Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือพัฒนาคุณภาพการศึกษา

คู่มือพัฒนาคุณภาพการศึกษา

Published by วินัย ปานโท้, 2021-01-25 08:38:58

Description: คู่มือพัฒนาคุณภาพการศึกษา

Search

Read the Text Version

คำนำ คู่มือพัฒนาคุณภาพการศึกษา “PLK3 วิถีใหม่ วิถีคุณภาพ” ของสานักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 เลม่ นี้ จัดทาขึน้ เพ่ือเป็นแนวทางสาหรับโรงเรียนในสังกัดใน การจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ รูปแบบการบริหารจัดการศึกษา และจุดเน้นของสานกั งานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 เพื่อยกระดับคุณภาพของ สถานศึกษาในสังกัด ตลอดจนเปน็ แนวทางสาหรับศึกษานิเทศก์ ครู และผู้บรหิ ารโรงเรียน และผู้ที่มี ส่วนเก่ียวข้องในการนิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลจดั การศกึ ษา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อศึกษานิเทศก์ ครู ผู้บริหารโรงเรียน และผทู้ ีม่ สี ว่ นเกยี่ วขอ้ งกบั การจัดการศกึ ษา และผทู้ ่ีสนใจทกุ ท่าน สานักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาพษิ ณุโลก เขต 3

สำรบัญ หนำ้ ส่วนที่ 1 ข้อมูลพนื้ ฐำน............................................................................................. 1 ส่วนท่ี 2 ผลกำรทดสอบและกำรประเมนิ ทำงกำรเรยี นของผเู้ รียน............................ 6 6 ผลการทดสอบ O-NET ปกี ารศึกษา 2562....................................................... 9 ผลการประเมนิ คุณภาพผเู้ รยี น (NT) ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3ปีการศึกษา 2562 11 ผลการประเมนิ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขยี น ปีการศกึ ษา 2562.................. 13 ส่วนที่ 3 นโยบำยและทศิ ทำงกำรจดั กำรศึกษำ..……………………………………………….. 13 วสิ ยั ทัศน์ประเทศไทย ปี 2558-2563 “มน่ั คง มงั่ ค่ัง ย่งั ยนื ”........................... 14 ทศิ ทางการพัฒนาการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน............................................................ 16 นโยบายของคณะรฐั มนตรี................................................................................ 22 นโยบายเร่งด่วน 12 เรื่อง................................................................................. ประกาศกระทรวงศกึ ษาธกิ าร เรื่อง นโยบายและจดุ เนน้ กระทรวงศึกษาธิการ 24 ปีงบประมาณ พ.ศ.2564 และฉบับเพม่ิ เติม...................................................... 30 นโยบายสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน.................................... 32 นโยบายและทศิ ทางการจดั การศกึ ษา สพป.พิษณุโลก เขต 3........................... 38 สว่ นที่ 4 กำรนิเทศ ตดิ ตำมและประเมนิ ผลกำรศกึ ษำ 39 จดุ เนน้ ท่ี 1 นักเรียนระดับปฐมวัยมีทักษะการคดิ เบ้ืองตน้ ………………………….. 41 43 จุดเน้นท่ี 2 นกั เรยี นมที ักษะการอ่าน การเขียน การคดิ คานวณ....................... 46 จุดเน้นที่ 3 นักเรียนมีความสามารถในการสอ่ื สารภาษาไทยและภาษาองั กฤษ 48 จดุ เน้นที่ 4 นักเรยี นมีความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิตและทกั ษะอาชพี 50 ท่ีเหมาะสมตามชว่ งวยั …………………………………………………………………………… 51 จดุ เน้นท่ี 5 นักเรยี นมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีทเ่ี หมาะสมตาม 54 55 ช่วงวยั ............................................................................................................... 56 จดุ เนน้ ท่ี 6 นกั เรียนมคี วามสามารถในการคดิ และการแก้ปญั หา…………………. จดุ เนน้ ที่ 7 นกั เรยี นมคี ณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคต์ ามคุณธรรมอัตลักษณข์ อง โรงเรยี น............................................................................................................ จุดเนน้ ที่ 8 ผู้บริหารจดั ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ การบรหิ ารและการ จัดการเรยี นร.ู้ .................................................................................................... จดุ เนน้ ที่ 9 โรงเรยี นน่าอยู่และปลอดภยั ……………………………………………………… จดุ เนน้ ท่ี 10 ครูผูส้ อนจดั การเรียนร้เู ชงิ รุก (Active Learning) ท่สี อดคล้อง กับทักษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี 21……………………………………………………….

สำรบญั (ต่อ) จุดเน้นท่ี 11 ครูผู้สอนมกี ารแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ และใหข้ อ้ มลู สะทอ้ นกลับเพ่ือ หน้ำ พัฒนาและปรบั ปรุงการจดั การเรียนร…ู้ ……………………………………………………….. 58 จดุ เนน้ ท่ี 12 ห้องเรยี นเชงิ บวก……………………………………………………………………. คณะผู้จดั ทำ............................................................................................................................ 60 61

ส่วนที่ 1 ข้อมูลพ้นื ฐาน สภาพและบรบิ ทของสานกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาพิษณโุ ลก เขต 3 สานกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษาพษิ ณโุ ลก เขต 3 ตง้ั อยหู่ มู่ 4 ตาบลวดั โบสถ์ อาเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพษิ ณุโลก มีพน้ื ทีบ่ รกิ ารการศกึ ษาท้ังหมด 5,837 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย อาเภอนครไทย อาเภอชาตติ ระการ อาเภอวัดโบสถ์ และอาเภอพรหมพริ ามพนื้ ที่ตอนเหนือเป็นป่าเขา และท่ลี าดชนั เชิงเขา ประมาณร้อยละ 70 ของพน้ื ทท่ี ัง้ หมด ซึ่งมคี วามหา่ งไกลและทุรกนั ดาร สาหรบั พน้ื ที่ตอนลา่ ง เปน็ ทีร่ าบลมุ่ แม่นา้ ประมาณร้อยละ 30 ของพื้นท่ีท้งั หมด ในฤดูฝนการคมนาคมไม่สะดวก ถนนบางสายจะถกู ตัดขาดเนือ่ งจากน้าท่วม โดยมีอาณาเขตติดต่อ ดงั น้ี ทศิ เหนือ ตดิ ต่อกับ อาเภอพชิ ัย อาเภอทองแสนขนั จงั หวัดอตุ รดิตถ์ และ สาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว ทศิ ใต้ ตดิ ตอ่ กับ อาเภอเมอื ง และอาเภอวงั ทอง จังหวดั พษิ ณุโลก ทศิ ตะวันออก ติดตอ่ กบั อาเภอนาแห้ว อาเภอดา่ นซ้าย จงั หวัดเลย อาเภอหลม่ เก่า และอาเภอเขาค้อ จงั หวัดเพชรบูรณ์ ทศิ ตะวันตก ติดตอ่ กับ อาเภอบางระกา จังหวดั พิษณุโลก และ อาเภอกงไกรลาศ จงั หวัดสโุ ขทัย แผนภูมิ 1 โครงสรา้ งการบรหิ ารงาน สานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษา ประถมศกึ ษาพิษณโุ ลก เขต 3 ผูอ้ านวยการสานกั งานเขต คณะกรรมการติดตาม พ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษา ตรวจสอบประเมนิ ผลและ นเิ ทศการศกึ ษา (ก.ต.ป.น.) พิษณโุ ลก เขต 3 คณะกรรมการสถานศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน สถานศกึ ษา ณถาะ 1 คมู่ ือพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา “PLK3 วิถีใหม่ วถิ ีคณุ ภาพ”

แผนภมู ิ 2 หนว่ ยงานในสานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาพษิ ณุโลก เขต 3 สานกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษา ประถมศกึ ษาพิษณุโลก เขต 3 หน่วยตรวจสอบภายใน คณะกรรมการติดตาม กลมุ่ นติ ิกรและคดี ตรวจสอบประเมนิ ผลและ นเิ ทศการศกึ ษา (ก.ต.ป.น.) กลุ่มอานวยการ กลมุ่ นโยบายและแผน กลุม่ ส่งเสรมิ การศึกษาทางไกล กลุ่มบรหิ ารงาน เทคโนโารสนเทศและการสอ่ื สาร การเงนิ และสินทรพั ย์ กลุ่มบรหิ ารงาน กล่มุ พฒั นาครแู ละ กล่มุ นเิ ทศ ตดิ ตาม และ กลมุ่ สง่ เสรมิ บคุ คล บุคลากรทางการศกึ ษา ประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษา การจดั การศึกษา ณถาะ 2 คู่มอื พัฒนาคุณภาพการศกึ ษา “PLK3 วถิ ีใหม่ วถิ ีคุณภาพ”

ตาราง 1 ข้อมลู พื้นฐานของสานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาพษิ ณโุ ลก เขต 3 รายการ จานวน/หนว่ ย 10 กลมุ่ งาน 1. กลุ่มงานภายในสานกั งานเขตพืน้ ทฯี่ 163 โรงเรยี น 1,570 หอ้ งเรยี น 2. สถานศกึ ษาทั้งหมด 20,690 คน * สถานศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน 163 โรงเรียน 1,650 คน 1,579 คน 3. ห้องเรยี น * สถานศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน 1,570 หอ้ งเรียน 4. นกั เรียน 20,690 คน * โรงเรยี นปกติ 3,875 คน - กอ่ นประถมศึกษา 13,025 คน - ประถมศึกษา 3,679 คน - มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ 130 คน - มธั ยมศึกษาตอนปลาย 5. นักเรียนพิการเรยี นร่วมกบั เดก็ ปกติ 6. ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา สพป.พิษณโุ ลก เขต 3 72 คน - บุคลากรทางการศึกษา 38 ข(4) 1 คน (ผอ.สพป.) - บุคลากรทางการศึกษา 38 ข(3) 3 คน (รอง ผอ.สพป.) - บุคลากรทางการศกึ ษา 38 ค(1) 17 คน (ศน.) - บุคลากรทางการศึกษา 38 ค(2) 38 คน (ขรก.) - พนกั งานราชการ(นกั จิตวิทยา) 1 คน - ลกู จ้างประจา 3 คน - อัตราจ้าง 9 คน  ผ้บู รหิ ารโรงเรียน 140 คน  ครูผูส้ อน 1,367 คน ท่มี า : ขอ้ มูล 20 กรกฎาคม 2563 (10 มถิ นุ ายน เดิม) ณถาะ 3 คู่มอื พฒั นาคุณภาพการศึกษา “PLK3 วถิ ีใหม่ วถิ ีคุณภาพ”

ตาราง 2 ข้อมลู จานวนนักเรียนจาแนกตามขนาดรายอาเภอ จานวนนกั เรยี น อ.ชาติตระการ จานวนโรงเรียน อ.วดั โบสถ์ รวม 1 อ.นครไทย อ.พรหมพริ าม 0 7 0 - 20 2 3 13 21 - 40 3 15 4 28 41 - 60 6 53 6 27 61 - 80 1 16 5 3 11 81 - 100 1 69 2 10 101 - 120 7 25 6 43 121 - 200 5 34 1 17 201 - 300 3 15 14 0 5 301 - 500 0 65 1 2 501 - 1,500 29 21 26 163 รวม 10 57 51 ตาราง 3 ข้อมูลจานวนโรงเรียนจาแนกประเภท อาเภอ ขนาดเลก็ โรงเรยี น คณุ ภาพประจาตาบล 33 ขยายโอกาส ขยายโอกาสขนาดเลก็ นครไทย 14 11 ชาตติ ระการ 31 20 1 6 พรหมพิราม 18 15 1 12 วดั โบสถ์ 96 24 9 6 12 4 35 รวม 71 15 ณถาะ 4 คมู่ อื พัฒนาคุณภาพการศึกษา “PLK3 วถิ ใี หม่ วิถีคุณภาพ”

ตาราง 4 ข้อมลู จานวนนักเรียน และหอ้ งเรยี น แยกระดบั ช้ัน ระดบั ชั้น ชาย โรงเรียนในสังกดั ห้อง หญิง รวม ก่อนประถมศกึ ษา 80 20 อนบุ าล 1 961 93 173 162 อนบุ าล 2 964 854 1,815 163 อนบุ าล 3 2,005 921 1,885 346 1,868 3,873 รวมระดบั กอ่ นประถมศกึ ษา 1,123 168 ประถมศึกษา 1,184 987 2,110 169 1,185 1,055 2,239 168 ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 1,077 1,087 2,272 167 ประถมศกึ ษาปีที่ 2 1,128 979 2,056 164 ประถมศึกษาปที ่ี 3 1,162 993 2,121 165 ประถมศึกษาปีท่ี 4 6,859 1,065 2,227 1,001 ประถมศึกษาปที ่ี 5 6,166 13,025 ประถมศึกษาปที ี่ 6 676 72 รวมระดับประถมศึกษา 669 529 1,205 73 มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ 731 572 1,241 73 มัธยมศึกษาปีที่ 1 2,076 502 1,233 218 มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 1,603 3,679 มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 8 2 รวมระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น 20 29 37 2 มัธยมศึกษาตอนปลาย 16 25 45 2 มธั ยมศึกษาปีที่ 4 44 15 31 6 มธั ยมศึกษาปีที่ 5 10,984 69 113 1,570 มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 9,706 20,690 รวมระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย รวมท้งั ส้นิ ทมี่ า : ขอ้ มูล 20 กรกฎาคม 2563 (10 มิถนุ ายน เดิม) ณถาะ 5 คมู่ ือพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา “PLK3 วถิ ีใหม่ วถิ ีคุณภาพ”

ส่วนที่ 2 ผลการทดสอบและการประเมินทางการเรียนของผ้เู รยี น 1. ผลการวิเคราะห์คะแนนทดสอบ O-NET ปกี ารศึกษา 2562 ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6 1. สานกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาพษิ ณโุ ลก เขต 3 มโี รงเรยี นที่จดั การเรยี น การสอนระดับชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6 จานวน 163 โรงเรยี น พบว่า จากผลการทดสอบ O-NET ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6 ปกี ารศกึ ษา 2562 มีโรงเรียนท่ีมคี า่ เฉล่ียสงู กว่าค่าเฉล่ียระดับประเทศ ในรายวชิ า ภาษไทย จานวน 59 โรงเรียน วชิ าภาษาอังกฤษ จานวน 46 โรงเรยี น วิชาคณิตศาสตร์ จานวน 37 โรงเรียน วชิ าวิทยาศาสตร์ จานวน 19 โรงเรยี น และมีโรงเรยี นท่มี คี า่ เฉลย่ี สูงกวา่ ระดบั ประเทศทั้ง 4 วิชา จานวน 10 โรงเรยี น 1.1 เปรยี บเทยี บคา่ เฉล่ยี คะแนน O-NET ระดับสานกั งานคณะกรรมการ การศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พบว่า คา่ เฉลย่ี ผลคะแนน O-NET รวม 4 วชิ า ของเขตพื้นท่ี มคี า่ เฉล่ยี ต่ากว่า คา่ เฉล่ยี ระดับสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน คิดเปน็ ร้อยละ 1.43 1.2 เปรียบเทยี บค่าเฉลย่ี คะแนน O-NET ระดับประเทศ พบว่า ค่าเฉลีย่ ผลการสอบ O-NET รวม 4 วชิ า ของเขตพน้ื ที่มคี ่าเฉล่ยี ตา่ กว่าค่าเฉลยี่ ระดับประเทศ เป็นรอ้ ยละ 3.24 50 45 40 35 O-NET 30 25 O-NET 20 15 10 O-NET 5 0 ณถาะ 6 คมู่ ือพัฒนาคุณภาพการศกึ ษา “PLK3 วถิ ใี หม่ วิถีคณุ ภาพ”

2. เปรยี บเทยี บพฒั นาการคะแนน O-NET ย้อนหลัง 5 ปกี ารศึกษา รายวชิ า ดังภาพ ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 1. สานักงานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศึกษาพษิ ณุโลก เขต 3 มโี รงเรียนท่ีจัดการเรยี น การสอนถึงระดับมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 (โรงเรยี นขยายโอกาส) ท้งั หมด จานวน 71 โรงเรียน จากผลการ ทดสอบ O-NET ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ปกี ารศกึ ษา 2562 พบวา่ มโี รงเรียนท่มี คี ่าเฉล่ยี สงู กวา่ คา่ เฉลี่ย ระดบั ประเทศ ในรายวชิ าภาษาไทย จานวน 28 โรงเรยี น วชิ าภาษาองั กฤษ จานวน 4 โรงเรียน วชิ าคณิตศาสตร์ จานวน 10 โรงเรียน วชิ าวทิ ยาศาสตร์ จานวน 17 โรงเรยี น และมีโรงเรยี นทมี่ คี า่ เฉล่ยี สงู กว่าระดบั ประเทศทงั้ 4 วชิ า จานวน 1 โรงเรียน 1.1 เปรยี บเทียบคา่ เฉลี่ยคะแนน O-NET ระดบั สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษา ขนั้ พ้นื ฐาน พบว่า คา่ เฉลยี่ ผลคะแนน O-NET รวม 4 วิชา ของเขตพ้ืนที่ มีค่าเฉลีย่ ต่ากว่าค่าเฉล่ยี ระดบั สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 3.36 1.2 เปรยี บเทยี บค่าเฉล่ยี คะแนน O-NET ระดบั ประเทศ พบว่า ค่าเฉล่ียผลการสอบ O-NET รวม 4 วชิ า ของเขตพื้นท่มี ีคา่ เฉล่ีย ต่ากว่าคา่ เฉลยี่ ระดบั ประเทศ เป็นรอ้ ยละ 3.14 2. เปรยี บเทยี บพัฒนาการคะแนน O-NET ย้อนหลงั 5 ปีการศึกษา รายวชิ า ดังภาพ ณถาะ 7 ค่มู อื พัฒนาคุณภาพการศึกษา “PLK3 วิถใี หม่ วถิ ีคุณภาพ”

ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 6 1. สานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาพิษณโุ ลก เขต 3 มีโรงเรียนทีจ่ ัดการเรียน การสอนถงึ ระดับมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 จานวน 2 โรงเรียน จากการเปรียบเทียบปกี ารศกึ ษา 2562 กับ ปีการศกึ ษา 2561 พบว่า คา่ เฉลี่ยรวม 5 วชิ า มคี วามเฉลีย่ คิดเป็นร้อยละ 0.8 เมือ่ จาแนกเปน็ รายวชิ า พบว่า รายวชิ าทีม่ ีคา่ เฉล่ยี สูงข้ึนมากที่สดุ คอื วิชาสงั คมศึกษา(2.39) และวชิ าภาษาอังกฤษ(1.01) สว่ น รายวิชาทม่ี คี ่าเฉล่ียลดลง คอื วิชาคณิตศาสตร(์ -3.32) รองลงมาได้แก่ วิชาวิทยาศาสตร(์ -1.89) และวิชา ภาษาไทย(-1.17) 1.1 เปรยี บเทยี บค่าเฉล่ียคะแนน O-NET ระดบั สานักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพ้นื ฐาน พบว่า ค่าเฉลยี่ ผลคะแนน O-NET รวม 5 วชิ า ของเขตพืน้ ท่ี มีค่าเฉลีย่ ตา่ กวา่ ค่าเฉลีย่ ระดับ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน คิดเปน็ รอ้ ยละ 5.70 ณถาะ 8 คูม่ อื พัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา “PLK3 วิถใี หม่ วิถีคุณภาพ”

1.2 เปรยี บเทียบค่าเฉลีย่ คะแนน O-NET ระดับประเทศ พบว่า คา่ เฉลี่ยค่าเฉลี่ยผล การสอบ O-NET รวม 5 วิชา ของเขตพ้ืนทม่ี คี ่าเฉลย่ี ต่ากวา่ ค่าเฉล่ียระดับประเทศ เปน็ ร้อยละ 5.41 2. เปรยี บเทียบพฒั นาการคะแนน O-NET ยอ้ นหลัง 5 ปกี ารศึกษา รายวิชา ดงั ภาพ 45 40 35 30 25 20 15 10 5 0 2. ผลการประเมินคณุ ภาพผู้เรียน (NT) ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 ปีการศึกษา 2562 นกั เรยี นชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 ปีการศกึ ษา 2562 เป็นนกั เรยี นในสงั กดั สานักงานเขตพ้ืนท่ี การศึกษาประถมศกึ ษาพิษณโุ ลก เขต 3 จานวน 163 โรง นักเรยี นทเี่ ข้าสอบ 2,089 คน (ปกต=ิ 1,742คน, พิเศษ=340 คน, walk in = 7 คน) ณถาะ 9 ค่มู ือพัฒนาคุณภาพการศึกษา “PLK3 วถิ ีใหม่ วิถีคณุ ภาพ”

1. ผลการประเมินคณุ ภาพผูเ้ รียน (NT) ปกี ารศึกษา 2562 1) คะแนนเฉลยี่ ผลการประเมิน NT ของนักเรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 ปกี ารศึกษา 2562 ของเขตพืน้ ท่กี บั คะแนนเฉล่ยี ระดบั สพฐ.และคะแนนเฉลยี่ ระดบั ประเทศ พบว่า คะแนนเฉล่ยี รวมความสามารถทง้ั 2 ด้านของเขตพื้นที่ต่ากว่าคะแนนเฉลย่ี ของ สพฐ. คิดเป็นรอ้ ยละ 1.51 และตา่ กว่าคะแนนเฉล่ียของประเทศ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 1.39 ดังภาพ 2) ระดับคณุ ภาพ ผลการประเมนิ คณุ ภาพผู้เรยี น (NT) ปกี ารศึกษา 2562 สงั กัด สานกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาพษิ ณุโลก เขต 3 จานวน 163 โรง พบวา่ สว่ นใหญโ่ รงเรียนมีผลการประเมนิ รวมทกุ ดา้ นอยใู่ นระดับพอใช้ และมีนกั เรยี น ที่อยใู่ นระดับปรบั ปรงุ ด้านคณิตศาสตร์ จานวน 10 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 6.13 ดา้ นภาษาไทย จานวน 16 คน คดิ เป็น ร้อยละ 9.81 และคะแนนรวมทั้ง 2 ด้าน จานวน 12 คน คิดเปน็ ร้อยละ 7.36 ณถาะ 10 คู่มือพัฒนาคุณภาพการศึกษา “PLK3 วิถใี หม่ วิถีคุณภาพ”

3. ผลการประเมนิ การอา่ น คิดวเิ คราะห์และเขยี น ปีการศกึ ษา 2562 ผลการประเมินการอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขียน ปกี ารศึกษา 2562 ของนักเรยี นทจี่ บแตล่ ะช้ัน ทง้ั หมด จานวน 16,447 คน มผี ลการประเมินการอ่าน คิด วเิ คราะห์และเขยี น จาแนกตามระดับคุณภาพ ดงั นี้ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ จานวน 550 คน ระดบั ดี จานวน 7,080 คน ระดบั ดีเยยี่ ม จานวน 9,367 คน และคิดเปน็ รอ้ ยละท่มี ีผลการอา่ น คิด วิเคราะห์และเขียนระดบั ดีข้นึ ไป คิดเป็นร้อยละ 97.72 ดงั ภาพ ระดับประถมศึกษา นักเรียนทม่ี ผี ลการประเมินการอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขียน ระดบั ประถมศึกษา พบว่า นกั เรียน ท่จี บระดับประถมศึกษา มีผลการประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขียนระดับดขี ้นึ ไปคดิ เปน็ ร้อยละ 96.01 ณถาะ 11 คู่มอื พฒั นาคณุ ภาพการศึกษา “PLK3 วิถใี หม่ วถิ ีคุณภาพ”

ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น นักเรียนทม่ี ผี ลการประเมินการอา่ น คิดวิเคราะห์และเขยี น ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น พบวา่ นักเรียนที่จบระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น มีผลการประเมนิ การอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขียนระดบั ดขี ึ้นไป คดิ เปน็ ร้อยละ 100 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย นักเรยี นท่มี ีผลการประเมนิ การอา่ น คิดวเิ คราะห์และเขียน ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย พบวา่ นกั เรยี นที่จบระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย มีผลการประเมินการอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขยี นระดบั ดขี ึ้นไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ 98.85 ดงั ภาพ ทีม่ าของข้อมลู : ในระบบ E-mes ปงี บประมาณ 2563 12 ณถาะ คู่มอื พฒั นาคุณภาพการศึกษา “PLK3 วิถีใหม่ วถิ ีคุณภาพ”

สว่ นท่ี 3 นโยบายและทิศทางการจดั การศึกษา 1. วิสัยทศั นป์ ระเทศไทย ปี 2558 – 2563 “มั่นคง มง่ั คั่ง ยั่งยนื ” ประเทศไทยไดป้ ระกาศ วสิ ัยทศั น์ เพ่ือกาหนดทิศทางการพฒั นาประเทศของรัฐบาล โดยมีช่อื วา่ “มั่นคง มง่ั ค่งั ยง่ั ยนื ” เพื่อพัฒนาทง้ั ดา้ นเสถียรภาพ ความสงบสขุ เศรษฐกิจท่เี ขม้ แข็ง ด้านการใช้จ่าย จดั หางบประมาณ เพอ่ื พัฒนาประเทศไทยใหม้ ากขึน้ แกป้ ญั หาดา้ นสาธารณปู โภค การดแู ลสุขภาพ และ การศกึ ษา วสิ ยั ทศั น์ “มน่ั คง ม่ังคั่ง ยงั่ ยนื ” นาไปสูก่ ารพฒั นาให้คนไทยมีความสุข ภายใต้ “ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง” และสนองตอบผลประโยชน์แหง่ ชาติ อันไดแ้ ก่ การมเี อกราช อธิปไตย และบูรณภาพ แห่งเขต อานาจรัฐ การดารงอยูอ่ ยา่ งมั่นคง ย่งั ยนื ของสถาบันหลักของชาติ การดารงอยอู่ ย่างมัน่ คงของ ชาติและประชาชนจากภยั คุกคามทุกรปู แบบ การอยู่รว่ มกันในชาตอิ ย่างสนั ตสิ ขุ เป็นปึกแผน่ มคี วาม ม่ันคงทางสงั คม ทา่ มกลางพหสุ ังคมและการมเี กยี รติและศักดิศ์ รีของความเป็นมนษุ ย์ ความเจริญเติบโต ของชาติ ความเป็นธรรมและความอยู่ดีมสี ุขของประชาชน ความยง่ั ยืนของฐานทรพั ยากรธรรมชาติ สงิ่ แวดลอ้ ม ความม่นั คงทางพลังงาน อาหาร ความสามารถในการรักษาผลประโยชนข์ องชาติภายใตก้ าร เปล่ยี นแปลงของสภาวะแวดล้อมระหวา่ งประเทศ และการอยรู่ ่วมกันอยา่ งสนั ติ ประสานสอดคลอ้ งกนั ดา้ นความม่นั คงในประชาคมอาเซียน และประชาคมโลกอยา่ งมีเกียรตแิ ละศกั ด์ิศรี ความมน่ั คง หมายถงึ การมคี วามม่นั คงปลอดภัยจากภยั และการเปล่ียนแปลงท้ังภายในประเทศ และภายนอกประเทศในทกุ ระดบั ท้งั ระดับประเทศ สงั คม ชมุ ชน ครัวเรอื น และปัจเจกบุคคล และมีความ มน่ั คงในทุกมิติ ท้ังมิติเศรษฐกิจ สงั คม สงิ่ แวดลอ้ ม และการเมือง เช่น ประเทศมคี วามม่ันคงในเอกราช และอธิปไตย มีสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ท์ เ่ี ข้มแข็งเป็นศนู ย์กลางและเป็นทย่ี ึดเหนย่ี วจติ ใจของ ประชาชน มีระบบการเมืองทม่ี น่ั คงเปน็ กลไกทีน่ าไปสู่การบริหารประเทศท่ีต่อเนือ่ ง และโปรง่ ใสตามหลกั ธรรมาภิบาล สังคมมคี วามปรองดองและความสามคั คี สามารถผนกึ กาลังเพือ่ พฒั นาประเทศ ชมุ ชนมี ความเข้มแขง็ ครอบครวั มคี วามอบอุน่ มคี วามมัน่ คงของอาหารและพลงั งาน ประชาชนมีความมั่นคงใน ชวี ติ มงี านและรายได้ทมี่ ั่นคงพอเพยี งกบั การดารงชวี ิต มีที่อย่อู าศัยและความปลอดภยั ในชวี ิตทรัพย์สิน มกี ารออมสาหรบั วัยเกษยี ณ ความม่ังค่งั หมายถึง ประเทศไทยมีการขยายตัวของเศรษฐกิจอยา่ งต่อเนอื่ งจนเขา้ สกู่ ล่มุ ประเทศรายไดส้ งู ความเหล่ือมลา้ ของการพฒั นาลดลง ประชากรไดร้ ับผลประโยชน์จากการพัฒนาอยา่ ง เท่าเทยี มกันมากขนึ้ ไมม่ ปี ระชาชนท่ีอยู่ใตเ้ ส้นความยากจน เศรษฐกิจมคี วามสามารถในการแข่งขันสงู สามารถสรา้ งรายได้ทั้งจากภายในประเทศและภายนอกประเทศ และเปน็ จุดสาคญั ของการเชือ่ มโยงใน ภมู ภิ าคทัง้ การคมนาคมขนสง่ การผลิต การคา้ การลงทุน และการทาธรุ กจิ นอกจากนน้ั ยังมีความสมบูรณ์ ณถาะ 13 คู่มอื พัฒนาคุณภาพการศึกษา “PLK3 วิถีใหม่ วถิ ีคณุ ภาพ”

ในทนุ ที่จะสามารถสรา้ งการพัฒนาต่อเนอ่ื งไป ไดแ้ ก่ ทุนมนุษย์ ทุนทางปญั ญา ทุนทางการเงิน ทุนที่เป็น เครื่องมือ เครอ่ื งจักร ทุนทางสังคม และทนุ ทางทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม ความยัง่ ยืน หมายถึง การพฒั นาท่ีสามารถสรา้ งความเจริญ รายได้ และคุณภาพชีวติ ของ ประชาชนให้เพิ่มขึน้ อย่างตอ่ เน่ือง ซ่ึงเป็นการเจรญิ เติบโตของเศรษฐกิจทไ่ี มใ่ ช้ทรพั ยากรธรรมชาติจนเกิน พอดี ไมส่ ร้างมลภาวะต่อส่ิงแวดลอ้ มจนเกินความสามารถในการรองรบั และเยียวยาของระบบนเิ วศน์ การผลติ และการบริโภคเปน็ มิตรตอ่ สิง่ แวดล้อม และสอดคล้องกบั กฎระเบียบของประชาคมโลก ซงึ่ เป็นท่ี ยอมรับร่วมกันทรัพยากรธรรมชาตมิ ีความอดุ มสมบรู ณ์มากขึ้น และสิง่ แวดล้อมมีคุณภาพดีขึ้น คนมคี วาม รบั ผิดชอบตอ่ สงั คม มีความเอื้ออาทร เสียสละเพอื่ ผลประโยชนส์ ว่ นรวม รฐั บาลมีนโยบายที่มงุ่ ประโยชน์ ส่วนรวมอยา่ งยง่ั ยนื และให้ความสาคญั กับการมสี ่วนร่วมของประชาชน และทกุ ภาคสว่ นในสงั คมยึดถือ และปฏบิ ัตติ ามปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเพ่อื การพัฒนาในระดับอย่างสมดลุ มเี สถยี รภาพ และยัง่ ยืน 2. ทิศทางการพฒั นาการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน สานกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาพษิ ณโุ ลก เขต 3 ได้นาพระบรมราโชบายดา้ น การศึกษาของในหลวง ร.10 ด้านการศกึ ษายุทธศาสตรช์ าติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) แผนแม่บท ภายใตย้ ุทธศาสตรช์ าติ (พ.ศ.2561-2580) แผนการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ.2560-2579 นโยบายรฐั บาล นโยบายกระทรวงศกึ ษาธกิ าร และนโยบายสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน และบรบิ ทตา่ ง ๆ ท่ีเกย่ี วข้องมาเชอ่ื มโยงกับอานาจหนา้ ท่ี และกาหนดเปน็ กรอบทศิ ทางการพัฒนาการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน 2.1 พระบรมราโชบายดา้ นการศึกษาของในหลวง ร.10 ด้านการศึกษาต้องมุ่งสร้างพืน้ ฐาน ให้แกผ่ ูเ้ รียน 4 ด้าน (1) มที ัศนคติที่ถูกต้องต่อบา้ นเมอื ง 1.1 ความรคู้ วามเข้าใจตอ่ ชาติบ้านเมอื ง 1.2 ยึดมั่นในศาสนา 1.3 มนั่ คงในสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ 1.4 มคี วามเอ้ืออาทรตอ่ ครอบครวั และชมุ ชนของตน (2) มีพ้ืนฐานชีวิตท่มี นั่ คง มคี ุณธรรม 2.1 รูจ้ ักแยกแยะสิง่ ทผี่ ิด- ชอบ / ชว่ั - ดี 2.2 ปฏบิ ตั ิส่ิงที่ชอบ สง่ิ ที่ดงี าม 2.3 ปฏิเสธสิ่งที่ผดิ สิ่งท่ีชัว่ 2.4 ชว่ ยกนั สร้างคนดใี หบ้ า้ นเมอื ง ณถาะ 14 คมู่ ือพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา “PLK3 วถิ ใี หม่ วถิ ีคุณภาพ”

(3) มีงานทา มอี าชพี 3.1 การเลีย้ งบตุ รหลานในครอบครวั หรอื ฝกึ อบรมในสถานศึกษาตอ้ งม่งุ ใหเ้ ดก็ และเยาวชนรักงาน สงู้ าน ทาจนงานสาเรจ็ 3.2 การฝกึ ฝนอบรมท้งั ในหลักสูตรและนอกหลักสูตรต้องมจี ุดม่งุ หมายให้ผู้เรียนทางาน เปน็ และมงี านทาในทสี่ ดุ 3.3 ต้องสนบั สนนุ ผู้จบหลกั สูตรมีอาชีพมีงานทา จนสามารถเลย้ี งตนเองและครอบครวั (4) เป็นพลเมอื งดี 4.1 การเป็นพลเมอื งดี เปน็ หนา้ ท่ขี องทุกคน 4.2 ครอบครัว สถานศกึ ษา และสถานประกอบการตอ้ งสง่ เสริมใหท้ ุกคนมโี อกาสทา หน้าที่เป็นพลเมืองดี 4.3 การเปน็ พลเมอื งดี คอื เห็นอะไรท่จี ะทาเพื่อบ้านเมืองไดก้ ต็ ้องทา เช่น งานอาสาสมัคร งานบาเพ็ญประโยชน์ งานสาธารณกุศล ใหท้ าดว้ ยความมีนา้ ใจความเอือ้ อาทร 2.2 ยุทธศาสตรช์ าติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ..2561 – พ.ศ.2580) “ประเทศไทยมีความม่ังคง มงั่ ค่ัง ยัง่ ยืน เปน็ ประเทศท่ีพัฒนาแล้ว ดว้ ยการพัฒนาตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง” โดยมีเปา้ หมายการพฒั นาประเทศ คอื “ประเทศชาตมิ ั่งคง ประชาชนมี ความสขุ เศรษฐกิจพัฒนาอย่างต่อเน่อื ง สังคมเปน็ ธรรม ฐานทรพั ยากรธรรมชาตยิ ั่งยืน” โดยยกระดบั ศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ พัฒนาคนในทุกมติ ิและในทุกช่วงวัยให้เปน็ คนดี เกง่ และมคี ุณภาพ สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม สร้างการเตบิ โตบนคุณภาพชวี ติ ทีเ่ ปน็ มิตรกบั สิ่งแวดลอ้ มและมี ภาครัฐของประชาชน เพ่อื ประชาชนและประโยชนส์ ่วนรวม โดยการประเมินผลการพฒั นาตามยุทธศาสตร์ ชาติ ประกอบดว้ ย 2.1. ความอยู่ดีมีสุขของคนไทยและสงั คมไทย 2.2. ขีดความสามารถในการแขง่ ขนั การพัฒนาเศรษฐกิจและการกระจายรายได้ 2.3. การพฒั นาทรพั ยากรมนษุ ย์ของประเทศ 2.4. ความเท่าเทียมและความเสมอภาคของสังคม 2.5. ความหลากหลายทางชีวภาพ คุณภาพสงิ่ แวดล้อมและความยงั่ ยนื ของ ทรัพยากรธรรมชาติ 2.6. ประสิทธภิ าพการบริหารจัดการและการเข้าถึงการใหบ้ รกิ ารของภาครัฐ การพฒั นาประเทศในชว่ งระยะเวลาของยุทธศาสตร์ชาติ จะม่งุ เน้นการสรา้ งสมดุลระหวา่ ง การพฒั นาเศรษฐกิจ สงั คม และสง่ิ แวดล้อม โดยประกอบดว้ ย 6 ยุทธศาสตร์ ไดแ้ ก่ 1.) ดา้ นความม่ังคง ณถาะ 15 คูม่ อื พฒั นาคุณภาพการศึกษา “PLK3 วถิ ีใหม่ วถิ ีคณุ ภาพ”

2.) ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขนั 3.) ด้านการพัฒนาและเสริมสรา้ งศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 4.) ด้านการสรา้ งโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 5.) ดา้ นการสร้างการเตบิ โตบนคุณภาพชีวติ ทเี่ ป็นมติ รต่อส่ิงแวดลอ้ ม 6.) ด้านการปรบั สมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครฐั 3. นโยบายของคณะรัฐมนตรี พลเอกประยทุ ธ์ จนั ทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงต่อรฐั สภา เม่ือวันท่ี 25 กรกฎาคม 2562 ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับกระทรวงศึกษาธกิ าร วิสยั ทัศน์ “ มุ่งม่นั ให้ประเทศไทยเป็นประเทศทพี่ ฒั นาแล้วในศตวรรษที่ 21” นโยบายหลกั 12 ด้าน (ที่เก่ียวขอ้ งกับกระทรวงศกึ ษาธกิ าร จานวน 6 ด้าน) นโยบายหลักด้าน 1.การป้องกนั และเชิดชูสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ 1.1 สบื สาน รักษา ตอ่ ยอดศาสตร์พระราชาและโครงการ อนั เนอื่ งมาจากพระราชดารขิ อง พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มาเป็นหลักสาคัญในการบาบดั ทุกข์ และบารุงสุขให้ประชาชน และพฒั นา ประเทศตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู ิพล อดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร รวมทัง้ สง่ เสรมิ การเรยี นร้หู ลักการทรงงาน การนามาประยกุ ต์ใช้ในการ ปฏบิ ตั ิราชการและการพัฒนาประเทศ เพอื่ ประโยชนใ์ นวงกว้าง รวมทง้ั เผยแพรศ่ าสตร์พระราชาและ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่เวทโี ลกเพ่ือขบั เคลื่อนการพัฒนาอย่างยง่ั ยนื 1.2 ต่อยอดการดาเนนิ การของหน่วยพระราชทานและประชาชน จติ อาสาพระราชทาน ตามแนวพระราชดาริ ให้เปน็ แบบอย่างการบาเพ็ญสาธารณประโยชนใ์ นพืน้ ที่ต่าง ๆ เพ่อื บรรเทาความ เดอื ดรอ้ น แก้ไขปญั หาให้แก่ประชาชน และพฒั นาความเป็นอยู่ของประชาชน โดยระดมพลงั ความรกั ความสามัคคี ทงั้ ของหน่วยงานในพระองค์ หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และชมุ ชน 1.3 สรา้ งความตระหนกั รู้ เผยแพร่ และปลูกฝังให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกตอ้ ง และเปน็ จริงเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์และพระราชกรณียกิจเพือ่ ประชาชน ตลอดจนพระมหา กรณุ าธิคุณของพระมหากษตั รยิ ์ทุกพระองค์ เพ่อื ก่อให้เกิดการมสี ่วนรว่ มอย่างถกู ต้องกับการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมุขในบริบทของไทย นโยบายหลัก ด้าน 2. การสร้างความมัน่ คงและความปลอดภยั ของประเทศ และความสงบสุขของประเทศ 2.2 ปลูกจิตสานกึ เกียรตภิ ูมิ และศักด์ิศรคี วามเป็นชาติไทย การมจี ิตสาธารณะและการมี สว่ นร่วมทาประโยชนใ์ ห้ประเทศ รกั ษาผลประโยชนข์ องชาติ ความสามัคคีปรองดองและความ เอือ้ เฟ้อื เผื่อแผร่ ะหว่างกันของประชาชน โดยสถาบันการศกึ ษาสอดแทรกการปลกู ฝงั วนิ ัยของคนในชาติ ณถาะ 16 คูม่ อื พัฒนาคุณภาพการศึกษา “PLK3 วถิ ใี หม่ วิถีคุณภาพ”

หลักคิดท่ถี ูกต้อง สร้างค่านยิ ม “ประเทศไทยสาคัญท่สี ดุ ” การเคารพกฎหมายและกติกาของสังคม ปรบั สภาพแวดลอ้ มทง้ั ภายในและภายนอกสถานศึกษาให้เอือ้ ต่อการมีคุณธรรม จรยิ ธรรม และจติ สาธารณะ นโยบายหลัก ดา้ น 3. การทานุบารงุ ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม 3.2 ปลูกฝังคา่ นยิ มและวฒั นธรรมที่ดีทัง้ ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม กตญั ญู ความซอ่ื สัตย์ การมี วนิ ยั เคารพกฎหมาย มจี ติ สาธารณะและการมสี ว่ นร่วมทาประโยชน์ให้ประเทศ และเป็นพลเมอื งที่ดี โดย สง่ เสรมิ ใหส้ ถาบันการศึกษา ภาคประชาสังคม และชุมชนเป็นฐานในการบม่ เพาะ ส่งเสริมให้ภาคเอกชน ดาเนินธุรกิจอย่างมธี รรมาภบิ าล ใหส้ อื่ มีบทบาทกระตุ้นและสร้างความตระหนักในคา่ นิยมท่ีดี รวมถงึ ผลติ สอื่ ที่มีคุณภาพและมคี วามรบั ผดิ ชอบ และเปดิ พื้นที่สาธารณะใหป้ ระชาชนไดแ้ สดงออกอย่างสร้างสรรค์ นโยบายหลัก ด้าน 5. การพฒั นาเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของไทย 5.2 พัฒนาภาคอุตสาหกรรม 5.2.3 สร้างกลไกสนบั สนุนการพฒั นาขดี ความสามารถของผูป้ ระกอบการรายใหม่ โดยการสรา้ งสภาพแวดล้อมท่ีเอื้อตอ่ การเข้าถึงเทคโนโลยี การวจิ ัย และนวตั กรรม การปรบั ปรุง กฎระเบียบใหเ้ อือ้ ต่อการพฒั นาผ้ปู ระกอบการ การเข้าถงึ แหลง่ เงิน การพัฒนาศูนยท์ ดสอบหรอื วจิ ยั และ ออกแบบที่ไดม้ าตรฐานสากล และการใชส้ ถาบันการศึกษาท่มี ีอยใู่ นพืน้ ทม่ี าสนบั สนุนดา้ นการวิจัยและ พัฒนาเพอื่ เพมิ่ คณุ คา่ ให้กบั สินค้าและบรกิ าร 5.4 พัฒนาภาคการทอ่ งเทยี่ ว 5.4.5 ส่งเสริมให้เกิดการกระจายรายไดจ้ ากธุรกิจทอ่ งเท่ยี วสู่ชุมชน โดยพัฒนาเครือข่าย วสิ าหกจิ ให้เป็นเครื่องมอื ในการพัฒนาความเชอ่ื มโยงระหวา่ งธุรกิจหลัก ธุรกจิ รอง ธรุ กิจสนับสนนุ และ การพัฒนาเชือ่ มโยงในเชิงกลมุ่ พน้ื ท่ีท่มี ีศักยภาพ รวมทง้ั พฒั นาทกั ษะและองค์ความรขู้ องท้องถนิ่ ชุมชน และสถาบันการศกึ ษา เพือ่ สนับสนุนให้มสี ่วนร่วมในการพฒั นาและทาธุรกิจการทอ่ งเทีย่ วในพ้ืนที่ให้ มากข้นึ อาทิ การพฒั นายวุ มคั คเุ ทศก์ 5.7 พฒั นาโครงสร้างพ้นื ฐานดา้ นดิจิทัลและการมุ่งส่กู ารเปน็ ประเทศอจั ฉรยิ ะ 5.7.1 รักษาคล่ืนความถแี่ ละสทิ ธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม อันเปน็ สมบัติของชาติให้ เกิดประโยชนแ์ กป่ ระเทศชาติและประชาชน และลงทุนในอินเทอรเ์ น็ต เกตเวย์ และเทคโนโลยีสื่อสารไร้ สายในระบบ 5G เพอื่ ให้การติดตอ่ สือ่ สารผา่ นอนิ เทอรเ์ น็ตเป็นไปอย่างตอ่ เนอ่ื ง รองรับการเชอ่ื มต่อ จานวนมาก และแอปพลเิ คชันตา่ ง ๆ ได้อย่างมเี สถยี รภาพ เพอื่ สรา้ งมลู ค่าเพิม่ ทางเศรษฐกิจ และสนบั สนุน การเพม่ิ ขดี ความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกจิ สนบั สนุนนโยบายด้านสงั คม อาทิ การบริการด้าน การศึกษา และการบริการด้านสาธารณสุข ตลอดจนสร้างโอกาสการพฒั นาอาชีพของประชาชน ณถาะ 17 คมู่ ือพัฒนาคุณภาพการศกึ ษา “PLK3 วิถใี หม่ วถิ ีคณุ ภาพ”

5.9 ขับเคล่ือนเศรษฐกิจยคุ ใหม่ 5.9.3 ส่งเสรมิ เยาวชนและบทบาทสตรีในการเป็นผปู้ ระกอบการขนาดกลางและขนาด ยอ่ มยุคใหม่ โดยการสนบั สนุนให้มีการจดั กิจกรรมผ่านการศกึ ษา และการเพิ่มชอ่ งทางในการเขา้ ถงึ เทคโนโลยี แหลง่ เงนิ และการระดมทนุ เพ่อื กระตุ้นและเปิดโอกาสให้เยาวชนสามารถนาเสนอแนวคดิ พัฒนาแอปพลิเคชัน นวตั กรรม และดาเนินธรุ กิจไดด้ ้วยตนเอง นโยบายหลัก ดา้ น 8. การปฏริ ปู กระบวนการเรียนรู้และการพฒั นาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย 8.1 สง่ เสรมิ การพฒั นาเด็กปฐมวัย 8.1.1 จัดใหม้ ีระบบพัฒนาเดก็ แรกเกดิ อย่างต่อเนอื่ งจนถึง เดก็ วยั เรียนให้มีโอกาสพฒั นา ตามศักยภาพ เพอ่ื สรา้ งคนไทยที่มพี ัฒนาการเตม็ ตามศักยภาพผ่านครอบครัวที่อบอุ่นในทกุ รปู แบบ ครอบครัว เพอื่ สง่ ต่อการพัฒนาเดก็ ไทยให้มีคุณภาพสู่การพฒั นาในระยะถัดไปบนฐานการใหค้ วาม ชว่ ยเหลือที่คานึงถงึ ศักยภาพของครอบครัวและพ้นื ที่ เตรยี มความพร้อมการเปน็ พ่อแม่ ความรูเ้ รือ่ ง โภชนาการและสขุ ภาพการอบรมเลี้ยงดู การสง่ เสริมพฒั นาการเดก็ ปฐมวัยผ่านการใหบ้ รกิ ารสาธารณะท่ี เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการยกระดบั คณุ ภาพสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั ทวั่ ประเทศใหไ้ ดม้ าตรฐาน และพฒั นา ศักยภาพของบุคลากรทางการศกึ ษาและผู้ดแู ลเด็กปฐมวัยให้สามารถจัดการศกึ ษาได้อย่าง มีคุณภาพ 8.1.2 ส่งเสริมการพฒั นาเด็กปฐมวยั โดยคานึงถงึ พหุปัญญาท่หี ลากหลายของเด็กแต่ละ คนใหไ้ ดร้ บั การส่งเสรมิ และพฒั นาอยา่ งเต็มตามศักยภาพ ผ่านการออกแบบ การจัดการเรยี นรู้ท่ีเชอ่ื มโยง กับระบบโรงเรียนปกติท่ีเป็นระบบและมที ิศทางท่ีชดั เจน 8.2 พัฒนาบณั ฑิตพนั ธใ์ุ หม่ 8.2.1 ปรับรปู แบบการเรียนรูแ้ ละการสอนเพื่อพัฒนาทักษะ และอาชีพของคนทุกชว่ งวยั สาหรับศตวรรษที่ 21 โดยปรบั โครงสร้างหลักสตู รการศกึ ษาให้ทนั สมัย มีการนาเทคโนโลยแี ละการเรยี นรู้ ผา่ นประสบการณจ์ ริงเขา้ มามสี ว่ นในการจัดการเรียนการสอน และปรับระบบดึงดูด การคดั เลือก การผลติ และพฒั นาครูท่นี าไปส่กู ารมีครูสมรรถนะสงู เป็นครูยุคใหม่ทีส่ ามารถออกแบบและจดั ระบบการสร้าง ความรู้ สรา้ งวินยั กระตนุ้ และสรา้ งแรงบนั ดาลใจ เปิดโลกทศั นม์ ุมมองของเด็กและครูด้วยการสอนในเชิง แสดงความคิดเหน็ ให้มากข้นึ ควบคกู่ บั หลกั การทางวชิ าการ 8.2.2 จดั การศกึ ษาเชิงบรู ณาการกบั การทางานเพื่อพัฒนาสมรรถนะของผเู้ รยี นทั้งใน ส่วนฐานความรู้และระบบความคิดในลักษณะสหวิทยาการ และตรงกับความตอ้ งการของประเทศใน อนาคต และเป็นผูเ้ รียนทีส่ ามารถปฏบิ ตั ิได้จริงและสามารถกากบั การเรยี นรู้ของตนเองได้ รวมถึงมที กั ษะ ดา้ นภาษาองั กฤษและภาษาทสี่ ามทสี่ ามารถสือ่ สารและแสวงหาความรไู้ ด้ มีความพรอ้ มท้งั ทักษะความรู้ ทักษะอาชีพ และทักษะชวี ติ กอ่ นเข้าสู่ตลาดแรงงาน ณถาะ 18 คู่มอื พัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา “PLK3 วถิ ใี หม่ วิถีคุณภาพ”

8.3 พฒั นาอาชีวะ พฒั นาคณุ ภาพวิชาชีพ และพัฒนาแรงงานรองรับอุตสาหกรรม 4.0 โดย การจัดระบบและกลไกความร่วมมอื ระหวา่ งหน่วยงานภาครฐั และเอกชนทช่ี ัดเจนเปน็ ระบบในการพฒั นา กาลังคน ท่มี ีทักษะขัน้ สงู ให้สามารถนาความร้แู ละทกั ษะมาใชใ้ นการแกไ้ ขปญั หา รวมถงึ การสรา้ งและ พัฒนานวัตกรรม ซง่ึ ตอ้ งครอบคลมุ การพัฒนากาลงั คนทอ่ี ยใู่ นอตุ สาหกรรมแล้ว กาลังคนทีก่ าลังจะเข้าสู่ อตุ สาหกรรมและเตรยี มการสาหรบั ผลติ กาลงั คนในสาขาท่ีขาดแคลน เพื่อรองรับอุตสาหกรรมและ เทคโนโลยใี นอนาคต รวมท้ังเรง่ รัด และขยายผลระบบคณุ วฒุ ิวิชาชพี การยกระดับฝีมอื แรงงานใน กล่มุ อตุ สาหกรรมทมี่ ศี กั ยภาพ และอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น 8.4 ดงึ ดูดคนเกง่ จากท่วั โลกเขา้ มาร่วมทางานกับคนไทย และส่งเสริมผูม้ ีความสามารถสงู สนบั สนุนให้ธรุ กิจชั้นนาในประเทศดึงดดู บุคคลทีม่ ีความสามารถระดับสูงจากทวั่ โลกโดยเฉพาะคนไทย เพอื่ กลบั มาเปน็ ผู้นาการเปลย่ี นแปลงและถา่ ยทอดประสบการณ์ ความรู้ ความเชย่ี วชาญให้แก่บคุ ลากรใน องค์กร ซ่งึ จะช่วยกระตุ้นใหเ้ กดิ การสร้างธรุ กจิ ผลิตภณั ฑ์ และนวตั กรรมใหม่ ๆ ให้กบั ประเทศ โดยใน ระยะแรกให้ความสาคญั กบั การดึงดดู นกั วิจยั ผูเ้ ช่ียวชาญจากต่างประเทศมารว่ มวจิ ัยและพัฒนาเทคโนโลยี ชนั้ แนวหน้าในสาขาอตุ สาหกรรมเปา้ หมาย รวมท้ังมีพน้ื ทใี่ หก้ ลุม่ ผมู้ ีความสามารถพิเศษท่ีมีศกั ยภาพสงู ได้ ทางานรว่ มกนั หรือรว่ มกับเครอื ข่ายอน่ื ๆ เพอ่ื สร้างองค์ความรแู้ ละนวตั กรรมใหม่ ๆ ให้กบั ประเทศ 8.5 วิจัยและพฒั นานวัตกรรมท่ีตอบโจทย์การพฒั นาประเทศ 8.5.1 ส่งเสรมิ การวิจยั และพัฒนานวัตกรรมเพ่ือขจัดความเหลือ่ มล้าและความยากจน ยกระดบั คณุ ภาพชีวติ ของประชาชน โดยมุ่งเน้นการพัฒนานวตั กรรมเชงิ สังคมและนวัตกรรมในเชิงพ้ืนท่ี ท่สี ามารถช่วยแก้ปัญหาความเหล่อื มลา้ สรา้ งโอกาสสาหรบั ผดู้ ้อยโอกาส และยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงวัย ควบคไู่ ปกับการพฒั นาทนุ มนษุ ย์ให้พร้อมสาหรับโลกยคุ ดิจิทัลและอตุ สาหกรรม 4.0 ตามความเหมาะสมได้ อย่างเปน็ รปู ธรรม โดยระยะแรกจะใหค้ วามสาคัญกบั การส่งเสรมิ การวิจยั และพัฒนาดา้ นสขุ ภาพของ ประชาชนอยา่ งครบวงจร ทง้ั ระบบยา วคั ซนี เวชภณั ฑ์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย 8.5.2 ส่งเสรมิ การวิจัยและพฒั นานวตั กรรมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อสร้างความไดเ้ ปรยี บในการแขง่ ขนั สามารถตอบสนองตอ่ ความเปลีย่ นแปลง และสร้างความเป็นเลิศ ของประเทศในอนาคต โดยมงุ่ เน้นการวจิ ัยและพฒั นานวัตกรรมเพอ่ื นามาใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนใ์ นเชงิ ธุรกิจ กาหนดวาระการวิจัยแห่งชาติ สง่ เสริมความร่วมมอื และการเป็นหุ้นสว่ นของทุกฝ่ายทั้งภาครฐั ภาคการศึกษา ชมุ ชน และภาคเอกชน ในทกุ สาขาการผลติ และบรกิ าร สร้างสภาพแวดล้อมและ องคป์ ระกอบของระบบวิจัยและการพัฒนานวตั กรรมใหเ้ ขม้ แข็ง รวมทั้งบูรณาการการวจิ ยั และพฒั นา นวัตกรรมกบั การนาไปใชป้ ระโยชนใ์ นเชิงพาณชิ ย์ 8.5.3 สรา้ งเครอื ขา่ ยการทาวจิ ยั ระหว่างภาคส่วนตา่ ง ๆ ปฏิรปู และบรู ณาการระบบ การเรียนการสอนกบั ระบบงานวจิ ัยและพฒั นาใหเ้ ออ้ื ต่อการเพมิ่ ศักยภาพดา้ นนวัตกรรมของประเทศ ณถาะ 19 ค่มู ือพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา “PLK3 วถิ ีใหม่ วิถีคณุ ภาพ”

เพอ่ื สนับสนนุ การสรา้ งความเข้มแข็งของธรุ กจิ ไทยทกุ ระดบั ในเวทีการค้าโลก สง่ เสริมกระบวนการ การทางานของภาครัฐ และภาคเอกชนในการวจิ ัยและพฒั นาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมให้เป็น ระบบเปิด และมกี ารบรู ณาการการทางานกันอยา่ งมีประสิทธภิ าพ รวมทง้ั เชื่อมโยงระบบการศกึ ษากบั ภาคปฏิบัติจริงในภาคธรุ กิจ โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ การสรา้ งนักวจิ ัยมอื อาชีพและนวัตกรที่สามารถสร้าง มลู คา่ เพ่มิ และยกระดบั งานวิจัยส่กู ารเพม่ิ ศักยภาพด้านเทคโนโลยแี ละนวัตกรรมของประเทศ 8.6 สง่ เสริมการเรยี นรู้และพฒั นาทักษะทกุ ชว่ งวัย 8.6.1 มุ่งเนน้ การพฒั นาโรงเรยี นควบคกู่ บั การพัฒนาครู เพมิ่ ประสิทธิภาพระบบบริหาร จัดการศึกษาในทกุ ระดับบนพน้ื ฐานการสนับสนนุ ท่คี านึงถึงความจาเปน็ และศักยภาพของ สถาบนั การศึกษาแตล่ ะแหง่ พร้อมทั้งจัดให้มีมาตรฐานขั้นตา่ ของโรงเรยี นในทุกระดับ และสร้างระบบวดั ผลโรงเรยี นและครทู ่สี ะทอ้ นความรับผิดชอบต่อผลลัพธท์ เี่ กดิ กบั ผ้เู รยี น คนื ครใู ห้นักเรียนโดยลดภาระงาน ทีไ่ มจ่ าเปน็ รวมถงึ จดั ใหม้ ีระบบฐานขอ้ มูล เพ่ือการพัฒนาทรพั ยากรมนษุ ย์ โดยการเชื่อมโยงหรือส่งตอ่ ขอ้ มลู ครอบครวั และผู้เรียนระหวา่ งหน่วยงานตา่ ง ๆ ตงั้ แต่แรกเกิดจนถงึ การพฒั นาตลอดช่วงชวี ติ ตลอดจนพฒั นาช่องทางให้ภาคเอกชน มสี ่วนรว่ มในการจดั การศกึ ษาและการเรียนรตู้ ลอดชีวิต 8.6.2 พัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนรู้ผา่ นระบบดจิ ทิ ลั พรอ้ มทงั้ สง่ เสริมใหม้ ีการนา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสร้างสรรค์ทีเ่ หมาะสมมาใชใ้ นการเรียนการสอนออนไลนแ์ บบเปิดที่ หลากหลาย เพือ่ สง่ เสริมการเรยี นรู้ดว้ ยตนเองตามความสนใจและเหมาะสมกบั ช่วงวัย ตลอดจนพัฒนา แหล่งเรียนร้แู ละอทุ ยานการเรียนรสู้ าหรับเยาวชนทีเ่ ช่ือมโยงเทคโนโลยีกบั วถิ ีชีวิต และสง่ เสรมิ การเรียน การสอนทเ่ี หมาะสมสาหรับผู้ท่เี ข้าสู่สังคมสงู วัย 8.6.3 ลดความเหลื่อมล้าทางการศึกษา โดยบรู ณาการการดาเนนิ งานระหว่างหนว่ ยจัด การศกึ ษากับกองทุนเพือ่ ความเสมอภาคทางการศึกษา มงุ่ เน้นกลุม่ เด็กด้อยโอกาสและกล่มุ เดก็ นอกระบบ การศกึ ษา ปรับเปล่ยี นการจัดสรรงบประมาณให้สอดคลอ้ งกับความจาเป็นของผเู้ รียนและลักษณะพน้ื ท่ี ของสถานศึกษา จัดระบบโรงเรียนพี่เลี้ยง จับคู่ระหว่างโรงเรียนขนาดใหญ่ทมี่ คี ณุ ภาพการศึกษาดกี ับ โรงเรยี นขนาดเล็กเพื่อยกระดบั คณุ ภาพการศึกษา และการส่งเสริมใหภ้ าคเอกชน ชุมชนในพื้นทีเ่ ขา้ มามี ส่วนรว่ มในการออกแบบการศึกษาในพื้นท่ี สนับสนนุ เด็กที่มีความสามารถแต่ไม่มที ุนทรพั ยเ์ ปน็ กรณีพเิ ศษ ตลอดจนแกไ้ ขปัญหาหนีส้ ินทางการศึกษา โดยการปรับโครงสร้างหน้กี องทนุ เงนิ ใหก้ ยู้ มื เพอื่ การศกึ ษา และทบทวนรปู แบบการให้กยู้ มื เพอ่ื การศกึ ษาทเ่ี หมาะสม 8.6.4 พฒั นาทักษะอาชีพทกุ ช่วงวยั โดยกาหนดระบบท่เี อื้อตอ่ การพัฒนาทักษะและ เพม่ิ ประสทิ ธิภาพของทุกช่วงวยั อาทิ การพฒั นาคุณภาพมาตรฐานการศกึ ษาให้เช่ือมโยงกบั ระบบคุณวุฒิ วชิ าชพี โดยมีกลไกการวดั และประเมินผลเพ่ือเทยี บโอนความร้แู ละประสบการณ์หน่วยการเรยี นทช่ี ัดเจน สง่ เสรมิ เยาวชนที่มีศักยภาพดา้ นกีฬาใหส้ ามารถพัฒนาไปสู่นกั กฬี าอาชีพ การกาหนดมาตรฐานฝมี ือ ณถาะ 20 คมู่ ือพัฒนาคุณภาพการศึกษา “PLK3 วถิ ใี หม่ วถิ ีคุณภาพ”

แรงงาน การจัดให้มีระบบที่สามารถรองรบั ความต้องการพัฒนาปรับปรุงทักษะอาชพี ของทกุ ช่วงวยั เพอื่ รองรับการเปลยี่ นสายอาชีพ ให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานที่อาจจะเปลยี่ นไปตามแนวโน้ม ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในอนาคต 8.6.5 สง่ เสริมหลกั คิดทีถ่ กู ตอ้ ง โดยสอดแทรกการปลูกฝังวนิ ัยและอดุ มการณท์ ี่ถกู ตอ้ ง ของคนในชาติ หลักคิดที่ถกู ตอ้ งด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม การมจี ิตสาธารณะ การเคารพกฎหมาย และ กตกิ าของสงั คมเขา้ ไปในทกุ สาระวิชาและในทกุ กิจกรรม ควบคู่ไปกบั การส่งเสรมิ กลไกสร้างความเข้มแขง็ ของสถาบนั ครอบครวั ในทกุ มติ อิ ย่างเปน็ ระบบและมีประสทิ ธิภาพ ปรับสภาพแวดล้อมทัง้ ภายในและ ภายนอกสถานศึกษาให้เอือ้ ตอ่ การมคี ุณธรรม จริยธรรม และจิตสาธารณะ รวมทง้ั ลงโทษผลู้ ะเมิด บรรทัดฐานทด่ี ีทางสงั คม ตลอดจนส่งเสรมิ ให้เกิดการมีสว่ นร่วมของประชาชนในการขับเคล่ือนประเทศ 8.7 จัดทาระบบปริญญาชมุ ชนและการจดั อบรมหลักสูตรระยะส้ัน เน้นออกแบบหลักสูตร ระยะส้นั ตามความสนใจ พฒั นาทกั ษะตา่ ง ๆ ที่ใช้ในการดารงชวี ติ ประจาวนั และทักษะอาชพี ของคนทุก ชว่ งวยั ในพ้นื ท่แี ละชมุ ชนเปน็ หลัก พร้อมท้งั ศกึ ษาแนวทางการพัฒนาเป็นรปู แบบธนาคารหน่วยกติ ซง่ึ เปน็ การเรียนเกบ็ หน่วยกติ ของวชิ าเรยี นเพ่อื ให้ผูเ้ รียนสามารถเรียนข้ามสาขาวิชาและข้ามสถาบนั การศึกษา หรือทางานไปพร้อมกัน หรอื เลือกเรียนเฉพาะหลกั สตู รทสี่ นใจ เพือ่ สร้างโอกาสของคนไทยทกุ ช่วงวยั และ ทุกระดบั สามารถพัฒนาตนเองท้ังในด้านการศกึ ษาและการดารงชีวิต นโยบายหลกั ด้าน 11. การปฏิรูปการบริหารจัดการภาครัฐ 11.1 พัฒนาโครงสรา้ งและระบบการบรหิ ารจดั การภาครัฐสมยั ใหม่ โดยพฒั นาใหภ้ าครัฐมี ขนาดท่เี หมาะสม มีการจัดรูปแบบองคก์ รใหม่ท่ีมีความยืดหยุน่ คล่องตวั และเหมาะสมกบั บริบทของ ประเทศ รวมท้ังจัดอตั รากาลงั เจ้าหน้าทขี่ องรฐั ให้สอดคล้องกบั โครงสรา้ งหน่วยงานและภารกิจงานที่ เปลยี่ นแปลงไป พัฒนาศักยภาพของเจา้ หน้าทีร่ ัฐใหส้ ามารถรองรับบริบทการเปลี่ยนแปลง และตอบสนอง ความต้องการของประชาชนไดอ้ ย่างทันท่วงที พร้อมทงั้ ปรับเปลย่ี นระบบการบริหารราชการแผ่นดินให้เกดิ ความเชอื่ มโยงสอดคล้องกนั ตั้งแตข่ น้ั วางแผน การนาไปปฏบิ ัติ การติดตามประเมนิ ผล การปรับปรุงการ ทางานใหม้ ีมาตรฐานสงู ข้นึ และปรับปรุงโครงสรา้ งความสัมพนั ธ์ระหวา่ งราชการบรหิ ารส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และสว่ นทอ้ งถน่ิ 11.2 ปรับเปลย่ี นกระบวนการอนุมัติ อนุญาตของทางราชการทม่ี ีความสาคัญตอ่ การ ประกอบธรุ กจิ และดาเนินชวี ิตของประชาชนให้เป็นระบบดิจิทัล และสามารถเชอ่ื มโยงขอ้ มูลต่อเนื่องกนั ตัง้ แตต่ ้นจนจบกระบวนการ พรอ้ มทั้งพฒั นาโปรแกรมออนไลน์ เพื่อใหป้ ระชาชนสามารถเข้าถงึ บริการของ ภาครฐั ไดอ้ ยา่ งทนั ทีและทกุ เวลา ณถาะ 21 คมู่ ือพฒั นาคุณภาพการศึกษา “PLK3 วิถีใหม่ วิถีคุณภาพ”

11.3 พฒั นาระบบข้อมลู ขนาดใหญใ่ นการบริหารราชการแผ่นดินทม่ี ีระบบการวเิ คราะห์ และแบ่งปนั ขอ้ มูลอย่างมีประสิทธิภาพและเช่ือถือได้ เพ่ือใหเ้ กิดการใชป้ ระโยชนข์ อ้ มลู ขนาดใหญใ่ นระบบ บริการประชาชนท่ีเป็นไปตามความตอ้ งการเฉพาะตัวบคุ คลมากข้ึน 11.4 เปิดเผยข้อมลู ภาครัฐส่สู าธารณะ โดยหน่วยงานของรฐั ในทกุ ระดับ ต้องเปดิ เผยและ เชื่อมโยงขอ้ มูลซึง่ กนั และกัน ทัง้ ในระหว่างหนว่ ยงานของรัฐด้วยกนั เอง และระหวา่ งหน่วยงานรัฐกับ ประชาชน เพอื่ ใหท้ กุ ภาคส่วนมคี วามเขา้ ใจถึงสถานการณ์ และแนวทางการแก้ไขปญั หาตา่ ง ๆ ของ ประเทศที่มคี วามซบั ซอ้ น ปรบั เปลยี่ นให้เป็นการทางานเชิงรุก เน้นการยกระดับไปสคู่ วามรว่ มมอื กนั ของ ทกุ ภาคสว่ นอยา่ งจริงจงั แสวงหาความคดิ ริเรม่ิ และสร้างนวตั กรรม โดยมกี ารคาดการณส์ ถานการณ์ วเิ คราะหค์ วามเสีย่ งและผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขน้ึ ไว้ล่วงหนา้ เพอื่ ให้สามารถเตรียมความพรอ้ มรองรบั การเปลย่ี นแปลงอย่างฉบั พลนั ในดา้ นต่าง ๆ ได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 11.5 ส่งเสริมระบบธรรมาภิบาลในการบริหารจดั การภาครัฐ โดยสรา้ งความเชือ่ มั่น ศรทั ธา และส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาข้าราชการ บคุ ลากร และเจา้ หนา้ ที่ของรฐั อย่างจริงจงั โดยเฉพาะการ ปรบั เปลี่ยนกระบวนการทางความคิดให้คานงึ ถงึ ผลประโยชน์ของชาติ และเนน้ ประชาชนเป็นศนู ยก์ ลาง พร้อมกับยึดม่นั ในหลักจรยิ ธรรมและธรรมาภบิ าล มสี มรรถนะ และความรูค้ วามสามารถพร้อมต่อการ ปฏบิ ัตงิ าน ดาเนนิ การปรบั ปรงุ สวสั ดภิ าพชวี ิตความเปน็ อยู่ ตลอดจนสรา้ งขวัญกาลงั ใจและความผูกพันใน การทางาน 11.6 พัฒนากลไกให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพฒั นาบริการสาธารณะ และการ ตรวจสอบภาครัฐ โดยการสรา้ งความเข้าใจถึงหลักการบริหารราชการขั้นพ้นื ฐาน และกฎหมายท่ีเก่ียวขอ้ ง พรอ้ มท้ังแกไ้ ขปัญหาอุปสรรคและลดข้อจากัดของกฎหมายและระเบียบท่ีเก่ยี วขอ้ งเพอ่ื ใหช้ มุ ชน วสิ าหกจิ เพ่อื สังคม องค์กรภาคประชาสงั คม และเอกชน สามารถเข้ามาดาเนนิ กิจกรรมสาธารณประโยชนแ์ ละมี บทบาทในการพัฒนาบรกิ ารสาธารณะในพน้ื ท่ีเพ่มิ มากขึน้ รวมทง้ั มีสว่ นในการตรวจสอบการปฏบิ ตั งิ าน ของหน่วยงานและเจา้ หน้าทีภ่ าครัฐในทุก ๆ ดา้ น 4. นโยบายเร่งด่วน 12 เรื่อง (ที่เกย่ี วขอ้ งกับกระทรวงศกึ ษาธกิ าร 4 เร่ือง) 1 (7.) การเตรียมคนไทยสศู่ ตวรรษท่ี 21 โดยสร้างแพลตฟอรม์ การเรยี นรใู้ หม่ ในระบบดิจิทัล ปรับปรุงรูปแบบการเรียนรูม้ งุ่ สู่ ระบบ การเรียนการสอนวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ด้านวศิ วกรรม คณติ ศาสตร์ โปรแกรมเมอร์ และ ภาษาต่างประเทศ สง่ เสรมิ การเรียนภาษาคอมพวิ เตอร์ (Coding) ตง้ั แตร่ ะดบั ประถมศกึ ษา การพฒั นา โรงเรยี นคณุ ภาพในทกุ ตาบล สง่ เสริมการพัฒนาหลักสูตรออนไลนข์ องสถาบนั การศึกษาต่าง ๆ เพอ่ื แบง่ ปนั องค์ความรู้ของสถาบนั การศกึ ษาสสู่ าธารณะ เช่อื มโยงระบบการศึกษากบั ภาคปฏิบัติจริงในภาคธรุ กจิ สรา้ งนักวิจัยใหมแ่ ละ นวัตกรเพ่อื เพิม่ ศกั ยภาพดา้ นเทคโนโลยแี ละนวัตกรรมของประเทศ สรา้ งความรู้ ณถาะ 22 ค่มู อื พัฒนาคุณภาพการศกึ ษา “PLK3 วิถใี หม่ วิถีคุณภาพ”

