แผนการเรียนรู้สอนเสริม พต31001 ภาคเรียนที่ 1/2564

แผนการจัดการเรียนร(ู้ สอนเสรมิ ) รายวิชาภาษาอังกฤษเพื่อชวี ติ และสงั คม พต31001 ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรียนท่ี 1/2564 โดย นายนรินทร์ธร พัฒนไชยการ ตำแหน่ง ครผู ู้ชว่ ย สำนักงาน กศน.จงั หวดั สพุ รรณบรุ ี

ก คำนำ แผนการจัดการเรยี นรู้(สอนเสริม) ประจำภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 จัดทำขน้ึ เพื่อเป็นแนวทางในการ จัดกิจกรรมการเรียนรู้เพิ่มเติม จากครู กศน.ที่จัดการเรียนการสอนพบกลุ่มปกติ โดยเนื้อหาสาระประกอบด้วย ภาษาองั กฤษสาํ หรับพนักงานนวดแผนไทย และภาษาอังกฤษสําหรบั พนักงานขาย ตามหลักสตู รรายวชิ าภาษาอังกฤษ เพื่อชีวติ และสังคม พต 31001 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย สาระความรูพ้ น้ื ฐาน หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุง 2560) เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ครบตามมาตรฐาน ผลการเรียนรูที่ คาดหวัง ตัวชี้วัดและกรอบเนื้อหาสาระของรายวิชา ประกอบด้วยแนวทางการจัดการเรียนรู้แบบ ONIE MODEL 4 ขั้นตอนได้แก่ขั้นที่1 การกำหนดสภาพ ปัญหา ความต้องการ ในการเรียนรู้ (O: Orientation) ขั้นที่ 2 การแสวงหา ข้อมูลและการจัดการเรียนรู้ (N : New way of Learning ขั้นที่ 3 การปฏิบัติและนำไปประยุกต์ใช้ ( I : implementation) ขั้นที่ 4 การประเมินผล (E: evaluation) มีเนื้อหาความสอดคล้อง กับนโยบายและจุดเน้นการ ดำเนินงาน สำนักงาน กศน. ปีงบประมาณ 2564 และแนวนโยบายจุดเน้น การปฏิบัติในการจัดการศึกษาเพ่ือ ยกระดับคุณภาพการศึกษานอกระบบแบบมงุ่ ผลสัมฤทธิ์ ขอขอบคณุ ผมู้ สี ่วนเกยี่ วข้องทกุ ทา่ นทใ่ี ห้ความรู้ คำแนะนำ และใหค้ ำปรกึ ษาเป็นแนวทาง ทำใหแ้ ผนการจัด กจิ กรรมการเรยี นร้รู ายวิชาเล่มนี้ จนสำเรจ็ เป็นรูปเล่มสมบูรณ์ คณะผู้จดั ทำหวังเป็นอย่างย่ิงว่า เอกสารเล่มน้ี จะเป็น ประโยชน์สำหรับผู้นำไปใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพหากพบข้อผิดพลาดหรือมีข้อเสนอแนะ ประการใด ผ้จู ดั ทำขอน้อมรบั ไว้แกไ้ ขปรบั ปรงุ ด้วยความขอบคุณย่งิ นายนรินทร์ธร พฒั นไชยการ 25 กรกฎาคม 2564

สารบัญ ข คำนำ หน้า สารบัญ ก คำอธิบายรายวิชาภาษาองั กฤษเพ่ือชีวติ และสงั คม พต 31001 ข รายละเอียดคำอธิบายรายวชิ าภาษาองั กฤษเพื่อชีวิตและสงั คม พต 31001 1 ตารางวเิ คราะหห์ ลักสูตรรายวิชาภาษาอังกฤษเพ่ือชีวิตและสังคม พต 31001 2 แผนการจดั การเรยี นรู้(สอนเสรมิ ) ครงั้ ท่ี 1 24 48 ใบความรู้ที่ 1 49 คลิปวีดีโอประกอบการเรียนรู้ท่ี 1 50 แบบฝกึ หดั ท่ี 1 51 เฉลยแบบฝึกหัดท่ี 1 52 แบบสงั เกตพฤติกรรมครั้งท่ี 1 53 บันทึกผลหลงั การเรียนรู้ครั้งท่ี 1 54 แผนการจัดการเรยี นรู้(สอนเสริม) คร้ังที่ 2 55 ใบความรู้ท่ี 2 56 คลิปวดี โี อประกอบการเรียนรู้ที่ 2 57 แบบฝึกหดั ท่ี 2 58 เฉลยแบบฝกึ หดั ท่ี 2 59 แบบสังเกตพฤติกรรมคร้งั ที่ 2 60 บันทึกผลหลงั การเรียนรู้ครงั้ ท่ี 2 61 แผนการจดั การเรยี นรู้(สอนเสรมิ ) ครง้ั ที่ 3 62 ใบความรทู้ ่ี 3 63 คลปิ วีดีโอประกอบการเรียนรู้ท่ี 3 65 แบบฝึกหดั ท่ี 3 66 เฉลยแบบฝึกหัดท่ี 3 67 แบบสังเกตพฤติกรรมครั้งท่ี 3 68 บนั ทึกผลหลังการเรียนรู้คร้ังท่ี 3 69 แผนการจดั การเรยี นรู้(สอนเสริม) ครั้งท่ี 4 70 ใบความรู้ที่ 4 71 คลิปวดี ีโอประกอบการเรยี นรู้ท่ี 4 72 แบบฝกึ หัดท่ี 4 73

เฉลยแบบฝึกหดั ที่ 4 ค แบบสังเกตพฤติกรรมครงั้ ที่ 4 บนั ทกึ ผลหลงั การเรียนรู้ครั้งที่ 4 74 แผนการจัดการเรียนรู้(สอนเสริม) ครั้งท่ี 5 75 ใบความรู้ท่ี 5 76 คลิปวีดโี อประกอบการเรียนรู้ท่ี 5 77 แบบฝึกหัดท่ี 5 78 เฉลยแบบฝึกหดั ท่ี 5 80 แบบสงั เกตพฤติกรรมครง้ั ที่ 5 81 บันทึกผลหลงั การเรียนรู้ครั้งท่ี 5 82 แผนการจัดการเรยี นรู้(สอนเสรมิ ) ครั้งที่ 6 83 ใบความร้ทู ่ี 6 84 คลปิ วดี ีโอประกอบการเรียนรู้ที่ 6 85 แบบฝกึ หดั ท่ี 6 86 เฉลยแบบฝกึ หัดที่ 6 88 แบบสงั เกตพฤติกรรมคร้ังท่ี 6 89 บนั ทกึ ผลหลังการเรียนรู้ครงั้ ท่ี 6 90 91 อ้างอิง 92 93

1 คำอธบิ ายรายวชิ า พต 31001 ภาษาอังกฤษเพื่อชีวติ และสงั คม จำนวน 5 หน่วยกิต ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดบั การใหบริการนวดแผนไทยแกชาวตางประเทศ ถือเปนการเผยแพรภูมิปญญาไทย อาชีพ นวดแผนไทย จําเปนตองเรียนรูการใชภาษาอังกฤษ เชน การเชิญชวนลูกคามาใชบริการ การนําเสนอขอมูลเกี่ยวกับการนวดแผน ไทยที่ถูกตอง อาชีพพนักงานนวดแผนไทยถือเปนอาชีพที่สามารถทํารายไดแกตนเอง และประเทศ เพราะนักทอง เทีย่ วสวนหนึ่งนยิ มใชบริการนวดแผนไทย ศกึ ษาและฝกึ ทักษะเกีย่ วกับเรอื่ งดงั ต่อไปน้ี 1. การตีความหมายจากน้ำเสียงของผู้อื่นว่ามีความรู้สึกดีใจ เสียใจ พึงพอใจ ไม่พึงพอใจซาบซ้ึง ผิดหวัง ปรารถนาดี ชื่นชมหรือเห็นใจ และการใช้นำ้ เสียงแสดงความรู้สกึ ของตัวเองในโอกาสต่าง ๆการอ่าน ทำความ เข้าใจและปฏิบัติตามข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในสลากสินค้า การพูดทางโทรศัพท์ในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ถูกต้อง การ เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมอังกฤษและวัฒนธรรมไทย รวมทั้งสามารถปฏิบัติตนได้ถูกต้องตาม วฒั นธรรมและประเพณีตา่ ง ๆ 2. การอ่านและวิเคราะห์ข้อมูลจากสื่อต่าง ๆ เช่น หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ภาพยนตร์ ในด้าน ต่างๆ ทหี่ ลากหลาย การสบื ค้นขอ้ มลู จาก Internet เพอื่ นำมาใช้ประโยชนใ์ นการดำรงชีวิตในสังคม การรับและตอบ e-mail ทง้ั ในเร่ืองสว่ นตวั ในการศึกษาและในการประกอบอาชีพ วิธีการแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ข่าวสารและความรู้ ต่าง ๆ กับผู้อื่น ทั้งอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ โดยเข้าใจโครงสร้างของประโยคที่ซับซ้อน (Complex Sentence) และใช้ Tense ต่าง ๆ ในการแสวงหาข่าวสาร ข้อมูล ความรู้และในการสื่อสารได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับ สถานการณ์ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เน้นการฟัง พูด อ่าน เขียน จากสถานการณ์จริงหรือสถานการณ์จำลอง โดยใช้สื่อที่เหมาะสมและ สอดคลอ้ งกบั เนอ้ื หาในการเรยี นรู้ การวัดและประเมินผล 1. พิจารณาจากความสามารถในการนำความรู้และทักษะไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม 2. พิจารณาจากความสามารถในการนำความรู้และทักษะไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ไดอ้ ย่างถกู ต้องเหมาะสม

2 รายละเอยี ดคำอธบิ ายรายวิชา ภาษาอังกฤษเพอื่ ชีวิตและสงั คม พต 31001 มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั 1. มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติเกี่ยวกับ ภาษาท่าทาง การฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาต่างประเทศ ด้วยประโยคที่ซับซ้อนมากขึ้นในชีวิตประจำวัน และงานอาชีพของตน ถูกต้องตามหลักภาษา วัฒนธรรม และกาลเทศะของเจา้ ของภาษา ท่ี หัวเรอ่ื ง ตัวชว้ี ดั เนอ้ื หา จำนวน (ชว่ั โมง) 1 Everyday ตีความหมาย 1. การออกเสยี งพยัญชนะต้นคำ -ท้ายคำ 2 English จากนำ้ เสียงของ 1.1 ทบทวนการออกเสยี ง พยญั ชนะต้นคำที่ยาก ผ้อู ่ืนและร้จู ักใช้ เช่น เสยี ง s z ch sh นำ้ เสียงในการ - sit, see, soon แสดงความรสู้ กึ - zebra, zero, zoo ระหว่างการ - cheap, chat, choose สนทนาได้ - ship, shoe, shut ไดแ้ ก่ ดีใจ etc. เสียใจ 1.2 การอ่านออกเสียงท้ายคำทีถ่ ูกตอ้ ง พงึ พอใจ เชน่ เสียง [d] , [t] , หรือ [id] เม่ือเป็นกริยา ไมพ่ ึงพอใจ ชอ่ ง 2 และpast participle เช่น ซาบซ้งึ ผิดหวัง - moved, turned, loved ปรารถนาดี - walked, talked, knocked ชน่ื ชมและ - wanted, rented, waited เห็นใจ etc. 2. การออกเสยี งหนกั -เบา (Stress) วธิ กี ารออก 2 เสยี ง หนัก-เบา ของคำในลกั ษณะต่าง ๆ เชน่ คำ เดีย่ ว คำประสมในลกั ษณะต่าง ๆ เปน็ ต้น ว่าคำ ประเภทใดจะต้องออกเสียงเน้นท่ีพยางค์แรก พยางค์ กลางหรือ พยางค์หลงั

3. การออกเสยี งตามระดับเสยี งสงู -ต่ำ (Intonation) 3 วิธีการออกเสียงของประโยคลักษณะต่างๆ ซึง่ จะต้องออกเสียงสงู -ต่ำ ให้ถกู ต้องเพื่อให้ 4 สอื่ ความหมายท่ผี ู้พูดต้องการ ประโยคประเภท เดยี วกัน ถ้าออกเสียงสูง-ต่ำ ตา่ งกนั จะให้ความร้สู กึ ท่ี 2 ต่างกนั 2 4. การออกเสยี งเชื่อมโยง (Linking Sound) วิธีการอา่ นออกเสียงเช่ือมโยงระหว่างคำใน ภาษาอังกฤษที่ถูกตอ้ งตามกฎเกณฑ์ของ ภาษาองั กฤษ เชน่ - Ten years ago. - Far away etc. 5. การแสดงความดใี จ/เสยี ใจ การใชค้ ำ วลีและรูปประโยคทจี่ ะนำมาใช้ในการ แสดงความดใี จและเสยี ใจในโอกาสตา่ ง ๆ ได้ ถูกต้อง เชน่ แสดงความดีใจท่ีได้พบกนั อีกครง้ั หรือ แสดงความเสยี ใจท่ีทำผิด เป็นต้น ตวั อย่าง คำวลี และรูปประโยค เช่น - Congratulations! - Sorry. Glad is hear about that. - Sorry about that. - I’m glad to...................... - I’m pleased to........................ - I love to........................... - I’m sorry to......................... - It’s my fault that............................

6. การแสดงความพอใจ/ไม่พอใจ ใหร้ ูจ้ กั คำ วลี และ 4 รูปประโยคที่จะที่จะนำมาใช้ในการแสดงความ พอใจ/ไม่พอใจในโอกาสต่างๆ ไดถ้ ูกต้อง เช่น แสดง 4 ความพอใจ/ไม่พอใจในการรับบริการ เปน็ ต้น ตวั อยา่ งคำ วลี และรปู ประโยค เชน่ 2 - Great! - Awful! - Good news! - How nice! - How terrible! - That’s fantastic! - I can’t stand it! - I’m very disappointed with......................... 7. การแสดงความปรารถนา/ เห็นใจและการตอบรับ การใช้ คำ วลี และรูปประโยคที่จะนำมาใช้ใน การแสดงความปรารถนาดี/เห็นใจในโอกาสต่างๆ ได้ ถูกต้อง เชน่ การแสดงความระลกึ ถงึ การแสดง ความเหน็ ใจเมื่อผอู้ น่ื ประสบปัญหา เปน็ ต้น ตวั อย่าง คำ วลี และรปู ประโยค เชน่ - Best wishes. - Take care. - Get well soon. - Good luck. - With sympathy. - We hope everything go well through this suffering period. - I understand how difficult it is. - It must be for you. - I feel sympathy for you. - Thank you for your hospitality. - Thanks a million for............................ - I’m very grateful to your........................... - It’s very appreciative that.............................. - I’m very appreciated for...............................

8. การแสดงความตอ้ งการการเสนอ/ใหค้ วาม 5 ชว่ ยเหลือ/บริการ รวมทงั้ การตอบรับ/ปฏเิ สธการ 4 ให้ความช่วยเหลอื /บริการ การใชค้ ำ วลี และรปู 4 ประโยคเพ่ือแสดงความต้องการ การเสนอ/ให้ความ ช่วยเหลือ/บริการ รวมท้งั การตอบรบั /ปฏเิ สธในการ ให้ความช่วยเหลือ/บรกิ ารในโอกาสและสถานที่ ต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง ได้แก่ การซื้อสินคา้ /บริการใน ร้าน การสงั่ จอง ตัว๋ เครื่องบิน/รถไฟ/ภาพยนตร/์ การ บริการในบรษิ ัททัวร์ การจองโรงแรม/ ทพ่ี ัก การใช้ บรกิ ารในที่ทำการไปรษณีย/์ ธนาคาร/ร้าน อินเตอร์เน็ต ตัวอย่าง คำ วลี และรูปประโยค เช่น - May I help you? - What can I do for you? - Let me.............................. - Shall I ...............................? - Is there anything I can do for you? - I would like......................... - I prefer................................. - I’d rather.............................. - How much..............................? - How about..............................? - I’m afraid..............................? - We recommend.............................. - Would you please..............................? - Please let me know............................ - It’s occupied. etc. 2 What should อ่านและทำตาม 1. การใช้พจนานกุ รม (Dictionary) you do? คำแนะนำในการ 1.1 ทบทวนการค้าหาความหมายของคำศัพท์โดย ใช้คมู่ อื ป้าย เรียงตามตวั อักษรของคำศัพท์ทีค่ น้ หาจาก คำแนะนำ a ถงึ z วธิ กี ารปรงุ 1.2 ให้อ่านวธิ ีการใชพ้ จนานุกรมและข้อมูลต่าง ๆ ขอ้ ควรระวังและ ท่อี ยู่ในส่วนหน้า (คำชี้แจงในการใช้) ของ ป้ายประกาศได้ Dictionary ให้เขา้ ใจ

6 1.3 เม่ือคน้ หาคำศัพท์พบแล้ว ให้ศึกษาวธิ กี ารอ่าน ออกเสียงหนา้ ที่ของคำ ความหมายและ ตวั อยา่ งในการใช้ (ซ่ึงคำบางคำอาจจะทำหนา้ ท่ี ไดห้ ลายอย่าง) และคำท่ีมคี วามหมายใกลเ้ คยี ง กัน เชน่ drug (ดรกั ) n. ยา ผลติ ภัณฑย์ า ยา เสพติด สินคา้ ทเ่ี กี่ยวกบั สขุ ภาพทข่ี ายในรา้ น ขายยา vt. drugged, drugging ผสมกับยา ทำ ใหต้ ิดยา ทำให้ได้รับพิษจากยา drug on the market สนิ คา้ ท่ีมมี ากเกินความต้องการใน ตลาด

7 2. การวเิ คราะห์ศัพทแ์ ละรปู ประโยคทใ่ี ชใ้ น สัญลักษณ์ ป้ายประกาศ/คำแนะนำในการใช้/ คำแนะนำ/คำเตอื นต่าง ๆ 2.1 การวิเคราะห์ศัพทโ์ ดยการรู้จักส่วนที่เปน็ รากศัพท์ (Root) อุปสรรค หรือทีค่ ำเติมไป ข้างหนา้ (Prefix) และปจั จยั หรอื คำท่เี ตมิ ขา้ งหลงั (Suffix) โดยทราบความหมายของ สว่ นประกอบของคำศัพท์ต่างๆ เหลา่ น้ัน กจ็ ะทราบความหมายของศัพท์ได้ เชน่ Prefix : re = again anti = against tele= far Suffix : ant = person er = person who dom = condition ern = direction 2.2 รปู ประโยคทใี่ ช้ในสัญลักษณ์/ปา้ ยประกาศ/ คำแนะนำในการใช้/คำแนะนำ/คำเตอื นตา่ ง ๆ ซ่งึ จะใชร้ ปู ประโยคคำสั่ง (Imperative Sentence) ทั้งในลักษณะบอกเล่าและปฏเิ สธ เชน่ - Don’t smoke. - No smoking. - No entry. - Put some oil in the pan, then put the garlic and stir until it become yellow. 3. สญั ลกั ษณ์และป้ายประกาศตา่ ง ๆ (Signs & Notices) รจู้ ักความหมายของสัญลักษณ์และปา้ ย ประกาศท่ีพบในชีวติ ประจำวันและการประกอบอาชพี เชน่ การปฏิบตั ติ นในแหล่งท่องเทีย่ ว โรงแรม พพิ ิธภัณฑ์ โรงงาน สำนักงาน ยานพาหนะ เปน็ ตัวอยา่ ง เช่น

8 = Don’t take photograph. = No Smoking = Don’t take durian inside. = Handicapped = elevation or lift Make up = do not isturb the room = make up the room = danger = safety first = no parking = Disabled Symbol etc.

4 สลากยาและคู่มอื ในการใช้อปุ กรณ์ตา่ ง ๆ 9 (Instructions) การอา่ น ทำความเข้าใจและปฏบิ ัติ ตามคำแนะนำในการใชย้ าและอุปกรณ์ตา่ ง ๆ ทีใ่ ชใ้ น 4 ชวี ติ ประจำวัน เชน่ หม้อหงุ ข้าวไฟฟ้า 4 เครื่องซกั ผา้ คอมพวิ เตอร์ โทรศัพท์มือถือ เปน็ ตน้ โดยให้เขา้ ใจสำนวนหรอื โครงสร้างของประโยคท่ีมกั ใช้ เช่น - Keep out of reach of children. - Take one tablet after each meal. - Shake well before use. การใช้ Active Voice และ Passive Voice Modal verb Direct Speech, Indirect speech, Conjunction และ Connective words ที่สำคัญ เช่น - You should have it directly after meal. - The doses must not be divided. - Don’t use if the package is open. - First open the can with the opener. Pull it in a bowl. Then put some chopped chili, lemon juice and fish sauce. After that mix them together. 5. คำแนะนำและคำเตอื นตา่ งๆ (Tips and Warning) รจู้ กั วธิ ีการอา่ นและตคี วามคำแนะนำ คำ ชแ้ี จง และคำอธบิ ายต่างๆ เช่น พยากรณ์อากาศ ประกาศ เตอื นภัย คำแนะนำในการเข้าไปในสถานที่ ต่าง ๆ คำอธบิ ายสินค้าและส่วนประกอบหรือ เครอ่ื งปรุง วธิ ีการปรงุ อาหาร เปน็ ตน้

3 Hello, could ตดิ ต่อสอ่ื สารทาง 1. การตดิ ต่อทางโทรศัพทก์ ับผู้ท่คี ุ้นเคย 10 you tell me.............? โทรศัพท์ได้ รู้จกั วิธกี ารพดู โต้ตอบทางโทรศัพท์กับเพ่ือน ญาติ พ่ี 5 คล่องแคล่ว น้องและผู้ทค่ี ุน้ เคยในเรอ่ื งตา่ ง ๆ โดยใชส้ ำนวนและ ภาษาทีเ่ หมาะสม เช่น 5 - Is ……………. at home? - Could I speak to………., please? - May I speak to ……..…., please? - She/he is out. - Sorry, she’s not here now. - Would you like to wait? - Will you leave a message? - May I take a message for her/him? - Wait a minute, please. - Will you hole on? - Just a moment, please. - Please tell ....................... to call me at............... 2. การติดต่อทางโทรศัพท์เพื่อสอบถามข้อมูลตา่ ง ๆ การใชส้ ำนวนภาษาที่ใชพ้ ูดทางโทรศพั ท์เพื่อ สอบถามข้อมูลตา่ งๆ ท่ตี ้องการทราบโดยใช้รปู ประโยคขอร้อง /ขอร้องอย่างสภุ าพ (request, polite, request) ประโยค direct/ indirect speech ประโยคคำถามลักษณะต่างๆ ประโยค แสดงความคิดเห็นและการขอบคณุ เช่น การ สอบถามเส้นทางการเดนิ ทางไปท่ีตา่ งๆ สอบถาม ตารางรถไฟ เครื่องบิน สอบถามขอ้ มูลด้านการ คมุ้ ครองผ้บู รโิ ภค/ สุขภาพอนามยั / พยากรณ์อากาศ เป็นต้น

11 ตวั อย่างประโยคทใ่ี ช้. 10 - Hello, I’d like to ask about......................... - Could you tell me......................, please? - Would you mind giving me the information about.................................? - Can/Could you...............................? - May/Can/Could I.................................? - Don’t............................, please? - At what time...........................? - How many.................................? - How far..............................? - How much..............................? - I need your help..............................? - Pradon. - I think.............................. - Well, I must.............................. - In my opinion, .............................. - Thanks. /Thank you. - Sorry. /I’m sorry. - You’re welcome. 3. การตดิ ต่อทางโทรศัพท์เพื่อการประกอบอาชีพ วธิ ีการพูดโต้ตอบทางโทรศัพท์ เพ่อื ถาม-ใหข้ ้อมลู เกี่ยวกบั การประกอบอาชพี โดยใชส้ ำนวนและภาษา ทเี่ หมาะสมในการสอบถามข้อมูลเกยี่ วการสมัครงาน การซ้ือ-ขายสินคา้ การใหข้ ้อมูลเก่ียวกบั คุณภาพและ ราคาของสินคา้ การส่งเสริมการขาย การต่อรอง ราคา การรบั และ สง่ ของตวั อย่างประโยคทีใ่ ช้ - Hello. I’d like to ask/know about...................... - Can/could you tell me about...........................?

12 - May/Could I speak to.........................., please? - Can/Could you inform me about..................? - What is the position required? - What is the qualification? - How can I apply for this position? - When is the dateline of the application? - Do I have to send the application form? - Should I also send the resume/reference? - When/Where will the interview take place? - What kind of goods are available? - How much does it cost? - How can I send the order? - Is there any discount? - How about the present promotion? - How about the quality? - Where/When can I buy this product? - What is the product’s significance? - Please let me know if............................ - I’m interested in........................... - That’s very interesting. - I’m very appreciated......................... - When will I receive the product? - How should I pay for the product? - By cash/check /credit. - Thanks for your interest /kindness/information. - It’s my pleasure. - You’re welcome. - Sorry. /I’m sorry.

Cultural 1. ปฏิบัตติ นตาม 1. การใชภ้ าษาในการส่ือสารไดเ้ หมาะสมตาม 13 Difference 5 มารยาท มารยาททางสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของ วฒั นธรรมและ ภาษา ประเพณีต่าง ๆ การใชภ้ าษา น้ำเสยี งและภาษาทา่ ทางได้อยา่ ง ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง เหมาะสมกับบคุ คล เวลา สถานทีแ่ ละโอกาส เชน่ 1. เปรียบเทียบ การสมั ผสั มอื การโบกมือ การใช้สีหนา้ ทา่ ทาง และ ความแตกต่าง น้ำเสียงประกอบการพดู การแนะนำตวั เอง การ ระหว่าง แสดงความรู้สกึ ในโอกาสต่างๆ การแตง่ กาย การ วฒั นธรรม รับประทานอาหาร ร่วมงานงานเลีย้ ง งานสงั สรรค์ องั กฤษกับ และกจิ กรรมทางสงั คมต่าง ๆ วฒั นธรรมไทย ตวั อยา่ ง เชน่ - Blow a kiss. (ส่งจูบ) - I love you. (ภาษาใบ)้ - Be quiet. (เงียบ) - That’s bad. (ยกหัวแม่มือ ชี้ลงไปที่พื้น) - How’s everything? - How have you been? - What’s going on with your life?

14 - How’s life? - What’s up? - May I introduce myself? - Let me introduce myself, ............................... - Allow me to introduce.................. to................ - Have you met......................? - Congratulations on........................ - Happy Birthday. - Merry Christmas. - Happy New Year. - I’m sorry for......................... - May god bless you. - May god be with you. - I feel sorry............................... - Please pass my warm regards to..................... - Toast! - I wish you................................... - Would you mind................................... - Please let me know................................... - Would you please................................... - May I have................................... - Can you help me................................... - You look smart. - How nice............................... - I wonder if.............................. - How to cook.............................. etc.

15 2. ความเช่อื และขนบธรรมเนียม ประเพณีของ 5 เจ้าของภาษา ความเปน็ มาของความเชื่อ ขนบธรรมเนยี มและ ประเพณีต่าง ๆ ในสงั คมของเจา้ ของภาษา การทำ กิจกรรมตามความเชือ่ ขนบธรรมเนยี มและประเพณีต่าง ๆ ในดา้ น บทเพลง การแตง่ กาย อาหาร เคร่อื งดืม่ และการ ประกอบพธิ ีกรรมที่เก่ยี วขอ้ ง ได้แก่ วนั คริสต์มาส วนั ขอบคณุ พระเจา้ วนั วาเลนไทน์ และวนั พอ่ 3. การเปรยี บเทียบโครงสรา้ งภาษาไทยกบั 5 ภาษาองั กฤษ เปรียบเทียบลกั ษณะคำที่มาของคำความหมายและการ ประยุกต์คำในภาษาอังกฤษใชใ้ นภาษาไทยและคำใน ภาษาไทย ท่ีนำไปในภาษาอังกฤษ ตัวอย่าง เชน่ - ศัพท์ของภาษาไทยสว่ นใหญ่มาจากภาษาบาล/ี สันสกฤตในขณะท่ีศัพทข์ องภาษาอังกฤษ สว่ นใหญจ่ าก ภาษากรกี และโรมัน - คำในภาษาอังกฤษท่นี ำมาใช้ในภาษาไทย เชน่ กิโลกรมั กิโลเมตร เซนติเมตร คำในภาษาไทยที่ นำไปใชใ้ นภาษาอังกฤษ เช่น Tom Yam Kung, Muai Thai เปน็ ต้น โครงสร้างของประโยคตา่ งๆ - ประโยคความเดียว (Simple Sentence) - ประโยคความรวม (Compound Sentence) - ประโยคความซ้อน (Complex Sentence) - การใช้ Transitive / intransitive/ auxiliary verbs - Tense ต่างๆ - ลักษณะของประโยคคำถาม - ประโยคเง่อื นไข - การใช้สนั ธาน (Conjunction) และบุพบท (Preposition) etc.

16 4. เปรยี บเทียบ สำนวน คำพงั เพย สุภาษติ บทกลอน 5 ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ 4.1 คำและสำนวนท่ีได้รับอิทธิพลจากศาสนา เช่น - Oh, god! = คุณพระช่วย - Oh, my god! = พุทโธ ธมั โม สังโฆ etc. 4.2 คำพงั เพย สภุ าษติ ท่ีมกั จะใช้ในชวี ิตประจำวัน เชน่ - It’s a piece of cake. = ปลอกกล้วย เขา้ ปาก - Silence is gold. = นิ่งเสยี ตำลงึ ทอง - Time and tide wait for no one. = เวลาและวารีไมเ่ คยคอยใคร ลกั ษณะของบทกลอนภาษาไทยกบั ภาษาองั กฤษทีเ่ หมือนและแตกตา่ งกนั แรง บันดาลใจของกวใี นการแต่งคำประพนั ธ์พร้อม ตัวอย่างท่ีมักไดย้ นิ เสมอ ๆ เช่น Roses are red, Violets are blue, sugar is sweet, but not as sweet as you. แม้เนอื้ เยน็ เป็นหว้ งมหรรณพ จะขอพบศรีสวัสด์ิเปน็ มัจฉา แมเ้ ป็นบัวตัวพ่ีเปน็ ภมุ รา เชยผกาโกสมุ ภ์ประทุมทอง แม้เป็นถ้ำอำไพใครเ่ ปน็ หงส์ จะร่อนลงสงิ สเู่ ปน็ คสู่ อง จะตดิ ตามทรามสงวนนวลละออง เปน็ คู่ครอง พศิ วาส ทุกชาตไิ ป etc.

17 ที่ หวั เร่ือง ตัวชวี้ ัด เน้อื หา จำนวน (ชวั่ โมง) 5 News & 1. เข้าใจและใช้ประโยค 1. เสียง คำศัพท์ วลี สำนวน ท่ี มักใช้บ่อย ๆ News ที่ซับซ้อนใน ในขา่ ว 2 Headline สถานการณ์ต่างๆ ได้ 2 2. องค์ประกอบของขา่ ว ประกอบด้วย 2 1. ใช้ Tenses ท่ี Headline, Sub headline, Lead และ 6 ย่งุ ยากและซับซ้อน Detail ได้ 5 3. ประเภทของขา่ ว เชน่ ข่าวการเมอื ง 2. ศึกษาคน้ ควา้ ความรู้ ขา่ วการศึกษา ขา่ วกฬี า ข่าวสงั คม 2 และข้อมูลจากส่ือ ขา่ วเศรษฐกจิ เปน็ ต้น หนังสือ พมิ พ์ได้ 4. โครงสรา้ งของการเขยี นพาดหวั ขา่ ว 3. แลกเปล่ียนขอ้ มลู (News Headline) ได้แก่ ขา่ วสารความรอู้ ยา่ ง 4.1 ขา่ วและพาดหัวขา่ ว เป็นทางการ 4.2 การถามและตอบคำถามจากขา่ วดว้ ย คำถามท่ี เป็น Wh-Question และ 4. สบื ค้นขอ้ มูลในดา้ น Yes/No Question ตา่ ง ๆ จาก 4.3 การถามและแสดงความคิดเห็นว่า Internet ได้ เห็นด้วยหรอื ไมเ่ หน็ ดว้ ย เช่น - Do you agree with this....................? - What do you think about.................. 4.4 Website ของหนงั สือพิมพ์ The Nation หรอื Bangkok Post เพอื่ ศกึ ษาข่าว ประเภทต่างๆ ท่ีสนใจแลว้ วเิ คราะหโ์ ครงสรา้ ง ของพาดหวั ข่าวนัน้ ๆ หรอื บอกประเภทของ ขา่ วนนั้ ๆ - Subj. + V1 - Subj. + V3 - Subj. + to + V1 - Subj. + V. ing Noun phrase

18 ท่ี หัวเร่อื ง ตัวช้วี ดั เนื้อหา จำนวน (ช่ัวโมง) 6 Self - 1. ศกึ ษาค้นควา้ ความรู้ 1. บทความเก่ยี วกับเศรษฐกิจพอเพยี งจาก 2 Sufficiency และข้อมูลจากสื่อตา่ ง หนงั สือ หนงั สอื พมิ พ์ หรือ Website 2 Economy ๆ ได้ ทเี่ กี่ยวข้อง 2 2. สบื ค้นข้อมลู ในดา้ น 2. คำศัพท์ วลี สำนวน ที่เกยี่ วข้องกบั เศรษฐกิจ 2 2 ตา่ ง ๆ จาก Internet พอเพียง เช่น moral , moderation, 2 ได้ reasonable, knowledge, saving เป็นต้น 2 3. เขา้ ใจและใชป้ ระโยค 3.โครงสร้าง Conditional sentence (If - 2 ซับซ้อนในสถานการณ์ clause) 2 ต่าง ๆ ได้ 4.โครงสรา้ ง Imperative 4 4. การแลกเปลี่ยนข้อมูล 5.การนำเสนอการนำเศรษฐกิจพอเพยี งมาใช้ใน ข่าวสารความรูไ้ ด้ รูปแบบต่าง ๆ เช่น การตดิ คำขวัญ การสัมภาษณ์ การทำ Poster เปน็ ตน้ 6.การเล่นเกม Cross word 7 Have you 1. ศึกษาค้นควา้ ความรู้ 1. แบบสอบถาม (Questionnaire) เกยี่ วกับ exercised และข้อมลู จากสื่อต่าง การดแู ลสขุ ภาพจากหนงั สอื หรือ Website to day? ๆ ได้ เกีย่ วขอ้ ง 2. สบื คน้ ข้อมลู ในด้าน 2. การอา่ นออกเสียง คำศัพท์ สำนวน วลี ต่าง ๆ จาก Internet ท่เี กย่ี วข้องกับสุขภาพ เชน่ aerobics, ได้ once, relaxed, health, healthy, firm, 3.เข้าใจและใชป้ ระโยค have a headache เป็นต้น ซบั ซ้อนในสถานการณ์ 3. ประโยคท่เี ขยี นดว้ ย Modal Verb เช่น ต่าง ๆ ได้ should, must, ought to, had better, 4. ใช้ Tense ทย่ี ่งุ ยาก will เปน็ ตน้ และซบั ซ้อนได้ 4.Present Perfect Tense 5. แลกเปลีย่ นขอ้ มูล 5. การสำรวจแบบสอบถามเก่ียวกับสุขภาพ ข่าวสารความรู้ ท้ัง บคุ คลใกล้ชดิ แล้วนำเสนอขอ้ มูลเป็น อย่างเป็นทางการและ รปู กราฟหรือแผนภูมิ ไม่เปน็ ทางการได้

ท่ี หวั เร่ือง ตวั ชี้วัด เน้อื หา 19 8 Shall we 1. ศึกษาค้นควา้ ความรู้ 1. บทความเก่ยี วกบั การประหยัดพลังงาน จำนวน (ช่วั โมง) save the และข้อมูลจากสื่อตา่ ง (Energy Saving) จากหนงั สอื หนังสอื พมิ พ์ 2 energy? ๆ ได้ หรอื Website ทเ่ี กย่ี วข้อง 2 2. สืบค้นข้อมูลในดา้ น 2. เสียง คำศัพท์ วลี สำนวนทเี่ กี่ยวขอ้ งกับการ 2 ต่างๆ จาก Internet ประหยัดพลังงาน เช่น reuse, recycle, 1 ได้ plug in, unplug, turn on, turn off, 2 3. เขา้ ใจและใชป้ ระโยค reduce เป็นต้น 2 2 ซบั ซอ้ นในสถานการณ์ 3. โครงสร้าง เร่ือง Imperative + V1 _____. 2 ตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง Don’t + V1 + ........................... 2 2 4. ใช้ Tense ทีย่ ่งุ ยากและ ซบั ซอ้ นได้อยา่ งถกู ต้อง 4.Game “Find someone who..............” 5. แลกเปลย่ี นข้อมูล 5.การสัมมนาเร่ืองการประหยัดพลงั งาน ข่าวสารความรูท้ ้งั อยา่ ง เป็นทางการและไม่เปน็ ทางการได้ 9 What have 1. ศกึ ษาค้นควา้ ความรู้ 1. บทสนทนาเก่ยี วกบั การไปตัดเสื้อ I done? และข้อมลู จากสอื่ ต่าง 2. การอ่านออกเสยี ง คำศพั ท์ วลี สำนวน ท่ี ๆ ได้ เกี่ยวข้องกับการไปตดั เสื้อ เชน่ measure, 2. อา่ นออกเสียงคำศพั ท์ sleeves, seam, shorten เป็นตน้ 3. โครงสรา้ ง have something done วลี สำนวน ไดอ้ ยา่ ง 4. โครงสร้าง Reported Speech ถูกต้อง 5. การเล่าเรือ่ ง (สถานการณ)์ 3. เขา้ ใจและใชป้ ระโยค ซบั ซ้อนในสถานการณ์ ต่าง ๆ ได้ 4. ใช้ Tense ทย่ี งุ่ ยากและ ซับซ้อนได้ 5. แลกเปลย่ี นขอ้ มูล ข่าวสารความร้ไู ด้

ท่ี หัวเรอ่ื ง ตวั ชีว้ ดั เนอ้ื หา 20 10 What is 1. การสืบค้นข้อมูลดา้ น 1. การขอมี e-mail จำนวน your e- (ชัว่ โมง) mail ต่างๆ จาก Internet 2. การเปดิ /ปิด e-mail address? 2 และรบั สง่ e-mail ได้ 3. ภาษา e-mail 1 11 Natural 2 Disaster 2. ศกึ ษาคน้ ควา้ ความรู้ 4. บทอ่านแนะนำตนเองทพี่ มิ พ์มาจาก e-mail 2 1 และข้อมูลจากส่ือ 5. การสร้างประโยคคำถามจากคำตอบที่ใหม้ า 1 1 ต่างๆ 6. การถามและการตอบข้อมูลการเปรยี บเทยี บ 2 3. เขา้ ใจและใช้ประโยค 7. การเขยี นแนะนำตนเองถึง Pen pal โดยสง่ 1 ซับซ้อนใน ทาง e-mail 3 สถานการณต์ ่างๆ 2 1 4. แลกเปลีย่ นขอ้ มูล 1 ขา่ วสารความรู้ ท้ัง อย่างเปน็ ทางการ และไม่เป็นทางการได้ 1. ศึกษา คน้ ควา้ ความรู้ 1. บทอา่ นเกีย่ ว Earthquake, Tornado หรือ และข้อมูลจากส่ือตา่ ง Flood จากหนงั สอื พิมพ์ หรอื Website ๆ ได้ ของหนังสือพิมพ์ The Nation หรือ 2. สืบคน้ ขอ้ มูลในด้าน Bangkok Post ต่าง ๆ จาก Internet 2. คำศัพท์ วลี สำนวนทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง เช่น kill, ได้ injured, die, homeless, help, shelter, 3. เข้าใจและใชป้ ระโยคท่ี landslide เป็นตน้ ซบั ซอ้ นในสถานการณ์ 3. Past Simple Tense, Past Continuous ตา่ ง ๆ ได้ อยา่ ง Tenseและ Past Perfect Tense. ถูกต้อง 4. Compound Sentence และ Complex 4. การใช้ Tense ที่ Sentence ยุง่ ยากและซับซ้อนได้ 5. การถามและการตอบคำถามจากบทอ่าน 5. แลกเปลย่ี นขอ้ มลู 6. การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Play) เป็น ข่าวสารความรู้ ทั้งเป็น ผสู้ อ่ื ขา่ ว นำเสนอขา่ วทีเ่ กย่ี วกับ Natural ทางการและ ไม่เป็น Disaster ทางการ

21 ท่ี หวั เรอ่ื ง ตวั ช้วี ัด เนอ้ื หา จำนวน (ชั่วโมง) 12 Let’s 1. ศกึ ษาคน้ คว้าความรู้ 1. ตารางเวลาของ Bus, Train, Airplane, 2 Travel และข้อมลู จากสื่อต่าง Boat หรอื Subway จากส่ือตา่ งๆ เช่น แผ่น ๆ ได้ พบั หนงั สอื พมิ พ์ หรือ Website ทีเ่ ก่ียวขอ้ ง 2. สืบคน้ ขอ้ มลู ในดา้ น 2. Asking & giving Information เชน่ 2 ต่างๆ จาก Internet - Could you please tell และรบั ส่ง E-mail ได้ me....................? 3. เข้าใจและใชป้ ระโยคท่ี - Please tell me.............................. ซบั ซ้อนในสถานการณ์ - Excuse me. Do you 2 ตา่ ง ๆ ได้ know.......................? 4. ใช้ Tense ที่ย่งุ ยาก 3. การบอกทศิ ทาง (Direction) เชน่ และซับซ้อนได้ - Go straight. 5. แลกเปลีย่ นขอ้ มูล - Keep walking to.......................... ข่าวสารความร้ไู ด้ - Walk past.................................. - It’s at the opposite 2 of.......................... 2 - Next to.................................... 4. Past Simple Tense และ Past Simple 2 Tense 5. การเขยี นเล่าเร่ืองหรอื ประสบการณ์ในการ ทอ่ งเท่ยี ว 6. การวางแผนการเดนิ ทางท่องเทีย่ ว 13 Will it rain 1. ศึกษาค้นควา้ ความรู้ 1. บทอ่าน การพยากรณ์อากาศ (Weather 2 tomorrow? และข้อมูลจากส่ือ Forecast) ทง้ั ในประเทศและตา่ งประเทศ ตา่ งๆ เช่น 2. การถาม-ตอบ คำถามจากบทอ่าน 1 หนังสือพิมพ์ การพยากรณ์อากาศ (Weather Forecast) ภาษาองั กฤษและ 3. การถามและการขอข้อมลู (Asking & Giving 2 Website ได้ Information) 2. แลกเปลย่ี นข้อมูล เสียง คำศพั ท์ วลี สำนวนที่มักใช้บ่อยๆ ใน ขา่ วสารความรู้ทง้ั ขา่ วพยากรณ์อากาศ เช่น shower, อย่างเป็นทางการและ windy, heavy, scatter, stormy, sunrise, ไมเ่ ป็นทางการได้

22 ที่ หัวเรอ่ื ง ตัวชี้วัด เนอื้ หา จำนวน (ชัว่ โมง) 3. เข้าใจและใชป้ ระโยคท่ี sunset, maximum, minimum, ซบั ซอ้ นในสถานการณ์ Northeast 2 ตา่ ง ๆ ได้อยา่ งถูกต้อง 4. Parts of Speech การทำคำนาม Noun ให้ 1 4. สืบค้นขอ้ มลู ในด้าน 2 เป็น Adjective ต่าง ๆ จาก Internet 5. Website ท่เี ก่ียวกับการพยากรณ์อากาศ ได้ 6. Role play เป็นผู้ประกาศข่าวการพยากรณ์ อากาศ 14 Global 1. ศึกษาค้นคว้าความรู้ 1. บทความเก่ยี วกบั ภาวะโลกรอ้ น(GlobalWarming) 2 Warming และข้อมูลจากส่ือต่าง สาเหตุของภาวะโลกรอ้ นหรือผลกระทบของภาวะโลก 2 15 Urgently 2 Wanted ๆ ได้ รอ้ นจากหนังสือหรอื หนงั สอื พิมพ์หรอื Website ท่ี 2 2 2. สืบค้นขอ้ มูลในด้าน เกย่ี วข้อง 2 2 ตา่ งๆ จาก Internet 2. การอ่านออกเสียงคำศัพท์ วลี สำนวน ที่ 2 ได้ เกี่ยวขอ้ ง เช่น temperature, increase, 3. เข้าใจและใช้ประโยค melt, burn, earth, hot เปน็ ตน้ ซับซ้อนในสถานการณ์ 3.โครงสร้าง Passive Voice ต่าง ๆ ได้ Subj + V to be + V3 4. ใช้ Tense ทยี่ ุง่ ยาก 4. บทสนทนาท่ีเก่ียวกับการป้องกนั หรือลดภาวะ และซบั ซ้อนได้ โลกร้อน 5. แลกเปลีย่ นข้อมลู 5. Mind map แสดงเหตุผลและผลกระทบของ ข่าวสารความร้ทู ัง้ ภาวะโลกรอ้ น อย่างเป็นทางการและ ไมเ่ ป็นทางการได้ 1. ศึกษาค้นคว้าความรู้ 1. โฆษณาตำแหน่งงาน (Job Advertisement) และข้อมูลจากสื่อต่าง จากหนังสอื หนังสอื พมิ พ์ หรือ Website ๆ ได้ เกย่ี วข้อง 2. สืบคน้ ข้อมูลในด้าน 2. คำศัพท์ สำนวน วลี โครงสร้างทีเ่ กี่ยวข้อง ต่าง ๆ จาก Internet เชน่ qualification, salary, graduation, และรับสง่ e-mail ได้ age, photo, apple เป็นต้น 3. การเขียนประวตั ิ (Resume) เพ่ือสมัครงาน การสง่ e-mail สมัครงาน

ท่ี หัวเรื่อง ตวั ช้วี ัด เนือ้ หา 23 จำนวน (ชวั่ โมง) 3. เข้าใจและใชป้ ระโยค ซับซอ้ นในสถานการณ์ ต่าง ๆ ได้ 4. การแลกเปล่ียนข้อมลู ขา่ วสารความรู้ ท้ัง อยา่ งเปน็ ทางการและ ไมเ่ ป็นทางการได้ 16 ภาษาองั กฤษ 1. สามารถใชภาษาอังกฤษ 1. คําศพั ทเกีย่ วกับการใหบริการนวดแผนไทย สาํ หรับ เก่ียวกบั การใหบริการนวด เชน massage, relax etc. พนกั งานนวด แผนไทยไดถกู ตอง 2. สํานวนภาษาการกลาวเช้ือเชญิ ลกู คา การนัด แผนไทย 2. สามารถใชสาํ นวน หมายลูกคา การใหขอมูลเกี่ยวกบั การนวด แผน ภาษาอังกฤษในการเชญิ ไทย เชน ชวน นดั หมายลกู คา และ - come this way to the massage room. การใหขอมูล เกยี่ วกับการ - Please straight out your foot. นวดแผนไทย - Please relax. - Please check your belongs before you leave. - Would you like to return for another massage later? 17 ภาษาองั กฤษ ผูเรยี นสามารถ ฟง พดู - การถามขอมลู สาํ หรับ อาน เขยี น ภาษาองั กฤษ - การซือ้ ขายสินคาและการตอรองราคา พนกั งานขาย ในการเจรจาซ้ือขายใน - การซื้อขายต๋ัวโดยสารรถโดยสาร รถไฟ สถานการณที่ตางกันได เคร่อื งบนิ โดยใชสถานการณจาํ ลอง และสอ่ื ที่เหมาะสม

24 ตารางวิเคราะหห์ ลกั สตู ร รายวิชา พต31001 ภาษาอังกฤษเพื่อชีวติ และสงั คม จำนวน 5 หนว่ ยกติ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ ที่ ตัวชีว้ ดั เน้ือหา ช่วั โมง สอน พบ การเรียนรู้ เสรมิ กลมุ่ ดว้ ยตนเอง 1 1. ตีความหมายจากน้ำเสียง 1.การออกเสียงพยญั ชนะตน้ คำ - 2  ของผู้อน่ื และรจู้ ักใชน้ ำ้ เสียง ท้ายคำ ในการแสดงความรสู้ ึก 1.1 ทบทวนการออกเสียง ระหวา่ งการสนทนา ได้แก่ พยัญชนะต้นคำทยี่ าก เชน่ เสยี ง s ดใี จ เสยี ใจ พึงพอใจ z ch sh ไม่พึงพอใจ ซาบซ้ึง ผิดหวัง - sit, see, soon ปรารถนาดี ชนื่ ชม - zebra, zero, zoo และเหน็ ใจ - cheap, chat, choose - ship, shoe, shut etc. 1.2 การอ่านออกเสียงทา้ ยคำที่ ถกู ตอ้ ง เช่น เสียง [d] , [t] , หรอื [id] เมอื่ เป็นกริยา ช่อง 2 และ past participle เชน่ - moved, turned, loved - walked, talked, knocked - wanted, rented, waited etc.  2.การออกเสียงหนัก-เบา (Stress) 2 วธิ กี ารออกเสยี ง หนัก-เบา ของคำใน ลักษณะตา่ งๆ เชน่ คำเด่ยี ว คำประสม ในลักษณะตา่ ง ๆ เป็นต้น วา่ คำ ประเภทใดจะตอ้ งออกเสยี งเนน้ ท่ี พยางค์แรก พยางคก์ ลางหรอื พยางค์ หลัง

25 ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ ท่ี ตัวช้ีวดั เน้ือหา ช่วั โมง สอน พบ การเรียนรู้ เสรมิ กลมุ่ ด้วยตนเอง 3.การออกเสียงตามระดบั เสียงสูง- 4  ตำ่ (Intonation) วิธีการออกเสียง 2  ของประโยคลกั ษณะต่าง ๆ 2  ซึ่งจะต้องออกเสยี งสงู -ตำ่ ให้ถกู ต้อง เพอื่ ให้ สอ่ื ความหมายที่ผู้พูดตอ้ งการ ประโยคประเภทเดียวกัน ถา้ ออก เสยี งสงู -ต่ำ ตา่ งกันจะให้ความรู้สึกที่ ต่างกัน 4. การออกเสียงเชื่อมโยง (Linking Sound) วิธีการอ่านออกเสียง เช่อื มโยงระหว่างคำในภาษาอังกฤษ ทีถ่ ูกต้องตามกฎเกณฑ์ของ ภาษาองั กฤษ เชน่ - Ten years ago. - Far away etc. 5. การแสดงความดใี จ/เสียใจ การใชค้ ำ วลแี ละรปู ประโยคที่ จะนำมาใชใ้ นการแสดงความดใี จ และเสยี ใจในโอกาสต่าง ๆ ได้ถกู ต้อง เช่น แสดงความดใี จท่ีไดพ้ บกันอกี ครั้งหรือแสดงความเสยี ใจท่ีทำผดิ เปน็ ตน้ ตวั อยา่ ง คำวลี และรูป ประโยค เชน่ - Congratulations! - Sorry. Glad is hear about that. - Sorry about that. - I’m glad to...................... - I’m pleased to........................ - I love to........................... - I’m sorry to......................... - It’s my fault that............................

26 ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ ท่ี ตวั ชวี้ ดั เนือ้ หา ช่วั โมง สอน พบ การเรียนรู้ เสริม กลมุ่ ด้วยตนเอง 6.การแสดงความพอใจ/ไม่พอใจ 4  ให้รู้จักคำ วลี และรูปประโยคที่จะ ที่จะนำมาใช้ในการแสดงความ พอใจ/ไม่พอใจในโอกาสต่าง ๆ ได้ ถูกต้อง เช่น แสดงความพอใจ/ไม่ พอใจในการรับบริการ เป็นต้น ตัวอยา่ งคำ วลี และรูปประโยค เช่น - Great! - Awful! - Good news! - How nice! - How terrible! - That’s fantastic! - I can’t stand it! - I’m very disappointed with......................... - It’s ashamed that............................. 7.การแสดงความปรารถนา/ เห็น ใจและการตอบรับ การใช้ คำ วลี 2  และรูปประโยคที่จะนำมาใช้ใน การแสดงความปรารถนาดี/เห็นใจ ในโอกาสตา่ ง ๆ ไดถ้ กู ต้อง เชน่ การ แสดงความระลึกถึง การแสดง ความเห็นใจเมื่อผู้อื่นประสบปญั หา เป็นต้น ตัวอย่างคำ วลี และรูป ประโยค เชน่ - Best wishes. - Take care. - Get well soon. - Good luck.

27 ออกแบบแผนการจัดการเรยี นรู้ ท่ี ตัวช้ีวดั เนอ้ื หา ชั่วโมง สอน พบ การเรยี นรู้ เสรมิ กลมุ่ ดว้ ยตนเอง - With sympathy. 4  - We hope everything go well through this suffering period. - I understand how difficult it is. - It must be for you. - I feel sympathy for you. - Thank you for your hospitality. - Thanks a million for.......... - I’m very grateful to your... - It’s very appreciative that.............................. - I’m very appreciated for... 8.การแสดงความต้องการการ เสนอ/ให้ความช่วยเหลอื /บริการ รวมท้ังการตอบรับ/ปฏเิ สธการให้ ความช่วยเหลือ/บริการ การใช้คำ วลี และรูปประโยค เพื่อแสดงความต้องการ การเสนอ/ ให้ความช่วยเหลือ/บริการ รวมทั้ง การตอบรับ/ปฏิเสธในการให้ความ ช่วยเหลือ/บริการในโอกาสและ สถานท่ตี า่ งๆ ได้อย่างถกู ต้อง ได้แก่ การซื้อสินค้า/บริการในร้าน การ สั่งจองตั๋วเครื่องบิน/รถไฟ/ ภาพยนตร์/การบริการในบริษัท ทัวร์ การจองโรงแรม/ ที่พัก การใช้ บริการใน ที่ทำการไปรษณีย์/ ธนาคาร/ร้านอินเตอร์เน็ต ตัวอย่าง คำ วลี และรปู ประโยค เชน่ - May I help you? - What can I do for you? - Let me.............................. - Shall I ...............................?

28 ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ ที่ ตัวช้วี ัด เน้ือหา ชวั่ โมง สอน พบ การเรียนรู้ เสริม กลมุ่ ดว้ ยตนเอง - Is there anything I can do for you? - I would like......................... - I prefer................................. - I’d rather.............................. - How much.....................? - How about.................? - I’m afraid..............................? - We recommend.................. - Would you please...............? - Please let me know............ 2 2. อา่ นและทำตามคำแนะนำ 1. การใชพ้ จนานกุ รม (Dictionary) 4  ในการใช้คู่มือ ปา้ ย แนะนำ 1.1 ทบทวนการค้าหาความ หมาย วธิ ีการปรงุ ข้อควรระวงั และ ของคำศัพท์โดยเรียงตามตัวอักษร ป้ายประกาศ ของคำศพั ท์ทค่ี น้ หาจาก a ถงึ z 1.2 ให้อา่ นวธิ กี ารใช้พจนานุกรม และข้อมลู ตา่ งๆ ทอี่ ยู่ในสว่ นหน้า (คำชแ้ี จง) Dictionary ใหเ้ ข้าใจ 1.3 เม่ือค้นหาคำศัพท์พบแล้ว ให้ ศกึ ษาวิธกี ารอา่ นออกเสียงหน้าที่ของ คำ ความหมายและตัวอย่างในการใช้ (ซ่ึงคำบางคำอาจจะทำหนา้ ที่ได้ หลายอย่าง) และคำที่มคี วามหมาย ใกลเ้ คียงกนั เช่น drug (ดรัก) n. ยา ผลิตภณั ฑ์ยา ยาเสพติด สินค้าที่ เกี่ยวกบั สุขภาพที่ขายในรา้ นขายยา vt. drugged, drugging ผสมกับยา ทำใหต้ ิดยา ทำใหไ้ ดร้ ับพิษจากยา drug on the market สนิ คา้ ท่ีมี มากเกนิ ความต้องการในการตลาด

29 ออกแบบแผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี ตัวช้ีวดั เนอ้ื หา ชั่วโมง สอนเสรมิ พบ การเรียนรู้ กลมุ่ ด้วยตนเอง 2.การวิเคราะห์ศพั ทแ์ ละรปู ประโยค  ท่ใี ช้ในสญั ลักษณ์ ป้ายประกาศ/ คำแนะนำในการใช้/คำแนะนำ/คำ เตอื นตา่ ง ๆ 2.1การวเิ คราะห์ศัพทโ์ ดยการ ร้จู ักส่วนท่ีเปน็ รากศัพท์ (Root) อุปสรรค หรือท่ีคำเติมไปข้างหนา้ (Prefix) และปัจจยั หรือคำทเี่ ตมิ ข้างหลัง (Suffix) โดยทราบ ความหมายของส่วนประกอบของ คำศัพทต์ ่าง ๆ เหลา่ น้นั ก็จะทราบ ความหมายของศพั ทไ์ ด้ เชน่ Prefix : re = again anti = against tele = far Suffix : ant = person er = person who dom = condition ern = direction 2.2รูปประโยคท่ีใชใ้ นสญั ลักษณ/์ ปา้ ยประกาศ/คำแนะนำในการใช/้ คำแนะนำ/คำเตือนตา่ ง ๆ ซ่ึงจะใช้ รปู ประโยคคำสั่ง (Imperative Sentence) ทัง้ ในลักษณะบอกเลา่ และปฏเิ สธ เชน่ - Don’t smoke. - No smoking. - No entry.

30 ออกแบบแผนการจดั การเรยี นรู้ ที่ ตวั ชีว้ ัด เน้อื หา ช่ัวโมง สอน พบ การเรยี นรู้ เสริม กลมุ่ ดว้ ยตนเอง - No smoking. - No entry. - Put some oil in the pan, then put the garlic and stir until it become yellow. etc. 3. สญั ลกั ษณ์และป้ายประกาศตา่ ง ๆ (Signs & Notices) รจู้ ักความหมาย  ของสญั ลกั ษณ์และ ปา้ ยประกาศท่ี พบในชีวิตประจำวันและการประกอบ อาชพี เชน่ การปฏิบตั ติ นในแหลง่ ท่องเทย่ี ว โรงแรม พิพธิ ภัณฑ์ โรงงาน สำนกั งาน ยานพาหนะ เป็น ตัวอยา่ ง เช่น = Don’t take photograph. = No smoking = Don’t take durian inside. = Handicapped = elevation or lift

31 ออกแบบแผนการจดั การเรยี นรู้ ท่ี ตวั ช้วี ดั เนื้อหา ช่ัวโมง สอน พบ การเรียนรู้ เสรมิ กลมุ่ ด้วยตนเอง 4. สญั ลกั ษณแ์ ละป้ายประกาศต่าง ๆ (Signs  & Notices) รู้จักความหมายของสัญลักษณ์ และป้ายประกาศที่พบในชีวิตประจำวันและ การประกอบอาชีพ เช่น การปฏิบตั ิตนในแหล่ง ท่องเที่ยว โรงแรม พิพิธภัณฑ์ โรงงาน สำนกั งาน ยานพาหนะ เป็น ตัวอยา่ ง เช่น = Don’t take photograph. = No smoking = Don’t take = Hduarnidanicianpspidede. = elevation or lift Make up = make up the room the room = do not disturb = danger = safety first

32 ออกแบบแผนการจดั การเรยี นรู้ ท่ี ตัวช้ีวดั เนอื้ หา ช่ัวโมง สอน พบ การเรยี นรู้ เสริม กลมุ่ ดว้ ยตนเอง 5. สลากยาและคู่มอื ในการใช้ 4  อุปกรณ์ต่าง ๆ (Instructions) 4  การอา่ น ทำความเขา้ ใจและปฏบิ ัติ ตามคำแนะนำในการใช้ยาและ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั เชน่ หมอ้ หุงข้าวไฟฟ้า เครื่องซกั ผ้า คอมพวิ เตอร์ โทรศัพท์มือถอื เปน็ ตน้ โดยใหเ้ ขา้ ใจสำนวนหรือโครงสร้าง ของประโยคที่มักใช้ เช่น - Keep out of reach of children. - Take one tablet after each meal. - Shake well before use. การใช้ Active Voice และ Passive VoiceModal verb Direct Speech, Indirect speech,Conjunction และ Connective words ทีส่ ำคญั เชน่ - You should have it directly after meal. - The doses must not be divided. - Don’t use if the package is open. - First open the can with the opener. Pull it in a bowl. Then put some chopped chili, lemon juice and fish sauce. After that mix them together. 6.คำแนะนำและคำเตือนต่าง ๆ (Tips and Warning) รู้จักวธิ ีการ อ่านและตคี วามคำแนะนำ คำช้แี จง และคำอธบิ ายตา่ ง ๆ เชน่ พยากรณ์อากาศ ประกาศ เตอื นภัย คำแนะนำในการเข้าไปใน สถานทีต่ า่ ง ๆ คำอธบิ ายสินค้าและ ส่วนประกอบหรือเครื่องปรุง วิธีการ ปรุงอาหาร เป็นต้น

33 ท่ี ตัวช้วี ัด เนื้อหา ช่ัวโมง ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ สอน พบ การเรียนรู้ 3 ติดต่อส่อื สารทางโทรศัพท์ได้ 4.การติดต่อทางโทรศัพทก์ ับผู้ที่ 5 เสริม กลมุ่ ดว้ ยตนเอง คล่องแคล่ว คุ้นเคย รูจ้ ักวธิ กี ารพูดโตต้ อบทาง 5 โทรศพั ท์กับเพ่ือน ญาติ พีน่ ้องและ  ผูท้ ี่คุ้นเคยในเร่ืองตา่ งๆ โดยใช้ สำนวนและภาษาทเี่ หมาะสม เชน่  - Is ……………. at home? - Could I speak to……., please? - May I speak to ……..., please? - She/he is out. - Sorry, she’s not here now. - Would you like to wait? - Will you leave a message? - May I take a message for her/him? - Wait a minute, please. - Will you hole on? - Just a moment, please. - Please tell ....... to call me at................ 2.การตดิ ตอ่ ทางโทรศพั ท์เพื่อ สอบถามข้อมลู ตา่ ง ๆ การใชส้ ำนวนภาษาท่ีใชพ้ ูดทาง โทรศพั ท์เพ่อื สอบถามข้อมูลต่าง ๆ ทตี่ อ้ งการทราบโดยใช้ รปู ประโยค ขอร้อง /ขอรอ้ งอยา่ งสุภาพ (request, polite, request) ประโยค direct/ indirect speech ประโยคคำถามลักษณะต่าง ๆ ประโยคแสดงความคิดเหน็ และการ ขอบคุณ

34 ออกแบบแผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี ตัวช้ีวดั เนอื้ หา ช่วั โมง สอน พบ การเรยี นรู้ เสรมิ กลมุ่ ด้วยตนเอง เชน่ การสอบถามเส้นทางการ เดินทางไปทต่ี ่าง ๆ สอบถามตาราง รถไฟ เครอื่ งบนิ สอบถามข้อมลู ด้าน การคุ้มครองผ้บู ริโภค/ สขุ ภาพ อนามยั / พยากรณ์อากาศ เป็นตน้ ตัวอย่างประโยคทใี่ ช้ - Hello, I’d like to ask about......................... - Could you tell me..., please? - Would you mind giving me the information about......? - Can/Could you................? - May/Can/Could I.................? Don’t............................, please? - At what time...........? - How many...............? - How far...............? - How much.................? - I need your help.................? - Pradon. - I think.............................. - Well, I must.............. - In my opinion, ............... - Thanks. /Thank you. - Sorry. /I’m sorry. - You’re welcome.

35 ออกแบบแผนการจัดการเรยี นรู้ ท่ี ตัวช้ีวดั เนอ้ื หา ชั่วโมง สอน พบ การเรยี นรู้ เสรมิ กลมุ่ ดว้ ยตนเอง 5. การตดิ ต่อทางโทรศัพท์เพ่ือการ ประกอบอาชีพวิธีการพดู โตต้ อบ ทางโทรศัพท์ เพื่อถาม-ใหข้ ้อมูล เกย่ี วกบั การประกอบอาชพี โดยใช้ สำนวนและภาษาท่ีเหมาะสมในการ สอบถามขอ้ มูลเกี่ยวการสมัครงาน การซ้อื -ขายสนิ คา้ การใหข้ ้อมูล เกี่ยวกับคุณภาพและราคาของสินค้า การสง่ เสรมิ การขาย การต่อรอง ราคา การรับและส่งของ ตัวอย่างประโยคท่ใี ช้ - Hello. I’d like to ask/know 10 about......................  - Can/could you tell me about...........................? - May/Could I speak to.........................., please? - Can/Could you inform me about..................? - What is the position required? - What is the qualification? - How can I apply for this position? - Is there any discount? - How about the present promotion? - How about the quality? - Where/When can I buy this product? - What is the product’s significance? - Please let me know if........ - I’m interested in...........

36 ที่ ตัวช้วี ดั เน้อื หา ช่วั โมง ออกแบบแผนการจัดการเรยี นรู้ สอน พบ การเรยี นรู้ - That’s very interesting. เสรมิ กลมุ่ ดว้ ยตนเอง - I’m very appreciated.............. - When will I receive the product? - How should I pay for the product? - By cash/check /credit. - Thanks for your interest /kindness/information. - It’s my pleasure. - You’re welcome. - Sorry. /I’m sorry. 4 1. ปฏิบัติตนตามมารยาท 5. การใชภ้ าษาในการสื่อสารได้ 5  วัฒนธรรมและประเพณตี า่ ง ๆ เหมาะสมตามมารยาททางสังคม ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา 2. เปรยี บเทียบความ การใชภ้ าษา น้ำเสยี งและภาษา แตกตา่ งระหวา่ งวัฒนธรรม ทา่ ทางไดอ้ ย่างเหมาะสมกับบุคคล อังกฤษกับวฒั นธรรมไทย เวลา สถานท่ีและโอกาส เชน่ การ สมั ผัสมือ การโบกมือ การใช้สหี นา้ ทา่ ทาง และนำ้ เสียงประกอบการพดู การแนะนำตวั เอง การแสดงความ ร้สู กึ ในโอกาสต่าง ๆ การแต่งกาย การรบั ประทานอาหาร ร่วมงานงาน เล้ยี ง งานสงั สรรค์ และกจิ กรรมทาง สังคมตา่ ง ๆ ตัวอยา่ ง เชน่ - Blow a kiss. (ส่งจูบ)

ท่ี ตัวช้ีวดั เน้ือหา 37 ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ ช่วั โมง สอน พบ การเรียนรู้ เสริม กลมุ่ ดว้ ยตนเอง - I love you. (ภาษาใบ)้ - Be quiet. (เงยี บ) - That’s bad. (ยกหัวแมม่ อื ช้ีลงไปที่ พ้ืน) - How’s everything? - How have you been? - What’s going on with your life? - How’s life? - What’s up? - May I introduce myself? - Let me introduce myself, ..... - Allow me to introduce...... to........ - Have you met......................? - Congratulations on........... - Happy Birthday. - Merry Christmas. - Happy New Year. - I’m sorry for......................... - May god bless you. - May god be with you. - I feel sorry............................... - Please pass my warm regards to.... - Toast! - I wish you................................... - Would you mind................. - Please let me know........ - Would you please............. - May I have...................................

38 ออกแบบแผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี ตัวช้ีวดั เนอื้ หา ชว่ั โมง สอน พบ การเรียนรู้ เสรมิ กลมุ่ ด้วยตนเอง - Can you help me.......... - You look smart. - How nice............................... - I wonder if.............................. - How to cook.............................. etc. 2. ความเช่ือและขนบธรรมเนยี ม 5  ประเพณขี อง เจ้าของภาษา ความเปน็ มาของความเช่อื ขนบธรรมเนียมและประเพณีต่าง ๆ ในสังคมของเจา้ ของภาษาการทำ กิจกรรมตามความเชื่อ ขนบธรรมเนียม และประเพณี ต่างๆ ในดา้ น บทเพลง การแตง่ กาย อาหาร เครื่องดม่ื และการประกอบ พิธกี รรมท่เี กยี่ วข้อง ไดแ้ กว่ ัน คริสตม์ าส วันขอบคุณพระเจ้า วันวาเลนไทน์ และวนั พ่อ 3. การเปรียบเทียบโครงสร้าง 5  ภาษาไทยกบั ภาษาองั กฤษ เปรียบเทยี บลกั ษณะคำที่มาของคำ ความหมายและการประยุกต์คำใน ภาษาอังกฤษใช้ในภาษาไทยและคำ ในภาษาไทย ที่นำไปในภาษาองั กฤษ ตัวอยา่ ง เชน่ - ศัพทข์ องภาษาไทยส่วนใหญ่มา จากภาษาบาล/ี สันสกฤตในขณะท่ี ศัพท์ของภาษาอังกฤษสว่ นใหญ่จาก ภาษากรีกและโรมัน - คำในภาษาอังกฤษทน่ี ำมาใชใ้ น ภาษาไทย เชน่ กิโลกรมั กโิ ลเมตร

39 ออกแบบแผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี ตัวช้ีวดั เน้อื หา ชัว่ โมง สอน พบ การเรียนรู้ เสริม กลมุ่ ดว้ ยตนเอง เซนติเมตร คำในภาษาไทยท่ีนำไปใช้ ในภาษาอังกฤษ เชน่ Tom Yam Kung, Muai Thai เป็นตน้ โครงสร้างของประโยคต่างๆ  - ประโยคความเดียว (Simple Sentence) - ประโยคความรวม (Compound Sentence) - ประโยคความซอ้ น (Complex Sentence) - ประโยคความผสม (Compound-Complex Sentence) - การใช้ Transitive / intransitive/ auxiliary verbs - Tense ตา่ งๆ - ลกั ษณะของประโยคคำถาม - ประโยคเงอื่ นไข - การใชส้ นั ธาน (Conjunction) และบุพบท (Preposition) etc. 4.เปรียบเทียบ สำนวน คำพังเพย 5  สุภาษติ บทกลอนภาษาไทยและ ภาษาองั กฤษ a.คำและสำนวนที่ได้รับอทิ ธิพลจาก ศาสนา เชน่ - Oh, god! = คุณพระช่วย - Oh, my god! =พทุ โธ ธมั โม สังโฆ

40 ออกแบบแผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี ตัวช้ีวดั เนื้อหา ชัว่ โมง สอน พบ การเรียนรู้ เสรมิ กลมุ่ ด้วยตนเอง b.คำพังเพย สุภาษติ ท่ีมกั จะใช้ใน ชวี ติ ประจำวัน เชน่ - It’s a piece of cake. = ปลอกกลว้ ยเขา้ ปาก - Silence is gold. = นงิ่ เสียตำลงึ ทอง - Time and tide wait for no one. = เวลาและวารีไมเ่ คยคอยใคร ลกั ษณะของบทกลอนภาษาไทยกบั ภาษาอังกฤษที่เหมือนและแตกตา่ ง กัน แรงบนั ดาลใจของกวีในการแตง่ คำประพนั ธ์พร้อมตวั อย่างทีม่ ักได้ ยนิ เสมอ ๆ เช่น Roses are red, violets are blue, sugar is sweet, but not as sweet as you. แม้เน้ือเย็นเปน็ ห้วงมหรรณพ จะขอพบศรีสวัสด์เิ ปน็ มจั ฉา แม้เป็นบวั ตัวพเี่ ป็นภมุ รา เชยผกาโกสมุ ภ์ประทมุ ทอง แมเ้ ป็นถ้ำอำไพใครเ่ ป็นหงส์ จะรอ่ นลงสงิ ส่เู ป็นคู่สอง จะติดตามทรามสงวนนวลละออง เป็นคู่ครอง พิสวาส ทกุ ชาติไป etc.

41 ท่ี ตวั ชีว้ ดั เนือ้ หา ชวั่ โมง ออกแบบแผนการจดั การเรียนรู้ สอน พบ การเรียนรู้ 5 1. เขา้ ใจและใช้ 1. เสียง คำศพั ทว์ ลี สำนวนที่ มกั 2 เสรมิ กลมุ่ ดว้ ยตนเอง ประโยคทซี่ บั ซ้อนใน ใช้บอ่ ยๆ ในขา่ ว 2 สถานการณ์ต่าง ๆ 2. องค์ประกอบของขา่ ว 2  2. ใช้ Tenses ทย่ี ุ่งยากและ ประกอบดว้ ย Headline, Sub 6  ซับซอ้ น headline, Lead และ Detail 3. ศึกษาคน้ ควา้ ความรแู้ ละ 3. ประเภทของข่าว เช่น ข่าว 5  ขอ้ มูลจากสอ่ื หนังสือพิมพ์ การเมือง ข่าวการศึกษา ขา่ วกฬี า 4. แลกเปล่ยี นข้อมูลข่าวสาร ขา่ วสังคม ข่าวเศรษฐกิจ เปน็ ตน้ 2  ความรูอ้ ย่างเปน็ ทางการ 4. โครงสรา้ งของการเขียนพาดหวั 5. สืบค้นขอ้ มูลในด้านต่าง ๆ ขา่ ว (News Headline) ได้แก่ จาก Internet 4.1 ขา่ วและพาดหวั ขา่ ว 4.2 การถามและตอบคำถาม จากขา่ วด้วยคำถามท่ี เปน็ Wh- Question และ Yes/No Question 4.3 การถามและแสดงความ คิดเห็นว่า เห็นด้วยหรือไม่เห็นดว้ ย เช่น - Do you agree with this...? - What do you think about.. 4.4 Website ของหนงั สอื พิมพ์ The Nation หรือ Bangkok Post เพ่อื ศึกษาข่าวประเภทต่างๆ ท่ี สนใจแล้ววิเคราะห์โครงสรา้ งของ พาดหวั ขา่ วนั้นๆ หรือบอก ประเภทของขา่ วน้ัน ๆ - Subj. + V1 - Subj. + V3 - Subj. + to + V1 - Subj. + V. ing Noun phrase

42 ออกแบบแผนการจดั การเรยี นรู้ ท่ี ตวั ช้วี ดั เน้อื หา ชั่วโมง สอน พบ การเรยี นรู้ เสริม กลมุ่ ดว้ ยตนเอง 6 1. ศกึ ษาค้นคว้าความรูแ้ ละ 1. บทความเกี่ยวกบั เศรษฐกิจ 2  พอเพยี งจากหนงั สอื หนังสือพมิ พ์  ขอ้ มูลจากสือ่ ตา่ ง ๆ หรือ Website ท่เี ก่ียวขอ้ ง  2. สบื คน้ ขอ้ มลู ในดา้ นตา่ ง ๆ 2. คำศัพท์ วลี สำนวน ทีเ่ ก่ยี ว 2  ข้องกับเศรษฐกิจพอเพียง เชน่  จาก Internet moral, moderation, 3. เขา้ ใจและใช้ประโยคซับซ้อน reasonable, knowledge,  ในสถานการณ์ต่างๆ saving เปน็ ตน้  3. โครงสรา้ ง Conditional 2 4. การแลกเปลยี่ นข้อมลู ขา่ ว sentence (If -clause)  สารความรู้ 4. โครงสรา้ ง Imperative 2  5. การนำเสนอการนำเศรษฐกิจ 2  พอเพียงมาใชใ้ น รูปแบบต่าง ๆ เชน่ การตดิ คำขวัญ การสมั ภาษณ์ การทำ Poster เป็นตน้ การเล่นเกม Cross word 1. แบบสอบถาม 2 7 1. ศกึ ษาค้นควา้ ความร้แู ละ (Questionnaire) เกย่ี วกบั การ ขอ้ มูลจากสอ่ื ต่าง ๆ ดแู ลสุขภาพจากหนังสอื หรือ 2. สบื ค้นข้อมลู ในดา้ นต่าง ๆ Website เกี่ยวข้อง 2. การอา่ นออกเสียง คำศัพท์ 2 จาก Internet สำนวน วลี ที่เกยี่ วขอ้ งกับสขุ ภาพ 3. เขา้ ใจและใช้ประโยคซบั ซ้อน เช่น aerobics, once, relaxed, health, healthy, firm, have a ในสถานการณต์ า่ ง ๆ headache เปน็ ตน้ 2 4. ใช้ Tense ท่ยี ุง่ ยากและ 3. ประโยคที่เขียนด้วย Modal ซับซอ้ น Verb เชน่ should, must, ought to, had better, will เป็นตน้ 5. แลกเปล่ียนข้อมูลขา่ วสาร 4. Present Perfect Tense 2 ความรทู้ ้ังอย่างเป็นทางการและ 5. การสำรวจแบบสอบถาม เกยี่ วกบั สุขภาพบุคคลใกลช้ ดิ แลว้ 4 ไมเ่ ปน็ ทางการ นำเสนอข้อมูลเป็นรูปกราฟหรือ แผนภมู ิ

43 ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ ที่ ตัวชวี้ ดั เนอื้ หา ช่ัวโมง สอน พบ การเรยี นรู้ เสริม กลมุ่ ด้วยตนเอง 8 1.ศึกษาคน้ ควา้ ความร้แู ละ 1.บทความเกีย่ วกับการประหยัด 2  ข้อมลู จากสือ่ ต่าง ๆ พลังงาน (Energy Saving) จาก 2. สืบคน้ ข้อมูลในด้านต่าง ๆ หนงั สอื หนงั สอื พิมพ์ หรือ จาก Internet Website ทเ่ี กยี่ วข้อง  3. เขา้ ใจและใชป้ ระโยคซบั ซอ้ น 2.เสียง คำศพั ท์ วลี สำนวนท่ี 2 ในสถานการณ์ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ ง เก่ยี วขอ้ งกบั การประหยัดพลังงาน ถกู ต้อง เช่น reuse, recycle, plug in, 4. ใช้ Tense ที่ยงุ่ ยากและ unplug, turn on, turn off, ซับซอ้ นได้อยา่ งถูกต้อง reduce เปน็ ตน้  5. แลกเปลี่ยนขอ้ มูลขา่ วสาร 3.โครงสรา้ ง เรื่อง Imperative + 2 ความรูท้ ัง้ อย่างเปน็ ทางการและ V1 _________. ไมเ่ ปน็ ทางการ Don’t + V1+................... 4.Game “Find someone 1  who..............” 5.การสัมมนาเร่ืองการประหยัด 2  พลังงาน 9 1.ศึกษาค้นควา้ ความรู้และ 1.บทสนทนาเกย่ี วกับการไปตัดเส้ือ 2  ขอ้ มลู จากสอื่ ตา่ ง ๆ 2.การอา่ นออกเสียง คำศพั ท์ วลี  2. อ่านออกเสยี งคำศัพทว์ ลี สำนวน ทเ่ี ก่ียวข้องกบั การไปตัด 2 สำนวน ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง เส้อื เชน่ measure, sleeves, 3. เข้าใจและใชป้ ระโยค seam, shorten เป็นต้น 2  ซบั ซ้อนในสถานการณ์ตา่ ง ๆ 3.โครงสร้าง have something 4. ใช้ Tense ทย่ี ุ่งยากและ done ซับซอ้ น 4.โครงสรา้ ง Reported Speech 2  2  5. แลกเปลย่ี นขอ้ มูลข่าวสาร 5.การเล่าเรือ่ ง (สถานการณ)์ ความรู้

44 ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ ท่ี ตวั ชีว้ ัด เน้ือหา ช่วั โมง สอน พบ การเรียนรู้ เสรมิ กลมุ่ ดว้ ยตนเอง 10 1. การสืบคน้ ขอ้ มูลดา้ นตา่ ง ๆ 1. การขอมี e-mail 2  จาก Internet และรบั ส่ง e- 1  mail 2. การเปดิ /ปดิ e-mail 2  2. ศึกษาค้นควา้ ความร้แู ละ 3. ภาษา e-mail 2  ขอ้ มลู จาก สื่อต่าง ๆ 4. บทอ่านแนะนำตนเองทพี่ มิ พ์มา 1  3. เข้าใจและใช้ประโยค ซบั ซ้อนในสถานการณต์ า่ ง ๆ จาก e-mail 1  4. แลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสาร 5. การสร้างประโยคคำถามจาก 1  ความรู้ ทง้ั อย่างเป็นทางการ คำตอบท่ีให้มา และไม่เป็นทางการ 11) 1. ศกึ ษา คน้ คว้าความรู้ 6. การถามและการตอบขอ้ มูลการ และข้อมลู จาก สื่อต่าง ๆ เปรียบเทยี บ 2. สบื ค้นขอ้ มูลในดา้ นตา่ ง ๆ 7. การเขยี นแนะนำตนเองถึง Pen จาก Internet 3. เข้าใจและใช้ประโยคที่ pal โดยสง่ ทาง e-mail ซับซอ้ นในสถานการณต์ า่ ง ๆ ได้ อยา่ งถูกต้อง 1. บทอา่ นเก่ยี ว Earthquake, Tornado หรอื Flood จาก 4. การใช้ Tense ทย่ี ุ่งยาก หนงั สอื พมิ พ์ หรือ Website ของ และซบั ซ้อน 5. แลกเปลย่ี นขอ้ มูลข่าวสาร หนังสอื พิมพ์ The Nation หรือ ความรู้ ทง้ั เป็นทางการและ Bangkok Post ไมเ่ ปน็ ทางการ 2. คำศัพท์ วลี สำนวนที่เกี่ยวขอ้ ง เช่น kill, injured, die, homeless, help, shelter, landslide เปน็ ตน้ 3. Past Simple Tense, Past Continuous Tenseและ Past Perfect Tense. 4. Compound Sentence และ Complex Sentence 5. การถามและการตอบคำถาม จากบทอ่าน การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Play) เปน็ ผสู้ ื่อข่าว นำเสนอข่าวที่ เก่ยี วกบั Natural Disaster

45 ออกแบบแผนการจดั การเรียนรู้ ที่ ตัวชี้วัด เน้ือหา ชัว่ โมง สอน พบ การเรียนรู้ 12 1. ศกึ ษาค้นควา้ ความร้แู ละ เสรมิ กลมุ่ ด้วยตนเอง ขอ้ มลู จาก สือ่ ตา่ ง ๆ 2. สืบคน้ ข้อมูลในดา้ นต่าง ๆ 1. ตารางเวลาของ Bus, Train, 2  จาก Internet และรบั ส่ง E- mail Airplane, Boat หรือ Subway 3. เข้าใจและใช้ประโยคที่ ซบั ซ้อนในสถานการณ์ต่าง ๆ จากส่อื ตา่ ง ๆ เช่น แผ่นพบั 4. ใช้ Tense ท่ยี งุ่ ยากและ ซบั ซอ้ นได้ หนงั สอื พมิ พ์ หรอื Website ที่ 5. แลกเปล่ียนขอ้ มูลข่าวสาร ความรู้ เกยี่ วข้อง  2. Asking & giving Information 2 เชน่ - Could you please tell me.....? - Please tell me........ - Excuse me. Do you know....? 3. การบอกทิศทาง (Direction) 3  เช่น - Go straight. - Keep walking to...... - Walk past........ - It’s at the opposite of..... - Next to.................................... 4. Past Simple Tense และ 2  Past Simple Tense 1  5. การเขียนเลา่ เรื่องหรือ ประสบการณ์ในการทอ่ งเทีย่ ว 1  6. การวางแผนการเดนิ ทาง ท่องเที่ยว

46 ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ ที่ ตัวชวี้ ัด เน้อื หา ช่ัวโมง สอน พบ การเรยี นรู้ เสรมิ กลมุ่ ดว้ ยตนเอง 13 1. ศกึ ษาคน้ คว้าความรูแ้ ละ 1. บทอ่าน การพยากรณ์อากาศ 2  ขอ้ มลู จากสื่อต่างๆ เช่น (Weather Forecast) ท้งั ใน 1  หนังสือพิมพภ์ าษาองั กฤษ ประเทศและตา่ งประเทศ 2 และWebsite 2. การถาม-ตอบ คำถามจากบท  2. แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร อา่ น การพยากรณ์อากาศ 2 ความรู้ทงั้ อยา่ งเป็นทางการ (Weather Forecast) 1  และไม่เป็นทางการ 3. การถามและการขอข้อมลู 2  3. เขา้ ใจและใชป้ ระโยคที่ (Asking & Giving Information) 2  ซับซอ้ นในสถานการณ์ตา่ ง ๆ เสียง คำศพั ท์ วลี สำนวนทมี่ ักใช้  ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง บ่อยๆ ในขา่ วพยากรณ์อากาศ 4. สบื คน้ ขอ้ มลู ในดา้ นต่าง ๆ เช่น shower, windy, heavy, จาก Internet scatter, stormy, sunrise, sunset, maximum, minimum, 14 1. ศึกษาคน้ ควา้ ความรูแ้ ละ Northeast 4. Parts of Speech การทำ คำนาม Noun ให้เป็น Adjective 5. Website ท่ีเก่ยี วกบั การ พยากรณอ์ ากาศ 6 Role play เปน็ ผู้ประกาศขา่ ว การพยากรณ์ อากาศ 1. บทความเก่ียวกบั ภาวะโลกรอ้ น ขอ้ มูลจากส่อื ตา่ ง ๆ (Global Warming) สาเหตขุ อง 2. สืบคน้ ข้อมูลในดา้ นตา่ งๆ ภาวะโลกรอ้ นหรอื ผลกระทบของ จาก Internet ภาวะโลกร้อนจากหนงั สือหรือ 3. เขา้ ใจและใช้ประโยค หนงั สือพิมพ์หรือWebsite ท่ี ซบั ซ้อนในสถานการณต์ ่าง ๆ เกี่ยวข้อง 2  4. ใช้ Tense ทย่ี ่งุ ยากและ 2. การอ่านออกเสยี งคำศัพท์ วลี ซับซอ้ น สำนวน ท่เี ก่ียวขอ้ ง เชน่ 5. แลกเปลย่ี นขอ้ มลู ข่าวสาร temperature, increase, melt, ความรูท้ ั้งอยา่ งเป็นทางการ burn, earth, hot เปน็ ตน้ และไม่เป็นทางการ 3. โครงสรา้ ง Passive Voice 1  4. บทสนทนาที่เกี่ยวกบั การ 1  ปอ้ งกันหรือลดภาวะโลกร้อน 5. Mind map แสดงเหตุผลและ 2  ผลกระทบของภาวะโลกร้อน