คมู่ อื การโคช้ เพอ่ื พฒั นาทมี ชมุ ชน 51 บทบาทหนา้ ทข่ี องโคช้ ดา้ นการพฒั นาศกั ยภาพในการทำ� งาน กจ็ ะ มหี นา้ ที่ รบั ฟงั ผรู้ บั การโคช้ เพอ่ื รว่ มกนั คน้ หาสง่ิ ทเี่ ขาจะตอ้ งพฒั นา คน้ หาจดุ ออ่ น จดุ แขง็ รว่ มกนั โคช้ ออกแบบกระบวนการพฒั นาศกั ยภาพทสี่ ามารถทำ� ใหผ้ รู้ บั การโคช้ ไดเ้ รยี นรู้ เชอ่ื มโยงเนอื้ หากบั สถานการณก์ ารทำ� งานจรงิ เพอ่ื นำ� ความรู้ ไปปรบั ใชไ้ ด้ และ โคช้ สามารถใหค้ วามรู้ เครอ่ื งมอื เทคนคิ กระบวนการ ในการ พฒั นาศกั ยภาพในดา้ นทผี่ รู้ บั การโคช้ นำ� ไปใชไ้ ด้ ใหว้ ธิ กี ารฝกึ ฝน มกี ระบวนการ ทดลองฝกึ ฝน แลว้ โคช้ คอยสงั เกตการณ์ ตง้ั คำ� ถาม เพอ่ื ชว่ ยใหผ้ รู้ บั การโคช้ พฒั นาไดเ้ รว็ กวา่ การเรยี นรดู้ ว้ ยตวั เอง รวมไปถงึ โคช้ ตอ้ งตดิ ตามสนบั สนนุ การเรยี นรขู้ องผรู้ บั การโคช้ ในการ ทำ� งานจรงิ การนำ� ความรไู้ ปปรบั ใชก้ บั การทำ� งาน รบั ฟงั ตงั้ คำ� ถาม เพม่ิ มมุ มอง ความคดิ ตง้ั ขอ้ สงั เกต ใหผ้ รู้ บั การโคช้ มองเหน็ ไดด้ ว้ ยตวั เอง จนกระทงั่ ผรู้ บั การ โคช้ มศี กั ยภาพในการทำ� งานตามเปา้ หมายและสามารถตอ่ ยอดดว้ ยการพฒั นา ตนเองตอ่ ไปได้ สงิ่ ทโี่ คช้ ควรตระหนกั ในการโคช้ ทมี หากจะสรปุ วา่ สงิ่ ทโี่ คช้ ควรตระหนกั มอี ะไรบา้ ง เพอ่ื ใหเ้ หน็ ภาพรวมของ การโคช้ ทช่ี ดั เจน 10 ประการ ใหม้ รี ายละเอยี ดสนั้ ๆ งา่ ยในการจดจำ� ดงั น้ี 1. เปา้ หมายในการโคช้ ผทู้ เี่ ปน็ โคช้ ตอ้ งสามารถกมุ เปา้ หมายในการ โคช้ ไดว้ า่ โคช้ ไปทำ� ไม เพอื่ อะไร ถา้ โคช้ รเู้ ปา้ หมายของการโคช้ กจ็ ะสามารถ รกั ษาบทบาทของตนได้ 2. บรรยากาศในการโคช้ โคช้ ตอ้ งแสดงทา่ ทวี า่ มคี วามพรอ้ มในการ สนทนากนั และสามารถสรา้ งบรรยากาศในการโคช้ ใหผ้ อ่ นคลาย ไมก่ ดดนั แต่
52 คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน จรงิ จงั ไมท่ ำ� แบบผา่ นๆ เรง่ รบี ขอไปที ถา้ โคช้ สามารถสรา้ งบรรยากาศทดี่ ใี น การโคช้ ได้ ผรู้ บั การโคช้ กจ็ ะรสู้ กึ ไวว้ างใจ ผอ่ นคลาย เปดิ ใจเขา้ หากนั ได้ 3. รกั ษาความสมั พนั ธ์ โคช้ ตอ้ งทำ� ใหท้ กุ คนไวว้ างใจ ยอมรบั ในตวั โคช้ และตอ้ งสรา้ งความสมั พนั ธท์ เี่ ทา่ เทยี ม เปน็ แนวราบ ทง้ั ระหวา่ งโคช้ กบั ผรู้ บั การ โคช้ และระหวา่ งผรู้ บั การโคช้ กนั เอง ความสมั พนั ธเ์ ปน็ สง่ิ เปราะบางทกี่ ระทบ ได้ง่าย โค้ชพึงระวังไม่ท�ำให้เกิดความรู้สึกว่ามีใครในทีมเหนือกว่าใครหรือ ตำ�่ ตอ้ ยกวา่ หากมใี ครรสู้ กึ เหนอื กวา่ หรอื ตำ�่ ตอ้ ยกวา่ โคช้ ตอ้ งหาวธิ ที จ่ี ะทำ� ให้ ความสมั พนั ธน์ นั้ เทา่ เทยี มและเปน็ แนวราบเพอื่ ใหท้ ำ� งานดว้ ยกนั อยา่ งราบรน่ื และมพี ลงั 4. ทกุ คนมอี สิ ระทางความคดิ โคช้ ตอ้ งไมค่ รอบงำ� ความคดิ ของผรู้ บั การโคช้ และขณะเดยี วกนั กร็ ะวงั ไมใ่ หถ้ กู ครอบงำ� ความคดิ โดยใครในทมี รวม ทง้ั ไมป่ ลอ่ ยใหม้ กี ารครอบงำ� กนั ทางความคดิ โคช้ คอื ผชู้ วนคดิ ชวนสนทนา ชวน คน้ หา ใหผ้ รู้ บั การโคช้ มกี ารครนุ่ คดิ ไตรต่ รองจนเกดิ ความคดิ ของตนเองและนำ� เสนอความคดิ นนั้ ไดอ้ ยา่ งอสิ ระ จะชว่ ยใหผ้ รู้ บั การโคช้ กลา้ คดิ 5. มีความยุติธรรม เป็นกลาง โค้ชต้องให้ทุกคนในทีมได้แสดง ความคดิ และรบั ฟงั ทกุ คน เคารพในความคดิ เหน็ ของแตล่ ะคนอยา่ งเทา่ เทยี ม กนั ไมด่ ว่ นสรปุ ไมด่ ว่ นตดั สนิ ไมแ่ สดงออกวา่ ความคดิ ของใครสำ� คญั กวา่ หรอื ดกี วา่ หากโคช้ สามารถรกั ษาความเปน็ กลางไวไ้ ด้ จะชว่ ยใหท้ มี ไดเ้ รยี นรทู้ จ่ี ะ เคารพความเหน็ ซง่ึ กนั และกนั ดว้ ย 6. ควบคมุ ประเดน็ ในการสนทนา จบั ประเดน็ และสรปุ ประเดน็ โคช้ ตอ้ งทำ� หนา้ ทใี่ หก้ ารสนทนาอยใู่ นประเดน็ ในการโคช้ ทมี นน้ั โคช้ จะตอ้ งจบั ประเดน็ และสรปุ ประเดน็ ดว้ ย เพอ่ื ใหก้ ารสนทนากนั ไมเ่ ปน็ การอภปิ รายเยน่ิ เยอ้ ออกนอกประเดน็ แตก่ ต็ อ้ งทำ� อยา่ งระมดั ระวงั และใสใ่ จความรสู้ กึ ดว้ ย ถา้ โคช้ ควบคมุ ประเดน็ จบั ประเดน็ และสรปุ ประเดน็ ไดด้ ี จะทำ� การสนทนากนั แตล่ ะ ครง้ั มคี วามชดั เจน และคนในทมี มคี วามเขา้ ใจตอ่ ประเดน็ นนั้ ตรงกนั
คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน 53 7. เชอ่ื มโยงความคดิ ของคนในทมี สรปุ ไดถ้ กู ตอ้ งแมน่ ยำ� ใหเ้ ปน็ ความคดิ รว่ มกนั ของทกุ คนในทมี โคช้ ตอ้ งจนิ ตนาการตามความคดิ ของแตล่ ะคน และมองเหน็ สงิ่ เชอ่ื มโยง สงั เคราะหข์ อ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากทกุ คนในทมี ประมวลความ คดิ อยา่ งรวดเรว็ สรปุ ความคดิ รว่ มของทกุ คน (wrap up) ทำ� ใหท้ กุ คนเหน็ แนวทางทจี่ ะไปตอ่ ขา้ งหนา้ อยา่ งไร (way forward) 8. ตงั้ คำ� ถาม ใหข้ อ้ สงั เกต เพมิ่ มมุ มอง ในการโคช้ จะมบี อ่ ยครงั้ ทโี่ คช้ ตอ้ งตงั้ คำ� ถามเพอื่ ใหข้ อ้ มลู หรอื การคดิ ของผรู้ บั การโคช้ ชดั เจนและเกดิ ความคดิ ใหมๆ่ ในบางชว่ งของการสนทนาโคช้ อาจใหข้ อ้ สงั เกตทเี่ ปน็ ประโยชนห์ รอื เพมิ่ มมุ มองความคดิ เปน็ การเพมิ่ ทางเลอื ก (option) ของมมุ มองความคดิ ทผ่ี รู้ บั การโคช้ อาจจะไมเ่ คยมองในมมุ นน้ั มากอ่ น นำ� มาประกอบการตดั สนิ ใจของผรู้ บั การโคช้ ได้ 9. ใหก้ ำ� ลงั ใจเปน็ เสรมิ พลงั บวกได้ โคช้ ตอ้ งรจู้ กั จงั หวะของการให้ กำ� ลงั ใจและเสรมิ พลงั บวก แตต่ อ้ งไมก่ ลา่ วเกนิ จรงิ เหมอื นไมจ่ รงิ ใจหรอื ทำ� ให้ ผรู้ บั การโคช้ เขา้ ใจผดิ และตอ้ งระวงั อยา่ ใหค้ ำ� ชมไปเพมิ่ อโี ก้ หรอื ทำ� ใหผ้ รู้ บั การ โคช้ คดิ วา่ ทำ� ไดด้ แี ลว้ และไมพ่ ฒั นาตอ่ การใหก้ ำ� ลงั ใจและการชนื่ ชมนนั้ เปน็ ศลิ ปะอยา่ งหนง่ึ และไมค่ วรใชค้ ำ� กลา่ วหรอื นำ้� เสยี งทเ่ี ราพดู กบั คนทด่ี อ้ ยกวา่ การชมวา่ เกง่ อาจทำ� ใหร้ สู้ กึ วา่ เปน็ การพดู ไปอยา่ งนน้ั เอง ไมเ่ จาะจง แตห่ ากโคช้ บอกวา่ เหน็ ความพยายามในการทำ� งานของทกุ คนแลว้ เหน็ วา่ สามารถทำ� ผลงาน ออกมาไดด้ ี จะเปน็ การบอกวา่ เขาทำ� อะไรไดด้ ี 10. คลคี่ ลายความขดั แยง้ ภายในทมี ความเหน็ ไมล่ งรอย หรอื ความ รสู้ กึ ทไี่ มด่ ตี อ่ กนั ในทมี ในบางสถานการณห์ ากในทมี มขี อ้ ขดั แยง้ เกดิ ขน้ึ โคช้ ตอ้ งสามารถหากลวธิ ใี นการคลค่ี ลายขอ้ ขดั แยง้ ไดโ้ ดยเรว็ ถา้ โคช้ สามารถทำ� ให้ ทมี เคารพความคดิ ของกนั และกนั รบั ฟงั กนั อยา่ งเอาใจเขามาใสใ่ จเรา ไมด่ ว่ น สรปุ ไมด่ ว่ นตดั สนิ เขา้ ใจการสนทนาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ใหเ้ กยี รตกิ นั และกนั ในทมี สรา้ งความสมั พนั ธท์ ดี่ ใี หเ้ กดิ ขนึ้ ในทมี กจ็ ะชว่ ยไมใ่ หเ้ กดิ ความขดั แยง้ ได้ แตห่ ากเกดิ ขนึ้ กส็ ามารถคลค่ี ลายได้
54 คมู่ อื การโคช้ เพอ่ื พฒั นาทมี ชมุ ชน ทกั ษะ และความสามารถในการโคช้ การโคช้ เปน็ ทงั้ ศาสตรแ์ ละศลิ ป์ มที ง้ั การใหแ้ ละการรบั ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั เรอื่ งของความรู้ ความสามารถ การสรา้ งแรงบนั ดาลใจใหผ้ อู้ น่ื เตบิ โตและมคี วาม สามารถเพม่ิ ขนึ้ ผเู้ ปน็ โคช้ จงึ ตอ้ งมคี วามสามารถในการพฒั นาตนเอง พฒั นา ภาวะผนู้ ำ� ในตน อยา่ งไมห่ ยดุ ยง้ั “ยง่ิ ผอู้ นื่ เตบิ โต เรายงิ่ เตบิ โต” ความสามารถ ของโคช้ โดยสว่ นใหญน่ น้ั ไมใ่ ชเ่ รอ่ื งของเทคนคิ แตเ่ ปน็ สภาวะภายในทมี่ องเหน็ ตนเอง มองเหน็ ผอู้ นื่ มคี วามสมั พนั ธท์ ด่ี ตี อ่ กนั และสรา้ งบรรยากาศการสนทนา ทเ่ี ออ้ื ตอ่ การเรยี นรขู้ องทง้ั โคช้ และผรู้ บั การโคช้ ทกั ษะของโคช้ จงึ เปน็ ทกั ษะแหง่ ปฏสิ มั พนั ธ์ โคช้ จะรวู้ า่ ตนมที กั ษะการโคช้ อยใู่ นระดบั ไหน กต็ อ่ เมอื่ ไดใ้ ชท้ กั ษะนนั้ และสถานการณท์ ตี่ อ้ งใชท้ กั ษะนน้ั มอี ยหู่ ลายรปู แบบ ตวั อยา่ งการประเมนิ สถานการณแ์ ละการใชท้ กั ษะโคช้ ทนี่ า่ สนใจ เชน่ เมอ่ื ผรู้ บั การโคช้ บอกวา่ ทำ� ไมไ่ ดห้ รอก อนั เปน็ การสะทอ้ นถงึ ความเชอ่ื ในขอ้ จำ� กดั ของตวั เอง สง่ิ ทน่ี า่ สนใจคอื ทำ� ไมผรู้ บั การ โคช้ ถงึ เชอ่ื เชน่ นน้ั และหากจะทำ� ใหผ้ รู้ บั การโคช้ เชอื่ มนั่ วา่ ทำ� ได้ โคช้ ตอ้ งใชค้ ำ� ถามทที่ ำ� ใหผ้ รู้ บั การโคช้ คดิ ถงึ สง่ิ ทเ่ี ขาเคย ทำ� สำ� เรจ็ ในอดตี สง่ิ ทเ่ี ขาเคยกา้ วขา้ มอปุ สรรคได้ เอาชนะได้ ทำ� ใหเ้ กดิ ความเชอ่ื มนั่ ในตนเองวา่ สามารถทำ� ได้ ในสถานการณท์ ผ่ี รู้ บั การโคช้ มคี วามคดิ เชงิ ลบตอ่ เหตกุ ารณ์ หรอื บคุ คล เพราะมองแตด่ า้ นไมด่ ขี องเรอ่ื งนน้ั ๆ โคช้ ตอ้ ง ทำ� ใหผ้ รู้ บั การโคช้ เกดิ ความคดิ ใหมเ่ ชงิ บวก คน้ หาความหมาย ดๆี ของเหตกุ ารณน์ น้ั ๆ ชวนใหม้ องมมุ อน่ื ๆ ใหร้ อบดา้ น ในสถานการณท์ ผี่ รู้ บั การโคช้ เกดิ ความรสู้ กึ เชงิ ลบ อนั เกดิ
คมู่ อื การโคช้ เพอ่ื พฒั นาทมี ชมุ ชน 55 จากความรสู้ กึ กลวั กงั วล ทอ้ หงดุ หงดิ โคช้ ตอ้ งชวนใหค้ ดิ ถงึ สงิ่ ทผ่ี รู้ บั การโคช้ จะไดเ้ รยี นรแู้ ลว้ ทำ� ใหเ้ กดิ ประโยชนจ์ ากเรอ่ื ง นน้ั ๆ ทำ� ใหเ้ หน็ วา่ เรอ่ื งนนั้ จะมปี ระโยชนต์ อ่ เขาอยา่ งไร ในสถานการณ์ท่ีผู้รับการโค้ชไม่สามารถตัดสินใจเลือกท�ำ อยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ มคี วามรสู้ กึ ขดั แยง้ อยภู่ ายใน สงิ่ ทโ่ี คช้ ทำ� กค็ อื คน้ หาจดุ ประสงคข์ องการทำ� แตล่ ะเรอ่ื งรว่ มกนั ใหเ้ หน็ วา่ ทางเลอื กนน้ั ๆ มนั มเี สน้ ทางอยา่ งไร เพอ่ื ใหผ้ รู้ บั การโคช้ ไดค้ ดิ ไตรต่ รองใหมว่ า่ จะเลอื กปฏบิ ตั ใิ นทางใดไดด้ ขี น้ึ สถานการณต์ า่ งๆ เหลา่ นเี้ ปน็ สว่ นหนงึ่ ทโี่ คช้ อาจจะตอ้ งเจอ ดงั นน้ั โคช้ จึงต้องมีทักษะที่จะช่วยให้ผู้รับการโค้ชได้รับการดูแลและพัฒนาตนเองให้ สามารถทำ� ตามเปา้ หมายทต่ี อ้ งการได้ ความเขา้ ใจและการฝกึ ฝนทกั ษะและ ความสามารถตา่ งๆ ของโคช้ นนั้ เปน็ ไปเพอ่ื ชว่ ยใหโ้ คช้ สามารถชว่ ยเหลอื ผรู้ บั การ โคช้ ใหไ้ ดม้ ากขนึ้ และโคช้ เองกต็ อ้ งกา้ วขา้ มขอ้ จำ� กดั ของตนเอง เปน็ การพฒั นา ทกั ษะของตนเองเพอ่ื ผอู้ น่ื และสามารถนำ� ทกั ษะเหลา่ นไี้ ปฝกึ ใหก้ บั ผรู้ บั การโคช้ ไดด้ ว้ ย เพอื่ ใหเ้ กดิ การพฒั นาตนเองไปพรอ้ มกนั ในการโคช้ ไมว่ า่ จะเปน็ การโคช้ ตวั ตอ่ ตวั หรอื การโคช้ ทมี ทกั ษะและ ความสามารถทโี่ คช้ ควรมี ไดแ้ ก่ 1. ทกั ษะการสนทนาทส่ี รา้ งสรรคแ์ ละมพี ลงั เขา้ ใจสนามการสนทนา ทไ่ี ดป้ ระโยชนต์ ามเปา้ หมายและมพี ลงั รว่ ม 2. ทกั ษะการฟงั เทา่ ทนั ตนเองเรอื่ งระดบั การฟงั และบนั ไดแหง่ การ วนิ จิ ฉยั 3. ความสามารถในการคดิ กระบวนระบบ (systems thinking) ทชี่ ว่ ย ในการวเิ คราะหป์ ญั หา เขา้ ใจภาพรวมของปญั หา วเิ คราะหค์ วาม
56 คมู่ อื การโคช้ เพอ่ื พฒั นาทมี ชมุ ชน สมั พนั ธแ์ ละการเชอ่ื มโยงสงิ่ ตา่ งๆ การปอ้ นกลบั ของเรอื่ งราวตา่ งๆ และคน้ หาจดุ คานงดั เพอื่ จดั การกบั ปญั หาได้ 4. ทกั ษะการตง้ั คำ� ถาม เพอื่ ความเขา้ ใจผอู้ นื่ และเตมิ ศกั ยภาพ 5. การสะทอ้ นมมุ มอง (feedback / reflect) การสะทอ้ นความคดิ (reflection) การใหข้ อ้ สงั เกต เพมิ่ มมุ มอง 6. การสรา้ งแรงบนั ดาลใจ สรา้ งแรงจงู ใจและใหก้ ำ� ลงั ใจ (aspiration, motivation) 7. การจดบนั ทกึ (journal) ใหเ้ หน็ ถงึ การเรยี นรู้ พฒั นาการของ ตนเองและผอู้ นื่ ในการสรา้ งความเปลยี่ นแปลง 8. การใหเ้ ครอ่ื งมอื ตา่ งๆ การแนะนำ� การใชเ้ ครอื่ งมอื และเทคนคิ ตา่ งๆ 1. ทกั ษะการสนทนาทส่ี รา้ งสรรคม์ พี ลงั ทกั ษะการสนทนาเปน็ ทกั ษะหลกั ของโคช้ ซงึ่ เกยี่ วขอ้ งกบั ทกั ษะการฟงั และการพดู สอื่ สารทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ โคช้ ทด่ี ตี อ้ งสรา้ งการสนทนาทม่ี คี วามหมาย ทำ� ใหผ้ เู้ ขา้ รว่ มการสนทนาทกุ คนเกดิ พลงั และไดป้ ระโยชนต์ ามเปา้ หมายของ การสนทนา โคช้ สามารถนำ� การสนทนาทมี่ คี วามหมายไดท้ ง้ั การสนทนาของ โคช้ กบั ผรู้ บั การโคช้ การสนทนากนั ในทมี ใชใ้ นการประชมุ อยา่ งสรา้ งสรรคท์ ใี่ ห้ ทุกคนในการประชุมได้มีส่วนร่วมในการสนทนาเพ่ือให้การประชุมนั้นเกิด ประโยชนส์ งู สดุ หากโคช้ ทำ� หนา้ ทเ่ี ปน็ ผเู้ ออ้ื อำ� นวยการสนทนา (facilitator) ไม่ วา่ วงสนทนาใดกต็ าม ควรตระหนกั เขา้ ใจสนามการสนทนาตา่ งๆ ใหด้ ี และใช้ ทกั ษะนใ้ี หเ้ กดิ ประโยชน์ อดมั คาเฮน วทิ ยากรผอู้ อกแบบกระบวนการสนั ตวิ ธิ ใี หก้ บั หลายพน้ื ท่ี ขดั แยง้ ในโลกเชน่ แอฟรกิ าใตก้ ลา่ ววา่ การสนทนามี 4 ลกั ษณะ ดว้ ยกนั คอื
คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน 57 1. การสนทนาแบบรบั ขอ้ มลู ฝา่ ยเดยี ว (downloading) หลายการประชมุ หรอื การสนทนามกั มลี กั ษณะเชน่ น้ี คอื รายงานวา่ ใครทำ� อะไร เกดิ ผลอะไร พดู ทลี ะคน หรอื อาจจะมเี พยี งคนเดยี วทพ่ี ดู บรรยายครองพน้ื ทกี่ ารสนทนา สว่ นคนอนื่ ๆ กเ็ ปน็ ผฟู้ งั รบั ขอ้ มลู ความรู้ หรอื เรอื่ งราวนน้ั ๆ ผฟู้ งั ทำ� หนา้ ทด่ี ดู รบั ขอ้ มลู เหมอื นกบั การ ดาวนโ์ หลดไฟลบ์ นอนิ เทอรเ์ นต็ หรอื ในชน้ั เรยี น เปน็ การรบั ขอ้ มลู รบั ความรเู้ ขา้ มา สนามนจี้ ะใชไ้ ดผ้ ลดถี า้ ผฟู้ งั ตอ้ งการรบั ขอ้ มลู ความรบู้ าง อยา่ ง ทำ� อยา่ งไรไมใ่ หน้ า่ เบอ่ื กข็ น้ึ อยกู่ บั ผพู้ ดู วา่ จะพดู ไดเ้ รา้ ใจแคไ่ หน แตจ่ ะเกดิ จดุ ออ่ นขน้ึ ถา้ หากในวงสนทนาทต่ี อ้ งการใหท้ กุ คนได้ แลกเปลยี่ นกนั แตม่ คี นทส่ี นทนาเพยี งคนเดยี วแลว้ คนอนื่ ตอ้ งเปน็ ผฟู้ งั หรอื ในกลมุ่ ไมม่ ใี ครรว่ มแลกเปลย่ี น ทำ� ตวั เองเปน็ คนดาวนโ์ หลดขอ้ มลู เพยี งอยา่ งเดยี ว การสนทนากนั คยุ กนั กจ็ ะไมเ่ กดิ ขนึ้ วงคยุ กจ็ ะมพี ลงั นอ้ ยลง เวน้ แตว่ า่ คนในวงคยุ เหน็ รว่ มกนั ทจี่ ะใหว้ งคยุ นเ้ี ปน็ วงทต่ี อ้ งการ ดาวนโ์ หลดเรอื่ งใดเรอ่ื งหนงึ่ จรงิ ๆ 2. การสนทนาแบบโตเ้ ถยี ง โตแ้ ยง้ (debate) มผี พู้ ดู หลาย คน เปน็ การพดู ถงึ เรอื่ งเดยี วกนั แตล่ ะคนมมี มุ มองหรอื จดุ ยนื ทตี่ า่ งกนั จงึ ตอ้ งมาถกเถยี งกนั เพอื่ หาขอ้ สรปุ การสนทนาในสนามนี้ เชน่ การ อภปิ รายในสภาผแู้ ทนราษฎร การโตว้ าที การตอบโตก้ นั ในศาล สนาม นมี้ ขี อ้ ดที ผี่ ฟู้ งั จะไดเ้ หน็ มมุ มองหลายดา้ น เปน็ การคน้ หาความจรงิ หา ขอ้ สรปุ การนำ� เสนอมมุ มองทแ่ี ตกตา่ งเพอื่ ใหว้ งสนทนาไมเ่ อนเอยี ง หรอื เออออตามๆ กนั ไป แลว้ ทำ� ใหว้ งคยุ ไมเ่ กดิ สง่ิ ใหม่ แตข่ อ้ เสยี ของวงสนทนาแบบดเี บทกค็ อื การพยายามเอาชนะ กนั มากเกนิ ไป ขาดเหตผุ ลทมี่ นี ำ้� หนกั เพยี งพอ หรอื บางครง้ั ผสู้ นทนา กข็ าดสติ ซง่ึ เรอ่ื งของสตนิ น้ั สำ� คญั มากในทกุ สนามการสนทนา
58 คมู่ อื การโคช้ เพอ่ื พฒั นาทมี ชมุ ชน 3. การสนทนาแบบใครค่ รวญ (reflective) สนุ ทรยี สนทนา (dialogue) บางคนอาจจะเรยี กสานเสวนา เปน็ สนามการสนทนาท่ี พฒั นาการอกี ขน้ั จาก debating แตพ่ ฒั นาสกู่ ารคยุ กนั อยา่ งเปดิ ใจรบั ฟงั กนั เอาใจเขามาใสใ่ จเรา ผา่ นการครนุ่ คดิ และใครค่ รวญ สะทอ้ น ความคดิ ความเหน็ กนั ดว้ ยสภาวะทพ่ี รอ้ มจะพดู และฟงั กนั แกน่ ของ การสนทนาแบบนคี้ อื สนทนาใหเ้ กดิ ความหมาย เกดิ การเรยี นรู้ รวม ไปถงึ เกดิ ความหมายและการเปลยี่ นแปลงภายในของผสู้ นทนา การ สนทนาแบบนตี้ อ้ งมสี ติ สมาธทิ งั้ การพดู และการฟงั ทผี่ า่ นการครนุ่ คดิ ใครค่ รวญ หากเราฝกึ คยุ กนั ในสนามสนทนานบี้ อ่ ยๆ จะทำ� ใหก้ าร สนทนามพี ลงั และสามารถยกระดบั วงสนทนาไปสสู่ นามทส่ี ไี่ ด้ 4. การสนทนาใหเ้ กดิ ปญั ญารว่ ม เกดิ ความหมายรว่ มและ สรา้ งอนาคต (generative/presencing) เปน็ การสนทนาทตี่ อ่ ยอด จากทกั ษะการสนทนาแบบ dialogue ผสู้ นทนาไมเ่ พยี งเปดิ ใจรบั ฟงั อยา่ งเขา้ อกเขา้ ใจเทา่ นน้ั แตต่ อ้ งมที กั ษะความสามารถทจี่ ะเชอ่ื มโยงสงิ่ ตา่ งๆ เรอื่ งราวทส่ี นทนากนั ทง้ั ในมติ ทิ เ่ี หมอื นและตา่ งกนั จนเกดิ ความ เหน็ ใหม่ (ดวงตาใหม)่ เกดิ ปญั ญารว่ มกนั ของวงสนทนา ไมเ่ พยี งเหน็ เรอ่ื งราวจากอดตี เชอ่ื มกบั ปจั จบุ นั แตย่ งั สามารถสนทนาใหเ้ หน็ แนวโนม้ ในอนาคตและชว่ ยกนั กำ� หนดทา่ ทแี ละทศิ ทางตอ่ อนาคตไดด้ ว้ ย ท้ัง 4 สนามการสนทนาต่างก็มีข้อดีในตัวเอง ขึ้นอยู่กับ เป้าหมายของการสนทนา ขอ้ ควรระวงั คอื การจดั วงสนทนานน้ั ตอ้ งไมเ่ ปน็ ไปเพอื่ เปา้ หมาย ของเราเพยี งฝา่ ยเดยี ว แตค่ วรเปดิ โอกาสใหค้ นในวงสนทนาไดเ้ ขา้ ใจ เปา้ หมายของการสนทนารว่ มกนั กอ่ น
คมู่ อื การโคช้ เพอ่ื พฒั นาทมี ชมุ ชน 59 การสนทนา 4 ลกั ษณะ 1. การสนทนาแบบรบั ขอ้ มลู ฝา่ ยเดยี ว (downloading) 2. การสนทนาแบบโตเ้ ถยี ง โตแ้ ยง้ (debate) 3. การสนทนาแบบใครค่ รวญ (reflective) สนุ ทรยี สนทนา (dialogue) 4. การสนทนาใหเ้ กดิ ปญั ญารว่ ม เกดิ ความหมายรว่ ม และสรา้ งอนาคต (generative/presencing) 2. ทกั ษะการฟงั เทา่ ทนั ตนเองเรอ่ื งระดบั การฟงั และบนั ไดแหง่ การวนิ จิ ฉยั 80 เปอรเ์ ซน็ ตข์ องการโคช้ นน้ั เปน็ เรอ่ื งของการฟงั นน่ั หมายความวา่ ทกั ษะการฟงั เปน็ พน้ื ฐานทจี่ ะทำ� ใหท้ กั ษะอน่ื ๆ ของโคช้ ดขี นึ้ ดว้ ย คณุ ภาพของ การฟงั นน้ั มคี วามสำ� คญั มากในทกุ กจิ กรรมและทกุ ความสมั พนั ธ์ ทง้ั ในการ ประชมุ ตา่ งๆ การจดั วงคยุ วงสนทนา มคี วามหมายตอ่ การอยรู่ ว่ มกนั การเรยี น รรู้ ว่ มกนั ความสามารถในการฟงั ของโคช้ นนั้ ตอ้ งอยใู่ นระดบั ทเี่ รยี กวา่ การฟงั อยา่ งตงั้ ใจ และ การฟงั ดว้ ยหวั ใจ หรอื การฟงั อยา่ งลกึ ซงึ้ เปน็ การฟงั ทมี่ ากกวา่ การ ไดย้ นิ “เสยี ง” แตต่ อ้ งฟงั “นำ�้ เสยี ง” และภาษากายของผรู้ บั การโคช้ ดว้ ย สำ� หรบั โคช้ สตแิ ละการรเู้ ทา่ ทนั การฟงั ของตนเองวา่ กำ� ลงั ใชก้ ารฟงั ใน ระดบั ใดนน้ั สำ� คญั มากตอ่ การเปน็ โคช้ หากเปน็ โคช้ ทไี่ มฟ่ งั หรอื ทกั ษะการฟงั ไม่ ดกี จ็ ะทำ� ใหไ้ มส่ ามารถมองเหน็ ความจรงิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ และไมส่ ามารถทำ� การโคช้ ได้
60 คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน ออ็ ตโต ชาเมอร์ (Otto Scharmer) จากสถาบนั MIT ผเู้ ขยี นทฤษฎี ตวั ยู (Theory U) และผกู้ อ่ ตงั้ สถาบนั Presencing ไดศ้ กึ ษาเรอื่ งของ “การฟงั ” โดยพจิ ารณาการฟงั ออกมาเปน็ 4 ระดบั ดงั น้ี 1. การฟงั แบบดาวน์ โหลด (download listening) เปน็ การ ฟงั ทเ่ี ลอื กฟงั เฉพาะสงิ่ ทค่ี นุ้ และรอู้ ยแู่ ลว้ เปน็ การยนื ยนั สง่ิ ทตี่ นรแู้ ลว้ เลอื กฟงั ในสง่ิ ทร่ี แู้ ละอยากฟงั เทา่ นนั้ สง่ิ ใดทฟ่ี งั แลว้ รสู้ กึ วา่ เขา้ กบั ความ คดิ ความเชอ่ื หรอื ประสบการณท์ ตี่ นมกี จ็ ะฟงั และเหน็ ดว้ ยกบั เรอื่ งนน้ั แตห่ ากเรอื่ งใดทไ่ี มเ่ ขา้ กบั ความคดิ ความเชอ่ื ของตนกจ็ ะฟงั แบบผา่ นๆ ไมเ่ หน็ ดว้ ย ตอ่ ตา้ นหรอื ปฏเิ สธอยภู่ ายใน ลกั ษณะการฟงั แบบนจ้ี ะเปน็ การเอาตวั เองเปน็ ตวั ตงั้ หรอื ตวั ฉนั เอง เปน็ ศนู ยก์ ลาง เรยี กวา่ I-in-me สงั เกตการฟงั แบบนไี้ ดจ้ ากการพดู คยุ ทผ่ี ฟู้ งั มขี อ้ สรปุ อยใู่ นใจ อยแู่ ลว้ หรอื การพดู คยุ ทผ่ี ฟู้ งั แสดงทา่ ทไี มใ่ หค้ วามสนใจในการฟงั และ พดู ถึงแตเ่ ฉพาะสงิ่ ทีต่ นพอใจและเหน็ ดว้ ยเพราะมันไปยำ้� ความคดิ ความเชอื่ เดมิ ของผฟู้ งั สำ� หรบั โคช้ หากรตู้ วั วา่ ตนตกอยใู่ นการฟงั ระดบั นี้ จะตอ้ งพยายามปรบั การฟงั ของตวั เองทนั ที เพราะการเปน็ โคช้ จะตอ้ ง ไมเ่ ลอื กฟงั และไมต่ ดั สนิ ตามความพอใจของตนแมว้ า่ สงิ่ ทฟี่ งั ขดั กบั ความคดิ ความเชอ่ื ของตนกต็ าม ในการโคช้ ทมี โคช้ ตอ้ งเปน็ ผสู้ งั เกตการสนทนาของคนในทมี วา่ เปน็ อยา่ งไร หากสงั เกตเหน็ วา่ เมอ่ื มกี ารสนทนากนั ทมี ของเรานน้ั ผรู้ บั การโคช้ แตล่ ะคนตา่ งคนตา่ งอยากจะพดู ในสงิ่ ทตี่ วั เองอยากพดู หรอื การพดู คยุ กนั เปน็ ไปในลกั ษณะทคี่ ยุ กนั อยา่ งสภุ าพและผวิ เผนิ คนในวงสนทนาไมม่ อี ารมณค์ วามรสู้ กึ ใดๆ ทงั้ สนิ้ เปน็ แบบลกั ษณะ รกั ษาทา่ ที หรอื ในวงสนทนานนั้ มกี ารโตเ้ ถยี งกนั เนอ่ื งจากตา่ งฝา่ ยตา่ ง เลอื กฟงั แตใ่ นสง่ิ ทต่ี นเชอ่ื มงุ่ แตจ่ ะตอบโตแ้ ละหาขอ้ ผดิ พลาด หากใน
คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน 61 วงสนทนาเปน็ แบบใดแบบหนง่ึ โคช้ ตอ้ งสรา้ งกระบวนการสนทนาที่ ชว่ ยพฒั นาทกั ษะการพดู และการฟงั ของคนในทมี ใหพ้ ฒั นาขน้ึ กอ่ น 2. การฟงั ความเปน็ จรงิ (factual listening) เปน็ การฟงั ที่ อาศยั การเปดิ ใจ (open mind) ไมเ่ ลอื กฟงั แตส่ งิ่ ทตี่ นเองคดิ หรอื เชอ่ื แตจ่ ะหยดุ ความคดิ ภายในของตนและเปดิ รบั ขอ้ มลู ทไี่ มค่ นุ้ มากอ่ นได้ จดจอ่ ในการฟงั มคี วามอยากรอู้ ยากเขา้ ใจในมมุ มองของผพู้ ดู ทำ� ความ เขา้ ใจกบั เนอ้ื หานนั้ แมจ้ ะเปน็ เรอ่ื งทเี่ คยมปี ระสบการณแ์ ตจ่ ะไมเ่ ขา้ ไป ตดั สนิ สงิ่ นน้ั วา่ ตอ้ งเปน็ แบบนนั้ แบบน้ี การฟงั ในแบบเอาเรอ่ื งทฟ่ี งั มาเปน็ ตวั ตงั้ หรอื เอาขอ้ มลู เนอื้ หา เปน็ ศนู ยก์ ลาง เรยี กวา่ I-in-It สังเกตการฟังแบบนี้ได้จากการพูดคุยกันแบบมีข้อมูลและ เหตผุ ลเปน็ หลกั อาจจะมแี หลง่ อา้ งองิ การเกบ็ ขอ้ มลู เชงิ สถติ ิ การวจิ ยั ตา่ งๆ ทำ� ใหอ้ ยากเขา้ ใจวา่ เกดิ อะไรขน้ึ เกดิ ขนึ้ ไดอ้ ยา่ งไร เพราะอะไร หรอื เปน็ ขอ้ มลู เฉพาะทไี่ มเ่ คยรมู้ ากอ่ น ในการโคช้ ทมี การสนทนาในระดบั นจ้ี ะเกดิ ขนึ้ เมอื่ เราตอ้ งการ วเิ คราะหข์ อ้ มลู การอภปิ รายเพอ่ื แลกเปลย่ี นมมุ มองหาขอ้ สรปุ การ แลกเปลยี่ นระดมความคดิ ซงึ่ เปน็ การพดู คยุ กนั ดว้ ยเหตผุ ล 3. การฟงั แบบเอาใจเขามาใสใ่ จเรา (empathetic listen- ing) ฟงั ดว้ ยความรสู้ กึ (open heart) เชอ่ื มหวั ใจและตวั ตนกบั คน ทพ่ี ดู หรอื สง่ิ ทไี่ ดย้ นิ (ฟงั จากแหลง่ ทผ่ี พู้ ดู สะทอ้ นออกมา) เหน็ เรอ่ื งราว จากสายตาของคนอน่ื ทำ� ใหผ้ ฟู้ งั วางตวั ตนลงและอยกู่ บั คนอน่ื อยา่ งท่ี เขารสู้ กึ ฟงั ความทกุ ข์ ความเดอื ดรอ้ นของเขา เขา้ ใจผพู้ ดู วา่ สงิ่ ทเี่ ขาพดู นน้ั สำ� คญั กบั เขาอยา่ งไร แมผ้ ฟู้ งั จะไมม่ คี วามรหู้ รอื ประสบการณใ์ น เรอ่ื งนนั้ แตร่ บั รถู้ งึ ความรสู้ กึ ของผพู้ ดู ได้
62 คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน นนั่ เพราะผฟู้ งั เปดิ ใจในการรบั ฟงั เรยี กวา่ I-in-you สงั เกตการฟงั ระดบั นไี้ ดจ้ ากการพดู คยุ ทผี่ ฟู้ งั มอี ารมณค์ วาม รสู้ กึ รว่ มไปกบั ผพู้ ดู เขา้ ใจสงิ่ ทเ่ี ขาเลา่ เหมอื นเปน็ คนๆ นน้ั ไมม่ คี วาม รสู้ กึ หงดุ หงดิ ไมเ่ หน็ ดว้ ย เพราะไมม่ วั ไปสนใจสง่ิ เหลา่ นน้ั เทา่ กบั ความ รสู้ กึ ของผพู้ ดู ทพ่ี ดู ออกมาดว้ ยความรสู้ กึ แบบไหน ในการโคช้ ทมี โคช้ จะตอ้ งใชก้ ารฟงั ในระดบั น้ี เปดิ ใจรบั ฟงั ผรู้ บั การโคช้ ถงึ สงิ่ ทเ่ี ขารสู้ กึ สง่ิ ทเี่ ขากงั วลใจ ไมม่ น่ั ใจ ไมส่ บายใจ หรอื เปน็ ความทกุ ขค์ วามเดอื ดรอ้ น การเผชญิ กบั ความยากลำ� บาก การจะ ทำ� ใหผ้ รู้ บั การโคช้ พดู คยุ กบั โคช้ ในระดบั นไ้ี ดน้ น้ั เกดิ จากความไวว้ างใจ และพดู ออกมาจากหวั ใจ จากความรสู้ กึ รบั รไู้ ดว้ า่ โคช้ ใสใ่ จในการรบั ฟงั แตโ่ คช้ ตอ้ งไมจ่ มไปกบั ความรสู้ กึ ของผพู้ ดู ซงึ่ สว่ นนเ้ี ปน็ ขอ้ ควรระวงั ของโคช้ 4. การฟงั จากแหลง่ พลงั ภายในตน (generative listening from the Deep Source) เปน็ การฟงั ทท่ี ำ� ใหผ้ ฟู้ งั เปดิ ตวั ตน ไมย่ ดึ ตดิ กบั ความคดิ ความเชอ่ื ความรสู้ กึ อนญุ าตใหส้ งิ่ ตา่ งๆ ผา่ นเขา้ มาสู่ การรบั รู้ เปดิ รบั พลงั ภายในหรอื พลงั ธรรมชาติ (open Will) การฟงั ทเี่ ชอื่ มกบั ตวั เองกบั สภาวะภายนอกและภายใน การฟงั เชน่ นเ้ี ปน็ การ ฟงั ทกุ สรรพสงิ่ ไปพรอ้ มกนั ทง้ั ในวงสนทนา บรรยากาศภายนอก สงิ่ ที่ เกดิ ขน้ึ ภายในใจตนและสภาวะตา่ งๆ ไปพรอ้ มๆ กนั การฟงั ทเี่ ปดิ กวา้ ง เชน่ นเี้ กดิ ขนึ้ ไดจ้ ากความพรอ้ มของสภาวะภายในของผฟู้ งั ทพ่ี รอ้ มดว้ ย สตสิ มั ปชญั ญะ จติ ทสี่ งบ นง่ิ สวา่ ง การฟงั ระดบั นส้ี ามารถทำ� ใหเ้ กดิ ความคดิ ทส่ี ดใหมไ่ ด้ การฟงั ระดบั นที้ ำ� ใหเ้ กดิ การรบั รสู้ ภาวะตา่ งๆ รอบตวั สง่ิ ท่ี เกดิ ขนึ้ ภายในตนเองและวงสนทนา เรยี กวา่ I-in-now
คมู่ อื การโคช้ เพอ่ื พฒั นาทมี ชมุ ชน 63 การฟังระดับนี้เป็นการให้ความส�ำคัญกับส่ิงที่ปรากฎใน ปจั จบุ นั แตล่ ะขณะและอนญุ าตใหส้ ง่ิ ทไี่ มร่ ู้ ไมพ่ อใจ ปรากฎขนึ้ มาได้ อยา่ งรเู้ นอื้ รตู้ วั ในการโคช้ ทมี หากโคช้ เตรยี มสภาวะของคนในทมี ใหพ้ รอ้ ม ทกุ ครง้ั ทมี่ กี ารสนทนากนั ใหท้ กุ คนเตรยี มสภาวะจติ ใหส้ งบ มสี ตริ เู้ นอื้ รตู้ ัว การสนทนากนั ดว้ ยการฟังในระดับน้ีจะช่วยให้วงสนทนาเกดิ ปญั ญารว่ มกนั ได้ ทกั ษะการฟงั เปน็ ทกั ษะทเี่ กดิ จากการฝกึ ฝน หากตอ้ งการรวู้ า่ การฟงั ของเราอยใู่ นระดบั ใดจะตอ้ งมวี งสนทนาทสี่ ามารถสะทอ้ นใหแ้ กก่ นั และกนั ได้ อย่างกัลยาณมิตรท่ีร่วมเรียนรู้ไปด้วยกันหรือมีโค้ชที่ช่วยสังเกตการณ์เพื่อ สะทอ้ นถงึ ระดบั การฟงั ในการฟงั นนั้ โคช้ จะตอ้ งรเู้ ทา่ ทนั และมองเหน็ บนั ไดแหง่ การวนิ ฉิ ยั ของตน การโคช้ ทต่ี อ้ งใชก้ ารฟงั ถงึ 80 เปอรเ์ ซน็ ต์ โคช้ จะตอ้ งมองเหน็ ทศั นคติ ของตนเองวา่ เวลาทเี่ ราฟงั นนั้ เราคดิ อะไร เราตคี วามอยา่ งไร แลว้ เราใชอ้ ะไร การฟงั 4 ระดบั 1. การฟงั แบบดาวน์ โหลด (download listening) 2. การฟงั ความเปน็ จรงิ (factual listening) 3. การฟงั แบบเอาใจเขามาใสใ่ จเรา (empathetic listening) ฟงั ดว้ ยความรสู้ กึ (open heart 4. การฟงั จากแหลง่ พลงั ภายในตน (generative listening from the Deep Source)
64 คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน ในการตคี วาม ความคดิ เชน่ นน้ั ของเรามาจากไหน เรามคี วามคดิ ความเชอ่ื มี ประสบการณม์ าอยา่ งไร แลว้ ความคดิ ความเชอ่ื ของโคช้ นน้ั อยบู่ นพน้ื ฐานอะไร สง่ิ ทโี่ คช้ ใหค้ วามสำ� คญั คอื อะไร คณุ คา่ ทยี่ ดึ ถอื คอื อะไร ความยตุ ธิ รรม เสรภี าพ การใหเ้ กยี รตกิ นั ฯลฯ ครสิ อารก์ รี สี (Chris Argyris) ศาสตราจารยท์ ศ่ี กึ ษาวจิ ยั การวนิ จิ ฉยั และตดั สนิ ใจของมนษุ ย์ เสนอทฤษฎเี รอื่ ง “บนั ไดแหง่ การวนิ จิ ฉยั ” แสดงใหเ้ หน็ วา่ ระหวา่ ง 2 ถงึ 3 นาที เราปนี “บนั ไดแหง่ การวนิ จิ ฉยั ” ทางความคดิ ดงั น้ี บนั ไดขน้ั แรก เมอ่ื เรารบั รู้ “ขอ้ มลู ” เรอ่ื งราวตา่ งๆ เขา้ มา บนั ไดขนั้ ทสี่ อง จากนน้ั เรากก็ รองขอ้ มลู ตา่ งๆ แลว้ “เลอื ก” ในสงิ่ ทเี่ ราสงั เกตเหน็ และ เพมิ่ เตมิ “ความหมาย” เราเชอ่ื หรอื ไมเ่ ชอ่ื แบบ ไหนจะอยบู่ นฐานประสบการณ์ ความคดิ ความเชอ่ื และคณุ คา่ ทเี่ รายดึ ถอื บนั ไดขนั้ ทสี่ าม แลว้ เรากส็ รา้ ง “สมมตุ ฐิ าน” บนพนื้ ฐาน ความหมายทเ่ี ราเตมิ เขา้ ไปนน้ั คดิ เอาวา่ เรอื่ งราวตา่ งๆ จะเปน็ อยา่ งไร จากขอ้ มลู ทเี่ ราเลอื กมา บนั ไดขนั้ ทสี่ ี่ เรากไ็ ด้ “ขอ้ สรปุ ” ของเรอื่ งราวนนั้ บนั ไดขน้ั ทห่ี า้ เราลงมอื “กระทำ� หรอื พดู ” โดยองิ ขอ้ สรปุ ท่ี สรา้ งขนึ้ มาจากความเชอ่ื ของเรา (ซงึ่ จะเปน็ การตอกยำ้� ความเชอื่ เดมิ ของเราไปเรอ่ื ยๆ) เมอ่ื เรารบั รเู้ รอื่ งราวใดๆ ถา้ เราปนี บนั ไดแหง่ การวนิ จิ ฉยั อยา่ ง อตั โนมตั แิ ละรวดเรว็ ตามความคนุ้ ชนิ กจ็ ะไมเ่ หน็ ความจรงิ ในมมุ มองอนื่ ๆ และบางคร้ังทั้งเราและคนอื่นต่างก็ปีนบันไดแห่งการวินิจฉัยอย่าง รวดเรว็ เชน่ เดยี วกนั การเขา้ ถงึ ความจรงิ กจ็ ะยง่ิ ยากขน้ึ ไปอกี
คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน 65 เชน่ เดยี วกบั เมอื่ นกั วจิ ยั ลงภาคสนามพรอ้ มดว้ ยโจทยว์ จิ ยั ตาม ทฤษฎี มแี วน่ ตาในการมอง ในการตงั้ คำ� ถามทยี่ นื อยบู่ นความเชอื่ นนั้ ชาวบา้ นเองกต็ อบคำ� ถามไปตามความคดิ ความเชอ่ื ทวี่ า่ นน่ั เปน็ สง่ิ ทน่ี กั วจิ ยั อยากได้ เมอ่ื นกั วจิ ยั ไดข้ อ้ มลู ไมต่ รงตามความจรงิ ชาวบา้ นกไ็ มไ่ ด้ ใหข้ อ้ มลู ทเ่ี กดิ ขน้ึ จรงิ ขอ้ สรปุ ทไี่ ดก้ ไ็ มย่ นื อยคู่ วามบนความเปน็ จรงิ การวางแผนเพอ่ื ลงมอื ทำ� กไ็ มส่ อดคลอ้ งกบั ความเปน็ จรงิ ผลทไ่ี ดค้ อื เราไมอ่ าจแกไ้ ขปญั หาได้ และอาจสรา้ งปญั หาใหมไ่ ด้ ตวั อยา่ งการใชบ้ นั ไดแหง่ การวนิ จิ ฉยั ฉนั จะไมเ่ สนอความคดิ ใหมแ่ กส่ มชาย เขากำ� ลงั ใชค้ วามคดิ เหลา่ นตี้ อ่ ตา้ นฉนั สมชายคอื คนนา่ รงั เกยี จ ทก่ี ระหายอำ� นาจ สมชายไม่เคยชอบความคิดของสมหญิง ทง้ั ทคี่ วามคดิ นน้ั เปน็ สงิ่ ทถ่ี กู ตอ้ ง สมชายไมไ่ ดก้ ำ� ลงั ฟงั สมหญงิ เลย สมชายหนั หนา้ มองออกไปขา้ งนอก หอ้ งขณะทส่ี มหญงิ กำ� ลงั พดู
66 คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน โคช้ จะตอ้ งเทา่ ทนั ความคดิ ของตนเองบนบนั ไดแตล่ ะขน้ั กระบวนการ ทจี่ ะชว่ ยใหเ้ ขา้ ใจความจรงิ อยา่ งหนงึ่ กค็ อื ใหเ้ ราคอยตรวจสอบความคดิ ทฤษฎี ความเชอื่ คณุ คา่ ทเ่ี รายดึ ถอื อยเู่ สมอ และรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของคนอน่ื โดยใช้ การฟงั อยา่ งลกึ ซง้ึ คอ่ ยๆ คดิ วา่ บนบนั ไดแหง่ การวนิ จิ ฉยั แตล่ ะขนั้ ทเ่ี รากำ� ลงั กา้ ว ขน้ึ ไปนน้ั เรายนื อยบู่ นสมมตุ ฐิ านอะไร อยบู่ นคณุ คา่ อะไร แลว้ คณุ คา่ นน้ั มาจาก ไหน เราอาจจะไมเ่ หน็ ดว้ ยกบั คนอน่ื แตเ่ ราสามารถทำ� ความเขา้ ใจกบั ทมี่ าทไ่ี ป กบั ความเหน็ ของคนอนื่ ได้ บนั ไดแหง่ การวนิ จิ ฉยั จะชว่ ยใหโ้ คช้ ไมด่ ว่ นสรปุ เรง่ ตดั สนิ ตคี วามเรอ่ื ง ราวใดๆ ทงั้ สน้ิ และยนื อยบู่ นความจรงิ เพอ่ื ชว่ ยใหผ้ รู้ บั การโคช้ ไดว้ างแผนและ ทำ� งานสอดคลอ้ งกบั ความเปน็ จรงิ ของปญั หาใหม้ ากทส่ี ดุ 3. ความสามารถในการคดิ กระบวนระบบ (systems thinking) ทชี่ ว่ ย ในการวเิ คราะหป์ ญั หา เขา้ ใจภาพรวมของปญั หา และมองเหน็ จดุ คาน งดั ในการจดั การกบั ปญั หา ความสามารถในการมองเหน็ ระบบทซี่ บั ซอ้ น และเหน็ ระบบใหญท่ เี่ ปน็ ภาพรวม มองเหน็ ปจั จยั ตา่ งๆ ทสี่ ง่ ผลอยใู่ นระบบนนั้ ๆ โดยเฉพาะปจั จยั ท่ี เกยี่ วขอ้ งกบั ปญั หาทซ่ี บั ซอ้ น ความสามารถนจ้ี ะแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความเกย่ี วโยง สมั พนั ธก์ นั เหน็ วา่ อะไรสง่ ผลตอ่ อะไรและอยา่ งไร และนำ� มาอธบิ ายใหเ้ ขา้ ใจถงึ ความเชอ่ื มโยงเกย่ี วพนั กนั และกนั ได้ อนั เกยี่ วขอ้ งกบั ทกั ษะการจบั ประเดน็ การคดิ กระบวนระบบนน้ั สามารถนำ� มาใชใ้ นการวเิ คราะหป์ ญั หาทยี่ าก และซบั ซอ้ นแลว้ นำ� มาอธบิ ายรปู แบบของการเกดิ ปญั หาได้ หากสามารถนำ� การ คดิ กระบวนระบบมาใชไ้ ด้ จะทำ� ใหเ้ ราเขา้ ใจสงิ่ เหลา่ นี้
คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน 67 1. ทำ� ใหเ้ ราเขา้ ใจในเรอื่ งของทมี และเครอื ขา่ ย (Network) โยงใยของผคู้ นทม่ี ตี อ่ กนั เขา้ ใจปฏสิ มั พนั ธข์ องคนในชมุ ชนวา่ ชมุ ชนน้ี มปี ฏสิ มั พนั ธก์ นั อยา่ งไร และเขา้ ใจวา่ แตล่ ะชมุ ชนนน้ั มปี ฏสิ มั พนั ธข์ อง ผคู้ นในชมุ ชนแตกตา่ งกนั ขนึ้ อยกู่ บั ปจั จยั และตวั แปร เชน่ ประวตั ศิ าสตร์ ชมุ ชน วฒั นธรรมของชมุ ชน ความเชอ่ื และคา่ นยิ มของชมุ ชน โครงสรา้ ง ความสมั พนั ธข์ องชมุ ชน เปน็ ตน้ 2. ทำ� ใหเ้ ราเขา้ ใจวา่ ปญั หานน้ั ซอ่ นอยใู่ นระบบตา่ งๆ ทซี่ อ้ นกนั และสมั พนั ธก์ นั ในระบบใหญน่ น้ั มรี ะบบยอ่ ยๆ ลงมาเรอ่ื ยๆ เปน็ ชน้ั ๆ เชน่ เดยี วกบั ระบบในรา่ งกายเรา เราจะเขา้ ใจไดว้ า่ จากระบบยอ่ ย คอื ระบบของ เดก็ หนง่ึ คนนน้ั มรี ะบบทเี่ กยี่ วขอ้ งเปน็ ชนั้ ๆ ตง้ั แตร่ ะบบครอบครวั ระบบ ชมุ ชน ระบบโรงเรยี นหรอื ศนู ยเ์ ดก็ เลก็ ถา้ เปน็ เดก็ ปฐมวยั ระบบหมบู่ า้ น ระบบตำ� บล ระบบอำ� เภอ ระบบจงั หวดั ระบบของสงั คมใหญ่ ระบบของ ประเทศ ไปจนถงึ ระบบโลก ระบบเหลา่ นล้ี ว้ นเชอื่ มโยงกนั การเปลยี่ นแปลง ของระบบในแตล่ ะชน้ั จงึ กระทบถงึ กนั ถา้ เราอยใู่ นระบบประเทศทเ่ี ปน็ แบบไหนกจ็ ะกระทบกนั ไปเปน็ ชน้ั ๆ จนถงึ ตวั เดก็ เลยทเี ดยี ว 3. ทำ� ใหเ้ ราเขา้ ใจปญั หาทสี่ มั พนั ธก์ บั บรบิ ท (context) มองเหน็ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งระบบตา่ งๆ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั สงิ่ แวดลอ้ ม ของระบบ ท�ำให้เราเข้าใจสภาพแวดล้อมท่ีอยู่รอบตัวสิ่งน้ัน และ สามารถคดิ วเิ คราะหท์ ำ� ความเขา้ ใจวา่ คณุ สมบตั ขิ องบรบิ ทเกย่ี วขอ้ งกบั ระบบท่ีเราต้องการเข้าไปแก้ไขอย่างไรบ้าง และบริบทไหนที่เป็น ประโยชน์ต่อการท�ำงานของเรา เช่น บริบทของตำ� บลที่มีสภาพ แวดลอ้ มอยใู่ กลก้ บั เมอื งใหญก่ บั บรบิ ทของตำ� บลทอี่ ยชู่ ายแดน ยอ่ มมี ผลกระทบจากระบบทแี่ ตกตา่ งกนั เปน็ ตน้
68 คมู่ อื การโคช้ เพอ่ื พฒั นาทมี ชมุ ชน 4. ทำ� ใหเ้ รามองเหน็ วา่ ปญั หานน้ั มเี รอื่ งของความสมั พนั ธ์ หรอื ปฏสิ มั พนั ธท์ ป่ี อ้ นกลบั (feedback) ระหวา่ งองคป์ ระกอบหรอื สว่ นตา่ งๆ หากเรามองเหน็ เสน้ ของความสมั พนั ธท์ ปี่ อ้ นกลบั กนั ไปมา เราจะรวู้ า่ เราจะไปปรบั เสน้ ความสมั พนั ธอ์ ยา่ งไรใหส้ ถานการณป์ ญั หา ดขี น้ึ ได้ เชน่ หลายครง้ั ทมี่ กี ารแกป้ ญั หาความยากจนดว้ ยการใหง้ บ ประมาณไปทำ� การทอ่ งเทยี่ วในชมุ ชน ทำ� ใหน้ กั ทอ่ งเทย่ี วหลงั่ ไหลเขา้ มา โดยไมม่ กี ารจดั ระบบระเบยี บ เกดิ การกวา้ นซอ้ื ทดี่ นิ ของนายทนุ สง่ ผล ตอ่ การทำ� ลายสง่ิ แวดลอ้ ม วฒั นธรรมชมุ ชนถกู ทำ� ลาย นำ� ไปสปู่ ญั หา อน่ื ๆ อกี หลายปญั หา การปอ้ นกลบั กนั ไปมาของปญั หา บางครงั้ ทำ� ให้ การแกป้ ญั หากลายเปน็ ปญั หาเสยี เอง หากเรามองการปอ้ นกลบั ของ ความสมั พนั ธเ์ หลา่ นอี้ อก จะทำ� ใหเ้ ขา้ ไปแตะเสน้ ของความสมั พนั ธ์ เหลา่ นอ้ี ยา่ งระมดั ระวงั และทำ� ใหเ้ กดิ การปอ้ นกลบั เชงิ บวกไดม้ ากกวา่ 5. ทำ� ใหเ้ รามองเหน็ และแกป้ ญั หาดว้ ยการคดิ เปน็ กระบวนการ (pro- cess) ไมค่ ดิ เปน็ สง่ิ ๆ แยกสว่ นเปน็ เรอื่ งๆ แตม่ องเหน็ เปน็ พลวตั (dynamic) การเลอ่ื นไหลไมห่ ยดุ นง่ิ มกี ารววิ ฒั นาการ การเตบิ โต พฒั นาการ การคดิ ให้ เปน็ กระบวนการนนั้ สำ� คญั มากในการพฒั นาสงิ่ มชี วี ติ เพราะกระบวนการจะสง่ ผลตอ่ เนอ่ื งกนั ไป อยา่ งเชน่ หากเราคดิ ถงึ การใหค้ วามรกู้ บั ผปู้ กครองเกย่ี วกบั เดก็ ปฐมวยั เปน็ กระบวนการ เราจะไมท่ ำ� อะไรเปน็ เรอ่ื งๆ เปน็ กจิ กรรมๆ แตเ่ รา สามารถมองเหน็ วา่ จากเรอ่ื งหนง่ึ จะพฒั นาไปสอู่ กี เรอื่ งหนง่ึ อยา่ งไร และเหน็ วา่ จะพฒั นาเปน็ อะไรไดอ้ กี บา้ ง อยา่ งไร หากเราสามารถคดิ เปน็ กระบวนการเรา จะมองเหน็ ภาพตา่ งๆ ลว่ งหนา้ และเขา้ ใจภาพรวมของสงิ่ ทจ่ี ะเกดิ ขนึ้ ไดท้ ง้ั หมด แตท่ งั้ นต้ี อ้ งมองเหน็ เหตุ ปจั จยั ทจี่ ะมาเกยี่ วขอ้ งและทำ� ใหส้ ง่ิ ทเี่ ราคดิ วา่ อาจจะ เปน็ เชน่ นนั้ อาจจะไมเ่ ปน็ อยา่ งทเี่ ราคดิ กไ็ ด้ หากการมองของเรายงั ไมร่ อบดา้ น มอง เหน็ เปน็ องคร์ วมไดท้ งั้ 5 แบบไปพรอ้ มๆ กนั
คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน 69 เครอ่ื งมอื ทช่ี ว่ ยฝกึ การคดิ กระบวนระบบได้ ในทน่ี ขี้ อยกตวั อยา่ ง 2 เครอื่ งมอื ทงั้ นยี้ งั มเี ทคนคิ กระบวนการอน่ื ๆ ทชี่ ว่ ยฝกึ การคดิ วเิ คราะห์ เพอ่ื ใหเ้ ราเขา้ ใจปญั หาและแกป้ ญั หาไดด้ ขี นึ้ 2 เครอ่ื งมอื ในการคดิ กระบวนระบบที่ วา่ น้ี ไดแ้ ก่ 1. การคดิ เชอื่ มโยงเหตแุ ละผล (causal loops) ดว้ ยการ ฝกึ ลากเสน้ เชอ่ื มโยงเหตแุ ละผล ยกตวั อยา่ งเชน่ เราจะคน้ หาเหตแุ ละ ผลเรอื่ งของเดก็ ปฐมวยั ปญั หาใดปญั หาหนง่ึ ใหเ้ รานยิ ามปญั หาใชช้ ดั เชน่ ปญั หาเดก็ ตดิ มอื ถอื จากนนั้ ใหเ้ ราตงั้ คำ� ถามยอ้ นกลบั ไปเรอื่ ยๆ วา่ “ทำ� ไมจงึ เกดิ ปญั หานข้ี น้ึ ” ยกตวั อยา่ งเชน่ “ทำ� ไมเดก็ ถงึ ตดิ มอื ถอื ” เพราะ ผปู้ กครองใหใ้ ชม้ อื ถอื กค็ น้ ตอ่ ไปวา่ “ทำ� ไมผปู้ กครองถงึ ใหเ้ ดก็ ใชม้ อื ถอื ” เพราะผปู้ กครองไมอ่ ยากใหไ้ ปเลน่ ทอี่ น่ื หรอื เพราะผปู้ กครอง ไมม่ เี วลาเลน่ ดว้ ย (ซง่ึ อาจจะมเี หตผุ ลอน่ื มากกวา่ 1 เหตผุ ล สมมตุ วิ า่ มี 2 เหตผุ ลนี้ กค็ น้ กลบั ทงั้ 2 เหตผุ ล) ถามตอ่ ไปวา่ “ทำ� ไมไมอ่ ยากใหไ้ ปเลน่ ทอ่ี น่ื ” เพราะกลวั เดก็ จะไมป่ ลอดภยั อาจจะเกดิ อบุ ตั เิ หตุ “ทำ� ไมกลวั เดก็ ไมป่ ลอดภยั ” เพราะสภาพแวดลอ้ มไมป่ ลอดภยั เชน่ บา้ นอยตู่ ดิ ถนน บา้ น อยรู่ มิ นำ�้ เปน็ ตน้ หรอื เพราะผปู้ กครองอายมุ ากแลว้ ไมส่ ามารถดแู ล ใหเ้ ดก็ ปลอดภยั ได้ (ในกรณเี ดก็ อยกู่ บั ผสู้ งู อาย)ุ
70 คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน เรากจ็ ะคน้ พบสาเหตวุ า่ เปน็ เพราะสภาพแวดลอ้ มไมเ่ ออ้ื ใหเ้ ดก็ เลน่ อยา่ งอน่ื หรอื ผปู้ กครองไมส่ ามารถเลน่ กบั เดก็ ได้ เลน่ กบั เดก็ ไมเ่ ปน็ เปน็ ตน้ การแกป้ ญั หาอาจจะตอ้ งมรี ะบบในการชว่ ยเหลอื ผปู้ กครองสงู อายทุ เ่ี ลน่ กบั เดก็ ไมเ่ ปน็ เลน่ ไมไ่ ด้ เลน่ ไมไ่ หว ทำ� อยา่ งไรใหผ้ ปู้ กครอง ไมย่ นื่ มอื ถอื ใหก้ บั เดก็ อนั เนอื่ งมาจากสาเหตตุ า่ งๆ เหลา่ น้ี หากตอบอกี เหตผุ ลหนงึ่ เชน่ ตอบวา่ “ผปู้ กครองไมว่ า่ งเลน่ ดว้ ย” ตอ้ งคน้ ตอ่ วา่ “ทำ� ไมผปู้ กครองไมว่ า่ งเลน่ ดว้ ย” เพราะ ผปู้ กครอง ตอ้ งทำ� งาน (รบั จา้ งทำ� การเกษตร รบั จา้ งทำ� กอ่ สรา้ ง ไปไรไ่ ปนา ทำ� สวน) วนั ละ 8 ชวั่ โมง ทำ� ใหเ้ หนอื่ ยมาก ตอ้ งคน้ ตอ่ วา่ “ทำ� ไมผปู้ กครองตอ้ งทำ� งานหนกั และเหนอื่ ย ขนาดนน้ั ” อาจจะเพราะรายไดน้ อ้ ย - รายไดไ้ มพ่ อกบั คา่ ใชจ้ า่ ยในครอบครวั , คา่ แรงตำ่� , ราคาพชื ผลตกตำ่� , ไมม่ ที ดี่ นิ ทำ� กนิ เลยตอ้ งไปรบั จา้ ง (ซง่ึ แตล่ ะ คนจะมเี หตผุ ลตา่ งกนั ) กต็ อ้ งตง้ั คำ� ถามตอ่ ไปวา่ ทำ� ไมรายไดน้ อ้ ย ทำ� ไมคา่ แรงตำ�่ ทำ� ไม ราคาพชื ผลตกตำ่� ทำ� ไมไมม่ ที ด่ี นิ ทำ� กนิ ทำ� ไมตอ้ งทำ� งานรบั จา้ ง ฯลฯ หากเราคน้ หาคำ� ตอบไปเรอ่ื ยๆ วา่ “ทำ� ไมถงึ เปน็ เชน่ น”้ี แลว้ คน้ หาคำ� ตอบทเี่ ปน็ เหตเุ ปน็ ผลใหม้ ากทส่ี ดุ เรากจ็ ะพบกบั สาเหตขุ อง ปญั หาทแี่ ทจ้ รงิ ของการทเี่ ดก็ ตดิ มอื ถอื อาจจะเปน็ เรอ่ื งทผี่ ปู้ กครองไมม่ ี ทด่ี นิ ทำ� กนิ แลว้ ปญั หาของการไมม่ ที ดี่ นิ ทำ� กนิ นน้ั อยตู่ รงไหน เราจะเปน็ วา่ “ปญั หาเดก็ ตดิ มอื ถอื ” สาเหตทุ แี่ ทจ้ รงิ อาจเปน็ เรอ่ื งปญั หาทด่ี นิ ทำ� กนิ ซงึ่ เปน็ หนงึ่ ในเรอ่ื งของปญั หาความยากจน
คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน 71 ปญั หาเศรษฐกจิ ของครอบครวั หรอื สาเหตอุ าจจะอยทู่ ผ่ี ปู้ กครองสงู อายไุ มส่ ามารถเลน่ กบั เดก็ ไดแ้ ละเปน็ หว่ งความปลอดภยั ของเดก็ หากเราสามารถคน้ หาสาเหตทุ แี่ ทจ้ รงิ ของปญั หาได้ เราจะ ไมแ่ กป้ ญั หาทป่ี ลายเหตุ ไมแ่ กป้ ญั หาแบบเหมารวม และคดิ แกป้ ญั หา ดว้ ยวธิ กี ารเดยี ว ทง้ั ๆ ทส่ี าเหตนุ น้ั แตกตา่ งกนั 2. การวเิ คราะหด์ ว้ ยการคดิ 4 ระดบั หรอื ภเู ขานำ�้ แขง็ เชน่ เดยี วกบั การคดิ เชอื่ มโยง กค็ อื เราตอ้ งนยิ ามปญั หาใหช้ ดั วา่ เราตอ้ งการ วเิ คราะหป์ ญั หาอะไร แลว้ วเิ คราะหอ์ อกมาเปน็ 4 ระดบั หรอื ภเู ขานำ�้ แขง็ นนั่ เอง ระดบั ท่ี 1 คอื ระดบั ปรากฎการณห์ รอื ระดบั เหตกุ ารณ์ (event) เปน็ ระดบั ทเี่ ราสามารถเหน็ ดว้ ยตาเหมอื นกนั ภเู ขานำ�้ แขง็ ทโ่ี ผลพ่ น้ นำ�้ ยอดของภเู ขานำ�้ แขง็ เปน็ สงิ่ ทเี่ รามองเหน็ ไดช้ ดั หรอื เกดิ จากเราไดย้ นิ ไดร้ บั รู้ มคี นมาเลา่ ใหฟ้ งั เปน็ เหตกุ ารณ์ ยกตวั อยา่ งเชน่ เดก็ ถกู ผปู้ กครอง ทำ� รา้ ยดว้ ยการทบุ ตดี ดุ า่ นคี่ อื ภาพเหตกุ ารณท์ เ่ี ราสามารถมองเหน็ ได้ อาจจะเปน็ เหตกุ ารณอ์ น่ื ๆ กไ็ ด้ เชน่ เดก็ เลน่ มอื ถอื ทง้ั วนั เดก็ ไมค่ อ่ ย กนิ อาหารกนิ แตน่ มรสหวาน เดก็ กนิ นำ้� อดั ลมวนั ละหลายขวด เหลา่ นี้ เรยี กวา่ ระดบั ปรากฎการณ์ ถา้ เราเหน็ เหตกุ ารณแ์ ลว้ ไมต่ อบสนอง เชน่ เหน็ เดก็ โดนทำ� รา้ ยกท็ ำ� แผล ใสย่ า หรอื เหน็ เดก็ เลน่ มอื กค็ ดิ วา่ เดก็ คน อนื่ กเ็ ลน่ หรอื เปน็ เรอ่ื งของแตล่ ะครอบครวั การแกไ้ ขปญั หากจ็ ะไมเ่ กดิ ขนึ้ และอาจจะทำ� ใหล้ กุ ลามไปสปู่ ญั หาทใี่ หญก่ วา่ หรอื ปญั หาทม่ี ากขนึ้ ได้ เพอื่ ใหเ้ ราเขา้ ใจปรากฎการณใ์ หล้ กึ ขนึ้ เราจงึ ควรวเิ คราะหใ์ นระดบั ทลี่ กึ ลงไป
72 คมู่ อื การโคช้ เพอ่ื พฒั นาทมี ชมุ ชน ระดบั ท่ี 2 ระดบั แบบแผนพฤตกิ รรม (pattern) เปน็ การเหน็ แบบแผนของปรากฎการณท์ เี่ กดิ ขน้ึ มกั เปน็ วถิ ปี ฏบิ ตั ิ เปน็ นสิ ยั ของคนหรอื นสิ ยั ของเหตกุ ารณท์ เี่ กดิ ขนึ้ เชน่ กรณเี ดก็ โดนทำ� รา้ ย จะพบแบบแผน ของพฤตกิ รรมวา่ จะเกดิ ขนึ้ ทกุ ครง้ั ทผ่ี ปู้ กครองมนึ เมา หรอื เลน่ การ พนนั แลว้ เสยี เงนิ เหตกุ ารณอ์ น่ื ๆ กเ็ ชน่ กนั เราตอ้ งมองใหเ้ หน็ แบบแผน พฤตกิ รรมคอื สง่ิ ทเี่ กดิ ขนึ้ ซำ�้ ๆ บอ่ ยๆ เหมอื นกบั บางคนพอเดก็ งอแงก็ ซอื้ นำ้� อดั ลมใหเ้ ดก็ กจ็ ะไมง่ อแง กเ็ กดิ แบบแผนพฤตกิ รรมวา่ ถา้ ไมอ่ ยาก ใหเ้ ดก็ งอแงกใ็ หก้ นิ นำ้� อดั ลม ทำ� แบบนบ้ี อ่ ยๆ จนเกดิ เปน็ แบบแผน พฤตกิ รรม เดก็ กจ็ ะตดิ นำ้� อดั ลม เปน็ ตน้ การมองเหน็ แบบแผนพฤตกิ รรม นนั้ จะชว่ ยใหเ้ ราเหน็ แนวโนม้ เพอ่ื ดกั ทางไวก้ อ่ นได้ หรอื ปรบั ตวั ตงั้ รบั กบั สถานการณไ์ ดท้ นั การปรบั แกพ้ ฤตกิ รรมกจ็ ะชว่ ยใหไ้ มเ่ กดิ เหตกุ ารณ์ ทเ่ี ปน็ ปญั หา เชน่ เดยี วกบั การสรา้ งแบบแผนพฤตกิ รรมทที่ ำ� ใหม้ แี นวโนม้ ไปในทางทด่ี กี จ็ ะชว่ ยใหเ้ กดิ เรอื่ งสรา้ งสรรคไ์ ดเ้ ชน่ กนั ยกตวั อยา่ ง เมอื่ เหน็ เดก็ งอแงผปู้ กครองกจ็ ะชวนเดก็ เลน่ หรอื อา่ นหนงั สอื นทิ านใหฟ้ งั หากท�ำบ่อยๆ เป็นแบบแผนพฤติกรรมท่ีดี แนวโน้มท่ีเด็กจะมี พฒั นาการจากการเลน่ หรอื มพี ฒั นาการดา้ นภาษาและจนิ ตนาการจาก การฟงั นทิ านกจ็ ะเปน็ แนวโนม้ ทดี่ สี ง่ ผลตอ่ เดก็ เมอ่ื เตบิ โตขนึ้ และเพอื่ ใหเ้ ราแกป้ ญั หาไดถ้ งึ สาเหตุ หรอื เพอ่ื ใหส้ รา้ งสรรคเ์ หตปุ จั จยั ทด่ี ไี ด้ เรา กจ็ ะวเิ คราะหใ์ หล้ กึ ลงไปอกี ในระดบั ถดั ไป ระดบั ที่ 3 ระดบั โครงสรา้ ง (structure) ระดบั นจี้ ะเปน็ ตวั กำ� หนดแบบแผนพฤตกิ รรมทที่ ำ� ใหเ้ กดิ เหตกุ ารณท์ เี่ ปน็ ปญั หา เราตอ้ ง มองเหน็ โครงสรา้ งของเรอื่ งราวนนั้ วา่ มโี ครงสรา้ งใดบา้ งทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ยก ตวั อยา่ ง เดก็ ตดิ มอื ถอื เกดิ จากแบบแผนพฤตกิ รรมของผปู้ กครองทที่ กุ ครง้ั เมอื่ ไปทำ� งานกเ็ อามอื ถอื ใหเ้ ดก็ เลน่ เกดิ จากโครงสรา้ งอะไรไดบ้ า้ ง เชน่ โครงสรา้ งทางเศรษฐกจิ ทผ่ี ปู้ กครองตอ้ งทำ� มาหากนิ ไมม่ เี วลา
คมู่ อื การโคช้ เพอ่ื พฒั นาทมี ชมุ ชน 73 โครงสรา้ งของครอบครวั ไมม่ คี นดแู ลเดก็ โครงสรา้ งทางเทคโนโลยี ความทนั สมยั เปน็ ตน้ ระดบั ที่ 4 ระดบั โลกทศั น์ ความเชอ่ื (mental models) ความคดิ นนั้ กอ่ ใหเ้ กดิ การกระทำ� ทศั นคติ ความคดิ ความเชอ่ื การ มองโลกจะสะทอ้ นออกมาเปน็ โครงสรา้ งนนั้ ๆ ยงิ่ เปน็ คนทมี่ บี ทบาทท่ี จะกำ� หนดใหเ้ กดิ โครงสรา้ งทมี่ ผี ลกระทบตอ่ ชวี ติ ผคู้ นเรายงิ่ ตอ้ งเขา้ ใจ ถงึ ความคดิ ความเชอื่ หรอื บางคนอาจจะเรยี กวา่ mind set ของคนๆ นนั้ เพราะจะเปน็ สงิ่ ทก่ี ำ� หนดโครงสรา้ งและกอ่ ใหเ้ กดิ พฤตกิ รรมของระบบ จนกระทงั่ ปรากฎออกมาเปน็ สง่ิ ทมี่ องเหน็ ไดช้ ดั เจนเปน็ ปรากฎการณ์ หรอื เหตกุ ารณ์ ยกตวั อยา่ งเชน่ หากคนของรฐั ทมี่ คี วามคดิ ความเชอ่ื วา่ ประชาชนไมม่ คี วามสามารถในการจดั การตนเองได้ แกป้ ญั หาตนเอง ไมไ่ ด้ กจ็ ะสรา้ งโครงสรา้ งในการชว่ ยเหลอื ประชาชนทเ่ี กดิ แบบแผน พฤตกิ รรมซำ�้ ๆ คอื เมอ่ื ชาวบา้ นเดอื ดรอ้ นตอ้ งแจกของ ภาพทป่ี ราก ฎกค็ อื รฐั ลงไปแจกของใหป้ ระชาชนทเี่ ดอื ดรอ้ น ซง่ึ เปน็ รปู แบบการชว่ ย เหลอื ประชาชนเฉพาะหนา้ เทา่ นน้ั แตร่ ฐั ไมไ่ ดท้ ำ� โครงสรา้ งในการชว่ ย เหลอื ประชาชนทม่ี คี วามยงั่ ยนื เปน็ โครงสรา้ งทท่ี ำ� ใหช้ าวบา้ นลกุ ขนึ้ มา ชว่ ยเหลอื ตวั เอง หรอื ชว่ ยเหลอื กนั เองไดโ้ ดยไมต่ อ้ งพงึ่ พารฐั ตลอดทกุ ครงั้ ทเ่ี ดอื ดรอ้ น สงิ่ ทที่ ำ� ใหค้ ดิ โครงสรา้ งความชว่ ยเหลอื ทยี่ ง่ั ยนื ไมไ่ ดก้ ็ เพราะวธิ คี ดิ ทไ่ี มเ่ ชอื่ มนั่ ในความสามารถของประชาชนนนั่ เอง หากเปลยี่ น วธิ คี ดิ ได้ การกระทำ� กจ็ ะเปลยี่ นไปกจ็ ะสามารถสรา้ งโครงสรา้ งทด่ี ใี น การแกป้ ญั หาได้
74 คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน การคดิ 4 ระดบั ทสี่ ามารถนำ� ไปจดั การทมี จดั การองคก์ ร จดั การปญั หาตา่ งๆ ไดน้ น้ั จะตอ้ งฝกึ ใหส้ ามารถมองเหน็ ภาพรวมไดท้ ง้ั 4 ระดบั พรอ้ มๆ กนั อยา่ งเปน็ เหตเุ ปน็ ผลตอ่ กนั การฝกึ วเิ คราะหบ์ อ่ ยๆ กบั เหตกุ ารณต์ า่ งๆ ทเ่ี กดิ ขนึ้ จะชว่ ยใหโ้ คช้ เปน็ นกั คดิ กระบวนระบบทเี่ กง่ ได้ และสามารถโคช้ ใหก้ บั ผรู้ บั การโคช้ มคี วามสามารถเพม่ิ ขนึ้ ไดอ้ กี ดว้ ย การวเิ คราะหโ์ ดยวธิ คี ดิ 4 ระดบั เดก็ เลนมอื ถอื วันละ 1 ระดบั เหตุการณ ประมาณ 8 ชวั่ โมง ทกุ ๆ วนั ที่ผูปกครองทำงาน 2 ระดบั แบบแผนพฤตกิ รรม ก็จะเอามือถอื ใหเ ด็กเลน โครงสรางทางเศรษกิจ 3 ระดบั โครงสรางและระบบ ของครอบครัว / โครงสราง ครอบครวั เด่ยี วทไ่ี มมีคนดูแลเดก็ เด็กไดเลน มอื ถือก็จะเงยี บ ไมงอแง 4 ระดับความเช่อื คา นยิ ม ทัศนคติ / เดก็ จะไดเกงเทคโนโลยี / มอื ถอื เปนของเลน ทที่ นั สมยั
คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน 75 4. ทกั ษะการตง้ั คำ�ถาม กลา่ วกนั วา่ โคช้ ไมค่ วรเปน็ ผเู้ สนอความคดิ เหน็ แตใ่ ชค้ ำ� ถามทด่ี ใี หโ้ คช้ ชคี่ น้ หาคำ� ตอบเอง โคช้ ไมช่ แ้ี นะแนวทาง แตใ่ ชค้ ำ� ถามเพอื่ ใหแ้ นวทางนนั้ ปรากฎ อยใู่ นความคดิ และคำ� ตอบของโคช้ ชเี่ อง คำ� ถามจะคอ่ ยนำ� ไปสคู่ ำ� ตอบทแี่ ทจ้ รงิ ได้ ดงั นนั้ คำ� ถามทโ่ี คช้ ใชจ้ งึ มกั เปน็ คำ� ถามทช่ี วนใหค้ ดิ ไมใ่ ชค่ ำ� ถามเพอ่ื หาขอ้ สรปุ การครนุ่ คดิ ใครค่ รวญของโคช้ ชนี่ น้ั จะไดร้ บั การพฒั นาขน้ึ มาจากการตง้ั คำ� ถามท่ี ดขี องโคช้ และคำ� ถามทชี่ วนใหค้ ดิ จะเปน็ คำ� ถามปลายเปดิ บางครงั้ อาจจะเปน็ ลกั ษณะของชดุ คำ� ถาม เชน่ เรอ่ื งนม้ี ใี ครเกยี่ วขอ้ งบา้ ง เกดิ ขน้ึ ไดอ้ ยา่ งไร เมอ่ื เกดิ เชน่ นน้ั แลว้ รสู้ กึ อยา่ งไร ทำ� ไมถงึ รสู้ กึ เชน่ นน้ั ทำ� ไมเราถงึ คดิ แบบนน้ั เปน็ ตน้ โคช้ มหี นา้ ทต่ี ง้ั คำ� ถามใหโ้ คช้ ชค่ี น้ หาสง่ิ ทตี่ อ้ งการหรอื เปา้ หมาย ทำ� ให้ คมใหช้ ดั ขนึ้ ใหเ้ ปา้ หมายนนั้ เหน็ เปน็ ภาพทช่ี ดั เจน ในระหวา่ งการโคช้ ควรมกี าร ทบทวนและยำ้� เปา้ หมายเปน็ ระยะสมำ่� เสมอ การตง้ั คำ� ถามทล่ี กึ ซง้ึ คำ� ถามทที่ ำ� ใหเ้ กดิ ความคดิ ใหมๆ่ นน้ั ตอ้ งเกดิ จากสภาวะของโคช้ ทมี่ สี มาธิ มกี ารฟงั อยา่ งตงั้ ใจ การฟงั แบบเอาใจเขามาใสใ่ จเรา และโคช้ ตอ้ งพฒั นาการคดิ สรา้ งสรรค์ คดิ นอกกรอบ เพอื่ ใหก้ ารตงั้ คำ� ถามนนั้ สามารถคน้ หาความหมายทซี่ อ่ นอยู่ การตงั้ คำ� ถามดๆี นนั้ จะทำ� ใหส้ ามารถสบื คน้ ความรลู้ กึ ๆ ทอี่ ยใู่ นตวั ของโคช้ ชี่ รวมไปถงึ ความตอ้ งการทแี่ ทจ้ รงิ สง่ิ ทม่ี คี วาม หมายกบั ผรู้ บั การโคช้ จรงิ ๆ การถามเปน็ การเตมิ ศกั ยภาพ (empowering) ใหโ้ คช้ ชค่ี ดิ จากตวั เขา เอง ในขณะทกี่ ารบอก (telling) เปน็ เหมอื นกบั การบงั คบั สง่ั ใหท้ ำ� (controlling) การถามจงึ เปน็ วธิ กี ารทจ่ี ะทำ� ใหโ้ คช้ ชมี่ ศี กั ยภาพและสรา้ งแรงผลกั ดนั ภายในได้ มากกวา่ การบอกใหท้ ำ� อะไรและทำ� อยา่ งไร แมว้ า่ ในบางการโคช้ จะมกี ารใหค้ ำ� แนะนำ� หรอื ทำ� ใหด้ เู ปน็ ตวั อยา่ ง แตต่ อ้ งเปน็ ไปเพอื่ ใหโ้ คช้ ชเ่ี หน็ ทางเลอื กหรอื ครนุ่ คดิ แนวทางในแบบของตวั เอง การทำ� ใหด้ จู งึ มปี ระโยชนใ์ นแงข่ องการสรา้ ง
76 คมู่ อื การโคช้ เพอ่ื พฒั นาทมี ชมุ ชน แรงบนั ดาลใจใหก้ บั โคช้ ช่ี และนำ� ไปสกู่ ารตง้ั คำ� ถามเพอื่ ใหเ้ กดิ การครนุ่ คดิ ทยี่ ก ระดบั ใหโ้ คช้ ชม่ี ศี กั ยภาพเพม่ิ ขน้ึ ลกั ษณะคำ� ถามทโี่ คช้ ควรฝกึ ฝน มนษุ ยม์ คี ำ� ถามพน้ื ฐาน 6 ประการสำ� คญั คอื ใคร (ทำ� ) อะไร ทไ่ี หน เมอื่ ไหร่ ทำ� ไม และอยา่ งไร แตส่ ว่ นใหญเ่ รามกั รบั รกู้ นั เพยี งแค่ ใคร ทำ� อะไร ทำ� ทไี่ หน และทำ� เมอ่ื ไหร่ แตส่ ำ� หรบั คำ� ถามของโคช้ แลว้ ตอ้ งคน้ หาและลงลกึ ไปถงึ “อยา่ งไร” และ “ทำ� ไมหรอื เพราะเหตใุ ด” เพราะคำ� ถามเหลา่ นจ้ี ะชว่ ยใหเ้ ราไดเ้ รยี นรแู้ ละเขา้ ใจผรู้ บั การโคช้ มาก ขน้ึ อกี ทง้ั เปน็ การชว่ ยใหผ้ รู้ บั การโคช้ เขา้ ใจและอธบิ ายเรอื่ งราวตา่ งๆ ไดด้ ขี น้ึ ค�ำถามเพ่ือความเข้าใจต่อกันนั้น จะไม่มุ่งไปท�ำให้เกิดการตัดสิน เรอื่ งราว เชน่ ถามวา่ “เหตกุ ารณน์ เี้ กดิ ขนึ้ ไดอ้ ยา่ งไร” หากเราสามารถชว่ ยกนั คน้ หาสาเหตหุ รอื สงิ่ ทที่ ำ� ใหเ้ กดิ เหตกุ ารณน์ น้ั ได้ ก็จะเห็นช่องทางในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาหรือสร้างสรรค์ สถานการณไ์ ด้ 8 นอกจากน้ียังมีค�ำถามเชิงบวก “การสืบค้นด้วยพลังอย่างชื่นชม” (Appreciative Inquiry) เปน็ คำ� ถามทส่ี ง่ เสรมิ ศกั ยภาพใหม้ องไปขา้ งหนา้ มอง หาสงิ่ ดๆี ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในตวั แตล่ ะคน ในเรอ่ื งของการทำ� งาน ในองคก์ ร ในชมุ ชน คำ� ถามนอี้ ยบู่ นพน้ื ฐานความคดิ ทวี่ า่ ทกุ เรอื่ งมดี า้ นบวก ทอี่ าจจะสรา้ งแรง บนั ดาลใจ และขยายผลในทางบวกได้ อยา่ งเชน่ ปญั หาทเี่ กดิ ขนึ้ ในชมุ ชนทท่ี มี ชมุ ชนตอ้ งการจดั การแกไ้ ข บางครง้ั 8 เมล็ดพันธ์ชวี ิตบรู ณาการ หน้า 353-354
คมู่ อื การโคช้ เพอ่ื พฒั นาทมี ชมุ ชน 77 ทมี กท็ มุ่ เทพลงั ทง้ั หมดไปกบั การแกป้ ญั หาจนคนในทมี รสู้ กึ ออ่ นลา้ หมดพลงั เพราะเหน็ แตเ่ รอ่ื งไมด่ ที เี่ กดิ ขน้ึ โคช้ อาจใชค้ ำ� ถามเชงิ บวกคขู่ นานไปกบั การ คน้ หาตน้ ตอของปญั หาดว้ ย โดยใหค้ นในทมี ชว่ ยกนั คน้ หาสง่ิ ดๆี เรอื่ งราวดๆี ที่ เกดิ ขนึ้ ในชมุ ชน หรอื พฤตกิ รรมของคนดๆี ทที่ ำ� งานชว่ ยเหลอื ชมุ ชนทเ่ี ปน็ ตวั อยา่ งทดี่ ี เปน็ การคน้ หาสงิ่ ดๆี เพอ่ื สนบั สนนุ ใหส้ งิ่ ดๆี ในชมุ ชนเขม้ แขง็ เปน็ แรงบนั ดาลใจกระจายไปในพน้ื ที่ เชน่ เดยี วกบั ชวนใหผ้ รู้ บั การโคช้ คดิ ทำ� สงิ่ ใหม่ ทส่ี รา้ งสรรค์ ทำ� ใหด้ า้ นบวกของชมุ ชนเขม้ แขง็ ดา้ นลบกอ็ าจจะออ่ นแอลงไปเอง เราอาจน�ำกระบวนการ “การสืบค้นด้วยพลังอย่างชื่นชม” หรือ Appreciative Inquiry (AI) มาใชใ้ นการทำ� งานดว้ ยกไ็ ด้ โดยกระบวนการ ดงั กลา่ วนน้ั มี 4 ขน้ั ตอน คอื 1. Discovery คอื การคน้ หาสงิ่ ดๆี คน้ หาเชงิ บวก 2. Dream คอื การจนิ ตนาการถงึ สง่ิ ทอี่ ยากเหน็ ภาพฝนั ถงึ สง่ิ ดๆี 3. Design คอื การออกแบบสง่ิ ทอ่ี ยากเหน็ คดิ คน้ วธิ กี ารเพอ่ื ทำ� สงิ่ ดๆี ทำ� ตามความฝนั นน้ั 4. Destiny คอื การลงมอื ทำ� ตามวธิ กี ารทค่ี ดิ ไวเ้ พอ่ื ใหเ้ กดิ ผลสำ� เรจ็ ทำ� ใหส้ งิ่ ดๆี เกดิ ขนึ้ ตวั อยา่ งคำ� ถามในการสบื คน้ ดว้ ยพลงั อยา่ งชนื่ ชม เชน่ • แตล่ ะคนรสู้ กึ ประทบั ใจเรอ่ื งราวทเี่ กยี่ วกบั การมสี ว่ นรว่ มของ คนในทมี ในเรอ่ื งใดมากทส่ี ดุ เรอื่ งราวเปน็ อยา่ งไร • ลองหลบั ตาแลว้ นกึ ภาพวา่ อกี หนง่ึ ปขี า้ งหนา้ เราไปพบกบั เดก็ ทบี่ า้ นหลงั หนงึ่ เราอยากเหน็ ภาพครอบครวั นน้ั เปน็ อยา่ งไร เดก็ กำ� ลงั ทำ� อะไรอยู่ เรากำ� ลงั ทำ� อะไร
78 คมู่ อื การโคช้ เพอ่ื พฒั นาทมี ชมุ ชน • ลองนกึ ภาพวา่ ในพน้ื ทส่ี รา้ งสรรคท์ เี่ ราอยากใหเ้ กดิ ขนึ้ ในชมุ ชน ของเรา พน้ื ทน่ี นั้ มอี ะไรอยบู่ า้ ง คนทเ่ี ขา้ มาใชพ้ น้ื ทเี่ ปน็ ใคร ภาพของ ครอบครวั ผปู้ กครองและเดก็ ๆ เปน็ อยา่ งไร เขาทำ� กจิ กรรมอะไรกนั อยู่ แลว้ เรากำ� ลงั ทำ� อะไร เพอื่ นรว่ มทมี เรากำ� ลงั ทำ� อะไร • ถา้ โครงการทเ่ี รากำ� ลงั ชว่ ยกนั ทำ� อยนู่ ส้ี ง่ ผลใหช้ มุ ชนของเรา เปน็ ชมุ ชนแรกในประเทศทเี่ ดก็ ๆ มคี วามสขุ ทสี่ ดุ ความสามารถและ จดุ แขง็ ของแตล่ ะคนมบี ทบาทอยา่ งไรตอ่ ความสำ� เรจ็ ของโครงการ • ถา้ มคี นเขา้ มาศกึ ษาดงู านในชมุ ชนของเราเกย่ี วกบั การดแู ล เดก็ เราจะพาเขาไปดทู ไ่ี หนในชมุ ชน แลว้ เราจะทำ� อะไรใหเ้ ขาดแู ลว้ รสู้ กึ วา่ ชมุ ชนของเราดแู ลเดก็ ไดด้ ที ค่ี วรเปน็ แบบอยา่ ง 5. การสะทอ้ นมมุ มอง (feedback / reflect) การสะทอ้ นความคดิ (reflection) การใหข้ อ้ สงั เกต เพม่ิ มมุ มอง การสะทอ้ นมมุ มองของโคช้ นน้ั เปน็ กระบวนการทเี่ กดิ จากการชวน สนทนา การฟงั และการตง้ั คำ� ถามของโคช้ โคช้ เปน็ เหมอื นกระจกสะทอ้ นของ ผรู้ บั การโคช้ เพอื่ ใหเ้ ขามองเหน็ ตวั เองและตระหนกั รดู้ ว้ ยตวั เอง การสะทอ้ น มมุ มองของโคช้ ไมใ่ ชก่ ารตดั สนิ แตก่ ารสะทอ้ นทดี่ จี ะทำ� ใหผ้ รู้ บั การโคช้ มองเหน็ ตนเองในมมุ ทเี่ ขาอยากเหน็ และตอ้ งการทจี่ ะเปลย่ี นแปลงตนเอง ดว้ ยการตดั สนิ ใจของตวั เขาเอง โดยสว่ นใหญโ่ คช้ ใชก้ ารสะทอ้ นเชงิ บวก หรอื สะทอ้ นผา่ น คำ� ถามแบบเปดิ เพอ่ื ชวนใหค้ ดิ กระตนุ้ ใหผ้ รู้ บั การโคช้ คดิ ไดเ้ อง การสะทอ้ นกลบั นน้ั โคช้ ตอ้ งทำ� อยา่ งมยี ทุ ธวธิ จี นกระทงั่ สามารถทำ� ให้ ผรู้ บั การโคช้ เกดิ ตระหนกั ในคณุ คา่ และคน้ พบศกั ยภาพของตนเอง มคี วามมนั่ ใจ อยา่ งเตม็ เปย่ี มทจ่ี ะเอาชนะอปุ สรรค แกป้ ญั หา หรอื บรรลเุ ปา้ หมายของตนเอง ทวี่ างไวไ้ ด้
คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน 79 โคช้ ตอ้ งสรา้ งพนื้ ทปี่ ลอดภยั ใหแ้ กผ่ รู้ บั การโคช้ กอ่ น และปลอ่ ยวางสง่ิ ที่ มอี ยใู่ นตวั โคช้ เชน่ ทศั นคติ ความเชอื่ การใหค้ ณุ คา่ การศกึ ษา ครอบครวั สงั คม หรอื แมก้ ระทงั่ ความมตี วั ตน เพอ่ื ใหโ้ คช้ ไมห่ ลงเขา้ ไปตดั สนิ ชนี้ ำ� หรอื แนะนำ� ในการโคช้ นนั้ ระหวา่ งโคช้ กบั ผรู้ บั การโคช้ สามารถฝกึ การสะทอ้ น ความคดิ (reflection) เพอ่ื ชว่ ยใหเ้ กดิ ความสามารถในการครนุ่ คดิ ใครค่ รวญของ ทง้ั สองฝา่ ย จนทำ� ใหเ้ กดิ การตกผลกึ และนำ� ไปสกู่ ารวางแผนการทำ� งานทม่ี ี ความรอบดา้ น มกี ลยทุ ธ์ กลวธิ ที ด่ี ี อนั จะนำ� ไปสคู่ วามสำ� เรจ็ ได้ นอกจากนี้ โคช้ สามารถใหข้ อ้ สงั เกต เพม่ิ มมุ มอง โคช้ ไมค่ วรใชก้ าร ชแ้ี นะแนวทาง แตจ่ ะใชใ้ นเรอื่ งของการใหข้ อ้ สงั เกตและเพม่ิ มมุ มองใหก้ บั ผรู้ บั การโคช้ เปน็ การแลกเปลยี่ นความคดิ กนั วา่ สงิ่ ทโี่ คช้ สงั เกตเหน็ หรอื แสดงความ คดิ เหน็ ตอ่ เรอ่ื งนนั้ ๆ ในมมุ มองของโคช้ วา่ เปน็ อยา่ งไร และโคช้ ตอ้ งยดึ ใหม้ นั่ วา่ การโคช้ โดยการใหข้ อ้ สงั เกตและเพมิ่ มมุ มองนน้ั เปน็ ไปเพอื่ ใหผ้ รู้ บั การโคช้ ไดเ้ หน็ มมุ มองอน่ื ๆ หรอื ทางเลอื กอนื่ ๆ ทผี่ รู้ บั การโคช้ อาจจะไมท่ นั สงั เกต การมมี มุ มองอนื่ ๆ จะชว่ ยเปดิ กวา้ งทางความคดิ ของผรู้ บั การโคช้ ทำ� ใหม้ มี มุ มองทห่ี ลาก หลาย ชว่ ยใหก้ ารคดิ และการตดั สนิ ใจของผรู้ บั การโคช้ มคี วามชดั เจนขนึ้ ลกั ษณะของการสะทอ้ นมมุ มองทดี่ ี 1. ผสู้ ะทอ้ นมมุ มองหรอื โคช้ ตอ้ งคำ� นงึ ถงึ ประโยชนข์ องผรู้ บั การ โคช้ เปน็ หลกั 2. โคช้ ตอ้ งทำ� ใหผ้ รู้ บั การโคช้ รสู้ กึ ปลอดภยั และเปดิ ใจรบั ฟงั การ สะท้อนมุมมองต้องมีเป้าหมายและประเด็นท่ีชัดเจนว่า ต้องการสะทอ้ นอะไร เพือ่ ใหเ้ กิดการพฒั นาไม่ใชเ่ ปน็ การ ทำ� ลายความมนั่ ใจของผรู้ บั การโคช้ และโคช้ ตอ้ งไมใ่ ชอ้ ารมณ์ ความรสู้ กึ หรอื ความเชอื่ สว่ นตวั ในการสะทอ้ น
80 คมู่ อื การโคช้ เพอ่ื พฒั นาทมี ชมุ ชน 3. โคช้ ตอ้ งพจิ ารณาการสะทอ้ นทเ่ี กยี่ วกบั ทกั ษะ กระบวนการ หรอื การทำ� งานทเี่ ปน็ รปู ธรรมเฉพาะเจาะจงจะตอ้ งเปน็ ไปเพอื่ การพฒั นาไดจ้ รงิ และทำ� ใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงทดี่ ขี นึ้ และหลงั จากการสะทอ้ นมมุ มอง โคช้ จะตอ้ งตดิ ตามสนบั สนนุ โคช้ ชี่ หากเห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นควรชื่นชมและให้ คณุ คา่ กบั การแลกเปลย่ี นมมุ มองสะทอ้ นความคดิ เพอ่ื ใหผ้ รู้ บั การโคช้ เหน็ ความสำ� คญั ของการมมี มุ มองทหี่ ลากหลาย จะ ทำ� ใหผ้ รู้ บั การโคช้ ไมต่ ดิ กรอบและสามารถพฒั นาตนเองได้ อยา่ งไมม่ ที สี่ นิ้ สดุ 6. การสรา้ งแรงบนั ดาลใจ สรา้ งแรงจงู ใจและใหก้ ำ�ลงั ใจ (aspiration, motivation) โคช้ ทดี่ ตี อ้ งรวู้ ธิ กี ารกระตนุ้ และสรา้ งแรงบนั ดาลใจใหผ้ รู้ บั การโคช้ ไม่ ละทง้ิ เปา้ หมาย รกั ษาพลงั ใจ พลงั ความมงุ่ มน่ั ตง้ั ใจทจี่ ะทำ� ตามเปา้ หมายใหไ้ ด้ หากเปา้ หมายนน้ั เปน็ ความปรารถนาทแ่ี ทจ้ รงิ การสรา้ งแรงจงู ใจ เสรมิ พลงั ความมงุ่ มนั่ จะทำ� ไดไ้ มย่ าก แตห่ ากไมใ่ ชค่ วามปรารถนาทแ่ี ทโ้ คช้ ชงิ่ อาจจะลม้ เลกิ กลางคนั ได้ ดงั นน้ั การทำ� ภาพฝนั ใหช้ ดั เจนและเตมิ พลงั ใจสมำ�่ เสมอจะ ทำ� ใหโ้ คช้ ชมี่ แี รงบนั ดาลใจในการทจี่ ะทำ� ตามเปา้ หมายนนั้ เสมอ วธิ กี ารสรา้ งแรงบนั ดาลใจ การจงู ใจ และใหก้ ำ� ลงั ใจ อยทู่ จ่ี งั หวะและโอกาส อยา่ งเชน่ • เม่ือโค้ชช่ีสามารถท�ำบางสิ่งบางอย่างได้ส�ำเร็จ หรือ พยายามทำ� บางอยา่ งทไ่ี มเ่ คยทำ� มากอ่ น กา้ วขา้ มอปุ สรรค โคช้ จะให้ กำ� ลงั ใจดว้ ยการชน่ื ชมเรอื่ งราวดๆี ทผ่ี รู้ บั การโคช้ แสดงออกมา
คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน 81 • บางครงั้ ผรู้ บั การโคช้ อาจจะรสู้ กึ ลงั เล ไมแ่ นใ่ จ ไมม่ น่ั ใจ ไม่ คดิ วา่ ตนเองจะทำ� ตามเปา้ หมายได้ หรอื รสู้ กึ วา่ ยากเกนิ ไป สงิ่ ทโี่ คช้ ทำ� คอื การใหก้ ำ� ลงั ใจและสรา้ งแรงจงู ใจใหผ้ รู้ บั การโคช้ เหน็ ศกั ยภาพของ ตนเองวา่ สามารถทำ� ได้ อาจจะกระตนุ้ ดว้ ยการใหผ้ รู้ บั การโคช้ เลา่ เรอ่ื ง ทภ่ี าคภมู ใิ จในอดตี ใหฟ้ งั หรอื เรอ่ื งของคนทผ่ี รู้ บั การโคช้ เหน็ วา่ เปน็ ตน้ แบบของความสำ� เรจ็ ทตี่ นอยากจะเหน็ หรอื อยากจะเปน็ โคช้ อาจจะใช้ วธิ กี ารเลา่ เรอื่ ง (story telling) ทแี่ สดงใหเ้ หน็ วา่ การมองอปุ สรรคเปน็ เรอื่ งทา้ ทายความสามารถ และวาดภาพความสำ� เรจ็ ทจี่ ะเกดิ ขนึ้ วา่ จะ ทำ� ใหผ้ รู้ บั การโคช้ รสู้ กึ ดแี ละภาคภมู ใิ จกบั ความสำ� เรจ็ นนั้ มากเพยี งใด และมตี วั อยา่ งของคนทส่ี ามารถทำ� ได้ กา้ วผา่ นจดุ ตา่ งๆ เหลา่ นน้ั ได้ เพราะฉะนน้ั ไมใ่ ชเ่ รอื่ งยากเกนิ ไปสำ� หรบั ผรู้ บั การโคช้ ทม่ี คี วามสามารถ อยแู่ ลว้ • หากเปน็ สถาการณท์ ผี่ รู้ บั การโคช้ รสู้ กึ วา่ ลม้ เหลวหรอื ทำ� ไม่ ไดต้ ามทตี่ งั้ ใจไว้ โคช้ ตอ้ งใหก้ ำ� ลงั ใจและชวนถอดบทเรยี นใหเ้ ปน็ วา่ ความลม้ เหลวกเ็ ปน็ ประสบการณท์ ด่ี ที จี่ ะเปน็ เสน้ ทางไปสคู่ วามสำ� เรจ็ ได้ • การดหู นงั กเ็ ปน็ วธิ กี ารสรา้ งแรงบนั ดาลใจอกี รปู แบบหนงึ่ โค้ชอาจเลือกหนังที่เป็นเรื่องราวจากเรื่องจริง เพื่อให้โค้ชชี่ได้เห็น รปู แบบ วธิ กี าร และแรงบนั ดาลใจในการทำ� ในเรอื่ งทม่ี คี วามหมายใกล้ เคยี งกนั เชน่ หนงั ทแี่ สดงใหเ้ หน็ ถงึ การไมย่ อมแพข้ องครอบครวั หนง่ึ ทตี่ อ้ งการดแู ลเดก็ คนหนงึ่ ใหม้ อี นาคตทดี่ ี ในภาพยนตรเ์ รอื่ ง The Blind Side ซงึ่ สรา้ งมาจากเรอื่ งจรงิ ของนกั กฬี าอเมรกิ นั ฟตุ บอล ทม่ี คี รอบครวั หนง่ึ รบั เดก็ ไปดแู ล และทำ� ทกุ อยา่ งเพอื่ ใหเ้ ดก็ มชี วี ติ ทดี่ ขี นึ้ เปน็ ตน้
82 คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน สำ� หรบั การสรา้ งแรงจงู ใจใหก้ บั ผรู้ บั การโคช้ ทเ่ี ปน็ ทมี ชมุ ชนซง่ึ ทำ� งาน ดา้ นเดก็ ปฐมวยั และครอบครวั นอกจากความสำ� เรจ็ ทจ่ี ะนำ� คณุ ภาพทดี่ มี าสชู่ วี ติ ของเดก็ ๆ และคนในชมุ ชนแลว้ โคช้ บางคนยงั สรา้ งแรงจงู ใจเพอื่ ใหค้ นในทมี มงุ่ มนั่ วา่ หากทมี ของเราสามารถทำ� ไดเ้ ปน็ ทมี แรกทจ่ี ะทำ� ใหต้ ำ� บลของเราเปน็ พนื้ ท่ี ทเ่ี หมาะสมในการเลย้ี งดเู ดก็ และจะสามารถเปน็ แบบอยา่ งใหก้ บั ตำ� บลอนื่ ๆ ทง้ั ในระดบั และระดบั ประเทศ เปน็ ตน้ แบบตำ� บลทเี่ ด็กมีความสุขมากทีส่ ดุ ใน ประเทศ นอกจากจะเปน็ การชว่ ยเหลอื ชมุ ชนแลว้ ยงั จะชว่ ยสรา้ งแรงบนั ดาลใจ ใหก้ บั ตำ� บลอน่ื ๆ ไดอ้ กี ดว้ ย 7. การจดบันทึก (journaling) โคช้ ทด่ี มี กั จะมกี ารจดบนั ทกึ ในทกุ ชว่ งทที่ ำ� การโคช้ ไมว่ า่ จะเปน็ การจด บนั ทกึ แผนการโคช้ การเตรยี มตวั กอ่ นโคช้ ทงั้ บนั ทกึ เปา้ หมายในการสนทนา ของโคช้ กบั ผรู้ บั การโคช้ แตล่ ะครง้ั คำ� ถามสำ� คญั ๆ ทจ่ี ะใชใ้ นการตง้ั คำ� ถาม หวั ขอ้ และรายละเอยี ดทจี่ ะชวนผรู้ บั การโคช้ สนทนา และหลงั จากการพบกบั ผรู้ บั การโคช้ แตล่ ะครงั้ จะมกี ารจดบนั ทกึ สงิ่ ทเี่ ปน็ ผลของการโคช้ แตล่ ะครงั้ การจดบนั ทกึ นน้ั เปน็ ประโยชนต์ อ่ การทบทวนเรอื่ งราวของโคช้ ทง้ั สง่ิ ที่ โคช้ ไดก้ ระทำ� ลงไป และผลทเี่ กดิ จากการกระทำ� นน้ั รวมทง้ั พฒั นาการของผรู้ บั การโคช้ ปญั หาอปุ สรรค ขอ้ สงั เกตตา่ งๆ การจดบนั ทกึ นนั้ ชว่ ยในการเรยี นรแู้ ละพฒั นาตนเองของโคช้ อกี ดว้ ย เพราะบางครงั้ โคช้ อาจจะลมื วา่ ในกรณแี บบนโ้ี คช้ ทำ� อยา่ งไร หากโคช้ ใชเ้ พยี งการ จำ� อยา่ งเดยี วบางทอี าจจะคลาดเคลอ่ื นได้ การบนั ทกึ ของโคช้ แตล่ ะชว่ งเวลา จะ ทำ� ใหโ้ คช้ รวู้ า่ เคยทำ� อะไร อยา่ งไร ดว้ ยเหตผุ ลอะไร และเมอื่ โคช้ ทำ� ในสง่ิ ทต่ี า่ ง ออกไป กบ็ นั ทกึ ถงึ ผลของการเปลยี่ นแปลงนน้ั ได้ โคช้ สามารถนำ� มาทบทวนและ นำ� ไปปรบั ใช้ เปน็ ความรใู้ หมข่ องโคช้ ได้
คมู่ อื การโคช้ เพอ่ื พฒั นาทมี ชมุ ชน 83 ประโยชนข์ องการจดบนั ทกึ ไดแ้ ก่ • บนั ทกึ เปน็ ความรใู้ นสว่ นทโี่ คช้ ไดร้ บั ความรเู้ พมิ่ เตมิ ทง้ั จาก การอบรมความรอู้ ะไรใหมๆ่ การรว่ มกจิ กรรม การสนทนา การเรยี น รขู้ องทมี • บนั ทกึ ความเขา้ ใจ ขอ้ สงสยั และขอ้ สงั เกต ในระหวา่ งการ โคช้ แตล่ ะครง้ั หลายอยา่ งลน่ื ไหลไป มกี ารสนทนากนั ในทมี คอ่ นขา้ งมาก แตม่ หี ลายเรอ่ื งทโ่ี คช้ ตอ้ งบนั ทกึ เปน็ ความเขา้ ใจและสงิ่ ทต่ี อ้ งทำ� ความ เขา้ ใจเพมิ่ เตมิ ดว้ ยการคน้ หาตอ่ บนั ทกึ นจี้ ะชว่ ยใหโ้ คช้ รวู้ า่ สงิ่ ไหนทโี่ คช้ และทมี เขา้ ใจแลว้ สง่ิ ไหนทย่ี งั มคี วามเขา้ ใจไมต่ รงกนั สง่ิ ใดทเ่ี ปน็ ขอ้ สงสยั การบนั ทกึ ไวจ้ ะทำ� ใหโ้ คช้ ไมม่ องขา้ มบางสง่ิ หรอื มองวา่ เปน็ สงิ่ เลก็ นอ้ ย ซงึ่ อาจจะเปน็ จดุ เลก็ ๆ ทที่ ำ� ใหเ้ กดิ ปญั หาในอนาคตได้ • บนั ทกึ ขอ้ คน้ พบ ขอ้ คดิ ความคดิ ใหมๆ่ สง่ิ ทไี่ ดเ้ รยี นรู้ สง่ิ ทท่ี ำ� ใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลง ในระหวา่ งการโคช้ นน้ั ทงั้ โคช้ และทมี ตา่ ง กเ็ รยี นรกู้ นั และกนั ระหวา่ งสนทนามคี วามคดิ ใหมๆ่ ทน่ี า่ สนใจ ทเี่ ปน็ ประโยชน์ และอาจจะเปน็ สว่ นหนง่ึ ทท่ี ำ� ใหโ้ คช้ ไดเ้ หน็ ความเปลยี่ นแปลง การเตบิ โตทงั้ ของตนเองและของผรู้ บั การโคช้ • การบนั ทกึ เปน็ การถอดบทเรยี นการเรยี นรขู้ องโคช้ เอง การ ใชท้ กั ษะ กระบวนการ เครอ่ื งมอื ของโคช้ แตล่ ะครงั้ จะชว่ ยใหโ้ คช้ เหน็ รปู แบบการเรยี นรขู้ องตวั เอง และสามารถนำ� สง่ิ ทเี่ รยี นรถู้ อดบทเรยี น นนั้ ไปปรบั ใช้ ยกระดบั การโคช้ ของตนใหด้ ยี ง่ิ ขนึ้ เปน็ ประโยชนท์ งั้ ตอ่ ตนเองและผรู้ บั การโคช้
84 คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน 8. การใหเ้ ครอ่ื งมอื ตา่ งๆ มกี ารแนะนำ� การใชเ้ ครอื่ งมอื และเทคนคิ ตา่ งๆ รวมไปถงึ การพฒั นา ศกั ยภาพใหผ้ รู้ บั การโคช้ อยา่ งทเ่ี คยกลา่ วไวแ้ ลว้ วา่ คนเปน็ โคช้ นน้ั ตอ้ งมเี ครอ่ื งมอื ทหี่ ลากหลายในการทำ� งานของตน และสามารถฝกึ ใหโ้ คช้ ชใี่ ชเ้ ครอื่ งมอื เหลา่ นน้ั ไดด้ ว้ ย ยกตวั อยา่ ง การพฒั นาศกั ยภาพใหโ้ คช้ ชม่ี ที กั ษะในการสนทนา เทคนคิ การเชค็ อนิ การฝกึ ฝนในเรอื่ งสติ สมาธิ ดว้ ยการนง่ั สมาธิ หรอื การ ภาวนาในแบบตา่ งๆ การฝกึ ทกั ษะการฟงั การจบั ประเดน็ การใชเ้ ครอื่ งมอื ในการสำ� รวจขอ้ มลู การวเิ คราะหข์ อ้ มลู เปน็ ตน้ (อา่ น เครอ่ื งมอื และกระบวนการทใ่ี ชใ้ นการโคช้ หนา้ 94) แนวทางการโคช้ โครงสรา้ งแหง่ การเตบิ โต (Grow model) โครงสรา้ งแหง่ การเตบิ โต (GROW Model) เปน็ รปู แบบทถี่ กู พฒั นาขนึ้ เพอื่ ใชเ้ ปน็ แนวทางการโคช้ ของผทู้ เ่ี ปน็ โคช้ แทบทกุ ประเภท ทกุ รปู แบบไมว่ า่ จะ เปน็ การโคช้ ตวั ตอ่ ตวั การโคช้ ทมี การโคช้ องคก์ ร โดยแนวทางนจ้ี ะเนน้ ท่ี กระบวนการตง้ั เปา้ หมายหรอื คน้ หาเปา้ หมาย การมองเหน็ ความเปน็ จรงิ และ พฒั นาจากความเปน็ จรงิ นน้ั สคู่ วามเปน็ ไปไดใ้ หมๆ่ ทเ่ี ปน็ การคน้ พบทางเลอื ก และสามารถเลือกตัดสินใจลงมือปฏิบัติการเพ่ือการเติบโตและส�ำเร็จตาม เปา้ หมายทต่ี อ้ งการ กระบวนการของ GROW Model นนั้ จะเชอ่ื มโยงกนั ทง้ั หมด โดยมกี าร ตง้ั เปา้ หมาย (Goal) การสำ� รวจขอ้ มลู สถานการณ์ สภาพความเปน็ จรงิ ของ ปญั หา และทรพั ยากรตา่ งๆ ทม่ี ี (Reality) สำ� รวจสงิ่ ทเ่ี รามอี ยไู่ มว่ า่ จะเปน็ คน ศกั ยภาพของคน งบประมาณ สง่ิ ทที่ ำ� อยแู่ ลว้ ทเ่ี ปน็ ตน้ ทนุ ในทกุ รปู แบบ ในการ
คมู่ อื การโคช้ เพอ่ื พฒั นาทมี ชมุ ชน 85 โคช้ สว่ นนส้ี ำ� คญั มากและตอ้ งใหเ้ วลานานและมากพอเพอ่ื ใหผ้ รู้ บั การโคช้ ไดเ้ หน็ ความตอ้ งการทแี่ ทจ้ รงิ ของตวั เอง คณุ คา่ ทต่ี นเองใหค้ วามสำ� คญั จากนน้ั จงึ คดิ ออกแบบ วางแผน ทบทวน เพอื่ ใหม้ ที างเลอื ก (Options) กจ็ ะทำ� ใหก้ ารลงมอื ปฏบิ ตั ิ ตามแนวทางทเี่ ปน็ ไปได้ หรอื เกดิ เปน็ ขอ้ สรปุ (Way Forward /will / wrap up) นำ� ไปสคู่ วามสำ� เรจ็ ตามเปา้ หมายทต่ี งั้ ไวไ้ ด้ การใชแ้ นวทาง GROW Model ไมไ่ ดเ้ ปน็ ไปตามลำ� ดบั แตเ่ พอ่ื ใหเ้ รา จดจำ� โมเดลไดง้ า่ ย บางครง้ั เราตอ้ งสำ� รวจสถานการณค์ วามเปน็ จรงิ กอ่ นแลว้ จงึ จะตง้ั เปา้ หมาย และหากเปา้ หมายทต่ี ง้ั ไวอ้ าจจะไมใ่ ชเ่ ปา้ หมายทแ่ี ทจ้ รงิ หรอื เปน็ เปา้ หมายหนงึ่ ไมใ่ ชเ่ ปา้ หมายสงู สดุ กอ็ าจจะตอ้ งสำ� รวจสถานการณค์ วามเปน็ จรงิ ทเี่ กย่ี วขอ้ งเพม่ิ เตมิ กอ่ นทจ่ี ะวางแผนคน้ หาทางเลอื กทเ่ี หมาะสมแลว้ ลงมอื ปฏบิ ตั ิ และเมอ่ื ลงมอื ทำ� ไปแลว้ อาจจะกลบั มาดคู วามเปน็ จรงิ อกี ครงั้ กไ็ ด้ เพราะ สถานการณห์ ลายอยา่ งนน้ั มกี ารเปลย่ี นแปลงตลอดเวลาตามเหตปุ จั จยั ทเ่ี กดิ ขน้ึ ทง้ั จากภายนอกและภายใน โครงสรา้ งแหง่ การเตบิ โต (GROW Model) Goal Options GR ow Reality Way Forward
86 คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน แนวทางการใช้ GROW Model 1. เปา้ หมาย (Goal) ชว่ งของการสรา้ งเปา้ หมายของการโคช้ (Goal setting) ซง่ึ เปน็ การตกลงกนั ระหวา่ งโคช้ กบั ผรู้ บั การโคช้ ถงึ สงิ่ ทตี่ อ้ งการใหเ้ กดิ ข้ึนจากการโค้ช ก�ำหนดเป้าหมายส�ำคัญต่อการโค้ชและเป็นส่วนหนึ่งของ กระบวนการโคช้ ในการสรา้ งเปา้ หมายซงึ่ เปน็ เหมอื นขอ้ ตกลงรว่ มกนั ของโคช้ และผรู้ บั การโคช้ เปน็ การทำ� งานรว่ มกนั แตต่ า่ งบทบาทกนั สง่ิ ทโ่ี คช้ ทำ� คอื การพาผรู้ บั การ โคช้ ไปสเู่ ปา้ หมายทผ่ี รู้ บั การโคช้ ตอ้ งการ สว่ นผรู้ บั การโคช้ นน้ั จะตอ้ งมคี วามมงุ่ มน่ั ตงั้ ใจทจ่ี ะทำ� ใหต้ นเองไปสู่ เปา้ หมายทต่ี อ้ งการใหไ้ ด้ ในชว่ งนคี้ ำ� ถามของโคช้ เนน้ ไปทกี่ ารมองเหน็ เปา้ หมาย ใหช้ ดั เจนขน้ึ ยกตวั อยา่ งคำ� ถาม ซง่ึ โคช้ สามารถเลอื กถามคำ� ถามไดต้ ามความ เหมาะสม เชน่ • ผรู้ บั การโคช้ ตอ้ งการประสบความสำ� เรจ็ หรอื เอาชนะปญั หาเรอื่ งอะไร แลว้ ทำ� ไมตอ้ งทำ� เรอื่ งนใ้ี หส้ ำ� เรจ็ • ใหผ้ รู้ บั การโคช้ อธบิ ายลกั ษณะของผลลพั ธท์ ต่ี อ้ งการวา่ อยากใหเ้ กดิ ขน้ึ แบบไหนอยา่ งไร • เปา้ หมายทผ่ี รู้ บั การโคช้ ตอ้ งการคอื อะไรกนั แน่ แลว้ เปา้ หมายน้ี สำ� คญั ตอ่ ตวั ผรู้ บั การโคช้ อยา่ งไร • ภาพทผ่ี รู้ บั การโคช้ อยากเหน็ หลงั การโคช้ หรอื ภายใน 1 ปนี ี้ คอื อะไร หากเปน็ การโคช้ ทมี ลกั ษณะของการตง้ั คำ� ถามจะตอ้ งทำ� ใหท้ กุ คนมอง เหน็ เปา้ หมายทม่ี พี ลงั ของตนเอง ตอ้ งเปน็ เปา้ หมายทแี่ ทจ้ รงิ สามารถบอกไดว้ า่
คมู่ อื การโคช้ เพอ่ื พฒั นาทมี ชมุ ชน 87 • เปา้ หมายนม้ี คี วามสำ� คญั กบั แตล่ ะคนอยา่ งไร มคี วามหมายตอ่ ตวั เราแตล่ ะคนและคนรอบขา้ งอยา่ งไร • เรามองเหน็ ภาพไหมวา่ หากสง่ิ ทเี่ ราทำ� ประสบความสำ� เรจ็ จะเกดิ การ เปลย่ี นแปลงอะไรบา้ ง และความสำ� เรจ็ นนั้ จะทำ� ใหเ้ รารสู้ กึ อยา่ งไร • ในภาพฝนั ทเ่ี ราอยากเหน็ มใี ครเกยี่ วขอ้ งบา้ ง แลว้ เกยี่ วขอ้ งกบั เรอ่ื งอนื่ ๆ อยา่ งไรบา้ ง • แรงบนั ดาลใจทที่ ำ� ใหเ้ ราอยากทำ� เปา้ หมายนใี้ หส้ ำ� เรจ็ คอื อะไร ตวั อยา่ งคำ� ถามเหลา่ นเี้ ปน็ เพยี งแนวทางใหโ้ คช้ ไดเ้ ลอื กใชใ้ นเวลาท่ี เหมาะสม ควบคไู่ ปกบั ทกั ษะการตงั้ คำ� ถามและกระบวนการตา่ งๆ ทโี่ คช้ มอี ยแู่ ลว้ 2. ความเปน็ จรงิ ในปจั จบุ นั ทสี่ มั พนั ธก์ บั บรบิ ทรอบดา้ น (Reality) คอื การทำ� ใหเ้ หน็ ความจรงิ สถานการณป์ จั จบุ นั จะตอ้ งมองสถานการณอ์ ยา่ ง รอบดา้ น ไมว่ า่ เราจะทำ� งานในเรอื่ งอะไรจะตอ้ งมองสถานการณท์ เี่ กย่ี วขอ้ งกบั เรอื่ งนนั้ ทง้ั ระบบ และเพอื่ ใหม้ ขี อ้ มลู ทเ่ี ปน็ จรงิ อาจจะตอ้ งทำ� ขอ้ มลู การวจิ ยั มี ขอ้ มลู ของคนทเี่ กย่ี วขอ้ ง ศกั ยภาพของคน รวมทงั้ ศกั ยภาพของตวั ผรู้ บั การ โคช้ เอง งบประมาณ ทรพั ยากรตา่ งๆ ทม่ี อี ยู่ บรบิ ท สภาพแวดลอ้ ม สถานการณ์ ปญั หา เราตอ้ งนำ� ขอ้ มลู ตา่ งๆ เหลา่ นม้ี าวเิ คราะหใ์ หเ้ หน็ ภาพความจรงิ ทชี่ ดั เจน นอกจากสถานการณภ์ ายนอกแลว้ การคน้ หาความจรงิ จะทำ� ใหเ้ หน็ สถานการณภ์ ายในดว้ ย ในกระบวนการนจ้ี งึ ตอ้ งใหเ้ วลาเพอ่ื ใหผ้ รู้ บั การโคช้ ได้ มองเหน็ สถานการณค์ วามเปน็ จรงิ มากทส่ี ดุ เพราะความจรงิ นนั้ มกั จะเกย่ี วขอ้ ง กบั mindset (ความเชอ่ื ทส่ี ง่ ผลตอ่ พฤตกิ รรม) ของผรู้ บั การโคช้ เอง กระบวนการ สนทนาของโคช้ จะชว่ ยใหผ้ รู้ บั การโคช้ รวู้ า่ ความเชอื่ ใดทสี่ ง่ ผลตอ่ พฤตกิ รรมตา่ งๆ การสรา้ งกระบวนการเพอื่ ใหผ้ รู้ บั การโคช้ มี Growth mindset คอื การไมย่ ดึ ตดิ กบั ความเชอื่ แตพ่ ฒั นาความเชอ่ื ทจี่ ะนำ� ไปสพู่ ฤตกิ รรมทตี่ นเองทอี่ ยากจะทำ�
88 คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน ตามเปา้ หมายใหส้ ำ� เรจ็ ใหไ้ ด้ กระบวนการเพอ่ื ใหผ้ รู้ บั การโคช้ คน้ หาความเปน็ จรงิ ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ตนเองและคนในทมี โดยการมองสง่ิ ตา่ งๆ เหลา่ นี้ • ความรู้ ความสามารถ (knowledge) ของตวั เองและคนใน ทมี ทจ่ี ะนำ� ไปใชท้ ำ� งานใหบ้ รรลเุ ปา้ หมาย ตนเองมคี วามรอู้ ะไร มคี วาม สามารถอะไรบา้ ง ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การทำ� งานเพอื่ บรรลเุ ปา้ หมาย นนั่ แสดงวา่ ตอนทสี่ รา้ งเปา้ หมายจะตอ้ งมาดวู า่ การทำ� เปา้ หมายนนั้ ให้ สำ� เรจ็ ตอ้ งใชค้ วามรคู้ วามสามารถอะไรบา้ ง แลว้ มาดสู ง่ิ ทมี่ แี ละสงิ่ ทข่ี าด • คณุ คา่ (value) กระบวนการนตี้ อ้ งทำ� ใหผ้ รู้ บั การโคช้ มอง เหน็ คณุ คา่ ของตวั เอง และเหน็ คณุ คา่ ของสง่ิ ทจี่ ะลงมอื ทำ� หากเรานำ� เรอื่ งของคณุ คา่ ในสงิ่ ทก่ี ำ� ลงั ทำ� ออกมาพดู คยุ กนั ใหเ้ หน็ ไดช้ ดั จะยงิ่ ทำ� ให้ เรามคี วามมน่ั ใจในสงิ่ ทจ่ี ะทำ� และจะชว่ ยเสรมิ พลงั ดา้ นบวกใหก้ บั คนใน ทมี ไดด้ ว้ ย เปน็ การมองเหน็ คณุ คา่ รว่ มของทมี ซง่ึ มคี วามสำ� คญั มากตอ่ การทำ� สง่ิ ทเ่ี ปน็ เปา้ หมายรว่ ม • ความเชอ่ื (belief) ความเชอ่ื นน้ั ทรงพลงั มากในการทำ� งาน ถา้ หากเราเชอ่ื ในสงิ่ ใด เรากจ็ ะมงุ่ มน่ั ตง้ั ใจไปในทศิ ทางนนั้ หากโคช้ ชี่ ไมแ่ นใ่ จในความเชอ่ื นน้ั โคช้ ตอ้ งทำ� หนา้ ทก่ี ระตนุ้ ใหโ้ คช้ ชเี่ ชอื่ วา่ สงิ่ ทเ่ี ขา เชอื่ นนั้ เปน็ ไปได้ อาจจะดงึ เอาความภาคภมู ใิ จ สงิ่ ทเ่ี คยทำ� ไดแ้ ลว้ ใน อดตี หรอื สงิ่ ทเ่ี คยดงี ามสงิ่ ทเ่ี ปน็ ความสำ� เรจ็ ในอดตี มากระตนุ้ หลาย เรอื่ งอยคู่ วามเชอ่ื หากเราเชอ่ื วา่ เปน็ ไปไดม้ นั กจ็ ะเปน็ ไปไดห้ รอื เราจะ หาทางใหม้ นั เปน็ ไปไดเ้ อง • ประสบการณ์ (experience) สงิ่ ทผ่ี รู้ บั การโคช้ แตล่ ะคนมี แตย่ งั ไมไ่ ดต้ ระหนกั รถู้ งึ ทกั ษะ (skill) ของตวั เอง บางครง้ั ไมร่ วู้ า่ ตวั เอง ทำ� ไดเ้ พราะอะไร หรอื ไมม่ น่ั ใจวา่ จะทำ� ได้ โคช้ ตอ้ งชว่ ยใหโ้ คช้ ชเี่ หน็ วา่
คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน 89 ในประสบการณข์ องเขานน้ั มอี ะไรบา้ ง ทำ� ใหเ้ ขาคดิ คน้ วธิ กี ารหรอื ความ เปน็ ตวั เขาเองไดง้ า่ ยขน้ึ ทสี่ ำ� คญั การโคช้ ในชว่ งของการสำ� รวจตวั เองใหม้ องเหน็ ความจรงิ ใน ปจั จบุ นั (Reality) น้ี โคช้ จะตอ้ งมสี ตแิ ละสมาธอิ ยา่ งมาก ทงั้ การฟงั การตงั้ คำ� ถาม ไมร่ บี พาผรู้ บั การโคช้ ไปสขู่ อ้ สรปุ เรว็ เกนิ ไป ตอ้ งสงั เกตวา่ ผรู้ บั การโคช้ มองเหน็ สถานการณต์ า่ งๆ ไดช้ ดั เจนและรอบดา้ น มขี อ้ มลู ยนื ยนั ไมใ่ ชก่ ารคดิ ไปเอง และมองเหน็ ตนเองไดช้ ดั เจน จงึ จะคอ่ ยๆ พาไปสขู่ น้ั ตอนถดั ไป ขน้ั ตอนนเี้ ปน็ รากฐานจงึ ควรทำ� ใหเ้ กดิ ความมนั่ ใจทงั้ สองฝา่ ยทง้ั โคช้ และผรู้ บั การโคช้ ในการทำ� ทมี ชมุ ชนนนั้ ชว่ งของการสำ� รวจขอ้ มลู เดก็ และครอบครวั ใน ชมุ ชน เปน็ การทำ� ความจรงิ ใหป้ รากฎ ในขนั้ ตอนนถี้ า้ ยงั มขี อ้ มลู ไมค่ รบ รอบ ดา้ น หรอื ยงั ไมไ่ ดข้ อ้ มลู ทเี่ ปน็ จรงิ ทมี กต็ อ้ งสรา้ งความไวว้ างใจใหก้ ลมุ่ เปา้ หมาย ใหข้ อ้ มลู ทเี่ ปน็ จรงิ โดยการสำ� รวจซำ้� จนกวา่ จะมน่ั ใจในระดบั หนง่ึ วา่ ขอ้ มลู ทไ่ี ด้ มานน้ั เพยี งพอตอ่ การนำ� ไปวเิ คราะห์ ในการวเิ คราะหข์ อ้ มลู เพอ่ื ใหเ้ หน็ เรอื่ งราว ในเชงิ ระบบวา่ อะไรสง่ ผลตอ่ อะไร และสาเหตขุ องปญั หามาจากอะไรบา้ ง โคช้ สามารถใชเ้ ครอื่ งมอื จากการคดิ กระบวนระบบ (Systems thinking) กจ็ ะชว่ ย ใหท้ กุ คนในทมี ไดเ้ ขา้ ใจปญั หา นอกจากความจรงิ ทเ่ี ปน็ สถานการณแ์ ลว้ ขอ้ มลู ของแตล่ ะคนในทมี ทม่ี า จากตา่ งหนว่ ยงานกส็ ำ� คญั เพอ่ื ใหเ้ หน็ ตน้ ทนุ ศกั ยภาพของทมี โดยการสำ� รวจวา่ แตล่ ะคนในทมี ทำ� งานเกยี่ วกบั อะไรบา้ ง ไดท้ ำ� อะไรไปบา้ งในเรอื่ งน้ี แตล่ ะคนมี บทบาทอยา่ งไรในองคก์ ร มที รพั ยากรอะไรบา้ ง สำ� หรบั การโคช้ ทมี ชว่ งนโี้ คช้ จะตอ้ งทำ� กระบวนการใหเ้ กดิ การแบง่ ปนั ขอ้ มลู 3. โอกาสความเปน็ ไปไดแ้ ละทางเลอื ก (Options) เปน็ ชว่ งของการ คน้ หาแนวทางเพอ่ื ใชเ้ ปน็ ทางเลอื กในการแกไ้ ขปญั หาทเี่ กดิ ขน้ึ ดงั นนั้ โคช้ ตอ้ ง
90 คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน ชวนคดิ ชวนคยุ เพอ่ื ใหผ้ รู้ บั การโคช้ ไดค้ ดิ วางแผนทจี่ ะทำ� ใหไ้ ปสเู่ ปา้ หมาย โดย ตงั้ คำ� ถามทเี่ กย่ี วกบั การวางแผนงาน เชน่ มแี ผนงานใดบา้ งทจี่ ะทำ� ใหเ้ ปา้ หมาย นน้ั สำ� เรจ็ ใหผ้ รู้ บั การโคช้ คดิ ไวห้ ลายๆ แผน หลงั จากนน้ั กม็ าคดิ คน้ วธิ กี ารทจี่ ะ ทำ� ในแตล่ ะแผนงานวา่ มวี ธิ กี ารใดบา้ งทจี่ ะทำ� แลว้ ทำ� ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายได้ และ เมอื่ มที งั้ แผนงานและวธิ กี ารแลว้ กม็ าคน้ หาทางเลอื กทเ่ี หมาะสมทจี่ ะทำ� ใหเ้ ปา้ หมายนนั้ สำ� เรจ็ สำ� หรบั การโคช้ ทมี โคช้ ตอ้ งทำ� กระบวนการใหท้ มี ไดว้ างแผน การทำ� งานงาน ใหท้ กุ คนไดช้ ว่ ยกนั คดิ คน้ แผนงาน อาจจะแบง่ กลมุ่ หรอื จบั คใู่ ห้ คนในทมี ไดค้ ดิ แผนงานและวธิ กี ารออกมา แตล่ ะคหู่ รอื แตล่ ะกลมุ่ ทค่ี ดิ แผนงาน และวธิ กี ารทแี่ ตกตา่ งกนั กน็ ำ� มาแลกเปลยี่ นกนั แลว้ เลอื กแผนงานและวธิ กี าร ทที่ กุ คนเหน็ วา่ จะทำ� ใหส้ ามารถไปถงึ เปา้ หมายทว่ี างไวร้ ว่ มกนั ได้ • ขน้ั ตอนการคน้ หาทางเลอื กของแผนงานและวธิ กี ารทเ่ี หมาะ สมนี้ จะเกดิ ขนึ้ หลงั จากมองเหน็ ความจรงิ ในปจั จบุ นั แลว้ เพราะเราจะ ไดร้ ตู้ น้ ทนุ ความรแู้ ละศกั ยภาพของผรู้ บั การโคช้ รวมถงึ ทรพั ยากรทม่ี ี อยไู่ มว่ า่ จะเปน็ เรอื่ งคน งบประมาณ ความเขา้ ใจตอ่ สถานการณป์ ญั หา แลว้ เปน็ อยา่ งดี • ทางเลอื กไมใ่ ชเ่ รอ่ื งของแผนงานและวธิ กี ารทำ� งานเพยี ง อยา่ งเดยี ว แตห่ ลงั จากมองเหน็ ความจรงิ แลว้ ผรู้ บั การโคช้ จะไดค้ น้ พบศกั ยภาพของตนเองวา่ มตนมศี กั ยภาพอะไรบา้ ง และศกั ยภาพหรอื ความรคู้ วามสามารถในเรอื่ งใดทยี่ งั มไี มพ่ อ ซง่ึ โคช้ จะตอ้ งชวนผรู้ บั การ โค้ชค้นหาทางเลือกในการพัฒนาศักยภาพตนเองด้วยว่าต้องการ สนบั สนนุ ความรอู้ ะไร หรอื พฒั นาศกั ยภาพดา้ นใดเพมิ่ เตมิ บา้ ง รวมไป ถงึ ตอ้ งการการสนบั สนนุ ทรพั ยากรหรอื การหนนุ เสรมิ แบบไหน จงึ จะ ทำ� ใหม้ าเตมิ เตม็ ในแผนการ วธิ กี ารทำ� งานได้
คมู่ อื การโคช้ เพอ่ื พฒั นาทมี ชมุ ชน 91 • โคช้ กต็ อ้ งมที างเลอื กในการนำ� พาผรู้ บั การโคช้ ไปสเู่ ปา้ หมาย เชน่ กนั โดยการพจิ ารณาวา่ หากผรู้ บั การโคช้ จะไปถงึ เปา้ หมายได้ ตอ้ ง ดงึ ศกั ยภาพของผรู้ บั การโคช้ อยา่ งไร หรอื หากเหน็ วา่ ศกั ยภาพของผรู้ บั การโคช้ ในขณะนย้ี งั มไี มพ่ อ ควรจะใหผ้ รู้ บั การโคช้ เพมิ่ ศกั ยภาพในดา้ น ใดบา้ ง กอ่ นใหท้ างเลอื ก โคช้ ตอ้ งทำ� ความเขา้ ใจผรู้ บั การโคช้ ใหม้ าก ทส่ี ดุ เพอ่ื คน้ หาแนวทางทเี่ หมาะสมใหก้ บั ผรู้ บั การโคช้ เชน่ กนั • ในการโคช้ ทมี ชมุ ชน ทมี โคช้ ควรมแี ผนทส่ี อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของทมี ชมุ ชน เมอื่ รเู้ ปา้ หมายทชี่ มุ ชนอยากไปใหถ้ งึ แลว้ และวเิ คราะหข์ อ้ มลู สถานการณค์ วามเปน็ จรงิ แลว้ ตอ้ งมแี ผนในการ พฒั นาศกั ยภาพใหก้ บั ทมี ชมุ ชน ไมว่ า่ จะเปน็ การพฒั นาใหค้ วามรเู้ กยี่ ว กบั ประเดน็ พฒั นาดา้ นการทำ� งานงาน การจดั กจิ กรรม เสรมิ ทกั ษะ กระบวนการต่างๆ รวมไปถึงการให้ผู้รับการโค้ชได้ฝึกทดลองท�ำ กจิ กรรม หรอื อาจมกี ารไปดงู าน สรา้ งการเรยี นรใู้ นเรอื่ งทผ่ี รู้ บั การโคช้ อยากทำ� เชน่ การจดั มหกรรม การทำ� ฐานเรยี นรู้ การทำ� สอ่ื เรยี นรู้ ถา้ ผรู้ บั การโคช้ ตอ้ งไปทำ� งานทเี่ กย่ี วกบั เปลย่ี นวธิ คี ดิ ปรบั พฤตกิ รรม ของคนอน่ื กต็ อ้ งฝกึ จดั กระบวนการ การจดั วงสนทนาทส่ี รา้ งสรรค์ คอ่ ยๆ ทำ� จากวธิ คี ดิ ขยบั ไปสกู่ ารจดั กจิ กรรมดว้ ยกนั เมอื่ คนในชมุ ชน พรอ้ ม เปน็ ตน้ ตวั อยา่ งคำ� ถามและกระบวนการทโี่ คช้ ใชใ้ นชว่ งน ี้ • หากต้องการท�ำเป้าหมายให้ส�ำเร็จทีมควรวางแผนงาน อยา่ งไรบา้ ง • ใหผ้ รู้ บั การโคช้ ออกแบบเสน้ ทางการทำ� งานทจ่ี ะทำ� ใหไ้ ปถงึ เปา้ หมายได้
92 คมู่ อื การโคช้ เพอ่ื พฒั นาทมี ชมุ ชน • ในเปา้ หมายใหญต่ อ้ งบรรลเุ ปา้ หมายยอ่ ยอะไรบา้ ง หากทำ� เปา้ หมายแรกสำ� เรจ็ จะสง่ ผลตอ่ ไปยงั เปา้ หมายทส่ี องอยา่ งไร จนกวา่ จะสำ� เรจ็ เปา้ หมายรว่ มซง่ึ เปน็ ภาพฝนั ทวี่ างกนั ไว้ • การวางแผนงานนน้ั ตอ้ งคำ� นงึ ถงึ สง่ิ ใดบา้ ง เชน่ คน ความ สามารถ ทรพั ยากร • หากจะทำ� แผนงานใหส้ ำ� เรจ็ มวี ธิ กี ารอะไรบา้ ง และมแี นวทาง ในการดำ� เนนิ การอยา่ งไร • เมอื่ มแี ผนงาน มวี ธิ กี ารตา่ งๆ และแนวทางในการดำ� เนนิ งานเพอ่ื ใหเ้ ปา้ หมายสำ� เรจ็ แลว้ กจ็ ะเปน็ เรอ่ื งของการไตรต่ รองใครค่ รวญ และเลอื กวา่ แผนงานใดทมี่ คี วามเปน็ ไปไดท้ จ่ี ะนำ� มาใชใ้ นการทำ� งาน 4. สงิ่ ทจี่ ะเกดิ ขน้ึ / สง่ิ ทล่ี งมอื ทำ� /สรปุ ผล (Way forward /will / wrap up) ชว่ งนข้ี นึ้ อยกู่ บั วา่ โคช้ เปน็ โคช้ ประเภทไหน ถา้ เปน็ โคช้ การทำ� งานก็ จะเปน็ ชว่ งของการตดั สนิ ใจวา่ สงิ่ ทจี่ ะลงมอื ทำ� หรอื สง่ิ ทจี่ ะเกดิ ขน้ึ คอื อะไร มกี าร กำ� หนดระยะเวลาทจี่ ะลงมอื ปฏบิ ตั งิ านแตล่ ะขนั้ ตอนและเรม่ิ ลงมอื ทำ� โดยตอ้ ง คำ� นงึ ถงึ วา่ ในการทำ� งานนนั้ มใี ครเกยี่ วขอ้ งบา้ ง แตล่ ะคนมบี ทบาทอยา่ งไร เปน็ ชว่ งทมี่ ขี อ้ สรปุ แลว้ วา่ แผนงานของผรู้ บั การโคช้ ทจี่ ะทำ� นนั้ จะเกดิ ขน้ึ ตงั้ แตเ่ มอื่ ไหร่ เชน่ ตงั้ แตว่ นั นเี้ ปน็ ตน้ ไปผรู้ บั การโคช้ จะทำ� อะไรบา้ ง, ภายในชว่ ง 3 เดอื น แรกผรู้ บั การโคช้ จะลงมอื ทำ� อะไร, หลงั จากการอบรมพฒั นาศกั ยภาพแลว้ กลบั ไปผรู้ บั การโคช้ จะเรมิ่ ทำ� อะไรกอ่ น เปน็ ตน้ การโคช้ ในชว่ งนจี้ ะใชก้ ารตง้ั คำ� ถามเพอ่ื ใหผ้ รู้ บั การโคช้ สรปุ วธิ กี าร ขน้ั ตอน ระยะยะเวลา และแนวทางตา่ ง ๆ ทจ่ี ะไปลงมอื ปฏบิ ตั ิ ดว้ ยตวั ของผรู้ บั การโคช้ เอง หรอื ถา้ เปน็ ทมี กส็ ามารถระบไุ ดว้ า่ ใครจะกลบั ไปทำ� อะไร อยา่ งไร เชน่ แตล่ ะคน
คมู่ อื การโคช้ เพอ่ื พฒั นาทมี ชมุ ชน 93 จะลงมอื ทำ� ขนั้ ตอนอะไรบา้ ง ในแตล่ ะเรอ่ื งหรอื แตล่ ะขนั้ ตอนจะทำ� เมอ่ื ไหร่ ผรู้ บั การโคช้ ตอ้ งการการสนบั สนนุ อะไร จากใครบา้ ง และเมอื่ ลงมอื ปฏบิ ตั แิ ลว้ ผรู้ บั การโคช้ จะประเมนิ ผลอยา่ งไรและประเมนิ ผลเมอื่ ใด เปน็ ตน้ เม่ือขั้นตอนและระยะเวลาในการท�ำงานตามแผนงานและวิธีการท่ี วางไว้ สงิ่ ทโี่ คช้ จะชว่ ยสนบั สนนุ ผรู้ บั การโคช้ ในชว่ งนค้ี อื การใหก้ ำ� ลงั ใจ ดแู ล รกั ษาพลงั ใจของผรู้ บั การโคช้ ไมใ่ หล้ ม้ เลกิ กลางคนั หรอื ทอ้ ถอย เพราะการลงมอื ทำ� บางครงั้ กเ็ จอปญั หาอปุ สรรค อาจจะไมร่ าบรน่ื โคช้ จะคอยชว่ ยในแตล่ ะขนั้ ตอนใหผ้ รู้ บั การโคช้ กา้ วผา่ นไปไดแ้ ละขบั เคลอ่ื นการทำ� งานดว้ ยพลงั และความ ตง้ั ใจทจ่ี ะทำ� เปา้ หมายใหส้ ำ� เรจ็ ผรู้ บั การโคช้ จะสามารถเขา้ ใกลก้ บั เปา้ หมายไดม้ ากแคไ่ หนนนั้ ตอ้ งมี การสรปุ ผลและถอดบทเรยี นเปน็ ชว่ งๆ เพอื่ ใหส้ ามารถปรบั แผนการทำ� งาน ปรบั วธิ กี าร ดรู ะยะเวลาทเ่ี หมาะสมในการลงมอื ทำ� หากตอ้ งพฒั นาศกั ยภาพ กอ่ นเพอ่ื ใหท้ ำ� ไดด้ ยี ง่ิ ขน้ึ โคช้ กจ็ ะชว่ ยสนบั สนนุ ชว่ ยเหลอื ใหผ้ รู้ บั การโคช้ มี ศกั ยภาพเพมิ่ ขนึ้ โคช้ จงึ เปน็ เหมอื นเพอ่ื นรว่ มทางทจ่ี ะอยเู่ คยี งขา้ งเพอ่ื ใหผ้ รู้ บั การโคช้ ได้ ประสบความสำ� เรจ็ ตามทตี่ งั้ ใจไว้ โคช้ ทด่ี นี นั้ จะอยเู่ คยี งขา้ งและคอยชว่ ยเหลอื ดว้ ยการรบั ฟงั การตงั้ คำ� ถาม ใหก้ ำ� ลงั ใจ สรา้ งแรงบนั ดาลใจ สะทอ้ นมมุ มอง หรอื ตง้ั ขอ้ สงั เกตเพม่ิ มมุ มอง ชว่ ยใหผ้ รู้ บั การโคช้ เพมิ่ ศกั ยภาพความสามารถที่ จะทำ� สง่ิ ทตี่ งั้ ใจใหส้ ำ� เรจ็
94 คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน เครอ่ื งมอื และกระบวนการทใี่ ชใ้ นการโคช้ เครอ่ื งมอื และกระบวนการทใี่ ชใ้ นการโคช้ มกั จะเปน็ สว่ นหนง่ึ ของทกั ษะ โคช้ เพราะสว่ นใหญโ่ คช้ จะใชก้ ารสนทนาเปน็ หลกั แตอ่ าจจะมบี า้ งในบางครง้ั ท่ี โคช้ ตอ้ งทำ� ใหด้ ู หรอื ใหเ้ ครอ่ื งมอื เทคนคิ กระบวนการ เพอ่ื ใหผ้ รู้ บั การโคช้ สามารถนำ� ไปใชใ้ นการทำ� งานได้ ดงั นนั้ ผทู้ เี่ ปน็ โคช้ เองกต็ อ้ งมคี วามเขา้ ใจและ สามารถใชก้ ระบวนการตา่ งๆ ได้ ยง่ิ เปน็ การโคช้ ทมี โคช้ ตอ้ งทำ� กระบวนการ เปน็ ผเู้ ออื้ อำ� นวยการสนทนา (facilitator) อยบู่ อ่ ยๆ การฝกึ ฝนใหค้ นในทมี สามารถทำ� กระบวนการสนทนากนั เองได้ เพม่ิ พนู ทกั ษะ เรยี นรกู้ ระบวนการ เทคนคิ และเครอ่ื งมอื ตา่ งๆ ได้ กจ็ ะสามารถพฒั นาตนเองและทมี ได้ โคช้ จงึ ตอ้ งทำ� หนา้ ทใ่ี นการพฒั นาศกั ยภาพใหก้ บั คนในทมี ไดด้ ว้ ย สำ� หรบั เครอ่ื งมอื และกระบวนการทโี่ คช้ ควรฝกึ ฝนและนำ� ไปพฒั นาทมี ไดแ้ ก่ 1. กระบวนการเตรยี มความพรอ้ มเพอ่ื ใหอ้ ยกู่ บั ปจั จบุ นั ขณะ (be present) ทงั้ ในการทำ� งาน การประชมุ และการสนทนาตา่ งๆ เพอ่ื ทำ� ใหส้ ภาวะ ของทงั้ โคช้ และผรู้ บั การโคช้ หรอื ทมี ทร่ี บั การโคช้ มสี ตแิ ละพรอ้ มสนทนากบั คน ทอ่ี ยตู่ รงหนา้ เปน็ เรอื่ งสำ� คญั มาก บางครงั้ การสนทนานนั้ จะเปน็ ประโยชนไ์ ด้ ตามเปา้ หมายทตี่ อ้ งการหรอื ไมก่ ข็ นึ้ อยกู่ บั การเรมิ่ ตน้ เตรยี มสภาวะนเี่ อง หาก เตรยี มสภาวะของทกุ คนพรอ้ มกจ็ ะสามารถทำ� ใหก้ ระบวนการสนทนาหรอื การ ทำ� งานนนั้ เปน็ ไปไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและมพี ลงั กระบวนการเตรยี มความพรอ้ มนนั้ ทำ� ไดห้ ลายรปู แบบแลว้ แตว่ า่ โคช้ จะ เลอื กใชแ้ บบใด บางคนอาจจะใชก้ ารเตรยี มความพรอ้ มดว้ ยการนงั่ สมาธิ เจรญิ สตภิ าวนา อาจจะใชว้ ธิ ใี หเ้ คลอ่ื นไหวคลา้ ยกบั การเดนิ จงกรม มสี ตริ ตู้ วั ขณะ กำ� ลงั กา้ วเทา้ การเคลอ่ื นไหวมอื ใหส้ ตริ ตู้ วั มาอยทู่ มี่ อื หรอื การอยกู่ บั ลมหายใจ
คมู่ อื การโคช้ เพอ่ื พฒั นาทมี ชมุ ชน 95 นง่ั เงยี บๆ มองดธู รรมชาติ สง่ิ สำ� คญั คอื การทำ� ใหใ้ จสงบและรเู้ นอ้ื รตู้ วั เปน็ การ สรา้ งบรรยากาศกอ่ นการสนทนาใหเ้ กดิ การ “ชะลอความเรว็ ” (slow down) ทง้ั การเคลอ่ื นไหวทางกาย และการคดิ นน่ั คดิ นี่ ใหช้ ะลอความคดิ แลว้ กลบั มาอยู่ กบั สงิ่ ทจี่ ะเกดิ ขน้ึ ตรงหนา้ มาอยกู่ บั เพอื่ นรว่ มวงสนทนาและอยกู่ บั ตวั เอง โคช้ จะนำ� กระบวนการนใี้ หผ้ รู้ บั การโคช้ ทดลองทำ� กอ่ นทเ่ี ขาจะสนทนา กนั ในทมี หรอื เรมิ่ ตน้ การประชมุ แมแ้ ตก่ ารนำ� ไปใชใ้ นชวี ติ ประจำ� วนั กอ่ นเรมิ่ ตน้ ทำ� งานทกุ เชา้ ใหล้ องนง่ั นงิ่ ๆ ทำ� จติ ใจใหส้ งบและอยกู่ บั ปจั จบุ นั ระยะเวลา สน้ั ๆ 2 - 3 นาที ถา้ ทำ� บอ่ ยๆ จะทำ� ใหผ้ ทู้ ฝ่ี กึ ฝนทดลองทำ� คอ่ ยๆ มจี ติ ทนี่ ง่ิ สงบ และมสี ติ ซง่ึ เปน็ รากฐานของการทำ� ภารกจิ ตา่ งๆ ในชวี ติ หากเรมิ่ ตน้ ดว้ ย การมสี มาธิ สติ แลว้ ความคดิ ตา่ งๆ กจ็ ะแจม่ กระจา่ ง เกดิ ความคดิ ใหมๆ่ ความ คดิ ดๆี หรอื ความเขา้ ใจตอ่ เรอื่ งบางเรอ่ื ง ปญั ญากจ็ ะเกดิ ขน้ึ ได ้ 2. กระบวนการสนทนา 9 และกระบวนการทเี่ กย่ี วขอ้ ง ในการสนทนาทุกคร้ังนั้นมีเป้าหมายของการสนทนา แต่ละคนมี การเตรยี มตวั เตรยี มความพรอ้ ม เตรยี มขอ้ มลู เตรยี มใสใ่ จรบั ฟงั และรว่ ม สนทนาอยา่ งจรงิ จงั จงึ จะเปน็ การสนทนาทมี่ คี วามหมายและทกุ คนเปน็ หนงึ่ ใน ปจั จยั ทจ่ี ะสรา้ งสรรคใ์ หก้ ารสนทนานนั้ มคี ณุ ภาพทด่ี ี การเตรยี มความพรอ้ มในการสนทนา จำ� เปน็ ตอ้ งมกี ารปรบั คลน่ื เขา้ หากนั เหมอื นกบั นกั ดนตรกี อ่ นจะการแสดงคอนเสริ ต์ นกั ดนตรที กุ คนจะมกี ารปรบั จู นเครอ่ื งดนตรใี หเ้ สยี งเครอื่ งดนตรขี องตนสอดคลอ้ งกบั เสยี งของนกั ดนตรคี น อน่ื ๆ จงึ จะเลน่ สอดประสานกนั ไดร้ าบรนื่ และไพเราะ 9 เมล็ดพนั ธชุ์ วี ิตบูรณาการ หน้า 270-273
96 คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน การสนทนาก็เช่นเดียวกัน ก่อนเริ่มการสนทนา ควรมีการสร้าง บรรยากาศทผ่ี อ่ นคลาย ใหท้ กุ คนรสู้ กึ วางใจ สบายใจ สนทิ ใจ ดว้ ยกระบวนการ เตรยี มความพรอ้ มเพอ่ื ใหอ้ ยกู่ บั ปจั จบุ นั ขณะ (be present) จากนนั้ เมอื่ เขา้ สชู่ ว่ ง ของการเรม่ิ ตน้ สนทนา ควรมกี ตกิ าตกลงรว่ มกนั ซง่ึ กตกิ าทวี่ า่ นไี้ มใ่ ชเ่ รอื่ ง เครง่ เครยี ดหรอื เปน็ กฎบงั คบั หากแตเ่ ปน็ ขอ้ ปฏบิ ตั ทิ ใ่ี หเ้ ราเกอื้ กลู กนั ใหก้ าร สนทนาดำ� เนนิ ไปอยา่ งราบรน่ื ใหเ้ กยี รตกิ นั รบั ฟงั กนั และกนั เปน็ กจิ กรรมอนุ่ เครอ่ื ง และชว่ ยใหผ้ รู้ ว่ มสนทนาเขา้ สสู่ นามการสนทนาแบบสนุ ทรยี สนทนา (dialogue) กระบวนการเชค็ อนิ และเชค็ เอาท์ (check in – check out) แนวคดิ และกระบวนการเชค็ อนิ เรม่ิ ตน้ มาจาก เฟรด คอฟมนั (Fred Kofmann) ผชู้ ว่ ยของ ปเี ตอร์ เซงเก้ (Peter senge) ผเู้ ชย่ี วชาญดา้ นองคก์ ร เรยี นรทู้ สี่ ถาบนั เอม็ ไอที สหรฐั อเมรกิ า เฟรดสงั เกตวา่ การประชมุ หรอื การ สนทนาทด่ี นี น้ั ผเู้ ขา้ รว่ มตอ้ งมาทงั้ กายและใจ เมอื่ กายมาแลว้ ทำ� อยา่ งไรให้ ใจมาดว้ ย จงึ เรม่ิ กระบวนการเชค็ อนิ เพอื่ ใหท้ กุ คนไดต้ ง้ั สติ พาตวั พาใจมาอยกู่ บั วงสนทนา การเชค็ อนิ เปน็ ชว่ งทใี่ หผ้ เู้ ขา้ รว่ มสนทนาไดแ้ นะนำ� ตวั ทำ� ความรจู้ กั กนั มากขน้ึ เพอื่ สรา้ งพนื้ ทคี่ วามรสู้ กึ ปลอดภยั ไวว้ างใจกนั นอกจากนน้ั การเชค็ อนิ ยงั เปน็ ชว่ งใหผ้ รู้ ว่ มสนทนาได้ “วาง” ความกงั วล ความไมส่ บายใจทพี่ กตดิ ตวั มาจากทอ่ี น่ื ๆ หรอื อาจจะเปน็ ชว่ งทที่ กุ คนไดค้ น้ ใจวา่ มารว่ มสนทนากนั ทำ� ไม ความหมายและความคาดหวงั ในใจของเราตอ่ การสนทนาคอื อะไร หวั ใจของกระบวนการเชค็ อนิ และการสนทนาตลอดกระบวนการ คอื ความชา้ คอ่ ยๆ ฟงั คอ่ ยๆ พดู ใหเ้ วลากบั การครนุ่ คดิ พดู จากใจ และรบั ฟงั กนั อยา่ งลกึ ซง้ึ ความเงยี บและชอ่ งวา่ งระหวา่ ง การสนทนาเปน็ สงิ่ ทยี่ อมรบั ไดแ้ ละ จำ� เปน็ เพอ่ื ใหข้ อ้ มลู ความคดิ ความรสู้ กึ เปน็ พนื้ ทใ่ี หเ้ กดิ การใครค่ รวญ
คมู่ อื การโคช้ เพอ่ื พฒั นาทมี ชมุ ชน 97 ในการเช็คอินหากผู้ร่วมสนทนายังไม่คุ้นกับกระบวนการสุนทรีย สนทนา ผนู้ ำ� กระบวนการสามารถใหผ้ พู้ ดู ถอื อะไรสกั อยา่ งไวใ้ นมอื อาจจะเปน็ ปากกา ดอกไม้ กอ้ นหนิ หรอื อะไรกไ็ ดแ้ ทนสญั ลกั ษณท์ เี่ ปน็ เสมอื นไมอ้ าญาสทิ ธิ์ (talking stick) เพอื่ แสดงวา่ ผทู้ ถ่ี อื สง่ิ นไี้ วใ้ นมอื เทา่ นน้ั ทมี่ สี ทิ ธพ์ิ ดู โดยผพู้ ดู ได้ ครนุ่ คดิ กอ่ นทจ่ี ะหยบิ ไมอ้ าญาสทิ ธขิ์ น้ึ มาแลว้ พดู การพดู กต็ อ้ งคอ่ นขา้ งกระชบั นงิ่ มสี มาธิ สว่ นผฟู้ งั เองกต็ ง้ั ใจฟงั เตม็ ที่ ทำ� ใหเ้ กดิ บรรยากาศแหง่ ความศกั ดสิ์ ทิ ธิ์ ของการสนทนา หากผรู้ ว่ มสนทนาคนุ้ ชนิ กบั กระบวนการสนทนาเชน่ นแ้ี ลว้ ตอ่ ไปกไ็ ม่ จำ� เปน็ ตอ้ งใชไ้ มอ้ าญาสทิ ธก์ิ ไ็ ด้ แตท่ กุ คนยงั เคารพผพู้ ดู และผฟู้ งั ผพู้ ดู กไ็ ด้ ครนุ่ คดิ มาเปน็ อยา่ งดกี อ่ นจะพดู และผฟู้ งั กต็ งั้ ใจฟงั ไมพ่ ดู แทรก กระบวนการ สนทนาเชน่ นส้ี ามารถนำ� ไปใชไ้ ดท้ ง้ั ในการแลกเปลยี่ นกลมุ่ ยอ่ ย การระดมความคดิ หรอื วงสนทนาอนื่ ๆ เพอ่ื ใหใ้ นวงสนทนามสี มาธิ มสี ตริ ตู้ วั ในการสนทนากนั หาก เปน็ วงแลกเปลยี่ นหรอื ระดมความคดิ กจ็ ะไดย้ นิ เสยี งของทกุ คน เปน็ การรบั ฟงั กนั และกนั ทจ่ี ะนำ� ไปสคู่ วามคดิ สรา้ งสรรคส์ ง่ิ ใหมๆ่ ได้ เกดิ พลงั ของการสนทนา กระบวนการเชค็ เอาท์ รปู แบบการสนทนาเหมอื นกนั กบั กระบวนการ เช็คอิน แต่จะต่างกันที่กระบวนการเช็คเอาท์จะใช้ในตอนท้ายก่อนจบการ สนทนาหรอื การประชมุ ในวนั นนั้ ผรู้ ว่ มการสนทนาจะไดใ้ ครค่ รวญถงึ สงิ่ ตา่ งๆ ทไี่ ดส้ นทนากนั มาทง้ั หมด แลว้ พดู ถงึ สง่ิ ทตี่ นไดเ้ รยี นรจู้ ากวงสนทนา ขอ้ คดิ ทไี่ ด้ หรอื สงิ่ ทอ่ี ยากจะบอกกบั วงสนทนา รวมไปถงึ อาจจะบอกถงึ ความคดิ ใหมๆ่ แผนงานบางอยา่ งทเ่ี กดิ ขนึ้ จากการสนทนา ประเดน็ ทอ่ี ยากจะฝากไวใ้ หค้ รนุ่ คดิ กนั ตอ่ การเชค็ เอาทจ์ ะทำ� ใหส้ มั ผสั ไดว้ า่ การพบปะสนทนากนั แตล่ ะครงั้ นน้ั มี ความหมายตอ่ ทกุ คนอยา่ งไร
98 คมู่ อื การโคช้ เพอื่ พฒั นาทมี ชมุ ชน กระบวนการสนทนาทดี่ เี ชน่ น้ี สามารถนำ� ไปใชใ้ นการสนทนากลมุ่ ยอ่ ย เมอื่ มกี ารแบง่ กลมุ่ ในการประชมุ บางครง้ั ในการแบง่ กลมุ่ ยอ่ ยกเ็ พอ่ื ใหก้ ารแลก เปลยี่ นในแตล่ ะประเดน็ ทกุ คนไดแ้ สดงความเหน็ อยา่ งทวั่ ถงึ และมคี นรบั ฟงั บาง ครงั้ อาจจะมกี ารสรปุ ความเหน็ ในกลมุ่ ยอ่ ยเพอื่ นำ� เสนอใหก้ บั กลมุ่ ใหญไ่ ดร้ บั ฟงั ถงึ ความคดิ ของกลมุ่ โดยทกี่ ารสนทนาในกลมุ่ ยอ่ ยนน้ั ยงั คงยดึ หลกั เชน่ เดยี วกบั กระบวนการเชค็ อนิ คอื การพดู ทลี ะคน และผพู้ ดู ตอ้ งใครค่ รวญกอ่ นพดู เมอื่ พดู กม็ สี ตริ ตู้ วั กระชบั ชดั เจนในประเดน็ ทตี่ อ้ งการพดู และผฟู้ งั กฟ็ งั อยา่ งตงั้ ใจ มี สตใิ นการฟงั ฟงั อยา่ งใครค่ รวญ ไมต่ ดั สนิ เปน็ การฝกึ กระบวนการฟงั ดว้ ยหวั ใจ กจ็ ะทำ� ใหไ้ ดย้ นิ สงิ่ ทผ่ี พู้ ดู ตอ้ งการบอกทง้ั ในนำ้� เสยี งและทา่ ที เปดิ การรบั รขู้ อง ผฟู้ งั ใหส้ มั ผสั ไดถ้ งึ หวั ใจของผพู้ ดู หากฝกึ เชน่ นบี้ อ่ ยๆ จะทำ� ใหผ้ ฟู้ งั เกดิ ความคดิ ใหมๆ่ ไอเดยี ในการทำ� งานและการแกป้ ญั หาตา่ งๆ รวมไปถงึ สรา้ งสรรคส์ งิ่ ใหมๆ่ ได้ อีกกระบวนการหนึ่งที่ต่อเน่ืองกันคือ การสะท้อนการครุ่นคิด (reflection) ซงึ่ เปน็ กระบวนการเพอื่ ยกระดบั การครนุ่ คดิ ใหส้ งู ขนึ้ เปน็ การ ถอดบทเรยี นหรอื ทำ� ใหเ้ กดิ ความรจู้ ากการปฏบิ ตั กิ ารสดๆ กบั สง่ิ ทเี่ พง่ิ ทำ� ไป โดยสว่ นใหญก่ ระบวนการสะทอ้ นการครนุ่ คดิ มกั จะทำ� หลงั จากกระบวนการ สนทนา ไมว่ า่ จะเปน็ การเชค็ อนิ หรอื การแลกเปลยี่ นกนั ในกลมุ่ ยอ่ ย การระดม ความคดิ ตา่ งๆ เพอ่ื ใหเ้ กดิ การตกผลกึ ทางความคดิ ยกระดบั ใหม้ ากขน้ึ กวา่ การ พดู คยุ กนั ในกลมุ่ ยอ่ ย สำ� หรบั กระบวนการน้ี ผนู้ ำ� การสนทนาจะชวนใหท้ กุ คนในวงอยกู่ บั ตนเอง มคี วามสงบ นง่ิ เพอ่ื ใหเ้ ออ้ื ตอ่ การใครค่ รวญและตกผลกึ ความคดิ จากนนั้ หากมใี ครพรอ้ มทตี่ อ้ งการจะเสนอสงิ่ ทต่ี นไดค้ รนุ่ คดิ ใครค่ รวญ กส็ ามารถนำ� เสนอใหท้ กุ คนในวงฟงั ได้ กระบวนการนไี้ มจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งมกี ารนำ� เสนอทุกคน ขึ้นอย่กู ับความพร้อมของแตล่ ะคนว่าต้องการจะน�ำเสนอสิ่งที่ ครนุ่ คดิ ใหก้ บั คนในวงไดร้ บั ฟงั หรอื ไม่ หากยงั ไมพ่ รอ้ มหรอื เปน็ การตกผลกึ ความ คดิ ของตนเองกส็ ามารถจดบนั ทกึ ไวไ้ ด้
คมู่ อื การโคช้ เพอ่ื พฒั นาทมี ชมุ ชน 99 การถอดบทเรยี นชวี ติ และการทำ� งาน After Action Review (AAR)10 การทำ� AAR นนั้ ใชก้ ระบวนการสนทนา การครนุ่ คดิ และทบทวน หวั ใจหลกั อยทู่ เี่ ปา้ หมายของการทำ� AAR ทเี่ ปน็ การถอดบทเรยี น หรอื เปน็ การเรยี นรู้ ระหวา่ งทำ� งาน ทบทวนสงิ่ ทท่ี ำ� ไป ทงั้ ดา้ นความสำ� เรจ็ และปญั หาทเี่ กดิ ขนึ้ ทงั้ นี้ ไมใ่ ชเ่ พอื่ คน้ หาคนทท่ี ำ� ผดิ พลาด ไมใ่ ชก่ ารกลา่ วโทษใครทง้ั สน้ิ แตเ่ ปน็ การ ทบทวนเพอื่ แลกเปลยี่ นประสบการณก์ ารทำ� งาน เพอ่ื แกป้ ญั หาทเ่ี กดิ ขนึ้ และ พฒั นางานใหด้ ขี นึ้ คำ� ถามหลกั ๆ เพอ่ื ถอดบทเรยี นในการทำ� งาน เชน่ • เกดิ อะไรขนึ้ บา้ ง (เฉพาะประเดน็ สำ� คญั ๆ ทผี่ า่ นการครนุ่ คดิ แลว้ วา่ นา่ จะเปน็ ประเดน็ ทจ่ี ะนำ� มาแลกเปลยี่ นกนั หรอื เปน็ ประเดน็ ท่ี เราสังเกตเห็นและควรหยิบยกขึ้นมาพูดเพื่อเป็นประโยชน์ในการ ทำ� งาน) • แนวโนม้ สถานการณจ์ ะเปน็ อยา่ งไรตอ่ ไป (เปน็ การวเิ คราะห์ สถานการณต์ อ่ ประเดน็ นนั้ ๆ วา่ หากสงิ่ ทเ่ี กดิ ขนึ้ เปน็ เชน่ นี้ แนวโนม้ ของ สถานการณใ์ นการทำ� งานจะเปน็ อยา่ งไรบา้ ง การวเิ คราะหแ์ นวโนม้ ตอ้ ง ดจู ากสถานการณค์ วามเปน็ จรงิ ทเี่ กดิ ขน้ึ ในการทำ� งานครง้ั นกี้ อ่ น) • แล้วเราอยากให้สถานการณ์เป็นอย่างไร (เมื่อทบทวน สถานการณแ์ ลกเปลย่ี นสง่ิ ทเี่ กดิ ขน้ึ และสงิ่ ทคี่ าดกวา่ จะเกดิ ขนึ้ แลว้ ก็ ตอ้ งมาดวู า่ เปน็ ไปตามทเี่ ราอยากใหเ้ ปน็ ไหม หรอื วา่ เราอยากใหเ้ ปน็ อยา่ งไร เพอ่ื ใหเ้ ราไดม้ าชว่ ยกนั คดิ วา่ จะทำ� อยา่ งไรใหเ้ ปน็ ไปเปา้ หมายท่ี เราตอ้ งการ) 10 เมล็ดพันธช์ุ วี ิตบูรณาการ หน้า 355-356 หนทางแหง่ การฝึกตน
100 คมู่ อื การโคช้ เพอ่ื พฒั นาทมี ชมุ ชน การทำ� AAR นนั้ สามารถทำ� ไดใ้ นหลายสถานการณ์ ผทู้ เ่ี ปน็ ตน้ กำ� เนดิ ของกระบวนการนคี้ อื นายพล ฮลั มวั ร์ (Lt. Gen. Harold Gregory ‘Hal’ Moore) แหง่ สหรฐั อเมรกิ า ขณะทำ� สงครามเวยี ดนาม เมอื่ กองพนั เขา้ สสู่ นามรบ กถ็ กู ระดมยงิ ทกุ ทศิ ทกุ ทาง พนั โท ฮลั มวั ร์ (ยศในขณะนนั้ ) ไดเ้ รยี กประชมุ หนว่ ยทหารเพอื่ รบั มอื กบั สถานการณ์ โดยใหน้ ายทหารจำ� นวนหนง่ึ ตรงึ กำ� ลงั ไว้ แลว้ เชญิ นายรอ้ ย ผบู้ งั คบั หมตู่ า่ งๆ นงั่ ประชมุ กนั เพอื่ สรปุ บทเรยี นและวางแผน การรบใหมใ่ หก้ องกำ� ลงั รอดจากสถานการณน์ ใ้ี หม้ ากทส่ี ดุ คำ� ถามงา่ ยๆ 3 ขอ้ คอื 1. What happened? เกดิ อะไรขนึ้ 2. What could be? อาจจะเกดิ อะไรขน้ึ อกี มคี วามเปน็ ไปไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง 3. What should be? เราอยากใหเ้ ปน็ อยา่ งไร คำ� ถามเหลา่ นแี้ มจ้ ะดงู า่ ย แตค่ วามหมายอยทู่ กี่ ารครนุ่ คดิ การมองเหน็ ตคี วาม การสงั เกตและประเมนิ สถานการณ์ ซง่ึ เปน็ คณุ ภาพในการตอบ เมอื่ ไดค้ ำ� ตอบกส็ ามารถวางแผนการรบเพอ่ื ออกจากสถานการณส์ รู้ บ นนั้ ได้ เชน่ เดยี วกบั หาทางออกจากปญั หานนั้ ได้ กระบวนการ AAR มกี ารนำ� มาใชท้ งั้ ในทางการทหารและในองคก์ ร ธรุ กจิ รวมไปถงึ การทำ� งานภาคสงั คม แมว้ า่ งานทที่ ำ� อยจู่ ะไมไ่ ดอ้ ยทู่ า่ มกลาง สนามรบทม่ี เี รอ่ื งความเปน็ ความตายแบบฉบั พลนั ทนั ใด แตก่ ระบวนการนจี้ ะ ชว่ ยใหส้ ามารถจบั สญั ญานบางอยา่ งของการทำ� งานวา่ เมอ่ื เกดิ เชน่ นขี้ น้ึ แลว้ มี แนวโนม้ จะเปน็ อยา่ งไรตอ่ แลว้ สง่ิ ทเ่ี ราอยากใหเ้ ปน็ กบั สงิ่ ทเ่ี ปน็ อยนู่ น้ั จะตอ้ งทำ� อยา่ งไรจงึ ทำ� ใหเ้ ปน็ ไปอยา่ งทเี่ ราตอ้ งการได้ กระบวนการ AAR สามารถนำ� มาใชไ้ ดห้ ลงั การประชมุ แตล่ ะครงั้ ทมี งานอาจจะมานงั่ คยุ กนั เพอื่ ถอดบทเรยี นและสรปุ บทเรยี นแตล่ ะวนั รวมทง้ั วางแผนการทำ� งานในวนั ถดั ไป เพอื่ ใหท้ กุ คนเขา้ ใจสถานการณร์ ว่ มกนั วา่ วนั ท่ี ผา่ นมาเกดิ อะไรขนึ้ บา้ ง ทงั้ สงิ่ ทเ่ี ปน็ ปญั หาและสงิ่ ดๆี ทเ่ี กดิ ขน้ึ แลว้ นำ� บทเรยี น
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112