ความเขา้ ใจการใช้เทคโนโลยีดจิ ิทลั สื่อออนไลน์ และโครงข่ายสังคมออนไลนข์ องคนไทย เพ่ือปอ้ งกนั และ ลดผลกระทบในเชิงสังคม ความปลอดภยั อาชญากรรมทางไซเบอร์ และสามารถใช้เทคโนโลยีเปน็ เคร่อื งมอื ในการกระจายขอ้ มูลข่าวสารท่ถี กู ต้อง การสร้างความสมานฉนั ท์ และความสามัคคใี นสังคม รวมทั้งปลูกฝงั คณุ ธรรม จรยิ ธรรมทีจ่ าเป็นในการดาเนินชวี ิต 2 (8.) การแกไ้ ขปญั หาทจุ ริตและประพฤติมชิ อบในวงราชการท้ังฝ่ายการเมืองและ ฝา่ ยราชการประจา โดยเรง่ รัดการดาเนนิ มาตรการทางการเมืองควบคู่ไปกบั มาตรการทางกฎหมายเมือ่ พบ ผู้กระทาผดิ อย่างเคร่งครัด นาเทคโนโลยสี มัยใหม่มาใช้ในการเฝา้ ระวงั การทจุ ริตประพฤตมิ ิชอบอยา่ ง จริงจงั และเข้มงวด และเรง่ รัดดาเนนิ การตามขั้นตอนของกฎหมาย เมือ่ พบผู้กระทาผดิ อยา่ งเครง่ ครดั เพ่อื ให้ภาครฐั ปลอดการทจุ ริตและประพฤติมิชอบโดยเรว็ ท่ีสดุ พรอ้ มทั้งให้ภาคสังคม ภาคเอกชน และ ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและเฝ้าระวงั การทุจรติ ประพฤตมิ ิชอบ 3 (9.) การแกไ้ ขปญั หายาเสพตดิ และสร้างความสงบสุขในพ้ืนทชี่ ายแดนภาคใต้ โดยเรง่ รัดการแก้ไขปญั หายาเสพติดโดยใหค้ วามสาคัญกับกระบวนการมสี ว่ นร่วมจากทุกภาค สว่ น และการบงั คบั ใชก้ ฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถงึ การรว่ มมือกบั ประเทศเพอ่ื นบา้ นและประเทศ ทกุ ภูมิภาค ปราบปรามแหล่งผลิตและเครือขา่ ยผู้คา้ ยาเสพติด ทัง้ บริเวณชายแดนและพนื้ ท่ีภายใน ฟ้นื ฟดู ูแลรกั ษาผูเ้ สพผ่านกระบวนการทางสาธารณสุข สรา้ งโอกาส สรา้ งอาชีพ รายได้ และการยอมรบั ของสงั คมสาหรับผทู้ ่ผี ่านการฟนื้ ฟู และเร่งสรา้ งความสงบสขุ ในพน้ื ท่ีจังหวดั ชายแดนภาคใต้ โดยน้อมนา ยทุ ธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พฒั นา” เป็นหลกั ในการดาเนนิ การ ยกระดบั คณุ ภาพชีวิตและ ความเปน็ อยู่ของประชาชน ทงั้ ในดา้ นการศกึ ษา เศรษฐกิจ และสังคมที่สอดคล้องกับความตอ้ งการของ ประชาชนในพนื้ ที่ เร่งรัดการใหค้ วามชว่ ยเหลอื เยียวยาผไู้ ดร้ บั ผลกระทบจากความไม่สงบ รวมท้ังจัด สวสั ดกิ ารที่เหมาะสมสาหรบั เจ้าหน้าท่ีของรัฐในพื้นที่โดยให้เปน็ การแกไ้ ขปญั หาภายในของประเทศด้วย กฎหมายไทยและหลกั การสากล 4. (10.) การพัฒนาระบบการใหบ้ รกิ ารประชาชน โดยมุ่งส่คู วามเป็นรัฐบาลดิจทิ ัลท่โี ปรง่ ใสตรวจสอบได้ พฒั นาระบบจัดเก็บและเปิดเผย ข้อมลู ของภาครฐั ปรับปรงุ ระบบการอนมุ ัติและอนญุ าตของทางราชการทีส่ าคัญใหเ้ ป็นระบบดจิ ิทลั ท้งั บคุ คลและนติ บิ ุคคล เพื่อลดการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าทรี่ ัฐ ลดภาระคา่ ใช้จา่ ยของประชาชน ลดข้ันตอน ที่ยงุ่ ยากเกินความจาเปน็ ลดข้อจากดั ด้านกฎหมายทเี่ ปน็ ปญั หาอปุ สรรคตอ่ การทาธุรกิจและการดารงชีวติ ของประชาชน แกไ้ ขกฎหมายท่ไี มเ่ ป็นธรรม ล้าสมัย และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ ผ่านการ ทดลองใชม้ าตรการดา้ นกฎระเบยี บต่าง ๆ เพ่ือให้เกดิ การเรยี นรแู้ ละขบั เคลื่อนการให้บรกิ ารในทิศทางที่ ตรงกับความต้องการของประชาชนและภาคธรุ กจิ ณถาะ 23 คูม่ ือพฒั นาคุณภาพการศกึ ษา “PLK3 วิถใี หม่ วิถีคุณภาพ”

5. ประกาศกระทรวงศึกษาธกิ าร เรอ่ื ง นโยบายและจดุ เน้นกระทรวงศึกษาธิการ ปงี บประมาณ พ.ศ.2564 เพ่ือใหก้ ารดาเนนิ การจัดการศกึ ษาและการบริหารจัดการศกึ ษาของกระทรวงศึกษาธิการ เป็นไปด้วยความเรียบรอ้ ย บรรลุเป้าหมาย อาศัยอานาจตามความในมาตรา 8 และมาตรา 12 แห่ง พระราชบัญญตั ริ ะเบียบบริหารราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ พ.ศ. 2546 รัฐมนตรวี ่าการ กระทรวงศึกษาธกิ าร จึงประกาศนโยบายและจุดเนน้ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 เพอื่ ให้ส่วนราชการในสงั กัดกระทรวงศกึ ษาธิการ ยึดเปน็ กรอบการดาเนินงานในการจัดทาแผนและ งบประมาณรายจา่ ยประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 พรอ้ มทั้งขบั เคลือ่ นการดาเนนิ งานด้านการศึกษาใหม้ ี คณุ ภาพ ประสิทธภิ าพในทกุ มิติ โดยใช้จา่ ยงบประมาณอย่างคุ้มค่า เพ่ือมุ่งเปา้ หมาย คอื ผูเ้ รียนทุกช่วงวยั ดงั น้ี หลักการตามนโยบาย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กระทรวงศึกษาธกิ ารมงุ่ มนั่ ดาเนนิ การภารกิจหลักตามแผนแม่บทภายใตย้ ทุ ธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) ในฐานะหนว่ ยงานเจ้าภาพขบั เคลอื่ นทุกแผนย่อยในประเดน็ 12 การพฒั นาการ เรยี นรู้ และแผนยอ่ ยที่ 3 ในประเด็น 11 ศกั ยภาพคนตลอดช่วงชีวติ รวมทง้ั แผนการปฏริ ปู ประเทศด้าน การศกึ ษา และนโยบายรฐั บาลท้งั ในสว่ นนโยบายหลกั ดา้ นการปฏิรปู กระบวนการเรยี นรู้ และการพฒั นา ศกั ยภาพของคนไทยทุกช่วงวยั และนโยบายเรง่ ดว่ น เรื่องการเตรยี มคนไทยสศู่ ตวรรษท่ี 21 นอกจากน้ี ยงั สนบั สนนุ การขบั เคล่ือนแผนแมบ่ ทภายใตย้ ุทธศาสตร์ชาตปิ ระเดน็ อนื่ ๆ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คม แห่งชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ. 2561 – 2564) นโยบายและแผนระดับชาตวิ า่ ด้วยความมั่นคงแหง่ ชาติ (พ.ศ. 2562 – 2565) รวมทงั้ นโยบายและแผนต่าง ๆ ที่เกยี่ วข้อง โดยคาดหวงั วา่ ผู้เรยี นทกุ ชว่ งวัยจะได้รับ การพัฒนาในทกุ มิติ เปน็ คนดี คนเก่ง มีคุณภาพ และมคี วามพร้อมรว่ มขับเคลอื่ นการพัฒนาประเทศ สคู่ วามม่นั คง ม่งั คงั่ และยัง่ ยนื ดงั นนั้ ในการเร่งรดั การทางานภาพรวมกระทรวงให้เกดิ ผลสัมฤทธิ์ เพอื่ สรา้ งความเช่ือมั่นให้กบั สังคม และผลักดนั ให้การจัดการศึกษามีคณุ ภาพและประสทิ ธิภาพในทุกมติ ิ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารจงึ กาหนดนโยบายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ดังนี้ 1. ปรับร้ือและเปล่ยี นแปลงระบบการบรหิ ารจัดการ โดยมุ่งปฏิรูปองค์การเพ่อื หลอมรวมภารกิจ และบคุ ลากร เชน่ ด้านการประชาสมั พนั ธ์ ดา้ นการตา่ งประเทศ ดา้ นเทคโนโลยี ดา้ นกฎหมาย ฯลฯ ที่ สามารถลดการใช้ทรพั ยากรทับซ้อน เพม่ิ ประสทิ ธิภาพและความเปน็ เอกภาพ รวมทง้ั การนาเทคโนโลยี ดจิ ิทัลเขา้ มาช่วยท้ังการบรหิ ารงานและการจดั การศึกษารองรับความเป็นรฐั บาลดิจิทัล 2. ปรับรื้อและเปล่ยี นแปลงระบบการบรหิ ารทรัพยากร โดยม่งุ ปฏริ ปู กระบวนการวางแผนงาน/ โครงการแบบรว่ มมอื และบูรณาการ ท่ีสามารถตอบโจทย์ของสงั คมและเปน็ การพัฒนาทย่ี ่ังยนื รวมท้งั ณถาะ 24 คมู่ ือพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา “PLK3 วถิ ใี หม่ วิถีคุณภาพ”

กระบวนการจดั ทางบประมาณทม่ี ีประสิทธภิ าพและใชจ้ ่ายอย่างคุ้มคา่ ส่งผลใหภ้ าคสว่ นต่าง ๆ ทัง้ ภาครัฐ ภาคเอกชน และนานาชาติ เช่อื มั่นและร่วมสนับสนุนการพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษามากยิ่งขึน้ 3. ปรบั ร้อื และเปลย่ี นแปลงระบบการบรหิ ารจดั การและพฒั นากาลังคนของกระทรวงศึกษาธกิ าร โดยมุง่ บรหิ ารจัดการอตั รากาลงั ให้สอดคลอ้ งกับการปฏิรปู องค์การ รวมทง้ั พัฒนาสมรรถนะและความรู้ ความสามารถของบุคลากรภาครัฐ ให้มีความพรอ้ มในการปฏบิ ัตงิ านรองรับความเป็นรฐั บาลดิจทิ ัล 4. ปรบั รือ้ และเปล่ียนแปลงระบบการจดั การศกึ ษาและการเรียนรู้ โดยมุ่งใหค้ รอบคลมุ ถึงการจัด การศึกษาเพอื่ คณุ วุฒิ และการเรยี นรู้ตลอดชีวติ ที่สามารถตอบสนองการเปล่ยี นแปลงในศตวรรษที่ 21 จดุ เน้นประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 1. การพฒั นาและเสรมิ สร้างศกั ยภาพทรัพยากรมนุษย์ 1.1 การจดั การศึกษาเพือ่ คณุ วฒุ ิ - จัดการศกึ ษาทุกระดบั ทกุ ประเภท โดยใช้หลกั สูตรฐานสมรรถนะ รวมทง้ั แนวทางการ จัดการเรียนรูเ้ ชงิ รุกและการวัดประเมนิ ผลเพอื่ พัฒนาผเู้ รยี น ท่ีสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการศกึ ษาแหง่ ชาติ - สง่ เสรมิ การพัฒนากรอบหลกั สตู รระดับท้องถ่ินและหลกั สูตรสถานศึกษา ตามความ ตอ้ งการจาเปน็ ของกลมุ่ เป้าหมายและแตกต่างหลากหลายตามบริบทของพ้ืนท่ี - พฒั นาผู้เรียนให้มีทักษะการคดิ วเิ คราะห์ สามารถแกไ้ ขสถานการณ์เฉพาะหนา้ ได้ อย่างมีประสิทธภิ าพ โดยจดั การเรียนรเู้ ชงิ รกุ (Active Learning) จากประสบการณ์จริงหรอื จาก สถานการณจ์ าลองผ่านการลงมือปฏิบัติ ตลอดจนจัดการเรยี นการสอนในเชิงแสดงความคิดเหน็ เพื่อเปิด โลกทศั น์มุมมองรว่ มกันของผ้เู รียนและครใู ห้มากขึน้ - พฒั นาผเู้ รียนใหม้ ีความรอบร้แู ละทกั ษะชวี ิต เพอื่ เปน็ เครือ่ งมอื ในการดารงชีวิตและ สรา้ งอาชีพ อาทิ การใช้เทคโนโลยีดจิ ทิ ัล สขุ ภาวะและทัศนคติทดี่ ีตอ่ การดูแลสุขภาพ 1.2 การเรยี นรู้ตลอดชีวติ - จดั การเรยี นรู้ตลอดชวี ติ สาหรับประชาชนทกุ ช่วงวัย เน้นส่งเสรมิ และยกระดบั ทกั ษะ ภาษาอังกฤษ (English for All) - ส่งเสริมการเรยี นการสอนที่เหมาะสมสาหรับผู้ทเ่ี ข้าสู่สงั คมสูงวัย อาทิ อาชพี ที่ เหมาะสมรองรบั สงั คมสงู วัย หลกั สูตรการพฒั นาคณุ ภาพชีวิต และหลักสูตรการดูแลผสู้ ูงวัย หลักสูตร BUDDY โดยเนน้ การมสี ่วนรว่ มในการพฒั นาชุมชน โรงเรยี น และผ้เู รียน หลกั สตู รการเรียนรอู้ อนไลน์ เพ่อื ส่งเสรมิ ประชาสัมพนั ธ์สินคา้ ออนไลนร์ ะดบั ตาบล ณถาะ 25 คู่มือพัฒนาคุณภาพการศึกษา “PLK3 วถิ ีใหม่ วิถีคุณภาพ”

- สง่ เสริมโอกาสการเข้าถงึ การศึกษาเพือ่ ทักษะอาชีพและการมีงานทา ในเขตพัฒนา พิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเขตพื้นทพ่ี เิ ศษ (พ้นื ทส่ี ูง พนื้ ทต่ี ามแนวตะเข็บ ชายแดน และ พื้นทีเ่ กาะแกง่ ชายฝั่งทะเล ทัง้ กล่มุ ชนตา่ งเชอื้ ชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม กลุม่ ชนชายขอบ และแรงงาน ตา่ งด้าว) - พฒั นาครูให้มีทกั ษะ ความรู้ และความชานาญในการใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ิทัล ปญั ญาประดษิ ฐ์ และภาษาองั กฤษ รวมทง้ั การจดั การเรียนการสอนเพอ่ื ฝึกทักษะการคดิ วิเคราะหอ์ ย่าง เปน็ ระบบและมีเหตุผลเปน็ ขั้นตอน - พฒั นาครอู าชีวศกึ ษาที่มคี วามรแู้ ละความสามารถในทางปฏิบัติ (Hands – on Experience) เพื่อให้มที กั ษะและความเช่ยี วชาญทางวิชาการ โดยร่วมมอื กบั สถาบนั อุดมศกึ ษาชัน้ นาของ ประเทศจัดหลักสูตรการพัฒนาแบบเข้มขน้ ระยะเวลาอย่างนอ้ ย 1 ปี - พัฒนาสมรรถนะและความรู้ความสามารถของบคุ ลากรกระทรวงศึกษาธกิ าร ใหม้ ี ความพรอ้ มในการปฏบิ ตั ิงานรองรบั ความเป็นรัฐบาลดิจิทลั อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ โดยจดั ให้มีศนู ยพ์ ฒั นา สมรรถนะบุคลากรระดับจังหวดั ท่วั ประเทศ 2. การพฒั นาการศกึ ษาเพ่อื ความม่นั คง - พฒั นาคุณภาพการศึกษาในพ้ืนทจ่ี งั หวัดชายแดนภาคใต้ โดยน้อมนายทุ ธศาสตรพ์ ระราชทาน “เข้าใจ เขา้ ถึง พฒั นา” เป็นหลกั ในการดาเนินการ - เฝ้าระวังภยั ทกุ รปู แบบที่เกิดขึน้ กับผเู้ รียน ครู และสถานศกึ ษา โดยเฉพาะภัยจากยาเสพติด อาชญากรรมทางไซเบอร์ การค้ามนุษย์ - ส่งเสรมิ ให้ใช้ภาษาทอ้ งถิ่นรว่ มกบั ภาษาไทย เป็นสื่อจดั การเรยี นการสอนในพ้ืนที่ทใ่ี ชภ้ าษา อยา่ งหลากหลาย เพอื่ วางรากฐานให้ผู้เรยี นมพี ฒั นาการด้านการคดิ วิเคราะห์ รวมทั้งมีทักษะการส่ือสาร และใชภ้ าษาทสี่ ามในการต่อยอดการเรียนรไู้ ดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ - ปลกู ฝงั ผู้เรียนให้มีหลักคิดท่ีถกู ตอ้ งด้านคุณธรรม จริยธรรม และเป็นผ้มู ีความพอเพยี ง วนิ ัย สจุ ริต จิตอาสา โดยใชก้ ระบวนการลกู เสอื และยุวกาชาด 3. การสร้างความสามารถในการแข่งขัน - สนบั สนนุ ใหส้ ถานศกึ ษาอาชีวศกึ ษาผลิตกาลังแรงงานทมี่ คี ณุ ภาพ ตามความเปน็ เลิศของแตล่ ะ สถานศกึ ษาและตามบริบทของพ้ืนที่ รวมท้ังสอดคล้องกับความต้องการของประเทศทง้ั ในปจั จุบนั และ อนาคต - สนบั สนนุ ให้สถานศึกษาอาชวี ศกึ ษาบรหิ ารจัดการอย่างมคี ุณภาพ และจัดการเรยี นการสอน ด้วยเคร่อื งมอื ปฏิบตั ทิ ี่ทนั สมยั และสอดคล้องกับเทคโนโลยี โดยเน้นใหผ้ ู้เรยี นมที กั ษะการวิเคราะห์ขอ้ มลู (Data Analysis) และทกั ษะการส่ือสารภาษาต่างประเทศ ณถาะ 26 ค่มู อื พฒั นาคุณภาพการศึกษา “PLK3 วถิ ีใหม่ วถิ ีคณุ ภาพ”

4. การสรา้ งโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา - พัฒนาแพลตฟอรม์ ดจิ ิทัลเพอื่ การเรยี นรู้ และใช้ดิจทิ ัลเปน็ เครือ่ งมือการเรียนรู้ - ศึกษาและปรบั ปรงุ อตั ราเงนิ อดุ หนนุ คา่ ใชจ้ ่ายต่อหัวในการจดั การศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน ให้สอดคลอ้ งกบั สภาพเศรษฐกิจและบทบัญญัตขิ องรัฐธรรมนญู - ระดมสรรพกาลงั เพ่อื ส่งเสรมิ สนับสนุนโรงเรยี นนารอ่ งพนื้ ที่นวตั กรรมการศึกษา เพือ่ ลดความ เหลื่อมล้าทางการศึกษาใหส้ อดคล้องพระราชบัญญัติพ้นื ท่นี วตั กรรมการศกึ ษา พ.ศ. 2562 5. การจัดการศึกษาเพื่อสรา้ งเสริมคุณภาพชวี ติ ที่เป็นมติ รกบั ส่งิ แวดล้อม - เสรมิ สรา้ งการรบั รู้ ความเข้าใจ ความตระหนกั และสง่ เสริมคุณลกั ษณะและพฤตกิ รรมทพี่ งึ ประสงคด์ ้านสง่ิ แวดลอ้ ม - สง่ เสรมิ การพัฒนาส่ิงประดษิ ฐ์และนวตั กรรมท่ีเป็นมติ รกบั สง่ิ แวดลอ้ ม ให้สามารถเป็นอาชีพ และสรา้ งรายได้ 6. การปรับสมดุลและพฒั นาระบบการบรหิ ารจัดการ - ปฏิรปู องคก์ ารเพอื่ ลดความทับซอ้ น เพิม่ ประสทิ ธิภาพและความเปน็ เอกภาพของหนว่ ยงาน ที่มีภารกิจใกล้เคียงกนั เชน่ ด้านประชาสมั พนั ธ์ ดา้ นตา่ งประเทศ ด้านเทคโนโลยี ดา้ นกฎหมาย เป็นตน้ - ปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เปน็ อปุ สรรคและข้อจากดั ในการดาเนินงาน โดยคานึงถงึ ประโยชน์ของผ้เู รียนและประชาชน ตลอดจนกระทรวงศกึ ษาธกิ ารโดยรวม - สนับสนุนกิจกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจุ รติ และประพฤตมิ ชิ อบ - พัฒนาระบบฐานขอ้ มูลด้านการศกึ ษา (Big Data) - พัฒนาระบบการบรหิ ารจดั การและพฒั นากาลงั คนของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ให้สอดคล้องกบั การปฏิรูปองคก์ าร - สนับสนนุ ใหส้ ถานศึกษาเป็นนติ บิ ุคคล เพอ่ื ให้สามารถบรหิ ารจัดการศกึ ษาท่ีมีคุณภาพได้อยา่ ง อสิ ระและมีประสิทธิภาพ ภายใตก้ รอบแนวทางของกระทรวงศกึ ษาธิการ - จดั ต้งั หนว่ ยงานวางแผนทางการเงิน (Financial Plan) ระดับจงั หวดั เพือ่ พัฒนาคณุ ภาพชีวิต บุคลากรของกระทรวงศกึ ษาธิการ - ส่งเสริมโครงการ 1 ตาบล 1 โรงเรียนคุณภาพ โดยเน้นปรบั สภาพแวดลอ้ มทัง้ ภายในและ ภายนอกบริเวณโรงเรียนใหเ้ ออ้ื ตอ่ การเสริมสรา้ งคุณธรรม จรยิ ธรรม และจิตสาธารณะ ณถาะ 27 คูม่ อื พัฒนาคุณภาพการศกึ ษา “PLK3 วถิ ใี หม่ วิถีคุณภาพ”

การขับเคลือ่ นนโยบายและจุดเนน้ สู่การปฏบิ ตั ิ 1. ให้สว่ นราชการ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ นานโยบายและจดุ เนน้ เป็นกรอบ แนวทางมาใชใ้ นการวางแผนและจัดทางบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยคานึงถึง มาตรการ 4 ข้อ ตามทีร่ ัฐมนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธิการ ได้ใหแ้ นวทางในการบรหิ ารงบประมาณไว้ ดงั นี้ (1) งดดูงานตา่ งประเทศ 1 ปี ยกเวน้ กรณที ี่มคี วามจาเป็นและเป็นประโยชนต์ ่อกระทรวงศกึ ษาธกิ าร (2) ลดการจดั อบรมสัมมนาทีม่ ีขนาดใหญ่และใช้งบประมาณมาก (3) ยกเลกิ การจัดงาน Event และ (4) ทบทวนงบประมาณท่ีมคี วามซา้ ซอ้ น 2. ให้มคี ณะกรรมการติดตาม ประเมนิ ผล และรายงานการขับเคลอื่ นนโยบายและจดุ เนน้ สู่การ ปฏบิ ตั ิระดับพื้นที่ โดยให้ผตู้ รวจราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ ารเปน็ ประธาน สานกั งานศึกษาธกิ ารภาคและ สานักตรวจราชการและติดตามประเมินผล สป. เปน็ ฝ่ายเลขานกุ ารและผู้ชว่ ยเลขานกุ ารตามลาดับ โดยมบี ทบาทภารกิจในการตรวจราชการ ติดตาม ประเมนิ ผลในระดับนโยบาย และจัดทารายงานเสนอตอ่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการจัด การศกึ ษาของกระทรวงศึกษาธกิ าร ทราบตามลาดบั 3. กรณมี ปี ัญหาในเชิงพนื้ ทห่ี รอื ข้อขัดข้องในการปฏบิ ัตงิ าน ให้ศึกษา วิเคราะหข์ ้อมูลและ ดาเนนิ การแกไ้ ขปญั หาในระดบั พน้ื ท่กี อ่ น โดยใชภ้ าคีเครอื ข่ายในการแกไ้ ขข้อขัดข้อง พร้อมท้งั รายงานต่อ คณะกรรมการตดิ ตามฯ ข้างต้น ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรวี ่าการกระทรวงศกึ ษาธิการ ตามลาดับ ประกาศกระทรวงศกึ ษาธกิ ารเรอ่ื ง นโยบายและจดุ เนน้ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 (เพมิ่ เติม) ตามประกาศกระทรวงศกึ ษาธกิ าร เรื่อง นโยบายและจุดเน้น ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 ประกาศ ณ วันท่ี 27 ธันวาคม 2562 นน้ั เนอื่ งจากในห้วงสถานการณ์การแพรร่ ะบาดโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รฐั บาลจึง ไดก้ าหนดมาตรการปอ้ งกันและควบคมุ การแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ซ่ึงทาให้สังคมไทยต้องปรบั เปลยี่ นชีวิตให้เขา้ กับวิถชี วี ติ ใหม่ หรือ New Normal จงึ มีความจาเปน็ ต้อง ปรับเปลยี่ นรปู แบบการดาเนนิ การให้มคี วามปลอดภัยทง้ั ต่อตวั ผเู้ รียน ข้าราชการครู และบคุ ลากรทางการ ศึกษาใหเ้ ป็นไปด้วยความเรยี บรอ้ ย ดงั น้ัน นโยบาย “การศกึ ษายกกาลังสอง (Thailand Education Eco – System : TE2S) เปน็ การศึกษาที่เข้าใจ Supply และตอบโจทย์ Demand” ดงั กล่าว ณถาะ 28 คมู่ อื พฒั นาคุณภาพการศึกษา “PLK3 วถิ ใี หม่ วถิ ีคุณภาพ”

อาศยั อานาจตามความในมาตรา 8 และมาตรา 12 แหง่ พระราชบัญญตั ิระเบียบบรหิ ารราชการ กระทรวงศกึ ษาธิการ พ.ศ. 2546 รฐั มนตรีว่าการกระทรวงศกึ ษาธิการ จึงประกาศนโยบายและจดุ เน้นของ กระทรวงศึกษาธิการ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (เพิม่ เติม) ดงั น้ี หลกั การตามนโยบาย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (เพ่ิมเติม) “5.ดาเนินการปลดลอ็ ก ปรับเปล่ียน เปดิ กว้าง ทเ่ี ป็นเง่อื นไขตา่ ง ๆ เพ่อื ใหบ้ รรลผุ ลตามนโยบาย “การศึกษายกกาลงั สอง (Thailand Education Eco – System : TE2S) การศึกษาทีเ่ ข้าใจ Supply และตอบโจทย์ Demand” โดย - ปลดลอ็ ก กฎหมาย ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ประกาศตา่ ง ๆ เพอ่ื ให้เกดิ ความรว่ มมอื กนั ระหวา่ ง ภาครฐั ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมให้สามารถดาเนินการทีเ่ กีย่ วข้องกบั การศกึ ษาได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการบรหิ ารการศึกษาของประเทศให้ครอบคลมุ ทุกพืน้ ท่ี - ปรับเปล่ยี น หลักสูตรการเรยี นการสอนทม่ี ุ่งเนน้ การพฒั นาขีดความสามารถและศักยภาพให้ ทนั ต่อการเปลยี่ นแปลงของโลก ปรับเปล่ยี นการพัฒนาครแู ละบุคลากรทางการศึกษาผา่ นศูนยพ์ ฒั นา ศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ (Human Capital Excellence Center : HCEC) เพอื่ ใหค้ รู Up Skill และ Re-Skill ของตนเองไดต้ ลอดเวลา ท้ังน้ี เพื่อสง่ ตอ่ ความรูไ้ ปยงั ผูเ้ รยี นใหเ้ ปน็ คนดี คนเก่ง และคนท่ีมี คุณภาพ - เปิดกว้าง เสรีทางการศึกษาใหภ้ าคเอกชนท่มี ีคุณภาพเขา้ มามีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษา รว่ มประเมินผลการเรียนรู้ของผเู้ รยี นผา่ นศนู ยพ์ ัฒนาศักยภาพบคุ คลเพ่อื ความเป็นเลิศ (Human Capital Excellence Center : HCEC) จากแพลตฟอรม์ ดิจทิ ัล (Digital Education Excellence Platform : DEEP) ใหค้ รอบคลุมผู้เรียนท่วั ประเทศ ท้ังน้ี เพ่ือนาไปส่นู กั เรียนยกกาลงั สอง ท่ีเน้นเรยี นเพ่ือรู้ พฒั นาทักษะเพื่อทา ครยู กกาลงั สองท่เี น้น เพิม่ คนเกง่ มาเป็นครู พฒั นาครูในระบบ หอ้ งเรยี นยกกาลงั สองทเี่ น้นเรยี นท่ีบ้าน ถามทโ่ี รงเรยี น หลักสตู ร ยกกาลงั สองท่ีเน้นลดเวลาเรยี น เพ่ิมเวลารู้ สอื่ การเรียนรู้ยกกาลังสองทเ่ี น้นเรยี นผา่ นสอื่ ผสมผสาน ผ่านชอ่ งทางท่หี ลากหลาย ได้แก่ On-Site เรียนที่โรงเรยี น Online เรียนออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มด้าน การศกึ ษาเพอ่ื ความเปน็ เลศิ (Digital Education Excellence Platform : DEEP) ท่ีมเี นอ้ื หา มาตรฐานจากผผู้ ลิตท่ีเป็นภาคเอกชน On-Air เรียนผ่านโทรทศั น์ DLTV มลู นิธิการศกึ ษาทางไกลผ่าน ดาวเทยี ม โดยเนอ้ื หามาตรฐานจากผู้ผลิตทีเ่ ป็นภาคเอกชน และ On-Demand ซึง่ สามารถเรยี นได้ทุกที่ ทุกเวลา ท่มี ีอนิ เทอรเ์ นต็ และอปุ กรณ์เชอื่ มต่อ โรงเรียนยกกาลังสองทมี่ ุ่งเน้นคณุ ภาพในโรงเรยี นระดบั การศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน เพ่อื ความเป็นเลิศทางวิชาการ เพอ่ื ความเป็นเลศิ ทางภูมิปัญญาท้องถนิ่ และวิสาหกจิ ชุมชนที่เนน้ คุณภาพของวทิ ยาลัยอาชวี ศกึ ษาเพอื่ ความเป็นเลิศและความเช่ยี วชาญท่สี ามารถตอบโจทย์ ทักษะและความรทู้ ่ีเพ่มิ ความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติงาน ณถาะ 29 คู่มอื พัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา “PLK3 วถิ ีใหม่ วถิ ีคุณภาพ”

จุดเน้นประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (เพม่ิ เตมิ ) 1. พฒั นาครทู กุ ระดบั ให้มที ักษะ ความรทู้ ่ีจาเปน็ เพอื่ ทาหนา้ ทว่ี ิทยากรมอื อาชีพ (Train The Trainer) และขยายผลการพฒั นาผา่ นศูนยพ์ ัฒนาศกั ยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ (Human Capital Excellence Center : HCEC) 2. จดั การเรียนรตู้ ลอดชีวิตผ่านเว็บไซต์ http://www.deep.go.th โดยปลดล็อกและเปิดกวา้ ง ใหภ้ าคเอกชนสามารถเข้ามาพัฒนาเน้ือหา เพอ่ื ให้ผเู้ รียน ครู และผ้บู ริหารทางการศึกษามีทางเลอื กในการ เรียนรู้ท่หี ลากหลาย และตลอดเวลาผ่านแพลตฟอรม์ ดา้ นการศกึ ษาเพอื่ ความเปน็ เลศิ (Digital Education Excellence Platform : DEEP) 3. ใหผ้ ู้เรียน ครู ผู้บรหิ ารทางการศึกษามีแผนพฒั นารายบคุ คลผา่ นแผนพฒั นารายบุคคลสู่ความ เป็นเลศิ (Excellence Individual Development Plan : EIDP) 4. จัดทา “คู่มือมาตรฐานโรงเรียน” เพื่อกาหนดใหท้ ุกโรงเรียนตอ้ งมพี น้ื ฐานท่จี าเปน็ 6. นโยบายสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน ได้กาหนดนโยบายประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564-2565 โดยยดึ ตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ.2561-2580) และแผนปฏิรูป ประเทศด้านการศกึ ษา กาหนดใหม้ กี ารพฒั นาเดก็ ตง้ั แต่ระดบั ปฐมวัยให้มีสมรรถนะและคุณลักษณะทด่ี ี สมวัยทุกด้าน โดยการปฏริ ปู กระบวนการเรยี นรทู้ ีต่ อบสนองตอ่ การเปล่ียนแปลงในศตวรรษท่ี 21 ตระหนักถงึ พหุปญั ญาของมนุษย์ท่หี ลากหลาย มีเปา้ หมายให้ผเู้ รยี นทกุ กลมุ่ วยั ไดร้ ับการศกึ ษาท่ีมีคุณภาพ ตามมาตรฐาน มีทักษะท่จี าเป็นในโลกอนาคต สามารถแก้ปัญหา ปรับตัว สื่อสาร และทางานรว่ มกบั ผ้อู นื่ ได้อยา่ งมีประสิทธผิ ล มีวินยั มีนิสัยใฝ่เรียนรูอ้ ย่างต่อเนือ่ งตลอดชวี ติ รวมทง้ั เป็นพลเมืองท่ีรูส้ ิทธแิ ละ หนา้ ที่ มีความรบั ผดิ ชอบและมจี ิตสาธารณะ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน มุ่งมนั่ ในการพัฒนาการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน ใหเ้ ป็น “การศกึ ษาข้ันพนื้ ฐานวิถีใหม่ วิถีคุณภาพ” มุ่งเน้นความปลอดภัยในสถานศกึ ษา สง่ เสริมโอกาส ทางการศึกษาท่ีมีคุณภาพอย่างเท่าเทียม และบริหารจดั การศกึ ษาอยา่ งมีประสิทธิภาพ จึงกาหนดนโยบาย สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564-2565 ดงั นี้ 1. ด้านความปลอดภยั พัฒนาระบบและกลไกในการดแู ลความปลอดภัยใหก้ ับผเู้ รยี น ครู และบคุ ลากรทางการศกึ ษาและสถานศึกษา จากภัยพิบตั แิ ละภยั คกุ คามทุกรูปแบบ รวมถงึ การจดั สภาพแวดล้อมทีเ่ อ้ือตอ่ การมสี ุขภาวะที่ดี สามารถปรับตัวต่อโรคอบุ ตั ิใหม่และโรคอบุ ัตซิ ้า ณถาะ 30 คู่มอื พัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา “PLK3 วถิ ใี หม่ วถิ ีคุณภาพ”

2. ด้านโอกาส 2.1 สนบั สนนุ ให้เด็กปฐมวัยไดเ้ ขา้ เรียนทุกคน มีพัฒนาการทด่ี ี ท้ังทางร่างกาย จติ ใจ วินยั อารมณ์ สงั คมและสติปญั ญาให้สมวยั 2.2 ดาเนนิ การให้เด็กและเยาวชนได้รับการศึกษาจนจบการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน อยา่ งมีคณุ ภาพตามมาตรฐาน วางรากฐานการศึกษาเพ่อื อาชีพ สามารถวิเคราะห์ตนเองเพ่ือการศกึ ษาต่อ และประกอบอาชพี ตรงตามศกั ยภาพและความถนัดของตนเอง รวมทง้ั สง่ เสริมและพฒั นาผู้เรยี นท่ีมี ความสามารถพเิ ศษส่คู วามเปน็ เลศิ เพอ่ื เพิ่มขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศ 2.3 พฒั นาระบบดูแลชว่ ยเหลือเดก็ และเยาวชนที่อยูใ่ นการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน เพือ่ ป้องกนั ไมใ่ ห้ออกจากระบบการศึกษา รวมทัง้ ช่วยเหลอื เด็กตกหล่นและเด็กออกกลางคนั ให้ไดร้ ับ การศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐานอยา่ งเทา่ เทยี ม 2.4 สง่ เสริมใหเ้ ด็กพกิ ารและเด็กด้อยโอกาส ใหไ้ ด้รบั โอกาสทางการศกึ ษาท่ีมี คุณภาพ มีทกั ษะในการดาเนินชีวติ มที กั ษะในการประกอบอาชีพ พึง่ ตนเองได้อยา่ งมีศกั ด์ิศรคี วามเปน็ มนุษย์ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 3. ดา้ นคุณภาพ 3.1 สง่ เสริมการจดั การศกึ ษาให้ผเู้ รยี นมคี วามรู้ มีทกั ษะการเรยี นรแู้ ละทักษะท่ี จาเปน็ ของโลกในศตวรรษท่ี 21 อยา่ งครบถ้วน เป็นคนดี มีวินัย มคี วามรักในสถาบนั หลกั ของชาติ ยึดม่ัน การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ์เปน็ ประมขุ มีทศั นคตทิ ี่ถูกตอ้ งต่อบ้านเมอื ง 3.2 พัฒนาผู้เรียนให้มสี มรรถนะและทักษะด้านการอา่ น คณิตศาสตร์ การคิด ขัน้ สงู นวัตกรรมวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยดี ิจทิ ัล และภาษาตา่ งประเทศ เพอื่ เพิ่มขีดความสามารถ ในการแขง่ ขัน และการเลอื กศึกษาต่อเพ่ือการมงี านทา 3.3 ปรับหลักสูตรเป็นหลักสตู รฐานสมรรถนะ ที่เนน้ การพฒั นาสมรรถนะหลกั ทจี่ าเป็นในแต่ละระดับ จัดกระบวนการเรยี นรูแ้ บบลงมอื ปฏิบตั จิ ริง รวมทงั้ ส่งเสรมิ การจดั การเรยี นรู้ ที่สรา้ งสมดุลทกุ ด้าน ส่งเสรมิ การจดั การศึกษาเพ่ือพัฒนาพหุปญั ญา พฒั นาระบบการวดั และประเมินผล ผเู้ รียนทุกระดับ 3.4 พัฒนาครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาใหเ้ ปน็ ครูยุคใหม่ มีศักยภาพในการ จัดการเรียนการสอนตามหลกั สตู รฐานสมรรถนะ มีทักษะในการปฏิบัติหนา้ ท่ไี ดด้ ี มีความรคู้ วามสามารถ ในการใช้เทคโนโลยีดจิ ิทลั มกี ารพฒั นาตนเองทางวชิ าชีพอย่างตอ่ เนอ่ื ง รวมทั้งมจี ิตวญิ ญาณความเป็นครู 4. ด้านประสทิ ธภิ าพ 4.1 พฒั นาระบบบรหิ ารจดั การโดยใช้พ้ืนทีเ่ ปน็ ฐาน มีนวตั กรรมเปน็ กลไกหลัก ในการขับเคล่อื นบนฐานขอ้ มลู สารสนเทศทถ่ี กู ต้อง ทันสมัย และการมสี ่วนรว่ มของทุกภาคสว่ น ณถาะ 31 ค่มู ือพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา “PLK3 วิถใี หม่ วถิ ีคณุ ภาพ”

4.2 พฒั นาโรงเรยี นมัธยมดสี ีม่ มุ เมอื ง โรงเรยี นคุณภาพของชุมชน โรงเรยี น ขนาดเล็ก และโรงเรียนทีส่ ามารถดารงอยูไ่ ดอ้ ย่างมคี ุณภาพ (Stand Alone) ให้มีคุณภาพอยา่ งยง่ั ยนื สอดคล้องกับบริบทของพื้นท่ี 4.3 บรหิ ารจัดการโรงเรียนขยายโอกาสทางการศกึ ษา ทีม่ ีจานวนนักเรยี น ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 – 3 น้อยกวา่ 20 คน ใหไ้ ดร้ บั การศึกษาอยา่ งมคี ณุ ภาพ สอดคลอ้ งกบั นโยบาย โรงเรียนคุณภาพของชมุ ชน 4.4 สง่ เสริมการจดั การศกึ ษาทีม่ ีคุณภาพในสถานศกึ ษาที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะ และสถานศึกษาทตี่ ั้งในพน้ื ท่ีลักษณะพิเศษ 4.5 สนับสนุนพ้นื ทีน่ วัตกรรมการศกึ ษาใหเ้ ป็นต้นแบบการพฒั นานวัตกรรม การศกึ ษา และการเพม่ิ ความคลอ่ งตวั ในการบรหิ ารและการจัดการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน 4.6 เพ่มิ ประสทิ ธภิ าพการนิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน 7. นโยบายและทิศทางการจดั การศึกษา สานักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาพิษณโุ ลก เขต 3 วิสยั ทศั น์ สานักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 มนี วัตกรรมการบริหารทีม่ ีประสทิ ธภิ าพ ขบั เคลอื่ นการจัดการศึกษาในวิถใี หม่ (NEW NORMAL) นกั เรยี นมีสมรรถนะในศตวรรษท่ี 21 อยู่ในสงั คมอยา่ งมีความสุข พันธกจิ 1. ส่งเสรมิ การจัดการศกึ ษาแบบมีสว่ นร่วม โดยใช้กระบวนการชมุ ชนแหง่ การเรยี นรู้ (PLC) และวจิ ัย เป็นฐาน 2. สง่ เสริมสถานศึกษาให้มีประสิทธิภาพในการจัดการศกึ ษาใหม้ ีคุณภาพ สร้างโอกาส สร้างความปลอดภัย 3. เพ่ิมศกั ยภาพครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาในการจดั การเรียนรรู้ องรับการเปล่ียนแปลง 4. เร่งการพฒั นานกั เรียนให้มที กั ษะชวี ติ ทักษะการทางาน ทกั ษะการเรยี นรู้ ทกั ษะดา้ นสารสนเทศ สือ่ เทคโนโลยี สร้างนวตั กรรมเพ่อื รองรบั วิถใี หม่ (NEW NORMAL) 5. เสริมสรา้ งการพฒั นานกั เรยี นให้มีคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ดารงตนอยใู่ นสงั คมอย่างมคี วามสขุ ณถาะ 32 คมู่ ือพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา “PLK3 วิถีใหม่ วถิ ีคณุ ภาพ”

เป้าประสงค์ 1. สานกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาและสถานศกึ ษามรี ะบบบรหิ ารการจดั การศึกษาทีม่ ีคุณภาพ ตามมาตรฐาน 2. นักเรยี นได้รบั โอกาสทางการศกึ ษาทมี่ ีคุณภาพอย่างเทา่ เทยี ม ท่วั ถึง และปลอดภัยทกุ ดา้ น 3. ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษามีศักยภาพในการจัดการเรียนรรู้ องรับการเปลีย่ นแปลง 4. นักเรียนมีทกั ษะชวี ติ ทักษะการทางาน ทักษะการเรียนรู้ ทกั ษะดา้ นสารสนเทศ ส่ือ เทคโนโลยี สร้างนวตั กรรมเพือ่ รองรับวถิ ใี หม่ (NEW NORMAL) 5. นกั เรยี นมคี ุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ดารงตนอยูใ่ นสงั คมอย่างมีความสขุ กลยุทธ์ 1. พัฒนาระบบบรหิ ารจัดการโดยใช้พื้นที่เปน็ ฐาน 2. พฒั นาครแู ละบุคลากรทางการศึกษาทัง้ ระบบ ให้สามารถจัดการเรยี นการสอนเพ่ือรองรบั การเปลี่ยนแปลง 3. สง่ เสริมนกั เรียนให้มคี ณุ ภาพตามมาตรฐานการศึกษา ณถาะ 33 ค่มู ือพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา “PLK3 วถิ ีใหม่ วถิ ีคณุ ภาพ”

รูปแบบการบรหิ ารจดั การศึกษาของสานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษาพษิ ณโุ ลก เขต 3 ณถาะ 34 ค่มู ือพัฒนาคุณภาพการศกึ ษา “PLK3 วถิ ีใหม่ วถิ ีคุณภาพ”

ตวั ชวี้ ัด 5 SMART 1.1 SMART Students 1. นักเรียนระดบั ปฐมวยั มที ักษะการคิดเบอื้ งตน้ 2. นกั เรียนมีทักษะการอา่ น การเขียน การคิดคานวณ 3. นกั เรยี นมีความสามารถในการส่ือสารภาษาไทยและภาษาองั กฤษ 4. นักเรยี นมคี วามสามารถในการใช้ทักษะชีวิตและทกั ษะอาชพี ที่เหมาะสมตามชว่ งวยั 5. นักเรียนมคี วามสามารถในการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมตามชว่ งวยั 6. นกั เรยี นมคี วามสามารถในการคิดและการแก้ปัญหานาไปส่กู ารสรา้ งนวัตกรรม 7. นักเรยี นมผี ลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเปน็ ไปตามค่าเปา้ หมายท่โี รงเรยี นกาหนด 8. นักเรียนดารงชวี ติ อย่ใู นสังคมอยา่ งมีความสขุ และมคี วามปลอดภยั 9. นกั เรียนมคี ุณลกั ษณะอนั พึงประสงคต์ ามคณุ ธรรมอตั ลักษณ์ของโรงเรียน 1.2 SMART Teachers 1. ครูต้องมีจติ วญิ ญาณของความเปน็ ครู (ครรู ักเด็ก เด็กรักครู) ปฏบิ ัติตนเป็นแบบอยา่ งที่ดีตาม คุณธรรมอัตลักษณ์ของโรงเรียน 2. ครผู ู้สอนจัดการเรยี นรเู้ ชิงรกุ (Active Learning) ที่สอดคล้องกับทกั ษะการเรยี นรูใ้ น ศตวรรษท่ี 21 3. ครผู ู้สอนมกี ารแลกเปลีย่ นเรียนรู้ และให้ข้อมลู สะทอ้ นกลบั เพ่ือพัฒนาและปรบั ปรุงการจดั การเรียนรู้ 4. ครผู ูส้ อนมีการวัดและประเมินผลนักเรียน และนาผลมาพฒั นานักเรียนอย่างเปน็ ระบบ 5. มีการวิเคราะหน์ กั เรียนรายบคุ คล คัดกรองนักเรียนและจัดกจิ กรรมชว่ ยเหลอื แกไ้ ขนักเรียน ตามความเหมาะสม 1.3 SMART Directors 1. ผู้บริหารสถานศกึ ษามีภาวะผนู้ า และปฏบิ ตั ิตนเปน็ แบบอยา่ งท่ดี ีตามหลักธรรมาภบิ าล 2. ผบู้ รหิ ารสถานศึกษาเปน็ ผู้นาการเปลย่ี นแปลงและสร้างผนู้ าทางวิชาการในสถานศกึ ษา โดยใช้ กระบวนการนิเทศภายใน 3. ผู้บรหิ ารสถานศึกษามีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการและ สนบั สนนุ การจดั การเรียนรู้ 4. ผบู้ รหิ ารสถานศึกษามรี ะบบการบรหิ ารจัดการคณุ ภาพของสถานศกึ ษา ตามเปา้ หมาย วสิ ยั ทศั น์ และพนั ธกจิ ท่ีสถานศึกษากาหนดชดั เจน และมนี วตั กรรมทางการบรหิ าร ณถาะ 35 คมู่ อื พัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา “PLK3 วถิ ีใหม่ วิถีคณุ ภาพ”

5. ผบู้ ริหารสถานศกึ ษามบี ทบาทในการส่งเสรมิ ประสานความรว่ มมอื ของเครอื ขา่ ย ชมุ ชนและ หนว่ ยงานอ่ืน ๆ 1.4 SMART Classrooms ห้องเรียนเชงิ บวก ดงั น้ี 1.หอ้ งเรยี น/ห้องปฏบิ ัตกิ ารถกู สุขลกั ษณะ เปน็ ระเบียบ สะอาด สวยงาม ปลอดภัย 2.หอ้ งเรียน/หอ้ งปฏบิ ตั ิการมีสือ่ วัสดอุ ุปกรณ์ สิง่ อานวยความสะดวกในชน้ั เรยี นเพียงพอและ พรอ้ มใชง้ าน 3.หอ้ งเรยี นต้องมีครูดี มวี ิธีการ/กิจกรรมเสรมิ แรงให้นกั เรยี นมีความมั่นใจในการพัฒนาตนเองเตม็ ตามศักยภาพ 4.หอ้ งเรียนมกี ารรักษาระเบยี บวนิ ัยในชนั้ เรียน 5.หอ้ งเรยี น/หอ้ งปฏิบัตกิ ารมบี รรยากาศอบอ่นุ เป็นกลั ยาณมิตร ระหว่างครกู ับนกั เรียน และ นกั เรียนกับนักเรียน 6.ห้องเรยี นมขี อ้ มลู สารสนเทศนกั เรียนรายบคุ คล 1.5 SMART Schools & office 1.5.1 SMART Schools 1. โรงเรยี นน่าอยู่ มบี รรยากาศและสิ่งแวดลอ้ มที่ เอ้อื ต่อการเรยี นรู้ และมมี าตรการรักษา ความปลอดภยั ทุกด้าน 2. โรงเรยี นมีระบบประกนั คุณภาพภายในทีเ่ ข้มแข็ง 3. โรงเรยี นมีการจดั การศึกษาในวถิ ีใหม่ (NEW NORMAL) ผ่านชอ่ งทางท่ีหลากหลาย ได้แก่ On-Site, Online ผ่านแพลตฟอร์ม DEEP 1.5.2 SMART office 1. รปู แบบการบริการรวดเร็ว ชดั เจน เป็นระบบ ครบวงจร 2. บุคลากรยิ้มแย้มแจม่ ใส เตม็ ใจใหบ้ รกิ ารด้วยความเป็นกัลยาณมิตร 3. การบริหารจัดการโดยใช้หลกั ธรรมาภิบาล 4. สานักงานแหง่ นวัตกรรมยคุ ใหม่ ใช้ระบบ ICT ทางานไดท้ กุ ท่ี ทกุ เวลา 5. ใช้การวจิ ยั และพัฒนาในการขบั เคลอื่ นคณุ ภาพ 6. การบรหิ ารจดั การแบบมสี ่วนรว่ มเชงิ บรู ณาการ 7. การกากับตดิ ตาม ประเมินผลและรายงานอยา่ งเป็นระบบ 8. สานักงานทันสมยั ปลอดภัย นา่ อยู่ ณถาะ 36 คู่มอื พฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา “PLK3 วิถีใหม่ วิถีคณุ ภาพ”

จุดเน้น สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาพษิ ณโุ ลก เขต 3 ไดก้ าหนดจุดเน้นเพือ่ การพฒั นา คุณภาพสถานศึกษา ผบู้ ริหาร ครู และนักเรยี น จานวน 12 ขอ้ ดังน้ี 1. นกั เรียนระดบั ปฐมวยั มที ักษะการคดิ เบือ้ งตน้ 2. นกั เรยี นมที กั ษะการอ่าน การเขียน การคิดคานวณ 3. นกั เรียนมีความสามารถในการสื่อสารภาษาไทยและภาษาองั กฤษ 4. นักเรียนมีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตและทักษะอาชพี ทีเ่ หมาะสมตามช่วงวยั 5. นกั เรียนมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีท่เี หมาะสมตามช่วงวยั 6. นักเรยี นมคี วามสามารถในการคิดและการแก้ปัญหา 7. นกั เรียนมีคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ตามคุณธรรมอัตลักษณ์ของโรงเรียน 8. ผู้บริหารจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพอื่ การบรหิ ารจัดการและการจัดการเรยี นรู้ 9. โรงเรยี นนา่ อยู่และปลอดภัย 10. ครผู สู้ อนจัดการเรียนรูเ้ ชงิ รุก (Active Learning) ที่สอดคล้องกับทกั ษะการเรยี นร้ใู นศตวรรษ ท่ี 21 11. ครูผสู้ อนมีการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ และใหข้ ้อมูลสะทอ้ นกลบั เพอ่ื พฒั นาและปรบั ปรงุ การ จดั การเรยี นรู้ 12. หอ้ งเรียนเชิงบวก ณถาะ 37 คมู่ อื พฒั นาคุณภาพการศกึ ษา “PLK3 วิถีใหม่ วิถีคุณภาพ”

สว่ นที่ 4 การนิเทศ ติดตาม และประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษา สานกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาพษิ ณุโลก เขต 3 ไดก้ าหนดให้มกี ารนเิ ทศ ตดิ ตามและ ประเมินผลการจดั การศกึ ษาทกุ โรงเรยี นในสงั กดั แบบบรู ณาการโดยใช้พ้นื ที่เป็นฐาน เพือ่ ส่งเสริม สนบั สนุนและให้ความช่วยเหลอื ผูบ้ ริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศกึ ษาในการจัดการศึกษาให้ สามารถจัดการศกึ ษาได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ มีการนิเทศ ตดิ ตามการดาเนินงานตามนโยบายทางการ ศึกษาท่ีสาคัญ ตลอดจนรูปแบบและแนวทางการจัดการศกึ ษาของเขตพื้นที่อยา่ งสม่าเสมอ อันจะเป็นการ ยกระดบั คุณภาพสถานศกึ ษาและนกั เรียนให้มีมาตรฐานและบรรลุเป้าหมายท่ีกาหนด จากแนวทางการจดั การศึกษาของสานกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาพิษณโุ ลก เขต 3 ได้ กาหนดจุดเน้นคุณภาพของสถานศึกษา ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา ครูและบคุ ลากรทางการศึกษา และนักเรยี น ในสงั กัด ปีการศกึ ษา 2563 – 2564 จานวน 12 ขอ้ ดังน้ี 1. นกั เรียนระดบั ปฐมวยั มีทกั ษะการคดิ เบอื้ งตน้ 2. นักเรียนมที กั ษะการอ่าน การเขียน การคิดคานวณ 3. นกั เรยี นมีความสามารถในการสอื่ สารภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 4. นักเรียนมีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตและทกั ษะอาชพี ที่เหมาะสมตามชว่ งวยั 5. นักเรยี นมคี วามสามารถในการใช้เทคโนโลยีทเี่ หมาะสมตามชว่ งวยั 6. นกั เรยี นมีความสามารถในการคดิ และการแก้ปัญหา 7. นักเรียนมีคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ตามคณุ ธรรมอตั ลกั ษณ์ของโรงเรียน 8. ผูบ้ ริหารสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรยี นรู้ โดยจดั ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ และกระบวนการนิเทศภายใน 9. โรงเรยี นน่าอยู่และปลอดภยั 10. ครผู ู้สอนจัดการเรยี นรเู้ ชิงรุก (Active Learning) ทส่ี อดคลอ้ งกับทกั ษะการเรียนรใู้ นศตวรรษ ท่ี 21 11. ครผู ้สู อนมกี ารแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพฒั นาและปรับปรุงการ จดั การเรียนรู้ 12. หอ้ งเรียนเชิงบวก โดยมรี ายละเอียดของเป้าหมายและตวั ช้วี ัดความสาเร็จ ระดับคณุ ภาพ และแนวทางการนิเทศ ติดตามและ ประเมินผลของแตล่ ะจดุ เน้น ดงั นี้ ณถาะ 38 ค่มู ือพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา “PLK3 วิถใี หม่ วิถีคุณภาพ”

จุดเน้นท่ี 1 เด็กปฐมวยั มีทกั ษะการคิดเบือ้ งต้น สอดคล้องกบั มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพผ้เู รยี น SMART Student ขอ้ ที่ 1 เด็กปฐมวยั มีทกั ษะการคิดเบือ้ งต้น เป้าหมาย/ตัวชี้วัดความสาเรจ็ ระดับคณุ ภาพ แนวทางการนเิ ทศ ตดิ ตามและ ประเมินผล เปา้ หมาย ระดบั ยอดเยี่ยม เด็กผ่านเกณฑ์ ระยะเวลาการประเมนิ เด็กปฐมวัยมีทกั ษะการคิดเบือ้ งต้น การประเมินระดับดขี ้ึนไป ภาคเรียนละ 1 คร้งั เพ่ือเปน็ พน้ื ฐานในการพฒั นาศักยภาพ รอ้ ยละ 80 ข้นึ ไป วธิ ีการประเมนิ 1. การสมั ภาษณ์ ด้านการเรยี นรู้ของตนเองไดอ้ ยา่ งเตม็ ระดบั ดีเลิศ เด็กผ่านเกณฑ์ 2. การประเมนิ ทกั ษะการคิด ตามศักยภาพ การประเมินระดบั ดขี ้ึนไป เบ้ืองตน้ ของเดก็ ปฐมวัย ตวั ชวี้ ัดความสาเร็จ รอ้ ยละ 70-79 เครอ่ื งมอื ที่ใช้ในการประเมิน 1. แบบสมั ภาษณก์ ารมี ร้อยละของเดก็ ปฐมวยั มีทักษะการคดิ ระดับดี เดก็ ผ่านเกณฑก์ าร พฤตกิ รรม ดา้ นการคิดของเดก็ ปฐมวยั เบือ้ งต้นเพอ่ื เปน็ พนื้ ฐานในการพฒั นา ประเมนิ ระดับดีขน้ึ ไป 2. คมู่ อื ประเมินทกั ษะการคิด ศกั ยภาพด้านการเรยี นรู้ของตนเองได้ รอ้ ยละ 60-69 เบ้อื งต้นของเด็กปฐมวัย อยา่ งเต็มตามศักยภาพโดย ระดบั ปานกลาง เดก็ ผ่านเกณฑ์ เกณฑ์การประเมนิ ดังนี้ การประเมนิ ระดบั ดีขนึ้ ไป ระดับ 3 (ด)ี เด็กใช้ประสาทสมั ผัสใน ร้อยละ 50-59 การสงั เกตส่งิ ต่างๆ รอบตวั ไดแ้ ละ ระดบั กาลังพัฒนา เดก็ ผ่านเกณฑ์ สามารถเปรยี บเทยี บความเหมอื น การประเมนิ ระดบั ดีขนึ้ ไปน้อยกว่า ความแตกต่างของสงิ่ ของได้ รอ้ ยละ 50 ระดบั 2 (พอใช้) เด็กใชป้ ระสาทสมั ผัส ในการสังเกตสง่ิ ต่างๆ รอบตวั ได้แต่ไม่ สามารถเปรยี บเทียบความเหมือน ความแตกต่างของสิ่งของได้ / สามารถ เปรยี บเทียบความเหมอื นความ แตกต่างของสงิ่ ของไดแ้ ต่ไมส่ ามารถใช้ ประสาทสัมผัสในการสงั เกต สง่ิ ตา่ งๆ รอบตัวได้ ณถาะ 39 คูม่ อื พัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา “PLK3 วถิ ใี หม่ วิถีคุณภาพ”

เปา้ หมาย/ตวั ชว้ี ัดความสาเรจ็ ระดบั คุณภาพ แนวทางการนเิ ทศ ตดิ ตามและ ประเมินผล ระดบั 1 (ปรบั ปรุง) เด็กไมส่ ามารถใช้ประสาทสัมผัสใน การสังเกตสิ่งต่างๆ รอบตวั ไดแ้ ละไม่ สามารถเปรียบเทยี บความเหมอื น ความแตกตา่ งของส่งิ ของได้ ณถาะ 40 คมู่ ือพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา “PLK3 วิถีใหม่ วิถีคุณภาพ”

จดุ เน้นท่ี 2 นกั เรยี นมที ักษะการอา่ น การเขียน การคดิ คานวณ สอดคล้องกับมาตรฐานที่ 1 ด้านคณุ ภาพผู้เรียน SMART Student ขอ้ ที่ 2 นักเรียนมที กั ษะการอา่ น การเขียน การคิดคานวณ เป้าหมาย/ตัวชีว้ ัดความสาเร็จ ระดับคณุ ภาพ แนวทางการนิเทศ ติดตามและ ประเมนิ ผล นกั เรียนมีทกั ษะการอ่านออก ระดับ ยอดเยี่ยม ระยะเวลาในการนเิ ทศ ตดิ ตาม การเขียนได้ และคิดคานวณได้ ปฏิบตั ิได้ 5 ข้อ ภาคเรียนละ 1 คร้ัง 1. นกั เรยี นชน้ั ป.1 ทุกคนอ่านออก ระดบั ดเี ลศิ เขยี นได้ และคดิ คานวณได้ ปฏบิ ตั ไิ ด้ 4 ขอ้ วธิ ีการนเิ ทศ ตดิ ตาม 2. นกั เรียนชน้ั ป.2 – 6 ทกุ คนอ่านคลอ่ ง ระดบั ดี - การสมั ภาษณผ์ บู้ ริหาร เขียนคลอ่ ง คิดคานวณคลอ่ งและ ปฏบิ ตั ไิ ด้ 3 ขอ้ ครผู สู้ อน และนักเรียน ตีความหมายโจทยป์ ญั หาคณิตศาสตรไ์ ด้ ระดบั ปานกลาง - การประเมินตามสภาพจริง 3. นกั เรียนช้ัน ม.1 – 3 ทุกคนอา่ นรู้เรื่อง ปฏบิ ัตไิ ด้ 2 ขอ้ วเิ คราะหแ์ ละแก้โจทยป์ ญั หาทาง ระดับ กาลงั พฒั นา เคร่อื งมอื การนิเทศ ติดตาม คณิตศาสตร์ได้ ปฏบิ ตั ไิ ด้ 0 – 1 ขอ้ - แบบสัมภาษณ์ ตัวชี้วัดความสาเรจ็ - แบบทดสอบ 1. โรงเรยี นมีโครงการ/แผนพัฒนา การอา่ น การเขียน และคดิ คานวณ เพอ่ื พัฒนานกั เรียน 2. ครูผู้สอนมขี อ้ มูลนกั เรียน ทุกคนจดั ทาสารสนเทศ แสดงจานวน นักเรยี นท่ีมปี ญั หาด้านการอา่ น การเขยี น และคิดคานวณ โดยระบุปัญหา และสาเหตุ 3. ครูผูส้ อนมนี วัตกรรม/จัดหา/ จัดทาส่อื แบบฝึก แลว้ นามาใช้พัฒนา การอ่าน การเขยี น และคดิ คานวณ ณถาะ 41 คู่มอื พัฒนาคณุ ภาพการศึกษา “PLK3 วถิ ีใหม่ วถิ ีคุณภาพ”

เป้าหมาย/ตวั ชีว้ ดั ความสาเรจ็ ระดับคณุ ภาพ แนวทางการนเิ ทศ ติดตามและ ประเมนิ ผล 4. ครผู ู้สอนประเมินการอา่ น การเขียนและคดิ คานวณ อย่างน้อย เดอื นละ 1 ครัง้ และสอนซ่อมเสริม มบี ันทกึ ผลทกุ คร้งั 5. รอ้ ยละ 80 ของจานวนนักเรียน ทุกระดบั ชนั้ มีผลการประเมินการอา่ น การเขยี น และคดิ คานวณ ท้งั 3 ด้าน ในระดบั ดีขึ้นไป ผลของคะแนนจากการวัดทักษะ การอ่าน การเขียน และคิดคานวณ เป็นรายบุคคล ดังนี้ คะแนนเต็ม การแปลผล ( 20 คะแนน) ดีมาก 15 – 20 ดี 10 – 14 พอใช้ ปรับปรุง 5–9 0–4 ณถาะ 42 คู่มอื พัฒนาคณุ ภาพการศึกษา “PLK3 วิถีใหม่ วิถีคุณภาพ”

จุดเนน้ ท่ี 3 นักเรียนมีความสามารถในการส่ือสารภาษาไทยและภาษาอังกฤษ สอดคลอ้ งกับมาตรฐานท่ี 1 คณุ ภาพผ้เู รียน SMART Student ขอ้ ท่ี 3 ขอ้ ท่ี 3.1 นักเรียนมีความสามารถในการสอ่ื สารภาษาไทย เปา้ หมาย/ตัวช้ีวัดความสาเรจ็ ระดับคุณภาพ แนวทางการนเิ ทศ ติดตามและ ประเมินผล 1. นกั เรียนมคี วามสามารถในการ ระดับ ยอดเยีย่ ม ร้อยละ 80 การนิเทศ ติดตาม ส่อื สารภาษาไทยไดอ้ ย่างเหมาะสม ของจานวนนกั เรยี นมคี วามสามารถ ภาคเรยี นละ 1 ครัง้ เปา้ หมาย ในการส่อื สารภาษาไทย นักเรียนมคี วามสามารถในการส่อื สาร ระดับดขี น้ึ ไป วธิ กี ารนิเทศ ติดตาม ภาษาไทยตามระดับช้ันไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ระดับ ดีเลศิ ร้อยละ 70 - 79 การตรวจสอบหลกั ฐานการประเมิน ตวั ชีว้ ัดความสาเร็จ ของจานวนนกั เรยี นมคี วามสามารถ นักเรียน ตามหลักสูตร 1. นักเรยี นสามารถใชภ้ าษาใน ในการส่อื สารภาษาไทย การสมั ภาษณค์ รูผ้สู อน และ การถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ระดับดีข้นึ ไป นักเรยี น ความเข้าใจได้อย่างเหมาะสม ระดับ ดี ร้อยละ 60-69 ของ 2. นักเรยี นสามารถวิเคราะห์ และแสดงความคดิ เหน็ จากเรื่องท่ี จานวนนักเรยี นมีความสามารถใน เครอื่ งมอื นิเทศ ตดิ ตาม อ่าน ฟงั และดู อย่างมเี หตผุ ล การส่อื สารภาษาไทย ระดบั ดีขน้ึ ไป แบบบนั ทกึ ขอ้ มูล 3. นกั เรียนสามารถเขยี นสอ่ื สาร ในรปู แบบตา่ ง ๆ ไดต้ รงตาม ระดบั ปานกลาง ร้อยละ 50-59 แบบสัมภาษณ์ วัตถปุ ระสงค์ โดยใชภ้ าษาถกู ตอ้ ง ของจานวนนักเรียนมีความสามารถ เหมาะสม มีข้อมูลและสาระสาคัญ ในการสอ่ื สารภาษาไทย ชดั เจน ระดับดีขึ้นไป ผลของคะแนนจากการวัด ระดับ กาลงั พฒั นา ตา่ กว่าร้อยละ ความสามารถการส่ือสารภาษาไทยเป็น 50 ของจานวนนกั เรียนมี รายบคุ คล ดงั น้ี ความสามารถในการส่อื สาร ภาษาไทย ระดบั ดีขึ้นไป คะแนนเตม็ การแปลผล ( 20 คะแนน) ดีมาก 15 – 20 ดี พอใช้ 10 – 14 ปรับปรงุ 5–9 0–4 ณถาะ 43 คู่มอื พัฒนาคณุ ภาพการศึกษา “PLK3 วถิ ใี หม่ วิถีคุณภาพ”

ขอ้ ท่ี 3.2 นกั เรยี นมคี วามสามารถในการสอ่ื สารภาษาอังกฤษ เป้าหมาย/ตวั ช้ีวัดความสาเร็จ ระดบั คุณภาพ แนวทางการนเิ ทศ ตดิ ตามและ ประเมินผล เป้าหมาย : นักเรยี นระดับปฐมวยั ถงึ ระดับ ยอดเย่ยี ม ระยะเวลาการประเมนิ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 นักเรียนมคี วามสามารถใน ภาคเรยี นละ 1 คร้งั ตวั ชี้วัดความสาเรจ็ การสือ่ สารภาษาองั กฤษ ระดบั วิธกี ารประเมนิ 1. ตดิ ตามการสง่ เสริมการเรยี นรู้ 1. ครผู ู้สอนมโี ครงการ/กิจกรรม และ ดขี ้นึ ไป รอ้ ยละ 80 ขึน้ ไป คาศพั ท์ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน จดั สภาพ แวดลอ้ มที่เอือ้ ต่อการเรยี นรู้ ระดบั ดเี ลิศ 2. ประเมนิ ความสามารถใน คาศพั ทแ์ ละสื่อสารภาษาอังกฤษได้ นักเรียนมีความสามารถใน การสอื่ สารภาษาองั กฤษของนกั เรยี น ระดับช้ันปฐมวัยถึงชัน้ มัธยมศกึ ษา อยา่ งเหมาะสม การสื่อสารภาษาอังกฤษ ปที ี่ 3 2. ครูมกี ารบนั ทึกเอกสารหลักฐาน/ ระดบั ดขี ึน้ ไป รอ้ ยละ 70-79 เครอ่ื งมือการประเมิน : 1. แบบบันทกึ การสง่ เสรมิ การ รอ่ งรอย การสง่ เสริมการเรยี นรู้ ระดบั ดี เรยี นรคู้ าศัพท์ภาษาอังกฤษพนื้ ฐาน คาศัพทแ์ ละการส่ือสารภาษาอังกฤษ นักเรยี นมีความสามารถใน (Word Bank) 3. นักเรียนระดับปฐมวยั สามารถนา การสอ่ื สารภาษาอังกฤษ 2. ประโยคสอื่ สารภาษาองั กฤษ ตามระดับช้นั คาศพั ท์อย่างงา่ ยทีเ่ ก่ยี วข้องในชีวิต ระดับดีขน้ึ ไป ร้อยละ 60-69 3. หวั ขอ้ / สถานการณ์ที่ ประจามาใช้สื่อสารไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ระดับ ปานกลาง กาหนดให้ผเู้ รียนใชใ้ นการส่อื สาร ภาษาองั กฤษ 4. นกั เรียนระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษา นกั เรยี นมคี วามสามารถใน 4. แบบบนั ทกึ ผลการประเมนิ ปที ่ี 1-3 สามารถนาคาศัพทพ์ ื้นฐานมา การสื่อสารภาษาองั กฤษ ความสามารถการส่ือสารภาษาอังกฤษ ของผ้เู รียน ใช้ส่อื สาร ให้ข้อมูลเกย่ี วกบั ตวั เองและ ระดับดขี น้ึ ไป ร้อยละ 50-59 ครอบครวั ได้อย่างถูกตอ้ งและ ระดับ กาลงั พฒั นา เหมาะสมกบั ระดับชน้ั นกั เรยี นมีความสามารถใน 5. นกั เรยี นระดับช้ันประถมศกึ ษาปี การสื่อสารภาษาองั กฤษ ท่ี 4-6 สามารถนาคาศพั ท์พน้ื ฐานมาใช้ ระดบั ดขี ้นึ ไป ตา่ กว่าร้อยละ 50 สื่อสาร ให้ข้อมูลเกี่ยวกบั เก่ยี วกบั ตัวเอง ครอบครวั และโรงเรียนไดอ้ ยา่ ง ถกู ต้อง คล่องแคลว่ และเหมาะสมกับ ระดับชั้น ณถาะ 44 คมู่ ือพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา “PLK3 วถิ ใี หม่ วถิ ีคณุ ภาพ”

เป้าหมาย/ตัวชวี้ ัดความสาเรจ็ ระดับคณุ ภาพ แนวทางการนิเทศ ติดตามและ ประเมินผล 6. นกั เรียนระดบั ช้ันมัธยมศึกษา ปีที่ 1-3 สามารถนาคาศพั ท์พื้นฐานมา ใช้สื่อสาร ใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตัวเอง ครอบครวั โรงเรียน ชมุ ชน และ สถานการณต์ ่าง ๆ ได้อยา่ ง ถกู ต้อง คล่องแคล่ว อย่างสรา้ งสรรค์และ เหมาะสมกบั ระดบั ชั้น ณถาะ 45 คู่มือพฒั นาคุณภาพการศกึ ษา “PLK3 วิถีใหม่ วิถีคณุ ภาพ”

จดุ เนน้ ท่ี 4. นกั เรยี นมีความสามารถการใชท้ กั ษะชวี ิตและทกั ษะอาชพี มงี านทาทเี่ หมาะสม ตามช่วงวยั สอดคล้องกับมาตรฐานที่ 1 คุณภาพผู้เรียน SMART student ข้อท่ี 4 4.1 นกั เรียนมที ักษะอาชพี และมีงานทา เป้าหมาย/ตัวช้วี ัดความสาเร็จ ระดับคณุ ภาพ แนวทางการนิเทศ ตดิ ตามและ ประเมินผล เปา้ หมาย ระดับยอดเยี่ยม ปฏบิ ตั ไิ ด้ 5 ขอ้ 1. ระยะเวลาการประเมนิ นกั เรยี นระดับประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ระดับดเี ลิศ ปฏิบตั ไิ ด้ 4 ข้อ ภาคเรยี นละ 1 ครงั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3 และมธั ยมศกึ ษา ระดับดี ปฏบิ ัตไิ ด้ 3 ข้อ 2. วธิ กี ารประเมิน ปีที่ 6 ระดับปานกลาง ปฏบิ ตั ิได้ 2 ข้อ - การตรวจสอบ แผนการเรียนรู้ ตัวชี้วัดความสาเรจ็ ระดบั กาลงั พัฒนา ชิน้ งาน ผลผลติ เชิงประจกั ษ์ โรงเรยี นดาเนนิ การส่งเสรมิ ผเู้ รียนใหม้ ี ปฏบิ ัติได้ 1 ขอ้ - การสัมภาษณ์ ทักษะการเรยี นรู้เช่ือมโยงอาชพี 3. เครื่องมอื ในการประเมนิ ระดับชั้นประศึกษาปที ี่ 6 มธั ยมศึกษา - แบบประเมนิ ปีที่ 3 และ มัธยมศึกษาปีที่ 6 เช่น 1. การเสรมิ ทักษะอาชพี ในรายวชิ า พ้ืนฐาน/รายวิชาเพม่ิ เติม/รายวชิ า การศึกษาค้นควา้ ด้วยตนเองเก่ยี วกับ อาชีพ/การจัดโครงงานอาชพี /การจดั ฐานการเรยี นรเู้ กยี่ วกับอาชีพ/ การ เสรมิ ทักษะอาชพี ในกิจกรรมพฒั นา ผเู้ รยี น/ หลกั สูตรวิชาชีพระยะสั้น/ การสร้างเสริมประสบการณ์อาชพี (work Experience) 2.แผนการเรยี นรู้/กจิ กรรม/โครงการ 3. ผลงาน/ชนิ้ งานของนักเรยี น 4. รายงานผลการประเมนิ ทักษะ อาชพี ของนักเรียนทุกคน 5. เผยแพร่ ณถาะ 46 คูม่ ือพฒั นาคุณภาพการศกึ ษา “PLK3 วิถใี หม่ วิถีคณุ ภาพ”


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook