนดูแล

Knowledge Management “ชมุ ชนยำ่ นกะดีจีน” | 31 ตงั้ แตเ่ กดิ จนตำย 5) ด้ำนสังคม/สุขภำพ ประสำนงำนในเรอื่ ง กำรอบรมเรียนรู้กำรทำเขยี นโครงกำร เพ่ือจัดทำแผนในกำร ขอรับสนับสนุนประมำณกองทุนสุขภำพระดับเขตให้ชุมชน มีควำมรู้ควำมเข้ำใจ สำมำรถเสนอแผนงำน งบประมำณ ตำมแผนท่ีอยำกจะนำมำพัฒนำในชุมชน ท้ังน้ีได้ดำเนินกำร จัดทำ “แผนกำรขับเคลื่อนงำน” ประกอบด้วย 1) สภำ องค์กรชุมชนเขตธนบุรี ประสำนงำนร่วมกับ มหำวิทยำลัย รำชภัฏธนบุรี จัดทำแผนกำรอบรมมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ให้มี ควำมเช่ียวชำญภำษำอังกฤษและภำษำจีน 2) พัฒนำชุมชน ท่ีมีเอกลักษณ์ทำงด้ำนภำษำ วัฒนธรรม ประเพณี ที่อยู่ อำศัยในย่ำนเมืองเก่ำ ให้เป็นสถำนที่ท่องเท่ียวเชิงอนุรักษ์ มโี ฮมสเตย์ โดยกำรเน้นวิถีควำมเป็นอยดู่ ้ังเดิม 3) ขยำยฐำน สมำชิกสวัสดิกำรชุมชนให้ครอบคลุมในทุกชุมชน 4) จัดทำ แผนกำรพัฒนำสื่อออนไลน์ อบรมให้ควำมรู้ด้ำนกำรทำส่ือ เพ่อื สร้ำงรำยได้ โดยกำรสนับสนนุ จำก สถำบนั พฒั นำองคก์ ร ชุมชน ร่วมกับมหำวิทยำลัยรำชภัฏธนบุรี และ5) พัฒนำ ศักยภำพองค์กรชุมชน รวมถึงคนทำงำน พัฒนำคนรุ่นใหม่ เขำ้ มำช่วยในกำรพฒั นำชมุ ชนรว่ มกนั

Knowledge Management “ชุมชนย่ำนกะดีจนี ” | 32 3. ด้ำนวัฒนธรรมและศำสนำ ดว้ ย “กำรฟนื้ ฟแู ละ รักษำไว้ซ่ึงเอกลักษณ์ของชุมชน” ถือเป็นชุมชนเก่ำแก่ ริมแม่น้ำเจ้ำพระยำ ท่ีผ่ำนกำลเวลำมำนำนกว่ำ 200 ปี ทว่ำ ชุมชนแห่งนี้กลับโดดเด่นในเอกลักษณ์ของวิถีชีวิตควำม เป็นอยู่ ที่สงบสุขระหว่ำง ชำวพุทธ ชำวคริสต์ และชำว อิสลำม รวมไปถึงวัฒนธรรมท่ีหลำกหลำยของชำวไทย และพ่อค้ำชำวจีนที่อำศัยอยู่ในละแวกน้ี ที่น่ีจึงสวยงำม ในบรรยำกำศคลำสสกิ ท่ีผสมผสำนกันอย่ำงลงตัว โดยเฉพำะ 3 ศำสนำ 4 ควำมเช่ือ ได้แก่ คริสต์พุทธเถรวำท พุทธ มหำยำน และอิสลำมชุมชนย่ำนกะดจี ีน เปน็ ชมุ ชนท่ีเนน้ กำร มีจิตสำนึกรักท้องถิ่น เกิดแรงจูงใจในกำรรักษำเอกลักษณ์ ของชุมชนมี ที่มุ่งเน้นควำมสำมัคคีไม่ลำเอียงปฏิบัติในกำร อยู่ร่วมกันของคนในชุมชน ซ่ึงเป็นหลักกำรท่ีต้องรักษำไว้ แห่งกำรอยู่ร่วมกัน รวมไปถึงหลักแห่งกำรพัฒนำที่ยั่งยืน ตำมควำมสมดุล 3 องค์ประกอบ คือ กำรพัฒนำสังคม เศรษฐกิจ ส่ิงแวดล้อม “...อนาคตต้องมีความสมดุลกัน อย่า เน้นเอาทุนมาท้าเพราะจะมาท้าลายชุมชน เอาแบบค่อยๆ เติบโต ส่งเสริมเท่าที่มีอยู่ อย่าให้การท่องเที่ยวท้าลาย วัฒนธรรม อย่าให้การสร้างตึกท้าลาย ทัศนียภาพโบสถ์ วัด

Knowledge Management “ชุมชนย่ำนกะดจี ีน” | 33 มัสยิด ไม่ได้ มันจะบดบังความสวยงาม เราจะรักษาทิวทัศน์ ฝั่งแม่น้าไว้ เพ่ือเป็นจุดขายของกรุงเทพ...” (ค้าให้สัมภาษณ์ ของเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวรวิหาร) “กำรเป็นชุมชน ตัวอย่ำง” เน้นกำรมีจิตสำนึกรักท้องถิ่น เพื่อกำรรักษำ เอกลักษณ์เกิดแรงจูงใจ เป็นสื่อสะท้อน 3 ศำสนำ 4 ควำม เช่ือ (กะดีคือที่บูชำศำสนำ) ตำมหลักกำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ลดกำรระแวง รู้ควำมเหมือน ควำมต่ำง รู้จักกัน พูดภำษำ เดยี วกัน อย่รู ่วมกันกับศำสนำอืน่ เปน็ วถิ ีชวี ิตแตโ่ บรำณ “...ถ้าทรัพยากรมนุษยม์ ีคุณภาพ ทกุ อย่างก็ได้หมด ถ้ามนุษย์ไม่ได้พัฒนา มันก็โกงกินกันเหมือนเดิม มันจะดีขึน ไดอ้ ย่างไร สังคมแถบนีทเ่ี ขาอยู่กันได้ เพราะเขาไม่รกุ รานกัน ไม่เบียดเบียนกัน เขาต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างให้เกียรติกัน กอ็ ยู่ได้มาเป็นรอ้ ยปี...” (ค้าให้สัมภาษณ์ของผ้ชู ่วยเจ้าอาวาส วัดกัลยานิมิตรวรมหาวิหาร) และต้องสร้ำง “ควำมคุ้นเคย และควำมเคยชินของคนในชุมชนย่ำนกะดีจีน” ในกำรอยู่ ร่วมกันของ 3 ศำสนำ 4 ควำมเช่ือ ซึ่งมีควำมแตกต่ำงด้ำน กำรปฏิบัติกิจกรรมของศำสนำ เช่น กำรทำบุญของศำสนำ พทุ ธ กำรละหมำดของศำสนำอิสลำม เทศกำลครสิ ตม์ ำสของ ศำสนำคริสต์ หรือแม้กระท่ังพิธีไหว้ศำลเจ้ำของจีนที่มีควำม

Knowledge Management “ชุมชนยำ่ นกะดจี ีน” | 34 ศรัทธำหรือกิจกรรมที่แตกต่ำงกัน แต่คนในชุมชนย่ำน กะดีจีนไม่มีปัญหำหรือควำมขัดแย้งในกำรอยู่ร่วมกัน ไม่เคย ไปรุกรำนกันหรือเบียดเบียนกัน ไม่กระทบกระทั่งกัน สำมำรถอยู่ร่วมกันได้อย่ำงปกติสุข หำกเป็นคนภำยนอก ชุมชนท่ีเพิ่งเข้ำมำอยู่ในชุมชนย่ำนกะดีจีนในช่วงแรกอำจจะ ยังไม่ค่อยคุ้นชิน แต่เมื่ออยู่ร่วมกันในชุมชนเป็นระยะ เวลำนำน จึงเกิดควำมคุ้นเคยและอยู่ร่วมกันได้เป็นอย่ำงดี “...เขาเปิดเสียงละหมาด วันละ 5 ครังเน่ีย คนที่มาอยู่ใหม่ก็ จะร้าคาญหน่อย พระท่านมาอยู่ใหม่ๆเขาก็ละหมาด วันละ 5 ครัง เด่ียวก็เอาแล้ว เราก็โอ้ยๆ แต่ว่าพอมาอยู่ด้วยกัน นานๆ มันไม่เคยได้ยินเลย มนั กลายเป็นว่า เขาละหมาดทุก วันนันแหละ ทา้ ไมเราไม่ไดย้ ิน มนั ชินแล้ว ชินจนเราไม่ไดย้ ิน จนเราไม่รู้ว่าเขาละหมาดหรือป่าว อันนีคือตัวอย่างการอยู่ ร่วมกัน เกิดความคุ้นชินกัน...” (ค้าให้สัมภาษณ์ของผู้ช่วย เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร) รวมถึง “กำรปฏิบัติ ตำมหลักศำสนำอย่ำงเป็นแก่นแท้” โดยที่ศำสนำของแต่ละ ศำสนำมีหลักกำรปฏิบัติตำมคำสอนอย่ำงถูกต้อง มีกำร เชื่อมโยงศำสนำโดยใช้กิจกรรมเป็นตัวเชื่อมร่วมกัน เช่น ก ำ ร รั บ ร ำ ง วั ล ย อ ด เ ยี่ ย ม อั น ดั บ 1 ห รื อ Award of

Knowledge Management “ชมุ ชนย่ำนกะดีจนี ” | 35 Excellence จำกองค์กำรยูเนสโก้ ในด้ำนกำรอนุรักษ์มรดก ทำงวัฒนธรรม โดยทุกศำสนำมีส่วนร่วมในกำรรับรำงวัล ประเพณีลอยกระทง ท่ีทุกศำสนำสำมำรถร่วมทำกิจกรรมได้ จงึ เป็นกิจกรรมท่ีเช่ือมร้อยกันระหว่ำงชุมชน เชื่อมร้อยด้วย “กำรรับรู้และเรียนรู้ถึงประวัติศำสตร์ของชุมชนย่ำนกะดี จีนของ 3 ศำสนำ 4 ควำมเชื่อ” ได้แก่ คริสต์ พุทธเถรวำท พุทธมหำยำน และอิสลำมซ่ึงมีควำมหลำกหลำยของ วัฒนธรรม “...บรรพบุรุษได้มีการจัดตังศาลเจ้าเกียงอันเกง ขึนมาเฉพาะโดยเป็นการรวมรวมเงินทองจากญาติพี่น้องก็ ตาม แต่ทุกคนท่ีมีความเลื่อมใสศรัทธาสามารถมากราบไหว้ ขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนีได้ ถึงแม้ว่าคนท่ีเคยกราบไหว้จะ เสียชีวิตไปแล้ว แต่ก็มีลูกหลานมากราบไหว้ตลอดมา ในฐานะผู้ดูแลจะรักษาไว้ให้ดีที่สุดให้เป็นแบบอ อริจินอล เหมือนเดิม แต่ส่วนผู้ที่มาไหว้จะได้รับรู้ถึงประวัติศาสตร์ วัด ศิลปกรรม ผลงานต่างๆ ท่ีได้รังสรรค์ไว้ ซ่ึงเป็นงานฝีมือ ตงั แตส่ มัยโบราณและหาดูได้ยาก เป็นส่วนของการท่องเที่ยว ให้ความส้าคัญของกุฎีจีน...” (ค้าให้สัมภาษณ์ของผู้ดูแลศาล เจ้าเกียงอันเกง หรือศาลเจ้าแม่กวนอิม) และร่วม “อนุรักษ์ ศิลปวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีตำมหลัก

Knowledge Management “ชุมชนย่ำนกะดจี ีน” | 36 เศรษฐกิจพอเพียง” โดยจะมีโบรำณสถำนคู่กับแผ่นดินนี้ มีกำรฟื้นฟูและรักษำไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของชุมชน กำรอนุรักษ์ ควำมเป็นประวัติศำสตร์ งำนฝีมือช่ำงงำนจิตรกรรม รวมไป ถึงศิลปวัฒนธรรมของโบรำณสถำนต่ำงๆ ในชุมชน เช่น โบรำณสถำนศำลเจ้ำเกียงอันเกงซงึ่ ได้รับรำงวัล อนุรักษ์ศลิ ป สถำปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี 2551 ประเภทปูชนียสถำน และวัดวำอำรำม ศำลเจ้ำเกียนอันเกง กรุงเทพมหำนคร จำกสมเด็จพระกนิษฐำธิรำชเจ้ำ กรมสมเด็จพระเทพ รัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำรี อีกทั้งยังมีแนวคิดยึด ตำมหลักเศรษฐกิจพอเพียง มีควำมพอประมำณ ควำมพอดี ที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มำกเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเอง และผู้อ่ืน “...วันอาเน่ียแซ (วันคล้ายวันออกบวชขององค์ พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม) ตามประเพณีจีน 3 วัน คือ วันคล้ายวันประสูติ วันคล้ายวันออกบวช และวันคล้าย วันส้าเร็จมรรคผล ซึ่งศาลเจ้าเกียงอันเกงจัดแบบใช้หลัก เศรษฐกิจพอเพยี ง ไม่ได้จัดเตม็ รูปแบบการเดนิ ธูป เนื่องจาก หากจัดงานจะมีคนเข้ามาจ้านวนมากท้าให้เกิดความชุลมุน ...” (ค้าให้สัมภาษณ์ของผู้ดูแลศาลเจ้าเกียงอันเกง หรือศาล เจ้าแม่กวนอิม) เน้นกระบวนกำรเรียนรู้ร่วมกันด้วย

Knowledge Management “ชุมชนย่ำนกะดจี ีน” | 37 “กำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในชุมชน โดยมีศำสนำและควำม เชื่อเปน็ ศูนย์รวมจติ ใจ” สง่ิ หน่ึงทสี่ ำคัญมำก คอื กำรพฒั นำ ผู้นำชุมชน และกำรเล็งเห็นปัญหำของชุมชน หำกชุมชนมี ควำมอดอยำก หวำดระแวง ชุมชนก็ไม่มีทำงสงบสุขศำสนำ และควำมเช่ือจึงต้องเป็นศูนย์รวมของจิตใจให้กับทุกคนใน ชุมชน “...การพัฒนาผู้น้าชุมชนสลับกันเป็นตัวแทนตาม ความถนัดโดยเรียนรู้เรื่องท่ีตนเองถนัดแล้วน้ามาแบ่งปัน บอกคนในชุมชน...” (ค้าให้สัมภาษณ์ของผู้น้าศาสนาคริสต์ วัดซางตาครู้ส) และ “...หากมองจากวัดออกนอกก้าแพงวัด เราเห็นปัญหาชุมชนที่กระทบวัด ต่อให้วัดเจริญแต่ชุมชน อดอยาก หวาดระแวง ก็ไม่สงบสุขหรอกแต่ก่อน ของในวัด จะหายโดยเฉพาะเปิดเทอม มันจะบอกอะไรบางอย่าง มันอยู่อย่างหวาดระแวง แทนท่ีเราล้อมรัววัดด้วยไมตรี แทนที่การสร้างก้าแพง เอาคนรอบวัดมาเป็นรัวให้เรา ผูกมิตรกัน เราเอาพวกเขามาเป็นพวก พอเร่ิมท้าเราก็ระดม ความคิดพระในวัด โดยเฉพาะการน้าเงินในวัดไปช่วย ชาวบ้านเพื่อพัฒนาชุมชน ท้าให้เห็นว่าเราแคร์เค้าเราจะ พัฒนาชุมชนรอบชุมชนเรามี 3 ศาสนา เราต้องมีคนกลางนี่ ส้าคัญ เรารอโอกาส เม่ือคนกลางเขา้ มา แต่เม่ือไม่มีโอกาสก็

Knowledge Management “ชมุ ชนย่ำนกะดจี นี ” | 38 ยังท้าไม่ได้...” (ค้าให้สัมภาษณ์ของเจ้าอาวาส วัดประยุร วงศาวรวิหาร) จุดเปล่ียนจะเกิดขึนได้ต้อง “ระเบิดจำกข้ำง ในพร้อมกับมีใจที่จะให้เพื่อส่วนรวม” โดยเริ่มจำก ควำมเหน็ พ้องตอ้ งกนั มกี ำรปรับทศั นคติ เจตคติ ของ คนในองค์กรเสียก่อน เช่น กำรปรับทัศนคติของคนในวัดไม่ แบ่งแยก ให้มองคนมีลักษณะฐำนะที่เท่ำเทียมกัน มีควำม รับผิดชอบร่วมกัน “...หำกจะทำกิจกรรมกำรมีส่วนร่วมกัน ควรมีกำรขวำ้ งหินถำมทำงเสียก่อน ดูว่ำคนจะเอำหรือไมเ่ อำ เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แล้วจึงมีกำรปรับตัวเข้ำร่วมกัน...” (ค้าให้สัมภาษณ์ของเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวรวิหาร) เน้น กำรมีส่วนร่วมของ “เครือข่ำยองค์กรในชุมชน” ท่ีเข้ำมำมี ส่วนร่วมในกำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในชุมชนโดยมีศำสนำและ ควำมเช่ือเปน็ ศูนย์รวมจิตใจได้แก่ มหำวทิ ยำลัยรำชภัฎธนบุรี ม ห ำ วิ ท ย ำ ลั ย ร ำ ช ภั ฎ บ้ ำ น ส ม เ ด็ จ เ จ้ ำ พ ร ะ ย ำ มหำวิทยำลัยธรรมศำสตร์ มหำวิทยำลัย มหำจุฬำลงกรณ์ รำชวิทยำลัย มหำวิทยำลัยมหิดล มำช่วยในเรื่องกำร ประชำสัมพันธ์ เช่น ทำงสื่อออนไลน์ เฟสบุ๊ค อีกทั้งรำยกำร แพรว รำยกำรเปิดตำนำนกับเผ่ำทอง ทองเจือ รำยกำร ติดกรุง ได้มีกำรประชำสัมพันธ์จัดทำรำยกำรผ่ำนทำง

Knowledge Management “ชมุ ชนยำ่ นกะดีจนี ” | 39 รำยกำรโทรทัศน์ ช่องทำงสื่อออนไลน์ Youtube รวมไปถงึ มี กำรสืบทอดรักษำโดยกำรให้ลูกหลำนเป็นผู้สำนต่อ เช่น เครือข่ำยเยำวชนในพื้นที่ ซึ่งเกิดจำกกำรซึมซับควำมเป็น มรดกทำงวัฒนธรรมของชุมชนย่ำนกะดีจีน รวมไปถึงกำรใช้ เสียงตำมสำยเพื่อให้คนในชุมชนได้รับรู้ รับทรำบถึงข้อมูล ข่ำวสำร กำรประชำสัมพันธ์ต่ำงๆ อย่ำงทั่วถึง และสิ่งสำคัญ ทขี่ ำดไม่ไดค้ ือ “ควำมรว่ มมือในกำรพัฒนำชุมชน 6 ชุมชน ย่ำนกะดจี ีน” ดว้ ยงำน “ศลิ ปใ์ นซอย” โดยไดร้ ับควำมรว่ มมือ จำก ซึ่งได้รับควำมร่วมมือจำก สถำปัตย์จุฬำหรืออำจำรย์ แดง วัด และคนในชุมชน ตำมหลัก “บ ว ร” “...เราท้าให้ ชุมชนน่าบ้านหน้ามอง ลดอาชญากรรม ยาเสพติด ที่น่ีเราก็ เริ่มระดมจากต้ารวจบปุ ผาราม ช่วยตรวจทตี่ ู้แดงบ่อยๆ ก็จะ ช่วยได้ ต่อมาเราจัดงานทอดผ้าป่า หรือขายสินค้าได้ คนแสดงมากกว่าคนดูอีก เลยคิดว่าจะจัดงานไรดี เพ่ือ แก้ปัญหาชุมชน จึงเกิดไอเดีย 6 ชุมชน เลยชวนศาสนาอ่ืน มาร่วมกัน เราอยู่ริมน้า มีท่าน้า เรามีวัฒนธรรม เลยใช้ สถานท่ีที่เป็นกลางเปิดตัว เปิดงาน ตีปีบ ท้าให้คนได้รู้จัก ชุมชน ต้องใช้สถานที่ท่ีเป็นกลาง ให้พระ โต๊ะอีหม่าม หลวง พ่อ มาเปดิ งานร่วมกนั นัง่ อยบู่ นเวทีดว้ ยกนั ส่อื มาท้าข่าวกัน

Knowledge Management “ชุมชนยำ่ นกะดจี ีน” | 40 ต่อมา 6 ชุมชนต้องท้าด้วยกัน เราแนะน้าให้เค้าไปเท่ียว โบสถ์ สุเหร่าเราใชเ้ ทคโนโลยีใหเ้ หมาะสม เราบูรณะเจดีย์นี ถ้าเราไม่ได้เพ่ือนต่างศาสนา เราไม่ได้รางวัลหรอก...” (ค้าให้สัมภาษณ์ของเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวรวิหาร) และ “...การพัฒนาชุมชนมีโครงการหน้าบ้านน่ามองโดยทาง ชุมชนจดั ซือกระถางต้นไม้มาวางให้หน้าบ้านต้องการให้ปลุก ต้นไม้พืชผักสวนครัวงบประมาณได้มาจากชุมชนและหลวง พ่อท่ีดูแลวัดซางตาครู้ส...” (ค้าให้สัมภาษณ์ของผู้น้าศาสนา คริสต์วัดซางตาครู้ส) รวมถึงกำรเช่ือมประสำนสัมพันธ์ด้วย “กิจกรรมเช่ือมร้อยกันระหว่ำงศำสนำ” โดยกิจกรรมน้ัน เป็นกิจกรรมที่ทุกศำสนำสำมำรถเข้ำร่วมทำกิจกรรมได้ เช่น ประเพณีลอยกระทง จึงเป็นกิจกรรมท่ีเชื่อมร้อยกันระหว่ำง ชุมชน “...วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร จะมีกิจกรรมตาม เทศกาล ตรุษจีน สงกรานต์ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา ออกพรรษา ลอยกระทง นีคือกิจกรรมที่วัด จัดท้า ส่วนกิจกรรมอ่ืนๆ วัดไม่ค่อยท้าเพราะว่าท่ีน่ีเน้นเร่ือง เรียนบาลี รวมไปถึงให้ญาติโยมมาเรียนด้วย เราเน้นเร่ือง การศึกษา เราไม่เน้นกิจกรรมอื่นอย่างท่ีวัดอื่นเขา...ท้า” ( ค้ า ใ ห้ สั ม ภ า ษ ณ์ ข อ ง ผู้ ช่ ว ย เ จ้ า อ า ว า ส วั ด กั ล ย า ณ มิ ต ร

Knowledge Management “ชุมชนย่ำนกะดีจีน” | 41 วรมหาวหิ าร) หนนุ เสรมิ “บทบำทสว่ นร่วมช่วยเหลือคนใน ชุมชน” เช่น กำรดูแลโดยรอบชุมชน กำรดูแลคนเปรำะบำง ในชุมชน หรือเมื่อเกิดภัยพิบัติหรือสถำนกำรณ์ที่คำดไม่ถึง เช่น สถำนกำรณ์โควิค-19 สถำนศำสนำต่ำงๆ ได้เข้ำมำมี ส่วนรว่ มในกำรช่วยเหลือคนในชมุ ชน “ช่วงโควิด-19 ทางวัด ก็ช่วยเหลือเร่ืองข้าวสารอาหารแห้ง เอาของมาแจก เพราะ วัดก็ได้รับแจกมาวัดก็กระจายออกไป ส่วนใหญ่ก็มีคนมา ท้าบุญกับวัดรวมทังหน่วยงานราชการด้วย เขาก็จะเหมาให้ ไว้ที่วัดเราเหลอื เราก็แจกให้ชาวบ้าน วัดก็ต้องเป็นศูนย์กลาง แล้วก็แจกออกไป” (ค้าให้สัมภาษณ์ของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัด กลั ยาณมิตรวรมหาวิหาร) “...การดูแลคนเปราะบางในชุมชน มีพิธีทิง กระจาด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเท่ียวหรือคนภายนอก ชุมชนมาไหว้ มีการท้าบุญ ซ่ึงหากเปน็ ของแห้ง เช่น ข้าวสาร 5 กิโลกรัม จะมีการน้าไปแจกจ่ายคนในชุมชนวัดกัลยาณ์ ซึ่งพิจารณาการให้ตามความเหมาะสม ส่วนที่เหลือจะมีการ น้าไปให้สถานที่ต่างๆ เพ่ือแจกจ่ายให้กับคนยากจน ผู้ป่วย ติดเตียงในชุมชน โดยน้าไปให้โรงเรียนในชุมชนวัดกัลยาณ์ ชุมชน ทุกชุมชนในย่านกะดีจีน ส้านักงานเขต โรงพัก

Knowledge Management “ชมุ ชนยำ่ นกะดจี ีน” | 42 เป็ น ผู้ พิจ า ร ณา ใ น กา ร แ จก จ่ า ย ตา ม ค วา ม เ หม า ะ สม . . . ” ( ค้ า ใ ห้ สั ม ภ า ษ ณ์ ข อ ง ผู้ ช่ ว ย เ จ้ า อ า ว า ส วั ด กั ล ย า ณ มิ ต ร วรมหาวิหาร) “...หลวงพไ่ี มเ่ คยรสู้ กึ รังเกยี จ เราไม่เคยรู้วา่ ท้าไม เขาไปอยู่ท่ีอ่ืน ไม่เคยมีความรู้สึกแบบนัน บางทีมีมาไหวเขา เป็นมุสลิม เราก็รู้สึกดีนะ เวลาที่เขาเข้ามากิจกรรม มาอะไร ต่างๆ บางทีนักศึกษาฝึกสอนก็มีมุสลิมมา ฝึกการอยู่ร่วมกัน มีข้าวสารต่างๆ อะไรต่างๆ ก็แจกให้ อย่างภาคใต้ท่ีอยู่กัน พุทธ มุสลิม เราอยู่กันมาตังนานไม่เห็นเป็นไรเลย...” (ค้าให้ สัมภาษณข์ องผู้ชว่ ยเจา้ อาวาสวัดกัลยาณมติ รวรมหาวหิ าร) “... การมีส่วนร่วมของคนในชุมชนมีการเข้าโบสถ์ โดยน้าเยาวชนเดก็ มเี วรเข้ามาชว่ ยงานช่วยสวดมนต์ภาวนามี กิจกรรมด้านศาสนาทังเดือนโดยมีคนในชุมชนมาช่วย การร่วมงานเสาร์-อาทิตย์ มีคนร่วมงานประมาณ 100 กว่า คน...” (ค้าให้สัมภาษณ์ของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร วรมหาวหิ าร) “…ชุมชนจะสนับสนุนอุปกรณ์เคร่ืองมือสนับสนุน การเรียนการสอนการสร้างอาชีพ...” (ค้าให้สัมภาษณ์ของ ผูน้ ้าศาสนาคริสตว์ ัดซางตาครสู้ )

Knowledge Management “ชมุ ชนยำ่ นกะดีจีน” | 43 “…การมีส่วนร่วมของคนในชุมชนมีการเข้าโบสถ์ โดยนา้ เยาวชนเดก็ มีเวรเข้ามาชว่ ยงานช่วยสวดมนต์ภาวนามี กิจกรรมด้านศาสนาทังเดือนโดยมีคนในชุมชนมาช่วย การร่วมงานเสาร์-อาทิตย์มีคนร่วมงานประมาณ 100 กว่า คน...” (คา้ ใหส้ มั ภาษณข์ องผ้นู า้ ศาสนาครสิ ตว์ ัดซางตาครสู้ ) “…การดูแลในชมุ ชนมีกลมุ่ สตรี กลุ่มพลมารี กลุ่ม เซนตากร กลุ่มพระเมตตา มีการด้าเนินงานโดยกลุ่มสตรีจะ ดูแลช่วยเหลือในเรื่องสิ่งของ กลุ่มพลมารีย์ จะไปเยี่ยมดูแล คนในชุมชนทุกอาทิตย์ไม่สามารถให้การช่วยเหลือเร่ืองเงิน ได้ และรายงานให้ทางวัดทราบโดยหลวงพ่อจะบอกว่าให้ ช่วยคนกลุ่มไหนได้บ้าง กลุ่มเซนต์ตากร จะไปพูดคุย เยี่ยม เยือน และให้การสนับสนุนทุนกลุ่มพระเมตตา เม่ือมีคน เสียชีวิตจะรับผิดชอบ ในเรื่องของการสวดมนต์ภาวนาแต่ ไม่ได้ให้เงิน...” (ค้าให้สัมภาษณ์ของผู้น้าศาสนาคริสต์ วดั ซางตาครู้ส) “…การดูแลผู้สูงอายุส้าหรับผู้สูงอายุที่ไม่มีผู้ดูแล มีการส่งต่อให้เครือคาทอลิก โดยมีหลวงพ่อและแม่ชีดูแล หรือ ส่งต่อให้บ้านบางแคทางชุมชนมีการไปเย่ียมเยือน แต่ละศนู ยค์ นในชุมชนสนับสนุนช่วยเหลือในเร่อื งของสงิ่ ของ

Knowledge Management “ชุมชนย่ำนกะดีจนี ” | 44 และเงิน รวมถึงคนเปราะบางในชุมชนมีไม่เยอะกลุ่มพลมารี ดูแลผู้สูงอายุติดเตียง มีอาสาสมัครดูแล จ้านวนอาสาสมัคร น้อยกว่า 50 คนต่อชุมชน...” (ค้าให้สัมภาษณ์ของผู้น้า ศาสนาคริสตว์ ดั ซางตาครูส้ ) เนน้ ยำ้ ซำ้ ๆ ด้วย “กำรอบรมให้ควำมรู้ และแลกเปล่ียนเรียนรู้ในชุมชน” โดยมีศำสนำและควำมเช่ือเป็นศูนย์รวมจิตใจ โดยศำสนำ ต่ำงๆ ได้มีกำรถ่ำยทอดศำสนำ ควำมเชื่อ และวัฒนธรรม ต่ำงๆ จำกรุ่นต่อรุ่น โดยไม่กีดกันควำมเชื่อ ควำมศรัทธำ ของแต่ละศำสนำ “...ทางศาลเจ้าเกียงอันเกงได้มีการ ถ่ายทอดวัฒนธรรมประเพณี ให้กับผู้ท่ีสนใจ เช่น โรงเรียนมี การน้าประวัติให้เด็กอ่าน แล้วมีการตังค้าถามเพื่อน้ามาถาม ว่าเข้าใจถูกต้องหรือไม่ โดยบุคคลท่ีถ่ายทอดความรู้ควรเป็น คนท่ีมีความพร้อมในเรื่องความรู้ และมีจิตวิญญาณในเรื่อง ของวัฒนธรรมอย่างแท้จริง...” (ค้าให้สัมภาษณ์ของผู้ดูแล ศาลเจ้าเกียงอันเกง หรือศาลเจ้าแม่กวนอิม) สอดแทรก “สนำมกำรค้ำเป็นกลยุทธ์” แลกเปล่ียนวัฒนธรรมโดย กำรค้ำขำยส่ิงของท่ีมีควำมแตกต่ำงทำงด้ำนควำมเช่ือทำง ศำสนำ เป็นกลยุทธ์อย่ำงหน่ึงท่ีจะสมำนฉันท์ได้ เพรำะว่ำกำรคำ้ คอื เศรษฐกิจเศรษฐกิจคือกำรดำรงชีวติ อยู่ มี

Knowledge Management “ชมุ ชนยำ่ นกะดีจีน” | 45 เงินมีทองใช้ ถ้ำไม่มีกิจกรรมอะไรต่ำงๆ ที่ซื้อขำย หรืออะไร กัน มันจะขำดควำมสัมพันธ์ต่อกันจึงเปรียบเสมือน “สนาม รบเป็นสนามการค้า” จึงทำให้เกิดกำรติดต่อสื่อสำรสัมพันธ์ กัน เป็นท่ีท่องเท่ียวท่ีน่ำสนใจ นำควำมเจริญมำสู่ชีวิต เป็น Unseen คิดเป็นกำรคำ้ กำรทอ่ งเท่ยี ว 4. ด้ำนภำคี / กิจกรรม ภำคีร่วมจัดกิจกรรมของ มหำวิทยำลัยและโรงเรียน นำกำรใช้ภูมิปัญญำชุมชน สร้ำง อำชีพ รำยได้ โครงกำรต่ำงๆ เช่น โครงกำรเยำวชน เจ้ำบ้ำนสืบสำนวัฒนธรรม, โครงกำรมอบทุนกำรศึกษำแก่ เด็กและเยำวชน โครงกำรอบรมเด็กและเยำวชนภำคฤดูร้อน โครงกำรศิลป์ในซอย โครงกำรประกวดอำหำร 3 ศำสน์ โครงกำรงดสูบบุหรี่ในศำสนสถำน โครงกำรอนุรักษ์ภูมิ ปัญญำท้องถิ่น โครงกำรอนุรักษ์ศำสนสถำน ส่วน สถำบันกำรศึกษำในเขตธนบุรี ทเี่ ข้ำมำจดั กิจกรรม/โครงกำร ในชุมชนกะดีจีน ได้แก่ โรงเรียนซำงตำครู้สศึกษำ โรงเรียน วัดประยุรวงศำวำส โรงเรียนวัดกัลยำณมิตร มหำวิทยำลัย รำชภัฎธนบุรี มหำวิทยำลัยรำชภัฏบ้ำนสมเด็จเจ้ำพระยำ และ สถำบันกำรศึกษำนอกเขตธนบุรี ได้แก่ จุฬำลงกรณ์ มหำวิทยำลัย และโครงกำรท่ีกล่ำวถึงช่วยให้บรรลุเป้ำหมำย

Knowledge Management “ชมุ ชนย่ำนกะดจี ีน” | 46 กำรพัฒนำท่ียั่งยืน ดังต่อไปน้ี 1) กำรสร้ำงควำมสมัครสมำน สำมัคคีให้เกิดขึ้นใน ย่ำนกะดีจีน 2) กำรพัฒนำอำชีพและ สร้ำงรำยได้ให้กับชุมชนในย่ำนกะดีจีนด้วยกำรท่องเที่ยว เชิงวัฒนธรรม 3) กำรพัฒนำย่ำนกะดีจีน ให้มีควำมสะอำด ร่มรื่นน่ำอยู่อำศัย 4) กำรส่งเสริมโครงกำรเด็กและเยำวชน เจ้ำบ้ำนสืบสำนวัฒนธรรม และกำรให้ทุนกำรศึกษำ ส่วน สำคัญท่ีเป็นหัวใจของควำมสำเร็จในกำรพัฒนำย่ำนกะดีจีน มำจำกกำรเป็นหุ้นส่วนสำมประสำน คือ “บวร” (บ้ำน-วัด- โรงเรียน) โดยเฉพำะอย่ำงยิ่ง ควำมร่วมมือระหว่ำงวัดพุทธ โบสถ์คริสต์ และมสั ยดิ ถือว่ำเป็นองค์ประกอบทโ่ี ดดเด่นเป็น พิเศษและเป็นกรณีตัวอย่ำง ของควำมสำเร็จที่เกิดจำก พบปะสนทนำแลกเปลยี่ น ของผ้นู ำศำสนำในระดับทอ้ งถ่นิ จดุ เดน่ ควำมสำเร็จ.....ยำ่ นกะดีจนี สมำชิกชุมชนย่ำนกะดีจีนต่ำงหล่อหลอมกำรสืบ ทอดแนวคิด ควำมเชื่อทำงศำสนำสู่กำรประยุกต์ใช้วิถีชีวิต ชุมชน ด้วยกำรอำศัยอยู่ร่วมกัน “แบบเครือญำติ” มีควำมรักสำมัคคี เป็นมิตรและมีสัมพันธภำพฉันท์พ่ีน้อง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook