แบบฝึกทักษะชุดที่ 1

0 แบบฝกึ ทกั ษะ เรอ่ื ง อสมการเชงิ เส้นตวั แปรเดียว ชดุ ท่ี 1 ความหมายของอสมการเชงิ เส้นตวั แปรเดยี ว ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2563 โรงเรยี นปทมุ วิไล อาเภอเมืองปทุมธานี จงั หวดั ปทมุ ธานี สานักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษามัธยมศึกษา เขต 4

1 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ชดุ ท่ี 1 เร่อื ง ความหมายของอสมการเชิงเสน้ ตวั แปรเดยี ว เมื่อนักเรยี นได้ศึกษาแบบฝกึ ทกั ษะเร่อื ง อสมการเชิงเสน้ ตวั แปรเดียวจบแลว้ นักเรยี นสามารถแสดงพฤติกรรมตอ่ ไปนไ้ี ด้ 1. เขียนประโยคสญั ลกั ษณเ์ กยี่ วกบั จานวนใหเ้ ป็นประโยคท่ใี ช้สัญลักษณ์ <, >,  ,  หรอื  ได้ 2. เมอ่ื กาหนดประโยคให้หลาย ๆประโยค สามารถระบุไดว้ ่าประโยคใด เปน็ หรือไมเ่ ปน็ อสมการ 3. นกั เรียนเห็นประโยชน์และนาความรไู้ ปใช้ในการเรยี นระดบั สงู ข้ึน และนาไปใช้ในชวี ิตประจาวนั

2 ใบความรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง ความหมายของอสมการเชิงเสน้ ตวั แปรเดียว เพื่อน ๆทีน่ า่ รักทุกคน กอ่ นที่จะเรียนเรอ่ื งอสมการเชงิ เส้น ตวั แปรเดียวเรามารูจ้ กั กับความหมายของอสมการกนั ก่อนนะคะ ความหมายของอสมการ อสมการ หมายถึง ประโยคสัญลักษณท์ ี่กล่าวถงึ ความสัมพนั ธข์ องจานวนโดยใช้สญั ลักษณ์ ต่อไปน้ี < แทนความสัมพนั ธ์ น้อยกว่า หรือไมถ่ ึง > แทนความสัมพนั ธ์ มากกว่า หรอื เกนิ  แทนความสมั พนั ธ์ นอ้ ยกว่าหรอื เท่ากบั  แทนความสัมพนั ธ์ มากกว่าหรือเท่ากบั  แทนความสมั พนั ธ์ ไมเ่ ท่ากบั หรือไม่เทา่ กนั ตวั อย่าง แสดงความสมั พนั ธ์ระหวา่ งจานวน 6 > 5 แทนความสัมพันธ์ หก มากกว่า ห้า -2 < 1 แทนความสมั พนั ธ์ ลบสอง นอ้ ยกวา่ หนึง่ -10 > -25 แทนความสัมพนั ธ์ ลบสิบ มากกวา่ ลบยี่สิบห้า 5y  30 แทนความสมั พันธ์ ห้าเท่าของจานวนจานวนหนงึ่ ไม่เท่ากับ สามสิบ ตวั อยา่ ง แสดงความสัมพนั ธ์ของอสมการเชงิ เสน้ ตัวแปรเดียว 1. x < 5 จานวนท่ี 1 สญั ลักษณ์แสดง จานวนท่ี 2 ความสมั พันธ์

3 2. 3 x + 1  10 จานวนที่ 1 จานวนที่ 2 สัญลกั ษณ์แสดง ความสัมพันธ์ ตัวอย่างความสมั พนั ธข์ องจานวน x  5 อา่ นวา่ x มากกว่า หรือเท่ากับ 5 หมายถงึ x > 5 หรอื x = 5 หรอื x ไมน่ อ้ ยกวา่ 5 x  y อ่านว่า x น้อยกวา่ หรอื เทา่ กับ y หมายถงึ x < y หรือ x = y หรอื x ไมเ่ กิน y ประโยคทใ่ี ช้สญั ลักษณท์ างคณิตศาสตรน์ ้ีบอกความสมั พันธ์ของจานวน แบง่ ออกได้ 2 แบบ คือ 1. อสมการทไ่ี ม่มีตวั แปร เช่น 5 + 4  10 , 6 > 3 + 2 , 7 < 10 2. อสมการที่มีตวั แปร เชน่ 3x  9 , 2x - 2 > 1 , y + 6  2y + 3 อสมการ เป็นประโยคสัญลักษณท์ ก่ี ล่าวถึงความสัมพันธข์ องจานวนโดยใชส้ ัญลักษณ์ <, >,  ,  หรือ  แสดงความสมั พนั ธ์ ตวั อย่าง แสดงอสมการที่มตี ัวแปรและไม่มีตวั แปร 3+4 < 8 เป็นอสมการที่ไมม่ ีตวั แปร 4+5  8 เป็นอสมการทีไ่ ม่มตี วั แปร 3x +2> 7 เปน็ อสมการท่มี ี x เป็นตวั แปร 4 x – 5  12 เปน็ อสมการทม่ี ี x เป็นตวั แปร 4y – 5  2y + 3 เปน็ อสมการท่ีมีตวั แปรเดยี วคือ y สรปุ อสมการเชิงเส้นตวั แปรเดียว อสมการซง่ึ พหนุ ามในอสมการเปน็ พหนุ ามที่มตี ัวแปรเพยี งตัวเดียวและดกี รีพหนุ าม เทา่ กับ 1 เรยี กวา่ \"อสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดียว”

4 กจิ กรรมที่ 1 คาช้ีแจง ให้นักเรียนบอกความหมายของสญั ลักษณท์ างคณิตศาสตรต์ ่อไปนี้ ตัวอยา่ ง = หมายถงึ เทา่ กบั 1. < หมายถงึ 2. > หมายถงึ 3.  หมายถึง 4.  หมายถึง 5.  หมายถึง

5 กจิ กรรมที่ 2 คาช้แี จง ใหน้ ักเรยี นเขียนประโยคตอ่ ไปนโ้ี ดยใช้สญั ลักษณท์ างคณติ ศาสตร์ ตวั อย่าง x มคี ่านอ้ ยกวา่ 15 x < 15 1. x มีคา่ ไมถ่ ึง 10 2. x มคี า่ น้อยกวา่ หรอื เทา่ กับ 10 3. x มีคา่ มากกว่า 10 4. x มีค่ามากกวา่ หรือเทา่ กับ 10 5. x มีคา่ ไมเ่ ทา่ กับ 10 6. 8 มีค่าน้อยกวา่ x 7. 12 มีค่ามากกว่า x 8. 9 มคี ่าไม่นอ้ ยกวา่ หรอื เท่ากับ x 9. 7 มคี ่าไมม่ ากกวา่ หรือเท่ากับ x 10. 6 มคี ่าไมเ่ ท่ากบั x

6 กจิ กรรมท่ี 3 คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนบอกความหมายของสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตรต์ ่อไปนี้ ตัวอย่าง x  12 หมายถงึ x ไมเ่ ท่ากับ 12 1. x < 6 หมายถึง 2. x > 16 หมายถึง 3. x  4 หมายถึง 4. x  10 หมายถงึ 5. x  8 หมายถึง 6. 7 < x หมายถึง 7. 5 > x หมายถงึ 8. 9  x หมายถึง 9. 4  x หมายถึง 10. 7  x หมายถงึ

7 กจิ กรรมท่ี 4 คาชี้แจง จงพจิ ารณาแตล่ ะขอ้ ตอ่ ไปนี้วา่ ประโยคใดเป็นอสมการถา้ ใชใ่ หใ้ ส่ เคร่อื งหมาย  ถา้ ไม่ใช่ ให้ใส่เคร่ืองหมาย X ในช่องว่างท่ีกาหนดให้ 1. 4 x + 3  0 2. 8 + 10y = 6 3. a – 8  2a – 8 4. 8b + 4  3 5. 4b – 5 > 0 6. 13 - b  14 7. 17 – 11 = 14 + 3 8. 6 ( x + 4 ) > x - 1 9. ผลตา่ งของแปดเทา่ ของจานวน ๆ หนงึ่ กับสบิ มีค่าไม่นอ้ ยกว่าหก 10. สามสบิ ห้ามากกว่าห้าเท่าของจานวน ๆ หน่ึงอยู่ 40

8