197
198
199
200
201 ขอ บังคับของประธานศาลฎกี า วาดว ยการสอบถามผตู อ งหาหรือทาํ การไตส วนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผูตอ งหา ในลกั ษณะการประชมุ ทางจอภาพ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยท่ีเปนการสมควรกําหนดหลักเกณฑแ ละวธิ ีการวา ดว ยการสอบถามผูตองหาหรือ ทําการไตสวนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผูตองหาในลักษณะการประชุมทางจอภาพ ใหเปนไปอยางเหมาะสมเพื่อคุมครองความปลอดภัยในการควบคุมผูตองหา อันจะเปนหลักประกัน ในการมตี ัวผตู องหาเพอ่ื ทําการสอบสวนหรือฟองคดี ตลอดจนเปนหลักประกันการคุมครองสิทธิของ ผตู องหา อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๘๗/๑ วรรคหนึ่ง แหงประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความอาญา ประธานศาลฎีกาโดยความเห็นชอบจากท่ีประชุมใหญของศาลฎีกา จึงออก ขอบังคบั ไวดงั ตอไปนี้ ขอ ๑ ขอบังคับน้ีเรียกวา “ขอบังคับของประธานศาลฎีกา วาดวยการสอบถาม ผูตองหาหรือทําการไตสวนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผูตองหาในลักษณะการประชุมทาง จอภาพ พ.ศ. ๒๕๕๖” ขอ ๒ ขอ บังคบั นใ้ี หใชบ ังคับตั้งแตวันถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปน ตน ไป ขอ ๓ การรองขอใหศาลสอบถามผูตองหาหรือทําการไตสวนพยานหลักฐานในการ ออกหมายขังผูตองหาในลักษณะการประชุมทางจอภาพ จะกระทําไดตอเมื่อเปนการยื่นคํารองขอ หมายขังผูตองหาตั้งแตคร้ังท่ีสองเปนตนไป เวนแตโดยลักษณะของความผิด ฐานะของผูตองหา จํานวนผูตองหา ความรูสึกของประชาชนสวนมากแหงทองถิ่นนั้น หรือเหตุผลอยางอื่น อาจทําใหมี การขัดขวางตอการสอบถามผูตองหา หรือนากลัววาจะเกิดความไมสงบหรือเหตุรายอยางอ่ืนข้ึน และผูตองหามิไดคัดคาน ศาลจะมีคําส่ังใหสอบถามผูตองหาในลักษณะการประชุมทางจอภาพ ในการย่ืนคํารอ งขอหมายขังผูตอ งหาคร้งั แรกกไ็ ด ขอ ๔ ในการรองขอใหศาลสอบถามผูตองหาหรือทําการไตสวนพยานหลักฐานใน ลักษณะการประชุมทางจอภาพ ใหพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการแสดงความประสงค ลว งหนา รวมมาในคํารอง ขอหมายขังผูต องหาครั้งแรก หรือครัง้ อ่ืนในกรณีทไี่ มไ ดแสดงความประสงค รวมมาในคาํ รองขอหมายขงั ครงั้ แรก โดยระบสุ ถานท่มี าในคาํ รอ งดว ย ๑
202 เมื่อไดรับคํารองตามวรรคหน่ึงแลว ใหศาลสอบถามผูตองหาวาจะคัดคานหรือไม หากผูตอ งหาไมคดั คาน และศาลเหน็ สมควร ศาลจะอนุญาตตามคํารอ งนน้ั กไ็ ด ขอ ๕ วิธีการสอบถามหรือไตสวนคํารองขอออกหมายขังผูตองหาในลักษณะ การประชุมทางจอภาพ ใหศ าลมอบหมายใหเจาพนักงานศาลหรือบคุ คลภายนอกทีศ่ าลขึน้ ทะเบยี นไว หรือบุคคลที่ผูตองหารองขอไปเปนสักขีพยาน ณ สถานท่ีตามขอ ๔ เวนแตมีเหตุขัดของท่ี เจาพนักงานศาล บุคคลภายนอกหรือบุคคลที่ผูตองหารองขอ ไมอาจไปเปนสักขีพยาน ณ สถานท่ี ดังกลา ว ศาลจะมอบหมายใหบุคคลอ่นื เปนสักขีพยานแทนก็ได ขอ ๖ กอนเร่ิมสอบถามผูตองหาหรือทําการไตสวนพยานหลักฐาน ใหศาลสอบถาม สักขีพยานถึงความพรอมในการดําเนินการประชุมทางจอภาพ หากผูเปนสักขีพยานเห็นวา การสอบถามผูตอ งหาหรือทาํ การไตส วนพยานหลกั ฐานในลกั ษณะการประชมุ ทางจอภาพมีเหตทุ ่ีอาจ กระทบตอสิทธิของผูตองหา ก็ใหรายงานเหตุน้ันตอศาลโดยพลันเพ่ือใหศาลใชประกอบดุลพินิจวา สมควรท่ีจะสอบถามผูตองหาหรือทําการไตสวนพยานหลักฐานในลักษณะการประชุมทางจอภาพ ตอไปหรือไม และผูเปนสักขีพยานตองอยูในระหวางการสอบถามผูตองหาหรือทําการไตสวน พยานหลกั ฐานน้ัน ขอ ๗ วิธีการสอบถามและไตสวนใหเปนไปตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เมอ่ื ศาลสอบถามผูตอ งหาหรือทาํ การไตสวนพยานหลักฐานเสรจ็ แลว ใหพนักงานสอบสวน พนักงาน อัยการ ทนายความหรือพยานที่อยูในหองพิจารณาลงลายมือช่ือในคํารองหรือรายงานกระบวน พิจารณา และใหศาลจดบันทึกใหปรากฏดวยวาไดสอบถามผูตองหาหรือทําการไตสวน พยานหลักฐานผานระบบการประชุมทางจอภาพ ณ สถานท่ีตามขอ ๔ โดยมีสักขีพยานอยูดวยใน ขณะนนั้ ขอ ๘ ใหศาลมีอํานาจกําหนดระเบียบและวิธีปฏิบัติของศาลนั้นไดเทาที่ไมขัดหรือ แยง กับขอบังคบั นี้ ขอ ๙ ในกรณีมีความจําเปนตองมีวิธีการอยางหน่ึงอยางใดในทางธุรการเพื่อใหการ ปฏิบัติตามขอบังคับนี้เปนไปดวยความเรียบรอย ใหเลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรมเปนผูกําหนด วิธีการนน้ั ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๙ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๕๖ ไพโรจน วายุภาพ ประธานศาลฎีกา ๒
203 แนวทางปฏิบัติงานการสอบถามผู้ต้องหาหรือทาการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขัง ผู้ต้องหาคร้ังแรกในลักษณะการประชุมทางจอภาพหรือส่ือเทคโนโลยีสารสนเทศอ่ืน ในสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคติดตอ่ เชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (Coronavirus Disease : COVID-19) โดยที่เป็นการสมควรกาหนดวิธีการปฏิบัติในทางธุรการเก่ียวกับการสอบถามผู้ต้องหา หรือทาการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผู้ต้องหาในลักษณะการประชุมทางจอภาพ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น ต้ังแต่ครั้งแรกและขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง ในสถานการณ์การแพร่ระบ าด อย่างรุนแรงของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซ่ึงส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยใน สุขอนามัยของประชาชนและเจ้าพนักงาน โดยมีมาตรการลดการเดินทางมาศาล และลดจานวน ผู้ต้องขังในเรือนจาท่ีแออัด เพื่อลดความเสีย่ งต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพ่ิมเติมจากวธิ ปี ฏิบัติในทางธุรการตามข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าดว้ ยการสอบถาม ผู้ต้องหาหรือทาการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผู้ต้องหาในลักษณะการประชุมทางจอภาพ พ.ศ. ๒๕๕๖ ประกาศ ณ วันท่ี ๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ อาศัยอานาจตามความในข้อ ๙ แห่งข้อบังคับ ของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการสอบถามผู้ต้องหาหรือทาการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมาย ขังผู้ต้องหาในลักษณะการประชมุ ทางจอภาพ พ.ศ. ๒๕๕๖ และข้อ ๙ แหง่ ระเบยี บราชการฝา่ ยตลุ าการ ศาลยุตธิ รรมว่าดว้ ยการดาเนินคดีอาญาในศาลที่เกี่ยวกับผู้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจาหรือสถานท่ีกักขัง ในระหว่างทมี่ กี ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (Coronavirus Disease : COVID-19) พ.ศ. ๒๕๖๓ จงึ เห็นควรกาหนดแนวทางปฏิบัติงานเพ่มิ เตมิ ไว้ดังต่อไปนี้ ๑. การยื่นคารอ้ งและรูปแบบคารอ้ ง ใหพ้ นกั งานสอบสวนหรือพนกั งานอยั การแสดงความประสงค์ขอให้ศาลสอบถามผู้ต้องหาหรือ ทาการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผู้ต้องหาในลักษณะการประชุมทางจอภาพมาในคาร้องขอ หมายขังผู้ต้องหาคร้ังแรกและย่ืนคาร้องพร้อมเอกสารท่ีเกี่ยวข้องต่อศาลโดยอาจย่ืนทางโทรสาร จดหมาย อิเล็กทรอนิกส์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือส่ือเทคโนโลยีสารสนเทศอ่ืน โดยจัดส่งคาร้องมายังศาลในวันเวลา ราชการล่วงหน้าก่อนกาหนดนัดไต่สวน ๒. การดาเนินการเกี่ยวกับเอกสาร เม่อื ศาลไดร้ บั คาร้องตามขอ้ ๑. แล้ว ใหเ้ จา้ หน้าทศ่ี าลผู้รับผดิ ชอบดาเนินการดังนี้ (๑) ให้เจ้าหน้าที่ศาลตรวจสอบคาร้องขอผัดฟ้อง/ฝากขัง ท่ีได้รับตามข้อ ๑ หากไมถ่ กู ต้อง ให้แจง้ พนกั งานสอบสวนทราบทางโทรศัพทห์ รือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอืน่ เพื่อแก้ไขให้ ถูกต้องโดยเรว็ จากนั้น รับคาร้อง บันทึกข้อมูลคดี ประวัติ และภาพถ่ายผู้ตอ้ งหา พร้อมทั้งบันทกึ ข้อมูลลง ในโปรแกรมของศาล
204 -๒- (๒) จัดทาสานวนการขอผัดฟ้อง/ฝากขังเสนอผู้พิพากษาพิจารณาสั่ง (๓) เมื่อศาลมีคาสั่งอนุญาตให้สอบถามผู้ต้องหาหรือทาการไต่สวน พ ย า น ห ลัก ฐ า น ใ น ก า ร อ อ ก ห ม า ย ขัง ผู้ต้อ ง ห า ในลักษณะการประชุมทางจอภาพ ห รือ สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอ่ืนได้ ให้เจ้าหน้าท่ีศาลประสานงานไปยังพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการ เพื่อสอบถามความพร้อมของระบบการประชุมทางจอภาพ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น หากเจ้าหน้าที่เหน็ ว่าระบบที่ใช้อยมู่ ีเหตุขดั ข้อง กใ็ หร้ ายงานเหตุน้นั ต่อศาลโดยพลนั เพ่ือให้ศาลพิจารณา อนุญาตให้นาสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นมาใชใ้ นการไตส่ วนแทน (๔) ให้เจ้าหน้าที่ศาลนัดหมายเวลาในการไต่สวนคาร้องดังกล่าว เม่ือได้ กาหนดนัดไต่สวนแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ศาลจัดเตรียมความพร้อมระบบการประชุมทางจอภาพหรือ สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอืน่ เพื่อใช้ในการสอบถามหรอื ทาการไตส่ วนตามวันเวลาที่ศาลกาหนดต่อไป (๕) ให้เจ้าหน้าที่ศาลจัดส่งสาเนาคาร้องและแจ้งให้ผู้ต้องหาทราบทุกครั้ง ก่อนท่ีศาลจะสอบถามหรือทาการไต่สวน (๖) ให้เจ้าหน้าที่ศาลจัดทาบันทึกทะเบียนคุมเกี่ยวกับการสอบถามหรือ ทาการ ไต่สว น พ ย าน หลักฐาน ใน การ ออกหมาย ขัง ผู้ต้อง หา ในลักษณะการประชุมทางจอภาพหรือ ส่ือเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น ๓. การสอบถามหรือไต่สวนผา่ นระบบการประชมุ ทางจอภาพ หรือสอ่ื เทคโนโลยีสารสนเทศอ่นื ๓.๑ ในการสอบถามผู้ต้องหาหรือทาการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขัง ผู้ต้องหาในลักษณะการประชุมทางจอภาพ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอ่ืนครั้งแรก ให้ดาเนินการ ภายในห้องพจิ ารณาคดีโดยมีการถา่ ยทอดภาพและเสยี งระหว่างห้องพิจารณาคดีกับสถานีตารวจ (กรณี ผู้ต้องหาอยู่ที่ทาการของพนักงานสอบสวน) หรือเรือนจา (กรณีพนักงานสอบสวนนาตัวผู้ต้องหามาที่ เรอื นจา) หรือท่ีทาการของพนกั งานอัยการ โดยใหพ้ นกั งานสอบสวน หรอื พนักงานอยั การ นาตวั ผู้ต้องหา มาไตส่ วนทีส่ ถานีตารวจ หรือเรือนจา หรือทท่ี าการของพนกั งานอยั การ แลว้ แตก่ รณี ๓.๒ ในการสอบถามผู้ต้องหาหรือทาการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขัง ผู้ต้องหาครั้งแรก ศาลอาจใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของสานักเทคโนโลยีสารสนเทศของ สานักงานศาลยุติธรรม แต่ในกรณีที่ไม่สามารถดาเนินการได้หรือหากการดาเนินการผ่านระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศของสานักเทคโนโลยีสารสนเทศจะทาให้คดีเกิดความล่าช้า ศาลอาจ ดาเนินการดังกล่าวผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ใด ๆ ที่สามารถถ่ายทอดภาพและเสียงระหว่างศาลและ สถานที่ซึ่งทาการผัดฟ้อง/ฝากขัง อาทิเช่น Skype, FaceTime, Messenger, LINE, WhatsApp, ZOOM, WeChat เป็นต้น
205 -๓- ๓.๓ ในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ศาลอาจพิจารณาว่าเป็นกรณีมีเหตุขัดข้องที่เจ้าพนักงานศาล บุคคลภายนอก หรือ บุคคลที่ผู้ต้องหาร้องขอ ไม่อาจไปเป็นสักขีพยานในการสอบถามหรือไต่สวนได้ ซึ่งศาลมีอานาจ มอบหมายให้บุคคลอื่นเป็นสักขีพยานแทนก็ได้ ทั้งนี้ ผู้ที่ทาหน้าที่เป็นสักขีพยานตามข้อ ๕ ของ ข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการ สอบถามผู้ต้องหาหรือทาการไต่สวนพยานหลักฐานใ นการ ออกหมายขังผู้ต้องหาในลักษณะการประชมุ ทางจอภาพ พ.ศ. ๒๕๕๖ จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้ (๑) มีอายุไม่ต่ากว่าย่ีสิบปีบริบูรณ์ (๒) สามารถพูดคุย มองเห็นและติดต่อส่ือสารผ่านระบบการประชุมทางจอภาพ หรือส่ือเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นได้ (๓) ไม่เป็นบุคคลท่ีศาลส่ังให้เป็นคนไร้ความสามารถ เสมือนไร้ความสามารถ หรือเป็นคนวกิ ลจรติ (๔) ตอ้ งเปน็ ผู้สาเร็จการศึกษาไม่ต่ากวา่ ระดับปริญญาตรี หากเปน็ ขา้ ราชการ ตารวจ ทหาร ควรต้องเปน็ ข้าราชการช้ันสัญญาบัตรขึ้นไป ๓.๔ การสอบถามและไต่สวนให้เป็นไปตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เม่ือศาลสอบถามผู้ต้องหาหรือทาการไต่สวนพยานหลักฐานเสร็จแล้ว ให้ศาลจดบันทึกถ้อยคาของ ผู้ร้อง และผู้ต้องหา และจดบันทึกให้ปรากฏด้วยว่าได้สอบถามผู้ต้องหาหรือทาการไต่สวน พยานหลกั ฐานผา่ นระบบการประชมุ ทางจอภาพ หรือสือ่ เทคโนโลยีสารสนเทศอ่นื และลงลายมอื ช่ือไว้ ๓.๕ เมื่อศาลไต่สวนเสร็จแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ศาลส่งคาให้การพย านแ ละ รายงานกระบวนพิจารณาไปยังสถานีตารวจ หรือเรือนจา หรือที่ทาการของพนักงานอัยการ โดยอาจส่งทาง โทรสาร จดหมายอเิ ล็กทรอนกิ ส์ หรือสื่อเทคโนโลยสี ารสนเทศอ่ืน เพอ่ื ให้ผู้ร้อง สกั ขีพยาน และผตู้ ้องหา ลงลายมือช่ือแล้วให้ส่งมากลับมายังศาลทางโทรสาร จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อเทคโนโลยี สารสนเทศอนื่ กไ็ ด้ แลว้ ใหร้ วมเขา้ สานวนคดี ๔. การออกหมายขัง ๔.๑ เมื่อศาลมีคาสั่งให้ออกหมายขัง ให้เจ้าหน้าที่ศาลส่งสาเนาหมายขังพร้อม ภาพถ่ายผู้ต้องหาไปยังเรือนจา โดยทางโทรสาร จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือส่ือเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น ส่วนต้นฉบับหมายขัง ให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มารับหมายขังในภายหลัง ๔.๒ ใหผ้ ้รู ้องนาตวั ผตู้ ้องหาไปส่งทเี่ รือนจาในวนั เดียวกนั ๔.๓ กรณีท่มี ีการขอปลอ่ ยชว่ั คราว ให้ผู้ที่ร้องขอปลอ่ ยชวั่ คราวยืน่ คาร้องขอปลอ่ ยชว่ั คราว ต่อศาล ทั้งน้ี ในการขอปล่อยช่ัวคราว ผทู้ ่ีร้องขอปลอ่ ยชัว่ คราวจะยนื่ คาร้อง (คาร้องใบเดียว) โดยไมจ่ าต้อง เสนอหลกั ประกนั มาพร้อมกับคาร้องก็ได้ ตามแบบพิมพ์คาร้องขอปล่อยช่ัวคราวซ่ีงเตรียมไว้ท่ีสถานีตารวจ
206 -๔- ท่ีทาการของพนักงานอัยการ หรือเรือนจา โดยให้สอบถามผู้ต้องหาผ่านระบบการประชมุ ทางจอภาพ หรือส่ือเทคโนโลยีสารสนเทศอ่ืน และให้พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการหรือเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ แล้วแต่กรณี ส่งคาร้องขอปล่อยชั่วคราวมายังศาล เพื่อความสะดวกและรวดเร็วอาจส่งทางโทรสาร จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือส่ือเทคโนโลยีสารสนเทศอ่ืน เพื่อให้ศาลพิจารณาสั่งไดท้ ันที การสาบานตนของผู้ต้องหาก่อนปล่อยชั่วคราว อาจทาผ่านระบบการประชุมทาง จอภาพหรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นก็ได้ ๕. การฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ให้นาแนวทางปฏิบัติงานนี้ เว้นแต่ในส่วนการขอปล่อยชั่วคราว มาใช้ในการ ดาเนินการเพื่อให้ศาลมีคาสั่งส่งตัวผู้ต้องหาไปตรวจพิสูจน์การเสพหรือการติดยาเสพติดตาม กฎหมายว่าด้วยการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดโดยอนุโลม *******************
207 -๕- แผนผังการผัดฟ้อง/ฝากขังผู้ต้องหาคร้ังแรก ศาล ศาลไตส่ วนผ่านระบบการ ประชุมทางจอภาพหรอื ส่ือ เทคโนโลยสี ารสนเทศอื่น ออกหมายขัง/ปล่อยช่ัวคราว สถานีตารวจหรือสถานที่ทาการ เรอื นจา ของพนักงานอัยการ กรณผี ้ตู อ้ งหาอยทู่ ่ี กรณพี นกั งานสอบสวนนา สถานีตารวจ ผตู้ อ้ งหาไปที่เรือนจา ขอ้ บังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการสอบถามผู้ต้องหาหรือทาการไต่สวนพยานหลักฐานใน การออกหมายขังผู้ต้องหาในลักษณะการประชมุ ทางจอภาพ พ.ศ. ๒๕๕๖ วิธีการปฏิบัติในทางธุรการตามขอ้ บงั คบั ของประธานศาลฎีกาวา่ ด้วยการสอบถามผู้ต้องหาหรือ ทาการไต่สวนพยานหลกั ฐานในการออกหมายขงั ผ้ตู อ้ งหาในลักษณะการประชมุ ทางจอภาพ พ.ศ. ๒๕๕๖ ระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยตุ ธิ รรมวา่ ด้วยการดาเนินคดีอาญาในศาลที่เก่ียวกับผู้ถูกคุมขัง อยู่ในเรือนจาหรือสถานที่กักขังในระหว่างที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease : COVID-19) พ.ศ. ๒๕๖๓ จดั ทาโดยสานักสง่ เสริมงานตลุ าการ
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
234
235
236
237
238 VI CIO tw (Coronavirus Disease : COVID-19) n.fl. io*to: ?^\\JmflUJB'3iivi n teo^o; (Coronavirus Disease : COVID-19) iuiSjj (a^vvi ^ wu Google Meet, Cisco Webex lias Zoom (E-mail) https://jla.coj.go.th Ivn. o io^:s)te o lo(Blo dtnrien
239 (Coronavirus Disease : COVID-19) TO^ni^^TO^Twnmli^flf^l^^mTTUTO^ (airuvi m) n.fi. osio! (Coronavirus Disease : COVID-19) n.a. to b ^s to tn W^man (Coronavirus Disease : COVID-19) Yi.fl. (Coronavirus Disease : COVID-19) (avruvi b) Yi.fl. to s....
240 -b- •ua mBu^anBanuasmianwn^^vnnmvnaflna^virif'msj^^ vo b fm^muvimsniinfo vnjn-^nuaom^ mntmTiu fl aaaianvi^auna vi.fl. vb ^lu^ivi^niatianfluu) nTB^^wiiniBintnmjnTj^-imnwTrftj rniainuasaBinorlo^ Waniaavl-s rmaaufh'lvin'n rn^win^viaiiivianBTLi HBarnB^mu'unBtiinwHanBcuiaun^a'u iia mo...
241 to Ki^i u-ahjaVmoiBmTibs^^jjvn-^aa^nnvil aw nifs^uuS ta nv^^afl na vn aaail^a ^^^uan •fa sib n'iii1w'aTUJjav)a-)flai{^!ivi'3^wr]l5ivl'uIavin to s)tn ihsmn su tuvi •> mns^inu vi.fi. b<tbs;
242
243
244
245
246
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258