Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore psychology05

psychology05

Published by Chanya Chanya, 2021-01-16 04:11:28

Description: psychology05

Search

Read the Text Version

บันทึกคณุ แม่นักอา่ นนิทาน ธิดา พานิช (แม่โบ นทิ านหวั เตียง) ISBN 978-616-8000-24-3 เจ้าของ มูลนธิ สิ ยามกมั มาจล ผู้เขียน ธดิ า พานชิ ท่ปี รกึ ษา ปยิ าภรณ์ มัณฑะจติ ร บรรณาธกิ าร ธิดา พานชิ , นาถชดิ า อนิ ทร์สอาด ปกและภาพประกอบ กนั ยา หัสดิพนั ธ์ุ ออกแบบรูปเล่ม มนตช์ นก ศาสตรห์ นู พสิ ูจนอ์ ักษร รตพิ ร ทิพยะวฒั น์ พิมพ์โดย มูลนธิ สิ ยามกมั มาจล ๑๙ ถนนรัชดาภิเษก แขวงจตจุ กั ร เขตจตจุ กั ร กรุงเทพฯ ๑๐๙๐๐ โทรศัพท ์ ๐ ๒๙๓๗ ๙๙๐๑-๗ โทรสาร ๐ ๒๙๓๗ ๙๙๐๐ เว็บไซต์ www.scbfoundation.com พิมพค์ รงั้ ท่ี ๑ มิถุนายน ๒๕๖๑ พมิ พท์ ่ี บรษิ ทั เอส. อาร์. พร้นิ ตงิ้ แมสโปรดักส์ จำกัด ราคา ๑๐๐ บาท

คำนยิ ม ๑ ในงานทำบุญประจำปีให้แก่พ่อแม่และบรรพบุรุษของครอบครัว ของผม ทจ่ี งั หวดั ชมุ พร วนั ที่ ๑๒ สงิ หาคม ๒๕๖๐ ซงึ่ ตรงกบั วนั แมพ่ อดี โบ (ธดิ า พานชิ ) หลานสะใภข้ องผม เอาหนงั สอื บนั ทกึ คณุ แมน่ กั อา่ นนทิ าน ทจ่ี ัดพิมพ์แบบงา่ ยๆ มาให้หนงึ่ เลม่ พร้อมปรารภวา่ อยากหาผจู้ ัดพมิ พ์ ผมกลับมากรุงเทพฯ และเริ่มอ่านหนังสือเล่มน้ี ก็ตระหนักถึง ความสามารถในการเขียนของโบ สมกับเรียนจบปริญญาตรีจากคณะ อกั ษรศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ตอ่ ดว้ ยปรญิ ญาโทสาขาจติ วทิ ยา พัฒนาการ จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร และมี ประสบการณ์ทำงานทำหนงั สอื มานานตามท่ีเธอเลา่ ในหนงั สอื เล่มน้ี โดย ท่ีเธอทำด้วยความรักและหลงใหลการอ่าน จุดเด่นของหนังสือคือเขียน แบบบันทึกจากประสบการณ์ตรง นำมาตีความด้วยความรู้จากแหล่ง ความรู้ท่ีหลากหลายมาก เปน็ หนงั สอื ที่อ่านได้สบายๆ ทีละตอน ความรักการอ่าน รักการเขียน และรักลูก มาบรรจบกันในหนังสือ บนั ทึกคุณแม่นักอา่ นนทิ าน เลม่ น้ี หลงั อา่ นจบ ผมเอาต้นฉบบั หนังสอื ไปให้คุณปิยาภรณ์ มณั ฑะจิตร ผู้จัดการมูลนิธิสยามกัมมาจล พร้อมบอกว่า ผู้เขียนเขาอยากหา สำนักพิมพ์สำหรับพิมพ์เผยแพร่ และผมอ่านแล้วมีความเห็นว่าเขียน ได้ดีมาก เปน็ ประโยชนต์ ่อพอ่ แม่ในการเลยี้ งลกู ใหเ้ ตบิ โตเปน็ คนแขง็ แรง เป็นคนเต็มคน เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองหากมีโอกาสได้เผยแพร่ในวง กว้าง

หลงั จากนน้ั ไมน่ าน คณุ ปยิ าภรณก์ บ็ อกผมวา่ มลู นธิ สิ ยามกมั มาจล จะพิมพ์เผยแพร่เอง เพราะเป็นหนังสือท่ีมีคุณภาพ และสาระตรงกับ เป้าหมายการทำงานของมูลนิธิฯ ที่มุ่งพัฒนาเยาวชน เน้นที่การพัฒนา ลกั ษณะนสิ ยั บนั ทกึ คณุ แมน่ กั อา่ นนทิ าน เลา่ เรอื่ งราวจากประสบการณต์ รงใน การเลย้ี งลกู สองคน สอดแทรกวธิ กี ารสำหรบั พอ่ แมใ่ ชเ้ ลยี้ งลกู เลก็ ใหส้ ง่ั สม การเชอ่ื มโยงใยประสาทในสมอง วธิ กี ารดงั กลา่ วจะคอ่ ยๆ ปพู น้ื ฐานการมี “สมองดี” ไปโดยปริยาย เวลานี้ ความรู้ทางประสาทวิทยาศาสตร์และ จิตวิทยาการเรียนรู้ท่ีก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วบอกว่า สมองดีสร้างได้ แล้ววธิ ีการท่เี ล่าใน บนั ทกึ คณุ แมน่ กั อ่านนทิ าน เปน็ วธิ กี ารทสี่ อดคลอ้ ง กับหลักการดังกลา่ ว “สมองดี” มีหลายมิติ มิติหนึ่งที่หน้าต่างแห่งโอกาสในการพัฒนา เปิดกวา้ งในวัยทารกและเดก็ เลก็ คือ การพัฒนา Executive Functions & Self-regulation (เรียกย่อๆ ว่า EF) ซึ่งเป็นสมองส่วนควบคุมจิตใจ ควบคมุ อารมณ์ และควบคมุ พฤตกิ รรมของตนเอง รวมทง้ั การทำหนา้ ทคี่ ดิ ที่เรียกว่า Working Memory พ่อแม่ที่เล้ียงลูกตามแนวทางท่ีแนะนำใน หนังสือเล่มนี้จะเท่ากับฝึก EF ให้แก่ลูกไปในตัว โปรดอ่านตอนที่ช่ือว่า “ลูกช้ินไม้นั้นกับการยบั ยัง้ ชง่ั ใจ” ในส่วนของการอ่านนิทานให้ลูกฟังน้ัน นอกจากเป็นการปลูกฝัง นิสัยรักการอ่านให้แก่ลูกแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นจินตนาการ และเป็น กิจกรรมท่ีสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างลูกกับพ่อแม่ ที่เรียกว่า Socializa- tion ซ่ึงจะช่วยให้เกิดพัฒนาการด้านจิตใจ ที่เรียกว่า Attachment ซ่ึง เปน็ พนื้ ฐานการพฒั นาอารมณข์ องตนเอง และพฒั นาปฏสิ มั พนั ธก์ บั ผอู้ น่ื

เด็กที่มี Attachment มั่นคง จะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ท่ีมีความม่ันใจใน ตนเอง และมีความมั่นคงทางอารมณ์ ทา่ นผูอ้ ่านจะสังเกตเหน็ ว่า วาวา ลกู สาวคนโตของโบ มีคลังคำอยู่ ในสมองมากจนผู้ใหญต่ กใจ วา่ เดก็ อายนุ ้อยขนาดนัน้ สามารถพดู คำที่มี ความหมายลกึ ซึ้งถึงขนาดน้ันไดเ้ ชียวหรอื นี่คอื ตวั อย่างจรงิ ของผลลัพธท์ ี่ เกิดจากการฟงั นทิ านท่ีคณุ แม่อ่านให้ฟัง บันทึกคุณแม่นักอ่านนิทาน เล่าเร่ืองราวการเรียนรู้และเติบโต ของลกู ผา่ นการสงั เกตของแม่ พรอ้ มๆ ไปกบั การเรยี นรแู้ ละเตบิ โตของแม่ นำมาเผอื่ แผแ่ กค่ ณุ พอ่ คณุ แมห่ รอื วา่ ทคี่ ณุ พอ่ คณุ แม่ สำหรบั เปน็ แนวทาง เลย้ี งลกู ใหเ้ ตบิ โตขนึ้ เปน็ คน“สมองด”ี ซง่ึ หมายความวา่ ดที งั้ ดา้ นสตปิ ญั ญา และดา้ นบุคลกิ อารมณ์ และปฏิสัมพันธ์ โดยหนงั สอื เล่มน้ีเนน้ การพฒั นา ด้านบุคลิก อารมณ์ และปฏิสัมพันธ์ ท่ีหนังสือ เล้ียงให้รุ่ง เสนอว่า มี ความสำคญั ตอ่ ความสำเร็จในชีวติ มากกวา่ ความฉลาดหรอื สตปิ ัญญา วิจารณ์ พานิช ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ เล้ียงใหร้ ุ่ง : ปฏวิ ตั ิการเรยี นร้ผู ่านการสรา้ งลักษณะนสิ ัยส่คู วามสำเร็จ เขยี น : พอล ทฟั / แปล : ดลพร รุจริ วงศ์ / สำนกั พมิ พ์ : openworlds

คำนิยม ๒ คณุ แมอ่ า่ นนิทานคอื ตน้ น้ำลำธาร เปรยี บเสมือนพระผู้เป็นเจ้าสรา้ งโลก โลกทีม่ ีอยจู่ รงิ สำหรบั ลูก คุณแม่อ่านนิทานได้ประโยชน์เป็นร้อยข้อ ทุกแง่มุม แต่ข้อท่ีหน่ึง คือสร้างแม่ทม่ี ีอยจู่ ริงข้นึ มา มแี ม่ แล้วจึงมีโลก เพียงอ่านคำนำที่เขียนโดยคุณแม่โบจบ ก็เช่ือสนิทใจว่าเธออ่าน หนังสือมามากกว่ามาก ดูจากสำนวนการเขียนแล้ว มีสมมติฐานว่า อ่านมามากกว่าผม เพราะเธอเขียนได้ดีกว่ามาก คนที่เขียนหนังสือเป็นจะเขียนหนังสืออ่านง่าย ง่ายทุกประโยค ล่ืนไหลไปเหมือนสายน้ำ มิใช่อ่านไปจนจบประโยคแล้ว “หา! ว่าไงนะ!” ต้องย้อนกลับไปอ่านใหม่ว่าเขียนอะไร ซึ่งผมมีความสามารถทำให้ คนอา่ นต้องทำเช่นนเี้ ป็นประจำ คนทเ่ี ขยี นหนงั สอื ไดด้ แี ละงา่ ยเทา่ น้ี ดแี ละงา่ ย อา่ นสบาย ไปตลอด ท้ังเล่ม ย่อมพิสูจน์แล้วว่าเธออ่านมามาก ผลจากการอ่านทำให้เซลล์ สมองยืดแขนงประสาทออกไปแตะกนั เปน็ วงจรประสาทจำนวนมหาศาล ในสมอง วงจรประสาทจำนวนมหาศาลน้ันเองที่ทำให้เวลาเขียนหนังสือ คลงั คำและความคิดไหลหล่ังพรั่งพรูออกมาไมร่ จู้ บ ทายไดเ้ ลยวา่ คุณแมโ่ บเขยี นหนงั สอื ถึงเช้าได้สบายๆ ย่อหน้าที่ผ่านมา ผมอดไม่ได้ที่จะใส่วงเล็บศัพท์แพทย์หรือศัพท์ ภาษาอังกฤษแทบทุกประโยค แต่ครั้งนี้มิได้ใส่ด้วยตั้งใจจะเลียนแบบ คุณแม่โบ ท่ีเธอแทบจะไม่ใส่ภาษาอังกฤษลงไปในหนังสือเล่มนี้เลย

อนั ที่จรงิ ตอ้ งพดู ว่าไมม่ เี ลย ทม่ี อี ยูบ่ า้ งเป็นข้อความท่ยี กมาจากทอ่ี ื่น ระหว่างที่อ่านตั้งแต่หน้าแรกไปเร่ือยๆ ผมคันไม้คันมืออยากจะวง เล็บคำศัพท์ทางจิตวิทยาพัฒนาการและวิทยาศาสตร์การแพทย์ด้าน สมองลงไปใหแ้ ทบจะทุกๆ ย่อหน้า เพอื่ ชีใ้ หท้ า่ นผ้อู า่ นเห็นว่าแท้จริงแล้ว คุณแม่โบกำลังเขียนตำรา เธอมิได้เขียนหนังสือสอนวิธีเลี้ยงลูกที่หาคำ อธิบายไม่ได้ ทุกเร่ืองอธิบายได้ มีวิชาการรองรับ เพียงแต่เธอไม่วงเล็บ คำศพั ท์เหลา่ น้นั ไวเ้ ทา่ นั้นเอง บางทีคุณแม่โบอาจจะไม่รู้คำเหล่าน้ันก็เป็นได้ เพราะเธอมิได้ จบแพทย์มา แต่เพราะไม่รู้นั่นเองกลับยิ่งยืนยันว่าความเป็นแม่ไม่ ต้องการวิชาการ ต้องการแคส่ ามญั สำนกึ ทดี่ ีเท่านน้ั เอง สามญั สำนกึ หรือ Common Sense (เห็นหรือยัง ไปไม่รอด ใชค้ ำ ภาษาอังกฤษจนได้) มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก Sensus Communis หมายถงึ สมั ผสั ทัง้ ห้า คือ ตา หู จมกู ล้ิน และสัมผัส ซง่ึ ก็คือทางเขา้ ของ ขอ้ มูลรอบด้านเพอ่ื ประมวลแลว้ นำไปสู่การตดั สินใจ ในทางวิทยาศาสตร์ แปลว่าทางเข้าของข้อมูลต้องดีและหน่วย ประมวลผลต้องดีด้วย จึงจะได้การตัดสินใจที่ดี จะเห็นว่าสามัญสำนึก มิใช่คำท่ีบอกว่าจะอย่างไรก็ได้ แต่ต้องการสมองท่ีดี และสมองท่ีดี เกดิ จากการอ่าน โดยการอ่านท่ีดีเกิดจากคุณแม่อ่านนิทานก่อนนอนให้ฟังต้ังแต่ แรกเกิด คุณค่าของการอ่านนิทานก่อนนอน ซึ่งใครๆ มักถามว่า ทำไมต้องก่อนนอน คุณแม่โบได้ให้คำอธิบายไว้ดีมากในบทที่ว่าด้วย ความสมำ่ เสมอ กอ่ นนอนเป็นเพยี งการสง่ สัญญาณถึงทุกคนวา่ “ควรจะ

สมำ่ เสมอ” คณุ คา่ ของการอา่ นนทิ านนบั ไดเ้ ปน็ รอ้ ยขอ้ ตง้ั แตป่ ระโยชนท์ ต่ี กแก่ คณุ แมเ่ อง แกค่ ณุ พอ่ แกบ่ า้ นทงั้ หลงั และแกล่ กู การเปลย่ี นแปลงเกดิ ขน้ึ เป็นองค์รวมต่อท้ังระบบ ต้ังแต่ผลต่อสมองไปจนถึงผลต่อพัฒนาการทุก ด้าน ดังทีค่ ุณแมโ่ บได้เขยี นใหอ้ า่ นเลา่ ให้ฟงั ในคร่งึ เล่มแรกของหนงั สือ ท่ี ขาดไม่ไดค้ ือการเล่าเรอื่ งจริงจากหนงั สอื นทิ านจริงๆ สว่ นสดุ ท้าย หนงั สอื นทิ านทกุ เลม่ พฒั นาเดก็ เปน็ องคร์ วม แมว้ า่ หนงั สอื เลม่ หนงึ่ จะเล่าเรื่องหน่ึง แต่เราสามารถชี้ประเด็นพัฒนาการท่ีเกิดข้ึนได้เสมอ บ้านเราขาดการช้ีประเด็นเหล่าน้ีและการวิพากษ์หนังสือนิทานอยู่มาก เป็นเร่ืองน่ายินดีเป็นที่สุดท่ีได้เห็นคุณแม่โบกระโจนลงมาเขียนถึงนิทาน กอ่ นนอนทีละเลม่ ๆ อยา่ งเอาจรงิ เอาจงั ผดิ ถกู มใิ ชเ่ รือ่ งสำคญั ทีส่ ำคัญกวา่ คือวงจรประสาทของคณุ แม่โบ เองนอกจากเช่ือมต่อไปหาลูกของตนเองแล้ว ยังพยายามที่จะเชื่อมต่อ ไปส่วู งจรประสาทของคณุ แมบ่ า้ นอ่ืน ผา่ นการอ่านนิทานเลม่ เดียวกนั น่นั คอื พัฒนาการระดบั สังคมท่บี า้ นเรามักมิไดใ้ ส่ใจ การอ่านมีดอกเบ้ีย การอ่านมิได้เพื่อให้มีความรู้หรือความรอบรู้ แต่เพ่ือสร้างวงจรประสาทมหาศาลที่สามารถส่งผ่านข้อมูลไปมาได้ รวดเรว็ ภายใตท้ างเชอื่ มมากมาย เวลาทชี่ วี ติ มอี ปุ สรรค ทางเชอ่ื มของวงจร ประสาททส่ี รา้ งไวจ้ ะเปิดให้เหน็ ทางออกได้เองเสมอ คือคณุ ปู การของหนังสอื เล่มน้ี นายแพทย์ประเสริฐ ผลติ ผลการพิมพ์

คำนยิ ม ๓ คนเปน็ แม่ ล้วนตอ้ งเจออปุ สรรค ตงั้ แต่การจดั การความทกุ ขท์ ่ีมาพรอ้ มการเปลยี่ นแปลง ปญั หาจากการเลย้ี งดลู กู กนิ ยาก นอนยาก รงั แกนอ้ ง หวงของ ฯลฯ แมโ่ บบอกเลา่ เรือ่ งราวเหลา่ นไี้ ดอ้ ย่างนา่ รัก นา่ ติดตาม อ่านแล้วตอ้ งยิ้มและคิดวา่ “เจอเหมอื นกนั ” ด้วยนิสยั รกั การอ่าน แมโ่ บใชค้ วามสามารถใน “การอา่ นอย่างเขา้ ใจ” นำมาซง่ึ การแกป้ ัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์ บนั ทกึ คุณแมน่ กั อ่านนทิ าน จึงเปน็ แนวทางใหค้ ุณแมท่ ่ีต้องการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้ลกู อ่านแล้วจะรวู้ ่า...นทิ าน ก็สำคัญพอๆ กับการได้กินอาหารทมี่ ปี ระโยชนน์ ะคะ แพทย์หญิงปุษยบรรพ์ สวุ รรณคีรี กุมารแพทยผ์ ใู้ ชแ้ นวทางการเลี้ยงลกู ด้วยหนงั สอื เจา้ ของเพจ Dr.Pam book club หมอแพมชวนอา่ น

คำนำ ไม่มียุคใดท่ีพ่อแม่จะตั้งคำถามเรื่องการเล้ียงลูกมากกว่ายุคนี้อีก แลว้ เราจะเลี้ยงลกู ใหเ้ ติบโตเป็นคนดี คนเก่ง และมคี วามสุขได้อยา่ งไร พ่อแม่เร่ิมขวนขวายหาความรู้ หาแหล่งเรียนรู้ หาทรัพยากร ท่ีจะบ่มเพาะลกู ๆ ของตนเอง พอ่ แมท่ ่มุ เทท้งั แรงกาย แรงเงนิ เพ่ือใหล้ ูกได้สิง่ ทคี่ ิดวา่ ดที ส่ี ุด เรียนใหม้ ากทสี่ ดุ ติวใหม้ ากทส่ี ดุ บบี อดั ความรู้ลงไปในตัวลูก แต่การเลี้ยงลูกแบบไหน ที่จะเป็นวิธีพาลูกไปสู่เป้าหมายของการ เปน็ พลเมอื งท่ีดี มคี วามสขุ อยู่รอด และอยู่ไดใ้ นสังคมปัจจบุ ัน มลู นธิ สิ ยามกมั มาจลไดม้ โี อกาสอา่ น บนั ทกึ คณุ แมน่ กั อา่ นนทิ าน ซง่ึ เขยี นโดยคณุ โบ (ธดิ า พานชิ ) คลา้ ยๆ เปน็ สมดุ บนั ทกึ ประจำวนั ของคณุ โบในการเลี้ยงลูกท้ังสองคน เร่ืองราวการเลี้ยงลูก แง่มุมวิธีคิดในการ เป็นแม่ มีแง่มุมที่น่าสนใจ เป็นวิธีคิดและวิธีการของคุณแม่รุ่นใหม่ที่มี ประสบการณ์และเติบโตไปพรอ้ มลกู คุณโบเรียนรู้การเล้ียงลูกจากการอ่าน จากประสบการณ์ตรง ทค่ี อ่ ยๆ บ่มเพาะลูกท้งั สองคน การเขียนแบบตรงไปตรงมา ใหเ้ หน็ ขอ้ คดิ ข้อดี ข้อเสีย ของวิธีการเลี้ยงลูกของตนเอง ท่ีบางคร้ังก็อาจจะมีการ พาลูกออกนอกเส้นทางการ “เป็นเด็กดี เด็กเก่ง เป็นสุข” นั้นไปบ้าง แต่ คุณโบก็มีวิธีการพาวกกลับมาสู้เส้นทางที่ “ใช่” การเลี้ยงลูกของคุณโบ จึงกลายเป็น Learning Journey ของคุณแม่ที่น่าสนใจ กลายเป็น

ประสบการณท์ ม่ี คี วามหมายของทง้ั แมแ่ ละลกู เขา้ ทำนอง “โตไปดว้ ยกนั ” ไม่มีแม่คนไหนที่ไม่อยากให้ลูกได้ดี แต่วิธีการเล้ียงลูกให้ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในสังคมนั้นทำได้หลายวิธี ลองมาอ่านเร่ืองราว ประสบการณ์ตรงจากการเลี้ยงลูกของคุณแม่นักอ่านนิทานคนน้ี บาง เรอื่ งราวอาจจะช่วยเติมเตม็ วธิ ีการเลย้ี งลกู ของคุณแมท่ ้ังหลายได้ มูลนิธิสยามกัมมาจลหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนังสือเล่มน้ีจะเป็น “เพ่ือนร่วมทาง” ของคุณแม่ท่ีจะได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กับ ร่วมกัน พัฒนาลูกๆ ให้เติบโตเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง ท้ังร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา ที่เรียกว่า “มนุษย์ที่แท้” ตามความคาดหวังของ พ่อแม่ทุกคน มลู นธิ ิสยามกัมมาจล

จากใจคณุ แม่นกั อา่ นนิทาน โบเป็นนักอ่านตั้งแต่จำความได้ค่ะ ชอบอ่านหนังสือมาก รู้สึก ว่าย่ิงอ่านก็ยิ่งรู้มาก แล้วยิ่งรู้มาก โลกของเราก็กว้างข้ึนเรื่อยๆ และ สนุกข้ึนเร่ือยๆ เมื่อชอบอ่านก็กลายเป็นท่ีมาของการชอบเขียนไปด้วย จึงตัง้ ใจสอบเข้าเรยี นทคี่ ณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลัง เรียนจบก็ได้จับพลัดจับผลูมาทำงานด้านการส่งเสริมการอ่านให้แก่เด็ก และเยาวชนในหลายตำแหนง่ หลายหนว่ ยงาน การทำงานดา้ นนท้ี ำใหโ้ บ ได้รขู้ อ้ เทจ็ จริงที่มหศั จรรย์ใจมากวา่ “การทพ่ี อ่ แมอ่ า่ นหนงั สอื ภาพสำหรบั เดก็ ใหล้ กู ฟงั นน้ั จะชว่ ยพฒั นา สมองของลกู ช่วยให้เซลล์สมองเช่ือมต่อกนั เป็นวงจร ทำให้ลูกเรียนรไู้ ดด้ ี ฉลาด สง่ ผลตอ่ พฒั นาการดา้ นภาษา สรา้ งรสนยิ มทางศลิ ปะ รวมถงึ สรา้ ง สายสมั พนั ธ์อนั อบอนุ่ ระหวา่ งแมก่ ับลกู ด้วย” แคก่ ารอา่ นนทิ านกบั ลกู ดถี งึ ขนาดน้ี กเ็ ขา้ ทางเลยคะ่ ยงิ่ โบชอบอา่ น หนังสือเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอได้กระโจนเข้ามาสู่แวดวงหนังสือ นทิ านภาพสำหรบั เดก็ ยงิ่ สนกุ และมคี วามสุขท่ีสดุ และน่เี องทจ่ี ดุ ประกาย ให้เกิดความสนใจด้านเด็กและครอบครัว จึงหาเวลาว่างจากการทำงาน ประจำ เรียนต่อปริญญาโทด้านจิตวิทยาพัฒนาการ ท่ีมหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ไปดว้ ย ทำให้ได้เขา้ ใจพฒั นาการของคน แต่ละชว่ งวัย โดยเฉพาะวยั เดก็ ท่โี บสนใจเปน็ พเิ ศษ หลังจากน้ันโบจึงได้นำความรู้ด้านจิตวิทยาพัฒนาการท่ีเรียนมา ผนวกกบั ความชอบและทกั ษะทางภาษาทม่ี อี ยเู่ ดมิ เขา้ ทำงานในตำแหนง่

กองบรรณาธกิ ารนติ ยสาร Mother & Care กอ่ นทจี่ ะแตง่ งานและยา้ ยตาม สามีมาใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติที่จังหวัดชุมพร กลายเป็นคุณแม่ เตม็ เวลา ทม่ี อี าชพี เสรมิ คอื การอา่ นนทิ านใหล้ กู ๆ ทง้ั สองคนฟงั และมงี าน อดเิ รกคอื การแปลบทความใหน้ ติ ยสาร Mother & Care เชน่ เดมิ นอกจากนี้ ยังอดไม่ได้ที่จะหาเวลาเล่าเรื่องเลี้ยงลูกและนิทานเล่มโปรดของลูกลง ในเพจนิทานหัวเตยี งดว้ ยคะ่ โบยอมรับว่าไม่ใช่คนเก่งกาจหรือผู้เช่ียวชาญอะไร แค่เป็นแม่ท่ีรัก ลูก รักท่ีจะอ่านนิทานให้ลูกฟัง และรักการเขียน จึงอยากจะขอใช้พื้นท่ี ในหนังสือเล่มน้ี รวบรวมบทความที่โบเคยบอกเล่าในเพจนิทานหัวเตียง ด้วยหวังว่าจะเกิดประโยชน์แก่พ่อแม่ท่านอื่นบ้าง หรืออย่างน้อยๆ แค่ ผู้อ่านได้รู้สึกว่าฉันไม่ใช่พ่อแม่ท่ีโดดเดี่ยว แต่ยังมีโบเป็นเพ่ือนท่ีเข้าใจ เท่าน้ีโบกม็ คี วามสุขแล้วค่ะ ขอขอบคณุ คุณพ่อสมบุญ และคุณแม่วรรณา สุวรรณสาครกุล ที่เลี้ยงดูโบ มาอยา่ งดี ใหอ้ สิ ระโบเลอื กเรยี น และเลอื กทำสงิ่ ทร่ี กั และคอยเปน็ กำลงั ใจ ให้โบไม่วา่ โบจะทำอะไรกต็ าม คุณวนิช พานิช ค่ชู วี ติ ผเู้ ปน็ แรงผลักดนั ให้เกิดเพจนิทานหวั เตยี ง คณุ ทศั นยี ์ สรุ ิยะไชย ผ้คู อยเป็นกำลงั ใจและให้คำปรึกษาตลอดมา คณุ กนั ยา หสั ดพิ นั ธ์ุ ผทู้ มุ่ เทฝมี อื และหวั ใจวาดภาพประกอบใหเ้ พจ นทิ านหวั เตียงและหนงั สอื เลม่ นี้ คุณอริยา ไพฑูรย์ บรรณาธิการในดวงใจท่ีกรุณาช่วยตรวจแก้ไข ตน้ ฉบับในเบือ้ งต้น คณุ สุธาทิพ ธชั ยพงษ์ และอาจารย์พรอนงค์ นยิ มคา้ ทีใ่ หโ้ อกาสโบ

ไดน้ ำหนงั สือเลม่ นฉ้ี บับจดั พมิ พ์ครง้ั แรก ทลู เกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารเี มอ่ื วันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๕๙ เนอ่ื ง ในวาระการเปิดห้องสมดุ ดรุณบรรณาลัยอย่างเป็นทางการ สำนักพิมพ์แพรวเพ่ือนเด็ก สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ สำนักพิมพ์ แฮปปี้ คิดส์ สำนักพิมพ์สานอักษร และมูลนิธิ SCG ที่เอื้อเฟ้ือ ภาพประกอบ นายแพทยป์ ระเสริฐ ผลิตผลการพมิ พ์ และแพทย์หญงิ ปุษยบรรพ์ สุวรรณคีรี ผู้กรณุ าเขียนคำนิยมให้หนังสอื เลม่ น้ี ท้ายทส่ี ุด หนังสือเลม่ น้ีจะเกิดข้นึ ไมไ่ ด้เลยหากขาด ศาสตราจารย์ นายแพทย์วิจารณ์ พานิช และมูลนิธิสยามกัมมาจล ท่ีเห็นคุณค่า ของหนังสอื เลม่ นี้ และกรณุ าจัดพมิ พ์เผยแพร่เพอ่ื ประโยชน์สาธารณะ ธดิ า พานชิ (แมโ่ บ นทิ านหวั เตยี ง)

สารบัญ ๑ แรกเริม่ ประเดมิ เพจนทิ านหัวเตยี ง ๕ ๑. จักรวาลของแม่ ๘ ๑๐ ลกู …ทำใหแ้ ม่อยากเป็นคนดีขึน้ ๑๓ ไม่มแี มค่ นไหนไมเ่ คยผา่ นความเจบ็ ปวด ๑๗ เลี้ยงลูกหน่ึงคนต้องมีเงนิ เท่าไร ๒๐ ปญั หาของลูก…แก้ไดท้ ี่พอ่ แม่ ๒๓ เลยี้ งลูกห้ามขี้เกยี จ ๒๘ ทีวีไมใ่ ช่เครื่องเลยี้ งลกู อตั โนมตั ิ ๓๑ คำชมแบบไหนที่พ่อแมอ่ ยากได้ ๓๔ อมุ้ ลกู ใหต้ ดิ มอื แล้วแม่จะตดิ ใจ ๓๗ เขม้ งวดกบั ลกู ช่วงวยั ไหนดที สี่ ดุ ๔๐ กลยทุ ธส์ ู้ศึกสงครามกอ่ นนอน ๔๓ คณุ แม่จอมเปะ๊ vs คุณแม่ผ่อนคลาย ๔๖ ยอมรบั ความแตกตา่ งอยา่ งเขา้ ใจ ๔๙ ขา้ วผัดของแมอ่ ร่อยทีส่ ุดในโลก ๕๒ ในวันทอ่ี ยากขอบคณุ สามี ๕๖ มรดกทพี่ ่อแม่ควรทง้ิ ไวใ้ ห้ลกู เมอื่ แม่ภูมใิ จในตวั เอง

๒. โลกใบเล็กของหนแู ละนอ้ ง ๖๑ แม่ภูมิใจในตวั หนู ๖๔ ผู้ใหญ่เชอื่ ฟงั เด็กๆ ไหม ๖๗ ลูกเราไมไ่ ดถ้ ูกเสมอ ๗๐ ลกู เราไม่ได้ถูกเสมอ ตอนท่ี ๒ ๗๓ ดนิ สอสีและสีเทียนควรรบี ให้ลูกเรว็ ทสี่ ุด ๗๖ ลกู ช้ินไม้นน้ั กบั การยับยัง้ ชั่งใจ ๗๙ The Marshmallow Test ๘๒ สอนลูกใหร้ ู้จักพอ ๘๖ ทำไมลูกพดู ไมช่ ดั ๘๙ ทำไมต้องรีบสง่ ลกู ไปโรงเรยี น ๙๒ ไม่เป็นไร แค่ครั้งเดยี วเอง ๙๖ ในวันทลี่ กู ต้งั ไข่ ๙๙ แมจ่ า๋ ...ชา้ ๆ หนอ่ ย ๑๐๑ อาชพี ของลกู คือการเล่น ๑๐๔ ทำไมควรอนญุ าตใหล้ กู ได้ “เบอ่ื ” บ้าง ๑๐๗ เหตผุ ลที่ควรสอนลกู ปลูกตน้ ไม้ ๑๑๐ อย่าแหยห่ นนู ะ ๑๑๓ เขา้ หาเดก็ อยา่ งไร เด็กประทบั ใจไม่รลู้ มื ๑๑๖ สอนลูกใหว้ างใจโลก ๑๑๙ อันนสี้ นุกกว่านะ ๑๒๒ ปล่อยใหล้ ูกไดผ้ ิดหวงั บ้าง ๑๒๕

ทำอยา่ งไรใหล้ กู พูดเรว็ ๑๒๘ คำพดู ไม่ไดม้ ไี วท้ ำร้ายกนั ๑๓๒ บางเรอ่ื งยุ่งได้ บางเร่อื งยงุ่ ไมไ่ ด้ ๑๓๕ เมื่อลกู พรอ้ มแบง่ ปนั ๑๓๘ เมอื่ ส่งลกู ไปอยู่บ้านตายาย ๑๔๑ ๓. เปลี่ยนเดก็ ดื้อเป็นเด็กนา่ รกั ๑๔๕ บทเรียนจากมรสมุ Terrible Twos ๑๔๘ ใชใ้ จเรามองใจลูก...เปล่ียนเดก็ ด้ือเป็นเด็กนา่ รกั ๑๕๒ ไม่ดว่ นตดั สนิ ลกู ๑๕๕ ไข่เจยี วย้ิมแย้มแสนอร่อย ๑๕๘ เปดิ เทอม…เปิดใจ ๑๖๑ ความพยายามท่ีจะเป็น “แมท่ ดี่ ี” ของฉนั และความพยายามท่จี ะเปน็ “ลกู ท่ดี ”ี ของเธอ ๑๖๔ เราเลือกได้ว่าอยากเปน็ แมแ่ บบไหน ๑๖๖ ๔. โลกของนทิ าน ๑๗๐ มหศั จรรย์แห่งการอ่านหนังสอื ภาพ ๑๗๔ สร้างลูกรักเป็นนกั อา่ น ๑๗๙ การเลือกหนังสือภาพใหล้ ูก ๑๘๒ ซอื้ หนังสอื ใหล้ กู อา่ นเยอะๆ ดีไหม ๑๘๖

ถงึ เวลา Digital Detox ๑๘๙ นิทานช่วยลูกขีอ้ ายใหก้ ล้าแสดงออกได้อยา่ งไร ๑๙๒ เปล่ยี นเดก็ ดื้อด้วยนทิ านสร้างสรรค์ ๑๙๕ หนูอยากไดน้ าฬกิ าเรอื นใหมค่ ะ่ แม่ ๑๙๙ ไมใ่ ช่ของเรา คนื เขาไปนะ ๒๐๒ อเี ลง้ เค้งโค้ง ๒๐๕ กรุ ิ กบั กุระ ๒๐๘ กูจี กูจี ๒๑๑ จดหมายถึงยายจา๋ ๒๑๔ แคน่ ิดหนอ่ ยเอง ๒๑๗ งานแรกของม้ีจัง ๒๑๙ ขนมของแม่ ๒๒๒ กอ๊ ก กอ๊ ก ขอค้างคืนหนงึ่ นะ ๒๒๔ อย่า! เดวดิ ๒๒๗ Big G ๒๓๐ ดนิ สอวิเศษของจีด๊ จา๊ ด ๒๓๒ กอด ๒๓๔ หมใี หญ่จอมกอด ๒๓๖ กลุม่ คณุ แม่นกั อ่านนิทาน ๒๓๙ ดรณุ บรรณาลัย หอ้ งสมุดเดก็ ปฐมวัยแห่งแรกของไทย ๒๔๒

แรกเรม่ิ ประเดมิ เพจนิทานหวั เตยี ง ถ้าอาหารเป็นสิ่งที่ร่างกายคนเราขาดไม่ได้ หนังสือก็เป็นอาหาร สมอง อาหารใจที่เราทกุ คนขาดไมไ่ ดเ้ ชน่ กัน โดยเฉพาะเดก็ ตวั เล็กๆ โบคิดว่า การอ่าน ทำให้ตัวเองมีวันนี้ โบเสพติดการอ่านหนังสือ มาตั้งแต่จำความได้ พอเรียนจบก็จับพลัดจับผลูมาทำงานท่ีเกี่ยวข้อง กับการอ่านสำหรับเด็กและเยาวชนมาโดยตลอด น่ันเปิดโลกของหนังสือ นิทานภาพสำหรับเด็กให้แก่โบ และทำให้โบคล่ังไคล้นิทานอย่างถอนตัว ไม่ข้นึ โบรู้ถึงพลังของการอ่านหนังสือให้เด็กฟังเป็นอย่างดี บรรยาย สรรพคณุ ได้ไม่รู้จบ ทงั้ ชว่ ยพัฒนาสมอง พัฒนาทกั ษะด้านภาษา พัฒนา สายตา พฒั นาประสาทสมั ผสั สรา้ งความผกู พนั ในครอบครัว ฯลฯ แต่ก็รู้ มาจากการอา่ นการฟังจากคนอ่ืนทง้ั นนั้ มาเข้าใจลึกซ้ึงเอาจริงๆ ก็ตอนมีลูกนั่นแหละว่า การอ่านหนังสือ ให้ลูกฟังมีพลังซ่อนอยู่มากมายสักเพียงไหน เมื่อลูกสาวพูดประโยค หลายพยางคค์ รั้งแรกวา่ “นอ้ งนอนอยู่ในเปล” ตอนอายุ ๑ ขวบ ๓ เดอื น จากน้ันก็พูดมากขึ้นและพูดเป็นต่อยหอยเม่ือประมาณ ๑ ขวบ ๖ เดือน เธอมักเอ่ยคำแปลกๆ ที่ผู้ใหญ่นึกไม่ถึงว่าเด็กอายุไม่ถึง ๒ ขวบจะพูดได้ เธอไม่เพียงเข้าใจคำพูดของคนอ่ืนอย่างรวดเร็ว แต่ยังสามารถโต้ตอบ กลับมาได้ทันควัน พัฒนาการทางภาษาของเธอติดจรวดอย่างน่า อัศจรรยใ์ จ ในวัย ๒ ขวบ ๘ เดือน (ขณะที่เริ่มทำเพจคร้ังแรกเมื่อตุลาคม ๒๕๕๘) เธอพูดประโยคยาวๆ ที่คิดขึ้นเองไม่หยุดปาก หยุดพูดเฉพาะ ธดิ า พานชิ 1

ตอนหลับกับตอนกิน ประโยคติดปากของเธอคือการตั้งคำถาม ไม่ใช่แค่ ถามว่าอะไร แต่กระโดดไปถงึ ยงั ไง ทีไ่ หน วนั ไหน และทีช่ อบถามทสี่ ุดคือ ทำไมๆๆๆๆๆ แถมยังสนุกมากกับการพลิกแพลงภาษา เช่น เธอรอ้ งเพลงวา่ “โรงเรียนของเราน่าอยู่ เด็กๆ ใจดีทุกคน คุณครูก็ไม่ซุกซน... พวกเราทุกคนชอบไปโรงเรียน” ใครได้ฟังก็เป็นต้องหัวเราะความ ขี้เล่นทางภาษาของเธอ ทำไมเธอถึงพูดเกง่ เคยมีคนถามโบ บอกได้เลยว่า เธอมีคลังคำในหัวเยอะมาก มันมาจากหนังสือภาพที่เราอ่านด้วยกันทุกวันทุกคืนต้ังแต่เกิด สะสมคำไปวันละเล็กวันละน้อยด้วยความอดทน กว่าเธอจะพูดได้ กวา่ เธอจะมีสมาธสิ นใจหนงั สือ ไม่กดั ไมฉ่ กี ไม่กิน ค่อยเป็นคอ่ ยไป จน ในที่สุดก็ถักทอเป็นถ้อยคำเก็บในสมองของเธอ เมื่อถึงเวลาเธอก็เลือก เปิดล้ินชักหยบิ คำมาใช้อยา่ งถกู ต้อง โบคิดว่าการอ่านหนังสือกับลูกเป็นกิจกรรมพัฒนาสมองและ พฒั นาชวี ติ ของทง้ั เดก็ และผใู้ หญท่ ง่ี า่ ยดายทสี่ ดุ และประหยดั ทส่ี ดุ เพราะ ใชแ้ คพ่ ่อแม่กบั หนงั สอื เพียงเลม่ เดยี วเท่านนั้ ท่ีเขียนมาทั้งหมดไม่ได้อยากโอ้อวดลูกตัวเอง แค่อยากนำลูกมา เป็นหลักฐานรับประกันว่า ผลผลิตจากการท่ีพ่อแม่อ่านหนังสือให้ ลูกฟังน้ันมีประโยชน์แค่ไหน ยังไม่นับเร่ืองการเป็นคนช่างสังเกต การพัฒนาทกั ษะอื่นๆ อกี นบั ไม่ถ้วน โบจึงอยากเปิดพื้นท่ีเล็กๆ เช้ือเชิญพ่อแม่พ่ีน้องมาอ่านหนังสือ 2 บนั ทกึ คุณแม่นกั อ่านนทิ าน

ด้วยกันในครอบครัว ด้วยการแบ่งปันเร่ืองราวการอ่านนิทานกับลูก และบอกเล่าเร่ืองราวสนุกๆ ของการเล้ียงลูก(สอง) ตามแบบของ นทิ านหัวเตียงค่ะ ป.ล. ขอขอบคุณผู้มีอุปการคุณทุกท่านที่เปิดโลกมหัศจรรย์แห่ง หนงั สือภาพสำหรับเด็กใหโ้ บไดร้ ู้จัก คณุ ครเู กรกิ ยนุ้ พนั ธ์/คณุ ครปู รดี าปญั ญาจนั ทร์/คณุ ครชู วี นั วสิ าสะ/ อาจารย์พรอนงค์ นยิ มค้า / พแ่ี ต้ว ระพพี รรณ พฒั นาเวช / คณุ ครจู ินดา จำเรญิ / พเี่ อ๋ อรยิ า ไพฑรู ย์ / พเี่ อ๋ วภิ าวี ฉกาจทรงศกั ดิ์ / พอ่ี อ้ ย วชริ าวรรณ ทับเสือ & พ่ีบอมบ์ กฤษณะ กาญจนาภา / พี่หมุด สุดไผท เมืองไทย / พ่เี อ๋ นันทวนั วาตะ / พ่ีลำพู แสงลภ / พี่เก้ือกมล นิยม / พเี่ อ๋ย & พี่เมฆ สำนักพิมพ์ก้อนเมฆ / มูลนิธิสิกขาเอเชีย / ทีมเมล็ดฝัน อาจารย์คาโต้ คณุ ก๊ฟิ พหี่ มวย พี่คมุ ิ ธดิ า พานชิ 3

4 บนั ทึกคณุ แม่นกั อา่ นนทิ าน

๑ จกั รวาลของแม่

“การเปน็ แม่ คอื การพฒั นาตนเอง” คร้ังหน่ึง อาจารย์พรอนงค์ นิยมค้า เคยกล่าวไว้ โบจำประโยคนี้ ไดข้ ้ึนใจเลยคะ่ เพราะตั้งแต่วันที่รู้ว่าต้ังท้อง จนถึงวันนี้ท่ีมีลูกสองคน รู้ซึ้งที่สุดค่ะ ว่า การได้เป็นแม่ทำให้เราพัฒนาตัวเองได้อย่างไม่มีท่ีสิ้นสุด หากเรา ไมไ่ ดเ้ ปน็ แม่ เราคงไมร่ ูเ้ ลยว่า เราทนเจบ็ ปวดในยามคลอดลกู ไดถ้ งึ ขนาดนีเ้ ชียวหรอื เราอดหลับอดนอนยามลกู เกดิ ใหม่ไดข้ นาดนี้เชียวหรือ เราทนอดแต่งตัวสวยๆ อดไปช็อปป้ิง อดไปเที่ยว เพื่อคอยดูแล ชวี ิตนอ้ ยๆ ไดข้ นาดนเี้ ชียวหรอื ชวี ิตของโบเปลีย่ นไปอยา่ งสิ้นเชงิ นับตงั้ แตเ่ ปน็ “แม”่ โบไมเ่ คยเหงาเพราะมเี งาเลก็ ๆตดิ ตามตวั ไปดว้ ยตลอดทกุ ลมหายใจ โบไม่เคยไดอ้ ยเู่ งียบๆ เพราะมีคนตวั เลก็ ๆ เจ้อื ยแจว้ อยขู่ ้างหู โบไม่เคยภูมิใจในตัวเองมากขนาดนี้มาก่อน ท่ีสร้างชีวิตน้อยๆ ด้วยสองมอื ของตวั เอง การได้เป็น “แม่” เหมือนการได้เข้าสู่จักรวาลอันกว้างใหญ่ซึ่ง เต็มไปด้วยเร่ืองราวแปลกใหม่หลากหลายท่ีตอ้ งเรยี นรู้ มนั ชา่ งนา่ ตน่ื เตน้ ทา้ ทาย ๖ บนั ทกึ คณุ แมน่ กั อ่านนิทาน

จักรวาลแห่งนี้ไม่ได้มีแค่เร่ืองกิจวัตรประจำวันของลูกที่พ่อแม่ต้อง ดูแล แต่ยังรวมถึงการวางรากฐานความคิดอ่าน ปลูกฝังความดีงามถูก ต้องใหล้ ูกในทุกชว่ งจังหวะของชวี ติ จักรวาลแห่งนี้เต็มไปด้วยสีสัน ความสนุกสนาน ขณะเดียวกัน ก็ ซอ่ นเรน้ ความทา้ ทายทเ่ี ราตอ้ งอดทนกลา้ เผชญิ หนา้ แมจ้ ะยากเยน็ เพยี งใด จกั รวาลแหง่ นเี้ ตม็ ไปดว้ ยรอยยม้ิ เสยี งหวั เราะ ความรกั ความอบอนุ่ และความสุขทหี่ าอะไรมาแทนไม่ได้ บางคราวจกั รวาลแหง่ นกี้ ไ็ ดม้ อบบททดสอบแหง่ ชวี ติ ทแ่ี สนหนกั อง้ึ ซึ่งเราไม่เคยไดร้ ำ่ เรียนมาจากมหาวิทยาลัยใด จักรวาลแห่งน้ีทำให้โบกลัวความตายข้ึนมาจับใจ ใช้ชีวิตอย่าง รอบคอบและระมัดระวงั เพราะรู้วา่ เราจะตอ้ งอยู่ อยู่ไปทำไม และอยู่ไป เพื่อใคร จักรวาลแหง่ น้ีมีศูนยก์ ลางจกั รวาลท่เี รยี กว่า “ลกู ” สำหรับแม่มือใหม่คงต้องค่อยๆ ทำความรู้จักจักรวาลท่ีกว้างใหญ่น้ี เหมือนท่ีโบเองกค็ ่อยๆ เรียนรู้ ยอมรบั และปรับตวั เพอ่ื พฒั นาตวั เองให้ดีขึน้ เทา่ ท่ีจะทำได้ เพื่อทจ่ี ะเปน็ “แม”่ ของลกู ทัง้ สองไดอ้ ย่างเต็มภาคภมู ิ ขอบคุณ “วาวาและดินดิน” ที่ทำให้โบได้เดินทางสู่จักรวาล ของ “แม”่ ธดิ า พานชิ ๗

ลูก…ทำให้แมอ่ ยากเป็นคนดขี น้ึ สารภาพตรงๆ ค่ะว่า โบไม่ใช่คนดีคนสมบูรณ์แบบ บางครั้งอาจจะทำผิดไปบ้าง ทั้งโดยความเผอเรอและ ไมต่ ง้ั ใจ แต่แม่ๆ ท่านอ่ืนเป็นไหมคะ ท่ีพอมีลูกแล้วอยากทำ ตัวเองใหด้ ีข้ึนกว่าเดิม ไมใ่ ช่เพื่อใหใ้ ครๆ รกั หรอื ใครๆ ยอมรบั 8 บนั ทึกคณุ แมน่ กั อ่านนิทาน

แตก่ เ็ พอื่ ใหล้ กู ทเ่ี รารกั สดุ หวั ใจมองเราอยา่ งชนื่ ชม และทำตามสง่ิ ทเ่ี ราทำ ให้เขาดูเป็นตวั อยา่ ง เพราะคำสอนของเราลูกอาจฟงั ผ่านหู แต่การกระทำของเราลกู จะ จำผ่านภาพที่เห็น มันจะฝังรากลึกอยู่ในใจเขา สิ่งที่พ่อแม่ทำให้เห็นอยู่ เปน็ ประจำจะปรากฏอยูใ่ นความทรงจำไม่ร้ลู ืม วันกอ่ นโบเหน็ วาวาใช้เท้าเล็กๆ ของเธอเปดิ พัดลม วาวาใชเ้ ท้าหยิบของจากพืน้ วาวาโยนเศษขยะใสถ่ งั ขยะ วาวาชอบเลน่ โทรศัพทม์ อื ถอื วาวาพดู กบั โบวา่ “แมไ่ ปดว้ ยกนั เดะเรว็ ๆเสะ” หรอื “วาวาเบอ่ื แมแ่ ลว้ วาวาขเี้ กียจอาบน้ำ” ไม่บอกก็คงรู้ใช่ไหมคะ วา่ เธอจำส่งิ เหลา่ น้ีมาจากไหน หลายคร้ังโบเผลอทำกิริยาไม่น่ารักให้เธอเห็น พูดคำท่ีไม่ควรพูด หลายคำ เพราะลืมไปว่าความจำของเธอไวกว่าชัตเตอร์กล้องถ่ายรูป และหน่วยความจำไม่เคยเต็ม ทำอะไรให้เห็น หรือพูดอะไรให้ได้ยิน แมเ้ พียงครัง้ เดียวเธอกจ็ ำข้นึ ใจ และทำตามทุกครั้งหลังจากนัน้ ซะดว้ ยสิ เมื่อไรที่เห็นการกระทำไม่น่ารักของเธอ ก็สะกิดใจให้กลับมาย้อน มองตวั เองวา่ เรานลี่ ะเปน็ คนทำใหล้ กู เหน็ แตค่ ราวหนา้ ตอ้ งไมท่ ำแลว้ นะ... เพราะเราจะเปน็ คนที่ดขี ้ึน...เพือ่ ลูก ธิดา พานชิ 9

ไมม่ ีแมค่ นไหนไม่เคยผา่ นความเจบ็ ปวด ตั้งแต่เด็กจนโตเป็นผู้ใหญ่เรื่อยมาจนมีลูก คงไม่มีใคร ไมเ่ คยผ่านความเจ็บปวดผดิ หวัง 10 บนั ทึกคณุ แม่นกั อ่านนิทาน

ความเจ็บปวดอาจทำให้เราหมดสิ้นเรี่ยวแรง ในใจเจิ่งนอง ไปดว้ ยน้ำตา ร้สู ึกตัวเองไร้คา่ ไม่รู้จะใชช้ ีวติ อยไู่ ปทำไม จะอยไู่ ปเพือ่ ใคร ความผดิ หวงั บงั ตาจนเราไมเ่ หน็ วา่ ยงั มใี ครอยขู่ า้ งหลงั บา้ ง เราอาจเคยรสู้ กึ วา่ ความเจบ็ ปวดมนั สะเทอื นโลกทงั้ ใบของเรา เมอื่ ตอ้ งพา่ ยแพบ้ นเสน้ ทาง การเรยี น ความรัก หรือการทำงาน แมก้ ระทงั่ เร่อื งครอบครัว แต่เมื่อมาถึงบทบาทความเป็น “แม่” ไม่ว่าจะเจ็บปวดเพียงไหน เรากลบั ร้สู ึกว่ามันเป็นความเจบ็ ปวดทแ่ี สนจะอบอนุ่ ใจ แสนจะปลอดภัย แสนจะงดงาม น่าแปลกท่เี ราไม่ตโี พยตพี าย ไม่โทษฟา้ ดิน แต่กลบั อดทน เข้มแขง็ และพยายามกา้ วผา่ นมนั ไปใหไ้ ด้ เพราะเรารดู้ วี า่ เราตอ้ งสตู้ อ่ ไปเพอ่ื “ลกู ” กำลงั ใจท่ีแสนยิง่ ใหญ่ของคนเป็นแม่ เพ่ือนของคนรู้จักคนหนึ่งแท้งลูกเกือบสิบคร้ัง แต่ก็ไม่ยอมแพ้และ มีลกู ไดใ้ นท่ีสดุ เพ่ือนโบคนหนงึ่ คลอดลูกขณะทำวิทยานพิ นธ์ปริญญาโท เธอจงึ ตอ้ งเลยี้ งลกู ไปดว้ ย กดั ฟนั ทำวจิ ยั ไปดว้ ย แมจ้ ะหนกั หนาแต่ เธอกฝ็ ่าฟนั จนสำเรจ็ ลูกของเพื่อนโบพัฒนาการช้า แต่เธอก็สู้เต็มท่ีอย่างมีความสุขใน ทุกๆ วนั ธดิ า พานชิ 11

เพอ่ื นโบเป็นซงิ เกล้ิ มมั แต่ก็เข้มแข็งและไม่ยอมจมปลกั กับอดีต ส่วนตัวแม้ไมเ่ คยเจอปญั หาหนกั ๆ เหมือนแมค่ นอ่ืน แต่จำได้ขน้ึ ใจ เลยว่าการเจ็บท้องคลอดลูกทั้งสองคนมันเจ็บปวดท่ีสุดในชีวิตแค่ไหน (โบเลือกคลอดลูกแบบธรรมชาติท่ีโรงพยาบาลรัฐซึ่งไม่มีการฉีดยาระงับ ปวดใดๆ) พอลูกคลอดก็ต้องฝ่าแรงกดดันจากตัวเองและคนรอบข้างที่ คาดหวังให้เราเป็นแม่แบบน้ันแบบน้ี ท้ังๆ ท่ีเราเพิ่งเคยเป็นแม่ครั้งแรก ไมป่ ระสาอะไรกบั การเล้ยี งลูกแมแ้ ตน่ อ้ ย ตอ้ งเผชญิ กบั การตง้ั คำถามว่า ทำไมลูก ๓ เดือนแลว้ ไม่ปอ้ นกลว้ ย นมแมห่ มดประโยชนแ์ ลว้ ทำไมไมเ่ ลกิ ใหน้ มลกู สกั ท ี ทำไมไมก่ ลบั ไปทำงาน เสียดายความรู้ ทำไมลูกตัวเลก็ จงั และคำถามอีกมากมายนบั ไมถ่ ้วน แต่รู้ไหมคะว่า…บาดแผล ความเจ็บปวด และอุปสรรคต่างๆ ทแ่ี มท่ กุ คนต้องเผชิญ หลอ่ หลอมให้พวกเราแข็งแกรง่ ขึ้นเร่อื ยๆ ไมม่ แี มค่ นไหนไมเ่ คยผา่ นความเจบ็ ปวด แตส่ ำหรบั แมท่ กุ คนความ เจ็บปวดน้นั อย่บู นพืน้ ฐานของความรกั ทไ่ี มม่ เี งอื่ นไข มนั จึงเปน็ ความเจบ็ ปวดทีแ่ สนงดงาม เชน่ นแ้ี ลว้ ...บาดแผลและรอ่ งรอยแหง่ ความเจบ็ ปวดทแี่ มต่ อ้ ง เผชิญ จงึ เสมอื นเหรียญกล้าหาญทีม่ อบแดแ่ มผ่ ู้เขม้ แข็งทกุ คน 12 บนั ทึกคณุ แมน่ กั อา่ นนิทาน

เลย้ี งลูกหนง่ึ คนตอ้ งมีเงินเทา่ ไร ตอนกลับบ้านท่ีกรุงเทพฯ โบนัดเจอเพ่ือนสมัยเรียน พร้อมหอบห้ิวสองลิงไปด้วย เพื่อนเห็นก็มะรุมมะตุ้มกันใหญ่ ดว้ ยความเหอ่ หลาน เพราะเพอื่ นคนอืน่ ๆ ยงั ไม่มใี ครยอมมีลกู มเี พอ่ื นคนหนึ่งถามด้วยความเป็นห่วงและสงสยั วา่ ธิดา พานชิ 13

เล้ียงลูกหน่ึงคนตอ้ งมีเงนิ เท่าไร เธอเลา่ วา่ เหน็ เพอ่ื นๆ ทท่ี ำงานทมี่ ลี กู แลว้ คยุ กนั ตง้ั แตล่ กู อยใู่ นทอ้ ง ว่า ต้องไปจองโรงเรียนน้ันโรงเรียนน้ี ต้องจ่ายค่าแป๊ะเจี๊ยะต่างๆ นานา ค่าคลอดท่ีกรุงเทพฯ ก็ไม่ใช่ถูกๆ หลักหมื่นหลักแสน ไหนจะค่าใช้จ่าย จปิ าถะในการดแู ลลกู แพมเพิรส์ เส้อื ผ้า นม ของใชเ้ ด็ก ฯลฯ อีกล่ะ โชคดที แ่ี มโ้ บจะเปน็ คนกรงุ เทพฯ แตแ่ ตง่ งานยา้ ยไปอยตู่ า่ งจงั หวดั คำถามทว่ี า่ เลย้ี งลกู หนง่ึ คนตอ้ งเตรยี มเงนิ ไวเ้ ทา่ ไรจงึ ไมใ่ ชป่ ญั หา แตส่ ำหรบั พ่อแม่มือใหมย่ ่งิ ถ้าอยใู่ นเมอื งใหญแ่ ล้วด้วย แทบทกุ คนกงั วลเร่ืองนมี้ าก แม่จำนวนไม่น้อยพอคลอดลูกแล้วก็รีบกลับไปทำงานหาเงินมาเล้ียงลูก พอ่ หลายคนทำงานหนกั ทำงานนอกเวลาเพอ่ื ใหม้ เี งนิ มาเลย้ี งลกู พอ่ แมจ่ งึ ต้องส่งลูกเข้าเนิร์สเซอรีตั้งแต่เล็กๆ หรือจ้างพ่ีเล้ียงดูแล และซื้ออุปกรณ์ อำนวยความสะดวกใหล้ กู ทกุ อย่าง ของเลน่ แท็บเลต็ มอื ถือ เพอ่ื ใหม้ าอยู่ เปน็ เพอื่ นลกู ในเวลาทพ่ี อ่ แมไ่ มส่ ะดวก พอ่ แมต่ า่ งทำงานหนกั ทกุ อยา่ งไม่ เก่ียง เพ่อื ให้มเี งนิ มาเลยี้ งลกู แต่...ลืมนึกไปว่านั่นใชส่ ่งิ ทลี่ กู ต้องการรเึ ปลา่ ช่วงแรกเกิดถึง ๓ ปี เป็นช่วงที่สำคัญมากของชีวิตน้อยๆ เพราะสมองจะพัฒนาอย่างรวดเร็ว รวมถึงลักษณะนิสัยของเด็กก็ จะได้รับการวางรากฐานในวัยนี้ ช่วงปฐมวัยจึงเป็นวัยของหน้าต่างแห่ง โอกาสที่เด็กจะได้พัฒนาศักยภาพท้ังด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และจิตใจอย่างเต็มที่ หากเลยช่วงเวลานี้ไปแล้วก็ไม่สามารถย้อนเวลา 14 บนั ทกึ คณุ แมน่ ักอ่านนทิ าน

กลับไปไดอ้ ีก เหมอื นทน่ี พ.ประเสริฐ ผลติ ผลการพิมพ์ เนน้ ย้ำเสมอวา่ การเลีย้ งลกู ก็เหมอื นกบั การสรา้ งพรี ะมดิ ท่ตี ้องสร้างทีละขน้ั เมือ่ ขน้ั ที่ ๑ คอื ฐานรากแขง็ แรงแล้ว ขั้นท่ี ๒ ๓ ๔ ๕ กจ็ ะแขง็ แรงตามลำดบั แต่หาก ข้ันแรกไม่มั่นคงแข็งแรงเสียแล้ว ขั้นอ่ืนๆ ก็อาจพังครืนลงมาได้ง่ายๆ การเลี้ยงลูกจึงไม่ใช่ของยาก ถ้าทำดีๆ แต่แรก อะไรๆ ก็จะดีตามมา (อา้ งองิ จากหนงั สือเลีย้ งลูกให้ได้ดี ๑-๑๐๐ ฉบับสมบรู ณ์) ส่ิงที่เด็กวัยน้ีต้องการจึงไม่ใช่เงินทอง วัตถุ หรือส่ิงต่างๆ ที่เงิน ซ้อื ได้ แต่คือความรักความอบอุ่น การสัมผัสใกล้ชิดที่มาจาก “เวลา” ทพ่ี อ่ แม่มอบให้ต่างหาก โบจงึ คิดวา่ คำถามอีกคำถามหนึ่งท่สี ำคัญไม่แพ้คำถาม “เล้ียงลูกหนึ่งคนต้องมเี งนิ เทา่ ไร” ก็คือ... เลยี้ งลกู หนงึ่ คนควรมเี วลาให้ลกู เทา่ ไร สำหรับลูกวัยแรกเกิดถึง ๓ ปี ถ้าเป็นไปได้แม่ควรมีเวลาให้ลูก เต็มที่ เท่าที่จะมากได้ แม่บางคนถึงขนาดยอมลาออกจากงานมาเล้ียง ลูก เพราะรู้ดีว่าแม้จะสูญเสียรายได้ แต่ส่ิงท่ีได้กลับมาคุ้มค่ามหาศาล เพราะเราจะเล้ียงลูกในแบบทเ่ี ราตอ้ งการได้ สร้างลักษณะนสิ ยั ท่ดี ใี หเ้ ขา ได้ตั้งแต่แรกเริ่มของชีวิต มอบความรักความอบอุ่นให้เขาได้อย่างเต็ม ท่ี ไม่พลาดทุกย่างก้าวแห่งพัฒนาการของลูก มีเวลาทำกิจกรรมสนุกๆ ธิดา พานชิ 15

กบั ลกู ลูกจะร่าเรงิ มีความสขุ และอบอ่นุ ทางใจเมอื่ ได้อย่ใู กลๆ้ แม่ แถม ยังมเี วลาอ่านหนงั สอื กับลกู ไดอ้ ย่างเตม็ ที่ดว้ ย อีกทางเลือกสำหรับแม่ที่อยากทำงานแต่ก็อยากเล้ียงลูกไป ด้วย ก็คือการทำงานท่ีบ้าน โชคดีที่เดี๋ยวน้ีมีอินเทอร์เน็ตที่อยู่ท่ีไหน ก็ทำงานได้ ลองหางานที่ทำทางอินเทอร์เน็ตหรือทำอยู่ท่ีบ้านได้ ก็จะ ทำให้แม่สามารถเล้ียงลูกเองได้ แถมยังมีรายได้อีก โบเองก็เข้าข่ายน้ี คอื ทำงานแปลอยูท่ ่ีบ้าน แต่หากพ่อแม่คนไหนจำเป็นต้องทำงานนอกบ้านจริงๆ แนะนำ ว่าอย่าทำงานหักโหมจนเกินไปเพื่อเงิน เพราะสิ่งท่ีสำคัญกว่าเงิน ก็คือลูก ควรหาช่วงเวลาประจำวันที่จะทำกิจกรรมสนุกๆ กับลูก และทำอย่างสม่ำเสมออย่าได้ขาด เช่น อ่านนิทานให้ลูกฟังก่อนนอน ทุกคนื เทา่ น้ี เวลาท่แี ม้จะไมม่ ากกส็ ามารถกลายเป็นช่วงเวลาแสนมี ความสุขที่ลกู นอ้ ยตงั้ หน้าตงั้ ตาคอยเชยี วค่ะ ท่ีมา : หนังสือ เล้ียงลูกให้ได้ดี ๑-๑๐๐ ฉบับสมบูรณ์ / เขียน : นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพมิ พ์ / สำนกั พมิ พ์ : คดิ ส์ แมท็ เทอร์ 16 บนั ทึกคุณแม่นกั อ่านนิทาน

ปญั หาของลกู …แก้ได้ทพ่ี ่อแม่ มีเพื่อนโบมาปรึกษาเร่ืองพฤติกรรมแก้ไม่ตกของลูก เพอื่ นคนหนงึ่ บอกวา่ ลกู ชายไมย่ อมกนิ ขา้ วเชา้ กอ่ นไปโรงเรยี น แม้เขาจะดูร่าเริง ฉลาด แต่เห็นได้ชัดว่าตัวเล็กและผอมมาก ถ้าเทียบกับเด็กวัยเดียวกัน เธอบอกว่าจนปัญญาแล้ว ทำยงั ไงลกู ก็ไม่ยอมกนิ ขา้ วเชา้ นมกไ็ มย่ อมด่ืม ธดิ า พานิช 17

โบเลยถามเพื่อนกลับไปว่า...แล้วพ่อแม่เองกินข้าวเช้ารึเปล่า เธอส่ายหน้า บอกว่าที่บ้านไม่กินข้าวเช้ากันท้ังพ่อและแม่ กินแต่กาแฟ แก้วเดียว โบย้มิ แลว้ บอกเพอ่ื นว่า อยากใหล้ กู ทำอะไร ก็ต้องเรม่ิ ตน้ ทำใหล้ กู เหน็ เป็นตวั อยา่ งก่อน แรกๆ เขาอาจจะปฏิเสธไม่ยอมทำ แต่เชื่อเถอะว่าสักวันเด็กจะ ซึมซับส่ิงน้ัน และเลียนแบบพ่อแม่ในที่สุด โดยเราไม่ต้องร้องขอหรือ ออ้ นวอนใดๆ เลย แหม...ถ้าตอนเช้าๆ เห็นพ่อแม่กินของอร่อยๆ เด็กคนไหนจะ อดใจไหวละ่ คะ เพื่อนอีกคนก็บ่นว่าลูกติดแท็บเล็ต ติดมือถือมาก ทำไงดี รบ กันแทบบ้านแตกเวลาจะให้เธอเลิกเล่น โบเลยถามกลับเช่นกันว่า แล้วพ่อแม่ใช้แท็บเล็ต ใช้มือถือบ่อยไหม แล้วก็ขอถามตรงๆ ว่า แล้วพ่อแม่เองติดมอื ถอื หรอื อุปกรณส์ ื่อสารพวกนี้รึเปล่า เธอก็ยอมรับว่า ติดมาก ใช้ตลอดเวลา เพราะท้ังทำงาน ท้ังคุย จปิ าถะกับเพ่อื นฝูง ทงั้ เพ่ือความบันเทงิ ถ้าไม่มมี อื ถอื ตดิ ตัวเหมือนอะไร ในชวี ติ ขาดหาย ถา้ อยู่ห่างกันสกั ชว่ั โมงกเ็ ร่ิมกระวนกระวายแลว้ ว่ามอื ถอื อยู่ไหน เมอ่ื พูดถงึ ตรงน้ีเธอกค็ ิดได้ว่า 18 บนั ทกึ คณุ แมน่ ักอา่ นนทิ าน

เพราะเธอนนั่ เองทท่ี ำให้ลูกติดมือถือ!! โบเลยแนะนำวา่ หากอยากให้ลูกตดิ มือถือนอ้ ยลงคงต้องเริม่ ท่พี ่อ แม่ก่อน ให้พ่อแม่กำหนดเวลาให้ชัดเจนว่าจะใช้อุปกรณ์ส่ือสารเหล่าน้ี เวลาใด และถ้าเป็นไปได้พยายามอย่าใช้ต่อหน้าลูก แล้วทีนี้จะให้ลูกใช้ มอื ถอื นอ้ ยลงก็จะไมใ่ ช่เรื่องยากอีกแลว้ คะ่ อยา่ ลมื วา่ ปญั หาหลายอยา่ งของลกู แกไ้ ดไ้ มเ่ กนิ ความสามารถ ขอแค่พ่อแมเ่ ป็นผู้เร่มิ ต้น ธดิ า พานชิ 19

เล้ียงลกู ห้ามขี้เกยี จ ตอนยงั ไมม่ ลี กู ถา้ เหนอื่ ยมากๆ เรากอ็ าจจะขเ้ี กยี จบา้ ง แต่พอเป็นแม่ ต้องเล้ียงเด็กตัวเล็กๆ สักคนสองคน จะขอ ขีเ้ กียจบา้ ง แทบเป็นไปไมไ่ ดเ้ ลยค่ะ 20 บนั ทกึ คณุ แมน่ กั อ่านนทิ าน

-๑- หลายวันก่อนโบพาลูกๆ ไปทะเลไม่ไกลจากบ้านนัก โบกับสามี ตกลงกนั ว่า เราจะไม่ใหล้ ูกเลน่ ทรายหรือลงทะเล สาเหตกุ เ็ พราะ ขีเ้ กียจล้างตวั ใหล้ กู ข้เี กียจเลอะ ขีเ้ กยี จวนุ่ วาย ยอมรบั ว่า เปน็ ความคดิ ทแ่ี สนจะขเี้ กยี จจรงิ ๆ เอาเข้าจริงพอไปถึงทะเล เป็นไปไม่ได้เลยท่ีเม่ือได้เห็นทะเล วาวา จะไม่ขอเล่นทราย ไม่ขอลงเล่นน้ำทะเล โบเห็นสายตาเว้าวอนของวาวา ก็อดใจอ่อนไม่ได้ เลยอนุญาตให้ลูกเล่นทราย แล้วไหนๆ เลอะแล้ว ก็ต่อด้วยลงไป เล่นทะเลซะเลย แน่นอนว่าวาวามีความสุขมาก ดวงตาเป็นประกาย เธอว่งิ ไปวิง่ มาหนีคลน่ื ไมห่ ยุด มือตีนำ้ สนุกสุดๆ เหตุการณ์นี้ทำให้โบคิดได้ว่า ถ้าเรามัวแต่ข้ีเกียจให้ลูกเลอะ ขี้เกยี จอาบนำ้ ให้ลกู ลูกก็คงไมไ่ ดส้ นกุ แบบนีแ้ น่ ถงึ ในเส้อื ผ้า ในรองเทา้ ในรถ ในบ้านจะเต็มไปด้วยทราย แตเ่ ศษ ทรายเหลา่ นี้ก็มอบความสุขให้ลกู แบบทีห่ าซือ้ ทไี่ หนไมไ่ ด้ การเล่นทราย อันท่ีจริงแล้วมีประโยชน์มากมายมหาศาลกับเด็กเล็กๆ นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ อธิบายว่า การเล่นกองทรายกับน้ำเป็นการเล่น ที่มีเสรภี าพท่ีสดุ ในโลก หากคณุ พอ่ คณุ แม่ปล่อยเขาเล่นอยา่ งอิสระ (Free Play) โดยไม่ไปช่วยหรือออกความคิดเห็น ปล่อยเขาเลอะเทอะเปรอะเป้ือนตามสบาย ความเปน็ อสิ ระและวสั ดทุ ไี่ มม่ ขี อบเขตเชน่ ทรายและนำ้ จะชว่ ยใหเ้ ขาเกดิ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ซง่ึ จะทำใหเ้ ซลลป์ ระสาทในสมองยดื แขนงประสาทออกไปเชอื่ มตอ่ กบั เซลลป์ ระสาทตวั อนื่ ๆ เกดิ เปน็ เครอื ขา่ ยใยประสาทนบั ลา้ นๆ ตวั นบั เปน็ วธิ กี ระตนุ้ และเตรียมความพร้อมสมองของลูกเล็กทด่ี ที สี่ ดุ ในโลก และราคาถูกท่ีสดุ ท่ีมา : หนังสือเลีย้ งลูกใหไ้ ดด้ ี ๑-๑๐๐ ฉบบั สมบูรณ์ ธดิ า พานชิ 21

-๒- วันก่อนมีเพื่อนมาเล่าเร่ืองครอบครัวข้างบ้านให้ฟัง ครอบครัวนี้ พอ่ แมท่ ำงานนอกบา้ น ยายรบั หนา้ ทเ่ี ลยี้ งหลาน หลานวยั ๒ ขวบพดู ไดแ้ ค่ คำสองคำ มีนิสยั กา้ วร้าวเอาแต่ใจ เพื่อนเล่าวา่ แปลกใจมากวา่ ทำไมเด็ก ไมพ่ ูด กค็ ุณยายทเ่ี ลย้ี งพูดเกง่ มาก พดู จนลงิ หลบั เลยก็วา่ ได้ เพอ่ื นถามมาถามไป คณุ ยายยอมรบั เองวา่ อายเุ ยอะแลว้ บอ่ ยครง้ั ก็ขี้เกียจเลี้ยงหลาน เลยให้ผู้ช่วยเล้ียงเป็นทีวีบ้าง โทรศัพท์มือถือบ้าง แทบ็ เล็ตบ้าง แหม...กม็ ันไม่ตอ้ งเหนอ่ื ย วิ่งไลจ่ ับกันทัง้ วนั ฟังดูเหมือนสบาย แต่...เด๋ียวระยะยาวจะต้องลำบากแน่ๆ เพราะ ต้องมาแก้อาการพูดช้า เผลอๆ อาจจะสมาธิสั้น หรือเป็นออทิสติกเทียม เลยก็ได้ ในประเทศอเมริกามีงานวิจัยพบว่าเด็กที่ดูทีวีตั้งแต่อายุ ๑-๓ ปี จะมีปัญหาดา้ นสมาธิเม่ืออายุ ๗ ป ี การเลยี้ งเดก็ สกั คนอาจจะตอ้ งเหนอื่ ยหนอ่ ย ถา้ เราสลดั ความขเี้ กยี จ ไปได้ รับรองว่าเป็นการเหน่อื ยทคี่ มุ้ แสนคมุ้ คะ่ ออทิสติกเทียม เป็นพฤติกรรมคล้ายออทิสติก เป็นภาวะที่เด็กขาด “การกระตุน้ ” ในการสอ่ื สารสองทาง จึงสง่ ผลใหเ้ กดิ ความผดิ ปกตทิ างการส่อื สาร กับผู้อื่น เนื่องจากพ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูขาดการมีปฏิสัมพันธ์กับลูก แต่ให้ลูกเล่น อุปกรณ์สื่อสารอย่างแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน ซ่ึงเป็นการส่ือสารแบบรับสาร เพียงทางเดียว จึงส่งผลให้เด็กเกิดความผิดปกติด้านพัฒนาการทางสังคม สำหรับเด็กท่ีเป็นออทิสติกเทียม หากได้รับ “การกระตุ้น” ที่เหมาะสมถูกทางใน ระยะเวลาส้ันๆ กจ็ ะสามารถกลับมาเป็นเดก็ ปกตไิ ด้ ทม่ี า : www.bangkokhospital.com/index.php/th/diseases-treatment/does- your-child-risk-behaving-like-autism 22 บนั ทกึ คุณแมน่ กั อา่ นนทิ าน

ทวี ีไม่ใช่เครอื่ งเลีย้ งลูกอัตโนมัติ วนั กอ่ นมีโอกาสเจอเด็กวัย ๓ ขวบคนหนง่ึ พัฒนาการ ด้านร่างกายปกติดี แต่น้องพูดช้า และไม่ค่อยยอมพูด แต่ฟังเข้าใจ พอถามไถ่ท่ีมาท่ีไป น้าของน้องบอกว่า แม่ของน้องต้องไปทำงาน ทิ้งเธอไว้ให้ตากับยายเล้ียง และเปิดทีวใี หด้ ทู ุกวนั ครงั้ ละนานๆ โบเองรขู้ ้อเสียของการให้ เดก็ ดูทีวีมาไมน่ อ้ ย แตเ่ พ่ิงไดส้ มั ผสั กับตัวเองกค็ รงั้ นี้ ธิดา พานชิ 23

คงไม่มีใครอยากให้ลูกมีพัฒนาการช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องการพูด ซ่ึงเป็นพัฒนาการด้านภาษาที่เช่ือมโยงกับพัฒนาการ ทางสมองโดยตรง มีรายงานการศึกษาทางชีววิทยาเกี่ยวกับสมองบอกว่า ๗๐- ๘๐ เปอร์เซ็นต์ของสมองมนุษย์จะเติบโตเต็มที่ภายในอายุ ๓ ปี ในช่วงเวลาน้ีเองเด็กๆ จะได้เรียนรู้ส่ิงต่างๆ จากพ่อแม่ ผู้ซ่ึงจะวาง รากฐานพัฒนาการทุกด้านไม่ว่าจะเป็น ด้านสมอง สังคม อารมณ์ จิตใจ ฯลฯ ให้แกล่ ูก การเลยี้ งดูเด็กในวัยนี้จึงเปน็ เร่ืองทีส่ ำคัญมาก จากกรณนี ้โี บเลยขอแบง่ ปนั ขอ้ คดิ เหน็ ดังน้ี ๑. ถ้าเป็นไปได้อยากให้คุณแม่เล้ียงลูกเอง เพราะคุณ แม่จะสามารถวางรากฐานชีวิตท่ีแข็งแรงมั่นคงให้ลูกด้วยสองมือ ของตัวเอง แม้จะเหน่ือยหน่อย แต่ขอให้อดทนค่ะ ช่วง ๒-๓ ปี ก่อนลูกเข้าโรงเรียนน้ี เป็นช่วงสำคัญที่สุดในการพัฒนาสมอง ของลูก ถ้าคณุ แม่เลยี้ งเองอย่างตงั้ ใจมอบสง่ิ ที่ดีท่ีสดุ ใหแ้ ก่เขาแล้ว เขายอ่ มเตบิ โตอยา่ งฉลาด แขง็ แรง มคี วามสขุ ขอบอกวา่ ผลลพั ธท์ ไ่ี ด้ มนั คมุ้ คา่ มากจรงิ ๆ คะ่ แตถ่ า้ จำเปน็ ตอ้ งกลบั ไปทำงาน อยา่ งนอ้ ยก็ อยากให้มีโอกาสลาเลย้ี งลกู ให้นานทสี่ ดุ เทา่ ท่ีเป็นไปได้ ๒. เล้ียงลูกด้วยทีวีไม่เหมือนกับแม่เลี้ยงลูก เพราะทีวี โต้ตอบกับลูกไม่ได้ การที่ทีวีหรือหน้าจอทำให้เด็กน่ิงได้ ไม่ใช่ 24 บันทึกคุณแม่นกั อา่ นนทิ าน

เพราะเด็กมีสมาธิ แต่เพราะมันสะกดเด็กๆ ด้วยแสง สี เสียง และ ภาพเคลื่อนไหว โบเองตั้งใจยกทีวีออกจากห้องนอนเลยต้ังแต่ คลอดลูก และถ้าเป็นไปได้ก่อนลูกอายุ ๒ ขวบ พยายามไม่ให้ลูกดูทีวี ตามคำแนะนำของแพทย์ แต่พอลูกเร่ิมโต เราเลี่ยงไม่ได้ท่ีจะให้ลูกดูทีวี โบก็จะมีกฎกตกิ าการดูทวี ีดังน้ี -ให้ดูเฉพาะการ์ตูนความรู้ รายการสำหรับเด็ก หรือสารคดีความรู้ เกยี่ วกับธรรมชาติ ไมใ่ ห้ดูละครหลงั ขา่ ว -ตกลงกันก่อนดูว่าดูได้นานแค่ไหน กี่ตอน และต้องทำตามข้อ กำหนดอยา่ งเคร่งครดั ไม่ใจออ่ น -ถ้าว่างจากงานบ้านก็น่ังดูทีวีไปพร้อมลูก ชี้ชวนลูกคุย อธิบาย เพิม่ เติม ๓. งานวจิ ยั พบวา่ ปดิ ทวี แี ลว้ ลกู จะเรยี นรภู้ าษาไดเ้ รว็ ขน้ึ วารสาร วชิ าการ Child Development ไดเ้ ผยวา่ การทบ่ี า้ นเตม็ ไปดว้ ยเสยี งรบกวน ของทวี ี วทิ ยุ หรอื ผคู้ นทพ่ี ดู คยุ กนั จะสง่ ผลกระทบตอ่ เดก็ เลก็ ๆ ในการเรยี น รู้ภาษา ทำให้พวกเขาเรียนรู้ภาษาได้ยากขึ้น งานวิจัยน้ีแนะนำให้ผู้ใหญ่ ควบคุมปริมาณเสียงในส่ิงแวดล้อมของเด็กๆ โดยเฉพาะขณะท่ีพวกเขา กำลังพดู คยุ กบั เดก็ ๆ อยู่ ฉะน้นั บ้านไหนท่เี ปิดทีวี หรือวทิ ยุไว้ตลอดเวลา ท้ังวัน แนะนำให้เปล่ียนเป็นเปิดเฉพาะช่วงเวลาท่ีต้องการจะดูหรือฟัง จรงิ ๆ จะดีกวา่ นะคะ (อา้ งองิ จาก Noisy Homes Can Slow a Toddler’s Vocabulary) ธิดา พานชิ 25

๔. การเลี้ยงลูกในความเงียบจะทำให้เด็กเกิดสมาธิ อาจารย์ ทาดาชิ มัตษุอิ ปรมาจารย์ด้านหนังสือภาพสำหรับเด็กพูดถึงเร่ืองนี้ ได้น่าสนใจมากว่า การเล้ียงดูเด็กไม่ควรอยู่ในที่เสียงดังหนวกหูมีแต่ ความวุ่นวาย เช่น ในบ้านท่ีมีเสียงวิทยุโทรทัศน์ดังล่ันทั้งวัน เพราะทำให้ เด็กขาดสมาธิ... หากยอ้ นกลบั ไปดปู ระวตั ศิ าสตรจ์ ะพบวา่ อารยธรรมและความคดิ ของมนุษยชาติเกิดจากความเงียบและความว่าง ความเงียบจึงจำเป็น สำหรับชีวิตเด็ก ดังนั้นแทนที่จะยัดเยียดความรู้ให้ลูก คิดหาทาง ทำให้เด็กสมองว่างน่าจะดีกว่า ด้วยการปล่อยให้เด็กเล่นจนเพลิน หรือ ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างเงียบสงบ ความเงียบทำให้คำพูดที่พ่อแม่ สื่อสารมีพลัง และทำให้เด็กเกิดสมาธิด้วย (อ้างอิงจากหนังสือ พัฒนาลูกนอ้ ยด้วยการอ่าน) ๕. พลังมหาศาลที่ได้จากการอ่านหนังสือภาพให้ลูกฟัง การอ่านหนังสือภาพให้ลูกฟังก่อนนอน เป็นการสร้างความสุขให้ลูกใน ช่วงเวลาที่เด็กมีสมาธิดี พลังของหนังสือภาพจึงมีมหาศาล แม้ว่าในช่วง แรกๆคอื กอ่ นอายุ๓ขวบเปน็ กจิ กรรมทค่ี ณุ พอ่ คณุ แมต่ อ้ งอยกู่ บั เขาตลอด เป็นการสอื่ สารสองทางท่ีต้องโตต้ อบกับลูก ปล่อยเขาทิง้ ไว้คนเดียวไม่ได้ ไมเ่ หมอื นการใหด้ ทู วี ซี ง่ึ เปน็ การสอื่ สารทางเดยี ว เราปลอ่ ยเดก็ ๆ ไวห้ นา้ จอ แล้วพอ่ แมก่ ไ็ ปทำธุระอน่ื ได้ 26 บนั ทกึ คุณแมน่ กั อ่านนทิ าน

ถงึ แมก้ ารอา่ นหนงั สอื กบั ลกู พอ่ แมต่ อ้ งอยกู่ บั ลกู ตลอด แตเ่ ชอื่ เถอะ คะ่ วา่ มนั คมุ้ คา่ กบั การลงทนุ มาก เพราะไมเ่ พยี งแตจ่ ะสรา้ งความสมั พนั ธ์ ท่ีดีในครอบครัวแล้ว ยังช่วยพัฒนาทักษะการพูด การคิด ซึ่งเป็นการ พฒั นาสมองโดยตรง แถมยังบม่ เพาะนิสัยการใฝร่ ู้ใหล้ กู ด้วย และไม่นานจากน้ัน...เม่ือเขาเร่ิมโตพอที่จะอยู่คนเดียว เล่น คนเดยี วได้ แมย้ งั ไมต่ อ้ งอา่ นหนงั สอื ออกดว้ ยซำ้ หนงั สอื แคเ่ พยี งเลม่ เดยี ว ก็สามารถสะกดลูกให้ต้องมนตร์ได้ทีเดียวคะ่ แต่สำหรับคุณพ่อคุณแม่บ้านไหนที่ลูกพัฒนาการช้าเพราะทีวีหรือ แท็บเล็ต ก็อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ ขอให้รีบลุกขึ้นมาเปล่ียนแปลงกิจวัตร ของลกู หันมาปดิ ทวี ี แล้วเปิดหนังสอื ไหวตัวให้ทนั ก็ยังไมส่ ายนะคะ วา่ แตว่ ันนี้คุณพ่อคุณแม่อา่ นหนงั สอื ใหล้ ูกฟงั รึยังคะ ท่มี า : Noisy Homes Can Slow a Toddler’s Vocabulary http://www.webmd.com/parenting/news/20160721/noisy-homes-can-slow-a- toddlers-vocabulary หนงั สอื พฒั นาลกู นอ้ ยดว้ ยการอา่ น/เขยี น:ทาดาชิมตั ษอุ ิ/แปลและเรยี บเรยี ง: พรอนงค์ นยิ มค้า / จดั พิมพ์ : มลู นิธิ SCG ธิดา พานิช 27

คำชมแบบไหนทพ่ี ่อแม่อยากได้ “ลกู หน้าตาน่ารักจงั ลกู ยิม้ เกง่ จงั ” ถ้าพ่อแม่คนไหนได้ยินคนอ่ืนชมลูกเราแบบนี้คงย้ิม หนา้ บาน 28 บนั ทกึ คณุ แม่นกั อา่ นนทิ าน

แต่...ถ้าคนอ่ืนท่ีพบเห็นลูกเราไม่ได้ชมลูกด้วยประโยคเหล่าน้ีล่ะ คำชมแบบไหนท่ีพ่อแมจ่ ะเปน็ ปลื้ม ลมื ไม่ลง โบเคยฟังสัมภาษณ์คุณกบ สุวนันท์ ปุณณกันต์ ในรายการทีวี รายการหนึ่งเม่ือหลายปีก่อน ถึงการเล้ียงลูกสาวคนโต น้องณดา คุณกบเป็นแม่ที่เคร่งครัด เฮ้ียบ เน้ียบ เจ้าระเบียบไม่น้อย เธอบอกว่า เวลาคนมาชมน้องณดาว่า “หน้าตานา่ รัก” เธอรูส้ กึ เฉยๆ แตเ่ ม่ือไรมคี นชมวา่ ลูกของเธอ “พูดเพราะจงั มารยาทดจี งั เลย” เธอจะปลื้มอกปล้ืมใจเป็นทีส่ ดุ เธอบอกก็เธอปั้นมากับมือ ปลูกฝงั นิสัยน่ารกั แบบน้ีมาด้วยสองมอื แม่ จะไมใ่ ห้ภูมิใจได้อย่างไร โบเองกเ็ ชน่ กนั เวลาใครชมวา่ หนวู าวามารยาทดีพดู จาไพเราะมอื ไม้ อ่อน มีสัมมาคารวะ น่ีหัวใจคนเปน็ แม่มันพองโต ก็สอนเอง ปน้ั มากับมือ โบให้ความสำคัญแก่การสอนลูกให้มีมารยาท สุภาพอ่อนน้อม มีสัมมาคารวะ และรู้จักกาลเทศะ การอยู่ในสังคมน้ัน เรื่องเหล่านี้เป็น เรอ่ื งสำคัญมาก เพราะนั่นหมายถงึ เราใหเ้ กียรติผอู้ น่ื ทอ่ี ยู่รอบข้างเรา เรา จึงปฏิบัติต่อเขาด้วยความสุภาพ นอกจากนี้มารยาทท่ีดีงามยังเป็นเสน่ห์ ท่ีจะติดตวั ลูกไปในอนาคต จะทำใหล้ ูกเป็นทร่ี ักของผู้อืน่ เพ่อื นเหน็ เพอื่ น ก็รกั ผใู้ หญ่เหน็ กเ็ อน็ ดู ธดิ า พานิช 29

ว่าแต่เหมือนโบได้ยินวาวาร่ำๆ ว่าจะไปประกวดนางสาวไทย เพราะมีคนชมว่ามารยาทดีต้องไปประกวดนางสาวไทย เธอเลยจำฝังใจ แต่แหม...สงสัยต้องส่งไปลองประกวดเวทลี งิ ก่อนน่าจะมลี ุ้น 30 บันทกึ คณุ แมน่ กั อา่ นนทิ าน

อุม้ ลูกใหต้ ิดมือ แล้วแม่จะตดิ ใจ คุณแม่ทำงานคนหน่ึงบ่นเศร้าๆ ให้ฟังว่าลูกไม่ติด แม่เลย ย่ิงไปสัมมนาต่างจังหวัดหน่ึงสัปดาห์ พอกลับมา ลูก แทบจะลืมหน้าแม่ ทีแ่ ย่ไปกวา่ นนั้ กค็ อื ลกู ไม่ยอมให้อุ้ม ปกติ ธดิ า พานชิ 31

ก็แทบไม่ค่อยไดอ้ มุ้ บอ่ ยอยูแ่ ล้ว คร้งั น้ถี งึ ขั้นอ้มุ แลว้ ลกู รอ้ ง ต้องให้คนอืน่ อ้มุ แทน ทำให้คุณแม่คนนัน้ แทบสญู เสียความมน่ั ใจในการเปน็ แมไ่ ปเลย โบราณมักบอกกนั ว่า “อยา่ อุ้มลกู บอ่ ยๆ เด๋ียวจะติดมือ” แต่ความ เป็นจริงแล้ว ในทางจิตวิทยา นิสัยอุ้มติดมือนั้น ควรทำเป็นอย่างยิ่ง (อ้างอิงจากหนังสือ รอให้ถึงอนุบาลก็สายเสียแล้ว) เพราะการโอบอุ้ม สัมผัสร่างกายของลูก เป็นการส่งผ่านความรักความอบอุ่น ทำให้ลูก รู้สึกปลอดภัย ไว้วางใจว่ามีแม่อยู่ใกล้ เม่ือหิวก็มีนม เมื่อง่วงก็มี คน กล่อม ไม่สบายใจร้องไห้ก็มีอ้อมกอด เป็นการสร้างความมั่นคงทาง อารมณ์และจิตใจให้ลูก ซึ่งความไว้วางใจ (Trust) นี้เป็นการเตรียมลูก ให้พร้อมเผชญิ โลกตอ่ ไปในอนาคตดว้ ยคะ่ นอกจากน้ี รไู้ หมคะวา่ ถงึ เดก็ ทารก (๒-๓ เดือน) อวยั วะรบั ความ รู้สึกยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ แม้ยังจำหน้าหรือจำเสียงแม่ไม่ได้ แต่ ผิวกายของเขาจะไวต่อการสัมผัสมาก เขาจะรับรู้สัมผัสของแม่ได้ เพราะเป็นสัมผัสท่ีคุ้นเคย เขาจะรู้ว่าอุ้มท่านี้ น้ำหนักมือประมาณน้ี คือแม่ไม่ใช่ใครอื่น เม่ือแม่อุ้ม เขาจะรู้สึกอบอุ่น สบาย มีความสุข (อ้างองิ จากหนงั สือ EQ ลกู เร่มิ ท่ีรกั จากพ่อแม)่ โบเองเห็นชัดเจนมากตอนเลี้ยงลูกคนเล็ก ทุกคร้ังท่ีเขาเริ่มเบื่อ หงดุ หงดิ งอแง เขาจะไมเ่ อาใครเลย ไมว่ า่ ใครกต็ ามถา้ มาอมุ้ เขาจะรอ้ งไห้ เสียงดังลั่น แต่เม่ือกลับสู่อ้อมอกแม่ เขาเงียบกริบทันใด ยิ้มแย้ม หวั เราะอยา่ งรา่ เรงิ ราวกบั วา่ จำแมไ่ ด้ เหน็ ไดช้ ดั วา่ เขาจำสมั ผสั รกั ของแม่ ไดก้ อ่ นทจี่ ะจำหนา้ แม่ได้ด้วยซำ้ 32 บันทึกคณุ แมน่ ักอ่านนิทาน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook