Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ฤดูหนาว อ.2

ฤดูหนาว อ.2

Published by Panadda Pandungkaew, 2021-05-27 04:21:36

Description: ฤดูหนาว อ.2

Search

Read the Text Version

การวิเคราะหโ์ ครงสร้างหน่วยการจัดประสบการณ์ตามหลกั สูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศกั ราช 2560 หนว่ ยท่ี 32 ฤดหู นาว ชั้นอนบุ าลปีที่ 1 - 3 ภาคเรียนท่ี 2 รายการ อนบุ าลปีที่ 1 อนุบาลปีท่ี 2 อนบุ าลปีที่ 3 สาระที่ควรเรยี นรู้ 1. ฤดกู าลตา่ ง ๆ ในประเทศไทย 3 ฤดู 1. ฤดูกาล 3 ฤดู ฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว 1. ฤดกู าล 3 ฤดู ฤดรู ้อน ฤดูฝน ฤดหู นาว ฤดรู ้อน ฤดฝู น ฤดูหนาว ลักษณะท่วั ไปของฤดูหนาว ช่วงเดอื นท่ีเกดิ ฤดกู าลต่าง ๆ ในรอบปี การเกดิ 2. สภาพอากาศในฤดูหนาว การป้องกนั 2. สภาพอากาศในฤดูหนาว ลมหนาว การเกิด ฤดูกาล อากาศหนาวเย็น ลม 2. สภาพอากาศในต่าง ๆ และปรากฏการณ์ท่ี ๓. สภาพภมู ิอากาศในฤดูหนาวแห้ง ลมแรง ๓. อากาศร้อน อากาศเย็น การเคลอื่ นตัวของ เกิดข้นึ ในฤดหู นาว การทดลอง ไฟฟา้ สถติ อากาศ ๓. แรงลมและการเคล่อื นที่ของลม กระแสลม ๔. การดแู ลสขุ ภาพรา่ งกายในฤดหู นาว ๔. การรกั ษาสุขภาพของตนเองในฤดหู นาว ๔. การรกั ษาสขุ ภาพของตนเองในฤดูหนาว ๕. ความแตกต่างของฤดูหนาวในแตล่ ะภมู ิภาค ๕. การเปลีย่ นแปลงของสภาพแวดลอ้ มในฤดู วธิ ีการทาให้ร่างกายอบอุ่นในฤดหู นาว ของประเทศไทย หนาว พืช ผกั ผลไม้ในฤดูหนาว ๕. สภาพแวดลอ้ มรอบตวั ในภูมิภาคต่าง ๆของ ประเทศเรา และของโลก มาตรฐาน มาตรฐานท่ี 1 ตบช 1.3 (1.3.1) มาตรฐานที่ 1 ตบช 1.3 (1.3.1) มาตรฐานท่ี 1 ตบช 1.3 (1.3.1) ตวั บง่ ชี้ มาตรฐานท่ี 2 ตบช 2.1 (2.1.3) มาตรฐานท่ี 2 ตบช 2.1 (2.1.3) มาตรฐานที่ 2 ตบช 2.1 (2.1.2) สภาพท่ีพึงประสงค์ มาตรฐานท่ี 3 ตบช 3.2 (3.2.1) มาตรฐานท่ี 4 ตบช 4.1 (4.1.1) (4.1.3) ตบช 2.2 (2.2.1) ตบช 2.2 (2.2.3) มาตรฐานท่ี 5 ตบช 5.4 (5.4.1) มาตรฐานที่ 3 ตบช 3.2 (3.2.1) มาตรฐานท่ี 3 ตบช 3.2 (3.2.1) (3.2.2) มาตรฐานท่ี 6 ตบช 6.2 (6.2.1) มาตรฐานท่ี 4 ตบช 4.1 (4.1.1) (4.1.3) มาตรฐานท่ี 4 ตบช 4.1 (4.1.1) (4.1.3) มาตรฐานที่ 7 ตบช 7.1 (7.1.1) (7.1.2) มาตรฐานท่ี 5 ตบช 5.4 (5.4.1) มาตรฐานที่ 5 ตบช 5.4 (5.4.1) มาตรฐานท่ี 8 ตบช 7.1 (8.3.1) (8.3.2) มาตรฐานท่ี 6 ตบช 6.2 (6.2.1) มาตรฐานท่ี 6 ตบช 6.2 (6.2.1) มาตรฐานที่ 7 ตบช 7.1 (7.1.1) มาตรฐานท่ี 7 ตบช 7.1 (7.1.1) มาตรฐานที่ 8 ตบช 7.1 (8.3.1) (8.3.2) มาตรฐานท่ี 8 ตบช 7.1 (8.3.1) (8.3.2)

มาตรฐานท่ี 9 ตบช 9.1 (9.1.1) มาตรฐานที่ 9 ตบช 9.1 (9.1.1) มาตรฐานท่ี 9 ตบช 9.1 (9.1.1) มาตรฐานที่ 10 ตบช 10.1 (10.1.2) ตบช 9.2 (9.2.2) ตบช 9.2 (9.2.2) ตบช 10.2 (10.2.2) มาตรฐานท่ี10 ตบช 10.1 (10.1.2) มาตรฐานที่10 ตบช 10.1(10.1.2) (10.1.3) มาตรฐานท่ี 11 ตบช 11.1 (11.1.2) (10.1.4) (10.1.4) ตบช 11.2 (11.2.1) ตบช 10.2 (10.2.2) ตบช 10.2 (10.2.2) มาตรฐานที่ 12 ตบช 12.1 (12.1.2) มาตรฐานท่ี 11 ตบช 11.1 (11.1.2) มาตรฐานท่ี 11 ตบช 11.1 (11.1.2) ตบช 11.2 (11.2.1) ตบช 11.2 (11.2.1) มาตรฐานที่ 12 ตบช 12.1 (12.1.2) มาตรฐานที่ 12 ตบช 12.1 (12.1.2) ประสบการณส์ าคญั ดา้ นรา่ งกาย ด้านร่างกาย ด้านร่างกาย 1.1.1 การใช้กลา้ มเนื้อใหญ่ 1.1.1 การใชก้ ลา้ มเนอ้ื ใหญ่ 1.1.1 การใชก้ ลา้ มเนอ้ื ใหญ่ (2) การเคลื่อนไหวเคลื่อนท่ี (1) การเคลื่อนไหวอยกู่ บั ท่ี (1) การเคลื่อนไหวอยกู่ บั ท่ี (5) การเลน่ เคร่ืองเล่นสนามอย่างอิสระ (2) การเคล่ือนไหวเคลื่อนที่ (2) การเคล่ือนไหวเคล่ือนที่ 1.1.2 การใชก้ ล้ามเนือ้ เลก็ (5) การเล่นเครื่องเล่นสนามอยา่ งอิสระ (5) การเล่นเครื่องเลน่ สนามอย่างอสิ ระ (1) การเล่นเคร่ืองเล่นสัมผสั และการสร้างสง่ิ 1.1.2 การใช้กลา้ มเน้อื เลก็ 1.1.2 การใชก้ ล้ามเนือ้ เลก็ ตา่ ง ๆ จากแท่งไม้ บล็อก (1) การเลน่ เครื่องเล่นสัมผัสและการสร้างส่งิ (1) การเล่นเคร่ืองเลน่ สัมผัสและการสรา้ งส่งิ (2) การเขยี นภาพและการเล่นกับสี ต่าง ๆ จากแท่งไม้ บล็อก ตา่ ง ๆ จากแท่งไม้ บล็อก (3) การปน้ั (2) การเขียนภาพและการเล่นกบั สี (2) การเขียนภาพและการเล่นกับสี (3) การป้ัน (3) การป้นั 1.1.5 การตระหนกั รเู้ กีย่ วกับร่างกายตนเอง (4) การประดษิ ฐส์ ่ิงตา่ ง ๆด้วยเศษวสั ดุ (4) การประดิษฐ์สง่ิ ต่าง ๆดว้ ยเศษวสั ดุ (2) การเคลื่อนไหวโดยควบคุมตนเองไปใน (5) การหยบิ จับ การใชก้ รรไกร การฉกี การตัด 1.1.4 การรกั ษาความปลอดภัย ทศิ ทาง ระดบั และพ้ืนท่ี การปะ และการร้อยวัตถุ (1) การปฏิบตั ิตนให้ปลอดภยั ในกิจวตั ร 1.1.4 การรักษาความปลอดภยั ประจาวนั (1) การปฏิบตั ิตนใหป้ ลอดภัยในกิจวตั ร (4) การเลน่ บทบาทสมมตุ ิเหตุการณต์ า่ ง ๆ ประจาวนั

1.1.5 การตระหนักรเู้ กีย่ วกับรา่ งกายตนเอง 1.1.5 การตระหนักรเู้ ก่ยี วกับร่างกายตนเอง (2) การเคล่ือนไหวโดยควบคุมตนเองไปใน (2) การเคลื่อนไหวโดยควบคุมตนเองไปใน ทิศทาง ระดับ และพนื้ ท่ี ทิศทาง ระดับ และพื้นที่ ด้านอารมณ์ จติ ใจ ดา้ นอารมณ์ จิตใจ ดา้ นอารมณ์ จติ ใจ 1.2.1 สนุ ทรีภาพ ดนตรี 1.2.1 สุนทรีภาพ ดนตรี 1.2.1 สุนทรภี าพ ดนตรี (1) การฟังเพลง การรอ้ งเพลง และการแสดง (1) การฟังเพลง การร้องเพลง และการแสดง (1) การฟังเพลง การรอ้ งเพลง และการแสดง ปฏกิ ริ ิยาโต้ตอบเสยี งดนตรี ปฏกิ ิรยิ าโต้ตอบเสียงดนตรี ปฏิกริ ยิ าโตต้ อบเสยี งดนตรี (3) การเคลื่อนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี (3) การเคล่ือนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี (3) การเคลื่อนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี (5) การทากจิ กรรมศลิ ปะต่าง ๆ (5) การทากจิ กรรมศลิ ปะต่าง ๆ (4) การเลน่ บทบาทสมมตุ ิ 1.2.2 การเลน่ 1.2.2 การเลน่ (5) การทากจิ กรรมศิลปะต่าง ๆ (1)การเลน่ อสิ ระ (1)การเล่นอสิ ระ 1.2.2 การเล่น (2) การเลน่ รายบุคคล กลุ่มย่อย และกลุ่มใหญ่ (2) การเล่นรายบคุ คล กลุ่มย่อย และกลุ่มใหญ่ (2) การเล่นรายบุคคล กลุ่มย่อย และกลุ่มใหญ่ (3) การเล่นตามมุมประสบการณ์/มุมเล่นต่าง ๆ (3) การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์/มุมเลน่ ตา่ ง ๆ (3) การเลน่ ตามมุมประสบการณ์/มมุ เล่นต่าง ๆ (4) การเลน่ นอกหอ้ งเรียน (4) การเล่นนอกห้องเรยี น (4) การเลน่ นอกหอ้ งเรียน 1.2.4 การแสดงออกทางอารมณ์ 1.2.4 การแสดงออกทางอารมณ์ 1.2.4 การแสดงออกทางอารมณ์ (3) การเคล่ือนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี (3) การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี (1) การพูดสะท้อนความรู้สึกของตนเองและ (4) การรอ้ งเพลง (4) การร้องเพลง ผู้อ่นื (3) การเคล่ือนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี ด้านสังคม ดา้ นสงั คม ด้านสงั คม 1.3.4 การมีปฏสิ ัมพนั ธ์ มีวินยั มสี ่วนร่วมและ 1.3.2 การดูแลรกั ษาธรรมชาตแิ ละ 1.3.2 การดแู ลรกั ษาธรรมชาตแิ ละ บทบาทสมาชกิ ของสังคม สงิ่ แวดล้อม ส่งิ แวดล้อม (1) การให้ความรว่ มมือในการปฏิบัติกิจกรรม (2) การใช้วัสดแุ ละส่งิ ของเครื่องใชอ้ ย่างคุ้มคา่ (3) การทางานศลิ ปะทีน่ าวสั ดุหรือสิง่ ของ ตา่ ง ๆ เครือ่ งใช้ที่ใชแ้ ล้ว มาใช้ซ้าหรือแปรรูปแลว้ นา กลับมาใชใ้ หม่

1.3.5 การเลน่ และทางานแบบร่วมมือร่วมใจ 1.3.4 การมีปฏิสัมพนั ธ์ มีวินยั มสี ่วนรว่ ม 1.3.4 การมปี ฏิสัมพันธ์ มีวินยั มีส่วนร่วม (๒) การเล่นและการทางานรว่ มกบั ผอู้ ื่น และบทบาทสมาชิกของสังคม และบทบาทสมาชิกของสงั คม (1) การให้ความรว่ มมือในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม (1) การใหค้ วามร่วมมือในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ต่าง ๆ ต่าง ๆ 1.3.5 การเลน่ และทางานแบบรว่ มมือร่วมใจ 1.3.5 การเลน่ และทางานแบบร่วมมือร่วมใจ (1) การร่วมสนทนาและแลกเปลย่ี น (1) การร่วมสนทนาแลกเปลีย่ นความคิดเหน็ ความคดิ เห็น (๒) การเลน่ และการทางานร่วมกบั ผอู้ น่ื (๒) การเล่นและการทางานรว่ มกับผ้อู ่ืน ดา้ นสตปิ ัญญา ด้านสติปัญญา ดา้ นสติปญั ญา 1.4.1 การใช้ภาษา 1.4.1 การใชภ้ าษา 1.4.1 การใช้ภาษา (1) การฟังเสียงตา่ ง ๆในสง่ิ แวดลอ้ ม (1) การฟังเสียงตา่ ง ๆในสง่ิ แวดลอ้ ม (1) การฟังเสยี งต่าง ๆในสิง่ แวดลอ้ ม (2) การฟังและปฏิบัตติ ามตาแนะนา (2) การฟังและปฏิบัตติ ามตาแนะนา (2) การฟังและปฏบิ ตั ิตามตาแนะนา (3) การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง บทรอ้ ย (3) การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง บทร้อย (3) การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง บทร้อย กรองหรือเรื่องราวต่างๆ กรองหรือเรื่องราวต่างๆ กรองหรือเรือ่ งราวต่างๆ (4) การพูดแสดงความคิดเหน็ ความรสู้ กึ และ (4) การพูดแสดงความคิดเหน็ ความรู้สึก และ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคิดเชงิ เหตุผล การ ความต้องการ ความต้องการ ตัดสินใจและแก้ปัญหา (15) การสังเกตตวั อักษรในช่ือของตนหรอื คา (5) การพูดกับผู้อืน่ เกย่ี วกบั ประสบการณ์ของ (3) การบอกและแสดงตาแหนง่ ทิศทาง และ คนุ้ เคย ตนเองหรอื พดู เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเอง ระยะทางของสิง่ ต่างๆ ดว้ ยการกระทา ภาพวาด 1.4.2 การคิดรวบยอด การคิดเชิงเหตผุ ล 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคิดเชงิ เหตุผล ภาพถ่าย และรปู ภาพ การตัดสนิ ใจและแกป้ ญั หา การตัดสินใจและแกป้ ัญหา (8) การนับและแสดงจานวนของสงิ่ ตา่ ง ๆใน (3) การบอกและแสดงตาแหนง่ ทศิ ทาง และ (3) การบอกและแสดงตาแหนง่ ทศิ ทาง และ ชีวิตประจาวนั ระยะทางของสงิ่ ตา่ งๆ ดว้ ยการกระทา ระยะทางของสง่ิ ตา่ งๆ ดว้ ยการกระทา (17) การคาดเดาหรอื การคาดคะเนสง่ิ ทอ่ี าจจะ ภาพวาด ภาพถา่ ย และรปู ภาพ (5)การคัดแยก ภาพวาด ภาพถา่ ย และรูปภาพ เกดิ ขึน้ อยา่ งมีเหตผุ ล การจัดกลมุ่ และการจาแนกสิ่งต่าง ๆตาม (5) การคดั แยก การจัดกลุ่ม และการจาแนกส่งิ

1.4.3 จินตนาการและความคิดสรา้ งสรรค์ ลักษณะและรูปรา่ ง รูปทรง ตา่ ง ๆตามลักษณะและรปู ร่าง รูปทรง (2) การแสดงความคดิ สร้างสรรคผ์ า่ น (8) การนบั และแสดงจานวนของส่งิ ตา่ ง ๆใน (8) การนับและแสดงจานวนของสิ่งต่าง ๆใน สอื่ วัสดตุ า่ งๆผา่ นภาษาท่าทางการเคลื่อนไหว ชีวติ ประจาวนั ชีวิตประจาวัน และศลิ ปะ (14) การบอกและเรียงลาดับ กจิ กรรมหรือ (14) การบอกและเรยี งลาดับ กจิ กรรมหรือ 1.4.4 เจตคติทด่ี ตี ่อการเรียนรูแ้ ละการ เหตกุ ารณ์ตามช่วงเวลา เหตกุ ารณต์ ามชว่ งเวลา แสวงหาความรู้ (16) การอธิบายเชื่อมโยงสาเหตแุ ละผลที่ (16) การอธิบายเช่ือมโยงสาเหตแุ ละผลท่ี (1) การสารวจสง่ิ ต่างๆ และแหล่งเรยี นรู้รอบตวั เกดิ ข้นึ ในเหตุการณ์หรือการกระทา เกิดขึน้ ในเหตุการณ์หรือการกระทา (17) การคาดเดาหรือการคาดคะเนสงิ่ ทอ่ี าจจะ (17) การคาดเดาหรือการคาดคะเนสง่ิ ท่อี าจจะ เกิดขึ้นอยา่ งมีเหตุผล เกดิ ขน้ึ อย่างมีเหตผุ ล 1.4.3 จนิ ตนาการและความคิดสรา้ งสรรค์ (18) การมีสว่ นรว่ มในการลงความเห็นจาก (1) การรบั รู้และแสดงความคิด ความรู้สกึ ผา่ น ขอ้ มูลอย่างมเี หตผุ ล สื่อ วสั ดุ ของเลน่ และช้นิ งาน 1.4.3 จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ (2) การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผา่ น (1) การรบั รู้และแสดงความคิด ความรสู้ กึ ผ่าน สื่อวัสดตุ า่ งๆผา่ นภาษาท่าทางการเคลื่อนไหว สือ่ วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน และศลิ ปะ (2) การแสดงความคดิ สรา้ งสรรค์ผ่าน 1.4.4 เจตคตทิ ่ดี ีต่อการเรียนรู้และการ สื่อวสั ดตุ ่างๆผ่านภาษาท่าทางการเคลอื่ นไหว แสวงหาความรู้ และศิลปะ (1) การสารวจสิ่งตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้ 1.4.4 เจตคติทด่ี ีตอ่ การเรยี นรแู้ ละการ รอบตวั แสวงหาความรู้ (3) การสบื เสาะหาความรเู้ พ่ือค้นหาคาตอบ (1) การสารวจส่ิงตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้ รอบตัว ของขอ้ สงสัยต่าง ๆ (3) การสบื เสาะหาความร้เู พ่ือค้นหาคาตอบ ของขอ้ สงสยั ต่าง ๆ

คณติ ศาสตร์  นบั และแสดงจานวน 5  นับและแสดงจานวน 10  นบั และแสดงจานวน 16 วิทยาศาสตร์  เปรยี บเทยี บจานวนของส่งิ ต่างๆ สองกลุ่ม  เปรียบเทยี บจานวนของส่งิ ตา่ งๆ สองกลมุ่  เปรยี บเทยี บจานวนของสง่ิ ต่างๆ สองกลมุ่ โดยแต่ละกลมุ่ มจี านวนไมเ่ กิน 5 ว่ามจี านวน โดยแตล่ ะกล่มุ มจี านวนไม่เกนิ 10 วา่ มี โดยแต่ละกลุ่มมจี านวนไมเ่ กิน 16 วา่ มี เทา่ กนั หรือไมเ่ ท่ากนั จานวนเทา่ กนั หรือไม่เท่ากัน จานวนเท่ากันหรอื ไม่เท่ากนั  บอกจานวนท้ังหมดท่ีเกดิ จากการรวมสง่ิ  บอกจานวนท้งั หมดท่ีเกดิ จากการรวมสง่ิ  ยอกจานวนท้ังหมดทเี่ กิดจากการรวมส่ิง ตา่ งๆ สองกลมุ่ ท่มี ผี ลรวมไม่เกิน 5 ต่างๆ สองกลมุ่ ทมี่ ผี ลรวมไม่เกนิ 10 ตา่ งๆ สองกลุ่มท่ีมผี ลรวมไมเ่ กิน 16  เรยี งลาดับทข่ี องสิง่ ต่างๆ จานวนไมเ่ กิน 3  เรียงลาดบั ที่ของส่งิ ต่างๆ จานวนไม่เกิน 5  เรียงลาดบั ทข่ี องส่งิ ตา่ งๆ จานวนไมเ่ กนิ 7  เรียงลาดับเหตุการณ์ในชวี ิตประจาวนั จาแนก  เรียงลาดบั เหตกุ ารณห์ รือกจิ กรรมใน  เรยี งลาดบั เหตุการณห์ รือกิจกรรมใน เหตกุ ารณท์ เี่ กิดในเวลากลางวันและกลางคนื ชีวติ ประจาวนั จาแนกเหตุการณ์ตาม ชีวิตประจาวนั จาแนกเหตุการณ์ลาดบั เวลา ชว่ งเวลา เช้า สาย เทีย่ ง บ่าย เย็น เมือ่ วานน้ี วันนี้ พร่งุ นี้ 1. การสงั เกตลักษณะ การเปลย่ี นแปลงและ 1. การสงั เกตลักษณะสว่ นประกอบ 1. การสงั เกตลักษณะส่วนประกอบ ความสัมพนั ธข์ องส่ิงต่างๆ โดยใช้ประสาทสมั ผัส การเปลี่ยนแปลงและความสัมพนั ธ์ของสงิ่ ตา่ งๆ การเปล่ียนแปลงและความสัมพนั ธข์ องสง่ิ ตา่ งๆ 2. การคาดคะเนสิ่งที่อาจจะเกิดขน้ึ จากทดลอง โดยใช้ประสาทสมั ผสั โดยใชป้ ระสาทสัมผัส 2. การคาดเดาหรือคาดคะเนส่ิงที่อาจจะเกดิ ข้ึน 2. การเปรยี บเทียบความแตกต่างอากาศร้อน ไฟฟ้าสถติ และมีส่วนรว่ มในการลงความเหน็ จากข้อมลู อากาศเย็น จากการทดลองการเคล่ือนตวั ของอากาศ 3. การคาดคะเนสง่ิ ที่อาจจะเกดิ ขน้ึ และมีส่วน 3. การเปรียบเทียบความแตกต่างของความ ร่วมในการลงความเหน็ จากข้อมูลอย่างมีเหตุผล ร้อน ความเยน็ ขณะทาการทดลอง 4. การทดลองการสร้างกระแสลม

พฒั นาการทางภาษา 1. การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง 1. การฟังเพลง นทิ าน คาคล้องจอง 1. การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง 2. การพูด อธิบายเกี่ยวกับสงิ่ ของ เหตกุ ารณ์ 2. การพูด อธบิ ายเก่ียวกบั ส่งิ ของ เหตกุ ารณ์ 2. การเห็นแบบอย่างของการเขียนท่ถี ูกตอ้ ง และการรหู้ นงั สอื และความสัมพันธ์ของสิง่ ตา่ ง ๆ และความสัมพนั ธข์ องสิ่งตา่ ง ๆ

แนวคิด หน่วยการจัดประสบการณท์ ี่ 32 ฤดหู นาว ชั้นอนุบาลปีท่ี 2 ประเทศไทยมีฤดูกาล 3 ฤดู คือฤดรู อ้ น ฤดฝู น ฤดหู นาว จะเกิดขน้ึ ในชว่ งเดอื นต่าง ๆ ในรอบปี ในแตล่ ะฤดูอุณหภูมิของอากาศจะไม่เทา่ กนั อากาศร้อนและ อากาศเย็นอนภุ าคของอากาศจะเคลื่อนตัวแตกตา่ งกัน ในฤดหู นาวอณุ หภูมิจะลดลง มผี ลให้สภาพแวดล้อมรอบตัวเราเกิดการเปลี่ยนแปลง พชื ผกั บางชนดิ เติบโตได้ดี เราควรปอ้ งกันไม่ใหร้ ่างกายหนาวเย็นมากเกินไปเราจาเปน็ ต้องรักษาสุขภาพของตนเองในฤดูหนาวการ มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตวั บ่งช้ี สภาพทพี่ งึ ประสงค์ สาระท่ีควรเรียนรู้ มาตรฐานที่ 1 1.3 รกั ษาความ 1.3.1 เลน่ และทา 1. เลน่ และทากจิ กรรม 1.1.5 การตระหนักรู้เกีย่ วกับ 1. ฤดูกาล 3 ฤดู ฤดรู อ้ น ฤดูฝน รา่ งกาย ปลอดภัยของ กิจกรรมอยา่ งปลอดภัย ไดด้ ้วยตนเองอย่าง ร่างกายตนเอง ฤดูหนาว ลกั ษณะทวั่ ไปของฤดหู นาว เจรญิ เติบโตตามวัย ตนเองและผอู้ น่ื ดว้ ยตนเอง ปลอดภัย (2) การเคล่ือนไหวโดยควบคุมตนเอง 2. สภาพอากาศในฤดูหนาว ลมหนาว และมีสุขนิสัยท่ีดี ไปในทิศทาง ระดับ และพื้นที่ การเกิดลม ๓. อากาศร้อน อากาศเย็น การเคลอ่ื นตวั มาตรฐานที่ 2 2.1 เคลอ่ื นไหว 2.1.3 วิ่งหลบหลีกส่ิง 2. ว่งิ หลบหลกี ส่งิ 1.1.1 การใชก้ ลา้ มเนอ้ื ใหญ่ ของอากาศ กลา้ มเน้อื ใหญแ่ ละ รา่ งกายอย่าง กดี ขวางได้ กดี ขวางได้ (2) การเคล่ือนไหวเคล่ือนที่ ๔. การรกั ษาสขุ ภาพของตนเองใน กล้ามเน้ือเล็ก คลอ่ งแคลว่ (5) การเลน่ เคร่ืองเลน่ สนามอย่าง ฤดหู นาวการเกิดลม แข็งแรง ใช้ได้อยา่ ง ประสานสมั พันธ์ อิสระ ๕. การเปล่ยี นแปลงของสภาพแวดล้อมใน คล่องแคลว่ และ และทรงตัวได้ 1.1.2 การใชก้ ล้ามเนื้อเล็ก ฤดหู นาว พชื ผกั ผลไมใ้ นฤดูหนาว ประสานสัมพันธ์ (1) การเลน่ เคร่ืองเลน่ สัมผัสและการ กัน สรา้ งสงิ่ ต่าง ๆจากแท่งไมบ้ ล็อก (2) การเขยี นภาพและการเล่นกบั สี (3) การปัน้

มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพท่พี ึงประสงค์ สาระท่คี วรเรยี นรู้ มาตรฐานท่ี 3 3.2 มีความรสู้ ึกทีด่ ี 3.2.1 กล้าพูดกล้า 3. ร่วมสนทนา และพูด 1.3.5 การเลน่ และทางานแบบ มีสุขภาพจติ ดแี ละ ตอ่ ตนเองและผู้อ่ืน แสดงออกอย่าง แสดงความคิดเหน็ ได้ ร่วมมือร่วมใจ มีความสขุ เหมาะสมบาง เหมาะสมกบั สถานการณ์ (1) การร่วมสนทนาและแลกเปลี่ยน สถานการณ์ ความคิดเหน็ 3.2.2 แสดงความ 4. เลา่ เร่ืองเกีย่ วกับ 1.4.1 การใชภ้ าษา พอใจในผลงานและ ผลงานของตนเองได้ (4) การพูดแสดงความคิด ความรูส้ ึก ความสามารถของ และความต้องการ ตนเอง มาตรฐานที่ 4 4.1 สนใจมี 4.1.1 สนใจมีความสุข 5. สร้างสรรคง์ านศิลปะ 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ ชน่ื ชมและ ความสุขและ และแสดงออกผ่านงาน ไดอ้ ย่างมคี วามสุข สรา้ งสรรค์ แสดงออกทาง แสดงออกผา่ นงาน ศลิ ปะ (1) การรับรแู้ ละแสดงความคิด ศลิ ปะ ดนตรี และ ศลิ ปะ ดนตรี และ 4.1.3 สนใจ มี 6. แสดงท่าทาง ความรู้สกึ ผา่ นสือ่ วสั ดุ ของเล่น และ การเคลื่อนไหว การเคล่ือนไหว ความสขุ และแสดง เคลอ่ื นไหวประกอบ ชิน้ งาน ทา่ ทาง/เคลอ่ื นไหว เพลง จงั หวะและดนตรี (2) การแสดงความคิดสร้างสรรค์ ประกอบเพลง จงั หวะ ได้ ผา่ น และดนตรี สื่อวสั ดตุ ่างๆผา่ นภาษาท่าทาง การเคลือ่ นไหวและศิลปะ 1.2.1 สนุ ทรีภาพ ดนตรี (5) การทากิจกรรมศิลปะต่าง ๆ

มาตรฐาน มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระการเรียนรู้ ตวั บง่ ช้ี สภาพท่ีพึงประสงค์ 7.ทางานที่ไดร้ บั สาระทคี่ วรเรยี นรู้ มอบหมายจนสาเร็จ มาตรฐานท่ี 5 5.4 มีความ 5.4.1 ทางานทไ่ี ด้รับ โดยครูชแ้ี นะได้ 1.2.2 การเลน่ มีคุณธรรม จริยธรรม รับผดิ ชอบ มอบหมายจนสาเร็จ 8.เกบ็ ของเลน่ และของ (1) การเล่นอสิ ระ ใชส้ ว่ นตวั เข้าทไี่ ด้ และมจี ิตใจทีด่ งี าม เมือ่ มีผู้ช้แี นะ (2) การเลน่ รายบุคคล กลุ่มย่อย 9.มีส่วนรว่ มดูแลรกั ษา ธรรมชาติสง่ิ แวดล้อม และกลุ่มใหญ่ เมอื่ มผี ู้ชแี้ นะได้ มาตรฐานที่ 6 6.2 มีวนิ ัยในตวั เอง 6.2.1 เกบ็ ของเลน่ ของ (3) การเลน่ ตามมุม ใชเ้ ขา้ ท่ีดว้ ยตนเอง 10. ปฏบิ ัตติ าม มีทักษะชีวิตและปฏบิ ัติ ขอ้ ตกลงในการทา ประสบการณ/์ มมุ เลน่ ตา่ ง ๆ กจิ กรรมและเล่นกบั ตนตามหลกั ปรัชญา ผ้อู ่นื ได้ (4) การเลน่ นอกหอ้ งเรียน 11. ปฏิบตั ติ นเปน็ ผู้นา ของเศรษฐกิจพอเพยี ง และผตู้ ามได้ 1.2.4 การแสดงออกทาง อารมณ์ มาตรฐานท่ี 7 (3) การเคลื่อนไหวตาม รกั ธรรมชาติ 7.1 ดูแลรกั ษา 7.1.1มสี ่วนร่วมดูแล เสยี งเพลง/ดนตรี รกั ษาธรรมชาตแิ ละ ธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ มเม่ือมีผู้ (4) การรอ้ งเพลง ส่ิงแวดล้อม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม ชี้แนะ และความเปน็ ไทย ด้านสงั คม 1.3.4 การมปี ฏิสัมพันธ์ มีวินยั มาตรฐานที่ 8 มีสว่ นรว่ มและบทบาทสมาชิก 8.3 ปฏบิ ตั ติ นเปน็ 8.3.1 มีสว่ นรว่ มสรา้ ง ของสังคม อยรู่ ่วมกบั ผู้อ่นื ได้อยา่ ง เบ้ืองต้นในการเปน็ ข้อตกลงและปฏบิ ัติ มคี วามสขุ และปฏบิ ัติ สมาชิกท่ดี ขี องสงั คม ตามข้อตกลงเมือ่ มีผู้ (1) การให้ความร่วมมือในการ ชี้แนะ ตนเป็นสมาชกิ ทีด่ ีของ 8.3.2 ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ปฏิบัติกจิ กรรมต่าง ๆ ผนู้ าและผตู้ ามได้ด้วย สงั คมในระบอบ ตัวเอง 1.3.5 การเลน่ และทางานแบบ ประชาธิปไตย ร่วมมอื ร่วมใจ อันมีพระมหากษัตริย์ (๒) การเลน่ และการทางาน ทรงเปน็ ประมขุ รว่ มกบั ผู้อ่ืน

มาตรฐาน มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย สภาพท่พี ึงประสงค์ จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ สาระทีค่ วรเรียนรู้ มาตรฐานท่ี 9 ตวั บ่งช้ี 12. สนทนาโตต้ อบ ประสบการณส์ าคัญ ขณะรว่ มทากิจกรรมได้ ด้านสตปิ ญั ญา ใชภ้ าษาส่อื สารให้ 9.1 สนทนาโต้ตอบ 9.1.1 ฟังผูอ้ ื่นพูดจน 1.4.1 การใช้ภาษา 13. จบั คหู่ รือ (1) การฟังเสียงต่าง ๆในสง่ิ แวดล้อม เหมาะสมกบั วัย เล่าเร่อื งให้ผอู้ ื่นเข้าใจ จบและสนทนาโตต้ อบ เปรียบเทียบสิง่ ต่าง ๆ (2) การฟังและปฏบิ ตั ิตามตาแนะนา ตามลกั ษณะได้ (3) การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง สอดคลอ้ งกับเรื่องท่ีฟัง บทรอ้ ยกรองหรือเร่อื งราวตา่ งๆ 14. ลงความเห็นเพ่ือ 1.4.2 การคิดรวบยอด การคดิ เชงิ มาตรฐานที่ 10 10.1 10.1.2 จับคู่หรือ คาดเดาสงิ่ ท่ีอาจเกดิ ขนึ้ เหตุผล การตดั สินใจและแก้ปัญหา ในการทดลองได้ (3) การบอกและแสดงตาแหนง่ มีความสามารถใน มคี วามสามารถในการ เปรยี บเทยี บส่ิงตา่ ง ๆ ทศิ ทาง และระยะทางของสิ่งต่างๆ ดว้ ยการกระทา ภาพวาด ภาพถา่ ย การคดิ ท่ีเป็นพน้ื ฐานใน คดิ รวบยอด โดยใชล้ ักษณะหรือ และรูปภาพ (8) การนับและแสดงจานวนของสิง่ การเรียนรู้ หน้าท่ีการใช้งานเพยี ง ตา่ ง ๆ ในชีวิตประจาวัน (17) การคาดเดาหรือการคาดคะเน อย่างเดยี ว สิง่ ท่ีอาจจะเกดิ ขึ้นอยา่ งมเี หตุผล 10.2 10.2.2 คาดเดาหรือ มีความสามารถในการ คาดคะเนสง่ิ ที่อาจจะ คิดเชิงเหตุผล เกดิ ข้ึนหรือมสี ว่ นร่วม ในการลงความเหน็ จาก ขอ้ มูล

มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตวั บ่งช้ี สภาพท่ีพึงประสงค์ 15. สรา้ งผลงานทาง ประสบการณส์ าคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ศลิ ปะตามความคิด มาตรฐานท่ี 11 11.1 ทางานศิลปะ 11.1.1 สร้างผลงาน สรา้ งสรรค์ได้ 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ มจี นิ ตนาการและ ตามจนิ ตนาการและ ศิลปะเพือ่ ส่ือสาร 16. แสดงท่าทางตาม สรา้ งสรรค์ ความคดิ และจินตนาการ ความคดิ ความคิดสรา้ งสรรค์ ความคดิ ความรูส้ ึก ได้ (2) การแสดงความคิดสรา้ งสรรค์ สรา้ งสรรค์ 11.2 แสดงท่าทาง/ ของตนเอง โดยมีการ 17. มีความ ผา่ น กระตือรอื ร้นในการรว่ ม เคลอื่ นไหวตาม ดดั แปลงและแปลก กจิ กรรม สอ่ื วัสดุตา่ งๆผ่านภาษาทา่ ทางการ จินตนาการอยา่ ง ใหม่จากเดิมหรอื มี เคลือ่ นไหวและศิลปะ สร้างสรรค์ รายละเอยี ดเพมิ่ ขึน้ 11.2.1 เคลอ่ื นไหว ท่าทางเพื่อสื่อสาร ความคิด ความรสู้ ึก ของตนเองอย่าง หลากหลายหรือแปลก ใหม่ มาตรฐานที่12 12.1 มเี จตคติทดี่ ี 12.1.2 กระตอื รือรน้ 1.4.4 เจตคตทิ ด่ี ีตอ่ การเรยี นรูแ้ ละ การแสวงหาความรู้ มีเจตคติท่ีดีตอ่ ต่อการเรียนรู้ ในการร่วมกจิ กรรม (3) การสารวจสิง่ ต่างๆ และแหล่ง เรียนรู้รอบตัว การเรยี นรู้ และมี ความสามารถใน การแสวงหา ความรู้ได้ เหมาะสมกับวัย

ผงั ความคิดแผนการจัดประสบการณ์หน่วยฤดูหนาว ชน้ั อนุบาลปีที่ 2 ๑. กิจกรรมเคล่ือนไหวและจังหวะ ๒. กิจกรรมเสริมประสบการณ์ ๓. กิจกรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์ 1.เคลื่อนไหวตามขอ้ ตกลง 1. ฤดกู าล 3 ฤดู ฤดรู ้อน ฤดูฝน ฤดหู นาว 1. การปะติดภาพด้วยเศษวสั ดุ 2.เคลื่อนไหวรา่ งกายประกอบคาคล้องจอง ลักษณะทว่ั ไปของฤดูหนาว 2. การประดษิ ฐง์ เู ต้นระบา 3.เคล่ือนไหวรา่ งกายปฏบิ ตั ติ นเป็นผนู้ าผู้ตาม 3. การกลิ้งสี 4.การเคล่ือนไหวตามคาบรรยาย 2. สภาพอากาศในฤดหู นาว ลมหนาว การเกดิ ลม 4. การพับกระดาษ 5.การเคลื่อนไหวพรอ้ มอปุ กรณ์ ๓. อากาศร้อน อากาศเย็น การเคลือ่ นตัวของอากาศ 5. การพับสี ๔. การรักษาสุขภาพของตนเองในฤดูหนาว 6. ปั้นดินน้ามัน ๔. กจิ กรรมเล่นตามมุม ๕. การเปล่ยี นแปลงของสภาพแวดลอ้ มในฤดูหนาว พชื ผกั ผลไม้ในฤดหู นาว ๖. กิจกรรมเกมการศึกษา เล่นตามมมุ ประสบการณ์ - มุมหนงั สือ หนว่ ย 1. เกมภาพตัดต่อภาพฤดูหนาว - มุมบล็อก ฤดูหนาว 2. เกมจบั คู่ภาพกับสญั ลักษณ์ 1 - 5 - มมุ บทบาทสมมตุ ิ ช้ันอนบุ าลปีท่ี 2 3. เกมจับคู่ภาพกับเงาเคร่ืองแตง่ กายใน - มุมเคร่อื งเลน่ สมั ผัส ๕. กจิ กรรมกลางแจง้ ฤดหู นาว 4. เกมเรียงลาดบั สิ่งตา่ ง ๆ ตามขนาด 1. เกมว่ิงเก็บของ 5. เกมจบั คูภ่ าพกับโครงรา่ งของใช้ส่วนตัว 2. เล่นเคร่ืองเล่นสนาม 3. การเคล่อื นไหวรา่ งกายตามข้อตกลง (สมมุติตนเองเป็นอากาศร้อน อากาศเย็น) 4. เกมแขง่ ขนั กนั แต่งชดุ กนั หนาว 5. การทาท่าทางกายบริหารอบอุ่นร่างกาย

การวางแผนกจิ กรรมรายหน่วยการจัดประสบการณ์ชน้ั อนบุ าลปที ี่ 2 หน่วยฤดูหนาว วันท่ี เคล่ือนไหวและจังหวะ เสรมิ ประสบการณ์ ศิลปะสรา้ งสรรค์ กจิ กรรม เล่นตามมมุ กลางแจ้ง เกมการศกึ ษา เกมวิง่ เกบ็ ของ เกมภาพตัดต่อภาพฤดู 1 เคล่ือนไหวตามข้อตกลง ฤดูกาล 3 ฤดู ฤดรู ้อน - การปะติดภาพด้วย - เลน่ ตามมมุ ไดแ้ ก่ ฤดฝู น ฤดูหนาว เศษวสั ดุ มุมหนังสอื มุมบล็อก หนาว ลักษณะทั่วไปของฤดู - ปั้นดินนา้ มัน มมุ บทบาทสมมุติ หนาว มมุ เคร่ืองเลน่ สมั ผัส 2 เคล่อื นไหวร่างกาย สภาพอากาศในฤดู - การประดษิ ฐ์งเู ตน้ - เล่นตามมมุ ไดแ้ ก่ เล่นเครื่องเล่นสนาม เกมจับคู่ภาพกบั ประกอบคาคลอ้ งจอง หนาว ลมหนาว ระบา มมุ หนงั สอื มมุ บล็อก สัญลกั ษณ์ 1-5 การเกดิ ลม - ปั้นดินน้ามนั มุมบทบาทสมมุติ 3 เคลือ่ นไหวรา่ งกาย อากาศร้อน อากาศเย็น - การกลงิ้ สี มุมเคร่ืองเล่นสมั ผสั - เลน่ ตามมมุ ไดแ้ ก่ - การเคลอ่ื นไหวรา่ งกาย เกมจับค่ภู าพกบั เงา ปฏิบัตติ นเป็นผนู้ า การเคลอื่ นตัว - ปั้นดินนา้ มัน มมุ หนังสอื มมุ บลอ็ ก ตามข้อตกลง(สมมตุ ิ เครื่องแต่งกายในฤดู ผตู้ าม ของอากาศ มุมบทบาทสมมุติ ตนเองเปน็ อากาศรอ้ น หนาว มุมเครื่องเลน่ สมั ผัส อากาศเยน็ ) 4 การเคล่ือนไหวตามคา -การรกั ษาสุขภาพของ - การพบั กระดาษ - เล่นตามมุม ไดแ้ ก่ เกมแข่งขนั กันแตง่ ชุด เกมเรียงลาดบั สงิ่ ต่าง ๆ บรรยาย คนเองในฤดูหนาว - ปั้นดินน้ามนั มมุ หนงั สือ มุมบลอ็ ก กนั หนาว ตามขนาด -ทดลองการเกดิ ลม มุมบทบาทสมมุติ 5 การเคล่อื นไหวพร้อม การเปลีย่ นแปลงของ - การพับสี มมุ เครื่องเล่นสมั ผสั - เลน่ ตามมุม ได้แก่ การทาทา่ ทางกาย เกมจับคภู่ าพกับ อปุ กรณ์ สภาพแวดล้อมในฤดู - ปั้นดินน้ามัน มุมหนังสอื มมุ บล็อก บริหารอบอ่นุ ร่างกาย โครงร่างของใช้สว่ นตวั หนาว พชื ผัก ผลไม้ใน มุมบทบาทสมมุติ ฤดหู นาว มุมเคร่ืองเลน่ สมั ผัส

แผนการจัดประสบการณ์รายวัน วันท่ี 1 หนว่ ยที่ 32 ฤดหู นาว ชน้ั อนบุ าลปที ่ี 2 จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ เรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ 1. เด็กเคลื่อนไหว มือ แขน ไหล่ เอว โดยไม่ 1. เคร่อื งเคาะจังหวะ สงั เกต กิจกรรม (๓) การเคลื่อนไหว เคลื่อนท่ี เม่ือได้ยนิ สญั ญาณหยุดใหท้ กุ คนหยุด 2. เทปเพลงบรรเลง ความสนใจมคี วามสุข เคล่ือนไหวและ ตามข้อตกลง ทนั ที และแสดงท่าทาง/ จังหวะ 2. ครูสนทนากบั เด็กเกยี่ วกบั ฤดูกาลในประเทศ เคล่อื นไหว สนใจมคี วามสขุ ไทย วา่ มี ๓ ฤดู ได้แก่ ฤดรู ้อน ฤดูฝน ฤดหู นาว และแสดงท่าทาง/ 2. สอบถามเกี่ยวกับฤดูกาลท่ีเดก็ แต่ละคนชอบ เคลอื่ นไหวตาม มากท่ีสดุ แล้วใหเ้ ด็กจบั กลุ่มตามฤดทู ่ชี อบ ขอ้ ตกลงได้ เหมือนกัน โดยแบง่ ออกเปน็ 3 กลมุ่ 3. สรา้ งขอ้ ตกลงร่วมกนั คือ“เด็กแตล่ ะกลุ่มจบั มือ กนั แล้วเคล่ือนท่ีเปน็ วงกลมรอบห้อง กาหนดจดุ ท่ี ครยู ืนเปน็ ประเทศไทย แลว้ ให้กลมุ่ เดก็ แต่ละ ฤดกู าลเคลื่อนที่ผ่านประเทศไทยตามลาดับ ฤดรู อ้ น ฤดูฝน ฤดหู นาว” ๔. ระหว่างเคล่อื นไหวตามข้อตกลงครูบรรยายถึง ฤดูกาลตา่ ง ๆ เคาะจังหวะ หรือเปดิ เพลงประกอบ ๕. สรปุ รว่ มกนั ถึงการหมนุ เวียนฤดกู าลของ ประเทศไทย

จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ สังเกต กิจกรรมเสริม 1. การฟังผู้อน่ื พดู จนจบ ประสบการณ์ (2) การฟังและปฏิบัติ ๑. การส่งเสรมิ ทกั ษะ 1. นารูปภาพฤดูกาลในประเทศไทย ๓ ฤดู ได้แก่ ภาพฤดกู าลตา่ ง ๆ และสนทนาโต้ตอบอยา่ ง 1. ฟังผอู้ นื่ พดู จน ฤดูร้อน ฤดฝู น ฤดูหนาว ให้เด็กดู ร่วมกันบอกช่อื ต่อเนอ่ื งเช่อื มโยงกบั เรือ่ งที่ จบและสนทนา ตามคาแนะนา ภาษาและการคดิ ๒. สนทนารว่ มกนั ถงึ ลักษณะท่ัวไปของฤดูกาล ฟงั โต้ตอบอยา่ ง ตา่ ง ๆ ตอ่ เนอ่ื งเช่ือมโยง (๔) การพูดแสดง 2. ฤดูกาลต่าง ๆ ใน ๓. สนทนาร่วมกนั ถึงฤดูกาลในปัจจุบนั คือ กบั เร่ืองทฟี่ งั ได้ ฤดูหนาว โดยใชค้ าถาม ความคิดเห็น ประเทศไทย - ต่ืนมาเชา้ วันน้ีเดก็ ๆ รสู้ ึกอย่างไรบ้าง - ในฤดหู นาวนีเ้ ด็ก ๆ พบเห็นอะไรบ้างในอากาศ ความรู้สกึ และ ๓. ฤดูหนาว - เด็ก ๆ ชอบ ฤดหู นาวหรือไมเ่ พราะเหตุใด ๔. สรปุ ร่วมกนั เก่ยี วกับฤดูกาลในประเทศไทย ความตอ้ งการ กจิ กรรมศิลปะ (3) การปัน้ 1. เด็กทากจิ กรรมปั้นดินน้ามัน และการตดิ ปะ 1. ภาพฤดูหนาว สังเกต 1. การติดปะภาพด้วยเศษ สร้างสรรค์ (5) การทางานศิลปะ ภาพดว้ ยเศษวัสดุ 2. กาว วสั ดุ 2. ตรวจผลงาน สร้างสรรค์งาน 2. ครนู าภาพฤดูหนาว ทจ่ี ะใหเ้ ดก็ ใชท้ ากิจกรรม 3. กรรไกร ศิลปะด้วยเทคนิค การติดปะภาพด้วยเศษวสั ดุ มาสนทนาภาพ 4. เศษวัสดุ ไดแ้ ก่ สาลี การตดิ ปะภาพด้วย รว่ มกัน กระดาษสี เศษใบไม้ เศษวสั ดุได้อย่าง ๓. ครแู นะนาขนั้ ตอนการติดปะภาพด้วยเศษวัสดุ 5. ดนิ นา้ มัน สวยงามและ เนน้ การตดิ สาลี สร้างสรรค์ ๔. เดก็ ปฏบิ ัติกิจกรรมการติดปะภาพด้วยเศษวัสดุ ๕. เดก็ นาเสนอผลงาน ๖. เกบ็ อปุ กรณ์และทาความสะอาดห้องเรียน

จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทค่ี วรเรียนรู้ สงั เกต การเกบ็ ของเลน่ ของใช้เขา้ กิจกรรมเล่น (3) การใหค้ วาม 1. เด็กเลอื กกิจกรรมเสรีในมุมประสบการณต์ าม - มมุ ประสบการณ์ใน ทอี่ ยา่ งเรียบร้อยดว้ ย ตนเอง ตามมุม ร่วมมอื ในการปฏบิ ตั ิ ความสนใจมุมประสบการณค์ วรมีอย่างนอ้ ย หอ้ งเรียน เก็บของเลน่ ของใช้ กจิ กรรมต่าง ๆ ๔ มมุ เชน่ เข้าท่ีอย่างเรยี บร้อย - มมุ ธรรมชาตศิ ึกษา - มมุ หนงั สือ ด้วยตนเองได้ - มุมบล็อก - มมุ เกมการศึกษา - บทบาทสมมติ - มุมเครอื่ งเลน่ สมั ผัส 2. เม่อื หมดเวลาเด็กเก็บของเขา้ ทีใ่ ห้เรยี บร้อย 3. ครชู มเชยเด็กทีเ่ ก็บของเข้าทไี่ ด้เรยี บร้อยเป็น การปฏิบตั ทิ ่ีดที าให้ของไม่สญู หายปะปนกนั เป็น ผมู้ ีความรบั ผิดชอบ กจิ กรรมกลางแจง้ (3) การเล่นนอก 1.นาเด็กไปทส่ี นาม สรา้ งขอ้ ตกลงเกย่ี วกับการ - สนาม สังเกต เล่น ทากจิ กรรม หอ้ งเรยี น ปฏิบตั ติ นร่วมกัน - อุปกรณเ์ ล่นเกมว่งิ เก็บ การเล่น ทากิจกรรมและ และปฏบิ ัตติ ่อผู้อืน่ 2. เด็กยืนเปน็ วงกลม เด็ก ๆ ขานชอ่ื ฤดู ของ ได้แก่ ตะกร้า ปฏบิ ัติต่อผูอ้ ่ืนอย่าง อย่างปลอดภยั ได้ ตามลาดบั (ฤดูร้อน ฤดฝู น ฤดหู นาว)จนครบ ลูกบอลพลาสติกสี ปลอดภัย ทุกคน เด็กจาช่ือฤดูที่ตนเองขานไว้ แล้วแยก กลุ่มท่ขี านชื่อเหมือนกัน ออกเปน็ 3 กลุ่ม 3. เดก็ เล่นเกมว่ิงเกบ็ ของ โดยครูแนะนากติกา และสาธติ เกม ๔. เดก็ ๆเลน่ เกมรว่ มกนั 5. สรุปกจิ กรรม

จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ เรียนรู้ พฒั นาการ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่ีควรเรียนรู้ กจิ กรรมเกม สังเกต การศึกษา (13) การจับคู่ เกมจับคู่ฤดูกาลกบั 1. นาเกมจบั คฤู่ ดูกาลกับสภาพอากาศ มาใหเ้ ดก็ สังเกต 1. เกมจับคฤู่ ดูกาล การจบั ค่แู ละ 1.จับคู่และ เปรียบเทียบความ เปรยี บเทียบความ การเปรียบเทียบ สภาพอากาศ และสนทนาเกี่ยวกับภาพในเกม แนะนาและสาธิตเกม กบั สภาพอากาศ แตกตา่ งและความ แตกตา่ งและความ เหมอื นของสิง่ ตา่ งๆ เหมือนของส่ิงตา่ งๆ ความเหมอื นความตา่ ง จบั คฤู่ ดูกาลกบั สภาพอากาศ 2. เกมที่เล่นมาแลว้ ได้ 2. ครแู ละเด็กร่วมกนั สรา้ งข้อตกลงเก่ียวกบั ข้นั ตอนและ วธิ ีการเล่นเกมการศกึ ษาโดยแบ่งกลุ่มเด็กกลมุ่ ละ 4-5 คน แตล่ ะกลุ่มรว่ มกันคิดวางแผนเลน่ เกม รจู้ ักแบง่ ปนั รอคอย และช่วยกันเก็บเกมเม่ือเล่นเสร็จ ๓. เดก็ เลน่ เกมชุดใหมแ่ ละเกมทเี่ คยเลน่ มาแล้ว หมุนเวียนกันจนครบทุกเกม ๔. ร่วมกันสนทนาสรปุ เกย่ี วกับเกมเกมจบั คู่ฤดูกาลกับ สภาพอากาศ

แผนการจัดประสบการณ์รายวนั วนั ที่ 2 หนว่ ยที่ 32 ฤดูหนาว ช้นั อนบุ าลปีที่ 2 จุดประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ เรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้ 1. กจิ กรรมพืน้ ฐาน ให้เด็กเคลือ่ นไหวร่างกายไปทั่ว บรเิ วณอยา่ งอสิ ระตามจงั หวะ เมอื่ ไดย้ ินสญั ญาณ กิจกรรมเคล่ือนไหว (1) การฟังเพลง “หยดุ ” ใหห้ ยุดเคลื่อนไหวในทา่ นั้นทนั ที 1. เครือ่ งให้จงั หวะ สังเกต 2. เด็กและครูร่วมกันร้องเพลง ลมเพลมพดั พร้อมท้ัง และจังหวะ การรอ้ งเพลง และการ ทาท่าทางประกอบเพลงอยา่ งอิสระ เมื่อไดย้ ินสัญญาณ 2. เพลง ลมเพลมพดั การแสดงทา่ ทาง / “หยดุ ”ให้หยดุ เคล่ือนไหวในทา่ นน้ั ทนั ทปี ฏบิ ตั ิกจิ กรรม สนใจ มคี วามสขุ และ แสดงปฏิกิรยิ าโต้ตอบ ซา้ อกี ครั้ง เคลอ่ื นไหวประกอบ 3. ปฏบิ ัติตามข้อ 2 ซ้า 2 - 3 คร้งั แสดงทา่ ทาง/ เสียงดนตรี เพลง ลมเพลมพัด เคลอ่ื นไหวประกอบ (3) การเคล่ือนไหวตาม เพลง จงั หวะและ เสียงเพลง/ดนตรี ดนตรไี ด้ กิจกรรมเสริม (2) การฟังและปฏบิ ัติ ๒. สภาพอากาศใน 1. เดก็ และครรู ่วมกนั ร้องเพลง หนาว 1. เพลงหนาว สงั เกต ประสบการณ์ ตามคาแนะนา ฤดูหนาว 1. การฟังผูอ้ น่ื พดู จน 1. ฟงั ผูอ้ นื่ พูดจนจบ (๔) การพูดแสดงความ 2. การทดลองการเกดิ 2. ครนู าสนทนาเกี่ยวกับเน้อื เพลง สอบถามและอธบิ าย 2. อปุ กรณก์ าร จบและสนทนา และสนทนาโต้ตอบ คดิ เห็นความรู้สึกและ ลม โต้ตอบอยา่ งตอ่ เนื่อง อยา่ งต่อเน่ือง ความตอ้ งการ ร่วมกนั เกย่ี วกบั สภาพภูมิอากาศและปรากฏการณ์ใน ทดลองการเกดิ ลม เช่อื มโยงกับเร่ืองที่ฟงั เชื่อมโยงกบั เร่ืองท่ี 2. การลงมือทา ฟังได้ ฤดหู นาวโดยใชภ้ าพประกอบ กระดาษแข็ง การทดลองเพื่อหา 2. ทาการทดลอง คาตอบ เพอื่ หาคาตอบการ 3. ครูและเดก็ สนทนาร่วมกันเกี่ยวกับการเกิดลม และ 3. พดั ลม เกิดข้ึนของลม ทดลองโบกมอื หรือกระดาษเพื่อใหเ้ ดก็ ไดส้ ัมผัสแรง อากาศ ซึ่งเรียกวา่ แรงลม 4. เปดิ พัดลมในระดับความแรงทตี่ ่างกัน ให้ทราบวา่ ความแรงของลมขึน้ อยู่กบั การเคลื่อนท่ีของอากาศที่ ต่าง ๆ 5. สรุปรว่ มกันเก่ียวกบั การเกิดแรงลม

จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ เรียนรู้ พัฒนาการ ประสบการณ์สาคญั สาระทค่ี วรเรียนรู้ กิจกรรมศลิ ปะ สรา้ งสรรค์ (3) การปน้ั การปฏิบัติกจิ กรรม 1. ครนู าผลงานงเู ตน้ ระบามาแสดงให้เดก็ ดู 1. ดินนา้ มนั สังเกต การประดิษฐ์ (5) การทางานศิลปะ - ปั้นดินน้ามัน งูเต้นระบาได้ (6) การสร้างสรรค์ - การประดิษฐง์ เู ตน้ ระบา 2. แบ่งกล่มุ เดก็ สร้างข้อตกลงในการทากจิ กรรมรว่ มกัน 2. อปุ กรณ์ การทางานศิลปะ อยา่ งสวยงามและ สงิ่ สวยงาม สรา้ งสรรค์ ๓. ครแู นะนาอุปกรณแ์ ละสาธิตขน้ั ตอนการประดิษฐ์ ประดิษฐ์งูเตน้ ระบา ประดิษฐ์ งเู ต้นระบา ๔. เด็กปฏิบตั กิ ิจกรรมการประดษิ ฐ์งูเตน้ ระบา ๕. เด็กนาเสนอและจัดแสดงผลงานของตนเอง 6. เด็กปนั้ ดินน้ามัน 7. เก็บอปุ กรณ์และทาความสะอาดห้องเรียน กิจกรรมเล่นตาม (3) การใหค้ วาม 1. เดก็ เลือกกิจกรรมเสรีในมุมประสบการณ์ตามความ อุปกรณ์ สังเกต มุม ร่วมมือในการปฏิบตั ิ สนใจมมุ ประสบการณ์ควรมีอย่างนอ้ ย ๔ มมุ เช่น มุมประสบการณ์ การเกบ็ ของเลน่ ของ เกบ็ ของเล่นของใช้ กิจกรรมตา่ ง ๆ ในหอ้ งเรียน ใช้เขา้ ทีอ่ ย่าง เขา้ ท่ีอย่าง - มุมวิทยาศาสตร์ เรยี บรอ้ ยดว้ ยตนเอง เรยี บรอ้ ยไดด้ ว้ ย - มุมหนังสอื ตนเอง - มมุ บล็อก - มมุ บทบาทสมมติ 2. ชมเชยเดก็ เกบ็ ของเขา้ ท่ีให้เรียบรอ้ ย

จดุ ประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ เรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ กจิ กรรมกลางแจง้ (3) การเล่นนอก 1.นาเดก็ ไปท่สี นาม สร้างขอ้ ตกลงเก่ยี วกับการ - สนาม สงั เกต ปฏิบัตติ นรว่ มกนั - เพลงลมเพลมพัด การเล่น ทากจิ กรรมและ เลน่ ทากิจกรรมและ ห้องเรยี น 2. เดก็ ยืนเป็นวงกลม ทาทา่ บริหารรา่ งกาย ปฏิบตั ิต่อผู้อ่นื อยา่ ง 3. เดก็ ๆ ร่วมกันร้องเพลงลมเพลมพัด 1. เกมจบั ค่ภู าพกับภาพ ปลอดภยั ปฏบิ ัตติ อ่ ผอู้ น่ื อย่าง 4. เด็กเลน่ เกมลมเพลมพดั โดยครแู นะนากติกา กบั สัญลกั ษณแ์ ทน และสาธติ เกม จานวน 1 - 5 สังเกต ปลอดภัยได้ ๕.เดก็ ๆเล่นเกมร่วมกัน 2. เกมชุดเดิมในมุมเกม จบั ค่แู ละเปรียบเทียบ 6. สรปุ กจิ กรรม การศกึ ษา ความแตกตา่ งและความ เกมการศึกษา (13) การจบั คู่ เกมจับคภู่ าพกับภาพกบั เหมอื นของสิง่ ต่างๆได้ สญั ลักษณ์แทนจานวน 1. นาเกมจบั ค่ภู าพกับภาพกับสญั ลักษณ์แทน นาภาพจานวนมาจัด การเปรียบเทยี บ 1-5 จานวน 1 - 5 มาใหเ้ ด็กสงั เกตและสนทนา เกี่ยวกับภาพในเกม แนะนาและสาธติ เกม คกู่ ับภาพท่มี ี ความเหมอื น 2. ครแู ละเด็กรว่ มกนั สรา้ งข้อตกลงเกยี่ วกบั ขนั้ ตอนและวธิ ีการเล่นเกมการศึกษาโดย สญั ลักษณ์เท่ากนั ได้ ความต่าง แบ่งกล่มุ เด็กกลมุ่ ละ 4 - 5 คน แตล่ ะกล่มุ ร่วมกนั คิดวางแผนเลน่ เกม รู้จักแบ่งปันรอคอย และชว่ ยกันเก็บเกมเมื่อเล่นเสร็จ ๓. เดก็ เล่นเกมชดุ ใหมแ่ ละเกมทีเ่ คยเล่นมาแล้ว หมนุ เวียนกันจนครบทุกเกม ๔. รว่ มกันสนทนาสรปุ เกีย่ วกับเกมจบั คภู่ าพกบั สัญลักษณแ์ ทนจานวน 1 - 5

แผนการจัดประสบการณ์รายวนั วันท่ี ๓ หน่วยที่ 32 ฤดูหนาว ชั้นอนบุ าลปีท่ี 2 จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้ กจิ กรรม (1) การเคล่ือนไหว 1. เดก็ เคลื่อนไหวรา่ งกายไปทัว่ บริเวณอย่างอสิ ระ - เคร่ืองเคาะจังหวะ สงั เกต ความสนใจมคี วามสุขและ เคลอ่ื นไหวและ อยูก่ บั ท่ี เมอ่ื ได้ยนิ สญั ญาณหยุดให้หยุดเคลือ่ นไหวในท่านัน้ แสดงออกผา่ นงานศิลปะ ดนตรีและการเคลอ่ื นไหว จงั หวะ (2) การเคล่ือนไหว ทันที โดยในแตล่ ะรอบครตู กลงกับเดก็ ให้ สงั เกต 1. เคลื่อนไหวสว่ น เคลื่อนท่ี เคลอื่ นไหวอยกู่ ับท่ีและเคล่อื นที่ สลบั กันไป 1. การฟังผู้อื่นพูดจนจบ และสนทนาโต้ตอบอย่าง ต่าง ๆ ของร่างกาย 2. ครูเคาะจงั หวะประกอบการเคล่ือนไหว ตอ่ เนอื่ งเชอ่ื มโยงกับเรื่องท่ี ฟงั ได้ 2. ฟังและปฏิบัติ 3. เด็กยนื เปน็ วงกลม ขออาสาสมัครออกมายนื ใน 2. การบอก ลกั ษณะ ส่วนประกอบ ตามสัญญาณ วงกลมเป็นผนู้ าทาท่าร้อน ทาทา่ หนาว โดยให้ การเปลี่ยนแปลง และ 3. ปฏิบัตติ นเป็น ผนู้ าคิดทาท่าเองแล้วใหค้ นอื่นที่ยนื รอบวงทาตาม ผนู้ าผตู้ าม 4. ครูใหส้ ญั ญาณเปลย่ี นผนู้ า ใหเ้ ดก็ คนอืน่ มาเป็น ผนู้ าโดยพยายามทาทา่ ไม่ซา้ กับผู้นาทท่ี าไปแล้ว 5. สรุปรว่ มกันเกย่ี วกบั บทบาทของการเปน็ ผูน้ า ผู้ตาม กิจกรรมเสริม (1) การสงั เกต 1. สภาพภมู ิอากาศใน ๑. เดก็ และครูรว่ มกนั ร้องเพลงหนาว พรอ้ มทาท่า 1. เพลง หนาว ประสบการณ์ 1. ฟงั ผอู้ น่ื พูดจน ลักษณะ ส่วนประกอบ ฤดูหนาว ได้แก่ ทางประกอบเพลง 2. ภาพปรากฏการณท์ ่ี จบและสนทนา โตต้ อบอยา่ ง การเปลย่ี นแปลง และ -อากาศหนาว 2. สนทนารว่ มกันเก่ยี วกับสภาพภูมอิ ากาศในฤดู เกิดขึ้นในฤดหู นาว ตอ่ เนือ่ งเชื่อมโยง กับเร่ืองที่ฟังได้ ความสมั พนั ธข์ องสิง่ -ลมแรง หนาวใชภ้ าพประกอบ โดยใชค้ าถาม ๓. ใบกจิ กรรม เรอ่ื ง ต่าง ๆโดยใชป้ ระสาท -หมอกหนา - เดก็ ๆ รู้ไดอ้ ยา่ งไรวา่ ช่วงน้เี ขา้ สู่ฤดูหนาวแล้ว อากาศ ร้อนและอากาศ สมั ผสั อยา่ งเหมาะสม ฯลฯ - ในฤดูหนาวมปี รากฏการณ์อะไรเกิดขึ้นบา้ ง เยน็ - อากาศร้อน กบั อากาศหนาวแตกตา่ งกันอย่างไร 4. โคมไฟ

จดุ ประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ ความสมั พนั ธข์ องส่งิ ตา่ ง ๆ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้ โดยใชป้ ระสาทสัมผัส 2.ร่วมลงมอื ทา (๑๗) การคาดเดาหรือ 2. อากาศร้อน 3. ทาการทดลองงเู ต้นระบา โดยนางทู ี่รว่ มกนั สังเกต การทางานศลิ ปะ การทดลองและใช้ การคาดคะเนสง่ิ ท่ี อากาศเย็น ประดษิ ฐ์ไว้ในกจิ กรรมสรา้ งสรรคว์ ันท่ี 2 มาใช้ ทกั ษะกระบวนการ เกิดขน้ึ อย่างมีเหตุผล 3. การเคล่ือนตวั ของ ร่วมในการทดลอง โดยการให้เดก็ นางกู ระดาษ ทางวทิ ยาศาสตร์ได้ (๔) การตดั สินใจและ อากาศทาให้เกิดลม แล้วไปแขวนเหนือแหลง่ กาเนิดความรอ้ นใด ๆ ทีเ่ หมาะสมกบั วยั มสี ว่ นร่วมในการลง ก็ได้จะพบว่างูเริ่มเต้นระบา ความเหน็ จากข้อมูล 4. เดก็ ๆ ทาการทดลอง ครูใช้คาถามกระตุ้น อย่างมีเหตุผล - เดก็ ๆ สังเกตเหน็ อะไรบา้ ง - ถา้ เราปิดไฟจะเกิดอะไรขึ้น - รสู้ กึ อย่างไรเวลาองั มืออยู่เหนอื โคมไฟ ขณะทาการทดลองควรระวังความร้อนจากโคมไฟ 5. ครูและเดก็ สรุปรว่ มกนั เก่ยี วกับอนภุ าคของ อากาศ และลกั ษณะของอากาศรอ้ น-อากาศเยน็ และสภาพอากาศในฤดูหนาว กิจกรรมศิลปะ (1) การปนั้ 1. แบง่ กลุม่ เดก็ สร้างข้อตกลงในการทากิจกรรม 1. สนี ้าโทนเย็น สรา้ งสรรค์ (2) การทากิจกรรม 2. ครแู นะนาอุปกรณ์และสาธติ ข้ันตอนปฏบิ ัติ สีนา้ เงิน สีเขยี ว สนใจมีความสขุ ศิลปะการกล้งิ สี กจิ กรรมกล้งิ สี โดยใชล้ กู กอร์ฟ 2. สนี ้าโทนร้อน และแสดงออกผา่ น 3. เดก็ ๆ เลอื กสีทจี่ ะนามากล้ิงสีอยา่ งอสิ ระ สแี ดง เหลือง ส้ม งานศิลปะ และเลา่ ถึงผลงานของตนเอง 2. กระดาษ 4.นาชนิ้ งานของเด็กมาอธบิ ายถึงความรู้สกึ 3. ตระกร้าขนาดเท่า เกีย่ วกบั สีโทนร้อนและสโี ทนเยน็ กระดาษ เอ4 3. เด็กทากจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรคท์ ั้ง 2 กจิ กรรม 4. ลูกกอล์ฟ

จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ สังเกต เรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระที่ควรเรยี นรู้ การเก็บของเลน่ ของใชเ้ ขา้ ทอ่ี ย่างเรียบร้อยด้วย กิจกรรมเลน่ ตาม (3) การใหค้ วาม 1. เดก็ เลอื กกจิ กรรมเสรีในมุมประสบการณต์ าม - มุมประสบการณ์ใน ตนเอง มมุ รว่ มมอื ในการปฏบิ ัติ ความสนใจมุมประสบการณค์ วรมีอย่างน้อย ๔ มุม หอ้ งเรยี น สงั เกต เคลื่อนไหวร่างกายเปน็ เก็บของเลน่ ของใช้ กจิ กรรมตา่ ง - มมุ ธรรมชาติศกึ ษา - มุมหนังสอื อากาศร้อนและอากาศ หนาว เข้าที่อย่าง - มมุ บลอ็ ก - มุมเกมการศึกษา เรยี บรอ้ ยไดด้ ้วย - บทบาทสมมติ - มมุ เคร่อื งเลน่ สัมผัส ตนเอง - มุมวิทยาศาสตร์ จดั แสดงงูเต้นระบา 2. เมื่อหมดเวลาเดก็ เกบ็ ของเขา้ ทีใ่ หเ้ รยี บร้อย กิจกรรมกลางแจ้ง (1) การเคล่ือนไหว เคล่อื นไหวรา่ งกายเปน็ 1. นาเด็กไปที่สนาม สร้างข้อตกลงเกี่ยวกบั การ นกหวีด อากาศรอ้ นและอากาศ การเคล่อื นไหว อยู่กบั ท่ี หนาว ปฏบิ ตั ติ นรว่ มกนั ร่างกายตามกติกา (2) การเคลื่อนไหว 2. เดก็ ยืนเปน็ วงกลม ทาท่าบริหารรา่ งกาย ข้อตกลง เคลอื่ นที่ 3. เด็กเลน่ เปน็ อากาศร้อนและอากาศหนาว โดยครแู นะนาข้อตกลงการเคล่อื นไหวรา่ งกาย 4. เด็กแตล่ ะคนเลน่ เปน็ อนภุ าคของอากาศ เคล่อื นไหวรา่ งกายตามข้อตกลง ดงั นี้ อากาศเย็นเด็ก ๆ มารวมตัวกันและไม่ขยบั เขยื้อน อากาศอุน่ ข้ึนเคล่ือนไหวร่างกายมากข้ึน เร่ิม ส่ันสะเทอื นทลี ะนิดและรนุ แรงขนึ้ เรือ่ ยๆ โดยครู พูดบรรยายประกอบ 5. สรุปกจิ กรรมการเคล่ือนไหวกับการเคลื่อนตวั ของอากาศ เมื่อเดก็ ๆ หยุดไม่เคลือ่ นที่กจ็ ะใช้ พื้นที่น้อย แต่เมื่อเราเร่มิ เคลอ่ื นท่ีเราก็จะตอ้ งการ พ้ืนทีม่ ากข้นึ

จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ เรยี นรู้ (13) การจับคู่ การจบั ค่ภู าพกบั เงา 1. เด็กเลน่ เกมจับค่ภู าพกับเงาเคร่ืองแต่งกาย เกมจับคู่ภาพกับ สังเกต กิจกรรมเกม ในฤดูหนาว เงาเคร่ืองแตง่ กายใน การจบั คภู่ าพกับ การศึกษา การเปรียบเทียบความ 2. เดก็ เล่นเกมชุดใหม่และเกมทเ่ี คยเลน่ มาแล้ว ฤดหู นาว เงาเครอ่ื งแต่งกาย จับค่แู ละ 3. หมุนเวียนกนั เลน่ และร่วมกนั สนทนาเกีย่ วกับ ในฤดหู นาว เปรียบเทียบความ เหมอื นความต่าง เกมว่าชอบหรือไมช่ อบเพราะเหตใุ ด แตกต่างและความ 4. เม่ือเล่นเสร็จเด็กเก็บเกมการศกึ ษาเขา้ ทเ่ี ดมิ เหมอื นของสง่ิ ตา่ งๆได้

แผนการจัดประสบการณ์รายวัน วันท่ี 4 หน่วยที่ 32 ฤดูหนาว ชัน้ อนุบาลปที ่ี 2 จุดประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระทคี่ วรเรียนรู้ 1. เดก็ เคลื่อนไหวร่างกายไปทวั่ บรเิ วณอยา่ งอสิ ระ เคร่อื งเคาะจังหวะ สงั เกต เคลอ่ื นไหวและ (๓) การเคล่ือนไหว เมื่อได้ยนิ สัญญาณหยุดให้หยุดเคล่อื นไหวในท่านนั้ ความสนใจมีความสุขและ จังหวะ ตามคาบรรยาย ทันที โดยในแต่ละรอบครตู กลงกบั เดก็ ให้ แสดงออกผา่ นการ สนใจมคี วามสขุ เคล่อื นไหวอยกู่ ับท่ีและเคลอ่ื นท่ี สลับกันไป โดย เคล่ือนไหว และแสดงท่าทาง ครเู คาะจงั หวะประกอบการเคล่อื นไหว /เคลอื่ นไหว ๒. เดก็ ๆ ยืนกระจายท่วั หอ้ ง สมมุติตนเองเป็น ประกอบคา อนภุ าคอากาศ แล้วเคลอื่ นไหวร่างกายตาม บรรยาย คาบรรยายของครเู ก่ียวกบั การเคลอื่ นตัวของ อากาศเมื่ออากาศหนาวและร้อน เชน่ เมือ่ อากาศ หนาว อากาศเราก็มาอยูร่ ่วมกัน แต่เมือ่ อากาศ เรม่ิ รอ้ นพลนั พวกเรานน้ั ก็เคลอ่ื นท่ีไปมา หรอื อากาศหนาวพวกเราก้มตา่ ลง อากาศรอ้ นพวกเรา กล็ อยสูงขน้ึ ๆเปน็ ตน้ 3. สรุปรว่ มกนั เกี่ยวกบั การเคล่ือนไหวรา่ งกายเมือ่ สมมุตติ นเองเปน็ อนภุ าคของอากาศ

จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ เรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทคี่ วรเรียนรู้ กจิ กรรมเสริม (1) การปฏิบัตติ นให้ 1. สภาพอากาศในฤดู ๑. เดก็ และครูร่วมกนั ร้องเพลงหนาว ทาท่าทาง 1. เพลง หนาว สงั เกต ประสบการณ์ 1. ฟงั ผูอ้ นื่ พดู จน ปลอดภัย หนาวอาจจะทาใหเ้ รา ประกอบเพลงทบทวนสภาพภูมอิ ากาศในฤดหู นาว 2. ภาพปรากฏการณท์ ี่ 1. การฟังผู้อืน่ พดู จนจบ จบและสนทนา โตต้ อบอยา่ ง (๑๗) การคาดเดาหรอื เปน็ หวัดได้ 2. ฤดูหนาวเดก็ ๆ มักสวมเส้อื กันหนาวมาเรยี น เกดิ ขึน้ ในฤดูหนาว และสนทนาโตต้ อบอยา่ ง ต่อเนอื่ งเชอ่ื มโยง กบั เร่อื งทฟ่ี งั ได้ การคาดคะเนสิง่ ท่ี 2. การรกั ษาสขุ ภาพ ขออาสาสมัครออกมาถอดเส้อื กนั หนาวและ 3.เครอ่ื งแต่งกายใน ตอ่ เนอ่ื งเช่อื มโยงกับเรื่องท่ี 2. บอกวธิ กี าร ปฏิบตั ิตนใน เกิดขนึ้ อย่างมีเหตผุ ล ของตนเองในฤดูหนาว บอกความร้สู ึกของตนเอง ฤดูหนาว ฟังได้ ฤดูหนาว 3. การเคล่ือนตัวของ 3.สนทนาร่วมกนั เกี่ยวกบั วธิ กี ารรกั ษาสุขภาพใน ๓. ใบกิจกรรม เร่ือง 2. การบอก ลกั ษณะ อากาศทาใหเ้ กิดลม ฤดหู นาว โดยใช้คาถาม อากาศ ปรากฏการณ์ สว่ นประกอบ - คนเราไมส่ บายจะเป็นอยา่ งไร รู้สึกอยา่ งไร อากาศ ณ อุณหภมู ิต่างๆ การเปลีย่ นแปลง และ - ในฤดูหนาว เด็กๆจะไมใ่ หเ้ จบ็ ป่วยจะทา การทดลอง งูเตน้ ระบา อย่างไร และจรวดถงุ ชา - มวี ธิ ีใดบ้างทที่ าใหเ้ ราหายหนาว 4. อากาศในฤดหู นาวจะเยน็ ลงจะหนาวขนึ้ ถา้ มี ลมพัดมาถูกตวั เรา พาเด็กทาการทดลองงูเต้น ระบาซ้าจากอุปกรณ์เดิมในวันผา่ นมาโดยใหเ้ ด็ก นางูเตน้ ระบาไปแขวนเหนือโคมไฟที่ครเู ตรยี มให้มี ระดบั ความร้อนต่างกนั 3 - 5 จุด 5. เดก็ สังเกตการหมุนของงู ช้าหรอื เรว็ และนับ จานวนรอบท่หี มนุ ในเวลาท่ีครูกาหนดใหเ้ ทา่ กนั 6. ทาการจดั บนั ทกึ ผลการสังเกต ตอ่ ในกิจกรรม สร้างสรรค์

จุดประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ 1. กระดาษ สังเกต (2) การเขยี นภาพ ๑. เด็กทากิจกรรมการทดลองงูเต้นระบา ต่อเน่ือง 2. สี การเขียนรูปสามเหลย่ี ม กจิ กรรมศิลปะ (3) การป้นั 3. ดนิ นา้ มัน ตามแบบได้อยา่ งมมี ุม สรา้ งสรรค์ จากกิจกรรมเสรมิ ประสบการณ์ ซ่งึ ใหเ้ ด็กนางูเตน้ 4. ทรี่ องป้ัน ชดั เจน 1. วาดภาพแสดง การบนั ทกึ ผลการ ระบาไปแขวนเหนอื โคมไฟที่ครเู ตรียมใหม้ รี ะดบั มุมประสบการณ์ใน สังเกต ทดลองงเู ต้นระบา หอ้ งเรียน การเก็บของเลน่ ของใช้เขา้ 2. ปั้นดินน้ามัน ความรอ้ นตา่ งกัน 3 - 5 จดุ ท่ีอย่างเรยี บร้อยดว้ ย ตามจินตนาการ ตนเอง 2. เด็กสังเกตการหมุนของงู ช้าหรือเร็วและนับ จานวนรอบท่หี มุนในเวลาท่ีครูกาหนดให้เทา่ กนั ๒. แจกกระดาษสีตา่ ง ๆ ใหเ้ ด็กคนละ ๑ แผน่ ใหเ้ ด็ก วาดภาพงเู ตน้ ระบาทเี่ ด็กสงั เกตเหน็ จากการทดลอง แลว้ บนั ทึกจานวนรอบการหมุนของงเู ต้นระบา ๓. ปั้นดินน้ามัน อย่างอิสระ ๔. เด็กทา ๒ กจิ กรรมเสรจ็ แล้วนาเสนอผลงาน โดยนาภาพวาดและจานวนรอบมาเปรยี บเทยี บกบั เพ่ือนและสรปุ ร่วมกันว่าจานวนรอบการหมุนของงู ของโคมไฟแตล่ ะจุดจึงต่างกัน(ความร้อนจากโคมไฟ แต่ละดวงตา่ งกัน) กจิ กรรมเล่นตาม (3) การใหค้ วามรว่ มมือ 1. เดก็ เลือกกจิ กรรมเสรีในมุมประสบการณต์ าม มมุ ในการปฏิบตั ิกิจกรรม เกบ็ ของเลน่ ของใช้ ตา่ ง ความสนใจมมุ ประสบการณ์ควรมีอยา่ งน้อย ๔ มุม เขา้ ที่อย่าง เรยี บรอ้ ยได้ด้วย เช่น ตนเอง - มมุ วทิ ยาศาสตร์ - มุมหนังสือ - มมุ บล็อก - มุมเกมการศึกษา - บทบาทสมมติ 2. เมื่อหมดเวลาเด็กเกบ็ ของเข้าท่ใี ห้เรยี บร้อย

จดุ ประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ เรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้ (3) การเล่นนอก 1. นาเด็กไปทสี่ นาม สร้างขอ้ ตกลงเก่ียวกับการ - สนาม สังเกต กิจกรรมกลางแจ้ง ห้องเรยี น การเลน่ ทากจิ กรรมและ 1. เล่น ทากิจกรรม ปฏบิ ตั ิตนรว่ มกนั - เพลงหนาว ปฏบิ ตั ติ ่อผอู้ ื่นอยา่ ง และปฏบิ ตั ิตอ่ ผู้อ่นื ปลอดภัย อยา่ งปลอดภัยได้ 2. เดก็ ยนื เป็นวงกลม ทาท่าบริหารรา่ งกาย - เสื้อผ้าเคร่ืองตา่ งกาย 2. สวมใส่เส้ือผา้ ใน สังเกต ฤดหู นาวได้ 3. เดก็ ๆ รว่ มกนั ร้องเพลงหนาวทาทา่ ประกอบ ในฤดูหนาว การเรยี งลาดับสงิ่ ต่างๆตาม ลกั ษณะขนาด เพลงอย่างอสิ ระ 4. เดก็ เล่นเกมใสไ่ ด้ไม่ยาก ครแู นะนากติกา และสาธิตเกม โดยให้เด็กแตล่ ะกลุ่มแข่งกัน แตง่ กายชุดกันหนาว ๕. เดก็ ๆเล่นเกมรว่ มกนั 6. สรปุ กจิ กรรม เกมการศึกษา (13) การเรียงลาดับ เกมเรียงลาดับภาพเครื่อง 1. นาเกมเรียงลาดบั ภาพเคร่อื งแตง่ กายในฤดู 1. เกมเรยี งลาดบั ภาพ นาภาพมาเรยี งลาดับ สิง่ ตา่ งๆตามลักษณะ แต่งกายในฤดูหนาวตาม หนาวตามขนาด มาใหเ้ ดก็ สงั เกตและสนทนา เคร่ืองแต่งกายในฤดู ตามเหตผุ ลได้ ขนาด เกย่ี วกบั ภาพในเกม แนะนาและสาธิตเกม หนาวตามขนาด 2. ครูและเด็กร่วมกนั สรา้ งข้อตกลงเกย่ี วกบั 2. เกมชดุ เดมิ ในมมุ เกม ขนั้ ตอนและวิธกี ารเล่นเกมการศึกษาโดย การศึกษา แบ่งกลมุ่ เด็กกลุ่มละ 4 - 5 คน แต่ละกลมุ่ ร่วมกนั คดิ วางแผนเลน่ เกม รู้จักแบง่ ปนั รอคอย และชว่ ยกันเก็บเกมเม่ือเลน่ เสร็จ ๓. เด็กเลน่ เกมชดุ ใหม่และเกมท่เี คยเล่นมาแล้ว หมุนเวยี นกนั จนครบทุกเกม ๔. รว่ มกนั สนทนาสรปุ เกย่ี วกับเกมเรยี งลาดบั ภาพเครอื่ งแตง่ กายในฤดหู นาวตามขนาด

แผนการจัดประสบการณ์รายวนั วันที่ ๕ หนว่ ยท่ี 32 ฤดูหนาว ชน้ั อนบุ าลปีที่ 2 จดุ ประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ เรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้ 1. เด็กเคลื่อนไหวรา่ งกายไปท่ัวบริเวณอยา่ งอสิ ระ 1. ดนตรีบรรเลง สงั เกต เคลอ่ื นไหวและ เม่ือไดย้ นิ สัญญาณหยุดให้หยุดเคลือ่ นไหวในทา่ นัน้ 2. ริบบนิ้ ความสนใจมีความสุขและ จงั หวะ (๓) การเคล่ือนไหว ทันที โดยในแต่ละรอบครตู กลงกับเดก็ ให้เคลื่อนไหว 3. นกหวีด แสดงออกผ่านการ สนใจมีความสขุ พร้อมวสั ดุอปุ กรณ์ อยกู่ บั ที่และเคลือ่ นที่ สลับกันไป โดยครูเคาะจงั หวะ เคล่ือนไหว และแสดงท่าทาง/ (1) การปฏบิ ัติตาม ประกอบการเคล่ือนไหว เคลื่อนไหว ข้อตกลง ๒. เดก็ ๆ ยืนกระจายทวั่ ห้อง แจกริบบ้ินใหเ้ ด็ก ประกอบคา เคล่อื นไหวเคล่ือนที่พรอ้ มอุปกรณ์ เปดิ เสยี งดนตรี บรรยาย เร็ว-ช้าประกอบการเคล่อื นไหว 3. สร้างข้อตกลงกับเด็ก คือใหเ้ ดก็ นกึ ถึงงเู ตน้ ระบาที่ เด็กเคยทาการทดลอง เมื่อครูบอกสญั ญาณ ดังนี้ อากาศร้อนให้หมุนเร็ว ชา้ ลงเมอื่ อากาศอนุ่ และ ช้าที่สดุ เมื่ออากาศเย็นไดย้ นิ เสียงนกหวีดใหห้ ยุดทนั ที 4. เด็ก ๆรว่ มกนั ร้องเพลงลมเพลมพดั พรอ้ มโบก รบิ บิน้ ประกอบเพลง 5. สรปุ รว่ มกันเกย่ี วกบั การเคลือ่ นไหวของงูเตน้ ระบา เมอ่ื อากาศร้อนและอากาศเย็นแล้วอภปิ รายร่วมกบั เกยี่ วกบั การเกดิ ลม และปรากฏการณ์ธรรมชาตทิ ี่เด็ก มักไดส้ ัมผสั เช่น เมอื่ มีอากาศรอ้ นจะเกดิ พายุตามมา เปน็ ต้น

จุดประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระท่ีควรเรียนรู้ สังเกต กจิ กรรมเสรมิ (2) การฟังและปฏบิ ัติ สภาพแวดล้อมรอบตวั 1. เด็กและครรู ่วมกันท่องคาคล้องจองฤดหู นาว 1. คาคล้องจอง 1. การฟังผู้อืน่ พดู จนจบ ประสบการณ์ และสนทนาโตต้ อบอย่าง 1. สนทนา ตอบ ตามคาแนะนา เปล่ยี นแปลงไปในฤดู 2. สนทนา ตอบข้อซักถามและแสดงความคดิ เห็น ฤดหู นาว ต่อเนอื่ งเช่ือมโยงกบั เร่ืองท่ี ข้อซักถามและร่วม ฟังได้ แสดงความคิดเห็น (๔) การพูดแสดงความ หนาว รวมถงึ ผกั ร่วมกันเกย่ี วกับสภาพแวดล้อมรอบตวั ท่ีเปลย่ี นแปลง 2. รปู ผักผลไมใ้ นฤดู 2. การร่วมทากิจกรรม ได้ 2. บอกการ คิดเห็นความร้สู ึกและ ผลไม้ ดอกไม้ ไปในฤดูหนาว หนาว เปล่ียนแปลงของ สภาพแวดล้อม ความตอ้ งการ ทเี่ จริญเตบิ โต - เดก็ ๆเริ่มรู้สึกวา่ เขา้ สูฤ่ ดูหนาวเมอื่ ไหร่ 3. คาคลอ้ งจอง ผัก รอบตัวในฤดูหนาว ได้ (3) การใหค้ วามร่วมมือ ไดด้ ใี นฤดูหนาว - เดก็ ๆ สังเกตหรอื ไม่ว่าการขึ้นและตกของดวง 3. บอกช่ือผกั ผลไมใ้ นฤดูหนาว ในการปฏิบัตกิ จิ กรรม อาทิตย์ในฤดหู นาวเปน็ อยา่ งไร ได้ ตา่ ง - ในชว่ งนต้ี ้นไม้ใหญ่บางต้นเปน็ อยา่ งไร 3. สนทนาประกอบรปู ภาพกับเก่ียวกบั การเจริญ เติบโตของผัก ผลไม้ ดอกไม้ในฤดูหนาว เด็กเล่าเรอ่ื ง ของตนเองเกยี่ วกับการปลกู ผักสวนครวั ผลไมใ้ นฤดูนี้ 4. สรุปร่วมกนั สภาพแวดล้อมรอบตวั ทเ่ี ปลี่ยนแปลง ไปในฤดหู นาวและการเลือกกินผัก ผลไมท้ ่มี ีมากในฤดู น้ี 5. รว่ มกันท่องคาคลอ้ งจอง ผัก กจิ กรรมศลิ ปะ (5) การทางานศลิ ปะ 1. เด็กปฏิบัติกิจกรรมป้ันดินน้ามันและ เขยี นรปู 1. กระดาษ สงั เกต สรา้ งสรรค์ (3) การปนั้ เขียนรูป สามเหล่ียมตามแบบ 2. กระดาษแผน่ ใหญ่ เขียนรูปสามเหลี่ยมตาม สามเหล่ยี มตาม แบบได้อย่างมีมุม 2. แบง่ เดก็ เป็นกลุ่ม ๆ ละ 5 คน เขยี นรปู 3. สเี ทียน แบบได้อย่างมีมุมชัดเจน ชดั เจน สามเหลยี่ ม แลว้ ใชก้ รรไกรตดั ตามแนวเสน้ แล้วนารูป 3. กาว สามเหล่ียมของทุกคนมาแปะในกระดาษแผน่ ใหญ่ 4. ดินน้ามัน แลว้ ตกแตง่ ตามจนิ ตนาการ

จดุ ประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ ๓. เดก็ ปั้นดินน้ามนั ๔. เดก็ นาเสนอผลงาน กิจกรรมเลน่ ตาม (3) การใหค้ วามรว่ มมือ 1. เด็กเลือกกิจกรรมเสรีในมุมประสบการณ์ตาม - มมุ ประสบการณใ์ น สงั เกต มุม ในการปฏิบัติกจิ กรรม เกบ็ ของเล่นของใช้ ตา่ ง ความสนใจมมุ ประสบการณค์ วรมีอย่างนอ้ ย ๔ มุม ห้องเรียน การเก็บของเลน่ ของใชเ้ ขา้ เข้าที่อย่าง เรยี บรอ้ ยได้ดว้ ย - มมุ วิทยาศาสตร์ - มมุ หนังสอื ที่อย่างเรยี บร้อยด้วย ตนเอง - มุมบล็อก - มมุ เกมการศึกษา ตนเอง กจิ กรรมกลางแจ้ง (1) การเคลื่อนไหว การเคลือ่ นไหว อยกู่ บั ท่ี - บทบาทสมมติ - มมุ เคร่อื งเล่นสัมผสั รา่ งกายตามผ้นู า (2) การเคลื่อนไหว 2. เมอื่ หมดเวลาเดก็ เกบ็ ของเขา้ ทใ่ี ห้เรยี บร้อย เคล่ือนท่ี 3. ครชู มเชยเดก็ ทีเ่ กบ็ ของเขา้ ท่ีได้เรยี บร้อยเมื่อเล่น เสร็จ จะทาใหข้ องไมส่ ูญหายปะปนกนั และเปน็ การ ปฏิบตั ิที่ดี เป็นผมู้ ีความรบั ผิดชอบ 1. นาเด็กไปทส่ี นาม สร้างขอ้ ตกลงเกยี่ วกบั การปฏิบตั ิ นกหวีด สงั เกต ตนรว่ มกนั เคลอื่ นไหวรา่ งกายเปน็ 2. เด็กทาทา่ บรหิ ารรา่ งกายโดยเดก็ ยืนเป็นวงกลม อากาศรอ้ นและอากาศ ขออาสาสมัครออกมายืนในวงกลมเป็นผู้นาทาทา่ กาย หนาว บรหิ ารคนละ 1 ทา่ น โดยให้ผ้นู าคิดทาทา่ เองแล้วให้ คนอื่นที่ยนื รอบวงทาตาม 3. ครใู ห้สญั ญาณเปล่ยี นผูน้ า ให้เดก็ คนอ่นื มาเปน็ ผนู้ าโดยพยายามทาท่าไมซ่ า้ กับผู้นาทท่ี าไปแล้ว 4. ถามความร้สู ึกของเด็ก ๆ เมอื่ ทาท่ากายบริหาร ตามผู้นาครบทุกคน

จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ เรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ 5. สรุปร่วมกันถงึ การออกกาลังกายจะทาให้ สงั เกต รา่ งกายเราอบอนุ่ ขึน้ และชว่ ยใหร้ า่ งกายแข็งแรง การจบั ค่แู ละเปรยี บเทยี บ ไมเ่ จ็บปว่ ยในฤดหู นาวได้ ความแตกตา่ งและความ เหมอื นของส่งิ ตา่ งๆ กจิ กรรมเกม (2) การสังเกตสิง่ เกมจบั คภู่ าพกับโครง 1. แนะนาเกมใหม่เกมจับคภู่ าพกบั โครงรา่ งของใช้ เกมจับคภู่ าพกบั โครง การศกึ ษา ต่าง ๆและสถานท่ี ร่างของใชส้ ่วนตัว สว่ นตัว รา่ งของใช้ส่วนตัว เลอื กชิน้ สว่ นเลก็ ท่ีมี จากมุมมองทีต่ ่างกัน 2. แบ่งเด็กเลน่ เกมใหม่ และเกมเดิมทมี่ ีอยู่ แล้ว ภาพเปน็ สิ่งเดียวกับ หมุนเวยี นกนั ภาพท่ีกาหนดให้ได้ 3. หมดเวลา เดก็ เกบ็ เกมการศึกษาเข้าท่ี

1. เลขที่ ช่อื - สกลุ 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 1. การเล่นและทากิจกรรมอย่างปลอดภัยเมอื่ มมี ี ดา้ นร่างกาย แบบสงั เกตพฤติกรรมเดก็ หนว่ ยการจัดประสบการณท์ ี่ 32 ฤดหู นาว ช้ันอนบุ าลปีท่ี 2 ผู้ช้ีแนะได้ ดา้ นอารมณ์ ด้าน ประเมนิ พฒั นาการ 2. การเคลื่อนไหวรา่ งกายตามคาบรรยาย และจติ ใจ สังคม 3. การปะตดิ ภาพดว้ ยเศษวัสดุ ดา้ นสติปญั ญา 4. แสดงทา่ ทาง / เคลอ่ื นไหวประกอบเพลง จงั หวะ และดนตรไี ด้ 5. สรา้ งสรรค์งานศิลปะได้อยา่ งมคี วามสขุ 6. การปฏิบตั ติ ามสญั ญาณและขอ้ ตกลง 7. เกบ็ ของเข้าที่เมือ่ เล่นและทากจิ กรรมเสร็จ 8. การฟงั และสนทนาโต้ตอบอย่างต่อเนือ่ ง เชื่อมโยงกับเร่อื งท่ีฟัง 9. การเปรียบเทยี บและจบั คูค่ วามเหมือนและ ความต่าง 10. การเรยี งลาดบั ภาพเหตกุ ารณ์ 11. การต่อภาพชนิ้ สว่ นยอ่ ยเป็นภาพท่สี มบรู ณ์ 12. การใชป้ ระสาทสมั ผัสสงั เกตสญั ญาณอันตราย 13. การแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมเี หตผุ ล 14. การคัดแยกสงิ่ ตา่ ง ๆตามลกั ษณะได้ หมายเหตุ

11. เลขท่ี ช่ือ - สกลุ 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. 19. 20. คาอธบิ าย ครสู ังเกตพฤติกรรมเด็กรายบุคคล จดบันทกึ สรุปเป็นรายสัปดาห์ระบรุ ะดบั คุณภาพเป็น ๓ ระดบั คอื 1. การเล่นและทากิจกรรมอยา่ งปลอดภัยเมือ่ ดา้ นร่างกาย ระดับ ๓ ดี ระดบั ๒ ปานกลาง ระดบั ๑ ต้องส่งเสริม มผี ้ชู แี้ นะได้ ประเมินพัฒนาการ 2. การเคลื่อนไหวรา่ งกายตามคาบรรยาย ด้านอารมณ์ ด้าน 3. การปะติดภาพดว้ ยเศษวัสดุ และจติ ใจ สังคม 4. แสดงทา่ ทาง / เคลอ่ื นไหวประกอบเพลง ด้านสติปญั ญา จังหวะ และดนตรไี ด้ 5. สรา้ งสรรค์งานศลิ ปะไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ 6. การปฏบิ ตั ิตามสญั ญาณและขอ้ ตกลง 7. เกบ็ ของเขา้ ที่เมื่อเล่นและทากจิ กรรมเสร็จ 8. การฟงั และสนทนาโต้ตอบอย่างต่อเน่ือง เชื่อมโยงกับเรือ่ งท่ีฟัง 9. การเปรียบเทยี บและจบั ค่คู วามเหมือนและ ความต่าง 10. การเรยี งลาดบั ภาพเหตุการณ์ 11. การตอ่ ภาพชิ้นสว่ นยอ่ ยเปน็ ภาพที่ สมบูรณ์ 12. การใช้ประสาทสัมผัสสังเกตสญั ญาณ อันตราย 13. การแสดงความคิดเหน็ อยา่ งมเี หตผุ ล 14. การคัดแยกส่งิ ตา่ ง ๆตามลกั ษณะได้ หมายเหตุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook