Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การจัดทำหนังสือราชการ

การจัดทำหนังสือราชการ

Published by fah140317, 2020-04-13 05:34:40

Description: การจัดทำหนังสือราชการ

Search

Read the Text Version

คำนำ การจดั ทา E-book เร่ืองหนงั สือราชการ เล่นน้ีจดั ทาข้ึนเพื่อศึกษาคน้ ควา้ ความรู้เก่ียวกบั หนงั สือราชการ โดยผจู้ ดั ทาไดส้ รุปเน้ือหาขอ้ มูล สาคญั บางส่วนไวใ้ นเล่มน้ีแลว้ ท้งั น้ีคณะผจู้ ดั ทาหวงั เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ E-book เล่มน้ีจะเป็นประโยชนต์ ่อผทู้ ไี่ ดม้ าศึกษา เป็นอยา่ งดี และหากผดิ พลาดประการใดจึงขอ อภยั มา ณ ท่ีน้ีดว้ ย ผจู้ ดั ทา นางสาว กนกกาญจน์ สารกา นางสาว พชั ราภา จนั ตะ๊ นาเขตร

สำรบัญ หน้า ความหมายของหนงั สือราชการ 1 ชนิดของหนงั สอื ราชการ 2 หนงั สือภายนอก 3-5 ตวั อยา่ งหนงั สือภายนอก 6 หนงั สือภายใน 7-8 ตวั อยา่ งหนงั สือภายใน 9 หนงั สือประทบั ตรา 10-11 ตวั อยา่ งหนงั สือประทบั ตรา 12 หนงั สือสัง่ การ 13 13 คาสั่ง 14 ตวั อยา่ งหนงั สือสง่ั การ 15-16 17 ระเบียบ ตวั อยา่ งแบบระเบียบ

สำรบญั หน้า ขอ้ บงั คบั 18-19 ตวั อยา่ งแบบขอ้ บงั คบั 20 หนงั สือประชาสัมพนั ธ์ 21 ประกาศ 21-22 ตวั อยา่ งแบบประกาศ 23 24 แถลงการณ์ 25 ตวั อยา่ งแบบแถลงการณ์ 26 27 ข่าว ตวั อยา่ งแบบขา่ ว 28-29 หนงั สือท่ีเจา้ หนา้ ท่ีทาข้ึน 30 ตวั อยา่ งหนงั สือรับรอง บรรณานุกรม

ความหมายของ 1 หนังสือราชการ ตามระเบียบสานกั นายกรัฐมนตรี วา่ ดว้ ยงานสารบรรณ พ.ศ.2526 ไดใ้ หค้ วามหมายของคาวา่ \"หนงั สือ\" หมายถึง หนงั สือราชการ และระเบียบสานกั นายกรัฐมนตรี วา่ ดว้ ย งานสารบรรณ (ฉบบั ที่ 2)พ.ศ.2548 ไดแ้ กไ้ ขเพิม่ เติม ระเบียบขอ้ 9 ไวว้ า่ “หนงั สือราชการ ” คือเอกสารที่เป็น หลกั ฐานในราชการ ไดแ้ ก่ 1. หนงั สือท่ีมีไปมาระหวา่ งส่วนราชการ 2. หนงั สือที่ส่วนราชการมีไปถึงหน่วยงานอ่ืนใดซ่ึงมิ ใช่ส่วนราชการหรือที่มีไปถึงบุคคลภายนอก 3. หนงั สือท่ีหน่วยงานอื่นใดท่ีไม่ใช่ส่วนราชการ หรือ บุคคลภายนอกมีมาถึงส่วนราชการ 4. เอกสารท่ีทางราชการจดั ทาข้ึนเพ่อื เป็นหลกั ฐานใน ราชการ 5. เอกสารท่ีทางราชการจดั ทาข้ึนตามกฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บงั คบั 6. ขอ้ มูลขา่ วสารหรือหนงั สือที่ไดร้ ับเขา้ จากระบบสาร บรรณอิเลก็ ทรอนิกส์

ชนิดของหนังสือราชการ 2 ในปัจจุบนั การติดต่อราชการท้งั ภายในหน่วยงานและ ภายนอกหน่วยงานเป็ นการสื่อถึงบุคคล/หน่วยงาน อีกท้งั ยงั เป็นปัญหาของหน่วยงานและผปู้ ฏิบตั ิที่เก่ียวขอ้ งจานวน ไม่นอ้ ยท่ียงั ไม่เขา้ ใจในการใชภ้ าษาราชการและแบบฟอร์ม ที่ถูกตอ้ ง เพื่อเป็ นการสร้างความสาเร็จของผู้ปฏิบตั ิงานท่ี เก่ียวขอ้ งทางด้านหนังสือได้ทราบถึงรูปแบบ การใช้คา ข้ึนตน้ คาลงทา้ ยที่ถูกตอ้ ง เป็ นไปในแนวทางเดียวกนั และ เป็ นไปตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าดว้ ยงานสาร บรรณ พ.ศ. 2526 ไดจ้ าแนกหนังสือราชการไวม้ ี 6 ชนิด ดงั น้ี 1. หนงั สือภายนอก 2. หนงั สือภายใน 3. หนงั สือประทบั ตรา 4. หนงั สือสั่งการ 5. หนงั สือประชาสัมพนั ธ์ 6. หนงั สือท่ีเจา้ หนา้ ที่ทาข้ึนหรือรับไวเ้ ป็นหลกั ฐาน ในราชการ

หนังสือภายนอก 3 หนังสือภายนอก คือหนังสือติดต่อราชการที่เป็ น แบบพิธีโดยใช้ตราครุฑเป็ นหนังสือติดต่อระหว่างส่วน ราชการหรือส่วนราชการมีถึงหน่วยงานอื่นใดซ่ึงมิใช่ส่วน ราชการ หรือท่ีมีถึงบุคคลภายนอกให้จัดทาตามแบบท่ี 1 ทา้ ยระเบียบ โดยกรอกรายละเอียดดงั น้ี 1. ที่ ให้ลงรหัสตัวพยญั ชนะและเลขประจาของ เจ้าของเร่ื อง ตามท่ีกาหนดไว้ในภาคผนวก 1ทับเลข ทะเบียนหนงั สือส่งสาหรับหนงั สือของคณะกรรมการให้ กาหนดรหสั ตวั พยญั ชนะเพม่ิ ข้ึนไดต้ ามความจาเป็น 2. ส่วนราชการเจา้ ของหนงั สือให้ลงชื่อส่วนราชการ สถานท่ีราชการหรือคณะกรรมการซ่ึงเป็ นเจา้ ของหนังสือ น้นั และโดยปกติใหล้ งท่ีต้งั ไวด้ ว้ ย 3. วนั เดือน ปี ให้ลงตวั เลขของวนั ท่ี ชื่อเต็มของเดือน และตวั เลขของปี พทุ ธศกั ราชที่ออกหนงั สือ 4. เรื่อง ให้ลงเรื่องย่อท่ีเป็ นใจความส้ันท่ีสุดของ หนังสือฉบบั น้ัน ในกรณีท่ีเป็ นหนังสือต่อเน่ืองโดยปกติ ใหล้ งเร่ืองของหนงั สือฉบบั เดิม

4 5.คาข้ึนตน้ ให้ใชค้ าข้ึนตน้ ตามฐานะของผูร้ ับหนงั สือ ตามตาราง การการใชค้ าข้ึนตน้ สรรพนาม และคาลงทา้ ยท่ี กาหนดไวใ้ นภาคผนวก 2 แลว้ ลงตาแหน่งของผูท้ ่ีหนงั สือ น้ันมีถึง หรือชื่อบุคคลในกรณีที่มีถึงตวั บุคคลไม่เก่ียวกบั ตาแหน่งหนา้ ที่ 6. อา้ งถึง (ถา้ มี) ให้อา้ งถึงหนังสือท่ีเคยมีติดต่อกัน เฉพาะ หนังสือที่ส่วนราชการผูร้ ับหนังสือไดร้ ับมาก่อน แลว้ จะจากส่วนราชการใดก็ตามโดยให้ลงชื่อส่วนราชการ เจา้ ของหนงั สือและเลขที่หนงั สือวนั ท่ี เดือน ปี พทุ ธศกั ราช ของหนงั สือน้นั 7. ส่ิงท่ีส่งมาดว้ ย (ถา้ มี) ใหล้ งช่ือส่ิงของ เอกสาร หรือ บรรณสารท่ีส่งพร้อมกบั หนังสือน้นั ในกรณีที่ไม่สามารถ ส่งไปในซองเดียวกนั ไดใ้ หแ้ จง้ ดว้ ยวา่ ส่งไปโดยทางใด 8. ขอ้ ความ ใหล้ งสาระสาคญั ของเรื่องใหช้ ดั เจนและ เขา้ ใจง่าย หากมีความประสงค์หลายประการให้แยกเป็ น ขอ้ ๆ 9. คาลงท้าย ให้ใช้คาลงท้ายตามฐานะของผู้รั บ หนงั สือตามตาราง การใชค้ าข้ึนตน้ สรรพนาม และคาลง ทา้ ยท่ีกาหนดไวใ้ นภาคผนวก 2 10. ลงช่ือ ใหล้ งลายมือชื่อเจา้ ของหนงั สือและใหพ้ ิมพ์ ชื่อเต็ม ของเจ้าของลายมือชื่อไว้ใต้ลายมือช่ือ ตาม รายละเอียดที่กาหนดไวใ้ นภาคผนวก 3

5 11. ตาแหน่ง ใหล้ งตาแหน่งของเจา้ ของหนงั สือ 12. ส่วนราชการเจ้าของเรื่องให้ลงชื่อส่วนราชการ เจา้ ของเรื่อง หรือหน่วยงานท่ีออกหนงั สือถา้ ส่วนราชการที่ ออกหนังสือ อยู่ในระดบั กระทรวง หรือทบวง ให้ลงช่ือ ส่ วนราชการเจ้าของเรื่ องท้ ังระดับกรมและกองถ้าส่ วน ราชการท่ีออกหนงั สืออยใู่ นระดบั กรมลงมาให้ลงชื่อส่วน ราชการเจ้าของเร่ื องเพียงระดับกองหรื อหน่วยงานที่ รับผดิ ชอบ 13.โทร ให้ลงหมายเลขโทรศพั ท์ของส่วนราชการ เจา้ ของเรื่องหรือ หน่วยงานท่ีออกหนังสือและหมายเลข ภายในตูส้ าขา (ถา้ มี) ไวด้ ว้ ย 14. สาเนาส่ง (ถา้ มี)ในกรณีที่ผูส้ ่งจดั ทาสาเนาส่งไป ให้ส่วน ราชการหรือบุคคลอื่นทราบและประสงคจ์ ะให้ผู้ รับทราบว่าไดม้ ีสาเนาส่งไปให้ ผูใ้ ดแลว้ ให้พิมพ์ช่ือเต็ม หรือช่ือยอ่ ของส่วนราชการหรือช่ือบุคคลที่ส่งสาเนาไปให้ เพ่ือให้เป็ นที่เขา้ ใจระหวา่ งผูส้ ่งและผูร้ ับถา้ หากมีรายชื่อท่ี ส่งมากใหพ้ ิมพว์ า่ ส่งไปตามรายช่ือที่แนบรายช่ือไปดว้ ย

ตวั อย่างหนังสือภายนอก 6

หนังสือภายใน 7 หนงั สือภายใน คือหนงั สือติดต่อราชการท่ีเป็นแบบพิธีนอ้ ย กวา่ หนงั สือภายนอก ใชใ้ นการติดตอ่ ภายในกระทรวง ทบวง กรม หรือจงั หวดั เดียวกนั ใชก้ ระดาษบนั ทึกขอ้ ความ โดยกรอกรายละเอียด ดงั น้ี 1. ส่วนราชการ ใหล้ งชื่อส่วนราชการเจา้ ของเรื่อง หรือหน่วยงานท่ีออกหนงั สือโดยมีรายละเอียดพอสมควร ปกติถา้ ส่วนราชการท่ีออกหนงั สืออยใู่ นระดบั กรมข้ึนไป ใหล้ งช่ือส่วนราชการเจา้ ของเร่ืองท้งั ระดบั กรมและกอง ถา้ ราชการที่ออกหนงั สืออยใู่ นส่วนราชการท่ีต่ากวา่ กรมลงมา ใหล้ งช่ือส่วนราชการเจา้ ของเร่ืองเพียงระดบั กอง หรือส่วน ราชการเจา้ ของเรื่อง พร้อมท้งั ใหล้ งหมายเลขโทรศพั ท์ (ถา้ มี) 2. ที่ ใหล้ งตวั รหสั พยญั ชนะและเลขประจาของ เจา้ ของเรื่อง ทบั เลขทะเบียนหนงั สือส่งสาหรับหนงั สือของ คณะกรรมการใหก้ าหนดตวั รหสั พยญั ชนะเพ่ิมข้ึนไดต้ าม ความจาเป็ น 3. วนั ที่ ใหล้ งตวั เลขของวนั ที่ ชื่อเตม็ ของเดือน และ ตวั เลขของปี พทุ ธศกั ราชท่ีออกหนงั สือ 4. เรื่อง ใหล้ งเร่ืองยอ่ ท่ีเป็นใจความส้ันที่สุดของ หนงั สือฉบบั น้นั ในกรณีท่ีเป็นหนงั สือตอ่ เน่ือง ใหล้ งเรื่อง ของหนงั สือฉบบั เดิม

8 5. คาข้ึนตน้ ใชค้ าข้ึนตน้ ตามฐานะของผรู้ ับหนงั สือตาม ตารางการใช้คาข้ึนต้น สรรพนาม และคาลงท้าย แล้วลง ตาแหน่งของผทู้ ี่หนงั สือน้นั มีถึง หรือช่ือบุคคลในกรณีที่มีถึง ตวั บุคคลไม่เกี่ยวกบั ตาแหน่งหนา้ ท่ี 6. ข้อความให้ลงสาระสาคัญของเร่ืองให้ชัดเจนและ เขา้ ใจง่าย และหากมีความประสงคห์ ลายประการใหแ้ ยกเป็ น ขอ้ ๆ ในกรณีที่มีการอา้ งถึงหนงั สือที่เคยมีติดต่อกนั หรือมี สิ่งท่ีส่งมาดว้ ยใหร้ ะบุไวใ้ นขอ้ น้ี 7. ลงช่ือและตาแหน่งโดยอนุโลมในกรณีที่กระทรวง ทบวง กรม หรือจงั หวดั ใดประสงคจ์ ะกาหนดแบบการเขียน โดยเฉพาะ เพื่อใชต้ ามความเหมาะสมก็ให้กระทาไดใ้ นทาง ปฏิบตั ิ ส่วนราชการมกั ใช้หนังสือประเภทน้ีติดต่อภายใน กรมเดียวกนั เป็ นส่วนใหญ่ หากตอ้ งติดต่อต่างกรมก็มกั ใช้ เป็นหนงั สือภายนอก เช่น หนงั สือจากสานกั งาน ก.พ. ติดต่อ ไปยงั สานักงบประมาณ ซ่ึงสังกดั ในสานักนายกรัฐมนตรี ดว้ ยกนั ก็มกั ใชห้ นงั สือภายนอก เป็ นตน้ (สมพร มนั ตะสูตร แพง่ พพิ ฒั น์, ๒๕๔๐ : ๑๒๗)

ตวั อย่างหนังสือภายใน 9

หนังสือประทับตรา 10 หนังสือประทับตรา คือ หนังสือที่ใช้ประทับตรา แทนการลงช่ือของหัวหน้าส่วนราชการระดบั กรมข้ึนไป โดยให้หัวหน้าส่วนราชการระดับกองหรื อผู้ท่ีได้รับ มอบหมายจากส่ วนราชการระดับกรมข้ึนไปเป็ น ผู้รับผิดชอบลงชื่อย่อกากับตราที่ประทับน้ัน หนังสือ ประทับตราใช้กระดาษตราครุฑ กาหนดหัวข้อไวด้ ังน้ี 1. ที่ให้ลงรหัสตวั พยญั ชนะและเลขประจาเจา้ ของ เรื่องทบั เลขทะเบียนหนงั สือส่ง 2. ถึงให้ลงชื่อส่วนราชการ หน่วยงาน หรือบุคคลที่ หนงั สือน้นั มีถึง 3.ขอ้ ความใหล้ งสาระสาคญั ของเร่ืองให้ชดั เจนและ เขา้ ใจง่าย 4.ชื่ อส่ วนราชการท่ี ส่ งหนังสื อออกให้ลงชื่ อส่ วน ราชการที่ส่งหนงั สือออก 5 . ต ร า ชื่ อ ส่ ว น ร า ช ก า ร ใ ห้ ป ร ะ ทับ ต ร า ช่ื อ ส่ ว น ราชการดว้ ยหมึกสีแดง และใหผ้ รู้ ับผดิ ชอบลงลายมือชื่อยอ่ กากบั ตราที่ประทบั น้นั 6.วนั เดือน ปี ใหล้ งตวั เลขของวนั ท่ี ชื่อเตม็ ของเดือน และตวั เลขของปี ที่ออกหนงั สือ

11 7.ส่ วนราชการเจ้าของเรื่ องให้ลงช่ื อส่ วนราชการ เจา้ ของเรื่อง หรือหน่วยงานท่ีออกหนงั สือ 8.โทร.หรือที่ต้งั ให้ลงหมายเลขโทรศพั ท์ของส่วน ราชการเจา้ ของเรื่อง

ตวั อย่างหนังสือประทับตรา 12

หนังสือสั่งการ 13 หนงั สือสัง่ การมี ๓ ชนิด ไดแ้ ก่ คาส่งั ระเบียบ และ ขอ้ บงั คบั 1. คาสั่ง คือ ขอ้ ความท่ีผบู้ งั คบั บญั ชาสั่งใหป้ ฏิบตั ิ โดยชอบดว้ ยกฎหมาย ใชก้ ระดาษตราครุฑ โดยมี รายละเอียด ดงั น้ี 1.1 คาสั่ง ใหล้ งช่ือส่วนราชการ หรือตาแหน่งของผมู้ ี อานาจท่ีออกคาสั่ง 1.2 ที่ ใหล้ งเลขท่ีออกคาสงั่ โดยเร่ิมฉบบั แรกจากเลข ๑ เรียงไปตามลาดบั ทบั เลขที่ปี พทุ ธศกั ราชที่ออกคาสัง่ 1.3 เร่ือง ใหล้ งชื่อเรื่องท่ีออกคาส่ัง 1.4 ขอ้ ความ ใหอ้ า้ งเหตุที่ออกคาส่ัง และอา้ งถึง อานาจท่ีใหอ้ อกคาสง่ั (ถา้ มี) ไวด้ ว้ ย และวนั เดือน ปี ที่ใช้ เริ่มบงั คบั 1.5 ส่งั ณ วนั ที่ ใหล้ งตวั เลขของวนั ท่ี ช่ือเตม็ ของ เดือน และตวั เลขของปี พทุ ธศกั ราชที่ออก 1.6 ลงชื่อ ใหล้ งลายมือชื่อผอู้ อกคาสง่ั และพมิ พช์ ื่อ เตม็ ของเจา้ ของลายมือช่ือไวใ้ ตล้ ายมือช่ือ 1.7 ตาแหน่ง ใหล้ งตาแหน่งของผอู้ อกคาสั่ง

ตวั อย่างหนงั สือส่ังการ 14

15 2. ระเบยี บ บรรดาขอ้ ความที่ผมู้ ีอานาจหนา้ ท่ีไดว้ าง ไว้ โดยอาศยั อานาจของกฎหมายหรือไม่กไ็ ด้ เพ่ือใชเ้ ป็น หลกั ปฏิบตั ิงานเป็นประจา ใชก้ ระดาษตราครุฑ โดยมี รายละเอียด ดงั น้ี 2.1 ระเบียบ ใหล้ งช่ือส่วนราชการที่ออกระเบียบ 2.2 วา่ ดว้ ย ใหล้ งชื่อของระเบียบ 2.3 ฉบบั ท่ี ถา้ เป็นระเบียบท่ีกล่าวถึงเป็นคร้ังแรกใน เรื่องน้นั ไม่ตอ้ งลงวา่ เป็นฉบบั ที่เท่าไร แต่ถา้ เป็นเร่ือง เดียวกนั แต่มีการแกไ้ ขเพิ่มเติม ใหล้ งเป็นฉบบั ที่๒ ๓ หรือ ๔ ตามลาดบั ) 2.4 พ.ศ. ใหล้ งตวั เลขปี พทุ ธศกั ราชที่ออกระเบียบ 2.5 ขอ้ ความ ใหอ้ า้ งเหตุผลโดยยอ่ เพื่อแสดงถึงความ มุ่งหมายที่ตอ้ งการออกระเบียบ และอา้ งถึงกฎหมายที่ให้ อานาจออกระเบียบ (ถา้ มี)

16 2.6 ขอ้ ความ ให้เรียงขอ้ ความที่จะใชเ้ ป็ นขอ้ ๆ โดย ขอ้ ๑ เป็ นระเบียบ ขอ้ ๒ เป็ นวนั ท่ีใชบ้ งั คบั (กาหนดวา่ ใช้ บงั คบั เมื่อใด ส่วนขอ้ สุดทา้ ยเป็ นผูร้ ักษาระเบียบ ถา้ มีมาก ขอ้ หรือหลายเรื่องจะแบ่งเป็ นหมวดก็ได้ โดยให้เลื่อนขอ้ ผู้ รักษาการไปเป็นขอ้ สุดทา้ ยก่อนท่ีจะข้ึนหมวดหน่ึง 2.7 ประกาศ ณ วนั ที่ ให้ลงตวั เลขของวนั ท่ี ช่ือเต็ม ของเดือน และตวั เลขปี พทุ ธศกั ราชที่ออกบงั คบั 2.8 ลงช่ือ ให้ลงลายมือชื่อผู้ออกระเบียบหรื อ ข้อบังคับ และพิมพ์ช่ือเต็มของเจ้าของลายมือช่ื อไวใ้ ต้ ลายมือช่ือ 2.9 ตาแหน่ง ให้ลงตาแหน่งของผูอ้ อกระเบียบหรือ ขอ้ บงั คบั น้นั

ตวั อย่างแบบระเบียบ 17

18 3. ข้อบังคับ คือ บรรดาขอ้ ความที่ผูม้ ีอานาจหน้าที่ กาหนดให้ใช้โดยอาศยั อานาจของกฎหมายที่บัญญัติให้ กระทาได้ 3.1 ขอ้ บงั คบั ใหล้ งช่ือส่วนราชการท่ีออกขอ้ บงั คบั 3.2 วา่ ดว้ ย ใหล้ งชื่อของขอ้ บงั คบั 3.3 ฉบบั ที่ ถา้ เป็ นขอ้ บงั คบั ท่ีกล่าวถึงเป็ นคร้ังแรกใน เร่ืองน้นั ไม่ตอ้ งลงวา่ เป็ นฉบบั ที่เท่าใด แต่ถา้ เป็ นขอ้ บงั คบั เรื่องเดียวกนั ท่ีมีการแกไ้ ขเพิม่ เติมใหล้ งเป็นฉบบั ที่ 2 และที่ ถดั ๆ ไปตามลาดบั 3.4 พ.ศ. ให้ลงตัวเลขของปี พุทธศักราชท่ีออก ขอ้ บงั คบั 3.5 ขอ้ ความ ใหอ้ า้ งเหตุผลโดยยอ่ เพื่อแสดงถึงความ มุ่งหมายที่ต้องออกข้อบังคับและอ้างถึงกฎหมายท่ีให้ อานาจออกขอ้ บงั คบั 3.6 ขอ้ ให้เรียงขอ้ ความท่ีจะใชบ้ งั คบั เป็ นขอ้ ๆ โดย ให้ขอ้ 1 เป็ นช่ือขอ้ บงั คบั ขอ้ 2 เป็ นวนั ใชบ้ งั คบั กาหนดว่า ให้ใชบ้ งั คบั ต้งั แต่เม่ือไดแ้ ละขอ้ สุดทา้ ยเป็ นขอ้ ผูร้ ักษาการ ขอ้ บงั คบั ใดถา้ มีมากขอ้ หรือหลายเรื่องจะแบ่งเป็ นหมวดก็ ไดโ้ ดยใหย้ า้ ยขอ้ ผรู้ ักษาการไปเป็ นขอ้ สุดทา้ ยก่อนท่ีจะข้ึน หมวด 1

19 3.7 ประกาศ ณ วนั ท่ี ให้ลงตวั เลขของวนั ท่ี ชื่อเต็มของเดือน และตวั เลขของปี พทุ ธศกั ราชที่ออกขอ้ บงั คบั 3.8 ลงชื่อ ให้ลงลายมือช่ือผูอ้ อกขอ้ บงั คบั และพิมพ์ชื่อเตม็ ของ เจา้ ของลายมือช่ือไวใ้ ตล้ ายมือช่ือ 3.9 ตาแหน่ง ใหล้ งตาแหน่งของผอู้ อกขอ้ บงั คบั

ตวั อย่างแบบข้อบงั คบั 20

หนังสือประชาสัมพนั ธ์ 21 หนังสือประชาสัมพนั ธ์ ให้ใชต้ ามแบบที่กาหนดไว้ ในระเบียบน้ี เว้นแต่จะมีกฎหมายกาหนดแบบไว้ โดยเฉพาะหนงั สือประชาสัมพนั ธ์มี 3 ชนิด ไดแ้ ก่ ประกาศ แถลงการณ์ และขา่ ว 1 ประกาศ คือ บรรดาขอ้ ความที่ทางราชการประกาศ หรือช้ีแจงให้ทราบ หรือแนะแนวทางปฏิบตั ิ ใช้กระดาษ ตราครุฑ และให้จัดทาตามแบบที่ 7 ท้ายระเบียบ โดยกรอก รายละเอียดดงั น้ี 1.1 ประกาศ ใหล้ งชื่อส่วนราชการที่ออกประกาศ 1.2 เร่ือง ใหล้ งชื่อเร่ืองท่ีประกาศ 1.3 ข้อความ ให้อ้างเหตุผลที่ต้องออกประกาศและ ขอ้ ความที่ประกาศ 1.4 ประกาศ ณ วนั ที่ ให้ลงตวั เลขของวนั ที่ ช่ือเต็มของ เดือนและตวั เลขของปี พทุ ธศกั ราชท่ีออกประกาศ

22 1.5 ลงชื่อ ใหล้ งลายมือชื่อออกประกาศ และพิมพ์ช่ือเตม็ ของเจา้ ของลายมือช่ือไวใ้ ตล้ ายมือชื่อ 1.6 ตาแหน่ง ให้ลงตาแหน่งของผอู้ อกประกาศ ในกรณี ที่กฎหมายกาหนดให้ทาเป็ นแจ้งความ ให้เปล่ียนคาว่า ประกาศ เป็นแจง้ ความ

ตวั อย่างแบบประกาศ 23

24 2 แถลงการณ์ คือ บรรดาขอ้ ความท่ีทางราชการแถลง เพอื่ ทาความเขา้ ใจในกิจการของทางราชการหรือเหตุการณ์ หรือกรณีใด ๆ ใหท้ ราบชดั เจนโดยทวั่ กนั ใชก้ ระดาษตรา ครุฑและใหจ้ ดั ทาตามแบบที่ 8 ทา้ ยระเบียบ โดยกรอก รายละเอียดดงั น้ี 2.1 แถลงการณ์ ใหล้ งช่ือส่วนราชการท่ีออก แถลงการณ์ 2.2 เร่ือง ใหล้ งช่ือเรื่องท่ีออกแถลงการณ์ 2.3 ฉบบั ที่ ใชใ้ นกรณีที่จะตอ้ งออกแถลงการณ์หลาย ฉบบั ในเร่ืองเดียวที่ต่อเน่ืองกนั ใหล้ งฉบบั ที่เรียงตามลาดบั ไวด้ ว้ ย 2.4 ขอ้ ความ ใหอ้ า้ งเหตุผลท่ีตอ้ งออกแถลงการณ์และ ขอ้ ความที่แถลงการณ์ 2.5 ส่วนราชการท่ีออกแถลงการณ์ ใหล้ งช่ือส่วน ราชการท่ีออกแถลงการณ์ 2.6 วนั เดือน ปี ใหล้ งตวั เลขของวนั ที่ ชื่อเตม็ ของ เดือน และตวั เลขของปี พทุ ธศกั ราชท่ีออกแถลงการณ์

ตวั อย่างแบบแถลงการณ์ 25

26 3. ข่าว คือ บรรดาขอ้ ความที่ทางราชการเห็นสมควร เผยแพร่ใหท้ ราบ ใหจ้ ดั ทาตามแบบท่ี 9 ทา้ ยระเบียบโดย กรอก รายละเอียดดงั น้ี 3.1 ข่าว ใหล้ งช่ือส่วนราชการที่ออกข่าว 3.2 เรื่อง ใหล้ งช่ือเรื่องที่ออกขา่ ว 3.3 ฉบบั ที่ ใชใ้ นกรณีที่จะตอ้ งออกข่าวหลายฉบบั ใน เร่ืองเดียวที่ตอ่ เนื่องกนั ใหล้ งฉบบั ท่ีเรียงตามลาดบั ไวด้ ว้ ย 3.4 ขอ้ ความ ใหล้ งรายละเอียดเก่ียวกบั เร่ืองของข่าว 3.5 ส่วนราชการท่ีออกข่าว ใหล้ งชื่อส่วนราชการที่ ออกข่าว 3.6 วนั เดือน ปี ใหล้ งตวั เลขของวนั ท่ี ช่ือเตม็ ของ เดือน และตวั เลขของปี พทุ ธศกั ราชที่ออกข่าว

ตวั อย่างแบบข่าว 27

หนังสือท่เี จ้าหน้าที่ทาขึน้ หรือรับ 28 ไว้เป็ นหลกั ฐานในราชการ หนังสือที่เจ้าหน้าที่ทาขึ้นหรือรับไว้เป็ นหลักฐานใน ราชการ คือ หนงั สือที่เจา้ หนา้ ที่ทาข้ึนนอกจากที่กล่าวแลว้ ขา้ งตน้ หรือหนงั สือที่หน่วยงานอ่ืนใดซ่ึงมิใช่ส่วนราชการ หรือบุคคลภายนอกมีมาถึงส่วนราชการ และส่วนราชการ รับไวเ้ ป็ นหลกั ฐานของทางราชการ มี 4 ชนิด คือ หนังสือ รับรอง รายงานการประชุม บนั ทึกและหนงั สืออ่ืน หนังสือรับรอง คือ หนังสือที่ส่วนราชการออกให้ เพื่อรับรองแก่บุคคล นิติบุคคล หรื อหน่วยงานเพ่ือ ว ัต ถุ ป ร ะ ส ง ค์อ ย่า ง ห น่ึ ง อ ย่า ง ใ ด ใ ห้ ป ร า ก ฏ แ ก่ บุ ค ค ล โดยทวั่ ไป ไม่จาเพาะเจาะจง ใหใ้ ชก้ ระดาษครุฑ รายงานการประชุม คือ การบนั ทึกความคิดเห็นของ ผมู้ าประชุม ผูเ้ ขา้ ร่วมประชุมและมติของที่ประชุมไวเ้ ป็ น หลกั ฐาน

29 บันทึก คือ ข้อความซ่ึงผู้ใต้บังคับบัญชาเสนอต่อ ผบู้ งั คบั บญั ชา หรือผูบ้ งั คบั บญั ชาส่ังการแก่ผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชา หรือขอ้ ความท่ีเจา้ หนา้ ท่ี หรือหน่วยงานระดบั ต่ากว่า ส่วน ราชการระดบั กรมติดต่อกนั ในการปฏิบตั ิราชการ โดยปกติ ใหใ้ ชก้ ระดาษบนั ทึกขอ้ ความ หนังสืออื่น คือ หนังสือหรือเอกสารอื่นใดที่เกิดข้ึน เน่ืองจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เพ่ือเป็ นหลักฐาน ในทางราชการ ซ่ึงรวมถึงภาพถ่าย ฟิ ล์ม แถบบนั ทึกเสียง แถบบนั ทึกภาพดว้ ย หรือหนงั สือของบุคคลภายนอกที่ยน่ื ต่อ เจา้ หน้าท่ี และเจ้าหน้าที่ไดร้ ับเขา้ ทะเบียนรับหนังสือของ ทางราชการแลว้ มีรูปแบบตามที่กระทรวง ทบวง กรมจะ กาหนดข้ึนใชต้ ามความเหมาะสม เวน้ แต่มีแบบตามกฎหมาย เฉพาะเรื่องให้ทาตามแบบ เช่น โฉนด แผนที่ แบบ แผนผงั สัญญา คาร้อง เป็นตน้

ตวั อย่างหนังสือรับรอง 30

บรรณานุกรม www.aimornpm.blogspot.com http://kromchol.rid.go.th sorbdee.net

จดั ทาโดย นางสาว กนกกาญจน์ สารกา เลขที่ 3 นางสาว พชั ราภา จนั ต๊ะนาเขตร เลขที่ 11


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook