หน่วยที่1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สัตว์

วิชาผลิตภณั ฑส์ ตั ว์ หนว่ ยที่ 1 ความรู้เบือ้ งต้นเกี่ยวกบั ผลติ ภณั ฑ์สตั ว์ นายธนาเสฎฐ์ จรรยา วทิ ยาลยั เกษตรและเทคโนโลยศี รีสะเกษ

1 หนว่ ยที่ 1 ความรเู้ บ้อื งตน้ เกยี่ วกบั ผลติ ภณั ฑ์สัตว์ สาระสาคัญ ปัจจุบนั ผลติ ภณั ฑ์สตั ว์มีความสาคัญและประโยชน์กบั มนษุ ยม์ าก เพราะผลิตภัณฑ์สัตว์นอกจากเป็น อาหารท่ีให้คุณค่าทางโภชนาการแล้ว ในการผลติ ระดับอุตสาหกรรมยังเอื้อประโยชน์และให้ความสาคญั อ่ืน ๆ ตามมาอีกมากมายต่อมนุษย์ เช่น เกี่ยวกับด้านเศรษฐกิจ การถนอมเก็บรักษาอาหาร การเพิ่มความ หลากหลายของอาหาร การเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบเน้ือสัตว์ และอุตสาหกรรมการแปรรูปผลิตภัณฑ์สัตว์ยัง ทาให้ประชากรของประเทศมีงานทา เปน็ ตน้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ นกั ศกึ ษามีความรู้ความเข้าใจเกยี่ วกบั ความสาคัญและประโยชนข์ องผลติ ภัณฑ์เน้อื สตั ว์ 1. บอกความหมายของผลิตภณั ฑ์สตั ว์ได้ 2. อภิปรายความสาคญั ของผลติ ภัณฑ์สัตว์ได้ 3. บอกประโยชน์ของการทาผลติ ภณั ฑ์สตั ว์ได้ เนื้อหาสาระ 1. ความหมายของผลิตภณั ฑ์สัตว์ ผลิตภัณฑ์สัตว์ หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการแปรเปลี่ยนสภาพเนื้อสดให้เปล่ียนไปอยู่ในรูปของ ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สากลหรือผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น การแปรรูปจะต้องอาศัยวิธีการแปรรูป วิธีใดวิธีหนึ่งหรือหลาย ๆ วิธีร่วมกันก็ได้แก่ การหั่น (Slice) การบด (Grind) การสับละเอียด (Chopping) การใช้วัตถุเจือปนในอาหาร (Food additives) การใช้เคร่ืองปรุงแต่งกลิ่นรส (Seasoning) การรมควัน (Smoking) และการแช่เย็น (Chilling) เป็นต้น เช่นการแปรรูปผลิตภัณฑ์กุนเชียงได้ใช้วิธีการแปรรูปเริ่ม ตง้ั แต่ การห่ัน การบด การใช้วัตถเุ จือปนปรุงแตง่ กล่ินรส การทาแห้ง ซ่ึงการใช้วธิ ีการต่าง ๆ ในการแปรรูป นั้นผลิตภัณฑ์สัตวแ์ ต่ละชนิดก็จะมีความแตกต่างกันไปข้ึนกับลักษณะของผลิตภัณฑ์น้ัน ๆ ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ สัตว์อื่น ๆ ได้แก่ ลูกช้ิน แหนม กุนเชียง หม่า หมูยอ เน้ือแดดเดียว หมูแผ่น แฮม เบคอน โบโลญ่า และไส้กรอกชนิดต่าง ๆ ดังภาพที่ 1.1

2 ภาพท่ี 1.1 ตวั อย่างผลติ ภณั ฑ์เนือ้ สตั ว์ชนดิ ต่าง ๆ (DDF, 2007) 2. ความสาคญั ของผลิตภัณฑส์ ัตว์ ผลิตภัณฑ์สัตว์ท่ีบริโภคกันท่ัวไปในปัจจุบันน้ันมีความหลากหลาย และได้ถูกพัฒนาตลอดเพราะ มนุษย์ได้มีการติดต่อค้าขายกันทั่วโลก พร้อมทั้งความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทาให้ องค์กรต่าง ๆ มีการทดลองวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สัตว์อยู่ตลอดเวลา พร้อมท้ังนาเอาผลการทดลองท่ีได้ ออกมาเผยแพร่ให้ผลติ ภัณฑ์ท่ีได้พฒั นาขึ้นให้คนทั่วไปไดร้ ู้จัก และสามารถเลือกบริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์ มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เหมาะสมกับวัย ตามสภาพเศรษฐกิจ หากผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ต่าง ๆ ได้รับการ ยอมรับจากผบู้ ริโภคสงู ผู้ผลติ กส็ ามารถทาเป็นธุรกิจในระดับอุตสาหกรรมไดอ้ ย่างต่อเนอื่ ง ผลติ ภัณฑ์สัตวจ์ ึง มีความสาคญั ในด้านตา่ ง ๆ ทีเ่ กย่ี วข้องกบั มนษุ ย์ ดังนี้ 2.1 ความสาคัญด้านโภชนาการ เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์สัตว์เป็นอาหารโปรตีนท่ีมีความสาคัญต่อการดารงชีวิตของมนุษย์ เน่ืองจากเป็นอาหารที่มีโปรตีนเป็นองค์ประกอบหลัก และเป็นโปรตีนท่ีสมบูรณ์ เพราะประกอบไปด้วย กรดอะมิโนที่จาเป็นต่อร่างกายมนุษย์ (Essential Amino Acid) ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของ รา่ งกาย นอกจากน้ันยังมเี กลอื แรใ่ นปริมาณสูงโดยเฉพาะธาตเุ หล็กและวติ ามินบีรวม ดงั แสดงในตารางท่ี 1.1 ตารางที่ 1.1 ตารางคุณคา่ ทางโภชนาการของไทย พ.ศ. 2535 (อุมาพร, 2542) พลงั งา ความชื้ โปรตีน ไขมัน เถา้ เหล็ก Thiamin Riboflavi Niaci ประเภท น น (ก.) (ก.) (ก.) (มก.) e nn Kcal (ก.) (มก.) (มก.) (มก.) ไก่บ้าน,หน้าอก 127 73.9 23.6 3.6 1.0 2.8 0.10 0.12 2.7 ,เน้ือ 199 70.2 13.4 16.2 0.5 1.7 0.10 0.25 5.4 หนัง 108 75.8 19.6 3.3 0.9 - 0.69 0.26 5.7 เป็ด,เนอ้ื 117 73.3 19.8 3.0 1.4 10.5 0.29 0.19 13.6 หม,ู เนอื้ 185 62.8 20.2 9.9 3.2 1.3 0.24 0.10 3.8 หม,ู ตบั - 57.5 14.8 - 2.1 เล็กน้ 0.24 0.10 4.0 แหนม 419 38.0 16.7 37.4 2.7 อย - 0.09 2.8 หมยู อ 619 2.3 51.2 46.0 0.7 - 0.02 0.14 2.0 ไส้อัว่ เชียงใหม่ 138 61.3 30.6 1.5 5.9 2.0 0.08 0.19 3.6

แ ค บ ห มู 3 เชียงใหม่ 7.5 การขาดอาหารประเภทเน้ือสัตว์จะทาให้ร่างกายไม่เจริญเติบโต โลหิตจาง ผอมแคระแกรน กล้ามเน้ือไม่แขง็ แรง และเสียการทรงตัว ในเดก็ ท่ีมีอายุ 1-5 ปี หากมีอาการขาดอาหารโปรตีนอย่างรนุ แรง จะมีผลทาให้ขาดความเฉลียวฉลาด โดยเฉพาะเด็ก ๆ ท่ีมีอาการพุงโรผิวหนังอับเสบและเปลี่ยนเป็นสีแดง ความต้านทานของร่างกายต่า เป็นหวัด และเป็นโรคติดเช้ือต่าง ๆ ได้ง่าย เจ็บป่วยแล้วหายช้า สติปัญญา ตา่ 2.2 ความสาคญั เกี่ยวกับเศรษฐกิจ ในประเทศท่ีกาลังพัฒนา เกษตรกรยังผลิตอาหารที่ได้จากเน้ือสัตว์ได้น้อยกว่าท่ีต้องการ ยัง เหตุท่ีสาคัญอันดับหนึ่งที่ปรากฏการณ์เช่นนี้คือ เกษตรกรผลิตอาหารที่ได้จากเน้ือสัตว์ไม่เพียงพอกับความ ตอ้ งการของประชากรโลก เน่อื งจากประชากรโลกยังคงเพ่ิมข้ึนในอัตราส่วนท่ีสูงขึ้นเร่ือยๆ ดังนั้นการเพ่ิมการ ผลิตอาหารให้พอกับความต้องการของประชากรท่ีทวีขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น จึงเป็นความหวังที่จะบรรลุ ความสาเร็จในการพัฒนาอาหารท่ีมีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์มากท่ีสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์จาก เน้ือสัตว์ มีหลายประเทศทผ่ี ลติ อาหารทีไ่ ด้จากเน้อื สัตวไ์ ม่เพียงพอกับความต้องการของประชากรประเทศ 2.2.1 เศรษฐกิจในประเทศ ประเทศไทยเราสามารถผลิตผลิตภัณฑ์จากเน้ือสัตว์เช่น เนื้อ สุกรและโคสาหรับบริโภคและส่งออก นับว่าเป็นการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงสัตว์แก่เกษตรกรไทย รวมทั้งผู้ ประกอบธุรกิจเชิงพาณิชย์ทาให้เกิดธุรกิจอ่ืนอีกอุตสาหกรรมเกษตรทเี่ กี่ยวข้องตา่ ง ๆ ตามมา ในประเทศไทย มีเครอื ข่ายธรุ กิจต่อเน่อื งครอบคลมุ เกี่ยวกับการดาเนนิ ธุรกิจอุตสาหกรรมเกษตรเช่น โรงงานอาหารสตั ว์ พันธ์ุ สัตว์ โรงฆา่ โรงงานตดั แต่ง และโรงงานแปรรูปเนื้อสตั ว์ ทาใหเ้ ศรษฐกจิ ในประเทศดี ตัวอย่างอุตสาหกรรมแปรรูปเน้ือสุกรภายในประเทศ สามารถแปรรูปเนื้อที่ชาแหละได้ให้เป็น ผลิตภัณฑต์ ่าง ๆ เช่น กุนเชียง หมูแผ่น แหนม หมูหยอง ไส้กรอก แฮม เบคอน และอื่นๆ การจาหน่าย ในรูปสินคา้ อุตสาหกรรมพบว่า สามารถขายได้เป็นมูลค่าประมาณ 14,000 ล้านบาท ส่วนสิ่งที่เหลือใช้จาก อุตสาหกรรมแปรรูป เช่น หนังสุกรจากโรงงานชาแหละจานวน 5 ล้านแผ่น เม่ือนาส่งฟอกโรงงานเครื่อง หนังสาหรับทารองเท้า กระเป๋า และอ่ืนๆ จะได้สินค้าคิดเป็นเงินตรามูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท นอกจากนั้น เครื่องใน โครงกระดูก เลือด สามารถนาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในด้านอื่น ๆ เช่น ทาไส้บรรจุ

4 ผลติ ภณั ฑ์และอาหารสัตวค์ ิดเปน็ เงนิ ตรากวา่ 1,000 ลา้ นบาท รวมมูลคา่ ทั้งสิ้นประมาณ 43,000 ล้านบาท ดงั นนั้ มลู ค่าเพม่ิ เปน็ 3.1 เทา่ ดังแสดงในภาพท่ี 1.2 สกุ ร มลู คา่ (ล้านบาท) 5 ล้าน 14,000 ล้านบาท ตวั ชาแหละเนอื ้ หรือสง่ เป็นตวั โรงชาแหละ อตุ สาหกรรมแปรรูป 40,000 ล้านบาท ได้หนงั สกุ ร เป็นผลติ ภณั ฑ์ เชน่ 25,000 ล้านบาท 5 ล้านแผน่ กนุ เชียง หมแู ผน่ ไส้กรอก แหนม แฮม เบคอน แคบหมู เจลาตนิ มลู ค่าเพ่ิม 3.1 เท่า โรงงานเคร่ืองหนงั ทารองเท้า กระเป๋ า ผลพลอยได้อน่ื ๆ ไส้บรรจผุ ลติ ภณั ฑ์ 1,000 ล้านบาท อาหารสตั ว์ ภาพท่ี 1.2 อธิบายมูลค่าเพ่ิมของเนือ้ สตั ว์จากอตุ สาหกรรมแปรรปู เนือ้ สตั ว์ (เยาวลักษณ์, 2536) 2.2.2 เศรษฐกิจระหว่างประเทศ ในปัจจุบันมีผู้ประกอบธุรกิจหลายรายท่ีดาเนินธุรกิจ อุตสาหกรรมเกษตรเก่ียวกับการแปรรูปเน้ือสัตว์จาหน่ายระหว่างประเทศและส่งออกขายต่างประเทศทา เงินตราเขา้ ประเทศ ปริมาณของผลิตภัณฑ์อาหารพวกเนื้อสัตว์ท่ีผลิตได้จากโรงงานแปรรูปส่วนใหญ่ยังเป็นการผลิตเพื่อ ใช้บริโภคกันภายในประเทศ ในปัจจุบันประเทศไทยมีการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารจากเน้ือสัตว์เพิ่มมากขึ้น ดังแสดงในตารางท่ี 1.2, 1.3, 1.4 และ 1.5

5 ตารางท่ี 1.2 แสดงปริมาณและมูลค่าของสินค้าประเภทเน้ือสัตว์ ทส่ี ่งออก เดอื นมกราคม – มถิ นุ ายนปี พ.ศ. 2554 (สานักงานเศรษฐกจิ การเกษตร, 2554) ประเภทสนิ ค้า ปรมิ าณ (กโิ ลกรัม) มูลค่า (บาท) 1. สุกรและผลิตภณั ฑ์ 5,315,146 1,078,777,832 2. ปลาและผลติ ภัณฑ์ 594,156,436 65,875,205,567 3. ปลาหมึก และผลติ ภัณฑ์ 35,873,997 6,852,509,114 4. ผลติ ภัณฑ์จากเนื้อไก่ 217,966,030 27,705,710,296 รวม 853,311,609 101,512,202,809 จากตารางท่ี 1.2 ปริมาณการส่งออกสุกรและผลิตภัณฑ์ ปลาและผลิตภัณฑ์ ปลาหมึกและ ผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์จากเน้ือไก่มีปริมาณรวมท้ังสิ้น 853,311,609 กิโลกรัมหรือคิดเป็นมูลค่าได้ 101,512,202,809 บาท โดยประเทศต่าง ๆ ท่ีไทยส่งออกเน้ือและผลิตภัณฑ์อาหารพวกเน้ือได้แก่ สิงคโปร์ เวียดนาม สาธารณรัฐประชาชนลาว ศรีลังกา ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย แคนนาดา สหรัฐอเมริกา นอร์เวย์ และสวีเดน ดังตารางที่ 1.3 แสดงมูลค่าการนาเข้าและส่งออกสินค้าปศุสัตว์ปี 2551 ตารางที่ 1.3 แสดงมูลค่าการนาเข้าและส่งออกสินค้าปศุสัตว์ ปี 2551 (สานักงานเศรษฐกิจการเกษตร, 2554) รายการ มกราคม - ธนั วาคม 2551 มูลคา่ การนาเข้า (บาท) มลู ค่าการส่งออก (บาท) 1. สกุ รและผลติ ภัณฑ์ 243,608,945 1,850,997,632 2. ปลาและผลิตภัณฑ์ 71,511,180,126 107,811,941,257 3. ปลาหมกึ และผลติ ภณั ฑ์ 2,973,804,654 13,470,610,732 4. ผลติ ภัณฑจ์ ากเนอ้ื ไก่ 68,916,976 51,623,089,063 รวม 74,797,510,701 174,756,638,684 ตารางท่ี 1.4 แสดงมูลค่าการนาเข้าและส่งออกสินค้าปศุสัตว์ ปี 2552 (สานักงานเศรษฐกิจการเกษตร, 2554) รายการ มกราคม - ธันวาคม 2552 มูลคา่ การนาเขา้ (บาท) มลู คา่ การส่งออก (บาท)

6 1. สกุ รและผลิตภณั ฑ์ 202,522,160 1,765,579,682 2. ปลาและผลิตภัณฑ์ 59,169,399,922 97,565,797,366 3. ปลาหมึก และผลิตภณั ฑ์ 3,836,408,013 12,009,544,106 4. ผลิตภัณฑ์จากเนอ้ื ไก่ 48,849,247,199 42,520,574 160,190,168,353 รวม 63,250,850,669 ตารางท่ี 1.5 แสดงมูลค่าการนาเข้าและส่งออกสินค้าปศุสัตว์ ปี 2553 (สานักงานเศรษฐกิจการเกษตร, 2554) รายการ มกราคม - ธันวาคม 2553 มลู ค่าการนาเขา้ (บาท) มูลคา่ การสง่ ออก (บาท) 1. สุกรและผลิตภณั ฑ์ 153,312,191 1,916,621,522 2. ปลาและผลติ ภณั ฑ์ 59,514,522,451 99,039,331,240 3. ปลาหมึก และผลิตภัณฑ์ 4,488,529,054 12,389,505,168 4. ผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่ 58,408,840 52,229,652,324 รวม 64,214,772,536 165,575,110,254 จากตารางที่ 1.3, 1.4 และ 1.5 แสดงมูลค่าการนาเข้าและส่งออกสินค้าปศุสัตว์ ปี 2551- 2553 จะเห็นว่ามูลค่าการนาเข้าสนิ ค้าปศุสัตว์ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ คือ ปี พ.ศ. 2552 นาเข้าเป็น มลู คา่ 63,250,850,669 บาท และในปี พ.ศ. 2553 นาเขา้ มลู ค่า 64,214,772,536 บาท แม้วา่ จะมกี ารนาเขา้ สนิ ค้าปศุสตั ว์ ประเทศไทยกส็ ามารถผลติ สนิ คา้ ปศุสตั ว์เพ่ือการส่งออกเชน่ กัน ปี พ.ศ. 2551-2553 ประเทศไทยสามารถส่งออกสินค้าปศุสัตว์ได้มีมูลค่ามากกว่าการนาเข้าและการส่งออก สินค้าปศุสัตว์ของประเทศไทยมีมูลค่าเพ่ิมข้ึน ดังในปี พ.ศ. 2551 มูลค่าการส่งออก 174,756,638,684 บาท ปี พ.ศ. 2552 มูลค่าการส่งออก 160,190,168,353 บาท และในปี พ.ศ. 2553 มูลค่าการส่งออก 165,575,110,254 บาท จากตัวเลขดังกล่าวแสดงว่า ยังมีความต้องการจากกลุ่มผู้บริโภคสินค้าปศุสัตว์เพิ่ม มากขึ้น 3. ประโยชน์ของผลติ ภณั ฑ์สัตว์ ในการแปรรปู เน้ือสตั วใ์ ห้เป็นผลติ ภัณฑ์แตล่ ะชนดิ นัน้ เปน็ การรู้จักใชผ้ ลติ ภัณฑ์จากเนอ้ื สัตวใ์ ห้เกิด ประโยชน์สูงสุดและไม่ให้มีการทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ ทาให้ทุกคนมีอาหารจากเนื้อสัตว์บริโภคและได้รับ ประโยชน์สงู ขึ้นท้ัง ๆ ทีม่ ปี รมิ าณอาหารอย่คู งเดมิ ดงั นัน้ การทาผลติ ภณั ฑเ์ นอ้ื สัตวม์ ปี ระโยชนส์ รปุ ได้ ดงั น้คี อื 3.1 การถนอมเก็บรักษา

7 การทาผลิตภัณฑ์สัตว์ เป็นการถนอมรกั ษาผลผลิตในขณะทีม่ ีมากไว้บริโภคในระหว่างนอกฤดู หรือยามขาดแคลน มีราคาสูง และ เป็นการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์สัตว์ให้คงสภาพดีอยู่ได้นานท่ีสุด ด้วย กรรมวิธีการแปรรูปต่าง ๆ ทาให้สามารถเก็บรักษาเนื้อสัตว์ไว้บริโภคได้เป็นเวลานาน เพราะในการทา ผลิตภัณฑ์เน้ือสัตว์ต้องผ่านกรรมวิธีทาลายเช้ือจุลินทรีย์ที่ปนเปื้อนมากับเนื้อสัตว์เช่น การต้มให้สุก หรือ กระบวนการยับยั้งการเจริญของเช้ือจุลินทรีย์ที่มีอยู่ในเนื้อสัตว์ เช่น การแช่เย็น การทาแห้ง การรมควัน การทาเค็ม เป็นต้น จึงส่งผลทาให้ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์มีอายุในการเก็บรักษานานกว่าเน้ือสดโดยเฉพาะ อยา่ งยง่ิ ผลิตภัณฑเ์ นื้อสตั วท์ ่มี ลี กั ษณะแหง้ หรือมีความชื้นเหลอื อยู่ในผลติ ภณั ฑ์อย่นู ้อย เชน่ หมหู ยอง หมทู ุบ หมูแผน่ แฮมรมควัน กุนเชยี ง เป็นต้น 3.2 การเพ่มิ มูลค่า การทาผลิตภัณฑ์สัตว์ เป็นการเพ่ิมมูลคา่ ให้กับเนื้อสัตว์ การนาเอาเน้ือสัตว์ท่ีมีราคาถูกมาทา ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทาให้ผลิตภัณฑ์สัตว์สามารถจาหน่ายได้ในราคาสูงขึ้นว่าเน้ือสดธรรมดา และผู้บริโภคก็ สามารถเลือกซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์จากเน้ือสัตว์ที่ต่างชนิดต่างรสชาติกัน ในการตัดสินใจซื้อแต่ละครั้งนั้นขึ้นอยู่ กับความชอบหรือความนิยมของกล่มุ ผู้บรโิ ภค นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์สัตว์ยงั สามารถพัฒนาให้เปน็ สนิ คา้ สง่ ออก ให้กับคนไทยในตา่ งประเทศหรือชาวตา่ งชาติทเ่ี ข้ามาเทย่ี วเมืองไทยได้ดว้ ย 3.3 การขยายตลาดรบั ซื้อเนอ้ื สัตว์ การทาผลิตภัณฑ์สัตว์ เป็นการเพิ่มตลาดรับซ้ือเน้ือสัตว์ เพราะโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูป เนื้อสัตว์ต้องนาเอาวัตถุดิบเนื้อสัตว์มาใช้ในการแปรรูปหรือการผลิตในระบบอุตสาหกรรม จึงทาให้มีการผลิต สัตว์เพ่ือชาแหละเน้ือสัตว์มากขึ้น และทาให้มีการชาแหละเน้ือสัตว์เพื่อนาส่งโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์มากขึ้น ดงั น้นั จงึ ทาใหม้ ีการขยายตลาดรับซือ้ เน้อื สัตวม์ ากข้ึนตามไปดว้ ย 3.4 ความหลากหลายของผลิตภณั ฑส์ ัตว์ การทาผลิตภัณฑ์เน้ือสัตว์ในปัจจุบันได้มีการพัฒนา การผลิตหรือแปรรูปเนื้อสัตว์ในระบบ อตุ สาหกรรมมีการพฒั นาผลติ ภัณฑ์ใหม่ ๆ ขึ้นมาไมว่ ่าด้วยจุดประสงค์ใดก็ตาม อาจจะดัดแปลงเพ่อื ให้อาหาร มีสี กล่ิน รสชาติ คุณค่าทางอาหารเปล่ียนไปในลักษณะที่พึงประสงค์ หรือตามความต้องการของผู้บริโภค และเห็นว่าเป็นอาหารท่ีมีประโยชน์ ในท้องตลาดไม่ว่าจะเป็นตลาดสด ห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้ามี ผลิตภัณฑจ์ ากเนื้อสัตว์วางจาหน่ายอยู่มากมายหลากหลายชนิด ทั้งท่ีเป็นกลุ่มของผลิตภัณฑ์สากลท่ีทุกคนทุก เชอื้ ชาติรู้จัก เช่น แฮม เบคอน ไส้กรอกเวียนนา โบโลญ่า เป็นตน้ และในกลุ่มของผลิตภัณฑ์ท้องถ่ินหรือ กลุ่มนิยมเป็นท่ีรู้จักของเฉพาะกลุ่มคนเท่าน้ัน เช่น แหนม ไส้อ่ัว ไส้กรอกอีสาน เป็นต้น อย่างไรก็ตามการ ทาผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ในระดับอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน อุตสาหกรรมโรงงานก็ ตาม ทาให้ไดผ้ ลิตภัณฑจ์ ากเนื้อสตั ว์ทหี่ ลากหลายชนดิ ขนึ้ ทง้ั รูปแบบ รสชาติ ผู้บรโิ ภคสามารถที่จะเลอื กซื้อ ไดต้ ามความพงึ พอใจ 3.5 การสง่ เสริมอาชีพ

8 การทาผลิตภัณฑ์สัตว์ ทาให้เกิดอาชีพต่างๆ ในการดาเนินธุรกิจอุตสาหกรรมแปรรูปเนื้อสัตว์ เช่น การตลาด การบัญชี การจัดการ เทคโนโลยีอุตสาหกรรมอาหาร เป็นต้น เน่ืองจากการทาผลิตภัณฑ์ สัตว์ต้องใช้แรงงานเป็นปัจจัยพื้นฐานในการผลิต เม่ือผลิตภัณฑ์สัตว์เป็นท่ียอมรับของผู้บริโภคแล้วย่อมมี ผู้ประกอบการทาการผลิตออกมาจาหน่าย เพื่อตอบสนองต่อความต้องการขอผู้บริโภค ผู้ประกอบการผลิต ต้องจ้างแรงงานที่เกี่ยวข้องกับการดาเนินธุรกิจให้อยู่ในสภาพคล่องมากข้ึน ในการผลิตผลิตภัณฑ์สัตว์มีท้ัง ระดับครัวเรือนและอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทต่ี อ้ งการแรงงานในการผลิตเปน็ จานวนมาก 3.6 เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การทาผลิตภัณฑ์สัตว์ช่วยทาให้เกิดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจภายในประเทศและต่างประเทศ เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์มีรายได้จากการจาหน่าย และมีเงินท่ีจะใช้ในการดารงชีวิตที่ดีมีคุณภาพ และหากมีผู้ ประกอบธุรกิจนาสินค้าผลิตภัณฑ์สัตว์ส่งจาหน่ายต่างประเทศ ทาให้ประเทศมีรายได้จากการจาหน่ายด้วย เช่นกนั สรุป ผลิตภัณฑ์สัตว์ เป็นผลิตภัณฑ์ท่ีได้จากการแปรเปลี่ยนเน้ือสัตวด์ ้วยวิธีการต่าง ๆ ให้สามารถถนอม และเกบ็ รกั ษาได้อยา่ งเหมาะสมตามชนดิ ของผลิตภัณฑ์เช่น กุนเชยี ง แหนม แฮม เบคอน หมแู ผ่น เปน็ ต้น ผลิตภณั ฑ์สัตว์นบั ได้วา่ มีความสาคัญกบั มนษุ ย์หลายด้านด้วยกนั คือ ด้านโภชนาการ เป็นกลุม่ ของผลิตภัณฑ์ อาหารท่ีมีความสาคัญและประโยชน์ต่อมนุษย์ เป็นอาหารหลักหมู่ท่ีสาคัญในการสร้างความเจริญเติบโตของ ร่างกายมนุษย์ และเศรษฐกิจของประเทศ ซ่ึงในปัจจุบันการแปรรูปผลิตภัณฑ์สัตว์ได้ดาเนินการในรูปธุรกิจ อุตสาหกรรมท่ีมีการจาหน่ายผลิตภัณฑ์สัตว์เป็นสินค้าส่งออกและนอกจากนี้ยังเป็นสินค้าท่ีจาหน่าย ภายในประเทศสามารถลดการนาเข้าจากต่างประเทศได้ทาให้ประเทศไทยมีกิจกรรมซ้ือมาขายไปจึงเกิด เสถียรภาพทางเศรษฐกิจข้ึน แบบฝกึ หดั ให้นกั ศึกษาตอบคาถามต่อไปน้ี 1. ผลติ ภัณฑ์สตั ว์หมายถงึ อะไร 2. ผลติ ภณั ฑ์สตั ว์มีความสาคญั อยา่ งไร 3. ผลติ ภัณฑ์สตั ว์มปี ระโยชน์อย่างไรบอกเป็นข้อ ๆ พรอ้ มอธิบาย

9